00:00:00 → 00:00:02 ค่ะวันนี้อย่างที่บอกว่าเราได้รับเกียรติ
00:00:02 → 00:00:05 จากอาจารย์ทั้ง 3 ท่านเลยนะคะที่จะมาให้
00:00:05 → 00:00:08 ความรู้แล้วก็มาตอบทุกคำถามเพราะฉะนั้น
00:00:08 → 00:00:11 คุณผู้ชมท่านไหนที่มีคำถามอย่าลืมนะคะตอน
00:00:11 → 00:00:13 นี้ท่านพิมพ์คำถามท่านเอาไว้เลยค่ะเพราะ
00:00:13 → 00:00:16 ว่าเดี๋ยวพอเราพูดคุยกับอาจารย์หมอไปแล้ว
00:00:16 → 00:00:18 ถ้าเกิดว่ามีข้อสงสัยมีคำถามสามารถ
00:00:18 → 00:00:20 คอมเมนต์กันเข้ามาได้ไม่ว่าจะเป็นทางหน้า
00:00:20 → 00:00:23 เพจคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
00:00:23 → 00:00:25 หรือว่าทาง YouTube สวนดอก Channel นะคะ
00:00:25 → 00:00:28 เอาล่ะค่ะต้อนรับอาจารย์หมอทั้ง 3 ท่าน
00:00:28 → 00:00:30 ด้วยกันนะคะวันนี้ท่านจะมาพูดคุยกับเรา
00:00:30 → 00:00:33 ค่ะท่านแรกอาจารย์นายแพทย์อดีตศักดิ์
00:00:33 → 00:00:35 กิตติสาเรศท่านเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:00:35 → 00:00:38 โรคสมองและระบบประสาทศูนย์สิพัฒ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะท่าน
00:00:41 → 00:00:43 ที่ 2 นะคะอาจารย์นายแพทย์นพดนัย
00:00:43 → 00:00:45 สิริมหาราชท่านเป็นอาจารย์ประจำหน่วย
00:00:45 → 00:00:48 ปราสาทวิทยาภาควิชาอายุศาสตร์คณะ
00:00:48 → 00:00:50 แพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และท่าน
00:00:50 → 00:00:52 ที่ 3 นะคะอาจารย์นายแพทย์กิจทัศน์
00:00:52 → 00:00:55 บุญเจริญท่านเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:00:55 → 00:00:57 โรคสมองศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์คณะ
00:00:58 → 00:01:00 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต้อนรับ
00:01:00 → 00:01:03 อาจารย์ทั้ง 3 ท่านค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะ
00:01:03 → 00:01:04 >> สวัสดีสวัสดีสวัสดีครับ
00:01:04 → 00:01:07 >> เมื่อสักครู่นี้ที่บอกไปว่าเป็นเจ้าพ่อใน
00:01:07 → 00:01:10 วงการโรคสมองนี่ถูกต้องมั้คะอาจารย์คะ
00:01:10 → 00:01:12 >> ครับเป็นผู้ชายหมดก็คงต้องเป็นเจ้าพ่อ
00:01:12 → 00:01:15 >> ค่ะเพราะว่าวันนี้ไม่ได้มาท่านเดียวมา
00:01:15 → 00:01:17 ทั้ง 3 ท่านเลยนั่นหมายความว่าเราจะได้
00:01:17 → 00:01:20 รับความรู้อย่างรอบด้านเลยนะคะแล้วก็ท่าน
00:01:20 → 00:01:24 ไหนที่มีคำถามก็อาจารย์จะมาตอบคำถามสดๆใน
00:01:24 → 00:01:27 รายการเลยนะคะอาจารย์ถามก่อนเลยค่ะทำไมคน
00:01:27 → 00:01:30 เราต้องสมองเสื่อมคะอาจารย์ถามคำถามแบบ
00:01:30 → 00:01:33 ว่าพิธีกรสงสัยเงี้ยค่ะอาจารย์
00:01:33 → 00:01:36 >> ก็ผมก่อนแล้วกันนะครับก็จริงๆความเสื่อม
00:01:36 → 00:01:38 เป็นเรื่องปกติเนาะใครไม่เสื่อมก็แปลก
00:01:38 → 00:01:40 เนาะยิ่งแก่ก็ต้องเสื่อมเนาะงั้นอวัยวะ
00:01:40 → 00:01:43 ทุกอวัยวะก็มีความเสื่อมเป็นธรรมดาอย่าง
00:01:43 → 00:01:46 เช่นไตวายก็อ่าไตเสื่อมถูกมั้ยครับเรา
00:01:46 → 00:01:48 กรรมเนื้อหัวใจขาดเลือดก็หลอดเลือดหัวใจ
00:01:48 → 00:01:50 เสื่อมเนาะสมองก็เหมือนกันครับก็มีโรค
00:01:50 → 00:01:52 ความเสื่อมโรคสำคัญก็เช่นโรคหลอดเลือด
00:01:52 → 00:01:54 สมองหรืออัมพฤก์อัมพาตอันนี้ก็หลอดเลือด
00:01:54 → 00:01:57 ที่ไปเลี้ยงสมองเสื่อมเนาะแต่ว่าพอเวลา
00:01:57 → 00:01:59 ผ่านไปเรื่อยๆอ่ะครับสมองทำงานไปเรื่อย
00:01:59 → 00:02:02 สมองก็มีความเสื่อมเป็นเรื่องปกติงั้นถ้า
00:02:02 → 00:02:04 เราอายุเยอะมันก็เกิดความเสื่อมขึ้น
00:02:04 → 00:02:07 ครับงั้นอายุเยอะก็สมองเสื่อมแต่ว่า
00:02:07 → 00:02:09 เดี๋ยวคงไปดูกันว่าจริงๆสมองเสื่อมเนี่ย
00:02:09 → 00:02:12 เกิดได้จากอีกหลายสาเหตุแต่จะบอกว่าความ
00:02:12 → 00:02:14 เสื่อมเป็นเรื่องปกติครับงั้นเดี๋ยวพวก
00:02:14 → 00:02:16 เราก็เป็นครับสมองเสื่อมถ้าเราอยู่ไป
00:02:16 → 00:02:19 เรื่อยๆอ่าอาจารย์บอกไปไหนๆว่าเดี๋ยวพวก
00:02:19 → 00:02:21 เราก็เป็น
00:02:21 → 00:02:23 ก็มันต้องมีเรื่องของความเสื่อมเป็น
00:02:23 → 00:02:25 ธรรมดายิ่งเราไม่ดูแลสุขภาพตัวเองนะคะ
00:02:25 → 00:02:28 อาจารย์มันก็จะเสื่อมเร็วนะคะอีกหนึ่งคำ
00:02:28 → 00:02:30 ถามที่เชื่อว่าคุณผู้ชมก็น่าจะสงสัย
00:02:31 → 00:02:33 เหมือนกันแล้วเป็นคำที่เราได้ยินบ่อยค่ะ
00:02:33 → 00:02:36 อาจารย์คะคำว่าสมองเสื่อมกับอัลไซเมอร์
00:02:36 → 00:02:39 อันนี้มันเหมือนกันมั้คะอาจารย์
00:02:39 → 00:02:43 >> ก็จริงๆอ่าสมองเสื่อมเป็นชื่อโดยรวมเนาะ
00:02:43 → 00:02:46 มีหลายสาเหตุหลายสาเหตุแต่อัลไซเมอร์เป็น
00:02:46 → 00:02:49 สาเหตุที่เราเจอบ่อยที่สุดในกลุ่มของโรค
00:02:49 → 00:02:52 สมองเสื่อมถ้าเปรียบเสมือนเวลาเราไปกิน
00:02:52 → 00:02:55 ซื้อมะม่วงแล้วกันครับก็มะม่วงก็มีตั้ง
00:02:55 → 00:02:57 หลายพันเนาะถ้าเราจะระบุว่าเออเราจะกิน
00:02:57 → 00:02:59 พันธุไหนเราต้องระบุถูกมั้ครับว่าอกร่อง
00:02:59 → 00:03:02 หรือว่าอะไรใช่มั้ครับงั้นสมองเสื่อมก็
00:03:02 → 00:03:05 เปรียบเสมือนมะม่วงมีตั้งหลายพันธุแต่ว่า
00:03:05 → 00:03:07 พันธุ์ที่เรากินบ่อยที่สุดหรือว่าถ้า
00:03:07 → 00:03:09 เปรียบเสมือนโรคที่เจอบ่อยที่สุดก็คือ
00:03:09 → 00:03:10 อัลไซเมอร์ครับ
00:03:10 → 00:03:12 >> อื
00:03:12 → 00:03:15 ก็คืออัลไซเมอร์เหมือนเหมือนเป็นลูกของ
00:03:15 → 00:03:16 สมองเสื่อมอีกทีใช่มั้คะอาจารย์
00:03:16 → 00:03:19 >> เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคสมอง
00:03:19 → 00:03:20 เสื่อมในผู้สูงอายุครับ
00:03:20 → 00:03:24 >> อ่าก็ลองลองเอาคำว่าสมองเสื่อมเนี่ยเป็น
00:03:24 → 00:03:27 กลมๆใหญ่ๆแล้วอัลไซเมอร์ก็อยู่ในนั้นเล็ก
00:03:27 → 00:03:30 แล้วมันก็สาเหตุถือว่าเป็นอีกสาเหตุนะคะ
00:03:30 → 00:03:33 ถามทางด้านของอาจารย์นพดบ้างแล้วกันค่ะ
00:03:33 → 00:03:34 ว่า
00:03:34 → 00:03:36 >> เรื่องของโรคอัลไซเมอร์เนี่ยจริงๆแล้วมัน
00:03:36 → 00:03:39 มีกลไกการเกิดเหมือนสมองเสื่อมมั้คะหรือ
00:03:39 → 00:03:41 ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสมองเราถึงเป็น
00:03:41 → 00:03:42 อัลไซเมอร์เงี้ยคะอาจารย์
00:03:43 → 00:03:46 >> ได้ครับก็เอ่อความจริงอย่างที่อาจารย์
00:03:46 → 00:03:49 อดิศักดิ์ได้กล่าวเนาะว่าตัวสมองเสื่อม
00:03:49 → 00:03:50 เนี่ยเป็นภาวะ
00:03:50 → 00:03:51 >> นะครับ
00:03:51 → 00:03:53 >> ดังนั้นเวลาเราเจอคนไข้สมองเสื่อมเนี่ย
00:03:53 → 00:03:56 เราระบุละว่าเขามีภาวะสมองเสื่อมก็จริง
00:03:56 → 00:04:01 แต่คำถามที่จะเกิดขึ้นต่อก็คือโรคอะไรที่
00:04:01 → 00:04:03 เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะนี้นะครับ
00:04:03 → 00:04:07 >> อ่าอ่าอัลไซเมอร์เป็นอันดับ 1 นะครับ
00:04:07 → 00:04:09 อันดับ 2 ที่ลองลงมาจากอัลไซเมอร์เนี่ย
00:04:09 → 00:04:12 แล้วก็คนไทยเป็นเยอะนะก็คือภาวะสมอง
00:04:12 → 00:04:15 เสื่อมอันเนื่องมาจากเส้นเลือดในสมอง
00:04:15 → 00:04:18 อุดตันเอยหรือแตกเอยเนาะเพราะฉะนั้นคำว่า
00:04:18 → 00:04:20 สมองเสื่อมเนี่ยก็คงไม่เท่ากับอัลไซเมอร์
00:04:20 → 00:04:22 นะครับคราวนี้เรามานั่งดูว่าเอ๊ะความจริง
00:04:22 → 00:04:24 อัลไซเมอร์แล้วเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไง
00:04:24 → 00:04:24 >> ค่ะ
00:04:24 → 00:04:26 >> ความจริงอัลไซเมอร์เนี่ยเนี่ยอ่าทุกคนมี
00:04:26 → 00:04:31 โอกาสเป็นนะอ่าแต่การที่คนไข้มีกรรมพันธ์
00:04:31 → 00:04:34 เอยหรือมีการปฏิบัติการดำเนินชีวิตที่
00:04:34 → 00:04:37 เอ่อสนับสนุนการเกิดโรคเนี่ยก็จะมีโอกาส
00:04:37 → 00:04:39 ทำให้การเกิดอัลไซเมอร์เพิ่มมากขึ้น
00:04:39 → 00:04:41 >> นะครับซึ่งสาเหตุเนี่ยมันก็เกิดจากการที่
00:04:41 → 00:04:45 สมองเรามีขยะเนาะผมใช้คำง่ายๆก็คือมีขยะ
00:04:45 → 00:04:47 >> ขยะที่พูดถึงเนี่ยอ่าท่านผู้ชมอาจจะเคย
00:04:47 → 00:04:50 ได้ยินว่าเอ๊ะมีขยะในสมองคืออะไร
00:04:50 → 00:04:50 >> ค่ะ
00:04:50 → 00:04:53 >> คำตอบก็คือมันก็คือความผิดปกติของโปรตีน
00:04:53 → 00:04:57 ในสมองนั่นแหละอืโปรตีนในสมองเนี่ยปกติก็
00:04:57 → 00:04:59 ทำงานทั่วไปได้ปกติ
00:04:59 → 00:05:02 >> แต่ในคนไข้ที่มีโอกาสหรือแนวโน้มจะเป็น
00:05:02 → 00:05:05 อัลไซเมอร์เนี่ยตัวโปรตีนนั้นเนี่ยจะมี
00:05:05 → 00:05:09 รูปร่างที่ผิดปกติและไม่สามารถกำจัดออกไป
00:05:09 → 00:05:11 จากสมองได้หมด 100%
00:05:11 → 00:05:11 >> ออ
00:05:11 → 00:05:15 >> อ่าแล้วมันก็จึงเกิดเป็นโปรตีนขยะเกิด
00:05:15 → 00:05:15 ขึ้น
00:05:15 → 00:05:15 >> อื
00:05:15 → 00:05:18 >> แล้วคำถามคือโปรตีนขยะกำจัดออกไปไม่ได้
00:05:18 → 00:05:19 มันไปอยู่ไหนล่ะ
00:05:19 → 00:05:22 >> มันก็ต้องหาที่ไปนะฮะที่ไปมันไปอยู่ไหน
00:05:22 → 00:05:24 มันก็ไปฝังอยู่ในเนื้อสมอง
00:05:24 → 00:05:27 รอวันที่จะทำให้เกิดเนื้อสมองนั้นสูญเสีย
00:05:27 → 00:05:28 การทำงาน
00:05:28 → 00:05:28 >> อื
00:05:29 → 00:05:31 >> จึงนำมาสู่โรคอัลไซเมอร์ในที่สุดครับ
00:05:31 → 00:05:34 >> ค่ะเรามีวิธีเอาเจ้าโปรตีนที่มันหลงเหลือ
00:05:34 → 00:05:37 อยู่นี่ออกมาได้บ้างมั้คะอาจารย์คะ
00:05:37 → 00:05:39 >> เอ่อความจริงโปรตีนต้องบอกอย่างงี้ก่อน
00:05:40 → 00:05:43 ว่าความจริงโปรตีนขยะเนี่ยเกิดขึ้นในเอ่อ
00:05:43 → 00:05:44 ทุกช่วงเวลานะ
00:05:44 → 00:05:44 >> ค่ะ
00:05:44 → 00:05:47 >> อย่างผมก็เกิดนะอาจารย์กิตติทัศน์ก็เกิด
00:05:47 → 00:05:47 นะ
00:05:47 → 00:05:48 >> ตอนนี้มันก็เกิดขึ้น
00:05:48 → 00:05:50 >> ตอนนี้ก็เกิดนะเราทำงานมันก็เกิดขึ้นอยู่
00:05:50 → 00:05:50 นะฮะ
00:05:50 → 00:05:53 >> แต่เนื่องจากตอนเนี้ย 1 ส่วนหนึ่งอายุเรา
00:05:53 → 00:05:56 ยังน้อยนะครับ 2 เรานอนเพียงพอ
00:05:56 → 00:05:59 >> นะครับ 3 เราปฏิบัติตัวที่ลดการเกิดการ
00:05:59 → 00:06:02 สะสมของโปรตีนขยะเนี่ยพวกเนี้ยร่างกายเรา
00:06:02 → 00:06:03 สามารถขับออกไปได้หมด
00:06:03 → 00:06:07 >> นะฮะแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราแก่ตัวลงเอย
00:06:07 → 00:06:08 นะฮะมีกรรมพันธ์เอย
00:06:09 → 00:06:11 >> มีการดำเนินชีวิตที่ไปเร่งให้เจ้าตัว
00:06:11 → 00:06:13 โปรตีนขยะเนี่ยเพิ่มขึ้นเนี่ย
00:06:13 → 00:06:16 >> การกำจัดของร่างกายเราเนี่ยมันก็จะไม่
00:06:16 → 00:06:17 สมบูรณ์
00:06:17 → 00:06:21 >> เนาะก็เลยจะทำให้เอ่อตัวขยะในสมองเนี่ย
00:06:21 → 00:06:22 เพิ่มมากขึ้น
00:06:22 → 00:06:25 >> ซึ่งถามว่าจะป้องกันยังไงเนี่ยอันนี้มี
00:06:25 → 00:06:28 รูปแบบการป้องกันของการดำเนินชีวิตเยอะ
00:06:28 → 00:06:31 แยะมากมายซึ่งวันเนี้ยเราจะมาคุยกัน
00:06:31 → 00:06:33 >> อ่าเพราะฉะนั้นอยากจะให้คุณผู้ชมและคุณ
00:06:33 → 00:06:36 ผู้ฟังได้ติดตามตลอดทั้งรายการเพราะถ้า
00:06:36 → 00:06:39 เกิดว่าพลาดไปสักนาทีนึงเนี่ยอาจจะพลาด
00:06:39 → 00:06:41 เทคนิคดีๆนะคะที่อาจารย์หมอมีมาฝากในช่วง
00:06:42 → 00:06:45 ที่เราไลฟ์กันอยู่ค่ะอาจารย์มีคุณผู้ชม
00:06:45 → 00:06:47 หลายๆท่านนะคะก็คอมเมนต์กันเข้ามาอย่าง
00:06:47 → 00:06:50 คุณวาสนาบอกว่ามีเป็นบางวันค่ะหลงลืม
00:06:50 → 00:06:54 เนี่ยตอนนี้อายุ 65 ปีนะคะคุณมิ้นก็บอก
00:06:54 → 00:06:57 ว่าบางทีชอบมีอาการลืมว่าตัวเองจะพูด
00:06:57 → 00:07:00 เรื่องอะไรเอ๊ะแต่มันนึกไม่ออกค่ะอาจารย์
00:07:00 → 00:07:03 เนี่ยบางคนบอกว่าอาการเคือหลงลืมตามวัย
00:07:03 → 00:07:05 หรือว่าเราเป็นสมองเสื่อมล่ะคะอาจารย์
00:07:06 → 00:07:07 กิตติทัศน์คะ
00:07:07 → 00:07:10 >> โอเคครับเ่อเดี๋ยววันนี้ผมก็จะมาบอกคร่าว
00:07:10 → 00:07:12 ๆนะครับเพื่อแยกระหว่างว่าหลงลืมแบบไหน
00:07:12 → 00:07:15 เป็นหลงลืมที่เรียกว่าหลงลืมตามวัยนะฮะ
00:07:15 → 00:07:17 แล้วก็หลงลืมแบบไหนเนี่ยที่เราอาจจะสงสัย
00:07:17 → 00:07:20 ว่าคนใกล้ตัวเราเนี่ยเริ่มมีภาวะสมอง
00:07:20 → 00:07:21 เสื่อมแล้วนะครับ
00:07:21 → 00:07:24 >> เดี๋ยวขอสไลด์ขึ้นนิดนึงนะฮะก็อ่าเราจะ
00:07:24 → 00:07:27 แยกเป็นซ้ายกับขวานะครับก็สามารถอ่านตาม
00:07:27 → 00:07:28 ได้เลยนะครับ
00:07:28 → 00:07:28 >> อ่า
00:07:28 → 00:07:31 >> หลงลืมตามวัยตัวอย่างเช่นลืมชื่อคนไม่
00:07:32 → 00:07:35 บ่อยนะฮะลืมของลืมกุญแจลืมแว่นตาไม่บ่อย
00:07:35 → 00:07:39 นะฮะลืมปิดน้ำปิดไฟลืมล็อคบ้านนะครับ
00:07:39 → 00:07:41 อาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้งนะครับลืมว่าเอ๊ะ
00:07:41 → 00:07:44 เมื่อกี้ลูกพูดอะไรกับเราแต่จำได้นะว่า
00:07:44 → 00:07:45 ลูกพูดอะไรสักอย่างนึงนะฮะ
00:07:45 → 00:07:49 >> ลืมว่าเอ๊ะเข้าห้องครัวจะมาทำอะไรจะมาเอา
00:07:49 → 00:07:51 อะไรตู้ในตู้เย็นลืมมันนึกไม่ออกค่ะ
00:07:51 → 00:07:54 อาจารย์เป็นแบบนี้ก็ถ้าเป็นนานๆทีก็จะยัง
00:07:54 → 00:07:56 เป็นลักษณะของตามวัยอยู่หรือแม้กระทั่ง
00:07:56 → 00:07:59 วัยทำงานนะฮะก็มีแบบนี้ได้นะฮะถ้าเรา
00:07:59 → 00:08:02 สมาธิจดจ่อกับอย่างอื่นนะฮะมีลืมวันที่
00:08:02 → 00:08:06 ได้ทนานครั้งนะฮะส่วนที่สงสัยว่าอาจจะ
00:08:06 → 00:08:08 เป็นเพราะสมองเสื่อมที่อาจจะเกิดจากโรค
00:08:08 → 00:08:11 อัลไซเมอร์นะฮะอันที่ 1 ก็คือเรื่องหลง
00:08:11 → 00:08:12 ลืมเหตุการณ์
00:08:12 → 00:08:13 >> ค่ะ
00:08:13 → 00:08:15 >> เช่นเมื่อวานนะฮะเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นมานะ
00:08:15 → 00:08:17 ครับลืมไปเลยว่า
00:08:17 → 00:08:17 >> อ
00:08:17 → 00:08:19 >> ลูกบอกว่าเมื่อวานเป็นยังไงบ้างเหนื่อย
00:08:19 → 00:08:23 มั้ยนะฮะลูกไปญี่ปุ่นมาก็โอ๊ะไม่ได้ไปนะ
00:08:23 → 00:08:24 อะไรเงี้ย
00:08:24 → 00:08:26 >> เหตุการณ์ที่มันสำคัญสำคัญแล้วเพิ่งเกิด
00:08:26 → 00:08:27 ขึ้นเนี่ยดันลืมนะครับ
00:08:27 → 00:08:28 >> ค่ะ
00:08:28 → 00:08:32 >> อันที่ 2 ก็คือลืมบทสนทนานะครับคือถ้าลืม
00:08:32 → 00:08:34 ตามวัยเนี่ยเ้าอาจจะยังพอจำได้ว่าเออลูก
00:08:34 → 00:08:36 พูดอะไรสักอย่างกับเราแต่เราจำเนื้อหาไม่
00:08:36 → 00:08:37 ได้นะครับ
00:08:37 → 00:08:39 >> แต่ว่าถ้าลืมแบบสมองเสื่อมอัลไซเมอร์
00:08:39 → 00:08:42 เนี่ยจะลืมทั้งเหตุการณ์นั้นไปเลยลูกไม่
00:08:42 → 00:08:44 ได้พูดอะไรสักอย่างกับเราเลยนะ
00:08:44 → 00:08:46 >> ลูกไม่ได้พูดเลยลูกเพิ่งมาถึงตอนนี้อะไร
00:08:46 → 00:08:48 ลักษณะนี้นะฮะ
00:08:48 → 00:08:52 >> อันนี้ก็เป็นอันที่อ่าสงเอาสมองเสืเอ่อ
00:08:52 → 00:08:54 หลงลืมแบบเนี้ยสงสัยว่าอาจจะเป็นสมอง
00:08:54 → 00:08:55 เสื่อมหรือเปล่า
00:08:55 → 00:08:55 >> ค่ะ
00:08:55 → 00:08:59 >> อันที่ 3 ก็คือมีความมีความบ่อยเช่นลืม
00:08:59 → 00:09:02 ทุกข์วันละเช้าเย็นนะฮะแล้วก็มีอาการ
00:09:02 → 00:09:05 เรื่องของถามซ้ำๆเยอะมากเช่นวันละ 5 รอบ
00:09:05 → 00:09:08 10 รอบนะฮะเล่าเรื่องเก่าๆซ้ำๆนะฮะแล้ว
00:09:08 → 00:09:12 อีกอันนึงที่เป็นครูก็คือเรื่องของวันนะ
00:09:12 → 00:09:15 ฮะเดือนปีนะฮะพวกวันที่เนี่ยบางทีลืมอัน
00:09:15 → 00:09:17 นี้ก็เป็นอันที่เราสามารถเทสง่ายๆกับผู้
00:09:17 → 00:09:19 สูงอายุในบ้านได้
00:09:19 → 00:09:22 อาจารย์คะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่
00:09:22 → 00:09:24 ได้อยู่กับหน้าจอมือถือหรือว่าไม่ได้อยู่
00:09:24 → 00:09:27 กับอ่าโซเชียลต่างๆอาจจะมีลืมบ้างเป็น
00:09:27 → 00:09:30 เรื่องปกติมั้คะอย่างเช่นวันเวลาอะไร
00:09:30 → 00:09:32 เงี้ยค่ะอาจารย์ไม่ได้ดูปฏิทินทุกวัน
00:09:32 → 00:09:34 เงี้ยค่ะแล้วก็ไม่ดูมือถืออย่างเราอย่าง
00:09:34 → 00:09:36 เราดูมือถือกดเข้ามาก็จะรู้แล้วว่าวันนี้
00:09:36 → 00:09:37 วันที่เท่าไหร่เงี้ยค่ะ
00:09:37 → 00:09:40 >> อ้อใช่ฮะคือถ้าเป็นผู้สูงอายุปกติเนี่ย
00:09:40 → 00:09:42 อย่างวันที่เช่นเอ๊ะจันทร์อังคารพุธ
00:09:42 → 00:09:44 พฤหัสบดีเนี่ยอาจจะมีลืมบ้างเพราะว่าทุก
00:09:44 → 00:09:46 วันคือวันเดียวกันใช่มั้ยฮะ
00:09:46 → 00:09:49 >> หรือว่าวันที่เช่น 3 หรือ 4 หรือ 5 ใกล้ๆ
00:09:49 → 00:09:52 เคียงเนี่ยอาจจะลืมนะฮะแต่ว่าเค้าก็จะพอ
00:09:52 → 00:09:55 พออนุมานได้เช่นเออมันผ่านวันแม่มาประมาณ
00:09:55 → 00:09:58 สักอาทิตย์นึงหรืออะไรแบบเนี้ยหรือผ่าน
00:09:58 → 00:10:01 ออกพรรษามาสักประมาณสัก 2 อาทิตย์อะไร
00:10:01 → 00:10:04 เงี้ยหรือบางทีเ้าบอกวันที่เราเก็จะเอ๊ะ 3
00:10:04 → 00:10:06 หรือ 4 แต่ว่ามันก็ใกล้ๆเคียงเนี่ยถือว่า
00:10:06 → 00:10:08 โอเคอยู่ใช่ฮะสำหรับผู้สูงอายุ
00:10:08 → 00:10:11 >> ก็ได้อยู่ค่ะอ่ะอยากจะให้คุณผู้ชมได้ลอง
00:10:11 → 00:10:14 เทียบดูนะคะตามสไลด์ของอาจารย์กิตติทัศน์
00:10:14 → 00:10:18 ที่เอามาฝากวันนี้ว่าเราอยู่ในฝั่งฝั่ง
00:10:18 → 00:10:22 ซ้ายหรือฝั่งขวานะคะเออนี่นะคะก็ลืมชื่อ
00:10:22 → 00:10:25 คนบ่อยๆแสดงว่าคุณผู้ชมหลายท่านที่รับชม
00:10:25 → 00:10:27 อยู่แล้วก็คอมเมนต์มาบอกว่าลืมบ้างเป็น
00:10:27 → 00:10:29 บางครั้งนี่ถือว่าโอเคอยู่นะคะอาจารย์
00:10:29 → 00:10:32 >> ถ้าแบบอาทิตย์ละสักครั้ง 2 ครั้งโอเคได้
00:10:32 → 00:10:35 อยู่ครับผมแต่ว่าบางทีคนเราไม่ทันสังเกต
00:10:35 → 00:10:38 ตัวเองแต่คนรอบข้างจะสังเกตเอาละเช่นแบบ
00:10:38 → 00:10:40 เออทำไมช่วงนี้แม่ลืมบ่อยอะไรเงี้ยครับ
00:10:40 → 00:10:43 เช้าบอกว่าตอนเย็นจะไปรับแต่ตอนเย็นไม่มา
00:10:43 → 00:10:45 รับแล้วก็บอกว่าไม่ได้บอกอย่างงั้นนะอะไร
00:10:45 → 00:10:47 แบบเนี้ยจะลืมทั้งเหตุการณ์ไปเลยอันนี้ก็
00:10:47 → 00:10:49 จะน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคอัลไซเมอร์นะ
00:10:49 → 00:10:50 ครับอ
00:10:50 → 00:10:53 >> หรือถ้าแบบเอาง่ายๆก็คือถ้าแบบว่าคนดูแล
00:10:53 → 00:10:55 หรือคนรอบข้างเนี่ยรำคาญเนี่ยใช่แล้วครับ
00:10:55 → 00:10:57 >> หมายถึงว่าถามบ่อยหรอคะอาจารย์
00:10:57 → 00:11:00 >> ใช่มันถามบ่อยมันจะหงุดหงิดนะครับเออถ้า
00:11:00 → 00:11:02 เกิดว่าเค้าคิดว่ามันรำคาญและหงุดหงิด
00:11:02 → 00:11:05 แล้วเนี่ยแปลว่าได้เวลาต้องมาดูแลแล้ว
00:11:05 → 00:11:05 ครับ
00:11:05 → 00:11:09 >> อืนะคะก็อาจจะต้องสังเกตอาการบางคนแบบว่า
00:11:09 → 00:11:12 มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้านหรือแม้แต่ตอนนี้
00:11:12 → 00:11:15 ไม่ใช่ผู้สูงอายุก็น่าจะมีมั้ยคะอาจารย์
00:11:15 → 00:11:17 แบบว่าคนไข้ของอาจารย์
00:11:17 → 00:11:19 ไม่ต้องเป็นผู้สูงอายุอายุน้อยก็เป็นได้
00:11:19 → 00:11:21 มั้คะอาจารย์สำหรับโรคสมองเสื่อม
00:11:21 → 00:11:23 >> เอ่อใช่ๆฮะอายุน้อยก็เป็นได้คือต้องบอก
00:11:23 → 00:11:26 ว่าโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์เนี่ยปัจจัย
00:11:26 → 00:11:29 เสี่ยงสำคัญที่สุดก็คือเรื่องอายุเนาะ
00:11:29 → 00:11:32 เพราะฉะนั้นอายุมากก็จะเจอมากเช่น 85 ปี
00:11:32 → 00:11:34 80 ปีเนี่ยโอกาสจะเป็นอัลไซเมอร์สมอง
00:11:34 → 00:11:37 เสื่อมเนี่ยประมาณ 1 ใน 3-1 ใน 5 นะครับ
00:11:37 → 00:11:40 แต่ว่าถ้าลงมาในวัยทำงานปลายๆเช่น 50 ปี
00:11:40 → 00:11:42 60 ปีโอกาสเก็จะน้อยอาจจะเช่นประมาณ 1
00:11:42 → 00:11:45 ในหลายพันหรือ 1 ในหมืนะฮะเพราะฉะนั้นก็
00:11:45 → 00:11:48 คือว่าถามว่ามีได้มั้ยไม่มีนะฮะเมื่อวาน
00:11:48 → 00:11:51 ก็เพิ่งเจอนะฮะแต่ว่าก็ต้องบอกว่ามันเป็น
00:11:51 → 00:11:53 สัดส่วนที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับผู้สูง
00:11:53 → 00:11:55 อายุโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นไxt extrem
00:11:55 → 00:11:58 อ่ะฮะ 80 80 85 ปี
00:11:58 → 00:11:58 >> ค่ะ
00:11:58 → 00:11:59 >> ประมาณนั้นขึ้นไปนะฮะ
00:11:59 → 00:12:00 >> ก็จะเจอเยอะขึ้น
00:12:00 → 00:12:03 >> ครับแต่เน้นเน้นนิดนึงตรงอันนี้คือที่ทาง
00:12:03 → 00:12:05 กิตติฮั์พูดคืออัลไซเมอร์อายุน้อยเป็นได้
00:12:05 → 00:12:08 มั้ยเป็นได้แต่ถามว่าอายุน้อยเนี่ยเป็น
00:12:08 → 00:12:10 อะไรซะส่วนใหญ่ส่วนใหญ่มีภาวะอื่นๆที่แบบ
00:12:10 → 00:12:13 เป็นสาเหตุของสมองเสื่อมได้เพราะเราบอก
00:12:13 → 00:12:15 แล้วสมองเสื่อมเป็นภาพรวมเนาะอายุน้อยนี่
00:12:15 → 00:12:18 เราอาจจะต้องมาดูแบบมีความกังวลใจมีซึม
00:12:18 → 00:12:20 เศร้าหรือเปล่าหรืออาจจะมีโรคอื่นๆเช่น
00:12:20 → 00:12:24 อ่ามีก้อนในหัวสมองมีอ่าน้ำในโพงสมองแบบ
00:12:24 → 00:12:28 อ่าคั่งนะครับหรือว่าโรคอื่นๆเช่นขาด
00:12:28 → 00:12:31 วิตามินการใช้ยาบางชนิดเช่นยาที่ทำให้
00:12:31 → 00:12:35 ง่วงยาจิตเวทนะครับแล้วก็โรคตับโรคไตหรือ
00:12:35 → 00:12:38 โรคไทรอยด์ทำลทำงานต่ำเป็นต้นนะครับก็
00:12:38 → 00:12:40 เป็นสาเหตุอื่นๆของสมองเสื่อมได้เช่นกัน
00:12:40 → 00:12:40 ครับ
00:12:41 → 00:12:41 >> ค่ะ
00:12:41 → 00:12:43 >> ก็ต้องไปแยกโรคพวกนี้ก่อนโดยเฉพาะอายุ
00:12:43 → 00:12:45 น้อยๆเนี่ยโอกาสเป็นอัลไซเมอร์น้อยที่
00:12:45 → 00:12:46 อาจารย์เบอกนะครับ
00:12:46 → 00:12:49 >> ค่ะอ่ะเมื่อสักครู่นี้เราได้ดูไปแล้ว
00:12:49 → 00:12:51 เทียบไปแล้วว่าหลงลืมตามวัยหรือว่าสมอง
00:12:51 → 00:12:54 เสื่อมเป็นเรื่องของอาการลืมต่อไปเป็นทิศ
00:12:54 → 00:12:56 ทางการวางแผนอะไรต่างๆด้วยใช่มั้คะ
00:12:56 → 00:12:57 อาจารย์คะ
00:12:57 → 00:13:01 >> เอ่อเผื่อๆบางคนก็รู้สึกว่าเออพ่อแม่ฉัน
00:13:01 → 00:13:04 ไม่ได้หลงลืมนะแต่ว่ามีอาการบางอย่างที่
00:13:04 → 00:13:04 หลง
00:13:04 → 00:13:07 >> อ่ามีความแปลกๆไปเอ๊ะมันจะเป็นสิ่งที่
00:13:07 → 00:13:08 เกิดขึ้นตามวัยหรือ
00:13:09 → 00:13:11 >> สิ่งที่เป็นบ่งบอกถึงภาวะสมองเสื่อบนะผม
00:13:11 → 00:13:13 ยกตัวอย่างอีกสัก 2-3 อาการแล้วกันนะครับ
00:13:13 → 00:13:14 เดี๋สไลด์ขึ้นได้เลยนะฮะ
00:13:14 → 00:13:17 >> ออันที่ 1 ก็คือเรื่องของทิศทางเนาะบางที
00:13:17 → 00:13:21 ถ้าสมมุติว่าไปจอดรถใกล้ๆวัดใกล้ๆห้าง
00:13:21 → 00:13:24 แล้วหาไม่เจอนะฮะอันนี้ก็ถ้านานๆทีก็เป็น
00:13:24 → 00:13:27 ตามวัยนะครับที่ที่ไม่เคยไปเนาะไม่เคยไป
00:13:27 → 00:13:29 มาก่อนลูกบอกว่าตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายแล้ว
00:13:29 → 00:13:32 ก็เลี้ยวขวาอ่ะไปถึงปุ๊บ
00:13:32 → 00:13:34 >> อ้ากลับขาทางกลับไม่ได้อะไรแบบเนี้ยท่า
00:13:34 → 00:13:37 นาทีก็ถือว่าโอเคนะครับแต่จะสมองเสื่อม
00:13:37 → 00:13:40 ยังไงก็คือถ้าหลงทางไอ้ที่ที่แบบ
00:13:40 → 00:13:42 >> ผ่านทางนี้อ่ะเกือบทุกวันน่ะตลอด 10 ปี
00:13:42 → 00:13:46 อ่ะวันนึงหลงทางแบบที่ที่ที่ไปประจำน่ะ
00:13:46 → 00:13:47 ต้องระวังใช่ฮะ
00:13:47 → 00:13:50 >> หรือว่าเป็นทางกลับบ้านซึ่งมันก็ควรจะ
00:13:50 → 00:13:53 ต้องคุ้นเคยกับทางนี้ประมาณนึงแต่ว่าเออ
00:13:53 → 00:13:55 กลับบ้านไม่ถูกแล้วก็เริ่มบ่อยขึ้นเรื่อย
00:13:55 → 00:13:57 ๆเนี่ยก็ต้องสงสัยว่าอาจจะมีภาวะสมอง
00:13:57 → 00:13:58 เสื่อมนะ
00:13:58 → 00:13:58 >> ค่ะ
00:13:59 → 00:14:01 >> อีกอันนึงก็คือการวางแผนในชีวิตประจำวัน
00:14:01 → 00:14:04 เนาะถ้าคิดเลขผิดนานๆทีก็ไม่เป็นไรเนาะ
00:14:04 → 00:14:07 อ่าจ่ายเงินแม่ค้าผิดนิดหน่อยก็โอเคอยู่
00:14:07 → 00:14:11 นะฮะหรือว่าอ่าเวลาเราอ่าวางแผนว่าอ่า
00:14:11 → 00:14:12 สมมุติจะซื้อของ
00:14:12 → 00:14:12 >> ค่ะ
00:14:12 → 00:14:16 >> อ่าสมมุติของราคา 200 กว่าบาทเราดันให้
00:14:16 → 00:14:18 แบงค์ 102 ใบเนี่ยอากาศผิดพลาดนิดหน่อย
00:14:18 → 00:14:19 นานๆทีไม่เป็นไร
00:14:19 → 00:14:20 >> ค่ะ
00:14:20 → 00:14:22 >> อ่าอะไรที่มันยากๆลูกต้องเข้ามาช่วยแก้ไข
00:14:22 → 00:14:24 มือถืออย่างเงี้ยนานๆทีไม่เป็นไรนะครับ
00:14:24 → 00:14:28 แต่ที่ต้องควรจะต้องระวังนะครับเช่นรีโมท
00:14:28 → 00:14:31 แอร์นะฮะรีโมททีวีที่ใช้กันอยู่ประจำ
00:14:31 → 00:14:33 เริ่มใช้ไม่เป็นเครื่องซักผ้าที่กดได้มา
00:14:33 → 00:14:36 ตลอด 5-6 ปีเนี่ยเริ่มบางฟังก์ชันเริ่ม
00:14:36 → 00:14:39 ไม่ได้อาจจะเหลือแค่ปิดเปิดอะไรแบบนี้นะ
00:14:39 → 00:14:40 ครับ
00:14:40 → 00:14:42 >> อาหารที่เคยทำได้รสชาติประมาณเนี้ยเออแต่
00:14:42 → 00:14:46 ทำไมช่วงนี้มันเค็มไปมันจืดไปมันลืมใส่
00:14:46 → 00:14:49 พริกนะหรือว่าทำกะเพราแล้วลืมอะไรลืม
00:14:49 → 00:14:52 กระเทียมอย่างเงี้ยลืมกะเพราอะไรแบบเฮะ
00:14:52 → 00:14:55 งานบ้านที่ทำตลอดก็เริ่มไม่สะอาดนะฮะมือ
00:14:55 → 00:14:57 ถือถ้าเป็นมือถือใหม่ๆ
00:14:57 → 00:14:59 >> เรียนทุกวันเลยลูกสอนทุกวันอ่ะพรุ่งนี้
00:14:59 → 00:15:01 ต้องสอนใหม่อีก 3 อาทิตย์ต้องสอนใหม่อะไร
00:15:01 → 00:15:03 แบบเนี้ยฮะอันนี้ก็
00:15:03 → 00:15:08 >> เป็นอ่าอาการที่คิดว่าควรน่าจะมาตรวจก็มา
00:15:08 → 00:15:09 เช็คนิดนึงว่ามีภาวะสมองเสื่อมหรือเปล่า
00:15:09 → 00:15:11 นะฮะแล้วแยกซ้ายขวาได้
00:15:11 → 00:15:14 >> อืนอกจากอาการหลงลืมค่ะเดี๋อาจารย์ทัศน
00:15:14 → 00:15:18 นิดนึงเพราะว่าเอ่อให้สังเกตง่ายๆว่าอะไร
00:15:18 → 00:15:20 ที่สามารถเคยทำได้
00:15:20 → 00:15:21 >> อื
00:15:21 → 00:15:25 >> เป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้วแล้วมันทำไม่
00:15:25 → 00:15:25 ได้
00:15:25 → 00:15:28 >> เนาะเพราะบางคนก็จะรู้สึกว่าเอ๊ะเอ่อลูก
00:15:28 → 00:15:31 อยู่ไกลบางวันกลับมาเยี่ยมแม่อ่า 1 เดือน
00:15:31 → 00:15:33 2 เดือนกลับมาเยี่ยมแม่รู้สึกเฮ้ยทำไม
00:15:33 → 00:15:35 แม่เปิดรีโมทไม่ได้เรื่องแค่นี้ทำไมแม่ทำ
00:15:35 → 00:15:39 ไม่ได้ทำไมแม่กดมือถือไม่ได้นะพามาหาหมอ
00:15:39 → 00:15:44 นะสรุปถามไปถามมาแม่ไม่เคยเปิดทีวีเลย
00:15:44 → 00:15:47 เออวางอยู่ตรงนั้นน่ะนะครับเพราะฉะนั้น
00:15:47 → 00:15:50 หลักสำคัญก็คืออะไรที่เคยทำได้เป็น
00:15:50 → 00:15:53 กิจวัตรแล้วเริ่มทำไม่ได้หรือเริ่มมีความ
00:15:53 → 00:15:56 บกพร่องในกระบวนการอันนี้แนะนำให้มาตรวจ
00:15:56 → 00:15:58 >> ค่ะอันนั้นคือความผิดปกติที่เกิดขึ้นแต่
00:15:58 → 00:16:02 ถ้าไม่เคยทำเลยอย่างมือถือไม่เคยเล่นเลย
00:16:03 → 00:16:04 >> อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องนะคะอาจารย์
00:16:04 → 00:16:06 >> ต้องบอกว่ามันประเมินไม่ได้เพราะว่าไม่
00:16:06 → 00:16:09 เคยทำนะไม่เคยทำก็ประเมินค่อนข้างยากแต่
00:16:09 → 00:16:11 อะไรที่ทำอยู่ซ้ำๆทำอยู่ทุกวันอย่างเงี้ย
00:16:11 → 00:16:14 เงี้ยเดินทางไปที่นี่เดินทางไปที่นั่นแต่
00:16:14 → 00:16:16 อยู่ดีๆวันนึงเกิดหลงทางในทางที่คุ้นเคย
00:16:16 → 00:16:18 ชินอย่างเงี้ยอันนี้แสดงว่าผิดปกติละ
00:16:18 → 00:16:22 >> อค่ะอ่ะก็ต้องสังเกตเท่าที่ฟังอาจารย์มา
00:16:22 → 00:16:26 คือบางอาการมันอาจจะเกิดขึ้นได้แต่ถ้ามัน
00:16:26 → 00:16:28 บ่อยมันอยู่ที่ความถี่ใช่มั้คะอาจารย์
00:16:28 → 00:16:29 >> ด้วยฮะ
00:16:29 → 00:16:31 >> อยู่ที่ความถี่อยู่ที่เคยมาก่อนนะหรืออีก
00:16:31 → 00:16:34 อันนึงคือการเรียนรู้นะครับสมมุติว่า
00:16:34 → 00:16:37 >> เอ่อแต่ก่อนน่ะลูกสอนแป๊บเดียววันเดียว 2
00:16:38 → 00:16:40 วันอ่ะจำได้แต่ว่าอันนี้คือสอนซ้ำๆเป็น 10
00:16:40 → 00:16:41 ครั้ง
00:16:41 → 00:16:41 >> อืออื
00:16:41 → 00:16:43 >> แล้วก็เหมือนไม่ไม่เกิดกระบวนการเรียนรู้
00:16:44 → 00:16:46 ในสิ่งที่สอนบางทีบางทีก็ง่ายๆเนาะกดนี่
00:16:46 → 00:16:49 กดนี่กดนี่ 3 ปุ่มนะแม่อะไรอย่างเงี้ยฮะ
00:16:49 → 00:16:52 แต่ว่าสอน 10 วันก็ไม่ได้สักวันนะฮะอัน
00:16:52 → 00:16:54 นี้ก็เป็นอันที่รู้สึกว่าเอ่ออาจจะมีอะไร
00:16:54 → 00:16:56 สักอย่างนึงให้รีบพามาตรวจ
00:16:56 → 00:17:00 >> อือ่ะนอกจากอาการหลงลืมแล้วมีอาการอย่าง
00:17:00 → 00:17:02 อื่นอีกมั้คะอาจารย์สำหรับโรคนี้
00:17:02 → 00:17:05 >> ก็อย่างที่อาจารย์เล่าให้ฟังว่าเอ๊ะตาม
00:17:05 → 00:17:07 วัยกับสมองเสื่อมเนี่ยต่างกันยังไงก็จะ
00:17:07 → 00:17:10 ไล่มาเนาะก็จะเห็นได้ว่าเอ่อปัญหาจริงๆ
00:17:10 → 00:17:13 เนี่ยไม่ได้เป็นแค่ความจำที่จำไม่ค่อยได้
00:17:13 → 00:17:16 ซึ่งจำไม่ค่อยได้ส่วนใหญ่ก็จะแบบถามซ้ำๆ
00:17:16 → 00:17:19 ถามแล้วถามอีกเนาะแต่ว่าจะเห็นได้ว่ามี
00:17:19 → 00:17:22 อ่าสิ่งอื่นๆที่นอกจากความจำแล้วก็ทำให้
00:17:22 → 00:17:25 สมองเสื่อมได้เช่นกันนะครับเช่นเรื่องของ
00:17:25 → 00:17:28 การอ่าหลงทิศหลงทางใช่มั้ยครับเรื่องของ
00:17:28 → 00:17:31 การใช้ภาษาบางอันเช่นเรียกไอ้นั่นไอ้นู่น
00:17:31 → 00:17:33 ไอ้นี่เรียกผิดใช่มั้ครับหรือว่าเป็น
00:17:33 → 00:17:37 เรื่องของการมีการเข้าสังคมที่ผิดปกติ
00:17:37 → 00:17:40 เช่นควรจะเข้าวัดแล้วก็แต่งตัวให้ถูกต้อง
00:17:40 → 00:17:43 ค่ะความ
00:17:43 → 00:17:46 พวกหายแล้วสุด้ายก็คือที่สังเกตได้ง่าย
00:17:46 → 00:17:50 ที่สุดก็คือกิจวัตรประจำวันการเข้าสังคม
00:17:50 → 00:17:53 หรืองานที่เคยทำได้ครับเสียไปซึ่งพวกเก็
00:17:53 → 00:17:56 เป็นเขาเรียกว่าเป็นแกนอื่นๆของพุทธิ
00:17:56 → 00:17:59 ปัญญาก็คือความจำเนี่ยมันไม่ได้มีชนิด
00:17:59 → 00:18:02 เดียวที่เป็นความจำที่เรียกว่าเมoryเนาะ
00:18:02 → 00:18:05 ยังมีอ่าแกนอื่นๆที่เกี่ยวข้องครับก็จะ
00:18:05 → 00:18:08 เห็นได้ว่ามีความหลากหลายกว่าความจำอย่าง
00:18:08 → 00:18:09 เดียวครับอ
00:18:09 → 00:18:12 >> ค่ะเพราะฉะนั้นอาการมันก็เลยอาจจะมีหลายๆ
00:18:12 → 00:18:15 อาการซ่อนอยู่เงี้ยนะคะอาจารย์คะคุณผู้ชม
00:18:15 → 00:18:19 ถามเข้ามานะคะบอกว่าอาการหลงลืมทำให้เกิด
00:18:19 → 00:18:22 โรคความจำเสื่อมได้มั้คะอาจารย์
00:18:22 → 00:18:25 ต้องมาดูก่อนมั้ยคะว่าหลงลืมบ่อยแค่ไหน
00:18:25 → 00:18:28 >> ใช่ครับคือคือความจริงหลงลืมเนี่ยเป็นได้
00:18:28 → 00:18:30 ในทุกวัยเนาะ
00:18:30 → 00:18:32 >> แม้กระทั่งผมเองเนี่ยใน
00:18:32 → 00:18:35 >> อาจารยก็ลืมอาจารย์อ่าใช่เอ่ออย่างเช่น
00:18:35 → 00:18:38 เอ่อท่านอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าสั่งงานผม
00:18:38 → 00:18:41 10 งานเนี่ยผมทำไป 8 งานโอ๊ยลืม 2 งาน
00:18:41 → 00:18:44 แบบนี้ผมหลงลืมมั้ยผมหลงลืมนะครับ
00:18:44 → 00:18:47 >> แต่ถามว่าผมเป็นสมองเสื่อมมั้ยคงต้องไปหา
00:18:47 → 00:18:48 อาจารย์กิตติทัศน์มาช่วยประเมิน
00:18:49 → 00:18:50 >> ก็ไม่ใช่เพราะว่าเพราะว่าเกณฑ์การ
00:18:50 → 00:18:53 วินิจฉัยสมองเสื่อมเนี่ยมันนอกเหนือจาก
00:18:53 → 00:18:56 อาการเนี่ยมันก็จะมีเรื่องของการเ่อตรวจ
00:18:56 → 00:18:58 ประเมินนะโดยแบบทดสอบ
00:18:58 → 00:19:01 >> แล้วก็อีกอันที่สำคัญมากเลยการจะระบุคนๆ
00:19:01 → 00:19:04 นึงเนี่ยเป็นสมองเสื่อมได้เนี่ยสิ่งที่
00:19:04 → 00:19:07 เกิดขึ้นการหลงลืมที่เกิดขึ้นนั้นต้องรบ
00:19:07 → 00:19:09 กวนการดำเนินชีวิตประจำวันนะครับเพราะ
00:19:09 → 00:19:11 ฉะนั้นถามว่าหลงลืมทุกคนเป็นสมองเสื่อมก็
00:19:12 → 00:19:13 ต้องตอบว่าไม่ใช่
00:19:13 → 00:19:13 >> ไม่ใช่
00:19:13 → 00:19:15 >> อากาศหลงลืมนั้นต้องหนักแน่นเพียงพอที่ทำ
00:19:16 → 00:19:18 ให้การดำเนินชีวิตหรือการทำกิจวัตรประจำ
00:19:18 → 00:19:19 วันนั้นเสียหายครับ
00:19:19 → 00:19:22 >> อือาจารย์พอจะเล่าให้ฟังได้มั้คะยกตัว
00:19:23 → 00:19:26 อย่างเคสที่น่าสนใจว่านอกจากอาการหลงลืม
00:19:26 → 00:19:29 แล้วมีอาการอื่นหรือว่าพอเราตรวจไปแล้ว
00:19:29 → 00:19:31 คิดว่าไม่ใช่แต่สุดท้ายใช่อย่างเงี้ยค่ะ
00:19:31 → 00:19:33 อาจารย์อยากจะให้อาจารย์เล่าให้ฟังสักนิด
00:19:33 → 00:19:36 นึงเผื่อคุณผู้ชมแล้วก็คุณผู้ฟังที่รับชม
00:19:36 → 00:19:38 รับฟังรายการอยู่วันนี้จะได้เอาไปสังเกต
00:19:38 → 00:19:41 ตัวเองว่าเอออาการมันเราไม่ได้ขี้ลืมแต่
00:19:41 → 00:19:44 ว่าเรามีอาการแบบนี้เงี้ยค่ะเคยมีผู้ป่วย
00:19:44 → 00:19:46 มาหาด้วยอาการอื่นมั้คะอาจารย์แล้วสุด
00:19:46 → 00:19:50 ท้ายเป็นโรคสมองเสื่อมเงี้ยค่ะ
00:19:50 → 00:19:51 >> โอเคอาจารย์กิตติทัศน์
00:19:51 → 00:19:53 >> โอเคผมผมเริ่มก่อนแล้วกันฮะอ่ะผมยกตัว
00:19:53 → 00:19:55 อย่างเคสเคสนึงนะฮะตอนนั้นยังอยู่
00:19:55 → 00:19:56 กรุงเทพฯอยู่อ
00:19:56 → 00:19:58 >> ก็มีอ่า
00:19:58 → 00:20:01 >> อ่าผู้ชายคนนึงอายุ 80 ปีเป็นคุณตาแล้วฮะ
00:20:01 → 00:20:03 อายุ 80 ปีนะครับ
00:20:03 → 00:20:04 >> แกเนี่ยเ่ออาชีพเดิมเนี่ยเป็นอาจารย์
00:20:04 → 00:20:06 มหาลัยนะครับ
00:20:06 → 00:20:08 >> ภรรยาสังเกตว่าหลงลืมนิดๆหน่อยๆนะนะครับ
00:20:08 → 00:20:11 มาประมาณ 2 ปีตอนแรกก็คิดว่าก็คงเป็นหลง
00:20:11 → 00:20:13 ลืมตามไวเพราะว่าก็ยังใช้ชีวิตประจำวัน
00:20:13 → 00:20:16 ได้ปกตินะครับมีอยู่ช่วงนึงนะฮะ
00:20:16 → 00:20:19 >> ภรรยาต้องตื่นขึ้นมากลางคืนนะฮะเพราะว่า
00:20:19 → 00:20:22 อ่าคนคุณตาเนี่ยอาจารย์เ้าเนี่ยเริ่มส่ง
00:20:22 → 00:20:24 เสียงกลางคืนก็คือเป็นพูดละเมอกลางคืนนะ
00:20:24 → 00:20:27 ฮะพูดละเมอเป็นอ่าสอนนักศึกษาอยู่นัก
00:20:27 → 00:20:29 ศึกษาอย่างงี้อย่างงี้นะฮะนะฮะแล้วก็อ่า
00:20:29 → 00:20:32 พูดเหมือนกับเหมือนกำลังบรรยายหน้าห้อง
00:20:32 → 00:20:34 อะไรแบบเนี้ยฮะต่อไปก็เออทำรู้สึกว่าเร
00:20:35 → 00:20:36 ฝันเริ่มมีท่าทาง
00:20:36 → 00:20:39 >> ฝันเป็นท่าปั่นจักรยานบ้างฝันเป็นท่ารด
00:20:39 → 00:20:43 น้ำต้นไม้บ้างนะฮะอ่าก็ยังไม่พามานะฮะพอ
00:20:43 → 00:20:46 อีกสัก 2-3 เดือนต่อมาเนี่ยเริ่มมีอาการ
00:20:46 → 00:20:48 ที่ผิดปกติขึ้นมาอีกนิดหน่อยก็คือเริ่ม
00:20:48 → 00:20:51 เห็นของหรือคนที่ไม่มีอยู่จริงนะครับเห็น
00:20:51 → 00:20:55 เด็กอยู่บนประตูนะฮะเห็นเอ่อเห็นคน 3-4
00:20:55 → 00:20:57 คนมายืนหน้าบ้านนะก็คิดว่าเอ้อเป็นญาติ
00:20:57 → 00:21:01 เก่าๆหรือเปล่าเห็นดอกไม้งอกออกมาจากอ่า
00:21:01 → 00:21:03 อ่างล้างหน้านะฮะก็รู้สึกว่าเอ๊ะเริ่มมี 1
00:21:03 → 00:21:07 นอนละเมอนะฮะ 2 ก็คือมีเห็นภาพหลอนนะฮะอื
00:21:07 → 00:21:10 >> แล้วก็ 3 ก็คือมีอาการหลงลืมที่มีมานิด
00:21:10 → 00:21:13 หน่อยนะฮะก็เลยพามาตรวจเนาะพามาตรวจหลง
00:21:13 → 00:21:15 ลืมก็ไม่ได้บ่นเยอะแต่บ่นเรื่องของอ่า
00:21:15 → 00:21:17 เรื่องของเห็นภาพหลอนกับเรื่องของนอนเยอะ
00:21:17 → 00:21:20 ปรากฏว่าเราก็ตรวจร่างกายนะฮะ
00:21:20 → 00:21:22 >> แกก็เริ่มมีอาการเหมือนกับ
00:21:22 → 00:21:25 >> มือแข็งเกร็งคล้ายๆกับคนพินสันนะฮะก็สรุป
00:21:25 → 00:21:28 ว่าคนเก็เป็นภาวะสมองเสื่อมชนิดนึงที่ไม่
00:21:28 → 00:21:30 ใช่อัลไซเมอร์เพราะอัลไซเมอร์เขาจะมา
00:21:30 → 00:21:32 เรื่องหลงลืมเด่น
00:21:32 → 00:21:34 >> แต่ว่าคนนี้เขาจะเป็นภาวะสมองเสื่อมอีก
00:21:34 → 00:21:36 ชนิดนึงที่เรียกว่า DLB นะครับที่ก็เจอ
00:21:36 → 00:21:39 ได้เรื่อยๆอาการเด่นก็คือการเห็นภาพหลอน
00:21:39 → 00:21:42 นอนละเมอแล้วก็ตัวแข็งเกร็งนะฮะถ้ามี
00:21:42 → 00:21:45 อาการแบบนี้แล้วก็ร่วมกับมีอาการทางความ
00:21:45 → 00:21:47 จำนิดๆหน่อยๆหรือว่าอาการทางความสามารถ
00:21:47 → 00:21:49 สมองนิดหน่อยๆเนี่ยพามาตรวจได้บางทีเขา
00:21:49 → 00:21:52 อาจจะเป็นสมองเสื่อมชนิดอื่นๆก็ได้
00:21:52 → 00:21:56 >> อืคืออาการนอนละเมอเนี่ยบางทีเราก็ไม่คิด
00:21:56 → 00:21:59 ว่ามันจะเข้าข่ายเป็นสมองเสื่อมนะคะ
00:21:59 → 00:22:02 อาจารย์เพราะเชื่อว่าหลายคนก็น่าจะมีบ้าง
00:22:02 → 00:22:05 อาการที่เรานอนนอนละเมอเงี้ยนะคะเพ้อฝัน
00:22:05 → 00:22:08 เงี้นะคะรวมไปถึงภาพหลอนถ้าถ้าตามหลัก
00:22:08 → 00:22:11 ไสยศาสตร์เนี่ยอาจจะมองว่าต้องมีอะไรสัก
00:22:11 → 00:22:13 อย่างนะคะอาจารย์ที่เรามองไม่เห็นนะคะ
00:22:13 → 00:22:15 >> จริงๆเห็นภาพหลอนเนี่ยมันพอแยกได้พวกสมอง
00:22:15 → 00:22:17 เสื่อมน่ะเค้าจะเห็นของที่มันคล้ายๆของ
00:22:17 → 00:22:18 จริงอ
00:22:18 → 00:22:21 >> เห็นคนจริงๆเห็นดอกไม้เห็นแมวเห็นมดอะไร
00:22:21 → 00:22:24 แบบเนี้ยเห็นที่เป็นลักษณะคล้ายๆกับรูป
00:22:24 → 00:22:27 ร่างจริงแต่ว่าถ้าเป็นลักษณะไสยศาสตร์เขา
00:22:27 → 00:22:29 อาจจะเห็นเป็นภูตผีเห็นเป็นสัตว์ประหลาด
00:22:30 → 00:22:31 เห็นอะไรที่เป็นแสงเป็นเหนือธรรมชาติอะไร
00:22:31 → 00:22:34 แบบเนี้ยฮะซึ่งก็ถ้าเป็นลักษณะนั้นเนี่ย
00:22:34 → 00:22:37 ก็ควรพามาตรวจเหมือนกันนะฮะแต่โอกาสก็น่า
00:22:37 → 00:22:38 จะเป็นโรคอื่นๆมากกว่า
00:22:38 → 00:22:38 >> อื
00:22:38 → 00:22:39 >> ครับผม
00:22:39 → 00:22:42 >> อันนี้คือเป็นเคสของคุณตาวัย 80 ปี
00:22:42 → 00:22:45 >> 80 ปีคือถ้าเห็นภาพหลอนเนี่ยก็ไปหาหมอผี
00:22:45 → 00:22:47 เนาะผมแนะนำมาหาหมอจริงๆก่อน
00:22:47 → 00:22:49 >> มาหาหมอสมองก่อนนะคะ
00:22:49 → 00:22:51 >> ก็มาหาก่อนแล้วเดี๋ยวดูกันอีกทีว่าจะส่ง
00:22:51 → 00:22:53 ปรึกษาในจิตเวศหรือว่าเป็นโรคของเราแล้ว
00:22:53 → 00:22:54 กันครับ
00:22:54 → 00:22:57 >> เออค่ะอาจารย์อาจารย์นพานกับอาจารย์
00:22:57 → 00:22:58 กิตติสามีบ้างมั้คะ
00:22:58 → 00:23:01 >> ผมเอ่อเดี๋เล่าเคสอาจจะไม่ได้เป็นสมอง
00:23:01 → 00:23:04 เสื่อมครับผมแค่ว่ามันเป็น
00:23:04 → 00:23:06 >> สาเหตุที่เป็นเหมือนเส้นผมบางภูเขา
00:23:06 → 00:23:07 >> อื
00:23:07 → 00:23:10 >> เนาะว่าในยุคปัจจุบันเนี่ยเอ่อเล่าเคส
00:23:10 → 00:23:13 ง่ายๆก็คือเป็นลูกสาวพาคุณแม่มาตรวจ
00:23:13 → 00:23:17 >> อ่าก็ถามว่าอ่าวันนี้มาตรวจเรื่องอะไรเ
00:23:17 → 00:23:18 บอกว่า
00:23:18 → 00:23:20 >> เออคุณแม่ชอบถามซ้ำๆ
00:23:20 → 00:23:21 >> อื
00:23:21 → 00:23:23 >> ถามซ้ำๆคือหมายความว่าเล่าเรื่องไปเนี่ย
00:23:23 → 00:23:25 เดี๋ยวก็ถามอีกละเออะว่ายังไงนะ
00:23:25 → 00:23:26 >> อื
00:23:26 → 00:23:29 >> เอ่อเอ๊ะเมื่อกี้อย่างไรนะคือข้อมูลที่
00:23:29 → 00:23:33 ลูกเล่าให้คุณแม่ฟังเนี่ยจะไม่ครบค่ะ
00:23:33 → 00:23:33 >> อื
00:23:33 → 00:23:36 >> อ่าแล้วก็จะถามซ้ำๆอยู่เรื่อยเรๆๆๆๆนะ
00:23:36 → 00:23:39 ครับเอ่ออันเนี้ยเป็นอันนึงที่เราเจอบ่อย
00:23:39 → 00:23:41 ในสังคมยุคปัจจุบัน
00:23:41 → 00:23:46 >> ก็คือภาวะของการพร่องของสมาธินะมนุษย์เรา
00:23:46 → 00:23:48 จะจำได้ต้องมีสมาธิ
00:23:48 → 00:23:48 >> ค่ะ
00:23:48 → 00:23:52 >> ถ้าเราไม่มีสมาธิเราก็จะไม่จำนะครับอ่า
00:23:52 → 00:23:55 >> โดยปกติมาแบบเนี้ยเราก็จะต้องนั่งประเมิน
00:23:55 → 00:23:58 คะแนนอะไรต่างๆนั่งพูดคุยกันไปละก็
00:23:58 → 00:24:01 ประเมินได้ว่าเอ๊ะดูแล้วกลัวคุณแม่เนี่ย
00:24:01 → 00:24:03 น่าจะมีเรื่องของสมาธิที่ไม่ดีนะฮะเลยทำ
00:24:03 → 00:24:04 ให้ความจำ
00:24:04 → 00:24:07 >> มันลดลงแล้วก็ถามซ้ำๆเนี่ย
00:24:07 → 00:24:07 >> อ
00:24:07 → 00:24:09 >> ก็เลยไปถามว่าเอ๊ะในช่วงที่เริ่มมีอาการ
00:24:09 → 00:24:12 เนี่ยการใช้ชีวิตของคุณแม่เนี่ยเปลี่ยน
00:24:12 → 00:24:14 แปลงอย่างไรเนาะเพราะว่าเวลาเราเจอคนไข้
00:24:14 → 00:24:16 สมองเสื่อมเราก็ต้องถามอยู่แล้วว่าเอ๊ะ
00:24:16 → 00:24:18 การดำเนินชีวิตการใช้ชีวิตคุณแม่ช่วงนี้
00:24:18 → 00:24:19 มีอะไรเปลี่ยนแปลงมั้ย
00:24:19 → 00:24:19 >> อื
00:24:19 → 00:24:22 >> อันนึงที่น่าสนใจก็คือว่าเขาบอกว่าเค้า
00:24:22 → 00:24:25 เริ่มสังเกตว่าคุณแม่เ้ามีการถามซ้ำๆความ
00:24:25 → 00:24:28 จำสั้นๆหลังคุณแม่ติดติกtอก
00:24:29 → 00:24:30 >> โอ้โห
00:24:30 → 00:24:33 >> คุณแม่แบบว่าเสพโซเชียลเงี้เหรอคะอาจารย์
00:24:33 → 00:24:35 >> ใช่หนังสั้นอื
00:24:35 → 00:24:37 >> อ่าซึ่งซึตอนนี้เป็นแพลตฟอร์มที่ทำกันได้
00:24:37 → 00:24:40 หมดอ่ะ YouTube เอย Facebook เอยหรือว่า
00:24:40 → 00:24:42 TikTok เอยเป็นชิปสั้นๆ
00:24:42 → 00:24:45 >> แล้วอยู่บ้านเหงานะคะก็เปิดดูก็แก้เหงา
00:24:45 → 00:24:47 ได้บ้างตัวผมเองก็ดูนะครับเพราะว่าเพราะ
00:24:47 → 00:24:50 ว่าอะไรมันเป็นการเสพสื่อที่เร็วเสพสื่อ
00:24:50 → 00:24:52 ที่ไวเสร็จแล้วปัดออกไปเลยเราอยากดูอะไร
00:24:52 → 00:24:54 เราปัดออกเราปัดออกอะไร
00:24:54 → 00:24:54 >> ค่ะ
00:24:54 → 00:24:57 >> นั่นคือการทำให้ร่างกายเนี่ยหรือว่าสภาวะ
00:24:57 → 00:24:59 สมองเราเนี่ยมันไม่มีสมาธิ
00:24:59 → 00:24:59 >> อื
00:24:59 → 00:25:01 >> เราดูแป๊บเดียวเราเปลี่ยนเราดูแป๊บเดียว
00:25:01 → 00:25:03 เราเปลี่ยนเจอเรื่องที่ชอบเราดูต่อเจอ
00:25:03 → 00:25:06 เรื่องไม่ชอบเราปักตกนะครับลองลองเทียบ
00:25:06 → 00:25:08 กับกิจกรรมสมัยก่อนถ้าเราไม่มีช็อตคลิป
00:25:08 → 00:25:10 เราทำอะไรเราอ่านหนังสือ
00:25:10 → 00:25:11 >> ค่ะ
00:25:11 → 00:25:12 >> เราดูหนังยาว
00:25:12 → 00:25:12 >> อือ
00:25:12 → 00:25:15 >> ใช่มั้ฮะอันเนี้ยมันเป็นการฝึกเหมือนกัน
00:25:15 → 00:25:19 ก็คือเพิ่มสมาธิในการจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่ง
00:25:19 → 00:25:21 หนึ่งนะครับอันเนี้ยคือในสมัยก่อนแต่
00:25:21 → 00:25:24 ปัจจุบันพอเอ่อสื่อสารต่างๆทุกอย่างมัน
00:25:24 → 00:25:27 รวดเร็วเนี่ยสมาธิที่จะจดจ่อต่อสิ่งหนึ่ง
00:25:27 → 00:25:29 ๆมันไม่มีนั่นก็เท่ากับว่าจะทำให้เรา
00:25:29 → 00:25:32 เนี่ยมีสมาธิที่ไม่ดีนะครับและแน่นอนว่า
00:25:32 → 00:25:35 พอสมาธิที่ไม่ดีก็นำมาสู่ความจำที่ไม่ดี
00:25:35 → 00:25:40 ถามซ้ำๆพูดพูดสัก 3-4 อย่างจำได้อยู่ 2
00:25:40 → 00:25:43 อย่าง 1 อย่างอย่างเงี้ยฮะเนาะก็เลยก็เลย
00:25:43 → 00:25:46 ลองแนะนำให้เปลี่ยนแปลงดูว่าลองลองลด
00:25:46 → 00:25:48 จำนวนการเสพสื่อโซเชียลที่เป็นเอ่อช็อต
00:25:48 → 00:25:49 คลิปแบบนี้
00:25:49 → 00:25:50 >> อื
00:25:50 → 00:25:52 >> อ่าสื่อระยะสั้น
00:25:52 → 00:25:55 >> พอหลังจากเปลี่ยนไปเนี่ยดีขึ้น
00:25:55 → 00:25:58 >> สมาธิดีขึ้นเพราะฉะนั้นอันนี้มันเป็นอะไร
00:25:58 → 00:26:00 อย่างนึงที่ผมรู้สึกว่าเป็นเส้นผมบางภู
00:26:00 → 00:26:00 เขา
00:26:00 → 00:26:01 >> อื
00:26:01 → 00:26:03 >> ความจริงเนี่ยมาหาหมอเพื่อยืนยันว่ามี
00:26:03 → 00:26:04 ความผิดผิดปกติจริง
00:26:04 → 00:26:04 >> ค่ะ
00:26:04 → 00:26:07 >> แต่ความจริงแล้วสิ่งเหตุที่เกิดทำให้เกิด
00:26:07 → 00:26:09 อาการที่มาเนี่ยมันคือการดำเนินชีวิตที่
00:26:09 → 00:26:11 เราโอ้
00:26:11 → 00:26:13 >> มันเป็นเช่นนี้เองอย่างเงี้
00:26:13 → 00:26:16 >> สิ่งนี้นี่เองนะคะอาจารย์อืแล้วปัจจุบัน
00:26:16 → 00:26:18 ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุหรือว่าคุณพ่อคุณแม่
00:26:18 → 00:26:19 ที่อยู่ที่บ้าน
00:26:19 → 00:26:23 >> วัยทำงานเองหรือแม้แต่วัยที่เป็นเด็กนัก
00:26:23 → 00:26:25 เรียนเด็กตัวน้อยๆเนี่ยคะอาจารย์เดี๋ยว
00:26:25 → 00:26:28 นี้ก็เสพสื่อแบบนั้นเหมือนกันด้วยยุคสมัย
00:26:28 → 00:26:31 ที่มันเปลี่ยนไปนะคะอ่ะอาจารย์
00:26:31 → 00:26:35 >> อาจารย์ดุ่ยมีมั้คะก็อ่าเอาที่เจอบ่อยๆ
00:26:35 → 00:26:38 แล้วกันที่มาหานะครับก็คือสมมุติว่าอยู่
00:26:38 → 00:26:41 คนไข้เป็นคนสมองเสื่อมนะเราก็รู้ว่าจำ
00:26:41 → 00:26:44 ปัจจุบันไม่ได้ใช่มั้ครับปรากฏว่าอ่าอยู่
00:26:44 → 00:26:46 กันบ้านกัน 2 คนแล้วกันกับลูกหรือว่ากับ
00:26:46 → 00:26:49 คนใช้ก็ได้ครับแล้วปรากฏว่าเงินหาย
00:26:49 → 00:26:50 >> 20 บาท
00:26:50 → 00:26:51 >> อ้า
00:26:51 → 00:26:52 >> 100 น
00:26:52 → 00:26:54 >> คนใช้อยู่ด้วยกันมา 20 ปี
00:26:54 → 00:26:57 >> แล้วเก็มาหาว่าอ้าวคนเนี้ยขโมย
00:26:57 → 00:27:00 >> ใช่จะไล่ออกทะเลาะกันในบ้านหรือว่า
00:27:00 → 00:27:05 >> เอ่อก็อ่าลูกอยู่ด้วยกัน 2 คนปรากฏว่า
00:27:05 → 00:27:08 เงินหายบ่อยๆอาจจะทองหายก็ได้จริงๆตัวเอง
00:27:08 → 00:27:10 ก็ไปไว้เองอ่ะเนาะแล้วหาไม่เจอเนาะก็บอก
00:27:10 → 00:27:12 ว่าลูกคนเนี้ยขโมยไป
00:27:12 → 00:27:14 >> ปรากฏบางทีก็ไม่บอกนะอยู่กัน 2 คนถ้าบอก
00:27:14 → 00:27:17 ว่าเาขโมยเดี๋ยวก็ไม่ดูแลใช่มั้ครับพอลูก
00:27:17 → 00:27:20 คนอื่นสมมุติมีลูกหลายคนลูกหลายคนมาหาก็
00:27:20 → 00:27:23 บอกว่าเฮ้ยคนเนี้ยขโมยไปไม่อยากอยู่กับคน
00:27:23 → 00:27:24 นี้แล้วอยากซีบลูกอีกคนนึง
00:27:24 → 00:27:27 >> ใช่ครับมันก็อาจจะเกิดความไม่ไว้วางใจกัน
00:27:27 → 00:27:30 ในครอบครัวแล้วก็อาจจะมีปัญหาได้จน
00:27:30 → 00:27:32 กระทั่งแบบบางทีก็เข้าใจว่าเป็นปัญหา
00:27:32 → 00:27:34 เรื่องอื่นแต่จริงๆมันเกิดจากความจำอ
00:27:34 → 00:27:37 >> ครับหลายคนจะงงว่าเฮ้ยความจำผิดปกติเนี่ย
00:27:37 → 00:27:40 มันจำปัจจุบันไม่ได้เนาะแล้วทำไมอดีตจำ
00:27:40 → 00:27:43 ได้หมดเลยเช่นอ่าจำปัจจุบันเช่นเมื่อเช้า
00:27:43 → 00:27:46 กินข้าวกับอะไรไม่ได้เงินหายบ่อยๆ
00:27:46 → 00:27:46 >> อื
00:27:46 → 00:27:49 >> พูดแล้วถามซ้ำคืออัลไซเมอร์เนี่ยครับ
00:27:49 → 00:27:51 ลักษณะเป็นอย่างนี้เลยคือลืมปัจจุบันก่อน
00:27:51 → 00:27:53 แล้วค่อยลืมอดีตนั้นในช่วงแรกๆก็จะลืมแต่
00:27:54 → 00:27:56 ปัจจุบันเนี่ยนี่แหละแต่พอระยะเวลาผ่านไป
00:27:56 → 00:27:58 ก็อาจจะลืมอดีตมากขึ้นเพราะฉะนั้นไม่ต้อง
00:27:58 → 00:28:01 แปลกใจนะครับที่สำคัญคืออย่าแบบอย่าไปบอก
00:28:01 → 00:28:04 ว่าเค้าเสแสร้งแกล้งทำนะครับปัจจุบันลืม
00:28:04 → 00:28:07 ก่อนแล้วก็ค่อยๆลืมอดีตไปเรื่อยๆเนี่ย
00:28:07 → 00:28:09 เป็นเรื่องปกติของอัลไซเมอร์ไม่ใช่แกล้ง
00:28:09 → 00:28:12 คำนะครับเผื่อบ้านไหนมีปัญหาอยู่จะได้รู้
00:28:12 → 00:28:14 ว่าเอออันเนี้ยต้องเข้ามาตรวจแล้วครับผม
00:28:14 → 00:28:17 >> เอออืนะก็ต้องสังเกตอาการทั้งสมองเสื่อม
00:28:17 → 00:28:20 แล้วก็อัลไซเมอร์อาการมันก็ใกล้เคียงกัน
00:28:20 → 00:28:22 นะคะอาจารย์บางคนอาจจะแยกไม่ออก
00:28:22 → 00:28:25 >> อยากจะเสริมนิดนึงก็คือประเด็นของอาจารย์
00:28:25 → 00:28:27 กิตติทัศน์เนี่ยเพราะว่า
00:28:27 → 00:28:29 >> อ่าอาการอาจารย์กิตติทัศน์เนี่ยเล่า
00:28:29 → 00:28:32 เรื่องของคนไข้ที่มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม
00:28:32 → 00:28:32 >> อื
00:28:32 → 00:28:35 >> นะครับเอ่อแน่นอนว่าผู้สูงอายุเนี่ยเราก็
00:28:35 → 00:28:38 จะเจอว่าเอ๊ะบุคลิกเปลี่ยนไปพฤติกรรม
00:28:38 → 00:28:39 เปลี่ยนไปเนาะ
00:28:39 → 00:28:42 >> ก็จะไปเข้าหาทางเอ๊ะจิตเป็นภาวะจิตเวท
00:28:42 → 00:28:43 หรือเปล่า
00:28:43 → 00:28:45 >> ให้หาจิตเวทอยู่
00:28:45 → 00:28:47 >> ต้องบอกว่าส่วนนึงเนี่ยเป็นผลอันเนื่องมา
00:28:47 → 00:28:49 จากสมองที่เสื่อมลงใช่มั้ยอาจารย์ครับ
00:28:49 → 00:28:52 >> ก็คือว่าโดยปกติเนี่ยมนุษย์เราถ้ามีภาวะ
00:28:52 → 00:28:53 ที่สมองเสื่อมมาเนี่ย
00:28:53 → 00:28:55 >> ก็จะมาด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้เช่น
00:28:55 → 00:28:58 เดียวกันนะครับเพราะฉะนั้นก็ต้องอาจเฝ้า
00:28:58 → 00:29:01 ระวังว่านอกเหนือจากอาการทางพฤติกรรมที่
00:29:01 → 00:29:05 เปลี่ยนแปลงไปแล้วเนี่ยปัญหาด้านเอ่อสติ
00:29:05 → 00:29:07 ปัญญาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความจำการวาง
00:29:07 → 00:29:09 แผนการทำงานเนี่ยลดลงไหม
00:29:09 → 00:29:09 >> อื
00:29:09 → 00:29:13 >> เพราะว่าถ้าไปรักษาภาวะทางจิตเศที่ไม่ได้
00:29:13 → 00:29:15 รักษาทางสมองเสื่อม
00:29:15 → 00:29:15 >> ค่ะ
00:29:15 → 00:29:18 >> อาการพฤติกรรมก็อาจจะไม่ดีอื
00:29:18 → 00:29:20 >> นะครับเพราะฉะนั้นนี้ผมว่าเป็นประเด็นนึง
00:29:20 → 00:29:23 ที่เราเจอบ่อยว่าผู้สูงอายุมีอารมณ์มี
00:29:23 → 00:29:24 พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงสุดท้ายแล้วไปดูกับ
00:29:24 → 00:29:27 ทางเอ่อจิตเวทมาช่วงนึงแต่ในความเป็นจริง
00:29:27 → 00:29:31 แล้วเามีสมองเป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นและนำ
00:29:31 → 00:29:32 มาซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง
00:29:32 → 00:29:35 >> โอ้โหแสดงว่าเราไปรักษาผิดจุดหรอคะ
00:29:35 → 00:29:36 อาจารย์
00:29:36 → 00:29:39 >> อ่าในความเป็นจริงใช้คำว่าผิดจุดก็ไม่ถูก
00:29:39 → 00:29:42 เพราะว่ามันต้องเป็นการรักษาควบคู่อ
00:29:42 → 00:29:44 >> สมองเสื่อมก็ต้องรักษาส่วนของสมองเสื่อม
00:29:44 → 00:29:46 ภาวะของพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงก็ต้อง
00:29:46 → 00:29:48 รักษาทางด้านพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงนะ
00:29:48 → 00:29:51 ครับแต่การรักษาอย่างใดอย่างหนึ่งโดยที่
00:29:51 → 00:29:55 ทั้งสองไม่ทำให้สมดุลกันผลของการรักษามัน
00:29:55 → 00:29:56 ก็จะออกมาไม่ดี
00:29:56 → 00:29:57 >> อื
00:29:57 → 00:30:00 >> คือคำว่าผิดจุดเจะหมายถึงว่าญาติและคนรอบ
00:30:00 → 00:30:03 ตัวอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นจิตเวทเนาะแต่
00:30:03 → 00:30:05 รักษาเนี่ยเวลามาเจอหมอเนี่ยเดี๋ยวจะถูก
00:30:05 → 00:30:07 เองครับมาเจอหมอนิวโรเดี๋ก็จะปรึกษา
00:30:07 → 00:30:10 จิตเวทหมอจิตเวก็จะมาเจอหมอระบบประสาท
00:30:10 → 00:30:11 สมองเองได้ครับ
00:30:11 → 00:30:13 >> ขออนุญาตยกตัวอย่างอีกเคสนึงนะครับที่
00:30:13 → 00:30:16 เกี่ยวกับทางด้านอ่าเหมือนกับจะจิตเวช
00:30:16 → 00:30:17 แล้วกัน
00:30:17 → 00:30:20 >> คืออ่าบางคนเนี่ยครับมาด้วยแบบอ่าเข้าใจ
00:30:20 → 00:30:23 ว่าภรรยามีชู้จะเอาปืนไปยิงเลยก็มี
00:30:23 → 00:30:24 >> อคิดไปเองเงี้ยนะคะ
00:30:24 → 00:30:26 >> อ่าก็เพราะว่าเวลาเราจำอะไรไม่ค่อยได้
00:30:26 → 00:30:28 ปุ๊บบางทีจะมีการสร้างเรื่องราวเอามาใน
00:30:28 → 00:30:32 หัวเช่นเราจำไม่ได้อ่ะภรรยาออกไปหน้าบ้าน
00:30:32 → 00:30:36 แล้วมีหนุ่มๆมาทุกวันจริงๆอาจจะแบบ
00:30:36 → 00:30:39 ตัวเองอาจจะใช้เองบอกว่าให้ภรรยาไปซื้อ
00:30:39 → 00:30:41 ของบางอย่างแล้วแกปอาจจะมาส่งเรื่อยๆ
00:30:41 → 00:30:44 >> อ่าแล้วเข้าใจว่าหนุ่มคนเนี้ยเป็นชู้อ
00:30:44 → 00:30:46 >> เพราะว่าเรื่องราวในสมองเนี่ยเวลาเป็น
00:30:46 → 00:30:48 อัลไซเมอร์เนี่ยเรื่องราวจากสมมุติเรา
00:30:48 → 00:30:52 เล่า 1 2 3 4 5 มันอาจจะเป็น 1 4 2
00:30:52 → 00:30:55 5 3 เรื่องมันไปหมดแล้วพอมันไม่เรียง
00:30:55 → 00:30:57 ปุ๊บมันอาจจะมีการสร้างเรื่องใหม่แล้วอาจ
00:30:57 → 00:30:59 จะมาด้วยปัญหาหายใหญ่ๆก็ได้ครับ
00:30:59 → 00:31:01 >> ก็จะเห็นว่าเหมือนจะหลงผิดเนาะซึ่งจริงๆ
00:31:02 → 00:31:05 เป็นจากพยาธิสภาพทางสมองก็ได้บางบางอันก็
00:31:05 → 00:31:07 มีหลงผิดได้แต่จริงๆเกิดจากการสร้าง
00:31:07 → 00:31:09 เรื่องราวหรือปฏิปต่อเรื่องราวไม่ถูกต้อง
00:31:09 → 00:31:12 ในจากตัวโลกก็ได้ครับก็มาได้หลายแบบครับ
00:31:12 → 00:31:16 >> อคือเอาง่ายๆหลักๆคือให้ลองสังเกตอาการดู
00:31:16 → 00:31:19 ก่อนนะคะอาจารย์สังเกตทั้งตัวเองแล้วก็
00:31:19 → 00:31:22 สังเกตทั้งคนในครอบครัวถ้าเกิดว่ามีอาการ
00:31:22 → 00:31:23 อย่างที่อาจารย์บอกเนี่ยอ่ะมันเป็นเยอะ
00:31:23 → 00:31:26 ขึ้นมันเป็นบ่อยขึ้นอย่างพ่อแม่หรือตายาย
00:31:26 → 00:31:29 ถามบ่อยขึ้นจัไม่ได้เนี่ยก็ลองเอามาเช็ค
00:31:29 → 00:31:34 ดูนะคะอย่างโรคสมองเสื่ออาจารย์ดีคะพอเรา
00:31:34 → 00:31:37 ฟังแบบนี้แล้วเราก็ไม่อยากเป็นแต่เราก็มี
00:31:37 → 00:31:40 โอกาสเป็นได้ใช่มั้ยคะพอเป็นแล้วมัน
00:31:40 → 00:31:43 สามารถมียาดีที่จะสามารถรักษาให้มันหาย
00:31:43 → 00:31:44 ขาดงี้ได้มั้ยคะอาจารย์
00:31:44 → 00:31:47 >> ก็ปัจจุบันถ้าเราคุยถึงอัลไซเมอร์นะครับ
00:31:47 → 00:31:49 ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดเนี่ยปัจจุบัน
00:31:49 → 00:31:53 ยายังเป็นยารักษาอาการนะครับแต่ว่าก็อ่า
00:31:53 → 00:31:56 มียากลุ่มใหม่ๆเหมือนกันที่จะทำงานในการ
00:31:56 → 00:31:58 ที่ถ้าเราเป็นอัลไซเมอร์ระยะต้นๆเนี่ย
00:31:58 → 00:32:01 ครับเราบอกแล้วมีขยะมีของเสียไปสะสมที่
00:32:01 → 00:32:04 สมองเนาะถ้ามันเริ่มสะสมยังสะสมไม่เยอะ
00:32:04 → 00:32:07 เกินเนี่ยยังมียาใหม่ๆที่จะพยายามเอาของ
00:32:07 → 00:32:10 เสียพวกนี้ออกแต่ก็ยังไม่มาถึงประเทศไทย
00:32:10 → 00:32:11 เนาะเดี๋ยวเราอยู่ไปเรื่อยๆก่อนแล้วเรา
00:32:11 → 00:32:12 >> เดี๋ยวมันก็จะมาใช่มั้คะ
00:32:12 → 00:32:15 >> ใช่ครับเดี๋ยวก็จะมาครับแต่ว่าตัวที่น่า
00:32:15 → 00:32:18 สนใจคือมีสมองเสื่อมกลุ่มที่รักษาได้
00:32:18 → 00:32:21 อย่างที่เราเล่าไปครับเกลือแร่ผิดปกติโรค
00:32:21 → 00:32:25 ตับโรคไตไทรรอยด์ต่ำการใช้ยาบางชนิดโรคใน
00:32:25 → 00:32:27 สมองเช่นเส้นเส้นเลือดสมองตีบแล้วก็ป้อง
00:32:27 → 00:32:31 กันไม่ให้เป็นเยอะขึ้นมีอ่าโพงสมองอ่ามี
00:32:31 → 00:32:34 น้ำในโพงสมองคั่งนะครับหรือว่ามีก้อนใน
00:32:34 → 00:32:39 สมองพวกนี้ก็สามารถรักษาได้เน้นเรามีผิด
00:32:39 → 00:32:42 ปกติเรามาหาหมอรักษากลุ่มที่รักษาได้
00:32:42 → 00:32:45 กลุ่มอัลไซเมอร์ก็มาดูว่าอยู่ระยะไหนทำ
00:32:45 → 00:32:48 การรักษาแต่ในความหมายของการรักษาไม่ได้
00:32:48 → 00:32:50 ของผมเนี่ยไม่ได้แปลว่าเราไม่ต้องดูแลนะ
00:32:50 → 00:32:50 ครับ
00:32:50 → 00:32:51 >> อื
00:32:51 → 00:32:53 >> รักษาไม่ได้นี่ทุกโรคก็รักษาไม่ได้ครับ
00:32:53 → 00:32:55 เบาหวานความดันเขมันนี่เป็นกันยาวทุกคน
00:32:56 → 00:32:56 รักษาไม่ได้นะคะอาจารย์
00:32:56 → 00:32:59 >> ใช่ครับแต่ว่าเราสามารถมีคุณภาพชีวิตที่
00:32:59 → 00:33:02 ดีได้เมื่อใช้ยาปุ๊บอาจจะถามซ้ำน้อยลง
00:33:02 → 00:33:04 ญาติไม่หงุดหงิดหลงผิดที่เราเล่าเคสให้
00:33:04 → 00:33:06 ฟังหรือภาพหลอนที่เมื่อกี้เราเล่าให้ฟัง
00:33:06 → 00:33:09 ก็อาจจะดีขึ้นได้ครับงั้นอยากให้เข้ารับ
00:33:09 → 00:33:12 การรักษาครับอย่าไปบอกว่ารักษาไม่ได้แปล
00:33:12 → 00:33:15 ไม่ต้องรักษารักษาไม่ได้แปลว่ายิ่งต้อง
00:33:15 → 00:33:18 รีบรักษาแล้วก็ดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
00:33:18 → 00:33:18 ครับ
00:33:18 → 00:33:20 >> อค่ะพออาจารย์บอกว่ารักษาไม่ได้เนี่ยบาง
00:33:20 → 00:33:24 คนหดหู่เลยนะคะอ่ะงั้นจะไปหาหมอทำไมอื
00:33:24 → 00:33:26 เพราะมันรักษาไม่ได้อยู่แล้วถามอาจารย์
00:33:26 → 00:33:29 กิตติทัศน์แล้วกันคะว่าเราพอจะมีความหวัง
00:33:29 → 00:33:32 หรือว่าพอจะมีสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นมั้
00:33:32 → 00:33:34 คะเกี่ยวกับการรักษาโรคอัลไซเมอร์นะคะ
00:33:34 → 00:33:35 อาจารย์
00:33:35 → 00:33:37 >> โอเคครับเป็นคำถามที่ดีมากฮะเหมือนที่
00:33:37 → 00:33:40 อาจารย์ดุ่ยบอกว่าเรารักษาได้นะฮะแต่ว่า
00:33:40 → 00:33:43 ยังรักษาไม่หายขาดทีนี้อะไรใหม่ๆที่จะมา
00:33:44 → 00:33:46 เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาในช่วงอนาคต
00:33:46 → 00:33:48 อันใกล้ๆนี้บ้างนะครับ
00:33:48 → 00:33:52 >> ผมเอ่อขอแบ่งเป็น 2 อันแล้วกันอันที่
00:33:53 → 00:33:54 ขึ้นทะเบียนในต่างประเทศละจริงๆในเมือง
00:33:54 → 00:33:56 ไทยขึ้นทะเบียนแล้วนะฮะนะครับ
00:33:56 → 00:34:00 >> อ่ะเป็นยาฉีดทุก 2-4 สัปดาห์นะครับอ่ะผม
00:34:00 → 00:34:03 ยกตัวที่เมื่อกี้อาจารย์นพรนพูดเรื่องของ
00:34:03 → 00:34:06 อัลไซเมอร์คือที่มีโปรตีน 2 ชนิดก็คือ
00:34:06 → 00:34:07 โปรตีนอมีรอยด์
00:34:07 → 00:34:10 >> แล้วก็โปรตีนทาเป็น 2 โปรตีนที่เป็นขยะ
00:34:10 → 00:34:13 สะสมอยู่ในสมองคนไข้นะครับยาตัวใหม่นี้นะ
00:34:13 → 00:34:15 ครับที่ขึ้นทะเบียนต่างประเทศนะฮะแล้วก็
00:34:15 → 00:34:17 ตอนนี้ขึ้นทะเบียนในไทยแล้วก็คิดว่าน่าจะ
00:34:18 → 00:34:20 ประมาณปลายๆปีนี้หรือต้นๆปีหน้าเนี่ยยาจะ
00:34:20 → 00:34:21 เข้ามาแล้วนะครับ
00:34:21 → 00:34:21 >> อื
00:34:21 → 00:34:25 >> ยาจะสามารถกำจัดเอาขยะโปรตีนเนี่ยเเรียก
00:34:25 → 00:34:27 ว่าขยะโปรตีนอเมรอยด์เนี่ยออกจากสมองของ
00:34:27 → 00:34:30 คนไข้ได้นะฮะแล้วก็กำจัดได้ดีด้วย
00:34:30 → 00:34:30 >> ค่ะ
00:34:30 → 00:34:34 >> พอกำจัดแล้วปุ๊บเนี่ยอ่าจะสามารถชะลอการ
00:34:34 → 00:34:37 ถดถอยของความเสื่อมของสมองคนในคนไข้
00:34:37 → 00:34:39 อัลไซเมอร์ได้เพราะว่ามันกำจัดโปรตีน
00:34:39 → 00:34:41 อเมรอยด์นะครับ
00:34:41 → 00:34:43 >> อันนี้ก็เป็นยาใหม่ที่กำลังจะเข้ามานะ
00:34:43 → 00:34:46 ครับแต่ว่าข้อเสียก็คือว่ามันกำจัดได้ดี
00:34:46 → 00:34:48 นะแต่ว่าบางทีการชะลอเี่มันอาจจะยังไม่ดี
00:34:48 → 00:34:52 มากนะฮะแล้วก็เป็นยาที่ราคาแพงอยู่เบื้อง
00:34:52 → 00:34:55 ต้นนะฮะก็คือเบื้องต้นก็คือเป็น 7 หลักนะ
00:34:55 → 00:34:59 ฮะราคาต่อ 18 เดือนใช่ฮะเบื้องต้นนะฮะ
00:34:59 → 00:35:01 >> ทีนี้อันนี้ก็คือเป็นอะไรที่
00:35:01 → 00:35:04 >> อนาคตอาจจะถูกลงได้นะแต่ว่าตอนนี้มันก็จะ
00:35:04 → 00:35:07 เริ่มเข้ามาในประเทศไทยละนะครับอนาคตอ่า
00:35:07 → 00:35:10 ผมพูดเรื่องการรักษาอีกสัก 2 อย่างแล้ว
00:35:10 → 00:35:14 กันนะฮะยาก็อาจจะมียาตัวใหม่ๆที่อยู่ใน
00:35:14 → 00:35:15 ระหว่างการวิจัยนะครับอ
00:35:15 → 00:35:18 >> อ่าเช่นอการเอาโปรตีนทาออกจากตัวเนื้อ
00:35:18 → 00:35:22 สมองนะฮะการลดอักเสบในตัวสมองนะครับแล้ว
00:35:22 → 00:35:24 ก็มีอีกอันนึงที่คนสนใจเยอะก็คือเรื่อง
00:35:24 → 00:35:25 ของวัคซีนนะฮะ
00:35:25 → 00:35:28 >> วัคซีนเนี่ยมันจะเป็นลักษณะการที่ว่าเรา
00:35:28 → 00:35:31 ฉีดเข้าไปในคนที่ยังไม่มีโปรตีนผิดปกติ
00:35:31 → 00:35:33 เนี่ยสะสมอยู่ในสมองนะ
00:35:33 → 00:35:34 >> ก็คือฉีดในคนปกติคือ
00:35:34 → 00:35:37 >> ฉีดในคนปกติ 30 40 50 ยังไม่มีอาการนะ
00:35:37 → 00:35:40 ฮะแล้วก็อ่าในเนื้อสมองไยังไม่มีอไมอยด์
00:35:40 → 00:35:43 สะสมนะฮะฉีดโปรตีนไม่ให้ร่างกายเนี่ยมัน
00:35:43 → 00:35:47 สร้างอเมรอยด์นะฮะอนาคตเนี่ยตอนนี้คือยัง
00:35:47 → 00:35:50 อยู่ระหว่างการวิจัยขั้นตอนที่กำลังจะ
00:35:50 → 00:35:54 ใกล้ๆสุดท้ายละนะฮะเราอยากจะรอดูผลว่าการ
00:35:54 → 00:35:56 วิจัยเนี่ยอนาคตอีกสัก 2-3 ปีข้างหน้ามัน
00:35:56 → 00:35:59 เป็นยังไงถ้ามันเป็นอันที่ออกมาแล้วได้ผล
00:35:59 → 00:36:01 บวกอนาคตเราอาจจะมีวัคซีนป้องกันโรค
00:36:01 → 00:36:03 อัลไซเมอร์ได้นะฮะแต่ตอนนี้ก็ต้องบอกว่า
00:36:03 → 00:36:05 อยู่ในขั้นตอนวิจัยอยู่นะครับผมอ
00:36:05 → 00:36:09 >> อืนั่นหมายความว่าตอนนี้เราต้องรีบทำงาน
00:36:09 → 00:36:12 เก็บเงินไม่ซื้อยา 7 หลักก็ฉีดโปรตีน
00:36:12 → 00:36:14 เนี่ยนะคะอาจารย์
00:36:14 → 00:36:16 >> อนาคตมันอาจจะถูกลงได้นะฮะหรืออาจจะมียา
00:36:16 → 00:36:18 ที่ดีขึ้นได้นะฮะ
00:36:18 → 00:36:19 >> โอ้โห
00:36:19 → 00:36:21 >> เพราะนี้อ่าศาสตร์อัลไซเมอร์เป็นศาสตร์
00:36:21 → 00:36:24 ที่มันแบบกำลังในงานการวิจัยมันกำลังแบบ
00:36:24 → 00:36:26 พรุ่งพรวดนะฮะคือคนเข้ามาสนใจเยอะมาก
00:36:26 → 00:36:28 เพราะว่ามันยังเป็นโรคที่เหมือนที่
00:36:28 → 00:36:30 อาจารย์ดุ่ยบอกว่ายังรักษาไม่หายขาดนะฮะ
00:36:30 → 00:36:32 แล้วก็เหมือนที่อาจารย์นิกกี้อาจารย์นปน
00:36:32 → 00:36:34 บอกว่าขยะโปรตีนเ่ะมันยังมีอะไรที่เรายัง
00:36:34 → 00:36:38 ไม่รู้อีกเยอะนะถ้าอ่าอนาคตวิจัยใหม่ๆมัน
00:36:38 → 00:36:41 ออกมาความรู้ใหม่ๆออกมานะครับโลกนี้เนี่ย
00:36:41 → 00:36:45 ต้องบอกว่าแอ่าในสมัยของเราเนี่ยอาจจะมี
00:36:45 → 00:36:48 วิธีการหมายถึงว่าตอนเราอายุซัก 70 80
00:36:48 → 00:36:50 เนี่ยอาจจะมีวิธีการรักษาจนหายขาดได้
00:36:51 → 00:36:54 >> อืถึงตอนนั้นเราอาจจะเป็นก็ได้แต่ก็มี
00:36:54 → 00:36:56 วิธีรักษาเงี้นะคะอาจารย์
00:36:56 → 00:36:56 >> อาจจะเป็นอย่างงั้น
00:36:56 → 00:37:01 >> เออแต่ว่าไม่เป็นจะดีกว่านะคะถูกต้องครับ
00:37:01 → 00:37:02 อาจารย์
00:37:02 → 00:37:04 >> ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุดนะฮะ
00:37:04 → 00:37:06 >> อแล้วก็มีคำถามเกิดขึ้นอีกว่าแล้วเราจะ
00:37:07 → 00:37:09 ป้องกันได้ยังไงล่ะคะอาจารย์คะ
00:37:09 → 00:37:14 >> ก็แน่นอนครับอ่าโปรตีนขยะที่มาสะสมเมื่อ
00:37:14 → 00:37:16 กี้เราบอกว่าเดี๋ยวจะรักษาจะเก็บเงินใช่
00:37:16 → 00:37:19 มั้ครับจริงๆแล้วเราสามารถทำได้เลยจะได้
00:37:19 → 00:37:20 ไม่ต้องเป็นนะครับ
00:37:20 → 00:37:21 >> ไม่ต้องเสียเงินหรอคะอาจารย์นะคะ
00:37:21 → 00:37:24 >> อ้าวมันต้องลงทุนครับแต่ว่าคำว่าลงทุนที่
00:37:24 → 00:37:26 ว่าอาจจะไม่ใช่ในแง่ของเงินเนาะมันอาจจะ
00:37:26 → 00:37:29 มากกว่าเงินนะครับเพราะเป็นความใส่ใจเนาะ
00:37:30 → 00:37:32 >> โปรตีนที่สะสมเนี่ยที่เราบอกว่าเราเป็น
00:37:32 → 00:37:34 ส่วนใหญ่อายุ 65 สำหรับอัลไซเมอร์นะครับ
00:37:35 → 00:37:37 แต่จริงๆแล้วมันเริ่มสะสมก่อนหน้านั้น 20
00:37:37 → 00:37:38 ปี
00:37:38 → 00:37:41 >> ถามว่าถ้าเราจะดูแลป้องกันน่ะไม่ใช่รอ
00:37:41 → 00:37:43 เป็นอัลไซเมอร์แล้วเอ้ยเดี๋วันนี้จะดูแล
00:37:43 → 00:37:46 แต่มันต้องเนี่ยตอนเนี้ยที่จะดูแลอายุ 40
00:37:46 → 00:37:48 เนี่ยเริ่มดูแลไม่ใช่รอเป็นค่อยเป็นแต่
00:37:48 → 00:37:50 ว่าเรากะไว้เลยว่าเฮ้ยผมบอกแล้วอยู่
00:37:50 → 00:37:53 เรื่อยๆเดี๋ยวจะเป็นยิ่งแก่ยิ่งเป็นเรา
00:37:53 → 00:37:56 สมมติไว้ก่อนเดี๋เราจะเป็นเรารักษาโดยการ
00:37:56 → 00:37:59 ป้องกันไปเลยนะครับสำหรับการป้องกันเนี่ย
00:37:59 → 00:38:02 เอาแบบง่ายๆก็คือแบ่งเป็น 3 2 นะครับ
00:38:02 → 00:38:03 >> 3 2
00:38:03 → 00:38:06 >> ใช่ครับท่องไปเลยครับ 3 2ส 1 ก็คืออาหาร
00:38:06 → 00:38:09 ก็เรื่องง่ายๆก่อนเนาะหลายๆคนก็พยายามหา
00:38:09 → 00:38:12 อาหารสูตรพิเศษเลยนะครับเรากิน 5 หมู่
00:38:12 → 00:38:14 อาหารที่ปลอดภัยมีผักหลากสีนะครับโดย
00:38:14 → 00:38:17 เฉพาะอาจจะเป็นผลไม้หรือผักที่มีสีม่วงนะ
00:38:17 → 00:38:20 ครับสสเบอร์รี่อะไรเงี้ยครับพวกนี้ก็ช่วย
00:38:20 → 00:38:22 ในการป้องกันสมองของเสื่อมนะครับธัญพืช
00:38:23 → 00:38:26 ทั้งหลายนะครับก็ไม่ขัดสีนะครับก็ช่วยนะ
00:38:26 → 00:38:28 ครับแล้วจริงๆอาหารเนี่ยเป็นปัจจัยที่
00:38:28 → 00:38:31 สำคัญในการจะควบคุมโรคต่างๆนั้นเราก็หลีก
00:38:31 → 00:38:34 เลี่ยงของหมานของหวานของมันของทอดอยู่
00:38:34 → 00:38:36 แล้วนะครับเรื่องอาหารเราเหมือนจะง่าย
00:38:36 → 00:38:38 เนาะแต่ทำได้หรือเปล่าอีกเรื่องนึงเนาะ
00:38:38 → 00:38:38 ครับ
00:38:39 → 00:38:41 >> อันที่ 2 ออกกำลังกายครับอันนี้ก็เหมือน
00:38:41 → 00:38:42 ง่ายเหมือนกันครับแต่ไม่ง่ายนะครับออก
00:38:42 → 00:38:44 กำลังกายก็เน้น 3 อย่างเหมือนผู้สูงอายุ
00:38:44 → 00:38:46 เลยครับออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือแอรบิก
00:38:47 → 00:38:50 เนาะอยากได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์นะครับอัน
00:38:50 → 00:38:52 ที่ 2 ก็ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างมัด
00:38:52 → 00:38:54 กล้ามเนื้อนะครับและความแข็งแรงก็จะได้
00:38:54 → 00:38:57 ไม่ล้มง่ายด้วยแล้วจริงๆก็คือในกล้าม
00:38:57 → 00:38:59 เนื้อเวลาเรามีกล้ามเนื้อเนี่ยมีการหลั่ง
00:38:59 → 00:39:03 สารบางชนิดเช่นไอิซินเนาะที่ไปมีผลกับการ
00:39:03 → 00:39:06 สารเคมีในสมองก็ช่วยได้นะครับอันที่ 3 ก็
00:39:07 → 00:39:08 stretching exercise หรือการยืดเหยียด
00:39:08 → 00:39:09 นะครับ
00:39:09 → 00:39:12 >> ก็จริงๆก็อาจจะไม่ได้ช่วยสมองโดยตรงแต่ก็
00:39:12 → 00:39:14 เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยผู้สูงอายุเวลา
00:39:14 → 00:39:16 เป็นมันก็สูงอายุเนาะเราก็ควรออกกำลังกาย
00:39:16 → 00:39:18 ทั้ง 3 อย่างร่วมกันนะครับ
00:39:18 → 00:39:21 >> ออที่ 3 คืออารมณ์ครับอารมณ์ดีครับหลีก
00:39:21 → 00:39:23 เลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่เป็นความเครียดเนาะ
00:39:24 → 00:39:25 อะไรเครียดเรารู้ว่าเครียดเราหลีกเลี่ยง
00:39:25 → 00:39:27 ไปก่อนนะครับอ
00:39:27 → 00:39:30 >> แล้วก็อันที่ 4 ก็คือเรื่องของสังคมนะ
00:39:30 → 00:39:33 ครับอยากให้มีกิจกรรมสังคมนะครับเช่นออก
00:39:33 → 00:39:37 ไปงานเต้นรำร้องเพลงนะครับหรือว่ามี
00:39:37 → 00:39:40 กิจกรรมช่วยเหลือผู้อื่นนะครับก็คือถ้า
00:39:40 → 00:39:42 เรามีกิจกรรมสังคมได้พูดคุยได้ผ่อนคลาย
00:39:42 → 00:39:45 เงี้ยก็ได้ช่วยเยอะนะครับแล้วสอสุดท้ายก็
00:39:45 → 00:39:47 คือสุขภาพครับเราต้องรักษาสุขภาพให้ดี
00:39:47 → 00:39:50 ครับได้แก่ทำอะไรบ้างดูแต่ถ้าเป็นโรคเบา
00:39:50 → 00:39:52 หวานความดันไขมันก็ดูแลโรคเหล่านั้นนะ
00:39:52 → 00:39:55 ครับแล้วก็ไม่ทำลายสุขภาพตัวเองเช่นเหล้า
00:39:55 → 00:39:59 บุหรี่ยาเสพติดเราก็หลีกเลี่ยงครับ3อ2สนะ
00:39:59 → 00:40:02 ครับทำวันนี้นะครับไม่ใช่ทำตอนเป็นนะครับ
00:40:02 → 00:40:04 แล้วเราก็จะห่างจากอัลไซเมอร์แน่นอน
00:40:04 → 00:40:08 ครับ่ะ3อ 2 สทำวันนี้ย้อนไปออแรกค่ะ
00:40:08 → 00:40:13 อาจารย์คะอาหารมีอาหารครบ 5 หมู่แล้วกิน
00:40:13 → 00:40:16 อย่างแบบว่าถูกต้องตามหลักโภชนาการขอ
00:40:16 → 00:40:18 เสริมอีก 1 ออย่อยงี้ได้มั้คะเผื่อบางคน
00:40:18 → 00:40:21 บอกเติมอออาหารเสริมไปอย่างงี้ได้มั้คะจะ
00:40:21 → 00:40:23 ช่วยได้มั้คะอาจารย์เช่นน้ำมันตับป้าหรือ
00:40:23 → 00:40:27 วิตามินต่างๆเงี้ยค่ะ
00:40:27 → 00:40:30 อาจารย์อะไรอยากตอบมั้ครับอ่ะก็จริงๆแล้ว
00:40:30 → 00:40:32 ก็คืออาหารเสริมเนี่ยยังไม่ได้มีข้อมูล
00:40:32 → 00:40:34 ศึกษาที่ชัดเจนเนาะอันแรกอยากให้รู้ก่อน
00:40:34 → 00:40:37 อาหารกับยาต่างตรงการศึกษานะครับไม่ได้
00:40:37 → 00:40:39 แปลว่าอาหารปลอดภัยกว่ายานะครับสมมุติ
00:40:39 → 00:40:41 อาหารเสริมชนิดนั้นเป็นการทำการทดลองใน
00:40:41 → 00:40:44 มนุษย์จนมีข้อมูลการวิจัยแล้วว่าใช้ในคน
00:40:44 → 00:40:47 ไข้แล้วได้ประโยชน์อันนั้นเรียกว่ายาั้น
00:40:47 → 00:40:50 อาหารเสริมกับยาไม่ได้ตรงธรรมชาตินะครับ
00:40:50 → 00:40:52 เพราะยาหลายๆอย่างก็สกัดจากธรรมชาติเนที่
00:40:52 → 00:40:55 ทุกวันนี้คุยกันก็อาจจะมีเช่นอาหารเสริม
00:40:55 → 00:40:59 บางชนิดนะครับหรือว่าใบแปะก๊วยนะครับต้อง
00:40:59 → 00:41:03 บอกก่อนว่าอ่าบางอย่างนะครับมันต้องถึง
00:41:03 → 00:41:07 ขนาดการรักษาจำนวนปริมาณถูกต้องแล้วก็
00:41:07 → 00:41:09 ระยะเวลาถูกต้องนะครับงั้นถ้าเราคุยถึง
00:41:10 → 00:41:12 อาหารเสริมโดยทั่วไปที่ไม่ได้ระบุว่าเป็น
00:41:12 → 00:41:14 ยาเนี่ยต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มีการศึกษา
00:41:14 → 00:41:17 ไหนชัดเจนว่าจะช่วยไม่ให้เราเป็นนะครับ
00:41:17 → 00:41:20 แต่โอเคว่าถ้าเรากินแล้วปลอดภัยไม่ได้
00:41:20 → 00:41:23 เสียสตางค์เยอะเกินไปโดยส่วนตัวก็ไม่ได้
00:41:23 → 00:41:26 ห้ามนะครับแต่ว่าอยากให้รู้ว่าอ๋อไม่ได้
00:41:26 → 00:41:29 แปลว่าเดี๋ยวกินสิ่งนี้แล้วมันจะช่วยเลย
00:41:29 → 00:41:31 เหมือนเรากินอาหารนะครับที่เราบอกว่ากิน
00:41:31 → 00:41:34 สเบอร์รี่ผลไม้สีม่วงดีก็คือเราก็รู้ว่า
00:41:34 → 00:41:36 มีการศึกษาเล็กๆว่าดี
00:41:36 → 00:41:38 >> นะครับแต่ไม่ได้แปลว่ากินแล้วเราจะไม่
00:41:38 → 00:41:41 เป็นแต่โอเคเรากินได้ครับแต่ถ้าเราเลือก
00:41:41 → 00:41:43 ได้ระหว่างเสียตังค์กินอาหารเสริมกับจริง
00:41:43 → 00:41:46 ๆแล้วเรามีอาหารที่ดีอยู่เช่นอย่างที่เรา
00:41:46 → 00:41:48 ยกตัวอย่างกันไปค่ะ
00:41:48 → 00:41:50 >> เราจะเลือกเสียตังคหรือไม่เลือกเสียตังค
00:41:50 → 00:41:51 >> ไม่เสียตังค์ดีกว่าค่ะ
00:41:51 → 00:41:52 >> ก็อาจจะต้องเลือกเองครับ
00:41:52 → 00:41:55 >> ค่ะแสดงว่าเรื่องของอาหารนี่ถือว่าเป็น
00:41:55 → 00:41:59 สิ่งที่สำคัญมากๆแล้วก็เป็นสิ่งที่เราก็
00:41:59 → 00:42:01 เจอทุกวันนะคะอาจารย์ตื่นมาก็ต้องทาน
00:42:01 → 00:42:04 อาหารเที่ยงมาก็ทานอาหารเย็นมาก่อนจะนก็
00:42:04 → 00:42:07 ทานอาหารอีกนะคะก็ 3 มื้อเลยนะคะถาม
00:42:07 → 00:42:11 อาจารย์นพดนานบ้างแล้วกันค่ะว่าอาหารอะไร
00:42:11 → 00:42:14 บ้างที่ส่งผลต่อเรื่องของความจำทั้งใน
00:42:14 → 00:42:16 ส่วนของดีแล้วก็ไม่ดีไงคะอาจารย์
00:42:16 → 00:42:18 >> อืครับเริ่มจากไม่ดีก่อนแล้วกันเนาะเพราะ
00:42:18 → 00:42:21 ว่าต้องถามตัวเองก่อนว่า
00:42:21 → 00:42:23 >> อาหารที่ผมจะพูดต่อไปเนี้ย
00:42:23 → 00:42:23 >> ค่ะ
00:42:23 → 00:42:24 >> เราทานกันมั้ย
00:42:24 → 00:42:26 >> อ่าฟังให้ดีนะคะ
00:42:26 → 00:42:29 >> ก็ 1 เลยที่เจอบ่อยคืออาหารเข้ม
00:42:29 → 00:42:30 >> นะฮะ
00:42:30 → 00:42:33 >> เอ่อการกินก๋วยเตี๋ยวเอยกินข้าวเอยต้อง
00:42:33 → 00:42:34 ใส่น้ำปลา
00:42:34 → 00:42:36 >> ต้องปรุงตลอดเนี่ย
00:42:36 → 00:42:38 >> มันเพิ่มความเค็มนะ
00:42:38 → 00:42:38 >> ค่ะ
00:42:38 → 00:42:41 >> พอเค็มปุ๊บเนี่ยโซเดียมในร่างกายก็สูง
00:42:41 → 00:42:44 สิ่งที่จะตามมาต่อไปคืออะไรความดันที่คุม
00:42:44 → 00:42:45 ไม่ได้
00:42:45 → 00:42:48 >> อือนะครับพอความดันคุมไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
00:42:48 → 00:42:50 ก็ทำให้มีเส้นเลือดสมองอุดตัน
00:42:50 → 00:42:52 >> นะครับสุดท้ายก็เกิดสมองเสื่อมขึ้นใน
00:42:52 → 00:42:54 อนาคตเพราะฉะนั้น
00:42:54 → 00:42:56 >> วิธีที่ง่ายที่สุดเลยเริ่มจากมื้อเที่ยง
00:42:56 → 00:42:57 วันนี้เนี่ยรสเค็ม
00:42:57 → 00:42:58 >> ค่ะรสเค็ม
00:42:58 → 00:43:01 >> นะฮะทานอาหารเนี่ยมือจะไปหยิบแล้วจะไป
00:43:01 → 00:43:03 หยิบเครื่องปรุงแล้ว
00:43:03 → 00:43:06 ชักไว้ก่อนชักไว้หน่อยว่าเฮ้ยเมื่อกี้
00:43:06 → 00:43:08 เพิ่งฟังอาจารย์ 3 ท่านมาบอกไม่อยากไม่
00:43:08 → 00:43:10 ควรทานอาหารเค็มนะฮะ
00:43:10 → 00:43:13 >> ต้องอันนี้เป็นเรื่องที่ต้องฝึกแล้วก็รส
00:43:13 → 00:43:16 ชาติเนี่ยเราติดถึงจุดนึงนะแต่ถ้าเกิดเรา
00:43:16 → 00:43:18 ปรับเราเปลี่ยนเนี่ยลิ้นของเราเอยพวก
00:43:18 → 00:43:21 เนี้ยเราจะชินกับรถใหม่นะครับมันอาจจะยาก
00:43:21 → 00:43:23 ตอนช่วงเปลี่ยนนิดนึงแต่เชื่อผมเถอะมัน
00:43:23 → 00:43:25 เป็นการลงทุนของสุขภาพในอนาคตนะอันที่ 1
00:43:25 → 00:43:28 เลยรสเค็มค่ะอืเค็มไปแล้ว 2 รสหวาน
00:43:28 → 00:43:29 >> หวานค่ะ
00:43:29 → 00:43:34 >> รสหวานนะก็เป็นอะไรที่ควรทำนะครับนะอะไร
00:43:34 → 00:43:36 ก็ตามที่มีความหวานมากเกินไปเนี่ยถามว่า
00:43:36 → 00:43:38 กินได้มั้ยกินได้นะ
00:43:38 → 00:43:41 >> แต่กินให้พอประมาณนะกินให้หาอยากนะครับ
00:43:41 → 00:43:44 อ่าแต่ไม่ใช่กินกันเป็นกิจวัตรกินกันทุก
00:43:44 → 00:43:46 วี่ทุกทุกวันกินกันปริมาณเยอะแบบนี้ไม่
00:43:46 → 00:43:47 ควรนะครับ
00:43:47 → 00:43:49 >> แล้วก็สุดท้ายก็คืออาหารมัน
00:43:49 → 00:43:49 >> อื
00:43:49 → 00:43:53 >> นะโอ้โหมาเลยครับหมูกรอบทอดน้ำมันเยิ้มมา
00:43:53 → 00:43:54 ทานกับไข่ดาว
00:43:54 → 00:43:56 >> โหมันอร่อยนะคะอาจารย์
00:43:56 → 00:43:58 >> มันอร่อยใช่แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ทาน
00:43:58 → 00:44:00 นะแต่หมายความว่าเราต้องทานในปริมาตรที่
00:44:00 → 00:44:03 พอเหมาะไม่ใช่ทานทุกวันทานเป็นกิจวัตรอ
00:44:03 → 00:44:06 >> อ่าเพราะฉะนั้นหวานมันเค็ม
00:44:06 → 00:44:07 >> นี่
00:44:07 → 00:44:09 >> นี่คือ 3 รสชาติที่ต้องระวัง
00:44:09 → 00:44:10 >> นะครับ
00:44:10 → 00:44:12 >> ส่วนอาหารที่จะช่วยเนี่ยเมื่อกี้อาจารย์
00:44:13 → 00:44:15 อดิสะก็ได้กล่าวไปเยอะค่ะ
00:44:15 → 00:44:17 >> ความเป็นจริงตามการศึกษาถ้าบอกว่าอยากจะ
00:44:17 → 00:44:19 ทานอาหารอะไรที่ช่วยสมองเสื่อมนี้ต้องไป
00:44:19 → 00:44:21 ทานอาหารแถวคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนใช่
00:44:22 → 00:44:22 มั้ฮะอาจารย์กิติ
00:44:22 → 00:44:25 >> โอหเราต้องเดินทางไปไกลขนาดนั้นเลยเหรอคะ
00:44:25 → 00:44:25 อาจารย์
00:44:25 → 00:44:27 >> ใช่ซึ่งต้องบอกอย่างงี้ว่าบริบทบริบท
00:44:27 → 00:44:31 ประเทศไทยเราจะไปทานเอ่อเอ่อชีสเราจะไป
00:44:31 → 00:44:34 ทานถั่วจะไปทานวายแบบเนี้ยมันก็ไม่ใช่ใช่
00:44:34 → 00:44:35 มั้ครับ
00:44:35 → 00:44:38 >> เพราะฉะนั้นง่ายที่สุดเลยทานอาหารได้ครบ 5
00:44:38 → 00:44:38 หมู
00:44:38 → 00:44:38 >> อื
00:44:39 → 00:44:40 >> นะไม่ใช่หมายความว่าอุ๊ยไม่ทานเนื้อสัตว์
00:44:41 → 00:44:43 อย่างงี้ไม่ใช่นะคุณต้องทานได้ครบ 5 หมู
00:44:43 → 00:44:46 >> ค่ะแต่เน้นเป็น plant base นั่นคือหมาย
00:44:46 → 00:44:48 ความว่าปริมาตรผักในส่วนของผักในส่วนของ
00:44:48 → 00:44:52 ผลไม้ที่ไม่หวานเนี่ยอาจจะเยอะกว่าในหมู่
00:44:52 → 00:44:53 อื่นๆครับผม
00:44:53 → 00:44:54 >> อื
00:44:54 → 00:44:57 >> ก็จะเห็นว่าเป็นผักแล้วก็ธัญพืชไม่ขัดสี
00:44:57 → 00:44:58 ซะส่วนใหญ่นะครับ
00:44:58 → 00:45:02 >> ค่ะก็เน้นผักบางคนบอกว่าแต่ละมื้อนี่คือ
00:45:02 → 00:45:04 ไม่มีผักเลยนะคะอาจารย์กินแต่เนื้ออย่าง
00:45:04 → 00:45:06 เดียวแต่เป็นเนื้อแบบว่าเนื้อดีๆหน่อยงี้
00:45:06 → 00:45:08 ได้มั้คะ
00:45:08 → 00:45:11 >> อก็เราก็มีแบบอ่าอย่างอย่ายกตัวอย่างอ่า
00:45:11 → 00:45:13 เนื้อก็อยากให้เป็นลักษณะเป็นเนื้อปลานะ
00:45:13 → 00:45:15 พวกเนื้อแดงเช่นเนื้อหมูเนื้อไก่อะไรแบบ
00:45:15 → 00:45:17 เนี้ยพวกเนื้อหมูเนื้อ
00:45:17 → 00:45:19 >> เนื้อวัวอะไรแบบเนี้ยอาจจะลดลงหน่อยก็คือ
00:45:19 → 00:45:22 ไม่ห้ามนะให้กินได้แต่ก็อาจจะปริมาณถ้า
00:45:22 → 00:45:24 เป็นเนื้อปลาเยอะหน่อยก็จะดีนะฮะลองลงมา
00:45:24 → 00:45:27 ก็จะเป็นสัตว์ปีกนะฮะแต่ว่าอ่าปลาเนี่ยดี
00:45:27 → 00:45:30 สุดนะกุ้งหอยปูปลาหมึกก็ดีเพียงแต่บางที
00:45:30 → 00:45:32 คอเลสเตอรอลอาจจะเยอะนิดนึงก็ต้องกินได้
00:45:32 → 00:45:34 ไม่บ่อยนะฮะแล้วก็เช็คคอเลสเตอรอลด้วยนะ
00:45:34 → 00:45:37 ฮะเมื่อกี้เสริมอาจารย์นานนิดนึงคือมันก็
00:45:37 → 00:45:39 ยังมีไขมันที่ดีอยู่นะฮะอย่างเช่นอ่าน้ำ
00:45:39 → 00:45:42 มันมะกอกอะไรเงี้ยฮะเป็นไขมันที่ดีนะฮะไข
00:45:42 → 00:45:45 ที่ได้จากปลาทะเลเนาปลาแซลมอนนั้นก็ดีนะ
00:45:45 → 00:45:47 ฮะหรือว่าบ้านเราปัจจุบันเนี่ยปลูกกัน
00:45:47 → 00:45:49 เยอะละก็คืออ่า
00:45:49 → 00:45:52 >> อโวคาโดนะฮะก็
00:45:52 → 00:45:53 >> ถ้าคนชอบยิ่งดีเลยฮะ
00:45:53 → 00:45:56 >> เพราะว่ามันก็เป็นไขมันที่ดีแล้วก็มีหลัก
00:45:56 → 00:45:58 ฐานว่าเออมันก็เป็นหนึ่งในเละเอียดที่มัน
00:45:58 → 00:46:01 สามารถอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกัน
00:46:01 → 00:46:03 ภาวะสมองเสื่อมได้นะฮะ
00:46:03 → 00:46:06 >> อืแต่ก็ต้องทานในสวนที่พอดีนะคะอาจารย์
00:46:06 → 00:46:08 บางคนบอกว่าพออาจารย์บอกว่าอะโวคาโด้ดี
00:46:08 → 00:46:11 เดี๋ยวช่วงฤดูกาลอะโวคาโดมาก็จะกินแต่
00:46:11 → 00:46:12 อะโวคาโดนะคะอาจารย
00:46:12 → 00:46:14 พใช่ๆๆ
00:46:14 → 00:46:16 >> ก็ทานในปริมาณที่พอเหมาะแล้วกันนะคะอ่า
00:46:17 → 00:46:20 คุณผู้ชมที่รับชมอยู่ทาง Facebook ไลฟคณะ
00:46:20 → 00:46:23 แพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะก็
00:46:23 → 00:46:27 สอบถามกันเข้ามาค่ะอาจารย์คะคุณอ่าสุสุสุ
00:46:27 → 00:46:31 สุสุสุสุสุเทนะคะถ้าอ่านผิดขออภัยด้วยนะ
00:46:31 → 00:46:33 คะบอกว่าผู้ป่วยอัลไซเมอร์ทำไมบางวันพูด
00:46:33 → 00:46:37 รู้เรื่องร่วมมือทำกิจกรรมประจำวันดีแต่
00:46:37 → 00:46:40 บางวันทำไมหงุดหงิดข้าวก็ไม่ยอมกินน้ำก็
00:46:40 → 00:46:43 ไม่ยอมอาบพูดจากิ๊บโอกาสค่ะอาจารย์ทำไม
00:46:43 → 00:46:45 ถึงเป็นแบบนั้นล่ะคะ
00:46:45 → 00:46:49 >> อ่าผมผมแล้วกันฮะก็คือว่าอาการเาค้าอาจจะ
00:46:49 → 00:46:51 มีความเค้าเรียกว่าเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละ
00:46:51 → 00:46:54 วันแต่ละช่วงเวลาได้นะครับนอกจากนี้เนี่ย
00:46:54 → 00:46:55 อ่ามันยัง
00:46:55 → 00:46:57 >> เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งกระตุ้นได้ด้วยผมว่า
00:46:57 → 00:46:59 สิ่งกระตุ้นเนี่ยเป็นอันที่สำคัญนะฮะเรา
00:47:00 → 00:47:03 ลองพยายามสังเกตดูว่าวันนั้นสิ่งสิ่งแวด
00:47:03 → 00:47:06 ล้อมต่างๆคำพูดต่างๆบริบทต่างๆอะไรทำให้
00:47:06 → 00:47:09 เขาสงบแล้วก็อะไรทำให้เขารู้สึกวุ่นวายนะ
00:47:09 → 00:47:11 ครับอย่างเช่นถ้าไปตอนเช้าไปถามมาเยอะวัน
00:47:11 → 00:47:13 นี้กินอะไรวันนี้กินอะไรวันนี้จะกินอะไร
00:47:13 → 00:47:16 หรือว่าไปอ่าวันนี้อ่าลองจำคำ 5 คำซิจำ
00:47:16 → 00:47:18 ได้มั้ยอะไรแบบเนี้ยคนไข้พอเริ่มหงุดหงิด
00:47:18 → 00:47:20 ปุ๊บวันนั้นก็อาจจะเป็นวันที่ไม่ดีของ
00:47:20 → 00:47:24 เา้านะฮะอย่างเช่นวันนั้นอาจจะร้อนไปแอร์
00:47:24 → 00:47:27 เสียนะฮะหรือว่าปวดเข่าถ่ายไม่ออกอะไรแบบ
00:47:27 → 00:47:30 เนี้ยมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้แก
00:47:30 → 00:47:32 ไม่เกิดความไม่สุขสบายแล้ววันนั้นก็กลาย
00:47:32 → 00:47:35 เป็นวันที่ไม่ดีนะฮะจริงๆคนไข้แต่ละคนน่ะ
00:47:35 → 00:47:38 มีสิ่งกระตุ้นที่ทำให้มีความสับสนวุ่นวาย
00:47:38 → 00:47:40 เนี่ยไม่เหมือนกันนะครับถ้าเกิดว่าเรา
00:47:40 → 00:47:42 เป็นคนดูแลผู้สูงอายุเป็นคนดูแล
00:47:42 → 00:47:44 อัลไซเมอร์สมองเสื่อมอยู่เนี่ยอยากให้ลอง
00:47:44 → 00:47:47 สังเกตดูว่าพูดกับเค้าแบบไหนเค้าแฮปปี้
00:47:47 → 00:47:48 พูดกับเค้าแบบไหน
00:47:48 → 00:47:51 >> อ่าเขาไม่ชอบถ้าแบบไหนที่รู้สึกว่าทำ
00:47:51 → 00:47:52 กระตุ้นความหงุดหงิดเค้าก็พยายามหลีก
00:47:52 → 00:47:54 เลี่ยงนะพยายามไม่ขัดใจนะฮะ
00:47:54 → 00:47:58 >> อืจริงๆคนที่ดูแลก็ต้องเข้าใจในระดับ
00:47:58 → 00:47:59 หนึ่งนะคะอาจารย์
00:47:59 → 00:48:02 >> ใช่ใช่ฮะก็แต่ถ้ามีปัญหาจริงๆก็ปรึกษาคุณ
00:48:02 → 00:48:05 หมอที่ดูแลได้นะครับบางบางส่วนอาจจะมียา
00:48:05 → 00:48:06 ช่วยได้นะครับ
00:48:06 → 00:48:10 >> แล้วก็หลายคนพยายามจะปรับที่ตัวคนไข้ทำไม
00:48:10 → 00:48:11 คนไข้ถึงไม่
00:48:11 → 00:48:16 อย่างที่บอกดูก่อนเกิด่าพฤติกรรมนั้นแล้ว
00:48:16 → 00:48:18 ดูว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นจะเห็นได้ว่าจริง
00:48:18 → 00:48:20 ๆเปลี่ยนที่ผู้ดูแลนะครับไม่ได้เปลี่ยน
00:48:20 → 00:48:23 ที่คนไข้นะครับที่จะทำให้เขาอารมณ์ดีไหม
00:48:23 → 00:48:26 ก็ต้องส่งกำลังใจให้คนดูแลด้วยนะคะ
00:48:26 → 00:48:28 อาจารย์เพราะว่าบางทีเราก็เข้าใจว่าคนดู
00:48:28 → 00:48:30 แลผู้ป่วยอัลไซเมอร์หรือว่าสมองเสื่อม
00:48:30 → 00:48:32 เนี่ยมันต้องใช้ความอดทนสูงนะคะอาจารย์
00:48:32 → 00:48:35 >> ใช่ครับบางทีเหนื่อยกว่าคนไข้นะคนไข้หลง
00:48:35 → 00:48:37 ลืมแฮปปี้แต่ว่าญาติเนี่ยต้องเป็นทั้ง
00:48:37 → 00:48:41 สมองนะแล้วก็เป็นทั้งคนรองรับอารมณคนไข้
00:48:41 → 00:48:44 ด้วยวันนี้แบบฉันอยากจะเล่นเกมอยากจะ
00:48:44 → 00:48:47 เขวี้ยงปายสิ่งของอะไรแบบเฮก็ดูรับดูแล
00:48:47 → 00:48:49 ทั้งอารมณ์แล้วก็ต้องเป็นสมองแทนคนไข้
00:48:49 → 00:48:52 ด้วยก็ดูแลผู้ดูแลเหนื่อยมากเห็นใจ
00:48:52 → 00:48:56 >> อบางคนผู้ดูแลบางท่านบอกว่าอ่าพอมาดูแลคน
00:48:56 → 00:48:59 ป่วยเนี่ยเราจะเป็นผีบ้าแล้วนะคะอาจารย์
00:48:59 → 00:49:02 >> ก็ช่วงช่วงแรกๆคุณหมอสมองเสื่อมเนี่ยจะดู
00:49:02 → 00:49:04 แลคนไข้เยอะครับเพราะช่วงหลังๆเนี่ยจะดู
00:49:04 → 00:49:07 แลญาติด้วยนะครับเพราะงั้นถ้าเกิดญาติ
00:49:07 → 00:49:09 เริ่มมีปัญหาก็ปรึกษาคุณหมอเได้นะครับคุณ
00:49:09 → 00:49:11 หมอเจะเล็งไว้อยู่แล้วว่าเอ้ยสมองเสื่อม
00:49:11 → 00:49:13 ใช่มั้ยคนไข้มี 2 คนตั้งแต่ต้นแล้วมีคน
00:49:13 → 00:49:17 ไข้ด้วยมีญาติด้วยนะครับถ้าสมองเสื่อม
00:49:17 → 00:49:19 เนี่ยรักษาให้ดีเนี่ยมันต้องดีทั้งตัวคน
00:49:19 → 00:49:21 ไข้แล้วก็ผู้ดูแลนะ
00:49:21 → 00:49:21 >> ออ
00:49:21 → 00:49:24 >> อ่าการรักษาที่เอาแต่คนไข้อย่างเดียวหรือ
00:49:24 → 00:49:26 ผู้ดูแลอย่างเดียวเนี่ยอันนี้เราถือว่า
00:49:26 → 00:49:29 ไม่ใช่เป็นการรักษาที่สร้างคุณภาพชีวิต
00:49:29 → 00:49:31 องค์รวมให้กับทั้งตัวคนไข้หรือผู้ดูแล
00:49:31 → 00:49:32 เพราะฉะนั้นต้องดีทั้งคู่
00:49:32 → 00:49:35 >> ก็ควบคู่กันไปนะอ่ะ
00:49:35 → 00:49:38 >> คุณวาสนานะคะถามเข้ามาบอกว่าอาจารย์หมอคะ
00:49:38 → 00:49:41 ขอถามอีกคำถาม 3 ค่ะคุณวาสนาเป็นโรค
00:49:41 → 00:49:44 ไทรอยด์ต่ำเป็นไขมันพอกตับวันข้างหน้าอาจ
00:49:44 → 00:49:48 จะมีโอกาสหลงลืมไหมคะเพราะว่าคุณวาสนา
00:49:48 → 00:49:51 เป็นหลายโรคมีโอกาสมั้คะอาจารย์คะมีโรค
00:49:51 → 00:49:53 ประจำตัวหลายโรค
00:49:53 → 00:49:55 >> อ๋ออโอเคอาจารย์
00:49:55 → 00:49:57 >> โอเคครับก็อ่ะเมื่อกี้เราคุยแล้วโรคสมอง
00:49:57 → 00:49:59 เสื่อมที่รักษาได้ 1 ในโรคนั้นก็คือ
00:49:59 → 00:50:01 ไทรอยด์ทำงานต่ำเนาะงั้นถ้าเกิดเราเป็น
00:50:01 → 00:50:04 ไทรรย์ทำงานต่ำแล้วมีอาการความจำผิดปกติ
00:50:04 → 00:50:06 เราต้องไปลองดูแล้วว่าไทรรอยด์รักษาได้ดี
00:50:06 → 00:50:09 มั้ยนะครับส่วนว่าเราเป็นหลายโรคเนี่ย
00:50:09 → 00:50:11 อย่างที่บอกนะครับการป้องกันก็คือการดูแล
00:50:11 → 00:50:14 สุขภาพให้ดีนะครับไขมันพอกตับไอ้ไขมันพอก
00:50:14 → 00:50:17 ตับโดยตรงเนี่ยอาจจะไม่ได้ทำให้เป็นสมอง
00:50:17 → 00:50:20 เสื่อมแต่ทำไมเราถึงมีไขมันพอกตับล่ะครับ
00:50:20 → 00:50:23 เราเป็นเบาหวานความดันไขมันหรือว่าแบบมี
00:50:23 → 00:50:26 ความผิดปกติอื่นหรือเปล่าที่จะทำให้เกิด
00:50:26 → 00:50:28 ไขมันพอกตับอันเนี้เราต้องควบคุมปัจจัย
00:50:28 → 00:50:30 เสี่ยงครับงั้นถ้าเรายิ่งเรามีไขมันพอก
00:50:30 → 00:50:33 ตับเราไปตรวจครับเบาหวานความดันไขมันแล้ว
00:50:33 → 00:50:36 เราก็รักษาเลยไม่ว่าจะเป็นอาหารออกกำลัง
00:50:36 → 00:50:40 กายแล้วก็ใช้ยา 3 อย่างเยครับปรับให้ดี
00:50:40 → 00:50:42 ถ้าเราทำได้ดีปุ๊บโอกาสเป็นสมองเสื่อมก็
00:50:42 → 00:50:43 ลดลงครับ
00:50:43 → 00:50:47 >> อ่าอีก 1 คำถามค่ะอาจารย์คะจากคุณแมรี่นะ
00:50:47 → 00:50:50 คะบอกว่าน้องที่ทำงานบอกว่าเจ็บหัวจี๊ด
00:50:50 → 00:50:52 ขึ้นสมองบริเวณท้ายทอยค่ะเป็นมาหลาย
00:50:52 → 00:50:56 อาทิตย์อยากทราบสาเหตุค่ะอาจารย์
00:50:56 → 00:50:58 >> อันนี้อาจจะไม่ได้เป็นสมองเชื่ออาจารย์นน
00:50:58 → 00:51:00 บ้างยังไม่
00:51:00 → 00:51:02 >> ก็คือเรื่องปวดหัวเลยนะครับ
00:51:02 → 00:51:06 >> เอ่อผมแนะนำว่าน่าจะมาให้คุณหมอดูเนาะ
00:51:06 → 00:51:06 >> อื
00:51:07 → 00:51:09 >> แต่ต้องบอกอย่างงี้ก่อนครับว่าเจ็บหัว
00:51:09 → 00:51:11 จี๊ดบริเวณท้ายทอยเนี่ยเจอได้บ่อยที่สุด
00:51:11 → 00:51:13 ก็คือการอักเสบของปลายประสาท
00:51:13 → 00:51:13 >> อื
00:51:13 → 00:51:16 >> ใช่เพราะว่าฟังจากที่พูดคือจี๊ด
00:51:16 → 00:51:16 >> ค่ะ
00:51:16 → 00:51:19 >> อาการปวดหัวที่เป็นจี๊ดเนี่ยต้องระวังว่า
00:51:19 → 00:51:22 จุดกำเนิดโรคที่ทำให้ปวดเนี่ยเป็นจากเส้น
00:51:22 → 00:51:22 ประสาท
00:51:23 → 00:51:24 >> แล้วมันก็จะมีเส้นประสาทนึงที่เรียงตัว
00:51:25 → 00:51:27 อยู่ที่บริเวณด้านหลังศีรษะหรือใกล้ๆท้าย
00:51:27 → 00:51:28 ทอยนั่นแหละ
00:51:28 → 00:51:30 >> ที่ชอบมักจะเกิดอาการอักเสบ
00:51:30 → 00:51:30 >> อื
00:51:30 → 00:51:34 >> พวกนี้เนี่ยเอ่อมารักษานะครับคุมอาการปวด
00:51:34 → 00:51:37 ได้ดีนะแล้วก็เดี๋ยวสักช่วงนึงร่างกาย
00:51:37 → 00:51:40 ปรับตัวอาการปวดก็จะหายไปเนาะเพราะฉะนั้น
00:51:40 → 00:51:43 แนะนำครับฝากแนะนำว่าน่าจะต้องมาตรวจกัน
00:51:43 → 00:51:47 >> ค่ะก็คุณแมรี่นะคะฝากบอกน้องที่ทำงานไปหา
00:51:47 → 00:51:50 อาจารย์นพดานัยได้เลยนะคะอาการปวดหัวจี๊ด
00:51:50 → 00:51:53 นะคะถ้าจี๊ดจ๊นี่มักจะไม่ดีใช่มั้คะ
00:51:53 → 00:51:55 อาจารย์นะคะต้องต้องหาสาเหตุ
00:51:55 → 00:51:55 >> อื
00:51:55 → 00:51:56 >> ครับ
00:51:56 → 00:51:58 >> ค่ะวันนี้มีหลายคำถามเหมือนกันนะคะบางคน
00:51:58 → 00:52:03 ก็อยากรู้ว่าอ่า MCT ถือว่าเป็นไขมันดี
00:52:03 → 00:52:06 มั้คะอาจารย์คะ
00:52:06 → 00:52:10 >> เอ่อเอ่อผมจริงๆสส่วนตัวผมยังไม่ทราบราย
00:52:10 → 00:52:12 ละเอียดมากแต่ว่าก็คิดว่า
00:52:12 → 00:52:13 >> ไม่ได้
00:52:13 → 00:52:16 >> ไม่ได้ห้ามทานนะฮะแต่ว่าก็ไม่ได้อยากให้
00:52:16 → 00:52:19 ทานเป็นประจำแล้วก็ถามว่าหลักฐานที่
00:52:19 → 00:52:22 >> บอกว่าสามารถรักษาอัลไซเมอร์หรือสมอง
00:52:22 → 00:52:24 เสื่อมได้ที่เป็นหลักฐานดีๆเนี่ยยังไม่มี
00:52:24 → 00:52:27 นะฮะแล้วก็รวมทั้งหลักฐานที่บอกว่าจะ
00:52:27 → 00:52:29 สามารถป้องกันการเกิดเพราะสมองเสื่อมได้
00:52:29 → 00:52:32 เนี่ยก็ต้องบอกเช่นเดียวกันว่าก็ก็ยังยัง
00:52:32 → 00:52:36 ไม่ได้มีตรงนี้นะแต่ว่าก็ถ้าอยากจะรับ
00:52:36 → 00:52:39 ประธานก็ก็ทานได้ฮะไม่ได้ไม่ได้ห้ามทาน
00:52:39 → 00:52:39 แต่พอเหมาะ
00:52:39 → 00:52:43 >> อค่ะก็ลองศึกษาข้อมูลดูก่อนนะคะคุณพัชรา
00:52:43 → 00:52:46 ค่ะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์นะคะบอกว่าถ้า
00:52:46 → 00:52:50 สังเกตแม่มีอาการหลงลืมเข้าขายหลายอย่าง
00:52:50 → 00:52:53 แต่ไม่ยอมมาตรวจเราต้องรอให้ถึงอาการแบบ
00:52:53 → 00:52:56 ไหนคะอาจารย์ถึงจะพามาจริงๆ
00:52:56 → 00:52:59 >> เอ่อโอเคคือถ้ารบกวนชีวิตประจำวันหรือว่า
00:52:59 → 00:53:02 คิดว่าแบบผิดปกติเยอะครับอยากให้ไปตรวจ
00:53:02 → 00:53:04 ก่อนเลยครับเพราะจริงๆคุณหมอเพร้อมช่วย
00:53:04 → 00:53:04 อยู่แล้ว
00:53:04 → 00:53:07 >> แต่ถ้าสมมุติอยากทำแบบทดสอบเองนะครับมี
00:53:07 → 00:53:10 แบบทดสอบนึงที่ญาติและผู้ดูแลที่ดูแลใกล้
00:53:10 → 00:53:14 ชิดสามารถทำได้เลยนะครับชื่อว่า Thai AQ
00:53:14 → 00:53:18 นะครับ T H A I แล้วก็ A ZQ นะครับกด
00:53:18 → 00:53:21 ใน Google ได้เลยครับมันจะเป็นคำถาม 21
00:53:21 → 00:53:24 ข้อนะครับก็ทำโดยคณะแพทย์เราเนี่ยครับก็
00:53:24 → 00:53:25 เราก็ติ๊ก
00:53:25 → 00:53:28 >> อ่าให้คะแนนถ้าคะแนนผิดปกติก็แปลว่าอ้า
00:53:28 → 00:53:31 ต้องสงสัยมากขึ้นไปอีกเราก็จะได้พาไปแล้ว
00:53:31 → 00:53:33 เราก็เอาใบนี้ไปด้วยนะครับเพราะใบนี้จริง
00:53:33 → 00:53:36 ๆมันก็คืออาการที่จะเจอในคนไข้สมองเสื่อม
00:53:36 → 00:53:38 ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรืออัลไซเมอร์แล้วครับ
00:53:38 → 00:53:41 ก็จะง่ายขึ้นในการที่จะเป็นตัวไกนะครับ
00:53:41 → 00:53:43 ไทย AQ ครับ
00:53:43 → 00:53:46 >> อืลองเสิร์ช Google ดูก่อนก็ได้นะคะก็ลอง
00:53:46 → 00:53:50 ประเมินกันดูว่าผิดปกติไปกี่ข้อกี่คะแนน
00:53:50 → 00:53:53 นะคะหลายคนบอกว่าเอ๊ะพอฟังอาจารย์พูดมา
00:53:53 → 00:53:56 แบบนี้ตั้งแต่ช่วงต้นรายการเริ่มรู้สึก
00:53:56 → 00:53:59 ว่าตัวเองเข้าข่ายหลายข้อแล้วค่ะอาจารย์
00:53:59 → 00:54:02 ลืมบ่อยๆลืมนั่นลืมนี่ลืมทุกอย่างคิดเลข
00:54:02 → 00:54:05 ไม่ปกติไม่เหมือนเดิมเราจะไปตรวจได้ยังไง
00:54:06 → 00:54:08 บ้างคะสมมุติว่าเนี่ยวันนี้ฟังอาจารย์หมอ
00:54:08 → 00:54:10 ละอยากจะมาตรวจวันนี้ละไปได้ที่ไหนบ้างคะ
00:54:10 → 00:54:11 อาจารย์
00:54:11 → 00:54:14 >> โอเคครับก็สำหรับคณะแพทย์เราก็ยินดีในการ
00:54:14 → 00:54:17 ที่จะเป็นอ่าส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาคน
00:54:17 → 00:54:20 ที่มีปัญหาเรื่องของความจำคนที่สงสัยว่า
00:54:20 → 00:54:22 อ่าเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือสงสัยมีเพราะ
00:54:22 → 00:54:25 สมองเสื่อมลงทั้งญาตินะฮะก็มาได้ที่อ่า
00:54:25 → 00:54:27 คณะแพทย์สัตวมหาวิลัยเชียงใหม่นะฮะก็จะมี
00:54:27 → 00:54:29 ที่โรงพยาบาลมหานครเชียงใหม่นะฮะมีศูนย์
00:54:29 → 00:54:31 วิทยาศาสตร์ผู้สูงอายุนะฮะแล้วก็มีศูนย์
00:54:31 → 00:54:33 ความเป็นเลิกทางการแพทย์นะฮะแล้วก็มี
00:54:33 → 00:54:34 ศูนย์ศรีพั
00:54:34 → 00:54:38 นะฮะทีนี้ผมอ่าเสริมเมื่อกี้ที่อาจารย์
00:54:38 → 00:54:41 อดิศักดิ์พูดนิดนึงก็คือว่าบางทีถ้าญาติ
00:54:41 → 00:54:43 >> ถ้าญาติเอ่อประเมินแล้วรู้สึกว่าอยากพามา
00:54:44 → 00:54:46 ตรวจแต่คนที่ไม่ยอมก็คือคนไข้ก็จะมี
00:54:46 → 00:54:48 เหมือนกันนะฉันไม่ได้ป่วยฉันไม่ได้เป็น
00:54:48 → 00:54:49 อะไรนั่นสิคะ
00:54:49 → 00:54:51 >> แต่ว่าอันนี้เนี่ยเราสามารถอ่าบอกคร่าวๆ
00:54:51 → 00:54:53 ได้เช่นเรามาเช็คสุขภาพ
00:54:53 → 00:54:57 >> เราอยากจะมาให้คุณหมออ่ามาเช็คสมองอยาก
00:54:57 → 00:54:59 ประเมินว่าอ่าอยากมาประเมินความจำอะไร
00:54:59 → 00:55:02 เงี้ยคือเราก็อาจจะบอกคนไข้ได้ว่าเราเรา
00:55:02 → 00:55:04 ไม่ได้ไปตรวจโลกนะฮะเราบอกแบบเนี้ยคือคน
00:55:04 → 00:55:06 ไข้อาจจะมีความอยากจะให้ความร่วมมือมาก
00:55:06 → 00:55:08 ขึ้นในการมาตรวจนะครับ
00:55:08 → 00:55:11 >> อืก็ลองเกลี้ยกล่อมกันดูก่อนนะคะอาจารย์
00:55:11 → 00:55:11 อ่า
00:55:11 → 00:55:15 >> คุณสิริกุลค่ะบอกว่าถ้าเครียดมากๆเนี่ย
00:55:15 → 00:55:17 ค่ะอาจารย์จะมีโอกาสเป็นสมองเสื่อมได้
00:55:17 → 00:55:20 มั้ยคะ
00:55:20 → 00:55:23 >> ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ่าสาร
00:55:23 → 00:55:25 เคมีทั้งหลายกระบวนการอักเสบทั้งหลายใน
00:55:25 → 00:55:28 ร่างกายผิดปกติครับงั้นถ้าเครียดก็เพิ่ม
00:55:28 → 00:55:29 ความเสี่ยงที่จะเป็นสมองเสื่อมอยู่แล้ว
00:55:29 → 00:55:32 ครับงั้นก็แนะนำว่าให้พูดกับตัวเองนะครับ
00:55:32 → 00:55:35 สบายๆนะอย่าไปพูดว่าอย่าเครียดไม่เครียด
00:55:35 → 00:55:37 นะครับยิ่งพูดยิ่งเครียดแล้วถ้าไม่รู้จะ
00:55:37 → 00:55:40 จัดการยังไงไปวิ่งไปออกกำลังกายครับไม่
00:55:40 → 00:55:42 ต้องมานั่งเออฉันเครียดฉันเครียดไปออก
00:55:42 → 00:55:44 กำลังกายก่อนครับแล้วพอออกกำลังกายปุ๊บ
00:55:44 → 00:55:47 เหงื่อออกเรื่องที่คิดมันจะเปลี่ยนไปเอง
00:55:47 → 00:55:49 ครับสั่งเคมีมันจะเปลี่ยนครับงั้นความ
00:55:49 → 00:55:52 เครียดมีผลแน่นอนครับจัดการตัวเองเลยครับ
00:55:52 → 00:55:53 >> คุณสิริกุลอาจจะบอกว่า
00:55:53 → 00:55:56 >> เอ่อช่วยอาจารย์อดิศักดิ์ช่วยบอกหัวหน้า
00:55:56 → 00:55:58 ได้มั้ยว่าให้สบายๆ
00:55:58 → 00:56:01 >> เหมือนอาจารย์เหมือนอาจารย์นพนานบอกว่า
00:56:01 → 00:56:03 ให้เปลี่ยนหัวหน้าให้หน่อยได้มั้เหมือน
00:56:03 → 00:56:06 เหมือเหมือดูแลผู้ดูแลครับเราเน้นว่าเรา
00:56:06 → 00:56:08 ปรับที่ตัวเราเองถูกมั้ครับเพราะว่า
00:56:08 → 00:56:09 เปลี่ยนคนอื่นนี่เปลี่ยนยากเนาะเปลี่ยน
00:56:09 → 00:56:12 หัวหน้านี่ดูจะยากกำจัดตัวเองออกจากหน่วย
00:56:12 → 00:56:12 งาน
00:56:12 → 00:56:14 >> เออเอาง่ายที่สุด
00:56:14 → 00:56:15 >> ง่ายกว่านะอาจารย์
00:56:15 → 00:56:17 >> ออกกำลังกายก่อนง่ายกว่าครับครับผมใช่ๆ
00:56:17 → 00:56:21 >> อาจจะลองเดินออกมาจากหน้าจอคอมก่อนเออไป
00:56:21 → 00:56:22 เดินเล่นหรือไป
00:56:22 → 00:56:25 >> จริงๆพูดคุยมีเพื่อนงานสังคมเนี่ยมันได้
00:56:25 → 00:56:28 แลกเปลี่ยนนะครับมันจะมีไอเดียใหม่ๆในการ
00:56:28 → 00:56:30 บริหารจัดการสิ่งที่กำลังเครียดหรือกำลัง
00:56:30 → 00:56:33 เป็นปัญหาเช่นกับหัวหน้างานเงี้อาจจะคุย
00:56:33 → 00:56:35 กับเพื่อนๆร่วมงานอื่นที่อื่นที่งานแบบ
00:56:35 → 00:56:38 เดียวกันเอ๊ะทำไมเค้าไม่เครียดไม่กังวลเ
00:56:38 → 00:56:40 ทำยังไงกันแล้วบางทีมันมีไอเดียใหม่ๆแล้ว
00:56:40 → 00:56:42 ความเครียดก็จะลดลงครับ
00:56:42 → 00:56:44 >> อ่าคุณสิริกุลเนี่ยอาจจะต้องมาศึกษาดูงาน
00:56:44 → 00:56:47 ที่สื่อสารองค์กรนะคะอาจารย์เพราะห้องนี้
00:56:47 → 00:56:49 ไม่มีความเครียดเลยค่ะอาจารย์
00:56:49 → 00:56:50 >> มีความสุขนะครับ
00:56:50 → 00:56:52 >> มีความสุขคุยกันตลอดทั้งวันงานแทบไม่ได้
00:56:52 → 00:56:55 ทำล้อเล่นค่ะอาจารย์อ่ะก็อาจจะต้องจัดการ
00:56:55 → 00:56:58 กับความเครียดของตัวเองนะคะอีก 1 ท่านค่ะ
00:56:58 → 00:57:01 ถามมาว่าคุณพ่อเป็นอัลไซเมอร์สมองเสื่อม
00:57:02 → 00:57:05 ลูกจะมีโอกาสเป็นไหมคะอ่าอันนี้อาจจะสอบ
00:57:05 → 00:57:07 ถามเหมือนโรคอื่นๆเช่นส่งต่อกันผ่าน
00:57:07 → 00:57:09 พันธุกรรมอันนี้ส่งได้มั้คะอาจารย์นะฮะ
00:57:09 → 00:57:11 >> อ่านี้ผมผมขอตอบแล้วกันก่อนฮะ
00:57:11 → 00:57:13 >> คือก็ต้องบอกว่า
00:57:13 → 00:57:15 >> อ่าเป็นโรคที่ไม่ใช่ว่าพ่อเป็นและลูกต้อง
00:57:15 → 00:57:18 เป็นนะฮะพันธุกรรมมีส่วนแต่ว่า
00:57:18 → 00:57:21 >> พันธุกรรมที่บอกว่าพ่อเป็นแม่เป็นแล้วลูก
00:57:21 → 00:57:23 ต้องเป็นแบบที่ถ่ายทอดที่จะต้องเป็นกัน
00:57:23 → 00:57:25 แน่นอน 100% เนี่ยโอกาสน้อยคืออัลไซเมอร์
00:57:25 → 00:57:27 มีแบบนี้เหมือนกันแต่ว่าน้อยประมาณ 1 ใน
00:57:28 → 00:57:29 1000 หรือน้อยกว่านั้นนะฮะ
00:57:29 → 00:57:32 >> ทีนี้คนไข้ส่วนมากเนี่ยมักจะเป็นการที่
00:57:33 → 00:57:35 เพิ่มโอกาสเฉยๆเช่นสมมุติว่า
00:57:35 → 00:57:36 >> อ
00:57:36 → 00:57:38 >> อ่าที่อายุ 60 ปีสมมุติว่าคุณเรามีคุณแม่
00:57:38 → 00:57:40 อายุ 90 ปีเป็นอัลไซเมอร์นะฮะตอนนี้เรา
00:57:40 → 00:57:43 อายุ 60 ปีนะฮะเรามีโอกาสที่จะเป็น
00:57:43 → 00:57:45 อัลไซเมอร์ถ้าคนทั่วไปมีโอกาสอัลไซเมอร์
00:57:45 → 00:57:48 ประมาณ 1 ในร้อยนะฮถ้าพ่อแม่เราเป็นเรา
00:57:48 → 00:57:50 อาจจะประมาณสัก 2-3 ใน 100 ประมาณนี้
00:57:50 → 00:57:54 >> คือเพิ่มจากประชากรปกตินิดหน่อยนะฮะแต่
00:57:54 → 00:57:58 ว่าโอกาสที่เอ่อจะเป็นเนี่ยก็ยังน้อยกว่า
00:57:58 → 00:58:00 โอกาสที่จะไม่เป็นค่อนข้างเยอะนะฮะประมาณ
00:58:00 → 00:58:01 นี้นะครับผม
00:58:01 → 00:58:03 >> ก็คือเป็นการเหมือนเพิ่มโอกาสเพิ่มความ
00:58:03 → 00:58:06 เสี่ยงเข้าไปเล็กน้อยนะคะอาจารย์แต่ไม่
00:58:06 → 00:58:08 สามารถทรงต่อการผ่านพันธุกรรมโรคอื่นได้
00:58:08 → 00:58:10 >> จึงอยากให้ท่องว่าอย่างงี้ครับพ่อแม่เป็น
00:58:11 → 00:58:12 เราไม่เป็นก็ได้
00:58:12 → 00:58:15 >> พ่อแม่ไม่เป็นเราเป็นก็ได้งั้น 3 2สไป
00:58:15 → 00:58:16 ก่อนครับ
00:58:16 → 00:58:19 >> อค่ะ 3 2สสทำเที่ยงนี้เลยนะคะอาจารย์
00:58:19 → 00:58:21 >> ทำบัดนาวครับ
00:58:21 → 00:58:23 >> อ่ะวันนี้มีคุณผู้ชมหลายท่านสอบถามกัน
00:58:24 → 00:58:26 เข้ามาอาจจะตอบไม่ครบทุกคำถามนะคะเดี๋ยวเ
00:58:26 → 00:58:29 อาจจะให้ทีมงานทยอยตอบหลังบ้านอีกทีนึงนะ
00:58:29 → 00:58:31 คะวันนี้ช่วงท้ายของรายการอยากจะให้
00:58:31 → 00:58:34 อาจารย์ทั้ง 3 ท่านในฐานะที่เป็นอาจารย์
00:58:34 → 00:58:37 สมองแล้วกันค่ะช่วยแชร์เทคนิคให้พวกเรา
00:58:37 → 00:58:40 ได้ทราบหน่อยว่าอาจารย์แต่ละท่านมีเทคนิค
00:58:40 → 00:58:45 ในการดูแลสมองยังไงบ้างคะอาจารย์เริ่มจาก
00:58:45 → 00:58:47 อาจารย์นพดานก็ได้ค่ะอาจารย์คะ
00:58:47 → 00:58:50 >> ก็ของผมนะครับหมายถึงว่าดูแลตัวเองหมาย
00:58:50 → 00:58:51 ถึงผมดูแลไงใช่มั้ย
00:58:51 → 00:58:54 >> ก็เดี๋ยวผมพูด 1 ประเด็นแล้วกันเนาะเพราะ
00:58:54 → 00:58:56 ว่ามันก็มีหลายประเด็นที่จะพูดนะฮะก็ก็
00:58:56 → 00:58:58 เรื่องออกกำลังกาย
00:58:58 → 00:59:01 >> ผมว่าออกกำลังกายเป็นการลงทุนที่ต้นทุน
00:59:01 → 00:59:01 ต่ำที่สุด
00:59:01 → 00:59:02 >> อื
00:59:02 → 00:59:05 >> แล้วก็ได้เอ่อ benefit หรือว่าได้ผล
00:59:05 → 00:59:06 ประโยชน์เยอะที่สุดนะครับ
00:59:07 → 00:59:09 >> อย่างที่อาจารย์อดิศักดิ์ท่านได้เอ่อ
00:59:09 → 00:59:12 เรียนแจ้งไปในตอนต้นรายการว่าออกกำลังกาย
00:59:12 → 00:59:14 เนี่ยมันต้องออกกำลังกายให้เหมาะสมทั้ง
00:59:14 → 00:59:18 ปริมาตรเนาะแล้วก็ขนาดใช่มั้ฮะพูดเหมือน
00:59:18 → 00:59:22 ยานะคือยังไงนะก็คือ 1 อาทิตย์เนี่ยควรจะ
00:59:22 → 00:59:25 ต้องออกให้ได้อย่างน้อยประมาณ 150 นาที
00:59:25 → 00:59:28 >> นะครับ 2 เอ่อการออกกำลังกายเนี่ยต้อง
00:59:28 → 00:59:30 ตั้งใจออกกำลังกายนะ
00:59:30 → 00:59:30 >> อือ
00:59:30 → 00:59:33 >> ไม่ใช่ว่าวันเนี้ยฉันไปจ่ายตลาดมาแล้ว
00:59:33 → 00:59:33 >> อื
00:59:34 → 00:59:36 >> อ่าฉันปั่นจักรยานไปจ่ายตลาดมาเนี่ยจ่าย
00:59:36 → 00:59:39 ตลาดเดินเนี่ยคุยตามร้านค้าเนี่ยเป็น 5-6
00:59:39 → 00:59:41 ช่มงเนี่ยแล้วนับว่านั่นเป็นออกกำลังกาย
00:59:41 → 00:59:43 >> มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะอาจารย์
00:59:43 → 00:59:46 >> ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้การออกกำลังกายคือต้อง
00:59:46 → 00:59:49 ตั้งใจออกกำลังกายนะครับออกกำลังกายที่
00:59:49 → 00:59:52 เหมาะสมก็คือควรจะต้องให้ตัวอัตราการเต้น
00:59:52 → 00:59:54 ของหัวใจจากเดิมเนี่ยมีเท่าไหร่อาจจะต้อง
00:59:54 → 00:59:57 เพิ่มไปประมาณ 10-20 อันเนี้ยเราถือว่า
00:59:57 → 01:00:00 เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสม
01:00:00 → 01:00:02 >> แล้วก็ระยะเวลาก็ควรจะประมาณสัก 150 นาที
01:00:02 → 01:00:03 ต่อสัปดาห์ครับ
01:00:03 → 01:00:06 >> ค่ะอ่ะทางฝั่งของอาจารย์กิตติทัศน์บ้าง
01:00:06 → 01:00:07 ค่ะอาจารย์คะ
01:00:07 → 01:00:09 >> โอเคของผมก็เป็นเรื่องการนอนแล้วกันนะฮะ
01:00:09 → 01:00:12 ก็คือก็เหมือนที่อ่าทุกท่านเคยรู้มาละว่า
01:00:12 → 01:00:15 คือการนอนดีมันก็ส่งผลกับสุขภาพโดยรวมนะ
01:00:15 → 01:00:17 ฮะของอัลไซเมอร์มันก็ยิ่งกว่านั้นขึ้นไป
01:00:17 → 01:00:21 อีกนะฮะเบอกว่าอ่าโปรตีนขยะอไมรอยด์กับ
01:00:21 → 01:00:25 ทาวนะฮะมันจะกำจัดออกจากสมองได้ดีนะฮะใน
01:00:26 → 01:00:28 ช่วงการนอนหลับนะฮะโดยเฉพาะการนอนหลับที่
01:00:28 → 01:00:30 เป็นการนอนหลับพิหลับลึกนะฮะเพราะฉะนั้น
01:00:30 → 01:00:34 ถ้าเราหลับดีหลับลึกนะฮะก็จะทำให้โอกาส
01:00:34 → 01:00:36 ที่การเกิดภาวะสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์
01:00:36 → 01:00:39 เนี่ยลดลงได้นะฮะเพราะฉะนั้นก็อยากให้นอน
01:00:39 → 01:00:43 ดีถามว่านอนดียังไงก็อ่าวันละประมาณ 6-8
01:00:43 → 01:00:46 ช่มงแล้วกันนะผู้สูงอายุก็อาจจะประมาณ 5
01:00:46 → 01:00:47 ช่โมงปลายๆ 6 ช่โมง 7 ชั่วโมงประมาณนี้
01:00:48 → 01:00:50 แต่ว่าคนทั่วไปก็ประมาณ 6-8 แต่ละคนไม่
01:00:50 → 01:00:51 เหมือนกันนะฮะ
01:00:51 → 01:00:54 >> ลองลองดูว่าตัวเองประมาณไหนก็ลองวันนั้น
01:00:54 → 01:00:56 ลองหลับแบบไม่ต้องปลุกนาฬิกานะฮะลองดูว่า
01:00:56 → 01:00:59 เ่อเราประมาณไหนก็กะว่าของเราควรจะต้อง
01:00:59 → 01:01:01 ประมาณนั้นแล้วก็ให้ควรได้ประมาณนั้นไป
01:01:01 → 01:01:02 ตลอดนะฮะ
01:01:02 → 01:01:06 >> แล้วก็อ่าพยายามถ้าดีก็ถ้าง่วงกลางวันก็
01:01:06 → 01:01:08 อาจจะงีบนิดหน่อยพอไม่อยากให้นอนกลางวัน
01:01:08 → 01:01:11 เยอะเพราะเดี๋ยวกลางคืนจะไม่นอนนะฮะแล้ว
01:01:11 → 01:01:13 ก็คนที่มีปัญหาการนอนเช่นนอนไม่หลับมี
01:01:13 → 01:01:16 ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับมีกลางคืนฝัน
01:01:16 → 01:01:19 ละเมอนะฮะหรือว่าหลับแล้วตื่นกลางดึกอะไร
01:01:19 → 01:01:21 แบบเนี้ยอันนี้อาจจะต้องลองมาประเมินดู
01:01:21 → 01:01:23 บางทีเราแก้ไขการนอนหลับบางทีอย่างอื่นใน
01:01:23 → 01:01:26 ชีวิตอาจจะดีขึ้นได้เช่นแก้ไขการนอนหลับ
01:01:26 → 01:01:27 แล้วอารมณ์ดีขึ้น
01:01:27 → 01:01:28 >> อือื
01:01:28 → 01:01:31 >> แก้ไขการนอนหลับแล้วสมาธิกลางวันดีขึ้น
01:01:31 → 01:01:34 เป็นลักษณะนี้เพราะนั้นการนอนสำคัญครับผม
01:01:34 → 01:01:35 >> ออกกำลังกายไปแล้วนอนไปแล้วอาจารย์
01:01:35 → 01:01:37 อดิศักดิ์ล่ะคะ
01:01:37 → 01:01:39 >> ก็จะเห็นว่าเราคุยโรคความเสื่อมเนาะ
01:01:39 → 01:01:42 อวัยวะทุกอย่างมีความเสื่อมแต่จะเห็นว่า
01:01:42 → 01:01:44 อายวะหลายอันเนี่ยเปลี่ยนได้แล้วอ้าไตวาย
01:01:44 → 01:01:47 เปลี่ยนไตหัวใจวายก็อาจจะแบบถ้าเป็นเยอะๆ
01:01:47 → 01:01:49 เปลี่ยนหัวใจแต่สมองไม่มีให้เปลี่ยนนะ
01:01:49 → 01:01:51 ครับเพราะว่ามันซับซ้อนถ้าเรามีอันเนี้
01:01:51 → 01:01:54 อันเดียวนะครับอยากให้ดูแลตั้งแต่วันนี้
01:01:54 → 01:01:57 นะครับก็3อสส.ครับแล้วเราก็จะปลอดภัยครับ
01:01:57 → 01:01:58 อ
01:01:58 → 01:02:00 >> กับอีกอันนึงอยากจะฝากว่าวันนี้อาจจะมี
01:02:00 → 01:02:04 ผู้ดูแลหรือมีอ่าผู้ที่สนใจนะครับจริงๆ
01:02:04 → 01:02:07 ตอนปลายปีนี้นะครับวันที่ 4 ธันวาคมนะ
01:02:07 → 01:02:10 ครับเราจัดงานด้วยใจเข้าใจเสริมพลังผู้ดู
01:02:11 → 01:02:14 แลเพื่อผู้ป่วยสมองเสื่อมนะครับซึ่งก็คือ
01:02:14 → 01:02:17 ร่วมอ่าทางคณะแพทย์นะครับศูนย์โลกสมองภาค
01:02:17 → 01:02:20 เหนือร่วมกับทางทีมผู้เชี่ยวชาญจากสมาคม
01:02:20 → 01:02:23 โรคสมองเสื่อมแห่งประเทศไทยนะครับก็จะมา
01:02:23 → 01:02:26 ให้ความรู้นะครับแล้วก็อ่าให้เราเกิดความ
01:02:26 → 01:02:29 เข้าใจในการดูแลผู้สุว่าผู้ป่วยสมอง
01:02:30 → 01:02:32 เสื่อมนะครับก็ถ้าใครสนใจนะครับแอดที่
01:02:32 → 01:02:34 Line แล้วทักเข้ามาได้เลยนะครับเรารับ
01:02:34 → 01:02:36 จำนวนจำกัดนะครับ
01:02:36 → 01:02:39 >> ก็วันที่ 4 ธันวาคมครับที่คณะแพทย์นะครับ
01:02:39 → 01:02:42 ตอนประมาณช่วงบ่ายๆนะครับสั้นๆนะครับก็
01:02:42 → 01:02:45 อยากให้มาร่วมกันครับสำหรับคนที่สนใจแล้ว
01:02:45 → 01:02:49 ก็โดยเฉพาะผู้ดูแลนะครับอยากให้เข้ามาอ่า
01:02:49 → 01:02:52 จะได้ความรู้และเทคนิคดีๆจากวิทยากรแน่
01:02:52 → 01:02:52 นอนครับ
01:02:52 → 01:02:55 >> ค่ะอ่ะคุณผู้ชมที่ชมรายการวันนี้อยู่ก็
01:02:55 → 01:02:58 สแกน QR Cดได้นะคะก็สามารถเข้าร่วม
01:02:58 → 01:03:00 กิจกรรมได้ 4 ธันวาคมนะคะอาจารย์นี่ QR
01:03:00 → 01:03:04 CE ขึ้นอยู่หน้าจอตอนนี้เลยนะคะรับจำนวน
01:03:04 → 01:03:07 จำกัดด้วยนะคะเสียค่าใช้จ่ายมั้คะอาจารย์
01:03:07 → 01:03:07 คะ
01:03:07 → 01:03:10 >> อ้าวงานนี้ฟรีครับคณะแพร่จ่ายครับ
01:03:11 → 01:03:13 >> ค่ะคณะแพร่จ่ายให้เรานะคะเพราะฉะนั้นเรา
01:03:13 → 01:03:16 ก็เข้าร่วมงานได้ฟรีนะคะอ่ะทั้งหมดนี้ก็
01:03:16 → 01:03:19 เป็นความรู้เกี่ยวกับโรคของสมองเสื่อม
01:03:19 → 01:03:22 อัลไซเมอร์รวมไปถึงเทคนิคในการที่จะนำไป
01:03:22 → 01:03:25 สังเกตอาการทั้งตัวเองคนในครอบครัวแล้วก็
01:03:25 → 01:03:28 เทคนิคในการดูแลสมองตัวเองนะคะอาจารย์ให้
01:03:28 → 01:03:31 ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์แล้วก็สมองเสื่อม
01:03:31 → 01:03:32 ด้วยนะคะวันนี้ขอบพระคุณอาจารย์ทั้ง 3
01:03:32 → 01:03:35 ท่านมากๆเลยนะคะอาจารย์อดิศักดิ์อาจารย์
01:03:35 → 01:03:37 กิตติทัศน์แล้วก็อาจารย์ดานนะคะขอบพระคุณ
01:03:37 → 01:03:38 ค่ะ
01:03:38 → 01:03:39 >> สวัสดีครับ
01:03:39 → 01:03:41 >> และแน่นอนค่ะคุณผู้ชมที่รับชมสดๆวันนี้
01:03:41 → 01:03:43 ไม่ทันนะคะสามารถกลับมารับชมย้อนหลังได้
01:03:44 → 01:03:45 ผ่านทาง YouTube สวนดอก Channel แล้วก็
01:03:45 → 01:03:48 เพจคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รวม
01:03:48 → 01:03:50 ไปถึงรายการของเรานะคะจะไปออกอากาศย้อน
01:03:50 → 01:03:53 หลังอีกครั้งนึงค่ะทางสถานีวิทยุโทรทัศน์
01:03:53 → 01:03:56 แห่งประเทศไทยหรือว่า NBT ช่อง 11 นั่น
01:03:56 → 01:03:59 เองนะคะแล้วก็ออกอากาศเสียงค่ะรับฟังกัน
01:03:59 → 01:04:01 ได้ผ่านทาง FM 100 นะคะสวท.เชียงใหม่
01:04:01 → 01:04:05 สวท.ฝางแล้วก็สวท.พะเยารวมไปถึงอีกหลาก
01:04:05 → 01:04:07 หลายสถานีเครือข่ายของเรานะคะวันนี้หมด
01:04:07 → 01:04:09 เวลาลงแล้วค่ะทิพย์พร้อมกับอาจารย์หมอ
01:04:09 → 01:04:11 แล้วก็ทีมงานต้องลาทุกท่านไปก่อนขอบพระ
01:04:11 → 01:04:19 คุณและสวัสดีค่ะ
01:04:19 → 01:04:27 [เพลง]