00:00:00 → 00:00:02 คนเป็นกดไหลย้อนเนี่ยห้ามกินกล้วย
00:00:02 → 00:00:04 >> มันขึ้นกับว่ากล้วยสุกหรือกล้วยไม่สุก
00:00:04 → 00:00:08 ครับกล้วยดิบดีต่อการป้องกันแผลในกระเพาะ
00:00:08 → 00:00:10 อาหารกล้วยที่มันสุกแล้วเนี่ยที่จริงมัน
00:00:10 → 00:00:12 มีแต่น้ำตาลมันมีแป้ง
00:00:12 → 00:00:13 >> แต่กล้วยดิบไม่อร่อย
00:00:13 → 00:00:16 >> แต่มันดีต่อสุขภาพ
00:00:16 → 00:00:18 >> คนเป็นกดไหลย้อนห้ามกินอะไรบ้าง
00:00:18 → 00:00:21 >> กินอาหารรสจัดเค็มจัดเปรี้ยวจัดเผ็ดจัด
00:00:21 → 00:00:22 ของหมักดอง
00:00:22 → 00:00:25 >> กลิ่นปลาร้าทำให้เป็นกดไหลย้อนได้เลยหรอ
00:00:25 → 00:00:25 คะ
00:00:25 → 00:00:27 >> บางครั้งเนี่ยคุณอาจจะมีความเensitiveมัน
00:00:27 → 00:00:29 เลยเป็นตัวกระตุ้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
00:00:29 → 00:00:32 อ้อช็อกโกแลตก็เป็นตัวกระตุ้นเหมือนกัน
00:00:32 → 00:00:34 >> ของโปรดเลยค่ะหมอ
00:00:34 → 00:00:37 >> กินเร็วและกินแบบยัดๆบุฟเฟ่ต์อ่ะต้องคุ้ม
00:00:37 → 00:00:40 แล้วถ้าทนเจ็บเพื่อนก็เป็นกดไหลย้อนกัน
00:00:40 → 00:00:42 เยอะแยะเที่ยง 1:00 น.ก็ยังไปกินบุฟเฟ่ต์
00:00:42 → 00:00:44 กันอยู่อย่างเงี้ยค่ะผ่านไป 5 ปี 10 ปีจะ
00:00:44 → 00:00:45 เกิดอะไรขึ้นคะ
00:00:45 → 00:00:48 >> เป็นแล้วเป็นอีกแผลใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นเยื่อ
00:00:48 → 00:00:50 บุล
00:00:50 → 00:00:53 มะเร็งครับลองคิดแล้วกันว่ากระเพาะอาหาร
00:00:53 → 00:00:55 ของเราคือบ้านถ้าในบ้านของเรามันมีกดเยอะ
00:00:55 → 00:00:58 เหมือนมีน้ำท่วมเราก็จะเกิดอาการแสบร้อน
00:00:58 → 00:01:01 เจ็บหน้าอกคนชอบทำกันไปลดกดเอาน้ำออกหลัง
00:01:01 → 00:01:03 จากน้ำท่วมของในบ้านเป็นไงพังพัง
00:01:03 → 00:01:07 >> พอคุณลดกดไปแล้วต้องไปซ่อมแซมบำรุงข้างใน
00:01:07 → 00:01:08 ด้วยให้มันกลับมาเหมือนเดิม
00:01:08 → 00:01:11 >> หมอช่วยแนะนำวิธีการฟื้นฟูกระเพาะอาหาร
00:01:11 → 00:01:12 หน่อยได้มั้คะ
00:01:12 → 00:01:15 >> ถ้าพูดถึงดีที่สุดก็คือ
00:01:15 → 00:01:18 >> สวัสดีค่ะอยู่กับ Doctor Podcast ที่จะ
00:01:18 → 00:01:21 พาคุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:21 → 00:01:24 รัฐพันธุ์พันพินิจค่ะถ้าชอบคทentแนว
00:01:24 → 00:01:26 สุขภาพแบบนี้นะคะช่วยกดไและ subscribe
00:01:26 → 00:01:29 เป็นกำลังใจให้เจนคุณหมอแล้วก็ทีมงานด้วย
00:01:29 → 00:01:31 นะคะเราจะได้ผลิตผลงานดีๆแบบนี้ออกมา
00:01:31 → 00:01:34 เรื่อยๆค่ะหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่คนวัย 50
00:01:34 → 00:01:37 บวกคุ้นเคยกันดีและบางคนเนี่ยเป็นอยู่แต่
00:01:37 → 00:01:40 ไม่รู้ตัวนะคะนั่นก็คือกรดไหลย้อนค่ะเอา
00:01:40 → 00:01:43 จริงๆไม่ต้อง 50 บวกล่ะค่ะเพื่อนเจนวัย 20
00:01:43 → 00:01:45 ปลาย 30 กว่าเนี่ยก็เป็นกันเต็มเลยนะคะ
00:01:45 → 00:01:48 บางคนเนี่ยรู้สึกแค่เจ็บแสบหน้าอกนะคะบาง
00:01:48 → 00:01:51 คนเจ็บหน้าอกจนคิดว่าเอ๊ะนี่เราเป็นโรค
00:01:51 → 00:01:54 หัวใจหรือเปล่านะคะบางคนทำให้ไอตอนกลาง
00:01:54 → 00:01:57 คืนนะคะแล้วส่งผลต่อการนอนหรือบางคนเนี่ย
00:01:57 → 00:01:59 เวลากินอะไรเข้าไปนิดเดียวก็รู้สึกเจ็บ
00:01:59 → 00:02:02 แน่นหน้าอกแล้วก็ไม่สบายท้องนะคะทีนี้
00:02:02 → 00:02:04 เนี่ยอาการเหล่านี้อาจจะดูเป็นอาการที่
00:02:04 → 00:02:08 ธรรมดาเบาๆใช่มั้ยคะแต่ถ้าเราปล่อยไว้โดย
00:02:08 → 00:02:11 ที่ไม่รักษาอย่างถูกจุดนะคะอาจจะส่งผลต่อ
00:02:11 → 00:02:15 สุขภาพในระยะยาวได้นะคะในบางกรณีอาจจะทำ
00:02:15 → 00:02:17 ให้เสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้เลยด้วย
00:02:17 → 00:02:20 ซ้ำนะคะวันนี้เจเลยเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:20 → 00:02:23 ท่านนี้มาตอบคำถามจากทางบ้านค่ะจะได้คลาย
00:02:23 → 00:02:26 ข้อสงสัยนะคะสำหรับใครหลายๆคนที่กำลัง
00:02:26 → 00:02:28 เผชิญโรคนี้อยู่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่เองนะ
00:02:28 → 00:02:30 คะหรือว่าบางคนเนี่ยมีพ่อแม่ที่ต้องคอย
00:02:30 → 00:02:33 เผชิญกับโรคกดไลย้อนมาเป็นเวลานานท่านจะ
00:02:33 → 00:02:35 ได้รักษาได้อย่างตรงจุดนะคะวันนี้เลย
00:02:36 → 00:02:38 เรียนเชิญแพทย์ขาประจำของเรามากับคุณหมอ
00:02:38 → 00:02:39 จิมมี่สวัสดีค่ะ
00:02:39 → 00:02:42 >> สวัสดีครับผมนายแพทย์สุธิพจน์พัทรมงคลการ
00:02:42 → 00:02:44 นะครับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวทศาสตร์
00:02:44 → 00:02:47 ป้องกันครับปัจจุบันก็รักษาคนไข้อยู่ที่
00:02:47 → 00:02:51 คลินิกณเวลานะครับก็จะดูแลคนไข้ที่มาด้วย
00:02:51 → 00:02:53 เรื่องของฮอร์โมนนะครับแต่ปัจจุบันก็มีคน
00:02:53 → 00:02:55 ไข้ที่มาด้วยเรื่องของเรื่องท้องนั่นเอง
00:02:55 → 00:02:58 นะครับไม่ว่าจะเป็นท้องอืดแน่นท้องอาหาร
00:02:58 → 00:03:00 ไม่ย่อยจนไปถึงเรื่องของกดไหลยอนครับ
00:03:00 → 00:03:04 >> คำถามแรกค่ะคุณหมอคุณแม่อายุ 67 ปีไม่มี
00:03:04 → 00:03:08 อาการแสบกลางหน้าอกหรือจุกเสียดเลยนะคะ
00:03:08 → 00:03:11 แต่ไอบ่อยมากนะคะโดยเฉพาะตอนกลางคืนไอจน
00:03:11 → 00:03:15 นอนไม่ได้เลยค่ะเสียงแหบเจ็บคออยู่บ่อยๆ
00:03:15 → 00:03:18 พอไปเจอหมอคุณหมอบอกว่าเป็นกฎไหลย้อน
00:03:18 → 00:03:21 อันเนี้ยมันใช่กฎไหลย้อนจริงๆหรอคะควรจะ
00:03:21 → 00:03:22 แก้ไขยังไงดีคะ
00:03:22 → 00:03:25 >> อ่าคนนี้คราวนี้เนี่ยเรื่องของคุณแม่ที่
00:03:25 → 00:03:28 วัยอายุ 50 กว่าถูกมั้ยครับอ๋อ 67 แล้ว
00:03:28 → 00:03:30 แปลว่าที่จริงอ่ะถ้าคุณแม่มีอาการไออย่าง
00:03:30 → 00:03:33 เงี้ยมันอาจจะบ่งบอกว่าคุณแม่อาจจะเป็นกฎ
00:03:33 → 00:03:36 ไหลย้อนมานานแล้วนะครับเนาะแล้วมันสะสมมา
00:03:36 → 00:03:38 เรื่อยๆคราวนี้เราต้องมาเข้าใจก่อนว่าไอ้
00:03:38 → 00:03:40 ภาวะกดลย้อนเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ไงจริงๆ
00:03:40 → 00:03:44 มันเป็นโรคของพฤติกรรมคุณทำตัวคุณเอง
00:03:44 → 00:03:46 >> มันเป็นกรรมของคุณที่คุณทำอ่ะนะครับ
00:03:46 → 00:03:48 >> กรรมที่ตัวทำตัวเองใช่มั้
00:03:48 → 00:03:50 >> ทำตัวเองใช่คราวนี้เราต้องเข้าใจว่ากฎไหล
00:03:50 → 00:03:52 ย้อนหมายความว่าในกระเพาะอาหารของคุณน่ะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับปกติร่างกายเราก็จะมีหลอดอาหารถูกมั้
00:03:55 → 00:03:57 ครับแล้วก็กระเพาะอาหารคราวนี้คนที่เป็น
00:03:57 → 00:04:00 กดไหลย้อนแปลว่าคุณเมียกดเยอะมากเกินไป
00:04:00 → 00:04:03 ที่มันเกิดจากพฤติกรรมไม่ดีต่างๆนานาแล้ว
00:04:03 → 00:04:06 กดพวกเนี้ยมันขย่อนมันไหลขึ้นมาทางหลอดลม
00:04:06 → 00:04:10 อาหารหรืออวัยวะข้างทางจนไปกระทบแล้วทำ
00:04:10 → 00:04:13 ให้เรามีอาการต่างๆไม่ว่าจะแน่นจุกเสียด
00:04:13 → 00:04:16 แสบท้องหรือเป็นอาการไอเหมือนของคุณแม่คน
00:04:16 → 00:04:19 นี้นะครับแต่ต้องบอกก่อนว่าภาวะกดไหลย้อน
00:04:19 → 00:04:21 เนี่ยมันเป็นจากพฤติกรรมเพราะฉะนั้นมัน
00:04:21 → 00:04:25 เกิดได้ทุกเพศทุกวัยทุกเวลาเลยอ
00:04:25 → 00:04:27 >> ไม่ใช่มันไม่ได้บอกเรื่องเนาะอ่ะต้อง 60
00:04:27 → 00:04:29 กว่าถึงจะเป็นหรือว่าวัยรุ่นถึงจะเป็นไม่
00:04:29 → 00:04:31 ใช่คราวนี้เราต้องมาหาสาเหตุให้ได้ก่อน
00:04:31 → 00:04:34 ว่าเอ๊ะมันเกิดจากอะไรนะครับอย่างแรกเลย
00:04:34 → 00:04:37 กินอาหารรสจัดทุกอย่างอ่ะเค็มจัดเปรี้ยว
00:04:38 → 00:04:41 จัดเผ็ดจัดนะครับอะไรที่มันคำว่าจัดๆ
00:04:41 → 00:04:41 เนี่ย
00:04:41 → 00:04:44 >> คนไทยเราเนาะชอบกินเผ็ดจัดเค็มจัดมัน
00:04:44 → 00:04:45 อร่อยอ่ะค่ะหมออื
00:04:45 → 00:04:47 >> นั่นแหละครับเป็นตัวกระตุ้นเลยอันที่ 2
00:04:48 → 00:04:51 ก็คือกินเร็วและกินแบบยัดๆ
00:04:51 → 00:04:52 >> อื
00:04:52 → 00:04:54 >> กินเร็วอิ่มเร็วอิ่มเยอะอิ่มนานบุฟเฟ่ต์
00:04:54 → 00:04:55 อ่ะต้องคุ้ม
00:04:55 → 00:04:56 >> อ
00:04:56 → 00:04:57 >> เราจ่ายไปแล้วมันต้องคุ้มขอให้มัน
00:04:57 → 00:05:00 >> ใช่หมอแบบ 399 บางทีพรีเมี่ม 899 เนี่ย
00:05:00 → 00:05:01 มันแพงนะ
00:05:01 → 00:05:04 >> เออเพราะฉะนั้นเอาอัดให้เต็มที่เราจะได้
00:05:04 → 00:05:05 มีความสุข
00:05:05 → 00:05:05 >> ย้อนมาเลย
00:05:06 → 00:05:08 >> บนย้อนมาเลยแต่บางคนก็บอกว่าคุ้มแต่มัน
00:05:08 → 00:05:10 คุ้มมั้ในอนาคตถูกมั้ยเรื่องสุขภาพมัน
00:05:10 → 00:05:12 เสียแต่โอเคคุ้มเรื่องเงินแต่มันก็ไม่
00:05:12 → 00:05:15 คุ้มกันเดี๋ยวเสียตังค์เรื่องค่ารักษาอีก
00:05:15 → 00:05:18 นะครับเนาะต่อมาอาจจะกินอาหารบางชนิดที่
00:05:18 → 00:05:22 ไปกระตุ้นไม่ว่าจะเป็นพวกของหมักดองอื
00:05:22 → 00:05:25 >> ปลาร้านะครับ
00:05:25 → 00:05:25 เปรี้ยวปากเลย
00:05:25 → 00:05:29 >> ของโปรดเลยค่ะหมอกินปลาร้าทำให้เป็นกดไหล
00:05:29 → 00:05:30 ย้อนได้เลยหรอคะ
00:05:30 → 00:05:32 >> อ่ะมันเป็นของหมากนองอ่ะครับบางครั้ง
00:05:32 → 00:05:34 เนี่ยคุณอาจจะมีความ sensitive ในกระเพาะ
00:05:34 → 00:05:37 อาหารไงมันเลยเป็นตัวกระตุ้นนะครับไม่ว่า
00:05:37 → 00:05:41 จะเป็นอ่ะปลาร้าบอกไปแล้วนะครับผลไม้เอ่อ
00:05:41 → 00:05:44 ดองที่คนไทยชอบกินปรุงรสนู่นนี่นี่นั่น
00:05:44 → 00:05:47 เออมันก็เป็นตัวนึงที่ทำให้เกิดอาการได้
00:05:47 → 00:05:49 เครื่องดื่มเยอะมากหลากหลายชนิด
00:05:49 → 00:05:52 >> เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับอะไรที่มีแก๊ส
00:05:52 → 00:05:54 เยอะๆน้ำอัดลมนะครับ
00:05:54 → 00:05:57 >> ช็อกโกแลตก็เป็นตัวกระตุ้นเหมือนกันทำให้
00:05:57 → 00:05:58 เป็นกดช็อกโกแลต
00:05:58 → 00:06:00 >> ช็อกโกแลตกระตุ้นกดไลย้อนเดี๋ยวนะคะ
00:06:00 → 00:06:02 ช็อกโกแลตมันมีหลายแบบเนาะหมอมันมีmilิ
00:06:02 → 00:06:05 ช็อกโกแลตdarดช็อกโกแลตช็อกโกแลตกระถั่ว
00:06:05 → 00:06:08 ช็อกโกแลตอันไหนอ่ะคือ Dark ช็อกโกแลตมัน
00:06:08 → 00:06:09 ก็ดีที่สุดอยู่แล้วถ้าเราพูดถึงเรื่องของ
00:06:10 → 00:06:12 คุณค่าอาหารอันนี้เราพูดถึงเรื่อง
00:06:12 → 00:06:14 ช็อกโกแลตทั่วๆไป Milk ช็อกโกแลตอ่ะครับ
00:06:14 → 00:06:17 ที่มันหวานมากน้ำตาลค่อนข้างเยอะอันเนี้ย
00:06:17 → 00:06:20 กระตุ้นหนักมากๆเลยนะครับเนาะต่อมาอีกอัน
00:06:20 → 00:06:22 นึงก็คือภาวะอ้วน
00:06:22 → 00:06:27 >> นะครับภาวะอ้วนแล้วก็ชอบกินกินแล้วนอน
00:06:27 → 00:06:28 >> กินแล้วไม่ขยับ
00:06:28 → 00:06:29 >> กินแล้วไม่นอนเลยถูกมั้ครับอาหารมันยัง
00:06:30 → 00:06:31 ค้างอยู่เลยอ่ะ
00:06:31 → 00:06:33 >> มันยังไม่ไปไหนอ่ะแล้วคุณอาจจะนั่งกิน
00:06:33 → 00:06:35 แล้วกินต่ออีกหรือนอนนอนกินอย่างเงี้ยมัน
00:06:35 → 00:06:37 ก็เป็นภาวะที่ทำให้กดไหลย้อน
00:06:37 → 00:06:39 >> แต่ถ้านั่งโซฟาแล้วกินดูซีรีส์อย่างงี้
00:06:39 → 00:06:40 นับมั้ยคะ
00:06:40 → 00:06:43 >> คือมันก็ไม่ควรทำมันก็ไม่ควรทำนะครับเนาะ
00:06:43 → 00:06:46 คือถ้าคุณกินไปแล้วเนี่ยควรมีการขยับร่าง
00:06:46 → 00:06:49 กายหลังจากนั้นเสร็จไม่ใช่กินทั้งวันตลอด
00:06:49 → 00:06:52 เวลานอนด้วยกินด้วยนอนด้วยอย่างเงี้ยมา
00:06:52 → 00:06:55 แน่นอนกดย้อนตามหาแน่นอนนะครับเนาะอันนี้
00:06:55 → 00:06:56 ก็จะเป็นพฤติกรรมหลักๆแล้วกันนะครับอ่ะ
00:06:57 → 00:06:58 อีกอันนึงสูบบุหรี่ด้วยครับ
00:06:58 → 00:06:58 >> อือ
00:06:58 → 00:07:00 >> เนาะอย่าลืมดื่มเหล้าสุบุหรี่ยังไงก็เป็น
00:07:00 → 00:07:03 พฤติกรรมที่ทำให้เกิดกฎไหลยอนได้
00:07:03 → 00:07:04 >> อือทีนี้อยากถามนิดนึงอ่ะค่ะว่าเมื่อกี้
00:07:05 → 00:07:07 ที่คุณหมออธิบายมามันเป็นภาพรวมของการ
00:07:07 → 00:07:09 เกิดกฎไลย้อนแล้วอยากรู้ว่าการที่เราเกิด
00:07:09 → 00:07:12 กย้อนในคนอายุมากกับอายุน้อยเนี่ยมันต่าง
00:07:12 → 00:07:14 กันคะแล้วมันอันตรายแตกต่างกัน
00:07:14 → 00:07:16 >> อ่าคราวนี้เราต้องเข้าใจก่อนว่าพอเกิดกฎ
00:07:16 → 00:07:18 ไหลย้อนนะครับมันมีทั้งหมด 4 ระยะด้วยกัน
00:07:18 → 00:07:20 1 2 3 และ 4
00:07:20 → 00:07:22 >> ระยะที่ 1 เนี่ยจะเป็นระยะที่เริ่มต้น
00:07:22 → 00:07:24 เพิ่งเป็นครั้งแรกนะครับอาจจะเป็นอย่าง
00:07:24 → 00:07:27 คุณแม่คนนี้เอาจจะเป็นตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว
00:07:27 → 00:07:29 เขาไม่รู้ตัวนะครับก็คือแบบเดือนนึงอาจจะ
00:07:29 → 00:07:32 เป็นแค่ครั้ง 2 ครั้งนะครับอาการก็อย่าง
00:07:32 → 00:07:34 เช่นแบบกินเยอะจนเกินไปหรือว่ากินแล้วนอน
00:07:34 → 00:07:38 แล้วมันแสบอแค่นั้นเองแล้วเดี๋หายเดี๋มัน
00:07:38 → 00:07:39 หายได้เ
00:07:39 → 00:07:40 >> แบบแทบไม่ต้องใช้ยาแไม่ต้องใช้ยาเลยอัน
00:07:40 → 00:07:42 นี้อาจจะเป็นแค่ 1-2 ครั้งต่อเดือน
00:07:42 → 00:07:43 >> อื
00:07:43 → 00:07:46 >> ระยะที่ 2 ก็คือเป็นมากขึ้น 1-2 ครั้งต่อ
00:07:46 → 00:07:47 สัปดาห์และ
00:07:47 → 00:07:48 >> อ๋อ
00:07:48 → 00:07:50 >> เริ่มมีอาการนอกจากแน่นเหมือนระยะที่ 1
00:07:50 → 00:07:54 และระยะที่ 2 เริ่มมีเหมือนหายใจไม่เต็ม
00:07:54 → 00:07:57 ปอดมันแน่นมันมีแก๊สมันดันมีอะไรดันขึ้น
00:07:57 → 00:08:00 มานะครับแล้วก็อาจจะมีภาวะเหมือนคลื่นไส้
00:08:00 → 00:08:03 และเริ่มมีคลื่นไส้อาเจียนนะครับระยะที่ 3
00:08:03 → 00:08:06 แรงขึ้นไปอีกเป็นบ่อยมากขึ้นระยะที่ 2
00:08:06 → 00:08:08 กับที่ 3 เนี่ยอาจจะต้องเริ่มใช้ยามาช่วย
00:08:08 → 00:08:12 เพื่อไปลดกดและระยะที่ 3 ก็จะมีไอและไอมา
00:08:12 → 00:08:13 และอ
00:08:13 → 00:08:15 >> นะครับเนาะอวก
00:08:15 → 00:08:18 >> อาหารขย่อนออกมานะครับกินนิดๆหน่อยๆไม่
00:08:18 → 00:08:21 ไหวแล้วเพื่ออืดพอมจนมันแบบตีขึ้นมาเองนะ
00:08:21 → 00:08:24 ครับส่วนระยะสุดท้ายแน่นอนเป็นระยะที่น่า
00:08:24 → 00:08:27 กลัวที่สุดนะครับระยะสุดท้ายเนี่ยก็คือ
00:08:27 → 00:08:30 ประมาณ 10% ของคนที่เป็นระยะที่ 3 สามารถ
00:08:30 → 00:08:33 เป็นระยะที่ 4 ได้นะครับระยะสุดท้ายก็คือ
00:08:33 → 00:08:37 มีการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุของหลอดอาหาร
00:08:37 → 00:08:40 หรือกระเพาะอาหารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
00:08:40 → 00:08:41 นั่นเองครับ
00:08:41 → 00:08:44 >> ว้ายกดไลย้อนถ้าทิ้งไว้นานนี่เป็นโรค
00:08:44 → 00:08:45 มะเร็งได้เลยเหรอคะ
00:08:45 → 00:08:48 >> ใช่ถ้าคุณสะสมมานานแล้วคุณไม่ยอมเปรียบ
00:08:48 → 00:08:50 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลยกินเหมือนเดิมทำ
00:08:50 → 00:08:52 เหมือนเดิมเอาแต่พึ่งยาพึ่งยาอย่างเดียว
00:08:52 → 00:08:55 แล้วไอ้เยื่อบุของหลอดอาหารกับกระเพาะ
00:08:55 → 00:08:57 อาหารคุณมันเริ่มเปลี่ยนไป
00:08:57 → 00:09:01 >> สะสมไปเรื่อยๆ 10% จากคนระยะที่ 3 ก็จะ
00:09:01 → 00:09:03 กลายมาเป็นระยะที่ 4 ครับ
00:09:03 → 00:09:03 >> อ
00:09:03 → 00:09:05 >> บางคนก็บอกอุ๊ยเป็นมะเร็งเดี๋ไปผ่าออกดี
00:09:05 → 00:09:08 กว่าการผ่าตัดไม่ได้รักษา 100%
00:09:08 → 00:09:09 >> อื
00:09:09 → 00:09:11 >> ผ่าตัดสมมุติผ่าตรงนั้นไปและที่เป็นแผล
00:09:11 → 00:09:12 >> อาจจะ
00:09:12 → 00:09:15 >> กลับมาอีกถ้าคุณยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม
00:09:15 → 00:09:17 >> เพราะฉะนั้นของคุณแม่เนี่ยอาจต้องเอ๊ะคุณ
00:09:17 → 00:09:19 แม่เขาก็ไม่ได้เล่าเนาะว่าสมัยก่อนเขามี
00:09:19 → 00:09:22 อาการหรือเปล่าหมอก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ดู
00:09:22 → 00:09:24 แล้วเออน่าจะเป็นมานานและอาจจะเป็นมานาน
00:09:24 → 00:09:27 แล้วก็ได้เริ่มมีไอตอนกลางคืนนะครับอื
00:09:27 → 00:09:30 >> อก็แปลว่าถ้าไอตอนกลางคืนแปลว่าเราเข้า
00:09:30 → 00:09:32 สู่ภาวะเลเวลที่ 3 ของการไปกดลย้อและใช่
00:09:32 → 00:09:33 มั้ยคะ
00:09:33 → 00:09:36 >> อันนี้ไม่แกรันตีนะครับต้องบอกก่อนว่า 80%
00:09:36 → 00:09:39 ของคนเป็นกดไหลย้อนชอบเป็นตอนกลางคืน
00:09:39 → 00:09:40 >> ทำไมอ่ะ
00:09:40 → 00:09:43 >> อ่ะคราวนี้ตอนกลางคืนถูกมั้ยครับ 1 อาจจะ
00:09:43 → 00:09:45 เป็นเพราะว่าคุณกินเร็วกินมื้อเย็นมื้อ
00:09:45 → 00:09:47 สุดท้ายแล้วนอนเลย
00:09:47 → 00:09:47 >> อื
00:09:47 → 00:09:49 >> ไม่มีการขยับร่างกายปกติเราก็จะแนะนำว่า
00:09:49 → 00:09:52 อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะเข้า
00:09:52 → 00:09:53 นอนเนี่ย
00:09:53 → 00:09:53 >> อ
00:09:53 → 00:09:54 >> หยุดกิน
00:09:54 → 00:09:57 >> ไม่ใช่กินตลอดเวลาจนถึงนอนหยุดกินดื่มน้ำ
00:09:57 → 00:10:00 >> ดื่มน้ำได้มันพูดถึงเรื่องของอาหารการกิน
00:10:00 → 00:10:03 นะครับเนาะแล้วทำไมชอบเป็นตอนกลางคืนมัน
00:10:03 → 00:10:06 ขึ้นกับท่านอนครับ
00:10:06 → 00:10:07 >> เหรอคะต้องนอนไหนอ่ะ
00:10:07 → 00:10:11 >> นึกลองนึกคิดว่าท่าไหนเซฟหรือว่ามีอาการ
00:10:11 → 00:10:16 กดไหลย้อนน้อยที่สุดตะแคงซ้ายตะแคงขวานอน
00:10:16 → 00:10:20 คว่ำอ่านอนหงายหรือยืนนอนน่ะไยืนนอนก็ไม่
00:10:20 → 00:10:22 มีใครยืนนอน
00:10:22 → 00:10:24 >> คิดว่านั่งนอนน่าจะปลอดภัยที่สุด
00:10:24 → 00:10:27 >> แต่ไม่มีใครนั่งนอนไม่มีใครนั่งนอน
00:10:27 → 00:10:32 >> เพราะว่ารู้สึกเบี่ยงขวาก็ออกขวาซ้าย
00:10:32 → 00:10:34 >> อ่าไม่ใช่หรอต้องมานึกเรื่องของสรีระร่าง
00:10:34 → 00:10:37 กายก่อนนะครับเนาะคราวนี้เนี่ยการที่เรา
00:10:38 → 00:10:42 นอนตะแคงสายเป็นท่าที่
00:10:42 → 00:10:44 ลดภาวะกดไหลย้อนได้ดีที่สุด
00:10:44 → 00:10:45 >> โอเคงั้น
00:10:45 → 00:10:49 >> เพราะว่ากระเพาะอาหารเราจะอยู่ต่ำกว่า
00:10:49 → 00:10:51 หลอดอาหารครับ
00:10:51 → 00:10:54 >> ทำให้หลดไหลย้อนมันมันขึ้นมาไม่ได้เพราะ
00:10:54 → 00:10:55 เราตะแคงซ้ายไงถูกมั้
00:10:55 → 00:10:57 >> มันบล็อกมันอยู่นะครับเนาะเพราะฉะนั้นน่ะ
00:10:57 → 00:11:00 อ่าอะเอ่อพวกน้ำกรดต่างๆก็ไม่สามารถขึ้น
00:11:00 → 00:11:02 มาได้ถ้าเราเปรียบเทียบกับคนที่นอนนอน
00:11:02 → 00:11:05 ตะแคงขวากับแคงขวาเนี่ยมาแน่นอนอ
00:11:05 → 00:11:07 >> นะครับเนาะเพราะฉะนั้นท่านอนก็เป็นอะไร
00:11:07 → 00:11:10 สำคัญสำหรับคนที่มีภาวะกดไหลอยู่แล้วคุณ
00:11:10 → 00:11:12 ต้องนอนตะแคงทรายให้มากขึ้น
00:11:12 → 00:11:13 >> อืแฮ#ทกตะแคงซ้ายค่ะ
00:11:13 → 00:11:14 >> ตะแคง
00:11:14 → 00:11:18 >> อ่าโอเคได้ก็ก็เป็นการช่วยเบื้องต้นแหละ
00:11:18 → 00:11:20 เนาะไม่ใช่ว่าทำพฤติกรรมทุกอย่างไม่เป็น
00:11:20 → 00:11:22 ไรหมอบอกให้ตะแคงซ้าย
00:11:22 → 00:11:25 >> ไม่ได้เนาะไม่ใช่ตะแคงซ้ายกินไปด้วยช่วย
00:11:25 → 00:11:28 >> อันนี้ก็เป็นหน้านอนเล็กๆน้อยๆนะคะแล้ว
00:11:28 → 00:11:30 อยากถามอ่ะค่ะว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงเป็นกฎละ
00:11:30 → 00:11:32 ย้อนได้มากกว่าเด็กค่ะ
00:11:32 → 00:11:35 >> คราวนี้ต้องบอกว่าผู้ใหญ่เนี่ยก็พอเรามี
00:11:35 → 00:11:38 อายุมากขึ้นร่างกายเราก็เสื่อมเซลล์เราก็
00:11:38 → 00:11:41 เสื่อมกระเพาะอาหารการขยับเขยื้อนการย่อย
00:11:41 → 00:11:44 อาหารมันก็ลดลงตามอายุของเราถูกมั้ยครับ
00:11:44 → 00:11:46 เพราะฉะนั้นเนี่ยคุณถ้าสมมุติคุณกินเท่า
00:11:46 → 00:11:49 เดิมเหมือนคุณอายุ 25 เป็นไปไม่ได้เลยที่
00:11:49 → 00:11:51 คุณจะย่อยเร็วได้เท่านั้นถูกมั้ครับเพราะ
00:11:51 → 00:11:53 ฉะนั้นอาหารที่คุณกินเข้าไปมันก็ใช้เวลา
00:11:53 → 00:11:57 นานมากกว่าจะย่อยได้กล้ามเนื้อของคุณน้ำ
00:11:57 → 00:11:58 กด
00:11:58 → 00:12:01 >> กดในกระเพาะอาหารคุณมันน้อยลงเพราะฉะนั้น
00:12:01 → 00:12:04 เนี่ยการเกิดเรื่องของกฎไหลย้อนก็เป็นได้
00:12:04 → 00:12:06 ง่ายมากขึ้นเพราะว่า
00:12:06 → 00:12:08 >> สารย่อยน้อยลงการขยับให้เยื้อน้อยลงนะ
00:12:08 → 00:12:10 ครับอปัจจัยแรกคือเรื่องของอายุเลยเพราะ
00:12:10 → 00:12:13 ฉะนั้นคุณก็ต้องเลือกกินอาหารไม่ใช่ว่าจะ
00:12:13 → 00:12:16 กินคิดว่าตัวเองอายุ 25 อีกครั้งก็ไม่ได้
00:12:16 → 00:12:19 ก็กินอาหารที่มันแบบเบาย่อยง่ายมากขึ้น
00:12:19 → 00:12:22 เนื้อปลายอันที่ 2 ก็คือปัจจัยเรื่องของ
00:12:22 → 00:12:24 น้ำหนักตัวนะครับพอผู้ใหญ่อาจจะเป็นคุณ
00:12:25 → 00:12:27 เป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายก็ได้นะครับนอน
00:12:27 → 00:12:29 แล้วก็กินนอนอะไรอย่างเงี้ยมันก็เป็น
00:12:29 → 00:12:32 ปัจจัยยิ่งน้ำหนักตัวมากขึ้นระบบการเผา
00:12:32 → 00:12:34 ผ่านน้อยการย่อยอาหารก็ไม่ดีอ
00:12:34 → 00:12:34 >> อือ
00:12:34 → 00:12:37 >> การเป็นกฎไหลย้อนก็จะเป็นง่ายมากขึ้นอย่า
00:12:37 → 00:12:39 ลืมเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับสูบ
00:12:39 → 00:12:42 บุหรี่ถ้าคุณสูบสะสมมาหรือดื่มสะสมมาตั้ง
00:12:42 → 00:12:44 หลายปีเนี่ยมันก็เป็นปัจจัยทำให้เกิด
00:12:44 → 00:12:46 เรื่องของกดไหล่ย้อนอยู่แล้วนะครับและอัน
00:12:46 → 00:12:48 สุดท้ายผู้ใหญ่กินแล้วชอบทำอะไรครับอ
00:12:48 → 00:12:49 >> นั่งนอน
00:12:49 → 00:12:50 >> นอน
00:12:50 → 00:12:50 >> อื
00:12:50 → 00:12:52 >> กินแล้วนอนนะครับเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:53 → 00:12:55 ปัจจัยกินแล้วนอนมันยังไม่ย่อยเลยมันก็จะ
00:12:55 → 00:12:57 ทำให้เป็นกฎไหลย้อนได้ง่ายมากขึ้น
00:12:57 → 00:12:58 >> อื
00:12:58 → 00:13:01 >> คราวนี้ในผู้สูงอายุอ่ะบางคนอาจจะไม่มี
00:13:01 → 00:13:04 ภาวะแสบร้อนหน้าอกก็ได้แต่ว่าไอจนนอนไม่
00:13:04 → 00:13:06 หลับหรือบางคนเนี่ยเจ็บหน้าอกคือว่าเป็น
00:13:06 → 00:13:09 โรคหัวใจแต่จริงๆแล้วอ่ะมันเป็นภาวะแทรก
00:13:09 → 00:13:11 ซ้อนของกดไหลย้อนนั่นเองเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:13:11 → 00:13:14 อย่าปล่อยไว้นานๆเพราะว่ามันสามารถเป็น
00:13:14 → 00:13:17 อันตรายในอนาคตได้นะครับเนาะสิ่งสำคัญใน
00:13:17 → 00:13:20 การรักษากรดไหลย้อนในวัย 50 บวกเนี่ยที่
00:13:20 → 00:13:23 ยั่งยืนเนี่ยไม่ใช่แค่กินยาลดกดแต่ต้อง
00:13:23 → 00:13:26 ฟื้นฟูเรื่องของกระเพาะอาหารด้วยนะครับ
00:13:26 → 00:13:29 เนาะเพราะว่าให้ลองคิดแล้วกันว่า
00:13:29 → 00:13:32 >> กระเพาะอาหารของเราคือบ้านของเราถ้าใน
00:13:32 → 00:13:34 บ้านของเรามันมีกดเยอะเหมือนมีน้ำท่วม
00:13:34 → 00:13:35 เต็มเลย
00:13:35 → 00:13:37 >> เราก็จะเกิดอาการถูกมั้ยครับอาการอายแสบ
00:13:37 → 00:13:40 ร้อนเจ็บหน้าอกต่างๆนานาสิ่งที่เราคนชอบ
00:13:40 → 00:13:43 ทำกันไปลดกดเอาน้ำออก
00:13:43 → 00:13:44 >> อ่าน้ำอ่อนออกไปแล้ว
00:13:44 → 00:13:47 >> แต่น้ำท่วมหลังจากน้ำท่วมเกิดอะไรขึ้นของ
00:13:47 → 00:13:48 ในบ้านเป็นไง
00:13:48 → 00:13:48 >> พัง
00:13:48 → 00:13:52 >> พังผุเฟอร์นิเจอร์อย่างเจ๊งแล้วคุณยังกิน
00:13:52 → 00:13:54 เหมือนเดิมเพราะฉะนั้นเนี่ยการย่อยมันก็
00:13:54 → 00:13:56 ไม่ดีอาการก็กำเลิบกลับมาได้เหมือนเดิม
00:13:56 → 00:14:00 สิ่งสำคัญคือพอคุณลดกดไปแล้วเอาน้ำออก
00:14:00 → 00:14:03 แล้วเนี่ยต้องไปซ่อมแซมบำรุงข้างในด้วย
00:14:03 → 00:14:06 ให้มันกลับมาเหมือนเดิมเฟอร์นิเจอร์ไฟเอย
00:14:06 → 00:14:08 น้ำเอยนะครับเพราะฉะนั้นการฟื้นฟูเนี่ย
00:14:08 → 00:14:10 เป็นอะไรที่สำคัญสำหรับผู้ใหญ่คุณจะได้
00:14:10 → 00:14:13 กลับมากินอาหารที่คุณชอบกินเหมือนสมัย
00:14:13 → 00:14:13 ก่อนได้
00:14:13 → 00:14:16 >> อืมจริงๆอันนี้สำคัญมากเลยนะคะเพราะว่า
00:14:16 → 00:14:20 หลายๆคนก็โอเคทุกคนเลยอ่ะกดมาก็ลดกดกดมา
00:14:20 → 00:14:23 ก็ลดกดแต่อย่าลืมว่าทุกครั้งที่กดมาเนี่ย
00:14:23 → 00:14:27 มันก็ส่งผลต่อผนังเอ่อลำไส้แล้วก็กระเพาะ
00:14:27 → 00:14:29 อาหารของเราไปแล้วมันไม่เหมือนเดิมไปแล้ว
00:14:29 → 00:14:31 ฉะนั้นเราเราจะต้องฟื้นฟูใช่มั้ยคะฉะนั้น
00:14:31 → 00:14:34 หมอช่วยแนะนำวิธีการฟื้นฟูกระเพาะอาหาร
00:14:34 → 00:14:34 หน่อยได้มั้คะ
00:14:34 → 00:14:37 >> อ่าอย่างแรกเลยก็คือโรคนี้หรือภาวะนี้มัน
00:14:37 → 00:14:39 เกิดจากพฤติกรรมเพราะฉะนั้นอย่างแรกคุณ
00:14:39 → 00:14:41 ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเราพูดตั้งแต่
00:14:42 → 00:14:44 เริ่มต้นแล้วก็หลีกเลี่ยงอาหารที่มัน
00:14:44 → 00:14:46 >> รู้แหละว่ามันไม่ดีต่อกระเพาะของคุณอาหาร
00:14:46 → 00:14:49 รสจัดอาหารที่เปรี้ยวจัดอาหารเค็มจัดพวก
00:14:49 → 00:14:51 เนี้ยนะครับเนาะแล้วก็อาหารที่มันย่อยยาก
00:14:51 → 00:14:53 เพราะฉะนั้นปรับเปลี่ยนเรื่องของอาหารการ
00:14:53 → 00:14:55 กินอย่างที่ 2 ก็คือเรื่องของการนอนนะ
00:14:55 → 00:14:58 ครับเนาะในผู้สูงอายุ 50 บวกเนี่ยก็ไม่
00:14:58 → 00:15:01 ใช่กินแล้วนอนแล้วกันนะครับเนาะคุณก็ควร
00:15:01 → 00:15:03 รับประทานอาหารให้เสร็จประมาณ 2-3
00:15:03 → 00:15:06 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะไปนอนนะครับเนาะแล้ว
00:15:06 → 00:15:08 ก็อย่าจัดหนักมากถ้าจัดหนักมากเนี่ยเดี๋
00:15:08 → 00:15:11 มันก็ไปส่งผลกระทบต่อการนอนอีกนะครับส่วน
00:15:11 → 00:15:13 อันสุดท้ายเนี่ยก็ปัจจุบันเนี่ยที่จริง
00:15:14 → 00:15:16 มันก็มีสารอาหารหรือว่าอาหารเสริมมากมาย
00:15:16 → 00:15:19 เนาะที่ไปช่วยเรื่องของบำรุงหรือลดกดใน
00:15:19 → 00:15:21 กระเพาะอาหารแต่ตัวหนึ่งมันจะเป็นสารสกัด
00:15:21 → 00:15:24 ที่เรียกว่าแอนโตไซยโนไซตนะครับเนาะสาร
00:15:24 → 00:15:27 แอนโทไซโนไซตเนี่ยมันช่วยเรื่องของลดการ
00:15:27 → 00:15:30 อักเสบนะครับเนาะปรับสมดุลของลำไส้ทำให้
00:15:30 → 00:15:32 ลำไส้ของเรา่ะแข็งแรงมากยิ่งขึ้นแล้วก็
00:15:32 → 00:15:34 ฟื้นฟูแผนในกระเพาะอาหารและลำไส้ของเรา
00:15:34 → 00:15:35 ครับ
00:15:35 → 00:15:35 >> อื
00:15:35 → 00:15:38 >> สารอาหารพวกนี้ส่วนมากก็จะเจอในผลไม้ที่
00:15:38 → 00:15:41 มีสีเข้มๆสีม่วงเช่นอะไรบ้างครับ
00:15:41 → 00:15:42 >> อพวกเบอร์รี่
00:15:42 → 00:15:44 >> อ่าเบอร์รี่นะครับเยอะที่สุดก็คือ
00:15:44 → 00:15:46 บูเบอร์รี่นะครับแล้วก็Blackเบอร์รี่
00:15:46 → 00:15:47 บลูเบอร์รี่ครับ
00:15:47 → 00:15:49 >> อ๋อโอเคก็แปลว่าจริงๆแล้วมันก็ต้องดูองค์
00:15:49 → 00:15:52 รวมน่ะเนาะนะคะไม่ว่าจะเป็นปรับการกินการ
00:15:52 → 00:15:54 นอนแล้วก็ถ้ารู้สึกว่าเรากัดปรับการกิน
00:15:54 → 00:15:58 การนอนแล้วอยากมีตัวช่วยทำให้ฟื้นฟูเอ่อ
00:15:58 → 00:16:00 กระเพาะอาหารได้มากขึ้นเนี่ยก็มีอาหาร
00:16:00 → 00:16:02 เสริมมากมายอย่างอย่างเช่นที่คุณหมอแนะนำ
00:16:02 → 00:16:02 ไป
00:16:02 → 00:16:05 >> การที่เราซ่อมแซมกระเพาะอาหารของเราจาก
00:16:05 → 00:16:07 การเป็นกดไหลย้อนซ้ำๆเนี่ยทุกๆครั้งที่
00:16:07 → 00:16:10 เป็นกดไหลย้อนน่ะบ่อยๆเข้าบ่อยๆเข้ามัน
00:16:10 → 00:16:13 เกิดแผ่ในกระเพาะอาหารเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:16:13 → 00:16:16 ถ้าคุณกินแต่ยาลดกดเข้าไปมันทำอะไรครับลด
00:16:16 → 00:16:16 แต่กด
00:16:16 → 00:16:17 >> อื
00:16:17 → 00:16:19 >> อ้าวแล้วซ่อมตอนไหนถูกมั้ครับเนาะเพราะ
00:16:19 → 00:16:22 สิ่งเพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดอ่ะคือไม่
00:16:22 → 00:16:24 ใช่แค่ลดกดอย่างเดียวเพราะนั้นคือการแก้
00:16:24 → 00:16:26 ไม่ตรงจุดคุณแปลกินแต่ลดกดอ
00:16:26 → 00:16:28 >> แต่คุณไม่ได้ซ่อม
00:16:28 → 00:16:30 >> อือสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญนอกจากการ
00:16:30 → 00:16:32 กินยารดกดแล้วคุณต้องไปซ่อมสิ่งที่มันสึก
00:16:32 → 00:16:35 หลอสิ่งที่มันโดนทำลายไปแล้วแผลในกระเพาะ
00:16:35 → 00:16:37 อาหารจะได้ไม่เกิดซ้ำๆอีกครับ
00:16:37 → 00:16:42 >> อืแล้วถ้าทนทนเจ็บเพื่อนก็เป็นกฎไหลย้อน
00:16:42 → 00:16:44 กันเยอะแยะเที่ยง 1:00 น.ก็ยังไปกิน
00:16:44 → 00:16:46 บุฟเฟ่ต์กันอยู่อย่างเงี้ยค่ะผ่านไป 5 ปี
00:16:46 → 00:16:48 10 ปีจะเกิดอะไรขึ้นคะ
00:16:48 → 00:16:53 >> ถ้าทนเจ็บนานๆมันก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
00:16:53 → 00:16:56 ของคุณเนาะเหมือนคุณทำให้เกิดแผลตลอดเวลา
00:16:56 → 00:16:59 เป็นแล้วเป็นอีกย้ำแล้วย้ำอีกแผลแผลใหญ่
00:16:59 → 00:17:02 ขึ้นใหญ่ขึ้นสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดแน่
00:17:02 → 00:17:06 นอนแผลนั้นเยื่อบุล
00:17:06 → 00:17:07 มะเร็งครับ
00:17:07 → 00:17:09 >> อื้อหือไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะคะเนี่ย
00:17:09 → 00:17:11 >> ไม่ใช่เรื่องเล่นจะทนเจ็บมั้ย
00:17:11 → 00:17:14 >> แต่วูฟี่มันก็อร่อยอ่ะ
00:17:14 → 00:17:16 โอเคค่ะการกระทกใช้ชีวิตอย่างมีสติเอา
00:17:16 → 00:17:18 เพียงพอเนาะแล้วถ้าเราเป็นกดไหลย้อนจริงๆ
00:17:18 → 00:17:21 ก็ควรจะเข้าสู่การรักษาจะได้ไม่ต้องไปถึง
00:17:21 → 00:17:25 สจสage 4 ตามที่คุณหมอแนะนำไว้นะคะบางคน
00:17:25 → 00:17:29 เป็นกฎไหลย้อนมานานจนคิดว่าอาการแน่นแสบ
00:17:29 → 00:17:31 จุกเป็นเรื่องปกติของร่างกายแต่รู้มั้คะ
00:17:31 → 00:17:33 ว่าอาการเจ็บแบบเรื้อรังแบบเนี้ยอาจไม่
00:17:33 → 00:17:36 ใช่เรื่องชั่วคราวแต่เป็นจากแผลที่อยู่ใน
00:17:36 → 00:17:39 กระเพาะนะคะหรือว่าหลอดอาหารซึ่งถ้าปล่อย
00:17:39 → 00:17:42 ไว้เนี่ยจะค่อยๆสะสมแล้วก็รอวันปะทุการ
00:17:42 → 00:17:44 ที่เรารักษาักษาที่ปลายเหตุหรือว่าที่
00:17:44 → 00:17:47 อาการเนี่ยอาจจะไม่เพียงพอและอาการเหล่า
00:17:47 → 00:17:50 นั้นก็อาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะวันนี้เจ
00:17:50 → 00:17:52 อยากจะแนะนำตัวช่วยซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของ
00:17:52 → 00:17:55 เรานะคะนั่นก็คือMerจิเจลเจลช่วยบรรเทา
00:17:55 → 00:17:58 อาการกดไลย้อนค่ะทานง่ายสะดวกนะคะสามารถ
00:17:58 → 00:18:01 ฉีกทานหลังมื้ออาหารหรือเมื่อมีอาการตัว
00:18:01 → 00:18:04 นี้นะคะสามารถฟื้นฟูได้ที่ต้นตอของกรดไหล
00:18:04 → 00:18:07 ย้อนเลยด้วยการทำงานทั้งหมด 3 ขั้นตอนค่ะ
00:18:08 → 00:18:10 1 สร้างชั้นเจลเคลือบหลอดอาหารด้วยสาร
00:18:10 → 00:18:13 สกัดโซเดียมแอลิเนตสามารถช่วยบรรเทาอาการ
00:18:13 → 00:18:16 กดไหลย้อนอาการแสบกลางหน้าอกนะคะแล้วก็
00:18:16 → 00:18:19 เรอเปรี้ยวได้ด้วยค่ะอันที่ 2 นะคะสามารถ
00:18:19 → 00:18:24 ลดการผลิตกดนะคะด้วยสารสกัดรากชเอมเทศ
00:18:24 → 00:18:26 แล้วก็สามารถช่วยลดการอักเสบได้ด้วยค่ะ
00:18:27 → 00:18:30 และขั้นตอนที่ 3 นะคะสามารถฟื้นฟูแผลใน
00:18:30 → 00:18:33 กระเพาะอาหารนะคะแล้วก็หลอดอาหารด้วยสาร
00:18:33 → 00:18:36 สกัดที่เรียกว่าแอนโทซาโนไซตซึ่งนำมาจาก
00:18:36 → 00:18:39 ผลไม้milบรี่นั่นเองนะคะสารสกัดอันนี้นะ
00:18:39 → 00:18:43 คะจะไปฟื้นฟูเยื่อในหลอดอาหารแล้วก็
00:18:43 → 00:18:45 กระเพาะอาหารให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งนึง
00:18:45 → 00:18:48 ค่ะสามารถดูแลได้ทั้งบรรเทาอาการแล้วก็
00:18:48 → 00:18:50 ฟื้นฟูด้วยจะได้หมดกันสักทีกับปัญหาที่
00:18:50 → 00:18:54 คอยเป็นอย่างซ้ำซากนะคะเพื่อให้คนทำงานไป
00:18:54 → 00:18:57 จนถึงวัย 50 บเนี่ยได้กลับมาใช้ชีวิตโดย
00:18:57 → 00:19:00 ที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคกดไหลย้อน
00:19:00 → 00:19:02 ค่ะสำหรับผู้ใหญ่คนไหนนะคะหรือว่าถ้าใคร
00:19:02 → 00:19:05 มีผู้ใหญ่ในบ้านที่ต้องคอยทนทุกข์กับ
00:19:05 → 00:19:08 เรื่องกดไลย้อนเนี่ยก็สามารถหาซื้อ Mergel
00:19:08 → 00:19:10 ได้ใน Get Good Life Shopee Mall นะ
00:19:10 → 00:19:13 คะหรือว่าสามารถทักถามเข้าไปนะคะในเพจของ
00:19:13 → 00:19:17 Merจิเจลเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมค่ะคำ
00:19:17 → 00:19:19 ถามต่อมาอันนี้เรื่องอาหารแล้วค่ะคุณหมอ
00:19:19 → 00:19:22 พี่สาวเป็นกรดไหลย้อนเลยกินกล้วยเป็น
00:19:22 → 00:19:25 ประจำทุกเช้าเพราะเชื่อว่าจะช่วยรักษากรด
00:19:25 → 00:19:29 ไหลย้อนได้นะคะแต่วันก่อนกินไปปุ๊บแสบ
00:19:29 → 00:19:32 ร้อนกลางหน้าอกทันทีเลยค่ะเลยลองไปหาข้อ
00:19:32 → 00:19:35 มูลแล้วพบเจอว่าคนเป็นกดไหลย้อนเนี่ยห้าม
00:19:35 → 00:19:38 กินกล้วยสรุปแล้วเป็นกดไหลย้อนเนี่ยกิน
00:19:39 → 00:19:41 กล้วยได้มั้ยคะแล้วควรกินอะไรดีจะได้ช่วย
00:19:41 → 00:19:43 อาการกดไลย้อนคะ
00:19:43 → 00:19:45 >> คราวนี้บางคนก็บอกว่ากินกล้วยช่วยบางคน
00:19:45 → 00:19:48 บอกกินกล้วยไม่ช่วยที่จริงอ่ะมันขึ้นกับ
00:19:48 → 00:19:50 ว่ากล้วยสุกหรือกล้วยไม่สุกครับ
00:19:50 → 00:19:51 >> อ่ะคะ
00:19:51 → 00:19:53 >> อ่าจริงๆที่จริงอ่ะกล้วยดิบอ่ะครับกึ่ง
00:19:53 → 00:19:57 สุกกิ่งดิบเนี่ยดีต่อการสมานแผลหรือป้อง
00:19:57 → 00:19:59 กันแผลในกระเพาะอาหารนั่นเอง
00:19:59 → 00:20:04 >> เพราะมันมีสารเรียกว่าลูโคไซยนินลูโคซิน
00:20:04 → 00:20:04 >> โอเคแต่ละ
00:20:04 → 00:20:07 >> สารเนี้ยมันช่วยป้องกันในมันจะเจอเจอใน
00:20:07 → 00:20:08 กล้วยดิบเท่านั้น
00:20:08 → 00:20:08 >> โอ้
00:20:08 → 00:20:10 >> กล้วยสุกไม่เจอ
00:20:10 → 00:20:12 เพราะมันรสชาติฝาดๆไงไอ้ฝาดๆนี่แหละ
00:20:12 → 00:20:14 >> แต่แต่กล้วยดิบไม่อร่อย
00:20:14 → 00:20:15 >> แต่มันดีต่อสุขภาพ
00:20:15 → 00:20:16 >> แล้วมันต้องดิบประมาณไหน
00:20:17 → 00:20:19 >> ประมาณแบบเขียวนิดนึงครับเขียวเขียว
00:20:19 → 00:20:22 เหลืองยังได้แต่ถ้าเขียวสุดแน่นอนมันก็ดี
00:20:22 → 00:20:24 สุดเนาะยิ่งมีเขียวมากเนี่ย
00:20:24 → 00:20:27 >> เตี่ยวนะมองเขียวสุดมันคิดได้หรอหมอ
00:20:27 → 00:20:30 >> คือเขียวมันฝาดเนาะมันฝาดมันไม่อร่อยแต่
00:20:30 → 00:20:32 สารอันเนี้ยมันก็ยิ่งเยอะแล้วมันไปช่วย
00:20:32 → 00:20:36 ป้องกันทำให้ไม่มีแผลในกระเพาะอาหารครับ
00:20:36 → 00:20:39 >> หมอแล้วถ้ามันเคี้ยวเขียวอันนั้นก็ต้อง
00:20:39 → 00:20:40 กินก็ได้
00:20:40 → 00:20:44 >> ก็คือให้มันกำลังจะำลังจะสุกอ่ากำลังจะ
00:20:44 → 00:20:46 สุกนะครับเราให้มีฝาดเล็กน้อยแล้วกันให้
00:20:46 → 00:20:49 มีรสชาติฝาดส่วนกล้วยที่มันสีเหลืองแล้ว
00:20:49 → 00:20:51 ที่มันสุกแล้วเนี่ยที่จริงมันมีแต่น้ำตาล
00:20:51 → 00:20:54 มันมีแป้งแล้วสารอันนั้นมันน้อยลงนะครับ
00:20:54 → 00:20:56 เนาะคราวเนี้ยบางคนที่
00:20:56 → 00:20:59 >> อ่าเป็นมานานนะครับเนาะหรือบางคนชอบกิน
00:20:59 → 00:21:02 กล้วยกล้วยคืออะไรมันช่วยลดกินไปเลย 1
00:21:02 → 00:21:04 หวีอะไรเงี้ย
00:21:04 → 00:21:07 >> โอหมันก็มันก็กระตุ้นเพราะมันเป็นแป้ง
00:21:07 → 00:21:08 >> จริงๆกล้วยมันมีกล้วยเยอะมากเลยคะกล้วย
00:21:08 → 00:21:12 กล้วยอะไรนะกล้วยน้ำว้ากล้วยหอมเล็บมือนา
00:21:12 → 00:21:16 กล้วยอ่ะถ้าพูดถึงดีที่สุดก็คือกล้วยดิบ
00:21:16 → 00:21:18 สีเขียวกล้วยน้ำว้าครับ
00:21:18 → 00:21:19 >> หาซื้อได้ง่ายด้วยเนาะ
00:21:19 → 00:21:20 >> อ่าชัดเจน
00:21:20 → 00:21:23 >> โอเคได้ค่ะแล้วทีนี้คนเป็นกดไหลย้อนห้าม
00:21:24 → 00:21:24 กินอะไรบ้างคะ
00:21:25 → 00:21:26 >> อ่าอันหนึ่งก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุก
00:21:26 → 00:21:29 ชนิดนะครับอันนี้ห้ามเด็ดขาดนะครับ
00:21:29 → 00:21:32 >> แล้วบางทีคนเป็นกดไหลย้อนแต่ว่าจะต้องพบ
00:21:32 → 00:21:36 ปะคนมีสารสรรบ้างเควรจะทำยังไงคะเพราะว่า
00:21:36 → 00:21:38 ให้เลี่ยงเลยมันบางทีมันไม่ได้จริงๆอย่า
00:21:38 → 00:21:39 ปล่อยให้ท้องว่าง
00:21:39 → 00:21:39 >> อื
00:21:39 → 00:21:43 >> อ่ามีกินอาหารต่างๆนานาไปก่อนรองท้องไป
00:21:43 → 00:21:46 ก่อนนะครับแล้วค่อยดื่มแล้วกันนะครับแต่
00:21:46 → 00:21:48 ก็ดื่มในปริมาณที่มันเหมาะสมไม่ใช่ว่ารอง
00:21:48 → 00:21:51 ท้องโอ้โหจัดเต็มเอาให้สุดอะไรอย่างเงี้ย
00:21:51 → 00:21:54 มันก็มานะครับเนาะอันที่ 2 ก็คืออาหารที่
00:21:54 → 00:21:56 มีไขมันเยอะ
00:21:56 → 00:22:00 >> ไขมันจัดนะครับเนาะกะทิของทอดของมันของ
00:22:00 → 00:22:03 ปิ้งของย่างเนี่ยนะครับเนาะเพราะพวกเนี้ย
00:22:03 → 00:22:06 เป็นตัวกระตุ้นกระเพาะมันย่อยยากของทอด
00:22:06 → 00:22:07 มันไขมันสูง
00:22:08 → 00:22:09 >> กล้วยปิ้งอ่ะคะได้มั้ย
00:22:09 → 00:22:11 >> อ่ากล้วยปิ้งยังโอเคนะครับเนาะกล้วยปิ้ง
00:22:11 → 00:22:13 ยังโอเคนะครับเนาะอันนี้เราพูดถึงเนื้อ
00:22:13 → 00:22:16 สัตว์ที่มันไปปิ้งนะบาร์บีคิวอะไรพวกนี้
00:22:16 → 00:22:18 นะครับอันที่ 3 ก็คือพวก
00:22:18 → 00:22:21 >> จัดๆทั้งหลายนะครับอาหารรสจัดเผ็ดจัดเค็ม
00:22:21 → 00:22:24 จัดเปรี้ยวจัดนะครับอันที่ 4 ก็เป็นของ
00:22:24 → 00:22:27 หมักดองนะครับเนาะไม่ว่าจะเป็นผลอ่าผลไม้
00:22:27 → 00:22:30 หมักดองนะครับเนาะหรือว่ากระเทียมดองนะ
00:22:30 → 00:22:33 ครับเนาะแล้วก็พวกอ่าเนื้อสัตว์ดองต่างๆ
00:22:33 → 00:22:36 นะครับกุ้งดองปูดองปลาร้าอย่างเงี้ยก็ควร
00:22:36 → 00:22:37 งดไว้ก่อนนะครับ
00:22:37 → 00:22:40 >> อ่าอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรกินทีนี้ค่ะ
00:22:40 → 00:22:43 ถ้าไม่อยากเป็นกดไลย้อนควรกินอะไรดีคะ
00:22:43 → 00:22:45 >> อย่างแรกเลยก็กินโปรตีนที่มีไขมันต่ำนะ
00:22:45 → 00:22:48 ครับเนาะไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลาเนื้อไก่ไข่
00:22:48 → 00:22:50 พวกนี้มันกินได้อยู่แล้วนะครับเนาะแต่ก็
00:22:50 → 00:22:52 ไม่ได้แบบกินเยอะมากในครั้งนี้
00:22:52 → 00:22:54 >> โปรตีนมันช่วยอะไรเกี่ยวกับกดไลย้อน
00:22:54 → 00:22:56 >> คือคือมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของกรดไหล
00:22:56 → 00:22:59 ย้อนมากครับแต่มันคือเราย่อยง่ายย่อยเร็ว
00:22:59 → 00:23:02 นะครับเนาะจนไม่มีกดอ่ะมันตีขึ้นมานะครับ
00:23:02 → 00:23:04 ถ้าเป็นอาหารที่เมื่อกี้เราพูดไปไขมันสูง
00:23:04 → 00:23:07 อะไรพวกเนี้ยมันคือมันใช้เวลานานกว่าย่อย
00:23:07 → 00:23:11 ได้หรือพูดถึงเนื้อวัวเนื้อหมูมันย่อยยาก
00:23:11 → 00:23:14 กว่าเนื้อปลาหรือเนื้อไก่นั่นเองนะครับ
00:23:14 → 00:23:16 อันที่ 2 ก็เป็นไขมันดีเมื่อกี้เราบอกว่า
00:23:16 → 00:23:18 ห้ามกินไขมันเนาะของทอดของมันแต่อันเนี้
00:23:19 → 00:23:22 บอกว่าไขมันดีที่จริงช่วยย่อยอาหารซะด้วย
00:23:23 → 00:23:23 ซ้ำ
00:23:23 → 00:23:24 >> อื
00:23:24 → 00:23:27 >> อะโวคาโดนะครับน้ำมันมะกอกนะครับอ่าเมล็ด
00:23:28 → 00:23:30 แฟลกseีดนะครับเนาะพวกเนี้ยไขมันดีอ่ะมัน
00:23:30 → 00:23:32 ดีต่อร่างกายอยู่แล้วนะครับเพราะกินไป
00:23:32 → 00:23:35 เถอะนะครับอันที่ 3 ก็คืออะไรที่มันมี
00:23:35 → 00:23:39 ไฟเบอร์เยอะๆเนาอ้น้ำตาลตำเปิล
00:23:39 → 00:23:44 ฝรั่งผักผักก็ต้มสุกก่อนนะครับผัดผักหรือ
00:23:44 → 00:23:46 ว่าเอาไปใส่ในน้ำแกงอะไรก็ได้นะครับ
00:23:46 → 00:23:48 สำหรับคนที่เป็นกดละย้อนที่จริงเราก็ไม่
00:23:48 → 00:23:51 แนะนำให้กินผักดิบนะครับเนาะเพราะว่ามัน
00:23:51 → 00:23:54 อาจจะมันมีสารมีแก๊สได้เกิดได้ง่ายมาก
00:23:54 → 00:23:57 ขึ้นเอาไปโดนความร้อนต้มๆผัดผักอะไรอย่าง
00:23:57 → 00:23:57 เงี้ยก่อน
00:23:57 → 00:23:58 >> ถ้าใครชอบกินสลัดทำไงอ่ะ
00:23:58 → 00:24:02 >> ก็เปลี่ยนนะครับเนาะยังอย่าเพิ่งกินรอรอ
00:24:02 → 00:24:04 นิดนึงนะครับรอนิดนึง
00:24:04 → 00:24:05 >> ก็แปลว่าถ้าสมมุติว่าใครที่เป็นกดไลย้อน
00:24:05 → 00:24:06 น่ะระหว่าง
00:24:06 → 00:24:09 เลือกกินผักสดกับผักต้มอะไรเงี้ยคิดว่า
00:24:09 → 00:24:12 ต้มจะดีสักดีกว่าถูกต้องครับเนาะอันที่ 4
00:24:12 → 00:24:13 แตงโม
00:24:13 → 00:24:13 >> คะ
00:24:13 → 00:24:16 >> เออแตงโมนะครับเนาะกินหรือ
00:24:16 → 00:24:19 >> ควรกินควรกินนะครับ
00:24:19 → 00:24:21 กดไหลย้อนเพราะว่าแตงโมเนี่ย 1 มันมี
00:24:21 → 00:24:24 ฤทธิ์เย็นนะครับเนาะแล้วก็มันสามารถการ
00:24:24 → 00:24:26 ย่อยมันย่อยง่ายอยู่แล้วมันเป็นผลไม้นะ
00:24:26 → 00:24:28 ครับเนาะแล้วก็มีไฟเบอร์ด้วยนะครับเนาะ
00:24:28 → 00:24:30 แตงโมก็เป็นตัวนึงที่จริงนอกจากแตงโมมัน
00:24:30 → 00:24:33 ก็มีเนาะอะไรที่มันมีอ่ากากเยอะๆก็อย่าง
00:24:33 → 00:24:34 เช่นแก้วมังกร
00:24:35 → 00:24:38 >> เมลอนเป็นต้นนะครับอก็ลองกินอาหารเหล่า
00:24:38 → 00:24:41 นี้ก็น่าจะช่วยได้นะคะแล้วสมุนไพรหรอคะ
00:24:41 → 00:24:45 คุณหมอเพราะว่าช่องเราเนี่ยทุกคนชอบมาก
00:24:45 → 00:24:48 เรื่องสมุนไพรนะคะแล้วก็จะมีคำถามมาตลอด
00:24:48 → 00:24:50 เลยอยากรู้ว่าถ้าคนเป็นกดไลย้อนน่ะมี
00:24:50 → 00:24:53 สมุนไพรตัวไหนที่พอจะช่วยได้มั้คะ
00:24:53 → 00:24:56 >> 1 คือน้ำว่านหางจระเข้ครับ
00:24:56 → 00:24:56 >> อืม
00:24:56 → 00:24:59 >> คราวเนี้ยไอ้ตัวว่านหางจระเข้พืชไทยบ้านๆ
00:24:59 → 00:25:02 เนี่ยครับมันมีหน้าที่สมานแผล
00:25:02 → 00:25:02 >> อื
00:25:02 → 00:25:04 >> เหมือนแล้วที่สมัยก่อนอดีตเนาะถ้าเคยได้
00:25:04 → 00:25:08 ยินแบบเอามาพเปิดเป็นแผลไฟไหม้มาแปะนะ
00:25:08 → 00:25:10 ครับคล้ายๆกันอันนี้เป็นน้ำสกัดจากเ่อน้ำ
00:25:10 → 00:25:12 ว่านหารจระเข้อ่ะครับเนาะถ้าดื่มเข้าไป
00:25:12 → 00:25:15 มันก็ไปช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารของเรา
00:25:15 → 00:25:18 ได้นะครับอันที่ 2 ก็คือถ้าเกิดอาการกด
00:25:18 → 00:25:21 ไหลย้อนขึ้นมาน้ำขิงก็ช่วยได้ครับนะครับ
00:25:21 → 00:25:24 เนาะแล้วก็ดื่มน้ำขิงมันช่วยอ่าผ่าเ่อไล่
00:25:24 → 00:25:26 ลมเออต้องใช้คำนี้มันช่วยไล่ลมนะครับทำ
00:25:27 → 00:25:29 ให้ไม่เกิดอาการแน่นจุกเสียดในท้องของเรา
00:25:29 → 00:25:32 ได้นะครับอันที่ 3 อาจจะชื่อฝรั่งนิดนึง
00:25:32 → 00:25:33 สตารด
00:25:33 → 00:25:35 >> mustสตารดคือเออไอ้ซ
00:25:35 → 00:25:38 >> ซอสารแต่แต่เออนั่นแหละครับเนาะซอส
00:25:38 → 00:25:40 mustสตารดอ่ะครับเนาะที่จริงมันมีอ่า
00:25:40 → 00:25:42 ฤทธิ์เป็นด่างนะครับเนาะไปช่วยเรื่องของ
00:25:42 → 00:25:45 กรดไหลย้อนได้นะครับแล้วก็ส่วนอันสุดท้าย
00:25:45 → 00:25:48 ที่ไปช่วยเรื่องของกรดไหลย้อนได้ก็คือน้ำ
00:25:48 → 00:25:50 มะนาวหรือน้ำเมลอนนั่นเอง
00:25:50 → 00:25:53 >> เอ้ยน้ำมะนาวมันไม่มันไม่ได้ทำให้แสบท้อง
00:25:53 → 00:25:54 หรอคะ
00:25:54 → 00:25:56 >> คราวเนี้ยน้ำมะนาวอ่ะครับก็คือกินอุ่นๆ
00:25:56 → 00:25:58 เนาะแล้วก็อาจจะใส่น้ำผึ้งนิดนึงเข้าไปนะ
00:25:58 → 00:26:01 ครับน้ำมะนาวมันเป็นกรดจริงๆอ
00:26:01 → 00:26:03 >> แต่พอเวลามันดื่มเข้าไปแล้วอ่ะมันกลาย
00:26:03 → 00:26:04 เป็นด่างนะครับ
00:26:04 → 00:26:05 >> อ๋อ
00:26:05 → 00:26:08 >> เอ่อมันก็ช่วยไปลดภาวะอ่ากดไหลย้อนหรือ
00:26:08 → 00:26:09 การแสบท้องของเรานั่นเองครับอ
00:26:09 → 00:26:13 >> อออืแต่สิ่งที่สำคัญน่ะคือทุกอย่างที่หมอ
00:26:13 → 00:26:16 พูดมาเนี่ยจะต้องไม่น้ำตาลสูงเนาะเพราะ
00:26:16 → 00:26:18 อย่างน้ำขิงถ้าจะให้อร่อยก็ต้องเติมน้ำ
00:26:18 → 00:26:22 ตาลน้ำว่านหางจระเข้ถ้าไม่เติมน้ำตาลก็คง
00:26:22 → 00:26:23 ไม่อร่อย
00:26:23 → 00:26:24 >> ก็เอาเป็นหญ้าหวาน
00:26:24 → 00:26:26 >> อ่านๆน้ำตาลที่ทำมาจากธรรมชาติทั้งหลายอ
00:26:26 → 00:26:29 ครับเยอะๆเดี๋ยวนี้นะครับเนาะก็ใส่ผสม
00:26:29 → 00:26:29 เข้าไปได้ครับ
00:26:29 → 00:26:33 >> โอเอือแล้วก็มีมีรีเสิร์ชอันนึงอ่ะค่ะน่า
00:26:33 → 00:26:36 สนใจมากมีคนบอกว่าเป็นกดไหลย้อนเพราะชอบ
00:26:36 → 00:26:38 กินกระเทียมอันเนี้ยจริงมั้คะ
00:26:38 → 00:26:41 >> จริงครับคือคราวนี้ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม
00:26:41 → 00:26:45 อ่าหอมสดนะครับเนาะอ่าสาระแหน่รู้จักมั้ย
00:26:45 → 00:26:49 ครับสระใบสาระแหน่นะครับเนาะเปเปอร์มิพวก
00:26:49 → 00:26:52 เนี้ยมันเป็นอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในช่อง
00:26:52 → 00:26:55 ท้องนะครับเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยช่วงแรกๆ
00:26:55 → 00:26:58 ถ้าคุณมีอาการพวกนี้อยู่อย่าเพิ่งไปกิน
00:26:58 → 00:27:00 >> นะครับโดยเฉพาะพวกกินสดทั้งหลายกระเทียม
00:27:00 → 00:27:02 สดของสดเนี่ยเอ่อ
00:27:02 → 00:27:05 >> งดไว้ก่อนนะครับมันเกิดสแก๊สแล้วทำให้มัน
00:27:05 → 00:27:07 มีแรงดันในกระเพาะมากยิ่งขึ้นเกิดกดไหล
00:27:07 → 00:27:08 ย้อนได้ครับ
00:27:08 → 00:27:10 >> อมันกินเล็กกินน้อยได้มั้ยคะ
00:27:11 → 00:27:12 >> กินเล็กเล็กขนาดไหนอ่ะ
00:27:12 → 00:27:14 >> คือนิดหน่อยอ่ะคือสมมุติเพราะว่านึกภาพ
00:27:14 → 00:27:19 เลยเวลาไปชาบูอ่ะมันไม่จมน้ำจิ้มใส่พริก
00:27:19 → 00:27:19 กระเทียมไม่ได้
00:27:19 → 00:27:21 >> อ๋อถ้ามันน้ำจิ้มมันก็คือน้อยมากนะครับ
00:27:22 → 00:27:23 เนาะอันนี้กินได้แต่ไม่ใช่แบบกินสดอ่ะ
00:27:23 → 00:27:26 เหมือนเหมือกินผักสดอะไรอย่างเงี้ยเอออัน
00:27:26 → 00:27:28 นี้เราก็ไม่แนะนำนะครับแล้วก็สุดท้ายค่ะ
00:27:28 → 00:27:30 อยากถามว่านอกจากอันนี้เรามีประเด็น
00:27:30 → 00:27:32 เรื่องกล้วยนะซึ่งรู้สึกว่าเป็นความรู้
00:27:32 → 00:27:34 ใหม่มากคือกล้วยกินได้แต่เราต้องดูว่าเรา
00:27:34 → 00:27:36 เรากินแบบดิบหรือว่ากินแบบเค้าเรียกว่า
00:27:36 → 00:27:40 อะไรอ่ะแบบหง่อมแบบว่าโอ้โหนะคะก็เลยอยาก
00:27:40 → 00:27:42 รู้ว่ามันมีความเข้าใจผิดอันไหนที่คุณหมอ
00:27:42 → 00:27:45 อาจจะเคยเจอคนไข้มาถามถึงเรื่องอาหารและ
00:27:45 → 00:27:46 กดไลย้อนบ้างมั้คะ
00:27:46 → 00:27:49 >> อย่างแรกคนไข้ก็จะบอกว่า
00:27:49 → 00:27:51 ไม่กินเนื้อสัตว์ไม่กินอะไรกินแต่ผัก
00:27:51 → 00:27:52 อย่างเดียว
00:27:52 → 00:27:54 >> เพื่อช่วยเรื่องของกดไหลย้อนจริงๆก็ไม่
00:27:54 → 00:27:56 ใช่นะครับเนาะเรายังกินสามารถกินเนื้อ
00:27:56 → 00:27:58 สัตว์ได้แค่เลือกว่าอะไรที่มันย่อยได้
00:27:58 → 00:28:01 ง่ายนะครับคุณกินผักแล้วผลไม้อย่างเดียว
00:28:01 → 00:28:02 เนี่ยสารอาหารคุณก็จะขาด
00:28:02 → 00:28:05 เพราะฉะนั้นเราก็แนะนำนะครับว่าควรกิน
00:28:05 → 00:28:08 อาหารหลากหลายหมู่อยู่ดีแต่ต้องเลือกกิน
00:28:08 → 00:28:10 นะครับเนอันที่ 2 เนี่ยเขาบอกว่าไม่ควร
00:28:11 → 00:28:13 ออกกำลังกายหลังจากที่คุณกินข้าวเสร็จ
00:28:13 → 00:28:15 เพราะมันทำให้เกิดกดไหลย้อนจริงๆมันก็ไม่
00:28:15 → 00:28:18 ใช่นะครับเนาะคือโอเคมันมีการออกกำลังกาย
00:28:18 → 00:28:20 บางอย่างที่คุณไม่ควรทำหลังจากที่คุณกิน
00:28:21 → 00:28:23 เสร็จอิ่มๆนะครับแต่อย่างน้อยเวลาที่คุณ
00:28:23 → 00:28:25 กินเสร็จเรียบร้อยแล้วเนี่ยควรเดินบ้าง
00:28:25 → 00:28:27 ไม่ใช่นั่งและนอนอย่างเดียวนะครับยังไง
00:28:27 → 00:28:29 อันนั้นก็จะทำให้เกิดกดไหลย้อนนะครับส่วน
00:28:29 → 00:28:34 อันสุดท้ายคนยังคิดกันเยอะมากเข้าใจผิดๆ
00:28:34 → 00:28:35 เยอะมาก
00:28:35 → 00:28:37 หมอค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูบบุหรี่ไม่
00:28:37 → 00:28:41 เกี่ยวค่ะไม่ทำให้เป็นกฎไหลย้อนค่ะมัน
00:28:41 → 00:28:42 เกี่ยวอยู่แล้วนะครับ
00:28:42 → 00:28:43 >> ความเชื่อนี้เอามาจากไหน
00:28:43 → 00:28:45 >> เออมันเกี่ยวอยู่แล้วนะครับเนาะเครื่อง
00:28:45 → 00:28:47 ดื่มแอลกอฮอล์กับสูบบุหรี่ยังไงเนี่ยมัน
00:28:47 → 00:28:49 ก็จะทำให้คุณเป็นกฎไหลย้อนอยู่ดีครับ
00:28:50 → 00:28:52 >> อืโอเคอันงั้นทุกคนคะอันนี้คือความเชื่อ
00:28:52 → 00:28:55 ที่ถูกต้องนะคะเข้าใจเข้าใจใหม่เนาะ
00:28:55 → 00:28:57 >> โอเคค่ะคำถามต่อมาค่ะคุณหมอคำถามสุดท้าย
00:28:57 → 00:29:00 แล้วค่ะอันนี้นะคะเป็นคุณตาค่ะคุณตามี
00:29:00 → 00:29:04 อาการกดไหลย้อนค่อนข้างรุนแรงเลยค่ะบาง
00:29:04 → 00:29:07 คืนเนี่ยเอนตัวนอนแทบไม่ได้เลยค่ะล่าสุด
00:29:07 → 00:29:10 เนี่ยมีคนแนะนำว่าให้แกว่งแขนวันละ 15
00:29:10 → 00:29:13 นาทีรักษากดไหลย้อนได้โอ้โหที่นี่แกว่งใย
00:29:13 → 00:29:15 เลยค่ะอืแกงแกว่งทั้งวันเลยค่ะแล้วอยากจะ
00:29:15 → 00:29:18 ถามคุณหมอว่าวิธีน่ะมันช่วยได้จริงไมคะ
00:29:18 → 00:29:20 แล้วค่าคนเป็นกรดไหลย้อนเนี่ยพอดีกับที่
00:29:20 → 00:29:22 คุณหมอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้เลยควรจะออก
00:29:22 → 00:29:23 กำลังกายยังไงดีคะ
00:29:23 → 00:29:25 >> อ่าสำหรับคนที่เป็นกดไหลย้อนนะครับอย่าง
00:29:25 → 00:29:28 แรกที่เราไม่แนะนำเลยนะครับไม่ควรก็คือ
00:29:28 → 00:29:31 ออกกำลังกายแบบหนักหลังจากที่คุณกินข้าว
00:29:31 → 00:29:34 เสร็จนะครับเนาะไม่ว่าจะเป็นการวิ่งนะ
00:29:34 → 00:29:36 ครับ Training หรือว่าอ่ายิมนาสติเลย
00:29:36 → 00:29:39 ตีลังกาเลยอย่างเงี้ยมันไม่ควรนะครับแล้ว
00:29:39 → 00:29:42 คุณกินอิ่มๆมาแล้วถ้าคุณไปออกกำลังกายแบบ
00:29:42 → 00:29:43 วิ่งเยอะๆไม่
00:29:43 → 00:29:45 >> น่ามีใครทำมอกินเสร็จปุ๊บตี้แล้ว
00:29:45 → 00:29:48 >> หมอไม่รู้ไงเผื่อมีแบบเอ่อนักกีฬาหรือใคร
00:29:48 → 00:29:51 ที่แบบอยากอยากหมุนตัวเองอยากอะไรอยาก
00:29:51 → 00:29:54 ซ้อมไงซ้อมอะไรอย่างเงี้ยคือการที่คุณออก
00:29:54 → 00:29:56 กำลังกายแบบหนักๆพวกนั้นนะครับมันไปเพิ่ม
00:29:56 → 00:29:58 แรงดันในช่องท้อง
00:29:58 → 00:29:58 >> อ
00:29:58 → 00:30:00 >> ทำให้อาหารที่มันกำลังจะย่อยมันไม่ย่อย
00:30:00 → 00:30:03 แล้วมันย่อนออกมานะครับเนาะเพราะฉะนั้นอ
00:30:03 → 00:30:06 >> อะไรที่ออกกำลังกายหนักนะครับก็ไม่ควรทำ
00:30:06 → 00:30:07 หลังจากคุณกินข้าวเสร็จ
00:30:07 → 00:30:10 >> คราวนี้เรามาดูออกกำลังกายที่มันควรทำดี
00:30:10 → 00:30:11 กว่านะครับ 1 เดินครับ
00:30:12 → 00:30:14 >> ใครๆก็ทำได้ควรเดินมากกว่ามันช่วยเรื่อง
00:30:14 → 00:30:17 ของระบบการย่อยนะครับการยืดเส้นยืดสายไป
00:30:17 → 00:30:19 ด้วยการแบบเล่นโยคะอย่างเงี้ยโอเคนะมัน
00:30:19 → 00:30:22 ไม่ได้แย่มากนะครับแต่ไม่ใช่แบบโยคะตี
00:30:22 → 00:30:24 ลังกาอะไรเงี้ยก็ไม่ใช่นะครับเนาะอันสุด
00:30:24 → 00:30:26 ท้ายปั่นจักรยานอยู่กับที่
00:30:26 → 00:30:28 >> อ่าเครื่องปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือว่า
00:30:28 → 00:30:31 อยู่ในสระว่ายน้ำที่เดินไปเดินมาอันนี้
00:30:31 → 00:30:33 ไม่มีปัญหานะครับอันเนี้ยยังไงก็ควรทำ
00:30:33 → 00:30:33 ครับ
00:30:33 → 00:30:38 >> อืโอเคค่ะก็แปลว่าทำแบบไม่โลดผลมากเกินไป
00:30:39 → 00:30:41 แล้วอยากถามนิดนึงค่ะถ้าสมมุติว่าเรากิน
00:30:41 → 00:30:43 อาหารแล้วเนี่ยเราควรจะทิ้งช่วงระยะเวลา
00:30:43 → 00:30:46 สักกี่นาทีหรือชั่วโมงก่อนที่จะออกกำลัง
00:30:46 → 00:30:47 กายจะรับคนที่เป็นกดไลอน
00:30:47 → 00:30:49 >> คือห้ามสมมุติแค่เดินเฉยๆครับมันเดินได้
00:30:49 → 00:30:52 เลยแต่ว่าถ้าคุณจะไปแบบเวท training ไป
00:30:52 → 00:30:54 วิ่งอย่างเงี้ยเราปกติเขาก็จะแนะนำว่า
00:30:54 → 00:30:55 อย่างน้อย 2 ช่โมงครับ
00:30:55 → 00:30:58 >> ถึงจะไปออกกำลังกายแบบที่คุณต้องการแบบ
00:30:58 → 00:31:01 หนักแล้วนะครับคราวนี้เรามาพูดถึงเรื่อง
00:31:01 → 00:31:03 ของคุณลุงคนนี้บอกว่าแกว่งแขนเนี่ยไม่
00:31:03 → 00:31:05 ช่วยมันอยู่กับที่ยกเว้นคุณ
00:31:05 → 00:31:08 >> คุณลุงเขาเดินไปแกว่งไปอ้าอันนี้โอเคแต่
00:31:08 → 00:31:11 ถ้าคุณแบบอย่างเงี้ยอยู่กับที่
00:31:11 → 00:31:15 >> เอาจจะคิดว่ามันช่วยแบบทำให้กดลงกดกรดกรด
00:31:15 → 00:31:17 ลงไปกรดลงไปอย่างงี้ไม่ใช่
00:31:17 → 00:31:20 >> ก็ไม่ไม่ใช่นะมันมันแก่งให้ข้างบนเฉยๆนะ
00:31:20 → 00:31:21 ครับเนาะ
00:31:21 → 00:31:23 >> อ่าส่วนเรื่องของการนอนก็สำคัญเหมือนกัน
00:31:23 → 00:31:25 ที่เมื่อกี้เขาบอกว่า
00:31:25 → 00:31:27 >> เอนแทบไม่ได้เลยค่ะแต่
00:31:27 → 00:31:28 >> ว่าแบบนอน
00:31:28 → 00:31:29 ลาบไม่ได้ใช่
00:31:29 → 00:31:31 >> อคราวนี้สำหรับคนที่เป็นกฎไหลย้อนนะครับ
00:31:31 → 00:31:34 แล้วหลายคนก็จะเข้าใจว่าเออเอาแบบให้หมอน
00:31:34 → 00:31:35 สูงๆ
00:31:35 → 00:31:36 >> อื
00:31:36 → 00:31:38 >> อาหารจะไม่ต้องตีขึ้นมาแต่จริงๆอ่ะ
00:31:38 → 00:31:40 อันเนี้ยเป็นการเข้าใจที่แบบผิดๆนะครับ
00:31:40 → 00:31:44 เนาะการที่คุณจะแบบให้นอนได้ดีและไม่มี
00:31:44 → 00:31:47 อาการเรื่องของกดไหลย้อนเนี่ยปกติเนี่ย
00:31:47 → 00:31:49 ต้องเอาอะไรเหมือนเหมือท่อนไม้หรือว่า
00:31:49 → 00:31:52 อะไรหนาๆหน่อยอย่างน้อยต้อง 6 นิ้วขึ้น
00:31:52 → 00:31:52 >> อื
00:31:52 → 00:31:57 >> นะครับมาไว้ที่หลังเราหัวของเราเลยไม่ใช่
00:31:57 → 00:31:59 แค่หัวของเราเนาะไม่ใช่แค่หมอเนาะหมอสุ
00:31:59 → 00:32:02 ไม่ใช่แต่ตั้งแต่สข้างบนครึ่งบนของเรา
00:32:02 → 00:32:04 ต้องดันมันขึ้นมา
00:32:04 → 00:32:07 >> เหมือนเตียงตัวเนี้ยถูกต้องเวลาที่เหมือน
00:32:07 → 00:32:09 เตียงโรงพยาบาลอ่ะครับเนาะก็คือเวลาที่
00:32:09 → 00:32:11 คุณมีอาการกดไหลย้อนเนี่ยคือครึ่งตัวข้าง
00:32:11 → 00:32:13 บนน่ะมันต้องขึ้นมาทั้งหมดไม่ใช่แค่ขึ้น
00:32:13 → 00:32:14 แค่หัว
00:32:14 → 00:32:16 >> คราวนี้ถ้าขึ้นแค่หัวอย่างเดียวอ่ะครับ
00:32:16 → 00:32:18 มันจะมีแรงดัน
00:32:18 → 00:32:19 >> ลงไปที่ท้องมากกว่าเดิมอีก
00:32:19 → 00:32:21 >> กดมากกว่าเดิมอีก
00:32:21 → 00:32:22 >> ใช่นะครับเนาะเพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่เอา
00:32:22 → 00:32:25 หมอนมันต้องขึ้นมาทั้งตัวแล้วคุณก็นอนแบบ
00:32:25 → 00:32:28 นอนทั้งตัวแบบนี้เชื่อว่าหลายคนเข้าใจผิด
00:32:28 → 00:32:30 นะคะแล้วก็ทุกวันเนี้ยที่นอนอยู่อ่ะนอน
00:32:30 → 00:32:32 ผิดทำให้กดไหลย้อนหนักขึ้น
00:32:32 → 00:32:33 >> ถูกต้องครับ
00:32:33 → 00:32:36 >> อืก็แปลว่าต้องขึ้นมาอย่างน้อยครึ่งท่อน 2
00:32:36 → 00:32:40 ตัวโอเคโหวันนี้ได้ความรู้เยอะมากเลยค่ะ
00:32:40 → 00:32:43 เกกดกดไหลยอแล้วเชื่อว่าเป็นโลกยอดทิศ
00:32:43 → 00:32:45 >> จะเป็นแล้วครับรู้สึกเป็นแล้วพูดแล้วเป็น
00:32:45 → 00:32:46 เลย
00:32:46 → 00:32:48 >> เดี๋ยวไม่ได้ไม่ได้นะคะก็สำหรับใครนะคะ
00:32:48 → 00:32:51 ที่มีคำถามเรื่องกดไหลยอนะคะหรือว่าคำถาม
00:32:51 → 00:32:53 อื่นๆที่อยากจะถามหมอจิมมี่นะคะก็สามารถ
00:32:53 → 00:32:55 พิมพ์เข้ามาได้ในช่องคอมเมนต์นะคะเดี๋ยว
00:32:55 → 00:32:57 ทีมงานจะรวบรวมมาถามคุณหมอใน EP EP หน้า
00:32:57 → 00:33:00 สำหรับ EP นี้นะคะลากันไปก่อนแล้วเดี๋ยว
00:33:00 → 00:33:01 เจอกันใหม่สวัสดีค่ะ
00:33:01 → 00:33:05 >> สวัสดีครับ
00:00:00 → 00:00:02 คนเป็นกดไหลย้อนเนี่ยห้ามกินกล้วย
00:00:02 → 00:00:04 >> มันขึ้นกับว่ากล้วยสุกหรือกล้วยไม่สุก
00:00:04 → 00:00:08 ครับกล้วยดิบดีต่อการป้องกันแผลในกระเพาะ
00:00:08 → 00:00:10 อาหารกล้วยที่มันสุกแล้วเนี่ยที่จริงมัน
00:00:10 → 00:00:12 มีแต่น้ำตาลมันมีแป้ง
00:00:12 → 00:00:13 >> แต่กล้วยดิบไม่อร่อย
00:00:13 → 00:00:16 >> แต่มันดีต่อสุขภาพ
00:00:16 → 00:00:18 >> คนเป็นกดไหลย้อนห้ามกินอะไรบ้าง
00:00:18 → 00:00:21 >> กินอาหารรสจัดเค็มจัดเปรี้ยวจัดเผ็ดจัด
00:00:21 → 00:00:22 ของหมักดอง
00:00:22 → 00:00:25 >> กลิ่นปลาร้าทำให้เป็นกดไหลย้อนได้เลยหรอ
00:00:25 → 00:00:25 คะ
00:00:25 → 00:00:27 >> บางครั้งเนี่ยคุณอาจจะมีความเensitiveมัน
00:00:27 → 00:00:29 เลยเป็นตัวกระตุ้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
00:00:29 → 00:00:32 อ้อช็อกโกแลตก็เป็นตัวกระตุ้นเหมือนกัน
00:00:32 → 00:00:34 >> ของโปรดเลยค่ะหมอ
00:00:34 → 00:00:37 >> กินเร็วและกินแบบยัดๆบุฟเฟ่ต์อ่ะต้องคุ้ม
00:00:37 → 00:00:40 แล้วถ้าทนเจ็บเพื่อนก็เป็นกดไหลย้อนกัน
00:00:40 → 00:00:42 เยอะแยะเที่ยง 1:00 น.ก็ยังไปกินบุฟเฟ่ต์
00:00:42 → 00:00:44 กันอยู่อย่างเงี้ยค่ะผ่านไป 5 ปี 10 ปีจะ
00:00:44 → 00:00:45 เกิดอะไรขึ้นคะ
00:00:45 → 00:00:48 >> เป็นแล้วเป็นอีกแผลใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นเยื่อ
00:00:48 → 00:00:50 บุล
00:00:50 → 00:00:53 มะเร็งครับลองคิดแล้วกันว่ากระเพาะอาหาร
00:00:53 → 00:00:55 ของเราคือบ้านถ้าในบ้านของเรามันมีกดเยอะ
00:00:55 → 00:00:58 เหมือนมีน้ำท่วมเราก็จะเกิดอาการแสบร้อน
00:00:58 → 00:01:01 เจ็บหน้าอกคนชอบทำกันไปลดกดเอาน้ำออกหลัง
00:01:01 → 00:01:03 จากน้ำท่วมของในบ้านเป็นไงพังพัง
00:01:03 → 00:01:07 >> พอคุณลดกดไปแล้วต้องไปซ่อมแซมบำรุงข้างใน
00:01:07 → 00:01:08 ด้วยให้มันกลับมาเหมือนเดิม
00:01:08 → 00:01:11 >> หมอช่วยแนะนำวิธีการฟื้นฟูกระเพาะอาหาร
00:01:11 → 00:01:12 หน่อยได้มั้คะ
00:01:12 → 00:01:15 >> ถ้าพูดถึงดีที่สุดก็คือ
00:01:15 → 00:01:18 >> สวัสดีค่ะอยู่กับ Doctor Podcast ที่จะ
00:01:18 → 00:01:21 พาคุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:21 → 00:01:24 รัฐพันธุ์พันพินิจค่ะถ้าชอบคทentแนว
00:01:24 → 00:01:26 สุขภาพแบบนี้นะคะช่วยกดไและ subscribe
00:01:26 → 00:01:29 เป็นกำลังใจให้เจนคุณหมอแล้วก็ทีมงานด้วย
00:01:29 → 00:01:31 นะคะเราจะได้ผลิตผลงานดีๆแบบนี้ออกมา
00:01:31 → 00:01:34 เรื่อยๆค่ะหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่คนวัย 50
00:01:34 → 00:01:37 บวกคุ้นเคยกันดีและบางคนเนี่ยเป็นอยู่แต่
00:01:37 → 00:01:40 ไม่รู้ตัวนะคะนั่นก็คือกรดไหลย้อนค่ะเอา
00:01:40 → 00:01:43 จริงๆไม่ต้อง 50 บวกล่ะค่ะเพื่อนเจนวัย 20
00:01:43 → 00:01:45 ปลาย 30 กว่าเนี่ยก็เป็นกันเต็มเลยนะคะ
00:01:45 → 00:01:48 บางคนเนี่ยรู้สึกแค่เจ็บแสบหน้าอกนะคะบาง
00:01:48 → 00:01:51 คนเจ็บหน้าอกจนคิดว่าเอ๊ะนี่เราเป็นโรค
00:01:51 → 00:01:54 หัวใจหรือเปล่านะคะบางคนทำให้ไอตอนกลาง
00:01:54 → 00:01:57 คืนนะคะแล้วส่งผลต่อการนอนหรือบางคนเนี่ย
00:01:57 → 00:01:59 เวลากินอะไรเข้าไปนิดเดียวก็รู้สึกเจ็บ
00:01:59 → 00:02:02 แน่นหน้าอกแล้วก็ไม่สบายท้องนะคะทีนี้
00:02:02 → 00:02:04 เนี่ยอาการเหล่านี้อาจจะดูเป็นอาการที่
00:02:04 → 00:02:08 ธรรมดาเบาๆใช่มั้ยคะแต่ถ้าเราปล่อยไว้โดย
00:02:08 → 00:02:11 ที่ไม่รักษาอย่างถูกจุดนะคะอาจจะส่งผลต่อ
00:02:11 → 00:02:15 สุขภาพในระยะยาวได้นะคะในบางกรณีอาจจะทำ
00:02:15 → 00:02:17 ให้เสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้เลยด้วย
00:02:17 → 00:02:20 ซ้ำนะคะวันนี้เจเลยเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:20 → 00:02:23 ท่านนี้มาตอบคำถามจากทางบ้านค่ะจะได้คลาย
00:02:23 → 00:02:26 ข้อสงสัยนะคะสำหรับใครหลายๆคนที่กำลัง
00:02:26 → 00:02:28 เผชิญโรคนี้อยู่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่เองนะ
00:02:28 → 00:02:30 คะหรือว่าบางคนเนี่ยมีพ่อแม่ที่ต้องคอย
00:02:30 → 00:02:33 เผชิญกับโรคกดไลย้อนมาเป็นเวลานานท่านจะ
00:02:33 → 00:02:35 ได้รักษาได้อย่างตรงจุดนะคะวันนี้เลย
00:02:36 → 00:02:38 เรียนเชิญแพทย์ขาประจำของเรามากับคุณหมอ
00:02:38 → 00:02:39 จิมมี่สวัสดีค่ะ
00:02:39 → 00:02:42 >> สวัสดีครับผมนายแพทย์สุธิพจน์พัทรมงคลการ
00:02:42 → 00:02:44 นะครับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวทศาสตร์
00:02:44 → 00:02:47 ป้องกันครับปัจจุบันก็รักษาคนไข้อยู่ที่
00:02:47 → 00:02:51 คลินิกณเวลานะครับก็จะดูแลคนไข้ที่มาด้วย
00:02:51 → 00:02:53 เรื่องของฮอร์โมนนะครับแต่ปัจจุบันก็มีคน
00:02:53 → 00:02:55 ไข้ที่มาด้วยเรื่องของเรื่องท้องนั่นเอง
00:02:55 → 00:02:58 นะครับไม่ว่าจะเป็นท้องอืดแน่นท้องอาหาร
00:02:58 → 00:03:00 ไม่ย่อยจนไปถึงเรื่องของกดไหลยอนครับ
00:03:00 → 00:03:04 >> คำถามแรกค่ะคุณหมอคุณแม่อายุ 67 ปีไม่มี
00:03:04 → 00:03:08 อาการแสบกลางหน้าอกหรือจุกเสียดเลยนะคะ
00:03:08 → 00:03:11 แต่ไอบ่อยมากนะคะโดยเฉพาะตอนกลางคืนไอจน
00:03:11 → 00:03:15 นอนไม่ได้เลยค่ะเสียงแหบเจ็บคออยู่บ่อยๆ
00:03:15 → 00:03:18 พอไปเจอหมอคุณหมอบอกว่าเป็นกฎไหลย้อน
00:03:18 → 00:03:21 อันเนี้ยมันใช่กฎไหลย้อนจริงๆหรอคะควรจะ
00:03:21 → 00:03:22 แก้ไขยังไงดีคะ
00:03:22 → 00:03:25 >> อ่าคนนี้คราวนี้เนี่ยเรื่องของคุณแม่ที่
00:03:25 → 00:03:28 วัยอายุ 50 กว่าถูกมั้ยครับอ๋อ 67 แล้ว
00:03:28 → 00:03:30 แปลว่าที่จริงอ่ะถ้าคุณแม่มีอาการไออย่าง
00:03:30 → 00:03:33 เงี้ยมันอาจจะบ่งบอกว่าคุณแม่อาจจะเป็นกฎ
00:03:33 → 00:03:36 ไหลย้อนมานานแล้วนะครับเนาะแล้วมันสะสมมา
00:03:36 → 00:03:38 เรื่อยๆคราวนี้เราต้องมาเข้าใจก่อนว่าไอ้
00:03:38 → 00:03:40 ภาวะกดลย้อนเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ไงจริงๆ
00:03:40 → 00:03:44 มันเป็นโรคของพฤติกรรมคุณทำตัวคุณเอง
00:03:44 → 00:03:46 >> มันเป็นกรรมของคุณที่คุณทำอ่ะนะครับ
00:03:46 → 00:03:48 >> กรรมที่ตัวทำตัวเองใช่มั้
00:03:48 → 00:03:50 >> ทำตัวเองใช่คราวนี้เราต้องเข้าใจว่ากฎไหล
00:03:50 → 00:03:52 ย้อนหมายความว่าในกระเพาะอาหารของคุณน่ะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับปกติร่างกายเราก็จะมีหลอดอาหารถูกมั้
00:03:55 → 00:03:57 ครับแล้วก็กระเพาะอาหารคราวนี้คนที่เป็น
00:03:57 → 00:04:00 กดไหลย้อนแปลว่าคุณเมียกดเยอะมากเกินไป
00:04:00 → 00:04:03 ที่มันเกิดจากพฤติกรรมไม่ดีต่างๆนานาแล้ว
00:04:03 → 00:04:06 กดพวกเนี้ยมันขย่อนมันไหลขึ้นมาทางหลอดลม
00:04:06 → 00:04:10 อาหารหรืออวัยวะข้างทางจนไปกระทบแล้วทำ
00:04:10 → 00:04:13 ให้เรามีอาการต่างๆไม่ว่าจะแน่นจุกเสียด
00:04:13 → 00:04:16 แสบท้องหรือเป็นอาการไอเหมือนของคุณแม่คน
00:04:16 → 00:04:19 นี้นะครับแต่ต้องบอกก่อนว่าภาวะกดไหลย้อน
00:04:19 → 00:04:21 เนี่ยมันเป็นจากพฤติกรรมเพราะฉะนั้นมัน
00:04:21 → 00:04:25 เกิดได้ทุกเพศทุกวัยทุกเวลาเลยอ
00:04:25 → 00:04:27 >> ไม่ใช่มันไม่ได้บอกเรื่องเนาะอ่ะต้อง 60
00:04:27 → 00:04:29 กว่าถึงจะเป็นหรือว่าวัยรุ่นถึงจะเป็นไม่
00:04:29 → 00:04:31 ใช่คราวนี้เราต้องมาหาสาเหตุให้ได้ก่อน
00:04:31 → 00:04:34 ว่าเอ๊ะมันเกิดจากอะไรนะครับอย่างแรกเลย
00:04:34 → 00:04:37 กินอาหารรสจัดทุกอย่างอ่ะเค็มจัดเปรี้ยว
00:04:38 → 00:04:41 จัดเผ็ดจัดนะครับอะไรที่มันคำว่าจัดๆ
00:04:41 → 00:04:41 เนี่ย
00:04:41 → 00:04:44 >> คนไทยเราเนาะชอบกินเผ็ดจัดเค็มจัดมัน
00:04:44 → 00:04:45 อร่อยอ่ะค่ะหมออื
00:04:45 → 00:04:47 >> นั่นแหละครับเป็นตัวกระตุ้นเลยอันที่ 2
00:04:48 → 00:04:51 ก็คือกินเร็วและกินแบบยัดๆ
00:04:51 → 00:04:52 >> อื
00:04:52 → 00:04:54 >> กินเร็วอิ่มเร็วอิ่มเยอะอิ่มนานบุฟเฟ่ต์
00:04:54 → 00:04:55 อ่ะต้องคุ้ม
00:04:55 → 00:04:56 >> อ
00:04:56 → 00:04:57 >> เราจ่ายไปแล้วมันต้องคุ้มขอให้มัน
00:04:57 → 00:05:00 >> ใช่หมอแบบ 399 บางทีพรีเมี่ม 899 เนี่ย
00:05:00 → 00:05:01 มันแพงนะ
00:05:01 → 00:05:04 >> เออเพราะฉะนั้นเอาอัดให้เต็มที่เราจะได้
00:05:04 → 00:05:05 มีความสุข
00:05:05 → 00:05:05 >> ย้อนมาเลย
00:05:06 → 00:05:08 >> บนย้อนมาเลยแต่บางคนก็บอกว่าคุ้มแต่มัน
00:05:08 → 00:05:10 คุ้มมั้ในอนาคตถูกมั้ยเรื่องสุขภาพมัน
00:05:10 → 00:05:12 เสียแต่โอเคคุ้มเรื่องเงินแต่มันก็ไม่
00:05:12 → 00:05:15 คุ้มกันเดี๋ยวเสียตังค์เรื่องค่ารักษาอีก
00:05:15 → 00:05:18 นะครับเนาะต่อมาอาจจะกินอาหารบางชนิดที่
00:05:18 → 00:05:22 ไปกระตุ้นไม่ว่าจะเป็นพวกของหมักดองอื
00:05:22 → 00:05:25 >> ปลาร้านะครับ
00:05:25 → 00:05:25 เปรี้ยวปากเลย
00:05:25 → 00:05:29 >> ของโปรดเลยค่ะหมอกินปลาร้าทำให้เป็นกดไหล
00:05:29 → 00:05:30 ย้อนได้เลยหรอคะ
00:05:30 → 00:05:32 >> อ่ะมันเป็นของหมากนองอ่ะครับบางครั้ง
00:05:32 → 00:05:34 เนี่ยคุณอาจจะมีความ sensitive ในกระเพาะ
00:05:34 → 00:05:37 อาหารไงมันเลยเป็นตัวกระตุ้นนะครับไม่ว่า
00:05:37 → 00:05:41 จะเป็นอ่ะปลาร้าบอกไปแล้วนะครับผลไม้เอ่อ
00:05:41 → 00:05:44 ดองที่คนไทยชอบกินปรุงรสนู่นนี่นี่นั่น
00:05:44 → 00:05:47 เออมันก็เป็นตัวนึงที่ทำให้เกิดอาการได้
00:05:47 → 00:05:49 เครื่องดื่มเยอะมากหลากหลายชนิด
00:05:49 → 00:05:52 >> เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับอะไรที่มีแก๊ส
00:05:52 → 00:05:54 เยอะๆน้ำอัดลมนะครับ
00:05:54 → 00:05:57 >> ช็อกโกแลตก็เป็นตัวกระตุ้นเหมือนกันทำให้
00:05:57 → 00:05:58 เป็นกดช็อกโกแลต
00:05:58 → 00:06:00 >> ช็อกโกแลตกระตุ้นกดไลย้อนเดี๋ยวนะคะ
00:06:00 → 00:06:02 ช็อกโกแลตมันมีหลายแบบเนาะหมอมันมีmilิ
00:06:02 → 00:06:05 ช็อกโกแลตdarดช็อกโกแลตช็อกโกแลตกระถั่ว
00:06:05 → 00:06:08 ช็อกโกแลตอันไหนอ่ะคือ Dark ช็อกโกแลตมัน
00:06:08 → 00:06:09 ก็ดีที่สุดอยู่แล้วถ้าเราพูดถึงเรื่องของ
00:06:10 → 00:06:12 คุณค่าอาหารอันนี้เราพูดถึงเรื่อง
00:06:12 → 00:06:14 ช็อกโกแลตทั่วๆไป Milk ช็อกโกแลตอ่ะครับ
00:06:14 → 00:06:17 ที่มันหวานมากน้ำตาลค่อนข้างเยอะอันเนี้ย
00:06:17 → 00:06:20 กระตุ้นหนักมากๆเลยนะครับเนาะต่อมาอีกอัน
00:06:20 → 00:06:22 นึงก็คือภาวะอ้วน
00:06:22 → 00:06:27 >> นะครับภาวะอ้วนแล้วก็ชอบกินกินแล้วนอน
00:06:27 → 00:06:28 >> กินแล้วไม่ขยับ
00:06:28 → 00:06:29 >> กินแล้วไม่นอนเลยถูกมั้ครับอาหารมันยัง
00:06:30 → 00:06:31 ค้างอยู่เลยอ่ะ
00:06:31 → 00:06:33 >> มันยังไม่ไปไหนอ่ะแล้วคุณอาจจะนั่งกิน
00:06:33 → 00:06:35 แล้วกินต่ออีกหรือนอนนอนกินอย่างเงี้ยมัน
00:06:35 → 00:06:37 ก็เป็นภาวะที่ทำให้กดไหลย้อน
00:06:37 → 00:06:39 >> แต่ถ้านั่งโซฟาแล้วกินดูซีรีส์อย่างงี้
00:06:39 → 00:06:40 นับมั้ยคะ
00:06:40 → 00:06:43 >> คือมันก็ไม่ควรทำมันก็ไม่ควรทำนะครับเนาะ
00:06:43 → 00:06:46 คือถ้าคุณกินไปแล้วเนี่ยควรมีการขยับร่าง
00:06:46 → 00:06:49 กายหลังจากนั้นเสร็จไม่ใช่กินทั้งวันตลอด
00:06:49 → 00:06:52 เวลานอนด้วยกินด้วยนอนด้วยอย่างเงี้ยมา
00:06:52 → 00:06:55 แน่นอนกดย้อนตามหาแน่นอนนะครับเนาะอันนี้
00:06:55 → 00:06:56 ก็จะเป็นพฤติกรรมหลักๆแล้วกันนะครับอ่ะ
00:06:57 → 00:06:58 อีกอันนึงสูบบุหรี่ด้วยครับ
00:06:58 → 00:06:58 >> อือ
00:06:58 → 00:07:00 >> เนาะอย่าลืมดื่มเหล้าสุบุหรี่ยังไงก็เป็น
00:07:00 → 00:07:03 พฤติกรรมที่ทำให้เกิดกฎไหลยอนได้
00:07:03 → 00:07:04 >> อือทีนี้อยากถามนิดนึงอ่ะค่ะว่าเมื่อกี้
00:07:05 → 00:07:07 ที่คุณหมออธิบายมามันเป็นภาพรวมของการ
00:07:07 → 00:07:09 เกิดกฎไลย้อนแล้วอยากรู้ว่าการที่เราเกิด
00:07:09 → 00:07:12 กย้อนในคนอายุมากกับอายุน้อยเนี่ยมันต่าง
00:07:12 → 00:07:14 กันคะแล้วมันอันตรายแตกต่างกัน
00:07:14 → 00:07:16 >> อ่าคราวนี้เราต้องเข้าใจก่อนว่าพอเกิดกฎ
00:07:16 → 00:07:18 ไหลย้อนนะครับมันมีทั้งหมด 4 ระยะด้วยกัน
00:07:18 → 00:07:20 1 2 3 และ 4
00:07:20 → 00:07:22 >> ระยะที่ 1 เนี่ยจะเป็นระยะที่เริ่มต้น
00:07:22 → 00:07:24 เพิ่งเป็นครั้งแรกนะครับอาจจะเป็นอย่าง
00:07:24 → 00:07:27 คุณแม่คนนี้เอาจจะเป็นตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว
00:07:27 → 00:07:29 เขาไม่รู้ตัวนะครับก็คือแบบเดือนนึงอาจจะ
00:07:29 → 00:07:32 เป็นแค่ครั้ง 2 ครั้งนะครับอาการก็อย่าง
00:07:32 → 00:07:34 เช่นแบบกินเยอะจนเกินไปหรือว่ากินแล้วนอน
00:07:34 → 00:07:38 แล้วมันแสบอแค่นั้นเองแล้วเดี๋หายเดี๋มัน
00:07:38 → 00:07:39 หายได้เ
00:07:39 → 00:07:40 >> แบบแทบไม่ต้องใช้ยาแไม่ต้องใช้ยาเลยอัน
00:07:40 → 00:07:42 นี้อาจจะเป็นแค่ 1-2 ครั้งต่อเดือน
00:07:42 → 00:07:43 >> อื
00:07:43 → 00:07:46 >> ระยะที่ 2 ก็คือเป็นมากขึ้น 1-2 ครั้งต่อ
00:07:46 → 00:07:47 สัปดาห์และ
00:07:47 → 00:07:48 >> อ๋อ
00:07:48 → 00:07:50 >> เริ่มมีอาการนอกจากแน่นเหมือนระยะที่ 1
00:07:50 → 00:07:54 และระยะที่ 2 เริ่มมีเหมือนหายใจไม่เต็ม
00:07:54 → 00:07:57 ปอดมันแน่นมันมีแก๊สมันดันมีอะไรดันขึ้น
00:07:57 → 00:08:00 มานะครับแล้วก็อาจจะมีภาวะเหมือนคลื่นไส้
00:08:00 → 00:08:03 และเริ่มมีคลื่นไส้อาเจียนนะครับระยะที่ 3
00:08:03 → 00:08:06 แรงขึ้นไปอีกเป็นบ่อยมากขึ้นระยะที่ 2
00:08:06 → 00:08:08 กับที่ 3 เนี่ยอาจจะต้องเริ่มใช้ยามาช่วย
00:08:08 → 00:08:12 เพื่อไปลดกดและระยะที่ 3 ก็จะมีไอและไอมา
00:08:12 → 00:08:13 และอ
00:08:13 → 00:08:15 >> นะครับเนาะอวก
00:08:15 → 00:08:18 >> อาหารขย่อนออกมานะครับกินนิดๆหน่อยๆไม่
00:08:18 → 00:08:21 ไหวแล้วเพื่ออืดพอมจนมันแบบตีขึ้นมาเองนะ
00:08:21 → 00:08:24 ครับส่วนระยะสุดท้ายแน่นอนเป็นระยะที่น่า
00:08:24 → 00:08:27 กลัวที่สุดนะครับระยะสุดท้ายเนี่ยก็คือ
00:08:27 → 00:08:30 ประมาณ 10% ของคนที่เป็นระยะที่ 3 สามารถ
00:08:30 → 00:08:33 เป็นระยะที่ 4 ได้นะครับระยะสุดท้ายก็คือ
00:08:33 → 00:08:37 มีการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุของหลอดอาหาร
00:08:37 → 00:08:40 หรือกระเพาะอาหารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
00:08:40 → 00:08:41 นั่นเองครับ
00:08:41 → 00:08:44 >> ว้ายกดไลย้อนถ้าทิ้งไว้นานนี่เป็นโรค
00:08:44 → 00:08:45 มะเร็งได้เลยเหรอคะ
00:08:45 → 00:08:48 >> ใช่ถ้าคุณสะสมมานานแล้วคุณไม่ยอมเปรียบ
00:08:48 → 00:08:50 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลยกินเหมือนเดิมทำ
00:08:50 → 00:08:52 เหมือนเดิมเอาแต่พึ่งยาพึ่งยาอย่างเดียว
00:08:52 → 00:08:55 แล้วไอ้เยื่อบุของหลอดอาหารกับกระเพาะ
00:08:55 → 00:08:57 อาหารคุณมันเริ่มเปลี่ยนไป
00:08:57 → 00:09:01 >> สะสมไปเรื่อยๆ 10% จากคนระยะที่ 3 ก็จะ
00:09:01 → 00:09:03 กลายมาเป็นระยะที่ 4 ครับ
00:09:03 → 00:09:03 >> อ
00:09:03 → 00:09:05 >> บางคนก็บอกอุ๊ยเป็นมะเร็งเดี๋ไปผ่าออกดี
00:09:05 → 00:09:08 กว่าการผ่าตัดไม่ได้รักษา 100%
00:09:08 → 00:09:09 >> อื
00:09:09 → 00:09:11 >> ผ่าตัดสมมุติผ่าตรงนั้นไปและที่เป็นแผล
00:09:11 → 00:09:12 >> อาจจะ
00:09:12 → 00:09:15 >> กลับมาอีกถ้าคุณยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม
00:09:15 → 00:09:17 >> เพราะฉะนั้นของคุณแม่เนี่ยอาจต้องเอ๊ะคุณ
00:09:17 → 00:09:19 แม่เขาก็ไม่ได้เล่าเนาะว่าสมัยก่อนเขามี
00:09:19 → 00:09:22 อาการหรือเปล่าหมอก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ดู
00:09:22 → 00:09:24 แล้วเออน่าจะเป็นมานานและอาจจะเป็นมานาน
00:09:24 → 00:09:27 แล้วก็ได้เริ่มมีไอตอนกลางคืนนะครับอื
00:09:27 → 00:09:30 >> อก็แปลว่าถ้าไอตอนกลางคืนแปลว่าเราเข้า
00:09:30 → 00:09:32 สู่ภาวะเลเวลที่ 3 ของการไปกดลย้อและใช่
00:09:32 → 00:09:33 มั้ยคะ
00:09:33 → 00:09:36 >> อันนี้ไม่แกรันตีนะครับต้องบอกก่อนว่า 80%
00:09:36 → 00:09:39 ของคนเป็นกดไหลย้อนชอบเป็นตอนกลางคืน
00:09:39 → 00:09:40 >> ทำไมอ่ะ
00:09:40 → 00:09:43 >> อ่ะคราวนี้ตอนกลางคืนถูกมั้ยครับ 1 อาจจะ
00:09:43 → 00:09:45 เป็นเพราะว่าคุณกินเร็วกินมื้อเย็นมื้อ
00:09:45 → 00:09:47 สุดท้ายแล้วนอนเลย
00:09:47 → 00:09:47 >> อื
00:09:47 → 00:09:49 >> ไม่มีการขยับร่างกายปกติเราก็จะแนะนำว่า
00:09:49 → 00:09:52 อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะเข้า
00:09:52 → 00:09:53 นอนเนี่ย
00:09:53 → 00:09:53 >> อ
00:09:53 → 00:09:54 >> หยุดกิน
00:09:54 → 00:09:57 >> ไม่ใช่กินตลอดเวลาจนถึงนอนหยุดกินดื่มน้ำ
00:09:57 → 00:10:00 >> ดื่มน้ำได้มันพูดถึงเรื่องของอาหารการกิน
00:10:00 → 00:10:03 นะครับเนาะแล้วทำไมชอบเป็นตอนกลางคืนมัน
00:10:03 → 00:10:06 ขึ้นกับท่านอนครับ
00:10:06 → 00:10:07 >> เหรอคะต้องนอนไหนอ่ะ
00:10:07 → 00:10:11 >> นึกลองนึกคิดว่าท่าไหนเซฟหรือว่ามีอาการ
00:10:11 → 00:10:16 กดไหลย้อนน้อยที่สุดตะแคงซ้ายตะแคงขวานอน
00:10:16 → 00:10:20 คว่ำอ่านอนหงายหรือยืนนอนน่ะไยืนนอนก็ไม่
00:10:20 → 00:10:22 มีใครยืนนอน
00:10:22 → 00:10:24 >> คิดว่านั่งนอนน่าจะปลอดภัยที่สุด
00:10:24 → 00:10:27 >> แต่ไม่มีใครนั่งนอนไม่มีใครนั่งนอน
00:10:27 → 00:10:32 >> เพราะว่ารู้สึกเบี่ยงขวาก็ออกขวาซ้าย
00:10:32 → 00:10:34 >> อ่าไม่ใช่หรอต้องมานึกเรื่องของสรีระร่าง
00:10:34 → 00:10:37 กายก่อนนะครับเนาะคราวนี้เนี่ยการที่เรา
00:10:38 → 00:10:42 นอนตะแคงสายเป็นท่าที่
00:10:42 → 00:10:44 ลดภาวะกดไหลย้อนได้ดีที่สุด
00:10:44 → 00:10:45 >> โอเคงั้น
00:10:45 → 00:10:49 >> เพราะว่ากระเพาะอาหารเราจะอยู่ต่ำกว่า
00:10:49 → 00:10:51 หลอดอาหารครับ
00:10:51 → 00:10:54 >> ทำให้หลดไหลย้อนมันมันขึ้นมาไม่ได้เพราะ
00:10:54 → 00:10:55 เราตะแคงซ้ายไงถูกมั้
00:10:55 → 00:10:57 >> มันบล็อกมันอยู่นะครับเนาะเพราะฉะนั้นน่ะ
00:10:57 → 00:11:00 อ่าอะเอ่อพวกน้ำกรดต่างๆก็ไม่สามารถขึ้น
00:11:00 → 00:11:02 มาได้ถ้าเราเปรียบเทียบกับคนที่นอนนอน
00:11:02 → 00:11:05 ตะแคงขวากับแคงขวาเนี่ยมาแน่นอนอ
00:11:05 → 00:11:07 >> นะครับเนาะเพราะฉะนั้นท่านอนก็เป็นอะไร
00:11:07 → 00:11:10 สำคัญสำหรับคนที่มีภาวะกดไหลอยู่แล้วคุณ
00:11:10 → 00:11:12 ต้องนอนตะแคงทรายให้มากขึ้น
00:11:12 → 00:11:13 >> อืแฮ#ทกตะแคงซ้ายค่ะ
00:11:13 → 00:11:14 >> ตะแคง
00:11:14 → 00:11:18 >> อ่าโอเคได้ก็ก็เป็นการช่วยเบื้องต้นแหละ
00:11:18 → 00:11:20 เนาะไม่ใช่ว่าทำพฤติกรรมทุกอย่างไม่เป็น
00:11:20 → 00:11:22 ไรหมอบอกให้ตะแคงซ้าย
00:11:22 → 00:11:25 >> ไม่ได้เนาะไม่ใช่ตะแคงซ้ายกินไปด้วยช่วย
00:11:25 → 00:11:28 >> อันนี้ก็เป็นหน้านอนเล็กๆน้อยๆนะคะแล้ว
00:11:28 → 00:11:30 อยากถามอ่ะค่ะว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงเป็นกฎละ
00:11:30 → 00:11:32 ย้อนได้มากกว่าเด็กค่ะ
00:11:32 → 00:11:35 >> คราวนี้ต้องบอกว่าผู้ใหญ่เนี่ยก็พอเรามี
00:11:35 → 00:11:38 อายุมากขึ้นร่างกายเราก็เสื่อมเซลล์เราก็
00:11:38 → 00:11:41 เสื่อมกระเพาะอาหารการขยับเขยื้อนการย่อย
00:11:41 → 00:11:44 อาหารมันก็ลดลงตามอายุของเราถูกมั้ยครับ
00:11:44 → 00:11:46 เพราะฉะนั้นเนี่ยคุณถ้าสมมุติคุณกินเท่า
00:11:46 → 00:11:49 เดิมเหมือนคุณอายุ 25 เป็นไปไม่ได้เลยที่
00:11:49 → 00:11:51 คุณจะย่อยเร็วได้เท่านั้นถูกมั้ครับเพราะ
00:11:51 → 00:11:53 ฉะนั้นอาหารที่คุณกินเข้าไปมันก็ใช้เวลา
00:11:53 → 00:11:57 นานมากกว่าจะย่อยได้กล้ามเนื้อของคุณน้ำ
00:11:57 → 00:11:58 กด
00:11:58 → 00:12:01 >> กดในกระเพาะอาหารคุณมันน้อยลงเพราะฉะนั้น
00:12:01 → 00:12:04 เนี่ยการเกิดเรื่องของกฎไหลย้อนก็เป็นได้
00:12:04 → 00:12:06 ง่ายมากขึ้นเพราะว่า
00:12:06 → 00:12:08 >> สารย่อยน้อยลงการขยับให้เยื้อน้อยลงนะ
00:12:08 → 00:12:10 ครับอปัจจัยแรกคือเรื่องของอายุเลยเพราะ
00:12:10 → 00:12:13 ฉะนั้นคุณก็ต้องเลือกกินอาหารไม่ใช่ว่าจะ
00:12:13 → 00:12:16 กินคิดว่าตัวเองอายุ 25 อีกครั้งก็ไม่ได้
00:12:16 → 00:12:19 ก็กินอาหารที่มันแบบเบาย่อยง่ายมากขึ้น
00:12:19 → 00:12:22 เนื้อปลายอันที่ 2 ก็คือปัจจัยเรื่องของ
00:12:22 → 00:12:24 น้ำหนักตัวนะครับพอผู้ใหญ่อาจจะเป็นคุณ
00:12:25 → 00:12:27 เป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายก็ได้นะครับนอน
00:12:27 → 00:12:29 แล้วก็กินนอนอะไรอย่างเงี้ยมันก็เป็น
00:12:29 → 00:12:32 ปัจจัยยิ่งน้ำหนักตัวมากขึ้นระบบการเผา
00:12:32 → 00:12:34 ผ่านน้อยการย่อยอาหารก็ไม่ดีอ
00:12:34 → 00:12:34 >> อือ
00:12:34 → 00:12:37 >> การเป็นกฎไหลย้อนก็จะเป็นง่ายมากขึ้นอย่า
00:12:37 → 00:12:39 ลืมเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับสูบ
00:12:39 → 00:12:42 บุหรี่ถ้าคุณสูบสะสมมาหรือดื่มสะสมมาตั้ง
00:12:42 → 00:12:44 หลายปีเนี่ยมันก็เป็นปัจจัยทำให้เกิด
00:12:44 → 00:12:46 เรื่องของกดไหล่ย้อนอยู่แล้วนะครับและอัน
00:12:46 → 00:12:48 สุดท้ายผู้ใหญ่กินแล้วชอบทำอะไรครับอ
00:12:48 → 00:12:49 >> นั่งนอน
00:12:49 → 00:12:50 >> นอน
00:12:50 → 00:12:50 >> อื
00:12:50 → 00:12:52 >> กินแล้วนอนนะครับเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:53 → 00:12:55 ปัจจัยกินแล้วนอนมันยังไม่ย่อยเลยมันก็จะ
00:12:55 → 00:12:57 ทำให้เป็นกฎไหลย้อนได้ง่ายมากขึ้น
00:12:57 → 00:12:58 >> อื
00:12:58 → 00:13:01 >> คราวนี้ในผู้สูงอายุอ่ะบางคนอาจจะไม่มี
00:13:01 → 00:13:04 ภาวะแสบร้อนหน้าอกก็ได้แต่ว่าไอจนนอนไม่
00:13:04 → 00:13:06 หลับหรือบางคนเนี่ยเจ็บหน้าอกคือว่าเป็น
00:13:06 → 00:13:09 โรคหัวใจแต่จริงๆแล้วอ่ะมันเป็นภาวะแทรก
00:13:09 → 00:13:11 ซ้อนของกดไหลย้อนนั่นเองเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:13:11 → 00:13:14 อย่าปล่อยไว้นานๆเพราะว่ามันสามารถเป็น
00:13:14 → 00:13:17 อันตรายในอนาคตได้นะครับเนาะสิ่งสำคัญใน
00:13:17 → 00:13:20 การรักษากรดไหลย้อนในวัย 50 บวกเนี่ยที่
00:13:20 → 00:13:23 ยั่งยืนเนี่ยไม่ใช่แค่กินยาลดกดแต่ต้อง
00:13:23 → 00:13:26 ฟื้นฟูเรื่องของกระเพาะอาหารด้วยนะครับ
00:13:26 → 00:13:29 เนาะเพราะว่าให้ลองคิดแล้วกันว่า
00:13:29 → 00:13:32 >> กระเพาะอาหารของเราคือบ้านของเราถ้าใน
00:13:32 → 00:13:34 บ้านของเรามันมีกดเยอะเหมือนมีน้ำท่วม
00:13:34 → 00:13:35 เต็มเลย
00:13:35 → 00:13:37 >> เราก็จะเกิดอาการถูกมั้ยครับอาการอายแสบ
00:13:37 → 00:13:40 ร้อนเจ็บหน้าอกต่างๆนานาสิ่งที่เราคนชอบ
00:13:40 → 00:13:43 ทำกันไปลดกดเอาน้ำออก
00:13:43 → 00:13:44 >> อ่าน้ำอ่อนออกไปแล้ว
00:13:44 → 00:13:47 >> แต่น้ำท่วมหลังจากน้ำท่วมเกิดอะไรขึ้นของ
00:13:47 → 00:13:48 ในบ้านเป็นไง
00:13:48 → 00:13:48 >> พัง
00:13:48 → 00:13:52 >> พังผุเฟอร์นิเจอร์อย่างเจ๊งแล้วคุณยังกิน
00:13:52 → 00:13:54 เหมือนเดิมเพราะฉะนั้นเนี่ยการย่อยมันก็
00:13:54 → 00:13:56 ไม่ดีอาการก็กำเลิบกลับมาได้เหมือนเดิม
00:13:56 → 00:14:00 สิ่งสำคัญคือพอคุณลดกดไปแล้วเอาน้ำออก
00:14:00 → 00:14:03 แล้วเนี่ยต้องไปซ่อมแซมบำรุงข้างในด้วย
00:14:03 → 00:14:06 ให้มันกลับมาเหมือนเดิมเฟอร์นิเจอร์ไฟเอย
00:14:06 → 00:14:08 น้ำเอยนะครับเพราะฉะนั้นการฟื้นฟูเนี่ย
00:14:08 → 00:14:10 เป็นอะไรที่สำคัญสำหรับผู้ใหญ่คุณจะได้
00:14:10 → 00:14:13 กลับมากินอาหารที่คุณชอบกินเหมือนสมัย
00:14:13 → 00:14:13 ก่อนได้
00:14:13 → 00:14:16 >> อืมจริงๆอันนี้สำคัญมากเลยนะคะเพราะว่า
00:14:16 → 00:14:20 หลายๆคนก็โอเคทุกคนเลยอ่ะกดมาก็ลดกดกดมา
00:14:20 → 00:14:23 ก็ลดกดแต่อย่าลืมว่าทุกครั้งที่กดมาเนี่ย
00:14:23 → 00:14:27 มันก็ส่งผลต่อผนังเอ่อลำไส้แล้วก็กระเพาะ
00:14:27 → 00:14:29 อาหารของเราไปแล้วมันไม่เหมือนเดิมไปแล้ว
00:14:29 → 00:14:31 ฉะนั้นเราเราจะต้องฟื้นฟูใช่มั้ยคะฉะนั้น
00:14:31 → 00:14:34 หมอช่วยแนะนำวิธีการฟื้นฟูกระเพาะอาหาร
00:14:34 → 00:14:34 หน่อยได้มั้คะ
00:14:34 → 00:14:37 >> อ่าอย่างแรกเลยก็คือโรคนี้หรือภาวะนี้มัน
00:14:37 → 00:14:39 เกิดจากพฤติกรรมเพราะฉะนั้นอย่างแรกคุณ
00:14:39 → 00:14:41 ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเราพูดตั้งแต่
00:14:42 → 00:14:44 เริ่มต้นแล้วก็หลีกเลี่ยงอาหารที่มัน
00:14:44 → 00:14:46 >> รู้แหละว่ามันไม่ดีต่อกระเพาะของคุณอาหาร
00:14:46 → 00:14:49 รสจัดอาหารที่เปรี้ยวจัดอาหารเค็มจัดพวก
00:14:49 → 00:14:51 เนี้ยนะครับเนาะแล้วก็อาหารที่มันย่อยยาก
00:14:51 → 00:14:53 เพราะฉะนั้นปรับเปลี่ยนเรื่องของอาหารการ
00:14:53 → 00:14:55 กินอย่างที่ 2 ก็คือเรื่องของการนอนนะ
00:14:55 → 00:14:58 ครับเนาะในผู้สูงอายุ 50 บวกเนี่ยก็ไม่
00:14:58 → 00:15:01 ใช่กินแล้วนอนแล้วกันนะครับเนาะคุณก็ควร
00:15:01 → 00:15:03 รับประทานอาหารให้เสร็จประมาณ 2-3
00:15:03 → 00:15:06 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะไปนอนนะครับเนาะแล้ว
00:15:06 → 00:15:08 ก็อย่าจัดหนักมากถ้าจัดหนักมากเนี่ยเดี๋
00:15:08 → 00:15:11 มันก็ไปส่งผลกระทบต่อการนอนอีกนะครับส่วน
00:15:11 → 00:15:13 อันสุดท้ายเนี่ยก็ปัจจุบันเนี่ยที่จริง
00:15:14 → 00:15:16 มันก็มีสารอาหารหรือว่าอาหารเสริมมากมาย
00:15:16 → 00:15:19 เนาะที่ไปช่วยเรื่องของบำรุงหรือลดกดใน
00:15:19 → 00:15:21 กระเพาะอาหารแต่ตัวหนึ่งมันจะเป็นสารสกัด
00:15:21 → 00:15:24 ที่เรียกว่าแอนโตไซยโนไซตนะครับเนาะสาร
00:15:24 → 00:15:27 แอนโทไซโนไซตเนี่ยมันช่วยเรื่องของลดการ
00:15:27 → 00:15:30 อักเสบนะครับเนาะปรับสมดุลของลำไส้ทำให้
00:15:30 → 00:15:32 ลำไส้ของเรา่ะแข็งแรงมากยิ่งขึ้นแล้วก็
00:15:32 → 00:15:34 ฟื้นฟูแผนในกระเพาะอาหารและลำไส้ของเรา
00:15:34 → 00:15:35 ครับ
00:15:35 → 00:15:35 >> อื
00:15:35 → 00:15:38 >> สารอาหารพวกนี้ส่วนมากก็จะเจอในผลไม้ที่
00:15:38 → 00:15:41 มีสีเข้มๆสีม่วงเช่นอะไรบ้างครับ
00:15:41 → 00:15:42 >> อพวกเบอร์รี่
00:15:42 → 00:15:44 >> อ่าเบอร์รี่นะครับเยอะที่สุดก็คือ
00:15:44 → 00:15:46 บูเบอร์รี่นะครับแล้วก็Blackเบอร์รี่
00:15:46 → 00:15:47 บลูเบอร์รี่ครับ
00:15:47 → 00:15:49 >> อ๋อโอเคก็แปลว่าจริงๆแล้วมันก็ต้องดูองค์
00:15:49 → 00:15:52 รวมน่ะเนาะนะคะไม่ว่าจะเป็นปรับการกินการ
00:15:52 → 00:15:54 นอนแล้วก็ถ้ารู้สึกว่าเรากัดปรับการกิน
00:15:54 → 00:15:58 การนอนแล้วอยากมีตัวช่วยทำให้ฟื้นฟูเอ่อ
00:15:58 → 00:16:00 กระเพาะอาหารได้มากขึ้นเนี่ยก็มีอาหาร
00:16:00 → 00:16:02 เสริมมากมายอย่างอย่างเช่นที่คุณหมอแนะนำ
00:16:02 → 00:16:02 ไป
00:16:02 → 00:16:05 >> การที่เราซ่อมแซมกระเพาะอาหารของเราจาก
00:16:05 → 00:16:07 การเป็นกดไหลย้อนซ้ำๆเนี่ยทุกๆครั้งที่
00:16:07 → 00:16:10 เป็นกดไหลย้อนน่ะบ่อยๆเข้าบ่อยๆเข้ามัน
00:16:10 → 00:16:13 เกิดแผ่ในกระเพาะอาหารเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:16:13 → 00:16:16 ถ้าคุณกินแต่ยาลดกดเข้าไปมันทำอะไรครับลด
00:16:16 → 00:16:16 แต่กด
00:16:16 → 00:16:17 >> อื
00:16:17 → 00:16:19 >> อ้าวแล้วซ่อมตอนไหนถูกมั้ครับเนาะเพราะ
00:16:19 → 00:16:22 สิ่งเพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดอ่ะคือไม่
00:16:22 → 00:16:24 ใช่แค่ลดกดอย่างเดียวเพราะนั้นคือการแก้
00:16:24 → 00:16:26 ไม่ตรงจุดคุณแปลกินแต่ลดกดอ
00:16:26 → 00:16:28 >> แต่คุณไม่ได้ซ่อม
00:16:28 → 00:16:30 >> อือสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญนอกจากการ
00:16:30 → 00:16:32 กินยารดกดแล้วคุณต้องไปซ่อมสิ่งที่มันสึก
00:16:32 → 00:16:35 หลอสิ่งที่มันโดนทำลายไปแล้วแผลในกระเพาะ
00:16:35 → 00:16:37 อาหารจะได้ไม่เกิดซ้ำๆอีกครับ
00:16:37 → 00:16:42 >> อืแล้วถ้าทนทนเจ็บเพื่อนก็เป็นกฎไหลย้อน
00:16:42 → 00:16:44 กันเยอะแยะเที่ยง 1:00 น.ก็ยังไปกิน
00:16:44 → 00:16:46 บุฟเฟ่ต์กันอยู่อย่างเงี้ยค่ะผ่านไป 5 ปี
00:16:46 → 00:16:48 10 ปีจะเกิดอะไรขึ้นคะ
00:16:48 → 00:16:53 >> ถ้าทนเจ็บนานๆมันก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
00:16:53 → 00:16:56 ของคุณเนาะเหมือนคุณทำให้เกิดแผลตลอดเวลา
00:16:56 → 00:16:59 เป็นแล้วเป็นอีกย้ำแล้วย้ำอีกแผลแผลใหญ่
00:16:59 → 00:17:02 ขึ้นใหญ่ขึ้นสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดแน่
00:17:02 → 00:17:06 นอนแผลนั้นเยื่อบุล
00:17:06 → 00:17:07 มะเร็งครับ
00:17:07 → 00:17:09 >> อื้อหือไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะคะเนี่ย
00:17:09 → 00:17:11 >> ไม่ใช่เรื่องเล่นจะทนเจ็บมั้ย
00:17:11 → 00:17:14 >> แต่วูฟี่มันก็อร่อยอ่ะ
00:17:14 → 00:17:16 โอเคค่ะการกระทกใช้ชีวิตอย่างมีสติเอา
00:17:16 → 00:17:18 เพียงพอเนาะแล้วถ้าเราเป็นกดไหลย้อนจริงๆ
00:17:18 → 00:17:21 ก็ควรจะเข้าสู่การรักษาจะได้ไม่ต้องไปถึง
00:17:21 → 00:17:25 สจสage 4 ตามที่คุณหมอแนะนำไว้นะคะบางคน
00:17:25 → 00:17:29 เป็นกฎไหลย้อนมานานจนคิดว่าอาการแน่นแสบ
00:17:29 → 00:17:31 จุกเป็นเรื่องปกติของร่างกายแต่รู้มั้คะ
00:17:31 → 00:17:33 ว่าอาการเจ็บแบบเรื้อรังแบบเนี้ยอาจไม่
00:17:33 → 00:17:36 ใช่เรื่องชั่วคราวแต่เป็นจากแผลที่อยู่ใน
00:17:36 → 00:17:39 กระเพาะนะคะหรือว่าหลอดอาหารซึ่งถ้าปล่อย
00:17:39 → 00:17:42 ไว้เนี่ยจะค่อยๆสะสมแล้วก็รอวันปะทุการ
00:17:42 → 00:17:44 ที่เรารักษาักษาที่ปลายเหตุหรือว่าที่
00:17:44 → 00:17:47 อาการเนี่ยอาจจะไม่เพียงพอและอาการเหล่า
00:17:47 → 00:17:50 นั้นก็อาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะวันนี้เจ
00:17:50 → 00:17:52 อยากจะแนะนำตัวช่วยซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของ
00:17:52 → 00:17:55 เรานะคะนั่นก็คือMerจิเจลเจลช่วยบรรเทา
00:17:55 → 00:17:58 อาการกดไลย้อนค่ะทานง่ายสะดวกนะคะสามารถ
00:17:58 → 00:18:01 ฉีกทานหลังมื้ออาหารหรือเมื่อมีอาการตัว
00:18:01 → 00:18:04 นี้นะคะสามารถฟื้นฟูได้ที่ต้นตอของกรดไหล
00:18:04 → 00:18:07 ย้อนเลยด้วยการทำงานทั้งหมด 3 ขั้นตอนค่ะ
00:18:08 → 00:18:10 1 สร้างชั้นเจลเคลือบหลอดอาหารด้วยสาร
00:18:10 → 00:18:13 สกัดโซเดียมแอลิเนตสามารถช่วยบรรเทาอาการ
00:18:13 → 00:18:16 กดไหลย้อนอาการแสบกลางหน้าอกนะคะแล้วก็
00:18:16 → 00:18:19 เรอเปรี้ยวได้ด้วยค่ะอันที่ 2 นะคะสามารถ
00:18:19 → 00:18:24 ลดการผลิตกดนะคะด้วยสารสกัดรากชเอมเทศ
00:18:24 → 00:18:26 แล้วก็สามารถช่วยลดการอักเสบได้ด้วยค่ะ
00:18:27 → 00:18:30 และขั้นตอนที่ 3 นะคะสามารถฟื้นฟูแผลใน
00:18:30 → 00:18:33 กระเพาะอาหารนะคะแล้วก็หลอดอาหารด้วยสาร
00:18:33 → 00:18:36 สกัดที่เรียกว่าแอนโทซาโนไซตซึ่งนำมาจาก
00:18:36 → 00:18:39 ผลไม้milบรี่นั่นเองนะคะสารสกัดอันนี้นะ
00:18:39 → 00:18:43 คะจะไปฟื้นฟูเยื่อในหลอดอาหารแล้วก็
00:18:43 → 00:18:45 กระเพาะอาหารให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งนึง
00:18:45 → 00:18:48 ค่ะสามารถดูแลได้ทั้งบรรเทาอาการแล้วก็
00:18:48 → 00:18:50 ฟื้นฟูด้วยจะได้หมดกันสักทีกับปัญหาที่
00:18:50 → 00:18:54 คอยเป็นอย่างซ้ำซากนะคะเพื่อให้คนทำงานไป
00:18:54 → 00:18:57 จนถึงวัย 50 บเนี่ยได้กลับมาใช้ชีวิตโดย
00:18:57 → 00:19:00 ที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคกดไหลย้อน
00:19:00 → 00:19:02 ค่ะสำหรับผู้ใหญ่คนไหนนะคะหรือว่าถ้าใคร
00:19:02 → 00:19:05 มีผู้ใหญ่ในบ้านที่ต้องคอยทนทุกข์กับ
00:19:05 → 00:19:08 เรื่องกดไลย้อนเนี่ยก็สามารถหาซื้อ Mergel
00:19:08 → 00:19:10 ได้ใน Get Good Life Shopee Mall นะ
00:19:10 → 00:19:13 คะหรือว่าสามารถทักถามเข้าไปนะคะในเพจของ
00:19:13 → 00:19:17 Merจิเจลเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมค่ะคำ
00:19:17 → 00:19:19 ถามต่อมาอันนี้เรื่องอาหารแล้วค่ะคุณหมอ
00:19:19 → 00:19:22 พี่สาวเป็นกรดไหลย้อนเลยกินกล้วยเป็น
00:19:22 → 00:19:25 ประจำทุกเช้าเพราะเชื่อว่าจะช่วยรักษากรด
00:19:25 → 00:19:29 ไหลย้อนได้นะคะแต่วันก่อนกินไปปุ๊บแสบ
00:19:29 → 00:19:32 ร้อนกลางหน้าอกทันทีเลยค่ะเลยลองไปหาข้อ
00:19:32 → 00:19:35 มูลแล้วพบเจอว่าคนเป็นกดไหลย้อนเนี่ยห้าม
00:19:35 → 00:19:38 กินกล้วยสรุปแล้วเป็นกดไหลย้อนเนี่ยกิน
00:19:39 → 00:19:41 กล้วยได้มั้ยคะแล้วควรกินอะไรดีจะได้ช่วย
00:19:41 → 00:19:43 อาการกดไลย้อนคะ
00:19:43 → 00:19:45 >> คราวนี้บางคนก็บอกว่ากินกล้วยช่วยบางคน
00:19:45 → 00:19:48 บอกกินกล้วยไม่ช่วยที่จริงอ่ะมันขึ้นกับ
00:19:48 → 00:19:50 ว่ากล้วยสุกหรือกล้วยไม่สุกครับ
00:19:50 → 00:19:51 >> อ่ะคะ
00:19:51 → 00:19:53 >> อ่าจริงๆที่จริงอ่ะกล้วยดิบอ่ะครับกึ่ง
00:19:53 → 00:19:57 สุกกิ่งดิบเนี่ยดีต่อการสมานแผลหรือป้อง
00:19:57 → 00:19:59 กันแผลในกระเพาะอาหารนั่นเอง
00:19:59 → 00:20:04 >> เพราะมันมีสารเรียกว่าลูโคไซยนินลูโคซิน
00:20:04 → 00:20:04 >> โอเคแต่ละ
00:20:04 → 00:20:07 >> สารเนี้ยมันช่วยป้องกันในมันจะเจอเจอใน
00:20:07 → 00:20:08 กล้วยดิบเท่านั้น
00:20:08 → 00:20:08 >> โอ้
00:20:08 → 00:20:10 >> กล้วยสุกไม่เจอ
00:20:10 → 00:20:12 เพราะมันรสชาติฝาดๆไงไอ้ฝาดๆนี่แหละ
00:20:12 → 00:20:14 >> แต่แต่กล้วยดิบไม่อร่อย
00:20:14 → 00:20:15 >> แต่มันดีต่อสุขภาพ
00:20:15 → 00:20:16 >> แล้วมันต้องดิบประมาณไหน
00:20:17 → 00:20:19 >> ประมาณแบบเขียวนิดนึงครับเขียวเขียว
00:20:19 → 00:20:22 เหลืองยังได้แต่ถ้าเขียวสุดแน่นอนมันก็ดี
00:20:22 → 00:20:24 สุดเนาะยิ่งมีเขียวมากเนี่ย
00:20:24 → 00:20:27 >> เตี่ยวนะมองเขียวสุดมันคิดได้หรอหมอ
00:20:27 → 00:20:30 >> คือเขียวมันฝาดเนาะมันฝาดมันไม่อร่อยแต่
00:20:30 → 00:20:32 สารอันเนี้ยมันก็ยิ่งเยอะแล้วมันไปช่วย
00:20:32 → 00:20:36 ป้องกันทำให้ไม่มีแผลในกระเพาะอาหารครับ
00:20:36 → 00:20:39 >> หมอแล้วถ้ามันเคี้ยวเขียวอันนั้นก็ต้อง
00:20:39 → 00:20:40 กินก็ได้
00:20:40 → 00:20:44 >> ก็คือให้มันกำลังจะำลังจะสุกอ่ากำลังจะ
00:20:44 → 00:20:46 สุกนะครับเราให้มีฝาดเล็กน้อยแล้วกันให้
00:20:46 → 00:20:49 มีรสชาติฝาดส่วนกล้วยที่มันสีเหลืองแล้ว
00:20:49 → 00:20:51 ที่มันสุกแล้วเนี่ยที่จริงมันมีแต่น้ำตาล
00:20:51 → 00:20:54 มันมีแป้งแล้วสารอันนั้นมันน้อยลงนะครับ
00:20:54 → 00:20:56 เนาะคราวเนี้ยบางคนที่
00:20:56 → 00:20:59 >> อ่าเป็นมานานนะครับเนาะหรือบางคนชอบกิน
00:20:59 → 00:21:02 กล้วยกล้วยคืออะไรมันช่วยลดกินไปเลย 1
00:21:02 → 00:21:04 หวีอะไรเงี้ย
00:21:04 → 00:21:07 >> โอหมันก็มันก็กระตุ้นเพราะมันเป็นแป้ง
00:21:07 → 00:21:08 >> จริงๆกล้วยมันมีกล้วยเยอะมากเลยคะกล้วย
00:21:08 → 00:21:12 กล้วยอะไรนะกล้วยน้ำว้ากล้วยหอมเล็บมือนา
00:21:12 → 00:21:16 กล้วยอ่ะถ้าพูดถึงดีที่สุดก็คือกล้วยดิบ
00:21:16 → 00:21:18 สีเขียวกล้วยน้ำว้าครับ
00:21:18 → 00:21:19 >> หาซื้อได้ง่ายด้วยเนาะ
00:21:19 → 00:21:20 >> อ่าชัดเจน
00:21:20 → 00:21:23 >> โอเคได้ค่ะแล้วทีนี้คนเป็นกดไหลย้อนห้าม
00:21:24 → 00:21:24 กินอะไรบ้างคะ
00:21:25 → 00:21:26 >> อ่าอันหนึ่งก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุก
00:21:26 → 00:21:29 ชนิดนะครับอันนี้ห้ามเด็ดขาดนะครับ
00:21:29 → 00:21:32 >> แล้วบางทีคนเป็นกดไหลย้อนแต่ว่าจะต้องพบ
00:21:32 → 00:21:36 ปะคนมีสารสรรบ้างเควรจะทำยังไงคะเพราะว่า
00:21:36 → 00:21:38 ให้เลี่ยงเลยมันบางทีมันไม่ได้จริงๆอย่า
00:21:38 → 00:21:39 ปล่อยให้ท้องว่าง
00:21:39 → 00:21:39 >> อื
00:21:39 → 00:21:43 >> อ่ามีกินอาหารต่างๆนานาไปก่อนรองท้องไป
00:21:43 → 00:21:46 ก่อนนะครับแล้วค่อยดื่มแล้วกันนะครับแต่
00:21:46 → 00:21:48 ก็ดื่มในปริมาณที่มันเหมาะสมไม่ใช่ว่ารอง
00:21:48 → 00:21:51 ท้องโอ้โหจัดเต็มเอาให้สุดอะไรอย่างเงี้ย
00:21:51 → 00:21:54 มันก็มานะครับเนาะอันที่ 2 ก็คืออาหารที่
00:21:54 → 00:21:56 มีไขมันเยอะ
00:21:56 → 00:22:00 >> ไขมันจัดนะครับเนาะกะทิของทอดของมันของ
00:22:00 → 00:22:03 ปิ้งของย่างเนี่ยนะครับเนาะเพราะพวกเนี้ย
00:22:03 → 00:22:06 เป็นตัวกระตุ้นกระเพาะมันย่อยยากของทอด
00:22:06 → 00:22:07 มันไขมันสูง
00:22:08 → 00:22:09 >> กล้วยปิ้งอ่ะคะได้มั้ย
00:22:09 → 00:22:11 >> อ่ากล้วยปิ้งยังโอเคนะครับเนาะกล้วยปิ้ง
00:22:11 → 00:22:13 ยังโอเคนะครับเนาะอันนี้เราพูดถึงเนื้อ
00:22:13 → 00:22:16 สัตว์ที่มันไปปิ้งนะบาร์บีคิวอะไรพวกนี้
00:22:16 → 00:22:18 นะครับอันที่ 3 ก็คือพวก
00:22:18 → 00:22:21 >> จัดๆทั้งหลายนะครับอาหารรสจัดเผ็ดจัดเค็ม
00:22:21 → 00:22:24 จัดเปรี้ยวจัดนะครับอันที่ 4 ก็เป็นของ
00:22:24 → 00:22:27 หมักดองนะครับเนาะไม่ว่าจะเป็นผลอ่าผลไม้
00:22:27 → 00:22:30 หมักดองนะครับเนาะหรือว่ากระเทียมดองนะ
00:22:30 → 00:22:33 ครับเนาะแล้วก็พวกอ่าเนื้อสัตว์ดองต่างๆ
00:22:33 → 00:22:36 นะครับกุ้งดองปูดองปลาร้าอย่างเงี้ยก็ควร
00:22:36 → 00:22:37 งดไว้ก่อนนะครับ
00:22:37 → 00:22:40 >> อ่าอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรกินทีนี้ค่ะ
00:22:40 → 00:22:43 ถ้าไม่อยากเป็นกดไลย้อนควรกินอะไรดีคะ
00:22:43 → 00:22:45 >> อย่างแรกเลยก็กินโปรตีนที่มีไขมันต่ำนะ
00:22:45 → 00:22:48 ครับเนาะไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลาเนื้อไก่ไข่
00:22:48 → 00:22:50 พวกนี้มันกินได้อยู่แล้วนะครับเนาะแต่ก็
00:22:50 → 00:22:52 ไม่ได้แบบกินเยอะมากในครั้งนี้
00:22:52 → 00:22:54 >> โปรตีนมันช่วยอะไรเกี่ยวกับกดไลย้อน
00:22:54 → 00:22:56 >> คือคือมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของกรดไหล
00:22:56 → 00:22:59 ย้อนมากครับแต่มันคือเราย่อยง่ายย่อยเร็ว
00:22:59 → 00:23:02 นะครับเนาะจนไม่มีกดอ่ะมันตีขึ้นมานะครับ
00:23:02 → 00:23:04 ถ้าเป็นอาหารที่เมื่อกี้เราพูดไปไขมันสูง
00:23:04 → 00:23:07 อะไรพวกเนี้ยมันคือมันใช้เวลานานกว่าย่อย
00:23:07 → 00:23:11 ได้หรือพูดถึงเนื้อวัวเนื้อหมูมันย่อยยาก
00:23:11 → 00:23:14 กว่าเนื้อปลาหรือเนื้อไก่นั่นเองนะครับ
00:23:14 → 00:23:16 อันที่ 2 ก็เป็นไขมันดีเมื่อกี้เราบอกว่า
00:23:16 → 00:23:18 ห้ามกินไขมันเนาะของทอดของมันแต่อันเนี้
00:23:19 → 00:23:22 บอกว่าไขมันดีที่จริงช่วยย่อยอาหารซะด้วย
00:23:23 → 00:23:23 ซ้ำ
00:23:23 → 00:23:24 >> อื
00:23:24 → 00:23:27 >> อะโวคาโดนะครับน้ำมันมะกอกนะครับอ่าเมล็ด
00:23:28 → 00:23:30 แฟลกseีดนะครับเนาะพวกเนี้ยไขมันดีอ่ะมัน
00:23:30 → 00:23:32 ดีต่อร่างกายอยู่แล้วนะครับเพราะกินไป
00:23:32 → 00:23:35 เถอะนะครับอันที่ 3 ก็คืออะไรที่มันมี
00:23:35 → 00:23:39 ไฟเบอร์เยอะๆเนาอ้น้ำตาลตำเปิล
00:23:39 → 00:23:44 ฝรั่งผักผักก็ต้มสุกก่อนนะครับผัดผักหรือ
00:23:44 → 00:23:46 ว่าเอาไปใส่ในน้ำแกงอะไรก็ได้นะครับ
00:23:46 → 00:23:48 สำหรับคนที่เป็นกดละย้อนที่จริงเราก็ไม่
00:23:48 → 00:23:51 แนะนำให้กินผักดิบนะครับเนาะเพราะว่ามัน
00:23:51 → 00:23:54 อาจจะมันมีสารมีแก๊สได้เกิดได้ง่ายมาก
00:23:54 → 00:23:57 ขึ้นเอาไปโดนความร้อนต้มๆผัดผักอะไรอย่าง
00:23:57 → 00:23:57 เงี้ยก่อน
00:23:57 → 00:23:58 >> ถ้าใครชอบกินสลัดทำไงอ่ะ
00:23:58 → 00:24:02 >> ก็เปลี่ยนนะครับเนาะยังอย่าเพิ่งกินรอรอ
00:24:02 → 00:24:04 นิดนึงนะครับรอนิดนึง
00:24:04 → 00:24:05 >> ก็แปลว่าถ้าสมมุติว่าใครที่เป็นกดไลย้อน
00:24:05 → 00:24:06 น่ะระหว่าง
00:24:06 → 00:24:09 เลือกกินผักสดกับผักต้มอะไรเงี้ยคิดว่า
00:24:09 → 00:24:12 ต้มจะดีสักดีกว่าถูกต้องครับเนาะอันที่ 4
00:24:12 → 00:24:13 แตงโม
00:24:13 → 00:24:13 >> คะ
00:24:13 → 00:24:16 >> เออแตงโมนะครับเนาะกินหรือ
00:24:16 → 00:24:19 >> ควรกินควรกินนะครับ
00:24:19 → 00:24:21 กดไหลย้อนเพราะว่าแตงโมเนี่ย 1 มันมี
00:24:21 → 00:24:24 ฤทธิ์เย็นนะครับเนาะแล้วก็มันสามารถการ
00:24:24 → 00:24:26 ย่อยมันย่อยง่ายอยู่แล้วมันเป็นผลไม้นะ
00:24:26 → 00:24:28 ครับเนาะแล้วก็มีไฟเบอร์ด้วยนะครับเนาะ
00:24:28 → 00:24:30 แตงโมก็เป็นตัวนึงที่จริงนอกจากแตงโมมัน
00:24:30 → 00:24:33 ก็มีเนาะอะไรที่มันมีอ่ากากเยอะๆก็อย่าง
00:24:33 → 00:24:34 เช่นแก้วมังกร
00:24:35 → 00:24:38 >> เมลอนเป็นต้นนะครับอก็ลองกินอาหารเหล่า
00:24:38 → 00:24:41 นี้ก็น่าจะช่วยได้นะคะแล้วสมุนไพรหรอคะ
00:24:41 → 00:24:45 คุณหมอเพราะว่าช่องเราเนี่ยทุกคนชอบมาก
00:24:45 → 00:24:48 เรื่องสมุนไพรนะคะแล้วก็จะมีคำถามมาตลอด
00:24:48 → 00:24:50 เลยอยากรู้ว่าถ้าคนเป็นกดไลย้อนน่ะมี
00:24:50 → 00:24:53 สมุนไพรตัวไหนที่พอจะช่วยได้มั้คะ
00:24:53 → 00:24:56 >> 1 คือน้ำว่านหางจระเข้ครับ
00:24:56 → 00:24:56 >> อืม
00:24:56 → 00:24:59 >> คราวเนี้ยไอ้ตัวว่านหางจระเข้พืชไทยบ้านๆ
00:24:59 → 00:25:02 เนี่ยครับมันมีหน้าที่สมานแผล
00:25:02 → 00:25:02 >> อื
00:25:02 → 00:25:04 >> เหมือนแล้วที่สมัยก่อนอดีตเนาะถ้าเคยได้
00:25:04 → 00:25:08 ยินแบบเอามาพเปิดเป็นแผลไฟไหม้มาแปะนะ
00:25:08 → 00:25:10 ครับคล้ายๆกันอันนี้เป็นน้ำสกัดจากเ่อน้ำ
00:25:10 → 00:25:12 ว่านหารจระเข้อ่ะครับเนาะถ้าดื่มเข้าไป
00:25:12 → 00:25:15 มันก็ไปช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารของเรา
00:25:15 → 00:25:18 ได้นะครับอันที่ 2 ก็คือถ้าเกิดอาการกด
00:25:18 → 00:25:21 ไหลย้อนขึ้นมาน้ำขิงก็ช่วยได้ครับนะครับ
00:25:21 → 00:25:24 เนาะแล้วก็ดื่มน้ำขิงมันช่วยอ่าผ่าเ่อไล่
00:25:24 → 00:25:26 ลมเออต้องใช้คำนี้มันช่วยไล่ลมนะครับทำ
00:25:27 → 00:25:29 ให้ไม่เกิดอาการแน่นจุกเสียดในท้องของเรา
00:25:29 → 00:25:32 ได้นะครับอันที่ 3 อาจจะชื่อฝรั่งนิดนึง
00:25:32 → 00:25:33 สตารด
00:25:33 → 00:25:35 >> mustสตารดคือเออไอ้ซ
00:25:35 → 00:25:38 >> ซอสารแต่แต่เออนั่นแหละครับเนาะซอส
00:25:38 → 00:25:40 mustสตารดอ่ะครับเนาะที่จริงมันมีอ่า
00:25:40 → 00:25:42 ฤทธิ์เป็นด่างนะครับเนาะไปช่วยเรื่องของ
00:25:42 → 00:25:45 กรดไหลย้อนได้นะครับแล้วก็ส่วนอันสุดท้าย
00:25:45 → 00:25:48 ที่ไปช่วยเรื่องของกรดไหลย้อนได้ก็คือน้ำ
00:25:48 → 00:25:50 มะนาวหรือน้ำเมลอนนั่นเอง
00:25:50 → 00:25:53 >> เอ้ยน้ำมะนาวมันไม่มันไม่ได้ทำให้แสบท้อง
00:25:53 → 00:25:54 หรอคะ
00:25:54 → 00:25:56 >> คราวเนี้ยน้ำมะนาวอ่ะครับก็คือกินอุ่นๆ
00:25:56 → 00:25:58 เนาะแล้วก็อาจจะใส่น้ำผึ้งนิดนึงเข้าไปนะ
00:25:58 → 00:26:01 ครับน้ำมะนาวมันเป็นกรดจริงๆอ
00:26:01 → 00:26:03 >> แต่พอเวลามันดื่มเข้าไปแล้วอ่ะมันกลาย
00:26:03 → 00:26:04 เป็นด่างนะครับ
00:26:04 → 00:26:05 >> อ๋อ
00:26:05 → 00:26:08 >> เอ่อมันก็ช่วยไปลดภาวะอ่ากดไหลย้อนหรือ
00:26:08 → 00:26:09 การแสบท้องของเรานั่นเองครับอ
00:26:09 → 00:26:13 >> อออืแต่สิ่งที่สำคัญน่ะคือทุกอย่างที่หมอ
00:26:13 → 00:26:16 พูดมาเนี่ยจะต้องไม่น้ำตาลสูงเนาะเพราะ
00:26:16 → 00:26:18 อย่างน้ำขิงถ้าจะให้อร่อยก็ต้องเติมน้ำ
00:26:18 → 00:26:22 ตาลน้ำว่านหางจระเข้ถ้าไม่เติมน้ำตาลก็คง
00:26:22 → 00:26:23 ไม่อร่อย
00:26:23 → 00:26:24 >> ก็เอาเป็นหญ้าหวาน
00:26:24 → 00:26:26 >> อ่านๆน้ำตาลที่ทำมาจากธรรมชาติทั้งหลายอ
00:26:26 → 00:26:29 ครับเยอะๆเดี๋ยวนี้นะครับเนาะก็ใส่ผสม
00:26:29 → 00:26:29 เข้าไปได้ครับ
00:26:29 → 00:26:33 >> โอเอือแล้วก็มีมีรีเสิร์ชอันนึงอ่ะค่ะน่า
00:26:33 → 00:26:36 สนใจมากมีคนบอกว่าเป็นกดไหลย้อนเพราะชอบ
00:26:36 → 00:26:38 กินกระเทียมอันเนี้ยจริงมั้คะ
00:26:38 → 00:26:41 >> จริงครับคือคราวนี้ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม
00:26:41 → 00:26:45 อ่าหอมสดนะครับเนาะอ่าสาระแหน่รู้จักมั้ย
00:26:45 → 00:26:49 ครับสระใบสาระแหน่นะครับเนาะเปเปอร์มิพวก
00:26:49 → 00:26:52 เนี้ยมันเป็นอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในช่อง
00:26:52 → 00:26:55 ท้องนะครับเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยช่วงแรกๆ
00:26:55 → 00:26:58 ถ้าคุณมีอาการพวกนี้อยู่อย่าเพิ่งไปกิน
00:26:58 → 00:27:00 >> นะครับโดยเฉพาะพวกกินสดทั้งหลายกระเทียม
00:27:00 → 00:27:02 สดของสดเนี่ยเอ่อ
00:27:02 → 00:27:05 >> งดไว้ก่อนนะครับมันเกิดสแก๊สแล้วทำให้มัน
00:27:05 → 00:27:07 มีแรงดันในกระเพาะมากยิ่งขึ้นเกิดกดไหล
00:27:07 → 00:27:08 ย้อนได้ครับ
00:27:08 → 00:27:10 >> อมันกินเล็กกินน้อยได้มั้ยคะ
00:27:11 → 00:27:12 >> กินเล็กเล็กขนาดไหนอ่ะ
00:27:12 → 00:27:14 >> คือนิดหน่อยอ่ะคือสมมุติเพราะว่านึกภาพ
00:27:14 → 00:27:19 เลยเวลาไปชาบูอ่ะมันไม่จมน้ำจิ้มใส่พริก
00:27:19 → 00:27:19 กระเทียมไม่ได้
00:27:19 → 00:27:21 >> อ๋อถ้ามันน้ำจิ้มมันก็คือน้อยมากนะครับ
00:27:22 → 00:27:23 เนาะอันนี้กินได้แต่ไม่ใช่แบบกินสดอ่ะ
00:27:23 → 00:27:26 เหมือนเหมือกินผักสดอะไรอย่างเงี้ยเอออัน
00:27:26 → 00:27:28 นี้เราก็ไม่แนะนำนะครับแล้วก็สุดท้ายค่ะ
00:27:28 → 00:27:30 อยากถามว่านอกจากอันนี้เรามีประเด็น
00:27:30 → 00:27:32 เรื่องกล้วยนะซึ่งรู้สึกว่าเป็นความรู้
00:27:32 → 00:27:34 ใหม่มากคือกล้วยกินได้แต่เราต้องดูว่าเรา
00:27:34 → 00:27:36 เรากินแบบดิบหรือว่ากินแบบเค้าเรียกว่า
00:27:36 → 00:27:40 อะไรอ่ะแบบหง่อมแบบว่าโอ้โหนะคะก็เลยอยาก
00:27:40 → 00:27:42 รู้ว่ามันมีความเข้าใจผิดอันไหนที่คุณหมอ
00:27:42 → 00:27:45 อาจจะเคยเจอคนไข้มาถามถึงเรื่องอาหารและ
00:27:45 → 00:27:46 กดไลย้อนบ้างมั้คะ
00:27:46 → 00:27:49 >> อย่างแรกคนไข้ก็จะบอกว่า
00:27:49 → 00:27:51 ไม่กินเนื้อสัตว์ไม่กินอะไรกินแต่ผัก
00:27:51 → 00:27:52 อย่างเดียว
00:27:52 → 00:27:54 >> เพื่อช่วยเรื่องของกดไหลย้อนจริงๆก็ไม่
00:27:54 → 00:27:56 ใช่นะครับเนาะเรายังกินสามารถกินเนื้อ
00:27:56 → 00:27:58 สัตว์ได้แค่เลือกว่าอะไรที่มันย่อยได้
00:27:58 → 00:28:01 ง่ายนะครับคุณกินผักแล้วผลไม้อย่างเดียว
00:28:01 → 00:28:02 เนี่ยสารอาหารคุณก็จะขาด
00:28:02 → 00:28:05 เพราะฉะนั้นเราก็แนะนำนะครับว่าควรกิน
00:28:05 → 00:28:08 อาหารหลากหลายหมู่อยู่ดีแต่ต้องเลือกกิน
00:28:08 → 00:28:10 นะครับเนอันที่ 2 เนี่ยเขาบอกว่าไม่ควร
00:28:11 → 00:28:13 ออกกำลังกายหลังจากที่คุณกินข้าวเสร็จ
00:28:13 → 00:28:15 เพราะมันทำให้เกิดกดไหลย้อนจริงๆมันก็ไม่
00:28:15 → 00:28:18 ใช่นะครับเนาะคือโอเคมันมีการออกกำลังกาย
00:28:18 → 00:28:20 บางอย่างที่คุณไม่ควรทำหลังจากที่คุณกิน
00:28:21 → 00:28:23 เสร็จอิ่มๆนะครับแต่อย่างน้อยเวลาที่คุณ
00:28:23 → 00:28:25 กินเสร็จเรียบร้อยแล้วเนี่ยควรเดินบ้าง
00:28:25 → 00:28:27 ไม่ใช่นั่งและนอนอย่างเดียวนะครับยังไง
00:28:27 → 00:28:29 อันนั้นก็จะทำให้เกิดกดไหลย้อนนะครับส่วน
00:28:29 → 00:28:34 อันสุดท้ายคนยังคิดกันเยอะมากเข้าใจผิดๆ
00:28:34 → 00:28:35 เยอะมาก
00:28:35 → 00:28:37 หมอค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูบบุหรี่ไม่
00:28:37 → 00:28:41 เกี่ยวค่ะไม่ทำให้เป็นกฎไหลย้อนค่ะมัน
00:28:41 → 00:28:42 เกี่ยวอยู่แล้วนะครับ
00:28:42 → 00:28:43 >> ความเชื่อนี้เอามาจากไหน
00:28:43 → 00:28:45 >> เออมันเกี่ยวอยู่แล้วนะครับเนาะเครื่อง
00:28:45 → 00:28:47 ดื่มแอลกอฮอล์กับสูบบุหรี่ยังไงเนี่ยมัน
00:28:47 → 00:28:49 ก็จะทำให้คุณเป็นกฎไหลย้อนอยู่ดีครับ
00:28:50 → 00:28:52 >> อืโอเคอันงั้นทุกคนคะอันนี้คือความเชื่อ
00:28:52 → 00:28:55 ที่ถูกต้องนะคะเข้าใจเข้าใจใหม่เนาะ
00:28:55 → 00:28:57 >> โอเคค่ะคำถามต่อมาค่ะคุณหมอคำถามสุดท้าย
00:28:57 → 00:29:00 แล้วค่ะอันนี้นะคะเป็นคุณตาค่ะคุณตามี
00:29:00 → 00:29:04 อาการกดไหลย้อนค่อนข้างรุนแรงเลยค่ะบาง
00:29:04 → 00:29:07 คืนเนี่ยเอนตัวนอนแทบไม่ได้เลยค่ะล่าสุด
00:29:07 → 00:29:10 เนี่ยมีคนแนะนำว่าให้แกว่งแขนวันละ 15
00:29:10 → 00:29:13 นาทีรักษากดไหลย้อนได้โอ้โหที่นี่แกว่งใย
00:29:13 → 00:29:15 เลยค่ะอืแกงแกว่งทั้งวันเลยค่ะแล้วอยากจะ
00:29:15 → 00:29:18 ถามคุณหมอว่าวิธีน่ะมันช่วยได้จริงไมคะ
00:29:18 → 00:29:20 แล้วค่าคนเป็นกรดไหลย้อนเนี่ยพอดีกับที่
00:29:20 → 00:29:22 คุณหมอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้เลยควรจะออก
00:29:22 → 00:29:23 กำลังกายยังไงดีคะ
00:29:23 → 00:29:25 >> อ่าสำหรับคนที่เป็นกดไหลย้อนนะครับอย่าง
00:29:25 → 00:29:28 แรกที่เราไม่แนะนำเลยนะครับไม่ควรก็คือ
00:29:28 → 00:29:31 ออกกำลังกายแบบหนักหลังจากที่คุณกินข้าว
00:29:31 → 00:29:34 เสร็จนะครับเนาะไม่ว่าจะเป็นการวิ่งนะ
00:29:34 → 00:29:36 ครับ Training หรือว่าอ่ายิมนาสติเลย
00:29:36 → 00:29:39 ตีลังกาเลยอย่างเงี้ยมันไม่ควรนะครับแล้ว
00:29:39 → 00:29:42 คุณกินอิ่มๆมาแล้วถ้าคุณไปออกกำลังกายแบบ
00:29:42 → 00:29:43 วิ่งเยอะๆไม่
00:29:43 → 00:29:45 >> น่ามีใครทำมอกินเสร็จปุ๊บตี้แล้ว
00:29:45 → 00:29:48 >> หมอไม่รู้ไงเผื่อมีแบบเอ่อนักกีฬาหรือใคร
00:29:48 → 00:29:51 ที่แบบอยากอยากหมุนตัวเองอยากอะไรอยาก
00:29:51 → 00:29:54 ซ้อมไงซ้อมอะไรอย่างเงี้ยคือการที่คุณออก
00:29:54 → 00:29:56 กำลังกายแบบหนักๆพวกนั้นนะครับมันไปเพิ่ม
00:29:56 → 00:29:58 แรงดันในช่องท้อง
00:29:58 → 00:29:58 >> อ
00:29:58 → 00:30:00 >> ทำให้อาหารที่มันกำลังจะย่อยมันไม่ย่อย
00:30:00 → 00:30:03 แล้วมันย่อนออกมานะครับเนาะเพราะฉะนั้นอ
00:30:03 → 00:30:06 >> อะไรที่ออกกำลังกายหนักนะครับก็ไม่ควรทำ
00:30:06 → 00:30:07 หลังจากคุณกินข้าวเสร็จ
00:30:07 → 00:30:10 >> คราวนี้เรามาดูออกกำลังกายที่มันควรทำดี
00:30:10 → 00:30:11 กว่านะครับ 1 เดินครับ
00:30:12 → 00:30:14 >> ใครๆก็ทำได้ควรเดินมากกว่ามันช่วยเรื่อง
00:30:14 → 00:30:17 ของระบบการย่อยนะครับการยืดเส้นยืดสายไป
00:30:17 → 00:30:19 ด้วยการแบบเล่นโยคะอย่างเงี้ยโอเคนะมัน
00:30:19 → 00:30:22 ไม่ได้แย่มากนะครับแต่ไม่ใช่แบบโยคะตี
00:30:22 → 00:30:24 ลังกาอะไรเงี้ยก็ไม่ใช่นะครับเนาะอันสุด
00:30:24 → 00:30:26 ท้ายปั่นจักรยานอยู่กับที่
00:30:26 → 00:30:28 >> อ่าเครื่องปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือว่า
00:30:28 → 00:30:31 อยู่ในสระว่ายน้ำที่เดินไปเดินมาอันนี้
00:30:31 → 00:30:33 ไม่มีปัญหานะครับอันเนี้ยยังไงก็ควรทำ
00:30:33 → 00:30:33 ครับ
00:30:33 → 00:30:38 >> อืโอเคค่ะก็แปลว่าทำแบบไม่โลดผลมากเกินไป
00:30:39 → 00:30:41 แล้วอยากถามนิดนึงค่ะถ้าสมมุติว่าเรากิน
00:30:41 → 00:30:43 อาหารแล้วเนี่ยเราควรจะทิ้งช่วงระยะเวลา
00:30:43 → 00:30:46 สักกี่นาทีหรือชั่วโมงก่อนที่จะออกกำลัง
00:30:46 → 00:30:47 กายจะรับคนที่เป็นกดไลอน
00:30:47 → 00:30:49 >> คือห้ามสมมุติแค่เดินเฉยๆครับมันเดินได้
00:30:49 → 00:30:52 เลยแต่ว่าถ้าคุณจะไปแบบเวท training ไป
00:30:52 → 00:30:54 วิ่งอย่างเงี้ยเราปกติเขาก็จะแนะนำว่า
00:30:54 → 00:30:55 อย่างน้อย 2 ช่โมงครับ
00:30:55 → 00:30:58 >> ถึงจะไปออกกำลังกายแบบที่คุณต้องการแบบ
00:30:58 → 00:31:01 หนักแล้วนะครับคราวนี้เรามาพูดถึงเรื่อง
00:31:01 → 00:31:03 ของคุณลุงคนนี้บอกว่าแกว่งแขนเนี่ยไม่
00:31:03 → 00:31:05 ช่วยมันอยู่กับที่ยกเว้นคุณ
00:31:05 → 00:31:08 >> คุณลุงเขาเดินไปแกว่งไปอ้าอันนี้โอเคแต่
00:31:08 → 00:31:11 ถ้าคุณแบบอย่างเงี้ยอยู่กับที่
00:31:11 → 00:31:15 >> เอาจจะคิดว่ามันช่วยแบบทำให้กดลงกดกรดกรด
00:31:15 → 00:31:17 ลงไปกรดลงไปอย่างงี้ไม่ใช่
00:31:17 → 00:31:20 >> ก็ไม่ไม่ใช่นะมันมันแก่งให้ข้างบนเฉยๆนะ
00:31:20 → 00:31:21 ครับเนาะ
00:31:21 → 00:31:23 >> อ่าส่วนเรื่องของการนอนก็สำคัญเหมือนกัน
00:31:23 → 00:31:25 ที่เมื่อกี้เขาบอกว่า
00:31:25 → 00:31:27 >> เอนแทบไม่ได้เลยค่ะแต่
00:31:27 → 00:31:28 >> ว่าแบบนอน
00:31:28 → 00:31:29 ลาบไม่ได้ใช่
00:31:29 → 00:31:31 >> อคราวนี้สำหรับคนที่เป็นกฎไหลย้อนนะครับ
00:31:31 → 00:31:34 แล้วหลายคนก็จะเข้าใจว่าเออเอาแบบให้หมอน
00:31:34 → 00:31:35 สูงๆ
00:31:35 → 00:31:36 >> อื
00:31:36 → 00:31:38 >> อาหารจะไม่ต้องตีขึ้นมาแต่จริงๆอ่ะ
00:31:38 → 00:31:40 อันเนี้ยเป็นการเข้าใจที่แบบผิดๆนะครับ
00:31:40 → 00:31:44 เนาะการที่คุณจะแบบให้นอนได้ดีและไม่มี
00:31:44 → 00:31:47 อาการเรื่องของกดไหลย้อนเนี่ยปกติเนี่ย
00:31:47 → 00:31:49 ต้องเอาอะไรเหมือนเหมือท่อนไม้หรือว่า
00:31:49 → 00:31:52 อะไรหนาๆหน่อยอย่างน้อยต้อง 6 นิ้วขึ้น
00:31:52 → 00:31:52 >> อื
00:31:52 → 00:31:57 >> นะครับมาไว้ที่หลังเราหัวของเราเลยไม่ใช่
00:31:57 → 00:31:59 แค่หัวของเราเนาะไม่ใช่แค่หมอเนาะหมอสุ
00:31:59 → 00:32:02 ไม่ใช่แต่ตั้งแต่สข้างบนครึ่งบนของเรา
00:32:02 → 00:32:04 ต้องดันมันขึ้นมา
00:32:04 → 00:32:07 >> เหมือนเตียงตัวเนี้ยถูกต้องเวลาที่เหมือน
00:32:07 → 00:32:09 เตียงโรงพยาบาลอ่ะครับเนาะก็คือเวลาที่
00:32:09 → 00:32:11 คุณมีอาการกดไหลย้อนเนี่ยคือครึ่งตัวข้าง
00:32:11 → 00:32:13 บนน่ะมันต้องขึ้นมาทั้งหมดไม่ใช่แค่ขึ้น
00:32:13 → 00:32:14 แค่หัว
00:32:14 → 00:32:16 >> คราวนี้ถ้าขึ้นแค่หัวอย่างเดียวอ่ะครับ
00:32:16 → 00:32:18 มันจะมีแรงดัน
00:32:18 → 00:32:19 >> ลงไปที่ท้องมากกว่าเดิมอีก
00:32:19 → 00:32:21 >> กดมากกว่าเดิมอีก
00:32:21 → 00:32:22 >> ใช่นะครับเนาะเพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่เอา
00:32:22 → 00:32:25 หมอนมันต้องขึ้นมาทั้งตัวแล้วคุณก็นอนแบบ
00:32:25 → 00:32:28 นอนทั้งตัวแบบนี้เชื่อว่าหลายคนเข้าใจผิด
00:32:28 → 00:32:30 นะคะแล้วก็ทุกวันเนี้ยที่นอนอยู่อ่ะนอน
00:32:30 → 00:32:32 ผิดทำให้กดไหลย้อนหนักขึ้น
00:32:32 → 00:32:33 >> ถูกต้องครับ
00:32:33 → 00:32:36 >> อืก็แปลว่าต้องขึ้นมาอย่างน้อยครึ่งท่อน 2
00:32:36 → 00:32:40 ตัวโอเคโหวันนี้ได้ความรู้เยอะมากเลยค่ะ
00:32:40 → 00:32:43 เกกดกดไหลยอแล้วเชื่อว่าเป็นโลกยอดทิศ
00:32:43 → 00:32:45 >> จะเป็นแล้วครับรู้สึกเป็นแล้วพูดแล้วเป็น
00:32:45 → 00:32:46 เลย
00:32:46 → 00:32:48 >> เดี๋ยวไม่ได้ไม่ได้นะคะก็สำหรับใครนะคะ
00:32:48 → 00:32:51 ที่มีคำถามเรื่องกดไหลยอนะคะหรือว่าคำถาม
00:32:51 → 00:32:53 อื่นๆที่อยากจะถามหมอจิมมี่นะคะก็สามารถ
00:32:53 → 00:32:55 พิมพ์เข้ามาได้ในช่องคอมเมนต์นะคะเดี๋ยว
00:32:55 → 00:32:57 ทีมงานจะรวบรวมมาถามคุณหมอใน EP EP หน้า
00:32:57 → 00:33:00 สำหรับ EP นี้นะคะลากันไปก่อนแล้วเดี๋ยว
00:33:00 → 00:33:01 เจอกันใหม่สวัสดีค่ะ
00:33:01 → 00:33:05 >> สวัสดีครับ