00:00:00 → 00:00:03 โรคลมชักเกิดจากการทำงานของสมองที่ผิด

00:00:03 → 00:00:07 ปกติทำให้มีการส่งสัญญาณประสาทผิดปกติ

00:00:07 → 00:00:10 เกิดขึ้นทันทีและกระจายออกไปตามสมองส่วน

00:00:11 → 00:00:14 อื่นๆทำให้เกิดอาการชักเกร็งกล้ามเนื้อ

00:00:14 → 00:00:18 กระตุกอาการเป็นๆหายๆและไม่สามารถรู้ได้

00:00:18 → 00:00:22 ว่าอาการจะกำเริบตอนไหนจึงทำให้ผู้ป่วย

00:00:22 → 00:00:25 และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดรู้สึกวิตกกังวลได้

00:00:25 → 00:00:29 หากไม่รู้วิธีการรับมืออาการชักจะแตกต่าง

00:00:29 → 00:00:33 กันไปเช่นอาการชักเฉพาะที่ทำให้เกิดอาการ

00:00:33 → 00:00:38 ต่างๆโดยที่ไม่รู้ตัวเช่นอาการชาการ

00:00:38 → 00:00:42 กระตุกของแขนขาหรือใบหน้าข้างใดข้างนึง

00:00:42 → 00:00:46 เป็นซ้ำๆโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้นอกจาก

00:00:46 → 00:00:51 นี้อาจมีอาการคลื่นไส้ปวดท้องหูแว่วเห็น

00:00:51 → 00:00:56 ภาพหลอนหรือหัวใจเต้นผิดปกติอาการชักแบบ

00:00:56 → 00:00:59 เหม่อลอยอาจมีอาการชักเฉพาะที่เตือนนำมา

00:00:59 → 00:01:03 ก่อนแล้วตามด้วยอาการเหม่อลอยผู้ป่วยมัก

00:01:03 → 00:01:07 ทำท่าเคี้ยวปากหรือมือเกร็งขยับไปมา

00:01:07 → 00:01:10 เคลื่อนไหวแขนขาแบบไม่มีจุดหมายอาการ

00:01:10 → 00:01:13 เหม่อลอยจะอยู่นานไม่กี่วินาทีหรืออาจ

00:01:13 → 00:01:17 หลายนาทีได้หลังจากนั้นผู้ป่วยจะสับสน

00:01:17 → 00:01:21 หรือในบางรายอาจจะพูดไม่ได้หรือยกแขนข้าง

00:01:21 → 00:01:25 ใดข้างนึงไม่ได้จนกว่าจะกลับเป็นปกติ

00:01:25 → 00:01:29 อาการชักเกร็งกระตุกทั้งตัวหรือที่เรียก

00:01:29 → 00:01:33 ว่าลมบ้าหมูผู้ป่วยจะสูญเสียการรับรู้และ

00:01:33 → 00:01:38 ล้มลงชักเกร็งตาเหลือกค้างน้ำลายฟูมปาก

00:01:38 → 00:01:41 อาจกัดลิ้นตนเองได้อาการมักจะเกิดขึ้น

00:01:41 → 00:01:46 อยู่ประมาณ 2-3 นาทีและจะมีอาการเพลียและ

00:01:46 → 00:01:50 นอนหลับไปหลังจากหยุดชักอาการชักแบบเหม่อ

00:01:50 → 00:01:53 นิ่งพบบ่อยในวัยเด็กผู้ป่วยจะจ้องไปข้าง

00:01:53 → 00:01:57 หน้าอย่างไร้จุดหมายอาการมักเกิดในระยะ

00:01:57 → 00:02:00 เวลาสั้นๆแล้วกลับมาทำสิ่งที่ค้างอยู่ต่อ

00:02:00 → 00:02:04 ไปโดยมักจะไม่มีการเคลื่อนไหวของแขนขา

00:02:04 → 00:02:07 วิธีการรับมือเมื่อเจอผู้ป่วยเกิดอาการ

00:02:07 → 00:02:10 ชัก 1 ประคองผู้ป่วยให้อยู่ในที่ที่ปลอด

00:02:10 → 00:02:15 ภัยแล้วจัดให้นอนลงให้อยู่ในท่าตะแคงตัว

00:02:15 → 00:02:19 คลายเสื้อผ้าให้หลวม 2 ไม่เอาของเข้าปาก

00:02:19 → 00:02:24 ผู้ป่วย 3 ห้ามผูกมัดหรือกดตัวผู้ป่วย 4

00:02:24 → 00:02:27 เมื่อผู้ป่วยหายจากอาการชักยังไม่ควรให้

00:02:27 → 00:02:32 ทานสิ่งใดเพราะอาจเกิดการรักได้ 5 อาการ

00:02:32 → 00:02:35 ชักส่วนใหญ่มักจะไม่เกิน 5 นาทีถ้าหาย

00:02:35 → 00:02:39 แล้วให้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุ

00:02:39 → 00:02:42 หากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ต่อเนื่องรับ

00:02:42 → 00:02:45 ประทานยาอย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามคำแนะ

00:02:45 → 00:02:48 นำของแพทย์อย่างเคร่งครัดก็มีโอกาสหายจาก

00:02:48 → 00:02:52 โรคลมชักได้นะครับถ้าหากคลิปนี้มี

00:02:52 → 00:02:56 ประโยชน์อย่าลืมกดถูกใจกดติดตามและส่ง

00:02:56 → 00:03:00 คลิปดีๆไปให้คนที่คุณรักผู้ที่สนใจตรวจ

00:03:00 → 00:03:03 ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองติดต่อศูนย์

00:03:03 → 00:03:09 สมองโรงพยาบาลธนบุรีโทร 1645 กด 1 ต่อ

00:03:09 → 00:03:14 7870 ถึง 2 นะครับ