00:00:00 → 00:00:03 รู้หรือไม่ กินยาแก้เวียนหัวพร่ำเพรื่อ
00:00:03 → 00:00:05 เสี่ยงสมองเสื่อม
00:00:07 → 00:00:08 เปิดตู้ยา
00:00:11 → 00:00:14 ตอน กินยาแก้เวียนหัวพร่ำเพรื่อ
00:00:14 → 00:00:16 - เสี่ยง... - เสี่ยงอะไรนะ
00:00:16 → 00:00:18 อ๋อ...เสี่ยงสมองเสื่อม
00:00:20 → 00:00:24 สวัสดีครับคุณป้า เชิญครับ นั่งก่อน นั่งก่อน
00:00:24 → 00:00:26 เอ้า หมอก็ลุกสิจ๊ะ
00:00:26 → 00:00:27 ลุกทำไมล่ะครับ
00:00:27 → 00:00:29 ก็หมอบอกให้ป้านั่งก่อน
00:00:29 → 00:00:31 หมอไม่ลุก ป้าจะนั่งก่อนได้ยังไงล่ะ
00:00:31 → 00:00:32 แฮ่
00:00:33 → 00:00:35 ไม่ใช่ หมายถึงเชิญนั่งครับ
00:00:36 → 00:00:37 แล้ววันนี้เป็นอะไรมาล่ะป้า
00:00:38 → 00:00:39 ก็...
00:00:39 → 00:00:41 ปวดหัวตัวร้อน ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน
00:00:41 → 00:00:42 กระส่ายกระสับ ตับพิการ อาหารไม่ย่อย
00:00:42 → 00:00:45 ลิ้นกร่อย กินข้าวไม่อร่อย ไม่รู้รส มีกรดในลำไส้
00:00:45 → 00:00:48 เวลาหายใจเหม็น ๆ เช้าเย็นปวดหัว วิงเวียนศีรษะ
00:00:49 → 00:00:51 โอ้โห…หมดนี่เลยหรือป้า
00:00:51 → 00:00:52 หยอก ๆ
00:00:52 → 00:00:54 ป้าแค่มีอาการเวียนหัว
00:00:54 → 00:00:56 บ้าบอ...เออ
00:00:56 → 00:00:58 แล้วยาแก้เวียนหัวล่ะครับ ได้กินไหม
00:00:58 → 00:00:59 กินสิจ๊ะ
00:00:59 → 00:01:02 หมอบอกให้ป้ากินเวลามีอาการ
00:01:02 → 00:01:05 ป้ามีอาการเวียนหัว เช้า-กลางวัน-เย็น
00:01:05 → 00:01:09 ป้าก็กินเช้า-กลางวัน-เย็น ทุกวันเลยจ้ะ
00:01:11 → 00:01:12 หา..!?
00:01:12 → 00:01:14 - หา..!?
00:01:14 → 00:01:15 หา..!?
00:01:17 → 00:01:20 ก่อนที่เราจะไปพูดถึงรายละเอียดของยาครับ
00:01:20 → 00:01:22 ผมอยากเล่าให้พวกเราฟังนิดนึงว่า
00:01:22 → 00:01:27 ปกติคำว่าเวียนหัว คำว่ามึนหัว เหมือนกันไหมอาจารย์แพร์
00:01:28 → 00:01:31 อืม เวียนหัวกับมึนหัว
00:01:31 → 00:01:33 ไม่น่าจะเหมือนกันนะคะอาจารย์บอล
00:01:33 → 00:01:36 เวลามึนหัวหรือเวียนหัวนี่ครับ
00:01:36 → 00:01:41 สิ่งที่เกิดขึ้นนี่ จะเป็นความรู้สึกของ คนที่เกิดอาการ แล้วเล่าให้เราฟัง
00:01:41 → 00:01:43 มึนหัว ก็แค่มึน ๆ เนอะ
00:01:43 → 00:01:46 อา...แต่เวียนหัว...
00:01:46 → 00:01:49 เมื่อไรก็ตาม เราใช้คำว่าเวียนหัวหรือเวียนศีรษะ
00:01:49 → 00:01:53 แปลว่าคนกลุ่มนี้หรืออาการของโรคนี้
00:01:53 → 00:01:58 มักจะมีอาการหมุน…จะหมุนติ้ว ๆ แนวนอน
00:01:58 → 00:02:00 จะหมุนติ้ว ๆ แนวตั้ง
00:02:00 → 00:02:03 หรือบางทีเห็นบ้านกลับหัว อาจารย์แพร์เคยเป็นไหม
00:02:03 → 00:02:05 อ๋อ ใช่ ๆ ค่ะ
00:02:05 → 00:02:08 เวลาที่แบบ…เครียดมาก ๆ ก็เป็นได้เหมือนกันใช่ไหมคะ
00:02:08 → 00:02:10 อา...ใช่นะครับ
00:02:10 → 00:02:15 เพราะฉะนั้นครับ สิ่งที่เรากำลังจะบอกว่า ยาแก้เวียนหัวเอามาใช้เมื่อไร
00:02:15 → 00:02:21 เราจะใช้ในกรณีที่มีอาการเวียนหัว เกิดขึ้นเป็นหลักนะครับ
00:02:21 → 00:02:23 ไม่ใช่อาการมึนหัว
00:02:23 → 00:02:27 เพราะยากลุ่มนี้ เวลาเรารับประทานเข้าไปแล้วนี่
00:02:27 → 00:02:32 มันจะมีอาการข้างเคียง คือ ทำให้เราง่วงนอน แล้วก็มึนหัว
00:02:32 → 00:02:35 มึนเจอมึน ยิ่งมึนเลยครับ
00:02:36 → 00:02:39 พอเรารู้จักยาแก้เวียนหัวแล้วนะครับ ว่าใช้ยังไง
00:02:39 → 00:02:42 เรามาดูกันครับว่ายาแก้เวียนหัวมีกี่ประเภท
00:02:43 → 00:02:46 หลัก ๆ เลยค่ะ ยาแก้เวียนหัวมี 2 ประเภทค่ะ
00:02:46 → 00:02:48 ประเภทแรกก็คือ แก้อาการค่ะ
00:02:48 → 00:02:50 เป็นปุ๊บนะคะ หยิบมาใช้ปั๊บ
00:02:50 → 00:02:55 อันนี้ค่ะ น่าจะสามารถเจอ แล้วก็พบเห็นกันได้เป็นส่วนใหญ่ค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 เรียกยาตัวนี้ว่า Dimenhydrinate ค่ะ
00:02:58 → 00:03:01 ส่วนใหญ่จะเป็นยาเม็ดเล็ก ๆ นะคะ
00:03:01 → 00:03:03 หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่ว ๆ ไปค่ะ
00:03:03 → 00:03:07 แต่เวลารับประทานนะคะ มันแก้เวียนหัวได้ก็จริงค่ะ
00:03:07 → 00:03:10 แต่ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงหลาย ๆ อย่าง เหมือนกันค่ะ
00:03:10 → 00:03:14 เมื่อกี้อาจารย์แพร์เล่าให้เราฟังถึง เรื่องของยาที่ใช้รักษา
00:03:14 → 00:03:17 หรือบรรเทาอาการเวียนหัวเฉียบพลันแล้วนะครับ
00:03:17 → 00:03:21 มันมียาอีกกลุ่มหนึ่งครับ คือ ยาที่เราใช้สำหรับป้องกันอาการเวียนหัว
00:03:21 → 00:03:23 กรณีแบบนี้นี่ หมายความว่า
00:03:23 → 00:03:26 ผู้ป่วยอาจจะเกิดอาการเวียนหัวทุกวัน หรือเกิดบ่อย ๆ
00:03:26 → 00:03:29 หรือบางทีเกิดไม่บ่อย แต่รุนแรงครับ
00:03:29 → 00:03:33 คุณหมอก็เลยเลือกยากลุ่มนี้ให้ ซึ่งยากลุ่มป้องกันอาการนี่
00:03:33 → 00:03:37 เราจำเป็นต้องรับประทานทุกวันติดต่อกัน
00:03:37 → 00:03:39 จะไม่เหมือนกับยาที่เราใช้บรรเทาอาการนะครับ
00:03:40 → 00:03:43 ยาที่เราใช้บรรเทาอาการนี่ รับประทานสั้น ๆ
00:03:43 → 00:03:47 อาจจะสักวันสองวัน หรืออย่างมากที่สุด ประมาณ 1 หรือ 2 สัปดาห์
00:03:47 → 00:03:48 ก็ควรจะต้องหยุดยาแล้ว
00:03:48 → 00:03:51 เพราะอาการน่าจะต้องหายไปแล้วนะครับ
00:03:52 → 00:03:54 เมื่อกี้อาจารย์แพร์เกริ่นไว้ครับว่า
00:03:54 → 00:03:59 ยาที่เราใช้ในการรักษาอาการเวียนหัว หรือตัว Dimenhydrinate
00:03:59 → 00:04:02 หรือยาเม็ดกลม ๆ สีเหลือง ที่มักจะเจอกันนี่ครับ
00:04:02 → 00:04:06 ยาแก้เวียนหัวตรงนี้นี่ มีอันตรายอะไรบ้างครับอาจารย์แพร์
00:04:06 → 00:04:09 ผลข้างเคียงที่เราสังเกตเห็นได้ทันทีเลย
00:04:09 → 00:04:12 ก็จะมีลักษณะของอาการที่มึนหัวค่ะ
00:04:12 → 00:04:15 ก๊ง ๆ งง ๆ นะคะ อันนี้ก็เป็นอันแรกเนอะ
00:04:15 → 00:04:18 อันที่ 2 ก็คือ จะทำให้รู้สึกว่าง่วงนอนมากกว่าปกติค่ะ
00:04:18 → 00:04:21 ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่สดชื่นนะคะ
00:04:21 → 00:04:26 แล้วก็อันที่ 3 ที่มักจะเจอได้ร่วมด้วย ก็คือพวกปากแห้ง คอแห้งค่ะ
00:04:26 → 00:04:28 บางคนอาจจะมีใจสั่นร่วมด้วยได้ค่ะ
00:04:28 → 00:04:33 อันนี้เป็นผลข้างเคียงระยะสั้น ซึ่งแปลว่า แค่เม็ดเดียวก็เกิดได้นะครับ
00:04:33 → 00:04:39 แต่ถ้าเกิดว่าเรารับประทานยาตัวนี้ หรือตัว Dimenhydrinate เป็นเวลานาน
00:04:39 → 00:04:42 คำว่านานในที่นี้ก็คือ ติดต่อกันทุกวัน
00:04:42 → 00:04:45 อาจจะเป็นหลักเดือนขึ้นไปนะครับ
00:04:45 → 00:04:48 สิ่งที่อาจจะทำให้ท่านมีปัญหาขึ้นได้
00:04:48 → 00:04:50 โดยเฉพาะในผู้สูงอายุครับ
00:04:50 → 00:04:54 ก็คือ อันดับแรกเลยครับ จะทำให้ความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น
00:04:54 → 00:05:00 เพราะฉะนั้น บางทีจะมีอาการตาเบลอ ๆ มองภาพไม่ชัดเกิดขึ้นนะครับ
00:05:00 → 00:05:02 อันที่ 2 ครับ นอกจากตาเบลอแล้ว
00:05:02 → 00:05:04 ก็คือเป็นเรื่องของความจำครับ
00:05:04 → 00:05:07 เวลาที่รับประทานยาติดต่อกันนาน ๆ
00:05:07 → 00:05:13 ก็อาจจะทำให้เรามีการหลงลืม หรือบางทีหาของต่าง ๆ ไม่เจอนะครับ
00:05:13 → 00:05:18 อันนี้ก็จะเป็นอาการข้างเคียงอันที่ 2 ซึ่งถ้าเกิดว่าเราใช้ติดต่อกันไปเรื่อย ๆ
00:05:19 → 00:05:22 หรือในผู้สูงอายุ ที่อายุเยอะขึ้นไปเรื่อย ๆ นี่ครับ
00:05:22 → 00:05:26 ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม แบบชั่วคราวขึ้นได้
00:05:27 → 00:05:30 สำหรับกลไกของยาที่ทำให้เกิดสมองเสื่อมนะครับ
00:05:30 → 00:05:33 ผมขออนุญาตอธิบายง่าย ๆ ก่อน เริ่มต้นครับ สมมุติว่า
00:05:33 → 00:05:36 วิธีทำงานของสมองเรานะครับ ในสมองของเรานี่
00:05:36 → 00:05:39 เราจะมีปลั๊กไฟอยู่หลายตำแหน่งเลยครับ เช่น
00:05:39 → 00:05:41 ปลั๊กไฟของระบบความจำ
00:05:41 → 00:05:43 เวลาที่เราจะต้องการความจำครับ
00:05:43 → 00:05:46 เราก็ต้องมีปลั๊กไฟหรือปลั๊กตัวผู้
00:05:46 → 00:05:49 ที่จะไปเสียบกับเต้ารับ ที่เกี่ยวข้องกับความจำเท่านั้น
00:05:50 → 00:05:52 มันก็เลยทำให้เราเกิดความจำขึ้นครับ
00:05:52 → 00:05:54 แต่พอเรามียาเข้าไปครับ
00:05:54 → 00:06:01 ยานี่เป็นตัวที่ชอบไปปิดการทำงานของ เต้ารับที่เกี่ยวข้องกับความจำ
00:06:01 → 00:06:03 ปลั๊กไฟเราก็เสียบไม่เข้า
00:06:03 → 00:06:06 พอเสียบไม่เข้า ความจำก็เลยไม่เกิด
00:06:06 → 00:06:09 หรืออาจจะเกิดความจำที่แย่ลงนั่นเองครับ
00:06:09 → 00:06:15 จะเห็นได้ว่า ยาแก้เวียนหัวนี่ ก็สามารถทำให้เกิดสมองเสื่อมเกิดขึ้นได้นะคะ
00:06:15 → 00:06:19 ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว จำเป็นจะต้องอาศัยปัจจัยอย่างอื่นด้วยนะคะ
00:06:19 → 00:06:21 เช่น ปัจจัยเกี่ยวกับตัวคนไข้เองค่ะ
00:06:21 → 00:06:26 ถ้าคนไข้เองนี่ มีประเด็นเรื่องของ ความผิดปกติทางสมองอยู่เดิม
00:06:26 → 00:06:30 หรือรับประทานยาตัวอื่น ที่อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงแบบเดียวกัน
00:06:30 → 00:06:35 สิ่งเหล่านี้ค่ะ ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิด สมองเสื่อมได้ง่าย แล้วก็เร็วขึ้นไปอีกค่ะ
00:06:37 → 00:06:43 อันที่ 3 ครับที่อาจจะเกิดได้ในผู้สูงอายุ กรณีที่รับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน
00:06:43 → 00:06:47 ก็คือ อาการที่เราเรียกว่า ดื้อยา
00:06:47 → 00:06:51 ดื้อยาก็คือ บางทีกินเข้าไปแล้ว ไม่หายเวียนหัว
00:06:52 → 00:06:53 ทำไงดีล่ะ
00:06:53 → 00:06:56 ก็ต้องรับประทานยาเยอะขึ้น เยอะขึ้นไปเรื่อย ๆ
00:06:56 → 00:06:59 เพื่อต้องการฤทธิ์ในการบรรเทาอาการเวียนหัว
00:06:59 → 00:07:02 มันก็จะทำให้เราไม่สามารถหยุดใช้ยาได้นั่นเอง
00:07:04 → 00:07:06 ในยาป้องกันล่ะอาจารย์แพร์
00:07:06 → 00:07:09 มียาตัวไหนไหมครับ ที่เราใช้ในการป้องกันอาการเวียนหัว
00:07:09 → 00:07:14 แล้วมีอาการข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ คล้าย ๆ กับตัว Dimenhydrinate
00:07:14 → 00:07:21 ในที่นี้นะคะ ขออนุญาตมุ่งเน้นไปส่วนของ ผลข้างเคียงที่จะทำให้สมองเสื่อมแล้วกันค่ะ
00:07:21 → 00:07:22 ในส่วนของยาป้องกันนี่
00:07:22 → 00:07:26 ยกตัวอย่างนะคะ ก็คือตัวชื่อ Cinnarizine ค่ะ
00:07:26 → 00:07:28 อีกตัวหนึ่งก็คือ Flunarizine ค่ะ
00:07:29 → 00:07:33 สองตัวนี้เป็นยาที่สามารถ ป้องกันการเกิดอาการเวียนหัว
00:07:33 → 00:07:36 จะใช้ในกลุ่มคนไข้ที่เขาเวียนหัวบ่อย ๆ เนอะ
00:07:36 → 00:07:38 เราก็จะเลือกใช้ยาป้องกัน
00:07:38 → 00:07:41 แต่ถ้าใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ
00:07:41 → 00:07:44 อาจจะทำให้เกิดสมองเสื่อมได้เหมือนกันค่ะ
00:07:44 → 00:07:48 กลุ่มของผู้ป่วยที่รับประทานยากลุ่มนี้ เป็นเวลานานนี่ครับ
00:07:48 → 00:07:52 ผมอยากเตือนให้พวกเราลองนึกตามนิดนึงว่า
00:07:52 → 00:07:58 ถ้ายาที่เราใช้เป็นยาที่ใช้สำหรับ รักษาอาการเวียนหัวเท่านั้น
00:07:58 → 00:08:02 การที่เราต้องรับประทานยาทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน
00:08:02 → 00:08:06 แปลว่าเราอาจจะมีความผิดปกติบางอย่าง ในร่างกายนะครับ
00:08:07 → 00:08:09 ไม่ว่าจะเป็นในหูชั้นใน
00:08:09 → 00:08:12 หรือในระบบประสาทส่วนกลาง หรือในหัวเรานั่นเอง
00:08:12 → 00:08:19 เพราะฉะนั้นครับ ถ้าท่านจำเป็นต้อง รับประทานยาแก้เวียนหัวติดต่อกันนาน ๆ
00:08:19 → 00:08:20 หรือบ่อย ๆ หรือทุกวัน
00:08:20 → 00:08:22 ต้องไปพบแพทย์หน่อยแล้วนะครับ
00:08:23 → 00:08:27 เพราะต้องการที่จะหาสาเหตุของอาการเวียนหัว ว่าเกิดจากอะไร
00:08:27 → 00:08:30 เราจะได้รักษาที่สาเหตุได้
00:08:30 → 00:08:33 อยากจะให้ปรึกษาคุณหมอ ปรึกษาแพทย์นะคะว่า
00:08:33 → 00:08:36 ยาตัวไหนที่จริง ๆ เหมาะกับเขามากที่สุด
00:08:36 → 00:08:39 แล้วถ้าใช้ต่อไปนี่ สามารถป้องกัน
00:08:39 → 00:08:44 แถมยังไม่ต้องได้ของแถมในส่วนที่ ทำให้เกิดสมองเสื่อมด้วยค่ะอาจารย์บอล
00:08:44 → 00:08:45 ใช่เลยครับ
00:08:45 → 00:08:53 [เสียงดนตรี]
00:08:53 → 00:08:53 อย่าลืม !
00:08:54 → 00:08:58 เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ยาแบบผิด ๆ ก่อนเปิดตู้ยา
00:09:00 → 00:09:01 เปิดตู้ยา
00:09:01 → 00:09:04 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
00:09:04 → 00:09:05 มหาวิทยาลัยมหิดล
00:09:05 → 00:09:07 ปัญญาของแผ่นดิน