00:00:00 → 00:00:03 เบื้องต้นเลยค่ะคุณหมอขาสำหรับฝุ่น PM
00:00:03 → 00:00:07 2.5 เนี่ยเราก็แน่นอนเนาะเราต้องสูดลม
00:00:07 → 00:00:10 หายใจหายใจกันทุกวันอย่างนี้เนี่ยนะคะ
00:00:10 → 00:00:12 เข้าไปในระบบทางเดินหายใจของเราแล้วเนี่ย
00:00:12 → 00:00:16 มันเป็นผลยังไงบ้างแล้วก็ถ้าเชื่อมโยงกับ
00:00:16 → 00:00:19 คำว่าภูมิแพ้โรคภูมิแพ้เนี่ยมันมีความ
00:00:19 → 00:00:22 เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างไรได้บ้าง
00:00:22 → 00:00:26 คะครับก่อนก่อนอื่นเลยนะครับนะก็ต
00:00:26 → 00:00:30 สถานการณ์ต PM 2.5 นั้นเนี่ยเ่อมันไม่
00:00:30 → 00:00:33 ใช่แค่เราสูดไปแล้วก็รู้สึกแล้วนะฮะก็คือ
00:00:33 → 00:00:35 เราสามารถที่จะมองเห็นได้เลยใช่มั้ยครับ
00:00:35 → 00:00:39 ในชงก็เ่าสัปดาห์ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
00:00:39 → 00:00:42 เนี่ยเราเราเรามองเห็นตสภาพอากาศต่างๆเ
00:00:42 → 00:00:45 เนี่ยเอ่อเป็นมันมันไม่ใช่หมอกมันเป็น
00:00:45 → 00:00:49 ความชัดเจนนะครับครับานี้เตัวตัวเนี้ยเ่อ
00:00:49 → 00:00:53 เรียกว่ามลภาวะนะฮะพูชนะครับนะฮะตัว
00:00:53 → 00:00:57 pollution นั้นเนี่ยเ่อมันมีผลทำให้กโรค
00:00:57 → 00:01:01 ภูมิแพ้เนี่ยเป็นมากขึ้นอ้อนะครับหมอหมอ
00:01:01 → 00:01:04 รักษาเรื่องของคนไข้ภูมิแพ้เนี่ยเอ่อเรา
00:01:04 → 00:01:08 ก็ก็จะโฟกัสว่าเแพ้อะไรนะแล้วก็จะดูแล
00:01:08 → 00:01:11 สุขภาพหลีกเลี่ยงสิ่งที่อ่าเค้าแพ้ได้
00:01:11 → 00:01:15 มั้ยถ้าหลีกเลี่ยงได้ดีมันก็จะหายแต่ว่า
00:01:15 → 00:01:19 ตัวอ่าลูชั่นหรือว่าเอ่อตัวมลภาวะนั้น
00:01:19 → 00:01:22 เนี่ยเป็นอีกปัจจัยนึงนะครับเนี่ยถือว่า
00:01:22 → 00:01:26 เป็นสารก่อความระคายเคืองอือนะครับแล้วมา
00:01:26 → 00:01:29 กระตุ้นทำให้เ่อตัวโรคภัยไข้เจ็บที่เอ่อ
00:01:29 → 00:01:32 คนไข้เขามีต่อทางเดินหายใจหรือแม้แต่ผิว
00:01:32 → 00:01:35 หนังดวงตาอะไรต่างๆนั้นเนี่ยเ่อเขาจะมี
00:01:35 → 00:01:39 อาการกำเริบมากขึ้นอืค่ะเนื่องจากว่าตัว
00:01:39 → 00:01:43 PM เนี่ยมันมันเป็นอนุภาคที่ขนาดเล็ก
00:01:43 → 00:01:45 น้อยกว่า 2.5 ไมครอนใช่มั้ยครับค่ะก็มัน
00:01:46 → 00:01:48 เกิดจากเรื่องการเผาไหม้เกิดจากกระบวนการ
00:01:48 → 00:01:52 ตการเผาอ่าทั้งหลายทั้งเชื้อเพลิงเผาขยะ
00:01:52 → 00:01:54 อ่าเรื่องของอุตสาหกรรมอะไรต่างๆเนี่ย
00:01:54 → 00:01:58 เนี่ยในนั้นเนี่ยมันมันเป็นอนุภาคกฝุ่น
00:01:58 → 00:02:03 จิ๋วๆอืซึ่งมันมีองค์ประกอบของสารเคมีสาร
00:02:03 → 00:02:07 อินทรีย์โลหาหนักแล้วก็อนุภาคตหลากหลายนะ
00:02:07 → 00:02:11 ครับซึ่งมีขนาดเล็กนะฮแล้วก็สามารถที่จะ
00:02:11 → 00:02:16 ซอกซอนแล้วก็ชอนชัยเข้าสู่เนื้อเยื่อหลอด
00:02:16 → 00:02:18 เลือดต่างๆของเราได้ด้วยนะฮเพราะฉะนั้น
00:02:18 → 00:02:22 เอ่อแน่นอนว่าเ่อตรงบริเวณที่ทางเดินหาย
00:02:22 → 00:02:24 ใจผ่านเข้าไปก็คือจะรับมันเข้าไปตั้งแต่
00:02:24 → 00:02:30 จมูกครับปากคอหลอดลมปอดนะครับนะฮค่ะอืแน่
00:02:30 → 00:02:32 นอนแล้วก็ตาดวงตาแล้วก็ผิวหนังอะไรต่างๆ
00:02:33 → 00:02:36 เนี่ยก็จะโดนมันกระทบไปด้วยอ่ะครับอ๋อค่ะ
00:02:37 → 00:02:40 เออๆก็กระทบค่อนข้างที่จะเอ่อเยอะจนน่า
00:02:40 → 00:02:45 ห่วงเลยใช่มั้ยคุณหมออ่าใช่ครับเอาว่าบอก
00:02:45 → 00:02:48 ว่าในช่วงที่ผ่านมาในช่วงที่พีคจัดๆตรง
00:02:48 → 00:02:53 นั้นเนี่ยเอ่อเหมือนกับว่าเอ่อแผนกหมอจะ
00:02:53 → 00:02:56 มีคนไข้มากที่สุดในในโรงพยาบาลไปเลยครับ
00:02:56 → 00:03:00 อืออก็คือคนไครก็จะเคยเป็นภูมิแพ้อยู่
00:03:00 → 00:03:05 แล้วคุมได้ก็คุมไม่ได้เ่อเคยมีจะไม่ติด
00:03:05 → 00:03:08 เชื้อเป็นหวัดอะไรต่างๆก็ติดเชื้อกันมานะ
00:03:08 → 00:03:12 ฮะคนไข้จะมากขึ้นบอกว่ามากกว่า 50 - 80%
00:03:12 → 00:03:15 ได้เลยครับเออผมเนี่ยเอาบอกเลยพี่ขวัญ
00:03:15 → 00:03:18 สัปดาห์ที่ผ่านมาเนี่ยผมปล่อยพี่ขวัญอยู่
00:03:18 → 00:03:21 สถานีคนเดียวเลยฮะเพราะว่าผมเนี่ยโดนโดน
00:03:21 → 00:03:23 โดนเลยด้วยความประมาทของตัวเองด้วยมั้ง
00:03:23 → 00:03:27 คุณหมอคือด้วยปกติเจะนั่งเอ่อรถ
00:03:27 → 00:03:31 มอเตอร์ไซค์รับจ้างใช่มั้ยพี่วพี่วินจาก
00:03:31 → 00:03:34 หมู่บ้านออกมาที่เอ่อรถไฟฟ้าเอ้ยเราเอ้ย
00:03:34 → 00:03:37 เรารู้แหละว่าสัปดาห์นั้นน่ะมันสุเยอะแต่
00:03:37 → 00:03:39 เราก็มั่นใจแป๊บ
00:03:39 → 00:03:42 เดียวแป๊บเดียวเดี๋ยวโแป๊บเดียวถึงแล้ว
00:03:42 → 00:03:45 ไม่ต้องใส่อะไรปกันมันไม่ใช่คำว่ามั่นใจ
00:03:45 → 00:03:49 มันย่ามใจย่ามใจเออนะฮะก็เลยแต่พอปรากฏ
00:03:49 → 00:03:51 ว่านั่นแหละไม่ไม่กี่วันหลังจากนั้นน่ะก็
00:03:51 → 00:03:54 ก็เริ่มมีเจ็บคอมาะคุณหมอเนี่ยแหละเป็น
00:03:54 → 00:03:57 ผู้ประสบเหตุน่าจะเป็นผู้ประสบเหตุ 1 คน
00:03:57 → 00:04:01 นะฮะที่ที่ประสบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 2
00:04:01 → 00:04:04 สัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณนี้คุณหมอค่ะเออ
00:04:04 → 00:04:07 เมื่อเมื่อกี้คุณหมอใช้คำว่าชอนชัย PM 2
00:04:07 → 00:04:11 อ่าใช่ PM 2.5 มีคำว่าชอนชัยอยู่อยู่ใน
00:04:11 → 00:04:14 เอ่อคำตอบของคุณหมอด้วยคือมันเล็กขนาดที่
00:04:14 → 00:04:17 แบบประมาณว่าเข้าไปในร่างกายเราแบบเหมือน
00:04:17 → 00:04:20 ซอกซอนชอนชัยไปได้ลึกถึงขั้นไหนได้บ้าง
00:04:20 → 00:04:23 ถึงปอดถึงหรือว่าในอนุภาคยังไงได้บ้างนะ
00:04:23 → 00:04:27 คะคุณหมอครับคือเ่อถ้าเป็นตขนาดใหญ่ๆ
00:04:28 → 00:04:31 เนี่ยถ้าถเป็นพวกตฝุ่นละอองเกสรดอกไม้
00:04:31 → 00:04:34 อะไรอย่าเเก็มักจะเล็กกว่า 10 ไมครอนใช่
00:04:34 → 00:04:38 มั้ครับนะก็คือมันมีขนาดที่ใหญ่กว่าตตัว
00:04:38 → 00:04:43 PM 2.5 เเประมาณซัก 4 เท่าครับนะแต่พอ
00:04:43 → 00:04:46 PM 2.5 แล้วเนี่ยมันเป็นตทั้งฝุ่นทั้ง
00:04:46 → 00:04:49 สารเคมีอ่าทั้งโลหะหนักอะไรต่างๆเนี่ย
00:04:49 → 00:04:53 อนุภาคมันเล็กพอมันเล็กปุ๊บเนี่ยเ่อไอ้
00:04:53 → 00:04:57 ระบบการกรองของภายในจมูกก็ทางเดินหายใจ
00:04:57 → 00:05:00 เราเเนี่ยเ่อเราก็ไม่สสามารถกรองมันได้
00:05:00 → 00:05:04 เพราะเรามักจะกรองได้เฉพาะตัวหยาบๆแต่พอ
00:05:04 → 00:05:06 ตัวเล็กๆตรงนี้เนี่ยมันอาจจะเล็กจน
00:05:06 → 00:05:09 กระทั่งน้อยอยกว่า 1 ไมครอนได้ด้วยนะครับ
00:05:09 → 00:05:14 ค่ะนะฮทำให้พวกนี้เนี่ยเ่อมันสามารถเข้า
00:05:14 → 00:05:18 ไปเ่อซึมลึกถึงเนื้อเยื่อเราเลยอือถ้า
00:05:18 → 00:05:21 เข้าไปในหลอดลมก็สามารถที่เข้าไปในหลอดลม
00:05:21 → 00:05:24 ขนาดเล็กกถุงลมอะไรต่างๆซึ่งเราจะใช้ใน
00:05:24 → 00:05:27 การเ่อมีเส้นเลือดมาแลกเปลี่ยนออกซิเจน
00:05:27 → 00:05:31 แต่แทนที่มันจะได้ออกซิเจนอย่างเดียวมัน
00:05:31 → 00:05:33 ก็ได้ไอ้ตัวสารเคมีเนี้ยทะลุเข้าไปด้วย
00:05:33 → 00:05:37 เพราะฉะนั้นมันมันมันก็สามารถที่จะเ่อเอา
00:05:37 → 00:05:40 เหมือนเหมือนเรารับพิษอ่ะฮะค่ะนะเรารับ
00:05:40 → 00:05:43 สารพิษสารกามะเร็งอะไรต่างๆเๆเข้าไปเลย
00:05:43 → 00:05:45 เข้าไปในส่วนของร่างกายพอเข้าเลือดได้มัน
00:05:45 → 00:05:48 ก็คือไปทั่วใช่มั้ยครับใช่ค่ะไปทั่วร่าง
00:05:48 → 00:05:51 กายได้เลยอย่างนั้นนะครับอืค่ะซึ่งซึ่ง
00:05:51 → 00:05:56 มันทำให้เอ่อมีอาการเ่อที่กลไกการเกิดแต่
00:05:56 → 00:05:59 ตัวโลกนั้นเนี่ยเ่ามันจะไม่เหมือนภูมิแพง
00:05:59 → 00:06:03 แพ้ไปตัวภูมิแพ้เนี่ยเเราเราได้รับสารกอบ
00:06:03 → 00:06:06 ภูมิแพ้แล้วแล้วเราจำความได้ว่าเราเคยแพ้
00:06:06 → 00:06:09 ตัวนี้เนี่ยร่างกายเราก็จะผลิตในเรื่อง
00:06:09 → 00:06:13 ของสาร่าต้านเ่าเเรียกว่าอิมมูโนโกลบูลิน
00:06:13 → 00:06:17 แล้วก็ระบบในการที่จะสร้างอ่าหลังสาร
00:06:17 → 00:06:21 ฮิสตามีนขึึ้นมาต่อเพนั้นสารขอภูมิแพ้นิด
00:06:21 → 00:06:23 เดียวร่างกายเราอาจจะมีอาการเยอะมากแล้ว
00:06:23 → 00:06:26 ก็มีการอักเสบจากไอ้ตัวสารอ่าตัวฮิสตามีน
00:06:26 → 00:06:30 แล้วก็กลไกของเซลล์ในร่างกายครับออืค่ะ
00:06:30 → 00:06:33 งั้นต่อปริมาณความเข้มข้นนั้นเนี่ยอาจจะ
00:06:33 → 00:06:37 ไม่ได้เป็นประเด็นแต่ไอ้ตัวตา PM 2.5
00:06:37 → 00:06:39 เนี่ยมันเป็นสารก่อความระคายเคืองหรือ
00:06:39 → 00:06:42 พอลลูชั่นซึ่งมันขึ้นกับความเข้มข้นของ
00:06:42 → 00:06:46 เขาเลยครับนะความเข้มข้นน้อยเราก็จะเฉยก็
00:06:46 → 00:06:49 ก็อาจจะพอพอไหวพอทนได้แต่พอความเข้มข้น
00:06:49 → 00:06:52 เยอะๆแล้วเนี่ยก็เหมือนกับเราเข้าไปอยู่
00:06:52 → 00:06:57 ลมควันนะฮะค่ะเราก็แย่เลยเราเราก็ต่าทั้ง
00:06:57 → 00:07:00 อักเสบทั้งหายใจลำบากอะไรต่างๆเเนี้ยเกิด
00:07:00 → 00:07:03 ขึ้นได้ครับแล้วก็ปล่อยทำให้อาการภูมิแพ้
00:07:03 → 00:07:08 ที่เคยคุมได้นะครับนะก็กำเริบขึ้นอ๋อครับ
00:07:08 → 00:07:13 แสดงว่าก็คือตัวมลภาวะโดยเฉพาะตัว PM 2.5
00:07:13 → 00:07:16 เนี่ยก็คือเป็นตัวที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้
00:07:16 → 00:07:19 ภูมิแพ้เนี่ยจากเดิมเนี่ยเหมือนเรากินยา
00:07:19 → 00:07:22 แค่ระดับ 1 เม็ด 2 เม็ดก็อาจจะหายไม่ต้อง
00:07:22 → 00:07:25 กินต่อแล้วยาแก้แพ้นะคะแต่ว่าถ้าเป็น
00:07:25 → 00:07:28 ลักษณะแบบเนี้ยมันก็คือเราอาจจะเป็นนาน
00:07:28 → 00:07:31 ขึ้นเหมือนอย่างตัวโโอ๊คเองที่เป็นเ่า
00:07:31 → 00:07:33 ภูมิแพ้เนี่ยช่วงสัปดาห์ก่อนประมาณ 5 วัน
00:07:33 → 00:07:36 หรือ 7 วันนะโอ๊กประมาณเนี่ยครับประมาณ 5
00:07:36 → 00:07:39 วัน 7 วันเนี่ยอยู่สโคปแบบเนี้ยประมาณนี้
00:07:39 → 00:07:42 เจ็บคอเป็นมันจะทำให้เราป่วยนานขึ้นอัน
00:07:42 → 00:07:44 นี้เข้าใจถูกต้องมั้ยคะคุณหมออ่าใช่ครับ
00:07:44 → 00:07:49 อ่านอกจากเอ่อนานขึ้นแล้วแรงขึ้นแล้วก็ไว
00:07:49 → 00:07:53 ขึ้นอืทั้งทั้งอาการจะมากขึ้นไวขึ้น
00:07:53 → 00:07:56 เนื่องจากว่าเ่อถ้าเราดูพื้นฐานของคนที่
00:07:56 → 00:07:59 เป็นภูมิแพ้นั้นเนี่ยค่ะเอ่อเค้าเจะมีมี
00:07:59 → 00:08:01 การอักเสบระดับนึของเยื่อเมือกของเขาอยู่
00:08:01 → 00:08:04 แล้วครับเขาเรียกว่า minimal persistent
00:08:04 → 00:08:07 inflammation คือคนเป็นภูมิแพ้เนี่ยจะ
00:08:07 → 00:08:09 ไม่โดนสารข่อนภูมิแพ้เลยเนี่ยยากมาก
00:08:09 → 00:08:12 เหมือนกันนะฮะเช่นแพ้ไรฝุ่นซึ่งเป็นสิ่ง
00:08:12 → 00:08:15 มีชีวิตนะครับเป็นปรสิตที่อยู่ตามที่หรับ
00:08:15 → 00:08:19 ที่นอนตย้าผ้าอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยเอ่อยัง
00:08:19 → 00:08:21 ไงเราก็รับกันบ้างแต่ว่าอาการมันอาจจะไม่
00:08:21 → 00:08:25 ได้มากครับนะฮะก็คือการอักเสบเล็กๆน้อยๆ
00:08:25 → 00:08:28 เราก็ยังไม่มีอาการนะฮะค่ะแต่พอมีอะไรไป
00:08:28 → 00:08:31 กระตุ้นให้เรามีอาการมากขึ้นไม่ว่าสารก่อ
00:08:31 → 00:08:34 ภูมิแพ้มากขึ้นหรือเอ่อมีก่อสารก่อความ
00:08:34 → 00:08:39 ระคายเคืองหรือเ่อเรื่องของเอ่อตัว PM
00:08:39 → 00:08:41 ตัว pollution อะไรต่างๆมากระตุ้นการ
00:08:41 → 00:08:46 อักเสษมันก็เลยเถิดเกินในเรื่องของกับตัว
00:08:46 → 00:08:48 อ่า minimal persistence inflammation
00:08:48 → 00:08:51 ันเนี้ยมันก็เลยมีอาการเกิดขึ้นอืนะฮะค่ะ
00:08:51 → 00:08:54 อทำให้เดิมทีเดียวภูมิแพ้แล้วคุมได้ตอน
00:08:54 → 00:08:59 นี้ก็ก็เกินเกินระดับที่อไม่สามารถที่จะ
00:08:59 → 00:09:03 คุมได้ตามปกติค่ะนะยาน้อยก็มากขึ้นนะฮะ
00:09:03 → 00:09:05 ยังไม่ต้องใช้ยาก็ต้องมาใช้ยาครับอ้าเหรอ
00:09:05 → 00:09:09 ฮะเป็นลักษณะนั้นฮะเพราะว่าสแงเพิ่มขึ้น
00:09:09 → 00:09:13 พวกปรากฏการณ์นี้ปกติเลยครับอ๋อโอ้โหโถ้า
00:09:13 → 00:09:17 เป็นลักษณะของคนที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว
00:09:17 → 00:09:20 แล้วก็มาเจอ PM 2.5 ก็รุนแรงขึ้นหนัก
00:09:20 → 00:09:24 ขึ้นรักษายาวขึ้นแต่อาการเบื้องต้นเวลาคน
00:09:24 → 00:09:26 เป็นภูมิแพ้มันภูมิแพ้หลายอย่างคุณหมออัน
00:09:26 → 00:09:30 ไหนที่เอ่อเราอยู่ในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5
00:09:30 → 00:09:33 เนี่ยอันนี้แหละมันแพ้ฝุ่นคือเหมือนกับ
00:09:33 → 00:09:37 ว่ามันมีข้อจำเพาะอะไรของของ PM 2.5
00:09:37 → 00:09:41 เป็นพิเศษมั้ยคะอืครับเนื่องเนื่องจากมัน
00:09:41 → 00:09:43 เป็นสารก่อความระคายเคืองแล้วก็ขึ้นอยู่
00:09:43 → 00:09:46 กับเ่าความเข้มข้นของมันนะฮะค่ะถ้าความ
00:09:46 → 00:09:50 เข้มข้นสูงก็เหมือนเ่อเราเ่อได้รับอ่า
00:09:50 → 00:09:55 ควันปริมาณมากเราก็แสบปากแสบคอแสบจมูกไอ
00:09:55 → 00:09:59 อ่าคัดจมูกอะไรต่างๆเนี่ยๆสามารถอ่าเปิด
00:09:59 → 00:10:02 ได้เลยค่ะถ้าเราไม่ได้ใส่แว่นไม่ได้อะไร
00:10:02 → 00:10:04 มันกระทบอ่านั่งมอเตอร์ไซค์อย่างเงี้ย
00:10:04 → 00:10:07 ครับมันกระทบเข้ามาในส่วนของเยื้อบู่ตา
00:10:07 → 00:10:11 แล้วก็แสบตาคันตาได้เลยครับอืหรือทางผิว
00:10:11 → 00:10:15 หนังแน่นอนว่าเอ่อเหมือนเราไปเ่อเ่อคลุก
00:10:15 → 00:10:19 อยู่กับฝนนะฮะตผิวหนังเราก็จะปวดแสบปวด
00:10:19 → 00:10:21 ร้อนได้คันผื่นคันพวกนี้เนี่ยสามารถเกิด
00:10:21 → 00:10:25 ได้ครับอืค่ะขึ้นกับปริมาณเลยครับขึ้นแบ
00:10:25 → 00:10:28 ว่าเราเรารับมันมากหรือน้อยครับครับอ๋อ
00:10:28 → 00:10:32 เออเอมันก็มันก็เป็นเป็นเป็นปัจจัยนึงที่
00:10:32 → 00:10:36 เอ่อจะเกิดอาการมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับเรา
00:10:36 → 00:10:40 รับไปมากเท่าไหร่ด้วยนะหมอใช่ๆครับอ่ามัน
00:10:40 → 00:10:44 มันสัมพันธ์กันอย่างนั้นเลยครับอออค่ะถ้า
00:10:44 → 00:10:47 ถ้าเราเห็นมันเยอะๆเนี่ยอ่าเราไม่ได้ปก
00:10:47 → 00:10:50 ป้องตัวเองแน่นอนเราก็จะมีอาการคราวนี้
00:10:50 → 00:10:55 เอ่อเ่อทางเดินหายใจก็เ่อแน่นอนว่ามีตั้ง
00:10:55 → 00:10:59 แต่จมูกใช่มั้ยฮะปากคอหลอบลมนะครับลงไป
00:10:59 → 00:11:02 แต่ไอ้ส่วนที่เราสูดเข้าไปตรงนั้นมันก็จะ
00:11:02 → 00:11:05 เป็นระบบทางเดินหายใจนะฮะอือแต่แต่บริเวณ
00:11:05 → 00:11:08 ที่ที่จะได้รับผลกระทบตัวเองเยื่อบุดตา
00:11:08 → 00:11:12 ผิวหนังนะสิ่งเหล่านี้ก็ก็ได้ด้วยครับอื
00:11:12 → 00:11:14 เพราะฉะนั้นแต่อาการก็เป็นไปตามเค้าเรียก
00:11:14 → 00:11:16 ว่า target อแกนก็คืออวัยวะเป้าหมายที่
00:11:16 → 00:11:23 โดนนะครับครับอืค่ะครับเอ่ออจุดไหนบริเวณ
00:11:23 → 00:11:27 ไหนที่มันเอ่อมีความอ่อนแอหรือว่ามันมี
00:11:27 → 00:11:31 แบบผลผลกระทบได้ไวที่สุดนะฮะจากการที่
00:11:31 → 00:11:34 สำคัญจุต้องต้องบอกว่าทางเดินหายใจแล้วล
00:11:34 → 00:11:37 ครับทางเดินหายใจเนื่องจากว่าเ่อเราเรา
00:11:37 → 00:11:40 ต้องหายใจใช่มั้ยครับเราหายใจเพราะฉะนั้น
00:11:40 → 00:11:43 เหมือนกับว่าดูดสูดเอาไอ้ตัวตาสารพิษนี่
00:11:43 → 00:11:46 นี่เข้าเข้าไปสู่ทางเดินหายใจคือเราไม่
00:11:46 → 00:11:50 ได้รับแบบผิวๆใช่มั้ยครับอค่ะนะแต่เราสูด
00:11:50 → 00:11:52 เข้าไปเลยครับบังคับสูตเข้าไปเพราะว่าเรา
00:11:52 → 00:11:55 เราต้องการเอาอ่าอากาศที่ดีเอาออกซิเจน
00:11:55 → 00:11:58 เข้าไปแต่คราวนี้มันมีเจือปนด้วยสารครับ
00:11:58 → 00:12:01 อ่าขอความระคายเคืองหรือว่าตามมลภาวะนี้
00:12:01 → 00:12:07 เข้าไปครับก็เหมือนกับเอ่อยามที่อ่า
00:12:07 → 00:12:11 บริเวณที่ที่มีพวกสารเคมีอะไรต่างๆเนี่ยก
00:12:11 → 00:12:13 รั่วไหลอย่างเงี้เนี่ยถ้าเราไม่ป้องกัน
00:12:13 → 00:12:17 เราเข้าไปแล้วสูดเข้าไปเก็อ่าเราก็ได้รับ
00:12:17 → 00:12:20 ผลกระทบต่อทางเดินหายใจรุนแรงได้ครับแน่
00:12:20 → 00:12:23 นอนคือมันเหมือนเข้าไปภายในร่างกายได้ได้
00:12:23 → 00:12:26 เร็วที่สุดแล้วก็ภายในของเราเนี่ยมันไร้
00:12:26 → 00:12:28 ซึ่งอะไรที่มันปกป้องได้แบบเหมือนไม่
00:12:28 → 00:12:31 เหมือนผิดหนังใช่มั้ยคุณหมอมันมีหนังยัง
00:12:31 → 00:12:33 มีอะไรที่ปกป้องใช่อย่าครับอย่างที่ว่า
00:12:33 → 00:12:36 ครับบอกว่าตในส่วนหลอดลมเราเนี่ยเนี่ยต
00:12:36 → 00:12:40 มันเป็นเอ่อพื้นที่ละเอียดอ่อนมากใช่มั้ย
00:12:40 → 00:12:44 ครับอนะฮเอ่อเขาสามารถแลกออกซิเจนได้ใน
00:12:44 → 00:12:48 ระดับเซลล์ใช่มั้ยครับอนะฮะแต่ตัวฝุ่น PM
00:12:48 → 00:12:54 ต่อ 2.5 จริงๆแล้วก็มันมันขนาดเล็กก่าอ่า
00:12:54 → 00:12:57 อาจจะเล็กกว่าในส่วนของเม็ดเลือดแดงด้วย
00:12:57 → 00:13:00 ซ้ำในลักษณะนั้นมันเข้าไปแล้วมันก็เข้าไป
00:13:00 → 00:13:03 เจือปนเข้าไปในสู่เ่าดูดซึมเข้าไปสู่ใน
00:13:03 → 00:13:06 กระแสเลือดด้วยอันนั้นก็คือเข้าเข้าร่าง
00:13:06 → 00:13:09 กายโดยตรงครับอแต่มันบางส่วนเลยเนี่ยมัน
00:13:09 → 00:13:14 ก็เ่าไม่ได้เข้าไปกลึกขนาดนั้นมันก็ไปก่อ
00:13:14 → 00:13:17 ให้เกิดการลขายเคืองตลอดอ่าเยื่อบุของทาง
00:13:18 → 00:13:22 เดินหายใจทั้งหมดอืค่ะพอค่ะเชิญค่ะคุณก็
00:13:22 → 00:13:27 คือตั้งใจจมูกตั้งแต่อ่าปากคอนะลงไปจน
00:13:27 → 00:13:31 กระทั่งถึงกหลอดลมนะฮะค่ะนะเพราะฉะนั้น
00:13:31 → 00:13:34 เ่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ที่โดนสัมผัสมันก็
00:13:34 → 00:13:38 ก็จะเกิดการอักเสบเกิดขึ้นอนะฮะอืค่ะการ
00:13:38 → 00:13:41 อักเสบนั้นเนี่ยเ่อมันเ่อที่ไหนที่มีการ
00:13:41 → 00:13:45 อักเสบมันก็เปิดโอกาสให้เอ่อเชื้อไวรัส
00:13:45 → 00:13:48 เ่อหรือว่าเ่อเรื่องของเชื้อแบคทีเรีย
00:13:48 → 00:13:50 เชื้อโรคอะไรต่างๆเนี่ยนะสามารถที่จะก่อ
00:13:50 → 00:13:55 โรคได้อืนะฮะอันนั้นก็ก็จะโยงไปสู่ที่ต
00:13:55 → 00:13:57 กลุ่มเสี่ยงใช่มั้ยครับกลุ่มเสี่ยงพวก
00:13:57 → 00:14:01 เด็กๆพวกเอ่อผู้สูงอายุต่างๆในเเขามีความ
00:14:01 → 00:14:03 เสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจอย่างที่เรา
00:14:03 → 00:14:06 เรียนรู้มาจากเรื่องโควิดใช่มั้ครับนะว่า
00:14:06 → 00:14:09 หมอทุกคนก็บอกว่ากุ่มเสี่ยงก็เด็กๆใช่
00:14:09 → 00:14:12 มั้ยครับผู้สูงอายุผู้มีต่อโรคประจำตัว
00:14:12 → 00:14:15 อ่าเรื้อหรังหลากหลายเขาก็ยังมีเ่อภาวะ
00:14:15 → 00:14:19 เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อทางเดินหายใจครับคือ
00:14:19 → 00:14:22 ปกติของเขาเขาก็ติดเชื้อตาง่ายอแต่พอได้
00:14:22 → 00:14:25 รับเเยมเข้าไปเเนี่ยการอักเสบมันก็เหมือน
00:14:25 → 00:14:29 กับว่าเอ่อเหมือนตราบปราการ
00:14:29 → 00:14:33 ป้องกันเ่อตัวการติดเชื้อนั้นเนี่ยฉี่ขาด
00:14:33 → 00:14:36 ค่ะใช่มั้ยครับอเสพมันก็ฉี่ขาดก็ทำให้
00:14:36 → 00:14:39 เชื้อโรคเข้าไปได้จำนวนมากขึ้นก็จะทำให้
00:14:40 → 00:14:43 ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นนะฮจะมองเห็นบอกว่า
00:14:43 → 00:14:46 ภูมิแพ้มากขึ้นติดเชื้อมากขึ้นเกิดตามมา
00:14:46 → 00:14:49 เป็นซีรีส์เลยครับออซีรีส์ที่จะตามมา
00:14:49 → 00:14:53 เนี่ยคืออาจารย์หมอไล่เลเวลให้ก่อหน่อย
00:14:53 → 00:14:57 ได้มั้ยคะว่าเลเวลจากต่ำไปมากไปสูงเนี่ย
00:14:57 → 00:15:00 คือมันเริ่มต้นด้วยอะไรได้บ้างคะคุณหมอคะ
00:15:00 → 00:15:04 ครับสิ่งที่เราเจอเอาในกลุ่มปกติก่อนนะ
00:15:04 → 00:15:08 ครับกลุ่มปกติเลยเๆตาที่ไม่ได้เป็นภูมิ
00:15:08 → 00:15:12 แพ้เขาเกิดการอักเสบระคายเคืองแสบปากแสบ
00:15:12 → 00:15:14 คอเขาก็ติดเชื้อหวัดได้ง่ายขึ้นใช่มั้
00:15:14 → 00:15:17 ครับค่ะครับเ่าในกลุ่มที่เป็นภูมิแพ้นั้น
00:15:17 → 00:15:21 เนี่ยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆนะครับนะ
00:15:21 → 00:15:24 กลุ่มแรกเป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจในส่วน
00:15:24 → 00:15:27 ของจมูกนั้นเนี่ยอ่าก็จะมีการคัดคันจาม
00:15:27 → 00:15:31 น้ำมูกไหลต่างๆที่มากขึ้นนะฮะก็ก็อาจจะมี
00:15:31 → 00:15:33 อาการมากขึ้นพัฒนาไปสู่เรื่องของสนั
00:15:33 → 00:15:37 อักเสบอะไรต่างๆเอ่อมากขึ้นได้แต่ถ้าลง
00:15:37 → 00:15:42 หลอดลมทำให้เกิดหอืดหอขืดนี่เป็นโรคเ่อ
00:15:42 → 00:15:46 ที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิแพ้นะครับกว่า 80%
00:15:46 → 00:15:48 ของคนไข้ที่เป็นหอบอืดนั้นเนี่ยจะมีโรค
00:15:48 → 00:15:52 ภูมิแพ้ร่วมด้วยแล้วก็การที่มี PM เข้ามา
00:15:52 → 00:15:56 เ่อมากระตุ้นด้วยเเนี่ยจะทำให้อาการหออืด
00:15:56 → 00:15:59 ของเขาเนี่ยพัฒนาระดับให้รุนแรงมากขึ้นอื
00:15:59 → 00:16:03 ออกปืดนั้นเ่อแบ่งออกเป็นกลุ่มซึ่งให้ยา
00:16:03 → 00:16:07 แล้วก็ดีขึ้นได้มันหมายถึงว่ามันสามารถ
00:16:07 → 00:16:10 กลับมาเป็นปกติได้กับอีกกลุ่มนึงที่แม้
00:16:10 → 00:16:13 แต่กำลังให้ยามันก็ยังพัฒนาโลกมากขึ้นมาก
00:16:13 → 00:16:17 ขึ้นหลอดลมตีบจนกระทั่งไม่สามารถที่จะแลก
00:16:17 → 00:16:20 เปลี่ยนออกซิเจนได้เสียชีวิตได้เลยครับอื
00:16:20 → 00:16:25 ค่ะนะสามารถที่จะพัฒนาสู่เรื่องการเ่อบอก
00:16:25 → 00:16:27 มาโรงพยาบาลไม่ทันแล้วก็ไม่มีหยุคยาป้อง
00:16:27 → 00:16:30 กันเอาไว้เนี่ยก็ทางเดือนหายใจก็ไม่
00:16:30 → 00:16:33 สามารถที่จะแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ก็เสีย
00:16:33 → 00:16:37 ชีวิตได้ค่ะคราวนี้ในกลุ่มที่เป็นเ่า
00:16:38 → 00:16:42 กลุ่มเสี่ยงที่มีผลต่อทางเดินหายใจนั้น
00:16:42 → 00:16:45 เนี่ยเ่าอย่างกลุ่มเด็ก็นะครับนะฮะเนื่อง
00:16:45 → 00:16:49 จากเ่าในกลุ่มเด็กเขาเนี่ยเขาก็หายใจเร็ว
00:16:49 → 00:16:52 ใช่มั้ครับค่ะนะเขก็ยิ่งสูอะไรต่างๆเนี่ย
00:16:52 → 00:16:56 เข้าไปได้ปริมาณที่มากขึ้นถ้าเเ่อในกลุ่ม
00:16:56 → 00:17:01 เด็ก็เขาก็เสี่ยงต่อการพฒนากกลายเป็นโรค
00:17:01 → 00:17:04 ที่มากขึ้นเช่นปอดบวมอะไรต่างๆติดเชื้อ
00:17:04 → 00:17:07 ไวรัสแปลกๆอะไรต่างๆเได้มากขึ้นแล้วก็
00:17:07 → 00:17:12 พัฒนาไปสู่อาการที่รุนแรงมากขึ้นอในกลุ่ม
00:17:12 → 00:17:15 ของผู้สูงอายุเองก็เช่นเดียวกันครับใน
00:17:15 → 00:17:18 เมื่อเขามีอ่าโรคประจำตัวหลากหลายอยู่
00:17:18 → 00:17:23 แล้วฮครับเ่อพอเป่วยถ้าคนปกติธรรมดาก็อาจ
00:17:23 → 00:17:26 จะไม่ถึงปอดบวมแต่เขาก็จะเป็นปอดบวมง่าย
00:17:26 → 00:17:29 ขึึ้นอือ่าอาจจะไม่รุนแรงจต้างโอกล้าม
00:17:30 → 00:17:33 เนื้อหัวใจจะขาดเลือดเก็พัฒนาไปสู่เ่อ
00:17:33 → 00:17:36 เรื่องภาวะแทรกซ้อนเ่ากล้ามเนื้อหัวใจขาด
00:17:36 → 00:17:38 เลือดได้ง่ายขึ้นโอกาสที่จะนอนอยู่โรง
00:17:38 → 00:17:41 พยาบาลนานขึ้นโอกาสเข้า ICU ก็มากขึ้น
00:17:41 → 00:17:45 ครับอย่างอันนี้คือสิ่งที่เราเห็นเลยครับ
00:17:45 → 00:17:49 อย่างงี้เองเนี่ยพอสมมุตินะสมมุติเอ่อถ้า
00:17:49 → 00:17:52 ทำการรักษาจนหายจากอาการนั้นแล้วอ่ะอาการ
00:17:52 → 00:17:55 เหล่านี้มันยังมันมันยังแฝงหรือว่ามันยัง
00:17:55 → 00:17:58 เป็นอาการที่มีผลต่อเนื่องหลังจากนั้นได้
00:17:58 → 00:18:02 อีกอีกมั้ยคุณหมอครับครับในในระยะยาวก็
00:18:02 → 00:18:06 จริงๆแล้วเอ่อโลคแล้วก็สุขภาพเราโดยส่วน
00:18:06 → 00:18:10 รวมนะครับนะฮะถ้าอ่าภาวะนั้นเราคุมได้หาย
00:18:10 → 00:18:13 ก็น่าจะเรียบร้อยดีอืนะครับแล้วก็กลับมา
00:18:13 → 00:18:18 ใช้ชีวิตได้ตามปกติครับนะครับอแต่เ่อใน
00:18:18 → 00:18:22 หลายๆอ่าโรคเ่อแล้วก็ภาวะของคนไข้บางคน
00:18:22 → 00:18:25 นั้นเนี่ยพอทรุดแล้วทรุดเลยก็ได้ครับออ๋อ
00:18:25 → 00:18:29 เช่นเอ่อเ่อคนไข้เ่อคนนี้ถ้าไม่มีปัจจัย
00:18:29 → 00:18:34 อะไรมาทำให้เขาเมีอาการทางปอดรุนแรงแต่พอ
00:18:34 → 00:18:36 โดนสิ่งเหล่านี้แล้วเนี่ยเขาก็เปลี่ยน
00:18:36 → 00:18:40 ชีวิตนะฮแต่พอเข้าซิออกมาครันนี้ก็ไม่
00:18:40 → 00:18:42 เหมือนเดิมอะไรต่างๆแล้วก็อาการก็จะรุน
00:18:42 → 00:18:45 แรงแล้วก็จะ Take care ลำบากมากขึ้นทรุด
00:18:46 → 00:18:49 ลงอะไรต่างๆพวกนี้ได้ครับอันนั้นคือระยะ
00:18:49 → 00:18:52 ยาวแบบไม่ยาวมากนะครับแต่ถ้าระยะยาวแบบ
00:18:52 → 00:18:56 ยาวมากๆเลยนะเนี่ยเราก็มีข้อมูลมากมายที่
00:18:56 → 00:19:00 ที่ว่าฝุ่น PM เองเนี่ยเป็นสารก่อกมะเร็ง
00:19:00 → 00:19:04 นะครับโอออนะครับมันไม่มันไม่ได้เป็นฝุ่น
00:19:04 → 00:19:09 อคือแบบเหมือนฝุ่นเอาไม้กวาดกวาดทิ้งแล้ว
00:19:09 → 00:19:13 ก็เก็จบกันค่ะอ่าสารก่อมะเร็งนั่นหมายถึง
00:19:13 → 00:19:17 ว่าเขาก็สะสมได้ใช่มั้ฮะถ้าเ่อตามรายงาน
00:19:17 → 00:19:22 เนี่ยเ่า wso เนี่ยเค้าก็จัดเ่าใน PM 2.5
00:19:22 → 00:19:24 อยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งระดับที่ 1 นะ
00:19:25 → 00:19:28 ครับเป็นกุปพันคาร์ซิโนเจนอยู่อือนะครับ
00:19:28 → 00:19:31 อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งที่ปอดหรือว่า
00:19:31 → 00:19:34 มะเร็งอื่นๆเช่นมะเร็งกระเพาะอาหารตับ
00:19:34 → 00:19:39 อะไรต่างๆซึ่งพวกนี้สะสมได้ก็รับไปปีนี้
00:19:39 → 00:19:43 รับไปแค่นี้ปีหน้าก็ก็บวกไปเรื่อยๆนะครับ
00:19:43 → 00:19:46 นะความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะฮะก็
00:19:46 → 00:19:51 แล้วแต่ว่าใครจะเ่อถึงจุดไหนแล้วก็จะแสดง
00:19:51 → 00:19:54 อาการของตัวมะเร็งออกมาในที่สุดครับถ้า
00:19:54 → 00:19:57 ถ้าถ้ายังรับสะสมไปเรื่อยๆครับอันนี้อนี้
00:19:57 → 00:20:00 เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงครับ
00:20:00 → 00:20:06 อืแสดงว่าเอ่อถ้าเราอยู่ในที่เดิมๆเพราะ
00:20:06 → 00:20:09 ว่าตัวฝุ่น PM 2.5 เนี่ยนับตั้งแต่เอ่อ
00:20:09 → 00:20:12 ประมาณเกือบๆ 10 ปีมาแล้วค่ะคุณหมอ
00:20:12 → 00:20:15 สถานการณ์ค่อนข้างชัดเจนขึ้นมันแต่หลายๆ
00:20:15 → 00:20:18 คนด้วยความจำเป็นที่ต้องใช้ชีวิตในเมือง
00:20:18 → 00:20:21 ใหญ่เนี่ก็หลีกเลี่ยงได้ยากเหลือเกิน
00:20:21 → 00:20:24 สำหรับสถานการณ์ที่ต้องเจอ PM 2.5 ครับ
00:20:24 → 00:20:27 แล้วถ้าเจอกันเป็น 10 ปีเนี่ยมันจะเพิ่ม
00:20:27 → 00:20:30 ความเสี่ยงให้เราเอ๊ะฉันจะป่วยเป็นมะเร็ง
00:20:30 → 00:20:34 ในระยะสะสมอายุเยอะๆหรือเปล่าตรงนี้มัน
00:20:34 → 00:20:38 น่ากังวลมากน้อยแค่ไหนคะคุณหมอครับเ่อก็
00:20:38 → 00:20:43 ก็ต้องบอกว่าอในองค์การระดับโลกทั้งหลายเ
00:20:43 → 00:20:47 เก็ยอมรับนะฮะว่าอ่าในส่วนของ PM 2.5
00:20:47 → 00:20:51 นั้นเนี่ยมันมันมีองค์ประกอบที่สามารถ
00:20:51 → 00:20:54 กระตุ้นก่อให้เกิดมะเร็งได้มีการทดลองใน
00:20:54 → 00:20:57 สัตว์ที่สามารถยืนยันได้ครับแล้วก็มีข้อ
00:20:57 → 00:21:00 มูลยืนยันได้ว่าก็ก่อให้เกิดในส่วนของ
00:21:00 → 00:21:04 มนุษย์ด้วยอืนะครับนะฮะเอ่อมะเร็งปอดเ่อ
00:21:05 → 00:21:07 ซึ่งเ่อแน่นอนว่าเขาก็รับ
00:21:07 → 00:21:13 อ่ารับรับภาระในการฟอกอากาศกแทนอ่าเพื่อ
00:21:13 → 00:21:17 เพื่อเอาอากาศดีเข้าไปเา้าก็อ่อคอยทำลาย
00:21:17 → 00:21:21 พวกอ่าเ่อสารที่ไม่ดีที่เข้าสู่ร่างกายฮะ
00:21:21 → 00:21:24 แต่ถ้ามันมากเกินไปนะฮะเซลล์ที่คอยทำลาย
00:21:25 → 00:21:29 เอ่อสารแปลกปลอมแล้วก็เอ่อเ่ามันอาจจะมี
00:21:29 → 00:21:32 โลหะหนักมีสารเคมีสารกอมะเร็งเข้ามาเ
00:21:32 → 00:21:35 เนี่ยก็ทำลายไม่สิ้นสุดใช่มยครับนะมันก็
00:21:35 → 00:21:38 จะกลายเป็นสารตกค้างครับสารตกค้างนี้ใน
00:21:38 → 00:21:43 ระยะยาวแล้วเ่อมันย่อมสามารถที่จะกระตุ้น
00:21:43 → 00:21:46 ร่างกายเราอาจจะกระตุ้นในลักษณะของ
00:21:46 → 00:21:49 กระตุ้นในระดับเซลล์ของเขาเองนะฮะหรืออาจ
00:21:49 → 00:21:53 จะเปลี่ยนแปลงในส่วนของทำให้พวกอ่าเ่อ DNA
00:21:53 → 00:21:56 ต่างๆเๆหรือสารอนุมูลอิสระอะไรต่างๆก็
00:21:56 → 00:22:00 แล้วแต่เนี่ยๆทำให้ก่อกลไกการกลายพันธุ
00:22:00 → 00:22:03 มันเกิดขึ้นอนะอันนี้นี้แต่เป็นสิ่งที่
00:22:03 → 00:22:06 ต้องฝากในสังคมไว้ว่าเอ่อเราอย่ามอง PM
00:22:06 → 00:22:12 2.5 ว่าเหมือนฝุ่นเ่าที่เอ่อที่ฝุ่นตาม
00:22:12 → 00:22:14 พื้นบ้านทั่วไปอะไใช่มั้ยคะคุณใช่เดี๋ยว
00:22:14 → 00:22:17 เราดูดฝุ่นหรือว่าเรากำจัดมันทิ้งไป
00:22:17 → 00:22:19 เดี๋ยวมันก็หมดอะไรอย่างเงี้ยนะไม่ใช่นะ
00:22:19 → 00:22:22 ครับเพราะว่า PM 2.5 เนี้เนี่ยเท่าที่
00:22:22 → 00:22:26 ทราบมาเนี่ยมันสามารถเคลื่อนเ่อได้ในระยะ
00:22:27 → 00:22:30 ทางเป็นถึง 1000 กิลเมนะฮะมันอาจจะมาจาก
00:22:30 → 00:22:33 เพื่อนบ้านมาจากรอบบ้านเราอะไรอย่างเงี้
00:22:33 → 00:22:37 เนี่ยแต่ว่ามันปลิวมานะครับแต่พออากาศเ่า
00:22:37 → 00:22:41 มันนิ่งนะครับปกติถ้าถ้าพื้นโลคเราเเนี่ย
00:22:41 → 00:22:45 จะอากาศจะอุ่นใช่มั้ยครับค่ะอากาศอุ่นแรง
00:22:45 → 00:22:48 กดอากาศมันก็จะเป็นแรงกดอากาศต่ำใช่มครับ
00:22:49 → 00:22:52 มันย่อมลอยขึ้นข้างบนไปสู่อากาศที่เย็น
00:22:52 → 00:22:55 กว่าอ่าที่ที่อยู่ในชั้นบรยากาศแล้วมันก็
00:22:55 → 00:22:58 กระจายออกไปนะฮะแต่เมื่อไหร่ก็ตามตอนที่
00:22:58 → 00:23:02 แรงกดอากาศอ่าข้างล่างนั้นเนี่ยมันเย็น
00:23:02 → 00:23:05 มันก็อ่าแรงกดอากาศมันก็เย็นสูงแล้วก็
00:23:05 → 00:23:08 นิ่งมันก็จะระบายขึ้นไปข้างบนแล้วมันมัน
00:23:08 → 00:23:11 ไปไม่ได้พอมันไปไม่ได้มันก็ค้างเติ้งแล้ว
00:23:11 → 00:23:15 มันก็ตกลงมาครับอืมันก็เ่อเราก็กลายเป็น
00:23:15 → 00:23:21 เหมือนเราอยู่ในอะไรนะเ่ออยู่ในกกเ่อเค้า
00:23:21 → 00:23:24 เรียกว่าอะไรเนี่ยฮะกรอบแก้วก็ได้ลักษณะ
00:23:24 → 00:23:26 เหมือนปาชีครอบใช่มั้ยคะคุณหมอปาชีครอบ
00:23:26 → 00:23:30 อะไรอย่างนั้นนะฮะแล้วเราเราก็อ่าอ่ามัน
00:23:30 → 00:23:33 ไม่กระจายไปเราก็เราก็ต้องทำหน้าที่สูตร
00:23:33 → 00:23:36 มันใชมค่ะแล้วก็ทุกคนต้องหายใจก็ต้องหาย
00:23:36 → 00:23:41 ใจมันเข้าไปนะฮะแต่รู้มว่าจริงๆแล้วเอ่อ
00:23:41 → 00:23:44 นอกจากโรคภูมิแพ้โรคปไข้เจ็บอ่าทางเดิน
00:23:44 → 00:23:48 หายใจเ่ออื่นๆแล้วมันมันก็มีผลระยะยาว
00:23:48 → 00:23:52 ด้วยนะครับนะมันมันคงไม่ได้สั้นแล้วก็
00:23:52 → 00:23:54 เท่าที่ดูแล้วเนี่ย
00:23:54 → 00:23:58 เอ่อสิ่งที่เราสามารถเห็นได้คือว่ามันมัน
00:23:58 → 00:24:01 เยอะขึ้นนะฮะอือค่ะมันมัวมากขึ้นทุกปีทุก
00:24:01 → 00:24:04 ปีนะครับอ่าใช่ครับแต่ว่ามันถ้าถ้ามันดู
00:24:04 → 00:24:06 แล้วมันน้อยลงเรื่อยๆมันก็ยังโอเคใช่มั้ย
00:24:06 → 00:24:11 ครับใช่มันมันมาทุกปีเลยมาเยี่ยมเยือนทุก
00:24:11 → 00:24:15 ปปีทุกปีมาเป็นระรอกแล้วก็อยู่ยาวนานขึ้น
00:24:15 → 00:24:19 แล้วก็หนาขึ้นใช่ค่ะใช่มั้ยครับเราเรามอง
00:24:19 → 00:24:23 เห็นได้เลยใช่ค่ะตอนนี้ทุกคนก็หาทางรอด
00:24:23 → 00:24:26 ค่ะคุณหมอครับทำให้ในท้องตลาดตอนเนี้ยมี
00:24:26 → 00:24:30 รายงานข่าวว่าเครื่องฟอกอากาศเนี่ยบาง
00:24:30 → 00:24:33 ส่วนก็ขาดตลาดแล้วก็ตัวเอ่อที่ใช้สำหรับ
00:24:33 → 00:24:36 เปลี่ยนในการฟอกอากาศบางคนเก็มีอยู่แล้ว
00:24:36 → 00:24:40 ตัวกรองอะไรเงี้ยก็ขาดตลาดเหมือนกันจริงๆ
00:24:40 → 00:24:42 แล้วเนี่ยเครื่องฟอกอากาศเนี่ยช่วยเราได้
00:24:43 → 00:24:48 มากแค่ไหนหรือหน้ากากแบบไหนที่เราเอ่อใส่
00:24:48 → 00:24:51 ไปแล้วมันช่วยเราได้จริงๆอ่ะค่ะคุณหมอ
00:24:51 → 00:24:54 ครับคือเอ่อตัวเครื่องป้องอากาศเเนี่ย
00:24:54 → 00:24:57 ต้องขอให้เป็นเ filter นะ
00:24:57 → 00:25:02 ฮะกดแรอนะครับตัวนี้ตัวนี้จะสามารถที่จะ
00:25:02 → 00:25:05 กรองเรื่องของก่อตัวอนุภาคเล็กๆจิ๋วๆพวก
00:25:05 → 00:25:09 นี้ได้ค่ะนะครับแต่เครื่องฟอกอากาศเ่ามัน
00:25:09 → 00:25:12 มักจะอยู่ในบ้านใช่มั้ยครับถูกต้องค่ะ
00:25:12 → 00:25:14 แล้วก็มีอีกอย่างนึงคุณหมอที่ใส่เอ่อ
00:25:15 → 00:25:18 เหมือนห้อยห้อยคอแต่เดี๋ยวโอ๊กจำชื่อได้
00:25:18 → 00:25:20 มั้ยอจำจำไม่ได้แต่มันเหมือนตอนโควิดอ่ะ
00:25:20 → 00:25:24 มีเห็นมีที่ห้อยคอที่เขาบอกว่าจะกำจัด
00:25:24 → 00:25:27 เอ่อตัวแบคทีเรียหรืออะไรสักอย่างค่ะคุณ
00:25:27 → 00:25:31 หมอคุณหมอพอนึกออกมั้ยคะอ่าเคยเคยเคยเเคย
00:25:31 → 00:25:34 ได้ยินได้ฟังตรงนั้นอยู่ครับค่ะแต่ว่า
00:25:34 → 00:25:38 เอ่อตรงตรงนั้นอ่าอาจจะยังไม่ค่อย
00:25:38 → 00:25:41 practical เท่าไหร่นะแต่ว่าเราเห็นแล้ว
00:25:41 → 00:25:44 ก็เชื่อได้ว่าตมันสามารถที่จะทำงานได้ก็
00:25:44 → 00:25:47 คือเรื่อง hea filter ที่ที่อยู่ใน
00:25:47 → 00:25:50 เครื่องฟอกอากาศที่เราใช้กันซึ่งอ่าตาม
00:25:50 → 00:25:53 มาตรฐานถ้าบอกว่าเป็น hea ิตรก็ใช้ได้
00:25:53 → 00:25:57 ครับนะฮะแต่ว่าเ่ามันอยู่ในอาคารปิดใช่
00:25:57 → 00:26:00 มั้ยครับนะฮะแน่นอนว่าต่าสิ่งที่เราเจอก็
00:26:00 → 00:26:04 คือว่าถ้าเราเอ่อมีสถานการณ์ PM เดี๋ยว
00:26:04 → 00:26:07 นี้ก็ดีนะครับมีตระบบ Alert มีต่อตัววัด
00:26:07 → 00:26:10 อะไรต่างๆแล้วก็แจ้งให้เราทราบค่ะแน่นอน
00:26:10 → 00:26:12 เราควรจะต้องเชื่อแล้วก็ปฏิบัติตามครับนะ
00:26:12 → 00:26:17 ถ้าไม่ได้จำเป็นในช่วงที่เ่อ PM สูงๆนะ
00:26:17 → 00:26:20 ครับ aqi มากกว่า 100 ขึ้นไปอะไรต่างๆพวก
00:26:20 → 00:26:24 นั้นเนี่ยเราก็ไม่ควรจะออกไปในไปทำอะไรใน
00:26:24 → 00:26:28 กิจกรรมอ่านอกบ้านหรือว่ากลางแจ้งโดย
00:26:28 → 00:26:32 เรื่องการออกกำลังกายนะมันจะยิ่งทำให้อ่า
00:26:32 → 00:26:34 เราต้องสู่อ่าอากาศอ่าที่ไม่ดีเนี่ยเข้า
00:26:35 → 00:26:38 สู่ปอดเราลึกขึ้นนะครับสู่ทางดนหายใจต่าง
00:26:38 → 00:26:42 ๆเรามากขึ้นนะฮะแต่ถ้าว่าเ่อจะออกกำลัง
00:26:42 → 00:26:44 กายเก็ออกกำลังกายในบ้านใช่มั้ยครับใน
00:26:44 → 00:26:48 ฟิตเนสอะไรต่างๆอย่างน้อยกสิ่งเหล่านั้น
00:26:48 → 00:26:50 เราก็ยังมีเครื่องกรองอากาศอะไรต่างๆ
00:26:50 → 00:26:54 เนี่ยคอยช่วยแต่ถ้าว่าเอ่อจำเป็นนะครับนะ
00:26:54 → 00:26:58 ฮะเราก็เต้องออกนอกบ้านไปนะครับแต่คงไม่
00:26:58 → 00:27:00 ไม่แนะนำออกกำลังกายนะครับก็ไปทำกิจวัตร
00:27:00 → 00:27:04 นู่นนี่นั่นนะฮะเราอาจจะสวมหน้ากากหน้า
00:27:04 → 00:27:09 กากที่มีตัวที่เ่อเ่อแนะนำว่าตสามารถที่
00:27:09 → 00:27:12 จะใช้รถ PM ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่
00:27:12 → 00:27:15 สุดอันเนี้ยก็คือ n95 ตอนช่วงที่เราใช้
00:27:15 → 00:27:19 ก่อโควิดนะฮะซึ่งมันเวลาใส่แล้วก็แน่นมาก
00:27:19 → 00:27:22 นะครับบางคนใส่แล้วก็ไม่นานก็ต้องรีบใจ
00:27:22 → 00:27:25 ไม่ออกหายใจไม่ออกใช่ค่ะนะฮะแต่ว่าตัว
00:27:25 → 00:27:29 นั้นเนี่ยอาจะกันได้ถึงก 90 95% ก็ถือ
00:27:29 → 00:27:33 ว่าใช้ได้ครับนะฮะแต่ถ้าเ่อหน้ากากที่หมอ
00:27:33 → 00:27:36 ใส่กันอยู่ในโรงพยาบาลที่เป็นเขียวๆอะไร
00:27:36 → 00:27:39 อย่างเงี้ยเนี่ยนะครับมันกันได้ 40% เอง
00:27:39 → 00:27:43 ครับอืออกไปเรารับ 60 นะฮะครับเรารับ 60
00:27:43 → 00:27:48 นะครับแล้วก็มันจะเข้ามาหาเราก็อเราเรา
00:27:48 → 00:27:52 รับเ 60 กันได้จริงๆแค่ 40 สำหรับ PM ฮะ
00:27:52 → 00:27:55 ครับแต่ถ้าเราจะ Apply มากขึ้นเราก็อาจจะ
00:27:55 → 00:27:59 ใส่ 2 ชั้นใช่มั้ยครับเราอ่อทิชชู่เปียก
00:27:59 → 00:28:01 น้ำหรืออะไรอย่างเงี้เนี่ยมาอยู่ระหว่าง
00:28:01 → 00:28:05 กลางก็ก็โอเคก็อาจจะดีขึ้นนะก็อาจจะเป็น
00:28:05 → 00:28:08 ทางเลือกที่ดีขึ้นแต่ก็ก็ก็คงสู้ n95 ไม่
00:28:08 → 00:28:11 ได้แต่ว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าเรื่องการใส่
00:28:11 → 00:28:15 หน้ากากอ่าธรรมดาอ่าอย่างเดียวหน้ากากผ้า
00:28:15 → 00:28:17 ก็ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่แล้วครับ
00:28:17 → 00:28:18 [เพลง]
00:28:18 → 00:28:22 อืหน้ากากผ้าแทบจะกันไม่ได้เลยว่างั้น
00:28:22 → 00:28:26 เถอะเหมน่าจะไม่ได้ครับเพราะว่าอ่าตัว PM
00:28:26 → 00:28:28 2.5 เื่องเนื่องจากอนุภาคมันเล็กเล็กมาก
00:28:28 → 00:28:32 ครับครับนะฮะเอ่อตัวอนุภาคตัวนี้เนี่ยมัน
00:28:32 → 00:28:35 ก็สามารถที่จะชอนชัยทะลุยผ้าปกติได้อยู่
00:28:35 → 00:28:39 แล้วอือคือป่า hea filter เนี่ยเเทำมา
00:28:40 → 00:28:44 ให้ให้กองอนุภาคที่เล็กครับเล็กมากๆได้ PM
00:28:44 → 00:28:48 2.5 นี่สามารถกรองได้นะฮะออ่าแต่ว่าอ
00:28:48 → 00:28:51 เป็นหน้ากากปกติธรรมดาเนี่ยๆมันมันยาก
00:28:51 → 00:28:55 ครับค่ะที่ที่สามารถที่จะถอนกันได้อืขอ
00:28:55 → 00:28:57 ความรู้เพิ่มเติมหน่อยค่ะคุณหมอคะเพราะ
00:28:57 → 00:29:01 ว่าตัว n95 เนี่ยก็ต้องยอมรับว่าราคาเค้า
00:29:01 → 00:29:05 ก็เอาเรื่องนะพอใช้ได้อยู่ข้าว 1 จานอะไร
00:29:05 → 00:29:08 อย่างเงี้ยประมาณ 40-50 บาทต่อ 1 ชิ้น
00:29:08 → 00:29:11 อะไรอย่าเงี้ยค่ะจริงๆแล้วเนี่ยมันใช้ได้
00:29:11 → 00:29:14 แค่ 1 วันหรือมันใช้ได้ยาวนานกว่านั้นคะ
00:29:14 → 00:29:18 คุณหมออ่าตอนตามประสบการณ์ตอนเ่อช่วง
00:29:18 → 00:29:21 โควิดเนี่ยหมอเ่อก็ไม่ได้ใช้วันแล้วทิ้ง
00:29:21 → 00:29:27 นะครับนะฮะเราเราใช้แล้วเราก็เ่อไปเข้า UV
00:29:27 → 00:29:30 เพื่อลในเรื่องของการติดเชื้อค่ะนะแล้ว
00:29:30 → 00:29:35 เราก็กลับมาใช้เอ่อซึ่งช่วงที่ใส่ n95
00:29:35 → 00:29:38 นั้นเนี่ยเ่อก็ถ้าเข้งวดทอนช่วงนั้นเนี่ย
00:29:38 → 00:29:41 ก็ไม่ค่อยติดเ่าไม่ค่อยติดไอ้ตัวโควิดกัน
00:29:41 → 00:29:45 นะฮะอค่ะแต่ว่าตเอ่อใบหน้ายับหมดเลยครับ
00:29:45 → 00:29:49 วันๆแต่ลอยลอยหนังยางแน่นมากค่ะลอยหนัง
00:29:49 → 00:29:53 ยางเต็มหน้าเลยครับอืค่ะแสดงว่าถ้าเอ่อ
00:29:53 → 00:29:55 บ้านใครเดี๋ยวนี้ก็อาจจะมีบางบ้านที่มี
00:29:55 → 00:29:59 เครื่อง UV ติดอยู่ที่บ้านเพราะว่าอาจจะ
00:29:59 → 00:30:02 เอ่อไว้อบขวดนมอ่าใช่อ่าอันนี้บางบ้านก็
00:30:02 → 00:30:05 จะมีในส่วนนั้นที่รักษาความสะอาดเยอะ
00:30:05 → 00:30:08 หน่อยอะไรงี้ใช่ใชก็มาทำความสะอาดไเรื่อง
00:30:08 → 00:30:13 ของ n95 แล้วก็มา Use มาใช้ได้ครับอ๋อถ้า
00:30:13 → 00:30:16 ถ้าไม่บอกว่าน้ำลงน้ำลายเราไม่เหม็นจน
00:30:16 → 00:30:19 เกินไปอะไรต่างๆก็ก็โอเคครับยังสามารถที่
00:30:19 → 00:30:23 จะใช้ได้อยู่ค่ะนะแล้วเราก็มาช่วยลดทอน
00:30:23 → 00:30:29 เรื่องของ PM 2.5 ผมคิดว่าอย่างน้อยกว่า
00:30:29 → 00:30:32 มันน่าจะง่ายกว่าไอ้ตัวเชื้อไวรัสเยอะ
00:30:32 → 00:30:37 ครับอืค่ะครับแต่ก็ด้วยผมว่าปัญหาใหญ่ของ
00:30:37 → 00:30:40 n95 ก็คือเรื่องของความอึดอัดนี่แหละมัน
00:30:40 → 00:30:44 ใส่อยู่ด้านใช้ในชีวิตประจำวันได้ได้ไม่
00:30:44 → 00:30:48 นานคือใส่แค่เดินขึ้นลงบันได 1 ชั้นอ่ะก็
00:30:48 → 00:30:50 ใช้เอาเรื่องเอาเรื่องเอาเรื่องเร่อง
00:30:50 → 00:30:54 เรื่องใช่ๆครับค่ะแต่ตอนตแต่ตอนช่วงช่วง
00:30:54 → 00:30:58 อ่าโคโรน่าไวรัสมาตัวกตอนนั้นมาก็งวดนะ
00:30:58 → 00:31:01 ครับค่ะนะหมอเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ใส่
00:31:01 → 00:31:05 กันเ่อใส่กันเต็มที่เหมือนกันครับออค่ะก็
00:31:05 → 00:31:08 ใส่อยู่นานนะครับนะฮะใส่ใส่นานเลยฮะครับ
00:31:08 → 00:31:12 คือใส่ใส่นานจนกระทั่งเอ่อเออเราชินไป
00:31:12 → 00:31:15 แล้วอือใช่แต่ใส่ใหม่ๆก็ก็ลำบากครับค่ะ
00:31:15 → 00:31:19 เพราะว่ากำลังจะบอกว่าตอนช่วงที่เป็นเอ่อ
00:31:19 → 00:31:23 ไวรัสโควิดอ่ะครับเราใส่หน้ากากกันจนเคย
00:31:23 → 00:31:26 ชินแล้วพอสถานการณ์เริ่มซาลงจางลงเนี่ย
00:31:26 → 00:31:30 เราก็เลิกสายอืแล้วพอจะกลับไปใส่อีกรอบเ
00:31:30 → 00:31:33 มันก็เป็นสิ่งใหม่ที่ค่อยๆเรียนรู้แล้ว
00:31:33 → 00:31:36 มันก็จะยากลำบากอีกเหมือนกันอชินเดี๋ยว
00:31:36 → 00:31:39 เดี๋ยวสักแป๊บนึงมันปรับร่างกายนิดเดีให้
00:31:39 → 00:31:42 ร่างกายปรับก่อนอันนี้เราฝุ่นตอนนี้มันก็
00:31:42 → 00:31:46 น่ากังวลอยู่พอพูดถึงตัวโควิดค่ะคุณหมอคะ
00:31:46 → 00:31:50 ก็เลยจะสอบถามคุณหมอว่าถ้า PM 2.5 กับ
00:31:50 → 00:31:52 โควิดเนี่ยมันมีความเชื่อมโยงหรือว่ามี
00:31:52 → 00:31:56 ความเอ่อทำให้เกิดสถานการณ์ซ้ำร้ายเกิด
00:31:56 → 00:31:59 ความเสี่ยงเพิ่มขึึ้นไปอีกหรือเปล่าถ้าคน
00:31:59 → 00:32:02 เคยเป็นโควิดมีภาวะลองโควิดแล้วก็เจอ PM
00:32:02 → 00:32:07 2.5 อย่างเงี้ยค่ะครับคือเอ่อตัวโควิดณ
00:32:07 → 00:32:10 ปัจจุบันนี้เนี่ยเราถือว่าเ้าดาวเกดลงมา
00:32:10 → 00:32:12 จนกระทั่งกลับเป็นโรคประจำถิ่นแล้วนะครับ
00:32:13 → 00:32:16 ค่ะก็เหมือนเป็นก่าหวัดไข้หวัดตามปกตินะ
00:32:16 → 00:32:21 อือเ่อคนที่เมีปัญหาจากอ่าโควิดแล้วเป็น
00:32:21 → 00:32:25 รองโควิดต่างๆเนี่ยเนี่ยหมอหมอเชื่อว่า
00:32:25 → 00:32:28 อ่าระยะถึงระยะหนึ่งเนี่ยเนี่ยเคก็น่าจะ
00:32:28 → 00:32:31 สามารถที่จะปรับตัวได้แล้วค่ะนะครับแต่
00:32:31 → 00:32:33 แต่ว่าถ้าถ้าคนที่บอกว่าปลอดอักเสบจน
00:32:33 → 00:32:36 กระทั่งทำลายเนื้อปอดไปแล้วก็เหลือเนื้อ
00:32:36 → 00:32:38 ปอดไม่เท่าไหร่แน่นอนกลุ่มนั้นก็กลายเป็น
00:32:38 → 00:32:41 กลุ่มเสี่ยงแล้วอใช่มั้ยครับไม่ว่าเขจะ
00:32:41 → 00:32:45 เ่าโดนอะไรอ่ากระตุ้นทำให้เกิดเ่าทางเดิน
00:32:45 → 00:32:48 ปัญหาทางเดินหายใจมาเนี่ยเค้าจะเป็นกุม
00:32:48 → 00:32:51 เสี่ยงที่ที่มีความเสี่ยงสูงครับครับนะ
00:32:51 → 00:32:55 คราวนี้เอ่อตัว PM เอ่อตัวเนี้ยมันเป็น
00:32:55 → 00:32:58 สารก่อความระคายเคืองก็ยิ่งจะทำทำให้เขา
00:32:58 → 00:33:01 มีอาการที่มากขึ้นอืค่ะนะแต่ว่าถ้าเป็น
00:33:01 → 00:33:04 โควิดที่หายแล้วแล้วก็กลับมาเป็นปกติแล้ว
00:33:04 → 00:33:08 มันก็คือเหมือนคนปกติอ่ะครับที่ที่โดนสาร
00:33:08 → 00:33:11 กอกความระคายเคืองมากระตุ้นถ้าเขาเป็นต
00:33:11 → 00:33:14 ภูมิแพ้เก็เป็นภูมิแพ้มากขึ้นถ้าเขาระคาย
00:33:14 → 00:33:17 เคืองมากเก็ติดเชื้อจะเป็นไวรัสอะไรก็
00:33:17 → 00:33:20 แล้วแต่นเนี่ยก็ก็สามารถที่จะติดเชื้อได้
00:33:20 → 00:33:25 ง่ายขึ้นอืครับค่ะนะครับแล้วตแต่ว่าอาการ
00:33:25 → 00:33:28 จะมากขึ้นหรือน้อยนั้นต้องขึ้นอยู่กับว่า
00:33:28 → 00:33:31 เค้าสุขภาพร่างกายเ้าอยู่ในกลุ่มเสียงมย
00:33:31 → 00:33:34 อือถ้าถ้าอยู่ในกลุ่มเสียงแน่นอนเขาคก็จะ
00:33:34 → 00:33:38 ป่วยมากขึ้นครับแล้วก็รุนแรงขึ้นครับอือ
00:33:38 → 00:33:43 ค่ะอ่าฮะอ่อมีคุณผู้ฟังถามมาสักนิดนึง
00:33:43 → 00:33:45 ครับคุณหมอครับ
00:33:45 → 00:33:48 เอ่อถามเกี่ยวกับเรื่องฝุ่นเรื่องฝุ่น
00:33:48 → 00:33:51 เนี่ยจริงๆแล้วคุณผู้ฟังอยากรู้ว่าฝุ่น
00:33:51 → 00:33:54 เนี่ยมันมาจากฝุ่น PM 2.5 แล้วกันเนาะ
00:33:54 → 00:33:56 เอาเฉพาะจอดจงไปแล้วกันเนาะ PM 2.5
00:33:56 → 00:33:59 เนี่ยมันมาจากการเผาอย่างเดียวหรือเปล่า
00:33:59 → 00:34:02 ครับคุณหมอหรือว่าฝุ่น apm 2.5 เนี่ยมัน
00:34:02 → 00:34:05 มาจากสาเหตุอื่นๆได้อผมถามเติมไปอีกสัก
00:34:05 → 00:34:09 นิดนึงแล้วกันถ้ามันมันมาจากแหล่งที่ต่าง
00:34:09 → 00:34:11 กันเจ๊ PM 2.5 เนี่ย
00:34:11 → 00:34:15 เอ่อโอกาสที่จะทำให้มีผลต่อสุขภาพต่างกัน
00:34:15 → 00:34:17 ด้วยมั้ยคุณหมอครับ
00:34:17 → 00:34:19 เใช่ครับ
00:34:19 → 00:34:24 ก็มันต่อ PM 2.5 เป็นกลุ่มที่เ่อเป็น
00:34:24 → 00:34:28 อนุภาคที่เล็กกว่า 2.5 ไมคอนอือฮึค่ะนะ
00:34:28 → 00:34:31 ครับเป็นฝุ่นชนิดเล็กเลยครับนะครับที่มี
00:34:31 → 00:34:34 ขนาดน้อยกว่านี้ซึ่งมันมีองค์ประกอบจาก
00:34:35 → 00:34:39 สารพิษอื่นๆเข้ามาด้วยนะมันไม่ใช่ฝุ่น
00:34:39 → 00:34:43 ฝุ่นฝุ่นดินฝุ่นโคนใช่มั้ยครับค่ะแล้วเ่อ
00:34:43 → 00:34:46 สารพิษพวกนี้มักจะเกิดจากกระบวนการเผา
00:34:46 → 00:34:49 ไหม้อือฮึอือฮึครับเผาไหม้ที่ไหนล่ะครับ
00:34:49 → 00:34:55 อ่าในสวนโรงงาอุตสาหกรรมเผาขยะเผาป่าเผา
00:34:55 → 00:34:58 ในกเครื่องเครื่องยนต์
00:34:58 → 00:35:02 ใช่มั้ยครับค่ะนะแล้วกเวลาเเกิดควันเกิด
00:35:02 → 00:35:06 อ่าเ่อสารเคมีที่เกิดจากกระบวนการเขาไห้
00:35:07 → 00:35:11 มันก็ไม่ได้มีแต่เฉพาะเ่ออนุภาคใดอนุภาค
00:35:11 → 00:35:16 หนึ่งมันเป็นองค์ประกอบรวมนะฮะที่มีเอ่อ
00:35:16 → 00:35:19 สารต่างๆประกอบกันแม้แต่โลหะหนักอะไรต่าง
00:35:19 → 00:35:23 ๆที่ผสมอยู่ในนั้นครับแล้วถ้าอ่าควันหรือ
00:35:23 → 00:35:29 ว่าอ่าตัวฝ่นตรงนั้นเนี่ยมีสารเคมีซึ่ง
00:35:29 → 00:35:32 ไม่ดีเช่นก่อมะเร็งมากอะไรอย่างเงี้เนี่ย
00:35:32 → 00:35:36 ค่ะแน่นอนเราก็มีสัดส่วนการที่จะเป็น
00:35:36 → 00:35:41 มะเร็งในจังหวะนั้นก็สูงขึ้นครับนะถ้าสาร
00:35:41 → 00:35:44 นั้นกลายเป็นเ่อสารเ่อที่อาจจะไม่ได้กร่อ
00:35:44 → 00:35:49 มะเร็งมากเเป็นกอ่าเผาไหม้แต่ว่าอาจจะอ่า
00:35:49 → 00:35:52 ค่อนข้างเผาไหม้แล้วไม่มีสารตกค้างอะไร
00:35:52 → 00:35:56 มากมันก็แค่ระคายเคืองใช่มั้ยครับนะมัน
00:35:56 → 00:36:00 ต้องต้องดูว่าตอ่าองค์ประกอบของเ่อตัว PM
00:36:00 → 00:36:04 นะตอนจุนั้นเนี่ยมันมาจากไหนครับมากแน่
00:36:04 → 00:36:09 นอนว่าสมมุติว่าเ่า PM ที่เกิดจากโรงงาน
00:36:09 → 00:36:12 สารเคมีแห่งนึงเ่อระเบิดขึ้นมาหรืออะไรก็
00:36:12 → 00:36:15 แล้วแต่เนี่ยเนี่ยเอ่ออันนั้นท่าทางน่าจะ
00:36:16 → 00:36:19 สารพิษน่าจะสูงใช่มั้ยครับนะค่ะจะมีองค์
00:36:19 → 00:36:23 ประกอบของสารพิษอะไรต่างๆเนี่ยสูงครับนะอ
00:36:23 → 00:36:27 อเป็นต้นี่ครับอย่างนั้นครับอืแสดงว่า
00:36:27 → 00:36:31 แหล่งเผาไหม้ที่ต่างกันก็มีผลเอ่อแหล่ง
00:36:31 → 00:36:34 เผาไหม้ที่ที่ที่สร้าง PM 25 ที่ต่างกัน
00:36:34 → 00:36:37 ก็มีผลที่ที่เอ่อผู้ได้รับไปก็ต่างกันไป
00:36:37 → 00:36:42 ด้วยรแดงก็ต่างกันไปสอืใช่ครับอ่าฮะแล้ว
00:36:42 → 00:36:44 ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการสะสมด้วยใช่มั้ย
00:36:44 → 00:36:47 คุณหมอใช่ปริมาณที่เรารับแล้วก็สะสมกันไป
00:36:47 → 00:36:51 ครับออืค่ะบอกว่าตรงนี้ต้องดูเป็นภาพภาพ
00:36:52 → 00:36:55 ยาวๆเลยครับนะอย่าอย่าดูว่าอ่าเดี๋ยวก็
00:36:55 → 00:36:59 2-3 วันนี้อากาศทางตะวันออกพัดมาอากาศ
00:36:59 → 00:37:02 มันตาปลิวไปแล้วอะไรอย่างเงี้ยนะฮะแล้ว
00:37:03 → 00:37:06 แต่เดี๋ยวมันจะมาใหม่มอะไรอย่างเงี้เนี่ย
00:37:06 → 00:37:09 ทุกครั้งที่มันมามันก็สะสมกันไปเรื่อย
00:37:09 → 00:37:12 หมายถึงร่างกายเรานะครับเราก็สะสมไตัวสาร
00:37:13 → 00:37:17 พิษไปเรื่อยนะฮะงั้นจะดีกว่ามถ้าเราต้อง
00:37:17 → 00:37:23 พยายามลดในเรื่องของเ่าตัวสารอ่าอ่า
00:37:23 → 00:37:26 มลภาวะตรงนี้ให้น้อยลงอย่างน้อยก็ทีละ
00:37:26 → 00:37:29 เล็กทีละน้อยน้อยก็ดีครับดีกว่ามันเพิ่ม
00:37:29 → 00:37:32 ขึ้นทุกวันนะไม่เพิ่มขึ้นทุกปีฮะครับนะฮะ
00:37:32 → 00:37:37 ค่ะก็ถือว่าเป็นอีกแนวทางนึงแต่ว่าถ้า
00:37:37 → 00:37:40 เมื่อกี้เราคุยกันถึงเรื่องของอ่าการสวม
00:37:40 → 00:37:44 หน้ากาก n95 การมีเ่อเครื่องกรองอากาศติด
00:37:44 → 00:37:47 บ้านไว้ถ้าหากว่าแบบเอ่อสามารถซัพพอร์ต
00:37:47 → 00:37:50 ตรงนี้ได้แนวอีกแนวทางในเรื่องของการดูแล
00:37:51 → 00:37:54 อื่นๆคุณหมอมีอะไรเพิ่มเติมมยคะครับแน่
00:37:54 → 00:37:59 นอนครับบอกว่าเ่อในส่วนของของบ้านเราติด
00:37:59 → 00:38:00 เครื่องกรองอากาศแล้วเนี่ยเราก็ต้องปิด
00:38:01 → 00:38:04 บ้านใช่มั้ยครับค่ะนะฮะเอ่อเก็ต้องพยายาม
00:38:04 → 00:38:08 เ่อปิดบ้านเอาไว้ให้มากที่สุดในยามที่ PM
00:38:08 → 00:38:11 มาครับอืนะฮะเปิดๆปิดๆมันก็จะเข้ามาสะสม
00:38:11 → 00:38:15 ภายในบ้านอีกส่วนนึงที่ตาจะพูดต่านิดนึง
00:38:16 → 00:38:19 ก็คือว่าเอ่อการตากแม้แต่เรื่องการตากผ้า
00:38:19 → 00:38:23 เนี่ยเราตากผ้ากันเ่อถ้าตากกางแจ้งในช่วง
00:38:23 → 00:38:29 ที่มีเรื่องของ P เยอะๆเนี่ยพวกคเ่าลพ
00:38:29 → 00:38:31 ต่างๆ PM ต่างๆมันก็สะสมอยู่ที่เนื้อผ้า
00:38:32 → 00:38:34 เราเองใช่่ไหมครับเรามาจับมาใส่อะไรต่างๆ
00:38:34 → 00:38:38 เราก็จะมีผลกระทบไปด้วยนะเพนั้นการตักใน
00:38:38 → 00:38:41 ที่ร่มหรือว่าใช้เรื่องของเครื่องงบอะไร
00:38:41 → 00:38:44 ต่างๆเเนี่ยอาจจะเป็นสิ่งที่เป็นทางเลือก
00:38:44 → 00:38:47 ที่ดีขึ้นนะครับแล้วก็สำหรับผู้ป่วย
00:38:47 → 00:38:50 เรื่องภูมิแพ้เองนะครับหรือ
00:38:50 → 00:38:55 เอ่อผู้ป่วยเครื่องหอบืดนะฮะเ่อหรือเ่อ
00:38:55 → 00:38:59 ผู้ป่วยที่ต้องมียาอรับประทานอ่าประจำตัว
00:38:59 → 00:39:02 อย่างสม่ำเสมอนั้นเนี่ยก็ควรต้องใช้ยาที่
00:39:02 → 00:39:05 สม่ำเสมอมากขึ้นนะบางครั้งเราอาจะต้อง
00:39:05 → 00:39:08 เอ่อใช้ยาเพื่อป้องกันมากกว่าเรื่องของ
00:39:09 → 00:39:12 ป่วยแล้วแล้วค่อยมาใช้ยาค่ะอืนะฮะแม้แต่
00:39:12 → 00:39:16 เรื่องของเ่อยาแค่แพ้อย่างเงี้ยฮะอ่าถ้า
00:39:16 → 00:39:20 เราแพ้แล้วก็แสดงว่าการอักเสบมันเ่อ
00:39:20 → 00:39:22 ระเบิดระเบ้อไปแล้วเงี้ยเนี่ยเราต้องใช้
00:39:22 → 00:39:26 ยาปริมาณมากครับแต่ถ้าว่าเรารู้สึกเออ
00:39:26 → 00:39:29 อากาศไม่ค่อยดีเนี่ยกินกัดกันเอาไว้ก่อน
00:39:29 → 00:39:33 เนี่ยมันก็จะลดอการอักเสบที่รุนแรงให้ให้
00:39:33 → 00:39:36 มันน้อยลงเราก็อาจจะใช้ยาประคับประคองได้
00:39:36 → 00:39:40 จำนวนที่น้อยลงด้วยครับครับนะหรือแม้ยา
00:39:40 → 00:39:43 ขยายหลอดรมอะไรก็แล้วแต่ถ้าเรารู้ตัวว่า
00:39:43 → 00:39:46 เราเป็นหอบขืดอยู่เนี่ยเนี่ยในช่วงที่
00:39:46 → 00:39:49 อากาศไม่ดีเเนี่ยอ่าถ้าเรามียูยาใกล้ตัว
00:39:49 → 00:39:52 เราก็อาจจะต้องใช้ยาเพื่อเมนเทนอาการเอา
00:39:52 → 00:39:57 ไว้นะฮะซึ่งซึคนไข้ห่อปืดเจะรู้ฮะว่ายา
00:39:57 → 00:40:01 ของเขามียาอยู่ 2 ระดับนะเป็นยาใช้ในการ
00:40:01 → 00:40:05 รักษาเมนเทนอาการกับยาอ่าใช้ในยามฉุกเฉิน
00:40:05 → 00:40:07 หรือว่าช่วยเพื่อช่วยชีวิตเขาค่ะเพราะ
00:40:08 → 00:40:11 ฉะนั้นเาควรต้องเลือกยาเพื่อป้องกันอ่า
00:40:11 → 00:40:15 เ่าอาการที่จะอ่าอักเสบแล้วก็เกิดอ่า
00:40:15 → 00:40:18 กระตุ้นให้โรคประจำตัวที่เขาเป็นนั้นเกำ
00:40:18 → 00:40:22 เริบขึ้นครับอืในส่วนของเอ่อทางผิวหนัง
00:40:22 → 00:40:26 เองนั้นเนี่ยอ่าเนื่องจาก PM นเนี่ยมัน
00:40:26 → 00:40:29 เป็นสิ่งซึ่งละลน้ำได้ส่วนใหญ่ใช่มั้ครับ
00:40:29 → 00:40:34 อนะฮะการอาบน้ำการทาครีมนะฮะหรือถ้ามี
00:40:34 → 00:40:38 อาการคันเราก็ใช้ยาต้านฮิสตามีนยาแก้แผล
00:40:38 → 00:40:41 ก็จะเป็นตัวที่สามารถที่จะลดในเรื่องของ
00:40:41 → 00:40:45 การระคายเคืองที่อยู่หนังเขได้ด้วย่งาว
00:40:45 → 00:40:49 นี้เอ่อเราอาจจะต้องเ่อเราเราดูตัวชี้วัด
00:40:49 → 00:40:53 ดูไอ้อ่า aqy เสสับเรียบร้อยแล้วเนี่ยเรา
00:40:53 → 00:40:57 ต้องมาปรับใช้กับตัวเราด้วยครับอืค่ะใช้
00:40:57 → 00:41:00 ดูเสร็จแล้วเราเราไม่ทำอะไรเลยใช่มั้ย
00:41:00 → 00:41:02 ครับเราเราดูแล้วเราเราป้องกันตัวเองได้
00:41:02 → 00:41:05 ตั้งหลหลากหลายวิธีนะครับแม้แต่เรื่องการ
00:41:05 → 00:41:08 ใช้ยาเพื่อป้องกันก็บอคิดว่าเป็นสิ่งที่
00:41:08 → 00:41:12 อาจจะเ่อมีประโยชน์มากกว่าป่วยมากๆแล้ว
00:41:12 → 00:41:15 แล้วค่อยมาหาหมออะไรอย่างเงี้ยนะครับค่ะ
00:41:15 → 00:41:20 ครับออคุณหมอคะขวัญเนี่ยเมื่อช่วง 2-3
00:41:20 → 00:41:23 วันก่อนเจอออกไปข้างนอกแต่ว่าคือก็สวม
00:41:23 → 00:41:26 หน้ากากบ้างไม่สวมบ้างอันนี้ก็เอ่อไม่ไม่
00:41:26 → 00:41:29 ไม่ได้แนะนำให้ทำแบบนี้นะคะแต่ว่าบาง
00:41:29 → 00:41:32 สถานการณ์มันไม่สะดวกมีหน้ากากจริงๆแต่
00:41:32 → 00:41:36 ว่าคือมันเกิดอาการระคายเคืองดวงตาเวลา
00:41:36 → 00:41:39 แบบกแบบเหมือนเวลาปิดตาหลับตาแล้วเนี่ย
00:41:39 → 00:41:43 มันจะแสบรู้สึกแบบไม่ไม่สบายตาเลยอันนี้
00:41:43 → 00:41:47 คือหนึ่งในความเอ่อเป็นภูมิแพ้หรือเราแพ้
00:41:47 → 00:41:52 ฝุ่นค่ะก็คือต้องถามว่าเเราเคยภูเ่าเรา
00:41:52 → 00:41:55 เป็นภูมิแพ้คันตามาก่อนมีมั้ยครับเคยเคย
00:41:55 → 00:41:58 เป็นบ้างแต่ว่านันนานถึงจะเป็นครั้งนึง
00:41:58 → 00:42:01 ส่วนใหญ่จะเป็นภูมิแพ้เหมือนกับว่ามีน้ำ
00:42:01 → 00:42:05 มูกหลายเอ่ออาการคัดจมูกและเป็นภูมิแพ้
00:42:05 → 00:42:10 ผิวหนังจมูกค่ะครับคือกภูมิแพ้ที่ตาเนี่ย
00:42:10 → 00:42:13 ก็เป็นตัวนึงที่พบบ่อยครับก็อย่างคนไกล้
00:42:13 → 00:42:15 เหมือนกันก็คือพอเรารับป่าสารก่อความ
00:42:15 → 00:42:18 ระคายเคือง PM มาเราก็จะมีอาการมากขึ้น
00:42:18 → 00:42:22 ได้เราอาจจะต้องใส่แว่นตาใช่มั้ยครับ
00:42:22 → 00:42:28 ออ้ามีแว่นตาอ๋อค่ะใช่ครับแต่นี้เอ่อ
00:42:28 → 00:42:30 อย่างเรื่องหน้ากากนี้เนี่ยเ่ออย่างที่
00:42:30 → 00:42:34 บอกครับมันก็ไม่ได้ช่วยมากถ้าเป็นสหน้า
00:42:34 → 00:42:38 กากปกตินะครับนะแต่ว่าการใส่มันก็ลดทอน
00:42:38 → 00:42:41 ได้อย่างน้อยก็ลดไปสัก 40% ก็ยังดีครับจะ
00:42:41 → 00:42:44 ไม่ได้ลดได้ทั้งหมดครับอ๋อถ้างั้นขอถาม
00:42:44 → 00:42:47 เพิ่มเติมต่อเนื่องด้วยค่ะว่าถ้าเหมือนใน
00:42:47 → 00:42:51 กรณีจมูกเนี่ยหลายคนกลับบ้านเอ่อก็จะล้าง
00:42:51 → 00:42:55 จมูกด้วยน้ำเกลือแล้วในกรณีตาเนี่ยเรา
00:42:55 → 00:42:59 สามารถล้างด้วยน้ำเกลือแบบนั้นแบบจมูกได้
00:42:59 → 00:43:04 มยหรือมันมีความเหมาะสมในการดูแลมคะด้วย
00:43:04 → 00:43:07 ด้วยการใช้น้ำเกลือในการแบบเหมือนเกลือก
00:43:07 → 00:43:10 ตาในน้ำเกลืออย่างเงี้ยค่ะอือ่าสามารถทำ
00:43:10 → 00:43:13 ได้ครับหรือถ้าถ้าสะดวกเนี่ยเราก็ใช้
00:43:13 → 00:43:16 เรื่องของน้ำตาเทียมก็ได้นะครับค่ะมันก็
00:43:16 → 00:43:20 จะจะช่วยลดเ่าแล้วก็ชำระล้างอ่าสิ่งที่
00:43:20 → 00:43:24 มันตกค้างอ่าได้ครับอแต่าวนี้เอ่อมันมี
00:43:24 → 00:43:28 กลไกนึงที่อาจจะเ่อเอ่อเ่ออาจจะคุยให้ฟัง
00:43:28 → 00:43:31 นิดนึงครับค่ะเ่าการที่เป็นภูมิแพ้ทาง
00:43:31 → 00:43:35 จมูกเนี่ยเนี่ยอ่าส่วนใหญ่แล้วนะครับจะมี
00:43:35 → 00:43:39 ภูมิแพ้ทางตาร่วมด้วยเนื่องจากจมูกกับตา
00:43:39 → 00:43:42 เนี่ยมันมีอ่ากลไกทำงานที่เกี่ยวเนื่อง
00:43:42 → 00:43:46 กันเหมือนเวลาคนเราโมีอะไรคันๆจมูกจาม
00:43:46 → 00:43:48 ปุ๊บเนี่ยน้ำตาไหลอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:43:48 → 00:43:51 แต่มันมีกลไกที่เกี่ยวเนื่องกันเพนั้นต
00:43:51 → 00:43:55 การดูแลจมูกให้ดีนะครับบางคนเป็นภูมิแพ้
00:43:55 → 00:43:58 กินยาแก้แพ้ในจมูกอ่าเรื่องน้ำตาลไหล
00:43:58 → 00:44:01 ระคายเครืองตาก็ดีขึ้นอือหรือบางคนต้อง
00:44:01 → 00:44:05 ใช้ยาปล้นจมูกนะฮะปล้นจมูกแล้วเ่อเรื่อง
00:44:05 → 00:44:08 การระคายเืองตาก็ดีขึ้นก็เป็นได้ครับ
00:44:08 → 00:44:11 เพราะว่ามันมีส่วนที่อาจจะลิ้งกันเราจะ
00:44:11 → 00:44:14 ไม่ได้รับจากฝุ่นโดยตรงก็ได้นะครับเพียง
00:44:14 → 00:44:17 แต่ว่าระคายจมูกมากแล้วก็มีเอฟเฟคมีอาการ
00:44:17 → 00:44:21 ทางตาเป็นผลพวงมาก็ได้ครับอเพราะมันมี
00:44:21 → 00:44:23 กลไกทางระบบประสาทเกี่ยวเนื่องกันอยู่
00:44:23 → 00:44:28 ครับอค่ะนะอ๋อตอนแรกก็คิดว่าเอ๊ะมัน
00:44:28 → 00:44:31 เหมือนสแยกกันแยกส่วนกันหรือเปล่าเพราะ
00:44:31 → 00:44:35 ว่าจริงๆแล้วพอขวัญอย่างจะหลับตานนอนหลับ
00:44:35 → 00:44:38 นี่คือมันแสบจนแบบข่มตานอนหลับไม่ลงเลย
00:44:38 → 00:44:43 อ่ะอืใช่ครับคือเอ่อเ่อตัว algy หรือว่า
00:44:43 → 00:44:47 เ่อภูมิแพ้เนี่ยเ่าเราพบว่ามันเป็น
00:44:47 → 00:44:51 combine รวมกันนะฮะเป็นออจิไน
00:44:51 → 00:44:55 conjunctivitis นะครับก็คือทั้งจมูกแล้ว
00:44:55 → 00:44:58 ก็เยื้อบู่ตาเนี่ยจะเกิดเกิดการอักเสบมา
00:44:58 → 00:45:01 ร่วมกันครับน้อยรายมากครับที่ที่บอกว่า
00:45:01 → 00:45:04 เป็นจมูกอย่างเดียวไม่มีตาเลยส่วนใหญ่มา
00:45:04 → 00:45:08 เพราะว่าอ่า้าจมูกน้ำมุกไหลใสจามอาการมัน
00:45:08 → 00:45:11 เด่นกว่าก็เลยเล่าให้หมอฟังว่ามีอ่าเฉพาะ
00:45:11 → 00:45:14 จมูกอค่ะแต่ถ้าถ้าถามไปถามมาบอกคันตามั้ย
00:45:14 → 00:45:18 นู่นนี่นั่นมเยอะมากครับส่วนใหญ่เลยบอกก็
00:45:18 → 00:45:24 ด้วยก็ไปด้วยครับค่ะก็สำหรับเรื่องของ
00:45:24 → 00:45:27 ฝุ่น PM 2.5 เนี่ยในช่วงท้ายค่ะคุณหมอ
00:45:27 → 00:45:30 ขวัญอยากขอให้คุณหมอสรุปนิดนึงค่ะว่ามี
00:45:30 → 00:45:34 ความเชื่อมโยงมีตัวเป็นตัวเร่งภูมิแพ้มาก
00:45:34 → 00:45:37 น้อยแค่ไหนแล้วถ้าเราอยู่กับ PM 2.5 ไป
00:45:37 → 00:45:40 เรื่อยๆร่างกายสุขภาพเราจะเสี่ยงมากน้อย
00:45:41 → 00:45:45 แค่ไหนยังไงคะคุณหมอครับเอ่อโดยสรุปนะ
00:45:45 → 00:45:49 ครับนะให้มอง PM 2.5 นั้นเนี่ยเป็นสาร
00:45:49 → 00:45:52 ก่อความระคายเคืองหรือเป็นมลภาวะ
00:45:52 → 00:45:57 ครับแล้วมลภาวะตัวนี้นะครับมันมีผลต่อสข
00:45:57 → 00:46:01 ภาพเรามากกว่าที่เราคิดครับนะครับนะฮะไม่
00:46:01 → 00:46:04 ใช่ว่าเ่อจะไปกระตุ้นให้เกิดเรื่องของ
00:46:04 → 00:46:07 ภูมิแพ้ที่มากขึ้นแต่มันยังนำไปสู่เรื่อง
00:46:07 → 00:46:12 ของภาวะการติดเชื้อแล้วก็ทำให้สุขภาพอ่า
00:46:12 → 00:46:15 ร่างกายอ่าเราโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงนั้น
00:46:15 → 00:46:19 เนี่ยทรุดตัวลงได้ด้วยนะโดยเฉพาะ
00:46:19 → 00:46:23 เอ่อผู้ที่่าสูงอายุอาจจะมีโรคหัวใจอาจจะ
00:46:23 → 00:46:27 มีโรคปอดเรื้อรังอยู่แล้วนะครับนะซึ่ง
00:46:27 → 00:46:31 เอ่อถ้าปกติธรรมดานะครับนะเขาอาจจะสามารถ
00:46:31 → 00:46:36 จะยังมีชีวิตยืนยาวได้แต่ถ้าโดนฝุ่น PM
00:46:36 → 00:46:39 2.5 มากระตุ้นให้มากขึ้นมากขึ้นเขา
00:46:39 → 00:46:42 สามารถเปลี่ยนสถานะอ่าทำให้ตัวโลกนั้นเ
00:46:42 → 00:46:45 รุนแรงมากจนกระทั่งอาจจะไม่ย้อนกลับนะ
00:46:46 → 00:46:50 ครับนะอนะอันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึง
00:46:50 → 00:46:54 ถึงนะครับนะต้องมาช่วยกันนะฮะว่าจะทำยัง
00:46:54 → 00:46:58 ไงให้สามารถที่จะลดปมาณ PM 2.5 ให้มันลด
00:46:58 → 00:47:03 ลงด้วยฝีมือมนุษย์นะครับนะไม่ใช่เทวดาฟ้า
00:47:03 → 00:47:07 ดินให้ลมมันพัดไปอะไรอย่างเงี้เมันมันมัน
00:47:07 → 00:47:11 ไม่ใช่ยุคแล้วนะครับค่ะยุคนี้มันต้องต้อง
00:47:11 → 00:47:16 แคีเราต้องทำฮะอนะถ้าเรารอธรรมชาติบอกอ
00:47:16 → 00:47:19 เดี๋ยวลมมันจะมาอะไรอย่างเงี้ยเนี่ยเอ่อ
00:47:19 → 00:47:23 หมอว่าเราเราก็เสี่ยงหลายๆเรื่องทั้งเจ็บ
00:47:23 → 00:47:26 ป่วยมากขึ้นแล้วก็ในกลุ่มของโรคมะเร็ง
00:47:26 → 00:47:30 ต่างๆที่จะมีมากขึ้นครับอันนี้ต้องต้องขอ
00:47:30 → 00:47:33 ฝากไว้ครับครับค่ะได้ค่ะสำหรับวันนี้
00:47:33 → 00:47:36 ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะที่สละเวลากับ
00:47:36 → 00:47:39 สุขภาพดี 22:00 นของเราค่ะขอบคุณครับคุณ
00:47:39 → 00:47:42 หมอครับครับยินดีครับครับสวัสดีครับ
00:47:42 → 00:47:46 สวัสดีค่ะครับนายแพทย์สดมเพียรพินิจนะคะ
00:47:46 → 00:47:48 แพทย์เฉพาะทางหูคอจมูกโรงพยาบาล
00:47:49 → 00:47:52 ไทยนครินทร์