00:00:01 → 00:00:04 [เพลง]

00:00:04 → 00:00:06 You're listening to Sad X channel

00:00:06 → 00:00:07 podcast

00:00:07 → 00:00:10 >> สวัสดีครับและนี่คือรายการพcastสุขภาพดี

00:00:11 → 00:00:14 ชีวิตดีสร้างได้พื้นที่แบ่งปันความรู้

00:00:14 → 00:00:20 สำหรับคนรักสุขภาพทุกท่าน

00:00:20 → 00:00:23 คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมครับที่เริ่มต้นวัน

00:00:23 → 00:00:26 ด้วยไข่ต้มอุ่นๆสักฟองพร้อมกับจิบกาแฟหอม

00:00:26 → 00:00:30 กรุ่นมื้อเช้าง่ายๆที่ดูเหมือนจะให้พลัง

00:00:30 → 00:00:33 งานและสารอาหารครบถ้วนแต่ถ้ามีคุณหมอออก

00:00:33 → 00:00:36 มาเตือนด้วยตัวเองว่าการรวม 2 สิ่งนี้

00:00:36 → 00:00:39 เข้าด้วยกันทุกวันอาจนำไปสู่ 5 อันตราย

00:00:39 → 00:00:43 เงียบที่บั่นทอนสุขภาพของคุณโดยไม่รู้ตัว

00:00:43 → 00:00:46 คุณจะยังมองข้ามอยู่หรือไม่วันนี้เราจะมา

00:00:46 → 00:00:50 ไขความจริงกันว่าทำไมมื้อเช้าแสนง่ายนี้

00:00:50 → 00:00:53 อาจกลายเป็นอันตรายเงียบที่ซ่อนอยู่และ 5

00:00:53 → 00:00:57 สิ่งที่คุณต้องระวังนั้นมีอะไรบ้างเตรียม

00:00:57 → 00:01:00 สมุดปากกาให้พร้อมครับเพราะข้อมูลเหล่า

00:01:00 → 00:01:03 นี้อาจเปลี่ยนวิถีการกินมื้อเช้าของคุณไป

00:01:03 → 00:01:06 ตลอดกาลเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าในวันนี้และ

00:01:06 → 00:01:11 ในอนาคตแม้ว่าทั้งไขต้มและกาแฟต่างก็มี

00:01:11 → 00:01:14 ประโยชน์ในตัวเองแต่เมื่อเรานำมารวมกัน

00:01:14 → 00:01:17 และบริโภคเป็นประจำทุกเช้ากลับมีแง่มุม

00:01:17 → 00:01:20 ที่เราต้องพิจารณาและทำความเข้าใจถึงผล

00:01:20 → 00:01:23 กระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ลองมาดู 5 สิ่งที่

00:01:23 → 00:01:28 คุณหมอเตือนให้ระวังกันครับ 1 ขัดขวางการ

00:01:28 → 00:01:31 ดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมไผ่เงียบสู่

00:01:31 → 00:01:34 ภาวะขาดแร่ธาตุสำคัญประการแรกที่สำคัญ

00:01:35 → 00:01:37 อย่างยิ่งคือผลกระทบต่อการดูดซึมแร่ธาตุ

00:01:37 → 00:01:41 ในร่างกายของเราครับกาแฟนั้นมีสารที่

00:01:41 → 00:01:44 เรียกว่าแทนนินและโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสาร

00:01:45 → 00:01:47 ธรรมชาติที่พบได้ในพืชสารเหล่านี้มี

00:01:47 → 00:01:50 คุณสมบัติในการจับตัวกับสารประกอบบางชนิด

00:01:50 → 00:01:54 ในอาหารและหนึ่งในนั้นคือสารกรรมฐานที่มี

00:01:54 → 00:01:58 อยู่ในไข่ต้มเมื่อสารเหล่านี้รวมตัวกันใน

00:01:58 → 00:02:01 ระบบทางเดินอาหารของเราก็จะเกิดปฏิกิริยา

00:02:01 → 00:02:04 ที่ซับซ้อนขึ้นและส่งผลกระทบโดยตรงต่อ

00:02:04 → 00:02:08 ประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย

00:02:08 → 00:02:10 ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่สำคัญอย่างยิ่ง

00:02:10 → 00:02:13 ต่อร่างกายของเรานะครับมันเป็นองค์ประกอบ

00:02:13 → 00:02:16 หลักของฮีโมโลบินในเม็ดเลือดแดงซึ่งมี

00:02:16 → 00:02:19 หน้าที่นำพาออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง

00:02:19 → 00:02:22 ๆทั่วร่างกายรวมถึงสมองและกล้ามเนื้อหาก

00:02:23 → 00:02:25 ร่างกายของเราได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ

00:02:25 → 00:02:29 อย่างต่อเนื่องก็อาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง

00:02:29 → 00:02:32 จากการขาดธาตุเหล็กหรือที่เรียกว่า iron

00:02:32 → 00:02:35 deficiency anemia ได้อาการที่พบได้

00:02:35 → 00:02:38 บ่อยคืออ่อนเพลียเหนื่อยง่ายไม่สดชื่น

00:02:39 → 00:02:42 เวียนศีรษะผิวซีดเซียวและประสิทธิภาพใน

00:02:42 → 00:02:45 การทำงานลดลงสำหรับผู้สูงวัยหรือผู้หญิง

00:02:45 → 00:02:49 วัยหมดประจำเดือนภาวะนี้อาจส่งผลกระทบต่อ

00:02:49 → 00:02:51 คุณภาพชีวิตอย่างมากเพราะจะทำให้ร่างกาย

00:02:51 → 00:02:55 อ่อนแอลงภูมิคุ้มกันต่ำลงและฟื้นตัวจาก

00:02:55 → 00:02:58 อาการเจ็บป่วยได้ยากขึ้นนอกจากธาตุเหล็ก

00:02:58 → 00:03:01 แล้วงานวิจัยบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าสาร

00:03:01 → 00:03:04 เหล่านี้ในกาแฟอาจมีผลต่อการดูดซึม

00:03:04 → 00:03:07 แคลเซียมด้วยเช่นกันแม้จะไม่ได้ส่งผล

00:03:07 → 00:03:10 รุนแรงเท่าธาตุเหล็กแต่สำหรับผู้สูงวัย

00:03:10 → 00:03:12 ที่กระดูกเริ่มเปราะบางอยู่แล้วการได้รับ

00:03:12 → 00:03:15 แคลเซียมไม่เพียงพอในระยะยาวอาจเพิ่มความ

00:03:15 → 00:03:19 เสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนและกระดูกหักได้

00:03:19 → 00:03:22 ดังนั้นการดื่มกาแฟพร้อมกับรับประทานไข

00:03:22 → 00:03:24 ต้มเป็นประจำทุกเช้าอาจเป็นการบั่นทอน

00:03:24 → 00:03:27 โอกาสที่ร่างกายจะได้รับแร่ธาตุสำคัญ

00:03:27 → 00:03:30 เหล่านี้ไปใช้อย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัว

00:03:30 → 00:03:34 ครับ 2. กระตุ้นกรดในกระเพาะอาหารเพิ่ม

00:03:34 → 00:03:37 ความเสี่ยงกรดไหลย้อนและอาการไม่สบายท้อง

00:03:38 → 00:03:40 ประเด็นที่ 2 นี้เกี่ยวข้องกับระบบทาง

00:03:40 → 00:03:44 เดินอาหารโดยตรงครับทั้งไข้มและกาแฟต่าง

00:03:44 → 00:03:46 ก็มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลิตกรดใน

00:03:46 → 00:03:50 กระเพาะอาหารของเรากาแฟมีฤทธิ์เป็นกรด

00:03:50 → 00:03:53 อ่อนๆและคาเฟอีนในกาแฟยังไปกระตุ้นการ

00:03:53 → 00:03:56 หลังกรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นอีกด้วย

00:03:56 → 00:03:59 ส่วนไข่ต้มแม้จะไม่ได้มีฤทธิ์เป็นกรดโดย

00:03:59 → 00:04:02 ตรงแต่การย่อยโปรตีนและไขมันในไข่ก็ต้อง

00:04:02 → 00:04:05 อาศัยกรดในกระเพาะอาหารเช่นกันเมื่อเรา

00:04:05 → 00:04:08 บริโภคทั้ง 2 อย่างพร้อมกันโดยเฉพาะอย่าง

00:04:08 → 00:04:11 ยิ่งในตอนเช้าที่ท้องว่างหรือหลังจากที่

00:04:11 → 00:04:14 เราไม่ได้ทานอาหารมานานร่างกายของเราก็จะ

00:04:14 → 00:04:17 ถูกกระตุ้นให้ผลิตกรดในกระเพาะอาหารออกมา

00:04:17 → 00:04:20 ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นสิ่งนี้จะ

00:04:20 → 00:04:23 เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยยะสำคัญต่อการ

00:04:23 → 00:04:26 เกิดภาวะกรดไหลย้อนหรือal

00:04:26 → 00:04:30 reflux disease GD ซึ่งเป็นอาการที่

00:04:30 → 00:04:32 กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาตามหลอด

00:04:32 → 00:04:35 อาหารทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกเรอ

00:04:35 → 00:04:38 เปรี้ยวเจ็บคอหรือบางครั้งอาจมีอาการปวด

00:04:39 → 00:04:42 ท้องท้องอืดท้องเฟ้อร่วมด้วยสำหรับท่าน

00:04:42 → 00:04:44 ผู้ฟังที่มีประวัติเป็นโรคกระเพาะอาหาร

00:04:44 → 00:04:47 อยู่แล้วมีอาการกรดไหลย้อนอยู่เป็นประจำ

00:04:47 → 00:04:50 หรือมีอาการอาหารไม่ย่อยบ่อยๆการรับ

00:04:50 → 00:04:53 ประทานไข่ต้มคู่กับกาแฟในมื้อเช้าอาจทำ

00:04:53 → 00:04:56 ให้อาการเหล่านี้แย่ลงได้ครับลองสังเกต

00:04:56 → 00:04:59 ตัวเองดูนะครับว่าหลังจากที่รับประทาน

00:04:59 → 00:05:01 มื้อเช้าแบบนี้แล้วมีอาการการผิดปกติ

00:05:01 → 00:05:05 เหล่านี้เกิดขึ้นไหมหากมีก็เป็นสัญญาณบ่ง

00:05:05 → 00:05:08 บอกว่าร่างกายของคุณอาจไม่เหมาะกับการรวม

00:05:08 → 00:05:12 2 สิ่งนี้เข้าด้วยกันอย่างยิ่งครับ 3

00:05:12 → 00:05:15 เสี่ยงภาวะขาดน้ำและขับปัสสาวะบ่อยเมื่อ

00:05:15 → 00:05:18 ร่างกายสูญเสียสมดุลน้ำและเกลือแรกมาถึง

00:05:18 → 00:05:21 ข้อที่ 3 ที่เราควรให้ความสำคัญนั่นคือผล

00:05:22 → 00:05:25 กระทบต่อสมดุลน้ำในร่างกายครับไข่ต้มและ

00:05:25 → 00:05:28 กาแฟมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันอย่าง

00:05:28 → 00:05:30 หนึ่งคือมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ

00:05:30 → 00:05:33 กาแฟนั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นยาขับ

00:05:33 → 00:05:37 ปัสสาวะอ่อนๆเนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟจะไป

00:05:37 → 00:05:40 กระตุ้นการทำงานของไตให้ขับน้ำและเกลือ

00:05:40 → 00:05:43 แร่ออกจากร่างกายมากขึ้นส่วนไขต้มแม้จะ

00:05:43 → 00:05:46 ไม่ได้มีฤทธิ์ขับปัสสาวะโดยตรงแต่การย่อย

00:05:46 → 00:05:49 โปรตีนปริมาณมากก็ต้องอาศัยน้ำในกระบวน

00:05:49 → 00:05:52 การเมาบอลิึมเช่นกันเมื่อเราบริโภคทั้ง 2

00:05:52 → 00:05:55 อย่างพร้อมกันเป็นประจำก็อาจส่งผลให้เรา

00:05:55 → 00:05:58 ปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติและหากเราไม่ได้

00:05:58 → 00:06:01 ดื่มน้ำเปล่าชดเชยให้เพียงพอตลอดทั้งวัน

00:06:01 → 00:06:05 ก็จะนำไปสู่ภาวะขาดน้ำหรือดีไฮรชได้ในที่

00:06:05 → 00:06:08 สุดภาวะขาดน้ำไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆนะ

00:06:08 → 00:06:11 ครับมันส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์และ

00:06:11 → 00:06:14 อวัยวะต่างๆทั่วร่างกายได้หากขาดน้ำ

00:06:14 → 00:06:17 รุนแรงอาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียวิงเวียน

00:06:17 → 00:06:20 ศีรษะปวดศีรษะกล้ามเนื้อเป็นตะคริวและใน

00:06:21 → 00:06:24 ระยะยาวอาจส่งผลต่อการทำงานของไตและระบบ

00:06:24 → 00:06:26 หมุนเวียนเลือดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

00:06:26 → 00:06:29 สำหรับผู้สูงวัยที่อาจมีความสามารถในรับ

00:06:29 → 00:06:32 รู้ความกระหายลดลงการดื่มน้ำไม่เพียงพอ

00:06:32 → 00:06:35 เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและนำไปสู่ปัญหา

00:06:35 → 00:06:39 สุขภาพอื่นๆตามมาได้ง่ายการรวมขายต้มกับ

00:06:39 → 00:06:41 กาแฟในมื้อเช้าจึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่

00:06:41 → 00:06:44 จะให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้ำได้เร็ว

00:06:44 → 00:06:48 ยิ่งขึ้นดังนั้นสิ่งสำคัญคือการหมั่นจิบ

00:06:48 → 00:06:50 น้ำเปล่าให้เพียงพอตลอดทั้งวันโดยเฉพาะ

00:06:50 → 00:06:53 อย่างยิ่งหากคุณยังคงชื่นชอบมื้อเช้าแบบ

00:06:53 → 00:06:57 นี้อยู่ครับ 4. ขัดขวางการดูดซึมยาลด

00:06:57 → 00:07:00 ประสิทธิภาพการรักษาประเด็นนี้สำคัญ

00:07:00 → 00:07:03 สำหรับท่านผู้ฟังที่ต้องรับประทานยาเป็น

00:07:03 → 00:07:06 ประจำครับกาแฟนั้นมีความสามารถในการรบกวน

00:07:06 → 00:07:10 การดูดซึมยาบางชนิดได้โดยเฉพาะยาบางกลุ่ม

00:07:10 → 00:07:14 เช่นยาปฏิชีวนะยาลดกรดยาลดความดันโลหิต

00:07:14 → 00:07:18 บางชนิดหรือยาสำหรับไทรอยด์คาเฟอีนและสาร

00:07:18 → 00:07:21 ประกอบอื่นๆในกาแฟอาจไปลดประสิทธิภาพการ

00:07:21 → 00:07:24 ดูดซึมของยาหรืออาจเร่งการขับยาออกจาก

00:07:24 → 00:07:27 ร่างกายทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

00:07:27 → 00:07:30 เมื่อเราบริโภคไข่ต้มที่มีสารอาหารหลาก

00:07:30 → 00:07:33 หลายพร้อมกับกาแฟก็อาจยิ่งเพิ่มความซับ

00:07:33 → 00:07:36 ซ้อนในการดูดซึมสารอาหารและยาพร้อมๆกันทำ

00:07:37 → 00:07:39 ให้ร่างกายอาจได้รับประโยชน์จากยารักษา

00:07:39 → 00:07:42 โรคไม่เต็มที่ตามที่ควรจะเป็นส่งผลต่อ

00:07:42 → 00:07:46 ประสิทธิภาพของการรักษาพยาบาลดังนั้นหาก

00:07:46 → 00:07:48 ท่านผู้ฟังกำลังรับประทานยาใดๆอยู่เป็น

00:07:48 → 00:07:51 ประจำควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ

00:07:51 → 00:07:54 ผลกระทบของอาหารและเครื่องดื่มที่ต่อยา

00:07:54 → 00:07:57 ของคุณนะครับเพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้

00:07:57 → 00:08:00 แน่ใจว่ายาที่คุณรับประทานนั้นจะออกฤทธิ์

00:08:00 → 00:08:02 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่ต้องการ

00:08:02 → 00:08:07 เพื่อสุขภาพที่ดีและการรักษาที่ได้ผลครับ

00:08:07 → 00:08:10 5. ท้องผูกเมื่อระบบย่อยอาหารทำงานไม่

00:08:10 → 00:08:13 สมดุลปัญหาท้องผูกเป็นอีกหนึ่งอาการที่

00:08:13 → 00:08:16 หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าจะเกี่ยวข้องกับการ

00:08:16 → 00:08:20 กินไข่ต้มคู่กับกาแฟนะครับไข่ต้มนั้นมีไข

00:08:20 → 00:08:22 มันอิ่มตัวอยู่พอสมควรโดยเฉพาะหากรับ

00:08:22 → 00:08:26 ประทานในปริมาณมากส่วนกาแฟแม้จะช่วย

00:08:26 → 00:08:29 กระตุ้นการขับถ่ายในบางคนแต่ในบางกรณี

00:08:29 → 00:08:32 คาเฟอีนในกาแฟกลับสามารถทำให้ลำไส้

00:08:32 → 00:08:35 เคลื่อนไหวลดลงและหากดื่มกาแฟในปริมาณมาก

00:08:35 → 00:08:38 โดยไม่ดื่มน้ำเปล่าเพียงพอก็อาจส่งผลให้

00:08:38 → 00:08:41 เกิดภาวะขาดน้ำได้เช่นกันเมื่อเราบริโภค

00:08:41 → 00:08:45 ไขมันอิ่มตัวในไข่ควบคู่กับกาแฟที่อาจทำ

00:08:45 → 00:08:48 ให้ร่างกายขาดน้ำและรบกวนสมดุลของระบบทาง

00:08:48 → 00:08:51 เดินอาหารในบางรายก็อาจส่งผลให้ระบบย่อย

00:08:51 → 00:08:54 อาหารทำงานได้ไม่เต็มที่และนำไปสู่อาการ

00:08:54 → 00:08:58 ท้องผูกได้โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้บริโภค

00:08:58 → 00:09:01 ใยอาหารจากผักผลไม้เพียงพอในแต่ละวันหรือ

00:09:01 → 00:09:04 มีปัญหาการเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าอยู่แล้ว

00:09:04 → 00:09:07 การรวม 2 สิ่งนี้ในมื้อเช้าอาจยิ่งทำให้

00:09:07 → 00:09:10 อาการแย่ลงได้ครับปัญหาท้องผูกเรื้อรัง

00:09:10 → 00:09:13 ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายตัวแต่ยังส่ง

00:09:13 → 00:09:16 ผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมเช่นทำให้ผิวพรรณ

00:09:16 → 00:09:19 ไม่สดใสอ่อนเพลียและในระยะยาวอาจเพิ่ม

00:09:20 → 00:09:22 ความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆในระบบทาง

00:09:22 → 00:09:26 เดินอาหารได้ครับท่านผู้ฟังครับจะเห็นได้

00:09:26 → 00:09:30 ว่าแม้ไข่ต้มและกาแฟต่างก็เป็นอาหารและ

00:09:30 → 00:09:32 เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ในตัวเองแต่

00:09:32 → 00:09:34 เมื่อนำมารวมกันและบริโภคเป็นประจำทุก

00:09:35 → 00:09:38 เช้าอาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพ

00:09:38 → 00:09:40 ของเราได้หลายประการไม่ว่าจะเป็นการขัด

00:09:40 → 00:09:43 ขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม

00:09:43 → 00:09:46 กระตุ้นกรดในกระเพาะอาหารเสี่ยงภาวะขาด

00:09:46 → 00:09:49 น้ำขัดขวางการดูดซึมยาและอาจน้ำไปสู่

00:09:49 → 00:09:52 ปัญหาท้องผูกแต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้อง

00:09:52 → 00:09:55 เลิกกินไข่ต้มหรือเลิกดื่มกาแฟไปตลอด

00:09:55 → 00:09:58 ชีวิตนะครับเพียงแค่เราต้องรู้จักกินและ

00:09:58 → 00:10:00 กินอย่างเข้าใจเพื่อให้ร่างกายได้รับ

00:10:00 → 00:10:03 ประโยชน์สูงสุดและหลีกเลี่ยมผลกระทบที่

00:10:03 → 00:10:06 ไม่พึงประสงค์ครับคำแนะนำง่ายๆที่ทำได้

00:10:06 → 00:10:10 เลยก็คือการเว้นระยะห่างครับเพื่อให้ร่าง

00:10:10 → 00:10:12 กายของเรามีเวลาในการดูดซึมสารอาหารอย่าง

00:10:12 → 00:10:15 เต็มที่ควรเว้นช่วงเวลาในการกินไข่กับการ

00:10:16 → 00:10:19 ดื่มกาแฟสักประมาณ 30 นาที-ึง 1 ชมงหรือ

00:10:19 → 00:10:21 ถ้าคุณจำเป็นต้องดื่มกาแฟพร้อมกับมื้อ

00:10:21 → 00:10:24 เช้าจริงๆก็ลองเลือกอาหารที่มีความหลาก

00:10:24 → 00:10:28 หลายมากขึ้นนะครับเช่นเพิ่มผลไม้ถ้านมปัง

00:10:28 → 00:10:31 โฮวีทหรือนมเข้าไปในมื้ออาหารเพื่อให้แน่

00:10:31 → 00:10:34 ใจว่าร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่

00:10:34 → 00:10:37 เพียงพอการเข้าใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้

00:10:37 → 00:10:40 อาจช่วยให้คุณวางแผนการกินอาหารได้ดียิ่ง

00:10:40 → 00:10:43 ขึ้นและมั่นใจได้ว่าร่างกายจะได้รับสาร

00:10:43 → 00:10:45 อาหารอย่างครบถ้วนเพื่อพร้อมรับมือกับทุก

00:10:45 → 00:10:49 ๆวันที่ท้าทายนะครับก่อนจะปิดรายการในวัน

00:10:49 → 00:10:52 นี้ขอเรียนให้คุณผู้ฟังทราบว่าเนื้อหาใน

00:10:52 → 00:10:55 พcสนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและความรู้

00:10:55 → 00:10:59 ทั่วไปเท่านั้นและหากมีข้อสงสัยหรือปัญหา

00:10:59 → 00:11:01 ด้านสุขภาพควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยว

00:11:01 → 00:11:05 ชาญทางการแพทย์ทุกครั้งนะครับหากคุณชื่น

00:11:05 → 00:11:08 ชอบพcสนี้อย่าลืมกดติดตามและแชร์ให้

00:11:08 → 00:11:11 เพื่อนๆหรือคนในครอบครัวที่คุณรักนะครับ

00:11:11 → 00:11:13 เพราะการแบ่งปันความรู้เป็นสิ่งที่มีคุณ

00:11:13 → 00:11:16 ค่าอย่างยิ่งขอบคุณที่รับฟังแล้วพบกัน

00:11:16 → 00:11:21 ใหม่ในตอนหน้าสวัสดีครับ