00:00:00 → 00:00:03 ปัญหาสำคัญของผู้ป่วย ที่เป็นภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง
00:00:03 → 00:00:04 แล้วก็เลี้ยงสัตว์ และรักมันมาก
00:00:04 → 00:00:05 คือใจหนึ่งก็รัก
00:00:05 → 00:00:09 แต่ใจหนึ่งก็กังวลว่า อาการภูมิแพ้ของเรานั้นจะกำเริบมากขึ้น
00:00:09 → 00:00:12 ในวันนี้เรามีวิธีการอยู่ร่วมกับ สัตว์เลี้ยงของเรา
00:00:12 → 00:00:14 เพื่อลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้
00:00:14 → 00:00:17 จะมีวิธีการอย่างไรนั้น ติดตามได้ในคลิปนี้ครับ
00:00:17 → 00:00:25 [เสียงดนตรี]
00:00:25 → 00:00:27 ในกลุ่มคนที่เป็นโรคภูมิแพ้จมูกอักเสบครับ
00:00:27 → 00:00:30 เราเจอว่าแพ้สัตว์เลี้ยงสูงถึง 30%
00:00:30 → 00:00:32 ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมดนะครับ
00:00:32 → 00:00:34 โรคภูมิแพ้ขนสัตว์นี่
00:00:34 → 00:00:37 จริง ๆ แล้ว ไม่ได้เกิดจากการแพ้ขนมันโดยตรง
00:00:37 → 00:00:41 แต่เราแพ้ตัวโปรตีนสารก่อภูมิแพ้ ที่มันเกาะอยู่ตามขน
00:00:41 → 00:00:44 ซึ่งแหล่งกำเนิดอาจจะมาจากทั้งผิวหนัง ปัสสาวะ หรือน้ำลาย
00:00:44 → 00:00:48 อย่างน้องหมาน้องแมว บางครั้งมันก็มี พฤติกรรมการเลียขนใช่ไหมครับ
00:00:48 → 00:00:50 ก็ทำให้โปรตีนเหล่านี้มาเกาะตามขนสัตว์
00:00:50 → 00:00:52 แล้วเราหายใจเข้าไป
00:00:52 → 00:00:56 ก็จะเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ แล้วก็เกิดอาการคัดจมูก ตาแดง คันตา
00:00:56 → 00:00:58 หรือมีอาการทางผิวหนัง
00:00:58 → 00:01:00 โดยเฉพาะตำแหน่งที่ไปสัมผัส กับสัตว์เลี้ยงใกล้ชิดนะครับ
00:01:02 → 00:01:05 วิธีที่ 1 คือการกั้นโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง
00:01:06 → 00:01:08 เราก็ไม่ควรนำน้องหมาน้องแมว เข้ามาในห้องนอน
00:01:09 → 00:01:11 หรือถ้าเป็นไปได้ แยกชั้นกับห้องนอนเลยได้ยิ่งดี
00:01:12 → 00:01:16 สำหรับคนที่อาจเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้นี่
00:01:16 → 00:01:19 การสร้างคอก แล้วก็ให้สัตว์เลี้ยงอยู่แต่ในคอก
00:01:19 → 00:01:22 มันก็จะลดโอกาสเสี่ยงที่เราหายใจ สารก่อภูมิแพ้เข้าไปได้มากสุดครับ
00:01:22 → 00:01:23 สำหรับวิธีที่ดีที่สุด
00:01:23 → 00:01:28 คืออาจจะต้องนำน้องหมาน้องแมว แยกไปอยู่คนละที่อยู่กัน
00:01:28 → 00:01:30 อาจจะไปอยู่อีกบ้านหนึ่ง หรืออยู่อีกคอนโดหนึ่ง
00:01:30 → 00:01:32 น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ
00:01:34 → 00:01:37 การอาบน้ำ ควรอาบอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
00:01:37 → 00:01:41 อาบนานอย่างน้อย 3 นาทีด้วยน้ำเปล่า จะมีหรือไม่มีแชมพูก็ได้
00:01:41 → 00:01:44 เพราะสารก่อภูมิแพ้ ละลายในน้ำได้ค่อนข้างดี
00:01:44 → 00:01:45 วิธีการอาบนะครับ
00:01:45 → 00:01:50 คือถ้าใช้วิธีแช่ เราก็จะแช่ส่วนตัว แล้วก็โผล่ส่วนศีรษะพ้นน้ำ
00:01:50 → 00:01:51 จะล้างส่วนศีรษะในตอนจบ
00:01:51 → 00:01:54 โดยใช้วิธีการราดผ่านน้ำ ประมาณ 2-3 ครั้ง
00:01:54 → 00:01:58 เพื่อชะเอาสารก่อภูมิแพ้ที่เกาะติด ให้ละลายหลุดติดไปกับน้ำได้ครับ
00:01:58 → 00:02:01 หลังจากที่เราอาบเสร็จ สารก่อภูมิแพ้จะลดลงอย่างรวดเร็ว
00:02:01 → 00:02:03 แต่จากนั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์
00:02:03 → 00:02:06 ผิวหนังของสัตว์นี่ ก็จะสร้างสารก่อภูมิแพ้ขึ้นมาใหม่
00:02:06 → 00:02:10 จึงเป็นที่มาของการต้องอาบน้ำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งครับ
00:02:12 → 00:02:16 สิ่งของที่ไม่ควรจะมีอยู่ในบ้านของผู้ป่วย ที่เป็นภูมิแพ้และเลี้ยงสัตว์
00:02:16 → 00:02:18 ก็คือสิ่งของที่มีลักษณะเก็บฝุ่น
00:02:19 → 00:02:23 ตัวอย่างเช่น หนังสือ ตุ๊กตา พรม
00:02:23 → 00:02:27 พวกนี้ควรนำออกจากห้อง ที่เราใช้ชีวิตประจำวันในห้องนั้นนานที่สุด
00:02:27 → 00:02:28 นำออกไปครับ
00:02:30 → 00:02:33 วิธีที่ 4 คือการใช้เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องดูดฝุ่น
00:02:33 → 00:02:35 วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ
00:02:35 → 00:02:38 เครื่องฟอกอากาศ ที่จะช่วยลดสารก่อภูมิแพ้สัตว์เลี้ยงนี่
00:02:38 → 00:02:41 ควรจะมีแผ่นกรองอย่างน้อยเป็น HEPA filter
00:02:41 → 00:02:44 เพื่อจะได้ดักจับสารก่อภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง ซึ่งมันมีขนาดเล็ก
00:02:44 → 00:02:48 มันก็จะเป็นรุ่นเดียวกันกับที่เราใช้ ลดฝุ่น PM 2.5 นั่นเอง
00:02:48 → 00:02:53 กับสอง การใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มันเป็น HEPA vacuum cleaner
00:02:53 → 00:02:57 สารก่อภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง ก็จะถูกดักจับไว้ในแผ่นฟิลเตอร์
00:02:57 → 00:02:59 เพื่อไม่ให้มันฟุ้งกระจาย กลับเข้าไปใหม่อีกรอบ
00:02:59 → 00:03:04 หลังจากที่เราใช้เครื่องดูดฝุ่นนั้น ดูดฝุ่นตามพื้นผิว หรือตามพื้นต่าง ๆ ครับ
00:03:05 → 00:03:07 การฉีดวัคซีนภูมิแพ้นี่
00:03:07 → 00:03:11 มันก็คือการฉีดโปรตีนของสัตว์เลี้ยง เข้าไปในเจ้าของ
00:03:11 → 00:03:14 เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของเรา สร้างจากข้างใน
00:03:14 → 00:03:19 ประโยชน์ของมันก็คือช่วยลดอาการ ลดความไวต่อการแพ้สัตว์เลี้ยงได้
00:03:19 → 00:03:21 และยังลดการใช้ยาได้ด้วย
00:03:21 → 00:03:25 การฉีดวัคซีนภูมิแพ้นี่ ก็ควรทำในผู้ป่วยที่ อาการเขาดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้วนะครับ
00:03:26 → 00:03:29 เช่น อาจจะต้องอยู่แยกจากน้องหมาน้องแมว สักพักหนึ่ง
00:03:29 → 00:03:32 รวมกับให้ยารักษา จนอาการดีขึ้นในระดับหนึ่งก่อน
00:03:32 → 00:03:34 จากนั้นถึงค่อยฉีดวัคซีนภูมิแพ้ให้ครับ
00:03:34 → 00:03:38 สำหรับผู้ป่วยท่านใดที่ได้รับวัคซีนภูมิแพ้ แล้วยังเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอยู่
00:03:38 → 00:03:41 ก็ควรจะทำควบคู่ไปกับ การปฏิบัติตัวทั้ง 4 ข้อ
00:03:41 → 00:03:43 ตามที่กล่าวไปในข้างต้นด้วยนะครับ
00:03:43 → 00:03:45 [เสียงดนตรี]
00:03:45 → 00:03:48 ผมเชื่อว่าผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง
00:03:48 → 00:03:49 ก็ยังอยากจะเลี้ยงสัตว์ต่อ
00:03:50 → 00:03:51 เพราะมันส่งผลดีให้เราทางใดทางหนึ่ง
00:03:51 → 00:03:55 ไม่ว่าจะเป็นลดความเครียด ความกังวล
00:03:55 → 00:03:56 แล้วก็อาจจะทำให้เราอายุยืนขึ้น
00:03:56 → 00:03:59 รวมถึงบางครั้งมันก็เป็นสมาชิก ส่วนหนึ่งของบ้านนะครับ
00:03:59 → 00:04:02 แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อที่เราจะได้ดูแลมันต่อไปได้
00:04:02 → 00:04:04 สุขภาพของเราก็สำคัญเช่นเดียวกัน
00:04:04 → 00:04:07 ผมคิดว่าปัญหานี้สามารถดูแลจัดการได้
00:04:07 → 00:04:10 ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านภูมิแพ้ เพื่อประเมินเป็นราย ๆ ไป
00:04:11 → 00:04:13 แล้วก็หวังว่าคลิปนี้จะเป็นประโยชน์ สำหรับทุกท่านนะครับ
00:04:14 → 00:04:21 [เสียงดนตรี]
00:04:21 → 00:04:24 ถ้าคุณมีปัญหาด้านสุขภาพ อย่าลืมมาพบหมอกันนะครับ