00:00:00 → 00:00:00 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีค่ะวาวานะคะจากช่อง tiktok วาวาคุณ
00:00:04 → 00:00:07 แม่สุดเฟี้ยวค่ะปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก2อง
00:00:07 → 00:00:10 แล้วนะคะคนโต 6 ขวบคนเล็ก 1 ขวบครึ่งค่ะ
00:00:10 → 00:00:12 เลี้ยงลูกมา 2 คนแล้วก็จริงแต่ก็ยังมีคำ
00:00:12 → 00:00:15 ถามเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูกค่ะอย่าง
00:00:15 → 00:00:18 ข้อแรกเลยนะคะเขาบอกว่าวัยทอง 2 ขวบเนี่ย
00:00:18 → 00:00:22 เด็กจะมีลักษณะนิสัยซึ่งแบบอาจจะดื้อหรือ
00:00:22 → 00:00:24 อาจจะมีความแบบตัวสร้างตัวตนสูงอย่าง
00:00:24 → 00:00:27 เงี้ยจริงไมคะคุณหมอแล้วก็ข้อที่ 2 นะคะ
00:00:27 → 00:00:31 เอ่อเกี่ยวกับการชมลูกค่ะว่าถ้ายิ่งชมลูก
00:00:31 → 00:00:34 เนี่ยลูกจะยิ่งเก่งขึ้นอันนี้จริงไหมคะ
00:00:34 → 00:00:37 ข้อที่ 3 ค่ะจริงไมคะว่าถ้าลูกกินเยอะๆ
00:00:37 → 00:00:40 เนี่ยลูกจะโตไวๆแล้วก็ข้อที่ 4 นะคะการ
00:00:40 → 00:00:42 ปล่อยให้ลูกเล่นมือถือบ่อยๆเนี่ยจะมีผล
00:00:42 → 00:00:44 ต่อพัฒนาการทางด้านสมองของเขาจริงหรือ
00:00:44 → 00:00:47 เปล่ารบกวนคุณหมอนะคะช่วยไขข้อข้องใจให้
00:00:47 → 00:00:50 วาทีนะคะเพื่อจะได้เป็นแนวทางในการเลี้ยง
00:00:50 → 00:00:53 ลูกได้อย่างถูกต้องค่ะขอบคุณค่ะ
00:00:53 → 00:01:08 [เพลง]
00:01:08 → 00:01:10 คำถามของคุณแม่เป็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ
00:01:10 → 00:01:12 เลยค่ะเพราะว่าคุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดไปใน
00:01:12 → 00:01:15 แนวทางแบบนั้นนะคะแต่จริงๆแล้วการเรียก
00:01:15 → 00:01:17 วัยทอง 2 ขวบเนี่ยเป็นแค่ช่วงนึงของ
00:01:17 → 00:01:20 พัฒนาการที่สำคัญของเด็กเลยค่ะซึ่งการ
00:01:20 → 00:01:22 เรียกชื่อเนี้ยคุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะต้อง
00:01:22 → 00:01:25 เข้าใจด้วยนะคะว่าเด็กอ่ะจะต้องเริ่มรู้
00:01:25 → 00:01:28 จักควบคุมการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นรู้
00:01:28 → 00:01:30 จักพัฒนาความการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
00:01:30 → 00:01:33 ทำให้อาจจะแสดงออกมาในนิสัยที่ดื้อหรือ
00:01:33 → 00:01:36 ว่างอแงที่เราเห็นค่ะใช่แล้วค่ะคุณหมอขี๋
00:01:36 → 00:01:38 จริงๆแล้วเด็กวัยนี้นะคะจะมีการพฒนาทักษะ
00:01:38 → 00:01:40 หลายๆอย่างนะคะโดยเฉพาะทักษะเรื่องของการ
00:01:40 → 00:01:43 สื่อสารแลก็การควบคุมอารมณ์ค่ะเขาจึงต้อง
00:01:43 → 00:01:45 เรียนรู้นะคะว่าเขาจะแสดงออกอย่างไรได้
00:01:45 → 00:01:48 บ้างทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมค่ะค่ะเรานะคะ
00:01:48 → 00:01:52 ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ก็มีหน้าที่ในการสอน
00:01:52 → 00:01:55 ในการควบคุมอารมณ์แล้วก็ตอบสนองต่อ
00:01:55 → 00:01:57 พฤติกรรมในสถานการณ์นั้นให้อย่างเหมาะสม
00:01:57 → 00:02:00 นะคะและอีกอย่างนะคะอยากให้คุณพ่อคุณแม่
00:02:00 → 00:02:01 ช่วยให้ความสำคัญเกี่ยวกับทักษะการสื่อ
00:02:01 → 00:02:04 สารของเด็กด้วยนะคะเพราะว่าวัยนี้การแสดง
00:02:04 → 00:02:07 ออกทางอารมณ์ถ้าเด็กสื่อสารออกมาได้ไม่ดี
00:02:07 → 00:02:09 แสดงอารมณ์ออกมาได้ไม่ชัดเราอาจจะไม่เข้า
00:02:09 → 00:02:12 ใจเขาค่ะพูดง่ายๆก็คือไม่ใช่ว่าเขานิสัย
00:02:12 → 00:02:15 ไม่ดีนะคะแต่เขากำลังจะเรียนรู้ที่จะเป็น
00:02:15 → 00:02:17 ตัวของตัวเองอย่างเหมาะสมค่ะถ้าเกิดว่า
00:02:17 → 00:02:19 คุณพ่อคุณแม่เข้าใจพนาการและพฤติกรรมตาม
00:02:19 → 00:02:22 วัยของเขาแล้วสามารถให้คำแนะนำได้อย่าง
00:02:22 → 00:02:24 เหมาะสมก็จะไม่ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่าง
00:02:24 → 00:02:26 ราบรื่นเลยค่ะแบบที่คุณหมอก้อยอธิบายไป
00:02:26 → 00:02:29 ทั้งหมดเลยค่ะเพราะว่าการให้โอกาสแล้วก็
00:02:29 → 00:02:32 สอของเขาในการควบคุมอารมณ์แล้วก็พัฒนาตัว
00:02:32 → 00:02:34 เองเนี่ยการแสดงออกของเขาก็จะดีขึ้นแล้ว
00:02:34 → 00:02:37 อาจจะทำให้ช่วยให้ทักษะด้านอื่นๆพัฒนาได้
00:02:37 → 00:02:38 ดีขึ้นด้วยนะ
00:02:38 → 00:02:41 [เพลง]
00:02:41 → 00:02:45 คะจริงๆแล้วการชมสามารถส่งผลต่อพัฒนาการ
00:02:45 → 00:02:48 ที่ดีของเด็กได้นะคะโดยการชมอย่างเหมาะสม
00:02:48 → 00:02:50 และชัดเจนค่ะคุณหมอกี๋พอจะเล่าให้ฟังได้
00:02:50 → 00:02:53 ไหมคะว่าการชมเด็กอย่างไรถึงจะได้ผลดีค่ะ
00:02:53 → 00:02:56 ได้เลยค่ะคุณหมอก้อยการชมที่ดีแล้วก็มี
00:02:56 → 00:02:58 คุณค่าควรจะต้องเป็นการชมที่เน้นความ
00:02:58 → 00:03:00 พยายามและกระบวนการค่ะโดยไม่ยึดติดกับผล
00:03:00 → 00:03:03 ลัพธ์นะคะเพราะคำชมเหล่านี้จะทำให้เด็กมี
00:03:03 → 00:03:05 กำลังใจและสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ดี
00:03:05 → 00:03:08 มากขึ้นค่ะใช่เลยค่ะถ้าเราชมลูกแค่เพียง
00:03:08 → 00:03:11 ว่าเก่งจังเก่งมากโดยที่เราไม่ได้อธิบาย
00:03:11 → 00:03:14 รายละเอียดหรือว่าเหตุผลควบคู่ไปด้วยเด็ก
00:03:14 → 00:03:16 ก็จะยึดติดแต่กับผลลัพธ์ค่ะโดยมองข้าง
00:03:17 → 00:03:19 กระบวนการนำไปสู่ความสำเร็จนั้นแล้วบางที
00:03:19 → 00:03:21 เขอาจจะกลัวเรื่องของความล้มเหลวด้วยนะคะ
00:03:21 → 00:03:24 เราลองยกตัวอย่างกันมคะคุณหมอก้อยเลยค่ะ
00:03:24 → 00:03:26 เช่นนะคะในสถานการณ์บางสถานการณ์ถ้าเรา
00:03:26 → 00:03:29 ต้องการจะชมลูกเราก็อาจจะบอกลูกด้วยคำว่า
00:03:29 → 00:03:31 คุณแม่รู้สึกว่าหนูเต็มที่กับการทำครั้ง
00:03:32 → 00:03:35 นี้มากเลยค่ะหรือว่าจะเป็นคุณพ่อเห็นถึง
00:03:35 → 00:03:37 ความตั้งใจของหนูมากๆเลยครับสิ่งเหล่านี้
00:03:37 → 00:03:40 นะคะก็จะทำให้เน้นถึงกระบวนการแล้วก็ความ
00:03:40 → 00:03:43 พยายามของลูกมากขึ้นค่ะการชมที่คุณหมอกี๋
00:03:43 → 00:03:46 เล่ามาดีมากๆเลยนะคะนอกจากจะเห็นถึงการ
00:03:46 → 00:03:48 พัฒนาเรื่องของความอดทนแล้วยังเห็นถึง
00:03:48 → 00:03:50 ความสามารถในการแก้ไขปัญหาด้วยค่ะสิ่งที่
00:03:50 → 00:03:53 สำคัญก็คือเด็กจะได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าจะ
00:03:53 → 00:03:55 สำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ตามความพยายามมีค่า
00:03:55 → 00:04:00 เสมอค่ะสรุปนะคะการชมลูกในถ้อยคำคำพูดและ
00:04:00 → 00:04:03 เนื้อหาที่ถูกต้องก็จะยิ่งทำให้ลูกมีความ
00:04:03 → 00:04:05 มั่นใจแล้วก็พัฒนาทักษะความมั่นคงในตัว
00:04:05 → 00:04:10 เองได้มากขึ้น
00:04:10 → 00:04:14 ค่ะจริงๆแล้วไม่จำเป็นเลยค่ะเพราะว่าการ
00:04:14 → 00:04:17 กินที่ดีคนจะต้องเน้นไปที่คุณภาพของอาหาร
00:04:17 → 00:04:19 มากกว่าปริมาณนะคะเพราะว่าจะช่วยส่งเสริม
00:04:19 → 00:04:21 การเจริญเติบโตของเด็กในแต่ละวัยได้อย่าง
00:04:21 → 00:04:25 เหมาะสมค่ะใช่เลยค่ะคุณหมอกี๋การกินที่
00:04:25 → 00:04:27 มากเกินไปนะคะเด็กจะได้รับพลังงานที่มาก
00:04:27 → 00:04:29 เกินไปค่ะส่งผลเสียก็คือน้ำหนักจะเกิน
00:04:29 → 00:04:31 แล้วก็มีปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆตามมาด้วย
00:04:31 → 00:04:35 ค่ะการได้รับคาร์โบไฮเดรตโปรตีนวิตามินร่
00:04:35 → 00:04:38 ธาตุรวมถึงไขมันที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
00:04:38 → 00:04:40 จะช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย
00:04:40 → 00:04:43 และทางสมองนะคะแต่อย่างที่บอกค่ะการเน้น
00:04:43 → 00:04:45 ปริมาณที่มากเกินไปในบางทีอาจจะทำให้
00:04:45 → 00:04:47 คุณภาพของอาหารทำให้เด็กเหล่านั้นเนี่ย
00:04:47 → 00:04:50 ขาดสารอาหารได้นะคะจริงๆจะว่าไปเรื่องกิน
00:04:50 → 00:04:52 ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะถ้าเกิดว่าคุณ
00:04:52 → 00:04:55 พ่อคุณแม่ไม่มั่นใจสามารถปรึกษาคุณหมอและ
00:04:55 → 00:04:57 ผู้เชี่ยวชาญได้นะคะเพราะว่าเด็กแต่ละ
00:04:57 → 00:05:00 ช่วงวัยก็จะมีความต้องการพลังงานและสาร
00:05:00 → 00:05:02 อาหารที่ต่างกันค่ะว่าการจัดอาหารให้ลูก
00:05:02 → 00:05:05 อย่างไรควรจะเหมาะสมค่ะสรุปนะคะการกินของ
00:05:05 → 00:05:08 เด็กควรจะต้องกินให้มีสารอาหารให้ครบถ้วน
00:05:08 → 00:05:10 นะคะไม่จำเป็นจะต้องเน้นปริมาณอย่างเดียว
00:05:10 → 00:05:12 ค่ะเพราะว่าสารอาหารเหล่านี้ก็จะทำให้
00:05:12 → 00:05:15 เด็กเจริญเติบโตในแต่ละช่วงวัยได้อย่างมี
00:05:15 → 00:05:16 ประสิทธิภาพ
00:05:16 → 00:05:19 [เพลง]
00:05:19 → 00:05:23 ค่ะจริงๆแล้วการใช้หน้าจอหรือการดูจอที่
00:05:23 → 00:05:25 มากเกินไปโดยไม่รับการควบคุมนะคะก็จะส่ง
00:05:25 → 00:05:28 ผลแน่ๆค่ะต่อสมองและพัฒนาการทางทักษะต่าง
00:05:28 → 00:05:31 ๆของเด็กโดยเฉพาะนะคะยิ่งเป็นช่วงที่เด็ก
00:05:31 → 00:05:33 กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วค่ะเชื่อมคะ
00:05:33 → 00:05:35 คุณหมอกี๋ถ้าเราปล่อยให้ลูกอยู่กับหน้า
00:05:35 → 00:05:38 จองมากเกินไปในช่วงวัยนี้นะคะเด็กจะขาด
00:05:38 → 00:05:40 พัฒนาการด้านของการสื่อสารและการเข้า
00:05:40 → 00:05:42 สังคมค่ะนอกจากนั้นเด็กยังขาดโอกาสที่จะ
00:05:42 → 00:05:44 เรียนรู้ผ่านการเล่นแล้วก็ปฏิสัมพันธ์กับ
00:05:44 → 00:05:47 คนรอบข้างค่ะซึ่งทั้ง 2 อย่างเนี่ยถือ
00:05:47 → 00:05:49 เป็นหัวใจสำคัญเลยนะคะของพนักงาด้านสังคม
00:05:49 → 00:05:51 ของเด็กค่ะแบบที่หมอก้อยบอกเลยนะคะนอกจาก
00:05:51 → 00:05:54 ทักษะการพัฒนาทางสังคมและการสื่อสารแล้ว
00:05:54 → 00:05:57 ทักษะด้านอื่นที่จะกระทบไปด้วยก็คือทักษะ
00:05:57 → 00:06:00 การควบคุมอารมณ์และการใช้สมาชี้จดจอใน
00:06:00 → 00:06:02 กิจกรรมอื่นๆค่ะเพราะอะไรรู้ไมคะ
00:06:02 → 00:06:05 เทคโนโลยีเหล่านี้ในการดูจอนานๆสิ่งเร้า
00:06:05 → 00:06:08 ต่างๆที่มาจากเทคโนโลยีทั้งแสงและเสียงจะ
00:06:08 → 00:06:10 ทำให้เด็กผาดทักษะทางด้านการจดจ่อใน
00:06:10 → 00:06:12 กิจกรรมอื่นๆค่ะเรื่องของแสงยังมีอีก
00:06:13 → 00:06:14 อย่างนึงนะคะคุณหมอกี่คือเรื่องของแสงสี
00:06:14 → 00:06:17 ฟ้าค่ะหน้าจอมีแสงสีฟ้าที่รบกวนการนอน
00:06:17 → 00:06:20 หลับค่ะเพราะว่าเจ้าแสงสีฟ้าเนี่ยจะรบกวน
00:06:20 → 00:06:22 การผลิตเงทนินค่ะทำให้เด็กเนี่ยได้รับการ
00:06:22 → 00:06:25 นอนพักผ่อนอย่างไม่เพียงพอแล้วก็ส่งผลต่อ
00:06:25 → 00:06:27 พัฒนาการทางด้านสมองของเด็กได้ค่ะแต่เรา
00:06:27 → 00:06:30 ไม่ได้ห้ามใช่มคะคุณหมอก้อยไม่ได้ห้ามใช้
00:06:30 → 00:06:32 เทคโนโลยีเหล่านี้เพราะว่าการใช้
00:06:32 → 00:06:34 เทคโนโลยีเหล่านี้โดยที่มีการควบคุมอย่าง
00:06:34 → 00:06:37 เช่นจำกัดเวลาหรือว่าผู้ปกครองได้ดูเนื้อ
00:06:37 → 00:06:40 หาแล้วก็ให้คำแนะนำในระหว่างการดูเนี่ยจะ
00:06:40 → 00:06:43 ยิ่งช่วยพัฒนาทักษะอื่นๆแล้วก็การดูหน้า
00:06:43 → 00:06:46 จอก็จะยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้นค่ะสรุปก็
00:06:46 → 00:06:49 คือการดูหน้าจอมากเกินไปส่งผลเสียต่อน้อง
00:06:49 → 00:06:52 ๆแน่นอนค่ะสิ่งที่คุณหมออยากฝากคุณพ่อคุณ
00:06:52 → 00:06:54 แม่ทุกท่านก็คือการดูแลอย่างเหมาะสมค่ะ
00:06:54 → 00:06:57 ควบคุมทั้งเนื้อหาและก็เวลาให้เหมาะสมนอก
00:06:57 → 00:06:59 จากนั้นควรให้เด็กมีกิจกรรมอื่นๆควบพูดไป
00:06:59 → 00:07:02 ด้วยนะคะไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเล่นการงแจ้ง
00:07:02 → 00:07:04 การทำกิจกรรมที่มีการสร้างสรรค์ทางด้าน
00:07:04 → 00:07:07 ศิลปะเพื่อให้มั่นใจว่าเด็กๆได้รับการส่ง
00:07:07 → 00:07:09 เสริมพฒนาการอย่างรอบด้านค่ะขอบคุณคุณแม่
00:07:09 → 00:07:12 วาวามากเลยนะคะสำหรับคำถามดีๆค่ะส่วนคุณ
00:07:12 → 00:07:14 แม่ท่านอื่นๆถ้ามีคำถามสงสัยสามารถติดต่อ
00:07:14 → 00:07:17 คนกกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลจุฬาภรได้นะคะ
00:07:17 → 00:07:19 ฝากติดตามรายการพบหมอเด็กจุฬาพรณ์ใน EP
00:07:19 → 00:07:22 ถัดไปด้วยนะคะบ๊ายบายค่ะ
00:07:22 → 00:07:30 [เพลง]