00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:31 เราสวัสดีค่ะต้อนรับคุณผู้ฟังทุกท่านเข้า
00:00:31 → 00:00:34 สู่ฟัง for Health podcast ค่ะรายการ
00:00:34 → 00:00:37 ที่จะมาพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพ
00:00:37 → 00:00:39 และแบ่งปันประสบการณ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยว
00:00:39 → 00:00:42 ชาญจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
00:00:42 → 00:00:44 วันนี้คุณผู้ฟังทุกท่านอยู่กับทิปสมัชญา
00:00:44 → 00:00:47 หนอล่านะคะจากงานประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:47 → 00:00:49 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะเรื่อง
00:00:50 → 00:00:52 ราวเกี่ยวกับสุขภาพที่เราจะพูดคุยกันใน
00:00:52 → 00:00:54 วันนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆค่ะ
00:00:54 → 00:00:58 โดยเฉพาะใครที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคหืด
00:00:58 → 00:01:01 นะคะรวมไปถึงคุณผู้ฟังท่านไหนที่เป็นโรค
00:01:01 → 00:01:04 หืดอยู่แล้ววันนี้ต้องฟังเลยนะคะเพราะเรา
00:01:05 → 00:01:07 จะได้พูดคุยกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะถึง
00:01:07 → 00:01:11 เรื่องการดูแลตัวเองวิธีป้องกันหรือว่า
00:01:11 → 00:01:14 ควบคุมไม่ให้อาการกำเริบหรือว่าเป็นหนัก
00:01:14 → 00:01:17 กว่าเดิมจะมีวิธีอย่างไรบ้างนะคะที่สำคัญ
00:01:17 → 00:01:20 ในเดือนพฤษภาคมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง
00:01:20 → 00:01:23 เดือนสำคัญซึ่งเป็นวันหืดโลกนั่นเองนะคะ
00:01:23 → 00:01:25 วันนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรแล้วก็มีความ
00:01:25 → 00:01:28 สำคัญยังไงบ้างเดี๋ยววันนี้เราพูดคุยกัน
00:01:28 → 00:01:31 กับ 1 ท่านค่ะขอตต้อนรับรองศาสตราจารย์
00:01:31 → 00:01:34 นายแพทย์อรรถวุฒิดีสมโชคหัวหน้าหน่วยวิชา
00:01:34 → 00:01:37 ระบบการหายใจเวชบำบัดวิกฤตและภูมิแพ้
00:01:37 → 00:01:40 ประจำภาควิชาอายุธสาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:01:40 → 00:01:43 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะอาจารย์สวัสดีค่ะ
00:01:43 → 00:01:46 สวัสดีครับอาจารย์คะก่อนอื่นถามก่อนเลย
00:01:46 → 00:01:51 โรคหอบหืดกับหืดหอบจริงๆแล้วเรียกชื่ออัน
00:01:51 → 00:01:54 ไหนถูกต้องคะเออถ้าตามตามศัพท์ของราชบท
00:01:54 → 00:01:57 สถานเนี่ยครับเขาจะเรียกว่าโรคหืนอืครับ
00:01:57 → 00:02:02 ส่วนหอบเนี่ยเป็นอาการของคนไข้เนาะซึ่ง
00:02:02 → 00:02:04 ซึ่งก็คือหมายว่าคนไข้มีอาการไจหอป
00:02:04 → 00:02:06 เหนื่อยเนี่ยซึ่งจริงๆแล้วก็อาจจะมีได้
00:02:06 → 00:02:09 เจอได้หายๆโรคนะครับเช่นสอย่างโรคโรคหืด
00:02:09 → 00:02:11 นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นเนาะหรือว่าคนที่
00:02:11 → 00:02:14 เป็นโรคอลังหรืองปองพองคนก็มีอาการ
00:02:15 → 00:02:17 เหนื่อยหรือแม้กอาการเหนื่อยจากโรคหัวใจ
00:02:17 → 00:02:20 เช่นเช่นเชภาวะหัวใจวายหรือภาวะที่มีน้ำ
00:02:20 → 00:02:23 ท่วมปอดอะไรประมาณนี้ครับก็ก็มีการ
00:02:23 → 00:02:25 เหนื่อยได้เพราะฉะนั้นโดยสุก็คือว่าคนไข้
00:02:25 → 00:02:30 ที่เป็นคนไข้โรคหืดนะก็คือโรคที่มีการเสพ
00:02:30 → 00:02:32 เรื่องลังของหลอดลมเนื่องจากได้รับสาร
00:02:32 → 00:02:34 กระตุ้นเนาะนะครับก็คือจะทำให้คนไข้เนี่ย
00:02:34 → 00:02:38 มีภาวะวัเกินต่อหลอสิกระตุ้นก็ทำให้คนไข้
00:02:38 → 00:02:41 มีหลอดลมตีดแล้วก็ทำให้คนไข้มีอาการหายใจ
00:02:41 → 00:02:44 ผอบเหนื่อยได้หายใจมีเสียงดังหายใจเสียง
00:02:44 → 00:02:47 วีสอาจจะมีอาการน้าหน้าอกแล้วก็อาการไอ
00:02:47 → 00:02:50 แห้งๆร่วมได้ครับส่วนอาการหอบนั้นก็คือจะ
00:02:51 → 00:02:54 เจอได้เก็เจอได้ในหลายๆโรคจริงๆแล้วชื่อ
00:02:54 → 00:02:57 ที่ถูกต้องคือโรคหืดใช่ครับแต่สามารถ
00:02:57 → 00:03:00 เรียกหืดหอบหรือหอบหืดก็ได้ก็มีแหละหลาย
00:03:00 → 00:03:04 คนก็เลือแบบนั้นอ่าค่ะถ้าดูจากสถิติในโรง
00:03:04 → 00:03:06 พยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แล้วอ่ะค่ะ
00:03:06 → 00:03:09 อาจารย์มีผู้ป่วยที่เป็นโรคหืดเข้ารับการ
00:03:09 → 00:03:12 รักษานี้มากน้อยขนาดไหนคะผมพูดด้วยภาพรวม
00:03:12 → 00:03:14 ก่อนนะในประเทศไทยเราเนี่ยก็คือว่าเอ่อ
00:03:15 → 00:03:18 โรคโรคหืดเนี่ยเราก็มีมีความชุกนะของโลก
00:03:18 → 00:03:20 เนี้ยในเด็กเนี่ยประมาณร้อยละ 10 นะครับ
00:03:20 → 00:03:23 ส่วนในผู้ใหญ่เนี่ยก็ประมาณร้อยละ 5 คราว
00:03:23 → 00:03:26 นี้ส่วนคนไข้ที่มาตรวจที่ห้องตรวจผู้กป่ย
00:03:26 → 00:03:28 นอกเนี่ยก็มีอยู่จำนวนนึงนะครับแต่ว่า
00:03:28 → 00:03:32 จริงๆแล้วถ้าเราควบคุมได้ดีเนี่ยนะครับเใ
00:03:32 → 00:03:35 ที่มาจะมาห้องฉุกเฉินหรือว่าต้องมานอนรสา
00:03:35 → 00:03:38 โรงพยาบาลเนี่ยก็มีไม่มากนักนะครับเพว่า
00:03:38 → 00:03:41 ในบางรายที่ที่มาห้องฉุดเฉินหรือมารับการ
00:03:41 → 00:03:43 รักษาโรงพยาบาลเนี่ยนะครับบางคนก็มีอาการ
00:03:43 → 00:03:46 รุนแรงเพฉากนั้นก็อาจจะบางรายก็อาจจะมี
00:03:46 → 00:03:49 ภาวะหายใจล้มเหลวต้องใส่โชฉยใจหรือว่า
00:03:49 → 00:03:52 ต้องมานอนรักษาในหอผู้ป่วยหนักอะไรพวกเก็
00:03:52 → 00:03:54 มีมีได้เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้มีปริมาณมาก
00:03:54 → 00:03:57 ถ้าดูสัดส่วนดูเหมือนว่าเด็กจะเยอะกว่า
00:03:57 → 00:04:00 ผู้ใหญ่ใช่มยคะอาจารย์สาเหตุแล้วก็อาการ
00:04:00 → 00:04:04 ของโรคหืมีอะไรบงค่ะอาจารยสาเหตุเนี่ยนะ
00:04:04 → 00:04:06 ครับก็ส่วนใหญ่ก็ที่พูดกันเยอะๆก็คืออาจ
00:04:06 → 00:04:10 จะับพวกสายกคุมแพ้นะครับเช่นสแพ้ในบ้าน
00:04:10 → 00:04:13 เช่นเราได้ไรฝุ่นหรือว่าได้สัมผัสกับแมลง
00:04:13 → 00:04:18 สาบขนของสุนัขหรือขนแมวนะครับนะหรือว่า
00:04:18 → 00:04:21 สารกกุมแพภายนอกเช่นเช่นพวกเก็บสับดอกไม้
00:04:21 → 00:04:23 ดอกหญ้าพวกเครับแล้วบางอย่างก็อาจจะไม่
00:04:23 → 00:04:27 ได้เกี่ยวข้องกับสแพโดยตรงนะเช่นเอใหลาย
00:04:27 → 00:04:30 คนก็อาจจะเป็นเกี่ยวข้องกับหลักการติด
00:04:30 → 00:04:32 เชื้อทางเห่นหายใจหรือว่าช่วงนี้มีการ
00:04:32 → 00:04:36 เปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอุณหภูมิต่างๆนะ
00:04:36 → 00:04:39 อย่างในบางรายที่เราสัมผัสกับพวกฝุ่น
00:04:39 → 00:04:42 ละอองในช่วงก่อนหน้าเนี้ยนะบางคนก็สะสมมา
00:04:42 → 00:04:45 นานๆก็ทำให้เกิดการอักเสบรอดลมก็ทำให้มี
00:04:45 → 00:04:48 อาการของโรคนี่ได้ครับค่ะอันนี้คือสาเหตุ
00:04:48 → 00:04:51 หลักๆที่ทำให้เกิดอาการอ่าโรคหืดกำเริบ
00:04:51 → 00:04:54 แล้วถ้าเป็นอาการล่ะคะส่วนใหญ่คนที่มาหา
00:04:54 → 00:04:57 หมอส่วนใหญ่มีอาการแบบไหนบ้างคะอาจารย์อ
00:04:57 → 00:04:58 ส่วนใหญ่ที่เจอได้ก็อาจจะมีเรื่องตั้งแต่
00:04:58 → 00:05:01 อาการไจเหนื่อยเนาะค่ะนะครับซึ่งอาการหาย
00:05:01 → 00:05:04 ใจเหนื่อยเนี่ยส่วนใหญ่ก็มักจะสัมพันธกับ
00:05:04 → 00:05:07 เวลาเราไปสัมผัสกับสารก่อภูมิแพสาก่อภูมิ
00:05:07 → 00:05:10 แพ้หรือตัวปัจจัยกระตุ้นต่างๆเนาเช่นเช่น
00:05:10 → 00:05:13 ที่กล่าวไปเช่นเจอฝุ่นละอองเจอเอ่อตัวอะไ
00:05:13 → 00:05:17 ฝุ่นในบ้านขนขนสุนัขขนแมวเนาะเกสดอกไม้
00:05:18 → 00:05:20 อากาศที่เปลี่ยนแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลง
00:05:20 → 00:05:22 ทางอารมณ์เนี่ยบางทีก็ทำให้เต้นไม่เกิด
00:05:22 → 00:05:24 อาการได้นะหรือว่าหลังออกการออกกำลังกาย
00:05:24 → 00:05:27 ก็เป็นได้เหมือนกันครานี้ครานี้โรคเส่วน
00:05:27 → 00:05:30 ใหญ่เนี่ยมักจะเป็นในช่วงตอนเอ่อเอเช้า
00:05:30 → 00:05:33 มืดหรือตกลางคืนน่ะหเช้ามืดได้เนาะครับ
00:05:33 → 00:05:35 แล้วก็นอกจากอาการหายใจหอบเหนื่อยแล้ว
00:05:35 → 00:05:37 เนี่ยก็อาจจะมีเรื่องของอาจจะแบงราก็มี
00:05:37 → 00:05:39 หายใจเสียงดังนะเนื่องจากที่เสียงวีส
00:05:39 → 00:05:42 เนื่องจากอลมตีบเนาะแล้วก็มีไอแห้งๆบางร
00:05:42 → 00:05:45 ก็มีการแน่นหน้าอกได้นะครับอค่ะเพราะ
00:05:45 → 00:05:47 ฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วก็ต้อง
00:05:47 → 00:05:50 สังเกตอาการรวมไปถึงคนรอบข้างด้วยนะคะใช่
00:05:50 → 00:05:53 ๆหลายคนสงสัยค่ะอาจารย์ว่าเป็นโรคหืดแล้ว
00:05:53 → 00:05:56 มีโอกาสหายขาดแบบ 100% มั้ยคะเออเนื่อง
00:05:56 → 00:05:58 จากโรกนี้เองจากว่ามันขึ้นกับอาจกระตุ้น
00:05:58 → 00:06:00 ด้วยเนาะจริงๆแล้วถ้าถามว่าว่าถ้าถามว่า
00:06:00 → 00:06:04 หายขาดงคงตอบว่าอาจจะไม่หายขาดเนแต่ว่า
00:06:04 → 00:06:07 เราสามารถควบคุมอาการของโรคเนี่ยนะครับ
00:06:07 → 00:06:10 ให้ให้ผู้ป่วยเนี่ยมีคุณภาพชีวิตที่ดีนะ
00:06:10 → 00:06:13 ใช้ชีวิตได้เหมนคนปกติทำงนได้เหมนคนปกติ
00:06:13 → 00:06:17 นะไม่ต้องมาห้องไม่ต้องมามีิเฉียบพันธที่
00:06:18 → 00:06:20 ต้องมาห้องฉุกเฉินหรือว่าต้องมานโรง
00:06:20 → 00:06:23 พยาบาลอันนี้เราสามารถปัจจุบันสามารถทำ
00:06:23 → 00:06:28 ได้ค่ะก็คืออาจารย์ยืนยันว่าไม่ได้หาขาด
00:06:28 → 00:06:30 แต่เราสามาถคบคุมไม่ให้อาการมันเป็นเยอะ
00:06:30 → 00:06:32 กว่าเดิมหรือว่าอาการกำเริบได้ใช่เราควบ
00:06:32 → 00:06:35 คุมให้คนให้มีชีวิตเหมือนคนปกติเลยค่ะคือ
00:06:35 → 00:06:38 ไม่มีอาการอไม่มีอาการได้นะครับก็ใช้
00:06:38 → 00:06:40 ชีวิตเป็นคนปกติเนาะคือเพราะจริงๆแล้ว
00:06:40 → 00:06:42 เนี่ยนะครับอย่างที่เราบอกว่าเราเจอคนไข้
00:06:42 → 00:06:45 ในผู้ใหญ่ 5 ล 5 เนี่ยเนาจริงๆแล้วเส่วน
00:06:45 → 00:06:47 ใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่มีอาการไม่มากนะครับ
00:06:47 → 00:06:50 จริงๆคนที่มีอาการที่อยู่ในกลุ่มที่เป็น
00:06:50 → 00:06:52 โรคโรคขืรุนแรงเนี่ยอาจจะมีประมาณสักัก
00:06:52 → 00:06:55 ร้อยละ 10 ของของคนที่เป็นโรคนั่นเองซึ่ง
00:06:55 → 00:06:58 ไม่ได้เยอะนะครับค่ะบางคนก็สงสัยเพราะว่า
00:06:58 → 00:07:01 อาการของโรคหืดกับภูมิแพ้เนี่ยมันมัน
00:07:01 → 00:07:03 คล้ายๆกันมันเหมือนกันสรุปแล้วมันมีข้อ
00:07:03 → 00:07:05 แตกต่างกันยังไงคะอ่อก็คืออย่างงี้ครับก็
00:07:06 → 00:07:08 คือโรคภูมิแพ้เนี่ยมันเป็นบอกว่าเป็นภาพ
00:07:08 → 00:07:11 ใหญ่เนาะานี้โรกภูมิแพ้เนี่ยมันจริก็จะมี
00:07:11 → 00:07:13 อาการหลายๆอย่างเนาะเช่นสมมุติว่าบางคน
00:07:14 → 00:07:16 อาจจะไปเป็นแบบพืนแพ้พิวหนังอืใช่มั้ย
00:07:16 → 00:07:18 ครับบางคนก็จะมีแพ้อาหารก็อาจจะมีอาการ
00:07:18 → 00:07:21 ทางระบทางเดินอาหารเนาะหรือว่าบางคนนี้ก็
00:07:21 → 00:07:23 จะมีเรื่องของภูมิแพ้จมูกแล้วก็จะมี
00:07:24 → 00:07:27 เรื่องของมีน้ำมูกมีจามมีคัดจมูกอะไรอย่า
00:07:27 → 00:07:30 เงี้ยครับเนาะหรือว่าหรือโรคโรคหืดเนี่ย
00:07:30 → 00:07:32 ก็เป็นหนึ่งในนั้นเป็นอารหนึของโรคภูมิ
00:07:33 → 00:07:35 แพ้ได้ครานี้ครานี้อย่างที่กล่าวไปครับ
00:07:35 → 00:07:37 คือว่าโรคโรคหืดเนี่ยส่วนหนึงจะเกี่ยวกับ
00:07:38 → 00:07:40 การได้รับสหกรภูมิแพ้นะแต่อีกส่วนหนึ่งก็
00:07:40 → 00:07:43 อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสกรภูมิแพ้โดยตน
00:07:43 → 00:07:45 เพราะฉะนั้นแต่ว่าแน่นอนน่ะว่าคนไที่เป็น
00:07:45 → 00:07:49 โกขือบางคนเนี่ยก็อาจจะมีอาการของระบบ
00:07:49 → 00:07:51 อื่นๆที่เกี่ยวข้องซึ่งที่พวกประวัิเสร็จ
00:07:51 → 00:07:53 ก็คือเรื่องของแพทยเรื่องของจำนอักเสบ
00:07:53 → 00:07:56 เพราะฉะนั้นบางคนเนี่ยที่ที่ที่เป็นเป็น
00:07:56 → 00:07:58 โรคหืดเนี่ยบางทีเราต้องสอบถามการทางจมุก
00:07:58 → 00:08:02 ด้วยเช่นว่ามีน้ำมูกมีน้ำมูกมีคัจมูกจาม
00:08:02 → 00:08:05 ด้วยด้วยมเพราะว่าเพราะบางทีเรารักษาโรค
00:08:05 → 00:08:08 เนี่ยบางทีเรารักษาแต่โรคขืเนาแต่เราไม่
00:08:08 → 00:08:11 ได้รักษาโรคทางจมูกเนี่ยคนไข้ก็ไม่หายอก็
00:08:11 → 00:08:14 ยมีมันก็จะมีกระตุ้นได้แล้วก็เชื่อว่าโรค
00:08:14 → 00:08:17 เนี้ยจริงๆมันก็เป็นคนไกเกิดโรคก็เหมือนๆ
00:08:17 → 00:08:20 กันค่ะก็คือภูมิแพ้อาจจะเป็นภาพใหญ่แล้ว
00:08:20 → 00:08:22 หืดอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นอเป็นหนอากอาการ
00:08:22 → 00:08:25 หนึ่งของโรคภูมิแพ้อ่าเพราะฉะนั้นผู้ที่
00:08:25 → 00:08:27 เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วหรือว่ามีอาการอย่าง
00:08:27 → 00:08:30 ที่อาจารย์บอกก็ต้องเฝ้าดูอาการตัวเองนะ
00:08:30 → 00:08:33 คะทีนี้มาพูดถึงเดือนนี้ค่ะอาจารย์เดือน
00:08:33 → 00:08:36 พฤษภาคมถือว่าเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญวันหืด
00:08:36 → 00:08:39 โลกอยากจะให้อาจารย์ช่วยเล่าถึงความสำคัญ
00:08:39 → 00:08:42 ที่มาที่ไปของวันนี้ให้คุณผู้ฟังได้รับ
00:08:42 → 00:08:44 ทราบสักนิดนึงค่ะก็คือก็คืออย่างงี้ครับ
00:08:44 → 00:08:45 ก็คือว่าเนื่องจากว่าโรกเนี้ยอย่างที่
00:08:45 → 00:08:48 กล่าวไปเนาะก็คือเป็นโรคที่เจอได้เจอได้
00:08:48 → 00:08:51 บ่อยพอสมควรนะครับแล้วก็จริงๆแล้วโรก
00:08:51 → 00:08:54 เนี้ยจริมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้
00:08:54 → 00:08:56 ป่วยเนาะอย่างที่กล่าไปคือสมมติว่าเวลาคน
00:08:56 → 00:08:58 ไข้ที่เป็นเนี่ยเช่นสมมติว่าจะเป็นเด็กๆ
00:08:58 → 00:09:01 บางทีเด็กเก็ขาดเลยเนเนาจะเป็นผู้ใหญ่ก็
00:09:01 → 00:09:03 ขาดงานนะครับหรือแม้กระทั่งถ้าเกิดสมมติ
00:09:03 → 00:09:06 ว่าคนที่ดูแลใช่มครับสมมติว่าถ้าลูกหลาน
00:09:06 → 00:09:08 ของท่านเป็นเนี่ยไม่สบายเนี่ยคุณพ่อคุณ
00:09:08 → 00:09:11 แม่ก็ต้องพาลูกหลานมาก็ต้องคุณพ่อคุณแม่
00:09:11 → 00:09:13 ก็เสียงานเหมือนกันเนาะนะครับแล้วก็แม้
00:09:13 → 00:09:16 กระทั่งเป็นผู้สูงวัยเนี่ยพาคุณพ่อคุณแม่
00:09:16 → 00:09:19 มาตรวจเนาะก็ก็เนี่ยก็จะเสียเวลาเหมือน
00:09:20 → 00:09:22 กันเพราะฉะนั้นก็มีผลกระทบทั้งต่อคนไข้
00:09:22 → 00:09:24 เองแล้วก็ต่อคนรอบข้านะครับแล้วก็จริงๆ
00:09:25 → 00:09:27 โลกเสมมติถ้าเกิดเป็นแล้วในบางรายก็อย่าง
00:09:27 → 00:09:29 ที่กล่าวไปครับว่าบางรายก็มีอรุนแรงจน
00:09:30 → 00:09:32 ต้องมานอนโรงพยาบาลหรือทำให้เสียชีวิตกอด
00:09:32 → 00:09:34 วัยควรได้้าเรารักษาโรคได้ได้ไม่ดีนะครับ
00:09:34 → 00:09:36 เพราะฉะนั้นในองการศุกกับโลกเนี่ยเขก็
00:09:36 → 00:09:39 เห็นความสำคัญครับเก็เลยกำหนดวันขืดโลก
00:09:39 → 00:09:43 ขึ้นซึ่งเขก็จะกำหนดในทุกๆวันอังคาร
00:09:43 → 00:09:46 สัปดาห์ที่ 2 ของพฤษภาคมเพื่อให้ชาชนของ
00:09:46 → 00:09:49 เราเนี่ยนะได้ตหตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค
00:09:49 → 00:09:52 โรคขืดมากขึ้นซึ่งที่เขจับมาหลายปีแล้วนะ
00:09:52 → 00:09:54 ครับอย่างในปีนี้เขก็มีเขก็จะเป็นเน้น
00:09:54 → 00:09:57 เรื่องเกกับการให้ความรู้กับประชาชนทราบ
00:09:57 → 00:10:00 มาว่าทางบรมพาบามหาราชนครเชียงใหม่ของเรา
00:10:00 → 00:10:03 ก็มีการจัดกิจกรรมเื่องในวันหืดโลกด้วย
00:10:03 → 00:10:05 ใช่มคะอาจารย์ใช่ครับก็ในปีนี้ทาง้าวิชัย
00:10:05 → 00:10:09 ศาสตร์โดยหน่วยเอ่อวิชาโรคระบบการหายใจเว
00:10:09 → 00:10:11 บัติวิกฤตและภูมิแพ้แล้วก็หน่วยภูมิแพ้
00:10:11 → 00:10:15 ทางคลินิกแล้วก็ภูมิกันนะครับรกับ้าชา
00:10:15 → 00:10:17 กุมาวิทยาศาสตร์ยหนุโรกภูมิแพ้เนี่ยนะ
00:10:17 → 00:10:19 ครับเราก็จะจัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชา
00:10:19 → 00:10:22 ชนในวันหิดโลกนะซึ่งจริงๆเยในปีเนี้เราก็
00:10:22 → 00:10:25 ใช้คำว่าโรคร้อนสภาพอากาศกับโลกเหรู้ทัน
00:10:25 → 00:10:28 ป้องกันไว้ดีกว่าอันนี้เราก็ในเราก็จะจัด
00:10:28 → 00:10:31 ในวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคมเอ่อในช่วงเช้า
00:10:31 → 00:10:34 นะตั้งแต่ 99:00 นถึงเนอครับที่ที่ห้อง
00:10:34 → 00:10:37 ประชุมชั้น 2 อคันเรียนรวงครับก็จะมีเวที
00:10:37 → 00:10:40 เสวนานะครับแล้วก็เกี่ยวกับการให้ความรู้
00:10:40 → 00:10:42 เกี่ยวกับโรคขืต่างๆเแล้วก็แล้วก็มีการต
00:10:42 → 00:10:45 สภาพปอดมีการประเมินการควบคุมโรคขืดแล้ว
00:10:45 → 00:10:47 ก็สอนแล้วก็มีการตรวจสอบวิธีการใช้ยานะ
00:10:47 → 00:10:50 ครับซึ่งในโลกเนี้ยจริงส่วนใหญ่ก็เป็นยา
00:10:50 → 00:10:53 พ่นสูตนะซึ่งก็การที่การใช้ยาที่ถูกต้อง
00:10:53 → 00:10:57 ก็มีความสำคัญที่ทำให้การใช้ยาได้มี
00:10:57 → 00:10:59 ประสิทธิภาพจริงๆแล้วต้องบอกว่าว่าเราจัด
00:10:59 → 00:11:02 ทุกปีอยู่แล้วใช่ยคะอาจารย์สำหรับกิจกรรม
00:11:02 → 00:11:04 วันหืดโลกใช่ครับคือเดิมเราจัดทุกปีครับ
00:11:04 → 00:11:09 ก็มางดไปในช่วงช่วงโควิดนะค่ะปีนี้ก็จัด
00:11:09 → 00:11:12 นะคะส่วนใครที่พลาดปีนี้ก็อาจจะรอปีหน้า
00:11:12 → 00:11:16 นะคะก็มาร่วมกิจกรรมได้นะคะทีนี้พูดถึง
00:11:16 → 00:11:19 แนวทางการรักษาสำหรับผู้ที่เป็นโรคหืด
00:11:19 → 00:11:22 บ้างค่ะอาจารย์ปัจจุบันนี้มีแนวทางการ
00:11:22 → 00:11:24 รักษาทางการแพทย์เนี่ยยังไงบ้างคะโดยทั่ว
00:11:24 → 00:11:26 ไปการรักษาก็จะมี 2 ส่วนก็คือการรักษา
00:11:26 → 00:11:30 ด้วยการใช้ยากับการรักษาที่ไม่ใชยาเนานี้
00:11:30 → 00:11:33 การรักษาที่มีใช้ยาเยาหลักก็คือยาหลักก็ค
00:11:33 → 00:11:37 เป็นยายาสูเนาเป็นยาใ้การอักเสบัลมซึ่ง
00:11:37 → 00:11:40 เป็นยาในกลุ่มของกลุ่มของสเตรอยแต่ว่าแต่
00:11:40 → 00:11:43 ที่ใช้เนี่ยเป็นใช้ในขณะที่ต่ำขณะสงก็จะ
00:11:43 → 00:11:46 ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงตามระบบก็อันนี้ก็
00:11:46 → 00:11:49 เป็นยในการรักษาเพลการอักเสบหอลมอย่างที่
00:11:49 → 00:11:52 กล่าวไปส่วนที่เหลือก็จะเป็นการรักษาที่
00:11:52 → 00:11:54 ใช้ยาก็คือเราที่สำคัญก็คือต้องเราก็ต้อง
00:11:54 → 00:11:58 รู้ว่าอะไรที่เป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ค
00:11:58 → 00:12:01 เกิดอาการเราก็ไปหกเลจากตรงนั้นสมมติว่า
00:12:01 → 00:12:04 ถ้าในบ้านเรามีฝุ่นฝุ่นเยอะเนาเราก็เราก็
00:12:04 → 00:12:08 ต้องไปเคลียรเรื่องฝุ่นในบ้านให้ดีเบาง
00:12:08 → 00:12:11 บ้านเลี้ยงเอ่อสุนัขเลี้ยงแมวเราก็ต้องไป
00:12:11 → 00:12:12 ต้องประกาศด้วยการหลีกเลี่ยงในการที่ไป
00:12:12 → 00:12:16 สัมผัดกับขนสุนัขขนแมวโดยตรงเงี้ยครับนะ
00:12:16 → 00:12:20 ้าบ้านก็ต้องทำความสะอาดให้ให้ดีขณะขณะ
00:12:20 → 00:12:21 ที่เราขณะที่ทำความสะอาดเนี่ยเราก็ต้อง
00:12:21 → 00:12:24 ใส่หน้ากาป้องกันไม่ให้เราสูบฝุ่นโดยตรง
00:12:24 → 00:12:27 อะไรเงี้ยครับแล้วก็อย่างอื่นก็จะมีพวก
00:12:27 → 00:12:29 เอ่อการให้พวกวัคซีนช่วงนี้ก็จะแนะนำให้
00:12:29 → 00:12:32 เป็นฉีดปักษีป้องกันคัดใหญ่เพราะว่ากลุ่ม
00:12:32 → 00:12:34 เเวลาเติดเชื้อพวกนี้บางทีอาจจะมีการรุน
00:12:34 → 00:12:37 แรงเราก็สามารถป้องกันความรุนแรงของโรค
00:12:37 → 00:12:39 ได้หรือว่าถ้าได้บางรายที่น้ำหนักเยอะเรา
00:12:39 → 00:12:42 ก็แนะนำให้ลดน้ำหนักแล้วก็โรคร่วมที่พบ
00:12:42 → 00:12:45 ได้บ่อยๆก็ต้องรักษาเช่นโรคจมูกอักเสบกดล
00:12:45 → 00:12:48 ย้อนบางคนก็ถ้าบางคนอาจจะมีปัญหาเรื่อง
00:12:48 → 00:12:50 ภวะยุดหายใจขนาดนอนหลับเราก็ต้องรักษาต
00:12:50 → 00:12:53 หน้าที่ดีๆด้วยค่ะอาจารย์คะเราสังเกตเห็น
00:12:53 → 00:12:57 ผู้ป่วยที่เป็นโรคหึกับยาที่ใช้ฉีดพ่นสูด
00:12:57 → 00:13:00 ดมเนี่ยนะคะมันมีความสำคัญขนาดไหนคะ
00:13:00 → 00:13:02 สมมุติว่าเราเกิดอาการแล้วเราลืมเอายามา
00:13:02 → 00:13:05 เราไม่ได้พ่นเข้าไปเนี่ยมันจะอันตรายขนาด
00:13:05 → 00:13:07 ไหนคะเรียอย่างงี้ครับก็คือว่าจริงๆยาที่
00:13:07 → 00:13:10 รักษาโรคหืดเนี่ยจริงๆแล้วมันมี 2 กลุ่ม
00:13:10 → 00:13:13 เนาะเมื่อกี้ที่ผมพูดว่ายาพ่นสูบที่เป็น
00:13:13 → 00:13:16 กลุ่มต้กลักเสียงดลมเนี่ยคือยาสูยากลุ่ม
00:13:16 → 00:13:18 สูบสเตรอยเนี่ยยาตัวเนี้ยมันจะเป็นยาที่
00:13:18 → 00:13:21 ควบคุมอาการแล้วคือเป็นเนี้ยเราต้องสู
00:13:21 → 00:13:24 ประจำค่ะนะครับสูบประจำก็คือสูตรตามที่
00:13:24 → 00:13:27 คุณหมอฝั่งเช่นเช้าเย็นหรือว่ายายายาบาง
00:13:27 → 00:13:30 ตัวเอาจจะสูบมาละครั้งก็แล้วแต่แล้วแต่ยา
00:13:30 → 00:13:33 ที่ยาที่ใช้อยู่เนาค่ะคราวนี้มันก็จะมียา
00:13:33 → 00:13:36 อีกตัวนึงก็เป็นยากลุ่มรทาอาการนี้ยารท
00:13:36 → 00:13:38 อาการในอดีตเนี่ยเราก็จะพูดถึงยาที่เป็น
00:13:38 → 00:13:42 ยาขมอกสั้นซึ่งอันเนี้ยคือถ้าเกิดในลาที่
00:13:42 → 00:13:46 คุณไได้ใช้ยาใช้ยาเอ่อยาพสูตรชนิดกลุ่ม
00:13:46 → 00:13:48 สเตรอยด์ที่เป็นการตั้งกสิอยู่แล้วเราก็
00:13:48 → 00:13:52 กสูตรยาล้มอั้นเนี่ยเสริมถ้าเกิดสคนไข้
00:13:52 → 00:13:55 ที่มีอาการกำเเลิเป็นครั้งๆไปเงี้ยอันนี้
00:13:55 → 00:13:58 ในบางรายที่ที่มีอาการบ่อยเนี่ยนะครับเรา
00:13:58 → 00:14:02 ก็จะมีการให้ยาขยัลมออกิยาวเนี่ยร่วมกับ
00:14:02 → 00:14:06 ยาสูตต้าการอักเสมซึ่งปัจจุบันเขก็มียา
00:14:06 → 00:14:09 ที่อยู่ในหลอดเดียวกันเพราะฉะนั้นเราสูด
00:14:09 → 00:14:11 วันละครั้งหรือ 2 ครั้งแล้วแต่ชนิดของยาเ
00:14:11 → 00:14:14 ก็จะสามารถป้องกันไม่ควบคุมโรคได้แล้วก็
00:14:14 → 00:14:17 ยาพวกเยเเราใช้เราก็ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอ
00:14:17 → 00:14:19 เนาก็คือตามที่แพทย์บอกแต่เพราะว่า
00:14:19 → 00:14:22 ปัจจุบันเยอย่างที่กล่าวไปยาบางตัวก็ใช้
00:14:22 → 00:14:24 วันละ 2 ครั้งบางตัวก็ใช้วันละครั้งเี้
00:14:24 → 00:14:27 เพราะฉะนั้นก็ก็ขึ้นกับที่คุณ
00:14:27 → 00:14:31 หมอแนะนำก็ใช้ครับพอเราใช้ยาไปสักพักอ่ะ
00:14:31 → 00:14:34 ค่ะอาจารย์ถ้าเกิดว่าอาการมันดีขึ้นหรือ
00:14:34 → 00:14:36 ว่ามันมันไม่ได้เป็นบ่อยขนาดนั้นเรา
00:14:36 → 00:14:39 สามารถลดยาหรือว่าลดระยะเวลาในการสูดเข้า
00:14:39 → 00:14:43 ไปหรือว่าเลิกยาไปเลยอย่างงี้ได้มั้ยคะ
00:14:43 → 00:14:46 ได้คือปกติอย่างงี้ครับคือ้าเรารักษาได้
00:14:46 → 00:14:49 ดีเนาะหมายึงว่ารักษาเนี่ยแล้วเราก็หลีก
00:14:49 → 00:14:51 เลียกปัจจัยกระตุ้นต่างๆเนี่ยนะครับแล้ว
00:14:51 → 00:14:54 ถ้าอาการคงที่เนี่ยตั้งแต่มากกว่า 3 เดือ
00:14:54 → 00:14:57 ขึ้นไปเนี่ยเสียคุณหมอก็จะถอยลดยานลง
00:14:57 → 00:15:00 เพราะเรารู้ว่าจริงๆเราก็จะลดยาลงเนาะา
00:15:00 → 00:15:03 นี้ลดยาลงเรารู้แล้วว่ายาที่ต้านการ
00:15:03 → 00:15:05 อักเสบของหลอลมก็คือยากลุ่มสเตรอยด์เซึ่ง
00:15:05 → 00:15:08 ก็จริงๆถึงแม้ว่าออกได้เฉพาะที่แต่มันก็
00:15:08 → 00:15:11 มีผลข้างเคียงอยู่บ้างเเพราะฉะนั้นเราก็
00:15:11 → 00:15:13 จะพยายามใช้ในคยาาที่ต่ำที่สุดที่สามารถ
00:15:13 → 00:15:16 ควบคุมอาการได้เราก็จะสามารถที่ถอยรยาลง
00:15:16 → 00:15:19 มาเนี่ยให้ในขนาดที่ต่ำที่สุดนะครับเพื่อ
00:15:19 → 00:15:21 เพื่อให้ควบคุมอารของโรคได้แล้วก็ป้องกัน
00:15:21 → 00:15:24 ไม่ให้คนไขเกิดพว่าแซกซอนจากอชยาอย่าง
00:15:24 → 00:15:27 อย่าอย่ายาพ่นสุสเตรอยด์เนี่ยจริงๆมันก็
00:15:27 → 00:15:30 มีผลคิดที่เจอบ่อยๆเคือถ้าเราสูดเส่วน
00:15:30 → 00:15:33 ใหญ่บางทีก็จะมีบางคนก็าจะมีอาการมีฝ้า
00:15:33 → 00:15:37 ขาวในปากจัดเชื้อราเพราพวกกลุ่มเเราก็จะ
00:15:37 → 00:15:40 แนะนำว่าถ้าคุณแใช้ยากลุ่มเนี้ยคือหลัง
00:15:40 → 00:15:42 จากที่สูดยาเสร็จต้องรวดปักทุกครั้งเพื่อ
00:15:42 → 00:15:46 ไม่ให้ยาเนี่ยมันเกาะที่ผนังช่องปากก็จะ
00:15:46 → 00:15:50 ป้องกันได้นอกจากเราจะควบคุมอาการนอกจาก
00:15:50 → 00:15:52 จะป้องกันตัวเสี่ยงต่างๆแล้วนะคะก็ต้องดู
00:15:52 → 00:15:55 ในเรื่องของการใช้ยาใช้ยังไงให้ถูกต้อง
00:15:55 → 00:15:58 อาการจะได้ดีขึ้นแล้วก็จะได้ไม่เป็นหนัก
00:15:58 → 00:16:00 ด้วยนะคะมาถึงช่วงท้ายของรายการค่ะ
00:16:00 → 00:16:02 อาจารย์สุดท้ายนี้อยากจะให้อาจารย์ฝาก
00:16:02 → 00:16:06 ทิ้งท้ายสักนิดนึงค่ะว่าจริงๆแล้วโรคนี้
00:16:06 → 00:16:09 ป้องกันได้ไหมในคนที่ยังไม่เคยเป็นส่วนคน
00:16:09 → 00:16:11 ที่เป็นแล้วเราจะมีวิธีดูแลตัวเองยังไง
00:16:11 → 00:16:14 ได้บ้างเพื่อไม่ให้โรคนี้เป็นหนักกว่า
00:16:14 → 00:16:16 เดิมนะคะโอเคครับก็คือถามว่าโรกนี้ปอกกัน
00:16:16 → 00:16:19 ได้ยคือนื่องจากว่าจริงๆงี้ครับเผมอาจจะ
00:16:19 → 00:16:21 ลืมพูดไปนิดนึงว่าจริงๆโลกเนี้ยมีนอกจาก
00:16:21 → 00:16:25 ปัจจัยตัวกระตุ้นนะที่เราสามารถอาจจะหลีก
00:16:25 → 00:16:27 เลี่ยงได้นะครับแต่ปัจจัยอีกส่วนนึงก็คือ
00:16:27 → 00:16:28 ปัจจัยทางพัธุกรรม
00:16:28 → 00:16:31 เนาะเพราะจริงๆแล้วเนี่ยอย่างในคนไข้ที่
00:16:31 → 00:16:33 เป็นโรคขืดบางรายเนี่ยบางทีก็จะมีปลอ
00:16:33 → 00:16:35 ครอบครัวเนาะหมาากว่าสมมติว่าเราเราเจอคน
00:16:35 → 00:16:39 ไข้คนนึงเป็นเนี่ยบาิเราไปถามว่ามีาพี่
00:16:39 → 00:16:40 น้องเป็นมั้ยเนี่ยจริงบางบางคนเก็จะมี
00:16:41 → 00:16:43 ประวัติครอบครัวที่เป็นโรคนี้ด้วยนะครับ
00:16:43 → 00:16:46 เนาะอันนี้ไอ้ตรงส่วนเนี้ยก็คงเป็นส่วน
00:16:46 → 00:16:48 ที่เราอาจจะป้องกันไม่ได้นะเพราะว่ามัน
00:16:48 → 00:16:51 สืบทอดกันมาเนาะแต่ว่าปัจจัยกระตุ้นเนี่ย
00:16:51 → 00:16:53 เราอาจจะพออาจจะพอหลีเลี่ยงได้นะครับแต่
00:16:53 → 00:16:56 จริงๆบางทีตั้งต้นเี่เราอาจจะไม่รู้หรอก
00:16:56 → 00:16:59 ว่าเราแพ้หรือเปล่าหรือว่าตัวอะไรที่เป็น
00:16:59 → 00:17:01 ตัวกระตุ้นเนาะเพราะฉะนั้นเสเราก็อาจจะ
00:17:01 → 00:17:03 ป้องกันตรงจุดนั้นไม่ได้โดยตรงเนาะแต่ว่า
00:17:03 → 00:17:06 สิ่งที่เรารู้ก็คือว่าถ้าเรารู้ว่าเป็นนะ
00:17:06 → 00:17:09 เราเราหลีกเลี่ยงจากตัวปัจจัยกระตุ้นที่
00:17:09 → 00:17:11 เรารู้ว่าถ้าเราสัมผัสจากสิ่งนี้แล้วเรา
00:17:11 → 00:17:13 จะมีอากาศอันเนี้ยเราสามารถจะป้องกันได้
00:17:14 → 00:17:16 นะครับร่วมกับการรักษาต่างๆที่กล่าวไป
00:17:16 → 00:17:18 ทั้งต้นเว่าถ้าเรารักษาได้อย่างเหมาะสม
00:17:18 → 00:17:20 เนี่ยก็จะไม่มีอาการแล้วก็จะใช้ชีวิต
00:17:20 → 00:17:22 เหมือนคนปกติกิจกรรมประจำวันได้เหมือนคน
00:17:22 → 00:17:25 ปกติทุกอย่างนะครับก็คือว่าสมว่าโลกนี้
00:17:25 → 00:17:28 คือเราก็คือป้องกันไม่ให้เกิดกำเริบได้นะ
00:17:28 → 00:17:31 แล้วก็ักษาได้ให้มีคภาพชีวิตดีๆเหมือนคนป
00:17:31 → 00:17:33 นะแล้วก็ไม่มีการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือว่า
00:17:33 → 00:17:37 ภาวะที่รุนแรงนะก่อนไว้อันควรอะไรพวก
00:17:37 → 00:17:41 เนี้ยครับค่ะถือว่าวันนี้เราได้คำแนะนำนะ
00:17:41 → 00:17:44 คะดีๆจากอาจารย์เยอะมากๆเลยนะคะเชื่อว่า
00:17:44 → 00:17:47 คุณผู้ฟังทุกๆท่านที่รับฟังรายการอยู่วัน
00:17:47 → 00:17:49 นี้ก็จะได้ความรู้แล้วก็นำกลับไปใช้ทั้ง
00:17:49 → 00:17:53 ในคนที่เป็นโรคหึดเองรวมไปถึงคนที่มีคนใน
00:17:53 → 00:17:55 ครอบครัวเป็นโรคหืดจะได้ดูแลกันอย่างถูก
00:17:55 → 00:17:57 ต้องด้วยนะคะวันนี้ต้องขอบพระคุณอาจารย์
00:17:58 → 00:18:02 มากๆขอบคุณค่ะครับขอบคุณครับ cmu podcast
00:18:02 → 00:18:06 f for เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:18:06 → 00:18:09 เรา