00:00:00 → 00:00:03 โรค IPD ต้นเหตุปอดอักเสบรุนแรงในเด็ก
00:00:03 → 00:00:07 เล็กอันตรายถึงชีวิต IPD โรคติดเชื้อลุก
00:00:07 → 00:00:10 ลามในเด็กป้องกันได้ด้วย
00:00:10 → 00:00:14 วัคซีนรู้จักวิธีดูแลปอดเพิ่มภูมิต้านทาน
00:00:14 → 00:00:17 ให้ปอดแข็งแรงติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้
00:00:17 → 00:00:24 ในรายการ T and Health วัน
00:00:24 → 00:00:27 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ T
00:00:27 → 00:00:30 and Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพภาพ
00:00:30 → 00:00:33 เสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปด้วยกันค่ะ
00:00:33 → 00:00:36 และดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงชัดดาวจังวังกร
00:00:36 → 00:00:39 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อม
00:00:39 → 00:00:41 ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณ
00:00:41 → 00:00:50 ผู้ชมมาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกัน
00:00:50 → 00:00:56 [เพลง]
00:00:56 → 00:01:00 ค่ะและสำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมาพูดถึง
00:01:00 → 00:01:04 โรค IPD โรคติดเชื้อในปอดที่มีการอักเสบ
00:01:04 → 00:01:06 อย่างรุกลามค่ะเป็นอย่างไรนั้นไปฟังพร้อม
00:01:06 → 00:01:10 ๆกันค่ะโรค IPD หรือ invasive
00:01:10 → 00:01:13 pneumococcal disease เป็นการติดเชื้อ
00:01:13 → 00:01:16 แบบลุกลามโดยมีสาเหตุจากการติดเชื้อ
00:01:16 → 00:01:20 แบคทีเรียที่เรียกว่า streptococcus P
00:01:20 → 00:01:24 หรือนม coccus มักพบอาศัยอยู่ในโรงจมูก
00:01:24 → 00:01:28 และลำคอของคนที่เป็นพหะโดยไม่มีอาการอะไร
00:01:28 → 00:01:31 เชื้อกระจายไปสู่คนอื่นได้โดยการไอหรือ
00:01:32 → 00:01:36 จามทำให้มีละอองเสมหะแพร่กระทายออกไปและ
00:01:36 → 00:01:39 เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัส
00:01:39 → 00:01:42 สิ่งปนเปื้อนซึ่งคล้ายกับการแพร่กระจาย
00:01:42 → 00:01:46 ของโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่เชื้อนมคมี
00:01:46 → 00:01:49 มากกว่า 90 สายพันธุ์บางสายพันธุ์ก่อโรค
00:01:49 → 00:01:52 รุนแรงแต่บางสายพันธุ์ก็ไม่รุนแรงใน
00:01:52 → 00:01:55 ประเทศไทยพบว่ามี 13 สายพันธุ์ที่พบบ่อย
00:01:55 → 00:01:59 ซึ่งสายพันธุ์ 19a พบปัญหาดื้อยาสูงทำให้
00:01:59 → 00:02:02 รักษาได้ยากและพบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5
00:02:02 → 00:02:07 ปีซึ่งมีภูมิคุ้มกันน้อยอาการของโรค IP
00:02:07 → 00:02:10 เป็นอย่างไรโรค IPD มีอาการได้หลายอย่าง
00:02:10 → 00:02:13 ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่มีการติดเชื้อหากติด
00:02:13 → 00:02:17 เชื้อนิโมคอกคัสที่ปอดปอดจะอักเสบมักจะมี
00:02:17 → 00:02:20 อาการไข้ไอหายใจหอบเหนื่อยหากมีการติด
00:02:20 → 00:02:23 เชื้อที่ระบบประสาทเช่นเหยื่อหุมสมอง
00:02:23 → 00:02:26 อักเสพผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงปวดศีรษะ
00:02:26 → 00:02:30 รุนแรงคลื่นไส้อาเจียนคอแข็งในเด็กเล็กจะ
00:02:30 → 00:02:34 มีอาการงอแงซึมชักหากเกิดการติดเชื้อใน
00:02:34 → 00:02:37 กระแสเลือดผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงหายใจ
00:02:37 → 00:02:40 เร็วหัวใจเต้นเร็วอาจมีภาวะช็อกและอาจ
00:02:40 → 00:02:44 เสียชีวิตได้นอกจากนี้เชื้อนิโมคคัสยัง
00:02:44 → 00:02:46 สามารถทำให้เกิดโรคต่างๆได้อีกหลายโรค
00:02:46 → 00:02:49 อย่างที่ได้ระบุไปข้างต้นนะคะว่าขึ้นอยู่
00:02:49 → 00:02:52 กับอวัยวะที่มีการติดเชื้อเช่นโรคไซนัส
00:02:52 → 00:02:56 อักเสบโรคหูชั้นกลางอักเสบอาการปอดอักเสบ
00:02:56 → 00:02:59 หรือปอดบวมกระดูกข้ออักเสบเยื่อบุช่องทอง
00:02:59 → 00:03:02 อักเสบภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วคุณ
00:03:02 → 00:03:04 ผู้ชมทราบหรือไม่เชื้อแบคทีเรีย
00:03:04 → 00:03:07 นิวโมคอคคัสคือสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้
00:03:07 → 00:03:13 เกิดโรคปอดอักเสบแล้วปอดอักเสบคืออะไรปอด
00:03:13 → 00:03:16 อักเสบหรือที่ทั่วไปเรียกกันว่าปอดบวม
00:03:16 → 00:03:18 นั้นเป็นการอักเสบของเนื้อปอดซึ่งส่วน
00:03:18 → 00:03:21 ใหญ่เกิดจากการติดเชื้อโดยเชื้อโรคที่
00:03:21 → 00:03:24 เข้าสู่ปอดทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด
00:03:24 → 00:03:27 และเนื้อเยื่อโดยรอบการรับเชื้อสามารถ
00:03:27 → 00:03:30 เกิดได้หลายวิธีเช่นการ
00:03:30 → 00:03:34 หรือหายใจรกันการสำลักการแพร่กระจายของ
00:03:34 → 00:03:37 เชื้อตามกระแสเลือดเป็นต้นพบบ่อยในช่วง
00:03:37 → 00:03:41 ฤดูฝนและฤดูหนาวสาเหตุของปอดอักเสบเกิด
00:03:41 → 00:03:44 ได้จาก 2 สาเหตุได้แก่การติดเชื้อเป็น
00:03:44 → 00:03:47 สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดการติดเชื้อชนิด
00:03:47 → 00:03:52 ใดขึ้นอยู่กับกลุ่มอายุอาชีพโรคประจำตัว
00:03:52 → 00:03:55 ภาวะภูมิคุ้มกันประวัติการเดินทางต่าง
00:03:55 → 00:03:59 ประเทศการสูบบุหรี่และสภาพแวดล้อมเช่น
00:03:59 → 00:04:03 เชื้อไได้แก่เชื้อ rsv เชื้อไข้หวัดใหญ่
00:04:03 → 00:04:06 เชื้อโควิดเชื้อแบคทีเรียได้แก่เชื้อนิโม
00:04:06 → 00:04:09 คอกคัสเชื้อิฟิั
00:04:09 → 00:04:12 influenza เชื้อ atypical แคีและเชื้อรา
00:04:13 → 00:04:16 ซึ่งพบได้น้อยส่วนสาเหตุที่ 2 ไม่ได้เกิด
00:04:16 → 00:04:20 จากการติดเชื้อเช่นเกิดจากสารที่ก่อให้
00:04:20 → 00:04:23 เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
00:04:23 → 00:04:27 เช่นฝุ่นควันสารเคมีที่ระเหยได้นอกจากนี้
00:04:27 → 00:04:30 การใช้ยาบางชนิดเช่นยาเคมีมีบำบัดและยา
00:04:30 → 00:04:32 ที่ใช้ควบคุมการเต้นของหัวใจบางชนิดเป็น
00:04:33 → 00:04:36 ต้นคนส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียนโม
00:04:36 → 00:04:39 คอกคัสมักมีอาการไม่รุนแรงแต่หากเกิดการ
00:04:39 → 00:04:41 ติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้สามารถก่อ
00:04:41 → 00:04:44 ให้เกิดการติดเชื้อชนิดลูกลามหรือรุนแรง
00:04:44 → 00:04:48 ได้ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรค IPD สูงกว่า
00:04:48 → 00:04:51 ปกติโดยกลุ่มเสียงดังกล่าวได้แก่เด็กเล็ก
00:04:51 → 00:04:54 ที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปีเด็กที่อาศัยอยู่
00:04:54 → 00:04:57 กับผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่หรือได้รับควัน
00:04:57 → 00:05:01 บุหรี่ปริมาณมากเด็กที่ไม่ได้กินน้ำนมแม่
00:05:01 → 00:05:04 แล้วใครคือกลุ่มเสี่ยงเมื่อเป็นโรค IPD
00:05:04 → 00:05:08 แล้วจะมีอาการุนแรงผู้ที่มีโรคประจำตัว
00:05:08 → 00:05:11 เช่นผู้ที่ม้ามทำงานผิดปกติหรือมีการผ่า
00:05:11 → 00:05:14 ตัดเอาม้ามออกผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
00:05:14 → 00:05:18 ผู้ที่มีโรคหัวใจโรคปอดเรื้อรังโรคไตโรค
00:05:18 → 00:05:21 เบาหวานผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปี
00:05:21 → 00:05:26 ขึ้นไปรวมไปถึงผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำในไข
00:05:26 → 00:05:29 สันหลังรั่วจากภาวะพิการแตกกำเนิดเคยมี
00:05:30 → 00:05:32 ประวัติติดเชื้อในหูหรือผู้ที่มีการใส่
00:05:32 → 00:05:35 อุปกรณ์ฝังสำหรับความรุนแรงของโรค IPD
00:05:35 → 00:05:38 จากการติดเชื้อนิโมคอคัสข้อมูลจากกระทรวง
00:05:38 → 00:05:41 สาธารณสุขระบุว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
00:05:41 → 00:05:44 ทั่วโลกเสียชีวิตประมาณ 500,000 รายต่อปี
00:05:44 → 00:05:48 ส่วนในประเทศไทยพบว่าในพุทธศัก
00:05:48 → 00:05:51 2562 มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีติดเชื้อ
00:05:51 → 00:05:54 จำนวน 1,2 28 รายและเสียชีวิตสูงถึงร้อย
00:05:54 → 00:05:57 ละ 11 ทั้งนี้ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก
00:05:58 → 00:06:01 ยังพบว่ารคปอดอเสเป็นสาเหตุการเสียชีวิต
00:06:01 → 00:06:03 อันดับ 1 ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและเด็ก
00:06:03 → 00:06:06 ทารกที่เคยป่วยเป็นโรค IPD มีโอกาสสูญ
00:06:06 → 00:06:09 เสียการได้ยินพิการทางสมองการเคลื่อนไหว
00:06:09 → 00:06:12 ทางร่างกายผิดปกติและมีอาการชักได้ดัง
00:06:12 → 00:06:14 นั้นจึงเห็นได้ว่าเด็กเล็กเป็นกลุ่มเสี่ง
00:06:14 → 00:06:17 อย่างมากที่จะมีอาการรุนแรงแต่ทั้งนี้โรค
00:06:17 → 00:06:20 IPD จากการติดเชื้อนิโมคอคัสสามารถป้อง
00:06:20 → 00:06:24 กันได้ด้วยการฉีดวัคซีนและเรายังอยู่กัน
00:06:24 → 00:06:27 ที่โรค IPD ต้นเหตุปอดอักเสบรุนแรงในเด็ก
00:06:27 → 00:06:30 เล็กอันตรายถึงชีวิตนะคะในช่วงนี้ค่ะเรา
00:06:30 → 00:06:33 จะไปพูดคุยกับอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:06:34 → 00:06:37 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:06:37 → 00:06:38 เลยนะ
00:06:38 → 00:06:44 [เพลง]
00:06:44 → 00:06:49 คะอาจารย์คะโรค IPD จากเชื้อนโมคอคัสคือ
00:06:49 → 00:06:53 อะไรคะ IPD นะคะก็ย่อมาจาก invasive
00:06:53 → 00:06:56 neocal disease นะคะแล้วก็เป็นโรคที่
00:06:56 → 00:06:58 เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า
00:06:58 → 00:07:01 เชื้อสปต cus pia หรือว่าที่เราเรียกว่า
00:07:01 → 00:07:05 neocal disease นั่นเองนะคะแล้วก็โดย
00:07:05 → 00:07:08 ทั่วไปเป็นโรคที่พบได้ในทุกๆกลุ่มคนแต่
00:07:08 → 00:07:11 ว่าอ่าตามอายุเนี่ยเราจะเจอในเด็กเล็กโดย
00:07:12 → 00:07:16 เฉพาะน้อยๆกว่า 3-5 ปีเลยแล้วก็เจอเยอะใน
00:07:16 → 00:07:19 ผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปมาก
00:07:19 → 00:07:21 กว่าเท่ากับ 65 ปีขึ้นไปนะคะแต่ว่าใน
00:07:21 → 00:07:25 บรรดาระหว่างนั้นก็คือคนกลุ่มอื่นก็เจอ
00:07:25 → 00:07:28 ได้แต่มักจะเป็นคนที่มีโรคประจำตัวหรือมี
00:07:28 → 00:07:31 ภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีความรุนแรง
00:07:31 → 00:07:35 ของโรคแล้วโรค IPD ทำไมถึงอันตรายในเด็ก
00:07:35 → 00:07:38 เล็กได้ค่ะเดี๋ยวหมอเท้าความกลับไปนิดนึง
00:07:38 → 00:07:40 แล้วกันคือ IPD เป็นคำรวมเราบอกว่าเป็น
00:07:41 → 00:07:43 อ่าการติดเชื้อจากเชื้อ neocal disease
00:07:43 → 00:07:46 หรือ neus เนี่ยเชื้อตัวนี้เนี่ยทำให้
00:07:46 → 00:07:49 เกิดการติดเชื้อหลักๆคือจากการหายใจเข้า
00:07:49 → 00:07:51 ไปเนาะแล้วเราก็ทำให้เกิดการติดเชื้อลงไป
00:07:51 → 00:07:55 ในปอดพอลงไปในปอดเนี่ยทำให้เกิดภาวะปอด
00:07:55 → 00:07:58 ติดเชื้อแล้วบางทีมันก็ทำให้เกิดความรุน
00:07:58 → 00:08:00 แรงขนาดที่ทำให้เข้าไปในกระแสเลือดพอเข้า
00:08:00 → 00:08:03 ไปในกระแสเลือดเนี่ยมีคนไข้กลุ่มนึงที่พอ
00:08:03 → 00:08:05 เข้าไปในเลือดแล้วเนี่ยเชื้อมันขึ้นไปที่
00:08:05 → 00:08:08 สมองทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง
00:08:08 → 00:08:11 หรือการติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมองนะคะที
00:08:11 → 00:08:13 นี้อุบัติการณ์ที่เจอเนี่ยโดยทั่วไปเนี่ย
00:08:13 → 00:08:18 อ่าตอนที่เราเป็นเด็กเราจะเจอพบว่าเด็ก
00:08:18 → 00:08:20 เนี่ยสามารถที่จะรับเชื้อเข้ามาหรือเรียก
00:08:20 → 00:08:24 ว่าลซเนี่ยได้ค่อนข้างเยอะการที่ colonize
00:08:24 → 00:08:27 หมายความว่าเข้าไปแล้วอยู่ในพวงจมูกแล้ว
00:08:27 → 00:08:30 มันไม่ได้ก่อให้เกิดอาการแต่เมื่อไหร่ก็
00:08:30 → 00:08:32 ตามในคนกลุ่มเนี้ยบางทีเนี่ยมันเกิดการ
00:08:32 → 00:08:36 แบ่งตัวของเชื้อเข้าไปในเยื่อบุพวงจมูก
00:08:36 → 00:08:38 หรือทางเดินหายใจที่เรียกว่า epithelial
00:08:38 → 00:08:40 cells พอเข้าไปปั๊บทำให้เกิดการแบ่งตัว
00:08:40 → 00:08:43 แล้วถ้าภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่สามารถมา
00:08:43 → 00:08:45 กำจัดหรือเคลียร์เชื้อได้ก็ทำให้เกิดการ
00:08:45 → 00:08:47 ติดเชื้อแต่โดยทั่วไปจะตั้งต้นที่การติด
00:08:47 → 00:08:50 เชื้อในปอดนะคะอย่างไรก็ตามเนี่ยเชื้อตัว
00:08:50 → 00:08:53 นี้บางทีไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเจอในปอดอยู่ดี
00:08:53 → 00:08:56 ๆก็เจอเป็นไข้หนาวสั่นแล้วก็เจอในกระแส
00:08:56 → 00:08:59 เลือดนะคะแล้วก็พบเชื้อในเลือดบางคนก็ไป
00:08:59 → 00:09:02 เจอเจอในข้อบางคนก็ไปเจอที่การติดเชื้อ
00:09:02 → 00:09:04 ที่หัวใจซึ่งเจอได้น้อยบางทีก็ขึ้นไปที่
00:09:04 → 00:09:07 สมองนะคะทีนี้ในเด็กเนี่ยกับในผู้ใหญ่
00:09:07 → 00:09:09 เนี่ยเป็นกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากว่าภูมิ
00:09:09 → 00:09:11 คุ้มกันในร่างกายเนี่ยในกลุ่ม 2 กลุ่มนี้
00:09:11 → 00:09:14 เนี่ยไม่ค่อยจะมีความสามารถที่จะกำจัด
00:09:14 → 00:09:17 เชื้อได้แล้วก็เคลียร์ไม่ได้ก็ทำให้ 2
00:09:17 → 00:09:20 กลุ่มนี้เกิดการติดเชื้อแล้วก็มาเจ็บป่วย
00:09:20 → 00:09:24 ต้องนอนในโรงพยาบาลมากกว่ากลุ่มอื่นหมอจะ
00:09:24 → 00:09:25 ย้อนให้ฟังแล้วกันเพราะว่างานวิจัยใน
00:09:25 → 00:09:28 ประเทศไทยเรื่อง neocal disease เนี่ย
00:09:28 → 00:09:30 พูดถึงแล้วแต่ก่อนเนี่ยไม่ได้เยอะมากจน
00:09:30 → 00:09:32 เราคิดว่าโลกนี้ไม่ใช่โลกในประเทศไทยหรือ
00:09:32 → 00:09:35 พบได้น้อยนะคะแต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยเนื่อง
00:09:35 → 00:09:39 จากว่าข้อจำกัดในการตรวจหาเชื้อเพราะว่า
00:09:39 → 00:09:41 เชื้อพวกนี้เนี่ยเราเจอในกระแสเลือดแค่ 20
00:09:41 → 00:09:43 กว่าเปอร์เซ็นเท่านั้นเองเวลาเราป่วยเรา
00:09:43 → 00:09:46 มีไข้หนาวสั่นแล้วมีอาการของทางเดินหายใจ
00:09:46 → 00:09:48 เช่นเหนื่อยหรือไอเนี่ยเราเจอเชื้อพวก
00:09:48 → 00:09:52 เนี้ยบางทีเพราะไม่ขึ้นง่ายๆแล้วก็ไปเจอ
00:09:52 → 00:09:55 ในเลือดประมาณ 25% ของคนที่ป่วยทั้งๆที่
00:09:55 → 00:09:58 มีปอดอักเสบทำให้เราคิดว่าเราไม่มีโรคนี้
00:09:58 → 00:10:01 ในประเทศไทยหรือว่าเจอได้น้อยจริงๆมันมี
00:10:01 → 00:10:03 โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว
00:10:03 → 00:10:06 ก็คือว่าอายุน้อยหรืออายุมากๆไปเลยหรือ
00:10:06 → 00:10:09 กลุ่มเสี่ยงที่กินยากดภูมิคนไข้มีโรค
00:10:09 → 00:10:12 ประจำชัวช่โรคหัวใจโรคปอดโรคไตโรคมะเร็ง
00:10:12 → 00:10:15 ทั้งหลายนะคะพวกนี้ก็ทำให้เกิดความเสี่ยง
00:10:15 → 00:10:17 การติดเชื้อแล้วก็เป็นได้มากทำให้พวกนี้
00:10:17 → 00:10:19 เขาเข้ามาในโรงพยาบาลฉะนั้นข้อมูลใน
00:10:19 → 00:10:23 ประเทศไทยในโลกเก็จะเก็บจากข้อมูลที่มา
00:10:23 → 00:10:26 วิสิตหรือนอนโรงพยาบาลซึ่งตีพิมพ์ไปสัก
00:10:26 → 00:10:28 ประมาณ 10 กว่าปีก่อนมีอยู่อย่างน้อยก็
00:10:28 → 00:10:31 สัก 2 ของเปเปอร์ที่น่าสนใจที่ทำไปทำให้
00:10:31 → 00:10:33 เพราะว่าจริงๆโลกนี้มีอยู่ในประเทศไทยและ
00:10:33 → 00:10:37 ก็เป็นโรคสำคัญที่ทำให้คนไข้เราอ่านอนลง
00:10:37 → 00:10:41 พยาบาลนานหรือเสียชีวิตได้นะคะโรค IPD
00:10:41 → 00:10:44 ค่ะสามารถติดเชื้อได้ในหลายอวัยวะแล้ว
00:10:44 → 00:10:47 ทำไมถึงมักจะเป็นมากที่ปอดและอาการเป็น
00:10:47 → 00:10:49 อย่างไรคะโดยส่วนมากเนื่องจากมันนำมาจาก
00:10:49 → 00:10:52 ปอดฉะนั้นอาการโดยทั่วไปก็จะเป็นการติด
00:10:52 → 00:10:55 เชื้อที่ปอดทั่วๆไปเวลาเราติดเชื้อที่ปอด
00:10:55 → 00:10:59 อาการนำเราคือไข้แล้วเราก็จะมีอาการของ
00:10:59 → 00:11:01 อาการเหนื่อยหรือไอหรือบางคนอาจจะเจ็บ
00:11:02 → 00:11:04 หน้าอกนะคะแต่ในเด็กนี่น่าสนใจเพราะบางที
00:11:04 → 00:11:07 อาการไม่ใช่เฉพาะแค่นี้เด็กอาจจะคลื่นไส้
00:11:07 → 00:11:10 อาเจียนมากกว่าผู้ใหญ่ด้วยนะคะแล้วก็หรือ
00:11:10 → 00:11:13 ว่างอแงหรือซึมผิดปกติอาจารย์ขาโรค IPD
00:11:13 → 00:11:16 วินิจชัยได้อย่างไรและจะแยกโรคค่ะจากโรค
00:11:16 → 00:11:19 ไข้หวัดหรือว่าโรคติดเชื้อทางปอดอื่นๆได้
00:11:19 → 00:11:22 อย่างไรบ้างคะยทั่วไปเวลาคนๆนึงเข้ามา
00:11:22 → 00:11:27 เนี่ยถ้าเข้ามาตรวจที่ opd เนี่ยเราอาจจะ
00:11:27 → 00:11:31 ไม่ได้ใช้การตรวจตวเยอะเพื่อหาเชื้อโดย
00:11:31 → 00:11:35 ทั่วไปเวลาเราจะตรวจหาเชื้อเนี่ยเราจะดู
00:11:35 → 00:11:37 ในกลุ่มที่คนไข้ที่ค่อนข้างหนักแล้วจะ
00:11:37 → 00:11:40 ต้อง admit ในโรงพยาบาลนะคะพวกนี้ก็จะมี
00:11:40 → 00:11:42 วิธีการตรวจหลายอย่างเบื้องต้นคือถ้าเรา
00:11:42 → 00:11:45 จะสกรีนหาเชื้อไวรัสเราก็สามารถตรวจหา
00:11:45 → 00:11:48 ไวรัสของระบบทางเดินหายใจได้นะคะซึ่งก็
00:11:48 → 00:11:50 จริงๆพูดถึงก็มีประโยชน์นะคะเพราะว่าการ
00:11:50 → 00:11:52 สรีนหาเชื้อไวรัสเนี่ยถ้าเรารู้ว่าเป็น
00:11:52 → 00:11:56 ไวรัสอะไรเนี่ยเราบางทีอาจจะทำให้เราใช้
00:11:56 → 00:11:58 ยาฆ่าเชื้อน้อยลงด้วยเพราะว่าเรารู้ว่า
00:11:58 → 00:12:00 มันเป็นไวรัสไวรัสส่วนมากถถ้าไม่นับไข้
00:12:00 → 00:12:03 หวาดใหญ่กับโควิดเรารักษาตามอาการอยู่
00:12:03 → 00:12:06 แล้วนะฮะทีนี้ในกลุ่มคนไข้ที่เ่าเราคิด
00:12:06 → 00:12:09 ว่ามันไม่เหมือนไวรัสหรือว่าแยกโรคไม่ได้
00:12:09 → 00:12:12 เราก็จะเก็บอ่าสิ่งส่งตรวจอย่างอื่นเพิ่ม
00:12:12 → 00:12:14 เติมเช่นเสมหะหรือเพาะเชื้อในเลือดซึ่ง
00:12:14 → 00:12:16 เน้นมากว่าต้องเพาะเชื้อในเลือดสำหรับโรค
00:12:17 → 00:12:19 ตัวนี้เพราะว่าการเก็บเสมหะอย่างเดียวไป
00:12:19 → 00:12:21 ย้อมหรือไปเพาะเชื้อเนี่ยอาจจะไม่ได้เจอ
00:12:21 → 00:12:24 ทุกเคสฉะนั้นต้องประกอบการรักษาร่วมกันก็
00:12:24 → 00:12:28 คือว่าต้องวินิจฉัยทั้งเเรปอดเก็บเสมหะไป
00:12:28 → 00:12:31 ตรวจแล้วก็เพาะเชื้อในเลือดหรือในบางราย
00:12:31 → 00:12:33 ถ้าสมมุติว่าโดยเฉพาะในผู้ใหญ่เนี่ยเรา
00:12:33 → 00:12:36 อาจจะต้องตรวจปัสสาวะเพิ่มเพื่อดูหาเชื้อ
00:12:36 → 00:12:40 ซึ่งปัจจุบันก็ทำได้ในหลายๆที่แล้วค่ะ
00:12:40 → 00:12:44 แล้วโรค IPD ค่ะรักษาได้อย่างไรคะการ
00:12:44 → 00:12:47 รักษาให้ยาฆ่าเชื้อค่ะแล้วก็มียาฆ่าเชื้อ
00:12:47 → 00:12:50 ประเทศไทยก็มียาฆ่าเชื้อทนี้ในกลุ่มคนไข้
00:12:50 → 00:12:53 ที่ไม่ได้รุนแรงนะคะก็คือว่าปอดอักเสบ
00:12:53 → 00:12:55 หรือว่ามีการติดเชื้อเนี่ยบางกลุ่มก็ไม่
00:12:55 → 00:12:59 ต้องนอนโรงพยาบาลก็ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นทาง
00:12:59 → 00:13:02 ทางการกินก็ได้แต่ในกรณีที่ออกซิเจนใน
00:13:02 → 00:13:05 เลือดต่ำหรือกินไม่ได้หรือมีไข้สูงหรือ
00:13:05 → 00:13:07 ซึมเยอะพวกนี้เราแอดมิแล้วเราก็จะมีการ
00:13:07 → 00:13:11 ให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือดค่ะอรุนแรงได้
00:13:11 → 00:13:14 ค่ะถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้นะคะก็คือเมื่อ
00:13:14 → 00:13:16 ไหร่ที่เราเจอแล้วเราคิดว่าอาการของโรค
00:13:16 → 00:13:19 ไม่ใช่เป็นแค่ colonization นะคะโดยเฉพาะ
00:13:19 → 00:13:21 ในผู้ใหญ่ถ้าสมมุติเราเจอเชื้อนี้เรา
00:13:21 → 00:13:25 รักษาแน่นอนค่ะก็อ่าถ้าปล่อยไว้คงมีความ
00:13:25 → 00:13:27 เสี่ยงต่อการเกิดผลแทรกซ้อนตามมาบางทีมัน
00:13:27 → 00:13:30 ไม่ใช่เป็นผลแทรกซ้อนเรื่องของการติด
00:13:30 → 00:13:32 เชื้อเองแต่เป็นผลแทรกซ้อนโดยเฉพาะในผู้
00:13:32 → 00:13:35 ใหญ่ในเรื่องของ cardiovascular eff
00:13:35 → 00:13:39 หรือว่าโรคหัวใจหรืออย่างอื่นตามมาค่ะโรค
00:13:39 → 00:13:43 IPD มีวิธีการป้องกันได้อย่างไรคะอืการ
00:13:43 → 00:13:46 ป้องกันหลักนะคะก็คือการฉีดวัคซีนค่ะที
00:13:46 → 00:13:49 นี้การฉีดวัคซีนเนี่ยมีวัคซีนอยู่หลาย
00:13:49 → 00:13:53 ชนิดที่ใช้นะคะที่ฝรั่งเขาเรียกว่าอ่า
00:13:53 → 00:13:56 ลิซาวัคซีนซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ออกมานานละ
00:13:56 → 00:13:59 ประมาณ 20 ปีอย่างน้อยะแล้วก็ vaccine ที
00:14:00 → 00:14:01 นี้ conjugated vaccine เนี่ยมันก็จะมี
00:14:01 → 00:14:04 หลายชนิดมีหลาย serotype นะคะในปัจจุบัน
00:14:04 → 00:14:07 ของประเทศไทยก็มี conjugated vaccine
00:14:07 → 00:14:09 ที่ครอบคลุมรไ type ทั้งหมด 13 และ 15
00:14:09 → 00:14:11 สายพันธุ์แต่ว่าที่อเมริกาหรือต่างประเทศ
00:14:11 → 00:14:14 เนี่ยตอนนี้ไปถึง 20 หรือ 21 สายพันธุ์
00:14:14 → 00:14:17 แล้วนะคะก็สามารถฉีดวัคซีนได้เพว่าวิธี
00:14:18 → 00:14:21 การฉีดวัคซีนก็จะมีความต่างจาก 20 ปีก่อน
00:14:21 → 00:14:23 เนื่องจากว่า conjugated วักซีนเนี่ยจะทำ
00:14:23 → 00:14:25 ให้ภูมิพุ้มกันในร่างกายเนี่ยกระตุ้นได้
00:14:25 → 00:14:29 ขึ้นและจำได้จำเชื้อได้แล้วเราก็อาจจะ
00:14:29 → 00:14:31 สามารถที่จะมีความสมารถในการป้องกันเชื้อ
00:14:31 → 00:14:35 อ่าได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นเก่าๆค่ะการฉีด
00:14:35 → 00:14:39 วัคซีนค่ะอาจารย์มีผลข้างเคียงหรือไม่คะ
00:14:39 → 00:14:41 ผลข้างเคียงของวัคซีนก็คือ
00:14:41 → 00:14:45 เจ็บก็คือเจ็บแล้วก็ส่วนมากเนี่ยถ้าเป็น
00:14:45 → 00:14:47 conjugated วักซีนอาจจะกระตุ้นทำให้เกิด
00:14:47 → 00:14:50 reaction ที่ทางผิวหนังคือบวมแดงร้อน
00:14:50 → 00:14:54 หรือมีตุ่มได้มากกว่าอีกโพลีแซคคาไรด์นะ
00:14:54 → 00:14:57 คะแต่ว่าไข้เอ่อหรือว่าอาการปวดเมื่อย
00:14:57 → 00:15:00 เนี่ยเป็นเรื่องปกติของวัคซีนโดยทไป 2-3
00:15:00 → 00:15:04 วันก็หายแล้วใครคือผู้ที่ควรได้รับการฉีด
00:15:04 → 00:15:07 วัคซีนคะเนื่องจากว่าเราเดี๋ยวนี้เราไม่
00:15:07 → 00:15:10 ฉีดลิซาอย่างเดียวนำะเนื่องจากความสามารถ
00:15:10 → 00:15:12 ในการกระตุ้นภูมิเนี่ยมันจะต่ำกว่า
00:15:12 → 00:15:15 conjugated วักซีนเราจะฉีด conjugated
00:15:15 → 00:15:17 vaccine ก่อนในกรณีที่ไม่เคยได้รับการ
00:15:17 → 00:15:21 ฉีดวัคซีนมาก่อนนะคะแล้วก็ตามมาด้วยลิซา
00:15:21 → 00:15:23 วัคซีนให้หลังขึ้นอยู่กับว่าเป็นกลุ่ม
00:15:23 → 00:15:25 เสี่ยงกลุ่มไหนรายละเอียดมันจะค่อนข้าง
00:15:25 → 00:15:27 เยอะแต่หมอว่าที่สำคัญที่สุดคือว่ากลุ่ม
00:15:27 → 00:15:30 ไหนที่ต้องฉีดมากกว่าก็คือว่ากลุ่มโดย
00:15:30 → 00:15:33 ทั่วไปเนี่ยในคนไข้ที่อายุเยอะนะคะเราพูด
00:15:33 → 00:15:35 ถึงเยอะนี่หมายถึงมากกว่าเท่ากับ 65 ปีนะ
00:15:35 → 00:15:38 แต่ว่าจริงๆสมัยนี้ 65 ยังถือว่าอายุน้อย
00:15:38 → 00:15:40 นะทุกคนยังทำงานอยู่แต่เราก็อยากให้คนสูง
00:15:41 → 00:15:43 วัยยที่ไปทำงานเนี่ยแข็งแรงเนอะก็สามารถ
00:15:43 → 00:15:46 ที่จะฉีดวัคซีนได้แล้วก็นอกจากนี้ถ้า
00:15:46 → 00:15:49 สมมุติไม่ถึงอายุ 65 เนี่ยถ้าเป็นอดคือ
00:15:49 → 00:15:52 อายุ 19 -64 เนี่ยถ้ามีอ่ามีภาวะเสี่ยง
00:15:52 → 00:15:56 กลุ่มเสี่ยงเช่นโรคหัวใจโรคปอดโรคตับโรค
00:15:56 → 00:15:59 ไตโรคเบาหวานพวกนี้ควรฉีดหรือเป็นกลุ่ม
00:15:59 → 00:16:03 ที่อาจจะไม่มีม้ามหรือม้ามทำงานไม่ได้ควร
00:16:03 → 00:16:06 ฉีดหรือเป็นกลุ่มที่กินยากดภูมิหรือมี
00:16:06 → 00:16:08 ภาวะภูมิคุ้มความต่ำไม่ว่าจะเป็นการติด
00:16:08 → 00:16:11 เชื้อ hiv หรือว่าปลูกถ่ายอวยวะหรือได้ยา
00:16:11 → 00:16:15 เคมีบำบัดทั้งหลายแหล่ก็ควรฉีดหรือในบาง
00:16:15 → 00:16:17 กรณีกรณีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่
00:16:17 → 00:16:20 เยื่อหุ้มสมองได้ได้แก่กลุ่มที่ทำลีย
00:16:20 → 00:16:24 implant คือฝังตัวอ่าการเอ่อ implant
00:16:24 → 00:16:26 เข้าไปที่คอเคลียรพวกนี้นะคะก็ก็ก็ควรจะ
00:16:26 → 00:16:29 ฉีดด้วยค่ะ
00:16:29 → 00:16:31 ใครคือกลุ่มที่ต้องระวังในการฉีดวัคซีน
00:16:31 → 00:16:34 นมัค่ะอาจารย์กลุ่มคนไข้ที่เคยได้รับ
00:16:34 → 00:16:38 วัคซีนดิป teria นะคะแล้วก็มีปัญหาจาก
00:16:38 → 00:16:40 วัคซีนคือแพ้โดยเฉพาะแพ้รุนแรงแบบ anap
00:16:40 → 00:16:44 laxis anap laxis หมายถึงแพ้แบบหายใจ
00:16:44 → 00:16:47 ไม่ได้แน่นหน้าอกหรือมีอาการบวมอันนี้คือ
00:16:47 → 00:16:50 เป็นข้อห้ามในการใช้วัคซีน conjugated
00:16:50 → 00:16:52 หรือ pcv สิ่งที่หมออยากจะฝากไว้ใน
00:16:52 → 00:16:55 ประสบการณ์ของหมอโรคติดเชื้อเนี่ยคือว่า
00:16:55 → 00:16:58 สังคมไทยเนี่ยเป็น extended Family คือ
00:16:58 → 00:17:00 เราไม่ได้อยู่เป็น single family เสมอ
00:17:00 → 00:17:04 เรามีปู่ย่าตายายหรือมีคุณพ่อคุณแม่ลุง
00:17:04 → 00:17:06 ป้าน้าอาที่อาจจะอายุแลอายุสูงอายุแล้ว
00:17:06 → 00:17:09 แล้วอาจจะไม่ได้มาโรงพยาบาลบ่อยๆแต่มี
00:17:09 → 00:17:12 ความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโลคฉะนั้นการ
00:17:12 → 00:17:14 ที่เราเนี่ยฉีดวัคซีนแล้วเด็กๆฉีดวัคซีน
00:17:15 → 00:17:19 เนี่ยก็จะทำให้มันลดโอกาสที่จะลซหรือมี
00:17:19 → 00:17:22 เชื้อและนำเชื้อไปให้สู่คนที่เรารักใกล้
00:17:22 → 00:17:24 บ้านใกล้ตัวฉะนั้นหมอเลยคิดว่าวัคซีนเป็น
00:17:24 → 00:17:27 เรื่องที่จริงๆเราช่วยกันได้แล้วที่สำคัญ
00:17:27 → 00:17:30 อย่างนึงก็คือว่าการที่เราจะติดเชื้ออ่า
00:17:30 → 00:17:34 นโมคคัสเนี่ยส่วนนึงมันจะสัมพันธ์กับ
00:17:34 → 00:17:36 ไวรัสด้วยฉะนั้นเวลาเราบอกว่าเราต้องกัน
00:17:36 → 00:17:40 อ่า IPD เนี่ยเราไม่แนะนำให้ยูคิดถึงแต่
00:17:40 → 00:17:43 การป้องกัน IPD เราควรจะต้องฉีดวัคซีนไข้
00:17:43 → 00:17:45 หวัดใหญ่ด้วยเนื่องจากว่าอย่างที่เคย
00:17:45 → 00:17:48 เกริ่นไปคือเวลาเราเป็นไข้หวัดใหญ่เราพบ
00:17:48 → 00:17:50 ในคนไข้ที่มีความรุนแรงของโรคถึงเสีย
00:17:50 → 00:17:53 ชีวิตเราเพบว่าถ้าเราดูในเนื้อปอดเนี่ย
00:17:53 → 00:17:56 เจอเชื้อแบคทีเรียในนี้ในปอดฉะนั้นเวลา
00:17:56 → 00:17:58 เราฉีดเราควรจะฉีดวัคซีนไข้ฝัดใหญ่คู่กับ
00:17:58 → 00:18:01 ปอดอักเสบเพื่อให้ไม่เป็นหรือลดความำรของ
00:18:01 → 00:18:05 โรคของไข้หวัดใหญ่แล้วจะทำให้โอกาสที่มัน
00:18:05 → 00:18:08 มีภาวะแทรกซ้อนจากปอดอักเสบนีโมคอกคัส
00:18:08 → 00:18:11 เข้ามาเนี่ยมันน้อยลงตามลำดับด้วยนะคะนี่
00:18:11 → 00:18:14 คือเป้าหมายสำคัญหมอก็เลยคิดว่าถ้าจะฝาก
00:18:14 → 00:18:18 ไว้เนี่ย IPD เป็นเรื่องที่บางทีเรานึก
00:18:18 → 00:18:21 ไม่ถึงแต่ถ้าเรามองกลับกันเราพูดถึงไข้
00:18:21 → 00:18:24 หวัดใหญ่ใครๆก็รู้จักแต่เราจะรู้ว่าจริงๆ
00:18:24 → 00:18:26 แล้วไข้หวัดใหญ่ที่มีความแรงของโรคส่วน
00:18:26 → 00:18:28 นึงไม่ใช่ว่าเป็นัไข้หวัดใหญ่อย่างเดียวเ
00:18:28 → 00:18:30 ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วตามมาด้วย IPD
00:18:30 → 00:18:33 หรือมีภาวะแทรกซ้อนฉะนั้นเวาเราฉีดวัคซีน
00:18:33 → 00:18:35 อยากให้มองเป็นภาพรวมว่าถึงวัยตามนี้
00:18:35 → 00:18:38 เนี่ยควรจะฉีดอะไรคงไม่ได้มองแต่การฉีด
00:18:38 → 00:18:41 IPD เมื่อไหร่ก็ตามที่มี IPD มีไข้หวัด
00:18:41 → 00:18:44 ใหญ่เมื่อไหร่ก็ตามโควิดระบาดเราฉีดโควิด
00:18:44 → 00:18:48 วัคซีนตามเหมาะสมขอบพระคุณอาจารย์นะคะที่
00:18:48 → 00:18:51 มาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโรค IPD
00:18:51 → 00:18:54 ให้มากขึ้นและในช่วงนี้นะคะคุณผู้ชมเรามา
00:18:54 → 00:18:58 รู้วิธีกันดีกว่าในการดูแลปอดเพิ่มภูมิ
00:18:58 → 00:19:02 ต้านทานให้ปอดแข็งแรงค่ะออกกำลังกาย
00:19:02 → 00:19:05 บริหารปอดการออกกำลังกายไม่ได้ช่วยลดความ
00:19:05 → 00:19:08 อ้วนหรือทำให้มีแค่กล้ามเนื้อเท่านั้นแต่
00:19:08 → 00:19:11 ยังเป็นวิธีทำให้สุขภาพปอดแข็งแรงเวลาที่
00:19:11 → 00:19:14 ออกกำลังกายหัวใจจะเต้นเร็วขึ้นและปอดจะ
00:19:14 → 00:19:17 ทำงานหนักขึ้นและนั่นก็คือการบริหารปอด
00:19:17 → 00:19:20 นั่นเองหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการทำลายปอดควร
00:19:20 → 00:19:23 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้
00:19:23 → 00:19:26 ห่างไกลจากปัจจัยที่ทำลายปอดหรือส่งผล
00:19:26 → 00:19:29 กระทบต่อระบบภูมิต้านทานโดยตรงโดยเฉเฉพาะ
00:19:29 → 00:19:31 การสุบบุหรี่คนที่สุบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็น
00:19:31 → 00:19:34 บุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ที่เป็นไฟจุดมักมี
00:19:34 → 00:19:37 ปัญหาสุขภาพปอดเรื้อรังมากกว่าคนที่ไม่
00:19:37 → 00:19:41 สูบเช่นโรคปอดอักเสบโรคถุงลมโป่งพองโรค
00:19:41 → 00:19:45 ปอดบวมโรคหล่อนลมอุดกั้นเรื้อรังรวมไปถึง
00:19:45 → 00:19:48 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วยซึ่ง
00:19:48 → 00:19:50 เป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงโรคติดเชื้อ
00:19:50 → 00:19:53 ในปอดเพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายระบบ
00:19:53 → 00:19:56 ภูมิคุ้มกันของร่างกายการติดเชื้อของปอด
00:19:56 → 00:19:59 ลดลงรวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงการสุดดมกลิ่น
00:19:59 → 00:20:02 ควันรถยนต์อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดเป็น
00:20:02 → 00:20:05 มะเร็งปอดได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
00:20:05 → 00:20:09 ค่ะโดยเฉพาะอาหารที่ช่วยในการลดหรือว่า
00:20:09 → 00:20:12 ต้านอนุมูลอิสระได้แก่พืชผักผลไม้อย่าง
00:20:12 → 00:20:15 เช่นแอปเปิ้ลบรอกโคลีรวมไปถึงเนื้อสัตว์
00:20:15 → 00:20:19 ที่ดีมีประโยชน์ด้วยถั่วเมล็ดธัญพืชต่างๆ
00:20:19 → 00:20:22 ค่ะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอสำหรับผู้
00:20:22 → 00:20:26 ใหญ่ที่มีอายุ 18-6 ปีควรนอนหลับพักผ่อน
00:20:26 → 00:20:29 ให้เพียงพออย่างน้อยวันละประมาณ 7 ถึง 8
00:20:29 → 00:20:32 ชมเพื่อให้อวัยวะสำคัญได้ทำงานและซ่อมแซม
00:20:32 → 00:20:34 ส่วนที่สึกหรอของร่างกายอย่างมี
00:20:34 → 00:20:36 ประสิทธิภาพซึ่งการนอนหลับเกี่ยวข้องกับ
00:20:36 → 00:20:39 การทำงานของต่อมไร้ท่อและระบบภูมิคุ้มกัน
00:20:39 → 00:20:43 ของร่างกายคนที่อดนอนหรือนอนดึกติดต่อกัน
00:20:43 → 00:20:47 เป็นระยะเวลานานมักมีปัญหาด้านสุขภาพสภาพ
00:20:47 → 00:20:50 จิตใจทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงภูมิต้านทาน
00:20:50 → 00:20:53 ต่อเชื้อโรคลดลงเจ็บป่วยได้ง่ายรู้สึก
00:20:53 → 00:20:56 อ่อนเพลียนในเวลากลางวันและอาจเกิดปัญหา
00:20:56 → 00:20:59 สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจได้อีก
00:20:59 → 00:21:02 ด้วยดื่มน้ำให้ปอดชุ่มชื้นการดื่มน้ำ
00:21:02 → 00:21:04 เปล่าสะอาดถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก
00:21:04 → 00:21:07 ต่อร่างกายมีส่วนช่วยเรื่องระบบการไหล
00:21:07 → 00:21:10 เวียนโลหิตระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
00:21:10 → 00:21:12 เราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความ
00:21:12 → 00:21:16 ต้องการของร่างกายหรือประมาณวันละ 6-8
00:21:16 → 00:21:18 แก้วเนื่องจากน้ำจะช่วยบำรุงปอดให้ชุ่ม
00:21:18 → 00:21:21 ชื้นทำให้ปอดไม่แห้งเพราะหากปอดแห้งจะทำ
00:21:21 → 00:21:24 ให้เกิดอาการระคายเคืองในปอดเมื่อปอดขาด
00:21:24 → 00:21:27 น้ำและมีอุณหภูมิสูงก็มักทำให้ปอดติด
00:21:27 → 00:21:30 เชื้อได้ง่ายส่งผลให้ภูมต้านทานตกมีอาการ
00:21:30 → 00:21:35 หิวน้ำไอแห้งๆมีไข้หายใจเร็วหอบเหนื่อย
00:21:35 → 00:21:37 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจใน
00:21:37 → 00:21:39 เวลาต่อมาได้เช่น
00:21:39 → 00:21:43 กันพยายามรักษาความอบอุ่นให้กับร่างกาย
00:21:43 → 00:21:46 และให้ปอดอย่างสม่ำเสมอนะคะโดยเฉพาะผู้
00:21:46 → 00:21:49 สูงอายุด้วยซึ่งการทำให้ร่างกายอบอุ่น
00:21:49 → 00:21:52 นั้นนะคะจะทำให้ลดเรื่องของการติดเชื้อ
00:21:52 → 00:21:53 ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสหรือว่าเชื้อ
00:21:53 → 00:21:57 แบคทีเรียได้อีกด้วยค่ะรักษาปอดให้อบอุ่น
00:21:57 → 00:22:00 หากอยู่ในสถานที่ที่มีอาการหนาวเย็นควร
00:22:00 → 00:22:03 สวมเสื้อผ้าหนาๆหรือห่มผ้าให้มิดชิดเพื่อ
00:22:03 → 00:22:05 สร้างความอบอุ่นแก่ปอดอยู่เสมอเนื่องจาก
00:22:05 → 00:22:09 เมื่ออากาศแห้งอาจส่งผลให้เกิดอาการไอหาย
00:22:09 → 00:22:12 ใจหอบเหนื่อยง่ายบางครั้งอาจมีเสียงหวีด
00:22:12 → 00:22:15 ขณะหายใจหากปล่อยไว้อาจเป็นปอดบวมปอดชื้น
00:22:15 → 00:22:18 และปอดติดเชื้อจนมีอาการทางระบบหายใจที่
00:22:18 → 00:22:21 รุนแรงมากขึ้นการทำให้ปอดอบอุ่นอยู่เสมอ
00:22:21 → 00:22:24 จึงถือเป็นวิธีการดูแลปอดให้แข็งแรงฝึก
00:22:25 → 00:22:27 หายใจกระบวนการหายใจสามารถช่วยดูแลปอดให้
00:22:28 → 00:22:30 แข็งแรงได้ในทุกวันผ่านการฝึกการหายใจ
00:22:30 → 00:22:33 เข้าออกแบบลึกๆอย่างน้อยวันละ 10 ครั้ง
00:22:34 → 00:22:36 เพื่อบริหารปอดและกล้ามเนื้อทรงอกซึ่งจะ
00:22:36 → 00:22:39 ทำให้ปอดได้ขยายตัวอย่างเต็มที่ส่งผลให้
00:22:39 → 00:22:43 หายใจได้สะดวกขึ้นขอขอบคุณข้อมูลจากโรง
00:22:43 → 00:22:46 พยาบาลบางปก 3 ค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะ
00:22:46 → 00:22:50 กับสาระสุขภาพดีๆที่ tn นำมาฝากคุณผู้ชม
00:22:50 → 00:22:53 กันในวันนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้ชม
00:22:53 → 00:22:56 จะสามารถนำสาระสุขภาพดีๆที่ได้นะคะไปดูแล
00:22:56 → 00:22:59 ตัวเองและครอบครัวกันค่ะและและขอบคุณคุณ
00:22:59 → 00:23:01 ผู้ชมที่ติดตามรับชมรายการ TNN Health
00:23:01 → 00:23:04 มาโดยตลอดค่ะคุณผู้ชมสามารถติดตามรับชม
00:23:04 → 00:23:06 รายการ TNN Health ได้เป็นประจำนะคะทุก
00:23:07 → 00:23:11 วันเสาร์ค่ะเวลาดี 15 น- 15:30 นที่นี่
00:23:11 → 00:23:15 TNN ช่อง 16 ค่ะและต้องไม่ลืมนะคะกดไลค์
00:23:15 → 00:23:17 กดแชร์กด Subscribe กดติดตามเป็นกำลังใจ
00:23:17 → 00:23:20 ให้หมอดาวและทีมงาน TNN Health ทุกช่อง
00:23:20 → 00:23:22 ทางโซเชียล Network ค่ะไม่ว่าจะเป็น
00:23:22 → 00:23:24 YouTube tiktok Facebook Instagram
00:23:24 → 00:23:26 LINE official เพื่อที่จะเข้าถึงทุก
00:23:26 → 00:23:29 สาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไป
00:23:29 → 00:23:31 ด้วยกันค่ะและสำหรับวันนี้หมอดาวและทีม
00:23:31 → 00:23:34 งาน TNN Health ต้องขอตัวลาคุณผู้ชมไป
00:23:34 → 00:23:38 ก่อนสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
00:23:38 → 00:23:58 [เพลง]
00:23:58 → 00:24:03 K
00:24:03 → 00:24:06 [เพลง]