00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับมีคนนถามผมเข้ามานะครับว่าเวลา
00:00:03 → 00:00:05 ที่เขากำลังนอนหลับอยู่นะครับกำลังเคลิ้ม
00:00:06 → 00:00:08 ๆหลับเนี่ยมันจะมีเสียงตู้มดังมากเหมือน
00:00:08 → 00:00:12 ระเบิดนะครับทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมาแบบตก
00:00:12 → 00:00:14 ใจมากเลยนะฮะแล้วเขก็ไม่รู้ว่ามันเป็น
00:00:14 → 00:00:17 อะไรนะครับบางคนคิดว่าเฮ้ยบ้าหรือเปล่านะ
00:00:18 → 00:00:20 ครับคิดไปเองมยนะครับแต่ว่ามันก็เป็นอยู่
00:00:20 → 00:00:23 นั่นน่ะไม่ยอมหายไปไหนนะครับวันนี้ผมก็
00:00:23 → 00:00:25 เลยอยากจะเอาเรื่องเนี้ยมาเล่าให้ฟังกัน
00:00:25 → 00:00:28 เลยว่ามันใช่โรคหรือเปล่าเราคิดไปเองมยนะ
00:00:28 → 00:00:30 ครับแล้วมันจะเป็นอาการนำของโรคอะไรใน
00:00:30 → 00:00:33 อนาคตหรือเปล่ามันอันตรายหรือไม่จำเป็น
00:00:33 → 00:00:36 ต้องรักษาอย่างไรบ้างนะครับก็เดี๋ยวฟัง
00:00:36 → 00:00:38 กันเลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนี
00:00:38 → 00:00:40 ธนียวันนะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:40 → 00:00:42 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:42 → 00:00:46 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับอาการ
00:00:46 → 00:00:48 อย่างเงี้ยนะครับถ้าเราเคลิ้มหลับนะครับ
00:00:48 → 00:00:50 อยู่ๆมันมีเสียงตู้มขึ้นมาเลยหรือว่าใน
00:00:50 → 00:00:52 ขณะที่เราหลับอยู่ดีๆนะครับมันตู้มขึ้นมา
00:00:52 → 00:00:55 ทำให้เราต้องตื่นขึ้นมาแล้วเราก็ตกใจมากๆ
00:00:55 → 00:00:58 อย่างเงี้นะครับมันไม่ได้เป็นสิ่งที่คุณ
00:00:58 → 00:01:01 คิดไปเองนะครับมันเป็นจริงๆนะมันมีโรคๆ
00:01:01 → 00:01:03 นึงที่ทำให้มีอาการอย่างนี้โรคนั้นก็คือ
00:01:03 → 00:01:06 โรคที่เรียกว่า exploding hate Syndrome
00:01:06 → 00:01:09 นะครับหรือกลุ่มอาการหัวระเบิดนั่นเอง
00:01:09 → 00:01:11 ชื่อมันฟังดูน่ากลัวนะครับมันเหมือนตู้ม
00:01:11 → 00:01:14 นึงขึ้นมาเลยนะใครไม่ตกใจบ้างกำลังนอน
00:01:14 → 00:01:17 เคลิ้มๆหลับอยู่ดีๆมันมันมนตู้มขึ้นมา
00:01:17 → 00:01:20 ข้างๆหูนะเหมือนมีเสียงระเบิดเสียงปืนยิง
00:01:20 → 00:01:22 กันเสียงแก๊สระเบิดเสียงอะไรอย่างเงี้ย
00:01:22 → 00:01:25 ดังมากๆอยู่ในหัวนะครับแล้วตื่นขึ้นมาหัว
00:01:25 → 00:01:28 ใจเต้นโอหรัวเลยใจสั่นเหงื่อแตกพลักๆเลย
00:01:28 → 00:01:30 ครับบางทีบางคนมีมือกระตุกอย่างนี้ด้วยนะ
00:01:30 → 00:01:35 ครับนะแต่มันจะมีสิ่งนึงซึ่งเด่นมากคือจะ
00:01:35 → 00:01:39 ต้องไม่ปวดหัวนะครับจะต้องไม่ปวดหัวถ้ามี
00:01:39 → 00:01:41 อาการครบทั้งหมดนี่นะครับเราอ่ะจะพอบอก
00:01:41 → 00:01:44 ได้เลยว่าน่าจะเป็น exploding Head
00:01:44 → 00:01:47 Syndrome เฮ้ยแล้วโรคนี้มันคืออะไรถ้า
00:01:47 → 00:01:49 เราปล่อยไว้นานๆหัวเรามันจะระเบิดตามชื่อ
00:01:49 → 00:01:52 จริงหรือเปล่านะครับต้องบอกว่าท่านสบายใจ
00:01:52 → 00:01:55 ได้ครับว่าโรคๆนี้เนี่ยมันไม่ได้เป็นโรค
00:01:55 → 00:01:57 อันตรายครับมันไม่ได้แปลว่าท่านมีเนื้อ
00:01:57 → 00:01:59 งอกมีเส้นเลือดกำลังจะแตกอยู่ในหัวแต่แต่
00:01:59 → 00:02:02 อย่างใดนะครับมันเป็นโรคที่หายได้เองด้วย
00:02:02 → 00:02:05 ถ้าปล่อยไว้นานๆไม่รักษามันก็หายไปเองนะ
00:02:05 → 00:02:08 ครับอ่าอันนี้จะพูดให้สบายใจก่อนเลยอย่าง
00:02:08 → 00:02:11 หนึ่งนะครับอ่าแต่ทีนี้เรามาลงรายละเอียด
00:02:11 → 00:02:14 กันต่อเลยดีกว่าโรคๆนี้เนี่ยมันยังไม่มี
00:02:14 → 00:02:17 ใครทราบว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นแล้วก็ไม่มี
00:02:17 → 00:02:21 ใครทราบว่าเออมันเจอบ่อยในช่วงอายุแค่ไหน
00:02:21 → 00:02:23 ยังไงบ้างเพราะว่ามันเจอได้ตั้งแต่คนอายุ
00:02:23 → 00:02:25 น้อยยันคนอายุมากจะเกิดตอนไหนก็ได้เลยนะ
00:02:25 → 00:02:29 ครับแล้วมันก็มีคนตั้งสมมุติฐานมากมายว่า
00:02:30 → 00:02:33 ทำไมมันถึงเกิดนะครับบางคนก็บอกว่ามันอาจ
00:02:33 → 00:02:36 จะเป็นเรื่องของระบบประสาทในสมองมันแปลผล
00:02:36 → 00:02:38 ผิดพลาดนะครับบางคนก็บอกว่ามันอาจจะ
00:02:38 → 00:02:41 เกี่ยวข้องกับการนำไปสู่การเกิดไมเกรน
00:02:41 → 00:02:43 เป็นอาการนำของไมเกรนหรือเปล่าเป็นออร่า
00:02:43 → 00:02:46 ของไมเกรนมยนะครับอ่าก็จะมีหลากหลายความ
00:02:46 → 00:02:48 คิดเห็นแต่ว่าปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสรุป
00:02:48 → 00:02:52 ได้ว่าอะไรคือสาเหตุของการเกิดอาการแบบ
00:02:52 → 00:02:56 นี้ขึ้นมานะครับทีนี้พอเราไม่ทราบสาเหตุ
00:02:56 → 00:02:58 ว่ามันทำไมเกิดได้เนี่ยเราก็ต้องมางงแล้ว
00:02:59 → 00:03:01 สิเอ๊ะหมอบอกว่ามันหายได้ผมบอกว่ามันหาย
00:03:01 → 00:03:03 ได้เฮ้ยแล้วแล้วยังไงมันทำยังไงมันถึงจะ
00:03:03 → 00:03:06 หายทำยังไงถึงจะลดความถี่นะครับเพราะว่า
00:03:06 → 00:03:09 บางคนเนี่ยใน 1 คืนน่ะมีอาการอย่างเงี้ย
00:03:09 → 00:03:11 หลายครั้งเลยนะครับไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
00:03:11 → 00:03:13 บางคนบอกเออเคิมหลับก็ตู้มทีนึงละแล้ว
00:03:13 → 00:03:15 อยู่ๆอ่ะหลับไปได้อทีนึงหลับๆอยู่ก็ตู้ม
00:03:16 → 00:03:17 อีกสักทีนึงอย่างเงี้ยคืนนึงก็ไม่ได้นอน
00:03:17 → 00:03:20 เลยเพราะว่ามันตู้มหลายครั้งมากเราก็กลัว
00:03:20 → 00:03:23 หลายครั้งว่าเอ้ยถ้ามันจะมีใครมาระเบิด
00:03:23 → 00:03:25 บ้านเราหรือเปล่านะครับก็กังวลนะครับ
00:03:25 → 00:03:29 แพนิคไปเลยนะครับก็ต้องบอกอย่างงี้มันจะ
00:03:29 → 00:03:33 มีปัจจัยกระตุ้นซึ่งในแต่ละคนนั้นอาจจะ
00:03:33 → 00:03:35 ไม่ใช่ปัจจัยเดียวกันนะครับดังนั้นท่าน
00:03:35 → 00:03:37 ต้องลองสังเกตตัวเองว่าช่วงไหนที่ท่านมี
00:03:37 → 00:03:39 อาการโดยเฉพาะถ้ามีบ่อยๆใน 1 คืนเนี่ยนะ
00:03:39 → 00:03:43 ครับลองดูเลยว่าเฮ้ยเราพักผ่อนไม่พอหรือ
00:03:43 → 00:03:45 เปล่าช่วงนี้เราอดนอนมยนะครับเรามีเรื่อง
00:03:45 → 00:03:47 เครียดอะไรหรือเปล่าเราย้ายงานย้ายบ้านนะ
00:03:47 → 00:03:49 ครับหรือเรามีทะเลาะกับใครหรือเปล่านะ
00:03:49 → 00:03:52 ครับพวกนี้นะครับเป็นตัวกระตุ้นบางคน
00:03:52 → 00:03:55 เนี่ยอ่าไม่ได้ทานอาหารนานๆทำ If บ่อยๆนะ
00:03:55 → 00:03:57 ครับหรือกำลังเจ็บป่วยอยู่บางคนก็จะมี
00:03:57 → 00:04:01 อาการแบบนี้ขึ้นมาหรือบางคนเนี่ยเคยมีทาน
00:04:01 → 00:04:05 ยาบางอย่างอยู่นะครับโดยเฉพาะยากลุ่มเซ di
00:04:05 → 00:04:07 สปนต่างๆนะครับแล้วหยุดทานยาไปคือยาพวกยา
00:04:07 → 00:04:10 นอนหลับยาคลายเครียดแล้วหยุดทานไปบางคนก็
00:04:10 → 00:04:14 อาจจะเกิดอาการนี้ขึ้นมาได้นะครับและถ้า
00:04:14 → 00:04:17 เราสามารถที่จะเจอสิ่งที่กระตุ้นเราได้
00:04:17 → 00:04:20 แล้วเราหลีกเลี่ยงมันหลายๆครั้งโรคนี้มัน
00:04:20 → 00:04:23 จะค่อยๆหายไปเองนะครับอาการมันก็จะค่อยๆ
00:04:23 → 00:04:27 ดีขึ้นนะทีนี้เราต้องเข้าใจด้วยว่าการนอน
00:04:27 → 00:04:29 หลับเนี่ยต้องเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ
00:04:30 → 00:04:32 ถึงจะสามารถทำให้โรคๆนี้มันดีขึ้นได้คือ
00:04:32 → 00:04:34 อย่างที่ผมเคยเล่าไปว่าการนอนหลับเราจะ
00:04:34 → 00:04:37 ต้องนอนอย่างน้อย 7-9 ชมงนะครับถ้าเรานอน
00:04:37 → 00:04:39 อยู่ในช่วงนี้แล้วนะครับการนอนหลับคุณภาพ
00:04:39 → 00:04:42 ของเราดีนะครับมันก็จะสามารถทำให้โรค
00:04:42 → 00:04:44 exploding H Syndrome หรือไอ้เสียงพวก
00:04:44 → 00:04:47 เนี้ยมันค่อยๆดีขึ้นได้ด้วยตัวเองนะครับ
00:04:47 → 00:04:51 แต่ทีนี้ถ้าท่านมีอาการไม่ตรงไปตรงมานะ
00:04:51 → 00:04:55 ครับเช่นว่ามันตู้มแล้วอปกติมันควรจะตู้ม
00:04:55 → 00:04:57 เป็นหลักวินาทีนะครับแต่ถ้ามันตู้มเป็น
00:04:57 → 00:05:01 หลักหลักแบบเฮ้ยหลายนาทีเลยเป็น 10 นาที
00:05:01 → 00:05:03 เลยอย่างเงี้ยตู้มๆๆแล้วไม่ยอมหยุดนะครับ
00:05:03 → 00:05:05 หรือท่านมีอาการปวดหัวร่วมๆมีอาการทางกาย
00:05:05 → 00:05:08 เช่นอาการคลื่นไส้อาเจียนตามัวร่วมด้วย
00:05:08 → 00:05:10 อันเนี้ยไม่ใช่อาการ exploding HA
00:05:10 → 00:05:12 Syndrome นะครับท่านจะต้องไปตรวจหา
00:05:12 → 00:05:14 สาเหตุที่มันร้ายแรงกว่านั้นเสมอนะครับ
00:05:14 → 00:05:17 ย้ำนะครับ exploding HA Syndrome เนี่ย
00:05:17 → 00:05:19 มันจะมีเสียงตู้มครั้งหนึ่งในขณะที่ท่าน
00:05:19 → 00:05:22 กำลังเคลิ้มหลับหรือกำลังจะตื่นนะครับ
00:05:22 → 00:05:25 ตื่นมาด้วยความตกใจกลัวอาจจะมีมือหรือขา
00:05:25 → 00:05:28 กระตุกก็ได้แต่จะต้องไม่มีอาการอื่นใดนอก
00:05:28 → 00:05:31 เหนือจากนี้จะต้องไม่มีอาการปวดหัวไม่มี
00:05:31 → 00:05:34 อาการต่ามัวไม่มีคลื่นไส้อาเจียนไม่มีการ
00:05:34 → 00:05:37 มวลท้องไม่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกนะครับ
00:05:37 → 00:05:39 ไม่มีอาการใจสั่นที่มันค้างอยู่เป็นระยะ
00:05:39 → 00:05:42 เวลานานๆนะครับโรคนี้จะเป็นปึ๊บเดียวใน
00:05:42 → 00:05:45 เป็นหลักวินาทีแล้วจบนะครับถ้าท่านมี
00:05:45 → 00:05:49 อาการต่างไปจากนี้ท่านต้องไปหาหมอแล้ว
00:05:49 → 00:05:52 ตรวจให้ละเอียดนะครับโดยเฉพาะหมอทางด้าน
00:05:52 → 00:05:55 โรคการนอนหลับนะครับถ้าไปหาหมอท่านอื่น
00:05:55 → 00:05:57 ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านการนอนหลับเขา
00:05:57 → 00:06:00 อาจจะไม่รู้จักโรคๆนี้ก็ก็ได้นะครับอาจจะ
00:06:00 → 00:06:04 มีหมอทางด้านเอ่อปราสาทวิทยาอีกรอีกเอ่อ
00:06:04 → 00:06:06 คนนึงที่สามารถที่จะวินิจฉัยได้เออน่าจะ
00:06:06 → 00:06:09 เป็นโรคกลุ่มนี้นะครับแล้วโรคๆนี้เนี่ย
00:06:09 → 00:06:12 มันจัดอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่าพาเนียนะ
00:06:12 → 00:06:14 ครับคือเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับการนอน
00:06:14 → 00:06:16 หลับแต่มันเจอได้น้อยมากๆเลยนะครับ
00:06:16 → 00:06:18 ปัจจุบันยังไม่มีใครแน่ใจว่ามันมีกันเยอะ
00:06:18 → 00:06:21 แค่ไหนนะครับแต่ว่าถือว่าเจอน้อยมากนะที
00:06:21 → 00:06:24 นี้โอเคละถ้าท่านรู้สึกว่าเออเราก็ไม่ได้
00:06:24 → 00:06:26 มีอาการอะไรนอกเหนือไปจากที่ผมบอกเมื่อ
00:06:26 → 00:06:29 ตะกี้นะครับแต่ว่าพยายามหลีกเลี่ยงทุก
00:06:29 → 00:06:32 อย่างแล้วอ่ะทำตัวก็ปกติกินอาหารสม่ำเสมอ
00:06:32 → 00:06:34 แล้วออกกำลังกายก็แล้วนอนพักผ่อนก็เพียง
00:06:34 → 00:06:36 พอแล้วมันยังเป็นอยู่เรื่อยๆเนี่ยนะครับ
00:06:36 → 00:06:40 ก็แนะนำว่าควรจะไปหาหมอเช่นกันทีนี้ไปหา
00:06:40 → 00:06:43 หมอแล้วหมอเจะทำอะไรบ้างนะครับหมอเค้าก็
00:06:43 → 00:06:45 จะมีการตรวจหลายๆอย่างขึ้นอยู่กับประวัติ
00:06:46 → 00:06:48 ของเรานะครับอาจจะมีการตรวจการนอนหลับให้
00:06:48 → 00:06:51 แน่ใจว่าเราไม่มีโรคของการนอนหลับชนิด
00:06:51 → 00:06:53 อื่นร่วมด้วยนะครับยกตัวอย่างเช่นอ่าเรา
00:06:53 → 00:06:56 ไม่มีการหยุดหายใจในขณะหลับนะครับเราไม่
00:06:56 → 00:06:58 มีโรคการฝันที่แบบแปลกๆมีการชักอะไรใน
00:06:58 → 00:07:00 ระหว่างนอนนะครับนะครับก็จะตรวจพวกนั้น
00:07:00 → 00:07:02 ให้แน่ใจก่อนว่ามันไม่มีสิ่งเหล่านั้นนะ
00:07:02 → 00:07:05 ครับบางครั้งอาจจะต้องมีการทำ MRI สมอง
00:07:05 → 00:07:08 ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่หมอเสงสัยนะครับแล้ว
00:07:08 → 00:07:10 ก็ซักประวัติเพิ่มเติมว่าเฮ้ยเราไม่ได้มี
00:07:10 → 00:07:14 โรคซึมเศร้าโรคทางจิตเวทอ่าโรค ptsd โรค
00:07:14 → 00:07:16 แพนิคอะไรพวกนี้อยู่นะเพราะถ้ามีมันก็
00:07:16 → 00:07:18 ต้องรักษาครับไม่ฉะนั้นโรคเหล่านี้มันก็
00:07:18 → 00:07:22 จะทำให้ท่านมีอาการอยู่เรื่อยๆนะครับแล้ว
00:07:22 → 00:07:24 ทีนี้มาถึงการรักษาละโอเคถ้าเราทำเต็มที่
00:07:24 → 00:07:27 ะแล้วมันไม่หายเราไปหาหมอแล้วหมอก็โคด
00:07:27 → 00:07:29 วินิจฉัยว่าเราเป็นพาราอเนียเนี่ยชนิดที่
00:07:30 → 00:07:32 เรียกว่า exploding He Syndrome แล้ว
00:07:32 → 00:07:34 จริงๆเนี่ยนะครับยาก็มีอยู่หลายตัวที่เรา
00:07:35 → 00:07:37 สามารถใช้ได้โดยยาส่วนใหญ่ที่เราใช้นะ
00:07:37 → 00:07:40 ครับก็จะยาชื่อว่า topiramate นะครับยา
00:07:40 → 00:07:43 ตัวนี้เมันเป็นยากันชักตัวนึงซึ่งเราก็
00:07:43 → 00:07:45 ใช้ในโรคนี้ได้ด้วยเช่นกันหรือบางครั้ง
00:07:45 → 00:07:48 เราก็ใช้ในโรคไบโพล่านะครับได้เช่นกันโกโ
00:07:48 → 00:07:52 เอ่อยาโทพิเดเนี่ยมันก็เป็นยากลุ่มที่เรา
00:07:52 → 00:07:55 ใช้แล้วก็ได้ได้ผลดีนะในการรักษาเรื่อง
00:07:55 → 00:07:57 ของ exploding Head Syndrome ช่วยลด
00:07:57 → 00:08:00 อาการช่วยลดความถี่ของการเ่อมีเสียงแบบ
00:08:00 → 00:08:02 นั้นได้นะครับยาตัวอื่นที่เราใช้กันก็ยก
00:08:02 → 00:08:05 ตัวอย่างเช่นยาในเินซึ่งมันเป็นยาลดความ
00:08:05 → 00:08:08 ดันตัวนึงยาิีีนะครับซึ่งเป็นยาอ่าแก้
00:08:08 → 00:08:12 วิตกกังวลซึมเศร้าเราก็สามารถใช้ยาิทิน
00:08:12 → 00:08:15 ได้นะครับเอ่อหรือมันจะมียาอีกตัวนึงที่
00:08:15 → 00:08:18 ผมไม่ค่อยใช้แต่ตัวนี้เดี๋ยวลองคิดอ่อยา
00:08:18 → 00:08:21 ชื่อโครินตัวนี้ก็จะเป็นอีกตัวนึงซึ่งอ่า
00:08:21 → 00:08:23 สามารถใช้ได้นะครับแต่ผมไม่เคยใช้เหมือน
00:08:23 → 00:08:27 กันนะครับโรคๆนี้นะคือมันเจอได้น้อยมากนะ
00:08:27 → 00:08:30 ครับแล้วมันก็ใช้การรักษาแบบแบบนี้ถ้าถาม
00:08:30 → 00:08:33 ว่าไม่รักษาได้มยได้ครับมันก็จะค่อยๆหาย
00:08:33 → 00:08:35 ไปเองเหมือนกันนะฮะดังนั้นเนี่ยถ้าคนไหน
00:08:35 → 00:08:38 เป็นโรคโลกนี้อยู่นะครับก็ถ้าฟังคลิปนี้
00:08:38 → 00:08:40 แล้วหวังว่าคงจะได้ประโยชน์เข้าใจว่าเรา
00:08:40 → 00:08:42 ควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรนะครับงั้นโดย
00:08:42 → 00:08:45 สรุปนะครับโรค exploding HA Syndrome
00:08:45 → 00:08:47 นะครับคือจะมีอาการเหมือนได้ยินเสียงดัง
00:08:47 → 00:08:50 มากๆในขณะที่เราเคลิ้มหลับหรือบางทีในขณะ
00:08:50 → 00:08:52 หลับไปแล้วแล้วตื่นมาเพราะว่าเสียงแบบนี้
00:08:52 → 00:08:55 นะครับจะมีอาการตื่นตกใจได้มีอาการแขนขา
00:08:55 → 00:08:58 กระตุกได้แต่จะต้องไม่มีอาการนอกเหนือจาก
00:08:58 → 00:09:00 นี้โดยเฉพาะอาการปวดนะครับต้องไม่ปวดไม่
00:09:00 → 00:09:03 เคลื่อนใช้อาเจียนไม่คลื่นไม่มีตามัวไม่
00:09:03 → 00:09:05 แน่นหน้าอกไม่มีอาการอะไรอย่างอื่นใดๆ
00:09:05 → 00:09:07 ทั้งสิ้นแล้วอาการทั้งหมดที่ว่าไปเมื่อ
00:09:07 → 00:09:09 กี้นี้จะต้องอยู่ในละวินาทีเท่านั้นแล้ว
00:09:10 → 00:09:12 มันควรจะต้องหายนะครับมันจะมีตัวกระตุ้น
00:09:12 → 00:09:14 ท่านจะต้องหาให้เจอแล้วก็หลีกเลี่ยงนะ
00:09:14 → 00:09:16 ครับนอนให้เพียงพอไม่เครียดนะครับทาน
00:09:16 → 00:09:18 อาหารที่สมดุลและออกกำลังกายไม่ใช้ยาเสพ
00:09:18 → 00:09:20 ติดนะครับไม่ดื่มเหล้าไม่บุหรี่พวกนี้นะ
00:09:20 → 00:09:23 ครับมันก็จะค่อยๆดีขึ้นนะฮะถ้าไม่ดีขึ้น
00:09:23 → 00:09:26 ไปตรวจกับหมอมันก็จะมียารักษาโรคนี้มัน
00:09:26 → 00:09:28 หายได้เองนะครับในระยะเวลาที่ยังไม่แน่ใจ
00:09:28 → 00:09:31 ว่าแต่ละคนมันจะไม่เหมือนกันนะครับแล้ว
00:09:31 → 00:09:33 มันก็ไม่ได้เป็นอาการบ่งชี้ว่าเราเป็นโรค
00:09:33 → 00:09:36 อันตรายในอนาคตนะครับมันไม่อันตรายนะครับ
00:09:36 → 00:09:38 โลกนี้ไม่อันตรายไม่ได้บอกว่าเราเป็น
00:09:38 → 00:09:41 มะเร็งไม่ได้บอกว่าเรามีอาการอ่าเส้เลือด
00:09:41 → 00:09:43 แตกตีบหรือมีปัญหาอะไรแต่อย่างใดนะครับ
00:09:43 → 00:09:45 โอเควันนี้ก็เท่านี้นะครับถ้าใครมีอะไร
00:09:45 → 00:09:47 สงสัยก็สอบถามมานะครับขอบคุณมากครับ
00:09:47 → 00:09:51 สวัสดีครับ