00:00:00 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:34 สวัสดีค่ะคุณผู้ชมวันนี้นะคะต่อมาเป็นแขก
00:00:34 → 00:00:37 รับเชิญของรายการcanนซอร์Jจourneyรู้เท่า
00:00:37 → 00:00:40 ทันกันโรคมะเร็งค่ะรายการที่จะพาคุณผู้ชม
00:00:40 → 00:00:42 ไปทำความรู้จักกับโรคมะเร็งกันแบบเจาะลึก
00:00:42 → 00:00:45 เลยล่ะค่ะและขอบอกเลยนะคะว่าเนื้อหาราย
00:00:45 → 00:00:48 การของเราในวันนี้เนี่ยเด็ดมากจริงๆค่ะ
00:00:48 → 00:00:50 คุณผู้ชมคะคุณผู้ชมเคยได้ยินคำว่า
00:00:50 → 00:00:52 Palative Care หรือการดูแลแบบประคับ
00:00:52 → 00:00:55 ประคองกันบ้างมั้ยคะแต่ว่าคุณผู้ชมเนี่ย
00:00:55 → 00:00:57 อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างนะคะแต่เคยสงสัย
00:00:57 → 00:01:00 กันมั้ล่ะคะว่าจริงๆแล้วความหมายของ
00:01:00 → 00:01:02 Palative Care เนี่ยเาคืออะไรกันแน่และ
00:01:02 → 00:01:05 เกี่ยวข้องอย่างไรกับโรคมะเร็งวันนี้เต๋า
00:01:05 → 00:01:09 มีคำตอบไปด้วยกันเลยค่ะ
00:01:09 → 00:01:14 อะไรนะการดูแลแบบประคับประคองหรอใช่ฉันก็
00:01:14 → 00:01:18 ไม่รู้มันคืออะไรอ่ะฉันก็ไม่รู้จักนะแต่
00:01:18 → 00:01:21 เดี๋ยวรอถามลูกดูก่อนช่วงเนี้ยอย่าไป
00:01:21 → 00:01:26 กังวลนะให้พักผ่อนเยอะๆดูแลตัวเองให้ดี
00:01:26 → 00:01:28 ได้จ้ะได้จ้ะงั้นแค่นี้ก่อนนะฉันต้องไปดู
00:01:28 → 00:01:32 พ่อก่อนได้จ้าบาย
00:01:32 → 00:01:35 แม่คุยกับน้าหน่อยลอครับพ่อน้าหน่อยเป็น
00:01:35 → 00:01:38 อะไรหรือเปล่าครับสีหน้าแม่เครียดๆนะครับ
00:01:38 → 00:01:41 ช่วงนี้อาการของพ่อน้าหน่อยก็ยังทรงอยู่เ
00:01:41 → 00:01:44 บอกให้ดูแลแบบประคับประคองไอ้พลาพลาอะไร
00:01:44 → 00:01:49 เนี่ยแหละพาราอะไรแม่โอ๊ยพารทีแคร์รือ
00:01:49 → 00:01:53 เปล่าคะพี่ต้อยใช่แล้วแคร์นี่
00:01:53 → 00:01:56 เลยีveแคร์เนี่ยนะก็คือการดูแลแบบประคับ
00:01:56 → 00:01:58 ประคองไงคะเอ้า
00:01:58 → 00:02:01 แบบนี้คนที่เป็นมะเร็งก็ไม่มีทางรักษา
00:02:01 → 00:02:05 อยู่แล้วปูก็ต้องยอมแพ้สิครับนี้ก็แย่เลย
00:02:05 → 00:02:09 หยุดอย่าคิดไปเองก่อนแบบนั้นการดูแลแบบ
00:02:09 → 00:02:12 ประคับประคองอ่ะมันไม่ใช่ว่าจะยอมแพ้อะไร
00:02:12 → 00:02:15 ขนาดนั้นนะแต่เขายังได้รับการรักษาเหมือน
00:02:15 → 00:02:18 เดิมปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นก็แค่
00:02:18 → 00:02:21 นั้นแล้วมันต่างกันยังไงครับเมื่อก่อน
00:02:21 → 00:02:24 เนี่ยนะป้าน่ะเคยมีญาติคนนึงเ้าก็ได้รับ
00:02:24 → 00:02:28 การดูแลแบบนี้เชื่อมั้ยว่าคนป่วยแล้วก็คน
00:02:28 → 00:02:31 ดูแลเนี่ยเค้ามีความสุขความสบายใจเพราะ
00:02:31 → 00:02:33 ว่าเค้าอ่ะสามารถรับมือกับอาการที่เขา
00:02:33 → 00:02:37 ตรวจได้และที่สำคัญนะสุดท้ายของชีวิตเ้า
00:02:37 → 00:02:42 แล้วอ่ะเค้าก็จากไปอย่างสบายใจคนอยู่ก็
00:02:42 → 00:02:45 ไม่ทุกข์คนจากไปก็ไม่ต้องกังวลฟังดูเข้า
00:02:45 → 00:02:49 ท่านะเดี๋ยวโทรบอกน้าหน่อยก่อนตู๋นี่สุด
00:02:49 → 00:02:53 ยอดเลยครับแน่นอนอยู่แล้ว
00:02:53 → 00:02:55 เห็นมั้ยคะคุณผู้ชมแต่ว่าคนส่วนใหญ่เนี่ย
00:02:56 → 00:02:58 ยังมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดูแลแบบ
00:02:58 → 00:03:00 ประคับประคองกันอยู่เลยนะคะและไหนๆวันนี้
00:03:00 → 00:03:03 เราก็อยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้วและ
00:03:03 → 00:03:05 ตอนนี้เต่าก็อยู่ที่หน้าศูนย์ความเป็น
00:03:05 → 00:03:07 เลิศด้านการดูแลแบบประคับประคองแล้วด้วย
00:03:07 → 00:03:11 ค่ะงั้นวันนี้เต๋าจะขออาสาพาไปหาคำตอบเอง
00:03:11 → 00:03:24 [เพลง]
00:03:24 → 00:03:27 ค่ะและเพื่อที่จะได้รับคำตอบเกี่ยวกับ
00:03:27 → 00:03:28 เรื่องนี้อย่างชัดเจนที่สุดต้องคุยกับคุณ
00:03:29 → 00:03:31 หมอท่านนี้เลยค่ะรองศาสราจารย์นายแพทย์
00:03:31 → 00:03:34 กิตติพลนาควิโรธรองประธานคณะกรรมการการดู
00:03:34 → 00:03:37 แลแบบประคับประคองคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล
00:03:38 → 00:03:41 รามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะ
00:03:41 → 00:03:45 คุณหมอครับคุณหมอขาคำถามแรกเลยค่ะว่าทำไม
00:03:45 → 00:03:47 เราถึงต้องมีคลินิกที่เป็นการดูแลแบบ
00:03:47 → 00:03:50 ประคับประคองแบบนี้โดยเฉพาะเลยล่ะคะครับ
00:03:50 → 00:03:52 เพราะว่าการดูแลแบบประคับประคองนะครับก็
00:03:52 → 00:03:55 เป็นการดูแลที่มีความเฉพาะนะครับแล้วก็
00:03:55 → 00:03:59 สามารถเติมเต็มเอ่อค่ะ
00:03:59 → 00:04:00 พอคุณหมอพูดอย่างงี้แล้วมีคำถามอีกเยอะ
00:04:00 → 00:04:02 มากๆเลยที่อยากถามคุณหมอค่ะครับยินดีครับ
00:04:02 → 00:04:04 งั้นเดี๋เราเข้าไปข้างในนะครับโอเคค่ะ
00:04:04 → 00:04:08 ครับเชิญเลยครับค่ะ
00:04:08 → 00:04:12 [เพลง]
00:04:12 → 00:04:15 คุณหมอขาวันนี้จะขอโอกาสถามคุณหมอแทนคุณ
00:04:15 → 00:04:18 ผู้ชมเลยนะคะอันแรกเลยค่ะอยากทราบว่า
00:04:18 → 00:04:20 Palative Care เนี่ยจริงๆแล้วเคืออะไร
00:04:20 → 00:04:22 หรอคะ Palative Care ก็เป็นการดูแลแบบ
00:04:22 → 00:04:25 หนึ่งครับชนิดนึงที่เราดูแลในคนไข้อาจจะ
00:04:25 → 00:04:28 เป็นระยะท้ายหรือว่าคนไข้ที่อยู่ในการ
00:04:28 → 00:04:31 พยากรณ์โรคไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับสำหรับ
00:04:31 → 00:04:34 การดูแลแบบนี้จริงๆก็ก็เราจะต้องครอบคลุม
00:04:34 → 00:04:38 นะครับทั้งในเรื่องของเอ่อแบบองค์รวมก็
00:04:38 → 00:04:41 คือดูทั้งสุขภาพทางด้านร่างกายแล้วก็ด้าน
00:04:41 → 00:04:45 จิตใจรวมไปถึงครอบครัวหรือว่ามิติทางด้าน
00:04:45 → 00:04:48 สังคมของคนไข้ด้วยนอกจากนั้นทีเราก็จะ
00:04:49 → 00:04:51 โฟกัสมากขึ้นโดยเฉพาะในคนไข้ท้ายๆเนี่ย
00:04:51 → 00:04:54 ทางด้านจิตวิญญาณนะความเชื่อความหมายของ
00:04:54 → 00:04:56 ชีวิตก็เป็นอีกส่วนนึงที่เราให้การดูแล
00:04:56 → 00:04:58 เหมือนกันครับอืก็เพราะเป็นอีกเรื่องที่
00:04:58 → 00:05:01 สำคัญมากๆเลยใช่มั้คะแล้วใครหรอคะคุณหมอ
00:05:01 → 00:05:04 ที่จะต้องเข้ารับการดูแลที่คลินิกแบบ
00:05:04 → 00:05:07 ประคับประคองครับในกลุ่มเอ่อคนไข้มะเร็ง
00:05:07 → 00:05:10 เนี่ยครับจริงๆคุณหมอมะเร็งเองก็จะให้การ
00:05:10 → 00:05:12 ดูแลโรคมะเร็งโดยส่วนใหญ่แล้วคุณหมอ
00:05:12 → 00:05:15 มะเร็งก็อาจจะเริ่มคุยกับคนไข้ว่ามีอาการ
00:05:15 → 00:05:17 ทางกายอาการรบกวนหรือมีปัญหาสุขภาพอื่น
00:05:17 → 00:05:20 มื้อคุณหมอมะเร็งพบว่ามีเนี่ยบางครั้งก็
00:05:20 → 00:05:23 อาจจะส่งปรึกษากับทีมประคับประคองตั้งแต่
00:05:23 → 00:05:25 แรกเริ่มซึ่งอันนี้เราเรียกว่าเป็น early
00:05:25 → 00:05:27 Paritative Care เป็น Concept ที่ต่าง
00:05:27 → 00:05:29 ประเทศใช้มากขึ้นเนื่องจากให้คนไข้ได้รู้
00:05:29 → 00:05:32 จักทีมประคับประคองตั้งแต่ระยะแรกซึ่งข้อ
00:05:33 → 00:05:36 ดีของการทำแบบนี้ก็จะทำให้คนไข้ไม่กลัวนะ
00:05:36 → 00:05:38 เพราะเวลาเราพูดประคับประคองนี่มันรู้สึก
00:05:38 → 00:05:42 บางทีก็ใจหายว่าเอ๊ะเราจะตายหรือยังหรือ
00:05:42 → 00:05:45 ว่าจะเหลือเวลาอยู่ไม่มากแต่จริงๆเราอยาก
00:05:45 → 00:05:47 ให้โฟกัสใหม่ว่าจริงๆประคับประคองไม่ได้
00:05:47 → 00:05:51 แปลว่าคนไข้จะต้องเอ่อเสียชีวิตเสมอไปแต่
00:05:51 → 00:05:54 เราทำยังไงให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีใน
00:05:54 → 00:05:56 เวลาที่เขาเหลืออยู่ไม่ว่ามันจะมากน้อย
00:05:56 → 00:05:59 แค่ไหนครับค่ะอย่างงั้นก็ไม่ใช่ไม่จำเป็น
00:05:59 → 00:06:02 ต้องแบบโอ้โหเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายใหม่
00:06:02 → 00:06:06 ไหวแล้วตั้งแต่คนไข้ยังเดินได้ยังคุยได้
00:06:07 → 00:06:10 บางคนก็ยังเอ่อทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ
00:06:10 → 00:06:12 ก็อาจจะมาคุยกับคุณหมอประคับประคองได้
00:06:12 → 00:06:15 ตั้งแต่ตอนระยะแรกๆอือฮึแต่แน่นอนพอในจุด
00:06:15 → 00:06:18 ที่เอ่อโรคเป็นมากขึ้นแล้วก็อยู่ในระยะ
00:06:18 → 00:06:20 ที่อาจจะติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:06:20 → 00:06:23 แน่นอนทีมของเราก็จะเข้าไปมีบทบาทเสริม
00:06:23 → 00:06:26 คุณหมอมะเร็งมากขึ้นครับแล้วอย่างคลินิก
00:06:26 → 00:06:28 แบบเนี้ยในเมืองไทยเรามีมานานหรือยังคะ
00:06:28 → 00:06:32 ของบ้านเราเนี่ยก็จะมีเอ่อ movement คือ
00:06:32 → 00:06:34 มีความพยายามในการพัฒนาระบบการดูแลแบบ
00:06:34 → 00:06:37 ประคับประคองเนี่ยก็ร่วมประมาณ 10 กว่าปี
00:06:37 → 00:06:40 แล้วก็คือมาเสริมการรักษาใช่มั้ยใช่ครับ
00:06:40 → 00:06:42 แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องผู้ป่วยโรคมะเร็ง
00:06:42 → 00:06:44 เสมอไปใช่มั้คะไม่เฉพาะโรคมะเร็งนะครับ
00:06:44 → 00:06:47 เอ่อโรคเรื้อรังอื่นๆอ่าเช่นเอ่อคนไข้
00:06:47 → 00:06:51 กลุ่มที่ฟอกไตคนไข้กลุ่มที่เป็นเอ่อโรค
00:06:51 → 00:06:54 หัวใจหัวใจวายระยะสุดท้ายหรือแม้แต่คนไข้
00:06:54 → 00:06:57 ให้บางครั้งคนไข้อุบัติเหตุที่อาจจะมีการ
00:06:57 → 00:06:59 บาดเจ็บที่ศีรษะรุนแรงนะครับพวกนี้เราก็
00:06:59 → 00:07:03 จะได้รับส่งปรึกษาจากคุณหมอสาขาอื่นๆครับ
00:07:03 → 00:07:06 ให้ร่วมดูแลครับแล้วที่เขาบอกว่าอยากให้
00:07:06 → 00:07:08 แบบผู้ป่วยจะได้อยู่กับโรคได้อย่างมีความ
00:07:08 → 00:07:10 สุขเนี่ยคุณหมอคะคำนี้มันเป็นไปได้จริงๆ
00:07:10 → 00:07:13 หรอคะว่าเราจะอยู่กับโรคอย่างมีความสุข
00:07:13 → 00:07:16 ได้ยังไงอย่างเงี้ยค่ะผมคิดว่ามันเป็นไป
00:07:16 → 00:07:18 ได้ครับแล้วจริงๆทีมของเราทุกคนเราคิดว่า
00:07:18 → 00:07:21 เป็นไปได้จริงๆมันก็จะเริ่มตั้งแต่ระยะ
00:07:21 → 00:07:24 เรื่องของการยอมรับตัวโลกซึ่งบางครั้ง
00:07:24 → 00:07:27 เนี่ยตัวคนไข้กับครอบครัวเองก็อาจจะมี
00:07:27 → 00:07:29 ปัญหาเช่นการสื่อสารเนาะครอบครัวหลาย
00:07:29 → 00:07:33 ครั้งก็อาจจะกังวลกลัวว่าเอ๊ะจะคุยกับคน
00:07:33 → 00:07:36 ไข้ยังไงจะบอกดีหรือเปล่าพอมามีเอ่อ
00:07:36 → 00:07:38 ประเด็นด้านการสื่อสารเนี่ยก็อาจจะทำให้
00:07:38 → 00:07:40 คนไข้เองก็ไม่มั่นใจว่าเอ๊ะตกลงมาหาคุณ
00:07:41 → 00:07:44 หมอหลายครั้งและดูอาการก็ไม่เห็นจะดีขึ้น
00:07:44 → 00:07:46 เท่าไหร่มันก็จะสถานการณ์ที่คนไข้ก็ไม่
00:07:46 → 00:07:49 เข้าใจว่าตกลงชีวิตเขาจะเป็นไงต่อแล้ว
00:07:49 → 00:07:52 ครอบครัวเองก็ไม่กล้าที่จะคุยให้ฟังั้น
00:07:52 → 00:07:55 บางครั้งการติดอยู่ในภาวะนั้นเนี่ยก็เป็น
00:07:55 → 00:07:57 ความทุกข์แบบนึงของทั้งคนไข้และครอบครัว
00:07:57 → 00:07:59 เพราะงั้นผมคิดว่าในทีมของเราเนี่ยเราก็
00:07:59 → 00:08:02 อาจจะเป็นตัวช่วยตัวนึงที่บางทีญาติไม่
00:08:02 → 00:08:06 ไม่รู้วิธีในการคุยแล้วก็อาจจะช่วยคุยกับ
00:08:06 → 00:08:09 คนให้เพื่อให้เขาอาจจะค่อยๆยอมรับกับตัว
00:08:09 → 00:08:12 โรคมากขึ้นนะครับทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาเรา
00:08:12 → 00:08:15 คุยกับคนไข้แต่ละคนเนี่ยก็คงต้องมองว่า
00:08:15 → 00:08:18 แต่ละคนเนี่ยเขามี background มีนิสัยใจ
00:08:18 → 00:08:21 พอยังไงการยอมรับถ้าเราจะพูดออกไปเนี่ย
00:08:21 → 00:08:23 เขาจะรับได้มากน้อยแค่คุณหมอขาแล้วจริงๆ
00:08:23 → 00:08:25 แล้วเป้าหมายของการดูแลแบบประคับประคอง
00:08:25 → 00:08:28 นี่คืออะไรคะอืจริงๆถ้ามันพูดให้ง่ายที่
00:08:28 → 00:08:31 สุดนะครับก็คือทำให้คนไข้เนี่ยอยู่อย่าง
00:08:31 → 00:08:34 มีความสุขที่สุดในช่วงที่เขามีเวลาเหลือ
00:08:35 → 00:08:37 อยู่และเมื่อเวลาที่เขาจะต้องจากไปเนี่ย
00:08:37 → 00:08:40 เขาจากไปอย่างพร้อมที่จากไปไม่ได้ห่วง
00:08:40 → 00:08:42 อะไรแล้วอ๋อดีที่สุดเลยแบบนั้นเนาะครับ
00:08:42 → 00:08:44 ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นเป้าหมายที่เราอยาก
00:08:44 → 00:08:47 ได้ครับค่ะและงั้นขั้นตอนการรักษาใน
00:08:48 → 00:08:50 คลินิกแบบประคับประคองเนี่ยค่ะขั้นตอน
00:08:50 → 00:08:52 หลักๆจะมีเป็นยังไงบ้างคะเอ่อเอ่อส่วน
00:08:52 → 00:08:55 ใหญ่พอเราได้รับการส่งปรึกษาครับจากคุณ
00:08:55 → 00:08:59 หมอสาขาอื่นเราก็จะมีทีมแพทย์พยาบาลซึ่ง
00:08:59 → 00:09:01 ก็คงจะประเมินเบื้องต้นนะครับก็เริ่มจาก
00:09:01 → 00:09:04 เรื่องความเ่อสุขสบายทางร่างกายก่อนเช่น
00:09:04 → 00:09:06 เขามีอาการรบกวนอะไรมั้ยมีปวดมั้ยเหนื่อย
00:09:06 → 00:09:08 มั้ยทางกายภาพใช่ทางกายภาพเพื่อให้เข้าใจ
00:09:08 → 00:09:11 ว่าเอ๊ะเอ่อทางด้านร่างกายมีอะไรที่เรา
00:09:11 → 00:09:13 ต้องจัดการหรือเปล่าหลังจากประเมินร่าง
00:09:13 → 00:09:16 กายเราก็จะมีเอ่อนักจิตวิทยาที่อาจจะเข้า
00:09:16 → 00:09:19 ไปช่วยประเมินคนไข้ทางด้านจิตใจเช่นอาจจะ
00:09:19 → 00:09:22 มีภาวะซึมเศร้าวิตกกังวลอะไรหรือเปล่านะ
00:09:22 → 00:09:25 ครับแล้วก็อาจจะมีทีมสาขาอื่นๆอันนี้ก็
00:09:25 → 00:09:28 ขึ้นอยู่กับประเด็นว่าคุณหมอคุณพยาบาล
00:09:28 → 00:09:30 ประเมินว่ามีประเด็นอีกอะไรอีกมเราก็อาจ
00:09:30 → 00:09:32 จะให้ทีมของเราเข้าไปประเมินเพิ่มเติมใน
00:09:32 → 00:09:35 ประเด็นที่เฉพาะคราวนี้พอเราได้ปัญหา
00:09:35 → 00:09:38 สุขภาพที่เห็นภาพชัดแล้วเนี่ยเราก็จะ
00:09:38 → 00:09:40 เริ่มการออกแบบซึ่งการออกแบบเนี่ยจริงๆจะ
00:09:40 → 00:09:44 เป็นการลักษณะประชุมกันของทีมสหวิชาชีพ
00:09:44 → 00:09:47 เพื่อจะดูว่าเอ่อแผนการดูแลที่เฉพาะของคน
00:09:48 → 00:09:50 ไข้คนเนี้ยน่าจะออกเป็นแบบไหนแล้วอย่างี้
00:09:50 → 00:09:53 มีวิธีพิจารณามั้ยคะว่าคนไข้หรือผู้ป่วย
00:09:53 → 00:09:56 ท่านไหนที่จะสามารถเข้ากันได้รับการดูแล
00:09:56 → 00:09:59 ในคลินิกนี้ได้บ้างทางรามาเองอ่ะครับเรา
00:09:59 → 00:10:02 ก็จะมีเกณฑ์อยู่ครับเช่นถ้าเป็นกลุ่มคน
00:10:02 → 00:10:04 ไข้มะเร็งเนี่ยคุณหมอมะเร็งก็จะทราบว่า
00:10:04 → 00:10:07 ระยะของโรคเข้าสู่ระยะที่เราโฟกัสเอ่อ
00:10:07 → 00:10:09 เรื่องการประคับประคองเนี่ยบางครั้งเรา
00:10:10 → 00:10:13 อาจจะใช้การพยากรณ์โรคเช่นอาจจะคะเนว่าคน
00:10:13 → 00:10:15 ไข้เป็นไปได้อาจจะน้อยกว่า 1 ปีคุณหมอ
00:10:15 → 00:10:18 มะเร็งก็อาจจะเริ่มส่งปรึกษาทางแผนก
00:10:18 → 00:10:20 ประคับประคองครับจำเป็นต้องมาคลินิกที่
00:10:20 → 00:10:23 โรงพยาพยาบาลมั้ยคะหรือว่าถ้าไม่สามารถมา
00:10:23 → 00:10:27 ได้มีรักษาที่บ้านได้ด้วยมั้คะเอ่อทางทีม
00:10:27 → 00:10:29 ของเราเนี่ยครับเราก็เข้าใจอย่างที่ว่า
00:10:29 → 00:10:32 ความต้องการของแต่ละครอบครัวที่ต่างกัน
00:10:32 → 00:10:35 เราก็ไปเยี่ยมคนไข้ที่บ้านแทนนะครับมีทีม
00:10:35 → 00:10:39 ไปหาซึ่งจริงๆการเยี่ยมคนไข้ที่บ้านเนี่ย
00:10:39 → 00:10:43 จริงๆช่วยให้ทีมเข้าใจเอ่อความเฉพาะของ
00:10:43 → 00:10:47 บ้านคนไข้มากขึ้นใช่เราจะได้ไปเห็นชีวิตเ
00:10:47 → 00:10:50 ใช่มั้คะถูกต้องครับคุณหมอคะนอกจากการดู
00:10:50 → 00:10:54 แต่ตามสภาพอาการของผู้ป่วยแล้วเนี่ยแล้ว
00:10:54 → 00:10:56 ทางด้านจิตใจล่ะคะเราดูแลเขายังไงได้บ้าง
00:10:56 → 00:10:59 คะครับจริงๆเอ่อการดูแลด้านจิตใจเนี่ยผม
00:11:00 → 00:11:03 อยากให้โฟกัสอันดับแรกก็คือว่าเอาเรื่อง
00:11:03 → 00:11:05 อาการทางกายอาการทางกายเนี่ยต้องได้รับ
00:11:05 → 00:11:08 การควบคุมให้ดีก่อนส่วนเรื่องการดูแลด้าน
00:11:08 → 00:11:11 จิตใจเนี่ยก็อาจจะเริ่มตั้งแต่ในกรณีคน
00:11:11 → 00:11:14 ไข้ทั่วๆไปนะครับเราก็คงจะอย่างที่ว่า
00:11:14 → 00:11:17 ครับแนะนำให้มีการคุยกันระหว่างคนไข้กับ
00:11:17 → 00:11:20 กับญาติเนี่ยกล้าที่จะเปิดใจคุยกัน
00:11:20 → 00:11:23 ระหว่างคนไข้กับญาติหรอคะถูกต้องมากขึ้น
00:11:23 → 00:11:26 บางครั้งญาติก็กังวลว่าจะถามเรื่องความ
00:11:26 → 00:11:29 รู้สึกหรือถามเรื่องความคิดของคนไข้ดีมย
00:11:29 → 00:11:32 เกี่ยวกับอาจจะเป็นสุขภาพของเขาไม่กล้า
00:11:32 → 00:11:34 ที่จะสื่อสารกันไม่กล้าสื่อสารถูกต้อง
00:11:34 → 00:11:37 แล้วก็จากประสบการณ์ของผมเนี่ยจริงๆคนไข้
00:11:37 → 00:11:41 หลายคนเนี่ยก็อยากจะคุยกับเอ่อครอบครัวนะ
00:11:41 → 00:11:44 เหรอเช่นคุยกับลูกหรือว่าคุยกับเอ่อคนที่
00:11:44 → 00:11:48 เขารักแต่เขาก็กังวลเหมือนกันว่าเอ่อคุย
00:11:48 → 00:11:51 ไปแล้วจะทำให้คนอื่นไม่สบายใจหรือเปล่าอื
00:11:51 → 00:11:54 มันคิดไปหมดได้สามารถคิดหมดได้มันเป็น
00:11:54 → 00:11:57 สถานการณ์ที่ 2 ฝ่ายก็ต้องการปกป้องความ
00:11:57 → 00:11:59 รู้สึกของอีกฝ่ายค่ะเพราะว่ามันเปราะบาง
00:11:59 → 00:12:03 มากเหลือเกินในณเวลานั้นญาติเองก็ไม่รู้
00:12:03 → 00:12:06 จะพูดอะไรได้บ้างอะไรอย่างเงี้ยทำให้เกิด
00:12:06 → 00:12:09 ช่องว่างใช่มั้คะครับอันนี้ถ้าเราพอเรา
00:12:09 → 00:12:12 เริ่มการสื่อสารที่มีการเปิดใจละญาติก็จะ
00:12:12 → 00:12:14 ทราบแล้วครับว่าจริงๆสิ่งที่คนไข้เขา
00:12:14 → 00:12:16 กังวลเนี่ยหรือเขาห่วงเนี่ยมันมีเรื่อง
00:12:16 → 00:12:19 อะไรบ้างการสื่อสารที่ดีเนี่ยจะช่วยทำให้
00:12:19 → 00:12:22 การดูแลด้านจิตใจดีขึ้นในบางกรณีเนี่ยคน
00:12:22 → 00:12:25 ไข้เองก็อาจจะมีปัญหาเรื่องภาวะซึมเศร้า
00:12:25 → 00:12:29 หรือวิตกกังวลจริงๆในกรณีพวกนี้เนี่ยเอ่อ
00:12:29 → 00:12:31 โดยเบื้องต้นเนี่ยถ้าญาติสงสัยคือ
00:12:31 → 00:12:33 ครอบครัวสงสัยว่าคนไข้อาจจะมีภาวะพวก
00:12:33 → 00:12:37 เนี้ยแนะนำว่าก็ควรจะมาเล่าให้ทีมฟังเนาะ
00:12:37 → 00:12:40 ซึ่งของทีมเราเนี่ยก็จะลงไปประเมินราย
00:12:40 → 00:12:43 ละเอียดมากขึ้นว่าจริงๆแล้วคนไข้มีภาวะ
00:12:43 → 00:12:45 ซึมเศร้าหรือเปล่านะครับบางทีเมีภาวะซึม
00:12:45 → 00:12:48 เศร้าก็ยิ่งทำให้เขาโฟกัสเรื่องความเจ็บ
00:12:48 → 00:12:51 ป่วยสุขภาพเขมากขึ้นทำให้เกิดความท้อใจ
00:12:51 → 00:12:54 อะไรต่างๆซึ่งจริงๆเป็นภาวะที่รักษาได้
00:12:54 → 00:12:56 คุณหมอเอกก็อาจจะให้ยาหรือเรามีนัก
00:12:56 → 00:13:00 จิตวิทยาในทีมซึ่งสามารถให้จิตบำบัดเพื่อ
00:13:00 → 00:13:02 ช่วยทำให้เขาคิดในเชิงบวกมากขึ้นมีความ
00:13:03 → 00:13:06 สุขกับชีวิตมากขึ้นรวมทั้งเรามีกิจกรรม
00:13:06 → 00:13:10 อื่นๆที่อาจจะเสริมให้กับใช่ๆอย่างเช่น
00:13:10 → 00:13:12 เรามีนักดนตรีบำบัดนะครับซึ่งก็มีนัก
00:13:12 → 00:13:14 ดนตรีบำบัดก็มีไม่กี่โรงพยาบาลในประเทศ
00:13:14 → 00:13:17 ไทยนะครับที่เรามีวิชาชีพนี้คนไข้บางราย
00:13:18 → 00:13:18 เนี่ย
00:13:18 → 00:13:21 ให้เล่าความรู้สึกของเเนี่ยเอาจจะไม่กล้า
00:13:21 → 00:13:24 เล่าไม่ไม่ถนัดในการศึกษาแบบเป็นคำพูดออก
00:13:24 → 00:13:27 มาคะใช่ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่เอ่อ
00:13:27 → 00:13:30 ใช้ดนตรีเข้ามาเป็นวิธีการนึงในการเล่า
00:13:30 → 00:13:34 ความรู้สึกของเขาเวลาเราเอ่อใช้ศิลปะหรือ
00:13:34 → 00:13:36 ใช้ดนตรีเนี่ยมันก็จะทำให้ความรู้สึกปลอด
00:13:36 → 00:13:39 ภัยมากกว่าในการที่จะแสดงความรู้สึกออกมา
00:13:39 → 00:13:42 ทีมของเราก็มีกิจกรรมดนตรีบำบัดซึ่งอาจจะ
00:13:42 → 00:13:45 ช่วยเสริมการดูแลด้านจิตใจตรงนี้ครับแล้ว
00:13:45 → 00:13:47 ถ้าผู้ป่วยในกรณีที่ผู้ป่วยอยู่ที่บ้าน
00:13:47 → 00:13:50 ล่ะคะขั้นตอนเหล่านี้เนี่ยสามารถทำได้มั้
00:13:50 → 00:13:53 คะได้เหมือนกันครับเอ่อทีมของเราสามารถไป
00:13:53 → 00:13:56 ทำกิจกรรมให้ที่บ้านได้ค่ะนะครับไม่ว่าจะ
00:13:56 → 00:13:59 เป็นนักจิตวิทยานักดนตรีบำบัดเราก็เคยให้
00:13:59 → 00:14:01 ดนตรีบำบัดที่บ้านได้เหมือนกันก็ก็ทำได้
00:14:01 → 00:14:02 เหมือนอยู่ที่ทำได้เหมือนกันเหมือนอยู่
00:14:02 → 00:14:04 ที่โรงพยาบาลเลยครับโชคดีที่วันนี้เรามี
00:14:04 → 00:14:07 นักดนตรีบำบัดด้วยนะครับงั้นเดี๋ยวเชิญ
00:14:07 → 00:14:09 คุณเต๋าไปดูมั้ยครับว่าเทำอะไรบ้างได้ได้
00:14:09 → 00:14:12 เลยค่ะอยากดูมากเลยรบกวนคุณหมอด้วยนะคะ
00:14:12 → 00:14:15 โอเคไปกันค่ะ
00:14:15 → 00:14:17 ขออนุญาตเข้าไปดูด้วยนะ
00:14:17 → 00:14:20 ครับ
00:14:20 → 00:14:27 Jingle Bell Jingle Bell Jinger all
00:14:27 → 00:14:32 the Oh, what fun need
00:14:32 → 00:14:34 to open
00:14:34 → 00:14:39 slay Jingle Bell Jinger Bell
00:14:39 → 00:14:42 Jinger all the
00:14:43 → 00:14:48 way sm it is
00:14:48 → 00:14:52 [เพลง]
00:14:52 → 00:14:55 สวัดีค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะอันนี้คุณ
00:14:55 → 00:14:58 เนชนกนะครับกับคุณเมก็จะเป็นนักดนตรี
00:14:58 → 00:15:01 บำบัดของทีมเรานะครับโหยเท่ชะมัดเลยคุณ
00:15:01 → 00:15:04 แม่ขาหน้าที่ของนักดนตรีบำบัดเนี่ยทำงาน
00:15:04 → 00:15:07 ยังไงบ้างจริงๆก็หลักๆเราก็ช่วยสนับสนุน
00:15:07 → 00:15:09 การทำงานของแพทย์อ่ะนะคะนักดนตรีบำบัดก็
00:15:09 → 00:15:12 จะช่วยทั้งเรื่องของการบรรเทาอาการไม่ว่า
00:15:12 → 00:15:15 จะเป็นอาการปวดอาการหอบ
00:15:15 → 00:15:18 อาการภาวะเพ้อหรืออาการที่รบกวนต่างๆใน
00:15:18 → 00:15:20 ผู้ป่วยประคับประคองอ่ะค่ะจริงๆดนตรี
00:15:21 → 00:15:23 เนี่ยสามารถช่วยบรรเทาอาการได้คุณหมายถึง
00:15:23 → 00:15:27 ว่าช่วยเรื่องร่างกายด้วยหรอคะใช่ค่ะช่วย
00:15:27 → 00:15:29 เรื่องร่างกายด้วยเพราะว่าจริงๆดนตรีเป็น
00:15:29 → 00:15:32 วิทยาศาสตร์นะคะเพราะมีผลต่อสมองมีผลต่อ
00:15:32 → 00:15:35 ร่างกายแล้วก็มีผลต่ออาการต่างๆที่เกิด
00:15:35 → 00:15:38 ขึ้นด้วยแล้วทางด้านจิตใจเนี่ยช่วยยังไง
00:15:38 → 00:15:41 ได้บ้างคะโอ้โหจิตใจนี่จริงๆเนี่ยเป็น
00:15:41 → 00:15:44 หลักๆเลยค่ะที่ส่วนใหญ่อ่ะผู้ป่วยประคับ
00:15:44 → 00:15:46 ประคองเนี่ยค่ะจะส่งเป่าบริการมาเพื่อดู
00:15:46 → 00:15:49 แลในมิตินี้นะคะที่เราไม่ได้ดูแลแต่
00:15:49 → 00:15:52 เรื่องของผู้ป่วยเท่านั้นจริงๆเราดูแล
00:15:52 → 00:15:55 ทั้งครอบครัวด้วยทั้งญาติด้วยใช่ที่คุณ
00:15:55 → 00:15:58 หมอบอกว่าญาติๆก็ก็สำคัญเหมือนกันค่ะแล้ว
00:15:58 → 00:16:00 เมื่อสักครู่ได้คุยกับคุณหมออ่ะค่ะที่คุณ
00:16:00 → 00:16:03 หมอพูดถึงเรื่องการช่วยในการสื่อสารดนตรี
00:16:03 → 00:16:05 เนี่ยช่วยการสื่อสารได้ยังไงบ้างค่ะคุณ
00:16:05 → 00:16:07 แม่โอ้โหแน่นอนเลยค่ะเรื่องนี้เป็นจุด
00:16:07 → 00:16:09 เด่นของดนตรีเลยค่ะเพราะว่าหลักๆจริงๆ
00:16:09 → 00:16:12 ดนตรีมันเอาไว้สื่อสารโดยเฉพาะเลยนะคะ
00:16:12 → 00:16:14 สื่อสารทางอองก็คือว่าเพลงที่มันแต่งออก
00:16:14 → 00:16:16 มาค่ะจริงๆมันเป็นสื่อสารข้อความในเพลง
00:16:16 → 00:16:18 อยู่แล้วเนาะซึ่งข้อความในเพลงก็จะเป็น
00:16:18 → 00:16:21 เรื่องราวอารมณ์ความรู้สึกความคิดของคน
00:16:21 → 00:16:24 นั้นหรือนักแต่งเพลงคนนั้นที่บางทีเราฟัง
00:16:24 → 00:16:27 แล้วรู้สึกว่าเอ้ยมันตรงกับความคิดเรามัน
00:16:27 → 00:16:30 ตรงกับความรู้สึกเราอุ๊ยท่อนเนี้ยใช่ดัง
00:16:30 → 00:16:32 นั้นจริงๆหลักๆดนตรีเขาทำหน้าที่สื่อสาร
00:16:32 → 00:16:35 อยู่แล้วโดยพื้นฐานแต่ทีเนี้ยพอมันมาอยู่
00:16:35 → 00:16:37 ในดนตรีบำบัดอ่ะค่ะมันก็มีกระบวนการที่ทำ
00:16:37 → 00:16:40 ให้ดนตรีเนี่ยสามารถใช้สื่อสารได้อย่าง
00:16:40 → 00:16:45 ลึกซึ้งมากขึ้นเคยบอกรักใครมั้แล้วไม่
00:16:45 → 00:16:47 คือเราพูดว่ารักมันก็อินอยู่แล้วเนาะแต่
00:16:48 → 00:16:50 ถ้าคำว่ารักมันอยู่ในเพลงล่ะคะอือฮึมันจะ
00:16:50 → 00:16:54 ยิ่งดีฟเข้ามากขึ้นถูกต้องนั่นก็คือจะ
00:16:54 → 00:16:56 ย้อนกลับไปที่วิทยาศาสตร์ของดนตรีอีกนั่น
00:16:56 → 00:16:59 แหละนะคะที่องค์ประกอบต่างๆของดนตรีที่
00:16:59 → 00:17:02 มันมีตัวโน้ตที่มันมีเสียงประสานที่มันทำ
00:17:03 → 00:17:05 ให้เราเพลิดเพลินอย่างเงี้ยค่ะมันทำให้
00:17:05 → 00:17:08 เปิดโสดประสาทในการรับรู้อารมณ์ความรู้
00:17:08 → 00:17:11 สึกมากขึ้นเรื่องที่ 2 คือจริงๆดนตรีมัน
00:17:11 → 00:17:14 เป็นวัฒนธรรมเนาะมันเป็นความชอบส่วนบุคคล
00:17:14 → 00:17:16 มันเป็นเรื่องราวของคนนึงที่เพลงบางเพลง
00:17:16 → 00:17:19 อ่ะมันมีเรื่องราวอยู่ในนั้นออือค่ะดัง
00:17:19 → 00:17:22 นั้นน่ะการใช้ดนตรีเพื่อการสื่อสารน่ะใน
00:17:22 → 00:17:25 การทำดนตรีบำบัด่ะมันถึงมีความลึกซึ้งมาก
00:17:25 → 00:17:27 กว่าทั้งในแง่ของจิตวิทยาค่ะแล้วก็เรื่อง
00:17:27 → 00:17:29 ของวิทยาศาสตร์คุณเมขาแล้วถ้าเกิดสมมุติ
00:17:29 → 00:17:34 ว่าคนผู้ป่วยอย่างเงี้ยค่ะอยากจะสื่อสาร
00:17:34 → 00:17:37 บางอย่างออกมาและอยากจะใช้ดนตรีขั้นตอน
00:17:37 → 00:17:39 เขาจะเป็นยังไงหรอคะโอถามได้ดีมากเลยค่ะ
00:17:39 → 00:17:42 คือผู้ป่วยระยะประคับประคองเนี่ยเมีระดับ
00:17:42 → 00:17:44 กับอาการที่มีความแตกต่างกันเนาะซึ่งการ
00:17:44 → 00:17:47 รับรู้ก็แตกต่างกันด้วยอาการก็มีความแตก
00:17:47 → 00:17:50 ต่างกันด้วยสิ่งแรกที่นักดนตรีบำบัดจะทำ
00:17:50 → 00:17:53 อ่ะค่ะก็คือการประเมินก่อนซึ่งการประเมิน
00:17:53 → 00:17:55 ก็ต้องไปดูก่อนว่าอาการคนไข้ตอนนี้เป็น
00:17:55 → 00:17:57 อย่างไรไม่ว่าจะเป็นอาการทางกายและอาการ
00:17:57 → 00:18:00 ทางใจดูว่าดนตรีเนี่ยไปกระตุ้นโดยไม่
00:18:00 → 00:18:02 จำเป็นหรือเปล่าเพราะมันก็เป็นความเสี่ยง
00:18:02 → 00:18:05 เหมือนกันนะคะมีแบบไม่จำเป็นด้วยหรอคะมี
00:18:05 → 00:18:07 ค่ะเพราะว่ามันไม่ใช่ทุกคนทุกสถานการณ์
00:18:07 → 00:18:09 ที่เราอยากจะฟังเพลงใช่มั้ล่ะเคยอยากอยู่
00:18:09 → 00:18:13 เงียบๆมั้คะเคยอ๋อใช่ใช่ค่ะไม่ใช่ว่าทุก
00:18:13 → 00:18:16 กรณีจะใช้ดนตรีบำบัดเข้าไปช่วยได้เสมอไป
00:18:16 → 00:18:18 เพราะว่ากิจกรรมดนตรีบำบัดอ่ะค่ะมันไม่
00:18:18 → 00:18:20 ใช่การร้องเพลงข้างเตียงธรรมดามันมีราย
00:18:20 → 00:18:22 ละเอียดอยู่ในนั้นว่าเพลงที่เล่นน่ะความ
00:18:22 → 00:18:24 ดังต้องเท่าไหร่ความเร็วสอดคล้องกับอัตรา
00:18:24 → 00:18:26 การหายใจหรือเปล่าไปกระตุ้นให้คนไข้หายใจ
00:18:26 → 00:18:29 เร็วขึ้นหรือเปล่า 3 คนไข้สับสนอยู่ไป
00:18:29 → 00:18:30 เพิ่มความสับสนให้คนไข้หรือเปล่านะเรา
00:18:30 → 00:18:33 ต้องมั่นใจว่าดนตรีมันบำบัดจริงๆแล้วนอก
00:18:33 → 00:18:37 จากเอ่อนักดนตรีบำบัดแล้วยังมีทีมหน่วย
00:18:37 → 00:18:39 งานสพรอื่นๆที่ต้องประจำอยู่ที่คลินิก
00:18:39 → 00:18:41 ด้วยใช่มั้คะใช่ครับแล้วก็จะมีนักจิต
00:18:41 → 00:18:45 วิทยาอะไรที่เข้ามาให้การดูแลด้วยครับออ
00:18:45 → 00:18:48 และอย่างทีมพี่ๆคุณพยาบาลนี่ก็น่าจะสำคัญ
00:18:48 → 00:18:53 มากๆใช่พยาบาลก็เป็นอีกเอ่อวิชาชีพนึงที่
00:18:53 → 00:18:57 อยู่ใกล้ชิดคนไข้พยาบาลเนี่ยจะเป็นเอ่อ
00:18:57 → 00:18:59 key person เลยเนาะเป็นตัวหลักอันนึงคน
00:18:59 → 00:19:03 ไทยนึงที่จะช่วยอ่าทำให้เรามองเอ่อคุณภาพ
00:19:03 → 00:19:05 ชีวิตได้รอบ
00:19:05 → 00:19:14 [เพลง]
00:19:14 → 00:19:17 ด้านและตอนนี้นะคะเต่าก็อยู่กับพยาบาล
00:19:17 → 00:19:20 วิชาชีพรวมพรละอจารย์หัวหน้าหอผู้ป่วย
00:19:20 → 00:19:22 ประคับประคองค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะพี่
00:19:23 → 00:19:26 รวมพรขาอันแรกเลยค่ะอยากรู้ว่าจริงๆแล้ว
00:19:26 → 00:19:28 พยาบาลเนี่ยเป็นงานที่ยากอยู่แล้วอ่ะเนาะ
00:19:28 → 00:19:31 ต้องใช้ความเสียสละมากๆเลยแล้วการที่อยู่
00:19:31 → 00:19:33 หอผู้ป่วยประคับประคองเนี่ยเาแตกต่างจาก
00:19:34 → 00:19:36 ทั่วๆไปยังไงบ้างคะด้วยความที่เป็นงาน
00:19:37 → 00:19:40 พยาบาลถ้าพูดถึงความยากความง่ายค่ะมันก็
00:19:40 → 00:19:42 จะแตกต่างกันไปตามบริบทอยู่แล้วแต่สำหรับ
00:19:42 → 00:19:46 หอผู้ป่วยประคับประคองค่ะเป็นหอผู้ป่วย
00:19:46 → 00:19:49 เฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ป่วยระยะท้ายที่เลือก
00:19:49 → 00:19:52 การดูแลรักษาแบบประคับประคองคือต้องเลือก
00:19:52 → 00:19:55 การดูแลรักษาแบบนี้ด้วยนะคะอยู่ที่เขา
00:19:55 → 00:19:57 เลือกด้วยใช่ค่ะกลุ่มผู้ป่วยที่เลือกการ
00:19:57 → 00:20:00 ดูแลรักษาแบบประคับประคองโดยเฉพาะก็คือ
00:20:00 → 00:20:03 ถ้าหากร่างกายจะหยุดการทำงานพูดพูดง่ายๆ
00:20:03 → 00:20:06 ภาษาชาวบ้านคือเสียชีวิตเนี่ยพร้อมที่จะ
00:20:06 → 00:20:08 ให้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติเราจะไม่
00:20:08 → 00:20:13 มีการเข้าไปแทรกแซงเช่นการปั๊มหัวใจหรือ
00:20:13 → 00:20:15 แม้กระทั่งให้ยาเพิ่มความดันเลือดนะผู้
00:20:16 → 00:20:19 ป่วยระยะท้ายอ่ะค่ะถ้าตามคำนิยามที่ที่
00:20:19 → 00:20:22 น่าจะรู้จักกันทั่วไปแล้วก็คือระยะที่โรค
00:20:22 → 00:20:25 เนี่ยไม่ได้สามารถที่จะรักษาให้หายได้
00:20:25 → 00:20:28 แล้วใช่แต่มาที่นี่แล้วหยุดการรักษามั้
00:20:28 → 00:20:32 ไม่หยุดนะคะแต่เป็นการรักษาอีกแบบหนึ่งอ
00:20:32 → 00:20:34 เราจะมุ่งเน้นเป็นไปในเรื่องของการบรรเทา
00:20:34 → 00:20:38 อาการแล้วให้สามารถมีชีวิตใช้ช่วงเวลาที่
00:20:38 → 00:20:41 ยังมีชีวิตเหลืออยู่เนี่ยให้มีคุณภาพมี
00:20:41 → 00:20:45 ความสุขแล้วก็ทำในสิ่งที่มุ่งหวังปรารถนา
00:20:45 → 00:20:48 ให้ได้มากที่สุดก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป
00:20:48 → 00:20:50 เพราะฉะนั้นในหอผู้ป่วยก็จะถูกออกแบบมา
00:20:50 → 00:20:52 หลายๆอย่างสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
00:20:52 → 00:20:55 ดีจังเลยค่ะเราจะมุ่งเน้นเรื่องของการ
00:20:55 → 00:20:58 บรรเทาอาการทางกายให้คนไข้มีความทรมานที่
00:20:58 → 00:21:01 น้อยที่สุดใช้คำว่าน้อยที่สุดเพราะเราไม่
00:21:01 → 00:21:03 สามารถการันตีว่ามันเป็นศูนยได้แต่น้อย
00:21:03 → 00:21:07 ที่สุดแล้วผู้ป่วยจะจะสุขสงบแล้วก็สบาย
00:21:07 → 00:21:10 แล้วญาติน่ะค่ะเมื่อเขามองเห็นมันเหมือน
00:21:10 → 00:21:13 เป็นความหมดห่วงคุณพ่อดูไม่ทรมานเลยเจะ
00:21:13 → 00:21:18 สบายใจได้มากใช่มีคำพูดนึงพวกเราเนี่ยดู
00:21:18 → 00:21:22 แลชีวิตหลังความตายด้วยใช่ไม่ใช่จบนะแต่
00:21:22 → 00:21:24 ชีวิตใช่แต่ชีวิตหลังความตายไม่ใช่ชีวิต
00:21:24 → 00:21:28 ของผู้ป่วยนะไม่ได้ตามไปดูแลหลังความตาย
00:21:28 → 00:21:31 ดูชีวิตที่ยังอยู่ต่อหลังความตายช่วงเวลา
00:21:31 → 00:21:34 สุดท้ายจริงๆบางอาการเราก็ควบคุมไม่ได้
00:21:34 → 00:21:37 เนี่ยนะคะเก็จะเป็นอะไรเก็จะอาจจะมีอาการ
00:21:37 → 00:21:41 กระตุกอาการหายใจลักษณะที่หายใจเฮืเห็น
00:21:41 → 00:21:44 เราจะอยู่กับญาติแล้วเราก็จะบอกญาติว่า
00:21:44 → 00:21:47 สิ่งนี้เป็นสิ่งธรรมดาธรรมชาติในวาระสุด
00:21:47 → 00:21:51 ท้ายของทุกชีวิตน่ะค่ะร่างกายจะมีการหลัง
00:21:51 → 00:21:54 ฮอร์โมนเอนฟินออกมาผู้ป่วยไม่ได้รับรู้
00:21:54 → 00:21:57 ความทรมานที่เรามองเห็นตรงนี้จะสามารถดึง
00:21:57 → 00:22:00 ความเข้มแข็งแล้วก็เป็นความทรงจำที่ไม่
00:22:00 → 00:22:03 เจ็บปวดให้กับญาติไม่ได้ทรมเหมือนที่เรา
00:22:03 → 00:22:07 รู้สึกเห็นว่าจะมีกิจกรรมอีก 1 กิจกรรม
00:22:07 → 00:22:11 ใช่มั้คะที่หลังจากผู้ป่วยได้จากไปแล้ว
00:22:11 → 00:22:13 อย่างสงบแล้วก็มีการจัด Memorial Day
00:22:13 → 00:22:16 คืออะไรหรอคะอ้อ Memmorial Day เนี่ย
00:22:16 → 00:22:19 เป็นเหมือนกับการที่เราติดตามดูแล
00:22:19 → 00:22:23 ครอบครัวต่อไปคือเราไม่ต้องรู้ยังติดตาม
00:22:23 → 00:22:27 ญาติกลับมาเจอเราต่อหรอก็คือเป็นการติด
00:22:27 → 00:22:31 ตามดูแลต่อดูภาวะอารมณ์อ๋อดูภาวะชีวิต
00:22:31 → 00:22:34 หลังจากที่ผู้ป่วยจากไปแล้วจะเป็นยังไงพอ
00:22:34 → 00:22:37 คุยกับพี่รวมพรแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าช่วย
00:22:37 → 00:22:40 มากๆทางด้านจิตใจเนาะร่างกายเราชั่วอยู่
00:22:40 → 00:22:44 แล้วแหละทั้งของผู้ป่วยและที่สำคัญของ
00:22:44 → 00:22:46 ญาติด้วยโอ้โหอันนี้เห็นภาพแล้วก็เข้าใจ
00:22:46 → 00:22:48 ความรู้สึกทุกๆอย่างเลยค่ะเรียกว่าทุ่มเท
00:22:48 → 00:22:51 ทั้งแรงกายแรงใจนะคะต้องขอขอบคุณเพื่อน
00:22:51 → 00:22:54 ทุกๆคนด้วยนะคะวันนี้ต้องขอขอบพระคุณที่
00:22:54 → 00:22:55 มาเล่าให้เราฟังด้วยค่ะขอบคุณพี่น้องพร
00:22:56 → 00:23:03 มากเลยขอบคุณ
00:23:03 → 00:23:07 [เพลง]
00:23:07 → 00:23:10 ค่ะคุณผู้ชมขาวันนี้นะคะถือได้ว่าเต๋า
00:23:10 → 00:23:14 เนี่ยได้เรียกว่าได้เปิดโลกนะคะคุณหมอได้
00:23:14 → 00:23:16 รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับว่าการรับมือ
00:23:16 → 00:23:18 เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆแล้วก็การดู
00:23:18 → 00:23:21 แลแบบประคับประคองค่ะจริงๆแล้วไม่ใช่แค่
00:23:21 → 00:23:23 โรคมะเร็งใช่มั้คะแล้วก็ยังมีอีกหลายๆโรค
00:23:23 → 00:23:28 ที่อาจจะรักษาไม่หายขาดได้แต่เราก็สามารถ
00:23:28 → 00:23:30 ใช้ชีวิตอยู่กับเขาได้อย่างไม่เป็นทุกข์
00:23:30 → 00:23:34 จนเกินไปหรือกระทั่งบางคนก็มีความสุขก็
00:23:34 → 00:23:37 ได้ใช่มั้คะคุณหมอใช่ครับก็การดูแลแบบ
00:23:37 → 00:23:40 ประคับประคองก็อย่างที่ว่าครับจะไปช่วย
00:23:40 → 00:23:43 เติมเต็มแล้วก็ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า
00:23:43 → 00:23:46 แต่ละคนเนี่ยเอ่อคุณภาพชีวิตความสุขของ
00:23:46 → 00:23:48 เขาอยู่ตรงไหนค่ะแล้วทีมของเราสามารถจะไป
00:23:49 → 00:23:51 ช่วยอะไรได้บ้างที่ทำให้ไม่ว่าเขาจะเหลือ
00:23:51 → 00:23:54 เวลาอยู่แค่ไหนเนี่ยมันมีความสุขสำหรับ
00:23:54 → 00:23:57 ตัวคนไข้อืแล้วตัวญาตเองก็รู้สึกทุกข์
00:23:57 → 00:24:00 น้อยที่สุดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นครับ
00:24:00 → 00:24:03 สำคัญมากๆเลยนะคะเหมือนเป็นแบบมีความสุข
00:24:03 → 00:24:06 จนณวันสุดท้ายของชีวิตมันเป็นเรื่องที่ดี
00:24:06 → 00:24:09 มากๆเลยล่ะค่ะต้องขอขอบคุณคุณหมอกิติพล
00:24:09 → 00:24:11 มากๆเลยนะคะที่มาให้ความรู้กับทั้งเต๋า
00:24:11 → 00:24:14 เองแล้วก็คุณผู้ชมค่ะที่จะได้รับความรู้
00:24:14 → 00:24:16 เกี่ยวกับเรื่องการดูแลแบบประคับประคอง
00:24:16 → 00:24:19 แบบเต็มๆเลยค่ะขอบพระคุณคุณหมอมากเลยค่ะ
00:24:19 → 00:24:22 คุณผู้ชมขารายการ cancer เจนี่รู้เท่าทัน
00:24:22 → 00:24:25 กันโรคมะเร็งถ้าดูแล้วชอบก็ฝากกดไลก์กด
00:24:25 → 00:24:28 แชร์กันด้วยนะคะสำหรับวันนี้เวลาเราหมดลง
00:24:28 → 00:24:30 แล้วนะคะเต่าแล้วก็คุณหมอต้องลาไปก่อนนะ
00:24:30 → 00:24:31 คะสวัสดี
00:24:31 → 00:24:34 [เพลง]
00:24:34 → 00:24:37 ค่ะหลังจากที่วันนี้ได้มีโอกาสมาเรียนรู้
00:24:37 → 00:24:40 เรื่องการดูแลแบบประคับประคองกับผู้ป่วย
00:24:40 → 00:24:42 ที่เป็นโรคที่บางทีรักษาไม่หายแล้วก็
00:24:42 → 00:24:45 ประคับประคองกันไปเนี่ยนะคะก็รู้สึกว่า
00:24:45 → 00:24:47 ตัวเองโชคดีมากเลยที่ได้มาได้ความรู้ใน
00:24:47 → 00:24:51 วันนี้แล้วก็รับรู้ได้ว่าอ้อจริงๆแล้วเรา
00:24:51 → 00:24:54 มีทางเลือกทั้งสำหรับเอ่อผู้ป่วยเองแล้ว
00:24:54 → 00:24:56 ก็สำหรับญาติด้วยนะคะว่าจริงๆแล้วเรา
00:24:57 → 00:24:59 สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่
00:24:59 → 00:25:02 สุดหรือมีความสุขที่สุดในช่วงสุดท้ายของ
00:25:02 → 00:25:04 ชีวิตได้นับว่าเป็นอีกทางเลือกนึงถ้าเกิด
00:25:04 → 00:25:07 ใครเผชิญปัญหาแบบนี้อยู่ก็ยังไงก็ลอง
00:25:07 → 00:25:10 พิจารณาทางเลือกแบบประคับประคองดูก็แต่
00:25:10 → 00:25:14 ว่าเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันค่ะ
00:25:14 → 00:25:23 [เพลง]