00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:16 เพราะฉะนั้นวันเนี้ยก็เลยคิดว่าเอาล่ะ
00:00:16 → 00:00:22 ก่อนจะหมดปีนะก็สรุปให้มันครบบริบูรณ์ครบ
00:00:22 → 00:00:25 ถ้วนไปเลยนะฮะจริงๆแล้วมันมีเอนไซม์ตัว
00:00:25 → 00:00:31 นึงที่ที่เคยเอ่อแชรแไปแล้วในกลุ่ม
00:00:31 → 00:00:36 longevity นะฮะก็คือโปตน Lip นะฮะเอ่อ
00:00:36 → 00:00:40 ตัว Lip โตน Lip หรือ CP เนี่ยนะ 2 ตัว
00:00:40 → 00:00:44 เนี่ยก็เป็นอะไรที่จะต้องเกี่ยวข้องกับใน
00:00:44 → 00:00:48 ระบบเมตาบอลิกบ่อยๆแต่ว่าไลโปโปรตีนไสจะ
00:00:48 → 00:00:53 ค่อนข้างลึกแล้วก็ยากสักนิดนึงเอ่อก็เลย
00:00:53 → 00:00:58 มีการว่าแชร์เป็นเรื่องของอ่อเป็นการ
00:00:58 → 00:01:01 โพสต์แบบต้องเป็นไปอ่านฮะไปอ่านทำความ
00:01:01 → 00:01:06 เข้าใจไลโปโปรตีนไสเนี่ยเป็นตัวสำคัญนะ CP
00:01:06 → 00:01:10 ก็สำคัญนะฮะสำหรับวันนี้เนี่ยเ่อเราจะพูด
00:01:10 → 00:01:15 ถึงกลุ่มอ่าเค้าเรียกกลุ่มไสเไสเนี่ยเป็น
00:01:15 → 00:01:19 เอนไซม์ในการที่จะย่อยสลายไขมันโดยเฉพาะ
00:01:19 → 00:01:22 ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายนะฮะก็เลยคิด
00:01:22 → 00:01:26 ว่าวันนี้จะโฟกัสเรื่องนี้นะฮะเรื่อง
00:01:26 → 00:01:31 เอนไซมไสนี้เอนไซมไลสเนี่ยมันจะมีอยู่ 3
00:01:31 → 00:01:34 ตัวหลักๆก็คือเนี่ยฮอร์โมน sensitive ไส
00:01:34 → 00:01:38 นะฮะนะแล้วก็ไลโปโปรตีนไสแล้วก็เปิไส
00:01:38 → 00:01:42 ไลโปโปรตีนไสเนี่ยเราแชร์เป็นองค์ความรู้
00:01:42 → 00:01:46 อ่าที่จะต้องมีการไปอ่านทำความเข้าใจนะ
00:01:46 → 00:01:51 เพราะว่าถ้าพูดถึงตัวโปตีนไสมันก็จะมันจะ
00:01:51 → 00:01:54 เยอะไปหมดอ่ะสับเอะไรต่างๆก็ก็คิดว่าน่า
00:01:54 → 00:01:57 จะต้องไปอ่านทำความเข้าใจวันนี้แค่พูด
00:01:57 → 00:02:01 คร่าวๆสำหรับวันนี้เราจะเนตัวฮอร์โมน sens
00:02:01 → 00:02:05 ไสนะเพราะว่าตัวเนี้ยเป็นตัวที่สำคัญที่
00:02:05 → 00:02:09 สุดนะทั้งในช่วงที่ฟีดแล้วก็ช่วงที่ฟานะ
00:02:09 → 00:02:12 ฮะนะในเรื่องของการสลายพลังงานเพราะว่า
00:02:12 → 00:02:16 ใครๆเนี่ยก็อยากจะสลายไขมันสะสมคือไตกิล
00:02:16 → 00:02:19 ต่างๆนะแล้วก็ร่างกายก็จะมีตัวเนี้ยเป็น
00:02:20 → 00:02:23 เอนไซม์ตัวหลักเลยแต่ว่าเขาจะ depend on
00:02:23 → 00:02:27 หรือเจะขึ้นอยู่กับฮอร์โมนด้วยนะฮะเราก็
00:02:27 → 00:02:31 ต้องรู้จักนะเพราะไม่งั้นแล้วเนี่ยมันจะ
00:02:31 → 00:02:36 ยากในการสลายไขมันสะสมไกีสลดนะฮะอันนี้
00:02:36 → 00:02:39 ตัวสำคัญแต่ก็จะควบคู่ไปกับไลโปโปรตีน
00:02:39 → 00:02:43 ไลเปสนะฮะแต่ถ้าตัวตัว a หรือฮอร์โมนเซี
00:02:43 → 00:02:47 ไลเปสเด่นเนี่ยไลโปโปรตีนไลเปสเขาก็จะเา
00:02:48 → 00:02:51 ก็จะด้อยลงนะฮะมันจะกลับกันเเวลาฟีดเวลา
00:02:51 → 00:02:54 ฟาเงี้ยนะเดี๋ยวค่อยๆอ่านแล้วจะทำความ
00:02:54 → 00:02:59 เข้าใจอ่าได้เยอะมากขึ้นนะแต่ตัวสำคัญตอน
00:02:59 → 00:03:02 สำคัญเนี่ยก็คือฮอร์โมนน่ะมีผลยังไงกับ
00:03:02 → 00:03:07 สิ่งเหล่าเนี้ย ABC เนี่ยนะฮะส่วนเปิไสนะ
00:03:07 → 00:03:10 ฮะเปติไลเปสเนี่ยมันออกมาจากตับนะแล้วก็
00:03:10 → 00:03:13 ตัวฮอร์โมนหลักเลยในการควบคุมเปติไลเปส
00:03:14 → 00:03:19 คือคอซอนะฮฮอร์โมนตัวแม่นะแล้วก็เนื่อง
00:03:19 → 00:03:24 จากว่ามันมันมันเป็นไลเปสเนี่ยนะแต่มัน
00:03:24 → 00:03:28 เป็นไลเปสที่ที่ไม่เหมือนไลเปสในการสลาย
00:03:28 → 00:03:31 พลังงานแล้วก็ทำให้ไขมันลดน้ำหนักลดหรือ
00:03:31 → 00:03:36 ระบบเมตาบอลิกมันดีขึ้นนะฮะนะเิไสเขาจะ
00:03:36 → 00:03:41 แค่สลายอ่าสลายไตกิสลายแต่สลายแล้วเนี่ย
00:03:41 → 00:03:44 สลายมาจากไหนสลายมาจากเรือนำส่งหรือ
00:03:44 → 00:03:47 อนุภาคนำส่งพลังงานหรือพาร์ติเคิลสลาย
00:03:47 → 00:03:50 เสร็จแล้วเนี่ยนะก็เอาไปเก็บต่อเอาไปเก็บ
00:03:50 → 00:03:54 ต่อโดยฮอร์โมนอินซูลินนะเพราะฉะนั้นตัว
00:03:54 → 00:03:58 เนี้ยเ่ามาจากตันะด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน
00:03:58 → 00:04:04 ตัวแม่คอิก็แต่เคเป็นตัวเก็บพลังงานนะฮะ
00:04:04 → 00:04:08 นะมันอยู่ในการสลายสลายเพื่อเก็บนะไม่ได้
00:04:08 → 00:04:11 สลายนะเพื่อเอาไปใช้นะ
00:04:11 → 00:04:14 ฮะแล้วถ้าเข้าใจเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด
00:04:14 → 00:04:18 เนี่ยนะเดี๋ยวเราจะเข้าใจแลบเรื่องยูริค
00:04:18 → 00:04:19 Acid
00:04:19 → 00:04:24 นะนะอ่าเราเราก็คุยกันแบบคนที่รู้เรื่อง
00:04:24 → 00:04:29 แล้วมีพื้นฐานเยอะหน่อยแล้วนะฮะเออ
00:04:29 → 00:04:34 ทีนี้จริงๆแล้วเอนไซมในระบบเบลิหรือระบบ
00:04:34 → 00:04:39 พลังงานหลักๆเนี่ยจริงๆเมีอยู่ 4 ตัวอ่า
00:04:39 → 00:04:42 เพิ่มจาก 3 ตัวที่ว่าเนี่ยก็จะเป็น CP
00:04:42 → 00:04:46 คลส EST transfer โปนอันนี้ก็ผลิตที่ตับ
00:04:46 → 00:04:50 สร้างที่ตับนะนะแล้วก็ตัวฮอร์โมนที่มีบท
00:04:50 → 00:04:53 บาทในเรื่องของ ctp ก็คืออินซูลินกับ
00:04:53 → 00:04:57 คอร์ติซอลแต่เนื่องจาก CP เนี่ยไม่ได้
00:04:57 → 00:05:01 เป็นเอนไซม์ที่จะสลายเผาผันพลังงานนะเา
00:05:01 → 00:05:05 เป็นเอนไซม์ที่มีการสลายอ่อเรื่องของ
00:05:05 → 00:05:07 คอเลสเตอรอลกับไตกิสลายแล้วก็เกิดการหมุน
00:05:07 → 00:05:11 เวียนในการนำส่งพลังงานเท่านั้นนะไม่ได้
00:05:12 → 00:05:14 สลายเพื่อการเผาผ่านะเพรางั้นอันนี้เอยู่
00:05:15 → 00:05:20 ในระบบอ่าระบบลำเลียงอ่ะนะนะโดยโดยเป็น
00:05:20 → 00:05:23 ส่วนสำคัญของไลโปโปรตีน Centric panel
00:05:23 → 00:05:27 นะฮะคือ CP นะแล้วเขาก็ขึ้นอยู่กับ
00:05:27 → 00:05:29 อินซูลินกับคอร์ติซอล
00:05:29 → 00:05:32 นะแต่ส่วนใหญ่แล้วอินซูลินมีบทบาทมากกว่า
00:05:32 → 00:05:34 คอร์ติซอล
00:05:34 → 00:05:37 อินซูลินมีบทบาทมาก
00:05:37 → 00:05:40 กว่านะนอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของไทรรอยด์
00:05:40 → 00:05:44 ที่จะมาเกี่ยวข้องกับ CP ด้วยเวลาที่เรา
00:05:44 → 00:05:49 กินโภชนาการคาฟต่ำนะฮะนี้ก็เป็นอีกตัวนึง
00:05:49 → 00:05:54 เป็นเอนไซม์นะในตัวที่ 4 นะฮะแต่ตัว 3
00:05:54 → 00:05:56 ตัวเนี่ยก็คือฮอร์โมน sensitive ไลเปส
00:05:56 → 00:06:00 ไลโปโปรตีนไลเปสแล้วก็เปิไสนะอันนี้ก็จะ
00:06:00 → 00:06:06 เป็นฮอร์โมนไลเปสที่มีการมีการตลายอ่าใน
00:06:06 → 00:06:10 ตัวไตกีสไลต่างๆนะแต่ก็ก็มีอยู่หลายที่
00:06:10 → 00:06:15 หลายทางนะจริงๆตัวหลักๆเลยก็คือ 1 กับ 2
00:06:15 → 00:06:18 1 กับ 2 นะฮะ 2 ตัวเนี้ยนะแล้ววันเนี้ย
00:06:18 → 00:06:22 เราโฟกัสที่ฮอร์โมน sensitive ไสเป็น
00:06:22 → 00:06:27 หลักเอ่อตัวไทรรอยด์ฮอร์โมนนะฮะหรือตัว
00:06:27 → 00:06:30 อินซูลินตัวคอร์ติซอลตัวเอสโตรเจนเนี่ยก็
00:06:30 → 00:06:34 จะมามีบทบาทกับพวกเอนไซม์ 4 ตัวนี้
00:06:34 → 00:06:38 ด้วยแต่พวกเนี้ยเราเคยไลฟ์ไปในช่วงแรกๆนะ
00:06:38 → 00:06:41 แต่หมอคิดว่าคนน่าจะไม่มีความเข้าใจกัน
00:06:41 → 00:06:44 นักนะเพราะอันเนี้ยมันเป็นเรื่องที่ค่อน
00:06:44 → 00:06:47 ข้างยิบย่อยวันนี้เลยตัดสินใจอยู่ไงว่า
00:06:47 → 00:06:51 ไลฟ์ดีหรือไม่ดีเ้อหรือจะแชร์เป็นบทความ
00:06:51 → 00:06:55 ไปแล้วก็ให้ไปอ่านใครอยากอ่านก็อ่านไลก็
00:06:55 → 00:06:57 ดีครับอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งครับพี่หมอ
00:06:57 → 00:07:00 เออเราก็แทบพูดๆไปล่ะอื
00:07:00 → 00:07:04 ใช่ทีนี้อะไรบ้างที่ต้องเข้าใจเรื่อง
00:07:04 → 00:07:09 เอนไซม์ 4 ตัวเยนะฮะนะก็คือรชนะของ
00:07:09 → 00:07:13 ฮอร์โมนต่างๆที่เามามีผลก็มีผลไปในแง่ของ
00:07:13 → 00:07:16 การกระตุ้นนะ stimulate นะฮะหรือการ
00:07:16 → 00:07:21 inhibit ยับยั้งนะหรือเ่อไม่มีผลอะไรนะ
00:07:21 → 00:07:24 ฮะไม่มีผลนะฮะถ้าเป็นเครื่องหมายลบนี่แปล
00:07:24 → 00:07:25 ว่าไม่มี
00:07:25 → 00:07:30 ผลเนี่ยแล้วก็เอนไซม์ก็อ่า 4 ตัวนี้ใช่
00:07:30 → 00:07:31 มั้ยล่ะ
00:07:32 → 00:07:36 นะถ้าจะดูให้ง่ายๆนะก็ 2 ตัวแรกเนี่ยนะ
00:07:36 → 00:07:39 คือต้องบอกก่อนนะว่าเอนไซม์เนี่ยอยู่ใน
00:07:39 → 00:07:42 ระบบเลือดนะฮะอยู่ในระบบน้ำเลือดหมดเลย
00:07:42 → 00:07:44 ไม่ได้อยู่ในระบบน้ำเหลืองนะฮะเอนไซม์
00:07:44 → 00:07:48 ทั้งหมดนี้นะแล้วก็การอยู่ในระบบน้ำเลือด
00:07:48 → 00:07:53 จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงนะคือช่วงเผาผลาญไต
00:07:53 → 00:07:57 กิสลนเพื่อให้มาเป็นพลังงานจริงๆนะนะก็
00:07:57 → 00:08:00 คือนะ 2 2 ตัวบนเนี่ยนะฮอร์โมน sensitive
00:08:00 → 00:08:07 ไสกับไลโปโปรตีนไสนะส่วน CP กับเปติไสนะ
00:08:07 → 00:08:11 อันนี้เขาก็อยู่ในระบบเลือดแต่อ่าเขาไม่
00:08:11 → 00:08:15 ได้เผาผลาญสลายไตกีสลายนะนะคือเขาเผาผ่าน
00:08:15 → 00:08:19 สลายไตกีสไลจากเรือนำส่งพลังงานเพื่อเกิด
00:08:19 → 00:08:23 การหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงนะแต่ไม่ได้ช่วย
00:08:23 → 00:08:28 เป็นแบบสลายเพื่อเป็นพลังงานนะก็จะเป็น 2
00:08:28 → 00:08:33 ตัวนี้นะนะเนี่ยเราก็ต้องดูอ่าความเกี่ยว
00:08:33 → 00:08:37 ข้องของตารางฮอร์โมนต่างๆที่มามีบดนะ
00:08:37 → 00:08:41 อย่างกรณี 2 ตัวแรกเนี่ยที่สลายเผาผลา
00:08:41 → 00:08:46 ไตรกีสลายเนี่ยเราจะเห็นว่านะตัวอินซูลิน
00:08:46 → 00:08:48 คอร์ติซอลเนี่ยเหล่านี้ก็เป็นฮอร์โมนใน
00:08:48 → 00:08:52 ฝั่งสะสมพลังงานเนะซเป็นส่วนใหญ่นะ
00:08:52 → 00:08:55 คอร์ติซอลสะสมก็ได้เผาผันก็ได้นะแต่
00:08:55 → 00:08:58 คอร์ติซอลและอินซูลินไม่มีผลต่อเปปติเ่า
00:08:58 → 00:09:01 ฮอร์โมนอะไเสเลยนะฮะเช่นเดียวกับ
00:09:01 → 00:09:04 ไลโปโปรตีนไลเปสนะโดยเฉพาะอินซูลินเนี่ย
00:09:04 → 00:09:08 ก็เป็นตัวอ่ายับยั้งนะฮะยับยั้ง
00:09:08 → 00:09:10 ไลโปโปรตีนไลเปส
00:09:10 → 00:09:15 นะส่วนคอร์ติซอลเนี่ยก็ไม่มีไม่คือไม่ไม่
00:09:15 → 00:09:19 ไม่กระตุ้นไม่ยับยั้งอะไรทั้งสิ้นส่วน CP
00:09:19 → 00:09:25 เนี่ยนะอ่าอินซูลินนี่นะจะกระตุ้นนะ gtp
00:09:25 → 00:09:29 และเปิไสค่อนข้างมากคล้ายๆกับไทโร
00:09:29 → 00:09:33 นะแต่อย่างไทรรอยด์เนี่ยเกระตุ้น CP เยอะ
00:09:33 → 00:09:38 กว่านะเยอะกว่าเปิไสนะในแง่ของคอร์ติซอล
00:09:38 → 00:09:43 นะก็แล้วแต่ว่าคอร์ติซอลเนี่ยเขาเป็นแบบ
00:09:43 → 00:09:46 เผาผลาหรือเปล่านะถ้าเป็นแบบเผาผลาญเนี่ย
00:09:46 → 00:09:50 นะเก็จะไม่ยุ่งอะไรกับอ่าเอนไซม์ 2 ตัว
00:09:50 → 00:09:53 นี้นะฮะแต่ถ้าเมื่อไหร่คอร์ติซอลเปลี่ยน
00:09:53 → 00:09:56 ใจสะสมพลังงานโดยเฉพาะในระยะท้ายๆเนี่ย
00:09:56 → 00:10:02 ปรากฏว่าคอร์ติซอลก็จะกระตุ้นตับนะให้มี
00:10:02 → 00:10:06 การสร้างเอนไซม์ทั้ง CP และเปิไสโดยจะ
00:10:06 → 00:10:10 กระตุ้นให้ตับสร้างเปิไสออกมาเยอะกว่า
00:10:11 → 00:10:15 เยอะกว่าส่วนไทรรอยด์เนี่ยเกระตุ้นหมดเลย
00:10:15 → 00:10:19 นะเพราะดีอย่างนึงกระตุ้นหมดเลยนะโดย
00:10:19 → 00:10:22 เฉพาะไตนไลเปสและ
00:10:22 → 00:10:27 CP แต่ว่าไทรรอยด์เนี่ยนะกับไลโปโปรตีน
00:10:27 → 00:10:30 ไลเปสเนี่ยมัน
00:10:30 → 00:10:37 คือคือมันคือต่างคนต่างทำงานนะฮะนะไตี
00:10:37 → 00:10:40 ไลเปสเนี่ยส่วนใหญ่ส่วนใหญ่นะเจะทำงานใน
00:10:40 → 00:10:44 ช่วงกลางวันนะส่วนไทรรอยด์ที่มีการสลาย
00:10:44 → 00:10:47 ไตกีสไลเจะทำงานอยู่ช่วงกลางคืนนะแล้วก็
00:10:47 → 00:10:51 โปปีไลเปสเป็นเอนไซม์ไทรอยเป็นฮอร์โมนแต่
00:10:51 → 00:10:55 แชจุดมุ่งหมายเดียวกันนะต่อไตกีสไลที่
00:10:55 → 00:10:59 สะสมส่วนเอสโตรเจนเนี่ยไม่มีบทบาทอะไรเลย
00:10:59 → 00:11:02 ไม่กระตุ้นไม่ยับยั้งอะไรทั้งนั้นอีกตัว
00:11:02 → 00:11:06 นึงคือเลปตินนะฮะเลปตินเลปตินเนี่ยก็จะ
00:11:06 → 00:11:12 คล้ายๆกับไทรนะฮะนะมีลักษณะคล้ายๆ
00:11:12 → 00:11:17 กันแต่เลปตินเนี่ยทำงานตอนกลางวันนะไรอย
00:11:17 → 00:11:20 ทำงานตอนกลางคืนนะฮะอันนี้ไม่เป็นไรนะเ่อ
00:11:20 → 00:11:24 อาจจะสับสนนิดหน่อยแต่เดี๋ยวจะเข้าใจนะท
00:11:24 → 00:11:27 นี้ที่สำคัญเนี่ยเอนไซม์ 4 ตัวเนี่ยมัน
00:11:27 → 00:11:30 อยู่ที่ไหนมันอยู่ที่เแต่ทั้งหมดเนี่ย
00:11:30 → 00:11:34 เวลาเแอชต้องอยู่ในระบบเลือดนะฮะก็
00:11:34 → 00:11:37 ฮอร์โมน sensitive ไสเนี่ยที่เป็นตัวหลัก
00:11:37 → 00:11:41 สำคัญที่สุดในการสลายไขมันเลยเนี่ยก็คือ
00:11:41 → 00:11:46 นะเขาอยู่ที่บริเวณเซลล์เนื้อเยื่อไขมัน
00:11:46 → 00:11:50 หรืออิโตนะฮะเนี่ยโดยเฉพาะเยื่อหุ้มเซลล์
00:11:50 → 00:11:54 นะก็จะมีตัวเอนไซม์ตัวนี้นะ
00:11:54 → 00:11:59 เอ่อเก็บไว้นะอ่ารอรอรอการกระตุ้นนะฮะรอ
00:11:59 → 00:12:02 การกระตุ้นแล้วก็เกิดการสลายตัวแล้วก็
00:12:02 → 00:12:07 สลายตัวไตกิลด์ออกเป็นกีซอลกับี fy Acid
00:12:07 → 00:12:13 นะฮอร์โมนเนิไสนะฮะต่อไปก็คือไลโปโปรตีน
00:12:13 → 00:12:16 ไลเปสอันนี้ก็อยู่ที่เยื่อหุ้มเซลล์เช่น
00:12:16 → 00:12:20 เดียวกันแต่นะส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่
00:12:20 → 00:12:24 ที่เยื่อหุ้มเซลล์ต่างๆนะที่ต้องการใช้
00:12:24 → 00:12:28 พลังงานเยอะๆนะฮะที่บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์
00:12:28 → 00:12:31 ของเซลล์มันมีน้อยนะส่วนใหญ่จะเป็น
00:12:31 → 00:12:34 ฮอร์โมน sensitive ไลเปสนะฮะนะไลโปโปรตีน
00:12:34 → 00:12:38 ไลเปสอยู่ทั่ไปหมดนะในเซลล์ที่ต้องการใช้
00:12:38 → 00:12:44 พลังงานนะ CP อ่าถูกสร้างที่ตับนะเปติ
00:12:44 → 00:12:48 ไลเปสถูกสร้างที่ตับนะอ่าซึ่งอันเนี้ยนะ
00:12:48 → 00:12:50 บทบาทที่สำคัญคืออินซูลินกับคอร์ติซอล
00:12:50 → 00:12:53 เป็นตัวกระตุ้นนะอ่าโดยเฉพาะถ้าเรากิน
00:12:53 → 00:12:57 โลคราฟนะเราก็ตัดอินซูลินนะที่จะมา
00:12:57 → 00:13:00 กระตุ้นออกไปนะฮะก็มาดูคอร์ติซอลว่าเออ
00:13:01 → 00:13:04 คอร์ติซอลเขาอยู่ในฝั่งช่วงแรกๆคือสลาย
00:13:04 → 00:13:07 เผ่าผลาญพลังงานนะก็ไม่มีการกระตุ้นไม่
00:13:07 → 00:13:10 ค่อยกระตุ้นนะฮะนะยับยั้งตับไม่ให้สร้าง
00:13:10 → 00:13:14 ด้วยนะแต่เมื่อไหร่คอซอเปียนใจสะสมอ่า
00:13:14 → 00:13:16 พลังงานเมื่อไหร่อเขาก็จะกระตุ้นโดยเฉพาะ
00:13:16 → 00:13:18 เิก
00:13:18 → 00:13:21 ไเอันนี้ก็ต้องนึกถึงนึกอยู่ในใจอ่ะอยู่
00:13:22 → 00:13:25 ตลอดนะฮะถ้าจะคิดว่าเอ่อตอนเนี้ยปัญหามัน
00:13:25 → 00:13:29 จะอยู่ที่เ่อเรื่องของเอนไซม์ต่างๆนะแช
00:13:29 → 00:13:34 ของเอนไซม์ต่างๆที่มีผลต่อระบบพลังงานแต่
00:13:34 → 00:13:36 ทุกอย่างมันก็จะเกี่ยวโยงกันไปหมดทั้ง
00:13:36 → 00:13:38 เอนไซม์ทั้ง
00:13:39 → 00:13:43 ฮอร์โมนนี่ก็รูปแห่งตีของเรานะพวกนี้เรา
00:13:43 → 00:13:49 พอนึกออกแล้วเนาะพอนึกออกนะ
00:13:49 → 00:13:53 เอ่ออันนี้เดี๋ยวหมอมีอะไรมาแถมให้นิดนึง
00:13:53 → 00:13:58 นะฮะเราเห็นตรงนี้มยนะฮะว่านะถ้าระบบพลัง
00:13:58 → 00:14:03 งานโดยเฉพาะไขมันนะอยู่ในระบบน้ำเหลือง
00:14:03 → 00:14:06 แล้วเกิดการแพร่เพื่อการแจกจ่ายพลังงานนำ
00:14:06 → 00:14:09 ไปใช้นะเราเรียกว่าเกิดการสลายเผาผลาญ
00:14:10 → 00:14:13 เพื่อนำพลังงานไปใช้นะฮะแต่ส่วนเนี้ยส่วน
00:14:13 → 00:14:16 นี้นะส่วนเนี้ยซึ่งซึ่งหลักการของ
00:14:16 → 00:14:19 ธรรมชาติก็คือ 80% เราจะได้พลังงานจาก
00:14:19 → 00:14:23 ส่วนอันนี้ก็คือมีจุดมุ่งหมายแค่เอาไปใช้
00:14:23 → 00:14:26 เอาไปใช้ไม่ได้เอาไปซ่อมนะฮะไม่ได้เอาไป
00:14:26 → 00:14:30 ซ่อมแซงนะตรงนี้ต้องรู้ก่อนนะฮะคือเขใช้
00:14:30 → 00:14:33 ใช้เป็นพลังงานโดยเฉพาะพลังงานในระหว่าง
00:14:33 → 00:14:38 วันเนาะในระหว่างวันนะหลังจากนั้นก็รูป
00:14:38 → 00:14:42 ต่างๆของเราเนี่ยที่พูดไปแล้วนะนะมาที่
00:14:42 → 00:14:46 น้ำเลือดออกมาที่เบอร์ 5 ไตกิล V remnant
00:14:46 → 00:14:48 นะ remnant คอเลสเตอรอลต่างๆโดยเฉพาะ
00:14:48 → 00:14:51 คอร์ติซอลจะมามีบทบาทในการควบคุมอะไรต่าง
00:14:51 → 00:14:56 ๆนะฮะทีนี้หมอขอเปลี่ยนรูปมาเป็นอย่างนี้
00:14:56 → 00:15:01 จะได้เข้าอกเข้าใจอะไรมากขึ้นนะนะจากนะ
00:15:01 → 00:15:07 แผนภาพแห่งปีนะฮะนะแล้วนะมารวมกันที่ตับ
00:15:07 → 00:15:11 จากนั้นออกจากตับนะเป็นเรื่องของอ่า
00:15:11 → 00:15:15 รีแพคเกจไกิลรวมทั้งการสร้างเรือนำส่งนะ
00:15:15 → 00:15:20 ฮะหรือเนี่ยตัว vldl assembly นะออกมา
00:15:20 → 00:15:24 เป็นเบอร์ 5 นะเบอร์ 5 เหล่าเนี้ยนะฮะก็
00:15:24 → 00:15:28 จะออกไปล่องรอยในกระแสเลือดนะอ่าโดยมีจุด
00:15:28 → 00:15:31 ประสงค์เป็นเป็น 2 เส้นทางหรือ 2 พวนะ
00:15:31 → 00:15:33 อยู่ในระบบเลือดนะ
00:15:33 → 00:15:39 ฮะแล้วทั้ง 2 พวยเนี่ยก็จะกลับมาที่ตับนะ
00:15:39 → 00:15:42 นะคือไปไปวนรอบเพื่อจะกลับมาที่ตับใหม่
00:15:42 → 00:15:45 แต่ว่าโดยวิวัตนาการและธรรมชาติของร่าง
00:15:45 → 00:15:49 กายเมีจุดประสงค์นะฮะจุดประสงค์ทีนี้ 2
00:15:49 → 00:15:54 พว 2 เส้นทางก็คือ 1 นะเส้นทางที่เนี่ย
00:15:54 → 00:15:57 เส้นทางด้านบนก็คือเส้นทางที่จะเอาไปใช้
00:15:57 → 00:16:01 เป็นพลังงานนะฮะเอาไปใช้เป็นพลังงานซึ่ง
00:16:01 → 00:16:06 ก็แล้วแต่ส่วนใหญ่ถ้าเกิดทุกอย่างอยู่ใน
00:16:06 → 00:16:10 ในรูปในรอยในร่องในรอยนะฮะนะความเป็นปกติ
00:16:10 → 00:16:14 เนี่ยก็จะทำให้เกิดการใช้พลังงานในรูปแบบ
00:16:14 → 00:16:19 นะที่จะเป็นแอชของฮอร์โมนลูกเพศนะซึ่ง
00:16:19 → 00:16:22 เช่นนี้นะซึ่งเช่นเนี้ยนะในในด้านบน
00:16:22 → 00:16:24 อันเนี้ยนะฮะที่มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
00:16:24 → 00:16:29 ไปนะฮะนะของไลโปโปรตีนเซนินะร่างกกายก็จะ
00:16:29 → 00:16:32 เกิดการสลายเผาผลาพลังงานเพื่อเอาไปซ่อม
00:16:32 → 00:16:35 แล้วก็สร้างเซลล์ใหม่นะฮะเอาไปซ่อมแล้ว
00:16:35 → 00:16:39 สร้างเซลล์ใหม่นะอันนี้อันนี้ต้องเข้าใจ
00:16:39 → 00:16:42 ว่าถ้าเกิดจะซ่อมจะสร้างอะไรก็ตามนะที่
00:16:42 → 00:16:46 มันเสียหายมันเสื่อมมันทรุดโทรมหรือการ
00:16:46 → 00:16:49 สร้างกล้ามเนื้อเนี่ยเราต้องอาศัยพวยนี้
00:16:49 → 00:16:53 ก็คือต้องมีการแพค repackage ออกมาในรูป
00:16:53 → 00:16:58 แบบของเบอร์ 5 นะแล้วมาเข้าเส้นทางนะอ่า
00:16:58 → 00:17:02 พวยด้านบนที่เราเรียกว่า ow ไกินนะฮเนี่ย
00:17:03 → 00:17:05 ซึ่งองค์ประกอบนะเนี่ยก็จะต้องมีเรื่อง
00:17:05 → 00:17:09 อะไรบ้างนะก็อาจจะต้องมีฟการออกกำลังกาย
00:17:09 → 00:17:12 การนอนหลับดีๆนะการกิน low cf High
00:17:12 → 00:17:16 Good Fat อย่างถูกต้องถูกต้องถูกต้องนะ
00:17:16 → 00:17:19 นะเพราะว่าเราต้องอัญเชิญกลุ่มฮอร์โมน
00:17:19 → 00:17:23 สลายเผ่าผันพลังงานลูกเทพออกมานะแล้วใน
00:17:23 → 00:17:26 ลักษณะนี้แหละเราจะเกิดการสลายเผ่าผัน
00:17:26 → 00:17:29 พลังงานเพื่อที่นะจะเอาไปซ่อมไปสร้าง
00:17:29 → 00:17:33 เซลล์ใหม่อ่าไปสร้างอวัยวะสร้างอ่าอะไร
00:17:33 → 00:17:36 ต่างๆที่มันเสียหายนะฮะเแล้วก็เหล่าเนี้ย
00:17:36 → 00:17:41 อยู่ในระบบเลือดอยู่ในระบบเลือดนะอันนี้
00:17:41 → 00:17:44 อันนี้เข้าใจเนาะต้องเข้าใจอันแรกนะอยู่
00:17:44 → 00:17:47 ในระบบน้ำเหลืองอันนี้ใช้เป็นพลังงาน
00:17:47 → 00:17:50 อย่างเดียวซ่อมสร้างไม่ได้นะอันนี้นะได้
00:17:50 → 00:17:53 พลังงานแล้วเอาพลังงานไปซ่อมไปสร้างเอา
00:17:53 → 00:17:57 พลังงานซ่อมไปสร้างนะแต่ถ้าเกิดไม่เป็นไป
00:17:57 → 00:18:00 ดังข้างรูปด้านบนเนี่ยนะพวยด้านบนอันนี้
00:18:00 → 00:18:05 นะฮะนะเ่ากลายมาเป็นพเยด้านล่างนะฮะเอ่อ
00:18:05 → 00:18:08 ก็คือมีความผิดพลาดนะสมมติเรากินโลค High
00:18:08 → 00:18:10 Fat แล้วล่ะแต่ว่าเรากินไม่เป็นกินไม่
00:18:10 → 00:18:14 ถูกนะฮะนะเราโอวโปรตีน
00:18:14 → 00:18:20 วอะไรอ่ะแอะไรต่างๆนะ rand Cycle นะฮะนะ
00:18:20 → 00:18:25 โอ Part อะไรต่างๆมาเลยนะฮะในที่สุดแล้ว
00:18:25 → 00:18:28 เนี่ยพเมันจะเป็นด้านล่างนะฮะด้านล่างนะ
00:18:28 → 00:18:33 เนี่ยเกิดการ Packing lge นะ lge vldl
00:18:33 → 00:18:36 เนี่ยเรือนำส่งมันใหญ่เพราะว่าพลังงานมัน
00:18:36 → 00:18:39 เยอะนะผู้โดยสารเพียบเลยนะแล้วก็จะเกิด
00:18:39 → 00:18:42 การนี่แหละที่จะต้องมีเอนไซม์หลายตัวนะ
00:18:42 → 00:18:47 เข้ามาทำงานซึ่งเราเรียกว่าระบบไิ anel
00:18:47 → 00:18:51 นะฮะนะแล้วก็ในที่สุดก็จะไปที่ตับกับที่
00:18:51 → 00:18:55 ตายนะแต่ถ้าเป็นระบบด้านบนเนี่ยนะส่วน
00:18:55 → 00:18:59 ใหญ่อ่ามันจะเป็นระบบที่ดีกว่านะฮะนะแล้ว
00:18:59 → 00:19:03 ก็สามารถซ่อมแซมสร้างอ่าอะไรต่างๆที่มัน
00:19:03 → 00:19:06 เสียหายขึ้นมาใหม่ได้แล้วก็กลับมาที่ตับ
00:19:06 → 00:19:11 นะเป็นระบบปกตินะที่ optimal Health นะ
00:19:11 → 00:19:13 แต่ระบบด้านล่างเนี่ยถึงแม้ว่าเราจะกิน
00:19:13 → 00:19:17 low C ก็ตามนะถ้ามันไม่ถูกนะฮะไม่ถูก
00:19:17 → 00:19:20 รวมทั้ง Modify Lifestyle อะไรต่างๆนะ
00:19:20 → 00:19:24 ยังไม่เหมาะสมอ่ากับร่างของเรานะหรือระบบ
00:19:24 → 00:19:28 เบิของเราเนี่ยนะฮะนะความผิดปกติต่างๆที่
00:19:28 → 00:19:32 เกิดขึ้นนะก็จะกลายเป็นความิของตับของไต
00:19:32 → 00:19:36 ในในเป็น n ออร์แกน n ออร์แกนแล้วร่างกาย
00:19:36 → 00:19:40 จะถูกปรับเข้าสู่ระบบการกักเก็บสะสมพลัง
00:19:40 → 00:19:45 งานนะซึ่งเราก็จะมีอะไรมี Small ldl มาก
00:19:45 → 00:19:49 ขึ้นมี hdl อาจจะมากอาจจะน้อยก็ขึ้นอยู่
00:19:49 → 00:19:53 กับ Action ของเอนไซมต่างๆโดยเฉพาะ cpic
00:19:54 → 00:20:00 ไสนะฮะนะรวมทั้งไนไสอะไรต่างๆด้วยนะด้วย
00:20:00 → 00:20:05 นะอันนี้อันนี้เป็นลักษณะที่ร่างกายเก็บ
00:20:05 → 00:20:09 สะสมพลังงานอันนี้เป็นลักษณะที่ร่างกาย
00:20:09 → 00:20:12 สลายเผาผลาญเพื่อการซ่อมแซมอันนี้เป็น
00:20:12 → 00:20:16 ลักษณะของการสลายเผาผลาญเพื่อเอาพลังงาน
00:20:16 → 00:20:19 ไปใช้เอาไปซ่อมแซมไม่ได้เพราะฉะนั้นจะมี
00:20:19 → 00:20:20 อยู่ 3
00:20:20 → 00:20:25 จุดถ้าเราเข้าใจ 3 จุดนี้เราจะตอบคำถาม
00:20:25 → 00:20:30 เรื่องกดยูริกในแลบ
00:20:30 → 00:20:35 ได้โดยโดยมีความเข้าใจอ่ะมีความแม่นและมี
00:20:35 → 00:20:39 ความเข้าใจนะว่ากดยูริคต่างๆที่เกิดความ
00:20:39 → 00:20:43 ผิดปกติของคนคนนั้นเนี่ยเพราะคุณมีพวอ่า
00:20:43 → 00:20:47 ของระบบเมตาบอลิกเป็นแบบไหนแบบนี้นะฮะนะ
00:20:47 → 00:20:53 หรือแบบนี้นะหรือแบบข้างล่างนี้นะ
00:20:53 → 00:20:58 ฮะอันนี้หมอเคยเอามาไลฟ์ไปแล้วล่ะนะแต่ก็
00:20:58 → 00:21:01 ก็คงจะลืมไปกันเยอะแล้วนะฮะก็เลยไปเอามา
00:21:01 → 00:21:07 ทวนให้นะฮะว่ามันจะเกิดความสัมพันธ์นะนะ
00:21:07 → 00:21:13 ต่อต่อ 3 จุดเนี้ยนะฮะนะที่ค่ายูริคแอซิด
00:21:13 → 00:21:18 มันจะฟ้องนะฮะอย่างด้านบนสุดเนี่ยนะก็คือ
00:21:18 → 00:21:22 ร่างกายอยู่ในหมดการสะสมเก็บกักพลังงาน
00:21:22 → 00:21:25 อ่าโดยจะเป็นผลมาจากอินซูลินนะเพราะว่า
00:21:25 → 00:21:28 คุณไม่ได้กินแบบโลคาฟอะไรเงี้ยหรือคุณกิน
00:21:28 → 00:21:32 โลคาฟอ่าต่างๆแล้วแต่กินไม่ถูกกินไม่เป็น
00:21:32 → 00:21:35 นะฮะอันนี้จะเป็นผลมาจากทั้งคอร์ติซอลและ
00:21:35 → 00:21:38 อินซูลินโดยบทบาทของคอร์ติซอลจะมากกว่า
00:21:38 → 00:21:41 อินซูลินและคอร์ติซอลมาในช่วงแรกๆตอนหลัง
00:21:41 → 00:21:45 ๆคอร์ติซอลนะก็จะเอาอินซูลินมาช่วยเก็บ
00:21:45 → 00:21:50 กักสะสมพลังงานนะซึ่งในลักษณะเนี้ยนะกด
00:21:50 → 00:21:53 ยูริกมันก็จะเกิน 5.5 แล้วก็จะมีค่าแหบ
00:21:53 → 00:21:57 อื่นๆตามมาในที่สุดนะฮะนะอันนี้ก็คือด้าน
00:21:57 → 00:22:02 ล่างสุดเนี้นะการกักเก็บสะสมพลังงานและ
00:22:02 → 00:22:08 เป็นพวอันนี้นะเนี่ยก็จะมาเป็นผลแหลบแบบ
00:22:08 → 00:22:11 นี้นะฮะแบบนี้นี่หมอใช้คำว่ากระบวนการทาง
00:22:11 → 00:22:14 ด้านพลังงานของเซลล์ต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไป
00:22:14 → 00:22:19 ยังไงก็ 3 รูปแบบนะฮะส่วนรูปแบบนี้นะฮะ
00:22:19 → 00:22:21 รูปแบบนี้เนี่ยก็คือรูปแบบที่ร่างกาย
00:22:21 → 00:22:25 เนี่ยกินโลค High Fat นะจะรูปแบบอาหาร
00:22:25 → 00:22:27 ประเภทไหนก็ตามเสร็จแล้วร่างกายเป็น fat
00:22:27 → 00:22:31 burner เขาผลาญพลังงานอ่าเป็นหลักมาก
00:22:31 → 00:22:37 กว่าน้ำตาลนะฮะแต่เพราะมันกินผิดฮะมันกิน
00:22:37 → 00:22:42 ผิดอ่าพอมันกินผิดนะฮะนะก็เลยฮอร์โมนรูก
00:22:42 → 00:22:45 เทพออกมาทำงานได้ไม่เก่งไม่ดีหรือไม่ออก
00:22:45 → 00:22:48 นะเพราะฉะนั้นก็เลยเดือดร้อนตัวแม่เพราะ
00:22:48 → 00:22:53 จะเกิดปัญหาเรื่องเอ่อพลังงานอะไรอ่ะพลัง
00:22:53 → 00:22:58 งานมันไม่พอมันเกินหรือว่ามันมันมันกิน
00:22:58 → 00:23:02 กินไม่ถูกกินเพี้ยนเอ้ยกินกินไม่เป็นกิน
00:23:02 → 00:23:05 ไม่ถูกนะแล้วพลังงานมันก็มีมีอันที่จะ
00:23:05 → 00:23:10 ต้องมากต้องเกินต้องขาดนะฮะเนี่ยนะแล้ว
00:23:10 → 00:23:13 ฮอร์โมนตัวแม่ก็ต้องออกมาในการเจ้ากี้
00:23:13 → 00:23:17 เจ้าการที่จะทำอะไรต่างๆนะฮะนะทนี้กรณี
00:23:17 → 00:23:22 แบบนี้ก็คือนะก็คือแบบไหนก็คือส่วนใหญ่นะ
00:23:22 → 00:23:26 ฮะส่วนใหญ่จะเป็นแบบข้างบนนะเนี่ยวยนี้นะ
00:23:26 → 00:23:31 ฮะนะนะแต่พวยเนี่ยเป็นพวยที่เรากินถูกแต่
00:23:31 → 00:23:35 ถ้าเมื่อไหร่กินไม่ถูกนะกินไม่ถูกนะฮะถาม
00:23:35 → 00:23:41 ว่ามันเกิดพเยนี้มยเกิดฮะนะแต่นะอแต่ร่าง
00:23:41 → 00:23:42 กายเ
00:23:42 → 00:23:47 นะมันซ่อมแซมไม่ได้นะฮะนะมันซ่อมแซมอะไร
00:23:47 → 00:23:50 ไม่ได้นะฮะนะเพราะฉะนั้นยูริกมันสูงนะ
00:23:51 → 00:23:53 อย่างสะสมเนี่ยยูริกก็สูงนะฮะอันนี้เกิด
00:23:53 → 00:23:57 การสลายเผาผลานะเพื่อการซ่อมแซมนะอ่า
00:23:57 → 00:24:01 ยูริกสูงมั้ยสูงนะฮะแต่มันซ่อมไม่ได้มัน
00:24:01 → 00:24:05 ซ่อมไม่ได้นะเพราะฉะนั้นเวลานะเที่ค่าแลบ
00:24:05 → 00:24:11 ปดยูริกมากนะทั้งๆที่กินโลคาฟนะส่วนใหญ่
00:24:11 → 00:24:14 มันก็เป็นล C ที่กินยังไม่ถูกนะแล้วก็มี
00:24:14 → 00:24:19 บทบาทของคอร์ติซอลออกมาแชมากกว่าฮอร์โมน
00:24:19 → 00:24:23 ลูกเทพนะทำให้อ่าทำให้ไม่สามารถซ่อมแซม
00:24:23 → 00:24:27 อะไรได้นะถามว่าดแล้วยูริกที่มันสูงๆ
00:24:27 → 00:24:29 อย่างเงี้ยนะแต่มันเอาไปซ่อมอะไรไม่ได้
00:24:29 → 00:24:33 เนี่ยนะอ่ามันจะกลายเป็นเก๊าทอะไรมก็มี
00:24:33 → 00:24:36 โอกาสเป็นน้อยนะนะเพราะว่าการเป็นเก๊าท
00:24:36 → 00:24:39 เนี่ยอย่างน้อยต้องมีอินซูลินออกมาด้วยนะ
00:24:39 → 00:24:43 ต้องมีอินซูลินมาด้วยแต่อันเนี้ยกดยูริก
00:24:43 → 00:24:47 สูงก็เป็น hyperemia นะฮะอ่าเป็นิ
00:24:47 → 00:24:48 reactive
00:24:48 → 00:24:52 hyperemia นะแต่เป็นระเบิดเวลาถ้าพลาด
00:24:52 → 00:24:56 ครั้งนะแล้วมีอินซูลินมาเมื่อไหร่นะเมื่อ
00:24:56 → 00:24:59 นั้นนะก็มีโอกาสที่จะเกิด cy
00:24:59 → 00:25:03 attack ส่วนกรณีล่างสุดเนี่ยนะก็คือเป็น
00:25:03 → 00:25:07 กรณีที่กินอย่างถูกต้องเหมาะสมนะส่วนใหญ่
00:25:07 → 00:25:11 มันก็จะย้อนกลับไปที่อันด้านบนนี่
00:25:11 → 00:25:16 แหละอันด้านบนเนี่ยนะก็คืออ่าได้ไขมัน
00:25:16 → 00:25:19 เป็นพลังงานอยู่ในระบบน้ำเหลืองอ่าร่าง
00:25:19 → 00:25:23 กายสามารถที่จะสลายเาผลาเพื่อนำไปใช้เป็น
00:25:23 → 00:25:28 พลังงานได้เป็นพลังงานได้นะเพราะฉะนั้น
00:25:28 → 00:25:32 ส่วนใหญ่ถ้า Action ของอพวเนี่ยมันเด่น
00:25:32 → 00:25:38 อ่ามันมันถูกต้องเหมาะสมหรือร่างกายก็อ่า
00:25:38 → 00:25:43 ใช้พวยเนี้ยนะเป็นพวที่เป็นพวหลักในการ
00:25:43 → 00:25:46 แจกจ่ายพลังงานกับร่างกายพวกนี้กดยูริกจะ
00:25:46 → 00:25:48 น้อยกว่า
00:25:48 → 00:25:51 5.5 เพราะฉะนั้นอย่างนึงในการแปรผลกด
00:25:51 → 00:25:54 ยูริกในทางด้าน ow C เนี่ยนะฮะนะเก็ถือ
00:25:54 → 00:25:58 เกณฑ์ตัวเลขที่อ่าเป็นยังไงกับ5จุด 5
00:25:58 → 00:26:01 น้อยกว่าหรือมากกว่านะฮะแต่กรณีมากกว่า
00:26:01 → 00:26:06 5.5 เนี่ยก็ยังแบ่งเป็น 2 แบบนะอ่าเป็น
00:26:06 → 00:26:09 hyperemia ที่เป็น physiologic reactive
00:26:09 → 00:26:11 นะฮะอ่า
00:26:11 → 00:26:15 unlikely คือไม่ไม่ค่อยจะมีโอกาสที่จะ
00:26:15 → 00:26:20 เอ่อไปเกิดเป็นเกาทนะแทคได้นะฮะนะหรืออีก
00:26:20 → 00:26:23 แบบนึงก็คือเป็นเรื่องอันนี้ไปเลยนะฮะนะ
00:26:23 → 00:26:26 เป็นบทบาทของอินซูลินกับคอร์ติซอลกับ
00:26:26 → 00:26:28 อินซูลินถ้าอย่างนี้เนี่ยสนใหญ่มันก็เป็น
00:26:28 → 00:26:32 เกาทอ่ะนะนะเป็นไฮเปอร์ซีเมียที่จะเกิด
00:26:32 → 00:26:35 ภาวะการตกผลกตกตะกอนแล้วเกิด inflation
00:26:35 → 00:26:39 เป็นเกาที่แเพราะฉะนั้นไปไปเชื่อมโยงเอา
00:26:39 → 00:26:45 แล้วกันนะฮะนะกับภาพนะอ่าภาพอันนี้นะฮะนะ
00:26:45 → 00:26:48 แล้วก็ตารางสรุปค่าแลบต่างๆมันจะเป็นไป
00:26:48 → 00:26:51 อย่างงนี้นะนะเพราะฉะนั้นอันเนี้ยหมอบอก
00:26:51 → 00:26:55 ก่อนว่าเริ่มต้นมาเนี่ยไม่รู้จะงงๆหรือ
00:26:55 → 00:27:00 เปล่านะแต่ก็เลยเอามาพูดไว้ก่อนเลยนะฮะพอ
00:27:00 → 00:27:04 ดีนึกขึ้นได้แล้วก็ไปหาตารางอันเนี้ยมา
00:27:04 → 00:27:08 ได้นะอ๋อมันรีทกันอย่างนี้นะฮะแต่ก่อนก็
00:27:08 → 00:27:13 พูดไปเปาเปาๆนะคนส่วนใหญ่ก็อาจจะฟังแล้ว
00:27:13 → 00:27:18 ก็เอ่อจินตนาการไม่ออกนะเออครั้งนี้ก็มี
00:27:18 → 00:27:23 รูปนะมาเชื่อมโยงให้นะเอ่อวันเนี้ยนะเรา
00:27:23 → 00:27:26 ก็เน้น 3 ฮอร์โมนซึ่งเป็นกลุ่มเเรียกว่า
00:27:26 → 00:27:28 กลุ่มฮอร์โมนไลเปส
00:27:28 → 00:27:33 ทำหน้าที่ในการสลายไขมันไตรกีสไลนะฮะนะ
00:27:33 → 00:27:37 อ่าเราเน้นที่ตัว a ฮอร์โมน sensitive ไส
00:27:37 → 00:27:38 นะ
00:27:38 → 00:27:42 ฮะทีนี้ฮอร์โมน sensitive ไสเนี่ยมันมี
00:27:42 → 00:27:46 ที่ที่ไหนบ้างมากที่สุดเลยก็คือเยื่อหุ้ม
00:27:46 → 00:27:50 ของเซลล์ไขมันนะฮะอ่าเพราะร่างกายเนี่ย
00:27:50 → 00:27:53 อ่าธรรมชาติร่างกายก็คือเก็บพลังงานส่วน
00:27:53 → 00:27:56 เกินไว้ในรูปของไขมันอ่าที่เซลล์เนื้อ
00:27:56 → 00:27:58 เยื่อไขมันเซลล์เนื้อเยื่อไขมันเค้าเรียก
00:27:58 → 00:28:05 อซนะฮะนะเสร็จแล้วอ่ามันก็จะมีเเรียกว่า
00:28:05 → 00:28:09 เ่อมันจะมีความพร้อมอ่ะนะคือเก็บไว้เพื่อ
00:28:09 → 00:28:12 อะไรเพื่อจะสลายผาผ่าแล้วเอาไปใช้ไงนะฮะ
00:28:12 → 00:28:15 งั้นความพร้อมเนี่ยเขาก็เลยต้องเตรียมนะ
00:28:15 → 00:28:19 เอนไซม์บางอย่างนะที่จะให้ทำให้ตัวเยื่อ
00:28:19 → 00:28:22 หุ้มเซลล์อันเนี้ยนะเกิดการเหมือนสลายถุง
00:28:22 → 00:28:27 ถุงหุ้มไอ้ตัวอนุภาคไตกีราหรือมลกุลไตร
00:28:27 → 00:28:30 กีราเนี่ยเนี่ยนะนะแล้วเสร็จแล้วเนี่ยตัว
00:28:30 → 00:28:35 เอนไซม์ตัวเนี้ยนะก็เข้าไปเกิดการอ่าสลาย
00:28:35 → 00:28:37 นะสลายเพราะว่าเอนไซม์เป็นตัวเร่ง
00:28:37 → 00:28:42 ปฏิกิริยาในการทำให้ไขมันแตกตัวนะฮะนะพอ
00:28:42 → 00:28:44 มันสลายปุ๊บนะมันก็จะได้เป็น
00:28:44 → 00:28:49 โมเสเนี่ยเวลาเ้าสลายนะโมเลกุลหรือตัว
00:28:49 → 00:28:54 ไตรกีสไลเนี่ยก็เป็นกรอกับเอ่อปี fatty
00:28:54 → 00:28:58 Acid นะิออละลายน้ำได้นะแล้วระบบพวก
00:28:58 → 00:29:00 เนี้ยมันอยู่ในน้ำเลือดเพราะฉะนั้นกิอก็
00:29:00 → 00:29:06 ไปทางน้ำเลือดนะอ่าไปเปลี่ยนต่อที่ต่นะจะ
00:29:06 → 00:29:08 กลายเป็นไกลโคเจนสะสมหรือกลายเป็นกลูโคส
00:29:08 → 00:29:11 เอาไปใช้อะไรก็แล้วแต่นะฮะส่วนี fatty
00:29:11 → 00:29:14 Acid นะที่อยู่ในระบบน้ำเลือดจากการสลาย
00:29:14 → 00:29:20 ตัวของเอนไซม์ตัวนี้นะก็จะมีตัวเรือนำส่ง
00:29:20 → 00:29:23 นะที่ไม่ใช่กลุ่มไลโปโปรตีนแต่เป็นโปรตีน
00:29:23 → 00:29:28 อัลบูมินมาพาไปนะฮะโดยจะพาไปที่ต่ำพาไป
00:29:28 → 00:29:28 ที่
00:29:28 → 00:29:34 ต่เพราะงั้นจะเห็นว่านะสิ่งนึงอ่ะที่เรา
00:29:34 → 00:29:37 ต้องรู้เลยว่ามันจะมีเซลล์ชนิดไหนบ้างที่
00:29:37 → 00:29:41 จะเป็นแหล่งของตัวเอนไซม์ชนิดนี้นะก็มาก
00:29:42 → 00:29:45 สุดนะก็คือเซลล์ในเยื่อไขมันลองมาเซลล์
00:29:45 → 00:29:49 กล้ามเนื้อเซลล์กล้ามเนื้อนะฮะอ่าเซลล์
00:29:49 → 00:29:53 ของต่อมหมวกไตนะฮะนะทั้งอ่าคอรกแล้วก็เมด
00:29:54 → 00:29:58 ดล่าด้านนอกด้านในนะฮะนะพวกนี้ก็จะมีอ่า
00:29:58 → 00:30:02 อ่าฮอร์โมนไลเปสนะฮะนะอยู่เซลล์อันทะและ
00:30:02 → 00:30:06 ตับอ่อนตับอ่อนก็มีนะฮะนะเพราะฉะนั้น 1 2
00:30:06 → 00:30:09 3 4 5 อันเนี้ยเป็นอวัยวะหลัก 5 อย่าง
00:30:09 → 00:30:15 เลยนะแล้วก็หน้าที่ของเขาก็คือเมื่อ
00:30:15 → 00:30:19 ฮอร์โมนสั่งให้เอนไซม์เกิดการสลายไขมันไต
00:30:19 → 00:30:22 กิสไลดก็จะเกิดการสลายเพื่อนำไปใช้เป็น
00:30:22 → 00:30:28 พลังงานแบบที่ว่าไปเมื่อกี้นี้นะ
00:30:28 → 00:30:31 อันต่อมาคือไรโปรตีนไลเปสอันนี้เรารู้
00:30:31 → 00:30:33 แล้วว่าเขเป็นเอนไซม์ที่อยู่ที่เยื่อบุ
00:30:33 → 00:30:37 ผนังเซลล์ต่างๆนะซึ่งเซลล์พวกเนี้ยมัน
00:30:37 → 00:30:40 เป็นเซลล์ของอวัยวะที่ต้องการมีการใช้
00:30:40 → 00:30:45 พลังงานส่วนใหญ่ก็คือคือคือทุกอวัยวะเนะ
00:30:45 → 00:30:47 ฮะทุกอวัยวะมันต้องใช้พลังงานเซลล์มัน
00:30:47 → 00:30:50 ต้องใช้พลังงานหมดนะเพราะฉะนั้นอันนี้นะ
00:30:50 → 00:30:55 ฮะนะก็นะจะถูกกระตุ้นออกมาในระบบท่อ
00:30:55 → 00:30:59 ลำเลียงต่างๆทั้งน้ำเหลืองและท่อน้ำเลือด
00:30:59 → 00:31:02 นะฮะแต่ส่วนใหญ่เขาจะอยู่ในท่อน้ำเลือด
00:31:02 → 00:31:07 โดยเฉพาะท่ออ่าน้ำเลือดแดงเลือดแดงนะเป็น
00:31:07 → 00:31:11 หลักมากกว่ามากกว่าเลือดดำนะเนี่ยอันนี้
00:31:11 → 00:31:15 ท่อนี้ก็จะเป็นอ่อหลักนะในท่อน้ำเหลืองมี
00:31:15 → 00:31:18 น้อยนะมีน้อยนะไลโปโปรตีนไลเปสนี่มัน
00:31:18 → 00:31:22 กระจายทั่วทั่วองคาพายทั่วล่างนะ
00:31:23 → 00:31:26 ฮะเมื่อเซลล์ต้องการใช้เป็นพลังงานแล้วก็
00:31:26 → 00:31:30 ต้องบอกก่อนว่า a กับ B เนี่ยนะฮะนะก็คือ
00:31:30 → 00:31:34 เอนไซม์ 2 ตัวที่สำคัญมากๆและเขามักจะ
00:31:34 → 00:31:38 ต้องทำงานคู่กันนะฮะนะและเราจะต้องให้
00:31:38 → 00:31:43 ความสำคัญทั้ง a และ b นะเพื่อจุดมุ่ง
00:31:43 → 00:31:47 หมายคือการสลายอ่าเผาผลาไตติดสลายเป็น
00:31:47 → 00:31:52 พลังงานนะอันนี้สำคัญมากนะทั้ง 2 ตัวนะ
00:31:52 → 00:31:56 เพียงแต่ว่าตัวเอนไซม์ a นะฮอร์โมนเ้น
00:31:56 → 00:32:00 ไลเฟสเนี่ยเขาก็จะอยู่อยู่ที่เฉพาะเซลล์
00:32:00 → 00:32:02 ของอวัยวะที่ว่าเนี่ยโดยเฉพาะเซลล์เนื้อ
00:32:02 → 00:32:06 เยื่อไขมันนะแต่ไโปรตีนไลเปสเนี่ยส่วน
00:32:06 → 00:32:11 ใหญ่อยู่กับเยื่อบุนะผนังเซลล์ต่างๆนะฮะ
00:32:11 → 00:32:14 ที่มีการหมุนเวียนของเลือดกับน้ำเหลือง
00:32:14 → 00:32:17 แต่โดยเฉพาะการหมุนเวียนของเลือดแดงเลือด
00:32:17 → 00:32:22 แดงนะฮะนะอ่าไม่ใช่เลือดดำนะฮะนะอันนี้ก็
00:32:22 → 00:32:26 จะมีการปลดปล่อยเอนไซม์ตัวนี้ออกมามากนะ
00:32:26 → 00:32:29 เวลาที่อวัยวะนั้นนั้นเซลล์เนื้อเยื่อของ
00:32:29 → 00:32:33 วันั้นๆเต้องการจะทำงานต้องใช้งต้องการ
00:32:33 → 00:32:34 ใช้พลัง
00:32:34 → 00:32:38 งานส่วนเปิไลเปสก็ดังที่บอกไปนะสร้างออก
00:32:38 → 00:32:44 มาจากเับตับเท่านั้นนะฮะนะคู่กับ CP นะฮะ
00:32:44 → 00:32:46 นะแล้วก็ฮอร์โมนที่มีบทบาทต่อเาก็คือ
00:32:47 → 00:32:50 คอร์ติซอลนะเออกมาเพื่ออะไรนะอันนี้เขออก
00:32:50 → 00:32:55 มาจะอยู่ในระบบเลือดแดงนะเท่านั้นนะฮะนะ
00:32:55 → 00:32:59 เพื่อมีการสลายอนุภาคนะอ่านำส่งพลังงาน
00:32:59 → 00:33:03 หรือไขมันไต่กิสลายนะสลายเพื่อเอาไปเก็บ
00:33:03 → 00:33:06 ต่อสลายเพื่อเอาไปเก็บสะ
00:33:06 → 00:33:11 ส่งทีนี้เอนไซม์ไลเปสทั้ง 3 ชนิดนี้นะฮะ
00:33:11 → 00:33:14 นะจะถูกกระตุ้นออกมานะเมื่อมีการได้รับ
00:33:15 → 00:33:17 สัญญาณการกระตุ้นจากฮอร์โมนเป็นหลักเท่า
00:33:17 → 00:33:21 นั้นนะโดยจะมีฮอร์โมนตัวหลักๆที่มีบทบาท
00:33:21 → 00:33:26 มากมากและไม่มากนะฮะดังต่อไปนี้นะฮะดัง
00:33:26 → 00:33:30 ต่อไปนี้นะฮะนะก็มีทั้งหมด 6 ตัวมีทั้ง
00:33:30 → 00:33:32 หมด 6 ตัวนะฮะ
00:33:32 → 00:33:35 นะอย่าง
00:33:35 → 00:33:38 เอนไซม์ตัว a กับตัว B เนี่ยนะฮะนะเอาตัว
00:33:38 → 00:33:42 a ก่อนก็ได้นะตัว a เนี่ยนะฮะนะตัวที่มี
00:33:42 → 00:33:47 บทบาทนะมีอะไรบ้างนะฮะเอ่อคือฮอร์โมนที่
00:33:47 → 00:33:51 ไรปที่พูดในวันนี้เนี่ยนะฮะเราต้องจำนะ
00:33:51 → 00:33:54 ว่าเ depend on เขึ้นอยู่กับอลูคอนกับ
00:33:54 → 00:33:58 แนี 2 ตัวนี้นะนะโดยที่ทั้ง 2 ตัวนี้
00:33:58 → 00:34:03 เนี่ยจะต้องออกมาเยอะๆนะฮะออกมาเยอะๆนะ
00:34:03 → 00:34:09 แล้วก็ออกมาแบบยังไงอ่ะมากๆเยอะๆนะเนี่ย
00:34:09 → 00:34:14 นะแล้วคือต้องออกมาคู่กันนะฮะถ้าจะออกมา
00:34:14 → 00:34:17 ตัวเดียวอีกตัวไม่ออกมาเขาก็ไม่ทำงานหรือ
00:34:17 → 00:34:21 ทำงานน้อยมากประสิทธิภาพจะไม่ดีนะฮะเนี่ย
00:34:21 → 00:34:24 หลักการเป็นอย่างงนี้นะฮะนะเนี่ยฮอร์โมน
00:34:24 → 00:34:30 เซไสเนี่ยขึ้นอยู่กับกูกับแนีนะอันนี้
00:34:30 → 00:34:35 สำคัญนะฮะนะโดยทั้งกอนแนีต้องออกมาเยอะๆ
00:34:35 → 00:34:40 มากๆนะและจะต้องไม่มีอย่างนึงออกอีกอย่าง
00:34:40 → 00:34:42 ไม่ออกอันนี้เขาไม่ทำงานเหมือนกันนะฮะ
00:34:42 → 00:34:45 หรือไม่ออกเลยเงี้ยก็เรียบร้อยนะฮะถ้า
00:34:45 → 00:34:49 อินซูลินคอร์ติซอลมาก็ก็บอดไม่ทำงาน
00:34:49 → 00:34:54 นะอันแรกคือโดฮอร์โมนในรูปแบบของ ig1 นะ
00:34:54 → 00:34:57 ฮะนะอันนี้ก็แล้วแต่นะมาจากตมใต้สม 2
00:34:57 → 00:35:01 อะไรเเพียงแต่ว่าตัวโกดฮอร์โมนที่มีบทบาท
00:35:01 → 00:35:05 ต่อเอนไซม์ฮอร์โมนเซนิไฟสเนี่ยนะส่วนใหญ่
00:35:05 → 00:35:07 มันจะเป็นการทำงานในช่วงกลางคืนมากกว่า
00:35:07 → 00:35:13 กลางวันนะกูคารอนจากอัฟฟ่าเซลลของสับอ่อน
00:35:13 → 00:35:16 กระตุ้นทั้งอ่าฮอร์โมน sensitive ไลเปส
00:35:16 → 00:35:20 และไลโปโปรตีนไลเปสและเป็นการทำงานในช่วง
00:35:20 → 00:35:25 กลางวันมากกว่ากลางคืนนะฮะแอรีนจากต่อ
00:35:25 → 00:35:29 หมวกใจชั้นอินมูลนะฮะจะมีการกระตุ้น
00:35:29 → 00:35:35 เอนไซม์ไลโปโปรตีนไลเปสนะมากมาๆๆๆกว่า
00:35:35 → 00:35:39 เปปติเอ้ยฮอร์โมนเิไสนะฮะ a มาก B มาก
00:35:39 → 00:35:43 กว่า a b มากกว่า a นะแต่กลูคากอนเนี่ย
00:35:43 → 00:35:48 นะนะจะกระตุ้นทั้ง a ทั้ง B นะฮะแต่แดนี
00:35:48 → 00:35:51 ส่วนใหญ่จะกระตุ้น B นะแต่ก็กระตุ้น a
00:35:51 → 00:35:55 น้อยแล้วทั้งกูกอนกับแดนีทำงานในช่วงกลาง
00:35:55 → 00:35:58 วันมากกว่ากลางคืน
00:35:58 → 00:36:02 ต่อไปอีกตัวนึงก็คือเลปตินนะเลปตินก็เป็น
00:36:02 → 00:36:06 ฮอร์โมนที่ที่อ่าผนังเยื่อบุเซลล์เนื้อ
00:36:06 → 00:36:09 เยื่อไขมันดีไซต์เช่นเดียวกันนะฮะแต่ว่า
00:36:09 → 00:36:12 เลปตินเนี่ยเขาก็ต้องเป็นฮอร์โมนที่มี
00:36:12 → 00:36:15 ลีลาหน่อยนะฮะนะเขาก็ต้องมีการรอเวลาอะไร
00:36:15 → 00:36:18 ต่างๆนะก็คือเลปตินจะทำงานต่อเมื่อมีการ
00:36:18 → 00:36:23 ฟีดนะนะอ่าช่วงที่ฟานี่เไม่ทำงานนะฮเจะทำ
00:36:23 → 00:36:26 งานในช่วงที่กินแล้วอินซูลินมาก่อน
00:36:26 → 00:36:30 อินซูลินไปแล้วเล็บดินถึงจะมานะแล้วก็ไป
00:36:30 → 00:36:32 แจ้งสมองว่าอิ่มแล้วแล้วหลังจากแจ้งสมอง
00:36:32 → 00:36:36 เรียบร้อยแล้วว่าอิ่มแล้วนะก็เล็บดินก็จะ
00:36:36 → 00:36:39 กระตุ้นเอนไซม์ตัวอะไโปตีนไลเปสนะฮะเพื่อ
00:36:39 → 00:36:44 จะเผาผลาเอ่อพลังงานนะฮะแล้วก็เรตินเนี่ย
00:36:44 → 00:36:46 คุณก็จะต้องกิน High Food Healthy Fat
00:36:47 → 00:36:50 อะไรต่างๆนะอย่างเงี้ยนะเรตินทำงานในช่วง
00:36:50 → 00:36:54 กลางวันมากกว่ากลางคืนนะฮะคือเลปตินเนี่ย
00:36:54 → 00:36:57 ก็จะเป็นคู่กับไทรรอยด์
00:36:57 → 00:37:02 นะอ่าเขจะคล้ายๆกันเพียงแต่ว่านะอ่า
00:37:02 → 00:37:05 เลปตินมักจะกระตุ้นโปตีนไสนะฮะแต่ไทลอยก็
00:37:05 → 00:37:08 กระตุ้นไลโปโปรตีนไลเปสอ่าแต่ก็ทำงานตอน
00:37:08 → 00:37:11 กลางคืนมากกว่ากลางวันนะไทรอยด์ก็ยัง
00:37:11 → 00:37:15 กระตุ้นอ่าฮอร์โมน sensitive ไสด้วยนะฮะ
00:37:15 → 00:37:17 เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าตัว a เนี่ยมี
00:37:17 → 00:37:21 อะไรไปกระตุ้นเบ้างนะฮะก็มีโดฮอร์โมนแต่
00:37:21 → 00:37:29 นี้กลางคืนนะฮะกลูคากอนนะไรอยแนะฮะแดนีก็
00:37:29 → 00:37:32 มีด้วยนะนิดหน่อยนะฮะซึ่งอันเนี้ยจะอยู่
00:37:33 → 00:37:35 ในช่วงกลางวันนะแต่ไทรรอยด์ก็กลางคืนไป
00:37:35 → 00:37:40 อีกนะฮะเพราะฉะนั้นฮอร์โมนเีไสกลางคืนนะ
00:37:40 → 00:37:46 ฮะเขึ้นอยู่กับนะโสฮอร์โมนกับไทรอยนะซึ่ง
00:37:46 → 00:37:50 อันนี้เก็มาตอนครบค่ำนะไปถึงกลางคืนอยู่
00:37:50 → 00:37:53 แล้วนะแต่ตอนกลางวันเนี่ยนะตอนกลางวัน
00:37:53 → 00:37:58 เนี่นะอ่าเขาจะอ่าเนี่ยปูก้อนกับแอรีน
00:37:58 → 00:38:02 สำคัญที่สุดนะฮะนะแต่ตัวเลปตินเนี่ยตัว
00:38:02 → 00:38:06 เลปตินเขมาเสริมตัวไลโปโปรตีนไลเปสมาก
00:38:06 → 00:38:09 กว่านะฮะอย่างไงก็ตามนะหมอก็บอกแล้วว่า
00:38:09 → 00:38:14 ทั้ง 2 ตัวเนี่ยนะเต้องคู่กันไปนะนะนะ
00:38:14 → 00:38:18 เอนไซม์ 2 ตัวนี้นะช่วยกันนะฮะนะอันนี้
00:38:18 → 00:38:22 ช่วยอยู่เอ่ออันนี้อยู่ในในอะไรอ่ะอยู่ใน
00:38:22 → 00:38:25 เฉพาะที่อนะฮะก็คือเซลล์นี้เยื่อไขมันนะ
00:38:25 → 00:38:28 ฮะแต่ไปูโปรตีนอะไเป็นเนี่ยเอยู่ในระบบ
00:38:28 → 00:38:31 ท่อลำเลียงนะเอยู่ในระบบท่อลำเลียงเพราะ
00:38:31 → 00:38:33 ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ก็คือเป็นการสลายไขมัน
00:38:33 → 00:38:36 ไตติดสลายออกมาเพื่อที่จะเอาไปใช้เป็น
00:38:37 → 00:38:41 พลังงานนั่นเองอ่าเพราะฉะนั้นเอ่อพวก
00:38:41 → 00:38:45 เนี้ยก็จะทำงานในช่วงที่เราฟานะเราไม่ได้
00:38:45 → 00:38:49 กินนะฮะนะโดยเฉพาะใครที่กินแบบ omas หรือ
00:38:49 → 00:38:52 กินูดอะไรต่างๆในระหว่างที่ไม่ได้กิน
00:38:52 → 00:38:56 เนี่ยนะแอชของนะทั้งฮอร์โมน sensitive
00:38:56 → 00:38:59 ไลเปสกับโปูโปปีไลเปสนี่ก็จะ
00:38:59 → 00:39:04 เด่นอันนี้เราจะต้องเข้าใจจุดนี้ก่อนนะฮะ
00:39:04 → 00:39:10 ซึ่งอ่าสำคัญที่สุดเลยเนี่ยก็คือตัวนะของ
00:39:10 → 00:39:13 ฮอร์โมนนะที่จะมามีผลต่อเอนไซม์ 2 ตัวนี้
00:39:13 → 00:39:15 คือกลูคากอนกับ
00:39:15 → 00:39:20 แอรีนะฮะนะแล้วก็อาจจะมีเลปตินบ้างนะฮะนะ
00:39:20 → 00:39:23 แต่ตอนกลางคืนเนี่ยก็จะเป็นเรื่องของโ
00:39:23 → 00:39:26 ฮอร์โมนกับไทรรอยด์นะเพราะฉะนั้นเหมือน
00:39:26 → 00:39:29 กับว่าทั้งวันทั้งคืนเนี่ยนะไม่ว่าจะเป็น
00:39:29 → 00:39:32 ฮอร์โมน sens ไลเปสตัว a หรืออ่า
00:39:32 → 00:39:34 ไลโปโปรตีนไลเปสตัว B เนี่ยเค้าเหมือนทำ
00:39:34 → 00:39:38 งานสลเผาผลาญพลังงานตลอดเกือบจะ 24
00:39:38 → 00:39:42 ช่วโมงนะฮะเกือบจะ 24 ชมงนะเนี่ยเหล่า
00:39:42 → 00:39:47 เนี้ยเราต้องมีความเข้าใจแล้วก็คิดว่านะ
00:39:47 → 00:39:52 การสลายด้วยเอนไซม์สลายไขมันไิสไลดไกลุ่ม
00:39:52 → 00:39:55 ไลเฟสเนี่ยนะมันมีฮอร์โมนอะไรบ้างเป็น
00:39:55 → 00:40:00 ฮอร์โมนเดดนะฮะที่จะมันมีบทบาทนะนะอันนี้
00:40:00 → 00:40:05 ก็เอ่อก็สรุปเป็นตาราง
00:40:05 → 00:40:11 นะนะก็อันนี้เราก็เคยเห็นแล้วใช่มยนะว่า
00:40:11 → 00:40:15 เนี่ยเอ่อโสฮอร์โมนนะฮะมีผลต่อ
00:40:15 → 00:40:20 ide differentiation นะฮะนะนอกจากโคด
00:40:20 → 00:40:22 ฮอร์โมนแล้วนะอันนี้ก็คือในช่วงกลางคืน
00:40:22 → 00:40:26 ใช่มั้ยล่ะถ้าเป็นช่วงกลางวันนะก็ต้อง
00:40:26 → 00:40:30 เป็นกูกลูคากอนกลูคากอนฮอร์โมนลูกเทพนะ
00:40:30 → 00:40:34 แล้วก็อีกฝั่งนึงก็คือแอรีนหรือแคลนนะฮะ
00:40:34 → 00:40:40 เนี่ยนะอ่าซ้ายขวานะอ่าเข้าตีอ่าพร้อมกัน
00:40:40 → 00:40:45 เลยนะฮะนะแต่ว่าตัวแนีเนี่ยเขาจะ Action
00:40:45 → 00:40:49 กับไลโปโปรตีนไสนะมากกว่าฮอร์โมน
00:40:49 → 00:40:53 sensitive ไสนะฮะแต่กลูคากอนเนี่ยเนี่ย
00:40:53 → 00:40:57 กลูคากอนเแชทั้งตัวนี้ฮอร์โมนแลและไป
00:40:57 → 00:41:01 ปฏิเสคู่กันไปเลยนะฮะนะเพราะฉะนั้นอย่าง
00:41:01 → 00:41:04 นี้เนี่ยการสลายไขมันเนี่ยมันก็จะค่อน
00:41:04 → 00:41:09 ข้างเยอะนะเอ่อถ้าเกิดเราสามารถกำหนดให้
00:41:09 → 00:41:14 กลูคากอนและแอรีนออกมาเยอะๆนะซึ่งเขาก็
00:41:14 → 00:41:19 บอกว่ามันจะต้องออกมาเยอะคู่กันนะอเพราะเ
00:41:19 → 00:41:22 ทำงานเข้ากันนะฮะแล้วเกระตุ้นเอนไซม์ 2
00:41:22 → 00:41:26 ตัวเนี่ยก็สลายใหญ่เลยนะฮะนะทั้งสลายที่
00:41:26 → 00:41:29 เนื้อเยื่อไขมันแล้วก็เซลล์ต่างๆที่อยู่
00:41:29 → 00:41:34 ในเยื่อบุนะท่อลำเรียงก็เรียกร้องพอสลาย
00:41:34 → 00:41:38 เรียบร้อยแล้วเราก็จะได้เป็นตัวคริสตอล
00:41:38 → 00:41:42 กับี fatty Acid นะออกมาเนาะอันนี้นะ
00:41:43 → 00:41:45 เป็นอย่างงนี้นะฮะนะโดยเฉพาะเจะเด่นมากใน
00:41:45 → 00:41:51 ช่วงที่ฟานะฮะในช่วงที่ฟานะแต่พอช่วงที่
00:41:51 → 00:41:54 ฟีดเนี่ยนะฮะนะไอ้ตัวฮอร์โมน sensitive
00:41:54 → 00:41:57 ไสเนี่ยนะอ่าบล็อกถูกบล็อกเลยเนี่ย
00:41:57 → 00:42:01 อินซูลินกับคอร์ติซอลนะฮะนะช่วงที่ฟีดนะ
00:42:01 → 00:42:05 ช่วงที่กินเนี่ยนะอันนี้ก็ไม่ทำงานนะแต่
00:42:05 → 00:42:10 ไรปโปรตีนไสเนี่ยนะอ่าช่วงที่กินเนี่ยนะ
00:42:10 → 00:42:14 มันก็ทำงานน้อยลงแต่มันก็ยังมีการทำงาน
00:42:14 → 00:42:18 อยู่นะฮะอ่ามีการทำงานอยู่ได้อยู่ได้นะ
00:42:18 → 00:42:24 โดยการกระตุ้นของตัว adin ตัว adin
00:42:24 → 00:42:28 นะอันนี้ก็เป็นรายละเอียดนะที่หมก็พยายาม
00:42:28 → 00:42:33 นะอ่าเอามาสรุปให้นะฮะสรุปว่านะทั้งตัว a
00:42:33 → 00:42:38 ตัว B นะนะก็คือฮอร์โมนสไลเปสนะอ่าโดย
00:42:38 → 00:42:42 เฉพาะตัวเนี้ยนะฮะสามารถทำงานได้ทั้งวัน
00:42:42 → 00:42:48 ทั้งคืนนะนะแต่คุณจะต้องมีการกำหนดนะตัว
00:42:48 → 00:42:51 ฮอร์โมนสนับสนุนเอนไซม์ก็คือกู้ฮกอนแก
00:42:51 → 00:42:56 แอรีนต้องออกมาอย่างมากๆพร้อมๆกันด้วยนะ
00:42:56 → 00:42:59 ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญนะสำหรับฮอร์โมน
00:42:59 → 00:43:03 2 ตัวนี้โดยเฉพาะตัวฮอร์โมน sens ไสนะ
00:43:03 → 00:43:05 หากมีเพียงฮอร์โมนตัวใดตัวหนึ่งออกมามากๆ
00:43:05 → 00:43:09 แต่อีกตัวออกมาน้อยประสิทธิภาพการทำงานใน
00:43:09 → 00:43:13 การสลายไขมันจะลดลงอย่างมากนะนะซึ่ง
00:43:13 → 00:43:16 อันเนี้ยมันก็นำไปสู่ปัญหาเอ่อของค่าแลบ
00:43:17 → 00:43:20 ที่มันผิดปกติรวมทั้งน้ำำหนักนิ่งค้างที่
00:43:20 → 00:43:25 เราเจอกันในในเวทปฏิบัตินะหรือในในชีวิต
00:43:25 → 00:43:28 จริงๆนะฮะแต่ลึกๆแล้วเนี่ยส่วนหนึ่งก็คือ
00:43:28 → 00:43:31 เป็นเรื่องของดิฟฟังก์ชันของเอนไซม์ต่างๆ
00:43:31 → 00:43:36 ที่ใช้ในการสลายตัวไขมันไกิสลเพราะว่า
00:43:36 → 00:43:40 เอนไซม์นะจะทำงานได้ดีต้องมีฮอร์โมนเป็น
00:43:40 → 00:43:43 ตัวกำกับแล้วก็ฮอร์โมนเนี่ยก็ต้องมาคู่
00:43:43 → 00:43:47 ด้วยมาเดี่ยวก็ไม่ได้เออเพรางั้นในแง่กล
00:43:47 → 00:43:50 คารอนเนี่ยกลคารอนจะออกมาได้เยอะๆนะเอากล
00:43:50 → 00:43:55 คอนก่อนนะนะมันก็ทำยังไงอ่ะนะฮะเ่อเนี่ย
00:43:55 → 00:43:59 เราก็ต้องเปลี่ยนอ่าแนวทางของโภชนาการรวม
00:43:59 → 00:44:04 ทั้งเรื่องของไลไลอะไรต่างๆนะเพราะว่าคู่
00:44:04 → 00:44:08 กับาอนคืออินซูลินนะฮะกอนมาจากแอลฟ่า
00:44:08 → 00:44:11 เซลล์ของตับออนนะอินซูลินมาจากเบต้าเซลล์
00:44:11 → 00:44:15 นะฮะนะถ้าอินซูลินมากูคารอนไม่มีวันจะชนะ
00:44:15 → 00:44:19 ได้นะฮะนะถ้าคุณไปกระตุ้นอินซูลินเนี่ยนะ
00:44:19 → 00:44:23 ยกเว้นแต่ว่าอินซูลินเนี่ยนะจะต้องมาใน
00:44:23 → 00:44:27 ระดับ Bal Level basal Level พื้นฐาน
00:44:27 → 00:44:32 มากที่สุดนะแค่นั้นนะฮะเ่ามามากนักไม่ได้
00:44:32 → 00:44:36 นะฮะนะไม่งั้นกูฮาอนเกลัวนะก็คือหลักๆก็
00:44:36 → 00:44:38 คือเพราะว่าอะไรเพราะว่าร่างกายเนี่ยให้
00:44:38 → 00:44:42 ความสำคัญต่อฮอร์โมนตัวพ่อนะซึ่งเป็น
00:44:42 → 00:44:45 เอ่อเป็นพ่อบ้านนัแหละนะฮะนะแต่กูฮาอน
00:44:45 → 00:44:48 เนี่ยมันคล้ายๆเป็นตัวลูก่ะฮะลูกคนกลางๆ
00:44:48 → 00:44:52 ด้วยนะฮะนะแล้วกูฮาอนก็กลัวอินซูลินนะฮะ
00:44:52 → 00:44:57 เมื่อไหร่อินซูลินเท Action กฮกอนดหัวนะ
00:44:57 → 00:45:00 นะฮะนะคือความสำคัญของกลัวฮารอนมันก็แค่
00:45:00 → 00:45:03 มาสลายเผาผลาญพลังงานนะแต่อินซูลินเนี่ย
00:45:03 → 00:45:07 นะเขาใหญ่กว่าเยอะนะฮะแล้วในแง่ฮอร์โมน
00:45:08 → 00:45:10 ที่จะสลายาผันพลังงานมันมีตัวอื่นๆอีกนะ
00:45:10 → 00:45:13 ฮะกลูคากอนไม่ออกมาก็อาจจะมีตัวอื่นมา
00:45:13 → 00:45:16 เป็นไทรรอยด์เป็นเอ่อโกนฮอร์โมน
00:45:16 → 00:45:19 เทสโทสเตอโรนอะไรอย่างเงี้ยนะก็แล้วแต่นะ
00:45:19 → 00:45:22 หรือเลปตินนะก็ทำงานไปนะ
00:45:22 → 00:45:27 ฮะงั้นวิธีที่จะลดอินซูลินกระตุ้นกูแล้ว
00:45:27 → 00:45:30 ก้อนออกมาทำงานเยอะๆนะอ่ามันก็เข้าเกณฑ์
00:45:30 → 00:45:34 ที่เราพอทราบกันอยู่นะฮะก็คือ 1 นะเอ่อ
00:45:35 → 00:45:38 ต้องเป็นการกินโชนาการคต่ำ very low C
00:45:38 → 00:45:41 High Good Fat โดยเฉพาะในมื้อแรกอ่าใน
00:45:41 → 00:45:45 มื้อแรกเพราะว่าเพราะว่าเราต้องการน่ะเรา
00:45:45 → 00:45:48 ต้องการสลายผาผลไขมันเนี่ยมาเป็นพลังงาน
00:45:48 → 00:45:50 ที่จะใช้ในการอ่าดำเนินชีวิตประจำวันใช่
00:45:50 → 00:45:54 มั้ยล่ะนะเพราะฉะนั้นนะอันเนี้ยมื้อกลาง
00:45:54 → 00:45:57 วันหรือมื้อแรกก็สำคัญมากนะเพราะฉะนั้น
00:45:57 → 00:46:02 ด้วยเหตุนี้เหตุผลหนึงในการกินทูในแบบ low
00:46:02 → 00:46:05 C High Oil เพราะนั้นมื้อแรกก็คือต้อง
00:46:05 → 00:46:09 very low C นะแล้วก็มาให้ความสำคัญกับ
00:46:09 → 00:46:12 Good Healthy Fat นะที่จะไปเป็นพลัง
00:46:12 → 00:46:17 งานนะเพื่อควบคุมจำกัดอินซูลินนะแล้วก็
00:46:17 → 00:46:20 กระตุ้นคอร์ติซอลเอ้ยกระตุ้นูคารอนออกมา
00:46:20 → 00:46:25 เยอะๆนะฮะอันนี้นะในแง่ของการกินนะฮะใน
00:46:25 → 00:46:29 แง่ของการกินต่อไปก็คือการฟาหรือการอดนะ
00:46:29 → 00:46:33 หรือการทำไนะอันเนี้ยนะก็เช่นเดียวกันนะ
00:46:33 → 00:46:38 เ่อก็ต้องทำในระดับนึงนะฮะนะจะไม่ต้องไม่
00:46:38 → 00:46:42 ต้องเยอะนะฮะไม่ต้องเยอะนะนะก็จะมี
00:46:42 → 00:46:44 ประโยชน์ในเรื่องการควบคุมอินซูลินแล้ว
00:46:44 → 00:46:49 กอนก็จะมานะการออกแรงออกกำลังนะในช่วงที่
00:46:50 → 00:46:53 ฟานะอันนี้ก็รู้กันอยู่แล้วนะฮะนะเพราะ
00:46:53 → 00:46:57 ว่าเ่อคุมกูคารอนได้เอ้ยโทษทีคุมอินซูลิน
00:46:57 → 00:47:00 ได้นะอ่าเพราะฉะนั้นบทบาทที่เด่นก็คือ
00:47:00 → 00:47:02 เป็นกลูคากอนจากแอลฟ่า
00:47:02 → 00:47:07 เกแล้วทั้งหมดเนี่ย 12 23 นะฮะนะเราจะ
00:47:07 → 00:47:09 ต้องให้ความสำคัญกับข้อ 1
00:47:09 → 00:47:14 เอ่อทำให้ได้ให้ผ่านก่อนเสมอแล้วจึงทำข้อ
00:47:14 → 00:47:19 ต่อไปนะถ้าเกิดทำไม่ถูกทำผิดรีบร้อนใจ
00:47:19 → 00:47:23 ร้อนนะหรือไม่เข้าใจนะเอ่อพอเบอกเป็นนั่น
00:47:23 → 00:47:27 เป็นนี่นะก็รีบไปออกกำลังกายรีบทำ If ตาม
00:47:27 → 00:47:30 กระแสนะทั้งๆที่เรื่องของระดับอินซูลิน
00:47:30 → 00:47:34 ยังควบคุมไม่ได้นะหรืออินซูลินเนี่ยมัน
00:47:34 → 00:47:39 ยังความไอความไวอ่ะนะความไวนะมันยังไม่
00:47:39 → 00:47:42 เกิดเงี้ยนะฮะนะถ้าเป็นอย่างงนี้เนี่ยมัน
00:47:42 → 00:47:47 ก็เฟลนะฮะนะเกอนก็ไม่มาไม่มานะเพราะ
00:47:47 → 00:47:49 เหมือนอินซูลินยังอยู่แต่มันยังอยู่เป็น
00:47:49 → 00:47:55 ก้านขวางคองนะขวาคอนะเป็นจระเข้ขวางคองนะ
00:47:55 → 00:47:58 เพราะฉะนั้นกลัวฮก้อนกลัวมาไม่ได้นะฮะถึง
00:47:58 → 00:48:01 แม้ว่าอินซูลินเขาจะฟังก์ชันไม่ Action
00:48:01 → 00:48:03 อะไรก็ตาม
00:48:03 → 00:48:07 นะนะเราเราต้องคุมให้ได้ก่อนคุมอินซูลิน
00:48:07 → 00:48:11 ให้ได้นะฮะนะก็ดูจากค่าอะไรอ่ะิอินซูลิน
00:48:11 → 00:48:16 ดูจาก่า ir นะฮะแล้วก็สต็ปต่อไปก็ถึงจะ
00:48:16 → 00:48:19 เป็นเรื่องของการเนี่ยการทำ If การออก
00:48:19 → 00:48:23 กำลังกายนะฮะนะเพราะฉะนั้นอาหารจึงมีความ
00:48:23 → 00:48:26 สำคัญนะในลำดับต้นนะฮะแต่คนส่วนใหญ่ทำผิด
00:48:27 → 00:48:29 พลาดนะในข้อแรกก็คือข้อของการควบคุม
00:48:29 → 00:48:33 อินซูลินโดยอาหารโดยโภชนาการนะฮะเพราะ
00:48:33 → 00:48:36 อะไรเพราะไม่รู้เรื่องความสมดุลของ Energy
00:48:36 → 00:48:39 Balance นะเกี่ยวกับแคลอรี่สารอาหารจาก
00:48:39 → 00:48:42 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะซึ่งเป็นอาหาร
00:48:42 → 00:48:47 หลักนะมีการกินนะในแบบ low Car moderate
00:48:47 → 00:48:50 โปน High Good Healthy Fat Oil ไม่
00:48:50 → 00:48:54 เป็นนะฮะอ่าไม่รู้ไม่เข้าใจในไส้ในราย
00:48:54 → 00:48:57 ละเอียดของอาหารที่กินนะการกิน 1 1 วัน
00:48:57 → 00:49:01 มื้อแรกมื้อหลังอ่ากินยังไงเพราะอะไรนะฮะ
00:49:01 → 00:49:05 ก็กินไม่เป็นกินไม่ถูกนะฮะเลยกินอะไรมั่ว
00:49:05 → 00:49:08 ซั่วไปหมดนะฮะนะทั้งปริมาณสัดส่วนรวมทั้ง
00:49:08 → 00:49:12 การปรุงก็เหล่าเก็เป็นเรื่องทั่วๆไปอ่ะนะ
00:49:12 → 00:49:17 ที่ทำไมผู้คนถึงยังมีปัญหาหรือหรือมันไม่
00:49:17 → 00:49:21 ผ่านนะมันมันมันเปลี่ยนโภชนาการแล้วอ่า
00:49:21 → 00:49:24 ความหวังนะที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโดย
00:49:24 → 00:49:27 เฉพาะการดูแลสุขภาพโรคภัยไก้เต่างๆต่าง
00:49:27 → 00:49:30 มันไม่สมดังวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้นะ
00:49:30 → 00:49:32 เพราะว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องนี้แหละฮะ
00:49:32 → 00:49:36 นะแดงๆเหลืองๆเขียวๆเนี่ยนะในบรรทัดนี้นะ
00:49:36 → 00:49:40 อันนี้เป็นสิ่งที่คนก็มันก็ไม่เข้าใจนะ
00:49:40 → 00:49:43 เข้าใจยากมากนะฮะ
00:49:44 → 00:49:47 นะอ่าเก็บอกว่าถ้าเป็นเช่นนี้เนี่ยครู
00:49:47 → 00:49:51 ฮาอนนะจะกระตุ้นออกมาได้น้อยนะรวมทั้ง
00:49:51 → 00:49:55 แอรีนก็อาจจะไม่ออกมาด้วยนะอาจจะไม่ยอม
00:49:55 → 00:50:00 ออกมาด้วยนะก็คือกูฮากอนเนี่ยนะฮะนะการ
00:50:00 → 00:50:03 กระตุ้นให้ออกมาเยอะๆนะคุณต้องคุม
00:50:03 → 00:50:08 อินซูลินขณะเดียวกันนะกอนต้องทำงานคู่กับ
00:50:08 → 00:50:13 แนีในการกระตุ้นเอนไซม์ไสนะกลุ่มนี้นะ
00:50:13 → 00:50:17 เพราะงั้นแอรีนจะออกมาได้เยอะๆคุณต้องคุม
00:50:17 → 00:50:22 ตัวแม่คอร์ติซอลคอร์ติซอลนะนะอย่างใน
00:50:22 → 00:50:25 เรื่องของการทำไนะหรือการออกแรงออกกำลัง
00:50:25 → 00:50:29 อะไรต่างๆก็ดีนะอันเนี้ยมันก็จะต้องมี
00:50:29 → 00:50:32 ความพอดีนะฮะมีความพอดีไม่ได้ทำตามกระแส
00:50:32 → 00:50:36 นะในแล้วแต่ละบุคคลนะนะว่าช่วงเวลาเท่า
00:50:36 → 00:50:41 ไหร่นะอ่า 12 อ่าอะไรนะเ้าเรียก 44 12
00:50:41 → 00:50:44 เหรออ่าหรือ
00:50:44 → 00:50:47 14/10 16/8 อะไรอย่างเงี้ยนะส่วนใหญ่
00:50:47 → 00:50:50 มันก็อยู่ประมาณนี้แหละนะทั้งผู้หญิงผู้
00:50:50 → 00:50:54 ชายนะก็คือ 12-14 ชมงนะหรือในผู้ชายก็
00:50:54 → 00:50:58 ส่วนใหญ่ 14-16 ชมงไม่เกินนี้นะฮะในการทำ
00:50:58 → 00:51:01 นะแต่ว่าอาหารต้องถูกต้องก่อนนะ
00:51:01 → 00:51:05 นะทนี้กรณีเนี่ยบางครั้งบางคราวแล้วเนี่ย
00:51:05 → 00:51:11 นะเอ่อกลูคากอนก็ดีแอรีนก็ดีอ่ะนะมันออก
00:51:11 → 00:51:13 มาไม่ได้นะมันออกไม่ได้เพราะฉะนั้นอย่า
00:51:14 → 00:51:17 หวังว่าเอนไซม์โดยเฉพาะตัวฮอร์โมน sens
00:51:17 → 00:51:20 ไลเปสกับโปรตีไลเปสเนี่ยนะมันจะ Action
00:51:20 → 00:51:23 ได้เก่งๆนะฮะนะอ่ามันมันแอชไม่ได้เพราะ
00:51:24 → 00:51:28 แอชไม่ได้เนี่ยนะไอ้อะไรไขมันก็ดีน้ำหนัก
00:51:28 → 00:51:32 ก็ดีค่าแลบก็ดีอะไรต่างๆก็เลยค้างเติ่งนะ
00:51:32 → 00:51:35 หรือหรือไม่มิไม่ดีขึ้นน่ะทั้งๆที่ก็
00:51:36 → 00:51:41 พยายามอ่าทำๆๆๆๆนะฮะนะอ่าเพราะฉะนั้น
00:51:41 → 00:51:44 เรื่องเหล่าเนี้ยต้องมีความรู้ล่ะนะฮะหมอ
00:51:44 → 00:51:47 คิดว่าหลายคนก็รู้เยอะแล้วล่ะ
00:51:47 → 00:51:51 นะเรื่องนึงของแนีเนี่ยนะฮะนะก็คืออย่าง
00:51:51 → 00:51:56 งี้นะคือแอรีนเนี่ยนะเก็เป็นฮอร์โมนจากตอ
00:51:56 → 00:52:00 หมวกไปใช่มั้ยล่ะนะบทบาทที่เด่นมากของแนี
00:52:00 → 00:52:04 เนี่ยคือการกระตุ้นเอนไซม์โปตีนไสนะฮะแต่
00:52:04 → 00:52:06 เกระตุ้นฮอร์โมน sensitive Lip แต่ว่า
00:52:07 → 00:52:10 ไม่ได้กระตุ้นเด่นเท่ากับตัวอ่าเอนไซม์
00:52:10 → 00:52:14 ที่อยู่ในระบบการหมุนเวียนนะทีนี้เอ่อ
00:52:14 → 00:52:17 วิธีการที่แอนลีนที่จะไปกระตุ้นเอนไซม์
00:52:17 → 00:52:20 ตัวนี้ได้เนี่ยแอรีนเนี่ยนะจะต้องมีตัว
00:52:20 → 00:52:23 ลับเ้าเรียก B receptor นะ B receptor
00:52:23 → 00:52:26 เพะฉะนั้นเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆออร์แกน
00:52:26 → 00:52:30 ต่างๆวยต่างๆนะนะที่มันมีเซลล์ที่ต้องการ
00:52:30 → 00:52:34 มีการใช้พลังงานนะเซลล์เหล่านี้เนี่ยเขา
00:52:34 → 00:52:38 ก็จะมีการผุดนะหรือเขเรียกว่าปรากฏอ่าตัว
00:52:38 → 00:52:41 เต้า receptor เนี่ยก็เรียกว่าเป็นการ
00:52:41 → 00:52:45 expression ของตัวีตตัวลับรตตัวนี้ออกมา
00:52:45 → 00:52:49 นะฮะนะคือเต้อง Express ออกมาก่อน Express
00:52:49 → 00:52:52 ออกมาเพื่อนะเพื่อจะบอกอินซูลินว่าตอน
00:52:52 → 00:52:56 เนี้ยเหิวต้องการใช้พลังงานนะฮะนะต้องการ
00:52:56 → 00:53:01 ใช้พลังงานนะอ่าพอซต์นี้ออกมาปุ๊บ
00:53:01 → 00:53:05 อินซูลินมาปั๊บอินซูลินก็จะมาสลายฮะนะจะ
00:53:05 → 00:53:12 มาสลายไอ้ตัวนะไกินนะนะที่ที่รอรอการอ่า
00:53:12 → 00:53:16 รอการที่จะมีเอนไซม์มาสลายนะฮะคือ
00:53:16 → 00:53:18 อินซูลินเขาก็จะไป
00:53:19 → 00:53:22 กระตุ้นไม่ใช่อินซูลินพูดผิดพูดถูกไปหมด
00:53:22 → 00:53:26 นะแอรีนนะฮะเก็จะไปกระตุ้นเอนไซม์นะโดย
00:53:26 → 00:53:30 เฉพาะไต L นี่แหละมาสลายพลังงานนะฮะนะถ้า
00:53:30 → 00:53:34 เกิดการ expression ของเต receptor นะของ
00:53:34 → 00:53:37 อวัยวะที่เต้องการพลังงานนะฮะ
00:53:37 → 00:53:41 นะคือเบอกว่าปกติแล้วตัวเ้า receptor
00:53:41 → 00:53:45 เนี่ยนะของฮอร์โมนรนารีเนี่ยนะจะไม่ค่อย
00:53:45 → 00:53:50 มีการ expression ออกมาง่ายนักนะง่ายนัก
00:53:50 → 00:53:55 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยอ่าก็สำคัญแล้วล่ะนะนะ
00:53:55 → 00:53:58 ที่ทำยังไงแนีถึงจะออก
00:53:58 → 00:54:03 [เพลง]
00:54:03 → 00:54:08 มาคือบางครั้งเนี่ยนะฮะนะเนี่ยเนี่ยกลู
00:54:08 → 00:54:14 คารอนต้องคุมอินซูลินนะแอรีนต้องคุม
00:54:14 → 00:54:18 คอซอในแง่เนี้ยนะฮะนะเราต้องรู้อย่างนึง
00:54:18 → 00:54:22 นะฮะว่าทั้งคอร์ติซอลกับแอรีนก็มาจะต่อ
00:54:22 → 00:54:26 หมวกไปมาจะต่อหมวกไป
00:54:26 → 00:54:30 การ expression ของเต้า receptor นะที่
00:54:30 → 00:54:35 เขาต้องการใช้พลังงานเนี่ยนะฮะนะเนี่ยตัว
00:54:35 → 00:54:39 ตัวแอรีนเนี่ยเขาก็จะไปก่อนเลยนะฮะนะไปไป
00:54:39 → 00:54:42 เอาพลังงานไปให้นะฮะนะไปกระตุ้นเอนไซม์
00:54:42 → 00:54:46 ที่เกิดการสลายพลังงานนะไปให้นะฮะในช่วง
00:54:46 → 00:54:49 แรกๆที่เราเรียกว่า
00:54:49 → 00:54:52 เ่อที่เราเรียกว่าคอร์ติซอลมันสลายพลัง
00:54:52 → 00:54:55 งานเนี่ยนะนะเพราะว่าคอร์ติซอลเขก็เริ่มะ
00:54:55 → 00:55:00 นะว่าตอนเนี้ยร่างกายขาดพลังงานนะขาดพลัง
00:55:00 → 00:55:03 งานแต่เขายังไม่ออกมาในช่วงแรกนะก็ให้ตัว
00:55:03 → 00:55:08 ลูกคนเล็กแอรีนออกมาแอชก่อนนะฮะเนี่ยก็ไป
00:55:08 → 00:55:11 กระตุ้นเอนไซม์แบบที่บอกนี่แหละนะแล้วก็
00:55:11 → 00:55:16 ให้พลังงานไปเรื่อยๆเรื่อๆๆๆแต่ถ้าการขาด
00:55:16 → 00:55:20 พลังงานนั้นเนี่ยมันมันยืดเยื้อมันยาวนาน
00:55:20 → 00:55:23 ไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆนะหรือซ้ำแล้วซ้ำอีก
00:55:23 → 00:55:27 ซ้ำแล้วซ้ำอีกเนี่ยนะเาก็บอกว่าไอ้ตัว
00:55:27 → 00:55:31 คอร์ติซอลเขาก็จะอยู่ไม่สุกนะเขาก็จะพุ่ง
00:55:31 → 00:55:36 สวิงเวียงนะเอ่อเ่อเพราะว่ามันร่างกายไม่
00:55:36 → 00:55:40 สุขสบายนะฮะมันไม่มีพลังงานใช้นะมันเป็น
00:55:40 → 00:55:43 ทุกข์มันไม่สุขสบายนะคอซอมันก็จะพีคเยอะ
00:55:43 → 00:55:47 ขึ้นไปเรื่อยๆนะเนี่ยการที่คอซอพีคขึ้นไป
00:55:47 → 00:55:51 เรื่อยๆนะก็จะเกิดการยับยั้งการกระตุ้น
00:55:51 → 00:55:54 อินซูลินนะเพราะว่าอันนี้มันเป็นตัวลูก
00:55:54 → 00:55:59 และเป็นลูกคนเล็กด้วยเขาจะกลัวตัวแม่นะฮะ
00:55:59 → 00:56:02 งั้นหลักๆเนี่ยมันก็จะเป็นอย่างงนี้แหละ
00:56:02 → 00:56:07 นะในการที่ว่าช่วงแรกๆเออนะแอรีนเนี่ยก็
00:56:07 → 00:56:13 ออกมาเยอะดีนะแล้วก็เราฟาเรากิน ow C
00:56:13 → 00:56:15 High Good Fat อะไ T อย่างเหมาะสมกัว
00:56:15 → 00:56:19 กอนก็มาเพนั้นช่วงแรกๆที่คนเี่เข้ามาสู่
00:56:19 → 00:56:22 ในแนวทางวิถีชีวิตอ่าเพื่อสุขภาพแบบใหม่
00:56:22 → 00:56:25 พวกเนะก็จะลดน้ำหนักได้ดีจะสลายไคือสลได้
00:56:25 → 00:56:30 ดีไปๆไปๆระยะนึงเนี่ยก็จะค้างนะส่วนใหญ่
00:56:30 → 00:56:33 การที่มันน้ำหนักนิ่งค้างค่าแหบต่างๆไม่
00:56:33 → 00:56:38 ไปต่อนะเพราะว่าตัวแนีนี่แหละจะเป็นตัว
00:56:38 → 00:56:43 หลักนะฮะเพราะว่าเขาก็ออกมาไม่ได้เนื่อง
00:56:43 → 00:56:48 จากตัวแม่นะเขออกมาคุมนะเป็นหลักนะฮะ
00:56:48 → 00:56:51 เพราะฉะนั้นเขากลัวตัวแม่เพราะฉะนั้น
00:56:51 → 00:56:55 แอนลีนไม่ออกถึงจะมีูคารอนก็ทำงานในการ
00:56:55 → 00:56:59 กระกระตุ้นเอนไซม์สลายพลังงานไม่ได้ 2
00:56:59 → 00:57:01 ตัวเนี่ยต้องเด่นควบคู่
00:57:01 → 00:57:05 กันทีนี้ก็เราจะช่วยร่างกายในการสร้าง
00:57:05 → 00:57:09 แดนีเพิ่มอีกแรงนึงได้อย่างไรบ้างนะฮะนะ
00:57:09 → 00:57:12 ข้อแนะนำก็จะเป็นเรื่องของการออกกำลังกาย
00:57:12 → 00:57:16 ในช่วงที่เราฟาอยู่ยังไม่ได้กินนะอันนี้
00:57:16 → 00:57:19 จะเป็นตัวเสรนะฮะแต่รูปแบบการออกกำลังกาย
00:57:19 → 00:57:23 แบบเนี้ยนะให้เป็นแบบิเป็นหลักให้เป็นแบบ
00:57:23 → 00:57:27 อ่า High intensity High int
00:57:27 → 00:57:31 Training เป็นหลักนะฮะเนะหรือเป็นการเวท
00:57:31 → 00:57:35 วๆเพื่อสุดอ่ากล้ามเนื้อให้มันมีแรงสร้าง
00:57:35 → 00:57:39 นะต้องเป็นรูปแบบนี้นะฮะถึงจะเป็นการ
00:57:39 → 00:57:44 กระตุ้นอินซูลินนะโดยคอร์ติซอลจะไม่มาจะ
00:57:44 → 00:57:47 ไม่มาแต่ถ้าคุณไปคาร์ดิโออะไรอย่างเงี้ย
00:57:47 → 00:57:50 นะฮะนะอันนี้กระตุ้นอินซูลินเอ้ยกระต้้น
00:57:50 → 00:57:53 ติดกระตุ้นอารีนนะแต่เดี๋ยวคอร์ติซอลก็จะ
00:57:53 → 00:57:57 มานะอ่ามันไม่ไม่ไม่ใช่ไม่เหมือนกันนะฮะ
00:57:57 → 00:58:00 นะเพราะฉะนั้นออกแรงออกกำลังนะเพื่อ
00:58:00 → 00:58:04 กระตุ้นดารีนต้องเป็นฮิตหรือไม่ก็เทนะฮะ
00:58:04 → 00:58:08 นะใช้อาหารช่วยกระตุ้นก็ได้นะฮะใช้อาหาร
00:58:08 → 00:58:12 ช่วยกระตุ้นก็ได้นะแต่ฤทธิ์ของการกระตุ้น
00:58:12 → 00:58:15 แอรีนจะน้อยกว่านะฮะนะเราต้องเลือก
00:58:15 → 00:58:19 คาร์โบไฮเดรตที่แอรีนชอบอันนี้เราพอรู้
00:58:19 → 00:58:24 กันมยพอรู้มั้ยฮะอะไรน้อเป็นคาร์โบไฮเดรต
00:58:24 → 00:58:29 ที่ไปกระตุ้นแอรีนจะตอบบวกไโดยไม่กระตุ้น
00:58:29 → 00:58:30 คอร์ติซอล
00:58:30 → 00:58:34 โดยไม่กระตุ้นคอร์ติซอล
00:58:34 → 00:58:41 เอออ่าลองทายสิฮะลองทายซิเอาสัก 3
00:58:41 → 00:58:45 อย่างที่เรากินกันบ่อยๆตอนเช้าๆนี่แหละนะ
00:58:45 → 00:58:50 เนี่ยมันกระตุ้นแอรีนนะแต่ถ้ากินเยอะๆ
00:58:50 → 00:58:54 กาแฟดำครับเออกินเข้มข้นมากเกินไปเดี๋ยวเ
00:58:54 → 00:58:56 จะกระตุ้นคอร์ติซอล
00:58:56 → 00:59:04 อันที่ 2 เออแดำถูกอ่าครับผมเอาอะไรอี
00:59:04 → 00:59:10 ดีต่อไปหมอมอโต้เลยครับแีอโยนระเบิดไปให้
00:59:10 → 00:59:11 ผมอีก
00:59:11 → 00:59:16 ละเป็นคาฟที่กระตุ้นแอนลีน
00:59:16 → 00:59:19 เอออะไรน้อ
00:59:19 → 00:59:24 นะเขียวครับชาเขียวครับชาเขียวก็พอได้ฮะ
00:59:24 → 00:59:28 แต่แต่ชาเขียวเราเน้นที่สารพรึกษาเคมีอ่ะ
00:59:28 → 00:59:32 เเป็นตัวเด่นนะฮะนะเนี่ยแต่กาแฟเนี่ยมัน
00:59:32 → 00:59:37 มีคาเฟอีนเด่นนะแล้วมันเป็นคาเฟอีนในคาฟ
00:59:37 → 00:59:42 ที่เขาไปกระตุ้นอนาลีนนะ
00:59:42 → 00:59:47 เออโกพี่หอโกโก้เป็นไขมันนะฮะนะออนเด่น
00:59:47 → 00:59:51 เป็นในเรื่องของไขมันแล้วก็โกโก้เนี่ยนะ
00:59:51 → 00:59:55 เขาไม่ได้ไปกระตุ้นซาตินะฮะนะโกโก้ก็เป็น
00:59:55 → 00:59:59 ไ่แญิตัวที่ไปกระตุ้นพาราซิมพาติเพรานั้น
00:59:59 → 01:00:03 ใครที่ความดันสูงนะฮะนะความดันสูงเนี่ยนะ
01:00:03 → 01:00:07 มื้อแรกนะควรจะกินโกโก้ไม่ควรกินเป็นพวก
01:00:07 → 01:00:13 คาเฟอีนนะเโกโก้เนี่ยมันไปกระตุ้นพาตินะ
01:00:13 → 01:00:18 BP มันจะได้ลดความดันจะได้ลดลงนะมื้อแรก
01:00:18 → 01:00:22 ๆเี่กินโกโก้เนยโกโก้เลยกุณพริก้วมครับ
01:00:22 → 01:00:27 อาจารยพริกใช่ฮะเราต้มกินอันเเนี่ยยสารษั
01:00:27 → 01:00:31 เคมีก็คือแคปไซซินในพริกในพริกเนี่ยนะฮะ
01:00:31 → 01:00:34 กินแล้วมันจะรุ่มร้อนเมันจะเหงื่อออกมัน
01:00:34 → 01:00:38 จะกระตุ้นระบบซิมพาเทติกแต่ไม่กระตุ้น
01:00:38 → 01:00:42 คอร์ติซอลนะฮะไม่กระตุ้นคอร์ติซอลนะพริก
01:00:42 → 01:00:44 นี่เป็นแนะนำเป็นพริกอันตัวไหนมครับ
01:00:44 → 01:00:47 อาจารย์หรือว่าได้หมดเลยได้หมดเลยฮะได้
01:00:47 → 01:00:48 หมด
01:00:48 → 01:00:53 เลยเิฟเฮฟเมีอยู่อย่างอย่าพวกมมะแข่นของ
01:00:53 → 01:00:56 ทางภาคเหนือหรือว่าัวเจียวเใส่หมาล่าของ
01:00:56 → 01:00:59 เสฉวนอย่าเงี้ยก็ได้ใช่มั้ยครับอาจารย์ก็
01:00:59 → 01:01:02 ได้ฮะได้นะยิ่งเอยู่ในเขตอบอุ่นอากาศเย็น
01:01:02 → 01:01:05 ๆหน้าหนาวอะไรอย่าเงี้ยนะเก็สามารถที่จะ
01:01:05 → 01:01:08 ใช้พวกเนี้ยมากระตุ้นได้
01:01:08 → 01:01:13 หมดมากระตุ้นมากระตุ้นแอรีนนี่แหละนะได้
01:01:14 → 01:01:20 ได้นะและอีกอันนึงก็คือความร้อนความร้อน
01:01:20 → 01:01:26 นะไอ้พวกเนี้ยนะกระตุ้นแอรีนนะอุ่นๆร้อนๆ
01:01:26 → 01:01:27 นะ
01:01:27 → 01:01:30 เออคล้ายๆกับไปออกแรงออกกำลังอะไรต่างๆเ
01:01:30 → 01:01:35 ให้เหงื่อออกติ๊บๆ่มผ้าหรือว่าเอ่อใส่
01:01:35 → 01:01:40 เสื้อให้เยอะๆหน่อยอะไรหน่อยนะแต่อาหาร
01:01:40 → 01:01:42 เนี่ยส่วนใหญ่ส่วนใหญ่มันเป็นสมุนไพรอ่ะ
01:01:42 → 01:01:47 แหละนะที่มีฤทธิ์ร้อนนะฮะมีฤทธิ์
01:01:47 → 01:01:49 ร้อนอันนี้
01:01:49 → 01:01:54 ก็เออก็ก็อย่างเงี้ยนะก็เราส่วนใหญ่เก็
01:01:54 → 01:01:58 ใช้พวกกลุ่มกาฟแแหละนะฮะเป็นตัวกระตุ้นนะ
01:01:58 → 01:02:01 แต่จะต้องไม่เยอะไม่ไม่ไม่ไม่มากไม่เข้ม
01:02:01 → 01:02:04 ข้นเกินนะ
01:02:04 → 01:02:08 ฮะต่อไปการทำ Cheat Day นะฮะ Cheat Day
01:02:08 → 01:02:12 ก็คือหลักการก็คือว่าเอ่อการที่ทำเ่อ
01:02:12 → 01:02:17 โชนาการคต่ำนะเนี่ยนะในแง่ของโชนาการนะ
01:02:17 → 01:02:20 ถ้าทำมาเป็นระยะเวลานึงแล้วเนี่ยก็ควรจะ
01:02:20 → 01:02:23 มีการสลับในการทำค Day บ้างเฉลี่ย 1-2
01:02:23 → 01:02:27 วันต่อสัปดาห์ค Day เนี่ยก็จะเป็นการกิน
01:02:27 → 01:02:32 คาฟนะในรูปแบบที่กินได้ทั้งวันนะฮะนะคาฟ
01:02:33 → 01:02:38 เป็นตัวกระตุ้นนะแอนนาลีนนะนะนะออกมาได้
01:02:38 → 01:02:44 นะนะอันนี้ก็ต้องมีชิเดสลับนะฮะก็ประมาณ 1
01:02:44 → 01:02:47 2 3 เนี่ยที่เาจะช่วยกระตุ้นแอรีนนะแต่
01:02:47 → 01:02:51 ในวันปกติอ่า 5 วัน 6 วันอะไรอย่าเงี้ยนะ
01:02:51 → 01:02:57 เ่าก็ต้องพยายามใช้เอ่อกลูคากอนนะ
01:02:57 → 01:02:59 เป็นหลักนะสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจที่ช่วย
01:02:59 → 01:03:04 กระตุ้นนะแีนให้ออกมาได้ใหม่อีกนะฮะแต่
01:03:04 → 01:03:06 ส่วนใหญ่เราก็เน้นเรื่องของออกกำลังกายใน
01:03:06 → 01:03:08 ช่วง
01:03:08 → 01:03:12 ฟ้าอีกอันนึงเนี่ยนะฮะนะก็คือเรื่องของ
01:03:12 → 01:03:15 การควบคุมฮอร์โมนคอร์ติซอลนะเพื่อจะ
01:03:15 → 01:03:19 กระตุ้นแอรีนเนี่ยคือเมื่อไหร่ก็ตามที่
01:03:19 → 01:03:24 คอร์ติซอลเด่นอืนะพวกเนี้ยนะทุกอย่างจบ
01:03:24 → 01:03:27 หมดนะฮะไม่ว่าจะเป็นกลูคากอน
01:03:27 → 01:03:30 แอรีนหรือว่าเอนไซม์ไทรอยด์เอนไซม์เล
01:03:30 → 01:03:33 เลปตินอะไรต่างๆตัวอื่นๆเนี่ยนะก็เรียบ
01:03:34 → 01:03:37 ร้อยหมดแหละนะฮะนะเพราะฉะนั้นถ้าเกิดถ้า
01:03:37 → 01:03:39 เกิดฮอร์โมนพวกนี้ไม่ออกมาเอนไซม์ต่างๆใน
01:03:39 → 01:03:43 การสลายพอผลาพลังงานก็ไม่ทำงานนะเพรางั้น
01:03:43 → 01:03:46 เราจะควบคุมนะฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอลได้
01:03:46 → 01:03:51 อย่างไรนะฮะก็คล้ายๆกับอ่าตัวกูคารอน
01:03:51 → 01:03:55 เมื่อกี้นี้เลยนะฮะคล้ายๆกันนะคือหลักๆ
01:03:55 → 01:03:59 เนี่ยก็ดังที่เรารู้แล้วล่ะนะว่าแอรีน
01:03:59 → 01:04:01 เนี่ยเอ้ยโทษทีอินซูลินเนี่ยมันเกี่ยว
01:04:01 → 01:04:05 ข้องกับอาหารนะเกี่ยวข้องการสะสมพลังงาน
01:04:05 → 01:04:08 เกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงานจากอาหารนะ
01:04:08 → 01:04:12 แต่ตัวแม่คอร์ติซอลเนี่ยนะเคมีบางส่วนที่
01:04:12 → 01:04:14 เกี่ยวกับอาหารการกินโดยเฉพาะในเรื่อง
01:04:14 → 01:04:18 พลังงานมากกว่าสารอาหารนะฮะนะแต่ตัวแม่
01:04:18 → 01:04:21 เนี่ยจะมาวุ่นวายอยู่กับพฤติกรรมการ
01:04:21 → 01:04:24 ดำเนินชีวิตนะรวมทั้งจิตใจอารมณ์อะไรต่าง
01:04:24 → 01:04:29 ๆนะการนอนการทำไการออกแรงออกกำลังอ่าการ
01:04:29 → 01:04:33 ดำเนินชีวิตสิ่งแวดล้อมอะไต่าๆอันนี้ก็
01:04:33 → 01:04:36 เป็นบทบาททางด้านนี้นะฮะนะเพราะฉะนั้นใน
01:04:36 → 01:04:38 การปรับสมดุลฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอลก็
01:04:38 → 01:04:41 ต้องมาพยายามระแวดระวังแล้วก็ดูในเรื่อง
01:04:41 → 01:04:45 เหล่านี้นะ
01:04:45 → 01:04:49 เอนะอันนี้ก็เป็นไม่รู้ข้อสรุปนะฮะแต่ใน
01:04:49 → 01:04:53 ที่นี้ขอเน้นเรื่องฮารอนกับแอรีนนะฮะนะนะ
01:04:53 → 01:04:57 แอรีนที่จะออกมาเยอะๆนะจะต้องไม่มี
01:04:57 → 01:05:01 คอร์ติซอลติดมาด้วยนะฮะนะส่วนบทบาทใน
01:05:01 → 01:05:05 เรื่องโกดฮอร์โมนนะในเรื่องของไทรอยด์อัน
01:05:05 → 01:05:08 นี้จะอยู่ในช่วงกลางคืนตอนที่เรานอนหลับ
01:05:08 → 01:05:15 ตอนที่เราช่วงฟานะนะส่วนเลบตินแดนีนี่อ่า
01:05:15 → 01:05:18 สำหรับคนที่ความดันต่ำด้วยใช่มั้ยพี่หมอ
01:05:18 → 01:05:22 ที่ต้องกระตุ้นพวกแดนีเหมือนพี่หมอเคยพูด
01:05:22 → 01:05:27 มาครั้งนึงนะครับเอ่อใช่มาคล้ายๆกันนะฮะ
01:05:27 → 01:05:30 เนี่ยการกระตุ้นแอนลีนก็คือต้องกระตุ้น
01:05:30 → 01:05:35 แบบที่มีแดนีมาเป็นหลักแล้วคอร์ติซอลไม่
01:05:36 → 01:05:41 มาส่วนใหญ่พวกเนี้ยที่ว่าความดันต่ำอ่า
01:05:41 → 01:05:44 อะไรนะแล้วก็อ่า
01:05:44 → 01:05:49 ชีพจรเส้นช้าชอบู่ช้าเงี้ยนะเนี่ยครูก็
01:05:49 → 01:05:52 ต้องไปออกกำลังกายหลักการก็คือเก็บอกว่า
01:05:52 → 01:05:57 ไปออกกำลังกายเออนะไม่ใช่กินเบียร์เออไป
01:05:57 → 01:05:59 กินแอลกอฮอล์กระตุ้นหัวใจให้
01:05:59 → 01:06:02 ปั๊มมันไม่ใช่นะฮะ
01:06:02 → 01:06:06 นะคุณต้องใช่ๆแต่ก่อนก็ก็เคยได้ยินครับ
01:06:06 → 01:06:08 ว่าต้องกินเหล้ากิน
01:06:08 → 01:06:13 เบียร์มันไม่ใช่มันไปติดคำพูดติดปากติดคำ
01:06:13 → 01:06:17 ที่มันไม่ถูกต้องอ่ะนะนะคือคุณต้องไปฮิต
01:06:17 → 01:06:21 นี่แหละนะฮะนะนะไปฮิตไปกระตุ้นอ่าเรื่อง
01:06:21 → 01:06:26 ของนะการทำเทเนิอะไต่างๆการต้านแรงนะ
01:06:26 → 01:06:29 อาหารการกินก็ส่วนใหญ่แนะนำให้กินพวก
01:06:29 → 01:06:33 สมุนไพรแล้วก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดในแนวของ
01:06:34 → 01:06:38 โคฟเนี่ยก็มีการทำชี Day มาสลับนะอันนี้
01:06:38 → 01:06:43 ก็จะช่วยเป็นการกระตุ้นาตินะเพราะว่าอัน
01:06:43 → 01:06:48 นี้มันเป็นการยับยั้งาตินะฮะนะส่วนพารา
01:06:48 → 01:06:50 syic ไม่รู้มันจะ compensate อะไรหรือ
01:06:50 → 01:06:54 เปล่าอันนี้เราก็ไม่รู้ล่ะในแต่ละบุคคลนะ
01:06:54 → 01:06:58 แต่เพราะาิคุณถูกบล็อกถูก inhibit ถูกยับ
01:06:58 → 01:07:01 ยั้งเนี่ยนะคุณก็ต้องมีการส่งเสริมมีการ
01:07:01 → 01:07:05 กระตุ้นนะหรือมีการ stimulate นะให้เขา
01:07:05 → 01:07:09 Active ขึ้น
01:07:09 → 01:07:13 มาก็หมดแล้วนะฮะนะโดยเฉพาะในเรื่อง
01:07:13 → 01:07:16 ฮอร์โมน sens ไสเนี่ยนะฮะ
01:07:16 → 01:07:20 นะต่อไปในเรื่องของไลโปโปรตีนไสนะฮะอัน
01:07:20 → 01:07:23 นี้จะยุ่งไปหน่อยนะฮะยุ่งไปหน่อยนึงนะ
01:07:23 → 01:07:28 ไลโปโปรตีนไสเนี่ยนะนะนะนะแต่หลักๆก็คือ
01:07:28 → 01:07:32 ไลโปโปรตีนไลเปสเนี่ยเค้าถูกโฉลกกับ
01:07:32 → 01:07:38 แอรีนนะอ่าเลเลปตินออดินารีเลปตินเนี่ย
01:07:38 → 01:07:43 ตอนกลางวันนะแล้วก็ไทรรอยด์ตอนกลางคืนฮะ
01:07:43 → 01:07:48 นะอันนี้ก็จะเป็นบทความนะที่หมอเคยสรุป
01:07:48 → 01:07:54 เอามาลงให้นะว่าไี L activity นะขึ้น
01:07:54 → 01:07:59 อยู่กับอะไรบ้างนะฮะเชการทำการ exer ก็
01:07:59 → 01:08:04 คล้ายๆกับเมื่อกี้นี้นะ temp นะหรือพวกเ
01:08:04 → 01:08:11 นะกระตุ้นโดยโดยความเย็นต่างๆที่เขไปแช
01:08:11 → 01:08:14 ไแล้วก็การอสการ
01:08:14 → 01:08:19 อนี้แต่อันนี้ไม่ดีนะอันนี้เป็น py ไม่
01:08:19 → 01:08:25 เป็นนะการอักเบนี่จะกระตุ้นเอนไซม
01:08:25 → 01:08:29 เนี่ยให้ร่างกายมีการจัดหาพลังงานนะเพื่อ
01:08:29 → 01:08:34 มาช่วยรักษาการอักเสบนะอันนี้ก็ลองอ่านดู
01:08:34 → 01:08:40 นะฮะนะเนี่ยเอ่อมันก็อันนี้ก็เป็นทั่วๆไป
01:08:40 → 01:08:43 อย่างนี้แหละนะมีระยะของการกินการฟา
01:08:43 → 01:08:47 Exercise นะแล้วก็อวัยวะก็คือเนื้อเยื่อ
01:08:47 → 01:08:50 ไขมันนะแล้วก็พวกกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้าม
01:08:50 → 01:08:54 เนื้อลายกับกล้ามเนื้อหัวใจนะฮะเนี่ยมี
01:08:54 → 01:08:59 การกระตุ้นนะเอนไซมต่างๆพวกนี้นะขึ้นๆลง
01:08:59 → 01:09:06 ๆก็ไม่มีอะไรเนี่ยไปอ่านก็เข้าใจนะฮะเข้า
01:09:06 → 01:09:11 ใจอันนี้คือเป็นเรื่องเ่อไลโปโปรตีนไสนะะ
01:09:11 → 01:09:15 ในช่วงฟีดในช่วงฟานะฮะนะอันนี้ต้องอ่านนะ
01:09:15 → 01:09:20 เพราะถ้าพูดไปแล้วจะยิ่งงงโดยเฉพาะเนี่ยี
01:09:20 → 01:09:24 ไ activity นะในช่วงของการ Fast เนี่ยนะ
01:09:24 → 01:09:28 เอที่กล้ามเนื้อเป็นยังไง
01:09:28 → 01:09:32 ที่ที่เนื้อเยื่อไขมันเป็นยังไงอะไรต่างๆ
01:09:32 → 01:09:35 เนี่ยมันกับไม่เหมือน
01:09:35 → 01:09:39 กัน
01:09:39 → 01:09:46 นะสุดท้ายเรามาดูตัวเปติไสนะฮะตัวนี้ก็
01:09:46 → 01:09:50 ตัวยุ่งตัวนึงนะฮเปติไสเนี่ยนะสร้างขึ้น
01:09:50 → 01:09:54 ที่ต่ำนะฮะนะถูกควบคุมโดยอินซูลินกับ
01:09:54 → 01:09:55 คอร์ติซอล
01:09:55 → 01:09:59 นะฮะนะปกติแล้วเนี่ยเขาก็จะสร้างพร้อมๆ
01:09:59 → 01:10:04 กับ CP นะคอเลสเตอเอสเตอร์ Trans โปรตีน
01:10:04 → 01:10:08 นะฮะนะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายอยู่ใน
01:10:08 → 01:10:12 หมวดหมู่นะของการที่จะสะสมพลังงานคือ
01:10:12 → 01:10:15 พยายามเอาพลังงานที่เกินที่ล้นเอาไปเก็บ
01:10:15 → 01:10:19 นะเมื่อนั้นเนี่ยตับนะอินซูลินจะสั่งให้
01:10:19 → 01:10:25 ตับนะเนี่ยมีการสร้าง TP และเปิไสออกมานะ
01:10:25 → 01:10:29 ซึ่งจะอยู่ในระบบของไลโปโปรตีนเซนิด้าน
01:10:29 → 01:10:34 ล่างสุดเนี่ยนะฮะนะที่จะมีการนะจะต้องเอา
01:10:34 → 01:10:38 เอนไซม์ 2 ตัวนี้มาใช้นะและสุดท้ายก็จะ
01:10:38 → 01:10:43 ได้เป็น SM ldl นะกับการสลายตัวของ hdl
01:10:43 → 01:10:48 นะ hdl เพื่อไปเกิดใหม่นะฮะนะแล้วก็ตัว
01:10:48 → 01:10:52 hdl เนี่ยมันไปรับไตกีสไลมาปุ๊บนะจากการ
01:10:52 → 01:10:56 ทำทำปฏิกิริยาของเอนไซม TP แล้วก็เปติไส
01:10:56 → 01:11:00 เนี่ยอ่ามันก็จะเป็น hdl ที่มันฝืน
01:11:00 → 01:11:02 ธรรมชาติหรือมันผิดธรรมชาติไปเพราะว่า
01:11:02 → 01:11:05 ปกติก็รับคอเลสเตอรอลนะเอาไปแลกเปลี่ยน
01:11:05 → 01:11:09 เอาไลนมาไว้เนี่ยนะก็เลยมีการที่จะต้อง
01:11:09 → 01:11:15 เกิดการสลายตัวนะฮะนะสลายตัวเพื่อจะตรง a
01:11:15 → 01:11:20 A1 นะไปฟอร์มตัวใหม่นะฮะนะแล้วตัวไกิน
01:11:20 → 01:11:23 เนี่ยนะ 80% ที่เขารับมาแล้วต้องสลาย
01:11:23 → 01:11:29 เนี่ยนะนะจะไปที่ไต 80% ไปที่ตับ 20%
01:11:29 → 01:11:33 ไตรกีสไลนะที่ไปที่ไตเนี่ยเ้าจะไปเป็น
01:11:33 → 01:11:37 พลังงานให้กับไตนะฮะให้กับไตนะในการซ่อม
01:11:37 → 01:11:43 แซมตัวไตนะฮะโดยไตกลายส่วนหนึเนี่ยนะอไม่
01:11:43 → 01:11:45 ไม่ใช่ส่วนหนึ่งหรอกทั้งหมดเลยเนี่ยที่จะ
01:11:45 → 01:11:49 ไปให้ไตเนี่ยเวลาที่ hdl เขสลายตัวตรงนี้
01:11:49 → 01:11:55 นะฮะนะนะเก็จะมีกิซอกับมีี fatty Acid
01:11:55 → 01:12:00 ตัวกีอนี่แฮะเป็นตัวสำคัญนะต่อต่อหน่วยไต
01:12:00 → 01:12:02 นะนะ
01:12:02 → 01:12:08 ที่ที่เขาบอกว่าอะไรนะ ral med นะที่ว่า
01:12:08 → 01:12:11 มันจะต้องใช้แต่น้ำตาลใช่มล่ะนะมันไม่มี
01:12:11 → 01:12:16 ไมโตคอนเดรียนะฮะนะก็เลยที่ว่าเนี่ยกีอ
01:12:16 → 01:12:20 จากตรงนี้นะฮะนะจะกลายไปเป็นน้ำตาลนะให้
01:12:20 → 01:12:25 renal med ได้ใช้ในการทำงานนะต่างๆ
01:12:25 → 01:12:28 แต่ในปัจจุบันเนี่ยเราพบว่า renal med
01:12:28 → 01:12:32 เนี่ยนะสามารถ Activate นะสามารถที่จะมี
01:12:32 → 01:12:36 การ activate ด้วยคีโตนนะฮะนะคีโตนจะตับ
01:12:36 → 01:12:40 นี่แหละนะแล้วก็ตัวเตคดของมันเนี่ยนะจะ
01:12:40 → 01:12:44 ฟื้นขึ้นมาในการที่จะเอาไขมันไิหรือี้ aid
01:12:44 → 01:12:48 เนี่ยไปเปลี่ยนเป็นคีโตนต่อได้
01:12:48 → 01:12:53 นะเขก็ไม่จำเป็นนักที่จะต้องมาพึ่งไอ้กีอ
01:12:53 → 01:12:55 ที่จะกลายเป็นกูโคส
01:12:56 → 01:13:00 แล้วก็จริงๆแล้วตัวกอเนี่ยที่จะเป็นกูด
01:13:00 → 01:13:04 เนี่ยเขาจะไปให้ต่อหมวกไต adal cex ชั้น
01:13:04 → 01:13:07 นอกซะมากกว่าก็คือไกับต่อหมกไมันก็อยู่
01:13:07 → 01:13:09 ใกล้กันนี่แหละ
01:13:09 → 01:13:15 นะตัวเนี้ยนะจะถูกส่งไปที่ adal cex นะ
01:13:15 → 01:13:18 ไปเกิดกระบวนการ adaptive glucose sping
01:13:18 → 01:13:21 ในการที่จะเป็นพลางานให้ adal cex ได้
01:13:21 → 01:13:25 ใช้ในการทำงาน
01:13:25 → 01:13:30 อันนี้ไม่มีอะไรนะฮะก็เปิไสนะฮะนะเอ่อเรา
01:13:30 → 01:13:36 ต้องดูความเกี่ยวข้องกับตัวคิอนะฮะคิอกับ
01:13:36 → 01:13:39 เปิ
01:13:39 → 01:13:43 ไมันจะคล้ายๆกับอินซูลินถ้าเกิดคอร์ติซอล
01:13:43 → 01:13:47 เนี่ยจะเกิดการสะสมพลังงานนะสมมติเรากิน
01:13:48 → 01:13:51 ผิดนะแต่เราไม่ได้กระตุ้นอินซูลินเพราะ
01:13:51 → 01:13:55 เรากิน very low C กิน CD นะกินอท
01:13:55 → 01:13:58 โปรตีนไฮโปรตีนไดเอดเป็นหลักเลยนะกินวัน
01:13:58 → 01:14:02 ละมื้ออะไรอย่างเงี้ยนะแต่ในที่สุดพอคอซอ
01:14:02 → 01:14:05 ออกมาช่วงแรกๆก็ช่วยสลายเผ่าผาญพลังงาน
01:14:05 → 01:14:09 มันก็จะบล็อกตับไม่ให้สร้าง CP กับเิไฟส
01:14:09 → 01:14:14 แต่พอต่อๆไปเนี่ยต่อๆไปนะนะคอร์ติซอล
01:14:14 → 01:14:18 เนี่ยนะเเริ่มที่จะเก็บไขมันนะแล้วก็
01:14:18 → 01:14:22 เริ่มที่จะสลายแต่โปรตีนนะฮะนะแล้วการ
01:14:22 → 01:14:25 สลายต่างๆในในลักษณะนี้เนี่ยจะเป็นการ
01:14:25 → 01:14:29 สลายที่จะเก็บพลังงานต่อก็จะเกิดการ
01:14:30 → 01:14:33 กระตุ้นให้ตับเนี่ยสร้างเปิไสออกมา
01:14:33 → 01:14:38 เยอะก็เกิดการเก็บพลังงานเพราะฉะนั้น hdl
01:14:38 → 01:14:48 ก็จะลด
01:14:48 → 01:14:53 ลงคือมันจะมีการเปลี่ยนแปลงนะของเปิไสนะ
01:14:53 → 01:14:57 ฮะนะนะใน 3 รูปแบบนะฮะซึ่งเกี่ยวข้องกับ
01:14:57 → 01:15:02 ฮอร์โมนอ่าตัวคอร์ติซอลนะฮะคอร์ติซอลนะ
01:15:02 → 01:15:07 เป็นหลักคือเิไสเนี่ยมันอยู่ที่อินซูลิน
01:15:07 → 01:15:09 กับคอร์ติซอลแต่ตอนนี้เรากิน ow Car
01:15:10 → 01:15:12 แล้วนะเพราฉะนั้นอินซูลินค่อนข้างจะตัดไป
01:15:12 → 01:15:17 ได้ยกเว้นว่าคุณเอ่อมีพวกค้าแฝงหรือมี
01:15:17 → 01:15:20 อินซูลินถูกกระตุ้นมาจากอะไรก็ไม่รู้ล่ะ
01:15:20 → 01:15:23 นะฮะนะอันนี้อีกเรื่องนึงนะฮะแต่เราเอา
01:15:23 → 01:15:27 พยายามโฟกัสใน่เรื่องแชของซอที่จะมีผลต่อ
01:15:27 → 01:15:30 เอนไซม์ตัวนี้นะซึ่งก็จะอยู่ใน 3 รูปแบบ
01:15:30 → 01:15:33 นะฮะใน 3 รูปแบบ
01:15:33 → 01:15:37 เหมอก็มีข้อสรุปให้นะฮะฮอร์โมนคอร์ติซอล
01:15:37 → 01:15:40 ที่ถูกกระตุ้นออกมามากๆตๆบ่อยๆตาม
01:15:40 → 01:15:44 ธรรมชาติเเรียก syic นะฮะ simulation นะ
01:15:44 → 01:15:48 ฮะโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มี Body type อ่า
01:15:48 → 01:15:52 ที่เป็นแบบปรุงเครียดแนอนะฮะเ่อคอร์ติซอล
01:15:52 → 01:15:56 อันเนี้ยนะฮะจะส่งสัญญาณให้ตับต้างเปติไส
01:15:56 → 01:16:01 ออกมาเยอะนะออกมาเยอะนะฮะคือในลักษณะนี้
01:16:01 → 01:16:05 ก็เป็นลักษณะนะของของการเก็บสะสมพลังงาน
01:16:05 → 01:16:08 นะโดยคอร์ติซอลในคนที่มีรูปแบบที่เป็น
01:16:08 → 01:16:11 กรุง
01:16:11 → 01:16:14 เทียดเพราะฉะนั้นพรุงเทียดเนี่ยนะเาใช้
01:16:14 → 01:16:17 คอร์ติซอลในการเก็บสะสมพลังงานนะ
01:16:17 → 01:16:21 คอร์ติซอลก็เลยบอกให้ตับสร้างเปติไลเปส
01:16:21 → 01:16:25 เยอะๆนะเสร็จแล้วเปติไลเปสตัวนี้ก็มาสลาย
01:16:25 → 01:16:29 hdl นะเพราะฉะนั้นพวกนี้ก็จะมีผลที่จะทำ
01:16:29 → 01:16:33 ให้ hdl ลดลงและขณะเดียวกันมี Small ldl
01:16:33 → 01:16:35 เพิ่มขึ้นนะ
01:16:35 → 01:16:43 ฮะนะเนี่ยสนจะเพิ่มนะตัว hdl ก็จะลดลงนะ
01:16:43 → 01:16:46 ก็สลายไปเป็นอะไรต่างๆที่ต่อหมวกไตแล้วก็
01:16:46 → 01:16:48 ที่
01:16:48 → 01:16:54 ต่าอันนี้เป็น physiologic นะนะซึ่งพบมาก
01:16:54 → 01:16:55 ในคนที่
01:16:55 → 01:17:00 ที่ที่อ้วนนะดื้ออินซูลินนะแล้วก็มีบอ
01:17:00 → 01:17:03 type ในแบบปรุงเครียดนะหรือแม้แต่เวลา
01:17:03 → 01:17:09 คุณมากินโคาฟตัดคฟอะไรแล้วก็ตามนะฮะนะแช
01:17:09 → 01:17:11 คอร์ติซอลในลักษณะนี้เนี่ยก็ยังค่อนข้าง
01:17:11 → 01:17:15 มากอยู่นะฮะเพราะฉะนั้นก็เลยทำให้คนสาย
01:17:15 → 01:17:19 เนื้อปรุงเครียดนะที่มีพื้นฐานที่น้ำหนัก
01:17:19 → 01:17:23 มันเยอะๆแล้วมันอ้วนๆมาก่อน่าเงยนะฮนะ
01:17:23 → 01:17:26 ส่วนนึงเนี่ยส่วนนึงนะนะน้ำหนักก็จะนิ่ง
01:17:26 → 01:17:29 ค้างหรือไปต่อหญ้านะแล้วขณะเดียวกันเวลา
01:17:29 → 01:17:33 ตรวจบเนี่ยนะคนสาย adal type เนี่ยรูป
01:17:33 → 01:17:37 ร่างแบบนี้นะเราจะพบว่า hdl จะไม่สูงนะฮะ
01:17:37 → 01:17:41 เอจะกินไขมงไขมันอิ่มตัวจะออกแรงออกกำลัง
01:17:41 → 01:17:45 อะไรต่างๆนะนะนะมันก็ขึ้นไม่เยอะอ่ะ 50
01:17:45 → 01:17:49 กว่านะ 60 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะจะพุ่งๆไป
01:17:49 → 01:17:55 ที่ 80 90 อะไยากมากนะฮนะอันนี้ก็เป็น
01:17:55 → 01:17:57 สาเหตุนึงเพราะว่าเรื่องของ physiologic
01:17:57 → 01:18:01 นะอ่าในแง่ของการมี
01:18:01 → 01:18:04 เอ่ออะไรอ่ะคอร์ติซอลฮอร์โมนที่ค่อนข้าง
01:18:04 → 01:18:10 สะสมเยอะอยู่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนะอัน
01:18:10 → 01:18:13 อีก 2 อันต่อมาเนี่ยนะฮะนะก็คือคอซอที่
01:18:13 → 01:18:16 ถูกกระตุ้นออกมาีๆบ่อยๆในกระบวนการตอบ
01:18:16 → 01:18:19 สนองนะอ่าต่อร่างกายในแง่ของการเผ่าผาญ
01:18:19 → 01:18:23 พลังงานซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงแรกๆนะคือ
01:18:23 → 01:18:27 หลายคนก็คือกินพการแนวใหม่มี Modify ไสล
01:18:27 → 01:18:31 เนี่ยแต่ปรากฏว่ามันอาจจะมีความผิดพลาดนะ
01:18:31 → 01:18:36 ก็เป็นการไปกระตุ้นตัวคอซอมานะนะโดยเฉพาะ
01:18:36 → 01:18:39 ในช่วงแรกๆแต่เนื่องจากว่าเรา ow เราไม่
01:18:39 → 01:18:45 มีพลังงานตามปกตินะจากอาหารเนี่ยนะก็เลย
01:18:45 → 01:18:48 คิอตัวแม่ก็ต้องหาพลังงานให้ได้นะก็เลย
01:18:49 → 01:18:51 เกิดปฏิกิยาเผาผลนพลังงานเป็นหลักในช่วง
01:18:51 → 01:18:56 แรกนะเพรางั้นการเผาผานอันจริงๆแล้วเนี่ย
01:18:56 → 01:19:00 คอไม่ได้เผาผลาโดยตรงนะจะเป็นการสั่งให้
01:19:00 → 01:19:06 เกิดการเผาผลาโดยแีนนะที่เขาจะมาคู่กันนะ
01:19:06 → 01:19:09 นั้นช่วงแรกเนี่ยแีนก็จะมาเผาผลาพลังงาน
01:19:09 → 01:19:13 ให้แนก็จะไปเอาไขมันมาเผานั่นแหละนะฮะ
01:19:13 → 01:19:16 เนี่ยแล้วคอซอก็จะมีการส่งสัญญาณให้กระ
01:19:16 → 01:19:20 ตับสร้างเอนไซมเปติไดอ่าส่วนใหญ่อันนี้
01:19:20 → 01:19:25 เป็นการส่งสัญญาณในแง่สร้างให้น้อยหรือ
01:19:25 → 01:19:28 การยับยั้งอ่ะยับยั้งการสร้างเฮติไฟสนะฮะ
01:19:28 → 01:19:32 เพราะฉะนั้นคนพวกเนี้ยนะ hdl มันจะสูงนะ
01:19:32 → 01:19:36 นะแล้วก็ ldl ไเก็จะเพิ่มด้วยนะอันนี้
01:19:36 → 01:19:40 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนเ่อที่กินถูกหรือไม่ก็
01:19:40 → 01:19:45 เป็นพวกสายแป้งในระยะแรกๆนะฮะ
01:19:45 → 01:19:51 นะทในระยะนานๆไปแล้วอย่างเงี้ยนะฮะนะ
01:19:51 → 01:19:55 เนี่ยถ้าเราไม่เข้าใจแล้วยังกินผิดๆอยู่
01:19:55 → 01:19:59 นะฮะนะเนี่ยกระบวนการตอบสนองอ่าต่อพลัง
01:19:59 → 01:20:02 งานของร่างกายในแง่ที่คอร์ติซอลเปลี่ยนใจ
01:20:02 → 01:20:06 เออเกิดการสะสมพลังงานในช่วงหลังๆนะอัน
01:20:06 → 01:20:10 นี้ก็จะเป็นการคล้ายๆอินซูลินเนี่ยสะสม
01:20:10 → 01:20:14 พลังงานปุ๊บจะกระตุ้นตับให้สร้างเปติไส
01:20:14 → 01:20:17 และ CP ออกมาเยอะแต่ในเง่คอร์ติซอลเจะ
01:20:17 → 01:20:20 สร้างตัวเปติไมากกว่า
01:20:20 → 01:20:23 TP ซึ่งในลักษณะนี้ก็จะคล้ายๆอินซูลิน
01:20:23 → 01:20:26 ที่จะทำให้ hdl ลดลงแล้วก็ Small ll
01:20:26 → 01:20:31 เพิ่มขึ้นก็จะมี 3 คนะของเรื่อง hepatic
01:20:31 → 01:20:36 Li นะฮะซึ่งจะเกี่ยวข้องกับคอร์ติซอลนะ
01:20:36 → 01:20:40 ก็ต้องดูให้ออกต้องดูให้ออกนะฮะว่าอ่าคน
01:20:40 → 01:20:43 แต่ละบุคคลตอนเมากิน low C High Good
01:20:43 → 01:20:45 Fat แล้วแต่ค่าบเป็นอย่างเงี้ยเพราะว่า
01:20:46 → 01:20:50 Action ตอนนี้นะของคอร์ติซอลของเปติไส
01:20:50 → 01:20:54 เนี่ยเขาเป็นในสไตล์หรือในรูปแบบไหน 1 2
01:20:54 → 01:20:59
01:20:59 → 01:21:02 รูปนี้ก็ขยายใหญ่ขึ้นนะฮะหวังว่าดูแล้ว
01:21:02 → 01:21:06 น่าจะสบายตาขึ้นนะก็ไปเติมบางสิ่งบาง
01:21:06 → 01:21:13 อย่างนะเ hdl ถูกออ่าถูกเปิไสเนี่ย
01:21:13 → 01:21:16 เปลี่ยนให้เป็น Small ldl แล้วก็เกิดการ
01:21:16 → 01:21:20 สลายตัวนะก่อนสลายตัวเนี่ยมันก็มีชื่อของ
01:21:20 → 01:21:23 มันอีกอย่างนึงอ่ะลึกๆเลยนะฮะนะอะไรก็ไม่
01:21:23 → 01:21:28 รู้นะแล้วก็เกิดเนี่ยการ delete นะไอ้ตัว
01:21:28 → 01:21:34 อะไร AO A1 ออกไปนะฮะแล้วก็กลับกลับกลับ
01:21:34 → 01:21:39 เข้าสู่ระบบนะที่จะไปสร้างตัว hdl ตัว
01:21:39 → 01:21:43 ใหม่นอกจากนั้นก็จะมีพลังงานต่างๆเนี่ย
01:21:43 → 01:21:48 ที่จะไปเปลี่ยนแปลงที่ไตนะฮะแล้วต่อหมนะ
01:21:48 → 01:21:51 อันนี้จะเป็นหนทางหลักเลยของตัว hdl
01:21:51 → 01:21:55 เนี่ยที่เขารับไ LINE มาส่วนนี้ ldl ที่
01:21:55 → 01:22:00 ไปรับตัวไกินมานะก็จะมาถูกเิไสเปลี่ยน
01:22:00 → 01:22:04 เป็น Small ldl ไปเรื่อยๆนะแล้วก็จะกลับ
01:22:04 → 01:22:05 เข้าสู่ตั
01:22:06 → 01:22:11 เป็นสนได้ไม่ได้เนี่ยก็แล้วแต่รตที่ตัด
01:22:11 → 01:22:15 เนาอ่าเพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะมีพวด้านบน
01:22:15 → 01:22:18 กับด้านล่างนะฮะนะก็ดังที่บอกด้านบนเนี่ย
01:22:18 → 01:22:22 นะก็จะเป็นช่วงที่สลายเผาผลาญเพื่อจะเอา
01:22:22 → 01:22:26 ไปซ่อมนะไปซ่อมนะสนจะซ่อมได้หรือไม่ได้
01:22:26 → 01:22:29 อีกเรื่องนึงนะฮะนะถ้าซ่อมไม่ได้กดยูริก
01:22:29 → 01:22:35 ว่าสูงนะแต่ถ้าซ่อมได้กดยูริกมันก็น้อยนะ
01:22:35 → 01:22:40 ฮะส่วนข้างล่างเนี่ยสะสมนะพวกนี้กดยูริก
01:22:40 → 01:22:41 เยอะ
01:22:41 → 01:22:45 นะอันนี้หมายถึงออกมาจากตับแล้วนะมันจะมี
01:22:45 → 01:22:49 2 เส้นทางนะนะอันนี้ก็รูปอ่านี้ไม่ต้อง
01:22:49 → 01:22:53 เอาก็ได้เอานี้นะเนี่ยก็ที่มาที่ไปของคิอ
01:22:53 → 01:22:55 นะฮะว่า
01:22:55 → 01:22:58 นะถ้าตามปกติเนี่ยนะหรือในแบบแรกเลยที่
01:22:59 → 01:23:01 หมออธิบายเมื่อกี้เนี่ยสำหรับ adin เนี่ย
01:23:01 → 01:23:04 นะฮะนะรวมทั้งเนี่ยมีการกิน ow C High
01:23:05 → 01:23:07 F อะไรต่างๆออกแดงออกกำลังทำไอย่างถูก
01:23:07 → 01:23:10 ต้องเหมาะสมเนี่ยนะอันนี้ปฏิกิริยาของ
01:23:10 → 01:23:14 คอร์ติซอลในการตอบสนองเนี่ยนะนะก็จะเป็น
01:23:14 → 01:23:16 เรื่องของการส่วนใหญ่จะเป็นการเผาผลาญ
01:23:16 → 01:23:19 พลังงานนะฮะนะ
01:23:19 → 01:23:22 เนี่ยเป็นตัวตัดสิน่าเรื่องของพลังงานว่า
01:23:22 → 01:23:25 จะเผาผลาหรือจะสะส่งถ้าเป็นแบบนี้เนี่ย
01:23:25 → 01:23:29 ถ้าเป็นแบบนี้นะคอซอออกมาตามปกติไม่เยอะ
01:23:29 → 01:23:33 นะและมักจะช่วยเผาผลาพลัง
01:23:33 → 01:23:37 งานแต่ถ้าเป็นแบบร่างอเนี้ยสิ่งต่างๆที่
01:23:37 → 01:23:40 ไม่ถูกต้องต่างๆนะแล้วยิ่งไปกระตุ้นคอซอ
01:23:40 → 01:23:44 ออกมาเนี่ยนะพวกนี้แอรีนไม่มานะถูกบล็อก
01:23:44 → 01:23:49 นะแต่ด้านบนนี่แอรีนมาคซมาคซมาปกติแนีมา
01:23:49 → 01:23:54 มากนะแอรีนช่วยคอซอสลายเผ่าผานพลังงานนะ
01:23:54 → 01:23:59 แต่ด้านล่างเนี่ยนะคอร์ติซอลมานะแต่มามาก
01:23:59 → 01:24:03 นะแอรีนไม่มานะฮะแล้วเสร็จแล้วเกิดการ
01:24:03 → 01:24:06 เปลี่ยนใจเป็นการสะสมพลังงานเพราะเราทำ
01:24:06 → 01:24:09 อะไรต่างๆที่ไม่
01:24:09 → 01:24:12 ถูกคือปฏิกิริยาของคอร์ติซอลเที่ถูก
01:24:12 → 01:24:15 กระตุ้นออกมาเรารู้แล้วว่าฮอร์โมนตัวแม่เ
01:24:15 → 01:24:20 เป็นปฏิปัตติกับโปรตีนโปรตีนนะงั้นเวลา
01:24:20 → 01:24:24 ที่คิอสลายเผาผลาญพลังงานเนี่ยนะนะเขาจะ
01:24:24 → 01:24:31 สลายโปรตีน 60 สลายไขมัน 40 แชการสลายไข
01:24:31 → 01:24:34 มันเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นแชแอรีนที่มาด้วย
01:24:34 → 01:24:37 นะเพราะคอร์ติซอลสลายไขมันไม่ได้แต่
01:24:37 → 01:24:43 คอร์ติซอลสลายกดอะมิโนได้นะฮะกดอได้นะเ
01:24:43 → 01:24:47 โดยการสั่งการที่ต่ำนะนะส่วนการสั่งการ
01:24:47 → 01:24:51 สลายไขมันไซนเป็นผลมาจากแอรีนที่มาร่วม
01:24:51 → 01:24:56 กันกับคอร์ติซอลไขมันนี้ 40% นะแต่พลัง
01:24:56 → 01:25:00 งานที่จะมาจากโปรตีนโดย Action ตคิอโดย
01:25:00 → 01:25:01 ตรงเ
01:25:01 → 01:25:05 60% มันจะเป็นสัดส่วนแบบนี้อันนี้ค่อย
01:25:05 → 01:25:15 ตัดนะ deion Nut นะก็เนี่ยนะก็รู้มานาน
01:25:15 → 01:25:18 แล้วนี้เราก็มาดูเรื่องนิดนึงในเรื่องของ
01:25:18 → 01:25:22 กถูกกระตุ้นมาเมื่อไหร่แล้วก็จะควบคุมเข
01:25:22 → 01:25:26 ยังไงนะฮะคอร์ติซอลถูกกระตุ้นออกมามากๆ
01:25:26 → 01:25:31 เมื่อเมื่ออะไรนะก็เนี้ยเมื่อเมื่อ
01:25:31 → 01:25:33 พฤติกรรมของเรานะ
01:25:33 → 01:25:38 หิวกินไม่อิ่มนะฮะพลังงานไม่พอนะเอ
01:25:39 → 01:25:43 Balance นะฮะนะกินไม่เป็นนะอดไม่เหมาะสม
01:25:43 → 01:25:49 นะฮะมีเรื่องเครียดไม่สบายใจนอนไม่ดีนะ
01:25:49 → 01:25:53 ฮะมีการออกแรงออกกำลังอย่างหนักนานและหัก
01:25:53 → 01:25:57 โหมนะนะหรือระบบทางเดินอาหารมีความผิด
01:25:57 → 01:26:02 ปกตินะในแง่ของการย่อยและการดูดซึมออาหาร
01:26:02 → 01:26:05 และสารอาหารต่าง
01:26:05 → 01:26:13 ๆน้ำย่อยมีฤทธิ์เป็นปวดจะแรงขึ้น
01:26:13 → 01:26:17 เมื่อขณะเดียวกันน้ำดีเมีเรื่อง 2 น้ำนะ
01:26:17 → 01:26:19 น้ำย่อยกับน้ำดีดีที่จะเป็นผลปวงมาจาก
01:26:19 → 01:26:24 คอร์ติซอลต่อระบบทางเดินอาหารนะฮะเนี่ย
01:26:24 → 01:26:28 หลักๆคือน้ำดีน้ำดีก็จตับจแล้วก็ถุงน้ำดี
01:26:28 → 01:26:35 นะฮะจะออกมาได้ดีเมื่อน้ำย่อยจะแรงขึ้น
01:26:35 → 01:26:39 เมื่อแต่ถ้าเรามีความเครียดระบบทางเดิน
01:26:39 → 01:26:41 อาหารทำงานผิดปกตินะฮะ
01:26:42 → 01:26:45 อ่าสิ่งที่ระบุไว้เหล่าเนี้ยนะมันจะไม่
01:26:45 → 01:26:50 ปกตินะมันจะไม่ปกตินะซึ่งมีผลทำให้น้ำ
01:26:50 → 01:26:55 ย่อยและน้ำดีผิดปกติพิซก็จะยิ่งออกมาเยอะ
01:26:55 → 01:26:59 ๆๆๆๆ
01:26:59 → 01:27:05 ขึ้นที่ปริมาณของเอ่อฮอร์โมนคอร์ติซอลนะ
01:27:05 → 01:27:11 อ่าพอเหมะนะอ่าเกินหรือขาดนะอันนี้เป็น
01:27:11 → 01:27:15 ลักษณะนะเรื่องของคอร์ติซอลที่ถูกกระตุ้น
01:27:15 → 01:27:22 นะในชีวิตประจำวันต่างๆของเรานะคอซอจะออก
01:27:22 → 01:27:25 มาพอหมอกนะหรือเป็นการควบคุมคอร์ติซอล
01:27:25 → 01:27:28 นั่นเองนะฮะอันนี้ก็คือเป็นการควบคุมทาง
01:27:29 → 01:27:33 อ้อมโดยน้ำดีจากนะฮะนะั้งในแง่ของการ
01:27:33 → 01:27:39 สร้างและการดูดกับนะตับสร้างน้ำดีนะได้
01:27:39 → 01:27:42 ได้จากไมันอิ่มตัวอะไรต่างๆเหล่าเนี้นะ
01:27:42 → 01:27:47 ที่พูดกันไปเป็นแผนภาพแห่งปีนะเสร็จแล้ว
01:27:47 → 01:27:52 มีการขับน้ำดีออกมานะแล้วก็มีการดูดกลับ
01:27:52 → 01:27:55 น้ำดีจากลำไส้เล็ก
01:27:55 → 01:27:58 นะถ่ายเป็นยังไงท้องปลูกมั้ยอะไรอย่างงี้
01:27:58 → 01:28:02 นะฮะนะจุลินทรีย์อะไรต่างๆมีสมดุลดีหรือ
01:28:02 → 01:28:06 เปล่านะฮะเหล่านี้จะทำให้การหมุนเวียนของ
01:28:06 → 01:28:11 น้ำดีอ่าปกตินะก็จะเป็นการกระตุ้นฮอร์โมน
01:28:11 → 01:28:12 คอร์ติซอล
01:28:12 → 01:28:19 ในระดับพอดีพอดีแต่กรณีที่คอร์ติซอลจะมา
01:28:19 → 01:28:24 มากมาเกินนะฮะนะเนี่ยก็นะเพราะอะไรเพราะ
01:28:24 → 01:28:27 ว่าจะมีการดูดกลับเกือน้ำดีมากขึ้นำเส้มี
01:28:27 → 01:28:32 การเคลื่อนไหวช้านะเกิดอาหารและกดไหลย้อน
01:28:32 → 01:28:37 นะต่างๆนะมีระบบการย่อยหรือการถ่ายผิด
01:28:37 → 01:28:41 ปกติการสร้างน้ำดีลดลงนะเพราะว่ากินไม่
01:28:41 → 01:28:46 ถูกนะฮะกินไขมันไม่เป็นนะก็เลยวัตถุดิบใน
01:28:46 → 01:28:49 การที่จะไปสร้างน้ำนงน้ำดีอะไรต่างๆนะผิด
01:28:49 → 01:28:52 ปกตินะการดูดกับเกลือน้ำดีไม่ดีนะเพราะลำ
01:28:53 → 01:28:57 ไส้มีปัญหาหานะก็แล้วแต่จะเป็นลิขี้กัดทำ
01:28:57 → 01:28:58 ไส้แปรปรวน
01:28:58 → 01:29:02 เออซึ่งทั้งหมดเนี้ยนะมันจะย้อนกลับมาที่
01:29:02 → 01:29:07 เรื่องของฮอร์โมนคอร์ติซอลนะจะผิดปกตินะ
01:29:07 → 01:29:11 ฮะอนี้หมายถึงระบบทางเดินอาหารนะที่จะ
01:29:11 → 01:29:15 เป็นการกระตุ้นนะหรือทำให้คอร์ติซอลพอดี
01:29:15 → 01:29:18 เกินหือขา
01:29:18 → 01:29:22 เนาะแล้วเคล็ดลับใน 1 วันที่จะควบคุม
01:29:22 → 01:29:26 คอร์ติซอลก็ทำยังไงบ้างนะฮะ
01:29:26 → 01:29:30 นะในกรณีของระบบทางเดินอาหารนะฮะที่จะมี
01:29:30 → 01:29:34 ปัญหาต่างๆนะหรือกำลังต้องมีการรักษา
01:29:34 → 01:29:37 เรื่องเนี่ยเรื่องดิสเปปเซียเอ่อโรค
01:29:37 → 01:29:40 กระเพาะเรื้อรังกดไหลย้อนหรือมีปัญหาใน
01:29:40 → 01:29:45 ระบบน้ำดีนะท่อน้ำดีต่างๆนะฮะนะอันนี้เ
01:29:45 → 01:29:48 บอกว่าแนะนำให้มีการปรับไขมันนะโดยเพิ่ม
01:29:48 → 01:29:52 ไขมันอิ่มตัวให้เท่ากับหรือมากกว่าไม่
01:29:52 → 01:29:56 อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเล็กโนะฮะคือจริงๆไาย
01:29:56 → 01:29:59 มันอิมตัวก็ 30% ไม่อิตัวเชิงเดี่ยวฟ่าก็
01:29:59 → 01:30:03 50 เป็น 80 นะฮะนะเพราะฉะนั้นในกรณีที่
01:30:03 → 01:30:07 นะจะต้องปรับนะปัญหาในระบบการเดือนอหาร
01:30:07 → 01:30:11 เนี่ยเราจะอาจจะต้อง 40 40 นะทั้งอิ่ม
01:30:11 → 01:30:16 กับเดี่ยวนะฮะนะหรืออิ่มตัว 50 อ่าเชิง
01:30:16 → 01:30:21 เดี่ยวเ่อลดลงมาเหลือ 30 นะอะไนะอันนี้ก็
01:30:21 → 01:30:24 แนะนำให้มีการเพิ่มนะไขมันอิ่มตัวที่เป็น
01:30:24 → 01:30:29 เรฟต่างๆใครทั้งฟองอ่าวัวกาสเดนะฮะเนยแท้
01:30:29 → 01:30:33 เนยใสโกโก้เนื้อมะพร้าวถั่วพีนัสนะฮะนะ
01:30:34 → 01:30:39 ถั่วเปลือกแข็งต่างๆเนยถั่วต้องลด
01:30:39 → 01:30:44 ลงกินอิ่มแบบพอดีๆดีอะไรอย่างงี้นะฮะนะ
01:30:44 → 01:30:46 อันนี้ก็เหมือนคล้ายๆการควบคุมพวกปดไห
01:30:46 → 01:30:49 ย้อนนี่แหละนะฮะหรือการควบคุมเรื่องของ
01:30:49 → 01:30:54 ทานิอ่า Time ต่างๆนะที่เป็นอ่ากระบวนการ
01:30:54 → 01:30:57 ย่อยนะหรือเกิดการบีบตัวไล่อาหารอะไรต่าง
01:30:58 → 01:31:02 ๆซินะของกระเพาะลำไส้นะนะก็บอกให้กินมี
01:31:02 → 01:31:06 ปริมาณความจุ 80% ของกระเพาะไม่อิ่มแป้
01:31:06 → 01:31:10 หรืออิ่มจนล้นนะมีการเคี้ยวเหลวนะฮะนะ
01:31:10 → 01:31:13 เขี้ยวเหลวก่อนกลืนอะไรอย่างงี้นะฮะมีการ
01:31:13 → 01:31:18 ใช้อ่ากดเปรี้ยวอ่ามาช่วยในมื้ออาหารหรือ
01:31:18 → 01:31:24 กินก่อนอาหารอ่าเพื่อช่วยในการย่อยนะ
01:31:24 → 01:31:27 เลี่ยงยารดกดแคลเซียมคาร์บอเนตนี้นะแล้ว
01:31:27 → 01:31:31 ก็มีการใช้ผักใบผักหัวนะฮะนะอันนี้ส่วน
01:31:31 → 01:31:34 ใหญ่เนี่ยเขาก็จะเน้นในเรื่องของวิตามิน
01:31:34 → 01:31:38 เกลือแร่เอนไซม์นะอ่าก็ต้องเป็นผักใบผัก
01:31:38 → 01:31:42 หัวผักดองนะผักดองวิตามินเกลือแร่เอนไซม์
01:31:42 → 01:31:44 แล้วก็
01:31:44 → 01:31:49 เอ่อมันมันมีสารพรึกษาเคมีบางกลุ่มเนี่ย
01:31:49 → 01:31:52 นะฮะบางกลุ่มนะเนี่ยอันนี้เขจะช่วยใน
01:31:52 → 01:31:57 เรื่องการขับถ่ายซันปฟนอะไรพวกนี้นะนะ
01:31:57 → 01:32:01 แล้วก็จะเป็นตัวกระตุ้นไอ้อุลต้าไทโอนนะ
01:32:01 → 01:32:04 นะเพื่อมประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซมตับ
01:32:04 → 01:32:09 ในการ detoxification นะรวมทั้งอ่าการ
01:32:09 → 01:32:15 สร้างเือน้ำดีนะที่ช่วยในการดีท็อกเนะ
01:32:15 → 01:32:20 ฮะ
01:32:20 → 01:32:24 เก็อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรนะฮะนะอีกส่วนนึง
01:32:24 → 01:32:28 นะในความเกี่ยวข้องเนี่ยนะเอ่อของพวก
01:32:28 → 01:32:32 เอนไซม์ต่างๆเหล่าเนี้ยนะก็คือเรื่องของ
01:32:32 → 01:32:36 เนี่ยเรื่องของพลังงานสารอาหารนะฮะนะอ่า
01:32:36 → 01:32:43 เรื่องของไทรอย์นะฮะเรื่องของไตอ่านี้นะ
01:32:43 → 01:32:46 ที่เขาก็จะมาเกี่ยวข้องนะแล้วก็จะแสดงผล
01:32:46 → 01:32:50 ออกมาในแง่ของตัวค่าแลบพวก hdl นะฮะแล้ว
01:32:50 → 01:32:54 ก็ Small เนอ่าต่างๆเนี่ย
01:32:54 → 01:32:57 อันนี้ก็เป็นจริงๆแล้วพวกนี้ในที่สุด
01:32:57 → 01:33:00 เนี่ยมันก็จะมาผ่านเรื่อง
01:33:00 → 01:33:07 คิอก็หมดแล้วฮะนะวันนี้คุยแค่นี้นะฮะยาว
01:33:07 → 01:33:11 ไปมั้ยไม่รู้กลัวจะ
01:33:11 → 01:33:14 สับสนครับประมาณชั่วโมงครึ่งครับพี่หมอไป
01:33:14 → 01:33:18 จุ๊กไปจิ๊กไปหน่อยนะฮะเออผมมีข้อสงสัย
01:33:18 → 01:33:20 อย่างนึงพี่หมอ
01:33:20 → 01:33:22 อือย่าง
01:33:22 → 01:33:25 ไอ้เทสโทสเตอโรนอะไรพวกนี้มันเป็นกลุ่ม
01:33:25 → 01:33:29 ฮอร์โมนรุกเทพใช่ไหมครับพี่หมอใช่เออมัน
01:33:29 → 01:33:32 มันมีเคสอย่างพวกอ่าอย่างพวกบ Builder
01:33:32 → 01:33:36 เนี่ยที่เาพวกนี้ส่วนมากเาก็เป็นชาร
01:33:36 → 01:33:38 เบิร์นอ่ะนะเพราะเขาก็กินจากคาฟเนี่ยอ
01:33:38 → 01:33:42 แล้วแล้วเฉีดพวก
01:33:42 → 01:33:46 เทสโตสีกันยังไงอ่ะครับพี่
01:33:46 → 01:33:49 หมอคือมัน Take Action ได้ได้ยังไงเพราะ
01:33:49 → 01:33:53 ว่าพเป็นาตามธรรมชาติของร่างกายนั่นแหละ
01:33:53 → 01:33:57 นะในเมื่อร่างกายปกติเค้าก็ต้องผลิตมาใน
01:33:57 → 01:34:02 ระดับที่เพียงพอหรือพอเหมาะสำหรับคนๆนั้น
01:34:02 → 01:34:05 แต่คุณก็ต้องวางพื้นฐานเรื่องสุขภาพอะไร
01:34:05 → 01:34:08 ต่างๆให้เหมาะสมด้วยนะแต่คุณอาจจะต้อง
01:34:08 → 01:34:11 เร่งอยากอยากอย่างงู้นอยากอย่างงี้นะอ
01:34:11 → 01:34:15 เติมเป็นสารสังเคราะห์อะไรต่างๆเข้าไปนะ
01:34:15 → 01:34:18 ในที่สุดเนี่ยการผลิตเ่ะวงจรการผลิตนมัน
01:34:18 → 01:34:22 ก็จะลดลงลดลงลดลงมันก็ขี้เกียจนั่นแหละนะ
01:34:22 → 01:34:26 ฮะเพราะว่าเหมือนกับว่าอยู่ดีๆก็มีมาให้
01:34:26 → 01:34:26 นะ
01:34:27 → 01:34:31 เอ่อแล้วเงี้ยนะแล้วิหนามต้มบางทีก็มีมา
01:34:31 → 01:34:34 เยอะเกินไปด้วย 2 เท่า 3
01:34:34 → 01:34:39 เท่ามันก็ก็จะไม่ผลิประเด็นคือมันทำงาน
01:34:39 → 01:34:42 พร้อมกับช่วงที่อินซูลินมาได้ด้วยใช่ไหม
01:34:42 → 01:34:44 ครับพวกเนี้ยหมายถึงว่าพวกที่ฉีดเพิ่ม
01:34:44 → 01:34:47 เข้าไปหรืออะไรอย่างเงี้ยครับก็ใช่มัน
01:34:47 → 01:34:48 เป็นการ
01:34:48 → 01:34:53 บังคับอ๋อคือการให้กลุ่มฮอร์โมนเนี่ยที่
01:34:53 → 01:34:57 มีโครงสร้างพื้นฐานเป็นพวกเ่อคอเลสเตอรอล
01:34:57 → 01:35:02 อย่างเช่นอะไรอย่างเช่นเอ่อคอร์ติซอลถ้า
01:35:02 → 01:35:04 คุณไปกินยา
01:35:04 → 01:35:08 เซินคอินอะไรต่างๆ
01:35:08 → 01:35:12 เินพวกเนี้ยปกติร่างกายมันก็ต้องผลิตคอซอ
01:35:12 → 01:35:14 อยู่แล้วเพราะเป็นฮอร์โมนพื้นฐานตัวแม่
01:35:14 → 01:35:17 ที่สำคัญมากๆแต่พอคุณน่ะไปเป็นภูมิแพ้
01:35:17 → 01:35:21 เป็นอะไรก็ไม่รู้ว่าที่มีมี
01:35:21 → 01:35:25 มีมีการสั่งการสายที่ต้องให้สเตียรอยด์นะ
01:35:25 → 01:35:29 ในที่สุดเนี่ยนะต่อหมวกไตมันก็ไม่ผลิตไม่
01:35:29 → 01:35:31 สร้างนะมันก็พึ่งสเตียรอยด์สังเคราะ
01:35:31 → 01:35:35 สเตียรอยด์ที่คุณแอด on เข้าไปนะแล้วใน
01:35:35 → 01:35:38 ที่สุดคุณก็จะมีปัญหานะร่างกายก็ขาด
01:35:38 → 01:35:41 สเตียรอยด์ไม่ได้นะแล้วพอใส่เข้าไปเราก็
01:35:41 → 01:35:45 ไม่รู้ว่าพอไม่พอส่วนใหญ่มันก็เกินเอ่อ
01:35:45 → 01:35:51 คุณก็มีปัญหากบอะไขึ้นอืก็แปลว่าพวกรครับ
01:35:51 → 01:35:53 พวกฮอร์โมนพวกเนี้ยคือถ้าเป็นธรรมชาติ
01:35:53 → 01:35:55 เนี่ยมันก็จะทำงานสลับกันอยู่แล้วคือถ้า
01:35:55 → 01:35:58 ตัวแม่ตัวพ่อออกมาตัวลูกก็จะไม่ออกอย่าง
01:35:58 → 01:36:01 งี้ใช่มั้ยครับพี่หมอใช่แต่ว่าถ้าถ้าเรา
01:36:01 → 01:36:03 ไปใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์เพื่อที่จะไปเร่ง
01:36:03 → 01:36:06 มันให้มันมาเนี่ยมันก็ออกมาพร้อมกันได้
01:36:06 → 01:36:09 เหมือนกันใช่มยครับใช่ออกมาพร้อมกันได้
01:36:09 → 01:36:15 เพะคงไปบังคับนะคงจะบังคับเแต่ผลพวงที่จะ
01:36:15 → 01:36:20 ตามมาในระยะท้ายๆระยะเวลานานๆเออนะร่าง
01:36:20 → 01:36:25 กายเก็จะเก็จะเฉื่อยเหนื่อยอินิไม่สร้าง
01:36:25 → 01:36:28 ไม่ปฏิบัติงานตามปกติคุณไปพักงานก็นาน
01:36:28 → 01:36:31 เกินไปก็ทำกลับมาแล้วก็ทำงานไม่
01:36:31 → 01:36:34 เป็น
01:36:34 → 01:36:37 อืครับพอดี
01:36:37 → 01:36:41 อ่าเปิดผ่านแล้วก็เสงสัยว่าอย่างพวกบอร์
01:36:41 → 01:36:43 เนี่ยเคกินกันทั้งวันอยู่แล้วล่ะแล้วก็
01:36:43 → 01:36:45 กินพวกคาฟอะไรพวกนี้หนักเนี่ยคืออินซูลิน
01:36:45 → 01:36:49 พุ่งกระฉูทั้งวันอยู่แล้วแต่ว่าเาก็ฉีด
01:36:49 → 01:36:52 ฮอร์โมนเข้าไปด้วยก็เลยเอ๊มันมันทำงาน
01:36:52 → 01:36:56 พร้อมกันได้เหรออะไรอย่างเงี้ยครับอ๋อได้
01:36:56 → 01:37:00 นะเพราะยังไงก็ตามสารสังเคราะห์ที่เราฉีด
01:37:00 → 01:37:05 แล้วแอด on เข้าไปเนี่ยมันมีผลช่วงสั้นๆ
01:37:05 → 01:37:09 อืครับผมาฉีดแล้วถ้าดื้อคุณก็ต้องเพิ่ม
01:37:09 → 01:37:12 โดสไปเรื่อยๆแต่ทุกอย่างมันไม่ใช่สิ่งที่
01:37:12 → 01:37:13 เป็นไปตาม
01:37:13 → 01:37:20 ธรรมชาตินะในที่สุดเล้างลาแก่ตัวไปหรือ
01:37:20 → 01:37:24 หรือสุดท้ายอะไรอย่างเงี้ยนะมันก็มีผแผม
01:37:24 → 01:37:27 ฟังหลายๆคนที่เขาแบบว่าออกจากวงการปากอ่ะ
01:37:27 → 01:37:30 ครับแล้วเเยังบอกว่าเหมือนกับว่าบางที
01:37:30 → 01:37:33 เนี่ยต่อมต่อมที่ผลิตฮอร์โมนชนิดนั้นๆบาง
01:37:33 → 01:37:36 ในบางคนเนี่ยไม่ผลิตเลยนะก็นั่นแหละมัน
01:37:36 → 01:37:40 เียไปแล้วเอเออคือบางคนก็อาจจะผลิตน้อยจะ
01:37:40 → 01:37:43 ต้องจะต้องมีการฟื้นฟูกับหมอเอ็นโดคายใช่
01:37:43 → 01:37:45 มั้ยครับแต่บางคนก็ไม่ผลิตเลยก็ต้องใช้ยา
01:37:45 → 01:37:49 ตลอดชีวิตเลยก็มีใช้ยาไปแล้วก็ใช้ในขนาด
01:37:49 → 01:37:53 น้อยที่สุดควบคุมอาการให้ได้มากที่สุด
01:37:53 → 01:37:56 อ๋อไม่ใช่เรื่องที่ดีนะฮะไม่เรดีหลายๆ
01:37:57 → 01:37:59 เรื่องหลายๆอย่างที่มันเป็นอะไรตาม
01:37:59 → 01:38:03 ธรรมชาติที่ฮอร์โมนเหล่าเนี้ยจะต้องมาตาม
01:38:03 → 01:38:07 ปกติของร่างกายเนี่ยนะมันก็มีอันเป็นไปนะ
01:38:07 → 01:38:09 ส่วนใครจะเป็นมากเป็นน้อยเป็นขนาดไหนก็
01:38:09 → 01:38:15 แล้วคือบางคนก็ใช้เป็นรอบๆไงฮะรอบๆนะ
01:38:15 → 01:38:20 เมีการพักมีการทอดเวลาอะไรต่าง
01:38:20 → 01:38:25 ๆแต่ถ้าคนไม่รู้เรื่องก็ไม่มีเกณฑ์น่ะไม่
01:38:25 → 01:38:30 มีกฎเกณฑ์อะไรที่จะใช้มันก็พวกนี้มันก็
01:38:30 → 01:38:35 เอ่อปักๆๆอย่างเดียวทุกวีทุกวันคือในระยะ
01:38:35 → 01:38:38 ยาวพวกระบบอ่าอวัยวะที่มันสร้างฮอร์โมน
01:38:38 → 01:38:40 มันก็จะเลี่ยงกันไปหมดอืเพราะมันไม่ได้
01:38:40 → 01:38:46 สร้างนานใช่มั้ยพี่หมอครับอือืมครับ
01:38:46 → 01:38:49 ผมโอเคเข้าใจแล้ว
01:38:49 → 01:38:55 ครับมีใครสงสัยอะไรเรื่อง
01:38:55 → 01:39:00 เอนไซม์ในตารางของระบบเมตาบอลิก
01:39:00 → 01:39:05 มมันก็จะมี 4 ตัวนี่แหละนะฮะฮอร์โมน sens
01:39:05 → 01:39:10 ไสนะไลโปโปรตีนไสตัวเเป็นตัวที่เ่าเยอะ
01:39:10 → 01:39:15 ที่สุดในระบบในระบบไลโปโปรตีนนะที่มักจะ
01:39:16 → 01:39:19 เกี่ยวกับไลโปโปรตีนไลเปสนี่แหละแล้วก็
01:39:19 → 01:39:22 เปิ
01:39:22 → 01:39:27 ไส GP
01:39:27 → 01:39:33 อะไรพวกเมันเป็นข้าๆเป็นทฤษฎีอ่ามันก็
01:39:33 → 01:39:37 ต้องมีการอ่านทำความเข้าใจแต่บางทีเดี๋ยว
01:39:37 → 01:39:42 ก็ลืมอะไรเงี้ยแต่ถ้าได้คิดได้เอามาใช้
01:39:42 → 01:39:46 เอ่อเอามานึกถึงอยู่บ่อยๆแล้วก็มาผูก
01:39:46 → 01:39:49 เรื่องผูกราวในตัวอย่างเคสต่างๆเหล่า
01:39:49 → 01:39:53 เนี้ยเนี่ยเราก็จะเราก็จะค่อนข้างมีมัน
01:39:53 → 01:39:57 ไว้ในใจอ่ะนะแล้วก็อ่าเอาออกมาใช้งานได้
01:39:57 → 01:40:02 นะจนเชี่ยวชาญชำนาญโหพี่หมอผมยกตัวอย่าง
01:40:02 → 01:40:08 แค่หมู 3 ชั้นนี่คนยังเกาหัวแกกๆๆ
01:40:08 → 01:40:12 ๆยังไม่ได้ลงถึงเอนไซม์เลยพี่
01:40:12 → 01:40:15 หมอพี่หมอพูดมาเป็นปีแล้วนะเอนไซม์ 4 ตัว
01:40:15 → 01:40:19 เนี่ยใช่พูดตั้งแต่ตั้แรกๆตั้งแต่อีแผน
01:40:19 → 01:40:23 ภาพแรกๆ EP ต้นๆเลยเนี่ยอี 4 ตัวเนี่ยนะ
01:40:23 → 01:40:27 เนี่ยเรื่อง hdl เพูดถึง c ใช่กับเปิไส
01:40:27 → 01:40:32 นี่แหละคนไม่เขใจ
01:40:32 → 01:40:34 ใช่
01:40:34 → 01:40:40 เออส่วนเรื่องเลตินเนี่ยนะฮะนะเลตินเนี่ย
01:40:40 → 01:40:43 อืมัน
01:40:43 → 01:40:48 ก็มันก็มันก็มีบทบาทของเค้าพอสมควรนะเล็บ
01:40:48 → 01:40:51 ตินเนี่ยบอกให้เพราะว่าอย่างสมมุติเรากิน
01:40:51 → 01:40:54 นอกบ้านเนี่ยบางีไปกินแล้วเนี่ยมันรู้เลย
01:40:54 → 01:40:59 อ่ะว่ามันไม่อิ่มอ่ะนะถึงจะกินิๆเท่าไหร่
01:40:59 → 01:41:02 เท่าไหร่เท่าไหร่ไม่อิ่มแต่ถ้าเหิดเราควบ
01:41:02 → 01:41:06 คุมแล้วเราทำในบ้านได้เนะมันมันมีความ
01:41:06 → 01:41:09 อิ่มก็คือมันเหมือนเตินถูกกระตุ้นนะอิ่ม
01:41:10 → 01:41:14 คือเลปตินใช่มเกระตุ้นถูกกระตุ้นออกมานะ
01:41:14 → 01:41:17 แล้วมันก็หยุดได้นะเพราะว่าใส่เข้าไปอีก
01:41:17 → 01:41:21 ไม่ได้แล้วล่ะแต่หมายความว่าวัตถุดิบนะ
01:41:21 → 01:41:25 การปรุงนะรูปแบบอาหารอะไรต่างๆเนี่ยนะ
01:41:25 → 01:41:28 มื้อแรกมื้อเย็นอะไรต่างๆเนี่ยมันต้องถูก
01:41:28 → 01:41:32 ต้องอันเนี้ยเความการควบคุมอินซูลินการ
01:41:32 → 01:41:35 ควบคุมคอร์ติซอลการควบคุมเลปตินอะไรต่างๆ
01:41:35 → 01:41:38 อิ่มหิวอะไรต่างๆเนี่ยเออมันก็เป็นไปตาม
01:41:38 → 01:41:44 ปกติแต่พอคุณไปกินนอกบ้านนั้นเองนะคนปรุง
01:41:44 → 01:41:47 เไม่รู้เรื่องฮอร์โมนไม่รู้เรื่องอาหาราบ
01:41:47 → 01:41:50 ต่ำคาบสูงอะไรนักหรอกเก็ปรุงให้อร่อยให้
01:41:50 → 01:41:53 แซ่บอะไรต่างๆแต่สิ่งเหล่านั้นเนี่ยนะนะ
01:41:53 → 01:41:56 นี่แหละมันเป็นบล็อกเล็บตีนนะฮะนะมันก็มี
01:41:56 → 01:41:59 แต่กินเข้าไปกินเข้าไปกินเข้าไปนะแล้ว
01:41:59 → 01:42:05 เสร็จแล้วไงอ่ะมันเหมือนคือเาเรียกว่ามัน
01:42:05 → 01:42:08 กินแล้วมันมันไม่อิ่มเอกินนอกบ้านเนี่ย
01:42:08 → 01:42:12 มันไม่อิ่มอิ่มแป๊บเดียวเออกินในบ้าน
01:42:12 → 01:42:15 เนี่ยเราก็จะไม่รู้สึกว่าอิ่มนนะแต่พอกิน
01:42:15 → 01:42:19 เสร็จแล้วเราจบแล้วมันไม่หิวกินในบ้านทำ
01:42:19 → 01:42:23 ถูกต้องคุณจะไม่หิวเพราะเลปตินออกมาแล้ว
01:42:23 → 01:42:27 เล็บตินเนี่ยเเคลียร์เรื่องความอิ่มจน
01:42:27 → 01:42:30 กระทั่งคุณไม่หิวนะฮะแต่คุณไปกินนอกบ้าน
01:42:30 → 01:42:33 เนี่ยคุณไปกินนอกบ้านนะ
01:42:33 → 01:42:39 นะคือคือคุณก็ไม่หิวอ่ะแต่มันไม่อิ่มมัน
01:42:39 → 01:42:44 ไม่อิ่มแล้วไงรู้เปล่าคนพวกนี้นะพอกลับมา
01:42:45 → 01:42:48 บ้านก็ต้องมาหากินซอกๆคือข้างนอกบ้าน
01:42:48 → 01:42:52 เนี่ยก็กินมาแล้วนะ 2 ชาม 3 ชามแต่พอมา
01:42:52 → 01:42:56 กลับมาบ้านเนี่ยนะมันก็ต้องมาทำอาหารใน
01:42:56 → 01:43:00 รูปแบบที่เอ่อมีข้อกำหนดที่จะให้เล็บติน
01:43:00 → 01:43:04 มาทำให้เราให้เราอิ่มแล้วก็ไม่หิวอ่ะนะ
01:43:04 → 01:43:07 แล้วก็จบเนี่ยคือไม่งั้นมันไม่จบนะฮะไม่
01:43:07 → 01:43:11 จบนะมันมันต้องมาจบที่บ้านนะเพราะฉะนั้น
01:43:11 → 01:43:15 เนี่ยในปัจจุบันเนี่ยนะฮะปัญหาพวกเนี้ย
01:43:15 → 01:43:18 ที่หมอเจอนะที่คุยๆแล้วก็สรุปเป็นประเด็น
01:43:18 → 01:43:21 พวกเยมาได้ก็คือแนวโน้มเราต้องทำอาหารกิน
01:43:21 → 01:43:23 เองควบคุมการผลิต
01:43:23 → 01:43:27 นะไปซื้อโดยเฉพาะปรุงเนี่ยต้องปรุงเอง
01:43:27 → 01:43:29 ส่วนไปซื้อมาเนี่ยมันอาจจะมีนอกมีในมี
01:43:29 → 01:43:34 โน่นมีนี่ไม่ออร์แกนิคไม่การดเป็ดไม่เอ่อ
01:43:35 → 01:43:38 อะไรต่างๆเนี่ยแต่เวลามาปรุงนี่แหละ
01:43:38 → 01:43:41 สำคัญนะในเรื่องที่คุณจะควบคุมอินซูลิน
01:43:41 → 01:43:44 เลตินคอร์ติซอลนะ
01:43:44 → 01:43:48 ฮะอันเนี้ยเเป็นฮะนะที่ต่อๆไปหมอว่าจะ
01:43:48 → 01:43:50 ต้องมีการพูด
01:43:50 → 01:43:54 ถึงคุณมีสิทธิ์ที่จะกินในบ้านกินนอกบ้าน
01:43:54 → 01:43:57 นะอย่างกินนอกบ้านเนี่ยคุณมีเงินจะกิน
01:43:57 → 01:43:59 อย่างโงนกินอย่างงี้กินอร่อยกินนั่นกิน
01:43:59 → 01:44:03 นี่มีโปรโมชั่นรแรกแจกแถมอะไรเยอะแยะไป
01:44:03 → 01:44:07 หมดเลยแต่คุณควบคุมอะไรต่างๆได้แค่ไหนนะ
01:44:07 → 01:44:10 แล้วฮอร์โมนเป็นยังไงแล้วการตอบสนองใน
01:44:10 → 01:44:13 เรื่องของความหิวความอิ่มเรวมทั้งสารสื่อ
01:44:13 → 01:44:16 ประสาทอะไรต่างๆนะ
01:44:16 → 01:44:20 เนี่ยไอ้อาหารนอกบ้านนี่ตัวไหนมงครับ
01:44:20 → 01:44:23 อาจารย์ที่มันเป็นบล็อกเลตินทำให้เรากิน
01:44:23 → 01:44:25 อยู่หลักๆปรุงชูรสหรือว่าเครื่องปรุงตัว
01:44:25 → 01:44:28 ไหนครับส่วนใหญ่คือเครื่องปรุงนั่นแหละฮะ
01:44:28 → 01:44:30 หรือว่าน้ำหรือว่าน้ำตาลหรือว่าเป็นอะไร
01:44:30 → 01:44:33 ฮะอาจารคือเครื่องปรุงอ่ะที่มันแอดวานไป
01:44:33 → 01:44:38 หมดแล้วนะโต้งนะอ้าคุณไปเซเว่นหรือไปร้าน
01:44:38 → 01:44:40 สะดวกซื้อหรืออะไรต่างๆเนี่ยที่ที่เทำ
01:44:40 → 01:44:43 เป็นแพ็คก้้งแพ็คกิ้งขายมาแล้วเก็มา
01:44:43 → 01:44:47 เจียรไนเรื่องอะไรอ่ะเอ่อส่วนประกอบของ
01:44:47 → 01:44:50 โภชนาการมีอะไรบ้างเแล้วเก็ใส่โน่นนี่
01:44:50 → 01:44:53 นั่นนิดๆหน่อยๆ ins เต็มไปหมดเลยอะไอย่า
01:44:53 → 01:44:57 เงี้ยนะเสิ่งเหล่าเนี้ยเนี่ยมันมันเป็น
01:44:57 → 01:45:02 ตัวชูโรงเลยนะที่จะเป็นตัวบล็อก
01:45:02 → 01:45:05 เลตินคือเราต้องขึ้นมาอีกสเต็ปนึงนะจาก
01:45:06 → 01:45:09 เรื่องอินซูลินกับคอร์ติซอล
01:45:09 → 01:45:13 เอ่อเนี่ยเลปตินเนี่ยส่วนหนึงการกินนอก
01:45:13 → 01:45:15 บ้านกิน
01:45:15 → 01:45:19 แล้วกินนแล้วเนี่ยมันอาจจะลดความหิวแต่
01:45:19 → 01:45:23 มันไม่อิ่มเออมันไม่อิ่มมันมีปัญหากับ
01:45:23 → 01:45:27 เล็บตินนะแล้วพอกลับมาบ้านก็มาทำโน่นทำ
01:45:27 → 01:45:31 นี่กินเสริมเข้าไปจบนะเอ่อพอเราควบคุม
01:45:31 → 01:45:35 เล็บดิน
01:45:35 → 01:45:39 ได้นะก็ก็อย่างงี้แหละลองคิดคิดดูแล้วกัน
01:45:39 → 01:45:44 เนี่ยนี้มันเป็นปัญหาอย่างนึงนะ
01:45:44 → 01:45:48 เออ่ะเรามาดูนอกบ้านนี่มันกินอะไรแทบไม่
01:45:48 → 01:45:51 ได้จริงๆนะเนี่ยแทบจะไม่ได้เลยยิ่งเรารู้
01:45:51 → 01:45:55 เยอะๆเออยิ่งเรารู้ไอ้โน่นไอ้นี่ไม่ได้
01:45:55 → 01:46:00 ผลไม้ไม่ได้ inss ไม่ได้ปรุงแต่งไม่ได้
01:46:00 → 01:46:02 แิงไม่ได้แล้ว
01:46:02 → 01:46:06 นะหมอหมอเอ้วใช้คำว่าอะไร Super Normal
01:46:06 → 01:46:10 stimuli stimuli ก็คือพวกอะไรนะปรุง
01:46:10 → 01:46:13 แต่งจนแบบอร่อยเกินกว่าธรรมชาติมอบไพพี่
01:46:13 → 01:46:16 หมอก็นี่ไงแหละเนี่ยแล้วก็มามีผลในเรื่อง
01:46:16 → 01:46:20 มันเป็นมันเป็นศาสตร์ศาสตร์นึงอนะครับพี่
01:46:20 → 01:46:23 หมอในวงการอาหารอ่ะอืคือทำให้ให้เกิดการ
01:46:23 → 01:46:25 เสพติดอ่ะ
01:46:25 → 01:46:29 อืคือมันแปลกมน่ะมีอะไรอะไรตงๆเดี๋ยวนี้
01:46:29 → 01:46:32 ทำไมเต้องใส่น้ำตาลกันไปหมดเลยเพราะว่า
01:46:32 → 01:46:35 เราก็พยายามดูในคลิปที่เ้าทำอาหารแชร์
01:46:35 → 01:46:38 เรื่องอาหารอะไรต่างๆเนี่ยทุกรูปทุกแบบ
01:46:38 → 01:46:40 อะไรต่างๆมันต้องมีการเหยาะน้ำตาลใช้น้ำ
01:46:40 → 01:46:44 ตาลใช้ผลไม้ใช้อะไรอย่างเงี้ย
01:46:44 → 01:46:49 นะเฮ้อก็ไม่รู้อ่ะนะแล้วแล้วบอ type อื่น
01:46:49 → 01:46:52 ๆอย่างอย่างเอสโตรเจนที่ซึ่งเค้าก็เป็น
01:46:52 → 01:46:55 สายเนื้อเหมือนกันเนี่ยหรือว่าพวกสายแป้ง
01:46:55 → 01:46:59 ไปเลยเนี่ยอาจารย์มันมีปัญหาลดยากน้ำหนัก
01:46:59 → 01:47:02 ค้างแบบพวกุ่งเครียดมั้ยฮะออมีปัญหาหรือ
01:47:02 → 01:47:05 ว่ามีปัญหาแบบดื้อเลบตินกินแล้วมันมัน
01:47:05 → 01:47:07 เบรกไม่อยู่แบบนี้เหมือนกันก็เป็นเหมือน
01:47:07 → 01:47:13 กันครับมีหมดเลยใช่อืมีปัญหาหมดเลยนะอ๋อ
01:47:13 → 01:47:16 มีมีได้ทุกทุกพุงเลยไม่ไม่จำเป็นว่าต้อง
01:47:16 → 01:47:18 เป็นพุงเครียด
01:47:18 → 01:47:25 ใช่ใช่อมีได้ทุกทุกรูป
01:47:25 → 01:47:28 แบบ
01:47:28 → 01:47:30 เ้อ
01:47:30 → 01:47:34 อ่าเคสเนี้ยนะฮะเคสนี้ก็เป็นเคสคนรู้จัก
01:47:34 → 01:47:39 นะคือคนนี้เนี่ยเอ่อช่วงนึงเนี่ยเค้าก็
01:47:39 → 01:47:41 ผอมแล้วก็เป็นเบาหวานแบบผอมแต่ก็ไม่ได้
01:47:42 → 01:47:45 เป็นมากนะฮะทนี้เขาคก็ไหวตัวทันแล้วก็
01:47:45 → 01:47:48 เป็นคนรักตัวกลัวตายรักสุขภาพอะไรต่างๆ
01:47:48 → 01:47:51 นี่แหละนะเก็พยายามมารีวมาเรียนรู้ใน
01:47:51 → 01:47:56 เรื่องโลภ High แอะไรต่างๆยการคต่ำทำไ
01:47:56 → 01:48:00 อะไรต่างๆนะก็คนนี้ก็ประมาณสัก 5 ปีไป
01:48:00 → 01:48:05 แล้วล่ะฮะนะนะเสร็จแล้วนะก็มีการ foll
01:48:05 → 01:48:09 กันมาตลอดนะฮะนะล่าสุดล่าสุดประมาณช่วง
01:48:09 → 01:48:14 ซักเกือบๆปีนึงเนี้ยก็คือคือปี 2024 นี่
01:48:15 → 01:48:19 แหละนะฮะนะก็ด้วยหน้าที่การงานแล้วก็ก็
01:48:19 → 01:48:22 อายุประมาณเนี้ยยังจะต้องต้องรับผิดชอบเร
01:48:22 → 01:48:24 เรื่องงานเรื่องรายได้เรื่องครอบครัว
01:48:24 → 01:48:28 เรื่องการเงินอะไรต่างๆเยอะเลยล่ะนะฮะนะ
01:48:28 → 01:48:31 แล้วก็เป็นผู้หญิง
01:48:31 → 01:48:36 อ่อสูง 160 กว่าแต่น้ำหนักก็แค่ก็คือเป็น
01:48:36 → 01:48:40 เป็นผอมนะฮะนะเป็นสมส่วนค่อนผอมน้ำหนัก
01:48:40 → 01:48:44 เกือบตกเกณฑ์นะเอ่อรู้สึกว่าจะสูงประมาณ
01:48:44 → 01:48:48 160 นี่แหละแต่น้ำหนักประมาณ 54 หรือไง
01:48:48 → 01:48:54 เี้นะ 53 54 เออนะก็เป็นรูปร่างแบบปรุง
01:48:54 → 01:48:59 ตับนะฮะนะไม่ได้เอารูปมาล่าสุดเนี่ยมีการ
01:48:59 → 01:49:02 ไป foll เนี่ยตรวจแลบทุกๆ 6 เดือนก็ปรากฏ
01:49:02 → 01:49:04 ว่ามันเป็นอย่างเงี้ยคแลบมันออกมาเป็น
01:49:04 → 01:49:10 อย่างเงี้ยนะเก็เลยถามมาเนี่ยนะว่าอ่ามัน
01:49:10 → 01:49:12 เป็นอะไรเพราะอะไรอะไรต่างๆเหล่านี้แหละ
01:49:12 → 01:49:15 นะฮะนะที่เขาตกอกตกใจเนี่ยก็คือเหมือนกับ
01:49:15 → 01:49:21 ว่าไอ้ตัวไอ้น้ำตาลตอนเช้าเนี่ย 148 นะ
01:49:21 → 01:49:26 คืออันนี้มันเหมือนมันเกินฟมอไปคือมัน
01:49:26 → 01:49:31 เกินพ di ไปเยอะอ่ะนะฮะนะแล้วก็ตัว a ของ
01:49:31 → 01:49:33 เขาอ่ะเดิมเนี่ยมันไม่เคยเกิน 6 อันนี้
01:49:34 → 01:49:38 มันเด่นมันพุ่งขึ้นมาเป็น 6.3 นะฮะคือน้ำ
01:49:38 → 01:49:43 ตาลก็สูงแล้วก็นันสะสมก็ 6.3 เลยนะอย่าง
01:49:43 → 01:49:47 อือันนี้สายผอมคนผอมเตีก็มันก็ต่ำนะส่วน
01:49:47 → 01:49:51 ใหญ่ต่ำกว่า 0.7 ในผู้หญิงด้วยนะอย่าง
01:49:51 → 01:49:54 อื่นไม่ได้ตรวจอะไอะไนะเโฟกัสเรื่องน้ำ
01:49:54 → 01:49:57 ตาลกับไขมันนะทนี้ในเรื่องของอะไปิด
01:49:57 → 01:50:01 โปรไฟลเซนินะก็ทุกอย่างมันดูต่ำไปหมดเลย
01:50:01 → 01:50:05 นะเนี่ยนะแล้วก็ที่สำคัญก็คือไอาหาร hdl
01:50:05 → 01:50:08 เนี่ยก็น้อยกว่า 0.5 นะ
01:50:08 → 01:50:13 เอ่อดูแล้วเหมือนคล้ายๆกับคล้ายๆกับร่าง
01:50:13 → 01:50:17 กายมันมันมันแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานเ่ะมัน
01:50:17 → 01:50:21 มีมันมีมันขาดพลังงานเนี่ยนะแล้ว
01:50:21 → 01:50:25 ก็หือไม่ได้ใช้อ่ะไม่ได้ใช้พลังงานเพราะ
01:50:25 → 01:50:28 กินไม่ถูกอะไรต่างๆเแต่ว่าประวัติอย่างง
01:50:28 → 01:50:31 นี้นะฮะประวัติเนี่ยคนคเนี้ยกินถูกต้องนะ
01:50:31 → 01:50:37 กินถูกต้องในระดับในระดับพอดีถึงค่อนข้าง
01:50:37 → 01:50:43 อเอลิมิอ่ะที่จะกินนะฮะนะแต่มาช่วงซัก
01:50:43 → 01:50:46 เกือบๆปีมาเนี่ยหน้าที่การงานก็คือเาต้อง
01:50:46 → 01:50:50 มีการเคลื่อนไหวมากนะฮะนะแล้วก็มีการเดิน
01:50:51 → 01:50:54 ขึ้นเดินลงอะไรต่างๆนะนะไอ้พวกอ่าที่ทำ
01:50:54 → 01:50:58 งานอะไรต่างๆที่มันเป็นมันเป็นมันเป็น 3
01:50:58 → 01:51:01 ชั้นก็จริงแต่ว่ามันไม่ได้มีลิฟตมีอะไรนะ
01:51:01 → 01:51:03 แต่งานเนี่ยมันเหมือนเป็นงานเอกสารงาน
01:51:03 → 01:51:06 อะไรต่างๆที่ต้องขึ้นต้องลงอะไรต่างๆนะ
01:51:06 → 01:51:10 เนี่ยยเอ่อเค้าเป็นร้านขายของนะฮะนะก็
01:51:10 → 01:51:13 ต้องเอาโน่นเอานี่มาสต๊อกเอาขึ้นเอาลง
01:51:13 → 01:51:14 อะไรต่าง
01:51:14 → 01:51:18 ๆเพราะงั้นสรุปแล้วคนเนี้ยนะฮะคนเนี้ยก็
01:51:18 → 01:51:21 เป็นสายพุงตับนะแล้วปรากฏว่า
01:51:21 → 01:51:25 เอ่อไอ้ตัวอะไปิดโปรไฟลเซนทเนี่ยเนี่ยเรา
01:51:25 → 01:51:29 จะเห็นว่าไกต่ำนะแล้วก็อัตราส่วนอะไรเงี้
01:51:29 → 01:51:33 ต่ำนะแต่โปรตีนเซนิเนี่ยอยู่ในเกณฑ์ดีหมด
01:51:33 → 01:51:37 ดีหมดเพราะว่าเขาเข้าใจเเข้าใจนะแล้วเขา
01:51:37 → 01:51:41 ก็บอกว่าการที่ไรปิดเนิเนี่ยมันเป็น
01:51:41 → 01:51:45 ลักษณะนี้เนี่ยนะรวมทั้งแต่กอหารต่ำกว่า
01:51:45 → 01:51:49 0.55 นะเขาก็คิดว่าเป็นเพราะว่าเขออกแรง
01:51:49 → 01:51:53 ออกนะเยอะเกินไปนะโดยเฉพาะแตไนเนี่ยมัน
01:51:53 → 01:51:57 ต่ำมากเลยโดยเฉพาะผู้หญิงต่ำกว่า 40 เรา
01:51:57 → 01:52:00 ถือว่าต่ำขาดพลังงานนะฮะขาดพลังงานเพราะ
01:52:00 → 01:52:09 คุณใช้มันแบบวมันเป็นเหมือน Over
01:52:09 → 01:52:11 tring เรื่องสำคัญก็คือเรื่องข้างบนนี่
01:52:12 → 01:52:16 แหละนะว่านะเาก็กิน ow คาฟอยู่นะฮะนะแต่
01:52:16 → 01:52:21 อาจจะมีการเติมพลังงานที่จะกินเป็นพวกอ่า
01:52:21 → 01:52:25 ขนมหรือผลไม้บ้างบ้างนะฮะบ้างเราจะเห็น
01:52:25 → 01:52:30 ว่าไินะเมิไม่ได้เลยนะร่างกายไม่สะสมพลัง
01:52:30 → 01:52:34 งานเลยรวมทั้งไตกิลพื้นๆที่จะมีอยู่เนี่ย
01:52:34 → 01:52:39 ซึ่งก็ควรจะเกิน 40 เนี่ยถูกถูก Negative
01:52:39 → 01:52:44 นะแคลอรี่ไปด้วยนะฮะนะถูกเอาไปใช้
01:52:44 → 01:52:49 ด้วยแต่ปรากฏว่ามันมาเด้งที่น้ำตาลมันมา
01:52:49 → 01:52:55 เด้งที่น้ำตาลคือในลักษณะเเราก็แนะนำเขไป
01:52:55 → 01:52:59 ว่าให้ไปตรวจคือเขาเป็นคนผอมนะเป็นคนผอม
01:52:59 → 01:53:03 เรามีประวัติเคยเป็นนะเคยควบคุมได้แล้วมา
01:53:04 → 01:53:07 มาเด้งกันไปอีกนะก็เลยตอนนี้ต้องมีเวสเกต
01:53:07 → 01:53:11 หมดเลยท้องฟิอินซูลินซเบตนะฮะนะแล้วก็จะ
01:53:11 → 01:53:16 ดูเรื่องของเ่อปริมาณฟิอินซูลินคู่กับม่า
01:53:16 → 01:53:22 เไม่ได้ทุนะแล้วก็ให้ดูเรื่องตาเออ
01:53:22 → 01:53:29 ดูเรื่องตักดูเรื่องการอักเสบนะฮะ
01:53:29 → 01:53:33 ssdp เพราะฉะนั้นคนพวกที่เป็นสายแป้ง
01:53:33 → 01:53:38 แล้วก็ผอมๆพวกเนี้ยนะฮะพมพวกเเนี่ยเห็นม
01:53:38 → 01:53:41 เวลาร่างกายมันขาดพลังงานเนี่ยถึงคุณจะ
01:53:41 → 01:53:46 เติมคาฟเติมไขมันอะไรก็เหอะนะฮะนะคุณเติม
01:53:46 → 01:53:50 ได้หมดแหละนะฮะนะจะกินแบบเ่อ 5 หมู่หรือ
01:53:50 → 01:53:55 จะกินไ C ไโปรตีน High Fat อะไรต่างๆนะ
01:53:55 → 01:53:57 แต่ว่า High Cup High Fat นี่ต้อง
01:53:57 → 01:54:00 เลือกคนละเวลานะซึ่งคนนี้เเข้าใจนะฮะนะ
01:54:00 → 01:54:04 เพราะว่าเอยู่มา 5 ปีแล้วนะนะเนี่ยแต่
01:54:04 → 01:54:09 ปรากฏว่านะเค้าก็อ่าพอเข้าใจน่ะในเรื่อง
01:54:09 → 01:54:12 ของ lack of Energy เนี่ยไม่พอนะทั้งๆ
01:54:12 → 01:54:15 ที่ผอมแล้วก็ร่างกายเขาไม่สามารถสะสมพลัง
01:54:15 → 01:54:20 งานอะไรได้นะแต่อันเนี้ยกลัวว่าจะมีปัญหา
01:54:20 → 01:54:24 เรื่องการทำงานของเสของตับอ่อนะ
01:54:24 → 01:54:29 ฮะแล้วก็กวรจะเป็น DM เป็นดารแหละนะก็เลย
01:54:30 → 01:54:34 ต้องไป investigate พวกนั้นนะแต่ก็ไม่รู้
01:54:34 → 01:54:38 นะว่าเจะเข้าใจได้ขนาดไหนนะแต่เราจะเห็น
01:54:38 → 01:54:42 ว่าตัวโปตีนเซนิอะไรต่างๆมันยังอยู่ใน
01:54:42 → 01:54:45 เกณฑ์
01:54:45 → 01:54:50 ดีเพราะว่าคนนี้เนี่ยเรื่องเรื่องของของ
01:54:50 → 01:54:52 ยีนที่จะเป็นอะไรอ่ะจีน outside Fat
01:54:52 → 01:54:55 Inside อะไต่างๆเรื่องของ Personal Fat
01:54:55 → 01:54:58 Test Home ของเาเนี่ยมันมันไม่ไม่
01:54:58 → 01:55:01 สามารถเก็บไขมัน
01:55:01 → 01:55:04 ได้อีกอย่างนึงเนี่ยการตรวจการอักส่ง
01:55:04 → 01:55:06 อักเสบหรือการตรวจอะไรที่ว่าไปตั้งแต่ตอน
01:55:06 → 01:55:09 แรกเนี่ยที่ investigate ไปในแง่ของดาร
01:55:09 → 01:55:12 เนี่ยนะส่วนหนึ่งเนี่ยเราจะมาหาในเรื่อง
01:55:12 → 01:55:16 ของเอ่อ visceral Fat ด้วยนะฮะเพะก็อย่า
01:55:16 → 01:55:20 วางใจนะถึงจะผอมก็เหอะนะแต่มันผอมแต่ส่วน
01:55:20 → 01:55:23 อื่นๆน่ะนะหรือก้ามเนื้อมันซีบมันรีบไป
01:55:23 → 01:55:27 เยอะนะแต่ vis Fat มันอาจจะสะสมอยู่เยอะ
01:55:27 → 01:55:30 นะหลายเปอร์เซ็นต์ก็
01:55:30 → 01:55:34 ได้ก็ต้องดูทางอ้อมๆเพราะเจะไปตรวจไอพวกอ
01:55:34 → 01:55:39 เก่าสแกน CT สแกนมันก็ไม่ไม่สะดวกนะแล้ว
01:55:39 → 01:55:43 ก็คนนี้ก็อยู่อยู่ธาตุพนมนะ
01:55:43 → 01:55:50 ฮเนี่ยธาตุพนมนครคนมนะแล้วก็ไม่สะดวกที่
01:55:51 → 01:55:52 จะไป
01:55:52 → 01:55:55 ไปโรงพาบาลใหญ่่ๆหรือว่าอะไรนักอ่ะมัน
01:55:55 → 01:56:00 ต้องเดินทางไกลหน่อยแล้วเก็ค้าขายอนะก็ไป
01:56:00 → 01:56:03 ตรวจเท่าที่จะตรวจได้ให้ห้องแดบประสานงาน
01:56:03 → 01:56:08 ให้เอออันนี้มีข้อสงสัยอะไรมั้ยนะคือเอา
01:56:09 → 01:56:13 มาเคสมาให้ดูในแง่ที่ว่าเตกใจเรื่องภาวะ
01:56:13 → 01:56:17 การขาดพลังงานของเค้านะฮะนะแต่ว่าอาหารใน
01:56:17 → 01:56:22 แง่ของ ow C High CR Fat รวมทั้งอ่า
01:56:22 → 01:56:25 การขาดพลังงานเนี่ยก็มีการเติมในเรื่อง
01:56:25 → 01:56:28 ของาฟต่างๆแต่เคก็พยายามจะเลือกอ
01:56:28 → 01:56:31 นะอาจจะมีการกินข้าวหนุงข้าวเหนียวอะไร
01:56:31 → 01:56:33 ต่างๆแต่เป็นก็เป็นสีๆเท่านั้นแหละนะ
01:56:33 → 01:56:37 ผลไม้เ้าก็ไม่ได้เป็นกินแบบแปรรูปนะหรือ
01:56:37 → 01:56:40 กินของไอ้พวกร้านสะดวกซื้ออะไรต่างๆไม่
01:56:40 → 01:56:42 ใช่นะ
01:56:42 → 01:56:46 ให้ตัวไทรอยจะเป็นในภาพนี้ได้มยอาจารย์
01:56:46 → 01:56:53 เอ่อคนนี้คนอืมไอเปิดไรอย
01:56:53 → 01:56:56 เดี๋ยวนะคนนี้ไม่ได้เออใช่คนนี้ให้ตรวจ
01:56:56 → 01:56:59 ด้วยฮะให้ตรวจด้วย
01:56:59 → 01:57:03 นะเอ่อแต่คนเนี้ยไม่เหมือนนะฮะไม่เหมือน
01:57:03 → 01:57:06 นะไม่เหมือนคือคนนี้เา้าก็มีเวทมีอะไร
01:57:06 → 01:57:10 ต่างๆนะตักประวัติแล้วเวทประมาณ 4 วันต่อ
01:57:10 → 01:57:14 สัปดาห์แล้วก็มีฮิต 2 วันนะเไม่ได้
01:57:14 → 01:57:19 คาร์ดิโอนะคนนี้เค้าเข้าใจเเข้าใจแต่
01:57:19 → 01:57:21 เดี๋ยวเดี๋ยวเจะ
01:57:21 → 01:57:24 มีเรู้สึกว่าเอาแลบไปตรวจที่ศรีนรินทร์
01:57:25 → 01:57:30 น่ะนะมันมีมันมีมันมีมันมีแลบใหญ่ที่เ
01:57:30 → 01:57:35 ตรวจได้นะเเดี๋ยวเขาก็จะมาเฉลยนะว่าเป็น
01:57:35 → 01:57:39 อะไรกัน
01:57:39 → 01:57:46 นะคนนี้เป็นพุงตับนะเรื่องไทรรอยด์ใช่ม
01:57:46 → 01:57:51 อืมไทรรอยก็ก็ส่งตรวจไปอยู่นะฮะนะส่งตรวจ
01:57:51 → 01:57:54 T แล้วก็ PT 4
01:57:54 → 01:57:59 ไปก่อนหน้านี้เาเคยตรวจนะฮะนะเอ่อก็ก็
01:57:59 → 01:58:01 อยู่ในเกณฑ์ปกติอ่ะแต่กำลังสงสัยเรื่อง
01:58:01 → 01:58:04 นี้นะฮะนะเนี่ยเรื่องเรื่องเตัวตัวโดย
01:58:04 → 01:58:09 เฉพาะตัวเรื่องดารนี่นะก็คือเบต้าเซลมัน
01:58:09 → 01:58:14 มันเีย
01:58:14 → 01:58:19 เนี่ยอันนี้เรามาดูทอ yer นะ
01:58:19 → 01:58:22 นะอันนี้ก็เหมือนกันนะคนนี้เป็นเป็นทรง
01:58:22 → 01:58:25 ไทรรอยด์แต่เป็นในผู้ชายนะ
01:58:25 → 01:58:29 ฮะอนี้หมอโค้ดไว้ตั้งนานแล้วว่าจะเอามา
01:58:29 → 01:58:33 ให้เอาแลบมาให้ดูอายุ 63 น้ำหนัก 48 สูง
01:58:33 → 01:58:40 170 อ่า BMI 16.6 เนะฮะก็ผอมนะเนี่ยผอม
01:58:40 → 01:58:44 นะเอ่อเรื่องรูปเนี่ยพอดีหมอดึงกว้างดึง
01:58:44 → 01:58:48 ยาวอะไรต่างๆไม่ค่อยดีนะฮะเนี่ยอันนี้ก็
01:58:48 → 01:58:52 แปลเนี่ยนะก็บอกสวัสดีทุกคนฉันอายุ 63
01:58:52 → 01:58:56 แล้วสูง 5 ฟุต 4 นิ้วนะฮะนะน้ำหนัก 122
01:58:56 → 01:59:01 ปอนด์นะฮะนะพึ่งเจาะเลือดครั้งแรก
01:59:01 → 01:59:07 นะก็มี Total cholesterol 825 ไล 139
01:59:07 → 01:59:12 hdl 72 แล้วก็ ldl 694 นะฮะสิ่งอื่นๆ
01:59:12 → 01:59:17 ที่ทดสอบเป็นปกตินะฉันเป็นไฮโปไทรอยด์นะ
01:59:18 → 01:59:23 ฮะ tsh ของฉันเคยขึ้นถึง 9.4 สูงมากนะฮะ
01:59:23 → 01:59:25 นะ
01:59:25 → 01:59:28 ปกติมันควรจะอยู่ประมาณ
01:59:28 → 01:59:33 1 หรือต่ำกว่านะเนี่ยแต่ทสูงก็เป็น
01:59:33 → 01:59:38 ไฮโปไทรอยด์นะฮะนะนะแต่ถ้าน้อยกว่านะน้อย
01:59:38 → 01:59:43 กว่าเยอะๆเลยอ่าโดยเฉพาะน้อยกว่า 0 0 0
01:59:43 → 01:59:46 จุดเท่าไหร่ 0.25 หรืออะไรอย่างเงี้ยนะ
01:59:46 → 01:59:50 มันมันจะไม่ค่อยดีนักนะฮะนะมันจะเป็น
01:59:50 → 01:59:54 ไฮเปอร์ไปได้นะเรื่องเรื่องก็คือออันนี้
01:59:54 → 01:59:55 ไม่
01:59:55 → 01:59:57 รู้นี้เขบอกว่า
01:59:58 → 02:00:02 เอ่อกินเนื้อมา 4 เดือนแล้วนะฮะนะก็คือ
02:00:02 → 02:00:05 คุณเป็นในลักษณะบอดี้ type สายแป้งทรง
02:00:05 → 02:00:08 ไทรอยด์นี่แหละนะแล้วก็ผอม BMI ต่ำอย่าง
02:00:08 → 02:00:12 เงี้ยนะแต่คุณก็ไปกินเนื้อไงนะคือคนพวก
02:00:12 → 02:00:15 เนี้ยนะมันเป็นสายแป้งแต่คุณน่ะไปกินเป็น
02:00:15 → 02:00:21 แบบอ่าคีโตของฝรั่งเกินคีวนะฮะก็กินเนื้อ
02:00:21 → 02:00:23 เป็นหลักนะนะฮะนะทั้งๆที่คุณมีปัญหา
02:00:23 → 02:00:27 เรื่องไทรรอยด์นะฮะแล้วเก็เลยมาโพสต์ถาม
02:00:27 → 02:00:29 นะว่าค่าแลบมันเด้งขึึ้นมาเป็นอย่างงนี้
02:00:29 → 02:00:33 เนี่ยนะมันมันมีใครเป็นบ้างเออแล้วหมอก็
02:00:33 → 02:00:37 จะนัดอะไรต่างๆนะฮะอ่าฉันไม่มีเจตนาที่จะ
02:00:37 → 02:00:41 หยุดกินเนื้อเพราะร่างกายกำลังบอกว่าฉัน
02:00:41 → 02:00:45 ไม่มีอะไรต้องกังวลนะเหมือนสบายดีนะออก
02:00:45 → 02:00:48 กำลังกายได้ทุกวันนะตั้งแต่เริ่มกินเนื้อ
02:00:48 → 02:00:54 แล้วก็ยังมีกินวิตามินเสริมบสังขสี
02:00:54 → 02:00:57 แมกนีเซียมก็เอามาให้ดูนะฮะว่าบอ type
02:00:57 → 02:01:00 ของเราเนี่ยนะเป็นถ้าเป็นสายแป้งผู้หญิง
02:01:00 → 02:01:03 ผู้ชายก็ตามเนาะนะแต่ในฝรั่งเนี่ยเาก็จะ
02:01:03 → 02:01:06 เป็นตรงไทรอยด์กันเยอะนะคนเอเซียมันก็จะ
02:01:06 → 02:01:09 เป็นพรุงตัด
02:01:09 → 02:01:14 นะแต่พอเป็นยังไงอ่ะนะนะรดลาวาศอกเรื่อง
02:01:14 → 02:01:17 แป้งนะก็กลายมาเป็นอย่างนี้แหละไอ้ตัว
02:01:17 → 02:01:21 อะไรปิดโปรไฟลเซนินะเห็นมนะพุ่งไปหมดเลย
02:01:21 → 02:01:25 นะพุ่งไปหมดเลยแล้วก็เนี่ยไซนก็สูงไปด้วย
02:01:26 → 02:01:29 นะฮะนะงั้นคนเนี้ยปัญหามันอยู่ที่ตัว
02:01:29 → 02:01:32 ฮอร์โมนไทรรอยด์นี่แหละนะที่เขามีพื้นฐาน
02:01:32 → 02:01:35 ที่เป็นไฮโปไทรอยด์อยู่แหนะมันก็ยิ่งไปมี
02:01:35 → 02:01:39 ผลทำให้ตัวซตนะโดยเฉพาะคนเก็คือปัญหาก็
02:01:40 → 02:01:43 คือ ldl เกนที่ตับนี่แหละฮะนะเพราะฉะนั้น
02:01:43 → 02:01:45 Total cholesterol เนี่ยมันหมายถึงอ่า
02:01:46 → 02:01:49 มันหมายถึงรตที่ตับเนะมันก็ไม่ปรากฏไม่
02:01:49 → 02:01:54 expression นะเพราะฉะนั้นเ่าการที่จะเอา
02:01:54 → 02:01:57 ไอ้ตัวคอเลสเตอรอลใน ldl เข้าตับต่างๆก็
02:01:57 → 02:02:00 คงยากเย็นนะเพฉะนั้นมันสูงไปด้วยกัน Total
02:02:00 → 02:02:06 คกับ ldl นะนะแล้วก็สูงไปหมดเลยนะแล้วตอน
02:02:06 → 02:02:10 นี้เนี่ยนะมันเกิดนะปัญหาในเรื่องของ
02:02:10 → 02:02:15 เนี่ยไิสไลสูงไปด้วยนะไิสไลสูงก็มาจากไข
02:02:15 → 02:02:20 มันอิ่มตัวนะฮะเพราะว่าเลนเ 59 อ่าเลนสูง
02:02:20 → 02:02:25 นะฮะนะแล้วตัวไอ้ตัว Apple B นะ - 29
02:02:25 → 02:02:30 นะโปรตีนสูงโปรตีนเกินนะแล้วก็เลนก็สูงไป
02:02:30 → 02:02:36 ด้วยนะแล้วถ้าคุณกินคีวนะก็คือกินพวกพวก
02:02:36 → 02:02:40 สัตว์นะโดยการกินแป้งกินพืชกินาฟน้อยมาก
02:02:40 → 02:02:45 นะรูปแบบของไรปิดโฟนิก็จะ
02:02:45 → 02:02:48 เป็นแต่ฝรั่งก็ดูก็ไม่ตกใจอะไรกันนักหรอก
02:02:48 → 02:02:52 เพราะว่าเพอเข้าใจในระดับนึงแล้วนะแต่ถ้า
02:02:52 → 02:02:53 เป็นคนไทย
02:02:53 → 02:02:59 ไม่ถามว่าแล้วยังไงอ่ะคนเนี้ยนะฮะนะเขาจะ
02:02:59 → 02:03:02 เข้าใจแบบเราเข้าใจกันมนะซึ่งมันต้องมา
02:03:02 → 02:03:06 เปลี่ยนนะแต่ก็ไม่รู้นะเนี่ยก็บอกว่าแต่
02:03:06 → 02:03:07 ไม่มีอะไรต้อง
02:03:07 → 02:03:11 กังวลแล้วก็ออกกำลังกายได้กินอาหารเสริม
02:03:11 → 02:03:14 นะทุกวันตั้งแต่เริ่มกินเนื้อนี่กินมา 4
02:03:14 → 02:03:17 เดือนแล้วเป็น
02:03:17 → 02:03:22 เนไปเจอหมอหมอจะว่ายังไงฝรั่งนะก็คล้ายๆ
02:03:22 → 02:03:28 กันนะทั่วโลกนะก็จะจ่ายยงจ่ายยาอะไรต่างๆ
02:03:28 → 02:03:30 แต่เดี๋ยวเหมอต้องเรียนรู้นะฮะว่า
02:03:30 → 02:03:34 โภชนาการแต่ละอย่างโดยเฉพาะในกลุ่มาฟต่ำ
02:03:34 → 02:03:38 ต่างๆเเเขเป็นยังไงนะแล้วก็จะมีผลยังไง
02:03:38 → 02:03:43 เมื่อกินไปนึงเอรวมทั้งจะต้องจะต้องแนะนำ
02:03:43 → 02:03:47 คนไข้ยังไงแก้ยังไงปรับยังไงเอสรุปอันนี้
02:03:47 → 02:03:53 มีใครสงสัยยคือเอามาให้ดูว่านะเนี่ยตัว
02:03:53 → 02:03:56 เลขต่างๆที่มันฮือฮาหวือหวาเยอะๆอย่าง
02:03:56 → 02:04:00 เงี้ยนะอันนี้มันมีนะฮะนะของเราแค่ 200
02:04:00 → 02:04:03 กว่า 300 กว่าก็
02:04:03 → 02:04:06 โอ้โห
02:04:06 → 02:04:10 นะก็นะสายแป้งนะรูปร่างอย่างนี้ BMI
02:04:10 → 02:04:12 อย่างงี้
02:04:12 → 02:04:14 นะ
02:04:14 → 02:04:19 นะตอร่างกายไม่สมดุลน่ะนะเนี่ยทั้งเออแต่
02:04:19 → 02:04:23 ตอนน hdl ขึ้นไปเยอะเลยนะพี่หมอ
02:04:23 → 02:04:26 ใช่คือเป็นไฮโปไทรอยด์แล้วทำไมเ้าไม่ค่อย
02:04:26 → 02:04:31 อ้วน่ะครับหรือว่าเพะว่าก็กดอินซูลินจน
02:04:31 → 02:04:38 ต่ำมากจนใช่นะครับใช่เอินซูลินไม่มาเลย
02:04:38 → 02:04:44 อินซูลินไม่มีเลยนะน่าจะเป็นอย่างงั้นนะ
02:04:44 → 02:04:49 ที่สเออแต่ TG สูงสูงจากสูงจากโปรตีนใช่
02:04:49 → 02:04:52 มั้ยพี่หมอเออน่าจะเป็นน่าจะเป็นไขมัน
02:04:52 → 02:04:57 อิ่มตัวนะที่อยู่ในโปรตีนเอืพวกอีวอของ
02:04:57 → 02:05:01 ฝรั่งเขาก็กินแต่เนื้อแะนะเนื้อสัตว์อะไร
02:05:01 → 02:05:06 ต่างๆ
02:05:06 → 02:05:09 นะบางทีบรรพบุรุษเขาอาจจะอยู่แถวๆทุ่ง
02:05:09 → 02:05:14 หญ้าก็ได้นะพี่
02:05:14 → 02:05:17 หมออ่าตัว
02:05:17 → 02:05:20 hdl ก็ยังดีอยู่
02:05:20 → 02:05:24 นะ adl ก็อยู่ในเกณฑดีไม่ได้สูงขึ้นไป
02:05:24 → 02:05:26 เป็น 100 ใช่มล่ะ
02:05:26 → 02:05:29 นะแต่ว่าสิ่งเหล่าเนี้ยก็คือ Total
02:05:29 → 02:05:33 คอสเตอกับ ldl ที่มันพุ่งเนี่ยนะปัญหามัน
02:05:33 → 02:05:38 ก็คืออยู่ที่ตัวเ receptor เ receptor เ
02:05:38 → 02:05:42 receptor ที่ตับเนี่ยนะมันมันขึ้นอยู่
02:05:42 → 02:05:45 กับตัวตัวไทรรอยด์ฮอร์โมนไทรอยด์คุณก็
02:05:45 → 02:05:49 ต้องไปแก้เรื่องฮอร์โมนไทรอยด์
02:05:49 → 02:05:54 นะคือแบบที่ไโรดถามเนี่ยนะตอนนี้นะไอ้พวก
02:05:54 → 02:05:57 เรื่องกล่อมไร้ท่อโดยเฉพาะเรื่องไทรรอยด์
02:05:57 → 02:06:00 เนี่ยมันไม่ไปเป็นไปตามทฤษฎีเก่าๆแล้วนะ
02:06:00 → 02:06:04 ฮะว่าไฮเปอร์ไทรรอยด์เนี่ยคุณคุณจะต้อง
02:06:04 → 02:06:08 ผอมๆเพราะว่าร่างกายมันไฮเปอร์เมตาบอลิก
02:06:08 → 02:06:12 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะนะหลายคนเป็นคนอ้วน
02:06:12 → 02:06:14 เป็นดื้ออินซูลินเนี่ยแล้วมาเป็นไฮเปอร์
02:06:14 → 02:06:16 ไทรรอยด์
02:06:16 → 02:06:21 เอ่อก็คืออ่อเป็นเป็นเป็นกลุ่มประเภทนี้
02:06:21 → 02:06:23 แหละไอ้เปอรไทรอยด์แบบอ้วนนี่แหละนะแต่
02:06:23 → 02:06:26 ว่ามันโอโหมันเป็นเ disp on top อ่ะเ
02:06:26 → 02:06:30 เรียกว่าอย่างงั้นขณะเดียวกันนะพวกเนี่ย
02:06:30 → 02:06:34 พวกผอมๆเนี่ยนะแล้วก็เป็นไฮโปไทรอยด์นะ
02:06:34 → 02:06:38 มันก็มีเยอะเลยนะเพราะว่าตัวไทรรอยด์
02:06:38 → 02:06:40 ฮอร์โมนเนี่ยมันเป็น
02:06:40 → 02:06:44 ฮอร์โมนฮอร์โมนอ่อนแอที่สุดอ่ะนะของร่าง
02:06:44 → 02:06:47 กายนะมันเป็นฮอร์โมนที่ sensitive นะที่
02:06:47 → 02:06:52 มันจะสูงก็ได้ต่ำก็ได้นะมันวูบวาบแบบชนิด
02:06:52 → 02:06:56 มีการเปลี่ยนแปลงระดับของมันที่น้อยมากนะ
02:06:56 → 02:07:01 หรือว่าโหนะพุ่งมากเป็นระดับตัวเลขเยอะๆ
02:07:01 → 02:07:06 เลยนะฮะไฮโปไฮเปอร์ไปแบบสุดๆ
02:07:06 → 02:07:09 เลยโดยอาการและอาการแสดงเนี่ยค่อนข้างจะ
02:07:09 → 02:07:13 สับนะสับ clinical หรือว่า asymptomatic
02:07:13 → 02:07:16 ก็ได้
02:07:16 → 02:07:24 นะแต่ว่าค่าแบอื่นๆมันก็จะฟ้องนะ
02:07:24 → 02:07:26 คนนี้ก็เหมือนกันนะฮะ
02:07:27 → 02:07:33 สเตฟานี่เนะฮะอ
02:07:33 → 02:07:38 เนี่ยคนนี้เ่อเก็บอกว่าฉันภูมิใจเล็กน้อย
02:07:38 → 02:07:43 นะกินเนื้อมา 4 ปีครึ่งเออนะคนเนี้ยกิน
02:07:43 → 02:07:47 เนื้อนะก็เป็นคีโตวแบบในต่างประเทศนะรู้
02:07:47 → 02:07:50 สึกเอยู่บราซิลนะเอ่อกินเนื้อมา 4 ปี
02:07:50 → 02:07:54 ครึ่งแล้วคแบก็เป็นอย่างงนี้นะฮะเก็คือ
02:07:54 → 02:07:57 กินเป็นแบบเนี่ยกินจริงกินจังอะไรอย่าง
02:07:57 → 02:08:00 เงี้ยนะรูปร่างก็ดูจะดีอ่ะนะคนนี้ก็เป็น
02:08:01 → 02:08:04 เหมือนเป็นเป็นทรงไทรรอยด์นะพอเข้าไปใน
02:08:04 → 02:08:07 เนี้ยแล้วก็ไปดูอะไรต่างๆของเนะฮะนะ
02:08:07 → 02:08:10 เหมือนเหมือนเป็นคนเอเซียแล้วมีได้แฟน
02:08:10 → 02:08:16 เป็นต่างประเทศนะก็อยู่ที่สเปนนะฮะอ่า
02:08:16 → 02:08:19 แล้วทีนี้ผลแลบเนี่ยนะฮะเราก็จะเห็นว่า
02:08:19 → 02:08:23 เนี่ย Total คอสอต่ำคนเมื่อกี้สูงใช่ม
02:08:23 → 02:08:27 เนี่ยสูงนะแต่คนนี้ทรงไทรรอยนะนะแต่เนี่ย
02:08:27 → 02:08:34 ตัวรตทำงานได้ดีเลยต่ำนะแต่ปกตินะ hdl
02:08:35 → 02:08:36 พุ่ง
02:08:36 → 02:08:40 hdl เกิน 100 ขึ้นไปเยอะแยะเลยนะฮะแล ldl
02:08:40 → 02:08:46 ต่ำ LD นะฮะเนี่ยแล้วปรากฏว่าไอหารก็ต่ำ
02:08:46 → 02:08:50 นะแต่รูปร่างเป็นอย่างเงี้เป็น
02:08:50 → 02:08:55 อย่าแล้วดูไลโปโปรตีนเนิกฮะนะเขียวๆ
02:08:55 → 02:09:02 เหลืองๆดีหมดเลยนะคือกินถูกกินถูกนะแต่นะ
02:09:02 → 02:09:04 แต่เรื่องของ
02:09:04 → 02:09:08 อ่าเรื่องของระบบของคอเลสเตอรอลในร่างกาย
02:09:08 → 02:09:11 เนะอ่าที่ระดับเซลล์ระดับเนื้อเยื่อมัน
02:09:11 → 02:09:15 ไม่ไม่ไม่ไม่ปกตินะโดยเฉพาะตรงนี้ต้องเอา
02:09:16 → 02:09:19 ประเด็นเรื่อง hdl สูงเป็นหลักเป็น Pop
02:09:19 → 02:09:23 bem ก็ก็คือคนเนี้ยมันมีปัญหาเรื่องมัน
02:09:23 → 02:09:27 เป็นไทรรอยด์นะแล้วไทรรอยเนี่ยไปมีปัญหา
02:09:27 → 02:09:29 กับไอ้ตัวเอนไซม์
02:09:29 → 02:09:35 CP เคนนี้ก็จะมีปัญหาเรื่องเอนไซม CP นะ
02:09:35 → 02:09:41 ที่ที่มันทำงานลดลงนะพอมันทำงานลดลงเนี่ย
02:09:41 → 02:09:48 เนี่ยมันก็จะมีผลให้ตัวคือ CP ลดลงนะฮะ
02:09:48 → 02:09:53 ไตนไสก็จะลดลงไปด้วยนะฮะเพราะว่าพวกนี้
02:09:53 → 02:09:57 แล้วก็เปติไลเปสก็ลดลงนะฮะพวกนี้ลดลง 3
02:09:57 → 02:09:58 อย่าง
02:09:58 → 02:10:02 เลยมันเป็นปัญหาที่การสร้างที่ตับมันผิด
02:10:02 → 02:10:05 ปกตินะคนนี้ไม่ได้ตรวจ
02:10:05 → 02:10:09 ตับเป็นปัญหาที่ตับนะมีการสร้างเอนไซม์
02:10:09 → 02:10:12 ทั้ง 3 ตัวเนี้ยนะผิด
02:10:13 → 02:10:17 ปกติเหมือนพลังงานใกล้จะขาดด้วยนะพี่หมอ
02:10:17 → 02:10:20 คือเค้าก็ไม่ขาดนะเพราะว่าในรูปของอหง
02:10:20 → 02:10:23 อาหารการออกแรงออกกำลังกายก็ดีหมดเลยคือ
02:10:23 → 02:10:27 คนเมันเป็นปัญหาที่ En ฟังก์ชันนะนะแล้ว
02:10:27 → 02:10:32 มามีผลทำให้ไรปิดโปรไฟลเซนิเป็นอย่างเงี้
02:10:32 → 02:10:37 แต่ถ้าเอนไซม์ของคนคนเนี้ยปกติปกตินะนะ
02:10:37 → 02:10:40 ค่าพวกเนี้ยนะเ่อค่าอันเนี้ยมันปกติแล้ว
02:10:40 → 02:10:43 นะฮะค่าพวกเมันก็จะเป็นแบบ Total conal
02:10:43 → 02:10:47 สูง ldl สูงแต่อาจจะไม่ได้เป็น 800 600
02:10:47 → 02:10:50 กว่าอะไรของคนผู้ชายเมื่อกี้หรอกนะเนี่ย
02:10:50 → 02:10:54 แล้วก็ให้เดียวไม่น่าจะสุมันฟังก์ชันได้
02:10:54 → 02:10:56 ไงครับพี่หมอ
02:10:56 → 02:11:00 เอ่อเอ่ออย่างเงี้ยนะก็
02:11:00 → 02:11:06 คือก็คือเรารู้ว่า CP เอ๊ะเดี๋ยวเรามี
02:11:06 → 02:11:08 ม
02:11:08 → 02:11:13 เออคือเรารู้ว่า CP กับ H กับ hepatic ไส
02:11:13 → 02:11:15 เนี่ยต้างที่
02:11:15 → 02:11:22 ตัดนะเรารู้ใช่มนะนะเอไซพวกเนี้ยนะต้าง
02:11:22 → 02:11:27 ที่สครับแต่ไลโปโปรตีนไลเฟสเนี่ยมันอยู่
02:11:27 → 02:11:31 ที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ที่ต้องการใช้
02:11:31 → 02:11:36 พลังงานต่างๆทั่วไปร่างกายนะฮะแล้วก็อ่า
02:11:36 → 02:11:41 เปิอะไรอเนี่ยตัวเตัวฮอร์โมน sens ไส
02:11:41 → 02:11:44 เยื่อไขมาทนี้อะไรก็ตามนะที่เกี่ยวกับตับ
02:11:44 → 02:11:49 เนี่ยในปัจจุบันเนี่ยมันจะมีเรื่องของยีน
02:11:49 → 02:11:52 variation มาประกบกอบไปด้วยกันนะฮะเพราะ
02:11:52 → 02:11:57 ฉะนั้นการที่มีรตเ Lance ทำงานบกพร่องผิด
02:11:57 → 02:12:00 ปกติอะไรต่างๆรวมทั้งเอนไซม์อะไรต่างๆโดย
02:12:00 → 02:12:02 เฉพาะเอนไซม์ทาด้านพลังงานเนี่ยที่ตับ
02:12:02 → 02:12:09 เนี่ยทั้งตัวเิไตัว CP อะไรต่างๆพวกเมัน
02:12:09 → 02:12:11 เหมือนกันนะฮะว่ามันอาจจะมีความเกี่ยว
02:12:11 → 02:12:15 ข้องกับเรื่องของ variation ทางด้าน
02:12:15 → 02:12:17 พันธุกรรม
02:12:17 → 02:12:21 นะเพราะว่าตับเนี่ยมันเป็นจุดูนรวรวมเลย
02:12:21 → 02:12:23 เลยของระบบ
02:12:23 → 02:12:25 เบอิซึ่ง
02:12:25 → 02:12:30 นะมันก็ได้บอกให้เรารู้แล้วนะจากงานวิจัย
02:12:30 → 02:12:33 ต่างๆว่าเรื่องของซตเนี่ยมันก็ขึ้นอยู่
02:12:33 → 02:12:36 กับเรื่องของพันธุกรรมเพรานั้นเรื่อง
02:12:36 → 02:12:38 เอนไซม์ที่มันผลิตเนี่ยมันก็มีความเกี่ยว
02:12:38 → 02:12:42 ข้องกับพันธุกรรมด้วยนะที่ผลิตน้อยผลิต
02:12:42 → 02:12:49 มากเเรียกว่าเป็นอ่า Gen variation นะนะ
02:12:49 → 02:12:53 แล้วก็เกิดการ EX หรือเกิดการอะไร
02:12:53 → 02:12:57 susceptibility นะเป็นการแสดงออกว่าแข็ง
02:12:57 → 02:13:01 แรงอ่อนแอปกตินะหรือ
02:13:01 → 02:13:05 ด้อยเพราะะนั้นก็ตอบคำถามสุทัศน์ว่าอะไร
02:13:05 → 02:13:07 นะถาม
02:13:07 → 02:13:11 ว่ามันมันมันฟังก์ชันได้ยังไงฟังก์ชัน
02:13:11 → 02:13:15 เพราะคิดว่านน่าจะเป็นปัญหาที่ยีน
02:13:15 → 02:13:18 variation แล้วเราจะเสริมอะไรได้บ้างม
02:13:18 → 02:13:19 ครับพี่
02:13:19 → 02:13:24 หมอคือข้อข้อบกพร่องของยีน 2 ตัวนี้อ๋อ
02:13:24 → 02:13:26 อันนั้นเนี่ยไม่รู้เราอันเนี้ยเราเราไม่
02:13:27 → 02:13:30 รู้เรารู้แต่ว่านะเอนไซม์พวกเนี้ยมันขึ้น
02:13:30 → 02:13:34 อยู่กับนะนี่สิ่งเหล่านี้นะขึ้นอยู่กับ
02:13:34 → 02:13:36 การควบคุมฮอร์โมนพวกเนี้ยนะเราก็ต้องมา
02:13:36 → 02:13:40 ปรับฮอร์โมนพวกเนี้ยให้ดีที่สุดในตอนนี้
02:13:40 → 02:13:46 นะที่เราจะทำเรารู้ว่าอ่า CP เนี่ยนะเาจะ
02:13:46 → 02:13:49 ทำงานได้ดีต่อเมื่อมีอินซูลินมากระตุ้นมี
02:13:49 → 02:13:52 คอร์ติซอลมากระตุ้นมีไทรอยด์มากระตุ้นคุณ
02:13:52 → 02:13:56 ก็บำรุงฮอร์โมนไทรอยด์นะฮะอินซูลินก็ให้
02:13:56 → 02:13:59 มาแต่พอดีพอดีนะไม่มาโหเหวี่ยงวีนนะ
02:13:59 → 02:14:05 คอร์ติซอลนะก็ปรับให้เค้าอ่าอยู่ในร่องใน
02:14:05 → 02:14:07 รอยไม่มากไม่น้อยไม่ขาดเกินอะไรอย่าเงี้ย
02:14:07 → 02:14:11 นะก็คือเหมือนมาปรับมาปรับฮอร์โมนนฮะนะ
02:14:11 → 02:14:14 เพื่อให้ฮอร์โมนเนี่ยไปควบคุมเอนไซม์นะ
02:14:14 → 02:14:19 ให้ดีที่สุดก็ทำได้ประมาณนี้เพราะฉะนั้น
02:14:19 → 02:14:22 ตอนเนี้ยต้องสงสัยเรื่องไทรอยด์คุณก็ไป
02:14:22 → 02:14:24 บำรุงไทรรอยด์
02:14:24 → 02:14:28 มีน้ำหนักมยครับหมายถึงว่าระหว่าง
02:14:28 → 02:14:31 ไทรรอยด์อินซูลินคอร์ติซอลเนี่ยตัวไหนมัน
02:14:31 → 02:14:36 มีน้ำหนักมีผลต่อเอนไซม์ 2 ตัวนี้นะครับ
02:14:36 → 02:14:41 พี่หมออ๋อก็ฝั่งอินซูลินกับไทรรอยด์เนี่ย
02:14:41 → 02:14:46 จะมีผลส่อ CP มากกว่าคอร์ติซอล
02:14:46 → 02:14:50 อ๋อเครื่องหมายเครื่องหมายบวกอเออแต่
02:14:50 → 02:14:56 เนี่ยคอร์ติซอลเนี่ยจะมีผลกับเปติไสนะมาก
02:14:56 → 02:14:59 กว่าไทรรอยด์มากกว่าอินซูลินคืออินซูลิน
02:14:59 → 02:15:03 เนี่ยมีผลต่อทั้ง 2 ตัวนี้เยอะนะฮะแต่
02:15:03 → 02:15:06 คอร์ติซอลเนี่ยมีผลต่อ CP น้อยกว่า
02:15:06 → 02:15:11 อินซูลินนะแต่ในแง่ของเปติไสเนี่ยก็จะมี
02:15:11 → 02:15:16 ผลนะพอๆกันนะแล้วถ้าคุณกิน ow คาฟเนี่ย
02:15:16 → 02:15:19 อินซูลินคุณไม่มานะคุณก็ต้องส่งเสริมทาง
02:15:19 → 02:15:21 ด้านคอร์ติซอล
02:15:21 → 02:15:25 นะให้ให้มันช่วยกระตุ้นนะให้เปิไสออกมา
02:15:25 → 02:15:28 เยอะๆแต่คนเก็มีปัญหาน่าจะมีปัญหาที่
02:15:28 → 02:15:32 เรื่องนี้ฮะนะเรื่อง CP นะพร้อมๆกับ
02:15:32 → 02:15:34 hepatic ไส
02:15:34 → 02:15:36 นะ
02:15:36 → 02:15:41 อืแล้วอย่างงี้นี่จะคนนี้เข้าขี่โตได้มย
02:15:41 → 02:15:48 พี่หมวคนนี้ขี่โไม่ฮะนะ
02:15:48 → 02:15:53 เดี๋ยวเราเคยเราเคยคุยกันถึงเรื่องคีต
02:15:53 → 02:15:56 adap ไปแล้วแล้วก็เอา laap มาเทียบนะนะ
02:15:56 → 02:15:59 คนที่จะคีต adap เนี่ย
02:15:59 → 02:16:04 นะตัวไตกีสลายเนี่ยจะต้องอยู่ในเกณฑ์ low
02:16:04 → 02:16:08 Normal นะนะคือในผู้หญิงอ่ะไม่ต่ำกว่า 40
02:16:08 → 02:16:11 ในผู้ชายก็ประมาณเดียวกันก็อยู่ในช่วง
02:16:11 → 02:16:16 40-50 คือใกล้ๆต่ำใกล้ๆต่ำนะฮะแล้วตัว
02:16:16 → 02:16:20 hdl เนี่ยต้องใกล้ๆสูงนะก็คือผู้ชาย
02:16:20 → 02:16:23 เนี่ยสัก 80 หรือไม่เกิน 90 ผู้หญิงก็
02:16:23 → 02:16:27 ต้องักอ่า 80 กว่าหรือ 90 ไม่เกิน 100 โอ
02:16:27 → 02:16:31 คนนี้สูงเวอร์ไปเลยเออแต่คนนี้มันหลุด 100
02:16:31 → 02:16:35 ไปแล้วนะนะแต่ Total คอสเตอกับ ldl ก็
02:16:35 → 02:16:38 ต้องอยู่ในเกณฑ์ Normal Range Normal
02:16:38 → 02:16:40 Range ก็คือ Total gal จะต้องอยู่ใกล้ๆ
02:16:41 → 02:16:45 200 นะ 200 หรือ 100 กว่า 100 ปลายๆ
02:16:45 → 02:16:49 เกือบ 200 หรือ 200 ต้นๆ 210 200 ไม่
02:16:49 → 02:16:53 เกิน 20 อะไรประณเยนะส่วน ldl เนี่ยนะค่า
02:16:53 → 02:16:57 ต้องอยู่ใกล้ๆ 100 หรือ 100 นิดๆนะอ่าถ้า
02:16:57 → 02:17:00 รูปแบบเป็นอย่างนี้นะฮะนะก็จะเรียกว่าน่า
02:17:00 → 02:17:04 จะคีต adap มากๆมาๆๆๆกว่า Fat AD นะผมผม
02:17:05 → 02:17:07 ว่าเคสนี้ถ้าเกิดกินกินขาดดีๆเพิ่มหน่อย
02:17:07 → 02:17:09 น่าจะมีเห็นน้ำเห็นเนื้อเหมือนกันนะพี่
02:17:09 → 02:17:14 หมอใช่ใช่เลยเพราะว่าเเเป็นคนอใช่มยใช่
02:17:14 → 02:17:16 คุณต้องเสริมตรงนี้ไงนะเพราะคุณเป็น
02:17:16 → 02:17:20 ไทรรอยด์สายแป้้งนะนะเออแล้วเหมือนตัว
02:17:20 → 02:17:23 พลังงานเนี่ยถ้าเสริมพลังงานขึ้นมาอีกนิด
02:17:23 → 02:17:26 นึงนะตัวเลขนี้ขึ้นมาอีกหน่อยนึง 50 60
02:17:26 → 02:17:30 อ่ะนะอนี้มันจะได้ลงเพราะว่าคาฟมันลด hdl
02:17:30 → 02:17:35 ได้อ่ะใช่นะเออเนี่ยคุณก็มาปรับตงอัตรา
02:17:35 → 02:17:38 ส่วนนี้นะเพื่อจะพุ่งอันนี้ขึ้นมาพออัน
02:17:38 → 02:17:41 นี้มันเพิ่มขึ้น hdl มันก็ลงจริงๆเคสนี้
02:17:42 → 02:17:44 มีปัญหากับคอน้อยด้วยนะพี่หมอข้างหลัง
02:17:44 → 02:17:47 ข้างล่างมันเขียวหมดใช่ข้างล่างมันดีหมด
02:17:47 → 02:17:50 เลยมันอีกนิดเดียวเองนะมันนิดเดียวเองนะ
02:17:50 → 02:17:53 มีปัญหากับกับพลังงานเออนิดเดียวเองพลัง
02:17:53 → 02:17:56 งานแต่พลังงานที่คุณต้องปรับเนี่ยคุณต้อง
02:17:56 → 02:18:00 ปรับให้ถูกโดยเฉพาะเติมาฟที่ดี Food
02:18:00 → 02:18:02 Healthy Car หรือว่า Food Complex
02:18:02 → 02:18:06 Food to get อ่า Complex Car แล้ว
02:18:06 → 02:18:08 ต้องเป็น cf ที่ที่ส่งเสริมไทรอยด์ด้วย
02:18:09 → 02:18:12 ใช่มั้ยพี่หมอใช่ใช่
02:18:12 → 02:18:15 นะเฟส่งเสริม
02:18:15 → 02:18:19 ไทลอยคือมันเหมือนต้องมีทริกอ่ะฮะมีทริก
02:18:19 → 02:18:23 ที่จะไปนะในการที่จะแก้หลังจากที่มันออก
02:18:23 → 02:18:24 มาในตารางแบบ
02:18:24 → 02:18:29 เนี้ยเ่าคนเนี้ยไปดูรูปเ้าอ่ะนะก็จะเป็น
02:18:29 → 02:18:33 เป็นมีเอวอ่ะฮะนะเป็นรูปนาฬิกาซา
02:18:33 → 02:18:37 นะแล้วก็เมีรูปตอนที่เอ้วนด้วยไงเราก็เลย
02:18:37 → 02:18:44 ตัดสินใจมากินเนี่ยคากีตอเนี่ย 4 ปี
02:18:44 → 02:18:49 กว่าอจริงๆถ้าเเข้าใจไส้นอาหารกับฮอร์โมน
02:18:49 → 02:18:52 นี่เเจะปรับอะไรพวกนี้ได้เลยนะพี่หมอนะ
02:18:52 → 02:18:55 ใช่แต่ไม่ต้องมายึดติดกับรูปแบบของการกิน
02:18:55 → 02:18:59 มากเกินไปอืคือ hdl ที่มัน 100 กว่าๆมัน
02:18:59 → 02:19:03 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีมันไม่ใช่เรื่องที่ดี
02:19:03 → 02:19:07 นะฮเพราะว่ามันไปไหนไม่ได้นะมันมีปัญหา
02:19:07 → 02:19:10 เรื่องเอนไซม์นะที่ไม่สามารถที่จะมาทำให้
02:19:10 → 02:19:14 มันถูกเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างดี
02:19:14 → 02:19:21 นะสลายไปทางไตโดยเปติไสนะหรือมีมีการ
02:19:21 → 02:19:25 เนี่ยอ่ามีการที่จะรับเอาไตกีนจากไอ้
02:19:25 → 02:19:30 กลุ่มพวก vldl rance หรือ ldl มาก็รับ
02:19:30 → 02:19:36 ไม่ได้นะเพราะว่า CP มันมันมีปัญหานะที่
02:19:36 → 02:19:38 จะไม่ให้เกิดการส่งแลกเปลี่ยนระหว่าง
02:19:38 → 02:19:41 คอเลสเตอรอลกับไสนะเพราะฉะนั้นมันก็เลย
02:19:41 → 02:19:45 เยอะนะพ้นอยู่อย่าง
02:19:45 → 02:19:49 เงสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เรารู้เลยว่าไม่ว่า
02:19:49 → 02:19:53 จะเป็น hdl rl ไม่มีคำว่าวคำว่าเลอันไหน
02:19:53 → 02:19:58 ไม่ได้อยู่ใน Normal Range นะที่ดีนักนะ
02:19:58 → 02:20:02 ก็เป็นข้อบ่งชี้ที่คุณต้องปรับแก้และการ
02:20:02 → 02:20:06 ปรับแก้นะให้เค้าเรียกว่าให้น้ำหนักใน
02:20:06 → 02:20:10 เรื่องโภชนาการที่ถูกต้องเหมาะสมตามความ
02:20:10 → 02:20:13 เข้าอกเข้าใจดู
02:20:13 → 02:20:18 ก่อนก็ต้องปรับนะปรับเรื่องอาหารนี่แหละ
02:20:18 → 02:20:22 นะใช่แล้วเกินคาฟก็ไม่ใช่ว่ากินมั่วซั่
02:20:22 → 02:20:23 ด้วยนะพี่หมอ
02:20:23 → 02:20:29 อืกินมซั่นี่พสายแป้งไทรอยด์ปรุงตับคุณก็
02:20:29 → 02:20:34 ต้องมีขามานะนะแล้วคุณไปบอกว่าอูยดีใจ
02:20:34 → 02:20:36 ภูมิฉันภูมิใจเล็กน้อยนี่ก็ไม่รู้นะว่า
02:20:36 → 02:20:40 ภาษาฝรั่งเแปลอย่างงนี้หรือเปล่าภูมิใจ
02:20:40 → 02:20:43 เล็กน้อยนะทุกคนนะฉันกลิ่นเนื้อมา 4.5 ปี
02:20:43 → 02:20:46 แล้วกำลังทุกข์อยู่หรือเปล่ากับการกิน
02:20:46 → 02:20:51 เนื้อเพราะว่าเสงไทรอยเ้อ
02:20:51 → 02:20:54 เพราะฉะนั้นคล้ายๆกันนฮะนะสายแป้งทรง
02:20:54 → 02:20:57 ไทลอยผู้หญิงผู้ชายเนี่ยนะไอ้ค่าพวกเนี้ย
02:20:57 → 02:21:01 นะกระเด็นกระดอนเลยปุ้งไปหมดเลย
02:21:01 → 02:21:04 นะก็คนนี้ก็เหมือนกันนะก็ต้องมาแก้เรื่อง
02:21:04 → 02:21:08 อาหงอาหารคุณก็ต้องเติมคาฟ
02:21:08 → 02:21:12 นะหาคาฟที่ดีนะแล้วก็ปรับลดเรื่องของ
02:21:12 → 02:21:17 เนื้อสัตว์ใหญ่เนื้อแดงๆนะไมันหิตัวิก
02:21:17 → 02:21:21 16 คือคือมันต้องแก้อย่างเงี้ยฮะแก้
02:21:21 → 02:21:23 อย่างเงี้แล้วก็ติดตามแล้วก็ f แล้วก็ดู
02:21:23 → 02:21:27 ข้อเปรียบเทียบนะว่ามันจะจริงมไแต่ส่วน
02:21:27 → 02:21:31 ใหญ่เนี่ย 1 เราไม่รู้เรื่องกันนะทั้งหมอ
02:21:31 → 02:21:35 ทั้งคนไข้ไงอ้ามึงว่ากินกีโตวกินเนื้อ
02:21:35 → 02:21:39 เกลือไข่ดีมก็กินไปอย่างงั้นนะแลบจะออกมา
02:21:39 → 02:21:41 ยังไงก็ไม่รู้อ่ะ
02:21:41 → 02:21:46 นะก็ก็ต้องปล่อยไปอย่างงนี้แหละเรารู้แต่
02:21:46 → 02:21:48 แก้ไม่
02:21:48 → 02:21:53 ได้เราไม่ใช่คนเป็นหรือคนที่จะเ่าอยู่ติด
02:21:53 → 02:21:58 กับเค้าอยู่ใช่ไม่วันเนี้ผมก็ฟังบางคนนะ
02:21:58 → 02:22:00 เค้าก็ไล่กินมาหมดเลยนะกินทั้งกีโตกิน
02:22:01 → 02:22:03 ทั้งโลคาบกินทีออยก็กินนะพี่หมอแต่ไม่ได้
02:22:03 → 02:22:06 บอกว่ากินยังไงนะ
02:22:06 → 02:22:10 เออเพเ้าไม่รู้ไส้นายอาหารคุณต้องลงเป็น
02:22:10 → 02:22:13 รายละเอียดด้วยนะแล้วก็เอามาจี้มาจ้ำกัน
02:22:13 → 02:22:18 เลยถูกผิดกินได้กินไม่ได้อะไรอย่างเงี้ย
02:22:18 → 02:22:23 เออถ้ามันมันมันไม่มีมันข้อมูลมันก็ยากนะ
02:22:23 → 02:22:25 พูดแต่หัวข้อมันก็
02:22:25 → 02:22:29 ยากส่วนอันเนี้ยที่เราเห็นอยู่นะฮะว่าอัน
02:22:29 → 02:22:33 นี้ก็คือเป็นเป็นสถานการณ์ทั่วไปอ่ะในคน
02:22:33 → 02:22:37 เเรชรุ่นใหม่นะอย่างเด็กอายุ 14 ปีเด็ก
02:22:37 → 02:22:41 ผู้ชายเนี่ยน้ำหนักประมาณ 101 กล 100 กล
02:22:41 → 02:22:46 นะ 101 กลหรือแนี้แหละนะแล้วก็เนี่ยเอ่อ
02:22:46 → 02:22:49 เค้าก็แชร์เชือนแหละนะเนี่ยนก็น่าจะมีหมอ
02:22:49 → 02:22:53 แนะนำให้ตรวจสุขภาพในชุดใหญ่แล้วก็มีจจะ
02:22:53 → 02:22:57 อ่าตรวจออกมาหลายๆตัวนะฮะนะแต่พอมาใส่ใน
02:22:57 → 02:23:00 ตารางของเราเนี่ยมันได้ข้อมูลเยอะเลยอัน
02:23:00 → 02:23:03 นี้ก็คือสถานการณ์ของคนที่กินเนี่ย
02:23:03 → 02:23:06 Standard อกัน died หรือ 5 หมู่แล้วตาม
02:23:06 → 02:23:11 กระแสตามกระแสอ่าของโลกอ่ะนะที่จะมีการ
02:23:11 → 02:23:16 กินอาหารแปรรูปอาหารแบบ R เอฟเฟคอะไรต่าง
02:23:16 → 02:23:19 ๆเนี่ยโดยรู้เท่าไม่รู้หรอกเไม่รู้แล้ว
02:23:19 → 02:23:21 มันเกิดอะไรขึ้นนะฮะเนี่ย
02:23:21 → 02:23:25 เนี่ยคนมีความรู้เขก็จะเจาะิอูน่าตั้ 10
02:23:25 → 02:23:32 จะ 12 นะ a1c ก็ 6.4 นะฮะ 6.4 เออ fing
02:23:32 → 02:23:35 แบ q9 เท่าไหร่ไม่รู้ลืมไม่ได้ย fing แบ
02:23:35 → 02:23:41 มีมอ๋อ 101 10 10 นะฮะอันนี้มันต่ำนะ
02:23:41 → 02:23:47 เนี่ยการทำงานของไนะเนี่ยเห็นมคันนี้ก็
02:23:47 → 02:23:51 อ้วนนะอ้วนแบบพุงเครียดนี่แหละนะฮะแล้วนะ
02:23:51 → 02:23:55 กล้ามเนื้อน้อยนะกล้ามเนื้อมันถูกเบียดไป
02:23:55 → 02:24:00 ด้วยเซลล์ไขมันสะสมนะเอ็นไซม์ตับก็พุ่ง
02:24:00 → 02:24:04 เข้าไปตั้ง 46 นะฮแล้วก็ดูแล้วกันอัตรา
02:24:05 → 02:24:08 ส่วนเนี่ยน้อยกว่า 0.5 อีกนะฮะตับแย่ไป
02:24:08 → 02:24:11 หมดเลยตับแย่ไปหมดเลยทั้งๆที่เขเป็นเด็ก
02:24:11 → 02:24:16 อายุ 14 ตัดควรจะสะอาดนะไม่น่าจะพุ่งเกิน
02:24:16 → 02:24:20 20 ด้วยล่ะเอนไซมนะนี่ตับมันกลายเป็น
02:24:20 → 02:24:24 เป็นไขมันพอกมีการอักเสบหรือว่ามีสารพิษ
02:24:24 → 02:24:26 อะไรต่างๆที่ร่างกายไม่รู้จักแล้วยังเอา
02:24:26 → 02:24:30 ออกไม่ได้เนี่ยเราก็จะเห็นว่าระบบอะไร
02:24:30 → 02:24:32 ต่างๆเนี่ย
02:24:32 → 02:24:38 เออเนี่ยระบบการเผาผลาเ ldl การเผาผลาญนะ
02:24:38 → 02:24:42 เผาผลาญไขมันนะและเป็นการทำงานของตับที่
02:24:42 → 02:24:45 จะเอาไขมันมาเผาแปลว่าอะไรแปลว่าตับเนี่ย
02:24:45 → 02:24:50 เผาไขมันได้น้อยนะอ่าเผาไขมันได้น้อย
02:24:50 → 02:24:53 เพราะตับอาจจะมีปัญหาอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะฮ
02:24:53 → 02:24:56 หรือมีข้อจำกัดว่าไม่มีไขมันไม่ให้เผานะ
02:24:56 → 02:24:59 เนี่ยตัวเลขมันก็เลยรางงานูรายงานว่าต่ำ
02:24:59 → 02:25:00 นะ
02:25:00 → 02:25:04 ฮะแล้วก็ตัวไตกอันนี้ก็สูงแบบที่มันเป็น
02:25:04 → 02:25:09 ดือินซูลินอยู่นะฮะ 200 กว่าเแต่ว่า
02:25:09 → 02:25:15 เรื่องประตูรีตรีตอะไรต่างๆก็ยังดี
02:25:15 → 02:25:19 อยู่แต่คืออหาร hdl ก็พุ่งไปโอโหเยอะเลย
02:25:19 → 02:25:25 นะ pyg ก็เห็นมอ่าเกิน 4.49 เนี่ยมันถึง
02:25:25 → 02:25:27 จะเป็นเด็กเป็นอะไรก็เหอะคุณกินผิดเนี่ย
02:25:27 → 02:25:32 โภชนาการเนี่ยมันฟ้องนะๆงแดงๆโอ้โหเห็น
02:25:32 → 02:25:38 มนะแล้วเป็นยังไง non hdl -12 เเรนก็ 42
02:25:39 → 02:25:42 นี่ขนาดเด็กอยู่นะนะแต่ก็อย่างว่าแหละนะ
02:25:42 → 02:25:44 ก็คือดื้ออินซูลิน
02:25:44 → 02:25:48 นะอาจจะยังไม่ดื้อเลตินมั้งเนี่ยนะก็บอก
02:25:48 → 02:25:51 ไม่ได้หรอกแต่ว่าตอนนี้ระบบบริต่างๆนะ
02:25:51 → 02:25:57 ทั้งไรปิดทั้งไลโปโปรตีนนะร่มสลายซะแล้ว
02:25:57 → 02:26:01 ล่ะเ้อนะที่สำคัญก็คือตับองค์ตับอ่อน
02:26:01 → 02:26:04 เบต้าเซลล์มันจะเป็นยังไงหรือเปล่านะเบา
02:26:04 → 02:26:09 หวานก็มาแล้วด้วยนะเบาหวานในเด็กอืจะรีบม
02:26:09 → 02:26:12 ล่ะที่จะใช้ไอ้ยาเยออะไรต่างๆในการ
02:26:12 → 02:26:16 กระตุ้นควบคุมอินซูลินนะทั้งๆที่เป็น DM
02:26:16 → 02:26:20 type 2 ไม่ได้เป็น type One ไเด็กนะเ 4
02:26:20 → 02:26:26 ปีก็เป็น DM ไปแล้วเงี้ยเหรอเออแล้วทำไง
02:26:26 → 02:26:30 อ่ะอันนี้เขก็อยากอาจจะยังไม่ตีว่าเป็น
02:26:30 → 02:26:34 แค่ไฮเปอรอินซูลินมั้งนะยังไม่ไม่แล้วก็
02:26:34 → 02:26:38 เป็นพี diabetes แต่ถ้าเกิน 6.5 ถึงจะ
02:26:38 → 02:26:42 อนุญาตให้เป็นเบาหวานไ้ทูเงี้ยแต่ยังไงก็
02:26:42 → 02:26:45 ตามพวกเนี้ยนะหลักการไม่น่าจะใช้ยาหรอก
02:26:45 → 02:26:48 ต้องเปลี่ยนอาหารแต่พ่อแม่จะให้ความร่วม
02:26:48 → 02:26:52 มือหรือเปล่าแต่ตัวเด็กบางทีเควบคุมยากเ
02:26:52 → 02:26:55 จะเข้าใจมยล่ะเจะมีองค์ความรู้เ่อที่จะไป
02:26:55 → 02:26:58 กินเป็นกินถูกกินเหมาะสมอะไรมยหรือจะทำ
02:26:59 → 02:27:00 Fast เิเลยมั้ย
02:27:00 → 02:27:03 เนี่ยคือถ้าคุณยังดื้ออินซูลินอะไรอยู่
02:27:04 → 02:27:08 เนี่ยนะต่อให้คุณไปออกกำลังกายแฮกๆๆๆๆ
02:27:08 → 02:27:10 หรือไปอดไปอะไรต่างๆเหล่านี้ไม่ได้คุณ
02:27:10 → 02:27:12 ต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อนนะฮะต้องเคลียร์
02:27:12 → 02:27:16 อินซูลินไปก่อนนะให้ลดลงต่ำกว่า 15 ก่อน
02:27:16 → 02:27:21 นะอนี้มันขึ้นไปเกือบ 3 เท่าอ 47 นะต้อง
02:27:21 → 02:27:25 ลงมาน้อยกว่า 15 ก่อนนะถึงจะไปเริ่มอ่าจะ
02:27:25 → 02:27:27 ออกแรงออกกำลังหรือ
02:27:27 → 02:27:31 จะอะไรต่างๆนะอดก็น่าจะยากอยู่หรอกเด็ก
02:27:31 → 02:27:36 ด้วย 14 ปีเด็กผู้ชายด้วย
02:27:36 → 02:27:41 เอออันนี้เราเห็นกันแล้วเนาะนะพอใส่ตาราง
02:27:41 → 02:27:45 เนี่ยมันบอกอะไรได้เยอะแยะเลยข้อมูลมา
02:27:45 → 02:27:54 เพียบก็เป็นไปตามนี้หมดแล้วล่ะหมด
02:27:54 → 02:27:58 แล้วคือครับผมคือคือถ้าวันเนี้ยนะเด็กคน
02:27:58 → 02:28:02 เนี้ยนะเราถามว่าแล้วจะกระตุ้นให้ไอ้ตัว
02:28:02 → 02:28:05 ปุ่มเอนไซม์ไสต่างๆเนี่ยนะฮอร์โมน
02:28:05 → 02:28:09 sensitive ไสอะไรโตีไเนะออกมาช่วยเยังไง
02:28:09 → 02:28:13 อ่ะนะก็คือต้องมีทั้งูคารอนกับแอรีนออกมา
02:28:13 → 02:28:17 แต่แอดที่ออกมาจะต้องไม่มีขศมาเป็นข้อแม้
02:28:17 → 02:28:20 เนี่ยเนอะจะทำยังไงนะ
02:28:20 → 02:28:23 ก็ต้องเนี่ยเรื่องกินนี่แหละเอากลคกอนนี่
02:28:23 → 02:28:24 แหละเป็นหลัก
02:28:24 → 02:28:28 เออก็ต้องอ่าจำกัดควบคุมอินซูลินไฮเปอร์
02:28:28 → 02:28:31 อินซูลินอะไรต่างๆก็อินซูลินมาเพียบหัว
02:28:31 → 02:28:35 ก้อนไม่มาหรอกนะ
02:28:35 → 02:28:37 เออ
02:28:37 → 02:28:41 แอรีนเหรอแอรีนไม่น่าจะมานักหรอกนะ
02:28:41 → 02:28:47 คอร์ติซอลน่าจะมาซะจนแบบแดนีกลัวหัวหดไป
02:28:47 → 02:28:51 หมดคือนะอย่างนึงเนี่ยที่เราพูดคุยในเป็น
02:28:51 → 02:28:54 ลักษณะว่าเออเป็นตัวพ่อตัวแม่ตัวลูกลูก
02:28:54 → 02:28:57 สาวลูกชายอะไรอย่างเงี้ยนะบางทีเราก็จะ
02:28:57 → 02:29:03 เข้าใจอะไรง่ายขึ้นนนะฮะเพราะว่าใครก็ตาม
02:29:03 → 02:29:06 ที่มันไม่ได้เล่าเรื่องแบบ House of มน
02:29:06 → 02:29:09 ต่างๆเนี่ยมันดูเป็นตัวๆเนี่ยบางทีมันก็
02:29:09 → 02:29:14 สับสนงงแล้วก็จำผิดจำถูกยิ่งวันนี้เนี่ย
02:29:14 → 02:29:16 ผสมเรื่องเอนไซม์ด้วยหมอเองยังพูดผิดพูด
02:29:16 → 02:29:22 ถูกเลยลิ้นเริ้นไขว้กันไปหมด
02:29:22 → 02:29:27 โอเคนะเนี่ยก็มีเคสให้ดูในลักษณะ
02:29:27 → 02:29:32 นี้
02:29:32 → 02:29:40 ผมมีใครจะคุยอะไรถามอะไร
02:29:40 → 02:29:44 มยเนี่ยเราจะถามหน่อยว่าเป็นยังไงบ้างที่
02:29:44 → 02:29:46 ที่ไปแปลงอย่างนี้มา
02:29:46 → 02:29:51 เนี่ยเนี่ยแปลงมาเป็นมือชี้ที่ชี้
02:29:51 → 02:29:55 ว่าว่าไอ้ตรงเนี้ยจะได้ไม่งงเพราะว่าตรง
02:29:55 → 02:30:00 เนี้ย vldl เนี่ยนะเ 5 เนี่ยนะฮะนะมันก็
02:30:00 → 02:30:04 จะเอาไตคลนเนี่ยนะมาต่อเป็นรูปแบบข้าง
02:30:05 → 02:30:09 ล่างเนี้ย 2
02:30:09 → 02:30:12 พว 2 part
02:30:12 → 02:30:17 ซึ่งกินถูกมยถ้ากินถูกมาเนี่ยนะนะ low C
02:30:17 → 02:30:19 High Good Fat อะไรต่างๆพลังงานเหลือ
02:30:19 → 02:30:23 มาไม่เยอะนะอ่าหรือขณะเดียวกันเนี่ยกำลัง
02:30:23 → 02:30:26 มีการฟากำลังออกแรงออกกำลังนอนหลับไม่ได้
02:30:26 → 02:30:32 กินอะไรต่างๆเเงี้ยนะเนี่ยการที่จะเกิด
02:30:32 → 02:30:37 การส่งต่อนะอ่าส่งไม้ต่อของตับเนี่ยออกมา
02:30:37 → 02:30:40 ในกระแสเรียกก็เป็น low ไินนะเพราะฉะนั้น
02:30:40 → 02:30:44 ก็เป็น smaller vldl อะไรต่างๆนะแล้วก็
02:30:44 → 02:30:47 มีแค่เอนไซม์ไลโปโปรตีนไลเปสออกมาเท่า
02:30:47 → 02:30:51 นั้นนะฮะก็กลายไปเป็นเนี่ย ldl ไ a กับ
02:30:51 → 02:30:56 เข้าต่เป็น l ldl ldl ใช a แล้วก็พลัง
02:30:56 → 02:31:00 งานพวกนี้ก็เป็นพลังงานที่จะเอาไปซ่อมแซน
02:31:00 → 02:31:03 สร้างถ้ากินถูก
02:31:03 → 02:31:07 นะแต่ถ้ากินโคร High Good Fat แต่ก็ไม่
02:31:07 → 02:31:12 ถูกไม่ถูกก็ก็จะมีพลังงานบางส่วนไปสร้าง
02:31:12 → 02:31:19 ซ่อมได้บางส่วนก็ก็ไม่ได้นะฮะเราจะมามีผล
02:31:19 → 02:31:28 ตกกดยิอะไรอย่าง
02:31:28 → 02:31:34 งี้อ่ามีใครจะถามอะไรมั้ยอันนี้อันนี้ลอง
02:31:34 → 02:31:38 ไปดูเรียบเรียงไปไปจับความสัมพันธ์
02:31:38 → 02:31:43 กันไอ้ภาพเมื่อกี้ดีมากเลยนะพี่หมอหมาย
02:31:43 → 02:31:47 ถึงภาพเดี่ยวเนี่ยนะอ่าภาพนี้แหละนี่แหละ
02:31:47 → 02:31:51 นี่แหละที่เชื่อมลงมาที่เชงมาถกระนการ
02:31:51 → 02:31:56 เกิด ldl a
02:31:56 → 02:32:01 ใช่เอ่อเนี่ยก็ต้องไปเติมนะตรงเนี้ย L
02:32:01 → 02:32:06 ldl ก็คือ ldl a แล้วก็กลับเข้าต่นะ
02:32:06 → 02:32:11 ฮะก็อันนี้เป็น smaller ldl ก็คือ ldl
02:32:11 → 02:32:16 กับเข้าคือถ้าระบบมันสมดุลจริงๆเนี่ยไอ้
02:32:16 → 02:32:19 เรือ vdl ที่มันออกไปจากตับเนี่ยปาย Time
02:32:19 → 02:32:23 มันก็เป็น ldl type a ซึ่งมันลื่นก็ไม่
02:32:23 → 02:32:27 ค่อยจะทานไิได้อยู่แล้วใช่มพี่บอกใช่แล้ว
02:32:27 → 02:32:29 มันก็จะไม่ค่อยสร้างปัญหาเออพลังงานคุณ
02:32:29 → 02:32:33 ได้ไปซ่อมไปสร้างด้วยไงอยู่ในกระแส
02:32:33 → 02:32:37 เลือดคือเหตุที่ทุกอย่างเนี่ยจะต้องมา
02:32:37 → 02:32:40 เข้าระบบเลือดเพราะว่าร่างกายเนี่ยก็
02:32:40 → 02:32:43 ต้องการเอาพลังงานและสารอาหารเนี่ยไปซ่อม
02:32:43 → 02:32:48 แซมสร้างนะซึ่งยังไงยังไงเนี่ยคเที่จะ
02:32:48 → 02:32:52 ต้องออกมาเป็นเบอร์ 5 หนมันต้องมาไม่มา
02:32:52 → 02:32:56 งั้นไม่มีอะไร่ะไปซ่อมไอ้อวัยวะหรือว่า
02:32:56 → 02:32:58 เนื้อเยื่อหรืออะไรต่างๆเนี่ย
02:32:58 → 02:33:03 นะมันต้องไปทางระบบเลือดนะฮะเพราะระบบน้ำ
02:33:03 → 02:33:06 เหลืองมันซ่อมไม่ได้มันไปให้ไปเป็นพลัง
02:33:06 → 02:33:10 งานอย่างเดียวพลังงานเอาไปใช้ใชใช้ด้วย
02:33:10 → 02:33:12 เป็นข้อ
02:33:12 → 02:33:15 กำหนดแต่ระบบเก็จะได้กฎ
02:33:15 → 02:33:20 ยูรินะแต่ส่วนใหญ่ยูริมันจะไม่สูงมันจะดี
02:33:20 → 02:33:23 หมดเลยถ้าฮอร์โมนมันออกมาอย่างพอ
02:33:23 → 02:33:27 ดีแต่ถ้าคุณกินไม่ถูกต้องระบบนี้ก็ยังทำ
02:33:27 → 02:33:30 งานอยู่แล้วก็จะมาต่อที่จะมาระบบนี้นะ
02:33:30 → 02:33:33 แล้วพอมาระบบนี้เนี่ย
02:33:33 → 02:33:38 เออมันก็จะกลายเป็นฮอร์โมนที่ไม่ใช่
02:33:38 → 02:33:41 ฮอร์โมนประเภทสลายเผ่าผาพลังงานแล้วไปซม
02:33:41 → 02:33:46 กลายเป็นฮอร์โมนคอร์ติซอลแต่คอซอเนี่ยเค
02:33:46 → 02:33:50 เอาไปซ่อมไม่ได้เซ่อมไม่ได้นะงั้นซ่อมไม่
02:33:50 → 02:33:54 ได้ก็จะเกิดกฎยูริกเยอะนะแต่เนื่องจากว่า
02:33:54 → 02:33:58 ไปกินแบบโเอมันถูกควบคุมอะไรมาตั้งแต่ต้น
02:33:58 → 02:33:59 เนี่ยนะ
02:33:59 → 02:34:05 ไรยเนี่ยมันก็เลยโอกาสที่จะเกิดภาวะ cy
02:34:05 → 02:34:06 attack
02:34:06 → 02:34:10 [เพลง]
02:34:10 → 02:34:14 ยากแต่ถ้าทุกอย่างมัน fail แล้วมันมาใน
02:34:14 → 02:34:18 ระบบข้างล่างถอย่างงี้เกิดเกิดเกาทได้
02:34:18 → 02:34:22 ง่ายเอไซียเดี๋ยวมันก็ไปเกาเพราะว่าอนินเ
02:34:23 → 02:34:28 เป็นตัวบริหารจัดการทุกอย่างในฝั่งร่าง
02:34:28 → 02:34:33 เอืมันจะไปต่อกันเรื่องอินซูลินนะฮะนะไป
02:34:33 → 02:34:37 ดูต่อกันเลยแล้วเราจะเข้าใจว่า
02:34:37 → 02:34:43 ไฮเปอร์ยูรีเมียเนี่ยมันมีอยู่ 3 รูป
02:34:43 → 02:34:46 แบบอย่างรูปแบบข้างล่างเนี่ยมันเกิดจาก
02:34:46 → 02:34:50 กองบลูปเทพแล้วมันอยู่ในระบบน้ำหลึกเพ
02:34:50 → 02:34:53 ฉะนั้นริแที่จะพ้นออก
02:34:53 → 02:34:56 มามันไม่เยอะนะกว่า
02:34:56 → 02:35:00 55 แล้วระบบเยเป็นระบบที่แสดงถึงภาวะที่
02:35:00 → 02:35:05 ร่างกายใช้พลังงานได้มีพลังงาน
02:35:05 → 02:35:11 ใช้ส่วนระบบนี้นะระบบนี้เป็นระบบที่ร่าง
02:35:11 → 02:35:15 กายก็เป็น Fat burner แหละแต่แต่มันมี
02:35:15 → 02:35:19 ปัญหาที่ว่ามันกินอาจจะไม่ถูกต้องนะพลัง
02:35:19 → 02:35:25 งานที่ใช้นะไม่สามารถจะใช้สร้างซ่อมที่
02:35:25 → 02:35:28 เสียหายได้
02:35:28 → 02:35:34 เป็นแต่เอแต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะเกิดเนะ
02:35:34 → 02:35:37 หลายคนเนี่ยที่มีค่าแลบอะไรต่างๆเมาให้
02:35:37 → 02:35:41 อธิบายเนี่ยนะเก็ยังไม่เข้าใจในเรื่องอัน
02:35:41 → 02:35:45 กลางอันนี้คุณไยแต่คุณไม่เป็นเกาทหรอกห
02:35:45 → 02:35:49 มันจะ 7 8 อะไรก็ตามนะฮนะคุณก็ไปลด
02:35:49 → 02:35:53 ฮอร์โมนคอร์ติซอลสิแล้วก็จะได้ผักหรือเน
02:35:53 → 02:35:55 ให้มันมาอยู่ในข้างล่างเหล่าเนี้ยแล้ว
02:35:56 → 02:36:00 เดี๋ยวกดคุณจะ
02:36:00 → 02:36:03 ลดแต่อีพวกที่เป็นเก๊าทเนี่ยส่วนใหญ่มัน
02:36:03 → 02:36:08 เข้าอันนี้นะฮะนะเนี่ยเกดยิมันก็พุ่งนะ
02:36:08 → 02:36:12 หรือบางคนพุ่ง 6 นะแต่ก็เตี้แทคปวดบวมแดง
02:36:12 → 02:36:17 ร้อนโอดโอคานดแดงดแดงจะไปห้องน้ำก็ไปไม่
02:36:17 → 02:36:22 ได้เงี้ยนะ้องควนค้างอยู่นั่นแหละนะเพราะ
02:36:22 → 02:36:25 อะไรอ่ะทำไม 6 แล้วเป็น cy attack อ่ะนะ
02:36:25 → 02:36:29 ก็เพราะคุณอยู่ในพวข้างบนนี้แหละนะเนี่ยค
02:36:30 → 02:36:33 อยู่ในโหมดของการสะสมเก็บกับพลังงานเพราะ
02:36:33 → 02:36:37 ฉะนั้นอินซูลินมานะหรือมาทั้งคู่ทั้งแม่
02:36:37 → 02:36:41 พ่อมาหมดนะการมีอินซูลินนี่แหละมันเป็นทำ
02:36:41 → 02:36:45 ให้เกิดการตกผลึกของเซลแล้วก็เขาวมาจับ
02:36:45 → 02:36:50 กินก็เกิดกระบวนการอักเสบสู้กัน
02:36:50 → 02:36:55 ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้อครับเออหรือค
02:36:55 → 02:37:00 โแล้วนะคุณมากินโคฟแล้วแต่คุณกินผิดแล้ว
02:37:00 → 02:37:03 มันมีคอร์ติซอลออกมาแต่ไม่มีอินซูลิน
02:37:03 → 02:37:08 เพราะกินโคฟ CD แต่คุณเนี่ยกดยูริกเกิน
02:37:08 → 02:37:13 แล้วคุณก็จะเป็นผีบ้าน่ะนะเ่อโูโวยวายว่า
02:37:13 → 02:37:16 ขนาดกินโาฟแล้วอะไรแล้วนะกินมาตั้งนาน
02:37:17 → 02:37:19 แล้วกดยูริกก็ไม่ลงนะแต่แต่มันก็ไม่เป็น
02:37:20 → 02:37:23 เก๊าทซักทีแต่ก็หาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะ
02:37:23 → 02:37:26 อะไรก็นี่งมาตอบให้แล้วไงว่ามันเป็นอย่าง
02:37:26 → 02:37:29 งี้นะเพราะฉนั้นเข้าใจยังเข้าใจแล้วก็ไป
02:37:29 → 02:37:34 แก้คอร์ติซอลซะไปแก้ยังไงอ่ะว่าท้ายๆ
02:37:34 → 02:37:38 เนี่ยสไลด์ไปแล้วล่ะนะก็ไปปรับซแล้วถ้าจะ
02:37:38 → 02:37:40 ให้ดีกว่านั้นเนี่ยคุณกินให้มันถูกแล้ว
02:37:40 → 02:37:43 ให้อัญเชิญฮอร์โมนลูกเทพออกมาแล้วเดี๋ยว
02:37:43 → 02:37:46 คุณก็จะลดลงอย่างเงี้ยเกก็ว่าเป็นยูริกก็
02:37:46 → 02:37:49 สบายใจก 5.5
02:37:49 → 02:37:53 สรุปว่าเก๊านี่มันเป็นจากอินซูลินเยอะใช่
02:37:53 → 02:37:56 มั้ยครับ่าอินซูลินเยอะแล้วคอร์ติซอลเยอะ
02:37:56 → 02:38:00 มันไม่ได้คอร์ติซอลเยอะเนี่ยก็จะเกี่ยวใน
02:38:00 → 02:38:03 ลักษณะที่ว่าถ้าเกิดเยอะมากๆแล้ว
02:38:03 → 02:38:07 คอร์ติซอลไปกูโคจสทตับให้สร้างน้ำตาลออก
02:38:07 → 02:38:10 มาเยอะๆแล้วเดี๋ยวอินซูลินเก็จะมานะถ้า
02:38:10 → 02:38:14 ถึงตาที่อินซูลินเริ่มมาเดี๋ยวเก็จะตามมา
02:38:14 → 02:38:19 เพราะว่าความหลักการสำคัญของเี้ Attack
02:38:19 → 02:38:22 นะเกี้ attack นะไม่ใช่เซีียต้องมี 3
02:38:22 → 02:38:25 เรื่องคือต้องมีอินซูลินต้องมีเรื่องของ
02:38:25 → 02:38:29 น้ำตาลจะเป็นกลูโคสุกโคสหรืออะไรก็ตามนะ
02:38:29 → 02:38:32 ซูโคสอะไรต่างๆนะ
02:38:32 → 02:38:36 เนี่ยคือหมายถึงว่ามีการกินน้ำตาลในช่วง
02:38:36 → 02:38:38 นั้นนั่นแหละไปทริกเกอร์มันใช่มั้ยฮะหรือ
02:38:39 → 02:38:42 ไม่กินก็ได้นะฮะไม่กินก็ได้แต่คอร์ติซอล
02:38:42 → 02:38:47 เนี่ยมันเยอะเยอะซะจนเนี่ยอ๋อคือคือเป็น
02:38:47 → 02:38:50 ไฮเปอร์ไกลทีเมียเออ
02:38:50 → 02:38:55 ตรงนี้เออนะเพราะฉะนั้นเมื่อน้ำตาลมัน
02:38:55 → 02:38:59 เกินลิมิตเช่นแหมตอนเช้าๆมันพุ่งขึ้นไป
02:38:59 → 02:39:03 อย่างผู้หญิงเมื่อกี้เนี่ย 146 เงี้ยเออ
02:39:03 → 02:39:06 เดี๋ยวเี่อินซูลินจะมาแล้วอินก็ค่อยๆพีค
02:39:06 → 02:39:08 มาเรื่อยๆแล้ว
02:39:08 → 02:39:11 ล่ะอ๋องั้นงั้นเวลาเราจะดูว่าใครใครจะ
02:39:11 → 02:39:13 เป็นเกที่ attack ได้เนี่ยมันต้องมี 3
02:39:13 → 02:39:16 ตัวก็คืออินซูลิน
02:39:16 → 02:39:20 เยอะน้ำตาลพุ่งจากกินหรือจากอะไรก็แล้ว
02:39:20 → 02:39:24 แต่จากสเตสจากอะไรก็ได้จเอออกแรงออกแล้ว
02:39:24 → 02:39:30 ก็มียูริกในเลือดสูงอยู่เดิมด้วยใช่ใช่มี
02:39:30 → 02:39:35 ยูริคไฮเปอร์ยูรีเมียอยู่นะที่เป็นระเบิด
02:39:35 → 02:39:40 เวลาอินซูลินมายังน้ำตาลมาหรือยังเอ่อ
02:39:40 → 02:39:43 อินซูลินจะมายังไงน้ำตาลมายังไงฉันไม่สน
02:39:43 → 02:39:47 นะถ้าองค์ประกอบ 3 อย่างเพียบพร้อมตก
02:39:47 → 02:39:53 ตะกอนอักเสบนะ cy attack นะ
02:39:53 → 02:39:57 ฮเพราะฉะนั้นในเรื่องของพลังงานเนี่ยนะฮะ
02:39:57 → 02:40:00 ก็เป็นเรื่องคำตอบที่สำคัญที่สุดของการจะ
02:40:00 → 02:40:04 เกิด cy attack ว่าคุณเชิญชวนให้ร่างกาย
02:40:04 → 02:40:07 ของคุณน่ะอยู่ในโหมดพลังงานอะไรอยู่นะ
02:40:07 → 02:40:09 สะสมหรือเผา
02:40:09 → 02:40:13 ผ่าอย่าสะสมอย่าสะสมอย่าเก็บกักให้ช่วง
02:40:13 → 02:40:16 เวลาในการสะสมเก็บกักเนี่ยมันเป็นไปตาม
02:40:16 → 02:40:19 การกินมื้อแรกมื้อเย็นแบบที่เราพูดกันไป
02:40:19 → 02:40:21 เพราะว่าจะได้ควบ
02:40:21 → 02:40:25 คุมให้คุณเนี่ยผลักระบบพลังงานของเซลล์
02:40:25 → 02:40:28 ต่างๆร่างกายอยู่ในโหมดของการเผาผลาเผาผา
02:40:28 → 02:40:33 เผาผานะแต่คุณจะเผาผลาญถูกเผาผลาผิดเนี่ย
02:40:33 → 02:40:37 นะก็ต้องมาไปแยกประเด็นอยู่ถ้าคุณกินถูก
02:40:37 → 02:40:41 นะโ High Good แอยมื้อแรกมื้อหลังปุงเิ
02:40:41 → 02:40:45 อะไรเป็นสัดส่วนอะไรต่างๆเ่อเ่องน้ำสลัด
02:40:45 → 02:40:47 เป็นอะไรเป็นเนี่ยคุณก็จะอัญเชิญฮอร์โมน
02:40:47 → 02:40:51 ลูกเทพถ้าอย่างงนี้มันจะเป็นไรแต่ถ้าคุณ
02:40:51 → 02:40:54 พาดพั้งยังรู้ไม่รู้เรื่องยังกล้าๆกลัวๆ
02:40:54 → 02:40:58 ยังผิดๆถูกๆอยู่คุณก็อาจจะไม่สามารถเอา
02:40:58 → 02:41:04 ฮอร์โมออกมาได้แต่คิอเขมาว่าการแทนนไม่
02:41:04 → 02:41:09 มาถ้าอย่างเงี้ยคุณก็มีโอกาสที่จะเป็นแค่
02:41:09 → 02:41:14 ไฮเปอร์แต่ไม่เกิดเ attack ยกเว้นแต่ว่า
02:41:14 → 02:41:19 มันนานๆนนๆๆๆไปเนี่ยนะพิอมันเยอะนะแล้วน้
02:41:19 → 02:41:23 น้ำตาลมันพุ่งๆๆเดี๋ยอูนเข้ามานะเนี่ย
02:41:23 → 02:41:26 แล้วตอนนี้มันมีอันนี้อยู่แล้วนี่นะน้ำ
02:41:26 → 02:41:30 ตาลมาอินซูลินมาเรียบร้อยยายาที่เขาจ่าย
02:41:30 → 02:41:35 กันเยอะๆในการควบคุมเก๊าทตัวที่เขาลดอยู่
02:41:35 → 02:41:37 ลิกในเลือดอ่ะครับอาจารย์มันเอาจริงๆใน
02:41:37 → 02:41:41 มุมมองเราเนี่ยมันช่วยมครับพวกรูออะไรพวก
02:41:41 → 02:41:45 เนี้ยฮะเห็นๆเขาให้กันไม่คือมันช่วยในทาง
02:41:45 → 02:41:49 ทฤษฎีนะฮะแต่ในทางปฏิบัติเนี่ยมันมันไป
02:41:49 → 02:41:53 ปรับเรื่อง eat เรื่องเรื่อง eating
02:41:53 → 02:41:57 disorder ไม่ได้อ่ะนะเพราะว่ามันไม่ได้
02:41:57 → 02:42:01 แก้คอร์สเอออาหารที่เากินเนี่ยเ้าไม่รู้
02:42:01 → 02:42:06 หรอกเแยกแยะในไส้ในไม่
02:42:06 → 02:42:10 ได้มันมันต้องรู้ลึกๆจริงๆนะฮะแล้วก็มัน
02:42:10 → 02:42:12 ก็ต้องเหมือนแบบอื้อหือจะกินอาหารแต่ละ
02:42:12 → 02:42:16 อย่างเนี่ยจะลนซะทำมายังไงใส่อะไรแอบใส่
02:42:16 → 02:42:26 อะไรบริสุทธิ์ุดผ่องแค่ไหนนะทำเองต้องทำ
02:42:26 → 02:42:30 เองทำเองยังไม่ค่อยจะรอดเลยครับ 2 2
02:42:30 → 02:42:33 อาทิตย์ที่แล้วเนี่ยผมเป็นไอ้หน้าจะเก๊าท
02:42:33 → 02:42:35 แๆแต่ไม่ได้จอดเลือดยืนยันนะแต่ว่าคิดว่า
02:42:35 → 02:42:39 ไม่พลาดเพราะอากาศมันใช่เดินกับเดินกับ
02:42:39 → 02:42:40 เผกไป 3
02:42:40 → 02:42:45 วันแล้วแล้วมันเราก็มาทบทวนดูว่าเราเรา
02:42:45 → 02:42:48 กินเราไปหลุดกินหวานหรือผลไม้อะไรเยอะ
02:42:48 → 02:42:52 เหรอพลไม้เนี่ยไม่ได้กินเลยอืแต่ว่ามีมี
02:42:52 → 02:42:56 มีกินขนมที่หวานไม่มากนะไปซัก 3 คำอะไร
02:42:56 → 02:43:00 แค่นั้นเองอ่ะอืแต่ว่าติดๆกัน 2 วันนะแต่
02:43:00 → 02:43:02 มันแค่ 3 คำอ่ะคือมันมันก็ไม่น่าจะเยอะ
02:43:02 → 02:43:05 อะไรอ่ะเลยเลยกำลังคิดอยู่ว่าน่าจะเป็น
02:43:05 → 02:43:07 เพราะว่าตัวเองเนี่ยอินซูลินมันสูงค้าง
02:43:07 → 02:43:09 เหมือนเหมือกับมันเป็นเป็นลักษณะที่มัน
02:43:09 → 02:43:12 แก้ยากเพราะผมเวิออินซูลินไป 2 เดือนที่
02:43:12 → 02:43:16 แล้วมันยัง 35 อยู่เลยอืแต่ว่ายูริกผมดี
02:43:16 → 02:43:20 ขึ้นจาก 9.5 มาลงมาเหลือ 7.5 อืๆแสดงว่า
02:43:21 → 02:43:23 ไอ้ตัวยูริกอ่ะมันก็คงจะเหมือนระเบิดเวลา
02:43:23 → 02:43:26 แหละคือมันลดลงมาบ้างแต่มันยังสูงใช่แล้ว
02:43:26 → 02:43:30 แล้วแล้วอินซูลินเนี่ยมันสูงตลอดอ่ะพอมัน
02:43:30 → 02:43:32 มีอะไรไปทริกเกอร์มานิดนึงถึงเราจะไม่ได้
02:43:33 → 02:43:35 กินหวานจนน้ำตาลมันดีดอะไรอาจจะดีดก็ได้
02:43:35 → 02:43:36 เพราะไม่ได้เตบ
02:43:36 → 02:43:40 TGM มันก็เลยเล่นงานเลยแล้วแล้วไม่แน่ใจ
02:43:40 → 02:43:41 ว่ามันจะเกี่ยวกับอากาศเปลี่ยนมั้ยเพราะ
02:43:41 → 02:43:44 ว่ามันเป็นมันมันไปปวดวันที่ที่โคราช
02:43:44 → 02:43:46 เนี่ยอากาศเริ่มเย็นแบบเหมือนลมหนาวมัน
02:43:46 → 02:43:50 เข้าอีสานก่อนเงี้ยฮะเกี่ยวฮเี่ยว
02:43:50 → 02:43:53 แต่พี่ว่านะของโต้งอ่ะที่โต้งบอกโอ๊ผมกิน
02:43:53 → 02:43:56 2-3 คำเนี่ยอันนั้นก็เรียบร้อยเพราะ 1
02:43:56 → 02:43:58 อินซูลินเนี่ยมันรอไว้แล้วใช่มั้ยล่ะ
02:43:58 → 02:44:01 อินซูลินมันรอแล้วน่าจะเป็น aggressive
02:44:01 → 02:44:04 อินซูลินที่ว่าแล้วก็ยูริกเนี่ยถึง้งจะ
02:44:04 → 02:44:08 บอกว่าโอ๊ยพี่ยูริคผมก็ลงแล้ว 9 กว่านี่
02:44:08 → 02:44:11 ลงมาเหลือต่อให้เหลือ 6 นะก็ยังไม่รอดนะ
02:44:11 → 02:44:12 ฮะ
02:44:12 → 02:44:18 นะออเห 6 ก็ยังไม่รอดเ้าก็เราเราพี่เอง
02:44:18 → 02:44:21 เนี่ยเนี่ยก็พยายามหาคำอธิบายว่าเอ๊คน
02:44:21 → 02:44:24 เนี้ยนะเค้าก็ทำอะไรดูดีแล้วแล้วยิเนี่ย
02:44:24 → 02:44:28 เจาะทีใดเวลาเี้อทคเนี่ยมันก็แค่ 6 นะ
02:44:28 → 02:44:31 ทำไมมันไม่รอดสักกทีมันก็ูโบนอ่ะเตี้แค
02:44:31 → 02:44:34 จริงๆอะไรอย่างเงี้ยคือคือคือคือเก๊าบ่อย
02:44:34 → 02:44:36 มากทั้งๆที่ยูริกเค้าก็แค่ไ Normal น่ะ
02:44:36 → 02:44:41 ไม่ได้สูงชัดเจนด้วยซ้ำใช่เออเนี่ย 6
02:44:41 → 02:44:43 เนี่ยก็ยังไม่รอดเลยอ่ะนะแล้วต้องเท่า
02:44:43 → 02:44:46 ไหร่่ะก็ต้องน้อยกว่า 5 ถ้าอย่างงี้ถ้า
02:44:46 → 02:44:49 ถ้าเรามาให้น้ำหนักเนี่ย 3 ตัวนะผมอย่าง
02:44:49 → 02:44:52 ยกตัวอย่างอย่างเคตัวผมเองเป็นเก๊าทเนี่ย
02:44:52 → 02:44:57 อือแสดงว่าน้ำตาลเนี่ยอาจจะไม่ได้เยอะมาก
02:44:57 → 02:44:59 ก็ได้แต่ว่ามันเหมือนกับมันมาทอ up เพราะ
02:44:59 → 02:45:01 ฉะนั้นไอ้ตัวปัญหาจริงๆคือผมมีปัญหา
02:45:02 → 02:45:04 เรื่อง aggressive insulin คือมันอ้วน
02:45:04 → 02:45:07 แล้วมันดื้อแบบรุนแรงกว่าชาวบ้านเค้าอ่ะ
02:45:07 → 02:45:09 ไอ้อ้วนเท่าเรามันยังไม่ดื้อแบบเราบางคน
02:45:09 → 02:45:12 เลยแล้วก็ไอ้ตัวยูริคที่สูงเนี่ยก็เหมือน
02:45:12 → 02:45:15 กับว่าเป็นก็เป็นอีกตัวนึงอ่ะที่ว่าตัว
02:45:15 → 02:45:19 ร่วมมีตัวร่วมอ่าคือถ้าให้น้ำหนักเนี่ย
02:45:19 → 02:45:23 เป็นไปได้มว่าสมมุติ 100% นะไอ้อินซูลิน
02:45:23 → 02:45:26 เนี่ยอาจจะปาไปแล้ว 60 อ่ะคือคือพอดื้อ
02:45:26 → 02:45:29 มากๆเนี่ยมันก็พร้อมที่จะระเบิดน่ะแต่ใน
02:45:29 → 02:45:31 ขณะที่น้ำตาลไม่จำเป็นต้องเยอะยูริก็อาจ
02:45:31 → 02:45:33 จะเกินมาระดับนึงแม้จะดีขึ้นบ้างแล้วแต่
02:45:33 → 02:45:38 ยังเป็นไฮๆอยู่เนี่ยเรียบร้อยใช่ของโต้ง
02:45:38 → 02:45:42 นี่แหละอินซูลินนี่แหละเป็นสุดุดเลยนะ
02:45:42 → 02:45:46 เกินเกิน 60 นะค่อนข้างน้ำหนักเยอะมากไม่
02:45:46 → 02:45:49 ๆๆ 35 ครับไม่ใช่เกิน
02:45:50 → 02:45:52 ไม่ใช่เกิน
02:45:52 → 02:45:56 60% อ๋อเกิน 60 อ๋อเกิน 60% ของของที่ทำ
02:45:56 → 02:45:59 ให้เป็นเกาใช่จาก 3 เรื่องนี่แหละ
02:45:59 → 02:46:03 นะแล้วแล้วอย่างคนที่ว่าลดน้ำหนักมาสัก
02:46:03 → 02:46:07 พักนึงแล้วเนี่ยมันอาจจะทำได้ดีในช่วงแรก
02:46:07 → 02:46:11 แต่พอไปสักพักนึงเนี่ยนะน้ำหนักค้างแล้ว
02:46:11 → 02:46:14 ก็มาตรการก็เดิมๆอาจจะไม่ได้ว่าเปลี่ยน
02:46:14 → 02:46:17 มาตรการอะไรไม่ได้เคร่งน้อยลงเท่าไหร่แต่
02:46:17 → 02:46:19 แต่ว่าที่มันเคยได้ผลมันกลับไม่ได้ผลแล้ว
02:46:19 → 02:46:23 มันก็เริ่มปรับมาอ้วนอีกอะไรอีกเนี่ยถ้า
02:46:23 → 02:46:25 เป็นแบบผมเนี่ยคืออินซูลินสูงค้างขนาด
02:46:25 → 02:46:28 เนี้ยจะไปใช้เทคนิคพวกค cing หรือ She
02:46:28 → 02:46:30 Day ก็ผิดใช่มั้ยฮะเพราะว่าเพราะว่าเรา
02:46:30 → 02:46:34 ยังไม่พร้อมจะกินแป้งขนาดนั้นน่ะ
02:46:34 → 02:46:37 ใช่คุณก็ต้อง
02:46:37 → 02:46:41 าแบบ alate Day หรืออะไรต่างๆอ่ะที่ให้
02:46:41 → 02:46:45 ตัวเลขของอินซูลินหรือ ting มันโหลลก็คือ
02:46:45 → 02:46:48 แทนที่จะไปใช้การการ cing C เนี่ยอาจจะ
02:46:48 → 02:46:51 ต้องมาใช้การใช้ยาแรงอ่ะก็คืออดเลยอดดื้อ
02:46:51 → 02:46:54 ๆเลยนี่แหละยาวขึ้นแต่ไม่ใช่ว่าอดยาวบ่อย
02:46:54 → 02:46:57 ๆคืออดแบบเหมือนกับเล่นหนักๆสักทีนึงอ่ะ
02:46:57 → 02:47:02 ยอมทนหิวสักวันอะไรอย่างงั้นอืนะกำราบ
02:47:02 → 02:47:05 อินซูลินให้
02:47:05 → 02:47:08 ลงแล้วแล้วถ้าเราไปกำลับอินซูลินอย่าง
02:47:08 → 02:47:10 งั้นแล้วเราหิวเนี่ยแล้วแล้วพอเราหิวเรา
02:47:10 → 02:47:13 ก็เครียดใช่มั้ยคอร์ติซอลมามันจะไม่เป็น
02:47:13 → 02:47:15 ไรเหรอฮะเราเป็นพงเครียดอยู่แล้วอะไร
02:47:15 → 02:47:20 เงี้ยก็นี่งามมันก็เหมือนเป็นเวรกรรมนั
02:47:20 → 02:47:23 แหละติดตัวพ่อตัวแม่ไป
02:47:23 → 02:47:28 หมดแล้วยังมีเล็บตรงเลปตินเข้ามาวุ่นวาย
02:47:28 → 02:47:32 อีกเออพี่หมอไอ้ไฮเปอร์อินซูลินนีเมียก็
02:47:32 → 02:47:36 คืออินซูลินสูงค้างเนี่ยก็คือมันมันที่
02:47:36 → 02:47:38 พี่หมอใช้คำว่ามันมารออยู่แล้วใช่มั้ย
02:47:38 → 02:47:44 ครับก็คือมันใช่ก็คือมันมัน suin น่ะมัน
02:47:44 → 02:47:46 รออยู่แล้วการการที่มันรออย่างงั้นเนี่ย
02:47:47 → 02:47:50 แปลว่าร่างกายยังอยู่ในโหมดของของการสะสม
02:47:50 → 02:47:52 อยู่หรือเปล่าครับพี่หมอยังอยู่ในมลของ
02:47:52 → 02:47:56 การสะสมไอ้ยการสลายเผา
02:47:56 → 02:48:02 ผลาญโอ้แล้วเมื่อไหร่มันจะลงอ่ะพี่
02:48:02 → 02:48:05 หมอมันสูอย่างงั้นทั้งวันทั้งคืนเลยั้พี่
02:48:05 → 02:48:08 หมอเมันสูงถึงขนาดนั้นแต่เดี๋ยวเก็จะมี
02:48:08 → 02:48:13 เวลาที่ลงนะคือคว่าเนี่ยไม่ได้สูงคร้าง
02:48:13 → 02:48:18 ตลอดเวลา 24 ชมงแต่เก็จะมีมีเค้าเรียกว่า
02:48:18 → 02:48:22 อ่ามีเดี่ยวึมอ่ะมี
02:48:22 → 02:48:27 ลีต่างๆที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงลดเพิ่ม
02:48:27 → 02:48:29 อะไรอย่าง
02:48:29 → 02:48:32 เงี้แล้วแล้วที่คุยกันวันก่อนนะครับ
02:48:32 → 02:48:33 อาจารย์ที่
02:48:33 → 02:48:38 ว่าพออินมันสูงค้างเอาจจะอาจจะมีการหลุด
02:48:38 → 02:48:39 ก่อนนี้หรือไงไม่ทราบแล้วมันแล้วมันกลับ
02:48:40 → 02:48:44 มาสูงค้างไปเรื่อยๆอะไรอย่างเงี้ยอไอ้ tkm
02:48:44 → 02:48:47 มันฟ้องเลยว่าแทบแทบจะไม่มีคีโตนขึ้นเลย
02:48:47 → 02:48:50 ติดกันตั้งหลายวันเนี่ยแต่ว่าเราก็กินไม่
02:48:50 → 02:48:53 เกิน 2 มื้อนะแล้วก็ระหว่างฟ้าเราก็ไม่
02:48:53 → 02:48:55 ได้หิวไม่ได้เดือดร้อนอะไรไม่ได้รู้สึก
02:48:55 → 02:48:58 หวิวไม่ได้รู้สึกเคลียร์อะไรเลยเนี่ยแสดง
02:48:58 → 02:49:01 ว่าอินซูลินก็อาจจะยังสูงอยู่เพียงแต่มัน
02:49:01 → 02:49:05 อาจจะดรอปลงมาให้เราเผาไขมันบ้างเออแต่
02:49:05 → 02:49:07 ว่ามันเผาในพวยที่ไม่เกิด
02:49:07 → 02:49:12 คีโตนก็คือเป็นใช่ก็คือเป็นเ่อ Fat adap
02:49:12 → 02:49:15 ไม่ได้เป็นคีโตน adap แต่แต่เป็น fash
02:49:15 → 02:49:18 adap แบบแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่คีโตนก็เลย
02:49:18 → 02:49:22 ก็เลยแทบไปขึ้นใช่ก็คือเป็นแค่แช adap
02:49:22 → 02:49:27 คีโตน adap น้อยมากแล้ววัดไม่
02:49:27 → 02:49:30 ได้แต่ในจังหวะที่มีการเผาไขมันเนี่ย
02:49:30 → 02:49:33 อินซูลินก็คือยังสูงอยู่ดีถูกมั้ยฮะเพียง
02:49:33 → 02:49:36 แต่อาจจะไม่สูงมากเท่าที่เคยไปเจาะิมามัน
02:49:36 → 02:49:38 อาจจะไม่ใช่ 35 อย่างตอนนั้นมันอาจจะลงมา
02:49:38 → 02:49:41 หน่อยนึงแต่มันก็ยังค่อนที่จะเกินเยอะ
02:49:41 → 02:49:42 อยู่
02:49:42 → 02:49:46 ดีใช่นะแล้วก็การเผาไขมันอาจจะเป็นการเผา
02:49:46 → 02:49:50 เพราะว่าเพราะว่าคเสั่งให้เผาเนื่องจาก
02:49:50 → 02:49:53 ร่างกายขาดพลัง
02:49:53 → 02:49:56 งานคือในแง่ของอินซูลินกคอร์ติซอลเนี่ย
02:49:56 → 02:49:59 เวลาที่เทำงานในลักษณะที่มีความผิดปกติ
02:49:59 → 02:50:02 เนี่ยนะถ้าร่างกายยังจำเป็นต้องใช้พลัง
02:50:02 → 02:50:06 งานเนี่ยคอร์ติซอลก็จะต้องมาทำหน้าที่เผา
02:50:06 → 02:50:11 เพราะว่าอินซูลินเผาไม่ได้นะแล้วลูกเทพก็
02:50:11 → 02:50:14 ไม่ออกมาเพราะอินซูลินมันตั้ง 35 มันเยอะ
02:50:14 → 02:50:18 นะเพราะงั้นตัวที่จะมาเผาพลังงานเนี่ยเผา
02:50:18 → 02:50:21 ให้เป็นพลังงานเนี่ยก็คือคอร์ติซอลแต่
02:50:21 → 02:50:25 อินซูลินก็จะพยายามแต่เก็บแต่สาร
02:50:25 → 02:50:28 อาหารคือในที่สุดร่างกายมันก็ต้องการทั้ง
02:50:28 → 02:50:31 พลังงานและสารอาหารแล้วเมื่อไหร่ล่ะที่
02:50:31 → 02:50:34 ร่างกายจะได้พลังงานนะเพราะพลร่างกายก็
02:50:34 → 02:50:38 หิวและอยากจะใช้พลังงานนะนั้นตัวแม่เนี่ย
02:50:38 → 02:50:40 ต้องต้องสะดุ้งแล้วก็ต้องออกมา
02:50:40 → 02:50:44 เอ่ออินซูลินมึงอยากสูงมึงก็สูงไปแต่กู
02:50:44 → 02:50:51 ต้องเผาไม่งั้นลูกกูตาย
02:50:51 → 02:50:53 คือผมผมสังเกตว่าช่วง
02:50:53 → 02:50:57 ที่ช่วงที่อ่อคีโตนถึงแม้มันจะต่ำเตี้ย
02:50:57 → 02:51:00 ยังไงก็ตามแต่มันยังพอมาให้เห็นบ้างนะที่
02:51:00 → 02:51:04 ที่กราฟใน ckm มันบอกมาเนี่ยมันจะมาอยู่ 2
02:51:04 → 02:51:09 ช่วงนะฮะก็คือมันจะมาในช่วงช่วงเย็นๆน่ะ
02:51:09 → 02:51:13 อือถ้ามันจะมานะเย็นๆนะแล้วแล้วแล้วก็แม้
02:51:13 → 02:51:15 กระทั่งเรากินข้าวเย็นไปแล้วนะกินมื้อ
02:51:15 → 02:51:17 เย็นแล้วเนี่ยมันก็ยังมานะแต่ว่ามันจะต
02:51:18 → 02:51:20 ว่าพอกินอิ่มไปแล้วสักพักนึงมันก็จะหาย
02:51:20 → 02:51:23 ต๋อมไปแล้วมันก็จะมาอีกทีช่วงดึกๆบางวัน
02:51:23 → 02:51:26 ดีหน่อย 23:00 นมาละบางวันอาจจะรอถึง 1:00
02:51:26 → 02:51:29 2 นอนหลับไปแล้วมันถึงมาจะมาช่วงดึกๆที่
02:51:29 → 02:51:33 ที่คีโตนมันมาแล้วผมสังเกตประมาณวันที่
02:51:33 → 02:51:36 มันขึ้นมาดีๆเนี่ยมันจะร่วงไปประมาณ 700
02:51:36 → 02:51:38 นกว่าๆถึง 8:00 นแต่วันที่มันไม่ค่อยมา
02:51:38 → 02:51:41 เนี่ย 5:00 นกว่าๆ 6:00 นเมันมันหายจ้อย
02:51:41 → 02:51:45 แล้วไอ้ไอ้คีโตนเนี่ยอืแสดงว่ามันเป็นจาก
02:51:45 → 02:51:50 ตัวแม่มันมาใช่มั้ยทำทำให้คีโตนมันหาย
02:51:50 → 02:51:52 เอ่อตัวแม่
02:51:52 → 02:51:56 มาเนี่ยใช่แต่ตัวแม่เวลามันพีคขึ้นมาแล้ว
02:51:56 → 02:51:59 มันกระตุ้นให้น้ำตาลมาเยอะแลอินซูลินก็
02:51:59 → 02:52:01 เลยต้องออกมาประกบการที่อินซูลินออกมา
02:52:02 → 02:52:05 ประกบเนี่ยคีโตน
02:52:05 → 02:52:09 หายงั้นอินซูลินสูงค้างแบบเนี้ยให้เป็น
02:52:09 → 02:52:13 เป็นลักษณะ aggressive หรือดื้อด้านเนี่ย
02:52:13 → 02:52:17 มันมันเรียกว่ามันโดน 2 2 2 โดนกระดาบ
02:52:17 → 02:52:20 ข้างเลยคืออย่างตอนเช้าเราฟาสเนี่ยถึงเรา
02:52:20 → 02:52:23 จะไม่ได้หิวอะไรนักหนานะแต่คอร์ติซอลที่
02:52:23 → 02:52:25 มันมันมาดุๆเหมือนกันเนี่ยมันก็ทำให้
02:52:25 → 02:52:29 อินซูลินดุไปด้วยคีโตนมันก็ไม่มีทางมา
02:52:29 → 02:52:33 ส่วนไอ้มื้อส่วนไอ้มื้อที่ 2 เนี่ยถ้าหาก
02:52:33 → 02:52:37 ว่าเราเราหเราหลุดไปไปเจอคาฟเกินหรือเจอ
02:52:37 → 02:52:40 คาฟไม่ดีอะไรเข้าไปเนี่ยไอ้ไอไอไอ้กลาง
02:52:40 → 02:52:42 คืนมันก็นึกว่ามาที่มันเป็นช่วงที่มันมา
02:52:42 → 02:52:44 ดีที่สุดช่วงกลางดึกเนี่ยมันก็จะพลอยหาย
02:52:44 → 02:52:46 ไปด้วย
02:52:46 → 02:52:51 อือเพราเพคาฟในตอนเย็นเนี่ยเอ่อก็กระตุ้น
02:52:51 → 02:52:54 อินซูลินให้ค้างอยู่นานพอสมควรเพราะ
02:52:54 → 02:52:57 ฉะนั้นถ้าอินซูลินยังอยู่อีดนก็เลยก็เลย
02:52:57 → 02:53:02 มาไม่
02:53:02 → 02:53:06 ได้ก็เลยมาช้าหือมาไม่ได้หรือไม่มาหรือ
02:53:06 → 02:53:08 กว่าจะมาก็ 1 2:00 น
02:53:08 → 02:53:13 อะไรไอ้ไอ้อย่างงี้ถ้าถ้าเราพูดถึงว่า
02:53:13 → 02:53:16 เก๊าทเนี่ยมันเกิดจาก 3 อย่างร่วมกัน
02:53:16 → 02:53:19 เดี๋ยวผมถ้าเป็นคนไข้ที่เป็น
02:53:19 → 02:53:22 เป็นคนอ้วนอย่างเงี้ยแล้วก็เป็นเบาหวาน 2
02:53:22 → 02:53:26 นะแล้วแล้วเบาหวานยังเรียกว่ายังไงดิเป็น
02:53:26 → 02:53:30 เบาหวาน 2 เนี่ยแต่ว่าเป็นเบาหวาน 2 ที่
02:53:30 → 02:53:33 เป็นหนักพอสมควรแล้วก็น้ำตาลสูงมากเลยแต่
02:53:33 → 02:53:36 ว่าเริ่มมีดิสฟังก์ชันของอินซูลินเข้ามา
02:53:36 → 02:53:38 เกี่ยวบ้างแล้วเนี่ยเก๊าก็อาจจะไม่เกิด
02:53:38 → 02:53:42 มั้ยฮะเพราะเมีน้ำตาลสูงมียูริกสูงแต่ว่า
02:53:42 → 02:53:44 อินซูรินเค้าอาจจะเดี้ยงไปแล้วอย่างเงี้ย
02:53:44 → 02:53:49 เกก็จะอาจจะไม่ค่อยเป็นนะฮะ
02:53:49 → 02:53:55 อืมอันนี้พูดยากนะอืคือในกลุ่มเนี้ยใน
02:53:55 → 02:53:58 กลุ่มเนี้ยนะในกลุ่มข้างบนที่สะสมเก็บกับ
02:53:58 → 02:54:01 พลังงานมันก็แล้วแต่อ่าระบบพลังงานด้าน
02:54:01 → 02:54:03 พลังงานของเซลล์ต่างๆมันอยู่ในโหมดนี้
02:54:03 → 02:54:07 มั้ยล่ะถ้าอยู่ในโหมดนี้เนี่ยตัวสำคัญคือ
02:54:07 → 02:54:11 อินซูลินเนี่ยเป็นตัวปัญหาตัวปัญหาเลยนะ
02:54:11 → 02:54:13 เปอร์เซ็นต์ของปัญหาจากอันนี้จะเป็น
02:54:14 → 02:54:16 เปอร์เซ็นต์ที่แรงที่สุดแต่ถ้าข้างล่าง
02:54:17 → 02:54:19 เนี่ยนะฮะข้างล่างคุณ Fat burner แล้วนะ
02:54:20 → 02:54:22 ระบบการพลังงานของร่างกายเนี่ยพยายาม
02:54:22 → 02:54:25 เปลี่ยนมาเป็นเผาผๆๆเนี่ยตัวที่เป็นปัญหา
02:54:25 → 02:54:28 เนี่ยตัวที่เป็นปัญหาเนี่ยไม่ใช่อินซูลิน
02:54:28 → 02:54:31 ตัวที่เป็นปัญหาข้างล่างเนี่ยคือตัว
02:54:31 → 02:54:34 ปริมาณของยูริคแอซิดคือตัวปริมาณของ
02:54:34 → 02:54:37 ไฮเปอร์ยูรีเมียไฮเปอร์ยูรีเมียคุณยิ่ง
02:54:37 → 02:54:41 มากเท่าไหร่ยิ่งมากเท่าไหร่นะนะมันก็จะ
02:54:41 → 02:54:44 คล้ายๆอินซูลินข้างบนเนี่ยที่มากเท่าไหร่
02:54:44 → 02:54:46 นะมันก็จะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่จะไปทำให้
02:54:46 → 02:54:50 เกิด cy Attack นะคือถ้าคุณอยู่ในหมวด
02:54:50 → 02:54:53 กลางเนี่ยนะนี่คือขึ้นอยู่กับปริมาณของ
02:54:53 → 02:54:58 เนี่ยยูริคแซหรือ Hyper ยูซียิ่งมากยิ่ง
02:54:58 → 02:55:00 มี
02:55:00 → 02:55:05 โอกาสแต่อันนี้อินซูลินนะเป็นตัว
02:55:05 → 02:55:11 นะเป็นตัวทำให้แทคนะมากที่สุดนะคุณจะเติม
02:55:11 → 02:55:16 น้ำตาลมีนิดนึงคุณจะอะไรอ่ะ
02:55:16 → 02:55:20 เอ่ออะไรนะนะ 3 อย่างเนี่ยนะอินซูลินน้ำ
02:55:20 → 02:55:23 ตาลแล้วอะไร
02:55:23 → 02:55:26 อีกยูริกเออ
02:55:26 → 02:55:29 ยูริกแล้วแล้วถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้ไปพาด
02:55:29 → 02:55:32 กินน้ำตาลนะฮะแต่ว่าเราไปกินของที่ตำรา
02:55:32 → 02:55:37 เก่าไม้เอยกินสัตว์ปีกเอยอะไรแบบเนี้ยมัน
02:55:37 → 02:55:41 จะทิกเกอร์มันจะทิกเกอร์เก๊ามั้ยฮะเอ่อก็
02:55:41 → 02:55:44 แล้วแต่ว่าสิ่งนั้นเนี่ยเวลาปรุงออกมา
02:55:44 → 02:55:46 แล้วเนี่ยเวลาเข้าสู่ร่างกายเนี่ยมัน
02:55:46 → 02:55:48 กระตุ้นอินซูลินแค่ไหน
02:55:48 → 02:55:53 อ๋ออินซูลินแค่ไหนเอ่อหน่อไม้อ่ะเอ่อเป็น
02:55:53 → 02:55:57 เป็นอะไรอ่ะเป็นผักหัวแต่หน่อไม้มีหลาย
02:55:57 → 02:56:01 สายพันธุ์นะนั้นแล้วเอาส่วนไหนของหน่อไม้
02:56:01 → 02:56:04 มากินส่วนนั้นเนี่ยนะมันเป็นผักหัวที่มี
02:56:04 → 02:56:07 แป้งเยอะแล้วก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลเยอะ
02:56:07 → 02:56:13 ไหรือคุณไม่ได้กินสัตว์ใหญ่คุณกินแบบเอ่อ
02:56:13 → 02:56:18 ไก่แบบไม่ติดหนังหรือว่าหมูที่ไม่ติดมัน
02:56:18 → 02:56:21 นะแล้วก็กินตัดน้ำอะไรต่างๆเนื้อขาวๆไม่
02:56:21 → 02:56:25 แดงอะไรอย่างเงี้ยนะพวกนี้ไขมันน้อยนะ
02:56:25 → 02:56:27 เพราะฉะนั้นมันมีโอกาสกระตุ้นอินซูลินได้
02:56:27 → 02:56:31 เยอะถ้ากินเยอะๆเอหรือมื้อในมื้อนั้น
02:56:31 → 02:56:34 เนี่ยไม่มีความเป็นไขมันที่จะมาช่วยบาาน
02:56:34 → 02:56:39 หรือมาช่วยกดไม่ให้อินซูลิน
02:56:39 → 02:56:44 มาอันนี้มันเป็นรายละเอียดไส้ในของ
02:56:44 → 02:56:48 อาหารคืออย่าง Fat burner แล้วเผาผลนไข่
02:56:48 → 02:56:50 มันเป็นพลังงานอย่างอันเนี้ยนะที่บอกว่า
02:56:50 → 02:56:54 เนี่ยปัจจัยสำคัญก็คือระดับของ
02:56:54 → 02:56:57 hyperemia เพราะว่าตรงนี้เนี่ยเราสามารถ
02:56:57 → 02:57:02 ที่จะควบคุมเรื่องของอินซูลินได้นะแต่แต่
02:57:02 → 02:57:05 ไอ้ตัวการเผาผลาพลังงานแล้วเอาไปซ่อมไม่
02:57:05 → 02:57:09 ได้นะ hus มันจะเยอะเพราะเวลาเราซ่อม
02:57:09 → 02:57:12 เนี่ยซ่อมแซมสร้างใหม่เนี่ยเราจะใช้
02:57:12 → 02:57:16 คอเลสเตอรอลเราจะใช้ไอ้ตัวยูริคแอซิดด้วย
02:57:16 → 02:57:20 นะฮะโดยยูริ A เวลาที่เอาไปซ่อมเนะเขาจะ
02:57:20 → 02:57:23 ทำหน้าที่เป็นตัวแอนตี้ออกซินเป็นตัว
02:57:23 → 02:57:26 เหมือนคล้ายๆกับไอ้ตัวเป็นยาหรือเป็นสาร
02:57:26 → 02:57:31 ศึกษาเคมีเจะมีประโยชน์ในลักษณะ
02:57:31 → 02:57:35 นี้แต่ถ้าเมื่อไหร่อินซูลินมาปุ๊บเนี่ย
02:57:35 → 02:57:39 เขาจะเปลี่ยนนะเป็นหนามไปพิ่มแทงไปทำให้
02:57:39 → 02:57:41 เกิด
02:57:41 → 02:57:44 การแต่ถ้าคุณไม่มี
02:57:44 → 02:57:48 2 2 ส่วนนี้นะแล้วคุณสามารถปรับมาอยู่
02:57:48 → 02:57:51 ในฝั่งที่อัญเชิญฮอร์โมนลูกเทพนะโดยเฉพาะ
02:57:51 → 02:57:56 แล้วแต่กูคารอนแอรีนโพสฮอร์โมนไทรรอยด์นะ
02:57:56 → 02:58:01 โอเคเนี่ยนะกดยูริกมันจะลดนะแล้วอันนี้ย
02:58:01 → 02:58:03 อินซูลินไม่มา
02:58:03 → 02:58:07 นะก็ก็ไม่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วนะกด
02:58:07 → 02:58:12 ยูริกก็น้อยอินซูลินก็น้อยนะ
02:58:12 → 02:58:16 รอดมันมันมีอินซูลินเยอะแล้วก็เดี้ยงด้วย
02:58:16 → 02:58:20 ึเปล่าพี่หมออินซูลินเดี้ยงใช่มยแล้วทำ
02:58:20 → 02:58:26 ให้เป็นยด้วยแล้วก็เดี้ยงด้วยคือมันพอว่า
02:58:26 → 02:58:29 อิซูลิน dis ฟังก์ชันแล้วเตี้จะแทคมพูด
02:58:29 → 02:58:33 ยากนะฮะนะ
02:58:33 → 02:58:37 เออพูดยากยังอ่านไม่เจอยังอ่านไม่
02:58:37 → 02:58:41 เจอเพราะว่าสิ่งที่เจอก็คือคือต้องมี
02:58:41 → 02:58:45 อินซูลินต้องมีอินซูลินนะทีนี้การมี
02:58:45 → 02:58:48 อินซูลินเนี่ย 1 เ่อปริมาณอินซูลินมัน
02:58:48 → 02:58:51 เยอะอย่างอย่างของโต้งอ่ะ 35 40 อะไอย่า
02:58:51 → 02:58:54 เงี้ยหรือที่มันมากกว่า 15 กับอันที่ 2
02:58:54 → 02:58:57 เนี่ยพฤติกรรมของอินซูลินนะที่บอกว่า
02:58:58 → 02:59:01 อินซูลินก้าร้าวนะนะคือมันเป็นอินซูลิน
02:59:01 → 02:59:06 ที่ไม่ใช่อินซูลินแบบปกตินักอ่ะนะก็คือ
02:59:06 → 02:59:11 เป็นอินซูลินที่สวิงเหวี่ยงก้าวร้าวดุดุ
02:59:11 → 02:59:14 ดุก้าวร้าวอ่ะอินซูลินแบบดุๆทีนี้ดุหรือ
02:59:14 → 02:59:17 ก้าวร้าวหรือไม่เนี่ยมันอาจจะตัดสินไม่
02:59:17 → 02:59:21 ได้ที่ที่ค่าของ ting อินซูลินอย่างเดียว
02:59:21 → 02:59:24 นะครับก็คือว่ามันก็ต้องดูเอ๊ะทำไมมันลด
02:59:24 → 02:59:27 ไม่ลงซักทีหลุดคาบนิดแป้งหน่อยหรือเผลไป
02:59:27 → 02:59:30 กินขนม 3 คำอย่างที่เล่าให้ฟังเนี่ยเจ๊ง
02:59:30 → 02:59:34 โหสาหัสทันทีเลยอืออะไรอย่างงี้ถูกมั้ยฮะ
02:59:34 → 02:59:37 คือในขณะที่บางคนเนี่ยสมมุติเป็นคนอ้วน
02:59:37 → 02:59:39 น่ะอินซูรินมหาศาลเลยอาจจะ 60 เลยก็ได้
02:59:39 → 02:59:43 แต่แค่รดคาฟลงไปอะไรแบบเนี้ยไม่ได้เคร่ง
02:59:43 → 02:59:46 อะไรมากมายอะไรเนะแต่ว่าน้ำหนักมันก็ลง
02:59:46 → 02:59:49 พุงกว่ายุคทุกอย่างดีหมดเลยอะไรแบบเนี้ย
02:59:49 → 02:59:51 อินซูลินก็ลดอย่างงี้ก็แสดงว่าเขาอาจจะ
02:59:51 → 02:59:53 อ้วนมากอินซูลินสูงแต่เขาอาจจะไม่ก้าว
02:59:53 → 02:59:57 ร้าวมากนักก็ได้ใช่มยฮะใช่ไม่ใช่ลักษณะ
02:59:57 → 03:00:00 แบบอินซูลินก้าวร้าวก็คือเรื่อง what to
03:00:00 → 03:00:04 eat เรื่องสิ่งที่คุณกินเนี่ยนะมันแค่
03:00:04 → 03:00:08 กระตุ้นที่จำนวนอินซูลินนะฮะแต่พฤติกรรม
03:00:08 → 03:00:11 ของอินซูลินเนี่ยที่เรียกว่าอินซูลินดุ
03:00:11 → 03:00:16 ก้าว้าเนี่ยมันมันไม่ใช่มันไม่ได้มันไม่
03:00:16 → 03:00:19 ได้เป็นักผมกำลังนึกถึงว่าตัวพ่อหมายถึง
03:00:19 → 03:00:23 ว่าผู้ชายอ่ะถ้าปกติเ้าต้องนอนใช่มั้ยพี่
03:00:23 → 03:00:26 หมออือเ้าทำงานลุกขึ้นมาทำงานแล้วเต้อง
03:00:26 → 03:00:28 นอนเนี่ยแต่ถ้าเราไม่ให้เค้านอนเคือให้
03:00:28 → 03:00:30 เขาคยืนทำงานอย่างเดียวเนี่ยผมว่าเค้าน่า
03:00:30 → 03:00:33 จะหงุดหงิดอ่ะเออก็คือหงุดหงิดนัแหละอูก็
03:00:33 → 03:00:35 คือถ้าถ้าอินซูลินมันสูงค้างแล้วไม่ยอมลง
03:00:35 → 03:00:39 เนี่ยผมว่าก้าวร้าวเป็นส่วนเยอะนะเพราะ
03:00:39 → 03:00:42 มันไม่ยอมลงไงในยุคปัจจุบันเรื่องการกิน
03:00:42 → 03:00:44 อาหารคนเราจะกินอาหารเพื่อให้เกิดภาวะ
03:00:44 → 03:00:47 อินซูลินก้าวร้าวทั้งที่ที่อาหารหลาย
03:00:47 → 03:00:51 อย่างก็ไม่ได้กระตุ้นอินซูลินมากนะเพราะ
03:00:51 → 03:00:54 ฉะนั้นคำจำกัดความของอินซูลิน้า้าวเนี่ย
03:00:54 → 03:00:57 หรือ aggressive อิซูลินเนี่ยมันเป็นเทอม
03:00:57 → 03:00:59 ที่เขาไม่ยอมเอามาใช้กันไง
03:00:59 → 03:01:03 ฮะแต่ที่โต้งถามว่าพี่แล้วอย่างเงี้มันจะ
03:01:03 → 03:01:05 อินซูลิน dis ฟังก์ชันมั้ยคือเทอมของ
03:01:05 → 03:01:07 อิซูลิน dis ฟังก์ชันเนี่ยมันเป็นเทอม
03:01:07 → 03:01:11 สำหรับอินซูลินที่ที่มันมันขี้เกียจมัน
03:01:11 → 03:01:14 ไม่ทำงานน่ะนะแต่ในแง่ของ aggressive
03:01:14 → 03:01:17 อินซูลินเนี่ยเรียกอินซูลินก้าวร้าอะไร
03:01:17 → 03:01:19 อย่างเงี้ที่ว่าเนี่ยนะอันนี้มันเป็นความ
03:01:19 → 03:01:22 หมายในทำนองโมโหฉุนเฉียว
03:01:22 → 03:01:27 เอ่อเครียดอะไรต่างๆไม่ยอมอะไรอย่างเงี้ย
03:01:27 → 03:01:31 นะมันตรงกันข้ามกันตรงกันข้ามกับภาวะ
03:01:31 → 03:01:35 อินซูลิน
03:01:35 → 03:01:39 ดิกเพราะฉะนั้นก็ก็ไปหลอกอินซูลินเยอะที่
03:01:39 → 03:01:43 พี่หมอใช้คำว่าอะไรนะขึ้นมาสิมึงขึ้นมาสิ
03:01:43 → 03:01:47 คืออินซูลินก้าวร้าหรือดุดันเนี่ยนะมันก็
03:01:47 → 03:01:49 เกิดจากอะไรก็เกิดจากเรื่องตัวการแปรรูป
03:01:49 → 03:01:53 อาหารนี่แหละเพราะว่ายุคสมัยเนี่ยคนมัน
03:01:53 → 03:01:58 ยิ่งคิดอะไรต่างๆที่โอสารพัดสเพผมผมผมคิด
03:01:59 → 03:02:04 ไปถึงว่ามันมีการตรวจไอ้เค้าเรียกอะไรนะ
03:02:04 → 03:02:08 อินซูลินแลนรือป่ะเพราะเคยฟังอาจารย์ป๊อบ
03:02:08 → 03:02:11 พูดสมัยที่มาอยู่ในห้องแกใหม่ๆอ่ะเออก็พว
03:02:11 → 03:02:16 แกพูดถึงว่าในคนที่อ่อดืสุรินท์มากหรือ
03:02:16 → 03:02:20 ว่าดูแล้วต่อให้ MC ยังดีแต่ก็เป็นเบา
03:02:20 → 03:02:23 หวานอยู่ดีอะไรในในมุมของแกตอนนั้นนะแกก็
03:02:23 → 03:02:25 พูดประมาณว่า
03:02:25 → 03:02:28 อ่านอกจากการตรวจไอ้กลูโคส tolerance เรา
03:02:28 → 03:02:31 ก็ตรวจอินซูลินรนได้เพียงแต่มันเปลืองนิด
03:02:31 → 03:02:33 นึงก็คือตรวจอินซูลินไปเลยสัก 3 หรือ 4
03:02:33 → 03:02:38 ครั้งอ่ะหลังกินน้ำตาลอืนะฮะคือคือถ้าหาก
03:02:38 → 03:02:42 ว่าอินซูลินไม่ค่อยสูงเบสไลน์ไม่สูงแต่
03:02:42 → 03:02:45 ปรากฏว่าการจะกดน้ำตาลให้ลงได้เนี่ย
03:02:45 → 03:02:47 อินซูลินมันขึ้นไปมากกว่าชาวบ้านเหลัก
03:02:47 → 03:02:50 หลายเท่าอย่างเงี้ยก็แปลว่าอินซูลินมัน
03:02:50 → 03:02:53 มันมันดื้อมากอ่ะก็คือว่าคนเนี้ยเค้าก็
03:02:53 → 03:02:54 ถือว่าอาจจะเป็นเบาหวานเหมือนกันถึงว่า
03:02:54 → 03:02:57 เอซไม่สูงนะอันอันนี้อันนี้เพูดถึงในมุม
03:02:57 → 03:03:00 ของเบาหวานแต่ผมกำลังคิดว่าเอ๊ะที่จริง
03:03:00 → 03:03:04 การตรวจไอ้เอาให้ให้กินน้ำตาลเข้าไปเลย
03:03:04 → 03:03:08 แล้วก็เทสอินซูรินหลังกินเนี่ยมันก็น่าจะ
03:03:08 → 03:03:11 บอกได้นะว่าไอ้ใครก้าวร้าวไม่ก้าวร้าวอ่ะ
03:03:11 → 03:03:14 บางคนเบสลนสูงแต่อาจจะก้าวร้าวน้อยกว่าก็
03:03:14 → 03:03:17 ได้อะไรอย่างงี้มั้ยฮะใช่ฮะอินซูลินเนี่ย
03:03:17 → 03:03:21 มันมี 2 พฤติกรรมนะในคนอ้วนกับคนผอมคน
03:03:21 → 03:03:24 อ้วนเนี่ย 2 พฤติกรรมอินซูลินก็คือ 1
03:03:24 → 03:03:28 ปริมาณอินซูลินที่มันเยอะนะมันเยอะก็คือ
03:03:28 → 03:03:33 มันเยอะในแง่ของปริมาณจำนวนหรือระดับแต่
03:03:33 → 03:03:36 ไม่ค่อยมีกูรู Hey influencer พูดถึง
03:03:36 → 03:03:40 เรื่องของเรื่องของเ้าเรียกว่าเรื่องของ
03:03:40 → 03:03:42 คุณภาพของอินซูลินหรือพฤติกรรมอินซูลิน
03:03:42 → 03:03:45 เนี่ยที่เราใช้คำว่าอินซูลินก้าวร้าวหรือ
03:03:45 → 03:03:47 aggressive อินซูลินนะ
03:03:47 → 03:03:50 อันเนี้ยไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณแต่มัน
03:03:50 → 03:03:55 เป็นคุณลักษณะของอินซูลินเนี่ยที่เขาเขา
03:03:55 → 03:03:59 ใช้หลายคำนะฮะเหวี่ยงวีนดุดันก้าวร้าว
03:03:59 → 03:04:04 สวิงอะไรอย่างเงี้ยมันเป็นทำนองนี้นั่น
03:04:04 → 03:04:07 แหละก็ไม่ให้เขาคนอนน่ะให้เขาคทำงานอย่าง
03:04:07 → 03:04:11 เดียวเคก็โมโหเออนะไม่ว่าไม่ว่าจะมากหรือ
03:04:11 → 03:04:15 จะน้อยถ้าถ้าไปอย่างนี้มากๆก็มันมันต้อง
03:04:15 → 03:04:18 อาศัยการสะสมเนาะพี่หมอเนาะเราต้องรู้จัก
03:04:18 → 03:04:21 คุณสมบัติของอินซูลินแบบที่เราเคยไลฟ์ไป
03:04:21 → 03:04:23 แล้วเพราะว่าอินซูลินเนี่ยเป็นฮอร์โมนตัว
03:04:23 → 03:04:28 พ่อที่ที่เขาทำงานช่วงสั้นๆอินซูลินไม่
03:04:28 → 03:04:32 อยากทำ OT อินซูลินอยากทำงานแค่ช่วง 2-4
03:04:32 → 03:04:35 ชั่วโมงแล้วกูจะไปพักกูจะไปนอนกูไปจะไป
03:04:35 → 03:04:40 แบบเ่อเบเลเวลเท่านั้นอย่างอื่นกูไม่สนใจ
03:04:40 → 03:04:44 นะแต่ถ้ามึงอ่ะไปกินโน่นกินนี่มีพลังงาน
03:04:44 → 03:04:47 แล้วเดี๋ยวกูจะต้องออกไปจัดการกพลังงานแ
03:04:47 → 03:04:51 เนี้ยเ่อแรกๆเนี่ยกูก็ยังพอจะใจดีอยู่นะ
03:04:51 → 03:04:55 แล้วกูก็จะจะออกไปแบบในปริมาณเยอะขึ้น
03:04:55 → 03:04:58 เยอะขึ้นเยอะขึ้นแต่ในเมื่อมึงอ่ะไม่หยุด
03:04:58 → 03:05:01 ไม่หนำซ้ำมึงอย่าไปแปรรูปอาหารแล้วต้องมา
03:05:01 → 03:05:04 กระตุ้นให้กูอ่ะต้องออกแล้วออกอีกออกแล้ว
03:05:04 → 03:05:07 กูเหนื่อยเพราะฉะนั้นเนี่ยคราวเนี้กูจะ
03:05:07 → 03:05:12 เอาตาเอ้ยมันต้องแบบ
03:05:12 → 03:05:15 นี้เหมเหมือนกับอินซูลินตัวจริงมาพูดเอง
03:05:15 → 03:05:18 เลยครับผมเออ
03:05:18 → 03:05:21 ผมเข้าใจะแล้วแล้วแล้วแล้วในความเห็น
03:05:21 → 03:05:24 อาจารย์หรือในที่อาจจะเคยอ่านเจอเปไอ้ไอ้
03:05:24 → 03:05:26 aggressive insul เนี่ย
03:05:26 → 03:05:30 มันมันเกิดจากพฤติกรรมเป็นหลักเลยแหละมัน
03:05:30 → 03:05:32 ไม่ได้มันกรพันธ์มันคงไม่น่าเกี่ยวเท่า
03:05:32 → 03:05:36 ไหร่ถูกมั้ยฮะใช่ถูกถูกมั้ยหรือหรหรหรือ
03:05:36 → 03:05:40 ว่าหรือว่ามันมีข้อมูลว่ากรพันธ์ก็มีผล
03:05:40 → 03:05:43 มันมันยังไม่มีข้อมูลที่เป็นจริงเป็นจัง
03:05:43 → 03:05:45 อ่ะแต่มันเป็นเหมือนเรื่องเล่าในลักษณะ
03:05:45 → 03:05:49 เนี้ยว่าเออนะอ๋ออินซูลินเนี่ยเราต้องดู 2
03:05:49 → 03:05:53 มิติ 1 ก็คือดูในแง่คนอ้วนก่อนนะดูในแง่
03:05:53 → 03:05:58 ของความมากของมันนะฮะแล้วก็ดูในแง่ของเ้า
03:05:58 → 03:06:02 เรียกว่าคุณลักษณะนะของมันคาแรคเตอร์ของ
03:06:02 → 03:06:06 มันน่ะว่าเป็นแบบ aggressive อิซูลินมา
03:06:06 → 03:06:10 ส่วนในคนผอมเนี่ยเส่วนใหญ่อินซูลินเนี่ย
03:06:10 → 03:06:13 มันค่อนข้างไปทาง low Normal จะเห็นว่า
03:06:13 → 03:06:16 ส่วนใหญ่หลายคนเนี่ยก็คือ 2 นิดๆหรือต่ำ
03:06:16 → 03:06:21 กว่า 2 อ่าแต่ก็ยังไม่ถึงจะใกล้ 1 อะไร
03:06:21 → 03:06:24 อย่างเงี้ย 1.8 1.9 อะไรเงี้ยนะหรือ 2.1
03:06:24 → 03:06:30 2.2 ก็น้อยๆอ่ะนะแล้วก็แบบคนผอมเนี่ยมัน
03:06:30 → 03:06:34 ยังมีเรื่องของฟังก์ชันก็คือมันขี้เกียจ
03:06:34 → 03:06:38 มันไม่ทำงานมันมันไม่หือไม่อืออนะอะไร
03:06:38 → 03:06:43 อย่างเงี้ยมันมันคนอ้วนก็ 2 คน 2 ก็มี 2
03:06:43 → 03:06:49 แบบในความิติอินซูลิน
03:06:49 → 03:06:51 ขี้เกียจยังไม่เท่าไหร่ขี้เกียจแล้วขี้
03:06:51 → 03:06:55 โมโหด้วยนี่ลำบากเลยนะพี่หมออืเพราะ
03:06:55 → 03:06:59 ฉะนั้นคนอ้วนเนี่ยปริมาณอินซูลินเนี่ยไม่
03:06:59 → 03:07:03 ได้สำคัญเท่ากับความก้าวร้าวของอินซูลิน
03:07:03 → 03:07:08 ไอ้ความก้าวร้าวของอินซูลินเนี่ยมันจริงๆ
03:07:08 → 03:07:12 มันก็คือมันมันมันเป็นภาวะที่เบต้าเซลล์
03:07:12 → 03:07:15 มันบ้าพลังมันปล่อยออกมาเยอะหรือว่ามัน
03:07:15 → 03:07:18 เป็นจากภาวะที่เซลล์ต่างต่างๆเซลล์อิพ
03:07:18 → 03:07:22 เซลล์ตับเซลล์อะไรของเราเนี่ยมันต่อต้าน
03:07:22 → 03:07:25 อินซูรินฮะ
03:07:25 → 03:07:30 เอ่อก้าวร้าวดุดันเนี่ยส่วนใหญ่มันจะ
03:07:30 → 03:07:34 เป็นมันจะเป็นลักษณะโครงสร้างของตัว
03:07:34 → 03:07:36 อินซูลิน
03:07:36 → 03:07:41 เนี่ยมันน่าจะมีอะไรที่ผิดปกติอ๋อมันไป
03:07:41 → 03:07:45 ถึงตัวโมเลกุลของของนะของฮอร์โมนเเลย
03:07:45 → 03:07:49 เนี่ยนะเอ่อตัวโปโปอินซูลินออกมาก่อนแล้ว
03:07:49 → 03:07:51 โปรอินซูลินเนี่ยมันจะเปลี่ยนแปลงอยู่ 2-3
03:07:51 → 03:07:54 ขั้นตอนแล้วมันจะได้เป็น 2 อย่างในปริมาณ
03:07:54 → 03:07:57 เท่าๆกัน 1 ต่อนก็คือตัวอินซูลินกับตัวซี
03:07:57 → 03:08:02 เปตนะแต่ซีเปตเนี่ยมันไม่ออกฤทธิ์ตัวที่
03:08:02 → 03:08:07 ออกฤทธิ์คือตัวอินซูลินนะสำหรับตัวโปร
03:08:07 → 03:08:09 อินซูลินเนี่ยซึ่งเป็นตัวแรกเลยที่เขาออก
03:08:09 → 03:08:12 มาเนี่ยเขาก็จะมีผลต่อเรื่องน้ำตรงน้ำตาล
03:08:12 → 03:08:17 อยู่ประมาณ 10% 10% แต่ตัวซีแไตายเนี่ย
03:08:17 → 03:08:20 ไม่มีผลต่อการขึ้นลงของระดับน้ำตรงน้ำตาล
03:08:21 → 03:08:22 อะไไม่
03:08:22 → 03:08:28 มีเพราะฉะนั้นตัวที่จะเป็นปัญหาที่เา้า
03:08:28 → 03:08:32 คิดว่าเนี่ยก็คือตัวของอินซูลินเองที่มี
03:08:32 → 03:08:36 คุณสมบัติคุณลักษณะที่มีความเปลี่ยนแปลง
03:08:36 → 03:08:40 ไปจากการกระตุ้นของ Process Food หรือ
03:08:40 → 03:08:45 การ Ultra ess แปรรูปอาหารรวมทั้งเคมีใน
03:08:45 → 03:08:49 อาหารอะไรต่างๆที่มันมีขึ้นมายุบยับไป
03:08:49 → 03:08:53 หมดแล้วก็เคิดว่าตัวโปรอินซูลินเนี่ยนะ
03:08:53 → 03:08:55 ที่มันมีฤทธิ์คล้ายๆอินซูลินอยู่ประมาณ
03:08:55 → 03:08:59 10% เเพราะเวลาที่โปรอินซูลินจะค่อยๆ
03:08:59 → 03:09:01 เปลี่ยนมาเป็นอินซูลินกับซีเปตเนี่ยมัน
03:09:01 → 03:09:04 ไม่ได้เปลี่ยนหมดนะฮะมันจะเปลี่ยนอยู่
03:09:04 → 03:09:06 ประมาณเขาบอกว่ามันจะเปลี่ยนอยู่ประมาณ
03:09:06 → 03:09:10 70% 30% มันก็เป็นโปรอินซูลินอยู่งั้น
03:09:10 → 03:09:13 แล้วมันจะค่อยๆสลายตัวไปแต่โปรอินซูลิน
03:09:13 → 03:09:17 เนี่ยมีฤทธิ์ในการที่จะเปลี่ยนแปลงน้ำตาล
03:09:17 → 03:09:24 คล้ายๆอินซูลินอยู่
03:09:25 → 03:09:29 10% อันนี้เรื่องเก๊าทก็สนุกนะเนี่ยมัน
03:09:29 → 03:09:33 ต้องแยกแยะ 3 อย่างเให้ได้นะคือถ้าใคร
03:09:33 → 03:09:35 เนี่ยที่ไปกินโ C แล้วทำไมไฮเปอร์
03:09:35 → 03:09:38 ยูรีเมียแล้วจะมีโอกาสเป็นเก๊าทมเนี่ยอัน
03:09:38 → 03:09:41 นี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของกฎยูริกนะเยอะ
03:09:41 → 03:09:45 หรือไม่เยอะนะแต่ว่าฮอร์โมนเครียดอยู่
03:09:45 → 03:09:49 เนี่ยมันมันก็จะมีโอกาสก็คือตัวฮอร์โมน
03:09:49 → 03:09:52 เครียดเนี่ยมันไปกลูโคเจนิตับให้มีน้ำตาล
03:09:52 → 03:09:56 เยอะแล้วเดี๋ยวอินซูลินมาก็เป็นไปได้อยู่
03:09:56 → 03:10:00 นะฮะแต่โดยทั่วๆไปไม่ไม่ไม่ค่อยมีปัญหา
03:10:00 → 03:10:03 แล้วไฮเปอร์ซีเมียก็ก็เป็นไฮเปอร์ซีเมีย
03:10:03 → 03:10:08 ไปนานๆเลยก็ได้นะจนกว่าคุณจะแก้คอร์ติซอล
03:10:08 → 03:10:11 ได้เพียแต่ว่าอย่าให้มันเยอะแล้วกันถ้า
03:10:11 → 03:10:14 มันเยอะนักมันก็เริ่มไม่
03:10:14 → 03:10:17 ดีอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณยูริกแต่นี้
03:10:17 → 03:10:21 ขึ้นอยู่กับปริมาณของ fing อิซูลิน
03:10:21 → 03:10:24 แล้วเราก็ต้องแก้มา
03:10:24 → 03:10:28 เป็นพี่โต้มถามว่าเก๊าเนี่ยมันยังมีอื่นๆ
03:10:29 → 03:10:33 อะไรอีกเป็นตัวเสริมมยก็มีก็มีเช่นคุณ
03:10:33 → 03:10:37 ยิ่งมีความเครียดวิตกกังวลนะมันก็จะมีผล
03:10:37 → 03:10:41 ต่อคอร์ติซอลแล้วเดี๋ยวคอร์ติซอลเยอะๆน้ำ
03:10:41 → 03:10:45 ตาลก็มาเยอะๆนะโดยเฉพาะในช่วงฟีนอลแล้ว
03:10:45 → 03:10:47 เดี๋ยวอินซูลินก็จะมา
03:10:47 → 03:10:52 เอ่ออากาศมีผลมยมีฮะนะเพราะว่าเก๊ามันจะ
03:10:52 → 03:10:57 เกิดในช่วงอากาศเย็นแล้วมีความชื้นเยอะอ
03:10:57 → 03:11:00 การ expose ของร่างกายโดยเฉพาะปลายแขน
03:11:00 → 03:11:03 ปลายขาโดยเฉพาะปลายขาที่มันไกลหัวใจเนี่ย
03:11:03 → 03:11:05 การหมุนเวียนเลือดและความร้อนความเย็นมัน
03:11:05 → 03:11:08 ไถยเทได้ไม่ดีเพราะฉะนั้นเก๊ามันเลยถึง
03:11:08 → 03:11:11 เกิดที่หัวนิ้วโป้งเวล่ะนะเพราะพวกเนี้ย
03:11:11 → 03:11:15 มันชื้นเย็นแล้วมันเข้าแทรกเพราะงั้นฤดู
03:11:15 → 03:11:17 กาลที่คนเราจะเป็นเก๊าทเนี่ยก็ประมาณตั้ง
03:11:17 → 03:11:20 แต่ตุลาคมพฤศจิกายนธันวาคมเนี่ยเตี้จะแทค
03:11:20 → 03:11:24 เยอะนะอันต่อมาอ้าก็ช่วงนี้เลยอริยาบถใช่
03:11:24 → 03:11:28 ฮะอริยบทท่าทางอริยบทท่าทางก็คือเกี่ยว
03:11:28 → 03:11:31 กับการแพทย์แผนโบราณหรือนะเนี่ยเกี่ยวกับ
03:11:31 → 03:11:35 เป็นการแพทยแผนจีนนะฮะเกี่ยวกับชชชไอ้ชี่
03:11:35 → 03:11:38 ความเย็นที่มันมากระทบเราอ่ะแล้วก็ชี่ใน
03:11:38 → 03:11:41 ตัวเราเองมันอ่อนแอลงไปใช่แล้วก็เก๊าจะ
03:11:41 → 03:11:44 เป็นในช่วง 23:00 นถึง 5:00 นจะเกิดปัญหา
03:11:44 → 03:11:48 การตกตกรและเตี้อทคเพราะเพราะว่าเ่าเป็น
03:11:49 → 03:11:54 ช่วงระบบน้ำดีระบบตับแล้วก็ระบบของปอดนะ
03:11:54 → 03:12:00 ซึ่ง 3 ระบบเนี้เ่าจะเป็นระบบที่ที่จะไม่
03:12:00 → 03:12:04 มีผลน่ะนะที่จะทำให้เกิดโอกาสการตกตะกอน
03:12:04 → 03:12:07 มากที่สุดนะฮะมากที่สุดตามตาม timing
03:12:07 → 03:12:10 หรือช่วงเวลานะฮะออไม่น่ามันมีวันนึงที่
03:12:10 → 03:12:13 วันช่วงที่มันแทคเนี่ยตอนหัวค่ำเนี่ย
03:12:13 → 03:12:16 อาการมันสงบไปแล้วเออแต่แต่ช่วงดึกเนี่ย
03:12:16 → 03:12:20 เราก็ยังไม่นอนแล้วเรานอนดึกปรากฏว่าบด
03:12:20 → 03:12:23 ปวดกลับแบบตีกลับเข้ามาแบบเราตกใจเอ้ย
03:12:23 → 03:12:26 ทำไมมันกลับมาปวดอีกอะไรเงี้ยเพราะอย่างไ
03:12:26 → 03:12:27 วันนี้แนวโน้มจะดีขึ้นนะนึกว่าเดี๋ยว
03:12:28 → 03:12:30 พรุ่งนี้สบายแล้วเดินคล่องแล้วปรากฏมันมา
03:12:30 → 03:12:33 ช่วง 23:00 นที่อาจารย์บอกเลยฮะ 2 นมาถึง
03:12:33 → 03:12:37 เที่ยง 1 เนี่ยโอ้โหปวดนั่นแหละช่วงคนรู้
03:12:37 → 03:12:40 ตัวก็คือช่วงเช้าเพราะฉะนั้นโลคพวกเนี้ย
03:12:40 → 03:12:43 ก็จะบอกว่าจะมาหาหมอแล้วก็บอกว่า
03:12:43 → 03:12:47 อ่าปวดข้อปวดมากี่วันอ่าสมมุติว่าปวดมา 2
03:12:47 → 03:12:52 วันนะเป็นตอนไหนของช่วงระหว่างวันนะกลาง
03:12:52 → 03:12:56 วันกลางคืนเช้าสายบ่ายเย็นคนไขก็จะบอกว่า
03:12:56 → 03:13:00 ตอนเช้าเอ๊ไปเกิดทม Accident ข้อพิกข้อ
03:13:00 → 03:13:04 แพงกระทบกระแทกกระเทือนอะไรมยไม่นะเออ
03:13:04 → 03:13:06 งั้นก็น่าจะเป็นเรื่องของการกินแล้วล่ะ
03:13:06 → 03:13:08 โดยเฉพาะกลุ่มอาหารมื้อเย็นนี่แหละกิน
03:13:08 → 03:13:11 อะไรเข้าไปเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์น้ำต้มใาย
03:13:11 → 03:13:14 ชูหมักก็เจอคนไข้กินราดหน้าแล้วใส่พริก
03:13:14 → 03:13:19 พริกดองอ่ะนะนะเก๋าตก็แอทแทคละเพราะว่า
03:13:19 → 03:13:24 มันมันดองเป็นของดองมันจะมีแอลกอฮอล์
03:13:24 → 03:13:29 นะเอ่อสุดท้ายเก๊าทเนี่ยนะฮะเก๊าเนี่ยคือ
03:13:29 → 03:13:32 เก๊าทเนี่ยมันจะมันจะส่วนใหญ่มันจะมาตอน
03:13:32 → 03:13:37 เช้าแหละนะเ่าจนกระทั่งไม่ไหวอ่ะนะไปห้อง
03:13:37 → 03:13:41 นห้องน้ำอะไรต่างๆก็คานกันด้องแด้งดแด้ง
03:13:41 → 03:13:45 เก๊าทเนี่ยจะเป็นในท่านอนนะฮะนะนะเป็นใน
03:13:45 → 03:13:48 ท่านอนเก๊าทจะไม่เป็นในท่านั่งท่ายืนหรือ
03:13:48 → 03:13:51 เวลาคุณเดินคุณเคลื่อนไหวแต่เมื่อไหร่คุณ
03:13:51 → 03:13:55 นอนนะคุณนอนนะโดยเฉพาะปลายแขนปลายขาเนี่ย
03:13:55 → 03:14:00 นะไม่มีการเทินสูงๆเกิน 30 องศาเนี่ยก็
03:14:00 → 03:14:03 โอกาสที่จะเกิดการตตกรและเี้เพรานั้นเี้
03:14:03 → 03:14:06 attack จะเป็นในท่านอนนะถ้าไม่อยากเป็น
03:14:06 → 03:14:11 เก๊าทคุณก็ต้องนั่งต้องยืนนะตาแข็งเลยล่ะ
03:14:11 → 03:14:13 นะโลเวโลคำจริง
03:14:13 → 03:14:16 ๆอันเนี้ยทั้งหมดเเป็นองค์ความรู้ในการ
03:14:16 → 03:14:21 แพยแผนจีนนะฮะซึ่งก็มีความจริงนะแต่ทุก
03:14:21 → 03:14:24 อย่างเลย 5-6 อย่างที่เป็นปัจจัยทำให้
03:14:24 → 03:14:28 เป็นคนลเวนเก๊าทเนี่ยจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
03:14:28 → 03:14:32 ถ้าถ้าถ้าเรื่องของอินซูลินนะต้องติดปกติ
03:14:32 → 03:14:35 คือต้องเยอะแล้วก็ต้องดูดันก้าวร้าวแต่
03:14:35 → 03:14:39 ถ้ามีความเครียดมีการนอนมีอากาศเย็นมี
03:14:40 → 03:14:44 ช่วงเววลา 45 นถึงอ่า 23:00 นถึงน 5:00 น
03:14:44 → 03:14:47 นะมีอาหารมื้อเย็นที่มีการกินโน่นกินนี่
03:14:47 → 03:14:50 ที่ไม่ถูกต้องอะไรเงี้ยนะแต่ไม่สามารถ
03:14:50 → 03:14:53 กระตุ้นอินซูลินหรืออินซูลินไม่ก้าวร้าว
03:14:53 → 03:14:55 ก็ไม่เป็นเกา
03:14:55 → 03:15:01 นะมันเป็นซะอย่างเงี้ยนะเออสรุปเนอะสุด
03:15:01 → 03:15:03 ท้ายเรามาลงเอยที่โลกเก๊า
03:15:03 → 03:15:07 อ่ะพูดอีกก็ถูกอีกนะเรื่องเก๊าทเนี่ยมัน
03:15:07 → 03:15:09 สนุกมันเหมือนคอเลสเตอรอลเนี่ยแต่ว่ามัน
03:15:09 → 03:15:13 ก็จะมีทางทิศทางไป discus กันอย่างโง้น
03:15:13 → 03:15:18 อย่างงี้อย่างสนุกเลยล่ะนะนะสรุปนะเอย่า
03:15:18 → 03:15:20 ให้
03:15:20 → 03:15:25 ครับมีอีกคำถามนึงครับพี่หมอถามมาคำถาม
03:15:25 → 03:15:28 สุดท้ายสำหรับผมแล้วนะก็คือคนที่ออกกำลัง
03:15:28 → 03:15:31 กายตอนเช้าครับพี่หมอแล้วสมมุติว่าเออก
03:15:31 → 03:15:34 หนักจนไกลโคเจนเนี่ยหายหายไปเยอะเนี่ย
03:15:34 → 03:15:37 แล้วเไม่ได้กินคาฟเนี่ยถาม
03:15:37 → 03:15:40 ว่าร่างกายมันจะเอาไขมันแปลงมาเป็น
03:15:40 → 03:15:43 ไกลโคเจนหรืออะไรพวกนี้ได้มพี่หมอเพื่อไป
03:15:43 → 03:15:50 สะสมแทนที่มันใช้ไปตอนเช้าอ่ะครับ
03:15:50 → 03:15:53 เอ่อคือคือถ้าไกลโคเจนหมดเนี่ยเค้าก็จะ
03:15:53 → 03:15:56 ใช้เค้าก็จะ ketosis แล้วก็เป็น Fat
03:15:56 → 03:15:59 adapt หรือคีโต adapt ไป
03:15:59 → 03:16:02 อ่ะแต่การ ketosis ที่คุณจะเป็น Fat
03:16:02 → 03:16:04 adapt คี adap
03:16:04 → 03:16:09 นะมันจะเป็น Action ของฮอร์โมนฝั่งลูกเพพ
03:16:09 → 03:16:13 ซึ่งอันเนี้ยเขาจะสลายมาเพื่อพอใช้เาไม่
03:16:13 → 03:16:17 สลายเผื่อนะฮะเขาไม่ได้สลายเผื่อไม่ว่าจะ
03:16:17 → 03:16:21 เป็นกลูคากอนแดนีไทรรอยด์โสฮอร์โมน
03:16:21 → 03:16:24 เทสโทสเตอโรนอะไรต่างๆก็เมื่อไหร่แชของ
03:16:24 → 03:16:27 ฝั่งฮอร์โมนลูกเทพเนี่ยเขาจะสลายพอดีพอดี
03:16:27 → 03:16:30 เขาไม่ใช่คอร์ติซอลนะฮะที่จะต้องเผื่อ
03:16:30 → 03:16:34 หรืออินซูลินที่เก็บดักเลยเไม่
03:16:34 → 03:16:41 ใช่เก็จะมีการที่เกิด Fat adapt adap
03:16:41 → 03:16:45 เนี่ยนะที่จะเกิดอะไรกีซอลจากไตกีซแล้วก็
03:16:45 → 03:16:48 มาเปลี่ยนเป็นน้ำตาลิ่งอ่ะแล้วก็ไปให้
03:16:48 → 03:16:51 อวัยวะต่างๆที่สำคัญของการใช้ส่วนอวัยวะ
03:16:51 → 03:16:56 อื่นที่ใช้ไขมันได้ใช้คีโตนได้ก็ใช้
03:16:56 → 03:17:02 ไปแล้วในที่สุดจะไปลงเอยโดยอะไรนะการที่
03:17:02 → 03:17:05 จะเก็บน้ำตาลเป็นไกลโคเจนมั้ยใช่มั้ย
03:17:05 → 03:17:10 ล่ะอืมก็ไปรอมื้อเย็นน่ะก็กินถูกต้องแล้ว
03:17:10 → 03:17:13 ก็สะสมไกลโคเจน
03:17:13 → 03:17:17 ใหม่ก็แค่นั้นน่ะอ๋อออก็คือถ้าร่างกาย
03:17:17 → 03:17:20 ไคเจนที่ที่กล้ามเนื้อที่อะไรพวกนี้
03:17:20 → 03:17:22 เนี่ยมันก็ไม่ได้ไม่ได้แบบว่าทำให้
03:17:22 → 03:17:25 ร่างกายผิดปกติอะไรใช่ไหมครับไม่ผิดปกติฮ
03:17:25 → 03:17:28 นะร่างกายก็ยังสามารถใช้
03:17:28 → 03:17:32 อ่าใช้พลังงานจากไขมันได้อยู่ใช้ี fy
03:17:32 → 03:17:36 Acid ได้เลยแล้วก็ถ้าเรากินคราฟกินอะไร
03:17:36 → 03:17:38 เข้าไปเมื่อไหร่มันก็ค่อยแค่ไปเติม
03:17:38 → 03:17:40 ไกลโคเจนตรงนั้นเท่านั้นเองเพราะเพราะว่า
03:17:40 → 03:17:43 ตามที่บอกว่าเรื่องของคาฟเนี่ยคาฟจะต้อง
03:17:43 → 03:17:47 ไปที่ตับเพื่อให้ตับสะสมไปไกลโคเจนเพราะ
03:17:47 → 03:17:51 มันเป็นหน้าที่อันดับ 1 ของตัอโดยเฉพาะ
03:17:51 → 03:17:55 หน้าที่อันเนี้ยร่างกายจะต้องทำก่อนเลย
03:17:55 → 03:17:59 เ่อไม่ว่าจะทำอะไรตามมานะหรือจะไปแก้อะไร
03:17:59 → 03:18:02 หรือจะไปเ่อจัดการเชื้อโรคลดการอักเสบ
03:18:02 → 03:18:06 อะไรต่างๆนะหน้าที่สำคัญอันดับแรกเลยของ
03:18:06 → 03:18:08 เรื่องพลังงานที่เข้าสู่ร่างกายต้องไป
03:18:08 → 03:18:11 สัเนที่
03:18:11 → 03:18:16 ปับอ๋อส่วนอื่นยังไม่ค่อยสำคัญเนาะใช่นะ
03:18:16 → 03:18:20 ทีนี้จะสะสมเท่าไหร่ล่ะนะก็แล้วแต่อยู่ใน
03:18:20 → 03:18:24 ช่วง 50 ถึงเอ่อ 100 กรัมแล้วแต่คนตัว
03:18:24 → 03:18:27 ใหญ่ตัวเล็กผู้หญิงผู้ชายนะนี้หมายทั่วไป
03:18:27 → 03:18:31 นะแต่ถ้ากินาฟน้อยอู้ยมื้อเย็นก็จำกัดคาฟ
03:18:31 → 03:18:35 ผักหัวผักวงผักใบนะไม่มีคาฟที่จะเปลี่ยน
03:18:35 → 03:18:37 ไกลโคเจนน่ะก็ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น
03:18:38 → 03:18:42 สมมุติว่าเอาล่ะตับมันไม่ได้สะสมเยอะนะ
03:18:42 → 03:18:47 สะสมได้ 50 กรัมแต่คุณน่ะสะสมได้แค่ 3 30
03:18:47 → 03:18:50 กรมันก็ได้แค่ 30 กรันะคุณก็มีไกลโคเจน
03:18:51 → 03:18:55 อยู่ที่จับ 30 กรัมนะก็มีเท่านั้น
03:18:55 → 03:19:00 นะแล้วก็ถ้าเกิดจะต้องเอาไกลโคเจนนะมาใช้
03:19:00 → 03:19:04 ก็เอามาใช้ไปนะแต่ถ้าเกิดใช้แล้วไม่พอนะ
03:19:04 → 03:19:08 น้ำตาลเดี๋ยวมันจะต่ำมันจะตื่นไม่ได้นะ
03:19:08 → 03:19:11 มันจะโคม่ามันจะน็ออะไรเงี้นะร่างกายก็
03:19:11 → 03:19:14 ต้องมีการแ adap adap แล้วก็เอาพลังงาน
03:19:14 → 03:19:18 ส่วนอื่นๆมาแปลงไปใช้เอก็แล้วแต่ฮอร์โมน
03:19:18 → 03:19:23 ที่จะออกมาว่าการทำงานไปโอเคครับมีสมาชิก
03:19:23 → 03:19:25 ง่วงแล้วครับพี่หมอ
03:19:25 → 03:19:32 เออ 3 ชมง 20 ละโอเคงั้นตัดจบเท่านี้ก่อน
03:19:32 → 03:19:35 นะครับโอเคนะนะครับขอบคุณพี่หมอขอบคุณทุก
03:19:35 → 03:19:39 คถามว่าอาทิตย์หน้าจะปีใหม่แล้วจะคุยกัน
03:19:39 → 03:19:42 ทั่วๆไปนะไม่มีวิชาการดีมยเดี๋ยวนัดกัน
03:19:42 → 03:19:44 อีกที
03:19:44 → 03:19:47 อ่าต้องเป็นวันจันทร์แล้วนะพี่หมอเพราะ
03:19:47 → 03:19:51 ว่าวันอังคารผมจะไปร่อนะเหรออ๋อันอังคาร
03:19:51 → 03:19:54 เป็นต้นไปก็ยาวันยาวเลยถึงปีใหม่เลยครับ
03:19:54 → 03:19:58 พี่หมอโอได้ๆนะหรือจะเสาร์อาทิตย์ก็ได้
03:19:58 → 03:20:01 ครับเดี๋ยวนัดกันอีกทีนึงครับ
03:20:01 → 03:20:16 [เพลง]
03:20:16 → 03:20:23 ฮ
03:20:23 → 03:20:28 [เพลง]