00:00:00 → 00:00:03 คุ่นพม 2.5 เนี่ยปีที่แล้วก็บอกทุบสถิติ
00:00:04 → 00:00:06 ปีนี้ก็ทุบสถิติผมเชื่อว่าปีหน้าก็ทุบ
00:00:06 → 00:00:08 สถิติมันทุบทุกปีแล้วมันไต่ขึ้นเรื่อยๆ
00:00:09 → 00:00:12 เรื่อยๆๆๆมันไม่มีท่าทีที่จะลงนี้ปี
00:00:12 → 00:00:16 2025 เรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีข้อมูล
00:00:16 → 00:00:21 อะไรใหม่ๆเผื่อจะเป็นแรงที่จะช่วยผลักดัน
00:00:21 → 00:00:25 ให้กับผู้ที่รับฟังเนี่ยเกิดให้ความสำคัญ
00:00:25 → 00:00:29 มากขึ้นแล้วก็เร่งแก้ปัญหาถือเป็นวาระ
00:00:29 → 00:00:32 แห่งชาติฝุ่นไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัว
00:00:32 → 00:00:37 กระตุ้นแต่เป็นตัวที่ก่อให้เกิดโรคภูมิ
00:00:37 → 00:00:40 แพ้ในประชาชนโดยเฉพาะในเด็กและผู้ใหญ่ผู้
00:00:40 → 00:00:44 สูงอายุหากเรามีลูกหรือมีผู้สูงอายุที่
00:00:44 → 00:00:48 รู้สึกว่าภูมิแพ้กับมาบ่อยทั้งๆที่
00:00:48 → 00:00:52 ประวัติในบ้านก็ไม่มีทั้งๆที่เราเองก็ดู
00:00:52 → 00:00:56 แลเเต็มที่เครื่องกองอากาศหลีกเลี่ยงใส่
00:00:56 → 00:01:00 หน้ากากนอนเร็วกินยาแต่ลูกเรายังกลับมามี
00:01:00 → 00:01:03 ภูมิแพ้แบบไม่สมเหตุสมผลวันนี้เรามาลองดู
00:01:03 → 00:01:08 กันว่าฝุ่น PM 2.5 มีส่วนในการก่อให้
00:01:08 → 00:01:15 เกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กและผู้สูงอายุหรือ
00:01:15 → 00:01:18 ไม่สวัสดีครับผมหมอวินัยครับสำหรับใครที่
00:01:18 → 00:01:21 รู้สึกว่าผมพูดช้าไปเพิ่มสปีดเป็น 1.5 ผม
00:01:21 → 00:01:24 เชื่อว่าเราจะไม่ตกหล่นปัญหาโรคปอดทาง
00:01:24 → 00:01:27 เดินหายใจจย้ำเสมอหากสภาพอากาศยังคงเป็น
00:01:28 → 00:01:31 อย่างนี้หากภาวะว่าโรคยังเป็นอย่างงนี้
00:01:31 → 00:01:35 อนาคตปัญหาโรคปอดและทางเดินหายใจอาจจะ
00:01:35 → 00:01:37 เป็นปัญหาที่กวนใจสังคมเราดังนั้นเรา
00:01:37 → 00:01:40 มามันตั้งใจฟังวันนี้เป็นประเด็นที่ผม
00:01:40 → 00:01:43 จริงๆก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดมานานนะฮะเพราะ
00:01:43 → 00:01:47 ว่า PM 2.5 ใครๆก็พูดพูดกันอยู่ทุกปีพูด
00:01:47 → 00:01:50 กันอยู่ทุกฤดูนะฮะเดี๋ยวผ่านไปสักพักเข้า
00:01:50 → 00:01:53 สงกรานต์ก็แยกย้ายปิดข่าวนะ
00:01:53 → 00:01:57 ครับผมว่าถึงจุดนี้เราทุกคนรู้แล้วแล้ว
00:01:57 → 00:02:00 เราก็อิ่มแล้วก็
00:02:00 → 00:02:06 เริ่มชินกับปัญหาฝุ่น 2 PM 2.5 นะครับ 1
00:02:06 → 00:02:09 เรารู้และ pm 2.5 คืออะไรขนาดเท่าไหร่
00:02:09 → 00:02:13 เล็กกว่าเส้นผมอยู่ในอากาศนะฮะเรารู้แล้ว
00:02:14 → 00:02:17 ว่ามันจะมาทักฤดูนะครับมันจะมาในเฉพาะฤดู
00:02:17 → 00:02:21 หนาวเนี่ยเกิดสภาพอากาศแรงกดที่สูงทำให้
00:02:21 → 00:02:24 ไม่สามารถถ่ายเทอันนี้เรารู้หมดกันละผม
00:02:24 → 00:02:27 ว่าเราเสพข่าวจนเราแน่นละเรื่องทฤษฎี 4
00:02:27 → 00:02:30 เราก็รู้แล้วว่าในกรุงเทพฯเราเนี่ยหรือใน
00:02:30 → 00:02:33 ภาคเหนือเนี่ยปัญหาฝุ่นที่มันเยอะๆเนี่ย
00:02:33 → 00:02:37 ก็หนีไม่พ้นนะฮะรดนะฮะ 2 คือการเผาแล้วก็
00:02:37 → 00:02:40 3 คือโรงงานนี่คือปัจจัยหลักใช่มั้ยฮะ
00:02:40 → 00:02:43 เรารู้อยู่แล้วซึ่งจริงๆก็เป็นนโยบายของ
00:02:43 → 00:02:46 ผู้บริหารที่จะทำไงผลักดันให้มันเกิดขึ้น
00:02:46 → 00:02:48 เราก็รู้อยู่แล้วว่านโยบายการผลักดัน
00:02:48 → 00:02:51 เนี่ยมันก็ไม่ใช่ราบรื่นแล้วก็หลายๆ
00:02:51 → 00:02:54 นโยบายยังไม่ถึงเป้าคือเราเรทนะฮะแต่นี้
00:02:54 → 00:02:56 ไม่ได้เป็นบริบทของเราเราเป็นแพทย์เรา
00:02:56 → 00:02:59 เป็นประชาชนนะเราแค่จับตามองว่าเมื่อไหร่
00:02:59 → 00:03:02 นโยบายจะเริ่มเห็นผลนะครับแต่ผมเชื่อว่า
00:03:02 → 00:03:05 เค้าก็ทำอยู่แต่สิ่งนึงที่ผมอยากจะเพิ่ม
00:03:05 → 00:03:07 ให้เราวันนี้ปี
00:03:07 → 00:03:11 2025 เรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีข้อมูล
00:03:11 → 00:03:16 อะไรใหม่ๆเผื่อจะเป็นแรงที่จะช่วยผลักดัน
00:03:16 → 00:03:19 ให้กับผู้ที่รับฟังเนี่ยเกิดให้ความ
00:03:20 → 00:03:23 สัมคัญมากขึ้นแล้วก็เร่งแก้ปัญหาถือเป็น
00:03:23 → 00:03:26 วาระแห่งชาติให้มากขึ้นนะครับก่อนอื่นเรา
00:03:26 → 00:03:30 ยอมรับแล้วถึงวันนี้เนี่ย 2025 ว่า PM
00:03:30 → 00:03:33 2.5 เป็นสารก่อมะเร็งนะครับแม้กระทั่ง
00:03:33 → 00:03:37 Who ประกาศชัดเจนนะครับ 2 เรามีข้อมูล
00:03:37 → 00:03:42 มากขึ้นเรื่อยๆว่าปัจจุบันมะเร็งปอดนะฮะ
00:03:42 → 00:03:45 หน้าตามันเปลี่ยนไป 10 ปี 20 ปีที่แล้ว
00:03:45 → 00:03:48 มะเร็งปอดมักจะสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่
00:03:48 → 00:03:50 ซึ่งก็จะเป็นหน้าตาอีกแบบนึง Small Cell
00:03:50 → 00:03:54 Square mus เซลอะไรอย่างเงี้ยนะครับแต่
00:03:54 → 00:03:56 ปัจจุบันหน้าตามันเริ่มเปลี่ยนก็เป็นพวก
00:03:56 → 00:03:59 กลุ่มแดินอย่างเงี้ยครับซึ่งมีความเชื่อม
00:03:59 → 00:04:03 โยงกับเอ่อฝุ่น PM 2.5 หรือมลพิษทาง
00:04:03 → 00:04:06 อากาศนี้เราเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อย
00:04:06 → 00:04:09 ๆและเราก็เจอว่ามะเร็งปอดเดี๋ยวนี้ก็พบใน
00:04:09 → 00:04:12 วัยกลางคนมากขึ้นเรื่อยๆอันนี้เรารู้เรา
00:04:12 → 00:04:16 เชื่อมีข้อมูลชัดเจนอันนี้ผ่าน 3 คือเรา
00:04:16 → 00:04:19 ก็รู้ว่าฝุ่นมาทีไรจะมีอาการฉับพันนะฮะ
00:04:19 → 00:04:23 คันตาแสบตาเคืองตาเคืองจมูกคันจมูกคัด
00:04:23 → 00:04:26 จมูกน้ำมูกไหลบางคนไหลจนเป็นเลือดกำเดา
00:04:26 → 00:04:30 บางคนภูมิแพ้กำเริบนะครับเราก็รู้อยู่
00:04:30 → 00:04:33 แล้วว่าคนที่เป็นประชากรกลุ่มเปราะบาง
00:04:33 → 00:04:35 หรือกลุ่มเสี่ยงเช่นเด็กผู้สูงอายุคนที่
00:04:35 → 00:04:38 มีโรคหัวใจคนที่มีโรคปอดทางเดินหายใจพวก
00:04:38 → 00:04:42 นี้ก็จะเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยขึ้นอันนี้
00:04:42 → 00:04:46 เรารู้ใช่มั้ยครับแล้วเราก็เริ่มไม่ตื่น
00:04:46 → 00:04:51 เต้นกับมันละนะฮะ 6 เราก็รู้ว่ามาตรการ
00:04:51 → 00:04:54 การป้องกันระดับเราเนี่ยระดับประชาชนก็
00:04:54 → 00:04:57 คือ 1 หลีกเลี่ยงการออกไปพื้นที่นะครับ
00:04:57 → 00:05:00 ห้ามทำกิจกรรมในช่วงที่ที่อืฝุ่นมันเยอะ
00:05:01 → 00:05:03 สีเหลืองสีแดงอย่างเงี้ยครับใส่หน้ากาก
00:05:03 → 00:05:06 อ่าบางวิจัยก็บอกหน้ากาก 2 ชั้นก็ช่วยแต่
00:05:06 → 00:05:09 มันก็อึดอัดอก็ดูกันไปการใช้เฮป้า
00:05:09 → 00:05:11 ฟิลเตอร์เครื่องเฝ้าอากาศช่วยเรารู้หมดนะ
00:05:11 → 00:05:14 ครับอันนี้เรามั่นใจซึ่งถึงจุดนี้ถามว่า
00:05:14 → 00:05:18 เรื่องฝุ่น PM 2.5 มีอะไรใหม่ๆ
00:05:18 → 00:05:21 บ้างมีอะไรอ่ะครับที่จะผลัก
00:05:21 → 00:05:27 ดันเราก็แค่รอใช่มั้ยครับเดี๋ยวพอเข้าฤดู
00:05:27 → 00:05:32 ใหม่ทุกคนก็ลืมพอกลับมาใหม่ก็เราก็มา
00:05:32 → 00:05:35 เริ่มต้นกันใหม่ข่าวก็จะเต็มไปด้วย PM
00:05:35 → 00:05:40 2.5 ก็จะมีผู้นำออกมาพูดมีมาตรการฉับพัน
00:05:40 → 00:05:44 นะครับเสร็จแล้วมันก็จะจางลงไปเฮ้ออ้าว
00:05:45 → 00:05:47 วันนี้เรามาลองดูกันว่าเราจะผลักดัน
00:05:47 → 00:05:50 ประเทศยังไงให้ให้เรื่อง PM 2.5 เนี่ย
00:05:50 → 00:05:53 ให้มันเกิดเห็นให้เร็วกว่านี้วันนี้ข้อ
00:05:53 → 00:05:57 มูลที่ผมมีก็คือเป็นข้อมูลมาจากนิตยสารนะ
00:05:57 → 00:06:01 algy นะครับที่ตีพิมพ์ปลายปีที่แล้ว 2024
00:06:01 → 00:06:05 อ่ะมาค่อยๆไล่ผมจะพูดช้าๆลงละตอนนี้คือ
00:06:05 → 00:06:07 เดิมทีเนี่ยเรารู้อยู่แล้วว่า PM หรือ
00:06:07 → 00:06:11 ฝุ่นพวกนี้เนี่ยมันเป็นตัวกระตุ้นให้คน
00:06:11 → 00:06:14 ที่มีโรคอยู่แล้วมีอาการกำเริบถึงขั้นไป
00:06:14 → 00:06:17 ห้องฉุกเฉินไปโรงพยาบาลหรือ admit ICU
00:06:17 → 00:06:20 อันนี้เรารู้เรารู้อยู่แล้วว่าฝุ่นพวกนี้
00:06:20 → 00:06:24 เป็นตัวกระตุ้นฝุ่นไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัว
00:06:24 → 00:06:30 กระตุ้นแต่เป็นตัวที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแผ
00:06:30 → 00:06:34 แท้ในประชาชนโดยเฉพาะในเด็กและผู้ใหญ่ผู้
00:06:34 → 00:06:37 สูงอายุฟังดีๆนะครับงั้นไม่แปลกว่าเด็ก
00:06:37 → 00:06:40 เราไม่ได้มีปัจจัยเสี่ยงแต่ทำไมเริ่มมี
00:06:40 → 00:06:42 ภูมิแพ้ปัจจุบันเรามีข้อมูลมากขึ้นเรื่อย
00:06:42 → 00:06:47 ๆนะฮะที่แสดงให้เห็นว่าฝุ่น PM 2.5 เป็น
00:06:47 → 00:06:51 ตัวก่อให้เกิดฟังดีๆนะครับต่างจากตัว
00:06:51 → 00:06:54 กระตุ้นในกลุ่มที่มีลูกอยู่แล้วอันนี้คือ
00:06:54 → 00:06:57 คนที่ไม่มีโรคแต่ฝุ่นเนี่ยมาก่อให้เกิด
00:06:57 → 00:07:01 โรคโรคภูมิแแพ้ในร่างกายตั้งแต่ภูมิแพ้
00:07:01 → 00:07:05 จมูกภูมิแพ้หอบหืดภูมิแพ้ผิวหนังผมจะสุ
00:07:05 → 00:07:08 คุยเฉพาะ 3 บริบทนี้เดิมทีเราเข้าใจกัน
00:07:08 → 00:07:13 ว่าฝุ่นจะไปกระตุ้นคนที่มีอาการมีโรคอยู่
00:07:13 → 00:07:16 ดั้งเดิมแต่วันนี้ข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ
00:07:16 → 00:07:20 คือประชากรที่ไม่ได้มีโรคสบายดีหรือเด็ก
00:07:20 → 00:07:24 ที่ดูแข็งแรงพอไปเจอฝุ่นเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆ
00:07:24 → 00:07:27 ทุกๆปีและฝุ่นที่มันหนักขึ้นเรื่อยๆมันจะ
00:07:27 → 00:07:33 กระตุ้นให้คนปกติเด็กปกติกลายเป็นโรคมาก
00:07:33 → 00:07:38 ขึ้นถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล
00:07:38 → 00:07:41 100% แต่ก็มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึง
00:07:41 → 00:07:46 กลไกทางชีวเคมีเป็นตารางออกมาและว่ามัน
00:07:46 → 00:07:50 กระตุ้นอย่างไรจากข้อมูลที่เขาทบทวนกันมา
00:07:50 → 00:07:53 5 ปี 10 ปีย้อนหลังข้อมูลนั้นได้จากห้อง
00:07:53 → 00:07:57 แลบสัตว์ทดลองการวิจัยนะครับสรุปว่าไอ้
00:07:57 → 00:08:00 ฝุ่นที่มันรออยู่ในอากาศเนี่ยมันมา
00:08:00 → 00:08:03 กระตุ้นให้คนๆนึงกลายเป็นโรคได้อย่างไร
00:08:03 → 00:08:06 เดิมทีเราเข้าใจว่าฝุ่นนี้ก็แค่เป็นฝุ่น
00:08:06 → 00:08:11 ธรรมดาจริงๆไม่ใช่ครับมันมากกว่าฝุ่นอ่ะ
00:08:11 → 00:08:14 ผมอยากให้เรามองว่าไอ้ที่เราออกไปข้างนอก
00:08:14 → 00:08:18 เนี่ยที่เราเจอเห็นควันเขม่าเนี่ยมันไม่
00:08:18 → 00:08:22 ใช่แค่ฝุ่นมันเป็นสารอักเสบสารที่มันลอย
00:08:22 → 00:08:25 นั่นน่ะที่มันกระตุ้นให้เกิดการอักเสบใน
00:08:25 → 00:08:28 ร่างกายแบบเรื้อรังได้จนก่อให้เกิดโรค
00:08:28 → 00:08:32 เรื้อรังติดตัวได้เลยนะครับไม่ต้องไปถึง
00:08:32 → 00:08:34 มะเร็งหรอกครับผมว่ามะเร็งใครๆก็รู้ไอ้
00:08:34 → 00:08:37 ชีวิตประจำวันที่เราต้องเข้าออกโรงพยาบาล
00:08:37 → 00:08:40 ทุกปีหรือว่าปีนึงหลายๆรอบไอ้นี้แค่นี้
00:08:40 → 00:08:43 มันก็ทำให้เราสูญเสียเงินสูญเสียการงาน
00:08:43 → 00:08:46 สูญเสียสุขภาพสูญเสียสุขภาพจิตแล้วครับนะ
00:08:46 → 00:08:50 ครับงั้นผมว่าคนที่จะเกิดมะเร็งสัดส่วน
00:08:50 → 00:08:56 น่ะสู้คนที่จะเกิดภูมิแพ้ไม่ได้ตะกร้าการ
00:08:56 → 00:08:59 เกิดภูมิแพ้น่าจะมากกว่านะครับผมผมเชื่อ
00:08:59 → 00:09:02 ว่าเราหลายๆคนนก็เอะใจคิดหรือฉุกใจคิด
00:09:02 → 00:09:04 เหมือนกันว่าทำไมระยะหลังมันเป็นบ่อย
00:09:04 → 00:09:06 เหลือเกินลูกเรามันเข้าออกบ่อยเหลือเกิน
00:09:06 → 00:09:09 หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นสาเหตุโดยตรงจากฝุ่น
00:09:09 → 00:09:15 PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้นทุกๆปีฝุ่น PM 2.5
00:09:15 → 00:09:18 เนี่ยปีที่แล้วก็บอกทุบสถิติปีนี้ก็ทุบ
00:09:18 → 00:09:21 สถิติผมเชื่อว่าปีหน้าก็ทุบสถิติมันทุบ
00:09:21 → 00:09:23 ทุกปีครับมันไกล่ขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆ
00:09:23 → 00:09:26 เรื่อยๆมันไม่มีท่าทีที่จะลงนะครับฝุ่น
00:09:26 → 00:09:29 เฉลี่ยต่อปีของเราก็ยังเกินเกณฑ์มาตรฐาน
00:09:29 → 00:09:32 ขององค์การอนามัยโลกใช่มั้ยฮะอ่ะไม่เป็น
00:09:32 → 00:09:34 ไรอันนั้นเป็นหน้าที่ของนโยบายรัฐคนที่
00:09:35 → 00:09:38 รับผิดชอบเรากลับมาดูในเชิงสุขภาพก่อนอ่ะ
00:09:38 → 00:09:42 คำถามต่อไปคือแล้วไอ้ฝุ่นเนี่ยมันมาก่อ
00:09:42 → 00:09:44 ให้เกิดโรคได้อย่างไรมีการอธิบายอย่างไร
00:09:44 → 00:09:49 อ่ะในนิตยสาร algy เนี่ยเขาเป็นเป็นเทำ
00:09:49 → 00:09:52 การสรุปเขาเรียกว่า Review study เอา
00:09:52 → 00:09:56 เปอร์หรือเอาวิจัยหลายๆอันมากางดูแล้วก็
00:09:56 → 00:09:58 มาหาข้อสรุปว่าทุกคนพูดคล้ายเิงกันหรือ
00:09:59 → 00:10:03 เปล่านะเคก็อธิบายโดยผ่านหลัก 4 กลไกอัน
00:10:03 → 00:10:06 นี้มันลึกหน่อยนะครับระดับโมเลกุลแต่ผม
00:10:06 → 00:10:08 เชื่อว่าเราไม่ต้องรู้ผมเองก็จะไม่ได้พูด
00:10:08 → 00:10:12 ในเชิงระดับโมเลกุลว่าสารเคมีตัวไหนแต่ผม
00:10:12 → 00:10:16 จะพูดให้เราเห็นภาพว่ามันกลายพันได้ยังไง
00:10:16 → 00:10:18 มันกระตุ้นได้อย่างไรโดยภาษาบ้านๆจะได้คน
00:10:18 → 00:10:22 รากหญ้าที่ฟังอยู่เข้าใจอ่ะเรามาเริ่มกัน
00:10:22 → 00:10:27 กลไกอันที่ 1 ฝุ่นทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้
00:10:27 → 00:10:30 อย่างไรเอธิบายว่ากลไกที่ที่ 1 คือเกิด
00:10:30 → 00:10:33 จากการที่เซลล์เยื่อบุเราเนี่ยอ่ะดูดีๆนะ
00:10:33 → 00:10:36 ครับปกติเยื่อบุเราเนี่ยตั้งแต่จมูกลงไป
00:10:36 → 00:10:39 ถึงปอดผมเนี่ยข้างในเนี่ยมันจะมีเซลล์
00:10:39 → 00:10:42 ซึ่งเซลล์พวกเนี้ยมันจะแน่นติดกันเลยฮะ
00:10:42 → 00:10:46 เหมือนกำแพงเมืองจีนมันจะชิดกันเลยแต่ไอ้
00:10:46 → 00:10:49 ฝุ่นพวกเนี้ยฝุ่นมันไม่ใช่แค่ฝุ่นเรารู้
00:10:49 → 00:10:51 ใช่มั้ยทบทวนอีกทีมันก็เป็นสารเคมีมันมี
00:10:51 → 00:10:57 ตั้งแต่โลหะหนักมันมีตั้งแต่สารเอ่อโอโซน
00:10:57 → 00:11:00 นะครับมันมีไฮโดรคาร์บอนมันมีสารเยอะไป
00:11:00 → 00:11:03 หมดซึ่งไอ้สารพวกนี้เนี่ยมันก็เป็นสารก่อ
00:11:03 → 00:11:06 อักเสบเหมือนกับเราเข้าห้องแล้วเราได้
00:11:06 → 00:11:09 กิ่นทินเนอร์กลิ่นสีกิ่นอะไรมันก็เป็นสาร
00:11:09 → 00:11:11 ที่เรามองไม่เห็นแต่มันกระตุ้นการอักเสบ
00:11:11 → 00:11:14 ได้ซึ่งสารพวกนี้พอเราสูดเข้าไปเนี่ยตั้ง
00:11:14 → 00:11:17 แต่จมูกยนต์ลงไปถึงหลอดลมไปถึงข้างล่าง
00:11:17 → 00:11:22 เนี่ยมันไปทำลายเซลล์เหมือนกำแพงเมืองจีน
00:11:22 → 00:11:26 ทำให้มันหลวมพอเซลล์มันหลวมปุ๊บมันเกิด
00:11:26 → 00:11:29 ช่องว่างระหว่างเซลล์ปกติแล้วเซลลล์มันจะ
00:11:29 → 00:11:31 แน่นเกาะกันแน่นติดเรียงกันเป็นแถวเลย
00:11:31 → 00:11:34 เหมือนกำแพงเมืองจีนไม่ให้ใครมันจะนทำ
00:11:34 → 00:11:38 หน้าที่ป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมสารพิษ
00:11:38 → 00:11:40 สารอักเสบจากข้างนอกเข้าสู่ซึมเข้าใน
00:11:40 → 00:11:44 เนื้อเยื่อแต่เมื่อไหร่ไอ้กำแพงเนี้ยมัน
00:11:44 → 00:11:47 ถูกทำลายหรือมันหลวมเนี่ยมันเกิดช่องโหว่
00:11:47 → 00:11:50 เกิดช่องว่างระหว่างกำแพงไอ้สารอักเสบพวก
00:11:50 → 00:11:52 เนี้ยสารเคมีฝุ่นอันตรายมันก็จะซึมเข้าไป
00:11:52 → 00:11:57 ในเนื้อเยื่อเกิดอะไรขึ้นครับตอนนี้แหละ
00:11:57 → 00:11:59 มันไม่ใช่ซึมแค่ตำแหน่งมันก็ไล่คือเกิด
00:11:59 → 00:12:03 การฉีกขาดเกิดการบาดเจ็บไอ้สารพวกนี้มัน
00:12:03 → 00:12:06 ก็ซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อปุ๊บร่างกายเราก็
00:12:06 → 00:12:08 ภูมิต้านทานมันก็ตื่นตัวแล้วว่ามีสิ่ง
00:12:08 → 00:12:12 แปลกปลอมเข้ามาในบ้านมันก็วิ่งเข้าไปหาพอ
00:12:12 → 00:12:15 วิ่งเข้าไปหาปุ๊บมันก็ทำลายหลั่งสาร
00:12:15 → 00:12:19 อักเสบหลั่งสารทำลายรอบแรกมันก็ทำลายตุ้ม
00:12:19 → 00:12:22 ๆๆตั้มๆนี้เวลามันทำลายเนี่ยมันไม่ได้
00:12:22 → 00:12:24 ทำลายแค่สารหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา
00:12:24 → 00:12:28 เนื้อยั่วปกติของเราก็โดนไปด้วยพอมัน
00:12:28 → 00:12:31 ทำลายปุ๊บเกิดการอักเสบแล้วไม่จบแค่นั้น
00:12:31 → 00:12:35 ครับเวลารอบที่ 1 กลุ่มภูมิต้านทานรอบที่
00:12:35 → 00:12:39 1 มาโยนสารอักเสบเพื่อต่อต้านหรือสู้
00:12:39 → 00:12:43 แล้วมันก็จะเรียกกองทัพฐานที่ 2 นะครับก็
00:12:43 → 00:12:46 คือเรียกกลุ่มพวกกลุ่มภูมิแพ้ทั้งหลาย
00:12:46 → 00:12:49 เซลล์ต้านภูมิแพ้ทั้งหลายมาอีกเพื่อ
00:12:49 → 00:12:54 มาเรียนรู้พอมาเรียนรู้ปุ๊บมันก็จะจำจำ
00:12:54 → 00:12:57 ปุ๊บมันก็จะสร้างสารภูมิแพ้ในร่างกายล่อง
00:12:57 → 00:13:00 รอยเพื่อดักจับประมาณนี้คร่าวๆไม่ต้องลง
00:13:00 → 00:13:04 ลึกงั้นสรุปกลไกอันที่ 1 คือไอ้สารพวกเ
00:13:04 → 00:13:07 มันทำให้เยื่อบุซึ่งจริงๆแล้วมันเป็น
00:13:07 → 00:13:10 กำแพงในการปกป้องไม่ให้สิ่งแปลกปลอมจาก
00:13:10 → 00:13:13 ภายนอกเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อเราเนี่ยมัน
00:13:13 → 00:13:14 ถูก
00:13:14 → 00:13:18 ทำลายดังนั้นเซลล์เราก็ต้องออกมาแล้วก็
00:13:18 → 00:13:21 สู้กับมันจนทำให้เกิดโรคทีนี้มันเกิดโรค
00:13:21 → 00:13:24 ได้ยังไงก็เพราะว่าเวลาไอ้สารพวกนี้มัน
00:13:24 → 00:13:27 เข้ามาเรื่อยๆทุกๆปีทุกๆปีเนี่ยร่างกาย
00:13:27 → 00:13:29 มันเริ่มจำแล้วเ้ยมันแพ้อะไรหรือเปล่ามัน
00:13:29 → 00:13:32 แพ้อะไรหรือเปล่ามันก็จะผลิตเซลล์เค้า
00:13:32 → 00:13:36 เรียกเซลล์ทรงจำมันจะจำไว้เลยว่า
00:13:36 → 00:13:40 ออมันเคยแพ้ตรงนี้นะงั้นพอฤดูใหม่ถัดไป
00:13:40 → 00:13:42 ปุ๊บยังไม่ทันได้โดนสารโดนนิดเดียวมันก็
00:13:42 → 00:13:46 กระตุ้นอาการภูมิแพ้ทันทีคนเรามันจะมี
00:13:46 → 00:13:49 อาการก็ต่อเมื่อร่างกายมันต้องจำก่อนใช่
00:13:49 → 00:13:51 มั้ยครับเหมือนเหมือนเวลาเราไปกินอาหาร
00:13:51 → 00:13:54 ที่เราแสลงกินกุ้งเอะไรอย่างเงี้ยเห็น
00:13:54 → 00:13:56 มั้ยฮะกินครั้งแรกมันจะแพ้นิดหน่อยแต่พอ
00:13:56 → 00:13:58 ไปกินครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 โมันจะแพ้รุน
00:13:58 → 00:14:02 แรงเลยเพราะร่างกายมันเคยจำแล้วไงพอเวลา
00:14:02 → 00:14:04 มันจำเนี่ยโอ้โหสารที่มันหลั่งมาเนี่ยคือ
00:14:04 → 00:14:07 มันเจ็บไม่ลืมไงร่างกายเวลามันโดนรอบ 2
00:14:07 → 00:14:11 รอบ 3 มันก็จัดหนักเลยพอจัดหนักร่างกายก็
00:14:11 → 00:14:14 มีอาการหนักพอมีอาการหนักมันก็หายช้าเผลอ
00:14:14 → 00:14:16 ๆมันเริ่มกลายเป็นโรคเรื้อรังไปเลยติดตัว
00:14:16 → 00:14:19 ไปเลยเห็นภาพนะฮะผมเรื่องยากผมพูดภาษา
00:14:19 → 00:14:22 บ้านๆให้เราเข้าใจดังนั้นกลไกอันที่ 1
00:14:22 → 00:14:25 คือไอ้สารพวกนี้มันทำลายกลไกอันที่ 2 คือ
00:14:25 → 00:14:29 อะไรครับคือเขาบอกตัวารเองเนี่ยมันซึม
00:14:29 → 00:14:32 ผ่านเซลล์ได้เลยมันไม่จำเป็นต้องทำลายก็
00:14:32 → 00:14:35 ได้มันซึมผ่านเซลล์สารบางพวกเช่นอะไรพวก
00:14:35 → 00:14:38 ที่ออกมาจากดีเซลรถยนต์เนี่ยเบอกมันซึม
00:14:38 → 00:14:42 ผ่านเซลล์แล้วมันกระตุ้นให้เกิด Radical
00:14:42 → 00:14:45 Free Radical คือร่างกายเราอ่ะในเซลล์
00:14:45 → 00:14:48 มันจะมีสารต้านอนุมูลอิสระกับสารอนุมูล
00:14:48 → 00:14:52 อิสระมันจะแนกันแต่เมื่อไหร่ที่มีไครหรือ
00:14:52 → 00:14:55 มีสารอะไรมากระตุ้นให้สร้างอนุมูลอิสระ
00:14:55 → 00:14:58 มากขึ้นเนี่ยไอ้สารต้านที่มันมีอยู่มันจะ
00:14:58 → 00:15:01 ไม่พองั้นไอ้สารอนุมูลอิสระเนี่ยมันจะ
00:15:01 → 00:15:04 เยอะมากในเซลล์แล้วมันก็ทำให้เซลล์นั้น
00:15:04 → 00:15:08 มันตายระเบิดตู้มและไอ้สารอนุมูลอิสระ
00:15:08 → 00:15:11 เนี่ยมันก็ไปกระตุ้นกระตุ้นอะไรฮะกระตุ้น
00:15:11 → 00:15:15 ให้สารภูมิแพ้หลั่งหลั่งพวกเคมีต่างๆ
00:15:15 → 00:15:18 กระตุ้นให้เกิดโรคสะสมได้คล้ายๆกับหลัก
00:15:18 → 00:15:20 การเดียวกันแต่อันนี้คือมันซึมผ่านเซลล์
00:15:20 → 00:15:24 เลยทำให้เซลล์ตายด้วยอันนี้คือกลไกที่ 2
00:15:24 → 00:15:27 กลไกที่ 3 คืออะไรครับเขาบอกมันไม่ต้องทำ
00:15:27 → 00:15:30 ให้เยื่อบุแตกมันไม่ต้องซึมตัวมันเอง
00:15:30 → 00:15:33 เนี่ยกระตุ้นสารภูมิแพ้ทหารกลุ่ม 2 โดย
00:15:34 → 00:15:37 ตรงเลยตอนแรกผมพูดใช่มั้ยฮะฐานทัพกลุ่ม
00:15:37 → 00:15:40 ที่ 2 ก็เป็นกลุ่มที่สร้างความทรงจำใช่
00:15:40 → 00:15:43 มั้ยอันนี้มันไพาเลยมันมาปุ๊บมันไป
00:15:43 → 00:15:47 กระตุ้นฐานทัพนั้นเลยให้จำให้จำปุ๊บมัน
00:15:47 → 00:15:50 หลอกมันหลอกสารภูมิแพ้หรือหลอกเซลล์ภูมิ
00:15:50 → 00:15:55 แพ้เราให้เข้าใจว่าร่างกายเป็นภูมิแพ้
00:15:55 → 00:16:01 แล้วทำให้ร่างกายหลั่งสารอักเสบเก็บไว้
00:16:01 → 00:16:04 หรือหลั่งสารอักเสบเพื่อทำให้ร่างกายจดจำ
00:16:04 → 00:16:08 มากขึ้นก็อย่างที่ผมบอกเวลามันโดนมันเจ็บ
00:16:08 → 00:16:11 มันจำมันไม่ลืมพอมันไม่ลืมครั้งต่อไปมัน
00:16:11 → 00:16:14 จัดหนักร่างกายมันจัดหนักร่างกายก็เหมือน
00:16:14 → 00:16:16 เครื่องยนต์แหละครับทุกครั้งที่มีสิ่ง
00:16:16 → 00:16:19 แปลกปลอมเข้าไปเนี่ยมันจะจำแต่เวลามันจำ
00:16:20 → 00:16:22 เนี่ยมันจำแบบจำแล้วลืมอันนั้นจบแต่ถ้า
00:16:22 → 00:16:25 มันจำแล้วไม่ลืมอ่ะอันนั้นน่ะมันจะทำให้
00:16:26 → 00:16:29 เราป่วยง่ายถ้าเราเจอสิ่งนั้นอยู่บ่อยๆ
00:16:29 → 00:16:31 บ่อั้นก็ไม่แปลกว่าทุกปีเวลาเราเจอฝุ่น
00:16:31 → 00:16:34 บ่อยๆหรือปริมาณฝุ่นที่มากขึ้นร่างกายเรา
00:16:34 → 00:16:38 ก็มีอาการมากขึ้นเด็กก็จะมีอาการมากขึ้น
00:16:38 → 00:16:40 โอเคนะฮะอันนี้เห็นภาพเนอะอันนี้กลไกนี้
00:16:40 → 00:16:43 มันเริ่มชัดมากขึ้นเรื่อยๆอ่ะอันที่ 4
00:16:43 → 00:16:47 สุดท้ายคืออะไรเบอกตัวฝุ่นเองเนี่ยมัน
00:16:47 → 00:16:50 เป็นพาหหันะไอ้ PM 2.5 มันเหมือนเรือเลย
00:16:50 → 00:16:53 นะเวลามันบินจากที่นึงไปสู่ที่นึงเนี่ย
00:16:53 → 00:16:56 มันไม่ใช่บินแค่ฝุ่นแค่สารเคมีนะมันลาก
00:16:56 → 00:17:00 อะไรมันลากเกสรดอกไม้ดอกญ้าสารเคมีฝุ่น
00:17:00 → 00:17:07 ไนโตรเจนจากดินนะครับปุ๋ยเคมีนะฮะลานะฮะ
00:17:07 → 00:17:11 สารคัดหลั่งจากแมงสาบโปรตีนแมงสาบจากหนอน
00:17:11 → 00:17:15 จากอะไรมันลากหมดเลยแล้วมันก็ล่องลอยใน
00:17:15 → 00:17:19 อากาศพอลูกหลานเราผู้ใหญ่ในบ้านผู้สูง
00:17:19 → 00:17:22 อายุไปสูดฝุ่นมันไม่ใช่ได้แค่ฝุ่นนะมัน
00:17:22 → 00:17:26 ได้สารก่อพวกนี้ด้วยสารก่อภูมิแพ้ด้วยมัน
00:17:26 → 00:17:29 ก็กระตุ้นแล้วไม่พอเขาบอกว่าฝุ่นบวกกับ
00:17:29 → 00:17:32 สารก่อภูมิแพ้เนี่ยไอ้ที่เราตรวจกันทั้ง
00:17:32 → 00:17:35 หลายเนี่ยมันส่งเสริมฤทธิ์ให้ร่างกาย
00:17:35 → 00:17:40 เนี่ยไวมากแล้วเกิดอาการภูมิแพ้มากโอเค
00:17:40 → 00:17:42 มั้ครับงั้นทั้งหมดทั้งพวงจริงๆผมไม่ได้
00:17:42 → 00:17:45 ตั้งใจให้เราลงลึกเรื่องกฎไกแต่ว่าพูดไว้
00:17:45 → 00:17:49 หน่อยจะได้เห็นภาพว่ามันเป็นสารอักเสบที่
00:17:49 → 00:17:52 มันเข้าไปในร่างกายและทำให้ร่างกายเนี่ย
00:17:52 → 00:17:56 มีการอักเสบโดยที่เรายังไม่มีอาการดัง
00:17:56 → 00:17:59 นั้นผมเปรียบเสมือนว่าทุกๆทุกปีเนี่ยเรา
00:17:59 → 00:18:02 เดินออกไปเนี่ยสารอักเสบก็จะเต็มร่างกาย
00:18:02 → 00:18:05 พอฤดูหมดสารอักเสบก็จะค่อยๆจางแต่มันจะจำ
00:18:06 → 00:18:09 มากขึ้นเรื่อยๆปีต่อไปสารอักเสบก็จะมาก
00:18:09 → 00:18:11 ขึ้นอีกแล้วจะมีเซลล์ที่มันจดจำมากขึ้น
00:18:11 → 00:18:15 อีกทำอย่างนี้ไปทุกๆปีทุกๆปีทุกๆปีวันนึง
00:18:15 → 00:18:18 ไอ้สารอักเสบนั้นน่ะมันก็จะต้องเกินลิมิต
00:18:18 → 00:18:21 ที่ร่างกายจะรับไว้มันจะเข้าสู่ภาวะ
00:18:21 → 00:18:24 อักเสบทั่วร่างกายเรารู้อยู่แล้วฝุ่น
00:18:24 → 00:18:26 เนี่ยเวลามันเข้ามันไม่ได้จบที่จมูกมันก็
00:18:26 → 00:18:32 ลามทั่วร่างกายหัวใจสมองไตนะมันไปหมดงั้น
00:18:32 → 00:18:36 อยากให้มองว่าฝุ่นมันคือสารอักเสบที่ล่อง
00:18:36 → 00:18:39 รอยในอากาศผมจะพูดยังไงให้เราเห็นภาพดี
00:18:39 → 00:18:42 สมมุติว่าเราเอาเด็กคนนึง
00:18:42 → 00:18:46 เนี่ยไปใส่ในตู้ที่เขาพ่นสีรถยนต์น่ะทุกๆ
00:18:46 → 00:18:50 วันอย่างเงี้ยทุกๆวันให้เดมคุณคิดว่าเด็ก
00:18:50 → 00:18:53 คนนั้นจะไหวมั้ยคุณคิดคนคนเด็กคนนั้น
00:18:53 → 00:18:56 เนี่ยเอ่อมันจะไม่มาโรงพยาบาลมันจะไม่
00:18:56 → 00:18:59 ป่วยปอดมันจะไม่อักเสบเลยเหรอนี่ขนาดสีนะ
00:18:59 → 00:19:02 มันยังมีกลิ่นเลยนะแต่ไอ้ฝุ่น PM 2.5
00:19:02 → 00:19:05 เนี่ยมันไม่มีกลิ่นมันยิ่งอันตรายสี
00:19:05 → 00:19:07 ทินเนอร์เราก็รู้ว่ามันเป็นมันเป็นสาร
00:19:07 → 00:19:10 อักเสบมันไม่ใช่แค่สีธรรมดาจริงมั้ยฝุ่น
00:19:10 → 00:19:12 ก่อสร้างเราก็รู้มันเป็นสารอักเสบมันไม่
00:19:12 → 00:19:15 ใช่แค่ฝุ่นธรรมดามันไม่อยากให้มองว่านี้
00:19:15 → 00:19:18 มันเป็นแค่ฝุ่นอยากให้มองว่าเรากำลังเอา
00:19:18 → 00:19:22 ลูกหลานเอาคนประชาชนเราเนี่ยไปสัมผัสกับ
00:19:22 → 00:19:27 สารเคมีที่ล่องลอยในอากาศแลทางตรงกางข้าม
00:19:27 → 00:19:30 ผมยกตัวอย่างสมมุติวันนึงเนี่ยโรงงาน
00:19:30 → 00:19:33 นิวเคลียร์ระเบิดตู้มเราทุกคนก็จะมี
00:19:33 → 00:19:35 มาตรการเร่งด่วนเลยเพราะอะไรเรารู้ว่า
00:19:35 → 00:19:38 นิวเคลียร์นี่มันอันตรายแต่นี้มันต่าง
00:19:38 → 00:19:41 อะไรกับนิวเคลียร์มันก็ไม่ได้ต่างครับแต่
00:19:41 → 00:19:45 มันเป็นนิวเคลียร์สะสมมันไม่แรงแต่มัน
00:19:45 → 00:19:49 สะสมสะสมไปเรื่อยๆผมเชื่อว่าผมแล้วก็หมอ
00:19:49 → 00:19:53 ปอดอีกหลายๆท่านก็เห็นปรากฏการณ์ใน 5 ปี
00:19:53 → 00:19:57 ใน 10 ปีว่าฤดูฝุ่นเนี่ยจะมีคนไข้มามาก
00:19:57 → 00:19:59 ขึ้นเรื่อยๆแ
00:19:59 → 00:20:03 และเราก็เห็นว่าระยะหลังเนี่ยมันก็มีผู้
00:20:03 → 00:20:06 ป่วยที่เดิมเราเคยเข้าใจว่าทฤษฎีมันเป็น
00:20:06 → 00:20:10 แค่เด็กเดี๋ยวนี้เราพบว่าผู้ใหญ่ก็เป็น
00:20:10 → 00:20:13 ผู้สูงอายุก็เป็นแล้วเราก็เชื่อว่าเดิมที
00:20:13 → 00:20:17 ไอ้ทฤษฎีที่บอกว่าจะต้องมีผู้ปกครองเป็น
00:20:17 → 00:20:20 25% ถ้าพ่อทั้งแม่เป็นก็เด็กมีโอกาสเป็น
00:20:20 → 00:20:23 50% ถึง 70 แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เราก็เจอ
00:20:23 → 00:20:26 ปรากฏการณ์ว่าพ่อแม่ไม่เป็นไม่เคยมีใคร
00:20:26 → 00:20:30 เป็นในครอบครัวมาก่อนแต่ลูกเล่เป็นผมไม่
00:20:30 → 00:20:32 รู้มันเกิดจากอะไรแต่มันมีความเชื่อมโยง
00:20:32 → 00:20:35 กันนะครับผมเชื่อว่าหน่วยงานที่เขารับผิด
00:20:35 → 00:20:38 ชอบเค้าก็คงเก็บตัวเลขแหละแล้วเข้ามาดู
00:20:38 → 00:20:42 แต่ที่แน่ๆที่แน่ๆตัวเลขชัดเจนว่าฝุ่น
00:20:42 → 00:20:46 หรือมลพิษอากาศที่มากขึ้นมันก็มาด้วยภาวะ
00:20:46 → 00:20:49 ภูมิแพ้ที่มากขึ้นตัวเลขนี้มันวิ่งคู่กัน
00:20:49 → 00:20:52 ภูมิแพ้นั้นไม่จำเป็นแค่ต้องเป็นแพ้ผิว
00:20:52 → 00:20:56 หนังนะมันแพ้จมูกก็ได้โพงจมูกอักเสบก็ได้
00:20:56 → 00:20:59 หรือแพ้แบบหอบหืดก็ได้นะฮะดังนั้นผมเชื่อ
00:20:59 → 00:21:03 ว่าเราทุกคนคงแค่มองว่าเออฝุ่นกระตุ้นให้
00:21:03 → 00:21:06 เกิดบรรเลงในอนาคตมันเป็นเรื่องไกลตัวนะ
00:21:06 → 00:21:09 ผมเชื่อว่าหลายคนก็เลยทำให้น้ำหนักมันไม่
00:21:09 → 00:21:12 ถึงแต่ผมบอกเลยมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมัน
00:21:12 → 00:21:16 เป็นเรื่องก่อการอักเสบกระตุ้นให้เกิดโรค
00:21:16 → 00:21:20 ภูมิแพ้ในทุกๆวันดังนั้นฝุ่นจบไม่พอลูก
00:21:20 → 00:21:23 เรากลายเป็นภูมิแพ้ฝนมามันก็แพ้เฉยเลย
00:21:23 → 00:21:26 อากาศหนาวมามันก็แพ้เฉยเลยทั้งๆที่มันไม่
00:21:26 → 00:21:29 เคยเป็นอะไรมาก่อนมันอาจจะเริ่มจากฝุ่นก็
00:21:29 → 00:21:33 ได้ฝุ่นเป็นตัวกระตุ้นฝุ่นปีนี้มาเด็กไป
00:21:33 → 00:21:36 โดนปุ๊บผู้ใหญ่ไปโดนปุ๊บหน้าฝนหน้าหนาวแก
00:21:36 → 00:21:39 ก็กำเริบเฉยพอมาเจอฝุ่นปีหน้าที่หนักกว่า
00:21:39 → 00:21:42 เดิมภูมิแพ้หนักกว่าเดิมอีกแล้วบางทีมัน
00:21:42 → 00:21:46 ไม่ได้จบแค่จมูกมันกลายเป็นหอบืดเฉยแล้ว
00:21:46 → 00:21:49 ต้องเข้าออกโรงพยาบาลค่าใช้จ่ายสุขภาพจิต
00:21:49 → 00:21:53 ที่เสียไปมูลค่าที่ลงประเทศก็ต้องเสียไป
00:21:53 → 00:21:57 นะครับมันคืออะไรถามว่าผมมีทางออกอย่างไร
00:21:57 → 00:22:00 ระดับมหาภาคผมก็ก็ไม่รู้นะครับคือไม่ใช่
00:22:00 → 00:22:02 ไม่รู้ก็คงคงผมคิดว่ามีคนเก่งกว่าผมเยอะ
00:22:02 → 00:22:05 เรื่องพวกนี้แต่ผมคิดว่าเราที่เราทำได้ก็
00:22:05 → 00:22:09 คือในบริบทของเรานะครับปลูกต้นไม้นะครับ
00:22:09 → 00:22:13 ก็ลดการใช้นะพวกการเผาไหม้ให้มากที่สุด
00:22:13 → 00:22:16 ที่เป็นไปได้นะครับแล้วก็ดูแลตัวเองนะ
00:22:16 → 00:22:20 ครับการใช้เครื่องเฝ้าอากาศในบ้านครับ
00:22:20 → 00:22:25 อ้าคิดว่าวันนี้ปี 2025 เราเข้าใจมากขึ้น
00:22:25 → 00:22:28 ว่าฝุ่นกับเรามันไม่ใช่เป็นเรื่องไกลตัว
00:22:28 → 00:22:31 มันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆปี
00:22:31 → 00:22:34 2025 มีรายงานอะไรเพิ่มขึ้นมาผมจะมา
00:22:34 → 00:22:37 อัปเดตขอให้โชคดีครับสวัสดีครับสุดท้าย
00:22:37 → 00:22:39 นี้อย่าลืมนะครับหากใครที่สนใจหนังสือรู้
00:22:40 → 00:22:42 รอดปลอดภัยสามารถสั่งผ่าน line official
00:22:42 → 00:22:45 ได้จะมีเจ้าหน้าที่ประสานในนี้ผมก็ได้
00:22:45 → 00:22:49 สรุปนะฮะหัวข้อนะฮะสำหรับผู้สูงอายุหรือ
00:22:49 → 00:22:53 ว่าใครที่สนใจนะครับสีภาษาค่อนข้างง่าย
00:22:53 → 00:22:55 ลองไปอ่านดูนะครับแล้วก็เริ่มใส่ใจสุขภาพ
00:22:55 → 00:22:59 ปอดเพราะอีก 10 ปีข้างหน้าสุขภาพปอดจะ
00:22:59 → 00:23:02 เป็นปัญหาของสังคม