การโกหกมีจุดประสงค์หลักอะไรบ้าง

วิธีจับโกหก | โรงหมอ

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 This Is Thai PBS podcast View the

00:00:0300:00:05 world By The

00:00:0500:00:08 Voice จริงๆแล้วการโกหกเนี่ยคนเราเนี่ย

00:00:0800:00:11 มีข้ออ้างอยู่ 2 อย่างอย่างแรกก็คือเพื่อ

00:00:1100:00:14 ปกป้องตัวเองนะฮะเช่นโกหกเพราะว่ากลัว

00:00:1400:00:17 เสียหน้านะเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง

00:00:1700:00:20 อะไรเงี้นะคะกับประเด็นที่ 2 ก็คือปกป้อง

00:00:2000:00:23 คนอื่นเช่นถ้าเารู้แล้วเขาจะเจ็บปวดเขจะ

00:00:2300:00:26 เสียใจจะทำให้เขาคโกรธกันมากกว่านี้หรือ

00:00:2600:00:30 ทำให้เขาผิดใจกันขัดแย้งกันไม่ลงลอยกัน

00:00:3000:00:32 อะไรอย่างงี้เป็นต้นแต่อย่างไรก็ตามเนี่ย

00:00:3200:00:34 ค่ะอยากจะบอกว่าไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์

00:00:3400:00:38 อะไรก็ตามเนี่ยมารู้ทีหลังว่าโกหกเนี่ย

00:00:3800:00:40 มันล้วนแล้วแต่สร้างปัญหาให้ภายหลังทั้ง

00:00:4000:00:42 นั้นแหละนะคะเพราะว่ามันเป็นการทำลายความ

00:00:4200:00:45 ไว้วางใจของคน

00:00:4500:00:49 อื่นฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภยฟัง

00:00:4900:00:53 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ

00:00:5300:00:57 this PBS podcast วันนี้ค่ะคุณผู้ฟัง

00:00:5700:01:01 เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องวิธีของการจับ

00:01:0100:01:04 การโกหกนั่นเองนะคะวิธีจับโกหกเนี่ยเป็น

00:01:0400:01:08 ยังไงเอ๊ะหรือการโกหกของใครในแบบไหนเนี่ย

00:01:0800:01:11 นะเราดูมยเรารู้มว่าเนี่ยคือกำลังโกหก

00:01:1100:01:14 อยู่นะคะเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์

00:01:1400:01:16 ดรจันท์วิภาดิโลสัมพันธ์ผู้ทรงคุณวุฒิ

00:01:1600:01:19 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาผู้

00:01:1900:01:21 เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และครอบครัวค่ะ

00:01:2100:01:24 สวัสดีค่ะอาจารย์คะค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ

00:01:2400:01:26 ท่านผู้ฟังทุกท่านค่ะวันนี้เราจะมาเป็น

00:01:2600:01:30 สายสืบ

00:01:3000:01:34 แล้วก็เป็นพนักงานสอบสวนด้วยเป็นทุกอย่าง

00:01:3400:01:36 เลยเอ๊ะหรือเป็นตำรวจอยู่หรือเปล่านะคะ

00:01:3600:01:42 กับรุ่นของวิธีการจับโกหกอ่าคือมันก็มี

00:01:4200:01:45 หลายๆคำพูดเหมือนกันค่ะอาจารย์ว่าโกหกก็

00:01:4500:01:50 เพื่อให้แบบจะได้สบายใจไม่ต้องคิดมากอ่า

00:01:5000:01:53 เออหรือบางคนก็คือโกหกจริงๆตั้งใจโกหกมาก

00:01:5300:01:57 ๆเลยไม่ต้องการบอกค่ะหรือบางทีก็จะแบบว่า

00:01:5700:02:02 ก็มันจำเป็นเอ่อตกกระไดพอโจก็เลยก็โกหกมา

00:02:0200:02:05 แล้วก็เลยโกหกยาวๆต่อไปค่ะอันนี้ก็ก็อยาก

00:02:0500:02:09 จะบอกกับคุณสุรีพรแล้วก็เพื่อพวกทุกท่าน

00:02:0900:02:11 ที่ฟังอยู่นะคะว่าจริงๆแล้วการโกหกเนี่ย

00:02:1100:02:14 คนเราเนี่ยมีข้ออ้างอยู่ 2 อย่างอย่างแรก

00:02:1400:02:18 ก็คือเพื่อปกป้องตัวเองนะฮะเช่นโกหกเพราะ

00:02:1800:02:21 ว่ากลัวเสียหน้านะเพื่อปกปิดความผิดของ

00:02:2100:02:23 ตัวเองอะไรงี้นะคะกับประเด็นที่ 2 ก็คือ

00:02:2300:02:26 ปกป้องคนอื่นเช่นถ้าเขารู้แล้วเขาจะเจ็บ

00:02:2600:02:30 ปวดเขาจะเสียใจนะฮะจะทำให้เคโกรธกันมาก

00:02:3000:02:33 กว่านี้หรือทำให้เขาผิดใจกันขัดแย้งกัน

00:02:3300:02:37 ไม่ลงลอยกันอะไรอย่างนี้เป็นต้นนะคะแต่

00:02:3700:02:39 อย่างไรก็ตามเนี่ยค่ะอยากจะบอกว่าไม่ว่า

00:02:3900:02:43 จะด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตามเนี่ยนะคะมารู้

00:02:4300:02:46 ทีหลังว่าโกหกเนี่ยมันล้วนแล้วแต่สร้าง

00:02:4600:02:48 ปัญหาให้ภายหลังทั้งนั้นแหละนะคะเพราะว่า

00:02:4800:02:51 มันเป็นการทำลายความไว้วางใจของคนอื่นนะ

00:02:5100:02:54 คะเพราะฉะนั้นอันนี้เราต้องฝึกตั้งแต่

00:02:5400:02:58 เป็นเด็กนะคะว่าว่าการโกหกไม่ใช่เรื่องดี

00:02:5800:03:00 แต่ไม่ใช่ว่าโกหกแล้วทำโทษอย่างรุนแรงก็

00:03:0000:03:02 จะยิ่งทำให้กลัวและโกหกมากขึ้นในอันนี้

00:03:0200:03:05 ในายเด็กนะคะแต่ต้องให้เขาเข้าใจว่าทำไม

00:03:0500:03:07 ต้องพูดความจริงอะไรอย่างงี้เป็นต้นเพราะ

00:03:0700:03:09 ฉะนั้นการที่ไม่โกหกกันเนี่ยก็จะสร้างให้

00:03:0900:03:12 เด็กเกิดความไว้วังใจพ่อแม่แล้วเื่อเเกิด

00:03:1200:03:15 ปัญหามากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นเมื่อเขอายุ

00:03:1500:03:17 มากขึ้นตามลำดับเนี่ยยิ่งโดยเฉพาะช่วงวัย

00:03:1700:03:20 รุ่นเนี่ยนะคะคุณสุวีพรลองนึกถึงตัวเองก็

00:03:2000:03:22 แล้วกันตอนเป็นวัยรุ่นเราไม่ได้บอกพ่อแม่

00:03:2200:03:25 ทุกเรื่องหรอกจริงมั้ยใช่นะฮะเพราะฉะนั้น

00:03:2500:03:28 เนี่ยแต่เรื่องสำคัญๆเนี่ยนะคะเด็กก็จะ

00:03:2800:03:31 กล้าที่จะพูดคุยกับพ่อแม่เพราะวัยรุ่น

00:03:3100:03:34 เนี่ยไม่มีใครไม่มีปัญหาถูกมั้ยคะไม่มี

00:03:3400:03:37 ใครที่ไม่เคยทำอะไรผิดค่ะนะคะแต่ปัญหา

00:03:3700:03:41 นั้นมันเล็กหรือมันใหญ่และเขาจะไว้ใจพ่อ

00:03:4100:03:44 แม่พอที่จะพูดความจริงกับพ่อแม่มั้ยอัน

00:03:4400:03:46 นี้เป็นเรื่องสำคัญอเดี๋ยวนี้จะเห็นว่า

00:03:4600:03:50 เรื่องการโกหกอ่ะมันเป็นอะไรที่เยอะขึ้น

00:03:5000:03:52 ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆค่ะอาจารย์อย่างเช่นว่า

00:03:5200:03:55 โกหกว่าตัวเองโดนจับไปโดนเรียกค่าถ่ายโดน

00:03:5600:03:58 เรียกเงินก็จริงคือจริงๆจับตัวเองเนี่ย

00:03:5800:04:00 เห็นบ่อยขึ้น

00:04:0000:04:03 มมันแบบมันไม่ใช่แค่การโกหกธรรมดแต่มัน

00:04:0300:04:07 เป็นการโกหกที่ทำให้เกิดหลายฝ่ายเกิดความ

00:04:0700:04:09 เดือดร้อนได้เพราะว่าอะไรก็เพราะว่า

00:04:0900:04:12 เดี๋ยวเนี้คนเราจะมองความสำคัญของเรื่อง

00:04:1200:04:15 เงินมากค่ะถูกมั้ยคะเรื่องทรัพย์สินก็ดู

00:04:1500:04:18 สิคะโทรหาเราทุกวันเี่คือมิจฉาชีพก็โกหก

00:04:1800:04:21 ใส่เราทุกวันแหละค่ะนะฮะเพราะฉะนั้นคนที่

00:04:2100:04:24 ทำความผิดใหญ่โตขึ้นอย่างที่คุณสุรีพรว่า

00:04:2400:04:27 ก็การเห็นแบบอย่างในสังคมว่าเาทำแล้วเได้

00:04:2700:04:30 นะฮะหรือว่าอะไรต่ออะไรแล้วก็ไม่เกรงกลัว

00:04:3000:04:32 ในเรื่องของบาปบุญคุณโทษหรืออะไรต่างๆ

00:04:3200:04:36 เหล่าเนี้ยกลับมองว่าเค้าหาได้อ่ะนะคน

00:04:3600:04:39 อื่นโง่เองคนอื่นนั่นเองนี่เองถูกมั้ยคะ

00:04:3900:04:41 เพราะฉะนั้นตรงเนี้ยก็เป็นอะไรที่เราควร

00:04:4100:04:44 จะเอาคุณธรรมพื้นฐานเนี่ยใส่ลงไปค่ะนะคะ

00:04:4400:04:47 โดยการเรื่องเล็กๆก่อนตั้งแต่เรื่องโกหก

00:04:4700:04:50 เล็กๆก่อนนะคะเพราะฉะนั้นคนเหล่าเยเค้าเ

00:04:5000:04:53 อาจจะเพราะตัวแบบในสังคมหรืออะไรเงี้ยนะ

00:04:5300:04:55 คะที่มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่เราจะเห็น

00:04:5500:04:57 ได้ชัดเจนขึ้นแต่มันเห็นตัวแบบทางไม่ดี

00:04:5700:05:00 มากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นค่ะแล้วทำแล้วรวย

00:05:0000:05:05 อ่ะทำแล้วได้ตังอ่ะอืถูกมั้ยคะอ้าล่ะนี้

00:05:0500:05:08 ถ้าจะบอกว่าวิธีจับโกหกที่เราพูดกันนะฮะ

00:05:0800:05:12 เอ่อก็ต้องบอกว่าเราต้องสังเกตนะฮะใช้การ

00:05:1200:05:16 สสังเกตสัญญาณต่างๆซึ่งมีคนเขียนตำราไว้

00:05:1600:05:19 เยอะแยะนะวิธีจับโกหกคุณสุรีพรเองก็รู้ใน

00:05:1900:05:21 เรื่องของการสืบสวนสอบสวนอะไรอย่าเงี้นะ

00:05:2100:05:24 คะก็จะมีหลักทางอาญาวิยากรรมวิยาอะไร

00:05:2400:05:27 อย่างเงี้นะคะก็เยอะแยะไปหมดแต่พี่พภาขอ

00:05:2700:05:30 ขอกรุ๊ปปิ้งมาให้ะกันนะคะภาขอพูดเป็น 3

00:05:3000:05:33 กลุ่มที่เห็นชัดๆเพราะว่าเวลาของเราจำกัด

00:05:3300:05:36 เนาะนะฮะก็คือมีกลุ่มที่เรามองสัญญาณหรือ

00:05:3600:05:39 สังเกตสัญญาณเนี่ยนะคะที่พบบ่อยๆ 3 กลุ่ม

00:05:3900:05:42 ด้วยกันกลุ่มที่ 1 ก็คือการเปลี่ยนแปลง

00:05:4200:05:44 ทางกายภาพกลุ่มที่ 2 ก็คือการเปลี่ยนแปลง

00:05:4400:05:47 พฤติกรรมของการพูดและวิธีการพูดและกลุ่ม

00:05:4700:05:50 ที่ 3 ก็คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอื่นๆ

00:05:5000:05:53 ที่เกี่ยวข้องนะคะเราลองมาดูทีละอย่างอ

00:05:5300:05:54 เหมือนได้เรียนพฤติกรรมศาสตร์กับอาจารย์

00:05:5500:05:55 เลย

00:05:5500:06:00 เนี่ยแหมเป็นวิชาที่จพิพาสอนแล้วนักศึกษา

00:06:0000:06:03 ชอบมากนะคะวิธีเนี้ยะว่าจะไม่จับโกหกแฟน

00:06:0300:06:06 อะไรอย่างนี้เป็นต้นนะคะค่ะอันแรกคือการ

00:06:0600:06:09 เปลี่ยนแปลงทางกายภาพเนี่ยนะคะก็คือใน

00:06:0900:06:12 เรื่องของพอเราโกหกใครปั๊บเนี่ยประสาท

00:06:1200:06:15 ระบบประสาทอัตโนมัติเนี่ยมันจะทำงานทั้ง

00:06:1500:06:18 ทีว่าเฮ้ยเราไม่ได้พูดความจริงนะมันก็จะ

00:06:1800:06:20 เริ่มด้วยการที่การเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น

00:06:2000:06:24 การหายใจเพิ่มขึ้นนะคะเพราะว่าระบบ

00:06:2400:06:27 อัตโนมัติเนี่ยนะคะระบบประสาทอัตโนมัติ

00:06:2700:06:30 ของร่างกายเนี่ยมันจะทำงานหนักมากนะคะ

00:06:3000:06:32 เพราะมันรู้ว่าเราโกหกอยู่จากความเครียด

00:06:3200:06:36 กลัวตื่นเต้นกลัวจับได้วุ่นวายใจอะไร

00:06:3600:06:39 เงี้ยนะคะไม่สบายใจเมื่อเริ่มโกหกมันก็จะ

00:06:3900:06:43 อย่าออกมาทางอาการเช่นเหงื่อออกนะคะหน้า

00:06:4300:06:46 แดงหน้าซีดในบางคนนะคะบอกเอ๊ะทำไมหน้าแดง

00:06:4600:06:48 แล้วหน้าซีดด้วยบางคนหน้าแดงบางคนหน้าซีด

00:06:4800:06:53 นะคะมือสั่นหายใจแรงหายใจหอบทีอะไรเงี้ย

00:06:5300:06:56 นะคะโดยเฉพาะเหงื่อที่บริเวณริมฝีปาก

00:06:5600:06:58 เนี่ยนะคะกับบริเวณหน้าผากเนี่จะออกเยอะ

00:06:5800:07:01 เลยทั้งที่ได้ร้อนทำไม่ได้ร้อนอยู่ห้อง

00:07:0100:07:03 แอร์แท้ๆนี่แหละนะคะเพราะฉะนั้นต้องคอย

00:07:0300:07:07 หัดสังเกตนะคะมากลุ่มที่ 2 ก็คือการ

00:07:0700:07:10 เปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับการพูดและวิธีการ

00:07:1000:07:13 พูดนะคะที่เห็นชัดๆอย่างแรกก็คือจะมี

00:07:1300:07:17 ลักษณะพูดอึกอักๆอักเริ่มอึกอักและนะฮะ

00:07:1700:07:21 ค่ะบางคนพูดเร็วขึ้นบางคนพูดช้าลงบางคน

00:07:2100:07:25 พูดไม่ชัดและนะคะบางคนพูดทำเสียงสูงผิด

00:07:2500:07:28 ปกติเสียงต่ำผิดปกติเช่นที่เเคยพูดบว่า

00:07:2800:07:33 เวลาเพื่อนๆบอกว่าทำไมไปกับแฟนเหรอป้าวนะ

00:07:3300:07:36 เสียงสูงเสียงเสียงสูงปี๊ดขึ้นมาทันทีเลย

00:07:3600:07:38 อะไรเงี้ยนะคะเพราะะนั้นเนี่ยมันก็จะเป็น

00:07:3800:07:42 ลักษณะที่เราพอจะมองออกอันที่ 2 ค่ะบางคน

00:07:4200:07:47 พูดซ้ำไปซ้ำมาพูดวกวนโอ๊ยฉันไม่ได้ทำนะ

00:07:4700:07:50 ฉันไม่ได้ทำนะอะไรอย่างเงี้ยนะคะโน้มน้า

00:07:5000:07:52 เพื่ออะไรคะเพื่อที่จะโน้มน้าวให้คนฟังใน

00:07:5200:07:56 เชื่อว่าเค้าไม่ได้โกหกหรือเค้าปกปิดความ

00:07:5600:08:00 โกหกอยู่หรือบางคนเนี่ยใช้การถ่วงเวลาพูด

00:08:0000:08:03 วกไปวนมาเนี่ยเพราะอะไรคะยื้อเวลายังคิด

00:08:0300:08:05 ไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อไปหรือจะโกหกอะไร

00:08:0500:08:10 ต่อไปดีโออ่ามันก็เลยซ้ำไปซ้ำมาทวนไปทวน

00:08:1000:08:12 มาอยู่อย่างงั้นนะคะเพรานั้นก็ไม่แปลกใจ

00:08:1200:08:14 หรอกค่ะว่าทำไมคุณตำรวจเให้เล่าเหมือน

00:08:1400:08:17 เดิมเนี่ยซ้ำๆๆๆๆอยู่นั่นน่ะเผื่อมันจะ

00:08:1700:08:21 หลุดมามั่งอะไรเงี้นะคะอันที่ 3 ค่ะบางคน

00:08:2100:08:25 พูดมากเกินไปอ่านะฮะทำเหมือนเตัวเองเป็น

00:08:2500:08:27 คนเปิดเผยเไม่ได้ถามซะหน่อยเล่าเลื่อย

00:08:2700:08:30 เจื้อยเลยมาเป็นเรื่องเป็นราวเอเพื่อให้ค

00:08:3000:08:35 อื่อในำนะจรายละเอียดที่มันเกินความจำทำ

00:08:3600:08:38 ให้คนอื่นคิดว่าแมตัวเองเป็นคนเปิดเผยไม่

00:08:3800:08:39 ไม่โกหก

00:08:4000:08:44 หรอกนะฮะั้นก็ต้องคอยดูนะคะบางทีเนี่ยเรา

00:08:4400:08:48 ดูข่าวในทีวีเนี่ยในบางเคสในบางใช้คำอะไร

00:08:4800:08:50 คะบางคดีเนี่ยที่มาสัมภาษณ์คนนั้นคนนี้

00:08:5000:08:53 ที่เกี่ยวข้องเราดูปั๊บเนี่ยเซนมันบอก

00:08:5300:08:55 แล้วว่าไอ้เนี่ยต้องเกี่ยวข้องแน่ๆคน

00:08:5500:08:59 เนี้ยนะคะมันพูดเหลือเกินพูดเกินไปนะฮะ

00:08:5900:09:02 คดีใหญ่ๆที่เราเคยเคยผ่านพวกเรากันมาแล้ว

00:09:0200:09:06 เราก็เห็นอยู่นะคะบางคนพูดไม่ออกค่ะนะฮะ

00:09:0600:09:10 อาจบางแถมบางคนมีอาการกัดริมฝีปากหรือ

00:09:1000:09:12 เม้มริมฝีปากด้วยเพราะอะไรคะเพราะระบบ

00:09:1200:09:16 อัตโนมัติเอ่อระบบประสาทอัตโนมัติเนี่ย

00:09:1600:09:20 มันจะลดการหลั่งของน้ำลายนะคะทำให้คอแห้ง

00:09:2000:09:21 ค่ะปาก

00:09:2100:09:25 แห้งพูดไม่ค่อออกอะไรอย่างเงี้ยนะคะเออนะ

00:09:2500:09:29 คะอันต่อไปค่ะพยายามพูดเปลี่ยนเรื่องเช่น

00:09:2900:09:32 ถามเรื่องนี้เปลี่ยนไปเรื่องโน้นเราถาม

00:09:3200:09:33 เรื่องเไม่ตอบคำถามหรอกเปลี่ยนไปอีก

00:09:3300:09:38 เรื่องนึงอในทีวีเราก็เจอบ่อยๆนะคะนะคะ

00:09:3800:09:42 เหมือนคุ้นๆเลยอันต่อไปค่ะพยายามหลีก

00:09:4200:09:45 เลี่ยงคำถามหรือตอบไม่ตรงคำถามอือ่าก็

00:09:4500:09:48 อยากจะโกหกแหละแต่ว่ามันก็เปลี่ยนเรื่อง

00:09:4800:09:51 ซะนะคะหลีกเลี่ยงคำถามนั้นซะไม่ตอบคำถาม

00:09:5100:09:53 ซะอะไรอย่างเงี้ยนะคะคุณถามไม่ตรงคำตอบ

00:09:5300:09:56 ของผมอ้ามันเป็นความผิดของคุณคุณถามไม่

00:09:5600:10:00 ให้ตรงนะคะอันต่อไปค่ะพยายามพูดให้เชื่อ

00:10:0000:10:03 ว่าจริงพูดอยู่นั่นแหละนะคะโดยเฉพาะถ้า

00:10:0300:10:05 เป็นคู่ที่อันนี้เราไม่ได้เป็นตำรวจกับ

00:10:0500:10:08 ผู้ร้ายเนาะสามีภรรยาเนี่ยนะคะเราก็อาจจะ

00:10:0800:10:10 พูดโน้มเน้าให้เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

00:10:1000:10:14 พยายามยืนยันหาพยานบุคคลหรือว่าประเด็น

00:10:1400:10:18 สุดท้ายของการพูดก็คือไหนๆก็ไหนๆและทำ

00:10:1800:10:22 เป็นเอะอะโวยวายทำเป็นโกรธทำเป็นอะไรไปนะ

00:10:2200:10:25 ฮะกลบเกลื่อนเพราะว่ารู้แล้วว่าถูกหาว่า

00:10:2500:10:27 โกหกทำเอะอะไปซะเลยเพราะฉะนั้นพอทำเสียง

00:10:2700:10:29 ดังเข้าอะไรเข้าทำเป็นโกรธเข้าอีกฝ่ายนึง

00:10:2900:10:33 ก็อาจจะรามือไปอะไรอย่างงี้เป็นต้นนะคะ

00:10:3300:10:36 เพราะฉะนั้นจะมีแบบนี้บ่อยๆนะคะอมีแอบมี

00:10:3600:10:40 เทคนิคคนโกหกก็มีเทคนิคคนจับโกหกก็มี

00:10:4000:10:43 เทคนิคในการจับโกหกนะนะคะเพราะฉะนั้นไอ้

00:10:4300:10:46 เทคนิคเหล่าเนี้ยถ้าทำได้ดีมากๆอ่ะเเรียก

00:10:4600:10:49 ว่าเนียนนะคะแต่ถ้าโกหกไม่เนียนเนี่ยมัน

00:10:4900:10:52 จับได้ง่ายมากเก็จะบอกว่าไปเรียนมาใหม่

00:10:5200:10:54 ไม่แต่ถ้าโกหกเนียนๆเนี่ยแสดงว่ามันต้อง

00:10:5400:10:59 มีการโกหกมาช่ำชองโชคโชนถูกต้องจนรู้ว่า

00:10:5900:11:02 จะต้องพูดยังไงหรือว่าแสดงกิริยาท่าทาง

00:11:0200:11:05 ยังไงเถึงจะแบบเชื่อมั่นว่าเราไม่ได้โกหก

00:11:0500:11:09 ใช่ค่ะค่ะนะคะทีนี้มากลุ่มที่ 3 ค่ะกลุ่ม

00:11:0900:11:12 ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอื่นๆนะคะออัน

00:11:1200:11:17 แรกก็คือไม่สบตาค่ะหรือหลีกเลี่ยงการสบตา

00:11:1700:11:20 นะฮะเช่นๆคนเนี้ยเราสนิทกันเนาะคุณสุรีพร

00:11:2000:11:23 สนิทกับจันท์วิภาเนี่ยพอาจารย์วิภาถามเลย

00:11:2300:11:27 คุณสุรีพรอยากจะโกหกอ่ะไม่ยอมสบตาเวลาตอบ

00:11:2700:11:30 นะฮะหรือเอ่อพยายามหลีกเลี่ยงการสบตาอะไร

00:11:3100:11:33 เงี้เป็นต้นนะฮะคมองอย่างอื่น

00:11:3300:11:36 แทนมาประเด็นที่ 2 นะคะของพฤติกรรมอื่นก็

00:11:3600:11:40 คือว่ามีการจ้องตาอย่างต่อเนื่องเพื่อ

00:11:4000:11:42 อะไรคะเมื่อกี้นี้สบไม่สบตานะเมื่อกี้หลบ

00:11:4300:11:46 ตานะแต่คราวนี้จ้องตาอย่างต่อเนื่องนะคะ

00:11:4600:11:48 ไม่กระพริบตาเลยหรือกระพริบก็ปิ๊บเดียว

00:11:4800:11:52 แล้วจ้องต่อถามว่าทำไมคะเพื่อข่มขู่ค่ะ

00:11:5200:11:56 หรือเพื่อให้อีกฝ่ายนึงเนี่ยพยายามพยายาม

00:11:5600:11:59 เชื่อนะคะเอ่อควบคุมให้เค้าเชื่อเชื่อเรา

00:11:5900:12:02 อ่ะนึกออกมั้ยคะมันดูผิดธรรมชาติดีเนาะ

00:12:0200:12:06 ใช่แต่เหมือนกับมีอิทธิพลไงอย่างเช่นสามี

00:12:0600:12:08 ภรรยากันเงี้ยแกล้งจ้องหน้ากันแล้วก็บอก

00:12:0800:12:11 ว่าป้าผมไม่อะไรเงี้ยนะคะเพื่อให้อีกฝ่าย

00:12:1100:12:14 นึงเพก็เบอกว่าคนโกหกจะไม่สบตาไงนึกออก

00:12:1500:12:17 มั้ยอบตฉันก็เลยจ้องเลย

00:12:1800:12:23 ไงโอ๊ยนะคะเพราะว่าปกติเนี่ยการพูดจริง

00:12:2300:12:25 เนี่ยคนเราคนที่พูดจริงเนี่ยขี้มักจะมอง

00:12:2500:12:28 ไปรอบๆนะคะหรือมองข้างนอกเป็นครั้งคราว

00:12:2800:12:31 ไม่ใช่ให้จ้องแบบนี้หรือว่าหลบตานะคะก็

00:12:3100:12:35 เป็นอีกอันนึงที่เราพอจะมองได้นะคะอันต่อ

00:12:3500:12:39 ไปก็คือการจับปากหรือปิดปากนะคะเพราะอะไร

00:12:3900:12:43 คะเพราะไม่อยากรับมือกับปัญหาหรือคำตอบใด

00:12:4300:12:46 ๆไม่อยากจะตอบอ่ะอืนึกออกมั้ยฮะก็เลยทำ

00:12:4600:12:48 ท่าแบบเนี้ยนะคะโดยออกมาโดยที่ตัวเองไม่

00:12:4900:12:52 รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่นะคะอันต่อไปค่ะ

00:12:5200:12:56 การขยับหัวนะบางคนขยับหัวไปมาเช่นหันหัว

00:12:5700:13:01 ก้มหัวเอียงนะฮะทันทีก่อนตอบคำถามมันก็

00:13:0100:13:04 คือการไปวิงเวลาจะคิดว่าจะตอบไงดีวะอะไร

00:13:0400:13:06 อย่างเงี้ยนึกออกมั้ยฮะแต่มันเป็น

00:13:0600:13:10 ปฏิกิริยาที่คนเราไม่รู้ตัวเวลาทำแกดีค่ะ

00:13:1000:13:14 นะคะค่ะอันต่อไปคือใช้มือของเราเนี่ยค่ะ

00:13:1400:13:17 กุมตรงส่วนอื่นของร่างกายนะคะส่วนหนึ่ง

00:13:1700:13:21 ส่วนใดก็ได้แบบไม่ตั้งใจเช่นพะเถามเอามือ

00:13:2100:13:26 รูปทอยอยนะฮะเอามือจับหน้าอกนะฮะจับคอจับ

00:13:2600:13:29 หน้าจับหน้าท้องอะไรก็แล้วแต่เนี่ยอืมัน

00:13:2900:13:32 ก็ทำไปโดยไม่ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกันแต่มัน

00:13:3200:13:35 เป็นปฏิกิริยาของร่างกายเวลาที่คนเราโกหก

00:13:3500:13:40 อ่ะนะฮะค่ะอันต่อไปค่ะกระดิกเท้านะฮะ

00:13:4000:13:43 กระดิกเท้าหรือสั่นคเพื่ออะไรคะเวลาที่คน

00:13:4300:13:46 เราตื่นเต้นหรืออึดอัดอ่ะบางทีเคยไแค่ที่

00:13:4600:13:49 นั่งแล้วเขย่าเขย่าขาไปเนี่ยหรืออย่าง

00:13:4900:13:52 เงี้ยนะคะมันจะแสดงถึงกำลังตื่นเต้นหรือก

00:13:5200:13:55 กำลังอึดอัดต้องการออกจะไปจากสถานการณ์

00:13:5500:13:58 นั้นน่ะอืนะฮะอันนี้ก็เป็นปฏิกริยาของคน

00:13:5800:14:03 อีกเหมือนกันอือันต่อไปค่ะชี้นิ้วบ่อยๆ

00:14:0300:14:05 ชี้อย่างงั้นชี้อย่างเงี้นะคะชี้เพื่อ

00:14:0500:14:09 อะไรคะเพื่อกล่าวหาเรากนะคะหรือว่าพูดโวย

00:14:0900:14:12 วายนะฮะโกรธที่เราจับผิดได้แหละก็เลยอย่า

00:14:1200:14:15 นะคือมาพูดงนี้นะอะไรอย่าเงี้ยนึกออกมั้ย

00:14:1500:14:21 คะทำไมคุนๆอ่านะคะทำไมคุ้นๆนะคะค่ะแล้วก็

00:14:2100:14:25 อันต่อไปคือมีอาการอยู่ไม่สุขค่ะขยับตัว

00:14:2500:14:27 ขยุกขยิกอะไรอย่าเงี้ยนะคะก็คล้ายๆกับการ

00:14:2700:14:30 กระดิกเท้าอะไรเหมือนกัน

00:14:3000:14:34 ตดเฉะพวกที่โกกไม่เียคมันยุกยิๆๆอยู่

00:14:3400:14:38 เรื่อยเลยนะคะและอันต่อไปก็คือจากเมื่อ

00:14:3800:14:41 กี้ยุกยิกใช่มั้ยคะนิ่งผิดปกติเลยค่ะนะฮะ

00:14:4100:14:43 เพราะว่าร่างกายเกำลังต่อสู้กับระบบ

00:14:4300:14:48 ประสาทอัตโนมัติอยู่นะคะจึงคุมนะคะแต่

00:14:4800:14:50 ทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยนะคะทั้ง 3 กลุ่มที่

00:14:5000:14:53 บอกคนที่โกหกเกิ่งๆหรือคุมอาการของตัวเอง

00:14:5300:14:56 ได้เนี่ยนะฮะมันก็จะทำให้โกหกได้เนียน

00:14:5700:14:59 ขึ้นเรื่อยๆนะคะเพราะว่าตัวเองก็ก็จะคุม

00:14:5900:15:03 ไอ้อาการเหล่าเนี้ยได้เก่งขึ้นเรื่อยๆงี้

00:15:0300:15:06 ละกันนะฮะจนกระทั่งจับไม่ได้เลยบางคน

00:15:0600:15:10 เนี่ยโอ้โหตาใสตาซื่อนะคะอย่างสมัยที่จาร

00:15:1000:15:13 วิภาทำงานอยู่รับราชการอยู่เนี่ยเราต้อง

00:15:1300:15:16 มีการสัมภาษณ์นักศึกษานะฮที่จะขอทุนให้

00:15:1600:15:20 เปล่าอะไรเงี้ยอู้ยนะคะอาจารย์ใหม่ๆเนี่ย

00:15:2000:15:22 สัมภาษณ์เด็กไปก็นั่งร้องไห้กันป้อยป้

00:15:2300:15:24 ป้อยนะ

00:15:2400:15:27 คะเพราะว่าเจอเด็กตีหน้าเศร้าเล่าความ

00:15:2700:15:30 เท็จเยอะมากอ้าแล้วอาจารย์ทำไงคะนี่แหละ

00:15:3000:15:32 ค่ะมันใช้วิชาพฤติกรรมศาสตร์ให้เป็น

00:15:3200:15:34 ประโยชน์นี่แหละค่ะนะคะเพราะเราไม่ได้ถาม

00:15:3400:15:37 เ้าอย่างเดียวแต่เราจะมีการหลอกล่อในคำ

00:15:3700:15:41 ถามนั้นคำถามนี้อือสังเกตดูสิ่งของที่เขา

00:15:4100:15:44 ใช้หรือการตอบคำถามว่ามันมีความเป็นเหตุ

00:15:4400:15:46 เป็นผลมั้ยอะไรอย่างงี้เป็นต้นอะไรเงี้ย

00:15:4600:15:49 นะคะค่ะเพราะฉะนั้นคนที่ยังจับไม่ได้

00:15:4900:15:53 เนี่ยคนเป็นครูอ่ะนะหัวใจอ่อนทุกคนน่ะพอ

00:15:5300:15:56 เด็กตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเนี่ยซึ่งบาง

00:15:5600:15:58 ทีอ่ะอย่างที่บอกว่าถ้าเราไม่กรองเนี่ย

00:15:5800:16:02 ค่ะเด็กที่ไม่สมควรได้ทุนก็จะได้ทุนไปค่ะ

00:16:0200:16:05 แล้วก็เอาไปเลี้ยงกันนึกออกมั้ยคะไม่ได้

00:16:0500:16:08 เอาไปใช้เพื่อความจำเป็นทางการศึกษาจริงๆ

00:16:0800:16:10 แต่เอาไปเลี้ยงกันเอาไปเที่ยวเอาไปอะไรใน

00:16:1000:16:13 สิ่งที่ไม่สมควรเพราะฉะนั้นเราต้องคัด

00:16:1300:16:16 กรองดีมากๆอะไรอย่างงนี้เป็นต้นนะคะอ

00:16:1600:16:19 เหมือนนั้นสัญญาณเหล่าเนี้ยมีข้อที่จะ

00:16:1900:16:22 เตือนอีกอย่างนึงก็คือทั้ง 3 กลุ่มที่เรา

00:16:2200:16:24 กล่าวมาเนี่ยนะคะทั้งหมดนี้ก็อาจจะไม่ได้

00:16:2400:16:27 แปลว่าโกหกเสมอไปนะคะบางครั้งก็อาจจะเป็น

00:16:2700:16:31 สัญญาณของยอย่างอื่นเช่นอาการป่วยนะคะของ

00:16:3100:16:34 เขาหรือการวิตกกังวลของเขาหรือการประหม่า

00:16:3400:16:36 ของเขาก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาเหล่านี้ได้

00:16:3600:16:39 เหมือนกันนะคะเพราะฉะนั้นจะเราจะต้อง

00:16:3900:16:42 พิจารณาทั้งบริบทแล้วก็สถานการณ์นั้นๆตัว

00:16:4200:16:45 บุคคลของเขาด้วยอะไรด้วยอย่างเงี้ยนะคะ

00:16:4500:16:48 ค่ะเถึงได้มีเครื่องมือจับเท็จมีอะไร

00:16:4800:16:52 พัฒนาขึ้นมา่ใช่นะคะอือแต่ว่าก็อย่างบาง

00:16:5200:16:56 คนเาก็คือบางคนไม่ได้โกหกนะพูดความจริง

00:16:5600:16:59 แต่ปฏิกิริยาแบบนี้ของเามันมันมีออกมาใช่

00:16:5900:17:04 ค่ะคือบางดถดว่ามันเกิดความรู้สึกรำคแล้ว

00:17:0400:17:07 อย่างสมมติคู่สามีภรรยาหรือบางทีอาจจะรู้

00:17:0700:17:10 สึกแบบทำไมไม่เชื่อก็พูดความจริงพูดความ

00:17:1000:17:13 จริงก็ไม่เชื่อแต่พอโกหกก็อ้าเชื่อหรือ

00:17:1300:17:15 อะไรอย่างเงี้ยมันก็จะเกิดความรู้สึกว่า

00:17:1500:17:18 เอ้ยมันน่ารำคาญแล้วนะค่ะก็อันนี้เป็นอัน

00:17:1800:17:20 นึงที่วิภาบอก

00:17:2000:17:24 ว่าสมมุติว่าครั้งแรกเนี่ยโกหกด้วยความ

00:17:2400:17:26 ปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ล่ะที่จะปกป้องความ

00:17:2600:17:29 รู้สึกอะไรก็แล้วแต่แล้วพอถูกจับได้จาก

00:17:2900:17:32 นั้นเนี่ยความไม่เชื่อใจมันจะเกิดขึ้นต่อ

00:17:3200:17:35 ให้คุณพูดความจริงอีกเท่าไหร่มันก็ไปติด

00:17:3500:17:38 ภาพของการโกหกครั้งแรกแล้วค่ะนึกออกมั้ย

00:17:3800:17:42 คะเออเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยจึงบอกว่าไม่ว่า

00:17:4200:17:45 คุณจะโกหกด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตามไม่ควร

00:17:4500:17:48 ทำหรอกค่ะนะฮะถ้าเป็นไปได้เนี่ยควรจะมา

00:17:4800:17:50 พูดคุยกันเราอาจจะไม่ได้พูดต่อหน้าตรง

00:17:5000:17:53 นั้นเพราะมีบุคคลที่ 3 ค่ะนึกออกมั้ยคะะ

00:17:5300:17:56 เราก็มาคุยกัน 2 คนให้เร็วที่สุดเท่าที่

00:17:5600:17:58 จะทำได้ว่าเมื่อกี้ทำไมต้องพูดแบบนั้นอื

00:17:5800:18:01 อืนะฮะเพราะไม่งั้นมันจะเกิดความไม่เชื่อ

00:18:0100:18:04 ใจกันไปอีกนานแสนนานต่อให้มารู้ว่าโกหก

00:18:0400:18:07 ด้วยความรักก็เหอะหรือโกหกเพื่อปกป้อง

00:18:0700:18:11 อะไรก็แล้วแต่ก็เหอะแต่บางทีมันก็มีโกหก

00:18:1100:18:16 ซ้ำซ้อนคือซ้อนในความโกหกนั้นอีกใช่ค่ะ

00:18:1600:18:17 มันก็เป็นเรื่องเป็นเรื่องซับซ้อนของแต่

00:18:1700:18:22 ละกรณีอกยากนะฮฮคือบางคนเนี่ยใช้วิธีหลีก

00:18:2200:18:25 เลี่ยงว่าว่าโกหกมาแล้วก็แล้วกันไปอะไร

00:18:2500:18:27 อย่างเงี้ยแต่บางครั้งเ่ะค่ะมันก็มีผล

00:18:2700:18:30 ย้อนกลับมาทีหลังเหมือนกันนะฮะเพราะ

00:18:3000:18:33 ฉะนั้นก็ก็ต้องดูแล้วแต่พิจารณาแต่อย่าง

00:18:3300:18:37 ที่บอกอค่ะว่ามันสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น

00:18:3700:18:40 ภายหลังเสมอเพราะว่ามันทำลายความเชื่อใจ

00:18:4000:18:44 ของกันและกันแล้วอ่ะค่ะใช่ๆยิ่งถ้าเกิด

00:18:4400:18:47 แบบเอ่อเจอคนอย่างบางคนเขาคก็ให้อภัยได้

00:18:4700:18:51 นะคะอาจารย์เจอเจอโกหกบ่อยๆจนแบบว่าอก็

00:18:5100:18:54 ให้อภัยแต่ถามว่าเลืมมั้ยคะไม่ลืมอ่ามัน

00:18:5400:18:58 ไม่ทางลืมนะใช่ค่ะเออถูกมั้ยคะให้อภัยได้

00:18:5800:19:01 กับคนที่เรารักเนี่ยโกหกเนี่ยเราเข้าใจ

00:19:0100:19:04 แต่ความเชื่อใจมันไม่เหลือแล้วมันจะมีคำ

00:19:0400:19:06 ถามอยู่ในใจถึงแม้จะไม่ได้พูดออกมาใช่

00:19:0600:19:09 มั้ยคะอาจารย์ว่าแบบเฮ้ยเชื่อได้เปล่า

00:19:0900:19:12 เนี่ยโกหกอยู่หรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยมัน

00:19:1200:19:14 คำถามมันเยอะเกินไปมันไม่ควรเนาะใชใช่ค่ะ

00:19:1400:19:17 ค่ะเพราะฉะนั้นก็พูดในในสิ่งที่เป็นความ

00:19:1700:19:21 จริงแต่บางทีความจริงก็ทำไม่ค่ะถึงแม้ว่า

00:19:2100:19:24 บางคนบอกว่าคนเรามันไม่ได้พูดจริงกันตลอด

00:19:2400:19:27 เวลาทุกเรื่องหรอกนะฮะแต่อย่างน้อยที่สุด

00:19:2700:19:29 เนี่ยพยายามลดลงให้มากมากที่สุดและอย่า

00:19:2900:19:32 คิดว่าเรื่องนั้นไม่สำคัญนะฮะยิ่งเป็น

00:19:3200:19:34 เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา

00:19:3400:19:38 ด้วยแล้วเนี่ยนะคะก็ถ้าเราเราอาจจะไม่ได้

00:19:3800:19:41 บอกกันทุกเรื่องหรอกในเรื่องของตัวตนของ

00:19:4100:19:43 เราอ่ะแต่บางอย่างที่เป็นเกี่ยวข้องกับ

00:19:4300:19:46 ความสัมพันธ์ของเราเนี่ยเราไม่ควรจะโกหก

00:19:4600:19:52 กันอืนะคะคำว่าโกหกกับคำกับกับการปิดบัง

00:19:5200:19:56 มันมันก็อาจจะคล้ายกันหรือไม่คล้ายกันก็

00:19:5600:19:59 ได้มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราปิดบังนมัน

00:20:0000:20:03 เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเรามั้ยอื

00:20:0300:20:06 ใช่มั้ยคะอือก็คงต้องเหมือนกับว่าต้องดู

00:20:0600:20:09 เป็นรายละเอียดเป็นกรณีไปแล้วก็เป็น

00:20:0900:20:13 เรื่องๆไปอคแต่เขาคก็มีอันนี้ไม่รู้พูด

00:20:1300:20:16 ได้หรือเปล่าแต่ก็เอาเอาแบบว่ากว้างๆไว้

00:20:1600:20:20 แล้วเบอกว่ามันมีบางบางอาชีพที่แบบว่านะ

00:20:2000:20:23 เราก็จะต้องแบบพูดเพื่อให้เขาอ่ะเลือกเรา

00:20:2300:20:26 อือพูดเพื่อให้เลือกเราซึ่งสิ่งเหล่านั้น

00:20:2600:20:29 น่ะมันอาจจะเกิดหรือมันไม่เกิดก็ได้แต่

00:20:2900:20:32 พูดเหมือนแบบคนที่ชอบในเรื่องของความหวัง

00:20:3200:20:34 พูดในเรื่องของความหวังของคนพอถึงเวลา

00:20:3400:20:37 เข้าไปทำหน้าที่ตรงนั้นแล้วอ้าวกลายเป็น

00:20:3700:20:38 ว่าทำไม่

00:20:3800:20:42 ได้อาจารย์นึกออกแล้วใช่มั้ยว่าคืออะไร

00:20:4200:20:45 อันนั้นมันมันก็ออกเ้าจะเรียกอะไรโกหกโดย

00:20:4500:20:46 สุจริต

00:20:4600:20:50 เหรอยังไงมันก็เป็นสำหรับอาชีพบางอาชีพ

00:20:5000:20:54 เนาะละไว้ในฐานที่เข้าใจใช่ๆๆเอ้ออาจารย์

00:20:5400:20:59 อย่างคำว่าโกหกโดยสุจริตมันก็โกหกมอ่ะมัน

00:20:5900:21:02 จะมาสุจริตยัง

00:21:0200:21:06 ไงอันเนี้ยทางการแพทย์เราเนี่ยนะคะบางที

00:21:0600:21:09 สมัยก่อนนี้เราจะมีคำพูดว่าเป็นโกหกสีขาว

00:21:0900:21:13 นะคำว่าโกหกสีขาวก็คือการโกหกเพื่อเพื่อ

00:21:1300:21:17 ประสงค์ดีกับคนไข้อ๋อนึกออกมั้ยคะเพื่อ

00:21:1700:21:20 ประสงค์ดีกับคนไข้แต่ในปัจจุบันเนี่ยมัน

00:21:2000:21:23 ก็จะมีในเรื่องของสิทธิมนุษยชนอะไรต่างๆ

00:21:2300:21:26 ออกมานะฮะที่บอกว่าคนไข้เมีสิทธิ์ที่จะ

00:21:2600:21:30 รู้อว่าเเป็นอะไรอะไรยังไงอะไรอย่างเงี้ย

00:21:3000:21:33 ค่ะเพราะฉะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้

00:21:3300:21:37 ด้วยเนาะว่าคนไข้เี่พร้อมจะรับมยอย่าง

00:21:3700:21:40 เช่นคนไข้บางคนเนี่ยค่ะโอ๊ยหมอบอกมาเลยผม

00:21:4000:21:43 รับได้หมดผมเป็นโรคอะไรผมรับได้ทั้งนั้น

00:21:4300:21:47 นะเข้มแข็งแสดงความแมนมากนะฮะสมัยก่อนนะ

00:21:4700:21:50 ลูกย้อนหลังไปหลายปีนะฮะพอบอกว่าเป็น

00:21:5000:21:52 มะเร็งเท่านั้นค่ะผู้รุ่งขึ้นแกเสียชีวิต

00:21:5200:21:56 เลยวายใจมันไปแล้วไงสำหรับสมัยก่อนเนี่ย

00:21:5600:21:59 มะเร็งเนี่ยมันเป็นอะไรน่ากลัวมาก 40 ปี

00:21:5900:22:01 ที่แล้วนะคะเป็นอะไรที่รู้ว่าไม่มีทาง

00:22:0100:22:05 รักษาอืนึกออกมั้ยคะค่ะก็ใจไม่สู้แล้วตาย

00:22:0500:22:08 เลยวันรุ่งขึ้นเฮยอย่างเงี้ยค่ะเพราะนั้น

00:22:0800:22:11 สมัยก่อนเนี่ยคนไข้ที่เป็นมะเร็งเนี่ยเขา

00:22:1100:22:13 จะต้องให้แพทย์เท่านั้นที่ตัดสินใจได้ว่า

00:22:1300:22:16 จะบอกคนไข้มั้หรือไม่บอกในสมัยก่อนนะฮะอ

00:22:1700:22:18 แต่ในปัจจุบันเนี่ยมันเป็นเรื่องของสิทธิ

00:22:1800:22:23 มนุษยชนและนะฮะซึ่งบางครั้งคนไข้เองเนี่ย

00:22:2300:22:27 ก็รู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไรอืแต่ก็ญาติ

00:22:2700:22:30 เนี่ยมักจะกลัวไม่กล้าบอกหมออย่าบอกคนไข้

00:22:3000:22:32 นะอะไรนะเดี๋ยวใจเสียหรืออะไรอย่างเงี้ย

00:22:3200:22:35 นะคะก็ยังเป็นเรื่องที่ทั้งหมอและญาติ

00:22:3500:22:38 เนี่ยต้องปรึกษาหารือกันว่าสมควรมั้ยอะไร

00:22:3800:22:42 มั้ยแต่คนไข้บางคนเก็มีประสบการณ์ชีวิต

00:22:4200:22:46 มากเนาะท่านก็จะบอกว่าบอกมาเถอะอืออย่ามา

00:22:4600:22:49 โกหกเลยรู้อยู่และอะไรอย่างเงี้ยนะคะ

00:22:4900:22:51 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้อง

00:22:5100:22:54 พิจารณาร่วมกันค่ะนะฮะไอ้การโกหกสีขาว

00:22:5400:22:56 อย่างที่บอกเนี่ยบางทีมันก็ช่วยในเรื่อง

00:22:5600:23:00 ของกำลังใจเรื่องของอะไรหลายๆอย่างอือฮึ

00:23:0000:23:02 นะคะที่จะบอกไม่ได้ว่าอันนี้มันใช่การ

00:23:0200:23:06 โกหกมั้ยนะฮะหรือการปกปิดความผิดมั้ยอะไร

00:23:0600:23:09 ต่างๆเหล่าเนี้ยอมันก็มีทั้งแบบว่าการพูด

00:23:0900:23:12 ไม่จริงคือถ้าพูดคำว่าโกหกมันก็ดูเหมือน

00:23:1200:23:15 แบบว่าชันไม่ดีคอะไรเงี้ยแต่แบบอาจจะแบบ

00:23:1500:23:20 เออพูดไม่หมดพูดไม่ชัดเอ่อปกปิดหรือไม่

00:23:2000:23:22 ได้พูดความจริงทั้งหมดหรืออะไรเงี้ยมันก็

00:23:2200:23:26 มันก็มีหลายๆคำที่มันใช้ค่ะได้แต่ทั้งที่

00:23:2700:23:29 อย่างที่อาจารย์บอกคือปูวังตั้งแต่เด็ก

00:23:2900:23:33 ว่าในเรื่องของการที่โกหกให้น้อยค่ะจะดี

00:23:3300:23:35 กว่าค่ะจะได้ไม่แล้วก็ต้องแยะให้ให้เด็ก

00:23:3500:23:40 เข้าใจคำคำว่าโกหกกับมารยาทด้วยนึกออก

00:23:4000:23:43 มั้ยคะในบางครั้งเนี่ยเราต้องพูดบางอย่าง

00:23:4300:23:45 เพื่อเป็นมารยาทเช่นสมมุติว่าอะไรอ่ะ

00:23:4500:23:47 เพื่อนบ้านเค้าเอาทำกับข้าวมาให้อย่าง

00:23:4700:23:51 เงี้ยนะฮะซึ่งเค้าก็เอามาให้ด้วยน้ำใจอ่ะ

00:23:5100:23:53 แต่เรามาลองรับประทานแล้วมันไม่อร่อยเลย

00:23:5300:23:57 อ่ะนะฮะแต่พอเมาถามว่าเป็นไงคะดีมั้ยเรา

00:23:5700:24:01 จะบอกบอกโอ้โหไม่อร่อยเลยมันมันก็ไม่ได้

00:24:0100:24:04 นะฮะอันนี้ได้กับที่บ้านนะคะหลานเนี่ยนะ

00:24:0400:24:07 ฮะคือความเป็นเด็กอ่ะแกก็ซื่อใช่มั้ยพอ

00:24:0700:24:11 เราบอกว่าค่าดีค่ะรถดีค่ะพอกลับไปแล้วดี

00:24:1100:24:14 นะแกไม่พูดต่อหน้าพอเกลับไปแล้วบอกทำไม

00:24:1400:24:18 เราไม่บอกว่ามันไม่อร่อยล่ะ

00:24:1800:24:22 คะเด็กชอบพูดความจริงเด็กไม่โกหกเราก็เลย

00:24:2200:24:25 บอกว่ามันมันเอ่อเราต้องรักษาน้ำใจบ้าง

00:24:2500:24:29 ลูกคุณป้าอุตส่าห์ทำมาให้เอออะไรเงี้มัน

00:24:2900:24:31 ก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายหรอกอะไเราก็ไม่

00:24:3100:24:35 ต้องไปพูดตรงๆนะคะเราก็บอกว่าดีค่ะรถดี

00:24:3500:24:38 ค่ะอะไรอย่างเงี้ยใช่บางทียังไม่ทันจะหัน

00:24:3800:24:41 หลังไปพ้นเสาไฟเลยโอโหได้ยิน

00:24:4100:24:45 แล้วอย่างเยค่ะก็ต้องใช่มบางทีเนี่ยพ่อ

00:24:4500:24:49 แม่บางคนก็รับโทรศัพท์แล้วก็บอกว่าไม่

00:24:4900:24:52 อยู่อะไรอย่างเงี้ยทั้งๆที่เพจะมีธุระที่

00:24:5200:24:55 จะต้องออกไปอะไรเงี้ยค่ะพอวางสายทำไมคุณ

00:24:5500:24:57 แม่บอกว่าไม่อยู่หร่ะคะก็แล้วพวกเราอยู่

00:24:5700:25:00 บ้านนี้อะไรอย่างเงี้ยไหนสอนไม่ให้โกหกไง

00:25:0000:25:03 เออนะคะเพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าให้เด็ก

00:25:0300:25:04 ลำบาก

00:25:0400:25:08 เนาะเวลาที่บ้านมีเด็กเนี่ยบางทีเราก็

00:25:0800:25:11 ต้องแยกแยะระหว่างคำว่าโกหกกับมารยาททาง

00:25:1100:25:13 สังคมอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ต้องชี้แจงให้

00:25:1300:25:18 เขาคเข้าใจแม่บอกว่าให้บอก

00:25:1800:25:22 ว่าจบมาหลายรายแล้วค่ะโอเคนะคะก็เอาเป็น

00:25:2200:25:25 ว่าได้รู้วิธีแต่ว่ามันไม่ได้สามารถใช้

00:25:2500:25:29 ได้ทุกอย่างกับทุกคนบางทีเไม่ได้โกหกแต่

00:25:2900:25:31 อาจจะเป็นพฤติกรรมหรือว่าเขเป็นโรคอันนี้

00:25:3100:25:34 อยู่ก็เกิดแบบอย่างนี้ได้นะคะขอบคุณ

00:25:3400:25:37 อาจารย์จันทร์วิภาค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลา

00:25:3700:25:39 แล้วค่ะพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรง

00:25:3900:25:42 หมอไทย PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะ

00:25:4200:25:46 คะสวัสดีค่ะ This Is Thai PBS podcast

00:25:4600:25:48 สัตว์ชนิดหนึ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของชุมชน

00:25:4800:25:51 เมืองคือหนูสัตว์ที่เป็นพหะนำโรคมาสู่

00:25:5100:25:54 มนุษย์ศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ดรสถาพร

00:25:5400:25:58 จิตปภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาบอกให้รู้

00:25:5800:26:01 ครับคือความจริงเนี่ยบริเวณไหนที่มีหนูนะ

00:26:0100:26:04 ฮะให้สังเกตได้ว่ามันมักจะมีอาหารนะฮะ

00:26:0400:26:08 ซึ่งเอ่อในในประเทศไทยเนี่ยจะประเภทกิน

00:26:0800:26:10 ไม่ค่อยเป็นที่นะครับเพราะฉะนั้นอาหารหนู

00:26:1000:26:12 มันจะเกลื่อนไปหมดนะครับเพราะฉะนั้นก็จะ

00:26:1200:26:14 เป็นแหล่งที่มาว่าถ้าอาหารอยู่ที่ไหนหนู

00:26:1500:26:17 ก็จะตามมาอยู่นะครับเพราะงั้นในทุกบ้านนะ

00:26:1700:26:20 ครับที่มีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องอาหาร

00:26:2000:26:21 ทั้งอาหารคนทั้งอาหารสัตว์เนี่ยถ้าไม่

00:26:2100:26:24 เป็นระเบียบเรียบร้อยเนี่ยมันก็จะเป็นตัว

00:26:2400:26:27 ดึงเอาหนูพวกเนี้เข้ามาอยู่ในบ้านเรานะ

00:26:2700:26:29 ครับค่ะซึ่งอันนี้เราก็มักจะพบเป็นประจำ

00:26:2900:26:32 เกือบทุกบ้านฮะส่วนใหญ่มักจะต้องมีถ้าเรา

00:26:3200:26:35 สังเกตดีๆอาจจะมีหนูที่วิ่งอยู่ตามฝ้านะ

00:26:3500:26:38 อ่าใช่กับหนูที่วิ่งอยู่ตามพื้นนะครับมัน

00:26:3800:26:41 จะมีความแตกต่างกันเพราะว่าหนูเนี่ยมัน

00:26:4100:26:43 มันมีลักษณะของแฮบิตหรือสภาพแวดล้อมที่

00:26:4300:26:46 มันต้องการเนี่ยแตกต่างกันนะครับค่ะแต่

00:26:4600:26:50 ที่เรากังวลนอกจากเอ่อกังวลโดยตรงก็คือ

00:26:5000:26:54 เรื่องโรคนะครับที่ที่อาจจะเป็นสาเหตุของ

00:26:5400:26:57 เอ่อโรคหลายอย่างอย่างโรคฉี่หนูเอ่อโรค

00:26:5700:27:00 ไวรัสอย่างพวกพวกฮันตาไวรัสนะครับเอ่อกาล

00:27:0000:27:03 โรคนี้ไม่ค่อยมีะนะฮะค่อนข้างน้อยะก็ก็

00:27:0300:27:06 หนูก็เคยเป็นปัจจัยหลักของการนำกาโรคที่

00:27:0700:27:09 ระบาดไปทั่วโลกนะครับซึ่งอันนั้นก็ทำให้

00:27:0900:27:11 คนตายจำนวนมากนะครับอค่ะทีนี้ในประเทศไทย

00:27:1100:27:14 เนี่ยนอกจากนำโรคโดยตรงแล้วเนี่ยอีกอัน

00:27:1400:27:17 ที่ต้องระวังก็คือเรื่องความเสียหายนะ

00:27:1700:27:19 ครับเพราะเราจะพบได้ว่าหนูอยู่ที่ไหน

00:27:1900:27:23 เนี่ยมันจะเกิดสภาพที่เ่อไม่น่าดูนะครับ

00:27:2300:27:26 อย่างเช่นสิ่งของต่างๆเนี่ยหนูเป็นสัตว์

00:27:2600:27:28 ฟันแทะนะครับค่ะเพราะฉะนั้นมันจะต้องใช้

00:27:2800:27:30 ฟันรับฟันมันตลอดเพราะฉะนั้นมันก็จะกัด

00:27:3000:27:32 ทุกอย่างที่อยู่โดยรอบนะครับอใช่กัดเพื่อ

00:27:3200:27:35 กินอาหารกัดเพื่อเอาไปสร้างรังหรือกัด

00:27:3500:27:38 สิ่งอื่นๆนะครับที่มันจะต้องจะต้องใช้

00:27:3800:27:40 เพื่อรับฟันนะครับเพราะฉะนั้นเราก็จะเห็น

00:27:4000:27:44 ภาพของเอ่อขอมันจะกระจุยกระจายนะครับ

00:27:4400:27:47 อย่างสายไฟเนี่ยเอ่อตามบ้านเนี่ยอันนึง

00:27:4700:27:50 ที่ต้องระวังก็คือถ้ามีหนูอยู่เนี่ยมันมี

00:27:5000:27:53 โอกาสที่จะกัดสายไฟอืทำให้เกิดไฟช็อตได้

00:27:5300:27:56 นะครับแล้วก็ทำให้เกิดไฟดับได้ในในบางใน

00:27:5700:28:00 บางบ้านนะฮะเพะถ้าเกิดมีมากๆจริงๆเนี่ย

00:28:0000:28:02 เอ่อหนูเนี่ยเป็นสัตว์อีกประเภทนึงที่ให้

00:28:0200:28:05 ลูกเร็วหนูตัวเมียตัวนึงเนี่ยอาจจะให้ลูก

00:28:0500:28:06 ได้ตั้งแต่

00:28:0600:28:10 30-50 ตัวนะต่อปีนะครับหนูมันจะมีหลาย

00:28:1000:28:13 สายพันธุ์ด้วยนะฮะแล้วก็เอ่อมีขนาดที่แตก

00:28:1300:28:16 ต่างกันนะครับไที่เราเห็นตัวใหญ่ๆเนี่อาจ

00:28:1600:28:18 จะเป็นพวกพันธุ์เเรียกนวิคัหรือพวกหนู

00:28:1800:28:21 นอร์เวย์พวกนั้นนะฮะตัวนั้นนี่เกือบใหญ่

00:28:2100:28:23 สุดได้เกือบครึ่งกโลเหมือนกันมันยังมีเ้า

00:28:2300:28:27 เรียกเอ่อหนูท้องขาวที่เป็นตระกูลเลตััส

00:28:2700:28:30 นะครับหนูนเวนี่คือแลคตัสนวิสนะครับเอ่อ

00:28:3000:28:34 หนูท้องขาวเนี่ยจะเป็นหนูแคตัสัสซึ่งเรา

00:28:3400:28:37 มีเป็นประจำอยู่แล้วนะครับซึ่งขนาดมันก็

00:28:3700:28:39 จะเล็กลงวนิดหน่อยอนะครับถ้าตรงนั้นมัน

00:28:4000:28:43 เกือบครึ่งกลอันนี้อาจจะสัก 3 ขีดหรือไม่

00:28:4300:28:46 เกิน 4 ขีดค่ะแต่ว่าไซส์ก็ใกล้ๆกันนะครับ

00:28:4600:28:49 เ่าบางทีก็ขึ้นอยู่กับอาหารสภาพแวดล้อ

00:28:4900:28:51 เหมือนกันค่ะไซส์อาจจะเหมือนๆกันเลยก็ได้

00:28:5100:28:53 นะเพราะเป็นตระกูลเดียวกันนะครับแล้วก็

00:28:5300:28:56 เป็นปัญหาต่อคนที่อยู่โดยรอบแล้วสภาพแวด

00:28:5600:28:58 ล้อมครับอ

00:28:5800:28:59 [เพลง]

00:28:5900:29:03 This Is Thai PBS

00:29:0300:29:06 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS

00:29:0600:29:08 podcast ได้ทางเว็บไซต์

00:29:0800:29:23 www.thaipbs.or.th

00:29:2300:29:28 [เพลง]

00:29:2800:29:31