00:00:00 → 00:00:02 วันนี้ต้องขอเรียนถามคุณหมอก่อนเลยครับ
00:00:02 → 00:00:05 เพราะว่าอย่างผมอย่างโอ๊คเนี่ยผมผมเชื่อ
00:00:05 → 00:00:08 ว่าน่าน่าจะยังไม่ไม่อยู่ในช่วงเวลาที่
00:00:08 → 00:00:11 อาจจะต้องกังวลหรือว่ากลัวเกี่ยวกับ
00:00:11 → 00:00:14 เรื่องของต้อหินก็เลยอาจจะยังไม่ค่อยมี
00:00:14 → 00:00:16 ความรู้มากนักถามเผื่อคุณผู้ฟังท่านไหน
00:00:16 → 00:00:19 ที่อาจจะยังไม่ทราบเหมือนกันถามก่อนเลย
00:00:19 → 00:00:22 ว่าต้อหินน่ะมันคืออะไรครับคุณหมอครับค่ะ
00:00:22 → 00:00:25 ต้อหินเ่ะคือโรคที่เป็นภาวะเสื่อมค่ะของ
00:00:25 → 00:00:29 บริเวณขั้วปราสาทตาค่ะครับขออธิบายง่ายๆ
00:00:29 → 00:00:33 ก็คือเมื่อเอ่อลูกตาเราเนี่ยรับแสงมาและ
00:00:33 → 00:00:37 เขาก็จะส่งผ่านไปทางเส้นประสาทค่ะไปแปรผล
00:00:37 → 00:00:41 ที่สมองค่ะที่บริเวณเอ่อรอยต่อระหว่างลูก
00:00:41 → 00:00:44 ตาที่จะออกไปที่เส้นประสาตาบริเวณนั้นเรา
00:00:44 → 00:00:48 เรียกว่าขั้วประสาทตาค่ะเมื่อมีการเสื่อม
00:00:48 → 00:00:51 ของตำแหน่งนั้นน่ะก็ทำให้คนไข้อ่ะมีอาการ
00:00:51 → 00:00:55 เอ่อการมองเห็นที่ผิดปกติค่ะตั้งแต่ตามัว
00:00:55 → 00:00:59 ลานใสตาแคบแล้วก็เมื่อมากขึ้นเรื่อยๆก็จะ
00:00:59 → 00:01:01 เข้าเข้าสู่ภาวะสายตาเรือนรางแล้วก็สูญ
00:01:01 → 00:01:04 เสียการมองเห็นหรือว่าเข้าสู่ภาวะตาบอดใน
00:01:04 → 00:01:06 ที่สุดค่ะ
00:01:06 → 00:01:12 อโอมันมันเป็นโรคที่ภาวะอาการที่น่ากังวล
00:01:12 → 00:01:15 มั้ยครับกับคนไทยในปัจจุบันครับคุณหมอ
00:01:15 → 00:01:18 ครับเอ่อจริงๆแล้วเนื่องจากว่าเราสถิติณ
00:01:18 → 00:01:21 ปัจจุบันน่ะค่ะเราพบว่าจริงๆแล้วต้อหิน
00:01:21 → 00:01:23 เป็นโรคของผู้สูงอายุจริงนะคะแต่ว่า
00:01:23 → 00:01:25 เดี๋ยวเราพูดคุยกันเราจะได้ทราบว่าจริงๆ
00:01:25 → 00:01:28 อ่ะในกลุ่มคนอายุน้อยก็ยังเจอต้อหินได้นะ
00:01:28 → 00:01:32 คะอุยอุ๊ยอ้าเหรอฮะอ้าเอาแต่ว่าโดยส่วน
00:01:32 → 00:01:34 ใหญ่แล้วเนี่ยค่ะเนื่องจากอย่างที่เรียน
00:01:34 → 00:01:37 ว่าก็เห็นเป็นโรคของความเสื่อมนั่นแปลว่า
00:01:37 → 00:01:39 ส่วนใหญ่ที่เราเจอเนี่ยเราก็จะเจอหลัง
00:01:39 → 00:01:42 อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไปแล้วค่ะซึ่งเมื่อ
00:01:42 → 00:01:44 อายุเพิ่มขึ้นนะคะเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง
00:01:44 → 00:01:47 ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างเช่นที่อายุประมาณสัก
00:01:47 → 00:01:50 50 ปีขึ้นไปเนี่ยเราจะเจอต้อหินที่
00:01:50 → 00:01:54 ประมาณสัก 2% ค่ะของประชากรค่ะแล้วก็จะ
00:01:54 → 00:01:57 ค่อยๆเพิ่มขึ้นเอ่อเมื่ออายุ 60 70 80
00:01:57 → 00:02:02 อ่ะก็เพิ่มขึ้นเป็น 3% 4% เค่ะค่ะอื 2%
00:02:02 → 00:02:06 ของยิ่งอายุเยอะยิ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงที่
00:02:06 → 00:02:08 จะเป็นได้ใช่ค่ะใช่ค่ะขออนุญาตเปรียบ
00:02:09 → 00:02:11 เทียบเหมือนโรคอื่นๆที่เจอในผู้สูงอายุนะ
00:02:11 → 00:02:14 คะอย่างเช่นเบาหวานความดันพวกเนี้ยค่ะก็
00:02:14 → 00:02:17 จะเป็นโรคที่เรามักจะเจอในคนเอ่อผู้สูง
00:02:17 → 00:02:21 อายุมากกว่าที่จะเจอในคนอายุน้อยๆค่ะค่ะ
00:02:21 → 00:02:25 อืครับคุณหมอครับไอ้ต้อหินเนี่ยฮะมันมัน
00:02:25 → 00:02:29 มีหลากหลายรูปแบบมยครับหรือว่ามันมีแค่
00:02:29 → 00:02:31 แบบเดียวเลยเพราะว่าพอพูดถึงต้อหินมันก็
00:02:31 → 00:02:33 คือต้อหินหรือว่ามันแบ่งแยกย่อยได้อีก
00:02:33 → 00:02:36 มั้ยครับคุณหมอครับค่ะจริงๆต้อหินน่ะขอ
00:02:36 → 00:02:40 แบ่งเป็นกลุ่มหลักๆก็คือเป็นต้อหินมุม
00:02:40 → 00:02:43 เปิดและต้อหินมุมปิดค่ะค่ะซึ่งจริงๆแล้ว
00:02:43 → 00:02:46 ต้อหินคนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นต้อหินมุมเปิด
00:02:46 → 00:02:48 นะคะจะมีแค่คนไข้ส่วนน้อยที่เราเจอว่า
00:02:48 → 00:02:52 เป็นต้อหินมุมปิดค่ะอันเนี้ยนอกเหนือจาก
00:02:52 → 00:02:54 มุมเปิดมุมปิดแล้วเนี่ยยังมีต้อหินเรื้อ
00:02:54 → 00:02:58 รังและต้อหินเฉียบพลันด้วยค่ะค่ะซึ่งส่วน
00:02:58 → 00:03:00 ใหญ่แล้วในกลุ่มต้อหินเบเฉียบพันธุก็มัก
00:03:00 → 00:03:03 จะเจอในต้อหินมุมปิดค่ะเมื่อเอ่อมุมบ้าน
00:03:03 → 00:03:07 ตามันปิดกระทันหันความดันลูกตาสูงคนไข้ก็
00:03:07 → 00:03:11 จะมีอาการเหมือนปวดตาตามัวตาแดงเฉียบ
00:03:11 → 00:03:13 พันธุ์เพราะฉะนั้นคนไข้กลุ่มต้อหินมุมปิด
00:03:13 → 00:03:17 ที่เป็นเฉียบพันธุ์น่ะก็จะมาพบพบแพทย์มา
00:03:17 → 00:03:19 รับการรักษาค่อนข้างเร็วเพราะว่าอาการมัน
00:03:19 → 00:03:23 ชัดเจนค่ะค่ะแตกต่างกับกลุ่มเรื้อรังซึ่ง
00:03:23 → 00:03:26 บางทีเอ่อการมองเห็นมันจะต้องหมายถึงว่า
00:03:26 → 00:03:30 เนื่องจากมันลดลงแย่ลงทีละช้าๆโอกาสที่คน
00:03:30 → 00:03:33 ไข้จะทราบว่าตัวเองเป็นน่ะก็ก็เลยยากและ
00:03:33 → 00:03:37 ในผู้สูงอายุอ่ะมักมีความเข้าใจว่าเอ่อ
00:03:37 → 00:03:40 เมื่ออายุเยอะตาจำเป็นจะต้องมัวค่ะอนั
00:03:40 → 00:03:44 นั่นทำให้บางทีอ่ะเราเราอาจจะเอ่อไม่ไม่
00:03:44 → 00:03:46 ได้ไปตรวจเช็คเนื่องจากเราคิดว่าอ้ออายุ
00:03:46 → 00:03:48 เยอะเขาก็มัวกันอย่างงี้แหละอะไรอย่าง
00:03:48 → 00:03:53 เงี้ยค่ะค่ะละเลยไปใช่ค่ะเป็นไปได้ค่ะอื
00:03:53 → 00:03:56 ครับอคุณหมอครับแล้วอย่างงี้เนี่ยเอ่อ
00:03:56 → 00:03:59 อาการมันมีหลากหลายรูปแบบเหลือเกินครับที
00:03:59 → 00:04:00 นี้เนี่ย
00:04:00 → 00:04:03 การสังเกตครับว่าเราเนี่ยเริ่มจะมีความ
00:04:03 → 00:04:07 สุ่มเสี่ยงกับการเป็นต้อหินเนี่ยมันมัน
00:04:07 → 00:04:11 แต่ละรูปแบบแต่ละชนิดเนี่ยมันมีข้อสังเกต
00:04:11 → 00:04:13 หรือว่าอาการตั้งต้นเนี่ยแตกต่างกันบ้าง
00:04:13 → 00:04:17 มั้ยฮะคือจริงๆอาการตั้งต้นน่ะถ้าเป็น
00:04:17 → 00:04:20 กลุ่มเรื้อรังค่ะโอกาสที่เราจะสังเกตตัว
00:04:20 → 00:04:23 เองได้ค่อนข้างยากค่ะเพราะว่าเมื่อเอ่อ
00:04:23 → 00:04:26 เซลล์ประสาทตามันเริ่มเสื่อมใหม่ๆเนี่ย
00:04:26 → 00:04:30 เรายังไม่มีอาการอะไรที่ชัดเจนค่ะอครับ
00:04:30 → 00:04:33 แต่ว่าเมื่อเเส้นใยประสาทตามันมีจำนวนลด
00:04:33 → 00:04:36 ลง 25-40 per แล้วเนี่ยเราถึงจะเริ่ม
00:04:36 → 00:04:40 เอ่อรู้สึกตัวว่าโอเคมันอาจจะมัวลงมีลาน
00:04:40 → 00:04:43 สายตาที่แคบขออธิบายคำว่าลานสายตานี้นึง
00:04:43 → 00:04:46 ค่ะก็คือโดยปกติเวลาเรามองตรงเนี่ยเรายัง
00:04:46 → 00:04:49 สามารถเห็นวัตถุที่อยู่ข้างๆด้านบนด้าน
00:04:49 → 00:04:52 ล่างได้อ่าโดยที่เราอาจจะไม่ต้องกรอกตาไป
00:04:52 → 00:04:55 มองค่ะอันเนี้ยเราเรียกเอ่อสิ่งที่เรามอง
00:04:55 → 00:04:59 เห็นด้วยด้วยความกว้างเนี่ยว่าลานสายตา
00:04:59 → 00:05:03 ค่ะอ๋อนั่นแปลว่าถ้าเราเป็นต้อหินลานสาย
00:05:03 → 00:05:06 ตาเราจะแคบลงเรื่อยๆก็คือเรามองข้างๆเห็น
00:05:06 → 00:05:09 น้อยลงเรื่อยๆอันเนี้ยเราเรียกว่าภาวะลาน
00:05:09 → 00:05:14 สายตาแคบค่ะซึ่งเอ่อพอสิ้นใประสาทตามัน
00:05:14 → 00:05:16 สูญเสียือโดนทำลายจากต้อหินไปเยอะๆแล้ว
00:05:17 → 00:05:19 เนี่ยคนไข้จะมีภาวะที่เรียกได้เรียกว่า
00:05:19 → 00:05:22 ราานสายตาแคบเกิดขึ้นเขาอาจจะมีการเดินชน
00:05:22 → 00:05:26 ขับรถด้านข้างมองไม่เห็นอ่าเบียดต้นไม้
00:05:26 → 00:05:29 บ้างอะไรบ้างเงี้ยค่ะอันเนี้ยก็จะถึงคน
00:05:29 → 00:05:32 ไข้อาจจะเริ่มสังเกตว่าเออการมองเห็นของ
00:05:32 → 00:05:36 เราแย่ลงค่ะแต่ว่ามันก็บางทีอาจจะสังเกต
00:05:36 → 00:05:38 ได้ค่อนข้างยากหน่อยเพราะฉะนั้นโดยปกติ
00:05:38 → 00:05:42 จริงๆณปัจจุบันในกรณีที่หมายถึงว่าในแง่
00:05:42 → 00:05:45 ของการวินิจฉัยส่วนใหญ่เรามักจะเป็นการ
00:05:45 → 00:05:48 ตรวจเจอโดยบังเอิญซะมากกว่าค่ะค่ะในคนไข้
00:05:48 → 00:05:51 ที่ไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็นการเช็คอัพแบบ
00:05:51 → 00:05:55 จำเพาะเจาะจงค่ะอโดยบังเอิญเหรอฮะคุณหมอ
00:05:55 → 00:05:57 ครับโดยบังเอิญที่ว่านี่คือหมายถึงว่าเ้า
00:05:57 → 00:06:01 เริ่มมีอาการแบบว่ามองอาจจะมีปัญหาแล้วก็
00:06:01 → 00:06:04 มาหาคุณหมอแล้วก็ตรวจวินิจฉัยกันจนรู้ว่า
00:06:04 → 00:06:08 เป็นต้อหินแล้วอย่างงี้เหรอฮะคุณหมอใช่
00:06:08 → 00:06:10 ค่ะก็คือโดยบังเอิญในที่นี้อย่างเช่นบาง
00:06:10 → 00:06:13 ทีคนไข้อ่ะค่ะมาตรวจด้วยอาการอื่นค่ะเช่น
00:06:13 → 00:06:17 อ่าวันนี้มีอาการระคายเครืองมีเศษเอ่อผง
00:06:17 → 00:06:20 เข้าตาค่ะครับอ่าปรากฏว่าตรวจเช็คไปแล้ว
00:06:20 → 00:06:23 ปรากฏว่าเจอว่ามีภาวะความดันตาสูงตรวจ
00:06:24 → 00:06:26 ขั้วประสาทตาแล้วมีลักษณะหลุมในขั้ว
00:06:26 → 00:06:29 ประสาทตาใหญ่ผิดปกติอย่างเงี้ยค่ะก็จะเ่อ
00:06:29 → 00:06:32 เป็นสิ่งที่หมอเรียกว่าเจอเอ่อเจอโดย
00:06:32 → 00:06:35 บังเอิญเพราะจริงๆคนไข้อาจจะไม่ได้เข้ามา
00:06:35 → 00:06:38 หาเราโดยตรงจากเรื่องภาวะตามัวจากต้อหิน
00:06:38 → 00:06:45 ก็ได้ค่ะออืเออโอ้โหเอ่ออย่างงี้เองเนี่ย
00:06:45 → 00:06:49 ถ้าถ้าสมมุติเป็นแล้วเนี่ยมันมันมันถึง
00:06:49 → 00:06:53 ขั้นจะเอ่อทรมานหรือว่ามันจะมีแบบเอฟเฟค
00:06:53 → 00:06:56 อืมในการใช้ชีวิตค่อนข้างเยอะมั้ยครับคุณ
00:06:56 → 00:06:59 หมอค่ะเอฟเฟคเยอะเลยนะคะออย่างแรกเลยค่ะ
00:06:59 → 00:07:01 ถ้าเป็นต้อหินเฉียบพันธุ์เนี่ยเ่อใช้คำ
00:07:01 → 00:07:04 ว่าทรมานได้เพราะคนไข้งบางท่านก็จะมี
00:07:04 → 00:07:08 อาการปวดตาปวดหัวเมื่อแรงดันในลูกตาสูง
00:07:08 → 00:07:11 มากๆเนี่ยเอ่อเราถึงขั้นไม่มีคลื่นไส้
00:07:11 → 00:07:14 อาเจียนได้ด้วยค่ะค่ะครับ
00:07:14 → 00:07:20 เอ่อลำดับถัดมาก็คือถ้าในกรณีที่อาการใน
00:07:20 → 00:07:23 กลุ่มต้อหินเรื้อรังอย่างเงี้ยค่ะคนไข้ก็
00:07:23 → 00:07:25 อาจจะไม่ไม่ได้มีอาการเหล่านั้นอันนี้
00:07:25 → 00:07:27 แหละมันคือสิ่งที่เราบอกว่ามันเป็นภัย
00:07:28 → 00:07:32 เงียบค่ะค่ะอืเพราะทีมาเจอตอนระยะต้อหิน
00:07:32 → 00:07:36 ที่มันค่อนข้างเยอะมากแล้วค่ะคือส่วนใหญ่
00:07:36 → 00:07:39 เนี่ยคือถ้ามันมันมันมันเริ่มเริ่มก่อ
00:07:39 → 00:07:43 ร่างสร้างตัวละคือในช่วงแรกเนี่ยมันแทบจะ
00:07:43 → 00:07:46 ไม่ไม่บ่งบอกอะไรเราเลยใช่มั้ยครับคุณหมอ
00:07:46 → 00:07:49 ครับมันยังก็ใช้ชีวิตกันตามปกติคือพอมา
00:07:49 → 00:07:53 อีกทีก็คือโป้งเดียวคือมีอาการหนักละคือ
00:07:53 → 00:07:55 ส่วนใหญ่อ่ะค่ะลักษณะของต้อหินโดย
00:07:55 → 00:07:58 ธรรมชาติเนี่ย 2 ข้างหยถึงว่าตา 2 ข้าง
00:07:58 → 00:08:01 ของผู้ป่วยที่เป็นน่ะมักจะเป็นมากน้อยไม่
00:08:01 → 00:08:05 เท่ากันค่ะอ้าาวเนี้ยเอ่อพอเค้ายังมีตาดี
00:08:05 → 00:08:08 ข้างนึงอยู่เอาจจะใช้ชีวิตประจำวันได้ตาม
00:08:08 → 00:08:12 ปกติค่ะส่วนใหญ่บางทีคนไข้หลายท่านน่ะมา
00:08:12 → 00:08:15 ตอนที่ตาที่ 2 ก็คือตาข้างที่ดีที่เหลือ
00:08:15 → 00:08:18 ข้างเดียวอ่ะมันเริ่มมัวอันเนี้ยคนไข้ถึง
00:08:18 → 00:08:21 จะเข้ามาตรวจมาหาจักถุแพทย์ปัญหาก็คือตา
00:08:21 → 00:08:25 ข้างข้างแรกที่เริ่มเป็นก่อนน่ะมันอาจจะ
00:08:25 → 00:08:27 เอ่อค่อนข้างมีการมองเห็นที่ลดลงน้อยและ
00:08:27 → 00:08:31 และการมองเห็นลตรงเนี้ยค่ะไม่ไม่คืนกลับ
00:08:31 → 00:08:34 มานะคะเพราะว่าเส้นเส้นใยประสาตาที่มัน
00:08:34 → 00:08:37 โดนทำลายไปแล้วเนี่ยไม่งอกใหม่ค่ะคะ
00:08:37 → 00:08:42 อืโอ้โหไม่งอกใหม่แสดงว่าเราก็ต้องทนกับ
00:08:43 → 00:08:45 เรื่องของการเสื่อมไปอย่างงั้นล่ะฮะใช่
00:08:45 → 00:08:48 ค่ะใช่ค่ะเอ่อก็คือมันขึ้นอยู่กับระดับ
00:08:48 → 00:08:52 ขั้นของของระยะใช้คำว่าระยะของผู้ป่วยที่
00:08:52 → 00:08:55 ที่เข้ามามาพบแพทย์ด้วยค่ะครับคอคือถ้า
00:08:56 → 00:08:59 เป็นแล้วเนี่ยมันก็ต้องเป็นทั้ง 2 ค้าเลย
00:08:59 → 00:09:02 มครับคุณหมอครับส่วนใหญ่อ่ะค่ะโดยปกติมัก
00:09:02 → 00:09:05 จะเป็น 2 ข้างค่ะยกเว้นเป็นต้อหินที่เกิด
00:09:05 → 00:09:08 จากภาวะบางอย่างเช่นจากอุบัตติเหตุค่ะค่ะ
00:09:08 → 00:09:11 อันเนี้ยคนไข้อาจจะเป็นต้อหินเพียงข้างใด
00:09:11 → 00:09:13 ข้างหนึ่งเช่นในข้างที่ได้รับอุบัติเหตุ
00:09:13 → 00:09:17 มาค่ะหรือว่าเอ่อคนไข้บางท่านมีประวัติ
00:09:17 → 00:09:20 ใช้ยาเซรอยโดยเฉพาะกลุ่มยาหยอดอย่างเงี้ย
00:09:20 → 00:09:23 ค่ะก็อาจจะมีอาการเฉพาะข้างที่เขาใช้ยา
00:09:23 → 00:09:25 เป็นประจำค่ะ
00:09:25 → 00:09:29 อืคุณหมอครับคืออันเนี้ยพอพอเราพอจะเห็น
00:09:29 → 00:09:32 ภาพแล้วว่าแต่ละประเภทแต่ละชนิดของต้อหิน
00:09:32 → 00:09:36 เนี่ยมันเป็นยังไงทีนี้เนี่ยเรื่องของ
00:09:36 → 00:09:39 กลุ่มครับกลุ่มเสี่ยงหรือว่าปัจจัยที่นำ
00:09:40 → 00:09:42 ไปสู่เรื่องของต้อหินเนี่ยมันมันเกิดขึ้น
00:09:42 → 00:09:45 ได้จากอะไรบ้างครับคุณหมอครับค่ะอย่างแรก
00:09:45 → 00:09:47 เลยค่ะเนื่องจากต้อหินส่วนใหญ่เป็นในผู้
00:09:47 → 00:09:49 สูงอายุค่ะเพราะฉะนั้นยิ่งอายุเพิ่มขึ้น
00:09:50 → 00:09:52 ความเสี่ยงในการเป็นต้อหินก็เพิ่มขึ้นค่ะ
00:09:52 → 00:09:57 ครับค่ะ 2 ค่ะประวัติกรมพรค่ะเอ่อถ้าเรา
00:09:57 → 00:10:00 มีญาติพี่น้องสายตรงค่ะเช่นคุณพ่อคุณแม่
00:10:00 → 00:10:04 พี่น้องเ่อหรือลูกอันเนี้ยในลักษณะของ
00:10:04 → 00:10:07 ญาติพี่น้องสายตรงที่เป็นต้อหินค่ะความ
00:10:07 → 00:10:09 เสี่ยงในการเป็นต้อหินก็อาจจะเพิ่มขึ้น
00:10:09 → 00:10:12 ประมาณ 3-5 เท่าเลยค่ะค่ะเพราะฉะนั้นส่วน
00:10:12 → 00:10:14 ใหญ่เวลามาเจอหมอเนี่ยบางทีหมอก็จะซัก
00:10:14 → 00:10:17 ประวัติว่ามีประวัติญาติพี่น้องเป็นหรือ
00:10:17 → 00:10:19 เปล่าแต่ญาติพี่น้องในที่นี้อย่างที่
00:10:19 → 00:10:22 เรียนค่ะไม่ใช่คุณอ่าคุณป้าคุณลุงอันนี้
00:10:22 → 00:10:25 ไม่ใช่นะคะต้องเป็นญาตพี่น้องสายตรงค่ะ
00:10:25 → 00:10:28 ปัจจัยอื่นๆก็จะเป็นปัจจัยอย่างเช่นถ้าคน
00:10:28 → 00:10:32 ไขมีสายตาสั้นมากเมากผิดปกติเช่นสั้นเกิน
00:10:32 → 00:10:35 400 ขึ้นไปค่ะหือยาวมาผิดปกติพวกนี้ก็
00:10:35 → 00:10:39 เป็นกลุ่มเสี่ยงค่ะค่ะเอ่อนอกเหนือจาก
00:10:39 → 00:10:41 นั้นเนี่ยก็จะเป็นอย่างเช่นอย่างที่เรียน
00:10:41 → 00:10:43 ก่อนหน้านี้อย่างเช่นประวัติอุบัติเหตุ
00:10:43 → 00:10:46 ค่ะเช่นโดนเยโดนลูกบอลกระแทกโดนชกอย่าง
00:10:46 → 00:10:48 เงี้ยค่ะอันเนี้ยก็เป็นปัจจัยเสียงได้ถ้า
00:10:48 → 00:10:52 อุบัติเหตุนั้นรุนแรงค่ะการใช้ยาเอ่อหยอด
00:10:52 → 00:10:56 ตาเอ่อกลุ่มสเตรอยด์พวกเนี้ยก็มีส่วน
00:10:56 → 00:10:59 กระตุ้นให้เกิดท่อหินได้ค่ะแล้วก็ก็อย่าง
00:10:59 → 00:11:02 เช่นคนไข้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างเช่น
00:11:02 → 00:11:04 กลุ่มเบาหวานอย่าเงี้ยค่ะถ้ามีเบาหวานจอ
00:11:04 → 00:11:08 ประสาทตาก็อาจจะนำมาซึ่งต้อหินที่เกิดจาก
00:11:08 → 00:11:11 เบาหวานได้ค่ะอันนี้ก็เป็นกลุ่มเสียงหลัก
00:11:11 → 00:11:15 ๆค่ะอค่ะโอก็ก็ก็มีหลายกลุ่มเสียงเหมือน
00:11:15 → 00:11:17 กันนะครับคุณหมอทีนี้เยอะค่อนข้างเยอะนะ
00:11:17 → 00:11:20 เยอะๆเลยแหละแล้วทีนี้ผมขออนุญาตย้อนกลับ
00:11:20 → 00:11:23 ไปข้อแรกครับคุณหมอเรื่องราวของช่วงอายุ
00:11:23 → 00:11:26 ช่วงอายุไหนที่ที่เริ่มที่จะมีความเสี่ยง
00:11:26 → 00:11:29 และแล้วก็มีความเสี่ยงสูงด้วยครับคุณคุณ
00:11:29 → 00:11:32 หมอครับที่ต้องกังวลฮะค่ะจริงๆนะโดยปกติณ
00:11:32 → 00:11:35 ปัจจุบันน่ะค่ะในแง่ของการตรวจเช็คสุขภาพ
00:11:35 → 00:11:38 ปลาเราก็แนะนำสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่
00:11:38 → 00:11:41 อายุ 40-50 ปีขึ้นไปเลยค่ะยิ่งถ้าเรามี
00:11:41 → 00:11:44 ประวัติครอบครัวเป็นต้อหินเอ่อแนะนำให้
00:11:44 → 00:11:47 เข้าไปเช็คให้เร็วขึ้นค่ะค่ะอาจจะเอ่อ
00:11:47 → 00:11:50 เริ่มเข้ามาเช็คตั้งแต่อายุช่วง 30 40
00:11:50 → 00:11:53 ปีได้เลยค่ะนะคะอันนี้ก็เป็นเรื่องของ
00:11:53 → 00:11:56 ปัจจัยของอายุค่ะแล้วก็อย่างที่ให้ข้อมูล
00:11:56 → 00:11:59 มาก่อนหน้านี้ค่ะยิ่งอายุเพิ่มขึ้นคความ
00:11:59 → 00:12:01 เสี่ยงในการเป็นต้อหินก็เพิ่มขึ้นตามวัย
00:12:01 → 00:12:07 ด้วยค่ะค่ะอือโอคือผมสนใจตรงที่ว่าคุณหมอ
00:12:07 → 00:12:10 ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนแรกยิ่งถ้าเราคุย
00:12:10 → 00:12:15 ไปเรื่อยๆคุยไปเรื่อยๆค่ะแล้วก็จะทราบว่า
00:12:15 → 00:12:18 อายุน้อยก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ทีนี้
00:12:18 → 00:12:21 ผมอยากจะถามเลยล่ะครับคุณหมอครับว่าโอกาส
00:12:21 → 00:12:24 ที่คนอายุน้อยๆเนี่ยอย่างน้อยกว่า 40
00:12:24 → 00:12:27 เนี่ยที่มีโอกาสเจอเนี่ยมันมันมันจะเกิด
00:12:27 → 00:12:29 จากปัจจัยอะไรได้บ้างถ้าถ้าเราไม่นับ
00:12:29 → 00:12:31 เรื่องของกรมพรอะไรอย่างเงี้ยคุณหมอฮค่ะ
00:12:31 → 00:12:34 ก็จะมีตั้งแต่ 1 เลยค่ะตเห็นตั้งแต่แรก
00:12:34 → 00:12:37 เกิดมีเด็กทารกอ่ะค่ะที่เป็นต้อหินเนื่อง
00:12:37 → 00:12:41 จมีความผิดปกติของโครงสร้างในลูกตาซึ่งทำ
00:12:41 → 00:12:43 หน้าที่ระบายน้ำออกจากลูกตาเนี่ยมันผิด
00:12:43 → 00:12:47 ปกติก็ทำให้เด็กๆกลุ่มเนี้ยค่ะมีความดัน
00:12:47 → 00:12:51 ตาสูงมาตั้งแต่แรกเกิดค่ะก็จะเป็นต้อหิน
00:12:51 → 00:12:55 ตั้งแต่กำเนิดค่ะ 2 ก็คือเอ่อก็จะมีต้อ
00:12:55 → 00:12:58 หินที่เกิดจากเอ่อปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอย่าง
00:12:58 → 00:13:01 เช่นอ่ะมีประวัติอุบัติเหตุมาตั้งแต่เด็ก
00:13:01 → 00:13:04 ๆหรืออย่างเงี้ยค่ะก็อาจจะเป็นปัจจัย
00:13:04 → 00:13:07 เสี่ยงได้หรือในเด็กๆบางคนที่บางทีเป็น
00:13:07 → 00:13:11 โรคภูมิแพ้ที่ตาค่ะบางทีเราให้การรักษารส
00:13:11 → 00:13:14 การอักเสบโดยการหยอดยาสเตอรอยด์ซึ่งบาง
00:13:14 → 00:13:17 ครั้งอ่ะถ้ามีการใช้ต่อเนื่องเราก็อาจจะ
00:13:17 → 00:13:20 ต้องมีการตรวจติดตามวัดความดันลูกตาเพราะ
00:13:20 → 00:13:22 ว่าการใช้สเตอรอยด์จะเป็นความเสี่ยงทำให้
00:13:22 → 00:13:25 ความดันลูกตาสูงขึ้นและในที่สุดคนไข้ก็จะ
00:13:25 → 00:13:29 เป็นต้อหินแบบถาวรได้ค่ะอโอ
00:13:29 → 00:13:35 อืโอน่ากลัวนะพี่โอ๊นะมันก็มีคนเสี่ยงก็
00:13:35 → 00:13:38 หลายกลุ่มแล้วก็มีหลักความหลากหลายที่ที่
00:13:38 → 00:13:44 จะเกิดขึ้นได้สำหรับต้อหินเองอืมพอพอถึง
00:13:44 → 00:13:48 ขั้นนี้แล้วคุณหมอพี่ีมเอ่อพอเราเราเรา
00:13:48 → 00:13:51 รู้ถึงถึงถึงสาเหตุถึงโอกาสจะเป็นแล้ว
00:13:51 → 00:13:54 เนี่ยสมมุติถ้ามันเป็นแล้วเนี่ยคุณหมอ
00:13:54 → 00:13:58 เอ่อการรักษามันมันมันจะไปในทิศทางไหนได้
00:13:58 → 00:14:01 บ้างฮะไปซื้อมีมันมันจะมีสูตรยาหยอดแล้ว
00:14:01 → 00:14:04 เดี๋ยวหายเลยมหรือว่ามันต้องไปรักษาทาง
00:14:04 → 00:14:08 จักสุแพทย์อย่างเดียวเท่านั้นถึงจะหายค่ะ
00:14:08 → 00:14:10 อย่างแรกเลยค่ะโดยปกติเราอาจจะต้องหมาย
00:14:10 → 00:14:14 ถึงว่าแพทย์ผู้รักษาค่ะต้องให้ข้อมูลกับ
00:14:14 → 00:14:16 เอ่อผู้ป่วยหรือคนไข้ของเราก่อนค่ะว่าใน
00:14:16 → 00:14:19 แง่ของแนวทางการรักษาต้อหิน 1 เราไม่ได้
00:14:19 → 00:14:23 รักษาให้ต้คนไข้ของเราหายนะคะแต่การรักษา
00:14:23 → 00:14:26 เนี่ยเป็นการชะลอโรคเนื่องจากว่าเอ่อ
00:14:26 → 00:14:30 ลักษณะของต้อหินเนี่ยเขาจะมีการดำเนินโรค
00:14:30 → 00:14:33 ไปเรื่อยๆซึ่งทำให้เส้นใยประสาทปลาของเรา
00:14:33 → 00:14:36 อ่ะลดจำนวนลงส่งผลกระทบทำให้การวางเห็น
00:14:36 → 00:14:39 ของคนไข้เราอ่ะลดลงด้วยค่ะเพราะฉะนั้นการ
00:14:39 → 00:14:42 ชะลอโรคของเราก็คือการลดความดันลูกตาค่ะ
00:14:42 → 00:14:45 การควบคุมความดันตาค่ะซึ่งเทคนิคในการควบ
00:14:45 → 00:14:49 คุมความันตาก็มีตั้งแต่การใช้ยาหยอดตาค่ะ
00:14:49 → 00:14:52 ครับอ่ะเป็นยายาต้อหินนะคะเป็นยาเพื่อลด
00:14:52 → 00:14:55 ความหวังผลลดความันลูกตาค่ะจริงๆยังมี
00:14:55 → 00:14:58 กลุ่มยาทานด้วยแต่ว่าเนื่องจากกลุ่มยาทาน
00:14:58 → 00:15:02 เนี่ยเรามักจะให้ใช้ในกรณีที่เป็นฉุกเฉิน
00:15:02 → 00:15:05 หรือว่าต้องการใช้ชั่วคราวเพื่อรอระยะ
00:15:05 → 00:15:08 เวลาการผ่าตัดเนื่องจากผลข้างเคียงของยา
00:15:08 → 00:15:11 ทานค่อนข้างสูงเช่นมีอ่อนเคลียรค่ะมี
00:15:11 → 00:15:15 คลื่นไส้ยาเจียนค่ะมีปัสสาวะบ่อยมีกแร่ใน
00:15:15 → 00:15:17 ร่างกายปกติเพราะฉะนั้นเราจะใช้เมื่อ
00:15:17 → 00:15:21 เมื่อจำเป็นจริงๆค่ะอื 2 ก็คือการรักษา
00:15:21 → 00:15:24 ด้วยเลเซอร์ค่ะณปัจจุบันเนี่ยเตรนหรือว่า
00:15:24 → 00:15:28 แนวโน้มของการใช้เลเซอร์รักษาเนี่ยก็ขึ้น
00:15:28 → 00:15:31 มาเทียบเคียงการใช้ยาแล้วณปัจจุบันค่ะ
00:15:31 → 00:15:34 เพราะว่าได้ผลดีถึงแม้การยิงเลเซอร์จะได้
00:15:34 → 00:15:37 ผลไม่ถาวรแต่การที่ยิงเลเซอร์แล้วสามารถ
00:15:37 → 00:15:41 ลดคำนันตาไปได้สักช่วงนึงเช่นเอ่อ 1 ปี 2
00:15:41 → 00:15:45 ปีก็อาจจะทำให้เรามีรูปแบบการใช้ชีวิต
00:15:45 → 00:15:47 ประจำวันที่ไม่ต้องคอยมาพวงกับการหยอดยา
00:15:47 → 00:15:50 ซึ่งอันเนี้ยคุณหมอจะเป็นผู้พิจารณาว่า
00:15:50 → 00:15:53 เ่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับคนไข้แต่
00:15:53 → 00:15:57 ละท่านแต่ละรายค่ะออย่าสุดท้ายก็คือในแง่
00:15:57 → 00:16:01 ของการผ่าตัดค่ะโดยปกติเราจะผ่าตัดก็แต่
00:16:01 → 00:16:05 เมื่อคนไข้อาจจะใช้ยาเต็มที่และ 3-4
00:16:05 → 00:16:07 กลุ่มและไม่สามารถลดควดันตาหรือควบคุม
00:16:07 → 00:16:11 ความดันตาได้ตรวจประเมินและคนไข้เรายังมี
00:16:11 → 00:16:14 การดำเนินโรคไปในแนวโน้มที่มีความเสี่ยง
00:16:14 → 00:16:18 ที่การมองเห็นของคนไข้อาจจะแย่ลงค่ะหรือ
00:16:18 → 00:16:21 ยิงเลเซอร์แล้วก็อาจจะการตอบสนองไม่ดีอัน
00:16:21 → 00:16:23 นี้คุณหมออาจจะต้องพิจารณาเรื่องการผ่า
00:16:23 → 00:16:28 ตัดต้อหินค่ะเพื่อหวังผลก็คือลดความดันตา
00:16:28 → 00:16:32 และชะลอไม่ให้ต้อเ่อระยะของต้อหินน่ะมัน
00:16:32 → 00:16:37 เพิ่มมากขึ้นค่ะอืมีผมเคยอ่านคุณหมอผมเคย
00:16:37 → 00:16:41 ได้ยินด้วยว่าไอ้ต้อหินเนี่ยถ้าเป็นแล้ว
00:16:41 → 00:16:44 เนี่ยมันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ไม่
00:16:44 → 00:16:47 ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหนครับคุณหมอครับอ่า
00:16:47 → 00:16:51 จริงค่ะเห็นมไม่รักษาให้หายขาดได้แต่ว่า
00:16:51 → 00:16:55 เราสามารถชะลอหรือเอ่อทำประคับประคองอ่ะ
00:16:55 → 00:16:57 ค่ะให้ระดับการมองเห็นของคนไข้เราอ่ะไม่
00:16:57 → 00:17:02 แย่ลงได้ค่ะอืคือหมายความว่าคือที่ที่
00:17:02 → 00:17:06 รักษาไม่หายอ่ะคุณหมอคือเราก็ต้องอยู่กับ
00:17:06 → 00:17:09 เจ้าต้อจ้อหินเนี่ยไปตลอดชีวิตอย่างนี้
00:17:10 → 00:17:12 เลยเหรอฮะคุณหมอครับเพียงแค่มันอาจจะไม่
00:17:12 → 00:17:16 ถึงขั้นกับตาบอดมองไม่เห็นอย่างงี้เหรอฮะ
00:17:16 → 00:17:19 ใช่ค่ะใช่ค่ะโดปกติอ่ะค่ะคนไข้แต่อย่าง
00:17:19 → 00:17:22 ที่เรียนคนไข้แต่ละท่านมาในระยะที่แตก
00:17:22 → 00:17:25 ต่างกันยิ่งเมาเจอเราเร็วอ่ะค่ะเส้นย
00:17:25 → 00:17:27 ประสาทตาเหลือเยอะระดับการมองเห็นลานสาย
00:17:27 → 00:17:31 ตาก็ยังดีอยู่อันเนี้ยเอ่อเราก็พยายามจะ
00:17:31 → 00:17:33 รักษาเพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านั้นน่ะมันแย่
00:17:33 → 00:17:37 ลงค่ะแต่ว่าถึงแม้คนไข้จะมาเจอหรือมาพบ
00:17:37 → 00:17:40 แพทย์ในระยะที่เยอะเราก็ยังต้องพยายาม
00:17:40 → 00:17:44 ประคับประคองเอ่อเพื่อให้เา้ามีการมอง
00:17:44 → 00:17:47 เห็นในระดับนั้นน่ะให้ให้คงที่ให้นานที่
00:17:47 → 00:17:50 สุดค่ะครับแต่ว่าถ้าเข้าสู่ระยะสายตา
00:17:50 → 00:17:54 เรือนรางหรือว่าเอ่อถึงขั้นที่มีลักษณะ
00:17:54 → 00:17:56 ของการสูญเสียการมองเห็นและอันเนี้ยเราก็
00:17:56 → 00:17:59 อาจจะต้องเอ่อใช้
00:17:59 → 00:18:03 อื่นๆมาการรักษาอื่นๆมาช่วยเช่นเอ่อการดู
00:18:03 → 00:18:06 แลในแง่ของการเข้าคลินิกสายตาเรือนรางให้
00:18:06 → 00:18:10 อุปกรณ์ในแง่ของการช่วยมองอ่ะค่ะฝึกการ
00:18:10 → 00:18:13 ใช้แเ้าในผู้ป่วยที่สูญเสียการมองเห็นอัน
00:18:13 → 00:18:16 นั้นน่ะก็คือสำหรับผู้ป่วยที่ค่อนข้าง
00:18:16 → 00:18:20 เป็นเยอะหรือว่าเป็นต้เห็นระยะสุดท้ายค่ะ
00:18:20 → 00:18:21 ครับ
00:18:21 → 00:18:25 อื้อหือเขาบอกว่าอืผมเคยไปอ่านเจอครับคุณ
00:18:25 → 00:18:27 หมอครับค่ะคนที่เป็นแล้วเนี่ยเรื่องของ
00:18:27 → 00:18:31 การการใช้ชีวิตเนี่ยมันก็ต้องมีข้อจำกัด
00:18:31 → 00:18:34 จำเขี่ยกันพอสมควรทีเดียวโดยเฉพาะเรื่อง
00:18:34 → 00:18:37 ของการทำเพื่อสุขภาพอย่างการออกกำลังกาย
00:18:37 → 00:18:41 มันมีบางชนิดกีฬาที่ถ้าถ้าเรามีอาการต้อ
00:18:41 → 00:18:45 หินและหรือว่าอาจจะยังไม่ได้เป็นอะไร
00:18:45 → 00:18:48 อย่างเงี้ยแต่ว่ามันก็มีความเสี่ยงที่อาจ
00:18:48 → 00:18:51 จะทำให้เราเนี่ยเป็นต้อหินเพิ่มขึ้นมาได้
00:18:51 → 00:18:54 อย่างเช่นเรื่องของโยคะคุณหมอครับเล่นการ
00:18:54 → 00:18:57 ฟิตเนสเอยอะไรอย่างเงี้ยเล่นยกเวทอะไร
00:18:57 → 00:19:00 อย่างเงี้ยไม่ทราบมันมันเกี่ยขกันมากน้อย
00:19:00 → 00:19:03 ขนาดไหฮคุณหมอคือจริงๆมันมีงานวิจัยค่ะ
00:19:03 → 00:19:06 ว่าอย่างเช่นโยคะอย่างเช่นในท่าที่เอาหัว
00:19:06 → 00:19:10 ลงเยอะๆค่ะหรือนานๆเนี่ยมีผลทำให้ความดัน
00:19:10 → 00:19:14 ตาเพิ่มสูงขึ้นค่ะการยกเวทก็เหมือนกันค่ะ
00:19:14 → 00:19:17 ถ้าเราหมายถึงว่าเอ่อเล่นเยอะๆเล่นเป็น
00:19:17 → 00:19:19 ประจำค่ะอันเนี้ยก็มีผลทำให้ความดันตาสูง
00:19:19 → 00:19:23 ขึ้นแต่ว่าเราไม่ได้ห้ามการโยคะธรรมดาคือ
00:19:23 → 00:19:27 โยคะมันมีลักษณะท่าทางหลายรูปแบบถูกมั้ย
00:19:27 → 00:19:31 คะเลทางที่ผกระทที่ทำให้คความันตาสูงขึ้น
00:19:31 → 00:19:34 เท่านั้นเองหรือในแงของการยกเทค่ะถ้าเรา
00:19:35 → 00:19:38 รู้ว่าโอเคเรามีความเสี่ยงค่ะหรือเรามีมี
00:19:38 → 00:19:41 ต้อหินแล้วเนี่ยเราก็อาจจะอาจจะใช้เรียก
00:19:41 → 00:19:45 ว่าอะไรดียกน้ำหนักหรือตัวเวทอ่ะให้มันลด
00:19:45 → 00:19:48 ลดน้ำหนักลงเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเบ่ง
00:19:48 → 00:19:51 เกร็งมากเพื่อป้องกันไม่ให้พับพันตามัน
00:19:51 → 00:19:54 สูงเพิ่มขึ้นนั่นแปลว่าเราไม่ได้ห้ามเล่น
00:19:55 → 00:19:58 กีฬาเหล่านี้แต่อาจจะเอ่อเลือก้าท่าทาง
00:19:58 → 00:20:02 หรือลักษณะการเล่นให้มันเหมาะสมค่ะออไม่
00:20:02 → 00:20:05 ได้ห้ามเพียงแต่ว่าอาจจะหลีกเลี่ยงท่าที่
00:20:05 → 00:20:08 มันมีโอกาสทำให้เกิดความดันในในลูกตาเรา
00:20:08 → 00:20:11 สูงขึ้นอย่างโยคะนี่ก็คือเลี่ยงธาตุที่
00:20:11 → 00:20:16 มันแบบว่าเอ่อก้มศีรษะลงใช่ค่ะใช่ค่ะใช่
00:20:16 → 00:20:19 ค่ะเพยเพราะมันเกี่ยวกับความดันในลูกตา
00:20:19 → 00:20:22 ใช่มั้ยใช่ค่ะใช่ค่ะอืส่วนยกเวทอะไรอย่าง
00:20:23 → 00:20:27 เงี้ยสายเวทก็อาจจะยกน้ำหนักที่มันมันมัน
00:20:27 → 00:20:30 ไม่ต้องไปท้าายความแข็งแกร่งของกล้าม
00:20:30 → 00:20:31 เนื้อเรามากขึ้นเพราะว่ามันจะต้องแบบว่า
00:20:31 → 00:20:34 มีอาการเกร็งเบ่งขึ้นมาได้ประมาณนี้ใช่
00:20:34 → 00:20:38 มั้ยครับใช่อืเรื่องอาหารการกินนี่เกี่ยว
00:20:38 → 00:20:41 ข้องด้วยมั้ยครับคุณหมอครับจริงๆอ่ะค่ะ
00:20:41 → 00:20:44 เอ่อณปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางการแพทย์
00:20:44 → 00:20:47 อ่ะค่ะว่าอาหารตัวไหนที่เป็นความเสี่ยงนะ
00:20:47 → 00:20:53 คะค่ะครับคือผมเพิ่งไปฟังบทสัมภาษณ์ของคน
00:20:53 → 00:20:55 ที่เขาเป็นมาเบอกว่าไอ้การเวลาสมมุติถ้า
00:20:55 → 00:20:58 เป็นแล้วเนี่ยไอ้เรื่องของการกินพวกชา
00:20:58 → 00:21:01 กาแฟรวมทั้งพวกเครื่องดื่มชูกำลังเนี่ย
00:21:01 → 00:21:04 มันมีส่วนที่จะไปกระตุ้นให้ต้อหินของเรา
00:21:04 → 00:21:07 เนี่ยทำงานหนักมากยิ่งขึ้นมีความเสี่ยง
00:21:07 → 00:21:09 อันตรายมากยิ่งขึ้นนี่จริงมั้ยฮะคุณหมอฮะ
00:21:09 → 00:21:12 จริงๆแล้วในแง่ของคาเฟอีนค่ะมีรายงานว่า
00:21:12 → 00:21:15 ทำให้ความดันตาขึ้นประมาณสัก 1-2 มลมตลอด
00:21:15 → 00:21:19 ได้ค่ะซึ่งจริงๆแล้วปกติตาเราอ่ะค่ะจะไม่
00:21:19 → 00:21:23 ค่อยเกินไม่ไม่เกิน 21 มมตลอดนะคะถ้าเี่ย
00:21:23 → 00:21:27 ันตาของคนทั่วไปเนี่ยก็จะอยู่ประมาณซัก 10
00:21:27 → 00:21:30 กว่าๆค่ะค่ะซึ่งแต่ละคนก็จะมีความดันตา
00:21:30 → 00:21:32 ที่ไม่เท่ากันค่ะเปรียบเทียบเหมือนเวลา
00:21:32 → 00:21:34 เราวัดความดันโลหิตอ่ะค่ะเราก็จะมีความ
00:21:34 → 00:21:37 ดันโลหิตที่ไม่เท่ากันค่ะอันเนี้ยการดื่ม
00:21:37 → 00:21:41 ชากาแฟอาจจะทำให้ความดันภายในลูกตาเพิ่ม
00:21:41 → 00:21:44 ขึ้นแต่มันเพิ่มขึ้นน้อยมากจนเราก็ไม่
00:21:44 → 00:21:46 เรียกว่าอะไรดีเราก็เลยไม่ได้ถือว่าเป็น
00:21:47 → 00:21:50 ข้อห้ามสำหรับผู้ป่วยที่เราวินิจฉัยว่า
00:21:50 → 00:21:55 เป็นต้อหินในการดื่มชากาแฟค่ะค่ะอือาการ
00:21:55 → 00:21:58 เครียดรอครับเครียดคนที่ทำงานหน่ะเครียด
00:21:58 → 00:22:02 คิดเยอะโอ้โหยเป็นเอ่อเรียกว่าเวลาเครียด
00:22:02 → 00:22:07 ทีโหยลูกกตาแข็งเลยเหมือนปาจะขนนงมาอย่าง
00:22:07 → 00:22:10 เงี้ยเอมันมันมันมีส่วนนะคุณหมอ
00:22:10 → 00:22:14 เอ่อเพราะว่าเครียดอ่ะก็คงยังไงก็คง
00:22:14 → 00:22:16 สัมพันธ์กับภาวะความดันโลหิตสูงแน่ๆค่ะ
00:22:16 → 00:22:20 ภาวะควันนะคะไม่สัมพันธ์กับภาวะไม่
00:22:20 → 00:22:23 สัมพันธ์กับความดันในลูกตาโดยตรงค่ะแต่
00:22:24 → 00:22:26 ว่ามันเป็นแบบปกผันเพราะฉะนั้นจริงๆเนี่ย
00:22:26 → 00:22:30 เราก็ถือว่าภาวะความดันโลหิตสูงและภาวะ
00:22:30 → 00:22:34 เครียดไม่ใช่ปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ภาวะ
00:22:34 → 00:22:37 ความดันลูกตาขึ้นขออธิบายค่ะกำนลูกตา
00:22:37 → 00:22:40 เนี่ยเกิดจากการที่เรามีการสร้างน้ำภายใน
00:22:40 → 00:22:43 ลูกตาน้ำภายในลูกตาเป็นที่เลี้ยงในลูกตา
00:22:43 → 00:22:47 ไม่ใช่ไม่ใช่น้ำตาซึ่งหลั่งออกมาภายนอกนะ
00:22:47 → 00:22:50 คะอันนี้เป็นน้ำที่ึสร้างอยู่ภายในลูกตา
00:22:50 → 00:22:55 ค่ะปกติอ๋อพวกเาจะมีการระบายออกอ่าถ้าทุก
00:22:55 → 00:22:58 อย่างสมดุลค่ะก็คือถ้าการสร้าสร้างและ
00:22:58 → 00:22:59 ระบายออก
00:22:59 → 00:23:03 สมดุลภาวะความดันลูกตาก็จะไม่สูงผิดปกติ
00:23:03 → 00:23:07 ในทางกลับกันค่ะถ้ามีการสร้างเยอะผิดปกติ
00:23:07 → 00:23:11 หรือระบายออกน้อยก็จะทำให้เกิดการคั่งของ
00:23:11 → 00:23:15 น้ำที่อยู่ในลูกตาก็ทำให้ความดันตาสูง
00:23:15 → 00:23:18 ขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นถ้าโดยปกติเนี่ย
00:23:18 → 00:23:21 สำหรับคำถามที่ถามว่าเครียดแล้วความดัน
00:23:21 → 00:23:24 ลูกตาจะขึ้นมั้ยจริงๆแล้วอเอ่อไม่มีความ
00:23:24 → 00:23:27 สัมพันธ์กันโดยตรงค่ะไม่ได้มีความ
00:23:27 → 00:23:31 สัมพันธ์อย่างกรณีอย่างกรณีที่เอ่อมี
00:23:31 → 00:23:35 กิจกรรมอย่างเช่นการดำน้ำเอ่ออย่างเงี้ย
00:23:35 → 00:23:38 เป็นต้นนะฮะหรือว่าเการปีนเขาที่ขึ้นไป
00:23:38 → 00:23:40 ที่ความกดอากาศค่ะสูงๆเกี่ยวกับเรื่อง
00:23:40 → 00:23:44 ความมันมันจะมีผลนะฮะจริงๆแล้วขึ้นที่สูง
00:23:45 → 00:23:48 ไม่มีผลค่ะแต่การลงที่ต่ำก็คืออย่างการดำ
00:23:48 → 00:23:52 น้ำเนี่ยมีผลค่ะมีผลกระทบการลูกตาเพิ่ม
00:23:52 → 00:23:56 ขึ้นได้ค่ะหรือว่าการใส่ตัวแว่นตาว่ายน้ำ
00:23:56 → 00:23:59 กอกกอ่ะค่ะที่แน่นเกินไปเนี่ยก็มีงาน
00:23:59 → 00:24:03 วิจัยเพราะว่าเอ่อถ้าถ้าตัวดีไซน์เนี่ยกด
00:24:03 → 00:24:07 ไปลงใกล้ๆรอบเนื้อเยื่ออ่อนรอบดวงตาแน่น
00:24:07 → 00:24:11 มากเกินไปก็มีผลกระทบทำให้ความดันตาเพิ่ม
00:24:11 → 00:24:13 ขึ้นได้ค่ะอันนี้ถ้าเราใ่อยู่เป็นระยะ
00:24:13 → 00:24:16 เวลานานๆก็อาจจะทำให้มันมีความเสี่ยงใน
00:24:16 → 00:24:18 แง่ของความดันตาที่สูงขึ้นแล้วก็เป็นต้อ
00:24:18 → 00:24:23 หินได้ค่ะอือนี่คือว่ายน้ำนะไอ้ดำน้ำใช่
00:24:23 → 00:24:26 มั้ครับพี่โอ๊ครับเออดำดำน้ำเหมือนกันค่ะ
00:24:26 → 00:24:29 ดำน้ำก็มีผลสำหรับเรื่องความดันตาขึ้น
00:24:29 → 00:24:32 เหมือนกันค่ะออครับคุณหมอครับแล้วเรื่อง
00:24:32 → 00:24:35 ของการคือสมมุติถ้ามันเป็นแล้วเนี่ยก็คือ
00:24:35 → 00:24:39 ถ้าถ้าเป็นในวัยที่วัยทำงานน่ะ 40 50
00:24:39 → 00:24:42 เนี่ยมันอาจจะต้องใช้คอมพิวเตอร์อยู่
00:24:42 → 00:24:47 เนี่ยการจ้องหน้าจอคอมเป็นระยะเวลานานๆ
00:24:47 → 00:24:50 มันจะเพิ่มความเสี่ยงให้ได้ด้วยมั้ยฮะค่ะ
00:24:50 → 00:24:53 อันนี้เป็นคำถามที่คนใครถามบ่อยเลยค่ะว่า
00:24:53 → 00:24:55 การที่เขามีความจำเป็นต้องใช้สายตาเยอะ
00:24:55 → 00:24:58 อ่ะมันทำให้เมีความเสี่ยงรือเปล่าจริงๆ
00:24:58 → 00:25:01 อ่ะณปัจจุบันเราไม่พบว่ามีความสัมพันธ์
00:25:01 → 00:25:03 ระหว่างผู้ที่ใช้สายตาเยอะๆหรือใช้
00:25:03 → 00:25:06 คอมพิวเตอร์ใช้มือถือใช้แท็บเล็ตเยอะๆกับ
00:25:06 → 00:25:10 ต้อหินนะคะแต่ยังไงก็ตามการใช้เอ่อการใช้
00:25:10 → 00:25:14 สายตาเยอะๆก็อาจจะตามมาด้วยอาการล้าไม่
00:25:14 → 00:25:18 สบายตาปวดตาปวดหัวอันเนี้ยค่ะอาจจะเป็น
00:25:18 → 00:25:20 ได้แต่ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับต้อหิน
00:25:20 → 00:25:24 ค่ะอือืไม่ไม่ไม่ได้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดย
00:25:24 → 00:25:27 ตรงใช่มั้ยครับคุณหมอครับใช่ค่ะใช่ค่ะอื
00:25:27 → 00:25:30 แล้วแล้วทีนี้คุณหมอครับเรื่องของวิธีการ
00:25:30 → 00:25:36 ที่จะช่วยป้องกันครับให้เราเนี่ยห่างจาก
00:25:36 → 00:25:39 ต้อหินในเมื่อมันเป็นโรคที่เกิดขึ้นจาก
00:25:39 → 00:25:43 ความเสื่อมของร่างกายแต่ว่าระหว่างทางที่
00:25:43 → 00:25:46 จะไปถึงช่วงสัก 40 บวกๆเนี่ยเราควรจะต้อง
00:25:46 → 00:25:49 ดูแลตัวเองหรือว่าป้องกันดวงตาของเรา
00:25:49 → 00:25:52 อย่างไรได้บ้างฮะคุณหมอฮะค่ะโดยปกติอ่ะ
00:25:52 → 00:25:56 ค่ะอย่างในคนอายุน้อยๆเนี่ยเราก็แนะนำว่า
00:25:56 → 00:25:59 เอ่อเนื่องจากว่าว่าต้อหินเนี่ยเป็น
00:25:59 → 00:26:01 เรื่องที่มักเจอในผู้สูงอายุแต่ว่าถ้าเรา
00:26:01 → 00:26:04 มีความเสี่ยงอย่างเช่นอ่าบางคนเป็นเบา
00:26:04 → 00:26:06 หวานตั้งแต่อายุน้อยค่ะอันนี้ก็อาจจะต้อง
00:26:06 → 00:26:10 มีตรวจเช็คตาค่ะถ้าเรามีภาวะสายตาสั้น
00:26:10 → 00:26:13 หรือยาวมากผิดปกติเราอาจจะต้องเอ่อได้รับ
00:26:13 → 00:26:16 การตรวจคัดกรองต้อหินจากคุณหมอให้เร็ว
00:26:17 → 00:26:20 ขึ้นค่ะหรือว่าถ้าเรามีประวัติครอบครัว
00:26:20 → 00:26:23 เป็นต้อหินค่ะโดยเป็นลักษณะของพญาติพี่
00:26:23 → 00:26:27 น้องสายตรงอันเนี้ยหาจะเข้าไปพบคุณหมอ
00:26:27 → 00:26:30 แจ้งได้เลยค่ะว่าเรามีประวัติครอบครัว
00:26:30 → 00:26:33 เนี้ยเอ่อเราขอตรวจเช็คคุณหมอเได้ทำการ
00:26:33 → 00:26:37 ตรวจเช็คเอ่อเบื้องต้นในแง่ของปัจจัย
00:26:37 → 00:26:40 เสี่ยงต่างๆของก็ต้อหินให้เช่นเ็ดความดัน
00:26:40 → 00:26:42 ตาค่ะตรวจขั้วประสาทตาเหล่าเนี้ยอย่าง
00:26:42 → 00:26:46 น้อยอ่ะเราก็จะพอบอกได้แล้วว่าคนไข้ท่าน
00:26:46 → 00:26:48 นั้นน่ะมีความเสี่ยงหรือเปล่าซึ่งถ้าดูมี
00:26:48 → 00:26:51 ความเสี่ยงคุณหมอก็อาจจะส่งตรวจเครื่อง
00:26:51 → 00:26:55 มือพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมนะคะเป็นการยืนยัน
00:26:55 → 00:26:58 หรือเป็นการคอนเฟิร์มการวินิจฉัยตห็นอีก
00:26:58 → 00:27:01 อีกขั้นนึงค่ะขออนุญาตให้คุณหมออธิบาย
00:27:01 → 00:27:05 เพิ่มเติมนิดนึงครับว่าสายตาสั้นหรือยาว
00:27:05 → 00:27:09 มากผิดปกติเนี่ยไอ้คำว่ามากผิดปกติเนี่ย
00:27:09 → 00:27:11 มันต้องมากขนาดไหนครับคุณหมอครับเออย่าง
00:27:11 → 00:27:14 เช่นสายตาสั้นเกิน 400 อ่ะค่ะจริงๆคนไข้
00:27:14 → 00:27:17 ท่านที่มีสายตาสั้นเยอะๆอ่ะก็จะมีความ
00:27:17 → 00:27:20 เสี่ยงหลายๆอย่างนะคะยกตัวอย่างเช่นเอ่อ
00:27:20 → 00:27:23 จอประสาตาก็จะบางค่ะก็จะมีความเสี่ยงของ
00:27:23 → 00:27:28 จอประสาตาฉีดขาดอุดลอกได้ลักษณะของขขาดตา
00:27:28 → 00:27:32 ของคไข้ตเอ่อที่มีสายตาชั้นเยอะๆอ่ะก็จะ
00:27:32 → 00:27:35 มีความอ่อนแอค่ะนั่นแปลว่าเอ่อเขาคก็จะมี
00:27:35 → 00:27:39 ความเสี่ยงที่เวลาที่มีภาวะกำนันตาเพิ่ม
00:27:39 → 00:27:42 ขึ้นแล้วเนี่ยเขาก็อาจจะมีเส้นใยประสาตา
00:27:42 → 00:27:46 ที่มันเหมือนเจ็บป่วยได้ง่ายค่ะก็ตามมา
00:27:46 → 00:27:49 ด้วยอือการเป็นต้อหินได้ง่ายกว่าคนปกติ
00:27:49 → 00:27:53 ค่ะอือันนี้ก็คือ 400 บวกบนี่ก็คือต้อง
00:27:53 → 00:27:55 ต้องรีบมาพบแพทย์ดีกว่าเผื่อว่ามันจะมี
00:27:55 → 00:27:58 อาการอื่นๆไว้แทรกแซงเพิ่มเติมด้วยใช่
00:27:58 → 00:28:00 มั้ยครับคุณหมอครับใช่ค่ะใช่ค่ะอืทีนี้มา
00:28:01 → 00:28:02 ถึงคำถามจากทางบ้านหน่อยเพราะว่าวันนี้
00:28:03 → 00:28:06 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโรคใกล้ตัวเลย
00:28:06 → 00:28:09 เรื่องของต้อหินมีคำถามถามกันเข้ามาเยอะ
00:28:09 → 00:28:11 มากเลยครับคุณหมอครับเดี๋ยวผมขออนุญาตคำ
00:28:11 → 00:28:13 ถามแรกก่อนเลยแล้วกันนะครับคือถ้ารู้ว่า
00:28:13 → 00:28:16 เป็นแล้วเนี่ยต้องใช้เวลาในการรักษานาน
00:28:16 → 00:28:20 แค่ไหนครับคุณหมอครับเอ่อในกลุ่มคนไข้ต้อ
00:28:20 → 00:28:22 หินเฉียบพันธุ์บางชนิดค่ะถ้าเรายิง
00:28:22 → 00:28:25 เลเซอร์ให้ยาแล้วยิงเลเซอร์คนไข้ท่านนั้น
00:28:26 → 00:28:30 น่ะอาจจะหายจากภาวะต้อหินได้นะคะแต่ว่าใน
00:28:30 → 00:28:33 กลุ่มต้อหินเรื้อรังเนี่ยเนื่องจากเส้นใย
00:28:33 → 00:28:36 ประสาทตาจะโดนทำลายไปไปเยอะและเพราะ
00:28:36 → 00:28:40 ฉะนั้นคนไข้เอ่อท่านนั้นน่ะยังไงจะต้อง
00:28:40 → 00:28:43 รับการรักษาและดูแลและติดตามค่ะเรื่องต้อ
00:28:44 → 00:28:49 หินกันไปตลอดชีวิตอค่ะโอ้โหก็ๆก็ก็ก็ก็
00:28:49 → 00:28:52 นานก็นานอยู่เหมือนกันนะครับคุณหมอคเอ่อ
00:28:52 → 00:28:55 คำถามนี้เออผมก็เชื่อว่าหลายคนก็ก็น่าจะ
00:28:55 → 00:28:57 อยากรู้เหมือนกันสมมุติถ้าเป็นแล้วครับ
00:28:57 → 00:29:00 อยากจะทำการรักษาเนี่ยสิทธิ์บัดทองเนี่ย
00:29:00 → 00:29:03 สามารถใช้รักษาเกี่ยวกับดวงตาได้มฮะโหได้
00:29:03 → 00:29:06 เลยค่ะจริงๆสิธิบัดทองนะปัจจุบันน่ะค่ะ 1
00:29:06 → 00:29:09 ในแง่ต้อหินเ่ะมันใข้สามารถรับยาต้อหิน
00:29:09 → 00:29:13 ได้รับการยิงเลเซอร์ได้รับการัดได้แต่
00:29:13 → 00:29:17 เดิมอ่ะค่ะมีเทคนิคการผ่าตัดโดยการวางท่อ
00:29:17 → 00:29:20 ระบายน้ำออกจากลูกตาเพื่อลดความดันตาในคน
00:29:20 → 00:29:23 ไข้ต้อหินนะค่ะแต่เดิมเนี่ยเอ่อไม่อยู่ใน
00:29:23 → 00:29:27 สิทธิ์ปัดทองแต่ว่าหลังจากที่เอ่อทางสปสช
00:29:28 → 00:29:30 เนี่ยเห็นความสำคัญเอ่อของการของการรักษา
00:29:31 → 00:29:34 ด้วยเทคนิคเนี้ยณปัจจุบันแม้แต่การวางท่อ
00:29:34 → 00:29:37 ซึ่งเอ่อมีหมายถึงว่าตัวท่อเองมีมูลค่า
00:29:37 → 00:29:41 เป็นเป็นหมื่นกว่าบาทเนี่ยคใช้สิทธบัดทอง
00:29:41 → 00:29:45 ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ฟรีค่ะอุ้ยดีจออ๋อ
00:29:45 → 00:29:46 เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นโอกาสให้คนเข้า
00:29:46 → 00:29:50 ถึงการรักษาได้ได้มีโอกาสได้มากขึ้นนะ
00:29:50 → 00:29:53 ครับใชเพราะฉะนั้นคุณพี่ที่ถามมาก็ขอให้
00:29:53 → 00:29:56 สบายใจได้นะครับอีกหนึ่งคำถามครับคุณหมอ
00:29:56 → 00:29:59 ครับถ้าเราไปตรวจตาแล้วคุณหมอบอกว่าเรามี
00:29:59 → 00:30:02 พังผืนในตาอาการเหล่านี้เนี่ยมันเกี่ยว
00:30:02 → 00:30:04 ข้องกับต้อหินมั้ยครับเพราะว่าคุณพี่ท่าน
00:30:04 → 00:30:08 นี้บอกว่าระยะหลังๆเนี่ยเวลาอ่านในมือถือ
00:30:08 → 00:30:11 เนี่ยมันก็จะมีอาการปวดตาถ้าอ่านมากกว่า
00:30:11 → 00:30:13 แบบเกือบๆ 2 ชั่วโมงขึ้นไปอะไรอย่าเงี้ย
00:30:14 → 00:30:17 ฮะอื 2 ชั่วโมงขึ้นไปนะโอเยะนานนะนานอยู่
00:30:17 → 00:30:21 นานอยู่นานอยู่จริงๆเรื่องพังผืดในตา
00:30:21 → 00:30:23 เนี่ยค่ะเป็นเรื่องของจอประสาทตาซึ่งอยู่
00:30:23 → 00:30:26 ใกล้เคียงกับขัประสาทตาของเรานั่นแหละค่ะ
00:30:26 → 00:30:29 จะเป็นคนละคนมากลุ่มโรคค่ะแต่ว่าพังผืด
00:30:29 → 00:30:33 ที่จอตาเนี่ยก็เป็นกลุ่มโรคอีกกลุ่มนึง
00:30:33 → 00:30:35 ที่มักจะเป็นลักษณะของความเสื่อมเหมือน
00:30:35 → 00:30:38 กันค่ะก็คือมักจะเจอในผู้สูงอายุมากกว่า
00:30:38 → 00:30:41 คนอายุน้อยๆค่ะการที่มีพังผือที่จอตา
00:30:41 → 00:30:44 เนี่ยถ้าเป็นน้อยๆปกติคนไข้อาจจะแทบไม่มี
00:30:44 → 00:30:47 อาการอะไรเลยค่ะแต่ว่าเมื่อพังผืมันมีการ
00:30:47 → 00:30:52 หนาตัวหรือมันมีการหดรั้งก็จะมีส่งผล
00:30:52 → 00:30:55 กระทบทำให้จอประสาทตาค่ะมีลักษณะของการ
00:30:55 → 00:30:59 ย่นค่ะแล้วก็การทำงานของเซลกระสาทตาก็ลด
00:30:59 → 00:31:02 ลงก็จะตามมาด้วยอาการมัวค่ะเห็นผ้าบิด
00:31:02 → 00:31:06 เบี้ยวโค้งงอได้ค่ะก็จะมีลักษณะของภาพที่
00:31:06 → 00:31:09 มันผิดปกติตามมาค่ะซึ่งถ้ามีอาการเหล่า
00:31:09 → 00:31:12 นี้แล้วคุณหมอคิดพิจารณาว่ามันส่งผลกระทบ
00:31:12 → 00:31:15 กับระดับการมองเห็นของคนไข้ก็อาจจะต้อง
00:31:15 → 00:31:18 พิจารณาผ่าตัดล้อพังผืดออกค่ะ
00:31:18 → 00:31:23 ูฟังแล้วเสียวสลังแทงเหมือนกันเลยนะพัง
00:31:23 → 00:31:26 ผืนเสียวๆหน่อยใช่ๆเมื่อกี้เมื่อกี้พี่
00:31:26 → 00:31:29 ดรมามคุณผู้ฟังถามมาเกี่ยวกับ 30 บาทอ่า
00:31:29 → 00:31:32 ใช่ๆๆๆครับอีกท่านนึงมีคุณผู้ฟังอีกท่าน
00:31:32 → 00:31:35 นึงถามว่าประกันสังคมล่ะครับใช้สามารถใช้
00:31:35 → 00:31:37 รักษาเรื่องของไปใช้สิทธิ์รักษาเ้าหิได้
00:31:37 → 00:31:41 มยบใช่ได้ได้เหมือนตอนนี้จริงๆอ่ะค่ะเอ่อ
00:31:41 → 00:31:44 เทียบเคียงกับถึงว่าใกล้เคียงกันเลยค่ะ
00:31:44 → 00:31:47 เอ่อทในแง่ของยาเลเซอร์แล้วก็การผ่าตัด
00:31:47 → 00:31:53 ค่ะค่ะอืได้ค่ะทั้งทั้งเอ่อสิทธิ์ปัดทอง
00:31:53 → 00:31:56 แล้วก็สิทธ์ประกันสังคมสามารถเข้ารับการ
00:31:56 → 00:32:00 รักษาก็เห็นได้ค่ะอืมเพราะฉะนั้นก็เออ
00:32:00 → 00:32:02 บ้านเรานี้ก็ดีเหมือนกันนะครับคุณหมอ
00:32:02 → 00:32:05 เรื่องของสิทธิประโยชน์เรื่องของการดูแล
00:32:05 → 00:32:08 สุขภาพของเรานี่เรียกว่าไม่แพ้พื้นที่ใด
00:32:08 → 00:32:12 บนโลกใบนี้เลยนะฮะดูแลกันแบบว่าดีมากๆเลย
00:32:12 → 00:32:15 เลยค่ะใช่ๆๆเพราะว่าการรักษาดวงตาเพราะ
00:32:15 → 00:32:19 ว่าถ้าไปโรงพยาบาลเอกชนก็ใช้เงินกันพอสม
00:32:19 → 00:32:21 ควรเหมือนกันนะครับคุณหมอครับครับเอ่อมี
00:32:21 → 00:32:25 คำถามเพิ่มเติมคุณหมอครับคนนี้เอ่อถามมา
00:32:25 → 00:32:29 ว่านักมวยสากลครับคุณหมอครับอืค่ะมีโอกาส
00:32:29 → 00:32:32 เนี่ยเกิดอาการไหนได้มากกว่ากันถ้าหากจะ
00:32:32 → 00:32:36 ต้องใช้ใช้อาชีพเนี้ยเลี้ยงตัวเองต้อ
00:32:36 → 00:32:40 กระจกุ้นเนตาเสื่อมหรือว่าอื่นๆครับว่าก็
00:32:40 → 00:32:42 น่าจะรวมมวยไทยไปด้วยนะจริงๆมวยเรื่องของ
00:32:42 → 00:32:45 มวยโไทรของมันปะทะหน้าใบหน้าเหมือนกันใช่
00:32:45 → 00:32:49 ๆๆน่าจะไม่ต้องไม่ไม่น่าจะเฉพาะมวยสากลนะ
00:32:49 → 00:32:53 ้ารวมๆอืจริงค่ะจริงค่ะก็คือนักมวยทุกุ
00:32:53 → 00:32:56 ประเภทเลยค่ะถ้าเอ่อได้รับการกระแทกที่ด
00:32:57 → 00:33:00 ดวงตาอย่างรุนแรงอ่ะค่ะอันเนี้ยส่งผล
00:33:00 → 00:33:02 กระทบตั้งแต่ลูกตาส่วนหน้าไปจนถึงส่วน
00:33:02 → 00:33:05 หลังได้หมดเลยค่ะอไม่ว่าจะอ่ายง่ายๆอย่าง
00:33:05 → 00:33:09 ที่เราเห็นว่าโอเคมีเขียวช้ำเ่อเส้นเลือด
00:33:09 → 00:33:12 ฝอยที่เยื่อตาขาวแตกอ่ะจนไปถึงด้านในซึ่ง
00:33:12 → 00:33:14 บางทีเรามองไม่เห็นด้วยด้วยตาเปล่าแต่
00:33:14 → 00:33:17 เวลาที่หมอตรวจตาค่ะคนไข้เหล่าเยจะมี
00:33:17 → 00:33:22 ลักษณะของเลนสตาเคลื่อนค่ะอเลือดออกในใช่
00:33:22 → 00:33:25 ค่ะเลือดออกในวุ้นตาส่วนหลังมีจอประสาทตา
00:33:25 → 00:33:29 ที่ได้รับแรงกระแทกหรือแรงอัดเนี่ยค่ะ
00:33:29 → 00:33:33 ซึ่งทำให้จอประสาทตามีลักษณะของจอประสาท
00:33:33 → 00:33:36 ตาที่มันบอบช้ำหรือตามมาด้วยอาการฉีดขาด
00:33:36 → 00:33:39 หลุดลอกได้รวมทั้งอย่างที่เรียนไปช่วงต้น
00:33:39 → 00:33:42 ว่าอุบัติเหตุก็คืออย่างการโดนชกหรือการ
00:33:42 → 00:33:45 ชกมวยเนี่ยก็มีความเสี่ยงที่คนไข้อาจจะมี
00:33:45 → 00:33:49 มุมม่านตาที่มันผิดปกติการระบายน้ำออกจาก
00:33:49 → 00:33:54 ลูกตาผิดปกติไประบายออกน้อยลงก็ทำให้คน
00:33:54 → 00:33:57 ไข้อ่ะค่ะมีต้อหินตามมาได้ค่ะ
00:33:57 → 00:34:01 ออก็เรียกว่ามันไม่ใช่แค่ตัวเลือกที่ที่
00:34:01 → 00:34:04 คุณผู้ฟังท่านนี้นำเสนอมามันมีความเสี่ยง
00:34:04 → 00:34:08 เยอะกว่านั้นอีกนะฮะคุณหมอแสดงว่าถ้าเอ่อ
00:34:08 → 00:34:12 เราเล่นกีฬาที่มันมีผลกระทบต่อดวงตาใบ
00:34:12 → 00:34:16 หน้าหรือว่าบริเวณรอบดวงตาตั้งแต่เล็กๆ
00:34:16 → 00:34:18 เยาวๆวัยเด็กเองเนี่ยมันก็ยิ่งเพิ่มความ
00:34:19 → 00:34:23 เสี่ยงในอนาคตเอ่อยามที่เราอยู่ในเกณฑ์นะ
00:34:23 → 00:34:26 วัย 40 ไปแล้วนี่ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้มัน
00:34:26 → 00:34:29 เป็นได้ง่ายขึ้นหรือเปล่าใช่ค่ะเพราะ
00:34:29 → 00:34:32 ฉะนั้นอันนี้ก็อาจจะต้องระมัดระวังหมาย
00:34:32 → 00:34:36 ถึงว่าด้วยด้วยลักษณะประเภทของกีฬานะคะซึ
00:34:36 → 00:34:39 ประเภทอ่ะก็อาจจะได้รับ
00:34:40 → 00:34:43 เอ่อผลข้างเคียงมากน้อยไม่เท่ากันค่ะคราว
00:34:44 → 00:34:48 เนี้ยในลักษณะของอาชีพอย่าการเล่นกีฬาแต่
00:34:48 → 00:34:50 ทำอาชีพนักมวยเนี่ยก็จะมีความเสี่ยง
00:34:50 → 00:34:54 เรื่องเหล่านี้เยอะหน่อยค่ะออืครับเอ่อมี
00:34:54 → 00:34:57 คำถามเพิ่มเติมมาครับคุณหมอวันนี้คำถาม
00:34:57 → 00:34:59 เยอะจริงๆเพราะว่าดูมันเป็นเรื่องใกล้ตัว
00:34:59 → 00:35:02 แล้วก็คุณหมออธิบายได้แบบว่าละเอียดเห็น
00:35:02 → 00:35:04 ภาพมากก็เลยทำให้มีคำถามตามมาค่อนข้าง
00:35:04 → 00:35:07 เยอะเลยทีเดียวคุณผู้ฟังท่านนี้ถามว่าถ้า
00:35:07 → 00:35:10 เป็นโรมีโรคประจำตัวเป็น sle เนี่ยมันจะ
00:35:10 → 00:35:12 นำไปสู่เรื่องของต้อหินได้ไหครับเพราะว่า
00:35:12 → 00:35:15 เขาก็ค่อนข้างที่จะกังวลเหมือนกันได้ค่ะ
00:35:15 → 00:35:19 คือเอ่อจะมีโรคกลุ่มที่ทำเป็นความเสี่ยง
00:35:19 → 00:35:21 ของการเกิดการอักเสบในลูกตาค่ะอย่างบาง
00:35:21 → 00:35:26 ชนิดเช่น sle ค่ะหรือโรคพ่อบางอย่างค่ะ
00:35:26 → 00:35:29 ครับคนคกลุ่มโรคข้ออักเสบบางชนิดและ sle
00:35:29 → 00:35:33 อ่ะค่ะจะมีโรคของตาที่เรียกว่าม่านตา
00:35:33 → 00:35:35 อักเสบค่ะม่านตาอักเสบกกการที่มีการ
00:35:36 → 00:35:39 อักเสบภายในดวงตาค่ะการอักเสบนี้ส่งผล
00:35:39 → 00:35:43 กระทบทำให้ทางระบายน้ำในลูกตามีลักษณะของ
00:35:43 → 00:35:47 เซลล์อักเสบไปอุดตันหรือมีพังผืดไปขวาง
00:35:47 → 00:35:51 ทางระบายน้ำซึ่งทำให้เกิดภาวะคำนันตาสูง
00:35:51 → 00:35:55 และเป็นต้อหินได้ค่ะโหมีโอกาสเกิดขึ้น
00:35:55 → 00:35:57 ด้วยอีกคำถามน่าจะเป็นเป็นคำถามสุดท้าย
00:35:57 → 00:36:00 แล้วครับคุณหมอครับกระจกตาที่ถลอกจาก
00:36:00 → 00:36:02 อุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุใดๆก็
00:36:02 → 00:36:05 ตามสามารถประสานกลับมาได้สนิทเป็นปกติ
00:36:05 → 00:36:08 มั้ยฮะจริงๆแล้วมากกว่า 90 กว่าเปอร์เซ
00:36:08 → 00:36:13 น่ะค่ะจะสมานกลับมาเป็นปกติค่ะแต่จะมีบาง
00:36:13 → 00:36:17 บางคนบางไถว่าได้คนไข้บางท่านน่ะค่ะครับ
00:36:17 → 00:36:20 ส่วนน้อยที่มันสมานแล้วแต่มันยังสร้าง
00:36:20 → 00:36:24 ปัญหาอ๋อเปรียบเทียบเหมือนพอมีแผลถลอก
00:36:24 → 00:36:27 เกิดขึ้นที่กระจกตาส่วนหน้าค่ะวันดีคืน
00:36:27 → 00:36:29 ร้ายเนื่องจากว่าโครงสร้างที่สร้างขึ้นมา
00:36:29 → 00:36:32 ใหม่มันไม่แข็งแรงอือเอ่อคนไข้ก็จะมี
00:36:32 → 00:36:36 ลักษณะของจอประสาทตเอ่อลักษณะของผิวกระจก
00:36:36 → 00:36:40 ตาหลุดรอบซ้ำครับอืออันเนี้ยพอส่วนใหญ่คน
00:36:41 → 00:36:43 แค่มักจะเป็นหลังตื่นนอนค่ะตื่นมาก็จะมี
00:36:43 → 00:36:46 อาการเหมือนเจ็บบวมแล้วก็หลุดลอกของผิว
00:36:46 → 00:36:49 กระจกตาค่ะก็บางแมันมักจะมีประวัติอย่าง
00:36:49 → 00:36:53 เช่นเคยโดนเล็บข่วนคือโดนกระดาษข่วนที่
00:36:53 → 00:36:57 ผิวกระจกตาเนี้ยค่ะก็อันนี้อธิบายว่าเกิด
00:36:57 → 00:36:59 จากโครงสร้างที่สร้างขึ้นมาใหม่มันไม่
00:36:59 → 00:37:03 แข็งแรงค่ะเหมือนเดิมจากว่าเอ่อมันเคยมี
00:37:03 → 00:37:06 อุบัติเหตุมาก่อนอันเนี้ยก็เลยทำให้มี
00:37:06 → 00:37:09 ลักษณะของผิวกระจกตาหลุดลอกซ้ำนานๆทีได้
00:37:09 → 00:37:12 อืครับผมเล็บเลบขวนที่ว่าเล็บเราหรือเล็บ
00:37:12 → 00:37:16 คนอื่นครับคุณบอกเลยเล็บเราเลบคนอื่นเล็บ
00:37:16 → 00:37:20 สัตว์นี้อโออ๋อผมถามเผื่อพี่
00:37:20 → 00:37:25 ผมได้ราวัตวางเออโอไม่เอาคุณหมอครับช่วง
00:37:25 → 00:37:28 ท้ายแล้วครับอยากจะให้ฝากอะไรถึงคุณผู้
00:37:28 → 00:37:30 ฟังทางบ้านนิดนึงที่ฟังอยู่แล้วก็ค่อน
00:37:30 → 00:37:33 ข้างมีความกังวลแล้วก็กลัวว่าเอ๊จะเป็น
00:37:33 → 00:37:36 ต้อหินในอนาคตหรือเปล่าเดูแลตัวเองยังไง
00:37:36 → 00:37:40 ได้บ้างครับค่ะจริงๆแล้วคงไม่เฉพาะต้อหิน
00:37:40 → 00:37:43 ค่ะจริงๆแล้วยังมีโรคอื่นๆที่มีผลกระทบ
00:37:43 → 00:37:45 กับการมองเห็นอีกเยอะแยะเลยค่ะเช่นพ่อ
00:37:45 → 00:37:49 กระจกค่ะเอ่อจอเรือโรคของจอประสาทตา
00:37:49 → 00:37:53 เสื่อมต่างๆหรือในคนไข้หน่งคนไทยเราก็
00:37:53 → 00:37:55 เป็นเบาหวานเยอะก็จะมีกุ่มโรคเบาหวานจอ
00:37:55 → 00:37:59 ประสาทตาได้ใช่เพราะฉะนั้นอันเนี้ยถ้าเรา
00:37:59 → 00:38:01 1 ถ้าเรารู้ว่าเรามีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
00:38:01 → 00:38:03 อย่างเช่นต่อเห็นมีปัจจัยเสี่ยงเรื่อง
00:38:03 → 00:38:06 พันธุกรรมค่ะหรือว่าเราประเมินว่าโอเคการ
00:38:06 → 00:38:10 มองเห็นของเราลดลงผิดปกติค่ะอันเนี้ยคิด
00:38:10 → 00:38:13 ว่ายังไงก็ตามเราไม่ควรสรุปเอาเองว่าเออ
00:38:13 → 00:38:17 มันเป็นสิ่งที่เป็นตามวัยค่ะอยากขอเข้าไป
00:38:17 → 00:38:20 พบจักสู่แพทย์ใกล้บ้านค่ะเพื่อให้คุณหมอ
00:38:20 → 00:38:23 ได้รับเอ่อได้ช่วยตรวจคัดกรองให้เพราะว่า
00:38:23 → 00:38:28 ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นโรคอะไรในระยะที่ค่อน
00:38:28 → 00:38:32 ข้างเอ่อเริ่มต้นค่ะครับแนวโน้มหรือโอกาส
00:38:32 → 00:38:35 ที่เราจะรักษาได้ประคับประคองการมองเห็น
00:38:35 → 00:38:39 ได้ก็จะดีกว่าแน่นอนค่ะออครับผมวันนี้
00:38:39 → 00:38:42 ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับมาอธิบาย
00:38:42 → 00:38:44 ให้เราโอ้โหละเอียดมากละเอียดยิบตอบคำถาม
00:38:44 → 00:38:46 ทุกคำถามด้วยวันนี้กราบขอบพระคุณคุณหมอ
00:38:46 → 00:38:48 มากๆนะครับคุณหมอครับขอบคุณคุณหมอครับ
00:38:48 → 00:38:51 ขอบพระคุณมากๆครับสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:38:51 → 00:38:55 คุณหครับแพทย์หญิงอรอรธงอินเนตนะครับนาย
00:38:55 → 00:38:58 แพทย์ชำนาญการพิเศษจากโรงพยาบาลเมตตา
00:38:58 → 00:39:03 ประชารักวัดไร่ขิงกรมการแพทย์