00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับน่าจะเคย
00:00:02 → 00:00:05 ได้ยินเรื่องของอาหาร gmo แล้วบางคนนะ
00:00:06 → 00:00:08 ครับไปเคยได้ยินมาว่าอาหาร gmo นั้น
00:00:08 → 00:00:11 สามารถทำให้ร่างกายของเราเนี่ยผิดปกติได้
00:00:11 → 00:00:14 เกิดเนื้องอกได้เป็นโรคตักไตโรคหัวใจโรค
00:00:14 → 00:00:18 สมองที่มันมีปัญหาโรคภูมิแพ้ชนิดแปลกๆ
00:00:18 → 00:00:20 ขึ้นมานะครับเรื่องนี้เนี่ยมันมีความจริง
00:00:20 → 00:00:24 เท็จประการใดอันตรายจริงหรือไม่แล้วอาหาร
00:00:24 → 00:00:26 gmo เนี่ยมันคืออะไรมันไปทำอะไรกันแน่ใน
00:00:26 → 00:00:28 ร่างกายเราและเราไปทำอะไรกับอาหารมันถึง
00:00:28 → 00:00:31 กลายไปเป็น gmo วันนี้ผมจะเล่าให้ทุกคน
00:00:31 → 00:00:34 ฟังกันเลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนี
00:00:34 → 00:00:35 ธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:35 → 00:00:38 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:38 → 00:00:42 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ gmo เนี่ยมันย่อ
00:00:42 → 00:00:44 มาจากคำว่า genetically modified
00:00:44 → 00:00:47 organism นะครับแปลว่าเราเนี่ยเปลี่ยน
00:00:47 → 00:00:52 แปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตนะฮะสิ่งมี
00:00:52 → 00:00:55 ชีวิตที่ถูกมนุษย์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมนะ
00:00:55 → 00:00:57 ฟังดูแล้วเอ๊ะมันน่าตกใจเรากำลังสร้าง
00:00:57 → 00:01:00 สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ชนิดใหม่ขึ้นมาบน
00:01:00 → 00:01:03 โลกนี้หรือเปล่านะครับอ่าส่วนหนึ่งก็ใช่
00:01:03 → 00:01:06 ครับแต่แต่เลยนะครับผมต้องขออธิบายอย่าง
00:01:07 → 00:01:12 นี้ก่อนว่าเราทำไมต้องทำอาหาร gmo ขึ้นมา
00:01:12 → 00:01:14 ต้องบอกอย่างนี้ครับ gmo เนี่ยไม่ใช่
00:01:14 → 00:01:17 เฉพาะกับอาหารเท่านั้นนะครับมันสามารถใช้
00:01:17 → 00:01:20 กับชนิดหรือสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นที่ไม่
00:01:20 → 00:01:23 ใช่เป็นอาหารของมนุษย์ก็ได้ครับผมจะยกตัว
00:01:23 → 00:01:26 อย่างให้ฟังนะครับถ้าเป็นในกรณีของอาหาร
00:01:26 → 00:01:29 สมมุติว่าเราเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของถั่ว
00:01:29 → 00:01:32 เหลืองที่ทำให้มันสามารถโตเร็วมีสารอาหาร
00:01:33 → 00:01:37 ที่สูงครบถ้วนสมบูรณ์แล้วก็ไม่โดนแมลงกิน
00:01:37 → 00:01:41 ไปคุณคิดว่ามันจะดีมั้ยครับแน่นอนว่าผล
00:01:41 → 00:01:43 ผลิตมันก็ต้องดีกว่าชนิดที่มันโดนแมลงกิน
00:01:43 → 00:01:46 ไปได้ไอ้พวกนั้นก็จะต้องไปฉีดยา่าแมลงก็
00:01:46 → 00:01:48 เกิดสารตกค้างทำให้เราต้องมาเป็นกังวลอีก
00:01:48 → 00:01:51 นะครับถ้าถั่วเหลืองเนี่ยมันต่อต้านแมลง
00:01:51 → 00:01:53 ได้มันก็น่าจะดีแล้วก็ถ้าถั่วเหลืองเนี่ย
00:01:53 → 00:01:56 มันสามารถที่จะมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง
00:01:56 → 00:01:59 มากเออมันก็น่าจะดีนะนี่คือเป็นกรณีที่
00:01:59 → 00:02:02 เราจำเป็นจะจะต้องทำ gmo หรือสมมุติว่า
00:02:02 → 00:02:05 เราต้องการทำให้อ่าเชื้อโรคบางอย่างเนี่ย
00:02:05 → 00:02:08 มันผลิตสารที่เราต้องการให้กับเรานะฮะอัน
00:02:08 → 00:02:11 นี้ใช้ในอุตสาหกรรมยาเลยเช่นเราต้องการ
00:02:11 → 00:02:13 ให้ตัวเชื้อโรคตัวนึงชื่อว่าอโลนเนี่ยมัน
00:02:13 → 00:02:16 ผลิตตัวโปรตีนที่เราต้องการในการเอาไปทำ
00:02:16 → 00:02:18 ยาหรือเอาไปทำอะไรสักอย่างเราก็ต้องไป
00:02:18 → 00:02:21 เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของแบคทีเรียตัวนี้
00:02:22 → 00:02:24 เพื่อให้มันสร้างในสิ่งที่เราต้องการนะ
00:02:24 → 00:02:26 หรือบางอย่างเราต้องการเพิ่มผลผลิตอ่า
00:02:27 → 00:02:29 เช่นคอตตอนเนี่ยเราต้องการเพิ่มผลผลิตจาก
00:02:29 → 00:02:31 มันให้มันเยอะเยอะเราก็ไปเปลี่ยนแปลง
00:02:31 → 00:02:33 พันธุกรรมของมันทำให้มันโตได้ดีแล้วก็
00:02:33 → 00:02:36 เพิ่มปริมาณคอตตอนที่มันผลิตให้เราแบบนี้
00:02:36 → 00:02:39 เป็นต้นนะหรือชนิดที่เป็นสัตว์นะฮะสมมุติ
00:02:39 → 00:02:41 ว่าคุณเลี้ยงปลาอยู่ตัวนึงเนี่ยอยากจะให้
00:02:41 → 00:02:43 มันออกไข่ตลอดเวลานะครับอยากจะให้มันตัว
00:02:43 → 00:02:46 โตๆนะครับเราจะได้มีของกินกันเยอะๆนะฮะทำ
00:02:46 → 00:02:48 ให้มันต้านทานความร้อนความหนาวได้แล้วก็
00:02:48 → 00:02:51 ไม่เครียดอะไรอย่างเงี้ยก็สามารถที่จะไป
00:02:51 → 00:02:54 ปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของมันได้เล่ามาถึง
00:02:54 → 00:02:57 ตรงนี้บางคนก็จะเริ่มเห็นประโยชน์ะเออว่ะ
00:02:57 → 00:03:00 มันก็น่าจะดีนะแต่ว่ามันก็ยังกังวลอยู่ดี
00:03:00 → 00:03:02 ว่าเฮ้ยมันไปเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของมัน
00:03:02 → 00:03:04 น่ะเป็นการที่เรากำลังทำตัวเป็นพระเจ้า
00:03:05 → 00:03:06 เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้
00:03:06 → 00:03:10 หรือเปล่าผมก็ต้องบอกคุณอย่างนี้ครับ gmo
00:03:10 → 00:03:13 เนี่ยเกิดขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้วนะอ่า
00:03:13 → 00:03:15 บางคนอาจจะคิดตามผมรู้เรื่องว่าเอ๊ะทำไม
00:03:15 → 00:03:17 มันเกิดขึ้นได้แต่บางคนอาจจะงงว่ามันเกิด
00:03:17 → 00:03:21 ขึ้นได้ยังไงต้องบอกอย่างนี้ครับ gmo ที่
00:03:21 → 00:03:23 เกิดขึ้นในธรรมชาติเนี่ยเกิดขึ้นจากการ
00:03:23 → 00:03:27 ผสมข้ามสายพันธุ์ต่างๆนะครับอ่าง่ายๆเลย
00:03:28 → 00:03:31 ม้าผสมกะลาออกมาเป็นล่ออันนี้ก็คือ gmo
00:03:31 → 00:03:34 นะครับเพราะปกติม้ามันควรจะผสมกันกับม้า
00:03:34 → 00:03:37 ล่อไม่ควรจะเกิดขึ้นมาควรจะต้องเป็นลาผสม
00:03:37 → 00:03:39 พันธุ์กับลาแต่คุณเอาม้ากับลมาผสมกันเกิด
00:03:40 → 00:03:43 เป็นล่ออันนี้ก็เป็น gmo เหมือนกันนคุณไป
00:03:43 → 00:03:46 เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของมันแล้วก็การที่
00:03:46 → 00:03:47 คุณผสม
00:03:48 → 00:03:52 พันธุ์ดอกไม้ผลไม้ชนิดต่างๆเพื่อสร้าง
00:03:52 → 00:03:54 พันธุ์ที่มันดีขึ้นมาอย่างเช่นผสมพันธุ์
00:03:54 → 00:03:57 ให้ทุเรียนมันลูกออกมาใหญ่ๆอย่างเงี้ยนะ
00:03:57 → 00:04:00 ครับหรือคุณทำพันธุ์ข้าวใหม่นะให้ข้าว
00:04:00 → 00:04:03 เนี่ยมันสวยมันหอมมันให้ผลผลิตเยอะนะครับ
00:04:03 → 00:04:08 ทนแล้งทนฝนได้ดีนี่ก็คือการทำ gmo นะครับ
00:04:08 → 00:04:12 แต่การทำ gmo ที่คุณทำเองโดยการเอาของทุก
00:04:12 → 00:04:15 อย่างมาผสมกันนะครับมันมีข้อเสียอยู่หลัก
00:04:15 → 00:04:19 ๆ 2 ข้อเลยข้อแรกมันใช้เวลานานมากกว่าคุณ
00:04:19 → 00:04:22 จะได้พันที่คุณต้องการขึ้นมานะคุณอาจจะ
00:04:22 → 00:04:24 ต้องผสมเป็น 10 10 ครั้งเป็น 100 ครั้ง
00:04:24 → 00:04:27 นะครับกว่าคุณจะได้ 1 ครั้งที่มันออกมาใน
00:04:27 → 00:04:28 สิ่งที่คุณ
00:04:28 → 00:04:32 ต้องการและไม่ใช่แค่นั้นครับเวลาคุณผสม
00:04:32 → 00:04:34 ข้ามสายพันธุ์หลายๆอันเช่นเอาาข้าวมาผสม
00:04:34 → 00:04:36 กันเองเอาทุเรียนมาผสมกันเองข้ามไปข้ามมา
00:04:37 → 00:04:39 เพื่อที่จะให้ผลผลิตที่คุณต้องการน่ะบาง
00:04:39 → 00:04:42 ทีมันมีผลเสียตามมาด้วยนะครับเช่นสมมุติ
00:04:42 → 00:04:46 ว่ายีนตัวนึงนะครับในผู้เรียนอันนี้มันทำ
00:04:46 → 00:04:49 ให้มีทุเรียนที่ขนาดใหญ่และกลิ่นเฉพาะตัว
00:04:49 → 00:04:52 นะครับคุณผสมค้ามมาแล้วะมันได้ยีนตัวนี้
00:04:52 → 00:04:54 มาเรียบร้อยแล้วโอเคทุเรียนของคุณอันใหม่
00:04:54 → 00:04:56 ที่ผสมมาได้แล้วมันใหญ่นะครับมันมีกลิ่น
00:04:56 → 00:05:00 เฉพาะตัวที่เราต้องการแต่คุณอย่าลืมนะ
00:05:00 → 00:05:01 ครับการผสมข้ามพันธุ์อย่างเงี้ยไม่ได้แปล
00:05:01 → 00:05:03 ว่า DNA หรือยีนตัวนั้นมันส่งมาได้ตัว
00:05:03 → 00:05:04 เดียวมันอาจจะมียีนตัวอื่นที่คุณไม่
00:05:04 → 00:05:07 ต้องการก็ได้เช่นมันอาจจะส่งยีนที่ทำให้
00:05:07 → 00:05:09 มันเน่าง่ายมานะครับโอเคลูกใหญ่จริงแต่
00:05:09 → 00:05:11 มันเน่าง่ายหรือบางทีอาจจะส่งยีนแปลก
00:05:11 → 00:05:14 ประหลาดขึ้นมาทำให้ลักษณะผลของมันเนี่ย
00:05:14 → 00:05:16 มันอาจจะไม่ดกเท่าที่ควรก็ได้อย่างนี้
00:05:16 → 00:05:19 เป็นต้นนะครับก็เลยต้องมีการเดาสุ่มเยอะ
00:05:19 → 00:05:23 แยะไปหมดในทางที่คุณจะสร้างไอ้ของพวกนี้
00:05:23 → 00:05:26 ขึ้นมาเองนะฮะใช้เวลานานบางทีเป็น 10 10
00:05:26 → 00:05:28 ปีเลยกว่าจะได้ขึ้นมา 1,000 ที่คุณ
00:05:28 → 00:05:31 ต้องการแล้วบางทีได้มาก็มีผลเสียที่มัน
00:05:31 → 00:05:33 เกิดจากการผสมพวกนี้ซึ่งคุณไม่สามารถควบ
00:05:33 → 00:05:37 คุมอะไรได้ทั้งสิ้นนะครับนั่นคือปัญหาที
00:05:37 → 00:05:39 นี้มนุษย์เราเนี่ยก็อยากจะแก้ปัญหาตรง
00:05:39 → 00:05:41 เนี้ยเฮ้ยฉันไม่อยากจะรอ 10 ปีแล้วว่ะฉัน
00:05:41 → 00:05:45 อยากจะทำไม่ได้ตอนนี้เลยนะฮะรวมทั้งเราก็
00:05:45 → 00:05:48 อยากจะได้เฉพาะยีนที่มันเป็นยีนที่เรา
00:05:48 → 00:05:51 ต้องการตัวที่ดีๆเท่านั้นนะก็เลยเกิดการ
00:05:51 → 00:05:56 ทำ gmo ขึ้นมานะทีนี้เมื่อเราพูดถึง gmo
00:05:56 → 00:05:58 เนี่ยนะครับเราก็ต้องเข้าใจว่ายีนคืออะไร
00:05:58 → 00:06:02 ก่อนนะฮะยนคืออะไร DNA คืออะไรนะครับแล้ว
00:06:02 → 00:06:06 มันจะมีคำว่า Gen editing กับอ่าเรื่อง
00:06:06 → 00:06:09 ของ genetic engineering 2 อย่างไม่
00:06:09 → 00:06:11 เหมือนกันเลยนะครับขอเริ่มต้นด้วยเือ DNA
00:06:12 → 00:06:14 ก่อนคืออะไรนะครับ DNA เนี่ยคือรหัส
00:06:14 → 00:06:16 พันธุกรรมของมนุษย์นะครับมันจะเป็นสาย
00:06:16 → 00:06:19 เกลียวคู่นะครับพันเป็นเกลียวยาวๆเลยบาง
00:06:19 → 00:06:22 คนจะเคยเห็นรูปนะครับแล้วในแต่ละเกลียว
00:06:22 → 00:06:23 เนี่ยมันจะเหมือนเป็นขั้นบันไดขั้นบันได
00:06:23 → 00:06:26 แต่ละขั้นเนี่ยก็คือเป็นอ่าโมเลกุลที่
00:06:26 → 00:06:29 เป็นเบสนะมาต่อกันนะครับเราจะเรียกว่าเบส
00:06:29 → 00:06:31 pair นะครับมันจะต่อเป็นคู่ๆไปเรื่อยๆ
00:06:31 → 00:06:34 เป็นสายยาวๆเลยไอ้ DNA สายยาวๆเนี่ยถ้า
00:06:34 → 00:06:38 เกิดคุณไปดูมันจะมี DNA บางช่วงนะครับที่
00:06:38 → 00:06:41 ทำหน้าที่ในการเอาเป็นเป็นต้นแบบและให้
00:06:41 → 00:06:44 ร่างกายเราผลิตโปรตีนนะครับ DNA สายยาวๆ
00:06:45 → 00:06:47 เนี่ยช่วงนึงของมันที่ทำหน้าที่ผลิต
00:06:47 → 00:06:50 โปรตีน 1 ตัวเราจะเรียกว่ายีนนะครับมันจะ
00:06:50 → 00:06:52 ผลิตอะไรก็ไม่รู้แหละบางทียีนตัวนี้ก็ไม่
00:06:52 → 00:06:55 แสดงเอาไม่แสดงออกบางทีมันก็แสดงออกนะ
00:06:55 → 00:06:56 ครับแต่ถ้ามันแสดงออกตรงเนี้ยเราจะเรียก
00:06:56 → 00:07:00 ว่ายีนที่มันเอาไปใช้ในการอ่านผลออกมานะ
00:07:00 → 00:07:03 ครับเช่นถ้าเราดู DNA เป็นสายยาวๆใช่มั้ย
00:07:03 → 00:07:06 ครับ DNA เนี่ยมันจะมีคู่เบสเยอะแยะไปหมด
00:07:06 → 00:07:08 เลยบางทีคู่เบสรวมไปเป็นหมื่นเป็นแสนเลย
00:07:08 → 00:07:10 นะครับไอ้ทั้งหมดเนี่ยอาจจะกลายไปเป็นยีน
00:07:10 → 00:07:13 ตัวนึงนะครับบางตัว DNA สายยาวมากๆเลย
00:07:13 → 00:07:16 กว่าจะเป็นยีน 1 ตัวบางยีนก็สายสั้นๆเท่า
00:07:16 → 00:07:17 นั้นเองนะ
00:07:18 → 00:07:21 ฮะถ้าเกิดคุณไปเปลี่ยนแปลงเบสเพียงตัว
00:07:21 → 00:07:23 เดียวในยีนเนี่ยอาจจะไม่เกิดอะไรขึ้นก็
00:07:23 → 00:07:25 ได้หรืออาจจะเกิดการกลายพันธุ์ของยีนตัว
00:07:25 → 00:07:27 นั้นก็ได้แต่ถ้าเกิดคุณเอา DNA ทั้งอันมา
00:07:27 → 00:07:29 เลือกเฉพาะยีนที่คุณต้องการเนี่ยคุณคุณก็
00:07:29 → 00:07:32 จะได้ลักษณะที่คุณต้องการเช่นยีนตัวนี้
00:07:32 → 00:07:35 ควบคุมโปรตีนในการทำให้ตัวอ่าทุเรียนมัน
00:07:35 → 00:07:37 ใหญ่ขึ้นนะคุณก็เลือกเฉพาะตัวนี้ตัดแล้ว
00:07:37 → 00:07:40 ไปต่อกับไอ้ทุเรียนอีกพันธุนึงซึ่งคุณ
00:07:40 → 00:07:42 ต้องการก็ได้นะครับนี่คือเป็นเรื่องของยน
00:07:42 → 00:07:47 กับ DNA นะแตกต่างกันตรงนี้ทีนี้คำว่า
00:07:47 → 00:07:50 genetic engineering ซึ่งเราใช้ในการทำ
00:07:50 → 00:07:53 gmo เนี่ยคืออะไรนะครับเราเป็นการเลือก
00:07:53 → 00:07:55 เฉพาะยีนที่เราต้องการนั่นแหละครับแล้ว
00:07:55 → 00:07:59 เอาตัดไปไว้ในสิ่งมีชีวิตอีกอย่างซึ่งคุณ
00:08:00 → 00:08:02 ต้องการนี่คือการทำ genetic engineering
00:08:02 → 00:08:05 ในตอนนี้แต่บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า
00:08:05 → 00:08:08 genome editing นะครับ genome editing
00:08:08 → 00:08:10 เนี่ยมันเป็นขั้นสุดยอดของ genetic
00:08:10 → 00:08:12 engineering อีกทีนึงครับคือเมื่อตะกี้
00:08:12 → 00:08:14 ที่ผมบอกว่ายนเนี่ยประกอบไปด้วยคู่เบสแบบ
00:08:14 → 00:08:16 มหาศาลของ DNA ใช่มั้ยครับคุณตัดไปทั้ง
00:08:16 → 00:08:20 ยวงนะฮะแต่การตัดเนี่ยคุณอาจจะไม่แม่นมาก
00:08:20 → 00:08:22 สมมุติว่าคุณต้องการแก้ไขเบสเพียงแค่ตัว
00:08:22 → 00:08:24 เดียวเนี่ยคุณใช้วิธีนี้ไม่ได้เพราะมัน
00:08:24 → 00:08:26 ตัดทีเดียวเยอะๆนะครับคุณต้องใช้วิธี
00:08:26 → 00:08:28 genom editing ซึ่งเปลี่ยนเบสเพียงแค่
00:08:28 → 00:08:30 ตัวเดียวได้ซึ่งอันนี้เนี่ยยเราไม่ได้เอา
00:08:30 → 00:08:34 มาใช้ในกรณีของอาหาร gmo นะครับเพราะว่า
00:08:34 → 00:08:36 มันยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มากแล้ว
00:08:36 → 00:08:39 เรายังไม่ค่อยมั่นใจว่ามันจะทำให้เกิด
00:08:39 → 00:08:42 ปัญหาอะไรขึ้นมาอีกหรือเปล่านะครับอ่ะนี่
00:08:42 → 00:08:45 คือเรื่องของ gmo genetic engineering
00:08:45 → 00:08:48 นะครับแล้วก็ genome editing แตกต่างกัน
00:08:48 → 00:08:49 ตรง
00:08:49 → 00:08:52 นี้ไม่เพียงแค่อาหารนะครับมันมีการใช้ใน
00:08:52 → 00:08:55 มนุษย์ด้วยก็คือในโรคบางโรคเช่นโรค cle
00:08:55 → 00:08:57 Cell นะครับโรคเอ่อที่มันมีความผิดปกติ
00:08:58 → 00:09:01 ทางยีนถ้าเราสสามารถเปลี่ยนแปลงยีนเรา
00:09:01 → 00:09:04 สามารถทำให้โรคบางโรคมันหายได้แปลว่าคุณ
00:09:04 → 00:09:08 กำลังทำอะไรอยู่มครับคุณกำลังทำมนุษย์ gmo
00:09:08 → 00:09:10 อยู่ครับ gmo ยังไงคุณเกิดมาเนี่ยคุณมี
00:09:10 → 00:09:13 โรคๆนึงที่มันรักษาไม่หายแต่มันเป็นเพราะ
00:09:13 → 00:09:15 ยีนตัวนี้ตัวเดียวเนี่ยคุณสามารถใช้วิธี
00:09:15 → 00:09:17 ในการตัดยีนตัวนั้นทิ้งไปแล้วเอายีนที่
00:09:17 → 00:09:21 มันดีใส่เข้าไปใหม่ทำให้คุณเกิดเป็น gmo
00:09:21 → 00:09:24 นะมนุษย์ gmo แต่เป็น gmo ที่กลับมาเป็น
00:09:24 → 00:09:28 ปกติได้นะครับคือคุณเกิดมาผิดปกติคุณใช้
00:09:28 → 00:09:31 วิธี gmo คุณกลับกลายเป็นมนุษย์ปกติได้นะ
00:09:31 → 00:09:33 ครับตอนนี้กำลังทำอยู่นะครับแล้วก็มีบาง
00:09:33 → 00:09:37 กรณีสำเร็จแล้วด้วยเรื่องของอาหาร gmo
00:09:37 → 00:09:39 เนี่ยหรือเรื่องของสิ่งมีชีวิต gmo ทั้ง
00:09:40 → 00:09:43 หมดที่เราพูดกันมานะครับมันก็มีที่มาที่
00:09:43 → 00:09:46 ไปอย่างนี้นั่นเองทีนี้บางคนอาจจะไม่เคย
00:09:46 → 00:09:48 ทราบผมขอเล่าเป็นเกร็บนิดนึงแล้วกันนะ
00:09:48 → 00:09:51 ครับว่าอาหารผลไม้หรือผักชนิดแรกที่เป็น
00:09:52 → 00:09:55 GM ที่ออกมาใช้ในโลกเนี้ยคือมะเขือเทศ
00:09:55 → 00:09:59 ครับมีมาตั้งแต่ปี 1994 นะครับตัวนี้
00:09:59 → 00:10:02 เนี่ยมันจะเป็นมะเขือเทศที่ชื่อว่า flavor
00:10:02 → 00:10:05 saver นะครับ Tomato นะครับ flavor
00:10:05 → 00:10:08 saver Tomato คือเา้าต้องการทำให้ไอ้
00:10:08 → 00:10:12 ตัวมะเขือเทศเนี่ยมันมีเปลือกที่แข็งหนา
00:10:12 → 00:10:15 มากขึ้นเพื่อที่จะได้ทนทานต่อการเน่าเสีย
00:10:15 → 00:10:17 การที่วางไว้นานๆมันจะได้ไม่นิ่มไม่เน่า
00:10:17 → 00:10:19 เสียนะครับถ้าเกิดว่าเปลือกมันแข็งมันก็
00:10:19 → 00:10:22 จะไม่นิ่มแล้วก็ไม่เกิดการเน่าเสียก็เลย
00:10:22 → 00:10:25 เป็นชนิดแรกที่ออกมาใช้ในโลกปัจจุบันนี้
00:10:25 → 00:10:28 แล้วก็ gmo สัตว์ชนิดแรกที่เราเอามากิน
00:10:28 → 00:10:30 กันก็คือปลา
00:10:30 → 00:10:33 แซลมอนนะครับปลาแซลมอนที่เรียกว่า Aqua
00:10:34 → 00:10:36 advantage นะครับ Aqua advantage เนี่ย
00:10:36 → 00:10:39 จะเป็นแซลมอนชนิดแรกที่มีการใช้การทำ gmo
00:10:39 → 00:10:41 เพราะว่าเขาต้องการให้แซลมอนเนี่ยมันโต
00:10:41 → 00:10:44 ตลอดเวลาไม่ใช่โตเป็นช่วงๆหมายความว่าไอ้
00:10:44 → 00:10:47 ช่วงช่วงหน้าบางหน้าเนี่ยแซมอนมันจะไม่
00:10:47 → 00:10:48 ค่อยโตนะครับแต่ไอ้เนี่ยพอมันเปลี่ยนแปลง
00:10:48 → 00:10:52 แล้วมันโตได้ตลอดเวลามาถึงคำถามสำคัญละ
00:10:52 → 00:10:55 ที่คุณไปได้ยินมาว่าไอ้ตัวพวกนี้เนี่ย
00:10:55 → 00:10:57 เวลาคุณกินเข้าไปแล้วคุณจะเกิดมะเร็งบาง
00:10:57 → 00:10:59 คนบอกว่าเป็น autism spectrum เหว่าคุณ
00:10:59 → 00:11:01 มีปัญหาทางด้านของสมองทางด้านจิตใจหรือ
00:11:01 → 00:11:03 เปล่าทำให้เป็นมะเร็งทำให้เป็นภูมิแพ้ทำ
00:11:03 → 00:11:06 ให้เป็นโรคซีรอคทำให้เป็นโรคต่างๆกับร่าง
00:11:06 → 00:11:09 กายมันจริงอย่างนั้นจริงหรือเปล่าต้องบอก
00:11:09 → 00:11:11 ว่าอย่างนี้ครับด้วยหลักฐานในปัจจุบัน
00:11:11 → 00:11:13 ทั้งหมดเนี่ยยังไม่พบว่าเกิดปัญหาอย่าง
00:11:13 → 00:11:16 นั้นขึ้นมานะครับแล้วเราก็มีการศึกษามา
00:11:16 → 00:11:19 ตั้งแต่ประมาณสักปี 1990 จนถึงปัจจุบัน
00:11:19 → 00:11:21 นี้ซึ่งก็นานพอสมควรแล้วที่จะสามารถต่อ
00:11:21 → 00:11:24 อะไรได้นะครับมีการศึกษาเปรียบเทียบอย่าง
00:11:24 → 00:11:26 นี้ครับที่อเมริกาเนี่ยเป็นประเทศแรกๆที่
00:11:27 → 00:11:30 เอาอาหารกลุ่ม gmo มาใช้เคก็สงสัยเหมือน
00:11:30 → 00:11:33 กันว่าเอ๊ะระยะยาวเนี่ยจะมีปัญหาอะไรมนะ
00:11:33 → 00:11:34 ครับเคก็เลยเอาประเทศตัวเองเนี่ยคือ
00:11:34 → 00:11:37 อเมริกาเนี่ยไปเทียบกับประเทศอื่นซึ่งไม่
00:11:37 → 00:11:40 ค่อยใช้สารอาหาร gmo นั่นก็คือประเทศแถบ
00:11:40 → 00:11:43 ยุโรปตะวันตกแล้วก็ที่อังกฤษซึ่ง 2 กลุ่ม
00:11:43 → 00:11:46 นั้นเนี่ยจะไม่ค่อยใช้ gmo แต่อเมริกาเ
00:11:46 → 00:11:48 ใช้ gmo เยอะแล้วเก็เทียบดูกันเลยครับว่า
00:11:48 → 00:11:51 มันมีโรคอะไรแปลกประหลาดซึ่งแตกต่างกัน
00:11:51 → 00:11:54 ระหว่าง 2 พื้นที่นี้ไมนะครับคือเค้าดูไป
00:11:54 → 00:11:56 ถึงอดีตเลยตั้งแต่ก่อนมีอาหาร gmo นะครับ
00:11:56 → 00:11:59 แล้วก็หลังมีอาหาร gmo เ้าพบว่าสิ่งต่างๆ
00:11:59 → 00:12:01 ที่เปลี่ยนแปลงเนี่ยไม่มีอะไรที่แตกต่าง
00:12:01 → 00:12:04 กันเลยระหว่างประเทศที่กินอาหาร gmo เยอะ
00:12:04 → 00:12:06 อย่างเช่นอเมริกากับอังกฤษแล้วก็ประเทศ
00:12:06 → 00:12:09 ทางยุโรปตะวันตกนะครับอันนี้คือไม่แตก
00:12:09 → 00:12:12 ต่างกันเลยนะฮะเราฟังดูแล้วเออมันก็สบาย
00:12:12 → 00:12:14 ขึ้นมาได้ส่วนหนึ่งแต่ว่ามันก็ยังติดใจ
00:12:14 → 00:12:17 อยู่อ่ะว่าเฮ้ยแล้วมันจริงเหรอที่มันจะ
00:12:17 → 00:12:19 ไม่เป็นอย่างนั้นนะฮะเพราะว่ามันมีกรณี
00:12:19 → 00:12:20 นึงผมไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินหรือเปล่านะ
00:12:20 → 00:12:24 ครับเป็นกรณีที่เรียกว่าเ่อบราซิเลียนนั
00:12:24 → 00:12:26 Case นะครับคือถั่วบราซิเลียนถั่วบราซิล
00:12:26 → 00:12:29 นี่แหละฮะเขาจะมีการพยายามตัดต่อ
00:12:29 → 00:12:31 พันธุกรรมของถั่วบราซิลเข้าไปไว้ในถั่ว
00:12:31 → 00:12:35 เหลืองนะครับแต่สิ่งที่เขาเจอก็คือมัน
00:12:35 → 00:12:38 สามารถทำให้เกิดภูมิแพ้ต่อถั่วบราซิลได้
00:12:38 → 00:12:41 นะครับแล้วก็งานชิ้นนี้เนี่ยถูกล้มไปไม่
00:12:41 → 00:12:44 ได้ถูกเอาออกมาสู่สาธารณชนไม่ได้เอามาขาย
00:12:44 → 00:12:46 นะครับคือเขาจับได้ก่อนนะครับเตรวจเจอนี้
00:12:46 → 00:12:48 ก่อนแล้วก็ล้มเลิกไปก็เลยทำให้เรารู้สึก
00:12:48 → 00:12:51 ว่าไอ้การที่คุณไปข้ามสายพันธุ์บางเทียม
00:12:51 → 00:12:53 มันทำให้เกิดภูมิแพ้หรือทำให้เกิดโรคได้
00:12:53 → 00:12:56 จริงๆนะครับแต่ในกรณีที่คุณตรวจเจอก่อน
00:12:56 → 00:12:59 แล้วคุณก็เลยล้มเลิกโครงการไปคำถามคือ
00:12:59 → 00:13:01 แล้วไอ้โครงงการอื่นๆที่ทำออกมาทั้งหมด
00:13:01 → 00:13:03 เนี่ยมันมีปัญหาอะไรมยปรากฏว่าตอนเยังไม่
00:13:03 → 00:13:05 เจอปัญหาอะไรสักข้อที่มันทำให้เกิดเม
00:13:05 → 00:13:07 มะเร็งทำให้เป็นภูมิแพ้หรืออะไรต่างๆที่
00:13:07 → 00:13:10 คนอื่นเขาพยายามพูดขึ้นมานะฮะแลแน่นอนว่า
00:13:10 → 00:13:13 ก็จะมีบางคนไม่เห็นด้วยทีนี้ทางรัฐบาลของ
00:13:13 → 00:13:15 อเมริกาเนี่ยเก็มีมาตรการขึ้นมาดูแลใน
00:13:15 → 00:13:19 ส่วนนี้คือทุกๆอย่างที่เป็น gmo จะต้องมี
00:13:19 → 00:13:22 การจดทะเบียนนะครับว่าเป็นอาหาร gmo หลัง
00:13:22 → 00:13:25 จากนั้นเนี่ยเขาจะมีวิธีในการพิจารณาหลาย
00:13:25 → 00:13:27 อย่างมากเลยอย่างแรกนะครับเค้าต้อง
00:13:27 → 00:13:30 พิจารณาอาหารกลุ่มเดียวกันที่เป็น gmo
00:13:30 → 00:13:32 กับไม่ใช่ gmo เช่นสมมุติคุณเอาถั่ว
00:13:32 → 00:13:34 เหลือง gmo คุณก็ต้องเอาถั่วเหลือง gmo
00:13:34 → 00:13:36 มาเทียบกับถั่วเหลืองที่ไม่ใช่ gmo ดูซิ
00:13:36 → 00:13:39 ว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนะครับ
00:13:39 → 00:13:42 อันนี้อันที่ 1 อันที่ 2 ที่เทดสอบก็คือ
00:13:42 → 00:13:46 ปริมาณสารอาหารต่างๆที่อยู่ใน gmo Food
00:13:46 → 00:13:49 เหล่านั้นดูซิว่ามันมีมากมีน้อยอันที่ 3
00:13:49 → 00:13:53 ก็คือเขาจะดูสารก่อภูมิแพ้และสารพิษต่างๆ
00:13:53 → 00:13:57 นะครับสารพิษเก็จะไปเทียบกับชนิดที่ไม่
00:13:57 → 00:13:59 ใช่ gmo ด้วยนะครับเทียบดูซิว่ามันมีอะไร
00:14:00 → 00:14:01 เพิ่มขึ้นมามนะฮะแล้วก็เทียบว่ามันเกิด
00:14:02 → 00:14:04 สารภูมิแพ้ชนิดใหม่ขึ้นมามั้ยเปรากฏว่า
00:14:04 → 00:14:06 ทุกๆอย่างที่จดทะเบียนกับทาง fda เนี่ยก็
00:14:06 → 00:14:09 ไม่พบอะไรที่มันผิดปกติเลยนะครับมีสาร
00:14:09 → 00:14:12 อาหารมากกว่าปกติซียด้วยนะครับแล้วก็ไม่
00:14:12 → 00:14:15 ได้มีสารพิษไม่ได้มีสารก่อบภูมิแพ้ที่มัน
00:14:15 → 00:14:18 มากกว่าปกติแล้วก็ไม่ได้เจออันตรายอะไร
00:14:18 → 00:14:21 ที่มันมากไปกว่าอาหารกลุ่มที่ไม่ใช่ gmo
00:14:21 → 00:14:23 เลยนะครับดังนั้นมีการควบคุมที่ค่อนข้าง
00:14:23 → 00:14:27 รัดกุมขนาดนี้เวลามีการคัดเ่อคัดกรองต่าง
00:14:27 → 00:14:30 ๆที่มันรัดกุมมากๆแบบเนี้ยก็ทำให้อย่าง
00:14:30 → 00:14:33 น้อยคนที่ฟังดูแล้วเออมันสบายใจได้นะฮที
00:14:34 → 00:14:35 นี้สำหรับตัวผมเนี่ยผมอ่านมาทั้งหมด
00:14:35 → 00:14:39 เรื่องพวกเผมก็เลยคิดเลยนะฮะว่าเออจริงๆ
00:14:39 → 00:14:41 เราไม่ควรจะต้องไปกังวลใจเพราะถ้าเรา
00:14:41 → 00:14:43 กังวลใจเรื่อง gmo นะครับคุณน่าจะมีการ
00:14:43 → 00:14:46 กังวลอย่างเงี้ยมาตั้งแต่สมัยอดีตกาลแล้ว
00:14:46 → 00:14:49 ครับเพราะว่าอะไรรู้มั้ยพวกคุณเนี่ยสมัย
00:14:49 → 00:14:52 อดีตเนี่ยก็เคยมีคนผสมต้นไม้ใช่มั้ยฮะผสม
00:14:52 → 00:14:55 พันธุ์ต้นไม้ผสมพันธุ์อาหารผสมข้ามสาย
00:14:55 → 00:14:57 พันธุ์นะครับแล้วนั่นแหละครับคุณน่าจะ
00:14:57 → 00:14:59 กังวลตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเพราะว่าคุณกำลัง
00:14:59 → 00:15:02 สร้างสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์ตั้งแต่ในอดีต
00:15:03 → 00:15:05 ตั้งด้วยตัวคุณเองนะด้วยเื้อมือมนุษย์เอง
00:15:05 → 00:15:08 ทั้งๆที่ยังไม่ได้ใช้วิธีในการไปตัดแต่ง
00:15:08 → 00:15:10 ยีนอะไรแต่อย่างใดเลยนะครับถ้าคุณกังวล
00:15:11 → 00:15:12 คุณก็ต้องกังวลตั้งแต่สมัยก่อนแล้วครับ
00:15:12 → 00:15:15 ไม่ใช่ว่าเพิ่งมากังวลเอาตอนนี้นะฮะสิ่ง
00:15:16 → 00:15:18 ที่เราทำในตอนนี้เนี่ยมันเป็นสิ่งที่เร็ว
00:15:18 → 00:15:21 กว่าสมัยก่อนแล้วที่สำคัญคุณเลือกได้คุณ
00:15:21 → 00:15:23 เลือกได้ว่าคุณจะเปลี่ยนยีนตัวไหนนะครับ
00:15:23 → 00:15:25 ถ้าเกิดว่าคุณทำ gmo เนี่ยคุณรู้เลยว่า
00:15:25 → 00:15:27 โอเคมันมียีนอยู่ 4 ตัวเราต้องการตัวที่ 1
00:15:27 → 00:15:29 ไอ้ 3 ตัวเนี้ยมันเป็นยนที่มันมีปัญหาเรา
00:15:29 → 00:15:32 ไม่เอาเราก็ทำการเลือกเอายีนตัวที่มันดี
00:15:32 → 00:15:35 มาใช้นะครับแต่ถ้าเกิดคุณไปทำการผสมข้าม
00:15:35 → 00:15:37 สายพันธุ์เอาเองมันมียีน 4 ตัวมันอาจจะ
00:15:37 → 00:15:40 ถ่ายทอดมาทีเดียว 4 ตัวรวดเลยโอเคได้ข้อ
00:15:40 → 00:15:42 ดีข้อที่ 1 ไปแต่ข้อเสีย 3 ข้อคณจะติดมา
00:15:42 → 00:15:44 ด้วยนะครับหรืออาจจะติดน้อยกว่า 3 ข้อก็
00:15:44 → 00:15:47 ได้แต่ก็มีโอกาสติดมาแบบนั้นเหมือนกัน
00:15:47 → 00:15:49 งั้นจะสังเกตว่าวิธีการทำ gmo เนี่ยมัน
00:15:49 → 00:15:51 เป็นวิธีในการควบคุมที่ค่อนข้างที่จะดี
00:15:51 → 00:15:54 เร็วได้ผลนะครับแล้วก็สามารถเลือกได้ด้วย
00:15:54 → 00:15:57 ว่าคุณต้องการหรือไม่ต้องการอะไรแถมมัน
00:15:57 → 00:16:00 ยังมีวิธีในการตรวจสอบอย่างชัดเจนมีการ
00:16:00 → 00:16:02 ขึ้นทะเบียนอย่างชัดเจนว่ามันคืออะไรกัน
00:16:02 → 00:16:05 แน่นะครับที่สำคัญคือเราไม่ได้เจอว่ามัน
00:16:05 → 00:16:09 มีปัญหาอะไรที่มามากกว่าปกติแต่อย่างใดนะ
00:16:09 → 00:16:12 ฮะอย่างไรก็ตามพูดมาถึงตรงนี้เนี่ยนะครับ
00:16:12 → 00:16:14 ทุกคนก็คงจะบอกว่าเอ๊ยแต่ฉันก็ยังไม่สบาย
00:16:14 → 00:16:17 ใจอยู่ดีนั่นแหละถ้าถามผมนะครับตัวผมเอง
00:16:17 → 00:16:19 เนี่ยก็คือไม่ได้สนใจว่าอาหารอะไรมี gmo
00:16:19 → 00:16:22 ไม่ gmo ผมก็กินนะครับเพราะว่าผมมั่นใจใน
00:16:22 → 00:16:25 ตัวข้อมูลที่ศึกษามาแต่ถ้าเกิดคุณเป็นคน
00:16:25 → 00:16:28 ที่ไม่เห็นด้วยกับอาหาร gmo ไม่เป็นไร
00:16:28 → 00:16:30 ครับนะไม่เป็นไรเลยมันเป็นสิทธิของคุณที่
00:16:30 → 00:16:33 จะไม่เห็นด้วยแล้วก็จะเลือกที่จะไม่ทานนะ
00:16:33 → 00:16:36 ฮะก็ไม่จำเป็นจะต้องทานนะครับแล้วก็มี
00:16:36 → 00:16:38 วิธีในการสังเกตง่ายๆเพราะว่าอาหารหลายๆ
00:16:38 → 00:16:40 อย่างก็จะเขียนแปะไว้ว่าอาหารนี้เป็น
00:16:40 → 00:16:43 อาหารกลุ่ม non GM คุณก็สามารถเลือกรับ
00:16:43 → 00:16:45 ประทานอาหารเหล่านั้นได้แต่ถ้าถามผมผมไม่
00:16:45 → 00:16:48 คิดว่ามันจะเกิดอันตรายขึ้นแต่อย่างไรนี่
00:16:48 → 00:16:51 เราก็ศึกษามาตั้งแต่ประมาณปี 1990 จนถึง
00:16:51 → 00:16:55 ปัจจุบันนี้นะครับก็นานมากพอสมควระนะฮะ
00:16:55 → 00:16:58 กำลังจะ 25 ปีเอ่อกำลังจะ 35 ปีเร็วๆนี้
00:16:58 → 00:17:00 แล้วดังนั้นเนี่ยผมคิดว่ามันค่อนข้างที่
00:17:00 → 00:17:03 จะปลอดภัยพอสมควรเลยทีเดียวนะครับโอเควัน
00:17:03 → 00:17:04 นี้ก็มาเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับถ้า
00:17:04 → 00:17:07 เกิดใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามกันเข้ามาแล้ว
00:17:07 → 00:17:11 กันนะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ