00:00:00 → 00:00:04 ข้าวหมาก หรือว่าข้าวเหนียวหมักหวาน เป็น อาหารดั้งเดิมของไทยที่นิยมกินกัน ที่ข้าวหมาก
00:00:04 → 00:00:09 จัดเป็นโปรไบโอติกเพราะว่าข้าวหมากมี แบคทีเรียสำคัญคือแบคทีเรียในกลุ่มสร้าง
00:00:09 → 00:00:14 กรดแลคติก ก็เช่นพวกแลคโตบาซิลัส กรีกโยเกิร์ตเป็นโยเกิร์ตแบบหนึ่งที่ทำให้ข้นขึ้น
00:00:14 → 00:00:20 เนื้อสัมผัสแน่นขึ้นที่เรียกกันว่า Strained yogurt แบคทีเรียบางตัวนะครับ
00:00:20 → 00:00:26 สามารถแยกพันธะกรดน้ำดี ทำให้กรดน้ำดีถูก ทิ้งไปกับอุจจาระ พอร่างกายสร้างกรดน้ำดี
00:00:26 → 00:00:29 ขึ้นมาใหม่ ก็จะดึงเอาคอเลสเตอรอล จากเลือดมาใช้
00:00:29 → 00:00:31 ก็เลยทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดของเรา
00:00:31 → 00:00:36 ลดลงนั่นเองครับ สวัสดีครับขอต้อนรับเข้า สู่หมออ๊อกบอกเล่า คลิปนี้ผมจะชวนคุยเรื่อง
00:00:36 → 00:00:41 โปรไบโอติกครับ ทั้งในเรื่องของข้าวหมาก แล้วก็ส้มผักของไทย แล้วก็อาหารโปรไบโอติก
00:00:41 → 00:00:46 อื่นๆอีกหลายอย่างเช่นโยเกิร์ตแล้วก็กรีก โยเกิร์ต เรามาดูกันว่าโปรไบโอติกคืออะไร
00:00:46 → 00:00:53 ประโยชน์คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจ และผมก็จะ เล่าว่าโปรไบโอติกมีประโยชน์กับร่างกายยังไง
00:00:53 → 00:00:57 และก็จะยกตัวอย่างงานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้วยครับ สุดท้ายก็จะพูดเรื่องใครที่ควรหลีกเลี่ยง
00:00:57 → 00:01:02 หรือควรระวังในการกินโปรไบโอติก ท่านใดที่กำลังกินโปรไบโอติกอยู่ หรือคิด
00:01:02 → 00:01:07 จะเริ่มกินเพื่อประโยชน์กับสุขภาพ ก็น่าจะ ได้อะไรจากคลิปนี้ไปไม่มากก็น้อยนะครับ
00:01:07 → 00:01:09 ใครที่มีความเห็น มีคำถาม
00:01:09 → 00:01:13 หรือว่าอยากแชร์ประสบการณ์ การกินโปรไบโอติก ก็ฝากเม้นต์มาได้เลยนะครับ
00:01:13 → 00:01:21 คำว่าโปรไบโอติก เราสามารถแยกได้เป็น 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคือคำว่าโปรแปลว่าสำหรับ
00:01:21 → 00:01:27 หรือเพื่อ กับอีกส่วนหนึ่งก็คือไบโอหมายถึง ชีวิต คำโปรไบโอติกโดยคำศัพท์จึงแปลว่า
00:01:27 → 00:01:32 เพื่อชีวิต โปรไบโอติกหมายถึงกลุ่ม จุลินทรีย์ที่มีชีวิตได้แก่กลุ่ม
00:01:32 → 00:01:37 แบคทีเรียหรือว่ายีสต์ ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ ที่พิสูจน์แล้วว่าดีกับเราที่เมื่อเรากิน
00:01:37 → 00:01:42 เข้าไปในจำนวนที่เพียงพอและเหมาะสม ก็จะ เป็นประโยชน์กับสุขภาพ ลักษณะของจุลินทรีย์
00:01:42 → 00:01:46 ที่เราจะเรียกว่าโปรไบโอติก จะต้องเป็น จุลินทรีย์ที่สามารถอาศัยอยู่ในร่างกายเราได้
00:01:46 → 00:01:50 แล้วก็มีความปลอดภัยกับเราด้วย เรามาดูกันว่า
00:01:50 → 00:01:53 ประโยชน์โดยภาพใหญ่ของ โปรไบโอติกมีอะไรกันบ้างครับ
00:01:53 → 00:01:58 อันแรกก็คือช่วยในระบบทางเดิน อาหารครับ ขัดขวางแบคทีเรียที่ไม่ดีที่จะ
00:01:58 → 00:02:04 ทำให้เราเป็นโรค ลดการติดเชื้อในลำไส้ ทำให้สมดุลในลำไส้ดีขึ้น แล้วก็ยังช่วยใน
00:02:04 → 00:02:09 เรื่องของท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด หรือว่า แก๊สในท้อง โปรไบโอติกยังช่วยเรื่องสมอง
00:02:09 → 00:02:14 ด้วยนะครับ ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ ลดความ กังวล แล้วก็ทำให้ความสามารถทาง
00:02:14 → 00:02:21 สติปัญญาดีขึ้น นอกจากนี้แล้วโปรไบโอติก ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ด้วย ในทางผิวหนัง
00:02:21 → 00:02:26 โปรไบโอติกยังช่วยเรื่องสิวแล้วก็ผืนแพ้ ได้ด้วยครับ โปรไบโอติกมีประโยชน์เยอะเลย
00:02:26 → 00:02:31 นะครับ แต่จริงๆแล้วประโยชน์ของโปรไบโอติก ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของจุลินทรีย์ด้วย
00:02:31 → 00:02:36 ซึ่งรายละเอียดพวกนี้ผมจะเล่าท้ายคลิปอีก ครั้งนะครับ และผมก็จะยกตัวอย่างงานวิจัย
00:02:36 → 00:02:41 ที่เกี่ยวข้องด้วย อาหารที่เป็นโปรไบโอติก มีหลายอย่างเลย และแต่ละประเทศก็มีอาหาร
00:02:41 → 00:02:47 ที่เป็นโปรไบโอติกของตัวเอง ขอเริ่มที่ ข้าวหมากของไทยก่อนเลยครับ ข้าวหมากหรือ
00:02:47 → 00:02:52 ว่าข้าวเหนียวหมักหวานเป็นอาหารดั้งเดิม ของไทยที่นิยมกินกัน การทำข้าวหมากนอกจาก
00:02:52 → 00:02:57 จะใช้ข้าวเหนียวแล้วก็ใช้ส่วนประกอบที่ สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือลูกแป้งหรือว่า
00:02:57 → 00:03:00 ลูกแป้งข้าวหมาก ลูกแป้งคือ กลุ่มของแบคทีเรีย
00:03:00 → 00:03:02 ยีสต์และอาจจะมีสมุนไพรที่ใส่เข้าไป
00:03:02 → 00:03:07 ในข้าวเหนียว เพื่อทำให้จุลินทรีย์พวกนี้ เปลี่ยนแป้งในข้าวเหนียวให้กลายเป็นน้ำตาล
00:03:07 → 00:03:11 แล้วก็เปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็น แอลกอฮอล์อีกทีนึง ทำให้ข้าวหมากมีความ
00:03:11 → 00:03:17 หวานแล้วก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์นั่นเอง ตัวลูกแป้ง มีความหลากหลายแล้วก็มีความแตกต่าง
00:03:17 → 00:03:23 กันด้วยนะครับ ก็เลยทำให้ข้าวหมากแต่ละที่ มีกลิ่นแล้วก็มีรสสัมผัสที่แตกต่างกัน
00:03:23 → 00:03:26 ที่ข้าวหมากจัดเป็นโปรไบโอติกเพราะว่า ข้าวหมากมีแบคทีเรียสำคัญคือแบคทีเรีย
00:03:26 → 00:03:31 ในกลุ่มสร้างกรดแลคติก ก็เช่นพวก แลคโตบาซิลัส และในข้าวหมาก
00:03:31 → 00:03:35 ก็มีกรดแลคติกและมีพวกกรดไขมันสายสั้น ที่จะช่วยในเรื่องของ
00:03:35 → 00:03:39 สมดุลแบคทีเรียในลำไส้ และก็ยับยั้งพวกแบคทีเรียที่จะทำ
00:03:39 → 00:03:44 ให้เกิดโรคได้ครับ มีงานวิจัยของไทยที่ยืนยัน ว่าข้าวหมากช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ไม่ดีได้
00:03:44 → 00:03:50 เป็นงานวิจัยของอาจารย์พิชญ์แล้วก็ อาจารย์พรพรรณ งานวิจัยได้เอาข้าวหมากจาก
00:03:50 → 00:03:55 ข้าวเหนียวขาวและข้าวหมากข้าว ไรซ์เบอร์รี่มาแยกเชื้อยีสต์ออกมาปรากฏว่า
00:03:55 → 00:03:59 ยีสต์บางตัวที่แยกออกมานั้นนะครับ มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
00:03:59 → 00:04:04 อีโคไลน์ ซึ่งเจ้าเชื้อแบคทีเรียอีโคไลน์ตัวนี้ นะครับมักจะปนเปื้อนในอาหารที่ไม่สะอาด
00:04:04 → 00:04:10 ครับทำให้คนกินท้องเสียรุนแรงได้ การที่ ข้าวหมากมียีสต์ในกลุ่มนี้นะครับ ก็เลยจะช่วย
00:04:10 → 00:04:15 ยับยั้งแบคทีเรียตัวนี้ได้ อาหารโปรไบโอติก พื้นบ้านของไทยนอกจากข้าวหมาก
00:04:15 → 00:04:21 แล้วก็มีส้มผัก ส้มผักคืออาหารพื้นเมือง ทั้งภาคอีสานแล้วก็ภาคเหนือ ทำโดยการเอา
00:04:21 → 00:04:25 ผักมาใส่เกลือ อาจจะใส่ข้าวเหนียวนึ่งหรือ บางที่ก็ใส่แค่น้ำแช่ข้าวเหนียวเพื่อให้
00:04:25 → 00:04:30 มีรสชาติเปรี้ยวแล้วก็มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ของส้มผัก ซึ่งตรงนี้ทำให้
00:04:30 → 00:04:36 แตกต่างกับกิมจิครับ จริงๆกิมจิก็แตกต่าง กับส้มผักอีกบางอย่างนะครับ อันที่ 1 เลย
00:04:36 → 00:04:43 ก็คือผักที่ใส่ก็แตกต่างกันเล็กน้อยและ กิมจิก็จะใส่พริกป่นเกาหลีที่เรียกว่าโกจูการู
00:04:43 → 00:04:49 ซึ่งเป็นพริกที่มีลักษณะเฉพาะแล้วก็แตกต่าง จากพริกป่นทั่วไปครับ มีท่านใดที่ชอบ
00:04:49 → 00:04:55 ทานข้าวหมาก ส้มผัก หรือว่ากิมจิไหมครับ ทำไมถึงชอบหรือทำไมบางท่านถึงไม่ชอบ
00:04:55 → 00:05:00 ช่วยเม้นต์มาบอกเล่ากันนะครับ คราวนี้มาดู อาหารโปรไบโอติกที่เกี่ยวข้องกับนมบ้างครับ
00:05:00 → 00:05:06 นอกจากนมเปรี้ยวหรือว่าพวกโยเกิร์ต ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีแล้ว ก็มีอีกอันนึง
00:05:06 → 00:05:10 ที่พูดถึงกันเลยก็คือกรีกโยเกิร์ต คือ กรีกโยเกิร์ตจริงๆแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวกับ
00:05:10 → 00:05:16 ประเทศกรีซอะไรมากมายนักนะครับ เป็นเรื่อง ของ branding ซะมากกว่า คือโยเกิร์ตประเภท
00:05:16 → 00:05:21 นี้เป็นโยเกิร์ตแบบนึงที่ทำให้ข้นขึ้น เนื้อสัมผัสแน่นขึ้นที่เรียกกันว่า Strained yogurt
00:05:21 → 00:05:27 Strained yogurt มีหลายแบบครับในประเทศ ต่างๆก็มีชื่อเรียก Strained yogurt เป็นชื่อของ
00:05:27 → 00:05:34 ตนเอง โยเกิร์ตพวกนี้มักจะมีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ต ทั่วไป มีน้ำตาลน้อยกว่า และก็มักจะมีจำนวน
00:05:34 → 00:05:39 โปรไบโอติกมากกว่า เพราะบางสูตรเนี่ยก็ ตั้งใจเติมโปรไบโอติกเข้าไปด้วย จำนวน
00:05:39 → 00:05:43 มากกว่าก็จริง แต่ความหลากหลายของ โปรไบโอติกเมื่อเทียบกับข้าวหมาก ส้มผัก
00:05:43 → 00:05:49 หรือกิมจิแล้ว Strained yogurt ก็มักจะมี ความหลากหลายน้อยกว่าครับ ใครที่ชอบอาหาร
00:05:49 → 00:05:55 อินเดียก็ต้องรู้จักดาฮี ดาฮีอาจจะเรียกว่า เป็นโยเกิร์ตพื้นเมืองของชาวอินเดีย
00:05:55 → 00:05:58 จริงๆนอกจากอินเดียแล้วเนี่ย ดาฮีก็ยังกิน ในหลายประเทศแถวนั้นด้วยนะครับ เช่น
00:05:58 → 00:06:05 ปากีสถานหรือว่าบังกลาเทศ ดาฮีทำโดยเอานม มาใส่หัวเชื้อแบคทีเรีย หรือว่าใส่ดาฮี
00:06:05 → 00:06:11 เก่าเข้าไป หรือว่าใส่เพลนโยเกิร์ต แล้วก็ หมักประมาณ 6-10 ชม.ก็จะได้ดาฮีเป็นก้อน
00:06:11 → 00:06:17 หนึบๆแบบนี้ละครับ ถัดจากเอเชียไปหน่อยก็ จะมี Kefif , Kefir เป็นอาหารพื้นเมืองในกลุ่ม
00:06:17 → 00:06:22 ประเทศคอเคซัสหรือปัจจุบันก็คือรัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย หรือว่าอาเซอร์ไบจัน
00:06:22 → 00:06:30 วิธีทำก็คือเขาจะเอานมมาหมักกับ Kefir grain หมักเป็นเวลา 24 ชม ตัว Kefir grain จะมี
00:06:30 → 00:06:35 จุลินทรีย์ตามธรรมชาติอยู่แล้วก็ได้แก่ พวกแลคโตบาซิลัสแล้วก็พวกยีสต์ Kefir นะครับ
00:06:35 → 00:06:41 ได้ชื่อว่าเป็น Champagne of Dairy หรือว่า แชมเปญแห่งผลิตภัณฑ์นมเลย ที่ได้ชื่อแบบนี้
00:06:41 → 00:06:46 ไม่ใช่เพราะเขามีแอลกอฮอล์เยอะนะครับ แอลกอฮอล์แค่ 0.5% เองหรือถ้า homemade
00:06:46 → 00:06:52 อาจจะมากหน่อยก็แค่ 2% แต่ที่ได้ชื่อนี้เพราะว่า Kefir มีความซ่าน้อยๆเพราะมีแก๊ส
00:06:52 → 00:06:58 คาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการหมัก แล้วก็ มีรสชาติพื้นฐานคล้ายๆแชมเปญครับ จะเห็น
00:06:58 → 00:07:02 ว่าแต่ละชาติก็มีอาหารที่เป็นโปรไบโอติกแทบ ทั้งนั้นเลยนะครับ อย่างเช่นญี่ปุ่นก็มี
00:07:02 → 00:07:09 นัตโตะ มิโซะ อามาซาเกะ จีนก็มีโต้วป้านเจี้ยง ตุรกี ไอซ์แลนด์ ประเทศอื่นๆก็มีอาหารเป็น
00:07:09 → 00:07:15 ของตัวเอง นั่นแสดงว่าความเป็นโปรไบโอติก จริงๆแล้วอยู่กับคนเรามาตั้งนานแล้ว คนเรา
00:07:15 → 00:07:20 ได้ประโยชน์จากโปรไบโอติกกันมานานแบบ ไม่รู้ตัว จนตอนนี้นะครับด้วยความก้าวหน้าทาง-
00:07:20 → 00:07:25 วิทยาศาสตร์ ก็เลยทำให้เรารู้และเข้าใจ เรื่องของประโยชน์ของโปรไบโอติกที่ชัดเจนขึ้น
00:07:25 → 00:07:30 คราวนี้มาถึงสิ่งที่หลายคนอาจสงสัยนะครับ ว่าเจ้าโปรไบโอติกที่เรากินเข้าไป
00:07:30 → 00:07:35 ทำให้ระบบย่อยอาหารดีหรือทางเดิน อาหารดี อันเนี้ยเข้าใจได้ไม่ยาก แต่การที่
00:07:35 → 00:07:40 มีผลกับสมอง ไขมันในเลือด หรือว่ามีผลกับ ผิวหนัง เรื่องพวกนี้อธิบายได้
00:07:40 → 00:07:47 ยังไง เรามาดูเรื่องผลกับสมองกันครับ มีการ ศึกษาในคนไข้ที่เป็นอัลไซเมอร์ครับ
00:07:47 → 00:07:52 โดยแบ่งคนไข้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มนึงก็คือให้ กินนมที่ใส่โปรไบโอติก 4 ตัวกับอีกกลุ่ม
00:07:52 → 00:07:58 นึงให้กินนมธรรมดา กินเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มที่กินนมที่ใส่โปรไบโอติกนะครับ
00:07:58 → 00:08:04 มี cognitive function หรือว่าการรับรู้ การตัดสินใจดีขึ้น ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ใส่
00:08:04 → 00:08:11 โปรไบโอติกอย่างมีนัยยะสำคัญ และมีการ ศึกษาในอาสาสมัครอายุ 65 ปี กินโปรไบโอติก
00:08:11 → 00:08:16 เทียบกับอีกกลุ่มที่ไม่ได้กิน พบว่ากลุ่ม ที่กินโปรไบโอติกนะครับ มีระดับความเครียด
00:08:16 → 00:08:19 ลดลง แล้วก็สมองทำงานได้ไวขึ้น
00:08:19 → 00:08:22 เบื้องหลังของโปรไบโอติก ที่มีผลกับสมองนะครับ ก็อธิบายได้
00:08:22 → 00:08:28 จาก gut-brain axis ก็คือแบคทีเรียเนี่ยจะสร้าง สารสื่อประสาทได้ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของอารมณ์
00:08:28 → 00:08:34 การรับรู้ แล้วก็การตัดสินใจ และแบคทีเรียยังสร้างกรดไขมันสายสั้นเช่น butyrate
00:08:34 → 00:08:39 ซึ่งจะช่วยเรื่องของสมองได้ ทำให้ลดการ อักเสบ แล้วก็ช่วย metabolism ของสมอง
00:08:39 → 00:08:45 และระบบประสาท ซึ่งการลดการอักเสบนะครับ ก็จะช่วยในโรคอัลไซเมอร์ได้ และอีกอย่างหนึ่ง
00:08:45 → 00:08:50 ก็คือ การที่ลำไส้ดีขึ้นก็เหมือนกับ เป็นกำแพงที่แน่นหนาขึ้นครับ ที่จะป้องกัน
00:08:50 → 00:08:56 สารพิษจากลำไส้ไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด และไปที่สมอง ก็ถือว่าเป็นการป้องกันสมอง
00:08:56 → 00:09:01 ทางอ้อมครับ แบคทีเรียบางตัวนะครับ เช่น แลคโตบาซิลัส อะซิโดฟิลัส
00:09:01 → 00:09:03 สามารถแยกพันธะกรดน้ำดี
00:09:03 → 00:09:09 ทำให้กรดน้ำดีถูกทิ้งไปกับอุจจาระ ซึ่งส่วน ประกอบของกรดน้ำดีก็คือคอเลสเตอรอล
00:09:09 → 00:09:13 พอกรดน้ำดีถูกทิ้งไป นั่นก็หมายถึงว่า คอเลสเตอรอลนั้นน่ะถูกทิ้งไปด้วย คราวนี้
00:09:13 → 00:09:18 พอร่างกายสร้างกรดน้ำดีขึ้นมาใหม่ ก็จะดึง เอาคอเลสเตอรอลจากเลือดมาใช้ก็เลยทำให้
00:09:18 → 00:09:24 คอเลสเตอรอลในเลือดของเราลดลงนั่นเองครับ มีการทำ Meta-analysis ก็คือการสรุป
00:09:24 → 00:09:27 งานวิจัย จากงานวิจัยทั้งหมด 30 งานวิจัย พบว่า
00:09:27 → 00:09:30 การกินโปรไบโอติกจะช่วยลด Total คอเลสเตอรอล
00:09:30 → 00:09:34 แล้วก็ LDL คอเลสเตอรอลได้ โดยแบคทีเรีย ที่ช่วยเรื่องนี้นะครับ นอกจากแบคทีเรีย
00:09:34 → 00:09:39 ที่ได้พูดไปแล้ว แบคทีเรียตัวอื่นๆในงานวิจัย ที่ช่วยได้ก็มีอีกหลายตัวครับ ตามที่
00:09:39 → 00:09:47 ขึ้นไว้นี้เลย ใครที่กลัวแก่โปรไบโอติกก็อาจจะ ช่วยได้ มีแบคทีเรียหลายตัวที่ช่วย
00:09:47 → 00:09:52 เรื่องนี้ได้ครับ ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ ที่สลายคอลลาเจนได้ ส่วนคนที่มีปัญหา
00:09:52 → 00:09:58 เรื่องสิวหรือว่า eczema โปรไบโอติกหลายตัวนะครับ ก็อาจจะช่วยเรื่องนี้ได้ โดยการลดการ-
00:09:58 → 00:10:05 อักเสบ แล้วก็ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น มีภาวะ นึงนะครับที่เรียกว่า SIBO, SIBO ก็คือภาวะที่
00:10:05 → 00:10:10 แบคทีเรียมากเกินไปในลำไส้เล็ก ทำให้เกิด อาการท้องอืด แน่นท้อง ทำให้การดูดซึมของลำไส้
00:10:10 → 00:10:16 ไม่ดีหรือว่าท้องเสียได้ ซึ่งภาวะเนี่ยโปรไบโอติก บางกลุ่มนะครับสามารถช่วยได้
00:10:16 → 00:10:22 แต่ยังไงก็ต้องใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะนะครับ และสุดท้ายนะครับ มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย
00:10:22 → 00:10:28 ไม่มีอะไรที่เหมาะกับทุกคน เรามาดูกัน นะครับว่า การใช้โปรไบโอติกต้องพิจารณา
00:10:28 → 00:10:33 อะไรเพิ่มเติมบ้าง ใครที่มีภาวะท้องอืด แน่นท้องอยู่แล้ว การกินโปรไบโอติกบางตัว
00:10:33 → 00:10:38 อาจจะทำให้อาการแย่ลงได้ครับ และโปรไบโอติก ก็คือจุลชีพเพราะฉะนั้นจึงไม่เหมาะกับ
00:10:38 → 00:10:44 คนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันไม่ดี คนที่มีภาวะ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้รับเคมีบำบัด หรือ
00:10:44 → 00:10:49 ว่ากินยากดภูมิหรือว่ากินยาปรับภูมิ และคน ที่มีโรคบางอย่างนะครับ เช่นตับอ่อนอักเสบ
00:10:49 → 00:10:55 รุนแรง ลำไส้แปรปวน หรือว่าลำไส้ใหญ่อักเสบ คนที่เป็นโรคพวกนี้ก็ต้องระวังหรือว่า
00:10:55 → 00:11:01 หลีกเลี่ยงนะครับ และถ้าเรากำลังกินยา ฆ่าเชื้อราเชื้อยีสต์ หรือว่ายาปฏิชีวนะอยู่ก็
00:11:01 → 00:11:06 ต้องหลีกเวลาการกินยากับการกินโปรไบโอติก ให้ดี เพราะถ้ากินพร้อมกันหรือใกล้กัน
00:11:06 → 00:11:12 ยาที่เรากินเข้าไป ก็จะฆ่าโปรไบโอติกได้ และ คนที่ไวกับฮิสตามีนนะครับ คือเจอฮิสตามีน
00:11:12 → 00:11:17 ก็จะมีอาการปวดศีรษะ ผิวแดงคัน มีอาการ คัดจมูกอย่างนี้เป็นต้น สายพันธุ์ของ
00:11:17 → 00:11:23 โปรไบโอติกบางอย่างก็อาจจะก่อให้เกิด อาการพวกนี้ได้ครับ จะเห็นว่าโปรไบโอติก
00:11:23 → 00:11:27 ไม่ได้ช่วยเรื่องของระบบทางเดินอาหาร อย่างเดียว แต่ก็ยังช่วยเรื่องของสุขภาพ
00:11:27 → 00:11:32 อื่นๆด้วย แต่ประโยชน์ของโปรไบโอติกก็ขึ้น อยู่กับชนิดของแบคทีเรียด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่า
00:11:32 → 00:11:37 โปรไบโอติกทุกตัวจะให้ผลเหมือนกัน โปรไบโอติกคือสิ่งที่มีประโยชน์
00:11:37 → 00:11:41 แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน เพราะงั้นต้องเลือกใช้โปรไบโอติก
00:11:41 → 00:11:44 ให้เหมาะสมกับตัวเอง และสุขภาพของตัวเองด้วยครับ
00:11:44 → 00:11:50 ขอบคุณที่รับชมครับ ถ้าชอบคลิปนี้หรือ เห็นว่าคลิปนี้มีประโยชน์ ก็รบกวนช่วยกด
00:11:50 → 00:11:56 ไลก์หรือช่วยแชร์ด้วยนะครับ ใครที่มีความเห็น ข้อเสนอแนะอะไรก็เมนต์มาได้เลย พบกัน
00:11:56 → 00:12:04 ใหม่คลิปหน้าครับ สวัสดีครับ [เพลง]