00:00:02 → 00:00:05 ก็ต้องบอกก่อนว่าการกลั้นปัสสาวะบ่อยปกติ
00:00:05 → 00:00:08 แล้วเนี่ยไม่ได้เป็นสาเหตุหลักในการทำให้
00:00:08 → 00:00:12 เกิดนิ่วนิ่วจริงๆแล้วเป็นการสะสมของตัว
00:00:12 → 00:00:15 แร่ธาตุหลายๆอย่างและมีการจับตัวกันนะ
00:00:15 → 00:00:18 ครับเกิดเป็นลักษณะก้อนนะครับขึ้นมาค่อยๆ
00:00:18 → 00:00:21 เริ่มจากเป็นผลึกเล็กๆค่อยๆก่อตัวขึ้นมา
00:00:21 → 00:00:24 เรื่อยๆขึ้นอยู่กับระยะเวลาจนมันอาจจะ
00:00:24 → 00:00:26 เกิดขึ้นมาเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นมากๆแล้วจน
00:00:26 → 00:00:28 ทำให้เกิดอาการเกิดได้หลายๆตำแหน่งอาจจะ
00:00:28 → 00:00:30 เกิดที่บริเวณที่ไตซึ่งก็เจอมากที่สุดอาจ
00:00:30 → 00:00:33 จะเจอที่ท่อไตจากการที่มันหลุดล่วงลงมา
00:00:33 → 00:00:35 จากไตหรืออาจจะเจอที่กระเพาะปัสสาวะ
00:00:35 → 00:00:38 ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดนิ่วเนี่ยมันมีค่อน
00:00:38 → 00:00:41 ข้างมากแล้วก็แต่ละคนก็อาจจะมีปัจจัย
00:00:41 → 00:00:43 เสี่ยงที่แตกต่างกันไม่ว่าจะปัจจัยเสี่ยง
00:00:43 → 00:00:46 ภายในร่างกายอย่างเช่นกรมพรบางคนอาจจะมี
00:00:46 → 00:00:48 พันธุกรรมอะไรบางอย่างที่ผิดปกติที่ได้
00:00:49 → 00:00:50 รับมาจากคุณพ่อคุณแม่อย่างเช่นมีประวัติ
00:00:50 → 00:00:53 คนในบ้านเป็นนิ่วมาอยู่แล้วนะครับก็อาจจะ
00:00:53 → 00:00:55 มีกรรมพันธ์หรือโรคบางอย่างที่จะทำให้
00:00:55 → 00:00:58 เกิดนิ่วง่ายขึ้นหรือปัจจัยของตัวผู้ป่วย
00:00:58 → 00:01:01 เองที่เช่นในเรื่องของการทำงานถ้าพูดถึง
00:01:01 → 00:01:03 นิ่วจริงๆแล้วก็ต้องเกริ่นก่อนว่านิ่ว
00:01:03 → 00:01:05 จริงๆแล้วอย่างที่ผมบอกว่ามีหลากหลาย
00:01:05 → 00:01:07 ตำแหน่งถ้าพูดถึงนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
00:01:07 → 00:01:10 จริงๆแล้วเป็นแค่ 5% ของนิ่วทั้งหมดใน
00:01:10 → 00:01:12 ระบบทางเดินปัสสาวะการเกิดนิ่วในกระเพาะ
00:01:12 → 00:01:15 ปัสสาวะหลักๆแล้วมีอยู่ประมาณสัก 3
00:01:15 → 00:01:19 สาเหตุอันแรกสุดก็คือเป็นกลุ่มที่ไม่มี
00:01:19 → 00:01:21 ปัจจัยเสี่ยงไม่มีสาเหตุอื่นๆมาอธิบายได้
00:01:21 → 00:01:24 ส่วนใหญ่พวกนี้คือเกิดขึ้นมาเองมักจะเจอ
00:01:24 → 00:01:26 ในเด็กที่ขาดสารอาหารเยอะๆทานน้ำน้้อย
00:01:26 → 00:01:28 หรือมีประวัติท้องเสียมาอย่างยาวนานอีก 2
00:01:29 → 00:01:32 กลุ่มที่เหลือคือกลุ่มที่เกิดนิ่วจากการ
00:01:32 → 00:01:35 ที่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
00:01:35 → 00:01:37 ช่วงล่างทำให้เกิดการค้างค้างของตัวน้ำ
00:01:37 → 00:01:40 ปัสสาวะอยู่ในกระพาะปัสสาวะระยะเวลานานจน
00:01:40 → 00:01:42 ทำให้เกิดการตกตะก่อนเป็นนิ่้วและก็อีก
00:01:42 → 00:01:44 สาเหตุนึงนะครับสาเหตุสุดท้ายก็คือเกิด
00:01:44 → 00:01:47 จากการที่ตัวนิ่วจากข้างบนหรือจากไตเนี่ย
00:01:47 → 00:01:50 มันหลุดล่วงลงมาอยู่ในกระเพาะปัสสาวะแล้ว
00:01:50 → 00:01:52 มันไม่สามารถปัสสาวะออกมาได้มันก็จะอยู่
00:01:52 → 00:01:54 ตรงนั้นแล้วก็ค่อยๆโตขึ้นโตขึ้นจนทำให้
00:01:54 → 00:01:57 เกิดอาการในที่สุดจริงๆแล้วอาการของตัว
00:01:57 → 00:02:00 นิ่วในกระเพาะปัสสาวะมาได้หลากหลายอาการ 1
00:02:00 → 00:02:03 เลยคือมาด้วยเรื่องปัสสาวะมีเลือดป่น 2
00:02:03 → 00:02:05 คืออาจจะมาด้วยเรื่องของปัสสาวะลำบาก
00:02:05 → 00:02:07 ปัสสาวะสะดุดหรืออาจจะมีปัสสาวะแสบขัด
00:02:07 → 00:02:09 บริเวนท่อปัสสาวะครับเกิดจากการที่ตัว
00:02:09 → 00:02:12 นิ่วมันอาจจะมีการทำให้เกิดการระคายเคือง
00:02:12 → 00:02:14 หรือมันอาจจะกลิ้งไปกลิ้งมาแล้วทำให้เกิด
00:02:14 → 00:02:16 การอักเสบของตัวกระเพาะปัสสาวะได้หรือแม้
00:02:16 → 00:02:18 แต่ตัวนิ่วเองถ้าทำให้เกิดเชื้อโรคมาก
00:02:19 → 00:02:21 ขึ้นเนี่ยมีการติดเชื้อคนไข้อาจจะมาด้วย
00:02:21 → 00:02:23 เรื่องกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ก็ต้องบอก
00:02:23 → 00:02:26 ก่อนว่าการกลั้นปัสสาวะบ่อยปกติแล้วเนี่ย
00:02:26 → 00:02:29 ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดนิ่ว
00:02:29 → 00:02:31 เพราะเนื่องจากการกลั้นปัสสาวะของคนเรา
00:02:31 → 00:02:34 เนี่ยจะกลั้นอยู่ได้ประมาณสัก 4-5 ชมงไม่
00:02:34 → 00:02:37 ได้เป็นเวลาระยะเวลาที่นานพอจะทำให้เกิด
00:02:37 → 00:02:40 นิ่วได้แต่ตัวการกลั้นปัสสาวะนานๆเนี่ย
00:02:40 → 00:02:42 อาจจะส่งผลต่อทำให้เกิดการติดเชื้อมาก
00:02:42 → 00:02:44 กว่าอย่างเช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบมาก
00:02:44 → 00:02:47 กว่าในเรื่องของตัวกระเพาะปัสาวะอักเสบ
00:02:47 → 00:02:49 ผู้หญิงจะเจอมากกว่าผู้ชายสาเหตุหลักเลย
00:02:49 → 00:02:51 คือท่อปัสสาวะของผู้หญิงค่อนข้างสั้นกว่า
00:02:51 → 00:02:55 ของผู้ชายทำให้ตัวเชื้อโรคนะครับซึ่งมัก
00:02:55 → 00:02:58 จะอยู่บริเวณแถวๆๆช่องคลอดบริเวณแถวๆผิว
00:02:58 → 00:03:01 หนังรอบๆหรือว่าแม้แต่ตรงบริเวณแถวๆรูก้น
00:03:01 → 00:03:04 นะครับอาจจะเข้าไปในตัวทางเดินปักซ้อได้
00:03:04 → 00:03:06 ง่ายกว่าผู้ชายทำให้เกิดการติดเชื้อ
00:03:06 → 00:03:08 กระเพาะเซ้ออักเสบได้ส่วนหนึ่งที่เจอใน
00:03:08 → 00:03:10 ผู้ชายบ่อยเพราะว่าสาเหตุนึงมาจากการที่
00:03:10 → 00:03:13 เกิดจากการที่ปัสสาวะมันเหลือค้างเยอะต่อ
00:03:13 → 00:03:15 ลูกหมากที่มันโตมากๆในคนสูงอายุทำให้คน
00:03:15 → 00:03:18 ไข้อาจจะเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้นิ่ว
00:03:18 → 00:03:20 ในกระเพาะปัสสาวะปัจจุบันการรักษาหลัก
00:03:20 → 00:03:23 จริงๆแล้วก็มีหลายวิธีตัวที่เราใช้เป็น
00:03:23 → 00:03:26 หลักเลยก็คือเรื่องของการส่องกล้องเข้าไป
00:03:26 → 00:03:28 ในท่อปัสสาวะและใช้เอ่อเครื่องมือในการ
00:03:28 → 00:03:31 สลายนิ่้วให้เป็นชิ้นเล็กๆแล้วน้ำนิ่วออก
00:03:31 → 00:03:35 มาซึ่งจริงๆแล้วเอ่อก็เป็นวิธีที่ทำได้
00:03:35 → 00:03:38 ง่ายแล้วก็ไม่ได้มีการผ่าตัดที่ไม่ได้
00:03:39 → 00:03:41 ใหญ่มากผลการรักษาค่อนข้างที่จะดีอย่าง
00:03:41 → 00:03:44 ที่ไตเราก็ต้องมาดูประเมินอื่นๆอีกอย่าง
00:03:44 → 00:03:46 เช่นขนาดเท่าไหร่มีจำนวนเท่าไหร่ด้วย
00:03:46 → 00:03:48 ตำแหน่งอยู่ที่ตำแหน่งไหนแล้วก็ต้อง
00:03:48 → 00:03:51 ประเมินคนไข้อีกคนไข้มีลักษณะที่จะต้อง
00:03:51 → 00:03:54 พิจารณาเป็นพิเศษมั้ยอย่างเช่นคนไข้ตัว
00:03:54 → 00:03:57 อ้วนมากๆหรือคนไข้ไม่สามารถนอนในท่าบาง
00:03:57 → 00:03:59 ท่าได้เราก็จะต้องมาพิจารณาเลือกวิธีการ
00:03:59 → 00:04:02 ทำเพราะว่าการทำนิ่วในไตเนี่ยก็จะมีได้
00:04:02 → 00:04:04 ตั้งแต่ถ้าน้อยสุดก็อาจจะติดตามดูไปก่อน
00:04:05 → 00:04:07 ไปจนถึงเรื่องของเข้าเครื่องยิงนิ่วเข้า
00:04:07 → 00:04:09 เครื่องยิงสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทกไป
00:04:09 → 00:04:11 กระเถิบไปอีกก็อาจจะเป็นเรื่องของการใช้ 2
00:04:11 → 00:04:14 กล้องจากตัวบริเวณท่อปัสวะย้อนขึ้นไป
00:04:14 → 00:04:17 เพื่อสลายนิ่วและก็วิธีที่ปัจจุบันใช้มาก
00:04:17 → 00:04:21 ในนิ่วขนาดใหญ่ที่ไตก็คือการเจาะผ่านทาง
00:04:21 → 00:04:24 หลังนะครับเข้าไปที่ไตโดยตรงเพื่อที่จะ
00:04:24 → 00:04:26 ใช้เครื่องมือในการสลายกรอนิ่วและดูด
00:04:26 → 00:04:29 นิ่้วออกมาก็จะเป็นวิธีที่ใช้กับนิ่วที่
00:04:29 → 00:04:31 ขนาดใหญ่ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดผมจะ
00:04:31 → 00:04:34 แนะนำวิธีปฏิบัติตัวง่ายๆนะครับ 3 ข้อ 1
00:04:34 → 00:04:37 เลยก็คือการดื่มน้ำอันนี้เป็นสิ่งที่ทำ
00:04:37 → 00:04:40 ง่ายที่สุดแล้วก็ได้ผลที่ค่อนข้างมี
00:04:40 → 00:04:42 ประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างน้อยวันละ 2
00:04:42 → 00:04:44 ลิตรเป็นอย่างน้อยเพื่อเป็นการป้องกันไม่
00:04:44 → 00:04:47 ให้ปัสสาวะมันค้างอยู่ในทางเดินปัสสาวะ
00:04:47 → 00:04:49 เป็นเวลานานแล้วเกิดการตกตะกอนหรือแม้แต่
00:04:49 → 00:04:52 ทำให้ตัวน้ำปัสสาวะมันมีความเข้มข้นของ
00:04:52 → 00:04:55 ตัวเกลือแร่ต่างๆลดลงและทำให้เกิดนิ่วยาก
00:04:55 → 00:04:58 ขึ้นอันต่อมาก็คือเรื่องของการลดทานอาหาร
00:04:58 → 00:05:01 เค็มการทานอาหารที่รสเค็มหรือมีเกลือเยอะ
00:05:01 → 00:05:04 ๆพวกนี้อาจจะทำให้เกิดเรื่องของการขับตัว
00:05:04 → 00:05:07 เกลือร่แคลเซียมลงมาในน้ำปัสสาวะมากเกิน
00:05:07 → 00:05:09 ผิดปกติอาจจะทำให้ตัวแคลเซียมเนี่ยหลุด
00:05:09 → 00:05:11 รอดมาน้ำปัสสาวะเยอะขึ้นและทำให้เกิดการ
00:05:11 → 00:05:14 จับตัวเป็นก้อนนิ่วได้ง่ายขึ้นอันต่อมา
00:05:14 → 00:05:17 ถ้าจะให้เพิ่มเติมก็คือเรื่องของการทาน
00:05:17 → 00:05:19 ผักผลไม้ให้มากขึ้นและลดทานเนื้อสัตว์ให้
00:05:19 → 00:05:22 แต่พอดีหน้าร้อนที่จะถึงนี้แน่นอนว่าสิ่ง
00:05:22 → 00:05:24 สำคัญอย่างที่กล่าวไปว่าการที่เกิดนิ่ว
00:05:25 → 00:05:27 เนี่ยสาเหตุสำคัญเลยคือมีการสร้างน้ำ
00:05:27 → 00:05:29 ปัสาวะน้อยมากจนทำให้เกิดการตกตะกอนดัง
00:05:29 → 00:05:32 นั้นน้ำมีความสำคัญมากนะครับดังนั้นอยาก
00:05:32 → 00:05:34 ให้กินน้ำให้เพียงพอดูง่ายๆดูจากสีน้ำ
00:05:34 → 00:05:37 ปัสสาวะก็ได้ถ้าเราเห็นน้ำปัสสาวะมีสีที่
00:05:37 → 00:05:39 เข้มขึ้นเหลืองมากขึ้นอาจจะเป็นสัญญาณที่
00:05:39 → 00:05:41 บอกว่าร่างกายเราเริ่มขาดน้ำกินให้เป็น
00:05:41 → 00:05:45 นิสัยก็จะทำให้เ่อลดความเสี่ยงในการเกิด
00:05:45 → 00:05:48 นิ่วในอนาคตได้ครับ
00:05:48 → 00:05:51 [เพลง]