00:00:00 → 00:00:01 ก็
00:00:01 → 00:00:03 สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้เราจะมาคุยกัน
00:00:03 → 00:00:07 เรื่องของตะกอนใช่ค่ะนะคะคือไอเดียก็คือ
00:00:07 → 00:00:08 อย่างเงี้ยขั้นตอนที่แล้วเนี่ยตอนที่คุย
00:00:08 → 00:00:10 เรื่องของออยว่าต่างๆในร่างกายเนี่ยคือ
00:00:10 → 00:00:13 ให้รู้จักร่างกายแล้วคุยเรื่องของตอบแล้ว
00:00:13 → 00:00:16 เราก็อยากจะคุยอย่างเช่นเรายังเก่ายับ
00:00:16 → 00:00:18 หลายๆอย่างแล้วก็รู้อย่างหัวใจใครๆก็รู้
00:00:18 → 00:00:20 ว่าทำอะไรก็เพราะคนหรือว่าทำอะไรแต่ตับ
00:00:20 → 00:00:23 เป็นคนละเตียงทำอะไรนะตับอ่อนนี่บางคนอาจ
00:00:23 → 00:00:26 จะยังไม่รู้ว่าทำอะไรบ้างหรืออย่างน้ำจะ
00:00:26 → 00:00:29 ทักไปตอนถัดไปเราเป็นวัยที่พูดมาแล้วคน
00:00:29 → 00:00:33 แบบทำอะไรใช่คือตาวอนเนี่ยเป็นอวัยวะที่
00:00:33 → 00:00:36 เวลาแบบมีคนแค่มาตรวจสุขภาพและหลายคนถาม
00:00:36 → 00:00:39 เลยว่าอยู่ตรงไหนทำอะไรไม่มีไอเดียเลยอัน
00:00:39 → 00:00:41 นี้ก็จะประสบการณ์แล้วว่าคนเนี่ยค่อนทั้ง
00:00:41 → 00:00:44 หลายคนนะสับสนไม่คุ้นเคยเอิ่มซึ่งก็เข้า
00:00:44 → 00:00:46 ใจได้เพราะบางครั้งมันไม่ใช่สิ่งที่คุยใน
00:00:46 → 00:00:48 ชีวิตประจำวันตายคนเรียนชีววิทยามาก็
00:00:48 → 00:00:52 เจริญไปได้โอเคเข้าเรื่องเลยตะปอนท่าแรก
00:00:52 → 00:00:54 ก่อนว่าตับอ่อนอยู่ตรงไหนของร่างกายนะคะ
00:00:54 → 00:00:57 ขานี้เนี้ยจริงๆอยากให้ทุกคนยืนขึ้นค่ะนะ
00:00:57 → 00:01:00 คะแล้วก็ม่วนเชื่อขึ้นถ้าขับรถอยู่
00:01:00 → 00:01:02 มีอะไรนะคะครับอยู่จะกลับบ้านไปทำแม้แต่
00:01:02 → 00:01:06 รายนะคะก็มวยเชื่อขึ้นนะคะเสร็จแล้วค่ะ
00:01:06 → 00:01:09 มองที่กระจกขาและมองที่ 10 แผ่นสวยงามของ
00:01:09 → 00:01:12 เราค่ะตับอ่อนเนี่ยก็คือจะอยู่ที่หลัง 10
00:01:12 → 00:01:15 แพ็คค่ะ 2 ก้อนบนนะคะหรือว่าโอเคถ้าเกิด
00:01:15 → 00:01:18 ว่าใครไม่มีซิกแพคและก็มีหน้าท้องนิดๆนะ
00:01:18 → 00:01:20 คะก็อาจจะทำที่ชายโครงอ่ะเธอใต้ซี่โครง
00:01:20 → 00:01:23 เราปุ๊บนี่นะคะแล้วก็ตรงชายโครงของเราใน
00:01:23 → 00:01:25 ระหว่างชายโครงละสองข้างนะคะตรงนั้นเป็น
00:01:25 → 00:01:27 ตำแหน่งของกระเพาะอาหารแล้วก็ด้านหลังของ
00:01:27 → 00:01:30 เขาเพราะอาหารนั่นก็คือแต่ต่อนะนี่เอ่อ
00:01:30 → 00:01:33 จุดสำคัญก็คือนี้คือตอบอ่อนมันดูหลัง
00:01:33 → 00:01:36 กระเพาะแล้วตัวตับอ่อนเนี่ยมันก็ยังไปชิด
00:01:36 → 00:01:38 กับลำไส้เล็กด้วยความน่าสนใจไม่เคยนี้มัน
00:01:38 → 00:01:41 คือมันไปเกาะอยู่ใกล้ๆกับอวัยวะที่ใช้
00:01:41 → 00:01:44 ย่อยอาหารเลยแล้วก็รู้ว่าไม่เกี่ยวข้อง
00:01:44 → 00:01:47 กับกระเพาะและลำไส้เล็กที่หน้าที่ของมัน
00:01:47 → 00:01:49 คืออะไรตับอ่อนตับอ่อนในจริงๆแล้วเป็น
00:01:49 → 00:01:52 โอโยที่สำคัญมากเลยนะคะแล้วก็จริงๆหน้า
00:01:52 → 00:01:54 ที่เขาซับซ้อนเหมือนกันแต่ว่าหลักๆเลยนะ
00:01:54 → 00:01:56 คะก็เป็น 2 อย่างไรเราจะเคยได้ยินคำว่า
00:01:56 → 00:02:00 ต่อมไร้ท่อนะคะกับต่อมมีท่อค่ะวันนี้แหละ
00:02:00 → 00:02:03 จะได้รู้แล้วว่าทำไมต้องไร้ท่อทำไมต้องมี
00:02:03 → 00:02:07 ท่อนะคะอันแรกเนี่ยก็ขอนี้ไหมขอพูดตรงๆ
00:02:07 → 00:02:10 ส่วนที่เป็นมีท่อก่อนเนาะมาที่ต้องมีทอด
00:02:10 → 00:02:13 เนี่ยเพราะว่าเขาต้องขนส่งสิ่งที่มันอาจ
00:02:13 → 00:02:16 จะทำอันตรายกับร่างกายนะคะซึ่งก็คือหลักๆ
00:02:16 → 00:02:18 คงเป็นพวกน้ำย่อยอะไรพวกนี้มันก็เลยต้อง
00:02:18 → 00:02:21 มีท่อการเอาไว้ใช่เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ
00:02:21 → 00:02:24 ย่อยหรือว่าสิ่งอันตรายพวกนี้ค่ะมันรั่ว
00:02:24 → 00:02:27 ไปทำความบาดเจ็บความเสียหายเนี่ยให้กับ
00:02:27 → 00:02:30 ส่วนอื่นของร่างกายแล้วมีข้อสอบไม่มีท่อ
00:02:30 → 00:02:33 คืออะไรแต่ให้กับว่าไม่มีท่อนะคะก็คือจาก
00:02:33 → 00:02:36 เซลล์ต่างๆนะคะเซลล์ในตับอ่อนนะคะเวลา
00:02:36 → 00:02:38 เค้าสร้างสารอะไรบางอย่างขึ้นมาส่วนใหญ่
00:02:38 → 00:02:40 เป็นพวกฮอร์โมนเลยนะคะถือว่าโปรตีนและใย
00:02:40 → 00:02:43 เขาก็จะส่งสารพวกเนี่ยให้ซึมเข้าสู่เส้น
00:02:43 → 00:02:46 เลือดโดยตรงหรือไม่ก็จะพูดได้ไงว่าคือมัน
00:02:46 → 00:02:48 ก็สร้างสรรค์เคมีแหละแต่สารเคมีที่
00:02:48 → 00:02:51 อันตรายเดี๋ยวมันต้องส่งผ่านท่อก็คือส่ง
00:02:51 → 00:02:54 ไปที่ที่มันจะต้องทำงานแล้วใช่นะคะก็
00:02:54 → 00:02:56 อย่างที่เราคุยกันหาว่าเนื่องจากว่าหลักๆ
00:02:56 → 00:02:58 ต้องส่วนที่เป็นต่อมมีท่อตัวนี้เค้าผลิต
00:02:58 → 00:03:00 น้ำย่อย
00:03:00 → 00:03:02 ก็เพราะฉะนั้นน้ำย่อยในก็จะต้องส่งไปยัง
00:03:02 → 00:03:04 ส่วนที่เราทำหน้าที่ย่อยอาหารซึ่งก็คือ
00:03:04 → 00:03:06 เรือเกือบทางเดินอาหารของเราอ่ะครับเพราะ
00:03:06 → 00:03:10 ลำไส้เนี่ยนั่นเองนะคะคราวนี้นะคะน้ำย่อย
00:03:10 → 00:03:13 นะคะหรือว่าสารที่มาช่วยเกี่ยวกับการย่อย
00:03:13 → 00:03:15 อาหารตรงนี้มีอะไรบ้างนะคะอย่างแรกเลยนะ
00:03:15 → 00:03:19 คะก็คือสารที่ชื่อว่าไบคาร์บอเนตนะคะจริง
00:03:19 → 00:03:21 ๆมันฟังดูเหมือนเป็นชื่อเคมีแต่ว่าจริงๆ
00:03:21 → 00:03:24 แล้วมันเหมือน Baking Soda หรือว่าตัว
00:03:24 → 00:03:28 Soda ที่เรามาทำขนมนะค่ะไฟโซดาใส่ใช่นะ
00:03:28 → 00:03:31 คะซึ่งจริงๆแล้วนะคะตัวนี้มันมีฤทธิ์เป็น
00:03:31 → 00:03:35 ด่างนะคะที่เราต้องมีการสร้างไปค่ะมาเดะ
00:03:35 → 00:03:37 เนี่ยมาเนื่องจากว่าในกระเพาะอาหารเรา
00:03:37 → 00:03:39 เนี่ยหลายๆคนครึ่งๆคงเคยทราบว่าในกระเพาะ
00:03:39 → 00:03:42 อาหารแล้วในความเป็นกฎหมายสูงมากใช่ไหมคะ
00:03:42 → 00:03:44 พี่ s1 ใช่มาพี่ก็เลยคือตัวในเพราะอาหาร
00:03:44 → 00:03:48 เนื้อถ้าเราดูเรามาแล้วหยดใส่ไม้มัน
00:03:48 → 00:03:50 สามารถทำให้ไม้ในทะลุได้ก็ค่อยกร่อนไม้ก็
00:03:50 → 00:03:53 ได้ใช่นะครับก็เป็นกฎที่แรงที่สุดแล้ว
00:03:53 → 00:03:55 แหละเพราะพี่ S มันคือแบบความเป็นประสงค์
00:03:55 → 00:03:57 สุขเหมือนหรือคิดดูว่าเรากินอะไรเข้าไป
00:03:57 → 00:03:59 บ้างเลยแต่ละอย่างสามารถที่จะแบบถูกสลาย
00:03:59 → 00:04:03 จนยุ่ยผู้ชายก็คือหมูกะทะเค้าก็คือครัว
00:04:03 → 00:04:06 ส่วนของสเปคเลยอ่ะของได้ 5 เจอกรดเรา
00:04:06 → 00:04:08 เนี่ยนะเจอกรดในกระเพาะหาเราในย่อยนะแต่
00:04:08 → 00:04:11 ว่าคำนี้กรดที่มันแรงขนาดนี้นะคะถ้าเกิด
00:04:11 → 00:04:14 ว่าสมมติว่ามันไหลไปยังทางเดินอาหารส่วน
00:04:14 → 00:04:17 อื่นๆนำไส้เล็กลำไส้ใหญ่เนี่ยนะคะมันก็จะ
00:04:17 → 00:04:19 ไปทำอันตรายกับเราใช้ด้วยนะคะเพราะฉะนั้น
00:04:19 → 00:04:21 เนี่ยการที่เรามีไบคาร์บอเนตหรือว่ามี
00:04:21 → 00:04:24 ด่างนะคะก็คือเหมือนกับเพื่อมาสลายความ
00:04:24 → 00:04:28 เป็นกดตรงนี้นะคะอย่างที่สองก็จะมาถึงน้ำ
00:04:28 → 00:04:31 ย่อยจริงๆแล้วนะคะคราวนี้ถ้าใครให้ฟังตอน
00:04:31 → 00:04:33 ที่เราคุยกันเรื่องตับนะคะหรือว่าจะไม่
00:04:33 → 00:04:35 ต้องสั่งเรื่องกับและนะคะอาหารที่เราทาน
00:04:35 → 00:04:38 เข้าไปหลักๆที่ต้องการการย่อยมากๆเลยนะก็
00:04:38 → 00:04:41 คงมีอยู่สามอันนะคะก็คือคาร์โบไฮเดรต
00:04:41 → 00:04:45 โปรตีนและไขมันนะคะเพราะฉะนั้นน้ำย่อยใน
00:04:45 → 00:04:47 ก็จะต้องมีมาลองครับเนี่ย 3 ตัวนี้เหมือน
00:04:47 → 00:04:50 กันนะคะอันแรกเลยนะคะก็คือน้ำย่อยโปรดอาบ
00:04:50 → 00:04:53 น้ำด้วยคาร์โบไฮเดรตเองในแปลงโดยแป้งนะ
00:04:53 → 00:04:56 นี่เดี๋ยวชื่อว่า mis นะฉันจะเอาไมเซนน่า
00:04:56 → 00:04:58 สนใจเหมือนกันเนื่องจากว่าตัวนี้เป็นน้ำ
00:04:58 → 00:05:01 เยอะเนี่ยมาย่อยแป้งนะคะเราจะใช้ตัวนี้มา
00:05:01 → 00:05:04 เป็นเอ่อเทสตี้ใช้เป็นมาสเตอร์ของโรคตับ
00:05:04 → 00:05:07 อ่อนอักเสบได้อย่างเวลาที่คนไข้มีอาการ
00:05:07 → 00:05:09 ของตับอ่อนอักเสบจะพูดตรงนี้และราย
00:05:09 → 00:05:11 ละเอียดเพิ่มเติมนะคะแต่ว่าเราก็จะตรวจ
00:05:11 → 00:05:13 อะไมเลสในเลื่อนอ่ะค่ะว่ามันสูงขึ้นสำโรง
00:05:13 → 00:05:16 ยังไงถ้าเกิดว่าเมล็ดสูงผิดปกติราคาก็อาจ
00:05:16 → 00:05:18 จะบอกว่ามีแต่บอกแล้วเสพมันเหมือนกับว่า
00:05:18 → 00:05:22 เวลาคือว่ามันตับมันลดตะกอนมันบาดเจ็บใช่
00:05:22 → 00:05:24 ไหมเซลล์มันจะแตกได้พวกสารเคมีที่อยู่ใน
00:05:24 → 00:05:27 อวัยวะผู้เลี้ยงก็จะลวกมาในเลือดทำให้เรา
00:05:27 → 00:05:30 สามารถวัดค่าในเลือดได้ขึ้นในตับในเพื่อ
00:05:30 → 00:05:32 ไม่ได้พูดถึงว่าจะมีเรื่องของเอนไซม์ที่
00:05:32 → 00:05:34 เราสามารถวัดค่าได้มีแต่ว่าตัดเราก็จะมา
00:05:34 → 00:05:37 เป็นสารตัวอื่นเนาะเธอมีแต่ว่านี่คืออยาก
00:05:37 → 00:05:39 ให้เราเข้ากันเพราะจริงๆก็ตั้งใจว่าตอน
00:05:39 → 00:05:42 ที่พูดเรื่องโลกเนี่ยเราจะธิบายทีนึงฮะ
00:05:42 → 00:05:43 แต่คิดว่าจริงมันเป็นไอเดียที่ดีเหมือน
00:05:43 → 00:05:45 กันว่าถ้าเกิดเราเข้าใจการทำงานของอวัยวะ
00:05:45 → 00:05:49 เนี่ยเราก็จะเข้าใจเทสที่หมอมาใช้ด้วยก็
00:05:49 → 00:05:51 คือเข้าใจภาวะปกติจะได้รู้ว่าตอนที่ 8
00:05:51 → 00:05:55 ปกติเนี่ยเขาตรวจอะไรนะคะหาอย่างที่สอง
00:05:55 → 00:05:57 เลยก็เป็นน้ำย่อยไขมันนะคะก็ชื่อว่าไลเปส
00:05:57 → 00:06:00 นะคะก็เหมือนกันอะไรเป็นเนี่ยเราจะเอามา
00:06:00 → 00:06:02 ใช้เป็นเทปที่ตรวจเวลาตอบข้อ 1 เศษเหมือน
00:06:02 → 00:06:05 กันนะคะแล้วก็อย่างที่ 3 เลยนะคะตัวนี้
00:06:05 → 00:06:08 น่าสนใจก็คือน้ำได้โปรตีนนะคะเราเรียก
00:06:08 → 00:06:11 ชื่อแล็ปใยโปรตีนที่ชื่อว่าโปรตีเอสหาคำ
00:06:11 → 00:06:13 ว่า S เนี่ยคือเป็นเอนไซม์ที่ย่อยนะฮะก็
00:06:13 → 00:06:16 คราวนี้จะมันก็มีชื่อนะคะเพราะ protease
00:06:16 → 00:06:19 มันมีหลายชนิดในร่างกายนะฮะน้ำได้ตัวนี้
00:06:19 → 00:06:22 นะคะชื่อว่าทุกที่โนเจนหรือว่าใครโม Shift
00:06:22 → 00:06:26 Tab ชิโนเช่นหน้าซึ่งเวลาสร้างออกมาแล้ว
00:06:26 → 00:06:28 นะคะมันไม่ได้สามารถย่อยได้ทันทีเพราะว่า
00:06:28 → 00:06:30 เนื่องจากว่าร่างกายของเราเนี่ยส่วน
00:06:30 → 00:06:33 ประกอบหลักของร่างกายแล้วคือน้ำโปรตีนนะ
00:06:33 → 00:06:35 คะเพราะฉะนั้นลองนึกภาพว่าถ้าสมมติตับ
00:06:35 → 00:06:38 อ่อนเนี่ยหลังเอนไซม์ที่ย่อยโปรตีนในออก
00:06:38 → 00:06:40 มาถึงจะเป็นพ่อในท่อนเป็นโปรตีนเหมือนกัน
00:06:40 → 00:06:42 นะถ้าเกิดว่าสมมติว่าปล่อยมาปุ๊บเนี่ยมัน
00:06:42 → 00:06:45 ย้อยโปรตีนเป็ดระหว่างทางและจะสร้างอะไร
00:06:45 → 00:06:47 ให้กำลังกายเพราะฉะนั้นเนี่ยร่างกายเรา
00:06:47 → 00:06:49 ถึงจะต้องสร้างน้ำย่อยโปรตีนออกมาใน
00:06:49 → 00:06:53 ลักษณะของรูปที่ยังไม่สำเร็จรูปและเป็น
00:06:53 → 00:06:55 รูปที่เหมือนยังไม่ทำงานนะคะเขาจะเลยว่า
00:06:55 → 00:06:59 โปรเองทรายใช่คือว่าก่อนที่จะเป็นสารเรา
00:06:59 → 00:07:01 ต้องมีการมารู้จักแต่งโมเลกุลมันถึงจะ
00:07:01 → 00:07:05 ตื่นขึ้นมาทำงานใช่นะคะแล้วก็การที่เขาจะ
00:07:05 → 00:07:07 ตื่นได้เนี่ยเขาจะไม่ได้แบบตื่นรู้ขึ้นมา
00:07:07 → 00:07:10 ในตับอ่อนแต่ว่าจะต้องหลายเข้าไปอยู่ในลำ
00:07:10 → 00:07:12 ไส้เล็กตอนต้นก่อนนะคะแล้วลำไส้เล็กตอน
00:07:12 → 00:07:15 ต้นเนี่ยก็จะหลั่งสารบางอย่างขณะชื่อ
00:07:15 → 00:07:18 enteric ที่ Day นะคะเพื่อมากระตุ้นทุก
00:07:18 → 00:07:22 ที่น้อยเจ้นให้กลายมาเป็น A3 ที่ Active
00:07:22 → 00:07:24 แล้วก็ทำงานขึ้นมาคือจริงๆชื่อเนี่ยก็ไม่
00:07:24 → 00:07:27 ได้ตั้งใจจะให้จำเลยก็มาดูว่าเราก็พูด
00:07:27 → 00:07:30 ขึ้นมาเฉยให้แบบเออรู้มันมีชื่อเรียกแต่
00:07:30 → 00:07:32 ไม่อยากให้เห็นภาพเฉยว่าโอเคน้ำย่อยออกมา
00:07:33 → 00:07:35 นะครับในลำไส้ต้องมีตัวปลาตุ้นมันถึงจะทำ
00:07:35 → 00:07:37 งานชายนะนี่จะอยากจะไปแล้วว่าเป็นของแถม
00:07:37 → 00:07:40 มากกว่านะเพราะว่าอยู่ที่อาจจะแบบมีคนฟัง
00:07:40 → 00:07:43 ของเราเป็นแบบน้องๆมัธยมเลย 5 สมัยมัธยม
00:07:43 → 00:07:46 มีข้อสอบเนี่ยพรุ่งนี้หานะฮะแล้วก็เนี่ย
00:07:46 → 00:07:48 ค่ะหลักๆในส่วนที่เป็นต่อมมีท่อนี่ก็เป็น
00:07:48 → 00:07:52 แบบนี้นะคะต่อไปแล้วก็จะเราจะพูดถึงต้อง
00:07:52 → 00:07:54 ไปทอดก่อนนะแล้วค่อยพูดถึงเราของตับอ่อน
00:07:54 → 00:07:57 แต่ต้องมีเท่าจบกันไปแล้วนะคะต่อไปก็จะ
00:07:57 → 00:07:59 เป็นส่วนที่เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่ตรงนี้
00:07:59 → 00:08:02 เป็นน้องที่เป็นเซลล์แค่จำนวนหนึ่ง
00:08:02 → 00:08:05 เปอร์เซ็นต์น้อยก็คือตัวตหอในเวลาจริงจะ
00:08:05 → 00:08:08 ไปดูทั้งหมด 99% ของมันเนี้ยเป็นเรื่อง
00:08:08 → 00:08:11 ของไอ้พวกน้ำโดยถวายแหละหลังจะมีประมาณ 1%
00:08:11 → 00:08:14 แซมกระจายเข้าใจในตับอ่อนแต่ตรงนี้คือ
00:08:14 → 00:08:17 ส่วนเรื่องใหญ่เลยที่คนส่วนใหญ่รู้จักใช่
00:08:17 → 00:08:20 นะครับเพราะว่าตรงนี้นะคะมันมีชื่อว่า
00:08:20 → 00:08:23 ahrefs of แหล่งก็หานะร่างกายเป็นชื่อ
00:08:23 → 00:08:26 คุณหมอคนนึงที่ดังมากเลยนะคะในสมัยก่อนนะ
00:08:26 → 00:08:29 คะก็ถูกเอามาตั้งชื่อในเป็นส่วนดีนะจำได้
00:08:29 → 00:08:32 สมัยเรียนนักศึกษาแพทย์ต้องแบบมีการเอา
00:08:32 → 00:08:37 ตับอ่อนมาแบบมันก้ำมาดูพยาธิสภาพในข้อตับ
00:08:37 → 00:08:39 อ่อนเนี่ยตัดมาแล้วต้องมาย้อมสีแล้วก็จะ
00:08:39 → 00:08:41 เห็น I Love I love and กระหายในเป็น
00:08:41 → 00:08:44 จุดเล็กๆกระจายเลยเนี่ยนะคะคราวนี้นะคะ
00:08:44 → 00:08:46 หน้าที่สำคัญของเขาว่าเขาก็คือผลิต
00:08:46 → 00:08:49 ฮอร์โมนที่ชื่อว่าอินซูลินกับกลูคากอนนะ
00:08:49 → 00:08:53 คะคราวนี้ตัวอินจูนี่ล่ะค่ะทำให้ตัวแต่พอ
00:08:53 → 00:08:57 จะเป็นที่รู้จักเพราะว่าก็เป็นตัวที่มี
00:08:57 → 00:09:00 ความสำคัญโรคเบาหวานนะคะเพราะฉะนั้นแค่ 1
00:09:00 → 00:09:02 เปอร์เซ็นต์ของตับอ่อนตรงนี้นะคะแต่ว่า
00:09:02 → 00:09:06 ถูกบริษัทยาถูกนักวิทยาศาสตร์นะคะทำวิจัย
00:09:06 → 00:09:09 แล้วก็ศึกษาการทำงานอย่างละเอียดยิบเลยนะ
00:09:09 → 00:09:12 คะน่ารักๆแล้วนะเขาทำอะไรบ้างฮอร์โมน 2
00:09:12 → 00:09:15 ตัวนี้ทำอะไรบ้างนะคะก็คือถ้าเกิดที่เรา
00:09:15 → 00:09:17 พูดตรงนี้เค้าเข้าไปบ้างแล้วนะตอนนี้เรา
00:09:17 → 00:09:20 คุยกันเรื่องต่ำนะแต่ว่าหลักๆในคือ
00:09:20 → 00:09:22 ฮอร์โมนตัวนี้นะคะ 2 ตัวนี้เขาทำหน้าที่
00:09:22 → 00:09:25 เพื่อ Balance สนตาลในเลือดในตอนที่เรา
00:09:25 → 00:09:28 โอ้โหสุขเกษมเปรมปรีดิ์นะครับว่าเพิ่งกิน
00:09:28 → 00:09:31 ถ้านี่โทสมา 2 ก้อนเลยเนี่ยถ้าน้ำตาลสูง
00:09:31 → 00:09:34 ปี๊ดนะฮะร่างกายก็จะรังหินสุรินทร์มานะคะ
00:09:34 → 00:09:36 เพื่อที่จะมาจัดการกับน้ำตาลในเลือดที่
00:09:36 → 00:09:38 มันสูงขึ้นมาตรงนี้นะคะ
00:09:38 → 00:09:42 ในทางกลับกันกลูคากอนแล้วพี่เอวก็จริง
00:09:42 → 00:09:44 เหมือนกับอันนี้มันเหมือนกับตาช้างเหรอ
00:09:44 → 00:09:48 ขึ้นต่อรักษาสมดุลถ้าน้ำตาลสูงอินสุลินก็
00:09:48 → 00:09:51 หลั่งเพื่อที่จะเอาน้ำตาลจากเลือดลงขึ้น
00:09:51 → 00:09:54 น้ำตาลในเลือดมันเป็นสิ่งที่ดีแต่ว่าต้อง
00:09:54 → 00:09:56 อยู่ในประมาณช่วงที่เหมาะสมชัดสูงนานเกิน
00:09:56 → 00:09:59 ไปเนี่ยมันทำลายเส้นเลือดแล้วทำลายเส้น
00:09:59 → 00:10:01 ประสาทเล็กๆช่วงที่น้ำตาลสุรินทร์
00:10:01 → 00:10:04 สุรินทร์กันหลังเอาน้ำตาลลงพ่อน้ำตาลมัน
00:10:04 → 00:10:08 ต่ำก็หลังถูกค่ะก้อนโตแต่ก่อนก็จะมี
00:10:08 → 00:10:10 เซ็นเซอร์มันก็จะหลั่งข้อมูลที่เหมาะสม
00:10:10 → 00:10:13 ออกมาฉันก็ไปสลายพวกแป้งในตับเนี่ยออกมา
00:10:13 → 00:10:16 เป็นน้ำตาลเข้าไปในเลือดก็ไปเสียแค่นี้ก็
00:10:16 → 00:10:17 คือเหมือนกับปลาร้าใส่ค่อยมันอยู่ที่
00:10:17 → 00:10:20 สมดุลตลอดเวลาถ้าเกิดว่าใครฟังตอนเรื่อง
00:10:20 → 00:10:22 ที่ตอบแน่เรามีการเปรียบเทียบไว้ค่ะว่า
00:10:22 → 00:10:25 จริงๆแล้วในตาเหมือนโรงงานนิดหน่อยนะคะตา
00:10:25 → 00:10:27 มันโรงงานด้วยเหมือนโกดังด้วยนะคะก็คือจะ
00:10:27 → 00:10:31 มีการสะสมน้ำตาลเนี่ยในรูปแบบต่างๆนะคะ
00:10:31 → 00:10:33 โดยเฉพาะไกลโคเจนนะคะครั้งนี้ถ้าเกิดว่า
00:10:33 → 00:10:37 ช่วงที่น้ำตาลในเลือดที่สูงนะคะตัวที่จะ
00:10:37 → 00:10:39 ส่งสัญญาณอ่ะหรือว่าคะทุกคนสั่งออร์เดอร์
00:10:39 → 00:10:42 แล้วก็เธอตับอ่อนแอเป็นคนสั่งออร์เดอร์มา
00:10:42 → 00:10:45 ที่โรงงานที่คือวัดที่ชื่อว่าต่ำนะคะว่า
00:10:45 → 00:10:47 ถ้าน้ำตาลสูงต้นในเอา You Of น้ำตาล
00:10:47 → 00:10:50 เนี่ยเข้าไปเก็บในโกดังเก็บๆไว้ก่อนนะคะ
00:10:50 → 00:10:52 ไว้เผื่อยามจำเป็นนะคะแต่ว่าในยามที่น้ำ
00:10:52 → 00:10:55 ตาลในเลขขัดแขนนะฮะนะคะอ่ะและศาลก็จะส่ง
00:10:55 → 00:10:58 สัญญาณเอ้อส่ง Order มาว่าเอาเอาใหม่ต่าง
00:10:58 → 00:11:00 ๆมาใช้อารมณ์ตามมาใช้อะไรเนี่ยเกาะโรงงาน
00:11:00 → 00:11:02 ก็จะเอาน้ำตาที่สะสมไว้เนี่ยปล่อยเข้ามา
00:11:02 → 00:11:04 ในกระแสเลือดเพราะฉะนั้นเนี่ยนะถ้าเราได้
00:11:04 → 00:11:07 เป็นเบาหวานในจริงๆแล้วน้ำตาลในเลือดแล้ว
00:11:07 → 00:11:10 กว่าไม่ได้มานะเพราะว่ามี Hormone 2 ตัว
00:11:10 → 00:11:12 นะมาช่วยคล้ายๆกับเผื่อทำ check Balance
00:11:12 → 00:11:14 ตรงนี้นะคะไม่ต้องขอด้วยจะไม่ว่าเรื่อง
00:11:14 → 00:11:16 เนี้ยพี่โอเคเขียนลงในบล็อกอีกครั้งนึง
00:11:16 → 00:11:20 อ้ะความแตกต่างของน้ำตาลของคนปกติคนที่
00:11:20 → 00:11:24 เป็นเบาหวานอ๋อคือใช่คือสรุปสั้นๆเลยนั่น
00:11:24 → 00:11:27 ก็คือว่าในภาวะคนปกติสุวัฒน์เลาเลือดของ
00:11:27 → 00:11:29 เราเนี่ยเป็นแวมไพร์และว่าเอาเลื่อนเร็ว
00:11:29 → 00:11:31 ตรงมาจะออกมาทั้งตัวเลยเนี่ยไปใส่ในถัง
00:11:31 → 00:11:34 เรียกว่าจะได้ประมาณซัก 5 ลิตรถามว่ามี
00:11:34 → 00:11:37 น้ำตาลในเลือดตั้งเป็นคนปกติในเลือดในน้ำ
00:11:37 → 00:11:39 ตัดประมาณเท่าไหร่คำตอบคือประมาณ 1 ช้อน
00:11:39 → 00:11:39 ชา
00:11:39 → 00:11:42 สุราหรือของคนเบาหวานว่ามันกันอีก 1 ถัง
00:11:42 → 00:11:44 นะ 5 ลิตรถามว่ามีน้ำตาลอยู่ประมาณเท่า
00:11:44 → 00:11:47 ไหร่ประมาณ 1 เศษ 1 ส่วน 4 ช้อนชาโหต้อง
00:11:47 → 00:11:50 ชนิดเดียวใช่มันต่างกันแค่ 1 ส่วน 4 ช้อน
00:11:50 → 00:11:52 ชาซึ่งสะท้อนให้เห็นไว้ฮอร์โมนอินซูลิน
00:11:52 → 00:11:55 ครูคะก็เนี่ยมัน Balance ได้แบบและออกมา
00:11:55 → 00:11:58 เลยมากๆเราเห็นว่าความต่างขึ้นนิดเดียว
00:11:58 → 00:12:01 เท่านั้นเองมันคือนี่ก็ไม่เบาหวานคือตา
00:12:01 → 00:12:05 บอดตัดขาไปวายอะไรประมาณนี้เพราะฉันจะ
00:12:05 → 00:12:07 เห็นเลยว่าคำสะท้อนให้เห็นว่าร่างกายเรา
00:12:07 → 00:12:09 เนี่ยมันละเอียดมากซึ่งทำให้คนที่เรียน
00:12:09 → 00:12:11 หมอหลายคนบอกว่าจะต้องดีท็อกซ์หรือต้อง
00:12:11 → 00:12:14 ถามสะพัดวิธีเราจะรู้สึกว่าเผยร่างกายมัน
00:12:14 → 00:12:17 ทำงานได้แบบมาสะจันมาอยู่แล้วเราไม่ต้อง
00:12:17 → 00:12:19 ไปช่วยไปล้างตับล้างไตอะไรประมาณขนาดนั้น
00:12:19 → 00:12:24 น้องใจจริงนะคะคราวนี้นะคะคนที่อาจจะ
00:12:24 → 00:12:26 สงสัยไวรัสเบาหวานอะไรพวกนี้มาได้ยังไง
00:12:26 → 00:12:28 คือจริงๆแล้วเรื่องโรคเบาหวานในเป็น
00:12:28 → 00:12:30 เรื่องที่มีรายละเอียดเดียวมากเลยนะคะแต่
00:12:30 → 00:12:32 ว่าถ้าเกิดว่าเอาสั้นๆเลยเนี่ยให้มัน
00:12:32 → 00:12:34 เกี่ยวข้องกับตอนนี้ของเราในก็คือว่า
00:12:34 → 00:12:37 เมื่อเรารู้จักเซลล์ส่วนนี้ของตับอ่อน
00:12:37 → 00:12:38 แล้วนะคะคือส่วนที่เรียกว่า I Love of
00:12:38 → 00:12:41 แรงก็ฮานะฮะเท่ากับว่าสำหรับเซลล์ส่วนนี้
00:12:41 → 00:12:44 ค่ะเกิดมีน้อยนะคะหรือว่าไม่ทำงานหรือว่า
00:12:44 → 00:12:46 ผลิตอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกดน้ำ
00:12:46 → 00:12:50 ตาลลงได้ไม่เพียงพอนะคะหรือว่าบางทีเนี่ย
00:12:50 → 00:12:52 เขาไปอยู่ได้เพียงพอแต่ว่าร่างกายและมี
00:12:52 → 00:12:54 ภาวะที่ดื้ออินเทอร์เน็ตซึ่งเจอเยอะเลยใน
00:12:54 → 00:12:58 คนที่อย่าตื่นตาก็ทำให้พัฒนาเป็นโรคเบา
00:12:58 → 00:13:00 หวานขึ้นมานะคะแต่ว่าอะไรละเอียดในเราอาจ
00:13:00 → 00:13:04 จะมาทำอีกต่อนึงเนาะนะฮะส่วนต่อมมีท่อ
00:13:04 → 00:13:07 เนี่ยก็มีโรคที่รุนแรงเหมือนกันก็คือตับ
00:13:07 → 00:13:09 อ่อนอักเสบนะคะต้องเนี่ยคนทั่วไปไม่ค่อย
00:13:09 → 00:13:12 คุ้นเคยนะคะแต่ว่าจริงๆแล้วาพรปีใหม่ตอน
00:13:12 → 00:13:15 นี้คือตรวจแค่คนที่ปุ่นเยอะก็คนญี่ปุ่นใน
00:13:15 → 00:13:17 รู้จักโรคคนเยอะมากเลยค่ะเพราะพูดคำว่า
00:13:17 → 00:13:19 ต่อนักเรียนเขารู้จักทันทีเลยนั่นก็เรียก
00:13:19 → 00:13:22 เลข 4 ตัวเองนะคะทุกคนรู้จักหมดเลยเพราะ
00:13:22 → 00:13:24 ว่าอะไรอยู่ไหมถึงเราให้เพราะคนญี่ปุ่น
00:13:24 → 00:13:27 เนี่ยนะคนนี้ฝนเนี่ยเขาจะมีเหมือนกับ
00:13:27 → 00:13:30 Business Meeting คืออะไรคะเล็กโนมิไก่
00:13:30 → 00:13:32 จะต้องดื่มต้องไปดื่มประชุมไปดื่มไปและจะ
00:13:32 → 00:13:35 ลูกค้ามาแล้วในเขาต้องดื่มเหล้าในปริมาณ
00:13:35 → 00:13:37 มากค่ะนี่การดื่มแอลกอฮอล์นะคะในปริมาณ
00:13:37 → 00:13:40 ที่สูงน่ะมันก็ทำให้เรามีความเสี่ยงต่อ
00:13:40 → 00:13:42 การเป็นตอนเคยเป็นสาเหตุสำคัญหนึ่งของ
00:13:42 → 00:13:44 ตะวันอักเสบสมัยก่อนตอนเราเป็นนักศึกษา
00:13:44 → 00:13:46 แพทย์เราเจอบ่อยๆเหมือนกันนะคนที่ดื่ม
00:13:46 → 00:13:49 เหล้าหนักๆส่วนใหญ่นะคะก็จะทำให้เหมือน
00:13:49 → 00:13:51 กับว่าตอนอักเสบแล้วมันก็จะรุนแรงมาก
00:13:51 → 00:13:54 เพราะว่าในผ้าที่เราคุยกันมาค่ะคือตับ
00:13:54 → 00:13:56 อ่อนผลิตนะมีในทั้งย่อยคาร์โบไฮเดรต
00:13:56 → 00:13:59 โปรตีนไขมันโดยเฉพาะโปรตีนขึ้นในช่องท้อง
00:13:59 → 00:14:02 เรือเวลาดูๆว่าทุกช่องท้องเนี่ยตับอ่อน
00:14:02 → 00:14:04 เนี่ยในความรู้สึกของหมอหรือหมอผ่าตัด
00:14:04 → 00:14:06 เนี่ยะก็จะสึกว่ามันเป็นอวัยวะที่เหมือน
00:14:06 → 00:14:09 เป็นถังบรรจุระเบิดระเบิดในประมาณแล้ว
00:14:09 → 00:14:11 เปิดเวลาคือไม่ใช่ไปเราไปทำมันแตกง่าย
00:14:11 → 00:14:14 แล้วมันหลังออกมานี่คือเรื่องใหญ่ใช่ก็
00:14:14 → 00:14:16 เท่ากับว่าสองเราจะพาตันบริเวณนั้นอาหาร
00:14:16 → 00:14:18 หรือว่าจริงๆการผ่าตัดตับอ่อนเนี่ยเป็น
00:14:18 → 00:14:21 การผ่าตัดที่อยากมากแล้วก็ต้องคุณหมอที่
00:14:21 → 00:14:24 พัดจะเหมาะกับปลาตับอ่อนก็ต้องเชี่ยวชาญ
00:14:24 → 00:14:26 มากๆเลยเพราะฉะนั้นเวลาเราอย่างเช่นกิน
00:14:26 → 00:14:28 อะไรก็ตามหรือว่าโดนอุบัติเหตุทำให้เกิด
00:14:28 → 00:14:31 หน้าเช่นเบอร์เท็จที่ช่องท้องๆรถชนในพวก
00:14:31 → 00:14:33 เนี้ยตะกอนบาดเจ็บเนี่ยมันก็มีความเสี่ยง
00:14:33 → 00:14:36 ที่พูดนี้จะหลุดออกมาไล่ออกมาเนาะหรือว่า
00:14:36 → 00:14:38 เรื่องของอัลกอฮอล์ที่พูดไปเช่นเป็น
00:14:38 → 00:14:40 สาเหตุที่เจอได้บ่อยด้วยนะเท่าไหร่ใช่นะ
00:14:40 → 00:14:43 คะคราวนี้นะคะก็นอกจากแนทก็ยังอีกสาเหตุ
00:14:43 → 00:14:46 หนึ่งที่เจอได้บ่อยก็คือคนที่มีภาวะ
00:14:46 → 00:14:50 ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมากๆซึ่งบางคนบอก
00:14:50 → 00:14:53 ว่าเออไปกินอะไรสูงเนี่ยส่วนทีปกติแล้ว
00:14:53 → 00:14:55 ไม่ควรจะเกินร้อยห้าสิบนะคะแต่เต็มที่
00:14:55 → 00:14:57 เจาะเลื่อนมาได้ 4-5 ร้อยแล้วเนี้ยซึ่ง
00:14:57 → 00:14:59 มันไม่ได้มีอาการอะไรอ่ะเขาหรือไม่เดือด
00:14:59 → 00:15:02 ร้อนแต่ว่าจริงๆแล้วที่เรากลัวกลัวมากที่
00:15:02 → 00:15:04 สุดเลยในก็คือกลัวว่าไปกินทรายตรงนี้ใคร
00:15:04 → 00:15:06 จะไปกระตุ้นทำให้เกิดกับอ่อนอักเสบว่ามัน
00:15:06 → 00:15:09 เป็นโรคที่ 4 เรียกมาแล้วก็ถ้าเป็นในก็มี
00:15:09 → 00:15:11 โอกาสที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตชนะเพราะ
00:15:11 → 00:15:13 ฉะนั้นบางทีเราก็บอกว่าแบบก็ถ้าเป็น
00:15:13 → 00:15:15 อย่างนั้นจริงอาจจะจำเป็นต้องรักษาถึง
00:15:15 → 00:15:17 ความเสี่ยงน้อยแต่ว่าไม่ควรจะเสียงเลยนะ
00:15:17 → 00:15:21 คะก็คือส่วนนี้ก็พอเพราะมองข้อเฮอร์ชี่
00:15:21 → 00:15:24 ว่าคือชื่อว่าตอนนี้คุณทั้งหมดก็น่าจะทำ
00:15:24 → 00:15:26 ให้นึกภาพออกนะแล้วก็คิดว่าน่าจะครอบคลุม
00:15:26 → 00:15:29 ค่อนข้างค่อนข้างดีสำหรับอวัยวะที่ชื่อ
00:15:29 → 00:15:32 ว่าตับอ่อนค่าก็วันนี้เราก็พอแค่นี้แล้ว
00:15:32 → 00:15:34 กันเนอะแล้วก็ข้างหน้าเนี่ยเราก็ตั้งใจ
00:15:34 → 00:15:36 และจะคุยถึงอวัยวะที่ไม่ค่อยคนไม่ค่อย
00:15:36 → 00:15:39 คุ้นเคยกันก็คือเรื่องของม้าไม่มีโสดหน้า
00:15:39 → 00:15:41 สุดท้ายก็เช่นเคยนะครับถ้าชอบกด Cash นะ
00:15:41 → 00:15:44 ครับก็ช่วยกด like กด Share comment
00:15:44 → 00:15:46 Subscribe เขียนรีวิวให้หน่อยนะครับนอก
00:15:46 → 00:15:48 จากช่องทางพอดแคสต์เนี่ยเราก็มีช่องทาง
00:15:48 → 00:15:51 อื่นให้ติดตามนะครับก็มี Facebook บล็อก
00:15:51 → 00:15:53 ดิบนะครับเพจใช่เรื่องเล่าจากร่างกาย
00:15:53 → 00:15:56 สำหรับวันนี้ก็ทำนะครับเราสองคนก็ขอลาไป
00:15:56 → 00:15:58 ก่อนแล้วเรามาเจอกันใหม่ในส่วนหน้านะครับ
00:15:58 → 00:16:08 สวัสดีครับใช่ที่
00:16:08 → 00:16:12 [เพลง]
00:16:12 → 00:16:15 อิอิ
00:00:00 → 00:00:01 ก็
00:00:01 → 00:00:03 สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้เราจะมาคุยกัน
00:00:03 → 00:00:07 เรื่องของตะกอนใช่ค่ะนะคะคือไอเดียก็คือ
00:00:07 → 00:00:08 อย่างเงี้ยขั้นตอนที่แล้วเนี่ยตอนที่คุย
00:00:08 → 00:00:10 เรื่องของออยว่าต่างๆในร่างกายเนี่ยคือ
00:00:10 → 00:00:13 ให้รู้จักร่างกายแล้วคุยเรื่องของตอบแล้ว
00:00:13 → 00:00:16 เราก็อยากจะคุยอย่างเช่นเรายังเก่ายับ
00:00:16 → 00:00:18 หลายๆอย่างแล้วก็รู้อย่างหัวใจใครๆก็รู้
00:00:18 → 00:00:20 ว่าทำอะไรก็เพราะคนหรือว่าทำอะไรแต่ตับ
00:00:20 → 00:00:23 เป็นคนละเตียงทำอะไรนะตับอ่อนนี่บางคนอาจ
00:00:23 → 00:00:26 จะยังไม่รู้ว่าทำอะไรบ้างหรืออย่างน้ำจะ
00:00:26 → 00:00:29 ทักไปตอนถัดไปเราเป็นวัยที่พูดมาแล้วคน
00:00:29 → 00:00:33 แบบทำอะไรใช่คือตาวอนเนี่ยเป็นอวัยวะที่
00:00:33 → 00:00:36 เวลาแบบมีคนแค่มาตรวจสุขภาพและหลายคนถาม
00:00:36 → 00:00:39 เลยว่าอยู่ตรงไหนทำอะไรไม่มีไอเดียเลยอัน
00:00:39 → 00:00:41 นี้ก็จะประสบการณ์แล้วว่าคนเนี่ยค่อนทั้ง
00:00:41 → 00:00:44 หลายคนนะสับสนไม่คุ้นเคยเอิ่มซึ่งก็เข้า
00:00:44 → 00:00:46 ใจได้เพราะบางครั้งมันไม่ใช่สิ่งที่คุยใน
00:00:46 → 00:00:48 ชีวิตประจำวันตายคนเรียนชีววิทยามาก็
00:00:48 → 00:00:52 เจริญไปได้โอเคเข้าเรื่องเลยตะปอนท่าแรก
00:00:52 → 00:00:54 ก่อนว่าตับอ่อนอยู่ตรงไหนของร่างกายนะคะ
00:00:54 → 00:00:57 ขานี้เนี้ยจริงๆอยากให้ทุกคนยืนขึ้นค่ะนะ
00:00:57 → 00:01:00 คะแล้วก็ม่วนเชื่อขึ้นถ้าขับรถอยู่
00:01:00 → 00:01:02 มีอะไรนะคะครับอยู่จะกลับบ้านไปทำแม้แต่
00:01:02 → 00:01:06 รายนะคะก็มวยเชื่อขึ้นนะคะเสร็จแล้วค่ะ
00:01:06 → 00:01:09 มองที่กระจกขาและมองที่ 10 แผ่นสวยงามของ
00:01:09 → 00:01:12 เราค่ะตับอ่อนเนี่ยก็คือจะอยู่ที่หลัง 10
00:01:12 → 00:01:15 แพ็คค่ะ 2 ก้อนบนนะคะหรือว่าโอเคถ้าเกิด
00:01:15 → 00:01:18 ว่าใครไม่มีซิกแพคและก็มีหน้าท้องนิดๆนะ
00:01:18 → 00:01:20 คะก็อาจจะทำที่ชายโครงอ่ะเธอใต้ซี่โครง
00:01:20 → 00:01:23 เราปุ๊บนี่นะคะแล้วก็ตรงชายโครงของเราใน
00:01:23 → 00:01:25 ระหว่างชายโครงละสองข้างนะคะตรงนั้นเป็น
00:01:25 → 00:01:27 ตำแหน่งของกระเพาะอาหารแล้วก็ด้านหลังของ
00:01:27 → 00:01:30 เขาเพราะอาหารนั่นก็คือแต่ต่อนะนี่เอ่อ
00:01:30 → 00:01:33 จุดสำคัญก็คือนี้คือตอบอ่อนมันดูหลัง
00:01:33 → 00:01:36 กระเพาะแล้วตัวตับอ่อนเนี่ยมันก็ยังไปชิด
00:01:36 → 00:01:38 กับลำไส้เล็กด้วยความน่าสนใจไม่เคยนี้มัน
00:01:38 → 00:01:41 คือมันไปเกาะอยู่ใกล้ๆกับอวัยวะที่ใช้
00:01:41 → 00:01:44 ย่อยอาหารเลยแล้วก็รู้ว่าไม่เกี่ยวข้อง
00:01:44 → 00:01:47 กับกระเพาะและลำไส้เล็กที่หน้าที่ของมัน
00:01:47 → 00:01:49 คืออะไรตับอ่อนตับอ่อนในจริงๆแล้วเป็น
00:01:49 → 00:01:52 โอโยที่สำคัญมากเลยนะคะแล้วก็จริงๆหน้า
00:01:52 → 00:01:54 ที่เขาซับซ้อนเหมือนกันแต่ว่าหลักๆเลยนะ
00:01:54 → 00:01:56 คะก็เป็น 2 อย่างไรเราจะเคยได้ยินคำว่า
00:01:56 → 00:02:00 ต่อมไร้ท่อนะคะกับต่อมมีท่อค่ะวันนี้แหละ
00:02:00 → 00:02:03 จะได้รู้แล้วว่าทำไมต้องไร้ท่อทำไมต้องมี
00:02:03 → 00:02:07 ท่อนะคะอันแรกเนี่ยก็ขอนี้ไหมขอพูดตรงๆ
00:02:07 → 00:02:10 ส่วนที่เป็นมีท่อก่อนเนาะมาที่ต้องมีทอด
00:02:10 → 00:02:13 เนี่ยเพราะว่าเขาต้องขนส่งสิ่งที่มันอาจ
00:02:13 → 00:02:16 จะทำอันตรายกับร่างกายนะคะซึ่งก็คือหลักๆ
00:02:16 → 00:02:18 คงเป็นพวกน้ำย่อยอะไรพวกนี้มันก็เลยต้อง
00:02:18 → 00:02:21 มีท่อการเอาไว้ใช่เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ
00:02:21 → 00:02:24 ย่อยหรือว่าสิ่งอันตรายพวกนี้ค่ะมันรั่ว
00:02:24 → 00:02:27 ไปทำความบาดเจ็บความเสียหายเนี่ยให้กับ
00:02:27 → 00:02:30 ส่วนอื่นของร่างกายแล้วมีข้อสอบไม่มีท่อ
00:02:30 → 00:02:33 คืออะไรแต่ให้กับว่าไม่มีท่อนะคะก็คือจาก
00:02:33 → 00:02:36 เซลล์ต่างๆนะคะเซลล์ในตับอ่อนนะคะเวลา
00:02:36 → 00:02:38 เค้าสร้างสารอะไรบางอย่างขึ้นมาส่วนใหญ่
00:02:38 → 00:02:40 เป็นพวกฮอร์โมนเลยนะคะถือว่าโปรตีนและใย
00:02:40 → 00:02:43 เขาก็จะส่งสารพวกเนี่ยให้ซึมเข้าสู่เส้น
00:02:43 → 00:02:46 เลือดโดยตรงหรือไม่ก็จะพูดได้ไงว่าคือมัน
00:02:46 → 00:02:48 ก็สร้างสรรค์เคมีแหละแต่สารเคมีที่
00:02:48 → 00:02:51 อันตรายเดี๋ยวมันต้องส่งผ่านท่อก็คือส่ง
00:02:51 → 00:02:54 ไปที่ที่มันจะต้องทำงานแล้วใช่นะคะก็
00:02:54 → 00:02:56 อย่างที่เราคุยกันหาว่าเนื่องจากว่าหลักๆ
00:02:56 → 00:02:58 ต้องส่วนที่เป็นต่อมมีท่อตัวนี้เค้าผลิต
00:02:58 → 00:03:00 น้ำย่อย
00:03:00 → 00:03:02 ก็เพราะฉะนั้นน้ำย่อยในก็จะต้องส่งไปยัง
00:03:02 → 00:03:04 ส่วนที่เราทำหน้าที่ย่อยอาหารซึ่งก็คือ
00:03:04 → 00:03:06 เรือเกือบทางเดินอาหารของเราอ่ะครับเพราะ
00:03:06 → 00:03:10 ลำไส้เนี่ยนั่นเองนะคะคราวนี้นะคะน้ำย่อย
00:03:10 → 00:03:13 นะคะหรือว่าสารที่มาช่วยเกี่ยวกับการย่อย
00:03:13 → 00:03:15 อาหารตรงนี้มีอะไรบ้างนะคะอย่างแรกเลยนะ
00:03:15 → 00:03:19 คะก็คือสารที่ชื่อว่าไบคาร์บอเนตนะคะจริง
00:03:19 → 00:03:21 ๆมันฟังดูเหมือนเป็นชื่อเคมีแต่ว่าจริงๆ
00:03:21 → 00:03:24 แล้วมันเหมือน Baking Soda หรือว่าตัว
00:03:24 → 00:03:28 Soda ที่เรามาทำขนมนะค่ะไฟโซดาใส่ใช่นะ
00:03:28 → 00:03:31 คะซึ่งจริงๆแล้วนะคะตัวนี้มันมีฤทธิ์เป็น
00:03:31 → 00:03:35 ด่างนะคะที่เราต้องมีการสร้างไปค่ะมาเดะ
00:03:35 → 00:03:37 เนี่ยมาเนื่องจากว่าในกระเพาะอาหารเรา
00:03:37 → 00:03:39 เนี่ยหลายๆคนครึ่งๆคงเคยทราบว่าในกระเพาะ
00:03:39 → 00:03:42 อาหารแล้วในความเป็นกฎหมายสูงมากใช่ไหมคะ
00:03:42 → 00:03:44 พี่ s1 ใช่มาพี่ก็เลยคือตัวในเพราะอาหาร
00:03:44 → 00:03:48 เนื้อถ้าเราดูเรามาแล้วหยดใส่ไม้มัน
00:03:48 → 00:03:50 สามารถทำให้ไม้ในทะลุได้ก็ค่อยกร่อนไม้ก็
00:03:50 → 00:03:53 ได้ใช่นะครับก็เป็นกฎที่แรงที่สุดแล้ว
00:03:53 → 00:03:55 แหละเพราะพี่ S มันคือแบบความเป็นประสงค์
00:03:55 → 00:03:57 สุขเหมือนหรือคิดดูว่าเรากินอะไรเข้าไป
00:03:57 → 00:03:59 บ้างเลยแต่ละอย่างสามารถที่จะแบบถูกสลาย
00:03:59 → 00:04:03 จนยุ่ยผู้ชายก็คือหมูกะทะเค้าก็คือครัว
00:04:03 → 00:04:06 ส่วนของสเปคเลยอ่ะของได้ 5 เจอกรดเรา
00:04:06 → 00:04:08 เนี่ยนะเจอกรดในกระเพาะหาเราในย่อยนะแต่
00:04:08 → 00:04:11 ว่าคำนี้กรดที่มันแรงขนาดนี้นะคะถ้าเกิด
00:04:11 → 00:04:14 ว่าสมมติว่ามันไหลไปยังทางเดินอาหารส่วน
00:04:14 → 00:04:17 อื่นๆนำไส้เล็กลำไส้ใหญ่เนี่ยนะคะมันก็จะ
00:04:17 → 00:04:19 ไปทำอันตรายกับเราใช้ด้วยนะคะเพราะฉะนั้น
00:04:19 → 00:04:21 เนี่ยการที่เรามีไบคาร์บอเนตหรือว่ามี
00:04:21 → 00:04:24 ด่างนะคะก็คือเหมือนกับเพื่อมาสลายความ
00:04:24 → 00:04:28 เป็นกดตรงนี้นะคะอย่างที่สองก็จะมาถึงน้ำ
00:04:28 → 00:04:31 ย่อยจริงๆแล้วนะคะคราวนี้ถ้าใครให้ฟังตอน
00:04:31 → 00:04:33 ที่เราคุยกันเรื่องตับนะคะหรือว่าจะไม่
00:04:33 → 00:04:35 ต้องสั่งเรื่องกับและนะคะอาหารที่เราทาน
00:04:35 → 00:04:38 เข้าไปหลักๆที่ต้องการการย่อยมากๆเลยนะก็
00:04:38 → 00:04:41 คงมีอยู่สามอันนะคะก็คือคาร์โบไฮเดรต
00:04:41 → 00:04:45 โปรตีนและไขมันนะคะเพราะฉะนั้นน้ำย่อยใน
00:04:45 → 00:04:47 ก็จะต้องมีมาลองครับเนี่ย 3 ตัวนี้เหมือน
00:04:47 → 00:04:50 กันนะคะอันแรกเลยนะคะก็คือน้ำย่อยโปรดอาบ
00:04:50 → 00:04:53 น้ำด้วยคาร์โบไฮเดรตเองในแปลงโดยแป้งนะ
00:04:53 → 00:04:56 นี่เดี๋ยวชื่อว่า mis นะฉันจะเอาไมเซนน่า
00:04:56 → 00:04:58 สนใจเหมือนกันเนื่องจากว่าตัวนี้เป็นน้ำ
00:04:58 → 00:05:01 เยอะเนี่ยมาย่อยแป้งนะคะเราจะใช้ตัวนี้มา
00:05:01 → 00:05:04 เป็นเอ่อเทสตี้ใช้เป็นมาสเตอร์ของโรคตับ
00:05:04 → 00:05:07 อ่อนอักเสบได้อย่างเวลาที่คนไข้มีอาการ
00:05:07 → 00:05:09 ของตับอ่อนอักเสบจะพูดตรงนี้และราย
00:05:09 → 00:05:11 ละเอียดเพิ่มเติมนะคะแต่ว่าเราก็จะตรวจ
00:05:11 → 00:05:13 อะไมเลสในเลื่อนอ่ะค่ะว่ามันสูงขึ้นสำโรง
00:05:13 → 00:05:16 ยังไงถ้าเกิดว่าเมล็ดสูงผิดปกติราคาก็อาจ
00:05:16 → 00:05:18 จะบอกว่ามีแต่บอกแล้วเสพมันเหมือนกับว่า
00:05:18 → 00:05:22 เวลาคือว่ามันตับมันลดตะกอนมันบาดเจ็บใช่
00:05:22 → 00:05:24 ไหมเซลล์มันจะแตกได้พวกสารเคมีที่อยู่ใน
00:05:24 → 00:05:27 อวัยวะผู้เลี้ยงก็จะลวกมาในเลือดทำให้เรา
00:05:27 → 00:05:30 สามารถวัดค่าในเลือดได้ขึ้นในตับในเพื่อ
00:05:30 → 00:05:32 ไม่ได้พูดถึงว่าจะมีเรื่องของเอนไซม์ที่
00:05:32 → 00:05:34 เราสามารถวัดค่าได้มีแต่ว่าตัดเราก็จะมา
00:05:34 → 00:05:37 เป็นสารตัวอื่นเนาะเธอมีแต่ว่านี่คืออยาก
00:05:37 → 00:05:39 ให้เราเข้ากันเพราะจริงๆก็ตั้งใจว่าตอน
00:05:39 → 00:05:42 ที่พูดเรื่องโลกเนี่ยเราจะธิบายทีนึงฮะ
00:05:42 → 00:05:43 แต่คิดว่าจริงมันเป็นไอเดียที่ดีเหมือน
00:05:43 → 00:05:45 กันว่าถ้าเกิดเราเข้าใจการทำงานของอวัยวะ
00:05:45 → 00:05:49 เนี่ยเราก็จะเข้าใจเทสที่หมอมาใช้ด้วยก็
00:05:49 → 00:05:51 คือเข้าใจภาวะปกติจะได้รู้ว่าตอนที่ 8
00:05:51 → 00:05:55 ปกติเนี่ยเขาตรวจอะไรนะคะหาอย่างที่สอง
00:05:55 → 00:05:57 เลยก็เป็นน้ำย่อยไขมันนะคะก็ชื่อว่าไลเปส
00:05:57 → 00:06:00 นะคะก็เหมือนกันอะไรเป็นเนี่ยเราจะเอามา
00:06:00 → 00:06:02 ใช้เป็นเทปที่ตรวจเวลาตอบข้อ 1 เศษเหมือน
00:06:02 → 00:06:05 กันนะคะแล้วก็อย่างที่ 3 เลยนะคะตัวนี้
00:06:05 → 00:06:08 น่าสนใจก็คือน้ำได้โปรตีนนะคะเราเรียก
00:06:08 → 00:06:11 ชื่อแล็ปใยโปรตีนที่ชื่อว่าโปรตีเอสหาคำ
00:06:11 → 00:06:13 ว่า S เนี่ยคือเป็นเอนไซม์ที่ย่อยนะฮะก็
00:06:13 → 00:06:16 คราวนี้จะมันก็มีชื่อนะคะเพราะ protease
00:06:16 → 00:06:19 มันมีหลายชนิดในร่างกายนะฮะน้ำได้ตัวนี้
00:06:19 → 00:06:22 นะคะชื่อว่าทุกที่โนเจนหรือว่าใครโม Shift
00:06:22 → 00:06:26 Tab ชิโนเช่นหน้าซึ่งเวลาสร้างออกมาแล้ว
00:06:26 → 00:06:28 นะคะมันไม่ได้สามารถย่อยได้ทันทีเพราะว่า
00:06:28 → 00:06:30 เนื่องจากว่าร่างกายของเราเนี่ยส่วน
00:06:30 → 00:06:33 ประกอบหลักของร่างกายแล้วคือน้ำโปรตีนนะ
00:06:33 → 00:06:35 คะเพราะฉะนั้นลองนึกภาพว่าถ้าสมมติตับ
00:06:35 → 00:06:38 อ่อนเนี่ยหลังเอนไซม์ที่ย่อยโปรตีนในออก
00:06:38 → 00:06:40 มาถึงจะเป็นพ่อในท่อนเป็นโปรตีนเหมือนกัน
00:06:40 → 00:06:42 นะถ้าเกิดว่าสมมติว่าปล่อยมาปุ๊บเนี่ยมัน
00:06:42 → 00:06:45 ย้อยโปรตีนเป็ดระหว่างทางและจะสร้างอะไร
00:06:45 → 00:06:47 ให้กำลังกายเพราะฉะนั้นเนี่ยร่างกายเรา
00:06:47 → 00:06:49 ถึงจะต้องสร้างน้ำย่อยโปรตีนออกมาใน
00:06:49 → 00:06:53 ลักษณะของรูปที่ยังไม่สำเร็จรูปและเป็น
00:06:53 → 00:06:55 รูปที่เหมือนยังไม่ทำงานนะคะเขาจะเลยว่า
00:06:55 → 00:06:59 โปรเองทรายใช่คือว่าก่อนที่จะเป็นสารเรา
00:06:59 → 00:07:01 ต้องมีการมารู้จักแต่งโมเลกุลมันถึงจะ
00:07:01 → 00:07:05 ตื่นขึ้นมาทำงานใช่นะคะแล้วก็การที่เขาจะ
00:07:05 → 00:07:07 ตื่นได้เนี่ยเขาจะไม่ได้แบบตื่นรู้ขึ้นมา
00:07:07 → 00:07:10 ในตับอ่อนแต่ว่าจะต้องหลายเข้าไปอยู่ในลำ
00:07:10 → 00:07:12 ไส้เล็กตอนต้นก่อนนะคะแล้วลำไส้เล็กตอน
00:07:12 → 00:07:15 ต้นเนี่ยก็จะหลั่งสารบางอย่างขณะชื่อ
00:07:15 → 00:07:18 enteric ที่ Day นะคะเพื่อมากระตุ้นทุก
00:07:18 → 00:07:22 ที่น้อยเจ้นให้กลายมาเป็น A3 ที่ Active
00:07:22 → 00:07:24 แล้วก็ทำงานขึ้นมาคือจริงๆชื่อเนี่ยก็ไม่
00:07:24 → 00:07:27 ได้ตั้งใจจะให้จำเลยก็มาดูว่าเราก็พูด
00:07:27 → 00:07:30 ขึ้นมาเฉยให้แบบเออรู้มันมีชื่อเรียกแต่
00:07:30 → 00:07:32 ไม่อยากให้เห็นภาพเฉยว่าโอเคน้ำย่อยออกมา
00:07:33 → 00:07:35 นะครับในลำไส้ต้องมีตัวปลาตุ้นมันถึงจะทำ
00:07:35 → 00:07:37 งานชายนะนี่จะอยากจะไปแล้วว่าเป็นของแถม
00:07:37 → 00:07:40 มากกว่านะเพราะว่าอยู่ที่อาจจะแบบมีคนฟัง
00:07:40 → 00:07:43 ของเราเป็นแบบน้องๆมัธยมเลย 5 สมัยมัธยม
00:07:43 → 00:07:46 มีข้อสอบเนี่ยพรุ่งนี้หานะฮะแล้วก็เนี่ย
00:07:46 → 00:07:48 ค่ะหลักๆในส่วนที่เป็นต่อมมีท่อนี่ก็เป็น
00:07:48 → 00:07:52 แบบนี้นะคะต่อไปแล้วก็จะเราจะพูดถึงต้อง
00:07:52 → 00:07:54 ไปทอดก่อนนะแล้วค่อยพูดถึงเราของตับอ่อน
00:07:54 → 00:07:57 แต่ต้องมีเท่าจบกันไปแล้วนะคะต่อไปก็จะ
00:07:57 → 00:07:59 เป็นส่วนที่เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่ตรงนี้
00:07:59 → 00:08:02 เป็นน้องที่เป็นเซลล์แค่จำนวนหนึ่ง
00:08:02 → 00:08:05 เปอร์เซ็นต์น้อยก็คือตัวตหอในเวลาจริงจะ
00:08:05 → 00:08:08 ไปดูทั้งหมด 99% ของมันเนี้ยเป็นเรื่อง
00:08:08 → 00:08:11 ของไอ้พวกน้ำโดยถวายแหละหลังจะมีประมาณ 1%
00:08:11 → 00:08:14 แซมกระจายเข้าใจในตับอ่อนแต่ตรงนี้คือ
00:08:14 → 00:08:17 ส่วนเรื่องใหญ่เลยที่คนส่วนใหญ่รู้จักใช่
00:08:17 → 00:08:20 นะครับเพราะว่าตรงนี้นะคะมันมีชื่อว่า
00:08:20 → 00:08:23 ahrefs of แหล่งก็หานะร่างกายเป็นชื่อ
00:08:23 → 00:08:26 คุณหมอคนนึงที่ดังมากเลยนะคะในสมัยก่อนนะ
00:08:26 → 00:08:29 คะก็ถูกเอามาตั้งชื่อในเป็นส่วนดีนะจำได้
00:08:29 → 00:08:32 สมัยเรียนนักศึกษาแพทย์ต้องแบบมีการเอา
00:08:32 → 00:08:37 ตับอ่อนมาแบบมันก้ำมาดูพยาธิสภาพในข้อตับ
00:08:37 → 00:08:39 อ่อนเนี่ยตัดมาแล้วต้องมาย้อมสีแล้วก็จะ
00:08:39 → 00:08:41 เห็น I Love I love and กระหายในเป็น
00:08:41 → 00:08:44 จุดเล็กๆกระจายเลยเนี่ยนะคะคราวนี้นะคะ
00:08:44 → 00:08:46 หน้าที่สำคัญของเขาว่าเขาก็คือผลิต
00:08:46 → 00:08:49 ฮอร์โมนที่ชื่อว่าอินซูลินกับกลูคากอนนะ
00:08:49 → 00:08:53 คะคราวนี้ตัวอินจูนี่ล่ะค่ะทำให้ตัวแต่พอ
00:08:53 → 00:08:57 จะเป็นที่รู้จักเพราะว่าก็เป็นตัวที่มี
00:08:57 → 00:09:00 ความสำคัญโรคเบาหวานนะคะเพราะฉะนั้นแค่ 1
00:09:00 → 00:09:02 เปอร์เซ็นต์ของตับอ่อนตรงนี้นะคะแต่ว่า
00:09:02 → 00:09:06 ถูกบริษัทยาถูกนักวิทยาศาสตร์นะคะทำวิจัย
00:09:06 → 00:09:09 แล้วก็ศึกษาการทำงานอย่างละเอียดยิบเลยนะ
00:09:09 → 00:09:12 คะน่ารักๆแล้วนะเขาทำอะไรบ้างฮอร์โมน 2
00:09:12 → 00:09:15 ตัวนี้ทำอะไรบ้างนะคะก็คือถ้าเกิดที่เรา
00:09:15 → 00:09:17 พูดตรงนี้เค้าเข้าไปบ้างแล้วนะตอนนี้เรา
00:09:17 → 00:09:20 คุยกันเรื่องต่ำนะแต่ว่าหลักๆในคือ
00:09:20 → 00:09:22 ฮอร์โมนตัวนี้นะคะ 2 ตัวนี้เขาทำหน้าที่
00:09:22 → 00:09:25 เพื่อ Balance สนตาลในเลือดในตอนที่เรา
00:09:25 → 00:09:28 โอ้โหสุขเกษมเปรมปรีดิ์นะครับว่าเพิ่งกิน
00:09:28 → 00:09:31 ถ้านี่โทสมา 2 ก้อนเลยเนี่ยถ้าน้ำตาลสูง
00:09:31 → 00:09:34 ปี๊ดนะฮะร่างกายก็จะรังหินสุรินทร์มานะคะ
00:09:34 → 00:09:36 เพื่อที่จะมาจัดการกับน้ำตาลในเลือดที่
00:09:36 → 00:09:38 มันสูงขึ้นมาตรงนี้นะคะ
00:09:38 → 00:09:42 ในทางกลับกันกลูคากอนแล้วพี่เอวก็จริง
00:09:42 → 00:09:44 เหมือนกับอันนี้มันเหมือนกับตาช้างเหรอ
00:09:44 → 00:09:48 ขึ้นต่อรักษาสมดุลถ้าน้ำตาลสูงอินสุลินก็
00:09:48 → 00:09:51 หลั่งเพื่อที่จะเอาน้ำตาลจากเลือดลงขึ้น
00:09:51 → 00:09:54 น้ำตาลในเลือดมันเป็นสิ่งที่ดีแต่ว่าต้อง
00:09:54 → 00:09:56 อยู่ในประมาณช่วงที่เหมาะสมชัดสูงนานเกิน
00:09:56 → 00:09:59 ไปเนี่ยมันทำลายเส้นเลือดแล้วทำลายเส้น
00:09:59 → 00:10:01 ประสาทเล็กๆช่วงที่น้ำตาลสุรินทร์
00:10:01 → 00:10:04 สุรินทร์กันหลังเอาน้ำตาลลงพ่อน้ำตาลมัน
00:10:04 → 00:10:08 ต่ำก็หลังถูกค่ะก้อนโตแต่ก่อนก็จะมี
00:10:08 → 00:10:10 เซ็นเซอร์มันก็จะหลั่งข้อมูลที่เหมาะสม
00:10:10 → 00:10:13 ออกมาฉันก็ไปสลายพวกแป้งในตับเนี่ยออกมา
00:10:13 → 00:10:16 เป็นน้ำตาลเข้าไปในเลือดก็ไปเสียแค่นี้ก็
00:10:16 → 00:10:17 คือเหมือนกับปลาร้าใส่ค่อยมันอยู่ที่
00:10:17 → 00:10:20 สมดุลตลอดเวลาถ้าเกิดว่าใครฟังตอนเรื่อง
00:10:20 → 00:10:22 ที่ตอบแน่เรามีการเปรียบเทียบไว้ค่ะว่า
00:10:22 → 00:10:25 จริงๆแล้วในตาเหมือนโรงงานนิดหน่อยนะคะตา
00:10:25 → 00:10:27 มันโรงงานด้วยเหมือนโกดังด้วยนะคะก็คือจะ
00:10:27 → 00:10:31 มีการสะสมน้ำตาลเนี่ยในรูปแบบต่างๆนะคะ
00:10:31 → 00:10:33 โดยเฉพาะไกลโคเจนนะคะครั้งนี้ถ้าเกิดว่า
00:10:33 → 00:10:37 ช่วงที่น้ำตาลในเลือดที่สูงนะคะตัวที่จะ
00:10:37 → 00:10:39 ส่งสัญญาณอ่ะหรือว่าคะทุกคนสั่งออร์เดอร์
00:10:39 → 00:10:42 แล้วก็เธอตับอ่อนแอเป็นคนสั่งออร์เดอร์มา
00:10:42 → 00:10:45 ที่โรงงานที่คือวัดที่ชื่อว่าต่ำนะคะว่า
00:10:45 → 00:10:47 ถ้าน้ำตาลสูงต้นในเอา You Of น้ำตาล
00:10:47 → 00:10:50 เนี่ยเข้าไปเก็บในโกดังเก็บๆไว้ก่อนนะคะ
00:10:50 → 00:10:52 ไว้เผื่อยามจำเป็นนะคะแต่ว่าในยามที่น้ำ
00:10:52 → 00:10:55 ตาลในเลขขัดแขนนะฮะนะคะอ่ะและศาลก็จะส่ง
00:10:55 → 00:10:58 สัญญาณเอ้อส่ง Order มาว่าเอาเอาใหม่ต่าง
00:10:58 → 00:11:00 ๆมาใช้อารมณ์ตามมาใช้อะไรเนี่ยเกาะโรงงาน
00:11:00 → 00:11:02 ก็จะเอาน้ำตาที่สะสมไว้เนี่ยปล่อยเข้ามา
00:11:02 → 00:11:04 ในกระแสเลือดเพราะฉะนั้นเนี่ยนะถ้าเราได้
00:11:04 → 00:11:07 เป็นเบาหวานในจริงๆแล้วน้ำตาลในเลือดแล้ว
00:11:07 → 00:11:10 กว่าไม่ได้มานะเพราะว่ามี Hormone 2 ตัว
00:11:10 → 00:11:12 นะมาช่วยคล้ายๆกับเผื่อทำ check Balance
00:11:12 → 00:11:14 ตรงนี้นะคะไม่ต้องขอด้วยจะไม่ว่าเรื่อง
00:11:14 → 00:11:16 เนี้ยพี่โอเคเขียนลงในบล็อกอีกครั้งนึง
00:11:16 → 00:11:20 อ้ะความแตกต่างของน้ำตาลของคนปกติคนที่
00:11:20 → 00:11:24 เป็นเบาหวานอ๋อคือใช่คือสรุปสั้นๆเลยนั่น
00:11:24 → 00:11:27 ก็คือว่าในภาวะคนปกติสุวัฒน์เลาเลือดของ
00:11:27 → 00:11:29 เราเนี่ยเป็นแวมไพร์และว่าเอาเลื่อนเร็ว
00:11:29 → 00:11:31 ตรงมาจะออกมาทั้งตัวเลยเนี่ยไปใส่ในถัง
00:11:31 → 00:11:34 เรียกว่าจะได้ประมาณซัก 5 ลิตรถามว่ามี
00:11:34 → 00:11:37 น้ำตาลในเลือดตั้งเป็นคนปกติในเลือดในน้ำ
00:11:37 → 00:11:39 ตัดประมาณเท่าไหร่คำตอบคือประมาณ 1 ช้อน
00:11:39 → 00:11:39 ชา
00:11:39 → 00:11:42 สุราหรือของคนเบาหวานว่ามันกันอีก 1 ถัง
00:11:42 → 00:11:44 นะ 5 ลิตรถามว่ามีน้ำตาลอยู่ประมาณเท่า
00:11:44 → 00:11:47 ไหร่ประมาณ 1 เศษ 1 ส่วน 4 ช้อนชาโหต้อง
00:11:47 → 00:11:50 ชนิดเดียวใช่มันต่างกันแค่ 1 ส่วน 4 ช้อน
00:11:50 → 00:11:52 ชาซึ่งสะท้อนให้เห็นไว้ฮอร์โมนอินซูลิน
00:11:52 → 00:11:55 ครูคะก็เนี่ยมัน Balance ได้แบบและออกมา
00:11:55 → 00:11:58 เลยมากๆเราเห็นว่าความต่างขึ้นนิดเดียว
00:11:58 → 00:12:01 เท่านั้นเองมันคือนี่ก็ไม่เบาหวานคือตา
00:12:01 → 00:12:05 บอดตัดขาไปวายอะไรประมาณนี้เพราะฉันจะ
00:12:05 → 00:12:07 เห็นเลยว่าคำสะท้อนให้เห็นว่าร่างกายเรา
00:12:07 → 00:12:09 เนี่ยมันละเอียดมากซึ่งทำให้คนที่เรียน
00:12:09 → 00:12:11 หมอหลายคนบอกว่าจะต้องดีท็อกซ์หรือต้อง
00:12:11 → 00:12:14 ถามสะพัดวิธีเราจะรู้สึกว่าเผยร่างกายมัน
00:12:14 → 00:12:17 ทำงานได้แบบมาสะจันมาอยู่แล้วเราไม่ต้อง
00:12:17 → 00:12:19 ไปช่วยไปล้างตับล้างไตอะไรประมาณขนาดนั้น
00:12:19 → 00:12:24 น้องใจจริงนะคะคราวนี้นะคะคนที่อาจจะ
00:12:24 → 00:12:26 สงสัยไวรัสเบาหวานอะไรพวกนี้มาได้ยังไง
00:12:26 → 00:12:28 คือจริงๆแล้วเรื่องโรคเบาหวานในเป็น
00:12:28 → 00:12:30 เรื่องที่มีรายละเอียดเดียวมากเลยนะคะแต่
00:12:30 → 00:12:32 ว่าถ้าเกิดว่าเอาสั้นๆเลยเนี่ยให้มัน
00:12:32 → 00:12:34 เกี่ยวข้องกับตอนนี้ของเราในก็คือว่า
00:12:34 → 00:12:37 เมื่อเรารู้จักเซลล์ส่วนนี้ของตับอ่อน
00:12:37 → 00:12:38 แล้วนะคะคือส่วนที่เรียกว่า I Love of
00:12:38 → 00:12:41 แรงก็ฮานะฮะเท่ากับว่าสำหรับเซลล์ส่วนนี้
00:12:41 → 00:12:44 ค่ะเกิดมีน้อยนะคะหรือว่าไม่ทำงานหรือว่า
00:12:44 → 00:12:46 ผลิตอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกดน้ำ
00:12:46 → 00:12:50 ตาลลงได้ไม่เพียงพอนะคะหรือว่าบางทีเนี่ย
00:12:50 → 00:12:52 เขาไปอยู่ได้เพียงพอแต่ว่าร่างกายและมี
00:12:52 → 00:12:54 ภาวะที่ดื้ออินเทอร์เน็ตซึ่งเจอเยอะเลยใน
00:12:54 → 00:12:58 คนที่อย่าตื่นตาก็ทำให้พัฒนาเป็นโรคเบา
00:12:58 → 00:13:00 หวานขึ้นมานะคะแต่ว่าอะไรละเอียดในเราอาจ
00:13:00 → 00:13:04 จะมาทำอีกต่อนึงเนาะนะฮะส่วนต่อมมีท่อ
00:13:04 → 00:13:07 เนี่ยก็มีโรคที่รุนแรงเหมือนกันก็คือตับ
00:13:07 → 00:13:09 อ่อนอักเสบนะคะต้องเนี่ยคนทั่วไปไม่ค่อย
00:13:09 → 00:13:12 คุ้นเคยนะคะแต่ว่าจริงๆแล้วาพรปีใหม่ตอน
00:13:12 → 00:13:15 นี้คือตรวจแค่คนที่ปุ่นเยอะก็คนญี่ปุ่นใน
00:13:15 → 00:13:17 รู้จักโรคคนเยอะมากเลยค่ะเพราะพูดคำว่า
00:13:17 → 00:13:19 ต่อนักเรียนเขารู้จักทันทีเลยนั่นก็เรียก
00:13:19 → 00:13:22 เลข 4 ตัวเองนะคะทุกคนรู้จักหมดเลยเพราะ
00:13:22 → 00:13:24 ว่าอะไรอยู่ไหมถึงเราให้เพราะคนญี่ปุ่น
00:13:24 → 00:13:27 เนี่ยนะคนนี้ฝนเนี่ยเขาจะมีเหมือนกับ
00:13:27 → 00:13:30 Business Meeting คืออะไรคะเล็กโนมิไก่
00:13:30 → 00:13:32 จะต้องดื่มต้องไปดื่มประชุมไปดื่มไปและจะ
00:13:32 → 00:13:35 ลูกค้ามาแล้วในเขาต้องดื่มเหล้าในปริมาณ
00:13:35 → 00:13:37 มากค่ะนี่การดื่มแอลกอฮอล์นะคะในปริมาณ
00:13:37 → 00:13:40 ที่สูงน่ะมันก็ทำให้เรามีความเสี่ยงต่อ
00:13:40 → 00:13:42 การเป็นตอนเคยเป็นสาเหตุสำคัญหนึ่งของ
00:13:42 → 00:13:44 ตะวันอักเสบสมัยก่อนตอนเราเป็นนักศึกษา
00:13:44 → 00:13:46 แพทย์เราเจอบ่อยๆเหมือนกันนะคนที่ดื่ม
00:13:46 → 00:13:49 เหล้าหนักๆส่วนใหญ่นะคะก็จะทำให้เหมือน
00:13:49 → 00:13:51 กับว่าตอนอักเสบแล้วมันก็จะรุนแรงมาก
00:13:51 → 00:13:54 เพราะว่าในผ้าที่เราคุยกันมาค่ะคือตับ
00:13:54 → 00:13:56 อ่อนผลิตนะมีในทั้งย่อยคาร์โบไฮเดรต
00:13:56 → 00:13:59 โปรตีนไขมันโดยเฉพาะโปรตีนขึ้นในช่องท้อง
00:13:59 → 00:14:02 เรือเวลาดูๆว่าทุกช่องท้องเนี่ยตับอ่อน
00:14:02 → 00:14:04 เนี่ยในความรู้สึกของหมอหรือหมอผ่าตัด
00:14:04 → 00:14:06 เนี่ยะก็จะสึกว่ามันเป็นอวัยวะที่เหมือน
00:14:06 → 00:14:09 เป็นถังบรรจุระเบิดระเบิดในประมาณแล้ว
00:14:09 → 00:14:11 เปิดเวลาคือไม่ใช่ไปเราไปทำมันแตกง่าย
00:14:11 → 00:14:14 แล้วมันหลังออกมานี่คือเรื่องใหญ่ใช่ก็
00:14:14 → 00:14:16 เท่ากับว่าสองเราจะพาตันบริเวณนั้นอาหาร
00:14:16 → 00:14:18 หรือว่าจริงๆการผ่าตัดตับอ่อนเนี่ยเป็น
00:14:18 → 00:14:21 การผ่าตัดที่อยากมากแล้วก็ต้องคุณหมอที่
00:14:21 → 00:14:24 พัดจะเหมาะกับปลาตับอ่อนก็ต้องเชี่ยวชาญ
00:14:24 → 00:14:26 มากๆเลยเพราะฉะนั้นเวลาเราอย่างเช่นกิน
00:14:26 → 00:14:28 อะไรก็ตามหรือว่าโดนอุบัติเหตุทำให้เกิด
00:14:28 → 00:14:31 หน้าเช่นเบอร์เท็จที่ช่องท้องๆรถชนในพวก
00:14:31 → 00:14:33 เนี้ยตะกอนบาดเจ็บเนี่ยมันก็มีความเสี่ยง
00:14:33 → 00:14:36 ที่พูดนี้จะหลุดออกมาไล่ออกมาเนาะหรือว่า
00:14:36 → 00:14:38 เรื่องของอัลกอฮอล์ที่พูดไปเช่นเป็น
00:14:38 → 00:14:40 สาเหตุที่เจอได้บ่อยด้วยนะเท่าไหร่ใช่นะ
00:14:40 → 00:14:43 คะคราวนี้นะคะก็นอกจากแนทก็ยังอีกสาเหตุ
00:14:43 → 00:14:46 หนึ่งที่เจอได้บ่อยก็คือคนที่มีภาวะ
00:14:46 → 00:14:50 ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมากๆซึ่งบางคนบอก
00:14:50 → 00:14:53 ว่าเออไปกินอะไรสูงเนี่ยส่วนทีปกติแล้ว
00:14:53 → 00:14:55 ไม่ควรจะเกินร้อยห้าสิบนะคะแต่เต็มที่
00:14:55 → 00:14:57 เจาะเลื่อนมาได้ 4-5 ร้อยแล้วเนี้ยซึ่ง
00:14:57 → 00:14:59 มันไม่ได้มีอาการอะไรอ่ะเขาหรือไม่เดือด
00:14:59 → 00:15:02 ร้อนแต่ว่าจริงๆแล้วที่เรากลัวกลัวมากที่
00:15:02 → 00:15:04 สุดเลยในก็คือกลัวว่าไปกินทรายตรงนี้ใคร
00:15:04 → 00:15:06 จะไปกระตุ้นทำให้เกิดกับอ่อนอักเสบว่ามัน
00:15:06 → 00:15:09 เป็นโรคที่ 4 เรียกมาแล้วก็ถ้าเป็นในก็มี
00:15:09 → 00:15:11 โอกาสที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตชนะเพราะ
00:15:11 → 00:15:13 ฉะนั้นบางทีเราก็บอกว่าแบบก็ถ้าเป็น
00:15:13 → 00:15:15 อย่างนั้นจริงอาจจะจำเป็นต้องรักษาถึง
00:15:15 → 00:15:17 ความเสี่ยงน้อยแต่ว่าไม่ควรจะเสียงเลยนะ
00:15:17 → 00:15:21 คะก็คือส่วนนี้ก็พอเพราะมองข้อเฮอร์ชี่
00:15:21 → 00:15:24 ว่าคือชื่อว่าตอนนี้คุณทั้งหมดก็น่าจะทำ
00:15:24 → 00:15:26 ให้นึกภาพออกนะแล้วก็คิดว่าน่าจะครอบคลุม
00:15:26 → 00:15:29 ค่อนข้างค่อนข้างดีสำหรับอวัยวะที่ชื่อ
00:15:29 → 00:15:32 ว่าตับอ่อนค่าก็วันนี้เราก็พอแค่นี้แล้ว
00:15:32 → 00:15:34 กันเนอะแล้วก็ข้างหน้าเนี่ยเราก็ตั้งใจ
00:15:34 → 00:15:36 และจะคุยถึงอวัยวะที่ไม่ค่อยคนไม่ค่อย
00:15:36 → 00:15:39 คุ้นเคยกันก็คือเรื่องของม้าไม่มีโสดหน้า
00:15:39 → 00:15:41 สุดท้ายก็เช่นเคยนะครับถ้าชอบกด Cash นะ
00:15:41 → 00:15:44 ครับก็ช่วยกด like กด Share comment
00:15:44 → 00:15:46 Subscribe เขียนรีวิวให้หน่อยนะครับนอก
00:15:46 → 00:15:48 จากช่องทางพอดแคสต์เนี่ยเราก็มีช่องทาง
00:15:48 → 00:15:51 อื่นให้ติดตามนะครับก็มี Facebook บล็อก
00:15:51 → 00:15:53 ดิบนะครับเพจใช่เรื่องเล่าจากร่างกาย
00:15:53 → 00:15:56 สำหรับวันนี้ก็ทำนะครับเราสองคนก็ขอลาไป
00:15:56 → 00:15:58 ก่อนแล้วเรามาเจอกันใหม่ในส่วนหน้านะครับ
00:15:58 → 00:16:08 สวัสดีครับใช่ที่
00:16:08 → 00:16:12 [เพลง]
00:16:12 → 00:16:15 อิอิ