00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:17 เกิดการเปลี่ยนแปลงยังไงนะทำไมบางคนดีบาง
00:00:17 → 00:00:21 คนไม่ดีอ่าบางคนดีก็แฮปปี้อยู่ในเกณฑ์
00:00:21 → 00:00:27 ปกติไม่มีภาวะ attack นะหรือเ้าเรียกว่า
00:00:27 → 00:00:30 accute exacerbation นะฮะ
00:00:30 → 00:00:36 ครับก็ไม่ดีไม่ดีก็เช่นก็เช่นเนี่ยเอ่อ
00:00:36 → 00:00:40 ทำไมกินโลคาฟก็แล้วตัดาฟก็แล้วอู้ยเคร่ง
00:00:40 → 00:00:43 ครัดไปหมดเลยมีความรู้ดีๆเกี่ยวกับเรื่อง
00:00:43 → 00:00:46 ของยูริกเกี่ยวกับเรื่องของสารพูรีน
00:00:46 → 00:00:49 เกี่ยวกับเรื่องของอาหารการกินเนี่ยเอ๊
00:00:49 → 00:00:54 แต่ทำไมเอ่อกดยูริกตรวจทีไรก็ยังสูงอยู่
00:00:54 → 00:01:00 นะมันก็ต้องมีคำตอบต้องมีข้ออธิบายนะแต่
00:01:00 → 00:01:04 มันก็ไม่ยากหรอกฮะไม่ยากที่จะเข้าใจแล้ว
00:01:04 → 00:01:08 ก็มันเป็นแนวทางนะ
00:01:08 → 00:01:11 อ้าลองดูเข้าไปในเพจต่างๆว่ามีคนเริ่มมา
00:01:11 → 00:01:17 ถามมาคุยมาสวัสดี
00:01:17 → 00:01:20 มั้ยคืออย่างหนึ่งนะเวลาเราไลฟ์เนี่ยเรา
00:01:20 → 00:01:24 ไม่ค่อยจะทักผู้คนหรอกนะแหทักคนนู้นทักคน
00:01:24 → 00:01:29 นี้อะไรต่างๆไม่รู้ว่าเราไม่ชิน
00:01:29 → 00:01:34 เสียงออกไปมั้ยเอ่อเสียงออกไปในเพจ
00:01:34 → 00:01:39 เอ่อหรือเปล่าอืมออกครับออกเออนี้สมาชิก
00:01:39 → 00:01:44 กลุ่มนะเริ่มมาแล้วมากัน 6 คนแล้วครับครบ
00:01:44 → 00:01:49 แล้วหรอครบแล้วในกลุ่มมีพี่หมอมีหมอออโต้
00:01:49 → 00:01:53 ครับอ๋อหมอออโต้อยู่น่ากำลังทำอะไรอยู่
00:01:53 → 00:01:59 มั้งน่าจะเออเขายังไม่จบงานเนอ่าเออแล้ว
00:01:59 → 00:02:02 คนอื่นเดี๋ยวผมแชร์ก่อนเดี๋ยวผมแชร์ไปเพจ
00:02:02 → 00:02:05 กลุ่มต่างๆก่อน
00:02:05 → 00:02:10 เอองั้นก็เดี๋ยวค่อยค่อยไลฟ์ก็รอไปนิดนึง
00:02:10 → 00:02:12 คุยๆไปก่อน
00:02:12 → 00:02:16 นะคืออันเนี้ยไม่ได้แย่งหมอมอโต้ไรฟนะแต่
00:02:16 → 00:02:20 ว่าในแนวทางของเก๊าทหรือไฮเปอรยูซีemia
00:02:20 → 00:02:23 ที่เราจะพูดคุยวันเนี้ยส่วนใหญ่จะเป็น
00:02:23 → 00:02:29 ปัญหาถามตอบนะแล้วก็ทางเพจ Long Givity
00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยมันไลฟ์มา 2 ครั้งแล้วซึ่งเนื้อหา
00:02:32 → 00:02:36 สาระเนี่ยเอ่อก็ให้แบบละเอียดเลยละเอียด
00:02:37 → 00:02:40 ยิบเลยไปหาที่ไหนไม่ได้หรอกนะฮะนะเพราะ
00:02:40 → 00:02:43 ว่าแนวทางของการไลฟ์ก็ดีหรือเนื้อหาที่
00:02:43 → 00:02:48 เราให้ทางด้านของกฎยูริกหรือโรคเก๊าเนี่ย
00:02:48 → 00:02:51 เอ่อเราไม่ได้ให้ทางด้านทางด้านแบบองค์
00:02:51 → 00:02:55 ความรู้แบบของการแพทย์กระแสตัดนะหรือการ
00:02:55 → 00:02:58 แพทย์ในฝั่งไหนนะฮะนะแต่เนี่ยมันเป็น
00:02:58 → 00:03:01 เรื่องของอ่าเค้าเรียก Practical Point
00:03:01 → 00:03:05 นะหรือการ appach นะฮะเอ่อการ app ก็ง่าย
00:03:05 → 00:03:08 ๆก็คือการที่เราจะนำมาใช้อ่ะนะนำมาใช้กับ
00:03:08 → 00:03:11 ตัวเรานำมาใช้กับคนอื่นๆเนี่ยนะหรือการ
00:03:11 → 00:03:16 มองการต่างๆในคนที่มันมีปัญหาเรื่องกด
00:03:16 → 00:03:20 ยูริกมันสูงนะหรือมันมีภาวะเอ่อเค้าเรียก
00:03:20 → 00:03:24 attack นะก็คือเอ่อเป็นโคริเก๊าแต่มี
00:03:24 → 00:03:27 accute attack on top off and on
00:03:27 → 00:03:29 off and on เนี่ยภาษาแพทย์เขาเรียกว่า
00:03:29 → 00:03:34 อย่างเงี้ยหมอนี้เยอะเยอะเลยนะฮะนะแล้วก็
00:03:34 → 00:03:38 เห็นโรคเก๊าทมาเนี่ยบางคนก็รักษามา 20
00:03:38 → 00:03:40 กว่าปีแล้วมันก็เป็นเก๊าแอทackอยู่นั่น
00:03:40 → 00:03:44 แหละนะอืเอ่อถามว่าแล้วเก๊าแทackเนี่ย
00:03:44 → 00:03:48 ดื้อยามั้ยก็ดื้อนะฮะนะเอ่อมันมีภาวะดื้อ
00:03:48 → 00:03:54 ยาอยู่นะฮะนะถึงเอ่อตัวยาหลักในการรักษา
00:03:54 → 00:03:56 Treatment of Choice เรียกว่านะฮะทาง
00:03:56 → 00:03:58 การแพทย์เราก็เรียกว่า Treatment of
00:03:58 → 00:04:01 Choice เนี่ยนะคือเป็นเก๊าก็ต้องกินโคชิ
00:04:01 → 00:04:04 โคชิซินมันก็มีโดสเป็น 0.6 6 มิลกรั 1.2
00:04:04 → 00:04:06 2 มิลลกรัมอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะก็แล้ว
00:04:06 → 00:04:09 แต่จะปรับโดสให้ขนาดไหนก็ตามนะมันเป็นตัว
00:04:09 → 00:04:12 ลดการอักเสบ
00:04:12 → 00:04:16 นะแต่ว่านะแต่ก็อย่างว่าแหละนะฮะนะตัว
00:04:16 → 00:04:18 อื่นๆที่เป็นตัวรถกดยูริกแต่เป็นรสการ
00:04:18 → 00:04:21 อักเสบก็เป็นตัวโรูิอแล้วก็มีอีก 3-4 ตัว
00:04:21 → 00:04:24 เนี่ยนะแต่มันก็อย่างงั้นแหละนะฮะยาคือยา
00:04:25 → 00:04:28 นะเพราะว่าถ้าเราเบื่อยาเนี่ยนะบางทีหมอ
00:04:28 → 00:04:31 ก็ถามคนไข้ว่าไม่เบื่อมเหรอที่จะมาฉีดยา
00:04:31 → 00:04:35 มากินยาเงี้ยนะเพราะเวลามัน accute
00:04:35 → 00:04:37 attackack จริงๆเนี่ยมันทรมานนะเค้าบอก
00:04:38 → 00:04:41 ว่าปวดเก๊าทเนี่ยมันถือว่าเป็นปวดประมาณ
00:04:41 → 00:04:45 อันดับ 3 อันดับ 4 อ่ะนะลองจากเอ่อปวด
00:04:45 → 00:04:48 อันดับ 1 เลยรู้มั้ว่าปวดอะไรนะในโครง
00:04:48 → 00:04:53 สร้างร่างกายเราเนี่ยเวลามันมีมันมี painy
00:04:53 → 00:04:56 ที่มันจะต้องร่างกายมันจะรู้สึกต้องตอบ
00:04:56 → 00:05:01 สนองแบบโอ้โหนะอันดับเลยเนี่ยอือันดับ 1
00:05:01 → 00:05:03 เลยอ่ะเว่าอะไร
00:05:03 → 00:05:09 เนมันสูงมากๆเลยหึปวดหัวเปล่าไม่ใช่นะฮะ
00:05:09 → 00:05:13 คิดว่าอันดับ 1 อะไรอดเก๊านี่เหรอที่หมอ
00:05:13 → 00:05:16 ไม่ใช่ฮะเก๊าไม่ใช่เก๊าอันดับ 3 อันดับ 4
00:05:16 → 00:05:22 นะอันดับ 1 เออเราจะอะไรที่แบบสุดๆเลยเออ
00:05:22 → 00:05:31 สุดๆเลยนะอืติครับไม่ใช่ไม่ใช่ติ่งไม่ติ๋
00:05:31 → 00:05:34 ประจำเดือนเหรอพี่หมอไม่ใช่ฮะไม่ใช่อย่า
00:05:34 → 00:05:38 ไปคิดไกลๆนะบวชพ่อ
00:05:38 → 00:05:41 คืออันดับ 1 เลยเนี่ยนะเค้าที่เขามีการ
00:05:41 → 00:05:44 วัดสเกลนะนะแต่อันนี้ไม่รู้จะเก่าหรือ
00:05:45 → 00:05:48 เปล่านะที่หมอรู้มาหรือว่ามันเป็นเค้า
00:05:48 → 00:05:50 เรียกชาวปัญญาที่เราเป็นองค์ความรู้ในแง่
00:05:50 → 00:05:55 ชาวปัญญาอันดับ 1 คือกระจกตานะฮะกระจกตา
00:05:55 → 00:05:58 นะเวลามันมีคนไข้เศษอะไรตอะไรไปฝังที่
00:05:58 → 00:06:02 กระจกตาเนี่ยนะมันเกิดabัหรือเกิดเนี่ย
00:06:02 → 00:06:07 ของกระจกตาเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยในช่วงแรกๆ
00:06:07 → 00:06:11 เลยมันจะเจ็บเจ็บสุดๆนะเอ่อแต่มันเป็น
00:06:11 → 00:06:15 อวัยวะที่เล็กๆใช่มั้ล่ะกระจกตานะอันดับ 1
00:06:15 → 00:06:18 อันดับ 2 ก็คือภาวะอิชีเมียของของ
00:06:18 → 00:06:22 ไมโocคารดีลนะฮะนะก็คือพวกเจ็บหน้าอกพวก
00:06:22 → 00:06:25 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนี่แหละนะแล้วมัน
00:06:25 → 00:06:29 เป็นAngจinaเนี่ยนะ stable unstable
00:06:29 → 00:06:32 เนี่ยมันจะเจ็บเบอกว่าเจ็บเหมือนช้าง
00:06:32 → 00:06:36 เหยียบนะเออเออคือเจ็บหน้าอกอะไรอย่าง
00:06:36 → 00:06:38 เงี้ยเหรอครับพี่หมอเจ็บหน้าอกเออเจ็บแบบ
00:06:38 → 00:06:43 สุดๆเลยแบบสุจทานทนทนไม่ได้นะเหมือนหินมา
00:06:43 → 00:06:46 ทับเหมือนช้างมากระทืบมาเหยียบอ่ะเ้าว่า
00:06:46 → 00:06:49 อย่างงั้นครับ
00:06:49 → 00:06:53 อันดับ 3 คืออะไรที่สุทัศน์เป็นอยู่อ่ะ
00:06:53 → 00:06:58 หรือเคยเป็นนั่นแหละนะอ่าปดก้นครับใช่ิ 4
00:06:58 → 00:07:01 ดวงครับิชี่ิชี่
00:07:01 → 00:07:02 นี่แหละ
00:07:02 → 00:07:06 นะวาหนักเนี่ยหรือเอนัสเนี่ยนะฮะนี่แหละ
00:07:06 → 00:07:11 นะเวลาที่มันเกิดแพ้ถลอกมันเกิดอาการแบบ
00:07:11 → 00:07:14 เค้าเรียกมันปวดเพราะเลือดมันคั่งเงี้ยนะ
00:07:14 → 00:07:17 มันจะมีความปวดที่มันอยู่ไม่ได้นะแล้ว
00:07:17 → 00:07:20 หลังจากนั้นก็คือเก๊าทเก๊าทก็จะมาประมาณ
00:07:20 → 00:07:25 เนี้ยนะอันดับ 4 นี่แหละอ๋อครับอืนะอัน
00:07:25 → 00:07:29 นี้เเรียกเพชนะฮะในเรื่องของการปวดโอแต่
00:07:29 → 00:07:32 อันดับอันดับ 1 นี่จริงๆคุณหมอคอยบอกมา
00:07:32 → 00:07:37 แล้วนะผมก็ลืมกระจกตาเนี่ยก็เราก็เคยคุย
00:07:37 → 00:07:39 แล้วมันเป็นเค้าเรียกมันเป็นเอ่อองค์ความ
00:07:39 → 00:07:44 รู้แบบเค้าเรียกชาวปัญญานะลูกเพจบอกปวด
00:07:44 → 00:07:48 ฟันครับมีปวดฟันด้วยครับฟันก็ยังไม่ติด
00:07:48 → 00:07:51 อันดับยังไม่ติดอันดับนะฮะเออเพราะว่า
00:07:51 → 00:07:53 ติ่ง
00:07:53 → 00:07:56 เออๆไส้ติ่งอ่ะแล้วไส้ติ่งมันแตกอ่ามี
00:07:56 → 00:08:00 หนองอ่ะนะในท้องเนี่ยนะทำไมอ่ะเพราะคนมัน
00:08:00 → 00:08:04 ยังอึดเยังทนนะแต่ถ้ากระจกตาเป็นแผลน่ะ
00:08:04 → 00:08:06 หรือเจ็บหัวใจเนี่ยส่วนใหญ่มันทนไม่ไหว
00:08:06 → 00:08:11 หรอกนะไม่เกินไม่เกินมันต้องเรียกรถ 1669
00:08:11 → 00:08:16 อ่ะหวอๆอ่ะนะนะหรือเจ็บกระจกตาเนี่ยถ้า
00:08:16 → 00:08:18 มันเป็นทอม่ามันเป็นอินจurรี่ที่บริเวณ
00:08:18 → 00:08:22 คอเนียเนี่ยนะพวกนี้มันก็ถึงจะดึกแค่ไหน
00:08:22 → 00:08:26 ก็ตามมันก็ต้องมาไปไอ้ er เนี่ย Emergency
00:08:26 → 00:08:30 Room อ่ะเนอตานี่มันจะปวดได้ไงเจ็บได้ไง
00:08:30 → 00:08:32 ครับพี่หมอเจ็บเจ็บจากอะไรได้บ้างไงครับ
00:08:32 → 00:08:34 ผมยังนึกไม่ออกนี่มันมีเส้นประสาทอ่ามา
00:08:34 → 00:08:38 รับรู้ความรู้สึกเจ็บนะฮะไม่หมายถึงว่า
00:08:38 → 00:08:42 เราจะไปไปเจอเหตุอะไรถึงทำให้มันเจ็บได้
00:08:42 → 00:08:47 อ่ะอันไหนกระจกตาเหรอใช่ครับผมโอ้ยนะวัน
00:08:47 → 00:08:50 นี้หมอก็มีคนไข้เรื่องนี่แหละไอ้เศลกเข้า
00:08:50 → 00:08:52 ตนี่แหละนะ
00:08:52 → 00:08:55 อะไรอ่ะทำไอ้พวกช่างเครื่องยนต์อะไรต่างๆ
00:08:55 → 00:08:59 หรือว่าโอ้ออออี่แหละนางก็มาเนี่ยมือไม้
00:08:59 → 00:09:06 ยังดำปี๋อะไรเลยนะข้ามาซะจนโอ้โหนะแล้ว
00:09:06 → 00:09:09 มันก็เกิดเป็นเค้าเรียกเอ่อเป็นแผลถลอก
00:09:09 → 00:09:14 คอเนียที่กระจกตานะนะอ๋อโดนเศษอะไรเข้าตา
00:09:14 → 00:09:16 อะไอย่างเงี้ยใช่มั้ยพี่บอกเออก็มีเศษเศษ
00:09:16 → 00:09:21 เ้าเรียกว่าเศษหินเจียเศษไอ้ไอ้ไอตัดไอ้
00:09:21 → 00:09:23 ตัดฝ้าตัดอะไรเต็มไปหมดเลยอ่ะหลายอย่าง
00:09:23 → 00:09:26 อ่ะนะออ๋อ
00:09:26 → 00:09:31 อ๋อี้ต้องมาอะไรต่างๆเออแต่พวกนี้อย่ามา
00:09:31 → 00:09:34 เกินข้ามคืนนะส่วนใหญ่ถ้าเกิน 24 ช่มงเอา
00:09:34 → 00:09:39 ไม่ออกก็ต้องส่งหมอตานะครับอย่ายาชงยาชา
00:09:39 → 00:09:42 ขยายม่านตาสลิดแลมป์แล้วก็ต้องโอ้โหดูกัน
00:09:43 → 00:09:46 เยอะแยะไปหมดนะออๆๆ
00:09:46 → 00:09:48 อื
00:09:48 → 00:09:51 เออครับผม
00:09:51 → 00:09:56 ส่วนมากมึงจะมีบอกปวดฟันกันเยอะ
00:09:56 → 00:09:59 คือเรื่องนี้นะฮะเรื่องเก๊าทเรื่องกดยูริ
00:09:59 → 00:10:03 เนี่ยนะอันนี้ก็เป็นเรื่องนึงนะที่ที่มัน
00:10:03 → 00:10:06 ค่อนข้างจะทิน่ะแต่ว่าชายมันจะมากกว่าผู้
00:10:06 → 00:10:09 หญิงเพราะงั้นวันนี้เนี่ยผู้หญิงก็เหมือน
00:10:09 → 00:10:14 กับว่าแค่มารับฟังมารับฟังนะก็ไม่มีอะไร
00:10:14 → 00:10:17 ว่าในยุคปัจจุบันเนี้ยเราเนี่ยก้าวเข้า
00:10:17 → 00:10:21 สู่พช.แฟนคาฟต่ำนะหลายคนนะก็ยังจะมีปัญหา
00:10:22 → 00:10:24 เรื่องเก๊าไม่เลิกอ่ะนะเค้าเรียกว่าเล่น
00:10:24 → 00:10:28 ไม่เลิกนะมันต้องเข้าใจฮะต้องเข้าใจไม่
00:10:28 → 00:10:31 ได้แปลว่าตัดาฟแล้วไม่ได้กินแป้งไม่ได้
00:10:31 → 00:10:34 กินเอ่อผลงผลไม้ไม่ได้กินน้ำหวานน้ำ
00:10:34 → 00:10:36 เชื่อมไม่ได้กินฟุกโต๊ดอะไรแล้วเนี่ยนะ
00:10:36 → 00:10:38 หรือไม่ได้กินเหล้าไม่กินเบียร์ไม่กิน
00:10:38 → 00:10:42 แอลกอฮอล์ไม่ได้กินอคาฟแปรรูปแล้วเนี่ยนะ
00:10:42 → 00:10:45 อืยูิซีเมียก็ดีหรือ attack ก็ดีมันจะลด
00:10:46 → 00:10:48 ลาวาศอกไม่ใช่นะฮะ
00:10:48 → 00:10:52 เรายังมีความคลาดเคลื่อนในความเข้าใจนะ
00:10:52 → 00:10:55 เพราะฉะนั้นเนี่ยวันเนี้ยอยากจะคุยในแง่
00:10:55 → 00:10:57 ของเค้าเรียก clinical appost หรือ
00:10:57 → 00:11:00 clinical practice เนี่ยนะว่าเราจะคุย
00:11:00 → 00:11:03 อะไรกันนะเราจะดูประเด็นยังไงนะฮะเราจะ
00:11:03 → 00:11:06 ไม่จับในเรื่องทฤษฎีนักนะฮะเพราะว่าคุณ
00:11:06 → 00:11:10 หมอมโต้ก็โพสต์ในเรื่องทฤษฎีไปแล้วนะฮะ
00:11:10 → 00:11:12 แล้วอีกอย่างหลายๆเพจเนี่ยก็พูดถึงโรค
00:11:12 → 00:11:16 เก๊าโรคกดยูริกสูงอะไรอย่างเงี้ยนะแต่อัน
00:11:16 → 00:11:19 นั้นเนี่ยหมายถึงว่าเขาจะโพสต์หรือให้ข้อ
00:11:19 → 00:11:22 มูลในแง่ของความเป็นทฤษฎีแต่เวลานำมาใช้
00:11:23 → 00:11:26 เ่ะหมอสังเกตนะฮะนะหมอก็เป็นหมออาวุโส
00:11:26 → 00:11:30 แล้วอายุ 64 แล้วนะฮะนะในแง่ของการ
00:11:30 → 00:11:33 practีiceเรื่องของเก๊าทกับ
00:11:33 → 00:11:36 ไฮเปอร์ยูริปยูิซีเมียเนี่ยนะเอ่อหมอเรา
00:11:36 → 00:11:39 ทำไม่ค่อยถูกนะฮะนะคือยังมองมีมุมมองที่
00:11:39 → 00:11:44 ไม่แตกฉานแล้วก็โน่มันยังเป็นอะไรที่มัน
00:11:44 → 00:11:47 ยังไม่เข้าไม่เข้าแกปน่ะ
00:11:47 → 00:11:50 นะถ้ามาถ้ามาทดสอบกับหมอหมอให้ตกหมดนะฮะ
00:11:50 → 00:11:54 นะให้ไปรีไวทตัวเองใหม่เกี่ยวกับองค์ความ
00:11:54 → 00:11:57 รู้แบบนี้นะฮะนะคือที่เราทำกันอยู่มันไม่
00:11:57 → 00:12:01 ใช่นะฮะนะคือจะมาเอาอะไรอ่ะมาเอาข้อมูล
00:12:01 → 00:12:07 ว่าโอ๊ยนะมันเจอใน 1 เอ่อในcทอี่อ่ะนะ
00:12:07 → 00:12:10 เป็น 1 2 3 เนี่ยนะถ้าอย่างี้เยอะอย่าง
00:12:10 → 00:12:12 งี้อย่างงี้อะไรอย่างเงี้ยนะอันนี้ก็ไม่
00:12:12 → 00:12:16 ใช่นะฮะนะมันเลยยุคพวกนี้ไปหมดแล้วนะฮะ
00:12:16 → 00:12:18 เพราะฉะนั้นจะสังเกตว่าตั้งแต่หมอไลฟ
00:12:18 → 00:12:21 เรื่องเก๊าทมาอะไรเงี้ยหมอจะเกลียดมากที่
00:12:21 → 00:12:25 จะไปบอกว่าสัตว์ปีกครึ่งในสัตว์ยอดผักเออ
00:12:25 → 00:12:28 กินถั่วเมล็ดแห้งอะไรอย่างเงี้ยนะฮะโอ๊
00:12:29 → 00:12:32 สิ่งเหล่านี้มันโบล่ำโบราณค่ำครึนะฮะนะ
00:12:32 → 00:12:37 อย่าไปพูดถึงนะฮะนะอย่าได้เอาออกมาให้ใคร
00:12:37 → 00:12:40 ๆหรือให้สาธารณะเเห็นในสิ่งเหล่านี้นะฮะ
00:12:40 → 00:12:44 มันเชยนะรวมทั้งมันใช้ไม่ได้นะฮะในเวท
00:12:44 → 00:12:45 ปฏิบัติ
00:12:45 → 00:12:49 นะมันเอาไม่อยู่หรอกนะมันไม่มันไม่ใช่ไม่
00:12:49 → 00:12:52 จริงนะแต่มันมีความถูกต้องน้อยมีความคลาด
00:12:52 → 00:12:55 เคลื่อนเยอะแล้วมันเป็นแนวทางที่ทำให้
00:12:55 → 00:12:58 เกิดการฝังใจในความเชื่อที่ไม่ถูกนะแล้ว
00:12:58 → 00:13:00 เราก็จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยเราจะปฏิบัติ
00:13:00 → 00:13:02 ตัวไม่ได้เลยเกี่ยวกับเวลามันเป็นเก๊าท
00:13:02 → 00:13:05 หรือยูริกมันสูงอ่ะคือเราจะไม่รู้เรื่อง
00:13:05 → 00:13:09 เข้าใจอ่ะนะจะไปลดมันก็ไม่ได้จะไปทำยังไง
00:13:09 → 00:13:12 ที่มันไม่ให้เกิดแล้วมันก็สูงไปมึงสูงๆไป
00:13:12 → 00:13:16 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะอืเนี่ยมันก็เลยมันมัน
00:13:16 → 00:13:20 เราไม่เราไม่มีเกณฑ์ในการแยกแยะนะฮะนะคือ
00:13:20 → 00:13:23 ใครก็ตามนะจะเป็นกูรูจะมีความรู้จะเป็น
00:13:23 → 00:13:25 แพทย์ศาสตร์บัณฑิตจะเป็นศาสดาจารย์
00:13:25 → 00:13:27 เกียรตติกุลทางการแพทย์แต่ถ้าพูดเรื่อง
00:13:27 → 00:13:30 เก๊าหรือแอโพสเรื่องเก๊าไปอีกแนวทางนึง
00:13:30 → 00:13:32 คือแนวทางเก่าๆเงี้ยโอ้อันนี้ไม่ใช่แล้ว
00:13:32 → 00:13:36 นะฮะนะมันไปผิดอะไรเข้าหัวใช้ใช้คำว่า
00:13:36 → 00:13:40 เข้าป่าออกทะเลลึกอ่ะนะมันผิดไปเลยนะฮะ
00:13:40 → 00:13:44 มันใช้ไม่ได้นะฮะกับยุคพ.ศ.นี้ 256 นะ
00:13:44 → 00:13:47 2025 เนี่ยมุมมองเ้าเนี่ยนะฮะนะอีก
00:13:47 → 00:13:50 เรื่องนึงไปเลยนะฮะเราไม่ได้ดูกันอย่าง
00:13:50 → 00:13:53 นั้นแล้วนะฮะแล้วทฤษฎีต่างๆเนี่ยที่ชอบมี
00:13:53 → 00:13:56 กราฟมีไอ้นู่นไอ้นี่อะไรมาอธิบายมีตัว
00:13:56 → 00:13:59 ภาษาอังกฤษมีศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ทาง
00:13:59 → 00:14:01 ภาโถ physiology อะไรอย่างเงี้ยนะ
00:14:01 → 00:14:05 อันเนี้ยมันมันก็แค่รู้ในทางทฤษฎีอ่ะแต่
00:14:05 → 00:14:07 เวลาเอามาใช้เนี่ยเออเอามาใช้เนี่ยมันจะ
00:14:07 → 00:14:11 ใช้ยังไงนะฮะหมอยกตัวอย่างเนี่ยหมอมี 2
00:14:11 → 00:14:17 ข้อนะเออเอานี้เนี่ยฮะ 2 ข้อฮะที่หมอเคย
00:14:17 → 00:14:20 เอามาทำหัวข้อในการไลฟ์เราไลฟ์เรื่องเก
00:14:20 → 00:14:25 แล้วมันมี EP ที่ 39 กับ 60 เท่าไหร่ 62
00:14:25 → 00:14:29 หรือ 64 นี่แหละโอ้โหคุณหมอจำได้ด้วย
00:14:29 → 00:14:34 เพิ่งกลับไปดูเพิ่งกลับไปดูมาออครับๆคือ
00:14:34 → 00:14:36 เราพูดส่วนใหญ่เราจะเป็นพูดถึงเรื่องกฎ
00:14:36 → 00:14:40 ยูรินะเราพูดในแง่ของในแง่ที่ว่ามันเป็น
00:14:40 → 00:14:43 เรื่องผมเอาไว้ไฮเปอร์ยูซีเมียนะส่วนถ้า
00:14:43 → 00:14:46 เรารู้เรื่องไฮเปอร์ยูซีemียแบบเข้าใจนะ
00:14:46 → 00:14:51 ฮะไอ้เรื่อง attack นี่โอ๊ยเอ่ออะไรจุ๋ม
00:14:51 → 00:14:55 มากเลยอ่ะเออๆเราจะมาเข้าใจเรื่องคำ
00:14:55 → 00:14:58 ถามพวกเนี้ยนะสมมุติหมอตั้งคำถามเป็น 2
00:14:58 → 00:15:01 ข้อข้อ 1 ข้อ 2 อย่างเงี้ยเราจะมีวิธีการ
00:15:01 → 00:15:06 เ้าเรียกว่าแอโพชนะฮะนะหรือในทางในทางเ่อ
00:15:06 → 00:15:09 ในทางคลินิกทางเวทยปฏิบัติเนี่ยเออจะจะทำ
00:15:09 → 00:15:13 ยังไงกับ 2 ปัญหาเนี่ยนะฮะเช่นอันที่ 1
00:15:13 → 00:15:17 หมอเออจะกินไก่จะกินสัตว์ปีกจะกินเครื่อง
00:15:17 → 00:15:21 ในสัตว์น่ะเออนะฮะเนี่ยเอ่อหรือพวกอาหาร
00:15:21 → 00:15:25 ทะเลกุ้งปูปลาหอยอ่ะถั่วเมล็ดแห้งยอดผัก
00:15:25 → 00:15:29 ต่างๆเนี่ยนะที่หรือองค์ความรู้เก่าๆชอบ
00:15:29 → 00:15:31 บอกกันนักกนาว่าเอ่อถ้าเป็นเก๊าแล้วกิน
00:15:31 → 00:15:35 ไม่ได้ถ้ากินแล้วก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
00:15:35 → 00:15:37 หรือเสี่ยงเจ็บเสี่ยงปวดนะที่จะเก๊าตี้
00:15:37 → 00:15:40 มันจะแอทackอย่างเงี้ยนะฮะนะแต่สมมุติว่า
00:15:40 → 00:15:43 ถ้าจะกินน่ะจะกินยังไงแล้วไม่ให้เป็นโรค
00:15:43 → 00:15:48 เก๊าเออกินได้มอตอบว่าได้อ่ะได้แต่มัน
00:15:48 → 00:15:51 ต้องมีเงื่อนแต่คุณต้องเข้าใจเบสิคอะไร
00:15:51 → 00:15:53 บางอย่างเกี่ยวกับเรื่องกดยูริกแล้วก็
00:15:53 → 00:15:57 เก๊าทนะโดยเฉพาะฮอร์โมนและเรื่องระบบการ
00:15:57 → 00:16:01 เงินนะอย่างเงี้ยนะหรือข้อที่ 2 เนี่ย
00:16:01 → 00:16:02 เฮ้ย
00:16:02 → 00:16:06 หมอเนี่ยไม่ได้กินไก่ก็ไม่ได้กินสัตว์ปีก
00:16:06 → 00:16:08 ไม่ได้กินเครื่องในไม่ได้กินนะอาหารทะเล
00:16:08 → 00:16:11 คุมปุปูป่าหอยไม่แตะเออถั่วเธอเมล็ดหง
00:16:11 → 00:16:14 เมล็ดแห้งอะไรต่างๆเนี่ยไม่กินหรอกนะฮะนะ
00:16:14 → 00:16:18 ยอดพืชยอดผักตัดออกหมดเลยนะแล้วกินอะไร
00:16:18 → 00:16:23 อ่ะก็กินปลาเออกินปลากินไข่กินเนื้อสัตว์
00:16:23 → 00:16:26 เนื้อเกลือไข่อะไรอย่างเงี้ยกินหมูกินวัว
00:16:26 → 00:16:31 อ่าอุยแต่ทำไมยังเป็นข้อเสพเก๋าอ่ะเอออ่า
00:16:31 → 00:16:35 ๆกินดีๆทั้งนั้นเลยอ่าเป็นหายๆอยู่เงี้ย
00:16:35 → 00:16:40 นะเอออ่าเออเนี่ยทำไมอ่ะนะเออทำไมมันถึง
00:16:40 → 00:16:45 ยังเป็นอยู่ล่ะหมอนะกินโลคาฟนะกินคีโตนะ
00:16:45 → 00:16:47 แล้วก็ไม่ได้กี๊นกินเนื้อเครือไข่เนี่ย
00:16:47 → 00:16:50 อาหารใดๆที่บอกว่าพลูรีนสูงเป็นอาหารต้อง
00:16:50 → 00:16:53 ห้ามของเค้าเนี่ยแบบข้างบนสีเหลืองเนี่ย
00:16:53 → 00:16:57 ไม่ได้กินเนี่ยแล้วทำไมมึงยังล่ะนะแล้วไป
00:16:57 → 00:17:00 ตรวจกดยูริก็ยังเยอะอยู่อ่ะนะฮะอืหรือ
00:17:00 → 00:17:03 อย่างข้อ 3 เนี่ยหมอจะแถมเลยว่าเออกินLฟ
00:17:03 → 00:17:08 High Fat แล้วเนี่ยอูยไอ้กดยูริเนี่ย
00:17:08 → 00:17:11 เจาะทีไรเนี่ยมัน 7 มัน 8 มัน 7 มัน 8
00:17:11 → 00:17:14 เนี่ยเค้าเรียกมันเล่นไม่เลิก
00:17:14 → 00:17:19 อ่ะหายๆไปซะทีลนะอย่างเงี้ยเออสู่ค้าง
00:17:19 → 00:17:24 อยู่เงี้ยเออแอชั่นเลยใช่มั้ยเออก็เจอ
00:17:24 → 00:17:27 เป็นปัญหาอย่างเงี้ยแล้วเราจะแอยังไงเรา
00:17:27 → 00:17:31 จะตอบคนไข้ว่ายังไงอ่ะนะเนี่ยคนไข้เก็มา
00:17:31 → 00:17:36 ดีนะเออเราจะไปยื่นอะไรนะที่มันเป็น P P
00:17:36 → 00:17:40 PDF เหรอให้เขาบอกว่าภูรีนสูงเนี่ยมี 3
00:17:40 → 00:17:44 หน้ากระดาษนะสูงพันน้อยสูงมากอะไรอย่าง
00:17:44 → 00:17:47 เงี้ยนะไปหลีกเลี่ยงแทบจะไม่ได้กินอะไร
00:17:47 → 00:17:52 เลยอ่ะนะเออเออนะอย่างเงี้ยฮะอยากจะให้มา
00:17:52 → 00:17:56 ถามกันเอออยากมาถามกันถามกันอย่างงี้นะ
00:17:56 → 00:17:59 ถามอย่างงี้เหมือนกับแต่งคำถามนิดนึงอ่ะ
00:17:59 → 00:18:03 นะฮะเออเอาใครมีองค์ความรู้ใครจะมี
00:18:03 → 00:18:08 เปเปอร์ใครจะมีอะไรต่างๆสมุดโนตหรือ
00:18:08 → 00:18:11 เลคเชอร์อะไรมาก็ตามเนี่ยนะมันจะมาคุยกัน
00:18:11 → 00:18:14 เรื่องแบบเนี้ยเออคุยกันยังไงอ่ะเนี่ย
00:18:14 → 00:18:17 เกี่ยวกับกดยูริกแล้วก็เก๊าเนี่ยนะฮะนะอื
00:18:17 → 00:18:22 ๆอ่าอย่างอันนี้หมอก็สรุปให้ว่าเออนี่นะ
00:18:22 → 00:18:25 เนี่ยเขาบอกว่าอย่างงี้คาฟเนี่ยทำให้
00:18:25 → 00:18:29 เก๊าทกำเริบมากที่สุดนะฮะนะก็คือพวกนี้ก็
00:18:29 → 00:18:30 จะมีทั้ง
00:18:30 → 00:18:33 hyperปอรยูซีemiaนะแล้วก็y attack อ่ะ
00:18:33 → 00:18:37 คล้ายๆอย่างงั้นนะฮะหรือบางคนนะเอ่อเอ่อ
00:18:37 → 00:18:41 อะไรอ่ะเอ่อยูริอ่ะปกติแต่มี attack ก็
00:18:41 → 00:18:46 ได้นะฮะนะเนี่ยาฟมันทำปัญหาเนี่ยมากที่
00:18:46 → 00:18:50 สุดอันดับ 1 นะฮะมันถึงจะตรงเลเบลสีดำแดง
00:18:50 → 00:18:55 นะอืต่อโปรตีนเออโปรตีนเนี่ยเค้าก็มีนะมี
00:18:55 → 00:19:00 ผลคล้ายๆกับตัวคาฟนี่แหละนะแต่เขาลองลงมา
00:19:00 → 00:19:03 จากาฟนะฮะเออโปรตีนเนี่ยเรารู้ว่าโปรตีน
00:19:03 → 00:19:06 มันมีพิวีนพิูลีนมันก็จะเปลี่ยนเป็นกรด
00:19:06 → 00:19:09 ยูริกได้นะแล้วพิวีนมันอยู่ในอะไรอ่ะก็
00:19:09 → 00:19:12 อยู่ในเนื้อสัตว์น่ะฮะนะครับจะไม่ต้องไป
00:19:12 → 00:19:15 แยกนะฮะสัตว์บกสัตว์น้ำอะไรมีฝักกันอะไร
00:19:15 → 00:19:20 มี high มีmediมมีมีมินิอะไรงี้นะมีทั้ง
00:19:20 → 00:19:24 นั้นแหละนะเป็นโปรตีนเนี่ยนะฮะนะ
00:19:24 → 00:19:29 มีนะเออแล้วจะกินได้มั้ยล่ะเออนะครับเรา
00:19:29 → 00:19:32 ก็รู้ว่าเนี่ยเป็นอย่างงี้นะโปรตีนก็เป็น
00:19:32 → 00:19:36 อย่างเงี้ยลองลงมาเฮ้ยแต่ไขมันน้ำมันที่
00:19:36 → 00:19:38 มันดีๆนะเค้าเรียก good healthy fat
00:19:38 → 00:19:43 เนี่ยนะไม่ทำให้เกิดเก๊าก็คือ 0 เลยนะฮะ
00:19:43 → 00:19:47 ไม่ทำเลยนะฮะทำไม่ได้ไม่ทำ
00:19:47 → 00:19:51 นะครับเนี่ยแล้วเวลาเรากินเนี่ยเออถ้า
00:19:51 → 00:19:53 อย่างงั้นเนี่ยจะให้เกิดเค้าน้อยๆเราก็
00:19:53 → 00:19:56 กินโปรตีนคู่กับไขมันหรือน้ำมันใช่มั้ยก็
00:19:56 → 00:19:59 เรียกว่ากินพยาการ low ครับ very low
00:19:59 → 00:20:04 ครับกินคีโตซี KCD เงี้ยหรอนะฮะนะอ้าว
00:20:04 → 00:20:07 แล้วถ้าเกิดว่าจะกินให้มันครบ 5 หมู่กิน
00:20:07 → 00:20:09 ทั้งคาฟกินทั้งโปรตีนกินทั้งไขมันล่ะกิน
00:20:09 → 00:20:13 ได้มั้ยแล้วไม่เกิดเก๊าอ่ะนะสูงอ่ะเออได้
00:20:13 → 00:20:18 หมดนะฮะได้หมดเลยนะฮะแต่ทีเนี้ยรู้ก่อนนะ
00:20:18 → 00:20:21 ว่าเออไฮเปอร์ยูริกับเก๊าเนี่ยาฟอันดับ 1
00:20:21 → 00:20:25 โปรตีนอันดับ 2 ส่วนไขมันน้ำมันไม่ทำไม่
00:20:25 → 00:20:30 ทำไม่มีผลไม่มีผลนะถ้าอย่างนี้เนี่ยไม่
00:20:30 → 00:20:32 อยากให้เป็นเก๊าทเลยไม่อยากให้กดยูริกสูง
00:20:32 → 00:20:35 เลยก็ต้องกินแต่น้ำมันไขมันเหรอนะาฟกับ
00:20:35 → 00:20:38 โปรตีนก็กินไม่ได้เหรอมันก็ไม่ใช่อ่ะเออ
00:20:38 → 00:20:45 ไม่ใช่อืนะเพราะฉะนั้นนะฮะยูริคสูงนะหรือ
00:20:45 → 00:20:49 อ่าเนี่ยนะหรือการเกิด Goy Attack เนี่ย
00:20:49 → 00:20:54 นะฮะนะเนี่ยอันเนี้ยมันจะเกิดยังไงนะฮะนะ
00:20:54 → 00:20:57 หลายคนยูริกสูงโดยเฉพาะกิน Low Cฟแต่ไม่
00:20:57 → 00:21:01 เป็นเก๊าทแต่ยูริกสูงก็กวนใจนะเค้าเรียก
00:21:01 → 00:21:06 กิตี้อ่ะอูยเอ่อกังวลวิตกนะแคนิคอะไรต่าง
00:21:06 → 00:21:12 ๆอยู่นั่นแหละนะฮะอืเออนะเนี่ยครับเออแต่
00:21:12 → 00:21:15 นะถ้าเกิดไม่ได้กินโลคไม่ได้กินคาฟต่ำ
00:21:15 → 00:21:18 อะไรเงี้ยนะฮะนะพวกนี้ก็จะมีผลทั้ง 2 ทาง
00:21:18 → 00:21:23 อ่ะนะทั้งยูริทั้ง9ตี้แackคู่กันไปนะฮะนะ
00:21:23 → 00:21:27 แต่ถ้ากินLowฟแล้วอ่าทุกอย่างถ้าดีก็โอเค
00:21:27 → 00:21:30 แต่ถ้าไม่ดีก็ยังมีกดยูริกสูงแต่ไม่ค่อย
00:21:30 → 00:21:33 มี Cy attack นะฮะนะแล้วทุกอย่างนี้ความ
00:21:33 → 00:21:35 แตกต่างจะอยู่ที่สภาสภาวะร่างกายคำว่า
00:21:36 → 00:21:38 สภาวะร่างกายก็คือเรื่องของระบบพลังงาน
00:21:39 → 00:21:42 เรื่องระบบพลังงาน
00:21:42 → 00:21:46 เนี่ยอรรupถัดมาได้เลยนะเพราะงั้นเราต้อง
00:21:46 → 00:21:50 เข้าใจเรื่องระบบพลังงานนะฮะระบบพลังงาน
00:21:50 → 00:21:53 ซึ่งเอ่อพลังงานใน Low Cฟ High Fat
00:21:53 → 00:21:56 เนี่ยเใช้คำว่า Energy ภาษาไทยแปลว่าพลัง
00:21:56 → 00:22:01 งานนะฮะนะ Energy ในLฟatจะหมายถึงแคลอี่
00:22:01 → 00:22:07 บวกนิวตรนอ่านะฮะนะแคลอรี่นะอ่าเราก็คือ
00:22:07 → 00:22:09 พลังงานน่ะก็คือมันเพราะฉะนั้นคำว่า
00:22:09 → 00:22:11 energy มันจะมีenนerีที่เป็นแคลอี่
00:22:11 → 00:22:14 energy ที่เป็นนิวตรนนะเนี่ยเหล่านี้
00:22:14 → 00:22:18 เนี่ยเราฉายไปหมดแล้วนะฮะความผิดปกติของ
00:22:18 → 00:22:22 คำว่าเอนerร์yพลังงานนะฮะก็จะมีเรื่องของ
00:22:22 → 00:22:26 balanceซกับimbalanceซนะฮะนะเพราะฉะนั้น
00:22:26 → 00:22:29 เนี่ยเก๊าก็ดีกดยูริคก็ดีนะจะหมายถึง
00:22:30 → 00:22:32 สภาวะร่างกายที่มันเกิดภาวะ energy
00:22:32 → 00:22:37 imbalance นะฮะนะก็คือแคลอรี่และนิวตรน
00:22:37 → 00:22:43 นะมันไม่สมดุลนะไม่สมดุลแล้วทั้งแคลอรี่
00:22:43 → 00:22:46 นิวเตรียนหลักๆนะก็มาจากเรื่องของ
00:22:46 → 00:22:49 แมคโครนิวเตียนก็คือคาฟโปรตีนไขมันนะฮะ
00:22:49 → 00:22:52 อันนี้แหละเรากินไม่ถูกกินไม่เป็นกินไม่
00:22:52 → 00:22:56 เหมาะสมกินยังไงหรออะไรเงี้ในฝั่งขวา
00:22:56 → 00:23:00 เนี่ยนะฮะนะเนี่ยการเค้าเรียกว่า clinical
00:23:00 → 00:23:04 approach นะฮะในทางเวทปฏิบัติในคนไข้
00:23:04 → 00:23:08 โภชนาการาฟต่ำนะฮะหมายถึงคุณกินโลคกิน
00:23:08 → 00:23:11 คีโต้แล้วล่ะนะเออแล้วเวลามาหาหมอเนี่ยนะ
00:23:11 → 00:23:13 ในแง่ของการ approach เรื่อง energy
00:23:13 → 00:23:16 balance กับ imbalance เนี่ยนะฮะนะเนี่ย
00:23:16 → 00:23:19 มันมีข้อแยกเมื่อวันเสาร์วันอาทิตย์เนี่ย
00:23:19 → 00:23:23 หมออุตส่าห์แยกให้นะฮะเราจะมีได้มีแนว
00:23:23 → 00:23:28 หรือมีทิศทางในการดูว่าเอ่อถ้าไปเจอหมอ
00:23:28 → 00:23:32 แต่มันหายากเนาะหมอที่เค้าตรวจทางด้านพวก
00:23:32 → 00:23:38 ไอ้พวกโลคนี่แหละนะเอออยากมาส่งค่าแลap
00:23:38 → 00:23:41 หรือว่า clinical app นะ and symptom
00:23:41 → 00:23:45 อะไรเงี้ยนะเอ่อเขาจะมีประเด็นการมุมมอง
00:23:45 → 00:23:49 เขายังไงนะฮะนะอ่าเขาจะแบ่งเป็นเรื่องของ
00:23:49 → 00:23:53 เนี่ย 2 แบบนะฮะนะ 2 แบบเนี่ยก็คือเรื่อง
00:23:53 → 00:23:56 ของคำว่า energy ที่หมายถึงที่มัน balance
00:23:56 → 00:24:00 หรือ imbalance นะซึ่งในลักษณะเนี้ยนะมัน
00:24:00 → 00:24:04 จะมีความผิดปกติของตัวคอเลสเตอรอลต่างๆนะ
00:24:04 → 00:24:07 ในแลบของไรปิดโปรไฟล์หรือไม่ก็ไรโปรตีน
00:24:07 → 00:24:12 เซ็นทิเนี่ยฮะนะพวกนี้จะหมายถึงอ่าราก
00:24:12 → 00:24:16 เหง้าที่มาจากเรื่องของพลังงานนะพลังงาน
00:24:16 → 00:24:20 แคลอรี่นะที่มันบาanceซบาalanceซนะฮะกด
00:24:20 → 00:24:22 ยูริก็เช่นเดียวกันนะเพราะฉะนั้นพื้นฐาน
00:24:22 → 00:24:26 กดยูริคนะต้นทางที่มันจะผิดปกติมันมาจาก
00:24:26 → 00:24:29 เรื่องของพลังงานที่เป็นแคลอรี่อ่าพอไม่
00:24:29 → 00:24:32 พอbalanceซบาalanceกินผิดกินเกินเป็นกิน
00:24:32 → 00:24:37 ขานะฮะคีโตนนะฮะโอเมก้า 3 วิธีการ app ใน
00:24:37 → 00:24:39 ความผิดปกติของสิ่งเหล่าเนี้ยเรา app ใน
00:24:39 → 00:24:42 เรื่องของ energy balance หรือ imalance
00:24:42 → 00:24:47 ในแง่ของความเป็นพลังงานนะฮะนะเนี่ยราก
00:24:47 → 00:24:51 คามสมความไม่สมดุลเนี่ยคือแคลอรี่นะฮะมาก
00:24:51 → 00:24:56 กว่านิวตีน denensity เออนะอันนี้แหมอยาก
00:24:56 → 00:25:00 จะตีเส้นให้มันขาดออกจากกันน่ะนะดูข้าง
00:25:00 → 00:25:03 ล่างนะฮะความผิดปกติเหล่านี้นะฮะเรื่อง
00:25:03 → 00:25:06 ของเนี่ย body size นะฮะหรือเปอร์เซ็น
00:25:06 → 00:25:09 Fat Deposit อะไรต่างๆคือความอ้วนความ
00:25:09 → 00:25:14 ผอมความสมส่วนนะฮะนะโรคเนี่ยเบาหวาน
00:25:14 → 00:25:19 ไทรรอยด์ไตรัง CKD เหล่านี้ในการแอชทาง
00:25:19 → 00:25:23 ด้านคลินิกนะนะความผิดปกติให้เพ่งเล็งไป
00:25:23 → 00:25:28 ที่เรื่องของสารอาหารเป็นหลักนะสารอาหาร
00:25:28 → 00:25:31 จะมีผลมากๆกว่าเรื่องของพลังงานหรือ
00:25:31 → 00:25:35 เอเนอร์ที่เป็นแคลอรี่นะนะงั้นหลักการ app
00:25:35 → 00:25:38 เนี่ยข้างบนข้างล่างเนี่ยมันจะดูต่างๆกัน
00:25:38 → 00:25:42 ว่าคนๆเนี้ยนะถ้าสิ่งเหล่านี้ผิดปกติต้อง
00:25:42 → 00:25:47 นึกถึงแคลอรี่ถ้าสิ่งเหล่านี้ผิดปกตินะฮะ
00:25:47 → 00:25:51 ต้องนึกถึงว่าสารอาหารมันไม่พอไม่พอนะฮะ
00:25:51 → 00:25:54 อย่างเช่นเรื่องเบาหวานเนี่ยเบาหวานก็คือ
00:25:54 → 00:26:00 โรคของการขาดสารอาหารสารอาหารมันไม่พอสาร
00:26:00 → 00:26:05 อาหารมันผิดนะฮะนะไทรอยด์เราก็รู้อยู่
00:26:05 → 00:26:07 แล้วไลฟ์ไปหลายครั้งแล้วว่าไทรรอยด์เนี่ย
00:26:07 → 00:26:11 เต้องการหลายอย่างเหลือเกินนะอย่างละเล็ก
00:26:11 → 00:26:15 อย่างละน้อยนะนิดๆหน่อยๆเนี่ยหายไปหมดไป
00:26:15 → 00:26:19 น้อยไปเออเขาก็ขี้เกียจเไม่ขยันเไม่
00:26:19 → 00:26:23 ฟังก์ชันเไม่เก่งอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะ
00:26:23 → 00:26:25 เหมือนกันนะฮะในแง่ของเบาหวานเนี่ยนะใน
00:26:25 → 00:26:28 เรื่องความผิดถึงอินซูลินเนี่ยนะใน
00:26:28 → 00:26:31 ปัจจุบันเนี่ยเบาหวานคือโรคการขาขาดอะไร
00:26:31 → 00:26:35 ขาดสารอาหารนะฮะนะส่วนพลังงานหรือแคลอรี่
00:26:35 → 00:26:38 ของเบาหวานเนี่ยมันจะเกินมันจะขาดหรือมัน
00:26:38 → 00:26:42 จะผิดอะไรก็ตามนะฮะนะเนี่ยประเด็นหลักใน
00:26:42 → 00:26:45 ระยะยาวเนี่ยนะฮะคุณต้องกู้เรื่องสาร
00:26:45 → 00:26:48 อาหารขึ้นมาให้ได้นะฮะเพราะงั้นคุณเป็น
00:26:48 → 00:26:51 เบาหวานคุณจะรีชionหรือยังไม่รีชionแต่
00:26:51 → 00:26:54 เช้าๆเนี่ยตื่นขึ้นมา Fasting บู้าเนี่ย
00:26:54 → 00:26:57 มันพุ่งขึ้นไปอ่ะนะมันอยู่ในแดนของ P
00:26:57 → 00:27:02 diabetสหรือมันไป 120 กว่า 130 140 อะไร
00:27:02 → 00:27:04 อย่างเงี้ยนะฮะถ้าอย่างนี้นะฮะอย่างนี้
00:27:04 → 00:27:08 เนี่ยนะที่หมอบอกว่าเรามีวิธีการอะไรอ่ะ
00:27:08 → 00:27:12 ที่จะมาใช้ในทางเวทปฏิบัติในการที่จะปรับ
00:27:12 → 00:27:15 รถเรื่อง phenomenal เนี่ยนะฮะนะก็คือ
00:27:15 → 00:27:19 fasting ชู้าสูงก็แปลว่าเบาหวานคุณเนี่ย
00:27:19 → 00:27:23 นะเป็นภาวะที่ยังได้สารอาหารไม่ดีไม่ครบ
00:27:23 → 00:27:27 ไม่พอนะเพราะเบาหวานเป็นโรคของสารอาหาร
00:27:27 → 00:27:31 อ่าไทรอยด์ก็เหมือนกันไตนะฮะไอ้พวกไต CKD
00:27:31 → 00:27:35 เนี่ยในระยะยาวเนี่ยนะที่มันมันเาเรียก
00:27:35 → 00:27:39 มันแย่ลงอ่ะจากเ่อ 2 เป็น 3 A เป็น 3B
00:27:39 → 00:27:42 เป็น 4 เป็น 5 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะพวก
00:27:42 → 00:27:44 เนี้ยมันหามอยู่ที่สารอาหารเพราะงั้นจะ
00:27:44 → 00:27:49 กู้ไตเนี่ยนะฮะนะคุณต้องวางนะเรื่องสาร
00:27:49 → 00:27:53 อาหารเนี่ยให้รอบด้านนะนะให้ไตเนี่ยนะเ
00:27:53 → 00:27:57 ฟื้นนะโดยเฉพาะเรื่องของเกลือแร่นะฮะสาร
00:27:57 → 00:28:01 อาหารที่สำคัญนะแต่พลังงานเนี่ยในการกู้
00:28:01 → 00:28:03 สถานการณ์เนี่ยคือคีโตนเนี่ยก็ต้องมาด้วย
00:28:03 → 00:28:07 นะฮะนะมีสารอาหารแล้วพลังงานยังผิดถูกๆ
00:28:07 → 00:28:12 เอ่อไปกินแต่แป้งปอดโปรตีนมีแต่คาฟๆมีแต่
00:28:12 → 00:28:14 น้ำตาลน้ำตาลน้ำตาลเหล่าเนี้ยนะฮะสาร
00:28:14 → 00:28:19 อาหารพวกนี้บางทีก็ไปได้ไม่สุดนะฮะนะฟื้น
00:28:19 → 00:28:23 ไตได้ไม่ดีนะฮะอันนี้มีพอมีมุมมองแล้ว
00:28:24 → 00:28:27 เนาะสรุปวันนี้เราพูดกดยูรินะให้เพ่งเล็ง
00:28:27 → 00:28:31 เพลงเรื่องแคลอรี่นะฮะแคลอรี่
00:28:31 → 00:28:33 อืครับผม
00:28:33 → 00:28:39 นะอ่ะมีใครถามอะไรก็ถามมาได้เลยนะทีนี้ใน
00:28:39 → 00:28:42 เพจทั่วๆไปอ่ะนะฮะนะเร็วๆเนี้ยหมอก็เอา
00:28:42 → 00:28:45 ของแทนเซียมานะนะฮะเนี่ยนะฮะนะเค้าก็จะ
00:28:45 → 00:28:49 บอกว่านี่นะถ้าสรุปเลยนะกดยูริตในเลือด
00:28:49 → 00:28:52 สูงเนี่ย 4 เรื่องนะฮะ 4 เรื่องนะ
00:28:52 → 00:28:56 แอลกอฮอล์กับอะไรอ่ะนะกับฟุ๊กโตสเนี่ยชอบ
00:28:56 → 00:29:00 พูดกันนักนะฮะแอลกอฮอลฟุกโต๊ดนะอ่าแล้วก็
00:29:00 → 00:29:03 กินพิวีนจากอะไรฮะจากเนื้อสัตว์นะนะโดย
00:29:03 → 00:29:06 เฉพาะสัตว์บกสัตว์เนื้อแดงๆอ่ะพิวีนเยอะ
00:29:06 → 00:29:10 นะไม่ต้องกลัวหรอกไม่ใช่เฉพาะสัตว์เปกนะ
00:29:10 → 00:29:13 เนี่ยไปดูแล้วตัวเลขไม่ต่างกันหรอกกินหมู
00:29:13 → 00:29:16 กินวัวกินไก่กินอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะ
00:29:16 → 00:29:21 เนี่ยนะอ่าเนี่ยนะอ่าแล้วอันนี้ disease
00:29:21 → 00:29:24 นะ disease ก็คืออะไรภาวะดื้ออินซูลินอัน
00:29:24 → 00:29:27 นี้คือเรื่องอะไรฮะเรื่องพลังงานนี่แหละ
00:29:27 → 00:29:29 เรื่องพลังงานเนี่ยมันอยู่ตรงเนี้ยนะฮะ
00:29:29 → 00:29:32 เพราะงั้น 4 สาเหตุเสมมุติว่าตามรูปเหล่า
00:29:32 → 00:29:35 เนี้ยนะฮะแล้วเรากินโลฟเนี่ยกินโลฟเราก็
00:29:35 → 00:29:37 ตัดสินะใครกินโลคาฟแล้วยังกินเหล้าอยู่
00:29:37 → 00:29:41 เหรอใครกินโลฟแล้วยังมากินฟินผลไม้กินฟุก
00:29:41 → 00:29:44 โต๊ดกินอ่าคาฟแปร
00:29:44 → 00:29:48 รูปอยู่เหรอมันก็ไม่ใช่อ่ะนะฮะนะเนี่ยนะ
00:29:48 → 00:29:51 เพราะฉะนั้นเวลานะที่จะพูดถึงเรื่องกด
00:29:51 → 00:29:54 ยูริกสูงที่จะพูดถึงเก๊าทเนี่ยในกลุ่มของ
00:29:54 → 00:29:56 คนที่กินโลฟเนี่ย
00:29:56 → 00:30:00 นะหมอฟังมานานหมอก็รำคาญรำคาญเนี่ยยังจะ
00:30:00 → 00:30:04 ไปบอกเอีกว่าเอ่ออย่ากินคาฟเพราะมันมาจาก
00:30:04 → 00:30:08 กินผลไม้กินแอลกอฮอล์อะไรอย่างเงี้ยนะฮะ
00:30:08 → 00:30:11 นะโอ้โหเค้ากินโลฟถึงขนาดนี้เดูแลสุขภาพ
00:30:11 → 00:30:14 ถึงขนาดนี้ก็ไม่น่าจะมาพลาดพลั้งที่จะมา
00:30:14 → 00:30:18 นั่งแอบจิ๊บแอลกอฮอล์กินฟุ๊กโต๊ดนิดๆ
00:30:18 → 00:30:21 หน่อยๆกินผลไม้เอ่อหลังอาหารอะไรงั้นหรอก
00:30:21 → 00:30:25 มั้งนะฮะนะเนี่ยเนี่ยอันนี้พวกนี้ประเด็น
00:30:25 → 00:30:28 เนี้ยพูดข้ามผ่านไปเลยนะฮะเตัดาฟซะจนไม่
00:30:28 → 00:30:31 รู้จะยังไงอีกแล้วนะฮะนะแล้วทำไมอ่ะทำไม
00:30:31 → 00:30:34 กดยูริมันสูงทำไมยัง9ตี้เ่อเค้าเรียก
00:30:34 → 00:30:37 recurent attack อยู่บ่อยๆนะฮะก็นี่ไ
00:30:37 → 00:30:39 ระบบพลังงานไงนะเพราะสิ่งเหล่าเนี้ยมัน
00:30:39 → 00:30:42 อยู่ในอะไรในร่างกายในเซลล์นะอันนี้มัน
00:30:42 → 00:30:46 อยู่ในอะไรฮะมันอยู่นอกนอกร่างกายนะนะมัน
00:30:46 → 00:30:51 เป็นdiตory food นะฮะนะเพราะฉะนั้นการ
00:30:51 → 00:30:55 ที่เวลากดยูริกสูงหรือเวลาเป็นเก๊าทเนี่ย
00:30:55 → 00:30:57 เาก็จะเพ่งเล็งพูดแต่ว่าเอ่ออย่ากินโน่น
00:30:58 → 00:31:00 อย่ากินนี่อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะคือมัน
00:31:00 → 00:31:02 เป็นอาหารจากภายนอกปัจจัยจากอาหารภายนอก
00:31:02 → 00:31:05 คล้ายๆคอเลสเตอรอลเนี่ยฮะมันมีผลน้อยมีผล
00:31:05 → 00:31:08 แค่ไม่เกิน 1 ใน 3 หรือ 30% แต่ปัจจัยภาย
00:31:08 → 00:31:12 ในเนี่ยเนี่ยๆๆๆเนี่ยนะอันเนี้ยอันนี้
00:31:12 → 00:31:14 เนี่ยระบบพลังงานที่อยู่ในเซลล์ในอวัยวะ
00:31:14 → 00:31:17 เนี่ยในระบบต่างๆเหล่านี้แหละนี่แหละเป็น
00:31:17 → 00:31:20 ตัวดีนักล่ะที่ทำให้กดยูริกสูงแล้วก็เป็น
00:31:20 → 00:31:23 ตัวที่กระตุ้นฮอร์โมนอะไรต่างๆนะที่จะมา
00:31:23 → 00:31:26 ทำให้กดยูริกตกตรอยู่ในเซลล์แล้วก็เกิด
00:31:26 → 00:31:29 การอักเสบเป็น attack นะฮะนะเพราะฉะนั้น
00:31:29 → 00:31:32 พูดถึงเรื่องกดยูริกสูงพูดถึงเรื่อง
00:31:32 → 00:31:35 attack เนี่ยให้พูดในสิ่งที่เป็นไปได้
00:31:35 → 00:31:38 เยอะๆนะฮะนะเกินกว่า 2 ในสารไม่เกิน 70%
00:31:39 → 00:31:42 เนี่ยมันอยู่ในร่างกายมันอยู่ในเซลล์มัน
00:31:42 → 00:31:44 ไม่ได้เกี่ยวกับอาหารที่จะกินเข้าปากเข้า
00:31:44 → 00:31:48 ท้องเข้าไส้นักหรอกนะฮะนะอย่าไปย้ำซ้ำทวน
00:31:48 → 00:31:51 สิ่งเหล่านี้นะเห็นกี่เพจกี่เพจเห็นกี่
00:31:51 → 00:31:53 โพสต์กี่โพสต์อะไรต่างๆก็พูดแต่เรื่องกิน
00:31:53 → 00:31:56 น่ะนะไม่เห็นจะเคลียร์ไอ้เรื่องระบบพลัง
00:31:56 → 00:32:00 งานภายในนี่เลยนี่ระบังพลังงานภายในนี่
00:32:00 → 00:32:03 นี่เนี่ยเตัวดีนักแหละทั้งhyperปรอemia
00:32:03 → 00:32:08 ทั้ง accute culty attack นะนี่นะเอ่อ
00:32:08 → 00:32:12 แล้วก็อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะก็อ่าดูผ่านๆ
00:32:13 → 00:32:18 พอนะเออครับผมนะเนี่ยเพราะฉะนั้นนะฮะนะ
00:32:18 → 00:32:21 ภาวะกดยูริกสูงและเก๊าเนี่ยมันเป็นความ
00:32:21 → 00:32:25 ผิดปกติของระบบพลังงานซึ่งมันเป็นแคลอรี่
00:32:25 → 00:32:29 ที่อยู่ภายในร่างกายภายในภายในนะเอ่อไม่
00:32:29 → 00:32:33 ใช่แคลอรี่ภายนอกเอ่อเป็นหลักนะฮะนะแต่
00:32:33 → 00:32:35 ถามว่าแคลอรี่ภายนอกเนี่ยที่จะกินข้าวปาก
00:32:35 → 00:32:39 เข้าท้องเข้าไทรเนี่ยมีมั้ยก็มีมีนะฮะ
00:32:39 → 00:32:43 เนี่ยเออแล้วลองทายกันดูสิฮะว่าถ้าเป็น
00:32:43 → 00:32:47 อย่างนี้นะฮะระบบพลังงานภายในเนี่ยนะอ่า
00:32:47 → 00:32:51 ถ้าจะเอาฮอร์โมนเนี่ยมาเป็นตัวคอยคอยส่อง
00:32:51 → 00:32:55 คอยดูอ่ะระบบพลังงานภายในร่างกายเนี่ยตัว
00:32:55 → 00:33:00 ไหนน้อที่เ้าเป็นตัวกำกับเออตัวไหนอ่ะรู้
00:33:00 → 00:33:06 มั้ยอินซูลินครับไม่ใช่คอร์ติครับใช่แล้ว
00:33:06 → 00:33:07 ฮะ
00:33:07 → 00:33:11 คอร์ติคืออินซูลินเนี่ยเขาจะกำกับภายนอก
00:33:11 → 00:33:13 เนี่ยมึงอย่ากินเข้ามานะกูมีเวลาให้มึง
00:33:13 → 00:33:16 2-4 ช่มงถ้ามึงกินสิ่งเหล่านี้เข้ามา
00:33:16 → 00:33:19 เนี่ยกูจะออกฤทธิ์ออกเดทจะบังคับอย่างโงน
00:33:19 → 00:33:22 อย่างงี้จะสะสมจะหยุดอย่างโงนอย่างนี้
00:33:22 → 00:33:25 เนี่ยนะฮะนะแต่ถ้าสิ่งที่อยู่ภายในแล้ว
00:33:25 → 00:33:28 เป็นรูปของแคลอรี่เนี่ยนะฮะนะเนี่ยตัว
00:33:28 → 00:33:31 หลักๆที่เป็นพื้นฐานที่เจ้องอยู่อ่ะนะ
00:33:31 → 00:33:34 อย่านะอย่านะ Energy Imbalance Energy
00:33:34 → 00:33:37 balance กูจะต้องออกมากูจะต้องออกมา
00:33:37 → 00:33:41 เนี่ยก็คือคอร์ทิซอลตัวแม่นะมันก็จะแยก
00:33:41 → 00:33:45 กันอย่างี้นะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะฮะนะ
00:33:45 → 00:33:47 เกี่ยวข้องกับระบบพลังงานภายในร่างกายเรา
00:33:47 → 00:33:51 ต้องรู้ต่อว่าแล้วโหมดของพลังงานในตอน
00:33:52 → 00:33:55 นั้นเนี่ยนะร่างกายกำลังอยู่ในฝั่งอ่า
00:33:55 → 00:33:59 เก็บกักสะสมนะฮะนะหรือanาบอลิเนี่ยหรือ
00:33:59 → 00:34:03 ฝั่งสไลด์เผาผางแคตาบอลิล่ะนะฮะเนี่ย
00:34:03 → 00:34:07 เพราะว่า 2 2 ลักษณะเนี้ยมันจะมีฮอร์โมน
00:34:07 → 00:34:11 ออกมาในการควบคุมต่างกันต่างกันนะฮะนะอัน
00:34:11 → 00:34:15 แรกก็เป็นอินซูลินนะตัวพ่อนะอันข้างล่าง
00:34:15 → 00:34:21 เนี่ยนะอันข้างล่างเนี่ยอ่าก็แล้วแต่นะนะ
00:34:21 → 00:34:24 ก็คือส่วนใหญ่จะเป็นตัวลูกนะเราจะหมายถึง
00:34:24 → 00:34:28 ตัวลูกเป็นหลักนะฮะแต่ถามว่านะถ้ามันอยู่
00:34:28 → 00:34:31 ในภาวะที่มันไม่สมดุลจริงๆเนี่ยนะฮะเค้า
00:34:31 → 00:34:33 เรียกว่า energy balance เนี่ยตัวลูก
00:34:33 → 00:34:36 เนี่ยอ่าจะออกมาไม่ค่อยไม่ค่อยไม่ค่อยชัด
00:34:36 → 00:34:38 เจนไม่ค่อยมากหรอกนะฮะส่วนใหญ่ก็คือแม่
00:34:38 → 00:34:42 ต้องออกมาก่อนนะเพราะว่ามันเกิดระบบของ
00:34:42 → 00:34:45 พลังงานแคลอรี่มันซอยู่นะฮะนะคอร์ทิซอล
00:34:45 → 00:34:49 เขาจะมานะแล้วเขมาแล้วเนี่ยนะแรกๆเขมา
00:34:49 → 00:34:50 สลายเผาผลาญ
00:34:50 → 00:34:55 แต่มาหลังๆเนี่ยคอร์ตซอลกลับใจก็จะสะสมนะ
00:34:55 → 00:34:59 ฮะเนี่ยตามลักษณะที่เราพอรู้ๆกันอยู่นะฮะ
00:34:59 → 00:35:01 อันนี้ก็คือขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเพราะ
00:35:01 → 00:35:05 ฉะนั้นจริงๆแล้วกดยูริและเก๊านะฮะนะก็คือ
00:35:05 → 00:35:09 เรื่องของอ่า energy balance หรือ
00:35:09 → 00:35:12 imbalance และนะตอนเนี้ยฮอร์โมนอะไรออก
00:35:13 → 00:35:16 มาควบคุมสังกายนะก็จะนึกถึงแค่เนี้ยนะฮะ
00:35:16 → 00:35:20 นะนึกถึงแค่เนี้ยทีนี้มันจะมีคำนึงที่เรา
00:35:20 → 00:35:23 ก็ไลฟ์ไปเยอะละนะว่ามันเป็นยูริicacซิด
00:35:23 → 00:35:28 เนี่ยเป็น natural นะอ่าซเปอรanิอกตัวนึง
00:35:28 → 00:35:30 ที่พบอยู่ในร่างกายในกระแสเลือดของคนเรา
00:35:30 → 00:35:34 มากที่สุดนะฮะเพราะเอ่อคนเป็นมนุษย์เป็น
00:35:34 → 00:35:39 สัตวในนมในตระกูลไพเมนะฮะที่จะมีการแลก
00:35:39 → 00:35:43 กันน่ะนะก็คือมียูริกสูงไม่มีสังเคราะห์
00:35:43 → 00:35:46 วิตามินซีไม่ได้นะฮะแต่สังเคราะห์อันเนี้
00:35:46 → 00:35:50 ได้สูงนะและก็ต้องเกิดการที่ว่าการตอบ
00:35:50 → 00:35:53 สนองของ LDL receptor โดยเฉพาะที่ตับที่
00:35:53 → 00:35:56 กล้ามเนื้อเนี่ยมันจะมันจะไม่ดีที่สุดอ่ะ
00:35:56 → 00:36:00 นะฮะมันจะไม่ไม่ทำงานไม่ไม่ดีไม่ขยันน่ะ
00:36:00 → 00:36:05 นะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราเลยชูเรื่องของ
00:36:05 → 00:36:09 กรดยูริคเนี่ยให้ว่ามันจะต้องเป็น natural
00:36:09 → 00:36:12 super antioอกidantนะฮะเพราะร่างกาย
00:36:12 → 00:36:15 สร้างเองตามวิวัฒนาการนะฮะทีนี้ความหมาย
00:36:15 → 00:36:18 อันนี้นะฮะความหมายของการที่กดยูริคจะ
00:36:18 → 00:36:22 เป็นอ่า natural super antioxidant ก็
00:36:22 → 00:36:26 คือกรดยูริคที่อยู่เอกตาซลูลนะฮะกดยูริค
00:36:26 → 00:36:30 นี้จะต้องอยู่นอกเซลล์นะฮะนะข้อแม้นะฮะ
00:36:30 → 00:36:33 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่กดยูริคเข้าไปใน
00:36:33 → 00:36:36 เซลล์อraซลารเมื่อไหร่แบบที่หมอโต้พูด
00:36:36 → 00:36:40 โพสต์นั่นแหละนะฮะนะเนี่ยเขาจะกลายเป็น
00:36:40 → 00:36:44 ผู้ร้ายทันทีนะฮะนะเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเ
00:36:44 → 00:36:48 เองนะโดยกระบวนการต่างๆในเซลล์โดยเอนไซม์
00:36:48 → 00:36:51 เรื่องต่างๆนี่แหละนะฮะเนี่ยกลายเป็นตัว
00:36:51 → 00:36:55 ที่จะเกิดปฏิกิริยาของการอักเสบนะนี่แหละ
00:36:55 → 00:36:58 นะฮะเพราะฉะนั้นยูริคอยู่ที่ไหน
00:36:58 → 00:37:02 เอต้าซูลารหรืออินตraารแล้วทำไมยูริคถึง
00:37:02 → 00:37:05 ไปอยู่ภายในเซลล์นะฮะก็เพราะอะไรฮะก็
00:37:05 → 00:37:08 เพราะว่าฮอร์โมนตัวพ่ออินซูลินเส่งเข้า
00:37:08 → 00:37:13 เซลล์เส่งเข้าเซลล์นะฮะเนี่ยนะมันเปรียบ
00:37:13 → 00:37:16 เสมือนสารพฤกษาเคมีนะฮะแต่มันเป็นสาร
00:37:16 → 00:37:18 พฤกษาเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นมาแล้ว
00:37:18 → 00:37:22 อินซูลินเนี่ยนะจะส่งเข้าเซลล์ได้ดีกว่า
00:37:22 → 00:37:25 สารพฤกษาเคมีที่ละลายในน้ำในน้ำมันที่กิน
00:37:25 → 00:37:28 เข้าไปจากอาหารนะเพราะงั้นความสำคัญของ
00:37:28 → 00:37:31 กรดยูริเนี่ยนะถึงได้สำคัญมากถ้ามันอยู่
00:37:31 → 00:37:36 นอกเซลล์เพราะเขาจะเป็นซเปอรanิอกนะเพราะ
00:37:36 → 00:37:39 ฉะนั้นเวลาเรากิน low cฟนะเราไม่กระตุ้น
00:37:39 → 00:37:42 อินซูลินเราควบคุมอินซูลินได้ดีแล้วนะอ่า
00:37:42 → 00:37:45 metallic marออะไรต่างๆดีแล้วแต่
00:37:45 → 00:37:47 hyperปอรยูิซีemiaนะฮะอันนี้ก็ต้อง
00:37:47 → 00:37:51 พิสูจน์ให้ได้ว่ากดยูริตเหล่านั้นมันเป็น
00:37:51 → 00:37:54 กฎยูริตที่อยู่นอกเซลล์เจาะเลือดทิสูงนะ
00:37:54 → 00:37:57 แล้วกดยูริกอันนี้ทำหน้าที่เป็น natural
00:37:57 → 00:38:01 super antioอกidantนะเป็นของดีเป็นของดี
00:38:01 → 00:38:04 นะไม่ต้องไปกินอะไรที่จะไปลดเค้านะฮะ
00:38:04 → 00:38:08 เนี่ยนะไอ้พวกเนี้ยเนี่ยๆอะไรกี่ตัว 4-5
00:38:08 → 00:38:11 ตัวเนี่ยนะฮะนะเนี่ยไม่ต้องไม่ต้องนะฮะ
00:38:11 → 00:38:13 ไม่ต้องไปขับเค้าออกไม่ต้องไปลดเค้านะฮะ
00:38:13 → 00:38:16 นะแต่เค้าต้องอยู่นอกเซลล์นะแล้วเมาช่วย
00:38:16 → 00:38:20 เรามันเก่งกว่าวิตามินซีอีก
00:38:21 → 00:38:24 นะอันนี้พอเข้าใจมั้ยต้องเข้าใจประเด็น
00:38:24 → 00:38:27 เหล่าเนี้ยให้ได้นะโดยเฉพาะไอ้ตัวเลเบล 4
00:38:27 → 00:38:29 บรรทัดบนนี่แหละนะ
00:38:29 → 00:38:33 ฮะเฮ้อนะอันนี้ในทางปฏิบัตินะฮะในทาง
00:38:33 → 00:38:37 ปฏิบัตินะเพราะฉะนั้นเนี่ยอันนี้เคยฉายไป
00:38:37 → 00:38:40 แล้วนะฮะในมุมมองเนี่ย
00:38:40 → 00:38:44 นะก็ของเรามันมี 1 2 3 4 5 ตามแนวทาง
00:38:44 → 00:38:46 การแพทย์แผนจีนนะฮะ
00:38:46 → 00:38:49 ของหมอพ่อโต้โพสต์นะฮะนะอันนั้นเป็น
00:38:49 → 00:38:53 เรื่องของงานวิจัยนะและเป็นเอ่อเป็นเค้า
00:38:53 → 00:38:56 เรียกว่า physiology นะในทางการแพทย์แผน
00:38:56 → 00:38:58 ปัจจุบันนะซึ่งมันก็จะไปเกี่ยวกับตัว
00:38:58 → 00:39:01 ฮอร์โมนตัวสารอักส่งอักเสบตัวเอนไซม์อะไร
00:39:01 → 00:39:08 ต่างๆนะฮะนะแต่ในหลักทั่วๆไปของการเกิดนะ
00:39:08 → 00:39:09 attack นะฮะอันนี้เกิดเก๊าแล้วนะไม่ใช่
00:39:10 → 00:39:13 แค่hyฮปปอรยูรินะฮะนะคือยูริคอาจจะปกติก็
00:39:13 → 00:39:16 ได้หรืออาจจะสูงก็ได้นะฮะแต่กรณีของการ
00:39:16 → 00:39:19 เกิด Coun attack เนี่ยนะก็จะเป็น 1 2
00:39:19 → 00:39:23 3 4 5 นะฮะสิ่งนึงที่ต้องมีแน่นอนคือ
00:39:23 → 00:39:26 ข้อ 1 คือข้อ 1 นะฮะข้อ 1 เนี่ยอินซูลิน
00:39:27 → 00:39:31 จะมายังไงก็ตามนะอินซูลินต้องมีนะฮะต้อง
00:39:31 → 00:39:34 มีเสมอเพราะอินซูลินจะเป็นตัวเอากรดยูริก
00:39:34 → 00:39:37 เข้าเซลล์นะฮะและอินซูลินที่จะเอากรด
00:39:37 → 00:39:41 ยูริกเข้าเซลล์ได้ดีที่สุดเก่งที่สุดมาก
00:39:41 → 00:39:44 ที่สุดแต่ไม่ดีสำหรับเราอ่ะนะก็คือ
00:39:44 → 00:39:47 อินซูลินที่เป็นก้าวร้าวนะฮนะเเรียก
00:39:47 → 00:39:50 aggressive insulin ซึ่งในปัจจุบันเทอม
00:39:50 → 00:39:56 คำนี้นะเขาคิดว่าจะเป็นคำที่จะค่อนข้าง
00:39:56 → 00:39:58 ถาวร permanent แล้วล่ะเ้าใช้คำว่า
00:39:58 → 00:40:02 aggressive insulin นะฮะถ้าคุณไป
00:40:02 → 00:40:04 กระตุ้นอินซูลินให้มันเป็นภาวะอินซูลิน
00:40:04 → 00:40:08 ก้าวร้าเมื่อไหร่นะเมื่อนั้นเนี่ยนะเนี่ย
00:40:08 → 00:40:11 การเกิดเอ่อ process หรือเกิดขั้นตอนใน
00:40:12 → 00:40:14 เซลล์ของการเกิด Goy attack นะหรือการ
00:40:15 → 00:40:18 เกิดเอ่อการอักเสบของเซลล์จากกรดยูริก
00:40:18 → 00:40:21 เนี่ยนะเ่อมันก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนนะ
00:40:21 → 00:40:23 ฮะอ่าเพราะฉะนั้นต้องมีอินซูลินมี
00:40:23 → 00:40:27 อินซูลินนะนะส่วนกรดยูริกจะมีมากมีน้อยนะ
00:40:27 → 00:40:30 ยิ่งมีมากก็โอกาสอักเสบเยอะเข้าเยอะนะฮะ
00:40:30 → 00:40:31 นะ
00:40:31 → 00:40:35 นะอันต่อมาเนี่ยอันนี้จะมีหรือไม่มีร่วม
00:40:35 → 00:40:39 ก็ได้นะฮะก็คือคอร์ติซอลคอรติซอลนะเพราะ
00:40:39 → 00:40:43 ฉะนั้นถ้าเรากินโลคคีโตเราตัดอินซูลินเรา
00:40:43 → 00:40:45 แน่ใจว่าเราควบคุมคุมอินซูลินได้เป็น
00:40:45 → 00:40:49 อย่างดีนะฮะแต่ขณะเดียวกันเราเครียดนะเรา
00:40:49 → 00:40:53 มีความวิตกกังวลนะเรามีคอร์ติซอลนะออกมา
00:40:53 → 00:40:56 เยอะนะฮะนะบางทีมันก็จะเป็นแค่
00:40:56 → 00:40:59 ไฮเปอร์ยูริเมียนะฮะคือไม่มีการไปกระตุ้น
00:40:59 → 00:41:03 อินซูลินออกมาที่จะมาทำให้อินซูลินพากด
00:41:03 → 00:41:07 ยูริเข้าเซลล์นะฮะเนี่ยมันก็จะเป็น
00:41:07 → 00:41:09 hyperปรยูิซีemiaซึ่งมันเป็นเ้าเรียกว่า
00:41:09 → 00:41:13 reactive นะ physiologic hypericemia
00:41:13 → 00:41:15 ซึ่งเราไลฟกันไปแล้วนะฮะเนี่ยส่วนใหญ่
00:41:15 → 00:41:18 อิทธิพลมันเกิดจากตัวแม่คอรtisซอลซึ่ง
00:41:18 → 00:41:21 เป็นตัวควบคุมพื้นฐานของภาวะเอนเนerที่
00:41:21 → 00:41:21 เป็น
00:41:21 → 00:41:25 แคลอรี่นะอันนี้ต้องเข้าใจต้องเข้าใจนะ
00:41:25 → 00:41:28 อันต่อมาก็คือความชื้นเย็นความแห้งอะไร
00:41:28 → 00:41:31 ต่างๆที่มันเป็นปัจจัยส่งเสริมนะฮะนี้ไป
00:41:32 → 00:41:36 ดูของหมอโต้เลยเโพสต์ละเอียดดีมากนะฮะนะ
00:41:36 → 00:41:39 การตกตะกอรบริเวณข้อจะเกิดขึ้นในช่วงเวลา
00:41:39 → 00:41:43 หรือ timing ต่อไปนี้นะฮะนะก็คือเป็นเวลา
00:41:43 → 00:41:48 ของระบบเส้นพลังงานน้ำดีกับตับนะฮะน้ำดี
00:41:48 → 00:41:52 กับตับนะฮะซึ่งนะการโคจรของเส้นพลังงาน
00:41:52 → 00:41:56 ตรงนี้เนี่ยนะจะอยู่ที่เวลา 23:00 น.ถึง
00:41:56 → 00:42:01 ถึงประมาณถึงประมาณ 3:00 น.นะฮะนะจริงๆ
00:42:01 → 00:42:04 เวลา 3:00 น. 5:00 น.เป็นเวลาของปอดนะฮะ
00:42:04 → 00:42:08 เป็นเวลาของปอดนะอ่า 23:00 น. - 1:00 น.
00:42:08 → 00:42:13 ก็เส้นน้ำดีนะระบบน้ำดีนะฮะ 1 ต 3:00 น.
00:42:13 → 00:42:17 ก็เป็นตับเป็นตับนะฮะเนี่ยนะส่วนใหญ่มัน
00:42:17 → 00:42:20 ก็จะเป็นช่วงเวลาเหล่าเนี้ยนะที่มันจะ
00:42:20 → 00:42:25 เกิดการตกตะกอนและเกิดการอักเสบนะเกิด
00:42:25 → 00:42:28 เรื่องของเค้าเรียกตัวคอิซอลเนี่ยแต่
00:42:28 → 00:42:31 คอร์ติมันส่วนใหญ่มาตามปกติมันก็จะมาใน
00:42:31 → 00:42:35 ช่วงประมาณ 3:00 น. 4:00 น.นะฮะนะก็พอดี
00:42:35 → 00:42:38 เลยนะยิ่งคอรซอลพีคในช่วงเส้นพลังงานของ
00:42:38 → 00:42:41 ปอดช่วง 3:00 น.ถึง 5:00 น.เนี่ยนะพวกนี้
00:42:41 → 00:42:45 ก็จะตื่นนะตอนเช้ามืดพร้อมกับอาการปวดการ
00:42:45 → 00:42:48 อักเสบที่ถึงพีคสุดนะฮะนะแต่จริงๆอ่ะมัน
00:42:48 → 00:42:52 เริ่มสะสมมาตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงคืนนะจน
00:42:52 → 00:42:55 กระทั่งมาถึงประมาณ 2:00 น. 3:00 น.หรือ
00:42:55 → 00:42:58 4:00 น.แล้วบางคนก็แอทackขึ้นมาเจ็บปวด
00:42:58 → 00:43:02 รวดร้าวขึ้นมานะฮะพอดีตื่นจะไปฉี่ด้วยนะ
00:43:02 → 00:43:06 ก็คานอยู่นั่นแหละนะอ่าบางคนก็ลากก่อนไป
00:43:06 → 00:43:10 ถึงห้องน้ำนะฮะเพราะมันปวดน่ะมันปวดระดับ
00:43:10 → 00:43:14 ไหนอ่ะเนาปวดบวมแดงร้อนอักสนะฮะนะแต่ส่วน
00:43:14 → 00:43:19 ใหญ่นะส่วนใหญ่คนก็อ่าจะมาโวยวายกันตอน
00:43:19 → 00:43:23 เช้าๆนี่แหละนะฮะเช้าขึ้นมานะปวดคอกๆเสพ
00:43:24 → 00:43:27 นะเจ็บไปหมดด้วยนะฮะเนี่ยนะแล้วก็ไม่มี
00:43:27 → 00:43:30 อะไรนะทอแม่ accident ไปเล่นเอ่อออกกำลัง
00:43:30 → 00:43:33 กายอะไรมาก็ไม่มีเหตุปัจจุบันทันด่วนหก
00:43:33 → 00:43:37 ล้มกระแทกอะไรต่างๆไม่มีนะฮะนะแต่ออก
00:43:37 → 00:43:39 กำลังกายเสร็จไม่รู้ไปกินอะไรขึ้นมานะ
00:43:39 → 00:43:42 แล้วนอนตื่นเช้าขึ้นมาปวดบวมแดงร้อน
00:43:42 → 00:43:44 อักเสบเกาเต้
00:43:44 → 00:43:49 อืครับอีกอย่างนึงก็คือต้องมีท่าทางของ
00:43:49 → 00:43:52 คือการนอนลาบและนิ่งนะฮะนะก็คือต้องอยู่
00:43:52 → 00:43:55 ในท่าที่อ่า
00:43:55 → 00:43:58 คือที่ขาหรือเท้าเนี่ยจะต้องต่ำถ้าสมมุติ
00:43:58 → 00:44:01 คุณยกเกิน 30 องศาเนี่ย
00:44:01 → 00:44:07 นะตามสถิติงานวิจัยนะก็จะลดลงนะฮะนะแต่
00:44:07 → 00:44:09 ส่วนใหญ่เวลาเรานอนเรานอนลาบแล้วก็มีการ
00:44:09 → 00:44:13 นิ่งนะเพราะฉะนั้นนอนนะเพราะฉะนั้นเวลา
00:44:13 → 00:44:17 ที่แทackแล้วเราจะให้นอนยกยกเท้ายกขาสูง
00:44:17 → 00:44:19 นะแต่มันจะเมื่อยหน่อยให้เกิน 30 องศา
00:44:19 → 00:44:25 ขึ้นไปนะเนี่ยนะเพราะว่าถ้านอนนอนลาบ 180
00:44:25 → 00:44:28 องศานะแล้วก็นิ่งนะหลับเป็นตายอ่ะนะอัน
00:44:28 → 00:44:33 นี้เรียบร้อยนะฮะนะอ่ามันก็มันslลวอ่ะนะ
00:44:33 → 00:44:36 circulation มันจะช้ามันจะนิ่งมันจะตก
00:44:36 → 00:44:41 ตะกอนอักเสบอะไรต่างๆเนี่ยก็เหลือ 45 ครบ
00:44:41 → 00:44:46 นะอ่าข้อ 1 สำคัญสุดหมอเคยถามแล้วว่ามี
00:44:47 → 00:44:50 ทุกข้อเลยแต่ไม่มีข้อ 1 อ่ะเพราะกินโลค
00:44:50 → 00:44:54 ฟีโตกิน CD KCD เนี่ยเป็นเก๊าได้มั้ย
00:44:54 → 00:44:58 เป็นเก๊าทได้มั้ยนะ
00:44:58 → 00:45:03 ก็ส่วนคำตอบคือไม่เต็มปากนะฮะก็คือเป็น
00:45:03 → 00:45:06 ไม่ได้นะฮะแต่อาจจะเป็นได้ถ้าตรงนี้นะฮะ
00:45:06 → 00:45:12 ถ้าตรงนี้คอร์ตินะคอติalเริ่มเปลี่ยนเ่อ
00:45:12 → 00:45:15 เป็นการสะสมพลังงานไม่เผาผลาญพลังงานนะฮะ
00:45:15 → 00:45:19 คือสมมุติว่าเป็นแบบเรื้อรังโครนิคนะ
00:45:19 → 00:45:22 โครนิคที่มันเกิดภาวะโฟชียสโทฟอะไรต่างๆ
00:45:22 → 00:45:26 เหล่าเนี้ยนะเพราะอะไรนะเพราะคอร์ติเ
00:45:26 → 00:45:29 เปลี่ยนใจจากเผาผลาพลังงานเป็นสะสมพลัง
00:45:29 → 00:45:33 งานนะการสะสมพลังงานของคอร์ติซอลนะจะไป
00:45:33 → 00:45:35 กระตุ้นอินซูลินออกมาเพราะฉะนั้นถึงไม่มี
00:45:35 → 00:45:39 ข้อ 1 แต่เมื่อนานๆเข้าในแง่ของข้อ 2 ข้อ
00:45:39 → 00:45:43 2 จะไปindิceนะฮะอินซูลินมาช่วยเค้านะ
00:45:43 → 00:45:46 เมื่อนั้นก็จะครบชุด 1 2 3 4 5 เพราะ
00:45:46 → 00:45:49 ฉะนั้นไม่แปลกที่จะเกิด attack off and
00:45:49 → 00:45:51 on off and on
00:45:51 → 00:45:54 นะอันนี้เราพอเข้าใจเนาะเรื่องเก๊ามันก็
00:45:54 → 00:45:57 จะมีแค่นี้แหละหลักๆนะฮะนะแต่ประเด็น
00:45:58 → 00:46:00 สำคัญเนี่ยประเด็นสำคัญจะอยู่ที่เรื่อง
00:46:00 → 00:46:05 ของระบบพลังงานระบบพลังงานนะฮะนะซึ่งแผน
00:46:05 → 00:46:09 ภาพแห่งปีเนี่ยเราก็แบ่งเนี่ยอ่าช่วงนี้
00:46:09 → 00:46:12 ก็เป็นช่วงที่ระบบพลังงานถ้าเข้าทางระบบ
00:46:13 → 00:46:17 น้ำเหลืองได้ตามologyตามวิวัฒนาการนะจะ
00:46:17 → 00:46:20 โอเคทุกอย่างจะอยู่รอดปลอดภัยค่าหลงค่า
00:46:20 → 00:46:22 แลบอะไรต่างๆจะอยู่ในเกณฑ์เป็น Normal
00:46:22 → 00:46:25 แล้วไม่ต้องมานั่งเถียงกันนะกับหมอ 5
00:46:25 → 00:46:29 หมู่กับหมอโลคอะไรต่างๆนะฮะค่าแลAPจะปกติ
00:46:29 → 00:46:32 นะใช้standนardดใช้
00:46:32 → 00:46:35 Normal Range อย่างไหนก็ได้หมดนะฮะนะ
00:46:35 → 00:46:38 อันเนี้ยนะเพียงแต่ว่าเราทำเป็นมั้ล่ะที่
00:46:38 → 00:46:41 จะส่งเสริมการเข้าออกพลังงานสารอาหารให้
00:46:41 → 00:46:45 มันถูกเบลอนะเบอร์อะไรยังไงสัดส่วนเท่า
00:46:45 → 00:46:48 ไหร่ 80 20 อะไรต่างๆนะแต่ส่วนใหญ่เราก็
00:46:48 → 00:46:53 ทำไม่ได้ใช่มั้ล่ะนะมันก็เลยมาเกิดเนี่ย
00:46:53 → 00:46:56 เส้นทางด้านล่างเนี่ยนะซึ่งเส้นทางด้าน
00:46:56 → 00:46:59 ล่างเนี่ยนะก็จะต้องมีcซentเตอร์ที่ตับ
00:46:59 → 00:47:02 เป็นตัวผลักออกมาในรูปแบบของเบอร์ 5
00:47:02 → 00:47:05 เหล่าเนี้ยนะฮะซึ่งในเบอร์ 5 เหล่าเนี้ย
00:47:05 → 00:47:08 เค้าก็จะผลักออกไปใน 2 รูปแบบนะฮะนะก็คือ
00:47:08 → 00:47:11 รูปแบบที่ 1 นะก็เป็นรูปแบบที่มันเป็นโล
00:47:11 → 00:47:15 ไตกิเซลนะส่วนใหญ่อันนี้ก็เป็นการกินแบบ
00:47:15 → 00:47:19 อะไรอ่ะก็แบบโลคาฟนี่แหละนะแต่ก็ไม่ได้
00:47:19 → 00:47:21 ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของสัดส่วน
00:47:21 → 00:47:25 พลังงานชนิดของพลังงานหรือการกินเป็นมื้อ
00:47:25 → 00:47:27 กินใน 1 วันให้ถูกต้องมื้อแรกมื้อหลัง
00:47:27 → 00:47:30 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยที่
00:47:30 → 00:47:33 บอกว่าแล้วมันจะเป็น LDL typ
00:47:33 → 00:47:36 A่ามันก็จะคืออยู่ข้างบนเนี่ยข้างบนเหนือ
00:47:36 → 00:47:39 เส้นสีน้ำตาลนี่แหละนะฮะนะเพราะฉะนั้นพวก
00:47:39 → 00:47:43 เนี้ยนะมันก็ผ่านตับนะนะอ่าเพราะผ่านน้ำ
00:47:43 → 00:47:48 เหลืองไม่พอนะไม่ได้กกินถึงจุดที่จะเพียง
00:47:48 → 00:47:54 พอนะก็ต้องมามาผ่านตรงนี้นะแล้วก็ไปใช้นะ
00:47:54 → 00:47:57 เนี่ยไม่ว่าจะเป็นตอนที่กินหรือตอนที่ฟาส
00:47:57 → 00:48:01 อะไรต่างๆนะฮะเนี่ยแต่ในที่สุดเนี่ยนะถ้า
00:48:01 → 00:48:06 มีความพลาดพลั้งนะกรณีที่lลฟนะแล้วคอร์ติ
00:48:06 → 00:48:10 เนี่ยเปลี่ยนใจนะที่จะเกิดการสะสมพลังงาน
00:48:10 → 00:48:13 นะฮะก็จะมาอยู่ในพารวย์ข้างล่างนะซึ่งจะ
00:48:13 → 00:48:16 เป็น larger VLDL หรือ high พวกเนี้ยนะ
00:48:16 → 00:48:20 ฮะเนี่ยเอ่อพวกนี้ก็จะเกิด process อะไร
00:48:20 → 00:48:25 ต่างนะของการเกิดไอ้พวก LDL แล้วก็เป็น
00:48:25 → 00:48:28 Type A type B เป็น HDL อะไรต่างๆนะ
00:48:28 → 00:48:32 ซึ่งสุดท้ายเนี่ยมันก็จะไปที่ตับที่ไตนะ
00:48:32 → 00:48:36 ฮะที่ตับก็ที่ไตถ้าเป็นนะถ้าเป็นพวก LDL
00:48:36 → 00:48:40 ส่วนใหญ่ไปตับหมดไม่ไปไตนะแต่ถ้าเป็น HDL
00:48:40 → 00:48:46 นะ HDL 80% ไปไต 20% ไปตับนะนะเพราะว่า
00:48:46 → 00:48:51 เอ่อตัว HDL เนี่ยเส่งไม่ทันนะฮะเค้าเค้า
00:48:51 → 00:48:53 ถูกเรียกกลับเรียกเซลล์อ่ะขวักมือเรียก
00:48:53 → 00:48:56 กลับไปรับคอเลสเตอรอลไงเพราะฉะนั้นเ้าเลย
00:48:56 → 00:49:00 มีโอกาสที่จะส่งไปที่ตับแค่ 20% แล้วเ้า
00:49:00 → 00:49:04 ก็บอกว่าอ้าอีก 80% LDL มึงเอาไปมึงเอา
00:49:04 → 00:49:06 ไปเอาไปที่ตับนะเอาไปที่ตับนะเข้าได้เข้า
00:49:06 → 00:49:09 ไม่ได้กูไม่รู้หรอกนะเออมึงไปเชื่อมความ
00:49:09 → 00:49:13 สัมพันธ์กันให้ดีแล้วกันนะฮะนะส่วนถ้า
00:49:13 → 00:49:16 เป็น HDL เนี่ยนะส่วนใหญ่ก็จะมาที่ไตเป็น
00:49:16 → 00:49:21 หลักนะฮะ 80% นะนะส่วนจะมาได้มาไม่ได้
00:49:21 → 00:49:25 เนี่ยมันต้องมีตัวเฮปติสอ่ามาเป็นตัวช่วย
00:49:25 → 00:49:29 นะฮะเพราะฉะนั้นนะฮะถ้าเป็นข้างบนพวก
00:49:29 → 00:49:32 เนี้ยนะถ้าเป็นด้านบนเนี้ยเราใช้พลังงาน
00:49:32 → 00:49:36 ถูกต้องสารอาหารถูกต้องนะพวกเนี้ยส่วน
00:49:36 → 00:49:39 ใหญ่มันจะอยู่ในระบบน้ำเหลืองแล้วก็อ่า
00:49:39 → 00:49:41 เรื่องของแคลอรี่หรือเรื่องพลังงานที่จะ
00:49:41 → 00:49:44 พอไม่พออะไรต่างๆเหล่าเนี้ยถ้ากินถูกนะ
00:49:44 → 00:49:47 ฮอร์โมนที่มาจัดการก็คือฮอร์โมนลูกเทพนะ
00:49:47 → 00:49:49 เพราะงั้นสิ่งเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นก็คือ
00:49:49 → 00:49:52 การเกิดพลังงานและการเอาพลังงานไปซ่อมไป
00:49:52 → 00:49:58 สร้างอะไรต่างๆได้หมดนะฮะแต่อ่าแต่ถ้านะ
00:49:58 → 00:50:01 มันไม่ถูกมันไม่ถูกนะมันก็จะเผื่อมาข้าง
00:50:01 → 00:50:05 ล่างเนี่ยนะฮะก็คือไปเส้นที่เหนือเส้นสี
00:50:05 → 00:50:09 น้ำตาลเนี่ยนะฮะนะอันนี้ส่วนใหญ่
00:50:09 → 00:50:15 นะถ้านะถ้าไม่มีปัญหาอะไรนะฮะนะก็ยังเป็น
00:50:15 → 00:50:19 อิทธิพลของอโมรูปเทพอยู่นะแต่มันมีปัญหา
00:50:19 → 00:50:22 เนี่ยเพราะความไม่ถูกต้องเนี่ยนะของตัว
00:50:22 → 00:50:25 โปรตีนตัวไขมงไขมันอะไรต่างๆเนี่ยนะตัว
00:50:25 → 00:50:28 แม่เขาจะมาพอตัวแม่เขามาปุ๊บเนี่ยแรกๆเขา
00:50:28 → 00:50:32 ก็สั่งให้อะไรสลายเผ่าผลาญพลังงานหลังเ
00:50:32 → 00:50:36 สั่งให้สะสมพลังงานนะฮะแรกๆเนี่ยพอสลาย
00:50:36 → 00:50:39 เผ่าผลาญพลังงานเนี่ยนะฮะแต่มันสลายแล้ว
00:50:39 → 00:50:42 มันเอาไปซ่อมได้มั้ฮะไม่ได้นะเพราะว่าตัว
00:50:42 → 00:50:45 แม่เขาออกมาพวกโกดฮอร์โมน IG F1 F1
00:50:45 → 00:50:48 ต่างๆไม่กล้าออกกลัวแม่นะฮะนะเพราะฉะนั้น
00:50:48 → 00:50:51 มันสะสมไม่ได้เพราะฉะนั้นพวกนี้กดยูริจะ
00:50:51 → 00:50:54 สูงนะฮะแต่ถ้ามาข้างล่างเนี่ยตัวแม่
00:50:54 → 00:50:56 เปลี่ยนใจเป็นสะสมพลังงานมันคล้ายๆ
00:50:56 → 00:50:59 อินซูลินน่ะนะพวกนี้กดยูริกสูงแล้วก็เกิด
00:51:00 → 00:51:04 เก๊าทเกิดเก๊าทนะฮะนะเส้นนี้นะเหนือเส้น
00:51:04 → 00:51:06 สีน้ำตาลเนี่ยกดยูริกสูงเกิดเก๊าหรือไม่
00:51:06 → 00:51:10 เกิดก็ได้นะฮะเพราะฉะนั้นวิถีทางของ
00:51:10 → 00:51:13 ไฮเปอร์ยูิซีเมียและการเกิดเก๊าเนี่ยมัน
00:51:13 → 00:51:17 เลยมีทั้งหมด 4 วิถีทางหมอจะสรุปดังต่อไป
00:51:17 → 00:51:21 นี้นะฮะนะเอ่อแผ่น
00:51:21 → 00:51:24 นี้เดี๋ยวกลับมาเอาอย่างงี้แล้วกันเนี่ย
00:51:24 → 00:51:27 หมอสรุปให้แล้ว 4 แแนวทางเลยนะฮะเวลาที่
00:51:27 → 00:51:32 เราจะดูว่าโอกาสนะของเรื่องพลังงานหรือ
00:51:32 → 00:51:36 แคลอรี่อ่ะแคลอรี่เนี่ยนะฮะนะเอ่อมันจะทำ
00:51:36 → 00:51:39 ให้เกิดไฮเปอร์ซีเมียแล้วเกิดเก๊ากันมั้ย
00:51:39 → 00:51:42 นะหรือเกิดไฮเปอรซีเมียแต่ไม่เกิดเก๊านะ
00:51:42 → 00:51:45 ข้อ 1 นะฮะร่างกายเข้าสู่โหมดการสะสมพลัง
00:51:46 → 00:51:50 งานอ่าโดยการกินนะแล้วก็มีอินซูลินออกมา
00:51:50 → 00:51:54 ควบคุมนะเพราะงั้นพวกเนี้ยถึงจะกินโลฟกด
00:51:54 → 00:51:57 ยูริมันจะสูงนะแล้วมันก็
00:51:57 → 00:52:03 เกิดนะฮะนะถ้าคุณกินผิดนะยังมีการกินแล้ว
00:52:03 → 00:52:05 มีอินซูลินถูกกระตุ้นออกมานะฮะมันจะแฝง
00:52:05 → 00:52:09 มันจะอะไรก็ตามนะฮะนะเนี่ยอ่าเพราะฉะนั้น
00:52:09 → 00:52:14 สังเกตนะสะสมพลังงานกินนะอินซูลินมาควบ
00:52:14 → 00:52:20 คุมยูริขึ้นนะฮะแล้วไม่นไม่ช้าไม่นานนะ
00:52:20 → 00:52:22 อินซูลินจะพายูริเข้าเซลล์
00:52:22 → 00:52:28 เกิดนะฮะต่อไปนะการเข้าสู่โหมดสะสมพลัง
00:52:28 → 00:52:34 งานแต่ไม่ได้กินเช่นอดนะเช่นอดนะหรืออาจ
00:52:34 → 00:52:39 จะกินผิดนะโดยมีการควบคุมของคอทิซอลออกมา
00:52:39 → 00:52:44 นะฮะนะกดยูริกสูงนะเกิดหรือไม่เกิด attack
00:52:44 → 00:52:49 ก็ได้นะฮะก็แล้วแต่ถ้าในระยะหลังๆเนี่ยนะ
00:52:49 → 00:52:52 ฮะคอร์ติซอลเปลี่ยนใจเป็นคอร์ติซอลสะสม
00:52:52 → 00:52:56 พลังงานเมื่อไหร่เมื่อนั้นนะกรดยูริกสูง
00:52:56 → 00:52:59 และอินซูลินมาด้วยก็จะเอาเข้าเซลล์แล้วก็
00:53:00 → 00:53:02 เกิดการอักเสบ
00:53:02 → 00:53:07 นะต่อไปนะก็คือพารเวย์ข้างล่างที่เหนือ
00:53:07 → 00:53:10 เส้นสีน้ำตาลจำได้มั้ยร่างกายสลายเผาผลา
00:53:10 → 00:53:13 พลังงานโดยฮอร์โมนคอร์ติซอลในช่วงแรกๆนะ
00:53:13 → 00:53:18 ฮะช่วงแรกๆนะแต่ไม่มีฮอร์โมนพวกโกส
00:53:18 → 00:53:20 ฮอร์โมนอะไรออกมาเพราะฉะนั้นการซ่อมแซม
00:53:20 → 00:53:25 สร้างใหม่ทำไม่ได้นะพวกนี้กดยูริคสูงแต่
00:53:25 → 00:53:28 ไม่เกิดเก๊านะฮะไม่เกิดเก๊า
00:53:28 → 00:53:32 นะแต่ถ้าเป็นอันแรกเลยร่างกายมีการสลาย
00:53:32 → 00:53:34 เผาผลาญพลังงานโดยกลุ่มฮอร์โมนลูกเทพซ่อม
00:53:34 → 00:53:38 แดงซ่อมแซมได้สร้างใหม่ได้นะพวกนี้กด
00:53:38 → 00:53:42 ยูริกจะไม่สูงและมักจะน้อยกว่า 5.5 5 นะ
00:53:42 → 00:53:46 ในเกณฑ์เฉลี่ยของงานวิจัยและไม่เกิดเก๊าท
00:53:46 → 00:53:48 นะเพราะฉะนั้นมันจะเป็น 4 รูปแบบเราต้อง
00:53:49 → 00:53:53 มองคนให้ออกคุณกินโลฟแล้วแต่คุณกดยูริก
00:53:53 → 00:53:55 สูง
00:53:55 → 00:54:02 สูงนะแต่มันสูงเพราะสะสมหรือเผาผลาญอ่า
00:54:02 → 00:54:06 ฮอร์โมนอะไรน้อออกมาว่าการและมาควบคุม
00:54:06 → 00:54:12 ซ่อมแซมได้มยเอ่อเกิดเก๊าทไม่เกิดเก๊าทนะ
00:54:12 → 00:54:15 ฮะแต่ถ้าฝั่งข้างล่างเนี่ยกินถูกต้องแบบ
00:54:15 → 00:54:25 ที่แนะนำโลม High Good
00:54:26 → 00:54:30 Z เราจะต้องปรับเข้าสู่โหมดนี้นะฮะนะ
00:54:30 → 00:54:33 ซึ่งการตรวจแลบตรวจเลือดกดยูริคจะน้อย
00:54:33 → 00:54:36 กว่า 5.5 5 นะแล้วก็ยังซ่อมแซมสร้างใหม่
00:54:36 → 00:54:40 ได้นะกล้ามเนื้อมวลกล้ามเนื้อเพิ่มนะฮะนะ
00:54:40 → 00:54:43 ไม่เกิดเก๊าด้วยนะเพราะฉะนั้นดูทั้งหมด
00:54:44 → 00:54:47 นี้แล้วเนี่ยนะฮะเนี่ยเก๊าเนี่ยนะในแง่
00:54:47 → 00:54:51 ของเก๊านะฮะนะเกิดขึ้นเพราะขบวนการสะสม
00:54:51 → 00:54:55 พลังงานเกิดเก๊าเกิดเก๊าเกิดเก๊านะฮะเผา
00:54:55 → 00:54:57 ผลาญพลังงานไม่เกิดเก๊าไม่เกิดเก๊าไม่
00:54:57 → 00:55:02 เกิดเก๊านะฮะนะนอกจากการสะสมแล้วฮอร์โมน
00:55:02 → 00:55:05 ตัวสำคัญที่ทำให้เกิดเก๊าก็คืออินซูลิน
00:55:05 → 00:55:10 อินซูลินนะโดยเป็นอินซูลินที่
00:55:10 → 00:55:15 มัน aggressive เป็นส่วนใหญ่นะอาจจะมี
00:55:15 → 00:55:19 คอร์ติด้วยนะฮะนะแต่จะเป็นคอรisซอลที่มัน
00:55:19 → 00:55:23 เป็นลักษณะนะของทาบร่างกายที่มัน
00:55:23 → 00:55:27 chronically คือมันเรื้อรังไปนานๆแล้วนะ
00:55:27 → 00:55:31 ฮะแล้วคอรisซอลเกิดการสะสมพลังงานนะซึ่ง
00:55:31 → 00:55:34 เวลาสะสมก็จะมีอินซูลินออกมาช่วยสะสม
00:55:34 → 00:55:37 เพราะฉะนั้นอินซูลินhighูal cell
00:55:37 → 00:55:42 เกิดแต่แรกๆยังไม่เกิดเพราะแรกๆคอรtisซอล
00:55:42 → 00:55:46 เนี่ยนะเขาสลายเผ่าผลาพลังงานช่วยอยู่นะ
00:55:46 → 00:55:49 ฮะนะแต่เรายังปรับการกินไม่ถูกนะเห็นมกด
00:55:49 → 00:55:52 ยูริกสูงแล้วไม่เกิดเก๊าทนะแต่ถ้าเมื่อ
00:55:52 → 00:55:56 ไหร่เปลี่ยนใจเป็นแบบข้อ 2 นะก็เรียบ
00:55:56 → 00:56:00 ร้อยอันนี้พอพอรู้เข้าใจมั้ยนะอันนี้หมอ
00:56:00 → 00:56:03 มาสรุปขยายนะก่อนหน้านี้หมอจะใช้แผนภาพ
00:56:03 → 00:56:07 อันเนี้ยนะฮะแผนภาพอันนี้ก็จะมีอยู่ก็คือ
00:56:07 → 00:56:11 4 รูปแบบเนี่ยนะฮะนะว่าร่างกายอยู่ใน
00:56:11 → 00:56:15 โหมดการสะสมเก็บกับพลังงานโดยอินซูลิน
00:56:15 → 00:56:18 หรือคอร์ติซอลบวกอินซูลินนะฮะก็คือคอรติ
00:56:18 → 00:56:21 ช่วงหลังๆเรามีอินซูลินออกมาด้วยอันนี้จะ
00:56:21 → 00:56:25 เกิด Gy attack นะแล้วก็เกิด
00:56:25 → 00:56:28 hฮปเปอร์ยูซีemiaนะฮะซึ่งจะมีแลบอื่นๆมา
00:56:28 → 00:56:32 คู่ขนานไปด้วยนะฮะก็ให้ดูด้วยนะฮะนะเนี่ย
00:56:32 → 00:56:38 ค่าชี้วัดต่างๆของระบบนะฮะทนี้กรณีที่นะ
00:56:38 → 00:56:40 เอ่ออยู่ในพารเวย์เบอร์ 5 เหนือเส้นสีน้ำ
00:56:41 → 00:56:45 ตาลนะอันเนี้ยอ่าคือช่วงแรกๆคอร์ติสลาย
00:56:45 → 00:56:48 เผาผลาญพลังงานนะฮะแต่ไม่สามารถเอาไปซ่อม
00:56:48 → 00:56:53 แซมสร้างใหม่ได้นะเนี่ยนะก็จะเกิด
00:56:53 → 00:56:56 hyperูซemiaแต่ไม่เกิด Goy attack ไม่
00:56:56 → 00:57:00 เกิด Guy attack นะฮะนะก็คือมีภาวะเข้า
00:57:00 → 00:57:03 สู่ผลการเผาผันพลังงาน
00:57:03 → 00:57:06 ไปอิซemiaไม่เกิด cy attack ตัวควบคุม
00:57:06 → 00:57:11 คือ cortisol cortisol นะแต่ถ้าข้างล่าง
00:57:11 → 00:57:14 นะอ้อและอันเนี้มันก็จะมีแลบพวกเนี้ยนะ
00:57:14 → 00:57:18 คู่ขนานให้ผิดให้เห็นไปด้วยนะฮะเสมอเสมอ
00:57:18 → 00:57:22 นะหรือกรณีฮอร์โมนลูกเทพนะฮะนะอันนี้เอา
00:57:22 → 00:57:27 ไปซ่อมได้นะเพราะฉะนั้นกดยูริกนะจะไม่สูง
00:57:27 → 00:57:31 นะนะจะน้อยกว่า 5.5 5 นะฮะ
00:57:31 → 00:57:36 นะอย่างของหมอก็ 7.2 7.0 7.1 7.2 2
00:57:36 → 00:57:41 อยู่เงี้ยนะฮะนะเนี่ยนะแต่หมอเป็นอ่าเค้า
00:57:41 → 00:57:43 เรียกว่า physiologic reactive
00:57:44 → 00:57:47 hyperemia หมอไม่เคยเป็นเกานะฮะนะไม่เคย
00:57:47 → 00:57:49 เป็นเก๊าเพราะหมอไม่ยอมอัญเชิญอินซูลิน
00:57:49 → 00:57:52 ออกมาเด็ดขาด
00:57:52 → 00:57:55 นะเราก็ต้องควบคุมต้องรู้เรื่องตัวเราเอง
00:57:55 → 00:58:01 นะนะเพราะฉะนั้นคิดว่านะยูริคซิดที่สูงใน
00:58:01 → 00:58:03 กระแสเลือดของเรามันอยู่นอกเซลล์เจาะ
00:58:04 → 00:58:06 เลือดถึงได้เจอว่าสูงและเเป็นซุเปอร์
00:58:06 → 00:58:11 แอนตี้ออกซิดตัวนึงที่คล้ายๆวิตามินซีนะ
00:58:11 → 00:58:14 ดีมั้ยล่ะก็ดีอ่าเพราะฉะนั้นดีก็ไม่ต้อง
00:58:14 → 00:58:18 ไปลดเค้าเออเ่อแล้วจะไปกินยาลดกินยาไม่ลด
00:58:18 → 00:58:22 จะไปนั่งหวาดกลัวจะตกตะกอนจะเกาตี้แอทack
00:58:22 → 00:58:24 หรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะก็ต้องมี
00:58:24 → 00:58:27 ความรู้ฮะก็มีความรู้แบบเนี้ย
00:58:27 → 00:58:33 นะรู้มั้ล่ะมันจะยากไปมั้ยเนี่ย
00:58:33 → 00:58:37 เออตัวนึงเนี่ยที่หมออยากจะสรุปให้เห็น
00:58:37 → 00:58:41 เนี่ยก็คือคิalนะฮะนะอันนี้ก็เอ่อเนซีย
00:58:41 → 00:58:45 เนี่ยก็สรุปมานี้ดีนะฮะก็ก็อย่างเรารู้่ะ
00:58:45 → 00:58:48 ฮะคอิซอลเนี่ย 3 เรื่องนะฮะเวลาเขมาเนี่ย
00:58:48 → 00:58:53 เมา 3 เรื่องคอิซอลนะ 1 นะเขาสำรวจตรวจตา
00:58:53 → 00:58:56 เลยว่าไอ้กายละเอียดของของโครงร่างเนี้ย
00:58:57 → 00:59:01 ของของกายเนื้อกายหยาบอันเนี้ยนะเออมันมี
00:59:01 → 00:59:06 พลังงานพอมั้ยที่จะดำเนินชีวิตนะหรือ
00:59:06 → 00:59:12 หรือเกิดนำพาชีวิตหรือเกิดพาสมเนี่ยไปได้
00:59:12 → 00:59:16 นะคอรเซอลก็ดูกายละเอียดดูในแง่ของพลัง
00:59:16 → 00:59:20 งานที่อยู่ในร่างในร่างไม่ได้ดูพลังงาน
00:59:20 → 00:59:23 ที่อยู่ข้างนอกที่จะเข้าร่างอันนั้น
00:59:23 → 00:59:27 อินซูลินก็ดูนะงั้นคอร์ติเนี่ย 1 พลังงาน
00:59:28 → 00:59:31 นะฮะพลังงาน 2 ไอ้พลังงานเนี่ยเวลา
00:59:31 → 00:59:34 คอรเซอลเปลกให้เราตื่นเนี่ยเเป็นฮอร์โมน
00:59:34 → 00:59:38 ที่ทำให้เราให้เราอะไรอ่ะให้เรามีชีวิต
00:59:38 → 00:59:41 น่ะให้เรา active action นะนะดำเนิน
00:59:41 → 00:59:44 ชีวิตเนี่ยนะฮะเพราะฉะนั้นเขาจะต้องพุ่ง
00:59:44 → 00:59:48 กระแสเลือดอ่าเพื่อให้เลือดเนี่ยสูบฉีด
00:59:48 → 00:59:52 อาหารออกซิเจนสูบฉีดอะไรต่างๆนะไปเลี้ยง
00:59:52 → 00:59:56 อวัยวะทุกอวัยวะให้พอให้พอนะเพราะฉะนั้น
00:59:56 → 01:00:00 ก็จะเกี่ยวกับความดันนะและอันดับ 3 ก็คือ
01:00:00 → 01:00:03 คอร์เสทำหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจตาว่ามัน
01:00:03 → 01:00:06 มีสิ่งแปลกปลอมมีเชื้อโรคมีของไม่ดีมีสาร
01:00:06 → 01:00:10 พิษอะไรมั้ยนะที่เขาจะต้องรีบบริหารจัด
01:00:10 → 01:00:14 การนะต้องตายตๆต้องฆ่าต้องเอาออกต้อง
01:00:14 → 01:00:17 เคลียร์อะไรอย่าง
01:00:17 → 01:00:21 เงี้ยนะเพราะฉะนั้นเนี่ยคอรtisซอลเนี่ย
01:00:21 → 01:00:25 จึงมีบทบาทหลักๆ 3 เรื่องนี้นะฮะ 3
01:00:25 → 01:00:30 เรื่องเนี้ยนะเออถามว่าเรื่องไหนสำคัญที่
01:00:30 → 01:00:33 สุดนะฮะนะคิดว่าเรื่องไหนสำคัญที่สุด
01:00:33 → 01:00:38 ระหว่างควบคุมพลังงานนะควบคุมแรงดันความ
01:00:38 → 01:00:44 ดันควบคุมภูมิคุ้มกันเออคอisซอลเนี่ย
01:00:44 → 01:00:49 เค้าเค้าเค้ามีหน้าที่ในระบบไหนเนี่ยที่
01:00:49 → 01:00:53 สำคัญสูงสุดสูงสุดเออ
01:00:53 → 01:00:58 พลังงานครับอาจารย์พวกคุมผมกันครับเออนี่
01:00:58 → 01:01:03 ไงมีใครแอบเห็นยังมาเบอร์ 1 เลย
01:01:03 → 01:01:07 ฮะมันมาบ 1 เลยฮะเพราะว่าหน้าที่ตามชัคAL
01:01:07 → 01:01:12 ก็คือควบคุมเรื่องของภูมิคุ้มกันนะฮะควบ
01:01:12 → 01:01:16 คุมการอักเสบนะคือเค้าเป็นตัวดูแลที่ไม่
01:01:16 → 01:01:19 ที่เอาของดีๆไว้ที่เอาของไม่ดีออกอ่ะนะฮะ
01:01:19 → 01:01:22 นะนะเพราะฉะนั้นเราจำเรื่องรีซตorที่ตับ
01:01:22 → 01:01:25 ได้มั้ฮะการเคลียร์ lance receptor ที่
01:01:25 → 01:01:31 ตับนะแล้วก็ LDL receptตorของตับหรือของ
01:01:31 → 01:01:35 กล้ามเนื้อเนี่ยโดยเฉพาะที่ตับเนี่ยนะมัน
01:01:35 → 01:01:41 จะหดหายไปเพราะอะไรฮะเออมันจะไม่ปรากฏมัน
01:01:41 → 01:01:45 จะหดหายไปตัวที่มีอิทธิพลสูงสุดเลย
01:01:45 → 01:01:49 คืออันดับ 1 เลยอ่ะคอรติซอลครับเออ
01:01:49 → 01:01:53 คอติซอลอ่าอันดับ 2 คือเทสโทสเตอโรนนะฮะ
01:01:53 → 01:01:58 นะเทสโทสเตอโรน 2 นะเอ่อเพราะฉะนั้นในทาง
01:01:58 → 01:02:00 ตรงกันข้ามไอ้ตัวรีซปเตอร์เนี่ยที่ตับ
01:02:01 → 01:02:04 เนี่ยมันจะปับปรากฏนะเยอะแยะเลยเนี่ย
01:02:04 → 01:02:08 อันดับ 1 เลยเนี่ยนะก็คืออิทธิพลของ
01:02:08 → 01:02:13 ฮอร์โมนฮอร์โมนอะไรทำให้รีซปเตอร์ LDL
01:02:13 → 01:02:18 รีซปเตอร์ที่ตับมาปรากฏกันอินซูลินครับ
01:02:18 → 01:02:21 อินซูลินไทรรอยด์ครับอินซูลินฮะอันดับ 1
01:02:21 → 01:02:28 นะโอยมาเดี๋ยวไทรรอยด์พมานะมีหัวเราะไทอย
01:02:28 → 01:02:33 โกสฮอร์โมนแล้วก็เอสโตรเจนนะอันดับ 4 นะ
01:02:33 → 01:02:37 ฮะนะแต่ในฝั่งที่มันหดหายไปเนี่ยคอทิซอล
01:02:37 → 01:02:40 นะฮะเพราะคอิซอลก็เป็นฮอร์โมนในแง่การ
01:02:40 → 01:02:45 เคลียร์ lance ดูแลนะเคลียร์นะเอาของที่
01:02:45 → 01:02:48 จะเป็นระเบิดเวลาของที่จะมีพิษของที่ใน
01:02:48 → 01:02:51 อนาคตกาลเดี๋ยวมันจะอักเสบมันจะทำให้ไม่
01:02:51 → 01:02:54 ดีอย่างโง้นอย่างี้อะไรเนี่ยนะฮะนะเพราะ
01:02:54 → 01:02:58 ฉะนั้นรีซปเตอร์ที่ตับเนี่ยนะจะไม่ดีจะหด
01:02:58 → 01:03:01 หายไปจะไม่ปรากฏอะไรต่างๆคอ cortisol นะ
01:03:01 → 01:03:04 ฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราอ่าเป็นกลุ่ม
01:03:04 → 01:03:09 คนที่มีแนวโน้มจะมีคอร์ติออกมาง่ายออกมา
01:03:09 → 01:03:14 แล้วแบบเค้าเรียกว่ามันพุ่งอ่ะอ่าเอ่อมัน
01:03:14 → 01:03:17 พุ่งมันสวิงเยอะๆเลยอย่างเงี้ยนะอันนี้ก็
01:03:17 → 01:03:21 ต้องระวังการหดหายไปของไอ้คอิซอไอ้ของ LDL
01:03:21 → 01:03:23 receptตorที่ตับนี่แหละนะเพราะฉะนั้นไม่
01:03:23 → 01:03:26 แปลกที่ LDL มันจะพุ่งนะฮะโดยเฉพาะในคน
01:03:26 → 01:03:30 สายแป้งเลยนะอ๋อนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำไมคน
01:03:30 → 01:03:33 ผอมของมันถึงแบบ LDL เยอะใช่มั้ยพี่หมอ
01:03:33 → 01:03:36 ใช่ฮะนะเพราะว่านิดๆหน่อยๆคอร์ติซอลก็ออก
01:03:36 → 01:03:39 มาแล้วอ่ะใช่แล้วออกมาเยอะด้วยนะคือหลัก
01:03:39 → 01:03:42 การของคอร์ติซอลที่จะออกมาเนี่ยในคนอ้วน
01:03:42 → 01:03:46 กับคนผอมสมมุติว่าฝั่งคุณหมออ่ะคุณหมอหมอ
01:03:46 → 01:03:50 โต้งหมอมโต้อ่ะนะเป็นพุงเครียดนะเอ่อเรา
01:03:50 → 01:03:53 ก็ร่างกายเราอ่ะมันมีการเรียนรู้เรื่อง
01:03:53 → 01:03:55 ความเครียดความกดดันเรื่องอะไรตรมาตั้ง
01:03:55 → 01:03:58 แต่ในท้องแม่แล้วล่ะนะเราถึงออกมาเราถึง
01:03:58 → 01:04:01 บอิไท้สายพรุงเครียดในแดen typ เนี่ย
01:04:01 → 01:04:03 เพราะฉะนั้นในระดับนึงเนี่ยเราก็พยายาม
01:04:03 → 01:04:06 ปรับตัวชินชากับไอ้เรื่องต่อมหมวกไตหลัง
01:04:06 → 01:04:09 คอร์ติซอลออกมาอย่างงู้นอย่างี้อะไรต่างๆ
01:04:09 → 01:04:13 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยพอเราโตมากๆๆมากๆแล้ว
01:04:13 → 01:04:16 เนี่ยนะอะไรต่างๆที่มีพิษไม่มีพิษมา
01:04:16 → 01:04:18 กระต้งมากระตุ้นอะไรต่างๆเนี่ยเราก็ค่อน
01:04:18 → 01:04:21 ข้างจะเฉื่อยเหนื่อยนะคอร์ดิเซอเขาก็รู้ะ
01:04:22 → 01:04:26 รู้และเออทำงี้ทำงี้อะไรอย่างเงี้ยนะแต่
01:04:26 → 01:04:28 มันต่างกันน่ะฮะถ้าสายแป้งอ่ะพวกพุงตับ
01:04:28 → 01:04:32 ไทรอยด์นะปฏิญาการตอบสนองคอร์ติซอลเนี่ย
01:04:32 → 01:04:37 นะพวกนี้เค้าจะค่อนข้างรวดเร็วรุนแรงแล้ว
01:04:37 → 01:04:42 มาง่ายๆนะฮะนะแล้วเราดูทรงของคนสิสมมุติ
01:04:42 → 01:04:46 เราอวบๆอ้วนๆเงี้ยอูยพลังงานสะสมกูก็มี
01:04:46 → 01:04:49 กล้ามเนื้อกูก็เยอะสารอาหารวิตามินแร่
01:04:49 → 01:04:52 ธาตุนะถึงมันจะเป็นไขมันแต่คุณก็ยังมี
01:04:52 → 01:04:55 เอ่อโปรตีนไขมันคาร์โบไฮเรตวิตามินแร่
01:04:55 → 01:04:58 ธาตุเลยล่ะนะแต่ถ้าคุณผอมๆเงี้ยหรือคุณ
01:04:58 → 01:05:03 น้ำหนักตกเกณฑ์เงี้ยนะสูง 160 แต่หนัก 45
01:05:03 → 01:05:06 อย่าเงี้ยนะจริงๆมันต้องหนักสัก 55 เนี่ย
01:05:06 → 01:05:09 มันหายไป 10 กเนี่ยนะสารอาหารวิตามินแร่
01:05:09 → 01:05:12 ธาตุกล้ามเนื้ออะไรต่างๆนะไขมงไขมันอะไร
01:05:12 → 01:05:16 ต่างๆมันหายไปหมดเลยนะฮะนะคือร่างกาย
01:05:16 → 01:05:19 เนี่ยที่เขาจะ healthy optimal เนี่ยนะ
01:05:19 → 01:05:22 ฮะเต้องสมส่วนนะเพราะฉะนั้นเราถึงต้องมี
01:05:22 → 01:05:25 เกณฑ์ไงว่าความสูงเท่าไหร่น้ำหนักควรจะ
01:05:25 → 01:05:27 เท่าไหร่ซึ่งอันเนี้ยมันเป็นอะไรที่มัน
01:05:27 → 01:05:29 เป็นไปตามวิววิวัฒนาการเนี่ยแล้วเราก็
01:05:29 → 01:05:33 สูตรนี้เป็นสูตรตายตัวนะฮะนะเอ่อคุณจะ
01:05:33 → 01:05:36 ใหญ่คุณจะอะไรก็ตามนะฮะเค้าเอาความสูงอ่ะ
01:05:36 → 01:05:40 เป็นหลักนะกับค่าน้ำหนักที่มันจะต้องพอดี
01:05:40 → 01:05:44 นะฮะก็คือ -15 ความสูง -105 น้ำหนักพอดี
01:05:44 → 01:05:49 นะถ้าค่าบนก็ -1 ถ้าล่างก็ -110 นะฮะ
01:05:49 → 01:05:54 อย่างเงี้ยแต่ดีที่สุด -15 อยู่ค่ากลางนะ
01:05:54 → 01:05:59 ค่ากลางเนี่ยไม่มีใครทำอะไรได้นะมันดีนะ
01:05:59 → 01:06:02 แล้วระหว่างความไม่พอดีเนี่ยของคนที่อ้วน
01:06:02 → 01:06:04 ๆกับคนที่ผอมๆเนี่ยใครมันจะเครียดมากกว่า
01:06:04 → 01:06:08 กันน่ะใครมันจะเครียดมากกว่ากันใช่มั้ย
01:06:08 → 01:06:12 ล่ะเพราะฉะนั้นแปลกมยหรือไม่แปลกเนาะที่
01:06:12 → 01:06:17 สายแป้งสายผอมสายที่นะเอ่อฟีบๆรีบๆแห้งๆ
01:06:17 → 01:06:22 เหล่าเนี้ยนะมีไอ้โน่นมีไอ้นี่มีสิ่ง
01:06:22 → 01:06:24 กระตุ้นอะไรต่างๆทั้งภายในภายนอกเหล่า
01:06:24 → 01:06:29 เนี้ยนะคอร์ติเขาก็จะไวมากในการตอบสนองนะ
01:06:29 → 01:06:32 แล้วเค้าก็จะพีคเลเวลขึ้นไปอะไรต่างๆนะ
01:06:32 → 01:06:37 แล้วก็หายไปช้านะเต้องคอยมองซ้ายมองขวา
01:06:37 → 01:06:40 มองหน้ามองหลังว่าอืมจะมีอะไรหรือเปล่า
01:06:40 → 01:06:44 สงบจริงๆนะนะไม่มีใครมาอีกแล้วนะจะปิด
01:06:44 → 01:06:49 บ้านแล้วนะแน่ๆนะอะไรอย่างเงี้ย
01:06:49 → 01:06:54 นะเออเห็นมเออเพราะฉะนั้นนะเนี่ยมันก็โยง
01:06:54 → 01:06:59 ใยไปเนี่ยว่าโอ๊ยทำไมออก LDL สูงๆพร้อมๆ
01:06:59 → 01:07:02 นะยิ่งไปออกกำลังกายยิ่งไป IF ยิ่งสูง
01:07:02 → 01:07:05 เข้าไปใหญ่เลยนะอู้ยจะทำยังไงกันดีต้อง
01:07:05 → 01:07:08 เข้าใจฮะเข้าใจคอร์ติเอ่อเพราะว่าเมีบท
01:07:08 → 01:07:11 บาทมากที่สุดต่อ LDL รีซปตอรที่ตับหรือ
01:07:11 → 01:07:14 ที่กล้ามเนื้อนะก็เหมือนกันแหละแล้วทำไม
01:07:14 → 01:07:16 อ่ะทำไมคุณก็สร้างกล้ามน้มกล้ามเนื้อยาก
01:07:16 → 01:07:19 เย็นเข็นใจเหลือเกินล่ะนะไหนจะเวทไหนจะ
01:07:19 → 01:07:23 โน่นไหนจะนี่นะเอ่อแล้วก็นมก็ไม่ใหญ่สัก
01:07:23 → 01:07:26 ทีอะไรอย่างเงี้ยนะฟี่ปลีบ
01:07:26 → 01:07:30 แฟบอยู่งั้นแหละนะก็ก็นี่แหละนะมันยากไง
01:07:30 → 01:07:34 มันยากนะทำไมทำไมสะเทือนรู้สึกสะเทือนยัง
01:07:34 → 01:07:37 ไงไม่รู้
01:07:37 → 01:07:42 อ่ะเหมือนดูอันนี้นี่นะเฮนะสาเหตุหลักๆ
01:07:42 → 01:07:44 ที่ส่งผลให้ตัวแม่คอิซอลเนี่ยเค้าก็เรียก
01:07:44 → 01:07:47 ว่า Peak Level อ่ะนะฮะนะก็คือเนี่ยฮะ
01:07:47 → 01:07:50 เรื่องการดูแลเรื่องภุ้มกันนะมีการอักเสบ
01:07:50 → 01:07:55 เปล่านะจะเป็นโคริเป็นอะไรต่างๆแิอะไร
01:07:55 → 01:07:58 ต่างๆเนี่ยนะเนี่ยการอักเสบเ่ะโดยเฉพาะ
01:07:58 → 01:08:00 chronic
01:08:00 → 01:08:03 inflammatory process เนี้ยนะฮะนะลองลง
01:08:03 → 01:08:07 มาคือเรื่อง Energy Balance นะฮะนะสมดุล
01:08:07 → 01:08:12 พลังงานนะฮะสมดุลมยนะขาดเกินนะเอ่อหรือ
01:08:12 → 01:08:16 ไม่พอหรือมันกินพลังงานเมันผิดอ่ะเอ่อ
01:08:16 → 01:08:18 เพราะฉะนั้นในปัจจุบันเราพูดกันคำว่าพลัง
01:08:18 → 01:08:22 งานมันผิดนะฮะเราไม่ค่อยมันเลยยุคพลังงาน
01:08:22 → 01:08:25 น้อยพลังงานเกินไปแล้วนะฮะพลังงานผิดน่ะ
01:08:25 → 01:08:29 นะพลังงานจากคาฟผิดพลังงานจากโปรตีนผิด
01:08:29 → 01:08:31 พลังงานจากไขมันผิดโดยเฉพาะจากไขมันนี่
01:08:31 → 01:08:34 แหละนะมันผิดๆผิด
01:08:34 → 01:08:38 นะนอกจากนี้เนี่ยไอ้พวกเรื่องของอะไรอ่ะ
01:08:38 → 01:08:42 เรื่องของแรงดันต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะพวก
01:08:42 → 01:08:44 เนี้ยมันจะเป็นการปรับตัวของร่างกายกับ
01:08:44 → 01:08:48 สิ่งที่สิ่งที่กระทบภายนอกนะฮะคือ
01:08:48 → 01:08:51 คอร์ตซอลเนี่ยเขาจะเป็นฮอร์โมนที่ควบคุม
01:08:51 → 01:08:54 ปัจจัยภายนอกที่มีผลกระตุ้นต่อร่างกายนะ
01:08:54 → 01:08:58 ฮะนะอะไรต่างๆที่มันเกี่ยวกับอายาตนะที่
01:08:58 → 01:09:02 จะดูอเนี่ยนะที่เนี่ยแหละนะฮะนะมันเป็น
01:09:02 → 01:09:04 เรื่องของไลฟ์สไตล์เรื่องของอารมณ์เรื่อง
01:09:04 → 01:09:08 ของเอ่อปัจจัยภายนอกต่างๆนะฮะนะแต่ถ้า
01:09:09 → 01:09:11 อินซูลินเนี่ยเต้องไปตรงมากับสิ่งที่กิน
01:09:11 → 01:09:14 สิ่งที่เป็นพลังงานสิ่งที่เป็นอาหารนะ
01:09:14 → 01:09:17 เพราะฉะนั้นอาหารคือเรื่องใหญ่ร่างกายเลย
01:09:17 → 01:09:21 ต้องมีการ modify หรือมีการที่ให้เบต้า
01:09:21 → 01:09:24 เซลล์ของตับอ่อนสร้างอินซูลินขึ้นมา
01:09:24 → 01:09:27 นะที่จะควบคุมพลังงานควบคุมอาหารอย่าง
01:09:27 → 01:09:31 เดียวนะฮะนะว่ามันยังไงจะเก็บสะสมหรือจะ
01:09:31 → 01:09:35 เอาไปทางไหนหรือจะเอาเข้าเซลล์เอาเ่อค้าง
01:09:35 → 01:09:37 ไว้ในเลือดอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะอินซูลิน
01:09:37 → 01:09:39 อย่างเดียวแล้วอินซูลินนี้ไม่เกี่ยวอะไร
01:09:39 → 01:09:43 กับการควบคุมจากสมองนะฮะนะแต่ในงคอรซอล
01:09:43 → 01:09:46 ฮอร์โมนตัวแม่เนี่ยยังถูกควบคุมจากต่อม
01:09:46 → 01:09:50 ใต้สมองอยู่นะนะเนี่ยนะก็อันนี้ต้องเข้า
01:09:50 → 01:09:54 ใจเรื่องคอรซอลนะจะเกิดการส่งผลเมื่อไหร่
01:09:54 → 01:09:57 ก็อักเสบอันนี้ imbalance นะฮะนะแล้วก็
01:09:58 → 01:10:00 เรื่องของ state แล้ว disruptive factor
01:10:00 → 01:10:05 จากไestลนะฮะนะแล้วก็ช่วงเวลาก็คือเนี่ย
01:10:05 → 01:10:10 นะสูงสุดพีคสูงสุดก็คือ 8-9 น.
01:10:10 → 01:10:15 นะเคนะอันนี้ก็พูดไปแล้วนะฮะนะหวังว่าคง
01:10:15 → 01:10:19 จะเข้าใจหมดแล้วล่ะจริงๆแล้วหมดแล้วนะฮะ
01:10:19 → 01:10:24 นะอันนี้ก็เป็นทั่วๆไปนะฮะนะอันนี้เคย
01:10:24 → 01:10:27 ไลฟ์ไปแล้วนะฮะนะเนี่ยเรื่องเกี่ยวกับค่า
01:10:27 → 01:10:32 ต่างๆตามงานวิจัยอ่ะนะฮะว่าเออถ้ามันสูงๆ
01:10:32 → 01:10:34 เท่าไหร่แล้วมันจะเป็นอะไรอ่ะนะถ้าเกิด
01:10:34 → 01:10:37 พวกไตเสื่อม CKD อ่ะอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะ
01:10:38 → 01:10:41 ในผู้ชายเท่าไหร่นะฮะนะเนี่ยถ้าเกิน 7
01:10:41 → 01:10:44 เมื่อไหร่เนี่ยโอกาสจะเกิด CKD ในผู้ชาย 2
01:10:44 → 01:10:47 เท่านะแต่ในผู้หญิงจะเกิดเยอะกว่านะฮะถ้า
01:10:47 → 01:10:53 เกิน 7 นะฮะนะแล้วก็ในแง่ของเอ่ออะไรอ่ะ
01:10:53 → 01:10:56 ถ้าเกิน 8 เนี่ยนะถ้าเกิน 8 เนี่ยการเกิด
01:10:56 → 01:10:59 CKD กับไตวายต่างๆในผู้หญิงผู้ชายก็จะ
01:11:00 → 01:11:02 เพิ่มขึ้นนะฮะแต่ในผู้หญิงจะเพิ่มจาก 3
01:11:02 → 01:11:05 เท่าเป็น 10 เท่านะฮะนะเนี่ยมากกว่า 7 ก็
01:11:05 → 01:11:08 มากกว่า 8 เพราะฉะนั้นตัวเลขจริงๆเนี่ยนะ
01:11:09 → 01:11:09 เค้า
01:11:09 → 01:11:14 ก็บวกลบคูณหารแล้วอย่าให้เกิน 7.2 นะฮะนะ
01:11:14 → 01:11:18 ในแง่ของการเกิดภาวะ CKD อ่ะนะฮะทั้งผู้
01:11:18 → 01:11:21 หญิงผู้ชายนะตัวเลขๆเลยคืออย่าให้เกิน 7.2
01:11:21 → 01:11:25 2 นะฮะที่เราจะบอกว่าเออเนี่ยมันเป็นอ่า
01:11:25 → 01:11:28 reactive physiologic hypericemia นะ
01:11:28 → 01:11:32 น่าจะอยู่นอกเซลล์และเป็นตัวantioอกidant
01:11:32 → 01:11:33 นะ
01:11:33 → 01:11:36 ฮะอ่า
01:11:36 → 01:11:40 เอ่ออันนี้อันนี้เป็นการตรวจแบบ fasting
01:11:40 → 01:11:45 นะฮะนะส่วนตรวจยูริคหลังทานอาหารนะฮะคือ
01:11:45 → 01:11:48 ในปัจจุบันเนี่ยมันก็จะมีอะไรมีนาฬิกาใช่
01:11:49 → 01:11:51 มั้ฮะนะที่เ้าสามารถจะมีเซ็นเซอร์
01:11:51 → 01:11:55 วัดนะตัวกดยูริกจากเส้นเลือดฝอยให้ได้นะ
01:11:55 → 01:11:58 ฮะนะก็ถ้าจะดูจากอาหารเนี่ยนะก็ให้วัด
01:11:58 → 01:12:02 เนี่ยนะเอ่อเซ็นเซอร์อันเนี้ยนะฮะนะผู้
01:12:02 → 01:12:05 ชายเกิน 6.5 5 มั้ผู้หญิงเกิน 5.3 มั้ย
01:12:06 → 01:12:09 นะฮะถ้าเกินก็จะมีความล่อแหลมความเสี่ยง
01:12:09 → 01:12:13 ต่อการเกิดโรคไต CKD 2 เท่า
01:12:13 → 01:12:17 นะเพราะฉะนั้นเกณฑ์เฉลี่ยทั่วๆไปก็คือนะ
01:12:17 → 01:12:20 ผู้ชายต้องต่ำกว่า 6 นะอันนี้หมายถึง
01:12:21 → 01:12:23 optimal นะฮะ optimal ปกติและปลอดภัยนะ
01:12:24 → 01:12:25 optimal ก็คือผู้ชายต่ำกว่า 6 ผู้หญิง
01:12:25 → 01:12:29 ต่ำกว่า 5 ค่ากลางๆคือ 5.5.5
01:12:29 → 01:12:30
01:12:30 → 01:12:35 นะอันนี้ก็ไม่มีอะไรนะแล้วก็มีเรื่องของ
01:12:35 → 01:12:39 แนวทางการแก้ไขภาวะกฎยูริกสูงนะฮะนะนี้
01:12:39 → 01:12:43 เคยไลฟ์ไปแล้วนะฮะนะก็ไปอ่านดูได้หมดะนะ
01:12:43 → 01:12:45 ฮะ
01:12:45 → 01:12:49 นะเออไม่มีแล้วหมด
01:12:49 → 01:12:54 แล้วเอหมดแล้วเออเพราะฉะนั้นตอบคำถามได้
01:12:54 → 01:13:00 ยังเออตอบคำถามกันได้มั้ฮะว่า
01:13:00 → 01:13:05 เออจะกินไก่กินสัตว์ปีกกินข้างในสัตว์นะ
01:13:05 → 01:13:08 อ่ากินอาหารทะเลกินถั่วเมล็ดแห้งกินยอด
01:13:08 → 01:13:11 พืชยอดผักเนี่ยแล้วไม่เกิดเก๊าทเนี่ยเออ
01:13:11 → 01:13:14 ไม่เกิดเก๊าทอ่ะนะคืออาจจะเกิด
01:13:14 → 01:13:18 ไฮเปอร์ยูริซีเมียก็เกิดไปนะเกิดแล้วอ๋อเ
01:13:18 → 01:13:20 เป็นเหมือนวิตามินซีอ่ะเป็นสาร
01:13:20 → 01:13:24 แอนตี้ออกซidantนนะเออเออก็คือต้องกินยัง
01:13:24 → 01:13:27 ไงก็ตามที่ไม่กระตุ้นอินซูลินที่ไม่
01:13:27 → 01:13:31 กระตุ้นกระตุ้นให้อินซูลินออกมานะ
01:13:31 → 01:13:35 เนี่ยแล้วคนสมัยก่อนเนี่ยนะที่เค้ากินของ
01:13:35 → 01:13:38 พวกเนี้ยแล้วเค้าเป็นเก๊าอ่ะเพราะอะไรฮะ
01:13:38 → 01:13:43 เพราะอะไรเออนะเพราะอะไรเค้าถึงกินแล้วเ
01:13:43 → 01:13:47 เป็นเก๊าอ่ะนะเนี่ยนะเพราะของเหล่าเนี้ย
01:13:47 → 01:13:50 มันเป็นตัวกระตุ้นอินซูลินไงนะอินซูลินมา
01:13:50 → 01:13:53 ครับเออเนี่ยไหนจะเป็นสัตว์ปีกสัตว์เนื้อ
01:13:53 → 01:13:57 ขาวเนี่ยนะฮะนะเออสัตว์เนื้อขาวตัวเล็ก
01:13:57 → 01:14:02 เล็กอยู่บนบกอ่าอ่าเครื่องในสัตว์ต่างๆนะ
01:14:02 → 01:14:05 โดยเฉพาะเครื่องในของสัตว์เล็กๆอยู่บนบก
01:14:05 → 01:14:11 นะอ่าพวกนี้คือโปรตีนไขมันต่ำนะเนี่ย
01:14:11 → 01:14:15 โปรตีนไขมันต่ำเนื้อมันขาวๆอ่ะนะฮะนะ
01:14:15 → 01:14:19 เนี่ยนะหรือพวกถั่วเนี่ยนะฮะนะอ่าโทษที
01:14:19 → 01:14:22 พวกถั่วเมล็ดแห้งอาหารทะเลอาหารทะเลก็
01:14:22 → 01:14:25 โปรตีนไขมันต่ำต่ำมากนะฮะนะถั่วเมล็ดแห้ง
01:14:25 → 01:14:29 พวกถั่วเนี่ยมันจะเป็นตัวหลอกนะฮะนะไม่
01:14:29 → 01:14:32 ได้มีโปรตีนมีไขมันอะไรมากมายหรอกถ้าจะมี
01:14:32 → 01:14:35 โปรตีนมีไขมันเนี่ยเต้องไปแปรรูปนะฮะไป
01:14:35 → 01:14:37 แปรรูปเพราะฉะนั้นถ้าคุณกินถั่วเมล็ดแท่ง
01:14:37 → 01:14:42 ก็คือคุณกินแป้งกินาฟกินาฟนะฮะนะยอดพืช
01:14:42 → 01:14:47 ยอดผักก็าฟาฟนะฮะนะคือมันจะมีโกสตorมันจะ
01:14:47 → 01:14:52 มีเอ่ออะไรอ่ะตัวีนเยอะๆอะไรต่างๆเหล่า
01:14:52 → 01:14:56 เนี้ยนะฮะนะแต่เราไม่ได้ไปดูว่าว่ามันจะ
01:14:56 → 01:15:00 มีสิ่งสิ่งที่เป็นอะไรอ่ะเป็นพูรีนเป็น
01:15:00 → 01:15:03 อะไรนักนะฮะนะเราจะดูเรื่องปฏิกิริยาการ
01:15:03 → 01:15:06 ตอบสนองฮอร์โมนนะฮนะเพราะหลักๆก็คือ
01:15:06 → 01:15:08 เรื่องพลังงานกับแคลอเรื่องพลังงาน
01:15:09 → 01:15:12 แคลอรี่ที่อยู่ในร่างกายนะเ่อกับเรื่อง
01:15:12 → 01:15:15 ของฮอร์โมนในการตอบสนองสิ่งเหล่าเนี้ยมัน
01:15:15 → 01:15:20 เป็นdiตมันจะมีผลต่อฮอร์โมนนะส่วนพลังงาน
01:15:20 → 01:15:23 ในร่างกายเราอ่ะถ้าเรากินโลฟอะไรต่างๆ
01:15:23 → 01:15:24 เหล่าเนี้ยเราก็เตรียมพลังงานอยู่ในโหมด
01:15:24 → 01:15:26 ของการเผาผลาญเป็น
01:15:26 → 01:15:28 เรา Fat adapt นะบางคนทั้ง Fat Adapt
01:15:28 → 01:15:31 คีตone adapt เป็น Fat Burner ก่อน
01:15:31 → 01:15:37 คีโตisให้ได้ก่อนนะฮะนะให้ให้ออกจากวงจร
01:15:37 → 01:15:39 น่ะของการเป็น CB burner sugar burner
01:15:39 → 01:15:43 ให้ได้ก่อนนะเนี่ยแล้วก็สิ่งเหล่านี้
01:15:43 → 01:15:47 เนี่ยนะเอ่อถ้าจะกินในแบบ Low Cฟอ่ะนะก็
01:15:47 → 01:15:50 คุณก็ไม่ได้เป็นพวกเ่อ suar burner car
01:15:50 → 01:15:53 burner แล้วคุณเป็น Fat Burner แล้วนะ
01:15:53 → 01:15:55 ร่างกายเนี่ยก็มีพื้นฐานการเผาผ่านพลัง
01:15:56 → 01:15:59 งานสลายพลังงานแล้วไม่ได้สะสมแล้วนะฮะนะ
01:15:59 → 01:16:02 แล้วทีนี้สิ่งเหล่านี้เนี่ยนะแม้ว่าเขาจะ
01:16:02 → 01:16:06 มีไขมันต่ำนะแล้วมันจะกระตุ้นอินซูลิน
01:16:06 → 01:16:10 เยอะก็ตามนะแต่เราก็ต้องเลือกกินนะเรา
01:16:10 → 01:16:14 ต้องเลือกกินให้เป็นนะฮะนะเราควรจะมากิน
01:16:14 → 01:16:17 ในช่วงไหนอ่ะเราก็ควรจะกินในช่วงมื้อเย็น
01:16:17 → 01:16:20 นะฮะไม่กินในช่วงมื้อแรกนะไม่กินในช่วง
01:16:20 → 01:16:22 มื้อแรกเพราะมื้อแรกเนี่ยเราต้องเตรียม
01:16:22 → 01:16:25 ร่างกายให้เผาผลาพลังงานไว้เป็นหลักนะไม่
01:16:25 → 01:16:27 ต้องเอาอินซูลินเข้าไปเอี่ยวอะไรนะกินไป
01:16:27 → 01:16:31 เลยเนื้อเกลือไข่สัตว์บกเนื้อแดงๆนะตีน
01:16:31 → 01:16:34 เยอะๆตัวใหญ่ๆนะอย่างนั้นแหละนะฮะเนื้อ
01:16:34 → 01:16:38 เกลือไข่นะฮะอ่าพอมื้อเย็นเนี่ยอินซูลิน
01:16:38 → 01:16:41 ก็มาตาม Physiology ก็คือ physiologic
01:16:41 → 01:16:44 insulin sensitivity นะฮะอินซูลินที่มา
01:16:44 → 01:16:47 แบบเนี้ยก็เป็นอินซูลินตัวพ่อพระที่เป็น
01:16:47 → 01:16:51 มิตรนะโอกาสที่จะเกิดอ่า agressive ก้าว
01:16:51 → 01:16:54 ร้าวอะไรต่างๆเนี่ยเกิดยากเกิดยากด้วย
01:16:54 → 01:16:58 พื้นฐานเค้านะเพราะเมาตามเิึึมนะนะเพราะ
01:16:58 → 01:17:02 ฉะนั้นอินซูลินมาอินซูลินเต้องการนะอาหาร
01:17:02 → 01:17:06 ที่ที่อินซูลินเ้าจะต้องมาทำงานน่ะก็คือ
01:17:06 → 01:17:09 อินซูลินเนี่ยเค้าก็ต้องมาจัดการกับาฟ
01:17:09 → 01:17:14 หรือมาจัดการกับโปรตีนหรือไขมันเนี่ยที่
01:17:14 → 01:17:17 มันมีความโน้มเอียงที่จะไปกระตุ้น
01:17:17 → 01:17:19 อินซูลินน่ะอินซูลินเค้าก็ชอบอยู่แล้วเรา
01:17:19 → 01:17:22 ไปจัดเครื่องสังเวยพวกนี้ให้เค้าอ่ะนะฮะ
01:17:22 → 01:17:25 นะเพราะฉะนั้นอินซูลินเค้าก็จะแฮปปี้อ่า
01:17:26 → 01:17:28 นะเค้าก็จะไม่ก้าวร้าวเค้าก็จะไม่ได้แบบ
01:17:28 → 01:17:33 โกรธเกี้ยวโมโหโกธานะฮะแต่มันมี 3 เรื่อง
01:17:33 → 01:17:38 นะฮะว่า 1 ชนิดนะเอ่อชนิดที่คุณจะส่งไป
01:17:38 → 01:17:41 ให้อินซูลินเนี่ยที่เขาจะมาตอนเย็นๆมื้อ
01:17:41 → 01:17:45 มื้อ 2 มื้อเย็นเหล่าเนี้ยนะอ่าเนี่ยคุณ
01:17:45 → 01:17:47 ก็ต้องเลือกนะที่เขา้ากระตุ้นอินซูลิน
01:17:47 → 01:17:49 ด้วยนะฮะนะเพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ถึงให้
01:17:49 → 01:17:52 กินมื้อเย็นเนี่ยกินมื้อแรกนะ 1 เลือก
01:17:52 → 01:17:57 ชนิดนะ 2 ควบคุมปริมาณคือไม่ได้กินเท่า
01:17:57 → 01:17:59 ไหร่ก็ได้นะฮะนะเพราะฉะนั้นในแง่ของ
01:18:00 → 01:18:03 โปรตีนที่จะเป็นโปรตีนไขมันตำมากต้องกิน
01:18:03 → 01:18:06 ไม่เกินเท่าไหร่กินอยู่ในช่วงประมาณอ่า
01:18:06 → 01:18:09 30-40% อะไรอย่างเงี้ยนะก็ต้อง average
01:18:09 → 01:18:12 เฉลี่ยเกลี่ยเงินเข้าไปนะฮะนะอ่าหรือจะ
01:18:12 → 01:18:15 เป็นในประเภทคาฟเคิ์ฟอะไรต่างๆเป็นยอดพืช
01:18:15 → 01:18:19 ยอดผักเป็นถั่วเมล็ดแห้งเนี่ยนะก็ต้องมี
01:18:19 → 01:18:22 นะไม่เกิน 1 ทัพพีเอ่อไม่เกินเท่าไหร่อ่ะ
01:18:22 → 01:18:25 สุกแล้วไม่เกิน 60 กรัมอะไรอย่างเงี้ยนะ
01:18:25 → 01:18:27 ใน 2 ทัพีทัพีครึ่งอะไรอย่างเงี้ยก็อยู่
01:18:27 → 01:18:31 ที่ปริมาณ 1 ชนิด 2 ปริมาณแล้วก็เวรัเวลา
01:18:31 → 01:18:34 ที่จะกินเค้าให้มันถูกต้องนะฮะนะก็คือ
01:18:34 → 01:18:37 ต้องกินมื้อเย็นที่อินซูลินเข้ามาตาม
01:18:37 → 01:18:40 physiology ฮะนะเพราะฉะนั้นถ้าอย่างนี้
01:18:40 → 01:18:43 เนี่ยนะก็จะไม่เกิดปัญหาไม่เกิด attack
01:18:43 → 01:18:46 นะฮะนะถึงแม้จะมี
01:18:46 → 01:18:49 ไฮเปอร์ยูิซีเมียเพราะอินซูลินที่ออกมาเ
01:18:49 → 01:18:52 เป็นอินซูลินที่เป็นมิตรอ่าที่เป็นมิตร
01:18:52 → 01:18:54 นะฮะ
01:18:54 → 01:18:56 เนี่ย
01:18:56 → 01:19:01 เอ่ออันนี้ก็ตอบคำถามเนี่ยว่าเนี่ยแล้วจะ
01:19:01 → 01:19:03 กินอย่างเงี้ยกินยังไงไม่ให้เป็นเก๊าทเออ
01:19:03 → 01:19:06 ก็กินแบบที่หมอบอกตอนเนี้ยนะเราอธิบาย
01:19:06 → 01:19:10 เป็นมั้ยล่ะเราเข้าใจยังนะอ่าครับผมอ้า
01:19:10 → 01:19:15 แล้วงี้เอ้ยทำไมกินปลากินไข่กินเนื้อแดง
01:19:15 → 01:19:20 อ่าเออแล้วทำไมเก๊ามันยังมาอยู่ตลอดล่ะหึ
01:19:20 → 01:19:24 ทำไมมันยังเก๊าเก๊าๆน่าเอ่อมันยังโอ้โห
01:19:25 → 01:19:28 ยูริคพุ่งสวิงไปเกิน 7 เกิน 8 เนี่ยให้
01:19:28 → 01:19:32 ตื่นตระหนกวิตกจริตจิตผวาเนี่ยนะฮะเออก็
01:19:32 → 01:19:35 คุณไปกินอะไรอ่ะนะก็คือ 1 อ่ะคุณไปสร้าง
01:19:35 → 01:19:39 สถานการณ์นะที่ทำให้อินซูลินเข้ามานะผิด
01:19:39 → 01:19:45 ไวเวลานะฮะหรือนะไปคือกินเนี่ยแต่มันเป็น
01:19:45 → 01:19:48 การcombบineกับเครื่องปงเครื่องปรุงหรือ
01:19:48 → 01:19:50 ไม่มีความรู้ที่จะกินให้มันถูกในมื้อแรก
01:19:50 → 01:19:54 มื้อเย็นอย่างเงี้ยนะแล้วเสร็จแล้วเอ่อก็
01:19:54 → 01:19:56 มีอะไรที่มันแฝงๆมาจนกระทั่งมันกระตุ้น
01:19:57 → 01:20:00 อินซูลินน่ะนะฮะนะแล้วก็ร่างกายเนี่ยเกิด
01:20:00 → 01:20:02 การสะสมพลังงานเพราะฉะนั้นเงื่อนไขก็คือ
01:20:02 → 01:20:06 ร่างกายสะสมพลังงานเมื่อไหร่อินซูลินมา
01:20:06 → 01:20:09 เมื่อนั้นนะอินซูลินมาเมื่อนั้นร่างกาย
01:20:09 → 01:20:14 สะสมพลังงานเพราะฉะนั้นใดๆนะที่จะเป็นคาฟ
01:20:14 → 01:20:20 เป็นโปรตีนนะพวกนี้นะก็มีพิวีนอ่าอ่าที่
01:20:20 → 01:20:24 ที่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงนะกลายเป็นกด
01:20:24 → 01:20:28 ยูริกนะแล้วพอมีอินซูลินเนี่ยเขามาแบบดุ
01:20:28 → 01:20:31 ดันก้าวร้าว agressive ด้วยอย่าเงี้ยนะ
01:20:31 → 01:20:34 เอ่อเก็จับเข้าเซลล์เพราะฉะนั้นถึงจะกิน
01:20:34 → 01:20:38 อย่างนี้ก็เกิด coy attack off and on
01:20:38 → 01:20:42 off and on ได้นะเพราะฉะนั้นเนี่ยมัน
01:20:42 → 01:20:45 ไม่ได้อยู่ที่จะต้องมาบอกว่าอะไรอย่ากิน
01:20:45 → 01:20:48 สัตวีเครื่องในสัตว์อย่ากินเอ่อถั่วเมล็ด
01:20:48 → 01:20:51 แห้งอย่ากินอาหารทะเลคู่ปูปลาหอยอยากกิน
01:20:51 → 01:20:53 ยอดผักอะไรอย่างเงี้ยมันไม่ใช่ฮะมันอยู่
01:20:53 → 01:20:57 ที่ความเข้าใจใน 2 เรื่องนะฮะนะก็คือ
01:20:57 → 01:21:00 เรื่องพลังงานในร่างกายในร่างกายนะฮะกับ
01:21:00 → 01:21:04 เรื่องสิ่งที่จะกินแล้วไปกระตุ้นอินซูลิน
01:21:04 → 01:21:08 นะอัญเชิญอินซูลินและเป็นอินซูลินแบบ
01:21:08 → 01:21:11 agressive ออกมานะเนี่ยหัวใจหลัก 2
01:21:11 → 01:21:14 ประเด็นนี่แหละคือการตอบคำถามเนี่ยนะแล้ว
01:21:14 → 01:21:20 จะนำไปแก้ยังไงแค่นี้แหละฮะนะนะ
01:21:20 → 01:21:24 คือพออินซูลินก้าวร้าออกมาปั๊บเนี่ยมันก็
01:21:24 → 01:21:28 ตกผลึกได้เลยเงี้ยใช่มั้ฮะพี่หมอใช่ฮะนะ
01:21:28 → 01:21:31 คือคือจะกินแบบว่าที่ที่เค้าเลี่ยงทั้ง
01:21:31 → 01:21:34 หมดอ่ะกินดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้ากินผิดยังไง
01:21:34 → 01:21:38 ก็มีโอกาสเกิดกาวได้เหมือนกันใช่เพราะว่า
01:21:38 → 01:21:41 โปรตีนเนี่ยก็ทำให้เกิดพิวรีนที่จะ
01:21:42 → 01:21:45 เปลี่ยนเป็นยูริแล้วมีมีคนไข้ของพี่หมอ
01:21:45 → 01:21:48 มั้ยที่ที่กินแบบว่าดีจังเลยแต่ว่าก็ยัง
01:21:48 → 01:21:52 เกิดเก๋าอ่ะครับเอ่อมีฮะดีนี่หมายถึงดี
01:21:52 → 01:21:58 นี่หมายถึงว่าดีตามที่คนอื่นเ้าบอกนะ
01:21:58 → 01:22:01 หมายถึงดีตามที่หมอแนะนำอ่ะเหรอหมอคนอื่น
01:22:01 → 01:22:05 แนะนำอ๋อไม่กินไก่กินปลาเนื้อขาวอะไร
01:22:05 → 01:22:07 อย่างเงี้ยแต่ว่าก็ยังเกิดเก๊าอย่างเงี้ย
01:22:07 → 01:22:10 มีเยอะมั้พี่หมอเยอะแยะไปหมดเลยเพราะว่า
01:22:10 → 01:22:14 เยอะแยะไปหมดเลยเหรอ High Food Fat น่า
01:22:14 → 01:22:18 จะเจอแทบทุกวันเลยครับเย็นนะเอ้าเหรอครับ
01:22:18 → 01:22:22 เออเค้าก็กินมั่วไงฮะนะดังที่เราเห็นด้วย
01:22:22 → 01:22:25 เกตต่างๆที่แชร์รูปอาหารมานี่แหละนะฮะอ๋อ
01:22:25 → 01:22:29 แพี่หมอโต้งก็เจอเยอะเหรอครับ
01:22:29 → 01:22:34 ใช่เยอะครับเยอะครับก็ยังกลัวไก่กลัวหน่อ
01:22:34 → 01:22:37 ไม้อะไรกันอยู่อ่ะนะ
01:22:37 → 01:22:40 ยังๆังยังกินไข่ได้กี่ฟองอยู่ไอ้คำถามทรง
01:22:40 → 01:22:45 ๆเนี้ยอืเออรักไปทักมาก็กินผลไม้ทุกวัน
01:22:45 → 01:22:47 แล้วก็นึกว่าเอ๊ะก็กินหวานน้อยไม่น่าเป็น
01:22:47 → 01:22:50 ไรอะไรอย่างเงี้ยกินหวานน้อยแต่กินผลไม้
01:22:50 → 01:22:54 นะอ่ากินผลไม้แทบทุกวันนะฮะแต่บอกว่าหวาน
01:22:54 → 01:22:58 น้อยนะกินไม่เยอะนะแต่กินทุกวันหรือเกือบ
01:22:58 → 01:23:02 ทุกวันอะไรอย่างเงี้ยเพียบไม่มาไม่หาย
01:23:02 → 01:23:05 หรอกไม่ไม่หยุดหรอกนะ
01:23:05 → 01:23:09 ฮะเนี่ยอันเนี้ยนะฮะนะก็คือาฟยังเป็น
01:23:09 → 01:23:12 ประเด็นอยู่นะฮะนะถึงแม้เราจะกินโปรตีน
01:23:12 → 01:23:16 กับไขมันดีแล้วนะฮะเช่นกินแบบ CDKD ดี
01:23:16 → 01:23:19 อะไรต่างๆเนี่ยนะฮะนะแต่ยังมีโอกาส attack
01:23:19 → 01:23:24 มั้ยก็มีก็มีเพราะว่าพลังงานมันอิบาanceซ
01:23:24 → 01:23:28 คอtisซอลมันยังออกมาได้อยู่นะฮะแล้วเวลา
01:23:28 → 01:23:33 คอติซอลออกมาเนี่ยนะถ้าในที่สุดกินไปนานๆ
01:23:33 → 01:23:36 นะแล้วก็เปลี่ยนใจปุ๊บมันก็มีอินซูลินออก
01:23:36 → 01:23:40 มาก็แทackอยู่ดีนะถึงแม้จะตัดคาฟสนิทนะ
01:23:40 → 01:23:45 แล้วก็กินแบบเอ่อ CD diอetต่างๆนะฮะ
01:23:45 → 01:23:48 ในต่างประเทศก็เยอะนะฮะนะกด
01:23:48 → 01:23:52 ยูริackทั้งๆที่กิน CD หรือcarารnival
01:23:52 → 01:23:56 diet แล้วนะฮะทีนี้ตรงคาฟเนี่ยนะฮะถาม
01:23:56 → 01:24:01 ว่าเป็นเก๊าทกดยูริกสูงกินคาฟอะไรได้บ้าง
01:24:02 → 01:24:06 อ่าอันนี้เคยไลฟ์ไปแล้วนะฮะนะคือเรากิน
01:24:06 → 01:24:10 ได้หมดนะฮะนะแต่อย่างกรณีของคาฟเราต้อง
01:24:10 → 01:24:15 เลือก 3 อย่างนะฮะถ้าจะกินคาฟครับ
01:24:15 → 01:24:19 ให้กดยูิสูงก็ได้นะฮะนะหรือไม่สูงก็ได้นะ
01:24:19 → 01:24:22 สูงก็ไม่เป็นไรแต่อย่าให้ attack ก็คือ
01:24:22 → 01:24:26 อย่ามีอินซูลินแบบก้าวเล้าออกมานะ
01:24:26 → 01:24:31 ฟในกรณีที่เป็นเก๊าทอ่ะหรือเป็นไอ้โรค
01:24:31 → 01:24:35 เก๊าที่แทน on อยู่เนี่ยนะจะกินาฟแบบไหน
01:24:35 → 01:24:39 เออเนี่ยคือคำถามนะฮะเราเคยไลฟ์ไปแล้วนะ
01:24:39 → 01:24:42 ฮะหมอแนะนำให้กินแป้งเชิงซ้อนอยู่ 5 รูป
01:24:42 → 01:24:48 แบบนะ 5 รูปแบบอันนี้พอจำกันได้มยนะอ่าาฟ
01:24:48 → 01:24:50 ใน 5 รูปแบบเนี้ยมันเป็นรูปแบบของแป้ง
01:24:50 → 01:24:54 เชิงซ้อนนะนอกจากผักหัวผักใบแล้วนะแป้ง
01:24:54 → 01:24:57 เชิงซ้อนเหล่านี้เนี่ยนะจะดีหรือจะเป็น
01:24:57 → 01:25:02 มิตรอ่ากับอินซูลินนะคือไม่ทำให้เกิดภาวะ
01:25:02 → 01:25:06 อินซูลินก้าวร้าวนะถ้ากินในปริมาณที่ถูก
01:25:06 → 01:25:09 ต้องนะฮะเพราะว่าเรื่องาฟเนี่ยเราใช้
01:25:09 → 01:25:12 ปริมาณเป็นตัวควบคุมนะอันนี้เราจะบอกถึง
01:25:12 → 01:25:16 ชนิดของคาฟแต่ปริมาณที่ที่เหมาะศพแล้วกัน
01:25:16 → 01:25:21 นะฮะคือไม่ต้องเยอะเน็ต
01:25:21 → 01:25:26 ฟางกลางๆก็คือประมาณ 50-60 กรัมต่อวันนะ
01:25:26 → 01:25:30 าฟ 5 อย่างนี้ได้แก่อะไรบ้างนะก็แป้งบัท
01:25:30 → 01:25:34 นะฮะแป้งบัีดนะฮะนะคือในปัจจุบันเนี่ยใน
01:25:34 → 01:25:38 รู้สึกใน Shopee มก็มีขายนะฮะก็ก็จะขาย
01:25:38 → 01:25:42 เป็นแป้งบัหวีดกับแป้งดอกกะหล่ำผสมกันนะ
01:25:42 → 01:25:47 อ่าแป้งบัหวีดเอาไปทำอะไรเคยกินเส้นโซบะม
01:25:47 → 01:25:51 โซบะเออโซบะเนี่ยถ้าโซบะแท้ๆนะฮะจาก
01:25:51 → 01:25:55 ญี่ปุ่นเนี่ยก็ทำมาจากบักกวีดนะแต่โซบะ
01:25:55 → 01:25:58 ทั่วๆไปเขาก็จะใช้แป้งสาลีเอ่าเหมือนกิน
01:25:58 → 01:26:02 บะหมี่บะหมี่เหลืองนะฮะอย่างเงี้ยนะแต่
01:26:02 → 01:26:06 โซบะของจริงนะของที่มันhealthตี้กินแล้ว
01:26:06 → 01:26:11 คนญี่ปุ่นคนไต้หวันคนเกาหลีอ่ะนะเค้าก็ดู
01:26:11 → 01:26:14 แบบหุ่นมันไม่สะสมอินซูลินมันไม่ได้
01:26:14 → 01:26:17 อินซูลินน่ะนะอันนั้นเป็นโซบะจากบัหวีดนะ
01:26:17 → 01:26:20 ฮะนะเ่อก็จะมีแป้งบัีดกับแป้งดอกกะหล่ำนะ
01:26:20 → 01:26:24 ฮะเนี่ยนะอันนี้อันดับ 1 เลยนะที่มันเป็น
01:26:24 → 01:26:28 แป้งเชิงซ้อนที่เป็นมิตรอ่าเป็นมิตรต่อ
01:26:29 → 01:26:32 เบาหวานรีชัเป็นมิตรต่อภาวะด้วยอินซูลิน
01:26:32 → 01:26:36 หรือเป็นมิตรต่อการเป็น attack นะฮะนะ
01:26:36 → 01:26:41 หรือกินแล้ว LDL ไม่สูง LDL ไม่สูงกิน
01:26:41 → 01:26:44 แล้วไปกระตุ้นอินซูลินที่ดีๆอินซูลินพ่อ
01:26:44 → 01:26:49 พระออกมาแล้วก็ไปทำให้ไอ้ตัว LDL
01:26:49 → 01:26:51 receptปตอร์ที่ตับขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยนะ
01:26:51 → 01:26:56 ฮะ 1 บับวีกับแป้งดอกกะหล่ำนะฮะ 2 แป้ง
01:26:56 → 01:26:59 กวีนัวเอ่อกีนัวเนี่ยกีนัวในปัจจุบัน
01:26:59 → 01:27:02 เนี่ยมันทำมาเป็นแป้งแล้วในShopeปeก็มีนะ
01:27:02 → 01:27:06 ฮะนะเอ่อแป้งกวีนัวนะฮะอันที่ 3 แป้ง
01:27:06 → 01:27:08 บาเล่์แป้งบาเล่ยังไม่เข้าเมืองไทยนะฮะนะ
01:27:08 → 01:27:13 ในต่างประเทศมีเอ่อแป้งบาเล่นะฮะอันที่ 4
01:27:13 → 01:27:17 คือข้าวไสนะฮะนะเอ่อมันมีข้าวไเบrี่แล้ว
01:27:17 → 01:27:22 ก็มีเอ่อจมูกข้าวไบรี่นะฮะนะเนี่ยใช้ผสม
01:27:22 → 01:27:26 กันก็ได้นะฮะอเนี้ยเป็นแป้งเชิงซ้อนที่ดี
01:27:26 → 01:27:29 นะฮะอันที่ 5 ก็คือเข้าโอ๊ตที่หุงเต็ม
01:27:29 → 01:27:33 เมล็ดเต็มเมล็ดน่ะนะเอ่อเข้าโอ๊ตที่เป็น
01:27:33 → 01:27:38 เต็มเม็ดเต็มเม็ดนะฮะนะเป็นเม็ดนะมันจะมี
01:27:38 → 01:27:39 อยู่ 5 กลุ่ม
01:27:39 → 01:27:43 นะฮะนะอันนี้เราเรียกว่าแป้งเชิงซ้อนที่
01:27:43 → 01:27:48 ดีอ่าดีต่อทุกอย่างที่บอกไปตอนแรกอ่ะ
01:27:48 → 01:27:50 เรื่องของคอเลสเตอรอลผิดปกติเรื่องของ
01:27:50 → 01:27:54 เก๊าทเรื่องของคีโตเรื่องของโอเมก้า 3
01:27:54 → 01:27:57 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะถ้าในแง่พลังงานจาก
01:27:57 → 01:28:00 คาฟที่ดีในแง่ของความเป็นแป้งเชิงซ้อนก็
01:28:00 → 01:28:05 คือ 1 2 3 4 5 ที่บอกนี้นะฮะเอ่อมัน
01:28:05 → 01:28:08 มีอะไรบ้างนะ 5 อย่างเนี้ยถึงได้บอกว่าดี
01:28:08 → 01:28:11 อันที่ 1 ก็จะมีเรื่องของ resistance
01:28:11 → 01:28:16 start นะฮะนะก็คือแป้งทนการย่อยนะฮะเค้า
01:28:16 → 01:28:18 เรียก resistance start resistance
01:28:18 → 01:28:21 start เนี่ยมันมีอยู่ 3 เลเวลนะฮะ RS1
01:28:21 → 01:28:27 RS2 RS3 RS1 ก็อยู่ในเมล็ดพวกถั่วนะฮะ
01:28:27 → 01:28:33 นะพวกถั่วพวกแป้งที่มาจากถั่วนะฮะเอ่อ RS2
01:28:33 → 01:28:37 เนี่ยส่วนใหญ่มันจะอยู่ในเอ่ออยู่ในผลไม้
01:28:37 → 01:28:41 อ่ะอยู่เลยพวกคล้ายๆเป็นเป็นกลุ่มผลไม้นะ
01:28:41 → 01:28:46 มันมี 3 เนะ 3 จำไม่ค่อยได้นะก็คืออันที่
01:28:46 → 01:28:48 1 มี resistance stาร
01:28:48 → 01:28:54 นะร่วมกับfบอร์นะฮะfibอนะคือทั้ง
01:28:54 → 01:28:57 resistance stารและfibอเนี่ยนะฮะ
01:28:57 → 01:29:01 อันเนี้ยเอ่อคนเราเนี่ยมันเ้าเรียกว่ามัน
01:29:01 → 01:29:04 เป็นแป้งทนการย่อยหรือเป็นไฟเบอร์เนี่ย
01:29:04 → 01:29:08 พวกนี้มักจะอยู่ด้วยกันมาด้วยกันนะแต่ไม่
01:29:08 → 01:29:12 ได้มีประโยชน์ต่อคนเราคือไปมีประโยชน์ต่อ
01:29:12 → 01:29:15 ผู้ที่มาเป็นผู้ย่อยจริงๆอ่ะก็คือ
01:29:15 → 01:29:18 จุลินทรีย์หรือโปรไบโอติกในลำไส้นะเาชอบ
01:29:18 → 01:29:21 แบบของพวกเนี้ยแล้วเเปลี่ยนแป้งเป็นอะไร
01:29:21 → 01:29:26 ฮะเป็นกรดไขมันสายสั้นอ่าเป็น acci
01:29:26 → 01:29:30 นะเขาจะเปลี่ยนแป้งเป็น acid นะฮะเนี่ย
01:29:30 → 01:29:36 อันนี้อันนี้สำคัญนะฮะนะเพราะว่าตัวacซิด
01:29:36 → 01:29:39 เนี่ยนะที่เขาเปลี่ยนมาจาก resistance
01:29:39 → 01:29:44 stารกับไฟจากแป้งเชิงซ้อนพวกเนี้ยนะมันจะ
01:29:44 → 01:29:51 ไปที่ตับนะที่ตับนะอ่าเพื่อไปสร้างน้ำดี
01:29:51 → 01:29:54 เพื่อไปเป็นองค์ประกอบในการที่จะสร้างน้ำ
01:29:54 → 01:29:56 ดีแล้วก็เอา
01:29:56 → 01:30:00 คอเลสเตอรอลออกอ่าทางระบบน้ำดีเพื่อไป
01:30:00 → 01:30:03 ถ่ายออกทางลำไส้นะฮะเพื่อไปถ่ายออกทางลำ
01:30:03 → 01:30:06 ไส้เพราะฉะนั้นเหตุผลเนี่ยเนี่ยที่มันจะ
01:30:06 → 01:30:10 เป็นรสนะไอ้พวกที่ว่าเนี้ยนะคือ
01:30:10 → 01:30:13 คอเลสเตอรอลกดยูริกอะไรต่างๆพวกเนี้ยนะก็
01:30:13 → 01:30:18 คือมันมีข้อดีในเรื่องนี้นะฮะนะเขาก็เลย
01:30:18 → 01:30:20 ไม่มีผลในแง่ของการกระตุ้นอินซูลินแบบ
01:30:20 → 01:30:24 ก้าวล้างนะอันที่ 2 ก็คือ 5 อย่างที่บอก
01:30:24 → 01:30:27 ไปเนี่ยมันมีกูเต้นน้อยกูเต้นมันก็เป็น
01:30:27 → 01:30:30 โปรตีนนะฮะนะแต่มันเป็นโปรตีนที่ทำให้
01:30:30 → 01:30:33 เกิดภาวะความผิดปกติของไอ้ตัวเยื่อบู่ลำ
01:30:34 → 01:30:39 ไส้นะเกิดภาวะลำไส้รั่วลำไส้แปรปวนนะตัว 5
01:30:39 → 01:30:42 อย่างเนี่ยที่มันมีกูเต้นเนี่ยนะที่เอ่อ 3
01:30:42 → 01:30:46 อย่างไม่มีเลยนะฮะนะคือบัีแป้งดอกกะหล่ำ
01:30:46 → 01:30:50 นะแล้วก็ควีนัวก็ไม่มีไสบรรี่ไม่มีนะฮะ
01:30:50 → 01:30:54 แต่อ่าบาเล่กับเข้าโอตเนี่ยมันมีแล้วแต่
01:30:54 → 01:30:57 มันมีน้อยนะฮะมีกูเต้นน้อยนะเพราะงั้นมี
01:30:57 → 01:31:03 กูเต้นน้อยๆเนี่ยนะพวกนี้นะก็จะเป็นมิตร
01:31:03 → 01:31:07 นะต่อเยื่อบุลำไส้นะต่อจุลินทรีย์ในลำไส้
01:31:07 → 01:31:13 นะฮะนะแล้วก็ทำให้ไม่ไม่กระตุ้นอินซูลิน
01:31:13 → 01:31:15 น่ะนะถ้ากูเต้นเยอะๆเนี่ยมันจะกระตุ้น
01:31:15 → 01:31:19 อินซูลินแบบก้าวร้าวนะฮะนะไอ้พวกแป้งอะไร
01:31:19 → 01:31:23 อ่ะแป้งแป้งถั่วเหลืองเอ้ยแป้งบาเอ้แป้ง
01:31:23 → 01:31:29 สาลีอ่ะนะเออนะอันที่ 3 มีสารสีนะฮะนะ
01:31:29 → 01:31:33 แป้งพวกเนี้ยแป้งเชอพวกนี้มันมีสีไงนะ
01:31:33 → 01:31:35 เนี่ยอย่างเข้าไเบrี่จมูกเข้าไเบrี่อ่ะ
01:31:35 → 01:31:40 นะัวอย่างเงี้ยนะฮะนะเอ่อพวกนี้สีใช่มั้
01:31:40 → 01:31:43 ล่ะนะแล้วก็สีเนี่ยสีเหล่านี้คือสารพฤกษา
01:31:43 → 01:31:48 เคมีนะซึ่งมันเป็นสารพฤกษาเคมีที่มันไปทำ
01:31:48 → 01:31:52 ให้อินซูลินมันสงบมันทำให้เกิดภาวะ
01:31:52 → 01:31:56 insulin sensitivity นะเออเป็นสารพฤกษา
01:31:56 → 01:31:59 เคมีที่ทำให้ insulin sensitivity นะ
01:31:59 → 01:32:02 เพราะฉะนั้นอินซูลินเาก็จะไม่ดุดันก้าว
01:32:02 → 01:32:06 ร้าวนะนะไม่ร้ายอ่ะไม่ร้ายนะฮะเพราะ
01:32:06 → 01:32:08 ฉะนั้นสารพฤกษาเคมีในแป้งพวกนี้มี
01:32:08 → 01:32:11 ประโยชน์อันสุดท้ายก็คือเขาจะมีพวก
01:32:11 → 01:32:15 วิตามินแร่ธาตุวิตามินแร่ธาตุต่างๆนะโดย
01:32:15 → 01:32:18 เฉพาะแร่ธาตุน่ะนะโปแทสเซียมแมกนีเซียมนะ
01:32:18 → 01:32:22 ฮะโปแทสเซียมแมกนีเซียมนะเออก็ 4 เรื่อง
01:32:22 → 01:32:25 เนี้ยมันเป็นข้อดีของแป้งเชิงซ้อนนะฮะที่
01:32:25 → 01:32:29 คนเป็นเก๊าทคน LDL คอเลสเตอรอลสูงกินได้
01:32:29 → 01:32:33 กินได้เลยนะมีประโยชน์นะมีประโยชน์เพราะ 1
01:32:33 → 01:32:38 2 3 4 นะ resistance fberอร์ตenน้อย
01:32:38 → 01:32:42 สารพฤกษาเคมีเยอะสีเข้มๆสีแป๋นๆน่ะสีเป็น
01:32:42 → 01:32:46 ทางแดงๆเอ่อม่วงๆน้ำตาลน้ำตาลดำๆอะไร
01:32:46 → 01:32:49 อย่างเงี้ยนะฮะนะพวกข้าวไเบอรี่นะฮะนะ
01:32:49 → 01:32:52 แล้วก็วิตามินแร่ธาตุโดยเฉพาะแร่ธาตุเยอะ
01:32:52 → 01:32:55 นะก็ทั้งหมดเนี้ยเราต้องดูในเรื่องของ
01:32:55 → 01:33:00 ชนิดชนิดก็ที่บอกไปว่า 5 ชนิดปริมาณนะ
01:33:00 → 01:33:03 ปริมาณแล้วก็เวลาที่กินเวลาที่กินก็คือ
01:33:03 → 01:33:06 ไม่กินมื้อแรกให้กินระหว่างมื้อโดยเฉพาะ
01:33:06 → 01:33:09 เน้นที่มื้อเย็นมื้อเย็นก่อนจะนอนนะซึ่ง
01:33:09 → 01:33:12 จะเป็นเวลาสอดคล้องกับฟิลogicของอินซูลิน
01:33:12 → 01:33:16 ที่เขาออกมานะเออกมาเพื่อเขาจะมาทำงานก็
01:33:16 → 01:33:19 เลยต้องมีแป้งพวกเนี้ยไปทำคือในส่วนของ
01:33:19 → 01:33:22 ความเป็นแป้งเชิงซ้อน 5 เรื่องเนี่ยนะฮะ
01:33:22 → 01:33:24 สิ่งที่เราต้องการจริงๆเราไม่ได้ต้องการ
01:33:24 → 01:33:27 แป้งนะฮะแต่เราต้องการพวกไฟเบอร์เรา
01:33:27 → 01:33:30 ต้องการวิตามินแร่ธาตุ 3 เคมีแต่ความเป็น
01:33:31 → 01:33:34 แป้งที่ปะปนมาแต่เราจำกัดด้วยปริมาณที่จะ
01:33:34 → 01:33:39 กิน 1-2 ทัพพีอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะนะถ้า
01:33:39 → 01:33:42 เราจำกัดเราได้เได้เนี่ยมันก็จะไม่เป็น
01:33:42 → 01:33:45 การไปกระตุ้นอินซูลินให้มาเยอะหรือมาแบบ
01:33:45 → 01:33:49 โมโหนะฮะนะแล้วถามว่าแล้วแป้งเนี่ย 1-2
01:33:49 → 01:33:53 ทัพพีอะไรอย่างเงี้ยนะเอาไปทำอะไรนะส่วน
01:33:53 → 01:33:56 ใหญ่มันก็เอาไปเป็นไกลโคเจนที่ต่ำนะเอาไป
01:33:56 → 01:34:00 เป็นไกลโคเจนที่ต่ำนะอันนี้คือความสำคัญ
01:34:00 → 01:34:03 ของแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาล
01:34:03 → 01:34:07 นะนะที่เข้ามาร่วมกับาฟนะฮะแต่เราต้อง
01:34:07 → 01:34:11 จำกัดเค้าแต่ถ้าอยากกินได้เยอะๆกว่านี้
01:34:11 → 01:34:15 หน่อยนึงนะอ่าก็ต้องไปออกแรงออกกำลังมานะ
01:34:15 → 01:34:18 ฮะเพื่อจะได้เปลี่ยนตำแหน่งนอกจากเติม
01:34:18 → 01:34:21 เป็นไกลโคเจนที่ตับไว้ตอนเช้าๆแล้วเนี่ย
01:34:22 → 01:34:25 นะก็จะเผื่อแผ่ไปที่เซลล์กล้ามเนื้อนะคุณ
01:34:25 → 01:34:28 ก็ต้องมีเงื่อนไขไปออกแรงออกกำลังไปเวทไป
01:34:28 → 01:34:32 คาร์ดิโอมาด้วยเงี้ยอันนี้ก็คือทั้งบทนะ
01:34:32 → 01:34:38 ฮะที่อ่าเก๊าทกินได้ทั้งคาฟโปรตีนไขมัน
01:34:38 → 01:34:42 แต่ต้องมีความรู้นะฮะต้องมีความรู้แล้วก็
01:34:42 → 01:34:45 มีเงื่อนไขนะของกรณีของการเกิดภาวะ
01:34:45 → 01:34:50 ไฮเปอรซีเมียและการเกิดอ่าเค้าเรียกเ่อ
01:34:50 → 01:34:53 Active Guy attack นะฮะ Off and on
01:34:53 → 01:34:56 Off and on มีเท่านี้แหละฮะนะในทาง
01:34:56 → 01:35:02 ปฏิบัติในทางปฏิบัติ
01:35:02 → 01:35:08 นะนะคอเลสเตอรอลยูริโตโอเม้า 3 นะฮะนะ
01:35:08 → 01:35:10 เปอร์เซ็นต body fat ความอ้วนความผอม
01:35:10 → 01:35:14 visal fat นะเนี่ยอ่าเบาหวานไทรรอยด์นะ
01:35:14 → 01:35:17 ฮะคุณเหน่งถามครับพี่หมอข้าวหอมนิลแทน
01:35:17 → 01:35:22 ไสเบอร์รี่ได้มั้ครับได้ฮะได้นะหอมนิลก็
01:35:22 → 01:35:27 ได้นะสีก็พอประมาณ
01:35:27 → 01:35:32 นะคือคืออย่างงี้นะในเรื่องของของอาหาร
01:35:32 → 01:35:34 สำหรับเก๊าทเนี่ยหมอบอกเทคนิคอีกอันนึงนะ
01:35:34 → 01:35:39 ฮะนะเทคนิคเดี๋ยวนะคือเรื่องของคาฟเนี่ย
01:35:39 → 01:35:43 ก็แบบที่คุยไปเมื่อกี้นี้ใช่มั้ล่ะครับนะ
01:35:43 → 01:35:47 เพียงแต่ว่าชนิดปริมาณและเวลาที่กินนี้
01:35:47 → 01:35:50 สำคัญที่สุดคาฟแต่โปรตีนเนี่ยเราต้องหมุน
01:35:50 → 01:35:55 เวียนนะฮะเราต้องหมุนเวียนนะเนี่ยโปรตีน
01:35:55 → 01:35:58 กับเก๊าทเนี่ยนะฮะนะเก๊าทก็ชอบการหมุน
01:35:58 → 01:36:03 เวียนโปรตีนนะก็ต้องโรตนะโรตateโปรตีนนะ
01:36:03 → 01:36:06 โปรตีนกินได้นะฮะนะสัตว์ปีกเครื่องใน
01:36:06 → 01:36:10 สัตว์อ่ากุ้งปูปลาหอยสัตว์น้ำอะไรได้หมด
01:36:10 → 01:36:14 นะแต่ต้อง
01:36:14 → 01:36:18 โรตateคือพวกข้าวกล้องข้าวหอมนิลกข 43
01:36:18 → 01:36:22 เนี่ยก็ได้นะฮะนะถ้าเราไม่มีปัญหาเรื่อง
01:36:22 → 01:36:25 เบาหวานเบาหวานDMรissionแล้วนะฮะก็เอามา
01:36:25 → 01:36:28 หมุนเวียนกับไอ้พวกปีน
01:36:28 → 01:36:31 พวกข้าวโอ๊ตนะฮะนะแต่ส่วนใหญ่ถ้าหมอกินนะ
01:36:31 → 01:36:35 หมอผสมกันหมดเลยนะนะก็มีข้าวโอ๊ตนี่แหละ
01:36:35 → 01:36:42 เข้าโอ๊ตไสรรี่นะัวเงี้ยนะเอ่อจมูกจมูก
01:36:42 → 01:36:45 ส่วนใหญ่ไบrี่ก็ใส่เป็นจมูกข้าวไเบrี่นะ
01:36:45 → 01:36:50 นะแล้วก็อาจจะมีข้าวกล้องเอ่อหอมมะลิอะไร
01:36:50 → 01:36:55 ล่ะระยะน้ำนมอะไรเค้าแหละ
01:36:55 → 01:37:01 นะแต่ไม่ได้กินเยอะอะไรนะฮะนะกินน้อยมาก
01:37:01 → 01:37:05 นะกินครึ่งทัพพีกิน 2 ช้อนอย่าเงี้ยนะฮะ
01:37:05 → 01:37:08 คือสังคมภายนอกเนี่ยเวลาหมอไปซื้ออะไรเ
01:37:08 → 01:37:11 ไม่เข้าใจเราหรอกนะถึงเราจะแบบเเรียกว่า
01:37:11 → 01:37:15 แหกปากบอกว่ากูกิน low ครับกูกินveryี่
01:37:15 → 01:37:20 low ครับนะมึงอย่าไปแกล้งกูสิเออกูรัก
01:37:20 → 01:37:23 สุขภาพกูอ่ะผิดอะไรด้วยเหรออะไรอย่าง
01:37:23 → 01:37:27 เงี้ยนะมันกลายเป็นตัวตลกไปอ่ะนะเออมันก็
01:37:27 → 01:37:30 ไม่รู้จะว่าไงอ่ะนะเราก็เลยเหมือนตามที่
01:37:30 → 01:37:34 บอกอ่ะเราต้องทำกินเองสบายใจกว่า
01:37:34 → 01:37:37 นะแต่ถ้าเเห็นเราบ่อยๆเดี๋เรู้แล้วเจ้า
01:37:37 → 01:37:39 นี้มาแล้วก็ต้องอย่างงู้นอย่างงี้อะไร
01:37:39 → 01:37:43 ต่างๆนะแต่เราไม่ได้ไปบอกเ้าว่าโอ๊ยเรา
01:37:43 → 01:37:47 เป็นหมอนะเราเป็นนายแพทย์เรารู้นะเราทำ
01:37:47 → 01:37:52 กลุ่มอะไรอย่างเงี้ยเออไม่ใช่
01:37:52 → 01:37:56 เไม่รู้เรื่องหรพี่บอกเออเออๆคุณหยางบอก
01:37:56 → 01:38:00 ว่าอะไรนะเมนูหมูห่อใบชะมวงมาได้แล้วฮะ
01:38:00 → 01:38:05 เออได้ๆแต่ก่อนบอกเอาใบเอาใบทิ้งกลัวเก๊า
01:38:05 → 01:38:10 โอต้องกลัวเราควบคุมเราต้องแน่ใจก่อนนะฮะ
01:38:10 → 01:38:13 ว่าร่างกายเราอ่ะอยู่ในโหมดไหนเอ่อ Fat
01:38:13 → 01:38:18 Burner นะอ่า Fat Adaptone Adapt นะ
01:38:18 → 01:38:22 เออนะได้เลยนะหรือแม้แต่ฟเนี่ยเราก็เติม
01:38:23 → 01:38:26 ในช่วงเวลาเย็นๆน่ะฮะนะเเช้าๆขึ้นมาไม่แท
01:38:26 → 01:38:32 หรอกฮะเไม่แทackนะเออถ้าเกิดคอติซalเนี่ย
01:38:32 → 01:38:37 นะไม่วุ่นวายนะเอ่อหลับสบายทั้งคืน
01:38:38 → 01:38:42 ผมเคยไปแนะนำเคยไปคุยกับคนคนสายเทคอ่ะ
01:38:42 → 01:38:45 ครับที่เค้าเป็นเก๊าทอ่ะยังหนุ่มๆอยู่เลย
01:38:45 → 01:38:48 นะพี่หมอสุดท้ายก็กินอโลพิอหมอบอกว่าน่า
01:38:48 → 01:38:52 จะต้องกินตลอดชีวิตเป็นจากกรรมพันธ์
01:38:52 → 01:38:57 ก็คือเก๊ามันก็อยู่กับโคินก็เหมือนสตินนะ
01:38:57 → 01:39:01 เอ่อคอเลสอลก็คุณก็ต้องสเตตินนะจะเป็น
01:39:01 → 01:39:04 เอ่ออะไรอ่ะ
01:39:04 → 01:39:09 อโทวัสตินซวัสตินนะหรือเอ่อแหละนะแล้วแต่
01:39:09 → 01:39:14 จะกินอะไรต่างๆเออคือยาก็คือยานี่แหละนะ
01:39:14 → 01:39:18 นะมันยากไงมันยากที่จะปรับอาหารด้วยความ
01:39:18 → 01:39:21 เข้าใจแล้วก็ต้องมีองค์ความรู้แล้วก็ต้อง
01:39:21 → 01:39:24 อย่างงี้อย่างงี้ถ้าเราคุมอินอินซูลินได้
01:39:24 → 01:39:27 เนี่ยร่างกายไม่เกิดเก๊าเนี่ยในทางกลับ
01:39:27 → 01:39:28 กันเรื่องของคอเลสเตอรอลก็เช่นเดียวกัน
01:39:28 → 01:39:32 ใช่มั้ยพี่หมอโอกาสที่มันที่มันจะตกตะกอน
01:39:32 → 01:39:35 ตามอ่าผนังหลอดเลือด
01:39:35 → 01:39:39 เนี่ยมันก็โอกาสมันก็น้อยกว่าก็ก็คือกัน
01:39:39 → 01:39:44 ใช่มั้ยใช่เพราะหมอเคยไลฟ์ไปแล้วแล้วก็
01:39:44 → 01:39:47 เคยเคยโพสต์บทความไปแล้วนะฮว่าคุณน่ะมี
01:39:48 → 01:39:49 ปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลและ LDL มันสูง
01:39:49 → 01:39:53 เนี่ยคุณจะเลือกกินยังไงที่จะลด LDL แอล
01:39:54 → 01:40:00 คอเลสเตอรอลคุณจะกินคาฟดีๆอ่ะยังไงเออที่
01:40:00 → 01:40:03 ที่จะเป็นทั้งผักใบผักหัวแป้งเชิงซ้อน
01:40:03 → 01:40:09 เนี่ยนะเพื่อจะมาลด LDL คอเลสเตอรอลกินก็
01:40:09 → 01:40:13 ลดได้นะฮะนะครับแต่ต้องเข้าใจเข้าใจ
01:40:13 → 01:40:16 กระบวนการหรือเข้าใจเรื่องของระบบพลังงาน
01:40:16 → 01:40:20 แล้วก็ฮอร์โมนแบบเนี้ย
01:40:20 → 01:40:24 นะโอ้นั้นที่ที่ที่แก้ๆกันนี่มันก็ไม่ได้
01:40:24 → 01:40:28 เกาไม่ได้ถูกจุดเลยพี่หมอคือมันก็ถูกห้าม
01:40:28 → 01:40:32 นู่นห้ามนี่ในช่วงแรกๆเนี่ยอาจจะต้องห้าม
01:40:32 → 01:40:36 อาจจะต้องแบบโอ๊ยเอ่อต้องตัดาฟสนิทต้อง
01:40:36 → 01:40:38 อย่างงู้นอย่างงี้เนี่ยแต่มันเราไม่ได้ทำ
01:40:38 → 01:40:43 ไปตลอดชั่วชีวิตชั่วนิรันดรนะเราก็ทำไป
01:40:43 → 01:40:45 ระยะช่วงนึงแล้วหลังจากนั้นเราต้อง
01:40:45 → 01:40:48 metabบic fibility ค้าโปรตีนคาร์โบไฮเดรต
01:40:48 → 01:40:52 กินไขมันกินครบนะฮะนะเออแต่ก็ต้องอยู่ที่
01:40:53 → 01:40:56 สัดส่วนปริมาณอยู่ที่เมบลิสเตตัสของแต่ละ
01:40:56 → 01:41:01 คนแล้วก็อยู่ในเงื่อนไขของไลฟ์สไตล์เออ
01:41:01 → 01:41:03 พี่หมอคุณแต่งถามวุ้นกบครับวุ้นกบมี
01:41:03 → 01:41:06 แพคตินเนี่ยควรเอามากินมื้อไหนถ้าต้องการ
01:41:06 → 01:41:11 ไฟเบอร์ให้มาเก็บ LDL ในลำไส้ครับอ๋อกิน
01:41:11 → 01:41:14 ได้ทุกมื้อฮะนะแต่ส่วนใหญ่เจะกินระหว่าง
01:41:14 → 01:41:18 มื้อกันเ้าจะกินระหว่างมื้อกันนะอ๋อวุ้น
01:41:18 → 01:41:23 กบใช่มั้ยครับใช่ฮะอ่าอ่าหมุนกบมีเพคติน
01:41:23 → 01:41:28 นะเพคตินเป็นเส้นใยละลายน้ำอ่าที่เป็น
01:41:28 → 01:41:31 อันดับ 1 ในร่างกายมนุษย์นะฮะที่
01:41:31 → 01:41:34 จุลินทรีย์เชอบที่สุดนะฮะเส้นใยละลายน้ำ
01:41:34 → 01:41:37 เนี่ยนะส่วนใหญ่มันก็อยู่ในผักหัวอาจจะมี
01:41:37 → 01:41:40 ผักใบด้วยนะแต่ผักหัวมีเส้นใยละลายน้ำ
01:41:40 → 01:41:44 เยอะนะจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1 เปกตินนะ
01:41:44 → 01:41:48 เพคตินเนี่ย 2 อินดูลิน 3 เบต้ากูแคนนะฮะ
01:41:48 → 01:41:50 อ่าเพคตินนี่ก็จะอยู่ในวุ้นกบนอกจากนั้น
01:41:50 → 01:41:53 ก็จะอยู่อยู่ในวุ้นกบเเรียกว่าอ้ายหยูนะ
01:41:53 → 01:41:56 เป็นเป็นคล้ายๆมะละกอของไต้หวันแต่มัน
01:41:56 → 01:41:58 เป็นเม็ดของมันน่ะนะฮะมีเสิร์ฟในเครื่อง
01:41:58 → 01:42:01 บินนะฮะนะแต่นอกจากนั้นเนี่ยเพคตินมันจะ
01:42:01 → 01:42:07 อยู่ในผลไม้นะฮะแอปเปิ้ลเ่อมะละกอเอ่อแต่
01:42:07 → 01:42:10 ว่าพวกนี้เนี่ยเราก็พูดผ่านๆเพราะมันคือ
01:42:10 → 01:42:12 ผลไม้แล้วผลไม้ส่วนใหญ่มันแปรรูปไปหมด
01:42:12 → 01:42:15 แล้ว
01:42:15 → 01:42:19 นะทีนี้อันนี้มาอะไรอ่ะเอ่ออินดูลิน
01:42:19 → 01:42:21 อินดูลินก็แก่นตะวัน
01:42:21 → 01:42:25 แวอโชคอะไรเงี้ยนะฮะแต่อินโดนินเนี่ยมัน
01:42:25 → 01:42:30 ก็ยังมีในหอมใหญ่มีในอะไรอีกอ่ะเอ่อมีใน
01:42:30 → 01:42:35 ผักนะอ่ามีอ่ะมีด้วยนะแต่แก่นตะวันเนี่ย
01:42:35 → 01:42:39 อันดับ 1 ที่มากินกันนะฮะแต่มันถึงมีเป็น
01:42:39 → 01:42:44 บางเดือนนะฮะนะเบต้ากูแคนก็อยู่ในอะไรอ่ะ
01:42:44 → 01:42:48 อยู่ในข้าโอตเงี้ยมีเบต้ากูแคนเออข้าโอต
01:42:48 → 01:42:50 วินัวเนี่ยมี
01:42:50 → 01:42:55 นะแต่ส่วนใหญ่แปลกตินนะฮะนะใครมีเปกติน
01:42:55 → 01:43:01 กินนะก็เกิดแล้วอย่างเซเรียมฮักเหรอครับ
01:43:01 → 01:43:04 เซเลียมฮักนี่จะเป็นไฟเบอร์อะไนะไม่ละลาย
01:43:04 → 01:43:08 น้ำฮะไม่ละลายน้ำอ๋อไม่ละลายจ้ะไม่ละลาย
01:43:08 → 01:43:12 น้ำนะอื
01:43:12 → 01:43:16 ครับผมก็มันก็ไม่ต้องกินเยอะถ้ากินเยอะ
01:43:16 → 01:43:19 บางทีเดี๋ยวมันจะท้องผูกแล้วมันจะอืดมัน
01:43:19 → 01:43:23 มันจะอืดนะเราคนนึงแหละเราเคยกินไซเรียม
01:43:23 → 01:43:28 ฮักแล้วเราบ๊ายบายเลยนะมันอืด
01:43:28 → 01:43:34 นะก็กินเส้นใยละลายน้ำดี
01:43:34 → 01:43:38 กว่ามีใครถามอะไรมั้ยเรื่องเก๊าเรื่องกด
01:43:38 → 01:43:43 ยูริกเออ
01:43:43 → 01:43:46 ยังไม่มีครับพี่หมอเออผมเคยอ่านเจอใน
01:43:46 → 01:43:49 กลุ่มของกลุ่ม Body Builder ครับที่ว่า
01:43:49 → 01:43:51 มีคนนึงอ่ะเขาบอกว่าเค้าก็มีปัญหาเรื่อง
01:43:51 → 01:43:55 เก๊าสูงเอ้ยไม่ใช่ไม่คือยูริกสูงเค้าก็
01:43:55 → 01:43:58 บอกเพยายามลดมาหลายปีเค้าก็ไม่ลดสุดท้ายเ
01:43:58 → 01:44:01 บอกเไปฉีดอะไรนะฮอร์โมนเทสโตสเตรนเบอกว่า
01:44:02 → 01:44:05 พอไปฉีดแล้วเนี่ยปรากฏว่าไม่นานยูริคเค้า
01:44:05 → 01:44:07 ก็ลดลงเลยอันนี้มันเกี่ยวข้องกันยังไงอ่ะ
01:44:08 → 01:44:10 ครับ
01:44:10 → 01:44:14 เอ่อก็เกี่ยวกับที่ตับนี่แหละนะเกี่ยวกับ
01:44:14 → 01:44:18 ที่ตับนี่แหละนะเพราะว่าจริงๆช่องทางอ่ะ
01:44:19 → 01:44:22 ในการขับยูริเนี่ยนะมันขับออกที่ไตนะมัน
01:44:22 → 01:44:26 ขับออกที่ไตอ่ะ 70% นะแต่มันจะมีช่องทาง
01:44:26 → 01:44:31 การขับที่ตับประมาณ 20% นะ 20 ไม่เกิน 30%
01:44:31 → 01:44:37 นะแต่นะในกรณีที่ที่ร่างกายจะถูกจะจะมี
01:44:37 → 01:44:40 การกระตุ้นร่างกายเนี่ยให้ขับออกเนี่ยนะ
01:44:40 → 01:44:44 อันเนี้ยนะถ้าเกิดถ้าเกิดเรามีแนวทางใน
01:44:44 → 01:44:47 การขับออกทางระบบน้ำดีเนี่ยนะมันก็จะมีกด
01:44:47 → 01:44:51 ยูริไปด้วยนะเพราะมันละลายน้ำนะมันจะไป
01:44:51 → 01:44:57 ด้วยกับระบบน้ำดี
01:44:57 → 01:45:01 นะก็อันนี้ก็ไม่รู้อ่ะว่าเค้าไปฉีด
01:45:01 → 01:45:05 ฮอร์โมนเหรอนะอืมอ้าอ่าเจอมันเป็นอย่าง
01:45:05 → 01:45:09 งั้นนะครับฉีดฮอร์โมนเทสโตสเตโรน
01:45:09 → 01:45:13 อือย่างนึงที่เรารู้เลยก็คือมันเพิ่ม LDL
01:45:13 → 01:45:16 receptor ที่ต่เพราะฉะนั้นคอเลสเตอรอลลด
01:45:16 → 01:45:21 ยูริลดนะเอ่อคีโตนรถนะมันก็ไปหมดแหละไป
01:45:21 → 01:45:24 กันทางระบบนั้นดีเนี่ยมันเฮโรสารภาไปด้วย
01:45:24 → 01:45:27 กันเนี่ยแต่หมอก็ยังไม่รู้meanisึมนะว่า
01:45:27 → 01:45:30 มันจะไปยังไงนะฮะ
01:45:30 → 01:45:33 อืครับ
01:45:33 → 01:45:38 คือเราต้องเข้าใจเรื่องตับดีๆนะฮะถ้าเรา
01:45:38 → 01:45:41 กิน Low Cฟ High Good Fat เนี่ย Good
01:45:41 → 01:45:43 Fat เนี่ยคือ
01:45:43 → 01:45:47 Signaling เอ่อมันเป็นสัญญาณนะฮะมันเป็น
01:45:47 → 01:45:50 มันเป็นเค้าเรียกว่าอ่า signal sensor
01:45:50 → 01:45:53 อ่ะนะฮะมันเป็นสัญญาณเซ็นเซอร์ที่สำคัญ
01:45:53 → 01:45:56 ที่สุดเลยคือไขมันนะฮะ Good Healthy Fat
01:45:56 → 01:46:01 เนี่ยคือSignลเซ็นเซอร์ของตับของตับตออับ
01:46:01 → 01:46:06 ตับนะฮะนะตับเนี่ยเราจะไม่ดีตับเราจะเป็น
01:46:06 → 01:46:10 อะไรก็ตามหรือเหมือนของเหน่งอ่ะนะที่บอก
01:46:10 → 01:46:14 ว่าอะไรอ่ะตับเป็นไวรัส B ไวรัส C หรือ
01:46:14 → 01:46:16 ตับมันอย่างโง้นอย่างงี้เอนไซม์มันไม่
01:46:16 → 01:46:21 สมดุลต่างๆเนี่ยนะเลือกใส่ไขมันดีๆให้กับ
01:46:21 → 01:46:24 ตับเพราะตับเขาจะชอบคือตับน่ะหมอบอกแล้ว
01:46:24 → 01:46:27 ว่าเซลล์ตับเนี่ยการใช้พลังงานเนี่ยเใช้
01:46:27 → 01:46:30 อะไรไม่ได้เลยนอกจากฟรี fatty acซิดหรือ
01:46:30 → 01:46:33 กดไขมันอิสระนะน้ำตาลใช้ไม่ได้คีตนใช้ไม่
01:46:33 → 01:46:38 ได้ฟุกโตสไม่ได้นะแล้วก็ไอ้พวกอะไรอ่ะ
01:46:38 → 01:46:41 เอ่อสายสั้นสายกลางอะไรก็ใช้ไม่ได้หมดนะเ
01:46:41 → 01:46:44 ต้องเปลี่ยนหมดนะเออเพราะฉะนั้นสิ่งที่
01:46:44 → 01:46:48 เขาใช้ได้ก็คือกดไขมันอิ่มตัวสายยาวสาย
01:46:48 → 01:46:53 ยาวนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราต้องใส่กดไข
01:46:53 → 01:46:56 มันอิ่มตัวสายยาวเข้าไปทางระบบน้ำเหลือง
01:46:56 → 01:47:00 แล้วให้ไปที่ตับแบบพอดีพอดีแล้วตับเนี่ย
01:47:00 → 01:47:04 เขาจะได้เป็นเาจะได้signalนลคือตับเนี่ย
01:47:04 → 01:47:08 เขาจะไวต่อการตอบสนองต่อไขมันดีเท่านั้น
01:47:08 → 01:47:11 นะผลจากการตอบสนองต่อไขมันดีของตับเมื่อ
01:47:11 → 01:47:16 ได้รับsignนลที่ดีที่เหมาะสมนะตับจะเผาๆ
01:47:17 → 01:47:21 ่ะฮะนะตับจะเผาผลาญพลังงานเมื่อตับเป็น
01:47:21 → 01:47:23 ตัวจุดประกายการเผาผลาญพลังงานหรือเป็น
01:47:24 → 01:47:26 เตาเผาผลาญพลังงานที่cซ็นเตอร์ของร่างกาย
01:47:26 → 01:47:30 แล้วเนี่ยร่างกายก็จะปรับๆเข้าสู่โหมดของ
01:47:30 → 01:47:35 การสลายเผาผลาญพลังงานไปเรื่อยๆๆๆๆๆอ่า
01:47:35 → 01:47:38 แต่ตับเนี่ยเค้าเผาได้เฉพาะ Fat adapted
01:47:38 → 01:47:43 นะฮะอ่านะแต่ส่วนอื่นๆของร่างกายเนี่ยนะ
01:47:43 → 01:47:46 จะเกิดเผาผลาญได้ทั้ง Fat Adapt และคีโต
01:47:46 → 01:47:51 Adดapไปด้วยแต่จะต้องมีตับเป็นจุดนำชนวน
01:47:51 → 01:47:54 ในการเผาก่อนซึ่งตับจะทำอย่างนี้ได้ตับจะ
01:47:54 → 01:47:58 ต้องได้ signal เซ็นเซอร์จากไขมันดีเท่า
01:47:58 → 01:48:02 นั้นนะฮะแล้วไขมันดีก็จะต้องอยู่ในรูปแบบ
01:48:02 → 01:48:06 ของความเป็นสัดส่วนและปริมาณโดยเฉพาะสัด
01:48:06 → 01:48:09 ส่วนสำคัญที่สุดเพราะฉะนั้นใครก็ตามที่
01:48:09 → 01:48:11 กิน Low Cฟ High Fat หรือ High good
01:48:11 → 01:48:15 Fat oil อะไรก็ตามแล้วมันไปบวกลบคูณหาร
01:48:15 → 01:48:19 แล้วมันเกิดความสมดุลพอดีที่ตับเจะได้
01:48:19 → 01:48:22 เอ่อไขมันกดไขมันสายยาวที่เป็นไขมันอิ่ม
01:48:22 → 01:48:26 ตัวเนี่ยนะเข้ามาแล้วก็มาเผาเงี้ยนะอ่า
01:48:26 → 01:48:31 เราก็จะดีวันดีคืนดีวันดีคืนนะฮะเนี่ยนะ
01:48:31 → 01:48:33 มันก็ต้องทุกอย่างมันต้องจุดประกายที่ตับ
01:48:33 → 01:48:37 ให้ได้ดีกว่าเลยเพราะฉะนั้นอย่าประมาทและ
01:48:37 → 01:48:43 อย่าเคือบแคงสงสัยนักเกี่ยวกับว่าเอ่อใส่
01:48:43 → 01:48:47 ไขมันน้ำหมอะไรเข้าไปทำไม
01:48:47 → 01:48:50 นะคือคนส่วนใหญ่ในโลกนี้เนี่ยแม้แต่ใน
01:48:50 → 01:48:54 เมืองไทยนะฮะเกิน 90% เนี่ยนะหรือมีไม่
01:48:54 → 01:48:58 ถึง 10% หลอกที่รู้เรื่องความสำคัญของพวก
01:48:58 → 01:49:02 ไขมันดี good healthy fat ยังไงยังไง
01:49:02 → 01:49:05 เขาก็ยังมองว่าความเป็นน้ำมันเนี่ยไม่ว่า
01:49:06 → 01:49:08 จะเป็นน้ำมันพืชน้ำมันสัตว์นะฮะนะโดย
01:49:08 → 01:49:11 เฉพาะน้ำมันพืชเนี่ยมันเป็นอะไรที่ไม่ถูก
01:49:11 → 01:49:18 ต้องไม่ดี process นะเลวนะฮะเอ่อเอ่อใช้
01:49:18 → 01:49:22 ไม่ได้นะฮะนะอะไรอย่างเงี้ยนะฮะมันมีส่วน
01:49:22 → 01:49:25 น้อยๆน่ะที่มันเป็นน้ำมันสกัดเย็นเนี่ยนะ
01:49:25 → 01:49:28 ซึ่งองค์ความรู้ตรงเนี้ยความเข้าใจรวม
01:49:28 → 01:49:30 ทั้งคุณประโยชน์เมองข้ามเมองไม่เห็นหรอก
01:49:31 → 01:49:34 ฮะนะเพงั้นเมองไม่เห็นเนี่ยอะไรที่ไปเป็น
01:49:34 → 01:49:37 อยู่ในขวดอยู่ในเอ่อรูปแบบสกัดเย็นสกัด
01:49:37 → 01:49:40 ร้อนต่างๆเค้าก็มองเป็นน้ำมันที่มันแปร
01:49:40 → 01:49:42 รูปแล้วนะฮะ
01:49:42 → 01:49:46 ใช่เค้าแปรรูปก็จริงแต่เเป็นการแปรรูปที่
01:49:46 → 01:49:50 ซุเปอรดีๆขึ้นไปอีกอ่ะนะมีอะไรมั้ล่ะนะ
01:49:50 → 01:49:54 คุณไม่เข้าใจเองน่ะนะคุณก็ไปเหมารวมกับอี
01:49:54 → 01:49:58 น้ำมันชั่วๆน้ำมันออนเชลที่เป็นขวดรดแรก
01:49:58 → 01:50:01 แจกแถมแล้วก็เอามาทอด
01:50:01 → 01:50:08 ผักกันในตลาดในอ่าทั่วๆไปอ่ะนะเออนะมัน
01:50:08 → 01:50:11 สกัดเย็นเค้าก็มีดีของเค้าแล้วเค้าดีใน
01:50:11 → 01:50:16 ระดับที่ดีกว่า Food เข้าไปอีกอ่ะนะถ้าใน
01:50:16 → 01:50:18 แง่ความสำคัญที่เขาจะเป็นแหล่งพลังงานโดย
01:50:18 → 01:50:22 เฉพาะของตับอ่ะนะหรือแม้แต่เป็นการเข้า
01:50:23 → 01:50:25 เอ่อช่องทางพลังงานทางระบบน้ำเหลืองแล้ว
01:50:25 → 01:50:28 ไปเป็นพลังงานในแง่ของการแพร่กระจายกับ
01:50:28 → 01:50:30 เซลล์ต่างๆ
01:50:30 → 01:50:35 ด้วยเราไม่เข้าใจเ้าเองอ่ะอืนะเราก็ไม่
01:50:35 → 01:50:39 รู้จะไปยกใต้ร้องแร่แห่กระเชอให้ใครก็ไม่
01:50:39 → 01:50:42 เห็นค้อยตามเรา
01:50:42 → 01:50:44 ได้
01:50:44 → 01:50:49 อ้าวครับพี่หมออืคุณเห่งถามเรื่องกรณีพระ
01:50:49 → 01:50:52 สงฆ์ครับปกติฉันได้ 18:00 น. - น.เนี่ย
01:50:52 → 01:50:56 หลังเที่ยน.ในชั้นปานะน้ำผลไม้ไม่มีกาน้ำ
01:50:56 → 01:51:00 มะเขือเทศได้ถ้าจะกินโลคไฮฟัตามแนวทางแบบ
01:51:00 → 01:51:05 นี้ทำได้มั้ครับทำได้แต่ต้องมีแล้วก็ต้อง
01:51:05 → 01:51:08 เลือกฉันตอนมื้อ
01:51:08 → 01:51:10 แรก
01:51:10 → 01:51:15 นะคือในมื้อแรกอ่ะนะก็ต้องเป็นการเลือก
01:51:15 → 01:51:19 ฉันที่ต้อง low to very low car นะ
01:51:19 → 01:51:22 คือมันไม่ได้อยู่ที่พระฮะถึงพระจะมีความ
01:51:22 → 01:51:25 รู้เนี่ยแต่เวลาไปบิณฑบาตแล้วประชาชนทั่ว
01:51:25 → 01:51:29 ไปก็ไม่รู้ด้วยเอออือเออเ้าไม่รู้ด้วยอ่ะ
01:51:29 → 01:51:33 นะฮะนะเออเพราะฉะนั้นมันเลยสังคมมันเลย
01:51:33 → 01:51:38 อยู่ยากในเมื่ออาหารมันแปรรูปไปแล้วอ่ะ
01:51:38 → 01:51:41 นะก็เหมือนหมอก็อยู่หมออย่างเงี้ยแล้วหมอ
01:51:41 → 01:51:43 ก็ต้องการอย่างงู้นต้องการอย่างเงี้ยแล้ว
01:51:43 → 01:51:47 มีความรู้อ่ะแต่ถึงถึงเวลาจริงๆเนี่ยนะ
01:51:47 → 01:51:50 เราไม่มีเวลาไปจัดหาอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
01:51:50 → 01:51:53 เราจะต้องทำยังไงอ่ะเราก็ต้องยอมกินนั่น
01:51:53 → 01:51:59 แหละนะฮะนะนะจะทำยังไงได้อ่ะใช่มั้นะเอ่อ
01:51:59 → 01:52:02 เหมือนกันแหละยิ่งพระก็ยิ่งมีข้อจำกัด
01:52:02 → 01:52:08 เยอะเลยเออยากๆากฮะนะก็ไม่รู้จะแก้ยังไง
01:52:08 → 01:52:10 เหมือน
01:52:10 → 01:52:12 กัน
01:52:13 → 01:52:18 เฮ้อก็จริงอ่ะครับจะเลือกกินก็ไม่
01:52:18 → 01:52:29 ได้มันไม่มีทางออกเลยอ่ะเออ
01:52:29 → 01:52:33 เฮ้อตอนนี้มีคนฟังเราไลฟ์เยอะมั้ยมีตั้ง
01:52:33 → 01:52:38 20 นะครับพี่หมออ๋อคือหมออยากจะบอกนะว่า
01:52:38 → 01:52:42 ปัญหาส่วนใหญ่ของโภชนาการาฟต่ำคือองค์
01:52:42 → 01:52:47 ความรู้นะฮะนะองค์ความรู้สำคัญมากๆเพราะ
01:52:47 → 01:52:50 ฉะนั้นครับต่ำในเมืองไทยเราเนี่ยมีมา
01:52:50 → 01:52:53 เนี่ยนะมีมาถ้าจะยึดตามเอ่อของกลุ่มอยู่
01:52:53 → 01:52:57 เกินร้อยเนี่ยก็ตั้งแต่ก็ประมาณ 10 ปี่ะ
01:52:57 → 01:53:02 ฮะก็ประมาณ 10 ปีนะเ่อตั้งแต่ปลายปลายปี
01:53:02 → 01:53:07 20117 เป็นต้นมานะเป็นต้นมาเนี่ยนะฮะ
01:53:07 → 01:53:11 เอ่อช่วงแรกๆเนี่ยมันก็เป็นการดังขึ้นมา
01:53:11 → 01:53:15 ของเรื่องคีโตนะนะแต่ว่าคีโตอันเนี้ยมัน
01:53:15 → 01:53:19 เป็นคีโตที่มีการต่อยอดมาจากคีโตในฝั่ง
01:53:19 → 01:53:24 ของแกนคีโตจนิdiอตนะฮะนะแล้วหลังจากนั้น
01:53:24 → 01:53:29 ก็จะมาเป็นคีโตในฝั่งของไอ้ animal diet
01:53:29 → 01:53:32 ไปนะโดยทางกลุ่มอยู่กนรอยแต่อยู่กันรอย
01:53:32 → 01:53:34 ตอนแรกๆก็เป็นคีโตแหละนะฮะเป็นอยู่ประมาณ
01:53:34 → 01:53:39 3 ปีนะแล้วก็มาเปลี่ยนแนวไปในช่วงปี 2020
01:53:39 → 01:53:42 นะฮะอาจารย์อาจารย์ปริวัฒนก็เปลี่ยนนะมา
01:53:42 → 01:53:47 เป็นแบบค่อนข้างซีดีจ๋าเลยอ่ะนะฮะอืแล้ว
01:53:47 → 01:53:50 หลังจากนั้นก็ค่อยๆปรับmodิายมานิดเรื่อย
01:53:50 → 01:53:52 มาเรื่อยๆ
01:53:52 → 01:53:57 นะก็อยากจะบอกว่านะองค์ความรู้ในแง่ของ
01:53:57 → 01:54:02 low carฟ low cฟหรือคีโตก็ตามนะแต่องค์
01:54:02 → 01:54:04 ความรู้หลักๆเนี่ยเราจะยึดในแนวของ low
01:54:04 → 01:54:07 cฟและเป็น low cฟ high high high high
01:54:07 → 01:54:09 good healthy fat
01:54:09 → 01:54:15 นะเหล่านี้ต้องมีรายละเอียดต้องมีไส้ใน
01:54:15 → 01:54:19 ต้องมีการรู้เรื่องดีๆลึกๆเลยนะของคาฟของ
01:54:19 → 01:54:25 โปรตีนของไขมันเออเนี่ยหลักๆเลยอ่ะนะฮะนะ
01:54:25 → 01:54:28 หมอเคยฉายไปหลายครั้งแล้วในหลายกลุ่มแล้ว
01:54:28 → 01:54:30 ล่ะนะฮะว่ารายละเอียดของคาเป็นยังไงราย
01:54:30 → 01:54:32 ละเอียดโปรตีนเป็นยังไงรายละเอียดของไข
01:54:32 → 01:54:36 มันเป็นยังไงนะั้นก็ตามเท่าที่ดูในเพจ
01:54:36 → 01:54:40 ต่างๆเท่าที่ดูการแชร์รูปอาหารหรือการ
01:54:40 → 01:54:43 แชร์ในเรื่องราวที่เขาบอกถึงวิธีการที่
01:54:43 → 01:54:45 เขากินอะไรต่างๆเนี่ยก็ยังถือว่ากินไม่
01:54:45 → 01:54:49 ถูกนะฮะกินไม่ถูกกินไม่เป็นเอออ่าเอ่อกิน
01:54:49 → 01:54:53 แล้วมันยังไม่ใช่อ่ะนะฮะนะเ่อเพราะฉะนั้น
01:54:53 → 01:54:57 ในระยะยาวๆยาวๆยาวๆไปเลยเนี่ยก็จบเเรียก
01:54:57 → 01:55:01 ว่าอย่างนั้นนะฮะไปต่อยากนะเนี่ยมันมัน
01:55:01 → 01:55:06 ยากมันยากนะก็ไม่รู้จะทำยังไงอว่าสุดท้าย
01:55:06 → 01:55:09 แล้วที่โพสต์ถามกันเรื่องราวต่างๆอะไร
01:55:09 → 01:55:13 ต่างๆเหล่าเนี้ยเพราะอะไรฮะก็เพราะว่ากิน
01:55:13 → 01:55:18 กอิงกินไม่ถูกกินแล้วมันมีตัวสะท้อนบอก
01:55:18 → 01:55:22 ออกมาว่ามันไม่ใช่นะคุณยังกินไม่เป็นนะฮะ
01:55:22 → 01:55:25 ถึงคุณจะกินมา 5 ปี 10 ปีก็เหอะโอ๊ยใน
01:55:25 → 01:55:27 ต่างประเทศเนี่ยเยาวนานกว่าเราเนี่ยแต่
01:55:27 → 01:55:30 ค่าแลบที่เ้าโชว์มาเนี่ยมันไม่เป็นมันไม่
01:55:30 → 01:55:35 ใช่มันไม่ถูกนะฮะนะอ่าอย่างเคสนี้นะฮะเคส
01:55:35 → 01:55:38 นี้เอาหมอเล่าคร่าวๆก็ได้อันนี้ก็จะมีการ
01:55:38 → 01:55:42 แชร์ผลแลบออกมาว่าเออนี่นะเนี่ยปีเนี้ยปี
01:55:42 → 01:55:45 เนี้ยได้ไปตรวจแลบอันเนี้ยนะเอ่อคนเก็จะ
01:55:45 → 01:55:50 กินในแนวของเอ่อ KCD นี่แหละนะฮะนะก็กิน
01:55:50 → 01:55:55 มาประมาณ 9 ปีะนะแรกๆก็ดีอ่ะนะฮะนะเอ่อ 2
01:55:55 → 01:55:59 ปีที่แล้วเนี่ยหมอก็ยังเอาแลABที่เ้าเป็น
01:55:59 → 01:56:03 เมาบลิอ่าเป็นแบบเค้าเรียกคีโต ADAP น่ะ
01:56:03 → 01:56:07 มาโชว์ให้ดูนะฮะนะค่าเหล่าเนี้ยอยู่ใน
01:56:07 → 01:56:11 เกณฑ์ดีไปหมดเลยนะเขียวไปหมดเลยนะแต่อัน
01:56:11 → 01:56:13 นี้ก็คือย่างเข้าปีที่ 9 ที่ 10 ของเขา
01:56:13 → 01:56:17 ที่เขากินเนี่ยนะอ่าเตรวจแลบปีละครั้งล่า
01:56:17 → 01:56:21 สุดที่ตรวจแลบมานะเมื่อปลายๆเดือนรู้สึก
01:56:21 → 01:56:23 จะต้นเดือนนี้แหละต้นเดือนมีนาคมนี่แหละ
01:56:23 → 01:56:26 ผลมันออกมาเป็นอย่างเงี้ฮะเนี่ยนะพอมา
01:56:26 → 01:56:28 เข้าตารางแล้วมันกลายเป็นอย่างเงี้ยฮะจาก
01:56:29 → 01:56:32 คนที่เคยคีโตนadดaptแล้วก็กลายมาเป็น
01:56:32 → 01:56:35 อย่างเงี้ยนะคนนี้เป็นสายพุงตับนะฮะเป็น
01:56:35 → 01:56:41 สายพุงตับอเนี่ยก็จะมีปัญหาที่มันดูแดงๆ
01:56:41 → 01:56:45 แดงๆนะฮะนะอันนี้ก็เป็นการกินแบบ KCD
01:56:45 → 01:56:48 ซึ่งในปัจจุบันก็มีการmodิายไอ้พวก
01:56:48 → 01:56:52 เบอร์รี่แล้วก็พวกอ่าพืชผักดองพืชผัก
01:56:52 → 01:56:56 ใบอ่าบางอย่างเข้าไปอีกเยอะเลยนะฮะเราจะ
01:56:56 → 01:57:01 เห็นว่าการทำงานของตับเริ่มไปะนะฮะนะ ALT
01:57:01 → 01:57:04 เนี่ยเกิน 25 ะ 37 นะอัตราส่วนก็ต่ำกว่า 1
01:57:04 → 01:57:10 นะฮะแล้วตรงเนี้ยนะฮะนะตรงเนี้ยนะเนี่ยมี
01:57:10 → 01:57:14 ต่ำๆสูงๆอะไรเงี้ยนะฮะนะคือไม่ได้เขียว
01:57:14 → 01:57:18 หมดแล้วนะไม่ได้เขียวดีอันนี้ 200 นิดๆนะ
01:57:18 → 01:57:21 คราวที่แล้วรู้สึกจะประมาณ 210 นะฮะนะ
01:57:21 → 01:57:23 เอ่อคราวที่แล้วนี่ก็ LDL ของเขาก็ประมาณ
01:57:24 → 01:57:29 99 นะฮะ HDL ก็ประมาณเกือบ 90 นี่แหละนะ
01:57:29 → 01:57:29 แล้ว
01:57:29 → 01:57:34 ไตกีซไตกรีซก็น่าจะประมาณ 50 หรือเปล่า 40
01:57:34 → 01:57:35 กว่า 50
01:57:36 → 01:57:38 นะแต่อันนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่าง
01:57:38 → 01:57:42 เงี้ยนะเนี่ยแล้วค่าเนี้ยไก่สิหารที่ HDL
01:57:42 → 01:57:46 ก็น้อยกว่า 0.5 นะน้อยกว่า 0.5 เนี่ยแปล
01:57:46 → 01:57:49 ว่าตัวไตีซนมันน้อยตัวตั้งมันน้อยฮะนะ
01:57:49 → 01:57:52 แล้วตัวหารมันเยอะเนี่ยนะแปลว่าขาดพลัง
01:57:52 → 01:57:55 งานคือพลังงานมันไม่ร่างกายมันไม่ได้พลัง
01:57:56 → 01:57:58 งานน่ะคอtisซอลออกมาว่า energy im
01:57:58 → 01:58:03 balance พลังงานไม่พอไม่ถึงไม่ใช่นะผิด
01:58:03 → 01:58:05 อ่าอย่างเงี้ยนะ
01:58:05 → 01:58:10 ฮะเ่อ pyg ก็ดูยังจะดีอยู่นะแต่ระบบพลัง
01:58:10 → 01:58:14 งานเลมnเนี่ยสูงกว่า 19 นะฮะเนี่ย
01:58:14 → 01:58:18 แล้วก็มาเป็นตัว Apple B เนี่ยนะก็ติดลบ
01:58:18 → 01:58:23 ไปนะฮะนะซึ่งการติดลบแบบเนี้ยนะเอ่อมัน
01:58:23 → 01:58:27 เป็นภาวะสารอาหารมันเกินอ่าสารอาหารมัน
01:58:27 → 01:58:31 เกินนะเพราะคนนี้นี่เค้าก็ไม่ได้กินอยนะ
01:58:31 → 01:58:35 ฮะอ่าระบบพลังงานในแง่ของพลังงานที่มัน
01:58:35 → 01:58:37 เป็น good healthy fat มันไม่ใช่มันไม่
01:58:37 → 01:58:40 ได้
01:58:40 → 01:58:44 อืเอ่อตัวอื่นๆโอ
01:58:44 → 01:58:47 โหอ๋ออันนี้ไม่มีไม่
01:58:47 → 01:58:52 ไม่นะเนี่ยก็คือมีปัญหาเรื่องพลังงานเอ่อ
01:58:52 → 01:58:56 เนี่ยตัวความเสี่ยงของ CVD เนี่ยคนนี้จะ
01:58:56 → 01:58:58 มีปัญหาเรื่องข้างล่างเนี้ยนะฮะนะก็จะ
01:58:58 → 01:59:02 เริ่มมีปัญหาเรื่องไตหาเรื่องไตีซนอะไร
01:59:02 → 01:59:04 พวก
01:59:04 → 01:59:09 นี้คือพนักงานไม่ไม่ผิดนะและไม่พอไม่พอ
01:59:09 → 01:59:14 สำหรับแนวทางในในปีนี้ในในปัจจุบันเนี่ย
01:59:14 → 01:59:18 นะเออก็ต้องมีการเปลี่ยนนะนะแต่ถ้าไม่
01:59:18 → 01:59:23 เปลี่ยนมันก็เดี๋ก็จะเกิดปัญหานะ
01:59:23 → 01:59:27 ฮะเนี่ยอันนี้ก็คือองค์ความรู้นะฮะแล้วก็
01:59:27 → 01:59:30 คือความเข้าใจในเรื่องของพลังงานเรื่อง
01:59:30 → 01:59:33 สรรหาเรื่องฮอร์โมนอ่าแล้วเรื่องของระบบ
01:59:33 → 01:59:37 อัตโนมัติต่างๆของร่างกายอ่ะอ่าที่จะต้อง
01:59:37 → 01:59:41 นอนที่จะต้อง
01:59:41 → 01:59:47 เอ่อมีมีมีการพัฒนากล้ามน้งกล้ามเนื้อ
01:59:47 → 01:59:50 อะไรต่างๆให้ขึ้นมานะมีการสร้างกล้าม
01:59:50 → 01:59:53 เนื้ออย่าง
01:59:53 → 01:59:59 เงี้ยก็อันนี้ก็ก็ไม่รู้ล่ะนะมันมันก็พูด
01:59:59 → 02:00:03 ยากนะฮะนะเพราะว่าเค้าก็ไอเดียความเชื่อ
02:00:04 → 02:00:07 ของเขาไปอย่างนั้นนะฮะคือแลบเนี่ยหมออยาก
02:00:07 → 02:00:10 จะบอกว่าเอ่อการตรวจแลบเนี่ยจะเป็นตรวจ
02:00:10 → 02:00:13 ประจำปีหรือตรวจบ่อยบ่อยทุกๆ 3 เดือน 4
02:00:13 → 02:00:17 เดือนอะไรก็ตามนะแลบเนี่ยมันจะบอกถึงกิน
02:00:17 → 02:00:21 กออินกลิ่นอ่าลองลงมาก็จะเป็นเรื่องอื่นๆ
02:00:21 → 02:00:24 น่ะเรื่องนอนเรื่องความเครียดเรื่องเอ่อ
02:00:24 → 02:00:26 ออกแรงออกกำลังอะไรอย่างงี้นะฮะนะแต่มัน
02:00:26 → 02:00:29 จะสะท้อนถึงเรื่องกินก่อนกินก็คือพลังงาน
02:00:29 → 02:00:33 กับสารอาหารอ่ากินก็คือพลังงานกับสาร
02:00:33 → 02:00:37 อาหารนี่แหละพี่หมอไตกีซรายต่ำมากๆเนี่ย
02:00:38 → 02:00:41 ต่ำกว่า 40 เนี่ยมันคือเริ่มขาดพลังงาน
02:00:41 → 02:00:44 แล้วใช่มั้ยครับสัญญาณใช่ฮะขาดพลังงาน
02:00:45 → 02:00:50 แล้วก็พูดไปหยกๆอ่ะนะอืเออคือถ้า 40 อ่ะ
02:00:50 → 02:00:54 หรือ 35 ขึ้นไปอ่ะ 35 40 ขึ้นไปเงี้ย
02:00:54 → 02:00:59 นะอันนี้คือตับนะฮะตับเนี่ยมันต้องได้
02:00:59 → 02:01:03 ไตรกีซายนะแล้วก็ระดับของไตรกิซ์ดที่
02:01:03 → 02:01:07 สะท้อนลงมาในการกินแบบ low cฟเนี่ยมัน
02:01:07 → 02:01:09 สะท้อนถึงอะไรถึง good healthy fat ที่
02:01:10 → 02:01:13 เป็นไขมันอินตัวสายยาวเราอ่ะฮะนะครับว่า
02:01:13 → 02:01:14 มันควรจะพอ
02:01:14 → 02:01:19 ดีอ่าแค่ไหนอ่ะอย่างน้อยก็คือตับนะจะต้อง
02:01:20 → 02:01:23 ได้นิวตรนเซ็นเซอร์อันเนี้ยนะก็คือไขมัน
02:01:23 → 02:01:27 ดีนี่แหละนะที่มันพอแต่ถ้าอย่างเงี้ยตับ
02:01:27 → 02:01:34 มันไม่พอนะอืนะก็คือไตรคีซลายที่ติดมา
02:01:34 → 02:01:38 ทั้ง 50 40 เนี่ยนะความหมายก็คือไขมัน
02:01:38 → 02:01:42 อิ่มตัวสายยาวนะที่จะเข้าสู่ระบบน้ำ
02:01:42 → 02:01:45 เหลืองเพเขไปทางระบบน้ำเหลืองเข้าทางระบบ
02:01:45 → 02:01:49 เลือดไม่ได้นะแต่จะมาเข้าตับทางระบบ
02:01:49 → 02:01:52 Portal Aอี่นะเส้นเลือดแดงนะที่จะเข้า
02:01:52 → 02:01:56 สู่ตับเพื่อไปเป็นพลังงานให้กับตับใช้
02:01:56 → 02:01:59 เพื่อไปเป็นพลังงานให้กับตับใช้เพราะว่า
02:01:59 → 02:02:02 โครงสร้างของตับเนี่ยเขาก็ต้องใช้พลังงาน
02:02:02 → 02:02:05 แล้วก็ใช้ได้เฉพาะไตีซนด์หรือฟีฟ FA มา
02:02:05 → 02:02:07 จากไตีซนด
02:02:07 → 02:02:11 พอมั้ล่ะนะถ้าพอพอมันจะต้องเกินน่ะมัน
02:02:11 → 02:02:15 ต้องเกิน 40 แล้วพอเมื่อเกิน 40 ปุ๊บ
02:02:15 → 02:02:17 เนี่ยค่าตัวเนี้ยเวลาหารแล้วเนี่ยมันจะ
02:02:17 → 02:02:22 เกิน 0.5 5 นะฮะแต่เนี่ยดูแล้วมันไม่พอ
02:02:22 → 02:02:26 อ่ะนะก็คือตับมันขาดพลังงานพอตับมันขาด
02:02:27 → 02:02:30 พลังงานเอ้ยโทษทีเนี่ย 37 เนี่ยมันไม่พอ
02:02:30 → 02:02:34 แหมตัวเลขมันเท่ากันเลยเออพอมันพอมันไม่
02:02:34 → 02:02:38 พอเนี่ยตับมันก็มีอันเป็นไปอ่ะเห็นมนะตับ
02:02:38 → 02:02:42 เริ่มป่วยเริ่มไม่ดีนะเอ่อกินโลฟเนี่ย
02:02:42 → 02:02:45 เอนไซม์ HGPT เนี่ยมันต้องไม่เกิน
02:02:46 → 02:02:49 25 อันนี้มัน 37
02:02:49 → 02:02:53 เนี่ยมันก็อย่างงี้แหละรีเงี้เพราะว่านะ
02:02:53 → 02:02:56 Energy imbalance นะฮะ Energy มัน
02:02:56 → 02:03:00 imbalance นะโดยเฉพาะที่ตัดที่ตัดนะ
02:03:00 → 02:03:04 ต้องingต้องเพิ่มขึ้นมาให้เกิน 40 เข้าไป
02:03:04 → 02:03:09 40 50 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะอืแดงช่วง
02:03:09 → 02:03:14 ล่างพี่เอ่อขอบเขกิซลายเนี่ยนะก็ควรจะ
02:03:14 → 02:03:16 เกิน 40
02:03:16 → 02:03:22 นะแล้วก็อยู่ที่ไม่เกินนะเอ่อไม่เกิน 70
02:03:22 → 02:03:26 นะฮะนะออยู่ในระหว่างนี้แหละ 40 50 60
02:03:26 → 02:03:29 70 นะครับ
02:03:29 → 02:03:33 คือไตกิซไรดที่เกิน 88 เนี่ย
02:03:33 → 02:03:38 นะแล้วไอ้ตัวfast้เนี่ยนะอยู่ในเกณฑ์
02:03:38 → 02:03:42 ประมาณ 99 100 เนี่ยนะตัวเนี้ยนะ 99
02:03:42 → 02:03:44 หรือ 100 นะฮะหรือชิด 100 เนี่ยแล้วตัว
02:03:44 → 02:03:49 เนี้ยเกิน 88 เมื่อไหร่ตัว TYG มันจะพุ่ง
02:03:49 → 02:03:55 ขึ้นนะกลายเป็นเกิน 4 จุด 4.494.5 5 นะ
02:03:55 → 02:03:56 ฮะนะ
02:03:56 → 02:04:01 นะเนี่ยเพราะฉะนั้นลิมิตนะหรือขอบเขตของ
02:04:01 → 02:04:07 ไตีซเนี่ยก็ไม่ควรจะเกิน 88 นะเน้ำตาลไม่
02:04:07 → 02:04:11 ควรจะเกิน 85 ถ้าจะ optimal นะฮะนะแต่ค่า
02:04:11 → 02:04:17 ที่ดีที่สุดของไตกิซก็คือไม่เกิน 70 อื
02:04:17 → 02:04:21 อืส่วนไตคิซไรดที่ถึง 100 หรือเกิน 100
02:04:21 → 02:04:26 นี่ไม่ค่อยดีแล้วอ่ะนะก็มีเคสของใครอ่ะ
02:04:26 → 02:04:30 ของหมอแอร์เปล่านะเอ่อที่บอกว่าเคสนั้น
02:04:30 → 02:04:34 เนี่ยทำไมไตหารด้วย HDL ก็ต่ำกว่า 2 ค่า
02:04:34 → 02:04:37 อะไรปิดอะไรต่างๆจับหารกันก็ดีหมดเลยนะ
02:04:37 → 02:04:40 ครับแต่ตัวไตไรเ้า 90 กว่านะ
02:04:40 → 02:04:46 ฮะไตคิไรเยอะนะฮะนะเออแล้วก็คนนั้นก็รู้
02:04:46 → 02:04:50 สึกน้ำตาลก็ 90 กว่าพอมันไปเข้าแอป TYG
02:04:50 → 02:04:55 แล้ว TYG มันพุ่งไปอ่ะ 4.5 5 กว่านะก็
02:04:55 → 02:04:57 น่าจะมีภาวะดื้ออินซูลินของตับของกล้าม
02:04:57 → 02:05:01 เนื้อนะเกิดขึ้นซึ่งเ้าไม่healthตี้นะฮะ
02:05:01 → 02:05:04 ไม่ healthy นะเพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอกนะ
02:05:04 → 02:05:08 ที่จะมีบางสิ่งบางอย่างนะและไปเป็นปัจจัย
02:05:08 → 02:05:14 ที่ทำให้เกิดภาวะ asvd
02:05:14 → 02:05:17 ก็คือมันมี point อ่ะนะเวลาเราเข้าตาราง
02:05:17 → 02:05:20 แลบอะไรต่างๆเพราะหมอบอกแล้วว่าผลแลบ
02:05:20 → 02:05:22 เนี่ยคุณตรวจมาให้ละเอียดละเอียดเถอะ
02:05:22 → 02:05:26 เดี๋ยวมันจะฟ้องการกินของคุณออกมานะแล้ว
02:05:26 → 02:05:31 ถ้าเกิดเอ่อเราดูประจำๆอะไรเงี้ยเราก็จะ
02:05:31 → 02:05:35 เล่าออกมาเป็นฉากฉาบฉากแล้วก็จะถามกลับไป
02:05:35 → 02:05:37 นะเนี่ย
02:05:37 → 02:05:41 เออครับ
02:05:41 → 02:05:45 นะฮะเนี่ยก็จำเรื่องตับกับไขมันไว้ให้ดี
02:05:45 → 02:05:50 นะเอ่อตับในระบบพลังงานต้องมาก่อนนะเรา
02:05:50 → 02:05:54 ตับเชอบไขมันดี good healthy fat นะนี่
02:05:54 → 02:05:59 แหละนะจัดให้เค้าจัดด้วยจัดให้ดีๆนะฮะจัด
02:05:59 → 02:06:01 ให้เหมาะสมนะ
02:06:01 → 02:06:05 ฮะทีนี้อย่างของเหน่งเนี่ยอ่ามีปัญหา
02:06:05 → 02:06:10 เรื่องเป็นพาหะของไวรัสตับ B นะเอ่อก็
02:06:10 → 02:06:14 ต้องต้องปรับต้องปรับเรื่องไขมันนะฮะนะ
02:06:14 → 02:06:18 คือตับเนี่ยนะคุณจัดไขมันดีเอ่อเหน่ง
02:06:19 → 02:06:22 เนี่ยก็สวิงไปสวิงมาประมาณ 90 กับ 80
02:06:22 → 02:06:27 กรัมอยู่ใช่มั้ยนะเนี่ยอาจจะต้องปรับลดลง
02:06:27 → 02:06:32 นะแล้วก็แทนที่พลังงานไปด้วยคาฟดีๆอ่ะ
02:06:32 → 02:06:37 นะ Good to get Cฟน่ะนะฮะนะเอาคฟดีๆ
02:06:37 → 02:06:39 เลือกกินในระหว่างมื้อหรือมื้อเย็นเนี่ย
02:06:39 → 02:06:44 นะแทนแทนปริมาณพลังงานจากไขมันดีที่จะกิน
02:06:44 → 02:06:49 ตอนเช้านะ
02:06:49 → 02:06:54 ฮะคือดูแล้วเอนไซม์ตับดีขึ้นแต่ยังไม่
02:06:54 → 02:06:57 อยู่ในเกณฑ์ปกติแต่พอดีมันมีปัญหาเรื่อง
02:06:57 → 02:07:01 ของ Total คอเลสอลกับ LDL
02:07:01 → 02:07:05 นะแล้วก็ดูแล้ว HDL มันดูจะฟิกไปะนะฮะนะ
02:07:05 → 02:07:09 เพราะว่าทั้งยาเอยทั้งตัวไวรัสตับ B ที่
02:07:09 → 02:07:13 มันยังค่อนข้าง persistent อยู่อ่ะนะมัน
02:07:13 → 02:07:19 ก็มันตับมันได้แค่นี้แหละนะฮะนะกับไอ้ตัว
02:07:19 → 02:07:21 HDL เออ
02:07:21 → 02:07:25 อ่าอ่าเพราะฉะนั้นต้องมาแก้เรื่องพลังงาน
02:07:25 → 02:07:31 เรื่องไขมันเรื่องเรื่องน้ำตาลเรื่องาฟ
02:07:31 → 02:07:34 อืก็ลองไปใช้าฟ 5 อย่างที่ว่าไปเมื่อกี้
02:07:35 → 02:07:38 เนี่ยนะในเกณฑ์แก้ไอ้พวก LDL ไอ้พวกโรค
02:07:38 → 02:07:42 เก๊าเนี่ยนะฮะนะแป้งบัหวีดผสมแป้งดอก
02:07:42 → 02:07:46 กะหล่ำลองเข้าไปใน Shopee แล้วหาดูนะฮะนะ
02:07:46 → 02:07:49 มันเป็นออร์แกน่งออร์แกนิคด้วยนะเออเอ่อ
02:07:49 → 02:07:53 แล้วแป้งกีนัวนะฮะเอ่อแล้วก็แป้งบาเล่
02:07:53 → 02:07:56 แป้งบาเล่ไม่มีอ่ะหาแล้วไม่มีนะแป้งขวี
02:07:56 → 02:08:00 พวกนี้เค้ากินยังไงครับเอ่อเ้ามาทำเทำ
02:08:00 → 02:08:04 เมนูแบบไหนครับเ้ามาทำแรปอ่ะเ้ามาทำอะไร
02:08:04 → 02:08:07 อ่ะเอ่อต้นเคยไปแม็คโครแล้วเคยเห็นเ้าทำ
02:08:07 → 02:08:13 ไอ้นี่มั้ยแผ่นอะไรนะแผ่นแป้งปอติญ่านะ
02:08:13 → 02:08:15 แผ่นแป้งอะไรอ่ะเค้า
02:08:15 → 02:08:18 เรียกแป้งที่มันจะเป็นคล้ายๆโรตี
02:08:18 → 02:08:21 เม็กซิกันน่ะนะเออคล้ายๆอย่างงั้นแหละนะ
02:08:21 → 02:08:25 ฮะเอซาิ่าอะไรพวกนี้นะพวกนั้นจะมีชื่อเออ
02:08:25 → 02:08:30 นั่นแหละนั่นแหละเออนะหรือเค้าก็เอามาทำ
02:08:30 → 02:08:35 เอามาทำข้าวตูฮะข้าวตูทำเป็นมั้
02:08:35 → 02:08:40 ล่ะเออข้าวตูเนี่ยนะมันจะมีส่วนผสมอ่าของ
02:08:40 → 02:08:45 พวกแป้งอ่าเอ่อ
02:08:45 → 02:08:49 กะทิเอ่อแล้วก็มะพร้าวอ่ะนะเค้าเรียกให้
02:08:49 → 02:08:54 เข้าตูอ่ะเอออ่าแล้วก็มันจะมีสีเอ่อเค้า
02:08:54 → 02:08:57 ส่วนใหญ่เข้าใช้ข้าวไเบอรี่แป้งบัเวทแป้ง
02:08:57 → 02:09:02 ดอกกะหล่ำนะแล้วก็มะพร้าวนะอ่ามะพร้าวอ่ะ
02:09:02 → 02:09:07 มะพร้าวขูดอ่ะนะฮะนะเออแล้วก็กะทินะแล้ว
02:09:07 → 02:09:12 ก็ทำข้าวตูเออเนี่ยหน้าร้อนกินข้าว
02:09:12 → 02:09:16 ตูแต่ต้องทำเป็นน่ะทำไม่เป็นน่ะไอ้ตัวตัว
02:09:17 → 02:09:20 แบวีดควีนัวพวกนี้เราก็มาผสมกับข้าวแล้ว
02:09:20 → 02:09:23 ก็หุงเป็นเหมือนข้าวเลยก็ได้นะครับได้ถ้า
02:09:23 → 02:09:25 เราไม่ได้ซื้อเป็นแบบแป้งได้ถ้าเราไม่ใช้
02:09:25 → 02:09:27 แป้งคือแป้งเนี่ยส่วนใหญ่เอามาทำเป็น
02:09:28 → 02:09:32 อาหารระหว่างมื้อนะหรือเป็นอาหารว่างครับ
02:09:32 → 02:09:35 เออนะเหมือนเหมือนคล้ายๆ
02:09:35 → 02:09:39 เป็นอะไรนะเป็นกับแก้มอ่ะนะที่จะกินกับ
02:09:39 → 02:09:42 น้ำชงน้ำชาอะไรอย่างเงี้ยกินกับกาแฟอะไร
02:09:42 → 02:09:43 อย่างเงี้ย
02:09:44 → 02:09:49 นะเออ
02:09:49 → 02:09:53 นะอันนี้ก็คือเค้าเรียกเอ่อแป้งเชิงซ้อน
02:09:53 → 02:09:55 นะครับนะแต่ถ้าจะเป็นเต็มเมล็ดอะไรต่างๆ
02:09:55 → 02:09:59 เนี่ยมันก็ได้แต่โอเวลาเราหุงข้าวเนี่ย
02:09:59 → 02:10:02 เราก็มีข้าวโอ๊ตข้าวไลเบอร์รี่ข้าวกล้อง
02:10:02 → 02:10:06 อะไรต่างๆจมูกข้าวอะไรเนี่ยก็ดูเยอะละ
02:10:06 → 02:10:09 นะปีนัวอะไรอย่างเงี้ย
02:10:09 → 02:10:13 นะถ้าเป็นในกลุ่มแป้งๆอ่ะไbrี่ก็เป็นแป้ง
02:10:13 → 02:10:16 ก็มีนะฮะนะเออเปลี่ยนแปลงกันมาทำขนมครก
02:10:16 → 02:10:18 อ่ะ
02:10:18 → 02:10:21 เอออ่าสมมุติว่าเมีคำถามเงี้ยว่าอูยเนี่ย
02:10:21 → 02:10:25 เดินทางไปนะเดินทางไปอะไรเงี้ยนะไปท่งไป
02:10:25 → 02:10:27 เที่ยวหรือว่าไปต่างจังหวัดอะไรเงี้ยนะ
02:10:27 → 02:10:30 แต่ไม่มีอะไรกินเลยจะกินาฟที่ดีอย่าง
02:10:30 → 02:10:34 เงี้ยจะเลือกกินอะไรได้บ้างเออเออถ้าจะ
02:10:34 → 02:10:38 กินอยากจะหาคาฟดีๆสัก 3 อย่างเนี่ยนะเอา
02:10:38 → 02:10:41 ไปกินระหว่างทางหรือกินแก้มกินกันหงสกัน
02:10:41 → 02:10:48 หิวเนี่ยนะเอ๊เอ๊จะกินอะไรดีน้อเออเออจะ
02:10:48 → 02:10:54 กินอะไรดีเออลองลองลองเดาซิจะกินจะกิน
02:10:54 → 02:10:57 อะไรนะ
02:10:57 → 02:11:03 นะอันที่ 1 อ้าอันที่ 1 อันที่ 1 กินอะไร
02:11:03 → 02:11:06 ระหว่างทาง
02:11:06 → 02:11:10 นะ
02:11:10 → 02:11:14 เออไปไปไม่เป็น
02:11:14 → 02:11:17 ผมไม่กินถั่วครับเพราะว่าถั่วหาง่ายสุด
02:11:17 → 02:11:22 แล้วครับมันเทศไงฮะมันเทศเนี่ยที่มันม่วง
02:11:22 → 02:11:28 มันเทศเหลืองๆเหลืออมันเทศนี่แหละนะที่
02:11:28 → 02:11:32 เ้าไปเผามาหรือไปนึ่งมาอะไรอย่างเงี้ยนะ
02:11:32 → 02:11:35 เอ่อมันเทศน์เนี่ยหมายถึงตามตล่งตลาดตาม
02:11:35 → 02:11:40 ถนนลนแคมอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะมันเทศน์นะ
02:11:40 → 02:11:43 อ้าอันต่อมาอันต่อมาก็
02:11:43 → 02:11:47 คือเคยเห็นไอ้นี่มั้ยที่เค้าปิ้งๆอ่ะฮะ
02:11:47 → 02:11:50 ที่เค้าเป็นเค้าเรียกอะไรอ่ะที่มันเหมือน
02:11:50 → 02:11:50 มัน
02:11:51 → 02:11:57 น่ะที่มันเอาไปชุบแป้งมานิดนึงแล้วมาทา
02:11:57 → 02:12:01 มันน่ะแล้วมาปิ้งอ่ะฮะเอ้ยมาเป็นกลมๆอ่ะ
02:12:01 → 02:12:04 ปิ้งอ่ะไอ้มันเป็นมันสัปหลังปิ้งมั้ฮะ
02:12:04 → 02:12:08 อาจารย์ใช่คล้ายๆนั่นน่ะแต่ก็ทำออกมาเป็น
02:12:08 → 02:12:12 เค้าเรียกอะไรวะ
02:12:12 → 02:12:16 อันเนี้ยข้อแนะนำกินอาหารโลฟนะแถวแถวบ้าน
02:12:16 → 02:12:19 ผมก็มีนะไอ้อย่างเนี้ยแต่ว่าผมว่ามันออก
02:12:19 → 02:12:23 หวานนิดๆอยู่ดีอ่ะนั่นแหละจริงๆแล้วเนี่ย
02:12:23 → 02:12:27 จริงๆแล้วเนี่ยนะเค้าจะผสมแล้วก็ทำบนเตา
02:12:27 → 02:12:32 เลยหมอลืมชื่อไปแล้วชื่ออะไรก็ไม่รู้นะ
02:12:32 → 02:12:35 เนี่ยเดี๋ยวได้แล้วจะมาบอกนะฮะนะแล้วอีก
02:12:35 → 02:12:39 อันนึงที่กินได้คือขนมครกนะฮะ
02:12:39 → 02:12:41 นม
02:12:41 → 02:12:45 ครกมครกนี่ส่วนใหญ่มันหวานมั้อาจารย์ใช่
02:12:45 → 02:12:49 แต่เค้าจะทำให้เค้าจะทำใหม่ๆเลยใช่มั้ย
02:12:49 → 02:12:53 เราก็จะไปบอกแม่ค้าเลยว่าเราขอเหมาเหมา
02:12:53 → 02:12:57 อะไรนะเค้าเรียกเหมาทั้งขาดนี้เลยมีกี่
02:12:57 → 02:13:01 หลุมเราเอาหมดเลยนะแล้วให้ใส่แต่อย่าใส่
02:13:01 → 02:13:05 แป้งเพราะแป้งส่วนใหญ่เจะใส่น้ำตาลแต่เรา
02:13:05 → 02:13:13 ใส่กะทิเออนะใส่กะทิแล้วก็ใส่เครื่อง
02:13:13 → 02:13:17 ขนมครกกมีที่มีแต่กะทิไงแล้วก็เครื่องใช่
02:13:18 → 02:13:21 นะถ้ามีแป้งก็ให้ใส่แป้งน้อยๆเราควบคุม
02:13:21 → 02:13:24 การผลิตได้ฮะ
02:13:24 → 02:13:28 นะอันเนี้ยขนมครกกินได้นะแต่ต้องเลือก
02:13:28 → 02:13:32 วิธีการผลิตโดยเราต้องเป็นผู้กำกับนะของ
02:13:32 → 02:13:36 นึ่งเหรอครับพี่หมอของนึ่งก็นี่แหละก็คือ
02:13:36 → 02:13:40 มันเทศน์มันอะไร
02:13:40 → 02:13:44 อ่ะมันเทศมันสัปหลังอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะ
02:13:44 → 02:13:47 ที่มันมีสีๆอ่ะแล้วพวกนี้ไฟเบอร์มันเยอะ
02:13:47 → 02:13:50 นะฮะมันปิ้งเค้าเรียกมันปิ้งเอ้ยเค้า
02:13:50 → 02:13:53 เรียกอะไรนะขนมคล้ายๆเอามันเนี่ยมาปิ้ง
02:13:53 → 02:13:56 อ่ะลูกกลมๆใช่มั้พี่หมอเออลูกกลมๆนี่แหละ
02:13:56 → 02:14:00 เหลืองๆอ่ะเอออร่อยดูนี้มันจะมีเป็นสี
02:14:00 → 02:14:03 ม่วงด้วยเ้าเอามันม่วงมาผสมรือเปล่าผมไม่
02:14:03 → 02:14:08 แน่ใจใช่ๆเอาม่วงมาผสมผมนะแรกๆเค้าก็เอา
02:14:08 → 02:14:12 มันเทศเหลืองๆอ่ะมาทำมันเทศมันสำปหลังอ่ะ
02:14:13 → 02:14:15 เค้าเรียกขนมอะไรไม่รู้อ่ะมันเป็นอาหาร
02:14:15 → 02:14:19 พื้นถิ่นนะเออเป็นอาหารพื้นบ้านน่ะตาม
02:14:19 → 02:14:20 ตลาด
02:14:20 → 02:14:23 มี
02:14:23 → 02:14:26 นะยกเว้นแต่ว่ามันเป็นคนรุ่นใหม่อ่ะมันก็
02:14:26 → 02:14:30 ผสมแป้งผสมน้ำตาลอะไรมั่วซั่วไปอย่าง
02:14:30 → 02:14:33 เงี้ยนะมันก็ลำบากอ่ะนะฮะคือคนสมัยก่อน
02:14:33 → 02:14:35 เนี่ยเค้ากินแป้งเชิงซ้อนไงฮะนะเพราะ
02:14:36 → 02:14:37 ฉะนั้นเนี่ยเค้าไม่ได้กระตุ้นอินซูลิน
02:14:37 → 02:14:41 ก้าวร้าวใช่แป้งหรือคาฟเนี่ยมันก็กระตุ้น
02:14:41 → 02:14:44 อินซูลินนะกินข้าวก็กระตุ้นอินซูลินอะไร
02:14:44 → 02:14:47 เงี้ยนะครับแต่อินซูลินที่เขากระตุ้นใน
02:14:47 → 02:14:51 ยุคปู่ย่าตายายของเราอ่ะของกินสมัยนั้น
02:14:51 → 02:14:54 เนี่ยมันไม่ได้มันกระตุ้นอินซูลินแต่มัน
02:14:54 → 02:14:57 ก็กระตุ้นอินซูลินดีๆออกมาเนี่ยถึงมันจะ
02:14:57 → 02:14:59 เยอะก็เหอะมันถึงได้ไม่ได้ป่วยเยอะ
02:14:59 → 02:15:03 อย่างี้ไงแต่ตอนเนี้ยอินซูลินมันออกมาแบบ
02:15:03 → 02:15:06 ภาคพิเศษนะฮะฮะนะคือมันเป็นอินซูลินแปร
02:15:06 → 02:15:09 รูปแล้วเค้าก็ใช้คำว่า aggressive
02:15:09 → 02:15:12 insulin เอ่อเราจะเรียกว่าอินซูลินแปร
02:15:12 → 02:15:15 รูปก็ได้วะเพราะว่าอาหารเนี่ยเป็นตัวทำ
02:15:15 → 02:15:22 ให้มันเป็นอย่างนั้น
02:15:22 → 02:15:28 อืมโอ้ยมีใครสงสัยอะไรอีก
02:15:28 → 02:15:32 มั้ยมันคือไอ้มันเป่าที่เค้ามาปั้นเป็น
02:15:32 → 02:15:34 ลูกกลมๆอ่ะส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เค้าใส่น้ำ
02:15:34 → 02:15:40 ตาลกันหมดแล้วอ่ะครับคุณหมอใช่นะแต่ไม่
02:15:40 → 02:15:41 น่าจะเยอะ
02:15:41 → 02:15:46 มั้งกินระหว่างทางกินกันตายไม่เป็นไรหรอก
02:15:46 → 02:15:50 คือผมก็ไม่ได้ติดไอ้ CTM เนาะแต่แต่จากฤ
02:15:50 → 02:15:53 รถสัมผัสเนี่ยมีความรู้สึกว่าเรารู้ตัว
02:15:53 → 02:15:56 เลยว่าเราไม่เราไม่กล้ากินถึงชิ้นที่ 3
02:15:56 → 02:16:00 อ่ะเออใช่อริยาแต่แต่คนที่ไม่อ้วนแบบผม
02:16:00 → 02:16:05 ไม่ไม่แบบไม่ก้าวร้าวขนาดอินซูลินอาจจะ
02:16:05 → 02:16:10 กินได้สัก 4-5 ชิ้น 4-5
02:16:10 → 02:16:14 ลูกเพราะว่าส่วนใหญ่เค้าก็ให้ทิงไข่ต้มไง
02:16:14 → 02:16:17 แต่บางทีมันก็เบื่อ
02:16:17 → 02:16:23 นะกินได้แต่ไข่ต้มไข่ต้มอ่ากินผักดองไข่
02:16:23 → 02:16:27 ต้มแล้วต้องหาเมนูอาหารมา
02:16:28 → 02:16:31 เพิ่มเรียกมันอะไร
02:16:31 → 02:16:34 นะมันปิ้ง
02:16:34 → 02:16:38 อะไรซักอย่างเนี่ย
02:16:38 → 02:16:41 ผมว่าปลาดุกย่างก็ดี
02:16:41 → 02:16:45 นะแต่ถ้ามาทางบ้านนอกนะภาคอีสานเนี่ยมี
02:16:45 → 02:16:49 ขายเยอะเออ
02:16:49 → 02:16:51 จริงเพราะไก่ปิ้งหมูปิ้งนี่เราก็ไม่ค่อย
02:16:51 → 02:16:56 ไว้ใจเนาะอืแต่แต่ผมว่าปลาดุกปลาดุกนี่พอ
02:16:56 → 02:17:03 น่าจะพอได้นะอื
02:17:03 → 02:17:05 แต่แต่น้ำจิ้มอีกเรื่องนึงนะน้ำจิ้มนี่
02:17:05 → 02:17:07 ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน
02:17:08 → 02:17:12 ใช่เพราะว่าเวลาเราจะซื้อผลไม้อ่ะ
02:17:12 → 02:17:15 นะเราไปดูแล้ว
02:17:15 → 02:17:19 เนี่ยทำไมมันมีน้ำจิ้มเยอะเหลือเกินแล้ว
02:17:19 → 02:17:22 มันยังจะมีถุงนึงเป็นผงชูรสโดยเฉพาะเลยนะ
02:17:22 → 02:17:26 ให้ใส่นะให้ใส่เองนะกะปิผงชูรสอะไรอย่าง
02:17:26 → 02:17:30 เงี้ยนะพริกกเกลืออะไรอย่างเงี้ย
02:17:30 → 02:17:32 โอ้โหอืม
02:17:32 → 02:17:37 อืก็อืคนต่างเอต่างเอาเงี้ยนะเค้าเรียก
02:17:37 → 02:17:40 มันทิพย์รือเปล่าพี่หมอเออมันทิพยเออใช่
02:17:40 → 02:17:46 แล้วมันเออลูกเผ็ดลูกเผ็ดตอบมาโอ๊ยเรียงๆ
02:17:46 → 02:17:47 กันเลย
02:17:47 → 02:17:53 มันทิพเนี่ยเออนะ
02:17:53 → 02:17:57 ผมก็เรียกมันปิ้งอ่ะ
02:17:57 → 02:17:59 เออมันยิบ
02:17:59 → 02:18:03 อ่ะอันนี้ก็ใช้ได้ฮะใช้ได้ถือว่าเป็นาฟ
02:18:03 → 02:18:07 ที่ดีแล้วก็เป็นพื้นๆบ้านยกเว้นว่ามันมี
02:18:07 → 02:18:11 คนอุตตรินะไปปรุงซะจนแบบ
02:18:11 → 02:18:15 อื้อหือเอออันนั้นก็ไม่ไหวหรอกนะพี่หมอ
02:18:15 → 02:18:19 คุณเห่งถามถามเรื่องน้ำมันเข้ามาครับอื
02:18:19 → 02:18:23 ว่าที่บอกว่าลดจากอ่า 90 กรัมหรือ 70
02:18:23 → 02:18:27 กรัมเนี่ยลดแตู่ฟ่าใช่มั้ครับพี่หมอ
02:18:27 → 02:18:32 เอ่อเดี๋ยวนะของ
02:18:32 → 02:18:34 ของคุณเหน่งอ่ะครับ
02:18:34 → 02:18:39 คือเราลดจำนวนกรรมอ่ะนะแล้วเราไปหารใหม่
02:18:39 → 02:18:43 อ่ะให้มันได้สัดส่วนแบบนั้นน่ะอ่าคือตัด
02:18:43 → 02:18:46 อ่าอิ่มตัวไปโตเออโไม่เอ่อตัดอิ่มตัวไป
02:18:46 → 02:18:51 แล้วก็เนี่ย 70 กรัมแล้วก็ไปแบ่งฟ่ากับ
02:18:51 → 02:18:57 พูฟ่าเอ่อเป็นเท่าไหร่ 80 20 เงี้ยอ๋อ
02:18:57 → 02:19:02 โอเคครับอื
02:19:02 → 02:19:05 อืเพราะว่าเพราะว่าแกบอกสูตรคำนวณมาแต่
02:19:05 → 02:19:10 ว่าแหมมันก็งงๆเนาะ
02:19:10 → 02:19:12 คือคำนวณกลับคำนวณไปก็ก็แบ่งยังไงก็ได้
02:19:12 → 02:19:18 ให้ได้อ่า 80 แล้วก็ 20 ตามนั้นเอออ่า
02:19:18 → 02:19:20 แล้วก็ลดให้เหลือ 70 กรัมเออลดเหลือ 70
02:19:21 → 02:19:26 กรัมแล้วโอเคหายไป 20 กรัมก็เอ่อมันเป็น
02:19:26 → 02:19:31 กี่แคลอรี่ก็ไปเทียบกลับไปเป็นาฟไปอ๋อ
02:19:31 → 02:19:34 ครับผมแต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะไม่ต้องไปฟิก
02:19:34 → 02:19:38 กับตัวเลขมากนักเอาคร่าวๆไว้นะฮะนะก็กิน
02:19:38 → 02:19:41 ให้อิ่มให้
02:19:41 → 02:19:46 หลับนะเพียงแต่ว่าเออได้บุญปากแล้วได้มี
02:19:46 → 02:19:49 าฟเพิ่มขึ้นเออ
02:19:49 → 02:19:52 เดี๋ยวอินซูลินมาเนี่ยมาแบบดีๆนะมาอย่า
02:19:52 → 02:19:56 ก้าวร้าวแล้วก็มาเปิดประตู LDL H เอ่อ
02:19:56 → 02:20:00 Total คอเลสเตอรอลมันก็ได้เข้าไปนะเอ่อ
02:20:00 → 02:20:03 จริงๆแล้วไตกีซนก็อาจจะเพิ่มขึ้น HDL ก็
02:20:03 → 02:20:13 อาจจะลดลงอีกนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรนะฮะ
02:20:13 → 02:20:15 ครับ
02:20:15 → 02:20:19 อืมีคนถามเรื่องกดยูริกบ้างมั้ยไม่มีเลย
02:20:19 → 02:20:22 ครับพี่หมออื
02:20:22 → 02:20:25 มีผลแลบหมอมอโต้อ่ะครับที่ส่งในกลุ่มอ่ะ
02:20:25 → 02:20:29 ครับยูริคลดลงจาก 7.1 1 เหลือมา 6.6 โอ้
02:20:29 → 02:20:32 ดีแล้ว
02:20:32 → 02:20:37 มีคำถามว่าทำไมก่อนหน้าที่กินไฮโปรตีน Low
02:20:37 → 02:20:40 ขาบ IF 18 ชม.เนี่ยยูริกสูงกว่าเมื่อกิน
02:20:40 → 02:20:46 ทีแล้วก็ IF สั้นกว่าครับ
02:20:46 → 02:20:50 อ๋อก็นั่นแหละพลังงานหรือแคลอรี่มันต่าง
02:20:50 → 02:20:56 กันไงเอมันเกิดความผิดมันเกิดความน้อยขาด
02:20:56 → 02:21:00 เกินอะไรต่างๆนะของสัดส่วนของพลังงานหรือ
02:21:00 → 02:21:03 ปริมาณพลังงานน่ะนะเนื่องจากรายละเอียด
02:21:03 → 02:21:06 ไส้ในของอาหารมันต่างกันน่ะใช่
02:21:06 → 02:21:11 มั้อือืมครับผมคือร่างกายอ่ะเวลามัน
02:21:11 → 02:21:14 optimal หรือมันเข้าสู่สมดุลในแนวทางที่
02:21:14 → 02:21:18 ถูกต้องเนี่ยนะค่าแลบต่างๆเนี่ยเค้าก็จะ
02:21:18 → 02:21:21 ปรับน่ะปรับมากปรับน้อยปรับสูงปรับต่ำ
02:21:21 → 02:21:26 เนี่ยนะให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานของค่าแลab
02:21:26 → 02:21:28 Standardดน่ะ
02:21:28 → 02:21:32 เอ่อว่า Total Conal ต้องใกล้ๆ 200 นะ
02:21:32 → 02:21:36 LDL ต้องใกล้ๆ 100 นะเอ่ออย่าให้เกิน
02:21:36 → 02:21:39 เยอะอย่าให้เกินเยอะอะไรเงี้ยไตกีซรายก็
02:21:39 → 02:21:43 ต้องไม่เกิน 100 อะไรอย่างเงี้ยนะน้ำตาล
02:21:43 → 02:21:47 ไม่เกิน 100 HDL เอ่อเท่าไหร่อะไรอย่าง
02:21:47 → 02:21:52 เงี้ยนะอืเออคือแลบเหล่าเนี้ยมันเป็นแลบ
02:21:52 → 02:21:56 ที่ที่ทุกวงการไม่ว่าจะเป็น Low Cฟไม่ low
02:21:56 → 02:22:00 Cฟยุคไหนยุคไหนหรือการแพทย์แผนกีนแผนอะไร
02:22:00 → 02:22:02 ต่างๆเนี่ยเป็นที่ยอมรับมันเป็น
02:22:02 → 02:22:07 international นะฮะนะแล้วก็มีอะไรต่างๆ
02:22:07 → 02:22:11 ที่มันมันเค้าเรียกว่าเป็นฉันทามติจบไป
02:22:11 → 02:22:14 แล้วเรียบร้อยไปแล้วไม่ต้องมาฟื้นฟูว่า
02:22:14 → 02:22:17 ไม่ถูกอะไรอย่างเงี้ยเออครับไม่ต้องมามี
02:22:17 → 02:22:20 ข้อโต้แย้งอีกแล้วจบไปแล้วนะฮะนะเพราะ
02:22:20 → 02:22:23 ฉะนั้นเนี่ยคุณจะไปในแนวทางไหนของตามของ
02:22:23 → 02:22:29 ไดเอตเนี่ยคุณก็จะต้องมา evaluate มามา
02:22:29 → 02:22:32 ถูกประเมินถ้าจะประเมินในแง่ของค่าแลบก็
02:22:32 → 02:22:35 ต้องยึดมาตรฐานอย่างนี้
02:22:35 → 02:22:39 นะค่าอื่นๆด้วยนะฮะ
02:22:39 → 02:22:43 Hscrpโมซิสเตอีนเอ่อไทรอยด์เฟอร์ลิหรือ
02:22:43 → 02:22:45 ว่า AP
02:22:45 → 02:22:48 B เนี้ยนะหรือแม้แต่แคลเซียมสกoreเนี่ย
02:22:48 → 02:22:52 นะเอ่อ 0 แปลว่าอะไร 0 ถึง 100 แปลว่า
02:22:52 → 02:22:55 อะไรมากกว่า 100 เอ่อในปัจจุบันเรายึด
02:22:55 → 02:23:00 เกณฑ์ที่ 300 นะไม่ใช่ 400 บทความของหมอ
02:23:00 → 02:23:04 น่าจะเป็นบทความเก่าไปนะไปยังไปยึดที่
02:23:04 → 02:23:09 100-400 ในปัจจุบันเยึดที่ตัวเลข 300 นะ
02:23:09 → 02:23:13 ถ้าเกินโอลงมาอีกเนี่ยถือว่าถือว่าอยู่ใน
02:23:13 → 02:23:16 กลุ่มของseีย
02:23:16 → 02:23:20 seity นะอ่าก็คือ 0 ถึง
02:23:20 → 02:23:26 100 แล้วก็เกิน 100 อ่า 100-3 นะแล้วก็
02:23:26 → 02:23:32 มากกว่า
02:23:33 → 02:23:36 300 มันก็อัปเดตลงเรื่อยๆเนาะพี่หมอ
02:23:36 → 02:23:40 ครับแต่เราก็ต้องยึดตามเกณฑ์เพราะว่าอันเ
02:23:40 → 02:23:43 นี้มันเป็นเกณฑ์ที่เ้าเค้ามีงานวิจัยรอง
02:23:43 → 02:23:48 รับนะแล้วงานวิจัยพวกนี้เทำในยุโรปตอนใต้
02:23:48 → 02:23:51 นะฮะในสเปนใน
02:23:51 → 02:23:56 บราซิลนะเนี่ยที่มันออกมาล่าสุดน่ะที่
02:23:56 → 02:24:00 เค้ายึดที่องค์การอมโลกยึดน่ะ
02:24:00 → 02:24:03 เอ่อกำลังว่าใกล้ๆจะโพสต์อยู่แล้วล่ะ
02:24:03 → 02:24:07 นะไอ้เรื่องเค้าเรียกเรียกว่าศัพท์
02:24:07 → 02:24:11 clinicalosis เนี่ยนะฮะนะเราเคยมีศัพท์
02:24:11 → 02:24:14 clinical hyโปไทroอยดใช่มั้ยอันนี้
02:24:14 → 02:24:20 เรื่องอosคosisเนี่ยนะก็ตามที่มีการบอก
02:24:20 → 02:24:24 กันว่าถ้าเกิดแคลเซียมสกoreเกิน 100
02:24:24 → 02:24:27 เนี่ยเราต้องวินิจฉัยหรือ
02:24:27 → 02:24:30 impession หรือ diagnosis ว่าคุณป่วย
02:24:30 → 02:24:33 แล้วคุณป่วยเป็นโรค
02:24:33 → 02:24:38 arrosสอisก็คือเป็นภาวะเส้นเลือดแดงเนี่ย
02:24:38 → 02:24:44 มีการตีบแคบนะหรือเกิดสภาวะการอุดกั้นนะ
02:24:44 → 02:24:48 ในระดับนึงในระดับนึงเนี่ยเอ่อถ้าตัว
02:24:48 → 02:24:51 แคลเซียมสกอร์เกิน 100 นะเพราะฉะนั้นก็
02:24:51 → 02:24:56 ต้องมีเ่อแนวการสืบค้นเพิ่มรวมทั้งต้องมี
02:24:56 → 02:25:00 การวางแนวทางในการรักษาและป้อง
02:25:00 → 02:25:03 กันซึ่งการแพร่แผนปัจจุบันเราก็ให้ยา
02:25:03 → 02:25:08 สเตตินนะจะกินควบคู่กับแอสไฟลินหรือว่าจะ
02:25:08 → 02:25:12 ยังไงอะไรต่อเงี้ยนะแต่ถ้าเมื่อไหร่เนี่ย
02:25:12 → 02:25:16 ถ้าเมื่อไหร่ตัวเลขมันเกิน 300 นะเอ่อคุณ
02:25:16 → 02:25:20 ต้องมีการสืบค้นอีกรูปแบบนึงต่อไปนะฮะและ
02:25:20 → 02:25:24 ก็จะต้องถึงขั้นที่เค้าเรียกว่าจะต้องมี
02:25:24 → 02:25:29 มีการรักษามีการมีการดูแลตัวเองอย่างเข้ม
02:25:29 → 02:25:32 ข้นเคร่งครัดเลยจะปล่อยป่าละเลยไม่ได้
02:25:32 → 02:25:35 แล้วต้องมีการ follow
02:25:35 → 02:25:37 เอ่ออาจารย์ครับแล้วอย่างเกณฑ์ที่ว่าเรา
02:25:37 → 02:25:41 จะให้เค้ากินสเตตินหรือเปล่าเนี่ยเราดู
02:25:41 → 02:25:43 จากตัวนี้เป็นหลักเลยมั้ฮะหรือว่าเราควร
02:25:43 → 02:25:47 จะดูจากพวก Apple B Apple B หาร LDL
02:25:47 → 02:25:49 อะไรพวกนั้นประกอบกันหรือว่าจะให้ความ
02:25:50 → 02:25:53 สำคัญกับตัวไหนมากกว่าเขาจะให้ความสำคัญ
02:25:53 → 02:25:56 กับแคลเซียมสกoreเป็นหลักนะโดยเฉพาะ
02:25:56 → 02:26:00 แคลเซียมสกoreที่เกิน 100 นะไม่เกิน 300
02:26:00 → 02:26:03 เนี่ยเค้าก็จะให้แบบป้องกันนะซึ่งเค้าก็
02:26:03 → 02:26:05 ย่างว่าสเตินเป็นลดการอักเสบแต่ไม่ได้
02:26:05 → 02:26:11 เป็นลดไอ้ตัว LDL นะแค่ไปป้องกันเไป
02:26:11 → 02:26:15 โปรไฟลcticเอ่อเป็น secondary prevention
02:26:15 → 02:26:21 นะแต่ในแง่ของการหวังผลในการรักษาเลยอ่ะ
02:26:21 → 02:26:25 นะอยู่ที่ระดับ 300 ขึ้นไปนะก็จะเป็นการ
02:26:25 → 02:26:31 ให้ maximum dose นะของสตินเนี่ยนะร่วม
02:26:31 → 02:26:32 พวกไอ้พวก
02:26:32 → 02:26:36 คอปโดจลหรือว่าแอสเปินอย่างเงี้ยนะและจะ
02:26:36 → 02:26:38 ต้องจะต้องมี
02:26:38 → 02:26:42 การมีการอะไรอ่ะสืบทนต่อ
02:26:42 → 02:26:47 นะโดยการทำอะไรอ่ะไอ้ไอ้ตัว CT สไลด์อ่ะ
02:26:47 → 02:26:52 นะจะตัดภาพเท่าไหร่อ่ะแล้วแต่นะ
02:26:52 → 02:26:56 256 หรือกว่านั้นขึ้นไป
02:26:56 → 02:26:59 ออที่มีการสืบค้นต่อแล้วต้อง Consult
02:26:59 → 02:27:03 คiologistให้ดูแลเป็นหลักสิ่งไข้ออ่า
02:27:03 → 02:27:06 กระเพาะ
02:27:06 → 02:27:09 แปลว่าถ้าเกิน 300 เนี่ยให้สเตตินไฮโดส
02:27:09 → 02:27:12 ตามไกด์ไลน์เ้าเลยใช่แล้วก็แล้วก็น่าจะ
02:27:12 → 02:27:16 ต้องconsซคาร์โologิมาดูว่ามันต้องทำอะไร
02:27:16 → 02:27:19 อย่างอื่นด้วยหรือเปล่าใช่แล้วก็ดูตัวยา
02:27:19 → 02:27:22 ป้องกันดิเลือดอะไรต่างๆ
02:27:22 → 02:27:24 แต่แต่ถ้าเกินแต่แต่ถ้าเกิน 100 นี่ก็กิน
02:27:24 → 02:27:28 เป็นโดสกลางอะไรอย่างงี้นะฮเป็นโดสเอ่อ
02:27:28 → 02:27:30 ประมาณ 10-20 แเป็นโดสข้างกลางแล้วกิน
02:27:30 → 02:27:32 เพื่อโปรไฟล์
02:27:32 → 02:27:35 นะแล้วบางคนถ้ามีโรคอื่นๆด้วยก็อาจจะต้อง
02:27:35 → 02:27:36 มี
02:27:36 → 02:27:39 แอสเปอรินร่วมด้วยนะคือกลับมาแบบเดิมๆ
02:27:39 → 02:27:42 นั่นแหละนะฮะสรุปว่าเกิน 100 นี่เราถือ
02:27:42 → 02:27:46 ว่าเราให้สตินเนี่ยเป็น secondary
02:27:46 → 02:27:49 prevent แล้วถูกมั้ฮะไม่มันมันจะไม่
02:27:49 → 02:27:52 เหมือนที่ว่ามันจะไม่เหมือนกับไกด์ไลน์
02:27:52 → 02:27:56 คาริโอที่เราเคยคุยกันว่าอ่าอายุมากเป็น
02:27:56 → 02:27:58 ผู้ชายสูบบุหรี่เบาหวานอะไรแบบเนี้ยนะจับ
02:27:58 → 02:28:02 กินสเตตินโลดนะหรือถ้า LDL สูงมากๆ 190
02:28:02 → 02:28:04 อัพอะไรเงี้ยจับกินโลดโดยที่เราไม่รู้
02:28:04 → 02:28:07 อะไรเลยอันนั้นมันก็เป็นPrimarี่ใช่มั้ย
02:28:07 → 02:28:10 ซึ่ง Primary ก็ตัวเลขก็บอกไปแล้วว่าก็
02:28:10 → 02:28:13 อาจจะไม่ได้คุ้มอย่างที่คิดอ่ะใช่แต่ถ้า
02:28:13 → 02:28:15 แขกสกอร์เกิน 100 นี่เราถือว่าเป็น
02:28:15 → 02:28:19 secondary ก็คือสมควรจะต้องให้จายาใช่
02:28:19 → 02:28:23 แล้วก็ให้ไอctว่าคุณน่ะป่วยมีโรคเรื้อรัง
02:28:23 → 02:28:26 เทียบเท่ากับเป็นเบาหวานหรือเป็นความดัน
02:28:26 → 02:28:30 สูงโรคนึงแต่เป็นโรคosis
02:28:30 → 02:28:34 และคุณจะต้อง investigate ต่อในเรื่องของ
02:28:34 → 02:28:39 อ่าเนี่ยเรื่องของ Apple B Apple A
02:28:39 → 02:28:42 ไอ้อะไร
02:28:42 → 02:28:44 Hscrpโมซิเตอีน่าวิตามิน
02:28:44 → 02:28:48 ดีอ่าเฟินอะไรเงี้ยการอะไรอย่างเงี้ยนะ
02:28:48 → 02:28:56 ครับนะคือต้องตรวจให้ครบตรวจแพทเทิร์น
02:28:56 → 02:29:00 อืแอ
02:29:00 → 02:29:04 งั้นงั้นแคกนี่จริงๆจะว่าไปก็น่า
02:29:04 → 02:29:09 จะน่าจะตรวจกันเยอะๆเลยนะเนี่ยมันจะเริ่ม
02:29:09 → 02:29:12 ตรวจเยอะขึ้นแหละเพราะว่าเพราะว่าดูแล้ว
02:29:12 → 02:29:16 เนี่ยความน่าเชิดถือแล้วก็มันจะให้มันเรา
02:29:16 → 02:29:18 มันจะได้ชัดไงว่าไอ้คนนี้เอ้ยมันสมควรกิน
02:29:18 → 02:29:21 ยาจริงๆนะไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรไม่รู้วิธี
02:29:21 → 02:29:24 แนะนำอะไรด้วยก็จ่ายยาไว้ก่อนนะไม่คนไข้
02:29:24 → 02:29:26 ไม่กินก็ไปดูคนไข้อย่างเงี้ยไม่ใช่แล้ว
02:29:26 → 02:29:29 อันเนี้ยมันเป็น strong evidence คือใช่
02:29:29 → 02:29:32 มั้ฮะก็คือสมควรกินจริงๆ
02:29:33 → 02:29:36 คือเขาคิดว่าถ้าเกิดเอ่อ cat score
02:29:36 → 02:29:38 เนี่ยมันเกิน 100 เนี่ย
02:29:39 → 02:29:43 นะเราอาจจะถือว่าคุณน่ะอาจจะไม่มี park
02:29:43 → 02:29:46 นะฮะคือคือไม่มีcลsify park แต่คุณน่ะมี
02:29:46 → 02:29:49 soft park แน่ๆแล้วในปัจจุบันเนี่ยงาน
02:29:49 → 02:29:53 วิจัยเพิสูจน์ได้ว่าการรับเจอของsอt plk
02:29:53 → 02:29:55 เนี่ยแล้วไปเกิดเป็นabolisึมที่ไปอุด
02:29:55 → 02:29:58 เนี่ยนะ
02:29:58 → 02:30:04 มันมี severity นะในแง่ของ stable หรือ
02:30:04 → 02:30:09 unstable นะซึ่งมันไม่คุ้มกันนะแล้วมัน
02:30:09 → 02:30:12 ก็ high risk เทียบเท่า MI เทียบเท่าไห
02:30:12 → 02:30:17 นะฮะซึ่งมันก็ไม่คุ้มกันเอ่อกับที่จะไม่
02:30:17 → 02:30:20 กินยาหรือจะปล่อยไปเพราะฉะนั้นก็เหมือน
02:30:20 → 02:30:24 กับว่าอย่างน้อยก็ต้องกินสเตตินในแง่ของ
02:30:24 → 02:30:27 secondary เอ่อprentช
02:30:27 → 02:30:31 ไปนะก็ถือว่าเถือว่าเค้าพิสูจน์ออกมาได้
02:30:31 → 02:30:34 แล้วแล้วก็มันแฉออกมาได้แล้วว่าไอ้ Soft
02:30:34 → 02:30:39 Park อ่ะนะก็คือตัว PLK เนี่ยนะมันมี
02:30:40 → 02:30:43 โอกาสเสี่ยงต่อการรับเจอร์อย่างมีนัยยะ
02:30:43 → 02:30:48 สำคัญนะโดยเฉพาะถ้าคุณยังมีไลฟ์สไตล์ที่
02:30:48 → 02:30:51 ไม่ได้มีความรู้เรื่องรู้ราวในการปรับ
02:30:51 → 02:30:54 เปลี่ยนเลยหรือคุณยังไม่พร้อมอ่ะนะที่หมอ
02:30:54 → 02:30:57 จะแนะนำให้ไปเอ่อควบคุมอย่างโงนอย่างงี้
02:30:57 → 02:30:59 อะไรต่างๆแล้วคุณจะไปทำได้อ่ะคุณยังต้อง
02:30:59 → 02:31:02 ทำมาหากินยังต้องไปปาละเลยอะไรอย่างเงี้ย
02:31:02 → 02:31:07 นะเพราะฉะนั้นก็ต้องถูกจับกินยา
02:31:07 → 02:31:10 ไปเพราะว่าอย่าว่าแต่คนที่กินแบบแบบแซบ
02:31:10 → 02:31:13 แต่นะแบบ 5 หมู่เนี่ยซึ่งซึ่งมันรอดยาก
02:31:13 → 02:31:16 อยู่แล้วถูกมั้ยแต่คนที่กินโลขาบเองเนี่ย
02:31:16 → 02:31:19 มันเป็นโลขาบไฮโปรตีนแล้วมันโปสโปรตีน
02:31:19 → 02:31:22 อะไรปนเปื้อนอะไรเยอะแยะไปหมดอย่างที่เรา
02:31:22 → 02:31:24 เห็นนะเดรตี้คีโตนอะไรทั้งหลายพวกเนี้ย
02:31:24 → 02:31:28 ครับมันก็ไม่ค่อยรอดเหมือนกันนะคือเค้าก็
02:31:28 → 02:31:31 ไม่รู้ไงเพราะเค้าคิดว่าองค์ความรู้ที่
02:31:31 → 02:31:34 เค้าเก็ทที่เค้าได้เนี่ยนะมันน่าจะพอช่วย
02:31:34 → 02:31:39 เค้าได้นะหรือมันน่าจะแบบมันมีเท่านี้
02:31:39 → 02:31:42 แหละนะฮะก็กินไปอ่ะก็โลคัฟเหมือนกันอะไร
02:31:42 → 02:31:45 อย่างเงี้ยเขายังไม่ค่อยรู้เข้าไปลึกๆๆ
02:31:45 → 02:31:50 เลยนะมันก็เลยยากอ่ะนะเพราะโลคาฟแต่มัน
02:31:50 → 02:31:54 เป็นโลคาฟแปรรูปก็เยอะมากอ่ะ
02:31:54 → 02:31:56 มันไม่ใช่ Real Food เพราะเแยกแยะไม่ได้
02:31:56 → 02:31:59 หรอกเพราะว่าในปัจจุบันเนี่ยมันมีเรื่อง
02:31:59 → 02:32:03 ของ Super Ultra Process Food แล้วไง
02:32:03 → 02:32:06 นะคือ process food เนี่ยมันขึ้นไปอีก
02:32:06 → 02:32:09 ระดับนึงแล้วนะฮะนะแล้วมันเป็นสารที่มัน
02:32:09 → 02:32:12 ขึ้นไปอยู่ในอวกาศนะฮะนะซึ่งเราเรียกว่า
02:32:12 → 02:32:16 ซอ ultra process food น่ะนะมันเป็นผง
02:32:16 → 02:32:19 เป็นแคปซูลเป็นอะไรต่างๆเราใช้นิดเดียว
02:32:19 → 02:32:23 อ่ะนะแต่มันกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆเยอะ
02:32:23 → 02:32:25 อ
02:32:25 → 02:32:28 แต่อย่างที่เราคุยกันนะเรื่องเรื่องแลบ
02:32:28 → 02:32:33 เงี้ยฮะถ้ายังไม่ได้ทำมสกoreเนี่ย
02:32:33 → 02:32:37 ไอ้อะไรนะ Apple B LDL หรือ Apple B
02:32:37 → 02:32:40 Apple A อะไรแบบเนี้ยครับอันนี้มันก็
02:32:40 → 02:32:43 ยังยังอาจจะไม่ใช่ตัวที่
02:32:43 → 02:32:46 ที่จะชี้ขาดว่าคนนี้ควรกินยาหรือไม่ถูก
02:32:46 → 02:32:49 มั้ยฮะใช่
02:32:49 → 02:32:52 หรือถ้าสมมุติว่า LDL ตัวร้ายมันเยอะหรือ
02:32:52 → 02:32:55 AOB มันเยอะอะไรเนี่ยเราก็ยังอาจจะแนะนำ
02:32:55 → 02:32:59 ว่าในเรื่องของการปรับอหงอาหารให้มันเข้า
02:32:59 → 02:33:05 ที่จะเติมขาบดีหรือว่าจะเติมไอ้อะไรก็ว่า
02:33:05 → 02:33:09 ไปเนี่ยก็อาจจะเพียงพอละนะ
02:33:09 → 02:33:13 แต่ไม่แน่ใจนี่ก็ทำแซกoreเลยใช่หรือถ้า
02:33:14 → 02:33:18 ร้อนใจด้วยอะไรอย่างเงี้ยเออก็ทำไปเลยแต่
02:33:18 → 02:33:21 มันก็จะมีอย่างี้โต้งพอสมมุติคุณร้อนร้อน
02:33:21 → 02:33:23 ใจอ้าคุณไม่เกี่ยงหรอกแคซoreมัน 2,000
02:33:24 → 02:33:27 3,000 นะฮะพื้นๆนะฮะนะแต่ถ้าเอกชนก็เยอะ
02:33:27 → 02:33:30 กว่านี้นะเอาล่ะไปทำไปทำเสร็จแล้วไปทำมา
02:33:30 → 02:33:34 แล้วโอ้ยมันไม่เกิน 100 อ่ะมันนิดหน่อย
02:33:34 → 02:33:39 มันเป็น 10 เงี้ยนะเออเออแล้วถ้าอย่าง
02:33:39 → 02:33:42 เงี้ยนะเราก็ต้องใช้เกณฑ์ของการปรับทาง
02:33:42 → 02:33:45 ด้าน LDL Apple A Apple B อัตราส่วน
02:33:45 → 02:33:49 เลมanceอะไรอย่างเงี้ยมาแก้นะซึ่งคุณก็
02:33:49 → 02:33:52 ต้องปรับอาหารนั่นแหละคุณก็ยังไงคุณก็
02:33:52 → 02:33:55 ต้องปรับอาหารนะเพื่อไม่ให้แคลเซียมสกore
02:33:55 → 02:33:59 ในภายภาคหน้าเนี่ยมันเยอะกว่านี้นะเพราะ
02:33:59 → 02:34:03 ว่าส่วนใหญ่เค้าจะกำหนดตรวจทุก 3 ปีนะแต่
02:34:03 → 02:34:08 ถ้าคุณอยากจะตรวจทุกปีก็โอเคนะไม่เกี่ยง
02:34:08 → 02:34:13 ว่าเงิน investigate แค่นี้ไม่ได้เยอะ
02:34:13 → 02:34:17 นะแล้วเค้าก็ต้องดูอย่างอื่นด้วยอ่ะนะดู
02:34:17 → 02:34:20 เรื่องอ้วนผอมดูเรื่องเปอร์เซ็นต์ไขมันดู
02:34:20 → 02:34:24 เรื่องเอ่อการอักเสบดูเรื่องเอ่อประวัติ
02:34:24 → 02:34:28 พันธุกรรมหรือไม่ก็ดูเรื่องอ่าเนี่ยแหละ
02:34:28 → 02:34:31 ว่ากินอยู่ยังไงมีความเข้าใจอาหงส์อาหาร
02:34:31 → 02:34:35 แค่ไหนอ
02:34:35 → 02:34:38 ผมว่ามันอาจจะต้องดูที่สมมุติว่าถ้าเป็น
02:34:38 → 02:34:41 เคสโรคเรื้อรังเนสที่มา follow up อย่า
02:34:41 → 02:34:45 เงี้ยถ้าเราดูแล้วเค้าเค้ายังไม่เอาจริง
02:34:45 → 02:34:48 อ่ะนะจะจำเป็นหรือจะข้ออ้างอะไรก็แล้วแต่
02:34:48 → 02:34:52 เนี่ยอย่างบางคนเนี่ยก็เบาหวานก็ไม่ได้
02:34:52 → 02:34:55 รุนแรงมากเนาะอือาหารก็พอมีความรู้ความ
02:34:55 → 02:34:58 เข้าใจอ่ะก็เกือบๆจะรีมิชionแล้วแต่ไม่
02:34:58 → 02:35:01 รีมิชัซักที follow up มา 3 ปีแล้วอย่าง
02:35:01 → 02:35:06 เงี้ยแที่กอก็ยังไม่ได้ทำเนาะอืก็อาจจะ
02:35:06 → 02:35:08 ต้องกินยานะถ้าแบบเนี้ย
02:35:08 → 02:35:12 ก็แล้วแต่อ่ะเราก็เสนอทุกทางเลือกแหละนะ
02:35:12 → 02:35:15 ก็ทำมาก่อนอ่าแล้วค่อยว่าอีกทีว่าจะต้อง
02:35:15 → 02:35:19 กินยาไม่กินยาเออเพราะจริงๆแคซิลสกอรไม่
02:35:19 → 02:35:23 ได้แพงเหมือนกับ CT นะ CT ก็ยังแพงกว่า
02:35:23 → 02:35:25 เยอะโรงโรงพยาบาลผมมัน 8,000 นะครับ
02:35:25 → 02:35:29 อาจารย์ออเหรอ
02:35:29 → 02:35:33 โหแล้วผมก็คุยกับน้องที่เค้าทำเช็คอัพ
02:35:33 → 02:35:36 ด้วยกันเนาะเค้าก็บอกว่าเนี่ยหมอแม็ดมี
02:35:36 → 02:35:38 ส่งอยู่คน
02:35:38 → 02:35:42 เดียวหมอคาร์ดิโอหัวใจตัวจริงเนี่ยยังไม่
02:35:42 → 02:35:45 เห็นใครส่งอย่างเงี้ยอืโรุมมันไม่ได้มัน
02:35:45 → 02:35:48 ก็ทำราคาไม่ได้มันก็ไม่รู้จะขายโปรโมชั่น
02:35:48 → 02:35:51 ได้ยังไงเงี้ยเนี่ยอืเหมือนกับหมอหลายๆ
02:35:51 → 02:35:54 ท่านเค้าหรือหมอส่วนใหญ่เอางี้ดีกว่าเค้า
02:35:54 → 02:35:57 ไม่ได้เห็นว่ามันสำคัญอย่าง
02:35:57 → 02:36:01 เงี้ยเหมือนเหมือคาริโอเค้าก็จะไปทำในใน
02:36:01 → 02:36:05 ตรงที่เค้าถนัดอ่ะที่เค้าทำเองอ่ะ
02:36:05 → 02:36:09 จะ est อะไรก็ว่ากันไปอ่ะแต่แต่พอเป็นแชน
02:36:09 → 02:36:12 สกoreซึ่งจริงๆหมอเเรยเป็นคนอ่านแต่ว่า
02:36:12 → 02:36:14 มันเป็นเรื่องของเค้านะแต่แต่เค้าไม่ค่อย
02:36:14 → 02:36:17 นิยมส่ง
02:36:17 → 02:36:22 อืก็ไม่รู้จะทำยังไงู out ไอ้เรื่องเ้าู
02:36:22 → 02:36:26 out ไอ้เรื่องไอ้ s park ไม่ได้ไง
02:36:26 → 02:36:30 นะเพราะcanซumสกoreเนี่ยมันจะเห็นต่อ
02:36:30 → 02:36:34 เมื่อมันตรวจ hard หรือ calciify park
02:36:34 → 02:36:41 นะแต่มันก็ตรวจ sftk ไม่ได้นะ
02:36:41 → 02:36:44 ฮะแล้วแคลเซียมสกore 0 ก็ไม่ได้แปลว่าคุณ
02:36:44 → 02:36:49 จะปลอดภัยบอกได้แค่ว่าคุณน่ะเนี่ยไม่มี
02:36:49 → 02:36:53 csify park หรือ hard park แต่ soft
02:36:53 → 02:36:56 park เนี่ยมันจะรู้ได้ยังไงอ่ะนะมันก็
02:36:56 → 02:37:02 ยังมันก็ยังไม่รู้นะเกิดมั้ยเกิดนะหนาแค่
02:37:02 → 02:37:06 ไหนมากแค่ไหนไม่รู้วัดถ้าถ้าแคลเซียม
02:37:06 → 02:37:10 สกอร์ 0 เนี่ยก็ไม่ไม่แบบไม่ได้แปลว่าไม่
02:37:10 → 02:37:13 มีซอ
02:37:13 → 02:37:18 พใช่มีฮะแก็ยังมีซอพอ
02:37:18 → 02:37:21 แล้วไม่มี PLK ไม่มี
02:37:21 → 02:37:28 นะคือมีsอt PLK นะแล้วงานวิจัยช่วงหลังๆ
02:37:28 → 02:37:31 2-3 ปีมาเนี้ยที่เขาประกาศผมกระหน่ำออก
02:37:31 → 02:37:34 มาเนี่ยเขาก็ประกาศว่าไอ้ตัว Soft Park
02:37:34 → 02:37:38 เนี่ยมันรับเจอได้นะไม่แตกต่างจาก Heart
02:37:38 → 02:37:41 Park หรือ Cify Park เพราะฉะนั้นเมื่อ
02:37:41 → 02:37:44 มันรับเจอมันก็เกิดการ flow แล้วเกิดการ
02:37:44 → 02:37:48 ไปอุดนะจะอุดแบบ compete หรือ parally ก็
02:37:48 → 02:37:52 ได้แต่คุณจะมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาด
02:37:52 → 02:37:56 เลือดและมีโอกาสที่จะเกิดเป็น MI
02:37:56 → 02:38:03 ไอได้พอๆกับพอๆกับ Park หรือพวก calcify
02:38:03 → 02:38:06 park เพราะฉะนั้น Heart Park Soft
02:38:06 → 02:38:10 Park ไม่ต่างกันในแง่ของเอ่อ List หรือ
02:38:10 → 02:38:15 PR ต่อ evidence การเกิด MI ด้วยเหตุนี้
02:38:15 → 02:38:19 แหละเขาก็เลยไม่ไม่ค่อยจะตรวจไอ้พวก
02:38:19 → 02:38:24 แคลนเซียมสกoreนะเขาก็เลยอัดยาเลยจบเลยนะ
02:38:24 → 02:38:28 ฮะเนี่ยก็คือเห็นดูทรงแล้ว
02:38:28 → 02:38:34 ก็มีิfactตorมีอะไรก็สายลูกเดียวใช่แล้ว
02:38:34 → 02:38:36 ยิ่งไกด์ไลน์ที่ออกมาบอกว่าเออนะถ้าเกิน
02:38:36 → 02:38:39 100 เนี่ยต้องวินิจฉัยว่าเป็นโรค
02:38:39 → 02:38:42 อาทโรสโรisิสเนี่ยเพราะฉะนั้นต้องจ่ายยา
02:38:42 → 02:38:46 อย่างน้อยต้องเป็นยาในขนาดโดส
02:38:46 → 02:38:49 หรือคือเขาเรียกว่า low to minimal to
02:38:49 → 02:38:54 medium อ่ะนะ dosage นะที่จะมีการป้อง
02:38:54 → 02:38:58 กันไม่ได้เป็นการรักษาแต่ถ้าเมื่อไหร่มัน
02:38:58 → 02:39:00 เกิน 300 เราถือว่าคุณต้องรักษาและ
02:39:00 → 02:39:03 โปรไฟคติเพราะฉะนั้นคุณต้องให้ maximum
02:39:03 → 02:39:07 dose นะแล้วจะ combine with อะไรอย่าง
02:39:07 → 02:39:10 เงี้ยนะไอ้พวกเอ่อต้านการเกิดลิ่มเลือด
02:39:10 → 02:39:15 อะไรต่างๆก็ทำไปเลยนะแล้วก็แนวโน้มคือกิน
02:39:15 → 02:39:26 ยาตลอดชีวิตนะอะไรอย่าง
02:39:26 → 02:39:31 เงี้ยยิ่งช่วงสมัยก่อนเนี่ยโอ๊ยแอสเปิน
02:39:31 → 02:39:34 กับคอร์ปิโดเจลเนี่ยคบนกันซะจนแบบ
02:39:34 → 02:39:37 อืมเออออฟไม่ได้เลยนะเกิดเรื่องเลยนะ
02:39:37 → 02:39:41 เดี๋ยวมายืนเท้าไซเอลด่ากัน
02:39:41 → 02:39:46 แบบด่าโชว์อ่ะเฮ้ยสนับมันหวั่นไหวเออคือ
02:39:46 → 02:39:50 ต้องกินถ้าจะกินเป็นอาหารเลยใช่มั้ฮะใช่
02:39:50 → 02:39:57 นะคือด่าจนคือหมอด่าหมอนะนะจนให้กลัวเออ
02:39:57 → 02:40:03 ว่าสั่งให้ออฟได้ยังไง
02:40:03 → 02:40:05 เออ
02:40:05 → 02:40:09 เฮ้อนะแต่ทุกสิ่งทุกอย่างนะฮะในการ
02:40:09 → 02:40:13 evident นะฮะในการที่จะเกิด ASCVD อ่ะนะ
02:40:13 → 02:40:17 เอ่อเอ่อมันก็มันเป็นไปตามอายุอ่ะอย่าง
02:40:17 → 02:40:22 หนึ่งก็คือกาลเวลาและเอ่อสภาพของอายุหรือ
02:40:22 → 02:40:27 บุญกรรมอ่ะนะหรือภาวะเวรกรรมกรรมสมค้อยนะ
02:40:27 → 02:40:30 บุพกรรมอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยมันก็จะมีผล
02:40:30 → 02:40:36 เมื่ออายุร่วงเวลาไปเรื่อยๆนะเออเพราะคน
02:40:36 → 02:40:39 เราแก่ไปข้างหน้าอ่อนแอไปข้างหน้าเจ็บ
02:40:39 → 02:40:44 ป่วยมากขึ้นมากขึ้นนะฮะเมื่อปีของอายุ
02:40:44 → 02:40:48 ผ่านไป
02:40:48 → 02:40:51 เออคุณเห่งถามว่าเคยตรวจแคลเซียมสกอร์
02:40:51 → 02:40:55 เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วเนี่ยอือได้ 0-1 จำ
02:40:55 → 02:40:58 ไม่ค่อยได้ก็คือไม่เสี่ยงต้องตรวจซ้ำอีก
02:40:58 → 02:41:02 ทุกๆกี่ปีครับพี่หมอ 3 ปีฮะ 3 ปีมาตรฐาน
02:41:02 → 02:41:08 คือ 3 ปี 3 ปีเออแต่ถ้าเมื่อไหร่นะค่าของ
02:41:08 → 02:41:13 แคลเซียมสกoreเนี่ยเกินจากค่าเดิมอ่าเอ่อ
02:41:13 → 02:41:17 เอ่อเกิน 15% นะฮะเกิน 15% ต้องตรวจทุกปี
02:41:17 → 02:41:18 หรือทุก 6
02:41:18 → 02:41:22 เดือนนะสมมุติว่าเราตรวจแล้วเนี่ยนะมัน
02:41:22 → 02:41:27 ได้ 100 แคซมสกore 100 นะเนี่ยเอ่อปีต่อ
02:41:27 → 02:41:32 มาเนี่ยเอ่อก็ตรวจเอ่อมันได้ 120 เงี้ยนะ
02:41:33 → 02:41:35 มันรได้ 120 เนี่ยเอ่อต่อไปคุณต้องตรวจ
02:41:35 → 02:41:40 ทุก 6 เดือนนะร่นไปเรื่อยๆนะถ้ามันเกิน
02:41:40 → 02:41:45 กว่าเดิมไปอีก 15% 15% เงี้ยนะก็ถือว่า
02:41:45 → 02:41:50 โลกมันโปกสไปในทางไม่ดี
02:41:50 → 02:41:54 นะหรือนี่แหละยิ่งเกินมากๆเนี่ยคุณมีแนว
02:41:54 → 02:42:00 โน้มเนี่ยจะต้องถูกทำบอลรูนเอ่อใส่ขดลวด
02:42:00 → 02:42:03 อะไรก็ตามเนี่ยนะ
02:42:03 → 02:42:08 นะเอ้ยผมมันคะแนนมันได้ 0 นะอาจารย์ทีนี้
02:42:08 → 02:42:14 มันจะคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงมันเริ่มจาก 0
02:42:14 → 02:42:19 หมายถึงถ้า 0 คือผมไปตรวจเซลเซียมสกอร์
02:42:19 → 02:42:22 ตอนที่ผมไปเบาหวานมารีมิชชัใหม่ๆเนาะ
02:42:22 → 02:42:25 คะแนนผมมันได้ 0 เลยอ่ะเออทีนี้ถ้าถ้า
02:42:25 → 02:42:28 สมมุติว่าครบเวลาตาผมไปตรวจซ้ำเนี่ยมันจะ
02:42:28 → 02:42:33 ใช้เกณฑ์เท่าไหร่ 0 ก็รออีก 3 ปีไปตรวจ
02:42:33 → 02:42:35 อ่าแล้วสมมติสมมติมันขึ้นมาเนี่ยมันขึ้น
02:42:35 → 02:42:39 มาเยอะแค่ไหนเราถึงจะต้องเช็คปีเกินต้อง
02:42:39 → 02:42:42 ไม่เกิน 100 ต้องไม่เกิน 100 เนี่ยถ้ายัง
02:42:42 → 02:42:45 อยู่ในช่วงไม่เกิน 100 ก็ตรวจทุก 3 ปีนะ
02:42:45 → 02:42:48 อ๋อสมมติจาก 0 ขึ้นมาเป็น 30 อย่างเงี้ย
02:42:48 → 02:42:53 ก็ก็ไม่เป็นไรก็ยังทุก 3 ปีได้ใช่ฮะใช่
02:42:53 → 02:42:58 แต่ถ้าปีไหนเอ่อมันเกิน 100 มันเกิน 100
02:42:58 → 02:43:03 นะนะก็เริ่มต้นแล้วล่ะว่าเออเอ่อกังวล
02:43:03 → 02:43:06 มั้ยจะรอ 3 ปีมั้ยถ้าไม่รอ 3 ปีก็ปีนึง
02:43:06 → 02:43:08 หรือ 2 ปีอ่ะ
02:43:08 → 02:43:12 ตรวจแล้วทำไมเกินไปกว่าเดิม 15% 15%
02:43:12 → 02:43:16 เนี้ยเวลาในการตรวจก็จะต้องลดลงมาทีละ
02:43:16 → 02:43:20 ครึ่งจากทุก 1 ปีกลายเป็นทุก 6
02:43:20 → 02:43:24 เดือนแล้วก็ 6 เดือนเพิ่มขึ้นไปอีกนะ
02:43:24 → 02:43:27 อย่างมีนัยยะสำคัญเลยคือเพิ่มไปอีกเกือบ
02:43:27 → 02:43:31 50% เงี้ยถ้าอย่างี้ก็ต้องพิจารณาแล้วนะ
02:43:31 → 02:43:38 ที่จะต้องทำหัถการ
02:43:38 → 02:43:48 แคทอ่ะ
02:43:48 → 02:43:50 Catalization ไม่มีใครถามเรื่องเก๊าเลย
02:43:50 → 02:43:53 เนอะ
02:43:53 → 02:43:57 เอ้แต่แต่โต้งอ่ะคงจะเข้าใจเรื่องเก๊าได้
02:43:57 → 02:44:01 เยอะขึ้นแล้วล่ะตอนเนี้ยนะอันนี้มันเป็น
02:44:01 → 02:44:05 แนวทางของเก๊าในรูปแบบที่เป็นการใช้
02:44:05 → 02:44:08 พรนาการเนี่ย low cฟ
02:44:09 → 02:44:13 ครับก็มีมุมมองในเรื่องของพลังงานที่เป็น
02:44:13 → 02:44:17 แคลอรี่กับฮอร์โมนเป็น
02:44:17 → 02:44:20 หลักของผมเนี่ยครับอาจารย์จริงๆก็มีปัญหา
02:44:20 → 02:44:22 เรื่องโรคอ้วนเนาะแล้วก็เป็น
02:44:22 → 02:44:25 ไฮเปอร์ยูริเมียเนี่ยมาเป็น 10 ปีแล้วอื
02:44:25 → 02:44:28 หมายถึงว่าหมายถึงก่อนที่จะจะคอนเฟิร์ม
02:44:28 → 02:44:31 ว่าเป็นเบาหวานเนี่ยประมาณ 10 ปีอ่ะเราก็
02:44:31 → 02:44:34 เริ่มลงพุงเริ่มอ้วนเนาะแล้วก็มียูริกสูง
02:44:34 → 02:44:37 มานานแต่มันก็ไม่เคยเป็นเก๊าท
02:44:37 → 02:44:42 อือแล้วก็ตอนที่เป็นเก๊าครั้งแรกก็คือว่า
02:44:42 → 02:44:44 เบาหวานมิชionมาแล้วประมาณ 6
02:44:44 → 02:44:47 เดือนหลังจากนั้นมันก็แackมาประมาณสักปี
02:44:47 → 02:44:49 ละครั้งอะไรอย่าง
02:44:49 → 02:44:52 เงี้ยผมก็มาประมวลมาประเมินจากเอย่างที่
02:44:52 → 02:44:56 อาจารย์สอนเนี่ยก็คือน่าจะเป็นเพราะว่า
02:44:56 → 02:44:59 เก๊าทเนี่ยมันของผมเนี่ยนะมันเป็นจากช่วง
02:44:59 → 02:45:03 ที่ร่างกายเหมือนกับว่าอินซูลินมันดื้อ
02:45:03 → 02:45:06 แล้วแบบแบบมันก้าวร้าวแบบสุดๆแล้วอ่ะซึ่ง
02:45:06 → 02:45:09 มันไม่ได้สุดๆแบบเนี้ยมาตั้งแต่ตอนที่เรา
02:45:09 → 02:45:12 เริ่มอ้วนหรือว่าเริ่มน้ำหนักเกินไม่ใช่
02:45:12 → 02:45:15 อืคือสมัยที่ผมเริ่มน้ำหนักขึ้นตั้งแต่
02:45:15 → 02:45:18 สมัยสมัยยังไม่จบหมอเลยเนี่ยนะอยู่ 20
02:45:18 → 02:45:22 ต้นๆมาถึง 40 ต้นๆเนี่ยมันขึ้นประมาณปีละ
02:45:22 → 02:45:25 กลครึ่งปีละ 2 กลอะไรประมาณเนี้ยนะไม่
02:45:25 → 02:45:28 ค่อยยอมแล้วก็ไม่ยอมลงนะแต่มันก็ไม่ได้
02:45:28 → 02:45:32 ขึ้นเร็วมากมายแต่ปีสุดท้ายก่อนที่ว่าจะ
02:45:32 → 02:45:35 เจอว่าเริ่มเป็นเบาหวานเนี่ยปีนั้นน่ะ
02:45:35 → 02:45:37 พยายามไปออกกำลังกายเพิ่มขึ้นด้วยอะไร
02:45:37 → 02:45:41 ด้วยนะแล้วก็ลดาฟลงไปบ้างแล้วนะแต่ว่ามัน
02:45:41 → 02:45:44 น้ำหนักขึ้นมา 6 ก.อ่ะปีเดียวอ๋อทั้งๆที่
02:45:44 → 02:45:47 ออกกำลังกายเยอะขึ้นอะไรต่ออะไรแล้วก็
02:45:47 → 02:45:48 สิ้นปีนั้นก็ตรวจเจอว่ามันโอเคมันเริ่ม
02:45:49 → 02:45:51 เป็นเบาหวานละทีนี้ตอนหลังเนี่ยคือเบา
02:45:51 → 02:45:55 หวานมันมันก็ยังรีมิชionอยู่ก็จริงแต่ว่า
02:45:55 → 02:45:58 ตัวยูริอ่ะผมสังเกตว่ามันสวิงแล้วก็ขึ้น
02:45:58 → 02:46:02 ลงแรงแล้วก็ขึ้นมาค้างนานอะไรเงี้ยหนัก
02:46:02 → 02:46:06 กว่าสมัยสัก 10 กว่าปีที่แล้วอีกอืแต่ 10
02:46:06 → 02:46:08 กว่าปีที่แล้วมันก็เคยขึ้นถึง 8-9 แต่มัน
02:46:08 → 02:46:11 ก็ไม่เคยเป็นเก๊าทไงอืเพราะว่าแสดงว่า
02:46:11 → 02:46:14 เก๊าเนี่ยมันจะกำเริบหรือไม่เนี่ยมันขึ้น
02:46:14 → 02:46:16 อยู่กับว่าคุณดื้ออินซูลินมากและดื้อมา
02:46:17 → 02:46:20 นานและมีภาวะก้าวร้าวของอินซูลินแบบสุดๆ
02:46:20 → 02:46:23 จริงๆอ่ะโดยที่มันอาจจะไม่จำเป็นแล้วล่ะ
02:46:23 → 02:46:24 ว่าคุณจะเป็นเบาหวานหรือเปล่าหรือว่าเบา
02:46:24 → 02:46:27 หวานคุณอาจจะรีมิชชionแล้วก็ได้แล้วอาหาร
02:46:27 → 02:46:30 ที่ไปทริกเกอร์มันเนี่ยไม่จำเป็นต้องเยอะ
02:46:30 → 02:46:33 แล้วเพราะว่าเหมือนกับเราพังสุดๆะไอ้ตอน
02:46:33 → 02:46:35 ที่ตอนไอ้ตอน 10 กว่าปีที่แล้วเงี้ยเราก็
02:46:35 → 02:46:38 อาจจะมีอ้วนมีลงพุงมียูริกสูงจริงแล้วเรา
02:46:38 → 02:46:41 ก็ยังไม่ได้ระวังเรื่องหวานยังกินหวานมาก
02:46:41 → 02:46:44 กว่าวันนี้ทั้งหลายเท่าอ่ะอืแต่มันก็ไม่
02:46:44 → 02:46:46 ได้เป็น
02:46:46 → 02:46:50 ใช่แต่ตอนเนี้ยอะไรนิดอะไรหน่อยมีหลุดมี
02:46:50 → 02:46:57 พลาดไม่ทันระวังปุ๊บโหเรียบร้อยเออคือมัน
02:46:57 → 02:47:00 compensate สุดๆแล้วนะแล้วแม้แต่ตัว
02:47:00 → 02:47:02 อินซูลินเนี่ยก็คาแรคเตอร์เปลี่ยนไปแล้ว
02:47:02 → 02:47:06 ล่ะจากไฮเปอร์อินซูลินีเมียกลายเป็นทั้ง
02:47:06 → 02:47:09 ไฮเปอร์ทั้ง
02:47:09 → 02:47:11 agอทั้งอulูลิน agressive
02:47:12 → 02:47:17 ไปเออคือมันอินซูลินมันไม่ไฮเปอร์ละนะมัน
02:47:17 → 02:47:21 เปลี่ยนพฤติกรรมแล้วเออมันไม่ได้เอา
02:47:21 → 02:47:24 ปริมาณเป็นหลักะมันเอาแปลว่าสมมติว่าไป
02:47:24 → 02:47:28 เจาะอินซูลินซ้ำสมมุติว่ามันอาจจะเกิน 10
02:47:28 → 02:47:34 มานิดหน่อยแต่ว่าน้ำหนักลดยากขึ้นง่าย
02:47:34 → 02:47:37 หรือยังมีแทackเป็นพรรอะไรแบบเนี้ยมาอยู่
02:47:37 → 02:47:39 เรื่อยเลยอะไรแบบเนี้ยอันเนี้ก็คือยืนยัน
02:47:39 → 02:47:41 กับเราเลยว่าเป็นพฤติกรรมของอินซูลินที่
02:47:42 → 02:47:45 เสียนิสัยไปเรียบร้อยแล้วเงี้ใช่น่าจะ
02:47:45 → 02:47:47 เป็นอย่างนั้นเพราะว่าเพราะว่าเรื่องของ
02:47:47 → 02:47:50 คุณภาพประสิทธิภาพของอินซูลินมันเปลี่ยน
02:47:50 → 02:47:53 ไปนะทั้งอินซูลินทั้งไทรรอยด์มีพฤติกรรม
02:47:53 → 02:47:59 แบบนี้เลยนะไพโรจยังอยู่มั้ย
02:47:59 → 02:48:03 ไพโรจไพโรจหลับไปแล้วเหรออยู่ๆอยู่ครับผม
02:48:03 → 02:48:07 นี่แหละที่ไพโรจโคตถามนี่แหละว่าพี่หมอ
02:48:07 → 02:48:11 เอ่ออยากจะรู้เรื่องรด้าเรื่องอะไรนะ
02:48:12 → 02:48:15 เรื่องอซูลินฟังก์ชเนี่ยคือเค้าเรียกว่า
02:48:15 → 02:48:18 อulin agession insulin
02:48:18 → 02:48:22 disfunังชulin deession เนี่ยนะมันไม่ใช่
02:48:22 → 02:48:26 เรื่องปริมาณนะหรือจำนวนนะหรือระดับของ
02:48:26 → 02:48:29 อินซูลินจะมากจะน้อยแต่มันเป็นเรื่องของ
02:48:29 → 02:48:32 เค้าเรียกว่าเค้าเรียกอะไรอ่ะเคุณภาพ
02:48:32 → 02:48:35 ประสิทธิภาพหรือคาแรคเตอร์อ่ะนะว่ามัน
02:48:35 → 02:48:38 เป็นแบบที่หมอโต้งพูดนี่แหละว่ามันคือมัน
02:48:38 → 02:48:41 ก้าวเล้ามันโมโหมันมันเนี่ยมันดุดันอย่าง
02:48:42 → 02:48:45 เงี้ยนะทีนี้ถามไอโรจถามว่าแล้วจะมีวิธี
02:48:45 → 02:48:48 การยังไงควบคุมเค้าอะไรเงี้ยนะก็คือการ
02:48:48 → 02:48:52 ควบคุมเนี่ยนะฮะหมอเคยในเรื่องของวิธีใน
02:48:52 → 02:48:55 เชิงปฏิบัติในการแก้ปัญหาฟenomินอเนี่ยนะ
02:48:55 → 02:48:59 หลักการเค้าก็จะใช้แบบนั้นนะฮะครับหรือ
02:48:59 → 02:49:02 อีกวิธีนึงเนี่ยมันก็คล้ายๆกันนี่แหละฮะ
02:49:02 → 02:49:06 เร็วๆเนี้ยเมื่อสัก 3-4 วันนี้มั้งที่หมอ
02:49:06 → 02:49:09 โพสต์ในเรื่องของวิธีการรีซet
02:49:09 → 02:49:13 ภาวะ insulin sensitivity เนี่ยเรานำ
02:49:13 → 02:49:15 สิ่งเหล่าเนี้ยเรานำข้อมูลเหล่าเนี้ยมา
02:49:15 → 02:49:20 ใช้ในการปรับความก้าวร้าวนะหรือการ
02:49:20 → 02:49:21 ดิสฟังก์ชันของ
02:49:21 → 02:49:25 อินซูลินเอ่อเราใช้วิธีการแบบเนี้ย
02:49:25 → 02:49:30 กันซึ่งส่วนใหญ่มันจะเป็นบทบาทของพวกสาร
02:49:30 → 02:49:33 อาหารรองอ่ะนะวิตามินแร่ธาตุสมุนไพรอะไร
02:49:33 → 02:49:36 อย่างเงี้ยนะที่เมาใช้
02:49:36 → 02:49:38 กันอื
02:49:38 → 02:49:43 อืครับเดี๋คงต้องย้อนกลับไปฟังให้อีก 2-3
02:49:43 → 02:49:45 รอบ
02:49:45 → 02:49:49 คือมันต้องใช้หลายตัวในแง่นี้นะในแง่
02:49:49 → 02:49:51 เนี้ยก็เหมือนที่หมอบอกไปเมื่อกี้เนี่ย
02:49:51 → 02:49:54 ว่าเบาหวานเนี่ยในระยะยาวแล้วเนี่ยมัน
02:49:54 → 02:49:58 เป็นปัญหาของการขาดสารอาหารคือมันระยะแรก
02:49:58 → 02:50:02 ๆอ่ะเราอาจจะเเรียกโฟกัสหรือเอาเป็นเอา
02:50:02 → 02:50:05 ตายกับเรื่องพลังงานต้องจำกัดาฟต้องจำกัด
02:50:05 → 02:50:08 ชนิดของอย่างี้นะแต่ในระยะหลังเที่เบา
02:50:08 → 02:50:11 หวานมันยังไม่ไม่รีมิชionหรือไม่ไม่
02:50:11 → 02:50:13 สำเร็จเนี่ยมันต้องอัดเรื่องสารอาหารไป
02:50:13 → 02:50:17 ด้วยเพราะว่าในระยะยาวก็ถือว่าเบาหวานที่
02:50:17 → 02:50:21 มันreรีresีetหรือrecoverอไม่ได้เนี่ย
02:50:21 → 02:50:23 เพราะว่ามีปัญหาเรื่องสารอาหารโดยเฉพาะ
02:50:23 → 02:50:27 สารอาหารรองนะก็คือกลุ่มเนี่ยวิตามินแร่
02:50:27 → 02:50:30 ธาตุอะไรต่างๆเนี่ยมันเข้าเซลล์ไม่ได้มัน
02:50:30 → 02:50:34 ถูกกีดกันหรือว่ามันมีมันมีอะไรบางสิ่ง
02:50:34 → 02:50:37 บางอย่างเนี่ยมาเบาะมันอยู่นะฮะอืเพราะ
02:50:37 → 02:50:41 ฉะนั้นคู่หูของอินซูลินเนี่ยที่จะทำให้
02:50:41 → 02:50:45 อินซูลินเอยู่ในโอวาทอยู่ในความดีความงาม
02:50:45 → 02:50:50 เป็นพ่อพระอะไรอย่างเงี้ยมันมันเกิดยากไง
02:50:50 → 02:50:54 นะอ่าอย่างเช่นอะไรเช่นสังกสีอย่าเงี้ย
02:50:54 → 02:50:57 อินซูลินเชอบแร่ธาตุและแร่ธาตุที่สำคัญ
02:50:57 → 02:51:01 น่ะก็คือโปแทสเซียมแมกนีเซียมโพแทสเซียม
02:51:01 → 02:51:04 สังกสีโครเมียมแมกนีเซียมนะฮะเนี่ย
02:51:04 → 02:51:06 อินซูลินก็ต้องมีพวกเนี้ย
02:51:06 → 02:51:11 ฝั่งวิตามินก็คือ B1 อ่าตัว B1 B12 เอ้ย
02:51:11 → 02:51:16 B1 แล้วก็ B อ่ามีอะไรอีกอ่ะวิตามินซี
02:51:16 → 02:51:21 เอ่อวิตามินDogอกเนี่ยวิตามินA่าอย่าง
02:51:21 → 02:51:25 เงี้ยอืเนี่ยเใช้หลายตัวนะเพราะงั้นถ้า
02:51:25 → 02:51:27 เรายังบกพร่องในเรื่องเหล่านี้เนี่ยก็
02:51:27 → 02:51:30 อย่าหวังเลยว่าอินซูลินดิสฟังก์ชันลาดด้ง
02:51:30 → 02:51:34 ลด้าหรือจะไปลดการฉีดอินซูลินหรือจะทำให้
02:51:34 → 02:51:37 อินซูลินเข้ามา sensitive อะไรอย่างเงี้ย
02:51:38 → 02:51:41 นะมันก็เกิด
02:51:41 → 02:51:43 ยากเพราะในปัจจุบันเนี่ยคนมันยังอยู่แค่
02:51:43 → 02:51:45 ขั้นตอนที่
02:51:45 → 02:51:49 ว่าอย่ากินคาฟอย่ากินน้ำตาลอย่ากินอะไร
02:51:49 → 02:51:51 ที่มันอย่างเงี้ยที่ไปกระตุ้นอินซูลินออก
02:51:51 → 02:51:54 มาอะไรอย่างเงี้ยเยังไม่รู้ในเรื่องของ
02:51:54 → 02:51:58 เรื่องของลึกๆนะเกี่ยวกับรายละเอียดของ
02:51:58 → 02:52:01 ตัวอินซูลินนะมันมีความลับมันแล้วอย่าง
02:52:01 → 02:52:05 ถ้าเป็นคนที่เป็นแบบผมเงี้ยแบบทรงเป็น
02:52:05 → 02:52:08 อ้วนน่ะเป็นเป็นคือไม่ใช่ดิสฟังก์ชันน่ะ
02:52:08 → 02:52:11 แต่ว่ามันก้าวร้าวเฉยๆแบบเนี้ยครับไอ้การ
02:52:11 → 02:52:14 เสริมพวกแร่ธาตุสารอาหารรองอ่ะมันจะ
02:52:14 → 02:52:15 จำเป็นเหมือนกับในกลุ่มผอมกลุ่ม
02:52:15 → 02:52:19 ดิสฟังก์ชันมั้ฮะน่าจะจำเป็นต้องลองดู่ะ
02:52:19 → 02:52:22 ฮะต้องลองดู
02:52:22 → 02:52:26 เออที่เ้ากันเนี่ยก็มีพวก
02:52:26 → 02:52:30 สังกสีเอ่อโครเมียมเบอร์เบอรีน
02:52:30 → 02:52:33 เบอร์เบอรีนมันก็เป็นสมุนไพรถ้าไม่มี
02:52:33 → 02:52:36 เบอร์เบอรีนก็เป็นอ่าอะไร
02:52:36 → 02:52:40 ซินามอนคืออะไรอ่ะครับเอนั่นแหละเอ
02:52:40 → 02:52:46 แสตraซทีนเออแสตราซิด้วยก็ได้นะเนี่ย
02:52:46 → 02:52:51 นะสังกสีเออโครเมียม
02:52:51 → 02:52:54 เซิเนียมอะไรอย่างเงี้ยนะมันมีสารอาหาร
02:52:54 → 02:52:59 หลอกที่ร่างกายมันมันใส่เข้าไปในเซลล์ยาก
02:52:59 → 02:53:03 มากเลยนะก็คืออย่างคนที่เค้าฉีดอินซูลิน
02:53:03 → 02:53:05 แล้วหรือเป็นแล้วเนี่ยเค้าก็จำเป็นที่จะ
02:53:05 → 02:53:08 ต้องแบบกินข้าวเพื่อที่จะเติมพวกนี้เข้า
02:53:08 → 02:53:14 ไปอย่างนี้ใช่มั้ครับใช่ใช่นะอย่างเอาจจะ
02:53:14 → 02:53:16 ต้องมี
02:53:16 → 02:53:19 เ้าอาจจะมีชีส day ที่ว่าไปกิน 3 มื้อ
02:53:19 → 02:53:21 อย่างนี้เลยก็ได้เหมือนกันก็ควรจะทำ
02:53:21 → 02:53:25 เหมือนกันใช่มั้ครับใช่เออหมายถึงว่าก็
02:53:25 → 02:53:28 คิดอินซูลินทั้ง 3 มื้ออ่ะกินคาฟทั้ง 3
02:53:28 → 02:53:31 มื้อเลยอย่างเงี้ย
02:53:31 → 02:53:35 คือหลักการของาฟเนี่ยเนี่ยก็ยังเหมือน
02:53:35 → 02:53:39 เดิมนะฮะว่าถึงคุณจะเป็นไทวันเป็นหรือ
02:53:39 → 02:53:43 เป็นแบบ 1 แบบ 2 ที่หนักๆเหล่าเนี้ยนะใน
02:53:43 → 02:53:46 แง่ของาฟที่ร่างกายควรจะได้เพื่อจะเติม
02:53:46 → 02:53:49 สารอาหารเนี่ยเราไม่ต้องการแป้งเป็นหลัก
02:53:49 → 02:53:52 นะแต่จะมีแป้งก็มีได้นิดหน่อยเพื่อไปเป็น
02:53:52 → 02:53:55 ไกลโคเจนที่ต่ำนะฮะแต่เราต้องการอะไร
02:53:55 → 02:53:57 ต้องการไฟเบอร์ต้องการ resistance stาร
02:53:57 → 02:54:01 ต้องการสารพิษษาเคมีต้องการวิตามินแร่ทาง
02:54:01 → 02:54:03 ครับผมสิ่งเหล่าเนี้ยร่างกายสร้างเองไม่
02:54:03 → 02:54:06 ได้ไฟเบอร์สร้างกายสร้างไม่ได้เพราะ
02:54:06 → 02:54:09 ฉะนั้นมันก็จะต้องได้จากทางอาณาจักรพืช
02:54:09 → 02:54:13 ซึ่งมันก็ต้องมีแป้งปนมา
02:54:13 → 02:54:16 ก็ก็คือคิดว่าคล้ายๆกับบอดี้ typ สายแป้ง
02:54:16 → 02:54:18 ที่ว่าเป็นรูปร่างผอมอะไรอย่างเงี้ยก็ควร
02:54:18 → 02:54:22 ที่ต้องมี day อีกสัก 2 วันวันหรือ 2 วัน
02:54:22 → 02:54:25 ต่ออาทิตย์อย่างี้ก็หมายความว่าไอ้ 1-2
02:54:25 → 02:54:28 วันต่ออาทิตย์อย่างเงี้ยเค้าก็ต้องไปฉีด
02:54:28 → 02:54:32 อินซูลินทั้ง 3 มื้อก็คือเขากินาฟ 3 มื้อ
02:54:32 → 02:54:32 เหมือนเป็น
02:54:33 → 02:54:36 Day ของเค้าไปอย่างเงี้ยอือก็ก็ควรจะทำ
02:54:36 → 02:54:39 อย่างงี้เหมือนกันใช่มั้ครับฉีบเท่าเดิม
02:54:39 → 02:54:40 แต่
02:54:41 → 02:54:45 เราเอ่อเค้าเค้าใช้ยาเยอะมั้ยแล้วค่าน้ำ
02:54:45 → 02:54:48 ตาลยังสูงมั้ย
02:54:48 → 02:54:50 อ๋ออันนี้ผมถามโดยโดยรวมอ่ะครับผมหมายๆ
02:54:51 → 02:54:55 หมายความว่าเค้าเป็นการลักษณะว่าเอ่ออาจ
02:54:55 → 02:54:58 จะเพิ่งตรวจพบแล้วเจะไปปฏิบัติตัวยังไง
02:54:58 → 02:55:00 เพื่อที่ให้เค้าอ่ะมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่ม
02:55:00 → 02:55:02 ขึ้นได้ด้วยแล้ว
02:55:02 → 02:55:04 ก็คือ
02:55:04 → 02:55:08 คือยังไงดีอ่ะก็คือพัฒนาร่างกายของเค้า
02:55:08 → 02:55:12 ได้มีศักยภาพได้ดีขึ้นด้วยอย่างเงี้ยครับ
02:55:12 → 02:55:15 คือถ้าช่วงแรกๆคุณยังคุมน้ำตาลไม่ได้คุณ
02:55:15 → 02:55:18 ต้องเอาน้ำตาลลงก่อนเพราะฉะนั้นเนี่ยาฟ
02:55:18 → 02:55:21 เนี่ยต้องไม่ได้นะแต่คุณจะกินในรูปของ
02:55:21 → 02:55:24 อาหารเสริมวิตามินเป็นเม็ดอะไรอ่ะแทนไป
02:55:24 → 02:55:29 ได้อคุณก็กินเป็น high โปรตีน high good
02:55:29 → 02:55:32 healthy fat เลยไปแล้วคุณก็ฉีฉีดยงฉีด
02:55:32 → 02:55:37 ยาไปนะฮะจนถึงขนาดที่ว่ามันมีทรายว่าเออ
02:55:37 → 02:55:41 มันดีขึ้นยาลดลงอะไรอย่างเงี้ยนะเนี่ยอื
02:55:42 → 02:55:45 ค่อยๆอ่าปรับมาเป็น Real Food ที่เป็น
02:55:45 → 02:55:48 Good to Get C
02:55:49 → 02:55:53 ครับควบๆไอ้พวกนี่แหละพวกยาเบอร์เบอารีน
02:55:53 → 02:55:57 โครเมียมสังกสีเซเรเนียมอะไรเงี้ยแตต้าซิ
02:55:57 → 02:56:01 เนี่ยเออโคิเทนอะไรอย่าเงี้ย
02:56:01 → 02:56:06 ก็เปลืองหน่อยอ่ะ
02:56:06 → 02:56:11 อืมครับผมก็คืออย่างสมมุติว่าเบาหวานชนิด
02:56:11 → 02:56:14 ที่ 1 ที่เเป็นในช่วงเด็กๆวัยรุ่นอย่าง
02:56:14 → 02:56:17 เงี้ยที่เขาเพิ่งมาเป็นในช่วงเด็กๆหรือ
02:56:17 → 02:56:20 วัยรุ่นอย่างเงี้ยเค้าก็สามารถที่จะปรับ
02:56:20 → 02:56:25 ปรุงที่จะกินโลฟสลับกับการกินาฟเป็นบาง
02:56:25 → 02:56:28 วันได้อย่างี้ก็ก็ควรจะทำเพื่อที่จะเสริม
02:56:28 → 02:56:30 สร้างกล้ามเนื้ออะไรของเขาไปตามเรื่อง
02:56:30 → 02:56:33 อย่างงี้ก็ควรจะทำอย่างงี้ใช่มั้ยครับใช่
02:56:33 → 02:56:37 ๆเพราะว่าหลักการของาฟก็คือ 1 ชนิด 2
02:56:37 → 02:56:40 ปริมาณเอ่อคุณต้องจำกัดได้เท่าไหร่ได้
02:56:40 → 02:56:45 เท่าไหร่นะครับคำว่าปริมาณเนี่ยหมายถึง
02:56:45 → 02:56:49 ว่าคุณจะได้แป้งอ่ะแค่ไปฟิลเป็นไกลโคเจน
02:56:49 → 02:56:52 ที่ตับเท่านั้นแหละมากกว่านั้นไม่ได้นะ
02:56:52 → 02:56:55 แล้วนอกจากนั้นเนี่ยให้มันมี High Fber
02:56:55 → 02:56:57 High Resistance Start High ไอ้พวก
02:56:57 → 02:57:00 ไโตนิวเตี้นวิตามินแร่ธาตุรองลองเข้าไป
02:57:00 → 02:57:12 เยอะๆอืครับผม
02:57:12 → 02:57:16 อืครับพ่อเข้าใจแล้วครับไม่มีคนถามเรื่อง
02:57:16 → 02:57:20 เก๊าเลย
02:57:20 → 02:57:24 ไม่รู้ว่าหมอโต้จะไลฟ์ด้วยมั้ยเอออย่าง
02:57:24 → 02:57:28 อย่างมีตอนนึงที่ว่าผมว่าปวดขาตอนเช้าอ่ะ
02:57:28 → 02:57:32 อือืที่ว่าไปเหยียบตอไม้แล้วผมมีค่ายูริก
02:57:32 → 02:57:35 สุกประมาณ 8 เนี่ยแล้ววันนั้นไปเก็บตอไม้
02:57:35 → 02:57:37 แล้วอีก 2 วันต่อมาเนี่ยตอนเช้ามาปวดข่า
02:57:37 → 02:57:39 อีกข้างนึงอย่างเงี้ยอันนี้ก็ถือว่าเป็น
02:57:39 → 02:57:45 ผลกระทบของของยูริใช่มั้ยครับ
02:57:45 → 02:57:52 เอ่อคือยูริคเนี่ยยูริคไอ้ไอ้พวกอะไรน่ะ
02:57:52 → 02:57:55 คือข้อเนี่ยข้อที่ปวดของยูริกอ่ะมันจะ
02:57:55 → 02:58:00 เป็นโมโนมันจะเป็นการปวดแบบข้อเดี่ยวนะ
02:58:00 → 02:58:03 ข้อเดียวข้อเดียวไม่ไม่ symry คือไม่ใช่
02:58:03 → 02:58:06 ว่าเป็น 2 ข้างนะ
02:58:06 → 02:58:10 ฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เป็นไปได้ที่ว่า
02:58:10 → 02:58:13 การปวดในครั้งนั้นเนี่ยมันจะอาเป็น
02:58:13 → 02:58:14 reีactive
02:58:14 → 02:58:16 hyperปอิซemia
02:58:16 → 02:58:21 นะแต่ว่ามันไปเป็นด้านตรงกันข้ามเลยอื
02:58:21 → 02:58:25 ครับผมหรือว่าด้านที่มันเกิดความผิดปกติ
02:58:25 → 02:58:30 เนี่ยมันรับความรู้สึกลดลงยังไงหรือเปล่า
02:58:30 → 02:58:35 เป่ามันแบวมแดงร้อนอะไรเลย
02:58:36 → 02:58:39 มันมันก็ถือว่าไอ้ข้างที่ไปเหยียบตอไม้
02:58:39 → 02:58:41 เนี่ยก็ถือว่าเหยียบค่อนข้างหนักอยู่
02:58:41 → 02:58:44 เหมือนกันน่ะครับเหรอแล้วก็วันที่มาปลดขา
02:58:44 → 02:58:47 เนี่ยมันก็มีเข้าจังหวะที่ว่ามันก็พอดี
02:58:47 → 02:58:50 ว่าอากาศมันจังหวะที่มันจะเย็นชื้นพอดี
02:58:50 → 02:58:53 เหมือนกันนะครับแล้วก็เป็นตอนรุ่งเช้า
02:58:53 → 02:58:56 เนี่ยประมาณสซัก 5:00 น. 18:00 น.เท้า
02:58:56 → 02:59:00 เนี่ยแหละเป็นอยู่ 2 วัน 3 วันอืเป็นอยู่
02:59:00 → 02:59:04 แค่นั้นครับ Active Cy attack นะแต่มัน
02:59:04 → 02:59:07 แต่มันไม่ได้ปวดข้อ
02:59:07 → 02:59:10 เออมันไม่ได้ปวดอีกข้อมันปวดที่บริเวณ
02:59:11 → 02:59:15 น่องครับอเป็นไปได้ฮะเพราะว่ามันเป็นนอก
02:59:15 → 02:59:19 ข้อเนี่ยได้นะไอ้เรื่องของไอ้คล้ายๆ
02:59:19 → 02:59:24 สูโอเก๊าทเนี่ยนะมันเป็นที่เนื้อเยื่อได้
02:59:24 → 02:59:28 นะแต่ว่าการ TMA Accident เนี่ยเป็นตัว
02:59:28 → 02:59:30 กระตุ้นเป็นปัจจัยส่งเสริมอืเพราะฉะนั้น
02:59:30 → 02:59:33 เนี่ยเวลาที่เรามีกรดยูริกสูงๆเราไม่อยาก
02:59:33 → 02:59:36 ให้มันตกตะกอนเนี่ยสิ่งนึงก็คือนอกจาก
02:59:36 → 02:59:39 อาหารการกินรดละเลี่ยงหรือจะไปกินตัวล้าง
02:59:39 → 02:59:42 พิษอะไรแล้วเนี่ยเราต้องหลีกเลี่ยงการ
02:59:42 → 02:59:45 เกิดไอ้กระทบกระแทกกระเทือน TMA Acccient
02:59:45 → 02:59:49 นะอืครับเพราะว่าหมอมีคนไข้ Acute Cry
02:59:49 → 02:59:51 Attack อ่ะที่เขาแอทackมาเนี่ยเพราะเขา
02:59:51 → 02:59:55 ไปขับรถขับรถ 10 ล้ออ่ะแล้วเดินทางไกลอ่ะ
02:59:55 → 02:59:59 นะอ่าขับไปขับกลับก็ต้องมานั่งฉีดยาที่
02:59:59 → 03:00:02 แทackกันอยู่เงี้ยนะเพราะว่าเวลาเ้า
03:00:02 → 03:00:05 เหยียบเบรกเหยียบเกียร์ 10 ล้อเนี่ยมัน
03:00:05 → 03:00:09 เหมือนมันมีการกระแทกอ๋อเบรกตัวโก่งเงี้ย
03:00:09 → 03:00:13 นะเออมันเหมือนอื้อหือ
03:00:13 → 03:00:17 เออก็คนนี้มันก็ตลอดเลยอ่ะนะเดี๋ยวไป
03:00:17 → 03:00:21 เดี๋ยวกลับส่งของเงี้ยเออขับรถ 10 กเงี้ย
03:00:21 → 03:00:24 เออก็มาอีกแล้วเจ็บมาอีกแล้วเพราะฉะนั้น
03:00:24 → 03:00:26 คนเนี้ยปัจจัยใครกระตุ้นก็คือไอ้พวก Thor
03:00:26 → 03:00:30 Accident เนี่ยนะออครับเออแต่ว่าพื้นฐาน
03:00:30 → 03:00:32 แล้วร่างกายคุณก็มี
03:00:32 → 03:00:35 ไฮเปอร์ยูิซีเมียล่อแหลมอยู่แล้วแล้วคุณ
03:00:35 → 03:00:39 ก็ไม่ระวังการกินแต่คิดว่าปัจจัยกระตุ้น
03:00:39 → 03:00:42 จริงๆเนี่ยก็คือไอ้เรื่องของการขับรถทาง
03:00:42 → 03:00:44 ไกลนี่แหละวะ
03:00:44 → 03:00:47 เนี่ยมันเป็นไปได้เพราะฉะนั้นมาอธิบายกับ
03:00:47 → 03:01:00 กรณีของไพโรจได้อืครับ
03:01:00 → 03:01:06 หมดแล้ววันนี้คิดว่าจะแค่มาคุยกับลูกเพจ
03:01:06 → 03:01:08 ที่จะมีการโต้
03:01:08 → 03:01:16 ตอบถามคำ
03:01:16 → 03:01:18 ถามกลายเป็น
03:01:18 → 03:01:22 ว่าตีนเรื่องเซาเนี่ยถามถามนิดนึงไอ้ข้อ
03:01:22 → 03:01:27 ที่เป็นเนี่ยมันเป็นที่เข่าเจอบ่อยมั้ยฮะ
03:01:27 → 03:01:30 เอ่อเป็นอันดับ 3 นะฮะนะหัวนิ้วโป้งของ
03:01:30 → 03:01:33 เท้าเนี่ยอันดับ 1 ข้อเท้าอันดับ 2 เข่า
03:01:33 → 03:01:37 อันดับ 3 เข่าก็เจอบ่อยๆนะฮะแล้วถ้ามัน
03:01:37 → 03:01:41 ขึ้นมาปวดถึงเข่าเนี่ยเอ่อไอ้ตรงหัวนิ้ว
03:01:41 → 03:01:44 โป้งหรือตรงข้อเท้าเนี่ยมันอาจจะไม่ปวด
03:01:44 → 03:01:48 ที่ก็ได้ใช่มั้ฮะได้ฮะได้เจอมาแล้วนะแล้ว
03:01:48 → 03:01:51 ก็เคยเจาะข้อแล้วแล้วก็ดูดออกมาแล้วไป
03:01:51 → 03:01:55 ส่องกล้องจนทัศน์เนี่ยยูทริสตัลเต็มเลยนะ
03:01:55 → 03:01:58 เพราะว่าวันก่อนเเจอเคสนึงเป็นผู้หญิง
03:01:58 → 03:02:02 ด้วยนะไม่ใช่ผู้ชายคือคนเนี้ยเค้าเค้าเคย
03:02:02 → 03:02:04 เจอยูริกสูงแล้วเไม่ได้ตรวจนานะแล้วก็ล่า
03:02:04 → 03:02:08 สุดเนี่ยเค้าเไปตรวจคลินิกออโถหรือไงไม่
03:02:08 → 03:02:11 แน่ใจแล้วแล้วก็เตรวจเลือดไม่ได้เาก็เลย
03:02:11 → 03:02:12 มาที่โรง
03:02:12 → 03:02:15 พยาบาลแล้วก็อาจจะขอผลกลับอย่างเงี้ยเรา
03:02:15 → 03:02:18 ก็ส่งตรวจไปอย่างคนเนี้ยเราดูแล้วเขาก็
03:02:18 → 03:02:21 บวมๆแล้วก็น้ำหนักเค้าก็เกินหน่อยๆอ่ะอาจ
03:02:22 → 03:02:24 จะผมก็ไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นเข่าเสื่อมหรือ
03:02:24 → 03:02:27 ว่าเค้าเป็นเก๊าทกันแน่อือแต่ว่าเจาะมา
03:02:27 → 03:02:31 แล้วไอ้ยูริกมัน 12 อ่ะแล้วผู้หญิงน่ะนะ
03:02:31 → 03:02:33 เออก็เลยคิดว่าเออก็คงจะเก๊าทจริงอ่ะถ้า
03:02:33 → 03:02:35 แบบนี้ก็เลยแนะนำเ้าเรื่องเกี่ยวกับอาหง
03:02:35 → 03:02:38 อาหารอะไรไปแล้วก็เค้าก็ไปหาหากลับไปหา
03:02:38 → 03:02:41 หมอกระดูกของเค้าอ่ะนะอืแต่ก็ไม่รู้หมอ
03:02:41 → 03:02:43 กระดูกเจะรักษายังไงเหมือนกัน
03:02:43 → 03:02:47 นะก็จะฉีดยากินยาตามเรื่องมั้ยหรือไงคือ
03:02:47 → 03:02:51 บางทีที่เข่าอ่ะทำไมมันswวellingมากๆอ่ะ
03:02:51 → 03:02:54 เอ่อก็ก็ดูดน้ำไปตรวจดูดน้ำไปตรวจใน
03:02:54 → 03:02:58 แppปิ้งอ่ะนะฮะนะอันนี้ไม่ยากนะขอแปปิ้ง
03:02:58 → 03:03:03 ไปสักนิดนึงเอ่อก็จะรู้อ่ะอืมตัวูate
03:03:03 → 03:03:06 คริสตัลเนี่ยเวลาดูกล้องจนัศน์เนี่ยมัน
03:03:06 → 03:03:11 ชัดเจนอ่าขอน้ำไปตรวจถ้าไม่แน่ใจว่าจะ
03:03:11 → 03:03:15 เป็นเก๊าทหรือ
03:03:15 → 03:03:18 สูโดเก๊าทแต่ว่าถ้าขึ้นถึง 12 เนี่ยโอ้โห
03:03:18 → 03:03:21 เดี๋ยวเหอะเยอะนะคือส่วนใหญ่ถ้ามันเกิน 8
03:03:21 → 03:03:26 เนี่ยทั้งไตทั้งนิ่วอะไรต่างๆนะมันจะเยอะ
03:03:26 → 03:03:30 มันจะมีโอกาสเสี่ยงแยะเลย
03:03:30 → 03:03:35 อืต้องต้องรีบต้องรีบแก้
03:03:35 → 03:03:38 อืมเป็นวัยวัยทองหรือเปล่าส่วนใหญ่ในผู้
03:03:39 → 03:03:42 หญิงมันจะเจอในวัยทองขึ้นไป
03:03:42 → 03:03:47 อืก็น่าจะเลยวัยทองมาสักพักแล้วครับอายุ
03:03:47 → 03:03:51 พี่แกไม่ 50 ปลายๆหรือไงเนี่ยเอออเงี้ย
03:03:51 → 03:03:54 เทียบเท่ากับผู้ชายแหละนะเขา
03:03:55 → 03:04:01 แทคมันพอ
03:04:01 → 03:04:02 กัน
03:04:03 → 03:04:06 นะคือจากคำถาม 1 2 เนี่ยเราเจอมาหมดแล้ว
03:04:06 → 03:04:11 นะบางคนก็มาอื้อหือนี่แหละทำให้เราต้อง
03:04:11 → 03:04:16 ตั้งคำถามเนี่ยว่าหมอไม่ได้กินเลยกินไข่
03:04:16 → 03:04:21 กินเนื้อนี่แหละนะแล้วก็ทำเป็นคล้ายๆโบนบ
03:04:21 → 03:04:23 น่ะน้ำซุปต้มกระดูกอ่ะแต่เมืองเก๊าก็ยัง
03:04:23 → 03:04:26 แอทackอยู่ไม่ได้เติมผงชืรสไม่ได้ใส่น้ำ
03:04:26 → 03:04:31 ตาลไม่ได้ปรุงอะไรที่จะทำเองจริงๆ
03:04:31 → 03:04:37 นะเออกินแล้วก็เค้าที่แอทackเฮ้อ
03:04:37 → 03:04:40 นะ
03:04:40 → 03:04:45 เ้อคือเก๊านะจะดูว่าง่ายก็ง่ายยากก็ยากนะ
03:04:45 → 03:04:48 แต่มันมีหลักเกณฑ์ที่จะเข้าใจอย่างเงี้ย
03:04:48 → 03:04:51 เราจะไม่ค่อยพลาดนะแล้วจะพอมอง
03:04:51 → 03:04:53 ออก
03:04:53 → 03:04:57 นะจริงๆก็อยากให้ผู้คนน่ะเอาไปใช้เอาไป
03:04:57 → 03:05:02 ใช้แล้วจะได้เข้าใจเออจะได้เข้าใจเรื่อง
03:05:02 → 03:05:07 เรื่องเนี้ยนะเพราะว่าเก๊ามันก็มันก็ต้อง
03:05:07 → 03:05:12 กินยารักษาแหละมันทรมานนะนะแต่ระวังคนที่
03:05:12 → 03:05:16 มันแอทackบ่อยๆแล้วก็มันก็ต้องมาฉีดพวก
03:05:16 → 03:05:20 เอ็นเซตหรือพวกdeกซ่าเนี่ยนะโอ้ในระยะยาว
03:05:20 → 03:05:23 มันไม่ดีอ่ะ
03:05:23 → 03:05:25 นะแล้ว
03:05:25 → 03:05:29 ก็มันก็พูดยากอ่ะในเรื่องอาหารมันแล้วแต่
03:05:29 → 03:05:33 ความเข้าใจและการยอมรับของผู้
03:05:33 → 03:05:38 คนพลังงานอาหารนะพลังงานก็อยู่ในร่างกาย
03:05:38 → 03:05:42 นะที่จะเปิดโหมดเป็นเผาผลาญหรือเป็นสะสม
03:05:42 → 03:05:45 ส่วนอาหารเนี่ยก็เป็นปัจจัยภายนอกที่จะมา
03:05:45 → 03:05:46 เป็นตัวกระตุ้น
03:05:46 → 03:05:50 อินซูลินนะมากน้อยแค่ไหนหรือว่าเป็น
03:05:50 → 03:05:52 อินซูลินแบบ
03:05:52 → 03:05:56 agressive เท่านั้นแหละนะเอ่ออาจจะเกิด
03:05:56 → 03:06:00 กดยูริกสูงและจะเกิดเก๊าหรือไม่เกิดเก๊า
03:06:00 → 03:06:03 ด้วยแค่
03:06:03 → 03:06:07 ไหนหมดแล้วล่ะวันเนี้ยมีใครถามอะไรหรือ
03:06:07 → 03:06:12 คุยอะไรอีก
03:06:12 → 03:06:15 มั้ยแล้วก็ผู้ชมเนี่ยเงียบหมดเลยหรอ
03:06:16 → 03:06:17 ผู้ติดตาม
03:06:17 → 03:06:21 อ่ะไปกินมันทิพย์กันหมดแล้วมั้งมีคน
03:06:21 → 03:06:26 สวรรค์เค้าถามว่าเค้าเถามว่าช่วงช่วงที่
03:06:27 → 03:06:32 เป็นเก๊าทอ่ะครับอื
03:06:32 → 03:06:33 ก็
03:06:33 → 03:06:36 เออช่วงที่กินมันควรจะกินยาแค่ปวดเค้า
03:06:36 → 03:06:39 ก่อนนะครับ
03:06:39 → 03:06:44 หช่วงที่เก๊ากำเริบอ่ะครับแล้วยังไงถ้า
03:06:44 → 03:06:50 เก๊าก็เลิกคืออยากกระตุ้นอินซูลินนะฮะนะ
03:06:50 → 03:06:55 เอ่อเก๊ามันจะได้หายเพราะนะเพราะปกติแล้ว
03:06:55 → 03:06:58 เนี่ยเก๊าเนี่ยเกา Gy แทackเนี่ยส่วนใหญ่
03:06:58 → 03:07:03 นะมันจะแทackเยอะๆอยู่ในช่วง 48- 72 ชมง
03:07:03 → 03:07:06 เออหลังจากนั้นโดยธรรมชาติของตัวกดยูริก
03:07:06 → 03:07:09 เนี่ยที่มันเกิดปฏิกิริยาการอักเสบใน
03:07:09 → 03:07:12 เซลล์เนี่ยมันจะเกิดเม็ดและขาวมาทำลาย
03:07:12 → 03:07:15 แล้วก็เกิดการขจัดออกไปแต่ถ้าคุณไป
03:07:15 → 03:07:18 กระตุ้นอินซูลินแล้วคุณยังมีกดยูริกสูง
03:07:18 → 03:07:22 อีกนะก็จะไม่แปลกที่อินซูลินก็จะพาเก๊าท
03:07:22 → 03:07:27 พายูริชุดใหม่เข้าเซลล์นะแล้วก็เกิดเกาต
03:07:27 → 03:07:29 ที่แทackอ่าอักเสบเรื้อรังไม่หยุดไม่
03:07:29 → 03:07:33 หย่อนนะฮะเพราะอันนี้ก็เคยเจอมาแล้วว่า
03:07:33 → 03:07:36 อี๊ทำไมตามทฤษฎีเนี่ย 3 วันน่ะมันต้องเบา
03:07:36 → 03:07:40 แล้วน่ะนะจะกินยาหรือไม่กินยาก็ตามไม่กิน
03:07:40 → 03:07:44 ยาก็ได้นะถ้าทนได้อ่ะนะแล้วรอ 3 วันประคบ
03:07:44 → 03:07:48 เย็นไปนะไม่ต้องใช้ยาทาถูนวดอะไรแต่ประคบ
03:07:48 → 03:07:53 เย็นน่ะช่วยได้นะแล้วบางคนก็ไปกินสมุนไพร
03:07:53 → 03:07:58 ล้างพิษน่ะนะบางคนก็ไปกินน้ำตะไคร้กินขิง
03:07:58 → 03:08:02 อย่างเงี้ยนะเอ่อมันก็ช่วยอ่ะนะฮะเออแล้ว
03:08:02 → 03:08:04 เสร็จแล้วพอมันผ่านไปแล้วเนี่ยถ้าคุณยัง
03:08:04 → 03:08:08 กระตุ้นอินซูลินไม่เลิกอ่ะนะเอ่อเขาก็จะ
03:08:08 → 03:08:12 พากดยูนิตไปให้ข้ออักเสบไม่เลิกเหมือนกัน
03:08:12 → 03:08:16 นะฮะนะเดี๋แต่มันก็เลยหยุดไม่
03:08:16 → 03:08:21 ได้แต่โดยปกติมันต้องหยุดอืจริงๆโคชิซิน
03:08:21 → 03:08:24 มันก็เป็นสมุนไพรมั้อาจารย์
03:08:24 → 03:08:27 อมันมันคือต้นดองดึงอ่ะซึ่งแแพทย์แผนไทย
03:08:27 → 03:08:31 ใช้อยู่แล้วคนนี้อืนั่นแหละแต่เขาเป็นสาร
03:08:31 → 03:08:36 สกัดนะเออเขาเป็นanี้
03:08:36 → 03:08:40 inฟameเออแต่เป็นanฟameเนี่ยเฉพาะเรื่อง
03:08:40 → 03:08:45 ของ attack เออนะแล้วก็พวกอ่าไมโอคไดตติ
03:08:45 → 03:08:49 นะฮะ
03:08:49 → 03:08:55 เออ
03:08:55 → 03:08:58 เออหมด
03:08:58 → 03:09:03 แล้วหมดคำถามแล้วใช่มั้ยเนาะ
03:09:03 → 03:09:07 ตอนนี้หมดคำถามกันแล้วครับพี่หมออืเจอ
03:09:07 → 03:09:09 มันทิพเข้าไป
03:09:09 → 03:09:13 ครับเจอมันทิ
03:09:13 → 03:09:16 เออคุณโอ๊ตถามเฉาก๊วยกินดีมั้คะแบบไม่ใส่
03:09:16 → 03:09:20 น้ำเชื่อมเห็นมันสีดำๆได้เลยเฉาก๊วยนี่
03:09:20 → 03:09:23 แหละนะเฉาก๊วยเนี่ยจริงๆแล้วก็เทียบเท่า
03:09:23 → 03:09:28 เพคติน่ะนะนะเพียงแต่ว่ามันมีาฟอ่ะมันมี
03:09:28 → 03:09:33 คาฟนะนะแต่ว่าไอ้ตัวไฟโตนิวเตียนเนี่ยไอ้
03:09:33 → 03:09:37 สีสันของมันนี่แหละนะฮะนะมันก็มันจะดีมาก
03:09:37 → 03:09:42 เลยล่ะมันเป็นเอ่อมันก็เป็นของดีอ่ะนะแต่
03:09:42 → 03:09:47 กินเยอะนักไม่ได้นะแล้วส่วนใหญ่อ่ะมันจืด
03:09:47 → 03:09:51 เนี่ยเราจืดๆชื่อเงี้ยเราเอ้ยเออเราต้อง
03:09:51 → 03:09:58 ไปปรุงมันน่ะเออก็ไม่พ้นน้ำตาลอยู่ดี
03:09:58 → 03:10:02 น้ำตาลกรวดไปกินกันแล้วตดเมื่อกี้มันก็
03:10:02 → 03:10:06 ไม่ค่อยเข้าอ่ะอื
03:10:06 → 03:10:09 เออพวกปรุงเครียดเ้าเรื่องมากเรื่องการ
03:10:09 → 03:10:15 กินเนาะ
03:10:15 → 03:10:19 ปรุงตับอย่างผมกินได้หมดใช่ปุงตับก็จะพูด
03:10:19 → 03:10:23 อย่างี้แหละกินอะไรก็ได้กินอะไรก็ได้แล้ว
03:10:23 → 03:10:26 กินหมดเลยนะกินเรียบเลยนะเรียบๆครับแต่
03:10:27 → 03:10:30 ถ้าพุงเครียดนี่ไม่ได้ฉันต้องแบบเอ่อกิน
03:10:30 → 03:10:34 อย่างละนิดอย่างละหน่อยเออแล้วเหลือพอ
03:10:34 → 03:10:36 เหลือก็เอาไอ้นู่นเอาไอ้นี่มาคอกใส่ตู้
03:10:36 → 03:10:40 เย็นตู้แช่เออพอวันรุ่งขึ้นเนี่ยด้วย
03:10:40 → 03:10:43 นิสัยของพุงเครียดเนี่ยเค้าก็จะไม่ชอบกิน
03:10:43 → 03:10:48 ของเก่ามีอะไรใหม่ๆร้อนๆเอ่อกลิ่นฟันโฉนๆ
03:10:48 → 03:10:51 มาเนี่ยก็ขอ
03:10:51 → 03:10:57 ขี้ฉะนั้นที่ใส่ตู้เย็นคาไว้ก็คาเอา
03:10:57 → 03:11:00 จนถึงที่สุดก็เททิ้งเททิ้งไม่รู้จะเก็บ
03:11:00 → 03:11:03 ทำไมมันเสียดาย
03:11:03 → 03:11:05 เพราะฉะนั้นเวลาไปซื้ออะไรต่างๆเนี่ยอยาก
03:11:05 → 03:11:09 จะไปซื้ออ่าอยากจะเออเนี่ยวันเนี้ยเนี่ย
03:11:09 → 03:11:13 จะกินไก่ย่างโอ้โหดูดีจังเลยนะแต่พอให้
03:11:13 → 03:11:17 เด็กเไปซื้ออ่ะบอกหนูบอกแม่ค้าได้มั้ยหมอ
03:11:17 → 03:11:21 ขอข้าวเหนียว 2 บาทเพราะหมอกินโลครับเออ
03:11:21 → 03:11:26 เด็กก็จะค้อนใส่เลยว่าคล้ายๆกับว่ามึงกิน
03:11:26 → 03:11:30 โลฟเรื่องมึงอ่ะคนอื่นเ้าไม่โลด้วยเขายที
03:11:30 → 03:11:33 ละ 10 บาทน่ะมึงจะมาเอา 2 บาทมึงไปบอกเ
03:11:33 → 03:11:39 เองแล้วกันนะถูกด่านะขาด่า
03:11:39 → 03:11:43 จนกระทั่งเราต้องออกไปเองนะเออแล้วเ้าก็
03:11:43 → 03:11:48 สวัสดีค่ะคุณหมอบอกเราก็บอกป้าๆหมออายไม่
03:11:48 → 03:11:51 อยากจะบอกนี่นะหมออยากได้ข้าวเหนียวนิด
03:11:51 → 03:11:54 นึงอ่ะอยากได้ข้าวเหนียวนิดนึงอะไรอย่าง
03:11:54 → 03:12:00 เงี้ยนะแล้วเดี๋จบงานจบกวักมานิดนึงอ่ะนะ
03:12:00 → 03:12:04 ครับเดี๋ยวพอจบกวักมาเไม่เอาเงินหรอกแต่
03:12:04 → 03:12:08 ถ้าตอนหลังเนี่ยเราบอกให้เด็กไปฮะเอ่อก็
03:12:08 → 03:12:10 จะบอกเว่าหมอเเค้าข้าวเหนียวนิดนึงแต่ก็
03:12:10 → 03:12:13 แอบให้เค้าไป 2-3 บาท
03:12:13 → 03:12:19 อ่าๆแถมให้แถมให้ปิ๊บเออมีจุดนึงที่ผมยัง
03:12:19 → 03:12:23 ไม่เล่าเล่าให้คุณหมอฟังเอ่อแต่ก่อนน่ะ
03:12:23 → 03:12:27 ไอ้ตอนนอนช่วงนอนน่ะพี่หมออืถ้าเรากินน้ำ
03:12:27 → 03:12:28 ก่อนนอนเนี่ย
03:12:28 → 03:12:32 นะยังไงยังไงก็ต้องก็ต้องแบบลุกขึ้นมาฉี่
03:12:32 → 03:12:36 ใช่มั้ยครับอไอ้ช่วงช่วงระยะหลังๆมาเนี่ย
03:12:36 → 03:12:39 หลายเดือนเผมสังเกตตัวเองนะก่อนนอนนี้ผม
03:12:39 → 03:12:42 ก็กินน้ำเป็นแก้วนะอื
03:12:42 → 03:12:46 ไม่ฉี่พี่หมอ
03:12:46 → 03:12:52 คือก่อนนอนน้ำเสริมนอนนะก็กินโคเอนไซมกิน
03:12:53 → 03:12:56 โอเมก้า 3 กินวิตามินดีกินสังกสีอะไร
03:12:56 → 03:13:00 อย่างเงี้ยนะเออหมอก็กินเป็นอักๆเลยนะ
03:13:00 → 03:13:03 ประมาณซักเกือบ 500 ซีซอ่ะแต่เราไม่เคย
03:13:03 → 03:13:08 กินใช่ใช่อินเตใช่มันมันก็เลยทำให้แบบว่า
03:13:08 → 03:13:11 ไอ้การที่บอกว่าไม่ไม่ต้องกินน้ำก่อนนอน
03:13:11 → 03:13:14 เนี่ยมันมันก็ปลายเหตุอีกเพราะว่าสุดท้าย
03:13:14 → 03:13:17 มันเกิดจากฮอร์โมนไอ้
03:13:17 → 03:13:19 คอติซอลกับอินซูลินอยู่ใช่มั้ยพี่หมอเออ
03:13:19 → 03:13:23 เออแล้วก็เป็นฮอร์โมนเก็บเกลือเนี่ยนะพอ
03:13:23 → 03:13:28 การเกลือก็จะเก็บน้ำไว้ด้วยก็คืออือๆอะไร
03:13:28 → 03:13:31 เนี้ยแอนตี้อะไร
03:13:31 → 03:13:36 นะลืมแอนตี้ยูติติอะไรเปปติน
03:13:36 → 03:13:42 เปติเปปไตอ่ะนะเออๆๆ
03:13:42 → 03:13:45 ก็คือจะบอกพี่หมอว่าพอฮอร์โมนมันโอเคปั๊บ
03:13:45 → 03:13:49 อ่ะอ่าการนอนดีแล้วก็เรื่องเรื่องกินน้ำ
03:13:49 → 03:13:53 ก่อนนอนหรืออะไรเนี่ยไม่ไม่มีผลเลยครับ
03:13:53 → 03:13:56 ใช่ไม่เกี่ยวไม่เกี่ยวว่าเดี๋ยวกินน้ำ
03:13:56 → 03:13:58 เยอะๆแล้วเดี๋ยวคืนนี้จะนอนไม่หลับต้อง
03:13:58 → 03:14:02 ลูกบัญชีอันนั้นไม่ใช่อันนั้นแปลว่าคุณมี
03:14:02 → 03:14:05 ปัญหาน้ำตาลสูงน้ำตาลต่ำคอมันออกมา
03:14:05 → 03:14:10 ชักเย่อใช่ใช่แล้ววันไหนถ้าเกิดไปชีสเไป
03:14:10 → 03:14:13 เอ่ออะไรนะบุฟเฟ่ต์มากไปหน่อยนะพี่หมอนะ
03:14:13 → 03:14:17 เรียบร้อยสัญญาณมาเลยกลางคืน 2:00 น.มา
03:14:17 → 03:14:20 ตาม
03:14:20 → 03:14:24 นัดเออแต่ว่าอันนี้นานมันหลายเดือนเป็นที
03:14:24 → 03:14:27 นึงอ่ะครับแต่ว่าช่วงหลังๆนี่
03:14:27 → 03:14:33 เออมันก็เห็นผลเนาะเออ
03:14:33 → 03:14:35 ก็คือส่วนใหญ่อ่ะหมอก็จะกินวิตามินอาหาร
03:14:35 → 03:14:39 เสริมก่อนนอนนี่แหละไม่เคยมีปัญหาไม่เคย
03:14:39 → 03:14:42 มี
03:14:42 → 03:14:44 อ๋อกินก่อนนอนได้เลยใช่มั้ยพี่หมอกินก่อน
03:14:44 → 03:14:53 นอนเลยเราสะดวกอย่างี้อ่ะ
03:14:53 → 03:14:58 อ๋อนะครับก็ไม่ได้มีคำถามอะไรเพิ่มแล้ว
03:14:58 → 03:15:03 ครับพี่หมออื
03:15:03 → 03:15:06 ได้คุยกับเหมี่ยวเมี้ยวบอกว่าเหมี่ยว
03:15:06 → 03:15:09 เมี้ยวอ่ะเกิดเป็นสัตว์กินเนื้อเหมี่ยว
03:15:09 → 03:15:13 เมี้ยวเนี่ยไม่มี B containing
03:15:13 → 03:15:16 ไโปโปทีนเหมี่ยวเมี้ยวไม่มีเอนไซม์
03:15:16 → 03:15:22 CTP เหมียวเมีมี HDL มาเป็นตัวที่จะพา
03:15:22 → 03:15:24 พลังงานและ
03:15:24 → 03:15:29 คอเลสเตอรอลมุ่งหมายไปออกตับอะไรเงี้ยอ่า
03:15:29 → 03:15:32 ๆๆ
03:15:32 → 03:15:35 แล้วเหมียวก็ไม่เคยกินโค้งกินข้าวนะแมว
03:15:35 → 03:15:40 ที่บ้านนี้ไม่เคยกินข้าวเกินไม่เป็นเออเ
03:15:40 → 03:15:45 กินเออแต่ปลาแต่เนี่ยเนื้อสัตว์
03:15:45 → 03:15:49 ไข่นิดๆหน่อยๆแต่เกินเป็นเนื้อสัตว์น่ะ
03:15:49 → 03:15:53 เนื้อปลาท้าอส่วนมากจะกินจะกินปลาโอ้ปลา
03:15:53 → 03:15:57 ทูน่าด้วยู่า
03:15:57 → 03:16:00 แมเคอเร่อแซมอนก็ชอบ
03:16:00 → 03:16:05 อืแล้วหมไม่ชอบไก่หมีเวี้ยวเกลียดไก่เออ
03:16:05 → 03:16:09 เออเี้ยวว่าเพราะอะไรอ่ะไก่เป็นเนื้อขาว
03:16:09 → 03:16:11 มันกระตุ้นอินซูลินมากเหรออะไรอย่างเงี้ย
03:16:11 → 03:16:16 เออเออ
03:16:16 → 03:16:19 เออคุยกัน
03:16:19 → 03:16:22 เออครับไม่ไม่ได้กินข้าวเหรอพี่หมอแล้ว
03:16:22 → 03:16:27 อาหารมงอาหารเม็ดแล้วครับกินๆอ๋อกินเป็น
03:16:27 → 03:16:31 ขนมบ้างอะไรอย่างงี้ใช่มั้ฮะกินขนมบ้างนะ
03:16:31 → 03:16:34 แล้วกินวันละมื้ออ่ะเนี่ยเบละมื้อโอ One
03:16:34 → 03:16:40 day ด้วยเออ
03:16:40 → 03:16:42 ครับ
03:16:42 → 03:16:49 เออก็ฝากไปดูนะเรื่องเอ่ออะไรอ่ะคาิว
03:16:49 → 03:16:52 เอivวออมิวออะไรต่างๆอ่ะมันแตกต่างกันยัง
03:16:52 → 03:16:57 ไงเราจะได้มีความรู้ในเรื่องของ LDL
03:16:57 → 03:16:58 เรื่อง
03:16:58 → 03:17:03 ของซpตอรต่างๆไอ้อาจารย์ครับถามนิดนึงอาจ
03:17:03 → 03:17:06 จะไม่เกี่ยวกับคนนะของแมวเนี่ยซึ่งมัน
03:17:06 → 03:17:09 เป็นแมวเนี่ยเป็นสัตว์ที่เป็นเป็น
03:17:09 → 03:17:13 คาร์นีวอแบบเด่นชัดกว่าหมาเออคือหมาเนี่ย
03:17:13 → 03:17:17 เ้าบอกมันกินข้าวได้หรือมันอาจจะกินผัก
03:17:17 → 03:17:21 กินคาฟบ้าง 30 70 30 อ่ะคือ 70 ต้อง
03:17:21 → 03:17:24 เป็น animal แต่แมวเนี่ยเขาบอกว่าจริงๆ
03:17:24 → 03:17:27 แล้วเนี่ยมันควรจะเป็น 100% animal bสไป
03:17:27 → 03:17:30 เลยส่วนบางทีมันไม่สบายมันไปกินหญ้ากิน
03:17:30 → 03:17:33 อะไรของมันอันนั้นไม่เกี่ยวแต่ทีเนี้ยเขา
03:17:33 → 03:17:37 บอกว่าอันนึงที่คนเลี้ยงแมวเนี่ยมักจะทำ
03:17:37 → 03:17:39 กันเอาโดยเฉพาะแบบชาวบ้านชาวบ้านน่ะเนี่ย
03:17:39 → 03:17:41 เนาะบางทีเค้าไม่มีความรู้เนาะเอาปลาทู
03:17:41 → 03:17:44 เอาปลาที่คนกินเนี่ยมาให้แมวกินบ่อยๆเ้า
03:17:44 → 03:17:47 บอกไตมันจะพัง
03:17:47 → 03:17:50 ทีนี้แมวเนี่ยมันก็ไม่น่าจะมีอินซูลิน
03:17:50 → 03:17:54 resistance หรืออะไรแบบที่คนเป็นใช่มั้ย
03:17:54 → 03:17:56 เพราะมันเป็นคาร์นีวอ 100% น่ะแล้วทำไม
03:17:57 → 03:17:59 มันถึงกินโซเดียมมากไม่ได้ฮะทำไมพอมันพอ
03:17:59 → 03:18:01 มันกินปลาทูนึ่งอะไรแบบที่คนกินบ่อยๆแล้ว
03:18:01 → 03:18:04 มันป่วย
03:18:04 → 03:18:12 คือมันเป็นยากันบู่อ่ะมันเป็นยากันบู่
03:18:12 → 03:18:15 มันเป็นformalีหรือว่ามันเป็นพวกยากันบูด
03:18:15 → 03:18:18 มากกว่าที่เใส่มาในปลาทู
03:18:18 → 03:18:21 อ่ะนะในตอนหลังๆเนี่ยที่มีปัญหาเรื่อง
03:18:21 → 03:18:24 ไตวายอ่ะเรื่องสัตว์ต่างๆที่มันมีปัญหา
03:18:24 → 03:18:27 ไตรวายเนี่ยไตรวายเพราะอะไรก็เพราะว่า
03:18:27 → 03:18:31 เพราะว่ายานะโซเดียมเนี่ยนะมันเป็น
03:18:31 → 03:18:34 โซเดียมที่มันเป็นโซเดียม
03:18:34 → 03:18:35 สังเคราะห์
03:18:36 → 03:18:39 อือมันเป็นปัญหาเนี้ย
03:18:39 → 03:18:42 นะก็คือมันเป็นโซเดียมแต่มันเป็นโซเดียม
03:18:42 → 03:18:46 เบนโซเอateโซเดียมฟอสเฟตอะไรของมันเนี่ย
03:18:46 → 03:18:55 นะเป็นรูปของสารกันบูดกันเน่ากัน
03:18:55 → 03:18:59 เสียยังอยู่กันมั้ย
03:18:59 → 03:19:01 อยู่ครับ
03:19:01 → 03:19:05 เออก็ประมาณนี้แหละการที่สไม่ได้เป็น
03:19:05 → 03:19:08 เปลือเลยเออเพราะมันเป็นแปร
03:19:09 → 03:19:11 รูปก็คือมันเป็นเกลือแต่เป็นเกลือ
03:19:11 → 03:19:14 สังเคราะห์เกลืออุตสาหกรรมที่เค้าเอามา
03:19:14 → 03:19:18 เพื่อมาถนอมอาหารแบบแปรรูปให้มันอยู่อน
03:19:18 → 03:19:20 เชลได้นาน
03:19:20 → 03:19:24 ๆเพราะฉะนั้นอาหารแมวอาหารหมาที่มันแปร
03:19:24 → 03:19:29 รูปในปัจจุบันมันก็โดนสิ่งเหล่านี้หมด
03:19:29 → 03:19:31 [เพลง]
03:19:31 → 03:19:33 แหละเพราะนั้นก็เลยไม่แปลกหรอกที่สัตว์ก็
03:19:33 → 03:19:37 จะมีปัญหาคล้ายๆกันน้ำตาลสูงเป็นเบาหวาน
03:19:37 → 03:19:43 ไตวงไตวายเออแต่ไม่มีเรื่องไขมันสูง
03:19:43 → 03:19:48 นะเออเไม่มีเรื่องดิสไตปิเมียอะไรเงี้ยนะ
03:19:48 → 03:20:01 เออแต่ก็มีเป็นโรคของอวัยวะไปเลยอ่ะนะ
03:20:01 → 03:20:07 อืมแล้วคุณหมอเอาคำอธิบายนี้มาจากไหนวะ
03:20:07 → 03:20:10 ที่ว่าสัตว์ไม่มีพวก Apple B ไม่มีอะไร
03:20:10 → 03:20:19 พวกเนี้ยครับอ้าวทฤษฎีวิวัฒนาการไงนะอื
03:20:19 → 03:20:21 นะในทฤษฎีวิวัฒนาการเค้าก็บอกอย่างงี้
03:20:22 → 03:20:25 แหละนะก็คือมันต่างกันน่ะ
03:20:25 → 03:20:30 คานิวอกินสัตว์เออวอกินพืชนะอืช้างม้าวัว
03:20:30 → 03:20:34 ควายอ่ะนะพวกเนี้ยไปตรวจสิไขมันมันสูง
03:20:34 → 03:20:38 Apple B LDL อะไรเงี้ยสูงมากเอออืถ้า
03:20:38 → 03:20:40 กินพืชใช่ไหมครับพวกกินพืชนี่จะมีพวก
03:20:40 → 03:20:44 Apple B อยู่ใช่มเออนะ
03:20:44 → 03:20:49 อ๋อมี LDL P LDLC นะเยอะแยะไปหมดเลยอ๋อ
03:20:49 → 03:20:53 มีเหมือนเราเลยมีเหมือนเราเลยนะอ๋อเพราะ
03:20:53 → 03:20:58 ว่าจริงๆคนเนี่ยเขาถือว่าน่าจะเป็น modify
03:20:58 → 03:21:01 herby คือเป็นสัตว์กินพืชที่มัน
03:21:01 → 03:21:06 วิวัฒนาการหรือmodิมาอออัปเกรดขึ้นมาเออ
03:21:06 → 03:21:09 อัปเกรดเข้ามาอยู่ในฝั่งของสัตว์กิน
03:21:09 → 03:21:11 สัตว์เออ
03:21:11 → 03:21:15 อ๋อครับมันก็แล้วแต่เรื่องของระบบนิเวศ
03:21:15 → 03:21:19 ด้วยไงอย่างเราอ่ะอยู่ในเขตเส้นสูนสูง
03:21:19 → 03:21:22 ซึ่งพืชพันธุธัญาหารมันมีเยอะเพราะฉะนั้น
03:21:22 → 03:21:25 เราก็ต้องหาอยู่หากินกับพืชพันธุธัญญาหาร
03:21:25 → 03:21:28 นี่แหละการเกษตรนี่แหละนะเราไม่ได้อยู่ใน
03:21:28 → 03:21:31 เขตอบอุ่นเขตหนาวที่ปลูกพืชไม่ได้เพราะ
03:21:31 → 03:21:33 นั้นเขาก็ต้องหาอยู่หาคิงกษัตริย์สัตว์
03:21:33 → 03:21:37 กับนมสัตว์กับวัวกับอะไรต่างๆที่อยู่ใน
03:21:37 → 03:21:43 เขตอบอุ่นหรือเขตหนาวๆไปเลยนะอือๆเพราะ
03:21:43 → 03:21:45 ฉะนั้นเราเนี่ยก็เลยเ้าเรียกค่อนข้างไป
03:21:45 → 03:21:49 ทางHerbyวอโดยเฉพาะคนที่อยู่ในเขตร้อนแบบ
03:21:49 → 03:21:53 ประเทศไทยอ่ะเพราะงั้นรูปร่างหน้าตาเอ่อ
03:21:53 → 03:21:56 เผ่าพันธุ์ของเราเงี้ยบรรพบุรุษน่ะใช่มั้
03:21:56 → 03:21:58 ผู้หญิงผู้ชายอ่ะผู้ชายมันก็พุงตับผู้
03:21:58 → 03:22:02 หญิงมันก็พุงตับไทรอยด์อะไรอย่าเงี้ยเออ
03:22:02 → 03:22:05 จะมาเป็นพุงเครียดเอสโตรเจนแบบเอ่อพวก
03:22:05 → 03:22:09 อเมริกันนิโกพวกอะไรต่างๆที่เค้ากินเนื้อ
03:22:09 → 03:22:15 นมไข่กินชี้กินเนยอะไรอย่างงั้นไงอืๆๆใช่
03:22:15 → 03:22:18 ครับมันจะเป็นสายแป้งอ่ะนะเพราะว่าเรา
03:22:18 → 03:22:21 อยู่กับพืชไงเพราะฉะนั้นระบบทางเดินอาหาร
03:22:21 → 03:22:24 ระบบวิวัฒนาการของร่างกายเราเนี่ยมันก็
03:22:24 → 03:22:28 เหมือนกับเป็นmodิายHerbivวอนี่แหละแต่
03:22:28 → 03:22:30 ว่ายุคอุตสาหกรรมอาหารตอนหลังๆเนี่ยที่
03:22:30 → 03:22:32 เรามานั่งกินบุฟเฟ่งบุฟเฟ่ต์กินเนื้อ
03:22:32 → 03:22:35 เกลือไข่กินเท่าไหร่ก็ได้อะไรต่างๆเหล่า
03:22:35 → 03:22:40 นี้แหละนะครับเออแล้วก็ยิ่งเอ่อ 10 ปีมา
03:22:40 → 03:22:44 เนี่ยนะระบบอุตสาหกรรมเนี่ยมันโอ้โหมัน
03:22:44 → 03:22:49 มันล้ำลึกไปหมดเลยอ่ะบริการซะจนแบบเอ่อ
03:22:49 → 03:22:53 เราก็เปลี่ยนจากเอ่อพื้นๆของสายแป้งมา
03:22:53 → 03:22:56 เป็นสายเนื้อมาเป็นพุงเครียดมาเป็น
03:22:56 → 03:22:58 เอสโตรเจนกันเต็มไปหมดโดยเฉพาะพุงเครียด
03:22:58 → 03:23:01 ก็จะล้ำหน้าไปเรื่อยๆอ่ะเพราะงั้นไม่แปลก
03:23:01 → 03:23:04 คนจะน้ำหนักเป็นร้อยๆกล
03:23:04 → 03:23:09 อืเยอะขึ้นเยอะขึ้นสายแป้งก็ค่อยๆกดหายไป
03:23:09 → 03:23:13 หรือmodิายไป
03:23:13 → 03:23:16 คือจริงๆเนี่ยมันเหมือนพ่อแม่พ่อพุงตับ
03:23:16 → 03:23:20 แม่เป็นไทรรอยด์เงี้ยนะสมมุติเออครับแล้ว
03:23:20 → 03:23:23 ลูกอ่ะเอ่อสมมุติว่าลูกออกมาอยู่ในท้อง
03:23:23 → 03:23:27 แม่กำลังเจริญเติบโตแล้วแม่กินอะไรอ่ะแม่
03:23:27 → 03:23:30 ก็พยายามสร้างสิ่งแวดล้อมที่จะกินเป็นแบบ
03:23:30 → 03:23:31 อาหารแปรรูปอ่ะ
03:23:31 → 03:23:34 นะเพราะฉะนั้นมันก็เลยเกิดกลไกการกาย
03:23:34 → 03:23:37 พันธุ์หรือเ้าเรียกว่าepิติอ่ะตั้งแต่
03:23:37 → 03:23:40 อยู่ในท้องแม่แล้วเพราะฉะนั้นถึงพ่อจะพุง
03:23:40 → 03:23:43 ตับแม่จะพุงตับหรือแม่ไทรอยด์ก็ตามพอคลอด
03:23:43 → 03:23:47 ลูกออกมาแล้วไงนะลูกก็อาจจะเป็นพุงะ
03:23:47 → 03:23:50 นะเพราะว่ามันmodมิายยีนDเnaNเรตั้งแต่
03:23:50 → 03:23:53 อยู่ในท้องแล้วพ่อแม่มันก็อยู่กันในสังคม
03:23:53 → 03:23:56 ปัจจุบันอยู่กับเซเว่นอยู่กับอาหารแปรรูป
03:23:56 → 03:24:00 อย่าเงี้ยนะครับเออมันก็เพราะฉะนั้นพอพอ
03:24:00 → 03:24:03 เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่สืบเผ่าพันธุ์ต่อ
03:24:03 → 03:24:05 ไปก็พุงเครียดพรุงเครียดพรุงเครียดพรุง
03:24:05 → 03:24:07 เครียดก็เลยเยอะไปหมดเลยในปัจจุบันไม่ว่า
03:24:07 → 03:24:12 คุณจะเขตหนาวเขตร้อนเขตอบอุ่นเอ่ออะไรอ่ะ
03:24:12 → 03:24:15 ร้อน 40 กว่าองศาหรือหนาวติดลบเลยก็เหอะ
03:24:15 → 03:24:18 นะมีแต่พุงเครียดเต็มบ้านเต็มเมืองเต็ม
03:24:18 → 03:24:20 โลก
03:24:20 → 03:24:24 เออพี่หมอพูดถึงอ่าเคสที่เคสผลเลือดที่
03:24:24 → 03:24:28 กินซีดีอ่ะครับพี่หมออือเอ่อเคสนั้นเค้า
03:24:28 → 03:24:31 ก็กินมานานแล้วนี่แล้วแล้วทำไมอยู่ดีๆค่า
03:24:31 → 03:24:36 เลือดมันตีไปอย่างงั้นนะครับพี่หมอ
03:24:36 → 03:24:39 ก็คือเหมือนว่าคุณน่ะไม่metabบic flexible
03:24:40 → 03:24:41 flexible
03:24:41 → 03:24:47 ไงคือร่างกายอ่ะร่างกายอ่ะมันจะมันจะต้อง
03:24:47 → 03:24:51 มีมันจะทนต่ออะไรต่างๆได้
03:24:51 → 03:24:55 เนี่ยไม่รู้นะถ้าเป็นคุณหมอคิด
03:24:55 → 03:24:58 นะอย่างผู้ชายอ่ะมันจะทนได้ประมาณ 8 ปี
03:24:58 → 03:25:02 ผู้หญิงมันจะทนได้ 7 ปีฮะโอเป็นอะไรก็ตาม
03:25:03 → 03:25:06 เนี่ยนะพอตัวเลข 7 ตัวเลข 8 มันมาใน 1
03:25:06 → 03:25:10 รอบของมันเนี่ยนะอะไรต่างๆในร่างกายเนี่ย
03:25:10 → 03:25:14 มันจะเริ่มเปลี่ยนมันจะเริ่มเปลี่ยนน่ะนะ
03:25:14 → 03:25:17 เพราะฉะนั้นเนี่ยไอ้ข้อมูลแบบเนี้ยนะจริง
03:25:17 → 03:25:21 ไม่จริงก็ไม่รู้อ่ะนะแต่ในถึงได้บอกนะว่า
03:25:21 → 03:25:24 ในการแพทย์แผนจีนเนี่ยเขาก็มีการวางพื้น
03:25:24 → 03:25:28 ฐานในเรื่องนี้ไว้อ่ะว่าผู้หญิงเลข 7 ผู้
03:25:28 → 03:25:34 ชายเลข 8 ครับใช่มั้ล่ะนะผู้หญิงเลข 7 ก็
03:25:34 → 03:25:36 พอ 7 ขวบก็รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงนะนี่
03:25:36 → 03:25:39 เป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายนะอะไรอย่างเงี้ย
03:25:39 → 03:25:42 เอ่อต้องต้องเติบโตดำเนินชีวิตต้องมีอะไร
03:25:42 → 03:25:46 ตอะไรไปเรื่อยๆเป็นแบบผู้หญิงพอ 72 ประจำ
03:25:46 → 03:25:51 เดือนก็มาเอ่อ 73 21 เนี่ยก็ตกไข่พร้อม
03:25:51 → 03:25:54 ที่จะตั้งครรภ์แล้วได้เด็กที่สมบูรณ์แข็ง
03:25:54 → 03:25:58 แรงมากๆแต่ถ้าท้องแก่ต้องเจริญพันธ์สืบ
03:25:58 → 03:26:02 พันไปก่อนหน้า 21 ปี 73 21 เนี่ยนะเด็ก
03:26:02 → 03:26:06 ที่ออกมาก็จะไม่แข็งแรงจะเป็นเผ่าพันธุ์
03:26:06 → 03:26:11 ที่ไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยนะอืครับ 74 28
03:26:11 → 03:26:16 นี่วัยเจริญพันธุ์สูงสุดนะ 7 75 เงี้ยพอ
03:26:16 → 03:26:18 35 ก็เริ่ม
03:26:18 → 03:26:23 เริ่มวัยเจริญพันธ์เริ่มหมดละหมดะนะนะ 76
03:26:23 → 03:26:27 42 ก็เข้าระยะก่อนหมดประจำเดือนแล้วนะ
03:26:27 → 03:26:30 แล้วพอ 77 49 เลข 7 มาเจอกันปุ๊บก็หมด
03:26:30 → 03:26:32 ความเป็น
03:26:32 → 03:26:35 หญิงเออพอเลข 7 มา
03:26:35 → 03:26:39 มาบาลานซกับเลข 7 น่ะครับเพราะฉะนั้นใน
03:26:39 → 03:26:43 ผู้ชายเนี่ย 81 82 16 ผู้ชาย 8216 ก็
03:26:43 → 03:26:48 เริ่มขับเคลื่อนอสุจินะเอ่อ 83 24
03:26:48 → 03:26:52 อันเนี้ยเอ่อก็สามารถอะไรมีลูกมีเมียอะไร
03:26:52 → 03:26:57 ได้เอ่อแล้วก็เอ่อเผ่าพันธุ์ก็จะได้แบบ
03:26:57 → 03:27:01 แข็งแรงแดงอ่ะนะ 84 32 เนี่ยนะผู้ชาย 32
03:27:01 → 03:27:05 ปีนี่ร่างกายเต็มที่เลยของความเป็นผู้ชาย
03:27:05 → 03:27:09 นะ 8540 คราวนี้ก็จะเริ่มะที่จะเริ่มไม่
03:27:09 → 03:27:14 ดีแล้วนะเริ่มลงแล้วเริ่มเอ่อเริ่มอะไร
03:27:14 → 03:27:17 ต่างๆแล้วนะเริ่มหมดเริ่มเสื่อมอ่ะ
03:27:17 → 03:27:26 นะ 856 48 นะ 87 56 นะเนี่ยเอ่อเอ่อก็
03:27:26 → 03:27:29 มีความเป็นผู้ใหญ่ผู้นำอะไรต่างๆสูงสุด
03:27:29 → 03:27:34 อะไรอย่างเงี้ยนะ 88 64 ก็หมดเรียบร้อย
03:27:34 → 03:27:39 นะสภาพความเป็นชายหมดที่เลข 8 เลข 8 ผู้
03:27:39 → 03:27:41 หญิงก็ 77
03:27:41 → 03:27:44 เพราะฉะนั้นคิดว่าในแต่ละรอบ 7 หรือ 8 ปี
03:27:44 → 03:27:47 ของความเป็นหญิงเป็นชายเนี่ยร่างกายจะ
03:27:47 → 03:27:50 เกิดการเปลี่ยนนะงั้นตอนนี้เนี่ยคนเนี้ย
03:27:50 → 03:27:53 เากินมาประมาณเกือบ 10 ปีแล้วนะเพราะงั้น
03:27:53 → 03:27:58 ไม่แปลกที่ค่าแลบเนี่ยมันก็มันถึงขนาดที่
03:27:58 → 03:28:00 มันจะ compensate มันจะดีมายังไงก็ตาม
03:28:00 → 03:28:02 เนี่ยพอมาถึงจุดเปลี่ยนมันก็ต้องเริ่ม
03:28:02 → 03:28:06 เปลี่ยนนะฮะเริ่มเปลี่ยนแต่มันก็เริ่ม
03:28:06 → 03:28:10 เปลี่ยนไปในทางที่ชักจะไม่ดีอ่ะนะเพราะ
03:28:10 → 03:28:12 ว่าค่าเลือดเนี่ยมันฟ้องอ่ะ
03:28:12 → 03:28:17 มะนะคือก่อนหน้านี้เค้าก็เค้าก็แบบเมนเทน
03:28:17 → 03:28:19 มาได้ดีตลอดใช่มั้ครับที่พี่หมอแบบติดตาม
03:28:19 → 03:28:25 มาดีดีๆเจาะเลือดทุกปีดีทุกปีนะเออแล้วก็
03:28:25 → 03:28:28 ดีแค่ที่ว่าค่าแลAPอยู่ในเกณฑ์standardด
03:28:28 → 03:28:32 เลยนะ Total คอเลสอลก็ใกล้ๆ 200 นะ 200
03:28:32 → 03:28:36 นิดๆไม่เคยถึง 200 เอ่อไม่เคยเกิน 220
03:28:36 → 03:28:38 อ่ะนะ
03:28:38 → 03:28:42 เป็นเพราะเค้าเริ่มเริกินขาบมากขึ้นหรือ
03:28:42 → 03:28:45 เปล่าพี่หมออ๋อไม่ได้กินครับอ๋อไม่ใช่ฮะ
03:28:45 → 03:28:48 ไม่ใช่ที่มาจากพวกเบอร์เรื่องเบอร์รี่
03:28:48 → 03:28:51 หรืออะไรพวกนั้นนะครับอ๋อไม่ๆฮะไม่อันนี้
03:28:51 → 03:28:54 ยิ่งยิ่งช่วยอินซูลินได้ดีเลยด้วยนะแต่
03:28:55 → 03:28:58 อ๋อแต่ลักษณะมันมันฟ้องว่าเป็นปัญหาของ
03:28:58 → 03:28:59 คอรtซอล
03:28:59 → 03:29:03 ใช่มันแดงช่วงล่างอ่ะมันแดงเยอะเลยอ่ะ
03:29:03 → 03:29:06 พลังงานไงพลังงานน่ะ Energy balanceซ่ะ
03:29:06 → 03:29:09 แล้วตัวตอบสนองต่อพลังงานที่อยู่ภายใน
03:29:09 → 03:29:15 ร่างกายก็คือคอtisolในระยะยาวนะอ่าแล้วก็
03:29:15 → 03:29:18 จะมีการอักเสบอะไรมยเก็ต้องไปตรวจแลบพวก
03:29:18 → 03:29:25 การอักเสบ Hscrp CRP นะหรืออะไรเฟเฟอริน
03:29:26 → 03:29:31 โฮโมซิีนอะไรอย่างเงี้ยนะเ
03:29:31 → 03:29:35 นะแต่คนเนี้ยคือคtisolนะเพราะ
03:29:35 → 03:29:38 imบาalanceซนะแล้วก็มันimบาalanceซหรือ
03:29:38 → 03:29:41 มันตอบสนองในเรื่องของพลังงานที่มันไม่
03:29:41 → 03:29:43 ถูกไม่
03:29:43 → 03:29:47 ถูกเพราะฉะนั้นเนี่ยถึงจะกินฝืนมายังไงก็
03:29:47 → 03:29:51 ตามแต่เมื่อถึงจุดนึงเนี่ยที่ร่างกายมัน
03:29:51 → 03:29:56 บอกว่าไม่ถูกนะเอ่อเอ่อสุดจจะทานทนแล้ว
03:29:56 → 03:30:00 ไม่ไปต่อแล้วนะอะไรอย่าเงี้ยจะ
03:30:00 → 03:30:04 เริ่มก็จะเริ่มเป็นที่ออกมาผลแลบเป็นตัว
03:30:04 → 03:30:11 นึงในการ
03:30:11 → 03:30:14 ทองเออ
03:30:14 → 03:30:19 น่าจะในปัจจุบันเนี่ยตัวที่เ้าค่อนข้างจะ
03:30:19 → 03:30:24 concernนnก็คือ f ถ้าเป็นไปได้เนี่ยต้อง
03:30:24 → 03:30:29 ไปสแกนแล้วดูเรื่อง F แล้วก็ดูเรื่องของ
03:30:29 → 03:30:31 เปอร์เซ็นตกล้ามเนื้อนะครับ
03:30:31 → 03:30:36 ว่า body skeleton M skeleton Muscle
03:30:36 → 03:30:39 M เนี่ยมันมันเปอร์เซ็นต์มันลดแล้วก็
03:30:39 → 03:30:44 Visal F มัน
03:30:44 → 03:30:48 เพิ่มเพราะว่าเรื่องเนี้ยเป็นเรื่อง
03:30:48 → 03:30:51 สำคัญจริงๆเนี่ยอยากจะเล่าเรื่องนึงจาก
03:30:51 → 03:30:55 งานวิจัย
03:30:55 → 03:30:57 ว่าตัว
03:30:57 → 03:31:01 ตัวนึงอ่ะเรื่องนึงเลยเนี่ยของปัญหาภาวะ
03:31:01 → 03:31:04 ดื้ออินซูลินโดยเฉพาะปัญหาดื้ออินซูลิน
03:31:04 → 03:31:08 ของคนที่สมส่วนหรือคนสายแป้งเนี่ยทั้ง
03:31:08 → 03:31:10 ไทรรอยด์ทั้งปรุงเครียดและคนที่
03:31:10 → 03:31:12 underweight เนี่ยก็คือภาวะดื้ออินซูลิน
03:31:12 → 03:31:17 จากเปอร์เซ็นต์ viseral fat นะฮะนะเอ่อ
03:31:17 → 03:31:20 เปอร์เซ็นต์ visal fat ที่เกิน 3% ขึ้น
03:31:20 → 03:31:24 ไปเนี่ยนะฮะเราจะถือว่ามันเป็นลักษณะของ
03:31:24 → 03:31:27 ความมากเกินไปแล้วของสิ่งไม่ดีที่สะสม
03:31:27 → 03:31:30 อยู่ในช่องท้องเพราะว่าช่องท้องเนี่ยเอ่อ
03:31:30 → 03:31:32 มันจะต้อง
03:31:32 → 03:31:37 เป็นเค้าเรียกว่ามันเป็นอะไรอ่ะมันเป็น
03:31:37 → 03:31:41 มันเป็นอากาศเนี่ยที่มันจะมีที่จะมีแรง
03:31:41 → 03:31:45 ดันน่ะที่มีแรงดันสูงมันเป็น
03:31:45 → 03:31:49 hyperbarิprชureอ่ะนะฮะมันเป็นมันเป็น
03:31:49 → 03:31:53 ช่องนะที่จะเป็นศูนยากาศแต่ต้องมีแรงดัน
03:31:53 → 03:31:57 สูงแต่การที่คุณจะมี visal fat เอ่อพอกๆ
03:31:57 → 03:32:01 ๆขึ้นมาเนี่ยมันทำให้prชureอ่ะนะนะของ
03:32:01 → 03:32:07 ความเป็นสุญยากาศเนี่ยมันลดลงมันลดลงนะ
03:32:07 → 03:32:10 เนี่ยมันไม่ได้มันไม่ได้โดยเฉพาะถ้า
03:32:10 → 03:32:13 เปอร์เซ็นต์ visal fat ที่เกิน 3% นะ
03:32:13 → 03:32:16 หรือที่มีนัยยะสำคัญมากๆเลยก็คือเป็นตัว
03:32:16 → 03:32:19 เลข 2 หน่วยขึ้นไปก็คือ 10% ขึ้นไปนะฮะ
03:32:19 → 03:32:21 เพราะฉะนั้นยิ่งเปอร์เซ็นต์มากเนี่ยอ่า
03:32:21 → 03:32:24 มันจะถือว่ามีความผิดปกติในช่องท้องซึ่ง
03:32:24 → 03:32:27 มันต้องเป็นสุญยากาศนะความผิดปกติอย่าง
03:32:27 → 03:32:31 นึงที่มันเกิดขึ้นก็คือก็คือการอักเสบนะ
03:32:31 → 03:32:38 ฮะนะการอักเสบนะโดยอ่าสารที่มันเกิดการ
03:32:38 → 03:32:40 อักเสบแบบเนี้ยมันเป็นผลมาจากอินซูลินกับ
03:32:41 → 03:32:44 คอรติก็คืออย่าลืมว่าการที่ร่างกายเนี่ย
03:32:44 → 03:32:48 จะต้องถูกชักนำให้เกิดการสะสมไข้มันใน
03:32:48 → 03:32:51 ช่องท้อง viseral แฟเนี่ย
03:32:51 → 03:32:57 นะพวกเนี้ยมันเกิดการเกิดจากคอร์ิเซอลไป
03:32:57 → 03:33:00 ฮอร์โมนตัวแม่มาเป็นตัวชักนาแต่การจะเอา
03:33:00 → 03:33:03 ไปสะสมตัวเองเนี่ยตัวแม่เข้าไปสะสมไม่ได้
03:33:03 → 03:33:06 ตัวที่จะเอาไปสะสมได้เนี่ยก็คืออินซูลิน
03:33:06 → 03:33:10 กับเอสโตรเจนนะอินซูลินกับเอสโตรเจนแล้ว
03:33:10 → 03:33:13 ก็แอนดแต่บทบาทส่วนใหญ่จะเป็นอินซูลิน
03:33:13 → 03:33:20 อินซูลินมานะฮะนะท่านจะมีในในกลุ่มคนสาย
03:33:20 → 03:33:25 เนื้อเนี่ยก็จะมีเอโตเจนมาเป็นผู้ช่วยแต่
03:33:25 → 03:33:27 ถ้าคนสายแป้งเนี่ยอินซูลินมาปุ๊บเนี่ย
03:33:27 → 03:33:31 ไทรอยด์ไทรรอยด์ที่เ้าเ้าไม่ขยันเนี่ยเ
03:33:31 → 03:33:36 ไม่ไม่มีไม่เก่งเียนเค้าก็จะมาสับออฟกับ
03:33:36 → 03:33:41 อินซูลินนะโดยเริ่มต้นเกินตัวมันคือ
03:33:41 → 03:33:43 ฮอร์โมนตัวแม่
03:33:43 → 03:33:45 คิalยังไงก็ดี
03:33:45 → 03:33:51 เมื่อการสะสมแล้วนะถ้าเป็นอย่างงี้
03:33:51 → 03:33:55 ปุ๊บมันมีเสียง
03:33:55 → 03:33:59 กุกะถ้าเป็นอย่างงี้ปุ๊บแล้วต้องให้หมอ
03:33:59 → 03:34:01 ต้องปิดไมค์หน่อยครับพอดีเสียงมันแทรก
03:34:01 → 03:34:06 เข้ามามันอุ๊อ้าอ้า
03:34:06 → 03:34:07 เนี่ยถ้าเป็นอย่างี้ปุ๊บเนี่ยนะฮะการ
03:34:07 → 03:34:09 อักเสบเนี่ยมัน
03:34:09 → 03:34:14 จะมันจะออกมาอยู่ตลอดนะแล้วการอักเสบ
03:34:14 → 03:34:16 เนี่ยสารการอักเสบที่มันออกมาตลอดจาก
03:34:16 → 03:34:19 viseral fat เนี่ยมันเป็นสารที่กระตุก
03:34:19 → 03:34:21 กระตุ้นอินซูลินที่กระตุ้นการดื้อ
03:34:21 → 03:34:25 อินซูลินนะฮะมันเป็นสารที่มันจะเป็นตัว
03:34:25 → 03:34:29 บล็อกทำให้ตัวอินซูลินไม่เกิดไม่สามารถจะ
03:34:29 → 03:34:32 sensitive ได้หรืออินซูลินมันจะ
03:34:32 → 03:34:36 ดิฟังก์ชันไม่ยอมโหไม่ยอม
03:34:36 → 03:34:38 หายฟังก์ชันนะ
03:34:38 → 03:34:42 เนี่ยเนี่ยมันไปถึงจุดที่เป็นอย่างนี้
03:34:42 → 03:34:44 เนี่ยว่าคุณเนี่ยมันมีเปอร์เซ็นต์ visal
03:34:44 → 03:34:48 fat เกินมากเกินไปมนะฮะต้องแก้ตรงนี้ให้
03:34:48 → 03:34:51 ได้นะไม่งั้นเนี่ยอินซูลินดิฟังก์ชัน
03:34:52 → 03:34:56 อินซูลินที่มันยังดื้ออยู่โดยเฉพาะที่ตับ
03:34:56 → 03:34:59 นะหรือในที่กล้ามเนื้อเนี่ยมันจะไม่หาย
03:35:00 → 03:35:02 มันจะไม่หายฮะ
03:35:02 → 03:35:05 นะเพราะฉะนั้น
03:35:05 → 03:35:09 เนี่ยเราอ่ะเป็นสายแป้งเราทรงพุงตับเรา
03:35:09 → 03:35:13 ทรงไทรอยด์แล้วเรามากินโลฟเรามาทำmodิาย
03:35:13 → 03:35:17 ไสลออกกำลังนะแต่ปรากฏว่าทำไมการดื้อ
03:35:17 → 03:35:19 อินซูลินของเรา
03:35:19 → 03:35:25 เอ่อถึงมันไม่ดีขึ้นเลยอ่ะนะฮะ A1C ไม่ลด
03:35:25 → 03:35:29 เอ่อ Don Phenomอยังเกิดอยู่ตลอดนะฮะนะ
03:35:29 → 03:35:32 เนี่ยแล้วก็ค่าหลงค่าแหลบค่าตับมันก็ไม่
03:35:32 → 03:35:35 ดีขึ้นเนี่ยนะต้องย้อนกลับไปดูตงพวก
03:35:35 → 03:35:39 เปอร์เซ็นต์ Viseral FAT ด้วยนะว่าสิ่ง
03:35:39 → 03:35:42 ที่ทำเนี่ยมันกลับไปเพิ่มเปอร์เซ็นต์
03:35:42 → 03:35:45 Viseral FAT หรือเปล่านะอันเนี้
03:35:45 → 03:35:49 สำคัญนะเนี่ยตรงนี้อยากจะบอกคิดจะบอกมา
03:35:49 → 03:35:54 นานแล้วแต่มันลืมไป
03:35:54 → 03:35:57 ตลอดมีอีกคำถามนึงที่เคย inbox มาถาม
03:35:57 → 03:36:01 เนี่ยว่าเอาล่ะเค้า DMission แล้วเนี่ยนะ
03:36:01 → 03:36:06 ฮะนะค่าต่างๆอยู่ในเกณฑ์ดีแล้วเนี่ยแล้วเ
03:36:06 → 03:36:11 ควรจะทำยังไงฮะที่จะรักษาภาวะ DMission
03:36:11 → 03:36:14 น่ะหรือโชคดี DM Recover ไปได้เลยนะคือ
03:36:14 → 03:36:17 การรักษาเนี่ยหมายถึงว่าจะสามารถควบคุม
03:36:17 → 03:36:19 ไอ้ Fasting insul เอ้ย Fasting Bชug
03:36:19 → 03:36:23 Fasting อินซูลิน A1C อะไรต่างๆเนี่ยให้
03:36:23 → 03:36:28 ยืนยาวถาวรอยู่ในเกณฑ์ปกตินะไม่ไม่สวิง
03:36:28 → 03:36:34 ไม่ไม่ขึ้นอะไรอย่างเงี้ยนะเนี่ยนะก็มัน
03:36:34 → 03:36:36 ก็มีจริงๆมันก็มีหลักการ 3 เรื่องนี่แหละ
03:36:36 → 03:36:40 นะฮะนะ 3 เรื่องนะก็คือ
03:36:40 → 03:36:46 เรื่องของการกินนะโดยเฉพาะกินมื้อแรกนะ
03:36:46 → 03:36:49 เอ่อคือคือคือเค้าเรียกว่าทำยังไงก็ได้
03:36:49 → 03:36:52 ให้คุณน่ะมีการเผาผลาญไขมันได้ตลอดเวลานะ
03:36:52 → 03:36:56 หลักการในระยะยาวนะฮะสำหรับใครก็ตามที่
03:36:56 → 03:36:58 ต้องการจะควบคุมเรื่องเบาหวานเรื่องน้ำ
03:36:58 → 03:37:02 ตาลเรื่อง A1C เรื่องอินซูลินเนี่ยนะฮะก็
03:37:02 → 03:37:05 คือคุณน่ะจะต้องทำให้ร่างกายเนี่ยอยู่ใน
03:37:05 → 03:37:09 ฝั่งของเอ่อการเผาผลาญไขมันเป็นพลังงาน
03:37:09 → 03:37:12 ให้มากที่สุดนะแต่ก็จะมีช่วงสลับนะที่จะ
03:37:13 → 03:37:15 เกิดเรื่องของอินซูลินที่จะมาในช่วงมื้อ
03:37:15 → 03:37:16 เย็นน่ะ
03:37:16 → 03:37:20 นะเนี่ยหลักการอันนี้คือสำคัญที่สุดสำคัญ
03:37:20 → 03:37:24 ที่สุดนะแล้วจะเป็นการควบคุมอินซูลินควบ
03:37:24 → 03:37:27 คุมคอร์ติซอลนะแล้วฮอร์โมนฝั่งลูกเทพเอา
03:37:27 → 03:37:31 ผ่านพลังงานก็จะออกมาได้นะนั่นก็คือการ
03:37:31 → 03:37:36 กินอาหารให้ถูกต้องใน 1 วันนะ 3 หลักการ
03:37:36 → 03:37:39 หลักการที่ 1 ก็คือมื้อแรกกินให้ถูกกิน
03:37:39 → 03:37:43 ให้เป็นกินโปรตีนกับกินแฟตแล้วก็เผาผลาญ
03:37:43 → 03:37:46 ไขมันเป็นหลักอินซูลินก็จะไม่มาแล้วนะฮะ
03:37:46 → 03:37:49 แล้วอันเนี้ยเป็นมื้อแรกเนี่ยเป็นมื้อ
03:37:49 → 03:37:52 กลไกสำคัญที่สุดเลยในการควบคุมอินซูลิน
03:37:52 → 03:37:54 แล้วก็ควบคุมน้ำตาลควบคุมเบาหวานในระยะ
03:37:54 → 03:37:55 ยาว
03:37:56 → 03:37:59 ยาวนี้ 1 อันที่ 2 ในระหว่างมื้อใน
03:37:59 → 03:38:02 ระหว่างมื้อก็คือก็คือจะต้องไม่ให้
03:38:02 → 03:38:06 อินซูลินมาให้ให้มากที่สุดอ่ะนะไม่ให้
03:38:06 → 03:38:08 อินซูลินมาไม่ให้คอร์ติมาโดยเฉพาะ
03:38:08 → 03:38:11 อินซูลินอย่าให้มาเพราะว่าเราเป็นเบาหวาน
03:38:11 → 03:38:15 เราเป็นปัญหาเกี่ยวกับอินซูลินนะก็คือไม่
03:38:15 → 03:38:20 กินอ่าไม่กินและเอ่อกินน้ำหรือกินอ่าเค้า
03:38:20 → 03:38:25 เรียกว่าเอ่อคล้ายๆกับอ่าสูตร IF เอ่อ
03:38:25 → 03:38:27 Fasting My Making Diet นั่นแหละนะก็
03:38:27 → 03:38:30 คือกินเป็นอย่างนั้นถ้าอยากจะกินนะฮะนะ
03:38:30 → 03:38:33 ซึ่งมันไม่กระตุ้นอินซูลินนะมีหลักการยัง
03:38:33 → 03:38:37 ไงเนี่ยเร็วๆนี้นะก็ตัดต่อออกมาเผยแพร่
03:38:37 → 03:38:40 อยู่แต่ก็พูดไปประมาณเกือบปีกว่าแล้วมั้ง
03:38:40 → 03:38:43 นะนะแต่ฟังแล้วก็ยังได้ไอเดียดีอยู่เลย
03:38:43 → 03:38:46 อ่ะนะลองฟังฟังดูนะฮะนี้คือระหว่างมื้อ
03:38:46 → 03:38:49 อ่ะสำคัญมากที่จะควบคุมอินซูลินนะแล้วก็
03:38:49 → 03:38:52 ควบคุมน้ำตาลควบคุมเบาหวานนี่แหละแล้ว
03:38:52 → 03:38:55 มื้อเย็นก็กินให้ถูกนะฮะนะก็คือกินมื้อ
03:38:55 → 03:38:58 เย็นเนี่ยต้องมีคาฟนะแต่เราเป็นเบาหวาน
03:38:58 → 03:39:00 แต่เรารีมิชionแล้วเนี่ยเราก็พอจะกินผัก
03:39:00 → 03:39:04 หัวผักใบผักดองนะหรือกินแป้งเชิงซ้อนได้
03:39:04 → 03:39:06 นิดๆหน่อยๆแต่หลักการในเรื่องการเลือก
03:39:06 → 03:39:09 แป้งเชิงซ้อนก็ตัวเนี้ยที่พูดไปนี่แหละก็
03:39:09 → 03:39:13 ทำอย่างเงี้ยนะอันนี้ก็คือตอบปัญหาว่าใน
03:39:14 → 03:39:17 ระยะยาวเนี่ยนะถ้า DM รissionแล้วอยากจะ
03:39:17 → 03:39:22 ควบคุมทั้ง Fting Butช้าอินซูลินและ A1C
03:39:22 → 03:39:26 ให้ได้ดีๆอย่างเงี้ไปตลอดทำอย่างนี้เลยฮะ
03:39:26 → 03:39:30 นี่คือการแก้ไขในระยะยาวสุดนะฮะนะแล้วก็
03:39:30 → 03:39:34 ดีที่สุดนะแล้วคุณก็ได้กินอย่างเหมาะสมดี
03:39:34 → 03:39:38 ๆด้วยอ่ะนะฮะนะอันนี้นะนะเนี่ยตอบปัญหา
03:39:38 → 03:39:42 ไว้อย่างเงี้ยแต่ก็ตอบเไปแล้วล่ะตาม inbox
03:39:42 → 03:39:44 แต่ว่าเออเป็นคำถามที่ดีเออก็เลยมาเล่า
03:39:44 → 03:39:47 ให้
03:39:47 → 03:39:53 ฟังเคครับอื
03:39:53 → 03:39:57 โอเคครับ
03:39:57 → 03:40:02 คือต่อๆไปเเนี่ยก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วนะ
03:40:02 → 03:40:06 มันก็มีอะไรตอะไรไปเยอะแยะแล้วนะก็ไม่รู้
03:40:06 → 03:40:12 จะหาหัวข้ออะไรมาแล้วล่ะนะ
03:40:12 → 03:40:13 เดี๋
03:40:13 → 03:40:16 มีเรื่องให้คุยกันจะเอ้ยหมอมอตโต้จะพูด
03:40:16 → 03:40:21 เรื่องเก๊าทในเชิงทฤษฎีมั้ยนะฮะ
03:40:21 → 03:40:26 นะแต่เ้าโพสต์ไปแล้วไงเโพสต์ไป
03:40:26 → 03:40:31 ในในโพสต์ของเพจหมอมโต้ไปแล้วนะฮะนะอัน
03:40:32 → 03:40:34 นั้นแหละเราก็แชร์มาแล้วล่ะนะฮะอันนั้นก็
03:40:34 → 03:40:38 เป็นความรู้ในองค์ความรู้นั่นทฤษฎีนะฮะนะ
03:40:38 → 03:40:44 ผมก็จะมีรายละเอียดลึกๆในระดับเซลล์อ่ะ
03:40:44 → 03:40:49 ระดับกับเค้าเรียกว่าทั้งนอกเซลล์ในเซลล์
03:40:49 → 03:40:52 นะก็อ่านไว้เลยอ่านไว้ได้เลยนะแต่วัน
03:40:52 → 03:40:55 เนี้ยเป็นองค์ความรู้เก๊าทในแบบภาค
03:40:55 → 03:40:59 ปฏิบัตินะนะเอ่อพูดคุยในเรื่องของเ้า
03:40:59 → 03:41:02 เรียก clinical
03:41:02 → 03:41:05 หรือการไปนำไปpractิceนะนำไปปฏิบัตินะฮะ
03:41:06 → 03:41:08 เออไปปฏิบัติครับตอนนี้เหลือจะสายแข็ง
03:41:08 → 03:41:11 แล้วครับพี่ไปไปดูไปมองให้มัน
03:41:11 → 03:41:15 ออกหวังว่ามีเพื่อนเรายังอยู่ตั้ง 9 คน
03:41:15 → 03:41:20 ครับครับไม่เป็นไรพอแล้วครับโอเคครับออ
03:41:20 → 03:41:23 ครับขอบคุณมากเลยครับพี่หมอขอบคุณครับพี่
03:41:23 → 03:41:27 หมอต้องครับขอบคุณครับครับสวัสดีครับ
03:41:27 → 03:41:31 สวัสดี
03:41:31 → 03:41:39 [เพลง]
03:41:39 → 03:41:47 ครับเฮ้เฮ
03:41:47 → 03:41:58 [เพลง]