00:00:00 → 00:00:04 คุณหมอถามครับถามเลยว่าเอ่อช่วงหน้าร้อน
00:00:04 → 00:00:08 แบบนี้เนี่ยแสงแดดเนี่ยมันเป็นมันเป็น
00:00:08 → 00:00:13 ศัตรูสำคัญที่จะมาทำลายล้างดวงตาของเรา
00:00:13 → 00:00:16 เนี่ยได้มากน้อยขนาดไหนฮะคุณหมอฮะครับ
00:00:16 → 00:00:19 เอ่อจริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าจริงๆตัวแสงแดด
00:00:19 → 00:00:22 นะครับหรือว่าแสงเอ่อ UV นะในแสงแดดเนี่ย
00:00:22 → 00:00:27 ก็เอ่อเป็นเป็นตัวร้ายนะสำหรับทุกๆเซลล์
00:00:27 → 00:00:29 ของร่างกายเราถูกมั้ยครับเพราะว่าจริงๆ
00:00:29 → 00:00:32 แสงแกก็เหมือนเราโดนผิวหนังผิวหนังเราก็
00:00:32 → 00:00:36 มีโอกาสที่จะเอ่อเอ่อเผาไหม้ลูกเผาไหม้มี
00:00:36 → 00:00:38 โอกาสที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังในอนาคตถ้า
00:00:38 → 00:00:40 เกิดว่าโดนเยอะๆอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยครับ
00:00:40 → 00:00:42 ก็คือจริงๆแล้วอ่าในในแสง UV เนี่ยมันจะ
00:00:42 → 00:00:45 ทำให้เหมือนเซลล์เราอ่ะแก่ลงถูกทำลายลง
00:00:45 → 00:00:47 เซลล์ตายไวขึ้นอะไรอย่างเงี้ยครับเพราะ
00:00:47 → 00:00:49 ฉะนั้นในดวงตาก็เหมือนกันนะครับในดวงตาก็
00:00:50 → 00:00:52 จะมีเซลล์บางเซลล์ที่ที่พอโดนแสงแดดไป
00:00:52 → 00:00:54 แล้วก็พบว่าเออก็จะทำให้เซลล์มันแก่ลง
00:00:55 → 00:00:57 เร็วขึ้นน่ะอย่างเช่นทำให้เป็นต้อกระจกไว
00:00:57 → 00:00:59 ขึ้นอะไรอย่าเงี้ยครับหรือว่าอ่าที่เป็น
00:00:59 → 00:01:01 ตัวสำคัญหลักๆเลยก็คือเรื่องของการ
00:01:01 → 00:01:04 กระตุ้นให้เกิดต้อลมต้อเนื้อขึ้นมาครับอื
00:01:04 → 00:01:08 อันนี้คือคืออันตรายจากแสงแดดใช่มั้ยคุณ
00:01:08 → 00:01:12 หมอครับใช่ครับคือนอกจากเรื่องของแสงแดด
00:01:12 → 00:01:14 แล้วคุณหมอครับในช่วงหน้าร้อนแบบนี้เนี่ย
00:01:14 → 00:01:18 มันมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่จะมาทำร้าย
00:01:18 → 00:01:20 ทำลายดวงตาเราได้เพิ่มเติมอีกมั้ยฮะนอก
00:01:21 → 00:01:25 จากแสงแดดอันร้อนแรงแบบนี้ฮะก็เท่าที่หมอ
00:01:25 → 00:01:28 ลองคิดิดดูนะก็จะมีเรื่องหนึ่งก็คือ
00:01:28 → 00:01:31 อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นความร้อนออะไอสมมต
00:01:31 → 00:01:33 สำหับคนที่เป็นภูมิแพ้เยบุตาอะไเงี้ครับ
00:01:33 → 00:01:36 ก็อาจจะพบว่าอาจจะกำเริบบ่อยขึ้นอะไเงี้
00:01:36 → 00:01:38 ครับเพราะอากาศจริงๆอ่าลักษณะความเย็น
00:01:38 → 00:01:41 เนี่ยจะทำให้สารแพ้หลั่งออกมาน้อยอ่าที
00:01:41 → 00:01:43 นี้พอพอมันแบบมันรออุณหภูมิที่มันเยอะ
00:01:43 → 00:01:45 ขึ้นมันก็อาจจะทำให้สมมติว่าคนเป็นภูมิ
00:01:45 → 00:01:47 แพ้แล้วกำเริบขึ้นมาก็มีโอกาสจะกำเริบได้
00:01:47 → 00:01:50 บ่อยขึ้นนะครับอันนี้คือ 1 อย่างอีกอย่าง
00:01:50 → 00:01:52 นึงที่ที่พอจะนึกได้ก็อาจจะเป็นเรื่อง
00:01:52 → 00:01:54 เหงื่อมครับอ่าที่อาจจะอ่ามันมีฝุ่นมี
00:01:54 → 00:01:57 อะไรที่ที่ใบหน้าเราแล้วก็อากาศร้อนมี
00:01:57 → 00:01:59 เหงื่อออกเยอะอะไรเงี้ยครับก็มีโอกาสที่
00:01:59 → 00:02:02 น้เหชะล้างพวกเอ่อสิ่งสกปรกพวกฝุ่นอะไร
00:02:02 → 00:02:04 เงี้ยเราก็อาจจะเข้าตาได้ก็มีโอกาสที่จะ
00:02:04 → 00:02:06 ทำให้เยืบุตาอักเสบหรือมีการติดเชือได้
00:02:06 → 00:02:09 ถ้าที่หมอนึกออกน่าจะมีประมาณนี้ครับอื
00:02:09 → 00:02:12 โอ้โหนี่ผมเพิ่งถ่ายงานที่ต่างจังหวัดมา
00:02:12 → 00:02:14 เลยพี่ดีนคุณหมอเป็นยังไงครับพี่โอก็
00:02:14 → 00:02:17 อากาศมันมันเราถ่ายเอาดอกไงมันร้อนไงด้าน
00:02:17 → 00:02:20 นอกถ่ายแบบโอโหอากาศร้อนเราถ่ายตั้งแต่
00:02:20 → 00:02:23 แบบยิ่งอาชีพเรานะพี่ดรมนักข่าวเข้าใจ
00:02:23 → 00:02:27 มั้ยอือฮแล้วก็ต้องถ่ายงานแบบตั้งแต่
00:02:27 → 00:02:30 สมมุติบางวันเจอแจ็คพอตเช้าเย็น
00:02:30 → 00:02:35 โอ้โหเหงื่อนี่มันแบบท่วมทั้งตัวไหนจะอับ
00:02:35 → 00:02:37 ชื้นไหนจะแบบเหงื่ออย่างที่คุณหมอบอกเข้า
00:02:37 → 00:02:42 ตาเลยพวกนี้มันมีมันมีผลต่อสุขภาพร่างกาย
00:02:42 → 00:02:44 เราหมดเลยใช่มครับโดยเฉพาะเรื่องเหนือใน
00:02:44 → 00:02:47 ช่วงหน้าร้อนแบบนี้คุณหมอใช่ครับก็จริงๆ
00:02:47 → 00:02:49 แล้วถ้าเกิดว่าเอ่อสมมติมันเป็นเหงือเข้า
00:02:49 → 00:02:51 ตาอะไรเงี้ยครับแต่ว่าถ้าเกิดดวงตาเราไม่
00:02:51 → 00:02:54 ได้มีแผลอะไรมันก็จะไม่ค่อยมีปัญหาครับ
00:02:54 → 00:02:57 เราก็อกระติบตาไปเดี๋ยวมันก็อ่าน้ำตาก็ชะ
00:02:57 → 00:03:00 ล้างพวกสิ่งสกปรกออกไปได้แต่ว่าออในบาง
00:03:00 → 00:03:02 กรณีที่แบบอ่ะสมมุติว่ามีฝงมีฝุ่นผงเข้า
00:03:02 → 00:03:04 ตาด้วยแล้วเราเผอไปขยี้ตาแรงอะไรเงี้ย
00:03:04 → 00:03:07 ครับมันก็อาจจะมีอ่ามีมีรอยปาดแผลเล็กๆ
00:03:07 → 00:03:09 ที่กระจกตาอะไรอะไรเงี้ยครับแล้วก็รวมกับ
00:03:09 → 00:03:11 เชื้อโรคที่เข้าไปมันก็มีโอกาสความเสี่ยง
00:03:11 → 00:03:14 ที่ที่เพิ่มมากขึ้นนะครับแต่ถ้าเกิดว่า
00:03:14 → 00:03:16 เราไม่ได้มีแผลหรือไม่ได้เอ่อไม่ได้โดน
00:03:16 → 00:03:18 อะไรทิ่มหรือไม่ได้ขยี้ตาแรงๆส่วนใหญ่ก็
00:03:18 → 00:03:21 คิดว่าก็ไม่ได้ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงเยอะ
00:03:21 → 00:03:25 กว่ากว่ากว่าปกตินะครับอือ๋อคุณหมอถ้า
00:03:25 → 00:03:29 เทียบกันนะฮะเหงื่อกับฝุ่นเนี่ยถ้าเทียบ
00:03:29 → 00:03:31 กันในช่วงเร้อนแบบเโอ้โหมันมีปริมาณเรียก
00:03:31 → 00:03:34 ว่าพอๆกันเลยขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละ
00:03:34 → 00:03:37 วันที่จะต้องออกไปโดยเฉพาะคนที่ต้องทำงาน
00:03:37 → 00:03:40 นอกสถานที่เนี่ยถ้าถ้าในมุมมองของคุณหมอ
00:03:40 → 00:03:43 เนี่ยไอ้ปัจจัย 2 อย่างเถ้าเทียบกันนะถ้า
00:03:43 → 00:03:45 ไม่นับพวกเรื่องของอุณหภูมิเรื่องของแสง
00:03:45 → 00:03:48 แดดแล้วเนี่ยอันไหนมันจะทำร้ายดวงตาของ
00:03:48 → 00:03:51 เราได้มากกว่ากันนะคุณหมอออน่าจะเป็นฝุ่น
00:03:51 → 00:03:54 ครับเพราะว่าจริงๆเหงื่อมันก็เป็นเป็น
00:03:54 → 00:03:55 สิ่งที่ร่างกายเราขับออกมาอยู่แล้วใช่
00:03:56 → 00:03:58 มั้ยครับจริงๆมันก็ไม่ได้เ่อมีอันตราย
00:03:58 → 00:04:00 อะไรกับกับผิวดวงตามากมายอะไรครับแต่ว่า
00:04:00 → 00:04:02 ถ้าเป็นตัวฝุ่นเนี่ยน่าจะมีผลมากกว่า
00:04:02 → 00:04:05 เพราะเราก็ไม่รู้ว่าในฝุ่นเนี่ยมีเอ่อมี
00:04:05 → 00:04:07 ส่วนผสมของอะไรบ้างมันอาจจะเป็นฝุ่นที่
00:04:07 → 00:04:09 มันมีสารเคมีปะปนมาหรือว่าเป็นฝุ่นที่มัน
00:04:09 → 00:04:11 มีเชื้อโรคปะปนมาอย่างเงี้ยครับเพราะ
00:04:11 → 00:04:13 ฉะนั้นกลุ่มที่เป็นฝุ่นเนี่ยก็จะจะมีความ
00:04:13 → 00:04:17 ที่อันตรายกว่ากลุ่มที่เป็นเหงื่ออือืไม่
00:04:18 → 00:04:21 ว่าจะเป็นฝุ่นจากเอ่อฝุ่นปกติทั่วไปหรือ
00:04:21 → 00:04:24 ฝุ่นจากสารเคมีใช่มั้ยฮะมันก็ส่งผลตดวงตา
00:04:24 → 00:04:26 เดี๋ยวนี้ก็จะมีข่าวเรื่องสารเคมีเยอะใช่
00:04:26 → 00:04:31 มั้ยครับค่อนข้างบ่อยมากช่วงนี้ครับอืเออ
00:04:31 → 00:04:35 ฝุ่นพวกนี้ฝุ่นพวกนี้มันมันจะไปทำทำให้
00:04:35 → 00:04:38 ดวงตาได้รับความกระทบกระเทือนสักกี่ระดับ
00:04:38 → 00:04:41 ครับมันมีมันมีมันมีระดับของเขามั้ยแล้ว
00:04:41 → 00:04:45 มันจะถ้ากระทบแล้วมันจะเป็นมีอาการยังไง
00:04:45 → 00:04:47 บ้างครับคุณหมออ๋อส่วนใหญ่แล้วนะครับก็
00:04:48 → 00:04:51 คือจริงๆเราก็คงจะขึ้นขึ้นกับเอ่อลักษณะ
00:04:51 → 00:04:53 เนาะถ้าเกิดว่าหมอแบ่งเป็นกลุ่มที่สมมุติ
00:04:53 → 00:04:55 ว่าเป็นฝุ่นควันเนาะเป็นฝุ่นควันหรือว่า
00:04:55 → 00:04:58 อ่าเป็นสารเคมีที่มันมีการเผาไหม้แล้วมัน
00:04:58 → 00:05:00 ก็ลอยเข้ามาใช่มั้ยครับส่วนนึงมันก็อาจจะ
00:05:00 → 00:05:02 ทำให้ไอ้ตัวฝุ่นนั้นนมันก็จะมีความเป็น
00:05:02 → 00:05:05 กรดเป็นด่างที่ที่ไม่ใช่เป็นปกติเนาอาจจะ
00:05:05 → 00:05:07 มีกรดมากกว่าปกติหรือว่าด่างมากกว่าปกติ
00:05:07 → 00:05:10 นะครับทีนี้ความรุนแรงของมันเนี่ยก็ขึ้น
00:05:10 → 00:05:12 อยู่กับว่าฝุ่นนั้นน่ะครับมีมีความเข้ม
00:05:12 → 00:05:15 ข้นของสารเคมีแค่ไหนนะถ้าเกิดยิ่งเข้มข้น
00:05:15 → 00:05:17 มากหรือว่าเรายิ่งอยู่ใกล้แหล่งนั้นมากๆ
00:05:17 → 00:05:20 แล้วจำนวนฝุ่นมันเยอะมันก็มันก็ความรุน
00:05:20 → 00:05:22 แรงมันก็จะสูงนะฮะส่วนใหญ่อาการที่มาก็คง
00:05:22 → 00:05:25 หลักๆเลยก็คือเรื่องของการแสบตาเคืองตา
00:05:25 → 00:05:27 น้ำตาไหลตาแดงอะไรเงี้ยครับเพราะว่าอความ
00:05:27 → 00:05:29 เป็นกรดเป็นด่างที่มันผิดปกติไปเนี่ยเวลา
00:05:29 → 00:05:33 ที่มันมาโดนผิวดวงตาเราเราจะรู้สึกแสบนะ
00:05:33 → 00:05:35 เหมือนเหมือนเวลาที่เรามียาอะไรมาหยอด
00:05:35 → 00:05:37 หรือมีอะไรกระเด็นเข้าตาถ้าเกิดว่าสิ่ง
00:05:37 → 00:05:39 นั้นมันมีลักษณะที่เป็นกดหรือเป็นด่างที่
00:05:39 → 00:05:41 มันไม่ใช่เป็นเพาะเป็นกลางหรือว่าแตกต่าง
00:05:41 → 00:05:43 จากน้ำตาเราเราจะรู้สึกแสบอะไรเงี้ยครับ
00:05:43 → 00:05:46 อ่าอันนี้คือกลุ่มที่เป็นสารเคมีนะฮะส่วน
00:05:46 → 00:05:48 กลุ่มที่เป็นเชื้อโรคฮะมันก็จะมีเชื้อโรค
00:05:48 → 00:05:50 บางอย่างที่มันปักบนอยู่ในดินอะไรอย่าง
00:05:50 → 00:05:52 เงี้ยครับอ่าแล้วถ้าเกิดว่ามันมาเข้าตา
00:05:52 → 00:05:54 เราอะไรอย่างเงี้ยมันก็มีโอกาสที่ถ้าเกิด
00:05:54 → 00:05:56 เรามีแผลนะครับแล้วมันก็อ่าเชื้อโรคมัน
00:05:56 → 00:05:59 เยอะพอมันก็ทำให้มีการติดเชื้อที่กระจกตา
00:05:59 → 00:06:01 หรือว่าว่ามีติเชื้อที่เยี่บุปาได้ครับก็
00:06:01 → 00:06:05 จะเป็นกลุ่มของติเชื้อนะครับออือันนี้คือ
00:06:05 → 00:06:07 อันตรายจากเรื่องของฝุนนะมันมีก็มีมันก็
00:06:07 → 00:06:10 มีหลายเลเวลเหมือนกันที่มันจะส่งผลกระทบ
00:06:10 → 00:06:13 ต่อดวงตาของเราคุณหมออย่างในช่วงหน้าร้อน
00:06:13 → 00:06:16 แบบนี้ครับคุณหมอในฐานะที่เป็นคุณหมอด้าน
00:06:16 → 00:06:18 จักสุแพทย์ด้วยเกี่ยวกับเรื่องของดวงตา
00:06:18 → 00:06:22 โดยตรงครับคอาการที่คนไข้ครับคุณหมอครับ
00:06:22 → 00:06:25 มักจะมาในช่วงเวลาแบบนี้ที่อากาศมันร้อน
00:06:25 → 00:06:28 ถึงร้อนจัดเนี่ยนะฮะมักจะมาด้วยอาการอะไร
00:06:28 → 00:06:33 ที่เป็นยอดนิยมมากที่สุดนะคุณหมอครับอื่า
00:06:33 → 00:06:36 เท่าที่เท่าที่ดูนะครับคือจริงๆเ่อเ่อ
00:06:36 → 00:06:39 ความความเอ่อลักษณะพิเศษหรือว่าตัวกลุ่ม
00:06:39 → 00:06:41 โลกที่เยอะๆในหน้าร้อนเนี่ยจริงๆก็ไม่ได้
00:06:41 → 00:06:44 มีแบบเฉพาะเจาะจงพิเศษจะแตกต่างกากหน้าฝน
00:06:44 → 00:06:47 เนาะถ้าเป็นหน้าฝนเนี่ยชัดเจนเลยก็จะเป็น
00:06:47 → 00:06:49 กลุ่มที่เ่อเรื่องตาแดงเรื่องอะไรอย่าง
00:06:49 → 00:06:51 เงี้ยที่ที่จะเยอะใช่มั้ยครับเพราะว่ามัน
00:06:51 → 00:06:53 มีเรื่องของน้ำสกปรกเข้าตาแต่แต่จริงๆ
00:06:53 → 00:06:56 แล้วหน้าร้อนก็ไม่ได้มีแบบแตกต่างนะครับ
00:06:56 → 00:06:58 ก็คือเหมือนฤดูทั่วๆไปอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:06:58 → 00:07:02 อืครับโอก็แสดงว่าก็ไม่ได้เฉพาะมีอะไรที่
00:07:02 → 00:07:05 เฉพาะเจาะจงในหน้าร้อนักะแสดงว่าหน้าร้อน
00:07:05 → 00:07:08 จริงๆแล้วเนี่ยเอิ่มเรื่องของไม่รู้นะผม
00:07:08 → 00:07:10 เดาอาจจะแบบด้วยอากาศที่ร้อนเชื้อโรคมัน
00:07:10 → 00:07:13 อยู่อาศัยไม่ได้อย่างงี้เกี่ยวมั้ยฮะก็
00:07:13 → 00:07:15 อาจจะมีอาจจะมีส่วนนะเพราะว่ามันรอเอ่อรน
00:07:15 → 00:07:18 ร้อนมากนะประมาณ 40 40 องศาใช่มั้ยสัก
00:07:18 → 00:07:23 บางบางที่อะไรเงี้ยครับอืก็ฟังดูก็ก็ก็
00:07:23 → 00:07:25 อย่างไม่ได้ไม่ไม่ได้ปลอดภัยซะทีเดียวนะ
00:07:25 → 00:07:28 คุณหมอนะถ้าถ้าถ้าเทียบกันถ้าถ้าให้พูด
00:07:28 → 00:07:31 ถึงเรื่องเรื่องของช่วงเวลาหรือว่าสภาพ
00:07:31 → 00:07:34 อากาศที่มันดูจะเป็นอันตรายต่อดวงตาหน้า
00:07:34 → 00:07:37 ร้อนก็เป็นอีกหนึ่งหนช่วงเวลาที่มันมันมี
00:07:37 → 00:07:39 ปัญหาทีนี้เนี่ยคุณหมอครับผมไปเจอเนี่ย
00:07:39 → 00:07:43 หลายๆคนเนี่ยเวลาในช่วงที่ผ่านมาเนี่ย
00:07:43 → 00:07:45 โอ้โหหน้าร้อนเนี่ยมันมีปัญหาเกี่ยวกับ
00:07:45 → 00:07:47 ดวงตาเยอะมากเลยครับคุณหมอครับยังไงครับ
00:07:47 → 00:07:50 พี่ดรมเอออยากจะให้คุณหมอช่วยอธิบายในใน
00:07:50 → 00:07:54 ในแต่ละอาการให้ให้เรา 2 คนรวมทั้งคุณผู้
00:07:54 → 00:07:56 ฟังทางบ้านเนี่ยได้ได้พอเข้าใจกันหน่อย
00:07:56 → 00:07:59 หรือว่าใครที่อาจจะรู้สึกว่าคลับคล้าคับ
00:07:59 → 00:08:02 คลาว่าเฮ้ยเราอาจจะเข้าข่ายเป็นอาการ
00:08:03 → 00:08:05 เหล่านี้อยู่หรือเปล่าเพราะฉะนั้นเราควร
00:08:05 → 00:08:07 จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรรีบพบแพทย์มั้ย
00:08:08 → 00:08:11 หรือว่าไปหาซื้อยาหยุกยาอะไรมากินมาทาเอง
00:08:11 → 00:08:13 อะไรอย่างงี้ได้ปัญหาแรกคุณหมอเรื่องของ
00:08:13 → 00:08:17 อาการตาแห้งหลายคนเป็นบ่อยมากล่าสุด
00:08:17 → 00:08:19 เพื่อนสาวคนสนิทของผมมีอาการตาแห้งครับ
00:08:19 → 00:08:22 ต้องไปหาหมอถึง 2 รอบด้วยกันโอถึงขั้นตา
00:08:22 → 00:08:26 อักเสบเลยคุณหมอคุณใช้คำได้
00:08:26 → 00:08:30 แบบมันมันมันมีโอกาสเสี่ยงคุณหมอครับช่วง
00:08:30 → 00:08:33 อาการตาแห้งแบบนี้ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ฮะ
00:08:33 → 00:08:36 ครับก็ก็จริงๆอาการตาแห้งเนี่ยเป็นอาการ
00:08:36 → 00:08:39 ที่เป็นภาวะที่พบบ่อยมากๆเลยนะครับคือคือ
00:08:40 → 00:08:42 เป็นจริงๆเป็นเป็นโรคตาลำดับต้นๆเลยนะ
00:08:42 → 00:08:45 ครับถ้าเกิดว่าดูดูตามที่เขารวบรวมข้อมูล
00:08:45 → 00:08:49 มาเนี่ยก็คืออ่าคนไข้ที่มาที่แผนกตรวจตา
00:08:49 → 00:08:51 สมมุติว่าคนไข้มาหาแผนกตรวจตามักจะมีตา
00:08:51 → 00:08:54 แห้งซ่อนอยู่ประมาณ 90% อู้ฮะแต่ว่าแต่
00:08:54 → 00:08:56 ว่าแต่ละคนเนี่ยอาจจะไม่รู้เพราะว่าอาการ
00:08:56 → 00:08:58 มันไม่ได้เยอะเท่าอ่าาบางคนอาจจะเป็นน้อย
00:08:59 → 00:09:01 ๆบางคนไม่ได้สังเกตอะไรเงี้ยครับอ่ามันจะ
00:09:01 → 00:09:04 มีน้อยมีมากอ่าต่างกันนะแต่ว่าโดยรวมมัก
00:09:04 → 00:09:06 จะมีซ่อนอยู่เสมอนะฮะซึ่งซึ่งอาการตายแห้
00:09:07 → 00:09:09 เนี่ยก็คือเ่าเป็นอาการที่มีลักษณะที่มัน
00:09:09 → 00:09:12 จะเป็นเป็นหายๆนะเวลาที่เราหลับตาพักตา
00:09:12 → 00:09:14 ลืมตามาเราก็เหมือนจะดีขึ้นเนาะแต่ถ้า
00:09:14 → 00:09:16 เกิดว่าเราใช้สสายตาเยอะๆมันก็มีโอกาสที่
00:09:16 → 00:09:18 จะเป็นมากขึ้นลักษณะอาการก็จะเป็นเรื่อง
00:09:18 → 00:09:21 ของแสบตาเคลืองตาเหมือนมีผงอยู่ในตานะ
00:09:21 → 00:09:24 ครับบางคนก็อรู้สึกเหมือนแพ้แสงบางคนก็
00:09:24 → 00:09:27 รู้สึกว่าเอ๊บางทีตามันมัวๆลงเบอๆอะไร
00:09:27 → 00:09:29 อย่างเงี้ยครับแต่ว่าลักษณะที่ที่จะบบอก
00:09:29 → 00:09:31 ว่าเป็นตาแห้งที่ชัดเจนที่สุดคือมักจะ
00:09:31 → 00:09:33 เป็นไปไหายครับแต่สมมติสมมติเราเป็นเ้า
00:09:33 → 00:09:35 กระจกอย่าเงี้ยเราก็จะตามัวตลอดเวลาแต่
00:09:35 → 00:09:37 ถ้าเกิดว่าเป็นตาแห้งมันก็จะเป็นเป็นหายๆ
00:09:37 → 00:09:40 โอ้เดี๋ยวดีเดี๋ยวพอเราพักแล้วดีพอทำงาน
00:09:40 → 00:09:42 เยอะๆก็ก็เป็นใหม่อะไรเงี้ยครับซึ่ง
00:09:42 → 00:09:44 สาเหตุของการแห้งเนี่ยก็มีหลากหลายมากเลย
00:09:44 → 00:09:47 นะฮะมีมีเยอะมากๆเลยอ่าตัวอายุที่เพิ่ม
00:09:47 → 00:09:49 ขึ้นก็ทำให้ตาแห้งมากขึ้นนะฮะเรื่องของ
00:09:49 → 00:09:52 ฮอร์โมนเพศผู้หญิงก็มักจะตาแห้งมากกว่า
00:09:52 → 00:09:54 ผู้ชายนะฮะหรือว่าอ่าบางทีบางคนใส่คอนแทค
00:09:54 → 00:09:57 เลนก็ทำให้ตาแห้งนะครับอ่าหรือจะมีโรค
00:09:57 → 00:10:00 กลุ่มเรื่องกล่อมไขมันเือตาที่อุดฟันอะไร
00:10:00 → 00:10:01 เงี้ยครับหรือว่ากรณีที่หลังทำผ่าตัด
00:10:02 → 00:10:04 อย่างเช่นทำผ่าตัดเลสิกมานี้ก็จะตาแห้ง
00:10:04 → 00:10:06 มากขึ้นนะหรือบางคนมียาบางอย่างกินอย่าง
00:10:06 → 00:10:09 เช่นยาแก้ภูมิแพ้ก็ทำให้การหลั่งน้ำตา
00:10:09 → 00:10:12 น้อยลงทำให้มีตาแห้งได้ครับเพราะฉะนั้น
00:10:12 → 00:10:14 จริงๆตาแห้งเนี่ยจะโอหลากหลายเลยแต่ว่า
00:10:14 → 00:10:16 ลักษณะที่สังเกตได้งง่ายๆเลยก็คือถ้า
00:10:16 → 00:10:19 อาการเป็นๆหายๆเนี่ยมักจะเป็นจากตาแห้ง
00:10:19 → 00:10:24 ครับอืมันไวเกี่ยวมั้ยฮะอ่าอายุเพิ่มขึ้น
00:10:24 → 00:10:26 เกี่ยวฮะอย่างเด็กๆก็จะไม่ค่อยแห้ง่ะแต่
00:10:26 → 00:10:29 พออายุมากๆขึ้นอะไรเงี้ยครับก็มักจะาแห้ง
00:10:29 → 00:10:34 มากขึ้นครับแมแม้ว่าการพฤติกพฤติกรรมหรือ
00:10:34 → 00:10:36 ว่าการใช้ชีวิตของของเขาเนี่ยอาจจะไม่
00:10:36 → 00:10:41 ต้องไปพบปะเจอแสงแดดข้างนอกมากทำงานเป็น
00:10:41 → 00:10:44 พวกมนุษย์ออฟฟิศอะไรอย่างเงี้ยก็มีโอกาส
00:10:44 → 00:10:46 ที่จะตาแห้งได้ได้ถ้าเทียบกันกับคนที่
00:10:46 → 00:10:49 ต้องออกไปออกแดดเนี่ยมันมันมีโอกาสเยอะ
00:10:49 → 00:10:51 กว่ามั้ยฮะคุณหมอนี่ก็เป็นก็เป็นคำถามที่
00:10:52 → 00:10:54 ดีมากเลยครับก็คือจริงๆเราก็จะเปรียบ
00:10:54 → 00:10:56 เทียบอนะครับสมมุติว่าคนที่ทำงานกลางแจ้ง
00:10:56 → 00:10:58 นะเวลาออกไปทำงานกลางแจ้งจริงตัวแสงแดดก็
00:10:58 → 00:11:01 อาจจะจะไม่ได้ทำให้ตาแห้งชัดเจนนะแต่ว่า
00:11:01 → 00:11:04 ลมฮอออ่ากางแจ้งมันมักจะมีลมนะลมที่พัด
00:11:04 → 00:11:08 เนี่ยจะทำให้น้ำตาเราระเหยเร็วขึ้นมันก็
00:11:08 → 00:11:10 ทำให้ตาเราแห้งนะฮอ่าอันนี้คือกลุ่มนึงนะ
00:11:10 → 00:11:12 ฮะอีกกลุ่มนึงคือกลุ่มที่ทำงานออฟฟิศนะ
00:11:12 → 00:11:15 อยู่ในห้องแอร์นะฮะในห้องแอร์จริงๆความ
00:11:15 → 00:11:17 ความชื้นก็จะต่ำๆหน่อยเนาบางทีอากาศเย็นๆ
00:11:17 → 00:11:19 อะไรเงี้ยครับแล้วก็แล้วก็เอ่อลักษณะของ
00:11:19 → 00:11:22 การทำงานที่อยู่ในอยู่ในพนักงานออฟฟิศนะ
00:11:22 → 00:11:24 ฮะก็มักจะทำงานกับจอคอมใช่มั้ยครับใช้
00:11:24 → 00:11:28 เวลาในการอ่าตั้งใจทำงานกับคอมหรือบางที
00:11:28 → 00:11:30 ต้องเขียนหนังสืออะไรอย่างเงี้ยครับเอ่อ
00:11:30 → 00:11:32 เค้าพบว่าการที่เราทำงานอยู่ที่หน้าจอ
00:11:32 → 00:11:34 หรือแม้แต่กแมแม้แต่กระทั่งการใช้
00:11:34 → 00:11:36 แท็บเล็ตการใช้มือถืออย่าเงี้ยครับเรามัก
00:11:36 → 00:11:39 จะกระพริตาน้อยลงครับคือเรามีความตั้งใจ
00:11:39 → 00:11:42 อ่าคนปกติเนี่ยเราอ่าตามหลักแล้วเราเอ่อ
00:11:43 → 00:11:45 นาทีนึงเราจะกระพริบตา 20 ครั้งแต่ถ้า
00:11:45 → 00:11:47 เกิดว่าเ่าเราตั้งใจอะไรมากๆเเราจะ
00:11:47 → 00:11:49 กระพริบตาน้อยลงการที่เรากระพริบตาน้อยลง
00:11:49 → 00:11:51 เนี่ยน้ำตาเราจะระเหยแล้วทำให้เรามีอาการ
00:11:51 → 00:11:54 ตาแห้งครับอ๋ออ่าก็จะเป็น 2 กลุ่มอาชีพ
00:11:54 → 00:11:56 ที่ก็มีโอกาสป้าแห้งเหมือนกันนะแม้แม้ว่า
00:11:56 → 00:11:59 จะคนนึงอยู่จางแจ้งคนนึงอยู่ในออฟฟิศอยู่
00:11:59 → 00:12:01 ในห้องทำงานอะไรเงี้ยครับ
00:12:01 → 00:12:05 อืในในอาคารก็ไม่ใช่ว่าจะรอดได้มันก็มี
00:12:06 → 00:12:09 ปัจจัยใชตาแห้งก็เลยเป็นเป็นโรคที่พบเยอะ
00:12:09 → 00:12:11 ไงครับเพราะมันมีปัจจัยอ่ากระตุ้นหลาย
00:12:11 → 00:12:14 อย่างฮะแล้วรวมถึงว่าคนที่อยู่ในที่ที่
00:12:14 → 00:12:16 แตกต่างกันก็ก็มีโอกาสที่จะตาแห้งเหมือน
00:12:16 → 00:12:18 กันอย่างคนที่อาจจะอยู่ริมทะเลอะไรเงี้อ
00:12:18 → 00:12:20 นี้มีโอกาสตาแห้งเยอะเพราะลมมันแรงมากถูก
00:12:20 → 00:12:24 มั้ยครับอ๋อใช่จริงเพราะว่าลมทะเลก็เรียก
00:12:24 → 00:12:28 ว่าโหมามาแบบผัดเข้าหน้าเียเราก็แบบเอ่อส
00:12:29 → 00:12:31 ได้มันจะแสบตาเนาะพี่โอ๊เนาะคนอยู่ริม
00:12:31 → 00:12:35 ทะเลพี่ดีมนี่คนสุราษฎร์เขไปทะเลเออมันจะ
00:12:35 → 00:12:37 มันจะมีลมมันจะมีลมลมทะเลอยู่ใช่มันก็จะ
00:12:37 → 00:12:40 แสบๆตาอยู่พอสมควรมันจะกระพริบตาถี่มากนะ
00:12:40 → 00:12:42 คุณหมอครับคนที่อยู่แบบริมทะเลอะไรอย่าง
00:12:42 → 00:12:45 เงี้ยนะฮะเออแล้วมันก็รู้สึกว่าตใช่ม
00:12:45 → 00:12:47 ครั้งที่เรากระพริบตาเราก็จะทำให้น้ำตา
00:12:47 → 00:12:49 เคือบผิวตาเราได้ได้ได้ใหม่ทุกๆครั้งที่
00:12:49 → 00:12:52 เรากระพริบออืครับอันนี้ก็คือเป็นเป็น
00:12:52 → 00:12:55 เรื่องของอาการตาแห้งนะเพราะว่าเนี่ยพอ
00:12:55 → 00:12:57 พูดถึงคุณหมอพอพูดถึงเรื่องของตาแห้งก็มี
00:12:57 → 00:13:00 คุณผู้ฟังหลายท่านเนี่ยก็สอบถามกันเข้ามา
00:13:00 → 00:13:03 เหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องของเอ่อเหมือนจะ
00:13:03 → 00:13:05 เป็นตาแห้งหรือเปล่าไม่แน่ใจเนี่ยก็คือ
00:13:05 → 00:13:08 ถามคุณหมอเลยว่าคือยอดฮิตครับยอดฮิจริงๆ
00:13:08 → 00:13:13 ใช่ใช่ยอดฮิตจริงๆครับคือมันมันมันสามารถ
00:13:13 → 00:13:16 มันสามารถหายเองได้มั้ยคุณหมอหรือว่าเรา
00:13:16 → 00:13:18 เราควรจะต้องไปพบแพทย์ดีกว่ากับอาการตา
00:13:18 → 00:13:22 แห้งเนี่ยคือไอ้ตาแห้งเนี่ยคือถ้าคนที่
00:13:22 → 00:13:24 ไม่เคยเป็นมาก่อนเนี่ยคือเค้าก็อาจจะไม่
00:13:24 → 00:13:27 แน่ใจไม่ทราบเนี่ยอาการเบื้องต้นของตา
00:13:27 → 00:13:29 แห้งเนี่ยอาการสังเกตอแรกเริ่มเลยมันมัน
00:13:29 → 00:13:32 ต้องยังไงฮะคุณหมอฮะอ่าก็ที่เอ่อที่หมอ
00:13:32 → 00:13:34 บอกนะครับก็คืออาการก็จะเป็นเป็นหายๆเนาะ
00:13:34 → 00:13:38 อาการก็แสบตาเคืองตารู้สึกฝืดๆขัดๆในตา
00:13:38 → 00:13:41 บางทีรู้สึกว่าเอ๊ะน้ำตาลไหลผิดปกติน้ำ
00:13:41 → 00:13:43 ตาลไหลเยอะอะไรอย่าเงี้ยครับการที่น้ำตาล
00:13:43 → 00:13:45 ไหลเยอะมันเกิดจากการที่เคืองแล้วพอเคือง
00:13:45 → 00:13:47 ปุ๊บก็ร่างกายก็กระตุ้นให้หลังน้ำตาออกมา
00:13:47 → 00:13:51 เพิ่มขึ้นอ่ามันเกิดมแแล้วกระตุ้นอ่าใช่
00:13:51 → 00:13:54 หรือบางทีก็แพ้แสงบางทีก็เ่อมองเห็นมมัว
00:13:54 → 00:13:56 เป็นเป็นไหนๆอะไรอย่าเงี้ยครับตอนที่เรา
00:13:56 → 00:13:59 ใช้สายตาเยอะๆนะฮะก็จะเป็นตัวที่บ่งบอก
00:13:59 → 00:14:01 ว่าเอ๊เราอาจจะมีโอกาสที่จะเป็นตาแห้ง
00:14:01 → 00:14:04 ส่วนทีนี้เราเราจะรู้ได้ไงว่าต้องรักษา
00:14:04 → 00:14:07 ไม่ต้องรักษาก็อาจจะอ่าอาจจะต้อง 1 ก็คือ
00:14:07 → 00:14:09 อ่ะบางคนก็ใช้วิธีการที่ซื้อน้ำตาเทียม
00:14:09 → 00:14:13 หยอดดูก่อนว่าดีขมั้ยใช่มั้ยครับอ่าบางคน
00:14:13 → 00:14:15 ก็เอ๊ะลองพับดูก่อนพอลองพับดูก็อาจจะดี
00:14:15 → 00:14:17 ขึ้นจริงๆหลักๆแล้วมันขึ้นอยู่กับว่า
00:14:17 → 00:14:20 สาเหตุของตาแห้ณตอนนั้นนะครับเกิดจากอะไร
00:14:20 → 00:14:24 แล้วสาเหตุนั้นน่ะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
00:14:24 → 00:14:25 หรรือเปล่าอ่ะอย่างเช่นบางคนใส่คอนแทค
00:14:25 → 00:14:27 เลนส์แต่ไม่รู้หรอกว่าคอนแทคเลนส์ทำให้ตา
00:14:27 → 00:14:30 แห้งอะไรอย่างเงี้ยครับมันมเราใส่่คอนแทค
00:14:30 → 00:14:32 เลนอยู่เรื่อยๆมันก็ก็ยังแห้งอยู่อาการก็
00:14:32 → 00:14:34 จะไม่ดีขึ้นอะไเงี้ยหลักๆก็คือเราต้องหา
00:14:34 → 00:14:37 สาเหตุก่อนว่าปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ตา
00:14:37 → 00:14:39 แห้งคืออะไรเราก็หลีกเลี่ยงตรงนั้นครับ
00:14:39 → 00:14:42 ร่วมกับการที่รักษาโดยการใช้น้ำตาเทียม
00:14:42 → 00:14:44 แล้วก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมครับอืหลักๆก็
00:14:44 → 00:14:47 คืออาการที่คุณหมอว่ามาเนี่คือถ้ามันเป็น
00:14:47 → 00:14:51 ๆหายๆเนี่ยรีบไปพบแพทย์ดีกว่าอย่าปล่อย
00:14:51 → 00:14:52 ไว้เดี๋ยวมันจะอักเสบได้ใช่มั้ยครับคุณ
00:14:53 → 00:14:55 หมอฮะครับถ้าเกิดว่ามันเป็นเรื้อรังมันก็
00:14:55 → 00:14:57 จะใช้เวลาในการรักษานิดนึงฮะหมายถึงว่า
00:14:57 → 00:15:00 บางทีบางคนตาแห้งมาเรื้อรังนานๆเวลลามา
00:15:00 → 00:15:02 รักษาก็จะใช้เวลานานขึ้นกว่าจะเริ่มดี
00:15:02 → 00:15:04 ขึ้นอะไรแบบเนี้ยครับเหมือนกับเหมือนกับ
00:15:04 → 00:15:07 พอเอ่อเหมือนผิวดวงตามันถูกทำลายอยู่นานๆ
00:15:07 → 00:15:09 ๆๆเซลล์มันก็ตายเยอะกว่าเราจะทำให้มัน
00:15:09 → 00:15:12 ฟื้นก็จะใช้เวลานานกว่าตอนที่เราเอ๊ยรู้
00:15:12 → 00:15:14 สึกนิดๆอ่ะเป็นไม่เยอะแล้วเรารีบรักษา
00:15:14 → 00:15:16 หรือรีบได้รับการแนะนำที่ถูกต้องอะไร
00:15:16 → 00:15:20 เงี้ยครับอืหลายคนเขาก็เป็นแบบนี้แหละแต่
00:15:21 → 00:15:24 ว่าเขามักจะไม่ค่อยอยากไปหาหมอก็เลยไป
00:15:24 → 00:15:28 คลินิกเอ้ยไม่ใช่คลินิกสิร้านขายยาทั่วไป
00:15:28 → 00:15:32 แทนซื้อยาอะไรนะน้ำยายาน้ำตาเทียมน้ำตา
00:15:32 → 00:15:35 เทียมเอออันเนี้ยมันมันมันบรรเทาได้มครับ
00:15:35 → 00:15:37 หรือว่ามันมีข้อแม้ข้อห้ามอะไรยังไงบ้าง
00:15:37 → 00:15:40 อ๋อครับเป็นาที่ดีครับก็คือจริงๆตัวน้ำตา
00:15:41 → 00:15:43 เทียมในในท้องตลาดครับก็จะมีเยอะเหมือน
00:15:43 → 00:15:45 กันนะครับตลาดที่ขายตามร้านขายยานะครับ
00:15:45 → 00:15:48 แต่ว่าจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆชัดเจนนะ
00:15:48 → 00:15:50 ครับก็คือกลุ่มนึงคือน้ำตาเทียมที่ลักษณะ
00:15:50 → 00:15:54 เป็นขวดครับอ่ากลุ่มเเนี่ยจะมีสารกันเสีย
00:15:54 → 00:15:56 อยู่ฮะมันส่วนใหญ่แล้วพอเราเปิดใช้แล้ว
00:15:56 → 00:15:58 ปุ๊บเนี่ยเราต้องเ่อใช้ภายใน 1 เดือนแล้ว
00:15:58 → 00:16:01 เราต้องิงนะครับแล้วน้ำตากลุ่มเที่เนื่อง
00:16:01 → 00:16:03 จากมีสารกันเสียอยู่เนี่ยวันนึงก็ไม่ควร
00:16:03 → 00:16:06 จะหยอดเกิน 4 ครั้งฮะว่าเรายอดยิ่งหยอด
00:16:06 → 00:16:08 หยดเกนยิ่งหยอดเยอะปุ๊บสั่นกันเสียก็จะ
00:16:09 → 00:16:11 ได้รับเยอะขึ้นก็จะยิ่งทำให้ตาแห้งมาก
00:16:11 → 00:16:13 ขึ้นไปอีกอะไรเงี้ยครับอันนี้เพราะฉะนั้น
00:16:13 → 00:16:15 ถ้าเกิดเป็นขวดเนี่ยแนะนำ 4 ครั้งนะไม่
00:16:15 → 00:16:18 เกิน 4 ครั้งก็คือกลุ่มที่อเพิ่งเริ่มต้น
00:16:18 → 00:16:21 ตาแห้งสามารถใช้น้ำตาเทียมแบบเป็นขวดได้
00:16:21 → 00:16:24 นะครับอแต่มีอีกกลุ่มนึงก็คือเป็นน้ำตา
00:16:24 → 00:16:26 เทมที่เป็นแบบเ่าเป็นรายวันนะมันจะเป็น
00:16:26 → 00:16:29 แผงเนาะแล้วก็จะมีแพ็คเกจเป็นอันเล็กๆอัน
00:16:29 → 00:16:31 เล็กๆนะครับแล้วก็เหมือนเราเปิดใช้ปุ๊บ
00:16:31 → 00:16:33 เราต้องใช้ให้หมดภายใน 1 วันแล้วเราทิ้ง
00:16:33 → 00:16:36 นะครับเนื่องจากว่าเนื่องจากว่าในน้ำตา
00:16:36 → 00:16:38 เทมในกลุ่มนี้เนี่ยไม่มีสันกันเสียครับนะ
00:16:38 → 00:16:40 เพราะฉะนั้นมันก็เลยอยู่ได้แค่วันเดียวพอ
00:16:40 → 00:16:41 เราเปิดปุ๊บมันก็เลยอยู่ได้แค่วันเดียว
00:16:41 → 00:16:43 แล้วเราต้องทิ้งนะทีนี้การที่ไม่มีสันกัน
00:16:43 → 00:16:46 เสียก็จะมีข้อดีตรงที่ว่าน้ำตาเมกลุ่มนี้
00:16:46 → 00:16:49 เเราสามารถหยอดได้บ่อยมากๆเลยอาจจะหยอด
00:16:49 → 00:16:51 ได้ 8 ครั้ง 10 ครั้งต่อวันได้เลยครับจน
00:16:52 → 00:16:54 กว่ามันจะหมดเพราะฉะนั้นเนื่องจากมันไม่
00:16:54 → 00:16:56 มีสารกันเสียมันไม่มีพิษเพราะฉะนั้นเอ่อ
00:16:56 → 00:16:59 ยาในกลุ่มเครับก็มักจะใช้ในคนที่เ่อแห้ง
00:16:59 → 00:17:01 มากขึ้นหน่อยนึงที่ต้องใช้การหยอดยามาก
00:17:01 → 00:17:05 กว่า 4 ครั้งแบบเนี้ยครับอือันนี้ก็ขอก็
00:17:05 → 00:17:07 คือตอบคำถามกับคุณผู้ฟังทางบ้านถามมา
00:17:07 → 00:17:10 เหมือนกันเพราะว่าเมื่อกี้ถามมาว่าคือถ้า
00:17:10 → 00:17:12 เปิดขวนน้ำตาเทียมทำไมถึงต้องใช้ให้หมด
00:17:12 → 00:17:14 ภายใน 30 วันเพราะมันมีสารการเสียอยู่ใช่
00:17:14 → 00:17:16 มั้ยฮะคุณหมอครับชัดเจนใช่แล้วก็สังกัน
00:17:16 → 00:17:18 เสี่มันก็ก็เหมือนกับว่าเอ่อพอมันเป็นขวด
00:17:18 → 00:17:20 ขวดเดียวใช่มั้ยครับพอเราเปิดปุ๊บเราหยอด
00:17:20 → 00:17:22 ไป 30 วันน่ะเราก็ไม่มั่นใจเหมือนกันเนา
00:17:22 → 00:17:25 ว่าปากขวดเราจะสกปรกหรือเปล่าถูกมั้ยครับ
00:17:25 → 00:17:28 อ่าสัการเสียมันก็อาจจะหมดฤทธิ์ของมันไป
00:17:28 → 00:17:30 ในช่วง 30 วันพอดีหลังจากที่เปิดอะไรอย่า
00:17:30 → 00:17:32 เงี้ยครับเพราะฉะนั้นเก็เลยแนะนำว่ายา
00:17:32 → 00:17:35 กลุ่มที่เป็นขวดเนี่ยเราเปิดใช้ทีนึงภาย
00:17:35 → 00:17:38 ใน 30 วันเราควรจะเปลี่ยนะคนจะพิงแล้ว
00:17:38 → 00:17:41 อะไรครับอืเออก็จะได้สบายอกสบายใจกันไป
00:17:41 → 00:17:45 คือมันคือไปตามร้านขายยาก็คือไปบอกเว่าขอ
00:17:45 → 00:17:47 ซื้อน้ำตาเทียมแบบนี้ใช่มั้ยครับมันมัน
00:17:47 → 00:17:49 ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแบบยาหยอดตาอะไรอย่าง
00:17:49 → 00:17:51 งี้เลยใช่มั้ยคุณหมอเป็นน้ำตาเทียมก็พอทด
00:17:51 → 00:17:54 แทนกันได้ใช่มั้ยฮะใช่ครับก็คือก็คือ
00:17:54 → 00:17:56 สำหรับอันนี้กรณีที่เป็นปลาแห้งนะครับไม่
00:17:56 → 00:17:59 ได้พูดถึงเรื่องปลาแดงหรืออะไรอย่างี้ตา
00:17:59 → 00:18:01 แห้งคือมันก็จะมีน้ำตาเทียมที่มีส่วน
00:18:01 → 00:18:03 ประกอบหลายแบบมากเลยมีหลายยี่ห้อมากเลย
00:18:03 → 00:18:07 อะไรเงี้ครับแล้วก็เราก็ลองถามถามเสัต์เั
00:18:07 → 00:18:09 ก็คงจะมียาที่เอ่อเป็นเป็นที่เขาเป็น
00:18:09 → 00:18:12 คอมเมอเชียลเป็นยาที่เขาน้ำตาเทียมที่ขาย
00:18:12 → 00:18:14 กันที่พอจะมีขายได้อะไเี้ครับก็ตัวไหนก็
00:18:14 → 00:18:17 ได้ครับไม่ไม่ได้แบบว่าเอ่อมียี่ห้ออะไร
00:18:17 → 00:18:19 ชัดเจนนะครับครับอันนี้ก็เป็นเรื่องของตา
00:18:19 → 00:18:22 แห้งนะครับคุณหมอพี่โอ๊คฮะเดี๋ยวอีกหน
00:18:22 → 00:18:24 อาการครับที่เมื่อกี้คุณหมอพูดไว้ตั้งแต่
00:18:24 → 00:18:27 ตอนต้นและก็เลยจะมาถามคุณหมอหน่อยภูมิแพ้
00:18:27 → 00:18:31 ขึ้นตาคุณหมอเออหลายคนไม่เป็นนึกไม่ออก
00:18:31 → 00:18:34 หรอกแต่ว่าถ้าคนเป็นแล้วเนี่ยโอโหมันจะมี
00:18:34 → 00:18:37 อาการที่ค่อนข้างน่าจะกังวลเลยทีเดียว
00:18:37 → 00:18:40 เชียวช่วงหน้าร้อนแบบนี้ภูมิแพ้ขึ้นตาได้
00:18:40 → 00:18:43 ได้บ่อยมากเลยใช่มั้ยคุณหมอฮะถ้าเทียบกัน
00:18:43 → 00:18:48 กับช่วงปกติก็ก็อ่าตัวภูมิแพ้ขึ้นตานะ
00:18:48 → 00:18:50 ครับก็คือหลักๆก็คือภูมิแพ้เนาะแสดงว่าจะ
00:18:50 → 00:18:53 ต้องมีอะไรมากระตุ้น 1 อย่างที่เราแพ้เรา
00:18:53 → 00:18:57 ถึงจะมีอาการถูกมั้ยครับแต่ลักษณะของภูมิ
00:18:57 → 00:18:59 แพ้เนี่ยที่ชัดเจนที่สุดเลยนะที่เป็นเ่อ
00:18:59 → 00:19:02 เค้าเรียกว่าคีย์เวิร์ดเลยคือต้องคันคัน
00:19:02 → 00:19:05 อ่าถ้ามีภูมิแพ้ต้องคันนะอ่าถ้าถ้าเกิด
00:19:05 → 00:19:07 ไม่คันเนี่ยเราก็เอ๊ะเป็นภูมิแพ้หรือ
00:19:07 → 00:19:09 เปล่าเพราะว่าภูมิเหมือนเหมือนเราภูมิแพ้
00:19:09 → 00:19:11 ผิวหนังเรามีผืดเราก็จะคันถูกมั้ยฮะอ่า
00:19:11 → 00:19:13 เรายเราก็จะรู้เลยว่าแพ้เราก็จะคันตาก็
00:19:13 → 00:19:15 เหมือนกันครับถ้าเกิดว่าเรามีสารแพ้เข้า
00:19:15 → 00:19:18 มาอย่างเช่นบางคนแพ้เกสรดอกไม้บางคนแพ้ขน
00:19:18 → 00:19:20 สักอะไรอย่าเงี้ยครับปุ๊บก็จะคันจมูกบ้าง
00:19:20 → 00:19:22 อ่าแล้วก็จะเริ่มคันตาอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:19:22 → 00:19:26 แล้วตาก็จะเริ่มแดงๆบางคนก็ตาก็จะดูฉ่ำๆ
00:19:26 → 00:19:29 หน่อยมีน้ำตาสีเอ่อมีอ่าน้ำตาเป็นมีขี้ตา
00:19:29 → 00:19:32 เป็นเมือกๆบ้างหรือบางคนก็แบบเอ่อตาขาว
00:19:32 → 00:19:34 เป็นแบบบวมๆเป็นวุ้นอะไรอย่าเงี้ยครับอัน
00:19:34 → 00:19:36 นี้ก็คือเป็นลักษณะที่ที่ที่บ่งบอกว่ามี
00:19:36 → 00:19:39 ลักษณะของภูมิแพ้ที่เริ่มขึ้นตาแล้วนะ
00:19:39 → 00:19:43 ครับครับอืออซึ่งซึทีนี้เวลาที่เวลาที่
00:19:43 → 00:19:45 เรามีภูมิแพ้หรือเราคันเนี่ยครับปกติแล้ว
00:19:45 → 00:19:48 หมอก็จะแนะนำว่าเอ่อให้หยอดน้ำตาเทียมที่
00:19:48 → 00:19:51 แช่ตู้เย็นหรือว่าเอาเอาเอ่อใช้การประคบ
00:19:52 → 00:19:54 เย็นที่ดวงตานะครับเนื่องจากความเย็นนะ
00:19:54 → 00:19:56 ครับทำให้สารเเรียกว่าสารฮิสตามีนที่อยู่
00:19:56 → 00:19:59 ในในในเซลล์ในเลือดเขาของเราเนี่ยหลั่ง
00:19:59 → 00:20:02 ออกมาน้อยลงครับอุณภูมิเย็นทำให้มันหลั่ง
00:20:02 → 00:20:04 ออกมาน้อยลงเพราะฉะนั้นสมมุติว่าเราเกิด
00:20:04 → 00:20:05 เรามีภูมิแพ้ขึ้นมาแล้วอากาศมันร้อนนะ
00:20:05 → 00:20:08 ครับนึกออกมั้ยไอ้โอกาสที่ 3 แพ้มันก็จะ
00:20:08 → 00:20:10 หลั่งออกมาเยอะอาการมันก็จะไม่ค่อยหาย
00:20:10 → 00:20:13 อะไรแบบเยครับอันนี้คือกรณีที่สัมพันธ์
00:20:13 → 00:20:15 กับหน้าร้อนที่ที่หมอพอจะนึกได้ที่ที่บอก
00:20:15 → 00:20:19 ไปก่อนหน้านี้ครับอืต้องแช่เย็นใช่มั้ย
00:20:19 → 00:20:22 คุณหมออืหมายถึงตัวน้ำตาเคียมใช่ใช่ๆๆ
00:20:22 → 00:20:24 ต้องแนะนำต้องเช่เย็นใช่มั้ยถ้าถ้าคนที่
00:20:24 → 00:20:27 เป็นภูมิแพ้อะไรเงี้ยคุณหมออ่าก็ปกติแล้ว
00:20:27 → 00:20:29 อ่ะน้ำตาเทียมเราเก็บในอภูมิห้องได้นะ
00:20:29 → 00:20:32 ครับคือไม่จำเป็นต้องแช่เย็นนะฮะเอ่อแต่
00:20:32 → 00:20:33 ว่าแต่ว่าในกรณีที่เป็นคนไข้ที่เป็นภูมิ
00:20:33 → 00:20:36 แพ้เรื้อรางบางทีหมอก็จะแนะนำว่าเออเอา
00:20:36 → 00:20:38 น้ำตาเทียมอ่ะแช่ตู้เย็นไว้นะครับแล้วถ้า
00:20:38 → 00:20:40 เกิดว่ารู้สึกว่าช่วงไหนมันมันแพ้ขึ้นมา
00:20:40 → 00:20:42 เยอะแล้วคันเยอะอ่ะหมอก็จะแนะนำว่าไม่ให้
00:20:42 → 00:20:45 ขยี้เพราะว่าการขยี้เนี่ยจะยิ่งทำให้เอ่อ
00:20:45 → 00:20:47 สารวิตามินหรือสารแพ้ยิ่งหลั่งออกมาเพิ่ม
00:20:47 → 00:20:49 ขึ้นอีกเหมือนเหมือนเรารู้สึกมั้ยครับว่า
00:20:49 → 00:20:51 เราขยี้แล้วยิ่งมันยิ่งขยี้ยิ่งคันยิ่ง
00:20:51 → 00:20:53 ขยี้ยิ่งเกาอะไรเงี้ครับมันก็ยิ่งแบบ
00:20:53 → 00:20:55 เหมือยิ่งยิ่งแพ้ขึ้นไปเรื่อยๆอะไรเงี้
00:20:55 → 00:20:57 ครับซึ่งซึ่งก็เลยหลีกเลี่ยงด้วยการที่
00:20:57 → 00:20:59 ให้คนไข้เอน้ำตันเกียมที่แช่เย็นอมาหยอด
00:20:59 → 00:21:02 ตา 1 ก็คือเย็นสบายด้วย 2 ก็คือทำให้ฝัง
00:21:02 → 00:21:04 แพ้มันหลั่งออกมาน้อยลงด้วยอันนี้ก็เป็น
00:21:04 → 00:21:07 คำแนะนำที่หให้กับคนที่กลุ่มคนที่เขามี
00:21:07 → 00:21:10 ภูมิแพ้ขึ้นตาครับเพราะจริงๆโรคภูมิแพ้
00:21:10 → 00:21:12 ขึ้นตามันมักจะเป็นโรคที่เลื้อรังนะฮะ
00:21:12 → 00:21:14 เพราะว่าเหมือนกับเามักจะต้องไปเจอเอ่อ
00:21:14 → 00:21:16 สิ่งที่แพ้อยู่ตลอดเวลาแล้วก็กระตุ้นเ้า
00:21:16 → 00:21:20 อะไรเงี้ยครับอืเอ๊ะมันจะมีอีกประเภทนึง
00:21:20 → 00:21:23 คุณหมอครับสมมุติถ้ากรณีคนที่ภูมิแพ้ขึ้น
00:21:23 → 00:21:27 ตาเนี่ยเอ่อใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือว่า
00:21:27 → 00:21:30 ซื้อของจากากร้านพวกขายนำเข้าจากญี่ปุ่น
00:21:30 → 00:21:32 มันจะมียาหยอดตาที่แบบว่ามันจะมีความเย็น
00:21:32 → 00:21:36 สูงปี๊ดอะไรอย่างเงี้ยไอ้ไอ้ยาเอ่อเค้า
00:21:36 → 00:21:38 เรียกว่าอ่าน้ำตาเทียมพวกเที่มันมีความ
00:21:38 → 00:21:40 เย็นสูงมากๆแบบเนี้ยมันแบบโเหมือนใส่
00:21:40 → 00:21:42 เมนทอนอะไรพอหยอดเข้าไปปั๊บเนี่ยอหูมัน
00:21:42 → 00:21:45 ปรี๊ดเย็นปรี๊ดเลยอย่างเงี้ยมันช่วย
00:21:45 → 00:21:47 เรื่องของภูมิแพ้ขึ้นตาได้ได้ได้ได้มาก
00:21:47 → 00:21:50 น้อยขนาดไหนถ้าเทียบกับน้ำยาเอ่อน้ำตา
00:21:50 → 00:21:53 เทียมที่ไปแช่ตู้เย็นอ่ะฮะคุณหมอคือเออ
00:21:53 → 00:21:56 หมอก็เคยเห็นนะครับก็ก็เป็นอันที่ฮิต
00:21:56 → 00:21:58 เหมือนกันแล้วก็แต่จริงๆหมอก็ไม่เคยเอ่อ
00:21:58 → 00:22:02 หยอดเองนะแต่ว่าเอ่อมีน้องสาวเคยลองหยอด
00:22:02 → 00:22:03 เล่าให้ฟังเหมือนกันมันก็จะมีเหมือนสูตร
00:22:03 → 00:22:07 ที่เป็นเย็นมากอเยน้อยเนแบบเย็นมากมามัน
00:22:07 → 00:22:09 มันเย็นแบบน้ำตาไหลแบบเย็นมากเลยอ่ะครับ
00:22:09 → 00:22:12 แบบเย็นน่าจะใส่เนอไว้อะไรอย่างเงี้ยครับ
00:22:12 → 00:22:15 ก็ก็ถามว่าเออมันอาจจะลดความรู้สึกของของ
00:22:15 → 00:22:17 ของอาจารยแพ้ได้เพราะมันแบบเย็นๆอะไรอย่า
00:22:17 → 00:22:20 เงี้ยนะครับแต่ว่าผมก็ไม่แน่ใจในในส่วน
00:22:20 → 00:22:22 ประกอบของในนั้นจริงๆว่ามันมีอะไรนอก
00:22:22 → 00:22:25 เหนือจากนั้นบ้างอะไรเงี้ยครับอ้านั้นถ้า
00:22:25 → 00:22:27 เกิดจะให้แนะนำถ้าให้ชัวร์ๆเราสบายใจเรา
00:22:27 → 00:22:30 น้ำตาเทียมธรรมดาออแเย็นแล้วหยอดน่าจะดี
00:22:30 → 00:22:33 กว่านะครับอเพราะว่าจริงๆถ้ามันเย็นมากก็
00:22:33 → 00:22:34 ไม่แน่ใจว่ามันกระตุ้นให้ระคายเคืองด้วย
00:22:35 → 00:22:37 หรือเปล่าเงี้ยครับผมก็เคยลองเอาเอาของ
00:22:37 → 00:22:39 เพื่อนมาหยอดเหมือนกันคุณบอกอมันเย็นมาก
00:22:39 → 00:22:42 จริงๆนะมันเย็นจนน่ากลัวจนรู้สึกว่าเฮ้ย
00:22:42 → 00:22:43 ตาเราจะบอดรือเปล่าว้าอะไรอย่าเงี้ยเพราะ
00:22:43 → 00:22:47 มันเย็นแบบเย็นแบบโอ้โหแบบไม่คิดว่ามันจะ
00:22:47 → 00:22:50 มีอะไรที่มันยเย็นเย็นจนตกใจว่าเอ้ทำไม
00:22:50 → 00:22:52 มันถึงเย็นขนาดนี้อะไรเงี้ยครับใช่เย็นขน
00:22:52 → 00:22:54 ลุกอ่ะคุณหมอพูดใช้คำนี้เลยตอนนั้นตอน
00:22:54 → 00:22:57 นั้นเขาอาจจะอิจฉาใครอยู่ก็ได้ไม่ใช่อิฉา
00:22:57 → 00:22:59 ตร
00:22:59 → 00:23:02 ไม่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่เกี่ยวกันพี่โอไม่
00:23:02 → 00:23:06 เกี่ยวครับไม่เกี่ยวเลยครับเอออีกเรื่อง
00:23:06 → 00:23:09 นึงคุณหมอครับภาวะกระจกตาอักเสบในช่วง
00:23:09 → 00:23:11 หน้าร้อนเนี่คือคือต้องเฝ้าระวังเป็น
00:23:11 → 00:23:15 พิเศษด้วยมั้ยครับคุณหมอฮะก็เอ่อภาวะ
00:23:15 → 00:23:18 กระจกตาอักเสบก็ถ้าเกิดหมอพูดง่ายๆมันก็
00:23:18 → 00:23:20 จะมี 2 กลุ่มนะฮะจริงๆถ้าตามหลักแล้ว
00:23:20 → 00:23:22 กระจกตาอักเสบที่เรานึกถึงหลักๆเลยมักจะ
00:23:22 → 00:23:24 นึกถึงติดเชื้อเนาะแต่ก็จะมีกลุ่มที่เป็น
00:23:24 → 00:23:26 เอ่อกลุ่มเกี่ยวกับโรคแพ้ภูมิตัวเองแต่ก็
00:23:26 → 00:23:28 จะเจอน้อยกว่างั้นพูดเฉพาะกลุ่มที่เป็น
00:23:29 → 00:23:30 กระจกกาอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อเป็น
00:23:31 → 00:23:33 หลักนะครับซึ่งติดเชื้อเนี่ยก็มีตั้งแต่
00:23:33 → 00:23:36 เจอแบคทีเรียนะที่เจอเยอะสุดเนาหรือว่า
00:23:36 → 00:23:38 บางคนก็จะเป็นจากเชื้อราบางคนก็เป็นไวรัส
00:23:39 → 00:23:42 บางคนก็เป็นเชื้อปรสิตบางตัวนึงนะครับเ่อ
00:23:42 → 00:23:45 ซึ่งในกลุ่มเครับก็เ่ออย่างที่หมอบอกไป
00:23:45 → 00:23:48 เบื้องต้นตอนแรกว่าหมอสงสัยถ้าเกิดว่าอ่า
00:23:48 → 00:23:51 ฤดูร้อนนะถ้าฤดูร้อนแล้วมันร้อนๆแล้วมี
00:23:51 → 00:23:54 เหงื่อออกเเหงื่อก็อาจจะเป็นตัวที่นำพา
00:23:54 → 00:23:56 เชื้อโรคเข้าไปที่กระจกตาแล้วทำให้ติด
00:23:56 → 00:23:59 เชื้อนะฮะคือส่วนใหญ่แล้วกระจกกระจกตาเรา
00:23:59 → 00:24:02 เนี่ยมันจะมีเอ่อผิวเหมือนผิวหนังกำพร้า
00:24:02 → 00:24:04 ที่กระจกตาเหมือนกันนะแต่มันอยู่ผิวนอกนะ
00:24:04 → 00:24:07 มันเป็นตัวที่ป้องกันให้ให้กระจกตาเราอ่ะ
00:24:07 → 00:24:09 ไม่อักเสบไม่ติดเชื้อใช่มั้ยครับทีเนี้ย
00:24:09 → 00:24:12 ถ้าเกิดว่าเอ่อเรามีบาดแผลที่กระจกจกตา
00:24:12 → 00:24:14 ตรงนั้นนะครับเอ่ออย่างเช่นเผลอไปขยี้แรง
00:24:14 → 00:24:17 ๆหรือมีอะไรทิ่มมีกิ่งไม้ทิ่มหรือมีอะไร
00:24:17 → 00:24:19 อย่างเงี้ยครับมันเกิดให้มีแผลใช่มั้ย
00:24:19 → 00:24:21 ครับพอมีแผลปุ๊บมันก็จะเสี่ยงต่อการที่
00:24:21 → 00:24:23 เชื้อโรคจะเข้าไปใช่มั้ครับทีนี้เชื้อโรค
00:24:23 → 00:24:26 ที่เข้าไปได้ง่ายที่สุดและดีที่สุดก็คือ
00:24:26 → 00:24:29 ผ่านตามน้ำมยครับถ้าเกิดน้ำนั้นมีเชื้อ
00:24:29 → 00:24:32 โรคมันก็จะติดเชื้อได้ง่ายอะไรเงี้ยเพราะ
00:24:32 → 00:24:33 ฉะนั้นหมอก็เลยพูดถึงเรื่องของเหงื่อที่
00:24:33 → 00:24:36 มันเข้าตาแล้วทำให้เกิดกระจกตาเสกนะครับ
00:24:36 → 00:24:39 ทีนี้ความรุนแรงของการที่มีกระจกตาอักเสบ
00:24:39 → 00:24:41 เนี่ยก็หลากหลายมากเลยเอ่อเท่าที่เจอบาง
00:24:41 → 00:24:45 ทีก็ขนาดเล็กๆแบบ 1 มมบางคนก็ใหญ่มาก 3-4
00:24:45 → 00:24:47 มมอะไรอย่าเงี้ยครับก็ซึ่งซึ่ง 3-4 มมใน
00:24:47 → 00:24:50 ตาถือว่าใหญ่นะเพราะในกระจบกาจริงๆความ
00:24:50 → 00:24:53 ความเอ่อขนาดของกระจกกาเส้นผ่าสูงกลางก็
00:24:53 → 00:24:55 จะประมาณ 10 10 10-11 มิลิมเองเพราะ
00:24:55 → 00:24:58 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าแผลที่กระจกตาใหญ่ถึง3ถ 4
00:24:58 → 00:25:01 มิลิมเนี่ยก็คืออาจจะต้องนอนนอนโรงพยาบาล
00:25:01 → 00:25:05 หยอดยาแล้วอะไรประมาณเนี้ยครับอืู้โหเลย
00:25:05 → 00:25:08 อ่ะ 34 มลนี่ก็คือกระจกตาอักเสบนี่เป็น
00:25:08 → 00:25:12 เป็นภาวะที่โอ้โหอันตรายพอสมควรเลยครับ
00:25:12 → 00:25:15 แล้วก็เอ่อใช้เวลาในการรักษานานครับอื
00:25:16 → 00:25:19 กระจกตาอักเสบถึงไม่อยากให้มีอะไรไปสะกิด
00:25:19 → 00:25:22 ตรงกระจกตาจนเป็นกจใช่ครับใช่ถ้าเกิดว่า
00:25:22 → 00:25:25 มีเอ่อมีมีเอ่อแผลถลอกที่กจกตาอะไรอย่าง
00:25:25 → 00:25:27 เงี้ยแนะนำควรจะพบจากสูแพทย์แล้วก็ได้ยะ
00:25:27 → 00:25:29 อย่างน้อยต้องมียาฆ่าเชื้อหยอดป้องกันจน
00:25:29 → 00:25:32 กว่าที่ไอ้แผลตัวนั้นมันจะปิดไปอ่ะครับ
00:25:32 → 00:25:34 เพราะส่วนใหญ่ปกติแผลที่กระจกตาเนี่ยเอ่อ
00:25:34 → 00:25:38 สัก 1-2 วันเนี่ยแผลก็จะปิดหมดแล้วะเพราะ
00:25:38 → 00:25:40 ว่าร่างกายเราก็จะมีวิธีการสมานเหมือนผิว
00:25:40 → 00:25:42 หนังกำพร้าเราอย่างเงี้ยครับเวลาโดนอะไร
00:25:42 → 00:25:45 ขูดอะไรเงี้ยมันก็จะประมาณ 24 ชมมันก็จะ
00:25:45 → 00:25:48 เริ่มมาปิดเลยนะแผลมันก็จะปิดอือืก็คือ
00:25:48 → 00:25:50 ช่วงที่มันมีแผลอยู่สิ่งสำคัญเลยก็คือ
00:25:50 → 00:25:52 ต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าตาอะไรเงี้ยครับที
00:25:53 → 00:25:55 นี้พอเป็นเหงื่อของเราเองในฤดูร้อนบางที
00:25:55 → 00:25:58 มันก็ควบคุมยากถูกมั้ยครับมันนิดเดียวมัน
00:25:58 → 00:26:00 ก็เข้าแล้วอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:26:00 → 00:26:05 อืคืออันเนี้ยนอกจากเรื่องของกระจกตาไอ้
00:26:05 → 00:26:07 การขยี้ตาอะไรอย่างเงี้ยมันมีโอกาสที่จะ
00:26:07 → 00:26:09 ทำให้กระจกตาของเราเนี่ยอักเสบได้ได้ได้
00:26:09 → 00:26:11 มากน้อยขนาดไหนคุณหมอครับคือถ้ามันคัน
00:26:11 → 00:26:13 ด้วยอะไรอย่างเงี้ยมันแห้งด้วยอะไรเงี้ย
00:26:13 → 00:26:17 มันอาจก็จะมีการอาการที่แบบแหมกระตุ้น
00:26:17 → 00:26:20 ต่อมความถว่าถเกิดว่าบาง้มือเราอ่าบางคน
00:26:20 → 00:26:22 เหมือนตาแห้งอยู่แล้วอะไรเงี้ยผิวกระจกตา
00:26:22 → 00:26:25 ก็จะเบาะบางเปาะบางบางทีเราขยี้นิดเดียว
00:26:25 → 00:26:27 มันก็จะเป็นแผลได้อะไรอย่าเงี้ยครับมันก็
00:26:27 → 00:26:29 ขึ้นอยู่กับความรุนแรงในการขยี้ของเรา
00:26:29 → 00:26:31 ด้วยอะไรเงี้ยครับครับแล้วก็อย่างที่บอก
00:26:31 → 00:26:35 ก็คือถ้าเกิดเ่อมันมีแผลเล็กๆแล้วสมมติมี
00:26:35 → 00:26:37 แผลอย่างเดียวโดยที่มันไม่ได้มีเชื้อโรค
00:26:37 → 00:26:39 เข้าไปมันก็ไม่ติดเชื้อมันก็ไม่อัดเสบถู
00:26:39 → 00:26:42 มั้ยครับมันต้องมี 2 ใจร่วมกันคือ 1 คือ
00:26:42 → 00:26:45 ต้องมีแผลด้วย 2 คือต้องมีชะโรคเข้าไป
00:26:45 → 00:26:48 ด้วยมันถึงจะมีการอักเสบติดเชื้ออ่าถ้า
00:26:48 → 00:26:50 เกิดมีอย่างใดอย่างหนึ่งก็อาจจะไม่ติด
00:26:50 → 00:26:52 เนาะอย่างเช่นว่าสมมติว่าผิวกระจกตาเราดี
00:26:52 → 00:26:55 มากเลยแล้วก็มีเหงื่อที่มีชโลกเข้าไปมัน
00:26:55 → 00:26:57 ก็ไม่ติดเพราะว่าเพราะว่าผิวกระจกตาเรา
00:26:57 → 00:26:59 ป้องกันไว้อย่างดีไม่มีบาดแผลอะไรอย่าง
00:26:59 → 00:27:02 เงี้ยครับอืมันต้องมี 2 ปัจจัยรวมกันตัว
00:27:02 → 00:27:06 เชื้อก็ต้องเยอะระดับนึงด้วยมันถึงจะปิดอ
00:27:06 → 00:27:08 ครับโออนี้ก็คือเวลาขย่งขยี้ตาเนาะอันนี้
00:27:09 → 00:27:10 ก็อันตรายอันนี้ก็เป็นอีกอาการนึงเนาะที่
00:27:10 → 00:27:12 ต้องต้องเฝ้าระวังเรื่องภาวะกระจกตา
00:27:12 → 00:27:16 อักเสบแล้วก็อีกอีกน่าจะเหลืออีกประมาณ
00:27:16 → 00:27:18 สัก 2 อาการครับคุณหมอที่เป็นอาการยอดฮิต
00:27:18 → 00:27:20 เลยในช่วงของหน้าร้อนแบบนี้อาการตาแดงคุณ
00:27:20 → 00:27:24 หมอครับตาแดงเนี่ยหลายคนเป็นเยอะมากอาจจะ
00:27:24 → 00:27:28 ด้วยเรื่องของอาการตาแห้งแล้วก็ไปขยี้ตา
00:27:28 → 00:27:30 กระพริบตาบ่อยจนรู้สึกตาเอู้หูมันแดงผิด
00:27:30 → 00:27:33 ปกติเลยครับคุณหมอครับน่ากลัวขนาดไหนครับ
00:27:33 → 00:27:36 กับช่วงหน้าร้อนแบบนี้กับอาการตาแดง่ะฮะ
00:27:36 → 00:27:38 คืออาการตาแดงมันเป็น
00:27:38 → 00:27:41 เอ่อคือเป็นตัวตัวบ่งบอกครับเป็นอาการ
00:27:41 → 00:27:44 ร่วมของโรคตาหลายๆหลายๆโรคครับสส่วนใหญ่
00:27:44 → 00:27:46 ถ้าเกิดว่าเอ่อมีการอักเสบหรือว่ามีการ
00:27:46 → 00:27:50 ติดเชื้อณจุดใดจุดหนึ่งในดวงตาก็ทำให้ตา
00:27:50 → 00:27:53 แดงได้นะครับหรือว่าบางทีความดันตาสูงมาก
00:27:53 → 00:27:55 ๆนะฮก็ทำให้ตาแดงได้อย่างกลุ่มที่เป็นต้อ
00:27:55 → 00:27:57 หินฉับพันธอะไรเงี้ยครับเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:27:57 → 00:28:00 แล้วตาแดงบางทีไม่ได้บอกไม่ได้บอกว่าเป็น
00:28:00 → 00:28:03 โรคอะไรชัดเจนนะอ่าแต่ว่าแต่ว่ามันก็บาง
00:28:03 → 00:28:05 ทีเราอาจจะซึ่งเราต้องตรวจตรวจเพิ่มเติม
00:28:05 → 00:28:07 ดูว่ามีเอ่อส่วนอื่นมมีม่านตาอักเสบร่วม
00:28:07 → 00:28:09 ด้วยมั้ยอะไรอย่างเงี้ยครับหรือว่าส่วน
00:28:09 → 00:28:11 อย่างอื่นไม่มีอะไรเลยมีแต่เยื่อบุตาแดง
00:28:11 → 00:28:13 เราก็มักจะบอกว่าเป็นเยื่อบุตาอักเสบซึ่ง
00:28:13 → 00:28:15 เยื่อบุตาอักเสกก็อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ
00:28:15 → 00:28:18 อาจะเป็นจากติดเชื้อแบคทีเรียติดเชื้อ
00:28:18 → 00:28:21 ไวรัสอย่างไวรัสตาแดงนะหรือบางคนก็เอ่อ
00:28:21 → 00:28:23 อาจจะเป็นจากภูมิแพ้ก็ทำให้ตาแดงได้
00:28:23 → 00:28:26 เหมือนกันเพราะฉะนั้นตาแดงมันเป็นอาการ
00:28:26 → 00:28:29 ที่ที่ที่ไม่ได้ไม่ได้จำเพาะกับว่าเป็น
00:28:29 → 00:28:31 โรคอะไรอ่ะครับมันเป็นแค่เหมือนอาการแสดง
00:28:31 → 00:28:34 ที่บ่งบอกว่าเอ๊ะน่าจะมีอะไรผิดปกตินะ
00:28:34 → 00:28:36 อะไรอย่างเงี้ยกับดวงตาเราอะไรเงี้ยครับ
00:28:36 → 00:28:39 อืมมันก็ยังไม่ได้บ่งบอกได้ชัดเจนใช่มั้ย
00:28:39 → 00:28:43 ครับว่าคุณอาจจะมีปัญหาอาการโรคอะไรเออ
00:28:43 → 00:28:46 เพียงแต่ว่ามันแต่ว่าแต่ว่าอาการตาแดงมัก
00:28:46 → 00:28:49 เป็นอาการแรกๆที่ทำให้คนไข้มาหาหมอถูก
00:28:49 → 00:28:51 มั้ยครับเพราะเรารู้สึกเอ้ยเราก็ไม่รู้
00:28:51 → 00:28:54 ว่าเป็นอะไรใชตาเราแดงอ่าเราก็ต้องเออเรา
00:28:54 → 00:28:56 ไม่รู้ว่าเเป็นอะไรตาเราแดงเราก็นมักจะมา
00:28:56 → 00:28:59 หาหมอซึ่งก็ึงถูกต้องเลยเพราะว่าเพราะว่า
00:28:59 → 00:29:02 เราขนาดบางทีหมอดูสมมติว่าหมอดูคนไข้เดิน
00:29:02 → 00:29:04 มาปลาแดงหมอก็ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรจน
00:29:04 → 00:29:07 กว่าหมอจะเริ่มอ่ะเอาเครื่องส่องตรวจดู
00:29:07 → 00:29:09 ว่าเอ๊ะตรงนี้ปกติมยตรงนี้มีการอักเสบ
00:29:09 → 00:29:12 มั้ยกระจกตามีแผลมีอะไรมยอะไรแบบเยครับอื
00:29:12 → 00:29:15 อ่ามันเป็นมันเป็นอาการที่เอ่อนำพาให้เรา
00:29:15 → 00:29:17 มาเจอกันอย่างงนี้ดีกว่า
00:29:18 → 00:29:22 ครับจริงๆก็พบได้แบบค่อนข้างที่จะหลาก
00:29:22 → 00:29:25 หลายนะว่าใช่ครับแล้วก็จะได้ปล่อยจะได้
00:29:25 → 00:29:29 หลากหลายแป๊บๆบางคนนิ้วทิ่มนิดนึงก็แดง
00:29:29 → 00:29:31 อะไรงี้อุบัติเหตุบางคนฝุ่นเข้าก็เคือง
00:29:31 → 00:29:33 มากก็แดงบางคนตาแห้งมากๆก็แดงอะไรเงี้ย
00:29:33 → 00:29:38 ครับอืตาแดงเนาะคุณหมอเนาะโอนี่เป็นเป็น
00:29:38 → 00:29:40 อาการแรกเริ่มที่อาจจะทำให้ใครหลายคน
00:29:40 → 00:29:43 เนี่ยเกิดความกังวลนะครับจนต้องมาพบคุณ
00:29:43 → 00:29:47 หมอว่าอาจจะนำไปสู่เรื่องของโรคต่างๆที่
00:29:47 → 00:29:49 เกี่ยวข้องกับดวงตาหรือเปล่าอีกหนึ่ง
00:29:49 → 00:29:52 อย่างคุณหมอครับที่หลายคนสงสัยมากแล้วก็
00:29:52 → 00:29:55 ช่วงหลังนี้โอ้โหคนรอบข้างผมเป็นกันค่อน
00:29:55 → 00:29:58 ข้างถี่ค่อนข้างบ่อยมากส่วนใหญ่ผมผมจะเคย
00:29:58 → 00:30:01 ได้ยินตอนที่แบบตอนสมัยเด็กๆเรื่องของตา
00:30:01 → 00:30:04 กุ้งยิงคุณหมอครับตากุ้งยิงนี่ณปัจจุบัน
00:30:04 → 00:30:07 นี่ถือว่ายังมีคนที่เป็นอยู่ใช่มั้ยฮะคุณ
00:30:07 → 00:30:11 หมอฮะออมีมีอยู่เรื่อยๆครับอืฮะมีอยู่
00:30:11 → 00:30:14 เรื่อยๆครับมันมันในช่วงหน้าร้อนนี่มัน
00:30:14 → 00:30:17 เกิดขึ้นได้ได้ได้บ่อยมากขึ้นมยครับถ้า
00:30:17 → 00:30:19 เทียบกับช่วงช่วงอื่นๆนะฮะคุณหมอฮะอ่า
00:30:19 → 00:30:22 ต้องเข้าใจก่อนว่าเอ่อตัวตัวตากุ้งยิงอ่ะ
00:30:22 → 00:30:25 ครับมันเกิดจากการที่ปกติแล้วที่เปลือกตา
00:30:25 → 00:30:28 เราอ่ะครับมันจะมีต่อมไขมันอยู่ครับซึ่ง
00:30:28 → 00:30:30 ไขมันพวกนี้เนี่ยมันจะปกติมันจะหลั่งน้ำ
00:30:30 → 00:30:33 มันออกมานะครับมาผสมกับน้ำตาเรานะในในตา
00:30:33 → 00:30:35 เราเนี่ยมันจะมีส่วนในน้ำตาเราเนี่ยมันจะ
00:30:35 → 00:30:38 มีส่วนที่เป็นน้ำส่วนที่เป็นเมือกแล้วก็
00:30:38 → 00:30:40 จะมีส่วนที่เป็นไขมันด้วยมีน้ำมันด้วยนะ
00:30:41 → 00:30:43 น้ำมันซึ่งน้ำมันเยมีข้อดีตรงที่ทำให้น้ำ
00:30:43 → 00:30:46 ตาลเราระเหยน้อยลงนะฮะนึกๆๆนึกภาพว่าอ่า
00:30:46 → 00:30:48 เป็นน้ำแล้วมีน้ำมันลอยอยู่ข้างหน้าเวลา
00:30:48 → 00:30:50 มีลมพัดเนี่ยน้ำที่อยู่ข้างล่างมันก็จะ
00:30:50 → 00:30:53 ระเหยช้าลงเพรามีน้ำมันขวางอยู่ถูกมั้ย
00:30:53 → 00:30:55 ครับทีนี้ไอ้ต่อมไขมันตรงนี้เนี่ยเอ่อมัน
00:30:55 → 00:30:58 มักจะอุดตมันอาจจะอุดตันได้นะซึ่งอุตันเ
00:30:58 → 00:31:01 เกิดจาก 1 อายุที่เพิ่มขึ้น 2 ผู้หญิงนะ
00:31:01 → 00:31:04 ฮะผู้หญิงก็จะมามีไขมันอุดตันเยอะกว่านะ
00:31:04 → 00:31:06 ครับแล้วก็บางคนใส่คคเลนสก็จะทำให้ต่อมไข
00:31:06 → 00:31:09 มันพวกนี้มีการอุดตันนะฮะพอต่อมไขมันพวก
00:31:09 → 00:31:10 นี้มีการอุดตันปุ๊บมันก็จะมีโอกาสที่จะ
00:31:10 → 00:31:13 สะสมของเชื้อโรคมันจะมีเชื้อแบคทีเรีย
00:31:13 → 00:31:15 เข้าไปโตในไขมันตรงนั้นนะพอพอโตขึ้น
00:31:16 → 00:31:18 เรื่อยๆๆๆๆมันก็ปูดบวมแดงขึ้นมาก็จะเป็น
00:31:18 → 00:31:22 ตากุ้งยิงอืครับเออทีนี้ต่อมไขมันนะครับ
00:31:22 → 00:31:25 ที่เปลือกตาเนี่ยก็มันมีเยอะด้วยก็คือ
00:31:25 → 00:31:28 ข้างบนอาจจะมีสัก 30-40 ต่อมข้างล่างเปิก
00:31:28 → 00:31:30 ตาล่างมีอีก 20 ต่อมอะไรประมาณเครับเพราะ
00:31:30 → 00:31:33 ฉะนั้นแต่ละต่อมก็สามารถที่จะเกือเป็นตา
00:31:33 → 00:31:35 กุ้งยิงได้เพราะฉะนั้นก็จะมีหลายคนที่อุย
00:31:35 → 00:31:38 ทำไมเราเป็นบ่อยจังเป็นแบบเดือนละครั้ง 2
00:31:38 → 00:31:40 เดือนครั้งอะไรอย่าเงี้ยคือมันก็เปลี่ยน
00:31:40 → 00:31:43 ตำแหน่งไปเรื่อยๆมันเกิดจากการที่ส่ำไข
00:31:43 → 00:31:45 มันตรงนี้ปุ๊บมันมีการอักเสบมันอุดตันไป
00:31:45 → 00:31:47 มีอักเสบติดเชื้อก็เป็นตรงนี้พอหายปุ๊บก็
00:31:47 → 00:31:49 ไปเกิดตรงตำแหน่งอื่นได้นะครับเพราะ
00:31:49 → 00:31:52 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราไม่ได้ป้องกันฮะป้อง
00:31:52 → 00:31:55 กันมันมันก็จะมีโอกาสเป็นซ้ำได้เรื่อยๆนะ
00:31:55 → 00:31:58 ครับอืก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้เรื่อยๆเพราะ
00:31:58 → 00:32:01 เมื่อก่อนตอนสมัยเด็กๆผมเชื่อว่าหลายท่าน
00:32:01 → 00:32:03 น่าจะเคยได้ยินว่าคนที่เป็นตากุ้งยิงเพไป
00:32:03 → 00:32:07 แอบดูคนอื่นไปอาบน้ำไปแก้ผ้าอะไรอย่าง
00:32:07 → 00:32:10 เงี้ยซึ่งมันก็เป็นคุณธก็บอกพี่
00:32:10 → 00:32:12 ดีเมื่อก่อนเคยเป็นตากุ้งยิงแล้วก็โดน
00:32:13 → 00:32:16 เพื่อนล้อจนรู้สึกว่าเกลียดโลกนี้มาก
00:32:16 → 00:32:18 เพราะเราไม่ได้ไม่ได้ไปทำอะไรแบบนั้นแต่
00:32:18 → 00:32:21 แบบเอ๊ะทำไมอยู่ๆมันเป็นตากุ้งยิงออมันห
00:32:21 → 00:32:23 คิดว่าหคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวกับว่าประมาณ
00:32:24 → 00:32:26 อือันนี้คือคิดเองนะคือคิดเองก็าจะแบบว่า
00:32:26 → 00:32:28 ตอนที่แบไปแอบดูอะไรอย่างเงี้ยตาเราอาจจะ
00:32:28 → 00:32:32 สัมผัสกับตรงตรงนั้นที่มันสกปรกตงังเปล่า
00:32:32 → 00:32:34 ก็มีแบคทีเรียเข้าไปอะไรอย่าเงี้ยแต่จริง
00:32:34 → 00:32:37 ๆมันเกิดจากหลายสาเหตุแบบมือเราไม่สะอาด
00:32:37 → 00:32:39 หน้าร้อนอะไรอย่าเงี้เหงื่อออกเยอะแล้ว
00:32:39 → 00:32:42 เราก็ไปขยี้ตาไปอะไรอย่าเงี้ก็มีโอกาสที่
00:32:42 → 00:32:44 ที่เชื้อโรคมันจะเข้าไปในต่อมไขขมันตรรง
00:32:44 → 00:32:45 นั้นแล้วก็ทำให้ติดเชื้ออะไรอย่าเงี้ย
00:32:46 → 00:32:48 ครับคือมันเกิดจากความสกปรกเป็นหลักอะไร
00:32:48 → 00:32:50 เงี้ยครับแต่จริงๆก็อ่าถ้าเกิดจะป้องกัน
00:32:50 → 00:32:52 เนี่ยมันก็มีเรื่องของการทำเสาดเปือบตา
00:32:52 → 00:32:54 อะไรอย่าเงี้ยที่ที่จะลดการอุดตาของต่อำ
00:32:55 → 00:32:57 ไขมันพวกนี้ได้อนี่ก็เป็นเรื่องของโรคใคร
00:32:58 → 00:33:00 ไข้เจ็บนะที่เกี่ยวข้องกับดวงตาในช่วง
00:33:00 → 00:33:03 หน้าร้อนที่คุณหมอออกมาย้ำเตือนกันขอให้
00:33:03 → 00:33:06 ระมัดระวังที่แน่ๆก็คือพยายามที่จะรักษา
00:33:06 → 00:33:08 ความสะอาดของของมือของเรานะอย่าไปขย่ง
00:33:08 → 00:33:10 ขยี้ดวงตาของเราเพราะไม่ฉะนั้นแล้วเดี๋ยว
00:33:10 → 00:33:13 มันอาจจะนำพามาซึ่งเชื้อโรคต่างๆก็นำไป
00:33:13 → 00:33:16 สู่อาการต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ก็ได้ทีนี้
00:33:16 → 00:33:18 มันมีคำถามอยู่หลายคำถามเหมือนกันครับคุณ
00:33:18 → 00:33:21 หมอครับในในหัวข้อที่เราพูดคุยกันวันนี้
00:33:21 → 00:33:24 อยากจะให้คุณหมอช่วยช่วยไขข้อข้องใจให้
00:33:24 → 00:33:27 หน่อยเอ่อคุณผู้ฟังท่านนี้บอกว่าช่วงนี้
00:33:27 → 00:33:31 มีปัญหาเรื่องของตาเอ่อพอสมควรเคยผ่าต้อ
00:33:31 → 00:33:35 กระจก 2 ข้างละแล้ววันนี้เนี่ยมีตาแฉะขี้
00:33:35 → 00:33:38 ตาเยอะด้านขวาแถมน้ำตาที่ออกมาก็ทำให้
00:33:38 → 00:33:41 บริเวณผิวหนังบริเวณหางตาในแดงก็เลยไม่
00:33:41 → 00:33:45 กล้าหยอดน้ำตาเทียมเออเป็นมาประมาณ 1
00:33:45 → 00:33:48 สัปดาห์แล้วะคุณหมอครับอาการแบบนี้คุณหมอ
00:33:48 → 00:33:53 จะแนะนำยังไงดีฮะก็เอ่ออันนี้ก็คือเป็นคน
00:33:53 → 00:33:55 ไข้ที่เคยผ่ากับต้อกระจกมาแล้วนะครับแต่
00:33:55 → 00:33:58 ว่าคิดว่าถ้าที่ฟังอาจจะทำมานานแล้วนะมัน
00:33:58 → 00:34:01 จะมีการคิดคนละแบบนะถ้าเกิดว่าเป็นหลัง
00:34:01 → 00:34:03 ผ่าตัดเนี่ยอันนี้ต้องรีบไปหาหมอเลยูกถ้า
00:34:03 → 00:34:06 เกิดว่าสมมติว่าเพิ่งผ่าตัดมาได้อาทิตย์
00:34:06 → 00:34:07 นึงหรือภายใน 1 เดือนอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:34:07 → 00:34:10 แต่ยังติดไม่ดีอะไรเงี้ยแล้วอยู่ดีๆมีตา
00:34:10 → 00:34:12 แดงมีขี้ตาอะไรต้องรีบไปหาหมอเลยก็มี
00:34:12 → 00:34:15 โอกาสที่จะติดเชื้อหลังผ่าตัดได้มยอันนี้
00:34:15 → 00:34:17 คือกลุ่มนึงนะแต่อีกกลุ่มนึงคือเออก็ผ่า
00:34:17 → 00:34:19 ตัดไปนานแล้วแผ่ปิดไปนานแล้วเกิน 1 เดือน
00:34:19 → 00:34:22 ไปแล้วอันนี้ก็มักจะเป็นเป็นอาจจะมี
00:34:22 → 00:34:24 เรื่องของเรบุตาอักเสบอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:34:24 → 00:34:26 ก็ควรอาจจะเ่อไปพบแพทย์เพื่อเยาะให้น้ำตา
00:34:26 → 00:34:28 ให้น้ำตาเทียมหยอดแล้วก็บยาฆ่าเชื้อให้
00:34:28 → 00:34:30 หยอดอะไรเงี้ครับหรือว่าตรวจประเมินให้
00:34:30 → 00:34:33 แน่ชัดอีกทีนึงดีกว่าจะดีกว่าออ๋อก็คือ
00:34:33 → 00:34:36 ถ้าอาการอย่างงี้เนี่ยเอ่อสันนิษฐานนะใน
00:34:36 → 00:34:38 เบื้องต้นที่พอจะมีข้อมูลณตอนนี้ก็คือคาด
00:34:39 → 00:34:42 ว่าน่าจะผ่ามากันอยู่พอสมควระสักระยะใหญ่
00:34:42 → 00:34:45 ๆมานานแล้วใช่อแล้วคือถ้ามีอาการลักษณะ
00:34:45 → 00:34:49 แบบนี้ตาแฉะคิดตาเยอะแถมน้ำตาที่ออกมาทำ
00:34:49 → 00:34:53 ให้หางตาเนี่ยมีตาแดงด้วยอะไรเงี้ยไปไปพบ
00:34:53 → 00:34:55 แพทย์ดีกว่าเนาะคุณหมอเนาะครับดีกว่าดี
00:34:55 → 00:34:59 กว่าครับไปกว่าไปพบแพทย์ออคำถามนะครับคุณ
00:34:59 → 00:35:04 หมอครับที่คุณผู้ฟังฝากสอบถามคุณหมอมาก็
00:35:04 → 00:35:10 คือวันนี้มีอาการเคืองตาบางครั้งก็เจ็บตา
00:35:10 → 00:35:14 ด้วยด้านขวามีขี้ตาออกมาด้วยไม่แน่ใจว่า
00:35:14 → 00:35:17 เกิดขึ้นจากอะไรคือเมื่อเมื่อคืนหลับตอน
00:35:17 → 00:35:19 เช้าตื่นมามีอาการแบบนี้เลยครับคุณหมอ
00:35:19 → 00:35:21 ครับอันนี้ตาแห้งด้วยมยคุณหมอฮะเกี่ยว
00:35:21 → 00:35:25 ข้องอืก็ก็เ่าอย่างเช่นสมมุติว่ามีขี้ตา
00:35:25 → 00:35:27 บางทีหมอก็อาจจะแบบต้องถามนิดนึงว่าขี้ตา
00:35:27 → 00:35:30 มันมีลักษณะเป็นแบบไหนฮะอสมตว่าสมมติว่า
00:35:30 → 00:35:33 เออมันมีลักษณะขี้ตามันเป็นตัวพอจะบอกได้
00:35:33 → 00:35:35 ว่าเอโรคประมาณไหนอะไรอย่างงี้ด้วยนะครับ
00:35:35 → 00:35:38 อย่าถ้าเกิดขี้ตาเป็นเมือกๆขาวๆแล้วร่วม
00:35:38 → 00:35:40 กับมีชันตางเงี้ยมักมักจะเป็นจากกลุ่มที่
00:35:40 → 00:35:44 เป็นเ่อภูมิแพ้นะแต่ถ้าเกิดว่าขี้ตาเขียว
00:35:44 → 00:35:46 เลยขี้ตาเขียวเลยตื่นมาแล้วแบบขี้ตาเขียว
00:35:46 → 00:35:49 เกาะกังเต็มขนตาอะไรอย่าเงี้ยอันนี้สงสัย
00:35:49 → 00:35:52 ว่าอาจจะเป็นจากติดเชื้อแบคทีเรียอะไร
00:35:52 → 00:35:54 อย่างเงี้ยครับมันมันจะพอบอกได้บ้างหรือ
00:35:54 → 00:35:56 บางทีอ่าถ้าเป็นน้ำตาลไหลเยอะๆอะไรเงี้
00:35:56 → 00:35:58 บางทีอาจจะเป็นจากเชื้อไวรัสอะไรอย่างี้
00:35:58 → 00:35:59 ครับ
00:35:59 → 00:36:03 อืมพบแพทย์ดีกว่านะคณหมอเได้่ผมก็คิดว่า
00:36:03 → 00:36:05 น่าจะพบพบแพทย์ดีกว่าหรือแต่ถ้าเกิดว่า
00:36:05 → 00:36:07 รู้สึกว่าอ่ะเป็นช่วงเช้าแล้วเกิดช่วง
00:36:07 → 00:36:10 กลางช่วงช่วงเ่อกลางวันช่วงเย็นเหมือนดี
00:36:10 → 00:36:14 ขึ้นอะไรเงี้ยอ่าอ่ะมันหายไปเองหรืออาจจะ
00:36:14 → 00:36:17 ไม่ต้องพบแพทย์ก็ได้ครับอืซื้อน้ำตาเทียม
00:36:17 → 00:36:20 มาหยอดได้เองมั้ยฮะคุณหมอใช่ซื้อซื้อซื้อ
00:36:20 → 00:36:22 มาหยอดเองได้เบื้องต้นก่อนครับอันนี้ใน
00:36:22 → 00:36:25 กรณีที่ไม่มีตาแดงนะครับอ่าแล้วก็ลักษณะ
00:36:25 → 00:36:28 ขี้ตาเนี่ยอาจจะเป็นแค่เมือกๆนิดๆนิด
00:36:28 → 00:36:30 หน่อยนะไม่ได้เขียวนะเป็นสีขาวๆเป็นเมือก
00:36:30 → 00:36:32 ๆอะไรอย่าเงี้ยอันนี้ก็จะตาแห้งก็ทำให้มี
00:36:32 → 00:36:36 ขี้ตาแบบนั้นได้เหมือนกันอือ๋อแต่ถ้าเกิด
00:36:36 → 00:36:38 เขียวเลยแบบเขียวเลยหลวงเลยอะไรอย่าง
00:36:38 → 00:36:40 เงี้ยอันนี้ก็ควรจะไปครบแพทย์ดีกว่าควรจะ
00:36:40 → 00:36:42 มียาฆ่าเชื้อหยอดเพื่อเพื่อทำให้มันหาย
00:36:43 → 00:36:44 เร็วขึ้นหรือไม่มีการติดเชื้อที่มันมาก
00:36:44 → 00:36:49 ขึ้นนะครับอือออ๋อเออทีนี้ก็จะได้คือถ้า
00:36:49 → 00:36:51 ถ้ามัวแต่รักษาด้วยตัวเองบางทีมันอาจจะ
00:36:51 → 00:36:53 ใช้ระยะเวลาในการที่แบบมันอาจจะไม่ตรงกับ
00:36:53 → 00:36:56 ที่อาการที่เป็นใช่มั้ยฮะใช่ครับใช่ครับ
00:36:56 → 00:36:59 จริงๆจริงๆอย่างบุตตาอักเสบอในหนังสือก็
00:36:59 → 00:37:00 จะเขียนไว้้เลยว่าอ่าถ้าเป็นแบคทีเรีย
00:37:00 → 00:37:03 เนี่ยหรือไวรัสเนี่ยบางทีหายเองได้ครับ
00:37:03 → 00:37:06 ครับแต่ว่าแต่ว่าถ้าเกิดสมมุติมันไม่ใช่
00:37:06 → 00:37:07 อันนั้นล่ะครับเออมันอาจจะเป็นอย่างอื่น
00:37:07 → 00:37:10 ก็ได้ถูกมั้ยฮะเพราะฉะนั้นเอ่อควรจะให้
00:37:10 → 00:37:12 อ่าจากสุแพทย์เป็นคนตรวจดูว่าอ่ามันเป็นอ
00:37:12 → 00:37:14 นี้นะอะไรอย่างเงี้ยแต่ส่วนใหญ่พอถึงมือ
00:37:14 → 00:37:17 หมอแล้วหมอก็จะแบบอืให้ยาแล้วกันนะจะไหนๆ
00:37:17 → 00:37:19 ก็มาหาหมอแล้วก็อยากจะให้มันหายเร็วขึ้น
00:37:19 → 00:37:22 อะไรเงี้ยครับอือีกหนึคำถามน่าจะเป็นคำ
00:37:22 → 00:37:24 ถามสุดท้ายแล้วครับคุณหมอครับถามเรื่อง
00:37:25 → 00:37:29 ของครีมกันแดดโอโหเวลาทาไปเนี่ยน้ำตา
00:37:29 → 00:37:31 เนี่ยมันจะไหลออกมาตลอดเลยมันมีสารตัว
00:37:31 → 00:37:36 ไหนาหรือโปะฮะคุณพี่ท่านนี้เฝากถามมาออ
00:37:36 → 00:37:38 เออก็เลยถามคุณหมอว่าเอ๊ะมันจะมีสารตัว
00:37:38 → 00:37:41 ไหนในพวกครีมกันแดดที่เวลาซื้อนี่ควรจะ
00:37:41 → 00:37:46 ต้องดูข้างข้างข้างขวดข้างหลอดเนี่ยหลีก
00:37:46 → 00:37:49 เลี่ยงเพื่อไม่ให้มาทำให้ดวงตาของเราแสบะ
00:37:49 → 00:37:52 คุณหมอครับครับก็จริงๆเอ่อหมอก็ไม่ได้มี
00:37:52 → 00:37:56 ความรู้เรื่องส่วนประกอบในในีันแดดฮะฤดู
00:37:56 → 00:37:58 ยากนิดนึงครับครับครับแต่ว่าแต่แต่ในความ
00:37:58 → 00:38:00 รู้สึกของหมอเนี่ยก็คือว่าเอ่อถ้าเกิด
00:38:00 → 00:38:04 ครีมกันแดดยี่ห้อไหนอ่ะเราใช้แล้วมันคือ
00:38:04 → 00:38:06 มันมันหลีกเลี่ยงไม่ได้เนาะเราใส่ครีมกัน
00:38:06 → 00:38:08 เราทาครีมกันแดดเราต้องไปออกแดดมันก็ต้อง
00:38:08 → 00:38:10 มีเหงื่อเนาะพอมีเหงื่อมันก็ต้องชะล้าง
00:38:10 → 00:38:13 ไอ้ตัวครีมกันแดดบางส่วนเนี่ยเข้ามาในตา
00:38:13 → 00:38:15 เออถ้าเกิดเรารู้สึกว่ายี่ห้อนี้มันแสบ
00:38:15 → 00:38:17 เราอาจจะต้องเปลี่ยนยี่ห้อนะครับเพราะว่า
00:38:17 → 00:38:20 เอ่อส่วนนึงที่เรารู้สึกแสบเนี่ย 1 อาจจะ
00:38:20 → 00:38:22 เป็นจากสารเคมีที่อยู่ในส่วนประกอบที่
00:38:22 → 00:38:25 อยู่ในครีมการแดกเนาะ 2 คือค่าพีนะค่า
00:38:25 → 00:38:29 ความเป็นกรดคนด่างที่ที่ที่มันเยอะเกินไป
00:38:29 → 00:38:30 หรือว่าน้อยเกินไปอะไรเงี้ยเป็นกดเป็น
00:38:30 → 00:38:32 ด่างเยอะเกินไปของคิมกันแดดเนี่ยทำให้เรา
00:38:32 → 00:38:35 แสบตาไปที่มันเข้ามาในตาอครับอ่ามันอาจจะ
00:38:35 → 00:38:38 เป็นแบบไ้ตัวนี้เพราะว่าก็เคยมีเพื่อนบ่น
00:38:38 → 00:38:40 เหมือนกันว่าเอ๊ะคนนี้ใช้อันนี้แล้ว
00:38:40 → 00:38:42 ยี่ห้อนี้แล้วไม่เป็นยี่ห้อนึงแล้วเป็น
00:38:42 → 00:38:45 อะไรเงี้ก็ควรจะเปลี่ยนอะไรเงี้ยครับอแ
00:38:45 → 00:38:47 ให้หมอแนะนำนะครับอ่าถ้ารู้สึกว่าแสบรู้
00:38:47 → 00:38:50 สึกว่าไม่สบายตาเปลี่ยนดีกว่าจะได้เพื่อ
00:38:50 → 00:38:52 ความสบายอกสบายใจนะครับแต่หมอคิดว่าหมอ
00:38:52 → 00:38:55 คิดว่าส่วนประกอบในในครีมกันแดดที่เรามา
00:38:55 → 00:38:58 ใช้ทาหน้าครับคือเขาอ่ะจะต้องมีผ่านอยมา
00:38:58 → 00:38:59 แล้วเนเคก็ต้องวิจัยมาแล้วว่าไอ้สารตัว
00:39:00 → 00:39:02 เนี้มันไม่ได้ส่งผลร้ายต่อดวงตาอะไรเงี้ย
00:39:02 → 00:39:04 ครับเอหมายถึงว่าตัวสารเคมีนะแต่หมอคิด
00:39:04 → 00:39:07 ว่าไอ้ตัวส่วนประกอบเ่ะมันอาจจะทำให้ค่า
00:39:07 → 00:39:10 พีชมันอาจจะอาจจะต่ำหรือสูงกว่ากว่าน้ำตา
00:39:11 → 00:39:13 เราปกตินิดหน่อยเวลาที่มันเข้าตามเลยแต่า
00:39:13 → 00:39:18 นั้นเองครับผมอ่าไหนๆก็คุณหมอมาะหมอดงตา
00:39:18 → 00:39:21 จากสุแพทย์ด้วยการกรอกตาไปมาซ้ายขวาบน
00:39:21 → 00:39:24 ล่างหน้าหลังอะไรอย่างเงี้ยนะฮะมันเป็น
00:39:24 → 00:39:27 การช่วยบริหารดวงตาให้เราดวงตาของเรานี่
00:39:27 → 00:39:31 อยู่กับเราได้อีกนานๆฮคุณหมออืมเอ่ออัน
00:39:31 → 00:39:34 นี้ก็ไม่ไม่ไม่ไม่ได้ไม่ได้แตกต่างกันนะ
00:39:34 → 00:39:36 ครับหมายถึงว่าอาจจะไม่จำเป็นต้องต้อง
00:39:36 → 00:39:39 กรอกตาไปมาตลอดเวลาก็คือใช้ปกติครับไม่
00:39:39 → 00:39:42 ได้ไม่ได้มีอะไรบอกว่าการกรอกตาจะเป็นการ
00:39:42 → 00:39:44 Exercise อะไรอย่างงี้นะครับเพราะปกติ
00:39:44 → 00:39:46 การกรอกตาเราก็ใช้กล้ามเนื้อตาเราแต่จริง
00:39:46 → 00:39:48 ๆแล้วปกติเวลาที่เรามองอะไรเราก็กรอกตา
00:39:48 → 00:39:50 อยู่แล้วนะครับก็เลยไม่ได้มีความจำเป็น
00:39:50 → 00:39:53 ว่าเราจะต้องฝึกทำหรือว่าทำให้เยอะกว่า
00:39:53 → 00:39:57 ปกติอืเออไม่ๆดวงตาเราก็กอบไปกอกมาอยู่
00:39:57 → 00:40:00 แล้วเเวลาที่เรามองดูทีวีหรือว่าเรามองคน
00:40:01 → 00:40:03 อื่นอะไรเงี้ยเราก็จะกรอกไปมาอยู่แล้ว
00:40:03 → 00:40:06 ครับอ๋อโอเควันนี้ก็เรียกว่าโอตอบคำถาม
00:40:06 → 00:40:08 แล้วก็ได้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับโรค
00:40:09 → 00:40:10 เกี่ยวกับดวงตาในช่วงหน้าร้อนแบบนี้วัน
00:40:10 → 00:40:12 นี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆเลยนะครับ
00:40:12 → 00:40:14 ที่มาให้ความรู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะ
00:40:14 → 00:40:17 ครับคุณหมอครับครับขอบคุณครับขอขอบพระคุณ
00:40:17 → 00:40:20 มากๆครับคุณหมอครับสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:40:20 → 00:40:23 สวัสดีครับคุณหมอวีรพัฒน์อุดมวงศ์นะครับ
00:40:23 → 00:40:26 นายแพทย์จักสุแพทย์ด้านกระจกตาและการแก้
00:40:26 → 00:40:29 ไขสายตาผิดปกติจากโรงพยาบาลเมตตา
00:40:29 → 00:40:32 ประชารักษ์วัดไร่ขิงโครงการแพทย์กระทรวง
00:40:32 → 00:40:35 สาธารณสุขนะครับ