00:00:00 → 00:00:05 หน้าเบี้ยวจากเส้นประสาทใบหน้าอักเสบกับ
00:00:05 → 00:00:10 หน้าเบี้ยวที่เกิดจากเส้นเลือดในสมองตีบ
00:00:10 → 00:00:11 แตกต่างกันอย่างไร
00:00:11 → 00:00:13 มาฟังกันดูนะครับ
00:00:13 → 00:00:19 [เพลง]
00:00:19 → 00:00:22 สวัสดีครับทุกท่านแพทย์หมอเฉพาะทางบาด
00:00:22 → 00:00:25 เดียวและ YouTube Channel หมอช็อตทางบาด
00:00:25 → 00:00:28 เดียวนะครับกระผมหมอเกมนายแพทย์อดุลชัย
00:00:28 → 00:00:30 ธรรมาแสงเสริฐนะครับก็เป็นศัลยแพทย์แล้ว
00:00:30 → 00:00:33 ก็สันยภาพตกแต่งนะครับกลับมาอีกครั้ง
00:00:33 → 00:00:36 หนึ่งในเรื่องของคนดังกับโลกและก็คำถาม
00:00:36 → 00:00:39 ทางบ้านไปพร้อมๆกันเลยนะครับนะหลายคนคงพอ
00:00:39 → 00:00:43 จะรู้แล้วว่าคุณมดตามนะครับนะแกมีปัญหา
00:00:43 → 00:00:46 เรื่องเกี่ยวกับใบหน้าเบี้ยวปากเบี้ยวนะ
00:00:46 → 00:00:49 ครับหลายท่านก็คงจะรู้แล้วว่ามันเกิดจาก
00:00:49 → 00:00:52 เส้นประสาทใบหน้าอักเสบ
00:00:52 → 00:00:56 แต่เผอิญมีคำถามถามเข้ามาว่าหมอ
00:00:56 → 00:01:00 หน้าเบี้ยวที่มันเกิดจากเส้นประสาทใบหน้า
00:01:00 → 00:01:01 อักเสบเนี่ย
00:01:01 → 00:01:04 กับหน้าเบี้ยวที่มันเกิดจาก Stroke มัน
00:01:04 → 00:01:09 แตกต่างกันยังไงมันสามารถมองออกได้ไหมชาว
00:01:09 → 00:01:12 บ้านโดยทั่วไปเนี่ยสามารถแยกออกกันได้ไหม
00:01:12 → 00:01:16 เพราะอะไรเพราะถ้าเป็นหน้าเบี้ยวจาก
00:01:16 → 00:01:19 Stroke คุณต้องรีบไปโรงพยาบาลภายใน 6
00:01:19 → 00:01:20 ชั่วโมงนะ
00:01:20 → 00:01:23 เพราะถ้าสมมุติเลยเวลา 6 ชั่วโมงไปแล้ว
00:01:23 → 00:01:26 หมอก็ไม่ฉีดยาสลายลิ่มเลือดให้คุณคุณ
00:01:26 → 00:01:29 ต้องการเป็นอัมพาตไปหรืออย่างที่บอกว่า
00:01:29 → 00:01:32 อาการหน้าเบี้ยวมันเริ่มเป็นอาการเริ่ม
00:01:32 → 00:01:37 แรกของการเป็นเขาเรียกว่า Stroke เส้น
00:01:37 → 00:01:41 เลือดในสมองตีบก่อนที่มันจะมีอาการแขนขา
00:01:41 → 00:01:43 อ่อนแรงไป
00:01:43 → 00:01:46 เข้าใจไหมเพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าเฮ้ย
00:01:46 → 00:01:50 ถ้าเราสามารถแยกออกได้โดยเร็วเราจะได้รีบ
00:01:50 → 00:01:53 ไปโรงพยาบาลก่อนไม่ใช่รอจนหน้าเบี้ยวแขน
00:01:53 → 00:01:57 ขาวีคอ่อนแรงไปเลยถึงเวลานั้นหมอเขาก็จะ
00:01:57 → 00:02:00 ไม่ฉีดยาให้เราแล้วล่ะสินึกออกไหม
00:02:00 → 00:02:04 มาดูกัน
00:02:04 → 00:02:08 ก่อนอื่นขอเล่าเคสคุณมดดำก่อนคือคุณมดดำ
00:02:08 → 00:02:12 เนี่ยแกไปทำฟันใช่ไหมแล้วปรากฏว่าภายใน
00:02:12 → 00:02:15 วันสองวันเนี่ยหลังจากทำฟันเสร็จหน้าแกก็
00:02:15 → 00:02:18 เบี้ยวออกรายการแล้วก็มีคนทักทำไมคุณมดดำ
00:02:18 → 00:02:22 หน้าเบี้ยวแอดมินเข้ามาตอบเข้ามาตอบว่าไป
00:02:22 → 00:02:25 ทำฟันมารักษารากฟันหน้าคงบวมเลยเบี้ยวไป
00:02:25 → 00:02:28 ข้างนึงฟังดูก็ดูเหมือนไม่มีอะไรใช่ไหม
00:02:28 → 00:02:32 ปรากฏว่าคุณมดดำแกก็เอะใจเพราะว่าใน
00:02:32 → 00:02:35 Comment ก็บอกว่าเอ๊ะเป็นเบลเราซี่หรือ
00:02:35 → 00:02:39 เปล่าคุณหมอถามแกไม่สบายใจก็กลับไปหาหมอ
00:02:39 → 00:02:40 ฟัน
00:02:40 → 00:02:44 หมอฟันคราวนี้ก็ตกกะใจสิตัวเองรักษาราก
00:02:44 → 00:02:48 ฟันใช่ไหมมันไปทำอะไรเกี่ยวกับเส้นประสาท
00:02:48 → 00:02:51 ใบหน้าหรือเปล่าเลยทำให้คุณมดดำหน้า
00:02:51 → 00:02:53 เบี้ยวเดี๋ยวมาดูกัน
00:02:53 → 00:02:57 หมอฟันเนี่ยเวลาเขารักษารากฟันเนี่ยเส้น
00:02:57 → 00:03:00 ประสาทที่เกี่ยวกับฟันเนี่ยมันออกมาจาก
00:03:00 → 00:03:03 เส้นประสาทคู่ที่ 5 เทรนเหนี่ยวเนิร์ฟคู่
00:03:03 → 00:03:06 ที่ 5 หรือภาษาแพทย์ที่เรียกว่าไต
00:03:06 → 00:03:09 เทอร์มินอลเนิร์ฟมันก็จะแบ่งเป็นร้านของ
00:03:09 → 00:03:12 มันนะเป็น superior
00:03:12 → 00:03:17 ที่แยกออกมาจากร้านที่เป็น maxil
00:03:17 → 00:03:21 เอาเป็นว่าเอาง่ายๆมันเป็นเรื่องของเส้น
00:03:21 → 00:03:23 ประสาทคู่ที่ 5
00:03:23 → 00:03:26 เส้นสั่งผู้ที่ 5 เนี่ยมันรับ
00:03:26 → 00:03:30 มันทำหน้าที่เกี่ยวกับความรู้สึกบนใบหน้า
00:03:30 → 00:03:32 กับเรื่องของการปลดเคี้ยว
00:03:32 → 00:03:37 แล้วก็กัด
00:03:37 → 00:03:43 ว่าเออหน้าก็ไม่ได้ชาเขียวก็ยังเคี้ยวได้
00:03:43 → 00:03:46 แรงก็ยังดีแรงจัดก็ยังโอเค
00:03:46 → 00:03:50 ไม่น่าเกี่ยวกับฉันหรอกมั้งเขาก็ทำการ
00:03:50 → 00:03:54 ตรวจต่อไปปรากฏว่าเอ้ยคุณมดดำหลับตาได้
00:03:54 → 00:04:00 ไม่สนิทตามประโยชน์
00:04:00 → 00:04:06 เวลายิ้มขึ้นข้างนึงอีกข้างนึงไม่ขึ้น
00:04:06 → 00:04:08 เขาหมอฟันก็เลยบอกว่า
00:04:08 → 00:04:13 สงสัยไม่เกี่ยวกับของฉันค่ะน่าจะเกี่ยว
00:04:13 → 00:04:17 กับเส้นประสาทคู่ที่ 7 มากกว่า
00:04:17 → 00:04:19 เส้นประสาทคู่ที่ 7 ทำหน้าที่อะไรแน่นอน
00:04:20 → 00:04:25 ควบคุมการทำงานของใบหน้าของเราและยังควบ
00:04:25 → 00:04:27 คุมเกี่ยวกับต่อมน้ำตาเกี่ยวกับต่อมน้ำ
00:04:27 → 00:04:32 ลายและความรู้สึกเกี่ยวกับลิ้นลิ้นมีลิ้น
00:04:32 → 00:04:34 ชาด้วย
00:04:34 → 00:04:38 มีลิ้นชาร่วมด้วยหน้าขยับไม่ได้ด้วยอัน
00:04:38 → 00:04:41 นี้เส้นประสาทคู่ที่ 7 รับตาไม่สนิทเลิก
00:04:41 → 00:04:45 คิ้วไม่ขึ้นเส้นประสาทคู่ที่ 7
00:04:45 → 00:04:49 คุณหมอฟันเขาก็เลยบอกว่าคุณมดดำต้องไปให้
00:04:49 → 00:04:53 หมอระบบประสาทช่วยดูแล้วล่ะว่าเส้นประสาท
00:04:53 → 00:04:56 คู่ที่ 7 มันมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่ามัน
00:04:56 → 00:05:01 อาจจะมีคาบเกี่ยวกันไหมเกี่ยวกับการทำฟัน
00:05:01 → 00:05:04 อาจจะไม่เกี่ยวกันเลยหรืออาจจะมีบางส่วน
00:05:04 → 00:05:07 เช่นว่าสมมุติเราไปรักษารากฟันน่ะแสดงว่า
00:05:07 → 00:05:11 ร่างกายเราก็ต้อง Week นะผ่านการทำฟัน
00:05:11 → 00:05:13 หรือป่วยไม่สบายมา
00:05:13 → 00:05:17 และทำให้มันเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่ามีการ
00:05:17 → 00:05:20 ติดเชื้ออะไรขึ้นหรือเปล่าหรือภูมิคุ้ม
00:05:20 → 00:05:23 กันเราตกลงมาหรือเปล่าทำให้เส้นประสาทใบ
00:05:23 → 00:05:26 หน้าเราเกิดปัญหาได้เพราะมันคาบเกี่ยวกัน
00:05:26 → 00:05:28 ใช่ไหมมาดู
00:05:28 → 00:05:33 ภาพคุณวัดดับเห็นตัวอักษร L กับ R ใช่ไหม
00:05:33 → 00:05:36 ให้ทายก่อนและคิดในใจนะ
00:05:36 → 00:05:38 ด้านไหนที่มีปัญหา
00:05:38 → 00:05:42 ด้านที่เป็น L หรือด้านที่เป็น R ที่มี
00:05:42 → 00:05:47 ปัญหาที่บอกว่าเส้นประสาทใบหน้ามันอักเสบ
00:05:47 → 00:05:53 เดี๋ยวไปแล้วฟังกันต่อไปนะฟังกันต่อไปนะ
00:05:53 → 00:05:56 มาถึงคำถามก่อนว่าหมอคนเป็นเส้นเลือดใน
00:05:56 → 00:05:59 สมองตีบหรือ Stroke กับ Bell housing
00:05:59 → 00:06:02 มันต่างกันยังไงเอาง่ายๆ Stroke มันเกิด
00:06:02 → 00:06:05 ในสมองด้านบนใช่ไหมมันเกิดในเนื้อสมอง
00:06:05 → 00:06:06 ด้านบน
00:06:06 → 00:06:10 แต่เบลพัลซี่มันเกิดจากเส้นประสาทใบหน้า
00:06:10 → 00:06:14 ที่มันใต้ลงมาอีกนะ
00:06:14 → 00:06:16 เพราะฉะนั้นเอาง่ายๆก็คือว่าไอ้ตัวกากบาท
00:06:16 → 00:06:20 เนี่ยมันเกิดขึ้นด้านบนใช่ไหม Stroke
00:06:20 → 00:06:23 เส้นประสาทบนใบหน้าเกิดปัญหาคือเกิดจะ
00:06:23 → 00:06:27 ขึ้นต่างๆด้านล่างปรากฏว่าบนสมองของเรา
00:06:27 → 00:06:31 เนี่ยมันมีการควบคุมใบหน้ามาจากทั้งสอง
00:06:31 → 00:06:32 ฝั่ง
00:06:32 → 00:06:37 มาจากทั้งสองฝั่งไม่ได้สั่งใดสั่งเลย
00:06:37 → 00:06:40 เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็น Stroke ทางด้านเอา
00:06:40 → 00:06:45 ง่ายๆทางด้านขวาใบหน้าทางด้านซ้ายคุณจะ
00:06:45 → 00:06:46 เบี้ยว
00:06:46 → 00:06:51 แต่ถ้าคุณเป็น housy ทางด้านซ้าย
00:06:51 → 00:06:54 เส้นประสาทใบหน้าทางด้านซ้ายของคุณก็คือ
00:06:54 → 00:06:55 จะมีปัญหา
00:06:55 → 00:06:57 เข้าใจไหม
00:06:57 → 00:06:59 คำนี้อย่างที่บอกว่าเมื่อสมองมันควบคุม
00:07:00 → 00:07:06 การทำงานของใบหน้าทั้งสองฝั่ง
00:07:06 → 00:07:10 คนที่เป็น belp housy ใบหน้าทั้งซีกนั้น
00:07:10 → 00:07:15 จะเป็นอัมพาตหมดก็คือตั้งแต่หน้าผากคิ้ว
00:07:15 → 00:07:21 ตาแก้มมุมปากจะตกหมดเลยไม่สามารถทำงานได้
00:07:21 → 00:07:25 คนที่เป็นเบลนะแต่คนที่เป็น Stroke อย่าง
00:07:25 → 00:07:30 ที่บอกว่าใบหน้าส่วนบนมันยังสามารถควบคุม
00:07:30 → 00:07:33 ได้จากสมอง 2 ข้างเมื่อเป็น Stroke ด้าน
00:07:33 → 00:07:35 นึงเส้นเลือดสมองขาดเลือดด้านหนึ่งอีก
00:07:35 → 00:07:38 ด้านหนึ่งมันยังทำงานอยู่งั้นในคนพวกนี้
00:07:38 → 00:07:43 จะทำอะไรได้เลิกคิ้วได้แต่มุมปากอาจจะตก
00:07:43 → 00:07:50 หลับตาได้สนิทแต่มุมปากต่อยิ้มไม่ขึ้น
00:07:50 → 00:07:56 ได้หลับตาสนิทนะแต่เบลล์ทำไม่ได้เป็นทั้ง
00:07:56 → 00:08:00 ซีกเลยสโต๊คเป็นแค่ครึ่งล่าง
00:08:00 → 00:08:04 ด้านบนยังทำงานปกติ
00:08:04 → 00:08:10 ด้านซ้ายหรือด้านขวา L หรือ R ที่มีปัญหา
00:08:10 → 00:08:14 คำตอบคือทั้ง 2 ภาพนะผู้ชายและผู้หญิง
00:08:14 → 00:08:19 ด้านอาเป็นด้านที่ผิดปกติเห็นไหม
00:08:19 → 00:08:23 ไม่มีไม่มีรอยบนหน้าผากเลยมุมปากยกไม่
00:08:23 → 00:08:23 ขึ้น
00:08:24 → 00:08:27 ถ้าคนที่ตรวจไม่เป็นจะคิดว่าด้าน R คือ
00:08:27 → 00:08:32 ด้านปกตินะแล้วด้าน L คือด้านผิดปกติแต่
00:08:32 → 00:08:35 จริงๆแล้วด้าน L คือด้านปกติเขาเลิกคิ้ว
00:08:35 → 00:08:39 ได้เขายิ้มได้แต่ด้านขวาไม่ขยับเลย
00:08:39 → 00:08:44 คราวนี้ย้อนกลับไปที่คุณมดดำคุณก็ทำด้าน
00:08:44 → 00:08:48 ที่ผิดปกติคือด้าน L เพราะด้านขวาจะเห็น
00:08:48 → 00:08:51 ว่าหน้าผากเขายังมีรอยอยู่ก็เลิกคิ้วได้
00:08:51 → 00:08:54 ใช่ไหม
00:08:54 → 00:08:57 แต่ด้านซ้ายดูเหมือนถ้าคนไม่รู้คิดว่า
00:08:57 → 00:09:00 ด้านซ้ายปกติแต่จริงด้านซ้ายผิดปกตินั้น L
00:09:00 → 00:09:02 ผิดปกตินะ
00:09:03 → 00:09:05 คำนี้อย่างที่บอกว่า
00:09:05 → 00:09:09 เส้นประสาทบนใบหน้ามันอักเสบหรือมันเกิด
00:09:09 → 00:09:13 ปัญหามันก็ต้องดูว่าเกิดปัญหาอะไรได้บ้าง
00:09:13 → 00:09:17 อันดับ 1 เลยคือไม่ใช่
00:09:17 → 00:09:19 ไม่ทราบสาเหตุ
00:09:19 → 00:09:23 บางคนก็บอกว่าอย่างที่บอกว่าทำงานหนัก
00:09:23 → 00:09:26 เหนื่อยเพลียภูมิคุ้มกันตกร่างกายก็เป็น
00:09:26 → 00:09:28 ไปได้ก็เป็นไปได้แต่ส่วนใหญ่ก็คือเป็น
00:09:28 → 00:09:33 อะไรที่หมอเขาจะพยายามหาสาเหตุได้ให้ว่า
00:09:33 → 00:09:37 เออเป็นเพราะพักผ่อนน้อยทำงานหนัก
00:09:37 → 00:09:39 ความเครียด
00:09:39 → 00:09:42 อาจจะอยู่ในกลุ่มนั้นนะ
00:09:42 → 00:09:46 อันที่ 2 คือการติดเชื้อนะติดเชื้อก็ติด
00:09:46 → 00:09:49 เชื้อไวรัสแหละไม่ว่าจะเป็น
00:09:49 → 00:10:02 อะไรล่ะไวรัส
00:10:02 → 00:10:06 หรือบางคนป่วยเป็นโรคหวัดบางทีป่วยเป็น
00:10:06 → 00:10:08 โรคหวัดแล้วมันลามไปหูวันแล้วมันมาที่
00:10:08 → 00:10:12 เส้นประสาทใบหน้าก็ทำให้เกิดเส้นประสาทใบ
00:10:12 → 00:10:14 หน้าอักเสบ
00:10:14 → 00:10:19 ถ้าจำไม่ผิดนะเคยมีข่าวที่ว่าครูอ่ะเอา
00:10:19 → 00:10:21 มือไปตกหน้าเด็ก
00:10:21 → 00:10:24 แล้วก็กดหน้าเบี้ยวถ้าใครเคยจำข่าวไม่ได้
00:10:24 → 00:10:27 อันนี้ก็เป็นเรื่องเลยนะครับนะ
00:10:27 → 00:10:30 แล้วนอกนั้นก็เป็นสาเหตุอื่นๆก็เป็น
00:10:30 → 00:10:34 เรื่องยากๆและอาจจะมีเนื้องอกเนื้องอก
00:10:34 → 00:10:37 หรืออะไรที่ต่อมน้ำลงน้ำลายอะไรอย่างนี้
00:10:37 → 00:10:41 นะอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงซึ่งอย่างที่
00:10:41 → 00:10:42 บอกว่า
00:10:42 → 00:10:46 บางทีพอเราเห็นว่าเป็นหน้าเบี้ยวหรือว่า
00:10:46 → 00:10:48 บอกว่าคิดว่าเขาเป็นเบลเส้นประสาทใบหน้า
00:10:48 → 00:10:51 เสร็จก็ไม่ได้ไปตรวจอย่างอื่นอันนี้ไม่
00:10:51 → 00:10:52 ได้นะ
00:10:52 → 00:10:56 เคสนี้ตรวจแล้วอย่างน้อยต้องไปทำ CT ไป
00:10:56 → 00:10:59 ตรวจเส้นประสาทใบหน้าให้ละเอียดไปดูว่า
00:10:59 → 00:11:02 มันมีอะไรผิดปกติอย่างอื่นหรือเปล่าเพราะ
00:11:02 → 00:11:06 บางทีมีหลายเคสเหมือนกันที่มัวแต่ไปฟันธง
00:11:06 → 00:11:09 ว่าเป็นเส้นประสาทใบหน้าอักเสบแล้วก็เสีย
00:11:09 → 00:11:13 เวลาไปในการรักษาเส้นประหลาดเส้นประสาทใบ
00:11:13 → 00:11:18 หน้าเสร็จจำไม่ได้รับสายอย่างอื่น
00:11:18 → 00:11:21 การรักษาอย่างที่บอกแบบตามให้สนิทใช่ไหม
00:11:21 → 00:11:26 เขาต้องมี iPad มาปิดตาอย่างน้อยเนี่ย 72
00:11:26 → 00:11:28 ชั่วโมงเพราะว่าบางทีเนี่ยอย่างที่บอกว่า
00:11:28 → 00:11:31 เส้นประสาทใบหน้ามันควบคุมต่ำน้ำตาลด้วย
00:11:31 → 00:11:35 บางทีน้ำตามันไหลหลับตาก็ไม่สนิทหรือบาง
00:11:35 → 00:11:37 ที
00:11:37 → 00:11:41 มันเกิดแผลที่กระจกตาก็ได้นะครับนะหลัง
00:11:41 → 00:11:44 จากนั้นอย่างที่บอกว่ารักษาหลักๆเลยคือ
00:11:44 → 00:11:50 ให้เธอลอยคือลดการอักเสบนะเต็มที่พอให้
00:11:50 → 00:11:53 สเตอรอยด์หรือเพนนิโซโลนกินเสร็จเนี่ยถ้า
00:11:53 → 00:11:55 สมมุติว่าเขาสงสัยว่าเกิดจากเชื้อไวรัส
00:11:55 → 00:12:00 เขาก็จะให้ยาต้านยาฆ่าไวรัสก่อนซึ่งก็
00:12:00 → 00:12:03 ส่วนใหญ่เขาก็จะให้นะเพราะอย่างที่บอกว่า
00:12:03 → 00:12:07 เขามันไม่รู้สาเหตุชัดเจนมันไปตามจับตัว
00:12:07 → 00:12:09 ไม่ได้ว่ามันเป็นวัยล้งหรือไม่ใช่มันเป็น
00:12:09 → 00:12:14 ไวรัสหรือเปล่าดาราป่วยกันเยอะนะ
00:12:14 → 00:12:18 คุณพลอยเชิญมานะแล้วก็คุณต่างๆ
00:12:18 → 00:12:21 ดาราทั้งนั้นเลยแต่อย่างที่บอกว่าโลกนี้
00:12:21 → 00:12:24 ไม่ได้สงวนให้กับดารานะแต่ว่าพอจะลาป่วย
00:12:24 → 00:12:27 เนี่ยมันก็ทำให้เรารู้จักโลกพวกนี้ได้มาก
00:12:27 → 00:12:30 ขึ้นนะก็อย่างที่บอกว่าถือว่า
00:12:30 → 00:12:36 ให้วิทยาทานกับประชาชนทั่วไป
00:12:36 → 00:12:40 ประชาชนทั่วไปก็ป่วยได้เหมือนกันนะอย่าง
00:12:40 → 00:12:41 ที่บอก
00:12:41 → 00:12:45 บางทีก็ป่วยนี่ก็เอาภาพมาลงนะว่าเออเขา
00:12:45 → 00:12:47 ป่วยหลับตาเนี่ยหลับตาไม่เสี่ยงเถอะนะ
00:12:47 → 00:12:51 ด้านที่ยังเปิดได้อยู่เนี่ยคือหลับตาไม่
00:12:51 → 00:12:54 สนิทนะแล้วเวลาเขารักษาอย่างที่บอกว่าเรา
00:12:54 → 00:12:56 จะเห็นว่าคุณมดดำเข้าไปฝังเข็ม
00:12:56 → 00:12:59 การฝังเข็มเนี่ยเขาต้องกระตุ้นไฟฟ้าด้วย
00:12:59 → 00:13:03 นะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ
00:13:03 → 00:13:06 เพื่อให้มันทำงานด้วยพอเส้นประสาทเนี่ย
00:13:06 → 00:13:09 มันไม่ได้ทำงานหรือมันอักเสบเนี่ยพอมัน
00:13:09 → 00:13:11 ไม่ได้ทำงานกล้ามเนื้อไม่ได้มันก็จะฝ่อ
00:13:11 → 00:13:13 โดยเพราะฉะนั้นเขาก็จะเป็นต้นกระตุ้นการ
00:13:13 → 00:13:17 ทำงานของมันให้มันกลับมาทำงานได้ปกติซึ่ง
00:13:17 → 00:13:22 โดยปกติอย่างที่บอกกระบวนการรักษาหรือจะ
00:13:22 → 00:13:25 ดีขึ้นเนี่ยนะมันก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย
00:13:25 → 00:13:28 นะประมาณเดือนนึง
00:13:28 → 00:14:03 เกือบใช้คำว่าเดือนนึงเกือบจะปกติ
00:14:03 → 00:14:06 [เพลง]