00:00:07 → 00:00:10 เป็นภาวะที่ร่างกายเนี่ยมีภาวะไขมันสะสม
00:00:10 → 00:00:13 มากผิดปกตินะครับซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหา
00:00:13 → 00:00:17 ต่างๆตามมาเช่นเป็นโรคเบาหวานโรคความดัน
00:00:17 → 00:00:20 โลหิตสูงโรคไขมันพอกตับโรคหยุดหายใจแข็ง
00:00:20 → 00:00:22 นอนหลับหรือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่ม
00:00:22 → 00:00:25 โอกาสในการเป็นมะเร็งต่างๆเช่นมะเร็งเต้า
00:00:25 → 00:00:27 นมรวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยจริงๆมีเทอม
00:00:27 → 00:00:29 นึงที่อยากจะบอกเขาเรียกว่าเป็นโรคอ้วน
00:00:29 → 00:00:32 อันตรายหรือว่าโรคอ้วนทุกคนเราภาพกลุ่ม
00:00:32 → 00:00:34 นี้คือกลุ่มที่ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 นอก
00:00:34 → 00:00:36 จากจะเป็นโรคอ้วนเรียบร้อยแล้วเนี่ย
00:00:36 → 00:00:39 อันตรายเนี่ยคือมีผลกับคุณภาพชีวิตมีผล
00:00:39 → 00:00:41 กับอายุขัยมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ
00:00:41 → 00:00:43 เยอะคนปกติแล้วก็อายุสั้นกว่าคนทั่วไป
00:00:43 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:49 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:49 → 00:00:55 การโรงหมอกาชิชั้นสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:58 → 00:01:01 การโรงหมอทางไทย PBS podcas ค่ะวันนี้
00:01:01 → 00:01:03 เราคุยกันถึงเรื่องของการผ่าตัดกระเพาะ
00:01:03 → 00:01:06 รักษาโรคอ้วนทุบผลภาพนะคะซึ่งรายละเอียด
00:01:06 → 00:01:07 จะเป็นยังไงเดี๋ยวคุยกับนายแพทย์
00:01:07 → 00:01:10 เสถียรพงษ์จันทะวิบูลย์ศัลยแพทย์ผู้
00:01:10 → 00:01:12 เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูง
00:01:12 → 00:01:14 และผ่าตัดโรคอ้วนคลินิกโรคอ้วนโรงพยาบาล
00:01:15 → 00:01:18 ราชวิถีค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะครับสวัสดี
00:01:18 → 00:01:20 ครับค่ะวันนี้คุยกันถึงเรื่องของโรคอ้วน
00:01:20 → 00:01:24 ค่ะเราจะคุยเรื่องนี้เริ่มมาจับรอบเอวตัว
00:01:24 → 00:01:26 เองไม่รู้ว่าอ้วนหรือเปล่าเดี๋ยวมีวิธี
00:01:26 → 00:01:29 ให้คุณผู้ฟังได้ฟังกันนะคะแต่ว่าก่อนอื่น
00:01:29 → 00:01:32 ถามคุณหมอก่อนเลยว่าโรคอ้วนเนี่ยนิยาม
00:01:32 → 00:01:34 ความหมายคำว่าโรคอ้วนนี่คืออะไรคะคุณหมอ
00:01:34 → 00:01:38 คะจริงๆโรคอ้วนเนี่ยท่านนิยามจริงๆก็คือ
00:01:38 → 00:01:40 เป็นภาวะที่ร่างกายเนี่ยมีภาวะไขมันสะสม
00:01:40 → 00:01:43 มากผิดปกตินะครับซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหา
00:01:43 → 00:01:47 ต่างๆตามมาเช่นเป็นโรคเบาหวานโรคความดัน
00:01:47 → 00:01:51 โลหิตสูงโรคไขมันพอกตับโรคหยุดหายใจขาด
00:01:51 → 00:01:53 นอนหลับหรือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่ม
00:01:54 → 00:01:57 โอกาสในการเป็นต่างๆเช่นมะเร็งเต้านมรวม
00:01:57 → 00:02:00 ถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยโดยการที่จะบอก
00:02:00 → 00:02:03 เป็นโรคอ้วนเนี่ยเราอาจจะใช้เรื่องของค่า
00:02:03 → 00:02:07 ดัชนีมวลกายในการวัดดูนะครับ
00:02:07 → 00:02:11 ซึ่งค่าดัชนีมวลกายอันนี้เขาจะมีเกณฑ์
00:02:11 → 00:02:14 เป็นมาตรฐานที่ทุกคนจะใช้เกณฑ์นี้เหมือนๆ
00:02:14 → 00:02:17 กันหมดเลยใช่ไหมคะใช่ครับก็โดยปกติค่า
00:02:17 → 00:02:20 ดัชนีมวลกายเนี่ยเราจะใช้เป็นค่าน้ำหนัก
00:02:20 → 00:02:23 เป็นกิโลกรัมนะครับหารด้วยส่วนสูงเป็น
00:02:23 → 00:02:26 เมตรยกกำลัง 2 นะครับซึ่งปกติเราจะใช้
00:02:26 → 00:02:30 เกณฑ์ในคนเอเชียเนี่ยอย่างคนไทยเราเนี่ย
00:02:30 → 00:02:32 ครับก็ควรจะอยู่ประมาณสัก
00:02:32 → 00:02:36 18-22.9 หรือไม่เกิน 23 นะครับแต่ว่าถ้า
00:02:36 → 00:02:39 เกิดเกิน 23 ถึง 25 เนี่ยครับก็จะถือว่า
00:02:39 → 00:02:43 เป็นน้ำหนักเกินแต่การที่จะบอกว่าเป็นโรค
00:02:43 → 00:02:46 อ้วนเนี่ยก็คือเราใช้ค่าดัชนีมวลกายที่
00:02:46 → 00:02:49 เกิน 25 ขึ้นไปครับอ่าอันนี้ใช้คำว่าโรค
00:02:49 → 00:02:54 อ้วนได้เลยใช่เลยแตกต่างจากคำว่าภาวะใช่
00:02:54 → 00:02:56 ครับถ้าเกิดเป็นต่อมาก็คือเป็นภาวะน้ำ
00:02:56 → 00:02:58 หนักเกินแต่ว่าถ้าเกิดเป็นโรคอ้วนหรือว่า
00:02:58 → 00:03:02 ภาวะอ้วนเราถือว่าเป็นโรคเลยเมื่อดัชนี
00:03:02 → 00:03:03 มวลกายเกิน 25
00:03:03 → 00:03:07 แล้วผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันไหมคะค่า
00:03:07 → 00:03:11 เกณฑ์มาตรฐานแบบนี้ค่ะปกติเวลาเราใช้ค่า
00:03:11 → 00:03:14 ดัชนีมวลกายเนี่ยใช้เกณฑ์เดียวกันนะครับ
00:03:14 → 00:03:16 แต่ว่าถ้าเกิดเราต้องการตรวจละเอียดขึ้น
00:03:16 → 00:03:18 เนี่ยมันอาจจะใช้เครื่องที่เรียกว่า
00:03:18 → 00:03:21 เครื่องตรวจมวลร่างกายนะครับซึ่งปกติผู้
00:03:21 → 00:03:23 หญิงเนี่ยมีโอกาสที่จะมีไขมันได้มากกว่า
00:03:23 → 00:03:26 ผู้ชายนิดหน่อยนะครับ
00:03:26 → 00:03:31 เพราะว่าผู้หญิงมีแบบสัดส่วนมีอ่าอะไรที่
00:03:31 → 00:03:33 แตกต่างจากผู้ชายอยู่แล้วโดยปกตินะครับ
00:03:33 → 00:03:37 โดยทั่วๆไปฟังแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยทำไมผู้
00:03:37 → 00:03:40 หญิงเราดีหลายอย่างเลยนะอะไรอย่างนี้
00:03:40 → 00:03:42 ประมาณนี้นะคะอ่ะแต่ว่าอันนี้เป็นเกณฑ์
00:03:42 → 00:03:46 ค่ามาตรฐานก็คือถ้าถ้าถึงขั้น 25 ขึ้นไป
00:03:46 → 00:03:50 ใช่ไหมคะอันนี้อันนี้ก็เป็นเป็นค่าดัชนี
00:03:50 → 00:03:54 มวลกายที่วัดจากเครื่องเฉพาะเลยใช่ไหมคะ
00:03:54 → 00:03:57 จริงๆก็วัดจากเอาน้ำหนักหันส่วนสูงเป็น
00:03:57 → 00:03:59 เมตรก็ได้ครับก็คือใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก
00:03:59 → 00:04:02 ทั่วๆไปได้ครับส่วนเครื่องเครื่องที่บอก
00:04:02 → 00:04:04 มันจะเป็นเครื่องวัดมวลร่างกายอาจจะเห็น
00:04:04 → 00:04:07 ตามฟิตเนสบางที่หรือว่าตามโรงพยาบาลหรือ
00:04:07 → 00:04:09 ว่าตามนักกายภาพซึ่งอันนั้นมันจะวัดออกมา
00:04:09 → 00:04:12 เป็นเปอร์เซ็นต์ไขมันร่างกายเปอร์เซ็นต์
00:04:12 → 00:04:13 กล้ามเนื้อ
00:04:13 → 00:04:16 % น้ำมวลกระดูกพวกนี้นะครับซึ่งอันนั้น
00:04:16 → 00:04:18 จะเป็นการตรวจที่ละเอียดกว่านะครับแต่ว่า
00:04:18 → 00:04:21 อาจจะต้องต้องดูตามโรงพยาบาลใหญ่ๆถึงจะมี
00:04:21 → 00:04:25 นะครับเคยไปใช้ของฟิตเนสเหมือนกันค่ะคุณ
00:04:25 → 00:04:27 หมอคะแล้วแต่ว่าบางทีก็สงสัยเหมือนกันนะ
00:04:27 → 00:04:30 แค่เราไปยืนกับจับที่จับเขาหรืออะไรอย่าง
00:04:30 → 00:04:32 เงี้ยซึ่งเฮ้ยมันสามารถวัดรายละเอียดได้
00:04:32 → 00:04:35 ขนาดนั้นเลยหรอคะว่าไขมันเราอยู่ตรงไหน
00:04:35 → 00:04:37 มวลกระดูกของเราแค่ไหนแล้วหรืออะไรอย่าง
00:04:37 → 00:04:39 เงี้ยมันขนาดมันวัดได้ขนาดนั้นเลยหรอคะ
00:04:39 → 00:04:42 ใช่ครับก็สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ๆเนี่ยมัน
00:04:42 → 00:04:44 จะยิ่งแยกเป็นแต่ละบริเวณเลยครับว่าแบบ
00:04:44 → 00:04:47 แขนขากล้ามเนื้อกี่เปอร์เซ็นต์ไขมันกี่
00:04:47 → 00:04:51 เปอร์เซ็นต์หรือว่าบริเวณท้องลำตัวไขมัน
00:04:51 → 00:04:52 กี่เปอร์เซ็นต์อย่างเงี้ยนะครับหรือว่า
00:04:52 → 00:04:56 วัดได้ถึงขนาดว่ามวลไขมันในช่องท้องเนี่ย
00:04:56 → 00:04:59 ซึ่งมีผลกับเรื่องของภาวะความเสี่ยงเบา
00:04:59 → 00:05:01 หวานหรือว่าความเสี่ยงไขมันกว่าตับเนี่ย
00:05:01 → 00:05:03 กี่เปอร์เซ็นต์ซึ่งมันจะละเอียดค่อนข้าง
00:05:03 → 00:05:06 มากนะครับแต่ถ้าวัดแบบนั้นถ้ามีโอกาสมัด
00:05:06 → 00:05:09 แบบนั้นได้จะดีกว่าใช่ครับถ้ามีโอกาสว่า
00:05:09 → 00:05:12 แบบนั้นได้จะดีกว่าหรือว่าตามแบบพวก
00:05:12 → 00:05:15 วิทยาศาสตร์การกีฬาเลยหลายๆที่ก็จะวัดใน
00:05:15 → 00:05:18 นักกีฬาเพื่อแบบตรวจสอบว่ามีมวลกล้าม
00:05:18 → 00:05:20 เนื้อเพียงพอหรือเปล่าฟิตไหมอะไรอย่างนี้
00:05:20 → 00:05:22 นะครับแล้วก็สามารถบ่งบอกได้ละเอียดด้วย
00:05:22 → 00:05:24 ว่าแต่ละพาร์ทของร่างกายเนี่ยไขมันเยอะ
00:05:24 → 00:05:27 บริเวณไหนกล้ามเนื้อเยอะบริเวณไหนนะครับ
00:05:27 → 00:05:29 อันนี้เบื้องต้นนะคะคุณผู้ฟังถ้าสมมติเรา
00:05:29 → 00:05:31 ไม่ได้ไปใช้เครื่องเรามองด้วยตาก็ได้ตอน
00:05:31 → 00:05:35 นี้รอบรอบเอวรอบหรือเปล่าคะแต่ว่าเราใช้
00:05:35 → 00:05:39 ส่วนสูงนะคะก็สามารถใช้ได้มาคำนวณเบื้อง
00:05:39 → 00:05:42 ต้นได้เป็นเกณฑ์ค่าเฉลี่ยเบื้องต้นใช่ไหม
00:05:42 → 00:05:46 สมมุติถ้าถ้าสูง 165 อ่าเดี๋ยวให้คุณหมอ
00:05:46 → 00:05:50 ช่วยคำนวณให้สูง 165 ประมาณนี้น้ำหนักซัก
00:05:51 → 00:05:54 เท่าไหร่ดีอ่ะ 55 อย่างเงี้ย
00:05:54 → 00:05:58 มันจะอยู่ในเกณฑ์ที่แบบว่าไอ้ 50 โดยซื้อ
00:05:58 → 00:06:01 อันนี้เอาน้ำหนักตั้งก่อนสมมุติน้ำหนักก็
00:06:01 → 00:06:04 คือ 55 นะครับแล้วก็หารส่วนสูง 165 ก็
00:06:04 → 00:06:06 เป็นหาร 1.65
00:06:06 → 00:06:09 แล้วก็หาร 1.65 ซ้ำอีกทีนึงอย่างนี้ก็คือ
00:06:09 → 00:06:12 ดัชนีมวลกายประมาณ 20 ก็ถือว่าอยู่ใน
00:06:12 → 00:06:15 เกณฑ์ที่สมส่วนนะครับไม่ได้มีปัญหาอะไร
00:06:15 → 00:06:18 แต่ของตัวเองเกินไปแล้วค่ะ
00:06:18 → 00:06:21 วัดก็ดูแล้วก็แต่ว่าค่าดัชนีมวลกายเนี่ย
00:06:21 → 00:06:24 จะมันคือแค่ง่ายมันคือเป็นการดูสัดส่วน
00:06:24 → 00:06:27 ระหว่างน้ำหนักกับส่วนสูงของเรายิ่งเรา
00:06:27 → 00:06:29 ตัว
00:06:29 → 00:06:32 น้ำหนักมากส่วนสูงน้อยอย่างนี้ก็ยิ่งมี
00:06:32 → 00:06:36 ความเสี่ยงที่จะจะเป็นโรคอ้วนนะครับจริงๆ
00:06:36 → 00:06:39 มีเทอมนึงที่อยากจะบอกเป็นเป็นเทอมเขา
00:06:39 → 00:06:41 เรียกว่าเป็นโรคอ้วนอันตรายหรือว่าโรค
00:06:41 → 00:06:44 อ้วนทุพพลภาพกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ดัชนีมวล
00:06:44 → 00:06:47 กายมากกว่า 30 ซึ่งคำว่าโรคอ้วนอันตราย
00:06:47 → 00:06:49 เนี่ยหมายความว่านอกจากจะเป็นโรคอ้วน
00:06:49 → 00:06:51 เรียบร้อยแล้วเนี่ยอันตรายเนี่ยคือมีผล
00:06:51 → 00:06:55 กับคุณภาพชีวิตมีผลกับอายุขัยมีความ
00:06:55 → 00:06:57 เสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆเยอะคนปกติแล้วก็
00:06:57 → 00:06:59 อายุสั้นกว่าคนทั่วไป
00:06:59 → 00:07:03 อย่างที่ที่เคยเห็นอาจจะแบบคนที่อ้วนเป็น
00:07:03 → 00:07:07 หลักร้อยกิโลกรัมขนาดนั้นไหมคะ
00:07:07 → 00:07:11 ใช่ครับคือคือเป็น 100 กิโลกรัมอาจจะต้อง
00:07:11 → 00:07:13 ดูส่วนสูงด้วยแต่โดยมากถ้า 100 กิโลกรัม
00:07:13 → 00:07:15 ขึ้นไปก็มักจะมีปัญหาเป็นโรคอ้วนอันตราย
00:07:15 → 00:07:19 ได้นะครับหรืออย่างอย่างที่ผมเจอเยอะที่
00:07:19 → 00:07:23 สุดเนี่ยก็ประมาณ 320 กิโลก็มีนะครับ 320
00:07:23 → 00:07:27 กิโลที่เรารักษาไปนะครับอันนี้คุณหมออัน
00:07:27 → 00:07:31 นี้พูดจริงเลยใช่ไหมคะ
00:07:31 → 00:07:34 รู้สึกว่ามันใช้ชีวิตยากมากแล้วนะคะนี่
00:07:34 → 00:07:37 คืออันอันนั้นคือเป็นความที่ถึงขั้นเป็น
00:07:37 → 00:07:41 โรคอ้วนได้เนี่ยมันน่าจะมีปัจจัยจากหลายๆ
00:07:41 → 00:07:43 อย่างค่ะคุณหมอพอใจแจกแจงให้ฟังได้ไหมคะ
00:07:43 → 00:07:45 ว่าปัจจัยที่ทำให้คนเกิดโรคอ้วนได้เนี่ย
00:07:45 → 00:07:48 มันน่าจะมาจากอะไรได้บ้างอ่ะคะโอเคครับ
00:07:48 → 00:07:51 ปัจจัยเนี่ยจริงๆหลากหลายมากผมไล่จากอัน
00:07:51 → 00:07:53 แรกเลยที่เราเปลี่ยนไม่ได้ก็คือเป็น
00:07:53 → 00:07:55 ปัจจัยที่เราเปลี่ยนไม่ได้กับปัจจัยที่
00:07:55 → 00:07:57 เราเปลี่ยนได้ก่อนถ้าเปลี่ยนไม่ได้เนี่ย
00:07:57 → 00:08:00 เป็นปัจจัยภายในเช่นเป็นกรรมพันธุ์เราคุณ
00:08:00 → 00:08:02 พ่อคุณแม่อ้วนเนี่ยลูกมีโอกาสอ้วนมากกว่า
00:08:02 → 00:08:04 คนทั่วไป
00:08:04 → 00:08:08 นะครับแล้วก็ยีนบางตัวในร่างกายมีผลนะ
00:08:08 → 00:08:10 ครับแล้วก็เรื่องของฮอร์โมนบางคนมีเรื่อง
00:08:10 → 00:08:14 ของฮอร์โมนความหิวความอิ่มที่ไม่สมดุลนะ
00:08:14 → 00:08:16 ครับก็มีโอกาสที่จะอ้วนมากกว่าคนทั่วไปนะ
00:08:16 → 00:08:19 ครับเรื่องของ
00:08:19 → 00:08:22 ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของปัจจัยที่ปรับ
00:08:22 → 00:08:24 เปลี่ยนได้นะครับปรับเปลี่ยนได้เนี่ยก็
00:08:24 → 00:08:27 เป็นเรื่องของการนอนหลับบางคนนอนหลับพัก
00:08:27 → 00:08:30 ผ่อนไม่เพียงพอร่างกายเนี่ยกลางคืนได้รับ
00:08:30 → 00:08:32 ออกซิเจนไม่พอเผาผลาญพลังงานไม่ดีนะครับ
00:08:32 → 00:08:35 ก็จะน้ำหนักเยอะได้บางคนมีพฤติกรรมการกิน
00:08:35 → 00:08:39 ที่แบบนิยมกินน้ำหวานกินของหวานกินแป้ง
00:08:39 → 00:08:41 อะไรพวกนี้เยอะก็มีความเสี่ยงเยอะนะครับ
00:08:41 → 00:08:44 หรือว่าอีกกลุ่มนึงก็กลุ่มที่ทำงานเป็นกะ
00:08:44 → 00:08:46 กลุ่มที่ทำงานเป็นการ์ดเป็นกลางคืนเนี่ย
00:08:46 → 00:08:51 หรือว่าอ่าโดยเฉพาะอาชีพแบบอ่ารปภหรือ
00:08:51 → 00:08:55 พยาบาลนะครับหมอด้วยกันเนี่ยก็คือมีความ
00:08:55 → 00:08:57 เสี่ยงที่จะอ้วกมากกว่าปกติเนื่องจากใช้
00:08:57 → 00:09:02 ชีวิตแบบอ่าผิดจากคนปกติทำงานเป็นกะร่าง
00:09:02 → 00:09:04 กายไม่สามารถ
00:09:04 → 00:09:07 ปรับสมดุลตามตามนาฬิกาชีวิตหรือ
00:09:07 → 00:09:09 biological Cock ได้เนี่ยก็จะมีโอกาส
00:09:09 → 00:09:12 ว่ามากกว่าคนทั่วไปซึ่งมันก็อาจจะไม่รู้
00:09:12 → 00:09:14 แหละว่าจะจากปัจจัยไหนหรืออาจจะหลายๆ
00:09:14 → 00:09:17 ปัจจัยร่วมกันก็เป็นไปแล้วก็พออ้วนเสร็จ
00:09:17 → 00:09:20 เนี่ยมันก็จะเป็นหลายๆปัจจัยเช่นสมมุติพอ
00:09:20 → 00:09:22 เราน้ำหนักเยอะเสร็จเราจะมีปัญหาการนอน
00:09:22 → 00:09:24 หลับหลับไม่เพียงพอเราจะมีปัญหาที่ไม่
00:09:24 → 00:09:27 สามารถทำงานต่อเนื่องได้เพราะว่าง่วง
00:09:27 → 00:09:30 เพลียตอนบ่ายเราจะมีปัญหาไม่สามารถออก
00:09:30 → 00:09:32 กำลังกายได้เพราะเราปวดเข่าอย่างนี้นะ
00:09:32 → 00:09:35 ครับพออ้วนเสร็จมันก็จะเป็นเหมือนวงจรทำ
00:09:35 → 00:09:38 ให้ร่างกายแย่แย่ลงแย่ลงแย่ลงอยากจะออก
00:09:38 → 00:09:41 กำลังกายก็ออกไม่ได้ปล่อยข่าวอยากจะนอน
00:09:41 → 00:09:43 ให้เต็มอิ่มเหมือนคนอื่นก็นอนไม่ได้ร่าง
00:09:43 → 00:09:45 กายก็ไม่สดชื่นเผาผลาญพลังงานไม่ดีนะครับ
00:09:45 → 00:09:49 โอ้โหก็มีจากหลายปัจจัยซึ่งก็นำมาโรคอะไร
00:09:49 → 00:09:51 ต่างๆเยอะแยะมากมายอย่างที่คุณหมอบอกไป
00:09:51 → 00:09:53 ตั้งแต่ตอนต้นแต่ที่สำคัญมันคือโรคอ้วน
00:09:53 → 00:09:57 ที่นำมาซึ่งแพ็กเกจโรคมาแพคเกจเลยนะคะ
00:09:57 → 00:10:00 ซึ่งไม่ได้อยากจะได้เลยนะคะแต่ว่ามันมา
00:10:00 → 00:10:02 มันอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยากเพราะว่าปัจจัย
00:10:02 → 00:10:05 หลายๆอย่างจริงๆนะคะแต่คุณหมอแล้วอย่าง
00:10:05 → 00:10:08 นี้คือในเรื่องการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยจะเฉพาะเจาะจงคนที่เป็นโรคอ้วนอย่าง
00:10:11 → 00:10:14 เดียวไหมหรือว่าถ้าสมมุติว่าอย่างอย่าง
00:10:14 → 00:10:17 พี่อยากจะไปผ่าตัดจริงๆ
00:10:17 → 00:10:20 อยากจะให้ผอมลงกว่านี้นิดนึงนิดนึงเหมือน
00:10:20 → 00:10:23 สมัยสาวๆอย่างนี้ค่ะมันจะได้ไหมหรือว่า
00:10:23 → 00:10:27 เอ้ยต้องดูปัจจัยดูครับ
00:10:27 → 00:10:31 คือเราพยายามมองอย่างนี้ก่อนคือทุกคนรู้
00:10:31 → 00:10:32 อยู่แล้วแหละว่าการลดน้ำหนักเนี่ยมันมี
00:10:32 → 00:10:36 หลายวิธีนะครับวิธีที่ต้องทำเสมอ 1 ก็คือ
00:10:36 → 00:10:39 เป็นการควบคุมอาหารออกกำลังกายอันนี้พื้น
00:10:39 → 00:10:41 ฐานเหมาะสำหรับคนทั่วๆไปทุกคนที่มีภาวะ
00:10:41 → 00:10:44 น้ำหนักเกินนะครับอันต่อมาก็อาจจะเป็นการ
00:10:44 → 00:10:48 ใช้ยาลดน้ำหนักนะครับใช้ยาลดน้ำหนักก็ก็
00:10:48 → 00:10:52 เหมาะในคนที่น้ำหนักไม่เยอะมากกลางๆนะ
00:10:52 → 00:10:55 ครับแต่ว่าข้อเสียก็คืออาจจะมีค่าใช้จ่าย
00:10:55 → 00:10:58 ที่ค่อนข้างสูงแล้วก็อาจจะลดได้ไม่ไม่
00:10:58 → 00:11:01 ถาวรแล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดโยโย่ได้ค่อน
00:11:01 → 00:11:03 ข้างเยอะนะครับหรืออันต่อมาจะเป็นพวกการ
00:11:03 → 00:11:06 ส่องกล้องใส่บอลลูนอะไรพวกนี้นะครับซึ่ง
00:11:06 → 00:11:09 โดยทั่วๆไปเนี่ยมันก็เป็นการลดแบบชั่ว
00:11:09 → 00:11:12 คราวนะครับพอใส่บอลลูนไปสักพักสักประมาณ 6
00:11:12 → 00:11:15 เดือนถึง 12 เดือนก็ต้องเอาออกแล้วก็มี
00:11:15 → 00:11:18 โอกาสที่กระเพาะจะขยายช่วงที่เราใส่
00:11:18 → 00:11:20 บอลลูนได้แล้วก็หลังเอาออกก็อาจจะทำให้
00:11:20 → 00:11:23 น้ำหนักโยโย่ขึ้นมาเยอะได้นะครับสุดท้าย
00:11:23 → 00:11:27 คือกลุ่มที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลดน้ำ
00:11:27 → 00:11:30 หนักเนี่ยก็จะเป็นเหมือนทางเลือกสุดท้าย
00:11:30 → 00:11:32 ทางเลือกท้ายๆนะครับหรือว่าจะเป็นทาง
00:11:32 → 00:11:36 เลือกแรกในคนที่น้ำหนักเยอะมากจริงๆนะ
00:11:36 → 00:11:39 ครับแต่ว่าต้องย้ำว่าก่อนที่จะมาถึงการ
00:11:39 → 00:11:42 ผ่าตัดลดน้ำหนักได้เนี่ยคนไข้ต้องผ่านการ
00:11:42 → 00:11:45 ควบคุมอาหารออกกำลังกายอย่างเหมาะสมภาย
00:11:45 → 00:11:47 ใต้การดูแลของแพทย์และอย่างน้อยก็คือ 3
00:11:47 → 00:11:50 เดือนว่าไม่ประสบความสำเร็จหรือว่าประสบ
00:11:50 → 00:11:53 ความสำเร็จไม่เพียงพอก็สามารถพิจารณาการ
00:11:53 → 00:11:56 ผ่าตัดได้นะครับไม่ใช่ว่าใครอยากจะเดิน
00:11:56 → 00:11:58 เข้าไปคุณหมอขอผ่าตัดกระเพาะเลยอันนี้ไม่
00:11:58 → 00:12:02 ได้อันนี้ไม่ได้ก็มันมีวิธีในการที่จะควบ
00:12:02 → 00:12:04 คุมดูแลน้ำหนักของตัวเองเนี่ยได้หลาย
00:12:04 → 00:12:06 อย่างซึ่งหลายคนก็ใช้วิธีการออกกำลังกาย
00:12:06 → 00:12:09 แต่ว่าอาจจะต้องมีวินัยอย่างสูงสูงมากเลย
00:12:09 → 00:12:12 นะคะที่จะช่วยแต่แล้วก็อีกปัจจัยหลายๆ
00:12:12 → 00:12:15 อย่างแต่ว่าบางทีถ้าเกิดลดความอ้วนส่วน
00:12:15 → 00:12:19 ใหญ่ที่มันจะลดไม่ค่อยได้ผลจนกระทั่งนำไป
00:12:19 → 00:12:23 สู่เรื่องของการผ่าตัดมันน่าจะเกี่ยวกับ
00:12:23 → 00:12:26 เรื่องของโรคประจำตัวหรือว่าอะไรอย่างนี้
00:12:26 → 00:12:28 ด้วยไหมคะที่แบบมันลดน้ำหนักแล้วพยายาม
00:12:28 → 00:12:31 แล้วค่ะคุณหมอที่คุณหมอบอกควบคุมมา 3
00:12:31 → 00:12:33 เดือนที่ต้องออกกำลังกายตามที่คุณหมอดูแล
00:12:33 → 00:12:38 อยู่เนี่ยมันไม่ได้จริงๆคือคือการควบคุม
00:12:38 → 00:12:41 อาหารออกกำลังกายเนี่ยมันมันเป็นการทำที่
00:12:41 → 00:12:44 ง่ายนะครับเป็นงานง่ายๆแต่ว่าอ่าการที่จะ
00:12:44 → 00:12:47 ทำได้ต่อเนื่องจริงจังเนี่ยค่อนข้างยาก
00:12:47 → 00:12:50 ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่ใช่เพราะว่าเรามี
00:12:50 → 00:12:52 วินัยไม่เพียงพอนะครับมันเป็นเพราะว่า
00:12:52 → 00:12:55 เวลาที่เราพยายามลบปริมาณการทานอาหาร
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยควบคุมอาหารเนี่ยร่างกายเราก็จะปรับ
00:12:58 → 00:13:00 ตัวเหมือนกันก็จะลดการเผาผลาญพลังงานไป
00:13:00 → 00:13:03 ด้วยร่างกายเราจะเหมือนคิดว่าเราอยู่ใน
00:13:03 → 00:13:06 แบบเหมือนมนุษย์ถ้ำอ่ะครับเวลาที่เรา
00:13:06 → 00:13:09 เริ่มทานอาหารไม่ลดลงร่างกายต้องปรับตัว
00:13:09 → 00:13:11 เพื่อให้อยู่รอดการเผาผลาญพลังงานก็จะลด
00:13:12 → 00:13:16 ลงนะครับพอเราคุมอาหารไปสักพักหนึ่งแล้ว
00:13:16 → 00:13:18 ขอให้เรากลับมากินปกติหรืออะไรแค่แป๊บ
00:13:18 → 00:13:20 เดียวเท่านั้นแหละร่างกายเนี่ยมันไม่ได้
00:13:20 → 00:13:23 เพิ่มการเผาผลาญพลังงานตามขึ้นมามันทำให้
00:13:23 → 00:13:25 การคุมอาหารอย่างเดียวเนี่ยมีโอกาสเกิด
00:13:25 → 00:13:28 โยโย่ค่อนข้างสูงนะครับเหมือนจากเดิมร่าง
00:13:28 → 00:13:31 กายจากที่เผาผลาญพลังงาน 100% เนี่ยพอเรา
00:13:31 → 00:13:33 คุมอาหารเนี่ยการผ่าตัดพนักงานลดเหลือ
00:13:33 → 00:13:36 ประมาณ 50% พอเรากลับมากินเท่าเดิมปุ๊บ
00:13:36 → 00:13:39 ร่างกายยังเผาผลาญพลังงาน 50% อยู่น้ำ
00:13:39 → 00:13:42 หนักก็จะโยโย่ขึ้นโยโย่ขึ้นนะครับคนที่
00:13:42 → 00:13:43 น้ำหนักเยอะเนี่ยเขารู้ตัวแหละว่าน้ำหนัก
00:13:43 → 00:13:46 เขาเยอะขึ้นแต่บางทีมันทำอะไรไม่ได้จริงๆ
00:13:46 → 00:13:49 กินไม่เยอะสังเกตดูเราคนอ้วนทุกคนจะบอก
00:13:49 → 00:13:52 หนูกินไม่เยอะหนูพยายามคุมแล้วนะครับแต่
00:13:52 → 00:13:56 ว่าร่างกายมันปรับตัวไปแล้วมันไม่ได้แล้ว
00:13:56 → 00:13:58 พอจะให้เขาเพิ่มการเผาผลาญพลังงานโดยการ
00:13:58 → 00:14:00 ออกกำลังกายก็ไม่ได้อีกเพราะว่ามีปัญหา
00:14:00 → 00:14:04 ปวดเข่าวิ่งนิดวิ่งหน่อยก็จะเจ็บบางทีเขา
00:14:04 → 00:14:06 ก็จะยิ่งเสื่อมเร็วดังนั้นการออกกำลังกาย
00:14:06 → 00:14:08 ของเขาที่เหมาะอาจจะต้องเป็น
00:14:08 → 00:14:11 ว่ายน้ำอะไรพวกเนี้ยปั่นจักรยานที่มันมัน
00:14:11 → 00:14:15 ทำให้เขามันไม่ได้รับภาระเยอะนะครับซึ่ง
00:14:15 → 00:14:17 มันก็ลิมิตอีกกว่าเราจะหาสถานที่หาอะไรใน
00:14:17 → 00:14:19 การออกกำลังกายได้ดี
00:14:19 → 00:14:23 ก็แสดงว่ามันก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย
00:14:23 → 00:14:27 ว่าอันนี้เคสนี้ไม่ได้แล้วจริงๆพยายาม
00:14:27 → 00:14:30 แล้วจริงๆก็อาจจะต้องปรึกษากับคุณหมอก่อน
00:14:30 → 00:14:33 ที่จะทำการบอกคุณหมอคะจะขอผ่าตัดนี้ก็
00:14:33 → 00:14:35 ต้องคุยกันก่อนเว้ยใช่ไหมคะไม่ได้บอกว่า
00:14:35 → 00:14:38 เหมาะกับทุกคนที่ใช่ครับมันไม่ได้เหมาะ
00:14:38 → 00:14:40 กับทุกคนครับคือการผ่าตัดเนี่ยมีความ
00:14:40 → 00:14:42 เสี่ยงแหละถึงแม้จะไม่เยอะแต่ว่ามันมี
00:14:42 → 00:14:45 ความเสี่ยงอยู่แล้วดังนั้นคนที่เข้าเกณฑ์
00:14:45 → 00:14:48 จริงๆหรือว่าล้มเหลวจริงๆจากการลดน้ำหนัก
00:14:48 → 00:14:50 ด้วยวิธีอื่นเนี่ยเราถึงจะแนะนำให้ผ่าตัด
00:14:50 → 00:14:53 ลดน้ำหนักนะครับผมต้องย้ำนิดนึงว่ามัน
00:14:53 → 00:14:56 เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาโรครักษาโรคเบา
00:14:56 → 00:15:00 หวานให้หายรักษาโรคความดันสูงให้หาย
00:15:00 → 00:15:02 นะครับไม่ไม่ใช่การผ่าตัดเพื่อความสวยงาม
00:15:02 → 00:15:05 เราต้องย้ำว่ามันเป็นการรักษาโรคชนิด
00:15:05 → 00:15:08 หนึ่งซึ่งปัจจุบันเนี่ยในประเทศไทยเนี่ย
00:15:08 → 00:15:12 ในสปสชเองหรือว่าสำนักงานประกันสังคมเอง
00:15:12 → 00:15:14 เนี่ยเราก็มองว่าโรคอ้วนในกลุ่มโรคอ้วน
00:15:14 → 00:15:17 อันตรายเนี่ยถือเป็นโรคที่ต้องรักษานะ
00:15:17 → 00:15:20 ครับจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายบางส่วนได้จ้ะ
00:15:20 → 00:15:24 สำนักงานประกันสังคมหรือว่าสปสชนะครับ
00:15:24 → 00:15:28 อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสนะคะแล้วการ
00:15:28 → 00:15:30 ผ่าตัดลดน้ำหนักนี่มัน
00:15:30 → 00:15:33 ที่เคยได้ยินมาคือการผ่าตัดกระเพาะไม่รู้
00:15:33 → 00:15:36 แหละแบบไหนรู้ได้ยินแค่นี้แต่จริงๆในความ
00:15:36 → 00:15:39 เป็นจริงในทางการแพทย์ตอนนี้ผ่าตัดลดน้ำ
00:15:39 → 00:15:41 หนักหรือผ่าตัดกระเพาะอะไรอย่างนี้มันมี
00:15:41 → 00:15:44 ยังไงบ้างอ่ะคะคือผักคำว่าผ่าตัดลดน้ำ
00:15:44 → 00:15:47 หนักเนี่ยมันเป็นคำกว้างๆพูดโดยรวมก็คือ
00:15:47 → 00:15:50 เป็นการผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้นะครับอาจ
00:15:51 → 00:15:54 จะตัดให้ก็พอเล็กลงทำทางเดินอาหารใหม่
00:15:54 → 00:15:57 หรือบายพาสอาหารอย่างนี้นะครับเพื่อจุด
00:15:57 → 00:15:59 ประสงค์ให้น้ำหนักเพื่อ 1 ก็คือปรับ
00:15:59 → 00:16:02 เปลี่ยนฮอร์โมนทำให้ฮอร์โมนความหิวลดลง
00:16:02 → 00:16:05 ฮอร์โมนความอิ่มเพิ่มขึ้นทำให้ทานได้ลดลง
00:16:05 → 00:16:09 นะครับทำให้ลดการดูดซึมอาหารนะครับรวมถึง
00:16:09 → 00:16:11 อาจจะปรับเรื่องของหลังผ่าตัดเนี่ยจะมี
00:16:11 → 00:16:13 เรื่องของ probiotic หรือว่าแบคทีเรียใน
00:16:13 → 00:16:15 ลำไส้ที่เปลี่ยนไปนะครับเพื่อทำให้น้ำ
00:16:15 → 00:16:19 หนักลดลงนะครับทีนี้มันมีหลากหลายวิธีมาก
00:16:19 → 00:16:22 นะครับแต่ว่าปัจจุบันวิธีที่ได้รับความ
00:16:22 → 00:16:24 นิยมเนี่ยมันหลักๆจะมีอยู่ 3 วิธีพูดง่าย
00:16:24 → 00:16:26 ๆคือ 1 ก็จะเป็นวิธีการผ่าตัดกระเพาะแบบ
00:16:27 → 00:16:29 Sleep คือตัดกระเพาะออกบางส่วน
00:16:29 → 00:16:33 นะครับประมาณสัก 80 85% ของก็พอจะออกไป
00:16:33 → 00:16:36 วิธีที่ 2 ก็จะเป็นการผ่าตัดบายพาสก็คือ
00:16:36 → 00:16:40 ตัดกระเพาะด้วยแล้วก็ทำทางเดินอาหารใหม่
00:16:40 → 00:16:43 ด้วยนะครับหรือว่าสุดท้ายเป็นวิธีที่โรง
00:16:43 → 00:16:45 พยาบาลราชวิถีทำค่อนข้างเยอะในปัจจุบันก็
00:16:45 → 00:16:49 คือเป็นวิธี Sleep Plus บายพาสคือตัด
00:16:49 → 00:16:51 กระเพาะร่วมด้วยแล้วก็ทำบายพาสร่วมด้วยนะ
00:16:51 → 00:16:52 ครับ
00:16:52 → 00:16:55 โดยหลักการเนี่ยมันก็จะมีข้อดีข้อเสียแต่
00:16:55 → 00:16:58 ละวิธีต่างกันอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ดูอีก
00:16:58 → 00:17:01 ทีนึงว่าวิธีไหนเหมาะกับคนกลุ่มไหนหรือ
00:17:01 → 00:17:04 ว่าน้ำหนักเยอะน้อยแค่ไหนถึงจะทำวิธีไหน
00:17:04 → 00:17:08 นะครับคือผ่าตัดมาแล้วแบบว่าเห็นเห็นชัด
00:17:08 → 00:17:09 เลยใช่ไหมคะว่า
00:17:09 → 00:17:14 ในการที่จะกินก็น้อยลงหรือว่าอ่าเขาเรียก
00:17:14 → 00:17:17 ว่าอะไรอ่ะความหิวน้อยลงโรคเบาหวานโรค
00:17:17 → 00:17:21 ความดันมันก็จะค่อยๆดีขึ้นใช่ไหมคะใช่
00:17:21 → 00:17:23 ครับคืออย่างที่ผมบอกคือผมย้ำนิดนึงว่า
00:17:23 → 00:17:26 มันเป็นการรักษาโรคชนิดหนึ่งนะครับ
00:17:26 → 00:17:28 สมมุติเราเจอคนไข้คนนึงเนี่ยเป็นเบาหวาน
00:17:28 → 00:17:31 มัน 10 ปีเนี่ยกินยายังไงก็ไม่หายนะครับ
00:17:31 → 00:17:34 การผ่าตัดเนี่ยช่วยให้หายได้นะครับซึ่ง
00:17:34 → 00:17:37 เบาหวานเนี่ยโอกาสหายขาดหรือว่าโอกาสดี
00:17:37 → 00:17:41 ขึ้นเนี่ยรวมๆกันเนี่ย 76.9% นะครับทั้ง
00:17:41 → 00:17:44 นี้ทั้งนั้นเนี่ยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่
00:17:44 → 00:17:46 คนไข้เป็นเบาหวานด้วยถ้าเป็นมาไม่นานอายุ
00:17:46 → 00:17:50 ไม่เยอะนะครับน้ำหนักเยอะมากๆอย่างนี้นะ
00:17:50 → 00:17:53 ครับโอกาสหายจากเบาหวานสูงนะครับหรือว่า
00:17:53 → 00:17:57 เรื่องของความดันโลหิตสูงก็ดีขึ้น 87% นะ
00:17:57 → 00:18:00 ครับหรือว่า
00:18:00 → 00:18:03 อาการปวดเข่าทั้งหลายเนี่ยดีขึ้น 93% เลย
00:18:03 → 00:18:06 เราอาจจะเจอคุณพ่อคุณแม่เราอายุเยอะน้ำ
00:18:06 → 00:18:10 หนักเยอะแล้วปวดเข่าหมอบอกให้ฉีดยาเข้า
00:18:10 → 00:18:12 ข้อเข่าเปลี่ยนเข่าผ่าเปลี่ยนเข่าอะไรพวก
00:18:12 → 00:18:14 นี้นะครับถ้าคุณว่าคุณแม่คุมน้ำหนักได้ลด
00:18:14 → 00:18:16 น้ำหนักได้อย่างเงี้ยนะครับไม่ว่าจะด้วย
00:18:16 → 00:18:19 การผ่าตัดหรือว่าวิธีการคุมอาหารอื่นๆนะ
00:18:19 → 00:18:22 ครับอาการปวดเข่าเนี่ยดีขึ้นแน่นอนนะครับ
00:18:22 → 00:18:24 บางทีก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเข่าอีกเลยนะครับ
00:18:24 → 00:18:27 ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับอ่า
00:18:27 → 00:18:31 การวินิจฉัยของของแพทย์ว่าจะให้เป็นละใน
00:18:31 → 00:18:34 ลักษณะการผ่าตัดแบบไหนเพื่อผลแบบไหนแต่ละ
00:18:34 → 00:18:36 คนด้วยมันต้องต้องเลือกให้เหมาะสมแต่ละคน
00:18:36 → 00:18:38 นะครับถ้าเรา
00:18:38 → 00:18:40 อ่าปัจจุบันเทรนด์มันเป็นอย่างนี้นะครับ
00:18:40 → 00:18:43 มันเป็นเหมือนเขาเรียกว่าเป็น Precision
00:18:43 → 00:18:45 Medicine ก็คือคนแต่ละคนเนี่ยไม่เหมือน
00:18:45 → 00:18:50 กันเราต้อง select ให้เหมาะกับคนนั้นๆนะ
00:18:50 → 00:18:53 ครับเช่นผมยกตัวอย่างง่ายๆอย่างมีคนไข้คน
00:18:53 → 00:18:56 นึงน้ำหนักเยอะมากแต่ว่าเป็นภาวะกรดไหล
00:18:56 → 00:19:57 ย้อนรุนแรง
00:19:57 → 00:20:01 เราสังเกตง่ายๆคืออ่าตอนที่ผู้ป่วยนอน
00:20:01 → 00:20:04 เนี่ยถ้าเกิดเสียงกรนมันดังมากดังออกมา
00:20:04 → 00:20:06 นอกห้องอะไรอย่างเงี้ยนะหรือว่าบางคนจะมี
00:20:06 → 00:20:08 เขาเรียกว่าหยุดหายใจเป็นช่วงๆเนี่ย
00:20:08 → 00:20:11 สมมุติเราสามีภรรยานอนอยู่ด้วยกันเนี่ย
00:20:11 → 00:20:15 บางทีจะสังเกตว่าหายใจเฮือกเป็นพักๆนะ
00:20:15 → 00:20:17 ครับแล้วเขาก็จะมีบ่นประมาณว่าตื่นมา
00:20:17 → 00:20:20 เนี่ยไม่สดชื่นเลยมีปวดศีรษะหลังตื่นนอน
00:20:20 → 00:20:23 ตอนบ่ายมีง่วงเพลียตลอดทำงานก็ไม่ได้ตอน
00:20:23 → 00:20:25 บ่ายง่วงเพลียตลอดกลุ่มนี้มีความเสี่ยง
00:20:25 → 00:20:28 ที่จะเป็นภาวะหยุดหายใจขาดนอนหลับสูงซึ่ง
00:20:28 → 00:20:32 พอเป็นนานๆเนี่ยมันจะทำให้แรงดันในปอดสูง
00:20:32 → 00:20:34 ได้แล้วก็สุดท้ายจะส่งผลให้มีภาวะหัวใจ
00:20:34 → 00:20:37 ล้มเหลวได้หรือบางคนก็ขาดออกซิเจนแล้วก็
00:20:37 → 00:20:38 มีโอกาสเสียชีวิตได้
00:20:38 → 00:20:42 นะคะแล้วการผ่าตัดลดน้ำหนักเนี่ย
00:20:42 → 00:20:46 ฟังดูแล้วคือมันก็น่ากังวลคือถ้าผ่าตัด
00:20:46 → 00:20:48 อย่างอื่นเราอาจจะเคยได้ยินกันมาเยอะๆ
00:20:48 → 00:20:50 แล้วแหละอะไรอย่างนี้แต่ผ่าตัดกระเพาะอ่ะ
00:20:50 → 00:20:52 ไม่ค่อยได้ยินมันอันตรายไหมคะคุณหมออะไร
00:20:52 → 00:20:54 อย่างเงี้ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เขาแบบ
00:20:54 → 00:20:57 น้ำหนักเยอะๆเป็นโรคอ้วนอยู่ด้วยแล้วเอ่อ
00:20:57 → 00:21:00 ไหนจะต้องอ่าวางยาสลบนู่นนี่นั่นเออหลาย
00:21:00 → 00:21:04 อย่างเหมือนกันมันๆน่ากังวลไหมคะก็ผมให้
00:21:04 → 00:21:07 มองอย่างนี้ก่อนคือ 1 เรามองว่าภาวะที่
00:21:07 → 00:21:10 อ้วนมากๆเนี่ยมันเป็นโรคนะครับมันเป็นโรค
00:21:10 → 00:21:14 หมายความว่าเราต้องรักษานะครับเราปล่อย
00:21:14 → 00:21:17 ทิ้งไว้เนี่ยไม่รักษาเขาเนี่ยเดี๋ยวเขาก็
00:21:17 → 00:21:20 จะมีปัญหาจากภาวะอื่นตามมาไม่ว่าจะเป็น
00:21:20 → 00:21:22 เส้นเลือดหัวใจตีเส้นเลือดสมองตีบนะครับ
00:21:22 → 00:21:26 เบาหวานขึ้นตามมาหวานลงไปนะครับหรือว่ามี
00:21:26 → 00:21:29 อัตราการตายที่เพิ่มขึ้นแค่น้ำหนักเยอะ
00:21:29 → 00:21:33 นี่แหละดังนั้น Concept แรกคือกลุ่มที่จะ
00:21:33 → 00:21:35 ผ่าเนี่ยเขาต้องเข้าข้อบ่งชี้ก่อนเค้า
00:21:35 → 00:21:38 เป็นโรคเราควรจะต้องรักษา 2 คือความ
00:21:38 → 00:21:40 เสี่ยงเนี่ยจากการผ่าตัดเนี่ยมีอยู่แล้ว
00:21:40 → 00:21:43 ราคาโดย gener ถ้าเอาตัวเลขจากงานวิจัย
00:21:43 → 00:21:45 เลยเนี่ยจริงๆก็คือมีแต่ว่าน้อยกว่า 1%
00:21:45 → 00:21:49 น้อยกว่า 1% หมายความว่าเราต้องเตรียมคน
00:21:49 → 00:21:51 ไข้ให้พร้อมก่อนนะครับต้องเตรียมคนไข้ให้
00:21:51 → 00:21:53 พร้อมหมายความว่าต้องเช็คให้ดีว่ามีโรค
00:21:53 → 00:21:56 หัวใจไหมเบาหวานควบคุมดีหรือยังความดัน
00:21:56 → 00:22:00 ควบคุมดีหรือยังนะครับแล้วก็ต้องเช็คทีม
00:22:00 → 00:22:03 แพทย์ทีม Nissan Yee พยาบาล Nissan up
00:22:03 → 00:22:05 นะครับรวมถึง
00:22:05 → 00:22:08 อายุรแพทย์ที่ช่วยเช็คเรื่องของภาวะเบา
00:22:08 → 00:22:10 หวานเลยก่อนผ่าตัดถ้าเราเตรียมทุกอย่าง
00:22:10 → 00:22:15 ได้ดีนะครับแทบทุกคนเป็นทีมแพทย์เนี่ยมา
00:22:15 → 00:22:17 ช่วยดูกันอย่างอย่างเรียบร้อยเนี่ยเราก็
00:22:17 → 00:22:20 คิดว่ามันลดความเสี่ยงได้ค่อนข้างเยอะนะ
00:22:20 → 00:22:22 ครับอย่างผมยกตัวอย่างอย่างของโรงพยาบาล
00:22:22 → 00:22:25 รัฐวิสถีเราทำไปเนี่ยยังไม่เคยมีปัญหาเลย
00:22:25 → 00:22:27 นะครับในช่วงในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมาเนี่ย
00:22:27 → 00:22:31 ตั้งแต่ผมกลับมาก็ยังไม่มีปัญหาใดๆนะครับ
00:22:31 → 00:22:33 อ๋อนี่ก็เป็นความเข้าใจที่อันนี้เพราะคุณ
00:22:33 → 00:22:35 หมออธิบายเราก็จะเข้าใจชัดเจนขึ้นว่าอยู่
00:22:35 → 00:22:38 ๆไม่ใช่ว่าบอกจะผ่าตัดแล้วผ่าตัดได้เลย
00:22:38 → 00:22:42 คุณหมอต้องควบคุมโรคประจำตัวอื่นๆให้อยู่
00:22:42 → 00:22:45 ในระดับที่เหมาะสมในการที่จะเข้าสู่การ
00:22:45 → 00:22:47 ผ่าตัดก่อนคือเราต้องควบคุมให้ดีที่สุด
00:22:47 → 00:22:50 คือความเสี่ยงในการผ่าตัดมีได้นะครับไม่
00:22:50 → 00:22:53 ว่าจะเป็นเลือดออกในช่องท้องกระเพาะปลีก
00:22:53 → 00:22:55 กระเพาะรั่วหรือภาวะลิ่มเลือดดำอุดตัน
00:22:55 → 00:22:58 เนี่ยมีโอกาสเกิดขึ้นได้นะครับบางอย่าง
00:22:58 → 00:23:01 เราก็ควบคุมไม่ได้แต่ว่าเราทำยังไงก็ได้
00:23:01 → 00:23:04 ที่ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดนะครับลด
00:23:04 → 00:23:07 ความเสี่ยงได้มากที่สุดแต่ว่าถ้าเรามอง
00:23:07 → 00:23:09 ว่าเขาเป็นโรคเนี่ยยังไงเราก็ต้องรักษา
00:23:09 → 00:23:11 เราปล่อยไว้เดี๋ยวเขาก็จะมีปัญหาจากโรค
00:23:11 → 00:23:14 ประจำตัวเขาอยู่ดีนะครับอย่างอย่างที่ผม
00:23:14 → 00:23:16 เล่าอย่างเคลียร์ที่น้ำหนัก 320
00:23:16 → 00:23:20 กิโลกรัมเนี่ยคนไข้มีภาวะน้ำท่วมปอดหัวใจ
00:23:20 → 00:23:24 วายนะครับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นะ
00:23:24 → 00:23:28 ครับเราปล่อยไว้เฉยๆเนี่ยยังไงเขาอ่าแย่
00:23:28 → 00:23:31 แน่นอนค่ะดังนั้นถึงแม้ความเสี่ยงจะเยอะ
00:23:31 → 00:23:35 นะครับสุดท้ายเราก็เราก็พยายามเตรียมคน
00:23:35 → 00:23:37 ไข้ให้พร้อมแล้วก็ตัดสินใจผ่าตัดปัจจุบัน
00:23:37 → 00:23:40 เนี่ยเขาก็น้ำหนักลงมาจาก 320 เนี่ยเหลือ
00:23:40 → 00:23:43 ประมาณสัก 140 กว่ากิโลนะครับคนไข้แค่
00:23:43 → 00:23:46 สามารถเดินได้ใช้ชีวิตได้เนี่ยเขาก็ดีใจ
00:23:46 → 00:23:48 มากแล้วนะครับ
00:23:48 → 00:23:52 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ก็จะอยู่ในเรื่องของ
00:23:52 → 00:23:54 การควบคุมดูแลอันนี้ก็จะได้หายห่วงแต่ว่า
00:23:54 → 00:23:56 ความเสี่ยงมีอยู่แต่มันน้อยมากจริงๆนะคะ
00:23:56 → 00:24:00 จะบอกว่ามันควบคุมนะครับคือไม่ใช่หมาย
00:24:00 → 00:24:03 ความว่าสมมุติน้ำหนักมาแบบ 320 อย่าง
00:24:03 → 00:24:06 เงี้ยครับผมจับมาผ่าเลยอย่างเงี้ยก็อาจจะ
00:24:06 → 00:24:08 ไม่รอดเหมือนกันนะครับเพราะว่าเราไม่ได้
00:24:08 → 00:24:11 เตรียมคนไข้เลยนะครับเราก็ต้องมาเช็คให้
00:24:11 → 00:24:13 เรียบร้อยก่อนเพราะฉะนั้นการเตรียมคนไข้
00:24:13 → 00:24:15 ก็เป็นส่วนสำคัญนะคะทีนี้หลังจากที่ผ่า
00:24:15 → 00:24:18 ตัดไปแล้วเงี้ยค่ะต้องต้องระวังอะไรกัน
00:24:18 → 00:24:21 ยังไงบ้างคะคุณหมอเพราะว่าอ๋อการขยับ
00:24:21 → 00:24:24 เขยื้อนการจะลุกเดินเหินเพิ่งผ่าตัดมา
00:24:24 → 00:24:28 เนาะใช้เวลาในการที่จะฟื้นฟูตัวเองเนี่ย
00:24:28 → 00:24:32 ระยะเวลานานไหมคะคืออย่างนี้ก่อนคือ 1
00:24:32 → 00:24:34 คือมันเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องนะครับ
00:24:34 → 00:24:37 ภัตตาคารกล้องทั้งหมดหมายความว่าแผลจะ
00:24:37 → 00:24:41 ค่อนข้างเล็กก็คือประมาณสัก 5 มิลหรืออาจ
00:24:41 → 00:24:42 จะมีแผลที่เราเอากระเพาะออกเนี่ยประมาณ
00:24:42 → 00:24:45 สัก 1.5-2 เซนติเมตรอย่างนี้นะครับดัง
00:24:45 → 00:24:48 นั้นการฟื้นตัวเนี่ยจะค่อนข้างเร็วนะครับ
00:24:48 → 00:24:50 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
00:24:50 → 00:24:52 status เดิมของคนไข้ก่อนผ่าตัดด้วยนะ
00:24:52 → 00:24:54 ครับภาวะเดิมว่าเขาเดินได้ดีไหมคล่องไหม
00:24:54 → 00:24:56 อย่างนี้นะครับโดยทั่วๆไปเนี่ยนอนโรง
00:24:56 → 00:25:00 พยาบาลประมาณไม่เกิน 5 วันนะครับไม่เกิน 5
00:25:00 → 00:25:03 วันแล้วก็สามารถลุกช่วยเหลือตัวเองได้
00:25:03 → 00:25:05 หลังผ่าตัดวันแรกถึงวันที่ 2 ในยุคได้เลย
00:25:05 → 00:25:09 นะครับเพราะว่าแผลมันเป็นแผลเล็กเนอะเป็น
00:25:09 → 00:25:12 แผลเล็กแล้วก็โดยเทคนิคเนี่ยเราก็จะบล็อก
00:25:12 → 00:25:15 จะช้าที่แผลทุกแผลด้วยนะครับเพื่อลดอาการ
00:25:15 → 00:25:18 เจ็บปวดนะครับแล้วก็
00:25:18 → 00:25:22 อย่างที่บอกก็คือเราต้องเฝ้าระวังโดย
00:25:22 → 00:25:25 เฉพาะในช่วงสัก 14 วันแรกนะครับคนไข้อาจ
00:25:25 → 00:25:27 จะต้องปรับวิธีการทานอาหารนะครับไม่ว่าจะ
00:25:27 → 00:25:29 เป็นเน้นทานอาหารที่ที่เป็นอาหารอ่อน
00:25:29 → 00:25:33 อาหารเหลวก่อนนะครับพยายามจิบน้ำบ่อยๆช้า
00:25:33 → 00:25:36 ๆนะครับเพราะว่ากระเพาะเดิมเนี่ยมัน
00:25:36 → 00:25:39 เปรียบเหมือนถนนสัก 10 เลนหลังผ่าตัด
00:25:39 → 00:25:42 เนี่ยก็จะเหลือถนนประมาณสัก 2 เลนถามว่า
00:25:42 → 00:25:45 กินได้ไหมคือกินได้แต่ว่าต้องช้าๆใจเย็นๆ
00:25:45 → 00:25:47 นะครับ
00:25:47 → 00:25:50 ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังหลังการ
00:25:50 → 00:25:53 ผ่าตัดคุณหมอคะท้ายนี้มีอะไรฝากหน่อยไหม
00:25:53 → 00:25:56 คะเรื่องของการลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัดแบบ
00:25:56 → 00:25:59 นี้ค่ะก็การตัดลดน้ำหนักเนี่ยฟังดูชื่อ
00:25:59 → 00:26:03 เนี่ยมันอาจจะดูดูอันตรายนะครับแต่ว่าถ้า
00:26:03 → 00:26:06 เกิดเรามีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเราอยู่ใน
00:26:06 → 00:26:09 ภาวะโรคอ้วนอันตรายมีโรคประจำตัวมากเบา
00:26:09 → 00:26:13 หวานความดันนะครับไขมันในเลือดสูงไขมัน
00:26:13 → 00:26:14 พอกตับ
00:26:14 → 00:26:17 เราก็ควรจะต้องรักษานะครับซึ่งการรักษา
00:26:17 → 00:26:20 เนี่ยอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:26:20 → 00:26:23 ก่อนว่าเราอยู่ในเกณฑ์ไหนยังไงนะครับหรือ
00:26:23 → 00:26:25 ว่าเคยผ่านการลดน้ำหนักวิธีอื่นมาแล้วล้ม
00:26:25 → 00:26:29 เหลวมานะครับถ้าเราคิดว่าเราเข้าบ่งชี้
00:26:29 → 00:26:33 จริงๆดัชนีมวลกายเยอะผมแนะนำให้รักษานะ
00:26:33 → 00:26:36 ครับเพราะว่ามันเป็นการรักษาโรคแล้วก็
00:26:36 → 00:26:38 ช่วยทำให้ให้สุขภาพโดยรวมเราดีขึ้น
00:26:38 → 00:26:41 อายุขัยเราก็จะมากขึ้นสามารถใช้ชีวิตได้
00:26:41 → 00:26:45 อย่างไม่มีข้อจำกัดมากขึ้นนะครับอันนี้
00:26:45 → 00:26:47 แต่สุดท้ายต้องบอกว่าการผ่าตัดมีความ
00:26:47 → 00:26:49 เสี่ยงนะครับการผ่าตัดทุกอย่างมีความ
00:26:49 → 00:26:52 เสี่ยงนะครับก็
00:26:52 → 00:26:54 ต้องระมัดระวังด้วย
00:26:54 → 00:26:58 อันนี้เป็นแนวทางสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน
00:26:58 → 00:27:01 จริงๆนะคะไม่ได้ว่าใครก็จะผ่ากันได้นะคะ
00:27:01 → 00:27:04 วันนี้ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องของการผ่า
00:27:04 → 00:27:07 ตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วนทุพพลภาพกันไปแล้ว
00:27:07 → 00:27:10 นะคะก็เป็นแนวทางไว้เนาะแต่ว่ายังไงก็ดู
00:27:10 → 00:27:12 แลสุขภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นสิ่งที่
00:27:12 → 00:27:15 สำคัญในเบื้องต้นด้วยนะคะวันนี้ขอบคุณคุณ
00:27:15 → 00:27:17 หมอเสถียรพงษ์ค่ะที่มาให้ข้อมูลความรู้ดี
00:27:18 → 00:27:19 ๆกับรายการโรงพยาบาลของเรานะคะขอบคุณค่ะ
00:27:19 → 00:27:21 สวัสดีค่ะ
00:27:21 → 00:27:24 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังทั้งหมดเวลาของรายการ
00:27:24 → 00:27:26 รอหมอทาง Thai PBS port Class แล้วนะ
00:27:26 → 00:27:28 คะเราจะกลับมาพบกันใหม่ครั้งหน้าขอบคุณ
00:27:28 → 00:27:33 ที่ติดตามฟังนะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:27:33 → 00:27:36 อะไรที่ทำให้คนไทยชอบไปหาหมอดูมากกว่า
00:27:36 → 00:27:39 ปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์และทำไมคน
00:27:39 → 00:27:42 ไทยไปปรึกษากับหมอดูดรสุวาวุฒิวงศ์ธัง
00:27:42 → 00:27:45 สวัสดิ์นักจิตวิทยาการศึกษามาเล่าให้ฟัง
00:27:45 → 00:27:49 ครับผมว่าจริงๆเรื่องหมอดูครับมันเป็น
00:27:49 → 00:27:52 อาชีพที่แบบโอ้โหอยู่กับเรามานานเนาะถ้า
00:27:52 → 00:27:54 ย้อนกลับไปหลายปีอ่ะครับไม่รู้หลายร้อยปี
00:27:54 → 00:27:57 หรือพันปีนะก็จะมีโหราศาสตร์โหราศาสตร์
00:27:57 → 00:27:59 เนี่ยอยู่มาเก่าแก่มากเพราะว่าเป็นเรื่อง
00:27:59 → 00:28:02 สัตว์ของดวงดาวเนาะมันก็จะมีของแบบอาจจะ
00:28:02 → 00:28:04 เป็นตั้งแต่ชนเผ่าอาจจะเป็น chaman อาจจะ
00:28:04 → 00:28:06 เป็นคนที่เชื่อเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวแล้ว
00:28:06 → 00:28:09 มันก็พัฒนามาสู่การเก็บสถิติเกี่ยวกับ
00:28:09 → 00:28:11 พื้นดวงชะตาการเกิดอะไรอย่างนี้ค่ะเพราะ
00:28:11 → 00:28:14 งั้นเรื่องนี้สารพวกนี้มันมาด้วยความ
00:28:14 → 00:28:16 เชื่ออยู่ก่อนที่จะมีวิทยาศาสตร์ได้อีก
00:28:16 → 00:28:18 จริงๆวิทยาศาสตร์มีอยู่แล้วเนาะแต่ว่าการ
00:28:18 → 00:28:21 ก่อขึ้นมาของวิทยาศาสตร์หรือศาสตร์หรือ
00:28:21 → 00:28:22 ความรู้ที่จับต้องได้และสรุปเป็นระบบ
00:28:22 → 00:28:25 เนี่ยมันเกิดขึ้นหลังความเชื่อเพราะ
00:28:25 → 00:28:28 ฉะนั้นยังไงก็ตามครับเอ่อเขาเป็นประเทศ
00:28:28 → 00:28:30 ไทยเนี่ยด้วยสิ่งที่มันเป็นโหราศาสตร์
00:28:30 → 00:28:33 หรือเป็นหมอดูพวกเนี้ยอยู่มานานกว่าอยู่
00:28:33 → 00:28:35 แล้วในขณะที่สหจิตวิทยาหรือศาสตร์ทาง
00:28:36 → 00:28:37 จิตเวชอะไรเงี้ยครับทำแพทยศาสตร์แล้วก็
00:28:37 → 00:28:39 ตามเนี่ยมันเกิดขึ้นมาทีหลังเพราะฉะนั้น
00:28:39 → 00:28:43 คนจะรู้จักสิ่งแรกมากกว่าสิ่งหลังสิ่ง
00:28:43 → 00:28:44 หลังเนี่ยถ้าถามว่าทุกคนทุกวันนี้รู้จัก
00:28:44 → 00:28:49 ไหมจิตวิทยาคืออะไรผมว่าไม่เยอะนะสัดส่วน
00:28:49 → 00:28:51 เผลอๆ 100% อาจจะรู้จักสัก 20% แต่อย่าง
00:28:51 → 00:28:52 น้อยก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่อาจจะรู้
00:28:52 → 00:28:54 จักแค่ 5%
00:28:54 → 00:28:56 ทุกวันนี้คนก็รู้จักจิตวิทยามากขึ้นรู้
00:28:56 → 00:28:58 จักณจิตวิทยามากขึ้นแต่ความรู้สึกพร้อมใน
00:28:58 → 00:29:00 การจะเข้าไปหาเนี่ยครับอาจจะไม่เยอะเท่า
00:29:00 → 00:29:02 หมอดูคนอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ยการเข้าหา
00:29:02 → 00:29:04 จิตแพทย์นั้นจิตวิทยาคือป่วยหรือเปล่า
00:29:04 → 00:29:06 เป็นจิตเวชหรือเปล่าหรือแบบต้องมีปัญหา
00:29:06 → 00:29:08 หนักไปหรือเปล่าอย่างเงี้ยครับเพราะว่า
00:29:08 → 00:29:09 การเข้าไปคุยกับจิตแพทย์กับนักจิตวิทยา
00:29:09 → 00:29:11 เนี่ยมันจะมีเหมือนคล้ายๆสิ่งที่เรียกว่า
00:29:11 → 00:29:14 มายากลเนอะบางทีเราจะเห็นตามละครไว้ก่อน
00:29:14 → 00:29:17 ที่แบบจะต้องใส่บทจิตแพทย์มาตอนจบที่ตัว
00:29:17 → 00:29:21 ร้ายเนี่ยบ้าไปเลยเออแล้วก็เข้าหลังคาแดง
00:29:21 → 00:29:23 อะไรอย่างเงี้ยที่เขาว่ากันถูกมั้ยฮะก็จะ
00:29:23 → 00:29:26 มีภาพว่าจิตแพทย์ทำงานแบบนั้นถ้าถามว่า
00:29:26 → 00:29:28 ใช่ไหมก็ใช่แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะฮะเพราะ
00:29:28 → 00:29:30 จริงๆแล้วงานของจิตแพทย์เนี่ยก็จะมีส่วน
00:29:30 → 00:29:32 บางคนปกติด้วยที่อาจจะมีปัญหาการนอนหลับ
00:29:32 → 00:29:34 หรือบางทีมีปัญหาความเครียดอย่างเงี้ย
00:29:34 → 00:29:37 ครับแล้วจำเป็นต้องพบจิตแพทย์อาจจะมียา
00:29:37 → 00:29:40 บางตัวช่วยให้คลายเครียดได้เหมือนกัน
00:29:40 → 00:29:42 หรือฝั่งณจิ๋ววิทยาเองก็ตามก็จะปรากฏใน
00:29:42 → 00:29:45 หนังที่แบบหรือตามข่าวที่ว่าไอ้โน้มน้าว
00:29:45 → 00:29:49 ใจมีพูดให้เราแบบเค้าให้ตามอาจจะมีเขา
00:29:49 → 00:29:51 เรื่องเดียวกันหลอกลวงอะไรเงี้ยฮะเออบาง
00:29:51 → 00:29:54 ทีมันก็ทำให้คนรู้สึกไม่แน่ใจว่าการเข้า
00:29:54 → 00:29:57 ไปหาจะโอเคไหมแล้วถ้าเปิดเรื่องคุยเนี่ย
00:29:57 → 00:30:01 มันจะแบบทำให้รู้สึกเหมือนมีปัญหาหรือ
00:30:01 → 00:30:04 เปล่าผิดปกติไหมจะถูกเปิดมิติที่มันลึกๆ
00:30:04 → 00:30:06 แล้วเราไม่พร้อมจะเปิดหรือเปล่าอีกอย่าง
00:30:06 → 00:30:08 นึงก็คือว่านะจิตวิทยาจิตแพทย์ก็เป็นคน
00:30:08 → 00:30:10 เหมือนเรามันคือการเปิดไปคุยเรื่องชีวิต
00:30:10 → 00:30:13 ที่เป็นกับคนเท่าๆเราแต่สมมุติย้อนมาฝั่ง
00:30:13 → 00:30:16 หมอดูเนาะผมว่านะครับคำว่าหมอดูในตัวคำ
00:30:16 → 00:30:18 เองเนี้ยในตัวคำมันเองนะเขามาหมอดูเนี่ย
00:30:18 → 00:30:22 ในจิตของเรานะครับมีมีการตีความคำว่าหมอ
00:30:22 → 00:30:30 ดูอยู่
00:30:30 → 00:30:33 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application
00:30:33 → 00:30:35 ของไทยพีแบสถ์
00:30:35 → 00:30:38 spotify soundcloud Google podcast
00:30:38 → 00:30:40 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:40 → 00:30:47 Thai PBS portcast PBS beautiful
00:30:47 → 00:30:53 [เพลง]
00:00:07 → 00:00:10 เป็นภาวะที่ร่างกายเนี่ยมีภาวะไขมันสะสม
00:00:10 → 00:00:13 มากผิดปกตินะครับซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหา
00:00:13 → 00:00:17 ต่างๆตามมาเช่นเป็นโรคเบาหวานโรคความดัน
00:00:17 → 00:00:20 โลหิตสูงโรคไขมันพอกตับโรคหยุดหายใจแข็ง
00:00:20 → 00:00:22 นอนหลับหรือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่ม
00:00:22 → 00:00:25 โอกาสในการเป็นมะเร็งต่างๆเช่นมะเร็งเต้า
00:00:25 → 00:00:27 นมรวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยจริงๆมีเทอม
00:00:27 → 00:00:29 นึงที่อยากจะบอกเขาเรียกว่าเป็นโรคอ้วน
00:00:29 → 00:00:32 อันตรายหรือว่าโรคอ้วนทุกคนเราภาพกลุ่ม
00:00:32 → 00:00:34 นี้คือกลุ่มที่ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 นอก
00:00:34 → 00:00:36 จากจะเป็นโรคอ้วนเรียบร้อยแล้วเนี่ย
00:00:36 → 00:00:39 อันตรายเนี่ยคือมีผลกับคุณภาพชีวิตมีผล
00:00:39 → 00:00:41 กับอายุขัยมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ
00:00:41 → 00:00:43 เยอะคนปกติแล้วก็อายุสั้นกว่าคนทั่วไป
00:00:43 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:49 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:49 → 00:00:55 การโรงหมอกาชิชั้นสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:58 → 00:01:01 การโรงหมอทางไทย PBS podcas ค่ะวันนี้
00:01:01 → 00:01:03 เราคุยกันถึงเรื่องของการผ่าตัดกระเพาะ
00:01:03 → 00:01:06 รักษาโรคอ้วนทุบผลภาพนะคะซึ่งรายละเอียด
00:01:06 → 00:01:07 จะเป็นยังไงเดี๋ยวคุยกับนายแพทย์
00:01:07 → 00:01:10 เสถียรพงษ์จันทะวิบูลย์ศัลยแพทย์ผู้
00:01:10 → 00:01:12 เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูง
00:01:12 → 00:01:14 และผ่าตัดโรคอ้วนคลินิกโรคอ้วนโรงพยาบาล
00:01:15 → 00:01:18 ราชวิถีค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะครับสวัสดี
00:01:18 → 00:01:20 ครับค่ะวันนี้คุยกันถึงเรื่องของโรคอ้วน
00:01:20 → 00:01:24 ค่ะเราจะคุยเรื่องนี้เริ่มมาจับรอบเอวตัว
00:01:24 → 00:01:26 เองไม่รู้ว่าอ้วนหรือเปล่าเดี๋ยวมีวิธี
00:01:26 → 00:01:29 ให้คุณผู้ฟังได้ฟังกันนะคะแต่ว่าก่อนอื่น
00:01:29 → 00:01:32 ถามคุณหมอก่อนเลยว่าโรคอ้วนเนี่ยนิยาม
00:01:32 → 00:01:34 ความหมายคำว่าโรคอ้วนนี่คืออะไรคะคุณหมอ
00:01:34 → 00:01:38 คะจริงๆโรคอ้วนเนี่ยท่านนิยามจริงๆก็คือ
00:01:38 → 00:01:40 เป็นภาวะที่ร่างกายเนี่ยมีภาวะไขมันสะสม
00:01:40 → 00:01:43 มากผิดปกตินะครับซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหา
00:01:43 → 00:01:47 ต่างๆตามมาเช่นเป็นโรคเบาหวานโรคความดัน
00:01:47 → 00:01:51 โลหิตสูงโรคไขมันพอกตับโรคหยุดหายใจขาด
00:01:51 → 00:01:53 นอนหลับหรือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่ม
00:01:54 → 00:01:57 โอกาสในการเป็นต่างๆเช่นมะเร็งเต้านมรวม
00:01:57 → 00:02:00 ถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยโดยการที่จะบอก
00:02:00 → 00:02:03 เป็นโรคอ้วนเนี่ยเราอาจจะใช้เรื่องของค่า
00:02:03 → 00:02:07 ดัชนีมวลกายในการวัดดูนะครับ
00:02:07 → 00:02:11 ซึ่งค่าดัชนีมวลกายอันนี้เขาจะมีเกณฑ์
00:02:11 → 00:02:14 เป็นมาตรฐานที่ทุกคนจะใช้เกณฑ์นี้เหมือนๆ
00:02:14 → 00:02:17 กันหมดเลยใช่ไหมคะใช่ครับก็โดยปกติค่า
00:02:17 → 00:02:20 ดัชนีมวลกายเนี่ยเราจะใช้เป็นค่าน้ำหนัก
00:02:20 → 00:02:23 เป็นกิโลกรัมนะครับหารด้วยส่วนสูงเป็น
00:02:23 → 00:02:26 เมตรยกกำลัง 2 นะครับซึ่งปกติเราจะใช้
00:02:26 → 00:02:30 เกณฑ์ในคนเอเชียเนี่ยอย่างคนไทยเราเนี่ย
00:02:30 → 00:02:32 ครับก็ควรจะอยู่ประมาณสัก
00:02:32 → 00:02:36 18-22.9 หรือไม่เกิน 23 นะครับแต่ว่าถ้า
00:02:36 → 00:02:39 เกิดเกิน 23 ถึง 25 เนี่ยครับก็จะถือว่า
00:02:39 → 00:02:43 เป็นน้ำหนักเกินแต่การที่จะบอกว่าเป็นโรค
00:02:43 → 00:02:46 อ้วนเนี่ยก็คือเราใช้ค่าดัชนีมวลกายที่
00:02:46 → 00:02:49 เกิน 25 ขึ้นไปครับอ่าอันนี้ใช้คำว่าโรค
00:02:49 → 00:02:54 อ้วนได้เลยใช่เลยแตกต่างจากคำว่าภาวะใช่
00:02:54 → 00:02:56 ครับถ้าเกิดเป็นต่อมาก็คือเป็นภาวะน้ำ
00:02:56 → 00:02:58 หนักเกินแต่ว่าถ้าเกิดเป็นโรคอ้วนหรือว่า
00:02:58 → 00:03:02 ภาวะอ้วนเราถือว่าเป็นโรคเลยเมื่อดัชนี
00:03:02 → 00:03:03 มวลกายเกิน 25
00:03:03 → 00:03:07 แล้วผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันไหมคะค่า
00:03:07 → 00:03:11 เกณฑ์มาตรฐานแบบนี้ค่ะปกติเวลาเราใช้ค่า
00:03:11 → 00:03:14 ดัชนีมวลกายเนี่ยใช้เกณฑ์เดียวกันนะครับ
00:03:14 → 00:03:16 แต่ว่าถ้าเกิดเราต้องการตรวจละเอียดขึ้น
00:03:16 → 00:03:18 เนี่ยมันอาจจะใช้เครื่องที่เรียกว่า
00:03:18 → 00:03:21 เครื่องตรวจมวลร่างกายนะครับซึ่งปกติผู้
00:03:21 → 00:03:23 หญิงเนี่ยมีโอกาสที่จะมีไขมันได้มากกว่า
00:03:23 → 00:03:26 ผู้ชายนิดหน่อยนะครับ
00:03:26 → 00:03:31 เพราะว่าผู้หญิงมีแบบสัดส่วนมีอ่าอะไรที่
00:03:31 → 00:03:33 แตกต่างจากผู้ชายอยู่แล้วโดยปกตินะครับ
00:03:33 → 00:03:37 โดยทั่วๆไปฟังแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยทำไมผู้
00:03:37 → 00:03:40 หญิงเราดีหลายอย่างเลยนะอะไรอย่างนี้
00:03:40 → 00:03:42 ประมาณนี้นะคะอ่ะแต่ว่าอันนี้เป็นเกณฑ์
00:03:42 → 00:03:46 ค่ามาตรฐานก็คือถ้าถ้าถึงขั้น 25 ขึ้นไป
00:03:46 → 00:03:50 ใช่ไหมคะอันนี้อันนี้ก็เป็นเป็นค่าดัชนี
00:03:50 → 00:03:54 มวลกายที่วัดจากเครื่องเฉพาะเลยใช่ไหมคะ
00:03:54 → 00:03:57 จริงๆก็วัดจากเอาน้ำหนักหันส่วนสูงเป็น
00:03:57 → 00:03:59 เมตรก็ได้ครับก็คือใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก
00:03:59 → 00:04:02 ทั่วๆไปได้ครับส่วนเครื่องเครื่องที่บอก
00:04:02 → 00:04:04 มันจะเป็นเครื่องวัดมวลร่างกายอาจจะเห็น
00:04:04 → 00:04:07 ตามฟิตเนสบางที่หรือว่าตามโรงพยาบาลหรือ
00:04:07 → 00:04:09 ว่าตามนักกายภาพซึ่งอันนั้นมันจะวัดออกมา
00:04:09 → 00:04:12 เป็นเปอร์เซ็นต์ไขมันร่างกายเปอร์เซ็นต์
00:04:12 → 00:04:13 กล้ามเนื้อ
00:04:13 → 00:04:16 % น้ำมวลกระดูกพวกนี้นะครับซึ่งอันนั้น
00:04:16 → 00:04:18 จะเป็นการตรวจที่ละเอียดกว่านะครับแต่ว่า
00:04:18 → 00:04:21 อาจจะต้องต้องดูตามโรงพยาบาลใหญ่ๆถึงจะมี
00:04:21 → 00:04:25 นะครับเคยไปใช้ของฟิตเนสเหมือนกันค่ะคุณ
00:04:25 → 00:04:27 หมอคะแล้วแต่ว่าบางทีก็สงสัยเหมือนกันนะ
00:04:27 → 00:04:30 แค่เราไปยืนกับจับที่จับเขาหรืออะไรอย่าง
00:04:30 → 00:04:32 เงี้ยซึ่งเฮ้ยมันสามารถวัดรายละเอียดได้
00:04:32 → 00:04:35 ขนาดนั้นเลยหรอคะว่าไขมันเราอยู่ตรงไหน
00:04:35 → 00:04:37 มวลกระดูกของเราแค่ไหนแล้วหรืออะไรอย่าง
00:04:37 → 00:04:39 เงี้ยมันขนาดมันวัดได้ขนาดนั้นเลยหรอคะ
00:04:39 → 00:04:42 ใช่ครับก็สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ๆเนี่ยมัน
00:04:42 → 00:04:44 จะยิ่งแยกเป็นแต่ละบริเวณเลยครับว่าแบบ
00:04:44 → 00:04:47 แขนขากล้ามเนื้อกี่เปอร์เซ็นต์ไขมันกี่
00:04:47 → 00:04:51 เปอร์เซ็นต์หรือว่าบริเวณท้องลำตัวไขมัน
00:04:51 → 00:04:52 กี่เปอร์เซ็นต์อย่างเงี้ยนะครับหรือว่า
00:04:52 → 00:04:56 วัดได้ถึงขนาดว่ามวลไขมันในช่องท้องเนี่ย
00:04:56 → 00:04:59 ซึ่งมีผลกับเรื่องของภาวะความเสี่ยงเบา
00:04:59 → 00:05:01 หวานหรือว่าความเสี่ยงไขมันกว่าตับเนี่ย
00:05:01 → 00:05:03 กี่เปอร์เซ็นต์ซึ่งมันจะละเอียดค่อนข้าง
00:05:03 → 00:05:06 มากนะครับแต่ถ้าวัดแบบนั้นถ้ามีโอกาสมัด
00:05:06 → 00:05:09 แบบนั้นได้จะดีกว่าใช่ครับถ้ามีโอกาสว่า
00:05:09 → 00:05:12 แบบนั้นได้จะดีกว่าหรือว่าตามแบบพวก
00:05:12 → 00:05:15 วิทยาศาสตร์การกีฬาเลยหลายๆที่ก็จะวัดใน
00:05:15 → 00:05:18 นักกีฬาเพื่อแบบตรวจสอบว่ามีมวลกล้าม
00:05:18 → 00:05:20 เนื้อเพียงพอหรือเปล่าฟิตไหมอะไรอย่างนี้
00:05:20 → 00:05:22 นะครับแล้วก็สามารถบ่งบอกได้ละเอียดด้วย
00:05:22 → 00:05:24 ว่าแต่ละพาร์ทของร่างกายเนี่ยไขมันเยอะ
00:05:24 → 00:05:27 บริเวณไหนกล้ามเนื้อเยอะบริเวณไหนนะครับ
00:05:27 → 00:05:29 อันนี้เบื้องต้นนะคะคุณผู้ฟังถ้าสมมติเรา
00:05:29 → 00:05:31 ไม่ได้ไปใช้เครื่องเรามองด้วยตาก็ได้ตอน
00:05:31 → 00:05:35 นี้รอบรอบเอวรอบหรือเปล่าคะแต่ว่าเราใช้
00:05:35 → 00:05:39 ส่วนสูงนะคะก็สามารถใช้ได้มาคำนวณเบื้อง
00:05:39 → 00:05:42 ต้นได้เป็นเกณฑ์ค่าเฉลี่ยเบื้องต้นใช่ไหม
00:05:42 → 00:05:46 สมมุติถ้าถ้าสูง 165 อ่าเดี๋ยวให้คุณหมอ
00:05:46 → 00:05:50 ช่วยคำนวณให้สูง 165 ประมาณนี้น้ำหนักซัก
00:05:51 → 00:05:54 เท่าไหร่ดีอ่ะ 55 อย่างเงี้ย
00:05:54 → 00:05:58 มันจะอยู่ในเกณฑ์ที่แบบว่าไอ้ 50 โดยซื้อ
00:05:58 → 00:06:01 อันนี้เอาน้ำหนักตั้งก่อนสมมุติน้ำหนักก็
00:06:01 → 00:06:04 คือ 55 นะครับแล้วก็หารส่วนสูง 165 ก็
00:06:04 → 00:06:06 เป็นหาร 1.65
00:06:06 → 00:06:09 แล้วก็หาร 1.65 ซ้ำอีกทีนึงอย่างนี้ก็คือ
00:06:09 → 00:06:12 ดัชนีมวลกายประมาณ 20 ก็ถือว่าอยู่ใน
00:06:12 → 00:06:15 เกณฑ์ที่สมส่วนนะครับไม่ได้มีปัญหาอะไร
00:06:15 → 00:06:18 แต่ของตัวเองเกินไปแล้วค่ะ
00:06:18 → 00:06:21 วัดก็ดูแล้วก็แต่ว่าค่าดัชนีมวลกายเนี่ย
00:06:21 → 00:06:24 จะมันคือแค่ง่ายมันคือเป็นการดูสัดส่วน
00:06:24 → 00:06:27 ระหว่างน้ำหนักกับส่วนสูงของเรายิ่งเรา
00:06:27 → 00:06:29 ตัว
00:06:29 → 00:06:32 น้ำหนักมากส่วนสูงน้อยอย่างนี้ก็ยิ่งมี
00:06:32 → 00:06:36 ความเสี่ยงที่จะจะเป็นโรคอ้วนนะครับจริงๆ
00:06:36 → 00:06:39 มีเทอมนึงที่อยากจะบอกเป็นเป็นเทอมเขา
00:06:39 → 00:06:41 เรียกว่าเป็นโรคอ้วนอันตรายหรือว่าโรค
00:06:41 → 00:06:44 อ้วนทุพพลภาพกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ดัชนีมวล
00:06:44 → 00:06:47 กายมากกว่า 30 ซึ่งคำว่าโรคอ้วนอันตราย
00:06:47 → 00:06:49 เนี่ยหมายความว่านอกจากจะเป็นโรคอ้วน
00:06:49 → 00:06:51 เรียบร้อยแล้วเนี่ยอันตรายเนี่ยคือมีผล
00:06:51 → 00:06:55 กับคุณภาพชีวิตมีผลกับอายุขัยมีความ
00:06:55 → 00:06:57 เสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆเยอะคนปกติแล้วก็
00:06:57 → 00:06:59 อายุสั้นกว่าคนทั่วไป
00:06:59 → 00:07:03 อย่างที่ที่เคยเห็นอาจจะแบบคนที่อ้วนเป็น
00:07:03 → 00:07:07 หลักร้อยกิโลกรัมขนาดนั้นไหมคะ
00:07:07 → 00:07:11 ใช่ครับคือคือเป็น 100 กิโลกรัมอาจจะต้อง
00:07:11 → 00:07:13 ดูส่วนสูงด้วยแต่โดยมากถ้า 100 กิโลกรัม
00:07:13 → 00:07:15 ขึ้นไปก็มักจะมีปัญหาเป็นโรคอ้วนอันตราย
00:07:15 → 00:07:19 ได้นะครับหรืออย่างอย่างที่ผมเจอเยอะที่
00:07:19 → 00:07:23 สุดเนี่ยก็ประมาณ 320 กิโลก็มีนะครับ 320
00:07:23 → 00:07:27 กิโลที่เรารักษาไปนะครับอันนี้คุณหมออัน
00:07:27 → 00:07:31 นี้พูดจริงเลยใช่ไหมคะ
00:07:31 → 00:07:34 รู้สึกว่ามันใช้ชีวิตยากมากแล้วนะคะนี่
00:07:34 → 00:07:37 คืออันอันนั้นคือเป็นความที่ถึงขั้นเป็น
00:07:37 → 00:07:41 โรคอ้วนได้เนี่ยมันน่าจะมีปัจจัยจากหลายๆ
00:07:41 → 00:07:43 อย่างค่ะคุณหมอพอใจแจกแจงให้ฟังได้ไหมคะ
00:07:43 → 00:07:45 ว่าปัจจัยที่ทำให้คนเกิดโรคอ้วนได้เนี่ย
00:07:45 → 00:07:48 มันน่าจะมาจากอะไรได้บ้างอ่ะคะโอเคครับ
00:07:48 → 00:07:51 ปัจจัยเนี่ยจริงๆหลากหลายมากผมไล่จากอัน
00:07:51 → 00:07:53 แรกเลยที่เราเปลี่ยนไม่ได้ก็คือเป็น
00:07:53 → 00:07:55 ปัจจัยที่เราเปลี่ยนไม่ได้กับปัจจัยที่
00:07:55 → 00:07:57 เราเปลี่ยนได้ก่อนถ้าเปลี่ยนไม่ได้เนี่ย
00:07:57 → 00:08:00 เป็นปัจจัยภายในเช่นเป็นกรรมพันธุ์เราคุณ
00:08:00 → 00:08:02 พ่อคุณแม่อ้วนเนี่ยลูกมีโอกาสอ้วนมากกว่า
00:08:02 → 00:08:04 คนทั่วไป
00:08:04 → 00:08:08 นะครับแล้วก็ยีนบางตัวในร่างกายมีผลนะ
00:08:08 → 00:08:10 ครับแล้วก็เรื่องของฮอร์โมนบางคนมีเรื่อง
00:08:10 → 00:08:14 ของฮอร์โมนความหิวความอิ่มที่ไม่สมดุลนะ
00:08:14 → 00:08:16 ครับก็มีโอกาสที่จะอ้วนมากกว่าคนทั่วไปนะ
00:08:16 → 00:08:19 ครับเรื่องของ
00:08:19 → 00:08:22 ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของปัจจัยที่ปรับ
00:08:22 → 00:08:24 เปลี่ยนได้นะครับปรับเปลี่ยนได้เนี่ยก็
00:08:24 → 00:08:27 เป็นเรื่องของการนอนหลับบางคนนอนหลับพัก
00:08:27 → 00:08:30 ผ่อนไม่เพียงพอร่างกายเนี่ยกลางคืนได้รับ
00:08:30 → 00:08:32 ออกซิเจนไม่พอเผาผลาญพลังงานไม่ดีนะครับ
00:08:32 → 00:08:35 ก็จะน้ำหนักเยอะได้บางคนมีพฤติกรรมการกิน
00:08:35 → 00:08:39 ที่แบบนิยมกินน้ำหวานกินของหวานกินแป้ง
00:08:39 → 00:08:41 อะไรพวกนี้เยอะก็มีความเสี่ยงเยอะนะครับ
00:08:41 → 00:08:44 หรือว่าอีกกลุ่มนึงก็กลุ่มที่ทำงานเป็นกะ
00:08:44 → 00:08:46 กลุ่มที่ทำงานเป็นการ์ดเป็นกลางคืนเนี่ย
00:08:46 → 00:08:51 หรือว่าอ่าโดยเฉพาะอาชีพแบบอ่ารปภหรือ
00:08:51 → 00:08:55 พยาบาลนะครับหมอด้วยกันเนี่ยก็คือมีความ
00:08:55 → 00:08:57 เสี่ยงที่จะอ้วกมากกว่าปกติเนื่องจากใช้
00:08:57 → 00:09:02 ชีวิตแบบอ่าผิดจากคนปกติทำงานเป็นกะร่าง
00:09:02 → 00:09:04 กายไม่สามารถ
00:09:04 → 00:09:07 ปรับสมดุลตามตามนาฬิกาชีวิตหรือ
00:09:07 → 00:09:09 biological Cock ได้เนี่ยก็จะมีโอกาส
00:09:09 → 00:09:12 ว่ามากกว่าคนทั่วไปซึ่งมันก็อาจจะไม่รู้
00:09:12 → 00:09:14 แหละว่าจะจากปัจจัยไหนหรืออาจจะหลายๆ
00:09:14 → 00:09:17 ปัจจัยร่วมกันก็เป็นไปแล้วก็พออ้วนเสร็จ
00:09:17 → 00:09:20 เนี่ยมันก็จะเป็นหลายๆปัจจัยเช่นสมมุติพอ
00:09:20 → 00:09:22 เราน้ำหนักเยอะเสร็จเราจะมีปัญหาการนอน
00:09:22 → 00:09:24 หลับหลับไม่เพียงพอเราจะมีปัญหาที่ไม่
00:09:24 → 00:09:27 สามารถทำงานต่อเนื่องได้เพราะว่าง่วง
00:09:27 → 00:09:30 เพลียตอนบ่ายเราจะมีปัญหาไม่สามารถออก
00:09:30 → 00:09:32 กำลังกายได้เพราะเราปวดเข่าอย่างนี้นะ
00:09:32 → 00:09:35 ครับพออ้วนเสร็จมันก็จะเป็นเหมือนวงจรทำ
00:09:35 → 00:09:38 ให้ร่างกายแย่แย่ลงแย่ลงแย่ลงอยากจะออก
00:09:38 → 00:09:41 กำลังกายก็ออกไม่ได้ปล่อยข่าวอยากจะนอน
00:09:41 → 00:09:43 ให้เต็มอิ่มเหมือนคนอื่นก็นอนไม่ได้ร่าง
00:09:43 → 00:09:45 กายก็ไม่สดชื่นเผาผลาญพลังงานไม่ดีนะครับ
00:09:45 → 00:09:49 โอ้โหก็มีจากหลายปัจจัยซึ่งก็นำมาโรคอะไร
00:09:49 → 00:09:51 ต่างๆเยอะแยะมากมายอย่างที่คุณหมอบอกไป
00:09:51 → 00:09:53 ตั้งแต่ตอนต้นแต่ที่สำคัญมันคือโรคอ้วน
00:09:53 → 00:09:57 ที่นำมาซึ่งแพ็กเกจโรคมาแพคเกจเลยนะคะ
00:09:57 → 00:10:00 ซึ่งไม่ได้อยากจะได้เลยนะคะแต่ว่ามันมา
00:10:00 → 00:10:02 มันอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยากเพราะว่าปัจจัย
00:10:02 → 00:10:05 หลายๆอย่างจริงๆนะคะแต่คุณหมอแล้วอย่าง
00:10:05 → 00:10:08 นี้คือในเรื่องการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยจะเฉพาะเจาะจงคนที่เป็นโรคอ้วนอย่าง
00:10:11 → 00:10:14 เดียวไหมหรือว่าถ้าสมมุติว่าอย่างอย่าง
00:10:14 → 00:10:17 พี่อยากจะไปผ่าตัดจริงๆ
00:10:17 → 00:10:20 อยากจะให้ผอมลงกว่านี้นิดนึงนิดนึงเหมือน
00:10:20 → 00:10:23 สมัยสาวๆอย่างนี้ค่ะมันจะได้ไหมหรือว่า
00:10:23 → 00:10:27 เอ้ยต้องดูปัจจัยดูครับ
00:10:27 → 00:10:31 คือเราพยายามมองอย่างนี้ก่อนคือทุกคนรู้
00:10:31 → 00:10:32 อยู่แล้วแหละว่าการลดน้ำหนักเนี่ยมันมี
00:10:32 → 00:10:36 หลายวิธีนะครับวิธีที่ต้องทำเสมอ 1 ก็คือ
00:10:36 → 00:10:39 เป็นการควบคุมอาหารออกกำลังกายอันนี้พื้น
00:10:39 → 00:10:41 ฐานเหมาะสำหรับคนทั่วๆไปทุกคนที่มีภาวะ
00:10:41 → 00:10:44 น้ำหนักเกินนะครับอันต่อมาก็อาจจะเป็นการ
00:10:44 → 00:10:48 ใช้ยาลดน้ำหนักนะครับใช้ยาลดน้ำหนักก็ก็
00:10:48 → 00:10:52 เหมาะในคนที่น้ำหนักไม่เยอะมากกลางๆนะ
00:10:52 → 00:10:55 ครับแต่ว่าข้อเสียก็คืออาจจะมีค่าใช้จ่าย
00:10:55 → 00:10:58 ที่ค่อนข้างสูงแล้วก็อาจจะลดได้ไม่ไม่
00:10:58 → 00:11:01 ถาวรแล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดโยโย่ได้ค่อน
00:11:01 → 00:11:03 ข้างเยอะนะครับหรืออันต่อมาจะเป็นพวกการ
00:11:03 → 00:11:06 ส่องกล้องใส่บอลลูนอะไรพวกนี้นะครับซึ่ง
00:11:06 → 00:11:09 โดยทั่วๆไปเนี่ยมันก็เป็นการลดแบบชั่ว
00:11:09 → 00:11:12 คราวนะครับพอใส่บอลลูนไปสักพักสักประมาณ 6
00:11:12 → 00:11:15 เดือนถึง 12 เดือนก็ต้องเอาออกแล้วก็มี
00:11:15 → 00:11:18 โอกาสที่กระเพาะจะขยายช่วงที่เราใส่
00:11:18 → 00:11:20 บอลลูนได้แล้วก็หลังเอาออกก็อาจจะทำให้
00:11:20 → 00:11:23 น้ำหนักโยโย่ขึ้นมาเยอะได้นะครับสุดท้าย
00:11:23 → 00:11:27 คือกลุ่มที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลดน้ำ
00:11:27 → 00:11:30 หนักเนี่ยก็จะเป็นเหมือนทางเลือกสุดท้าย
00:11:30 → 00:11:32 ทางเลือกท้ายๆนะครับหรือว่าจะเป็นทาง
00:11:32 → 00:11:36 เลือกแรกในคนที่น้ำหนักเยอะมากจริงๆนะ
00:11:36 → 00:11:39 ครับแต่ว่าต้องย้ำว่าก่อนที่จะมาถึงการ
00:11:39 → 00:11:42 ผ่าตัดลดน้ำหนักได้เนี่ยคนไข้ต้องผ่านการ
00:11:42 → 00:11:45 ควบคุมอาหารออกกำลังกายอย่างเหมาะสมภาย
00:11:45 → 00:11:47 ใต้การดูแลของแพทย์และอย่างน้อยก็คือ 3
00:11:47 → 00:11:50 เดือนว่าไม่ประสบความสำเร็จหรือว่าประสบ
00:11:50 → 00:11:53 ความสำเร็จไม่เพียงพอก็สามารถพิจารณาการ
00:11:53 → 00:11:56 ผ่าตัดได้นะครับไม่ใช่ว่าใครอยากจะเดิน
00:11:56 → 00:11:58 เข้าไปคุณหมอขอผ่าตัดกระเพาะเลยอันนี้ไม่
00:11:58 → 00:12:02 ได้อันนี้ไม่ได้ก็มันมีวิธีในการที่จะควบ
00:12:02 → 00:12:04 คุมดูแลน้ำหนักของตัวเองเนี่ยได้หลาย
00:12:04 → 00:12:06 อย่างซึ่งหลายคนก็ใช้วิธีการออกกำลังกาย
00:12:06 → 00:12:09 แต่ว่าอาจจะต้องมีวินัยอย่างสูงสูงมากเลย
00:12:09 → 00:12:12 นะคะที่จะช่วยแต่แล้วก็อีกปัจจัยหลายๆ
00:12:12 → 00:12:15 อย่างแต่ว่าบางทีถ้าเกิดลดความอ้วนส่วน
00:12:15 → 00:12:19 ใหญ่ที่มันจะลดไม่ค่อยได้ผลจนกระทั่งนำไป
00:12:19 → 00:12:23 สู่เรื่องของการผ่าตัดมันน่าจะเกี่ยวกับ
00:12:23 → 00:12:26 เรื่องของโรคประจำตัวหรือว่าอะไรอย่างนี้
00:12:26 → 00:12:28 ด้วยไหมคะที่แบบมันลดน้ำหนักแล้วพยายาม
00:12:28 → 00:12:31 แล้วค่ะคุณหมอที่คุณหมอบอกควบคุมมา 3
00:12:31 → 00:12:33 เดือนที่ต้องออกกำลังกายตามที่คุณหมอดูแล
00:12:33 → 00:12:38 อยู่เนี่ยมันไม่ได้จริงๆคือคือการควบคุม
00:12:38 → 00:12:41 อาหารออกกำลังกายเนี่ยมันมันเป็นการทำที่
00:12:41 → 00:12:44 ง่ายนะครับเป็นงานง่ายๆแต่ว่าอ่าการที่จะ
00:12:44 → 00:12:47 ทำได้ต่อเนื่องจริงจังเนี่ยค่อนข้างยาก
00:12:47 → 00:12:50 ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่ใช่เพราะว่าเรามี
00:12:50 → 00:12:52 วินัยไม่เพียงพอนะครับมันเป็นเพราะว่า
00:12:52 → 00:12:55 เวลาที่เราพยายามลบปริมาณการทานอาหาร
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยควบคุมอาหารเนี่ยร่างกายเราก็จะปรับ
00:12:58 → 00:13:00 ตัวเหมือนกันก็จะลดการเผาผลาญพลังงานไป
00:13:00 → 00:13:03 ด้วยร่างกายเราจะเหมือนคิดว่าเราอยู่ใน
00:13:03 → 00:13:06 แบบเหมือนมนุษย์ถ้ำอ่ะครับเวลาที่เรา
00:13:06 → 00:13:09 เริ่มทานอาหารไม่ลดลงร่างกายต้องปรับตัว
00:13:09 → 00:13:11 เพื่อให้อยู่รอดการเผาผลาญพลังงานก็จะลด
00:13:12 → 00:13:16 ลงนะครับพอเราคุมอาหารไปสักพักหนึ่งแล้ว
00:13:16 → 00:13:18 ขอให้เรากลับมากินปกติหรืออะไรแค่แป๊บ
00:13:18 → 00:13:20 เดียวเท่านั้นแหละร่างกายเนี่ยมันไม่ได้
00:13:20 → 00:13:23 เพิ่มการเผาผลาญพลังงานตามขึ้นมามันทำให้
00:13:23 → 00:13:25 การคุมอาหารอย่างเดียวเนี่ยมีโอกาสเกิด
00:13:25 → 00:13:28 โยโย่ค่อนข้างสูงนะครับเหมือนจากเดิมร่าง
00:13:28 → 00:13:31 กายจากที่เผาผลาญพลังงาน 100% เนี่ยพอเรา
00:13:31 → 00:13:33 คุมอาหารเนี่ยการผ่าตัดพนักงานลดเหลือ
00:13:33 → 00:13:36 ประมาณ 50% พอเรากลับมากินเท่าเดิมปุ๊บ
00:13:36 → 00:13:39 ร่างกายยังเผาผลาญพลังงาน 50% อยู่น้ำ
00:13:39 → 00:13:42 หนักก็จะโยโย่ขึ้นโยโย่ขึ้นนะครับคนที่
00:13:42 → 00:13:43 น้ำหนักเยอะเนี่ยเขารู้ตัวแหละว่าน้ำหนัก
00:13:43 → 00:13:46 เขาเยอะขึ้นแต่บางทีมันทำอะไรไม่ได้จริงๆ
00:13:46 → 00:13:49 กินไม่เยอะสังเกตดูเราคนอ้วนทุกคนจะบอก
00:13:49 → 00:13:52 หนูกินไม่เยอะหนูพยายามคุมแล้วนะครับแต่
00:13:52 → 00:13:56 ว่าร่างกายมันปรับตัวไปแล้วมันไม่ได้แล้ว
00:13:56 → 00:13:58 พอจะให้เขาเพิ่มการเผาผลาญพลังงานโดยการ
00:13:58 → 00:14:00 ออกกำลังกายก็ไม่ได้อีกเพราะว่ามีปัญหา
00:14:00 → 00:14:04 ปวดเข่าวิ่งนิดวิ่งหน่อยก็จะเจ็บบางทีเขา
00:14:04 → 00:14:06 ก็จะยิ่งเสื่อมเร็วดังนั้นการออกกำลังกาย
00:14:06 → 00:14:08 ของเขาที่เหมาะอาจจะต้องเป็น
00:14:08 → 00:14:11 ว่ายน้ำอะไรพวกเนี้ยปั่นจักรยานที่มันมัน
00:14:11 → 00:14:15 ทำให้เขามันไม่ได้รับภาระเยอะนะครับซึ่ง
00:14:15 → 00:14:17 มันก็ลิมิตอีกกว่าเราจะหาสถานที่หาอะไรใน
00:14:17 → 00:14:19 การออกกำลังกายได้ดี
00:14:19 → 00:14:23 ก็แสดงว่ามันก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย
00:14:23 → 00:14:27 ว่าอันนี้เคสนี้ไม่ได้แล้วจริงๆพยายาม
00:14:27 → 00:14:30 แล้วจริงๆก็อาจจะต้องปรึกษากับคุณหมอก่อน
00:14:30 → 00:14:33 ที่จะทำการบอกคุณหมอคะจะขอผ่าตัดนี้ก็
00:14:33 → 00:14:35 ต้องคุยกันก่อนเว้ยใช่ไหมคะไม่ได้บอกว่า
00:14:35 → 00:14:38 เหมาะกับทุกคนที่ใช่ครับมันไม่ได้เหมาะ
00:14:38 → 00:14:40 กับทุกคนครับคือการผ่าตัดเนี่ยมีความ
00:14:40 → 00:14:42 เสี่ยงแหละถึงแม้จะไม่เยอะแต่ว่ามันมี
00:14:42 → 00:14:45 ความเสี่ยงอยู่แล้วดังนั้นคนที่เข้าเกณฑ์
00:14:45 → 00:14:48 จริงๆหรือว่าล้มเหลวจริงๆจากการลดน้ำหนัก
00:14:48 → 00:14:50 ด้วยวิธีอื่นเนี่ยเราถึงจะแนะนำให้ผ่าตัด
00:14:50 → 00:14:53 ลดน้ำหนักนะครับผมต้องย้ำนิดนึงว่ามัน
00:14:53 → 00:14:56 เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาโรครักษาโรคเบา
00:14:56 → 00:15:00 หวานให้หายรักษาโรคความดันสูงให้หาย
00:15:00 → 00:15:02 นะครับไม่ไม่ใช่การผ่าตัดเพื่อความสวยงาม
00:15:02 → 00:15:05 เราต้องย้ำว่ามันเป็นการรักษาโรคชนิด
00:15:05 → 00:15:08 หนึ่งซึ่งปัจจุบันเนี่ยในประเทศไทยเนี่ย
00:15:08 → 00:15:12 ในสปสชเองหรือว่าสำนักงานประกันสังคมเอง
00:15:12 → 00:15:14 เนี่ยเราก็มองว่าโรคอ้วนในกลุ่มโรคอ้วน
00:15:14 → 00:15:17 อันตรายเนี่ยถือเป็นโรคที่ต้องรักษานะ
00:15:17 → 00:15:20 ครับจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายบางส่วนได้จ้ะ
00:15:20 → 00:15:24 สำนักงานประกันสังคมหรือว่าสปสชนะครับ
00:15:24 → 00:15:28 อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสนะคะแล้วการ
00:15:28 → 00:15:30 ผ่าตัดลดน้ำหนักนี่มัน
00:15:30 → 00:15:33 ที่เคยได้ยินมาคือการผ่าตัดกระเพาะไม่รู้
00:15:33 → 00:15:36 แหละแบบไหนรู้ได้ยินแค่นี้แต่จริงๆในความ
00:15:36 → 00:15:39 เป็นจริงในทางการแพทย์ตอนนี้ผ่าตัดลดน้ำ
00:15:39 → 00:15:41 หนักหรือผ่าตัดกระเพาะอะไรอย่างนี้มันมี
00:15:41 → 00:15:44 ยังไงบ้างอ่ะคะคือผักคำว่าผ่าตัดลดน้ำ
00:15:44 → 00:15:47 หนักเนี่ยมันเป็นคำกว้างๆพูดโดยรวมก็คือ
00:15:47 → 00:15:50 เป็นการผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้นะครับอาจ
00:15:51 → 00:15:54 จะตัดให้ก็พอเล็กลงทำทางเดินอาหารใหม่
00:15:54 → 00:15:57 หรือบายพาสอาหารอย่างนี้นะครับเพื่อจุด
00:15:57 → 00:15:59 ประสงค์ให้น้ำหนักเพื่อ 1 ก็คือปรับ
00:15:59 → 00:16:02 เปลี่ยนฮอร์โมนทำให้ฮอร์โมนความหิวลดลง
00:16:02 → 00:16:05 ฮอร์โมนความอิ่มเพิ่มขึ้นทำให้ทานได้ลดลง
00:16:05 → 00:16:09 นะครับทำให้ลดการดูดซึมอาหารนะครับรวมถึง
00:16:09 → 00:16:11 อาจจะปรับเรื่องของหลังผ่าตัดเนี่ยจะมี
00:16:11 → 00:16:13 เรื่องของ probiotic หรือว่าแบคทีเรียใน
00:16:13 → 00:16:15 ลำไส้ที่เปลี่ยนไปนะครับเพื่อทำให้น้ำ
00:16:15 → 00:16:19 หนักลดลงนะครับทีนี้มันมีหลากหลายวิธีมาก
00:16:19 → 00:16:22 นะครับแต่ว่าปัจจุบันวิธีที่ได้รับความ
00:16:22 → 00:16:24 นิยมเนี่ยมันหลักๆจะมีอยู่ 3 วิธีพูดง่าย
00:16:24 → 00:16:26 ๆคือ 1 ก็จะเป็นวิธีการผ่าตัดกระเพาะแบบ
00:16:27 → 00:16:29 Sleep คือตัดกระเพาะออกบางส่วน
00:16:29 → 00:16:33 นะครับประมาณสัก 80 85% ของก็พอจะออกไป
00:16:33 → 00:16:36 วิธีที่ 2 ก็จะเป็นการผ่าตัดบายพาสก็คือ
00:16:36 → 00:16:40 ตัดกระเพาะด้วยแล้วก็ทำทางเดินอาหารใหม่
00:16:40 → 00:16:43 ด้วยนะครับหรือว่าสุดท้ายเป็นวิธีที่โรง
00:16:43 → 00:16:45 พยาบาลราชวิถีทำค่อนข้างเยอะในปัจจุบันก็
00:16:45 → 00:16:49 คือเป็นวิธี Sleep Plus บายพาสคือตัด
00:16:49 → 00:16:51 กระเพาะร่วมด้วยแล้วก็ทำบายพาสร่วมด้วยนะ
00:16:51 → 00:16:52 ครับ
00:16:52 → 00:16:55 โดยหลักการเนี่ยมันก็จะมีข้อดีข้อเสียแต่
00:16:55 → 00:16:58 ละวิธีต่างกันอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ดูอีก
00:16:58 → 00:17:01 ทีนึงว่าวิธีไหนเหมาะกับคนกลุ่มไหนหรือ
00:17:01 → 00:17:04 ว่าน้ำหนักเยอะน้อยแค่ไหนถึงจะทำวิธีไหน
00:17:04 → 00:17:08 นะครับคือผ่าตัดมาแล้วแบบว่าเห็นเห็นชัด
00:17:08 → 00:17:09 เลยใช่ไหมคะว่า
00:17:09 → 00:17:14 ในการที่จะกินก็น้อยลงหรือว่าอ่าเขาเรียก
00:17:14 → 00:17:17 ว่าอะไรอ่ะความหิวน้อยลงโรคเบาหวานโรค
00:17:17 → 00:17:21 ความดันมันก็จะค่อยๆดีขึ้นใช่ไหมคะใช่
00:17:21 → 00:17:23 ครับคืออย่างที่ผมบอกคือผมย้ำนิดนึงว่า
00:17:23 → 00:17:26 มันเป็นการรักษาโรคชนิดหนึ่งนะครับ
00:17:26 → 00:17:28 สมมุติเราเจอคนไข้คนนึงเนี่ยเป็นเบาหวาน
00:17:28 → 00:17:31 มัน 10 ปีเนี่ยกินยายังไงก็ไม่หายนะครับ
00:17:31 → 00:17:34 การผ่าตัดเนี่ยช่วยให้หายได้นะครับซึ่ง
00:17:34 → 00:17:37 เบาหวานเนี่ยโอกาสหายขาดหรือว่าโอกาสดี
00:17:37 → 00:17:41 ขึ้นเนี่ยรวมๆกันเนี่ย 76.9% นะครับทั้ง
00:17:41 → 00:17:44 นี้ทั้งนั้นเนี่ยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่
00:17:44 → 00:17:46 คนไข้เป็นเบาหวานด้วยถ้าเป็นมาไม่นานอายุ
00:17:46 → 00:17:50 ไม่เยอะนะครับน้ำหนักเยอะมากๆอย่างนี้นะ
00:17:50 → 00:17:53 ครับโอกาสหายจากเบาหวานสูงนะครับหรือว่า
00:17:53 → 00:17:57 เรื่องของความดันโลหิตสูงก็ดีขึ้น 87% นะ
00:17:57 → 00:18:00 ครับหรือว่า
00:18:00 → 00:18:03 อาการปวดเข่าทั้งหลายเนี่ยดีขึ้น 93% เลย
00:18:03 → 00:18:06 เราอาจจะเจอคุณพ่อคุณแม่เราอายุเยอะน้ำ
00:18:06 → 00:18:10 หนักเยอะแล้วปวดเข่าหมอบอกให้ฉีดยาเข้า
00:18:10 → 00:18:12 ข้อเข่าเปลี่ยนเข่าผ่าเปลี่ยนเข่าอะไรพวก
00:18:12 → 00:18:14 นี้นะครับถ้าคุณว่าคุณแม่คุมน้ำหนักได้ลด
00:18:14 → 00:18:16 น้ำหนักได้อย่างเงี้ยนะครับไม่ว่าจะด้วย
00:18:16 → 00:18:19 การผ่าตัดหรือว่าวิธีการคุมอาหารอื่นๆนะ
00:18:19 → 00:18:22 ครับอาการปวดเข่าเนี่ยดีขึ้นแน่นอนนะครับ
00:18:22 → 00:18:24 บางทีก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเข่าอีกเลยนะครับ
00:18:24 → 00:18:27 ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับอ่า
00:18:27 → 00:18:31 การวินิจฉัยของของแพทย์ว่าจะให้เป็นละใน
00:18:31 → 00:18:34 ลักษณะการผ่าตัดแบบไหนเพื่อผลแบบไหนแต่ละ
00:18:34 → 00:18:36 คนด้วยมันต้องต้องเลือกให้เหมาะสมแต่ละคน
00:18:36 → 00:18:38 นะครับถ้าเรา
00:18:38 → 00:18:40 อ่าปัจจุบันเทรนด์มันเป็นอย่างนี้นะครับ
00:18:40 → 00:18:43 มันเป็นเหมือนเขาเรียกว่าเป็น Precision
00:18:43 → 00:18:45 Medicine ก็คือคนแต่ละคนเนี่ยไม่เหมือน
00:18:45 → 00:18:50 กันเราต้อง select ให้เหมาะกับคนนั้นๆนะ
00:18:50 → 00:18:53 ครับเช่นผมยกตัวอย่างง่ายๆอย่างมีคนไข้คน
00:18:53 → 00:18:56 นึงน้ำหนักเยอะมากแต่ว่าเป็นภาวะกรดไหล
00:18:56 → 00:19:57 ย้อนรุนแรง
00:19:57 → 00:20:01 เราสังเกตง่ายๆคืออ่าตอนที่ผู้ป่วยนอน
00:20:01 → 00:20:04 เนี่ยถ้าเกิดเสียงกรนมันดังมากดังออกมา
00:20:04 → 00:20:06 นอกห้องอะไรอย่างเงี้ยนะหรือว่าบางคนจะมี
00:20:06 → 00:20:08 เขาเรียกว่าหยุดหายใจเป็นช่วงๆเนี่ย
00:20:08 → 00:20:11 สมมุติเราสามีภรรยานอนอยู่ด้วยกันเนี่ย
00:20:11 → 00:20:15 บางทีจะสังเกตว่าหายใจเฮือกเป็นพักๆนะ
00:20:15 → 00:20:17 ครับแล้วเขาก็จะมีบ่นประมาณว่าตื่นมา
00:20:17 → 00:20:20 เนี่ยไม่สดชื่นเลยมีปวดศีรษะหลังตื่นนอน
00:20:20 → 00:20:23 ตอนบ่ายมีง่วงเพลียตลอดทำงานก็ไม่ได้ตอน
00:20:23 → 00:20:25 บ่ายง่วงเพลียตลอดกลุ่มนี้มีความเสี่ยง
00:20:25 → 00:20:28 ที่จะเป็นภาวะหยุดหายใจขาดนอนหลับสูงซึ่ง
00:20:28 → 00:20:32 พอเป็นนานๆเนี่ยมันจะทำให้แรงดันในปอดสูง
00:20:32 → 00:20:34 ได้แล้วก็สุดท้ายจะส่งผลให้มีภาวะหัวใจ
00:20:34 → 00:20:37 ล้มเหลวได้หรือบางคนก็ขาดออกซิเจนแล้วก็
00:20:37 → 00:20:38 มีโอกาสเสียชีวิตได้
00:20:38 → 00:20:42 นะคะแล้วการผ่าตัดลดน้ำหนักเนี่ย
00:20:42 → 00:20:46 ฟังดูแล้วคือมันก็น่ากังวลคือถ้าผ่าตัด
00:20:46 → 00:20:48 อย่างอื่นเราอาจจะเคยได้ยินกันมาเยอะๆ
00:20:48 → 00:20:50 แล้วแหละอะไรอย่างนี้แต่ผ่าตัดกระเพาะอ่ะ
00:20:50 → 00:20:52 ไม่ค่อยได้ยินมันอันตรายไหมคะคุณหมออะไร
00:20:52 → 00:20:54 อย่างเงี้ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เขาแบบ
00:20:54 → 00:20:57 น้ำหนักเยอะๆเป็นโรคอ้วนอยู่ด้วยแล้วเอ่อ
00:20:57 → 00:21:00 ไหนจะต้องอ่าวางยาสลบนู่นนี่นั่นเออหลาย
00:21:00 → 00:21:04 อย่างเหมือนกันมันๆน่ากังวลไหมคะก็ผมให้
00:21:04 → 00:21:07 มองอย่างนี้ก่อนคือ 1 เรามองว่าภาวะที่
00:21:07 → 00:21:10 อ้วนมากๆเนี่ยมันเป็นโรคนะครับมันเป็นโรค
00:21:10 → 00:21:14 หมายความว่าเราต้องรักษานะครับเราปล่อย
00:21:14 → 00:21:17 ทิ้งไว้เนี่ยไม่รักษาเขาเนี่ยเดี๋ยวเขาก็
00:21:17 → 00:21:20 จะมีปัญหาจากภาวะอื่นตามมาไม่ว่าจะเป็น
00:21:20 → 00:21:22 เส้นเลือดหัวใจตีเส้นเลือดสมองตีบนะครับ
00:21:22 → 00:21:26 เบาหวานขึ้นตามมาหวานลงไปนะครับหรือว่ามี
00:21:26 → 00:21:29 อัตราการตายที่เพิ่มขึ้นแค่น้ำหนักเยอะ
00:21:29 → 00:21:33 นี่แหละดังนั้น Concept แรกคือกลุ่มที่จะ
00:21:33 → 00:21:35 ผ่าเนี่ยเขาต้องเข้าข้อบ่งชี้ก่อนเค้า
00:21:35 → 00:21:38 เป็นโรคเราควรจะต้องรักษา 2 คือความ
00:21:38 → 00:21:40 เสี่ยงเนี่ยจากการผ่าตัดเนี่ยมีอยู่แล้ว
00:21:40 → 00:21:43 ราคาโดย gener ถ้าเอาตัวเลขจากงานวิจัย
00:21:43 → 00:21:45 เลยเนี่ยจริงๆก็คือมีแต่ว่าน้อยกว่า 1%
00:21:45 → 00:21:49 น้อยกว่า 1% หมายความว่าเราต้องเตรียมคน
00:21:49 → 00:21:51 ไข้ให้พร้อมก่อนนะครับต้องเตรียมคนไข้ให้
00:21:51 → 00:21:53 พร้อมหมายความว่าต้องเช็คให้ดีว่ามีโรค
00:21:53 → 00:21:56 หัวใจไหมเบาหวานควบคุมดีหรือยังความดัน
00:21:56 → 00:22:00 ควบคุมดีหรือยังนะครับแล้วก็ต้องเช็คทีม
00:22:00 → 00:22:03 แพทย์ทีม Nissan Yee พยาบาล Nissan up
00:22:03 → 00:22:05 นะครับรวมถึง
00:22:05 → 00:22:08 อายุรแพทย์ที่ช่วยเช็คเรื่องของภาวะเบา
00:22:08 → 00:22:10 หวานเลยก่อนผ่าตัดถ้าเราเตรียมทุกอย่าง
00:22:10 → 00:22:15 ได้ดีนะครับแทบทุกคนเป็นทีมแพทย์เนี่ยมา
00:22:15 → 00:22:17 ช่วยดูกันอย่างอย่างเรียบร้อยเนี่ยเราก็
00:22:17 → 00:22:20 คิดว่ามันลดความเสี่ยงได้ค่อนข้างเยอะนะ
00:22:20 → 00:22:22 ครับอย่างผมยกตัวอย่างอย่างของโรงพยาบาล
00:22:22 → 00:22:25 รัฐวิสถีเราทำไปเนี่ยยังไม่เคยมีปัญหาเลย
00:22:25 → 00:22:27 นะครับในช่วงในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมาเนี่ย
00:22:27 → 00:22:31 ตั้งแต่ผมกลับมาก็ยังไม่มีปัญหาใดๆนะครับ
00:22:31 → 00:22:33 อ๋อนี่ก็เป็นความเข้าใจที่อันนี้เพราะคุณ
00:22:33 → 00:22:35 หมออธิบายเราก็จะเข้าใจชัดเจนขึ้นว่าอยู่
00:22:35 → 00:22:38 ๆไม่ใช่ว่าบอกจะผ่าตัดแล้วผ่าตัดได้เลย
00:22:38 → 00:22:42 คุณหมอต้องควบคุมโรคประจำตัวอื่นๆให้อยู่
00:22:42 → 00:22:45 ในระดับที่เหมาะสมในการที่จะเข้าสู่การ
00:22:45 → 00:22:47 ผ่าตัดก่อนคือเราต้องควบคุมให้ดีที่สุด
00:22:47 → 00:22:50 คือความเสี่ยงในการผ่าตัดมีได้นะครับไม่
00:22:50 → 00:22:53 ว่าจะเป็นเลือดออกในช่องท้องกระเพาะปลีก
00:22:53 → 00:22:55 กระเพาะรั่วหรือภาวะลิ่มเลือดดำอุดตัน
00:22:55 → 00:22:58 เนี่ยมีโอกาสเกิดขึ้นได้นะครับบางอย่าง
00:22:58 → 00:23:01 เราก็ควบคุมไม่ได้แต่ว่าเราทำยังไงก็ได้
00:23:01 → 00:23:04 ที่ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดนะครับลด
00:23:04 → 00:23:07 ความเสี่ยงได้มากที่สุดแต่ว่าถ้าเรามอง
00:23:07 → 00:23:09 ว่าเขาเป็นโรคเนี่ยยังไงเราก็ต้องรักษา
00:23:09 → 00:23:11 เราปล่อยไว้เดี๋ยวเขาก็จะมีปัญหาจากโรค
00:23:11 → 00:23:14 ประจำตัวเขาอยู่ดีนะครับอย่างอย่างที่ผม
00:23:14 → 00:23:16 เล่าอย่างเคลียร์ที่น้ำหนัก 320
00:23:16 → 00:23:20 กิโลกรัมเนี่ยคนไข้มีภาวะน้ำท่วมปอดหัวใจ
00:23:20 → 00:23:24 วายนะครับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นะ
00:23:24 → 00:23:28 ครับเราปล่อยไว้เฉยๆเนี่ยยังไงเขาอ่าแย่
00:23:28 → 00:23:31 แน่นอนค่ะดังนั้นถึงแม้ความเสี่ยงจะเยอะ
00:23:31 → 00:23:35 นะครับสุดท้ายเราก็เราก็พยายามเตรียมคน
00:23:35 → 00:23:37 ไข้ให้พร้อมแล้วก็ตัดสินใจผ่าตัดปัจจุบัน
00:23:37 → 00:23:40 เนี่ยเขาก็น้ำหนักลงมาจาก 320 เนี่ยเหลือ
00:23:40 → 00:23:43 ประมาณสัก 140 กว่ากิโลนะครับคนไข้แค่
00:23:43 → 00:23:46 สามารถเดินได้ใช้ชีวิตได้เนี่ยเขาก็ดีใจ
00:23:46 → 00:23:48 มากแล้วนะครับ
00:23:48 → 00:23:52 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ก็จะอยู่ในเรื่องของ
00:23:52 → 00:23:54 การควบคุมดูแลอันนี้ก็จะได้หายห่วงแต่ว่า
00:23:54 → 00:23:56 ความเสี่ยงมีอยู่แต่มันน้อยมากจริงๆนะคะ
00:23:56 → 00:24:00 จะบอกว่ามันควบคุมนะครับคือไม่ใช่หมาย
00:24:00 → 00:24:03 ความว่าสมมุติน้ำหนักมาแบบ 320 อย่าง
00:24:03 → 00:24:06 เงี้ยครับผมจับมาผ่าเลยอย่างเงี้ยก็อาจจะ
00:24:06 → 00:24:08 ไม่รอดเหมือนกันนะครับเพราะว่าเราไม่ได้
00:24:08 → 00:24:11 เตรียมคนไข้เลยนะครับเราก็ต้องมาเช็คให้
00:24:11 → 00:24:13 เรียบร้อยก่อนเพราะฉะนั้นการเตรียมคนไข้
00:24:13 → 00:24:15 ก็เป็นส่วนสำคัญนะคะทีนี้หลังจากที่ผ่า
00:24:15 → 00:24:18 ตัดไปแล้วเงี้ยค่ะต้องต้องระวังอะไรกัน
00:24:18 → 00:24:21 ยังไงบ้างคะคุณหมอเพราะว่าอ๋อการขยับ
00:24:21 → 00:24:24 เขยื้อนการจะลุกเดินเหินเพิ่งผ่าตัดมา
00:24:24 → 00:24:28 เนาะใช้เวลาในการที่จะฟื้นฟูตัวเองเนี่ย
00:24:28 → 00:24:32 ระยะเวลานานไหมคะคืออย่างนี้ก่อนคือ 1
00:24:32 → 00:24:34 คือมันเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องนะครับ
00:24:34 → 00:24:37 ภัตตาคารกล้องทั้งหมดหมายความว่าแผลจะ
00:24:37 → 00:24:41 ค่อนข้างเล็กก็คือประมาณสัก 5 มิลหรืออาจ
00:24:41 → 00:24:42 จะมีแผลที่เราเอากระเพาะออกเนี่ยประมาณ
00:24:42 → 00:24:45 สัก 1.5-2 เซนติเมตรอย่างนี้นะครับดัง
00:24:45 → 00:24:48 นั้นการฟื้นตัวเนี่ยจะค่อนข้างเร็วนะครับ
00:24:48 → 00:24:50 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
00:24:50 → 00:24:52 status เดิมของคนไข้ก่อนผ่าตัดด้วยนะ
00:24:52 → 00:24:54 ครับภาวะเดิมว่าเขาเดินได้ดีไหมคล่องไหม
00:24:54 → 00:24:56 อย่างนี้นะครับโดยทั่วๆไปเนี่ยนอนโรง
00:24:56 → 00:25:00 พยาบาลประมาณไม่เกิน 5 วันนะครับไม่เกิน 5
00:25:00 → 00:25:03 วันแล้วก็สามารถลุกช่วยเหลือตัวเองได้
00:25:03 → 00:25:05 หลังผ่าตัดวันแรกถึงวันที่ 2 ในยุคได้เลย
00:25:05 → 00:25:09 นะครับเพราะว่าแผลมันเป็นแผลเล็กเนอะเป็น
00:25:09 → 00:25:12 แผลเล็กแล้วก็โดยเทคนิคเนี่ยเราก็จะบล็อก
00:25:12 → 00:25:15 จะช้าที่แผลทุกแผลด้วยนะครับเพื่อลดอาการ
00:25:15 → 00:25:18 เจ็บปวดนะครับแล้วก็
00:25:18 → 00:25:22 อย่างที่บอกก็คือเราต้องเฝ้าระวังโดย
00:25:22 → 00:25:25 เฉพาะในช่วงสัก 14 วันแรกนะครับคนไข้อาจ
00:25:25 → 00:25:27 จะต้องปรับวิธีการทานอาหารนะครับไม่ว่าจะ
00:25:27 → 00:25:29 เป็นเน้นทานอาหารที่ที่เป็นอาหารอ่อน
00:25:29 → 00:25:33 อาหารเหลวก่อนนะครับพยายามจิบน้ำบ่อยๆช้า
00:25:33 → 00:25:36 ๆนะครับเพราะว่ากระเพาะเดิมเนี่ยมัน
00:25:36 → 00:25:39 เปรียบเหมือนถนนสัก 10 เลนหลังผ่าตัด
00:25:39 → 00:25:42 เนี่ยก็จะเหลือถนนประมาณสัก 2 เลนถามว่า
00:25:42 → 00:25:45 กินได้ไหมคือกินได้แต่ว่าต้องช้าๆใจเย็นๆ
00:25:45 → 00:25:47 นะครับ
00:25:47 → 00:25:50 ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังหลังการ
00:25:50 → 00:25:53 ผ่าตัดคุณหมอคะท้ายนี้มีอะไรฝากหน่อยไหม
00:25:53 → 00:25:56 คะเรื่องของการลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัดแบบ
00:25:56 → 00:25:59 นี้ค่ะก็การตัดลดน้ำหนักเนี่ยฟังดูชื่อ
00:25:59 → 00:26:03 เนี่ยมันอาจจะดูดูอันตรายนะครับแต่ว่าถ้า
00:26:03 → 00:26:06 เกิดเรามีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเราอยู่ใน
00:26:06 → 00:26:09 ภาวะโรคอ้วนอันตรายมีโรคประจำตัวมากเบา
00:26:09 → 00:26:13 หวานความดันนะครับไขมันในเลือดสูงไขมัน
00:26:13 → 00:26:14 พอกตับ
00:26:14 → 00:26:17 เราก็ควรจะต้องรักษานะครับซึ่งการรักษา
00:26:17 → 00:26:20 เนี่ยอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:26:20 → 00:26:23 ก่อนว่าเราอยู่ในเกณฑ์ไหนยังไงนะครับหรือ
00:26:23 → 00:26:25 ว่าเคยผ่านการลดน้ำหนักวิธีอื่นมาแล้วล้ม
00:26:25 → 00:26:29 เหลวมานะครับถ้าเราคิดว่าเราเข้าบ่งชี้
00:26:29 → 00:26:33 จริงๆดัชนีมวลกายเยอะผมแนะนำให้รักษานะ
00:26:33 → 00:26:36 ครับเพราะว่ามันเป็นการรักษาโรคแล้วก็
00:26:36 → 00:26:38 ช่วยทำให้ให้สุขภาพโดยรวมเราดีขึ้น
00:26:38 → 00:26:41 อายุขัยเราก็จะมากขึ้นสามารถใช้ชีวิตได้
00:26:41 → 00:26:45 อย่างไม่มีข้อจำกัดมากขึ้นนะครับอันนี้
00:26:45 → 00:26:47 แต่สุดท้ายต้องบอกว่าการผ่าตัดมีความ
00:26:47 → 00:26:49 เสี่ยงนะครับการผ่าตัดทุกอย่างมีความ
00:26:49 → 00:26:52 เสี่ยงนะครับก็
00:26:52 → 00:26:54 ต้องระมัดระวังด้วย
00:26:54 → 00:26:58 อันนี้เป็นแนวทางสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน
00:26:58 → 00:27:01 จริงๆนะคะไม่ได้ว่าใครก็จะผ่ากันได้นะคะ
00:27:01 → 00:27:04 วันนี้ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องของการผ่า
00:27:04 → 00:27:07 ตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วนทุพพลภาพกันไปแล้ว
00:27:07 → 00:27:10 นะคะก็เป็นแนวทางไว้เนาะแต่ว่ายังไงก็ดู
00:27:10 → 00:27:12 แลสุขภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นสิ่งที่
00:27:12 → 00:27:15 สำคัญในเบื้องต้นด้วยนะคะวันนี้ขอบคุณคุณ
00:27:15 → 00:27:17 หมอเสถียรพงษ์ค่ะที่มาให้ข้อมูลความรู้ดี
00:27:18 → 00:27:19 ๆกับรายการโรงพยาบาลของเรานะคะขอบคุณค่ะ
00:27:19 → 00:27:21 สวัสดีค่ะ
00:27:21 → 00:27:24 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังทั้งหมดเวลาของรายการ
00:27:24 → 00:27:26 รอหมอทาง Thai PBS port Class แล้วนะ
00:27:26 → 00:27:28 คะเราจะกลับมาพบกันใหม่ครั้งหน้าขอบคุณ
00:27:28 → 00:27:33 ที่ติดตามฟังนะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:27:33 → 00:27:36 อะไรที่ทำให้คนไทยชอบไปหาหมอดูมากกว่า
00:27:36 → 00:27:39 ปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์และทำไมคน
00:27:39 → 00:27:42 ไทยไปปรึกษากับหมอดูดรสุวาวุฒิวงศ์ธัง
00:27:42 → 00:27:45 สวัสดิ์นักจิตวิทยาการศึกษามาเล่าให้ฟัง
00:27:45 → 00:27:49 ครับผมว่าจริงๆเรื่องหมอดูครับมันเป็น
00:27:49 → 00:27:52 อาชีพที่แบบโอ้โหอยู่กับเรามานานเนาะถ้า
00:27:52 → 00:27:54 ย้อนกลับไปหลายปีอ่ะครับไม่รู้หลายร้อยปี
00:27:54 → 00:27:57 หรือพันปีนะก็จะมีโหราศาสตร์โหราศาสตร์
00:27:57 → 00:27:59 เนี่ยอยู่มาเก่าแก่มากเพราะว่าเป็นเรื่อง
00:27:59 → 00:28:02 สัตว์ของดวงดาวเนาะมันก็จะมีของแบบอาจจะ
00:28:02 → 00:28:04 เป็นตั้งแต่ชนเผ่าอาจจะเป็น chaman อาจจะ
00:28:04 → 00:28:06 เป็นคนที่เชื่อเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวแล้ว
00:28:06 → 00:28:09 มันก็พัฒนามาสู่การเก็บสถิติเกี่ยวกับ
00:28:09 → 00:28:11 พื้นดวงชะตาการเกิดอะไรอย่างนี้ค่ะเพราะ
00:28:11 → 00:28:14 งั้นเรื่องนี้สารพวกนี้มันมาด้วยความ
00:28:14 → 00:28:16 เชื่ออยู่ก่อนที่จะมีวิทยาศาสตร์ได้อีก
00:28:16 → 00:28:18 จริงๆวิทยาศาสตร์มีอยู่แล้วเนาะแต่ว่าการ
00:28:18 → 00:28:21 ก่อขึ้นมาของวิทยาศาสตร์หรือศาสตร์หรือ
00:28:21 → 00:28:22 ความรู้ที่จับต้องได้และสรุปเป็นระบบ
00:28:22 → 00:28:25 เนี่ยมันเกิดขึ้นหลังความเชื่อเพราะ
00:28:25 → 00:28:28 ฉะนั้นยังไงก็ตามครับเอ่อเขาเป็นประเทศ
00:28:28 → 00:28:30 ไทยเนี่ยด้วยสิ่งที่มันเป็นโหราศาสตร์
00:28:30 → 00:28:33 หรือเป็นหมอดูพวกเนี้ยอยู่มานานกว่าอยู่
00:28:33 → 00:28:35 แล้วในขณะที่สหจิตวิทยาหรือศาสตร์ทาง
00:28:36 → 00:28:37 จิตเวชอะไรเงี้ยครับทำแพทยศาสตร์แล้วก็
00:28:37 → 00:28:39 ตามเนี่ยมันเกิดขึ้นมาทีหลังเพราะฉะนั้น
00:28:39 → 00:28:43 คนจะรู้จักสิ่งแรกมากกว่าสิ่งหลังสิ่ง
00:28:43 → 00:28:44 หลังเนี่ยถ้าถามว่าทุกคนทุกวันนี้รู้จัก
00:28:44 → 00:28:49 ไหมจิตวิทยาคืออะไรผมว่าไม่เยอะนะสัดส่วน
00:28:49 → 00:28:51 เผลอๆ 100% อาจจะรู้จักสัก 20% แต่อย่าง
00:28:51 → 00:28:52 น้อยก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่อาจจะรู้
00:28:52 → 00:28:54 จักแค่ 5%
00:28:54 → 00:28:56 ทุกวันนี้คนก็รู้จักจิตวิทยามากขึ้นรู้
00:28:56 → 00:28:58 จักณจิตวิทยามากขึ้นแต่ความรู้สึกพร้อมใน
00:28:58 → 00:29:00 การจะเข้าไปหาเนี่ยครับอาจจะไม่เยอะเท่า
00:29:00 → 00:29:02 หมอดูคนอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ยการเข้าหา
00:29:02 → 00:29:04 จิตแพทย์นั้นจิตวิทยาคือป่วยหรือเปล่า
00:29:04 → 00:29:06 เป็นจิตเวชหรือเปล่าหรือแบบต้องมีปัญหา
00:29:06 → 00:29:08 หนักไปหรือเปล่าอย่างเงี้ยครับเพราะว่า
00:29:08 → 00:29:09 การเข้าไปคุยกับจิตแพทย์กับนักจิตวิทยา
00:29:09 → 00:29:11 เนี่ยมันจะมีเหมือนคล้ายๆสิ่งที่เรียกว่า
00:29:11 → 00:29:14 มายากลเนอะบางทีเราจะเห็นตามละครไว้ก่อน
00:29:14 → 00:29:17 ที่แบบจะต้องใส่บทจิตแพทย์มาตอนจบที่ตัว
00:29:17 → 00:29:21 ร้ายเนี่ยบ้าไปเลยเออแล้วก็เข้าหลังคาแดง
00:29:21 → 00:29:23 อะไรอย่างเงี้ยที่เขาว่ากันถูกมั้ยฮะก็จะ
00:29:23 → 00:29:26 มีภาพว่าจิตแพทย์ทำงานแบบนั้นถ้าถามว่า
00:29:26 → 00:29:28 ใช่ไหมก็ใช่แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะฮะเพราะ
00:29:28 → 00:29:30 จริงๆแล้วงานของจิตแพทย์เนี่ยก็จะมีส่วน
00:29:30 → 00:29:32 บางคนปกติด้วยที่อาจจะมีปัญหาการนอนหลับ
00:29:32 → 00:29:34 หรือบางทีมีปัญหาความเครียดอย่างเงี้ย
00:29:34 → 00:29:37 ครับแล้วจำเป็นต้องพบจิตแพทย์อาจจะมียา
00:29:37 → 00:29:40 บางตัวช่วยให้คลายเครียดได้เหมือนกัน
00:29:40 → 00:29:42 หรือฝั่งณจิ๋ววิทยาเองก็ตามก็จะปรากฏใน
00:29:42 → 00:29:45 หนังที่แบบหรือตามข่าวที่ว่าไอ้โน้มน้าว
00:29:45 → 00:29:49 ใจมีพูดให้เราแบบเค้าให้ตามอาจจะมีเขา
00:29:49 → 00:29:51 เรื่องเดียวกันหลอกลวงอะไรเงี้ยฮะเออบาง
00:29:51 → 00:29:54 ทีมันก็ทำให้คนรู้สึกไม่แน่ใจว่าการเข้า
00:29:54 → 00:29:57 ไปหาจะโอเคไหมแล้วถ้าเปิดเรื่องคุยเนี่ย
00:29:57 → 00:30:01 มันจะแบบทำให้รู้สึกเหมือนมีปัญหาหรือ
00:30:01 → 00:30:04 เปล่าผิดปกติไหมจะถูกเปิดมิติที่มันลึกๆ
00:30:04 → 00:30:06 แล้วเราไม่พร้อมจะเปิดหรือเปล่าอีกอย่าง
00:30:06 → 00:30:08 นึงก็คือว่านะจิตวิทยาจิตแพทย์ก็เป็นคน
00:30:08 → 00:30:10 เหมือนเรามันคือการเปิดไปคุยเรื่องชีวิต
00:30:10 → 00:30:13 ที่เป็นกับคนเท่าๆเราแต่สมมุติย้อนมาฝั่ง
00:30:13 → 00:30:16 หมอดูเนาะผมว่านะครับคำว่าหมอดูในตัวคำ
00:30:16 → 00:30:18 เองเนี้ยในตัวคำมันเองนะเขามาหมอดูเนี่ย
00:30:18 → 00:30:22 ในจิตของเรานะครับมีมีการตีความคำว่าหมอ
00:30:22 → 00:30:30 ดูอยู่
00:30:30 → 00:30:33 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application
00:30:33 → 00:30:35 ของไทยพีแบสถ์
00:30:35 → 00:30:38 spotify soundcloud Google podcast
00:30:38 → 00:30:40 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:40 → 00:30:47 Thai PBS portcast PBS beautiful
00:30:47 → 00:30:53 [เพลง]
00:00:07 → 00:00:10 เป็นภาวะที่ร่างกายเนี่ยมีภาวะไขมันสะสม
00:00:10 → 00:00:13 มากผิดปกตินะครับซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหา
00:00:13 → 00:00:17 ต่างๆตามมาเช่นเป็นโรคเบาหวานโรคความดัน
00:00:17 → 00:00:20 โลหิตสูงโรคไขมันพอกตับโรคหยุดหายใจแข็ง
00:00:20 → 00:00:22 นอนหลับหรือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่ม
00:00:22 → 00:00:25 โอกาสในการเป็นมะเร็งต่างๆเช่นมะเร็งเต้า
00:00:25 → 00:00:27 นมรวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยจริงๆมีเทอม
00:00:27 → 00:00:29 นึงที่อยากจะบอกเขาเรียกว่าเป็นโรคอ้วน
00:00:29 → 00:00:32 อันตรายหรือว่าโรคอ้วนทุกคนเราภาพกลุ่ม
00:00:32 → 00:00:34 นี้คือกลุ่มที่ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 นอก
00:00:34 → 00:00:36 จากจะเป็นโรคอ้วนเรียบร้อยแล้วเนี่ย
00:00:36 → 00:00:39 อันตรายเนี่ยคือมีผลกับคุณภาพชีวิตมีผล
00:00:39 → 00:00:41 กับอายุขัยมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ
00:00:41 → 00:00:43 เยอะคนปกติแล้วก็อายุสั้นกว่าคนทั่วไป
00:00:43 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:49 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:49 → 00:00:55 การโรงหมอกาชิชั้นสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:58 → 00:01:01 การโรงหมอทางไทย PBS podcas ค่ะวันนี้
00:01:01 → 00:01:03 เราคุยกันถึงเรื่องของการผ่าตัดกระเพาะ
00:01:03 → 00:01:06 รักษาโรคอ้วนทุบผลภาพนะคะซึ่งรายละเอียด
00:01:06 → 00:01:07 จะเป็นยังไงเดี๋ยวคุยกับนายแพทย์
00:01:07 → 00:01:10 เสถียรพงษ์จันทะวิบูลย์ศัลยแพทย์ผู้
00:01:10 → 00:01:12 เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูง
00:01:12 → 00:01:14 และผ่าตัดโรคอ้วนคลินิกโรคอ้วนโรงพยาบาล
00:01:15 → 00:01:18 ราชวิถีค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะครับสวัสดี
00:01:18 → 00:01:20 ครับค่ะวันนี้คุยกันถึงเรื่องของโรคอ้วน
00:01:20 → 00:01:24 ค่ะเราจะคุยเรื่องนี้เริ่มมาจับรอบเอวตัว
00:01:24 → 00:01:26 เองไม่รู้ว่าอ้วนหรือเปล่าเดี๋ยวมีวิธี
00:01:26 → 00:01:29 ให้คุณผู้ฟังได้ฟังกันนะคะแต่ว่าก่อนอื่น
00:01:29 → 00:01:32 ถามคุณหมอก่อนเลยว่าโรคอ้วนเนี่ยนิยาม
00:01:32 → 00:01:34 ความหมายคำว่าโรคอ้วนนี่คืออะไรคะคุณหมอ
00:01:34 → 00:01:38 คะจริงๆโรคอ้วนเนี่ยท่านนิยามจริงๆก็คือ
00:01:38 → 00:01:40 เป็นภาวะที่ร่างกายเนี่ยมีภาวะไขมันสะสม
00:01:40 → 00:01:43 มากผิดปกตินะครับซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหา
00:01:43 → 00:01:47 ต่างๆตามมาเช่นเป็นโรคเบาหวานโรคความดัน
00:01:47 → 00:01:51 โลหิตสูงโรคไขมันพอกตับโรคหยุดหายใจขาด
00:01:51 → 00:01:53 นอนหลับหรือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่ม
00:01:54 → 00:01:57 โอกาสในการเป็นต่างๆเช่นมะเร็งเต้านมรวม
00:01:57 → 00:02:00 ถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยโดยการที่จะบอก
00:02:00 → 00:02:03 เป็นโรคอ้วนเนี่ยเราอาจจะใช้เรื่องของค่า
00:02:03 → 00:02:07 ดัชนีมวลกายในการวัดดูนะครับ
00:02:07 → 00:02:11 ซึ่งค่าดัชนีมวลกายอันนี้เขาจะมีเกณฑ์
00:02:11 → 00:02:14 เป็นมาตรฐานที่ทุกคนจะใช้เกณฑ์นี้เหมือนๆ
00:02:14 → 00:02:17 กันหมดเลยใช่ไหมคะใช่ครับก็โดยปกติค่า
00:02:17 → 00:02:20 ดัชนีมวลกายเนี่ยเราจะใช้เป็นค่าน้ำหนัก
00:02:20 → 00:02:23 เป็นกิโลกรัมนะครับหารด้วยส่วนสูงเป็น
00:02:23 → 00:02:26 เมตรยกกำลัง 2 นะครับซึ่งปกติเราจะใช้
00:02:26 → 00:02:30 เกณฑ์ในคนเอเชียเนี่ยอย่างคนไทยเราเนี่ย
00:02:30 → 00:02:32 ครับก็ควรจะอยู่ประมาณสัก
00:02:32 → 00:02:36 18-22.9 หรือไม่เกิน 23 นะครับแต่ว่าถ้า
00:02:36 → 00:02:39 เกิดเกิน 23 ถึง 25 เนี่ยครับก็จะถือว่า
00:02:39 → 00:02:43 เป็นน้ำหนักเกินแต่การที่จะบอกว่าเป็นโรค
00:02:43 → 00:02:46 อ้วนเนี่ยก็คือเราใช้ค่าดัชนีมวลกายที่
00:02:46 → 00:02:49 เกิน 25 ขึ้นไปครับอ่าอันนี้ใช้คำว่าโรค
00:02:49 → 00:02:54 อ้วนได้เลยใช่เลยแตกต่างจากคำว่าภาวะใช่
00:02:54 → 00:02:56 ครับถ้าเกิดเป็นต่อมาก็คือเป็นภาวะน้ำ
00:02:56 → 00:02:58 หนักเกินแต่ว่าถ้าเกิดเป็นโรคอ้วนหรือว่า
00:02:58 → 00:03:02 ภาวะอ้วนเราถือว่าเป็นโรคเลยเมื่อดัชนี
00:03:02 → 00:03:03 มวลกายเกิน 25
00:03:03 → 00:03:07 แล้วผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันไหมคะค่า
00:03:07 → 00:03:11 เกณฑ์มาตรฐานแบบนี้ค่ะปกติเวลาเราใช้ค่า
00:03:11 → 00:03:14 ดัชนีมวลกายเนี่ยใช้เกณฑ์เดียวกันนะครับ
00:03:14 → 00:03:16 แต่ว่าถ้าเกิดเราต้องการตรวจละเอียดขึ้น
00:03:16 → 00:03:18 เนี่ยมันอาจจะใช้เครื่องที่เรียกว่า
00:03:18 → 00:03:21 เครื่องตรวจมวลร่างกายนะครับซึ่งปกติผู้
00:03:21 → 00:03:23 หญิงเนี่ยมีโอกาสที่จะมีไขมันได้มากกว่า
00:03:23 → 00:03:26 ผู้ชายนิดหน่อยนะครับ
00:03:26 → 00:03:31 เพราะว่าผู้หญิงมีแบบสัดส่วนมีอ่าอะไรที่
00:03:31 → 00:03:33 แตกต่างจากผู้ชายอยู่แล้วโดยปกตินะครับ
00:03:33 → 00:03:37 โดยทั่วๆไปฟังแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยทำไมผู้
00:03:37 → 00:03:40 หญิงเราดีหลายอย่างเลยนะอะไรอย่างนี้
00:03:40 → 00:03:42 ประมาณนี้นะคะอ่ะแต่ว่าอันนี้เป็นเกณฑ์
00:03:42 → 00:03:46 ค่ามาตรฐานก็คือถ้าถ้าถึงขั้น 25 ขึ้นไป
00:03:46 → 00:03:50 ใช่ไหมคะอันนี้อันนี้ก็เป็นเป็นค่าดัชนี
00:03:50 → 00:03:54 มวลกายที่วัดจากเครื่องเฉพาะเลยใช่ไหมคะ
00:03:54 → 00:03:57 จริงๆก็วัดจากเอาน้ำหนักหันส่วนสูงเป็น
00:03:57 → 00:03:59 เมตรก็ได้ครับก็คือใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก
00:03:59 → 00:04:02 ทั่วๆไปได้ครับส่วนเครื่องเครื่องที่บอก
00:04:02 → 00:04:04 มันจะเป็นเครื่องวัดมวลร่างกายอาจจะเห็น
00:04:04 → 00:04:07 ตามฟิตเนสบางที่หรือว่าตามโรงพยาบาลหรือ
00:04:07 → 00:04:09 ว่าตามนักกายภาพซึ่งอันนั้นมันจะวัดออกมา
00:04:09 → 00:04:12 เป็นเปอร์เซ็นต์ไขมันร่างกายเปอร์เซ็นต์
00:04:12 → 00:04:13 กล้ามเนื้อ
00:04:13 → 00:04:16 % น้ำมวลกระดูกพวกนี้นะครับซึ่งอันนั้น
00:04:16 → 00:04:18 จะเป็นการตรวจที่ละเอียดกว่านะครับแต่ว่า
00:04:18 → 00:04:21 อาจจะต้องต้องดูตามโรงพยาบาลใหญ่ๆถึงจะมี
00:04:21 → 00:04:25 นะครับเคยไปใช้ของฟิตเนสเหมือนกันค่ะคุณ
00:04:25 → 00:04:27 หมอคะแล้วแต่ว่าบางทีก็สงสัยเหมือนกันนะ
00:04:27 → 00:04:30 แค่เราไปยืนกับจับที่จับเขาหรืออะไรอย่าง
00:04:30 → 00:04:32 เงี้ยซึ่งเฮ้ยมันสามารถวัดรายละเอียดได้
00:04:32 → 00:04:35 ขนาดนั้นเลยหรอคะว่าไขมันเราอยู่ตรงไหน
00:04:35 → 00:04:37 มวลกระดูกของเราแค่ไหนแล้วหรืออะไรอย่าง
00:04:37 → 00:04:39 เงี้ยมันขนาดมันวัดได้ขนาดนั้นเลยหรอคะ
00:04:39 → 00:04:42 ใช่ครับก็สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ๆเนี่ยมัน
00:04:42 → 00:04:44 จะยิ่งแยกเป็นแต่ละบริเวณเลยครับว่าแบบ
00:04:44 → 00:04:47 แขนขากล้ามเนื้อกี่เปอร์เซ็นต์ไขมันกี่
00:04:47 → 00:04:51 เปอร์เซ็นต์หรือว่าบริเวณท้องลำตัวไขมัน
00:04:51 → 00:04:52 กี่เปอร์เซ็นต์อย่างเงี้ยนะครับหรือว่า
00:04:52 → 00:04:56 วัดได้ถึงขนาดว่ามวลไขมันในช่องท้องเนี่ย
00:04:56 → 00:04:59 ซึ่งมีผลกับเรื่องของภาวะความเสี่ยงเบา
00:04:59 → 00:05:01 หวานหรือว่าความเสี่ยงไขมันกว่าตับเนี่ย
00:05:01 → 00:05:03 กี่เปอร์เซ็นต์ซึ่งมันจะละเอียดค่อนข้าง
00:05:03 → 00:05:06 มากนะครับแต่ถ้าวัดแบบนั้นถ้ามีโอกาสมัด
00:05:06 → 00:05:09 แบบนั้นได้จะดีกว่าใช่ครับถ้ามีโอกาสว่า
00:05:09 → 00:05:12 แบบนั้นได้จะดีกว่าหรือว่าตามแบบพวก
00:05:12 → 00:05:15 วิทยาศาสตร์การกีฬาเลยหลายๆที่ก็จะวัดใน
00:05:15 → 00:05:18 นักกีฬาเพื่อแบบตรวจสอบว่ามีมวลกล้าม
00:05:18 → 00:05:20 เนื้อเพียงพอหรือเปล่าฟิตไหมอะไรอย่างนี้
00:05:20 → 00:05:22 นะครับแล้วก็สามารถบ่งบอกได้ละเอียดด้วย
00:05:22 → 00:05:24 ว่าแต่ละพาร์ทของร่างกายเนี่ยไขมันเยอะ
00:05:24 → 00:05:27 บริเวณไหนกล้ามเนื้อเยอะบริเวณไหนนะครับ
00:05:27 → 00:05:29 อันนี้เบื้องต้นนะคะคุณผู้ฟังถ้าสมมติเรา
00:05:29 → 00:05:31 ไม่ได้ไปใช้เครื่องเรามองด้วยตาก็ได้ตอน
00:05:31 → 00:05:35 นี้รอบรอบเอวรอบหรือเปล่าคะแต่ว่าเราใช้
00:05:35 → 00:05:39 ส่วนสูงนะคะก็สามารถใช้ได้มาคำนวณเบื้อง
00:05:39 → 00:05:42 ต้นได้เป็นเกณฑ์ค่าเฉลี่ยเบื้องต้นใช่ไหม
00:05:42 → 00:05:46 สมมุติถ้าถ้าสูง 165 อ่าเดี๋ยวให้คุณหมอ
00:05:46 → 00:05:50 ช่วยคำนวณให้สูง 165 ประมาณนี้น้ำหนักซัก
00:05:51 → 00:05:54 เท่าไหร่ดีอ่ะ 55 อย่างเงี้ย
00:05:54 → 00:05:58 มันจะอยู่ในเกณฑ์ที่แบบว่าไอ้ 50 โดยซื้อ
00:05:58 → 00:06:01 อันนี้เอาน้ำหนักตั้งก่อนสมมุติน้ำหนักก็
00:06:01 → 00:06:04 คือ 55 นะครับแล้วก็หารส่วนสูง 165 ก็
00:06:04 → 00:06:06 เป็นหาร 1.65
00:06:06 → 00:06:09 แล้วก็หาร 1.65 ซ้ำอีกทีนึงอย่างนี้ก็คือ
00:06:09 → 00:06:12 ดัชนีมวลกายประมาณ 20 ก็ถือว่าอยู่ใน
00:06:12 → 00:06:15 เกณฑ์ที่สมส่วนนะครับไม่ได้มีปัญหาอะไร
00:06:15 → 00:06:18 แต่ของตัวเองเกินไปแล้วค่ะ
00:06:18 → 00:06:21 วัดก็ดูแล้วก็แต่ว่าค่าดัชนีมวลกายเนี่ย
00:06:21 → 00:06:24 จะมันคือแค่ง่ายมันคือเป็นการดูสัดส่วน
00:06:24 → 00:06:27 ระหว่างน้ำหนักกับส่วนสูงของเรายิ่งเรา
00:06:27 → 00:06:29 ตัว
00:06:29 → 00:06:32 น้ำหนักมากส่วนสูงน้อยอย่างนี้ก็ยิ่งมี
00:06:32 → 00:06:36 ความเสี่ยงที่จะจะเป็นโรคอ้วนนะครับจริงๆ
00:06:36 → 00:06:39 มีเทอมนึงที่อยากจะบอกเป็นเป็นเทอมเขา
00:06:39 → 00:06:41 เรียกว่าเป็นโรคอ้วนอันตรายหรือว่าโรค
00:06:41 → 00:06:44 อ้วนทุพพลภาพกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ดัชนีมวล
00:06:44 → 00:06:47 กายมากกว่า 30 ซึ่งคำว่าโรคอ้วนอันตราย
00:06:47 → 00:06:49 เนี่ยหมายความว่านอกจากจะเป็นโรคอ้วน
00:06:49 → 00:06:51 เรียบร้อยแล้วเนี่ยอันตรายเนี่ยคือมีผล
00:06:51 → 00:06:55 กับคุณภาพชีวิตมีผลกับอายุขัยมีความ
00:06:55 → 00:06:57 เสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆเยอะคนปกติแล้วก็
00:06:57 → 00:06:59 อายุสั้นกว่าคนทั่วไป
00:06:59 → 00:07:03 อย่างที่ที่เคยเห็นอาจจะแบบคนที่อ้วนเป็น
00:07:03 → 00:07:07 หลักร้อยกิโลกรัมขนาดนั้นไหมคะ
00:07:07 → 00:07:11 ใช่ครับคือคือเป็น 100 กิโลกรัมอาจจะต้อง
00:07:11 → 00:07:13 ดูส่วนสูงด้วยแต่โดยมากถ้า 100 กิโลกรัม
00:07:13 → 00:07:15 ขึ้นไปก็มักจะมีปัญหาเป็นโรคอ้วนอันตราย
00:07:15 → 00:07:19 ได้นะครับหรืออย่างอย่างที่ผมเจอเยอะที่
00:07:19 → 00:07:23 สุดเนี่ยก็ประมาณ 320 กิโลก็มีนะครับ 320
00:07:23 → 00:07:27 กิโลที่เรารักษาไปนะครับอันนี้คุณหมออัน
00:07:27 → 00:07:31 นี้พูดจริงเลยใช่ไหมคะ
00:07:31 → 00:07:34 รู้สึกว่ามันใช้ชีวิตยากมากแล้วนะคะนี่
00:07:34 → 00:07:37 คืออันอันนั้นคือเป็นความที่ถึงขั้นเป็น
00:07:37 → 00:07:41 โรคอ้วนได้เนี่ยมันน่าจะมีปัจจัยจากหลายๆ
00:07:41 → 00:07:43 อย่างค่ะคุณหมอพอใจแจกแจงให้ฟังได้ไหมคะ
00:07:43 → 00:07:45 ว่าปัจจัยที่ทำให้คนเกิดโรคอ้วนได้เนี่ย
00:07:45 → 00:07:48 มันน่าจะมาจากอะไรได้บ้างอ่ะคะโอเคครับ
00:07:48 → 00:07:51 ปัจจัยเนี่ยจริงๆหลากหลายมากผมไล่จากอัน
00:07:51 → 00:07:53 แรกเลยที่เราเปลี่ยนไม่ได้ก็คือเป็น
00:07:53 → 00:07:55 ปัจจัยที่เราเปลี่ยนไม่ได้กับปัจจัยที่
00:07:55 → 00:07:57 เราเปลี่ยนได้ก่อนถ้าเปลี่ยนไม่ได้เนี่ย
00:07:57 → 00:08:00 เป็นปัจจัยภายในเช่นเป็นกรรมพันธุ์เราคุณ
00:08:00 → 00:08:02 พ่อคุณแม่อ้วนเนี่ยลูกมีโอกาสอ้วนมากกว่า
00:08:02 → 00:08:04 คนทั่วไป
00:08:04 → 00:08:08 นะครับแล้วก็ยีนบางตัวในร่างกายมีผลนะ
00:08:08 → 00:08:10 ครับแล้วก็เรื่องของฮอร์โมนบางคนมีเรื่อง
00:08:10 → 00:08:14 ของฮอร์โมนความหิวความอิ่มที่ไม่สมดุลนะ
00:08:14 → 00:08:16 ครับก็มีโอกาสที่จะอ้วนมากกว่าคนทั่วไปนะ
00:08:16 → 00:08:19 ครับเรื่องของ
00:08:19 → 00:08:22 ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของปัจจัยที่ปรับ
00:08:22 → 00:08:24 เปลี่ยนได้นะครับปรับเปลี่ยนได้เนี่ยก็
00:08:24 → 00:08:27 เป็นเรื่องของการนอนหลับบางคนนอนหลับพัก
00:08:27 → 00:08:30 ผ่อนไม่เพียงพอร่างกายเนี่ยกลางคืนได้รับ
00:08:30 → 00:08:32 ออกซิเจนไม่พอเผาผลาญพลังงานไม่ดีนะครับ
00:08:32 → 00:08:35 ก็จะน้ำหนักเยอะได้บางคนมีพฤติกรรมการกิน
00:08:35 → 00:08:39 ที่แบบนิยมกินน้ำหวานกินของหวานกินแป้ง
00:08:39 → 00:08:41 อะไรพวกนี้เยอะก็มีความเสี่ยงเยอะนะครับ
00:08:41 → 00:08:44 หรือว่าอีกกลุ่มนึงก็กลุ่มที่ทำงานเป็นกะ
00:08:44 → 00:08:46 กลุ่มที่ทำงานเป็นการ์ดเป็นกลางคืนเนี่ย
00:08:46 → 00:08:51 หรือว่าอ่าโดยเฉพาะอาชีพแบบอ่ารปภหรือ
00:08:51 → 00:08:55 พยาบาลนะครับหมอด้วยกันเนี่ยก็คือมีความ
00:08:55 → 00:08:57 เสี่ยงที่จะอ้วกมากกว่าปกติเนื่องจากใช้
00:08:57 → 00:09:02 ชีวิตแบบอ่าผิดจากคนปกติทำงานเป็นกะร่าง
00:09:02 → 00:09:04 กายไม่สามารถ
00:09:04 → 00:09:07 ปรับสมดุลตามตามนาฬิกาชีวิตหรือ
00:09:07 → 00:09:09 biological Cock ได้เนี่ยก็จะมีโอกาส
00:09:09 → 00:09:12 ว่ามากกว่าคนทั่วไปซึ่งมันก็อาจจะไม่รู้
00:09:12 → 00:09:14 แหละว่าจะจากปัจจัยไหนหรืออาจจะหลายๆ
00:09:14 → 00:09:17 ปัจจัยร่วมกันก็เป็นไปแล้วก็พออ้วนเสร็จ
00:09:17 → 00:09:20 เนี่ยมันก็จะเป็นหลายๆปัจจัยเช่นสมมุติพอ
00:09:20 → 00:09:22 เราน้ำหนักเยอะเสร็จเราจะมีปัญหาการนอน
00:09:22 → 00:09:24 หลับหลับไม่เพียงพอเราจะมีปัญหาที่ไม่
00:09:24 → 00:09:27 สามารถทำงานต่อเนื่องได้เพราะว่าง่วง
00:09:27 → 00:09:30 เพลียตอนบ่ายเราจะมีปัญหาไม่สามารถออก
00:09:30 → 00:09:32 กำลังกายได้เพราะเราปวดเข่าอย่างนี้นะ
00:09:32 → 00:09:35 ครับพออ้วนเสร็จมันก็จะเป็นเหมือนวงจรทำ
00:09:35 → 00:09:38 ให้ร่างกายแย่แย่ลงแย่ลงแย่ลงอยากจะออก
00:09:38 → 00:09:41 กำลังกายก็ออกไม่ได้ปล่อยข่าวอยากจะนอน
00:09:41 → 00:09:43 ให้เต็มอิ่มเหมือนคนอื่นก็นอนไม่ได้ร่าง
00:09:43 → 00:09:45 กายก็ไม่สดชื่นเผาผลาญพลังงานไม่ดีนะครับ
00:09:45 → 00:09:49 โอ้โหก็มีจากหลายปัจจัยซึ่งก็นำมาโรคอะไร
00:09:49 → 00:09:51 ต่างๆเยอะแยะมากมายอย่างที่คุณหมอบอกไป
00:09:51 → 00:09:53 ตั้งแต่ตอนต้นแต่ที่สำคัญมันคือโรคอ้วน
00:09:53 → 00:09:57 ที่นำมาซึ่งแพ็กเกจโรคมาแพคเกจเลยนะคะ
00:09:57 → 00:10:00 ซึ่งไม่ได้อยากจะได้เลยนะคะแต่ว่ามันมา
00:10:00 → 00:10:02 มันอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยากเพราะว่าปัจจัย
00:10:02 → 00:10:05 หลายๆอย่างจริงๆนะคะแต่คุณหมอแล้วอย่าง
00:10:05 → 00:10:08 นี้คือในเรื่องการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยจะเฉพาะเจาะจงคนที่เป็นโรคอ้วนอย่าง
00:10:11 → 00:10:14 เดียวไหมหรือว่าถ้าสมมุติว่าอย่างอย่าง
00:10:14 → 00:10:17 พี่อยากจะไปผ่าตัดจริงๆ
00:10:17 → 00:10:20 อยากจะให้ผอมลงกว่านี้นิดนึงนิดนึงเหมือน
00:10:20 → 00:10:23 สมัยสาวๆอย่างนี้ค่ะมันจะได้ไหมหรือว่า
00:10:23 → 00:10:27 เอ้ยต้องดูปัจจัยดูครับ
00:10:27 → 00:10:31 คือเราพยายามมองอย่างนี้ก่อนคือทุกคนรู้
00:10:31 → 00:10:32 อยู่แล้วแหละว่าการลดน้ำหนักเนี่ยมันมี
00:10:32 → 00:10:36 หลายวิธีนะครับวิธีที่ต้องทำเสมอ 1 ก็คือ
00:10:36 → 00:10:39 เป็นการควบคุมอาหารออกกำลังกายอันนี้พื้น
00:10:39 → 00:10:41 ฐานเหมาะสำหรับคนทั่วๆไปทุกคนที่มีภาวะ
00:10:41 → 00:10:44 น้ำหนักเกินนะครับอันต่อมาก็อาจจะเป็นการ
00:10:44 → 00:10:48 ใช้ยาลดน้ำหนักนะครับใช้ยาลดน้ำหนักก็ก็
00:10:48 → 00:10:52 เหมาะในคนที่น้ำหนักไม่เยอะมากกลางๆนะ
00:10:52 → 00:10:55 ครับแต่ว่าข้อเสียก็คืออาจจะมีค่าใช้จ่าย
00:10:55 → 00:10:58 ที่ค่อนข้างสูงแล้วก็อาจจะลดได้ไม่ไม่
00:10:58 → 00:11:01 ถาวรแล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดโยโย่ได้ค่อน
00:11:01 → 00:11:03 ข้างเยอะนะครับหรืออันต่อมาจะเป็นพวกการ
00:11:03 → 00:11:06 ส่องกล้องใส่บอลลูนอะไรพวกนี้นะครับซึ่ง
00:11:06 → 00:11:09 โดยทั่วๆไปเนี่ยมันก็เป็นการลดแบบชั่ว
00:11:09 → 00:11:12 คราวนะครับพอใส่บอลลูนไปสักพักสักประมาณ 6
00:11:12 → 00:11:15 เดือนถึง 12 เดือนก็ต้องเอาออกแล้วก็มี
00:11:15 → 00:11:18 โอกาสที่กระเพาะจะขยายช่วงที่เราใส่
00:11:18 → 00:11:20 บอลลูนได้แล้วก็หลังเอาออกก็อาจจะทำให้
00:11:20 → 00:11:23 น้ำหนักโยโย่ขึ้นมาเยอะได้นะครับสุดท้าย
00:11:23 → 00:11:27 คือกลุ่มที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลดน้ำ
00:11:27 → 00:11:30 หนักเนี่ยก็จะเป็นเหมือนทางเลือกสุดท้าย
00:11:30 → 00:11:32 ทางเลือกท้ายๆนะครับหรือว่าจะเป็นทาง
00:11:32 → 00:11:36 เลือกแรกในคนที่น้ำหนักเยอะมากจริงๆนะ
00:11:36 → 00:11:39 ครับแต่ว่าต้องย้ำว่าก่อนที่จะมาถึงการ
00:11:39 → 00:11:42 ผ่าตัดลดน้ำหนักได้เนี่ยคนไข้ต้องผ่านการ
00:11:42 → 00:11:45 ควบคุมอาหารออกกำลังกายอย่างเหมาะสมภาย
00:11:45 → 00:11:47 ใต้การดูแลของแพทย์และอย่างน้อยก็คือ 3
00:11:47 → 00:11:50 เดือนว่าไม่ประสบความสำเร็จหรือว่าประสบ
00:11:50 → 00:11:53 ความสำเร็จไม่เพียงพอก็สามารถพิจารณาการ
00:11:53 → 00:11:56 ผ่าตัดได้นะครับไม่ใช่ว่าใครอยากจะเดิน
00:11:56 → 00:11:58 เข้าไปคุณหมอขอผ่าตัดกระเพาะเลยอันนี้ไม่
00:11:58 → 00:12:02 ได้อันนี้ไม่ได้ก็มันมีวิธีในการที่จะควบ
00:12:02 → 00:12:04 คุมดูแลน้ำหนักของตัวเองเนี่ยได้หลาย
00:12:04 → 00:12:06 อย่างซึ่งหลายคนก็ใช้วิธีการออกกำลังกาย
00:12:06 → 00:12:09 แต่ว่าอาจจะต้องมีวินัยอย่างสูงสูงมากเลย
00:12:09 → 00:12:12 นะคะที่จะช่วยแต่แล้วก็อีกปัจจัยหลายๆ
00:12:12 → 00:12:15 อย่างแต่ว่าบางทีถ้าเกิดลดความอ้วนส่วน
00:12:15 → 00:12:19 ใหญ่ที่มันจะลดไม่ค่อยได้ผลจนกระทั่งนำไป
00:12:19 → 00:12:23 สู่เรื่องของการผ่าตัดมันน่าจะเกี่ยวกับ
00:12:23 → 00:12:26 เรื่องของโรคประจำตัวหรือว่าอะไรอย่างนี้
00:12:26 → 00:12:28 ด้วยไหมคะที่แบบมันลดน้ำหนักแล้วพยายาม
00:12:28 → 00:12:31 แล้วค่ะคุณหมอที่คุณหมอบอกควบคุมมา 3
00:12:31 → 00:12:33 เดือนที่ต้องออกกำลังกายตามที่คุณหมอดูแล
00:12:33 → 00:12:38 อยู่เนี่ยมันไม่ได้จริงๆคือคือการควบคุม
00:12:38 → 00:12:41 อาหารออกกำลังกายเนี่ยมันมันเป็นการทำที่
00:12:41 → 00:12:44 ง่ายนะครับเป็นงานง่ายๆแต่ว่าอ่าการที่จะ
00:12:44 → 00:12:47 ทำได้ต่อเนื่องจริงจังเนี่ยค่อนข้างยาก
00:12:47 → 00:12:50 ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่ใช่เพราะว่าเรามี
00:12:50 → 00:12:52 วินัยไม่เพียงพอนะครับมันเป็นเพราะว่า
00:12:52 → 00:12:55 เวลาที่เราพยายามลบปริมาณการทานอาหาร
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยควบคุมอาหารเนี่ยร่างกายเราก็จะปรับ
00:12:58 → 00:13:00 ตัวเหมือนกันก็จะลดการเผาผลาญพลังงานไป
00:13:00 → 00:13:03 ด้วยร่างกายเราจะเหมือนคิดว่าเราอยู่ใน
00:13:03 → 00:13:06 แบบเหมือนมนุษย์ถ้ำอ่ะครับเวลาที่เรา
00:13:06 → 00:13:09 เริ่มทานอาหารไม่ลดลงร่างกายต้องปรับตัว
00:13:09 → 00:13:11 เพื่อให้อยู่รอดการเผาผลาญพลังงานก็จะลด
00:13:12 → 00:13:16 ลงนะครับพอเราคุมอาหารไปสักพักหนึ่งแล้ว
00:13:16 → 00:13:18 ขอให้เรากลับมากินปกติหรืออะไรแค่แป๊บ
00:13:18 → 00:13:20 เดียวเท่านั้นแหละร่างกายเนี่ยมันไม่ได้
00:13:20 → 00:13:23 เพิ่มการเผาผลาญพลังงานตามขึ้นมามันทำให้
00:13:23 → 00:13:25 การคุมอาหารอย่างเดียวเนี่ยมีโอกาสเกิด
00:13:25 → 00:13:28 โยโย่ค่อนข้างสูงนะครับเหมือนจากเดิมร่าง
00:13:28 → 00:13:31 กายจากที่เผาผลาญพลังงาน 100% เนี่ยพอเรา
00:13:31 → 00:13:33 คุมอาหารเนี่ยการผ่าตัดพนักงานลดเหลือ
00:13:33 → 00:13:36 ประมาณ 50% พอเรากลับมากินเท่าเดิมปุ๊บ
00:13:36 → 00:13:39 ร่างกายยังเผาผลาญพลังงาน 50% อยู่น้ำ
00:13:39 → 00:13:42 หนักก็จะโยโย่ขึ้นโยโย่ขึ้นนะครับคนที่
00:13:42 → 00:13:43 น้ำหนักเยอะเนี่ยเขารู้ตัวแหละว่าน้ำหนัก
00:13:43 → 00:13:46 เขาเยอะขึ้นแต่บางทีมันทำอะไรไม่ได้จริงๆ
00:13:46 → 00:13:49 กินไม่เยอะสังเกตดูเราคนอ้วนทุกคนจะบอก
00:13:49 → 00:13:52 หนูกินไม่เยอะหนูพยายามคุมแล้วนะครับแต่
00:13:52 → 00:13:56 ว่าร่างกายมันปรับตัวไปแล้วมันไม่ได้แล้ว
00:13:56 → 00:13:58 พอจะให้เขาเพิ่มการเผาผลาญพลังงานโดยการ
00:13:58 → 00:14:00 ออกกำลังกายก็ไม่ได้อีกเพราะว่ามีปัญหา
00:14:00 → 00:14:04 ปวดเข่าวิ่งนิดวิ่งหน่อยก็จะเจ็บบางทีเขา
00:14:04 → 00:14:06 ก็จะยิ่งเสื่อมเร็วดังนั้นการออกกำลังกาย
00:14:06 → 00:14:08 ของเขาที่เหมาะอาจจะต้องเป็น
00:14:08 → 00:14:11 ว่ายน้ำอะไรพวกเนี้ยปั่นจักรยานที่มันมัน
00:14:11 → 00:14:15 ทำให้เขามันไม่ได้รับภาระเยอะนะครับซึ่ง
00:14:15 → 00:14:17 มันก็ลิมิตอีกกว่าเราจะหาสถานที่หาอะไรใน
00:14:17 → 00:14:19 การออกกำลังกายได้ดี
00:14:19 → 00:14:23 ก็แสดงว่ามันก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย
00:14:23 → 00:14:27 ว่าอันนี้เคสนี้ไม่ได้แล้วจริงๆพยายาม
00:14:27 → 00:14:30 แล้วจริงๆก็อาจจะต้องปรึกษากับคุณหมอก่อน
00:14:30 → 00:14:33 ที่จะทำการบอกคุณหมอคะจะขอผ่าตัดนี้ก็
00:14:33 → 00:14:35 ต้องคุยกันก่อนเว้ยใช่ไหมคะไม่ได้บอกว่า
00:14:35 → 00:14:38 เหมาะกับทุกคนที่ใช่ครับมันไม่ได้เหมาะ
00:14:38 → 00:14:40 กับทุกคนครับคือการผ่าตัดเนี่ยมีความ
00:14:40 → 00:14:42 เสี่ยงแหละถึงแม้จะไม่เยอะแต่ว่ามันมี
00:14:42 → 00:14:45 ความเสี่ยงอยู่แล้วดังนั้นคนที่เข้าเกณฑ์
00:14:45 → 00:14:48 จริงๆหรือว่าล้มเหลวจริงๆจากการลดน้ำหนัก
00:14:48 → 00:14:50 ด้วยวิธีอื่นเนี่ยเราถึงจะแนะนำให้ผ่าตัด
00:14:50 → 00:14:53 ลดน้ำหนักนะครับผมต้องย้ำนิดนึงว่ามัน
00:14:53 → 00:14:56 เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาโรครักษาโรคเบา
00:14:56 → 00:15:00 หวานให้หายรักษาโรคความดันสูงให้หาย
00:15:00 → 00:15:02 นะครับไม่ไม่ใช่การผ่าตัดเพื่อความสวยงาม
00:15:02 → 00:15:05 เราต้องย้ำว่ามันเป็นการรักษาโรคชนิด
00:15:05 → 00:15:08 หนึ่งซึ่งปัจจุบันเนี่ยในประเทศไทยเนี่ย
00:15:08 → 00:15:12 ในสปสชเองหรือว่าสำนักงานประกันสังคมเอง
00:15:12 → 00:15:14 เนี่ยเราก็มองว่าโรคอ้วนในกลุ่มโรคอ้วน
00:15:14 → 00:15:17 อันตรายเนี่ยถือเป็นโรคที่ต้องรักษานะ
00:15:17 → 00:15:20 ครับจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายบางส่วนได้จ้ะ
00:15:20 → 00:15:24 สำนักงานประกันสังคมหรือว่าสปสชนะครับ
00:15:24 → 00:15:28 อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสนะคะแล้วการ
00:15:28 → 00:15:30 ผ่าตัดลดน้ำหนักนี่มัน
00:15:30 → 00:15:33 ที่เคยได้ยินมาคือการผ่าตัดกระเพาะไม่รู้
00:15:33 → 00:15:36 แหละแบบไหนรู้ได้ยินแค่นี้แต่จริงๆในความ
00:15:36 → 00:15:39 เป็นจริงในทางการแพทย์ตอนนี้ผ่าตัดลดน้ำ
00:15:39 → 00:15:41 หนักหรือผ่าตัดกระเพาะอะไรอย่างนี้มันมี
00:15:41 → 00:15:44 ยังไงบ้างอ่ะคะคือผักคำว่าผ่าตัดลดน้ำ
00:15:44 → 00:15:47 หนักเนี่ยมันเป็นคำกว้างๆพูดโดยรวมก็คือ
00:15:47 → 00:15:50 เป็นการผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้นะครับอาจ
00:15:51 → 00:15:54 จะตัดให้ก็พอเล็กลงทำทางเดินอาหารใหม่
00:15:54 → 00:15:57 หรือบายพาสอาหารอย่างนี้นะครับเพื่อจุด
00:15:57 → 00:15:59 ประสงค์ให้น้ำหนักเพื่อ 1 ก็คือปรับ
00:15:59 → 00:16:02 เปลี่ยนฮอร์โมนทำให้ฮอร์โมนความหิวลดลง
00:16:02 → 00:16:05 ฮอร์โมนความอิ่มเพิ่มขึ้นทำให้ทานได้ลดลง
00:16:05 → 00:16:09 นะครับทำให้ลดการดูดซึมอาหารนะครับรวมถึง
00:16:09 → 00:16:11 อาจจะปรับเรื่องของหลังผ่าตัดเนี่ยจะมี
00:16:11 → 00:16:13 เรื่องของ probiotic หรือว่าแบคทีเรียใน
00:16:13 → 00:16:15 ลำไส้ที่เปลี่ยนไปนะครับเพื่อทำให้น้ำ
00:16:15 → 00:16:19 หนักลดลงนะครับทีนี้มันมีหลากหลายวิธีมาก
00:16:19 → 00:16:22 นะครับแต่ว่าปัจจุบันวิธีที่ได้รับความ
00:16:22 → 00:16:24 นิยมเนี่ยมันหลักๆจะมีอยู่ 3 วิธีพูดง่าย
00:16:24 → 00:16:26 ๆคือ 1 ก็จะเป็นวิธีการผ่าตัดกระเพาะแบบ
00:16:27 → 00:16:29 Sleep คือตัดกระเพาะออกบางส่วน
00:16:29 → 00:16:33 นะครับประมาณสัก 80 85% ของก็พอจะออกไป
00:16:33 → 00:16:36 วิธีที่ 2 ก็จะเป็นการผ่าตัดบายพาสก็คือ
00:16:36 → 00:16:40 ตัดกระเพาะด้วยแล้วก็ทำทางเดินอาหารใหม่
00:16:40 → 00:16:43 ด้วยนะครับหรือว่าสุดท้ายเป็นวิธีที่โรง
00:16:43 → 00:16:45 พยาบาลราชวิถีทำค่อนข้างเยอะในปัจจุบันก็
00:16:45 → 00:16:49 คือเป็นวิธี Sleep Plus บายพาสคือตัด
00:16:49 → 00:16:51 กระเพาะร่วมด้วยแล้วก็ทำบายพาสร่วมด้วยนะ
00:16:51 → 00:16:52 ครับ
00:16:52 → 00:16:55 โดยหลักการเนี่ยมันก็จะมีข้อดีข้อเสียแต่
00:16:55 → 00:16:58 ละวิธีต่างกันอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ดูอีก
00:16:58 → 00:17:01 ทีนึงว่าวิธีไหนเหมาะกับคนกลุ่มไหนหรือ
00:17:01 → 00:17:04 ว่าน้ำหนักเยอะน้อยแค่ไหนถึงจะทำวิธีไหน
00:17:04 → 00:17:08 นะครับคือผ่าตัดมาแล้วแบบว่าเห็นเห็นชัด
00:17:08 → 00:17:09 เลยใช่ไหมคะว่า
00:17:09 → 00:17:14 ในการที่จะกินก็น้อยลงหรือว่าอ่าเขาเรียก
00:17:14 → 00:17:17 ว่าอะไรอ่ะความหิวน้อยลงโรคเบาหวานโรค
00:17:17 → 00:17:21 ความดันมันก็จะค่อยๆดีขึ้นใช่ไหมคะใช่
00:17:21 → 00:17:23 ครับคืออย่างที่ผมบอกคือผมย้ำนิดนึงว่า
00:17:23 → 00:17:26 มันเป็นการรักษาโรคชนิดหนึ่งนะครับ
00:17:26 → 00:17:28 สมมุติเราเจอคนไข้คนนึงเนี่ยเป็นเบาหวาน
00:17:28 → 00:17:31 มัน 10 ปีเนี่ยกินยายังไงก็ไม่หายนะครับ
00:17:31 → 00:17:34 การผ่าตัดเนี่ยช่วยให้หายได้นะครับซึ่ง
00:17:34 → 00:17:37 เบาหวานเนี่ยโอกาสหายขาดหรือว่าโอกาสดี
00:17:37 → 00:17:41 ขึ้นเนี่ยรวมๆกันเนี่ย 76.9% นะครับทั้ง
00:17:41 → 00:17:44 นี้ทั้งนั้นเนี่ยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่
00:17:44 → 00:17:46 คนไข้เป็นเบาหวานด้วยถ้าเป็นมาไม่นานอายุ
00:17:46 → 00:17:50 ไม่เยอะนะครับน้ำหนักเยอะมากๆอย่างนี้นะ
00:17:50 → 00:17:53 ครับโอกาสหายจากเบาหวานสูงนะครับหรือว่า
00:17:53 → 00:17:57 เรื่องของความดันโลหิตสูงก็ดีขึ้น 87% นะ
00:17:57 → 00:18:00 ครับหรือว่า
00:18:00 → 00:18:03 อาการปวดเข่าทั้งหลายเนี่ยดีขึ้น 93% เลย
00:18:03 → 00:18:06 เราอาจจะเจอคุณพ่อคุณแม่เราอายุเยอะน้ำ
00:18:06 → 00:18:10 หนักเยอะแล้วปวดเข่าหมอบอกให้ฉีดยาเข้า
00:18:10 → 00:18:12 ข้อเข่าเปลี่ยนเข่าผ่าเปลี่ยนเข่าอะไรพวก
00:18:12 → 00:18:14 นี้นะครับถ้าคุณว่าคุณแม่คุมน้ำหนักได้ลด
00:18:14 → 00:18:16 น้ำหนักได้อย่างเงี้ยนะครับไม่ว่าจะด้วย
00:18:16 → 00:18:19 การผ่าตัดหรือว่าวิธีการคุมอาหารอื่นๆนะ
00:18:19 → 00:18:22 ครับอาการปวดเข่าเนี่ยดีขึ้นแน่นอนนะครับ
00:18:22 → 00:18:24 บางทีก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเข่าอีกเลยนะครับ
00:18:24 → 00:18:27 ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับอ่า
00:18:27 → 00:18:31 การวินิจฉัยของของแพทย์ว่าจะให้เป็นละใน
00:18:31 → 00:18:34 ลักษณะการผ่าตัดแบบไหนเพื่อผลแบบไหนแต่ละ
00:18:34 → 00:18:36 คนด้วยมันต้องต้องเลือกให้เหมาะสมแต่ละคน
00:18:36 → 00:18:38 นะครับถ้าเรา
00:18:38 → 00:18:40 อ่าปัจจุบันเทรนด์มันเป็นอย่างนี้นะครับ
00:18:40 → 00:18:43 มันเป็นเหมือนเขาเรียกว่าเป็น Precision
00:18:43 → 00:18:45 Medicine ก็คือคนแต่ละคนเนี่ยไม่เหมือน
00:18:45 → 00:18:50 กันเราต้อง select ให้เหมาะกับคนนั้นๆนะ
00:18:50 → 00:18:53 ครับเช่นผมยกตัวอย่างง่ายๆอย่างมีคนไข้คน
00:18:53 → 00:18:56 นึงน้ำหนักเยอะมากแต่ว่าเป็นภาวะกรดไหล
00:18:56 → 00:19:57 ย้อนรุนแรง
00:19:57 → 00:20:01 เราสังเกตง่ายๆคืออ่าตอนที่ผู้ป่วยนอน
00:20:01 → 00:20:04 เนี่ยถ้าเกิดเสียงกรนมันดังมากดังออกมา
00:20:04 → 00:20:06 นอกห้องอะไรอย่างเงี้ยนะหรือว่าบางคนจะมี
00:20:06 → 00:20:08 เขาเรียกว่าหยุดหายใจเป็นช่วงๆเนี่ย
00:20:08 → 00:20:11 สมมุติเราสามีภรรยานอนอยู่ด้วยกันเนี่ย
00:20:11 → 00:20:15 บางทีจะสังเกตว่าหายใจเฮือกเป็นพักๆนะ
00:20:15 → 00:20:17 ครับแล้วเขาก็จะมีบ่นประมาณว่าตื่นมา
00:20:17 → 00:20:20 เนี่ยไม่สดชื่นเลยมีปวดศีรษะหลังตื่นนอน
00:20:20 → 00:20:23 ตอนบ่ายมีง่วงเพลียตลอดทำงานก็ไม่ได้ตอน
00:20:23 → 00:20:25 บ่ายง่วงเพลียตลอดกลุ่มนี้มีความเสี่ยง
00:20:25 → 00:20:28 ที่จะเป็นภาวะหยุดหายใจขาดนอนหลับสูงซึ่ง
00:20:28 → 00:20:32 พอเป็นนานๆเนี่ยมันจะทำให้แรงดันในปอดสูง
00:20:32 → 00:20:34 ได้แล้วก็สุดท้ายจะส่งผลให้มีภาวะหัวใจ
00:20:34 → 00:20:37 ล้มเหลวได้หรือบางคนก็ขาดออกซิเจนแล้วก็
00:20:37 → 00:20:38 มีโอกาสเสียชีวิตได้
00:20:38 → 00:20:42 นะคะแล้วการผ่าตัดลดน้ำหนักเนี่ย
00:20:42 → 00:20:46 ฟังดูแล้วคือมันก็น่ากังวลคือถ้าผ่าตัด
00:20:46 → 00:20:48 อย่างอื่นเราอาจจะเคยได้ยินกันมาเยอะๆ
00:20:48 → 00:20:50 แล้วแหละอะไรอย่างนี้แต่ผ่าตัดกระเพาะอ่ะ
00:20:50 → 00:20:52 ไม่ค่อยได้ยินมันอันตรายไหมคะคุณหมออะไร
00:20:52 → 00:20:54 อย่างเงี้ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เขาแบบ
00:20:54 → 00:20:57 น้ำหนักเยอะๆเป็นโรคอ้วนอยู่ด้วยแล้วเอ่อ
00:20:57 → 00:21:00 ไหนจะต้องอ่าวางยาสลบนู่นนี่นั่นเออหลาย
00:21:00 → 00:21:04 อย่างเหมือนกันมันๆน่ากังวลไหมคะก็ผมให้
00:21:04 → 00:21:07 มองอย่างนี้ก่อนคือ 1 เรามองว่าภาวะที่
00:21:07 → 00:21:10 อ้วนมากๆเนี่ยมันเป็นโรคนะครับมันเป็นโรค
00:21:10 → 00:21:14 หมายความว่าเราต้องรักษานะครับเราปล่อย
00:21:14 → 00:21:17 ทิ้งไว้เนี่ยไม่รักษาเขาเนี่ยเดี๋ยวเขาก็
00:21:17 → 00:21:20 จะมีปัญหาจากภาวะอื่นตามมาไม่ว่าจะเป็น
00:21:20 → 00:21:22 เส้นเลือดหัวใจตีเส้นเลือดสมองตีบนะครับ
00:21:22 → 00:21:26 เบาหวานขึ้นตามมาหวานลงไปนะครับหรือว่ามี
00:21:26 → 00:21:29 อัตราการตายที่เพิ่มขึ้นแค่น้ำหนักเยอะ
00:21:29 → 00:21:33 นี่แหละดังนั้น Concept แรกคือกลุ่มที่จะ
00:21:33 → 00:21:35 ผ่าเนี่ยเขาต้องเข้าข้อบ่งชี้ก่อนเค้า
00:21:35 → 00:21:38 เป็นโรคเราควรจะต้องรักษา 2 คือความ
00:21:38 → 00:21:40 เสี่ยงเนี่ยจากการผ่าตัดเนี่ยมีอยู่แล้ว
00:21:40 → 00:21:43 ราคาโดย gener ถ้าเอาตัวเลขจากงานวิจัย
00:21:43 → 00:21:45 เลยเนี่ยจริงๆก็คือมีแต่ว่าน้อยกว่า 1%
00:21:45 → 00:21:49 น้อยกว่า 1% หมายความว่าเราต้องเตรียมคน
00:21:49 → 00:21:51 ไข้ให้พร้อมก่อนนะครับต้องเตรียมคนไข้ให้
00:21:51 → 00:21:53 พร้อมหมายความว่าต้องเช็คให้ดีว่ามีโรค
00:21:53 → 00:21:56 หัวใจไหมเบาหวานควบคุมดีหรือยังความดัน
00:21:56 → 00:22:00 ควบคุมดีหรือยังนะครับแล้วก็ต้องเช็คทีม
00:22:00 → 00:22:03 แพทย์ทีม Nissan Yee พยาบาล Nissan up
00:22:03 → 00:22:05 นะครับรวมถึง
00:22:05 → 00:22:08 อายุรแพทย์ที่ช่วยเช็คเรื่องของภาวะเบา
00:22:08 → 00:22:10 หวานเลยก่อนผ่าตัดถ้าเราเตรียมทุกอย่าง
00:22:10 → 00:22:15 ได้ดีนะครับแทบทุกคนเป็นทีมแพทย์เนี่ยมา
00:22:15 → 00:22:17 ช่วยดูกันอย่างอย่างเรียบร้อยเนี่ยเราก็
00:22:17 → 00:22:20 คิดว่ามันลดความเสี่ยงได้ค่อนข้างเยอะนะ
00:22:20 → 00:22:22 ครับอย่างผมยกตัวอย่างอย่างของโรงพยาบาล
00:22:22 → 00:22:25 รัฐวิสถีเราทำไปเนี่ยยังไม่เคยมีปัญหาเลย
00:22:25 → 00:22:27 นะครับในช่วงในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมาเนี่ย
00:22:27 → 00:22:31 ตั้งแต่ผมกลับมาก็ยังไม่มีปัญหาใดๆนะครับ
00:22:31 → 00:22:33 อ๋อนี่ก็เป็นความเข้าใจที่อันนี้เพราะคุณ
00:22:33 → 00:22:35 หมออธิบายเราก็จะเข้าใจชัดเจนขึ้นว่าอยู่
00:22:35 → 00:22:38 ๆไม่ใช่ว่าบอกจะผ่าตัดแล้วผ่าตัดได้เลย
00:22:38 → 00:22:42 คุณหมอต้องควบคุมโรคประจำตัวอื่นๆให้อยู่
00:22:42 → 00:22:45 ในระดับที่เหมาะสมในการที่จะเข้าสู่การ
00:22:45 → 00:22:47 ผ่าตัดก่อนคือเราต้องควบคุมให้ดีที่สุด
00:22:47 → 00:22:50 คือความเสี่ยงในการผ่าตัดมีได้นะครับไม่
00:22:50 → 00:22:53 ว่าจะเป็นเลือดออกในช่องท้องกระเพาะปลีก
00:22:53 → 00:22:55 กระเพาะรั่วหรือภาวะลิ่มเลือดดำอุดตัน
00:22:55 → 00:22:58 เนี่ยมีโอกาสเกิดขึ้นได้นะครับบางอย่าง
00:22:58 → 00:23:01 เราก็ควบคุมไม่ได้แต่ว่าเราทำยังไงก็ได้
00:23:01 → 00:23:04 ที่ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดนะครับลด
00:23:04 → 00:23:07 ความเสี่ยงได้มากที่สุดแต่ว่าถ้าเรามอง
00:23:07 → 00:23:09 ว่าเขาเป็นโรคเนี่ยยังไงเราก็ต้องรักษา
00:23:09 → 00:23:11 เราปล่อยไว้เดี๋ยวเขาก็จะมีปัญหาจากโรค
00:23:11 → 00:23:14 ประจำตัวเขาอยู่ดีนะครับอย่างอย่างที่ผม
00:23:14 → 00:23:16 เล่าอย่างเคลียร์ที่น้ำหนัก 320
00:23:16 → 00:23:20 กิโลกรัมเนี่ยคนไข้มีภาวะน้ำท่วมปอดหัวใจ
00:23:20 → 00:23:24 วายนะครับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นะ
00:23:24 → 00:23:28 ครับเราปล่อยไว้เฉยๆเนี่ยยังไงเขาอ่าแย่
00:23:28 → 00:23:31 แน่นอนค่ะดังนั้นถึงแม้ความเสี่ยงจะเยอะ
00:23:31 → 00:23:35 นะครับสุดท้ายเราก็เราก็พยายามเตรียมคน
00:23:35 → 00:23:37 ไข้ให้พร้อมแล้วก็ตัดสินใจผ่าตัดปัจจุบัน
00:23:37 → 00:23:40 เนี่ยเขาก็น้ำหนักลงมาจาก 320 เนี่ยเหลือ
00:23:40 → 00:23:43 ประมาณสัก 140 กว่ากิโลนะครับคนไข้แค่
00:23:43 → 00:23:46 สามารถเดินได้ใช้ชีวิตได้เนี่ยเขาก็ดีใจ
00:23:46 → 00:23:48 มากแล้วนะครับ
00:23:48 → 00:23:52 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ก็จะอยู่ในเรื่องของ
00:23:52 → 00:23:54 การควบคุมดูแลอันนี้ก็จะได้หายห่วงแต่ว่า
00:23:54 → 00:23:56 ความเสี่ยงมีอยู่แต่มันน้อยมากจริงๆนะคะ
00:23:56 → 00:24:00 จะบอกว่ามันควบคุมนะครับคือไม่ใช่หมาย
00:24:00 → 00:24:03 ความว่าสมมุติน้ำหนักมาแบบ 320 อย่าง
00:24:03 → 00:24:06 เงี้ยครับผมจับมาผ่าเลยอย่างเงี้ยก็อาจจะ
00:24:06 → 00:24:08 ไม่รอดเหมือนกันนะครับเพราะว่าเราไม่ได้
00:24:08 → 00:24:11 เตรียมคนไข้เลยนะครับเราก็ต้องมาเช็คให้
00:24:11 → 00:24:13 เรียบร้อยก่อนเพราะฉะนั้นการเตรียมคนไข้
00:24:13 → 00:24:15 ก็เป็นส่วนสำคัญนะคะทีนี้หลังจากที่ผ่า
00:24:15 → 00:24:18 ตัดไปแล้วเงี้ยค่ะต้องต้องระวังอะไรกัน
00:24:18 → 00:24:21 ยังไงบ้างคะคุณหมอเพราะว่าอ๋อการขยับ
00:24:21 → 00:24:24 เขยื้อนการจะลุกเดินเหินเพิ่งผ่าตัดมา
00:24:24 → 00:24:28 เนาะใช้เวลาในการที่จะฟื้นฟูตัวเองเนี่ย
00:24:28 → 00:24:32 ระยะเวลานานไหมคะคืออย่างนี้ก่อนคือ 1
00:24:32 → 00:24:34 คือมันเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องนะครับ
00:24:34 → 00:24:37 ภัตตาคารกล้องทั้งหมดหมายความว่าแผลจะ
00:24:37 → 00:24:41 ค่อนข้างเล็กก็คือประมาณสัก 5 มิลหรืออาจ
00:24:41 → 00:24:42 จะมีแผลที่เราเอากระเพาะออกเนี่ยประมาณ
00:24:42 → 00:24:45 สัก 1.5-2 เซนติเมตรอย่างนี้นะครับดัง
00:24:45 → 00:24:48 นั้นการฟื้นตัวเนี่ยจะค่อนข้างเร็วนะครับ
00:24:48 → 00:24:50 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
00:24:50 → 00:24:52 status เดิมของคนไข้ก่อนผ่าตัดด้วยนะ
00:24:52 → 00:24:54 ครับภาวะเดิมว่าเขาเดินได้ดีไหมคล่องไหม
00:24:54 → 00:24:56 อย่างนี้นะครับโดยทั่วๆไปเนี่ยนอนโรง
00:24:56 → 00:25:00 พยาบาลประมาณไม่เกิน 5 วันนะครับไม่เกิน 5
00:25:00 → 00:25:03 วันแล้วก็สามารถลุกช่วยเหลือตัวเองได้
00:25:03 → 00:25:05 หลังผ่าตัดวันแรกถึงวันที่ 2 ในยุคได้เลย
00:25:05 → 00:25:09 นะครับเพราะว่าแผลมันเป็นแผลเล็กเนอะเป็น
00:25:09 → 00:25:12 แผลเล็กแล้วก็โดยเทคนิคเนี่ยเราก็จะบล็อก
00:25:12 → 00:25:15 จะช้าที่แผลทุกแผลด้วยนะครับเพื่อลดอาการ
00:25:15 → 00:25:18 เจ็บปวดนะครับแล้วก็
00:25:18 → 00:25:22 อย่างที่บอกก็คือเราต้องเฝ้าระวังโดย
00:25:22 → 00:25:25 เฉพาะในช่วงสัก 14 วันแรกนะครับคนไข้อาจ
00:25:25 → 00:25:27 จะต้องปรับวิธีการทานอาหารนะครับไม่ว่าจะ
00:25:27 → 00:25:29 เป็นเน้นทานอาหารที่ที่เป็นอาหารอ่อน
00:25:29 → 00:25:33 อาหารเหลวก่อนนะครับพยายามจิบน้ำบ่อยๆช้า
00:25:33 → 00:25:36 ๆนะครับเพราะว่ากระเพาะเดิมเนี่ยมัน
00:25:36 → 00:25:39 เปรียบเหมือนถนนสัก 10 เลนหลังผ่าตัด
00:25:39 → 00:25:42 เนี่ยก็จะเหลือถนนประมาณสัก 2 เลนถามว่า
00:25:42 → 00:25:45 กินได้ไหมคือกินได้แต่ว่าต้องช้าๆใจเย็นๆ
00:25:45 → 00:25:47 นะครับ
00:25:47 → 00:25:50 ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังหลังการ
00:25:50 → 00:25:53 ผ่าตัดคุณหมอคะท้ายนี้มีอะไรฝากหน่อยไหม
00:25:53 → 00:25:56 คะเรื่องของการลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัดแบบ
00:25:56 → 00:25:59 นี้ค่ะก็การตัดลดน้ำหนักเนี่ยฟังดูชื่อ
00:25:59 → 00:26:03 เนี่ยมันอาจจะดูดูอันตรายนะครับแต่ว่าถ้า
00:26:03 → 00:26:06 เกิดเรามีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเราอยู่ใน
00:26:06 → 00:26:09 ภาวะโรคอ้วนอันตรายมีโรคประจำตัวมากเบา
00:26:09 → 00:26:13 หวานความดันนะครับไขมันในเลือดสูงไขมัน
00:26:13 → 00:26:14 พอกตับ
00:26:14 → 00:26:17 เราก็ควรจะต้องรักษานะครับซึ่งการรักษา
00:26:17 → 00:26:20 เนี่ยอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:26:20 → 00:26:23 ก่อนว่าเราอยู่ในเกณฑ์ไหนยังไงนะครับหรือ
00:26:23 → 00:26:25 ว่าเคยผ่านการลดน้ำหนักวิธีอื่นมาแล้วล้ม
00:26:25 → 00:26:29 เหลวมานะครับถ้าเราคิดว่าเราเข้าบ่งชี้
00:26:29 → 00:26:33 จริงๆดัชนีมวลกายเยอะผมแนะนำให้รักษานะ
00:26:33 → 00:26:36 ครับเพราะว่ามันเป็นการรักษาโรคแล้วก็
00:26:36 → 00:26:38 ช่วยทำให้ให้สุขภาพโดยรวมเราดีขึ้น
00:26:38 → 00:26:41 อายุขัยเราก็จะมากขึ้นสามารถใช้ชีวิตได้
00:26:41 → 00:26:45 อย่างไม่มีข้อจำกัดมากขึ้นนะครับอันนี้
00:26:45 → 00:26:47 แต่สุดท้ายต้องบอกว่าการผ่าตัดมีความ
00:26:47 → 00:26:49 เสี่ยงนะครับการผ่าตัดทุกอย่างมีความ
00:26:49 → 00:26:52 เสี่ยงนะครับก็
00:26:52 → 00:26:54 ต้องระมัดระวังด้วย
00:26:54 → 00:26:58 อันนี้เป็นแนวทางสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน
00:26:58 → 00:27:01 จริงๆนะคะไม่ได้ว่าใครก็จะผ่ากันได้นะคะ
00:27:01 → 00:27:04 วันนี้ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องของการผ่า
00:27:04 → 00:27:07 ตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วนทุพพลภาพกันไปแล้ว
00:27:07 → 00:27:10 นะคะก็เป็นแนวทางไว้เนาะแต่ว่ายังไงก็ดู
00:27:10 → 00:27:12 แลสุขภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นสิ่งที่
00:27:12 → 00:27:15 สำคัญในเบื้องต้นด้วยนะคะวันนี้ขอบคุณคุณ
00:27:15 → 00:27:17 หมอเสถียรพงษ์ค่ะที่มาให้ข้อมูลความรู้ดี
00:27:18 → 00:27:19 ๆกับรายการโรงพยาบาลของเรานะคะขอบคุณค่ะ
00:27:19 → 00:27:21 สวัสดีค่ะ
00:27:21 → 00:27:24 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังทั้งหมดเวลาของรายการ
00:27:24 → 00:27:26 รอหมอทาง Thai PBS port Class แล้วนะ
00:27:26 → 00:27:28 คะเราจะกลับมาพบกันใหม่ครั้งหน้าขอบคุณ
00:27:28 → 00:27:33 ที่ติดตามฟังนะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:27:33 → 00:27:36 อะไรที่ทำให้คนไทยชอบไปหาหมอดูมากกว่า
00:27:36 → 00:27:39 ปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์และทำไมคน
00:27:39 → 00:27:42 ไทยไปปรึกษากับหมอดูดรสุวาวุฒิวงศ์ธัง
00:27:42 → 00:27:45 สวัสดิ์นักจิตวิทยาการศึกษามาเล่าให้ฟัง
00:27:45 → 00:27:49 ครับผมว่าจริงๆเรื่องหมอดูครับมันเป็น
00:27:49 → 00:27:52 อาชีพที่แบบโอ้โหอยู่กับเรามานานเนาะถ้า
00:27:52 → 00:27:54 ย้อนกลับไปหลายปีอ่ะครับไม่รู้หลายร้อยปี
00:27:54 → 00:27:57 หรือพันปีนะก็จะมีโหราศาสตร์โหราศาสตร์
00:27:57 → 00:27:59 เนี่ยอยู่มาเก่าแก่มากเพราะว่าเป็นเรื่อง
00:27:59 → 00:28:02 สัตว์ของดวงดาวเนาะมันก็จะมีของแบบอาจจะ
00:28:02 → 00:28:04 เป็นตั้งแต่ชนเผ่าอาจจะเป็น chaman อาจจะ
00:28:04 → 00:28:06 เป็นคนที่เชื่อเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวแล้ว
00:28:06 → 00:28:09 มันก็พัฒนามาสู่การเก็บสถิติเกี่ยวกับ
00:28:09 → 00:28:11 พื้นดวงชะตาการเกิดอะไรอย่างนี้ค่ะเพราะ
00:28:11 → 00:28:14 งั้นเรื่องนี้สารพวกนี้มันมาด้วยความ
00:28:14 → 00:28:16 เชื่ออยู่ก่อนที่จะมีวิทยาศาสตร์ได้อีก
00:28:16 → 00:28:18 จริงๆวิทยาศาสตร์มีอยู่แล้วเนาะแต่ว่าการ
00:28:18 → 00:28:21 ก่อขึ้นมาของวิทยาศาสตร์หรือศาสตร์หรือ
00:28:21 → 00:28:22 ความรู้ที่จับต้องได้และสรุปเป็นระบบ
00:28:22 → 00:28:25 เนี่ยมันเกิดขึ้นหลังความเชื่อเพราะ
00:28:25 → 00:28:28 ฉะนั้นยังไงก็ตามครับเอ่อเขาเป็นประเทศ
00:28:28 → 00:28:30 ไทยเนี่ยด้วยสิ่งที่มันเป็นโหราศาสตร์
00:28:30 → 00:28:33 หรือเป็นหมอดูพวกเนี้ยอยู่มานานกว่าอยู่
00:28:33 → 00:28:35 แล้วในขณะที่สหจิตวิทยาหรือศาสตร์ทาง
00:28:36 → 00:28:37 จิตเวชอะไรเงี้ยครับทำแพทยศาสตร์แล้วก็
00:28:37 → 00:28:39 ตามเนี่ยมันเกิดขึ้นมาทีหลังเพราะฉะนั้น
00:28:39 → 00:28:43 คนจะรู้จักสิ่งแรกมากกว่าสิ่งหลังสิ่ง
00:28:43 → 00:28:44 หลังเนี่ยถ้าถามว่าทุกคนทุกวันนี้รู้จัก
00:28:44 → 00:28:49 ไหมจิตวิทยาคืออะไรผมว่าไม่เยอะนะสัดส่วน
00:28:49 → 00:28:51 เผลอๆ 100% อาจจะรู้จักสัก 20% แต่อย่าง
00:28:51 → 00:28:52 น้อยก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่อาจจะรู้
00:28:52 → 00:28:54 จักแค่ 5%
00:28:54 → 00:28:56 ทุกวันนี้คนก็รู้จักจิตวิทยามากขึ้นรู้
00:28:56 → 00:28:58 จักณจิตวิทยามากขึ้นแต่ความรู้สึกพร้อมใน
00:28:58 → 00:29:00 การจะเข้าไปหาเนี่ยครับอาจจะไม่เยอะเท่า
00:29:00 → 00:29:02 หมอดูคนอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ยการเข้าหา
00:29:02 → 00:29:04 จิตแพทย์นั้นจิตวิทยาคือป่วยหรือเปล่า
00:29:04 → 00:29:06 เป็นจิตเวชหรือเปล่าหรือแบบต้องมีปัญหา
00:29:06 → 00:29:08 หนักไปหรือเปล่าอย่างเงี้ยครับเพราะว่า
00:29:08 → 00:29:09 การเข้าไปคุยกับจิตแพทย์กับนักจิตวิทยา
00:29:09 → 00:29:11 เนี่ยมันจะมีเหมือนคล้ายๆสิ่งที่เรียกว่า
00:29:11 → 00:29:14 มายากลเนอะบางทีเราจะเห็นตามละครไว้ก่อน
00:29:14 → 00:29:17 ที่แบบจะต้องใส่บทจิตแพทย์มาตอนจบที่ตัว
00:29:17 → 00:29:21 ร้ายเนี่ยบ้าไปเลยเออแล้วก็เข้าหลังคาแดง
00:29:21 → 00:29:23 อะไรอย่างเงี้ยที่เขาว่ากันถูกมั้ยฮะก็จะ
00:29:23 → 00:29:26 มีภาพว่าจิตแพทย์ทำงานแบบนั้นถ้าถามว่า
00:29:26 → 00:29:28 ใช่ไหมก็ใช่แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะฮะเพราะ
00:29:28 → 00:29:30 จริงๆแล้วงานของจิตแพทย์เนี่ยก็จะมีส่วน
00:29:30 → 00:29:32 บางคนปกติด้วยที่อาจจะมีปัญหาการนอนหลับ
00:29:32 → 00:29:34 หรือบางทีมีปัญหาความเครียดอย่างเงี้ย
00:29:34 → 00:29:37 ครับแล้วจำเป็นต้องพบจิตแพทย์อาจจะมียา
00:29:37 → 00:29:40 บางตัวช่วยให้คลายเครียดได้เหมือนกัน
00:29:40 → 00:29:42 หรือฝั่งณจิ๋ววิทยาเองก็ตามก็จะปรากฏใน
00:29:42 → 00:29:45 หนังที่แบบหรือตามข่าวที่ว่าไอ้โน้มน้าว
00:29:45 → 00:29:49 ใจมีพูดให้เราแบบเค้าให้ตามอาจจะมีเขา
00:29:49 → 00:29:51 เรื่องเดียวกันหลอกลวงอะไรเงี้ยฮะเออบาง
00:29:51 → 00:29:54 ทีมันก็ทำให้คนรู้สึกไม่แน่ใจว่าการเข้า
00:29:54 → 00:29:57 ไปหาจะโอเคไหมแล้วถ้าเปิดเรื่องคุยเนี่ย
00:29:57 → 00:30:01 มันจะแบบทำให้รู้สึกเหมือนมีปัญหาหรือ
00:30:01 → 00:30:04 เปล่าผิดปกติไหมจะถูกเปิดมิติที่มันลึกๆ
00:30:04 → 00:30:06 แล้วเราไม่พร้อมจะเปิดหรือเปล่าอีกอย่าง
00:30:06 → 00:30:08 นึงก็คือว่านะจิตวิทยาจิตแพทย์ก็เป็นคน
00:30:08 → 00:30:10 เหมือนเรามันคือการเปิดไปคุยเรื่องชีวิต
00:30:10 → 00:30:13 ที่เป็นกับคนเท่าๆเราแต่สมมุติย้อนมาฝั่ง
00:30:13 → 00:30:16 หมอดูเนาะผมว่านะครับคำว่าหมอดูในตัวคำ
00:30:16 → 00:30:18 เองเนี้ยในตัวคำมันเองนะเขามาหมอดูเนี่ย
00:30:18 → 00:30:22 ในจิตของเรานะครับมีมีการตีความคำว่าหมอ
00:30:22 → 00:30:30 ดูอยู่
00:30:30 → 00:30:33 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application
00:30:33 → 00:30:35 ของไทยพีแบสถ์
00:30:35 → 00:30:38 spotify soundcloud Google podcast
00:30:38 → 00:30:40 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:40 → 00:30:47 Thai PBS portcast PBS beautiful
00:30:47 → 00:30:53 [เพลง]