00:00:02 → 00:00:10 [เพลง]
00:00:10 → 00:00:13 สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันของคนทั่วไปแต่
00:00:13 → 00:00:17 บางคนนอนหลับยากก็เกิดปัญหาบางคนกลับเกิด
00:00:17 → 00:00:21 ปัญหาตรงกันข้ามคือหลับง่ายเกินไปนอนหลับ
00:00:22 → 00:00:25 ได้ตลอดเวลาแม้ขณะทำกิจกรรมต่างๆก็หลับ
00:00:25 → 00:00:28 ได้หรือแม้ขณะนั่งทำงานหน้าเครื่อง
00:00:28 → 00:00:30 คอมพิวเตอร์แล้วเกิดอาการอ่อนอ่อนเพลีย
00:00:30 → 00:00:32 และเต็มไปด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับ
00:00:32 → 00:00:37 ชีวิตเป็นไปได้ว่าอาจมาจากความเครียดสะสม
00:00:37 → 00:00:40 บวกกับกิจวัตรซ้ำซากในแต่ละวันเป็นไปได้
00:00:40 → 00:00:44 ว่าร่างกายของคุณกำลังเข้าข่ายผิดปกติ
00:00:44 → 00:00:48 ซึ่งนั่นอาจจะไม่ใช่แค่ความผิดปกติธรรมดา
00:00:48 → 00:00:54 แต่อาจเป็นโรคลมหลับหรือภาวะง่วงเกิน
00:00:54 → 00:00:57 นะครับการนอนหลับนะครับคือเป็นการที่ร่าง
00:00:57 → 00:00:59 กายเนี่ยได้พักผ่อนนะครับแล้วก็เป็นการ
00:00:59 → 00:01:02 ซ่อมแซมสวนที่สึกรอแล้วก็เพื่อที่จะให้
00:01:02 → 00:01:05 เราเนี่ยมีกำลังมาทำงานในวันรุ่งขึ้นต่อ
00:01:05 → 00:01:09 ไปแต่ว่าจะมีบางคนนะครับที่มีภาวะง่วง
00:01:09 → 00:01:12 ตลอดเวลาต้องการที่จะหลับนะครับถ้าดูเป็น
00:01:12 → 00:01:14 เผลอๆแล้วเราไม่เข้าใจเค้าเนี่ยจะคิดว่า
00:01:14 → 00:01:16 เขาเป็นคนขี้เกลียดนะครับแต่ว่าจริงๆแล้ว
00:01:16 → 00:01:18 ครับอย่างที่เมื่อสักครู่ได้ดูกันนะครับ
00:01:19 → 00:01:21 เขาบอกว่าเป็นภาวะง่วงเกินนะครับหรือว่า
00:01:21 → 00:01:24 โรคลมหลับนั่นเองนะครับบางคนอาจจะเผชิญ
00:01:24 → 00:01:27 กับภาวะแบบนี้อยู่ด้วยมัน
00:01:27 → 00:01:29 จริงๆแล้วโรคเนี้ยเป็นโรคที่ไม่ควรมอง
00:01:30 → 00:01:32 ข้ามนะคะเพราะว่าจริงๆแล้วการนอนหลับ
00:01:32 → 00:01:34 อย่างที่พี่โก้บอกเลยเป็นสิ่งที่สำคัญต่อ
00:01:34 → 00:01:37 ชีวิตมนุษย์มากเพราะว่าเป็นช่วงที่มีเวลา
00:01:37 → 00:01:40 ที่จะเติมออกซิเจนไปในร่างกายแต่ว่าโรค
00:01:40 → 00:01:42 เนี้ยอาการอาการเด่นๆก็คือเหมือนกับว่า
00:01:43 → 00:01:45 สมมุติว่าเวลาเราทำอะไรอยู่อยู่ดีๆก็หลับ
00:01:45 → 00:01:45 ไปเลย
00:01:45 → 00:01:46 อืวูบ
00:01:46 → 00:01:49 วูบไปเลยสมมุติว่าเราคุยๆอยู่กันนี้อยู่
00:01:49 → 00:01:51 ดีๆก็วูบหลับไปเลยซึ่งมันจะอันตรายมากถ้า
00:01:51 → 00:01:54 เกิดว่าทำงานที่สำคัญอยู่เช่นขับรถ
00:01:54 → 00:01:54 อ
00:01:54 → 00:01:57 ขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุทีนี้เราจะไม่ได้
00:01:57 → 00:01:59 ส่งผลเสียแค่ตัวเราคนเดียว
00:01:59 → 00:02:01 เสียที่เรา
00:02:01 → 00:02:03 รถที่เราไปชนเด้วยหรือว่าถ้าเกิดว่าเราทำ
00:02:03 → 00:02:05 งานเป็นเครื่องจักอยู่อย่างเงี้ค่ะมันจะ
00:02:05 → 00:02:07 ยิ่งอันตราย
00:02:07 → 00:02:09 แต่จริงๆแล้วเนี่ยถ้าเกิดว่ากลางวันเนี่ย
00:02:09 → 00:02:11 ง่วงเยอะเนี่ยควรจะไปดูก่อนเลยว่าอันดับ 1
00:02:11 → 00:02:13 ชั่วโมงการนอนพอหรือเปล่า
00:02:13 → 00:02:14 อ่าต้องย้อนไปดูเมื่อคืน
00:02:14 → 00:02:17 ใช่ถ้าเกิดว่าจริงๆแล้วเรานอนน้อยแล้ว
00:02:17 → 00:02:20 กลางวันเราง่วงอันเนี้ยอันนี้ก็ปกติได้ที
00:02:20 → 00:02:22 นี้เราควรจะมาดูนิดนึงว่าเอ๊ะแล้วยังไง
00:02:22 → 00:02:24 อ่ะเมื่อไหร่ถึงจะเป็นโรคลมหลับหรือว่า
00:02:24 → 00:02:26 เราง่วงธรรมดาหรือว่ายังไงอครับ
00:02:26 → 00:02:29 อ่านี้น่าสนใช่มั้คะว่าเมื่อไหร่จะเป็น
00:02:29 → 00:02:29 หรือไม่เป็น
00:02:29 → 00:02:32 ใช่ครับทีนี้อากาเนี่ยเขาบอกว่าไอ้หลับ
00:02:32 → 00:02:33 ได้ทุกที่ทุกเวลาเนี่ย
00:02:33 → 00:02:37 แม้แต่บางทีทำกิจกรรมพิเศษอาจจะมีความ
00:02:37 → 00:02:41 สำคัญมีเพศสำคัญกับคู่คู่นอนก็เกิดอาการ
00:02:41 → 00:02:43 ลมหลับได้เช่นเดียวกัน
00:02:43 → 00:02:44 อาจจะอันตรายด้วยเพราะว่าคู่อาจจะ
00:02:44 → 00:02:48 หงุดหงิดโอ๊ยเข้าใจปลูกขึ้นมาตื่นขึ้นมา
00:02:48 → 00:02:52 นะครับอาจจะโดนฟ้านงั้นงาได้นะครับวันนี้
00:02:52 → 00:02:55 นะครับเรามีบทสัมภาษณ์ของผู้ที่เชี่ยวชาญ
00:02:55 → 00:02:57 เรื่องโรคลมหลับเนี่ยนะครับซึ่งหลายคนอาจ
00:02:57 → 00:03:01 จะยังไม่รู้จักมันดีสารภาพตามตรงผมก็
00:03:01 → 00:03:03 เพิ่งเคยได้ยินโรคนี้เป็นครั้งแรกวันนี้
00:03:03 → 00:03:03 นะครับ
00:03:04 → 00:03:06 เดี๋ยวเราจะไปดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรค
00:03:06 → 00:03:08 นี้กันนะครับว่าจะเป็นอย่างไรครับเดี๋ยว
00:03:08 → 00:03:11 ไปดูสกูปนี้ครับจากอาจารย์แพทย์หญิง
00:03:11 → 00:03:15 วิสาิริตาตระกูลครับจากสาขาวิชาโรคระบบดม
00:03:15 → 00:03:17 หายใจแล้วก็เวทบำบัดวิกฤตจากภาควิชา
00:03:17 → 00:03:27 อายุศาสตร์นะครับไปติดตามชมกันครับ
00:03:27 → 00:03:31 สวัสดีค่ะแพทย์หญิงวิสาศิริตันตระกูลจาก
00:03:31 → 00:03:42 อ่าศูนย์โลกกันนอนหลับโรงพยาบาลรามาธิบดี
00:03:43 → 00:03:45 ค่ะก็ขึ้นอยู่กับช่วงอายุนะคะถ้าเกิดเป็น
00:03:45 → 00:03:48 ในวัยผู้ใหญ่ทั่วไปก็อยู่ที่ประมาณ 7-9
00:03:48 → 00:03:51 ชมงนะคะในวัยเด็กก็จะมีความต้องการการนอน
00:03:51 → 00:03:55 หลับที่มากกว่าผู้ใหญ่ยกตัวอย่างเช่นใน
00:03:55 → 00:03:57 กรณีที่เป็นเด็กแรกเกิดก็อาจจะอยู่ที่
00:03:57 → 00:03:59 ประมาณ 14-16
00:03:59 → 00:04:02 ช่มงต่อวันนะคะแล้วก็ลดลงตามอายุยกตัว
00:04:02 → 00:04:05 อย่างเช่นถ้าเกิดเป็นในเด็กวัยเรียนอาจจะ
00:04:05 → 00:04:08 ต้องการการนอนหลับ 10-12 ชมงเด็กวัยเรียน
00:04:08 → 00:04:11 ที่เป็นเด็กวัยอนุบาลหรือประถมวัยนะคะ
00:04:11 → 00:04:14 แล้วก็เป็นเด็กอ่าที่เป็นวัยรุ่นก็จะอยู่
00:04:14 → 00:04:26 ประมาณสักอ่า 9-10 ชมงค่ะ
00:04:26 → 00:04:28 อ่าโรคลมหลับหรือภาษาอังกฤษเรียกว่าโรค
00:04:29 → 00:04:33 nคลซี่นะคะก็เกิดจากการที่สมองขาดสารสืบ
00:04:33 → 00:04:36 ประสาทบางชนิดก็คือที่เรียกว่าอ่า
00:04:36 → 00:04:39 ไฮปโปคลีตินหรือออรคซินค่ะซึ่งสารนี้ทำ
00:04:39 → 00:04:41 หน้าที่ที่จะอ่าทำให้การนอนหลับหรือการ
00:04:41 → 00:04:45 ตื่นเนี่ยมีการเสถียรภาพนะคะอาการที่ผู้
00:04:45 → 00:04:47 ป่วยมาก็คือจะมาด้วยเรื่องอาการง่วงนอน
00:04:47 → 00:04:52 มากๆนะคะง่วงจนผิดสังเกตร่วมกับมีอาการ
00:04:52 → 00:04:55 ผิดปกติทางการนอนหลับหลายอย่างเช่นมีผีอำ
00:04:55 → 00:04:58 นะคะมีฝันร้ายหรือว่ามีนอนละเมอขากระตุก
00:04:58 → 00:05:01 นะคะนอกจากนี้จะมีอาการที่น่าสนใจก็คือ
00:05:01 → 00:05:04 อาการที่เรียกว่าคาทากซี่ค่ะก็คืออาการ
00:05:04 → 00:05:09 ที่เวลาคนผู้ป่วยมีหัวเราะขำนะคะหรือมี
00:05:09 → 00:05:13 อารมณ์ขึ้นสูงรุนแรงนะคะก็จะทำให้มีอาการ
00:05:14 → 00:05:17 เข่าอ่อนทรุดนึงลงไปหรือว่าขากรรไกรอ่า
00:05:17 → 00:05:29 หย่อนลงค่ะ
00:05:29 → 00:05:33 สัมพันธ์กับระบบอ่าระบบประสาทในสมองนะคะ
00:05:33 → 00:05:37 ก็คือขาดสารที่สื่อประสาทนิวโรปปไทดที่
00:05:37 → 00:05:40 เรียกว่าไฮโปคีตินหรือออรxซินค่ะที่ผลิต
00:05:40 → 00:05:45 มาจากเซลล์อ่าประสาทอ่าที่อยู่ที่
00:05:45 → 00:05:57 โปสซีเรียไฮปโปทารามัสค่ะ
00:05:57 → 00:06:00 จริงๆก็พบได้ทุกช่วงวัยนะคะแต่วัยที่พบ
00:06:00 → 00:06:03 ได้บ่อยก็จะเป็นช่วงวัยรุ่นค่ะแล้วก็อีก
00:06:03 → 00:06:07 ช่วงนึงก็จะเป็นช่วงอายุประมาณ 30-40 ปี
00:06:07 → 00:06:11 ค่ะแต่ก็สามารถพบได้ในวัยเด็กนะคะหรือใน
00:06:11 → 00:06:14 บางรายที่ไม่ทราบว่าเป็นโลกนี้มาก่อนกว่า
00:06:14 → 00:06:17 จะวินิที่ใช้ได้ก็เข้าสู่อ่าวัยสูงอายุก็
00:06:17 → 00:06:28 มีค่ะ
00:06:28 → 00:06:31 อาการง่วงนอนของโรคนาโคลปซี่หรือลมหลับ
00:06:31 → 00:06:34 อ่ะค่ะมันจะเป็นง่วงนอนแบบมากๆนะคะมากจน
00:06:34 → 00:06:39 ผิดสังเกตนะคะเช่นง่วงนอนขณะขับรถหรือไม่
00:06:39 → 00:06:41 สามารถที่จะดำรงตนอยู่ดีก็หลับเขียน
00:06:42 → 00:06:45 หนังสืออยู่ก็หลับเลยซึ่งอ่าความรุนแรง
00:06:45 → 00:06:49 ของอาการง่วงนอนน่ะมากจนผิดสังเกตมากกว่า
00:06:49 → 00:06:52 ที่เกิดจากการอดนอนโดยทั่วไปหรือเกิดจาก
00:06:52 → 00:06:55 โรคจากการนอนหลับอย่างอื่นเช่นนอนคนแล้ว
00:06:55 → 00:07:07 หยุดหายใจขนาดหลับค่ะ
00:07:07 → 00:07:09 คือถ้าเกิดว่ามีอาการง่วงมากจนผิดสังเกต
00:07:10 → 00:07:13 นะคะเช่นทำ Activity กินข้าวก็ช้อนตกคุย
00:07:13 → 00:07:16 มีโทรศัพท์กับเพื่อนก็ง่วงง่วงมากขับรถก็
00:07:16 → 00:07:20 ง่วงนอนมากนะคะแม้กระทั่งเรานอนหลับชดเชย
00:07:20 → 00:07:23 จนเพียงพอแล้วนะคะคือหลับคิดว่าไม่ได้อด
00:07:23 → 00:07:26 นอนเช่น 7-8 ชมงแต่ยังมีอาการง่วงผิด
00:07:26 → 00:07:30 สังเกตจนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้นะคะใน
00:07:30 → 00:07:33 กรณีนั้นควรจะต้องมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
00:07:33 → 00:07:36 ของอาการง่วงนอนที่อาจจะเป็นอันตรายนะคะ
00:07:36 → 00:07:38 ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นเรื่องของ
00:07:38 → 00:07:41 นโอเลปซี่หรือโรคจากการนอนหลับอื่นๆก็ได้
00:07:41 → 00:07:52 ค่ะ
00:07:52 → 00:07:54 ก่อนอื่นที่จะวินิจฉัยโรครักษาโรคนี้ก็
00:07:54 → 00:07:57 ควรจะต้องวินิจฉัยก่อนนะคะเพราะว่าเป็น
00:07:57 → 00:08:01 โรคที่จะต้องเป็นไปตลอดชีวิตไม่หายดัง
00:08:01 → 00:08:04 นั้นจึงควรพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ
00:08:04 → 00:08:07 โรคการนอนหลับและทำการวินิจฉัยให้ได้ชัด
00:08:07 → 00:08:10 เจนก่อนนะคะเมื่อวินิจฉัยที่ชัดเจนแล้วนะ
00:08:10 → 00:08:13 คะก็คือต้องมาตรวจSลep Test แล้วก็ตรวจ
00:08:13 → 00:08:16 อ่าการนอนหลับผิดปกติตอนกลางวันเมื่อแน่
00:08:17 → 00:08:19 ชัดว่าเป็นโรคนาโคลปซี่หรือลมหลับแล้วก็
00:08:20 → 00:08:33 จะมีการให้ยารักษาไปตลอดค่ะ
00:08:33 → 00:08:36 ยาที่ใช้กระตุ้นประสาทมีอยู่หลายชนิดนะคะ
00:08:36 → 00:08:40 ที่สามารถใช้ได้ค่ะก็จะเป็นการให้ยาที่
00:08:40 → 00:08:43 กระตุ้นให้คนไข้มีอาการตื่นไม่ง่วงหลับ
00:08:43 → 00:08:46 เพื่อที่จะให้คนไข้สามารถอ่าประกอบ
00:08:46 → 00:08:49 กิจวัตรประจำวันและไม่เป็นอันตรายอ่า
00:08:49 → 00:09:00 เมื่อต้องอ่าประกอบกิจกรรมบางอย่างค่ะ
00:09:00 → 00:09:03 [เพลง]
00:09:03 → 00:09:07 การนอนหลับก็ควรจะเข้านอนให้เป็นเวลาอ่า
00:09:07 → 00:09:10 ตามปกตินะคะทั้งเวลาเข้านอนและเวลาตื่น
00:09:10 → 00:09:12 นอนนอนให้ใกล้เคียงกันทุกวันและนอนหลับ
00:09:12 → 00:09:15 พักผ่อนให้พออยู่ดีนะคะก็คืออย่างหน้อย
00:09:15 → 00:09:19 7-8 ชมงรวมถึงในกรณไม่ควรอดนอนนะคะรวม
00:09:19 → 00:09:23 ถึงในกรณีโลกของลมหลับเนี่ยการที่เราได้
00:09:23 → 00:09:26 งีบพักกลางวันเป็นช่วงๆนะคะจะสามารถที่จะ
00:09:26 → 00:09:29 ลดอาการง่วงนอนและทำให้คนไข้สดชื่นขึ้น
00:09:29 → 00:09:33 ได้ด้วยค่ะก็อาจจะเป็นโปรแกรมว่าอาจจะ
00:09:33 → 00:09:48 ต้องนอนงี้เป็นช่วงๆในระหว่างวันค่ะ
00:09:48 → 00:09:51 1 ก็จะทำให้เรานอนหลับได้เพียงพอนะคะ 2
00:09:51 → 00:09:54 ก็คือจะทำให้ระบบอ่าสมองที่ควบคุมเกี่ยว
00:09:54 → 00:09:57 กับการตื่นหลับรวมถึงการควบคุมการหลัง
00:09:57 → 00:10:01 ฮอร์โมนหรืออวัยวะต่างๆนะคะเป็นวงจรที่
00:10:01 → 00:10:17 แน่นอนก็จะทำงานได้อย่างดีค่ะ
00:10:17 → 00:10:20 ในกรณีของโรคลมหลับเนี่ยจะมีอาการที่น่า
00:10:20 → 00:10:24 สนใจก็คือถ้าคนไข้ได้งีบหลับเป็นช่วงๆใน
00:10:24 → 00:10:26 ช่วงกลางวันเมื่อตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสด
00:10:26 → 00:10:30 ชื่นนะคะดังนั้นคนไข้โลกนี้ก็สามารถที่จะ
00:10:30 → 00:10:33 นำการนอนหลับเป็นพักๆในช่วงกลางวันนะคะมา
00:10:34 → 00:10:49 ช่วยในการลดอาการง่วงนอนได้ด้วยค่ะ
00:10:49 → 00:10:53 ส่วนใหญ่เรื่องการขับรถต้องอยู่ในดุล
00:10:53 → 00:10:55 ดุลพินิจของแพทย์ว่าสามารถที่จะขับรถได้
00:10:55 → 00:10:59 หรือไม่นะคะโดยคนไข้จะต้องกินยาอ่า
00:10:59 → 00:11:02 กระตุ้นอย่างสม่ำเสมอและอาจจะต้องมีการ
00:11:02 → 00:11:07 ตรวจอ่าค่ะประเมินอาการง่วงนอนอ่าแล้วก็
00:11:07 → 00:11:20 อ่าความสามารถในการขับรถด้วยค่ะ
00:11:20 → 00:11:23 ยาที่ใช้ในการรักษาโรคอ่าลมหลับก็จะเป็น
00:11:23 → 00:11:27 ยาที่กระตุ้นระบบประสาทนะคะอ่าส่วนนึงก็
00:11:27 → 00:11:29 อาจจะเป็นอนุพันธ์ของแอมเฟตามีนนะคะแต่
00:11:30 → 00:11:33 ว่าอ่าไม่ใช่ตัวแอมเฟetตามีนโดยตรงแล้วก็
00:11:33 → 00:11:36 โดสยาที่ใช้เนี่ยก็อยู่ในความควบคุมของ
00:11:36 → 00:11:39 แพทย์ไม่ใช่โดสยาที่สูงนะคะจึงไม่เกิด
00:11:39 → 00:11:52 ปัญหาเรื่องการเสพติดค่ะ
00:11:52 → 00:11:56 ค่ะผู้ที่ป่วยเป็นโรคลมหลับอ่าไม่ใช่คน
00:11:56 → 00:12:00 ผิดปกตินะคะเขาสามารถมีการทำงานที่มี
00:12:00 → 00:12:04 ประสิทธิภาพได้ดีนะคะก็ถ้าเป็นโรคนี้ก็
00:12:04 → 00:12:19 ควรจะให้โอกาสกับเค้าในการอยู่ในสังคมค่ะ
00:12:19 → 00:12:22 วิธีป้องกันปูไม่มีนะคะเพราะว่ามันเป็น
00:12:22 → 00:12:25 โรคที่อ่ายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดอ่า
00:12:25 → 00:12:28 ส่วนใหญ่เวลาเกิดอาจจะมีเรื่องของไข้หวัด
00:12:28 → 00:12:31 หรือไข้ติดเชื้อทางไวรัสหรืออุบัติเหตุ
00:12:31 → 00:12:34 ทางสมองนำมาก่อนอ่าเกิดคิดว่าเกิดจากภาวะ
00:12:34 → 00:12:38 อตอิมมูนนะคะที่ไปทำลายเซลล์ประสาทดัง
00:12:38 → 00:12:51 นั้นการป้องกันจึงยังไม่มีค่ะ
00:12:51 → 00:12:55 ค่ะก็อย่างกรณีผีอำก็คือภาษาอังกฤษจะ
00:12:55 → 00:12:58 เรียกว่า sleep paralysis นะคะโรคของลม
00:12:58 → 00:13:02 หลับก็จะมีอาการผีอำะนะคะนอกจากนี้ในคน
00:13:02 → 00:13:05 ปกติทั่วไปในบางครั้งถ้าเราอดนอนนะคะมี
00:13:06 → 00:13:11 ความเครียดเราก็อาจจะมีอาการผีอำณี
00:13:11 → 00:13:14 ของโรคลมหลับเนื่องจากขาดสารสื่อประสาท
00:13:14 → 00:13:17 เ่อตัวไฮโปคีตินหรือออแรคซีนไปทำให้การ
00:13:17 → 00:13:21 ควบคุมวงจรการหลับตื่นหรือหลับฝันไม่คง
00:13:21 → 00:13:25 ที่นะคะอ่าทำให้มีภาวะของการหลับฝันแทรก
00:13:25 → 00:13:30 เข้ามาในขณะตื่นค่ะก็จะเกิดเป็นอาการอ่า
00:13:30 → 00:13:33 คัดคาทกซี่ที่กล่าวไปหรืออาจจะเกิดลักษณะ
00:13:33 → 00:13:48 ของผีอำในขณะที่เคลิ้มหลับค่ะ
00:13:48 → 00:13:52 ถ้าใครมีเริ่มต้นมีอาการที่น่าสนใจเมื่อ
00:13:52 → 00:13:55 อย่างที่กล่าวไปเมื่อกี้นี้นะคะก็ 1 ก็
00:13:55 → 00:13:57 ควรจะรีบมาพบแพทย์นะคะเพื่อให้ได้รับการ
00:13:57 → 00:14:01 วินิจฉัยที่ชัดเจนแล้วก็ปฏิบัติกัดตามคำ
00:14:01 → 00:14:03 แนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในเรื่องของ
00:14:03 → 00:14:07 การกินยานะคะอ่ายาบางชนิดไม่สามารถที่จะ
00:14:07 → 00:14:10 ขาดได้เนื่องจากอาการของง่วงนอนหรืออาการ
00:14:10 → 00:14:13 คาทากซี่จะกลับมาเป็นมากขึ้นนะคะถ้าเกิด
00:14:13 → 00:14:16 เราขาดยาไปนอกจากนั้นในเบื้องต้นก็คืออาจ
00:14:16 → 00:14:21 จะนอนหลับนะคะก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอถ้า
00:14:21 → 00:14:24 เกิดยิ่งอดนอนก็จะยิ่งกระตุ้นภาวะนอนง่วง
00:14:24 → 00:14:28 นอนได้มากขึ้นนะคะรวมถึงอาจจะนอนหลับงีบ
00:14:28 → 00:14:32 กลางวันร่วมด้วยนะคะส่วนกิจกรรมที่
00:14:32 → 00:14:35 อันตรายเช่นการขับรถถ้าเกิดว่ายังมีปัญหา
00:14:35 → 00:14:38 เรื่องอาการง่วงนอนที่ยังอ่าแก้ไขได้ไม่
00:14:38 → 00:14:51 ดีก็ไม่แนะนำให้ขับรถค่ะ
00:14:51 → 00:14:55 คุณภาพกับของการนอนที่ดีก็อันแรกเลยก็นอก
00:14:55 → 00:14:58 จากคุณภาพก็คือต้องปริมาณที่เพียงพอก่อน
00:14:58 → 00:15:02 นะคะก็คืออ่าอย่างน้อย 7-8 ชมงหรือมาก
00:15:02 → 00:15:06 กว่านี้ตามอ่าช่วงอายุค่ะแล้วเมื่อนอน
00:15:06 → 00:15:08 หลับนั้นหลับแล้วตื่นขึ้นมาจะต้องรู้สึก
00:15:08 → 00:15:12 สดชื่นนะคะกลางวันไม่ควรจะต้องมีอาการ
00:15:12 → 00:15:16 ง่วงนอนนะคะหากใครมีลักษณะนอนหลับเพียงพอ
00:15:16 → 00:15:20 แล้วแต่ว่ายังมีอาการง่วงนอนอยู่นะคะอาจ
00:15:20 → 00:15:23 จะต้อง 1 นอนหลับให้พอ 2 ก็คืออาจจะต้อง
00:15:23 → 00:15:25 หาสาเหตุของอาการง่วงนอนจากโรคจากการนอน
00:15:25 → 00:15:37 หลับค่ะ
00:15:37 → 00:15:39 ได้ฟังแบบนี้แล้วครับใครที่มีอาการเข้า
00:15:39 → 00:15:42 ข่ายว่าจะเป็นโรคลมหลับนี้นะครับก็ไม่ควร
00:15:42 → 00:15:45 จะนิ่งนอนใจครับรีบไปปรึกษาแพทย์โดยทันที
00:15:45 → 00:15:48 เลยนะครับเพื่อสุขภาพที่ดีระยะยาวของตน
00:15:48 → 00:15:51 เองนะครับต้องขอขอบคุณอาจารย์แพทย์หญิง
00:15:51 → 00:15:54 วิสาศิริตันตระกูลสาขาวิชาโรคระบบหายใจ
00:15:54 → 00:15:57 และเวทบำบัดวิกฤตจากภาควิชาอายุศาสตร์
00:15:57 → 00:16:00 ด้วยนะครับมาให้ความรู้ของเราในเรื่องโรค
00:16:00 → 00:16:03 ลมหลับภาวะมองเกินนะครับทีนี้ว่ามีอีกอัน
00:16:03 → 00:16:05 นึงที่มันอาจจะเกี่ยวเนื่องกันกลายนะครับ
00:16:05 → 00:16:09 คืออาการหยุดหายใจขนาดหลับใช่ค่ะจริงๆ
00:16:09 → 00:16:12 แล้วเนี่ยอย่างอย่างเมื่อกี้ที่คุยกันว่า
00:16:12 → 00:16:15 ถ้าเกิดว่าตอนกลางวันเนี่ยรู้สึกว่าง่วง
00:16:15 → 00:16:17 เยอะเกินเนี่ยอันดับ 1 เลยให้ย้อนไปดูว่า
00:16:18 → 00:16:20 เวลาที่เรานอนเนี่ยเพียงพอหรือเปล่า
00:16:20 → 00:16:22 ซึ่งเวลาที่เพียงพอต่อการนอนเนี่ยขึ้น
00:16:22 → 00:16:24 อยู่กับช่วงอายุด้วยค่ะพี่โก้เด็กๆก็จะ
00:16:24 → 00:16:26 ต้องการการนอนนอนหลับมากอาจจะมากกว่า 7
00:16:26 → 00:16:27 ช่มง
00:16:27 → 00:16:29 พอโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่อย่างเราเนี่ยอาจจะ
00:16:29 → 00:16:32 7-8 หรือว่าถ้าคนสูงอายุอาจจะน้อยกว่า
00:16:32 → 00:16:33 นี้ได้นิดหน่อยครับ
00:16:33 → 00:16:35 อ่าลองกลับไปดูก่อนว่าอันดับ 1
00:16:35 → 00:16:38 เรานอนพอหรือเปล่า 2 อ่ะถ้าเรานอนพอแล้ว
00:16:38 → 00:16:40 ทำไมทำไมเรายังง่วงอยู่เลยอ่ะง่วงทั้งวัน
00:16:40 → 00:16:43 เลยขับรถก็ง่วงทำงานไม่ได้ไม่รู้สึกสด
00:16:43 → 00:16:46 ชื่นอันเนี้ยต้องไปดูแล้วว่าเวลาคุณภาพ
00:16:46 → 00:16:49 ของการนอนของเราเนี่ยเพียงพอหรือเปล่านะ
00:16:49 → 00:16:52 คะซึ่งคุณภาพของการนอนเนี่ยมันมีหลายโรค
00:16:52 → 00:16:52 ครับ
00:16:52 → 00:16:55 อย่างเช่นโรคหยุดหายใจขนาดลับอื
00:16:55 → 00:16:58 อันเนี้ยถ้าพูดสั้นๆเลยที่คนรู้จักก็คือ
00:16:58 → 00:16:59 นอนกล
00:16:59 → 00:16:59 ครับอ่า
00:16:59 → 00:17:02 นอนกลเนี่ยบางคนก็มีหยุดหายใจขนาดหลับบาง
00:17:02 → 00:17:05 คนก็ไม่มีหยุดหายใจขนาดหลับแต่ว่ากรณีที่
00:17:05 → 00:17:07 มีหยุดหายใจขนาดหลับเนี่ยก็คือถือว่าเป็น
00:17:07 → 00:17:10 โรคที่ค่อนข้างรุนแรงแล้วก็พวกเนี้ยจะทำ
00:17:10 → 00:17:12 ให้ออกซิเจนเนี่ยที่ไปเลี้ยงเลือดในตอน
00:17:12 → 00:17:15 กลางคืนแทนที่จะไปเลี้ยงสะสมไว้
00:17:15 → 00:17:18 ก็น้อยลงพอน้อยลงเสร็จอวัยวะก็จะเริ่ม
00:17:18 → 00:17:19 เสื่อมเร็ว
00:17:19 → 00:17:21 บางคนเนี่ยก็จะมีภาวะแทรกซ้อนจากการที่มี
00:17:21 → 00:17:24 หยุดหายใจขนาดหลับได้เช่นคุณโก้รู้มั้คะ
00:17:24 → 00:17:26 ว่าโรคอะไรบ้าง
00:17:26 → 00:17:28 ใช้ใจขนาดหลับแล้วครับ
00:17:28 → 00:17:29 อ่าพอทราบมั้ย
00:17:29 → 00:17:32 อืมันไม่แน่ใจ
00:17:32 → 00:17:34 ไม่แน่ใจอ่ะอย่างเช่นโรคความดันโลหิตสูง
00:17:34 → 00:17:35 ครับอื
00:17:35 → 00:17:37 เพราะว่าพวกเนี้ยเวลาที่ออกซิเจนไปเลี้ยง
00:17:37 → 00:17:39 เลือดน้อยเนี่ยค่ะหัวใจมันก็จะรู้สึกว่า
00:17:39 → 00:17:42 อ้าวทำไมออกซิเจนไม่พอมันก็รู้สึกว่าต้อง
00:17:42 → 00:17:43 ทำงานหนักะ
00:17:43 → 00:17:45 ทำงานหนักเข้าก็จะความดันขึ้น
00:17:45 → 00:17:46 ครับ
00:17:46 → 00:17:49 พอความดันขึ้นเสร็จหัวใจก็จะพอทำงานหนัก
00:17:49 → 00:17:50 เข้าหัวใจโต
00:17:50 → 00:17:52 แต่ว่าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจเนี่ย
00:17:52 → 00:17:53 เส้นเท่าเดิม
00:17:53 → 00:17:55 ก็เลยทำให้รู้สึกรู้สึกว่าหัวใจโตแต่ว่า
00:17:55 → 00:17:58 เส้นเลือดเนี่ยมันเรียงเท่าเดิมนะมันก็
00:17:58 → 00:18:00 เลยรู้สึกว่ามันไม่พอไม่พอเสร็จนานๆเข้า
00:18:00 → 00:18:03 เนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจก็อาจจะตายได้ก็จะทำ
00:18:03 → 00:18:06 ให้เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดตามมา
00:18:06 → 00:18:08 ได้จากการที่หยุดหายใจเนี่ยค่ะ
00:18:08 → 00:18:11 หรือย้อนไปสั้นๆนอนกลอันตรายกว่าที่คิด
00:18:11 → 00:18:11 อือ
00:18:11 → 00:18:13 บางคนเนี่ยก็อาจจะทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ
00:18:13 → 00:18:14 อัมพาต
00:18:14 → 00:18:17 ได้ในอนาคตได้เลยถ้าไม่ได้เกิดการรักษา
00:18:17 → 00:18:17 ครับ
00:18:17 → 00:18:19 อ่าเพราะฉะนั้นโรคอยู่หายใจขนาดหลับเนี่ย
00:18:19 → 00:18:22 ก็อาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้คุณภาพการ
00:18:22 → 00:18:23 นอนเนี่ยไม่ดี
00:18:23 → 00:18:25 นะค่ะแต่จริงๆแล้วมันมีอีกหลายโรคเลยค่ะ
00:18:25 → 00:18:26 ครับ
00:18:26 → 00:18:28 อย่างเช่นแบบบางคนเนี่ยชอบรู้สึกขยับแขน
00:18:28 → 00:18:31 ขาตอนกลางคืนถ้าไม่ได้ขยับขาไม่ได้อะไร
00:18:31 → 00:18:34 เงี้ยค่ะก็จะนอนไม่ได้อ่าอันนี้ลองไป
00:18:34 → 00:18:36 สังเกตดูบางคนบางคนเป็น
00:18:36 → 00:18:38 แต่ถ้าถามว่าถ้าเราอยากจะรู้โดยละเอียด
00:18:38 → 00:18:40 เลยว่าเราเป็นอะไรกันแน่ต้องมาตรวจการนอน
00:18:40 → 00:18:40 หลับ
00:18:40 → 00:18:41 ครับ
00:18:41 → 00:18:43 พี่โก้พอรู้มั้คะว่าที่เมื่อกี้ที่
00:18:43 → 00:18:45 อาจารย์วิสาสิริบอกว่าตรวจการนอนหลับ
00:18:45 → 00:18:46 เนี่ยคืออะไร
00:18:46 → 00:18:51 อืนะฮะคือก็คงต้องไปหาคุณหมอแล้วก็นอนใช้
00:18:51 → 00:18:52 คุณ
00:18:52 → 00:18:54 มีการใส่เครื่องเครื่องมือเช็คเราอย่าง
00:18:54 → 00:18:54 งี้มั้ฮะ
00:18:54 → 00:18:58 ใช่จริงๆแล้วถ้าพูดสั้นๆก็คือเราจะตรวจ
00:18:58 → 00:19:01 พยาเหมือนกับว่าสรีระวิทยาทุกอย่างเลยใน
00:19:01 → 00:19:03 ขณะที่เราหลับเขาก็จะดูอะไรบ้างแต่ว่าเขา
00:19:03 → 00:19:06 จะมีตัววัดเพียบเลยค่ะพี่กุ๊
00:19:06 → 00:19:09 ตั้งแต่วัดออกซิเจนวัดการหายใจวัดคลื่น
00:19:09 → 00:19:10 หัวใจ
00:19:10 → 00:19:10 ครับ
00:19:10 → 00:19:14 แล้วก็มีติดคลื่นไฟฟ้าดูคลื่นไฟฟ้าสมอง
00:19:14 → 00:19:17 เงี้ยค่ะก็คือวัดพยาพยาแบบสรีลาวิทยาทุก
00:19:17 → 00:19:19 อย่างแล้วก็เพื่อที่จะดูว่าออกซิเจนที่
00:19:19 → 00:19:21 เฉลี่ยต่อคืนน่ะดีมั้ยครับ
00:19:21 → 00:19:24 มีการนอนกล่าวมีการหยุดหายใจขนาดหลับหรือ
00:19:24 → 00:19:27 เปล่ามีการขยับของหน้าอกหรือว่ามีการขยับ
00:19:27 → 00:19:29 ของท้องหรือเปล่าตัวนี้ก็จะสามารถ
00:19:29 → 00:19:30 วินิจฉัยได้
00:19:30 → 00:19:33 ว่าโอเคคุณภาพการนอนเนี่ยดีมั้ยต้องรักษา
00:19:33 → 00:19:35 มั้ยอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่า
00:19:35 → 00:19:38 ที่พูดเรื่องนอนกลเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยคน
00:19:38 → 00:19:41 ส่วนใหญ่เป็นแต่ว่าไม่รู้ว่ามันอันตราย
00:19:41 → 00:19:42 ไม่เป็นไรอ่ะแค่รำคาญ
00:19:42 → 00:19:43 อ่า
00:19:43 → 00:19:46 ตัวเองไม่รำคาญหรอกแต่คนรอบข้างรำคาญ
00:19:46 → 00:19:48 แต่จริงๆแล้วอัตราสุขภาพของตนเอง
00:19:48 → 00:19:50 ตัวเองที่บอกว่าอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนใน
00:19:51 → 00:19:52 อนาคตได้เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าใครรู้สึก
00:19:52 → 00:19:55 ว่าเอ๊ะแล้วถ้าเกิดว่านอนคนเดียวจะรู้ได้
00:19:55 → 00:19:55 ไง
00:19:55 → 00:19:56 ก็นั่นน่ะสิฮะนี่ปัญหา
00:19:56 → 00:19:57 อ่า
00:19:57 → 00:19:58 ตั้งกล้องทิ้งไว้เหรอ
00:19:58 → 00:20:02 รู้ดิอ๋อตั้งกล้องทิ้งไว้ได้
00:20:02 → 00:20:03 ก็จะมีวิธีสังเกตนิดนึงว่า
00:20:04 → 00:20:06 เวลาที่เรานอนอยู่เนี่ยมีตื่นหายใจเฮือก
00:20:06 → 00:20:07 กลางคืนหรือเปล่า
00:20:07 → 00:20:08 สะดุ้งขึ้นมา
00:20:08 → 00:20:10 สะดุ้งเฮือกขึ้นมาเลยกลางคืนอ่ะอันนี้
00:20:10 → 00:20:11 ต้องสงสัยแหละ
00:20:11 → 00:20:13 เอ๊ะคืนนึงสะดุ้งบ่อย
00:20:13 → 00:20:15 เอ๊ะมีอยู่หายใจขนาดหลับหรือเปล่า
00:20:15 → 00:20:17 อออันนี้ก็เข้าขายถ้าเกิดมีอาการคล้ายๆ
00:20:17 → 00:20:22 แบบนี้นะครับก็ไปปรึกษาที่รามาเองก็อมี
00:20:23 → 00:20:24 ด้วยแน่นอนค่ะ
00:20:24 → 00:20:27 อ่ะนะครับมาได้นะครับที่โรงงานรามาธิบดี
00:20:27 → 00:20:29 นะครับนั่นคือทั้งหมดที่วันนี้อ่าช่วงนี้
00:20:29 → 00:20:31 เอามาฝากกันครับเรื่องของการนอนหลับนะ
00:20:31 → 00:20:35 ครับโดยเฉพาะโรคลมหลับที่หลายๆคนอาจจะไม่
00:20:35 → 00:20:38 ค่อยได้ยินมาก่อนนะครับมันก็อันตรายอย่าง
00:20:38 → 00:20:40 ที่หลายคนได้ดูไปเมื่อสักครู่นี้นะครับ
00:20:40 → 00:20:42 เดี๋ยวพักกันสักครู่นึงครับช่วงหน้ากลับ
00:20:42 → 00:20:44 มาครับ Celebrity Inspire นะครับก็จะมี
00:20:44 → 00:20:48 เรื่องราวของ 1 คนนะครับที่คอยเกียงข้าง
00:20:48 → 00:20:51 คุณตุบสแลมตลอดเวลาที่วิ่งวิ่งเพื่อโรง
00:20:51 → 00:20:53 พยาบาลบางสะพานนะครับเดี๋ยวมาติดตามกัน
00:20:53 → 00:20:55 ช่วงหน้าครับ
00:20:55 → 00:21:06 [เพลง]