00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world By The
00:00:05 → 00:00:08 Voice โรคภูมิแพ้เนี่ยนะคะความจริงแล้ว
00:00:08 → 00:00:11 เป็นได้หลายระบบทั้งระบบทางเดินหายใจผิว
00:00:11 → 00:00:15 หนังระบบทางเดินอาหารถ้าในระบบทางเดินหาย
00:00:15 → 00:00:18 ใจเนี่ยก็จะพบบ่อยๆอยู่ 2 โรคแต่โรคที่
00:00:18 → 00:00:21 เราเจอกันบ่อยแล้วก็เป็นเยอะกันมากขึ้น
00:00:21 → 00:00:24 ช่วงนี้คือโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ถ้ามีพ่อ
00:00:24 → 00:00:27 แม่หรือว่าญาติพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้เด็ก
00:00:28 → 00:00:30 ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแผลเพิ่ม
00:00:30 → 00:00:33 มากขึ้นอาการง่ายๆเลยก็คือคัดจมูกน้ำมุก
00:00:33 → 00:00:37 ไหลไอจามถ้าเป็นมากกว่า 4 ครั้งต่อ
00:00:37 → 00:00:40 สัปดาห์หรือเป็นติดต่อกันสักเดือนนึงใน
00:00:40 → 00:00:43 ขณะที่เราคิดว่าเราดูแลตนเองดีแล้วนะคะ
00:00:43 → 00:00:47 ควรคิดว่าจะต้องไปพบแพทย์แล้วล่ะ
00:00:47 → 00:00:51 ค่ะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟัง
00:00:51 → 00:00:57 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงพรค่ะ is
00:00:57 → 00:01:00 pbsc คุณผู้ฟังคะเราจะมาพูดคุยกันถึง
00:01:00 → 00:01:05 เรื่องของโรคภูมิแพ้ในเด็กนะคะมันเป็นโรค
00:01:05 → 00:01:07 ที่เออมันก็น่ารำคาญอยู่เหมือนกันนะแต่
00:01:07 → 00:01:09 ว่าบางทีเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจัย
00:01:09 → 00:01:12 บางอย่างนะคะแต่ถ้าเกิดว่าเป็นโรคภูมิแพ้
00:01:12 → 00:01:15 อากาศในเด็กเนี่ยเราต้องมีความกังวลอะไรม
00:01:15 → 00:01:18 แล้วอะไรที่เราเจอบ่อยในเด็กมั่งนะคะ
00:01:18 → 00:01:21 เกี่ยวกับเรื่องของโรคภูมิแพ้เราคุยรอง
00:01:21 → 00:01:23 ศาสตราจารย์ดร
00:01:23 → 00:01:27 อาภาวศินการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์คณะ
00:01:27 → 00:01:29 พยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดี
00:01:29 → 00:01:32 ค่ะค่ะอาจารย์คะค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีคุณรี
00:01:32 → 00:01:36 และสสวัสดีผู้ฟังทุกท่านนะคะค่ะอาจารย์คะ
00:01:36 → 00:01:40 สภาพอากาศก็เนาะก็เป็นไปตามฤดูกาลถ้า
00:01:40 → 00:01:42 สำหรับเด็กเนี่ยค่ะในเรื่องเกี่ยวกับเป็น
00:01:42 → 00:01:45 โรคภูมิแพ้อากาศเนี่ยนะคะเห็นเด็กเป็น
00:01:45 → 00:01:49 หลายๆคนบางคนเป็นเยอะบางคนเป็นน้อยนะคะ
00:01:49 → 00:01:52 แต่ที่พบบ่อยๆส่วนใหญ่แล้วเนี่ยมันจะเกิด
00:01:52 → 00:01:55 จากอะไรหรือเป็นอะไรกันได้บ้างโรคภูมิแพ้
00:01:55 → 00:01:57 อากาศในเด็กนี้คือมันเป็นยังไงคะอาจารย์
00:01:58 → 00:02:01 คะเอ่อพอพูดถึงโรคภูมกุมแพ้เนี่ยนะคะความ
00:02:01 → 00:02:03 จริงแล้วเป็นได้หลายระบบนะคะเป็นได้ทั้ง
00:02:04 → 00:02:08 ระบบทางเดินหายใจนะคะระบบผิวหนังระบบทาง
00:02:08 → 00:02:12 เดินอาหารนะคะถ้าในระบบทางเดินหายใจเนี่ย
00:02:12 → 00:02:15 ก็จะพบบ่อยๆเนี่ยอยู่ 2 โรคแต่โรคที่เรา
00:02:15 → 00:02:18 เจอกันบ่อยแล้วก็เป็นเยอะกันมากขึ้นช่วง
00:02:18 → 00:02:22 นี้คือโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้นะคะซึ่งเราก็
00:02:22 → 00:02:26 จะมักพบว่าเด็กมีอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลไอ
00:02:26 → 00:02:29 จามนะคะแต่นอกจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้
00:02:30 → 00:02:33 แล้วเนี่ยโรคที่พบอีกอันนึงคือโรคหืดนะคะ
00:02:33 → 00:02:37 แต่โรคหืดเนี่ยอาการจะไปปรากฏที่ทางเดิน
00:02:37 → 00:02:41 หายใจนะคะก็คือหลอดลมโดยเฉพาะหลอดลมฝอยนะ
00:02:41 → 00:02:44 คะเพราะฉะนั้นเนี่ยภูมิแพ้เหมือนกันแต่
00:02:44 → 00:02:49 อวัยวะที่มีปฏิกิริยาต่อสิ่งกระตุ้นต่าง
00:02:49 → 00:02:52 กันก็จะทำให้เกิดอาการต่างกันค่ะค่ะนั้น
00:02:52 → 00:02:56 แสดงว่าเด็กบางคนอาจจะเป็นโรคจมูกอักเสบ
00:02:56 → 00:02:59 ภูมิแพ้บางคนอาจจะเป็นโรคหืดก็คือแล้วแต่
00:02:59 → 00:03:01 ว่ามันไปเกิดอาการระคายเคืองหรือว่าแบบ
00:03:01 → 00:03:04 รู้สึกว่าแบบเกิดอาการไวต่อสิ่งแปลกปลอม
00:03:04 → 00:03:07 สารก่อบภูมแผ้ก็แล้วแต่ว่าจะไปตรงจุดไหน
00:03:07 → 00:03:10 ใช่มั้ยคะค่ะอันดับแรกเลยก็คือขึ้นอยู่
00:03:10 → 00:03:14 กับว่าจริงๆแล้วเนี่ยตัวแอนติเจนซึ่งพอ
00:03:14 → 00:03:17 เวลามันไปกระตุ้นแล้วทำให้ร่างไอตัวภูมิ
00:03:17 → 00:03:20 คุ้มกันของร่างกายซึ่งเนี่ยมันมีความไว
00:03:20 → 00:03:24 ต่อตัวสิ่งกระตุ้นต่างกันตัวภูมคุ้มตัว
00:03:24 → 00:03:27 นี้มันไปออกฤทธิ์ที่ไหนบางคนออกไปออก
00:03:27 → 00:03:31 ฤทธิ์ที่จมูกก็เป็นโรคจมูกออสพบางคนก็ไป
00:03:31 → 00:03:35 ออกฤทธิ์ที่ทางเดินหายใจหรือหลอดลมก็เป็น
00:03:35 → 00:03:39 โรคหืดไปนะคะอืออาจารย์คะโรคหืดนี้ที่มัน
00:03:39 → 00:03:42 คืออันนี้มั้ยคะหอบหืดใช่มยคะใช่ค่ะใช่ๆ
00:03:42 → 00:03:46 แอสมาค่ะบางคนก็ในสมัยก่อนเขาเรียกโรคหืด
00:03:46 → 00:03:48 เพราะว่าเวลาเด็กหายใจก็จะมีเสียงดังวี๊ด
00:03:48 → 00:03:53 ซึ่งก็ดังอื๊ดๆคนก็จะเรียกว่าโรคหืดออคือ
00:03:53 → 00:03:55 ถ้าเป็นคุณหมอก็จะฟังจากอะไรนะหูฟังใช่มย
00:03:55 → 00:03:59 ก็จะได้ยินเสียงชัดเจนเนาะออในในคนบางคน
00:03:59 → 00:04:03 เด็กบางคนซึ่งอาการรุนแรงนะคะบางทีเสียง
00:04:03 → 00:04:06 หายใจเสียงหวีดเนี่ยก็จะได้ยินชัดเจนโดย
00:04:06 → 00:04:08 ที่ไม่ต้องอาศัยหูฟังแต่อันนั้นก็จะเป็น
00:04:08 → 00:04:12 อาการที่รุนแรงมากขึ้นอค่ะคือเด็กอ่ะเรา
00:04:12 → 00:04:15 ก็ไม่รู้ว่าเขาไปโดนกระตุ้นด้วยอะไรแพ้
00:04:15 → 00:04:17 อะไรได้บ้างอย่าเงี้ค่ะอาจารย์โอ้โหมัน
00:04:17 → 00:04:20 เต็มไปหมดเลยสิ่งแวดล้อมเราอย่างเงี้ค่ะ
00:04:20 → 00:04:22 อาจารย์แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะจะรู้
00:04:22 → 00:04:26 ได้ยังไงนะคะต้องสังเกตนะคะอันแรกเนี่ย
00:04:26 → 00:04:29 เราถ้าจะพูดถึงสาเหตุนะคะสาเหตุของอของ
00:04:29 → 00:04:32 โรคภูมิแพ้กลุ่มหนึ่งก็คือเกิดจาก
00:04:32 → 00:04:35 พันธุกรรมคือกลุ่มส่วนใหญ่แล้วเนี่ยนะคะ
00:04:35 → 00:04:38 ถ้ามีพ่อแม่หรือว่าญาติพี่น้องเป็นโรค
00:04:38 → 00:04:41 ภูมิแผ้เด็กก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรค
00:04:41 → 00:04:44 ภูมิแผลเพิ่มมากขึ้นอืนะคะแต่ในขณะเดียว
00:04:44 → 00:04:47 กันนะคะปัจจัยตัวที่ 2 ก็คือปัจจัยด้าน
00:04:47 → 00:04:50 สิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมเนี่ยนะคะก็มีทั้ง
00:04:50 → 00:04:53 สิ่งแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจงคือเป็นสิ่งที่
00:04:53 → 00:04:57 เราแพ้นะคะจะรู้ได้ไงว่าแพ้อันนึงก็คือ
00:04:57 → 00:05:01 จากการสังเกตอันตัวที่ 2 ก็ไปทำการทดสอบ
00:05:01 → 00:05:04 นะคะบางในเอ่อตามโรงพยาบาลก็มีการทดสอบ
00:05:04 → 00:05:07 ทางผิวหนังเอาเข็มแล้วก็เอาเชื้อเอาตัว
00:05:07 → 00:05:11 ปัจจัยกระตุ้นเมาจิ้มนะคะก็จะเกิดเป็นมี
00:05:11 → 00:05:15 อาการอักเสบบวมแดงขึ้นมาอ๋อก็จะรู้ว่านะ
00:05:15 → 00:05:18 คะแพ้ตัวนี้นะคะหรืออีกตัวนึงนะคะก็จะ
00:05:18 → 00:05:22 เป็นตัวกระตุ้นซึ่งเกิดขึ้นในปริมาณมากๆ
00:05:22 → 00:05:24 แต่ว่าไม่ได้เป็นตัวเฉพาะเจาะจงกับเรา
00:05:24 → 00:05:29 เช่น PM 2.5 นะคะเราอาจจะไม่ได้เฉพาะเพ
00:05:29 → 00:05:33 เจาะจงกับ PM 2.5 แต่ความที่มันเยอะมาก
00:05:33 → 00:05:36 นะคะมันมีผลที่ทำให้เกิดอาการเปลี่ยนแปลง
00:05:36 → 00:05:40 กับร่างกายของเด็กได้ง่ายๆได้ง่ายค่ะอ๋อ
00:05:40 → 00:05:42 คือปัจจัยมันอาจจะเกิดจากหลายๆอย่างแต่
00:05:42 → 00:05:46 ว่าถ้าจะไปทำแบบเทสไปแบบเข็มจิ้มดูก็ก็
00:05:46 → 00:05:48 ง่ายหน่อยเราก็จะได้ระวังตั้งแต่เบื้อง
00:05:48 → 00:05:52 ต้นโอแต่ไม่จำเป็นนะคะแต่การที่เอาไม่
00:05:52 → 00:05:56 จำเป็นค่ะใช้การสังเกตอาการออกก็ได้นะคะอ
00:05:56 → 00:05:58 ค่ะเพราะว่าคือจริงๆนะอาจารย์ตอนเด็กๆอ่ะ
00:05:58 → 00:06:00 จำได้ตัวเองอ่ะอ่ะไม่เคยเป็นภูมิแพ้เลย
00:06:01 → 00:06:04 ค่ะแต่พอมาเรียนอยู่กรุงเทพฯวันนึงอยู่ๆ
00:06:04 → 00:06:05 เราเป็นภูมิแพ้โดยที่เรายังไม่รู้จักคำ
00:06:05 → 00:06:08 ว่าภูมิแพ้ในในตอนนั้นเลยค่ะว่าแบบอ๋ออัน
00:06:08 → 00:06:11 นี้คืออาการภูมิแพ้งั้นแสดงว่าเด็กตอน
00:06:11 → 00:06:14 เด็กอาจจะไม่เป็นโตมาอาจจะเป็นก็ได้หรือ
00:06:14 → 00:06:16 จะเป็นตั้งแต่เด็กเด็กก็ได้เลยอีกเหมือน
00:06:16 → 00:06:20 กันได้ค่ะได้ค่ะเพราะว่าตัวเอ่อสิ่งแวด
00:06:20 → 00:06:23 ล้อมนะคะที่เราบอกว่ามันเป็นปัจจัย
00:06:23 → 00:06:26 กระตุ้นเนี่ยนะคะในกรณีที่เรามีการสัมผัส
00:06:26 → 00:06:30 สิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเรียกว่าอาจจะเป็นพวก
00:06:30 → 00:06:34 เป็นมลพิษทางอากาศนะคะพวกแอร pollution
00:06:34 → 00:06:37 หรือพวกสารกอบภูมิแผ้ในอากาศพวกเอ่อแอ
00:06:37 → 00:06:41 อเจนนะคะเอ่อพวกนี้เนี่ยถ้าสัมผัสไปนานๆ
00:06:41 → 00:06:44 ก็มีโอกาสเกิดโรคนะคะไม่เฉพาะภูมิแพ้โรค
00:06:44 → 00:06:47 อื่นก็ได้นะคะที่พบอย่างเช่นมีข่าวบ่อยๆ
00:06:47 → 00:06:50 ช่วงนี้ก็มะรงก็คือมะเร็งใช่่มั้ยคะอ่า
00:06:50 → 00:06:54 ถ้าอ่าหรือสมัยก่อนเนี่ยนะคะเอ่อตัวซึ่ง
00:06:54 → 00:06:56 เป็นอันตรายสมัยก่อนและยังเป็นอันตราย
00:06:56 → 00:07:00 อยู่ในปัจจุบันก็คือบุหรี่ในกรณีที่เด็ก
00:07:00 → 00:07:03 สัมผัสกับบุหรี่ไประยะไปวนานานแล้วก็ไม่
00:07:03 → 00:07:07 มีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้นะคะเด็ก
00:07:07 → 00:07:11 มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นโรคหืดหรือโรคจมูก
00:07:11 → 00:07:14 อักเสบภูมิแพ้ได้เหมือนกันถึงแม้ว่าจะไม่
00:07:14 → 00:07:18 ได้มีความร่างกายแข็งแรงเฉพาะเจาะจงมันก็
00:07:18 → 00:07:21 แล้วแต่จังหวะหรือแบบสภาพอากาศสิ่งแวด
00:07:21 → 00:07:25 ล้อมในตอนนั้นด้วยอืดูเแบบเราก็จะเสี่ยง
00:07:25 → 00:07:27 อยู่ตลอดเวลาเลยค่ะอย่าง
00:07:27 → 00:07:31 งี้ค่ะเพราะว่าตอนนี้ค่ะโดยเฉพาะตัวเอ่อ
00:07:31 → 00:07:34 คุณภาพอากาศมันแย่ลงนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:07:34 → 00:07:38 เราก็จะพบว่าเด็กมีเอ่อมีอาการของโรคภูมิ
00:07:38 → 00:07:41 แพ้เพิ่มมากขึ้นทนี้อาการมันจะต้องยังไง
00:07:41 → 00:07:44 คะคุณพ่อคุณแม่จะได้สังเกตได้ว่าเอ้ยอัน
00:07:44 → 00:07:47 นี้แบบดูแล้วอาจจะเป็นภูมิแพ้ได้อย่าง
00:07:47 → 00:07:50 เงี้ยค่ะถ้าเอาเป็นภูมิแพ้ประเภทจมูก
00:07:50 → 00:07:53 อักเสบภูมิแพ้นะคะอันนี้มาที่จมูกอาการ
00:07:53 → 00:07:57 ง่ายๆเลยก็คือคัดจมูกน้ำมุกไหลไอจามค่ะ
00:07:57 → 00:08:00 ถ้าเป็นมากๆนะคะบางคนเป็นมากเนี่ยนะคะก็
00:08:00 → 00:08:05 อาจจะมีไอมีเสมหะนะคะหายใจเริ่มมีเสียงวี
00:08:05 → 00:08:08 ก็มีเหมือนกันนะคะบางคนเป็นมากก็จะสังเกต
00:08:08 → 00:08:13 เห็นเด็กที่เป็นตาดำๆน่ะค่ะนะคะเป็นปื้นๆ
00:08:13 → 00:08:15 เป็นแบบเป็นคล้ายๆกับตาเป็นเหมือนหมี
00:08:15 → 00:08:16 แพนด้านะ
00:08:16 → 00:08:20 คะไม่ไม่ได้เป็นนอนน้อยเป็นเด็กภูมิพเป็น
00:08:20 → 00:08:23 เด็กที่เป็นภูมิแพ้อ่าค่ะเป็นเด็กที่เป็น
00:08:23 → 00:08:27 ภูมิแพ้นะคะเป็นที่สังเกตได้ง่ายนะคะที
00:08:27 → 00:08:30 นี้ถ้าหากว่าเป็นโรคหือหรือโรคหอบหืด
00:08:30 → 00:08:33 เนี่ยนะคะกลุ่มนี้จะเป็นอาการที่ไปลงไป
00:08:33 → 00:08:36 ที่หลอดลมนะคะก็จะทำให้หลอดลมตีบเพราะ
00:08:36 → 00:08:39 ฉะนั้นเนี่ยพอหลอบลมตีบนะคะแล้วก็ร่วมกับ
00:08:39 → 00:08:42 ที่ว่ามีการสร้างสารคัดหลังเพิ่มมากขึ้น
00:08:42 → 00:08:45 งั้นก็จะมีเสมหะหลอดลมบวมเนาะแล้วก็จะอัน
00:08:45 → 00:08:49 แรกก็จะมีอาการไอนะคะเด็กอาจารยอาการไอ
00:08:49 → 00:08:53 หายใจเร็วขึ้นนะคะเอ่อพ่อแม่ก็จะสังเกต
00:08:53 → 00:08:57 เห็นว่าบางทีเด็กหายใจจมูกบานนะแล้วก็หาย
00:08:57 → 00:09:00 ใจหอบเหนื่อยหน้าอกบูมหรือเด็กบางทีเด็ก
00:09:00 → 00:09:02 บอกว่าแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกอันนั้นก็จะ
00:09:02 → 00:09:06 อาการมากขึ้นอืนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะคะ
00:09:06 → 00:09:09 ถ้าหากว่าเด็กมีอาการเหล่านี้นะคะคุณพ่อ
00:09:09 → 00:09:12 คุณแม่อาจจะใช้วิธีการสังเกตหรือนับอัตรา
00:09:12 → 00:09:16 การหายใจนะคะก็จะช่วยได้มันก็จะมีค่าปกติ
00:09:16 → 00:09:20 นะคะในการแบ่งระดับอัตราการหายใจนะคะเด็ก
00:09:21 → 00:09:24 เล็กๆนะคะอ่าสมมุติเรานับนนะคะว่า 1 ขวบ 2
00:09:24 → 00:09:28 ขวบ 3 ขวบ 4 ขวบ 1 ขวบเนี่ยอัตราการหายใจ
00:09:28 → 00:09:32 จะไม่เกิน 50 ครั้งต่อนาที 2 ขวบไม่เกิน
00:09:32 → 00:09:36 40 3 ขวบไม่เกิน 30 อย่างเงี้ยนะคะ 3-5
00:09:36 → 00:09:40 ปีก็ไม่เกิน 30 ง่ายๆใช่มั้ยคะค่ะก็เป็น
00:09:40 → 00:09:43 เครื่องมืออันนึงที่เราจะใช้สังเกตอาการ
00:09:43 → 00:09:47 ของลูกได้อืคือหมายถึงว่านอกจากจะวัด
00:09:47 → 00:09:49 อัตราในเรื่องของการหายใจตรงนี้แล้วเนี่ย
00:09:49 → 00:09:52 มันมันมีส่วนที่แบบว่าระยะเวลาในการเป็นม
00:09:52 → 00:09:55 คแบบเอ้ยเป็นเวลาเดิมทุกวันเอ๊ะเป็นทุก
00:09:55 → 00:09:58 วันเลยแฮะแบบระยะเวลานานแค่ไหนสัก 2
00:09:58 → 00:10:01 สัปดาห์เป็นเดือนแล้วยังไม่ดีขึ้นเอ้ยมี
00:10:01 → 00:10:04 ความเสี่ยงละเป็นแน่ๆเลยอย่างงี้ป่าคะคือ
00:10:04 → 00:10:07 โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้เนี่ยนะคะมันจะแบ่ง
00:10:07 → 00:10:10 ออกเป็น 2 กลุ่มกลุ่มประเภทที่ว่าเป็นบาง
00:10:10 → 00:10:13 ช่วงนะคะอีกกลุ่มหนึ่งก็คือเป็นตลอดปี
00:10:13 → 00:10:17 เช้าขึ้นมาบางคนก็คัดจมูกน้ำมุกไหลทั้งปี
00:10:17 → 00:10:20 นะคะหรือบางคนก็เป็นช่วงช่วงเฉพาะที่มี
00:10:20 → 00:10:24 เอ่อฝุ่นละอองหรือบางคนก็เป็นช่วงหน้าฝน
00:10:24 → 00:10:27 เพราะอากาศชื้นก็มีก็แล้วแต่นะคะว่าตัว
00:10:27 → 00:10:30 กระตุ้นอะไรแต่ทีนี้เนี่ยถ้าเป็นแล้วนะคะ
00:10:30 → 00:10:34 อาการแบบรู้สึกว่ามีคัดจมูกน้ำมุกไหลไอ
00:10:34 → 00:10:38 จามแล้วก็ดูแลตนเองด้วยการล้างจมูกนะคะ
00:10:38 → 00:10:41 หรือเอ่อรับประทานยาแก้แพ้อาการดีขึ้นนะ
00:10:41 → 00:10:45 คะจัดการอาการได้ไม่มีผลกระทบต่อการ
00:10:45 → 00:10:49 ดำเนินชีวิตนะคะเด็กๆก็ยังสามารถไปเล่น
00:10:49 → 00:10:53 ได้ไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนนะคะอ่าก็ไม่
00:10:53 → 00:10:56 เป็นไรนะคะอันนั้นถือว่าเป็นเล็กน้อยนะคะ
00:10:56 → 00:10:59 หรือเป็นบางครั้งบางคราวแต่ถ้าเป็นมาก
00:10:59 → 00:11:03 กว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์หรือเป็นติดต่อกัน
00:11:03 → 00:11:06 สักเดือนนึงในขณะที่เราคิดว่าเราดูแลตน
00:11:06 → 00:11:09 เองดีแล้วนะคะควรคิดว่าจะต้องไปพบแพทย์
00:11:09 → 00:11:12 แล้วล่ะค่ะเนาะหรือถ้ามันรบกวนชีวิตประจำ
00:11:12 → 00:11:15 วันอันนี้ต้องรีบไปเลยนะคะเราคงอยากเห็น
00:11:15 → 00:11:18 เด็กไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีใช่ๆค่ะเพราะ
00:11:18 → 00:11:21 ว่าออย่าว่าแต่เด็กเลยขนาดเราเป็นเองค่ะ
00:11:22 → 00:11:24 โอ้โหอาจารย์คะมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะ
00:11:24 → 00:11:27 เราต้องทำงานแต่ว่าเรากินยาไม่ได้เพราะ
00:11:27 → 00:11:30 ว่าคือคือจริงๆตอนนี้เดี๋ยวนี้ยาก็มีทั้ง
00:11:30 → 00:11:32 กินแล้วหลับกับแบบไม่หลับใช่มั้ยคะ
00:11:32 → 00:11:35 อาจารย์ยาแก้แพ้ออแต่แต่ถ้าเด็กเป็นเด็ก
00:11:35 → 00:11:38 อย่างเงี้ค่ะอาจารย์คือยาเม็ดเล็กก็จริง
00:11:38 → 00:11:40 อ่ะแต่เด็กกินได้มยคะหรือว่ามันต้องมี
00:11:40 → 00:11:44 ปริมาณหรือดูตามน้ำหนักตัวอายุอะไรอย่าง
00:11:44 → 00:11:48 งี้มยคะใช่ดูจากอายุนะคะอ่าค่ะดูจากอายุ
00:11:48 → 00:11:51 นะคะแล้วก็ในเด็กเนี่ยคือคือในผู้ใหญ่
00:11:51 → 00:11:54 หรือว่าเด็กโตเนี่ยบางทีเอเราก็จะซื้อยา
00:11:54 → 00:11:58 รับประทานกันเองได้นะคะยาแก้แพ้นะคะมัน
00:11:58 → 00:12:00 เดี๋ยวนี้กายแทบที่ว่าเป็นยาสามัญประจำ
00:12:00 → 00:12:03 บ้านไปซะแล้วนะคะแต่ถ้านายเด็กนะคะโดย
00:12:03 → 00:12:06 เฉพาะในายเด็กเล็กๆแนะนำให้ไปพบแพทย์นะคะ
00:12:06 → 00:12:10 ในในปัจจุบันเนี่ยการรับประทานยาแก้แพ
00:12:10 → 00:12:13 เนี่ยนะคะถ้าคุณหมอเคยสั่งแล้วนะคะแล้ว
00:12:13 → 00:12:16 เราเอามารับประทานซ้ำเป็นยาตัวเดิมนะคะ
00:12:16 → 00:12:19 เมื่อเมื่อมีอาการเพิ่มมากขึ้นแต่รอบนี้
00:12:19 → 00:12:22 เอ๊ะ PM มันเยอะมากขึ้นนะคะ aqi มันสูง
00:12:23 → 00:12:26 ขึ้นเอาไม่อยู่นะนะคะบางทีอาจจะต้องเพิ่ม
00:12:26 → 00:12:31 ยาเป็นยากลุ่มอื่นเช่นยาในกลุ่มพวกสเตรอย
00:12:31 → 00:12:34 นะคะพวกนัสเตรอยด์พวกสเปรยที่เอามาฉีด
00:12:34 → 00:12:37 จมูกนะคะพวกเนี้ยในเด็กเล็กก็ใช้ได้อย่าง
00:12:37 → 00:12:40 เช่นเด็กมากกว่า 2 ขวบคุณหมอก็จะเลือกยา
00:12:40 → 00:12:43 ที่เหมาะสมกับเด็กให้ได้นะคะค่ะถ้างั้น
00:12:43 → 00:12:46 คือเพื่อความปลอดภัยโอเคแหละมันยาแก้แผล
00:12:46 → 00:12:50 หาซื้อได้ตามร้านสนุกซื้อซึ่งมีเห็นอยู่
00:12:50 → 00:12:53 ตามร้านขายยาง่ายๆเลยอันนี้ก็แบบแต่แต่
00:12:53 → 00:12:56 ว่าถ้าเป็นนายเด็กนะคะไม่แนะนำให้ไปของ
00:12:56 → 00:12:59 แพทย์ดีกว่านะคะอันดับแรกลองดูล้างมดูซิ
00:12:59 → 00:13:04 ดีมถ้าถ้าล้างจมูกดีแสดงว่าเอ่อการควบคุม
00:13:04 → 00:13:07 โรคด้วยการล้างจมูกอาบน้ำหรือว่าเอ่อการ
00:13:07 → 00:13:11 ป้องกันเช่นไม่เอาเด็กออกไปข้างนอกนะคะ
00:13:11 → 00:13:15 อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่พยายามลดการสัมผัส
00:13:15 → 00:13:19 กับตัวมลพิษนะคะใช้เครื่องกรองอากาศและอ๊
00:13:19 → 00:13:23 ดูเอ่อเราจัดการด้วยตนเองได้นะคะก็โอเค
00:13:23 → 00:13:25 ถ้าไม่ได้เนี่ยต้องไปหาตัวช่วยคือต้องไป
00:13:26 → 00:13:30 รับยานะคะก็ถ้าโดยเฉพาะในเด็กนะคะก็แนะนำ
00:13:30 → 00:13:33 ให้ไปพบแพทย์นะคะซึ่งพอหลังจากนี้เนี่ย
00:13:33 → 00:13:37 เราก็จะรู้อ้ออันไหนซึ่งเอ่อจะจัดการใน
00:13:37 → 00:13:41 เอ่อคุณหมอก็จะนะคะทีมสุขภาพก็จะให้คำแนะ
00:13:41 → 00:13:45 นำในเรื่องของเอ่อวิธีการจัดการเพิ่มเติม
00:13:45 → 00:13:48 รวมถึงการสังเกตอาการที่ต้องมาพบแพทย์ใน
00:13:48 → 00:13:52 กรณีที่มันมีอาการรุนแรงค่ะอืบางทีเด็ก
00:13:52 → 00:13:53 เขาอาจจะไม่ได้เหมือนผู้ใหญ่นะคะที่เขาจะ
00:13:54 → 00:13:56 แบบว่าพอเขาเกิดอาการปุ๊บเขาสามารถแบบ
00:13:56 → 00:13:59 เดินไปหยิบยาเองหรืออะไรบางทีเาก็อาจจะ
00:13:59 → 00:14:01 ไม่ได้ดูแลตัวเักเท่าด้วยด้วยความเป็น
00:14:01 → 00:14:05 เด็กอะไเงี้มันก็ส่งผลกระทบหลายๆอย่าเลย
00:14:05 → 00:14:09 อย่างเงี้แต่ถ้าเกิดว่าแบบเอ่อเขาไม่ได้
00:14:09 → 00:14:12 หรือพ่อแม่อาจจะไม่ได้มีเวลาดูแลมากนัก
00:14:12 → 00:14:15 เด็กเป็นอยู่อาการของโรคมันก็ไม่ได้แบบจะ
00:14:15 → 00:14:17 ดูแลอะไรเท่าไหร่เงี้ยสิ่งที่จะตามมานอก
00:14:17 → 00:14:19 เหนือจากการที่จะเป็นจมูกอักเสบภูมิแพ้
00:14:20 → 00:14:22 แล้วเนี่ยจะเป็นอะไรได้มากกว่านั้นที่
00:14:22 → 00:14:24 เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอีกไคะอาจารย์
00:14:24 → 00:14:29 เป็นได้เยอะมากเลยนะคะซึ่งอ
00:14:29 → 00:14:33 แสดงว่าน่ากลัวนะคะโลคือคือคือตัวน้ำมูก
00:14:33 → 00:14:36 นะคะที่มันค้างค้างอยู่ในจมูกร่วมกับที่
00:14:36 → 00:14:40 ว่าเยื่อบุกจมูกอักเสบบวมขึ้นมาเนี่ยนะคะ
00:14:40 → 00:14:43 โอกาสที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆเช่นมี
00:14:43 → 00:14:47 ไซนัสอักเสบนะคะหรือไปที่คอก็คออักเสบบาง
00:14:47 → 00:14:51 คนก็กล่องเสียงอักเสบนะคะเป็นเรื้อรังก็
00:14:51 → 00:14:54 เอ่อบางคนก็เสียงแหบเสียงแห้งอืนะคะอัน
00:14:54 → 00:14:56 นี้อันนี้เป็นอันนี้เหมือนกับตัวดิฉันนะ
00:14:56 → 00:14:59 คะก็ก่อนหน้านี้ก่อนหน้านี้ก็เป็นเอ่อมี
00:14:59 → 00:15:02 อากไไอเรืรางพอเป็นสักพักนึงอ่ะค่ะตอนนี้
00:15:02 → 00:15:06 ยังไม่กลับมาปกติเลยนะคะออใช่ๆอาจารย์
00:15:06 → 00:15:08 เพราะเดี๋ยวนี้เวลาที่เป็นแค่หวัดหรือ
00:15:08 → 00:15:10 หรืออะไรเล็กๆน้อยๆค่ะอาจารย์เมื่อก่อน
00:15:11 → 00:15:13 ระยะเวลาแบบ 3-4 วันเราก็จะหายและกินยาก็
00:15:14 → 00:15:15 จะหายแล้วเดี๋ยวนี้เป็นเป็นสัปดาห์เลยนะ
00:15:15 → 00:15:19 คะอาจารย์กว่าจะดีขึ้นอะไรอย่าเงี้ยเนาะอ
00:15:19 → 00:15:21 อันนี้เนี่ยนะคะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เมื่อ
00:15:21 → 00:15:24 กี้ที่พูดถึงเนี่ยจะเป็นเฉพาะของทางเดิน
00:15:24 → 00:15:27 หายใจใช่มั้ยคะยังมีอีกยังระบบอื่นก็ได้
00:15:28 → 00:15:31 นะคะอที่หูก็ได้นะคะเพราะมันก็จะมีท่อ
00:15:31 → 00:15:35 ระหว่างเป็นยุนทิ้วที่มันจะต่อจากที่จมูก
00:15:35 → 00:15:39 ไปที่หูนะคะพวกนี้นะคะหรือบางคนเนี่ยเป็น
00:15:39 → 00:15:43 มากๆมีปัญหาเรื่องของตัวอตอมอดินอยโตนะคะ
00:15:43 → 00:15:46 เพงั้นเนี่ยพอจะพบว่ากลุ่มเด็กที่เป็น
00:15:46 → 00:15:50 ภูมิแพ้ปัญหาที่ตามไมอันคือเด็กนอนกรนนะ
00:15:50 → 00:15:54 คะเป็นมากก็เกิดในปัญหาเรื่องว่ามี
00:15:54 → 00:15:57 obstructive s แนียหรือบางทีก็คือหยุด
00:15:57 → 00:16:01 หายใจขณะหลับอันนี้อันตรแรงมากขึ้นค่ะอ่า
00:16:01 → 00:16:04 ใช่ๆอันนี้คือเด็กเล็กไปจนถึงเด็กโตก็ได้
00:16:04 → 00:16:07 นะคะเด็กโตเด็กโตก็ได้ผู้ผู้ใหญ่ก็เป็นนะ
00:16:07 → 00:16:11 คะผู้ใหญ่ก็เกิดภาวะนี้ได้เหมือนกันอค่ะ
00:16:11 → 00:16:15 ถ้าเกิดเป็นแล้วเนี่ยเราจะรักษายังไงหาย
00:16:15 → 00:16:20 ขาดมั้ยหรือแบบมันก็เป็นได้เรื่อยๆสำหรับ
00:16:20 → 00:16:22 คนที่แบบว่าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภูมิแพ้
00:16:22 → 00:16:25 แล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะภูมิแพ้นะคะถ้าเป็น
00:16:25 → 00:16:29 แล้วเนี่ยนะคะควบคุมอาการดีๆจะไม่ปรากฏ
00:16:29 → 00:16:32 อาการขึ้นมาได้อืนะคะเอาแนะนอย่างตัวพี่
00:16:32 → 00:16:36 เนี่ยเคยตอนเอ่อเคยเป็นภูมิแพ้พอเสร็จ
00:16:36 → 00:16:39 แล้วมีช่วงช่วงนึงซึ่งเรียกว่าสุขภาพดี
00:16:39 → 00:16:43 ขึ้นนะคะก็มีการออกกำลังกายปอดแข็งแรงดี
00:16:43 → 00:16:47 หรือว่าตอนช่วงนั้นเอ่ออาจจะอายุยังน้อยๆ
00:16:47 → 00:16:51 ยังสาวอยู่ก็เลยอาการก็ไม่ปรากฏนะคะไม่
00:16:51 → 00:16:53 ปรากฏเลยอาการคัดจมูกน้ำมุกไหลไอจามก็
00:16:53 → 00:16:57 เรียกว่าทิ้งยาไปเลยนะคะก็อยากจะแนะนำ
00:16:57 → 00:17:00 เรื่องของหลักในการดูแลตนเเองนะคะมันก็จะ
00:17:00 → 00:17:03 มีเรื่องของอันแรกก็คือเรื่องการป้องกัน
00:17:03 → 00:17:05 อันที่ 2 คือเรื่องของการประเมินและการ
00:17:05 → 00:17:08 จัดการอาการนะคะหลักตัวอันที่ 3 ก็คือ
00:17:08 → 00:17:12 เรื่องของการสื่อสารนะอ่ะมาดูตัวแรกก่อน
00:17:12 → 00:17:15 คือเรื่องการป้องกันนะคะคือเราป้องกัน
00:17:15 → 00:17:19 เนี่ยคือทำยังไงซึ่งจะทำให้เราไม่เป็นโรค
00:17:19 → 00:17:21 การป้องกันอันแรกเมื่อกี้ที่เกินไปก็คือ
00:17:21 → 00:17:25 การดูแลสุขภาพของตัวเองใช่มั้ยคะค่ะเนาะ
00:17:25 → 00:17:28 การเรื่องของการออกกำลังกายการรับประทาน
00:17:28 → 00:17:31 อาหารการพักผ่อนนะคะอันนี้ยังมาอยู่เพราะ
00:17:31 → 00:17:34 ว่าทำให้ตัวระบบคุมคุ้มกันซึ่งเมื่อกี้
00:17:34 → 00:17:38 ที่เราบอกว่าภูมิไวเกินถูกมั้ยคะอ่าเอ่อ
00:17:38 → 00:17:42 ภูมิวัยเกินเนี่ยนะคะคือถ้าเราแข็งแรงดี
00:17:42 → 00:17:45 ภูมิวัยเกินก็จะไม่ใช่เป็นตัวเด่นที่จะทำ
00:17:45 → 00:17:48 หน้าที่ที่จะมาควบคุมเรานะคะเราแหละควบ
00:17:48 → 00:17:51 คุมภูมิคุ้มกันได้นะคะงั้นไปสัมผัสสิ่ง
00:17:51 → 00:17:55 เอ่อกระตุ้นหรือว่าสิ่งแปลกปลอมต่างๆนะคะ
00:17:56 → 00:17:58 ก็จะไม่เกิดอาการอย่างเช่นคันเล็กน้อย
00:17:58 → 00:18:03 น้อยกลับมาน้ำล้างหน้าตั้งตาสระผมก็หายนะ
00:18:03 → 00:18:06 คะอ่านะคะอันที่ 2 นะคะป้องกันโดยการไม่
00:18:06 → 00:18:09 ไปสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นปัจจัย
00:18:09 → 00:18:12 กระตุ้นปัจจัยกระตุ้นนี้ถ้าเป็นถ้าเรารู้
00:18:12 → 00:18:15 ว่าเราแพ้อะไรเราก็หลีกเลี่ยงสิ่งนั้น
00:18:15 → 00:18:18 อย่างเช่นบางคนรู้ว่าแพ้ไรฝุ่นนะคะเมื่อ
00:18:18 → 00:18:20 กี้ส่วนใหญ่ที่พูดถึงเนี่ยเราพูดถึงสิ่ง
00:18:20 → 00:18:24 แวดล้อมภายนอกเป็นพวกเอ่อมลพิษทางอากาศนะ
00:18:24 → 00:18:27 คะแต่ในเรื่องของสารก่อภูมิแพ้เนี่ยใน
00:18:27 → 00:18:31 บ้านก็มีถ้าเรารู้ว่าเราแพ้อะไรนะคะอย่าง
00:18:31 → 00:18:33 เช่นบางคนเนี่ยเด็กที่โตแล้วเนี่ยเขา
00:18:33 → 00:18:36 สงสัยว่าเอ๊ะแพ้ลายฝุ่นใช่หรือเปล่าเขาก็
00:18:36 → 00:18:40 ไปทำ Skin Test แต่ถ้าไม่ถ้าแต่ถ้าว่าใน
00:18:40 → 00:18:42 เด็กเล็กนะคะไม่จำเป็นต้องทำเราก็หลีก
00:18:42 → 00:18:46 เลี่ยงได้เลยนะคะไรฝุ่นอยู่ตรงไหนก็คือ
00:18:46 → 00:18:50 ตัวไรฝุ่นที่เป็นสัตว์นะคะอยู่ในฝุ่นนะคะ
00:18:50 → 00:18:54 ฝุ่นอยู่ตรงไหนได้บ้างอยู่บนที่นอนนะคะ
00:18:54 → 00:19:00 หมอนผ้าห่มตัวตุ๊กตุ่นตุ๊กตาในห้องนอนพรม
00:19:00 → 00:19:03 นะคะผ้าม่านหรือว่าบนชั้นที่เราไม่ค่อย
00:19:04 → 00:19:07 ได้เช็ดถูงนะคะเป็นที่สะสมของฝุ่นและเป็น
00:19:07 → 00:19:11 ที่อยู่อาศัยของไรฝุ่นโอ้โหนะคะอ่างั้นก็
00:19:11 → 00:19:15 ต้องทำความสะอาดนะคะคุยกับลูกว่าเอา
00:19:15 → 00:19:18 ตุ๊กตาออกมาคะเนาะเปลี่ยนตุ๊กตาเป็น
00:19:18 → 00:19:23 ตุ๊กตาไม่มีขนดีมั้ยนะคะเอตุ๊กตาล้อมตัว
00:19:23 → 00:19:24 แล้วค่ะตอน
00:19:24 → 00:19:27 นี้เดี๋ยวได้เอาออกเดี๋ยวได้เอาตุ๊กตาออก
00:19:27 → 00:19:31 จากห้องกันนะคะหรือว่าผ้าห่มผ้าปูที่นอน
00:19:31 → 00:19:34 นะคะชุดนอนพวกเครื่องนอนเนี่ยนะคะในสมัย
00:19:34 → 00:19:38 ก่อนเนี่ยเขาแนะนำว่าให้ซักในน้ำร้อนนะคะ
00:19:38 → 00:19:41 คือซักแล้วเอไปแช่น้ำร้อนก็จากการที่แนะ
00:19:41 → 00:19:45 นำคนไข้ไปคนไข้บอกว่าทำยากนะคะบอกอ้าไม่
00:19:45 → 00:19:47 เป็นไรงั้นอย่างงี้ซักน้ำธรรมดานี่แหละ
00:19:47 → 00:19:50 ใส่เครื่องซักผ้าปกตินี่แหละค่ะจะซักทุก
00:19:50 → 00:19:54 อาทิตย์นะคะอก็ไม่ยากใช่มั้ยคะอเพิ่มความ
00:19:54 → 00:19:57 ถี่ในการทำความสะอาดขึ้นอเพราะไม่งั้นเ
00:19:57 → 00:20:00 ต้องไปซื้อกะละมังเอ๊ะก็ต้มน้ำเอาไปใส่ดู
00:20:00 → 00:20:03 วุ่นวายหวายเคยเคยทำนะคะอาจารย์ไม่ใช่ไม่
00:20:03 → 00:20:06 เคยทำก็ยากจริงอ่ะก็แล้วเป็นไงงยากใช่
00:20:06 → 00:20:09 มั้ยคะก็รู้สึกแบบ
00:20:09 → 00:20:13 เฮ้อถอนหายใจไปแล้ว 1 เือกค่ะค่ะแต่ว่าพอ
00:20:13 → 00:20:16 พอพออย่างเงี้ยนะคะเราสามารถจัดเอ่อเรา
00:20:16 → 00:20:18 ต้องรู้แล้วว่าแหล่งมันอยู่ตรงไหนได้บ้าง
00:20:18 → 00:20:21 นะคะอ่าอันนี้แค่แค่ลายฝุ่นนะคะอ่ากวาด
00:20:21 → 00:20:25 บ้านถูบ้านใช่มั้ยคะ PM เยอะก็ปิดซ้าอย่า
00:20:25 → 00:20:28 ให้เข้ามาในบ้านนะอ่าอันนั้นก็คือเรื่อง
00:20:28 → 00:20:32 ของพวกมลพิษที่จะเข้ามานะคะอีกอันนึงซึ่ง
00:20:32 → 00:20:35 ในบ้านที่จะเจอบ่อยคือบุหรี่นะคะมีสมาชิก
00:20:35 → 00:20:39 ในบ้านสูบบุหรี่ไม้นะคะเอ่อบอกให้ออกไป
00:20:39 → 00:20:42 สูบนอกบ้านบางครั้งยังไม่พอเพราะว่าตัว
00:20:42 → 00:20:44 ควันบุหรี่ซึ่งเป็น Second Hand หรือเด
00:20:44 → 00:20:47 Hand Smoke เนี่ยมันก็สามารถสัมผัสอยู่
00:20:47 → 00:20:50 กับเสื้อผ้าติดผมมาแล้วมาอุ้มลูกเงี้ยนะ
00:20:50 → 00:20:54 คะเด็กก็จะได้รับควัจากบุหรี่ไปด้วยค่ะ
00:20:54 → 00:20:57 ถ้าเป็นไปได้นะคะก็คุยกันสมาชิกในบ้าน
00:20:57 → 00:21:01 เนี่ยนะคะคะหยุดสูบดีมั้ยนะคะหรือว่ามี
00:21:01 → 00:21:04 บางคนนะคะไปสูบข้างนอกเนี่ยเอาใส่เสื้อ
00:21:04 → 00:21:08 คลุมไปด้วยออแล้วก็ถอดเสื้อคลุมถอดเสื้อ
00:21:08 → 00:21:10 คลุมไว้ข้างนอกนะคะเพนั้นออกมานี่ก็เพราะ
00:21:10 → 00:21:14 งั้นเสื้อผ้าก็จะไม่ติดวันบุหรี่อ๋อจริง
00:21:14 → 00:21:17 หรอคะอาจารย์ก็ลดลงอ่ะค่ะมันไม่ติดผมติด
00:21:17 → 00:21:22 หัวติดอะไรปติดๆติดก็ยังติดผมติดหัวติด
00:21:22 → 00:21:26 ผิวหนังยังไงก็ติดนะคะแต่มันก็ลดปริมาณ
00:21:26 → 00:21:30 ความพามสูบมากเลยเออสุดยอดหรือไม่งั้นอาจ
00:21:30 → 00:21:33 จะไปใช้นิโคตินประเภทแผ่นปะอันนั้นอาจจะ
00:21:33 → 00:21:37 ช่วยเนาะนะคะจะได้มาลดลดปริมาณควัอ่าแต่
00:21:37 → 00:21:41 ว่าเลิกดีกว่านะคะเลิกดีกว่านะคะบางบางที
00:21:41 → 00:21:45 บางทีก็เอาเจอกันแบบทำยังไงแบบอาจจะเป็น
00:21:45 → 00:21:48 ทางนึงซึ่งทำให้ระยะเวลาการสูบบุหรี่ลดลง
00:21:48 → 00:21:51 แล้วมันก็ลดปริมาณลงแล้วจะค่อยๆแล้วก็
00:21:51 → 00:21:55 หยุดไปได้เลยแต่ถ้าใครใจเด็ดนะคะใครใจ
00:21:55 → 00:21:59 เด็ดนะคะเข้มแข็งอหักดิบเลยค่ะอ่าส่ง
00:21:59 → 00:22:02 กำลังใจให้กับคนที่อยากจะเลิกให้ได้ค่ะ
00:22:02 → 00:22:04 เพราะรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายแต่ว่ามันก็ต้อง
00:22:04 → 00:22:07 ทำได้นะเพื่อเพื่อคนในครอบครัวเพื่อลูก
00:22:07 → 00:22:09 ด้วยนะคะเมื่อกี้พูดไปแล้วเรื่องการป้อง
00:22:09 → 00:22:12 กันเนาะอ่าเรื่องของการสิ่งแวดล้อมแลอัน
00:22:12 → 00:22:15 ที่ 2 คือในเรื่องของยานะคะปรึกษาแพทย์
00:22:15 → 00:22:19 เนาะนะคะอ่าแล้วก็เอ่ออันต่อมาก็คือ
00:22:19 → 00:22:22 เรื่องประเมินนะคะก็คือเรื่องของการ
00:22:22 → 00:22:25 ประเมินอาการว่าตอนนี้เนี่ยอาการรุนแรง
00:22:25 → 00:22:28 มากน้อยขนาดไหนรบกวนชีวิตประจำวันมั้ยนะ
00:22:28 → 00:22:32 คะเนาะอ่าแล้วก็จัดการอาการอันที่ 3 ที่
00:22:32 → 00:22:34 พูดถึงเมื่อกี้คือเรื่องของการติดต่อสื่อ
00:22:34 → 00:22:39 สารนะคะก็คือระหว่างลูกกับคุณแม่นะคะคุณ
00:22:39 → 00:22:43 แม่กับโรงเรียนนะคะคุณแม่กับโรงพยาบาลนะ
00:22:43 → 00:22:46 คะเราพยายามแชร์ข้อมูลกันนะคะเพื่อที่จะ
00:22:46 → 00:22:49 ให้ช่วยกันดูแลเด็กนะคะในเรื่องของ
00:22:49 → 00:22:54 ปัจจุบันซึ่งตัวสิ่งแวดล้อมเนี่ยนะคะมัน
00:22:54 → 00:22:57 มันเอ่อเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนะคะเราก็
00:22:57 → 00:22:59 ต้องอยู่กับมันค่ะแล้วก็ทำยังไงให้ผล
00:22:59 → 00:23:02 กระทบอันนั้นเนี่ยมันเกิดขึ้นน้อยที่สุด
00:23:02 → 00:23:06 นะคะตัวเรื่องของเอ่อการตรวจสอบสภาพอากาศ
00:23:06 → 00:23:11 ของในแต่ละวันนะคะทั้งตัวค่า aqi นะคะค่า
00:23:11 → 00:23:15 PM ก็ประเมินเลยว่าถ้าเป็นสีฟ้ากับสี
00:23:15 → 00:23:18 เขียวเป็นไงคะดีก็ให้เด็กมี activity
00:23:18 → 00:23:22 ข้างนอกได้นะคะอถ้าหากว่าเป็นสีออกเป็นสี
00:23:22 → 00:23:25 เหลืองสีส้มเนี่ยนะคะก็พยายามหลีกเลี่ยง
00:23:25 → 00:23:27 ค่ะเพราะว่าสภาพอากาศตอนนี้เขาก็พยากรณ์
00:23:27 → 00:23:29 อากาศประจำวันเหมือน
00:23:29 → 00:23:32 พยากรกันทุกวันนะทุกวันอยู่แล้วค่ะต้อง
00:23:32 → 00:23:35 ติดตามใช่ๆค่ะก็เพื่อสุขภาแต่ในเด็กเล็ก
00:23:36 → 00:23:38 ค่ะแต่ในายเด็กเล็กนะคะเด็กน้อยกว่า 2 ปี
00:23:38 → 00:23:41 ไม่แนะนำให้ใส่แมสนะคะเพราะว่าในกรณีที่
00:23:41 → 00:23:44 นายเด็กเล็กนะคะคือความจริงแล้วเนี่ยเด็ก
00:23:44 → 00:23:47 นะคะความสามารถที่เขาจะสูดลมหายใจแล้วก็
00:23:47 → 00:23:50 เอาออกซิเจนเข้าไปเนี่ยหรือว่าการหายใจ
00:23:50 → 00:23:52 ออกเพื่อที่จะเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออก
00:23:52 → 00:23:55 เนี่ยค่ะมันยังทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะ
00:23:55 → 00:23:58 ฉะนั้นพอเราใส่แมสเกิดมีโอกาสที่จะมีมี
00:23:58 → 00:24:02 การคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นออนะ
00:24:02 → 00:24:05 คะอ่างั้นก็เด็กก็จะได้รับออกซิเจนลดลงนะ
00:24:05 → 00:24:07 คะก็ต้องต้องฝากคุณผู้ฟังที่เป็นคุณพ่อ
00:24:08 → 00:24:10 คุณแม่ผู้ปกครองด้วยนะคะที่จะต้องช่วยกัน
00:24:10 → 00:24:13 แล้วก็โรคภูมิแพ้อากาศในเด็กเนี่ยเกิด
00:24:13 → 00:24:16 ขึ้นได้กับทุกคนนะคะก็แต่ถ้าเกิดไม่เป็น
00:24:16 → 00:24:18 เลยจะดีกว่านะก็ให้เด็กๆก็ดูแลสุขภาพให้
00:24:18 → 00:24:21 แข็งแรงกินอาหารดีมีประโยชน์ออกกำลังกาย
00:24:21 → 00:24:23 นะคะก็พื้นฐานทั่วไปแล้วก็จะได้สุขภาพ
00:24:23 → 00:24:26 แข็งแรงนะคะอ่อวันนี้ต้องขอบคุณอาจารย์
00:24:26 → 00:24:28 อพวค่ะที่มาร่วมพูดคุยในรายการงหมอของเรา
00:24:28 → 00:24:31 ในวันนี้ด้วยนะคะขอบคุณค่ะอาจารย์ขาค่ะ
00:24:31 → 00:24:35 ขอบคุณค่ะค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะ
00:24:35 → 00:24:37 คุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะเรากลับมาพบกัน
00:24:37 → 00:24:40 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PBS
00:24:40 → 00:24:43 podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ
00:24:43 → 00:24:46 This Is Thai PBS podcast อาหารที่
00:24:46 → 00:24:48 มีประโยชน์ช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้ได้
00:24:48 → 00:24:51 รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างไรร
00:24:51 → 00:24:54 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชผู้
00:24:54 → 00:24:56 เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมหาวิทยาลัย
00:24:56 → 00:24:58 ธุรกิจบัณฑิตมาเล่าให้ฟังครับ
00:24:58 → 00:25:03 องค์การอนามัยโลคหรือ Who จัดให้ PM 2.5
00:25:03 → 00:25:06 เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ 1
00:25:06 → 00:25:10 นั่นหมายความว่าหลักฐานชัดเจนสรองมากใน
00:25:10 → 00:25:13 การเกิดมะเร็งอาหารเนี่ยมันไม่ได้ป้องกัน
00:25:14 → 00:25:17 ว่าฝุ่นไม่เข้าสู่ร่างกายแต่อาหารมันจะ
00:25:17 → 00:25:21 ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นนั้นเนี่ยกระทบหรือ
00:25:21 → 00:25:23 ฝุ่นนั้นเนี่ยสร้างความเป็นพิษให้กับตัว
00:25:23 → 00:25:26 เราโอเมก้า 3 เป็นกดไขมันที่จำเป็นแล้วมี
00:25:26 → 00:25:30 ลิต้าอักเสบครับอืมีการศึกษาวิจัยเลยนะ
00:25:30 → 00:25:33 ครับไอ้โอเมก้า 3 เนี่ยที่พบมากในพวกปลา
00:25:33 → 00:25:36 จะเป็นปลาทะเลก็ได้หรือปลาน้ำจืดก็ได้นะ
00:25:36 → 00:25:38 ดุกสวายตะเพียนช่อนได้หมดเลยนะบางคนบอกอุ
00:25:38 → 00:25:41 ต้องไปกินปลาทะเลน้ำลึกมยไม่จำเป็นครับ
00:25:41 → 00:25:43 บางทีกินปลาตายน้ำตื้นก็ดีไม่สะสมโลหะ
00:25:43 → 00:25:46 หนักเยอะก็มีการศึกษาวิจัยทางคลินิกเลยนะ
00:25:46 → 00:25:49 ในกลุ่มผู้ใหญ่กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่
00:25:49 → 00:25:53 ในแหล่งที่มีฝุ่น PM สูงครับเพบว่าการได้
00:25:53 → 00:25:56 รับไอ้ไขมันโอเมก้า 3 จากปลาเนี่ยวันละ 2
00:25:56 → 00:26:01 กรัมช่วยลดผลเสียของฝุ่น PM 2.5 ทำลาย
00:26:01 → 00:26:04 ร่างกายลดการอักเสบของร่างกายได้ใครจะใช้
00:26:04 → 00:26:06 เป็นเม็ดเสริมอาจารย์ก็ต้องฝากไว้นิดนึง
00:26:07 → 00:26:09 ว่าเฮ้ยก็ต้องดูความเข้มข้นของโอเมก้า 3
00:26:09 → 00:26:12 ด้วยว่ามันมีปริมาณความเข้มข้นสูงมากน้อย
00:26:12 → 00:26:16 แค่ไหนมันก็จะมีกลุ่ม DH epa นะกลุ่มที่
00:26:16 → 00:26:19 ช่วยต้านการอักเสบได้ดีคือกลุ่ม epa
00:26:19 → 00:26:21 กลุ่มวิตามินที่ออกฤทธิ์ในการต่อต้าน
00:26:21 → 00:26:26 อนุมูลอิสระวิตามิน a c e มีฤทธิ์เป็น
00:26:26 → 00:26:28 แอนติออกซิแดนท์แล้วต่อต้านอนุมูลอิอสละ
00:26:28 → 00:26:31 ได้กลุ่มของวิตามินเอเนี่ยก็จะพบมากในพวก
00:26:31 → 00:26:37 แครอทตำลึงผักบุ้งฟักทองมันเทศมันหวาน
00:26:37 → 00:26:40 มะม่วงมะละกอโอโหเพียบเลยครับอันเนี้ยจะ
00:26:40 → 00:26:44 ดูแลสุขภาพปอดให้ดีขึ้นซึ่งจะมีส่วนช่วย
00:26:44 → 00:26:46 ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของเยื่อบุทาง
00:26:46 → 00:26:49 เดินหายใจอย่างวิตามินซีถ้าใครกินเสริม
00:26:49 → 00:26:52 อาจารย์ก็แนะนำอ่ะวันนึงเนี่ยปริมาณโดส
00:26:52 → 00:26:54 วิตามินซีเนี่ยเขาปรับใหม่อยบ้านเราปรับ
00:26:54 → 00:26:56 ใหม่ให้เป็นได้ถึง 1,000 มกรก็แนะนำอาจจะ
00:26:57 → 00:26:59 เสริมวันละ 500 อย่างเงี้ครับกินมื้อเช้า
00:27:00 → 00:27:03 น้ำ 1 แก้วมันก็จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
00:27:03 → 00:27:05 ระหว่างวันได้เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ
00:27:05 → 00:27:08 มันก็จะมีความปลอดภัยสูงหน่อยแล้วมันก็จะ
00:27:08 → 00:27:11 มีในกลุ่มของสารพฤกษสะเคมีเช่นเคอร์ซิติน
00:27:11 → 00:27:15 อันนี้จะดีต่อสุขภาพปอดมากมีงานวิจัยล่า
00:27:15 → 00:27:18 สุดเลยว่าเฮ้ยมันช่วยต้านความเป็นพิษของ
00:27:18 → 00:27:21 PM 2.5 ได้พบมากในหัวหอมครับจะหอมใหญ่
00:27:21 → 00:27:26 หอมแดงซิตินสูงมากแอปเปิ้ลแล้วก็ชาเขียว
00:27:26 → 00:27:30 องุ่นก็มีได้หมดองุ่นแดงองุ่นเขียวนะครับ
00:27:30 → 00:27:33 พวกนี้มันจะมีฤทธิ์ในการที่จะช่วยต่อต้าน
00:27:33 → 00:27:37 ความเป็นพิษของ PM
00:27:37 → 00:27:41 2.5 This Is Thai PBS
00:27:41 → 00:27:44 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:27:44 → 00:27:46 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:27:46 → 00:27:58 www.thaipbs.or.th
00:27:58 → 00:28:01 Apple podcast และ Sound Cloud
00:28:01 → 00:28:04 [เพลง]