00:00:06 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:13 ธิดาพรปิเปตและนี่คือศัลยกรรมความสุขราย
00:00:13 → 00:00:17 การที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นมี
00:00:17 → 00:00:19 ความทุกข์น้อยลง
00:00:19 → 00:00:23 พี่อ้อยคิดว่าคนเราเวลาที่เราทำความดีเรา
00:00:23 → 00:00:26 จะมีความสุขไหมครับทำดีก็ต้องมีความสุข
00:00:26 → 00:00:29 เพราะว่ามันจะมีความสุขตั้งแต่ตอนที่ได้
00:00:29 → 00:00:32 ทำดีมันน่าจะเป็นอย่างนั้นนะพี่อ้อยแต่
00:00:32 → 00:00:35 ล่าสุดเนี่ยผมเห็นเพื่อนคนหนึ่งเขาโพสต์
00:00:35 → 00:00:37 ในโซเชียลมีเดีย
00:00:37 → 00:00:39 คือเขาทำความดี
00:00:39 → 00:00:41 แต่เขามีความทุกข์
00:00:41 → 00:00:43 ทุกข์มากเลยต้องมาระบายในโซเชียลมีเดีย
00:00:43 → 00:00:44 แล้ว
00:00:44 → 00:00:48 ก็ทำที่เขาโพสต์เนี่ยทำให้เรารู้เลยว่า
00:00:48 → 00:00:51 เขาทำความดีแต่เขามีความทุกข์เพราะว่า
00:00:51 → 00:00:55 สิ่งที่เขาโพสต์คือเขาเป็นคนที่ทำบุญกับ
00:00:55 → 00:00:57 คนไม่ขึ้น
00:00:57 → 00:01:01 [เพลง]
00:01:01 → 00:01:06 ไงทำบุญกับคนไม่ขึ้นจะบอกว่าคำนี้ได้ยิน
00:01:06 → 00:01:10 บ่อยมาก
00:01:10 → 00:01:15 นะคะก็คืออันนึงที่ได้ยินคำพูดของคนที่
00:01:15 → 00:01:19 พูดประโยคนี้บ่อยเนี่ยเขาบอกว่าดวงเขา
00:01:20 → 00:01:25 ดวงเขาเป็นดวงที่ทำบุญกับคนไม่ขึ้นมีดวง
00:01:25 → 00:01:28 นี้ด้วยใช่ไหมได้ยินมาว่าอย่างนั้นแต่แต่
00:01:28 → 00:01:31 เราไม่อินนะคะเราไม่แน่ใจครับเพราะว่าแต่
00:01:31 → 00:01:35 ว่ามีเขาบอกว่าเนี่ยพอไปหาหมอดูหรือไป
00:01:35 → 00:01:37 เช็คดวงเขาบอกว่าเนี่ยดวงจะเป็นอย่างนี้
00:01:37 → 00:01:40 ถ้าคุณเกิดวันนี้ถ้าคุณเกิดอะไรอย่างนี้
00:01:40 → 00:01:45 นะจะทำบุญกับคนไม่ขึ้นเนี่ยผมพอผมได้ยิน
00:01:45 → 00:01:46 คำนี้ผมก็เอ๊ะ
00:01:46 → 00:01:51 ยังไงดีล่ะเนี่ยเพราะว่าคำแรกก็คือคำว่า
00:01:51 → 00:01:53 ทำบุญ
00:01:53 → 00:01:55 ทำบุญนี้มันก็คือ
00:01:55 → 00:01:57 มันเป็นเรื่องดี
00:01:57 → 00:02:01 มันเป็นสิ่งดีแล้วก็เกิดคำถามต่อมาว่าเรา
00:02:01 → 00:02:05 ทำเรื่องดีทำสิ่งดีเราก็ต้องมีความสุขสิ
00:02:05 → 00:02:09 แล้วทำไมเราถึงทำเรื่องดี
00:02:09 → 00:02:12 เรามีความทุกข์
00:02:12 → 00:02:14 แล้วเพราะว่า
00:02:14 → 00:02:18 คำพูดเยอะทั้งหมดเนี่ยที่บอกว่าทำบุญกับ
00:02:18 → 00:02:20 คนไม่ขึ้นเนี่ย
00:02:20 → 00:02:22 มันเป็นคำว่าทำบุญก็จริงแต่พอเต็มประโยค
00:02:22 → 00:02:26 ปุ๊บเนี่ยมันแสดงให้เห็นถึงความขัดข้อง
00:02:26 → 00:02:27 หมองใจ
00:02:27 → 00:02:29 ความไม่สบายใจ
00:02:29 → 00:02:34 แล้วมันเป็นสื่อถึงความความทุกข์ของคนพูด
00:02:34 → 00:02:37 มันก็เลยผมก็เลยจะมาปรึกษาพี่อ้อยนี้ครับ
00:02:37 → 00:02:38 ว่า
00:02:38 → 00:02:40 เป็นเพราะอะไรเนี่ยในฐานะที่พี่อ้อยมี
00:02:40 → 00:02:43 ประสบการณ์ชีวิตเยอะ
00:02:43 → 00:02:48 เราคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเหมือนกัน
00:02:48 → 00:02:52 จริงๆทำบุญหรือทำดี
00:02:52 → 00:02:57 คือมันจุดที่เราได้ทำบุญหรือทำดี
00:02:57 → 00:03:02 มันคือจุดณเวลานั้นที่เราจะต้องรู้สึกว่า
00:03:02 → 00:03:08 เรามีความสุขละที่ได้ทำแค่แค่ได้ทำมันคือ
00:03:08 → 00:03:10 ได้สุขค่ะ
00:03:10 → 00:03:12 แต่ว่าเพราะว่าคนเราอ่ะ
00:03:12 → 00:03:16 มันเขาเรียกว่าอะไรอ่ะคิดยาวไปกว่านั้น
00:03:16 → 00:03:21 คือพอเราทำดีเราก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า
00:03:21 → 00:03:25 มันก็ต้องได้ดีสิมันก็ต้องมีผลตอบแทนที่
00:03:25 → 00:03:26 ดีสิ
00:03:26 → 00:03:31 มันก็ต้องมีคนเห็นสิว่าฉันทำดีมันจะมีตอน
00:03:31 → 00:03:34 ต่อไปที่เราอ่ะคิด
00:03:34 → 00:03:37 เนี่ยพอพอเวลาเราคิดเกินจากจุดที่ว่าเรา
00:03:37 → 00:03:40 ทำดีแล้วเรามีความสุขไปแล้วเนี่ยเราลืม
00:03:40 → 00:03:44 ด้วยด้วยซ้ำไปว่าเรามีความสุขตั้งแต่ได้
00:03:44 → 00:03:46 ทำเพราะฉะนั้นพอคิดต่อเนื่องไปปุ๊บเนี่ย
00:03:46 → 00:03:51 มันกลับไปคาดหวังคาดหวังคนจะเห็นคาดหวัง
00:03:51 → 00:03:55 จะต้องได้ทำดีต้องได้ดีกลับมาทำดีต้องมี
00:03:55 → 00:04:00 ผลตอบแทนอะไรที่ดีขึ้นทีนี้พอคาดหวังแทรก
00:04:00 → 00:04:04 เข้าไปปุ๊บมันก็มีสิทธิที่จะต้องผิดหวัง
00:04:04 → 00:04:09 ได้ความสุขลดความสุขลืมไปแล้วตั้งแต่แรก
00:04:09 → 00:04:12 มีความสุขตั้งแต่ตอนแรกค่ะ
00:04:12 → 00:04:14 แล้วผมก็เลยนึกถึงว่า
00:04:14 → 00:04:18 เหตุที่แท้จริงของของความทุกข์อันเกิดจาก
00:04:18 → 00:04:21 ทำบุญกับแล้วทำดีแล้วไม่ได้มีความรู้สึก
00:04:21 → 00:04:23 ดีหรือไม่มีความสุข
00:04:23 → 00:04:27 ต้นเหตุของมันก็คือเป็นการทำดีหรือทำบุญ
00:04:27 → 00:04:31 แบบที่พี่ออยพูดเมื่อกี้เนี่ยสรุปก็คือ
00:04:31 → 00:04:33 การทำบุญแบบหวังผล
00:04:33 → 00:04:36 เพราะฉะนั้นมันก็เลยกลายเป็นว่าพอหวังผล
00:04:36 → 00:04:41 ปึ๊บมันก็จะไม่ได้ไม่ได้ตามที่หวังก็กลาย
00:04:41 → 00:04:45 เป็นนอกจากไม่ถูกลอตเตอรี่ถูกแล้วเรา
00:04:45 → 00:04:48 เมื่อกี้พี่อ้อยพูดอีกคำหนึ่งที่น่าสนใจ
00:04:48 → 00:04:52 ก็คือทำแล้วคนจะต้องเห็น
00:04:52 → 00:04:56 เราจะต้องได้รับการชื่นชมแล้วก็ต้องมีคน
00:04:56 → 00:04:58 ตอบแทนอะไรอย่างเงี้ย
00:04:58 → 00:05:00 แสดงว่า
00:05:00 → 00:05:02 ประเด็นนี้
00:05:02 → 00:05:05 ทำบุญแล้วมันจะมีความสุขหรือไม่เนี่ยมัน
00:05:05 → 00:05:07 ไม่ได้ตอนนี้กลายเป็นว่าตัวแปรไม่ใช่อยู่
00:05:07 → 00:05:13 ที่สิ่งที่ทำแล้วขึ้นกับคนอื่นเนี่ย
00:05:13 → 00:05:17 ผลของความดีไปมอบให้กับคนอื่นหมดเลยถ้าคน
00:05:17 → 00:05:20 อื่นไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแบบนั้นเราก็
00:05:20 → 00:05:21 ไม่สุดแล้วเนี่ย
00:05:21 → 00:05:24 แสดงว่าเราต้องกลับมา
00:05:24 → 00:05:28 ถ้าเราตกอยู่ในสภาวะนี้นะ
00:05:28 → 00:05:31 เราต้องกลับมานั่งนิ่งๆกับตัวเอง
00:05:31 → 00:05:35 แล้วก็คิดใหม่ว่าในความเป็นจริงแล้วเราทำ
00:05:35 → 00:05:37 เนี่ยเพื่ออะไร
00:05:37 → 00:05:40 ถ้าเราทำแล้วเราหวังผลนะ
00:05:40 → 00:05:46 แสดงว่าอะไรจุดเริ่มต้นก็ผิดแล้วแล้วพอ
00:05:46 → 00:05:48 พูดถึงอย่างนี้นะพี่อ้อยว่าทำบุญแล้วก็
00:05:48 → 00:05:53 หวังผลเนี่ยหลายครั้งเนี่ยผมเห็นหลายกรณี
00:05:53 → 00:05:56 เลยไม่ใช่ว่าทำบุญระหว่างผลอย่างเดียวนะ
00:05:56 → 00:06:02 ทำบุญกะจิตลิตร
00:06:02 → 00:06:06 อย่างเช่นอย่างเช่นมีคนจำนวนมากเลยนะครับ
00:06:06 → 00:06:12 พี่อ้อยพี่อ้อย
00:06:12 → 00:06:16 คือนานค่ะเพราะว่าไม่ไม่ค่อยได้ซื้อไม่
00:06:16 → 00:06:19 ค่อยได้ซื้อค่ะแล้วคนที่ขายลอตเตอรี่
00:06:19 → 00:06:22 เนี่ยพี่อ้อยลองนึกดูว่าคนที่ขาย
00:06:22 → 00:06:25 ลอตเตอรี่เนี่ยจะมีหลายประเภทคนทั่วไป
00:06:25 → 00:06:29 ธรรมดาที่ขายลอตเตอรี่กับคนพิการขาย
00:06:29 → 00:06:30 ลอตเตอรี่
00:06:30 → 00:06:35 ถ้าจะมีคนซื้อเขาจะซื้อขายตัวเองนะคะเป็น
00:06:35 → 00:06:43 ตัวเองก็จะอยากซื้อคนพิการเพราะอะไรครับ
00:06:43 → 00:06:47 แต่ก็มีคนจำนวนมากเหมือนกันที่ซื้อ
00:06:47 → 00:06:50 ลอตเตอรี่แล้วเพื่อเป็นการช่วยคนพิการนะ
00:06:50 → 00:06:53 แล้วก็หวังว่าผลบุญนั้นจะทำให้เราถูก
00:06:53 → 00:06:54 ลอตเตอรี่
00:06:54 → 00:06:58 คือหลายคนอาจจะบอกว่าไม่หวังก็ได้แต่ก็
00:06:59 → 00:07:11 แอบหวังลึกๆ
00:07:11 → 00:07:14 อาจจะโชคดีอะไรอย่างเงี้ยแต่ไม่ได้ไปหวัง
00:07:14 → 00:07:25 ขนาดนั้นผิดหวังขนาดนั้นเมื่อไม่ถูกค่ะ
00:07:25 → 00:07:28 คิดง่ายๆเลยพี่ว่าสมมุติว่านะซื้อ
00:07:28 → 00:07:31 ลอตเตอรี่ 1 ใบเนี่ยราคา
00:07:31 → 00:07:35 80 ตามที่เขาพิมพ์แต่เราไม่เคยซื้อ 80
00:07:35 → 00:07:37 ซะสักทีหรือจะ 100 นึงก็แล้วแต่สมมุติอ่ะ
00:07:37 → 00:07:40 ร้อยนึงหรือ 120 อ่ะสมมุติแดงก็มีคนขาย
00:07:40 → 00:07:44 120 ก็มีนะอย่างเงี้ยเราทำบุญไป 120
00:07:45 → 00:07:48 เนี่ยคนนั้นเนี่ยคนที่ขายลอตเตอรี่เรา
00:07:48 → 00:07:50 เนี่ยได้เท่าไหร่
00:07:50 → 00:07:55 สมมุติว่าได้ 40 50
00:07:55 → 00:07:58 เราอ่ะได้ทำบุญให้เขาไป 50 บาทส่วนที่
00:07:58 → 00:08:00 เหลือเป็นต้นทุนนะเราก็เป็นคนทำอยู่ดีแต่
00:08:00 → 00:08:04 ว่าเขาว่าได้จากเราไป 58 นะ
00:08:04 → 00:08:06 แต่เราหวังอ่ะสมมุติว่าถ้าเราหวังอย่าง
00:08:06 → 00:08:08 น้อยถูกลอตเตอรี่
00:08:08 → 00:08:11 เอาเลขท้ายก่อนเลขท้าย
00:08:11 → 00:08:15 เลขท้าย 2 ตัวเลขท้าย 2 ตัวนี้มันเท่า
00:08:15 → 00:08:19 ไหร่ไม่รู้เราไม่ใช่
00:08:19 → 00:08:22 2-3 พันหรือเปล่าอะไรประมาณนี้นะแต่
00:08:22 → 00:08:25 สมมุติว่า 2-3 พันอ่ะนะ
00:08:25 → 00:08:29 เดี๋ยวนะครับเราทำบุญไป 50
00:08:29 → 00:08:35 แต่หวังผล 3,000 กี่เท่า
00:08:35 → 00:08:37 60 เท่าอ่ะ
00:08:37 → 00:08:41 คือทำบุญหวังผล 60 เท่า
00:08:41 → 00:08:44 คือมันหวังเกินไปไหม
00:08:44 → 00:08:49 ผมกำลังคิดในแง่ของความคาดหวังมันใหญ่
00:08:49 → 00:08:54 เกินใช่ครับว่าเราทำความดีกับจี๊ดฤทธิ์
00:08:54 → 00:08:56 แต่หวังผลแบบมหาศาล
00:08:56 → 00:09:00 หลายคนนี้ไม่ใช่หวัง 2-3 พันนะ
00:09:00 → 00:09:02 แต่วันที่ 1 เลย
00:09:02 → 00:09:07 นับเท่าไม่ถูกเลยตกเลขไม่รู้กี่เท่าเลย
00:09:07 → 00:09:10 แต่ว่าประเด็นของที่เราพูดถึงเนี่ยพี่
00:09:10 → 00:09:13 อ้อยเรากำลังพูดถึงว่าคนที่มีความทุกข์
00:09:13 → 00:09:15 จากการทำความดี
00:09:15 → 00:09:18 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความทุกข์จากการทำ
00:09:18 → 00:09:19 ความดี
00:09:19 → 00:09:23 ให้หยุดคิดเลยว่ามันต้องมีอะไรผิดสัก
00:09:23 → 00:09:26 อย่างหนึ่ง
00:09:26 → 00:09:32 ว่ามันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นขั้นตอนไหน
00:09:32 → 00:09:35 แล้วก็ลองค้นหาดู
00:09:35 → 00:09:38 แต่อันนึงที่เราเห็นเนี่ยชัดเจนเลยก็คือ
00:09:38 → 00:09:40 ว่ามันผิดพลาดตรงที่
00:09:40 → 00:09:42 อันดับแรกนะ
00:09:42 → 00:09:47 ทำความดีแต่หวังผลนี่แหละใช่ค่ะเพราะถ้า
00:09:47 → 00:09:50 หวังผลปั๊บมันจะไม่ได้ตามที่หวังปั๊บผิด
00:09:50 → 00:09:52 หวังทันทีปั๊บเลย
00:09:52 → 00:09:59 แล้วก็มันมีมีกรณีที่ตัวเองเจอค่ะ
00:09:59 → 00:10:03 ก็ไปวันนั้นไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
00:10:03 → 00:10:07 ระหว่างที่นั่งรอก็มีเป็น
00:10:07 → 00:10:11 โดยสภาพภายนอกนะคะ
00:10:11 → 00:10:15 เขาจะใส่ชุดของชุดนักเรียน
00:10:15 → 00:10:18 ของเด็กผู้หญิงก็คือเสื้อขาวกระโปรง
00:10:18 → 00:10:19 น้ำเงิน
00:10:19 → 00:10:23 แล้วก็มีผมเปีย
00:10:23 → 00:10:26 แต่ว่า
00:10:26 → 00:10:30 เวลาเขาพูดสื่อสารเรารู้ว่าเขาไม่ใช่เด็ก
00:10:30 → 00:10:32 ผู้หญิงค่ะ
00:10:32 → 00:10:34 เขาเป็นเด็กผู้ชายนะคะ
00:10:34 → 00:10:38 แล้วก็จะใส่ชุดผู้หญิงแล้วก็เขาก็มาขาย
00:10:38 → 00:10:45 เสนอขายพวงกุญแจอ๋อ
00:10:45 → 00:10:50 3 อัน 100 บาท
00:10:50 → 00:10:52 ที่เราเห็นเขาอ่ะ
00:10:52 → 00:10:54 เรารู้แล้วแหละว่า
00:10:54 → 00:10:56 มันไม่ใช่
00:10:56 → 00:11:02 คือโดยโดยเพศสภาพเป็นแบบนึงชุดข้างนอก
00:11:02 → 00:11:05 เป็นแบบนึงนะคะแล้วก็ไม่มีปากด้วยว่าโรง
00:11:05 → 00:11:07 เรียนอะไร
00:11:07 → 00:11:09 แล้วเสียงที่เขาสื่อสารมาเราก็รู้แล้วก็
00:11:09 → 00:11:11 บอกว่า
00:11:11 → 00:11:16 น้องเขาพูดก่อนว่าเขามาขายของเป็นพวง
00:11:16 → 00:11:17 กุญแจนู่นนี่
00:11:17 → 00:11:21 แล้วก็บอกว่าอ้าววันนี้วันธรรมดาหนูไม่ไป
00:11:21 → 00:11:24 เรียนหรอคะเขาบอกว่าวันนี้โรงเรียนหนู
00:11:24 → 00:11:34 หยุดค่ะ
00:11:34 → 00:11:38 เราเราก็บอกว่าตกลงเท่าไหร่ก็คือ 3 ตัว
00:11:38 → 00:11:39 100 ค่ะ
00:11:39 → 00:11:43 อ๋อโอเคก็เลือกก็เลือกมา 3 ตัว
00:11:43 → 00:11:47 แล้วก็ให้เงินเขา 200 บาท
00:11:47 → 00:11:49 ให้เงินเขา 200 บาทเขาก็บอก
00:11:49 → 00:11:52 เออหนูขาย 3 ตัว 100 ค่ะ
00:11:52 → 00:11:55 เราก็เลยบอกว่าอ๋อไม่เป็นไรค่ะ
00:11:55 → 00:11:58 เออก็หนูเอาไปเถอะ
00:11:58 → 00:12:02 นะคะแล้วก็เราเราก็กลับมาแล้วเราก็ได้คุย
00:12:02 → 00:12:04 กับใครบางคน
00:12:04 → 00:12:08 เออเล่าให้ฟังแบบเนี้ยเค้าบอกก็รู้แต่แรก
00:12:08 → 00:12:12 แบบคือเนี่ยก็คือหล่ออ่ะพอเราเห็นภาพอะไร
00:12:12 → 00:12:15 อ่ะเด็กผู้ชายใส่ชุดเด็กผู้หญิงชื่อป้าย
00:12:15 → 00:12:17 โรงเรียนก็ไม่มีนี่นั่นโน่นวันก็ไม่ใช่
00:12:17 → 00:12:20 วันวันเสาร์อาทิตย์อะไรอย่างเงี้ยแล้วพอ
00:12:20 → 00:12:23 พอเราให้เขา 200 บาทก็ดีใจวิ่งหนีไปเลย
00:12:23 → 00:12:27 เออเขาบอกว่าดูแล้วเนี่ยจริงๆแล้วก็คือมา
00:12:27 → 00:12:33 หลอกนั่นแหละแต่ในมุมของพี่อ้อยมองว่าคน
00:12:33 → 00:12:36 เราคงไม่ได้อยากแล้วเขาขายแบบเขาก็ไปซื้อ
00:12:36 → 00:12:41 มาของมามาขายเราแล้วเขาก็ขาย 3 ตัว 100
00:12:41 → 00:12:45 ส่วนไอ้เรื่องที่เขาจะแบบไม่ใช่ตัวจริง
00:12:45 → 00:12:47 ที่เขาจะมาอะไรอย่างนี้อันนั้นเป็นเรื่อง
00:12:47 → 00:12:51 ของเขาแล้วก็แต่เราก็ซื้อของในมุมที่เรา
00:12:51 → 00:12:54 มีความรู้สึกว่า 3 ตัว 100 มันก็โอเคเรา
00:12:54 → 00:12:57 จะเอาไปแจกใครอะไรก็ว่าไปส่วนอีกร้อยนึง
00:12:57 → 00:12:59 ที่เราให้เขามีความรู้สึกว่าเขาทำมาหากิน
00:12:59 → 00:13:03 เขาไม่ได้ไปเป็นเอ่อจี้ป้อนเสพยาหรืออะไร
00:13:03 → 00:13:05 อย่างเงี้ยเรามองว่าอย่างนั้นแล้วส่วน
00:13:05 → 00:13:08 เรื่องที่มันไม่เกี่ยวข้องน่ะเราตัดทิ้ง
00:13:08 → 00:13:10 หมดเลยว่าเขาจะมาหลอกหรืออะไรเพราะฉะนั้น
00:13:10 → 00:13:14 พี่อ้อยมีความสุขตั้งแต่ที่ได้ทำดีที่ได้
00:13:14 → 00:13:17 ช่วยอุดหนุนแล้วก็ช่วยน้องเขาไปแล้วค่ะ
00:13:17 → 00:13:20 แล้วเราก็สบายใจแล้วสบายใจเลยแล้วก็ไม่มี
00:13:20 → 00:13:23 ต้องมาคิดอะไรว่าไอ้เด็กคนนี้มันมาหลอก
00:13:23 → 00:13:27 หรือมันจะยังไงอะไรไม่อยู่ในหัวค่ะสบายใจ
00:13:27 → 00:13:31 โหพอพี่อ้อยพูดอย่างนี้ผมนึกถึงมันมีข้อ
00:13:31 → 00:13:34 บางอย่างที่ผิดสังเกตกับประโยคที่เป็น
00:13:34 → 00:13:35 ชื่อตอนนี้เลย
00:13:35 → 00:13:39 คือทำบุญกับคนไม่ขึ้น
00:13:39 → 00:13:43 เพราะผมนึกถึงแล้วอย่างนี้แสดงว่าเราต้อง
00:13:43 → 00:13:46 แยกคำสองคำไม่เกี่ยวกัน
00:13:46 → 00:13:48 คือคำว่าทำดี
00:13:48 → 00:13:52 กับคำว่าทำบุญ
00:13:52 → 00:13:55 ทำดีกับทำบุญที่เป็นคนละเรื่องนะ
00:13:55 → 00:13:59 คือเราทำสิ่งที่ดีๆแต่เราไม่ได้คิดว่ามัน
00:13:59 → 00:14:01 เป็นบุญด้วย
00:14:01 → 00:14:02 [เพลง]
00:14:02 → 00:14:05 ทำดีเพราะว่าเราอยากทำแล้วเราทำแล้วเรามี
00:14:05 → 00:14:08 ความสุขโดยวิธีคิดของเรา
00:14:08 → 00:14:11 ยังไม่ได้กี้นี้พี่อ้อยบอกว่าก็
00:14:11 → 00:14:16 ดูแล้วมันเหมือนกับน้องเขาไม่ได้เป็นนัก
00:14:16 → 00:14:17 เรียนจริง
00:14:18 → 00:14:22 แต่เขาก็ทำมาหากิน
00:14:22 → 00:14:24 เขาอาจจะไม่จริงใจประมาณนึงแต่อันนี้
00:14:24 → 00:14:28 เรื่องของเขาแต่เราอ่ะก็อยากจะช่วยเขา
00:14:28 → 00:14:32 สนับสนุนครับสิ่งที่เราทำดีไหมดีแต่พี่
00:14:33 → 00:14:35 อ้อยไม่ได้พูดถึงว่าไม่เป็นไรถือว่าทำบุญ
00:14:35 → 00:14:38 กับน้องเขาพี่ไม่ได้ไม่ได้พูดคำนี้เลยไม่
00:14:38 → 00:14:41 คิดเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมก็เลยเห็น
00:14:41 → 00:14:44 ความแตกต่างของ 2 คำนี้เลย
00:14:44 → 00:14:46 คือทำดี
00:14:46 → 00:14:48 กับทำบุญ
00:14:48 → 00:14:52 ทำดีก็คือดีแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำดีแล้ว
00:14:52 → 00:14:54 เราหวังว่าจะได้อะไรจากนั้นเราก็เลยเรียก
00:14:54 → 00:14:56 ว่ามันคือทำบุญ
00:14:56 → 00:15:00 มันมีความจริงอย่างนั้นนะแล้วก็เลยมันทำ
00:15:00 → 00:15:01 ให้นึกถึงว่า
00:15:01 → 00:15:06 หลายครั้งเนี่ยพี่อ้อยบางคนเนี่ยเขามี
00:15:06 → 00:15:09 ระดับของการทำความดี
00:15:09 → 00:15:11 ที่มีความ
00:15:11 → 00:15:15 ซับซ้อนแตกต่างกันไปเรื่อยๆอย่างเมื่อคืน
00:15:15 → 00:15:17 กรณีเมื่อสักครู่นี้ของภาคที่ตัวอย่าง
00:15:17 → 00:15:18 เนี่ย
00:15:18 → 00:15:22 ผมฟังตอนแรกผมถ้าผมบอกตรงๆเลยนะถ้าเป็นผม
00:15:22 → 00:15:24 เห็นอย่างนี้ปุ๊บผมไม่ซื้อเลย
00:15:24 → 00:15:27 เพราะว่าอันนี้มาแบบถึงแม้ไม่มิจฉาชีพแต่
00:15:27 → 00:15:39 ว่านี่ของปลอมแต่พี่อ้อยพอฟังไปเรื่อยๆ
00:15:39 → 00:15:41 แต่พอพี่อ้อยมาอธิบายเหตุผลเนี่ยทำให้เรา
00:15:41 → 00:15:47 เข้าใจได้ว่าเออสงคือถูกต้องที่น้องเขา
00:15:47 → 00:15:53 ยังไงก็ตามทีเขาก็ทำมาหากิน
00:15:53 → 00:15:57 เพื่อเรียกความสงสัยอะไรก็แล้วแต่อันนั้น
00:15:57 → 00:16:00 เรื่องของเขาเราไม่เกี่ยว
00:16:00 → 00:16:03 ทำมากิน
00:16:03 → 00:16:07 ให้เขาได้มีความชุ่มชื้นหัวใจนะถ้าผมนึก
00:16:07 → 00:16:10 ถึงเรื่องเรื่องหนึ่งครับพี่อ้อยเมื่อ
00:16:10 → 00:16:13 หลายปีก่อนน่าจะเป็น 10 ปีแล้วล่ะนะ
00:16:13 → 00:16:16 พี่อ้อยเคยได้ยินชื่อสมเด็จพระสันตะปา
00:16:16 → 00:16:20 จอห์นปองที่ 2 ไหม
00:16:20 → 00:16:24 ปลายาวนานมากแล้วเป็นคนที่ทั้งโลกรักน่ะ
00:16:24 → 00:16:30 แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งนะครับก็มีคนเนี่ยมา
00:16:30 → 00:16:31 ขอความช่วยเหลือจาก
00:16:31 → 00:16:35 จากที่ 2
00:16:35 → 00:16:37 เวลาที่มีใครมาขอความช่วยเหลือท่านจะช่วย
00:16:37 → 00:16:39 เสมอเลย
00:16:39 → 00:16:41 แล้วหลังจากนั้นมีอยู่ครั้งหนึ่งมีอยู่
00:16:41 → 00:16:43 กรณีหนึ่งเนี่ยก็มีคนมาขอความช่วยเหลือ
00:16:43 → 00:16:45 แล้ว
00:16:45 → 00:16:48 คนใกล้ชิดก็มาเตือนท่านว่า
00:16:48 → 00:16:51 ท่านรู้ไหมว่าคนนี้เขาเขาหลอกลวงเขาไม่
00:16:51 → 00:16:53 ใช่ของจริงหรอก
00:16:53 → 00:16:56 ท่านก็บอกว่าท่านก็ไม่รู้หรอกนะ
00:16:56 → 00:17:00 แต่ท่านมีเกณฑ์ในการทำช่วยเหลือคนอยู่
00:17:00 → 00:17:01 ก็คือว่า
00:17:01 → 00:17:06 ท่านยอมยอมถูกคนที่ไม่จริงใจหรอก 99
00:17:06 → 00:17:08 ครั้ง
00:17:08 → 00:17:11 ดีกว่าการที่เพราะเรากังวลว่าเขาจะมาหลอก
00:17:11 → 00:17:14 หรือเปล่าเนี่ยก็เลยทำให้เราไม่ได้ช่วยคน
00:17:14 → 00:17:17 ที่เดือดร้อนจริงๆ 1 คน
00:17:17 → 00:17:19 ยอม
00:17:19 → 00:17:23 เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราเอะใจว่าของจริง
00:17:23 → 00:17:25 หรือเปล่าเราก็เลยไม่ช่วยนี่นะมันอาจจะทำ
00:17:25 → 00:17:28 ให้เราพลาดโอกาสที่จะช่วยคนที่เขาเดือด
00:17:28 → 00:17:30 ร้อนจริงๆ 1 คน
00:17:30 → 00:17:35 ค่ะพี่อ้อยเห็นเลเวลหรือระดับของ
00:17:35 → 00:17:39 คนที่จะทำความดีโดยที่ไม่ได้หวังผลน่ะ
00:17:39 → 00:17:43 แล้วทำให้เขาเนี่ยไม่ต้องเดือดเนื้อร้อน
00:17:43 → 00:17:45 ใจเป็นทุกข์เป็นร้อนใจ
00:17:45 → 00:17:48 จากสิ่งที่ทำเพราะว่า
00:17:48 → 00:17:51 เขาไม่คาดหวังเลย
00:17:51 → 00:17:54 เพราะฉะนั้นตอนนี้เนี่ยเป็นตอนที่บอกว่า
00:17:54 → 00:17:57 ทำบุญกับคนไม่ขึ้นเนี่ย
00:17:57 → 00:18:02 ในความเป็นจริงแล้วมันมีอยู่จริงไหมเนี่ย
00:18:02 → 00:18:06 ในมุมของพี่อ้อยเนี่ยมีความรู้สึกว่ามัน
00:18:06 → 00:18:10 อยู่ที่วิธีคิดจริงๆแล้วเนี่ยถ้าอย่างที่
00:18:10 → 00:18:13 เราดำเนินรายการมาแต่แรกเนี่ยถ้าเราบอก
00:18:13 → 00:18:16 ว่าเราทำบุญเราทำดีแล้วเราก็มีความสุข
00:18:16 → 00:18:21 ตั้งแต่ที่เราได้ทำบุญทำดีมันคือจบไปแล้ว
00:18:21 → 00:18:24 ปิดจ๊อบเราไปแล้วไม่ใช่หน้าที่เราแล้ว
00:18:24 → 00:18:28 ส่วนที่ไอ้ที่เราคนที่เราบอกว่าทำไม่ขึ้น
00:18:28 → 00:18:31 เพราะว่าเราเราไปหวังผลกับไอ้คนที่เราทำ
00:18:31 → 00:18:34 กับเขาตรงนี้มันเป็นอีก Step นึงที่มัน
00:18:34 → 00:18:38 เหมือนกับว่าในมุมของเราเราควบคุมตัวเรา
00:18:38 → 00:18:42 ในมุมว่าความสุขเกิดจากการที่เราได้ทำ
00:18:42 → 00:18:46 ตั้งแต่ครั้งแรกแต่เมื่อเราไปหวังผลจาก
00:18:46 → 00:18:47 บุคคลอื่น
00:18:47 → 00:18:51 ที่เราไปช่วยเขาอะไรก็ตามหรือเราไป
00:18:51 → 00:18:53 ประเมินเขาหรือไปตัดสินเขา
00:18:53 → 00:18:57 แล้วเราก็ไปหวังผลว่าไม่ใช่ไม่จริงมาหลอก
00:18:57 → 00:19:00 เรียนนู่นมันความสุขที่ควรมีมันก็เลยกลาย
00:19:00 → 00:19:03 เป็นไม่มีเพราะเอาความสุขตัวเองไปฝากไว้
00:19:03 → 00:19:05 กับคนอื่นค่ะ
00:19:05 → 00:19:08 มันไม่น่าจะมีจริงผมก็เลยมีเทคนิคอีกอัน
00:19:08 → 00:19:11 นึงอยากจะมาแบ่งปันถ้าใครที่อยากจะแบบ
00:19:11 → 00:19:14 อยู่ในสภาวะไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะของความ
00:19:14 → 00:19:17 ทุกข์เนื่องจากการทำความดีนะ
00:19:17 → 00:19:21 เทคนิคนี้ก็คือพวกเราจะต้องเป็นคนที่
00:19:21 → 00:19:26 เป็นคนที่มีลักษณะแบบนี้ครับก็คือเป็นคน
00:19:26 → 00:19:32 ที่ลืมบุญคุณคนน่ะ
00:19:32 → 00:19:39 จริงๆเขาไม่ได้ใช้ในของพี่วีนะคะ
00:19:39 → 00:19:47 ว่าไอ้คนที่ลืมบุญคุณคนนี้มันเป็นคนแย่
00:19:47 → 00:19:50 รู้ทันทีเลยใช่ไหมแต่คุณผู้ฟังอาจจะเฮ้ย
00:19:50 → 00:19:53 ลืมบุญคุณคนมันดีได้ไงแต่คุณผู้ฟังต้อง
00:19:53 → 00:19:57 ฟังให้ดีๆนะครับการลืมบุญคุณคนเนี่ยมันจะ
00:19:57 → 00:20:01 เป็นสิ่งที่ดีมากถ้าคนที่ลืมบุญคุณน่ะคือ
00:20:01 → 00:20:04 คนที่เป็นคนทำคุณ
00:20:04 → 00:20:08 เวลาที่เราทำคุณประโยชน์ให้ใครแล้วเราลืม
00:20:08 → 00:20:12 บุญคุณนั้นเสียเนี่ยโหชีวิตเราจะดีมากเลย
00:20:12 → 00:20:16 ผมเคยเจอผู้ใหญ่คนนึงนะแล้วก็ไปนัดเจอกัน
00:20:16 → 00:20:18 แล้วก็ไปนั่งทานข้าวกันเพราะเจอกันปุ๊บ
00:20:18 → 00:20:22 เนี่ยเราก็พูดคุยหรือฟื้นความทรงจำด้วย
00:20:22 → 00:20:25 ความประทับใจว่าท่านจำได้ไหมครับว่าท่าน
00:20:25 → 00:20:28 เคยเป็นคนที่สนับสนุนผมในเรื่องนั้น
00:20:28 → 00:20:30 เรื่องนี้คือเขาเป็นคนที่ช่วยเหลือผมแบบ
00:20:30 → 00:20:33 สนับสนุนผมในหลายเรื่องมากให้ผมได้ไป
00:20:33 → 00:20:37 ศึกษาอบรมได้ไปเรียนวิชาที่ดีเป็นคน
00:20:37 → 00:20:40 สนับสนุนในทุกเรื่องให้โอกาสคือเต็มไปหมด
00:20:40 → 00:20:43 อ่ะตลอดชีวิตเนี่ยพอได้เจอท่านก็เลยเล่า
00:20:43 → 00:20:46 ให้ท่านฟังหลังจากที่ผมเล่าให้ฟังว่าท่าน
00:20:46 → 00:20:48 มีบุญคุณยังไงกับเรานะ
00:20:48 → 00:20:52 คำตอบมาคำเดียวท่านตอบว่าเหรอ
00:20:52 → 00:20:54 จำไม่ได้เลย
00:20:54 → 00:20:59 วินาทีนั้นผมได้ได้เรียนรู้กลยุทธ์ขั้น
00:20:59 → 00:21:02 เทพของของ
00:21:02 → 00:21:06 ผู้บริหารระดับสูงตัวจริงของผู้นำตัวจริง
00:21:06 → 00:21:11 ก็คือว่าเขามีเทคนิคในการทำดีโดยที่
00:21:11 → 00:21:18 ลืมเรามีบุญคุณต่อใครเนี่ยเราจำไม่ได้เลย
00:21:18 → 00:21:20 เพราะเป็นแบบนี้นะ
00:21:20 → 00:21:24 เพราะที่พี่อ้อยบอกว่าเวลาที่เราทำบุญ
00:21:24 → 00:21:28 เกณฑ์ทั่วๆไปนะเราก็หวังผลใช่ไหมครับผล
00:21:28 → 00:21:30 น้อยที่สุดที่เราหวังคืออะไรรู้ไหมพี่
00:21:30 → 00:21:31 อ้อย
00:21:31 → 00:21:34 ก็คือหวังว่าอย่างน้อยเขาจะจำได้
00:21:34 → 00:21:37 ว่าเราเคยมีบุญเกิดเขาไม่ต้องมาตอบแทน
00:21:37 → 00:21:38 ด้วยนะ
00:21:38 → 00:21:41 ถ้าเกิดว่าเขาจำได้ว่าเรามีบุญคุณต่อเขา
00:21:41 → 00:21:44 เนี่ยหลายคนก็ชื่นใจแล้วนะ
00:21:44 → 00:21:48 เห็นไหมครับว่าอันนี้คือน้อยสุดที่เราคาด
00:21:48 → 00:22:12 หวังแล้ว
00:22:12 → 00:22:16 มันก็ได้อยู่ในสภาวะของคนที่ทำสิ่งที่ดี
00:22:16 → 00:22:20 แล้วก็มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ
00:22:20 → 00:22:23 อย่างกรณีของเขาเนี่ยผู้ใหญ่ท่านนี้เนี่ย
00:22:23 → 00:22:28 เขามีความสุขที่ได้สนับสนุนใครสักคนหนึ่ง
00:22:28 → 00:22:32 ให้เติบโตแล้วก็เติบโตแล้วก็ไปสร้างคุณ
00:22:32 → 00:22:36 ค่าต่อแล้วก็ไปเลยซึ่ง
00:22:36 → 00:22:40 เราในฐานะที่ท่านมีบุญคุณกับเราและท่านก็
00:22:40 → 00:22:45 ไม่ได้จำด้วยซ้ำไปพอคำตอบว่าเหลือออกมา
00:22:45 → 00:22:49 เนี่ยมันทำให้เราอ่ะกลับยิ่งเคารพนับถือ
00:22:49 → 00:22:53 ท่านมากขึ้นนะคะไม่ทุกข์เลยกับเพิ่มความ
00:22:53 → 00:22:56 สุขขึ้นไปอีกมากขึ้นไปอีกค่ะงั้นความ
00:22:56 → 00:22:59 สำนึกในบุญคุณของเราที่มีต่อท่านเนี่ยกับ
00:22:59 → 00:23:03 มากขึ้นไปอีกเออมันน่าแปลกนะพี่อ้อยแล้ว
00:23:03 → 00:23:07 ในเรื่องเดียวกันเลยนะสมมุติว่านะมีใคร
00:23:07 → 00:23:11 สักคนหนึ่งมีบุญคุณต่อใครอีกคนนึง
00:23:11 → 00:23:15 แล้วเราอ่ะซึ่งเป็นคนสร้างคุณนั้นน่ะเรา
00:23:15 → 00:23:19 ยังไม่ลืมแต่เขาลืมไปแล้วคนที่ได้รับลืม
00:23:19 → 00:23:22 ไปแล้วแล้วน่าประหลาดก็คือถ้าเราไปเตือน
00:23:22 → 00:23:23 เขา
00:23:23 → 00:23:25 เราเป็นคนทำให้เขานะ
00:23:25 → 00:23:28 แล้วเขาลืมไปแล้วแต่เตือนนี่ๆเธอจำได้ไหม
00:23:28 → 00:23:32 ว่าฉันเคยช่วยเธออย่างนั้นไงวินาทีที่เรา
00:23:32 → 00:23:33 เตือนเนี่ยที่ให้รู้ไหมว่า
00:23:33 → 00:23:38 นับจากวินาทีนั้นบุญคุณขายไปหมดเลยนะ
00:23:38 → 00:23:41 เพราะอะไรรู้ไหมเพราะว่าสิ่งนี้เหตุการณ์
00:23:41 → 00:23:46 แบบนั้นเขาเรียกว่าการลำเลิกบุญคุณทวงบุญ
00:23:46 → 00:23:47 คุณ
00:23:47 → 00:23:52 เพราะเริ่มมีการถ่วงเมื่อคุณค่ามันฟืบหาย
00:23:52 → 00:23:53 ไปหมดเลย
00:23:53 → 00:23:56 แต่ตรงกันข้ามเมื่อสักครู่นี้ใช่ไหมฮะเขา
00:23:57 → 00:24:00 ทำแล้วเขาก็ลืมแต่เรายังจำได้อยู่กลาย
00:24:00 → 00:24:04 เป็นบุญคุณนะเนี่ยเพิ่มปริมาณทับทวีขึ้น
00:24:04 → 00:24:05 ไปอีก
00:24:05 → 00:24:10 วิธีนี้เป็นวิธีคิดที่ได้กำไรชีวิตนะพี่
00:24:10 → 00:24:11 วี
00:24:11 → 00:24:13 ถ้าสมมุติว่าเรา
00:24:13 → 00:24:18 ยังสำนึกบุญคุณอยู่แล้วก็ท่านไม่ได้คิด
00:24:18 → 00:24:22 ล่ะนะคะกลายเป็นว่า
00:24:22 → 00:24:25 อะไรนะความเคารพนับถือ
00:24:25 → 00:24:28 ที่เราจะมอบให้ท่านน่ะมากขึ้นในขณะที่
00:24:28 → 00:24:30 ท่านไม่ได้หวังอะไรเลยคือ Blank ไปแล้ว
00:24:30 → 00:24:35 แต่เรากับทวีคูณเข้าไปในขณะที่ตรงข้ามถ้า
00:24:35 → 00:24:39 สมมุติว่ายังจำอยู่ยังคาดหวังอยู่แล้วก็
00:24:39 → 00:24:42 เกิดไปทวงบุญคุณลำเลิกบุญคุณเข้าเนี่ยไอ้
00:24:42 → 00:24:45 ความคาดหวังเนี่ยมันก็คือแบบอ่าจะบอกว่า
00:24:45 → 00:24:49 อะไรอ่ะเชิงติดลบและแหละว่ามีโอกาสที่จะ
00:24:49 → 00:24:53 ผิดหวังพอเขาจำไม่ได้
00:24:53 → 00:24:57 โอ้โหยิ่งยิ่งทำให้เราอ่ะแบบคืออะไรนะคุณ
00:24:57 → 00:25:00 ค่าความรู้สึกอะไรต่ออะไรมันมันตกลงไป
00:25:00 → 00:25:02 ทั้งสองฝั่งด้วย
00:25:02 → 00:25:05 เพราะฉะนั้นคุณผู้ฟังครับตอนนี้เป็นตอน
00:25:06 → 00:25:08 ที่พูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการทำบุญกับ
00:25:08 → 00:25:11 คนไม่ขึ้นเนี่ยมันเป็นข้อสังเกตที่เราได้
00:25:11 → 00:25:14 ยินคำนี้แล้วเราก็เอะใจว่ามันน่าแปลกที่
00:25:14 → 00:25:18 ทำไมสิ่งที่ทำคือสิ่งที่ดีแต่ทำไมเราถึง
00:25:18 → 00:25:21 ถูกเราก็ต้องถ้ามีอย่างนี้เมื่อไหร่นะ
00:25:21 → 00:25:24 ต้องเอะใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นผิดสังเกต
00:25:24 → 00:25:28 ตรงไหนแล้วหาให้เจอแล้วก็ซ่อมมันซะง่ายๆ
00:25:28 → 00:25:33 ก็คือทำแล้วทำเลยลืมไปเลยแล้วก็อย่าไปคาด
00:25:33 → 00:25:35 หวังอะไรทั้งสิ้นไม่คาดหวังแม้กระทั่ง
00:25:35 → 00:25:38 น้อยที่สุดก็คือจำไม่ได้ไม่คาดหวังว่าเขา
00:25:38 → 00:25:40 จะจำได้ด้วยซ้ำไป
00:25:40 → 00:25:42 ถ้าเป็นอย่างนั้นเนี่ยชีวิตเราก็จะมีความ
00:25:42 → 00:25:46 สุขมากขึ้นแล้วก็มีความทุกข์น้อยลงนะครับ
00:25:46 → 00:25:50 วันนี้ผมพี่วีแล้วก็พี่อ้อยก็ต้องลาไป
00:25:50 → 00:25:52 ก่อนนะครับสวัสดีครับความสุขในตอนนี้พบ
00:25:52 → 00:25:58 กันใหม่ตอนหน้าครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะ
00:25:58 → 00:26:00 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:26:00 → 00:26:03 ของไทยพีแดช็อต
00:26:03 → 00:26:16 spotify Sound Google
00:26:16 → 00:26:20 [เพลง]