00:00:00 → 00:00:02 จะเห็นว่าเธอเปิดเผยทุกอย่างเลยคือแบบไม่
00:00:02 → 00:00:05 สนใจภาพลักษณตัวเองใดๆทั้งสิ้นเจ็บป่วย
00:00:05 → 00:00:09 บิดเกร็งหน้าบูดเบี้ยวขนาดนี้เนี่ยผมว่า
00:00:09 → 00:00:12 คงไม่มีใครทำอ่ะซุปสตาร์ระดับโลกที่จะ
00:00:12 → 00:00:15 เปิดเผยเรื่องที่ไม่สวยงามเลยของตัวเอง
00:00:15 → 00:00:18 ให้โลกรับรู้แบบนี้เนี่ยผมยกย่องตรงนี้
00:00:18 → 00:00:22 มากเลยนะครับสวัสดีครับหมออครับขอต้อนรับ
00:00:22 → 00:00:25 เข้าสู่ช่องหมออ๊อกบอกเล่าช่องนี้ผมจะบอก
00:00:25 → 00:00:27 เล่าแล้วก็ชวนคุยเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
00:00:27 → 00:00:30 กับการแพทย์แล้วก็สุขภาพที่น่าสนใจ
00:00:30 → 00:00:33 คลิปนี้ผมมีเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟัง
00:00:33 → 00:00:36 นะครับเกี่ยวกับดีออนกับโลกที่เธอเป็นก็
00:00:36 → 00:00:39 คือโลก steff Person Syndrome ซึ่งเป็น
00:00:39 → 00:00:43 โรคที่หายากมากๆตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะทำ
00:00:43 → 00:00:45 เรื่องนี้นะครับเพราะมีหมอหลายคนเนี่ยพูด
00:00:45 → 00:00:48 ถึงไปเยอะมากๆแล้วแต่หลังจากที่ผมได้ดู
00:00:48 → 00:00:51 คลิปนี้เนี่ยผมก็รู้สึกว่ามันมีหลาย
00:00:51 → 00:00:54 ประเด็นที่น่าสนใจแล้วก็อยากจะเอามาพูด
00:00:54 → 00:00:57 คุยกัน Slip Person Syndrome เนี่ยเป็น
00:00:57 → 00:01:01 โรคที่พบยากมากอ่ะนะครับคือเจอประมาณ 1
00:01:01 → 00:01:05 คนในล้านคนการที่โลกมันพบได้ยากขนาดนี้
00:01:05 → 00:01:08 เนี่ยทำให้หมอวินิจฉัยได้ยากการที่
00:01:08 → 00:01:10 วินิจฉัยได้ยากและล่าช้าเนี่ยก็ทำให้
00:01:10 → 00:01:16 ซีออนเนี่ยต้องทนทุกข์ทรมานเป็น 10 ปีโรค
00:01:16 → 00:01:19 นี้เนี่ยมันทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งอ่ะ
00:01:19 → 00:01:22 ครับแล้วก็เจ็บปวดมากอาการเหมือนกับว่า
00:01:22 → 00:01:25 เวลาเราขับรถแล้วเบรกมันไม่ทำงานเบรกแตก
00:01:25 → 00:01:29 ทำให้เกิดอุบัติเหตุอะไรประมาณนั้นในกรณี
00:01:29 → 00:01:31 นี้ก็คือการที่กล้ามเนื้อมันหดตัวแล้วก็
00:01:31 → 00:01:34 มันไม่คลายทำให้กล้ามเนื้อมันเกร็งแล้วก็
00:01:34 → 00:01:38 มีอาการเจ็บปวดมากๆบางครั้งเนี่ยอาการ
00:01:38 → 00:01:40 เกรงมันรุนแรงถึงขนาดทำให้กระดูกหัก
00:01:40 → 00:01:43 กระดูกสันหลังหักหรือกระดูกซี่โครงหักได้
00:01:43 → 00:01:46 เลยนะครับสงสัยมครับว่าทำไมโรคที่หาเจอ
00:01:46 → 00:01:49 ยากๆเนี่ยถึงวินิจฉัยยากหรือว่าวินิจฉัย
00:01:49 → 00:01:53 ไม่ได้วันนี้ผมจะชวนคุยเรื่องนี้กันครับ
00:01:53 → 00:01:55 เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นเนี่ยผมลองแบ่งโรค
00:01:55 → 00:01:58 เนี่ยออกเป็น 4 กลุ่มกลุ่มแรกก็คือโรคที่
00:01:58 → 00:02:02 เจอกันบ่อยก็ได้แก่พวกไข้หวัดไข้หวัดใหญ่
00:02:02 → 00:02:06 โรคพวกเนี้ยหมอที่ไหนก็วินิจฉัยได้ง่ายๆ
00:02:06 → 00:02:09 คนทั่วไปก็รู้ได้ไม่ยากว่าโรคนี้มันมี
00:02:09 → 00:02:12 อาการยังไงวินิจฉัยได้เองด้วยซ้ำกลุ่มที่
00:02:12 → 00:02:15 2 ก็คือโรคที่อาจจะยากขึ้นมานิดหน่อย
00:02:15 → 00:02:17 สำหรับคนทั่วไปแต่สำหรับหมอแล้วก็ไม่ยาก
00:02:17 → 00:02:21 เลยยกตัวอย่างเช่นเอ่อดีซ่านอย่างงี้เป็น
00:02:21 → 00:02:24 ต้นนหมอทุกคนเนี่ยสามารถบอกได้แต่ว่าคน
00:02:24 → 00:02:26 ทั่วไปที่ไม่เคยเห็นเคสหรือไม่มีญาติที่
00:02:26 → 00:02:28 ป่วยเป็นดีซ่านก็อาจจะไม่รู้ว่าดีซ่าน
00:02:28 → 00:02:30 เนี่ยมันเป็นยังไง
00:02:30 → 00:02:33 ส่วนกลุ่มที่ 3 ก็คือเป็นกลุ่มโรคที่
00:02:33 → 00:02:36 วินิจฉัยยากต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
00:02:36 → 00:02:38 น่ะครับถึงวินิจฉัยได้อย่างเช่นมะเร็ง
00:02:38 → 00:02:40 ต่อมน้ำเหลืองผิวหนังอย่างงี้เป็นต้น
00:02:40 → 00:02:42 กลุ่มสุดท้ายก็คือโรคที่เจอน้อยมากๆก็คือ
00:02:42 → 00:02:46 โรคที่ซินอนเป็นโรคหายากแบบนี้ผู้เชี่ยว
00:02:46 → 00:02:49 ชาญบางคนยังวินิจฉัยพาดได้ต้องหาหมอเฉพาะ
00:02:49 → 00:02:52 ทางที่เชี่ยวชาญอย่างในกรณีนี้ก็คือหาหมอ
00:02:52 → 00:02:55 เฉพาะทางระบบประสาทที่เชี่ยวชาญในเรื่อง
00:02:55 → 00:02:58 ภูมิต้านตัวเองอีกต่างหากซึ่งใช้เวลาหลาย
00:02:58 → 00:03:00 ปีเลยครับกว่าจะรู้ว่าเป็นโรคนี้ทำให้
00:03:00 → 00:03:03 ซิลินเนี่ยได้รับการวินิจฉัยที่ล่าช้ายาว
00:03:03 → 00:03:07 นานมาถึง 10 ปีที่ผ่านมาเธอก็เจ็บป่วย
00:03:07 → 00:03:09 ทรมานโรคนี้แล้วก็เป็นมากขึ้นมาเรื่อยๆ
00:03:09 → 00:03:12 แต่สุดท้ายแล้วก็โชคดีอ่ะครับที่เจอหมอ
00:03:12 → 00:03:14 ที่วินิจฉัยโรคนี้ได้แล้วก็ได้รับการ
00:03:15 → 00:03:18 รักษาที่ตรงจุดในที่สุดคือสิรินเธอเนี่ย
00:03:18 → 00:03:20 ตอนอยู่ที่คอนเสิร์ตเนี่ยเธอบอกว่าตอน
00:03:20 → 00:03:22 นั้นเธอรู้สึกว่าเริ่มแปลกๆไม่รู้ว่าเกิด
00:03:22 → 00:03:25 อะไรขึ้นมันเป็นความผผิดปกติในเรื่องของ
00:03:25 → 00:03:28 การออกเสียงเธอว่าอย่างงั้นทำให้เสียง
00:03:28 → 00:03:31 เนี่ยมันมันผิดปกติแต่ตอนนั้นเธอก็พยายาม
00:03:31 → 00:03:33 ที่จะแบบดัดเสียงบีบเสียงทำยังไงก็
00:03:33 → 00:03:36 เปลี่ยนแปลงทางเดินของลมทำยังไงก็ตามที่
00:03:36 → 00:03:39 ทำให้เสียงเธอเนี่ยออกมาได้แล้วก็ขึ้น
00:03:39 → 00:03:43 คอนเสิร์ตได้เดี๋ยวลองไปดูคลิปนี้กันครับ
00:03:43 → 00:03:45 I don't have a
00:03:45 → 00:03:48 Voice weird cling Having I'm
00:03:48 → 00:03:49 really Having a Hard Time right
00:03:49 → 00:03:51 now ช่วงนั้นเนี่ยเธอกำลังต่อสู้กับ
00:03:51 → 00:03:54 อาการเจ็บป่วยที่เธอเป็นอยู่ซึ่งสุดท้าย
00:03:55 → 00:03:56 แล้วเธอก็ออกมาเล่าให้ฟังว่าเจออะไรมา
00:03:56 → 00:03:58 บ้างทรมานยังไง
00:03:58 → 00:04:00 [เพลง]
00:04:00 → 00:04:02 Hello
00:04:02 → 00:04:05 everyone I'm Sorry Tak So to
00:04:05 → 00:04:12 reach you
00:04:12 → 00:04:30 [เพลง]
00:04:32 → 00:04:35 recently have been diagnosed with
00:04:35 → 00:04:37 a very rare neurological disorder
00:04:37 → 00:04:40 called sff Person
00:04:40 → 00:04:43 Syndrome Which affects Something
00:04:43 → 00:04:47 like one Million People เรื่องที่ผม
00:04:48 → 00:04:51 อยากเล่าแบ่งปันกันนะครับเรื่องแรกก็คือ
00:04:51 → 00:04:55 สินอเนี่ยเธอเป็นนักร้องที่อยู่ภายใต้แสง
00:04:55 → 00:05:00 ไฟแล้วก็เวทีมาตั้งแต่เด็กคือทุกคนเห็น
00:05:00 → 00:05:02 เธอในแบบที่เธอเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่แบบ
00:05:02 → 00:05:06 สวยงามหน้าเต็มผมเต็มแต่ล่าสุดที่ซีรีนทำ
00:05:06 → 00:05:09 สารคดีที่เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเธอออก
00:05:09 → 00:05:12 มาเนี่ยลองหาดูนะครับจะเห็นว่าเธอเปิดเผย
00:05:12 → 00:05:14 ทุกอย่างเลยคือแบบไม่สนใจภาพลักษณตัวเอง
00:05:14 → 00:05:18 ใดๆทั้งสิ้นคือเป็นคนป่วยธรรมดาคนนึงหน้า
00:05:18 → 00:05:23 ก็ไม่ได้แต่งผมก็ยุ่งแล้วก็ในสารคดีเนี่ย
00:05:23 → 00:05:26 ก็ยังเห็นว่าเธอเนี่ยมีอาการหดเกร็งด้วย
00:05:26 → 00:05:29 ความเจ็บปวดคือเธอทิ้งภาพซุปเปอร์สตาร์
00:05:29 → 00:05:31 ทิ้งไปเลยอ่ะครับเปิดเผยเรื่องในมุมมอง
00:05:31 → 00:05:35 ที่เป็นคนป่วยให้ให้สาธารณะเนี่ยได้รับ
00:05:35 → 00:05:39 รู้อย่างชัดเจนแบบนี้คือลองคิดดูนะครับ
00:05:39 → 00:05:41 คือซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกเนี่ยที่ยอมทำ
00:05:41 → 00:05:45 สารคดีของตัวเองให้เห็นอาการตัวเองเจ็บ
00:05:45 → 00:05:49 ป่วยบิดเกรงหน้าบูดเบี้ยวขนาดนี้เนี่ยผม
00:05:49 → 00:05:52 ว่าคงไม่มีใครทำอ่ะโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ
00:05:52 → 00:05:55 แบบซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างเงี้ยอีก
00:05:55 → 00:05:57 เรื่องนึงที่ผมอยากจะพูดก็คือเรื่องของ
00:05:57 → 00:06:00 พลังใจถ้าทุกคนได้ดูคลิปนี้นะครับจะเห็น
00:06:00 → 00:06:03 ว่าสิรินดิออนเนี่ยมีพลังใจที่เข้มแข็ง
00:06:04 → 00:06:07 แข็งแกร่งมากคือตอนเธอป่วยเนี่ยสามีเธอก็
00:06:07 → 00:06:11 เสียแต่ว่าเธอก็ยังคงได้รับพลังใจจาก
00:06:11 → 00:06:15 แฟนคลับอย่างล้นหลามแล้วก็ลูกๆก็ยังคอย
00:06:15 → 00:06:17 เป็นกำลังใจให้เธอด้วยเพราะั้นเธอเจ็บ
00:06:17 → 00:06:21 ป่วยยาวนานขนาดเนี้ยแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้การ
00:06:21 → 00:06:24 ที่เธอยังมีพลังใจและยังต่อสู้ต่อไปเนี่ย
00:06:24 → 00:06:27 ทำให้เราเห็นว่าไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไร
00:06:27 → 00:06:30 เนี่ยพลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรา
00:06:30 → 00:06:32 เนี่ยสามารถที่จะเดินต่อแล้วก็ผ่านสิ่ง
00:06:32 → 00:06:36 ต่างๆไปได้จากเรื่องิออนแล้วก็การเจ็บ
00:06:36 → 00:06:38 ป่วยของเธอนะครับเราได้รู้อะไรจากเรื่อง
00:06:39 → 00:06:42 นี้ผมขอลองสรุปดูนะครับอันดับแรกก็คือเรา
00:06:42 → 00:06:45 รู้ว่าโรคเนี่ยมันมีหลากหลายบางโรคหายาก
00:06:45 → 00:06:48 บางโรคหาง่ายเจอง่ายโรคที่หายากทำให้
00:06:49 → 00:06:52 วินิจฉัยได้ล่าช้าการวินิจฉัยได้ล่าช้าก็
00:06:52 → 00:06:56 รักษาช้ารักษาช้าก็เจ็บป่วยทรมานนานขึ้น
00:06:56 → 00:06:59 เพราะฉะนั้นการต่อสู้กับความเจ็บป่วยด้วย
00:06:59 → 00:07:01 โรคแบบเนี้ยก็คือกำลังใจและพลังใจเนี่ย
00:07:01 → 00:07:05 เป็นสิ่งสำคัญมากเลยจริงๆก็ทุกเรื่อง่ะนะ
00:07:05 → 00:07:07 ครับก็ไม่ใช่ว่าเฉพาะโรคอ่ะชีวิตก็มีขึ้น
00:07:07 → 00:07:11 มีลงปกติไม่มีใครขึ้นตลอดไม่มีใครลงตลอด
00:07:11 → 00:07:15 อย่าหมดหวังต่อสู้ต่อไปอีกประเด็นคือเรา
00:07:15 → 00:07:18 เห็นความกล้าหาญของซีรีนที่ออกมาเปิดเผย
00:07:18 → 00:07:20 เรื่องราวของตัวเองให้โลกได้รับรู้ครับ
00:07:20 → 00:07:22 สำหรับผมแล้วเนี่ยผมว่ามันเป็นเรื่องที่
00:07:22 → 00:07:25 ยิ่งใหญ่มากกับการที่ซุปสตาร์ระดับโลกที่
00:07:25 → 00:07:28 จะเปิดเผยเรื่องที่ไม่สวยงามเลยของตัวเอง
00:07:28 → 00:07:31 ให้โลกรับรู้แบบแบบนี้เนี่ยผมยกย่องทงนี้
00:07:31 → 00:07:35 มากเลยนะครับอีกประเด็นนึงที่อยากฝากไว้
00:07:35 → 00:07:40 ก็คือเรื่องที่เธอไม่ยอมแพ้เลยคือโรคที่
00:07:40 → 00:07:43 แบบวิ่งไปหาหมอคนไหนก็รักษาไม่ได้เป็น 10
00:07:43 → 00:07:46 ๆปีแล้วอาการก็แย่ลงทุกวันอยู่ด้วยความ
00:07:46 → 00:07:49 หวาดกลัวเนี่ยมันน่าท้อใจมากครับแต่ว่า
00:07:49 → 00:07:53 เธอก็ไม่ยอมแพ้กับมันเธอสู้สุดใจเลยก็
00:07:53 → 00:07:56 ประมาณนี้ครับที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง
00:07:56 → 00:07:58 ขอบคุณที่ติดตามนะครับท้ายคลิปเนี่ยจะมี
00:07:58 → 00:08:02 สัมภาษณ์ที่เธอให้ไว้กับสิ่งที่เธอทำ
00:08:02 → 00:08:04 เพื่อคนอื่นผมฟังดูแล้วมันกินใจมากเลยก็
00:08:04 → 00:08:07 เลยเอามาแชร์กันลองดูนะ
00:08:07 → 00:08:11 ครับ but I just want you to know
00:08:11 → 00:08:13 That
00:08:13 → 00:08:15 sometimes in Life this No
00:08:15 → 00:08:16 explanation for
00:08:17 → 00:08:20 What happens To People a lot of
00:08:20 → 00:08:21 People suffer from different kinds
00:08:21 → 00:08:25 of Things babies with
00:08:26 → 00:08:29 cancer for example
00:08:29 → 00:08:31 The Best Way for me to go
00:08:31 → 00:08:33 through
00:08:34 → 00:08:37 This is that there is a
00:08:37 → 00:08:40 reason Why It's happening to
00:08:40 → 00:08:44 me Because I have all of you I
00:08:44 → 00:08:48 have access To Speak and to
00:08:48 → 00:08:54 Show That this conditions That Are
00:08:54 → 00:08:55 rare
00:08:55 → 00:09:06 do it help I know
00:09:06 → 00:09:10 and awen If I can
00:09:10 → 00:09:13 help I Can
00:09:13 → 00:09:15 Go
00:09:15 → 00:09:16 [เพลง]
00:09:16 → 00:09:18 And see
00:09:18 → 00:09:22 you working really really really
00:09:22 → 00:09:24 Hard
00:09:25 → 00:09:29 init And I Back On Stage
00:09:29 → 00:09:34 is Where I have to be
00:09:34 → 00:09:46 [เพลง]