00:00:00 → 00:00:03 ร่างกายของเราเนี่ยสร้างวิตามิน B12 ไม่
00:00:03 → 00:00:05 ได้แล้วถ้าขาดเนี่ยเราจะมีอาการอย่างงั้น
00:00:05 → 00:00:09 อย่างี้ทำยังไงดีอ่ะง่ายๆก่อนถ้าเกิดว่า
00:00:09 → 00:00:12 เราขาดวิตามิน B12 ให้สังเกตตัวเองง่ายๆ
00:00:12 → 00:00:16 อย่างี้คุณจะมีอาการผิวซีดเหนื่อยง่ายไม่
00:00:16 → 00:00:19 ค่อยมีแรงบางคนเบื่ออาหารนะมักหน้ามืด
00:00:19 → 00:00:23 บ่อยๆอย่างเงี้ยก็เป็นไปได้แล้วคนที่อายุ
00:00:23 → 00:00:26 เยอะๆ 50-60 บวกเนี่ยถ้าขาดวิตามิน B12
00:00:26 → 00:00:28 เนี่ยหมอเฟิร์นเจอบ่อยมากก็คือจะมีอาการ
00:00:28 → 00:00:32 ชาปลายมือปลายเท้าเค้าก็มักจะบ่นว่ามัน
00:00:32 → 00:00:35 รู้สึกแบบช้าๆเหมือนมีเข็มทิ่มตลอดเวลา
00:00:35 → 00:00:37 เลยเนาะถ้าคุณเป็นอยู่ไหนลองสำรวจดูว่า
00:00:37 → 00:00:40 คุณมีอาการข้างต้นที่หมอเฟิร์นพูดไปมย
00:00:40 → 00:00:44 เพราะวิตามิน B12 เนี่ยมันมีบทบาทโดยตรง
00:00:44 → 00:00:47 เลยนะที่จะไปช่วยในเรื่องของการสร้างเม
00:00:47 → 00:00:51 เลือดแดงใหม่ในเรื่องของการสร้าง DNA DNA
00:00:51 → 00:00:54 นี่เหมือนเป็น Blue Print ก็คือเป็นยัง
00:00:54 → 00:00:55 ไง
00:00:56 → 00:00:59 อ่ะโอเคแปลอังกฤษเป็นอังกฤษแล้วกันของ
00:00:59 → 00:01:03 ร่างกายเราเลยถ้า DNA ถูกสร้างมาผิดปกติ
00:01:03 → 00:01:05 เงี้ยก็อาจจะเปลี่ยนโครงสร้างอาจจะเกิด
00:01:05 → 00:01:07 โรคอย่างเช่นมะเร็งได้ในอนาคตเนาะแล้วก็
00:01:07 → 00:01:11 มีบทบาทในการเกี่ยวกับระบบเผาผลาญด้วย
00:01:11 → 00:01:15 อย่างี้ซึ่งมันสำคัญมากๆดังนั้นเราจำเป็น
00:01:15 → 00:01:19 ที่จะต้องได้รับวิตามิน B12 อย่างเพียงพอ
00:01:20 → 00:01:23 ถ้าใครที่ขาดก็สามารถทานเสริมได้แต่ก่อน
00:01:23 → 00:01:26 ที่คุณจะซื้อเนี่ยให้คุณสำรวจตัวเองดู
00:01:26 → 00:01:29 ก่อนว่าคุณขาดมั้ยถ้าคุณกินหาเหล่านี้
00:01:29 → 00:01:31 อยู่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อเสียเงินฟรีก็
00:01:31 → 00:01:33 ได้เพราะคุณได้รับโอเคอยู่แล้วเนาะเดี๋
00:01:33 → 00:01:36 มาเฟิร์นเอาอาหารมาให้ 7 อย่างแล้วเดี๋ยว
00:01:36 → 00:01:39 สรุปให้ท้ายคลิปด้วยขอบอกอีกอย่างหนึ่งก็
00:01:39 → 00:01:44 คือส่วนใหญ่แล้วนะคนที่ขาดวิตามิน B12
00:01:44 → 00:01:47 เนี่ยมาจากอะไรได้บ้างบอกเหตุผลหลักๆแป๊บ
00:01:47 → 00:01:51 เดียวข้อแรกก็คือคุณกินอาหารไม่เพียงพอ
00:01:51 → 00:01:55 ที่ให้วิตามิน B12 นะข้อ 2 ก็คืออาจจะมี
00:01:55 → 00:01:58 ในบางคนมีปัญหาในการดูดซึมวิตามิน B12 พอ
00:01:58 → 00:02:01 คุณกินเข้าไปกินเท่าไหร่มันก็ไม่พอเพราะ
00:02:01 → 00:02:04 ร่างกายดูดซึมได้น้อยอาจจะมาจากการที่คุณ
00:02:04 → 00:02:08 กินยาบางประเภทอย่างยาเบาหวานยาเม็ดฟอมิน
00:02:08 → 00:02:11 หรือยาลดกรดในกระเพาะอย่างนี้ก็ได้ยาต้าน
00:02:11 → 00:02:14 การอักเสบอย่างเงี้ยอ่าหลากหลายเลยที่มี
00:02:14 → 00:02:16 หลายปัจจัยที่ทำให้ร่างกายของคุณเนี่ยดูด
00:02:16 → 00:02:21 ซึมได้น้อยเนาะหรือบางคนโดยเฉพาะ 60 บวๆ
00:02:21 → 00:02:24 เมื่อเราอายุเพิ่มขึ้นแน่นอนว่าร่างกาย
00:02:24 → 00:02:28 ของเราดูดซึมวิตามินน้อยลงโดยเฉพาะ
00:02:28 → 00:02:31 วิตามิน V12 ดังนั้นเป็นเหตุผลที่ใครที่
00:02:31 → 00:02:35 อายุเยอะหรือผู้สูงอายุควรสำรวจตัวเองและ
00:02:35 → 00:02:38 พบมากเลยขาดบ่อยดังนั้นคุณควรฟังถ้าคุณ
00:02:38 → 00:02:42 อายุ 60 บวสวัสดีค่ะสวัสดีทุกคนเนาะใคร
00:02:42 → 00:02:44 เข้ามาใหม่กดไลก์กดแชร์ให้หมอเฟิร์นด้วย
00:02:44 → 00:02:47 เนาะจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่เข้า
00:02:47 → 00:02:50 มาฟังเยอะๆอยากให้เรื่องเนี้ยถึงคนวัยสูง
00:02:50 → 00:02:53 อายุเยอะๆเลยเพราะว่ามันสำคัญมากอ่ะแล้ว
00:02:53 → 00:02:57 ต่อวันเนี่ยมีคนถามว่าเราต้องการวิตามิน
00:02:57 → 00:03:00 B12 ต่อวันเท่าไหร่อ่าดูจากภาพด้านล่าง
00:03:00 → 00:03:03 เลยหมอเฟิร์นเตรียมมาให้ละส่วนใหญ่เนาะ
00:03:03 → 00:03:06 เราก็วัยรุ่นอย่างงี้นะเด็กๆอย่างี้ก็
00:03:06 → 00:03:10 ประมาณ 19 + อ่า 19 บวกเลยเราต้องการ
00:03:10 → 00:03:15 ประมาณ 2.4 ไมโครกรัมต่อวันซึ่งไม่ได้
00:03:15 → 00:03:19 เยอะเลยเจอในอาหารทั่วไปส่วนใครที่
00:03:19 → 00:03:22 ต้องการเป็นพิเศษก็คือคนที่คุณแม่ตั้งคาน
00:03:22 → 00:03:24 กับคุณแม่ให้นมบุตรเนาะก็จะต้องการมาก
00:03:24 → 00:03:27 กว่าคนทั่วไปนิดหน่อย 2.6 6-2.8 แบบนี้
00:03:27 → 00:03:32 เองอ่าอ่ะแล้วมาถึงตรงนี้แล้วมันมีอาหาร
00:03:32 → 00:03:35 อะไรบ้างล่ะเพราะว่าหลายคนก็บ่นๆมาถามข้อ
00:03:35 → 00:03:38 ความหลังไมค์เยอะเลยว่าไม่อยากกินยาหรือ
00:03:38 → 00:03:41 ไปซื้อเป็นวิตามินเสริมเป็นเม็ดกินแล้ว
00:03:41 → 00:03:44 อ่ะหมอเฟิร์นเพราะว่าลำพังยาโรคประจำตัว
00:03:44 → 00:03:46 อาหารเสริมตัวอื่นๆก็เยอะอยู่แล้วไม่อยาก
00:03:46 → 00:03:50 กินเป็นยาแล้วขอเป็นอาหารได้มั้ยจะได้
00:03:50 → 00:03:52 สบายใจจะได้ไม่ต้องมากังวลว่ามันจะขับออก
00:03:52 → 00:03:55 ทางไหนแล้วโดยเฉพาะใครที่เป็นโรคไตอยู่ก็
00:03:55 → 00:03:58 ไม่อยากแนะนำให้กินเพราะว่าวิตามิน B12
00:03:58 → 00:04:01 เนี่ยมันก็ขับออกทางปัสสาวะเนาะถ้าคนเป็น
00:04:01 → 00:04:04 โรคไตก็อาจจะไปเพิ่มการทำงานในไตได้ในบาง
00:04:04 → 00:04:09 คนง่ายๆเลยวิตามิน B12 ตัวแรกเลยที่ให้
00:04:09 → 00:04:15 เยอะนะในอาหารอ่าก็คือตับไตสัตว์นะตับไต
00:04:16 → 00:04:20 สัตว์เนี่ยโดยเฉพาะในแกะตับไตแกะเนี่ยให้
00:04:20 → 00:04:21 วิตามิน
00:04:21 → 00:04:26 B12 ขนาดไหนก็คือในตับไตแกะ 1 100 กรัม
00:04:26 → 00:04:28 เนี่ยให้วิตามิน
00:04:28 → 00:04:33 B12 กว่าปริมาณที่เขา้าแนะนำต่อวันนะ
00:04:33 → 00:04:38 3,5% เยอะมากๆเลยนะแต่จริงๆพอเรากินเข้า
00:04:38 → 00:04:42 ไปถึงมันสูงกว่าที่เราที่เขาแนะนำต่อวัน
00:04:42 → 00:04:44 แต่ร่างกายสามารถขับออกได้แล้วร่างกายไม่
00:04:45 → 00:04:48 ได้ดูดซึมไปทั้งหมดหรอกเขาจะดูดซึมเฉพาะ
00:04:48 → 00:04:50 เท่าที่เขาต้องการแล้วที่เหลือเขาก็จะขับ
00:04:50 → 00:04:53 ออกทางปัสสาวะนั่นเองนะไม่ต้องกลัวว่าฉัน
00:04:53 → 00:04:56 กินไปกินตับกินไตไปแล้วอ้าวมันเกินโดส
00:04:56 → 00:04:58 หรือเปล่าอย่างี้ไม่ต้องกลัวเพราะว่าร่าง
00:04:58 → 00:05:00 กายเราเก่งอะไรที่ไม่จำเป็นเขาก็เอาออก
00:05:00 → 00:05:03 อะไรที่เขาต้องใช้เขาก็เอาเข้าอย่างงี้
00:05:03 → 00:05:09 เนาะเข้าใจง่ายๆส่วนตับไตของแกะเนี่ยเค้า
00:05:09 → 00:05:12 ไม่ได้มีแค่วิตามิน B12 นะเค้ายังมีสาร
00:05:12 → 00:05:14 อาหารแร่ธาตุวิตามินตัวอื่นๆอย่าง
00:05:14 → 00:05:17 คอปเปอร์ซีเลิเนียมแล้วก็วิตามินเอ
00:05:17 → 00:05:20 วิตามิน B2 ด้วยซึ่งได้ประโยชน์มากกว่า
00:05:20 → 00:05:25 วิตามิน B12 มากๆแล้วเมืองไทยเนาะอ่า
00:05:25 → 00:05:28 เมืองไทยไม่ค่อยมีแกะเพราะว่าเป็นเมือง
00:05:28 → 00:05:30 ร้อนแกะไม่ค่อยไม่อยากอยู่เมืองไทยหรอก
00:05:30 → 00:05:32 ร้อนแต่ออสเตรเลียที่หมอเฟินเคยไปเรียน
00:05:33 → 00:05:37 เนี่ยแกะเยอะมากซึ่งเมืองไทยตับไตวัวมี
00:05:37 → 00:05:40 มั้ยมีสูงเหมือนกันก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย
00:05:40 → 00:05:42 ประมาณ 3,000% เหมือนกันอันนี้ไม่ต้อง
00:05:42 → 00:05:46 กลัวเป็นคนไทยกินตับไตวัวก็ได้อ่าเหมือน
00:05:46 → 00:05:49 กันแต่จริงๆแล้วจะไม่ได้แนะนำให้กินเยอะ
00:05:49 → 00:05:52 เนาะใครที่เป็นโรคเก๊าโรคอะไรอย่างเงี้ย
00:05:52 → 00:05:54 ก็ไม่แนะนำให้กินเครื่องในสัตว์เยอะดัง
00:05:54 → 00:05:57 นั้นคุณสามารถกินอย่างอื่นได้ยังมีอีกยัง
00:05:57 → 00:06:00 มีอาหารอีก 6 ตัวมาข้อถัดไปดีกว่าข้อถัด
00:06:00 → 00:06:03 ไปอันนี้หมอเฟิร์นไม่ได้แนะนำว่าให้คุณ
00:06:03 → 00:06:06 กินแต่ตัวนี้นะคุณกินสลับหมุนเวียนกัน
00:06:06 → 00:06:10 หลายๆอย่างแล้วบางอันถ้าคุณมีเงื่อนไขคุณ
00:06:10 → 00:06:13 เป็นโรคไตโรคเก๊าโรคอะไรคุณก็ไม่ต้องกิน
00:06:13 → 00:06:16 ตัวนี้ก็ได้อันนี้แค่บอกเป็นอาหารตัวไหน
00:06:16 → 00:06:20 ที่ให้วิตามิน B12 สูงเท่านั้นเองอ่าไม่
00:06:20 → 00:06:24 ต้องกินทุกตัวก็ต่อไปคือเนื้อวัวนั่นเอง
00:06:24 → 00:06:27 บ้านเราหากินได้ทั่วไปเลยอย่างถ้าเนื้อ
00:06:27 → 00:06:30 วัวเค้าก็พบว่าเนื้อสเต็กเนี่ย 190 กรัม
00:06:30 → 00:06:35 ให้วิตามิน B12 สูงมากสูงกว่าปริมาณที่
00:06:35 → 00:06:38 ค่าเฉลี่ยที่เขา้าแนะนำให้กินนะประมาณ 400
00:06:38 → 00:06:43 กว่าเปอ์เแล้วแถมยังมีวิตามิน B2 B3 B6
00:06:43 → 00:06:46 ด้วยพูดง่ายๆกินเนื้อสเต็ก 1 ชิ้นเนี่ย
00:06:46 → 00:06:51 ได้วิตามิน B แทบจะทุกชนิดอ่ะอ่ะได้ B12
00:06:51 → 00:06:55 B2 B3 3 B6 ดังนั้นก็ลดความเสี่ยงของ
00:06:56 → 00:06:59 การเป็นโรคนั่นโรคนี่ชาปลายมือปลายเท้า
00:06:59 → 00:07:01 ได้เยอะคุณก็จะมีพลังมากขึ้นเนาะเพราะว่า
00:07:01 → 00:07:07 ถ้าใครขาดก็จะซีดไม่ค่อยมีแรงอย่างี้ซึ่ง
00:07:07 → 00:07:09 ไม่ได้แค่วิตามินบีด้วยนะเค้าบอกว่ายังมี
00:07:09 → 00:07:13 ซิลิเนียมกับซิงคด้วยอ่าซิงคก็ช่วยลดการ
00:07:13 → 00:07:16 อักเสบใครที่เป็นสิวอยู่มีอาการอักเสบ
00:07:16 → 00:07:19 เป็นผื่นอะไรเงี้ยซิงคก็ช่วยได้
00:07:19 → 00:07:23 ส่วนถ้าคุณจะกินเนื้อวัวนะไม่พูดไม่ได้
00:07:23 → 00:07:27 เรื่องนี้สำคัญแนะนำให้กินเนื้อที่มีไข
00:07:27 → 00:07:31 มันต่ำอย่างพวกสันนอกอะไรเงี้ยที่ไม่ใช่
00:07:31 → 00:07:34 เนื้อติดมันที่ไม่ใช่สันคอและถ้าจะให้ดี
00:07:34 → 00:07:39 เลยไม่แนะนำให้คุณนำไปทอดเนาะให้เอาไปอบ
00:07:39 → 00:07:41 เอาไปย่างอย่างี้ก็จะเป็นช้อยส์ที่ดีกว่า
00:07:42 → 00:07:46 หรือเอาไปต้มตุ๋นอย่างี้ก็ได้เพราะอะไร
00:07:46 → 00:07:49 การที่คุณเอาไปทอดเนี่ยวิตามิน B12 เนี่ย
00:07:49 → 00:07:52 มันจะเสื่อมสลายไปมากกว่ากรรมวิธี
00:07:52 → 00:07:55 อื่นๆเยอะเลยและอีกอย่างคันเอาไปทอดเนี่ย
00:07:55 → 00:07:57 สารก่อมะเร็งเยอะด้วยดังนั้นไปพวกตุ๋น
00:07:57 → 00:08:00 เนี่ยน่าจะดีที่สุดสำหรับใครที่จะกิน
00:08:00 → 00:08:05 เนื้อวัวเนาะโอเคเนื้อหมูก็มีนะแต่มีไม่
00:08:05 → 00:08:07 เท่าเนื้อวัวหมอเฟิร์นเลยยกตัวอย่างเนื้อ
00:08:07 → 00:08:11 วัวแต่จะกินเนื้อหมูก็ได้เหมือนกันต่อไป
00:08:11 → 00:08:14 สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อเลยหมูก็ไม่กิน
00:08:14 → 00:08:16 วัวก็ไม่กินเครื่องในก็ไม่กินคุณยังมี
00:08:16 → 00:08:20 ช้อยส์อยู่ก็คือข้อถัดไปนั่นเองข้อที่ 3
00:08:20 → 00:08:25 ก็คือปลาซาดีนปลาชนิดนี้น่าจะเคยกินทุกคน
00:08:25 → 00:08:28 นะส่วนใหญ่จะอยู่ในปลากระป๋องเนาะเขาจะ
00:08:28 → 00:08:31 เอามาทำปลากระป๋องกันเยอะหน่อยเพบว่าใน
00:08:31 → 00:08:33 ปลาซาดีน 1 คัพเนี่ยก็คือ 1 ถ้วยเนี่ยน
00:08:33 → 00:08:37 แหละถ้วยเล็กๆประมาณ 150 กรัมนะจะให้
00:08:37 → 00:08:39 วิตามิน
00:08:39 → 00:08:44 B12 กว่าค่าเฉลี่ยที่เขาแนะนำอ่ะ 5 500%
00:08:44 → 00:08:47 ซึ่งกินปลาซาดีนประมาณ 1 กระป๋องก็ถือว่า
00:08:47 → 00:08:52 ได้ครบแล้วนะซึ่งไม่ได้มีแค่วิตามิน B12
00:08:52 → 00:08:54 พวกปลาเนี่ยสิ่งที่เขา้าให้มากกว่า
00:08:54 → 00:08:58 วิตามิน B12 คืออะไรคือโอเมก้า 3 นั่นเอง
00:08:58 → 00:09:01 ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า 3 เนี่ยมีความสำคัญ
00:09:01 → 00:09:06 ยังไงมีความสำคัญที่จะไปบำรุงสมองลดการ
00:09:06 → 00:09:09 อักเสบในร่างกายได้แล้วก็ลดความเสี่ยงโรค
00:09:09 → 00:09:11 หัวใจได้นั่นเองดังนั้นปลาก็เป็นช้อยส์
00:09:11 → 00:09:14 ที่ดีย่อยง่ายๆไขมันต่ำด้วยสำหรับผู้สูง
00:09:14 → 00:09:17 วัยเนาะแล้วก็อย่างถ้าคนรักสุขภาพชะลอวัย
00:09:17 → 00:09:21 ก็จะเน้นกินเนื้อสัตว์สีขาวมากกว่าก็คือ
00:09:21 → 00:09:24 พวกปลาพวกไก่อย่างี้เพราะไขมันต่ำต่อไป
00:09:24 → 00:09:28 ถ้าใครไม่ชอบปลาซาดีนยังมีปลาอีก 2 ตัว
00:09:28 → 00:09:31 ที่แนะนำก็คือปลาทูน่าอันนี้หมอเฟินชอบ
00:09:31 → 00:09:34 เป็นพิเศษเลยช่วงนี้ชอบมากแต่ก่อนชอบ
00:09:34 → 00:09:38 แซลมอนตอนนี้ชอบทูน่าทูน่าก็ถ้าใครไม่ชอบ
00:09:38 → 00:09:41 ก็อาจจะทูน่าก็พบบ่อยในปลากระป๋องนะถ้า
00:09:41 → 00:09:44 ใครไม่ชอบก็กินเป็นสุกถ้ากินดิบอาจจะกิน
00:09:44 → 00:09:47 ยากหน่อยแต่ถ้าใครชอบก็ชอบเลยเนาะเหมือน
00:09:47 → 00:09:50 เราทูน่า 100 กรัมเนี่ยทูน่าที่ปรุงสุก
00:09:50 → 00:09:55 แล้วนะจะมีวิตามิน B12 ประมาณ 10
00:09:55 → 00:09:58 ไมโครกรัมซึ่ง 10 ไมโครกรัมก็มากกว่า
00:09:58 → 00:10:02 ปริมาณที่เราต้องการต่อวันแล้วแต่อย่าง
00:10:02 → 00:10:06 ที่บอกว่าถึงแม้ 100 กรัมทูน่าที่เรากิน
00:10:06 → 00:10:08 เข้าไป 100 กรัมอ่ะประมาณสมมุติกำปั้น 1
00:10:08 → 00:10:11 เนาะกินเข้าไปแต่ร่างกายของเราไม่ได้ดูด
00:10:11 → 00:10:14 ซึมถึงขนาดนั้นถึงแม้มันจะให้ประมาณ 10
00:10:14 → 00:10:18 ไมโครกรัมนะแต่ร่างกายของเราดูดซึมประมาณ
00:10:18 → 00:10:21 แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์น่ะก็อ่าเค้าก็จะเอา
00:10:21 → 00:10:23 ไปแค่ 2.4 4 นั่นแหละที่เหลือเขาก็ขับ
00:10:23 → 00:10:27 ออกทางปัสสาวะแล้วในปลาทูน่านะเป็นแหล่ง
00:10:27 → 00:10:31 โปรตีนชั้นดีเลยที่ไขมันต่ำแล้วยังมีและ
00:10:31 → 00:10:33 ธาตุอื่นๆอีกเช่นอะไรบ้างซีลิเนียม
00:10:33 → 00:10:37 ฟอสฟอรัสวิตามินเอบำรุงสายตาอีกวิตามิน B3
00:10:37 → 00:10:41 อีกเยี่ยมมากๆเลยโอเคไปปลาถัดไปดีกว่าปลา
00:10:41 → 00:10:43 แซลมอนอันนี้หมอเฟิร์นก็ชอบมากใครชอบกิน
00:10:43 → 00:10:47 ปลาบ้างยกมือขึ้นใครชอบพิมพ์กินปลาพิมพ์
00:10:47 → 00:10:50 ปลามาจะได้รู้ว่ามีคนชอบกินเหมือนเราเยอะ
00:10:50 → 00:10:55 ๆเนาะอ่าถัดไปก็คือแซลมอนนั่นเองถึงแม้
00:10:55 → 00:10:58 ตอนนี้ก็อ่าน่าจะเข้าถึงง่ายขึ้นเนาะราคา
00:10:58 → 00:11:01 อาจจะแรงหน่อยแต่ว่าบอกเลยว่ามีสารอาหาร
00:11:01 → 00:11:04 อยู่นั้นเยอะมากๆก็คุ้มค่าที่จะซื้อกิน
00:11:04 → 00:11:07 เหมือนกันเพราะว่าเรารู้ดีอยู่แล้วว่า
00:11:07 → 00:11:11 แซลมอนเนี่ยโปรตีนสูงแล้วก็เป็นปลาที่มี
00:11:11 → 00:11:14 โอเมก้า 3 หรือให้กรดไขมันเนี่ยดีต่อร่าง
00:11:14 → 00:11:19 กายสูงมากๆแล้วก็แถมยังมีวิตามินบีที่เรา
00:11:19 → 00:11:24 ต้องการด้วยในแซลมอน 178 กรัมนะที่ปรุง
00:11:24 → 00:11:28 สุดสุกแล้วนะให้วิตามิน B12 มากกว่าค่า
00:11:28 → 00:11:29 เฉลี่ยถึง
00:11:29 → 00:11:34 200% เลยนะคุณเยอะมากๆซึ่งกินปลาแซลมอน
00:11:34 → 00:11:36 ตัวเดียวได้ทั้งโอเมก้า 3 ได้ทั้งวิตามิน
00:11:36 → 00:11:41 B12 โอ้โหลดการอักเสบอีกบำรุงสมองอีกลด
00:11:41 → 00:11:44 อาการชาทำให้เรามีแรงมีพลังอีกไม่น่ามืด
00:11:44 → 00:11:47 อีกทำให้เม็ดเลือดแดงทำงานดีขึ้นสร้างมา
00:11:47 → 00:11:51 ดีบำรุงประสาทกินปลาก็ถือว่าเป็นชอสที่ดี
00:11:51 → 00:11:55 มากๆต่อไปสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสันเลย
00:11:55 → 00:11:58 เนื้อตับไตอะไรไม่กินเลยปลาก็ไม่กินถ้า
00:11:58 → 00:12:04 คุณเป็นพวกมังสวีรัสเนาะกินเจหรือว่าเป็น
00:12:04 → 00:12:07 ผลิตภัณสัตว์เลยคุณสามารถใช้ช้อยส์ข้อ 6
00:12:07 → 00:12:10 ได้อาหารข้อที่ 6 เหมาะสำหรับคนที่ไม่
00:12:10 → 00:12:14 ยุ่งเกี่ยวกับสัตว์เลยเนาะก็คือนมนมจาก
00:12:14 → 00:12:18 พืชเดี๋ยวเนี้ยเค้ามีวิตามินบีนะจริงๆนม
00:12:18 → 00:12:22 ในตัวมันเองนะปกติแล้วอ่ะนมจากสัตว์ถึงจะ
00:12:23 → 00:12:26 มีวิตามิน B12 อยู่บ้างเนาะนมจากพืชเนี่ย
00:12:26 → 00:12:30 ส่วนใหญ่ไม่มีแต่เค้าใส่เข้าไปเพิ่มซึ่ง
00:12:30 → 00:12:34 เป็นวิตามิน B12 จากการสังเคราะห์ซึ่งคน
00:12:34 → 00:12:37 ที่ไม่กินเนื้อสัตว์อ่ะกินได้เพราะว่ามัน
00:12:37 → 00:12:39 ไม่ได้มาจากสัตว์เค้าสังเคราะห์เข้ามาอีก
00:12:39 → 00:12:42 ทีเนาะแต่ก็หมอเฟิร์นก็จะไม่ได้ค่อยแนะนำ
00:12:42 → 00:12:43 เท่าไหร่เพราะว่าเราอยากให้กินจากอาหาร
00:12:44 → 00:12:46 จริงแต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์
00:12:46 → 00:12:49 จริงๆอ่ะคุณสามารถกินวิตามิน B12 หรือปี
00:12:49 → 00:12:52 ต่างๆสังเคราะห์ได้เพราะว่าอย่างน้อยก็ดี
00:12:52 → 00:12:55 กว่าร่างกายขาดแล้วก็อาจจะมีอาการต่างๆ
00:12:55 → 00:12:58 ที่พูดไปข้างต้นเนาะขาดก็ยังดีกว่าไม่กิน
00:12:58 → 00:13:01 เลยอ่ะพูดอย่างี้อันนี้เป็นอีกช้อยส์นึง
00:13:01 → 00:13:05 ที่ดีสำหรับใครที่กินเจแบบเคร่งมากๆแล้ว
00:13:05 → 00:13:10 ก็ร่างกายขาดมากๆเงี้ยคุณก็กินเพิ่มจาก
00:13:10 → 00:13:13 สิ่งนี้ได้อ่าในนมจากพืชมีนมอะไรบ้างพวก
00:13:13 → 00:13:16 นมถั่วเหลืองนมแอลัลมอนดอ่าที่หมอเฟิร์น
00:13:16 → 00:13:18 ชอบเลยคือนมถั่วเหลืองนมข้าวนมข้าวโอ๊ต
00:13:18 → 00:13:21 อย่างเงี้ยเยอะแยะตามท้องตลาดเลยก็เขาก็
00:13:21 → 00:13:25 จะใส่วิตามิน B12 เพิ่มบางเจ้าก็ใส่
00:13:25 → 00:13:27 แคลเซียมเพิ่มเข้าไปเพราะนมจากพืชจะ
00:13:27 → 00:13:30 แคลเซียมต่ำกว่านมจากสัตว์เนาะก็ใส่
00:13:30 → 00:13:35 แคลเซียมเข้าไปด้วยและอ่ะทิกที่จะบอกก็
00:13:35 → 00:13:38 คือให้คุณดูอย่างนี้เลยดูจากภาพด้านบน
00:13:38 → 00:13:42 เนาะส่วนใหญ่นมจากวัวเนี่ยเค้าบางเจ้าก็
00:13:42 → 00:13:46 ใส่นะเค้าจะเขียนว่าแคลเซียม with
00:13:46 → 00:13:50 วิตามินเอวิตามิน E อะไรอย่างเงี้ยส่วน
00:13:50 → 00:13:52 ใหญ่เขาจะใส่วิตามินเข้าไปเพื่อป้องกัน
00:13:52 → 00:13:54 ไม่ให้ร่างกายของเราขาดเนี่ยส่วนใหญ่ก็
00:13:54 → 00:13:57 ใส่วิตามินดีวิตามินเอเสริมแคลเซียมเข้า
00:13:57 → 00:14:00 ไปทั้งๆที่นมตัวนั้นเนี่ยไม่มีส่วนใหญ่
00:14:00 → 00:14:05 เขาก็จะใช้คำว่าคำว่าอะไรนะ fortify
00:14:05 → 00:14:07 เนี่ยเนาะหรือใช้คำว่าก็ได้อ่ะดูจากรูป
00:14:07 → 00:14:11 ภาพหมอเฟิร์นหาภาพมาให้ดูเค้าก็จะเขียน
00:14:11 → 00:14:14 ประมาณนี้เนี่ยถ้าคุณไปซูมดูคุณก็จะเห็น
00:14:14 → 00:14:16 ว่าเนี่ยนมพวกเนี้ยอย่างนมแอลมอน milk
00:14:16 → 00:14:21 เค้าก็ใส่วิตามิน E ในนั้นน่ะก็ไม่ค่อยมี
00:14:21 → 00:14:24 หรือไม่มีเลยบางที่ก็ใส่วิตามินดีเข้าไป
00:14:24 → 00:14:27 สังเกตง่ายๆจากอันนี้อันนี้ก็เอาตัวอย่าง
00:14:27 → 00:14:29 มาจากต่างประเทศเนาะประเทศไทยก็น่าจะมี
00:14:29 → 00:14:32 ถ้าเพราะว่าแต่ก่อนหมอเฟิร์นก็ไปตาม
00:14:32 → 00:14:34 ซุเปอร์มาร์เก็ตนะตอนนั้นที่ไปเรียนอยู่
00:14:34 → 00:14:36 ออสเตรเลียก็ไปสังเกตดูเอ๊ยนมที่นั่นทำไม
00:14:36 → 00:14:39 มันให้ประโยชน์เยอะจังบางเจ้ามีวิตามินบี
00:14:39 → 00:14:42 วิตามินซีวิตามินดีเสริมแคลเซียมเข้าไป
00:14:42 → 00:14:44 อีกในนมมันมีขนาดนั้นเลยหรออ่าแล้วเราก็
00:14:44 → 00:14:47 ไปหาข้อมูลมาจริงๆแล้วเขาใส่เพิ่มเข้าไป
00:14:47 → 00:14:49 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิตามินสังเคราะห์หมดเลย
00:14:49 → 00:14:54 แต่จริงๆแล้วถ้าคุณไม่ได้กินเจจ๋าขนาด
00:14:54 → 00:14:56 นั้นคุณกินจากอาหารจริงดีกว่าเพราะยังไง
00:14:56 → 00:14:59 หมอเฟิร์นก็เชียร์วิตามินจากธรรมชาติกิน
00:14:59 → 00:15:03 จากอาหารจริงๆก็ร่างกายเราจะชื่นชอบมาก
00:15:03 → 00:15:05 กว่าวิตามินที่สังเคราะเนาะแต่ถ้าเราเป็น
00:15:05 → 00:15:10 คนกินเจริไม่กินเนื้อสัตว์เลยก็กินจาก
00:15:10 → 00:15:13 อาหารเสริมแบบนี้ก็ได้เนาะดีกว่าขาดอ่ะจำ
00:15:13 → 00:15:17 ไว้ว่าดีกว่าขาดข้อถัดไปสำหรับคนที่กินเจ
00:15:17 → 00:15:21 ไข่ได้อ่ามังสวีรัสกินไข่ได้ข้อนี้ได้เลย
00:15:21 → 00:15:24 ก็คือไข่ในไข่เนี่ยเป็นแหล่งโปรตีนชั้น
00:15:24 → 00:15:27 เยี่ยมมากแล้วก็มีวิตามินอยู่ในนั้นเยอะ
00:15:27 → 00:15:30 มากๆก็อย่างที่บอกไปเคยไลฟ์ไปเนาะว่าใน
00:15:30 → 00:15:32 สารอาหารในไข่เนี่ยมีวิตามินแร่ธาตุมี
00:15:32 → 00:15:37 วิตามินเกือบทุกชนิดยกเว้นวิตามินซีแค่
00:15:37 → 00:15:42 นี้ดังนั้นเราสามารถกินแหล่งโปรตีนราคาดี
00:15:42 → 00:15:44 ๆอย่างไข่วันละ 2 ฟองอย่างนี้ได้เลยแล้ว
00:15:44 → 00:15:47 แถมยังมีวิตามินดี 2 B12 ในนั้นด้วย
00:15:47 → 00:15:51 อย่างยกตัวอย่างไข่ไก่ใหญ่ๆเลยนะเบอร์แบบ
00:15:51 → 00:15:55 จัมโบ้เบอร์ 0 2 ฟองเนี่ยประมาณ 100
00:15:55 → 00:15:59 กรัมเนี่ยเค้าพบว่าให้วิตามิน B12 เนี่ย
00:15:59 → 00:16:03 ประมาณ 50% นะมันเคียนไว้ประมาณ 46% ของ
00:16:03 → 00:16:08 ปริมาณที่เค้าแนะนำของผู้ใหญ่ต่อวันก็คือ
00:16:08 → 00:16:12 ถ้าเขาแนะนำ 2.4 อายุอย่างเราเป็นผู้ใหญ่
00:16:12 → 00:16:15 เนาะควรกิน 2.4 4 ไมโครกรัมต่อวันในไข่ 2
00:16:15 → 00:16:19 ฟองเนี่ยก็ให้ประมาณ 1 กว่าไมโครกรัมต่อ
00:16:19 → 00:16:22 วันแล้วดังนั้นกินไข่วันละ 4 ฟองก็เพียง
00:16:22 → 00:16:28 พอนะเช้า 2 เช้า 1 เย็น 2 อย่างี้ก็ได้
00:16:28 → 00:16:32 อ่าและในไข่เนี่ยไม่ได้มีแค่วิตามิน B12
00:16:32 → 00:16:35 ถึงบอกว่ามีวิตามินทุกตัวยกเว้นวิตามินซี
00:16:35 → 00:16:38 ในวิจัยนะเค้ายังอ่ะอันนี้แอบเอามาบอก
00:16:38 → 00:16:41 เป็นทริกเล็กๆน้อยๆในงานวิจัยเนี่ยเค้าก็
00:16:42 → 00:16:47 พบว่าไข่ไข่แดงเนี่ยมีวิตามิน B12 มาก
00:16:47 → 00:16:50 กว่าไข่ขาวนะนี้สำหรับคนที่ไม่กินไข่ทั้ง
00:16:50 → 00:16:54 ฟองจะแอบบอกว่าไข่แดงมีวิตามิน B12 มาก
00:16:54 → 00:16:57 กว่าไข่ขาวแล้วแถมร่างกายยังดูดซึม
00:16:57 → 00:17:00 วิตามิน B12 จากไข่แดงได้ดีกว่าไข่ขาวอีก
00:17:00 → 00:17:05 ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่หมอเฟิร์นจะแนะ
00:17:05 → 00:17:07 นำก็คือเวลาจะกินไข่ให้กินไข่ทางลูกดี
00:17:07 → 00:17:11 กว่าเนาะแต่ยกเว้นใครที่กลัวคอเลสเตอรอล
00:17:11 → 00:17:13 ในไข่จริงๆหรือคุณมีค่าคอเลสเตอรอลรอดใน
00:17:13 → 00:17:16 เลือดสูงมากๆจริงๆอ่ะคุณก็กินแต่ไข่ขาว
00:17:16 → 00:17:19 ได้แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ไปมีปัญหาโรคไขมัน
00:17:19 → 00:17:22 โรคหัวใจหรือไม่ได้มีไขมันคอเลสเตอรอลสูง
00:17:22 → 00:17:24 คุณกินไข่ทั้งฟองดีกว่าอ่ะอันนี้เป็นทิก
00:17:25 → 00:17:27 เพราะว่าไข่แดงเนี่ยมันดูดซึมได้ดีกว่า
00:17:27 → 00:17:30 แล้วมีวิตามิน B12 เยอะกว่าและในไข่เนี่ย
00:17:30 → 00:17:34 ยังมีวิตามินดีอีกวิตามินดีเสริมภูมิคุ้ม
00:17:34 → 00:17:37 กันให้คุณอีกนะอันนี้เอามาเล่าสู่กันฟัง 7
00:17:37 → 00:17:41 อาหารเนาะสำหรับใครที่บอกว่ากินเจ
00:17:41 → 00:17:43 มังสวีรัตเป็นวีแกนไม่กินเนื้อสัตว์ไม่
00:17:43 → 00:17:47 ยุ่งกับไข่อะไรเลยเค้าก็พูดกันมาว่าจะขาด
00:17:47 → 00:17:50 ระวังจะขาดวิตามิน B12 นะถ้าไม่กินเลย
00:17:50 → 00:17:52 แล้วต้องทำยังไงอย่างที่บอกคุณก็สามารถ
00:17:52 → 00:17:56 กินจากนมที่เค้าใส่วิตามินเพิ่มเข้าไปได้
00:17:56 → 00:18:00 หรือใครที่ไม่ยังพอกินไข่ได้ก็กินไข่ได้
00:18:00 → 00:18:04 อ่าเพราะว่าพวกวิตามิน B12 ต้องบอกตามตรง
00:18:04 → 00:18:07 เลยว่าเค้าพบมากในผลิตภัณฑ์จากสัตว์โดย
00:18:07 → 00:18:10 เฉพาะตับไตสัตว์เนื้อสัตว์อย่างเงี้ยแต่
00:18:10 → 00:18:13 ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหากินไม่ได้ไง
00:18:13 → 00:18:15 คุณก็ยังหากินได้อยู่หรือกินเป็นวิตามิน
00:18:15 → 00:18:19 เสริมก็ได้อ่าแต่อย่าไปตกใจนะเพราะว่าบาง
00:18:19 → 00:18:22 ทีเราไปดูในอาหารเสริมวิตามิน B12 เนี่ย
00:18:22 → 00:18:24 อย่างหมอเฟิร์นบอกว่าจริงๆเราต้องการต่อ
00:18:24 → 00:18:28 วันแค่ 2.4 4 นี่แล้ววิตามิน B12 ที่
00:18:28 → 00:18:31 เค้าขายแยกๆกันน่ะทำไมบางเจ้าเค้าขายตั้ง
00:18:31 → 00:18:34 500 ไมโครกรัม 1,000 ไมโครกรัม 2,000
00:18:34 → 00:18:37 บวกๆไมโครกรัมอย่างเงี้ยแบบนี้มันไม่เยอะ
00:18:37 → 00:18:40 เกินไปหรอหมอเฟิร์นจริงๆแล้วหมอเฟิร์นไป
00:18:40 → 00:18:42 ดูไปอ่านมาให้ละไปหาข้อมูลมาให้ละเ้าบอก
00:18:42 → 00:18:45 ว่าจริงๆวิตามิน B12 เนี่ยกินสูงๆยังไม่
00:18:46 → 00:18:49 เกิดไม่ค่อยไม่มีไซส์เอฟเฟคหรือผลข้าง
00:18:49 → 00:18:52 เคียงที่ร้ายแรงแต่ที่เขาแนะนำคือไม่ควร
00:18:52 → 00:18:55 กินเกินวันละ 2,000 ไมโครกรัมหรือถ้าให้
00:18:55 → 00:18:59 ปลอดภัยหรือเซฟๆเลยนะประมาณ 500
00:18:59 → 00:19:01 ไมโครกรัมเนาะซึ่งวิตามินโดสแบบเนี้ยเขา
00:19:01 → 00:19:05 ผลิตออกมาให้สำหรับคนที่ขาดจริงๆหรือผู้
00:19:05 → 00:19:08 สูงอายุ 60 บวกๆอย่างเงี้ยร่างกายของเขา
00:19:08 → 00:19:11 ดูดซึมได้ไม่ดีจำเป็นที่จะต้องกินจาก
00:19:11 → 00:19:13 อาหารเสริมทีละ 500 ไมโครกรัมเพื่อเพราะ
00:19:13 → 00:19:17 ว่าเขาพบว่าขนาดคุณกินจากอาหารเสริม 500
00:19:17 → 00:19:19 ไมโครกรัมนะร่างกายดูดซึมไปแค่ 2% เองอ่ะ
00:19:19 → 00:19:24 ก็คือประมาณ 9.7 7 ไมโครกรัมแค่นั้นเอง
00:19:24 → 00:19:26 เขาก็เลยทำรสสูงๆไว้ก่อนเนาะเพราะว่าร่าง
00:19:26 → 00:19:29 กายเราไม่ได้ดูดซึมไปทั้งหมด 100% แล้วส
00:19:29 → 00:19:33 หรือเขาก็ทำไว้สำหรับคนที่กินนานๆกิน
00:19:33 → 00:19:36 มังสวีรัสกินเจนานๆแล้วกลัวจะขาดก็ให้
00:19:36 → 00:19:38 เสริมในเรื่องนี้หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยว
00:19:38 → 00:19:42 กับกลัวเป็นมีความเสี่ยงที่จะสมองเสื่อม
00:19:42 → 00:19:46 หรือมีอาการชาปลายมือปลายเท้ามีอาการเม็ด
00:19:46 → 00:19:48 เลือดแดงไปตรวจเลือดแล้วเม็ดเลือดแดงไม่
00:19:48 → 00:19:51 ค่อยสมบูรณ์ก็จะกินเพิ่มในโดสที่สูงๆคุณ
00:19:51 → 00:19:55 ก็ปรึกษาคุณหมออย่างใกล้ชิดดีกว่าเนาะใคร
00:19:55 → 00:19:58 ที่มีเงื่อนไขอะไรอย่างเงี้ยมีคอนition
00:19:58 → 00:20:01 เรื่องโรคนั่นโรคนี่หรือชั้นขาดปรึกษาคุณ
00:20:01 → 00:20:04 หมอประจำตัวก่อนที่จะกินดีกว่าเพื่อความ
00:20:04 → 00:20:07 ปลอดภัยเนาะแต่จริงๆกินโดสสูงๆมันไม่ค่อย
00:20:07 → 00:20:09 อันตรายเท่าไหร่อย่างที่บอกว่าไม่ควรเกิน
00:20:09 → 00:20:11 2,000 หรือถ้าเซฟๆก็ 500
00:20:11 → 00:20:16 ไมโครกรัมสรุปมาถึงสรุปแล้วใครเข้าใจ 7
00:20:16 → 00:20:18 ข้อพิมพ์เข้าใจมาหน่อยค่ะเดี๋หมอเฟิร์น
00:20:18 → 00:20:21 สรุปให้ว่า 7 อาหารมีอะไรบ้างข้อ 1 ก็คือ
00:20:21 → 00:20:25 ตับไตสัตว์โดยเฉพาะแกะแต่คุณตับไตวัวก็
00:20:25 → 00:20:28 ได้ไม่ว่ากันข้อ 2 ก็คือเนื้อวัวข้อ 3
00:20:28 → 00:20:32 ปลาซาดีนข้อ 4 ปลาทูน่าข้อ 5 ปลาแซลมอน
00:20:32 → 00:20:35 ข้อ 6 นมจากพืชนมจากพืชไม่ได้มีวิตามินใน
00:20:35 → 00:20:38 ตัวหรอกแต่เขาค้าจะแอดเพิ่มก็คือใส่
00:20:38 → 00:20:41 วิตามิน B12 สังเคราะห์เพิ่มเข้าไปเนาะ
00:20:41 → 00:20:44 ข้อ 7 ก็คือไข่ไข่นี้หมอเฟิร์นชอบมากถือ
00:20:44 → 00:20:47 ว่าเป็นช้อยส์ที่ดีจริงๆเราควรกินไข่ทุก
00:20:47 → 00:20:50 วันเพราะว่าสารอาหารเยอะมากๆต่อไปสรุปก็
00:20:50 → 00:20:54 คือใครมีคำถามมยถ้าไม่มีหมอเฟิร์นก็จะ
00:20:54 → 00:20:57 สรุปแล้วก็ไปแล้วเนาะขอบคุณทุกคนที่มาฟัง
00:20:57 → 00:20:59 ไลฟ์ในวันนี้เนาะสดๆแล้วก็ย้อนหลังเลย
00:20:59 → 00:21:03 สรุปก็คือ 7 อาหารเนี้ยให้วิตามิน
00:21:03 → 00:21:08 B12 แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณกินแต่
00:21:08 → 00:21:09 เนื้อสัตว์เนื้อสัตว์เนื้อสัตว์หรือว่า
00:21:09 → 00:21:13 ปลาติดกัน 7 วันหรือว่ากินแต่นมจากพืช
00:21:13 → 00:21:16 หรืออะไรคุณกินอาหารให้หลากหลายตอนเช้า
00:21:16 → 00:21:19 คุณอาจจะกินปลาแซลมอนตอนกลางวันกินไข่ตอน
00:21:19 → 00:21:22 เย็นกินนมจากพืชอย่างี้ก็ได้คุณกินสลับ
00:21:22 → 00:21:25 หมุนเวียนกันไปหรือถ้าร่างกายขาดก็กิน
00:21:25 → 00:21:28 เสิร์ฟได้ให้คุณกินสลับแบบเนี้ยเพราะอะไร
00:21:28 → 00:21:32 เพราะทำได้นะคุณไม่จำเป็นต้องซื้อวิตามิน
00:21:32 → 00:21:35 เสริมมากินให้เสียเงินฟรีก็ได้คุณสามารถ
00:21:35 → 00:21:37 กินจากอาหารหมุนเวียนกันไปแบบนี้คุณถ้า
00:21:37 → 00:21:41 กินจากอาหารจริงเนี่ยคุณจะได้รับวิตามิน
00:21:41 → 00:21:43 B12 จริงๆที่ไม่ได้สังเคราะห์มาจากสาร
00:21:44 → 00:21:47 เคมีซึ่งให้ประโยชน์เยอะกว่าวิตามิน
00:21:47 → 00:21:50 สังเคราะห์เยอะมากๆดังนั้นแต่ใครที่กินเจ
00:21:50 → 00:21:53 ไม่ต้องเสียใจนะคุณกินอาหารเสริมหรือกิน
00:21:53 → 00:21:55 จากสังเคราะห์ได้เพราะว่ายังดีกว่าขาด
00:21:56 → 00:21:59 เนาะเพราะว่าถ้าเกิดว่ามีอาการแล้วมันก็
00:21:59 → 00:22:02 รักษายากแล้วก็ไม่คุ้มกับการที่คุณขาด
00:22:02 → 00:22:05 เนาะเพราะอาการอย่างที่บอกไปหลายคนก็บาง
00:22:05 → 00:22:09 คนก็มีอาการหน้ามืดไม่มีแรงจะเป็นลมอย่าง
00:22:09 → 00:22:11 เงี้ยมีอาการชาปลายมือปลายเท้าถ้าอาการ
00:22:11 → 00:22:15 เหล่านี้มันรำคาญคุณก็กินเสริมได้หรือ
00:22:15 → 00:22:20 ง่ายๆเลยกินไข่ก็ยังดีอ่าอ่าดังนั้นก็วัน
00:22:20 → 00:22:24 นี้ก็ขออวยพรให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นดี
00:22:24 → 00:22:27 ขึ้นแล้วก็หน้าเด็กลงเด็กลงวิตามิน B12
00:22:27 → 00:22:30 เนี่ยไม่ต้องไปซื้อทานเป็นอาหารเป็นเอ้ย
00:22:30 → 00:22:31 เป็นยา
00:22:31 → 00:22:35 กินอาหารเป็นยาดียังไงก็ดีกว่ากินยาเป็น
00:22:35 → 00:22:39 อาหารวันนี้ก็สวัสดี Ha.