00:00:00 → 00:00:04 The beds ThaiPBS คาสวีเวิลด์ ys
00:00:04 → 00:00:05 boice
00:00:05 → 00:00:10 ในทุกวันเนี้ยดารานักร้องนักแสดงในทีวี
00:00:10 → 00:00:13 เนี่ยหลายคนที่อุสวยนะคนเนี้ยแต่พอเล่น
00:00:14 → 00:00:17 ละครแล้วคนไม่ติดอ่ะเขาก็มีความสามารถนะ
00:00:17 → 00:00:21 เขาก็สวยนะแต่ทำไมไปต่อไม่ได้อ่ะแต่บางคน
00:00:21 → 00:00:25 น่ะห้าตามีตำหนินะอาจจะไม่สวยเว่อร์เลย
00:00:25 → 00:00:28 ที่สวยทั้งหมดอ้ะแต่ทำไมโดยรวมแล้วอ้ะมัน
00:00:28 → 00:00:31 เป็นคนมีเสน่ห์ในแง่ของความสวยความหล่อ
00:00:31 → 00:00:33 เนี่ยมันก็เป็นปัจจัยที่จะดึงดูดคนเข้ามา
00:00:33 → 00:00:36 หาเราหรือให้ความสนใจถ้าไม่มีเสน่ห์มา
00:00:36 → 00:00:39 ปรุงแต่งเนี่ยมันก็จะเหมือนกับเหมือนกับ
00:00:39 → 00:00:42 เราเอารูปภาพมาติดอ่ะแต่ว่าในแง่ของการ
00:00:42 → 00:00:44 ที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนนั้นไม่
00:00:44 → 00:00:45 มี
00:00:45 → 00:00:46 [เพลง]
00:00:46 → 00:00:50 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคไทยฟังราย
00:00:50 → 00:00:56 การโรงหมอกับดิฉันสุรีย์พรวงศ์สถิตพรค่ะ
00:00:56 → 00:00:59 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับสู่รายการ
00:00:59 → 00:01:01 โรงหมอนี่ Thai PBS ผัดค้าค่ะวันนี้พบ
00:01:01 → 00:01:04 กันเช่นเคยนะคะเราจะคุยกันถึงเรื่องของ
00:01:04 → 00:01:08 สวยยกับมีเสน่ห์ต่างกันตรงไหนหลายคนอาจจะ
00:01:08 → 00:01:12 เคยได้ยินนะคะว่าคนนี้สวยจังเลยคนนี้ทำไม
00:01:12 → 00:01:15 ดูมีเสน่ห์จังนะคะให้เป็นยังไงสวยกับมี
00:01:15 → 00:01:18 เสน่ห์หรือแบบหล่อแล้วแบบเอกเขามีเสน่ห์
00:01:18 → 00:01:21 ไหมหรือว่าจะมีทั้งสองอย่างด้วยจะดีหรือ
00:01:21 → 00:01:23 เปล่านะคะเดี๋ยววันนี้เราคุยกับผู้ช่วย
00:01:23 → 00:01:25 ศาสตราจารย์ดร.จันทร์วิภาดีเราสัมพันธ์
00:01:25 → 00:01:28 ผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้าน
00:01:28 → 00:01:30 สมเด็จเจ้าพระยาผู้เชี่ยวชาญด้านความ
00:01:30 → 00:01:32 สัมพันธ์และครอบครัวค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์
00:01:32 → 00:01:34 ค้าหน้าสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุก
00:01:34 → 00:01:38 ท่านค่ะวันนี้เป็นหัวข้อนึงค่ะอาจารย์ที่
00:01:38 → 00:01:41 รู้สึกว่าเราจะมีความหวัง
00:01:41 → 00:01:44 อยู่ปลายอุโมงค์ความไม่สวยก็เป็นเห็ด
00:01:44 → 00:01:47 อย่างหนึ่งทางไม่เป็นอุปสรรคในการที่จะทำ
00:01:47 → 00:01:49 อะไรต่อมีอะไรที่เราอยากจะทำในบางอย่าง
00:01:49 → 00:01:53 ให้บางทีอาจารย์อยู่นี้ต้องยอมรับจริงๆ
00:01:53 → 00:01:55 ว่าการใช้เพียงแค่ความสามารถอย่างเดียว
00:01:55 → 00:02:00 อ่ะบางทีมันไปไม่ถึงห่างคนต้องบอกว่าหตัว
00:02:00 → 00:02:05 นี้นะที่ได้ยินมาต้องสวยต้องรอหน้าตาดี
00:02:05 → 00:02:09 ค่ะแต่ยังไงก็แล้วแต่มีเสน่ห์สักนิดนึง
00:02:09 → 00:02:13 ด้วยโอโห้ยิ่งครบองค์ประกอบโอ้โหอ่าดีงาม
00:02:13 → 00:02:16 มากเลยอันนี้เราทำอาจารย์ก่อนว่าคำว่าสวย
00:02:16 → 00:02:20 อ่านหรือหล่อกับมีเสน่ห์เนี่ยคือคำสามคำ
00:02:20 → 00:02:25 นี้มันต่างกันยังไงไหมคะมันดูแล้วมันใคร
00:02:25 → 00:02:27 จะเหมือนจะคล้ายแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่
00:02:27 → 00:02:31 คล้ายนั้นก็มีความแตกต่างของมันอยู่เอา
00:02:31 → 00:02:34 ง่ายๆเลยก็คือเวลาที่เรามองเห็นอะไรปั๊บ
00:02:34 → 00:02:37 เนี่ยสิ่งแรกที่มันจะมาปะทะก็คือทางสายตา
00:02:37 → 00:02:40 ถูกไหมคะค่ะหน้าที่มันจะดึงดูดสายตาเรา
00:02:40 → 00:02:43 เนี่ยอะไรที่ดึงดูดสายตาเราข้างในเรื่อง
00:02:43 → 00:02:47 ของของความสวยความหล่อมันจะมาก่อนจะถูก
00:02:47 → 00:02:50 ไหมลูกนะฮะเพราะว่าตาเราพอมันไปประทับมัน
00:02:50 → 00:02:53 ก็เห็นรูปลักษณ์ภายนอกก่อนว่าสวยหรอเพราะ
00:02:53 → 00:02:56 ฉะนั้นความสวยความหล่อเนี่ยมันเป็นลักษณะ
00:02:56 → 00:02:59 ของการอ่านเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาเราได้
00:02:59 → 00:03:03 มากกว่าก็ช่างแต่พอดึงดูดเข้าไปใกล้ๆแล้ว
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยนะฮะได้พูดคุยได้สัมผัสกันทาง
00:03:06 → 00:03:09 ปฏิสัมพันธ์อะไรก็ตามเนี่ยเคยได้ยินคำพูด
00:03:09 → 00:03:13 ในโลกว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอมโหนี้ได้ยินมา
00:03:13 → 00:03:16 นะคะนั่นก็หมายความว่าบางคนในสวยแต่ไม่มี
00:03:16 → 00:03:20 เสน่ห์นะคะก็คือหมายความว่าไม่ได้มี
00:03:20 → 00:03:23 เสน่ห์ให้คนติดตามหรืออยากเข้าใกล้หรือ
00:03:23 → 00:03:27 อยากที่จะพูดคุยด้วยหรืออยากคบหาต่อกันไป
00:03:27 → 00:03:31 ยาวๆนะฮะเพราะฉะนั้นรู้ดูตัวอย่างก็ได้
00:03:31 → 00:03:35 ค่ะในทุกวันเนี้ยดารานักร้องนักแสดงใน
00:03:35 → 00:03:39 ทีวีเนี่ยหลายคนที่อุสวยนะคนเนี้ยแต่พอ
00:03:39 → 00:03:42 เล่นละครแล้วคนไม่ติดอ่ะไม่เห็นไหมคะมา
00:03:42 → 00:03:44 ที่คนไม่ติดก็หมายความว่าเขาก็มีความ
00:03:44 → 00:03:49 สามารถนะเขาก็สวยนะแต่ทำไมไปต่อไม่ได้อ่ะ
00:03:49 → 00:03:53 แต่บางคนน่ะหน้าตามีตำหนินะอาจจะไม่ได้
00:03:53 → 00:03:56 เลย River เลยที่สวยทั้งหมดอ้ะเช่นอ้ะทำ
00:03:56 → 00:04:00 มาดูกันเป็นส่วนส่วนเนี่ยนะฮะป้าก็ดีอีก
00:04:00 → 00:04:03 นิดนึงปากหนาไปหน่อยจมูกล้านไปนิดนึงแต่
00:04:03 → 00:04:07 ทำไมโดยรวมแล้วก็มันเป็นคนมีเสน่ห์ซึ่งคน
00:04:07 → 00:04:10 อยากติดตามอย่างดูอยากอะไรอย่างนี้นะคะ
00:04:10 → 00:04:13 เพราะฉะนั้นตรงนี้น่าจะเห็นเลยว่าในแง่
00:04:13 → 00:04:15 ของความสวยความหล่อเนี่ยมันก็เป็นปัจจัย
00:04:15 → 00:04:18 ที่ดึงดูดคนเข้ามาหาเราหรือให้ความสนใจ
00:04:18 → 00:04:21 แต่ในขณะเดียวกันถ้าไม่มีเสน่ห์มาปรุง
00:04:21 → 00:04:23 แต่งเนี่ยมันก็จะเหมือนกับเหมือนกับเรา
00:04:23 → 00:04:26 เอารูปภาพมาติดอ่ะคนที่ถ่ายรูปสวยอ่ะร่วม
00:04:26 → 00:04:30 มาแปะติดไว้แต่ว่าในแง่ของการที่จะมีความ
00:04:30 → 00:04:33 สัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนนั้นไม่มีนั่งรัก
00:04:33 → 00:04:37 เพราะฉะนั้นเนี่ยโดยรวมเนี่ยเข้าจึงบอก
00:04:37 → 00:04:40 ว่าเสน่ห์ที่จะดึงดูดจิตใจคนได้นะคะที่ทำ
00:04:40 → 00:04:43 ให้ผู้คนอยากเข้ามาใกล้อย่าพูดคุยยาคบหา
00:04:43 → 00:04:47 อะไรต่างๆเนี่ยเอ่อถ้าจะให้แบ่งเนี่ยแบ่ง
00:04:47 → 00:04:49 ได้เป็น 3 ส่วนด้วยกันก็คือเสน่ห์ทั้ง
00:04:49 → 00:04:52 ด้านทั้งทางกายนะฮะเราเรียกว่าเสน่ห์ทาง
00:04:52 → 00:04:55 ภาษากายอันที่สองคือเสน่ห์ด้านความฉลาด
00:04:55 → 00:04:58 ทันคนข้างและปฏิภาณไหวพริบและเนี่ยนะคะ
00:04:58 → 00:05:01 และที่ 3 ก็คือเป็นเสน่ห์ทางด้านความเป็น
00:05:01 → 00:05:04 ตัวของตัวเองเรามาพูดทีละประเด็นเนอะนะฮะ
00:05:04 → 00:05:08 อันแรกคือพันเสน่ห์ทางด้านภาษากายนะคะ
00:05:08 → 00:05:13 นั่นก็คือตั้งแต่รอยยิ้มนะฮะท่าทางสายตา
00:05:13 → 00:05:17 นะการสบตาการทำไมชายตาบางคนเนี่ยลูกเคย
00:05:17 → 00:05:22 ได้ยินไหมคะคำว่าสายตาด่าคนได้อ่ะสวัสดี
00:05:22 → 00:05:25 ไหมค่ะมองไปในโอโห้และสะหมีพิฆาตหรือตา
00:05:25 → 00:05:29 เนี่ยเป็นคำถามตาเป็นคำตอบอะไรอย่างนี้นะ
00:05:29 → 00:05:32 ฮะและดวงตาเป็นหน้าต่างของอะไรล่ะหรือแม้
00:05:32 → 00:05:36 แต่ถ้าทางการยิ้มแย้มนะการพูดน้ำเสียงก็
00:05:36 → 00:05:40 มีส่วนวิธีพูดก็มีส่วนค่ะนะคะบางคนพูด
00:05:40 → 00:05:43 ทำลายสัมพันธ์เนอะบางคนเนี่ยพูดแล้วคน
00:05:43 → 00:05:46 เมตตาเอ็นดูนะคะอันนี้ก็คือเป็นภาษาด้าน
00:05:46 → 00:05:48 ภาษากายทั้งหมดเลยที่จะสื่อสารกับพวกขน
00:05:48 → 00:05:52 คืออันนี้มันก็เป็นส่วนที่หลายคนจะเห็นใน
00:05:52 → 00:05:55 ภาพครั้งแรกเลยใช่แล้วมันก็เป็นนี่ค่ะ
00:05:55 → 00:05:57 ปั่นที่ครั้งแรกหรือยังไม่ได้พูดคุยกัน
00:05:57 → 00:06:00 แค่เห็นภาพในเรื่องความสวยความหล่อก็จะ
00:06:00 → 00:06:03 จับนั้นคือหาจากนั้นอย่างเดียวภาษากายบาง
00:06:03 → 00:06:06 ที่เห็นปั๊บแล้วมันมีการชำเรืองชะม้าย
00:06:06 → 00:06:09 อะไรอย่างเงี้ยหรือผู้หญิงอะที่ boron
00:06:09 → 00:06:12 เค้าพูดนะคะว่าผู้หญิงยามอุทัศน์เนี่ยสวย
00:06:12 → 00:06:15 ที่สุดอุทัศน์เคยได้ยินไหมลูกแปลว่าจะเธอ
00:06:15 → 00:06:19 นายนะฮะแม้แต่พอผู้ชายหญิงสายตาเปลืองไป
00:06:19 → 00:06:22 แล้วเธอสะเทินๆแล้วเมินหลบไม่มีเสน่ห์
00:06:22 → 00:06:25 เหลือเกินอะไรอย่างเงี้ย 2 ในงานสายตาสู้
00:06:25 → 00:06:28 กลับไม่ใช่ไม่ใช่ค่ะนะคะมันก็เป็นอะไรที่
00:06:28 → 00:06:32 เป็นภาษากายอย่างหนึ่งถูกไหมลูกไอ้ท่าที
00:06:32 → 00:06:34 ทำไมชายตาอะไรต่างๆเราเนี่ยหรือส่งสายตา
00:06:34 → 00:06:38 พิฆาตสงสัยตาด่ากับมาให้อ่ะมันเป็นด้าน
00:06:38 → 00:06:42 ภาษากายทั้งสิ้นนะฮะเหมือนกะทางกันนั่ง
00:06:42 → 00:06:45 การยืนการเดินทุกอย่างอ่ะลูกไม่เหมือนกับ
00:06:45 → 00:06:48 ยุคนี้เนี่ยเราใช้คำว่ายุคนี้น่ะคือสมัย
00:06:48 → 00:06:51 นี้เราต้องบอกว่าเป็นจริตเป็นจานราดก็มี
00:06:51 → 00:06:57 ส่วนฉะนั้นแสดงท่าทางได้นะฮะโอ๋ทีนี้มาดู
00:06:57 → 00:07:00 เสน่ห์ด้านที่สองก็คือด้านอ้าวแม่ขอให้คำ
00:07:00 → 00:07:03 ว่าด้านความฉลาดและทันคนนะเกี่ยวกับ
00:07:03 → 00:07:06 ปฏิภาณไหวพริบอะไรอย่างเงี้ยให้ก็คือมัน
00:07:06 → 00:07:10 จะแสดงออกมาทางไหนเช่นคุยสนุกคุยแล้วมี
00:07:10 → 00:07:13 เสน่ห์อ่ะนะฮะพูดแล้วคนเคลือบเริ่มคล้อย
00:07:13 → 00:07:18 ตามนะคะหรือว่ามีมุกนะฮะมีมุกเด็ดๆบางคน
00:07:18 → 00:07:21 ในพูดน้อยนะจะพูดมาคำแล้วเพื่อนไงหลังหมด
00:07:21 → 00:07:24 เลยนะคะหรือว่ามีความรอบรู้ในเรื่องนั้น
00:07:24 → 00:07:27 เรื่องนี้นะคะเรียกว่าคุยด้วยแล้วออกรส
00:07:27 → 00:07:30 ออกชาติหน้ากันอยากคุยอีกอยากพูดคุยด้วย
00:07:30 → 00:07:33 เรื่อยๆนะฮะถ้าเพราะฉะนั้นเนี่ยเคยได้ยิน
00:07:33 → 00:07:36 คำพูดในโลกที่เธอบอกว่าคารมเป็นต่อรูป
00:07:36 → 00:07:40 หล่อเป็นรองวันนี้ใช้ได้เลยนะคะนั่นก็คือ
00:07:40 → 00:07:42 บางคนเนี่ยไม่หล่อหรอกแต่คุยด้วยแล้วสนุก
00:07:42 → 00:07:45 อ้ะมันมีความสุขหรือไม่มีความรู้สึกที่ดี
00:07:45 → 00:07:49 อย่างที่สมัยก่อนเขาบอกว่าคนที่ชนะใจนาง
00:07:49 → 00:07:52 เอกลิเกในสมัยโบราณนะคะมักจะเป็นตัวตลก
00:07:52 → 00:07:56 พระเองที่เล่นคู่กันให้ได้ไม่ได้แล้วค่ะ
00:07:56 → 00:08:00 นางเอกไม่วางใจให้นะหล่อเกินไปนะต่อ
00:08:00 → 00:08:03 ตีกับแม่ยกสาวนะคะก็มักจะได้แต่งงานกับ
00:08:03 → 00:08:06 ตัวตลกนี่แหละเพราะว่าคารมเป็นต่อนะฮะ
00:08:06 → 00:08:09 แล้วก็มีมุกอะไรต่างๆที่ทำให้ผู้หญิง
00:08:09 → 00:08:11 หัวเราะขบขันแล้วอยู่ด้วยแล้วมีความสุข
00:08:11 → 00:08:16 เห็นไหมคะอันนี้ก็คือในประเด็นที่สองมาดู
00:08:16 → 00:08:19 ประเด็นที่สามนะคะก็คือเสน่ห์ในด้านความ
00:08:19 → 00:08:21 เป็นตรงตัวเองค่ะต้องเข้าใจก่อนว่าความ
00:08:21 → 00:08:23 เป็นตัวของตัวเองไม่ได้แปลว่าเอาแต่ใจตัว
00:08:23 → 00:08:28 เองนะคะนั้นเอ่อในแง่ของการใช้ชีวิตนะฮะ
00:08:28 → 00:08:33 ความสนุกสนานการมีลูกส่วนตัวนะฮะแต่ว่าคน
00:08:33 → 00:08:35 ในเข้ามาดูได้นะไม่ใช่โลกส่วนตัวแบบปิด
00:08:35 → 00:08:38 การในสื่อสารกับใครมีโลกส่วนตัวที่น่าสน
00:08:38 → 00:08:41 ใจอ่ะเลิกๆส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้ไปกระทบ
00:08:41 → 00:08:43 ให้เกิดความเดือดร้อนกับใครนะคะหรือว่า
00:08:43 → 00:08:47 ไม่ต้องให้มาคอยโอกาสใจดูแลเทคแคร์ตลอด
00:08:47 → 00:08:51 เวลานะคะสรุปแล้วก็คือว่ามีลักษณะความตรง
00:08:51 → 00:08:54 ตัวเองที่ดูน่าสนใจน่าติดตามทำให้คนไม่
00:08:54 → 00:08:57 เคยเจอมาเกาะนะเนี่ยหนูจะเห็นได้ในโลกของ
00:08:57 → 00:09:00 โซเชียลในปัจจุบันทำไมคนที่มีติดตามดู
00:09:00 → 00:09:04 ชีวิตประจำวันเขาเนี่ยทำอะไรกันคือต้อง
00:09:04 → 00:09:06 หลายคนเนี่ยทำไมต้องไปตามดูเขาห่างฉันนะ
00:09:06 → 00:09:10 คะเพราะว่ามันน่าสนใจนะคะว่าเออคนนี้เข้า
00:09:10 → 00:09:13 ไปใช้ชีวิตต่างแดนเข้าไปเป็นสะใภ้ของต่าง
00:09:13 → 00:09:15 ชาติและเป็นยังไงยังไงอะไรอย่างนี้เคย
00:09:15 → 00:09:18 เห็นใช่ไหมคะเพื่อนเเม่ในติดแอร์ไอ้พวก
00:09:18 → 00:09:20 นี้กันมากเลยบอกฉันต้องตามดูอยู่หนูอัน
00:09:20 → 00:09:22 นี้อะไรอย่างนี้นะเราดูวันนั้นว่าฉะนั้น
00:09:22 → 00:09:24 เนี่ยมันเป็นเป็นโรคส่วนตัวของเขาที่น่า
00:09:24 → 00:09:27 สนใจนั่นคือความเป็นตัวของตัวเองของเขานะ
00:09:27 → 00:09:30 ฮะแต่ต้องไม่เดือดร้อนใครไม่ได้ไปทำอะไร
00:09:30 → 00:09:33 ให้ใครแต่มันดูแล้วมันน่าสนใจอ่ะค่ะคะคือ
00:09:33 → 00:09:37 ที่อาจารย์บอกมา 3 3 ข้อเนี้ยเนี่ยคือ
00:09:37 → 00:09:40 ต้องบอกคุณผู้ฟังก่อนว่าบางคนอาจจะมีความ
00:09:40 → 00:09:43 รู้สึกแบบเดียวกันค่ะคนๆหนึ่งที่ของอาจจะ
00:09:43 → 00:09:48 มีปฏิสัมพันธ์ที่ด้วยท่าทางการพูดจาไว้
00:09:48 → 00:09:50 ได้เปลือกอะไรก็แล้วแต่หรือแบบความเป็น
00:09:50 → 00:09:54 ตัวของเขาเองแค่คนอาจจะเห็นเหมือนกันแต่
00:09:54 → 00:09:56 ไม่ชอบค่ะไม่ได้หมายความว่าทุกคนเห็นแล้ว
00:09:56 → 00:09:59 จะต้องชอบเอกคะหรือทุกคนเห็นแล้วจะต้อง
00:09:59 → 00:10:01 ไม่ชอบไปไม่ใช่คำก็มีอะไรก็เป็นเสน่ห์
00:10:01 → 00:10:05 ประจำตัวของเขากับคนชอบน้องเออว่ามั้ยฮะ
00:10:05 → 00:10:09 เนี่ยชอบสไตล์เนี่ยโทเนี้ยแบบนี้อ่ะฮะแต่
00:10:09 → 00:10:12 ว่าคะฉะนั้นเนี่ยเราจะบอกว่าถ้าคนที่มี
00:10:12 → 00:10:14 ความสวยความหล่ออยู่ในตัวแล้วเพราะความ
00:10:14 → 00:10:16 สวยความหล่อเดี๋ยวนี้รู้ว่าหาได้ไหมคะได้
00:10:16 → 00:10:20 ค่ะได้นะคะมีหมอเนาะให้ถึงถึงละกันหน้า
00:10:20 → 00:10:23 ออกมาบล็อกเดียวกันหมดเลยนะง่ายจริงๆคือ
00:10:23 → 00:10:25 ความสวยความหล่อนะฮะหาได้แต่ถ้าสวยหล่อ
00:10:25 → 00:10:28 แล้วเนี่ยยอดเสน่ห์ลงไปสักนิดนึงนะคะมัน
00:10:28 → 00:10:32 ก็จะยิ่งทำให้น่ารักสดใสน่ามองน่าอยู่
00:10:32 → 00:10:35 ใกล้ดูแล้วไม่น่าเบื่อนะคะแต่ตรงนี้แหละ
00:10:35 → 00:10:38 มันเป็นจุดหนึ่งที่มันฟังดูแล้วบ่เอารถ
00:10:38 → 00:10:40 เราจะไปหาเสน่ห์จากไหนเพราะเราไม่เคยรู้
00:10:40 → 00:10:43 เลยว่าตัวเราเนี่ยมีเสน่ห์แบบไหนมีเสน่ห์
00:10:43 → 00:10:46 หรือเปล่าเพราะว่าไม่เคยมีใครมาบอกแล้วก็
00:10:46 → 00:10:49 มาเคยคิดว่าตัวเองอาจจะจะอ่านประเมินตัว
00:10:49 → 00:10:51 เองเอาในระดับทวีปอันกลางหลังไม่ค่อยมี
00:10:52 → 00:10:54 ใครมาสนใจเลยไม่เห็นมีใครมาจีบเลยไม่เห็น
00:10:54 → 00:10:58 จะอะไรเลยค่ะก็เฉยชีวิตปกติค่ะแล้วจะเอา
00:10:58 → 00:11:00 เสน่ห์แบบไหนคะจังอ่ะไปซื้อที่ไหนได้บ้าง
00:11:01 → 00:11:03 ครั้งอย่างนี้มันมีเทคนิคค่ะไม่มีอะไรถ้า
00:11:03 → 00:11:06 มันมีเทคนิคในการแจ้งเสน่ห์นะคะรถเจอมา
00:11:06 → 00:11:08 วันนี้รวบรวมมาให้เยอะอยู่เหมือนกันนะคะ
00:11:08 → 00:11:12 ลองลองดูว่าจะเลือกใช้ข้อไหนดีนะคะ R
00:11:12 → 00:11:15 เทคนิคในการเสริมสร้างเสน่ห์นะคะอย่างแรก
00:11:15 → 00:11:18 เลยก็คือใช้ความมั่นใจนะคะให้แทนความสวย
00:11:18 → 00:11:21 ความหล่อลูกจะเห็นว่าเวลาที่คนเรามีความ
00:11:21 → 00:11:23 เป็นตัวของตัวเองเนี่ยมันจะออกมานะถ้า
00:11:23 → 00:11:27 เดินนะฮะถ้าเดินความมั่นใจที่มันดูโดด
00:11:27 → 00:11:31 เด่นนะฮะเฉลียวฉลาดอะไรอย่างนี้นะคะมันจะ
00:11:31 → 00:11:35 ไม่ได้เดินซุปไปตรงไหนทำหลังคอมันไม่สบตา
00:11:35 → 00:11:38 ใครมันก็ไม่มีเสน่ห์นั้นคนที่จะแสดงถึง
00:11:38 → 00:11:41 ความมั่นใจแม้เราจะไม่สวยไม่หล่อจะเรา
00:11:41 → 00:11:44 เดินด้วยความถึงผายอะไรอย่างนี้นะคะมันก็
00:11:44 → 00:11:46 จะเสริมสร้างโดยพ่อสุขภาพจิตของตัวเราเอง
00:11:46 → 00:11:51 แล้วก็บุคลิกภาพเราและให้ดึงดูดน่าสนใจใน
00:11:51 → 00:11:54 เกาะไหมคะเพราะว่าเราเราเดินด้วยท่าทีที่
00:11:54 → 00:11:56 มันมีความมั่นใจในตัวเองเนี่ยมันก็จะทำ
00:11:56 → 00:11:59 ให้ผู้คนมาเป็นเสน่ห์ทางกายอยู่แล้วที่
00:11:59 → 00:12:02 เป็นอาจาร์ยที่สื่อออกไปว่าฉันมั่นใจอ่ะ
00:12:02 → 00:12:05 นะฮะที่ฉันจะเป็นอย่างนี้นะคะเลยแค่ถ้า
00:12:05 → 00:12:08 เดินนี้ก็สร้างใหม่ได้ค่ะบางคนเดินเนี่ย
00:12:08 → 00:12:11 น่าดูอ่ะนะฮะแบบถ้าแม่จะยกตัวอย่างเดียว
00:12:11 → 00:12:14 ก็จะเป็นรุ่นคุณปู่คุณย่าอะไรอย่างนี้นะ
00:12:14 → 00:12:16 เดี๋ยวไม่ทันสมัยเธอเด็กสมัยนี้คือพูดแม้
00:12:16 → 00:12:20 แต่ผู้ชายบางคนเวลาเดินน่ะไม่ได้ใช่ขา
00:12:20 → 00:12:23 เดินนะลูกมาคนเขาใช้สะโพกเดิน Orbit มี
00:12:23 → 00:12:26 ความผิดอ้ามันก็เลยมันไม่เท่ห์ไปอีกอย่าง
00:12:26 → 00:12:29 นึงอะไรอย่างนี้ค่ะเพราะฉะนั้นไอ้ท่าที
00:12:29 → 00:12:32 การเยื้องย่างการหมุนตัวกันเลยมันเป็น
00:12:32 → 00:12:34 เสน่ห์นะลูกแต่ขอให้ใส่ความมั่นใจในตัว
00:12:34 → 00:12:37 เองลงไปโดนแบบนางงามเลยได้ไหมคะมันบางที
00:12:37 → 00:12:40 มันก็ไม่เหมาะในบางโอกาสนะคะเดินแบบนาง
00:12:40 → 00:12:44 งามบางทีมันก็มีจริตนี้มันอ่านิดนึงอ่า
00:12:44 → 00:12:46 นี่หนุนนึงแต่ว่าบางมากๆโอกาสได้มันไม่
00:12:46 → 00:12:48 เหมาะนึกออกนะคะแต่เดินด้วยความเป็นตรง
00:12:48 → 00:12:51 ตัวเองด้วยความมั่นอกมั่นใจเนี่ยจะดีที่
00:12:51 → 00:12:56 สุดนะคะอันที่สองก็คือมีคำพูดที่น่าฟังนะ
00:12:56 → 00:12:58 คะอ่าไม่ใช่แค่คำพูดอย่างเดียวนะคะคำพูด
00:12:58 → 00:13:01 ที่น่าฟังก็คือแก้คำพูดที่พูดอะไรในเชิง
00:13:01 → 00:13:05 บวกนั้นชื่นชมคนอื่นคนที่ขี้นินทาเนี่ย
00:13:05 → 00:13:08 มันจะไม่มีลักษณะนี้นะฮะรวมทั้งเรื่องของ
00:13:08 → 00:13:12 น้ำเสียงนะฮะเราพูดชื่นชมคนอื่นเนี่ยบาง
00:13:12 → 00:13:14 คนพูดน้อยแต่คำพูดแต่ละคำพูดเขามีความ
00:13:14 → 00:13:18 หมายนะฮะนอกจากรู้จักพูดแล้วต้องรู้จัก
00:13:18 → 00:13:22 ระวังคำพูดด้วยนะคะระวังคำพูดก็คือไม่ใช่
00:13:22 → 00:13:25 ไปพูดแล้วไปแขวะเอาใคร 6 ข้าวหรือไม่ช่วง
00:13:25 → 00:13:27 จากใครเขาเข้าหรือพูดอะไรที่มันสองแง่สอง
00:13:27 → 00:13:30 ง่ามในทางที่มันไม่สร้างสรรค์น่ะอย่าง
00:13:30 → 00:13:34 เงี้ยไม่น่าดูมาห่างการพูดจาตรงผงผางก็ก็
00:13:34 → 00:13:38 ฉันจริงใจอย่าฉันก็เลยพูดเพื่อนได้บางคน
00:13:38 → 00:13:40 นะค่ะในบางคนเนี่ยมันก็มีเสน่ห์ส่วนตัว
00:13:40 → 00:13:43 ของเค้านะที่เขาจะเป็นคนที่พูดอะไรขวาน
00:13:43 → 00:13:47 ผ่าซากเนี่ยแต่ในคนทั่วๆไปเนี่ยบางทีเรา
00:13:47 → 00:13:50 อาจจะใช้ไม่ได้เท่าไหร่นักแต่บางคนการ
00:13:50 → 00:13:53 ขวานผ่าซากแบบนั้นก็กลายเป็นเสน่ห์ประจำ
00:13:53 → 00:13:55 ตัวของเขาไปแล้วบอกไหมคะคอร์เรคเตอร์ไม่
00:13:55 → 00:13:58 ต้องเป็นคาแรคเตอร์ของตัวเขาแล้วก็อย่าง
00:13:58 → 00:14:00 ที่บอกอะเค้าอาจจะพูดขวานผ่าหัวหน้าแต่ก็
00:14:00 → 00:14:04 ไม่ได้ทำร้ายใครในไหมคะและการพูดในเชิงลบ
00:14:04 → 00:14:06 กับคนอื่นหรือว่าการพูดในช่วงนินทาเนี่ย
00:14:06 → 00:14:10 ไม่โอเคสำหรับการสร้างเสน่ห์รักประเด็น
00:14:10 → 00:14:13 ต่อไปก็คือต้องมีลักษณะของความเก่งและ
00:14:13 → 00:14:16 Strong นั้นเก่งและตรองนี่ก็หมายความว่า
00:14:16 → 00:14:18 เวลาเราเห็นผู้หญิงเก่งเนี่ยหรือผู้ชาย
00:14:18 → 00:14:21 ที่ทำงานเก่งเนี่ยเราชื่นชมไหมคะชื่นชม
00:14:21 → 00:14:24 ให้เขาอยากจะประสบความสำเร็จเหมือนเค้า
00:14:24 → 00:14:26 ใช่มั้ยว่าได้บางคนนี้เป็นไอดอลเลยนะฮะ
00:14:26 → 00:14:29 มันก็เป็นเสน่ห์ที่เกิดจากความฉลาดหรือ
00:14:29 → 00:14:32 ความสามารถของเขานะคะมากกว่าการใช้รูป
00:14:32 → 00:14:35 ร่างหน้าตาพระนะคนทำงานเก่งใช้ชีวิตเก่ง
00:14:35 → 00:14:38 เนี่ยมันสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้นะคะ
00:14:38 → 00:14:42 ดูตัวอย่างนักธุรกิจจีนนะคะคนนึงอ่ะที่
00:14:42 → 00:14:46 หน้าตามเรียกว่าถามว่าหล่อมั้ยไม่หล่อแน่
00:14:46 → 00:14:49 นอนแต่ทำไมเดี๋ยวนี้เขาออกสื่อลงปก
00:14:49 → 00:14:52 หนังสือทั่วโลกอะไรอย่างนี้นะคะให้ใครก็
00:14:52 → 00:14:54 แม่อยากจะเป็นหยังเค้าอะไรต่างๆเราเนี่ย
00:14:54 → 00:14:57 นะคะเพราะฉะนั้นตรงนี้เห็นไหมคะว่าพอความ
00:14:57 → 00:15:00 สามารถหรือความเก่งมันเข้ามาหน้าตามอารอง
00:15:00 → 00:15:03 และมันจะสนใจน้อยลงและกับเรื่องของสิ่ง
00:15:03 → 00:15:05 เหล่านี้นะคะหรือผู้หญิงบางคนที่เป็นผู้
00:15:05 → 00:15:08 หญิงเก่งนะที่เป็นไอดอลของใครดอกไข่ห้อง
00:15:08 → 00:15:13 ยังจะเป็นต้องสวยต้องเป็นหนังสวยๆแบบคน
00:15:13 → 00:15:17 ความสวยของคนไทยสากลนั้นก็อาจจะมีความออก
00:15:17 → 00:15:20 จะขี้เหร่ด้วยซ้ำไปแต่ก็เก่งอ่ะนะฮะ
00:15:20 → 00:15:22 Strong กับชีวิตอ่ะอาจารย์ครับคำว่าเก่ง
00:15:22 → 00:15:25 กับคำว่า Strong ค่ะคือบางคนบอกว่าถ้าอาจ
00:15:25 → 00:15:29 จะถามว่าเอาก็ต้องเก่งขนาดไหนอ่ะเอ่อไม่
00:15:29 → 00:15:31 อยากใช้คำว่า Strong ในตรงกับคำว่าแกร่ง
00:15:31 → 00:15:37 เก่งและแกร่งแกร่งในการที่จะสู้ลมสู้ฝน
00:15:37 → 00:15:40 ไม่ใช่ไปสู้กับพายุนะคะจะหมายถึงว่าพายุ
00:15:40 → 00:15:43 ชีวิตที่มันพัดผ่านเข้ามาน่ะมรสุมชีวิต
00:15:43 → 00:15:46 ที่มันเข้ามาเขาก็ Strong พอที่จะยืนหยัด
00:15:46 → 00:15:49 อยู่ได้ค่ะนะคะนั้นก็คือเก่งและแกร่งแม่
00:15:49 → 00:15:53 ขอใช้คำนี้ดีกว่าอาจจะไม่ได้มีมาตรฐานที่
00:15:53 → 00:15:55 เทียบออกมาเป็นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ร้อย
00:15:55 → 00:15:57 เปอร์เซ็นต์หมายถึงว่าในแต่ละคนในเราจะมี
00:15:57 → 00:16:00 มรสุมชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
00:16:00 → 00:16:03 หมอเขาเนี่ยเขาแกร่งและในแบบของเขาหวานมา
00:16:03 → 00:16:06 ทำอีกคนนึงเทียบกันอาจจะเบากว่าแต่เขาก็
00:16:06 → 00:16:09 แกร่งในชีวิตของเขาและเทียบกันไม่ได้นั่น
00:16:09 → 00:16:11 เองไม่ได้ค่ะในแต่ละคนจะมาหาเปอร์เซ็น
00:16:11 → 00:16:14 ความเก่งมาเทียบกันหรืออะไรไม่ได้เลยได้
00:16:14 → 00:16:19 ละคนมีแต่ละแบบของตัวเองบางคนเนี่ยแม่ยก
00:16:19 → 00:16:20 ตัวอย่างว่าต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเนี่ย
00:16:20 → 00:16:23 ค่ะบางคนอาจจะมีลูกคนเดียวแต่บางคน
00:16:23 → 00:16:26 แม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกตั้ง 4-5 คนค่ะ
00:16:26 → 00:16:29 แต่เธอก็ Strong พอที่จะพาลูกรอดนะผ่าน
00:16:29 → 00:16:32 พายุไปได้อาจจะไม่ได้ต้องแม่ลูกประสบความ
00:16:32 → 00:16:36 สำเร็จเลิศแต่ลูกทุกคนเป็นคนดีและสร้าง
00:16:36 → 00:16:38 ครอบครัวใหม่ๆได้อย่างดีอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:16:38 → 00:16:41 อันนี้เราเป็นมาตรฐานที่มาวัดกันไม่ได้
00:16:41 → 00:16:44 ถ้าว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกคนเดียวกับแม่
00:16:44 → 00:16:46 เลี้ยงเดี่ยวลูก 7 คนน่ะใครจะเก่งกว่ากัน
00:16:46 → 00:16:49 มันตอบไม่ได้หรอกค่ะนั่งไปเล่นต่อไปนะคะ
00:16:49 → 00:16:52 ก็คือต้องรู้จักดูแลและใส่ใจคนรอบข้างและ
00:16:52 → 00:16:57 รอบตัวพูดง่ายๆก็คือว่ามันจะทำให้เป็น
00:16:57 → 00:16:59 นิสัยข้างในตัวเรานี่แหละที่จะเป็นเสน่ห์
00:16:59 → 00:17:01 ไหมที่ทำมีผู้คนรอบข้างเนี่ยไปไหนเขาก็
00:17:01 → 00:17:05 เอ็นดูหรือไปไหนเขาก็อยากจะเข้าหาถ้าเป็น
00:17:05 → 00:17:08 ผู้ใหญ่เขาก็จะเมตตาเราอะไรอย่างนี้นะคะ
00:17:08 → 00:17:11 ถ้าเป็นคนรอบข้างก็ชื่นชมเราว่าโอเราใจดี
00:17:11 → 00:17:14 เหลือเกินหรือเผื่อแผ่แม่แต่ลำบากก็ยัง
00:17:14 → 00:17:17 คิดถึงคนอื่นนะคะเพราะฉะนั้นถ้าเป็นผู้
00:17:17 → 00:17:20 ชายด้วยแล้วเนี่ยนะฮะการที่เป็นผู้ชายใจ
00:17:20 → 00:17:22 กว้างหรือให้เกียรติคนอื่นเอื้อเฟื้อรู้
00:17:22 → 00:17:26 จักให้อภัยมีความรับผิดชอบชั่วชอบช่วย
00:17:26 → 00:17:29 เหลือใครเนี่ยผมเป็นเสน่ห์เลยค่ะนะที่ทำ
00:17:29 → 00:17:31 ให้รู้สึกว่าคุ้มคนเนี้ยเข้าใกล้แล้วมัน
00:17:31 → 00:17:34 อบอุ่นมารู้สึกว่าปลอดภัยที่จะอยู่กับเขา
00:17:34 → 00:17:37 อะไรอย่างเงี้ยใช่แล้วนะคะได้หาให้ได้อ่ะ
00:17:37 → 00:17:41 นะฮะอันต่อไปค่ะขอใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ
00:17:41 → 00:17:44 นะเราจะใช้เข้าใจกันมากกว่าก็คือมีแพสชัน
00:17:44 → 00:17:47 มี passion ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะกล้าทำ
00:17:47 → 00:17:51 ในสิ่งที่รักอ่ะทั้งๆแล้วก็สนใจแบบเต็ม
00:17:51 → 00:17:54 ที่อาจจะเริ่มต้นได้ไปงาน related นะฮะ
00:17:54 → 00:17:57 เออก็น่าจะทั้งหมดจะทำให้คนคนนั้นมี
00:17:57 → 00:18:00 เสน่ห์ตรงเลือกเข้ารู้ว่าเขาชอบอะไรถ้าจะ
00:18:00 → 00:18:02 ทำอะไรแล้วก็กล้าลงมือที่จะทำมันอย่าง
00:18:02 → 00:18:07 เต็มที่นะคะรู้เป้าหมายของตัวเองนะคะทำ
00:18:07 → 00:18:09 ให้เขาดูว่าเขาเป็นผู้หญิงเก่งหรือเป็น
00:18:09 → 00:18:11 ผู้ชายก็ได้เก่งในอนาคตนะคะแล้วก็สามารถ
00:18:11 → 00:18:15 ที่จะมีความสุขและแบบของเขาเองนะคะแล้ว
00:18:15 → 00:18:18 ตอนนี้เรามีโลกโซเชียลมากมายที่จะเข้าไป
00:18:18 → 00:18:20 ดูชีวิตบางคนเนี่ยเขาทิ้งทุกอย่างเลยว่า
00:18:20 → 00:18:23 ไปทำนายค่ะเขาชอบของเขาอย่างนั้นเขามี
00:18:23 → 00:18:26 ความสุขอย่างนั้นบางคนเข้าไปทำอะไรได้แบบ
00:18:26 → 00:18:28 ของเขาบางคนอาจจะเป็นศพการในธุรกิจเช่น
00:18:28 → 00:18:30 ตอนนี้ในเรื่องของ bitcoin เรื่องของอะไร
00:18:30 → 00:18:33 มีคนให้เราศึกษาเยอะเลยเกี่ยวกับเสน่ห์
00:18:33 → 00:18:36 ของคนเราเนี้ยนะคะนั่นก็คือเวลาที่เราจะ
00:18:36 → 00:18:39 ทำอะไรแบบนี้อย่าไปกังวลกับความคิดของคน
00:18:39 → 00:18:42 อื่นเพราะมันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของเราถ้า
00:18:42 → 00:18:46 เราไปอยู่ในกลุ่มของคนที่เขาอะไรเขามี
00:18:46 → 00:18:49 ความชอบอีกแบบนึงเนี่ยะเราก็อาจจะรู้สึก
00:18:49 → 00:18:52 แย่แต่ว่าให้เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ
00:18:52 → 00:18:55 และเรามีแพ้เช่นกับมันพอดีแม่มาเพื่อฟัง
00:18:55 → 00:19:00 สัมภาษณ์ของแรกควีนนะคะคุณคุณที่เธอวัน
00:19:00 → 00:19:02 นี้เธอมาเป็น Black Queen อ่ะแต่ก็มีโลก
00:19:02 → 00:19:04 ส่วนตัวของเธอและเธอก็ประสบความสำเร็จใน
00:19:04 → 00:19:06 สิ่งแล้วนะก็เป็นเพื่อนเป็นเสน่ห์อย่าง
00:19:06 → 00:19:10 หนึ่งเหมือนกันนะคะประเด็นต่อไปค่ะก็คือ
00:19:10 → 00:19:12 ในเรื่องของการยิ้มแย้มแจ่มใสและมีอารมณ์
00:19:12 → 00:19:15 ขันนะฮะเราจะคุยกันเสมอเลยว่าเครื่อง
00:19:16 → 00:19:19 สำอางยี่ห้อที่ดีที่สุดก็คือ S mi l e
00:19:19 → 00:19:23 mi หน้ายิ้มไว้ก่อนนะฮะคนยิ้มในคนอยาก
00:19:23 → 00:19:25 เข้าใกล้ไม่ใช่หน้าเงี้ยส่งรังสีอำมหิต
00:19:25 → 00:19:29 แพรวไปโง่ไม่มีใครเข้ามาใกล้นะคะอันแล้ว
00:19:29 → 00:19:32 ก็เลยบางสถานการณ์ก็พอใช่ค่ะประเด็นต่อไป
00:19:32 → 00:19:35 ก็คือต้องมีสติค่ะคำว่ามีสติตรงนี้นะคะ
00:19:35 → 00:19:39 หมายความว่ามีสามารถที่จะใจเย็นนะควบคุม
00:19:39 → 00:19:42 อารมณ์ตัวเองได้แล้วก็คิดและตัดสินใจได้
00:19:42 → 00:19:46 ดีตรงนี้สำคัญมากนะฮะอันต่อไปค่ะการใช้
00:19:46 → 00:19:51 ท่าทางการสื่อสารใช้สายตาใช้คำพูดนะฮะมี
00:19:51 → 00:19:54 พลังที่สร้างความอบอุ่นน่าสนใจทำให้คนไว้
00:19:54 → 00:19:56 วางใจและอยากถุงอยู่ใกล้ๆนะก็คือเสริม
00:19:56 → 00:20:00 เรื่องอะไรคะเรื่องภาษากายนะเรื่องภาษา
00:20:00 → 00:20:03 พ่อแม่เองในตอนสมัยแม่ถึงสาวแม่เป็นคนที่
00:20:03 → 00:20:06 เพื่อนผู้ชายในจะบอกเลยบอกว่านี่ขอร้อง
00:20:06 → 00:20:09 และได้ไหมจะด่าก็ด่าออกมาดีๆอย่าใช้สายตา
00:20:09 → 00:20:12 ด่าฉันหกคือเขาอย่าว่าแม่ว่าแม่เนี่ยไม่
00:20:12 → 00:20:15 รู้ตัวนะคะแต่นี่เสียงสะท้อนจากเพื่อนมา
00:20:15 → 00:20:17 เวลามันทำผิดแล้วไม่พูดอะไรแต่เราส่งสาย
00:20:17 → 00:20:20 ตาไปเนี่ยมันบอกดูแล้วร้องเหอะรู้และหน้า
00:20:20 → 00:20:23 ด่าด้วยสายตามาจำอะไรอย่างนี้นะคะเพราะ
00:20:23 → 00:20:26 นั้นชิงเรานี้ก็สะท้อนกลับมาโอ๊ยแปลว่า
00:20:26 → 00:20:28 เราส่งตาแรงไปเนาะอะไรอย่างนี้นะคะถ้าเรา
00:20:28 → 00:20:31 ก็ต้องการการที่เราจะรู้เขารู้เราแล้ว
00:20:31 → 00:20:34 ต้องฟังคำวิจารณ์ของคนที่เราไว้ใจนะ
00:20:34 → 00:20:37 เพื่อนฝูงหรือใครก็ตามที่เค้าจะไม่ได้มี
00:20:37 → 00:20:41 การให้คุณให้โทษและเวลาเข้าวิจารณ์เราก็
00:20:41 → 00:20:43 อย่าไปโกรธเขาด้วยนะฮะมันเป็นเสียงสะท้อน
00:20:43 → 00:20:47 กลับมาว่าเราควรจะปรับปรุงอะไรนะฮะอันต่อ
00:20:47 → 00:20:50 ไปค่ะเป็นคนที่กระตือรือร้นในสิ่งที่ควร
00:20:50 → 00:20:53 ในเรื่องที่ควรนะไม่ใช่เปิดกระตือรือร้น
00:20:53 → 00:20:56 อยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านเขาอะไรนะคะ
00:20:56 → 00:20:59 จะแสดงความคิดเห็นสนใจในเรื่องที่เราชื่น
00:20:59 → 00:21:03 ชอบนี้นะคะอย่างมั่นใจอยากรู้อยากเก็บข้อ
00:21:03 → 00:21:06 มูลตอนนี้ชอบเงินหน้าแต่ไม่ใช่ไปเก็บ
00:21:06 → 00:21:08 เพื่อจะมานินทาเค้าหรือเปล่าอยากรู้อยาก
00:21:08 → 00:21:10 เห็นเรื่องของเขามันเป็นความสนใจอย่าง
00:21:10 → 00:21:13 จริงใจค่ะไม่ใช่การเสแสร้งหรือเฟซหรือ
00:21:13 → 00:21:15 อะไรอย่างนี้นะคะเพื่อให้ได้ผลประโยชน์
00:21:15 → 00:21:18 หรืออะไรนี้ไม่ใช่นะคะคนละแบบกันน่ะ
00:21:18 → 00:21:22 ประเด็นที่ 10 แล้วค่ะนะคะก็คือการสัมผัส
00:21:22 → 00:21:25 อย่างเหมาะสมและถูกกาละเทศะก็จะเป็นชั้น A
00:21:25 → 00:21:28 อย่างหนึ่งนะฮะเออการสัมผัสของคนเราใน
00:21:28 → 00:21:30 ต้องรู้ด้วยนะคะอย่างแรกก็คือในเรื่องของ
00:21:30 → 00:21:33 ขนบธรรมเนียมประเพณีนะคะไม่ใช่เขาเป็น
00:21:33 → 00:21:36 หนุ่มหรือเป็นสาวแล้วเราไปแม้ไปก่อนเข้า
00:21:36 → 00:21:39 ไปอะไรเข้านี้มันก็ไม่โอเคนะคะต้องให้ดู
00:21:39 → 00:21:43 ใช้คำว่าอย่างเหมาะสมถูกกาละเทศะนะคะมัน
00:21:43 → 00:21:46 ก็จะได้แสดงความอ่อนโยนและจริงใจของเรานะ
00:21:46 → 00:21:49 เช่นเพื่อนกำลังทุกข์มาเนี่ยแล้วถ้าเป็น
00:21:49 → 00:21:51 เพื่อนสนิทเนี่ยเราอาจจะถึงกับเอาเข้ามา
00:21:51 → 00:21:54 ก่อนได้นะฮะแต่ว่าถ้าเพื่อนไม่สนิทแล้ว
00:21:54 → 00:21:58 อาจจะแค่เอื้อมมือไปลูบจับมือเขาเนี่ยนะ
00:21:58 → 00:22:00 คะหรือว่าได้อืมอยู่ข้างๆอีกแล้วอะไร
00:22:00 → 00:22:03 อย่างนี้นะคะเพื่อให้เขารู้ว่าบางคนพูด
00:22:03 → 00:22:06 ไม่เก่งพูดแล้วมันอย่าพูดดีกว่านั้นก็ได้
00:22:06 → 00:22:09 แก่การสัมผัสนี่แหละที่จะตบหลังนะคะนม
00:22:10 → 00:22:13 ม้วนหรือว่าจับมือหรือกอดหรืออะไรอย่าง
00:22:13 → 00:22:16 นี้นะคะให้ถูกตามกาละเทศะนะคะเค้าต่อไป
00:22:16 → 00:22:20 ค่ะเค้าใช้คำว่าต้องมีลูกอ้อนนะฮะคำว่า
00:22:20 → 00:22:23 ลูกอ๊อดนี่ก็ถือว่าไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อนะ
00:22:23 → 00:22:25 ใช้กับเฉพาะกับคนพิเศษในบางครั้งบางคราว
00:22:25 → 00:22:28 เท่านั้นมันก็จะทำให้เกิดความโรแมนติก
00:22:28 → 00:22:30 หรือว่าเกิดความเซอร์ไพรส์ได้นะคะเหมือน
00:22:30 → 00:22:33 การสร้างเสน่ห์ให้กับคนสำคัญของเรานะคะ
00:22:33 → 00:22:37 แล้วก็ข้อต่อไปค่ะในเรื่องของรสนิยมนะฮะ
00:22:37 → 00:22:39 ควรจะมีรสนิยมที่ดีคำว่ารสนิยมที่ดีไม่
00:22:39 → 00:22:42 ได้แปลว่าเป็นรสนิยมที่แพงนะคะแต่เป็น
00:22:42 → 00:22:45 รสนิยมที่ดีในการเลือกใช้สิ่งของอะไร
00:22:45 → 00:22:48 อย่างนี้ให้มันเหมาะสมนะคะคะแล้วก็ข้อต่อ
00:22:48 → 00:22:52 ไปค่ะการศึกษาหาความรู้ที่จะมีความรู้มาก
00:22:52 → 00:22:55 ขึ้นมีไว้เป็นชุดพริบดีขึ้นก็พูดว่าจะ
00:22:55 → 00:22:57 ต้องเรียนรู้กันตลอดเวลาในสิ่งใหม่ๆก็จะ
00:22:57 → 00:23:00 เป็นคนที่ใฝ่หาความรู้ใช่ไหมคะดีหรือว่า
00:23:00 → 00:23:03 ประสบการณ์ทำให้มีเสน่ห์ได้เหมือนกันและ
00:23:03 → 00:23:06 ประเด็นสุดท้ายนะคะก็คือว่าเป็นตัวของตัว
00:23:06 → 00:23:10 เองที่ไม่เลียนแบบใครนะคะไม่งั้นพอเรา
00:23:10 → 00:23:12 เหมือนๆกันหมดแล้วจะถูกกลืนหายเข้าไปใน
00:23:12 → 00:23:15 ฝูงชนมาก็ไม่มีความโดดเด่นคะว่าเป็นตัว
00:23:15 → 00:23:18 ของตัวเองด้วยนะคะมันจะทำให้มีบุคลิกที่
00:23:18 → 00:23:22 แตกต่างและน่าสนใจนะหนึ่งเดียวคนนี้ไข่นะ
00:23:22 → 00:23:25 คะอันนี้ก็เป็นการเทคนิคการสร้างเสน่ห์
00:23:25 → 00:23:28 แบบที่ท่านผู้ฟังอาจจะเลือกใช้นะคะไม่ได้
00:23:28 → 00:23:31 จำเป็นต้องใช้ทุกข้อบางข้อท่านมีดีอยู่
00:23:31 → 00:23:34 แล้วนะคะก็เลือกใช้หรือเสริมในส่วนที่จะ
00:23:34 → 00:23:37 ทำให้ถ้ามีเสน่ห์มากขึ้นไม่ได้อวดนะคะแต่
00:23:37 → 00:23:40 ขอขอเล่านิดว่าจะนำพาเองเนี่ยนะคะท่านผู้
00:23:40 → 00:23:42 ฟังขาตอนเป็นสาวเนี่ยเป็นคนที่ไร้เสน่หา
00:23:42 → 00:23:47 มากเลยน่ารักแต่ว่าพอแก่ตัวเนี่ยเรายิ่ง
00:23:47 → 00:23:50 รู้ว่าเราเรียนรู้อะไรแล้วเรานำมันกลับมา
00:23:50 → 00:23:52 ใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองนะคะปรากฎว่า
00:23:52 → 00:23:55 ตอนนี้จะได้พาสวยขึ้นสวยขึ้นสวยขึ้นแล้ว
00:23:55 → 00:23:58 ไงเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะมีแต่คนอยากได้
00:23:58 → 00:24:03 ตัวสั่นบ่เคยจริงมหาก็คืนจริงแล้วการ
00:24:03 → 00:24:06 สร้างเสน่ห์เนี่ยอันนี้โดยส่วนตัวเชื่อ
00:24:06 → 00:24:09 ว่าหลายคนก็มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง
00:24:09 → 00:24:11 แต่ว่าเสน่ห์ของเราเนี่ยอาจจะไม่ได้เป็น
00:24:11 → 00:24:14 เสน่ห์ที่ทุกคนรู้สึกหลายคนจะรู้สึกมัน
00:24:14 → 00:24:17 ว่ามันหม๊ดมันค่ะมวลชนที่แบบใครเห็นต้อง
00:24:17 → 00:24:21 มาแบบรู้สึกชอบเธอจังเลยต้องมาแค่จริงๆมี
00:24:21 → 00:24:24 เสน่ห์ในแบบมุมของเราอ่ะค่ะแล้วก็อาจจะมี
00:24:24 → 00:24:27 บ้างที่บางคนเห็นหรือไม่หรือส่วนน้อยก็
00:24:27 → 00:24:31 แล้วแต่สถานก็ยังมีนะมาก็ยังไม่ถึงแบบดี
00:24:31 → 00:24:33 กว่าที่เราจะเป็นคนแข็งกระด้างอ่ะใช่ค่ะ
00:24:33 → 00:24:37 ไม่น่าจะมีคนแข็งกระด้างขนาดนั้นนะฮะๆมัน
00:24:37 → 00:24:40 ก็มีบ้างค่ะคนที่บัญชีเขาก็ไม่ใช่ขอขอใช้
00:24:40 → 00:24:43 คำว่าเค้าปิดปิดตัวเองในเรื่องของการ
00:24:43 → 00:24:46 เรียนรู้โลกภายนอกคือมีโลกส่วนตัวสูง
00:24:46 → 00:24:50 จำเป็นน้ำแพงที่สูงมากนะคะจะไม่สนใจผู้คน
00:24:50 → 00:24:53 ค่ะอะไรอย่างนั้นนะคะคำว่ามีเสน่ห์ของแต่
00:24:53 → 00:24:55 ละคนไม่เหมือนกันด้วยนะคะคุณทางบางคนอาจ
00:24:55 → 00:24:59 จะชอบยังแบบเจออาจารย์จันนิภาเงี้ยไม่ชอบ
00:24:59 → 00:25:02 เจิดแต่ก่อนเฮ้ยไม่ชอบหรือบางคนอาจจะชอบ
00:25:02 → 00:25:04 อวยพรไม่ชอบอาจารย์นั้นเวลาก็เป็นไปได้นะ
00:25:04 → 00:25:07 ฮะอ่าจะเหนื่อยแต่ละคนไม่ได้บอกว่าทุก
00:25:07 → 00:25:10 อย่างจะต้องเป็นมาตรฐานแบบเดียวกันแจ้ค่ะ
00:25:10 → 00:25:13 เรียนแบบเป็นมากเสน่ห์มันเป็นเสน่ห์เฉพาะ
00:25:13 → 00:25:17 ตัวของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันกันอันนี้ก็
00:25:17 → 00:25:21 ลองดูแล้วกันนะคะสร้างเสน่ห์นะฮะยิ้มเยอะ
00:25:21 → 00:25:23 ๆเข้าไว้ยิ้มไว้ก่อนแต่อย่างนี้อย่างนี้
00:25:23 → 00:25:25 เวลามาเจออาจารย์ที่หลายนะครับอันนี้บอก
00:25:25 → 00:25:29 คุณผู้ฟังได้ยิ้มได้ยิ่งได้เกาะเติมพลัง
00:25:29 → 00:25:32 ด้วยนี้ยิ่งสบาย
00:25:32 → 00:25:36 โดยวิธีการแบบนี้ไหมคะคนที่มีพลังมี
00:25:36 → 00:25:39 เสน่ห์มีอะไรที่แบบเป็นพลังบวกส่งต่อให้
00:25:39 → 00:25:42 เราปุ๊บเนี่ยเรามีพลังที่จะทำอะไรต่อไป
00:25:42 → 00:25:44 นี้คือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่อันนี้ที่จุรี
00:25:44 → 00:25:47 พรวงศ์อาจารย์ดูเห็นอ้าๆก็วันนี้ขอบคุณ
00:25:47 → 00:25:50 อาจารย์ค่ะค่ะยินดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณ
00:25:50 → 00:25:52 ผู้ฟังคะพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรง
00:25:52 → 00:25:56 หมอทาง Thai PBS ทอด Class ค่ะขอบคุณที่
00:25:56 → 00:25:58 ติดตามรับฟังนะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:25:58 → 00:26:03 อ่ะเอสเอส Thai PBS อดคาซท์ความสูงไสว่า
00:26:03 → 00:26:05 คนแต่ละเพศมีปัจจัยที่แตกต่างกันผู้หญิง
00:26:05 → 00:26:08 จะหยุดสูงตอนไหนผู้ชายสูงได้ถึงตอนไหน
00:26:08 → 00:26:10 ดอกเตอร์นายแพทย์เจตพลคงถาวรสกุลให้ผู้
00:26:10 → 00:26:13 เชี่ยวชาญ 0 กล้ามเนื้อกระดูกและข้อมาบอก
00:26:13 → 00:26:14 ให้รู้ครับ
00:26:14 → 00:26:18 การทำให้สูงก่อนที่กระดูกจะหมดสิทธิ์สูง
00:26:18 → 00:26:22 นะความสูงเนี่ยจะเกิดในเด็กผู้หญิงกับผู้
00:26:22 → 00:26:25 ชายไม่เหมือนกันใช่นะคะว่าตอนเด็กๆเนี่ย
00:26:25 → 00:26:28 ผู้หญิงอย่างผู้หญิงจะสูงความเร็วก่อนอ่ะ
00:26:28 → 00:26:31 สักแป๊บเดียวให้ผู้หญิงจะยืดเร็วแล้วก็หด
00:26:31 → 00:26:34 เลยหาใครสักแป๊บเดียวกับผู้ชายมันจะไปได้
00:26:34 → 00:26:39 เรื่อยๆไห้เพราะผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศแล้ว
00:26:39 → 00:26:41 เมื่อไหร่ก็ตามที่เมนส์มาหรือประจำเดือน
00:26:41 → 00:26:45 มาเนี่ยก็คือจบหากคุณพ่อคุณแม่ดูอย่างนี้
00:26:45 → 00:26:48 ถ้าเราจะดูว่าลูกเราจะสูงได้แค่ไหนเนี่ย
00:26:48 → 00:26:54 นะครับ 1 ให้เราไปดูอวัยวะทั้งหมดทางเพศ
00:26:54 → 00:26:59 นะเช่นผู้หญิงก็จะเริ่มมีขนขนตามตัวตาม
00:26:59 → 00:27:02 นู่นทำนี่เลยนะแต่ถ้าหน้าอกเริ่มมาถ้า
00:27:02 → 00:27:06 ครับแล้วก็สะโพกผายนะครับอันที่ชาติที่
00:27:06 → 00:27:10 สุดคือประจำเดือนมานับจากวันที่ 1 หลัง
00:27:10 → 00:27:14 ประจำเดือนมาไปอีก 2 ปีคือจบได้เวลาแค่
00:27:14 → 00:27:16 นั้นเองได้แค่นั้นผู้หญิงเนี่ยเขาจะยื่น
00:27:16 → 00:27:19 ตั้งแต่ก่อนมีประจำเดือนนะพอเริ่มมีประจำ
00:27:19 → 00:27:21 เดือนปุ๊บเนี่ย Hormone ตัวนึงมันจะออกมา
00:27:21 → 00:27:25 เราจะไปกดตัวฮอร์โมนเมื่อถึงเวลาหลังจาก
00:27:25 → 00:27:30 วันแรกมาแล้ว 2 ปีคำนวณแค่นี้เองฮะคือถ้า
00:27:30 → 00:27:32 ใครบอกโอ้ยเดี๋ยวจะส่งอีกแล้วสุไม่ไม่
00:27:32 → 00:27:35 ต้องคิดเยอะก็อาจจะโตอีกไม่โตล่ะซึ่งก็
00:27:35 → 00:27:37 นั้นในช่วง 2 ปีเนี่ยเป็น Golden พีเรียด
00:27:37 → 00:27:42 คืออยากทำอะไรก็รีบทำจะใช้งโมนจะออกกำลัง
00:27:42 → 00:27:46 จะทำอะไรก็รีบทำนะครับในช่วงนี้เพราะว่า
00:27:46 → 00:27:49 มันจะเป็นการยืดยาวของกระดูกตามธรรมชาติ
00:27:49 → 00:27:52 นะครับหลังจาก 2 ปีไปแล้วกระดูกมันจะปิด
00:27:52 → 00:27:55 ซึ่งถ้าดูจากช่วงอายุผู้หญิงอ่ะนะส่วน
00:27:55 → 00:27:58 ใหญ่ประจำเดือนไม่มาเปิด 5-6 นาก็คือ
00:27:58 → 00:28:01 ประมาณซับ 12 น 21 12 13 ประมาณนี้
00:28:01 → 00:28:05 ประมาณนี้นะก็คือเอาเป็นว่า 12-14 เนี่ย
00:28:05 → 00:28:07 เป็นช่วงที่เป็นเวลาสำคัญผู้หญิงหลังหรือ
00:28:07 → 00:28:10 4 ส่วนใหญ่ไม่สูงนะบางคนกำลัง 15 นะครับ
00:28:10 → 00:28:12 ก็เป็นว่าอย่าง Maximum ผู้หญิงในส่วน
00:28:12 → 00:28:17 ใหญ่ 95 ที่นี้ผู้ชายล่ะผู้ชายเนี่ยส่วน
00:28:17 → 00:28:20 ใหญ่เขาจะช้ากว่าผู้ชายบางคนไปยื่นตอนม 3
00:28:20 → 00:28:25 ก็มีตอนอายุ 15-18 นะผู้ชายเนี่ยถ้ายื่น
00:28:25 → 00:28:29 เร็วก็หยุดเร็วยืดชาก็หยุดช้านะครับแต่
00:28:29 → 00:28:31 ว่ามันก็จะยืดไปได้เรื่อยๆถึงอายุ 18
00:28:31 → 00:28:34 ส่วนใหญ่นะหลัง 18 ก็ไม่ค่อยส่งละแล้วก็
00:28:34 → 00:28:38 ได้มีบางคนที่ตกสำรวจอาจจะมีอยู่ตอนเข้า
00:28:38 → 00:28:39 มหาลัยก็มี
00:28:39 → 00:28:42 18-20 เพิ่งจะมาสูง
00:28:42 → 00:28:44 [เพลง]
00:28:44 → 00:28:48 wes ไทยพีบีเอสคาร์ส
00:28:48 → 00:28:52 ที่ตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
00:28:52 → 00:28:56 ของไทยที่บช.ปสคาส spotify soundcloud
00:28:56 → 00:28:59 Google พ็อดคาสท์เปิดคลาสละ YouTube
00:28:59 → 00:29:02 Channel ทาง ThaiPBS สด Task ใช้พี
00:29:02 → 00:29:05 เรียร์พาธขาด you the world's เปียโบว์
00:29:05 → 00:29:07 อีกอ่ะ
00:29:07 → 00:29:12 [เพลง]