00:00:00 → 00:00:03 [เพลง]
00:00:03 → 00:00:06 การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแมเหล็กไฟฟ้าหรือ
00:00:06 → 00:00:08 ว่าที่เราเรียกภาษาอังกฤษว่า tms นะคะย่อ
00:00:08 → 00:00:10 มาจาก Trans Canal Magnetic
00:00:10 → 00:00:12 stimulation เป็นเครื่องกระตุ้นเซลล์
00:00:12 → 00:00:15 สมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะมีหัวจ่าย
00:00:15 → 00:00:18 หัวจ่ายตัวนี้จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
00:00:18 → 00:00:20 เข้ามากระตุ้นบริเวณสมองโดยผ่านมาทางกะลก
00:00:20 → 00:00:23 ศีรษะเข้ามากระตุ้นผิวสมองเวลาที่สมองคน
00:00:23 → 00:00:25 เราเนี่ยโดนกระตุ้นด้วยคลื่นเมเหล็กไฟฟ้า
00:00:25 → 00:00:28 ข้อดีคือมันจะทำให้เซลล์สมองทำงาน
00:00:28 → 00:00:30 สัมพันธ์กันได้ดีขึ้นเชื่อมต่อกันได้ดี
00:00:30 → 00:00:33 ขึ้นสั่งการได้ดีขึ้นนอกจากนี้คือทำให้
00:00:33 → 00:00:35 ปรับการทำงานของสารสื่อประสาทหรือที่เรา
00:00:35 → 00:00:37 เรียกว่านโรทรานสมิตเตอร์พวกนี้ทำให้ทำ
00:00:37 → 00:00:39 งานได้สมดุลมากขึ้นเพราะโรคหลายๆโรคเนี่ย
00:00:39 → 00:00:41 เกิดจากสารสืบประสาททำงานไม่สมดุลน่ะค่ะ
00:00:41 → 00:00:44 นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเซลล์ผนังหลอด
00:00:44 → 00:00:45 เลือดทำให้เซลล์ผนังหลอดเลือดเนี่ยทำงาน
00:00:45 → 00:00:48 ดีขึ้นก็ทำให้การไหลเวียนเลือดบริเวณสมอง
00:00:48 → 00:00:50 ที่ถูกกระตุ้นด้วยคลื่นมเหล็กไฟฟ้าเนี่ย
00:00:50 → 00:00:52 เลือดไหลเวียนมากขึ้นนะ
00:00:52 → 00:00:54 [เพลง]
00:00:54 → 00:00:57 คะรักษาเรื่องโรคซุมเศร้าอ่ะค่ะอันนี้ได้
00:00:57 → 00:00:59 รับการยอมรับเลยซึ่งของทางโรงพยาบาลเรา
00:00:59 → 00:01:01 เนี่ยผู้ป่วยจะได้รับการประเมินโดย
00:01:01 → 00:01:03 จิตแพทย์ก่อนส่วนมีงานวิจัยอื่นๆรองรับ
00:01:03 → 00:01:05 ทั้งในประเทศและก็ต่างประเทศที่สามารถ
00:01:05 → 00:01:07 รักษาโรคอื่นๆได้อีกเช่นในโรคของทางระบบ
00:01:07 → 00:01:09 ประสาทก็จะมีโรคอัมพฤกษ์อัมพาตหรือที่เรา
00:01:10 → 00:01:12 รู้จักว่าโรคสตกตัวเนี้ยจะช่วยฟื้นฟูให้
00:01:12 → 00:01:14 คนไข้หลังจากที่เป็นสตกเนี่ยมีอาการดี
00:01:15 → 00:01:18 ขึ้นได้ถึงประมาณ 30% ทั้งในแง่ของกำลัง
00:01:18 → 00:01:21 กล้ามเนื้อการเคลื่อนไหวของคนไข้การกลืน
00:01:21 → 00:01:24 การพูดช่วยลดโอกาสการกำเริบของโรคไมเกรน
00:01:24 → 00:01:26 แล้วก็ช่วยป้องกันให้การกำเเลือกไมเกรน
00:01:26 → 00:01:29 น้อยลงลดอาการปวดนอกจากนี้ก็จะมีการ
00:01:29 → 00:01:31 กระตุ้นเรื่องของความจำในคนไข้ที่เป็นโรค
00:01:31 → 00:01:34 พวกสมองเสื่อมพวกอัลไซเมอร์ tms ก็สามารถ
00:01:34 → 00:01:36 ช่วยกระตุ้นความจำให้ดีขึ้นได้อ่ะ
00:01:36 → 00:01:39 [เพลง]
00:01:39 → 00:01:42 ค่ะที่เราต้องระวังมากๆคือคนไข้กลุ่มที่
00:01:42 → 00:01:45 มีโรคลมชักที่ยังควบคุมด้วยยากันชักได้
00:01:45 → 00:01:47 ไม่ดีอย่างเงี้ยเราก็ไม่ค่อยแนะนำให้ทำ
00:01:47 → 00:01:50 tms แล้วก็คนไข้ที่กำลังตั้งครรภ์คนไข้
00:01:50 → 00:01:53 ที่มีคิปมีโลหะอยู่บริเวณในสมองเพราะว่า
00:01:53 → 00:01:55 เครื่องเยมันต้องกระตุ้นใกล้ผิวสมองอ่ะ
00:01:55 → 00:01:57 ค่ะเช่นคนไข้ที่มีหลอดเลือดผิดปกติที่เรา
00:01:57 → 00:01:59 ต้องมีการคลิบหรือใส่ขดลวดในหลอดเลือดคน
00:01:59 → 00:02:01 ไข้ที่ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรือที่
00:02:01 → 00:02:04 เรียกว่าเพ maker อันนี้ก็ไม่แนะนำให้ทำ
00:02:04 → 00:02:06 [เพลง]
00:02:07 → 00:02:10 คระยะเวลาในการทำไม่เท่ากันแต่ส่วนใหญ่จะ
00:02:10 → 00:02:13 อยู่ที่ประมาณ 30 นาทีไม่เกิน 60 นาทีค่ะ
00:02:13 → 00:02:16 ก็การทำเนี่ยตำแหน่งที่วางในสมองของไ้แต่
00:02:16 → 00:02:18 ละคนตำแหน่งก็ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้น
00:02:18 → 00:02:20 ต้องมาพบแพทย์เพื่อประเมินตำแหน่งที่จะ
00:02:20 → 00:02:22 วางกำลังคลื่นไม่ไฟฟ้าความถี่ในการทำต่อ
00:02:22 → 00:02:25 อาทิตย์โรคแต่ละโรคใช้ระยะเวลาในการทำไม่
00:02:25 → 00:02:27 เหมือนกันแต่ส่วนใหญ่แล้ว tms เนี่ยเป็น
00:02:27 → 00:02:29 การรักษาที่ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งถึง
00:02:29 → 00:02:31 จะเห็นผลนะคะส่วนใหญ่หมอแนะนำทำประมาณ 5
00:02:31 → 00:02:33 ครั้งขึ้นไปถึงจะประเมินประสิทธิภาพของ
00:02:33 → 00:02:35 tms ได้เต็มที่อ่ะ
00:02:35 → 00:02:38 [เพลง]
00:02:38 → 00:02:41 ค่ะค่อนข้างถือว่าเป็นการรักษาที่ปลอดภัย
00:02:42 → 00:02:44 สูงอ่ะค่ะคนไข้สามารถมารักษาแบบผู้ป่วย
00:02:44 → 00:02:47 นอกได้เลยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลนะคะ
00:02:47 → 00:02:50 ไม่มีการดมยาสลบวางยาสลบอะไรแล้วก็ผลข้าง
00:02:50 → 00:02:51 เคียงที่เจอที่กลัวที่สุดก็คือเรื่องของ
00:02:51 → 00:02:54 อาการชักแต่ว่ามันก็คือเจอได้น้อยมากไม่
00:02:54 → 00:02:57 ถึง 1% และถ้าเรามีการคุยกับคนไข้ประเมิน
00:02:57 → 00:02:59 อาการคนไข้แล้วเนี่ยความเสี่ยงอันนี้ก็จะ
00:02:59 → 00:03:02 ลดลงอาการข้างเคียงที่เจอได้น้อยลงมาแล้ว
00:03:02 → 00:03:04 ไม่ค่อยอันตรายคืออาการปวดศีรษะเวียน
00:03:04 → 00:03:08 ศีรษะแล้วก็มีเสียงดังในหูหูอื้ออันนี้
00:03:08 → 00:03:10 เจอได้บ้างอาการเล็กน้อยไม่ถึงขั้นต้อง
00:03:10 → 00:03:12 ทานยาค่ะส่วนใหญ่กลับบ้านไปนอนพักก็หาย
00:03:12 → 00:03:14 เองได้
00:03:14 → 00:03:16 [เพลง]
00:03:16 → 00:03:19 ค่ะส่วนใหญ่หมอก็จะแนะนำคนไข้ว่าให้นอน
00:03:19 → 00:03:22 พักผ่อนให้เพียงพอวันที่ก่อนที่จะมาทำ EMS
00:03:22 → 00:03:24 เนี่ยถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการ
00:03:24 → 00:03:27 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันที่มาทำถ้ามี
00:03:27 → 00:03:29 ญาติมาด้วยก็จะปลอดภัยกับคนไข้มากขึ้นถ้า
00:03:29 → 00:03:31 เกิดขับรถมาอย่างเงี้ยเวลาขับรถกลับมันก็
00:03:31 → 00:03:33 จะอาจจะอันตรายนิดนึงก็เลยแนะนำให้พายาท
00:03:33 → 00:03:37 มาด้วยทำเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้เลยนะ
00:03:37 → 00:03:39 [เพลง]
00:03:39 → 00:03:42 คะส่วนใหญ่ถ้าไส้เลือดสมองตีบสมองขัด
00:03:42 → 00:03:45 เลือดใหญ่ๆเนี่ยหมอก็จะรอประมาณสัก 1-3
00:03:45 → 00:03:47 เดือนแล้วแต่คนไข้บางคนเพราะว่าถ้าเรา
00:03:47 → 00:03:49 กระตุ้นเร็วไปอ่ะสมองที่มันขาดเลือดใหญ่ๆ
00:03:49 → 00:03:51 เนี่ยแนวโน้มมันมีโอกาสจะทำให้เป็นวาชัก
00:03:51 → 00:03:53 อยู่แล้วแต่ถ้าเป็นสมองขาดเลือดเล็กๆก็จะ
00:03:53 → 00:03:54 กระตุ้นได้เลยประมาณเดือนนึงให้คนไข้มา
00:03:54 → 00:03:57 กระตุ้นได้แล้วมันเหมือนเป็นการรักษาแนว
00:03:57 → 00:03:59 ทางใหม่เป็นทางเลือกให้คนไข้อ่ะค่ะที่
00:03:59 → 00:04:01 รักษาร่วมกับการรักษาหลักอันนี้ไม่ใช่การ
00:04:01 → 00:04:04 รักษาหลักมันมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงผน
00:04:04 → 00:04:06 ข้างเคียงน้อยประสิทธิภาพของการรักษาก็
00:04:06 → 00:04:08 ค่อนข้างให้ผล
00:04:08 → 00:04:11 [เพลง]
00:04:12 → 00:04:15 ดี