00:00:00 → 00:00:03 สากฝนหัวเปียกต้องสระผมด้วยไม่สระผมก็
00:00:03 → 00:00:06 ป่วยมีคุณฝรั่งมาบอมไอไม่เข้าใจเลยทำไมคน
00:00:06 → 00:00:09 ไทยจะต้องกลัวฝนรู้มั้ยประเทศไอเนี่ยพอฝน
00:00:09 → 00:00:12 ตกปุ๊บจะไล่เด็กๆออกไปตากฝนเราลุยน้ำ
00:00:12 → 00:00:15 เนี่ยคนจะคิดออกโลกแรกเลยฉี่หนูฉี่หนูมา
00:00:15 → 00:00:18 ก่อนเลยแต่ถ้าลุยน้ำเยอะๆจริงๆก็อาจจะ
00:00:18 → 00:00:21 เป็นฮ่องกงคุก็คือติดเชื้อราแล้วแม่หมา
00:00:21 → 00:00:24 ล่ะแม่หมาในฐานะแม่หมานอนด้วยกันถ้าเป็น
00:00:24 → 00:00:28 ติดเชื้อก็มีเหมือนกันอ
00:00:28 → 00:00:30 ถุงแตกประเภท
00:00:30 → 00:00:36 แล้วบังไปพลาดบอกดีไม่บอกดีถ้าบอกแฟนก็
00:00:36 → 00:00:40 จับได้สิบมีการสอบใส่สอบสอนวัดคือที่
00:00:40 → 00:00:42 สำคัญคือเราต้องวัดไซส์ด้วยนะคดomมันนี้
00:00:42 → 00:00:44 สำคัญมากห้ามหลวมไปห้ามคับไปคุณไม่อยาก
00:00:44 → 00:00:46 เชื่อใช่ไหมมว่าหมอที่ฉีดหน้าสวยๆเนี่ย
00:00:46 → 00:00:49 คือต้องเรียนอะไรแบบนี้ที่แบบปวดหัวใจสุด
00:00:49 → 00:00:52 อ่ะคือเขากำลังจะเป็นแฟนกัน 1 คนเนี่ยมี
00:00:52 → 00:00:55 ประวัติเริมกลัวว่าเฮ้ยบอกไปแล้วเาไม่เอา
00:00:55 → 00:00:58 เราทำไงห้องน้ำที่ญี่ปุ่นทุกครั้งก่อนที่
00:00:58 → 00:01:00 มันจะโผล่มาแล้วก็ตอนที่มันเก็บอ่ะมันจะ
00:01:00 → 00:01:03 มีการล้างด้วยมันพ่นเป็นแบบสปริเกleแล้ว
00:01:03 → 00:01:05 มันมีการกระเด็นแล้วมันไม่รู้มันมีการ
00:01:05 → 00:01:07 กระเด็นแล้วกลับมาโดนบริเวณตรงหัวอ๋อหมาย
00:01:07 → 00:01:09 ถึงว่าชิ่งอันนี้คิดเยอะไปมั้ยมีการชิ่ง
00:01:09 → 00:01:11 ใช่
00:01:11 → 00:01:14 สวยสตอี่กับอุมโอลิเวียสวัสดีค่ะรายการ
00:01:14 → 00:01:16 ที่เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมาให้
00:01:16 → 00:01:18 ความรู้ในเรื่องของสุขภาพแล้วก็ความสวย
00:01:18 → 00:01:20 ความงามกันค่ะวันนี้เราก็รู้สึกเป็น
00:01:20 → 00:01:22 เกียรติมากนะคะที่คุณหมอแนทสโลบ
00:01:22 → 00:01:25 อายุรแพทย์โรคติดเชื้อมาพูดคุยในรายการ
00:01:25 → 00:01:29 ของเราค่ะพี่แนทวันนี้สวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:29 → 00:01:32 วันนี้ก็ดีใจมากนะคะที่พี่แนทสละเวลามา
00:01:32 → 00:01:34 เยี่ยมเยียนสวยสตอี่นะคะแล้วก็มาให้ความ
00:01:34 → 00:01:38 รู้ทุกคนด้วยขออนุญาตให้พี่หมอแนทแนะนำ
00:01:38 → 00:01:40 ตัวเองนิดนึงค่ะชื่อเล่นนะคะชื่อหมอแนท
00:01:40 → 00:01:44 เป็นรุ่นพี่ของหมออุ๋มมาน่าจะเกิน 10 ปี
00:01:44 → 00:01:47 ที่รู้จักกันมานานมากเกินเกิน 10 ปีแล้ว
00:01:47 → 00:01:50 ค่ะก็ชื่อจริงก็แพทย์หญิงสโลบนจรทัศน์
00:01:50 → 00:01:53 เกษตรินค่ะเป็นอยุรแพทย์โรคติดเชื้อทำงาน
00:01:53 → 00:01:55 อยู่ที่โรงพยาบาลรามคำแหงค่ะใครอยากเจอ
00:01:55 → 00:01:58 พี่แนทก็ไปที่โรงพยาบาลรามคำแหมแต่ก็อย่า
00:01:58 → 00:02:02 ได้เจอดีกว่าเนาะใช่เออเอาแบบนามจำเป็น
00:02:02 → 00:02:06 ยามจำเป็นมีไข้มีโรคติดเชื้อก็ไปเยี่ยม
00:02:06 → 00:02:08 เย็นกันได้
00:02:08 → 00:02:10 ก็ต้องบอกว่าพี่แนทจริงๆแล้วเนี่ยเป็นแบบ
00:02:10 → 00:02:13 รุ่นพี่ที่ปรึกษาน้องๆเนาะที่เป็นหมอด้วย
00:02:13 → 00:02:16 กันเนี่ยเป็นหลักเลยอ่ะต้องบอกว่าไม่ใช่
00:02:16 → 00:02:20 แค่ปรึกษาเรื่องแบบโรคติดเชื้อช่วงโควิด
00:02:20 → 00:02:23 เนาะเป็นที่ปรึกษาของทุกคนยินดีที่ยังคิด
00:02:23 → 00:02:26 ถึงกันเสมอค่ะไม่ว่าจะเป็นอะไรแม้กระทั่ง
00:02:26 → 00:02:28 พ่อแม่หรือว่าญาติมิตรอะไรเงี้ยก็จะมา
00:02:28 → 00:02:32 พึ่งพี่แนทหมดเลยอก็เลยเอ่อขออนุญาตแบบ
00:02:32 → 00:02:37 เป็นเค้าเรียกเป็นคนถามคำถามมาจากทางบ้าน
00:02:37 → 00:02:39 นี้ก็แล้วกันเนาะต้องบอกว่าช่วงนี้ที่ฮอต
00:02:39 → 00:02:41 ฮิตมากมี 2 เรื่องหลักอันแรกเลยเนี่ยคือ
00:02:41 → 00:02:45 เรื่องโควิดที่มันเพิ่มจำนวนเคสมากขึ้น
00:02:45 → 00:02:47 ผู้ป่วยมากขึ้นในทุกๆโรงพยาบาลเนาะล่าสุด
00:02:47 → 00:02:49 เนี่ยผมก็ไปร้านกาแฟร้านหนึ่งนะเขาก็
00:02:49 → 00:02:51 เอฟเฟคด้วยเมื่อก่อนน่ะสามารถไปสั่งเมนู
00:02:51 → 00:02:54 customiz ได้อย่างเช่นเอาน้ำมะพร้าวไป
00:02:54 → 00:02:57 ให้เขา้าใส่เพียวมัฉะแล้วก็จะใช่มะพร้าว
00:02:57 → 00:03:00 มัฉะอะไรอย่างงี้กลับไปทานแต่ว่าไม่ได้
00:03:00 → 00:03:05 แล้วเไม่สามารถ mi แบ com ให้ได้อีกต่อไป
00:03:05 → 00:03:07 เพราะว่านโยบายโควิด
00:03:07 → 00:03:11 [เพลง]
00:03:11 → 00:03:14 แบบเพิ่งมาวันนี้เลยวันนี้เป็นวันแรกที่
00:03:14 → 00:03:17 ไม่สามารถทานน้ำมะพร้าวมาฉะนั้นอคือจริงๆ
00:03:17 → 00:03:20 แล้วอ่ะถ้าถ้าของปีเนี้ยพี่ว่ามันเพิ่งจะ
00:03:20 → 00:03:24 มาช่วงตั้งแต่หลังสงกรานต์ที่มาแบบพีค
00:03:24 → 00:03:29 ใหม่นะคะก็คนไข้ก็คือจะค่อยๆปริมาณเพิ่ม
00:03:29 → 00:03:32 มากขึ้นแต่ว่าโดยมากเนี่ยก็จะคล้ายๆกัน
00:03:32 → 00:03:36 ทุกซีซั่นคือแปลว่าอาจจะค่อยๆเพิ่มแล้วก็
00:03:36 → 00:03:39 หลังจากนั้นพอพีคปุ๊บก็จะค่อยๆลงใช้ระยะ
00:03:39 → 00:03:43 เวลาประมาณสัก 2-3 เดือนก็จะค่อยๆดีขึ้น
00:03:43 → 00:03:46 สถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้นเราก็คำนวณอยู่ว่า
00:03:46 → 00:03:50 นี่มัน 2-3 เดือนหรือยังใกล้ละใกล้ละใกล้
00:03:50 → 00:03:54 แต่ตอนนี้คือที่โรงพยาบาลตอนนี้ก็พี่ว่า
00:03:54 → 00:03:56 จริงๆคือมันไต่มาสักระยะแล้วค่ะอืตอนนี้
00:03:56 → 00:04:00 ก็ยังยังนิ่งๆอยู่ยังอ่าอ่าแต่เดี๋ยวสัก
00:04:00 → 00:04:03 พักนึงคือถ้ามันเป็นถ้ามันเป็นแบบว่าเอ่อ
00:04:03 → 00:04:07 เหมือนกับระรอกเล็กเนี่ยมันก็จะไม่นานแต่
00:04:07 → 00:04:10 ถ้าเกิดว่ามันระรอกแบบใหญ่หน่อยมันก็จะ
00:04:10 → 00:04:12 หลายเดือนที่ผ่านมาอย่างปีก่อนๆเนี่ยคือ
00:04:12 → 00:04:15 มันเป็นลูกของลูกของลูกของลูกของโอเมครอน
00:04:15 → 00:04:18 คือมันก็จะใช้ระยะเวลาไม่ได้นานมากแล้วก็
00:04:18 → 00:04:21 แต่ละครั้งเนี่ยมันก็อาการไม่ได้เยอะไม่
00:04:21 → 00:04:25 ได้รุนแรงเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมาอ๋อก็
00:04:25 → 00:04:27 แปลว่าจริงจริงๆแล้วเนี่ยถามว่าโควิดณวัน
00:04:27 → 00:04:32 นี้เลยเนี่ยปี 2025 น่ากลัวขนาดนั้นมยไม่
00:04:32 → 00:04:34 น่ากลัวขนาดนั้นคือถ้าเกิดเราพูดถึง
00:04:35 → 00:04:38 ไทม์ไลน์ตั้งแต่อูฮั่นใช่ไหมคะตัวแรกถัด
00:04:38 → 00:04:41 มาก็เป็นแอลฟ่าแล้วก็เดต้าตัวที่แรงที่
00:04:41 → 00:04:44 สุดคือdelต้าที่มีอัตราการเสียชีวิตเนี่ย
00:04:44 → 00:04:48 คือเยอะมากๆจนแบบหวอดแน่นย้ายลง ICU กัน
00:04:48 → 00:04:50 ไม่ได้แล้วก็เสียชีวิตกันเยอะมากๆแล้ว
00:04:50 → 00:04:53 หลังจากนั้นเนี่ยพอพอเปลี่ยนสายพันธุ์
00:04:53 → 00:04:56 เริ่มมาเป็นโอเคครอนเนี่ยก็คือความรุนแรง
00:04:56 → 00:05:00 มันลดลงชัดเจนแล้วยิ่งแบบว่ามันมีการอ่า
00:05:00 → 00:05:03 เปลี่ยนสายพันธุ์ไปเรื่อยๆก็คือเป็นลูก
00:05:03 → 00:05:07 เป็นหลานเป็นเหลนของตัวโอเมรอนเนี่ยคือณ
00:05:07 → 00:05:10 ขณะนี้คือความรุนแรงมันแทบจะแบบไม่ได้น่า
00:05:10 → 00:05:14 กลัวอย่างที่เราเคยกังวลกันนะคะคือบางคน
00:05:14 → 00:05:18 เนี่ยแทบไม่รู้เลยว่าป่วยเป็นโควิดถ้าไม่
00:05:18 → 00:05:22 ได้ตรวจคือนั่นคือแปลว่าอาจจะมีตั้งแต่
00:05:22 → 00:05:24 แบบไม่แสดงอาการเลยหรือว่าอาจจะเป็นแค่
00:05:24 → 00:05:28 แค่เหมือนเป็นไข้หวัดอืนะคะแต่บางคนก็อาจ
00:05:28 → 00:05:31 จะอ่ะโอเคมีไข้สูงหรือว่ามีอาการของทาง
00:05:31 → 00:05:35 เดินหายใจเพิ่มขึ้นมานะคะอ๋อก็แปลว่า
00:05:35 → 00:05:37 อย่างงี้คนในออฟฟิศเราเนี่ยถ้าสมมุติว่า
00:05:37 → 00:05:40 เป็นโควิดขึ้นมาเราก็ไม่ต้องตื่นตระหนก
00:05:40 → 00:05:42 ขนาดนั้นหรือเปล่าจริงๆไม่ได้ต้องน่าไม่
00:05:42 → 00:05:44 ต้องกังวลเหมือนสมัยก่อนแล้วอ่ะอ่าแล้ว
00:05:45 → 00:05:47 อย่างงี้คือถ้าป่วยเป็นโควิดตรวจเป็น
00:05:47 → 00:05:49 โควิดอะไรเงี้ยคือควรให้เขาหยุดพักกี่วัน
00:05:49 → 00:05:52 นี่ค่ะอ่าก็อันนี้ก็เป็นคำถามที่มีคนถาม
00:05:52 → 00:05:56 เรื่อยๆก็คือว่าจริงๆถ้าถ้าเอาง่ายๆว่าดู
00:05:56 → 00:05:59 ตามอายุแล้วก็โรคประจำตัวก่อนสมมุติว่า
00:05:59 → 00:06:04 ถ้าอย่างคนในออฟฟิศของน้องอุ๋มเนี่ยก็ดู
00:06:04 → 00:06:07 แล้วเนี่ยเด็กๆหน้าสายบวกลบโรคประจำตัว
00:06:07 → 00:06:09 ไม่มีเพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่มเนี้ยอันที่ 1
00:06:09 → 00:06:13 คือเขาอาการไม่ได้มากอาจจะหายเองก็ได้โดย
00:06:13 → 00:06:16 ที่อาจจะไม่ต้องทานยาต้านไวรัสอนะคะคือ
00:06:16 → 00:06:18 รักษาเหมือนแบบเหมือนติดหวัดเหมือนเป็น
00:06:18 → 00:06:21 ไข้หวัดธรรมดาแล้วก็ระยะเวลาที่เป็นเนี่ย
00:06:21 → 00:06:23 ส่วนใหญ่มันก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 1
00:06:23 → 00:06:26 สัปดาห์แต่บางคนเนี่ยจะหายเร็วกว่านั้น
00:06:26 → 00:06:28 คือแต่ก่อนเนี่ยในอดีตเราก็จะบอกว่าโอ
00:06:28 → 00:06:31 ต้องกักตัวตั้งแต่ 2 อาทิตย์อ่ะลดลงมา
00:06:31 → 00:06:34 เรื่อยๆ 10 วันอ่ะล่าสุดก็อาจจะแบบประมาณ
00:06:34 → 00:06:36 5 วันนะถ้าเกิดว่าทำงานตามออฟฟิศทั่วไป
00:06:36 → 00:06:39 เพราะว่าเรารู้ว่าจริงๆแล้วเนี่ยระยะเวลา
00:06:40 → 00:06:42 ของการที่สามารถที่จะแพร่กระจายเชื้อได้
00:06:42 → 00:06:46 เนี่ยมันจะอยู่หลักๆในช่วงที่ 5 วันแรก
00:06:46 → 00:06:49 ที่ปริมาณไวรัสเนี่ยมันยังอ่ายังมีการ
00:06:49 → 00:06:52 เพิ่มปริมาณแล้วก็ค่อยๆลดลงแต่ว่าถ้า 5
00:06:52 → 00:06:56 วันหลังก็คืออ่าการที่จะแพร่กระจายเชื้อ
00:06:56 → 00:06:59 มันก็จะต่ำลงค่อนข้างเยอะอ่า 5 วันแรกก็
00:06:59 → 00:07:01 แปลว่านับจากวันที่เริ่มมีอาการที่เริ่ม
00:07:01 → 00:07:05 มีอาการใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยบางที่เขาก็
00:07:05 → 00:07:08 ยังกำหนดเกณฑ์นี้อยู่ว่าโอเคถ้าคุณทำงาน
00:07:08 → 00:07:11 พนักงานออฟฟิศขอสัก 5 วันแล้วค่อยกลับไป
00:07:11 → 00:07:14 ทำงานแต่ว่าก็อาจจะยังแบบเหมือนกับรักษา
00:07:14 → 00:07:17 ระยะห่างอยู่หรือว่าอาจจะยังใส่แมสยังไม่
00:07:17 → 00:07:21 เปิดแมสเวลาแบบทานข้าวร่วมกับเพื่อนๆหรือ
00:07:21 → 00:07:25 ว่าเวลาประชุมคุมค่ะอ๋อก็แปลว่าคือจริงๆ
00:07:25 → 00:07:27 แล้วไอ้เจ้าตัวเนี่ยใส่แมสคนเดียวก็ได้คน
00:07:27 → 00:07:30 อื่นไม่ต้องใส่ก็ได้ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้แต่
00:07:30 → 00:07:31 ถ้าเกิดว่าเรารู้ว่าเพื่อนร่วมงานเราเป็น
00:07:32 → 00:07:35 เนี่ยก็อาจจะบอกเ้านิดนึงว่าเออเราเป็น
00:07:35 → 00:07:39 อยู่แล้วก็ถ้าอยากเฝ้าระวังก็ใส่แนิดนึง
00:07:39 → 00:07:43 ก็ได้ไม่ไม่ข้ามใช่แต่ว่าเน้นว่าแยก
00:07:43 → 00:07:46 ไอซolateนิดนึงค่ะน่าจะดีกว่าแต่ทีนี้
00:07:46 → 00:07:48 เนี่ยมันก็ต้องดูว่าอ่ะสมมุติว่าลักษณะ
00:07:48 → 00:07:53 งานแบบถ้าไม่ได้อยู่ในออฟฟิศคืออ่าอยู่ใน
00:07:53 → 00:07:56 ทำงานแบบ outdoor อย่างเช่นไปออกไซต์งาน
00:07:56 → 00:07:58 แบบที่มันค่อนข้างเป็น Open Space ใช่
00:07:58 → 00:08:02 มั้ยคะจริงๆอันนั้นน่ะบางครั้งคืออาจจะ
00:08:02 → 00:08:05 ไม่ต้องแบบหยุดงานเลยก็ได้สามารถไปทำได้
00:08:05 → 00:08:08 ถ้าไม่ได้ expose หรือว่าไปเจอกับผู้คน
00:08:09 → 00:08:14 เยอะๆก็ทำได้ค่ะอืแล้วเอ่อในกรณีที่เป็น
00:08:14 → 00:08:17 ผู้ใหญ่หน่อยล่ะอย่างเช่นแบบคุณพ่อคุณแม่
00:08:17 → 00:08:19 เราหรือแม้กระทั่งหรือไงอ่ะอายุ 40 ปี
00:08:19 → 00:08:25 ขึ้นไปนี่แก่ยังโออุ๊ยยัง 40 ไม่แก่
00:08:25 → 00:08:27 เพิ่งเริ่มต้นใช่มั้ยคะอ่าเพิ่งเริ่มต้น
00:08:27 → 00:08:30 ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นชีวิตใช่
00:08:30 → 00:08:33 ถ้าเป็นผู้สูงอายุจริงๆก็พูดง่ายๆคือ
00:08:33 → 00:08:37 กลุ่ม 608 ก็คืออายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
00:08:37 → 00:08:39 ใช่มั้คะแล้วก็คือกลุ่มนี้อาจจะต้องเฝ้า
00:08:39 → 00:08:43 ระวังเยอะเหมือนในอดีตที่เราทราบกันว่า
00:08:43 → 00:08:46 อ่ะถ้ามีโรคประจำตัวโรคหัวใจไตตับปอดหรือ
00:08:46 → 00:08:50 ว่าเป็นกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันต่ำได้รับยากด
00:08:50 → 00:08:52 ภูมิกลุ่มกลุ่มเนี้ยก็ต้องยังต้องเฝ้า
00:08:52 → 00:08:57 ระวังอยู่ดีเพราะว่าเอ่อถามว่ายังมีโอกาส
00:08:57 → 00:09:00 ที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างเช่นติดเชื้อ
00:09:00 → 00:09:02 แล้วมันลงไปที่ปอดได้มั้เกิดภาวะปอด
00:09:02 → 00:09:06 อักเสบก็ยังมีได้บ้างอืแต่ไม่ค่อยรุนแรง
00:09:06 → 00:09:08 คือถ้าดูในช่วงเนี้ยค่ะที่หลังจากที่ดูคน
00:09:08 → 00:09:12 ไข้มาสักช่วงเดือน 2 เดือนเนี่ยถามว่าเจอ
00:09:12 → 00:09:15 ปอดอักเสบมั้เจอแต่มักจะเป็นคนไข้ที่อยู่
00:09:15 → 00:09:18 ในกลุ่มเสี่ยงก็คืออายุเยอะๆหน่อยมีโรค
00:09:18 → 00:09:21 ประจำตัวเยอะๆนะคะหรือบางคนที่น้ำหนักตัว
00:09:21 → 00:09:25 เยอะมากๆแบบโหเป็น 100 กก.อะไรอย่างเงี้ย
00:09:25 → 00:09:28 อายุถึงอายุไม่เยอะก็ยังมีโอกาสที่จะลง
00:09:28 → 00:09:30 ปอดได้บ้างเพียงแต่ว่าอาการไม่ได้หนัก
00:09:30 → 00:09:33 เหมือนแต่ก่อนอืเพราะว่าอาจจะเป็นเนื่อง
00:09:33 → 00:09:36 จากว่าคนเริ่มชินกันแล้วแล้วก็รู้สึกว่า
00:09:36 → 00:09:40 อ่ามันพอมันเป็นโควิดปุ๊บเขาก็รีบมาเข้า
00:09:40 → 00:09:43 เข้ารับการรักษาแล้วก็ในแง่ของการให้ยา
00:09:43 → 00:09:47 เองเนี่ยคือณปัจจุบันเราไม่ได้แบบยาหายาก
00:09:47 → 00:09:52 เหมือนสมัยก่อนโดยเฉพาะพวกยาแบบฉีดฉีด
00:09:52 → 00:09:54 เข้าเส้นน่ะค่ะคือถ้าเกิดว่าอ๋อกลุ่มที่
00:09:54 → 00:09:58 เป็นผู้สูงอายุเนี่ยบางทีเราก็อาจจะแนะนำ
00:09:58 → 00:10:02 ว่าให้ฉีดยามันก็จะช่วยลดอาการอ่าลดความ
00:10:02 → 00:10:06 รุนแรงแล้วก็อ่าลดการที่จะต้องเข้าไปนอน
00:10:06 → 00:10:09 ใน ICU ได้มากกว่าอ๋อก็แปลว่าตอนนี้รักษา
00:10:10 → 00:10:12 เร็วขึ้นใช่อ่าได้รักษาเร็วขึ้นเพราะว่า
00:10:12 → 00:10:14 ยานมีเพียงพอยานมีเพียงพออ่าประสบการณ์
00:10:14 → 00:10:17 ของคุณหมอนี่ก็เยอะมากใช่เราก็จะแบบโอเค
00:10:17 → 00:10:20 เป็นแล้วปุ๊บไม่ต้องรออะไรเยอะละออเพราะ
00:10:20 → 00:10:21 ฉะนั้นเนี่ยตอนนี้ใครเป็นโควิดก็ไม่ต้อง
00:10:22 → 00:10:25 กังวลขนาดนั้นยกเว้นแค่แค่คนมีอายุหน่อย
00:10:25 → 00:10:28 กับมีโรคประจำตัวใช่แล้วไข้หวัดใหญ่เหรอ
00:10:28 → 00:10:30 ช่วงนี้ก็เห็นเป็นเยอะแล้วอยู่ดีๆก็มา
00:10:30 → 00:10:34 เป็นช่วงนี้อ่าแต่จริงๆอ่ะถ้าดูถ้าดูตาม
00:10:34 → 00:10:38 แบบอ่าในช่วงที่ผ่านมาค่ะไข้หวัดดใหญ่จะ
00:10:38 → 00:10:41 มาก่อนโควิดนิดนึงช่วงต้นปีเนี่ยเยอะมาก
00:10:41 → 00:10:43 ทั้ง A ทั้ง B ใช่ใช่มันจะมาช่วงฤดูหนาว
00:10:43 → 00:10:47 ใช่คือคือมันเป็นธรรมชาติของไวรัสอยู่
00:10:47 → 00:10:51 แล้วว่ามันมีการเค้าเรียกว่ามีการอ่าเติบ
00:10:51 → 00:10:54 โตหรือว่ามีการแบ่งตัวแล้วก็อยู่ใน
00:10:55 → 00:10:58 อุณหภูมิที่มันค่อนข้างเย็นอืไวรัสชอบ
00:10:58 → 00:11:00 อากาศเย็นพูดง่ายๆค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:11:00 → 00:11:03 เวลาที่จะมีการระบาดเนี่ยก็จะพบว่าเอ่อ
00:11:03 → 00:11:07 ถ้าช่วงไหนที่ฤดูกาลไหนที่มันเย็นลงหน่อย
00:11:07 → 00:11:10 มีความชื้นก็จะมีการเพิ่มของปริมาณไวรัส
00:11:10 → 00:11:13 ได้ง่ายคือประเทศไทยนี่บางทีมันไม่ต้อง
00:11:13 → 00:11:15 ถามหาว่าอันไหนคือหน้าหนาวแต่ว่านั่นน่ะ
00:11:15 → 00:11:20 สิใช่คือคือมันก็จะมีพีคช่วงที่อ่าอาจจะ
00:11:20 → 00:11:23 ปลายปีที่อากาศปีที่ผ่านมามันเย็น
00:11:23 → 00:11:27 นิดนึงกับอีกช่วงจริงๆหลังจากเค่ะคืออ่า
00:11:27 → 00:11:31 ถ้ามันฝนตกน้ำบ่อยๆแล้วอากาศมันจะเย็นลง
00:11:31 → 00:11:33 นิดนึงมันมีความชื้นพวกไวรัสจริงทั้ง
00:11:33 → 00:11:37 โควิดทั้งพวกไข้บัดใหญ่มันก็อาจจะเพิ่ม
00:11:37 → 00:11:41 ปริมาณใช่แล้วงี้ไข้หวัดใหญ่ตอนนี้กับตอน
00:11:41 → 00:11:43 ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาสายพันธุ์เดียวกัน
00:11:43 → 00:11:46 มั้คะก็จะเป็นสายพันธุ์ก็คือใกล้เคียงกัน
00:11:46 → 00:11:49 อยู่แล้วค่ะคือพวกเนี้ยเวลาที่มันมีการ
00:11:49 → 00:11:52 ระบาดของไข้หวัดดใหญ่ในแต่ละปีมันจะมีการ
00:11:52 → 00:11:57 สายพันอ่ามันมีการpredยโดยทาง W เขาก็จะ
00:11:57 → 00:12:00 ทำการสำรวจว่าอ่าปีนี้จะมีสายพันธุ์ไหน
00:12:00 → 00:12:04 ที่คาดว่ามีการระบาดบ้างแล้วเขาก็จะดึง
00:12:04 → 00:12:07 เข้ามาอยู่ในวัคซีนแต่ว่าทำอะไรแบบนี้นะ
00:12:07 → 00:12:12 แอบมีความคิดแว๊บนึงอ่ะว่าแบบหรือมันเป็น
00:12:12 → 00:12:15 คนไปเชื้อวะ
00:12:15 → 00:12:19 น่าจะไม่อ่ะมันแบบมันมีการเปลี่ยนสาย
00:12:19 → 00:12:21 พันธุ์นิดๆหน่อยๆอยู่แล้วทุกปีอือืในใน
00:12:22 → 00:12:24 ตัวของไอ้ตัวไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ถ้ามัน
00:12:24 → 00:12:28 เปลี่ยนเยอะๆอันนั้นก็คือจะเกิดระบาดใหญ่
00:12:28 → 00:12:33 เหมือนตอนสมัย 2009 อ๋ออ่าระบาดใหญ่คือ
00:12:33 → 00:12:37 ทั่วโลก H1 N1 อะไรใช่มั้ใช่ใช่ค่ะแต่
00:12:37 → 00:12:39 ตอนนี้ยังนะคะตอนนี้ก็ยังเปลี่ยนเล็กๆ
00:12:39 → 00:12:40 น้อยๆเพราะฉะนั้นมันก็จะเปลี่ยนทุกปีทุก
00:12:40 → 00:12:45 ปีนิดๆหน่อยๆอาการมันก็จะทรงแบบอ่ะบางคน
00:12:45 → 00:12:49 ก็ไข้สูงบางคนก็อาจจะไม่ได้ไข้สูงมากแต่
00:12:49 → 00:12:51 ว่าไม่ได้ระบาดหนักแค่นั้นเองแล้วอย่าง
00:12:51 → 00:12:54 งี้เรื่องวัคซีนนะคะแนะนำยังไงบ้างวัคซีน
00:12:55 → 00:12:58 ไข้หวัดใหญ่เงี้ยควรจะฉีดมั้ยวัคซีนไข้
00:12:58 → 00:13:02 หวัดใหญ่จริงๆก็เอ่อแนะนำถ้าสมมุติว่า
00:13:02 → 00:13:05 เป็นกลุ่มเสี่ยงอายุเยอะหรือว่าอายุน้อย
00:13:05 → 00:13:09 อย่างเช่นว่าอ่ะเด็กมากๆแบบน้อยกว่า 2 ปี
00:13:09 → 00:13:13 หรือว่าอ่าถ้าอายุเยอะก็คือเกิน 60 ปี
00:13:13 → 00:13:16 ขึ้นไปหรือว่าเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว
00:13:16 → 00:13:19 ทั้งหลายที่เราคาดว่าเา้าอาจจะมีโอกาสที่
00:13:19 → 00:13:22 มันจะอ่าติดเชื้อแล้วมันลงปอดแล้วก็เกิด
00:13:22 → 00:13:25 ความรุนแรงได้แล้วก็รวมถึงหญิงตั้งครรภ์
00:13:25 → 00:13:30 ด้วยนะคะแล้วก็เอ่อคนไข้ที่ได้รับยากด
00:13:30 → 00:13:31 ภูมิอันเนี้ยกลุ่มเนี้ยคือเป็นกลุ่มที่
00:13:31 → 00:13:35 เราแนะนำว่าควรจะต้องฉีดเพื่อลดความ
00:13:35 → 00:13:38 รุนแรงแล้วก็ภาวะแทรกซ้อนอ่าแต่ถ้าสมมุติ
00:13:38 → 00:13:42 ว่าอย่างเป็นพวกเราทั่วๆไปไม่ได้มีโรค
00:13:42 → 00:13:46 ประจำตัวอ่าอย่างเช่นน้องๆในออฟฟิศที่ทำ
00:13:46 → 00:13:49 งานอยู่ถ้าเค้าแข็งแรงดีคือถามว่าจะฉีด
00:13:49 → 00:13:52 อ่าจำเป็นต้องฉีด 100% มั้ยก็ก็คือจะฉีด
00:13:52 → 00:13:56 ก็ได้หรือว่าอาจจะไม่ฉีดก็ได้ออ่าแต่ถ้า
00:13:56 → 00:13:58 อย่างเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่เราต้อง
00:13:58 → 00:14:02 คอยเจอคนไข้ตลอดเวลาก็อาจจะแนะนำฉีดน่าจะ
00:14:02 → 00:14:06 ดีกว่าออนี้ถามตรงๆพี่แนฉีดมั้ยตัวเองฉีด
00:14:06 → 00:14:08 ฉีด
00:14:08 → 00:14:11 ไม่ใช่แอนตี้
00:14:11 → 00:14:14 แอนตี้วคือคนที่เขา้าแบบต่อต้านการฉีด
00:14:14 → 00:14:17 วัคซีนอะไรอย่างเงี้ยก็จะมีบ้างที่เขาจะ
00:14:17 → 00:14:21 รู้สึกว่าโอ๊ยฉีดวัคซีนมันทำให้เกิดสิ่ง
00:14:21 → 00:14:25 นั้นสิ่งนี้ตามมาเยอะแยะอืเขาก็จะมีความ
00:14:25 → 00:14:27 กลัววัคซีนซึ่งมันไม่ได้เจอเฉพาะคนไทย
00:14:27 → 00:14:31 จริงๆมันอาจจะตั้งต้นมาจากทางฝั่งต่าง
00:14:31 → 00:14:33 ประเทศอ่าเมืองนอกอเมริกาอะไรอย่างเงี้ย
00:14:33 → 00:14:37 ค่ะเขาก็จะมีความเชื่อที่ค่อนข้างจะ fix
00:14:37 → 00:14:42 ไอเดียนิดนึงด้วยแต่เราก็ไม่ได้ว่าจะต้อง
00:14:42 → 00:14:44 ไปบังคับเ้าฉีดคือมันเป็นเรื่องของความ
00:14:44 → 00:14:49 สบายใจด้วยคือถามว่าการฉีดวัคซีนมันมีข้อ
00:14:49 → 00:14:53 ดีมันมีอยู่แล้วว่าป้องกันการติดเชื้อมัน
00:14:53 → 00:14:54 ป้องกันติดเชื้อเลยเหรอป้องกันการติด
00:14:54 → 00:14:58 เชื้อคือวัคซีนทุกชนิดเนี่ยเราผลิตขึ้นมา
00:14:58 → 00:15:02 ก็คือเพื่อป้องกันการปติดเชื้อแล้วก็การ
00:15:02 → 00:15:05 เกิดอ่าพวกภาวะแทรกซ้อนต่างๆหลังจากที่
00:15:05 → 00:15:07 มันเกิดติดเชื้อแล้วคือมันไม่ได้ป้องกัน
00:15:07 → 00:15:10 ได้ 100% คือถ้าเกิดวัคซีนไหนเนี่ยมันมี
00:15:10 → 00:15:13 ประสิทธิภาพถึงประมาณ 70% นี่ก็ถือว่า
00:15:13 → 00:15:16 เก่งมากๆแล้วค่ะอ่าใช่แต่บางบางวัคซีนคือ
00:15:16 → 00:15:20 ตามข้อมูลการศึกษามันอาจจะเกิน 70 ก็แล้ว
00:15:20 → 00:15:24 แต่ชนิดของวัคซีนออใช่ส่วนโตผมนี้ไม่ฉีด
00:15:24 → 00:15:27 นะไข้หวัดใหญ่เพราะฉีดแล้วป่วยอ่าถ้าไม่
00:15:27 → 00:15:31 ฉีดยังลุ้นว่าป่วยหรือไม่ป่วยออก็จริงก็
00:15:31 → 00:15:33 จริงเพราะว่าแบบบางทีมันฉีดแล้วมันไข้
00:15:34 → 00:15:36 ขึ้นใช่เป็นไข้คือฉีดแล้วเป็นไข้แน่นอน
00:15:36 → 00:15:38 100% อย่างเงี้ยก็เลยแล้วมันจะรู้สึกว่า
00:15:38 → 00:15:41 แบบมันรู้สึกมันทำงานอย่างอื่นไม่ค่อยไหว
00:15:41 → 00:15:44 ขยาดขยาดไปเลยคือเป็นไข้ 100% ปวดแขนไป
00:15:44 → 00:15:48 อีก 3-4 วันก็เลยอืเป็นทุกรอบเลยมั้คะคือ
00:15:48 → 00:15:51 เป็นทุกรอบที่ฉีดวัคซีนแต่ถามว่าไอ้ไข้
00:15:51 → 00:15:53 วัดใหญ่เนี่ยคือฉีดอยู่สัก 2-3 รอบแล้วก็
00:15:53 → 00:15:56 เลิกฉีดอ๋อเป็นแล้วก็พอเลิกฉีดมา 10 ปี
00:15:56 → 00:15:58 เนี่ยป่วยเป็นไข้บาตรใหญ่แค่ 2 รอบออก็
00:15:59 → 00:16:01 เลยรู้สึกว่าอืก็ยังคุ้มอยู่นะใช่แต่แต่
00:16:01 → 00:16:04 จริงๆคือถ้าอย่างอย่างน้องอุ๋มอ่ะไม่ได้
00:16:04 → 00:16:06 มีโรคประจำตัวก็อาจจะไม่ต้องฉีดก็ได้คือ
00:16:07 → 00:16:09 ใช้วิธีป้องกันเอาก็ได้หรือว่าอ่ะอย่าง
00:16:09 → 00:16:12 มากก็ติดก็ติดแล้วก็รักษามันก็ไม่ได้มี
00:16:12 → 00:16:16 อะไรที่มันน่ากลัวออใช่ดีมากเลยอ่ะคือแบบ
00:16:16 → 00:16:20 พอกินยาแค่ 1 ครั้งอ่ะหรือ 1 วันก็หาย
00:16:20 → 00:16:24 แล้วนะอ่าหายเร็วค่ะคือแค่วัดใหญ่อ่ะหาย
00:16:24 → 00:16:28 เร็วมากมันมันค่อนข้างจะตอบสนองค่อนข้าง
00:16:28 → 00:16:31 ไวกับยายาต้านไวรัสคือต้องบอกว่ามันคนละ
00:16:31 → 00:16:34 ชนิดกับไอ้ตัวยาต้านไวรัสโควิดเนาะอืให้
00:16:34 → 00:16:36 หวัดดใหญ่มันมีมานานแล้วคือเข้าใจว่าทุก
00:16:36 → 00:16:41 คนก็คงจะคุ้นกับคำว่าอ่ะยาทำก็คือรักษา
00:16:41 → 00:16:44 ให้หวัดใหญ่โดยเฉลี่ยเนี่ยคือมันตอบสนอง
00:16:44 → 00:16:49 แบบเอ่อสซัก 48 ชม.ไข้ก็เริ่มลดแล้วค่ะ
00:16:49 → 00:16:52 อ๋อใช่ๆมันไวมันเลิศมากมันเลิศมันเลิศ
00:16:52 → 00:16:54 อยู่
00:16:54 → 00:16:57 แล้วอย่างงี้โควิดแบบยังจำเป็นต้องหา
00:16:57 → 00:17:00 วัคซีนมาฉีดอีกมั้ยคะอ่าคือณช่วงหลัง
00:17:00 → 00:17:02 เนี่ยพอมันเป็นหลายๆรอบใช่มั้ยคะช่วงแรก
00:17:03 → 00:17:06 เราอาจจะฉีดเยอะจริงๆแต่พอมันเป็นแล้วมัน
00:17:06 → 00:17:08 มีการกลายพันมาหลายๆครั้งเนี่ยความรุนแรง
00:17:08 → 00:17:11 มันลดลงคือบริษัทหลายๆบริษัทที่เขาเคย
00:17:12 → 00:17:14 ผลิตอ่ะบางทีมันเริ่มไม่คุ้มละเพราะว่าคน
00:17:14 → 00:17:16 เนี่ยอาจจะรู้สึกว่าเออมันก็ไม่ได้เป็น
00:17:16 → 00:17:20 อะไรเยอะแล้วมันก็คนเนี่ยอยากจะฉีดวัคซีน
00:17:20 → 00:17:22 น้อยลงเพราะว่ามันเริ่มเบื่อแล้วเจอไป 6
00:17:22 → 00:17:26 เข็ม 7 เข็มอ่ะก็ไม่รู้จะฉีดอะไรนักหนา
00:17:26 → 00:17:28 คือเขาก็จะมีความรู้สึกแบบนี้คือคนไข้อ่ะ
00:17:28 → 00:17:30 เขารู้สึกแบบนี้จริงๆเพราะฉะนั้นเนี่ยคือ
00:17:30 → 00:17:34 ณปัจจุบันเนี่ยเอ่อตอนเนี้ยที่ของไทยที่
00:17:34 → 00:17:36 นำเข้ามามันก็มีแค่ของบริษัทนึงอ่ะเราพูด
00:17:37 → 00:17:40 ไม่ได้เนาะก็คือเข้ามาเมื่อช่วงต้นปีอ่า
00:17:40 → 00:17:44 แต่ทีนี้เนี่ยนึกว่าเป็น mRNA อ่าใช่แล้ว
00:17:44 → 00:17:46 ก็คือเวลาเผลิตเนี่ยมันเป็นmonโวาก็คือ
00:17:46 → 00:17:50 ว่ามันก็ป้องกันได้บางสายพันธุ์ใช่ไหมคะ
00:17:50 → 00:17:55 อ๋อตัวที่มีณขณะนี้มันก็จะเป็น JN1 ซึ่ง
00:17:55 → 00:17:58 JN1 เนี่ยหมายถึงว่าสายพันธุ์ก็คือเป็น
00:17:58 → 00:18:00 ลูกของลูกของโอเมครอนเนี่ยมันก็มีการ
00:18:00 → 00:18:03 ลำบากตั้งแต่ปีที่แล้วคือณขณะนี้มันก็
00:18:03 → 00:18:06 เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนเอ่อก่อนหน้านี้เป็น
00:18:06 → 00:18:10 ชื่อภาษาอังกฤษเนาะ X E C จนล่าสุดเป็น
00:18:11 → 00:18:15 NB จ1.8.1 1 อะไรอย่างเงี้ยที่ที่ณขณะ
00:18:15 → 00:18:18 นี้นะคะที่เป็นกันอยู่ก็คือเป็นลูกหลาน
00:18:18 → 00:18:21 เป็นกลายพันธุ์ของโอเมครอนนั่นล่ะค่ะอื
00:18:21 → 00:18:25 ใช่ก็คือตอนนี้คือบริษัทผลิตวัคซีนตามไม่
00:18:25 → 00:18:28 ทันและมันต้องเปลี่ยนเรื่อยๆอืแล้วก็เก็
00:18:28 → 00:18:30 จะไม่คุ้มละเ้าอาจจะเริ่มไม่ค่อยคุ้มแต่
00:18:30 → 00:18:32 ถามว่าอาจ
00:18:32 → 00:18:36 อ่าถ้าจะแนะนำให้ฉีดจริงๆคือคนมันฉีดน้อย
00:18:36 → 00:18:41 ลงมากๆนะคะเอ่อต้องบอกว่าวัคซีนที่เข้ามา
00:18:41 → 00:18:43 เนี่ยมันไม่ได้ตอนเนี่ยมันเหมือนจะไม่ฟรี
00:18:43 → 00:18:48 ละเท่าที่พี่ลองถามเอ่ออาจจะต้องมีต้อง
00:18:48 → 00:18:51 ต้องจ่ายค่าวัคซีนเ่ะพูดง่ายๆคือบางโรง
00:18:51 → 00:18:54 พยาบาลเอกชนเนี่ยก็รู้สึกว่าอาจจะไม่ได้
00:18:54 → 00:18:57 คุ้มในการที่จะดึงวัคซีนเข้ามาเพราะว่า
00:18:57 → 00:19:01 คือคนเขาก็จะรู้สึกว่ามันมันเคยชินกับตัว
00:19:01 → 00:19:03 โรคไปแล้วอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความสำคัญ
00:19:03 → 00:19:06 ว่าต้องมานั่งฉีดแต่ถ้าถามว่าในกลุ่ม
00:19:06 → 00:19:09 สมมุติตอนเถ้าอย่างแนะนำให้ยังฉีดอยู่
00:19:09 → 00:19:12 มั้ยก็คืออาจจะแค่บางกลุ่มอย่างเช่นใน
00:19:12 → 00:19:15 กลุ่มของคนที่เค้ามีความเสี่ยงที่จะเกิด
00:19:15 → 00:19:17 ภาวะแทรกซ้อนหรือว่าเป็นแล้วมันอาจจะ
00:19:17 → 00:19:21 รุนแรงก็คนสูงอายุโรคประจำตัวเยอะๆเป็น
00:19:21 → 00:19:24 กลุ่มพวกนั้นไปถ้าฉีดแล้วอาจจะยังคุ้ม
00:19:24 → 00:19:26 อยู่
00:19:26 → 00:19:29 ก็ยังพอป้องกันได้ลดความรุนแรงไปได้ถึง
00:19:29 → 00:19:31 แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ตรงตรงกับสายพันธุ์
00:19:31 → 00:19:35 ซะทีเดียวอืก็คือจะลดความรุนแรงใช่คือลด
00:19:35 → 00:19:38 ความรุนแรงอาจจะติดแหละแต่ว่าอ่ะโอเคไม่
00:19:38 → 00:19:42 รุนแรงมากแล้วเข้าถึงวัคซีนแล้วก็ขอถาม
00:19:42 → 00:19:45 วัคซีนอื่นๆไปด้วยเนาะโดยเฉพาะตอนเนี้ยมี
00:19:45 → 00:19:50 คนมาถามเยอะเลยในเรื่องของวัคซีนงูสวัสด
00:19:50 → 00:19:55 อ่ามันจำเป็นแค่ไหนคือคนต้องบอกว่าคนยุค
00:19:55 → 00:19:58 เราเนี่ยจะมีเป็นอิสุกอีสัยกันตอนเด็กๆซะ
00:19:58 → 00:20:01 เป็นส่วนใหญ่แต่ว่าเด็กยุคเนี้ยเด็กๆเล็ก
00:20:01 → 00:20:03 ๆอ่ะเก็จะไม่มีแล้วเนาะรุ่นนี้เไม่เป็น
00:20:03 → 00:20:05 กันแล้วเหรอช่วงหลังอ่ะมันมีวัคซีน
00:20:05 → 00:20:08 อิซุิสัยเฉีดตั้งแต่เด็กเบังคับไม่ฉีดใช่
00:20:08 → 00:20:12 มั้คะอันนี้ก็เหมือนกับไม่ได้บังคับ 100%
00:20:12 → 00:20:14 ค่ะแต่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็เลือกใช่ใช่
00:20:14 → 00:20:17 เขาก็รู้สึกว่าอ่ะฉีดไปเข็ม 2 เข็มคือลูก
00:20:17 → 00:20:20 ไม่เป็นไม่ป่วยก็ยังโอเคแผเป็นใช่ไม่มีแผ
00:20:20 → 00:20:23 เป็นด้วยไม่เป็นงูสวัดตอนแก่ด้วยใช่แต่
00:20:23 → 00:20:25 แต่ว่าก็คือจะก็จะมีกลุ่มนึงที่ไม่เป็น
00:20:26 → 00:20:28 จริงตั้งแต่ตอนเด็กๆแต่บางคนคือฉีดแล้วก็
00:20:28 → 00:20:32 ยังเป็นสามารถเป็นได้อยู่อ่ะก็แปลว่าใน
00:20:32 → 00:20:35 วัคซีนกลุ่มอีสุขอีสัยกลุ่มงูสวัสดิ์
00:20:35 → 00:20:37 เนี่ยถึงแม้ฉีดแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะเป็น
00:20:37 → 00:20:41 อีกอยู่ดีใช่ค่ะอ่าอันนี้ก็ก็ฝากก็คือ
00:20:41 → 00:20:44 อย่างเชื้อที่เป็นไวรัสอสุทธิทำให้เกิด
00:20:44 → 00:20:47 อิสุิสัยเนี่ยพอมันเป็นปุ๊บอันนี้คุณหมอ
00:20:48 → 00:20:50 ผิวหนังต้องทราบอยู่แล้วอ่ามันก็จะหลบ
00:20:50 → 00:20:54 อยู่ในปมประสาทของร่างกายแล้วก็พอวันดี
00:20:54 → 00:20:57 คืนดีอายุเราเยอะๆหรือว่ามีภาวะอะไรก็ตาม
00:20:57 → 00:21:00 ที่ทำให้ภูมิมันตกมันก็อาจจะกลับมาติด
00:21:01 → 00:21:04 เชื้อได้อีกเป็นในรูปของที่เขาเรียกว่างู
00:21:04 → 00:21:07 สวัสดิ์ใช่มั้คะใช่แล้วก็วัคซีนงูสวัสดิ์
00:21:07 → 00:21:09 เนี่ยก็ไม่ได้ป้องกันงูสวัสดิ์ 100% อีก
00:21:10 → 00:21:12 อ่ะไม่ได้ป้องกัน 100% แต่ถามว่าป้องกัน
00:21:12 → 00:21:15 ได้เยอะมั้เอาเอาตัวปัจจุบันคือคือจริงๆ
00:21:15 → 00:21:17 ก่อนหน้าเนี้ยที่ที่มันเข้าประเทศไทย
00:21:17 → 00:21:22 เนี่ยมันมีตัวแรกๆก็คือตัวนั้นน่ะมันเป็น
00:21:22 → 00:21:25 วัคซีนเชื้อเป็นคือประสิทธิภาพเนี่ยมันก็
00:21:25 → 00:21:28 จะอยู่ในช่วงประมาณ 60-70% ในการที่จะ
00:21:28 → 00:21:34 ป้องกันอ่าแล้วก็อ่อข้อจำกัดก็คือว่าถ้า
00:21:34 → 00:21:39 เป็นวัคซีนเชื้อเป็นเนี่ยคนกลุ่มที่เขามี
00:21:39 → 00:21:41 ภูมิคุ้มกันต่ำเนี่ยมันไม่สามารถที่จะฉีด
00:21:41 → 00:21:45 ได้ใช่มั้คะทีนี้ณปัจจุบันก็คือสักปี 2
00:21:45 → 00:21:48 ปีหลังเนี่ยมันก็มีวัคซีนตัวที่ล่าสุดที่
00:21:48 → 00:21:51 เข้ามาข้อมูลมันก็ค่อนข้างจะดีก็คือมัน
00:21:51 → 00:21:54 ไม่ใช่วัคซีนตัวเป็นนะคะแล้วก็
00:21:54 → 00:21:57 ประสิทธิภาพเนี่ยมันสามารถที่จะป้องกัน
00:21:57 → 00:22:01 ได้แบบ 80-90% เลยอาจเริ่มคุ้มอ่าเริ่ม
00:22:01 → 00:22:06 คุ้มแล้วก็คือเขาศึกษาค่อนข้างยาวในคนสูง
00:22:06 → 00:22:09 อายุเนี่ยสมมุติว่าฉีดครบคอร์สสัก 2 เข็ม
00:22:09 → 00:22:14 เนี่ยนะคะก็ภูมิเนี่ยอยู่ได้ยาวตามข้อมูล
00:22:14 → 00:22:18 แรกเนี่ย 9.5 ปี 9.5 ปี 9.5 5 ปีอ่ะ
00:22:18 → 00:22:23 สมมุติว่าตั้งต้นฉีดที่อายุ 70 80 อ่ะ
00:22:23 → 00:22:26 ประมาณ 80 แบบภูมิก็ยังพอไหวนะถึงแม้ว่า
00:22:26 → 00:22:28 มันจะดรอปลงบ้างเพราะว่าด้วยตามอายุแล้ว
00:22:28 → 00:22:31 เนี่ยผู้สูงอายุเองเนี่ยคือภูมิคุ้มกัน
00:22:31 → 00:22:34 เขาจะค่อยๆลดอยู่แล้วใช่มั้คะอ๋อใช่ค่ะ
00:22:34 → 00:22:39 มันจะมีเ้าเรียกว่าเป็นซีนเป็นแบบภูมิของ
00:22:39 → 00:22:43 เราคือแก่แล้วก็ลืมเอใช่ๆตัวเลขเนี่ยมัน
00:22:43 → 00:22:46 จะอยู่ในช่วงประมาณ 20-30 ปีแปลว่าถ้าเรา
00:22:46 → 00:22:49 เป็นอีสุกอีสัยปั๊บอีกสักประมาณ 30 ปี
00:22:49 → 00:22:51 หลังจากที่เราเป็นอิสุสัยอ่ะภูมิเราจะ
00:22:51 → 00:22:55 เริ่มลืมละมีเริ่มมีโอกาสที่จะเป็นงู
00:22:55 → 00:22:58 สวัสดิ์ได้อ่าดังนั้นเนี่ยถ้าสมมุติว่า
00:22:58 → 00:23:02 เป็นตอน 10 ขวบก็สัก 40 เนี่ยอาจจะฉีดงู
00:23:02 → 00:23:06 สวัสดเพื่อช่วยลดโอกาสที่จะมาเป็นงูสวัด
00:23:06 → 00:23:08 ตอนที่ภูมิรถตกเยอะใช่แต่ต้องบอกว่าคือ
00:23:08 → 00:23:12 ถ้าโดยข้อมูลตาม study เนี่ยก็คือเราก็
00:23:12 → 00:23:17 แนะนำในคนไข้ที่อายุเกิน 50 อ่าอ่าอ่ะ 50
00:23:17 → 00:23:19 เนี่ยคือไม่ต้องมีโรคประจำตัวก็สามารถที่
00:23:19 → 00:23:23 จะฉีดได้แต่ถ้าเกิดว่าต่ำกว่า 50 แล้วมี
00:23:23 → 00:23:26 โรคประจำตัวที่คิดว่าเสี่ยงกับการที่จะ
00:23:26 → 00:23:30 เกิดงูสวัดสามารถฉีดได้อ่ะค่ะอ๋อนะและอีก
00:23:30 → 00:23:32 อันนึงก็คือว่าตอนเนี้ยคือเขาก็ทำการ
00:23:33 → 00:23:36 ศึกษาต่อว่าอ่ะจากถ้าหลังจาก 9.5 5 ปี
00:23:36 → 00:23:40 ล่ะมันจะยังอยู่มยอืก็ตอนนี้ถึง 11 ปี
00:23:40 → 00:23:45 ภูมิยังได้อยู่ประมาณ 80% เนี่ยยังพอไหว
00:23:45 → 00:23:49 ก็คือกำลังตามไปเรื่อยๆจะแปว่าเจะตามใช่
00:23:49 → 00:23:52 ว่าเอ้ยจะตามดูว่าจริงๆถ้าถ้าฉีด 2 เข็ม
00:23:52 → 00:23:56 เนี่ยมันจะยาวได้แค่ไหนก็คือพอพอข้อมูล
00:23:56 → 00:23:59 ตัวล่าสุดออกมาเนี่ยคนไข้ก็แฮปปี้มากขึ้น
00:23:59 → 00:24:02 ว่าอุ้ยมันมีตัวใหม่ที่ประสิทธิภาพมันดู
00:24:02 → 00:24:06 ดีขึ้นนะแล้วก็ฉีดแล้วมันป้องกันได้ยาว
00:24:06 → 00:24:08 ด้วยเมื่อเทียบกับตัวเดิมตัวเดิมตอนนี้
00:24:08 → 00:24:11 น่าจะประมาณน่าจะอยู่ได้ประมาณสัก 6 ปี
00:24:11 → 00:24:13 ภูมิมันก็จะเริ่มตกค่ะแต่ตัวใหม่มันได้
00:24:13 → 00:24:19 ยาวกว่านั้นอ่าอ่าตัวนี้ก็น่าสนใจอยู่แต่
00:24:19 → 00:24:22 มันจะมีคนถามอีกค่ะว่าเอ้าถ้าเกิดเคยฉีด
00:24:22 → 00:24:25 เก่าตัวเก่าล่ะแล้วตัวใหม่ฉีดได้มั้ยใช่ๆ
00:24:25 → 00:24:29 คำตอบก็คือได้ฉีดฉีดทับซ้อนไปเลยคือเค้า
00:24:29 → 00:24:31 ให้เว้นระยะค่ะสมมุติว่าบังเอิญอ่ะถ้าฉีด
00:24:31 → 00:24:35 มาเป็นปีเนี่ยไม่ต้องไปสนใจเลยคือให้ตั้ง
00:24:35 → 00:24:38 ต้นใหม่หมายถึงว่าก็ฉีดเลยอยากอยากฉีดนี้
00:24:38 → 00:24:42 ฉีดเลยนะคะก็คือฉีด 2 เข็มแต่ว่าก็คือมี
00:24:42 → 00:24:44 ระยะห่างเหมือนเป็นเข็มบูสเตอร์แต่ถ้า
00:24:44 → 00:24:48 เกิดว่าเอาเพิ่งฉีดมาเมื่อเดือนที่แล้วไป
00:24:48 → 00:24:50 ด้านไปฉีดตัวเก่ามาแล้วก็อยากจะฉีดตัว
00:24:50 → 00:24:53 ใหม่แล้วเพราะว่าบังเอิญได้ฟังข้อมูลมัน
00:24:53 → 00:24:55 ดูดีจังเลยอันนี้เขาแนะนำว่าเว้นนิดนึง
00:24:55 → 00:24:58 อย่างต่ำก็ต้องเว้นห่างสัก 2 เดือนก่อน
00:24:58 → 00:25:01 อ๋อถึงจะฉีตัวใหม่ได้หลักเดือนใช่มั้ใช่
00:25:01 → 00:25:04 หลักเดือนค่ะแต่ว่าอ่ะบางคนก็ถาม
00:25:04 → 00:25:08 คุณหมอคะแล้วแบบเพิ่งเป็นงูสวัดฉีดได้
00:25:08 → 00:25:12 มั้ยอ่ะอือยากฉีดมีประโยชน์ยังไงบ้างอ่า
00:25:12 → 00:25:14 อันนี้ต้องถามคุณหมอผิวหนังว่าฉีดแล้ว
00:25:14 → 00:25:17 ป้องกันอะไรได้อีกบ้างนี่คุณหมอผิวหนังจะ
00:25:17 → 00:25:19 ถนัดโอไม่หรอถ้าเกิดถ้าเพิ่งเป็นน่ะผมก็
00:25:19 → 00:25:22 แบบไม่ต้องฉีกค่ะรอไปก่อนคือเราเพิ่งเป็น
00:25:22 → 00:25:26 เลยอ่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยภูมิเราสูงปรีสเลย
00:25:26 → 00:25:28 ใช่เขาก็บอกรอนิดนึงค่ะ 3 เดือน 6 เดือน
00:25:28 → 00:25:31 ค่อยว่ากันแต่ว่าส่วนใหญ่โดยส่วนตัวก็สัก
00:25:31 → 00:25:34 6 เดือนแล้วก็ให้มันภูมิมันตกจริงๆก็
00:25:34 → 00:25:37 ค่อยค่อยกลับมาฉีดดีกว่าอืเพราะว่ามันก็
00:25:37 → 00:25:41 นอกจากว่าจะป้องกันการติดเชื้อใช่มั้ยคะ
00:25:41 → 00:25:45 อ่าลดลดแบบอ่ะสมมุติเป็นแล้วอาจจะช่วยลด
00:25:45 → 00:25:48 ความรุนแรงนิดนึงแต่อีกอันนึงก็คือเรื่อง
00:25:48 → 00:25:52 ของอ่าเค้าเรียกว่าอะไรนะโพส herbtic
00:25:52 → 00:25:55 neurรalียก็คืออจะช่วยลดอาการปวดหลังจาก
00:25:55 → 00:25:59 ขืนหายแล้วช่วยปวดใช่ซึ่งแบบเท่าที่เจอมา
00:25:59 → 00:26:02 นี่ผู้สูงอายุเขาจะซัฟเฟอร์มากกับอาการ
00:26:02 → 00:26:05 ปวดตรงนี้เพราะว่าทุกคนถามหมดเลยค่ะถาม
00:26:05 → 00:26:08 พี่หมดเลยว่าคุณหมอเนี่ยแบบคือมันปวดนาน
00:26:08 → 00:26:11 จริงๆไม่ไหวละขอฉีดวัคซีนได้มั้ปวดกัน
00:26:11 → 00:26:14 เฉลี่ยประมาณ 6 เดือนใช่นานมากก็เคยเจอ
00:26:14 → 00:26:17 นานกว่านั้นก็มีบ้างเหมือนกันค่ะอืเข้าใจ
00:26:17 → 00:26:21 ความแบบความทุกข์ทรมานของคนไข้ที่มันปวด
00:26:21 → 00:26:24 หลังจากเป็นงูสวัดก็เลยถ้าเจอแบบกลุ่มพวก
00:26:24 → 00:26:28 เนี้ยส่วนใหญ่จะแนะนำฉีดเถอะค่ะลดคือให้
00:26:28 → 00:26:31 มันลดลงบ้างก็ยังดีป้องกันได้นิดนึงก็ยัง
00:26:31 → 00:26:33 ดีอะไรอย่างเงี้ยแต่ความจริงมันก็กินยา
00:26:33 → 00:26:36 ได้นะเจ้ก็กินได้เนาะพวกอ่าพวกลดอาการปวด
00:26:36 → 00:26:40 ปลายประสาทพวกนั้นใช่มั้คะใช่ๆๆก็ก็กินพอ
00:26:40 → 00:26:43 พอจะช่วยได้แต่บางคนก็โอต้องเหมือนกับไต่
00:26:43 → 00:26:47 โดสขึ้นไปสูงมากแล้วก็สิ่งที่จะเจอก็คือ
00:26:47 → 00:26:51 แบบอไซส์เอฟเฟคง่วงมากอันนี้เคยลองเหมือน
00:26:51 → 00:26:55 กันอ๋อง่วงมากแปลว่าเกินเหรอคะแปลว่าเกิน
00:26:55 → 00:26:59 เกินใช่มใช่ถ้าเกิดมันพอดีมันจะไม่ง่วง
00:26:59 → 00:27:00 แต่บางทีมันยังเอาไม่อยู่เลยอ่ะหมายถึง
00:27:00 → 00:27:05 ว่าขนาดกินโดสแบบขนาดขยับแล้วอะไรอย่าง
00:27:05 → 00:27:09 เงี้ยก็ยังแบบเอาไม่ค่อยอยู่ใช่จะให้ไป
00:27:09 → 00:27:12 ถึงไอ้นี่มั้ยอะไรอ่ะแต่ยังไม่ได้ถึงแบบ
00:27:12 → 00:27:17 Max Dose นะคะบางทีให้แบบอ่า 75 นี่ก็
00:27:17 → 00:27:20 ยังเอาไม่อยู่แล้วเคยเจอบ้างมั้ยว่าฉีดงู
00:27:20 → 00:27:24 สฉีดวัคซีนงูสวัดแล้วเป็นงูสวัสดขึ้นมามี
00:27:24 → 00:27:29 ค่ะเออผมเจอเรื่อยๆนะมีผมเจอเรื่อยๆจน
00:27:29 → 00:27:32 กลัวไม่กล้าฉีดเองเนี่ยไม่กล้าแนะนำให้
00:27:32 → 00:27:34 แม่ฉีดพี่พี่ว่าตัวเก่าหรือเปล่าหมายถึง
00:27:34 → 00:27:37 ว่าที่ฉีดเป็นตัวเดิมน่าจะเพราะหลายปี
00:27:37 → 00:27:39 แล้วอ่าถ้าหลายปีแล้วเป็นตัวเดิมที่
00:27:39 → 00:27:42 efficacy มันไม่เยอะมัน 60 กว่า
00:27:42 → 00:27:45 เปอร์เซ็นแค่นั้นเองอืค่อนข้างจะบูเนี่ย
00:27:45 → 00:27:49 เมื่อ 2 วันแล้วยังมาฉีดวัคซีนงูสวัสดี
00:27:49 → 00:27:52 เลยอันนี้คือใครเป็นนะคนไข้อ๋อคนไข้เหรอ
00:27:52 → 00:27:56 คะแนะนำฉีดใหม่เลยอืเก็เป็นไปแล้วงู
00:27:56 → 00:27:58 สวัสดิ์ก็เลยแบบเออรอฉีดฉีดตัวใหม่อะไร
00:27:58 → 00:28:00 อย่างเงี้ยรอไปก่อนแล้วไปฉีดตัวใหม่ให้ไป
00:28:00 → 00:28:05 ฉีดตัวใหม่แล้วใช่ใช่อยู่ได้ยาวๆ
00:28:05 → 00:28:09 เ้อแล้วงี้วัย 40 เงี้ยควรจะฉีดวัคซีน
00:28:09 → 00:28:13 อะไรมยเดี๋ยวนี้มันแบบมีอะไรใหม่ๆที่แบบ
00:28:13 → 00:28:14 ส่วนใหญ่อ่ะตัวเลขมันจะไปอยู่ที่ 50 กับ
00:28:15 → 00:28:18 60 อ้างั้นก็เป็นวัคซีนฟรีช่วงอายุนี้
00:28:18 → 00:28:21 ใช่ใช่ช่วงนี้ก็คือเป็นtrวละเป็นtrว
00:28:21 → 00:28:27 วัคซีนไงแบบว่าอ้าจะไปเที่ยวไหนใช่ค่ะออ
00:28:27 → 00:28:30 ไปเที่ยวไหนอ่ะตามพื้นที่เลยเปิดแมพเลย
00:28:30 → 00:28:34 ว่าอ่ะประเทศนี้มีความเสี่ยงจะเกิดอะไร
00:28:34 → 00:28:37 บ้างอย่างเช่นคนไข้จะไปประกอบพิธีฮารช
00:28:37 → 00:28:41 อย่างเงี้ยอืมาละเพราะว่าถ้าแถวแถวโรง
00:28:41 → 00:28:45 พยาบาลพี่เป็นอิสลามเยอะก็จะมาละอคุณหมอ
00:28:45 → 00:28:48 แบบมาช่วงต้นปีต้นปีแบบประมาณก่อนกลางปี
00:28:48 → 00:28:50 หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะที่เขาจะไปประกอบ
00:28:50 → 00:28:54 พิธีฮัที่ซาอุดิเฉีดอะไรคะก็ฉีดเมนคอกคal
00:28:54 → 00:28:58 วัคซีนไข้การหลังแอนอวัคซีนไข้การหลังแอน
00:28:58 → 00:29:01 ใช่เพราะว่าคือพวกนี้มันมันติดแบบ dolet
00:29:01 → 00:29:04 แล้วมันคือคอนทactด้วยอ่ะคือหมายถึงว่าไป
00:29:04 → 00:29:08 อยู่ในพื้นที่แอร์อัดรวมกันเยอะๆก็ติด
00:29:08 → 00:29:13 ง่ายด้วยใช่อ๋อไปแอฟริกาต้องฉีดไข้เหลือง
00:29:13 → 00:29:15 ใช่มั้ยคะแต่ว่ามันจะมีมันจะมีเบทอยู่ใช่
00:29:15 → 00:29:18 มยว่าอ่าประเทศไหนที่ต้องฉีด yellow
00:29:18 → 00:29:22 feวอรบ้างเงี้ยมีก็คือจะมีแอฟริกากับเซาท
00:29:22 → 00:29:26 อเมริกาอ่าอ๋อทวีปแถบนั้นใช่มันจะมีแบบ
00:29:26 → 00:29:31 แล้วแต่ประเทศที่จะไปด้วยกรรมต้องไปวัไป
00:29:31 → 00:29:35 ไว้อย่าลแอฟริกาเอ้ยไม่ใช่ว่าจะไปเซา
00:29:35 → 00:29:38 อเมริกาอยู่อ่าอย่างง่ายๆบราซิลนี่ต้อง
00:29:38 → 00:29:41 ฉีดนะคะแต่ว่าเดี๋ยวนี้หาง่ายค่ะวัคซีน
00:29:41 → 00:29:44 ไข้เหลืองใช่ๆไปเขตร้อนก็ได้วิชาศาสตร์
00:29:44 → 00:29:50 เขตร้อนไปสภากาชาติไทยอื
00:29:50 → 00:29:53 ฝนตกเออช่วงนี้ฝนตกอันนี้เป็นคำถามที่ผม
00:29:54 → 00:29:56 แบบสงสัยมาตั้งแต่เด็กๆแล้วทำไมเวลาที่
00:29:56 → 00:30:01 เราโดนฝนโดนไอฝนแล้วเราจะต้องไม่สบายอื
00:30:01 → 00:30:06 คือจริงๆมันไม่สบายคือหมายถึงว่าเป็นหวัด
00:30:06 → 00:30:09 ปวดเป็นหวัดมันตั้งต้นคือเกิดจากการติด
00:30:09 → 00:30:12 เชื้อไวรัสซึ่งมันได้เยอะใช่มั้ยคะไม่ว่า
00:30:12 → 00:30:15 จะเป็นพวกไโนไวรัสadดิโนไวรัสตั้งหลาย
00:30:15 → 00:30:18 ทั้งหลายทั้งแหล่พวกนี้เนี่ยมันคือต้อง
00:30:18 → 00:30:21 เราต้องมีการได้รับpartิleของไวรัสสูด
00:30:21 → 00:30:24 เข้าไปในทางเดินหายใจแล้วถึงมีการติด
00:30:24 → 00:30:27 เชื้อขึ้นมาคือจริงๆมันดูไม่น่าจะเกี่ยว
00:30:27 → 00:30:31 กับน้ำฝนจริงใช่มั้ยคะแต่ว่าก็ออาจจะอาจ
00:30:31 → 00:30:34 จะมีคำอธิบายก็คือว่าอย่างเช่นอ้าเวลาที่
00:30:34 → 00:30:38 มันฝนมันลงเนี้ยเอ่อมันอาจจะมีพวกparticิ
00:30:38 → 00:30:41 ของไวรัสเนี่ยที่มันกระจายตัวแล้วก็ลอย
00:30:41 → 00:30:44 ฟุ้งขึ้นมาก็ได้อันที่ 1 เดือนที่ 2
00:30:44 → 00:30:46 เนี่ยอากาศมันก็ดรอปลงในช่วงที่เป็นหน้า
00:30:46 → 00:30:50 ฝนเช่นเดียวกันคือไวรัสมันอาจจะอยู่ได้
00:30:50 → 00:30:54 นานขึ้นในสภาวะแวดล้อมที่มีความชื้นและ
00:30:54 → 00:31:00 อากาศที่มันเย็นๆลงหน่อยอ๋อทำ
00:31:00 → 00:31:03 อย่าเชาฝรัส
00:31:03 → 00:31:06 อยู่ในอากาศแล้วมาแปะที่พวกเสื้อผงเสื้อ
00:31:06 → 00:31:11 ผ้าแปะที่ตัวเอาแล้วเราก็เอาไปเช็ดจมูก
00:31:11 → 00:31:15 แล้วก็หายใจมันก็สูดเข้าไปอ๋อมันเป็นหลัก
00:31:15 → 00:31:20 การนี้หรอคิดว่านะคะ
00:31:20 → 00:31:24 คิดว่าคิดว่าอ๋อก็คือมันพาพาร์ทิเคิลที่
00:31:24 → 00:31:27 เราอยู่ในอากาศเนี่ยมาเกาะเราเยอะขึ้นใช่
00:31:27 → 00:31:30 เออน่าจะเป็นแบบนั้นคือปกติน้ำฝนมันก็คือ
00:31:30 → 00:31:33 มันก็คือน้ำอ่ะ H2O มันไม่ได้มีไวรัสเนาะ
00:31:33 → 00:31:36 ใช่ๆอันนี้คือสงสัยมากโดยเฉพาะมีคุณฝรั่ง
00:31:36 → 00:31:40 มาบอกว่าไอไม่เข้าใจเลยทำไมคนไทยจะต้อง
00:31:40 → 00:31:43 กลัวฝนรู้มั้ยประเทศไอเนี่ยพอฝนตกปุ๊บจะ
00:31:43 → 00:31:47 ไล่เด็กๆออกไปตากฝนเ้าฝนตกไม่บ่อยมยฝนตก
00:31:47 → 00:31:49 ไม่หนักพี่พี่เดาว่าอย่างงี้มันมันเป็น
00:31:49 → 00:31:52 ลักษณะแบบอย่างตอนอยู่ที่อังกฤษอ่ะมัน
00:31:52 → 00:31:56 เป็นแบบดริสโซ่อ่ะคือเม็ดมันเล็กอ๋อไม่ตก
00:31:56 → 00:31:58 ท่วมแบบใช่แล้วมันก็หายมันก็หยุดแล้วก็
00:31:58 → 00:32:01 แปะๆๆลงมาใหม่แล้วก็หยุดแต่ว่าเมืองไทย
00:32:01 → 00:32:07 อ่ะมันจริงจังมันคือฝนแบบเม็ดใหญ่ค่ะคุณ
00:32:07 → 00:32:10 เข้าใจนิดนึงใช่คือคืออันเนี้ยก็เออก็แอบ
00:32:11 → 00:32:12 เห็นด้วยกับฝรั่งเพราะว่าตอนอยู่ที่นู่น
00:32:13 → 00:32:16 ไม่เคยกางร่มไม่เคยเลยแค่ใส่หมวกหรือไม่
00:32:16 → 00:32:19 ก็แค่แบบเหมือนกับเสื้อที่มันมีฮู้ดเรา
00:32:19 → 00:32:24 ไม่เคยเป็นหวัดเลยตลอดระยะเวลาแบบเกือบปี
00:32:24 → 00:32:26 ที่อยู่อะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่เมืองใช่ไม่
00:32:26 → 00:32:29 ได้เลยนะแป๊บเดียว
00:32:29 → 00:32:32 แล้วบางทีแยกไม่ออกระหว่างเป็นหวัดกับ
00:32:32 → 00:32:35 เป็นภูมิแพ้ที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 5
00:32:35 → 00:32:39 แยกไม่ออกโอ้โหตีกันอีลุงตรงนั้นใช่แล้ว
00:32:39 → 00:32:42 แบบเงี้ยคือแบบว่าตากฝนหัวเปียกต้องสระผม
00:32:42 → 00:32:46 ด้วยไม่สระผมก็ป่วยก็จริงก็คิดว่าน่าสนะ
00:32:46 → 00:32:50 คะพาร์ทิเคิลก็ติดอยู่ตามตัวตามเสือผ่าใน
00:32:50 → 00:32:54 ผมเงี้ยเนาะเนาะใช่แล้วก็หมอนแล้วก็อยู่
00:32:54 → 00:32:57 กันกับหน้าเราจบข่าวเข้าใจเพราะฉะนั้นอ่ะ
00:32:57 → 00:33:02 เสื้อชื้นก็ต้องควรจะเปลี่ยนอ๋อเปียกฝนฝน
00:33:02 → 00:33:07 ก็ต้องสะผมนั่นเองเป็นเรื่องราวแบบนี้
00:33:07 → 00:33:11 เข้าใจละน่าจะเป็นคำอธิบายประมาณนึงน่าจะ
00:33:11 → 00:33:13 เป็นคำเข้าใจว่า
00:33:13 → 00:33:18 เดินเออย่ามน้ำจริงๆเดินลุยน้ำมีได้หลาย
00:33:18 → 00:33:21 โรคเดินลุยน้ำหลายโรคหลายโรคใช่มั้ยคะใช่
00:33:21 → 00:33:24 ๆเอาของอ่ะง่ายๆก่อนฮ่องกง
00:33:24 → 00:33:27 ทางผิวหนังก่อนอันนี้แบบผิวหนังอืทางผิว
00:33:27 → 00:33:29 หนังนี่เป็นโรคอะไรได้บ้างอันนี้เป็นฝ่าย
00:33:29 → 00:33:34 ถามละถามคุณหมอผิวหนังเบอกถ้าเดินลุยน้ำ
00:33:34 → 00:33:37 มันก็ต้องบอกว่าปกติแล้วส่วนใหญ่ 80% น่ะ
00:33:37 → 00:33:39 ไม่ได้เป็นเชื้อราแต่เป็นแค่การระคาย
00:33:39 → 00:33:42 เคืองเฉยๆแต่ว่าการระคายเคืองนั้นเนี่ย
00:33:42 → 00:33:44 ถ้าสมมุติว่าเรื้อรังเราไปเกาเยอะหรือว่า
00:33:44 → 00:33:47 อะไรเงี้ยค่ะมันก็อาจจะติดเชื้อตามมาอื
00:33:47 → 00:33:50 แต่ถ้าลุยน้ำเยอะๆจริงๆแล้วก็มีความอับ
00:33:50 → 00:33:52 ชื้นมากๆเนี่ยก็อาจจะเป็นห้องกงครูก็คือ
00:33:52 → 00:33:57 ติดเชื้อราอ่าอ่าก็เป็นเชื้อราานะคนส่วน
00:33:57 → 00:33:59 ใหญ่ก็เลยเป็นแค่น้ำกัดเท้าอ่าฮะไม่ได้
00:33:59 → 00:34:02 เป็นเชื้อราแต่ถ้าเกิดว่าในของหมอโรคติด
00:34:02 → 00:34:05 เชื้อเนี่ยสมมุติว่าอ่ะเราลุยน้ำเนี่ยคน
00:34:05 → 00:34:08 จะคิดออกโรคแรกเลยฉี่หนูฉี่หนูมาก่อนเลย
00:34:09 → 00:34:11 ใช่มั้ยคะเพราะว่าก็คือแบบคือฉี่หนูมัน
00:34:11 → 00:34:15 มันคือเป็นโรคที่ติดเชื้อคือแบคทีเรีย
00:34:15 → 00:34:19 ชนิดหนึ่งนี่แหละนะคะซึ่งก็เค้าก็จะมัน
00:34:19 → 00:34:22 พูดง่ายๆว่ามันอาจจะอยู่ในน้ำในน้ำที่มี
00:34:22 → 00:34:26 ความสกปรกอืคือปกติมันก็ไม่ได้เข้ามาสู่
00:34:26 → 00:34:28 ร่างกายเงี้ยง่ายนักแต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ก็
00:34:28 → 00:34:32 ตามอ่ะอย่างเช่นว่าอาจจะมีรอยรอยถลอกรอย
00:34:32 → 00:34:35 แครกของตัวผิวหนังเนี่ยมันก็อาจจะเข้ามา
00:34:35 → 00:34:37 แล้วทำให้เกิดโรคฉี่หนูคือนอกจากโรคฉี่
00:34:38 → 00:34:42 หนูเนี่ยถ้าสมมุติว่าน้ำหรือว่ามีการอ่า
00:34:42 → 00:34:45 เป็นปนเปื้อนดินที่สกปรกอีกอันนึงที่อาจ
00:34:45 → 00:34:49 จะเจอได้บ้างก็คือพวกกลุ่มพวกเมลิอ์โดos
00:34:49 → 00:34:53 พวกนี้ก็เป็นได้อ๋อคือมันมัน expose กับ
00:34:53 → 00:34:56 เรื่องของพวกอ่าดินอะไรพวกเนี้ยค่ะเชื้อ
00:34:56 → 00:34:59 มันอยู่ในดินใน environment ทำเลทำเลจริง
00:34:59 → 00:35:03 ๆแล้วกรุงเทพอ่ะเป็นได้มั้ฉี่หนูเมีอ่าใน
00:35:03 → 00:35:07 อดีตเราก็จะคิดว่าโอเมริออยโดิเนี่ยอีสาน
00:35:07 → 00:35:10 ต้องอีสานละคีย์เวิร์ดคืออีสานใช่แต่จริง
00:35:10 → 00:35:13 ๆแล้วอ่ะมันก็มีหลายภูมิภาคคือทั่วๆ
00:35:14 → 00:35:17 ประเทศอ่ะมีได้หมดอค่ะถ้าอยู่ก็คือส่วน
00:35:17 → 00:35:19 ใหญ่อ่ะมันจะโซนอยู่แบบเหมือนกับชานเมือง
00:35:19 → 00:35:22 นิดนึงเหมือนเหมือนไข้ฉี่หนูอ่ะค่ะไข้ฉี่
00:35:22 → 00:35:25 หนูมันก็ส่วนใหญ่มันก็จะออกแบบออกไปทาง
00:35:25 → 00:35:28 นอกเมืองมากกว่าแต่พวกนี้มันก็อาจจะมีว่า
00:35:28 → 00:35:32 อ่ะบางตำแหน่งที่มีเค้าเรียกว่าเอ่อเอ่อ
00:35:32 → 00:35:35 อัตราการติดเชื้อความชุกของโรคอาจจะสูง
00:35:35 → 00:35:39 กว่าในเอเรียอื่นๆก็คือแล้วแต่อ๋อน้ำท่วม
00:35:39 → 00:35:41 ทองหล่อนี่ไม่เป็นฉีดน้ำท่วมทองหล่อก็ไม่
00:35:41 → 00:35:44 ค่อยเจอนะคะเอเอาจริงๆในในกรุงเทพฯนี่ไม่
00:35:44 → 00:35:46 ค่อยจะเจอเท่าไหร่
00:35:46 → 00:35:48 ไม่ค่อยจะเจอเท่าไหร่แต่ว่ามันก็อ้าแต่
00:35:48 → 00:35:52 มันก็มีหนูอยู่เนาะก็ต้องระวังนิดนึงใช่
00:35:52 → 00:35:55 เอาจริงๆว่าตั้งแต่อยู่ในกรุงเทพฯเนี่ย
00:35:55 → 00:35:58 ที่ทำงานมาเนี่ยเราคือเราเจอไม่เยอะไม่
00:35:58 → 00:36:01 เหมือนตอนสมัยอ้าหูย้อนไปซักไม่บอกจำนวน
00:36:01 → 00:36:05 ปีแล้วกันค่ะตอนสมัยใช้ทุนอยู่เชียงรายออ
00:36:05 → 00:36:08 เจอคือเจอบ่อยมากมาแล้วคีย์เวิร์ดชาวนา
00:36:08 → 00:36:12 อ๋อน้ำแช่เนี่ยเท้าเนี่ยแช่ในน้ำเวลาเขา
00:36:12 → 00:36:15 ต้องดำนาใช่มั้ยคะมาเรื่อยเลยเป็นไข้ฉี่
00:36:15 → 00:36:18 หนูอ่ะเจอเจอตลอดแล้วถ้าเป็นแบบบ้านมี
00:36:18 → 00:36:21 สนามหญ้าล่ะต้องกลัวมั้ยบ้านมีสนามหญ้า
00:36:21 → 00:36:23 แล้วก็น้ำท่วมสนามหญ้าขึ้นมาแล้วก็ต้องไป
00:36:23 → 00:36:27 เดินลุยอ่าก็อาจจะคือแล้วแต่ถ้ามันก็ต้อง
00:36:27 → 00:36:30 มีพาหารด้วยใช่มั้คะซึ่งพวกนี้มันก็ต้อง
00:36:30 → 00:36:34 ระวังวังบ้างแต่ก็คิดว่าถ้าเป็นareียคือ
00:36:34 → 00:36:36 มันต้องดูareเรียอย่างในกรุงเทพฯเองเนี่ย
00:36:36 → 00:36:40 คืออาจจะไม่ได้เจอเยอะขนาดนั้นก็ไม่ต้อง
00:36:40 → 00:36:43 กังวลมากอเพราะฉะนั้นผู้ว่าก็ไม่ค่อย
00:36:43 → 00:36:47 เดือดร้อนเท่าไหร่
00:36:47 → 00:36:50 อ้าแต่อีกอันนึงที่อาจกำลังคิดขึ้นมาอีก
00:36:50 → 00:36:54 อย่างนึงคือโรคถ้าโรคทางผิวหนังที่เวลาไป
00:36:54 → 00:36:57 expose พวกน้ำที่มันสกปรกออีกอันนึงที่
00:36:57 → 00:37:01 เจอได้ก็อย่างเช่นพวกเ่อกลุ่มมณโรคเียง
00:37:01 → 00:37:06 อ๋อก็อาจจะเป็นไปได้นะคะบางบางสายพันธุ์
00:37:06 → 00:37:09 บางสายพันธุ์ที่อ่ะอยู่ในน้ำฮีโมฟิอย่าง
00:37:09 → 00:37:12 เงี้ยไมโครทีเรียมฮีโมอฟิก็จะอยู่ในน้ำ
00:37:12 → 00:37:16 ได้เออไม่เออไม่ค่อยเจไม่เจออ่ะไม่ค่อย
00:37:16 → 00:37:18 เจอเท่าไหร่หรือไปเจอแต่ว่าส่วนใหญ่อ่ะ
00:37:18 → 00:37:22 ส่วนใหญ่คือเขาจะแบบลักษณะว่าเหมือนกับ
00:37:22 → 00:37:26 อ่า Expose แบบอ่ะอย่างเช่นทำชอบไปลงไป
00:37:26 → 00:37:29 ปลูกต้นไม้ทำสงทำสวนอะไรพวกเทือกๆนั้นมาก
00:37:29 → 00:37:31 กว่าที่ประวัติอ๋อ
00:37:31 → 00:37:35 มีอีกประวัตินึงด้วยนะเอาไปทำสปาอ่าสปา
00:37:35 → 00:37:40 ปลาอ่าใช่ๆอ่าอันเนี้ยติดเชื้อเยอะใช่ก็
00:37:40 → 00:37:46 จะเป็นอ่าชื่ออีกชื่อนึงวคทีเรียม
00:37:46 → 00:37:50 มีหลายหลายชื่อเนาะใช่คือแบบว่าจริงๆแล้ว
00:37:50 → 00:37:52 พอเป็นหมอผิวหนังเนี่ยจะกลัวเยอะมากเลยนะ
00:37:52 → 00:37:54 เหมือนแบบรู้เยอะอันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็
00:37:54 → 00:37:56 ไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยอืจริงๆแล้วหมอผิว
00:37:56 → 00:38:00 หนังนี้ห้ามทำเล็บด้วยนะจริงหรอคะใช่เค้า
00:38:00 → 00:38:03 ไม่เห็นด้วยกับการทำเล็บแต่นี่ก็ทำอเออ
00:38:03 → 00:38:06 ทำไมอ่ะถามกลับได้มั้ย
00:38:06 → 00:38:08 แต่ว่าพอไปทำก็จะเป็นคนเยอะอยากอ่ะอยาก
00:38:08 → 00:38:11 อยากรู้เพิ่มทำไมนะคะคือเขาบอกว่าเวลาทำ
00:38:11 → 00:38:14 เล็บเนี่ยช่างทำเล็บอ่ะค่ะเชอบตัดหนังตัด
00:38:14 → 00:38:16 เข้าไปลึกใช่มั้ยคำว่าตัดหนังเนี่ยแปลว่า
00:38:16 → 00:38:20 เขาตัดจมูกเล็บทิ้งอ่ามันเราก็จะไม่มีตัว
00:38:20 → 00:38:24 ปกป้องเล็บอ่าเล็บก็มีโอกาสที่จะเป็นโรค
00:38:24 → 00:38:27 ได้ง่ายขึ้นหรือแม้กระทั่งเดันหนังตรง
00:38:27 → 00:38:32 proximal อืออือๆก็ทำให้เล็บขึ้นมาขุกขะ
00:38:32 → 00:38:35 อืหรือแม้กระทั่งทำเล็บแล้วก็ต้องไปฉาย UV
00:38:35 → 00:38:37 ใช่มั้ยคะมือก็เหี่ยวเราก็จะเป็นคนเยอะ
00:38:37 → 00:38:41 เราก็จะสั่งช่างทำเล็บแบบนานาประการแทบจะ
00:38:41 → 00:38:43 เอาอุปกรณ์ทำเล็บของเราไปเองด้วยซ้ำห้าม
00:38:43 → 00:38:45 ยูง UV อะไรอย่างงี้ใช่มตัดได้นิดเดียว
00:38:45 → 00:38:49 อ๋อเอาครีมกระแดไปด้วยเป็นแบบสติกทาให้
00:38:49 → 00:38:52 ก่อนทาให้ก่อนที่จะไปอบ UV ใช่ทาให้ก่อน
00:38:52 → 00:38:56 แล้วก็เหลือแค่เล็บอะไรอย่างเงี้ยออแล้ว
00:38:56 → 00:38:58 ก็ห้ามตัดห้ามดันอะไรเงี้ยเพราะว่าปกติ
00:38:58 → 00:39:01 พี่ไม่ค่อยได้ทำแล้วก็เคยไปทำอยู่รอบนึง
00:39:01 → 00:39:05 ก็เอ้ยโอเตัดเตัดไปเยอะจริงๆใช่แล้วก็แบบ
00:39:05 → 00:39:09 ฝนเล็บจนแบบโอเล็บบางเหมือนจะหักใช่ๆๆอัน
00:39:09 → 00:39:12 นี้ก็แบบไม่ได้บัฟได้อย่างเดียวห้ามอะไร
00:39:13 → 00:39:15 อย่างเงี้ยถ้าอยากให้ฉันมาเป็นลูกค้าอีก
00:39:15 → 00:39:17 อย่างงี้เลยนะคือแบบก็กลัวเหมือนกันกลัว
00:39:17 → 00:39:21 เค้าไล่ออกจากร้าน
00:39:21 → 00:39:24 แต่ว่าก็เออก็ก็บางร้านเค้าก็น่ารักอะไร
00:39:24 → 00:39:26 อย่างเงี้ยก็มีลูกค้าประจำไปแต่บางร้านก็
00:39:26 → 00:39:31 สยองเลยโหเรียบบางแบบอฝนเยอะมากฉีกตลอด
00:39:31 → 00:39:35 เวลาองค์อดทนตั้งนานแหนกว่าโคนเล็บจากโคน
00:39:35 → 00:39:38 ขึ้นมาถึงปลายใช้เวลา 6 เดือนค่ะจริงนาน
00:39:38 → 00:39:42 ต้องพัก 6 เดือนอ่ะถึงกลับไปทำใหม่ได้อื
00:39:42 → 00:39:45 มีคำถามจากทางบ้านค่ะว่าโรคน้ำกัดเท้า
00:39:45 → 00:39:48 ทำไมถึงชื่อฮ่องกงฟุขอตอบเองแล้วกันเนาะ
00:39:48 → 00:39:51 ในฐานะหมอผิวหนังจริงๆแล้วคำว่าฮ่องกงฟุ
00:39:51 → 00:39:54 เนี่ยมันมันเป็นเหมือนเป็นการเหยียดนิด
00:39:54 → 00:39:57 นึงด้วยนะเพราะว่าคนตั้งชื่อเนี้ยคือเป็น
00:39:57 → 00:40:01 พวกฝรั่งที่ย้ายไปอยู่ที่ฮ่องกงอแล้วด้วย
00:40:01 → 00:40:04 ชาติพันธุ์ฝรั่งใช่มั้ยเ้ามาจากดินแดนที่
00:40:04 → 00:40:08 ฝนตกปลอยๆเป็นแบบสเปรย์แต่พอย้ายมาที่
00:40:08 → 00:40:13 ฮ่องกงครั้งแรกอ่ะใต้ฝุ่นเยอะอืฝนตกเยอะ
00:40:13 → 00:40:17 ชื้นก็เลยเป็นโรคที่เท้ากันคราวนี้เนี่ย
00:40:17 → 00:40:21 เขาก็เลยเนมิ่งว่าเป็นฮ่องกงฟุอ๋อแต่ว่า
00:40:21 → 00:40:25 มันก็เป็นชื่อที่มันติดหูเนาะเข้าใจง่าย
00:40:25 → 00:40:27 ก็แต่มันอุคิดว่ามันเกิดจากสปอร์ตโฆษณา
00:40:27 → 00:40:31 ตอนเราเด็กๆจริงอย่าอย่าถ่าเท้าอันอย่า
00:40:31 → 00:40:36 ถ่าเท้าจึงจำได้ถึงทุกวันนี้เรื่องของ
00:40:36 → 00:40:38 เข้าห้องน้ำมีคำถามเยอะมากว่าเวลาผู้หญิง
00:40:38 → 00:40:40 เราเข้าห้องน้ำอ่ะเราสามารถติดเชื้ออะไร
00:40:40 → 00:40:45 มาได้มย HPV หรือเริมอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:40:45 → 00:40:47 จริงๆก็เป็นคาบเกี่ยวระหว่างโรคติดเชื้อ
00:40:47 → 00:40:49 แล้วของทางคุณหมอผิวหนังเหมือนกันคือ
00:40:49 → 00:40:54 กำลังคิดว่าเวลาเข้าห้องน้ำเนี่ยเอ่อ
00:40:54 → 00:40:57 อย่างเช่นว่าถ้าเราถามว่ามันติดเชื้อพวก
00:40:57 → 00:41:00 กลุ่มพวก HPV ได้มั้หรือพวกพวกกลุ่มเริม
00:41:00 → 00:41:03 เนี่ยมันอาจจะต้องไปตั้งต้นก่อนว่ามันติด
00:41:03 → 00:41:06 ต่อทางไหนต่อยังไงใช่โดยส่วนใหญ่มันก็น่า
00:41:06 → 00:41:10 จะต้องเป็นทางคอนแทคสัมผัสสัมผัสอ่าทีนี้
00:41:10 → 00:41:15 เนี่ยถ้าเข้าห้องน้ำแล้วสมมุติว่าคนที่
00:41:15 → 00:41:18 เขาเข้าก่อนหน้าเราเค้ามีเชื้อนั้นอยู่
00:41:18 → 00:41:21 อ่ะอย่างเช่นง่ายๆเลยไปนั่งบนโถัชักโครก
00:41:21 → 00:41:25 แล้วเ้าไปนั่งปึ๊บเขาไม่ได้ทำความสะอาด
00:41:25 → 00:41:30 แล้วเก็ออกไปอืแล้วถ้าคนถัดไปนั่งต่อมัน
00:41:30 → 00:41:33 ก็มีโอกาสที่จะสัมผัสแล้วก็ได้รับเชื้อ
00:41:33 → 00:41:38 ได้ง่ายอ่าใช่อันเนี้ยมันก็เลยเป็นคำถาม
00:41:38 → 00:41:41 อีกนะเพื่อนหนุ่มอ่ะชอบถามผมเยอะมากเลย
00:41:41 → 00:41:45 ว่าแกเข้าห้องน้ำท่าไหนฉันก็เปิดประตู
00:41:45 → 00:41:49 เข้าไปไงมันมีมันมีหลายท่าใช่มั้ยคะมันมี
00:41:49 → 00:41:53 หลายท่าใช่คือถ้าเราถ้าเราเป็นคนที่แข็ง
00:41:53 → 00:41:55 แกร่งเราเป็นนักกีฬาเนี่ยเนี่ยเราก็อาจจะ
00:41:55 → 00:42:02 สquอได้โดยที่โดยที่ไม่มีการสัมผัสถูก
00:42:02 → 00:42:04 แต่ว่าคือหลายๆที่เนี่ยเค้าก็พยายามจะ
00:42:04 → 00:42:07 เตรียมพวกอะไรนะคะพวกแผ่นรองใช่แผ่นรอง
00:42:07 → 00:42:11 ให้หรือว่าเป็นพวกน้ำยาเช็ดทำความสะอาด
00:42:11 → 00:42:14 อ่าใช่ๆแต่เราก็ยังมีความรู้สึกว่าอื้อ
00:42:14 → 00:42:17 ไม่ๆฉันจะไม่ขอคอนแทคเลยขอไม่คอนแทaคดี
00:42:17 → 00:42:20 กว่าเราก็จะต้องฝึกสquอก่อนใช่ฝึกสquอให้
00:42:20 → 00:42:24 แข็งแรงแต่วันนี้ก็เพิ่งมานึกได้ว่าอีสาย
00:42:24 → 00:42:25 ฉีดอ่ะ
00:42:25 → 00:42:31 นั่นก็คืออีกหนึ่งคอนแทคอ่าก็จริงๆลืมอ่า
00:42:31 → 00:42:34 [เสียงหัวเราะ]
00:42:34 → 00:42:37 อันนี้ลืมไปเลยจริงๆจริงลืมไปเลยไม่รู้
00:42:38 → 00:42:40 หรือเป็นคนไทยไม่รู้สึกติดจะต้องใช้สาย
00:42:40 → 00:42:44 ชำระถ้าที่ไหนมีนี่คือแบบเมืองนอกไม่มี
00:42:44 → 00:42:47 อ่ะไม่ถ้าถ้าไม่ใช่ถ้าไม่ใช่โซนเอเชียทาง
00:42:47 → 00:42:51 ยุโรปไม่มีเลยไม่มีเลยอันนั้นก็ดีก็สพอต
00:42:51 → 00:42:54 บวกกระดาษทิชชู่นี่คือรอดแน่นอนรอดอ่ะ
00:42:54 → 00:42:56 คราวนี้เนี่ยอ่ะแล้วก็อ่ะสายชำระต่อไปนี้
00:42:56 → 00:42:59 จะเลิกใช้จะใช้กระดาษทิชชู่มีคำถามเพิ่ม
00:42:59 → 00:43:02 อีกห้องน้ำที่ญี่ปุ่นกดตุ่มแล้วมันก็มี
00:43:02 → 00:43:05 อ่าอันนี้ก็ดูแอบดูน่ากลัวเอออันนี้น่า
00:43:05 → 00:43:07 กลัวใช่มั้ยน่าแอบดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะ
00:43:08 → 00:43:12 คือเราไม่รู้ว่ามทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน
00:43:12 → 00:43:15 ด้วยอ่ะก็ไปดูในรายละเอียดด้วยนะคือแบบ
00:43:15 → 00:43:21 ว่าไปดูกลไกของเครื่องนั้นน่ะก็คือจริงๆ
00:43:21 → 00:43:23 แล้วอ่ะทุกครั้งก่อนที่มันจะโผล่มาแล้วก็
00:43:23 → 00:43:27 ตอนที่มันเก็บอ่ะมันจะมีการล้างด้วยอ่า
00:43:27 → 00:43:30 มันเพียงพอมั้ยก็แอบพูดยากเหมือนกันเนาะ
00:43:30 → 00:43:35 บอกยากบอกยากบอกยากบอกยากเลยอ่ะใช่ก็คือ
00:43:35 → 00:43:38 หลังๆก็ไม่กล้าใช้หลังจากที่แบบคิดไปคิด
00:43:38 → 00:43:41 มาคิดหน้าคิดแต่แต่โดยปกติอ่ะถ้าเราดู
00:43:41 → 00:43:44 กลไกมันน่ะมันไม่ได้มีการมาสัมผัสใช่โดย
00:43:44 → 00:43:49 ตรงมันแค่พ่นน้ำแล้วมันกลับใช่ๆแต่ว่าแบบ
00:43:50 → 00:43:52 อันนี้ก็คือคิดจินตนาการไปเลยนะคือแบบว่า
00:43:52 → 00:43:54 อีตอนพ่นต้นน้ำอ่ะภาวะของผู้หญิงแต่ละคน
00:43:54 → 00:43:58 ก็ไม่เหมือนกันบางคนมีประจำเดือนหรืออะไร
00:43:58 → 00:44:01 อย่างเงี้ยอยู่มันแบบใช่แต่มันอาจจะมีการ
00:44:01 → 00:44:04 คือมันพ่นเป็นแบบสปริกleแล้วมันมีการ
00:44:04 → 00:44:06 กระเด็นแล้วมันไม่รู้มันมีการกระเด็นแล้ว
00:44:06 → 00:44:08 กลับมาโดนบริเวณตรงหัวหรือเปล่าอ๋อหมาย
00:44:08 → 00:44:10 ถึงว่าชิ่งอันนี้คิดเยอะไปมั้ยมีการชิ่ง
00:44:10 → 00:44:12 ใช่
00:44:12 → 00:44:15 นี่ละเอียดมากคือ analiz กันแบบละเอียด
00:44:15 → 00:44:17 เออก็เลยรู้สึกว่าอืสวและกระดาษทิชชู่นี่
00:44:17 → 00:44:20 คือจบหรือว่ามันก็พกน่าจะเซฟละพกที่ทำ
00:44:20 → 00:44:24 ความสะอาดส่วนตัวไปใช่ใช่ใช่เราไม่ควรใช้
00:44:24 → 00:44:26 ทิชชู่เปียกนะในการทำความสะอาดโอ๊ยอันนี้
00:44:26 → 00:44:28 ต้องถามหมอผิวหนังโออันนี้เพิ่งได้รับ
00:44:28 → 00:44:32 ความรู้จากพcสคราวที่แล้วที่หมอปุ๋ยมา
00:44:32 → 00:44:35 เป็นผู้เชี่ยวชาญเป็นไกนิโคologิเขาก็บอก
00:44:35 → 00:44:37 เลยว่าจุดซ่อนเร้นของเราเนี่ยไม่ควรใช้
00:44:37 → 00:44:41 ทิชชู่เปียกไม่ว่าจะเป็นสำหรับเด็กๆก็ตาม
00:44:41 → 00:44:45 อใช้ทิชชู่แห้งไปออแล้วแล้วถ้าเอาทิชชู่
00:44:45 → 00:44:49 อ่ะไปชุบน้ำหรอคะได้ๆ
00:44:49 → 00:44:51 กังว
00:44:51 → 00:44:54 สกันบหรืออะไรในนั้นหรือสารอื่นๆที่อาจจะ
00:44:54 → 00:44:58 ขายเคืองได้อืเอาความรู้ใหม่ค่ะแลก
00:44:58 → 00:45:01 เปลี่ยนเพราะว่าตอนหลานเล็กๆนี่ก็เอ้า
00:45:01 → 00:45:03 เห็นแม่มันเช็ดใหญ่เลยโอที่ชุบเปียกใช่
00:45:04 → 00:45:06 มั้ยความจริงไม่เราควรจะเอาแบบสำลีชุบน้ำ
00:45:06 → 00:45:09 เช็ดเด็กๆอันนี้คือแบบดีที่สุดละสมัยพ่อ
00:45:09 → 00:45:11 แม่เราอื
00:45:11 → 00:45:13 นี้ความรู้ใหม่เหมือนกันก็ได้ความรู้เยอะ
00:45:13 → 00:45:17 เลยนะเชิญแบบพี่ๆเพื่อนๆมาเนี่ยค่ะโหดีนะ
00:45:17 → 00:45:21 คะเนี่ยทำรายการดีขึ้น
00:45:22 → 00:45:24 การดื่มน้ำร่วมกันหรือกินโค้งกินข้าวแม้
00:45:24 → 00:45:27 กระทั่งในครอบครัวเองอะไรเงี้ยค่ะการดื่ม
00:45:27 → 00:45:29 น้ำแก้วเดียวกันเนี่ยมีโอกาสเสี่ยงที่จะ
00:45:29 → 00:45:32 ติดโรคอะไรบ้างมั้คือไอ้พวกหวัดอะไรเงี้ย
00:45:32 → 00:45:35 เรารู้อยู่ะแต่ถ้าอื่นๆล่ะอื่นๆคือถ้า
00:45:35 → 00:45:39 ดื่มน้ำร่วมกันคืออันที่ 1 เรื่องโรคที่
00:45:39 → 00:45:43 ติดต่อโดยการสัมผัสทั้งหลายก็คือพวกใคร
00:45:43 → 00:45:46 วัดย้ายโควิดอะไรก็ว่าไปใช่มั้ยคะอแล้วก็
00:45:46 → 00:45:50 อีกอันนึงก็คือที่มันติดต่อโดยทางการกิน
00:45:50 → 00:45:52 ที่มันจะขึ้นมาเป็นอย่างแรกที่คิดถึงคือ
00:45:52 → 00:45:57 ไวรัสตับอักเสบต้องเป็น A ด้วยอ้อชนิดมัน
00:45:57 → 00:46:01 มีหลายชนิดอ๋อสีอู้เหรอที่อ่ะหลักๆที่เรา
00:46:01 → 00:46:04 เจอกันบ่อยๆก็จะเป็น A B C แต่ว่ามันก็
00:46:04 → 00:46:07 จะมีพวก D พวก E อันนั้นน้อยๆแล้วค่ะก็
00:46:07 → 00:46:11 เอาเอาอันหลักก่อนเวลาที่อ่าคนจะรู้จักคน
00:46:11 → 00:46:14 ทั่วไปดีกว่าจะรู้จักก็คือมี A มี B มี C
00:46:15 → 00:46:19 ใช่มั้ยคะใช่ง่ายๆคือ A ติดทางทางการกิน
00:46:19 → 00:46:22 เนาะ Fical Oral Root B กับ C คือติด
00:46:22 → 00:46:25 เหมือนกันเลยติดเหมือน HIV ด้วยแล้วติด
00:46:25 → 00:46:29 ง่ายกว่า HIV ก็คือทางเพศสัมพันธ์แล้วก็
00:46:30 → 00:46:36 ทางเลือดอ๋ออ่าแม่สู่ลูกก็ได้อืออะ A มี
00:46:36 → 00:46:41 วัคซีนมั้ย A มีวัคซีน B มีวัคซีนแต่ C
00:46:41 → 00:46:44 ไม่มีวัคซีวัคซีนใช่อ่าอันเนี้ยมันก็เป็น
00:46:44 → 00:46:47 ถามถ้าถามออใช่ถ้าถาม B กับ C ไหนน่ากลัว
00:46:47 → 00:46:51 กว่าถ้าในแง่ว่าความติดง่ายซีติดง่ายกว่า
00:46:51 → 00:46:55 โอ้จริงหรอและไม่มีวัคซีนด้วยโออันเนี้
00:46:55 → 00:46:58 น่ากลัวมากรักษายากกว่าด้วยอันเนี้น่า
00:46:58 → 00:47:01 กลัวมากเดี๋ยวนะอ๋อมันติดทางเลือดกับทาง
00:47:01 → 00:47:04 เพศสัมพันธ์ใช่ค่ะโหมาเคยมีสตอี่ของ
00:47:04 → 00:47:06 ครอบครัวครอบครัวนึงแต่ว่าเป็นชาวต่าง
00:47:06 → 00:47:08 ชาติเนาะ
00:47:08 → 00:47:12 ลูกชายเนี่ยเป็นสิวแบบเยินมากทั้งหน้า
00:47:12 → 00:47:15 ทั้งตัวหน้าอกหลังคือแบบต้องกินยาคุณต้อง
00:47:15 → 00:47:20 กินยาเท่านั้นคือทางออกไม่งั้นไม่รอดลูก
00:47:20 → 00:47:22 วัยรุ่นนี่คือวัยรุ่นพังแน่นอนแต่แม่หัว
00:47:22 → 00:47:25 ชนฝายังไงก็ไม่ให้กินเพราะเขาคิดว่าการ
00:47:25 → 00:47:28 กินยากลุ่มไอโซตเตินโนอินเนี่ยมันจะทำให้
00:47:29 → 00:47:33 เกิดตับอักเสบอ่าแล้วสุดท้ายเนี่ยคือเชิญ
00:47:33 → 00:47:35 คุณแม่มาคุยผมใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการคุย
00:47:35 → 00:47:38 กับเขาเลยนะแล้วก็เอาเปเปอร์มานั่งให้คุณ
00:47:38 → 00:47:41 แม่ค่อยๆอ่านๆไปด้วยกันสรุปสุดท้ายสุด
00:47:41 → 00:47:44 ท้ายที่คุณแม่เปิดให้อุมอ่ะก็คือว่าพ่อ
00:47:44 → 00:47:48 ของเค้าอ่ะเอ่อเอ่อติดเชื้อไวรัสตับ
00:47:48 → 00:47:52 อักเสบ 4 จากเอ่อการ
00:47:52 → 00:47:55 เค้าเรียกทลั transfer ก็คือการถ่ายเลือด
00:47:55 → 00:47:57 อแล้วหลังจากนั้นเนี่ยพ่อเขาอ่ะไม่สามารถ
00:47:57 → 00:48:00 มีเพศสัมพันธ์กับแม่ได้อีกเลยออเขาก็กลัว
00:48:00 → 00:48:03 ว่าลูกชายเขาถ้าเกิดไวถ้าเกิดตับอักเสบ
00:48:03 → 00:48:05 อย่างเงี้ยมันจะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์
00:48:05 → 00:48:07 กับคนอื่นได้อีกเลยมันก็เลยบอกอ๋อไม่ใช่
00:48:07 → 00:48:09 ถ้าเกิดตับอักเสบมันตับอักเสบจักรยานะ
00:48:09 → 00:48:13 หยุดก็หายอ่าไม่ใช่ซีคราวนี้เนี่ยก็เลยจะ
00:48:13 → 00:48:16 มาถามเจ๊ว่าเอ้ยแล้วถ้าเกิดบังเอิญ
00:48:16 → 00:48:19 ว่าเราหรือว่าคนรักของเราอ่ะเป็นไวรัสตับ
00:48:19 → 00:48:25 อักเสบ C ทำไงโอ้โหนี่ยากเลย
00:48:25 → 00:48:29 ยากจริงๆอืคือ
00:48:29 → 00:48:32 B อ่ะมันยังป้องกันได้ใช่มั้คะ B นี่คือ
00:48:32 → 00:48:36 ป้องกันโดยการฉีดวัคซีนใช่อืแต่ C ถุงยาง
00:48:36 → 00:48:40 อนามัย C กับ HIV เนี่ยอ่ะถ้า HIV ณ
00:48:40 → 00:48:44 ปัจจุบันน่ะเรามียาป้องกันละออมียาป้อง
00:48:44 → 00:48:46 กันแล้วใช่
00:48:46 → 00:48:48 ก็คือเหมือนกับมันก็คือยายาต้านไวรัสนี่
00:48:48 → 00:48:51 แหละค่ะแต่ว่าเราก็สามารถใช้ป้องกันใน
00:48:51 → 00:48:54 กลุ่มที่เราก็กินใช่
00:48:54 → 00:48:56 คือในกลุ่มอ่ะอย่างง่ายๆอย่างเช่นชายรัก
00:48:56 → 00:49:02 ชายเขาก็จะมีเ้าเรียกเนาะยาอออ่าอันนี้
00:49:02 → 00:49:05 คือเขาก็จะสามารถที่จะกินเพื่อป้องกันไม่
00:49:05 → 00:49:08 ให้เกิดการติดเชื้อคือกินก่อนไปมี
00:49:08 → 00:49:10 เพศสัมพันธ์ใช่หรือว่ากินคือกินต่อเนื่อง
00:49:10 → 00:49:14 ก็ได้กินเลยกินเลยต่อเนื่องแต่ว่าคือตัว
00:49:14 → 00:49:17 ยามันจะไม่ได้ไม่ได้เท่ากับไม่ได้เท่ากับ
00:49:17 → 00:49:22 คนที่ติดเชื้อแล้วรักษาอ๋อคือโดสต่ำกว่า
00:49:22 → 00:49:26 เพื่อป้องกันใช่ค่ะคือยายาอาจจะอ่ะสมมุติ
00:49:26 → 00:49:31 ว่าอย่างรักษาเนี่ยใช้ยาเป็นcominช
00:49:31 → 00:49:34 อ่าถ้ากินเพื่อป้องกันเป็นเพเนี่ยก็อาจจะ
00:49:34 → 00:49:36 ลดลงหน่อยอันนั้นนี่กลุ่มที่ที่ยังไม่ได้
00:49:36 → 00:49:40 มีการติดเชื้อนะคะอ๋อนี่inclูprimมมั้
00:49:40 → 00:49:43 เนี่ยอ๋อ
00:49:43 → 00:49:46 เรียกเพปก็คือพี Exposure เราสามารถกิน
00:49:46 → 00:49:49 ได้นานแค่ไหนหรือกินได้ชั่วนิดรันการเลย
00:49:49 → 00:49:53 ไม่เป็นไรไม่ดื้อยาอันนี้คือมันก็มีหลาย
00:49:53 → 00:49:56 แบบมีหลายความเห็นแล้วมันป้องกันได้กี่
00:49:57 → 00:50:00 เปอร์เซ็นต์ป้องกันได้โอหคือได้ 100 ไม่
00:50:00 → 00:50:03 ไม่มีอะไรที่ป้องกันได้ 100% แต่ก็คือได้
00:50:03 → 00:50:07 เยอะมากๆจริงๆ 90 ใช่อะไรประมาณนั้นเลย
00:50:07 → 00:50:10 ป้องกัน HIV ได้แต่ต้องระวังติดต่อ STD
00:50:10 → 00:50:13 อื่นๆอยู่ดีปได้ใช่ค่ะอ่าใช่ทีนี้ที่ที
00:50:13 → 00:50:16 นี้พวก STD อื่นๆอ่ะมันก็ต้องป้องกันโดย
00:50:17 → 00:50:21 การใช้คอนมomเนาะโดยส่วนใหญ่อืตะกี้ HIV
00:50:21 → 00:50:26 มันก็มีมียาพอจะมียาบ้างไวรัสตับ B ก็มี
00:50:27 → 00:50:30 มียาเอ้ยมีวัคซีนอ่าแต่ไวรัสตับอักเสบ C
00:50:30 → 00:50:34 เนี่ยไม่มีวัคซีนด้วยแถมไม่ได้แบบมีบอก
00:50:34 → 00:50:37 ให้กินยาเพื่อป้องกันไม่มีด้วยไม่มีค่ะ
00:50:37 → 00:50:40 ใช่ก็จะค่อนข้างยากเพราะฉะนั้นน่ะมันก็ยา
00:50:40 → 00:50:45 อนามัยช่วยมั้อ่ะก็ช่วยนะคะช่วยอืก็ช่วย
00:50:45 → 00:50:48 อยู่ถ้าเกิดจะมีลูกนี่คือต้องทำอย่าง
00:50:48 → 00:50:51 เดียวอย่างเดียวลำบากลำบากจริงอันนี้เป็น
00:50:51 → 00:50:54 คำถามที่แบบเออถ้ามานั่งคิดเรื่องกลไก
00:50:54 → 00:50:58 เรื่องของโอกาสการติดเชื้อนี่ก็เป็น
00:50:58 → 00:51:02 เรื่องที่หนักอกหนักใจใช่ถ้าจะมีบุตร
00:51:02 → 00:51:05 เหมือนสมัยก่อนที่แบบคนไข้ HIV ตอนแรกๆ
00:51:05 → 00:51:08 อ่ะค่ะอ๋อถ้าจะตั้งครรภ์ทำยังไงอะไรอย่าง
00:51:08 → 00:51:12 เงี้ยก็อาจจะต้องแบบผสมข้างนอกแล้วก็เอ่อ
00:51:12 → 00:51:13 ให้คุณ
00:51:13 → 00:51:18 ใส่เข้าไปใช่อื
00:51:18 → 00:51:21 เอาไหนๆเรามาถึง STD แล้วเนาะ
00:51:21 → 00:51:24 ต้องบอกว่าคือตามรายงานของประเทศไทยดี
00:51:24 → 00:51:29 กว่าเนาะเขาบอกว่า STD เพิ่มขึ้นอ่าช่วง
00:51:29 → 00:51:32 ที่ไม่ใช่ HIV ใช่มั้คะใช่ช่วงหลังนะอื
00:51:32 → 00:51:35 เพราะว่ารู้ผ่านมาเนี่ยมาเพราะว่าอีเพน
00:51:35 → 00:51:39 นี่นี่เองอ่ะเลยทำให้ HIV มันดรอปคิดอยู่
00:51:39 → 00:51:42 คิดอยู่ว่าพอแบบ HIV คือแต่จริงจริงๆอ่ะ
00:51:42 → 00:51:46 ช่วงช่วงเที่ผ่านมาก็มีกระแสอยู่นะคะว่า
00:51:46 → 00:51:50 HIV กับเนี่ยCฟilisเนี่ยเริ่มเจอเยอะใช่
00:51:50 → 00:51:53 อ๋อ HIV ก็เพิ่มมีเจอเยอะด้วยค่ะแต่ว่า
00:51:53 → 00:51:58 คือไอ้ตัวCFลิเนี่ยกำลังเห็นว่ากำลังมา
00:51:58 → 00:52:02 สักระยะนึงละกำลังมาอย่างงี้เลยใช่อ๋อโลก
00:52:03 → 00:52:06 ออกมาก็เลยก็เลยไม่รู้ว่าแบบเอ๊ะทำไมช่วง
00:52:06 → 00:52:10 นี้มันถึงดูมันเป็นกระแสมากขึ้นหรือว่า
00:52:10 → 00:52:13 พฤติกรรมของของคนมันเปลี่ยนหรือเปล่าช่วง
00:52:14 → 00:52:15 หลัง
00:52:15 → 00:52:18 อันนี้ชักตามไม่ทันอันนี้ก็ตามอันนี้ก็
00:52:18 → 00:52:20 เริ่มตามไม่ค่อยทันแต่เดาว่าอาจจะเป็น
00:52:20 → 00:52:23 เพราะเลยทำให้ HIV ดรอปแต่ว่ามันไม่ได้
00:52:23 → 00:52:26 ป้องกันอย่างอื่นมันก็เลยอื่นๆมันก็ยัง
00:52:26 → 00:52:30 เฟื่องฟูอยู่ก็เพิ่มจำนวนไปอ่าคิดว่าค่ะ
00:52:30 → 00:52:33 มันมีอะไรที่ต้องน่ากลัวมยอย่างเช่นหนอง
00:52:33 → 00:52:37 ในแย่ที่สุดก็เป็นหมหนองในใช่มั้ยคะไม่
00:52:37 → 00:52:43 ตายไม่อ่ะไม่ตายก็แต่ซิฟิตายซิฟิสเนี่ย
00:52:43 → 00:52:46 เอาจริงๆก็ไม่ได้ถึงกับคือไม่ได้ถึงกับ
00:52:46 → 00:52:49 เสียชีวิตถ้าแบบว่าไม่ได้โอ้โหปล่อยไปจน
00:52:49 → 00:52:52 แบบสุดทางอ่ะถ้าปล่อยสุดทางถ้าปล่อยสุด
00:52:52 → 00:52:56 ทางก็มีโอกาสส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในระยะ 1 2
00:52:57 → 00:53:00 หรือว่าเป็นช่วงระยะที่มันเงียบสงบไม่
00:53:00 → 00:53:05 แสดงอาการแล้วก็ไปตรวจเจอซะมากกว่าค่ะอ๋อ
00:53:05 → 00:53:08 จริงๆเพราะว่าตั้งแต่เป็นหมอไม้ไม่เคยเจอ
00:53:08 → 00:53:11 3 กับ 4 เลยเนาะที่เจอเอออาจจะเจออย่าง
00:53:11 → 00:53:16 มากก็อย่างเช่นแบบอ่ะโอโตซิฟิกลับไปอูซิ
00:53:16 → 00:53:19 มีบ้าง 3 อันนี้คือ 3 คือเราก็อาจจะถือ
00:53:19 → 00:53:22 ว่าคืออยู่ในกลุ่มเดียวกับประมาณใกล้
00:53:22 → 00:53:26 เคียงกับสารneurโรneurโรซิก็ 4 แล้วสิ
00:53:27 → 00:53:30 เอ่อจริงๆคือเอาจริงๆเแบบ 1 ระยะที่ 1
00:53:30 → 00:53:35 ใช่มั้คะมีมีแผลเทสโอมาจะเจอ 2 อ่า 2 คือ
00:53:35 → 00:53:39 ผื่นอ่าใช่แล้วก็เข้าสู่ระยะที่ไม่แสดง
00:53:39 → 00:53:42 อาการงานอืใช่ก็คือเขาก็เรียกว่าเป็น
00:53:42 → 00:53:44 ลาเทนใช่มั้คะเออหรือ 3 หรือเปล่านะลาเทน
00:53:44 → 00:53:46 อันนี้อันนี้จริงๆมันก็คือเหมือน 3 อ่ะ
00:53:46 → 00:53:48 อ่าแล้วก็ 4 คือนิวโรแล้วก็แล้วก็อันสุด
00:53:48 → 00:53:52 ท้ายก็เป็นneurโรซฟิใช่อ่า
00:53:52 → 00:53:55 แต่ไอ้ช่วงลาเทนมันนานมากบางคนเป็น 10 ปี
00:53:55 → 00:53:57 10 ปี 20 ปีจนลืมไปแล้วว่าเคยมีประวัติ
00:53:57 → 00:54:01 ใช่ก็น่าจะเจอกัน 1 หรือ 2 มั้งใช่โดยมาก
00:54:01 → 00:54:05 มาด้วย 2 กับช่วงลาเทนที่แบบบังเอิญไป
00:54:05 → 00:54:08 เจาะเลือดแล้วเจออืตรวจสุขภาพประจำปีตรวจ
00:54:08 → 00:54:12 สุขภาพใช่ใช่เออหรือว่าไปแบบอมีประวัติไป
00:54:12 → 00:54:15 สัมผัสไป expose คน
00:54:15 → 00:54:20 พาร์ทเนอร์เจอว่าบวกิบวกอ่ะขอเจาะเลือดละ
00:54:20 → 00:54:23 ก็จะเจออื
00:54:23 → 00:54:26 อ่าก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
00:54:26 → 00:54:30 เริมเริมนี่เป็นปัญหาโรคแตกอยู่นะ
00:54:30 → 00:54:33 ของหมอผิวหนังด้วยหมอโรคติดเชื้อด้วยอ๋อ
00:54:33 → 00:54:36 ใช่ๆเจ๊จะในแบบมุมไหนอะไรเงี้ยมุมมุมที่
00:54:36 → 00:54:39 คือไอ้เรื่องการรักษาอ่ะมันไม่มีอะไรมาก
00:54:39 → 00:54:43 ถูกมั้คะแต่จะเจอมุมว่าไปสัมผัสมาออืจะ
00:54:43 → 00:54:48 ต้องรู้ให้ได้ว่าฉันเป็นหรือเปล่า
00:54:48 → 00:54:51 จะเจอแบบนี้ว่าแบบฉันเป็นหรือเปล่าจะขอทำ
00:54:51 → 00:54:57 ทุกอย่างขอเจาะเรื่องอะไรแบบนี้อออ่าแต่
00:54:57 → 00:55:00 ว่าไม่มีอาการแสดงแต่แบบกลัวมากมีความ
00:55:00 → 00:55:04 กลัวในใจสูงมากว่าแบบฉันจะติดมั้ยอ๋อแสดง
00:55:04 → 00:55:08 ว่าไปทำผิดมาทำผิดมาแล้วก็อ๋ออ๋อแต่ว่า
00:55:08 → 00:55:11 ปกติถ้ายังไม่มีผืนก็ไม่น่าจะเจาะเจอมั้ย
00:55:11 → 00:55:14 ใช่ก็คือไม่ได้แนะนำค่ะอืบางทีจะไปโผล่
00:55:14 → 00:55:18 ที่คุณหมอสูบ้างอะไรบ้างเขาก็จะแบบอ๋อไป
00:55:18 → 00:55:22 จะไปขอทำนั่นทำนี่คือถ้าในแง่ว่าโอเค
00:55:22 → 00:55:25 สงสัยคือโดยส่วนใหญ่เราก็จะวินิจฉัยจาก
00:55:25 → 00:55:30 อาการเป็นหลักใช่มั้คะอืหรือว่าในณณ
00:55:30 → 00:55:34 ปัจจุบันมันอาจจะมีเทสแบบพวกทำอ่าเอาสาร
00:55:34 → 00:55:37 คัดหลั่งไปตรวจด้วยวิธี PCR พวกนี้ก็อาจ
00:55:37 → 00:55:41 จะเจอได้บ้างอืแต่ว่าโดยมากอ่ะถ้าเจาะ
00:55:41 → 00:55:43 เลือดเนี่ยเราไม่มีการจะไปนั่งเจาะเพื่อ
00:55:43 → 00:55:46 หาเชื้อที่อยู่ในเลือดอยู่แล้วหรือแม้
00:55:46 → 00:55:48 กระทั่งว่าจะดูระดับแอนตี้บอดี้เราก็คง
00:55:48 → 00:55:51 ไม่ได้ทำเพราะว่าในช่วงชีวิตของคนเรา
00:55:51 → 00:55:54 เนี่ยมันก็คงเคยติดกันมาบ้างคือ antibody
00:55:54 → 00:55:57 บวกเนี่ยหรือว่า IGG ขึ้นเนี่ยมันก็ไม่
00:55:57 → 00:56:00 ได้บอกอะไรก็บอกแค่ว่าอาจจะเป็นแค่พ
00:56:00 → 00:56:03 infection อืแต่มันจะมีคนไข้ที่หลายๆคน
00:56:03 → 00:56:07 ที่เขาเข้าใจว่าโอเคขอเจาะเลื่อนหน่อยค่ะ
00:56:07 → 00:56:09 คุณหมออยากรู้มากว่าจะเป็นหรือเปล่าอะไร
00:56:09 → 00:56:12 อย่างเงี้ยก็ต้องพยายามอธิบายว่าเจาะ
00:56:12 → 00:56:16 เลือดมันไม่ได้ช่วยอ๋อคือเหมือนกับเ้าเไป
00:56:16 → 00:56:19 หาข้อมูลมาเยอะหรือว่าบางทีไปถามหมอที่
00:56:19 → 00:56:23 ไหนมาก็ไม่แน่ใจแล้วได้รับข้อมูลมาที่มัน
00:56:23 → 00:56:26 อาจจะแบบมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอ๋อแล้ว
00:56:26 → 00:56:30 บางทีการที่เราจะไปอธิบายแล้วเปลี่ยนความ
00:56:30 → 00:56:33 คิดเค้าเนี่ยยากมาก
00:56:33 → 00:56:36 จะเจาะให้ได้อ๋อก็คือนี่คือปัญหาที่เจอ
00:56:36 → 00:56:38 อันนี้คือมาเจอจำเป็นเจาะเลือดสำหรับผม
00:56:38 → 00:56:39 ว่าไม่เคยเจอใครมาขอเจาะเลือดเลยคือมา
00:56:39 → 00:56:43 ด้วยผื่นหมดอ่าอ่ามาด้วยผื่นหมดแต่ว่าจะ
00:56:43 → 00:56:46 มาด้วยอีกอันนึงเนี่ยคือเป็นปัญหาที่เรา
00:56:46 → 00:56:48 ก็ไม่
00:56:48 → 00:56:54 รู้จะพูดยังไงเหมือนกันนะจะมีคำถามว่า
00:56:54 → 00:56:57 พอเคยเป็นเริมใช่มั้ยคะเสร็จแล้วพอจะมี
00:56:57 → 00:57:00 พารทเนอร์ใหม่อ่ะอ่าเค้าอ่ะควรจะบอก
00:57:00 → 00:57:07 พารทเนอร์มั้ยอืเออโหอันนี้เนี่ยยากยาก
00:57:07 → 00:57:11 ยากก็ยากเหมือนเวลาคนไข้ที่เป็นพี่เจอคน
00:57:11 → 00:57:15 ไข้เป็น่าวินิจฉัย HIV อืแล้วการที่จะบอก
00:57:15 → 00:57:20 พารทเนอร์นี่คือยากมากแต่ว่าวิธีการ
00:57:20 → 00:57:23 inform คือว่าก็คือส่วนใหญ่อ่ะถ้าถ้า
00:57:23 → 00:57:26 ประสบการณ์ดูคนไข้มา 20 ปีอ่ะอ่ะอย่าง
00:57:26 → 00:57:29 สมมุติว่าเป็น HIV ปุ๊บนะก็จะบอกว่าเอ่อ
00:57:29 → 00:57:31 อันนี้จริงๆมันเป็นสิทธิ์ของคนไข้ว่าว่า
00:57:31 → 00:57:35 จะบอกหรือไม่บอกคือบางคนเนี่ยเค้าเยัง
00:57:35 → 00:57:37 อยู่ด้วยกันแล้วเถ้าเค้ารักกันมากเค้าก็
00:57:37 → 00:57:40 จะบอกกันเองโดยที่เราไม่ต้องพูดอะไรเยอะ
00:57:40 → 00:57:43 บางคนบอกเลยหรือบางคนขอทำใจก่อนใช้เวลา
00:57:43 → 00:57:47 สักนิดนึงแต่ว่าถ้าเกิดเป็นกรณีที่อย่าง
00:57:47 → 00:57:51 เช่นเลิกลากันไปแล้วถ้าแบบเลิกเลิกลาจบ
00:57:51 → 00:57:54 ไม่สวยอ่ะจบไม่ดีเนี่ยออคือเกลียดขี้หน้า
00:57:54 → 00:57:56 มันน่ะอะไรอย่างเงี้ยก็จะแบบไม่บอกค่ะคุณ
00:57:56 → 00:57:59 หมอ
00:57:59 → 00:58:02 ทางฝั่งหมออย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้เราก็
00:58:02 → 00:58:05 ไม่รู้ว่าคนนั้นคือใครใช่ถูกต้องค่ะแต่
00:58:05 → 00:58:08 ว่าถามว่าเออจริงๆอ่ะถ้าบอกเนี่ยได้บุญนะ
00:58:08 → 00:58:13 อคืออย่างน้อยถ้าเค้าติดเค้าก็จะได้รักษา
00:58:13 → 00:58:17 เร็วแต่เนิ่นๆเออใช่ๆอ๋ออันนี้คือเป็นแบบ
00:58:17 → 00:58:20 พของเเป็นฟิวเจอร์ใช่แล้วอย่างว่าแบบอื
00:58:20 → 00:58:24 แต่อันเนี้ยเรื่องเริมหรือว่าเรื่องเป็น
00:58:24 → 00:58:27 STD อย่างอื่นก็ตามหมายถึงว่าเชื้อพวก
00:58:27 → 00:58:30 อ่าโกโนเรียหรือว่าnonโกโนเรียไอ้ที่มี
00:58:30 → 00:58:34 ปัญหาคือถ้าเป็นพวกnonโนเรียพวกพวกคลเดีย
00:58:34 → 00:58:36 อะไรพวกพวกนั้นใช่มั้ยคะพวกนี้มันไม่มี
00:58:36 → 00:58:41 คือประเภทมันไม่ค่อยแสดงอาการอ๋อก็จะมี
00:58:41 → 00:58:46 ความว่าแล้วจะไปบอกไม่บอกดีถ้าบอกแฟนก็
00:58:46 → 00:58:51 จับได้สิเอออ่ามันก็จะเป็นปัญหาโลกแตก
00:58:51 → 00:58:55 แล้วก็จะมานั่งคิดวนเวียนอยู่ว่าควรจะ
00:58:55 → 00:58:58 หรือไม่ควรจะบอกอะไรอย่างเงี้ยอ๋อเอออัน
00:58:58 → 00:59:01 แต่ส่วนใหญ่ก็จะแนะนำว่าเออถ้า
00:59:01 → 00:59:04 เป็นไปได้ก็บอกเถอะจะได้รักษาหาเพราะว่า
00:59:04 → 00:59:09 ไม่งั้นคือรักษา 1 คนไม่ได้รักษา
00:59:09 → 00:59:12 พาร์ทเนอร์มันก็วนเวียนกลับมาก็ต้องเป็น
00:59:12 → 00:59:16 อีกเป็นมาอ่าอุ้ยอันนี้มันเป็นแบบ
00:59:16 → 00:59:18 เวอร์ชั่นพารทเนอร์แล้วของอุมาที่ที่แบบ
00:59:18 → 00:59:21 ปวดหัวใจสุดอ่ะคือเ้ากำลังจะเป็นแฟนกัน
00:59:21 → 00:59:26 อ๋อกำลังจะแล้วก็ก็ 1 คนเนี่ยก็คือมี
00:59:26 → 00:59:30 ประวัติเริมอ้าแล้วควรจะบอกหรือเปล่าใช่ม
00:59:30 → 00:59:32 ควรจะบอกหรือเปล่าเออ
00:59:32 → 00:59:35 อืแบบกำลังจะเป็นแฟนกันเราก็แบบว่ากลัว
00:59:35 → 00:59:38 ว่าเฮ้ยบอกไปแล้วพูดยากเไม่เอาเราทำไงใช่
00:59:38 → 00:59:42 จริงเออคือมันเป็นเรื่องแบบ
00:59:42 → 00:59:44 ตัดสินใจยากมากเลยคือจริงๆอีกคนนึงมันอาจ
00:59:44 → 00:59:47 จะเป็นเคยเป็นแล้วก็ได้อ่ะสมมุติเราเป็น
00:59:48 → 00:59:52 ผู้หญิงอ่ะแล้วผู้ชายอ่ะมันแบบเออก็อาจจะ
00:59:53 → 00:59:56 เป็นก็ได้ใช่มั้อ่ะเอาง่ายๆว่าผู้หญิงอ่ะ
00:59:56 → 00:59:58 พี่เชื่อว่าโดยส่วนใหญ่เริมเนี่ยผู้หญิง
00:59:58 → 01:00:02 อ่ะมันต้องติดจากฝ่ายชายแหละคือคือโดยมาก
01:00:02 → 01:00:06 ผู้หญิงมันมีคู่อืคือในช่วงชีวิตอ่ะอาจจะ
01:00:06 → 01:00:12 แบบมีคู่ที่มีแบบ SI อ่ะอือน้อยกว่า
01:00:12 → 01:00:15 เป็นผู้หญิงบางคนยกเป็นผู้หญิงบางคนเออคน
01:00:15 → 01:00:17 มันพาร์ทเนอร์น้อยกว่าใช่ใช่อันนี้ก็คือ
01:00:17 → 01:00:20 เป็นอะไรที่เครียดนะแต่ว่าเค้าก็ต้องคือ
01:00:20 → 01:00:23 คำถามแรกเลยที่เข้ามาถามอ่ะก็คือว่าคือ
01:00:23 → 01:00:26 เขาเคยเป็นเริมแล้วตอนที่มันไม่มีอาการ
01:00:26 → 01:00:29 เนี่ยมันสามารถติดต่อได้มั้คือตอนที่มี
01:00:29 → 01:00:30 อาการติดต่อได้แน่นอนอย่างเงี้ยเรารู้
01:00:30 → 01:00:33 อยู่แล้วแต่ถ้าตอนที่ไม่มีอาการติดต่อได้
01:00:33 → 01:00:38 มแล้วเอ่ะควรจะบอกพาร์ทเนอร์ใหม่ออืแล้ว
01:00:38 → 01:00:40 น้องอุ๋มตอบไปว่าโอกาสติดต่อได้น้อยมาก
01:00:40 → 01:00:43 แต่มีมั้มันก็มีบ้างถ้าเกิดเอาตามแบบหลัก
01:00:43 → 01:00:47 การจริงๆอ่ะใช่เออแต่ก็คือน้อยมากแต่ว่า
01:00:47 → 01:00:50 จะบอกหรือไม่บอกอันนี้ต้อง
01:00:50 → 01:00:53 ต้องตัดสินใจเองเนาะตัดสินใจเองใช่เพราะ
01:00:53 → 01:00:58 มันก็มีผลกับการใช้ชีวิตคู่ใช่แต่ก็ก็คิด
01:00:58 → 01:01:00 ว่าถ้าสมมุติว่ารักกันจริงอ่ะคนที่เขา
01:01:00 → 01:01:02 เป็น HIV อะไรอย่างเงี้ยเค้าก็ยังอยู่
01:01:02 → 01:01:05 ด้วยกันเลยใช่เออเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเา
01:01:05 → 01:01:08 เป็นคู่ของเราเคงเป็นคู่ของเราล่ะค่ะให้
01:01:08 → 01:01:12 ไปตัดสินใจด้วยนะคะก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ
01:01:12 → 01:01:17 ยากยากมากยากยากมากอืแไม่สามารถแบบชี้ไป
01:01:17 → 01:01:21 ทางไหนได้ด้วยอ่ะไม่กล้าอื
01:01:21 → 01:01:23 แล้วถ้าสมมุติว่าเป็นเด็กๆล่ะเออในกรณี
01:01:23 → 01:01:27 ที่ต้องบอกว่าชาวช่องของเราเนี่ยก็จะเป็น
01:01:27 → 01:01:29 แม่ๆอะไรงี้กันด้วยเนาะแล้วก็ลูกๆเนี่ยก็
01:01:29 → 01:01:33 น่าจะบางส่วนเออเค้าสววัยรุ่นแล้วก็เริ่ม
01:01:33 → 01:01:38 จะก้าวเท้าเข้ามาอสู่วงการนี้เอออ่าใน
01:01:38 → 01:01:41 ฐานะพ่อแม่เนี่ยอันนี้ก็ยังไม่มีลูกเนาะ
01:01:41 → 01:01:44 อันนี้ก็เป็นตลาดเนาะอ
01:01:44 → 01:01:45 [เพลง]
01:01:45 → 01:01:48 คือในฐานะพ่อแม่ไม่ได้แขกที่มาคนนึงก็ไม่
01:01:48 → 01:01:52 มีลูกคนนึงก็ยังไม่มีลูกอ่ะเอาเป็นว่าถ้า
01:01:52 → 01:01:55 เกิดอ่ะเป็นคนไข้มาแบบว่าปรึกษาว่าอ่ะลูก
01:01:55 → 01:01:58 เนี่ยกำลังจะเข้าสู่วัยเนี้ยเราจะต้อง
01:01:58 → 01:02:00 educate ให้ความรู้เยังไงดีมั้ยควรจะคุย
01:02:00 → 01:02:04 กับลูกมั้ยหรืออะไรอย่างเงี้ยอแต่จริงๆ
01:02:04 → 01:02:08 พ.ศ.ยุคยุคยุคปัจจุบันเนี่ยมันมัน Open
01:02:08 → 01:02:12 มากๆแล้วนะคะเนาะในเรื่องของแบบ seology
01:02:12 → 01:02:14 เนาะเอาจริงๆใช่มัน Open มากแล้วก็เด็กๆ
01:02:14 → 01:02:18 ก็รู้สึกว่าก็หาความรู้กันเยอะแล้วก็มี
01:02:18 → 01:02:20 ความรู้เยอะแยะมากมายคือเราไม่บอกเค้าอ่ะ
01:02:20 → 01:02:25 เค้าก็เสิร์ชแป๊บเดียวรู้ละจริงอืใช่จริง
01:02:25 → 01:02:30 ๆน่าจะถ้าไม่ได้แบบว่าติดกับความคิดยึด
01:02:30 → 01:02:35 ติดกับเอ่อยุคเก่ามากเกินไปเงี้ยแล้วเรา
01:02:35 → 01:02:38 อยากจะแบบไปให้ทันเด็กๆ Generation หลัง
01:02:38 → 01:02:43 เงี้ยอือก็น่าจะต้อง Open นิดนึงแล้วก็
01:02:43 → 01:02:46 คุยอาจจะคุยตรงๆหรือว่าเปิดโอกาสให้เขา้า
01:02:46 → 01:02:51 แบบได้กล้าที่จะบอกกล่าวหรือว่าปรึกษามัน
01:02:51 → 01:02:54 น่าก็น่าจะช่วยได้มากกว่าช่วยป้องกันให้
01:02:54 → 01:02:58 เกิดการติดเชื้อได้มากกว่าอ่าแต่ก็ยังให้
01:02:58 → 01:03:00 ความสำคัญนะว่าคือเขา้าอ่ะสามารถหาความ
01:03:00 → 01:03:03 รู้ได้เองอ่ะใช่แต่ไม่รู้ว่าเป็นความรู้
01:03:03 → 01:03:06 ที่ถูกต้องหรือเปล่าใช่ความรู้ที่ถูกต้อง
01:03:06 → 01:03:09 ไปอ่ะแล้วอย่างี้ถ้าสมมติว่าอ่ะเอ่อขอ
01:03:09 → 01:03:11 อนุญาตให้พี่แนทให้ความรู้เด็กวัยรุ่น
01:03:11 → 01:03:13 หน่อยก็แล้วกันอ่ะเอาแบบความรู้ที่ถูก
01:03:13 → 01:03:17 ต้องว่าเออเขาควรจะต้องรู้อะไรบ้างมี 2
01:03:17 → 01:03:19 อันหลักๆที่เราจะต้อง concern คือ 1
01:03:19 → 01:03:22 เรื่องของ HIV กับอันที่ 2 คือเรื่องของ
01:03:22 → 01:03:26 STD ก็คือพวกติดเชื้ออย่างอื่นก็ไม่ว่า
01:03:26 → 01:03:30 จะเป็นอ่าเชื้อเริมเชื้อหนองในแท้หนองใน
01:03:30 → 01:03:34 เทียมทั้งหลายเอ่อแต่ใดๆก็ตามเนี่ยคือถ้า
01:03:34 → 01:03:38 หลักการมันก็คือการป้องกันตัวเองเป็นหลัก
01:03:38 → 01:03:43 ไม่ว่าจะเป็นอ่าหญิงชายหรือว่าจะเป็นใน
01:03:43 → 01:03:45 กลุ่มของ LGBT
01:03:45 → 01:03:48 ก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือถ้าถ้ามันก็
01:03:48 → 01:03:51 ไม่เคยตกยุคตกสมัยก็คือแนะนำการใช้คอนม
01:03:51 → 01:03:55 ให้ถูกวิธีอ่าเน้นต้องบอกว่าให้ถูกวิธี
01:03:55 → 01:03:58 อ่าใช่ๆอ่าอุ๊ยแต่ว่าหลายคนอาจจะยังไม่
01:03:58 → 01:04:01 เคยรู้นะว่าหมอผิวหนังเราเนี่ยจริงๆแล้ว
01:04:01 → 01:04:04 อ่ะเป็นคนแนะนำใช่มั้ยเราคือแผนกที่จะ
01:04:04 → 01:04:07 ต้องแนะนำคือแนะนำการใช้เอ้ยแล้วเรามาถึง
01:04:07 → 01:04:10 ตรงนี้ได้ยังไงอะไรอย่างงี้การใช้คอนดom
01:04:10 → 01:04:13 ให้ถูกวิธีคือเดี๋ยวๆเดี๋ยวช่วยเสริมถ้า
01:04:13 → 01:04:17 ถ้ามีอะไรเดี๋ยวต้องขอคำแนะนำเราเป็น
01:04:17 → 01:04:21 เข้ากับไพมันค่ะเราเป็นคนที่จะต้องแนะนำ
01:04:21 → 01:04:24 อ่าคือตอนที่เรียนเนี่ยเราถูกส่งไปที่
01:04:24 → 01:04:27 เอ่อเค้าเรียกเป็นเหมือนกามโลกผมจำชื่อ
01:04:27 → 01:04:30 โรงพยาบาลไม่ได้คลินิกกามโลกกอ่ามีๆใช่
01:04:30 → 01:04:33 ของกรุงเทพมหานครเลยเราจะต้องไปเรียนรู้
01:04:33 → 01:04:36 ใช่ใช่บางรักมั้อ่ะหรือไม่ใช่ใช่ๆใช่ๆๆ
01:04:36 → 01:04:40 บางลักอิฐบางลักษณ์อืเราจะต้องไปเรียนรู้
01:04:40 → 01:04:43 เกี่ยวกับเพศภาพต่างๆแล้วก็วิธีการมี
01:04:43 → 01:04:48 เพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ
01:04:48 → 01:04:50 คุณไม่อยากเชื่อใช่มั้ว่าหมอที่ฉีดหน้า
01:04:50 → 01:04:55 สุดเนี่ยคือต้องเรียนอะไรแบบนี้แต่เรียน
01:04:55 → 01:04:57 วัดไซส์คือที่สำคัญคือเราต้องวัดไซส์ด้วย
01:04:57 → 01:05:00 นะคอนดomมันนี้สำคัญมากห้ามหลวมไปห้ามคับ
01:05:00 → 01:05:05 ไปใช่คือไซส์ถูกสมมใช่แล้วก็วิธีเลือก
01:05:05 → 01:05:07 Rubิantหรือว่าเจลหล่อลื่นก็ต้องเลือกให้
01:05:07 → 01:05:09 ถูกด้วยถ้าสมมุติว่าคุณจะใช้คอนomเนี่ย
01:05:09 → 01:05:11 คุณจะต้องใช้เป็นแบบ water base หรือว่า
01:05:11 → 01:05:15 เป็นเจลแบบน้ำคุณห้ามใช้วาซลีหรือน้ำมัน
01:05:15 → 01:05:18 อ่าเพราะว่ามันจะละลายยางของคอนมอะไร
01:05:18 → 01:05:24 เงี้ยเป็นต้นมีการสอบใส่สอบสอนวัดี้ออ
01:05:24 → 01:05:28 จริงจัง
01:05:28 → 01:05:32 จริงจังมากแล้วก็มีโมเดลแบบต่างต่างให้
01:05:32 → 01:05:37 เราเรียนรู้โอแล้วก็เรื่องของแบบการคลิป
01:05:37 → 01:05:40 อะไรอย่างเงี้ยเราก็เรียนแล้วเราก็ต้องดู
01:05:40 → 01:05:45 แลด้วยอ่ะอืแต่ว่าเราไม่ดูแลเราส่งให้
01:05:45 → 01:05:46 ยูโร
01:05:46 → 01:05:50 เพราะว่าคิดดูผู้ชายเจะมาทำอะไรกับหน้า
01:05:50 → 01:05:53 เราแบบมาถึงเขาน่าจะอายเรามากๆเราก็ต้อง
01:05:53 → 01:05:55 ส่งไป
01:05:55 → 01:05:58 ท่าแผนกที่เไม่อายเพราะว่านี่ขนาดย้อนไป
01:05:58 → 01:06:01 สัก 10 ปีที่แล้วนี่ยิ่งเป็นปัญหาว่าแบบ
01:06:01 → 01:06:03 หมอเพิ่งจบหรือเปล่าแบบถ้าเป็นคนไข้ผู้
01:06:03 → 01:06:08 ชายเนี่ยก็จะไม่กล้าละไม่กล้าปรึกษาละแต่
01:06:08 → 01:06:11 แบบด้วยความที่อ้าหันมองไปทางนู้นก็ไม่มี
01:06:11 → 01:06:13 ใครเป็นหมอโรคติดเชื้อเลยสักคนก็ต้องเข้า
01:06:13 → 01:06:16 ห้องนี้แหละ
01:06:16 → 01:06:18 อย่าอายหมอเลยจ้ะน้อง
01:06:19 → 01:06:25 อออืใช่หมอหมอน่าแก่แล้วไม่เป็นไรนะ
01:06:25 → 01:06:29 ก็ต้องแนะนำกันไปใช่ก็อ่ะก็ประมาณเนี้ย
01:06:29 → 01:06:31 เนาะการป้องกันคือแล้วก็ต้องเรียนรู้ด้วย
01:06:31 → 01:06:35 ว่าการใช้คอนมป้องกันโรค 100% ใช่ดังนั้น
01:06:35 → 01:06:38 เนี่ยถ้าสมมุติว่าจะนำพาตัวเองไปใน
01:06:38 → 01:06:42 สถานการณ์ที่เสี่ยงก็อย่าทำดีกว่ามันจะมี
01:06:42 → 01:06:49 อันนึงที่อ่ะเกิดเหตุสมมุติเป็นเหตุไป
01:06:49 → 01:06:52 แล้วเกิดเหตุคือคือเกิดเหตุใช่บังเอิญ
01:06:52 → 01:06:55 อย่างเช่นอ้าพูดง่ายๆภาษาบ้านๆเลยค่ะถุง
01:06:55 → 01:06:59 แตกอันนี้เป็นปัญหาที่ก็ต้องเจอตลอดเจอ
01:06:59 → 01:07:00 ทุกอาทิตย์
01:07:00 → 01:07:03 อ่าไปเที่ยวแล้วแบบถุงอ๋อเจอทุกอาทิตย์
01:07:03 → 01:07:06 เลยไปแผนกนี้ไม่ได้มาแผนกนี้แผนกนี้ค่ะ
01:07:06 → 01:07:10 ใช่แผนกนี้ไม่มาคือถุงแต่คือทุกคนจะไม่
01:07:10 → 01:07:14 ได้กลัวว่าจะเป็น HD ทุกคนจะกลัว HIV ใช่
01:07:14 → 01:07:17 เพราะฉะนั้นเนี่ยผมต้องแยกกันเออต้องบอก
01:07:17 → 01:07:20 ทุกคนนะว่าแยกกันอันนี้ HIV อันนี้ STD
01:07:20 → 01:07:23 อ่ะแต่ว่านี้ STD ได้ด้วยใช่ๆ HIV and
01:07:23 → 01:07:24 STD เพราะฉะนั้นเนี่ยใครเป็นอะไรไปอัน
01:07:24 → 01:07:28 นี้
01:07:28 → 01:07:30 อย่ามาทั้ง
01:07:30 → 01:07:34 ใช่ก็ต้องบอกว่าเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน
01:07:35 → 01:07:37 อุบัติเหตุแล้วกันค่ะเวลาไปเที่ยวแล้วถุง
01:07:37 → 01:07:42 แตกทำยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออมันมี
01:07:42 → 01:07:46 Golden period อยู่อื 72 ชมงอื 3 วัน
01:07:46 → 01:07:49 เกิดเหตุปุ๊บอย่าคิดเยอะไม่ต้องไปวนคิด
01:07:49 → 01:07:52 อยู่แบบกลับไปบ้านไปเครียดอยู่จะติดไม่
01:07:52 → 01:07:56 ติดไม่ติดไม่ติดมาโรงพยาบาลก่อนอ่ามา
01:07:56 → 01:07:59 สะดึกสะดื่นแค่ไหนก็ยังมีอย่างน้อยมีคุณ
01:07:59 → 01:08:02 หมอเวรคุณหมอห้องฉุกเฉินอะไรพวกนี้เขาก็
01:08:02 → 01:08:06 ยังดูให้เบื้องต้นก่อนได้หรือว่าอ่ะถ้า
01:08:06 → 01:08:10 โอเคพอรอได้มาตอนเช้าแล้วเจอคุณหมอเฉพาะ
01:08:10 → 01:08:14 ทางอก็ส่วนใหญ่เก็จะแนะนำเจอคุณหมอโรคติด
01:08:14 → 01:08:18 เชื้อเพื่อจะได้ให้คำแนะนำแล้วก็ที่สำคัญ
01:08:18 → 01:08:22 ที่สุดก็คือว่าถ้ามีความเสี่ยงสูงอย่าง
01:08:22 → 01:08:25 เช่นว่าโอ้ประวัติชัดเจนเลยไปเที่ยวไป
01:08:25 → 01:08:28 เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอือผู้หญิงกลุ่ม
01:08:28 → 01:08:32 เสี่งหรือว่าอ่ะเป็นเป็น LG ผู้ชายผู้ชาย
01:08:32 → 01:08:36 อันนี้จะเสี่ยงมากนะคะแล้วก็แบบประเภท one
01:08:36 → 01:08:39 night stand น่ะไม่รู้ไม่เจอกันแล้วใน
01:08:39 → 01:08:41 ชาตินี้คือเมื่อคืนแทงเกันแถวทองหล่อก็
01:08:41 → 01:08:46 กลุ่มเนี้ยก็จะถือว่าแนะนำว่าให้ทานยา
01:08:46 → 01:08:49 ต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อแล้วก็
01:08:49 → 01:08:53 ควรจะเริ่มภายใน 72 ชมงอ่าอันเนี้ยสำคัญ
01:08:53 → 01:08:56 มากที่ 72 ชั่วโมงเมีคนไข้ถามว่าทำไมต้อง
01:08:56 → 01:09:00 72 ชมงอืออืเพราะว่าเวลาสมมุติเกิดมันมี
01:09:00 → 01:09:05 การที่ติดเชื้อ HIV จริงๆอ่ะเชื้อมันก็จะ
01:09:05 → 01:09:09 เข้าไปตามก็คือเวลามันต้องมีแบบเข้าไปตาม
01:09:09 → 01:09:11 รอยชั
01:09:11 → 01:09:15 ฉีกขาดใช่มั้ยคะแล้วก็เข้าไปปุ๊บมันก็จะ
01:09:15 → 01:09:20 โดนดักดักจับด้วยไอ้ตัวต่อมน้ำเหลืองก่อน
01:09:20 → 01:09:23 พวกนี้มันก็คือจะจับเชื้อโรคก่อนแล้วถ้า
01:09:23 → 01:09:26 เกิดว่าภายใน 72 ชมงเนี่ยร่างกายมันยัง
01:09:26 → 01:09:29 จัดการได้ก่อนที่จะเข้าสู่ circulation
01:09:29 → 01:09:32 เข้ากระแสเลือดอือ่ามันก็ถือเป็น golden
01:09:32 → 01:09:36 period คือเอาง่ายๆว่ายิ่งเร็วยิ่งดีอ่า
01:09:36 → 01:09:39 ยิ่งเร็วยิ่งดีไม่ต้องคิดเยอะไปโรงพยาบาล
01:09:39 → 01:09:42 ที่เราดีใจมากเลยอ่ะ
01:09:42 → 01:09:45 แอบดีใจมากที่แบบว่าเวลาหมอแผนกฉุกเฉิน
01:09:45 → 01:09:47 หรืออะไรอย่างเงี้ยเ้าไม่ส่งมาทางผิวหนัง
01:09:47 → 01:09:52 เขาจะส่งไปทางโรคติดเชื้อถูกต้องแล้วนะ
01:09:52 → 01:09:55 ถูกต้องแต่ว่าเดี๋ยวอาจจะขออนุญาตขยาย
01:09:55 → 01:09:57 ความนิดนึงเนื่องจากว่าเราก็ถือว่าเรา
01:09:57 → 01:10:00 เป็น expert ในรูปแบบต่างๆทั้งนี้ทั้ง
01:10:00 → 01:10:02 นั้นเนี่ยเวลาเรามักจะพูดว่าเอ้ยชายรัก
01:10:03 → 01:10:05 ชายจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงแต่ความจริง
01:10:05 → 01:10:08 ปัจจุบันไม่ใช่นะต้องบอกว่าเป็นช่องทาง
01:10:08 → 01:10:11 การร่วมเพศต่างหากที่มันเพิ่มโอกาสความ
01:10:11 → 01:10:13 เสี่ยงเพราะปัจจุบันเนี่ยจะหญิงผู้ชายผู้
01:10:13 → 01:10:16 ชายผู้ชายหรืออะไรอย่างเงี้ยก็จะมีทาง
01:10:16 → 01:10:19 ทวารหนักได้ทั้งนั้นอ่าใช่ช่องทางทวาร
01:10:19 → 01:10:21 หนักคือช่องทางที่เสี่ยงที่สุดเพราะมี
01:10:21 → 01:10:24 โอกาสที่จะเกิดการฉีกขาดเป็นแผลและเป็น
01:10:24 → 01:10:27 ทางเข้าของชีวิตจะเสี่ยงกว่าทางช่องปกติ
01:10:27 → 01:10:30 ทางช่องคลอดใช่ปิติโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า
01:10:30 → 01:10:32 เป็น
01:10:32 → 01:10:35 เป็นคนรับก็คือเป็นฝ่ายรับคือผู้หญิงก็จะ
01:10:35 → 01:10:37 เสี่ยงกว่าผู้ชายฝ่ายรับก็จะเป็นคนเสี่ยง
01:10:37 → 01:10:41 กว่าอใช่อ่า 72 ชมงแล้วเรื่องของการเจาะ
01:10:41 → 01:10:43 เลือดล่ะคะการเจาะเลือดก็คือคือพอไปถึง
01:10:43 → 01:10:46 ปุ๊บคือเจาะเลือดอะไรมั้ยหรือต้องรอเวลา
01:10:46 → 01:10:48 เจาะเลือดอะไรเงี้ยก็จะเจาะก่อนเจาะเพื่อ
01:10:48 → 01:10:52 เป็นเบสว่าแบบที่ผ่านมาคุณมีพฤติกรรมดี
01:10:52 → 01:10:55 ไม่ดีอย่างไรทำตัวดีมั้ยอ่ะก็เพราะฉะนั้น
01:10:55 → 01:10:59 ก็จะดู HIV เนาะดูไวรัสตับอักเสบ BC แล้ว
01:10:59 → 01:11:01 ก็
01:11:01 → 01:11:04 อ่าก็คือดูเบส Line ก่อนอ้าดูเบส Line
01:11:04 → 01:11:06 ก่อนอ่าเราก็ไม่รู้เนาะว่าอ๊ะๆจะเป็นมา
01:11:06 → 01:11:10 นานแล้วก็ได้ใช่บางคนก็แบบเ้าหลอกหลอกหมอ
01:11:10 → 01:11:14 นี่เป็นมาแล้วจะกินยาทำไม
01:11:14 → 01:11:17 แล้วก็หลังจากนั้นนะคะต้องมาเจาะ Follow
01:11:17 → 01:11:20 อีกใช่ค่ะก็คือยาเนี่ยเพื่อที่จะกินป้อง
01:11:20 → 01:11:24 กันการติดเชื้อเกินประมาณ 1 เดือนออื 1
01:11:24 → 01:11:27 เดือนเต็มนานแต่ว่าเวลาเรา follow หมาย
01:11:27 → 01:11:30 ถึงว่าการเจาะเลือกติดตามเนี่ยก็จะ 6
01:11:30 → 01:11:34 สัปดาห์แล้วก็ที่ 3 เดือนอ๋อก็แปลว่า
01:11:34 → 01:11:36 อีเวent 1 อีเวentเนี่ยคุณต้องดูแล 3
01:11:36 → 01:11:39 เดือนใช่คือคุณจะต้องเครียดไป 3 เดือนน่ะ
01:11:39 → 01:11:43 อ่าจนกว่าผลเลือดสุดท้ายจะออกใช่ใช่ค่ะ
01:11:43 → 01:11:46 เออแล้วงี้คือเราก็ต้องเข้าใจก่อนว่ายา
01:11:46 → 01:11:49 ที่หมอให้อ่ะมันป้องกันโรคเดียวนะคือ HIB
01:11:49 → 01:11:50 ใช่โรคอื่นไม่ได้ป้องกันโรคอื่นไม่ได้
01:11:50 → 01:11:54 ป้องกัน HTD ไม่ได้ป้องกันอ่า STD ไม่ได้
01:11:54 → 01:11:57 ป้องกันอืแต่ก็ส่วนใหญ่มีการรักษาหมดใช่
01:11:57 → 01:12:01 ค่ะพูดถึงเรื่องนี้ทีไรแล้วแบบการแนะนำ
01:12:01 → 01:12:04 เนี่ยเป็นเรื่องหนักใจตลอดเลยอะไรอย่าง
01:12:04 → 01:12:07 เงี้ยแต่ก็อ sensitive ออเป็นเรื่อง
01:12:07 → 01:12:11 sensitive แล้วก็อมาด้วยเนาะเราได้รับ
01:12:11 → 01:12:13 เวลาคนที่มาปรึกษาเราจะได้รับเอเนอร์จี
01:12:13 → 01:12:18 ถึงความกังวลมากโอมากๆค่ะอืบางคนเดินเข้า
01:12:18 → 01:12:21 เดินออกพูดจบละเข้าออกเข้าออกอีกประมาณ 10
01:12:21 → 01:12:24 รอบอาจจะถามคำถามเดิมถามคำถามเพราะมันมัน
01:12:24 → 01:12:28 เข้าใจแล้วเใช่มันแบบมันกังวลจริงๆเพราะ
01:12:28 → 01:12:32 ว่าบางทีอ่ะคือต้องบอกว่าอ่ะถ้าไม่ได้มี
01:12:32 → 01:12:34 ครอบครัวหรือว่าเป็นโสดเงี้ยมันไม่ค่อยมี
01:12:34 → 01:12:37 ปัญหาอ๋อไม่กังวลมากไม่กังวลมากแต่ก็
01:12:37 → 01:12:40 กังวลอยู่มันขึ้นกับพื้นฐานความกังวลอก็
01:12:40 → 01:12:42 คือกังวลของตัวเองอย่างเดียวจะไม่ได้
01:12:42 → 01:12:45 กังวลพาร์ทเนอร์ที่บ้านใช่แต่แบบประเภท
01:12:45 → 01:12:49 เนาะเป็นแบบมีคู่ครองแล้วบังเอิญแบบมันไป
01:12:49 → 01:12:52 พลาดพลาดพลั้งอะไรเงี้ยค่ะกลุ่มเนี้ยเาก็
01:12:52 → 01:12:56 จะมีความแบบกังวลมากว่าแล้วจะทำยังไงล่ะ
01:12:56 → 01:12:59 คุณหมอแล้วแล้วอย่างี้คนที่บ้านจะยังไงอื
01:12:59 → 01:13:02 เราก็ต้องแนะนำไปก็ต้องหาวิธีนะคือคือ
01:13:02 → 01:13:05 ความเสี่ยงมันยังอยู่ในช่วง 3 เดือนคือ
01:13:05 → 01:13:08 ถ้าคือคนที่บ้านก็ต้องอาจจะต้องมีความ
01:13:08 → 01:13:13 เอ๊ะทำไมมีความสงสัยทำไมพฤติกรรมเปลี่ยน
01:13:13 → 01:13:17 เอ่อจริงๆก็ต้องไปหาวิธีเอาเองหรือไงมี
01:13:17 → 01:13:19 วิธีคอมมอนมีแนะนำมั้ยเออคือส่วนใหญ่ก็
01:13:19 → 01:13:23 ต้องก็คือต้องแนะนำว่าไม่ควรจะไปมีความ
01:13:23 → 01:13:25 เสี่ยงกับคนที่บ้านไปเพิ่มความเสี่ยงให้
01:13:25 → 01:13:30 คนที่บ้านโดยการก็ต้องต้องใช้คอนดomอ่าก็
01:13:30 → 01:13:33 ต้องใช้คอนดomใช่แต่ทีนี้เค้าก็จะแบบบาง
01:13:33 → 01:13:36 คนก็จะบอกว่าแต่คุณหมอก่อนหน้าเไม่เคยใช้
01:13:36 → 01:13:40 เลยนะไม่เคยใช้ปกติไม่เคยใช้แล้วก็ลุก
01:13:40 → 01:13:43 ขึ้นมาใช้ล่ะทำยังไง
01:13:43 → 01:13:47 อะไรแบบนั้นก็ยากค่ะเป็นเรื่องที่ยากยาก
01:13:47 → 01:13:50 จริงๆอือันนี้ก็ต้องพยายามไปหาวิธีเอานะ
01:13:50 → 01:13:54 หมอเอาใจด้วย
01:13:54 → 01:13:57 เป็นศิลปะจริงๆเลยเนาะที่จะต้องไป manage
01:13:57 → 01:14:01 กัน sensitive มากของชีวิตมนุษย์อันนึง
01:14:01 → 01:14:05 เลยอ่ะใช่จริงๆ
01:14:05 → 01:14:07 อื
01:14:07 → 01:14:11 แมวเลียนเฉยติดเชื้อมั้ยแมวเนี่ยมาเรื่อย
01:14:11 → 01:14:17 ๆค่ะอะไรนะมีๆมีน้ำเชื้อนะเชื้อหมายถึง
01:14:17 → 01:14:21 ว่าแบบมนุษย์คุณแม่แมวเนาะอ่าเป็นมนุษย์
01:14:21 → 01:14:24 รักแมวคุณแม่คุณพ่อแมวทั้งหลายอย่างเงี้ย
01:14:24 → 01:14:27 ก็มานะมาเจอจริงๆมาเจอทางผิวหนังช่วงก่อน
01:14:27 → 01:14:33 น่ะจะมีเชื้อราแมวใช่สปอโรทริคosก็เจอใช่
01:14:33 → 01:14:36 มั้คะแล้วก็ตเจอเรื่อยๆใช่แล้วก็พวก
01:14:36 → 01:14:40 แบคทีเรียเราก็มีทอกโซพลาสโมิสเจอบ่อย
01:14:40 → 01:14:43 มั้ยอุ๊ยไม่โออันนั้นเนี่ยส่วนใหญ่อ่ะมัน
01:14:43 → 01:14:46 ไม่ได้แสดงอาการในทันทีแต่ว่ามันจะไปเจอ
01:14:46 → 01:14:49 ในคนไข้ที่ที่ภูมิต่ำอย่างเช่นในกลุ่ม HIV
01:14:49 → 01:14:53 ใช่ไหมค่ะเอ่อเพราะว่ามันไม่มาทางนี้ใช่
01:14:53 → 01:14:56 ทอกโซพลาสโมิเท่าที่จำได้นี่คือคนท้องไม่
01:14:56 → 01:15:00 ควรอยู่กับแมวอะไรเงี้ยเพราะว่าลูกพิการ
01:15:00 → 01:15:02 ได้เลยใช่เออใช่คนที่ต้องคอนเซิร์นคือ
01:15:02 → 01:15:06 เรื่องคนท้องหญิงตั้งครรภใช่ทำให้เกิด
01:15:06 → 01:15:09 congenital syndrome ใช่แต่ว่าถ้าถ้า
01:15:09 → 01:15:14 อย่างแมวอ่ะแมวเขาก็เาก็จะชอบแบบเลียพวก
01:15:14 → 01:15:16 เล็บเ้าด้วยบางทีคือไม่ต้องมาเลียหน้าเรา
01:15:16 → 01:15:19 ก็ได้แต่แบบโดนแมวป่วนก็มีติดเชื้อได้
01:15:19 → 01:15:22 เชื้อเชื้อพวกแบคทีเรียที่มันอยู่ตามเล็บ
01:15:22 → 01:15:27 แมวมันก็จะเข้าไปตามรอยรอยถลอกของผิวหนัง
01:15:27 → 01:15:29 แล้วก็ทำให้เกิดไข้เกิดต่อมน้ำเหลืองโต
01:15:30 → 01:15:32 อะไรพวกนี้ได้ค่ะอ๋ออันนี้ไม่ได้มาผิว
01:15:32 → 01:15:34 หนังมาผิวหนังก็เชื้อราน่ะล่ะถ้ามาผิว
01:15:34 → 01:15:36 หนังเลยเป็นแผลก็พวกคือเชื้อราแมเชื้อแต่
01:15:36 → 01:15:40 ถ้าไปทางติดเชื้อนี่คือเป็นแบบไข้ตมน้ำ
01:15:40 → 01:15:45 เหลืองโตไข้ต่อมน้ำเหลืองโตใช่ออก็เจอได้
01:15:45 → 01:15:47 อ่ะแต่ก็เป็นเชื้อแบคทีเรียธรรมดาได้ยาว
01:15:47 → 01:15:51 ไปก็ง่ายหายง่ายแต่เชื้อราเนี่ยโอ้โหหลาย
01:15:51 → 01:15:54 เดือนเหมือนกันนะคะโอใช่เป็นอย่างน้อย
01:15:54 → 01:15:58 ต้องกินยากัน 1 เดือนเป็นอย่างน้อยออัน
01:15:58 → 01:16:00 นี้แมวเนาะแล้วแม่หมาล่ะแม่หมาอันนี้แมว
01:16:00 → 01:16:06 แม่หมาก็มีเหมือนกันถ้าเป็นติดเชื้อ
01:16:06 → 01:16:10 แบคทีเรียบางอย่างก็ก็เข้ากระแสเลือดได้
01:16:10 → 01:16:13 หรือว่าอ่ะอย่างหรือว่าถ้าถ้าแบบไม่ได้
01:16:13 → 01:16:15 ซีเรียสมากก็อาจจะมีแค่แผลแผลที่มัน
01:16:15 → 01:16:18 อักเสบเฉยๆใช่มั้คะอ่าใช่ก็แค่โลคalอย่าง
01:16:18 → 01:16:22 ใช่แค่โลคalแต่บางทีก็บางทีก็มีติดเชื้อ
01:16:22 → 01:16:27 ในกระแสเลือดได้เหมือนกัน
01:16:27 → 01:16:30 ในฐานะแม่หมานอนด้วยกันแม่หมาแม่หมาแม่
01:16:30 → 01:16:34 แมว
01:16:34 → 01:16:36 ไม่เป็นไรค่ะเรารักเค้าเราก็ต้องยอมรับ
01:16:36 → 01:16:41 ทุกอย่างที่เขาเป็นใช่ๆเออน้องหมาน้องแมว
01:16:41 → 01:16:44 อ่าโอใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกันผ้าเช็ดตัวร่วม
01:16:45 → 01:16:47 กันนี่น่าจะของทางผิวหนังเป็นหลักนะคะ
01:16:47 → 01:16:49 สิ่งที่เรากังวลก็คือโรคติดต่อที่ไปจาก
01:16:49 → 01:16:53 ผิวหนังคนนึงสู่ไปสู่อีกคนนึงอก็เชื้อรา
01:16:53 → 01:16:56 ก็ได้เชื้อเริ่มก็ได้เออถ้าคุณเรียนหมอ
01:16:56 → 01:16:58 ผิวหนังเนี่ยคุณจะไม่กล้านอนโรงแรมต่ำ
01:16:58 → 01:17:01 กว่า 4 ดาวอีกเลยคือต้องนอน 4 ดาวขึ้นไป
01:17:01 → 01:17:05 เพราะว่าถ้าคุณจะได้ 4 ดาวคุณต้องอบผ้า
01:17:05 → 01:17:08 ด้วยความร้อนอ่าซึ่งอบผ้าด้วยความร้อนมัน
01:17:08 → 01:17:11 จะฆ่าหลายตัวทั้งแมลงทั้งเชื้อเพราะ
01:17:11 → 01:17:13 ฉะนั้นถ้า 3 ดาวอะไรอย่างเงี้ยมันจะไม่มี
01:17:13 → 01:17:15 ข้อบังคับแต่บางโรงแรมเอาจจะมีอบนะก็แล้ว
01:17:16 → 01:17:19 แต่โรงแรมอืด
01:17:19 → 01:17:21 ก็เป็นไปได้เพราะว่าจริงๆถ้าอย่างถ้า
01:17:21 → 01:17:24 อย่างที่น้องอุ๋มบอกอ่ะพวกไวรัสพวกเริม
01:17:24 → 01:17:27 ถ้ามันโดนความร้อนที่อุณหภูมิสูงประมาณ
01:17:27 → 01:17:30 นึงเนี่ยมันสามารถที่จะฆ่าเชื้อได้ใช่
01:17:30 → 01:17:33 แล้วก็ค่าอาจจะแบบพวกเกี่ยวกับพวกทำลาย
01:17:33 → 01:17:38 พวกสปอด้วยใช่หดโลนตัวเลือดอะไรเงี้ยแหละ
01:17:38 → 01:17:43 ก็จริงจั่นมันไม่นอนแล้วมั้ง 3 ดาวอ่ะ
01:17:43 → 01:17:45 หรือว่าต้องเอาผ้าเช็ดตัวไปเองอะไรอย่าง
01:17:45 → 01:17:49 งี้หรือเปล่าอ๋อผ้าตัวยังไม่รอดติดผ้าผ้า
01:17:49 → 01:17:54 ปูอ๋อผ้าปูจริงเบดingมันก็สำคัญเนาะใช่ๆ
01:17:54 → 01:17:58 ไอ้ที่จะเป็นโดนเบัอืก็คือถ้าเกิดนอนสี
01:17:58 → 01:18:02 ดาวขึ้นไปก็จะสบายใจตรงที่ว่าเขาอบเบสบั
01:18:02 → 01:18:06 ก็ตายหมดก็ไม่ไม่มีปัญหาโอเคค่ะต่อไปนี้ 4
01:18:06 → 01:18:08 ดาวอัพ
01:18:08 → 01:18:13 ไลฟ์แตกของหมอผิวหนัง 4 ดาวขึ้นไปอ่ะ
01:18:13 → 01:18:14 หมอผิวหนังทำ
01:18:14 → 01:18:17 [เสียงหัวเราะ]
01:18:17 → 01:18:20 อ๋ออาหารค้างคืนอาหารค้างคืนค้างได้กี่
01:18:21 → 01:18:23 วันเป็นหัวข้อที่แบบว่าเราเจอได้บ่อยใช่
01:18:24 → 01:18:25 มั้ยคะใช่ในชีวิตประจำวันเลยใช่เพราะว่า
01:18:25 → 01:18:30 คนไข้เนี่ยมาด้วยท้องเสียเยอะมากๆอาหาร
01:18:30 → 01:18:34 เป็นพิษเยอะมากเพราะว่าคือเวลาที่อาหาร
01:18:34 → 01:18:37 เนี่ยมันค้างคืนปุ๊บเนี่ยมันจะทำให้เกิด
01:18:37 → 01:18:40 การเจริญเติบโตของแบคทีเรียอืคือ
01:18:40 → 01:18:43 แบคทีเรีย growth มันง่ายมากๆแล้วก็มันมี
01:18:43 → 01:18:49 หลายตัวอืคือแต่ละตัวเนี่ยก็จะแบบว่าแสดง
01:18:49 → 01:18:53 อาการที่อาจจะต่างกันอือ่าคือหมายถึงว่า
01:18:53 → 01:18:56 เค้าเรียกว่าระยะฟักตัวไม่เหมือนกันไม่
01:18:56 → 01:18:59 เหมือนกันบางตัวก็เร็วหลักแบบว่าไม่กี่
01:18:59 → 01:19:02 ชั่วโมงก็เกิดเรื่องละเร็วอออ่าบางตัวก็
01:19:02 → 01:19:05 อาจจะเป็นแบบ 10 กว่าชั่วโมงถึงจะเกิด
01:19:05 → 01:19:08 เรื่องแสดงอาการค่ะแล้วยิ่งช่วงแบบคือคือ
01:19:08 → 01:19:12 อากาศของประเทศไทยเนี่ยมันร้อนแล้วก็ทำ
01:19:12 → 01:19:15 ให้พวกแบคทีเรียมันโตเร็วมากอืแล้วแบบว่า
01:19:15 → 01:19:18 อ่ะสมมุติไปซื้อข้าวแกงข้าวแกงเขาก็ทำมา
01:19:18 → 01:19:21 ตั้งแต่ 5:00 น. 4:00 5:00 น.เสร็จเอามา
01:19:21 → 01:19:24 วางขายกว่าจะได้ขายคือกลางวัน 11: น.
01:19:24 → 01:19:28 เที่ยงคือไม่รู้ว่าแบคทีเรียมันโตไปถึง
01:19:28 → 01:19:30 ไหนตอนไหนแล้วค่ะแล้วพอไปซื้อเสร็จปุ๊บ
01:19:30 → 01:19:34 อ่ะเอากลับมาใส่ถุงกลับบ้านกินที่บ้านอีก
01:19:34 → 01:19:38 หรือถ้ายังไม่กินแช่เย็นค้างคืนไว้อีก
01:19:38 → 01:19:40 เพราะฉะนั้นเนี่ยพวกนี้มันก็จะมันมีการ
01:19:40 → 01:19:43 สะสมของปริมาณของแบคทีเรียที่เยอะอยู่
01:19:43 → 01:19:47 แล้วอ๋ออ้าแล้วในกรณีที่แบบว่าเออเราก็
01:19:47 → 01:19:49 ออกมาแล้วก็อุ่นให้ร้อนใหม่อีกทีนึงมัน
01:19:49 → 01:19:52 ปลอดภัยมั้คะอมันอาจจะไม่พอค่ะความร้อน
01:19:52 → 01:19:55 มันอาจจะไม่ถึงทำให้ทำให้แบบแบคทีเรียมัน
01:19:55 → 01:19:59 แบบอาจจะตายไม่หมดได้คือนิสัยของคนในยุค
01:19:59 → 01:20:01 ปัจจุบันคืออุ่นด้วยไมโครเวฟบางคนไม่ได้
01:20:01 → 01:20:06 เอาไปแบบโอ้ไปฮีทแบบไปต้มไปผัดไปทำให้มัน
01:20:06 → 01:20:08 เดือดใหม่เดือดใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยมันอาจ
01:20:08 → 01:20:11 จะแบบไม่พอไม่พอมันไม่ตายแล้วถ้าเอาให้
01:20:11 → 01:20:14 หมดพอแบบสมมุติว่าอ่ะฉันตั้งหม้อต้มเลย
01:20:14 → 01:20:17 มันต้องต้มเดือดกี่นาทีโหถ้าตั้งหม้อต้ม
01:20:17 → 01:20:19 จนเดือดคือถ้าถ้าเอาเป็นแบบเดือดนี่คือ
01:20:19 → 01:20:23 อุณหภูมิ 100 องศใช่จริงๆก็ยังไม่พออีกก็
01:20:23 → 01:20:26 น่าจะพอแล้วนะคะ
01:20:26 → 01:20:29 น่าจะตายหมดละอ๋อแสดงว่าถ้าเกิดต้มเดือด
01:20:29 → 01:20:31 มาสักแบบ 3 นาที 5 นาที 3 นาที 5 นาทีอ่ะ
01:20:31 → 01:20:34 ก็คือน่าจะรอดพอแล้วรอดแต่โดยส่วนใหญ่อ่ะ
01:20:34 → 01:20:39 บางทีก็แบบเ้าอาหารกล่องอุ่นไมโครเวฟง่าย
01:20:39 → 01:20:42 ๆง่ายๆจบๆคือถ้าเกิดว่าเขา้าแบบเตรียมไม่
01:20:42 → 01:20:45 ดีอ่ะค่ะหมายถึงว่าขั้นตอนการเตรียมอาหาร
01:20:45 → 01:20:47 พวกนี้ไม่ดีมันก็มีแบคทีเรียที่มัน
01:20:47 → 01:20:50 contทaminateปนเปื้อนอยู่ในอาหารได้มันก็
01:20:50 → 01:20:53 จะเกิดเรื่องแต่ว่าคิดว่าโดยส่วนใหญ่อ่ะ
01:20:53 → 01:20:58 อย่างอย่างอาหารที่เค้าแบบขายตามอ่าพวก
01:20:58 → 01:21:01 ร้านสะดวกซื้ออ่ะเค้าก็มีมาตรฐานประมาณ
01:21:01 → 01:21:05 นึงอยู่แล้วพี่คิดว่าเพียงแต่อ่าที่เรา
01:21:05 → 01:21:08 บางทีเราเจออ่ะมันไม่ได้เป็นจากพวกพวกใน
01:21:08 → 01:21:12 ตู้พวกหรือแม้กระทั่งอาหารเราทำเองอ่ะอื
01:21:12 → 01:21:14 อ่าก็ส่วนใหญ่จะเจอตามแบบอ่ะมันไปซื้อ
01:21:14 → 01:21:17 ข้างทางหรือว่าไปซื้อในโรงอาหารอะไรพวก
01:21:17 → 01:21:21 นั้นมากกว่าหรือทำเองแล้วก็เก็บไม่ดีมัน
01:21:21 → 01:21:23 ก็เกิดอาการบูด
01:21:23 → 01:21:26 แล้วท้องเสียแบบไหนถึงควรไปหาหมอสมมติว่า
01:21:26 → 01:21:28 แบบว่าเออเรากินอะไรแล้วก็ท้องเสียหยุด
01:21:28 → 01:21:31 อยู่บ้านพักแป๊บนึงกินบางคนอ่าบางคนมีเา
01:21:31 → 01:21:34 เรียกว่ามันเทชโมต่างกันคือสมมุติว่าถ้า
01:21:35 → 01:21:38 ถ้าถ่ายเนี่ยมันไม่ได้ถ่ายถี่มากๆแล้วก็
01:21:38 → 01:21:41 ถ่ายแบบสมมุติว่าครั้ง 2 ครั้งแล้วมันดู
01:21:41 → 01:21:45 ปริมาณมันลดลงยังพอทานได้คือไม่ได้คลื่น
01:21:45 → 01:21:48 ไส้เยอะยังพอแบบทานพวกน้ำเกลือแร่หรือว่า
01:21:48 → 01:21:52 พวกเอ่อสารอ่าสารน้ำที่มันแบบเอาไปทดทด
01:21:52 → 01:21:56 แทนส่วนที่เราเสียไปยังได้อยู่อืยังพอแบบ
01:21:56 → 01:21:59 ทานโจ๊กทานนู่นทานนี่ได้นิดนึงก็ถ้าเป็น
01:21:59 → 01:22:01 ไม่มากก็อาจจะไม่ต้องมาก็ได้ค่ะถ้าอาการ
01:22:01 → 01:22:04 ไม่เยอะอืถ้าไม่มีไข้ด้วยนะคะบางคนก็คือ
01:22:04 → 01:22:07 เป็นแป๊บเดียวแล้วก็หายอแต่ถ้าเกิดว่า
01:22:07 → 01:22:12 เริ่มรู้สึกว่าถ่ายแบบติดๆกันหลายๆครั้ง
01:22:12 → 01:22:15 คลื่นไส้อาเจียนมากๆจนทานอะไรลงไปแล้วก็
01:22:15 → 01:22:18 อาเจียนออกตลอดคือไม่สามารถที่จะดื่มน้ำ
01:22:18 → 01:22:22 เข้าไปทดแทนในส่วนที่มันเราสูญเสียไปได้
01:22:23 → 01:22:27 ก็หรือว่าไข้ขึ้นสูงอ่าหรือว่าบางคนเนี่ย
01:22:27 → 01:22:29 คือมันเสียน้ำเยอะมากๆจนเกิดภาวะเหมือน
01:22:29 → 01:22:32 พวก postural hens hyperensชionหน้ามืด
01:22:32 → 01:22:35 หน้ามืดหน้ามืดพวกนี้แสดงว่ามันขาดน้ำละ
01:22:35 → 01:22:41 ชิปจรเต้นไวแตะรกว่าเนี่ยก็คือควรมาควรมา
01:22:41 → 01:22:44 ละควรมาควรมาเถอะ
01:22:44 → 01:22:49 อย่าทนเลยเคยเป็นเคยเป็นโลต๋าแทบจะแบบออก
01:22:49 → 01:22:54 จากห้องน้ำไม่ได้ต้องแทบจะคลานแทบจะคลาน
01:22:54 → 01:22:58 แล้วก็กลัวมากแบบว่ากลัวเป็นลมอยู่ในห้อง
01:22:58 → 01:23:02 น้ำจริงมันทรมานมากนะคะนี่ล่าสุดพี่ก็
01:23:02 → 01:23:04 เพิ่งเป็นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วกินเหรอกิน
01:23:04 → 01:23:09 ปูปูนึ่งแล้วบางทีคือเขาแกะเแกะเป็นปูแกะ
01:23:09 → 01:23:12 อ๋อปูแกะกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเราก็ไม่รู้หรอก
01:23:12 → 01:23:15 ว่าเอ๊ะมันคอนทaminateจากส่วนไหนคือปูก็
01:23:15 → 01:23:19 สดมากอยู่แล้วอะไรอย่างเงี้ยโอ้โหแบบอปวด
01:23:19 → 01:23:23 ท้องแบบบิดแล้วก็ทาถ่ายเยอะมากจนหน้ามืด
01:23:23 → 01:23:28 แบบจะเป็นลมเพราะมันปวดหนักมากอืน้ำแข็ง
01:23:28 → 01:23:31 คิดว่าบางทีมันปนเปื้อนจากน้ำแข็งค่ะแล้ว
01:23:31 → 01:23:35 เวลาที่ในการที่ขนส่งมาแต่ละที่อ่ะมาถึง
01:23:35 → 01:23:39 แต่ละร้านน่ะคือบางร้านเขาก็ใช้เคยเห็น
01:23:39 → 01:23:43 เนาะที่แบบเขาใช้ธงใช้เท้าอะไรกันไปอืมัน
01:23:43 → 01:23:47 ไม่สะอาดอน่าจะปนเปื้อนตั้งแต่ตรงนั้นมาก
01:23:47 → 01:23:49 กว่าค่ะเออพูดแล้วก็มีเรื่องเล่านะตลกมาก
01:23:49 → 01:23:53 เลยโอก็จะมีเพื่อนที่มาจากต่างชาติเนาะเา
01:23:53 → 01:23:57 ก็จะจำได้ว่ามาเมืองไทยห้ามกินน้ำแข็ง
01:23:57 → 01:23:59 เวลาไปร้านเอาหงร้านอาหารอะไรเงี้ยทุก
01:23:59 → 01:24:02 อย่าง No i No i อ่าแต่อุ๋มไอซ์อยาก
01:24:02 → 01:24:04 กินสมูทตี้
01:24:04 → 01:24:07 เดี๋ยวแล้วจะกินูรู้มั้ยว่าสมูทตี้เนี่ย
01:24:07 → 01:24:10 ประกอบด้วยน้ำแข็งเออ
01:24:10 → 01:24:14 กินได้สมูตี้กินได้แต่น้ำแข็งใส่ใส่น้ำ
01:24:14 → 01:24:18 พัดลมไม่ได้กิน
01:24:18 → 01:24:19 า
01:24:19 → 01:24:22 แต่กินสมูทตี้ไปหลายละเออเราก็เอองั้นย
01:24:22 → 01:24:26 ไม่ต้องกลัวแล้วกินไปเออใช่กินไปเถอะ
01:24:26 → 01:24:28 โทรศัพท์ที่เราใช้ทุกวันนำเชื้อมั้ยมีคน
01:24:28 → 01:24:32 เอาเคยเอาไปเค้าเรียกว่าเอาไปเพาะเชื้อ
01:24:32 → 01:24:34 อ่าป้ายแล้วเอาไปก็คือว่าสมมุติว่าหน้าจอ
01:24:35 → 01:24:38 โทรศัพท์เราใช่มั้ยคะแล้วเก็เอาเอาสวอบมา
01:24:38 → 01:24:42 ป้ายแล้วเอาไปไปปาดลงในจานเพาะเชื้อเชื้อ
01:24:42 → 01:24:44 เจอเชื้อเยอะอยู่นะคะความจริงก็เหมือนมือ
01:24:44 → 01:24:47 เราเป็นแบคทีเรียเหมือนมือเรานั่นแหละเออ
01:24:47 → 01:24:48 ก็เหมือนมือเราก็คือมันก็คือเชื้อแบ
01:24:48 → 01:24:52 แบคทีเรียที่มันอยู่บริเวณผิวหนังเนาะโดย
01:24:52 → 01:24:55 ส่วนใหญ่หรือว่าบางทีอ่ะอย่างโค่งโควิดก็
01:24:55 → 01:24:58 ได้นะใช่มั้ยคะพวกไวรัสมันก็ติดได้อืห้อง
01:24:59 → 01:25:01 น้ำนี่มีคนทำความสะอาดป่ะแต่โทรศัพท์เรา
01:25:01 → 01:25:04 ไม่เคยใช่หรือว่าไปวางทิ้งไว้อย่างเงี้ย
01:25:04 → 01:25:06 อ่ะแต่ถ้าเกิดเราไปวางอ่ะสมมุติว่าในห้อง
01:25:06 → 01:25:09 น้ำอ่ะมันมีแบบพวกเชื้อที่มันมาจากทาง
01:25:09 → 01:25:13 เดินอาหารใช่มยเกิดเขาแบบอ๋ออ่าไม่ไม่
01:25:13 → 01:25:15 เช็ดก่นยังไม่ได้ล้างมือแล้วก็ไปจับแล้ว
01:25:15 → 01:25:18 ก็ไปวางมันก็จะมีพวกตระกูลพวกอีโคลอย่าง
01:25:18 → 01:25:21 งี้ได้เหมือนกันนะอพี่คิดว่ามาจากเชื้อ
01:25:21 → 01:25:23 แล้วเราก็ไปจับเราก็มาจับโทรศัพท์เรา
01:25:23 → 01:25:25 โทรศัพท์เราก็มีอีโคลineเหมือนทางเดิน
01:25:25 → 01:25:29 อาหารเลย
01:25:29 → 01:25:31 โรคติดเชื้อดื้อยาส่วนใหญ่น่าจะพูดถึงใน
01:25:31 → 01:25:35 แง่ของแบบเวลานอนโรงพยาบาลแล้วก็เป็นพวก
01:25:35 → 01:25:39 กลุ่มแบคทีเรียดื้อยามากกว่าอือ่าซึ่ง
01:25:39 → 01:25:43 เอ่อโดยส่วนใหญ่อ่ะมันก็จะเกิดในคนไข้ที่
01:25:43 → 01:25:45 ภูมิต่ำหรือว่าอายุเยอะๆแล้วนอนโรงพยาบาล
01:25:45 → 01:25:49 นานๆแต่ถ้าเกิดว่าเป็นญาติ้าที่อายุไม่
01:25:49 → 01:25:52 เยอะอย่างเงี้ยค่ะโอกาสที่จะแบบมีเชื้อ
01:25:52 → 01:25:54 ด้วยติดเชื้อตัวเนี้ยมันก็ไม่ได้เยอะอยู่
01:25:55 → 01:25:57 แล้วใช่หรือถ้าสมมุติว่าเป็นคนแก่แล้วไป
01:25:57 → 01:25:58 โรงพยาบาลอะไรอย่างเงี้ยมีโอกาสติดเชื้อ
01:25:58 → 01:26:01 ดื้อยากลับบ้านมั้ยเอออันนี้มีแน่นอนเฮ้ย
01:26:01 → 01:26:03 หมายถึงว่าไปโรงพยาบาลหรอแต่ต้องไปทำไป
01:26:03 → 01:26:07 โรงพยาบาลที่ฉันก็ไปไปหาหมออ๋อไปหาแป๊บ
01:26:07 → 01:26:10 เดียวอ่ะไปหาหมอไปหาแบบ OPD ไม่ได้แบบไป
01:26:10 → 01:26:13 นอนใช่มั้ยคะไปหาแบบ OPD ส่วนใหญ่ไม่ค่อย
01:26:13 → 01:26:16 มีปัญหาแล้วถ้าไปอย่างแต่ถ้าไปนอนไปทำ
01:26:16 → 01:26:17 หดการ
01:26:17 → 01:26:20 ก็ต้องไปดูไปส่องกล้องอ่ะก็มีโอกาสได้มี
01:26:20 → 01:26:23 โอกาสได้ไป 2 กล้องใช่แต่ถ้าไปเrayทำ
01:26:23 → 01:26:28 อัลต้าซาวด์ CT สแกนเมโมแกรมไม่ไม่มีอ่า
01:26:28 → 01:26:31 ไปเจาะเลือดตรวจสุขภาพประจำปีก็ไม่หรอก
01:26:31 → 01:26:33 แค่เจาะเลือดแป๊บเดียวเองใช่อ่าเพราะ
01:26:33 → 01:26:36 ฉะนั้นสบายใจได้ใช่
01:26:36 → 01:26:39 แต่ถ้านอน 1 คืนนี่คือมีโอกาสละถ้านอน
01:26:39 → 01:26:41 เอ่อจริงๆก็
01:26:41 → 01:26:44 มีโอกาสเพราะว่าพวกนี้บางทีถ้าถ้าสมมุติ
01:26:44 → 01:26:47 ว่ามันแต่ว่าต้องบอกอย่างงี้ก่อนค่ะว่า
01:26:47 → 01:26:49 เวลาที่จะติดเชื้อน่ะคือสมมุติว่าเข้าไป
01:26:50 → 01:26:53 นอนทันทีเนี่ยคือมันจะมีการcleanนingอยู่
01:26:53 → 01:26:56 แล้วเวลาคนไข้ 1 คนออกก็จะต้องมีการคลีน
01:26:56 → 01:27:00 ตลอดเพื่อจะเคลียร์พวกเชื้อหรือที่มันติด
01:27:00 → 01:27:04 อยู่ตามผนงผนังอุปกรณ์ทั้งหลายเอ่อเตียง
01:27:04 → 01:27:07 นอนของคนไข้ 1 คนออกไปแล้วแล้วก็ต้องทิ้ง
01:27:07 → 01:27:11 ระยะเพื่อให้พวกน้ำยาพวกเนี้ยมันมีการฆ่า
01:27:11 → 01:27:14 เชื้อออกฤทธิ์ได้เต็มที่แล้วถึงจะให้คน
01:27:14 → 01:27:16 ไข้อีกคนนึงเข้าไปเพราะฉะนั้นน่ะถ้าไปนอน
01:27:16 → 01:27:19 ตอนแรกเลยเนี่ยคือโอกาสที่จะได้รับเชื้อ
01:27:19 → 01:27:21 ในโรงพยาบาลมันต่ำมากคืออย่างต่ำเนี่ย
01:27:21 → 01:27:26 ต้อง 48 ชมงขึ้นไปอ่าการใช้เจลแอลกอฮอล์
01:27:26 → 01:27:28 เปรียบเทียบกับการล้างมือแล้วใช้สบู่ล้าง
01:27:28 → 01:27:31 มือเลยอ๋อถ้าพูดถึงใน in general อ่ะคือ
01:27:31 → 01:27:34 แอลกอฮอล์อย่างต่ำ 70% เนี่ยมันฆ่าเชื้อ
01:27:34 → 01:27:38 ได้ดีกว่าสบู่อยู่แล้วอืแต่ก็ต้องแบบ
01:27:38 → 01:27:42 เพียงพอและเหมาะสมใช่ต้องระยะคือวิธีการ
01:27:42 → 01:27:46 แบบคลีนต้องถูกต้องเหมาะสมมันต้องกี่วินท
01:27:46 → 01:27:49 เนาะผมก็แบบไม่ได้วินขึ้นไปใช่ค่ะไอ้พวก
01:27:49 → 01:27:55 แบบชึบๆๆแล้วก็ชึบๆอ่าไม่ก็ยังไม่ยังไม่
01:27:55 → 01:27:59 ออกฤทธิ์ชึบๆเสร็จแล้วเช็ดเช็ดเสื้อละเออ
01:27:59 → 01:28:02 ยังไม่ทันออกฤทธิ์ตั้งอย่าง 130 วินาท
01:28:02 → 01:28:06 ขึ้นไปใช่ก็ขอบคุณพี่แนทมากนะคะวันนี้ที่
01:28:06 → 01:28:10 แบบสละเวลามาแล้วก็สนุกสนานมาก
01:28:10 → 01:28:14 ความรู้นานๆจะเจอกันรู้สึกตื่นเต้นเคยดู
01:28:14 → 01:28:17 เคยเปิดดูรายการ EP แรกคุณหมอผิวหนังอีก
01:28:17 → 01:28:23 ท่านหนึ่งใช่มั้ยคะ EP แรกหมอจั่นใช่ๆโอ้
01:28:23 → 01:28:26 ก็เพื่อนรักก็มาอย่างมีพcสแล้วอะไรอย่าง
01:28:26 → 01:28:29 งี้มีพcสก็คือเราก็ตั้งใจมุ่งหวังที่จะ
01:28:29 → 01:28:32 แบบให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชนอะไร
01:28:32 → 01:28:35 อย่างเงี้ยแล้วก็คนที่เราเชิญมาเนี่ยโห
01:28:35 → 01:28:39 ซเปอร qualify ทุกคนโหรู้สึกเป็นเกียมาก
01:28:39 → 01:28:42 ผู้เชี่ยวชาญจริงๆได้รับการถูกรับเชิญมา
01:28:42 → 01:28:45 ขอบคุณมากๆค่ะน้องอุ่ม
01:28:45 → 01:28:47 อืต้องบอกว่าจริงๆพี่แนทก็คือเป็นเหมือน
01:28:47 → 01:28:51 แบบหมอประจำพวกเรานะ
01:28:51 → 01:28:55 ถามว่าเออเวลาที่เราทำการทางเอ่อเค้า
01:28:55 → 01:28:57 เรียกเรื่องความสวยความงานเอสติกเนี่ยมัน
01:28:57 → 01:28:59 ก็จะมีเรื่องของการติดเชื้อหรือว่าอะไร
01:28:59 → 01:29:01 อย่างงี้ด้วยเนาะแล้วเรามาอีก 1 EP ก็
01:29:01 → 01:29:03 แล้วกันในเรื่องของแบบการติดเชื้ออะไร
01:29:03 → 01:29:06 สิ่งเหล่านี้ว่าเออมันมีอะไรที่จะต้อง
01:29:06 → 01:29:09 กังวลบ้างถ้าสมมุติว่าเราไปทำเพื่อความ
01:29:09 → 01:29:11 สวยความงามไม่ว่าจะเป็นฉีดหน้าผ่าตัดนั่น
01:29:11 → 01:29:14 นี่ๆนั่นเนาะได้เลยค่ะอาจจะไปอีก 1 EP
01:29:14 → 01:29:17 เพราะ EP นี้รู้สึกว่าเต็มกันละแน่นๆแบบ
01:29:18 → 01:29:22 ว่ามีหลายมีหลายทอปิมากหลายมิติด้วยใช่ก็
01:29:23 → 01:29:26 ขอบคุณพี่แนทมากนะคะวันนี้ก็ถ้าเกิดใครมี
01:29:26 → 01:29:29 ปัญหาเนาะในเรื่องของการโรคติดเชื้อก็พบ
01:29:29 → 01:29:32 คุณหมอแดดได้ที่โรงพยาบาลรางกำกับแหค่ะ
01:29:32 → 01:29:34 วันนี้ขอบคุณพี่แนทมากๆค่ะสวัสดีค่ะ
01:29:34 → 01:29:39 ขอบคุณค่ะ
01:29:39 → 01:29:52 [เพลง]