00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:11 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:11 → 00:00:15 เรื่องของค่าความเป็นรดเป็นด่างของครีม
00:00:15 → 00:00:17 อันเนี้ยสำคัญแค่ไหนค่ะอาจารย์โหสำคัญมาก
00:00:17 → 00:00:21 เลยแลอันนี้เป็นโเป็นจุดที่พลาดกันเยอะ
00:00:21 → 00:00:24 มากๆเลยอ่ะค่ะพวกสกินแครเนี่ยค่ะมันก็จะ
00:00:24 → 00:00:27 มีดราม่าว่าได้อยได้อยจริงๆแล้วเวลาขออย
00:00:27 → 00:00:30 เนี่ยทางอยเขามีการตรวจสอบอะไรบ้างยค่ะอู
00:00:30 → 00:00:33 พูดได้มยพี่คือเอ้าเราเอาความเป็นจริงไง
00:00:33 → 00:00:36 การขออยนี่จริงๆเอางี้นะคนทั่วไปก็จะเข้า
00:00:36 → 00:00:39 ใจว่าอ๋อถ้าได้อยแปลว่าอยเนี่ยได้นำครีม
00:00:39 → 00:00:42 นี้ไปตรวจสอบสารทุกอย่างแล้วซึ่งจริงๆ
00:00:42 → 00:00:45 แล้วความเป็นจริงมันเป็นยังไง
00:00:45 → 00:00:49 อ่ะดีที่อยู่เดียว Presented by ไทย
00:00:49 → 00:00:53 ประกัน
00:00:53 → 00:00:56 ชีวิตสวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่ Single
00:00:56 → 00:00:58 Being podcast ที่จะทำให้คุณมีความสุข
00:00:58 → 00:01:00 กับการอยู่ตัวคนเดียวในทุกครั้งที่ได้
00:01:00 → 00:01:03 เปิดฟังค่ะตอนเด็กๆคุณผู้ฟังชอบเรียนวิชา
00:01:03 → 00:01:06 อะไรคะบอกเลยว่าวิชาที่หมอชอบที่สุดเนี่ย
00:01:06 → 00:01:09 คือเคมีค่ะมันสนุกอ่ะสนุกตั้งแต่ท่อง
00:01:09 → 00:01:11 ตารางทาสสนุกตอนเรียนแล้วก็บังเอิญตอน
00:01:11 → 00:01:14 เด็กก็เจอคุณครูสอนเคมีที่สอนสนุกด้วยนะ
00:01:14 → 00:01:17 หมอกว่ามันก็เลยทำให้เราชอบนะคะชอบสูสี
00:01:17 → 00:01:21 กับชีวะแหละแลทีเนี้ยพอพูดถึงเคมีพูดถึง
00:01:21 → 00:01:24 ครูสอนเคมีนะคะหมอก็มีรุ่นน้องท่านนึงที่
00:01:24 → 00:01:27 เป็นคุณครูสอนเคมีหมอเห็นตั้งแต่เขายัง
00:01:27 → 00:01:29 เรียนไม่จบจนตอนเเป็นคุณครูสอนเคมีชื่อ
00:01:29 → 00:01:32 ดังละแล้วก็ยังมีความรู้ในด้านสกินแครที่
00:01:32 → 00:01:34 แบบโอหาตัวจับยากทีเดียวนะคะแล้วก็คุย
00:01:34 → 00:01:37 สนุกด้วยหมอก็เลยรู้สึกว่าตอนเนี้ยอยากจะ
00:01:37 → 00:01:39 เชิญแขกรับเชิญท่านเนี้ยมาคุยกันถึง
00:01:39 → 00:01:42 เรื่องราวของการเลือกสกินแครนะคะไล่ไปทุก
00:01:42 → 00:01:46 ตัวเลยตั้งแต่ cleanser อยอกันแดดนะคะเรา
00:01:46 → 00:01:48 มาดูกันว่าคุณครูสอนเคมีที่รู้เรื่อง
00:01:48 → 00:01:51 เกี่ยวกับเคมีและสกินแครต่างๆเนี่ยจะ
00:01:51 → 00:01:54 เลือกอย่างไรค่ะ podcast EP นี้นะคะขอ
00:01:54 → 00:01:58 ต้อนรับดรดุ๊คพุฒิกรู้ฝึกดีนะคะซึ่งเป็น
00:01:58 → 00:02:00 เจ้าของสถาบันกดิ
00:02:00 → 00:02:03 เคมีดรดุ๊คนะคะแล้วก็มีรี phd in
00:02:03 → 00:02:05 chemistry จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ
00:02:05 → 00:02:08 สวัสดีค่ะอาจารย์ดุ๊กสวัสดีค่ะพี่ผิง
00:02:08 → 00:02:11 สวัสดีค่ะค่ะก็จริงๆนะคะช่วงนี้แบบโอ๊ย
00:02:11 → 00:02:14 ดราม่าสกินแคร์มันเยอะค่ะอาจารย์ก็เลยจะ
00:02:14 → 00:02:16 ชวนอาจารย์ดุ๊กมาคุยเรื่องดราม่ากันค่ะ
00:02:16 → 00:02:20 เยอะจริงๆค่ะเปิดมาก็คือเด้งตลอดในฟีดทุก
00:02:20 → 00:02:23 ช่องทางนั่นน่ะสินะเพราะว่าจริงๆแล้วอ่ะ
00:02:23 → 00:02:25 เราเห็นกันมาตั้งนมนานตั้งแต่อาจารย์ดุ๊ก
00:02:25 → 00:02:28 ยังไม่ได้พีเลยเนาะตั้งแต่ผมสั้นเลยค่ะ
00:02:28 → 00:02:32 ตั้งแต่ผมสั้นนะจนตอนนี้ผมยาวสลวยสวค่ะ
00:02:32 → 00:02:35 ซึ่งออาจารย์ดุ๊กเนี่ยนอกจากเป็นพีดด้าน
00:02:35 → 00:02:37 เคมีแล้วอ่ะพี่พอจะทราบว่ามีประสบการณ์
00:02:37 → 00:02:39 เกี่ยวกับด้านสิน care ด้วยถูกมั้ยคะค่ะ
00:02:39 → 00:02:42 คือตอนเรียนน่ะค่ะได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการ
00:02:42 → 00:02:44 เอาเคมีไปประยุกต์ใช้ในเรื่องของการนำส่ง
00:02:44 → 00:02:48 สารก็เลยได้มีความรู้ด้านสกีนงานวิจัยก็
00:02:48 → 00:02:51 คือจะโฟกัสเกี่ยวกับการนำสงสารเข้าสู่ผิว
00:02:51 → 00:02:54 เลยค่ะอืโอเคเยี่ยมเลยดังนั้นนะคะวันนี้
00:02:54 → 00:02:57 เราจะได้ฟังจากตัวจริงเสียงจริงแน่นอนเรา
00:02:57 → 00:02:59 มาเริ่มกันที่ cleanser ก่อนเลยดีกว่าค่ะ
00:02:59 → 00:03:00 าจารย์
00:03:00 → 00:03:02 ถ้าหลักทางเคมีเี่เราจะมาเลือกคลีนเซอร์
00:03:02 → 00:03:05 ที่ดีได้อย่างไรคะอาจารย์จริงๆคำว่า
00:03:05 → 00:03:07 cleanser เนี่ยค่ะหลายคนก็ยังเข้าใจว่า
00:03:07 → 00:03:10 คือสบู่ค่ะก็ยังเอาสบู่ก้อนเนี่ยก็แล้วก็
00:03:10 → 00:03:13 เรียกว่าคลีนเซอร์แล้วก็จะแบบมีความพาว
00:03:13 → 00:03:17 ว่า 1 ก้อนใช้ได้ทั้งตัวเลยออใช่เริ่มต้น
00:03:17 → 00:03:19 จริงๆคนอร์เนี่ยมาจากสบู่แต่จริงๆแล้ว
00:03:19 → 00:03:22 คนอร์ค่ะไม่ใช่สบู่ตัวสบู่เป็นเพียงแค่
00:03:22 → 00:03:26 สับเซตของคลีนเซอร์ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ
00:03:26 → 00:03:28 จะกำจัดหรือเอาออกเนี่ยจริงๆเราต้องทำ
00:03:28 → 00:03:31 ความเข้าใจว่าก็คือพวกพวกาบเหงื่อหรือพวก
00:03:31 → 00:03:34 กลุ่มที่เป็นสิ่งสกปรกหรือกลุ่มน้ำมันนะ
00:03:34 → 00:03:36 คะเพราะฉะนั้นในการเลือกคลีนเซอร์เนี่ย
00:03:36 → 00:03:38 ตัวพระเอกเลยหรือี ingredient เนี่ยก็คือ
00:03:38 → 00:03:42 ตัวประสานที่ทำให้น้ำกับน้ำมันเนี่ยค่ะไป
00:03:42 → 00:03:46 ด้วยกันได้ซึ่งตรงเนี้ยก็คือเรียกว่าเฟนอ
00:03:46 → 00:03:49 ซึ่งในอดีตเนี่ยค่ะเขาจะใช้เป็นตัวสบู่
00:03:49 → 00:03:53 กันซึ่งมันช้าล้างดีนะคะแต่ที่เรื่องของ
00:03:53 → 00:03:57 ความเป็นเบสตัวสบู่เนี่ยค่ะพีจากที่เคยทด
00:03:57 → 00:04:00 สอบก็คือประมาณ 10 เลยโอจะทำให้ผิวหนัง
00:04:00 → 00:04:04 อ่ะค่ะตัวโปรตีนที่ผิวหนังของซัมคอนมหรือ
00:04:04 → 00:04:07 ชั้นหนังกำพร้าเราเนี่ยเกิดการใช้คำว่า
00:04:07 → 00:04:11 เสียหายแล้วก็ถึงขั้นเปลี่ยนพวกไขมันที่
00:04:11 → 00:04:14 การจัดเรียงของโครงสร้างไขมันที่ผิวทำให้
00:04:14 → 00:04:17 เกิดการระคายเคืองได้เลยอืเพราะฉะนั้นถ้า
00:04:17 → 00:04:20 พูดถึงคลีนเซอร์เนี่ยค่ะณปัจจุบันเนี่ยก็
00:04:20 → 00:04:23 คือเอาสบู่ออกไปก่อนแต่ถ้าสบู่เนี่ยใช้ก็
00:04:23 → 00:04:26 เอาไว้ล้างตรงจุดที่เราต้องการที่จะให้
00:04:26 → 00:04:29 พังได้เช่นส้นเท้าหรืออะไรที่เราไม่ได้
00:04:29 → 00:04:32 ซีรียเครียดมากอยากให้พังแล้วก็สะอาดด้วย
00:04:32 → 00:04:35 อันเนี้ยค่ะแล้วก็ในการเลือกพวกตัว
00:04:35 → 00:04:37 คลีนเซอร์อ่ะค่ะเมื่อกี้ที่บอกไปว่าหลัก
00:04:38 → 00:04:39 การก็คือ
00:04:39 → 00:04:41 surfactant ซึ่งถ้าพูดถึง surfactant
00:04:42 → 00:04:45 เนี่ยหลักๆในปัจจุบันก็จะมีอยู่ประมาณ 3
00:04:45 → 00:04:47 กลุ่มแต่จริงๆแล้วมี 4 กลุ่มก็คือกลุ่ม
00:04:47 → 00:04:51 ที่เป็นแอนิหรือกลุ่มที่เป็นลบตัวเนี้ย
00:04:51 → 00:04:55 คือล้างดีมากล้างแล้วเดเลยคือการชะล้าง
00:04:55 → 00:04:58 สูงล้างแล้วทีนึงนี่คือใครเรียกหันทั้ง
00:04:58 → 00:05:02 ตัวค่ะคือมันตึงแบบตึงมากๆเลยแล้วก็แล้ว
00:05:02 → 00:05:05 มันจะดีกับผิวล่ะคะมันดีในแง่ของความสบาย
00:05:05 → 00:05:08 ใจว่าชั้นล้างแล้วมันสะอาดออประเภทคนที่
00:05:08 → 00:05:11 ชอบว่าล้างแล้วหน้ามันเอี๊ยดใช่แล้วแบบ
00:05:11 → 00:05:13 เหมือนโฆษณาสมัยก่อนเวลาเราล้างจานแล้ว
00:05:13 → 00:05:16 เอี๊ยดอย่างเงี้ยค่ะก็คือออแต่หน้าเรามัน
00:05:16 → 00:05:18 ไม่ใช่จานเนาะหน้าเราไม่ใช่จานค่ะเพราะ
00:05:18 → 00:05:21 ฉะนั้นเราอย่าเอี๊ยดแต่ก็ถามว่าสะอาดมั้ย
00:05:21 → 00:05:24 ก็ได้นะคะอันเนี้ยคือนิยมใช้กันมากเลยก็
00:05:24 → 00:05:27 คือกลุ่มประจุลบแล้วก็อีกกลุ่มนึงก็คือ
00:05:27 → 00:05:31 กลุ่มประจุบวกตัวเนี้ค่ะจะไม่ค่อยนิยมใช้
00:05:31 → 00:05:33 แต่ก็เห็นบางแบรนด์ใช้แต่โดยส่วนตัวคือ
00:05:33 → 00:05:36 ไม่แนะนำเพราะว่ากลุ่มบวกเนี่ยจะเป็นใน
00:05:36 → 00:05:39 กลุ่มพวกเกี่ยวกับการโคติหรือการเคลือก
00:05:39 → 00:05:42 แล้วก็พวกแอนตี้แบคทีเรียหรือพวกสารกัน
00:05:42 → 00:05:46 บูดต่างๆพวกบวกเนี่ยจะใช้ในพวกคิมโดผม
00:05:46 → 00:05:48 เวลาที่เราเจอเนี่ยเราอย่าหยิบมาเลยเพราะ
00:05:48 → 00:05:50 ว่าเราต้องการทำความสะอาดไม่ได้ต้องการ
00:05:50 → 00:05:53 เคลือบหน้าอืเพราะฉะนั้นประจุบวกเนี่ย
00:05:53 → 00:05:56 อยากให้มองข้ามไปก่อนแบบที่ 1 ก็มองข้าม
00:05:56 → 00:06:00 แบบที่ 2 ก็มองข้ามอแบบที่ 3 ใชแบบที่ 3
00:06:00 → 00:06:03 ก็คือแิถ้าเราเรียนวิทยาศาสตร์ตอนมปลายก็
00:06:03 → 00:06:06 คือสวิตเตอร์ไอออนพวกนี้จะเป็นทั้งบวกและ
00:06:06 → 00:06:10 ลบก็คืออยู่ที่สภาวะที่มันไปอยู่ถ้ามัน
00:06:10 → 00:06:13 อยู่ในเบสมันก็จะเป็นสภาวะนึงอยู่ในกรดก็
00:06:13 → 00:06:17 เป็นสภาวะนึงนะอืเด็กสายสินร้องไห้แล้ว
00:06:17 → 00:06:19 ค่ะบอกอาจารย์บอกชื่อมาเลยได้มยคะใช่ก็
00:06:19 → 00:06:22 คือจริงๆแอนิอ่ะค่ะลบกับบวกเนี่ยการราคาย
00:06:22 → 00:06:26 เคืองพอๆกันเลยนะคะแต่ก็ไม่อยากจะบอกว่า
00:06:26 → 00:06:28 ไม่ควรใช้แต่จริงๆแล้วการเลือกคลีนเซอร์
00:06:28 → 00:06:31 ที่ดีเนี่ยค่ะเราต้องเลือกแบบ combination
00:06:31 → 00:06:34 ก็คือเลือกแบบที่ทั้งมีประจุและไม่มี
00:06:34 → 00:06:38 ประจุเพราะว่าตัวแอนิอ่ะค่ะหรือตัวที่มี
00:06:38 → 00:06:41 ประจุลบเนี่ยข้อเสียก็คือทำลายโปรตีนแต่
00:06:41 → 00:06:45 ข้อดีคือสะอาดส่วนกลุ่มที่เป็นไม่มีประจุ
00:06:45 → 00:06:48 หรือ non ไอออนิคเนี่ยค่ะค่ะถึงจะไม่
00:06:48 → 00:06:51 ระคายเคืองแต่ด้วยความที่มัน non ไอออนิค
00:06:51 → 00:06:54 เพราะฉะนั้นมันจะสามารถชะล้างไขมันที่ผิว
00:06:54 → 00:06:58 หนังเราออกได้เพราะฉะนั้นเราต้องบานตรง
00:06:58 → 00:07:01 นี้ดีๆว่าถ้าคเราจะเลือกคอรคเราไม่ควร
00:07:01 → 00:07:05 เลือกแค่ประจุลบหรือประจุบวกเราควรจะ
00:07:05 → 00:07:09 เลือก Balance ของตัว sur นะคะออก็คือทำ
00:07:09 → 00:07:14 ความสะอาดได้ดีแล้วก็โปรตีนที่ผิวไม่พังอ
00:07:14 → 00:07:18 แล้วก็ไม่ทำลายแฟตที่ผิวหนังแล้วเราจะรู้
00:07:18 → 00:07:21 ได้อย่างไรว่าหลอดไหนเป็นแบบนี้หลอดไหน
00:07:21 → 00:07:24 เป็นแบบไหนซึ่งเวลาที่เราดูพวกแอนไอออนิค
00:07:24 → 00:07:27 อ่ะค่ะสังเกตเลยในเว็บไซต์จริงๆมีหมดแต่
00:07:27 → 00:07:29 จริงๆแล้วเวลาถ้านักเคมีดูแล้วก็ก็จะเห็น
00:07:29 → 00:07:34 พวกคาร์บอกซิลซัลโฟเนตอะไรพวกเนี้ยค่ะ sls
00:07:34 → 00:07:38 ิวลอสอะไรพวกเนี้ยค่ะพวกนี้จะเป็นกลุ่มลบ
00:07:38 → 00:07:41 จดเอาไว้นะคะทุกคนใช่ซึ่งพวกเยก็จะชะล้าง
00:07:41 → 00:07:46 ได้ดีค่ะส่วนพวกที่เป็นกลุ่มแอมฟิอ่ะค่ะ
00:07:46 → 00:07:50 พวกที่เป็นทั้งบวกและลบพวกเนี้ยก็จะให้
00:07:50 → 00:07:53 ข้อดีของทั้ง 2 ตัวทั้งบวกและลบผสมกัน
00:07:54 → 00:07:57 อย่างถ้าสมมุติว่าในกรณีที่เราทำสูตรใน
00:07:57 → 00:08:00 สภาวะที่เป็นเบสมากๆ
00:08:00 → 00:08:03 แมตัวนี้ก็จะโชว์ความเป็นลบซึ่งก็จะทำให้
00:08:03 → 00:08:07 การชะล้างดีแต่ถ้าเราปรับให้มันพีต่ำๆมัน
00:08:07 → 00:08:10 ก็จะโชว์ความเป็นบวกซึ่งก็สามารถที่จะ
00:08:10 → 00:08:13 กำจักแบคทีเรียได้เพราะฉะนั้นเทรนดใน
00:08:13 → 00:08:17 ปัจจุบันเขาจะนิยมใช้แิผสมกับ non ไออิ
00:08:17 → 00:08:20 หรือบางแบรนด์ก็ใช้ลบผสมกับแ4อันเนี้ย
00:08:20 → 00:08:24 แล้วแต่แบรนด์เลยว่าเขาต้องการที่จะชูตัว
00:08:24 → 00:08:28 ไหนหรือแบบไหนอืแล้วถ้าตัวแอมฟินี่เราจะ
00:08:28 → 00:08:30 มองหาสารตัวไหนบ้างคส่วนมากจะเป็นกลุ่ม
00:08:30 → 00:08:34 ที่เป็นพวกอินค่ะเราจะได้ยินคำว่าอาซอะไร
00:08:34 → 00:08:37 อย่างเงี้ยตัวที่ Popular มากเลยคือ b10
00:08:37 → 00:08:40 B1 อ่าถ้าเราดูก็จะเห็นหลายตัวอยู่เนาะ
00:08:40 → 00:08:43 โคโค amid B1 อะไรพวกนี้ค่ะตัวนี้จะ
00:08:43 → 00:08:47 Popular มากคือจะอ่อนโยนแล้วก็การระคาย
00:08:47 → 00:08:50 เคืองต่ำและที่สำคัญเลยคือ
00:08:50 → 00:08:53 biodegradable ก็คือร้างแล้วรักโลค
00:08:53 → 00:08:55 สามารถสลายได้ก็คืออาจารย์แนะนำตัวนี้
00:08:55 → 00:08:58 อาจาร์ขอชื่ออีกทีนึงนะครับจะได้จดทัน B
00:08:58 → 00:09:02 เทนค่ะ b e t a i n e ค่ะตัวเก็จะ
00:09:02 → 00:09:05 เป็นตัวที่ค่อนข้างอ่อนโยนซึ่งโดยส่วนตัว
00:09:05 → 00:09:09 นะคะเวลาอาจารย์ใช้ก็จะใช้เป็นแฟิกับ non
00:09:09 → 00:09:12 ไออิอ่าโอเคหรือถ้าเราไม่แน่ใจเราก็ถามไป
00:09:12 → 00:09:15 ที่แบรนด์ที่เราใช้ว่าเอ๊ะคนอร์ของคุณ
00:09:15 → 00:09:18 เนี่ยเป็นแิกับ anionic หรือเปล่าใช่มั้ย
00:09:18 → 00:09:20 คะหรือว่าดูข้อมูลจากในเว็บไซต์ของเขาเอา
00:09:21 → 00:09:23 ใช่ค่ะซึ่งถ้าเขาอยากจะได้การชะล้างมากๆเ
00:09:23 → 00:09:26 ก็จะใส่ตัวลบแต่ถ้าเขาต้องการกลางๆหน่อย
00:09:26 → 00:09:31 เาก็อาจจะใส่ตัวที่เป็นบวกลบคู่กับ
00:09:31 → 00:09:36 อชแต่ละวว่าต้องการชะล้างแค่ไหนแค่ไหน
00:09:36 → 00:09:39 โอเคแต่ที่แน่ๆเลยก็คือสบู่ก้อนที่ล้าง
00:09:39 → 00:09:42 แล้วหน้าตึงเป็นจานเนี่ยไม่เอาไม่เอาแล้ว
00:09:42 → 00:09:45 ก็ลบเฉยๆก็ไม่เอาอันนี้เล่าให้ฟังว่าโดย
00:09:45 → 00:09:47 ปกติแล้วที่ laap อ่ะค่ะเวลาที่เราจะทำ
00:09:48 → 00:09:50 เป็น Positive Control หรือตัวที่จะต้อง
00:09:50 → 00:09:53 เอาไว้เทสเลยว่าตัวเนี้เป็น Surf ที่เป็น
00:09:53 → 00:09:56 ตัวระคายเคืองเราจะหยิบตัวที่เป็นกลุ่มลบ
00:09:56 → 00:09:59 sls มาใช้เลยอ
00:09:59 → 00:10:02 เรียบร้อยว่าตัวประจุลบที่เป็น sls เนี่ย
00:10:02 → 00:10:05 มันค่อนข้างระคายเคืองอืนะคะดังนั้นถ้า
00:10:05 → 00:10:09 เห็นคำว่า sls ก็ให้กาทิ้งนะคะค่ะโคจาก
00:10:10 → 00:10:12 cleanser นะคะเรามาถึง Makeup remover
00:10:12 → 00:10:14 ค่ะอาจารย์คือปัจจุบันเนี่ยที่เขาฮิตๆกัน
00:10:14 → 00:10:17 มันก็จะมีแบบไซกับแบบ Oil เนาะอาจารย์
00:10:17 → 00:10:20 ช่วยแนะนำดยว่าเลือกแบบไหนดีคะคือจริงๆ
00:10:20 → 00:10:22 แล้วพวก Make Up กับ Sun screen นะคะ
00:10:22 → 00:10:24 หรือพวกกลุ่มที่เป็น waterproof อ่ะค่ะ
00:10:24 → 00:10:27 ถ้าสมมุติจะใช้เป็นตัว Makeup remover
00:10:27 → 00:10:30 แนะนำให้เป็นกลุ่ม Oil Base ค่ะเพราะว่า
00:10:30 → 00:10:33 ใน formulate ของพวก Makeup กับซีนน่ะค่ะ
00:10:33 → 00:10:35 มันจะมีพวกสารที่เป็นกลุ่มน้ำมันกับ
00:10:35 → 00:10:39 ซิลิโคนเบสค่อนข้างเยอะอเพราะฉะนั้นการ
00:10:39 → 00:10:42 ที่เราเอาออยล้างเนี่ยค่ะประสิทธิภาพใน
00:10:42 → 00:10:45 การล้างเนี่ยจะดีที่สุดอเพราะว่าด้วยหลัก
00:10:46 → 00:10:48 การของสารที่ไม่มีขั้วกับไม่มีขั้วเมื่อ
00:10:48 → 00:10:53 ล้างกันก็จะออกได้ดีนะคะแต่ถ้าสมมุติว่า
00:10:53 → 00:10:56 แนะนำจริงๆก็คือใช้ Oil แล้วก็ตามด้วย
00:10:56 → 00:10:59 Double Triple Watch ค่ะก็คือออือล้าง
00:10:59 → 00:11:02 ด้วยรีวอก่อนรอบนึงที่เป็นกลุ่ม Oil Base
00:11:02 → 00:11:06 นะคะแล้วก็ใช้เป็นพวกโฟมล้างหน้าหรือไ
00:11:06 → 00:11:09 Water อ่ะค่ะตามอีกรอบนึงเพื่อเก็บใน
00:11:09 → 00:11:11 ส่วนที่ยังตกค้างอยู่ซึ่งอาจจะอยากถามว่า
00:11:11 → 00:11:13 แล้วอะไรที่มันตกค้างที่เราจะใช้เป็น
00:11:13 → 00:11:16 ไซล่าเพื่อเก็บคะอาจารย์คือปกติแล้วเวลา
00:11:16 → 00:11:18 ที่เราเอาออยล้างนวดๆวๆหน้าเราจะเต็มไป
00:11:18 → 00:11:21 ด้วยน้ำมันเมื่อเราเอาน้ำหยดแรกโดนหน้า
00:11:21 → 00:11:25 ปุ๊บอ่ะค่ะมันจะเกิดไซลซึ่งการล้างเนี่ย
00:11:25 → 00:11:28 มันจะไม่หมดมันเหมือนเราล้างเสร็จปุ๊บมัน
00:11:28 → 00:11:31 จะยังมีน้ำมันที่มันแบบยังเกาะๆอยู่อ่ะ
00:11:31 → 00:11:33 ค่ะพวกเนี้ยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการอุด
00:11:33 → 00:11:37 ตันถ้าเราล้างน้ำเปล่ามันก็จะไม่ออกโดย
00:11:37 → 00:11:40 ส่วนตัวที่ดุ๊กทำนะคะดุ๊กจะล้างออยก่อน 1
00:11:40 → 00:11:43 รอบจะเป็นออยเบสหรือว่าเป็น Cleansing
00:11:43 → 00:11:46 บารมก็ได้ค่ะแต่ขอให้มีความเป็นแฟตหน่อย
00:11:46 → 00:11:49 นวดๆๆๆหลังจากนั้นก็เอาเมคอัพออกให้หมด
00:11:49 → 00:11:53 ก่อนอือฮึเอาน้ำล้างค่ะให้สะอาดแล้วก็ใช้
00:11:53 → 00:11:56 ไซล่าค่ะเช็ดเก็บตามแล้วก็ตามด้วย
00:11:56 → 00:11:58 คลีนเซอร์อันนี้ก็คือจะ
00:11:58 → 00:12:03 เป็นเลยอ่าเป็นเทคนิคความงามของดรดุ๊คเลย
00:12:03 → 00:12:07 ใช่ล้างแบบด้วยคนไกฉบับสาวเคมีเลยค่ะเอา
00:12:07 → 00:12:09 ล้างแบบสาวเคมีนะ Triple Watch สะอาดหมด
00:12:09 → 00:12:13 จดใช่ค่ะโอเคโอเยี่ยมมากๆเลยนะคะทีนี้พอ
00:12:14 → 00:12:15 ล้างหน้าเสร็จแล้วเราก็จะต้องมาลงครีม
00:12:15 → 00:12:19 บำรุงเนาะ moisturiser ค่ะอาจารย์ครีม
00:12:19 → 00:12:22 โลชั่น emion นะคะหลายๆคนสับสนกันมากมัน
00:12:22 → 00:12:25 ต่างกันยังไงเลือกแบบไหนดีคะคือจริงๆแล้ว
00:12:25 → 00:12:28 หลักๆอ่ะค่ะคอนเซปเลยมันก็คือถ้าผู้ฟัง
00:12:28 → 00:12:31 เคยได้ยินก็คือคำว่า ul นะคะหลักๆมีแค่
00:12:31 → 00:12:34 นี้ก็คือโดยปกติแล้วสารสำคัญหรือสารที่
00:12:34 → 00:12:37 ออกฤทธิ์เนี่ยจะอยู่ในสถานะหรือเฟสของน้ำ
00:12:37 → 00:12:40 มันซึ่งพวกเนี้ยมันจะกระจายตัวอยู่ในน้ำ
00:12:40 → 00:12:44 อันนี้คือหลักๆเลยก็คืออเ้าเรียกว่าสาร
00:12:44 → 00:12:49 แขวนลอยนะคะอซึ่ง Concept คือ uli เพราะ
00:12:49 → 00:12:52 ฉะนั้นเวลาที่เขาต้องการจะปรับสูตรอ่ะค่ะ
00:12:52 → 00:12:54 เขาก็จะมีการแอดพวกสารที่เป็นกลุ่ม
00:12:54 → 00:12:57 occlusive หรือพวกที่กันน้ำระเหยออกเข้า
00:12:57 → 00:13:02 ไปเพื่อเพิ่มอเพราะฉะนั้นเวลาที่เราไล่ค
00:13:02 → 00:13:04 มันก็จะไล่ตั้งแต่เซั่ม
00:13:04 → 00:13:10 โีมไปจนถึงความต่างก็คือต่างกันแค่ตัวที่
00:13:10 → 00:13:13 ป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกเพราะฉะนั้น
00:13:13 → 00:13:15 คอนเซปเหมือนกันเลยสารสำคัญก็อยู่ที่การ
00:13:15 → 00:13:18 ปรับแต่งโดยปกติแล้วถ้าเกิดเราไม่ได้
00:13:18 → 00:13:21 ต้องการเนื้อที่หนักหรือคนที่เป็นกลุ่ม
00:13:21 → 00:13:24 ที่เป็นสิวหรือผิวมันก็แนะนำว่า emion ก็
00:13:24 → 00:13:28 เพียงพอแต่ถ้าในคนที่ผิวแห้งก็สามารถ
00:13:28 → 00:13:32 เขยิบสเต็ปการบำรุงไปเป็นโลชั่นเป็นครีม
00:13:32 → 00:13:35 หรือบางคนสามารถใช้ออยเนสในการทาหน้าได้
00:13:35 → 00:13:40 เลยก็คือผิวแห้งมากๆอซึ่งอาจารย์ดุ๊กยัง
00:13:40 → 00:13:42 ไปไม่ถึงจุดนั้นนะคะที่บ้านเลี้ยงแมวค่ะ
00:13:42 → 00:13:44 เพราะว่าถ้าทาออยแล้วคือขนแมวติดหน้าหมด
00:13:44 → 00:13:48 เลยอ๋อเข้าใจค่ะก็คือยิ่งหนาเนื้อเนี่ย
00:13:49 → 00:13:52 ค่อยๆไล่มา Serum emion โลชั่นครีมอมน
00:13:52 → 00:13:55 ยิ่งหนามันก็จะยิ่งแบบกักเก็บน้ำได้ใช่ก็
00:13:55 → 00:13:57 สังเกตว่ามันจะเหนอะขึ้นเรื่อยๆค่ะอือฮึ
00:13:58 → 00:14:01 ือฮึดังนั้นก็ตามแต่สภาพผิวของแต่ละคนนะ
00:14:01 → 00:14:04 คะเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองค่ะดีที่สุด
00:14:04 → 00:14:07 อือฮึแล้วนอกจากเรื่องเนื้อเนี่ยก็จะมี
00:14:07 → 00:14:10 พวกเรื่องของค่าความเป็นกรดเป็นด่างของ
00:14:10 → 00:14:13 ครีมอันเนี้ยสำคัญแค่ไหนคะอาจารย์โหสำคัญ
00:14:13 → 00:14:16 มากเลยแลอันนี้เป็นโอโหเป็นจุดที่พลาดกัน
00:14:16 → 00:14:19 เยอะมากๆเลยอ่ะค่ะคือถ้าเกิดพีเนี่ยจริงๆ
00:14:19 → 00:14:22 ผิวหนังของเราเนี่ยพีประมาณ 5.5 ก็คือผิว
00:14:22 → 00:14:26 ประมาณของผิวหนังกำพร้าถ้าเราเลือกพีที่
00:14:26 → 00:14:29 ไม่ดีอ่ะค่ะเหมือนเราไปทำลายสมดุลของผิว
00:14:29 → 00:14:32 ร่างกายเรามันค่อนข้างฉลาดมากๆถ้าเราไป
00:14:32 → 00:14:34 ใช้สกินแคร์ในกลุ่มที่เป็นเบสมากๆอย่าง
00:14:34 → 00:14:37 เงี้ยค่ะโปรตีนเราพังหมดปการผิวเราก็จะ
00:14:37 → 00:14:41 พังหมดถ้าเราไปใช้กรดมากๆพวกผิวหนัง
00:14:41 → 00:14:44 กำพร้าเราก็จะหลุดลอกเหมือนที่เขาพยายาม
00:14:44 → 00:14:47 ที่จะผัดเซลล์ผิวกันน่ะค่ะค่ะซึ่งถ้าเกิด
00:14:47 → 00:14:50 เราเลือกครีมหรือสกินแครที่พีชไม่เหมาะสม
00:14:50 → 00:14:53 สิ่งที่คุณจะเสียเลยก็คือผิวหนังชั้นบน
00:14:53 → 00:14:56 ของคุณหรือประการที่จะปกป้องผิวให้ไม่
00:14:57 → 00:14:59 ระคายเคลืองอะไรอย่างเงี้ยคุณจะเสียไปจะ
00:14:59 → 00:15:01 อ่อนแอลงอใช่เพราะฉะนั้นก็จะขึ้นสิวผด
00:15:01 → 00:15:04 ขึ้นแดงขึ้นบวมขึ้นจ้ำอะไรอย่างเงี้ยได้
00:15:04 → 00:15:08 ง่ายมากๆออือฮึอือฮึค่ะพีใน skin care
00:15:08 → 00:15:11 เนี่ยค่อนข้างสำคัญมากถ้าให้ดีพยายามให้
00:15:11 → 00:15:14 อยู่ในช่วงของพี Balance หรือเท่ากับผิว
00:15:14 → 00:15:16 หนังของเราค่ะอืโอเคซึ่งอันเนี้ยเราก็
00:15:16 → 00:15:18 ต้องดูที่ Packaging เขาก็จะระบุเอาไว้
00:15:18 → 00:15:20 ใช่มั้ยคะพี่ผิงรู้มั้ว่าดุ๊กเคยทดสอบน้ำ
00:15:20 → 00:15:24 ปาปาบ้านเราพ4นะออจริงเหรอกำลังอยากจะถาม
00:15:24 → 00:15:26 เหมือนกันว่าเอ๊ะอาจารย์ดุ๊กเคยทดสอบเอง
00:15:26 → 00:15:28 มั้ยเนี่ยเออทดสอบแบบก๊อกชอกไปเลยหรอนะ
00:15:28 → 00:15:31 ปลาบ้านเรา PS4 เหรอว่าทำไมเราอาบน้ำ
00:15:31 → 00:15:33 ปับปาแล้วมันไม่เป็นอะไรเพราะอ๋อน้ำปับ
00:15:33 → 00:15:36 ปลา PS4 เพราะว่าคองบ้านเรามันอยู่ติดถนน
00:15:36 → 00:15:38 น่ะค่ะแล้วเวลาปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
00:15:38 → 00:15:42 ละลายน้ำกลายเป็นกดคาร์บใช่แล้วก็มีการ
00:15:42 → 00:15:44 เติมคลอรีนอีกเพื่อนคุณดุ๊กที่นเกาหลีมา
00:15:45 → 00:15:48 เราบอกว่าโอ้ไทยแลนด์น้ำสุดยอด
00:15:48 → 00:15:53 มากเพราะว่า p4 อ่ะค่ะน้ำปาปลาบ้านเราแต่
00:15:53 → 00:15:55 อาจจะอยู่ขึ้นกับโซนด้วยนะคะแล้วพวกครีม
00:15:55 → 00:15:58 เคยทดสอบมั้ยว่าพีแบบอ้างอิงกันอ้างอิง
00:15:58 → 00:16:01 กันมันจริงหรือเปล่าเนี่ยอุ๋ยพูดยากเพราะ
00:16:01 → 00:16:04 ว่าตามคำโฆษณาจริงหรือเปล่ามันก็ต้องไป
00:16:04 → 00:16:06 ตรวจเครื่องอค่ะส่วนมากแล้วเวลาที่เราไป
00:16:06 → 00:16:08 วัดไปอย่างเงี้ยถ้าสารบางตัวมันไม่ละลาย
00:16:08 → 00:16:10 น้ำมันตรวจไม่ได้ส่วนมากแล้วเวลาเคตรวจ
00:16:11 → 00:16:13 เค้าใช้กระดาษมัในการตรวจกันแล้วพอไปจิ้ม
00:16:13 → 00:16:16 ปุ๊บอุ๊ยอย่างเงี้ยมันมีบางอย่างที่เป็น
00:16:16 → 00:16:19 กระบวนการตรวจที่อาจจะต้องให้มันละลาย
00:16:19 → 00:16:21 ก่อนแล้วตรวจถึงจะเห็นก็คืออาจจะต้องตี
00:16:21 → 00:16:23 ฟองเป็นน้ำแล้วก็จุ่มกระดาษเข้าไปแล้ว
00:16:23 → 00:16:26 เช็คได้ในแอปส้มเนี่ยค่ะมีอ่ามีซื้อตรวจ
00:16:26 → 00:16:29 ได้สบายแต่ที่สำคัญคือต้องตีในน้ำให้
00:16:29 → 00:16:32 เรียบร้อยแล้วก็จุ่มลงไปอย่าบีบตรงๆแล้ว
00:16:32 → 00:16:35 ตรวจอันนั้นจะไม่เห็นผลจริงค่ะอาฮะฮะพูด
00:16:35 → 00:16:39 ถึงการตรวจนะคะก็นึกถึงครีมกันแดดค่ะครีม
00:16:39 → 00:16:41 กันแดดเนี่ยก็ดราม่าเยอะนะช่วงที่ผ่านมา
00:16:41 → 00:16:44 ถามอาจารย์ดุ๊กดีกว่าว่าในแง่ของสารเคมี
00:16:44 → 00:16:46 ในครีมกันแดดเนี่ยพวก Active ingredient
00:16:46 → 00:16:48 มีตัวไหนที่อาจารย์ดุ๊กอ่ะในความเห็นส่วน
00:16:48 → 00:16:51 ตัวเห็นว่าควรเลี่ยงมคะโอ้โหอันนี้คือแบบ
00:16:51 → 00:16:54 มันมากแล้วก็ติดตามอย่างแบบสุดๆเลยค่ะคือ
00:16:54 → 00:16:56 ครีมกันแดดของอาจารย์ดุ๊กเนี่ยเวลาเวลา
00:16:56 → 00:16:59 เลือกเนี่ยค่ะครีมกันแดดในกลุ่มที่เป็น
00:16:59 → 00:17:03 พวกเิอที่มันเวลาโดนแดดแล้วมันสลตัวเข้า
00:17:03 → 00:17:05 สู่ระบบเลือดได้เนี่ยเราจะตัดทิ้งเลย
00:17:05 → 00:17:09 เพราะว่าถึงมันจะยยังมีหลักฐานไม่เพียงพอ
00:17:09 → 00:17:11 แต่ในมุมของเราเนี่ยถ้ามันมีหลักฐาน 1
00:17:11 → 00:17:15 นิดนึงอ่ะเราก็ไม่ใช้แล้วกลุ่มที่ถ้าเกิด
00:17:15 → 00:17:18 โดยส่วนตัวเจอแล้วจะไม่ใช้เลยก็จะเป็น
00:17:18 → 00:17:24 ออกซินอินเตโมซาออกซาเลตอคินอบนอะไรอย่าง
00:17:24 → 00:17:27 เงี้ยค่ะพวกเนี้ยไม่ใช้เลยถามดีกว่า
00:17:27 → 00:17:32 อาจารย์ดุ๊กใช้ตัวไหนส่วนมากจะเป็น Hybrid
00:17:32 → 00:17:34 sunscreen กับตัวที่เป็น mineral อ่ะค่ะ
00:17:35 → 00:17:38 จะค่อนข้างปลอดภัยซึ่งเวลาที่เราเลือกอ่ะ
00:17:38 → 00:17:41 ค่ะอยากให้ดูในแง่ของการป้องกันในบอร์ด
00:17:41 → 00:17:44 สเปกตรัมแล้วก็เสถียรภาพ 2 ปัจจัยเนี้ย
00:17:44 → 00:17:48 สำคัญมากเลยครับอ่าโอเคอย่าง mineral ก็
00:17:48 → 00:17:50 คืออาจารย์ก็มองหาพวกซิงค์ไทเทเนียมอะไร
00:17:50 → 00:17:52 อย่างงี้ใช่ถ้าเป็นพวกซิงค์ไทเทเนียมก็จะ
00:17:52 → 00:17:55 สะเทียนแล้วก็แต่ต้องระวังนะคะซิงถ้า
00:17:55 → 00:17:58 ปัจจุบันคือซิงปัญหาคือมันขาววอกเพราะฉะ
00:17:58 → 00:18:03 เพฉะนั้นหลบนก็จะทำเป็นไครกับไมโครไฟค่ะ
00:18:03 → 00:18:06 พวกเนี้ยก็คือมันเข้าร่างกายเราได้ดีมาก
00:18:06 → 00:18:08 ก็กลัวอีกเหมือนกันใช่มยใช่ๆเพราะฉะนั้น
00:18:08 → 00:18:11 ีมกันแดดต้องเลือกดีๆค่ะอ่าอาจ้างั้น
00:18:11 → 00:18:15 อย่างไทเทเนียมอาจารย์ชอบแบบฟอร์มไหนคะู
00:18:15 → 00:18:18 ค่ะอืรูทคือไทเทเนียมเนี่ยมันมีหลักๆมัน
00:18:18 → 00:18:21 ก็จะมีไทเทเนียมมี 2 ฟอร์มถ้ากว้างๆนะคะ
00:18:21 → 00:18:23 ก็คือเป็นตัวใหญ่กับตัวเล็กซึ่งตัวเล็ก
00:18:23 → 00:18:26 เขาก็จะวงเล็บว่าไมโครสก็เหมือนกับซิ้ม
00:18:26 → 00:18:30 เลยค่ะพวกนี้เไปทำให้มันเล็กซึ่งจริงๆ
00:18:30 → 00:18:32 แล้วหลักการคือเขาต้องการให้มันตัวใหญ่
00:18:32 → 00:18:35 แล้วมันกระเจิงแสงได้แต่เราไปทำให้มันตัว
00:18:35 → 00:18:39 เล็กการกระเจิงแสงมันก็จะลดลงแต่เขาไปทำ
00:18:39 → 00:18:41 ให้มันตัวเล็กเพื่อที่จะได้ไม่วอกแล้วพอ
00:18:41 → 00:18:43 ตัวเล็กนี่คือเล็กถึงขั้นสามารถดูดซึม
00:18:43 → 00:18:46 เข้าผิวได้เลยนะคะกลายเป็นว่าเข้าผิวแทนอ
00:18:46 → 00:18:48 เข้าผิวแทนดังนั้นก็เลยอาจารย์ก็จะเลี่ยง
00:18:48 → 00:18:51 กลุ่มที่เป็นไมโครไนซ์ค่ะพยายามเอาซิง
00:18:51 → 00:18:54 ออกไซด์ไทเทเนียมไดออกไซด์ประมาณนี้ค่ะ
00:18:54 → 00:18:56 อือฮึแล้วเห็นอาจารย์บอกไฮบิดด้วยใช่
00:18:56 → 00:18:59 กลุ่มไฮบิดเป็นตัวที่ค่อนข้างเสถียร
00:18:59 → 00:19:03 ปัจจุบันก็มีเยอะเลยพวก OS S OS M
00:19:03 → 00:19:05 หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะพวกนี้ก็จะเป็นบอ
00:19:05 → 00:19:08 สเปกตรัมด้วยแล้วก็พวกนี้โอเคใช่ก็จะไม่
00:19:08 → 00:19:12 สลตัวเวลาโดนแดะโหวันนี้ได้ความรู้แบบ
00:19:12 → 00:19:16 ทั้งแบบ cleanser Mo กันแดดนะคะทีเนี้ย
00:19:16 → 00:19:19 จะอยากถามอาจารย์นิดนึงว่าพวกสกินแคร
00:19:19 → 00:19:22 เนี่ยค่ะมันก็จะมีดราม่าว่าได้อยได้อย
00:19:22 → 00:19:24 จริงๆแล้วเวลาขออยเนี่ยทางอยเามีการตรวจ
00:19:24 → 00:19:28 สอบอะไรบ้างมยค่ะอูพูดได้มยพี่คือเ้าเรา
00:19:29 → 00:19:31 เอาความเป็นจริงไงการขออยนี่จริงๆเอางี้
00:19:31 → 00:19:34 นะคนทั่วไปก็จะเข้าใจว่าอ๋อถ้าได้อยแปล
00:19:34 → 00:19:36 ว่าอยเนี่ยได้นำครีมนี้ไปตรวจสอบศาลทุก
00:19:36 → 00:19:38 อย่างแล้วซึ่งจริงๆแล้วความเป็นจริงมัน
00:19:39 → 00:19:41 เป็นยังไงอ่ะคะคือความเป็นจริงอ่ะค่ะเวลา
00:19:41 → 00:19:44 ที่เราจะผลิตอะไรสักอย่างคืออันดับแรกคือ
00:19:44 → 00:19:47 เราก็จะต้องหาโรงงานที่เป็นผู้ผลิตนะคะ
00:19:47 → 00:19:49 ซึ่งโรงงานที่เป็นผู้ผลิตตรงเนี้ยค่ะเขาค
00:19:49 → 00:19:53 ก็จะมีการตรวจสอบผ่านอยว่ามีมาตรฐานต่างๆ
00:19:53 → 00:19:56 นานาที่เขากำหนดมั้ยมาตรฐานของโรงงานใช่
00:19:56 → 00:20:00 ค่ะพอโรงงานตเนี้ยเตรวจสอบผ่านเรียบร้อยเ
00:20:00 → 00:20:03 ก็จะได้เลขมานะคะคราวเนี้ยเวลาที่เราเป็น
00:20:03 → 00:20:07 ลูกค้าแล้วเราเดินเข้าไปอ่ะค่ะเราก็
00:20:07 → 00:20:09 สามารถที่จะสั่งผลิตอะไรต่างๆสิ่งสำคัญ
00:20:09 → 00:20:13 เลยก็คือพอเสร็จสับเรียบร้อยอการขออยค่ะ
00:20:13 → 00:20:15 ปัจจุบันมันจะขอเป็นระบบที่เป็น Cloud ก็
00:20:15 → 00:20:19 คือชื่อว่า skynet ค่ะ Sky n อ่ะค่ะก็
00:20:19 → 00:20:22 คือเราก็แค่ยื่นสูตรยื่นเปอร์เซ็นต์แล้ว
00:20:23 → 00:20:26 ก็ยื่นฉลากเข้าไปซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะ
00:20:26 → 00:20:28 ประกอบการตัดสินใจโดยการแบ่งสเป็น 2
00:20:29 → 00:20:32 กลุ่มก็คือกลุ่มที่ฟ on ก็คืออยู่บนผิว
00:20:32 → 00:20:34 อันเนี้ยเขาจะซีเรียสหน่อยใช้เวลาในการ
00:20:34 → 00:20:38 approve 3-7 วันโดยการอ่านแค่ฉลากสูตร
00:20:38 → 00:20:41 และเปอร์เซ็นต์นะคะเน้นย้ำอืแล้วก็
00:20:41 → 00:20:45 อนุมัติเลยอืๆๆๆนี่คือระบบที่เป็นอยู่ใช่
00:20:45 → 00:20:48 แล้วก็อีกอันนึงอันนี้คุดุกสุดกว่าก็คือ
00:20:48 → 00:20:51 ความเสี่ยงต่ำนะคะก็คือกลุ่มที่มีการล้าง
00:20:51 → 00:20:54 ออกอันเนี้ยคืออนุมัติเลยอ๋อหมายถึงทันที
00:20:54 → 00:20:57 เลยใช่ก็คือหมายความว่ายื่นแล้วเเรียกว่า
00:20:57 → 00:21:00 aut e permission ทันทีเลยอ๋อก็คือ
00:21:00 → 00:21:03 ระบบมันออโต้เลยใช่ก็คือถ้าเกิดทุกอย่าง
00:21:03 → 00:21:05 เราอยู่ในเกณฑ์ที่เขากำหนดก็คือเหมือนกับ
00:21:05 → 00:21:08 ทางออยเให้เครดิตกับโรงงานไว้ว่าถ้าเกิด
00:21:08 → 00:21:12 คุณทำตามนี้จริงๆเก็จะอนุมัติเลยซึ่งจะ
00:21:12 → 00:21:15 เป็นการออดิตตามทีหลังก็คือจะมีการตรวจ
00:21:15 → 00:21:18 สอบตามมาทีหลังอเพราะฉะนั้นเราก็จะได้เลข
00:21:18 → 00:21:21 เลยค่ะคุณหมอพิงโออย่างงี้มันก็ขึ้นอยู่
00:21:21 → 00:21:25 กับความจริงใจของโรงงานของผู้ผลิตเลยเนาะ
00:21:25 → 00:21:29 ว่าเขาจะส่งข้อมูลที่จริงใจแค่ไหนใช่มั้ย
00:21:29 → 00:21:31 คะไอส่งข้อมูลที่จริงใจแค่ไหนไม่เป็นไร
00:21:31 → 00:21:34 ส่งแบบไหนแล้วใส่จริงแค่ไหนอันนี้ซีเรียส
00:21:34 → 00:21:37 กว่าค่ะจริงๆค่ะใช่เราไม่มีทางรู้เลยนะ
00:21:37 → 00:21:40 จริงๆนะเพราะฉะนั้นถึงบอกว่าบทบาทใน
00:21:40 → 00:21:42 เรื่องของการเข้าไปตรวจสอบหรือการที่เรา
00:21:42 → 00:21:45 มีความรู้เข้าไปดูตรงเนี้ยจะปิดช่องโหวต
00:21:45 → 00:21:50 ตรงนี้ได้เยอะมากค่ะอืี้ขอหลักง่ายๆดี
00:21:50 → 00:21:53 กว่าค่ะในการใช้สกินแครแบบคุณครูสอนเคมี
00:21:53 → 00:21:56 ค่ะก็การใช้สกินแครก็คือเลือกเท่าที่เรา
00:21:56 → 00:21:59 จำเป็นแล้วก็ให้รู้ความบาานของตัวเองหรือ
00:21:59 → 00:22:02 สมดุลของตัวเองว่าตรงไหนคือพอถ้าผิวแห้ง
00:22:02 → 00:22:06 เราก็เติมไสไรเอร์ถ้าเราเป็นสิวเราก็แต้ม
00:22:06 → 00:22:09 สิวเราอยากทำความสะอาดเราก็เลือก
00:22:09 → 00:22:12 คลีนเซอร์หรืออะไรที่ตรงไปตรงมากับปัญหา
00:22:12 → 00:22:16 ที่เราเป็นนะคะแล้วที่สำคัญเลยก็คืออย่า
00:22:16 → 00:22:19 เลือกพวกกลุ่มที่ผัดเซลล์ผิวบ่อยเพราะว่า
00:22:19 → 00:22:21 เราอาจจะขาวแต่ปัญหาที่ตามมาค่อนข้างเยอะ
00:22:21 → 00:22:26 คือผิวบอบบางผิวแห้งผิวแพ้เป็นสิวซึ่งอัน
00:22:26 → 00:22:29 นี้คุมยากกว่าเพราะฉะนั้นอือฮึน้อยสเต็ป
00:22:29 → 00:22:33 แต่เน้นปลอดภัยแล้วก็ดูของส่วนผสมให้เป็น
00:22:33 → 00:22:36 และอย่าเป็นเหยื่อการตลาดค่ะค่ะโหถูกใจ
00:22:36 → 00:22:38 มากๆเลยนะคะพี่ก็ชอบ Concept L is
00:22:38 → 00:22:40 Small เหมือนกันเพราะว่าพี่ก็ว่า
00:22:40 → 00:22:42 ปัจจุบันเนี่ยบางทีคนเราแบบทากันที 10
00:22:42 → 00:22:45 สต็ป 12 สเต็ปอะไรอย่างเงี้ยมันก็ยิ่ง
00:22:45 → 00:22:48 เพิ่มความเสี่ยงในการที่จะอุดตันหรือ
00:22:48 → 00:22:51 ระคายเคืองอะไรต่างๆเนาะยิ่งกว่าความ
00:22:51 → 00:22:53 เสี่ยงกับการอุดตันก็คือบางทีสารที่เราทา
00:22:53 → 00:22:55 กันไปอาจจะทำปฏิกิริยากันแล้วเกิดเป็นสาร
00:22:55 → 00:23:01 ใหม่บนหน้าเราที่ไม่มีใครรู้เคมีต้องมา
00:23:01 → 00:23:03 ใช่อาจจะเกิดเป็นสารใหม่แล้วก็สิ่งที่เรา
00:23:03 → 00:23:06 ต้องการจะทาจริงๆอาจจะไม่ได้ผลตามที่เราา
00:23:06 → 00:23:11 อาจจะไม่ได้ได้ผลถูกต้องค่ะนะคะทีนี้ถ้า
00:23:11 → 00:23:13 น้องๆไวัมัธยมนะคะอยากจะเก่งเคมีแบบ
00:23:13 → 00:23:16 อาจารย์ดุ๊กนะคะโอโหพ่นเคมีขนาดนี้เนี่ย
00:23:16 → 00:23:18 จะต้องตามไปเรียนได้ที่ไหนนะคะอาจารย์โรง
00:23:18 → 00:23:21 เรียนของอาจารย์ดุ๊กนะคะอยู่ที่ห้างมาบุม
00:23:21 → 00:23:24 คลองค่ะ MBK Center ชั้น 4 ค่ะโซนดีค่ะ
00:23:24 → 00:23:27 โซนของการศึกษาเลยค่ะโอเคโรงเรียนชื่อ
00:23:27 → 00:23:31 เคมีดุบอกเลยว่าอาจารย์สอนสนุกมากๆนะคะ
00:23:31 → 00:23:33 เหมือนกับที่สอนพวกเราในวันนี้เนี่ยแหละ
00:23:33 → 00:23:36 ค่ะเชื่อว่าวันนี้นะคะคุณผู้ฟังนอกจากจะ
00:23:36 → 00:23:38 ได้ความรู้แบบอัดแน่นในเรื่องของสกินแคร์
00:23:38 → 00:23:40 แล้วนะคะก็ยังได้รับความสนุกจากเรื่องที่
00:23:40 → 00:23:43 อาจารย์ดุ๊กมาแชร์ให้ฟังด้วยนะคะขอขอบคุณ
00:23:43 → 00:23:47 ดรดุ๊กมากๆเลยค่ะขอบพระคุณมากค่ะถ้าชอบ
00:23:47 → 00:23:50 เนื้อหาของ podcast EP นี้นะคะฝากกดไลค
00:23:50 → 00:23:53 หรือว่าคอมเมนต์บอกหมอหน่อยนะคะในช่องทาง
00:23:53 → 00:23:56 ที่คุณกำลังรับฟังพแสได้เลยค่ะแล้วก็ถ้า
00:23:56 → 00:23:58 มีคนชอบเยอะนะคะหมอจะได้หยิบเรื่องราว
00:23:58 → 00:24:01 อะไรประมาณเนี้ยมาเล่าให้คุณฟังได้อีก
00:24:01 → 00:24:04 ค่ะส่วนใครที่เพิ่งเข้ามาฟัง podcast EP
00:24:04 → 00:24:07 นี้เป็น EP แรกนะคะฝากกดไล์กดติดตามกด
00:24:07 → 00:24:09 Subscribe ในช่องทางที่คุณกำลังฟังอยู่
00:24:09 → 00:24:12 ด้วยค่ะเพื่อที่เราจะได้เจอกันอีกใน EP
00:24:12 → 00:24:15 ต่อๆไปค่ะวันนี้ขอบคุณไทยประกันชีวิตและ
00:24:15 → 00:24:17 ขอบคุณคุณผู้ฟังทุกท่านที่ติดตามด้วยนะคะ
00:24:17 → 00:24:19 สวัสดี
00:24:19 → 00:24:24 ค่ะ Single Being podcast about
00:24:24 → 00:24:27 Living your Best Single Life โดย
00:24:27 → 00:24:31 หมอผิงแพย์หญิงธิดารรุจิพัฒนกุล
00:24:31 → 00:24:36 ดีที่อยู่เดียว Presented by ไทยประกัน
00:24:36 → 00:24:39 ชีวิต