00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:08 → 00:00:12 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือศัลยกรรม
00:00:12 → 00:00:15 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:15 → 00:00:18 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อย
00:00:18 → 00:00:22 ลงพี่อ้อยครับหัวข้อที่ผมอยากจะมาชวนพี่
00:00:22 → 00:00:26 อ้อยคุยนะฮะวันนี้เนี่ยผมไม่แน่ใจว่าจะ
00:00:26 → 00:00:30 เอ๊ะจะบอกหัวข้อดีมั้ยหรือจะไม่บอกแต่ถ้า
00:00:30 → 00:00:32 ไม่บอกเราก็ไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรใช่
00:00:32 → 00:00:34 มั้ยแต่ที่ต้องลังเลเพราะอะไรรู้มั้ยมัน
00:00:34 → 00:00:37 เป็นชื่อหัวข้อที่พอพูดชื่อปุ๊บเนี่ยค่ะ
00:00:37 → 00:00:39 มันจะมีกลิ่นมาด้วยดิ
00:00:39 → 00:00:43 อัยย่ะแต่ถ้าไม่บอกก็ไม่ได้ใช่มยไม่ได้
00:00:43 → 00:00:46 ไม่ได้นะก็ต้องขออภัยคุณผู้ฟังด้วยนะครับ
00:00:46 → 00:00:49 ถ้ามันมาพร้อมกลิ่นนะฮะก็วันนี้อยากจะมา
00:00:49 → 00:00:54 ชวนพี่อ้อยคุยเรื่องเกี่ยวกับขี้หมา
00:00:54 → 00:01:01 แห้งตอูยตุๆมาเลยค่ะพี่วิใช่มั้ยมันมาเลย
00:01:01 → 00:01:05 แต่ว่ามันก็มันก็ประมาณนึงนะอืแต่ว่ามัน
00:01:05 → 00:01:08 แห้งแล้วนี่มันจะประมาณนึงเฮ้ยเฮ้ยผมชอบ
00:01:08 → 00:01:10 คำพูดนี้อ่ะถ้าเกิดว่ามันแห้งแล้วมันก็
00:01:10 → 00:01:13 ประมาณนึงใช่ใช่ป่ะใช่เพราะอะไรรู้มั้ย
00:01:13 → 00:01:18 เพราะว่าถ้ามันไม่แห้งนี่ิอู้หนิดเดียวก็
00:01:18 → 00:01:21 ใช่มโอ้โหอานุภาพทำลายล้างอย่างแรงเออถ้า
00:01:21 → 00:01:25 มันเป็นเราก็ต้องนี่แหละคือถ้ามันไม่แห้ง
00:01:25 → 00:01:27 อ่ะขี้หมาแห้งเมันก็ประมาณนึงแต่ถ้าเกิด
00:01:27 → 00:01:30 ว่าต้องขอใช้คำนี้เลยนะครับคุณุฟังก็
00:01:30 → 00:01:32 เพราะว่ามันเพื่อความเข้าใจชัดเจนเนี่ย
00:01:32 → 00:01:35 ค่ะถ้ามันเป็นขี้หมาสดเนี่ย
00:01:35 → 00:01:40 อื้อหือใช่มั้ยใช่เอ๊แล้วคำถามก็คือแล้ว
00:01:40 → 00:01:42 มันเกี่ยวอะไรกับรายการสัญกรรมความสุข
00:01:42 → 00:01:45 นั่นสิคะพี่วีใช่มั้ใช่คืออยู่ๆผมก็นึก
00:01:45 → 00:01:49 ถึงประสบการณ์ครั้งนึงนะพี่อ้อยออค่ะมี
00:01:49 → 00:01:52 อยู่วันนึงเนี่ยตอนนั้นเป็นช่วงที่เราแบบ
00:01:52 → 00:01:56 ไปไปเรียนที่ฝรั่งเศสใช่มั้ยอืเสร็จแล้ว
00:01:56 → 00:01:58 มีอยู่ช่วงนึงเราต้องเดินทางจากฝรั่งเศส
00:01:59 → 00:02:03 เนี่ยไปกรุงโลมอืไปอิตาลีโดยทางรถไฟโอ
00:02:03 → 00:02:06 ทั้งกลุ่มเลยนะฮะทั้งกลุ่มเดินทางรถไฟ
00:02:06 → 00:02:11 เนี่ยแล้วรถไฟในในยุโรปเนี่ยพี่อ้อยมัน
00:02:11 → 00:02:15 มันก็คล้ายๆคือขึ้นรถไฟจากฝรั่งเศสจาก
00:02:15 → 00:02:18 เมืองิงเนี่ยไปกรุงโรมเนี่ยมันก็ต้องเดิน
00:02:18 → 00:02:22 ทางทั้งคืนนะอืแล้วก็ขึ้นรถไฟกลางคืนแล้ว
00:02:22 → 00:02:26 ก็เช้าก็ไปนู่นเลยไปช้าที่กรุงโลมออืแล้ว
00:02:26 → 00:02:29 เราก็ไปนอนรถตู้นอนอือแต่รถตู้นอนในฝรั่ง
00:02:29 → 00:02:32 เศษเนี่ยมันไม่ใช่นอนของเราเนี่ยตู้นอนพอ
00:02:32 → 00:02:34 ถึงเวลาปุ๊บเราเป็นนั่งนั่งหันหน้าชนกัน
00:02:34 → 00:02:36 ใช่มั้ยฮะพี่อ้อยเคยนั่งรถไฟมั้ยไม่เคย
00:02:36 → 00:02:40 ไม่เอเคยนั่งแต่ไม่เคยไปตู้นอนอ๋อมันก็จะ
00:02:40 → 00:02:42 เป็นแบบว่านั่งหันหน้าชนกันเงี้ยพอถึง
00:02:42 → 00:02:44 เวลาจะกลางคืนจะนอนเจ้าหน้าที่เาก็จะมา
00:02:44 → 00:02:48 ปรับอที่นั่งรองให้เป็นที่นอนนะแล้วก็จะ
00:02:48 → 00:02:51 มีคนนึงนอนเตียงล่างกับนอนเตียงบนเอๆเค
00:02:51 → 00:02:54 เห็นเป็น 2 ชั้นก็เตียงล่างกับเตียงบนก็
00:02:54 → 00:02:57 นอน 2 ชั้นแต่ตู้นอนในฝรั่งเศสเนี่ยไอ้รถ
00:02:57 → 00:03:01 ที่ผมนั่งเนี่ยนะอมันเป็นแบบแบบ 3 ชั้น
00:03:01 → 00:03:04 โอคือเป็นแบบเตียง 3 ชั้นเลยค่ะเพราะงั้น
00:03:04 → 00:03:09 แล้วมันเป็นห้องห้องนึงนอน 6 คน 3 ชั้นก็
00:03:09 → 00:03:11 ก็ชั้นละ 2 คนไม่ๆชั้นนึงคนนึงแต่ว่าเป็น
00:03:12 → 00:03:16 3 ชั้นเป็นแบบคนนึงก็นอนชั้นชั้นล่างสุด
00:03:16 → 00:03:19 อีกคนนึงนอนชั้นกลางและอีกคนนอนชั้นบน
00:03:19 → 00:03:22 แล้ว 2 ฝั่งก็เป็น 6 คนเอออย่างเงี้ยใช่
00:03:22 → 00:03:25 มั้ยนี่พอเรานอน
00:03:25 → 00:03:29 เนี่ยมันเป็นมันเป็นห้องเนี่ยแต่เผอิญวัน
00:03:29 → 00:03:32 นั้นมีเพื่อนคนนึงอ่ะก่อนตอนที่เค้าขึ้น
00:03:32 → 00:03:36 รถไฟอ่ะโดยที่เ้าไม่รู้ตัวค่ะเค้าไป
00:03:36 → 00:03:38 เหยียบขี้หมามา
00:03:38 → 00:03:43 โอหแล้วพี่อ้อลองนึกดูมันจะเกิดอะไรขึ้น
00:03:43 → 00:03:46 โหกลิ่นมันแบบแล้วเค้าไม่ได้กลิ่นหรอกค่ะ
00:03:47 → 00:03:49 ตอนแรกไม่รู้ตัวไงเอออ๋อเพราะเค้าเป็นผู้
00:03:49 → 00:03:52 อยู่ในเหตุการณ์อ่ะพี่วีเออใช่ๆๆเนี่ยไม่
00:03:52 → 00:03:54 รู้ตัวแต่ว่าพอมันเข้าไปอยู่ในห้องปิด
00:03:54 → 00:03:58 ปุ๊บเนี่ยออโอเราก็บอกเฮ้ยมีแนิอะไรแปลกๆ
00:03:58 → 00:04:01 ป่ะเนี่ยอะไรเงี้ยนะอือพอรู้ว่าปุ๊บเริ่ม
00:04:01 → 00:04:04 เฮ้ยมันกลิ่นเหมือนเอ๊ะมันใช่มั้ยเนี่ย
00:04:04 → 00:04:10 ใช่สำรวจใครเหยียบมาอือใครเหยียบมานะก็
00:04:10 → 00:04:12 เริ่มสำรวจกันปรากฏว่าออมีเพื่อนคนนึง
00:04:12 → 00:04:15 เหยียบมาอือ่ะพอสำรวจเจอก็เริ่มกระบวนการ
00:04:15 → 00:04:19 ในการทำความสะอาดอือใช่มั้ยก็นู่นนี่นั่น
00:04:19 → 00:04:21 อะไรเงี้ยก็เรียบไปเรียบร้อยไปเนี่ยอือ
00:04:22 → 00:04:23 อันนี้มันเป็นประสบการณ์
00:04:23 → 00:04:28 ของของซึ่งผมเชื่อว่าเราหลายคนก็อาจจะเคย
00:04:28 → 00:04:30 เจอนะหรืออาจจะเคยอยู่อยู่ในสถานการณ์
00:04:30 → 00:04:33 นั้นด้วยซ้ำไปว่าเราเป็นคนเหยียบแล้วเรา
00:04:33 → 00:04:37 ไม่รู้ตัวค่ะแล้วหรือเพื่อนเหยียบแต่ว่า
00:04:37 → 00:04:39 มันอยู่ในห้องแบบไหนอะไรอย่าเงี้ก็อีก
00:04:39 → 00:04:41 เรื่องนึงอานุภาพมันก็จะรุนแรงขนาดไหนก็
00:04:41 → 00:04:44 ขึ้นอยู่สภาพห้องแหละใช่ๆใช่มั้ถ้าเป็น
00:04:44 → 00:04:47 ห้อง Open แอร์ก็จะก็ได้กลิ่นแต่ก็ไม่
00:04:47 → 00:04:50 ขนาดจี้โล่งแจ้งอ่ะพี่วีก็ยังรุนแรงยัง
00:04:50 → 00:04:54 รุนแรงเลยค่ะเนี่ยมันก็เลยพอผมนึกถึง
00:04:54 → 00:04:57 ประสบการณ์นั้นน่ะเพราะว่าเื่อเร็วๆนี้ผม
00:04:57 → 00:04:59 ก็เดินไปเจอในสวนสาธารณะแต่ว่าเราไปเจอ
00:04:59 → 00:05:02 แบบมันแห้งแล้วอือเราก็เลยนึกถึงย้อนไป
00:05:02 → 00:05:05 ถึงประสบการณ์ตอนนั้นว่าอือครั้งนึงเรา
00:05:05 → 00:05:08 เคยเจอประสบการณ์พวกเนี้ยแต่กับของสดไม่
00:05:08 → 00:05:12 ใช่ของแห้งอืแล้วมันเกิดการเรียนรู้อพี่
00:05:12 → 00:05:15 อ้อยว่าอ๋อเออเนอะก็เมื่อตะกี้ตอนที่เติม
00:05:15 → 00:05:18 ต้นรายการเลยพี่อ้อยพอผมพูดคำว่าขี้หมา
00:05:18 → 00:05:20 แห้งปุ๊บพี่อ้อยก็บอกอืมันก็มีกลิ่น
00:05:20 → 00:05:24 ประมาณนึงแต่ไม่รุนแรงเท่าใช่พี่อจารนึก
00:05:24 → 00:05:28 ออกทันทีว่าไม่รุนแรงเท่าของสดของสดใช่
00:05:28 → 00:05:31 นี่แหละมันเลยผมคิดว่ามันจะเกี่ยวกับ
00:05:31 → 00:05:35 ศัลยกรรมความสุขตอนนี้แหละอือธิบายหน่อย
00:05:35 → 00:05:39 ค่ะก็คือเราจะมีความทุกข์มากขึ้นหรือน้อย
00:05:39 → 00:05:42 ลงก็ขึ้นอยู่กับอะไรบางอย่างเรามีความสุข
00:05:42 → 00:05:44 มากขึ้นหรือน้อยลงก็ขึ้นอยู่กับอะไรบาง
00:05:44 → 00:05:48 อย่างกรณีเนี้ยเอาเทียบเคียงกับเหยียบขี้
00:05:48 → 00:05:52 หมาเลยเนี่ยนะฮะอถ้าเราไปเหยียบของสดเรา
00:05:53 → 00:05:54 ก็ทุกข์
00:05:54 → 00:06:00 มากเหยียบของสดขี้หมาสดน่ะเข้าเข้าใจขี้
00:06:00 → 00:06:03 มยถ้าเราไปเหยียบขี้หมาสดก็เหม็นมากอืใช่
00:06:03 → 00:06:06 มั้ยแต่ถ้าเราไปเหยียบขี้หมาแห้งก็เหม็น
00:06:06 → 00:06:10 น้อยค่ะใช่มั้ยฮะอ่าฮะนี่ไงผมก็เลยมีความ
00:06:10 → 00:06:14 รู้สึกว่าเอ๊ะเราสามารถเอาความสดกับความ
00:06:14 → 00:06:19 แห้งเนี่ยออาการของการทำให้เราขุ่นมัว
00:06:19 → 00:06:21 หรือว่าทุกข์หรือเหม็นเนี่ยอือมันน้อยลง
00:06:21 → 00:06:25 ใช่มั้ยอืเออผมก็เลยจะมาชวนพี่อ้อยคุยว่า
00:06:26 → 00:06:29 ค่ะแล้วถ้าสิ่งที่เราจะเหยียบเนี่ยสิ่ง
00:06:29 → 00:06:31 ที่เราต้องไปเผชิญหน้ากับมันน่ะไม่ใช่ขี้
00:06:31 → 00:06:36 หมาอแต่เป็น toxic People
00:06:36 → 00:06:39 ออที่จะทำให้เรา
00:06:39 → 00:06:44 แบบทุกข์ใจอ่ะอือฮึแล้วมันมีกลยุทธ์ยังไง
00:06:44 → 00:06:48 มที่จะทำให้เราแบบอย่างขี้หมาสดอือเหยียบ
00:06:48 → 00:06:51 ปุ๊บเหม็นอือใช่มั้ค่ะแต่ถ้าเกิดว่า
00:06:51 → 00:06:55 เหยียบขี้หมาแห้งเหยียบปุ๊บเหม็นนิดหน่อย
00:06:55 → 00:07:02 อืไม่ทุกข์มากค่ะกลไกที่จะทำให้มันไม่
00:07:02 → 00:07:07 ทำลายความรู้สึกเราคืออะไรเอาขี้หมาก่อน
00:07:07 → 00:07:11 นะเอาขี้หมาก่อนเอาขี้หมาก่อนเลยเนี่ยถ้า
00:07:11 → 00:07:15 เป็นภาพขี้หมาสดเนี่ยคืออย่างที่บอกว่า
00:07:15 → 00:07:19 อานุภาพรุนแรงมากเออแม้แต่ไปติดมานิด
00:07:19 → 00:07:21 เดียวเนี่ยแม่จะเช็ดออกไปแล้วเนี่ยแม่จะ
00:07:22 → 00:07:25 ไปป้ายสนามหญ้าแล้วป้าย
00:07:25 → 00:07:30 สยก็ยังเห็นภาพเลยใช่ก็ยังได้กลิ่นอยู่
00:07:30 → 00:07:33 เออเออมันติดเหมือนติดอยู่ที่รองเท้าอ่ะ
00:07:33 → 00:07:37 อือๆเออแล้วมันก็โหแบบว่าสร้างความขุ่น
00:07:37 → 00:07:40 มัวในใจเฮ้ยแบบทำไมมันรุนแรงขนาดนี้อะไร
00:07:41 → 00:07:44 อย่างเงี้ยทำยังไงมันจะออกไปทำทำยังไงมัน
00:07:44 → 00:07:48 จะหมดไปอือนะคะเราก็พยายามไปป้ายนู่นป้าย
00:07:48 → 00:07:52 นี่อืออันนั้นคือสดอืแต่สำหรับแห้งเนี่ย
00:07:52 → 00:07:57 อย่างที่บอกว่าอานุภาพมันเบาลงอืมันจะตุๆ
00:07:57 → 00:08:00 ตุ่นๆบอกไม่ถูกนิดนึงนะอ่าแม้จะเหยียบไป
00:08:00 → 00:08:04 เต็มๆก็เหอะแต่ว่ามันเหมือนมันไม่ได้มา
00:08:04 → 00:08:07 ติดแบบติดที่รองเท้าเราแบบเค้าเรียกว่า
00:08:08 → 00:08:13 แน่นเหรอคะเอออ่าหรือว่าแบบน้อยหรือว่า
00:08:13 → 00:08:17 ความรุนแรงในกลิ่นเนี่ยก็น้อยแล้วพอเราไป
00:08:17 → 00:08:20 ไปป้ายสนามหญ้าอีกมันก็เหมือนแบบเกือบจะ
00:08:20 → 00:08:24 หมดไปเกือบหมดไปแล้วเอออ่าค่ะคำถามก็คือ
00:08:24 → 00:08:27 ว่าอะไรที่ทำ
00:08:27 → 00:08:33 ให้คขี้หมาสดนะอือกลายเป็นขี้หมาแห้งเออ
00:08:33 → 00:08:36 คืออะไอ่าค่ะอะไรฮะมีอะไรบ้างตัวแปรอะไร
00:08:36 → 00:08:40 บ้างก็คืออันแรกเลยเนี่ยต้องเป็นเรื่อง
00:08:40 → 00:08:46 เวลาอ้าโอเคค่ะค่ะเวลาเวลาเพราะเราไม่ไป
00:08:46 → 00:08:48 ยุ่งกับมันปล่อยมันเดี๋ยวมันก็แห้งอ่ะใช่
00:08:48 → 00:08:51 มั้ยใช่ค่ะเวลาเวลาทำให้มันแห้งหรือว่า
00:08:51 → 00:08:56 อะไรทำให้มันแห้งแสงแดดเหรอเออใช่มั้แสง
00:08:56 → 00:09:01 แดดค่ะแล้วก็อะไรมโลมใช่มั้ยแล้วก็เค้า
00:09:01 → 00:09:07 เรียกว่าธรรมชาติของของสิ่งที่มันมีน้ำ
00:09:07 → 00:09:10 น้ำมันระเหยออกไปน้ำน้ำระเหยอ่ะค่ะไปก็
00:09:10 → 00:09:14 ด้วยด้วยแสงแดดด้วยลมด้วยเวลานี่แหละ 3
00:09:14 → 00:09:18 อย่างรวมๆกันเนี่ยมันทำให้น้ำมันระเหยออก
00:09:18 → 00:09:21 ไปใช่แล้วมันก็เลยกลายเป็นจากของเปียก
00:09:21 → 00:09:26 เป็นของแห้งใช่ๆออเนี่ยพี่อ้อยผมมีความ
00:09:26 → 00:09:29 รู้สึกว่าถ้าเราเอากระบวนการนี้นะอืมาใช้
00:09:29 → 00:09:34 กับคนอืในในชีวิตเราถ้าเราไปเจอคนคนึงที่
00:09:34 → 00:09:39 แบบโอ้โหไปยุ่งด้วยเมื่อไหร่เนี่ยเราจะ
00:09:39 → 00:09:42 ต้องทุกข์ร้อนใจอ่ะอืถ้าในแบบภาษามนุษย์เ
00:09:43 → 00:09:44 เรียกว่า toxic People ใช่มหรือคนที่
00:09:44 → 00:09:48 เป็นพิษน่ะอือมีพี่อ้อยนึกถึงว่าเวลาที่
00:09:48 → 00:09:51 เราเจอกับคนน่ะมีมั้ยคนที่เป็นประเภท
00:09:51 → 00:09:55 เนี้ยค่ะจริงๆแล้วมีทุกที่นะเใช่ใช่ใช่
00:09:55 → 00:09:58 มั้ยค่ะคือถ้าไม่คล่องแว้ได้เป็นดีไงใช่
00:09:58 → 00:10:02 แต่มันก็หลีกเลี่งไม่ได้นะอ่าใช่ค่ะ
00:10:02 → 00:10:06 เนี่ยผมเพิ่งไปอบรมมาที่หนึ่งนะพี่อ้อย
00:10:06 → 00:10:08 ค่ะหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องประมาณอย่างนี้
00:10:08 → 00:10:11 เลยนะเกี่ยวกับเรื่องว่าอเราจะมีชีวิต
00:10:11 → 00:10:15 อยู่ในสังคมกับคนหมู่มากยังไงเพื่อที่จะ
00:10:15 → 00:10:16 ให้มี
00:10:16 → 00:10:20 ชีวิตร่วมกับมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
00:10:20 → 00:10:24 toxic People อ่ะคนที่เป็นคิน่ะค่ะแต่
00:10:24 → 00:10:30 ว่ามันจำเป็นก็ต้องอยู่ออในบริษัทในใช่อ
00:10:30 → 00:10:32 ชีวิตเราต้องมีแบบเแล้วเราจะอยู่ยังไงโดย
00:10:32 → 00:10:37 ที่เราไม่ขุ่นมัวใช่มั้ยเสร็จปุ๊บอันนี้
00:10:37 → 00:10:40 คือหัวข้อที่บรรยายนะค่ะก็มีอยู่คนนึงนะ
00:10:40 → 00:10:43 พี่ห้อยโดยบังเอิญเยังไม่ได้ฟังตอนนี้แน่
00:10:43 → 00:10:46 นอนเพราะตอนนี้เราเพิ่งจะอัดเพิ่งจะอัดนะ
00:10:46 → 00:10:49 ฮค่ะเยังไม่ได้ฟังแน่นอนแล้วเก็ยกเก็ยก
00:10:49 → 00:10:53 มือเสนอความเห็นว่าอือฮึพวกคนเหล่านั้นก็
00:10:53 → 00:10:57 เหมือนขี้หมาแหละโอ้เหรอคะเออเพูดอย่าง
00:10:57 → 00:11:00 งี้เลยพวกคนแบบนั้นก็เหมือนขี้หมาเราก็
00:11:00 → 00:11:04 อย่าไปเหยียบสิอืเออพี่อ้อยว่ากยศดีดี
00:11:04 → 00:11:08 มั้ยอันนี้ดีมั้ยดีค่ะดีค่ะใช่มั้ยค่ะแต่
00:11:08 → 00:11:11 บางทีก็พลาดนะอ่านี่ไงประเด็นคือพอเพูด
00:11:12 → 00:11:13 เราเราไม่อยากจะเหยียบอยู่แล้วเราไม่อยาก
00:11:13 → 00:11:16 เหยียบอยู่แล้วใช่แต่ประเด็นก็คือว่า
00:11:16 → 00:11:18 กลยุทธ์นี้เนี่ยก็อย่าไปเหยียบมาสิเนี่ย
00:11:18 → 00:11:21 ดูต้องบอกว่าดูเหมือนดีดูออ่ะเพราะอะไร
00:11:21 → 00:11:24 รู้มั้ยพี่อ้อยค่ะผมก็เลยต่อเข้าไปบอกว่า
00:11:24 → 00:11:29 เฮ้ยกลยุนี้ดีดูเหมือนดีนะน่าสนใจนะแต่ค
00:11:29 → 00:11:33 ถามคือคนที่เหยียบขี้หมาเนี่ยเคยมีใคร
00:11:33 → 00:11:37 ตั้งใจเหยียบมั้ยอือเห็นก็หนีแล้วไม่มี
00:11:37 → 00:11:40 เออแต่ที่เหยียบเพราะอะไรพลาดพลาดไม่รู้
00:11:40 → 00:11:44 ตัวหลีกเลียงไม่ได้เอ่าเออหรือไม่เห็นอื
00:11:44 → 00:11:47 เพราะฉะนั้นกลยุทธ์นี้บอกว่าก็อย่าไป
00:11:47 → 00:11:51 เหยียบมันสิต้องบอกว่าดูเหมือนดีอ่าค่ะ
00:11:51 → 00:11:54 เพราะไม่เคยมีใครที่เห็นแล้วตั้งใจไป
00:11:54 → 00:11:58 เหยียบมันเลยใช่เออแต่ที่เหยียบนี่พราะ
00:11:58 → 00:12:02 พลาดไงเออที่เหยียบเพราะพลาดค่ะแล้วก็เลย
00:12:02 → 00:12:06 นำมาสู่กลยุต่อมาว่าค่ะผมอยากจะประยุกต์
00:12:06 → 00:12:10 ว่าไอ้ตัวแปรที่ทำให้ขี้หมาแห้งกับขี้หมา
00:12:10 → 00:12:12 สดกับขี้หมาแห้งมันไม่
00:12:12 → 00:12:18 มีหมดขี้หมาหมดอานุภาพในการทำลายล้างก่อน
00:12:18 → 00:12:21 จะคุยต่อนี่ต้องเรียนคุณผู้ฟังก่อนนะคะ
00:12:21 → 00:12:25 ว่าคฟังเอ่อตอนนี้ถ้าเกิดว่าอยู่ระหว่าง
00:12:25 → 00:12:28 ทานอะไรอยู่เนี่ต้องขออภัยจริงๆนะคะเรา
00:12:28 → 00:12:32 กำลังเมามันเออเดี๋ยวค่อยมาต่อนะคะเออฟัง
00:12:32 → 00:12:35 ปึ๊บถ้าเกิดใครฟังตอนนี้เนี่ยนะตอนกิน
00:12:35 → 00:12:38 ข้าวนี่เดี๋ยวค่อยมาฟังใหม่ค่ะต้องเตือน
00:12:38 → 00:12:41 เลยไปก่อน่ะคะเออต้องผ่านไปก่อนใช่อันนี้
00:12:41 → 00:12:43 ขอบคุณพี่อ้อยมากที่เตือนเพราะว่าค่ะแต่
00:12:43 → 00:12:46 ว่ามันเป็นเรื่องที่ผมชื่อว่าน่าจะได้
00:12:46 → 00:12:48 ประโยชน์แต่ฟังตอนกินข้าวเสร็จแล้วนะ
00:12:48 → 00:12:51 โอเคกลับกลับมาค่ะกลับมาที่ตัวแครนข้าว
00:12:51 → 00:12:54 นี่ใครกินข้าวอยู่ช่วงนี้พักสัก
00:12:54 → 00:12:57 ครู่ค่ะไปกินให้เสร็จแล้วเดี๋ยวมาฟังใหม่
00:12:57 → 00:13:01 อ่ะโอเคกลับมาต่อนะครับก็คือว่าผมชอบว่า
00:13:01 → 00:13:05 ไอ้ตัวแปรนั้นน่ะที่พี่อ้อยบอกอ่ะว่าเวลา
00:13:05 → 00:13:10 อืออากาศแล้วก็ออะไรต่ออะไรเนี่ยแสงแดดลง
00:13:10 → 00:13:12 แสงแดดอะไรเงี้ยที่ทำ
00:13:12 → 00:13:15 ให้น้ำที่มันอยู่ในนั้นมันระเหยออกไปจาก
00:13:15 → 00:13:19 ของเปียกการเป็นของแห้งเนี่ยอค่ะสำหรับ
00:13:19 → 00:13:22 ความสัมพันธ์กับมนุษย์เนี่ยมันคืออะไร
00:13:22 → 00:13:28 เออจริงๆเวลาเป็นตรงตัวนะคะอืๆเวลาเนี่ย
00:13:28 → 00:13:33 ที่มันค่อยๆทำปฏิกิริยาเนี่ยขหมาจากเปียก
00:13:33 → 00:13:38 เป็นแห้งเนี่ยเออก็คือการทิ้งเวลาอือ่า
00:13:38 → 00:13:43 ให้มันผ่านไปอืแล้วโดยธรรมชาติอ่ะมันก็จะ
00:13:43 → 00:13:50 ค่อยๆเอ่อดำเนินปฏิกิริยาให้มันแห้งลงไป
00:13:50 → 00:13:56 ระเหยไปแล้วก็ลดอานุภาพกลิ่นลงอืถ้าเทียบ
00:13:56 → 00:13:59 กับความสัมพันธ์ของมนุษย์เนี่ยอืก็คือการ
00:13:59 → 00:14:01 ทิ้งเวลา
00:14:02 → 00:14:04 ของการปฏิสัมพันธ์
00:14:04 → 00:14:10 กับมนุษย์ท็อกซิกอ่ะเออๆค่ะก็คือให้มัน
00:14:10 → 00:14:11 ให้
00:14:11 → 00:14:16 มันเว้นระยะหมายความว่าเราไม่สามารถ
00:14:16 → 00:14:20 คุมปฏิกิริยาของเขาคได้เออท็อกซิกที่เขา
00:14:20 → 00:14:25 จะมาโยนใส่เราได้ๆๆแต่เราอ่ะทิ้งช่วงเวลา
00:14:25 → 00:14:26 ในการที่
00:14:26 → 00:14:33 จะีคน่ะอือ่ามีปฏิกิริยาโต้ตอบก็คืออาจจะ
00:14:33 → 00:14:37 รู้ว่าอ้อเากำลังเหวี่ยงวีนใส่เรานะเออๆๆ
00:14:37 → 00:14:41 เอ่อเคกำลังแบบเ่อทำอะไรบางสิ่งที่ทำให้
00:14:41 → 00:14:44 เรารู้สึกขุ่นมัวนะเออๆแล้วเราก็ไปรู้ตรง
00:14:44 → 00:14:49 นั้นออแทนที่จะขุณมัวปุ๊บเลยโกรธปุ๊บเลย
00:14:49 → 00:14:55 ตอบปุ๊บเลยก็เว้นก่อนเออเออค่ะโหอันนี้ดี
00:14:55 → 00:14:59 ค่ะก็คือว่าเราทิ้งระยะเวลาก่อนที่จะมี
00:14:59 → 00:15:02 ปฏิกิริยากับกับอะไรบางอย่างๆสิ่งนั้น
00:15:02 → 00:15:05 เนี่ยถ้าเราทิ้งสมมุติว่ามีผมนึกถึงคนคน
00:15:05 → 00:15:10 นึงนะพี่อ้อยค่ะคนที่เป็นแบบเอ่อทกิก็คือ
00:15:10 → 00:15:14 ในชีวิตเนี่ยสมมุติว่านะคำพูดเขาเออคำพูด
00:15:15 → 00:15:18 เค้าเนี่ยเค้าส่วนใหญ่คนในสังคมประมาณนึง
00:15:18 → 00:15:21 นะเค้าก็บอกว่าเราต้องหลีกเลี่ยงจากคนคิด
00:15:21 → 00:15:24 ลบออย่างงี้นะเป็นต้นหนึ่งในลักษณะของคน
00:15:24 → 00:15:28 ท็อกซิกก็คือคิดลบค่ะทุกอย่างเนี่ยเค้าจะ
00:15:28 → 00:15:32 คิดเป็นรบหมดน่ะนะฮะแล้วคำพูดเค้าเนี่ยก็
00:15:32 → 00:15:36 จะทำให้เราขุ่นมัวไปด้วยแล้วพี่อ้อยบอก
00:15:36 → 00:15:39 ว่าเวลาเนี่ยจะช่วยได้อืนั่นหมายความว่า
00:15:39 → 00:15:41 อะไรหมายความว่าถ้าเราเจอคนๆนึงเช้านึงนะ
00:15:41 → 00:15:45 พี่อ้อยค่ะเดินมาเจอหน้าปุ๊บแล้วเก็พูดคำ
00:15:45 → 00:15:49 ๆนึงออกมาเนี่ยค่ะทำให้เราแบบขุ่นมัวค่ะ
00:15:49 → 00:15:52 แล้วเราก็ขุ่นมัวแล้วเราก็อุวันนี้อ้วน
00:15:52 → 00:15:56 จังทำไมตาตาดำๆเหมือนหมีแพนด้าอย่างเงี้
00:15:56 → 00:15:59 โอ้นี่ต้องขอบคุณตัวอย่างที่เห็นชัดเจนนะ
00:15:59 → 00:16:02 ฮะปึ๊บพอเค้าพูดอย่างงี้ปึ๊บเราขุ่นมัว
00:16:02 → 00:16:07 แล้วแล้วเราก็สวนกลับไปเลยเอออือย่าง
00:16:07 → 00:16:10 เงี้ยค่ะถ้าเกิดว่ามีคนทักอย่างเงี้เฮ้ย
00:16:10 → 00:16:12 ช่วงนี้ทำไมอ้วนจังเลยเนี่ยถ้าเกิดคนจะ
00:16:12 → 00:16:15 สวนกลับไปเลยเนี่ยแล้วมีเรื่องเพิ่มคือ
00:16:15 → 00:16:18 ตอบด้วยคือตอนแรกอาจจะยังไม่สวนนะแต่สิ่ง
00:16:19 → 00:16:21 ที่เกิดขึ้นก่อนเลยคือแบบเริ่มไฟเริ่ม
00:16:21 → 00:16:26 ไหม้ข้างในเออเริ่มแบบว่าวยุ่งอะไรกับฉัน
00:16:26 → 00:16:29 วะอะไรอย่างเงี้ยฉันจะอ้วนฉันจะพร้อมเ
00:16:29 → 00:16:31 อ้วนผอมเหมือนหัวแกเหรออะไรอย่างงี้ข้าง
00:16:31 → 00:16:35 ในยังไม่พูดแต่คำพูดที่พูดออกมาอาจจะไม่
00:16:35 → 00:16:39 ขนาดนั้นออาจจะบอกว่าเออก็อ้วนเรื่องของ
00:16:39 → 00:16:43 ฉันแต่ว่าจริงๆข้างในไม่แรงข้าอ่าอย่าง
00:16:43 → 00:16:48 เงี้ยเห็นป่ะก็คือได้ยินปึ๊บรู้สึกปั๊บ
00:16:48 → 00:16:53 ใช่แล้วก็ตอบปึ๊บใช่เนี่ยมันทำให้อานุภาพ
00:16:53 → 00:16:57 ของไอ้ขี้หมาสดนี่แหละมันรุนแรงแต่ถ้าบอก
00:16:57 → 00:17:00 ว่าถ้าสิ่งนี้เป็นขี้หมานะอือทำให้เป็น
00:17:00 → 00:17:03 ขี้หมาแห้งก็คือใช้เวลาใช้เวลาแล้วยังไง
00:17:03 → 00:17:07 ต่อฮะก็คือพอได้ยินปึ๊บแล้วเราก็ขุ่นมัว
00:17:07 → 00:17:09 ปั๊บ
00:17:09 → 00:17:12 ค่ะทิ้งเวลานิดนึงก็คือระหว่างที่ทิ้ง
00:17:12 → 00:17:15 เวลานี้เราทำอะไรกับข้างในใช่มั้ยพี่อใช่
00:17:15 → 00:17:17 ค่ะเราก็คิดใช่ค่ะแล้วเราก็มีวิธีคิดว่า
00:17:17 → 00:17:20 ยังไงต่ออีกเดี๋ยวคือจริงๆถ้าเป็นพี่อ้อย
00:17:20 → 00:17:23 เนี่ยพี่อ้อยจะพายามคือคือบางทีความคิด
00:17:23 → 00:17:24 ของเรา
00:17:24 → 00:17:29 ในในณเวลานั้นน่ะอืที่มันมีความรู้สึกลบ
00:17:30 → 00:17:33 แล้วอ่ะอมันขุ่นมัวแล้วอ่ะอือตรงนั้น
00:17:33 → 00:17:36 เนี่ยเราอยู่ๆเราจะไปคิดให้มันบวกกลับมา
00:17:36 → 00:17:40 หรืออะไรอย่างเงี้ยพี่อ้อยว่าเราไม่ใช่
00:17:40 → 00:17:44 ครูขนาดนั้นชั้นครูขนาดนั้นเราอ่ะยังเป็น
00:17:44 → 00:17:48 คนธรรมดานี่แหละที่แบบมีอารมณ์อ่านะคะ
00:17:48 → 00:17:51 เพราะฉะนั้นถ้าอย่างง่ายที่สุดในมุมของ
00:17:51 → 00:17:56 พี่อ้อยพี่อ้อยว่าพี่อ้อยทำอารมณ์ให้เป็น
00:17:56 → 00:18:02 ว่างก่อนอืคือเหมือนแบบว่างซักซักกี่วินี
00:18:02 → 00:18:04 อ่ะออ่าอะไรอย่างเงี้ยซักสมมุติว่า 10
00:18:04 → 00:18:07 วินทีก็ได้เออๆๆอย่างเงี้ยค่ะคืออาจจะแบบ
00:18:07 → 00:18:12 ใช้วิธี 1 2 3 4 5 6 อะไก็ว่ากันไป
00:18:12 → 00:18:15 นะอ่าอะไรอย่างงั้นน่ะค่ะก่อนนะค่ะค่ะ
00:18:15 → 00:18:18 แล้วแล้วค่อยเริ่มตั้งต้นคิดใหม่เมื่อพ้น
00:18:18 → 00:18:21 10 วินีอ่ะค่ะอ๋อโอหพี่อ้อยรู้มั้ยว่า
00:18:21 → 00:18:24 ต้องเรียนคุณผู้ฟังนะครับว่าเวลาที่ผมคุย
00:18:24 → 00:18:26 กับพี่อ้องในรายการอย่างเงี้ยเราก็ไม่ได้
00:18:26 → 00:18:29 เตี้ยงมาในรายละเอียดเท่าไหร่ไม่เราก็
00:18:29 → 00:18:32 เตรียมประเด็นกลางาๆแต่สิ่งที่พี่อ้อยพูด
00:18:32 → 00:18:35 ถึงเนี่ยมันไปตรงกับกลยุทธ์ที่ผมใช้ในการ
00:18:35 → 00:18:39 บรรยายเมื่อที่ผ่านมาเลยอืค่ะผมบอกว่า
00:18:39 → 00:18:42 เวลาที่เราเจอทคนท็อกซิกอ่ะคนที่ทำให้เรา
00:18:42 → 00:18:46 ทุกข์ใจอ่ะค่ะผมบอกว่าอันดับที่ 1 นะก็
00:18:46 → 00:18:49 คืออย่าเพิ่งคิดเลยว่าเราจะทำยังไงถึงเรา
00:18:49 → 00:18:52 จะมีความสุขหรือจะไปชื่นชอบเขาได้อะไไม่
00:18:52 → 00:18:56 ต้องอันดับแรกก็คือลดรกีของการต่อต้านลง
00:18:56 → 00:18:59 มาให้อยู่ในระดับเฉยๆก่อนอซึ่งพี่อ้อยก็
00:18:59 → 00:19:03 บอกว่าคือคำว่านิ่งๆอ่ะกลางๆอ่ะเว้นเว้น
00:19:03 → 00:19:05 วรคไป 10 วิเว้นวรคไว้ 10 วินาทีให้มัน
00:19:05 → 00:19:10 อยู่ในสภาวะกลางๆก่อนยังไม่ต้องไปแบบแบบ
00:19:10 → 00:19:13 คิดบวกโอดีจังเลยโอ้ยสปี้อะไรอย่าเงี้ไม่
00:19:13 → 00:19:17 ๆๆๆค่ะลงมาให้กลางๆก่อนนี่คือกลยุทธ์ที่
00:19:17 → 00:19:21 ผมใช้เลยนะอืเออค่ะแล้วพอหลังจากนั้น
00:19:21 → 00:19:23 เนี่ยแล้วเราก็ค่อยพอเราเชี่ยวชาญขึ้น
00:19:23 → 00:19:28 เนี่ยเราจะค่อยๆมีวิธีในการทำที่ทำอะไร
00:19:28 → 00:19:31 บางสิ่งบางอย่างตอบโต้ในทางที่แบบเป็นบวก
00:19:31 → 00:19:35 มากขึ้นออแต่ต้องเริ่มจากสภาวะกลางก่อนออ
00:19:35 → 00:19:39 แล้วผมใช้อะไรรู้มั้ยพี่ให้ผมใช้คำถามอ๋อ
00:19:39 → 00:19:42 คือผมบรรยายเรื่องนี้เลยเรื่องเกี่ยวกับ
00:19:42 → 00:19:46 ขี้หมาแห้งคือมนุษย์ขี้หมาแห้งในชีวิตเลย
00:19:46 → 00:19:50 อืเอออค่ะเนี่ยมนุษย์ขี้หมาในชีวิตเนี่ย
00:19:50 → 00:19:53 ก็คือคนที่ทำให้เราขุ่นมั้วนี่แหละผมบอก
00:19:53 → 00:19:57 ว่าอันดับแรกนะผมบอกว่าให้เค้ารู้ตัวก่อน
00:19:57 → 00:20:00 ว่าไอ้นี้คือคิดหมาหมายถึงว่าอะไรให้นึก
00:20:00 → 00:20:03 ถึงคนคนนึงเลยที่เาไม่ชอบในชีวิตเลยให้
00:20:03 → 00:20:06 นึกถึงจริงๆเลยด้วยนะอออหรอคะเออแล้วเคก็
00:20:06 → 00:20:09 นึกมาได้ปึ๊บพอนึกมาได้เสร็จปึ๊บเนี่ยผม
00:20:09 → 00:20:11 ก็ให้เขาอธิบายแต่ว่าไม่ได้อธิบายให้ผม
00:20:11 → 00:20:15 ฟังนะอธิบายให้คนในกลุ่มย่อยฟังอือโดย
00:20:15 → 00:20:19 อธิบายโดยไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นใครอือๆนะ
00:20:19 → 00:20:22 แต่อธิบายเฉพาะเหตุการณ์ว่าที่เราไม่ชอบ
00:20:22 → 00:20:26 เคเนี่ยเพราะอะไรอือถ้าก็เหมือนกับ
00:20:26 → 00:20:29 วิเคราะห์ขี้หมาแห้งกองนี้ว่าค่ะที่เรา
00:20:29 → 00:20:31 ไม่ชอบเพราะอะไรเพราะมันเหม็นเพราะมัน
00:20:31 → 00:20:33 อย่าเงี้ยอ่าผมก็ให้เค้าวิเคราะห์เรื่อง
00:20:33 → 00:20:37 คนเลยค่ะพอวิเคราะห์เสร็จปึ๊บหลังจากนั้น
00:20:37 → 00:20:41 เนี่ยผมก็ให้คำถามที่ 2 อคำถามที่ 2
00:20:41 → 00:20:46 เนี่ยมันจะทำให้ดีกรีของความเกลียดเนี่ย
00:20:46 → 00:20:51 มันลดลงมาอยู่ในระดับปกติทันทีเลยออคำถาม
00:20:51 → 00:20:54 ที่ 2 ผมบอกว่าผมบอกว่าไหนเราลองนึกดูซิ
00:20:55 → 00:20:58 ว่าการที่เขามีพฤติกรรมแบบนั้นคนๆนั้นมี
00:20:58 → 00:21:00 พฤติกรรมแบบนั้นแล้วเป็นพฤติกรรมที่เรา
00:21:00 → 00:21:04 ไม่ชอบเนี่ยผมถามว่าเราลองนึกดูดีๆซิว่า
00:21:04 → 00:21:07 พฤติกรรมที่เราไม่ชอบนั้นของเคเนี่ยเรา
00:21:07 → 00:21:10 เนี่ยมีส่วนรับผิดชอบหรือทำให้เกิด
00:21:10 → 00:21:14 พฤติกรรมนั้นหรือไม่อืแล้วเก็คิดนะพี่
00:21:14 → 00:21:19 อ้อยอือฮึแล้วก็เออคิดไปคิดมาเราก็มีส่วน
00:21:19 → 00:21:20 เหมือนกัน
00:21:20 → 00:21:23 นะนึกถึงเรื่องนึงเลยค่ะเออคือเรื่องอะไร
00:21:23 → 00:21:26 ครับพี่ไมัน
00:21:26 → 00:21:31 อ่าค่ะั้นสั้นก็คือวันนั้นไปเรียนที่จุฬา
00:21:31 → 00:21:35 แล้วอก็เพิ่งไปเรียนตอนแก่เนี่ยนะคะแล้ว
00:21:35 → 00:21:40 ก็เอ่อมีเช้าไปก็จะมีโปรตีนเช้คใส่แก้วอ
00:21:40 → 00:21:42 อันนี้มันแก้วนั้นมันเป็นแก้วใหม่อแล้วก็
00:21:42 → 00:21:46 คนเขาให้มาแล้วก็เอ้อลองใช้ดูปรากฏว่าพอ
00:21:46 → 00:21:48 เช็คไปแล้วเนี่ยเอ้ยมันไม่แน่นแต่ไม่มี
00:21:48 → 00:21:51 เวลาล่ะก็เอาใส่กระเป๋าไปแล้วก็เด็กแม่
00:21:51 → 00:21:55 บ้านก็มายกไปใส่รถเอ้อรีบเรารีบเอาไปใส่
00:21:55 → 00:22:00 รถเราก็ขึ้นรถตู้ไปเลยออๆปรากฏวันนั้น
00:22:00 → 00:22:04 เบรกกระทันหันอ๋อได้ยินเสียงตุ๊บเออโอ้โห
00:22:04 → 00:22:07 พระเจ้าในกระเป๋าในกระเป๋าใบนั้นนะนอกจาก
00:22:07 → 00:22:11 มีโปรตีนเชคแล้วมี IPad มีเอกสารแล้วมัน
00:22:11 → 00:22:15 ตุบอ่ะแล้วฝาไม่แน่นน่ะเ้ยมันจะเกิดอะไร
00:22:15 → 00:22:19 ขึ้นวะแล้วรถดันไม่ติดค่ะพี่วีปืๆไปโหใจ
00:22:19 → 00:22:22 นะพว่าพูนเนี่ยแม่บ้านเนี่ทำไมไม่รู้จัก
00:22:22 → 00:22:25 วางที่พื้นอย่างงี้เลยนะคะเออทำไมไม่วาง
00:22:25 → 00:22:28 ที่พื้นเนี่ยแล้วดูซิมันหล่นเอแบบสักแป๊บ
00:22:28 → 00:22:31 แป๊บนึงค่ะบอกว่าเออแล้วแม่บ้านเจะรู้ได้
00:22:31 → 00:22:35 ไงวะว่าว่าต้องวางที่พื้นเพราะว่าเค้าก็
00:22:35 → 00:22:38 ไม่เคยขับรถอ่ะเไม่รู้ว่ามันจะต้องเกิด
00:22:38 → 00:22:40 เหตุการณ์ที่มันคว่ำลงมาได้อะไรอย่าง
00:22:40 → 00:22:42 เงี้ยเออแล้วเก็ไม่รู้ด้วยว่าแก้วมันฝา
00:22:42 → 00:22:46 ไม่แน่นอะไรเงี้ๆแล้วเราก็หยุดตัวเองค่ะ
00:22:46 → 00:22:51 ออหยุดตัวเองว่าเรานี่แหละไม่บอกเค้าเออ
00:22:51 → 00:22:54 เรานี่แหละเป็นคนให้เค้าถือตะกร้ามาถือ
00:22:54 → 00:22:57 กระเป๋ามาแล้วเก็ไปวางด้วยความหวังดีว่า
00:22:57 → 00:23:01 มันมีอาหารน่ะมันควรจะวางบนเบาะเออๆนั่น
00:23:01 → 00:23:05 แหละเรานี่ล่ะค่ะมีส่วนร่วมเลยแหละโโอ้
00:23:05 → 00:23:08 ชัดเจนมาแล้วมันหยุดเลยค่ะใช่ป่ะนี่ไง
00:23:08 → 00:23:11 หยุดจากเมื่อกี้นี้อื้อหือร้อนเลยนะตื๊บ
00:23:11 → 00:23:15 ลงมาระดับปกติะใช่อันนี้อันนี้กลยุทธ์ใน
00:23:15 → 00:23:18 การทำให้ขี้หมาแห้งขี้หมาสดแห้งแล้วเนี่ย
00:23:18 → 00:23:22 แห้งแล้วแต่ผลสุดท้ายมันยังไงนะพี่วีไป
00:23:22 → 00:23:25 ถึงจุฬารีบไปเปิดประตูหลังโอ้โหนองไปหมด
00:23:25 → 00:23:29 ค่ะแต่ว่ากระเป๋าพอมันคว่ำลงงมาปุ๊บอ iPad
00:23:29 → 00:23:32 มันตั้งเอกสารมันตั้งเพราะฉะนั้นไอ้ที่
00:23:32 → 00:23:37 แฉะมันนิดนึงริมๆก็รอดไปแต่ถ้าฉันขุ่นจาก
00:23:37 → 00:23:41 ตรงนั้นน่ะไปถึงจุฬาเออเห็นมั้
00:23:41 → 00:23:44 โอ้โหมาสู่กลยุทธ์ที่ 3 สุดท้ายเลยพี่
00:23:44 → 00:23:47 ห้อยค่ะเมื่อกี้นี้เรามีอะไรบางอย่างที่
00:23:47 → 00:23:49 ทำให้เราขุ่นมัวใช่มยใช่ค่ะปึ๊บเราลด
00:23:49 → 00:23:53 ดีกรีมาถึงสภาวะปกติแล้วนะเบนเวลาคำถาม
00:23:53 → 00:23:56 ที่ 3 เนี่ยพี่นมันจะทำให้สิ่งนั้นไม่
00:23:56 → 00:23:59 สามารถทำอะไรเราได้เลยอือืก็คือผมถามคำ
00:23:59 → 00:24:03 ถามที่ 3 ผมบอกว่าถ้าอย่างงั้นคนเดิม
00:24:03 → 00:24:06 สถานการณ์เดิมเลยตอนนี้มาสู่สภาวะปกติ
00:24:06 → 00:24:09 แล้วค่ะคำถามต่อมาผมถามว่าแล้วตอนนี้ผม
00:24:09 → 00:24:14 ให้นึกถึงคนคนนั้นคนเดิมเลยนะแต่คำถามว่า
00:24:14 → 00:24:17 ลองนึกดูซิว่าแล้วคนๆเนี้ยมีข้อดีอะไร
00:24:17 → 00:24:22 บ้างอือค่ะอย่างกรณีของแม่บ้านเค้ามีข้อ
00:24:22 → 00:24:25 ดีอะไรบ้างครับพี่อ้อยโอ้ดีทุกอย่างดี
00:24:25 → 00:24:28 เลิศประเสริฐโลกเลยค่ะหรือแม้กระทั่งเอา
00:24:28 → 00:24:31 เคสนี้ือย่างเดียวเลยเคสที่ถือกระเป๋านี้
00:24:31 → 00:24:35 ขึ้นมาแล้วเอามาใส่รถให้เราเนี่ยเค้าเค้า
00:24:35 → 00:24:38 เป็นห่วงเราว่าเรายกลงไปมันจะหนักเอเออ
00:24:38 → 00:24:41 แล้วเคก็เลยบอกมีอะไรให้ยกมั้ยคะแล้วก็
00:24:41 → 00:24:44 บอกอ้าวงั้นหนูเอานี้ไปยกใส่รถให้หน่อย
00:24:44 → 00:24:47 เอออย่างเงี้ยเห็นป่ะน้ำใจน้ำใจเป็นคนมี
00:24:47 → 00:24:50 น้ำใจมากแล้วก็ใส่ใจอะไรอย่าเงี้ยใช่ปึ๊บ
00:24:50 → 00:24:54 คุณผู้ฟังเห็นมยครับว่ากรณีนี้เนี่ยพอเรา
00:24:54 → 00:24:58 ทอดเวลาแล้วเราฝึกบ่อยๆเนี่ยมันจะทำให้
00:24:58 → 00:25:01 เราเจอกับคนที่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจ
00:25:01 → 00:25:04 ให้เราค่ะโดยที่เราไม่ขุ่นโมแล้วตอนนี้
00:25:04 → 00:25:08 อือฮึแล้วเพราะว่าผมบอกกับคนที่มาอบรมวัน
00:25:08 → 00:25:11 นั้นว่าคนบางคนให้เขาเป็นแบบที่เขาเป็น
00:25:11 → 00:25:13 เนี่ยส่วนใหญ่ถ้าเราจะคิดว่าเราจะพัฒนา
00:25:13 → 00:25:15 ยังไงให้เรามีชีวิตอยู่กับเาอย่างมีความ
00:25:15 → 00:25:18 สุขเนี่ยเริ่มแรกส่วนใหญ่เราจะคิดว่าเรา
00:25:18 → 00:25:22 จะปรับเปลี่ยนเขายังไงใช่แต่ในความเป็น
00:25:22 → 00:25:24 จริงซึ่งเป็นไปไม่ได้ซึ่งเป็นไปไม่ได้ใช่
00:25:24 → 00:25:27 แต่ในความเป็นจริงกรณีเนี้ยใช้กลยุทธ์จาก
00:25:27 → 00:25:29 ขี้หมาสดเป็นขี้หมาหมาแห้งเนี่ยอเราไม่
00:25:29 → 00:25:33 ได้ปปรับเปลี่ยนเค้าเลยนะอือแต่เราแค่ทอด
00:25:33 → 00:25:37 ระยะเวลาแล้วการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายใน
00:25:37 → 00:25:42 เราค่ะภายในเราด้วยวิธีคิดเราเลยอื
00:25:42 → 00:25:45 ว่าสิ่งนั้นที่เราไม่ชอบเรามีส่วนร่วมรับ
00:25:45 → 00:25:50 ผิดชอบหรือไม่แล้วก็ในที่สุดคิดไปอีกขั้น
00:25:50 → 00:25:53 นึงเลยเนี่ยว่าในความเป็นจริงแล้วเค้าก็
00:25:53 → 00:25:57 มีข้อดีอือปึ๊บมันทำให้เราสามารถที่จะมี
00:25:57 → 00:26:00 ชีวิตอยู่อยู่ในสังคมอ่ะค่ะกับคนที่เรา
00:26:00 → 00:26:04 ไม่ชอบอ่ะได้อย่างแบบมีความสุขมากเลยค่ะ
00:26:04 → 00:26:08 นะครับก็โดยกลยุทธ์นี้เราได้เรียนรู้มา
00:26:08 → 00:26:11 จากจากอะไรฮะจากขี้
00:26:11 → 00:26:15 หมายังคงอยู่ที่ขี้หมาใช่เนี่ยจากขี้หมา
00:26:15 → 00:26:20 สดเป็นขี้หมาแห้งอเวลาช่วยได้เพราะฉะนั้น
00:26:20 → 00:26:24 ขี้หมาสดในชีวิตก็คือคนที่สร้างความเดือด
00:26:24 → 00:26:27 เนื้อร้อนใจให้เราเวลาก็ช่วยได้เหมือนกัน
00:26:27 → 00:26:30 ค่ะกลยุทธ์แลวิธีคิดแล้วก็เวลาทอดเวลา
00:26:31 → 00:26:35 เนี่ยก็ก็ช่วยได้เหมือนกันครับก็โอ้โหไม่
00:26:35 → 00:26:37 น่าเชื่อนะตอนนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเวลา
00:26:37 → 00:26:40 หมดเรียบร้อยแล้วยังเมามันในการคุยอยู่
00:26:40 → 00:26:43 เลยนะก็ยังไงก็ตามนะครับต้องขอบคุณคุณผู้
00:26:43 → 00:26:46 ฟังแล้วต้องขออภัยด้วยนะฮถ้าชื่อตอนตอน
00:26:46 → 00:26:49 นี้มันจะทำให้เราะแคะละคายทานข้าวไม่
00:26:49 → 00:26:51 อร่อยทานข้าวไม่อร่อยแต่ว่าผมเชื่อว่ามัน
00:26:51 → 00:26:54 น่าจะมีประโยชน์ต่อได้ประโยชน์มากชีวิต
00:26:54 → 00:26:57 ที่ทำให้เรามีชีวิตที่มีความทุกข์น้อยลง
00:26:57 → 00:27:00 แล้วมีความสุขมากขึ้นนะครับวันนี้ผมแล้ว
00:27:00 → 00:27:02 ก็พี่อ้อยก็ต้องลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับ
00:27:02 → 00:27:05 สวัสดี
00:27:05 → 00:27:08 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:27:08 → 00:27:11 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:27:11 → 00:27:14 spotify South Cloud Google podcast
00:27:14 → 00:27:17 Apple podcast และ YouTube Channel
00:27:17 → 00:27:21 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:27:21 → 00:27:27 View the world via The
00:27:27 → 00:27:31 Voice อ