00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:07 Voice อีกเนี่ยจริงๆแล้วมันก็เป็น
00:00:07 → 00:00:10 ธรรมชาติของมนุษยทุกคนที่ที่จะมีอยู่ก็
00:00:10 → 00:00:13 คือการระบุตัวตนว่าเราเป็นใครแต่การยึด
00:00:13 → 00:00:16 ติดกับสิ่งที่เราระบุตัวตนน่ะมันทำให้เรา
00:00:16 → 00:00:20 อ่ะแสดงออกถึงการเป็นอีโก้ไปในทางที่มัน
00:00:20 → 00:00:23 มีความเป็นลบส่วนคำว่าศักดิ์ศรีคือการมี
00:00:23 → 00:00:26 ศักดิ์ศรีแล้วมันมักจะมาคู่กับคำว่า Self
00:00:26 → 00:00:29 Value คุณค่าในตนเองแลมนุษย์ทุกคนน่ะมี
00:00:29 → 00:00:31 ศักดิ์ศรีมีคณค่าในตัวเองเท่ากันทุกคน
00:00:31 → 00:00:34 เพียงแต่ว่าการระบุตัวตนว่าเป็นใครมันมา
00:00:34 → 00:00:37 เติมด้วยอีกแบบนั้นไงคะเพราะฉะนั้นเขาบอก
00:00:37 → 00:00:40 ว่าิหรือศักดิ์ศรีเนี่ยเป็นตัวชี้วัด
00:00:40 → 00:00:43 เรื่องของคุณภาพชีวิตแล้วก็อายุไขที่ยืน
00:00:43 → 00:00:45 ยาว
00:00:45 → 00:00:48 ด้วยฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:48 → 00:00:52 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:52 → 00:00:56 ค่ะ This Is TY PBS podcast วันนี้ค
00:00:56 → 00:00:59 เราจะคุยกันถึงเรื่องผู้สูงวัยนะคะแต่ว่า
00:00:59 → 00:01:02 สูงอย่างไรนอกจากที่เราเคยคุยกันว่าจะ
00:01:02 → 00:01:05 ต้องมีคุณภาพจะต้องสตรองแล้วเนี่ยแต่อยู่
00:01:05 → 00:01:07 ยังไงให้มีศักดิ์ศรีคุยกับผู้ช่วย
00:01:07 → 00:01:10 ศาสตราจารย์ดรเกศรสำเภาทองอาจารย์ประจำ
00:01:10 → 00:01:12 คณะสาธารณสุขศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการ
00:01:12 → 00:01:15 ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคมหาวิทยาลัย
00:01:15 → 00:01:17 ธรรมศาสตร์คะสวัสดีค่ะพี่เกสรคะสวัสดีค่ะ
00:01:17 → 00:01:21 น้องรีค่ะนี่แบบว่ามาแบบแนวศักดิ์ศรีนะ
00:01:21 → 00:01:23 ศักดิ์ศรีฉันมีศักดิ์ศรีฉันมีศักดิ์ศรีกำ
00:01:23 → 00:01:27 มือเราชูขึ้นฉันต้องมีศักดิ์ศรีแต่จริงๆ
00:01:27 → 00:01:29 คำว่าศักดิ์ศรีอ่ะทุกคนมีอยู่แล้วแหละ
00:01:29 → 00:01:31 เชื่ออย่าเรามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับมี
00:01:31 → 00:01:34 ศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นมนุษย์คอ่าอันนี้
00:01:34 → 00:01:37 คือความนิยามของเขาใช่มั้ยคคุณค่าของความ
00:01:37 → 00:01:39 เป็นมนุษย์ค่ะคือศักดิ์ศรีกับคุณค่าเนี่ย
00:01:39 → 00:01:42 มักจะไปคู่ๆกันเลยเพราะมนุษย์ทุกคนเกิดมา
00:01:42 → 00:01:45 พร้อมกับนะคะความเป็นมนุษย์ใช่มั้ยคะที่
00:01:45 → 00:01:48 ที่ทุกคนก็มีคุณค่าในความเป็นมนุษย์นะคะ
00:01:48 → 00:01:51 แก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ก็คือความดีงาม
00:01:51 → 00:01:53 นะคะความเป็นมนุษย์คือการมีความคิดมี
00:01:53 → 00:01:58 ปัญญานะคะที่สูงกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆนะ
00:01:58 → 00:02:00 อันนี้คือคุณค่าของความเป็นมนุษแล้วศักด์
00:02:00 → 00:02:04 ก็คือการที่เราได้มีสิ่งนั้นแล้วก็ได้รับ
00:02:04 → 00:02:07 การยอมรับจากผู้อื่นได้รับความเคารพจาก
00:02:07 → 00:02:09 ผู้อื่นคำว่าเคารพไม่ได้หมายความว่าต้อง
00:02:09 → 00:02:11 มากราบไหว้นะคือยอมรับเราว่าเราก็เป็น
00:02:11 → 00:02:14 มนุษย์คนหนึ่งไม่ว่าเราจะรวยหรือจนหรือ
00:02:14 → 00:02:17 ไม่ดียังไงแต่เรามีความเป็นมนุษย์มี
00:02:17 → 00:02:19 คุณค่าตรงนั้นก็คือศักดิ์ศรีของเราอื
00:02:19 → 00:02:21 ศักดิ์ศรีนะอยู่กับเราแต่คนอื่นน่ะเป็น
00:02:21 → 00:02:24 ผู้ที่ให้ทำให้เราสะท้อนให้เห็นว่าเรามี
00:02:24 → 00:02:25 ศักดิ์ศรี
00:02:25 → 00:02:29 อ๋อแต่ว่าบางบางทีคำว่าศักดิ์ศรีมันก็มา
00:02:29 → 00:02:31 เพราะกับความอีโกสูงหรือเปล่าเพราะว่า
00:02:32 → 00:02:35 เอ๊ะมันมันคือคำว่าอีโก้มั้ยอืหรือว่ามัน
00:02:35 → 00:02:38 มันไม่ใช่แต่ว่าศักดิ์ศรีมีแต่มันถูก
00:02:38 → 00:02:41 เพิ่มเติมอะไรเข้ามาเลยทำให้เกิดเกิดความ
00:02:41 → 00:02:43 แบบมีอีกขึ้นมาหรือเปล่าเขใจแล้วค่ะน้อง
00:02:43 → 00:02:46 รีคือตรงเนี้ยค่ะเวลาเราพูดที่เป็นภาษา
00:02:46 → 00:02:48 อังกฤษเนี่ยถ้าคนเข้าใจความหมายมันก็จะมี
00:02:48 → 00:02:51 ความลึกซึ้งอยู่แต่พอเรามาแปลเป็นภาษาไทย
00:02:51 → 00:02:54 เนี่ยมันก็มีความลึกซึ้งในแบบที่ภาษาไทย
00:02:54 → 00:02:57 บริบทสังคมไทยเนาะอีโก้เนี่ยจริงๆแล้วมัน
00:02:57 → 00:03:00 ก็เป็นธรรมชาติของุทุกคนที่ที่จะมีมีอยู่
00:03:00 → 00:03:03 ก็คือการระบุตัวตนว่าเราเป็นใครอะไรอย่าง
00:03:03 → 00:03:07 ไรแต่การยึดติดกับสิ่งที่เราระบุตัวตนน่ะ
00:03:07 → 00:03:10 มันทำให้เราอ่ะแสดงออกถึงการเป็นอีโกไปใน
00:03:10 → 00:03:14 ทางที่มันมันอ่ามีความเป็นลบเช่นระบุว่า
00:03:14 → 00:03:16 ฉันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยใช่ฉันเป็น
00:03:16 → 00:03:19 อาจารย์แต่การระบุว่าฉันเป็นอาจารย์แล้ว
00:03:19 → 00:03:22 เรียกร้องคนอื่นๆให้ทำอะไรเพื่อฉันหรือ
00:03:22 → 00:03:25 เธอต้องแสดงว่าฉันเป็นอาจารย์อันเนี้ยเรา
00:03:25 → 00:03:28 เริ่มเป็นอีโก้แล้วะคือเอาตัวอีโก้เนี่ย
00:03:28 → 00:03:31 มาแสดงออกไปในทางที่ไม่ถูกอ่ะแต่ถ้าบอก
00:03:31 → 00:03:33 ว่าฉันเป็นอาจารย์
00:03:33 → 00:03:36 มหาวิทยาลัยโอเคบทบาทหน้าที่ของฉันคือทำ
00:03:36 → 00:03:39 อะไรฉันต้องอยู่ในการทำงานที่เหมาะควรให้
00:03:39 → 00:03:40 ประโยชน์กับสังคมให้ประโยชน์กับลูกศิษย์
00:03:41 → 00:03:43 สถาบันอันนี้การระบุตัวตนแบบนี้ไม่ผิดถูก
00:03:43 → 00:03:45 มั้ยว่าฉันเป็นอาจารย์ค่ะดังนั้นอีโก้มัน
00:03:45 → 00:03:48 มีอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราใช้อีโก้ไปในทาง
00:03:48 → 00:03:51 ใดแล้วส่วนใหญ่จะบอกว่าอีโก้จัดก็คือไม่
00:03:51 → 00:03:54 ฟังใครไงคิดว่าฉันถูกเสมอเพราะตัวตนฉัน
00:03:54 → 00:03:58 เป็นศูนย์กลางอันเนี้ยมันผิดออือก็เจอ
00:03:58 → 00:04:00 อยู่หลายๆหลายๆหลายๆคนหลายๆครั้งเหมือน
00:04:00 → 00:04:03 กันนะคะเพราะว่าด้วยวิถีชีวิตการทำงานมัน
00:04:03 → 00:04:06 ค่อนข้างที่จะแบบว่าเปลี่ยนสถานการณ์ได้
00:04:06 → 00:04:10 ตลอดบางคนก็น่ารักค่ะอ่าบางคนก็อย่างที่
00:04:10 → 00:04:13 พี่เกสรบอกค่ะคุณผู้ฟังว่าอาจจะมีความ
00:04:13 → 00:04:17 อีโก้สูงอืมีบทบาทอำนาจหน้าที่ใช่แล้วก็
00:04:17 → 00:04:20 ยึดมั่นถือมั่นอยู่ตรงนั้นว่ามันต้องถูก
00:04:20 → 00:04:24 เสมอมันจะต้องใช่เสมอฉันจะต้องชี้นำฉันจะ
00:04:24 → 00:04:26 ต้องตัดสินแล้วก็ที่สำคัญคืออาจจะขาดการ
00:04:26 → 00:04:30 รับฟังอ่ะยิ่งถ้าเกิดว่าเป็นเเชที่แบบว่า
00:04:30 → 00:04:33 หลังจากเจน x ไปแล้วเนี่ยเก็ไม่ได้คิดแบบ
00:04:33 → 00:04:36 นี้นะอย่างเจนเจน x เนี่ยยังยังพอใกล้
00:04:36 → 00:04:39 เคียงยังพอเข้าใจได้ว่าอ๋อเออมันเขาก็
00:04:39 → 00:04:41 เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่รในสังคมยุคก่อนที่
00:04:41 → 00:04:44 จะให้ความสำคัญกับคนที่มียศาบรรดาศักดิ์
00:04:44 → 00:04:47 มีตำหน่งตำก็อยู่ด้วยกันได้เพราะว่าเขา
00:04:47 → 00:04:49 เข้าใจบริบทตรงนั้นเขปฏิบัติเป็น
00:04:49 → 00:04:52 ธรรมเนียมมานะแต่พอคนต่างวัยแล้วเขาไม่
00:04:52 → 00:04:55 ได้ยึดถือแนวคิดแบบนั้นมันจะมาอีโก้ใส่เ
00:04:55 → 00:04:58 แบบนี้เขาก็มองด้วยสายตาที่แบบรับไม่ได้
00:04:58 → 00:05:02 แล้วนะคะอทีนี้อีกส่วนคำว่าศักดิ์ศรี
00:05:02 → 00:05:05 เนี่ยมันเป็นภาษาอังกฤษว่า dignity เนา
00:05:05 → 00:05:07 dignity คือการมีศักดิ์ศรีแล้วมันมักจะ
00:05:08 → 00:05:11 มาคู่กับคำว่า Self Value คุณค่าในตนเอง
00:05:11 → 00:05:13 แล้วมนุษย์ทุกคนน่ะมีศักดิ์ศรีมีคุณค่าใน
00:05:13 → 00:05:16 ตัวเองเท่ากันทุกคนค่ะเพียงแต่ว่าการระบุ
00:05:16 → 00:05:19 ตัวตนว่าเป็นใครมันมาเติมด้วยอีโก้แบบ
00:05:19 → 00:05:22 นั้นไงฮะเนาะดังนั้นผู้สูงอายุทำไมถามว่า
00:05:22 → 00:05:25 ทำไมเราตอนนี้เนี่ยในในปีที่แล้วจนถึงปี
00:05:25 → 00:05:28 นี้เนี่ยสโลแกนหรือว่าคำขวัญของผู้สูง
00:05:28 → 00:05:31 อายุคือผู้สูงวัยอย่างมีศักดิ์ศรีอืนะคะ
00:05:32 → 00:05:35 เอ่อคือต้องบอกว่า with dignity นะสูง
00:05:35 → 00:05:38 วัยอย่างมีศักดิ์ศรีงั้นก็คือต้องการจะ
00:05:38 → 00:05:41 ตอกย้ำให้เห็นว่าท่านมีนะเราอ่ะก็ควรจะ
00:05:41 → 00:05:45 ต้อง resp หรือเคารพท่านแบบที่ท่านมีอ๋อ
00:05:45 → 00:05:47 ไม่ไม่ได้หมายความว่าท่านมีแต่ว่าดูถูก
00:05:47 → 00:05:51 ตลอดว่ากล่าวตลอดหรือว่าดูแคลนหรือว่า
00:05:51 → 00:05:53 หมิ่นด้วยสายตานี่ก็ถือว่าเราได้บั่นทอน
00:05:53 → 00:05:56 ศักดิ์ศรีศักดิ์ศรีท่านมีแต่เราไม่ให้ไง
00:05:56 → 00:05:59 เราไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งนั้นอออือคือ
00:05:59 → 00:06:01 อาจจะจะไม่ได้ถึงขนาดว่าต้องยกหย่อปอปั้น
00:06:01 → 00:06:04 หรือว่าแบบเอ่อไปสร้างอีโก้ให้ขนาดนั้น
00:06:04 → 00:06:07 แต่แค่ว่าก็ต้องเคารพในความควเป็นมนุษย
00:06:07 → 00:06:09 ของท่านในความสูงวัยของท่านเพราะฉะนั้น
00:06:09 → 00:06:12 เขาบอกว่าอ่าินิหรือศักดิ์ศรีเนี่ยเป็น
00:06:12 → 00:06:16 ตัวชี้วัดเรื่องของคุณภาพชีวิตแล้วก็ความ
00:06:16 → 00:06:19 อายุไขที่ยืนยาวด้วยผู้สูงอายุที่เรารู้
00:06:19 → 00:06:22 ว่าทุกท่านมีศักดิ์ศรีเท่ากันแหละแต่ท่าน
00:06:22 → 00:06:25 ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรีอืจะ
00:06:25 → 00:06:27 บั่นทอนจิตใจแก่นแท้ความเป็นมนุษย์ของ
00:06:27 → 00:06:31 ท่านถูกสั่นคลอนว่าทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ
00:06:31 → 00:06:35 จิตสุขภาพกายมากมายเหมือนไปเป็นลักษณะว่า
00:06:35 → 00:06:39 ก็อายุมากแล้วหรือแบบอจะมาอะไรกันนักกัน
00:06:39 → 00:06:41 หนาอย่างงี้ใช่มั้ยคะแต่ไม่ใช่ความเป็น
00:06:41 → 00:06:44 มนุษย์เนี่ยจะอยู่กับเราจนกระทั่งลมหายใจ
00:06:44 → 00:06:46 สุดท้ายมันไม่ได้บอกว่าพออายุเยอะแล้วไม่
00:06:46 → 00:06:49 ต้องคำนึงถึงความเป็นมนุษย์น่ะมันไม่ใช่อ
00:06:49 → 00:06:52 อือันนั้นน่ะเป็นอะไรที่เรียกว่ามันมันสร
00:06:53 → 00:06:56 คลอนความชีวิตจิตใจเอย่างยิ่งเพราะว่าเขา
00:06:56 → 00:06:58 ไม่สามารถลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง
00:06:58 → 00:07:00 ได้ด้วยอเพราะฉะนั้นเรื่องของศักดิ์ศรี
00:07:01 → 00:07:04 ของผู้สูงวัยมักจะพูดกันมากในแวดวงของเ่อ
00:07:04 → 00:07:08 สถานดูแลโรงพยาบาลพวกนี้ว่าผู้ดูแลต้อง
00:07:08 → 00:07:10 ให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของ
00:07:10 → 00:07:13 ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยนะที่เข้ามารับการ
00:07:13 → 00:07:16 ดูแลเพราะว่ามันเพี่ยงพรได้ง่ายมากถูก
00:07:16 → 00:07:19 บั่นทอนได้ง่ายมากถูกคุกคามศักดิ์ศรี
00:07:19 → 00:07:22 เนี่ยได้ง่ายมากเพราะในภาวะนั้นผู้สูง
00:07:22 → 00:07:26 อายุเองก็มาในฐานะที่เป็นผู้ที่ต้องพึ่ง
00:07:26 → 00:07:29 พาผู้อื่นในการดูแลแม้กระทั่งอาหารการทำ
00:07:29 → 00:07:31 ความสะอาดร่างกายอะไรอย่างเงี้ยค่ะเพราะ
00:07:31 → 00:07:35 ฉะนั้นศักดิ์ศรีเนี่ยมันถูกรบกวนได้ง่าย
00:07:35 → 00:07:37 อาจจะหายไปเลยนะยิ่งถ้าเกิดว่ามีปัญหา
00:07:37 → 00:07:40 เรื่องสมองเสื่อมนี่โอไม่รับรู้จจะทำยัง
00:07:40 → 00:07:43 ไงก็ได้กับมนุษย์คนนี้สมมุติคิดอย่างนั้น
00:07:43 → 00:07:46 ออืออันเนี้ยเรียกว่าบั่นทอนศักดิ์ศรีมาก
00:07:46 → 00:07:49 ๆถึงแม้ท่านจะไม่รู้สึกตัวถึงแม้ท่านจะ
00:07:50 → 00:07:53 ไม่เข้าใจแล้วแต่ศักดิ์ศรยังคงอยู่ความ
00:07:53 → 00:07:56 กับความเป็นมนุษย์ใช่มั้ยคะเพฉะนั้นผู้ดู
00:07:56 → 00:07:58 แลอะไรต่างๆเนี่ยจะต้องเข้าใจตรงนี้มัน
00:07:58 → 00:08:02 เป็นหลักการด้านจริยธรรมคุณธรรมของผู้ดู
00:08:02 → 00:08:05 แลและก็ของบุคคลทั่วไปที่ปิจะปฏิบัติต่อ
00:08:06 → 00:08:09 กันอย่างคำนึงถึงทงตรงนี้อืเพราะฟังแบบ
00:08:09 → 00:08:11 นี้แล้วนึกถึงข่าวที่ผ่านๆมาเยอะแยะมาก
00:08:11 → 00:08:15 เลยใชมันล้วนแล้วแต่แต่คุกคามล้วนแล้วแต่
00:08:15 → 00:08:18 บันทรลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้ง
00:08:18 → 00:08:21 นั้นใช่ๆคืออาจจะด้วยความอะไรของเขาบางคน
00:08:21 → 00:08:24 อาจจะมีเรื่องของปัญหาทางสุขภาพจิตที่แบบ
00:08:24 → 00:08:26 ว่าไปทำร้ายผู้สูงอายุอย่างเงี้ยนะคะหรือ
00:08:26 → 00:08:31 ว่าอนี้มากกว่าการคุกคามดแล้วนะมันไปถึง
00:08:31 → 00:08:34 ขั้นชีวิตแล้วก็เอ่อความทุกข์ทรมานของ
00:08:34 → 00:08:36 ท่านด้วยไหจะแบบเรื่องยาเสพติดที่เข้ามา
00:08:36 → 00:08:39 อย่าเงี้ยมันมันคือเขาเป็นกลุ่มบุคคลผู้
00:08:39 → 00:08:42 อ่อนแอหมายถึงว่าผู้สูงอายุนะคะที่เขาไม่
00:08:42 → 00:08:45 ได้มีเร่วแรงจะมาต่อสู้ได้จะมาอะไรได้
00:08:45 → 00:08:48 อะไรอย่างเงี้ยก็ไปย่ำยีไปขมเหงตังแกอะไร
00:08:48 → 00:08:51 แบบเงยใช่คเพราะฉะนั้นในในบางที่นะมีตัว
00:08:51 → 00:08:54 อย่างอันนึงซึ่งพอไปอ่านเจอบทความนึงแล้ว
00:08:54 → 00:08:57 ก็ชอบมากเลยว่าเ่อบุคลากรทางด้านการแพทย์
00:08:57 → 00:09:00 และสาธารณสุขที่ผ่านการการอบรมคอร์สของ
00:09:00 → 00:09:03 การดูแลผู้สูงวัยโดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีคุณ
00:09:03 → 00:09:06 ค่าความเป็นมนุษย์ของผู้สูงอายุเนี่ยใน
00:09:06 → 00:09:08 ยามที่ท่านเจ็บป่วยเนี่ยเแม้กระทั่งมีบท
00:09:08 → 00:09:12 สนทนาดว่าต้องเริ่มต้นทักทายว่าเอ่อท่าน
00:09:12 → 00:09:14 อยากจะให้เราเรียกท่านว่าอะไรเป็นเป็น
00:09:14 → 00:09:17 ภาษาอังกฤษนะคะว่ายูอยากจะให้ฉันน่ะเรียก
00:09:17 → 00:09:20 ยูว่าอะไรเช่นบางท่านก็บอกว่าเรียกคุณลุง
00:09:20 → 00:09:22 ก็ได้คุณป้าก็ได้สมมุตินะหรือเรียกว่า
00:09:22 → 00:09:25 มิสเตอร์ก็ได้เรียกอะไรก็ได้คือเขาควรจะ
00:09:25 → 00:09:27 ได้บอกว่าเขาอยากให้เรียกเขาแบบนี้เพราะ
00:09:27 → 00:09:30 เขาจะรู้สึกดีไม่ถูกบันทรศักดิ์ศรีอ่ะออ
00:09:30 → 00:09:33 แต่ของเราเข้ามาป้านั่งลงสมมุติอย่างงั้น
00:09:33 → 00:09:36 ป้าคนนั้นฉันไม่ได้อยากให้เรียกฉันว่าป้า
00:09:36 → 00:09:39 เลยนะแต่เรียกไปแล้วแต่เราก็หยวนๆกันไปนะ
00:09:39 → 00:09:42 สังคมเราก็ไม่ค่อยได้มาซีเรียสแต่ถ้าเป็น
00:09:42 → 00:09:46 สังคมต่างชาติบางทีเนี่ยเาคำนึงขนาดนี้
00:09:46 → 00:09:49 เลยว่าจะให้ฉันเรียกยูว่าอะไรยูคือที่ยู
00:09:49 → 00:09:53 พอใจอ่ะไม่บั่นทอนไม่ตีตราไม่แบบมองให้
00:09:53 → 00:09:56 เห็นว่าฉันใบแอดแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะถึง
00:09:56 → 00:09:58 ขั้นนั้นอคือเรารู้แหละว่าเราเป็นผู้สูง
00:09:58 → 00:10:01 วัยแล้วแหละแต่พอเดินก้าวเข้ามาปุ๊บอ้า
00:10:01 → 00:10:05 ลุงป้ายายเอยากให้เรียกหรือ
00:10:05 → 00:10:08 เปล่าเดี๋ยวนี้บางที่เนี่ยโรงพยาบาลก็จะ
00:10:08 → 00:10:11 เรียกเป็นคุณหมดเลยเมื่อก่อนเนางอนางสาว
00:10:11 → 00:10:14 อุ๊ยต้องมาบอกด้วยว่าฉันแต่งงานหไม่แต่ง
00:10:14 → 00:10:16 งานฉันเป็นนางสาวอยู่ฉันยังไม่ได้แต่งงาน
00:10:16 → 00:10:18 อะไรอย่างงี้ใช่มั้ยเงี้ยค่ะอ่าอันนี้ก็
00:10:18 → 00:10:21 มีเถือว่ามันกระทบถึงศักดิ์ศรีของเขาว่า
00:10:21 → 00:10:24 อ่าเรียกเขาแบบนั้นด้วยนัยยะแฝงไปในทิศ
00:10:24 → 00:10:27 ทางใดจากผู้เรียกเนาะอือุ๊ยละเอียดอ่อน
00:10:27 → 00:10:29 มากเลยเนมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากมาก
00:10:29 → 00:10:32 แล้วถ้าหากว่ามองเห็นภาพที่มันแย่สุดๆก็
00:10:32 → 00:10:35 คือการที่เราปฏิบัติต่อเนื้อตัวร่างกาย
00:10:35 → 00:10:39 เ้าโดยไม่คำนึงถึงสภาพของเขาอ่ะไม่คำนึง
00:10:39 → 00:10:42 ถึงความเป็นมนุษย์ของเขาเช่นไปนอนในโรง
00:10:42 → 00:10:45 พยาบาลอาจจะอ่าทำให้การช่วยเหลือชเนื้อเช
00:10:45 → 00:10:48 ตัวเปิดพ้าม่านหมดเลยคอ่าผู้สูงอุก็อาจจะ
00:10:48 → 00:10:51 มีโโป๊เปลือยแล้วคิดว่าไม่รู้เรื่องหรอก
00:10:51 → 00:10:54 แก่แล้วไม่เป็นไรไม่อายหรอกไม่ได้อันนี้
00:10:54 → 00:10:57 ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของเขาเราก็จะต้องมี
00:10:57 → 00:11:00 มาตรการในการดูแลเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยมัน
00:11:00 → 00:11:03 เป็นเรื่องในในสถานบริการที่คำนึงถึงแล้ว
00:11:03 → 00:11:06 มีมีมาตรการมีกฎเกณฑ์มีไกด์ไลน์ปฏิบัติดี
00:11:07 → 00:11:10 อยู่แล้วเพียงแต่ว่าอาจจะมีบางคนน่ะที่
00:11:10 → 00:11:14 ด้วยเขาเรียกว่าทัศนคติค่ะทัศนคติที่ไม่
00:11:14 → 00:11:17 ดีต่อความสูงวัยอ่ะเขาถึงต้องรณรงค์
00:11:17 → 00:11:19 เรื่องสร้างทัศนคติที่ถูกต้องว่าถ้า
00:11:19 → 00:11:23 ทัศนคติเราดีเราจะปฏิบัติต่อเขาเช่นเฉก
00:11:23 → 00:11:26 เช่นที่เราทำกับตัวเองอ่ะถ้าเราไม่ชอบ
00:11:26 → 00:11:28 อะไรเราก็อย่าไปทำแบบนั้นอืฟังแบบนี้แล้ว
00:11:28 → 00:11:31 น่าคคิดนะคะว่าอะไรทำให้เขาเกิดทัศนคติ
00:11:32 → 00:11:35 ที่ไม่ดีต่อผู้สูงวัยอืไปโดนอะไรมาหรือไป
00:11:35 → 00:11:38 เจออะไรมาประสบการณ์อะไรตั้งแต่วัยเด็กนะ
00:11:38 → 00:11:42 คะหรือว่ามันขาดการขัดเกลาจะขอใช้คำพูด
00:11:42 → 00:11:45 แบบนี้บางคนก็ขาดการขัดเกลาแล้วก็คิดไป
00:11:46 → 00:11:50 ว่าทำแบบเนี้ยก็ไม่มีใครเห็นมันก็เลยออก
00:11:50 → 00:11:52 มาในสภาพนั้นแต่ในความเป็นจริงเดี๋ยวนี้
00:11:52 → 00:11:55 ในโลกโซเชียลเนี่ยทำอะไรที่ไงเดี๋ยวมัน
00:11:55 → 00:11:58 ออกไปหมดนะคะก็ทางที่ดีที่สุดคือปฏิบัติ
00:11:58 → 00:12:01 ตามแนวปปฏิบัติก็จะได้ชื่อว่าเราคำนึงถึง
00:12:01 → 00:12:05 ศักดิ์ศรีอคุณค่าความเป็นมนุษย์ของทุกคน
00:12:05 → 00:12:09 โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ถูกคุกคามได้ง่ายมาก
00:12:09 → 00:12:13 กำลังมองว่าไม่ค่อยมีใครอ่ะส่วนน้อยดี
00:12:13 → 00:12:16 กว่าเนาะที่จะแบบว่าให้ความสำคัญในเรื่อง
00:12:16 → 00:12:19 นี้เรื่องความศักดิ์ศรีคือเราอ่ะตัวเรา
00:12:19 → 00:12:21 เองยังมีศักดิ์ศรีเลยเนาะใครมาทำอะไรเรา
00:12:21 → 00:12:24 ก็ยังไม่ไม่โอเคใช่มั้ยคะแต่เราจะนึกถึง
00:12:24 → 00:12:26 แต่ตัวเองไงคะเราจะไม่ได้นึกถึงบุคคลอื่น
00:12:26 → 00:12:29 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงวัยที่อยู่เป็น
00:12:29 → 00:12:31 ครอบครัวของเราหรือแม้กระทั่งครอบครัวของ
00:12:31 → 00:12:34 คนอื่นก็แล้วแต่ในการปฏิบัติเราเลยอาจจะ
00:12:34 → 00:12:37 ปฏิบัติได้ไม่ไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ใช่
00:12:37 → 00:12:40 ค่ะมันจะมาคู่ๆกับการใช้ความรุนแรงการมี
00:12:40 → 00:12:45 อคตินะคะบางทีก็ด้วยสายตาวาจาการกระทำเลย
00:12:45 → 00:12:47 นะคะที่บั่นทอนศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุอ่ะ
00:12:48 → 00:12:51 คะมันมาหมดเลยมันจุดเริ่มต้นคือทัศนคติ
00:12:51 → 00:12:55 แล้วก็การที่เรียกว่าการ educate ่ะค่ะ
00:12:55 → 00:12:58 การให้ความรู้ความเข้าใจการอ่าเรียกว่า
00:12:58 → 00:13:01 ปรับอ่าสายตาหรืออะไรต่างๆที่มันเป็นพื้น
00:13:01 → 00:13:04 ฐานของบางคนก็ใส่ใจมากกับเรื่องของ
00:13:04 → 00:13:07 ประเด็นละเอียดอ่อนพวกนี้แต่บางคนเขาก็
00:13:07 → 00:13:09 เหมือนไม่ได้มีโปรแกรมนี้ใส่มาในสมองเลย
00:13:09 → 00:13:12 เขจะมองผ่านไปไม่เห็นเขไม่เห็นรู้สึกอะไร
00:13:12 → 00:13:14 เขาก็ไม่คิดว่าคนอื่นต้องรู้สึกอะไรเพราะ
00:13:14 → 00:13:16 ฉะนั้นบางทีการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้า
00:13:16 → 00:13:19 ศึกษาหรือทำงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุจึง
00:13:19 → 00:13:21 เป็นเรื่องสำคัญมากต้องอันดับ 1 ต้องดู
00:13:21 → 00:13:25 ทัศนคติบางทีเาอยากได้งานเมีสกิลมีทักษะ
00:13:25 → 00:13:28 การดูแลที่ดีแต่ทัศนคติไม่ดีเนี่ยยาม
00:13:28 → 00:13:31 พลั้งเผลอขาดการซุเปอร์ไวหรือขาดการกำกับ
00:13:31 → 00:13:35 ดูแลอ่ะเขาจะปฏิบัติด้วยการบั่นทอนศักดิ์
00:13:35 → 00:13:37 ศรีของผู้สูงอายุที่เขาดูแลนะคะค่ะอื
00:13:37 → 00:13:40 เพราะเราอุตส่าห์ไว้ใจว่าเราจะให้เขาเป็น
00:13:40 → 00:13:43 คนดูแลเพราะด้วยความที่อาจจะมีการฝึกอบรม
00:13:43 → 00:13:46 มีความรู้มีอะไรต่างๆแต่ว่าในภายในจิตใจ
00:13:46 → 00:13:49 ลึกๆเนี่ยเราไม่ได้อยู่หรือนั่งเฝ้าอยู่
00:13:49 → 00:13:51 ตลอดอย่างเงี้ยนะคะมันก็อาจจะเกิดเหตุที่
00:13:51 → 00:13:54 ไม่ไม่คาดคิดได้อถึงแม้ผู้สูงอายุจะไม่
00:13:55 → 00:13:57 รู้สึกตัวสมมุติอย่างงั้นนะเจ็บป่วยไม่
00:13:57 → 00:14:01 รู้สึกตัวแบบว่ารับรู้ไม่ได้แต่มันเป็น
00:14:01 → 00:14:04 มันเป็นคุณค่าของเราผู้ปฏิบัติที่ว่าเรา
00:14:04 → 00:14:06 คำนึงถึงศักดิ์ศรีคุณค่าของความเป็น
00:14:06 → 00:14:09 มนุษย์เราย่อมปฏิบัติต่อทุกๆคนน่ะด้วยการ
00:14:09 → 00:14:13 เคารพต่อบุคคลคนนั้นอือีกอันนึงค่ะพี่
00:14:13 → 00:14:16 เกสรคะอันนี้คือในแง่มุมของคนต่อที่กระทำ
00:14:16 → 00:14:19 คนภายนอกที่กระทำต่อผู้สูงวัยแต่ถ้าใน
00:14:19 → 00:14:21 ครอบครัวตัวเองนี่แหละนั่นน่ะค่ะเอออัน
00:14:21 → 00:14:23 นี้ก็น่าห่วงเหมือนกันเนาะมันมีปัจจัยที่
00:14:23 → 00:14:25 เขมาเกี่ยวข้องเหมือนกันนะปัจจัยเหล่า
00:14:25 → 00:14:28 เนี้ยมันต้องช่วยกันเอาออกไปหรือว่าลดลง
00:14:28 → 00:14:30 ก็คือปัจจัยเรื่องของความเครียดความ
00:14:30 → 00:14:33 เหนื่อยล้าจากการเป็นผู้ดูแลพอเครียดดู
00:14:33 → 00:14:36 แล้วอะไรต่างๆบางทีมันก็ระบายออกไปทั้งๆ
00:14:36 → 00:14:38 ที่อาจจะไม่ตั้งใจหรืออะไรต่างๆคนที่จะ
00:14:38 → 00:14:41 ต้องมีความยับยั้งชั่งใจที่ดีไม่ว่าฉันจะ
00:14:41 → 00:14:43 เหนื่อยขนาดไหนฉันจะต้องไม่ระบายอารมณ์ลง
00:14:43 → 00:14:46 ไปกับผู้ที่ดูแลตัวเองไม่ได้ช่วยตัวเอง
00:14:46 → 00:14:49 ไม่ได้มันต้องมีความยับยั้งชั่งใจอดกลั้น
00:14:49 → 00:14:51 สูงอน่ะเนี่ยค่ะเพราะฉะนั้นเขาก็เลยต้อง
00:14:51 → 00:14:55 พยายามหาทางออกที่จะมีการดูแลผู้ดูแลอีก
00:14:55 → 00:14:59 ทีนึงที่จะไม่เพี่ยงพลำขนาดนั้นอือใจของ
00:14:59 → 00:15:02 ตัวผู้สูงอายุเองที่จะทำให้อยู่ได้อย่าง
00:15:02 → 00:15:05 มีศักดิ์ศรีแล้วก็คนอื่นเนี่ยก็จะเคารพใน
00:15:05 → 00:15:08 ความมีศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุด้วก็ต้อง 2
00:15:08 → 00:15:10 ฝ่ายเหมือนกันสมมุติว่าท่านยังไม่ได้เจ็บ
00:15:10 → 00:15:13 ป่วยไปเป็นผู้ป่วยติดเตียงเนี่ยอันดับแรก
00:15:13 → 00:15:15 เลยเขาบอกว่าการมีเศรษฐกิจที่พึ่งพาตัว
00:15:15 → 00:15:18 เองได้เนี่ยทำให้เราได้รับการเ่อปฏิบัติ
00:15:18 → 00:15:21 อย่างมีศักดิ์ศรีมากกว่าอันนี้ก็ยอมรับ
00:15:21 → 00:15:24 ได้เข้าใจได้ใช่มคะปฏิบัติอย่างมีศักดิ์
00:15:24 → 00:15:29 ศรีหรือว่าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของการิ
00:15:29 → 00:15:31 ที่จะปฏิบัติเพราะว่ารู้สึกว่าอ้าคนนี้
00:15:31 → 00:15:33 เขาก็พึ่งพาตัวเองนะอะไรอย่างเงี้ยนะคะ
00:15:33 → 00:15:36 โดยเฉพาะยิ่งในครอบครัวผู้สูงอายุที่อยู่
00:15:36 → 00:15:39 ในครอบครัวที่เศรษฐกิจไม่ดีแล้วต้องพึ่ง
00:15:39 → 00:15:43 พาการอยู่การกินการใช้จ่ายจากคนอื่นๆ
00:15:43 → 00:15:46 เนี่ยเปรียบเสมือนเป็นผู้อาศัยอันนี้
00:15:46 → 00:15:48 เชื่อมโยงไปเรื่องของการมีที่อยู่เป็นของ
00:15:48 → 00:15:51 ตัวเองด้วยนะคะการมีอยู่ที่อยู่เป็นของ
00:15:51 → 00:15:52 ตัวเองของผู้สูงอายุเนี่ยเขาบอกว่ามัน
00:15:52 → 00:15:56 เป็นส่วนช่วยธนุบำรุงความรู้สึกของการมี
00:15:56 → 00:15:59 ศักดิ์ศรีด้วยนะพายามเป็นผู้อาศัยหรือที่
00:15:59 → 00:16:02 อยู่ไม่มั่นคงต้องเช่าต้องย้ายอะไรเงี้ย
00:16:02 → 00:16:05 กระทบนะคะนะเรื่องเศรษฐกิจอีกอันคือ
00:16:05 → 00:16:08 สุขภาพนะคะถ้าสุขภาพดีเราก็ยังปกป้องตัว
00:16:08 → 00:16:11 เองได้ล่ะถูกมั้ยคะเราก็ยังแสดงออกถึงการ
00:16:11 → 00:16:15 เป็นเ่อผู้ที่จะดูแลตัวเองอะไรต่างๆอัน
00:16:15 → 00:16:17 นี้เขาก็บอกว่าถ้าเรามีสุขภาพที่ไม่ดี
00:16:18 → 00:16:20 แล้วต้องพึ่งพาผู้อื่นยามที่มันจำเป็น
00:16:20 → 00:16:23 ต้องพึ่งจริงๆแต่คนที่เราจะพึ่งด้วยเขา
00:16:23 → 00:16:26 ไม่ได้อยู่ในสภาพจิตใจหรือคุณธรรมที่ดีพอ
00:16:26 → 00:16:29 เนี่ยเขาจะมาบันทรศักดิ์ศรีเราได้ง่ายมาก
00:16:29 → 00:16:32 อืเออน่าคิดเหมือนกันนะ
00:16:32 → 00:16:35 เนี่ยการวางระบบอะไรต่างๆนี่ก็เกี่ยวข้อง
00:16:35 → 00:16:38 ทั้งหมดเลยอ่ะคะระบบผู้ดูแลอะไรพวกนี้นะ
00:16:38 → 00:16:40 คะบางคนผู้สูงยุบาท่านก็บอกโอ้มันก็เป็น
00:16:40 → 00:16:42 เรื่องบุญกรรมนะเราทำดีมาก็จะได้ดีเอง
00:16:42 → 00:16:45 แหละนะเราทำไม่ดีมาเดี๋ยวเราก็เจอไม่ดีก็
00:16:45 → 00:16:48 ยอมรับซืเป็นบุญเป็นเป็นกรรมของเราอะไร
00:16:48 → 00:16:50 อย่าเงี้ยแต่ในความเป็นจริงก็คือก็อธิบาย
00:16:51 → 00:16:53 ด้วยหลักเหตุผลได้ด้วยนะคะว่าเราไม่ได้ไป
00:16:53 → 00:16:55 ลบหลู่เรื่องกฎแห่งกรรมนะอันนั้นมันก็คง
00:16:55 → 00:16:59 มีอยู่แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่ว่าในวัย
00:16:59 → 00:17:02 หนุ่มสาวเราทำอะไรมากับครอบครัวอืเนาะการ
00:17:02 → 00:17:05 อบรมเลี้ยงดูบุตรหลานการปฏิบัติตัวเป็น
00:17:05 → 00:17:07 ตัวอย่างที่ดีจนกระทั่งเข้าสู่วัยสูงอายุ
00:17:07 → 00:17:11 อ่ะย่อมจะแบบได้รับความเคารพนับถือจาก
00:17:11 → 00:17:14 บุตรหลานญาติมิตรในครอบครัวใช่มั้ยแต่ถ้า
00:17:14 → 00:17:17 เรายามตั้งแต่หนุ่มสาวมาจนสูงวัยเราก็ทำ
00:17:17 → 00:17:19 อะไรที่ไม่ดีมาเยอะแล้วยามนี้เราก็ไปพึ่ง
00:17:19 → 00:17:21 เขาอีกอย่างงี้นะเราก็อยู่ไม่ได้ด้วยตัว
00:17:21 → 00:17:25 เองบางทีสิ่งที่มาบั่นทอนเ่อศักดิ์ศรี
00:17:25 → 00:17:27 เนี่ยมันก็อาจจะเกิดขึ้นอันนี้เป็นเรื่อง
00:17:27 → 00:17:29 ของการเตรียมตัวโอ
00:17:29 → 00:17:31 เชื่อว่าบางทีเราอาจจะไม่ทันได้นึกถึงใน
00:17:32 → 00:17:35 อนาคตขนาดนั้นค่ะว่ามันบั้นปลายเราพอเรา
00:17:35 → 00:17:38 อายุมากๆแล้วเนี่ยมันจะต้องมาอยู่ในภาวะ
00:17:38 → 00:17:41 พึ่งพิงหรือเราอาจจะไม่ได้นันคิดขนาดนั้น
00:17:42 → 00:17:45 ก็เราก็ปฏิบัติอย่างเงี้ยมาโดยที่ลืมนึก
00:17:45 → 00:17:47 ไปเลยว่านึกไปว่าวันหนึ่งเราก็เอ่อต้อง
00:17:47 → 00:17:50 เจออาจจะเจอสิ่งนี้ได้แต่ว่าเมื่อมาถึง
00:17:50 → 00:17:53 จุดนี้แล้วเผชิญสิ่งนี้แล้วเนี่ยถ้าผู้
00:17:53 → 00:17:56 สูงอายุยังพอที่จะดูแลตัวเองได้เราก็จะ
00:17:56 → 00:17:59 ต้องพิทักษ์สิทธิ์นะต้องพิทักษ์ักศักดิ์
00:17:59 → 00:18:03 ศรีของตัวเองไว้ให้ได้นะคะในแง่ที่ว่าเรา
00:18:03 → 00:18:07 คงไม่ได้ไปไปก้าวร้าวใส่ด่าทอโวยวายมันก็
00:18:07 → 00:18:10 อาจจะไม่ได้ประโยชน์นะคะแต่หมายถึงต้อง
00:18:10 → 00:18:13 แสดงให้เห็นนะบางทีการให้เตือนสติการใน
00:18:13 → 00:18:16 ครอบครัวผู้ดจากันให้ดีในะที่เราผู้สูง
00:18:16 → 00:18:19 อายุเป็นหลักชัยของครอบครัวนะถ้ายังอยู่
00:18:19 → 00:18:22 ในสภาพนั้นก็เตือนสติกันพูดจากันดีๆอะไร
00:18:22 → 00:18:25 อย่างเงี้ยนะคะแล้วก็การปฏิบัติที่ดีต่อ
00:18:25 → 00:18:28 กันในครอบครัวมันหมายถึงเราก็จะปฏิบัติดี
00:18:28 → 00:18:31 กับข้างนอกบ้านได้แล้วนั้นก็คือเรียกว่า
00:18:31 → 00:18:33 เป็นเป็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ของเรา
00:18:33 → 00:18:37 อ่ะนะที่จะดูแลทุกๆคนด้วยการคำนึงถึงสิ่ง
00:18:38 → 00:18:42 นี้อือซึ่งซึแน่นอนว่าศักดิ์ศรีของแต่ละ
00:18:42 → 00:18:45 คนอาจจะมีเลเวลต่างกันระดับต่างกันจริง
00:18:45 → 00:18:48 มันเท่ากันแต่ว่าเราให้ค่าของแต่ละคนอาจ
00:18:48 → 00:18:52 จะคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆใช่มั้ยคะอย่าง
00:18:52 → 00:18:55 เช่นสมมุติว่าผู้สูงอายุที่เ่อที่ยังคง
00:18:55 → 00:18:57 เป็นประโยชน์กับสังคมเป็นประโยชน์กับ
00:18:57 → 00:19:00 ครอบครัวเนี่ยค่ะเขาก็เจ้าตัวก็จะรู้สึก
00:19:00 → 00:19:03 ถึงเออฉันก็มีศักดิ์ศรีมีคุณค่าเพราะั้น
00:19:03 → 00:19:05 ฉันทำประโยชน์ได้สังคมก็อาจจะมองว่าอ้อ
00:19:05 → 00:19:08 เนี่ยเป็นผู้สูงอายุที่ที่เป็นประโยชน์มี
00:19:08 → 00:19:11 คุณค่ามีอะไรต่างๆแต่ถ้าเขาทำสิ่งนี้ไม่
00:19:11 → 00:19:13 ได้มันก็อาจจะถูกบั่นทอนด้วยความรู้สึก
00:19:13 → 00:19:16 น่ะอ่าใช่อยู่ข้างในบางทีไม่ได้แสดงออก
00:19:16 → 00:19:19 หรือออกแต่มันจะเป็นลักษณะของการสะสมถูก
00:19:19 → 00:19:22 มั้ยคะค่อยๆรู้เริ่มรู้สึกว่าเอ๊ะทำไมฉัน
00:19:22 → 00:19:25 ไร้ค่าหรือเปล่าฉันอยู่ไปเพื่ออะไรเก็มา
00:19:25 → 00:19:28 จะวนเวียนถามคำถามตัวเองแบบนี้มีคำถามแล
00:19:28 → 00:19:32 ใชออันนี้ซึ่งมันสผลนะคะเพราะฉะนั้นในใน
00:19:32 → 00:19:35 ในแ่ของการที่เราจะให้ผู้สงอยู่อย่ามี
00:19:35 → 00:19:38 ศักดิ์ศรีมีคุณค่าเนี่ยนะคะพี่ก็มองไว้
00:19:38 → 00:19:40 ทั้ง 2 ทางเนาะมองทั้งสังคมเี่ต้อง
00:19:40 → 00:19:43 ตระหนักรู้เรื่องนี้ว่าเราปฏิบัติอย่างไร
00:19:43 → 00:19:45 วันหนึ่งเราก็จะได้รับการปฏิบัติอย่าง
00:19:45 → 00:19:48 นั้นนั้นการที่เราจะอยู่กับการที่เคารพ
00:19:48 → 00:19:51 ศักดิ์ศรีของทุกๆท่านเนี่ยมันก็หมายถึงคน
00:19:51 → 00:19:53 อื่นก็จะให้สิ่งนั้นกับเราเหมือนกันนะคะ
00:19:53 → 00:19:56 ในขณะเดียวกันผู้สูงอายุเองเนี่ยค่ะก็จะ
00:19:56 → 00:20:00 ต้องเตรียมตัวนะคะปฏิบัติตัวตัวเองนะคะ
00:20:00 → 00:20:03 แล้วก็ทำตัวเองอาจจะไปเชื่อมโยงกับเรื่อง
00:20:03 → 00:20:06 ของการดูแลสุขภาพเอ่อเชื่อมโยงกับเรื่อง
00:20:06 → 00:20:09 ของการดูแลด้านเศรษฐกิจนะคะแล้วก็เมื่อ
00:20:09 → 00:20:11 เรามีเศรษฐกิจที่ดีมีสุขภาพที่ดีบางทีเรา
00:20:11 → 00:20:15 มีทางเลือกเรามีทางออกเรามีทางไปถ้าเรา
00:20:15 → 00:20:17 เจอกลุ่มคนที่ไม่ดีแบบพวกนี้ชอบหมิ่นชอบ
00:20:17 → 00:20:21 ดูอ่าดูแคลนอะไรต่างๆไม่ไม่ไม่ให้ศักดิ์
00:20:21 → 00:20:23 ศรีไม่ไม่คำนึงถึงคุณค่าศักดิ์ศรีของเรา
00:20:23 → 00:20:26 ถ้าเรามีสุขภาพดีมีเงินที่พอสมควรเรา
00:20:26 → 00:20:29 เลือกได้ออเราไปที่นี่ไม่ดีเลยเราไม่ชอบ
00:20:29 → 00:20:32 ทัศนคติของคนที่นี่เราก็เลือกที่อื่นอเรา
00:20:32 → 00:20:34 มีทางเลือกแต่บางทีถ้าเราไม่มีทางเลือก
00:20:34 → 00:20:37 บางทีเราก็ต้องยอมรับไปก็เค้าทำเ้าก็ได้
00:20:37 → 00:20:40 แล้วกันเนาะเราก็ยอมรับแล้วก็ดูแลจิตใจ
00:20:40 → 00:20:45 ตัวเองคือไม่ถึงขนาดว่าโอ้โหไปตีโพยติพาย
00:20:45 → 00:20:48 โวยวายอะไรขนาดนั้นใช่ถ้าหากว่ามันทำให้
00:20:48 → 00:20:51 เกิดเรียกว่ามีการก้าวร้าวรุนแรงแล้วก็
00:20:52 → 00:20:55 หรือว่าถ้าถูกคุกคามมากก็ควรจะต้องให้
00:20:55 → 00:20:58 ระบบบ้านเมืองได้เข้ามาดูแลนะคะซึ่ง
00:20:58 → 00:21:01 เดี๋ยวนี้เขาก็มีศูนย์รับร้องทุกข์ร้อง
00:21:01 → 00:21:03 เรียนอยู่นะคะถ้าไม่ใช่เป็นผู้สูงอายุ
00:21:03 → 00:21:05 ดำเนินการเองก็ญาติก็ต้องช่วย
00:21:05 → 00:21:08 พิทักษ์สิทธิ์ตรงนี้นะคะอย่าให้เขามา
00:21:08 → 00:21:12 บั่นทอนอ่าศักดิ์ศรีนะคะมันนอกเหนือจาก
00:21:12 → 00:21:15 ความรู้สึกที่มันย่ำแย่ในจิตใจแล้วผู้สูง
00:21:15 → 00:21:19 อายุเนี่ยจะมีความบอบช้ำต่อเนื่องอ่ะค่ะ
00:21:19 → 00:21:22 อือว่าถูกกระทำแบบนี้แบบนี้เหมือนกับว่า
00:21:22 → 00:21:24 จริงๆแล้วเนี่ยถ้าฟังทั้งหมดทั้งหมดแล้ว
00:21:24 → 00:21:26 เนี่ยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เนี่ยมัน
00:21:26 → 00:21:29 มาพร้อมกับการเกิดของเราใช่ไปจนกระทั่ง
00:21:29 → 00:21:33 ท้ายสุดไปจนถึงข้าแบบว่าลมอฮไม่ได้หมาย
00:21:33 → 00:21:35 ความว่าพออายุมากๆแล้วศักดิ์ศรีความเป็น
00:21:35 → 00:21:38 มนุษย์เริ่มลดน้อยลงตามอายุตามวัยไม่ใช่
00:21:38 → 00:21:41 นะไม่ใช่อแล้วยิ่งต้องเพิ่มเติมมากขึ้น
00:21:41 → 00:21:43 เพราะท่านเป็นกลุ่มที่เรียกว่าจะถูก
00:21:43 → 00:21:46 เพี่ยงพร้ำได้ง่ายเด้วยความสูงวัยแต่ให้
00:21:46 → 00:21:48 คำนึงถึงว่าท่านได้ทำประโยชน์มาเยอะแยะ
00:21:48 → 00:21:51 ยาวนานแล้วนะคะจนถึงวัยนี้ท่านทำแบบนี้
00:21:51 → 00:21:54 ไม่ได้แบบนั้นไม่ได้ต้องการการดูแลแบบนี้
00:21:54 → 00:21:57 ต้องการระบบดูแลแบบนี้แต่ต้องบวกด้วยคำ
00:21:57 → 00:21:59 ว่าศักดิ์ศรีที่ยังคงมีอยู่ของท่านอืต้อง
00:22:00 → 00:22:02 ให้เกียรติด้วยต้องให้เกียรติตรงนั้นนะคะ
00:22:02 → 00:22:05 แล้วก็สังคมก็จะเป็นสังคมซีวิลอ่ะสังคม
00:22:05 → 00:22:08 ที่ที่สวยงามอ่ะไม่ใช่สังคมที่เหมือนกับ
00:22:08 → 00:22:11 ว่าขาดอ่าการคิดเรื่องคุณธรรมศีลธรรม
00:22:11 → 00:22:14 จริยธรรมอ่ะค่ะอถ้าทุกคนปฏิบัติต่อกันแบบ
00:22:14 → 00:22:17 นี้นะคะมันก็จะดีงามเหมือนว่าคนที่ยังไม่
00:22:17 → 00:22:20 ได้เข้าสู่ในวัยผู้สูงวัยอย่างเงี้ยต้อง
00:22:20 → 00:22:23 เริ่มพยายามแบบมองหรือเปลี่ยนทัศนคติบาง
00:22:23 → 00:22:26 อย่างที่วันนึงเราอาจจะเป็นผู้สูงใหวคือ
00:22:26 → 00:22:30 เราอาจจะแบบว่ามีลมหายใจแสนจะยาวนานอีก
00:22:30 → 00:22:33 หลายปีอยู่ในภาวะวันนึงอาจจะอยู่ในภาวะ
00:22:33 → 00:22:35 พึ่งิขึ้มีใครอยากอายุสั้นใช่มั้ยทุกคนก็
00:22:35 → 00:22:38 อยากอายุไขยืนยาวแต่ถ้าเกิดไปถึงตรงนั้น
00:22:38 → 00:22:40 แล้วเนี่ยเราจะยังไงเออมันมันเหมือนว่า
00:22:40 → 00:22:45 เราถ้าพอจะปูพื้นฐานตัวเองก่อนได้ก็น่าจะ
00:22:45 → 00:22:49 เป็นการดีดีมากๆเลยค่ะดีมากๆไม่ให้ใครมา
00:22:49 → 00:22:51 ย่ำยีศักดิ์ศรีมีมีศักดิ์ศรีของตัวเองอ่ะ
00:22:51 → 00:22:53 แต่ว่าก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปทำอะไร
00:22:53 → 00:22:56 คนอื่นได้นะอ่าก็ไม่ได้ต้องเรียกร้องนะคะ
00:22:56 → 00:22:59 มันเหมือนกับเรื่องของความเคารพเนี่ยค
00:22:59 → 00:23:01 จริงๆเราเราไปร้องขอให้เขเคารพเราเี่มัน
00:23:01 → 00:23:03 ไม่ได้เพราะเคารพมันเป็นเรื่องของจิตใจ
00:23:03 → 00:23:05 ที่ก็ต้องให้มาด้วยความบริสุทธิ์ด้วยความ
00:23:05 → 00:23:08 จริงใจเราถึงจะสัมผัสความรู้สึกนั้นได้
00:23:08 → 00:23:11 ว่าเออเขาแสดงถึงความเคารพนะคะศักดิ์ศรี
00:23:11 → 00:23:14 ก็เช่นเดียวกันเรามีแต่ถ้าเขาไม่ปฏิบัติ
00:23:14 → 00:23:16 ต่อเราเยี่ยงที่เรามีศักดิ์ศรีความเป็น
00:23:16 → 00:23:19 มนุษย์ของเราเช่นสิทธิ์ในเนื้อตัวร่างกาย
00:23:19 → 00:23:22 ของเราสิทธิ์ในการที่จะเรียกเราหรือว่า
00:23:22 → 00:23:24 แสดงอะไรต่อต่อเราต้องคำนึงถึงว่าเราเป็น
00:23:24 → 00:23:27 มนุษย์ไม่ใช่มองผ่านเลยไปโดยเฉพาะยิ่งใน
00:23:27 → 00:23:30 บ้านเนี่ยมักจะถูกกระทบมองผ่านเลยไปพูด
00:23:30 → 00:23:34 ด้วยไม่พูดนะคะหรือว่าอ่าพยายามที่จะอะไร
00:23:34 → 00:23:36 ก็ไม่รับฟังอะไรอย่างงี้ก็บั่นทอเล็กน้อย
00:23:36 → 00:23:39 แล้วนะคะกับการเคารพในความเป็นผู้สูงอายุ
00:23:39 → 00:23:42 ที่อยู่ในครอบครัวนะคะอันเนี้ยผู้สูงอายุ
00:23:42 → 00:23:45 เองเนี่ยบางทีอาจจะทำอะไรไม่ได้แล้วนะถ้า
00:23:45 → 00:23:48 อยู่ในภาวะแบบนั้นแต่ว่าต้องทำใจให้มั่น
00:23:48 → 00:23:52 คงเรายังคงมีศักดิ์ศรีแม้เขาจะไม่คำนึง
00:23:52 → 00:23:56 ถึงก็ตามอเนี่ยค่ะก็ต้องต้องแบบอ่าศักดิ์
00:23:56 → 00:23:59 ศรีของเราต้องไม่ได้ถูกล้ำไปด้วยอีโกเกิน
00:23:59 → 00:24:02 ไปใช่ค่ะอันนี้ก็สุดสุดต่งไปนะฮะถ้าคิด
00:24:02 → 00:24:06 ว่าโอ๊ยเธอจะต้องเข้ามาตอนเช้าสมมุติลูก
00:24:06 → 00:24:09 หลานจะไปทำงานเอามาสวัสดีทุกคนนะอะไรบาง
00:24:09 → 00:24:11 ทีก็เร่งรีบกันบางทียามเช้าอาจจะไม่ได้
00:24:11 → 00:24:14 ทักกันอะไรงี้ก็อย่าไปแบบในอีโก้หรืออะไร
00:24:14 → 00:24:18 แบบนั้นอีโก้มันไม่ได้ช่วยนะคะแต่ว่าอ่า
00:24:18 → 00:24:20 การตระหนักรู้ในศักดิ์ศรีตัวเองนั้นช่วย
00:24:20 → 00:24:23 ให้เรามีความมั่นคงทางจิตใจค่ะคือนอกจาก
00:24:23 → 00:24:25 จะให้คนอื่นเขาไม่ดูหมิ่นดูแคลมใน
00:24:25 → 00:24:28 ศักดิ์ศรีของตนแล้วตัวเองก็ต้องไม่ทำใดๆ
00:24:28 → 00:24:31 ให้เมาดูหมิ่นดูแคลนเราได้ด้วยเช่นเดียว
00:24:31 → 00:24:35 กันนะคะแล้วก็สิทธิ์ในเนื้อตัวร่างกายนะ
00:24:35 → 00:24:38 คะบางทีเนี่ยศักดิ์สีมันมาพร้อมกับการ
00:24:38 → 00:24:41 เป็นความเป็นอิสระในการที่จะคิดแล้วก็ตัด
00:24:41 → 00:24:45 สินใจบางทีก็หวังดีไงคุณตาคุณยายไม่ต้อง
00:24:45 → 00:24:47 ทำอะไรแล้วหวังดีไงไม่ต้องทำอะไรเลยทั้ง
00:24:47 → 00:24:50 สิ้นเลยนะอยู่นิ่งๆไม่ต้องไม่ต้องเหนื่อย
00:24:50 → 00:24:52 อะไรอย่าเงี้ยค่ะแต่อันนี้เนี่ยก็คือเรา
00:24:52 → 00:24:55 เริ่มไปคุกคามจำกัดสิทธิ์ของเขาในการที่
00:24:55 → 00:24:57 เขาจะทำอะไรบางสิ่งบางอย่างถ้าเรารู้ว่า
00:24:57 → 00:25:00 มันไม่ได้เป็นอันตรายก็ต้องให้อิสระตาม
00:25:00 → 00:25:03 ความคิดนี่ก็คือการเคารพในศักดิ์ศรีคุณ
00:25:03 → 00:25:05 ค่าของการเป็นผู้สูงอายุที่เต้องมีสิทธิ์
00:25:05 → 00:25:08 ที่จะตัดสินใจต่อชีวิตของเขาบ้างเหมือน
00:25:08 → 00:25:10 กันน่ะตอนนี้คุณผู้ฟังบางท่านที่ฟังอยู่
00:25:10 → 00:25:12 อาจจะรู้สึกว่าโอ๊ที่บ้านเนี่ยศักดิ์ศรี
00:25:12 → 00:25:16 เยอะเยอะเกินเยอะมากใครอยากได้แหลม
00:25:16 → 00:25:19 มาโอ้ยรถศักดิ์ศรีลงบ้างอะไรอย่างเงี้ย
00:25:19 → 00:25:22 อาจจะมีมีร้องขออยู่ค่ะสิ่งที่เป็นห่วงก็
00:25:22 → 00:25:25 ผู้สูงอายุที่ยังสุขภาพดียังเข้าสังคมยัง
00:25:25 → 00:25:27 ไปไหนได้เอาจจะไม่ค่อยได้มีปัญหาเรื่อง
00:25:27 → 00:25:30 นี้มามากนักแต่ผู้สูงอายุที่กลุ่มที่ป่วย
00:25:30 → 00:25:33 ติดบ้านติดเตียงหรือว่าต้องไปอยู่ในโรง
00:25:33 → 00:25:36 พยาบาลอยู่ในสถาดูแลพวกนี้อาจจะอ่าถูก
00:25:36 → 00:25:39 เรียกว่าบันทอนศักดิ์ศรีได้ง่ายนะคะจาก
00:25:39 → 00:25:42 การที่เรื่องของระบบบริการอาจจะเร่งรีบจน
00:25:42 → 00:25:46 ลืมคำนึงถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆนะคะหรือว่า
00:25:46 → 00:25:49 เอ่อบุคลากรอาจจะอยู่ในภาวะกดดันจากการทำ
00:25:49 → 00:25:53 งานนะคะหรือว่าพื้นฐานทางด้านจิตใจแล้วก็
00:25:53 → 00:25:56 ทัศนคติของผู้ให้บริการก็อาจจะทำให้ได้
00:25:56 → 00:25:59 หย่อนเรื่องของมาตรการในการคำนึงถึง
00:25:59 → 00:26:02 ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขานะคะอือาจ
00:26:02 → 00:26:05 จะมีจากหลายปัจจัยหลายสาเหตต้องใช้กระบวน
00:26:05 → 00:26:08 การเรื่องของการศึกษาการฝึกอบรมนะคะการ
00:26:08 → 00:26:12 ตอกย้ำการให้ความสำคัญการกำหนดเป็นนโยบาย
00:26:12 → 00:26:16 ทิศทางแล้วก็สร้างมาตรฐานทางสังคมสร้าง
00:26:16 → 00:26:19 ค่านิยมทางสังคมให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีของ
00:26:19 → 00:26:22 ทุกๆคนอย่างเท่าเทียมกันนี่ก็จะช่วยได้อื
00:26:22 → 00:26:27 เราก็หวังว่าในอนาคตเราจะได้รับการเอ่อ
00:26:27 → 00:26:30 ไม่ดูหมิ่นดูแคลในศักดิ์ศรีของเราในอนาคต
00:26:30 → 00:26:33 หลายๆครั้งบางทีมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
00:26:33 → 00:26:37 จนจนกระทั่งแบบเก็ทำจนคุ้นเคยไปแล้วอะไร
00:26:37 → 00:26:39 อย่าเงี้ยนะคะแต่ว่าเราต้องมารื้อฟื้นนะ
00:26:40 → 00:26:42 คะสร้างสิ่งที่ดีแล้วแล้วสุดท้ายคนที่
00:26:42 → 00:26:45 ปฏิบัติดีเนี่ยจะรู้สึกดีนะคะค่ะจะรู้สึก
00:26:45 → 00:26:49 ดีกับตัวเองอือนี่ก็เป็นแนวทางแนวคิดไว้
00:26:49 → 00:26:52 ให้นะคะแต่ว่ายังไงทุกคนมีศักดิ์รีเท่า
00:26:52 → 00:26:55 เทียมกันหมดนะคะก็อย่าไปบั่นทอนใครเพราะน
00:26:55 → 00:26:57 เราไม่อยากให้ใครมาบั่นทอนเราขอบคุณพี่
00:26:57 → 00:27:00 เกสรค่ะค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะ
00:27:00 → 00:27:02 คุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะเราจะกลับมาพบ
00:27:02 → 00:27:04 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย
00:27:04 → 00:27:07 PBS podcast นะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดี
00:27:07 → 00:27:11 ค่ะ This Is Thai PBS podcast ปัจจัย
00:27:11 → 00:27:13 อะไรบ้างที่ทำให้ผิวของเราไม่แข็งแรงทำไม
00:27:13 → 00:27:16 การอาบน้ำเย็นช่วยผิวให้ดูเด็กลงได้
00:27:16 → 00:27:18 เครื่องสำอางควรเลือกอย่างไรแพทย์หญิง
00:27:18 → 00:27:21 ไดแอนาหทยแพทย์ด้านผิวหนังและความงามมา
00:27:21 → 00:27:26 เล่าให้ฟังครับผิวไม่แข็งแรงเนาะคนทั่วไป
00:27:26 → 00:27:30 อ่ะมันก็จะสื่อถึงอื่นแพ้อืผิวแห้งที่
00:27:30 → 00:27:33 เกิดขึ้นได้มันก็จะเกิดจากได้ 1 คือ
00:27:33 → 00:27:36 พันธุกรรมเป็นตั้งแต่เกิดเลยก็เป็นได้เรา
00:27:36 → 00:27:39 ก็จะเห็นบางทีก็จะทำให้เด็กที่เกิดมาปุ๊บ
00:27:39 → 00:27:42 ก็แพ้เลยยก็มีเหมือนกันฮอร์โมนที่เปลี่ยน
00:27:42 → 00:27:44 ไปจะเห็นว่าเมื่อตอนที่เราเด็กๆเนาะวัย
00:27:44 → 00:27:50 รุ่นเนี่ยสวยผิวแบบว่ามันวบมันจังเลยพอ
00:27:50 → 00:27:53 อายุเริ่มจะ 30 40 ทุกคนก็เริ่มต้องหา
00:27:53 → 00:27:56 มอยจุไรเซอกันอย่างเดียวละอันต่อไปก็จะ
00:27:56 → 00:27:59 เป็นเรื่องของโรคประจำตัวคือบางคนจะมีโรค
00:27:59 → 00:28:02 ตั้งแต่เกิดเลยอย่างเช่นโรคสะเก็ดงึนหรือ
00:28:02 → 00:28:05 ว่าโรคเซฟเดิมอะไรพวกเยค่ะพวกนี้มันก็ทำ
00:28:05 → 00:28:08 ให้เกิดผิวแห้งอันที่ 4 นี้ก็คือในเรื่อง
00:28:08 → 00:28:11 ของไลฟ์สไตล์อันเนี้ยจริงๆแล้วคือเป็นคน
00:28:11 → 00:28:14 ปกติแต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ใช้เนี่ยมันเลยทำ
00:28:14 → 00:28:17 ให้เขาเนี่ยเกิดผิวที่มันอ่อนแอลงอย่าง
00:28:17 → 00:28:21 เช่นชอบอาบน้ำอุ่นชอบอาบน้ำบ่อยกลุ่มที่
00:28:21 → 00:28:25 อยู่ในภูมิประเทศที่อากาศหนาวหรืออยู่ใน
00:28:25 → 00:28:27 ห้องแอร์เพราะว่าห้องแอร์เนี่ยคือเป็น
00:28:27 → 00:28:30 อากาศแห้งที่หนาวอือืแย่ยิ่งกว่าการไป
00:28:30 → 00:28:33 อยู่อากาศหนาวที่เมืองนอกอีกเราก็จะเห็น
00:28:33 → 00:28:36 เลยว่าเดี๋ยวเนี้ยคนทำงานออฟฟิศทุกคนก็
00:28:36 → 00:28:39 คือแบบตามหาจไรเอร์เป็นหลักแล้วก็พวกฝุ่น
00:28:39 → 00:28:42 มลภาวะความเครียดก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ผิว
00:28:42 → 00:28:46 เรามันอ่อนแอลงได้ถ้าเราชอบอาบน้ำบ่อยก็
00:28:46 → 00:28:49 ไม่ได้มีอะไรแค่ว่าหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ
00:28:49 → 00:28:52 เราก็อาจจะต้องชะโลมด้วยมอยเจอร์หรือว่า
00:28:52 → 00:28:55 ออยนิดนึงเพื่อให้ผิวมันกัดเก็บน้ำน้อย
00:28:55 → 00:28:58 หน่อยนึงคู่กับตัวสบู่ที่ใช้อ่ะค่ะก็อาจ
00:28:58 → 00:29:01 จะเลือกเป็นตัวที่ค่อนข้างอ่อนนิดนึงก็
00:29:01 → 00:29:04 ได้และน้ำให้ใช้น้ำเย็นอย่าใช้น้ำอุ่นค่ะ
00:29:04 → 00:29:07 อันนี้นี่พูดในมุมของการที่บอกว่าผิวเรา
00:29:07 → 00:29:10 ก็จะดูเด็กขึ้นด้วยนะคะเน้นทารอร์เป็น
00:29:10 → 00:29:13 หลักค่ะโดยมอเซอร์กลุ่มครีมต่างๆอ่ะ
00:29:13 → 00:29:16 พยายามหลีกเลี่ยงส่วนประกอบของพวกน้ำหอม
00:29:16 → 00:29:19 หรือว่าพวกแอลกอฮอล์เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์
00:29:19 → 00:29:22 ครีมนะคะที่เราจะใช้บนใบหน้าที่ให้ความ
00:29:22 → 00:29:24 ชุ่มชืนได้ดีตัวที่ดีที่สุดและแพงที่สุด
00:29:24 → 00:29:27 ก็คือกลีเซอรีน
00:29:27 → 00:29:28 [เพลง]
00:29:28 → 00:29:32 This Is Thai PBS
00:29:32 → 00:29:35 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:29:35 → 00:29:37 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:29:37 → 00:29:52 www.thaipbs.or.th
00:29:52 → 00:29:57 [เพลง]
00:29:58 → 00:30:01 อ