00:00:02 → 00:00:05 ภาวะลูกพูดช้าหลายๆคนนะคะกำลังคิดว่าลูก
00:00:05 → 00:00:08 ของตัวเองประสบกับปัญหาพัฒนาการอยู่หรือ
00:00:08 → 00:00:10 เปล่าบางคนคิดไปว่ามีพัฒนาการปัญหาเรื่อง
00:00:10 → 00:00:13 ของการได้ยินหรือเปล่าใช่ไหมมคะผ่านไป 1
00:00:13 → 00:00:16 ขวบแล้วทำไมลูกของเรายังพูดป๊ะกับมะไม่
00:00:16 → 00:00:20 ได้เลยโอ้โหคิดกันแบบว่าแพนิคมากๆใจเย็นๆ
00:00:20 → 00:00:23 ก่อนค่ะวันนี้ซีนนะจะพาทุกๆคนไปพบกับ
00:00:23 → 00:00:26 ศาตราจารย์นายแพทย์วีรศักดิ์ชลไชยะฝ่าย
00:00:26 → 00:00:29 กุมารเวชศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภา
00:00:29 → 00:00:32 กาชะไทยว่าไอ้สิ่งที่เราคิดเนี่ยมันเป็น
00:00:32 → 00:00:34 ปัญหาจริงๆหรือเปล่าอาจจะไม่ใช่สิ่งที่
00:00:34 → 00:00:37 คิดก็ได้เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าไปพบกับคุณ
00:00:37 → 00:00:40 หมาะกันเลยค่ะพัฒนาการด้านเด็กผู้ช้านะ
00:00:40 → 00:00:42 ครับเราเรียกรวมๆว่าเป็นพัฒนาการด้านภาษา
00:00:42 → 00:00:45 ที่ล่าช้าก็คือแปลว่าไม่ได้เป็นไปตามวัย
00:00:45 → 00:00:48 ที่ควรจะเป็นในแต่ละอายุถ้าจะแบ่งง่ายๆนะ
00:00:48 → 00:00:50 ครับพัฒนาการทางด้านภาษาเนี่ยแบ่งเป็น 2
00:00:50 → 00:00:53 อย่างก็คือความเข้าใจภาษานะครับแล้วก็การ
00:00:53 → 00:00:56 พูดหรือการแสดงออกทางภาษาการที่เด็กจะพูด
00:00:56 → 00:00:59 สื่อสารได้นะครับสิ่งสำคัญมากๆเลยก็คือ
00:00:59 → 00:01:01 เด็กจะต้องเข้าเข้าใจภาษาก่อนยกตัวอย่าง
00:01:01 → 00:01:04 นะครับเด็ก 1 ขวบเด็กจำเป็นที่จะต้องเข้า
00:01:04 → 00:01:07 ใจนะครับคำสั่งง่ายๆที่คุณพ่อคุณแม่บอก
00:01:07 → 00:01:09 ลูกนะครับโดยที่เป็นคำสั่งที่มีท่าทาง
00:01:09 → 00:01:12 ประกอบยกตัวอย่างเช่นพ่อบอกว่าสวัสดีครับ
00:01:12 → 00:01:15 แล้วพ่อทำท่าสวัสดีนะครับลูกทำตามอย่าง
00:01:15 → 00:01:17 เงี้ยแปลว่าลูกเริ่มเข้าใจหลังจากนั้นนะ
00:01:17 → 00:01:19 ครับประมาณสักขวบครึ่งนะครับเด็กก็จะ
00:01:20 → 00:01:22 เริ่มเข้าใจมากขึ้นนะครับโดยที่อาจจะไม่
00:01:22 → 00:01:25 ต้องใช้ท่าทางประกอบแล้วความเข้าใจภาษาจะ
00:01:25 → 00:01:28 มีความซับซ้อนมากขึ้นยกตัวอย่างเช่นพอ 2
00:01:28 → 00:01:30 ขวบเด็กจะต้องเข้าใจ 2 คำคำสั่งต่อกันได้
00:01:30 → 00:01:33 ยกตัวอย่างเช่นนะครับพอบอกว่าลูกไปหยิบ
00:01:33 → 00:01:36 บอลแล้วเดี๋ยวมานั่งเก้าอี้ตรงนี้อย่าง
00:01:36 → 00:01:38 เงี้ยครับเด็กราวๆ 2 ขวบจะเข้าใจคำสั่งนะ
00:01:38 → 00:01:41 ครับ 2 คำสั่งที่ต่อเนื่องกันได้ครับหรือ
00:01:41 → 00:01:44 แม้กระทั่งย้อนกลับไปนะครับช่วงประมาณขวบ
00:01:44 → 00:01:46 ครึ่งเนี่ยเด็กจะต้องเริ่มรู้อวยวะของตัว
00:01:46 → 00:01:49 เองง่ายๆเวลาคุณพ่อคุณแม่บอกนะครับแล้ว
00:01:49 → 00:01:52 ให้เด็กชี้นะครับอ่าไหนตาอยู่ไหนหูอยู่
00:01:52 → 00:01:55 ไหนจมูกอยู่ไหนลูกเริ่มชี้ได้นะครับ 2-3
00:01:55 → 00:01:58 อวยวะจนกระทั่งถึงราวๆ 2 ขวบเนี่ยเด็กจะ
00:01:58 → 00:02:01 รู้อวยวะของตัวเองเนี่ยได้เกือบทุกส่วน
00:02:01 → 00:02:03 แล้วนะครับอันนี้ก็เป็นพัฒนาการด้านภาษา
00:02:03 → 00:02:05 โดยเฉพาะความเข้าใจภาษานอกจากนี้นะครับ
00:02:05 → 00:02:08 เวลาคุณพ่อคุณแม่เนี่ยสอนลูกนะครับเช่น
00:02:08 → 00:02:10 อ่านหนังสือกับลูกไปเรื่อยๆเอ่อพยายามพูด
00:02:10 → 00:02:12 คำศัพท์ในหนังสือเช่นรูปภาพนะครับว่าตัว
00:02:12 → 00:02:16 ไหนหมาตัวไหนแมวแล้วถ้าลูกชี้ได้นะครับ
00:02:16 → 00:02:18 ซึ่งเด็กอายุประมาณสักขวบครึ่งเนี่ยจะ
00:02:18 → 00:02:21 เริ่มชี้นะครับรูปภาพตามที่บอกได้ถ้าลูก
00:02:21 → 00:02:23 เราเนี่ยค่อนข้างไวอาจจะชี้ได้ก่อนหน้า
00:02:23 → 00:02:25 นั้นด้วยซ้ำนะครับอันนี้ก็เป็นการบ่งบอก
00:02:25 → 00:02:27 เรื่องของความเข้าใจภาษาต่อมาก็คือเรื่อง
00:02:28 → 00:02:30 ของการพูดสื่อสารนะครับหรือการการแสดงออก
00:02:30 → 00:02:33 ทางภาษาเด็ก 1 ขวบนะครับก็จะต้องเริ่มพูด
00:02:33 → 00:02:35 1 คำที่มีความหมายคำที่เด็กจะมักจะเริ่ม
00:02:35 → 00:02:38 พูดได้ก่อนก็คือพ่อแม่นะครับหรือชื่อของ
00:02:38 → 00:02:41 คนเลี้ยงดูหลังจากนั้นพอเป็นคำของคนใกล้
00:02:41 → 00:02:44 ชิดเด๋็กจะเริ่มมีคำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆเช่น
00:02:44 → 00:02:46 หม่มอย่างเงี้ยนะครับที่แปลว่ากินนะครับ
00:02:47 → 00:02:49 ไปอย่างเงี้ยครับเป็นการบอกสัญญาณบอกพ่อ
00:02:49 → 00:02:52 ว่าเออไปพาออกไปข้างนอกหน่อยประมาณนี้นะ
00:02:52 → 00:02:54 ครับจนกระทั่ง 2 ขวบนะครับเด็กจะต้องมีคำ
00:02:54 → 00:02:57 ศัพท์เนี่ยอย่างน้อยประมาณ 50 คำที่มี
00:02:57 → 00:02:59 ความหมายแล้วเด็ก 2 ขวบเนี่ยจะต้องมีการ
00:02:59 → 00:03:02 พูด 2 คำนะครับที่มีความหมายแตกต่างกัน
00:03:02 → 00:03:04 เนี่ยมาต่อกันได้หลังจากนั้นประมาณ 3 ขวบ
00:03:04 → 00:03:07 จำง่ายๆว่าเด็กจะต้องพูดมี 3 คำอ่อเป็น
00:03:07 → 00:03:10 ประโยคนะครับก็คือมีประธานกิยากรรมจน
00:03:10 → 00:03:13 กระทั่งพอโตขึ้นสัก 4 ขวบนะครับเด็กก็จะ
00:03:13 → 00:03:16 ต้องเริ่มเล่าเรื่องต่างๆได้นะครับเพราะ
00:03:16 → 00:03:18 ว่าเด็กช่วงนั้นเนี่ยจะเป็นวัยที่ไปโรง
00:03:18 → 00:03:21 เรียนอนุบาลแล้วแต่ว่าเด็กที่มีพัฒนาการ
00:03:21 → 00:03:24 ด้านภาษาล่าช้าหรือพูดช้าก็คือพัฒนาการ
00:03:24 → 00:03:27 ต่างๆเหล่าเนี้ยมันไม่เป็นไปตามวัยที่ควร
00:03:27 → 00:03:29 จะเป็นดังนั้นเนี่ยปัจจุบันก็จะมีคุณพ่อ
00:03:29 → 00:03:31 คุณแม่เนี่ยพาลูกมาปรึกษาเร็วเลยครับบาง
00:03:32 → 00:03:34 คนก็คือตั้งแต่ขวบครึ่งที่เริ่มสังเกตเลย
00:03:34 → 00:03:36 ว่าลูกเรายังไม่มีคำศัพท์เลยแม้กระทั่ง 1
00:03:36 → 00:03:39 คำที่มีความหมายในประสบการณ์ที่ทำงานพบ
00:03:39 → 00:03:41 เลยนะครับว่าบ้านเด็กผู้ช้าส่วนใหญ่ลอง
00:03:41 → 00:03:44 ถามดูก็ได้ครับจำนวนมากเลยเกินร้อยละกว่า
00:03:44 → 00:03:47 90 ขึ้นไปที่เพราะว่าอยู่ในสิ่งแวดล้อม
00:03:47 → 00:03:50 นะครับที่เปิดสื่อหน้าจอนะครับอันที่ 2
00:03:50 → 00:03:52 คือเป็นปัจจัยที่จากผู้เลี้ยงดูอย่างที่
00:03:52 → 00:03:54 กล่าวก็คือผู้เลี้ยงดูเนี่ยแทบจะไม่ค่อย
00:03:54 → 00:03:56 มีปฏิสัมพันธ์หรือพูดคุยหรือสอนเด็กคือ
00:03:56 → 00:03:59 พูดง่ายๆว่าอยู่ในห้องเดียวกันก็ตามแต่
00:03:59 → 00:04:01 เดาใจเด็กได้ว่าต้องการอะไรแต่ว่าไม่ได้
00:04:01 → 00:04:03 พยายามแบบพูดสื่อสารกับเด็กนะครับปัจจัย
00:04:04 → 00:04:06 ที่ 3 คือเรื่องกรรมพันธ์นะครับเราก็พบ
00:04:06 → 00:04:08 เหมือนกันว่าถ้าพ่อหรือแม่นะครับมี
00:04:08 → 00:04:11 ประวัติว่าพูดช้าในครอบครัวอันเนี้ยครับ
00:04:11 → 00:04:13 ก็จะมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นนะครับส่วน
00:04:13 → 00:04:15 ปัจจัยอื่นๆนะครับที่อาจจะทำให้เด็กพูด
00:04:15 → 00:04:18 ช้าก็คือเรื่องของการได้ยินหรือปัจจัยสุด
00:04:18 → 00:04:21 ท้ายก็คือปัจจัยที่เด็กหลายคนที่มีเอ่อ
00:04:21 → 00:04:23 โรคประจำตัวโดยเฉพาะเด็กที่เ่อคลอดก่อน
00:04:23 → 00:04:26 กำหนดมีปัญหาทางด้านระบบประสาทนะครับเช่น
00:04:26 → 00:04:29 เป็นโรคลมชักมีโรคเกี่ยวกับในเ่อสมองต่าง
00:04:29 → 00:04:32 ๆเนี่ยครับก็เป็นผลทำให้พัฒนาการช้าแล้ว
00:04:32 → 00:04:35 ก็พูดช้าตามมาได้ครับสำหรับอีกภาวะนึงที่
00:04:35 → 00:04:37 เราเจอในเด็กพูดช้าซึ่งปัจจุบันก็จะเจอ
00:04:37 → 00:04:40 มากขึ้นเรื่อยๆก็คือเด็กภาวะอิสติหลายคน
00:04:40 → 00:04:42 เนี่ยภาวะอิสติเนี่ยหรือบางคนถ้าเราเรียก
00:04:42 → 00:04:45 รวมๆกันเราเรียกว่าเป็นอิมสกัคำว่า
00:04:45 → 00:04:47 สเปกตัมแปลว่าอาการเนี่ยมีตั้งแต่น้อยมาก
00:04:47 → 00:04:49 จนกระทั่งถึงบางคนเนี่ยเป็นเยอะมากคนที่
00:04:49 → 00:04:51 เป็นอาการน้อยมากเนี่ยผู้ปกครองบางคนคิด
00:04:51 → 00:04:53 ว่าลูกฉลาดซึ่งปัจจุบันเราเจออย่างเงี้
00:04:53 → 00:04:55 มากเลยปัจจุบันเนี่ยสื่อหน้าจอก็มีผลแน่
00:04:55 → 00:04:57 นอนเพราะหลายคนก็คือจะได้เคยได้ยินว่า
00:04:57 → 00:04:59 เพราะว่าเป็นอิสติเทียมคำเนี้ยจริงจริงๆ
00:04:59 → 00:05:01 ไม่ค่อยอยากให้ใช้มากเพราะว่าหลายครั้งพอ
00:05:01 → 00:05:03 คิดว่าเป็นเทียมเนี่ยก็เลยคิดว่าลูกเรา
00:05:03 → 00:05:06 ไม่เป็นอะไรอันนี้มีงานศึกษาหลายประเทศ
00:05:06 → 00:05:08 ทั่วโลกเลยทั้งที่เราทำที่จุฬาเองด้วยนะ
00:05:08 → 00:05:10 ครับเด็กที่ใช้จอตั้งแต่อายุน้อยๆเป็น
00:05:10 → 00:05:12 ปริมาณมากๆแล้วก็เป็นรายการที่เป็น
00:05:12 → 00:05:15 โปรแกรมสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เหมาะกับ
00:05:15 → 00:05:17 เด็กนะครับอันเนี้ยจะทำให้เด็กขาดโอกาส
00:05:17 → 00:05:19 ที่จะมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับผู้ปกครอง
00:05:20 → 00:05:22 แล้วก็เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะพูดช้า
00:05:22 → 00:05:25 พัฒนาการช้าแล้วก็เด็กออทิสติกได้ครับ
00:05:25 → 00:05:27 เด็กอยู่กับคนจะดีมากกว่าอยู่กับสื่อหน้า
00:05:27 → 00:05:30 จอมันมีข้อมูลเลยนะครับจากที่ harvard
00:05:30 → 00:05:32 University เนี่ยศึกษาพบว่าทุกวินาทีที่
00:05:32 → 00:05:35 เราเล่นกับลูกเซลล์ประสาทสมองที่มีการ
00:05:35 → 00:05:37 เชื่อมต่อกันเนี่ยประมาณเป็นล้านโครงข่าย
00:05:37 → 00:05:40 มีการทำงานการเลี้ยงลูกในปัจจุบันเลี้ยง
00:05:40 → 00:05:42 เด็กในปัจจุบันเราต้องวางแผนเพื่อจะนึก
00:05:42 → 00:05:45 ถึงเขาในระยะยาวคือต้องเรียนว่าไม่มีอะไร
00:05:45 → 00:05:47 ที่สายเกินไปผู้ปกครองจำเป็นต้องยอมรับ
00:05:47 → 00:05:50 ก่อนว่าลูกเราเนี่ยพัฒนาการล่าช้าจริง
00:05:50 → 00:05:52 หรือเปล่าถ้าซ้ำร้ายบางคนเป็นอิสติร่วม
00:05:52 → 00:05:55 ด้วยถ้าเราเข้าใจตรงเนี้ยแล้วยอมรับรีบ
00:05:55 → 00:05:57 ช่วยเหลือลูกเร็วหลายบ้านรีบปิดจื่อหน้า
00:05:57 → 00:06:00 จออันที่ 2 ชวนลูกมาเล่นมากขึ้นยิ่งลูก
00:06:00 → 00:06:02 อยู่เป็นกลุ่มเด็กออทิสติกเนี่ยเหมือนปิด
00:06:02 → 00:06:04 โลกส่วนตัวทำไงก็ได้เข้าไปเล่นกับเคคอ่ะ
00:06:04 → 00:06:06 นะเวลาผมเล่นกับเด็กเนี่ยยิ่งเด็ก
00:06:06 → 00:06:07 ออทิสติกเนี่ยเด็กหลายคนหันมามองหน้าเลย
00:06:08 → 00:06:09 ครับแบบการที่เ้ามามองหน้าเนี่ยเป็น
00:06:09 → 00:06:11 สัญญาณเบื้องต้นว่าเค้ากำลังเปิดโลกของ
00:06:11 → 00:06:14 เขาคดังนั้นเนี่ยไม่มีคำว่าสายเกินไปถ้า
00:06:14 → 00:06:17 เราเริ่มตระหนักแล้วว่าลูกเราอาจจะมีความ
00:06:17 → 00:06:20 แตกต่างหรือล่าช้าไม่เท่ากับวัยไม่สมวัย
00:06:20 → 00:06:23 ที่ควรจะเป็นควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อให้
00:06:23 → 00:06:25 ประเมินแล้วก็วางแผนการช่วยเหลือถ้าเรา
00:06:25 → 00:06:28 ยิ่งทำได้อย่างเร็วเนี่ยแน่นอนมันจะส่งผล
00:06:28 → 00:06:30 ดีต่อตัวเด็กมากแล้วก็ส่งผลดีตับครอบครัว
00:06:30 → 00:06:33 แน่นอนนะครับเห็นมั้ยคะว่าปัญหาต่างๆนั้น
00:06:33 → 00:06:36 ไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิดคุณพ่อคุณแม่
00:06:36 → 00:06:39 สบายใจได้นะคะเพราะสุขภาพที่ดีวันนี้เรา
00:06:39 → 00:06:42 สร้างได้ติดจอรอจุฬาจะมีคอนเทนอะไรดีๆนะ
00:06:42 → 00:06:45 คะสุขภาพแบบไหนมาให้ทุกคนได้ติดตามอย่า
00:06:45 → 00:06:48 ลืมนะคะกด Subscribe ด้วยกดไลค์ด้วยนะคะ
00:06:48 → 00:06:51 กดแชร์ด้วยกดกี่ทีก็ได้คอมเมนต์ข้างล่าง
00:06:51 → 00:06:54 ได้ไมได้เลยนะคะเตอะเจอกัน EP หน้าสำหรับ
00:06:54 → 00:06:58 วันนี้สวัสดี
00:06:58 → 00:07:00 ค่ะ
00:07:00 → 00:07:03 H