00:00:00 → 00:00:02 ถ้าตื่นขึ้นมาวันนึงในตอนเช้ามันมีความ
00:00:02 → 00:00:04 คิดเข้ามาในหัวว่าอยู่ไปทำไมวะแค่คิดว่า
00:00:04 → 00:00:07 เราเกิดมาทำไมแล้วไม่มีคำตอบที่แน่ชัดเรา
00:00:07 → 00:00:09 ก็ซึมเศร้านี่เป็นสิ่งที่มีเฉพาะ
00:00:09 → 00:00:11 โฮโมเซเปียนที่เป็นมนุษย์เท่านั้นตรง
00:00:11 → 00:00:13 เนี้ยคำอธิบายในเชิงของการแพทย์องรวม
00:00:13 → 00:00:14 เพราะว่าเรา
00:00:14 → 00:00:18 มีถ้าเกิดคุณอาศัยหรือใช้ชีวิตอยู่ในตึก
00:00:18 → 00:00:20 นานๆน่ะมันจะมีสิ่งที่เรียกว่าเป็น Sick
00:00:20 → 00:00:22 Building Syndrome เพราะคุณถูกตัดขาด
00:00:22 → 00:00:25 จากพลังธรรมชาติเป็นระยะเวลาเป็น 10 ปี
00:00:25 → 00:00:27 มันก็ไม่แปลกใจที่วันนึงคุณจะป่วยเพราะ
00:00:27 → 00:00:29 ว่าคุณไม่ได้กลับไป Connect กับธรรมชาติ
00:00:29 → 00:00:32 พลังชิตเกี่ยวข้องกับกรรมยังไงการที่เรา
00:00:32 → 00:00:34 จะมาเกิดในพ่อแม่รับเอาพลังชีวิตของพ่อ
00:00:35 → 00:00:37 แม่มาอย่างละครึ่งเราเรียกว่ากรรมเก่า
00:00:37 → 00:00:40 บุพกรรมถ้าใช้ชีวิตแย่ๆพันธุกรรมแย่ๆมัน
00:00:40 → 00:00:43 จะเปิดกลายเป็นโรคตามมาแต่ถ้าคุณใช้ชีวิต
00:00:43 → 00:00:46 ที่ดีๆดูแลตัวเองย็นที่ดีมันจะเปิดคุณก็
00:00:46 → 00:00:48 จะแข็งแรงการันตีเลย 1 วิธีที่ทำให้
00:00:49 → 00:00:52 สุขภาพพังเนี่ยคืออะไรคะ
00:00:52 → 00:00:58 คือเกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกล
00:00:58 → 00:01:01 โรคสวัสสวัดีค่ะยินดีต้อนรับกลับเข้าสู่
00:01:01 → 00:01:04 รายการเกาแก้โลกค่ะวันนี้นะคะแพนด้าก็มี
00:01:04 → 00:01:07 เนื้อหาดีๆมาฝากทุกๆท่านอีกแล้วค่ะตามที่
00:01:07 → 00:01:09 เราได้เห็นกันไปนะคะบนหน้าปกวันนี้เราจะ
00:01:09 → 00:01:11 มาคุยกันในเรื่องของพลังชีวิตค่ะทุกท่าน
00:01:11 → 00:01:14 รู้ยคะว่าจริงๆแล้วเนี่ยเราทุกคนเดำเนิน
00:01:14 → 00:01:16 ชีวิตไปต้องมีพลังชีวิตและธรรมชาติมีพลัง
00:01:16 → 00:01:18 กว่าที่คิดด้วยค่ะวันนี้แพนด้าก็อยู่กับ
00:01:19 → 00:01:20 คุณหมอปองนะคะนายแพทย์ทีปทัศน์
00:01:20 → 00:01:23 ชุณหสวัสดิกุลสวัสดีค่ะคุณูสวัสดีครับ
00:01:23 → 00:01:25 สวัสดีครับเจอกันอีกแล้วนะคะยินดีครับ
00:01:25 → 00:01:29 คราวที่แล้วคอมเมนต์รัวๆอ้าครับวันนี้เรา
00:01:29 → 00:01:32 ก็มาอลงลึกในด้านเรื่องพลังชีวิตใช่มั้ย
00:01:33 → 00:01:35 ครับใช่ๆค่ะคุยกันเรื่องพลังชีวิตและแอบ
00:01:35 → 00:01:37 กระซิบบอกทุกคนไว้นิดนึงว่าคุณหมอบอกว่า
00:01:37 → 00:01:40 จริงๆเรื่องกรรมก็เกี่ยวข้องด้วยอ่าอ่า
00:01:40 → 00:01:43 เดี๋ยวรอฟังกันได้เลยอันดับแรกอยากอยาก
00:01:43 → 00:01:46 ทราบก่อนค่ะว่าแล้วการแพทย์แบบองค์รวม
00:01:46 → 00:01:48 เนี่ยค่ะจริงๆแล้วคืออะไรคะมันมีพัฒนาการ
00:01:48 → 00:01:51 ของคำว่าการแพทย์เนี่ยตลอดระยะเวลาตั้ง
00:01:51 → 00:01:55 แต่เรามีการปฏิรูปเรื่องของสุขภาพในเมือง
00:01:55 → 00:01:58 ไทยเนาะต้องบอกว่าในปีนั้นน่ะที่มีการ
00:01:58 → 00:02:01 ตั้งกรมพัฒนากันแพทย์ทางเลือกแล้วก็การ
00:02:01 → 00:02:04 แพทย์แผนไทยเนี่ยก็เป็นช่วงที่ทางผู้ใหญ่
00:02:04 → 00:02:07 เริ่มมองเห็นว่าเอ้ยการดูแลสุขภาพมันเป็น
00:02:07 → 00:02:09 เรื่องของแต่ละบุคคลเพราะก่อนหน้านี้
00:02:09 → 00:02:12 เนี่ยเราจะมีการแพทย์สมัยใหม่เเรียกว่า
00:02:12 → 00:02:14 conventional Medicine อันนั้นจะเป็น
00:02:14 → 00:02:16 การแพทย์ที่คุณหมอทุกคนแผนปัจจุบันรวม
00:02:16 → 00:02:19 ทั้งผมเองเวลาเรียนมา 6 ปีแล้วก็ตอความ
00:02:19 → 00:02:21 ชำนาญพิเศษเนี่ยเกือบ 10 ปีเนี่ยจะเรียน
00:02:21 → 00:02:23 ในโรงเรียนแพทย์ส่วนใหญ่จะเป็นทาง
00:02:23 → 00:02:25 evidence Base เป็นเรื่องของหลักสถิติ
00:02:25 → 00:02:28 การวิจัย Back Up ก็เป็นการแพทย์กระแส
00:02:28 → 00:02:30 ที่เรารู้จักดีที่สุดในช่วงนี้เราเรียก
00:02:30 → 00:02:32 ว่าเป็นการการแพร่กระแสหลักก็ได้แต่ว่า
00:02:32 → 00:02:35 ต่อมาเนี่ยเริ่มมี movement ของการที่คน
00:02:35 → 00:02:38 อยากจะดูแลสุขภาพตามแนวธรรมชาติบำบัดก็
00:02:38 → 00:02:40 เริ่มตั้งแต่สมัยอาจารย์สาธิตชีวจิตใช่
00:02:40 → 00:02:43 มั้ยครับและรุ่นคุณพ่อผมก็คือคุณหมอบรรจบ
00:02:43 → 00:02:46 ชุณหสวัสดิกุลคุณหมอลลิตา
00:02:46 → 00:02:49 ธีรสินกันแล้วก็สร้างศูนย์ธรรมชาติบำบัด
00:02:49 → 00:02:52 บัลวีขึ้นมานะคนอายุประมาณ 60 จะได้คุ้น
00:02:52 → 00:02:54 ชินกับชื่อบัลวีอยู่ะตอนนั้นเนี่ยเป็น
00:02:54 → 00:02:57 กระแสที่บอกว่าคนเราดูแลตัวเองได้นี่นา
00:02:57 → 00:02:59 เพราะว่าเราเชื่อในพลังธรรมชาติว่าเรามี
00:02:59 → 00:03:01 การเยียวยาตนเองอยู่แล้วล่ะแต่ว่าใน
00:03:01 → 00:03:05 อุปสรรคบางอย่างเดี๋ยวค่อยๆคุยกันต่อว่า
00:03:05 → 00:03:07 ทำไมร่างกายไม่ซ่อมแซมตัวเองดังนั้นถ้า
00:03:07 → 00:03:11 เกิดว่าเราใช้การส่งเสริมสุขภาพโดยแลตั้ง
00:03:11 → 00:03:13 แต่เรื่องของอาหารการกินออกกำลังกายการ
00:03:13 → 00:03:16 คลายเครียดการไม่ลืมเล่าไม่สูบบุหรี่การ
00:03:17 → 00:03:19 นอนหลับที่ดีพักผ่อนที่ดีไปจนถึงเราพูด
00:03:19 → 00:03:22 ถึงเรื่องสัมพันธภาพที่ดีถ้าเราทำขึ้นมา
00:03:22 → 00:03:24 ได้ร่างกายก็จะเยียวยาวตัวเองก็เลยเป็น
00:03:24 → 00:03:27 หลักสูตรการดูแลในแนวที่เรียกว่าธรรมชาติ
00:03:27 → 00:03:30 บำบัดคนก็ตื่นเต้นมากเลยในช่วงแประมาณ 30
00:03:30 → 00:03:34 ปีที่แล้วเริ่มมีการทำไข้เ่าสุขภาพบัลวีเ
00:03:34 → 00:03:36 แล้วก็มีอีกเยอะแยะนะไม่ใช่แค่บัลวีก็มี
00:03:36 → 00:03:40 แนวหมอพื้นบ้านหมอแผนไทยหมอแผนจีนทั้งหมด
00:03:40 → 00:03:43 คือการแพทย์ที่ไม่ได้ถูกนับรวมแล้วะกันใน
00:03:43 → 00:03:45 การแพทย์กระแสหลักแต่ถามว่ามันได้ผลมยผม
00:03:45 → 00:03:47 ก็ต้องเชื่อว่าได้ผลนะไม่งั้นบทบันพระ
00:03:47 → 00:03:49 บุรุษเราคงไม่ได้อยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน
00:03:49 → 00:03:51 นี้ได้ถูกมั้ยครับเพราะฉะนั้นเนี่ยมันจะ
00:03:51 → 00:03:53 มีอยู่ยุคนึงที่ประชาชนต้องเลือกว่าถ้า
00:03:53 → 00:03:56 คุณไม่ไปรักษาแผนปัจจุบันคุณไปที่อื่นเลย
00:03:56 → 00:03:59 นะคือมันจะมีอารมณ์แบว่าไปรักษาสมุนภัย
00:03:59 → 00:04:02 ไม่ไม่ต้องมารักษาแพนจก็เลยเลยเลยเลียก
00:04:02 → 00:04:05 การแพทย์ตอนนั้นน่ะว่ากลุ่มการแพทย์พวก
00:04:05 → 00:04:07 เนี้ยเป็นการแพทย์ทางเลือกอืเอา Turn
00:04:08 → 00:04:10 native Medicine ต้องเลือกนะเลือเ่อไม่
00:04:10 → 00:04:14 ทางใดก็ทางหนึ่งซึ่งมันก็เกิดความฮิค up
00:04:14 → 00:04:16 ผมจะคามว่ามันไม่ต่อเนื่องกันคนไข้ก็อาจ
00:04:16 → 00:04:18 จะรู้สึกจริงๆก็ไม่ได้อยากจะต้องแบบทิ้ง
00:04:18 → 00:04:21 ทางใดทางหนึ่งก็เลยมีแนวคิดที่ว่ามีกลุ่ม
00:04:21 → 00:04:23 แพทย์ที่หัวสมัยใหม่ก็เริ่มมีวิจัยมาลอง
00:04:23 → 00:04:26 รับการแพทย์ในกลุ่มนี้แล้วก็บอกเอางี้
00:04:26 → 00:04:27 แล้วกันการแพทย์กระแสหลักอ่ะ conventional
00:04:28 → 00:04:30 Medicine ก็ยังต้องใช้ต่อแต่แต่เราเพิ่ม
00:04:30 → 00:04:32 เติมได้มั้ยคำว่าเพิ่มเติมภาษาอังกฤษเร
00:04:32 → 00:04:35 ว่าคมอ่าเหมือนเราไปกินอาหารแล้วก็แบบมี
00:04:35 → 00:04:38 อาหารคมนเอามาให้ใช่มยฮะไม่ใช่จานหลักแต่
00:04:38 → 00:04:41 กินร่วมกันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่เรียกอีก
00:04:41 → 00:04:43 ยุคต่อมาเราเรียกว่า complimentary
00:04:43 → 00:04:45 Medicine แต่ว่า complimentary มันก็ยัง
00:04:45 → 00:04:47 แบบว่าโอเคเราไม่ได้ปฏิเสธกันและกันเนาะ
00:04:47 → 00:04:50 แต่ว่าอาจจะไม่ได้คุยกันเท่าที่ควรอ้าคุณ
00:04:50 → 00:04:52 หมอที่อยู่ในโรงพาบาลอาจจะพอพูดถึง
00:04:52 → 00:04:56 วิตามินสมุนไพรอาจจะผมผมไม่รู้จักอะไร
00:04:56 → 00:04:59 อย่าเงี้ยไม่ได้ไปศึกษาหรือคนที่อยู่ผิต
00:05:00 → 00:05:02 การแพทยแผนจีนอาจจะพูดแต่แผนจีนแต่ก็ไม่
00:05:02 → 00:05:04 เข้าใจเหมือนกันว่าแล้วแผนปัจจุบันเทำ
00:05:04 → 00:05:07 อะไรกันมันก็เลยมีการพัฒนาต่อฮะก็เริ่มมี
00:05:07 → 00:05:10 การพูดถึงว่าโอ้ถ้าอย่างงั้นเนี่ยเราต้อง
00:05:10 → 00:05:12 เอาสิ่งที่เรียกว่าเป็น Multi
00:05:12 → 00:05:14 disciplinary Medicine คือสหวิชาชีพเอา
00:05:14 → 00:05:20 หมอแผนจีนหมอแผนไทยมาเรียนร่วมกันทำทีม
00:05:20 → 00:05:22 เดียวกันกับหมอแผนปัจจุบันต่างคนต่างเข้า
00:05:22 → 00:05:24 ใจนะหมอแผนไทยก็ต้องเข้าใจนะหมอแผน
00:05:24 → 00:05:27 ปัจจุบันให้ยาตัวนี้เพราะอะไรหมอแผนจีนก็
00:05:27 → 00:05:30 ต้องเข้าใจนะว่าเอ่อหมอแผนแผนปัจจุบันไม่
00:05:30 → 00:05:33 ให้ฝังเข็มเพราะกำลังกินยาละลายลิ่มรดคือ
00:05:33 → 00:05:35 มีมีการพูดคุยกันมากขึ้นมันเลยเป็นการพูด
00:05:35 → 00:05:39 ว่าเป็นการแพทย์องค์รวมมันรวมะคราวนี้ไม่
00:05:39 → 00:05:41 ใช่แค่ต่างคนต่างอยู่เราจะมารวมกันอย่าง
00:05:41 → 00:05:44 ไรหรือต่อไปก็คือทำให้มันบูรณาการยิ่ง
00:05:44 → 00:05:47 ขึ้นเช่นแทนที่จะแผนจีนพูดแต่เอ่อาตุทั้ง
00:05:47 → 00:05:50 5 อแพทย์แผนไทยพูดดินน้ำลมไฟแพทย์แผน
00:05:50 → 00:05:52 ปัจจุบันพูดคนละเรื่องเรามาเรียนรู้ทาง
00:05:53 → 00:05:56 สรีรวิทยาอะไรต่างๆเป็นภาษาเอ่อเดียวกัน
00:05:56 → 00:05:58 ซึ่งเอ่อคนที่เป็นต้นแบบทำได้ดีมีอยู่ 2
00:05:58 → 00:06:01 ประเทศคือประเทศอินเดียประเทศจีนเรียน 6
00:06:01 → 00:06:04 ปีเนี่ยหมอแผนจีนของเขาก็จะต้องนั่งเรียน
00:06:04 → 00:06:06 รวมกับหมอแผนปัจจุบันนะเสร็จแล้วพอคุณ
00:06:06 → 00:06:09 เริ่มเ่อเค้าเรียกเรียนพรีคลินิกหลังจาก
00:06:09 → 00:06:11 นั้นพอไปขึ้นคลินิกไปเจอคนไข้แล้วเนี่ย
00:06:11 → 00:06:13 ต่างคนต่างอาจจะไปแยกการเรียนแต่ทุกคนเคย
00:06:13 → 00:06:15 เรียนรู้ร่วมกันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่เร
00:06:15 → 00:06:18 ว่าเป็นการแพทย์บูรณาการหรือ inr
00:06:18 → 00:06:22 Medicine ออ่านั้นคือมุมมุมมองของนิยาม
00:06:22 → 00:06:24 ที่อาจจะตอบโจทยว่าเออแล้วการแพทย์องค์
00:06:24 → 00:06:27 รวมคืออะไรแต่คราวนี้ผมมีนิยามอีกอีกมุม
00:06:27 → 00:06:29 นึงถ้าเราบอกว่าอ้าวแล้วจุดประสงค์สูงสุด
00:06:29 → 00:06:32 ในการที่เราจะรักษาโรคหรือรักษาคนน่ะถ้า
00:06:33 → 00:06:36 เกิดเราบอกว่าเรารักษาโรคแน่นอนว่าหมอ
00:06:36 → 00:06:38 ท่านนั้นจะต้องมีความศึกษาอย่างทุ่มเทและ
00:06:39 → 00:06:42 ลงลึกไปในการเข้าใจอวัยวะเฉพาะใช่มั้ยเรา
00:06:42 → 00:06:45 ก็จะมีหมอที่เริ่มเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาเช่น
00:06:45 → 00:06:50 หมอสมองอืหมอกระดูกหมอหัวใจหมอลำไส้หมอ
00:06:50 → 00:06:53 เ่อเฉพาะโลกหมอสูตินารีเวชอะไรก็แล้วแต่
00:06:53 → 00:06:55 ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแล้วเราก็จำเป็นต้อง
00:06:55 → 00:06:58 มีผู้เชี่ยวชาญด้านเหล่านั้นคอยดูแลใน
00:06:58 → 00:07:01 เฉพาะอวัยวะแต่ว่าพอเราลงลึกไปเป็นอวัยวะ
00:07:01 → 00:07:04 อวัยวะเนี่ยมันเลยมีคำแซวขึ้นมาว่าต่อไป
00:07:04 → 00:07:06 เราจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านหัวแม่มือ
00:07:06 → 00:07:09 ข้างซ้ายหรือเปล่าอะไรเงี้ยคือคือมันทำ
00:07:09 → 00:07:11 ให้เราเราเริ่มเริ่ไม่ได้มองบุคคลเป็น
00:07:11 → 00:07:14 บุคคลมันเลยกลายเป็นว่าคนไทยส่วนหนึ่ง
00:07:14 → 00:07:17 หรือจริงๆคนทั่วโลกก็รู้สึกว่าเวลาไปเจอ
00:07:17 → 00:07:19 หมอเนี่ยหมอก็จะคุยแต่อวัยวะเขาอ่ะแต่
00:07:20 → 00:07:21 เสร็จแล้วพอบอกอ้าแล้วถ้าผมมีโรคหัวใจ
00:07:21 → 00:07:24 ด้วยผมมีโรคตตด้วยออคุณคุณไปอีกแผนกนึงนะ
00:07:24 → 00:07:27 มันมันก็จะเกิดความไม่ราบรื่นมันควรจะ
00:07:27 → 00:07:31 ต้องกลับมาที่ว่าแล้วถ้าคนไข้ไปรักษาโรค
00:07:31 → 00:07:34 ไตแล้วคนไข้บอกซึมเศร้าหมอที่เป็นโรคไต
00:07:34 → 00:07:36 อาจจะต้องดูแลเรื่องจิตใจเขาได้ด้วยม
00:07:36 → 00:07:38 เพราะคนเรามันประกอบด้วย Body and mind
00:07:38 → 00:07:40 อ่าแล้วถ้ามองให้ลึกลงไปจริงๆแล้วอ่ะผมก็
00:07:41 → 00:07:43 เลยบอกว่าขออนุญาตสรุปในแบบของตัวเองว่า
00:07:43 → 00:07:47 การแพทย์องค์รวมควรจะดูแลให้ครบของ 3
00:07:47 → 00:07:51 ด้านก็คือร่างกายจิตใจแลด้านจิตวิญญาณถ้า
00:07:51 → 00:07:53 แปลเป็นภาษาอังกฤษคือร่างกายคือบอดี้เป็น
00:07:53 → 00:07:55 ตัวถังเป็นเหมือนฮาร์ดแวร์เนาะแล้วเราก็
00:07:55 → 00:07:58 มีสิ่งที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้คือจิต
00:07:58 → 00:08:02 ใจก็คือโซอ่าฝรั่งเเรียกดวงจิตถามว่ามี
00:08:02 → 00:08:06 ดวงจิตมก็คงจะมีมั้งมันไม่รู้มองไม่เห็น
00:08:06 → 00:08:08 แต่ฉันก็มีจิตใจนะเ่ามันเป็นนามธรรมเ
00:08:08 → 00:08:11 เรียกว่าร่างกายคือรูปธรรมที่จับต้องได้
00:08:11 → 00:08:13 เป็น material แต่จิตใจมีพลังงานมันเป็น
00:08:13 → 00:08:16 Energy นะมันขับดันให้เราลุกขึ้นมาทำ
00:08:16 → 00:08:19 อะไรหรือไม่ทำอะไรเตะก้อนหินก็อย่างนึงนะ
00:08:20 → 00:08:22 แต่เตะหมาอาจจะได้ผลอีกอย่างนึงถ้าก็หนา
00:08:22 → 00:08:26 ไม่ใช่หมาไม่ใช่วัตถุหมามีจิตใจมันก็โกรธ
00:08:26 → 00:08:28 ได้มันมันก็อาจจะกัดเราก็ได้ใช่มั้ยฮะ
00:08:28 → 00:08:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยขั้นที่ 2 ที่เราควรดูแล
00:08:30 → 00:08:33 คือเรื่องจิตใจคือก็คือ Sou Level แต่
00:08:33 → 00:08:36 สิ่งที่มนุษย์มีแต่หมาแมวหรือสัตว์ไม่มี
00:08:36 → 00:08:39 มันมีอีกสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Spirit
00:08:39 → 00:08:41 หรือจิตวิญญาณแล้วมันคืออะไรเนาฟังดูแบบ
00:08:41 → 00:08:44 จิตวิญญาณเหมือนเอ่อดูการ์ตูนแบบคนแบบตาย
00:08:44 → 00:08:47 แล้วก็มีลอยออกมาหรึเปล่าอะไเงี้นะก็ถูก
00:08:47 → 00:08:49 ส่วนหนึ่งนะแต่มันก็อาจจะยังไม่เคลียร์ผม
00:08:50 → 00:08:52 ผมใช้คำว่าอย่างงี้จากงานวิจัยมีคนเป็น
00:08:52 → 00:08:54 งิดวิจัยว่าคนเราฆ่าตัวตายเนี่ยด้วย
00:08:54 → 00:08:56 สาเหตุอะไรกันบ้างก็คิดว่ามันต้องมีปัญหา
00:08:56 → 00:08:59 10, แต่คนที่ไปวิจัยเรื่องนี้ในคนที่
00:08:59 → 00:09:01 พยายามฆ่าตัวตายแต่เยังไม่ตายก็ไปนั่ง
00:09:01 → 00:09:03 เก็บข้อมูลสัมผัสทำไมคุณถึงฆ่าตัวตายเรา
00:09:03 → 00:09:05 พอจะจัดกลุ่มของเหตุของการฆ่าตัวตายได้
00:09:05 → 00:09:08 ออก 3 แบบแบบที่ 1 คือเป็นโรคมะเร็งทรมาน
00:09:08 → 00:09:12 มากร่างกายไม่ไหวแล้วเจ็บป่วยตลอดเวลาไม่
00:09:12 → 00:09:14 อยู่แล้วะถามว่าเราเข้าใจมั้ยครับเข้าใจ
00:09:14 → 00:09:16 ได้นะเข้าใจได้เราอาจจะเห็นด้วยหรือไม่
00:09:16 → 00:09:17 เห็นด้วยเป็นเรื่องที่แล้วแต่มุมมองของ
00:09:18 → 00:09:20 แต่ละคนเลยแต่เราเข้าใจอ๋อเพราะเหตุนี้
00:09:20 → 00:09:23 แหละเขาถึงไม่อยากอยู่แล้วไงเข้าใจได้
00:09:23 → 00:09:26 เพราะร่างกายของเขามันไม่มันไม่ดีมันเป็น
00:09:26 → 00:09:28 ความเจ็บป่วยของเขาอีกกลุ่มนึงร่างกาย
00:09:28 → 00:09:31 แข็งแรงดีเกิดอกหักรักครุฑน้อยใจพ่อน้อย
00:09:31 → 00:09:34 ใจแม่หรือไม่ได้รับโปรโมทตำแหน่งทำงานมา
00:09:34 → 00:09:36 ตั้งนานอ้ากลายเป็นว่าเด็กเส้นมาจากไหน
00:09:36 → 00:09:39 ไม่รู้โอซึมเศร้าผิดหวังแล้วเคยมีข่าว
00:09:39 → 00:09:42 ดอกเตอร์คนนึงไม่ได้รับเป็นศาสตราจารย์
00:09:42 → 00:09:45 แล้วก็ฆ่าตัวตายอะไรเงี้ยคือมันถามว่าเรา
00:09:45 → 00:09:47 เข้าใจได้มั้ยก็เข้าใจได้ก็เข้าใจได้เรา
00:09:47 → 00:09:49 อาจจะไม่ได้เห็นด้วยแต่เออมันก็เป็นเหตุ
00:09:49 → 00:09:52 เป็นผลอ่ะเพราะอะไรถ้าผมบอกว่ามันคือความ
00:09:52 → 00:09:55 สัมพันธ์เป็นสัมพันธภาพที่ไม่ดีมันคือ
00:09:55 → 00:09:57 ความเจ็บป่วยของดวงจิตคือระดับ Soul
00:09:57 → 00:10:00 Level emotional ความอารมณ์ความรู้สึก
00:10:00 → 00:10:02 มันไม่ได้ถูก Connect กับคนอื่นเลยอ่ะมัน
00:10:02 → 00:10:05 โดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ไปก็รู้สึกซมเศร้า
00:10:05 → 00:10:08 เหงาหงอยไม่อยู่ดีกว่าอันนี้ก็เข้าใจได้
00:10:08 → 00:10:10 แต่มีกลุ่มที่ 3 เคยได้ยินข่าวนี้มั้ย
00:10:10 → 00:10:14 ดาราเกาหลีรูปหล่อพ่อรวยภรรยาสวยแฟนกริ๊ด
00:10:14 → 00:10:16 การ์ดได้เงินค่าตัวเป็นล้านๆ้าร้อยล้าน
00:10:16 → 00:10:19 พันล้านวันนึงตื่นขึ้นมาโดดตึกคอนโดตาย
00:10:19 → 00:10:23 เคยได้ยินมั้ยอืค่ะอาจจะเคยแล้วเราก็จะ
00:10:23 → 00:10:26 สงสัยว่าเมีอะไรเราเข้าใจมั้ยถ้าเรามอง
00:10:26 → 00:10:28 ภายนอกเราไม่ได้รู้จักเขาขนาดนั้นเราอาจ
00:10:28 → 00:10:31 จะรู้สึกว่าก็ก็ดูชีวิตโอเคดีนี่เออมัน
00:10:31 → 00:10:33 มันไม่เข้าใจคือตรงนี้เป็นสิ่งที่นัก
00:10:33 → 00:10:35 จิตวิทยาก็พยายามย้อนกลับมาบอกเฮ้ยมัน
00:10:35 → 00:10:37 เกิดอะไรขึ้นเพราะว่ามีแต่คนเท่านั้นนะ
00:10:37 → 00:10:40 ที่จะทำอย่างนี้ทีนี้เราจะเห็นว่ากรณี
00:10:40 → 00:10:42 อย่างเงี้ยนักอีสาสไม่เข้าใจเกิดอะไรขึ้น
00:10:42 → 00:10:45 คือถ้าเราเป็นหมาเป็นแมวเนี่ยถ้าเจ้าของ
00:10:45 → 00:10:48 รักมีตัวเมียมีอาหารให้กินโหชีวิตมันต้อง
00:10:48 → 00:10:50 ตามสัญชาตญาณคือฉันต้องอยู่ให้ได้ยาวที่
00:10:50 → 00:10:53 สุดนะแต่มนุษย์ไม่ใช่ถ้าตื่นขึึ้นมาวัน
00:10:53 → 00:10:56 นึงในตอนเช้าแล้วมันมีความคิดเข้ามาในหัว
00:10:56 → 00:10:59 ว่าอยู่ไปทำไมวะเดิมๆอยู่ไปชักจะน่า
00:10:59 → 00:11:02 เหี่ยวเฮ้ยแล้วแฟนจำฉันมันจะอยู่กับฉัน
00:11:02 → 00:11:05 หรือเปล่าโอ้เรตติ้งตกแค่คิดว่าเราเกิดมา
00:11:05 → 00:11:08 ทำไมแล้วไม่มีคำตอบที่แน่ชัดเราก็ซึม
00:11:08 → 00:11:09 เศร้าแล้วนี่เป็นสิ่งที่มีเฉพาะ
00:11:09 → 00:11:11 โฮโมเซเปียนที่เป็นมนุษย์เท่านั้นตรง
00:11:11 → 00:11:13 เนี้ยคำอธิบายในเชิงการแพทย์อบรวมเพราะ
00:11:13 → 00:11:16 ว่าเรามีสิ่งที่มองไม่เห็นอีกอันนึงที่
00:11:16 → 00:11:19 เรียกว่า Spirit หรือจิตวิญญาณเข้ามาอยู่
00:11:19 → 00:11:22 ในตัวเราย้อนกลับไปว่าคนเรามี Body and
00:11:22 → 00:11:25 mind body คือรูป mind คือนามถ้าถ้าบบ
00:11:25 → 00:11:27 ว่าเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ก็คือคนเรา
00:11:27 → 00:11:29 มีฮาร์ดแวร์แต่ฮาร์ดแวร์ถ้าไม่มี
00:11:29 → 00:11:31 ซอฟต์แวร์ก็คอมพิวเตอร์ทำงานไม่ได้อ่า
00:11:31 → 00:11:34 เพราะฉะนั้นร่างกายของเราเนี่ยคือรูปธรรม
00:11:34 → 00:11:37 แต่ที่มันเป็นตัวเรามีอารมณ์ความรู้สึก
00:11:37 → 00:11:40 แบบสัตว์ได้ชอบไม่ชอบหิวกินอยู่หลับนอน
00:11:40 → 00:11:45 เ่อขับถ่ายเพราะเรามีปฏิกิริยาของการทำ
00:11:45 → 00:11:49 งานฟังก์ชันของ Sou คือดวงจิตรู้สึกรัก
00:11:49 → 00:11:52 โลภโกรธหลงนี่ใครที่ดราม่ามากๆนี่คุณ
00:11:52 → 00:11:55 กำลังถูกดวงจิตของคุณนี่แบบใส่เต็มที่เลย
00:11:55 → 00:11:57 แต่ว่าสัตว์ก็มีสิ่งที่มองไม่เห็นนี่เป็น
00:11:57 → 00:11:59 ซอฟต์แวร์ชนิดหนึ่งซอฟแวร์จะเห็นเห็นภาพ
00:11:59 → 00:12:01 ป่ะ Install เขแว่าเออเธอต้องเป็นสัตว์
00:12:01 → 00:12:04 อ่ะเออสัตว์ก็ต้องชอบกันสัตว์ก็ต้องสืบ
00:12:04 → 00:12:06 พันธุสัตว์ก็ต้องกินสัตว์ก็ต้องหิวสัตว์
00:12:06 → 00:12:08 ก็มีเกียรติตัวโนนเก็บตัวนี้เ Fight of
00:12:08 → 00:12:11 Flight หนีเอาชีวิตรอดหรือว่าเข้าไปหา
00:12:11 → 00:12:13 อาหารอะไรก็แล้วแต่นั่นดิบๆไงก็เป็นสัตว์
00:12:13 → 00:12:16 ไงแต่มนุษย์มีไอ้ตัวสุดท้ายที่เป็น
00:12:16 → 00:12:18 ซอฟต์แวร์พิเศษเนี่ยที่เรียกว่า Spirit
00:12:18 → 00:12:21 เข้ามา spit มีฟังก์ชันอะไร spit มีการทำ
00:12:21 → 00:12:24 งานของการรู้ตัวหรือ awareness เพราะ
00:12:24 → 00:12:26 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราเป็นสัตว์เราก็จะแบบ
00:12:26 → 00:12:28 ว่าเราไม่ชอบตัวนั้นก็วิ่งไล่กัดใชมั้ย
00:12:28 → 00:12:31 เราไม่ชอบคนครอบหน้าคนนี้เราก็ไล่ตีหัว
00:12:31 → 00:12:34 แต่สิิจะเป็นตัวสติเหมือนตัวที่คอย
00:12:34 → 00:12:36 observe ตัวเองอ่ะจิตที่มันดูจิตตัวเอง
00:12:36 → 00:12:38 ว่าเฮ้ยแล้วทำไมต้องมาตีกันวะสมมุติเป็น
00:12:38 → 00:12:41 เด็กอาชีวะแล้วบอกว่าอ้าวลูกพ่อใครก็แล้ว
00:12:41 → 00:12:45 แต่ไล่ตีไปสักวันนึงเกิดมีสติขึ้นมามัน
00:12:45 → 00:12:46 เรื่องอะไรอ่ะทำไมเราต้องมานั่งตีกันมัน
00:12:46 → 00:12:48 ไม่ได้ประโยชน์สร้างสรรค์ชีวิตอะไรเลย
00:12:48 → 00:12:51 ชีวิตลำบากกว่าเดิมอีกเออแค่เพราะว่าเรา
00:12:51 → 00:12:53 ใส่เสื้อชอปเดียวเดียวกันคนละอะไรเงี้ย
00:12:53 → 00:12:56 ไอ้สติเนี่ยมันเป็นปัญญามันจะไม่เกิดใน
00:12:56 → 00:12:59 สัตว์แต่ว่าสปิเอื้อให้เราเป็นสัตว์
00:12:59 → 00:13:01 ประเสริฐที่มีโอกาสจะมานั่งคิดในเชิง
00:13:01 → 00:13:04 นามธรรมมีจินตนาการออกว่ามันมีกฎธรรมชาติ
00:13:04 → 00:13:09 นะกฎแห่งกรรมกฎของความ manifest กดของแรง
00:13:09 → 00:13:11 ดึงดูดอะไรก็แล้วแต่อันนั้นน่ะสัตว์คิด
00:13:11 → 00:13:14 ไม่ได้สัตว์มันก็ไปตามสัสัญชาตญาณแต่
00:13:14 → 00:13:16 มนุษย์มีสิินั้นการแพทย์ที่เป็นการแพทย์
00:13:16 → 00:13:19 องค์รวมโอหพูดมายยาวมันก็ควรดูแลทั้ง 3
00:13:19 → 00:13:21 ส่วนสิถ้าเป็นการแพทย์ที่ทำให้ไอ้สาย
00:13:21 → 00:13:25 ทีเมียยาวอายุยืน longevity โอเคคุณกำลัง
00:13:25 → 00:13:27 ดูตัวถังของคุณไม่ให้มันฮาร์ดแวร์มันเสีย
00:13:27 → 00:13:30 หายโอเคก็ทำไปแต่แต่การแพทย์ที่ดีต้องดู
00:13:30 → 00:13:33 แลจิตใจด้วยมั้ยอเออจิตใจที่แข็งแรงคุณจะ
00:13:33 → 00:13:35 ได้ไม่ฆ่าตัวตายไงใช่มั้ยฮะเครียดก็ไป
00:13:35 → 00:13:38 เล่นดนตรีบำบัดไปทำศิลปะบำบัดไปจัดดอกไม้
00:13:38 → 00:13:42 ไปมีสุนทรียภาพมีสัมพันธภาพที่ดีมีการ
00:13:42 → 00:13:45 พัฒนาเรื่องชิแต่ยังไม่จบไอ้กลุ่มสุดท้าย
00:13:45 → 00:13:48 คุณจะอยู่ไปวันๆหรอก็ที่บอกแล้วไงคนที่
00:13:48 → 00:13:50 อยู่ไปวันๆต่อให้คุณมีรวยล้นฟ้ามีชื่อ
00:13:50 → 00:13:53 เสียงเที่คุณซึมเศร้าได้ถ้าคุณตอบไม่ได้
00:13:53 → 00:13:56 ว่าคุณจะอยู่ต่อไปทำไมภาษาเด็กวัยรุ่น
00:13:56 → 00:13:58 เรียกว่ามี purpose ป่ะคุณจะหา purpose
00:13:58 → 00:14:01 เหตผลที่จะดำรงอยู่หรือเปล่าเหมือนเหมือ
00:14:01 → 00:14:04 คนแก่คนนึงอ่ะเกษียณแล้วเปรียบเทียบ 2
00:14:04 → 00:14:07 กลุ่มนะกลุ่มนึงตื่นมาโอ้ฉันจะไปเล่นหมาก
00:14:07 → 00:14:11 ลุกฉันจะไปรำมวยจีนฉันจะไปเจอเพื่อนออ้อ
00:14:11 → 00:14:14 ฉันจะไปเลี้ยงหลานคิดว่าน่าอยู่มั้ยก็ดู
00:14:14 → 00:14:17 สนุกดีมีอะไรก็อยากอยู่นะเออใช่มั้ยอืถึง
00:14:17 → 00:14:19 แม้ได้ทำงานแดะก็มันก็น่าอยู่นะแต่ถ้า
00:14:19 → 00:14:23 ตื่นมาตอนเช้าลูกก็ไม่คุยหลานก็ไม่มีงาน
00:14:23 → 00:14:25 ก็ไม่ได้ทำเพื่อนก็ไม่เหลือสักคนและงานก็
00:14:25 → 00:14:28 ไม่ทำอยู่ดีมั้ยมันก็ไม่ค่อยสู้เท่าไหร่
00:14:28 → 00:14:30 อ่ะคือถ้าเราเปรียบเทียบ
00:14:30 → 00:14:33 ในสองกันเห็นว่าเมื่อก็ตามที่นเราเกษีย
00:14:33 → 00:14:36 อยู่บ้านเฉยๆเลยไม่มีคุณไม่ ose จะออกไป
00:14:36 → 00:14:38 ทำอะไภายใน 1 ปีความคิดความจำหรือ
00:14:38 → 00:14:41 cognitive สจะลดลงแบบฮวบเลยเอ๋อไปเลยอ่ะ
00:14:41 → 00:14:45 แต่ถ้าคุณเป็นคนแก่ที่ฉันจะไปแิฉันจะไปทำ
00:14:45 → 00:14:49 บุญฉันจะออกไปเลี้ยงเด็กกำพระฉันวันนี้
00:14:49 → 00:14:52 ฉันจะต้องไปเป็นที่ปรึกษาเฮ้ยชีวิตมันมี
00:14:52 → 00:14:55 purpose ตรงนั้นสุขภาพของคุณถึงจะดีไม่
00:14:55 → 00:14:58 ซึมเช้าไม่าดตายความคิดความจำดีมันจึง
00:14:58 → 00:15:00 เป็นส 3 องค์ประกอบที่ถ้าจะเป็นการแพทย์
00:15:00 → 00:15:03 องค์รวมในมุมของผมก็ต้อง Cover ทั้ง 3
00:15:03 → 00:15:05 ส่วนนี้ให้ได้อือฮึ Body Soul Spirit
00:15:06 → 00:15:08 ใช่อ่าแล้วเจ้าตัวพลังชีวิตที่เราพูดถึง
00:15:08 → 00:15:10 กันตอนแรกค่ะพลังชีวิตเนี่ยคืออะไรค่ะ
00:15:10 → 00:15:13 โอเคครับตอนนี้เรามี 3 ก้อนนะมีร่างกาย
00:15:13 → 00:15:16 บอดี้มีดวงจิตแล้วก็มีสิเป็นอันดับสูงที่
00:15:16 → 00:15:19 สุดใช่มั้ยไอ้ร่างกายก้อนเนี้ยมันจะเกิด
00:15:19 → 00:15:22 ขึ้นมาเฉยๆไม่ได้มันต้องหยิบยืมทรัพยากร
00:15:23 → 00:15:25 โมเลกุลหรือพลังงานจากโลกนี้มาประกอบกัน
00:15:25 → 00:15:28 ถ้าไปว่ากันทางศาสตร์ทางพุทธเราจะบอกว่า
00:15:28 → 00:15:31 ชีวิตนี้ประกอบขึ้นด้วยมหาภูตรูป 4 ที่มี
00:15:31 → 00:15:34 ใจครองฟังดูแล้วแบบมึนนิดนึงผมอ่านตอนแรก
00:15:34 → 00:15:37 ก็ก็มึนๆนะเอ่อด้วยความมีอยู่ช่วงนึงผมไป
00:15:37 → 00:15:39 บ้านในการอ่านอภิธรรมแต่อ่านแบบเเรียกว่า
00:15:39 → 00:15:42 เป็นนกแก้วนกขนน้องแต่สอมันเป็นสิ่งที่
00:15:42 → 00:15:44 เหลือมาอยู่ทุกวันนี้ก็คือว่าชีวิตมัน
00:15:44 → 00:15:46 เกิดขึ้นเนี่ยมันต้องมีภาชนะเป็น
00:15:46 → 00:15:48 ฮาร์ดแวร์ที่จะให้มีซอฟต์แวร์ดวงจิตเนี่ย
00:15:48 → 00:15:50 กับไอ้ตัวจิตวิญญาณเข้ามาอยู่ได้เนื้อ
00:15:50 → 00:15:52 หนังของเราที่เรียกว่ากายเนื้อเนี่ยมัน
00:15:52 → 00:15:56 จึงเป็นการยืมเอาพลังงานทางธรรมชาติ 4
00:15:56 → 00:15:59 อย่างมารวมกันคือมหาพุทธรูปคือดิน
00:15:59 → 00:16:03 น้ำลมไฟประกอบขึ้นดินประกอบเป็นรูปร่าง
00:16:03 → 00:16:05 อันนึงเราเรียกว่า physical Body รูปกาย
00:16:05 → 00:16:07 น้ำก็เป็นรูปร่างอีกอันนึงมองมองไม่ได้
00:16:07 → 00:16:10 แต่สัมผัสได้การไหลเวียนของเลือดหรือน้ำ
00:16:10 → 00:16:13 ในร่างกายเราเรียกว่ากายชีวิตอ่าภาษา
00:16:13 → 00:16:16 อังกฤษเรียกว่าเออิ Body แล้วเราก็มีกาย
00:16:16 → 00:16:19 ธาตุลมอ่าเราพูดไปแล้วกายธาตุลมการหายใจ
00:16:19 → 00:16:22 ของเราเนี่ยดึงเอาความรู้สึกตัวเข้ามาใช
00:16:22 → 00:16:24 ตอนที่เราร้องอแว้ครั้งแรกหายใจเข้าหายใจ
00:16:24 → 00:16:26 ออกมีอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาพร้อมลมหายใจ
00:16:26 → 00:16:29 เป็นโครงร่างของอากาศสะธาตุที่มันแทรกซึม
00:16:29 → 00:16:31 อยู่ในกาสในเลือดในเนื้อเยื่อในเป็นเป็น
00:16:31 → 00:16:34 โครงร่างอันนึงที่ละเอียดมากๆเราเรียกว่า
00:16:34 → 00:16:38 กายธาตุลมหรือกายลมหรือแส Body สุดท้าย
00:16:38 → 00:16:41 ความอบอุ่นของร่างกายการเผาประหาเบอิการ
00:16:41 → 00:16:43 สร้างภูมิต้านทานเพื่อจะปกป้องร่างกายจาก
00:16:43 → 00:16:47 เ่อเชื้อโรคต่างๆเป็นธาตุไฟเป็นกาย 4 กาย
00:16:47 → 00:16:49 แล้วใช่มั้ยเพราะมันมี 4 ธาตุเราจึงเรียก
00:16:49 → 00:16:52 ว่ากายหยาบกายละเอียดที่รวมกันขึ้นมาเป็น
00:16:52 → 00:16:55 กายเนื้อทีนี้พลังชีวิตเนี่ยคือสิ่งที่
00:16:55 → 00:16:59 เป็นพลังของธาตุน้ำเพรานึคามว่าสมมุติ
00:16:59 → 00:17:01 ปลูกเม็ดพืชลงในดินแล้วดินนั้นมันแห้งมาก
00:17:01 → 00:17:04 ไม่ลดน้ำเลยเอาหย่อนเม็ดลงไปงอกมั้ยฮะไม่
00:17:04 → 00:17:08 งอกนะคะใช่เพราะเพราะธาตุน้ำเป็นแอหรือ
00:17:08 → 00:17:12 เป็นแบเรียที่เอาตัวชีวิตเนี่ยเข้ามางอก
00:17:12 → 00:17:15 งามถ้าเป็นเซลล์ก็คือแบ่งเซลล์การแบ่ง
00:17:15 → 00:17:18 เซลล์ทำให้เกิดการเติบโตถ้าเป็นเด็กก็จะ
00:17:18 → 00:17:20 โตขึ้นโตขึ้นการแบ่งเซลล์ทำให้เกิดการ
00:17:20 → 00:17:23 ซ่อมแซมเช่นเป็นผิวสังเกตผิวเด็กๆจะแบบ
00:17:23 → 00:17:27 เป่งปัเด็กมั้ยเออก็ดูแบบยังเป่งปันะตึง
00:17:27 → 00:17:31 อยู่เดี๋ยวดูซิเออเอได้ได้อยู่โอเคมีน้ำ
00:17:31 → 00:17:35 มีนวลอ่าเพราะฉะนั้นถ้าเป็นแผลเอ่อเป็นไง
00:17:35 → 00:17:37 หายง่ายแต่พอเริ่มแก่เป็นไงพลังชิ้นมัน
00:17:37 → 00:17:40 เริ่มน้อยลงน้อยลงน้อยลงมันจะเหี่ยวลงการ
00:17:40 → 00:17:43 เก็บกักน้ำไว้ในตัวมันจะทำได้ยากขึ้นถ้า
00:17:43 → 00:17:46 คนแก่เป็นแผลเป็นไงโอ้โหกว่าจะหายหายาก
00:17:46 → 00:17:49 เพราะพลังชีวิตมันหายไปมันไม่สามารถที่จะ
00:17:49 → 00:17:51 ซ่อมแซมตัวเองขึ้นมาได้เพราะฉะนั้นจริงๆ
00:17:51 → 00:17:53 แล้วเนี่ยสิ่งมีชีวิตแม้แต่พืชก็มีพลัง
00:17:53 → 00:17:56 ชีวิตที่มหาศาลมากเพราะฉะนั้นต้นไม้อายุ
00:17:56 → 00:17:59 100 ปีมันจะงอกได้เลยเหรเพราะพืช
00:17:59 → 00:18:02 มีหน้าที่ในการที่จะแบ่งเซลล์ไปเรื่อยๆ
00:18:02 → 00:18:05 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเราต้องการพลังชีวิตอ่า
00:18:05 → 00:18:08 เราเริ่มและตอนเกิดเนี่ยเราได้ของฟรีมา
00:18:08 → 00:18:11 เราได้พลังชีวิตอย่างละครึ่งนึงมาจากพ่อ
00:18:11 → 00:18:14 และแม่การแพ่แผนจีนเรียกว่าจิงชี่เสร็จ
00:18:14 → 00:18:17 แล้วพอได้มาปุ๊บเมันก็มาพร้อมกับสเปิร์ม
00:18:17 → 00:18:20 แล้วก็ไข่ปฏิสนธิปุ๊บเราจะได้อ่าพลัง
00:18:20 → 00:18:23 ชีวิตก่อกำเนิดมาการแพทย์แผนปัจจุบัน
00:18:23 → 00:18:28 เรียกว่ากรรมพันธ์อ่า DNA DNA ก็เป็นตัว
00:18:28 → 00:18:31 หนึ่งที่ที่ทำให้เราได้ Quality คุณภาพ
00:18:31 → 00:18:35 ของความแข็งแรงร่างกายของแม่สมองที่จะ
00:18:35 → 00:18:38 ฉลาดไม่ฉลาดจากพ่อจากแม่เอามารวมกันได้
00:18:38 → 00:18:41 แล้วใช้พลังชีวิตเราหล่อเลี้ยงไอ้ตัวสิ่ง
00:18:41 → 00:18:43 เหล่านี้เอาไว้แล้วเราก็จาก 1 เซลล์เราก็
00:18:43 → 00:18:46 ขยายเพิ่มจำนวนด้วยพลังชีวิตที่ได้มานะฮะ
00:18:46 → 00:18:49 แล้วก็โตขึ้นจากเด็กก็กลายเป็นผู้ใหญ่
00:18:49 → 00:18:51 ประเด็นมันก็คือว่ามันได้แล้วมันก็หมดนะ
00:18:51 → 00:18:54 มันกว่าจะโตเนี่ยตั้ง 21 ปีในมุมมองของ
00:18:54 → 00:18:56 การแพทย์องค์รวมก็จะโตเต็มตัวเนี่ยเต็ม
00:18:56 → 00:18:58 ตัวเต็มวัยของมนุษย์เนี่ยเราก็ต้องเติม
00:18:59 → 00:19:01 เข้าไประหว่างทางถูกมั้ยใช่ค่ะอ่าเราได้
00:19:01 → 00:19:05 จากไหนล่ะก็ได้จากอาหารอาหารแต่ละชนิดก็
00:19:05 → 00:19:07 บอกอาหาร 5 หมู่ก็จะมีเนื้อสัตว์มีแป้ง
00:19:07 → 00:19:10 ข้าวมีไขมันเราเรียกว่าเป็นแมคโคร
00:19:10 → 00:19:12 นิวเทรียนถูกมั้เป็นพลังงานเป็นซ่อมแซม
00:19:12 → 00:19:14 ส่วนที่สึกรอและให้การเจริญเติบโตอโปรตีน
00:19:14 → 00:19:16 เงี้ยต้องมีพลังชีวิตมาด้วยนะการที่เรา
00:19:16 → 00:19:18 กินโปรตีนไม่ได้หมายความว่าเราได้พลัง
00:19:18 → 00:19:21 ชีวิตเป็นคนละเรื่องกันคนละเรื่องกันคนละ
00:19:21 → 00:19:23 เรื่องกันการได้โปรตีนคือเหมือนได้อี
00:19:23 → 00:19:25 บล็อกมาแต่พลังชีวิตคือตัวที่ทำให้ไอีด
00:19:25 → 00:19:27 บล็อกตงเนี้ยมันถูกเรียงก้อนแล้วสามารถ
00:19:27 → 00:19:30 ที่จะประสานออกมาเป็นตึกเป็นบ้านเป็นร่าง
00:19:30 → 00:19:34 กายได้อาหารที่ดีอ่ะมันควรเป็นอาหารที่สด
00:19:34 → 00:19:36 ใหม่มาจากธรรมชาติเพราะการที่เราเก็บผัก
00:19:36 → 00:19:39 มาสดๆเคยไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่ที่เกาะแช์
00:19:39 → 00:19:43 จูมั้ยที่เกาหลีเป่ายังไม่เคยไปค่ะไม่เคย
00:19:43 → 00:19:46 ไปเออเดี๋ยวต้องหามันเป็นแบบคนไทยไปถึงไป
00:19:46 → 00:19:50 ทำอะไรโอ้โหแบผมก็ไปนะั้นผ่าลูกตนั้นอยู่
00:19:50 → 00:19:53 เด็กๆเลยอ่ะไปหนาวมากเลยไปตอนหน้าหนาวนะ
00:19:53 → 00:19:56 แล้วเก็บอกว่าเนี่ยเกาะมีแต่น้ำแข็งมีแต่
00:19:56 → 00:19:59 หิมะนะเพราแบบมันอยู่คาบสมุดหนาวมากเลย
00:19:59 → 00:20:01 อ่ะอ้าแล้วแล้วอะไรเป็นไฮไลท์นะอุตส่าห์
00:20:01 → 00:20:03 ไปแล้วก็พาไปเก็บสตรอเบอร์รี่อ่าโอเคถ้า
00:20:03 → 00:20:07 เราไปเก็บสดๆมาแล้วกลิ่นมันจะรู้สึกอย่าง
00:20:07 → 00:20:09 แต่ถ้าเราเก็บแล้วก็ใส่เ่อแช่แช่ฟรีซไป
00:20:09 → 00:20:11 เนาะมันอาจจะไม่ถึงฟรีสแต่แช่เย็นไปแล้ว
00:20:11 → 00:20:14 ไปวางที่ทุป้าเก็ดถามว่าสดมั้ยก็น่าจะยัง
00:20:14 → 00:20:16 สดอยู่น่าจะสดอยู่นะแต่ถ้ากินมันไม่
00:20:16 → 00:20:18 เหมือนเด็ดจากต้นอ่ะเพราะสิ่งที่มันจะ
00:20:18 → 00:20:21 ค่อยๆหายไปมันไม่ใช่สิ่งที่เป็นโมเลกุล
00:20:21 → 00:20:25 ของวิตามินไฟโตนิวเตรียนแต่ว่าความรู้สึก
00:20:25 → 00:20:28 สดชื่นที่มันหายไปคือพลังชีวิตยิ่งนานวัน
00:20:28 → 00:20:31 อาหารที่ไปดองไปเก็บเป็นู้ีเสิร์ฟมันก็จะ
00:20:31 → 00:20:33 ยิ่งน้อยลงน้อยลงดองมีหลายแบบอ่ะแต่ดอง
00:20:33 → 00:20:37 แบบเค้าเรียกว่าอะไรนะใส่ผงยากกันชื้น
00:20:37 → 00:20:40 อย่ากันเ่ออยู่ได้นานๆอันอย่างเงี้ยสิ่ง
00:20:40 → 00:20:42 ที่มันพรีเสิร์ฟได้มันจะพรีเสิร์ฟได้แต่
00:20:42 → 00:20:45 โมเลกุลของธาตุดินที่เป็นโปรตีนเป็นเ่อ
00:20:45 → 00:20:49 แมคโครนิเตียนแต่ไอ้พลังชีวิตมันหายไปกิน
00:20:49 → 00:20:52 ก็ไม่รู้สึกฟินและกินแล้วไม่สดชื่นั้นลอง
00:20:52 → 00:20:55 นึกภาพอครับถ้าชีวิตของเราสมัยก่อนเป็น
00:20:55 → 00:20:58 ชาวนาอยู่คไร่มีกินอาหารเสร็จปุ๊บก็เอา
00:20:58 → 00:21:01 ผักจากสวนตัวเองมากินแข็งแรงมั้ยอ่ะแข็ง
00:21:01 → 00:21:03 แรงแข็งแรงเซลล์ของเราก็จะเต็มเปี่ยมไป
00:21:03 → 00:21:06 ด้วยพลังชีวิตในการที่จะแบ่งเซลล์ซ่อมแซม
00:21:06 → 00:21:08 ตัวเองอรู้สึกแบบกระปี้กระเป๋กระปี้
00:21:08 → 00:21:11 กระเป๋ใช่ป่ะแต่ตอนนี้เนี่ยไล่อยู่ไหนก็
00:21:11 → 00:21:15 ไม่รู้บินข้ามประเทศมาแช่มาหมดเลยแล้ว
00:21:15 → 00:21:17 หลังๆนี่ 3D ปริ้นด้วยนะเออปริ้นเป็น
00:21:17 → 00:21:20 อาหารไม่รู้อะไรเป็นเลี้ยงจาทเพราาะเชื้อ
00:21:20 → 00:21:22 แล้วก็เอ่อเชาะเพราะเซลล์แล้วก็ออกมาเป็น
00:21:22 → 00:21:26 อาหารแต่ไม่ใช่มาจากธรรมชาติอ้าวเราอาจจะ
00:21:26 → 00:21:30 ได้แมคโครนิวเทรียนแต่กินไปกินไปเออทำไม
00:21:30 → 00:21:33 มันไม่ค่อยสดชื่นถามว่าคนเคยมีอาการนี้มย
00:21:33 → 00:21:37 ตื่นมาวันจันทร์ไม่ค่อยอยากจะไปลุกอเออ
00:21:37 → 00:21:39 กินอาหารแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หิวอีกแล้วเ้า
00:21:39 → 00:21:42 ทำไมมันหิวบ่อยจังเลยตอนบ่ายๆต้องแบบมีชา
00:21:42 → 00:21:45 ไข่มุกสักหนๆเติมพลังเอทำไมมันต้องมาแวะ
00:21:46 → 00:21:48 เติมไม่กินเป็นมื้อหลักอ่ะนอนตั้งเยอะ
00:21:48 → 00:21:51 แล้วก็ไม่สดชื่นแถมพอจะแต่งงานมีลูกทำไม
00:21:51 → 00:21:54 มีลูกยากทั้งหมดคือภาวะที่ทั้งสังคมอ่ะ
00:21:54 → 00:21:58 อาหารการกินน่ะมันไม่มีพลังชีวิตอีกต่อไป
00:21:58 → 00:22:00 เพราะการที่คนเราจะมีลูกอ่ะที่บอกว่า
00:22:00 → 00:22:03 เดี๋ยวนี้คิดว่าคนมีปัญหามีลูกยากมั้ยใช่
00:22:03 → 00:22:06 ค่ะแต่ว่าเมื่อก่อนหูลูกดกมากใช่เพราะ
00:22:07 → 00:22:09 อะไรเพราะโดยธรรมชาติการให้แผจีนพูดชัด
00:22:09 → 00:22:11 ถ้าร่างกายพ่อแม่มันไม่มีพลังชีวิตตื่นมา
00:22:11 → 00:22:13 ยังเรียวทุกวันอยู่เลยอ่ะการมีลูกนี่คือ
00:22:13 → 00:22:16 การที่ว่าใช้เครดิตสุขภาพของคุณแม่อย่าง
00:22:16 → 00:22:19 มากนะเพราะฉะนั้นร่างกายจะไม่ยอมที่จะมี
00:22:19 → 00:22:22 ลูกเด็ดขาดตราบเท่าที่เธอพลังชีวิตยังไม่
00:22:22 → 00:22:24 ดีเพราะฉะนั้นมันก็เลยกลายเป็นว่าปัญหา
00:22:24 → 00:22:27 ที่เราเห็นน่ะอ่อนเพียเรื้อรังออฟติบางที
00:22:27 → 00:22:30 อ่ะมันย้อนกลับไปถึงเรื่องของคุณภาพของ
00:22:30 → 00:22:33 อาหารแหล่งที่มาการอยู่กับธรรมชาติเพื่อ
00:22:33 → 00:22:35 ให้ได้รับพลังชีวิตเพราะพลังชีวิตไม่ใช่
00:22:35 → 00:22:37 สิ่งที่อยู่บนโลกแต่มันสัมพันธ์กับ
00:22:37 → 00:22:40 ธรรมชาติที่เป็นพลังงานจากบรรยากาศ้าภาษา
00:22:40 → 00:22:43 แบบคนเด็กไวรอจะแบบมันเป็นพลังจักรวาล
00:22:43 → 00:22:47 อะไรเงี้ยที่แบบไปฝึกเปิดรับจักกะอะไรก็
00:22:47 → 00:22:49 ส่วนหนึ่งก็คือมีภาพของการที่แบบอ๋อเรา
00:22:49 → 00:22:51 ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวตรงเนี้ยมันยิ่งชัด
00:22:51 → 00:22:54 เมื่อมีงานวิจัยแบเบาว่าถ้าเกิดคุณอาศัย
00:22:54 → 00:22:56 หรือใช้ชีวิตอยู่ในตึกนานๆน่ะมันจะมีสิ่ง
00:22:56 → 00:22:58 ที่เรียกว่าเป็น Sick Building Syndrome
00:22:58 → 00:23:00 เพราะตึกมีเหล็กมีอะไรคุณถูกตัดขาดจาก
00:23:01 → 00:23:03 พลังธรรมชาติเป็นระยะเวลาเป็น 10 ปีเพราะ
00:23:03 → 00:23:05 ฉะนั้นมันก็ไม่แปลกใจที่วันนึงคุณจะป่วย
00:23:05 → 00:23:07 เพราะว่าคุณไม่ได้กลับไป Connect กับ
00:23:07 → 00:23:10 ธรรมชาตินี่นี่มีงานวิจัยทางการแพทย์ออก
00:23:10 → 00:23:12 มารองรับแต่แต่อาจจะไม่ได้มีคนเชื่อมโยง
00:23:12 → 00:23:14 ว่าอ้าแล้วทำไมเป็นอย่างงั้นคนโบราณจึง
00:23:14 → 00:23:17 ป้องกันตัวเองเวลาต้องไปอยู่ในตึกด้วย
00:23:17 → 00:23:22 วิธีอะไรมั้ยครับทำยังไงคะดูฮงจุ้ยออเอ้า
00:23:22 → 00:23:24 อันนี้ถ้าพูดแบบเป็นวิทยาศาสตร์นะเฟิง
00:23:24 → 00:23:27 สุ่ยอ่ะเฟิแปลว่าอารมณ์สุ่ยจุยจุ้ยภาษา
00:23:27 → 00:23:30 แต้จิ๋วแปลว่าน้ำหมายความว่าถ้าเกิดคุณ
00:23:30 → 00:23:32 อยู่ในทุ่งโลกคุณได้รับพลังธรรมชาติเต็ม
00:23:32 → 00:23:35 รูปแบบกินอาหารสดๆคุณพลังชีวิตเต็มเปี่ยม
00:23:35 → 00:23:37 คุณไม่ต้องคิดอะไรอยู่ตรงไหนมันก็รับ 100
00:23:37 → 00:23:39 360 องศาคได้หมดเลยแต่ถ้าเกคุณไปอยู่ใน
00:23:39 → 00:23:41 ถ้ำเอาง่ายๆตอนที่เราไปเข้าถ้ำเหมือนนึก
00:23:41 → 00:23:44 ถึงหมูป่าทีหมูป่าเข้าไปบางคนหายใจไม่ออก
00:23:45 → 00:23:47 นะเพราะถ้าถ้ำนั้นมันหันไปทางทิศที่ลมมัน
00:23:47 → 00:23:49 ไม่เข้าอ่ะเอๆก็ไม่น่าคุณอาจจะขาด
00:23:49 → 00:23:52 ออกซิเจนอค่ะคุณจะรู้สึกอ่อนเพลียในขณะ
00:23:52 → 00:23:54 เดียวกันต้องมีน้ำเพราะอะไรเพราะน้ำทำให้
00:23:54 → 00:23:57 เกิดความต่างระหว่างพื้นดินกับน้ำถูกมั้ย
00:23:57 → 00:23:59 ลมบกลมทะเลถูกมั้ยฮะถ้าอากาศมันเปลี่ยน
00:23:59 → 00:24:02 แปลงลมมันจึงพัดจากน้ำที่มันเป็นมันเข้า
00:24:02 → 00:24:05 มันต้องดูทิศที่มันเหมาะสมแต่ปัจจุบันอ่า
00:24:05 → 00:24:08 ถ้าเราเฟืเฟืองฉุยหรือเอฮวงจุ้ยแบบมี
00:24:08 → 00:24:10 เครื่องกรองอากาศเอาปั๊มอากาศเข้าเขอีก
00:24:10 → 00:24:12 เรื่องนึงเป็น ergonomic ดีไซนอะไรก็ว่า
00:24:12 → 00:24:14 กันไปเพราะฉะนั้นเนี่ยปัจจุบัน
00:24:14 → 00:24:17 วิทยาศาสตร์มีงานวิจัยที่บอกว่าคนเรา
00:24:17 → 00:24:21 สามารถเกิด SI Building Syndrome SI แ
00:24:21 → 00:24:23 ว่าป่วยป่วยจากตึกแต่อาจจะไม่ได้มีคน
00:24:23 → 00:24:25 เชื่อมโยงอ๋อจริงๆมันคือการที่เราไม่ได้
00:24:25 → 00:24:28 รับพลังจากธรรมชาติบรรยากาศอากาศจากน้ำ
00:24:28 → 00:24:31 ที่ดีเวลาสร้างคอนโดที่บอกมี eia ก็ก็คือ
00:24:31 → 00:24:34 อคงจุ้ยแบบสมัยใหม่ตามหลักวิทยาศาสตร์แต่
00:24:34 → 00:24:36 ว่าสิ่งที่ผมจะชี้ให้เห็นก็คือว่าคนเรา
00:24:36 → 00:24:38 จึงจะมีความจำเป็นในการที่ต้อง Connect
00:24:38 → 00:24:42 กับธรรมชาติแล้วเลยมีแนวการแพทย์ที่เริ่ม
00:24:42 → 00:24:45 มีหมอสวีเดนหรือไงเนี่ยที่สั่งให้คนไข้ไป
00:24:45 → 00:24:47 ป่วยใช่มั้ยสั่งยาเป็น prescription ว่า
00:24:47 → 00:24:51 ไปอาบป่าคำว่าอาบป่าคือส่งเขาไปรับพลัง
00:24:51 → 00:24:53 ธรรมชาติเพราะพลังธรรมชาติเป็นแหล่งที่มา
00:24:53 → 00:24:54 ของพลังชีวิตอันนี้มันก็จะเกิดปัญหาว่า
00:24:54 → 00:24:58 อ้าแล้วเอ่อถ้าเกิดว่าเราทำให้ธรรมชาติ
00:24:58 → 00:25:01 ผิดเพี้ยนมันจะเป็นยังไงล่ะเพราะฉะนั้นคน
00:25:01 → 00:25:03 โบรานเนี่ยมันจะมีคำพูดว่าถ้าเมื่อไหร่ก็
00:25:03 → 00:25:05 ตามดาวเดือนผิดเพี้ยนดาวเดือนก็คือเอ่อ
00:25:06 → 00:25:09 ฤดูกาลมันจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บที่
00:25:09 → 00:25:11 เรียกว่า influence influence มาจาก
00:25:11 → 00:25:14 ธรรมชาติทำให้เกิดการป่วยนั้นการเป็นไข้
00:25:14 → 00:25:16 หวัดใหญ่ที่เรียกว่า influenza คำว่า
00:25:16 → 00:25:17 influenza มาจากคำว่า influence คือ
00:25:17 → 00:25:21 ธรรมชาติแปรป่วนทำให้พลังชีวิตอ่อนด้อยลง
00:25:21 → 00:25:23 แล้วติดเชื้อง่ายและเกิดโรคระบาดขึ้นมา
00:25:23 → 00:25:26 เพราะฉะนั้นเนี่ยโรคเนี่ยถ้าเป็นส่วน
00:25:26 → 00:25:29 หนึ่งของสุขภาพของเราเราถ้าเมื่อไหร่ก็
00:25:29 → 00:25:32 ตามที่โลกมีโรคร้อนอุณหภูมิที่เปลี่ยน
00:25:32 → 00:25:34 แปลงไปทางวิทยาศาสตร์จะบอกว่าพิสูจน์ได้
00:25:34 → 00:25:36 ด้วยเหมือนกันว่าไวรัสมันจะพยายามเปลี่ยน
00:25:36 → 00:25:38 เนติกของตัวเองเกิด
00:25:38 → 00:25:42 influenza โรคใหม่ๆแปลกๆมันจะโผล่มาอัน
00:25:42 → 00:25:44 นี้ก็อธิบายเรื่องของพลังชีวิตได้ด้วย
00:25:44 → 00:25:48 เช่นกันแล้วอย่างเงี้ยค่ะพลังชีวิตเกี่ยว
00:25:48 → 00:25:51 ข้องกับกรรมยังไงที่คุณหมอกึ่น่นไว้แล้ว
00:25:51 → 00:25:54 เมื่อกี้ผมพูดถึงกรรมพันธ์ผมใช้อ้างิงตาม
00:25:54 → 00:25:57 หลักของการแพทย์แบบองค์รวมว่าการที่เราจะ
00:25:57 → 00:26:01 มาเกิดในพ่อแม่รับเอาพลังชีวิตตั้งต้นของ
00:26:01 → 00:26:03 พ่อแม่มาอย่างละครึ่งเอากรพันธ์มาอย่างละ
00:26:03 → 00:26:08 ครึ่งเพราะเรามีเหตุปัจจัยนำมาเราเรียก
00:26:08 → 00:26:11 ว่ากรรมเก่าอ่ะบุพกรรมเพราะงั้นผมจึงชอบ
00:26:11 → 00:26:13 มากเลยว่าถ้าคุณแปลคำว่าเนติกออกมาว่าคำ
00:26:13 → 00:26:17 ว่าเป็นพันธุบวกกรรมเนี่ยโหผมนับถือคนแปล
00:26:17 → 00:26:20 จริงๆนะออเพราะเข้าใจว่ามันไม่ได้เป็นการ
00:26:20 → 00:26:23 เลือกโดยใบ chance หรือว่าเกิดโดยไล้เหตุ
00:26:24 → 00:26:28 ผลมันมีเหตุผลที่เขาจะต้องเกิดมาปึ๊บแล้ว
00:26:28 → 00:26:31 ในอนาคตชีวิตอย่างน้อยก็สุขภาพของเขาจะมี
00:26:31 → 00:26:34 พันธุแบบนี้แหละเขามีกรรมแบบนั้นแหละซึ่ง
00:26:34 → 00:26:36 เราก็จะเชื่อว่าออถ้าอย่างงั้นเราก็มี
00:26:36 → 00:26:38 กรรมพันธ์ยังไงก็ต้องเป็นอย่างงั้นใช่ไหม
00:26:38 → 00:26:42 อืฟังดูก็จำนนนิดนึงเออทำอะไรไม่ได้เลย
00:26:43 → 00:26:46 เออใช่มั้ยซึ่งการวิจัยในปัจจุบันจึงบอก
00:26:46 → 00:26:49 ว่ามันไม่ใช่แค่ปัจจัยเดียวสมมุติเราเอา
00:26:49 → 00:26:51 แฟนมาวิจัยแล้วเปรียบเทียบกันระหว่างแฝด a
00:26:51 → 00:26:54 แฝด B เป็นโรคเทียบกับแฝด a แฟช b ที่ไม่
00:26:54 → 00:26:56 เป็นโรคถามว่าฝาแฝดที่เป็นโรคเหมือนกันมี
00:26:56 → 00:26:58 สัดส่วนเป็นกี่เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับ
00:26:58 → 00:27:01 ฝาแฝดที่าคนนึงเป็นแต่อีกคนนึงไม่เป็น
00:27:01 → 00:27:03 ต่างกันยังไงคะก็ให้ถ่ายเป็นกี่
00:27:03 → 00:27:06 เปอร์เซ็นต์ฝาแฝดควรที่จะมีเช่นมากกว่า
00:27:06 → 00:27:08 50% ที่จะเป็นโรคเดียวกันหรือฝาแฟตควรจะ
00:27:08 → 00:27:12 มากถึง 80% ที่เป็นโรคเดียวกันหรือน้อย
00:27:12 → 00:27:14 กว่านั้นถ้าคิดง่ายๆเราก็รู้สึกว่าอาจจะ
00:27:14 → 00:27:17 ควรเป็นเปอร์เซ็นต์เยอะๆอ่ะอ้าเท่าไหร่ดี
00:27:17 → 00:27:20 อา 80 ก็ได้ 80 ใช่มั้ยความเป็นจริงนะโรค
00:27:20 → 00:27:22 ที่เกิดจากพันธุกรรมแรงๆจริงๆอ่ะประมาณ
00:27:22 → 00:27:27 10% อืแล้วไอ้ 90% มันคืออะไรอ 90% เรา
00:27:27 → 00:27:30 พบว่ามันมีกลไกชั้นนึงที่เรียกว่าอิมิ
00:27:30 → 00:27:33 หรือปัจจัยเหนือพันธุกรรมหมายความว่าสแฟช
00:27:33 → 00:27:37 ถ้าลองนนึกถึงอ่าสาย DNA เป็นเป็นเกลียว
00:27:37 → 00:27:40 ใช่มั้ยแล้วก็มีรหัสพันธุกรรมยาวๆเนี่ย
00:27:40 → 00:27:42 ทั้งคู่เนี่ยถ้าเป็นไข่เดียวใบเดียวกันจะ
00:27:42 → 00:27:44 เหมือนกันหมดเลยแต่ว่า DNA มันไม่ได้อยู่
00:27:44 → 00:27:47 รอยเท้งเต้งเป็นเส้นยาวๆนะมันจะขดม้วนพัน
00:27:47 → 00:27:50 ไอโปรตีนที่เรฮิสโตนโปรตีนแล้วก็พันพันต
00:27:50 → 00:27:53 ไหนที่มันพันแล้วมันก็กระบเอาเมิไปแปะไว้
00:27:53 → 00:27:57 อสิเอาไปแปะไว้เนี่ยมันจะทำให้เกิดการปิด
00:27:57 → 00:27:59 และเปิดพันธุกรรมเพราะฉะนั้นฝาแฝดจะเกิด
00:27:59 → 00:28:02 มามีทั้งพันธุกรรมดีและร้ายแต่ว่าด้วย
00:28:02 → 00:28:06 พฤติกรรมการกินดีนอนดีไม่เครียดใช่มั้ย
00:28:06 → 00:28:09 กลับไปที่ 6 ด้านเนาะไม่สูบบุหรี่ไม่กิน
00:28:09 → 00:28:12 เหล้านอนหลับออกกำลังกายแล้วก็มี
00:28:12 → 00:28:15 สัมพันธภาพที่ดีมันมีผลทำให้ไอการปิดเปิด
00:28:15 → 00:28:18 ยีนมันเปลี่ยนถ้าใช้ชีวิตแย่ๆอ่าใช้ชีวิต
00:28:18 → 00:28:21 เสี่ยงมันจะมีโอกาสที่พันธุกรรมแย่ๆมันจะ
00:28:21 → 00:28:24 เปิดกลายเป็นโรคตามมาอแต่ถ้าคุณใช้ชีวิต
00:28:25 → 00:28:28 ที่ดีๆดูแลตัวเองกินอ่าอาหารอารดีออก
00:28:28 → 00:28:32 กำลังกายประจำไม่เียยีนที่ไม่ดีมันจะปิด
00:28:32 → 00:28:35 ยีนที่ดีมันจะเปิดคุณก็จะแข็งแรงเราเรียก
00:28:35 → 00:28:40 ปัจจัยทางนี้ในมุมนึงว่าไสลแต่ถ้าผมแปล
00:28:40 → 00:28:42 อีกนิดนึงว่ามันคือกรรมปัจจุบันการเกิด
00:28:42 → 00:28:44 เราเลือกเกิดไปได้เป็นบุพกรรมที่เราต้อง
00:28:45 → 00:28:48 เกิดในยีนพูแว่าพ่อแม่ที่มีพันธุกรรมแบบ
00:28:48 → 00:28:52 นี้มีผล 10% ค่ะแต่ถ้าคุณทำตัวดีๆดูแล
00:28:52 → 00:28:54 สุขภาพดีมีพฤติกรรมที่ดีคุณมีกรรม
00:28:54 → 00:28:58 ปัจจุบันที่จะมาช่วยให้สุขภาพของคุณดีอ
00:28:58 → 00:29:00 ไม่ต้องป่วยฝาแฝดยังแตกต่างกันได้เลยอือ
00:29:00 → 00:29:03 ค่ะตั้ง 90% ก็อยู่ที่การดูแลตัวเองของ
00:29:03 → 00:29:07 เราเพราะว่าคือคือเหมือนอาจจะเกิดขึ้นมา
00:29:07 → 00:29:09 พร้อมกับความสามารถพิเศษบางอย่างที่ไม่
00:29:09 → 00:29:11 รู้มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่แต่ถ้าเราดูแล
00:29:11 → 00:29:14 ตัวเองอย่าง 6 อย่างที่คุณหมอบอกอย่างดี
00:29:14 → 00:29:17 ครับไอ้สิ่งนี้มันก็เรายังเป็นนายมันอยู่
00:29:17 → 00:29:20 ครับผมอ่าเพราะฉะนั้นเราเห็นภาพรว่าพลัง
00:29:20 → 00:29:23 ชีวิตมันจึงมีสอที่มีมาก่อนที่เราจะเกิด
00:29:23 → 00:29:26 เพื่อที่จะทำให้เรามีทั้งความเสี่ยงและมี
00:29:26 → 00:29:29 โอกาสที่ดีในการที่จะดำเนินชีวิตไปได้
00:29:29 → 00:29:31 เพราะฉะนั้นเนี่ยในทางพุทธมีคำพูดอนึงว่า
00:29:31 → 00:29:33 เรามีกรรมแบ่งตามประเภทอีกอย่างนึงคือ
00:29:34 → 00:29:37 กรรมรวมหมูหรือกรรมสมพองหมายความว่าเรา
00:29:37 → 00:29:39 เกิดมาเนี่ยเราก็มีความคล้ายพ่อมีความ
00:29:39 → 00:29:41 คล้ายแม่มีโลคคล้ายพ่อมีโลคคล้ายแม่ถูก
00:29:41 → 00:29:44 มั้ยฮะอย่างภูมิแพ้เนี่ยถ้าพ่อเป็นก็ลูก
00:29:44 → 00:29:47 เสี่ยง 30% แม่เป็นลูกเสี่ยงอีก 30% ถ้า
00:29:47 → 00:29:49 พ่อ้าแม่เป็นเสี่ยง 60% อที่จะเป็นภูมิ
00:29:49 → 00:29:53 แผ้อะไรเงี้ยแต่ถ้ามนุษย์มีดวงจิตมีจิตใจ
00:29:53 → 00:29:56 และมีสติตัวสติสามารถที่จะเปลี่ยนการปิด
00:29:56 → 00:29:59 เปิดยีนได้สติคือการที่เราสามารถที่จะตอบ
00:29:59 → 00:30:01 คำถามตัวเองได้ว่าเราอยู่ไปทำไมฉันเกิดมา
00:30:01 → 00:30:03 เพื่อไรเพราะฉะนั้นมันมีปรากฏการณ์ที่บอก
00:30:03 → 00:30:05 ว่าคนที่เป็นมะเร็งอ่ะแล้วฉันไม่มีอะไร
00:30:05 → 00:30:10 ห่วงแล้วพ่อก็ไม่ไม่ต้องดูแลลูกก็จบแล้ว
00:30:10 → 00:30:13 เป็นไงฮะอาจจะไม่ไม่ได้อยู่ได้นานหรอกแต่
00:30:13 → 00:30:16 ถ้าโอฉันมีมิชั่นต้องดูแลลูกให้ส่งให้จบ
00:30:16 → 00:30:18 ปริญญาให้ได้ก่อนสังเกตว่าพันธุกรรมบาง
00:30:18 → 00:30:20 อย่างมันมันจะมีการเหมือนมีปาฏิหาริย์
00:30:20 → 00:30:23 เล็กๆที่ทำให้ฉันสามารถที่จะสู้กับโลคได้
00:30:23 → 00:30:26 ดีขึ้นน่ะการอยู่ด้วยเจตจำนงด้วยสติที่
00:30:26 → 00:30:28 แน่วแน่บางทีมันเปลี่ยนอะไรบางอย่างใน
00:30:28 → 00:30:30 เลเวลที่ไม่ใช่กรรมรวมหมู่แล้วมันเป็น
00:30:30 → 00:30:33 กรรมอีกที่เรากำหนดขีดขึ้นมาใหม่ด้วย
00:30:33 → 00:30:35 Spirit ของเราเพราะฉะนั้นพันธุกรรมอ่ะ
00:30:35 → 00:30:38 ใช่เราได้มาจากเมล็ดพันธุ์ที่เป็นพลัง
00:30:38 → 00:30:39 ชีวิตแต่เราสามารถเปลี่ยนพลังชีวิตได้
00:30:39 → 00:30:44 ด้วยการฝึกสติฝึกสมาธิการอยู่อย่างมีความ
00:30:44 → 00:30:47 หมายการได้ทำอะไรที่ดีเพื่อคนอื่นถ้าทาง
00:30:47 → 00:30:50 พุทธเราเรียกว่าบุญอ๋ออย่างที่บอกว่าหลาย
00:30:50 → 00:30:53 ๆคนที่ป่วยเขาก็อยู่ได้ด้วยพลังใจซึ่งไอ้
00:30:53 → 00:30:56 พลังใจตรงนี้อาจจะเป็นเรื่องของสิหรือว่า
00:30:56 → 00:30:58 เรื่องของ purpose ที่คุณหมอบอกก็ก็ได้
00:30:58 → 00:31:01 ด้วยใช่มยคะจริงๆเราจะไม่มีพลังใจเลยถ้า
00:31:01 → 00:31:04 เราไม่มีสติหรือ purpose ถ้าเราอยู่กัน
00:31:04 → 00:31:07 แบบดราม่าไปเรื่อยๆอยยแย่แล้วโอ้ยไม่ไหว
00:31:08 → 00:31:12 แล้วอ่าเป็นสมตเป็นมะเร็งเงี้ยโอ้ยเอ่อ
00:31:12 → 00:31:14 ไม่เอาแล้วไม่ทนคือคือมันไอ้ความดราม่า
00:31:14 → 00:31:17 คือคือดวงจิตที่มันสั่นไหวเหมือนกับสัตว์
00:31:17 → 00:31:20 ที่มันกลัวสัตว์ที่มันแบบเอาตัวรอดแต่มัน
00:31:20 → 00:31:22 มันก็สร้างความเครียดทางไบโ chemistry
00:31:22 → 00:31:25 หรือว่าไอ้ชีววิทยาในเชิงของทำให้ภูมิ
00:31:25 → 00:31:28 ต้านทานมันตกนะเพราะอะไรเพราะว่าถ้าย้อน
00:31:28 → 00:31:30 กลับไปตอนต้นที่ผมบอกว่าคนเรามีกายหยาบ
00:31:30 → 00:31:33 กายละเอียด 4 กายกายสุดท้ายธาตุไฟนอก
00:31:33 → 00:31:35 เหนือจะเป็นเรื่องของเบอิมันังเกี่ยวกับ
00:31:35 → 00:31:37 ภูมิต้านฐานเพราะฉะนั้นผมจะชี้ให้เห็นว่า
00:31:37 → 00:31:41 การที่ธรรมชาติบำบัดเอาคนไปอบสมุนไพรเอา
00:31:41 → 00:31:44 คนไปอบซาวน่าเอาคนไปอาบแสงตะวันส่วนหนึ่ง
00:31:44 → 00:31:46 คือสร้างไข้สร้างไข้เทียมเพราะไข้ไม่ใช่
00:31:46 → 00:31:50 โรคเราสังเกตว่าคนที่เป็นโควิดถ้าไม่มี
00:31:50 → 00:31:52 ความเสี่ยงที่เป็นโรค 608 แล้วติดเชื้อ
00:31:52 → 00:31:54 แล้วลงปอดง่ายๆเนี่ยถ้าไปดูความเสี่ยงอัน
00:31:54 → 00:31:58 นึงคือเามีความที่ภูมิต้านทานต่ำจาก
00:31:58 → 00:32:00 อุณหภูมิร่างกายเย็นชื่นสมมุติเดินเข้า
00:32:00 → 00:32:02 ห้างตอนช่วงนั้นมันจะมีที่วัดอุณหภูมิวัด
00:32:02 → 00:32:05 ได้เท่าไหร่ะ 36 37 คนเราเป็นสัตว์เลิศ
00:32:05 → 00:32:08 อุ่นคนเลือดอุ่นน่ะต้อง 37 ส่วนใหญ่เป็น
00:32:08 → 00:32:11 สัตว์เลือดเย็นไปหมดแล้วคืออยู่ในห้อง
00:32:11 → 00:32:13 แอร์กินน้ำเย็นคือคือมันทำให้ธาตุไฟมัน
00:32:13 → 00:32:16 อ่อนมันทำให้ภูมิต้านทานมันอ่อนอ๋อแสดง
00:32:16 → 00:32:18 ว่าสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนอุณหภูมิข้างใน
00:32:18 → 00:32:21 เราด้วยใช่แต่ธาตุไฟมันมีธาตุไฟที่เกิด
00:32:21 → 00:32:23 จากการที่เรามีกำลังใจบอกสังเกตว่าสมมุติ
00:32:23 → 00:32:25 เราได้รับแรงบันดาลใจบางอย่ารู้สึกโอโห
00:32:25 → 00:32:28 แบบเลือดสูบฉีดเลือมันสดความอบอุ่นบาง
00:32:28 → 00:32:30 อย่างที่มันเพิ่มขึ้นมาแล้วถ้าบอกว่าเฮ้ย
00:32:30 → 00:32:33 เรามีกำลังใจเรามีความกล้าอาหารที่จะรับ
00:32:33 → 00:32:36 ความจริงด้วยสติภูมิต้านทานเราก็จะถูกจุด
00:32:36 → 00:32:38 ไฟให้มันสามารถที่จะการมีไข้คือการที่ทำ
00:32:38 → 00:32:40 ให้ภูมิต้านทานของเรามันเก่งขึ้นเราเรา
00:32:40 → 00:32:42 อาจจะไม่ได้หหมายถึงว่าต้องไปทำให้ติด
00:32:42 → 00:32:44 เชื้อนะแต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถ
00:32:44 → 00:32:47 ที่จะกระตุ้นกระบวนการของไฟธาตุได้ถูก
00:32:47 → 00:32:49 ต้องบางทีเนี่ยพลังชีวิตมันอ่อนน่ะเราอาจ
00:32:49 → 00:32:51 จะต้องเอาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทางธาตุ
00:32:51 → 00:32:52 ต่างๆเข้ามาเติมให้ออนี้เป็นเป็นเป็น
00:32:52 → 00:32:55 เรื่องเรื่องในเชิงการแพทย์ละแต่เราจะชี้
00:32:55 → 00:32:56 ให้เห็นว่าเมื่อมีหักความเข้าใจว่าพลัง
00:32:56 → 00:32:59 ชีวิตมันเป็นเรื่องของใกล้ชิดไปทาง
00:32:59 → 00:33:02 พันธุกรรมแต่ตัวเราเองจะใช้มันยังไงเนี่ย
00:33:02 → 00:33:04 การที่เราจะใช้ทำให้ดวงจิตเรื่องอีชของ
00:33:04 → 00:33:08 เราดีอารมณ์ของเราดีและมีสติตื่นรู้จัด
00:33:08 → 00:33:11 การกับความเครียดได้อยู่อย่างมีความหมาย
00:33:11 → 00:33:13 ทั้งหมดทั้งปวงอ่ะมันจะย้อนกลับมาที่ทำ
00:33:13 → 00:33:16 ให้เรามีสุขภาพที่ดีได้โดยไม่จำกัดแค่
00:33:16 → 00:33:18 เรื่องของพลังชีวิตของตัวเองเท่านั้นอื
00:33:18 → 00:33:20 ค่ะดีเป็นองค์รวมไปเลยดีเป็นองค์รวมค่ะที
00:33:20 → 00:33:23 นี้มีคำถามสำหรับที่คุณหมอพูดว่าพอเรา
00:33:23 → 00:33:25 อายุมากขึ้นอ่ะมันจะมีจุดนึงแหละที่พลัง
00:33:25 → 00:33:28 ชีวิตมันเริ่มถดถอยลงอย่าเห็นได้คือช่วง
00:33:28 → 00:33:31 วย 40 ใช่มคะแล้วทีเนี้เราจะมีวิธีการดู
00:33:31 → 00:33:34 แลตัวเองเป็นพิเศษหรือว่าธรรมชาติช่วยเรา
00:33:34 → 00:33:36 ได้ยังไงบ้างที่จะทำให้เรามีพลังชีวิตมาก
00:33:36 → 00:33:39 ขึ้นน่ะในฐานะของหมอเนี่ยหมอจะบอกว่าถ้า
00:33:39 → 00:33:42 พูดว่าหมอขาช่วยให้สุขภาพดีได้ยังไงหมอ
00:33:42 → 00:33:44 พูดได้ทั้งวันเพราะมันมีเทคนิคเยอะมากเลย
00:33:44 → 00:33:46 เทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ๆก็มีเยอะหรือแบบ
00:33:46 → 00:33:50 องค์รวมแบบ traditional ดั้งเดิมก็มีเยอะ
00:33:50 → 00:33:53 แยะเต็มไปหมดเลยแต่ถ้าบอกว่าการันตีเลย 1
00:33:53 → 00:33:55 วิธีที่ทำให้สุขภาพพังเนี่ยหมอบอกได้
00:33:55 → 00:33:59 การันตีผล 100% คืออะไรคือการอดหลับอดนอน
00:33:59 → 00:34:02 อืการใช้ชีวิตเนี่ยที่ไม่เป็นจังหวะจริงๆ
00:34:02 → 00:34:05 แล้วพลังชีวิตมี Quality หรือมีคุณภาพบาง
00:34:05 → 00:34:07 อย่างที่จะชอบทำมันเป็นจังหวะการทำเป็น
00:34:07 → 00:34:09 จังหวะไปเรื่อยๆเนี่ยมันจะช่วยให้พลัง
00:34:09 → 00:34:11 ชีวิตของเรามันค่อยๆแข็งแรงขึ้นนัสังเกต
00:34:11 → 00:34:15 ได้ง่ายๆว่าเด็กที่เกิดมาในตอนอุแว้อุแว้
00:34:15 → 00:34:18 เนี่ยสังเกตเตรงเวลามากนะอืค่ะอ่าเไม่
00:34:18 → 00:34:20 ต้องดูนาฬิกาสมมุติร้องกินนมทุก 2
00:34:20 → 00:34:21 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงเป๊ะเลยแบบเวลาเดิม
00:34:22 → 00:34:23 เชื่อได้เลยเพราะเามี Internal rit หรือ
00:34:24 → 00:34:26 ว่าจังหวะของพลังชีวิตที่ดีแต่ตอนที่เรา
00:34:26 → 00:34:29 โตเราทำให้มันเสียเสียนะตามใจตัวเองเพราะ
00:34:29 → 00:34:31 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอดหลับอดนอนกินไม่
00:34:31 → 00:34:35 เป็นเวลานอนไม่เป็นเวลาบ้างานทำงานหามลูก
00:34:35 → 00:34:39 หาค่ำพวกนี้จะค่อยๆกัดกร่อนทำให้ึมหรือ
00:34:39 → 00:34:42 พลังชีวิตค่อยๆด้อยลงเราจะเริ่มสังเกตใน
00:34:42 → 00:34:43 การแพทย์มันมีสิ่งที่เรียกว่าเป็นโครโน
00:34:43 → 00:34:46 Biology หรือว่าการแพทย์แห่งจังหวะเวลา
00:34:46 → 00:34:48 พวกฮอร์โมนเนี่ยจะกระทบง่ายเพราะฮอร์โมน
00:34:48 → 00:34:52 จะทำงานเป็นราวันก็มีเรียกเคเดนทำงานเป็น
00:34:52 → 00:34:54 รายเดือนก็มีผู้หญิงใช่มั้ยฮะก็จะมีประจำ
00:34:54 → 00:34:56 เดือนเมื่อไหรก็ตามกินไม่เป็นเวลานอนไม่
00:34:56 → 00:34:58 เป็นเวลาเดี๋ยวสักพักจะรวนหมดเริ่มนอนไม่
00:34:58 → 00:35:00 หลับกระเพาะลำไส้ท้องอืดท้องเฟ้อไปจนถึง
00:35:00 → 00:35:02 เรื่องการขับถ่ายที่ไม่ปกติใช่มั้ยฮะผู้
00:35:02 → 00:35:05 หญิงนานๆเข้าอประจำเดือนหายก็คุณไปรวนทำ
00:35:05 → 00:35:08 ให้จังหวะริธึมของพลังชีวิตพังไงระบบ
00:35:08 → 00:35:10 อัตโนมัติในร่างกายเกือบทั้งหมดอาศัยพลัง
00:35:10 → 00:35:12 ชีวิตในการกำกับทีนี้ประเด็นก็คือการที่
00:35:12 → 00:35:15 เรากลับมาใช้พลังชีวิตให้มีจังหวะไม่ได้
00:35:15 → 00:35:17 หมายความว่าทำทุกอย่างเหมือนกันทุกวันนะ
00:35:17 → 00:35:20 แล้วคำว่ากิจวัตรล่ะคะเพราะฉะนั้นคำครูบา
00:35:20 → 00:35:23 อาจารย์รจะฝึกให้เรามีกำลังสติกำลังสมาธิ
00:35:23 → 00:35:27 มันจึงเริ่มจากสิ่งที่เรียกว่าศีลสมาธิ
00:35:27 → 00:35:29 มันอย่าศีลผมไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องของ
00:35:29 → 00:35:32 ข้อห้ามนะแต่ศีลเป็นความว่าความปกติคุณมี
00:35:32 → 00:35:34 ความปกติอย่างไรอ่ะคุณทำมาเรื่อยๆถึงคุณ
00:35:34 → 00:35:37 จะโกรธแค่ไหนถ้าคุณไม่เคยฆ่าสัตว์อ่ะ
00:35:37 → 00:35:39 โอกาสที่จะโกรธจนสติแตกพั้งมือฆ่าคนมัน
00:35:40 → 00:35:42 น้อยมากนะแต่ถ้าความปกติของคุณคือก็เชือด
00:35:42 → 00:35:44 ไก่ทุกวันนะวันนี้แบบเกิดทะเลาะกับใครสัก
00:35:44 → 00:35:47 คนแทงอีกสักตัวนึงตายก็ไม่เป็นไรอ่ะเพราะ
00:35:47 → 00:35:50 นั่นคือความคุ้นชินที่พลังชีวิตของเราจะ
00:35:50 → 00:35:52 ทำไปเรื่อยๆถึงเราไม่อยากจะทำถ้าเรากิน
00:35:52 → 00:35:53 เป็นเวลานอนเป็นเวลาเดี๋ยวมันจะตื่นขึ้น
00:35:53 → 00:35:56 ไปเองตามเวลาที่เราทำนั่นแหละเพราะฉะนั้น
00:35:56 → 00:35:59 ถ้าเราฝึกการหายใจฝึกสติแบบเป็นึมมันจะมี
00:35:59 → 00:36:01 ritual มันึงมีการประเพณีที่บอกช่วงนี้
00:36:01 → 00:36:03 ต้องทำนี้ช่วงนี้ต้องทำอย่างี้ถ้าเราไม่
00:36:03 → 00:36:05 ได้ถือแบบง่มหงายมันคือการที่กระตุ้นให้
00:36:05 → 00:36:07 ว่าเฮ้ยตอนนี้เนี่ยจังหวะมันเปลี่ยนถึง
00:36:07 → 00:36:09 ตอนนี้มันมี mind stone ที่เราจะต้องสติ
00:36:09 → 00:36:11 ของเราจะเริ่มเด้งตื่นขึ้นมาทันทีแม้ใน 1
00:36:11 → 00:36:14 สัปดาห์ก็มีจังหวะที่ต้องรักษานั่นก็คือ
00:36:14 → 00:36:16 จังหวะของตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ประเด็น
00:36:16 → 00:36:20 คือถ้าเราทำงานแบบ 247 925 เป็นไงฮะก็
00:36:20 → 00:36:22 ไม่ได้พักไป 7 7 วันเสมมุติเราไม่เคย
00:36:22 → 00:36:24 หยุดเลยอ่ะมีนะมีคนที่เป็นอย่างงั้นนะเรา
00:36:24 → 00:36:26 จะ burn Out เรวมากเพราะทุกวันตื่นมามัน
00:36:26 → 00:36:29 จะงงหมดเลยว่าวันนี้มันวันอะไรวะคุณชันทำ
00:36:29 → 00:36:32 งานอีกแล้วมันยึงเป็นหลักทางจิตวิทยาที่
00:36:32 → 00:36:34 เราจะมีประเพณีว่าต้องไปใส่บาตรตอนวัน
00:36:34 → 00:36:36 เสาร์อาทิตย์เพื่อเพื่อเบรคให้เรารู้ว่า
00:36:36 → 00:36:37 วันนี้วันเสาร์อาทิตย์วันพรุ่งนี้วัน
00:36:37 → 00:36:40 จันทร์หรือใครมีลูกจะรู้ได้ชัดมากเลยว่า
00:36:40 → 00:36:41 เมื่อไหร่พลังชีวิตหรือจังหวะชีวิตมัน
00:36:42 → 00:36:44 เสียเช่นตอนลูกเปิดเทอมเราจำได้เลยวันนี้
00:36:44 → 00:36:45 วันอาทิตย์เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องส่งลูกตอน
00:36:45 → 00:36:48 เช้าอ่ะเราจะรู้จำได้นึกออกทันทีแต่เมื่อ
00:36:48 → 00:36:50 ไหร่ปิดเทอมแล้วไม่ได้ไปส่งลูกสัก 2
00:36:50 → 00:36:53 เดือนนะเอ้ยวันนี้มันวันอะไรวะมันจะความ
00:36:53 → 00:36:57 จำเราจะเริ่มเบลอรวมทั้งเ่อร่างกายก็จะ
00:36:57 → 00:36:59 เริ่มรวนๆแล้วเราจึงจำเป็นจะต้องมีจังหวะ
00:36:59 → 00:37:01 ในรอบสัปดาห์ที่เราต้องรักษางั้นก็เลย
00:37:01 → 00:37:02 work Life Balance จึงมีความสำคัญใน
00:37:02 → 00:37:04 เชิงของสุขภาพในแง่นี้ด้วยเหมือนกันการ
00:37:04 → 00:37:08 รักษาพลังชีวิตถ้ามันมีข้อจำกัดเช่นมี
00:37:08 → 00:37:11 กรรมเก่าอ่ะันทุกกรรมไม่ดีอันนี้ในทางการ
00:37:11 → 00:37:13 แพทย์ก็จะมีการแพทย์หลากหลายที่เข้ามา
00:37:13 → 00:37:15 ช่วยบำรุงพลังชีวิตเช่น Herbal Medicine
00:37:15 → 00:37:17 มีสมุนไพรบางอย่างที่จะมีการเติมพลัง
00:37:17 → 00:37:20 ชีวิตให้เราได้มีเอ่อวิตามินบางตัวมี
00:37:20 → 00:37:24 เรื่องของการแผ่พลังชีวิตให้กันได้ด้วยนะ
00:37:24 → 00:37:27 อย่างเช่นการฝึกโยคะการใช้คลื่นเสียงหัง
00:37:27 → 00:37:31 บำบัดไปปรับจังหวะไงการเอามือไป healing
00:37:31 → 00:37:33 process ก็เป็นการถ่ายพลังชีวิตจากผู้
00:37:33 → 00:37:36 บำบัดไปสู่ผู้ถูกบำบัดก็ทำได้ด้วยเหมือน
00:37:36 → 00:37:39 กันมีมีงานวิจัยในกกลุ่มของพวก pne หรือ
00:37:39 → 00:37:43 ไนโร OC immunology เยอะครับว่าที่เรา
00:37:43 → 00:37:46 สามารถที่จะจัดการกับไอ้ตัวเติมหรือเพิ่ม
00:37:46 → 00:37:49 พลังชีวิตโดยการใช้การบำบัติเหล่านี้เข้า
00:37:49 → 00:37:52 ไปได้ด้วยเช่นกันอจริงๆมีวิธีหลากหลายมาก
00:37:52 → 00:37:56 แต่ว่าสำคัญที่สุดคือทำให้ชีวิตเรามีึม
00:37:56 → 00:37:58 หรือว่ามีกิจวัตรกินให้ดีนอนให้พอ
00:37:58 → 00:38:02 อันเนี้ยสำคัญครับครับเป็นเวลาด้วยอ่าะ
00:38:02 → 00:38:04 เป็นเวลาโอเคค่ะแล้วทีเนี้ยค่ะอยากจะทราบ
00:38:04 → 00:38:07 ว่าอย่างที่เราคุยๆกันมาว่าธรรมชาติเนี่ย
00:38:07 → 00:38:10 จริงๆเามีส่วนในการช่วยฮีลช่วยหลายๆอย่าง
00:38:10 → 00:38:12 เรามากๆเลยแล้วธรรมชาติบำบัดอ่ะค่ะถ้า
00:38:12 → 00:38:14 สมมุติเราเนี่ยไม่สามารถที่จะแบบโอ๊ยไป
00:38:14 → 00:38:17 อาบป่าได้ด้วยภารกิจหน้าที่ธรรมชาติบำบัด
00:38:17 → 00:38:19 ที่ใกล้ตัวเราที่สุดที่สามารถทำได้ง่ายๆ
00:38:19 → 00:38:23 ทำได้บ่อยๆคุณหมอแนะนำอะไรอค่ะครับก็ใน 6
00:38:23 → 00:38:25 ด้านที่เราสามารถที่จะเลือกมาได้เลยชอบ
00:38:25 → 00:38:28 ออกกำลังกายมั้ยอ่ะออกกำลังกายใช่มยแต่
00:38:28 → 00:38:30 การออกกำลังกายที่ให้ดีมันต้องดูในให้ครบ
00:38:30 → 00:38:32 ด้วยนะทั้ง String Exercise End
00:38:32 → 00:38:34 Exercise นะครับการออกกำลังกาย String
00:38:35 → 00:38:37 คือให้กล้ามเนืแข็งแรง End คือทำให้หัวใจ
00:38:37 → 00:38:40 หลอดเลือดแข็งแรงนะฮะการยืดเหยียดการฝึก
00:38:40 → 00:38:41 Balance และอีกอันนึงก็คือกลุ่มฝึก
00:38:41 → 00:38:43 breeding Exercise พวกนี้จะเป็นการปรับ
00:38:43 → 00:38:47 สมดุลของพลังให้คืนมาการลดความเครียด
00:38:47 → 00:38:48 เพราะความเครียดจะเป็นตัวทำให้จังหวะ
00:38:48 → 00:38:50 ชีวิตเสียเพราะว่าเวลาเครียดจังหวะการหาย
00:38:50 → 00:38:52 ใจเราจะไป dist ไปรบกวนจังหวะของพลัง
00:38:52 → 00:38:54 ชีวิตเพราะฉะยิ่งเราเครียดเท่าไหร่จะ
00:38:54 → 00:38:56 สังเกตว่าเราจะนอนไม่ดีตื่นมาไม่สดชื่น
00:38:56 → 00:38:59 เพราะมันทำให้ในตอนคืนนที่พลังชีวิตเรา
00:38:59 → 00:39:01 ควรจะซ่อมแซมตัวเองมันไม่สามารถทำได้ก็มี
00:39:01 → 00:39:04 ตั้งหลายหลายเทคนิคจะฝึกสติในชีวิตประจำ
00:39:04 → 00:39:06 วันจะฝึกสมาธิความเครียดก็แล้วแต่จริต
00:39:06 → 00:39:09 เหมือนกันนะฮะฝึกสติฝึกสมาธิในแง่ของคน
00:39:09 → 00:39:12 เมืองก็บางคนจริตชอบศิลปะบำบัดดนตีบำบัด
00:39:12 → 00:39:16 บางหลังมีเพเปี้ด้วยนะก็อ่าเลือกใช้ให้
00:39:16 → 00:39:18 เหมาะเราก็ถ้าเราทำอย่างนี้ได้เราจะ
00:39:18 → 00:39:20 พรีเสิร์ฟพลังชีวิตของเราได้ดีหรือการไป
00:39:20 → 00:39:24 เดินเหยียบหญ้าในสนามการโบกอดต้นไม้ตงนี้
00:39:24 → 00:39:26 ก็เป็นอีกทางนึงซึ่งเรารับพลังชีวิตเพิ่ม
00:39:26 → 00:39:29 เติมได้เช่นกันครับคำถามสุดท้ายแล้วกัน
00:39:29 → 00:39:32 ค่ะอาจจะง่ายๆแล้วก็อาจจะแปลกๆนิดนึงการ
00:39:32 → 00:39:35 อาบน้ำค่ะน้ำเนี่ยก็ธรรมชาติแล้วการอาบ
00:39:35 → 00:39:37 น้ำเนี่ยสามารถใช้เป็นธรรมชาติบำบัดได้
00:39:37 → 00:39:40 ไมมคะมันมีสิ่งที่เรียกเป็นวารีบำบัดหรือ
00:39:40 → 00:39:43 ว่า hydrotherapy ไฮโดร therapy มีหลัก
00:39:43 → 00:39:46 การว่าให้เรากลับไปอยู่ในสภาพ floating
00:39:46 → 00:39:48 เหมือนกับอยู่ในท้องแม่เพราะจริงๆแล้ว
00:39:48 → 00:39:51 เนี่ยทำไมเด็กนี่อยู่ในคันแม่จะมีการแบ่ง
00:39:51 → 00:39:54 เซลล์ที่เยอะที่สุดการเจริญเติบโตที่เร็ว
00:39:54 → 00:39:57 ที่สุดเลยอัตราเร็วสูงสุดเพราะเมีน้ำับ
00:39:57 → 00:39:59 ที่อยู่โอบล้อมตัวของเขานี้ถ้าเกิดว่าเรา
00:39:59 → 00:40:01 รู้สึกอ่อนล้าอ่อนเพลียมันจะมีเทคนิคทาง
00:40:01 → 00:40:03 เยอรมันที่เรียกว่าเป็น Oil dispersion
00:40:03 → 00:40:06 คือเอาอ่างน้ำเหมอ่างไม้โอ๊คเนาะลงไปแช่
00:40:06 → 00:40:10 ทั้งตัวเสร็จแล้วก็จะกวนเป็นรูปเลข 8
00:40:10 → 00:40:11 เนาะแล้วเสร็จแล้วก็หยดการหยดเนี่ยจะต้อง
00:40:12 → 00:40:15 ปั่นผ่านไอตัวน้ำที่มีการหมุนอย่างรวด
00:40:15 → 00:40:19 เร็วทำให้ละอองของไอ้ตัว ara เปีขนาดเล็ก
00:40:19 → 00:40:22 เนี่ยมันเป็นฟองเล็กๆที่พอจะกระเจิงอยู่
00:40:22 → 00:40:26 ในตัวน้ำได้นะครับแลแช่ลงไปเราใช้วิธี
00:40:26 → 00:40:28 เนี้ยในการฟื้นพลังชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง
00:40:28 → 00:40:31 ก็ทำใหู้ภูมิต้านทานดีขึ้นแล้วรู้สึกสด
00:40:31 → 00:40:34 ชื่นสดใสได้ด้วยเช่นกันอย่างงี้แปลว่าอ่ะ
00:40:34 → 00:40:36 ถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้แช่อ่างล่ะค่ะอาบ
00:40:36 → 00:40:39 น้ำฟักบัวเงี้ยอะไอออก็จริงๆแล้วไฮโดร
00:40:39 → 00:40:41 tery มีหลายเทคนิคอการทำไอ้ทั่วเรื่อง
00:40:41 → 00:40:44 ของการ Alternate บาสการใช้น้ำนวดตัว
00:40:44 → 00:40:46 จากุชชี่อะไรเงี้ยหรือว่าหัวฝักบัวแล้วก็
00:40:46 → 00:40:48 นวดตามตัวก็สามารถนวดเป็นจักระได้เช่นกัน
00:40:48 → 00:40:51 ฮะก็อันนี้สามารถจะศึกษาเพิ่มเติมได้อาจ
00:40:51 → 00:40:55 จะลองแวะไปที่เอ่อ wwwwe.com ก็ได้นะฮะ
00:40:55 → 00:40:57 เอ่อนะ B a.com
00:40:57 → 00:41:00 ก็เดี๋ยวผมก็คงจะแชร์อเทคนิคต่างๆมากขึ้น
00:41:01 → 00:41:03 มากขึ้นหรือถ้าเกิดใครชอบเอ่อ Facebook
00:41:03 → 00:41:06 ก็ไปที่แฟนเพจหมอปองก็ได้สกดภาษาไทยหอหีบ
00:41:06 → 00:41:10 มม้าอออ่างปปลาอออ่างงงูนะแวะไปดูกันได้
00:41:10 → 00:41:12 ฮะก็จะมีเทคนิคอย่างเงี้ยมาค่อยๆแชร์กันอ
00:41:12 → 00:41:15 ค่ะดีมากค่ะเพราะว่าน่าจะมีอะไรที่อัปเดต
00:41:15 → 00:41:18 เรื่อยๆอ่าแล้วก็วันนี้นะคะเราก็ได้ความ
00:41:18 → 00:41:20 รู้เยอะมากๆเลยค่ะคุณหมอในเรื่องของพลัง
00:41:20 → 00:41:22 ชีวิตที่เราจะใช้ดูแลตัวเองนะคะเพราะว่า
00:41:22 → 00:41:24 ร่างกายของเราเนี่ยมีทั้ง Body Sou
00:41:24 → 00:41:26 Spirit เนาะไม่ได้มีแค่ฐานร่างกายเท่า
00:41:26 → 00:41:29 นั้นมีเรื่องของจิตใจแล้วก็สปิหรือจิต
00:41:29 → 00:41:31 วิญญาณที่เรายังต้องดูแลอยู่เพราะว่าถ้า
00:41:31 → 00:41:33 ส่วนใดส่วนหนึงป่วยอาจจะทำให้ส่วนอื่น
00:41:33 → 00:41:35 ป่วยตามได้วันนี้ก็ได้ข้อมูลแล้วก็เทคนิค
00:41:35 → 00:41:38 ดีๆในการดูแลตัวเองนะคะแล้วก็เชื่อว่าทุก
00:41:38 → 00:41:40 ๆคนนะคะที่ได้ดูคลิปนี้เนี่ยน่าจะได้ความ
00:41:40 → 00:41:43 รู้ใหม่ๆนะคะถ้าสมมุติว่ามีตรงไหนที่
00:41:43 → 00:41:45 ประทับใจมากๆเนี่ยช่วยคอมเมนต์บอกเราให้
00:41:45 → 00:41:47 เราดูด้วยนะคะกดไลก์กดแชร์เป็นกำลังใจให้
00:41:47 → 00:41:50 ทีมงานด้วยนะแล้วก็ถ้ามีคำถามอะไรนะคะก็
00:41:50 → 00:41:52 คอมเมนต์บอกเอาไว้ได้เลยแล้วอย่าลืมไปติด
00:41:52 → 00:41:54 ตามคุณหมอนะคะที่ช่องทางที่คุณหมอได้บอก
00:41:54 → 00:41:56 เอาไว้แล้วนะคะและสุดท้ายนี้นะคะขาดไม่
00:41:56 → 00:41:59 ได้ค่ะค่ะถือว่าเป็นไฮไลท์ค่ะก็คือมี
00:41:59 → 00:42:02 เสื้อมาฝากคุณหมอค่ะโอขอบคุณค่ะเสื้อเกลา
00:42:02 → 00:42:04 ค่ะอย่างที่เราคุยกันว่าทุกอย่างต้องเกลา
00:42:04 → 00:42:08 ตัวเองเรื่อยๆครับผมยินดีมากๆเลยครับถ้า
00:42:08 → 00:42:10 ใครสนใจนะคะก็สามารถที่จะสั่งซื้อเสื้อ
00:42:10 → 00:42:12 เกลานะคะได้ที่ใต้ Description นี้ได้เลย
00:42:12 → 00:42:15 ค่ะซื้อได้ง่ายๆเลยแล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์
00:42:15 → 00:42:17 อื่นของทางเกลาด้วยนะคะฝากอุดหนุนเอ็นดู
00:42:17 → 00:42:20 พวกเราด้วยนะคะ
00:42:20 → 00:42:27 [เพลง]
00:42:27 → 00:42:29 S
00:42:29 → 00:42:40 [เพลง]