การนอนละเมอสามารถเป็นอาการเตือนของโรคพาร์กินสันได้หรือไม่ และมีลักษณะอย่างไร

นอนละเมอ ท้องผูก หนึ่งในอาการเริ่มต้นโรคพาร์กินสัน : Daily Health

จากช่อง : TNN


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0100:00:03 ครับสวัสดีครับผมศาสตราจารย์นายแพทย์

00:00:0300:00:06 รุ่งโรจพิธิอัสริเป็นหัวหน้าศูนย์ความเ

00:00:0600:00:07 เลศทางการแพทย์โรคากกินสันและกลุ่มโรค

00:00:0700:00:09 ความเคลื่อนไหวผิดปกติโรงพยาบาล

00:00:0900:00:13 จุฬาลงกรณ์สภากาชาติไทยท้องผูกเป็นหนึ่ง

00:00:1300:00:15 ในอาการที่น่าสงสัยของโรคพาร์กินสันใช่

00:00:1500:00:19 หรือไม่เพราะอะไรอาการนี้จริงนะครับอาการ

00:00:1900:00:21 ท้องผูกจริงๆเป็นอาการที่พบบ่อยมากๆในผู้

00:00:2100:00:24 ป่วยพากกินสันนะหมอว่าวจริงๆอาจจะ 80-90

00:00:2400:00:27 per เลยทีเดียวแล้วอาการท้องผูกเนี่ย

00:00:2700:00:29 เป็นอาการที่เกิดขึ้นในทุกระยะของโลค

00:00:2900:00:32 Parkinson ในผู้ป่วยบางรายเนี่ยอาการ

00:00:3200:00:34 ท้องผูกเป็นแม้กระทั่งอาการเตือนนะครับ

00:00:3400:00:37 ซึ่งหมายถึงว่าผู้ป่วยหลายๆรายเนี่ยเมี

00:00:3700:00:39 อาการท้องผูกนำมาก่อนก่อนที่เขาจะมีปัญหา

00:00:3900:00:41 เรื่องของการเคลื่อนไหวอย่างเช่นเรื่อง

00:00:4100:00:43 ของอาการสั่นเดินช้าเดินลำบากงี้เป็นต้น

00:00:4400:00:46 นะครับคราวนี้สาเหตุของท้องผูกเนี่ยส่วน

00:00:4600:00:48 นึงหลักๆเนี่ยก็คือเป็นอาการของโรค

00:00:4800:00:52 พาร์กินสันซึ่งหมายถึงว่ามีพญาที่ิสภาพนะ

00:00:5200:00:54 ครับของการเสื่อมทางระบบประสาทที่ทำให้

00:00:5400:00:57 การควบคุมการเคลื่อนไหวของลำไส้เนี่ยมี

00:00:5700:01:00 น้อยลงงั้นลำไส้เคลื่อนไหวช้านะครับระบบ

00:01:0000:01:03 ทางเดินอาหารเคลื่อนไหวช้าผู้ป่วยถึงมี

00:01:0300:01:05 อาการท้องผูกคราวนี้เนี่ยพอผู้ป่วยที่

00:01:0500:01:08 เป็น Parkinson แล้วเนี่ยเวลาเขาเริ่ม

00:01:0800:01:11 รักษาด้วยยาอะไรต่างๆเนี่ยหลายๆคนครับเข

00:01:1100:01:14 มักจะบอกว่ายิ่งท้องผูกเพิ่มมากขึ้นอัน

00:01:1400:01:16 นี้แสดงให้เห็นว่าปัจจัยในเรื่องของยาที่

00:01:1600:01:19 ใช้รักษาโรค Parkinson เนี่ยก็มีผลข้าง

00:01:1900:01:20 เคียงทางด้านท้องผูกด้วยเช่นเดียวกัน

00:01:2000:01:22 เพราะฉะนั้นเนี่ยหมออยากจะสรุปอย่างนี้

00:01:2200:01:24 ครับว่าในผู้ป่วยที่เป็น Parkinson แล้วเ

00:01:2400:01:27 เริ่มทานยาแล้วเนี่ยอาการท้องผูกเนี่ยมี

00:01:2700:01:28 หลากหลายนะครับส่วนนึงเป็นเรื่องของตัว

00:01:2800:01:30 โรคเองส่วนนึงเป็นเรื่องของยาที่รับ

00:01:3000:01:33 ประทานอีกส่วนนึงอาจจะเป็นในเรื่องของ

00:01:3300:01:35 ปัจจัยเกี่ยวข้องรอบข้างอย่างเช่นผู้ป่วย

00:01:3500:01:38 พาร์กินสันเนี่ยมีอาการปัสสาวะบอยอะไร

00:01:3800:01:40 ต่างๆเนี่ยเขาก็อาจจะดื่มน้ำน้อยลงดื่ม

00:01:4000:01:43 น้ำน้อยลงปั๊บเนี่ยก็ทำให้มีอาการท้องผู

00:01:4300:01:45 เพิ่มขึ้นด้วยผู้ป่วยาิหลลายเคลื่อนไหว

00:01:4500:01:48 ช้าใช่ไมั้ยครับเเกร็งเเดินลำบากต่างๆ

00:01:4800:01:50 เคลื่อนไหวน้อยเคลื่อนไหวน้อยก็ยิ่งทำให้

00:01:5000:01:52 ลำไส้เคลื่อนไหวน้อยด้วยเช่นเดียวกันนะ

00:01:5200:01:55 ครับงั้นปัจจัยหลากหลายนะครับที่มีทำให้

00:01:5500:01:57 เกิดอาการท้องผูกเช่นเวลาเวลาหมอดูผู้

00:01:5800:02:00 ป่วยที่ท้องผูกเองเนี่ยพอพอเเริ่มบอกแล้ว

00:02:0000:02:04 เท้องผูกเนี่ยเราก็จะมองถึงปัจจัยที่เอ่อ

00:02:0400:02:06 กระตุ้นต่างๆแล้วดูซิว่าในผู้ป่วยแต่ละ

00:02:0600:02:08 รายเนี่ยปัจจัยเด่นของเขาคืออะไรแล้วเรา

00:02:0800:02:11 ก็จะแก้ตามนั้นครับผมเราจะต้องไม่สร้าง

00:02:1100:02:14 ความเข้าใจผิดว่าคนที่ท้องผูกเนี่ยทุกราย

00:02:1400:02:16 มีความเสี่ยงของโลคผากกินสันนะครับมันไม่

00:02:1600:02:19 ได้ตรงไปตรงมาขนาดนั้นนะครับเพราะว่าการ

00:02:1900:02:22 มองอาการทางด้านเตือนของโรคพิสันเนี่ย

00:02:2200:02:24 เป็นการมองย้อนหลังคือหมายถึงว่าผู้ป่วย

00:02:2400:02:26 ที่มีอาการผักจินสั้นแล้วเราสัมภาษณ์เขา

00:02:2600:02:29 ย้อนหลังว่าอาการนำก่อนที่จะเกิดอาการคือ

00:02:2900:02:31 อะไรเราพบว่าอาการท้องผูกเนี่ยเป็นอาการ

00:02:3100:02:34 สำคัญอันนึงที่เป็นอาการเตือนแต่สิ่งที่

00:02:3400:02:36 สำคัญมากไปกว่านั้นคืออาการท้องผูกไม่ได้

00:02:3600:02:38 เป็นอาการเตือนอย่างเดียวของผู้ป่วย

00:02:3800:02:41 พาร์กินสันในแต่ละรายนั้นหมออยากจะเน้น

00:02:4100:02:43 ว่าผู้ป่วยที่มีอาการเตือนของโรค

00:02:4300:02:46 พาร์กินสันที่มีอาการท้องผูกมักจะมีอาการ

00:02:4600:02:49 เตือนอื่นๆร่วมด้วยนะครับอย่างเช่นว่าเมี

00:02:4900:02:53 อาการดมกลิ่นไม่ได้เมีอาการนอนละเมอเมี

00:02:5300:02:56 อาการในเรื่องของการปัสสาวะนะครับที่มี

00:02:5600:02:59 ความผิดปกติอะไรต่างๆเหล่านี้เป็นต้น

00:02:5900:03:01 เนี่ยเอ่อหมออยากจะขยายอีกนิดนึงนะครับ

00:03:0100:03:03 ว่าเวลาพูดถึงเรื่องของการท้องผูกเนี่ยก็

00:03:0300:03:06 คือเรื่องของอาการของระบบทางเดินอาหารเรา

00:03:0600:03:09 มองว่าระบบทางเดินอาหารเนี่ยหลายๆคนในวง

00:03:0900:03:11 การแพทย์เราจะมองว่าเป็น Second Brain

00:03:1100:03:14 เลยนะเพราะว่าระบบประสาทเนี่ยเคลื่อนไหว

00:03:1400:03:16 ควบคุมนะครับในเรื่องของการทำงานของระบบ

00:03:1600:03:18 ทางเดือนอาหารมากๆเพราะฉะนั้นความผิดปกติ

00:03:1900:03:22 ที่เรามองในผู้ป่วยในในโรคพิสันที่เกี่ยว

00:03:2200:03:24 ข้องกับระบบทางเดือนอาหารเนี่ยถึงแม้ท้อง

00:03:2400:03:27 ผูกเป็นอาการที่สำคัญแต่จริงๆระบบทางเดิน

00:03:2700:03:29 อาหารทุกส่วนแทบจะเกี่ยวข้องกันหมดเลยนะ

00:03:2900:03:30 ครับ

00:03:3000:03:32 การนอนละเมอเป็นหนึ่งในอาการที่น่าสงสัย

00:03:3200:03:35 ของโรคพาร์กินสันอีกหนึอาการใช่หรือไม่

00:03:3500:03:38 เพราะอะไรเกี่ยวข้องกันหมดเลยนะครับผม

00:03:3800:03:40 เพราะว่าศูนย์การนอนหลับเนี่ยอยู่ที่

00:03:4000:03:44 บริเวณก้านสมองนะครับก้านสมองเนี่ยเอ่อมี

00:03:4400:03:47 ส่วนที่สมองที่ควบคุมและสร้างสารสื่อ

00:03:4700:03:49 ประสาทที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของโรคผ่า

00:03:4900:03:52 กินสันก็คือสารโดปามีนนั่นเองนะครับเอ่อ

00:03:5200:03:54 หลายๆศูนย์ต่างๆในที่อยู่ในบริเวณการสมอง

00:03:5400:03:56 เนี่ยอยู่ใกล้กันหมดเลยเพราะฉะนั้นเวลามี

00:03:5600:03:58 อาการเสื่อมของทางระบบประสาทเกิดขึ้น

00:03:5800:04:01 เนี่ยหลหลายศูนย์ที่อยู่ในบริเวณก้านสมอง

00:04:0100:04:04 เนี่ยจะมีการเสื่อมลงและทำให้อาการแสดง

00:04:0400:04:06 ออกมานะครับอย่างเช่นยกตัวอย่างเนี่ยใน

00:04:0600:04:08 เรื่องของการดมกลิ่นก็ผ่านไปทางก้านสมอง

00:04:0800:04:10 เช่นเดียวกันนะครับไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง

00:04:1000:04:13 ของเอ่อท้องผูกที่หมอพูดเมื่อกี้นี้นะ

00:04:1300:04:15 ครับศูนย์ควบคุมการขับถ่ายก็อยู่ที่ก้าน

00:04:1500:04:17 สมองนศูนย์การนอนหลับก็อยู่ตรงในบริเวณ

00:04:1800:04:20 นั้นเช่นเดียวกันเพราะฉะนั้นอาการเตือน

00:04:2000:04:22 อีกอันนึงที่ค่อนข้างสำคัญคือภาวะนอน

00:04:2200:04:25 ละเมอนะครับที่เกิดขึ้นในผู้ใหญ่หมอเน้น

00:04:2500:04:27 นิดนึงนะที่เกิดขึ้นในผู้ใหญ่งั้นบาง

00:04:2700:04:30 ครั้งเเราพูดกับผู้ใหญ่เรืกน้ละเมอเอ๊ะ

00:04:3000:04:32 ลูกก็เป็นลูกนอนละเมอเอ๊ะลูกเสี่ยงหรือ

00:04:3200:04:34 เปล่าอะไรต่างๆในลักษณะแบบนั้นมักจะเป็น

00:04:3400:04:38 อาการนอนละเมอที่เกิดขึ้นภายหลังนะครับผม

00:04:3800:04:41 ที่ที่เป็นในผู้ใหญ่แล้วและสิ่งที่สำคัญ

00:04:4100:04:45 ก็คือว่ามักจะมีอาการฝันนะครับและมีอาการ

00:04:4500:04:48 แสดงท่าทางออกมาร่วมกันหมออยากจะใช้ศัพท์

00:04:4800:04:52 พูดแบบนี้ว่ามี Dream แล้วก็ enactment

00:04:5200:04:54 แล้วก็เป็น Behavior เพราะฉะนั้นมีเรื่อง

00:04:5400:04:57 ของการฝันนะครับมีเรื่องของการแสดงออกนะ

00:04:5700:04:59 ครับและเป็นแสดงออกมาในลักษณะที่เป็น

00:04:5900:05:02 พฤติกรรมดันนดเอด้านใดด้านหนึ่งออกมาใน

00:05:0200:05:04 ลักษณะนี้เป็นต้นเพราะะนั้นองค์ประกอบของ

00:05:0400:05:08 3 อย่างตรงนี้ที่มักเกิดขึ้นในช่วงกลาง

00:05:0800:05:12 คืนดึกๆช่วงครึ่งหลังของตอนกลางคืนนะครับ

00:05:1200:05:15 อันนี้จะยิ่งบ่งบอกว่าอาจจะเป็นในเรื่อง

00:05:1500:05:18 ของการนอนละเมอที่เป็นอาการเตือนของโรค

00:05:1800:05:21 พาร์กินสันผู้ป่วยที่มีอาการนอนละเมอ

00:05:2200:05:25 เนี่ยบางคนจำได้บางคนจำไม่ได้บางคนอาจจะ

00:05:2500:05:27 จำได้เป็นเพียงแค่บางส่วนเพราะฉะนั้นบาง

00:05:2700:05:29 ครั้งเวลาเราซักประวัติเเราจะได้ได้เนื้อ

00:05:3000:05:33 หาเพียงแค่เอ่อนิดๆหน่อยๆแต่ด้วยการฝัน

00:05:3300:05:36 ที่รุนแรงตรงนี้นี่แหละทำให้ผู้ป่วยหลายๆ

00:05:3600:05:38 รายเนี่ยเขามีอาการแสดงออกมาใช่มั้ยครับ

00:05:3800:05:41 อย่างเช่นเขาบอกว่าเขากำลังหนีงูยักษ์

00:05:4100:05:43 อยู่ในลักษณะเขาก็จะส่งเสียงวยวายอะไร

00:05:4400:05:46 ต่างๆแล้วก็ยกมือยกไม้นะครับหรือเขาบอก

00:05:4600:05:48 ว่าเกำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายอยู่เขาก็จะ

00:05:4800:05:51 ทำท่าต่อสู้ส่งเสียงอะไรออกมาอย่างนี้

00:05:5100:05:53 เป็นต้นนะครับคราวนี้นอกเหนือจากเสียง

00:05:5300:05:56 แล้วเนี่ยอาจจะมีเรื่องของท่าทางของมือ

00:05:5600:05:58 ด้วยนะครับท่าทางของมือของขาแต่สิ่งที่

00:05:5800:06:02 สำคัญที่มักจะเป็นเราเรามักจะสังเกตได้ใน

00:06:0200:06:05 กลุ่มนอนลวพวกนี้คือแกรนกลางของลำตัวไม่

00:06:0500:06:07 ค่อยเกี่ยวข้องนะครับจะเป็นการเคลื่อนไหว

00:06:0800:06:10 ของแขนของขาโดยส่วนใหญ่นะครับเพราะฉะนั้น

00:06:1000:06:13 ผู้ป่วยก็อาจจะมียกมือยกไม้มาปัดนะครับ

00:06:1300:06:16 ปากกู้ส่งเสียงนะครับหรือยกขาขึ้นมาเตะ

00:06:1600:06:19 หรืออะไรต่างๆในรายที่อาการรุนแรงมากๆ

00:06:1900:06:23 เนี่ยก็อาจจะรุนแรงถึงขั้นแบบต่อยไปโดนคน

00:06:2300:06:26 นอนข้างๆนะเพราะฉะนั้นลักษณะอาการต่างๆ

00:06:2600:06:29 เหล่านี้เนี่ยถ้าเป็นลักษณะการนอนละเมอนะ

00:06:2900:06:32 ครับแล้วเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อยๆหลายๆ

00:06:3200:06:35 ครั้งนะครับเอ่อก็อาจจะเป็นความเสี่ยงอัน

00:06:3500:06:38 นึนะครับผมในเรื่องของโรคพิสันแต่ว่าหมอ

00:06:3800:06:40 เรียนอย่างนี้นะครับว่าอาการเหล่าเนี้ย

00:06:4100:06:43 มันไม่ได้หมายถึงว่านอนละเมอจะต้องเป็น

00:06:4300:06:45 พาร์กินสันเสมอไปเน้นย้ำอีกทีนะครับอาการ

00:06:4500:06:48 หลายๆอย่างรวมกันนะครับแลเอ่ออย่างเช่น

00:06:4800:06:50 นอนละเมอเนี่ยในบางครั้งเนี่ยเกิดขึ้นจาก

00:06:5100:06:53 ยาบางชนิดได้ด้วยเพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่

00:06:5300:06:55 เวลาหมอซักประวัติคนไข้ในเรื่องของนอน

00:06:5500:06:57 ละเมอคือหมอจะถามเรื่องยาก่อนเลยทานยา

00:06:5700:06:59 อะไรอยู่หรือเปล่าต่างๆนี้เราก็ต้องดูดู

00:06:5900:07:01 ปัจจัยตรงนี้เกี่ยวข้องด้วยเช่นเดียวกัน

00:07:0100:07:03 นะครับการการวิเคราะห์อาการนี้สำคัญมาก

00:07:0300:07:06 เราจะต้องรอบคอบและดูถึงสาเหตุในปัจจัย

00:07:0600:07:09 ต่างๆเกี่ยวข้องด้วยครับผมนอกจากนี้ยังมี

00:07:0900:07:14 อาการที่น่าสงสัยของโรคพิสันอะไรอีกจริงๆ

00:07:1400:07:16 เวลาเราวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็น Parkinson

00:07:1600:07:19 หรือไม่ในปัจจุบันเรายังต้องดูอาการของ

00:07:1900:07:22 ทางการเคลื่อนไหวอยู่นะครับอาการทางการ

00:07:2200:07:24 เคลื่อนไหวหลักๆคือการเคลื่อนไหวที่ช้าลง

00:07:2400:07:27 นะครับผมคราวนี้อาการช้าลงมักจะสังเกตได้

00:07:2700:07:30 ยากเพราะว่าบางครั้งผู้สูสงอายุหรืออะไร

00:07:3000:07:32 ต่างๆเขก็จะเคลื่อนไหวช้าลงอยู่แล้วแต่

00:07:3200:07:34 เราจะเห็นว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมอย่าง

00:07:3400:07:38 เช่นผู้สูงอายุเดินเข้ามาเดินในบ้านเดิน

00:07:3800:07:41 ช้าลงก้าวเล็กลงเรื่อยๆซอยเท้าถี่ขึ้น

00:07:4100:07:45 เรื่อยๆนะครับแขนไม่แกว่งหนึข้างนะครับ

00:07:4500:07:47 บางครั้งอาจจะมีอาการสั่นด้านเดียวกับแขน

00:07:4700:07:50 ที่ไม่แกว่งอะไรต่างๆเหล่านี้เป็นต้นอัน

00:07:5000:07:52 นี้ยังเป็นเกณฑ์ที่เราใช้ในการวินิจฉัย

00:07:5200:07:55 รวคพากินสันอยู่นะครับอย่างไรก็ตามอาการ

00:07:5500:07:58 สั่นเนี่ยเป็นอาการที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบ

00:07:5800:08:01 แพทย์มากที่สุดสดอาการสั่นในโรคพินสั่น

00:08:0100:08:02 หลายๆท่านคงรู้จักแล้วนะครับแต่หมอเน้น

00:08:0200:08:05 ย้ำอีกทีนะครับอาการสั่นที่เฉพาะกับโรค

00:08:0500:08:08 พิสันมากๆคืออาการที่เริ่มข้างเดียวนะ

00:08:0800:08:12 ครับที่บริเวณมือขณะที่ผู้ป่วยอยู่เฉยหมอ

00:08:1200:08:14 ยกตัวอย่างนะครับอย่างเช่นว่านั่งดูทีวี

00:08:1400:08:17 นะครับลูกสังเกตว่าเอ๊ะทำไมเอ่อคุณพ่ออาจ

00:08:1700:08:20 จะนิ้วเอ่อสั่นนะครับเหมือนปั้นลูกกอน

00:08:2000:08:22 อยู่ข้างใดข้างหนึ่งอะไรต่างๆเหล่านี้

00:08:2200:08:24 เป็นต้นอาการสั่นในระยะแรกบางครั้งผู้

00:08:2500:08:27 ป่วยไม่รู้ตัวด้วยก็ซ้ำไปนะครับอันนี้คือ

00:08:2700:08:29 เกณฑ์การวินิจฉัยนะครับวินิจฉัยว่าเป็น

00:08:2900:08:32 โรคพาร์กินสันนะครับแต่โรคพาร์กินสัน

00:08:3200:08:35 เนี่ยในปัจจุบันเนี้ยระยะเวลาของโรคค่อน

00:08:3500:08:37 ข้างยาวแล้วเขาทราบอีกด้วยว่าระยะเวลาของ

00:08:3700:08:39 โรคห้องขั้นยาวนี่คือฝั่งที่เริ่มเป็น

00:08:3900:08:43 แล้วและระยะเวลาของฝั่งที่เตือนก่อนที่จะ

00:08:4300:08:45 เป็นก็ยาวเช่นเดียวกันเพฉนั้นช่วงของ

00:08:4500:08:47 เตือนตรงเนี้ยก็จะมีอาการหลากหลายนะครับ

00:08:4800:08:50 ยกตัวอย่างเริ่มต้นตั้งแต่ดมกลิ่นไม่ค่อย

00:08:5000:08:55 ได้นะครับมีภาวะของนอนละเมอมีภาวะของท้อง

00:08:5500:09:00 ผูมีภาวะที่วิตกกังวลนะครับเอ่อซึมเศร้า

00:09:0000:09:02 บางรายมีปัญหาเรื่องของระบบทางเดิน

00:09:0300:09:06 ปัสสาวะหรืออะไรต่างๆฟังดูเห็นมีความแตก

00:09:0600:09:09 ต่างกันมั้ครับว่าอาการฝั่งที่เป็นการ

00:09:0900:09:12 เคลื่อนไหวอาการเตือนเป็นอาการที่ไม่

00:09:1200:09:14 เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวหรือเกี่ยว

00:09:1400:09:15 ข้องกับการเคลื่อนไหวน้อยกว่าอย่างงี้

00:09:1600:09:18 เป็นต้นเพราะฉะนั้นเรามองดูเราจะเห็นเลย

00:09:1800:09:22 นะครับว่ามันมีการเอ่อพัฒนาของอาการที่

00:09:2200:09:25 ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาแต่อาการช่วงของอาการ

00:09:2500:09:27 เตือนที่หมอพูดเมื่อกี้เนี้ยพอเป็น

00:09:2700:09:29 Parkinson แล้วก็ยังอยู่นะไม่ใช่อาการ

00:09:2900:09:31 เตือนหายไปนอนละเมอก็จะยังอยู่แต่นอน

00:09:3100:09:33 ละเมออาจจะเพิ่มมากขึ้นด้วยอะไรต่างๆอย่า

00:09:3400:09:37 งี้เป็นต้นเพราะฉะนั้นการวิจัยในปัจจุบัน

00:09:3700:09:39 หรรือการรักษาในปัจจุบันเนี่ยเราค่อนข้าง

00:09:3900:09:42 ที่จะเริ่มมองหาอาการเตือนเยอะขึ้นแล้วดู

00:09:4200:09:44 ซิเราทำยังไงให้เราวินิจฉัยผู้ป่วยเร็ว

00:09:4400:09:47 ขึ้นไม่ต้องรอให้เค้านะครับว่าต้องมี

00:09:4700:09:49 อาการให้ครบเกณฑ์อะไรต่างๆเสมอไปแล้วมา

00:09:4900:09:52 รักษาเาบางทีการวินิจฉัยเร็วเนี้ยนะครับ

00:09:5200:09:55 ในปัจจุบันสามารถทำได้ดีขึ้นนะครับมันมี

00:09:5500:09:57 เทคโนโลยีมีอะไรต่างๆที่ช่วยทำให้แพทย์

00:09:5700:10:00 สามารถวินิจฉัยการอะไรต่างๆที่ดีขึ้นหมอ

00:10:0000:10:04 ยกตัวอย่างนะอย่างเช่นอาการนอนละเมอเนี่ย

00:10:0400:10:08 สมัยก่อนเยซักยากมากเลยนะครับลูกก็บอกไม่

00:10:0800:10:10 รู้นอนคนละห้องแฟนก็บอกว่าหลับไปแล้วบอก

00:10:1000:10:13 ไม่ได้เดี๋ยวนี้ทำไงครับติดกล้องในห้อง

00:10:1300:10:17 ใช่มั้ยครับเอ่อลูกหลานเอากลับมารีวิว

00:10:1700:10:20 แล้วก็คัดๆๆส่งมาให้หมอเลยว่าเนี่ยตอน

00:10:2000:10:23 ประมาณ 2:30 นตรงนี้หมอดูนี่สิเอคุณพ่อ

00:10:2300:10:25 เป็นแบบนี้อะไรต่างๆเห็นมั้ยครับง่ายขึ้น

00:10:2600:10:27 ตั้งเยอะเพราะฉะนั้นในปัจจุบันเราถ้าเรา

00:10:2700:10:30 นำเทคโนโลยีมาใช้อะไรต่างๆให้มีประโยชน์

00:10:3000:10:32 เนี่ยช่วยในเรื่องของการเอ่อเรื่องของ

00:10:3200:10:34 อาการเรื่องของการวินิจฉัยได้ดีขึ้นเยอะ

00:10:3400:10:34 เลย

00:10:3400:10:38 [เพลง]

00:10:3800:10:42 ครับ tn and Health เราจะรวบรวมความรู้

00:10:4300:10:45 ทางด้านสุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ

00:10:4500:10:48 ถือพร้อมก่อติดความเคลื่อนไหวจากทุก

00:10:4800:10:52 ประเด็นสุขภาพรอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุม

00:10:5200:10:55 มองของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้

00:10:5500:10:58 ทางด้านต่างๆ tn and Health เข้าถึงทุก

00:10:5900:11:03 ทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน

00:11:0300:11:27 [เพลง]

00:11:2700:11:34 โรค

00:11:3400:11:37 H