00:00:00 → 00:00:02 คุณหมอถามด้วยครับหัวข้อของเราในวันนี้
00:00:02 → 00:00:05 ครับว่าไอ้เรื่องของการขยี้ตาเนี่ยมัน
00:00:05 → 00:00:09 อันตรายถึงขั้นทำให้เราเนี่ยนะฮะค่ะตาบอด
00:00:09 → 00:00:12 ได้เลยเหรอครับคุณหมอครับเบื้องต้นเรามา
00:00:12 → 00:00:14 ดูเรื่องขยี้ตาก่อนนะคุณหมอบางคนไม่รู้
00:00:14 → 00:00:17 ว่าเอ๊ะเค้าขยี้เบอกเบอกเแค่กรุบกริบกรุบ
00:00:17 → 00:00:21 กริบทำทำทำแบบแค่หัวตาเปลือกตามันมีกี่
00:00:21 → 00:00:23 แบบคะคุณหมอเรื่องของขยี้ตาเราจะเรียกว่า
00:00:23 → 00:00:28 ขยี้ได้ยังไงมยคะอืค่ะคือโดยทั่วไปแล้ว
00:00:28 → 00:00:33 การขยี้ตาก็ไม่ได้มีลักษณะเฉพาะเจาะจงชัด
00:00:33 → 00:00:38 เจนค่ะแล้วก็เอ่อไม่ได้รุนแรงถึงถึงระดับ
00:00:38 → 00:00:41 ที่ที่จะมีผลต่อการมองเห็นสักเท่าไหร่ค่ะ
00:00:41 → 00:00:44 เพราะว่าโดยทั่วไปแล้วเนี่ยเวลาเราขยี้
00:00:44 → 00:00:47 ค่ะมันก็จะเป็นกลไกป้องกันเอ่อเกิดขึ้น
00:00:47 → 00:00:50 เมื่อเราเกิดอาการระคายเคืองค่ะเราก็จะทำ
00:00:50 → 00:00:54 แค่เอ่อพอที่จะลดอาการระคายเคืองก็จะส่วน
00:00:54 → 00:00:55 ใหญ่เราก็จะไม่ได้ทำให้ตัวเองเนี่ยบาด
00:00:55 → 00:00:59 เจ็บมากจนเกินไปค่ะคล้ายๆกับเวลาเราเอ่อ
00:01:00 → 00:01:02 เหมือนเราไปเอ่อหยิกตัวเองอย่างเงี้ยค่ะ
00:01:02 → 00:01:05 พอเจ็บถึงระดับนึงเราก็จะปล่อยค่ะก็จะไม่
00:01:05 → 00:01:08 ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ได้ขยี้ในระดับที่
00:01:08 → 00:01:12 ส่งผลกระทบรุนแรงกับตัวลูกตามากค่ะอเพราะ
00:01:12 → 00:01:14 ฉะนั้นการที่เราใช้บางทีไม่ใช้ปลายนิ้ว
00:01:14 → 00:01:18 หรอกเราใช้แค่ข้อของนิ้วเนี่ยแล้วก็แบบ
00:01:18 → 00:01:22 ว่าเอ่อคลึงไปที่ตรงหัวตาคือหายคันแล้วก็
00:01:22 → 00:01:26 โอเคหายลขเคืองอันนั้นก็ถือว่าเราได้ไม่
00:01:26 → 00:01:29 ได้ทำอันตรายกับลูกตาหรืออวัยวะข้างใน
00:01:29 → 00:01:31 เท่าไหร่ใช่มั้ใชมั้ยคะคุณหมอค่ะโดยทั่ว
00:01:31 → 00:01:35 ไปมักจะเป็นแบบนั้นค่ะอือืสาเหตุของการ
00:01:35 → 00:01:40 ที่ทำให้เราเนี่ยต้องขยี้ตาเพื่อที่อเอ่อ
00:01:40 → 00:01:43 ปัดเป่าปัญหาการระคายเคืองคุณหมอครับส่วน
00:01:43 → 00:01:46 ใหญ่นี่อที่มักจะเจอกันเนี่ยมักจะเจอกัน
00:01:46 → 00:01:51 จากสาเหตุอะไรฮะอืมค่ะก็เอ่อลำดับแรกมัก
00:01:51 → 00:01:53 จะเป็นเรื่องของอาการคันหรือว่าราคาย
00:01:53 → 00:01:56 เคืองบริเวณเปลือกตาค่ะบริเวณปอันบริเวณ
00:01:56 → 00:01:59 เปลือกตาได้ค่ะหรือว่าบางคนก็อาจจะมี
00:01:59 → 00:02:02 อาการรู้สึกไม่สบายตาค่ะมีอาการตามัวบาง
00:02:02 → 00:02:05 ทีเราตามัวเราก็เอออาจจะลองขยีบต้าดูก่อน
00:02:05 → 00:02:08 ว่ามันมีอะไรมาบังหรือเปล่าจะทำให้มอง
00:02:08 → 00:02:12 เห็นชัดขึ้นไนะคะหรือว่าเอ่อบางทีก็จะมี
00:02:12 → 00:02:15 ความผิดปกติของตัวลูกตาซึ่งก็เป็นไปได้
00:02:15 → 00:02:19 ตั้งแต่ภายนอกสุดเลยก็คือเปลือกตาค่ะมีมี
00:02:19 → 00:02:22 การอักเสบมีตากุ้งยิงติดเชื้อหรือเปล่า
00:02:22 → 00:02:26 ค่ะมีลักษณะของเยื่อบุตาเอ่อตาแดงหรือ
00:02:26 → 00:02:29 เปล่านะคะหรือว่าบริเวณกระจกตามีความผิด
00:02:29 → 00:02:33 ปกติมีสิ่งแปลกปลอมอะไรพัดเข้ามาในบริเวณ
00:02:33 → 00:02:36 ตาหรือเปล่าก็จะทำให้เรามีความไม่สบายตา
00:02:36 → 00:02:40 แล้วก็เผลอขยี้ตากันได้ค่ะอืเรื่องของ
00:02:40 → 00:02:42 สภาพอากาศในในช่วงช่วงนี้ครับที่มันมี
00:02:42 → 00:02:44 ฝุ่นเยอะๆนี่มันก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง
00:02:44 → 00:02:48 สาเหตุที่ทำให้เรามีอาการระคายเคืองที่
00:02:48 → 00:02:52 บริเวณดวงตาด้วยมฮะอืต้องบอกว่าเป็น
00:02:52 → 00:02:55 สาเหตุถ้าจะส่วนใหญ่เลยล่ะค่ะที่ทำให้มี
00:02:55 → 00:02:58 ลักษณะของระคายเคืองตาแล้วก็มีอาการภูมิ
00:02:58 → 00:03:01 แพ้เครืองตาในช่วงนี้ก็จากฝุ่นที่เรา
00:03:01 → 00:03:04 เผชิญกันอยู่เนี่ยก็เป็นปัญหาที่เจอเอ่อ
00:03:04 → 00:03:06 จากสุแพทย์เนี่ยเจอกันเยอะขึ้นเรื่อยๆเลย
00:03:06 → 00:03:11 ค่ะอือหลักๆเลยก็คือเรื่องของฝุ่นละออง
00:03:11 → 00:03:15 ที่ล่องรอยอยู่ในท้องอากาศอือืเป็นสาเหตุ
00:03:15 → 00:03:18 เลยนะฮะคุณหมอครับเรากระพริบตาเฉยๆมันจะ
00:03:18 → 00:03:21 หายคันได้มคะบางคนเราก็แบบเพื่อให้น้ำตา
00:03:21 → 00:03:23 มันไหลออกมาค่ะคุณหมอค่ะไม่ต้องกระยี่ก็
00:03:23 → 00:03:27 จะเป็นลักษณะแค่นั้นนะคะก็เอ่อกระพริบตา
00:03:27 → 00:03:33 เฉยๆหรือไม่ก็บิบตาหน่อยเพื่อ
00:03:33 → 00:03:39 อชชะล้างสิกปรว่าสภูมแพ้ออกไปได้บ้างค่ะ
00:03:39 → 00:03:41 อือมีประเด็นภูมิแพ้เข้ามาเกี่ยวด้วย
00:03:41 → 00:03:44 อย่างคนบางคนที่เราเห็นเขาจะเขาจะฟุดฟิ
00:03:44 → 00:03:48 ขึ้นมาทั้งตาทั้งจมูกที่จะจามแล้วก็เอ่อ
00:03:48 → 00:03:51 น้ำตาไหลออกมาโดยอัตโนมัติอันนี้มันเป็น
00:03:51 → 00:03:54 กลไกร่างกายที่ที่คนเป็นภูมิแพ้เขาจะเกิด
00:03:54 → 00:03:58 ขึ้นใช่มคะน้ำตาก็จะไหลออกมาเลยใช่ๆค่ะก็
00:03:58 → 00:04:00 เป็นหนึ่งในอาการที่ทำให้เกิดขึ้นได้ค่ะ
00:04:00 → 00:04:05 อืคุณหมอการที่เราไปขยี้ตาเนี่ยนะฮะไอ้คำ
00:04:05 → 00:04:09 ว่าบ่อยเกินไปหรือว่าแรงเกินไปเนี่ยเรา
00:04:09 → 00:04:12 เรามีตัวชี้วัดมั้ยครับว่าอะไรคือแรงเกิน
00:04:12 → 00:04:16 ไปอะไรคือบ่อยเกินไปอ่ะฮะออก็เอ่อถ้าเกิด
00:04:16 → 00:04:20 ว่าขยี้เยอะจนมีอาการผิดปกติรู้สึกไม่
00:04:20 → 00:04:23 สบายตารู้สึกเคืองตาจากการขยี้ของเราอ่ะ
00:04:23 → 00:04:26 ค่ะเวลามาพบจักสุแพทย์อ่ะค่ะสิ่งที่จะ
00:04:26 → 00:04:29 ตรวจเจอที่ทำให้รู้สึกว่ามันมากเกินไป
00:04:29 → 00:04:32 แล้วก็คือเอ่อการขยี้นั้นเนี่ยส่งผลทำให้
00:04:32 → 00:04:35 อย่างแรกเลยที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ
00:04:35 → 00:04:38 ผิวเปลือกตาเราถลอกไปหรือว่ามีลักษณะ
00:04:38 → 00:04:43 เปลือกตาเริ่มบวมร่วมด้วยค่ะมีเยื้อบุตา
00:04:43 → 00:04:46 บวมเอ่อตรงบริเวณตำแหน่งตาขาวเนี่ยบวมออก
00:04:46 → 00:04:49 มาหรือว่ามีลักษณะของเสื้อเลือดฝอยในตาใน
00:04:49 → 00:04:53 ตรงบริเวณตาขาวฉีกขาดอ่ะค่ะเราก็จะเห็นตา
00:04:53 → 00:04:57 แดงออกมาค่ะหรือเอ่อแยกลงไปเรื่อยๆก็เกิด
00:04:57 → 00:05:01 ภาวะกระจกปาถลอกมีการติดเชื้ออื่นๆแทรก
00:05:01 → 00:05:04 ซ้อนขึ้นมาค่ะมีลักษณะของผิวกระจกตาได้
00:05:04 → 00:05:07 รับความเสียหายต่างๆเหเนี้ก็จะเป็นสัญญาณ
00:05:07 → 00:05:10 บ่งบอกว่าการขยี้ตาของเราเนี่ยมากเกินไป
00:05:10 → 00:05:13 เริ่มเริ่มทำให้เกิดภาวะผิดปกติในตาอื่นๆ
00:05:13 → 00:05:17 ร่วมด้วยค่ะอืเมื่อเทียบความรุนแรงของการ
00:05:17 → 00:05:20 ขยี้ตาอย่างที่ดรีมถามเนี่ยอย่างคนคนนึง
00:05:20 → 00:05:24 จะใช้นิ้วนะคะปลายนิ้วเลยขยี้เข้าไปเอ่อ
00:05:24 → 00:05:26 น่าจะโดนตรงหัวตาเนี่ยเป็นหลักแบบที่เรา
00:05:26 → 00:05:30 เห็นนนะคะขยี้ขยี้ให้หาย 3 4-5 ครั้งใน
00:05:31 → 00:05:36 ความรุนแรงก็ก็ 5 6 ถึง 6-7 เต็ม 10 ค่ะ
00:05:36 → 00:05:39 อาจารย์ขยี้แรงหนักหน่วงเงี้ยกระจกตาจะจะ
00:05:39 → 00:05:42 ยังไงจะถลอกได้มั้ยคะขนาดนั้นแบบนึกภาพ
00:05:42 → 00:05:46 หมดขยี้เลยด้วยนิ้วอืค่ะคือถ้าตรงบริเวณ
00:05:46 → 00:05:49 หัวตานะค่ะไม่โดนกระจกไม่โดนตำแหน่งกระจก
00:05:49 → 00:05:52 ตาหรือตาดำอย่างเงี้ยค่ะก็ก็จะไม่ได้เกิด
00:05:52 → 00:05:55 อันตรายในบริเวณผิวกระจกตาแต่ถ้าเกิดว่า
00:05:55 → 00:06:01 เอ่อขยี้ตรงกลางเลยเอ่ออลูกกตาอหรือว่า
00:06:01 → 00:06:05 เอ่อตงปลแหลมของเลไปโดนบริเวณกระจกตาโดย
00:06:05 → 00:06:08 ตงอย่าเงี้ค่ะก็จะมีความเสงในเรื่องของ
00:06:08 → 00:06:11 กระจกตาเป็นรอยถลอกสีขาดได้ง่ายค่ะออก็คน
00:06:12 → 00:06:14 ส่วนมากเนี่ยไม่รู้ว่าเอาเล็บไปโดนถึง
00:06:14 → 00:06:19 ขนาดจิกขนาดนั้นเนี่ยรุนแรงมากๆเลยอ่ะอื
00:06:19 → 00:06:22 คนประมาณเกินครึ่งน่าจะน่าจะไม่ใช่รุนแรง
00:06:22 → 00:06:25 อย่างนั้นนะคะอาจารย์ใช่ค่ะส่วน
00:06:25 → 00:06:29 ใหญ่ว่าเอ่อก็จะพบได้เรื่อยๆในกรณีที่เ่อ
00:06:29 → 00:06:32 เป็นเด็กร่วมกับวิวะภูมิแพ้อย่างเงี้ยค่ะ
00:06:32 → 00:06:35 เขาก็เอ่อความระมัดระวังก็จะน้อยกว่าค่ะ
00:06:36 → 00:06:39 มีปัญหาได้มากกว่าไม่ทันหลับตาอแล้วคือผม
00:06:39 → 00:06:42 ไปเจอข้อมูลนึงมาเนี่ยฟังแล้วมันดูก็ค่อน
00:06:42 → 00:06:45 ข้างที่จะน่ากลัวเลยนะครับคุณหมอคือถ้าคน
00:06:45 → 00:06:49 ที่เจอสภาพอากาศอาจจะทำงานในห้องแอร์ที่
00:06:49 → 00:06:54 มันอาจจะทำให้คันระคายเคืองตาได้แล้วขยี้
00:06:54 → 00:06:58 ตาคันตาเกาตาจนทำให้เกิดอาการกระจกตาโก่ง
00:06:58 → 00:07:01 เนี่ยคุณหมอครับเอ่อตรงนี้เนี่ยมันมันมัน
00:07:01 → 00:07:04 เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดจากการขยี้ตา
00:07:04 → 00:07:06 มั้ยครับคุณหมอครับ
00:07:06 → 00:07:11 เอ่อเจอได้เหมือนกันค่ะคือเป็นโรคที่พบ
00:07:11 → 00:07:14 ได้ไม่ได้บ่อยมากค่ะแต่ว่าก็เจอได้เหมือน
00:07:14 → 00:07:19 กันค่ะในกรณีเอ่อบางคนก็จะมีภาวะความแข็ง
00:07:19 → 00:07:23 แรงของกระจกตาไม่ไม่ไม่แข็งแรงมากนักและ
00:07:23 → 00:07:26 ประกอบกับว่าไปเจอสภาวะที่กระตุ้นทำให้มี
00:07:26 → 00:07:29 ภาวะพุมแพ้ในตาอย่างเช่นมีเรื่องของฝุ่น
00:07:29 → 00:07:31 มีเรื่องเรื่องของภูมิแพ้ในร่างกายอยู่
00:07:31 → 00:07:34 เดิมค่ะคนกลุ่มเนี้ยเมื่อขยี้ตาค่ะก็จะมี
00:07:34 → 00:07:37 ความเสี่ยงของเอ่อภาวะกระจกตาโก่งมากกว่า
00:07:37 → 00:07:40 คนปกติเนื่องจากว่าความแข็งแรงของกระจกตา
00:07:40 → 00:07:42 เดิมของเขาเนี่ยไม่ได้ไม่ได้มีมากอยู่
00:07:42 → 00:07:46 แล้วค่ะอืแล้วกระจกตาเนี่ยงเออใช่ไอ้ความ
00:07:46 → 00:07:48 แข็งแรงของมันเนี่ยคุณหมอครับมันมันขึ้น
00:07:48 → 00:07:52 อยู่กับอะไรครับคุณหมอครับ 1 ก็คือเป็น
00:07:52 → 00:07:57 จากติดตัวมาตั้งแต่เกิดค่ะว่าว่าเอ่อผิว
00:07:57 → 00:08:00 กระจกตาเหมือนเหมือนคนที่มีมีเอ่อกรรม
00:08:00 → 00:08:03 พันธ์ติดตัวในในโรคบางอย่างมาตั้งแต่เกิด
00:08:03 → 00:08:06 ค่ะอันนี้ก็เช่นเดียวกันเอ่อกับ 2 คือคน
00:08:06 → 00:08:09 ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างอย่างเช่นในเด็ก
00:08:09 → 00:08:12 ที่มีภาวะของเอ่อกลุ่มดาวซินโดรมอย่าง
00:08:12 → 00:08:15 เงี้ยค่ะเขาก็จะมีภาวะกระจกตาไม่แข็งแรง
00:08:15 → 00:08:18 ร่วมด้วยอยู่แล้วในเอ่อเป็นลักษณะของ
00:08:18 → 00:08:21 กลุ่มโรคที่ติดตัวมาค่ะหรือ 3 ก็คือเพิ่ง
00:08:21 → 00:08:24 มาเป็นภายหลังหลังจากที่เกิดมาและแล้วก็
00:08:24 → 00:08:27 มีปัจจัยใดๆก็ตามที่ไปกระตุ้นทำให้เอ่อ
00:08:27 → 00:08:29 กระจกตามีความไม่แข็งแรงอย่างเชในกลุ่ม
00:08:30 → 00:08:32 นี้แหละค่ะก็คือกลุ่มที่มีภาวะภูมิแพ้
00:08:32 → 00:08:37 กลุ่มที่มีภาวะเอ่อเอ่ออะไรก็ตามที่ทำให้
00:08:37 → 00:08:40 เขาต้องไปกระทบกระแทกกับตัวกระจกตาตลอด
00:08:40 → 00:08:42 เวลาอย่าเงี้ยค่ะก็จะทำให้ความแข็งแรงของ
00:08:42 → 00:08:45 กระจกตาเนี่ยน้อยลงกว่าคนปกติก็เรียกว่า
00:08:45 → 00:08:50 กระจกตาโก่งกระจกตาย้วยได้ค่ะอืคือคือถ้า
00:08:50 → 00:08:53 มันโก่งเนี่ยมันถึงขั้นโก่งคุณหมอครับมัน
00:08:53 → 00:08:56 จะส่งผลกระทบกับดวงตาของเรายังไงได้บ้าง
00:08:56 → 00:09:00 ฮะคุณหมอฮะมันก็มีรดับความรุนแรงหลาย
00:09:00 → 00:09:03 อย่างค่ะเป็นได้ตั้งแต่ระดับน้อยๆก็ถ้า
00:09:03 → 00:09:05 ระดับน้อยๆก็อาจจะเอ่อปรับเปลี่ยน
00:09:05 → 00:09:07 พฤติกรรมค่ะในในส่วนที่คิดว่าจะเป็น
00:09:08 → 00:09:10 ปัจจัยเสี่ยงที่ไปยุ่งกับกระจกปามากจน
00:09:10 → 00:09:13 เกินไปค่ะไปจนถึงระดับความรุนแรงมากที่
00:09:13 → 00:09:17 เอ่อย้วยจนเกิดกระจกตาโก่งจนเกิดปัญหา
00:09:17 → 00:09:21 เกิดภาวะแทรกซ้อนมีน้ำซึมเข้าไปในกระจกตา
00:09:21 → 00:09:24 เกิดกระจกตาบวมเกิดกระจกตาเป็นแผลอย่าง
00:09:24 → 00:09:28 เงี้ยค่ะซึ่งการรักษาก็มีตั้งแต่การเอ่อ
00:09:28 → 00:09:33 แก้ไขด้วยคแกเลนสการเอ่อเอ่อใส่แสงเข้าไป
00:09:33 → 00:09:35 เพื่อเเพื่อเสริมความแข็งแรงของกระจกตาไป
00:09:35 → 00:09:38 จนถึงการผ่าตัดเพื่อเสริมความแข็งแรงของ
00:09:38 → 00:09:45 กระจกตาค่ะอืคุณหมอมันมันจะถึงขั้นที่ทำ
00:09:45 → 00:09:50 ให้ดวงตาเราเนี่ยมีปัญหาลึกเอที่ถึงกับ
00:09:50 → 00:09:52 การสูญเสียการมองเห็นเนี่ยแค่กระจกตาส่วน
00:09:52 → 00:09:56 ว่ากมันอยู่ที่กระจกตามั้ยคะคุณหมอคือถ้า
00:09:56 → 00:10:00 เป็นเอ่อภาวะกระจกตากกอ่ะค่ะในระดับความ
00:10:00 → 00:10:03 รุนแรงที่ถึงขนาดทำให้สูญเสียการมองเห็น
00:10:03 → 00:10:05 เกิดได้ค่ะอื
00:10:05 → 00:10:10 โอ้โหมีผลเหมือนกันมันอืคุณหมอเคยเจอเคส
00:10:10 → 00:10:13 ในลักษณะแบบนี้บ้างมั้ยคะคุณหมอฮคก็เจอ
00:10:13 → 00:10:17 ค่ะแต่ว่าไม่ไม่ได้เจอบ่อยค่ะอือยู่ในวัย
00:10:17 → 00:10:19 เด็กหรือยังไงคะคุณน
00:10:19 → 00:10:23 อืมเท่าที่เท่าที่จากประสบการณ์ตัวเองส่ว
00:10:23 → 00:10:27 เนี่ยที่เจอมักจะอยู่ในช่วงเอ่อประมาณ
00:10:27 → 00:10:31 30-40 ปีค่ะโอ้โหวัยทำงานเลยเวัยทำงาน
00:10:31 → 00:10:35 แล้วโตแล้วอือืที่อาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่
00:10:35 → 00:10:37 ที่หน้าจอคอมอะไรอย่างเงี้ยมันอาจจะมีทำ
00:10:37 → 00:10:40 ให้เกิดการระคายเคืองได้คุณหมอคือเขมา
00:10:40 → 00:10:42 ด้วยอาการลักษณะแบบแบบที่คุณหมอเล่าให้
00:10:42 → 00:10:46 ฟังเลยใช่มั้ยคือก็คือมาด้วยอาการระคาย
00:10:46 → 00:10:50 เคืองตาแล้วก็ขยี้เกาจนแบบมันมีปัญหาตาม
00:10:50 → 00:10:53 มาแบบนั้นเลยใช่มั้ยครับคุณหมอคือเอ่อใน
00:10:53 → 00:10:56 คนปกติทั่วไปส่วนใหญ่จะไม่ถึงขั้นภาวะ
00:10:56 → 00:10:58 นั้นค่ะแต่ว่าถ้าเกิดว่าเขามีมีความ
00:10:58 → 00:11:00 เสี่ยงอยู่เดิมมีความเสี่ยงเรื่องที่จะ
00:11:00 → 00:11:03 เกิดกระจกตาย้วยอ่ะค่ะส่วนใหญ่แล้วอาจจะ
00:11:03 → 00:11:06 เจอเจอเค้าก่อนด้วยสาเหตุอื่นๆอย่างเช่น
00:11:06 → 00:11:09 ภาวะกระจกตาย้วยเนี่ยจะส่งผลต่อการเอ่อ
00:11:09 → 00:11:11 ภาวะสายตาผิดปกติร่วมด้วยเขาอาจจะมี
00:11:11 → 00:11:14 เรื่องของสายตาเอียงสายตาสั้นสายตายาวผิด
00:11:14 → 00:11:17 ปกติมาซึ่งทำให้เขามองเห็นไม่ชัดเมื่อมา
00:11:17 → 00:11:20 ตรวจตาก็จะพบว่าอ๋อเขามีภาวะกระจกตาก่ง
00:11:20 → 00:11:22 ร่วมด้วยนะเพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่มนี้เราก็
00:11:22 → 00:11:25 จะแนะนำเรื่องการดูแลกระจกตาเป็นพิเศษ
00:11:25 → 00:11:26 อยู่แล้วว่าหลีกเลี่ยงในเรื่องของการขยี้
00:11:26 → 00:11:30 ตาหรือว่าไปเอ่อโดนอะไรกระทบกระแทกรุนแรง
00:11:30 → 00:11:34 ค่ะก็มีส่วนน้อยค่ะที่เรามาพบเรามาตรวจ
00:11:34 → 00:11:36 กันในครั้งแรกเราก็เจอว่าอ๋อเมีภาวะกระจก
00:11:37 → 00:11:40 ตาโก่งที่เป็นลักษณะเยอะแล้วแล้วก็ทำให้
00:11:40 → 00:11:43 เกิดภาวะแทรกซ้อนบางอย่างแล้วทำให้การมอง
00:11:43 → 00:11:46 เห็นเขาแย่ลงมากๆแล้วก็เจอได้ค่ะแต่ว่า
00:11:46 → 00:11:50 มักจะยังไม่ได้เจอบ่อยมากนักค่ะพูดถึงพูด
00:11:50 → 00:11:54 ถึงเรื่องของสายตาสั้นนะคะอย่างที่เราพบ
00:11:54 → 00:11:56 กันเนี่ยมันเป็นไปได้ว่าเราทำตัวเราเอง
00:11:56 → 00:11:59 ให้เกิดสายตาสั้นหรือสายตาสั้นมันเกิด
00:11:59 → 00:12:01 เกิดมาจากเอ่อมันติดตัวประมาตั้งแต่เกิด
00:12:01 → 00:12:05 นะคุณหมอมันมันเป็นไปได้ 2 ทางมคะอ่าเป็น
00:12:05 → 00:12:07 ไปได้ 2 อย่างค่ะคือโดยทั่วไปเนี่ยส่วน
00:12:07 → 00:12:12 ใหญ่เลยมักจะติดตัวเรามาค่ะแล้วก็แต่บาง
00:12:12 → 00:12:15 กรณีก็มีเหมือนกันค่ะที่ที่เป็นตามมาภาย
00:12:15 → 00:12:18 หลังค่ะซึ่งก็เ่ออาจจะเกิดจากการใช้งาน
00:12:18 → 00:12:21 สายตาที่มากเกินไปค่ะหรือว่ามีภาวะของ
00:12:21 → 00:12:24 ความผิดปกติในลูกตาบางอย่างที่ทำให้เอ่อ
00:12:24 → 00:12:28 มีลักษณะสายตาสั้นตามมาภายหลังค่ะในเด็ก
00:12:28 → 00:12:31 ของยุคนี้เนี่ยพบภาวะของสายตาสั้นเทียบ
00:12:31 → 00:12:34 กับเด็กสมัยก่อนมากน้อยแค่ไหนคะคุณหมอ
00:12:34 → 00:12:38 เอ่ออต้องบอกว่าเยอะขึ้น
00:12:38 → 00:12:42 แเยมันมาจากเรื่องของ
00:12:42 → 00:12:46 เอ่อโซเชียลมคะเรื่องของการใช้สายตาในการ
00:12:46 → 00:12:51 อาจจะดูอุปกรณ์ต่างๆมากขึ้นเกี่ยวมั้ยคะ
00:12:51 → 00:12:55 คุณหมอเอ่อค่ะถ้า้าจากงานวิจัยอ่ะค่ะก็พบ
00:12:55 → 00:12:59 ว่าในกเอ่อในปัจจุบันน่ะค่ะมีเรื่องของก็
00:12:59 → 00:13:01 พูดเป็นคำกว้างๆว่าเป็นการใช้เยเวิร์คอ่ะ
00:13:01 → 00:13:04 ค่ะระยะการมองใกล้ที่เยอะขึ้นไม่ว่าจะ
00:13:04 → 00:13:07 เป็นเอ่อพวกสมาร์ทโฟนมือถือ iPad เองก็
00:13:07 → 00:13:11 ตามหรือว่าการอ่านหนังสือระยะใกล้ๆกันมาก
00:13:11 → 00:13:14 ขึ้นค่ะเนื่องจากว่าสังคมปัจจุบันเนี่ย
00:13:14 → 00:13:18 เปลี่ยนจากสังคมเดิมไปเยอะจากสังคมเอ่อ
00:13:18 → 00:13:22 แบบกว้างก็อาจจะเอ่อเป็นลักษณะของสังคม
00:13:22 → 00:13:25 เมืองมากขึ้นอ่ะค่ะเอ่อสถานที่ในการออกไป
00:13:26 → 00:13:29 วิ่งเล่นมีกิจกรรมภายนอกน้อยลงค่ะเด็ก
00:13:29 → 00:13:31 เด็กก็จะอยู่กับเอ่ออะไรต่างๆที่ต้องมอง
00:13:31 → 00:13:34 ใกล้มากขึ้นค่ะก็เป็นปัจจัยนึงค่ะที่พบ
00:13:34 → 00:13:37 ว่าทำให้คนที่เป็นสายตาสั้นอยู่แล้วมี
00:13:37 → 00:13:40 ลักษณะของสายตาสั้นได้เร็วขึ้นมากขึ้น
00:13:40 → 00:13:42 แล้วก็ในคนที่ในในครอบครัวที่ไม่มี
00:13:42 → 00:13:45 ประวัติสายตาสั้นเลยก็เริ่มพบมีเด็กมีสาย
00:13:45 → 00:13:49 ตาสั้นในบ้านเกิดขึ้นค่ะ้อเป็นไปตามภาวะ
00:13:49 → 00:13:52 แวดล้อมไม่ใช่จากที่ติดตัวมาแต่กำเนิด
00:13:52 → 00:13:54 อย่างสมัยก่อนนี้มีคนที่ไม่ใส่แว่นเนี่ย
00:13:54 → 00:13:58 ก็พอจะเยอะพอควรเดี๋ยวนี้แทบจะเห็นว่าการ
00:13:58 → 00:14:01 ใส่แว่นนี่เป็นเรื่องเร่องปกติเออแล้วก็
00:14:01 → 00:14:03 มีการแก้ไขสายตาด้วยวิธีต่างๆที่ทันสมัย
00:14:03 → 00:14:09 มากขึ้นส่วนการขยี้ตาการขยี้ตาเนี่ยมัน
00:14:09 → 00:14:11 ปัจจุบันนี้มันนอกจากเรื่องของฝุ่นเรื่อง
00:14:11 → 00:14:15 ของภูมิแพ้เรื่องของอะไรเนี่ยเอ่อเรา
00:14:15 → 00:14:18 สามารถยับยั้งมันได้ยังไงบ้างมยคะเราจะมี
00:14:18 → 00:14:21 การบำรุงด้วยวิตามินเราจะมีการหยอดน้ำตา
00:14:22 → 00:14:24 เทียมให้มันเป็นเรื่องปกติของของคน
00:14:24 → 00:14:27 ปัจจุบันมั้ยคะคุณหมอว่าไม่ต้องไม่ต้องไป
00:14:27 → 00:14:31 เอ่อขยี้และหยอดน้ำตาเอาอ่าอืค่ะคือก็
00:14:32 → 00:14:35 รักษาเป็นตามสาเหตุที่ตามที่ตรวจพบได้เลย
00:14:35 → 00:14:38 ค่ะถ้าเกิดว่ามีการขยี้ตาจากภูมิแพ้น่ะ
00:14:38 → 00:14:41 ค่ะเอ่อก็ต้องเมินว่าระดับระดับระดับภูมิ
00:14:41 → 00:14:44 แพ้ในตาที่เป็นเนี่ยมีความรุนแรงมากแค่
00:14:44 → 00:14:47 ไหนถ้ามีอาการเยอะร่วมกับมีอาการอื่นๆทาง
00:14:47 → 00:14:51 ระบบหายใจร่วมด้วยอย่างเช่นมีเรื่องของ
00:14:51 → 00:14:53 จมูกภูมิแพ้จมูกร่วมด้วยอย่างเงี้ยค่ะก็
00:14:53 → 00:14:56 อาจจะต้องมีการประเมินร่วมกับเอ่อคุณหมอ
00:14:56 → 00:14:58 เฉพาะทางทางด้านภูมิแพ้เพื่อที่จะ
00:14:59 → 00:15:01 พิจารณาการให้ยากินเพื่อที่จะระงับภูมิ
00:15:01 → 00:15:05 แพ้บางเอ่อทางทางร่างกายไปด้วยค่ะส่วนใน
00:15:05 → 00:15:08 ทางตาเนี่ยค่ะเราก็จะมีการให้ยาหยอดซึ่ง
00:15:08 → 00:15:11 ยาหยอดเนี่ยก็จะเป็นทั้งยาลดภูมิแพ้ลดการ
00:15:11 → 00:15:15 อักเสบในตาได้ค่ะร่วมกับการใช้น้ำตาเทียม
00:15:15 → 00:15:18 ค่ะเพื่อลดสารปอบภุมแพ้ในร่างกายค่ะเอ่อ
00:15:18 → 00:15:21 การดูแลทางตาอื่นๆก็คือจะมีถ้าเกิดว่าคัน
00:15:21 → 00:15:24 มากจริงๆอ่ะค่ะหลีกเลี่ยงที่จะเกาก็การ
00:15:24 → 00:15:27 ประประคบเย็นน่ะค่ะจะช่วยลดอาการคันได้
00:15:27 → 00:15:32 ค่ะออเอาไอ้เจลที่เราประคบทั่วไปเนี่ยอ่า
00:15:32 → 00:15:36 มาหลับตาลงแล้วก็ประคบได้เลยใช่มั้ยคะใช่
00:15:36 → 00:15:39 ๆค่ะโอ้เป็นความรู้ส่วนใหญ่หมอก็จะแนะนำ
00:15:39 → 00:15:41 ในเด็กที่มีภูมิแพ้่ะค่ะเพราะว่ากลุ่มเ
00:15:41 → 00:15:45 เขาก็จะเกาเยอะก็เอ่อนอกจากเรื่องการหยอด
00:15:45 → 00:15:47 ยาแล้วแล้วก็จะมีการใช้น้ำตาเทียมระหว่าง
00:15:47 → 00:15:50 วันเพื่อที่จะเอ่อไปเจือจางสารภูมิแพ้ใน
00:15:50 → 00:15:54 ร่างเอในในบริเวณตาของเขาอ่ะค่ะก็จะแนะนำ
00:15:55 → 00:15:57 ให้ผู้ปกครองเนี่ยประคบเย็นให้เด็กด้วย
00:15:57 → 00:15:59 ค่ะจะช่วยลดอาการคันได้มันจะส่งผลยังไง
00:15:59 → 00:16:01 บ้างมั้ยคะแบบว่าเส้นประสาทหรืออะไรมันจะ
00:16:01 → 00:16:05 แบบเย็นพอพอหายคันก็เลิกใช่มั้ยคะคุณมอื
00:16:05 → 00:16:08 ใช่ค่ะคือคือการประคบเย็นเนี่ยค่ะมันก็จะ
00:16:08 → 00:16:13 ไปเอ่อไปไปลดระบบประสาทในในส่วนของการคัน
00:16:13 → 00:16:17 ได้ค่ะอือือันนี้ก็คือวิธีการที่พอจะช่วย
00:16:17 → 00:16:19 อันนี้เดี๋ยวจะไปทำบ้างเพราะว่ามีเจลอยู่
00:16:19 → 00:16:23 แล้วก็ใช้ในการที่แก้คันตามผื่นผิวหนัง
00:16:23 → 00:16:25 ตามร่างกายมันหายชะงัดเลยเพราะฉะนั้น
00:16:25 → 00:16:27 เดี๋ยวมาใช้ที่ลักษณะคันตาได้ด้วยอืครับ
00:16:28 → 00:16:31 คุณหมอก็คือคือสรุปว่าไอ้การอาการคัน
00:16:31 → 00:16:35 เนี่ยจนนำมาสู่การที่จะเราจะต้องขยี้ตา
00:16:35 → 00:16:38 เนี่ยมันส่งผลในท้ายที่สุดเนี่ยสามารถทำ
00:16:38 → 00:16:42 ให้เราตาบอดได้จริงๆมครับคุณหมอครับ
00:16:42 → 00:16:47 เอ่อได้ค่ะแต่ว่าเจอได้ไม่บ่อยค่ะแล้ว
00:16:47 → 00:16:51 ต้องเป็นกรณีกรณีที่มีโรคทางตาผิดปกติ
00:16:51 → 00:16:53 อื่นๆร่วมด้วยอย่างอย่างที่เรากล่าวมา
00:16:53 → 00:16:57 แล้วค่ะอย่างเช่นภาวะกระจกตาโก่งค่ะ
00:16:57 → 00:17:02 อืก็คือมันมีโอกาสแหละเพียงแต่ว่ามันก็
00:17:02 → 00:17:05 ไม่ได้ว่าจะเจอกันได้บ่อยมันก็อาจจะมี
00:17:05 → 00:17:08 เปอร์เซ็นต์ที่น้อยคือถ้าถ้าถ้าตีว่า
00:17:08 → 00:17:12 โอกาส 100% เนี่ยโอกาสที่จะเจอคนที่ขยี้
00:17:12 → 00:17:16 ตาจนทำให้ศูนย์เสียการมองเห็นเนี่ยมันมี
00:17:16 → 00:17:20 สักกี่เปอร์เซ็นต์นะฮคุณหมอฮะอืจริงๆน้อย
00:17:21 → 00:17:25 น้อยเลยค่ะคิดว่าเอ่อถ้าถ้าให้ประมาณการ
00:17:25 → 00:17:29 จากจากตัวเองนะคะก็คิดว่าน่าจะประมาณ
00:17:29 → 00:17:33 0.5 - 1% น่ะค่ะในในบรรดาที่เจอแต่ว่า
00:17:33 → 00:17:37 เอ่อเอ่อทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยส่วนใหญ่
00:17:37 → 00:17:42 แล้วลักษณะของเคสแบบนี้ค่ะก็จะเจอมักจะไป
00:17:42 → 00:17:45 เจอกับคุณหมอที่เป็นทางด้านคุณหมอทางด้าน
00:17:46 → 00:17:48 กระจกตาโดยตรงอ่ะค่ะเพราะฉะนั้นในในส่วน
00:17:48 → 00:17:52 ตัวที่เจอเองอาจจะไม่ได้เจอเคสในกลุ่มนี้
00:17:52 → 00:17:55 เท่าไหร่นะคะอาจจะตอบได้ค่อนข้างยากค่ะอื
00:17:55 → 00:17:57 แต่เพียงแต่ว่าคือถ้ามีอาการที่รู้สึกว่า
00:17:57 → 00:18:01 ราคายคืนเื่องคันตามันก็มีหลากหลายวิธี
00:18:01 → 00:18:04 อย่างที่คุณหมอได้แนะนำไปใช่ก็คือแก้ไข
00:18:04 → 00:18:08 กันในเบื้องต้นก่อนก็คือทั้งหยอดตาเยใช่ม
00:18:08 → 00:18:12 ฝุ่นมใช่หรือว่าถ้าคนที่มันคันมากๆอย่า
00:18:12 → 00:18:14 ถ้าเป็นเด็กๆอะไรอย่างเงี้ยรเปล่าก็ต้อง
00:18:14 → 00:18:17 ใช้พวกความเย็นเนี่ยมาประคบเพื่อที่จะลด
00:18:17 → 00:18:20 อาการคันแบบนี้ถูกต้องใช่ไหมมครับคุณหมอ
00:18:20 → 00:18:23 ใช่ค่ะถ้าความเย็นคุณหมอครับไอ้การประคบ
00:18:23 → 00:18:25 เย็นเนี่ยครั้งนึงประมาณสักกี่นาทีมันถึง
00:18:26 → 00:18:30 จะเหมาะสมพอควรน่ะฮะเออโดยทั่วไปก็ประมาณ
00:18:30 → 00:18:33 5 นาทีค่ะอุ๊ยนานนะคุณ
00:18:33 → 00:18:37 หมอคือว่าคุณหมอจะบอกเป็นว่าเป็นเย็นแบบ
00:18:37 → 00:18:40 น้ำแข็งเลยอ่ะค่ะอาจจะต้องมีการพักพัก
00:18:40 → 00:18:43 ก่อนค่ะแต่ถ้าเกิดว่าเป็นแบบเอ่อเจลเย็น
00:18:43 → 00:18:45 อย่างเงี้ยค่ะแล้วทนคือจริงๆก็ขึ้นอยู่
00:18:45 → 00:18:48 กับระดับความทนได้แต่ละคนนะคะใช่ๆบางคน
00:18:48 → 00:18:51 แบบชาแล้วอย่างเงี้ยก็ควรเอาออกเลยใช่มย
00:18:51 → 00:18:54 คะเออบางคนคก็จะอยากวางเอาไว้ค่ะแต่ว่า
00:18:54 → 00:18:58 ถ้าเกิดมันเย็นมากมากจนเกินไปจนเปลี่ยน
00:18:58 → 00:19:00 จากความความเย็นที่เกิดขึ้นกลายเป็นความ
00:19:00 → 00:19:05 ปวดใชปวดสามารถพักได้เลยค่ะก็ทำเท่าที่
00:19:05 → 00:19:10 เท่าที่แต่ละคนจะรับรับได้ค่ะอืคุณหมอที
00:19:10 → 00:19:14 นี้คือเรื่องของการที่จะแก้ไขอาการคัน
00:19:14 → 00:19:16 หรือว่าระคายเคิงตามดวงตาต่างๆก็มีคุณผู้
00:19:16 → 00:19:19 ฟังทางบ้านเนี่ยมีคำถามที่อยากจะให้คุณ
00:19:19 → 00:19:23 หมอเนี่ยช่วยอธิบายช่วยแถลงไขให้นิดนึง
00:19:23 → 00:19:27 อย่างคำถามแรกครับว่าการลืมตาเอ่อการล้าง
00:19:27 → 00:19:29 ตาด้วยน้ำเปล่าเนี่ยด้วยวิธีการอย่างลืม
00:19:29 → 00:19:32 ตาในน้ำเนี่ยเวเบสิคง่ายสุดเลยเวลารู้สึก
00:19:32 → 00:19:34 ว่าเคืองตาคันตาอย่างผมเด็กๆผมก็เคยเป็น
00:19:34 → 00:19:37 นะรู้สึกว่าถ้าเหมตำำน้ำพริกเข้าตาถ้าแบบ
00:19:37 → 00:19:40 เวลาไปเล่นไปเตะฟุตบอลหรือว่าอะไรที่รู้
00:19:40 → 00:19:43 สึกว่าเวลามันเข้าตาอะไรเงี้ยอ๋อผงมาใช่ๆ
00:19:43 → 00:19:45 ก็จะไปลืมตาในน้ำไอ้วิธีการแบบนี้นี่คุณ
00:19:45 → 00:19:49 หมอครับณปัจจุบันนี้ยังแนะนำให้ทำอยู่มย
00:19:49 → 00:19:53 ถ้าทำแล้วเนี่ยมันมันควรจะต้องทำบ่อยกัน
00:19:53 → 00:19:56 ขนาดไหนถ้าเหถ้าเกิดมีอาการคันขึ้นมาฮะ
00:19:56 → 00:20:00 ใช้ได้มั้ยคะวิธีนี้เออถ้ากับอาการคันน่ะ
00:20:00 → 00:20:03 ค่ะจริงๆไม่ไม่ได้แนะนำเลยค่ะแต่ว่าถ้าใน
00:20:03 → 00:20:08 กรณีที่เอ่อเรามันมีอะไรที่มันกระเด็น
00:20:08 → 00:20:11 เข้าตาฉับพันธุอย่างเช่นมีพริกกระเด็น
00:20:11 → 00:20:14 เข้าตาหรืออะไรมันมีความแสบระคายเคืองทัน
00:20:14 → 00:20:18 ทีน่ะค่ะที่อยากแนะนำที่ที่ที่พอจะปลอด
00:20:18 → 00:20:22 ภัยก็คือการใช้ตัวน้ำเกลือน้ำเกลือที่ขาย
00:20:22 → 00:20:25 ตามร้านขายยานะคะแล้วลืมตาในในน้ำเกลือ
00:20:25 → 00:20:27 แบบนั้นนะค่ะหรือว่าใช้น้ำเกลือแบบนั้น
00:20:27 → 00:20:32 เนี่ยเอ่อล้างผ่านตาค่ะอันนี้จะพอทำได้
00:20:32 → 00:20:35 ค่ะก็จะค่อนข้างปลอดภัยกว่าเพราะว่าตัว
00:20:35 → 00:20:40 น้ำปะปาในของที่เราใช้กันน่ะค่ะมันมันไม่
00:20:40 → 00:20:43 ได้สเตอร์ไลน์คือมันไม่ได้มีความสะอาดใน
00:20:43 → 00:20:46 ระดับเพียงพอที่เราจะจะนำมาใช้กับลูกปลา
00:20:46 → 00:20:49 ค่ะเอ่อสมมุติว่ามันมีสิ่งแตกปลอมกระทบ
00:20:49 → 00:20:52 ดวงตาเราเผลอไปขยี้ตามาและแล้วมันมีแผล
00:20:52 → 00:20:56 ถลอกกระจกตาค่ะยิ่งถ้าเราไปลืมตาในน้ำ
00:20:56 → 00:20:59 ปกติที่ไม่ใช่น้ำเกลือน้ำเกลือแบบขวดอ่ะ
00:20:59 → 00:21:02 ค่ะไอ้พวกเมันอาจจะมีเชื้อโรคบางอย่างที่
00:21:02 → 00:21:05 มันสามารถมาทำให้กระจกตาเราติดเครือได้
00:21:05 → 00:21:10 ค่ะมันมีคลอรีนอย่างน้อยๆน้ำในน้ำเเออน้ำ
00:21:10 → 00:21:14 ปาๆน้ำปาอมันก็จะแสบนิดนึงคือถ้าไม่ได้
00:21:14 → 00:21:18 ใช้น้ำปป่าครับคุณหมอน้ำน้ำขวดเนี่ยน้ำ
00:21:18 → 00:21:21 ขวดที่เราน้ำดื่มที่เราเปิดใหม่ๆเลยเอามา
00:21:21 → 00:21:26 เทใส่หรือว่าเอามาเทผ่านเปลือกตาดวงตาของ
00:21:26 → 00:21:28 เราเนี่ยพอจะทดแทนกันได้มยครับเพราะว่า
00:21:28 → 00:21:30 อย่างบางบ้านบางคนเนี่ยถ้ามันเกิดเหตุ
00:21:30 → 00:21:32 ฉุกเฉินอย่างนั้นเนี่ยโอ้โหไอ้น้ำเกลือ
00:21:32 → 00:21:34 เนี่ยมันก็ไม่ได้พกกันติดตัวไว้ทุกบ้าน
00:21:34 → 00:21:36 อะไรเงี้ยคุณหมอใช่
00:21:36 → 00:21:42 ฮะต้องอืจริงๆมันก็พอใช้ได้ค่ะแต่ก็ต้อง
00:21:42 → 00:21:46 ต้องดูอีกนิดนึงว่าว่าในในความฉุกเฉิน
00:21:46 → 00:21:48 นั้นเนี่ยมันรุดแรงแค่ไหนอย่างเช่นถ้า
00:21:48 → 00:21:51 เกิดว่าเราโดนสารที่มันเป็นเอ่อกรดด่าง
00:21:51 → 00:21:55 อย่างเงี้ยค่ะเอ่อในเบื้องต้นเลยก็คงต้อง
00:21:55 → 00:21:59 รีบล้างออกให้ได้เร็วที่สุดค่ะค่ะในในใน
00:21:59 → 00:22:01 สิ่งที่เรามีณตอนนั้นค่ะแต่ถ้าเกิดว่ามัน
00:22:01 → 00:22:05 เป็นความระคายเคืองที่ยิบๆไม่ได้เยอะมาก
00:22:05 → 00:22:09 แล้วแล้วยังพอมีเวลาที่จะเอ่อหาซื้อได้
00:22:09 → 00:22:13 ไม่ไม่ได้ใช้เลเวลานานมากเงี้ยค่ะก็ก็
00:22:13 → 00:22:16 อยากจะให้น้ำเกลือปลอดภัยมากที่สุดก็จะ
00:22:16 → 00:22:19 เป็นน้ำเกลือที่ขายตามร้านขายยาค่ะหรือ
00:22:19 → 00:22:22 ไม่ก็เอ่อคว้าตัวน้ำตาเทียมที่อยู่ใกล้
00:22:22 → 00:22:26 มือที่สุดอ่ะค่ะแล้วก็เอ่อฉีดลงไปหยดลงไป
00:22:26 → 00:22:29 ที่บริเวณสดตาค่ะอนี่ครับถามมาต่อเนื่อง
00:22:29 → 00:22:32 ครับคุณหมอคุณผู้ฟังท่านเดียวกันน้ำตเถ้า
00:22:32 → 00:22:35 ไม่มีน้ำเกลือน้ำตาเทียงก็ไม่มีน้ำกรอง
00:22:35 → 00:22:40 แทนได้มครับน้ำกรองอืคือถ้าในทางการแพทย์
00:22:40 → 00:22:45 จริงๆน้ำน้ำตับปลาหรือน้ำกรองในทุิแนะนำ
00:22:45 → 00:22:48 ค่ะอือ่อแต่ว่าถ้าถ้าเกิดว่ามันฉุกเฉิน
00:22:48 → 00:22:52 จริงๆอ่ะค่ะในในสภาวะที่เราโดนเอ่อกรด
00:22:52 → 00:22:55 ดั่งความรุนแรงเยอะอย่างเงี้ยค่ะก็ก็พอจะ
00:22:55 → 00:23:00 ใช้ในเบื้องต้นได้ค่ะอืแต่คือที่แน่ๆก็หา
00:23:00 → 00:23:03 น้ำเกลือพกติดบ้านไว้จะดีจะดีกว่านะครับ
00:23:03 → 00:23:06 คุณหมอถ้าถ้ามันเกิดจุกเฉินมันไม่แพงด้วย
00:23:06 → 00:23:10 เออขวดนึงก็ประมาณขมันก็4ซ 50 บาทใช่ๆๆ
00:23:10 → 00:23:13 เยอะมากกว่าน้ำตาเทียมที่มันอาจจะเป็นไอ้
00:23:13 → 00:23:16 หลอดเล็กๆถ้าน้ำเกลือนะมันจะเอ่อมีปริมาณ
00:23:16 → 00:23:19 ที่ดีกว่าอ่าใช่มีความสะอาดกว่านะครับผม
00:23:19 → 00:23:23 อีกหนึ่งคำถามนะครับคุณหมอครับว่าการใช้
00:23:23 → 00:23:26 น้ำตาเทียมบ่อยๆเนี่ยใช้กันเป็นปีๆเลยมัน
00:23:26 → 00:23:29 จะมีผลเสียกับดวงตาของเราเในระยะยาวมครับ
00:23:29 → 00:23:34 คุณหมอครับอืมน้ำตาเทียมไม่เอ่อถือว่า
00:23:34 → 00:23:37 เป็นยาหยอดตาที่ค่อนข้างปลอดภัยค่ะโดย
00:23:37 → 00:23:40 ทั่วไปก็ไม่ได้มีผลเสียอะไรต่อลูกตาค่ะ
00:23:40 → 00:23:44 ถ้าเราใช้เอ่อเลือกใช้เอ่อชนิดของมัน
00:23:44 → 00:23:47 อย่างเหมาะสมอ่ะค่ะเพหลักๆส่วนใหญ่เนี่ย
00:23:47 → 00:23:49 มันจะแบ่งเป็น 2 อย่างคือกลุ่มที่มันมี
00:23:49 → 00:23:52 สารกันเสียกับกลุ่มที่มันไม่มีสารกันเสีย
00:23:52 → 00:23:54 ส่วนที่มันมีสารกันเสียเนี่ยมันมักจะมาใน
00:23:54 → 00:23:57 รูปแบบเป็นขวดค่ะซึ่งถ้ามีสารกันเสีย
00:23:57 → 00:24:01 เนี่ยเราหยอดถี่จนเกินไปเราอาจจะมีผล
00:24:01 → 00:24:03 กระทบจากไอ้ตัวสารการเสียที่เราได้รับไป
00:24:04 → 00:24:06 ดังนั้นแล้วเนี่ยกลุ่มที่มีสารการเสีย
00:24:06 → 00:24:09 ร่วมด้วยเนี่ยโดยทั่วไปเราจะแนะนำให้หยอด
00:24:09 → 00:24:11 กันไม่เกินวันละประมาณ 4 ครั้งอ่ะค่ะก็
00:24:11 → 00:24:15 คือเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนกับการกับไอ้
00:24:15 → 00:24:18 ส่วนที่เป็นกระเปาะเล็กๆนะคะส่วนกลุ่ม
00:24:18 → 00:24:20 เนี้ยมักจะไม่มีสารกันเสียซึ่งอันเนี้ย
00:24:20 → 00:24:23 ถ้าไม่มีสารกันเสียแล้วก็สามารถหยอดได้
00:24:23 → 00:24:27 เท่าที่เอ่อเราต้องการค่ะอืส่วนมากหลายคน
00:24:27 → 00:24:29 ก็จะใช้แบตที่ที่ไม่มีสารกันเสียเพราะว่า
00:24:29 → 00:24:33 รู้สึกเขาจะสบายตามากกว่าในส่วนตัวที่ที่
00:24:33 → 00:24:36 พี่ก็ใช้เองด้วยวันวันต่อวันครับเอออัน
00:24:36 → 00:24:39 นี้คือคือสิ่งที่ควรจะต้องสิ่งสิ่งที่ควร
00:24:40 → 00:24:43 ทำนะคุณหมอนะก็คือน้ำตาเทียมหรือไม่ก็ก็
00:24:44 → 00:24:47 อาจจะเป็นน้ำเกลือเพื่อความปลอดภัยของดวง
00:24:47 → 00:24:51 ตาของเราถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันกับดวงตา
00:24:51 → 00:24:55 เราขึ้นมานะฮะคุณหมอค่ะเออคุณหมอก็สอบถาม
00:24:55 → 00:24:58 เพิ่มเติมนอกจากเรื่องของมีอยู่ช่วงนึง
00:24:58 → 00:25:01 นอกจากขยี้ตาคันแล้วเราก็จะสังเกตเอ่อมอง
00:25:01 → 00:25:06 เข้าไปมันมีขี้ตาที่เป็นสายๆออกมาไม่ใน
00:25:06 → 00:25:08 บางช่วงที่เป็นแล้วคันมากๆเลยนะอันนั้น
00:25:08 → 00:25:11 คืออะไรคะคุณหมอคะดึงเป็นสายออกมาได้เลย
00:25:11 → 00:25:15 แล้วบางช่วงก็หายไปเลยค่ะคืออะไรแต่จะคัน
00:25:15 → 00:25:18 นะคะจงนั้นน่ะค่ะคือส่วนใหญ่หมอหมอจะ
00:25:18 → 00:25:21 เรียกเป็นเอาให้เข้าใจง่ายๆก็คือลักษณะ
00:25:21 → 00:25:24 เป็นน้ำตาเหนียวๆอ่ะค่ะน้ำตาเหนียวเป็น
00:25:24 → 00:25:26 ที่ตาเหนียวอย่างเงี้ยค่ะมันก็เป็น
00:25:26 → 00:25:29 ปฏิกิริยาของลูกตาที่ที่ที่เอ่อเกิดขึ้น
00:25:29 → 00:25:33 เมื่อเอ่อมีภาวะสภาวะการอักเสบในในตัวลูก
00:25:33 → 00:25:37 ตาค่ะก็เอ่ออาจจะมีในเรื่องของภูมิแพ้ใน
00:25:37 → 00:25:40 ระยะสั้นๆหรือว่ามีเรื่องของตาอักเสบค่ะ
00:25:40 → 00:25:44 ไม่ว่าจะเอ่ออย่างไรก็ตามมันก็จะมีเอ่อ
00:25:44 → 00:25:48 เป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ที่เอ่อเกิด
00:25:48 → 00:25:51 ขึ้นมานะคะค่ะแต่เขาก็จะหายไปในช่วงเวลา
00:25:51 → 00:25:53 นึงก็คือเราหายอักเสบแล้วใช่มั้ยคะใช่ค่ะ
00:25:54 → 00:25:57 อ๋ออืแล้วก็หยอดน้ำตาเทียมของเราปกติจริง
00:25:57 → 00:26:00 ๆแล้วเเรักษาของเาเองไม่ต้องไปทานยาหรือ
00:26:00 → 00:26:02 อะไรก็ก็โอเคเพียงแต่อย่าไปขยี้ซ้ำเติม
00:26:02 → 00:26:05 มากเท่านั้นใช่มั้ยคะคุณหมอใช่ค่ะถ้าเกิด
00:26:05 → 00:26:08 ว่าเกิดเอ่อเกิดความผิดปกติเพียงเล็กน้อย
00:26:08 → 00:26:10 อ่ะค่ะส่วนใหญ่ร่างกายเรามันก็จะมี
00:26:10 → 00:26:13 ปฏิกิริยาในการรักษาของมันอยู่ค่ะอือืนี่
00:26:13 → 00:26:17 คือสิ่งสิพอดึงสายจื๊ดออกมาสุดสายมันเป็น
00:26:17 → 00:26:21 สายยังไงเป็นสายเลยค่ะเป็นสายเหมือนกับ
00:26:21 → 00:26:25 เหมือนกับเอ่อ dental fl แบบบางๆอ่ะแล้ว
00:26:25 → 00:26:28 มันก็จะแบบอยู่ที่หัวตาของเราคือน่าจะ
00:26:28 → 00:26:30 เป็นภูมิแพ้ในลูกตาของเราอยู่มันไม่ใช่
00:26:30 → 00:26:33 ขี้ตาหรือว่ามันมันคือขี้ตาชนิดนึงอ่ะฮะ
00:26:33 → 00:26:35 มันเห็นเป็นสาคือเนื่องจากเราใช้เอ่อใช้
00:26:35 → 00:26:39 แว่นใช้กระจกขยายที่เราเห็นชัดนะคะเพราะ
00:26:39 → 00:26:42 ว่าสายตาเราเราไม่ค่อยดีเราก็เห็นโอ้โห
00:26:42 → 00:26:45 นี่สายเราก็เลยลองเอาคาตันบัอ่ะแล้วก็
00:26:45 → 00:26:49 ปั่นไปที่หัวตาแล้วก็จะตื๊ดติดออกมาเลย
00:26:49 → 00:26:51 มันอันตรายมั้ยครับคุณหมอครับเอออย่างคุณ
00:26:51 → 00:26:53 หมอบอกอ่ะมันเป็นปฏิกิริยาที่เราสร้าง
00:26:53 → 00:26:55 ขึ้นมาน้ำตาเหนียวคุณหมอบอกมันก็คล้ายๆ
00:26:56 → 00:26:59 ขี้ตาอย่างนึง่ะแต่ว่ามันไม่ได้มีลักษณะ
00:26:59 → 00:27:01 ของการติดเชื้ออะไรร่วมด้วยค่ะมันก็เลยจะ
00:27:01 → 00:27:03 ไม่ได้เจอเป็นลักษณะแบบเขียวเหลืองขุ่น
00:27:03 → 00:27:07 อะไรชัดเจอมันขาวๆพนี้มักไม่ค่อยอันตราย
00:27:07 → 00:27:09 อะไรค่ะดึงออกมาพอสุดสายมันก็หายคันเลย
00:27:09 → 00:27:12 อือๆสุดท้ายครับคุณหมอครับอยากให้คุณหมอ
00:27:12 → 00:27:18 ช่วยฝากทิ้งท้ายเรื่องของการขยี้ตาเวลา
00:27:18 → 00:27:20 เรามีอาการอะไรคาย
00:27:20 → 00:27:24 เืหรือว่าคันเคุณบอกครับหรือทำหรือทำแบบ
00:27:24 → 00:27:26 ว่าแยีเบาๆไปได้อะไรอย่างเงี้ยแนะนำนิด
00:27:26 → 00:27:31 นึงครับช่วงท้ายยังไงดีอค่ะก็จริงๆแล้ว
00:27:31 → 00:27:35 เอ่อโดยทั่วไปก็ไม่ได้แนะนำให้มีการขยี้
00:27:35 → 00:27:39 ตาเลยหรอกนะคะเมื่อไม่ว่าจะอย่าทำนะคะมาก
00:27:39 → 00:27:43 หรือน้อยนะคะเพราะว่าเอ่อด้วยความไม่
00:27:43 → 00:27:45 ระวังด้วยความไม่สะอาดของมือเราอ่ะค่ะบาง
00:27:45 → 00:27:49 ทีมันก็จะไปกระตุ้นทำให้มีเกิดการติด
00:27:49 → 00:27:53 เชื้อหรืออะไรตามมาภายหลังได้ค่ะก็เอ่อก็
00:27:53 → 00:27:56 ก็ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ก็อยากให้ทำค่ะอื่นๆ
00:27:56 → 00:27:59 ถ้าเกิดว่าเรามีอาการราเคืองตานค่ะเอ่อ
00:28:00 → 00:28:02 อย่างที่แนะนำไปแล้วว่าในเบื้องต้นก็เอ่อ
00:28:02 → 00:28:06 ลองกระพริบตาหรือว่าเอ่อทำให้น้ำตาไหลมัน
00:28:06 → 00:28:08 อาจจะช่วยประชาล้างสารที่มันเป็นต้นเหตุ
00:28:09 → 00:28:12 ได้ค่ะแล้วก็เอ่อหยอดน้ำตาเทียมร่วมด้วย
00:28:12 → 00:28:15 ค่ะหรือจะใช้น้ำเกลือลองล้างดูถ้าเกิดว่า
00:28:15 → 00:28:18 อาการไม่หายอ่ะค่ะสามารถมาพบจากสูแพทย์
00:28:18 → 00:28:21 ได้เลยค่ะก็จะได้ลองมาช่วยกันหาสาเหตุว่า
00:28:21 → 00:28:23 ลักษณะที่เป็นเนี่ยเป็นจากอะไรเราก็จะได้
00:28:23 → 00:28:27 สั่งยาได้ตรงตามอาการค่ะแล้วก็ถ้ามีเวลา
00:28:27 → 00:28:31 มีโอกาสก็ซื้อน้ำเกลือติดไม้ติดมือในขวด
00:28:31 → 00:28:34 เล็กๆไว้นะคะเผื่อทันทุงทีจะได้หยอดล้าง
00:28:34 → 00:28:37 ตาได้ดีมั้ยคะคุณหมอ
00:28:37 → 00:28:41 ค่ะช่วยช่วยกับน้ำตาเทียมด้วเนาะอ่าใช่ๆๆ
00:28:41 → 00:28:43 ครับวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆเลย
00:28:43 → 00:28:46 นะครับคุณหมอครับขอบพระคุณมากค่ะครับ
00:28:46 → 00:28:50 สวัสดีสวัดีอ่านะครับ