00:00:01 → 00:00:03 สวัสดีครับผมรอยชุนพงทองวันนี้เป็นเรื่อง
00:00:04 → 00:00:08 ที่ดราม่ากันมากในออนไลน์สื่อทุกสื่อลง
00:00:08 → 00:00:12 คล้ายกันหมดก็คือเอาพาดหัวข่าวมาลงกับงาน
00:00:12 → 00:00:17 วิจัยอื้อฉาวทำ If 168 แล้วเสี่ยงต่อโรค
00:00:17 → 00:00:22 หัวใจเพิ่มขึ้นถึง 91% และในฐานะที่ผม
00:00:22 → 00:00:27 เชิญชวนให้คนไทยทำ If มาร่วม 3 ปีหลายคน
00:00:27 → 00:00:30 ก็ถามผมว่ามันเกิดอะไรขึ้นมันมีงานวิจัย
00:00:30 → 00:00:35 บ้าๆอย่างนี้ออกมาได้ยังไงอธิบายได้ม If
00:00:35 → 00:00:38 หรือ intermittent fasting ส่วนมากเหมาย
00:00:38 → 00:00:41 ถึงการกินไม่เกินวันละ 2 มื้อพวกสุดโต่ง
00:00:41 → 00:00:44 อย่างผมเนี่ยซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นแบบ
00:00:44 → 00:00:48 เนี่ยก็ omas หรือ One Meal a day กิน
00:00:48 → 00:00:51 ครั้งนึงก็ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นแต่ทีนี้
00:00:51 → 00:00:54 มันมีคำว่า Time restricted eating เ
00:00:54 → 00:00:58 หมายถึงจำกัดเวลาการกินเช่นวันนึงให้กิน
00:00:58 → 00:01:01 ได้ไม่เกิน 8 ชมงคุณจะกิน 3 มื้อหรือ 4
00:01:01 → 00:01:04 มื้อก็ได้ภายในช่วงเวลาที่กำหนดเช่นกิน
00:01:04 → 00:01:07 ตั้งแต่ 7:00 นจนถึง 15:00 นนอกเวลาจาก
00:01:08 → 00:01:12 นี้ไม่กินคนส่วนมากก็จะสับสนหรือเอามาป่น
00:01:12 → 00:01:16 กันแต่จริงๆแล้วมันก็คล้ายกันมากถ้าคุณ
00:01:16 → 00:01:19 จำกัดเวลาให้กินได้แค่ 8 ชมงเนี่ยมันก็
00:01:19 → 00:01:22 กินได้อย่างเก่งก็ 3 มื้อแต่ส่วนมากเก็
00:01:22 → 00:01:25 กินกันแค่ 2 มื้อถูกมมครับมันก็เลยมีคำ
00:01:25 → 00:01:28 ว่า If 16/8
00:01:28 → 00:01:32 หมายความว่าอด 16 ช่มกิน 8 ชั่วโมงแล้ว
00:01:32 → 00:01:35 โดยมากเขาจะหมายถึงกินกันแค่ 2 มื้อและ
00:01:36 → 00:01:38 ไอ้เรื่องเนี้ยมันก็เดือดร้อนไปถึงพระ
00:01:38 → 00:01:42 สงฆ์องค์เจ้าว่าการเชิญชวนของพุทธเจ้าที่
00:01:42 → 00:01:45 เชิญชวนให้ภิกษุทำโมสเนี่ยมันเสี่ยงต่อ
00:01:45 → 00:01:48 โลกหัวใจจากพุทธวจนะ
00:01:48 → 00:01:52 เราเตือนกล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่าเราฉัน
00:01:52 → 00:01:55 อาหารมื้อเดียวแล้วรู้สึกว่ามีอาพาธน้อย
00:01:56 → 00:02:00 มีความลำบากกจายน้อยมีความเบากายมีกำลัง
00:02:00 → 00:02:03 และอยู่อย่างผาสุขและท่านก็เชิญชวนว่ามา
00:02:03 → 00:02:08 เถิดแม้พวกเธอก็จงฉันอาหารมื้อเดียวแต่
00:02:08 → 00:02:11 ภิกษุในปัจจุบันเนี่ยก็ใช้วิธีเลี่ยงบาลี
00:02:11 → 00:02:15 ว่าฉันมื้อเดียวนับตั้งแต่ 7:00 นจนถึง
00:02:15 → 00:02:18 เที่ยนแต่นั่นไม่ใช่อาสนะเดียวอาสนะเดียว
00:02:18 → 00:02:22 หมายถึงว่านั่งแค่ครั้งเดียวและฉันจนหมด
00:02:22 → 00:02:26 ไม่มีการนั่งลุกยืนเดินไปเดินมาแล้วกลับ
00:02:26 → 00:02:29 มาฉันใหม่เป็นมื้อที่ 2 ผมต้องเริ่มอย่าง
00:02:29 → 00:02:33 นี้คือมันมีงานวิจัยเดิมที่งานวิจัยใหม่
00:02:33 → 00:02:37 เยไปตีกินมาก็คือมันไปเอาข้อมูลของเขามา
00:02:37 → 00:02:41 แล้วมาใส่ไข่ของเดิมมันก็ห่วยเต็มทนอยู่
00:02:41 → 00:02:44 แล้วเดี๋ยวผมจะอ่านข้อสรุปของเดิมให้ฟัง
00:02:44 → 00:02:49 อันแรกคนที่ทำ If 168 เนี่ยไม่ได้เพิ่ม
00:02:49 → 00:02:53 หรือลดโอกาสตายจากโรคมะเร็งหรือสาเหตุ
00:02:53 → 00:02:57 อื่นพูดง่ายๆเหมายความว่าคุณจะทำ If หรือ
00:02:57 → 00:03:01 ไม่ทำ If ไม่มีผลอะไรทั้งนั้นข้อที่ 2 คน
00:03:01 → 00:03:05 ที่หันไปทำไเนี่ยไม่ว่าจะมีโรคหัวใจหรือ
00:03:05 → 00:03:09 โรคมะเร็งหรือไม่ก็ตามมีโอกาสเสียชีวิต
00:03:09 → 00:03:14 เพิ่มขึ้นตายหาละภิกษุป่าที่อยู่เป็น100ร
00:03:14 → 00:03:19 ปีฉันวันละมื้ออ่ะคุณอธิบายยังไงเทำอย่าง
00:03:19 → 00:03:23 นี้มา 2-3 พันปีแล้วไอ้นี่ก็ไม่น่าเชื่อ
00:03:23 → 00:03:27 ถือข้อที่ 3 ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง
00:03:27 → 00:03:31 ที่มีช่วงกินนานเกิน 16 ชมงช่วยลดโอกาส
00:03:31 → 00:03:35 การตายได้มันก็เป็นไปได้ถ้าเกิดคุณอยากจะ
00:03:35 → 00:03:39 ได้ผลงานวิจัยออกมาอย่างนั้นจริงๆก็คือคน
00:03:39 → 00:03:42 ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่กินอะไรไม่ได้อ่ะก็
00:03:42 → 00:03:45 หมายความว่าคอนดิของเขามันแย่แล้วของเขา
00:03:45 → 00:03:48 เป็นหนักแล้วมันก็มีโอกาสตายสูงขณะที่คน
00:03:48 → 00:03:51 ที่เป็นมะเร็งแล้วยังพอกินได้เขาก็ต้อง
00:03:51 → 00:03:54 กินเขาก็จะกินตลอดมันก็เกี่ยวข้องกับ
00:03:54 → 00:03:57 โอกาสที่เขารอดตายได้สูงเพราะเไม่ได้เป็น
00:03:57 → 00:04:01 หนักงานวิจัยก็ไม่ได้ลบแฟตรตรงนี้ออกข้อ
00:04:01 → 00:04:05 ที่ 4 อันนี้ถือว่าเป็นการออกตัวละบอกว่า
00:04:05 → 00:04:08 ข้อสรุปที่พูดมาทั้งหมดเนี่ยนะยังต้อง
00:04:08 → 00:04:11 ศึกษาเพิ่มเติมนะแต่แค่ทีมวิจัยอยากจะบอก
00:04:11 → 00:04:16 ว่าเาไม่ได้พบหลักฐานที่สนับสนุนว่าการทำ
00:04:16 → 00:04:20 If ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและ
00:04:20 → 00:04:24 ยืดชีวิตให้กับผู้ป่วยได้ก็คือเขไม่ได้พบ
00:04:24 → 00:04:28 หลักฐานไม่ได้หมายความว่าไม่มีหลักฐาน
00:04:28 → 00:04:33 ทีนี้มันมีงานวิจัยที่เอางานวิจัยก่อน
00:04:33 → 00:04:37 หน้าเนี่ยมาใส่ไข่แล้วสรุปใหม่และเผยแพร่
00:04:37 → 00:04:41 กันเยอะมากจนเป็นข่าวดังอันแรกก็คือคนที่
00:04:41 → 00:04:46 ทำ If 168 มีโอกาสตายจากโรคหลอดเลือดหัว
00:04:46 → 00:04:50 ใจเพิ่มขึ้น 91% และไอ้นี่คือพลาดหัวข่าว
00:04:50 → 00:04:55 เลยอันที่ 2 แม้แต่คุณทำไ 1040 ก็มีโอกาส
00:04:55 → 00:04:59 ตายจากโรคหัวใจสตกเพิ่มขึ้น 66%
00:04:59 → 00:05:03 ข้อที่ 3 การทำ If ไม่ได้ช่วยลดอัตราการ
00:05:03 → 00:05:06 เสียชีวิตจากทุกสาเหตุอันนี้คือที่พบใน
00:05:07 → 00:05:09 สื่อนะครับ
00:05:09 → 00:05:13 ข้อที่ 4 การกินมากกว่า 16 ชมงต่อวันลด
00:05:13 → 00:05:17 โอกาสตายในกลุ่มของผู้เป็นมะเร็งปกติ
00:05:18 → 00:05:21 เนี่ยไอ้งานวิจัยเขาจะต้องตั้งสมมุติฐาน
00:05:21 → 00:05:25 New hypothesis แล้วเก็จะสรุปว่าจะยอม
00:05:25 → 00:05:29 รับหรือปฏิเสธสมมุติฐานแต่ไอ้ข้อสรุป
00:05:29 → 00:05:30 อย่างเงี้ย
00:05:30 → 00:05:33 ที่อ่านมา 4 ข้อเนี่ยถ้าคนมีสติปัญญาก็
00:05:33 → 00:05:38 รู้ว่ามันมุ่งที่จะโจมตีกลุ่มคนที่สุขภาพ
00:05:38 → 00:05:44 ดีจากการทำ If และมันส่งผลต่อธุรกิจยา
00:05:44 → 00:05:48 ธุรกิจโรงพยาบาลและโดยเฉพาะธุรกิจอาหาร
00:05:48 → 00:05:52 เช้าก็คือกลุ่ม Serial ยอดขายตกต่ำตั้ง
00:05:52 → 00:05:56 แต่มีโควิดหลังจากที่คนจำนวนมากมุ่งมา
00:05:56 → 00:05:59 ศึกษาโภชนาการและสุขภาพกันอย่างจริงจัง
00:05:59 → 00:06:02 และทั้งหมดต่อไปนี้เป็นการแสดงความเห็น
00:06:02 → 00:06:04 ด้วยความบริสุทธิ์ใจถ้าคุณคิดว่าส่วนใด
00:06:04 → 00:06:06 ไม่เป็นความจริงคุณก็โต้แย้งได้อย่าง
00:06:06 → 00:06:10 วิญญูชนการแปะด่าด้อย่าก็จะถูกบล็อกด้วย
00:06:10 → 00:06:13 AI ส่วนสมาชิกที่มีสัญลักษณ์เหล่านี้ก็
00:06:13 → 00:06:16 สามารถถามได้ในส่วนของสมาชิกไม่จำเป็น
00:06:16 → 00:06:20 ต้องคอมเมนต์ใต้วีดีโอโก nips Goo mas
00:06:20 → 00:06:25 ยังมีส่วนช่วยเพิ่มไขมัน hdl ลดโอกาสเกิด
00:06:25 → 00:06:30 อัมพาตโรคหัวใจโรคมะเร็งถ้าคุณสนใจโกนิโก
00:06:31 → 00:06:35 mas แบบออร์แกนิที่ปลอดยาฆ่ามแมลงในระยะ
00:06:35 → 00:06:39 2 กมแล้วก็มีรสชาติหอมอร่อยตามธรรมชาติ
00:06:39 → 00:06:42 ส่วนโกโก mas ช็อกแลตอันนี้กินง่ายแล้วก็
00:06:42 → 00:06:45 เป็นที่นิยมมากแต่ว่าเวลาสั่งเนี่ยจะต้อง
00:06:45 → 00:06:48 รอคิวมันไม่เหมือน Dark ช็อกโกแลตทั่วไป
00:06:48 → 00:06:52 ที่อยู่ในเชลได้เป็นปีๆและเป็นที่น่าภาค
00:06:52 → 00:06:55 ภูมิใจว่าคนไทยสามารถทำช็อกโกแลตในเกรด
00:06:55 → 00:06:59 นี้ได้เอาล่ะครับกลับเข้าสู่เนื้อหาและ
00:06:59 → 00:07:02 นี่คือผู้เชี่ยวชาญของอยในประเทศสหรัฐ
00:07:02 → 00:07:05 อเมริกาคุณอยากทำตามผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้
00:07:05 → 00:07:09 หรือเปล่าทางด้านการกินไอ TC สมคบคิด
00:07:09 → 00:07:14 เนี่ยมันมีมานานแล้วคือตัวสมาคมโลกหัวใจ
00:07:14 → 00:07:17 ของอเมริกาเนี่ยเป็นที่รู้กันว่าได้รับ
00:07:17 → 00:07:21 เงินสนับสนุนจากบริษัทซีเรียลผลิตอาหาร
00:07:21 → 00:07:25 เช้ากลุ่มบริษัทยาจำนวนมากและเป็นที่รู้
00:07:25 → 00:07:28 กันว่ายอดขายซีเรียลเนี่ยมันตกนับตั้งแต่
00:07:28 → 00:07:32 มีโควิดหลังจากที่มีคนสนใจสุขภาพมากขึ้น
00:07:32 → 00:07:37 รู้ความจริงมากขึ้นหลังจากที่มีดรเจซฟัง
00:07:37 → 00:07:40 ซึ่งเป็นชาวแคนาเดียนที่ผมภาคภูมิใจออกมา
00:07:40 → 00:07:44 เสนอต่อสาธารณะว่าไอ้การกินวันละ 3 มื้อ
00:07:44 → 00:07:47 เนี่ยมันเป็นเรื่องวิบัติมันเป็นเรื่อง
00:07:47 → 00:07:51 ที่ผิดธรรมชาติการกินน้อยมื้อไม่ว่า 1
00:07:51 → 00:07:56 มื้อหรือ 2 มื้อแบบภิกษุเป็นสิ่งที่ทุกคน
00:07:56 → 00:08:00 ควรทำและโลกมันก็จะน้อยหลายคนไม่รู้ว่า
00:08:00 → 00:08:05 นักวิจัยในจีนในอินเดียถนัดรับจ๊อบรับทำ
00:08:05 → 00:08:09 วิจัยปลอมสร้างสตูดิโอข่าวถ่ายทำปลอม
00:08:09 → 00:08:12 เพื่อส่งเสริมการขายแล้วเขาทำเป็นธุรกิจ
00:08:13 → 00:08:16 จริงๆและหลายคนไม่รู้ว่างานวิจัยที่ว่า
00:08:16 → 00:08:19 นี้มันเป็น made in china ทำโดยนัก
00:08:19 → 00:08:24 โภชนาการจากประเทศจีนไม่ใช่นักโภชนาการ
00:08:24 → 00:08:27 จากชาติตะวันตกและเพื่อไม่ให้ไอ้คนทำ
00:08:27 → 00:08:32 วิจัยถูกแบนเนี่ยเขาก็ใช้ข้อมูลเก่าที่
00:08:32 → 00:08:35 สำรวจหลายปีก่อนซึ่งก็เป็นงานวิจัยของจีน
00:08:35 → 00:08:39 เช่นกันนำมาวิเคราะห์แล้วก็สรุปใหม่
00:08:39 → 00:08:43 และในฐานะที่ผมเป็นประธานของเพีย Review
00:08:43 → 00:08:46 journal ทางวิศวกรรมเก่าแก่ของประเทศ
00:08:46 → 00:08:49 แคนาดาในสาขาที่ใหญ่ที่สุดทำรายได้มากที่
00:08:49 → 00:08:53 สุดก็คือเหมืองแรกโดยเฉพาะเหมืองมนดินมัน
00:08:53 → 00:08:57 เหมือนผู้พิพากษาที่ผ่านคดีมาเยอะอ่าน
00:08:57 → 00:09:01 สำนวนของอัยการตำรวจแล้วเนี่ยบางทีรู้เลย
00:09:01 → 00:09:05 ว่าผู้ต้องหาถูกยัดข้อหามาถูกยัดยาบ้ามา
00:09:05 → 00:09:08 หรือแม้แต่จำเลยให้การเนี่ยก็บอกได้เลย
00:09:08 → 00:09:12 ว่ามันโกหกคือบอกในใจได้เลยไอ้การอ่านงาน
00:09:12 → 00:09:15 วิจัยมันก็มีลักษณะเดียวกันและนี่มันไม่
00:09:15 → 00:09:19 ใช่ใบแอแต่ว่ามันมาจากประสบการณ์มันมี
00:09:19 → 00:09:23 ลักษณะคาแรคเตอร์ของงานจอมปลอมและงานชิ้น
00:09:24 → 00:09:27 เนี้ยผมจับได้ว่าใครสปอนเซอร์ก็ได้พูดได้
00:09:27 → 00:09:30 แสดงความคิดเห็น้าทั้งๆที่รู้ว่าไอ้งาน
00:09:30 → 00:09:33 ชิ้นเนี้ยจะไม่ได้ตีพิมพ์นะในเพีย Review
00:09:33 → 00:09:37 journal ซึ่งถือว่าซีเรียสและเป็นเครดิต
00:09:37 → 00:09:41 ขององค์กรนั้นแต่ขอให้มันได้พูดขอให้ได้
00:09:41 → 00:09:44 ตีพิมพ์ใน proceedings วัตถุประสงค์สำคัญ
00:09:44 → 00:09:46 ก็คือเพื่อให้ได้ออกสื่อและเป็นงานที่
00:09:46 → 00:09:50 ช่วยมากก็คือใช้ข้อมูลเก่านำมาเรียบเรียง
00:09:50 → 00:09:54 ใหม่ไม่ลงทุนอะไรเลยแต่คุณสังเกตมยว่าเ้า
00:09:54 → 00:09:57 เน้นที่การพลาดหัวข่าวเพราะเจับได้ว่าไอ้
00:09:57 → 00:10:00 คนรุ่นใหม่เอ่านแค่ 4 บรรทัดอ่านแค่พาด
00:10:00 → 00:10:04 หัวข่าวไม่มีเวลาอ่านทั้งฉบับผมเองก็เป็น
00:10:04 → 00:10:07 ถ้าไม่มีเวลาผมก็อ่านแค่พาดหัวข่าวแต่ผม
00:10:07 → 00:10:10 อ่านเฉพาะสื่อที่เชื่อถือได้สื่อที่เชื่อ
00:10:10 → 00:10:13 ถือไม่ได้ผมไม่สามารถอ่านแค่พลาดหัวข่าว
00:10:13 → 00:10:17 และสรุปได้มีผู้เชี่ยวชาญตัวจริงอ่ะเขาค
00:10:17 → 00:10:20 ก็ออกมาบอกว่างานเนี้ยมันเป็นงานช่วยแล้ว
00:10:20 → 00:10:23 เดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้ฟังสิ่งแรกที่เรียก
00:10:23 → 00:10:27 ว่าโป๊ะแตกก็คือมันเป็นงานวิจัย make in
00:10:27 → 00:10:30 china แต่ทำเนียนว่าเป็นอเมริกันคือเขา
00:10:31 → 00:10:34 ใช้ข้อมูลเก่าของทีมวิจัยจีนนั่นแหละอ้าง
00:10:34 → 00:10:38 ว่าเก็บข้อมูลตั้งแต่ 2003 จนถึง 2018
00:10:38 → 00:10:42 ก่อนโควิดก่อนที่จะมีเซ่นฟังซึ่งเป็นบิดา
00:10:42 → 00:10:46 ของไในยุคใหม่และนำมาสรุปใหม่แล้วก็
00:10:46 → 00:10:49 สปอนเซอร์การประชุมเพื่อให้ได้พูดในเวที
00:10:49 → 00:10:52 อเมริกันแต่คนพูดเนี่ยเป็นคนจีนนะเหมือน
00:10:52 → 00:10:55 กับเอาสินค้าจีนไปออกบูทที่อเมริกาคุณนึก
00:10:55 → 00:10:58 ภาพออกมั้ยและที่สำคัญคือมันเป็นการ
00:10:58 → 00:11:02 เปรียบเทบที่ไม่แฟรไม่ใช่ randomized
00:11:02 → 00:11:05 Control try แต่เป็นการสอบถามปากเปล่า
00:11:05 → 00:11:07 หมายความว่าถ้าเกิดมีคนพยายามทำอย่าง
00:11:07 → 00:11:10 เดียวกันเนี่ยแล้วได้ผลไม่ตรงกันเขาก็
00:11:10 → 00:11:14 อ้างว่าเพราะว่าคนมันให้การไม่ตรงกันและ
00:11:14 → 00:11:17 ที่สำคัญที่คนวิจารณ์กันมากก็คือไม่มีการ
00:11:17 → 00:11:21 ควบคุมอาหารกลุ่มที่ทำ If กับกลุ่มที่ไม่
00:11:21 → 00:11:24 ทำ If เนี่ยอาหารมันต้องเหมือนกันนะกิน
00:11:24 → 00:11:27 อะไรก็ต้องกินเหมือนกันและสุดท้ายไม่มี
00:11:27 → 00:11:31 การควบคุมสภาพเดิมของร่างกาย underling
00:11:31 → 00:11:33 Factor
00:11:33 → 00:11:36 คือคนทำวิจัยที่อยากจะรู้ผลจริงๆเนี่ยมัน
00:11:36 → 00:11:40 ต้องเอาฝาแฝดมาเลยทำกิจกรรมเหมือนกันสภาพ
00:11:40 → 00:11:43 ร่างกายเดิมเหมือนกันต่างกันแค่คนนึงทำ f
00:11:44 → 00:11:48 กับอีกคนนึงไม่ทำ If และวิธีการที่ง่าย
00:11:48 → 00:11:52 ที่สุดคุณเอาตัวคุณเองนี่แหละก่อนทำ If
00:11:52 → 00:11:55 กับหลังทำ If แล้วดูว่าสภาพร่างกายของคุณ
00:11:55 → 00:11:59 มันดีขึ้นหรือมันเลวลงคนคเดียวกัน
00:11:59 → 00:12:04 พฤติกรรมด้านอื่นเหมือนเดิมยกเว้นการกิน
00:12:04 → 00:12:09 อันนี้คุณจะเห็นผลชัดเจนบาลีเรียกว่า
00:12:09 → 00:12:15 สันทิตหรือรู้ด้วยการปฏิบัติสันทิตเป็นคำ
00:12:15 → 00:12:19 ที่สำคัญมากในการเรียนพุทธศาสนา
00:12:19 → 00:12:24 รับรู้ได้ด้วยตัวเองนี่คือผลการวิจัยดั้ง
00:12:24 → 00:12:28 เดิมที่งานวิจัยใหม่อันนี้นำมาสรุปใหม่
00:12:28 → 00:12:32 และงานวิจัยทั้ง 2 made in china และ
00:12:33 → 00:12:36 นี่คือผลการวิเคราะห์ดั้งเดิมของเขาแล้ว
00:12:36 → 00:12:40 มันแปลกตรงที่ว่าคุณสังเกตมว่าเมุ่งโจมตี
00:12:40 → 00:12:44 คนที่กินระหว่าง 8-10 ชมงแต่ไม่โจมตีคน
00:12:44 → 00:12:47 ที่กินน้อยกว่า 8 ชมและข้างล่างนี่ก็คือ
00:12:47 → 00:12:50 ความเบี่ยงเบนคุณเห็นมยว่าความเบี่ยงเบน
00:12:50 → 00:12:53 ไอ้เส้นที่มันยาวๆเนี่ยมันยาวมากหมายความ
00:12:53 → 00:12:56 ว่ามันมีความคาดเคลื่อนสูงมากไอ้เส้นที่
00:12:56 → 00:13:01 ว่าเนี้ยยาวกว่าความแตกต่างความห่างของ
00:13:01 → 00:13:04 จุดที่เป็นค่าเฉลี่ยซะอีกและสิ่งที่สำคัญ
00:13:04 → 00:13:08 ที่สุดสมาคมโลกหัวใจของอเมริกาเนี่ยยัง
00:13:08 → 00:13:13 ออกตัวถึง 6 ข้อซึ่งผมไม่เคยเจอสมาคมไหน
00:13:13 → 00:13:16 หน่วยงานวิชาการไหนต้องออกตัวมากขนาดนี้
00:13:17 → 00:13:19 อันดับแรกก็คือผู้ประพันธ์งานนี้ได้รับ
00:13:19 → 00:13:23 เงินสนับสนุนจากไหนเขาก็ดีร์ให้เสร็จเลย
00:13:23 → 00:13:26 และซอสนั้นมาจากจีนแต่เราก็รู้ว่าถ้าซอส
00:13:26 → 00:13:29 มาจากจีนเนี่ยผมเชื่อว่ามีบริษัทใน
00:13:30 → 00:13:33 อเมริกาไปจ้างอีกทีนึงข้อที่ 2
00:13:33 → 00:13:35 statements and conclusion of
00:13:35 → 00:13:37 studies That are Presented at the
00:13:37 → 00:13:39 American Heart association
00:13:39 → 00:13:42 scientific meetings are solly those
00:13:42 → 00:13:45 of the study authors And Do Not
00:13:45 → 00:13:47 necessary reflect The association
00:13:47 → 00:13:51 policy or Position คือสิ่งที่ประกาศ
00:13:51 → 00:13:55 เป็นข้อสรุปของการศึกษานี้ที่เอามา pres
00:13:55 → 00:13:59 ในงานประชุมของสมาคมเนี่ยเป็นของผู้ประพั
00:13:59 → 00:14:03 ล้วนๆและมันไม่จำเป็นจะต้องสอดคล้องกับ
00:14:03 → 00:14:07 นโยบายหรือความมุ่งหวังของสมาคมข้อที่ 3
00:14:07 → 00:14:09 The association Makes No
00:14:09 → 00:14:13 representation or guarantee as to
00:14:13 → 00:14:17 their accuracy or reliability สมาคม
00:14:17 → 00:14:22 ไม่ขอเป็นตัวแทนและไม่รับประกันความถูก
00:14:22 → 00:14:25 ต้องความน่าเชื่อถือได้ของงานประพันธ์
00:14:25 → 00:14:30 ชิ้นนี้ข้อที่ 4 บทคัดยอกที่เอามาแสดงใน
00:14:30 → 00:14:33 ที่ประชุมเนี่ยไม่ใช่งานวิชาการที่ผ่าน
00:14:33 → 00:14:37 การตรวจสอบมาอย่างดีแต่ว่ามันเป็นงานที่
00:14:37 → 00:14:41 ตรวจสอบกันเองคือพูดง่ายๆว่ามันไม่มีการ
00:14:42 → 00:14:45 ตรวจสอบเพียงแต่เขาใช้คำที่มันดูบหน่อย
00:14:45 → 00:14:50 ไม่ด่าตรงๆแบบผม and Are consider
00:14:50 → 00:14:53 based On potential to Add to the
00:14:53 → 00:14:56 diversity of scientific issues and
00:14:56 → 00:14:59 vi discuss at the Meeting และให้
00:14:59 → 00:15:03 ถือว่ามันมีความเป็นไปได้ก็คือ potential
00:15:03 → 00:15:06 เนี่ยในเรื่องประเด็นทางวิทยาศาสตร์ให้
00:15:06 → 00:15:10 เกิดความหลากหลายในการสนทนาในที่ประชุม
00:15:10 → 00:15:15 ยังไม่พอยังออกตัวอีกอันที่ 5 ให้ถือว่า
00:15:15 → 00:15:18 งานประพันธ์ชิ้นนี้เป็นแค่เบื้องต้นเป็น
00:15:18 → 00:15:22 แค่ประถมจนกว่าจะมีการตีพิมพ์ในเพีย
00:15:22 → 00:15:24 Review scientific journal ซึ่งไม่รู้
00:15:24 → 00:15:27 ว่าจะตีพิมพ์ใน journal ไหนผมในฐานะ
00:15:27 → 00:15:31 ประธานเพีย Review ของ journal ที่มีชื่อ
00:15:31 → 00:15:34 เสียงไอ้การที่จะตีพิมพ์ในเพียรรีวิวได้
00:15:34 → 00:15:38 เนี่ยผมจะต้องปิดชื่อผู้ประพัน์ส่งไปให้
00:15:38 → 00:15:42 ผู้เชี่ยวชาญของสาขานั้นซึ่งผมรู้ดีว่ามี
00:15:42 → 00:15:45 ใครบ้างในโลกนี้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะ
00:15:45 → 00:15:47 อ่านเรื่องนี้รู้เรื่องและสามารถวิพากษ์
00:15:47 → 00:15:50 วิจารณ์ได้อย่างดีขณะเดียวกันคนที่เป็น
00:15:50 → 00:15:53 เจ้าของงานเนี่ยก็จะไม่รู้ว่าผมส่งไปให้
00:15:53 → 00:15:56 ใครและแน่นอนผมไม่ได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ
00:15:56 → 00:16:00 คนเดียวบางงานผมส่งให้ถึง 3 ขั้นถ้ามี
00:16:00 → 00:16:03 ความขัดแย้งกันในเรื่องความเห็นผมก็จะตัด
00:16:03 → 00:16:06 สินว่าจะเอายังไงเรียกว่าไม่มีสิทธิ์เล่น
00:16:06 → 00:16:10 เส้นไม่มีสิทธิ์ล็อบบี้สุดท้ายออกมายอม
00:16:11 → 00:16:13 รับว่า The association receives
00:16:13 → 00:16:16 funding Primary from individuals
00:16:16 → 00:16:20 foundations and corporations
00:16:20 → 00:16:23 including pharmaceutical
00:16:23 → 00:16:25 Device manufacturers and other
00:16:25 → 00:16:30 companies ก็คือสมาคมได้รับเงินส่วนมาก
00:16:30 → 00:16:35 จากบุคคลจากมูลนิธิและบริษัทรวมถึงบริษัท
00:16:35 → 00:16:39 ยาบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ
00:16:39 → 00:16:42 เวชภัณฑ์และบริษัทอื่นๆไอ้บริษัทอื่นๆ
00:16:42 → 00:16:47 เนี่ยรวมถึงบริษัทที่ผลิต serials ด้วย
00:16:47 → 00:16:50 Also make donation and fund
00:16:50 → 00:16:52 specific association programs and
00:16:52 → 00:16:55 events ไอ้ท่อนสุดท้ายเนี่ยสำคัญก็คือ
00:16:55 → 00:16:59 หมายความว่ามันสามารถบริจาคให้กับการ
00:16:59 → 00:17:02 ประชุมในครั้งนี้ได้ด้วยเพราะฉะนั้นไอ้คน
00:17:02 → 00:17:04 อ่านเนี่ยมันต้องอ่านให้ดีอ่านให้ถึง
00:17:04 → 00:17:08 บรรทัดสุดท้ายเอาล่ะครับทีนี้มาถึง
00:17:09 → 00:17:13 conspiracy theory ทฤษฎีสมคบคิดที่ผม
00:17:13 → 00:17:16 คิดขึ้นจากประสบการณ์ที่เป็นประธานเพีย
00:17:16 → 00:17:20 Review มันมี winners 4 ฝ่ายไอ้ฝ่ายที่
00:17:20 → 00:17:23 1 ก็คือมหาลัยในจีนได้รับทุนจากบริษัท
00:17:23 → 00:17:26 ขายซีเรียลขายอาหารเช้าขายแป้งขายน้ำตาล
00:17:26 → 00:17:30 เพราะระยะหลังเนี่ยคนจีนกิน Serial กิน
00:17:30 → 00:17:32 อาหารแบบอเมริกันเยอะเหลือเกินยอดขายใน
00:17:32 → 00:17:36 จีนและอเมริกาเนี่ยมันมหาศาลวินเนอร์คน
00:17:36 → 00:17:39 ที่ 2 ก็คือผู้ทำวิจัยคุณสังเกตมั้ยผู้ทำ
00:17:39 → 00:17:42 วิจัยไม่ต้องหาข้อมูลใหม่เลยใช้ข้อมูล
00:17:42 → 00:17:46 หลายปีก่อนแค่มโนวิธีคิดขึ้นมาจากตัวเลข
00:17:46 → 00:17:50 เดิมๆแล้วก็รับทุนวิจัยไปเต็มๆไอ้คนเขียน
00:17:50 → 00:17:54 เพอเนี้ยไม่ใช่ผู้ที่ไปสำรวจนะครับก็คือ
00:17:54 → 00:17:57 มันมีงานสำรวจมาหลายปีแล้วแล้วเทำวิจัยมา
00:17:57 → 00:18:01 แล้วไอ้นี่เอาผลงานการสำรวจเดิมเนี่ยเอา
00:18:01 → 00:18:04 มาเขียนเพอรใหม่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลยและ
00:18:04 → 00:18:07 วินเนอร์คนที่ 3 ก็คือ AHA สมาคมโลกหัวใจ
00:18:08 → 00:18:10 อเมริกันที่ได้รับเงินสปอนเซอร์จากงาน
00:18:10 → 00:18:13 ประชุมจากกลุ่มธุรกิจแต่ก็ไม่เจ็บตัว
00:18:13 → 00:18:16 เพราะตัวเองออกตัวเอาไว้แล้วถึง 6 ข้อคือ
00:18:16 → 00:18:19 ไม่รับรองอะไรทั้งนั้นและวินเนอร์คนที่ 4
00:18:19 → 00:18:22 ก็คือวินเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดก็คือกลุ่ม
00:18:22 → 00:18:26 บริษัทที่ผลิตอาหารเช้าเนี่ยเขาได้โปรโมท
00:18:26 → 00:18:29 ให้คนหันมากินอาหารเช้าเป้าหมายของเมี
00:18:29 → 00:18:32 อย่างเดียวก็คือเพื่อเพิ่มยอดขายซีเรียล
00:18:32 → 00:18:36 ซึ่งมันตกต่ำลงไปทุกปีทั้งใน US ใน EU
00:18:36 → 00:18:40 และแม้แต่ในจีนเองก็ตกต่ำเพราะคนเริ่มรู้
00:18:40 → 00:18:43 ความจริงว่ามันเป็นของไม่ดีหลังจากที่เขา
00:18:43 → 00:18:47 เลิกกินซีเรียลแล้วและหันมากินไข่ต้ม
00:18:47 → 00:18:49 อาหารพื้นๆที่เขากินกันเมื่อ 100 ปีก่อน
00:18:49 → 00:18:53 เนี่ยสุขภาพเขาดีขึ้นเยอะโดยที่เริ่ม
00:18:53 → 00:18:58 สังเกตว่าใครที่มันกินอาหารขยะเนี่ยพอมัน
00:18:58 → 00:19:01 ติดโควิดแล้วมันตายเร็วขณะที่คนที่กิน
00:19:01 → 00:19:04 อาหารธรรมชาติคนที่อ้วนคนที่ป่วยเป็นเบา
00:19:05 → 00:19:08 หวานพอเจอโควิดปั๊บเนี่ยอาการมันหนักกว่า
00:19:08 → 00:19:12 ชาวบ้านเาเขาก็เริ่มรู้กันตรงนี้แล้วหวัง
00:19:12 → 00:19:16 ว่าคุณก็สังเกตว่าเพื่อนของคุณที่ตายเมัก
00:19:16 → 00:19:20 จะมีอาการเบาหวานมีโรคอ้วนหรือแม้แต่เป็น
00:19:20 → 00:19:23 มะเร็งอยู่แล้ว
00:19:23 → 00:19:26 สิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือมันมีงานวิจัย
00:19:26 → 00:19:29 ที่ดีกว่าไอ้งานวิจัยจอมปลอมเนี่ยเยอะมาก
00:19:29 → 00:19:32 อย่างเช่นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิด
00:19:32 → 00:19:36 พื้นเขาบอกว่า Push UPS capacity หรือ
00:19:36 → 00:19:39 ความสามารถในการวิดพื้นต่อ 1 รอบเนี่ยนะ
00:19:39 → 00:19:44 สำคัญกว่าผลของ ldl คอเลสเตอรอลในการที่
00:19:44 → 00:19:48 จะพยากรณ์ว่าใครจะป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
00:19:48 → 00:19:52 และตีพิมพ์ในวารสารแพทย์อเมริกันโดยเขา
00:19:52 → 00:19:54 เปรียบเทียบความเสี่ยงของโรคหัวใจของคน
00:19:54 → 00:19:57 ที่วิดพื้นได้ 10 ครั้ง 20 ครั้ง 30
00:19:57 → 00:20:00 ครั้ง 40 ครั้งและแน่นอนคนที่วิดพื้นได้
00:20:00 → 00:20:03 40 ครั้งเนี่ยมีความเสี่ยงต่อโลคหัวใจ
00:20:03 → 00:20:05 น้อยที่สุดก็หมายความว่าน้ำหนักเขาเบา
00:20:05 → 00:20:08 กล้ามเนื้อเขาแข็งแรงสิ่งที่ผมอยากให้คุณ
00:20:08 → 00:20:12 ดูง่ายๆแล้วมันง่ายมากเลยก็คือรอบเอวตัว
00:20:12 → 00:20:15 แปรที่สำคัญที่สุดของความเสี่ยงของโลกหัว
00:20:15 → 00:20:20 ใจเถ้าดูจากภายนอกก็คือรอบเอวความอ้วน
00:20:20 → 00:20:23 แล้วคุณอยากจะรู้ว่ารอบเอวของคุณดีแค่ไหน
00:20:23 → 00:20:26 คุณลองเข้าเว็บไซต์ Loy Academy เขียน
00:20:26 → 00:20:30 ติดกัน.comแล้วก็ไปกรอกข้อมูลคำนวณในนั้น
00:20:30 → 00:20:33 ได้หรือคุณจะดาวน์โหลดแอป roy Academy
00:20:33 → 00:20:37 ก็ได้มีทั้งใน Android มีทั้งใน iOS
00:20:37 → 00:20:42 ดาวน์โหลดฟรีใช้ฟรีคนที่มี6แพคหรือหุ่น
00:20:42 → 00:20:45 อย่างที่คุณเห็นเนี่ยเรียกว่าอ Mode เป็น
00:20:45 → 00:20:48 หุ่นที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเป็นโรคหัว
00:20:48 → 00:20:51 ใจแต่หมายความว่าจะต้องไม่ใช้สารกระตุ้น
00:20:51 → 00:20:54 สเตอรอยด์นะไอ้การที่คุณจะมีหุ่นอย่างนี้
00:20:54 → 00:20:58 ผมแนะนำว่าให้คุณกินโปรตีนให้ถึง
00:20:58 → 00:21:02 ไอ้ส่วนอาหารเสริมนั้นถ้าคุณมีตังค์คุณก็
00:21:02 → 00:21:04 ซื้อกิน
00:21:04 → 00:21:07 อย่าลืมผมสอนคณิตศาสตร์มปลายให้ฟรีแต่
00:21:07 → 00:21:11 เสียดายที่เด็กยังเข้าไปดูกันน้อยก็ฝาก
00:21:11 → 00:21:15 ประชาสัมพันธ์ด้วยขอขอบพระคุณที่ติดตาม
00:21:15 → 00:21:17 สวัสดีครับ
00:21:17 → 00:21:21 ถ้าคุณสนใจกินแบบลัทธิสุดโต่งที่ผมเป็น
00:21:21 → 00:21:26 ผู้นำให้คนนับหมื่นนับแสนคนกินเนี่ยกิน
00:21:26 → 00:21:29 แบบอดๆอยากๆเนี่ยนะแต่ว่ากินยังไงไม่ให้
00:21:29 → 00:21:33 หิวให้สุขภาพแข็งแรงชะลอไวหรือแม้แต่ย้อน
00:21:33 → 00:21:37 ไวก็หาคลิปชุดสุขภาพมาดูได้หรือจะเข้า
00:21:37 → 00:21:40 Facebook กรุ๊ปกินน้อยอิ่มนานจะได้เห็น
00:21:40 → 00:21:44 ประสบการณ์ของคนอื่นที่เขาปฏิบัติตามแล้ว
00:21:44 → 00:21:48 สุขภาพเดีขึ้นจริงๆไม่เสียค่าใช้จ่ายและ
00:21:48 → 00:21:52 ถ้าเกิดคุณมีสตางค์นะคุณหาซื้อ Extra
00:21:52 → 00:21:56 vergin Olive Oil เอาของแท้ถ้าเกิดคุณ
00:21:56 → 00:21:59 หาซื้อไม่ได้ก็ลองติดต่อ LINE ตามที่เห็น
00:21:59 → 00:22:01 ของแท้ถ้าเกิดคุณเอาไปแช่ตู้เย็นมันจะ
00:22:01 → 00:22:06 เป็นไขรสชาติมันหอมกลืนง่ายไม่บาดคอแบบ
00:22:06 → 00:22:09 ของปลอมหรือของปลอมปนความเข้าใจผิดอันนึง
00:22:09 → 00:22:13 ก็คือปลากระป๋องเขามองว่าเป็นอาหารจังฟ
00:22:13 → 00:22:16 ที่ไม่ควรกินแต่ว่าปลากระป๋องที่ได้
00:22:16 → 00:22:19 มาตรฐานส่งออกไปอเมริกาในยุโรปถือว่าเป็น
00:22:19 → 00:22:24 ฟู้เป็นของดีและด้วยความกรุณาของบริษัท
00:22:24 → 00:22:28 ไทยยูเนียนก็ผลิตตามมาตรฐานในประเทศพัฒนา
00:22:28 → 00:22:33 แล้วตามสเปคตามรสชาติที่ผมกำหนด