สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคลมพิษมีอะไรบ้าง

"โรคลมพิษ" ผื่นแดงร้าย อย่าชะล่าใจ อันตรายกว่าที่คิด : TNN Health

จากช่อง : TNN


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:04 แลคตาซอยงาดำเข้มประโยชน์ทุกคำหอมงาดำ

00:00:0400:00:08 อร่อยมากรู้ทันโรคลมพิษผื่นแดงนูนันบนผิว

00:00:0800:00:12 หนังที่ต้องเร่งรักษาอย่าชะล่าใจไม่อยาก

00:00:1200:00:16 ป่วยต้องฟังเปิดวิธีป้องกันโรคลมพิษเริ่ม

00:00:1600:00:17 ต้นได้ด้วยตัว

00:00:1700:00:22 เอง 14 สมุนไพรของดีไกล้ตัวที่ช่วยแก้ผด

00:00:2200:00:26 ผืนคันติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ

00:00:2600:00:29 tn and Health วันนี้

00:00:2900:00:34 [เพลง]

00:00:3400:00:37 สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ tn and

00:00:3700:00:39 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ

00:00:3900:00:42 คุ้มกันรู้ทันโรคกับ TE and Health ค่ะ

00:00:4200:00:45 และดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงชันดาวจังวังกร

00:00:4500:00:49 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อม

00:00:4900:00:51 ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณ

00:00:5100:00:56 ผู้ชมมาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ

00:00:5600:01:08 [เพลง]

00:01:0800:01:11 สัปดาห์นี้ค่ะเราจะมาพูดถึงโรคภัยใกล้ตัว

00:01:1100:01:15 นั่นก็คือโรคลมพิษโรคลมพิษนะคะจะมีลักษณะ

00:01:1500:01:18 ของอาการผืนแดงคาเป็นปื้นแต่ถึงกระนั้น

00:01:1800:01:21 ค่ะคุณผู้ชมประมาทไม่ได้มารู้จักโรคลมพิษ

00:01:2100:01:26 กันดีกว่าค่ะโรคลมพิษ ertic คือผืนคันที่

00:01:2600:01:29 เกิดขึ้นบนผิวหนังเป็นอาการที่พบบ่อยได้

00:01:2900:01:33 ทุกเพศทุกวโดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 20-40

00:01:3300:01:37 ปีลักษณะลมพิษจะเป็นผืนหรือปื้นนุนแดงไม่

00:01:3700:01:41 มีขุยกระจายตามตัวแขนขาหรือบริเวณใบหน้า

00:01:4100:01:44 ซึ่งผื่นลมพิษสามารถเกิดขึ้นได้บนทุกส่วน

00:01:4400:01:47 ในร่างกายส่วนมากมักเป็นไม่เกิน 24

00:01:4700:01:51 ชัวโมงผืนจะค่อยๆจางหายไปบางรายอาจมี

00:01:5100:01:55 อาการถึงขั้นปวดท้องแน่นจมูกหายใจติดขัด

00:01:5500:01:58 หรือบางรายอาจมีอาการรุนแรงมากถึงขั้น

00:01:5800:02:02 เสียชีวิตได้ลมพิษแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

00:02:0200:02:06 ประกอบด้วย 1 ผื่นลมพิษชนิดเฉียบพลันมัก

00:02:0600:02:08 มีอาการต่อเนื่องกันไม่เกิน 6 สัปดาห์

00:02:0800:02:12 สาเหตุที่เกิดได้คือจากการแพ้อาหารแพ้ยา

00:02:1300:02:16 แมลงสัตว์กัดต่อยการติดเชื้อบางชนิดบาง

00:02:1600:02:19 รายอาจมีอาการแสดงที่อวัยวะอื่นเช่นแน่น

00:02:1900:02:23 หน้าอกแน่นจมูกปวดท้องความดันต่ำปากและตา

00:02:2300:02:26 บวมผืนอาดขึ้นต่อเนื่องไปจนเป็นลมพิษ

00:02:2600:02:31 เรื้อรัง 2 ผืดลมพิษชนิดเรื้อรังมักจะ

00:02:3100:02:34 แสดงอาการแบบเป็นๆหายๆอย่างน้อย 2 วันต่อ

00:02:3400:02:37 สัปดาห์ต่อเนื่องกันนานเกิด 6 สัปดาห์

00:02:3700:02:42 ซึ่งสาเหตุจะแตกต่างจากลมพิษเฉียบพลันโดย

00:02:4200:02:45 คนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งไม่สามารถหาสาเหตุได้

00:02:4500:02:49 เพราะอาจเกิดจากความแปรปรวนภายในร่างกาย

00:02:4900:02:52 แต่สิ่งที่สามารถกระตุ้นให้ลมพิษเรื้อรัง

00:02:5200:02:56 เป็นมากขึ้นได้แก่ยาแอสไพรินยาต้านอักเสบ

00:02:5600:03:01 ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ยาปฏิชีวนะการมีประจำ

00:03:0100:03:05 เดือนพักผ่อนไม่เต็มที่เป็นต้นสำหรับ

00:03:0500:03:10 ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคลมพิษคือ 1 อาหาร

00:03:1000:03:15 เช่นอาหารทะเลสารกันบูดสีผสมอาหารบางชนิด

00:03:1500:03:20 2 ยาโดยร่างกายมีการแพ้ยาบางชนิด 3 การ

00:03:2000:03:24 ติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสแบคทีเรีย

00:03:2400:03:29 เชื้อราหรือมีพยาธิ 4 ระบบต่อมไร้ท่อเช่น

00:03:3000:03:34 ต่อมไทรอย 5 อิทธิพลทางกายภาพโดยผู้ป่วย

00:03:3400:03:38 บางรายอาจเกิดผืนลมพิษจากปฏิกิริยาของผิว

00:03:3800:03:41 หนังที่ตอบสนองผิดปกติต่อความร้อนความ

00:03:4100:03:45 เย็นน้ำหนักกดรัดแสงแดดหรือการออกกำลัง

00:03:4500:03:50 กายเป็นต้น 6 แพ้สารที่สัมผัสผืนลมพิษ

00:03:5000:03:52 เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ผิวหนังสัมผัสกับสาร

00:03:5200:03:58 ที่แพ้เช่นการแพ้ยางลาทกขนสัตว์พืชหรือ

00:03:5800:04:02 อาหารบางชนิดเป็นต้น 7 ปฏิกิริยาแพ้พิษ

00:04:0200:04:06 แมลงเช่นปฏิกิริยาที่เกิดจากผึ้งหรือต่อ

00:04:0600:04:10 ต่อย 8 มะเร็งเช่นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

00:04:1000:04:14 หรือระบบอื่นๆของร่างกาย 9 ระบบภูมิคุ้ม

00:04:1400:04:18 กันต่อต้านตัวเองผู้ป่วยลมพิษบางรายเกิด

00:04:1800:04:21 จากการมีภูมิคุ้มกันไปกระตุ้นให้เกิดการ

00:04:2100:04:24 หลั่งสารเคมีบางชนิดออกมาที่ผิวหนังทำให้

00:04:2400:04:29 เกิดผืนลมพิษขึ้น 10 ไม่ทราบสาเหตุซึ่งพบ

00:04:2900:04:31 เป็นส่วนสนใหญ่โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยลม

00:04:3200:04:35 พิษเรื้อรังแม้ว่าแพทย์จะได้พยายามตรวจหา

00:04:3500:04:38 สาเหตุอย่างละเอียดแล้วแต่ก็ยังหาสาเหตุ

00:04:3800:04:42 ไม่พบอย่างไรก็ตามผู้ป่วยลมพิษยังควรไปพบ

00:04:4200:04:45 แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุซึ่งหากพบสาเหตุ

00:04:4500:04:48 ที่ก่อให้เกิดลมพิษและผู้ป่วยสามารถหลีก

00:04:4800:04:51 เลี่ยงหรือรักษาที่สาเหตุนั้นได้ก็จะทำ

00:04:5100:04:56 ให้โรคลมพิษสงบลงหรือหายขาดได้อย่างไรก็

00:04:5600:04:59 ตามนะคะถ้าเป็นโรคลมพิษอย่าชะล่าใจค่ะควร

00:05:0000:05:02 ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเรายังอยู่กัน

00:05:0200:05:07 ที่โรคลมพิษผื่นแดงนูนคร์ต้องรีบรักษาค่ะ

00:05:0700:05:09 และในช่วงนี้นะคะเราจะมาพูดคุยกับแพทย์

00:05:0900:05:12 ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโรคลมพิษกันให้

00:05:1200:05:14 มากขึ้น

00:05:1400:05:17 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก

00:05:1700:05:18 เลยนะ

00:05:1800:05:24 [เพลง]

00:05:2400:05:29 คะโรคลมพิษค่ะอาจารย์อันตรายแค่ไหนคะ

00:05:2900:05:31 สำหรับโรคโลมพิษค่ะความอันตรายของเขาขึ้น

00:05:3100:05:34 กับว่าเขาเป็นชนิดไหนนะคะโรคลมพิษที่รู้

00:05:3400:05:36 จักทั่วไปก็คือผื่นลมพิษเอติคาเรียค่ะจะ

00:05:3600:05:39 เป็นลักษณะผื่นนูนค่ะที่แล้วก็มีลักษณะ

00:05:3900:05:42 การแดงๆรอบๆผื่นชนิดนี้ค่ะขึ้นแบบเฉียบ

00:05:4200:05:44 พันธุ์แล้วก็หายได้เองภายใน 24 ชมงค่ะ

00:05:4400:05:47 ผื่นสามารถกระจายได้ทั่วของร่างกายเลยนะ

00:05:4700:05:50 คะแต่สำหรับผืดอีกชนิดนึงค่ะก็เป็นกลุ่ม

00:05:5000:05:52 อาการของผืดล้มพิษเหมือนกันแต่ว่าเขา

00:05:5200:05:55 เนี่ยจะมีความลึกกว่าก็คือคันบวมนูนของ

00:05:5500:05:57 เขาเนี่ยจะลงไปลำดับใต้ผิวหนังค่ะเรา

00:05:5700:06:00 เรียกเขาว่าแองจิโอ dema ดังนั้นการขึ้น

00:06:0000:06:03 ของผื่นชนิดนี้ค่ะจะขึ้นกับบริเวณที่มี

00:06:0300:06:06 แอเรียน้อยๆค่ะเช่นเป็นหนังตาริมฝีปาก

00:06:0600:06:09 หรือว่าหูค่ะซึ่งการบวมของผื่นชนิดนี้

00:06:0900:06:12 เนี่ยจะมีอาการเจ็บร่วมด้วยค่ะซึ่งการบวม

00:06:1200:06:14 ของยบุของแองจิโอ dema นี้ถ้าเป็นเนี่ย

00:06:1400:06:17 ค่ะอาจจะบวมไปถึงเรื่องของหลอดลมแล้วก็

00:06:1700:06:20 กระเพาะอาหารแล้วก็ลำไส้ได้การบวนของหลอด

00:06:2000:06:22 ลมจะทำให้เกิดอาการแน่นหายใจไม่ออกค่ะหาย

00:06:2200:06:25 ใจลำบากแล้วถมีอาการทางเดินหายใจได้

00:06:2500:06:27 สำหรับการวมของทางเดินอาหารอาจจะทำให้

00:06:2700:06:29 เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาเฉียบพันธคลื่นไส้

00:06:3000:06:31 อาเจียนหรืออาเจียนเป็นเลือดได้เช่นกัน

00:06:3100:06:34 ค่ะสำหรับผื่นลมพิษชนิดสุดท้ายค่ะเป็น

00:06:3400:06:36 ผื่นลมพิษที่ร่วมกับอาการของระบบอื่นๆค่ะ

00:06:3600:06:40 ไม่ว่าจะเป็นระบบหัวใจระบบประสาทระบบทาง

00:06:4000:06:42 เดินอาหารแล้วก็ระบบทางเดินหายใจค่ะการ

00:06:4300:06:45 เกิด 2 อาการใน 5 อาการทั้งหมดค่ะเกิด

00:06:4500:06:47 ขึ้นพร้อมๆกันเรียกการแพ้ชนิดาฟ laxis

00:06:4800:06:50 ค่ะเป็นการบวงของผื่นลมพิษที่รุนแรงที่

00:06:5000:06:53 สุดค่ะซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีลมพิษให้เรา

00:06:5300:06:55 เห็นก็ได้นะคะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสีย

00:06:5500:06:58 ชีวิตได้ในอันดับต้นๆเลยทีเดียวค่ะแล้วลม

00:06:5800:07:02 พิษและภูมิแพ้ผิวหนังมีความเหมือนหรือ

00:07:0200:07:05 ต่างกันอย่างไรคะสำหรับลมพิษเอติคาเลีย

00:07:0500:07:08 ค่ะกับผืนแพ้ผิวหนังอปิเมาติจะว่าเหมือน

00:07:0900:07:11 ก็เหมือนจะว่าต่างก็ต่างสำหรับความเหมือน

00:07:1100:07:13 ค่ะก็คืออาจจะเหมือนกันที่สาเหตุที่ทำให้

00:07:1300:07:16 เขามีการขึ้นที่ผิวหนังของเราค่ะความ

00:07:1600:07:18 เหมือนก็คืออาจจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส

00:07:1800:07:21 แบคทีเรียหรือเชื้อราไปจนถึงการแพ้ค่ะไม่

00:07:2100:07:25 ว่าจะเป็นแพ้อาหารแพ้อากาศแพ้ยาค่ะแต่

00:07:2500:07:27 ความต่างของเขาก็คือความเฉียบพลันค่ะ

00:07:2700:07:29 สำหรับผื่นลมพิษนั้นมักจะเป็นการการแพ้

00:07:2900:07:32 แบบเฉียบพลันค่ะก็คือมีอากาศเกิดขึ้นได้

00:07:3200:07:34 ทันทีหลังจากเราสัมผัสของที่แพ้แล้วพอ

00:07:3400:07:36 ขึ้นเฉียบพลันปุ๊บเขาก็สามารถหายได้เอง

00:07:3600:07:38 แบบเฉียบพลันเช่นกันหรืออาจจะเกิดเป็น

00:07:3800:07:41 เรื้อรังก็ได้สำหรับผื่นแพ้ผิวหนัง atopic

00:07:4100:07:45 เมาติค่ะเขาจะมีความหยาบความสากค่ะแต่เขา

00:07:4500:07:47 อาจจะขึ้นเฉียบพันธุ์แต่ไม่ทันทีเหมือนลม

00:07:4700:07:50 พิษค่อยๆสะสมขึ้นหรือว่าเป็นลักษณะของ

00:07:5000:07:53 เป็นเรื้อรังได้ค่ะเพราะฉะนั้นผื่นทั้ง 2

00:07:5300:07:55 ชนิดไม่ว่าจะเป็นลมพิษหรือผื่นแพ้ผิวหนา

00:07:5500:07:57 อักเสบจะมีการรักษาที่แตกต่างกันและ

00:07:5800:08:00 เหมือนกันในบางส่วนค่ะการรักษาที่เหมือน

00:08:0000:08:02 กันก็คือการใช้ยาต้านฮิสตามีนหรือยาแก้

00:08:0200:08:05 แพ้นั่นเองค่ะสำหรับความแตกต่างก็คือการ

00:08:0500:08:07 หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้และการหการหาสาเหตุ

00:08:0800:08:11 ของเขานะคะเมื่อหายจากโรคลมพิษแล้วผิว

00:08:1100:08:14 หนังจะยังปกติหรือไม่คะนี่คือความน่ารัก

00:08:1400:08:16 ของผืนลมพิษค่ะเพราะหลังจากที่เขาหายได้

00:08:1700:08:20 เองภายใน 24-48 ชมงแล้วเขาจะไม่ทิ้งร่อง

00:08:2000:08:22 รอยอะไรไว้ที่ผิวหนังเลยค่ะยกเว้นแต่ว่า

00:08:2200:08:25 เขามีภาวะแทรกซ้อนจากที่เราไปแคะแกะเกา

00:08:2500:08:28 เขาอาจจะทำให้เกิดเรื่องของผิวหนังอักเสบ

00:08:2800:08:31 ตามมาได้นะคะระหว่างที่ป่วยเป็นโรคลมพิษ

00:08:3100:08:34 ค่ะจะมีอาการอื่นแทรกซ้อนได้หรือไม่คะ

00:08:3400:08:36 อย่างที่บอกค่ะเรื่องของภาวะแทรกซ้อนเรา

00:08:3600:08:39 ต้องพยายามไม่ไปแคะแกะเกาบริเวณรอยโรกที่

00:08:3900:08:41 เป็นลมพิษนะคะเพราะเขาคหายเองได้แล้วเขา

00:08:4100:08:43 จะไม่ทิ้งรอยโรคอะไรแต่เมื่อไหร่ที่เราไป

00:08:4300:08:46 แคะแกะเกาเขาอาจจะทำให้เกิดการอักเสบที่

00:08:4600:08:48 ผิวหนังอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ

00:08:4800:08:51 แบคทีเรียเชื้อราหรือจุลินซีพแทรกซ้อนได้

00:08:5100:08:53 ค่ะซึ่งการรักษาก็อาจจะต้องมีการรักษาต่อ

00:08:5300:08:56 เนื่องรักษาแผลต่อไปสำหรับภาวะไส้ซ้อน

00:08:5600:08:59 อื่นๆค่ะถ้าเป็นการบวมของลมพิษที่ที่มาก

00:08:5900:09:02 ขึ้นไปเป็นระดับจอิหรือาฟ laxis ก็อาจจะ

00:09:0200:09:05 มีการบวมของหลอดลมหรือทางเดินหายใจค่ะ

00:09:0500:09:07 ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่น่ากังวลเพราะจะ

00:09:0700:09:10 ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจทำให้เรา

00:09:1000:09:12 แน่นหน้าอกหายใจไม่ออกค่ะหรือระดับ

00:09:1200:09:15 ออกซิเจนต่ำลงได้สำหรับถ้าเป็นของเยื่อบุ

00:09:1500:09:18 บริเวณลำไส้หรือท้องค่ะก็อาจจะทำให้เรา

00:09:1800:09:20 เกิดอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนค่ะอาจจะ

00:09:2000:09:22 ทำให้เกิดการสับสนว่าเราเป็นอาหารเป็นพิษ

00:09:2200:09:25 ได้หรือเปล่าค่ะแล้วมีปัจจัยอะไรที่ก่อ

00:09:2500:09:27 ให้เกิดโรคลมพิษบ้างคะอาจารย์สำหรับ

00:09:2700:09:30 ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคลมพิษนะคะโรคลมทิษ

00:09:3000:09:33 เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นได้เองก็มีค่ะกลุ่ม

00:09:3300:09:34 ที่เกิดขึ้นได้เองจะแบ่งเป็นแพ้เฉียบ

00:09:3400:09:37 พันธุ์กับแพ้เรื้อรังนะคะสาเหตุที่พบบ่อย

00:09:3700:09:39 ที่สุดคืออันดับ 1 คือการติดเชื้อค่ะไม่

00:09:4000:09:41 ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสเชื้อแบคทีเรียหรือ

00:09:4100:09:44 ว่าเชื้อราค่ะอันดับที่ 2 ก็คือการแพ้นี่

00:09:4400:09:47 แหละค่ะที่เรารู้จักกันในลักษณะของการแพ้

00:09:4700:09:49 อากาศแพ้อาหารหรือแพ้ยาบางชนิดกลุ่มที่

00:09:5000:09:53 แพ้อากาศเช่นแพ้ไรฝุ่นละอองหย้าเกสรดอก

00:09:5300:09:55 ไม้หรือขนสัตว์แล้วก็เชื้อราค่ะแพ้อาหาร

00:09:5600:09:58 ก็คือกลุ่มท็อปเอคที่เรารู้จักกันก็คือนม

00:09:5800:10:01 วัวนมฉเหลืองแป้งสาลีถั่วลิสงไข่แดงไข่

00:10:0100:10:04 ขาวอาหารทะเลมีเปลือกแล้วก็ปลาค่ะสำหรับ

00:10:0400:10:07 การแพ้ยาค่ะก็อาจจะมียาในกลุ่มต้านจุริน

00:10:0700:10:10 ชีพค่ะหรือว่ายาปฏิชีวนะค่ะแล้วก็ยาใน

00:10:1000:10:13 กลุ่มแอสไพลินค่ะฉะนั้นจะต้องเลือกใช้

00:10:1300:10:15 อย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของแพทย์นะคะ

00:10:1500:10:17 สำหรับปัจจัยในกลุ่มที่ 2 ค่ะเป็นปัจจัย

00:10:1700:10:20 สิ่งกระตุ้นทางกายภาพค่ะเป็นโรคที่เรา

00:10:2000:10:22 จริงๆแล้วอยู่รอบตัวเรามากๆเลยแต่อาจจะ

00:10:2200:10:25 ชื่อเรียกค่ะไม่ได้เฉพาะเจาะจงนักมีหลาก

00:10:2500:10:28 หลายชนิดมากค่ะแล้วแพทย์จะมีการวินิจฉัย

00:10:2800:10:32 โรคลมพิษอย่างไรคะสำหรับการวินิจฉัยโรคลม

00:10:3200:10:34 พิษค่ะก็เป็นการวินิจฉัยทั่วๆไปกับ

00:10:3400:10:37 วินิจฉัยจบจำเพาะนะคะการวินิจฉัยทั่วๆไป

00:10:3700:10:39 ก็คือการตรวจเลือดค่ะดูระดับเม็ดเลือดขาว

00:10:3900:10:41 ในเลือดค่ะว่ามีระดับเม็ดเลือดขาวที่สูง

00:10:4100:10:43 ที่เกิดจากการติดเชื้อหรือว่าระดับเม็ด

00:10:4300:10:45 เลือดขาวที่ต่ำเกินไปที่เกิดจากการติด

00:10:4500:10:48 เชื้อไวรัสหรือเปล่าค่ะการตรวจปัสสาวะค่ะ

00:10:4800:10:50 เช่นในคนที่มีกระเพาะปัสสาวะอักเสบเหลือ

00:10:5100:10:52 หลังอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำกระตุ้นให้

00:10:5200:10:56 มีลมพิษได้การตรวจอุจจาระค่ะบางคนอาจจะมี

00:10:5600:10:58 เรื่องของพยาธิค่ะไปใช้เข้าใต้ผิวหนังทำ

00:10:5800:11:01 ให้เกิดลักษณะคล้ายๆลมพิพได้เช่นกันไม่

00:11:0100:11:03 ว่าจะเป็นพยาตปากขอหรือพยาธเส้นได้ดการ

00:11:0300:11:06 ตรวจเซเรย์ดูไซนัสค่ะในกลุ่มที่ไซนัส

00:11:0600:11:08 อักเสบและมีการกำเริบขึ้นมาโดยที่ยังไม่

00:11:0800:11:10 รู้ตัวค่ะก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลมพิษ

00:11:1000:11:13 เป็นสัญญาณเตือนของไซนัสอักเสบได้รวมไป

00:11:1300:11:15 ถึงคนที่มีฟันผุเลื้อลังด้วยนะคะกลุ่มที่

00:11:1600:11:18 เป็นฟันผุเลื้อรังนานๆจะมีการสะสมของ

00:11:1800:11:20 จุลินทรีย์ค่ะเพราะฉะนั้นลมพิษอาจจะเป็น

00:11:2000:11:23 สัญญาณเตือนว่าแอ้ฟันผุแล้วไปหาหมอฟันกัน

00:11:2300:11:26 อย่างนี้ค่ะนอกนั้นจะเป็นการตรวจที่

00:11:2600:11:30 จำเพาะค่ะเช่นการตรวจสะกิดผิวหนักสิพ Test

00:11:3000:11:33 และการตรวจเลือดหาสารที่เฉพาะเจาะจงค่ะใน

00:11:3300:11:36 กลุ่มนี้การหาเหตุที่เฉพาะเจาะจงก็คือการ

00:11:3600:11:38 แพ้อาหารและก็การแพ้อากาศที่กล่าวไปค่ะ

00:11:3800:11:41 ปัจจุบันค่ะอาจารย์มีวิธีการรักษาโรคลม

00:11:4100:11:44 พิษอย่างไรบ้างสำหรับการรักษาลมพิษนะคะ

00:11:4400:11:47 อ่ารักษาแบบทั่วๆไปก่อนค่ะอันที่ 1 ก็คือ

00:11:4700:11:50 เราหาสาเหตุให้เจอค่ะทั้งสาเหตุหลักแล้ว

00:11:5000:11:53 ก็สาเหตุกระตุ้นนะคะบางคนสาเหตุหลักอาจจะ

00:11:5300:11:55 เป็นการติดเชื้อแต่สาเหตุกระตุ้นอาจจะ

00:11:5500:11:57 เป็นลักษณะอากาศหรือความชื้นที่เปลี่ยน

00:11:5700:12:00 แปลงบางคนสาเหตุหลักอาจจะเป็นเรื่องของ

00:12:0000:12:02 เดมิซึมมีการขีดขูดอย่างนี้ค่ะแต่ว่า

00:12:0200:12:05 สาเหตุลองเป็นจากผิวที่แห้งจนเกินไปนี้

00:12:0500:12:08 ค่ะเพราะฉะนั้นการรักษาจึงต้องเป็นเน้น

00:12:0800:12:11 การหาสาเหตุก่อนค่ะแล้วหลังจากนั้นค่ะก็

00:12:1100:12:13 คือหลีกเลี่ยงการสัมผัสค่ะหรือลดการ

00:12:1300:12:15 สัมผัสสิ่งที่แพ้หรือเป็นปัจจัยกระตุ้น

00:12:1500:12:19 ค่ะสำหรับการรักษาที่เฉพาะเจาะจมค่ะก็คือ

00:12:1900:12:21 อันที่ 1 ก็คือยาต้านฮิสตามีนหรือยาแก้

00:12:2100:12:24 แพ้นั่นเองค่ะยาแก้แพ้เนี่ยแบ่งออกเป็น

00:12:2400:12:26 กลุ่มที่ออกฤทธิ์เร็วและออกฤทธิ์ช้านะคะ

00:12:2600:12:29 แล้วก็เป็นกลุ่มที่ง่วงกับไม่ง่วงค่ะ

00:12:2900:12:32 สำหรับการรีบใช้ยาแก้แพ้หรือการพกติดตัว

00:12:3200:12:35 กลุ่มยาต้านฮิสตามีนค่ะที่ออกิดเร็วค่ะก็

00:12:3500:12:37 จะมีประโยชน์สูงสุดแต่สำหรับกลุ่มที่

00:12:3700:12:39 จำเป็นจะต้องใช้ยาต่อเนื่องค่ะกลุ่มที่

00:12:3900:12:42 ใช้แล้วไม่ง่วงนอนค่ะจะลดอาการข้างเคียง

00:12:4200:12:44 เรื่องของการง่วงนอนและรบกวนชีวิตประจำ

00:12:4400:12:47 วันได้ดีที่สุดค่ะนอกจากนั้นนะคะกลุ่มที่

00:12:4700:12:49 มีอาการลมพิษรุนแรงค่ะและเรื้อรังมากๆนอก

00:12:5000:12:52 จากยาต้านฮิสตามีนหรือยาแก้แพ้แล้วอาจจะ

00:12:5200:12:55 ยังต้องเป็นจำเป็นต้องพิจารณายากลุ่มรอง

00:12:5500:12:58 ที่เรียกว่าโคดอนหรือยากรดภูมิเพิ่มเติม

00:12:5800:13:01 ด้วยค่ะเราจะมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรค

00:13:0100:13:04 ลมพิษได้อย่างไรบ้างคะวิธีการป้องกันที่

00:13:0400:13:06 ดีที่สุดก็คือหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ค่ะ

00:13:0600:13:09 เพราะฉะนั้นควรจะไปพบแพทย์ปรึกษาแพทย์

00:13:0900:13:11 เพื่อให้ได้รับความวินิจฉัยก่อนว่าเรา

00:13:1100:13:13 เป็นรมพิษจากสาเหตุอะไรกลุ่มที่เป็นเฉียบ

00:13:1300:13:16 พันธุ์ค่ะสามารถหายได้เองได้ภายใน 4-7

00:13:1600:13:19 วันหรือบางทีก็หายได้ใน 24 ชมงแต่เป็น

00:13:1900:13:21 เป็นหายๆค่ะเพราะฉะนั้นพอหายเองได้อาจจะ

00:13:2100:13:23 ไม่ได้จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอะไรเพิ่มเติม

00:13:2300:13:25 ค่ะแต่สำหรับกลุ่มที่เป็นเรื้อรังหรือมี

00:13:2500:13:28 อาการเป็นๆหายๆมากกว่า 3-4 ครั้งขึ้นไป

00:13:2800:13:31 ค่ะจำเป็นจะต้องหาสาเหตุที่ชัดเจนค่ะว่า

00:13:3100:13:33 เป็นจักรอะไรเพื่อป้องกันแล้วก็หลีก

00:13:3300:13:35 เลี่ยงสิ่งกระตุ้นทั้งปัจจัยหลักและ

00:13:3500:13:38 ปัจจัยรองค่ะสุดท้ายค่ะเมื่อผืนลบพิษขึ้น

00:13:3800:13:41 มาแล้วพยายามหลีกเลี่ยงการแคะแกะเกา

00:13:4100:13:43 บริเวณผืนนะคะจะได้ไม่เกิดอาการแทรกซ้อน

00:13:4300:13:46 ของการติดเชื้อบริเวณผิวหนังค่ะการที่มี

00:13:4600:13:49 ผื่นขึ้นมาการทาครีมหรือโลชั่นแป้งบาง

00:13:4900:13:51 ชนิดที่มีส่วนผสมของ mental ค่ะสามารถลด

00:13:5100:13:54 ความรุนแรงของโลกของผื่นได้ค่ะเช่นคาลม

00:13:5500:13:58 ค่ะแล้วก็การดูแลสุขภาพผิวค่ะให้แข็งแรง

00:13:5800:14:00 และมีความชุ่มชืนอยู่เสมอจะลดความระคาย

00:14:0000:14:03 เคืองจากผืนลมพิษได้ดีค่ะผู้ที่ป่วยเป็น

00:14:0300:14:06 โรคลมพิษควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดใดบ้างคะ

00:14:0600:14:09 สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคลมพิษค่ะถ้าถูกใน

00:14:0900:14:11 วินิจฉัยแล้วว่าแพ้อาหารค่ะก็คือควรจะ

00:14:1100:14:13 หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้นั่นก็คืออาหาร

00:14:1300:14:16 กลุ่มท็อป EG นะคะนมวัวนมถั่วเหลืองแป้ง

00:14:1600:14:19 สาลีถั่วลิสงไข่แดงไข่ขาวอาหารทะเลมี

00:14:1900:14:22 เปลือกแล้วก็ปลาตามคำวินิจฉัยเลยค่ะแพ้

00:14:2200:14:24 อะไรก็เรี่ยงแบบนั้นนะคะการเลี่ยงเนี่ยจะ

00:14:2400:14:27 เป็นระยะเวลาสั้นๆค่ะสามารถหายได้เองใน

00:14:2700:14:30 บางคนในในการหลีกเลี่ยงเพียงแค่ 6-12

00:14:3000:14:33 เดือนเท่านั้นนะคะสำหรับกลุ่มรองค่ะก็คือ

00:14:3300:14:36 การหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นกลุ่มเสี่ยงค่ะ

00:14:3600:14:39 เช่นอาหารที่เป็นอาหารสัตว์แช่แข็งอาหาร

00:14:3900:14:42 กระป๋องที่มีการเก็บไว้นานๆจะพบว่ามีการ

00:14:4200:14:44 เพิ่มขึ้นของปริมาณฮิสตามีนซึ่งกระตุ้นทำ

00:14:4400:14:48 ให้เกิดมีการผืนลมพิษได้ค่ะอาหารหมักดอง

00:14:4800:14:51 หรือชาสมุนไพรบางชนิดค่ะสามารถกระตุ้นให้

00:14:5100:14:53 เกิดผืนลมพิษได้แล้วก็อาหารประเภท

00:14:5300:14:55 แอลกอฮอล์ค่ะแล้วก็อาหารที่มีส่วนผสมของ

00:14:5600:14:59 สารกันบูดควรจะหลีกเลี่ยงค่ะค่ะแล้วข้อ

00:14:5900:15:01 ข้อสุดท้ายค่ะอยากให้อาจารย์แนะนำคุณผู้

00:15:0100:15:04 ชมในการปฏิบัติตัวค่ะว่าจะปฏิบัติตัว

00:15:0400:15:08 อย่างไรเมื่อเกิดโรคลมพิษขึ้นค่ะข้อควร

00:15:0800:15:10 ปฏิบัตินะคะเมื่อเป็นโรคลมพิษคือ 1 ก็คือ

00:15:1000:15:13 ควรหลีกเลี่ยงค่ะสาเหตุของลมพิษที่เรา

00:15:1300:15:15 ตรวจพบแล้วว่าเป็นอะไรหรือหลีกเลี่ยง

00:15:1500:15:17 ปัจจัยเสี่ยงค่ะที่เราคิดว่าอันนั้นแหละ

00:15:1700:15:19 ที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดลมพิษ

00:15:1900:15:22 ค่ะพกยาตั้งพิมนหรือยาแก้แพ้ประจำตัวเอา

00:15:2200:15:25 ไว้ค่ะใช้โลชั่นหรือครีมที่มีส่วนประกอบ

00:15:2500:15:28 ของเนอค่ะที่มีฤทธิ์เย็นค่ะช่วยบรรเทา

00:15:2800:15:31 อาการค่ะควรจะหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนค่ะ

00:15:3100:15:33 หรือใครใช้ของร้อนๆบริเวณผิวหนังค่ะจะได้

00:15:3300:15:36 ไม่เกิดความระคายเคืองค่ะสุดท้ายค่ะกิน

00:15:3600:15:39 อาหารที่มีประโยชน์ดื่มน้ำมากๆพักผ่อนให้

00:15:3900:15:41 เพียงพอและลดภาวะความเครียดของเรานะคะจะ

00:15:4100:15:44 ได้ไม่เป็นรบพิษค่ะขอบพระคุณอาจารย์ที่มา

00:15:4400:15:46 ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโรคลมพิษ

00:15:4600:15:50 นะคะและในช่วงนี้ค่ะหมอดาวจะนำข้อมูลดีๆ

00:15:5000:15:54 เกี่ยวกับ 14 สมุนไพรใกล้ตัวที่ช่วยลด

00:15:5400:15:58 อาการลมพิษผลดผื่นคันไปฟังพร้อมๆัค่ะ 1

00:15:5800:16:03 ตำลึงตามตำรับยาสมุนไพรบ่งชี้เลยว่าตำลึง

00:16:0300:16:06 เป็นยาเย็นค่ะดับพิษร้อนสามารถแก้ผื่นคัน

00:16:0600:16:09 และผดร้อนที่เกิดขึ้นตามผิวหนังได้โดยนำ

00:16:0900:16:13 ใบตำลึงสดประมาณ 4-5 ใบมาขยี้ให้พอได้น้ำ

00:16:1300:16:18 ตำลึงมาทาบริเวณผืนคัน 2 แต่งกวามี

00:16:1800:16:21 คุณสมบัติของความเย็นดังนั้นเมื่อเกิดผด

00:16:2100:16:25 ผืนคันหน้าร้อนก็จะช่วยบรรเทาความร้อนและ

00:16:2500:16:28 ความแสบของผื่นคันเหล่านั้นได้โดยฝันแต่ง

00:16:2800:16:32 กกวาเป็นแว่นบางๆแล้วนำมาประคบบริเวณที่

00:16:3200:16:36 รู้สึกคันและแสบร้อนได้เลยวนหางจระเข้

00:16:3600:16:39 ว่านหางจระเข้นะคะเป็นที่ทราบกันดีว่า

00:16:3900:16:42 ช่วยลดอาการผดผื่นคันได้แต่อย่างไรก็ตาม

00:16:4200:16:45 นะคะการเตรียมว่านหางจระเข้จำเป็นอย่าง

00:16:4500:16:47 มากค่ะผู้ที่เตรียมนั้นจะต้องเตรียมเป็น

00:16:4700:16:50 ค่ะเพราะว่ายางที่ว่านหางจระเข้ก็จะทำให้

00:16:5000:16:54 เกิดพืนระคายเคืองได้ดังนั้นจะต้องแงะเอา

00:16:5400:16:57 เปลือกออกรวมถึงล้างยางออกให้หมดให้ได้

00:16:5700:17:01 ค่ะ 4 เปลือกกล้วยมีฤทธิ์เย็นสามารถ

00:17:0100:17:04 บรรเทาผลดผืนคันและอาการแสบร้อนบริเวณผิว

00:17:0400:17:07 หนังได้โดยใช้ด้านในของเปลือกกล้วยมา

00:17:0700:17:11 ประคบผดผื่นร้อนถูเบาๆและวางทิ้งไว้สัก

00:17:1100:17:15 พักจนอาการทุเลาลง 5 เปลือกแตงโมนอกจากจะ

00:17:1500:17:18 เป็นผลไม้คลายร้อนแล้วเปลือกของแตงโมยัง

00:17:1800:17:22 มีฤทธิ์เย็นไม่ต่างจากแตงกวาสักเท่าไหร่

00:17:2200:17:24 ฉะนั้นหากกินเนื้อแตงโมหมดแล้วก็อย่า

00:17:2400:17:27 เพิ่งทิ้งเปลือกเพราะเมื่อเกิดผดร้อนและ

00:17:2700:17:31 ผื่นคันเราสามารถนำเปลือกด้านในของแตงโม

00:17:3100:17:35 มาประคบผิวหนังได้อีกต่อ 6 มะระมีสรรพคุณ

00:17:3500:17:39 แก้ผืนรภได้เป็นอย่างดีเพียงแค่นำใบมะระ

00:17:3900:17:43 สดมาต้มจากนั้นคั้นเอาน้ำมาทาแก้ผดผื่น

00:17:4300:17:47 คันและผดร้อนตามผิวหนังได้เลยหรือจะใช้ผล

00:17:4700:17:51 ตากแห้งมาบดจนเป็นผงแล้วโรยบริเวณผิวหนัง

00:17:5100:17:55 ที่เป็นผดร้อนก็ได้เช่นกัน 7 มะยมรากตัว

00:17:5500:17:58 ผู้ของมะยมมีสรรพคุณรักษาโรคผิวหนังแก้ผด

00:17:5800:18:01 ผืนคันได้ชะงัดอีกทั้งยังช่วยขับน้ำ

00:18:0100:18:04 เหลืองให้แห้งเร็วขึ้นด้วยโดยใช้รากมะยม

00:18:0400:18:08 ล้างสะอาดมาต้มดื่มเป็นประจำหรือจะนำมาทา

00:18:0800:18:12 ถูบริเวณที่เกิดผดร้อนด้วยก็ได้มะนาวค่ะ

00:18:1200:18:16 มะนาวหลายคนนะคะคงแปลกใจว่ามะนาวเนี่ย

00:18:1600:18:19 สามารถช่วยลดผดผื่นคันได้วิธีการนะคะก็

00:18:1900:18:23 คือนำมะนาวน้ำมะนาวค่ะมาผสมกับน้ำเปล่า

00:18:2300:18:26 แล้วก็เอาผ้าค่ะชุบน้ำที่ผสมกันตรงนี้นะ

00:18:2600:18:29 คะทาเบาๆบริเวณที่เป็นผดผืนคันอย่างไรก็

00:18:2900:18:31 ตามนะคะการเตรียมเนี่ยมีความสำคัญอย่าง

00:18:3100:18:34 มากเพราะบางครั้งถ้าใช้น้ำมะนาวที่เข้ม

00:18:3400:18:36 ข้นเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดพืนผลดพัน์

00:18:3700:18:40 ระคายเคืองได้เช่นเดียวกันค่ะ 9 สะเดามี

00:18:4000:18:43 สรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรียเชื้อราและ

00:18:4400:18:47 เชื้อไวรัสดังนั้นหากมีอาการคันบริเวณผิว

00:18:4700:18:50 หนังไม่ว่าจะเป็นผดร้อนผื่นคันจากอาการ

00:18:5000:18:54 แพ้หรือผื่นคันทั่วไปก็สามารถนำน้ำต้ม

00:18:5400:19:00 สะเดามาทาถูบริเวณที่คันได้เช่นกัน 10 ไล

00:19:0000:19:03 น้ำมันหอมระเหยจากไลจะช่วยทำให้ผิวหนัง

00:19:0300:19:07 ชุ่มชื้นลดอาการคันผดร้อนและผดผื่นจากการ

00:19:0700:19:12 แพ้ได้โดยนำเหง้าสดของไลมาฝาบางๆและนำไป

00:19:1200:19:17 ต้มจนได้น้ำมันมาใช้แก้คันต่อไป 11 ใบพลู

00:19:1700:19:20 สารสำคัญในใบพลูมีหลายชนิดซึ่งมีฤทธิ์

00:19:2000:19:23 เป็นยาชาและช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของ

00:19:2300:19:26 โลหิตยับแย้งการเติบโตและฆ่าเชื้อ

00:19:2600:19:30 แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของวัณโรคและเชื้อ

00:19:3000:19:33 หนอต้านเชื้อราของโรคผิวหนังและกักเลื่อน

00:19:3300:19:36 ฮ่องกงฟู้ดดังนั้นเมื่อเกิดผดร้อนหรือผืน

00:19:3600:19:40 คันให้นำใบพลูสดโขลกให้ละเอียดผสมเหล้า

00:19:4100:19:45 ขาวเล็กน้อยใช้ทาจนหาย 12 ขมิ้นชันนำ

00:19:4500:19:49 เหง้าขมิ้นยาวประมาณ 2 นิ้วมาฝนใส่ในน้ำ

00:19:4900:19:53 ต้มสุกแล้วใช้ทาบริเวณผดร้อนและผื่นคัน

00:19:5300:19:56 หรือจะใช้ผงขมิ้นโรยบริเวณที่มีอาการคัน

00:19:5600:19:59 และแสบร้อนก็ได้ค่ะขมิ้นมีคุณสมบัติในการ

00:19:5900:20:02 ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเชื้อราลดการอักเสบและ

00:20:0200:20:06 ช่วยขับน้ำได้ดี 13 ค่ะนอกจากกลิ่นหอมๆ

00:20:0600:20:10 แล้วขายังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและ

00:20:1000:20:13 เชื้อราโดยในการแก้ผดร้อนและผืนครรภ์ที่

00:20:1300:20:17 มากับหน้าร้อนให้ใช้เหง้าขาแก่ๆ 1 แงงตำ

00:20:1700:20:21 ให้ละเอียดแล้วผสมกับเหล้าขาวให้พอขลุก

00:20:2100:20:24 ขลิกจากนั้นใช้ทั้งน้ำและเนื้อข่ามาทา

00:20:2400:20:29 บริเวณที่เกิดผดร้อนจนกว่าอาการจะทุเลา 14

00:20:2900:20:32 ฟ้าทลายโจรมีสรรพคุณเกือบเทียบเท่ายา

00:20:3200:20:36 ปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคหวัดทั่วไปอีกทั้ง

00:20:3600:20:40 ยังสามารถรักษาฝีและแผลอักเสบได้ด้วยแต่

00:20:4000:20:43 สำหรับอาการผดร้อนและผื่นคันจากอากาศร้อน

00:20:4300:20:48 จัดให้นำใบสดของฟ้าทลายโจรมาคั้นจากนั้น

00:20:4800:20:52 นำน้ำมาทาบริเวณที่เกิดอาการได้เลยเป็น

00:20:5200:20:55 อย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดีๆที่ TNN

00:20:5500:20:58 นำมาฝากคุณผู้ชมในวันนี้หวังเป็นอย่าง

00:20:5800:21:00 ยิ่งว่าว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระสุขภาพ

00:21:0000:21:04 ดีๆที่ได้นะคะไปดูแลตัวเองและครอบครัวให้

00:21:0400:21:07 มีความสุขสุขภาพแข็งแรงกันค่ะและขอบคุณ

00:21:0700:21:10 คุณผู้ชมนะคะที่ติดตามรับชมรายการ TNN

00:21:1000:21:12 Health มาตลอดทั้งรายการคุณผู้ชมสามารถ

00:21:1200:21:15 ติดตามรับชมรายการ TNN H ได้เป็นประจำ

00:21:1500:21:19 ค่ะเวลาดีทุกวันเสาร์ 15:00 น-

00:21:1900:21:23 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 และต้องไม่

00:21:2300:21:26 ลืมนะคะกดไลค์กดแชร์กด Subscribe กด

00:21:2600:21:29 กระดิ่งติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้มอดาและ

00:21:2900:21:31 ทีมงาน TNN He ในทุกช่องทางโซเชียล

00:21:3100:21:34 Network ไม่ว่าจะเป็น YouTube tiktok

00:21:3400:21:37 Facebook Instagram และ LINE official

00:21:3700:21:40 เพื่อที่จะเข้าถึงทุการะสุขภาพเสริมภูมิ

00:21:4000:21:42 คุ้มกันรู้ทันโรคไปด้วยกันค่ะและสำหรับ

00:21:4200:21:45 วันนี้นะคะหมอดาวและทีมงาน TNN Health

00:21:4500:21:48 ต้องขอตัวลาคุณผู้ชมไปก่อนสำหรับวันนี้

00:21:4800:21:55 สวัสดีค่ะ

00:21:5500:22:09 [เพลง]

00:22:0900:22:11

00:22:1100:22:19 [เพลง]