00:00:00 → 00:00:02 คือเวลาเราฉีดฟอร์เข้าไปเนี่ยใบหน้าเรามี
00:00:02 → 00:00:04 เส้นเลือดถูกมั้ยครับกรณีเส้นเลือดที่
00:00:04 → 00:00:06 เปาะบางหรือบางครั้งเราฉีดเข้าไปโดนเส้น
00:00:06 → 00:00:08 เลือดพอดีเส้นเลือดเส้นนึงที่สำคัญของ
00:00:08 → 00:00:11 ร่างกายก็คือเส้นเลือดในสมองสมองมีหลาย
00:00:11 → 00:00:13 ส่วนใช่่ไหมมครับบางส่วนเนี่ยสำคัญมากๆ
00:00:13 → 00:00:16 เลยไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการหายใจถ้าไป
00:00:16 → 00:00:18 อุดตรงนั้นก็ถึงแก
00:00:18 → 00:00:21 ชีวิตในต่างประเทศครับก็มีเคส Report
00:00:21 → 00:00:25 ประสบการณ์ที่ไม่ดีของิอเช่นกันพบว่า 0.1%
00:00:25 → 00:00:28 เป็น Stroke ประมาณ 0.1% เช่นกันเสีย
00:00:28 → 00:00:31 ชีวิตได้แล้วมันมีอีกกรณีนึงคุณหมออุด
00:00:31 → 00:00:34 ตั่นเส้นเลือดจนเนื้อตายเนื้อเยื่อเรา
00:00:34 → 00:00:35 เนี่ยมันต้องมีเลือดเข้าไปเลี้ยงตลอดเวลา
00:00:36 → 00:00:38 ดังนั้นถ้าสมมุติว่าตัวฟิวเลอร์โมเลกุลเข
00:00:38 → 00:00:39 ไปอุดตัวเส้นเลือดเนี่ยอุ๊ยอย่างงี้ก็
00:00:39 → 00:00:41 เน่าอ่ะสิคุณหมอถูกต้องมันเลยออกมาเป็นสี
00:00:41 → 00:00:45 คล้ำๆนายแพทย์ชัยรัตน์เสริมสิลป์หรือหมอ
00:00:45 → 00:00:48 เพชรแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนังความ
00:00:48 → 00:00:51 งามประจำฟอคลินิกและยังเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:51 → 00:00:54 ผู้สอนแพทย์ระดับนานาชาติมาทีก็ไม่คาดฝัน
00:00:54 → 00:00:56 ล่ะเราตั้งใจทำเราพยายามทำเต็มร้อยเรารู้
00:00:56 → 00:00:58 กาวิพาคตรงนั้นเต็มที่แต่การเปลี่ยนแปลง
00:00:58 → 00:01:01 ของกาวิพาคของแต่ละบุคนเพียงแค่ครึ่งเซม
00:01:01 → 00:01:03 ก็สามารถทำให้เกิดเหตุสูดวิสัยนี้ได้ฟิว
00:01:03 → 00:01:06 อย่างเงี้ยค่ะมันก็จะมีตัวสลาดโบว์เนี่ย
00:01:06 → 00:01:09 เขาก็จะเก็จะรอเวลารอยไหมเงี้ค่ะถ้ามัน
00:01:09 → 00:01:12 พลาดมันเราจะถอยกลับมายังไงอ่ะค่ะมันดึง
00:01:12 → 00:01:15 รังเยอะไปเราสามารถผ่าตัดและดึงออกได้
00:01:15 → 00:01:18 กรณีที่เป็นพวกตัดเส้นประสาทพวกเนี้ยต้อง
00:01:18 → 00:01:21 รอเส้นประสาทก็ฟื้นเส้นประสาทเราเนี่ยจะ
00:01:21 → 00:01:24 เติบโตได้ประมาณแค่ 0.1 มมต่อเดือนถ้า
00:01:25 → 00:01:27 สมมุติว่าเขาโดนตัดไปประมาณ 1 ซมแปลว่าคน
00:01:27 → 00:01:30 คนเนี้ยต้องรอการฟื้นฟูมากกว่า 10 เดือน
00:01:30 → 00:01:32 บางครั้งเส้นประสาทต้นกับปลายเนี่ยเฟื้น
00:01:32 → 00:01:35 ฟูมามันไม่เชื่อมกันะคนนี้อาจจะไม่มี
00:01:35 → 00:01:40 โอกาสกลับมาปกติได้
00:01:40 → 00:01:43 ครับ on the way with ชม EP นี้ค่ะเรา
00:01:43 → 00:01:46 จะมาพูดถึงเรื่องของการทำหัตถการนะคะ
00:01:46 → 00:01:49 เพื่อความสวยความงามบนใบหน้านะคะซึ่งเป็น
00:01:49 → 00:01:52 อะไรที่ต้องยอมรับว่าพวกเราให้ความสนใจนะ
00:01:52 → 00:01:53 คะแล้วก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะแพร่
00:01:54 → 00:01:56 หลายในบ้านเรามากๆนะคะจะเห็นว่าโอโห
00:01:56 → 00:01:58 คลินิกความงามเนี่ยเยอะแยะเต็มเมืองไปหมด
00:01:58 → 00:02:01 เลยนะคะแต่แต่ในขณะเดียวกันค่ะเราก็มักจะ
00:02:01 → 00:02:05 ได้ยินข่าวคราวนะคะก็เป็นเรื่องของ Side
00:02:05 → 00:02:07 เอฟเฟคที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการทำหการ
00:02:07 → 00:02:10 เหล่านี้ค่ะวันนี้นะคะเราก็เลยเชิญแพทย์
00:02:10 → 00:02:13 ผู้มีประสบการณ์นะคะจะมาอธิบายถึงหลักการ
00:02:13 → 00:02:16 นะคะของการทำหัตการเหล่านี้นะคะแล้วก็
00:02:16 → 00:02:20 Side เอฟเฟคที่อาจจะเกิดขึ้นนะคะเพื่อ
00:02:20 → 00:02:23 ที่ว่าคนที่อยากจะสวยแต่ไม่อยากจะเสี่ยง
00:02:23 → 00:02:26 เนี่ยจะได้นำข้อมูลเหล่านี้เนี่ยนะคะไป
00:02:26 → 00:02:30 ประกอบการตัดสินใจค่ะน่าจะเป็นท็อปปิกที่
00:02:30 → 00:02:33 แฟนๆรายการน่าจะให้ความสนใจเพราะรู้สึก
00:02:33 → 00:02:35 ว่าเหมือนเท่าที่อรแอไปพอเป็นเรื่องแบบ
00:02:35 → 00:02:39 สวยๆงามๆเี่จะชอบฟังกันเป็นพิเศษหวังว่า
00:02:39 → 00:02:42 คนเรามันก็มีการดูแลผิวทั้งที่แบบว่าเรา
00:02:42 → 00:02:44 เป็นรูทีนแบบที่บ้านอย่างเงี้ยถูกมั้ยคะ
00:02:44 → 00:02:49 คุณหมอแล้วก็แบบที่เราไปพบคุณหมออาจจะแบบ
00:02:49 → 00:02:52 ปีละครั้ง 2 ครั้งหรือว่าแล้วแต่อ่าหรือ
00:02:52 → 00:02:56 ว่าแล้วแต่สภาพเอาจริงๆเลยเนี่ยเราควรจะ
00:02:56 → 00:03:00 เริ่มดูแลผิวหน้าไปหาคุณหมออย่างเงี้ยค่ะ
00:03:00 → 00:03:03 ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ค่ะถ้าเอาเริ่มดูแล
00:03:03 → 00:03:06 ผิวเนี่ยผมมั่นใจว่าทุกๆคนโดนดูแลผิวมา
00:03:07 → 00:03:09 ตั้งแต่เด็กค่ะครับโดยคุณพ่อคุณแม่ใช่
00:03:09 → 00:03:11 มั้ยครับเพราะว่าหากเราไม่ดูแลผิวให้ดี
00:03:11 → 00:03:13 ตั้งแต่เด็กบ้างที่โต้มาอาจจะมีปัญหา
00:03:13 → 00:03:17 เพิ่มเติมเช่นพวกรอยต่างๆพวกแผลเป็นอัน
00:03:17 → 00:03:19 นั้นเราถูกดูแลมาตั้งแต่เด็กแล้วครับแต่
00:03:19 → 00:03:22 ว่าพอเราโตขึ้นมาจากคุณพ่อคุณแม่กลายเป็น
00:03:22 → 00:03:24 ตัวเราและที่ต้องดูแลอันนั้นระยะเวลาใน
00:03:24 → 00:03:26 การที่จะเริ่มในการดูแลเรียกว่าพร้อม
00:03:26 → 00:03:30 เมื่อไหร่เริ่มได้เลยอืหรือบางคนอาจจะใช้
00:03:30 → 00:03:33 ปัญหาเป็นการตัวตั้งว่าเราเกิดปัญหาเรา
00:03:33 → 00:03:35 ถึงเริ่มดูแลชมว่าอาจจะมีแบบเหมือนวัย
00:03:35 → 00:03:37 รุ่่งวัยรุ่นก็อาจจะพอเริ่มมีสิวมีอะไร
00:03:37 → 00:03:39 เงี้ยก็อาจจะเริ่มมีแบบเข้าไปปรึกษาคุณ
00:03:39 → 00:03:42 หมอบ้างอะไรบ้างใช่ครับเอาประสบการณ์ตรง
00:03:42 → 00:03:45 ของคุณหมอดีกว่าว่าถ้าอายุน้อยที่สุดที่
00:03:45 → 00:03:48 เดินเข้ามาแล้วแบบว่าอยากจะทรีทหน้าหรือ
00:03:48 → 00:03:50 อยากจะทำหัตถการอะไรอย่างเงี้ยคะตั้งแต่
00:03:50 → 00:03:52 อายุเท่าไหร่คะเป็นช่วงอายุแล้วกันครับ
00:03:52 → 00:03:54 ถ้าช่วงเริ่มๆเลยที่พามามักจะเป็นคุณพ่อ
00:03:54 → 00:03:57 คุณแม่พามาเนี่ยประมาณม 2 ม 3 ก็จะเป็น
00:03:57 → 00:03:59 เรื่องสิวเรื่องอะไรอย่างเงี้ยใช่มั้ยคะ
00:03:59 → 00:04:01 ครับผมอาจจะไม่ใช่ในส่วนของการดูแลสิวโดย
00:04:01 → 00:04:04 ตรงอ่าแต่การเสริมความงามก็มักจะมาจากการ
00:04:05 → 00:04:07 ที่รักษาตัวโรคให้หายมันก็จะเกิดความงาม
00:04:07 → 00:04:10 หรือความดูดีขึ้นมาได้ครับเช่นรักษารอย
00:04:10 → 00:04:12 แผลเป็นอะไรอย่างงถูกต้องถูกต้องครับ
00:04:12 → 00:04:14 เพราะว่าทุกคนเหมือนที่บอกว่าถ้าเรารักษา
00:04:14 → 00:04:17 ตัวโรคให้มันหายง่ายค่ะแผลเป็นหรือปัญหา
00:04:17 → 00:04:21 ในอนาคตมันจะน้อยเลยอหการความงามทุกวัน
00:04:21 → 00:04:23 นี้มันมีเยอะมากเลยนะคคุณหมอแล้วก็บางที
00:04:23 → 00:04:25 มันก็จะได้ยินข่าวที่เรารู้สึกว่าเอ้ยมัน
00:04:25 → 00:04:28 มันมีอันตรายหรือว่าบางทีมันทำแบบที่มัน
00:04:28 → 00:04:30 ไม่ได้สแตนดาร์ดไม่ได้มาตรฐานาอะไรอย่า
00:04:30 → 00:04:32 เงี้ยที่ได้ยินกันบ่อยที่สุดเลยก็คือ
00:04:32 → 00:04:36 Filler คือมีรุนแรงถึงขั้นตาบอดนะคะเอา
00:04:36 → 00:04:38 จริงๆหลักการของ Filler เนี่ยมันมันคือ
00:04:38 → 00:04:41 อะไรคะคุณหมอแล้วก็ไซเอฟเฟคที่มันสามารถ
00:04:41 → 00:04:44 เกิดขึ้นได้จากเบาที่สุดเลยไปจนถึงแรงที่
00:04:44 → 00:04:46 สุดเพื่อที่ว่าคนที่กำลังคิดเรื่องนี้ก็
00:04:46 → 00:04:51 จะได้อ่ะลองเวทดูว่าคุ้มมยอะไรอย่าเงี้ย
00:04:51 → 00:04:55 ครับผมได้เก็ต้องบอกว่าฟลอเป็นสารเติม
00:04:55 → 00:04:57 เต็มนะครับปัจจุบัน Filler ที่เราใช้ก็
00:04:57 → 00:04:59 เป็นประเภท honic Acid สารเติมเต็ม
00:04:59 → 00:05:01 ประเภทเนี้ยเป็นมิตรกับผิวหนังเรานะครับ
00:05:02 → 00:05:04 เติมเต็มอะไรเติมเต็มในส่วนที่มันพล่อง
00:05:04 → 00:05:07 หายไปหรืออาจจะเสริมในส่วนที่เราต้องการ
00:05:07 → 00:05:09 นะครับส่วนที่หายไปเช่นอายุที่เริ่ม
00:05:09 → 00:05:14 เยอะแล้วขมับใต้ตาร่องแก้มหายไปอันนี้ก็
00:05:14 → 00:05:16 เสริมในส่วนที่หายไปต้องการเพิ่มเติมคือ
00:05:16 → 00:05:20 ส่วนไหนเช่นบริเวณริมฝีปากบริเวณคางเครับ
00:05:20 → 00:05:22 แล้วก็เป็นส่วนที่เพิ่มเติมครับอันนั้น
00:05:22 → 00:05:24 สารเติมเต็มประเภทฟอร์เนี่ยเป็นที่นิยม
00:05:24 → 00:05:28 กันมากดังนั้นก็จะเจอของดีบ้างอืก็เจอ
00:05:28 → 00:05:31 Side เอฟเฟคบ้างครับ Side เอฟเฟคก็จะแยก
00:05:31 → 00:05:33 กันเป็น 3 ประเภทหลักๆเลยอันดับเล็กๆครับ
00:05:33 → 00:05:36 อาจจะพบได้ลักษณะเช่นมีการบวมของฟลอร์ใน
00:05:36 → 00:05:38 บริเวณที่เราฉีดไปอันนี้หมายถึงว่าแม้แต่
00:05:38 → 00:05:41 ตัวที่ถูกต้องที่เป็นตัวที่ถูกกฎหมายที่
00:05:41 → 00:05:44 อยรับรองใช่ใช่เเไม่ได้เรียกว่าผลข้าง
00:05:44 → 00:05:46 เคียงรุนแรงครับอาจจะมีอาการบวมๆยุบๆได้
00:05:46 → 00:05:48 บ้างแต่สักพักหนึ่งอาการพวกเจะดีขึ้นก็
00:05:48 → 00:05:51 คือเกิดขึ้นได้นะถึงแม้ว่าจะใช้ของจริง
00:05:51 → 00:05:54 อ่ะพูดง่ายๆถูกต้องถูกต้องอาการปานกลางก็
00:05:54 → 00:05:57 จะเช่นในกรณีเราฉีดไปเกิดอาการติดเชื้อ
00:05:57 → 00:06:00 ครับพวกนี้อาจจะเป็นลักษณะออาจจะใช้เวลา
00:06:00 → 00:06:03 เป็นเดือนบางคนเป็น 6 เดือนบางคนเป็นปี
00:06:03 → 00:06:05 ถึงจะแสดงอาการพวกนี้ออกมาซึ่งการติด
00:06:05 → 00:06:07 เชื้อเกิดจากอะไรอ่ะคะอาจจะเป็นการปน
00:06:07 → 00:06:09 เปื้อนขณะทำหหัดอาการครับไม่ว่าก็จะเป็น
00:06:09 → 00:06:12 การทำความสะอาดของผิวเพราะว่าเวลาเราฉีด
00:06:12 → 00:06:14 แล้วต้องความสะอาดผิวก่อนใช่มั้ยครับอัน
00:06:14 → 00:06:16 ที่ 2 เลยคือเทคนิคการปราศจากเชื้อก็คือ
00:06:16 → 00:06:19 ไฮจีนของในคลินิกอะไรอย่าเงี้ยด้วยหรือ
00:06:19 → 00:06:21 ว่าแม้กระทั่งตอนฉีดมือคุณหมอโดนหรือ
00:06:21 → 00:06:23 เปล่าเข็มเนี่ยสะอาดหรือเปล่าอะไรอย่า
00:06:23 → 00:06:25 เงี้ยครับอาจจะนำพาเชื้อเข้าไปสู่ใน
00:06:25 → 00:06:28 บริเวณที่เราฉีดอันเนี้ยระยะเวลาในการ
00:06:28 → 00:06:30 เกิดเนี่ยตอบไม่ได้อาจจะเป็นระยะเวลาเป็น
00:06:30 → 00:06:33 เดือน 6 เดือนบางคนเป็นปีถึงแสดงอาการพวก
00:06:33 → 00:06:36 นี้ออกมาอืครับกรณีรุนแรงที่สุดก็จะเป็น
00:06:36 → 00:06:38 เกี่ยวกับพวกเส้นเลือดค่ะไม่ว่าจะเป็นการ
00:06:38 → 00:06:41 กดเบียดเส้นเลือดการเข้าไปในท่อเส้นเลือด
00:06:41 → 00:06:44 พวกเยจะเป็นอาการรุนแรงอันตรายและมักจะพบ
00:06:44 → 00:06:46 ในข่าวพวกเนี้ยครับที่ว่าตาบอดนี่คือมัน
00:06:46 → 00:06:49 เกิดขึ้นได้ยังไงอ่ะคุณหมอก็มีมีพบได้นะ
00:06:49 → 00:06:51 ครับก็เาเรียกว่าเป็น Case Report พวก
00:06:51 → 00:06:53 เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเนี่ยส่วนมากมักจะ
00:06:53 → 00:06:56 ไม่มีวิจัยทำออกมาว่าฉันขอฉีดใส่เส้น
00:06:56 → 00:06:58 เลือดซิเพื่อทำให้เกิดตาบอดมาอย่างเงี้ย
00:06:58 → 00:07:01 ครับส่วนมาจะเป็นเคสคือเป็น Accident ใน
00:07:01 → 00:07:03 การทำหัดอาการแล้วเกิดครับคือเวลาเราฉีด
00:07:03 → 00:07:05 ฟิลเลอร์เข้าไปเนี่ยใบหน้าเรามีเส้นเลือด
00:07:05 → 00:07:08 ถูกมั้ยครับกรณีเส้นเลือดที่เปาะบางหรือ
00:07:08 → 00:07:10 บางครั้งเราฉีดเข้าไปโดนเส้นเลือดพอดี
00:07:10 → 00:07:12 แล้วตัวโมเลกุลของฟิลเลอร์เนี่ยสามารถ
00:07:12 → 00:07:15 วิ่งเข้าไปในท่อเส้นเลือดได้ก็จะไปอุดตาม
00:07:15 → 00:07:17 ตำแหน่งต่างๆโดยเฉพาะพวกท่อเส้นเล็กๆที่
00:07:17 → 00:07:20 พบเจอได้บ่อยแล้วก็เรียกว่าเป็นข่าวดังก็
00:07:20 → 00:07:23 เช่นในบริเวณเส้นเลือดของดวงตาอืครับ
00:07:23 → 00:07:25 เพราะว่าดวงตามันเส้นเลือดเล็กอยู่แล้ว
00:07:25 → 00:07:29 ฉีดไปปุ๊บภาพจอดับไปเลยอืครับผมดวงตามอง
00:07:29 → 00:07:30 ไม่เห็นเลยครับอย่างเงี้ยก็จะเป็นเคส
00:07:30 → 00:07:33 Report ออกมาหรือกรณีที่เป็นรุนแรงอีก
00:07:33 → 00:07:35 เส้นเลือดเส้นนึงที่สำคัญของร่างกายก็คือ
00:07:35 → 00:07:38 เส้นเลือดในสมองค่ะก็พอฉีดไปสักพักนึง
00:07:38 → 00:07:42 เป็นคล้ายๆลักษณะของสตกครับผมเกิดการนำมา
00:07:42 → 00:07:44 พาดเลยทันทีครับมีรุนแรงกว่านี้มั้ยคะคุณ
00:07:44 → 00:07:47 หมอก็ถ้าสมมุติว่ากรณีเป็นสตกแต่ไปอุดใน
00:07:47 → 00:07:49 ตำแหน่งที่อันตรายของสมองสมองมีหลายส่วน
00:07:49 → 00:07:51 ใช่มั้ยครับบางส่วนเนี่ยไม่ใช่ไม่สำคัญ
00:07:51 → 00:07:54 แต่สำคัญน้อยบางส่วนเนี่ยสำคัญมากๆเลยไม่
00:07:54 → 00:07:56 ว่าจะเป็นการควบคุมการหายใจการควบคุมการ
00:07:56 → 00:07:59 สั่งการของระบบประสาทของร่างกายถ้าไปอุด
00:07:59 → 00:08:01 ตรงนั้นก็ถึงแกชีวิตเนาะถูกต้องครับ
00:08:01 → 00:08:03 อันตรายมากเลยในต่างประเทศครับก็มีเคส
00:08:03 → 00:08:06 Report ในลักษณะของประสบการณ์ที่ไม่ดี
00:08:06 → 00:08:08 ของ fer เช่นกันนะครับแต่ทำในประมาณเมื่อ
00:08:08 → 00:08:11 ประมาณ 10 ปีที่แล้วะก็เป็นเคส Report
00:08:11 → 00:08:13 ว่าเกิดเหตุอะไรบ้างในประมาณ 3,000 กว่า
00:08:13 → 00:08:17 เคสเนี่ยพบว่าประมาณ 0.1% เป็น Stroke ก็
00:08:17 → 00:08:21 คือไปอุดตันเส้นเลือดได้อีกประมาณ 0.1%
00:08:21 → 00:08:24 เช่นกันมีอาการเสียชีวิตได้ครับก็เลยคิด
00:08:24 → 00:08:26 ว่าอาจจะสอดคล้องกับสตกด้วยเช่นกันที่บอก
00:08:26 → 00:08:29 ว่าไปอุดในตำแหน่งสำคัญมากๆของบริเวณสมอง
00:08:29 → 00:08:31 ทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ครับแต่อันนี้ก็
00:08:31 → 00:08:33 คือเป็น 10 กว่าปีที่แล้วใช่ครับประมาณเ
00:08:33 → 00:08:35 เก็บประมาณ 10 ปีแล้วก็ 10 ปีที่ผ่านมา
00:08:35 → 00:08:38 เนี่ยเเลยมา Report ให้ฟังออว่าเจอเหตุ
00:08:38 → 00:08:42 การณ์อะไรบ้างคุณหมอแล้วฟลอร์ที่มันฉีด
00:08:42 → 00:08:46 แล้วมันไหลมากองรวมกันกระจุกกระจกเป็นก้น
00:08:46 → 00:08:48 เนี่ยมันเกิดจากอะไรคะเราน่าจะเคยเห็นใน
00:08:48 → 00:08:51 อดีตใช่มั้ครับบางคนฉีดฟิวเลอร์บอกว่าฉัน
00:08:51 → 00:08:55 ไปฉีดหน้ามาปรากฏว่าผ่านไป 1 ปี 5 ปี 10
00:08:55 → 00:08:58 ปีฟลอร์จากด้านบนชั้นมะกองอยู่ด้านล่างอื
00:08:58 → 00:09:01 อ่าซึ่งพวกเนี้ยผมคาดเดาว่าจะเป็นพวก
00:09:01 → 00:09:03 ซิลิโคนิอค่ะครับเหมือนที่ผมเกริ่นไปว่า
00:09:03 → 00:09:07 ตัวิอที่เราใช้จะเป็น honic Acid Filler
00:09:07 → 00:09:09 ตัวเนี้ยจะเป็นมิตรกับผิวหนังเข้ากับผิว
00:09:09 → 00:09:12 หนังได้ดีนะครับพวกเนี้ยจะไม่ไหลแต่หาก
00:09:12 → 00:09:14 เป็นพวกซิลิโคนฟิลเลอร์เนี่ยพวกเนี้ยมัน
00:09:14 → 00:09:17 ไม่เข้ากับผิวเราฉีดด้านบนสักพักนึงพอมัน
00:09:17 → 00:09:19 ไม่เข้าร่างกายเราก็จะปล่อยลงมาเรื่อยๆ
00:09:19 → 00:09:21 ค่ะก็ตกมาบริเวณขอบกรอบหน้าหรือบางครั้ง
00:09:22 → 00:09:24 ก็เกิดการอักเสบเป็นตุมเป็นคลื่นอย่าง
00:09:24 → 00:09:26 เงี้ยครับหรือเป็นลักษณะขออนุญาตใช้คำว่า
00:09:26 → 00:09:28 บางทีอาจจะเป็นหมอกระเป๋าค่ะหรือว่าเป็น
00:09:28 → 00:09:31 ผู้ที่ไม่ได้เป็นแพทย์ในการใช้ฉีดเครับก็
00:09:31 → 00:09:33 เลยไม่รู้ว่าสารเนี้ยไม่ได้เป็นมิตรกับ
00:09:33 → 00:09:35 ผิวไม่ได้ปลอดภัยในการใช้ฉีดครับค่ะตอนเ
00:09:35 → 00:09:38 ถ้าเรา Walk อินไปที่แบบคลินิคใดๆอ่ะครับ
00:09:38 → 00:09:43 เราจะรู้ไหมว่าเาใช้ิอที่เป็นของแท้ได้
00:09:43 → 00:09:47 มาตรฐานยังมีโอกาสมที่เราจะไปเจอแบบฟลอร์
00:09:47 → 00:09:50 แบบสมัยก่อนที่เป็นซิลิโคนที่มันจะที่ไม่
00:09:50 → 00:09:52 ใช่พวกไฮย่า Filler ตอนปัจจุบันผมว่ามั่น
00:09:52 → 00:09:55 ใจว่ายังมีอยู่บ้างครับเเรียกว่ายาปลอม
00:09:55 → 00:09:58 ค่ะเนาะแต่ว่าในปัจจุบันบริษัทยาเนี่ยเขา
00:09:58 → 00:10:00 ก็จะพยายามทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองเนี่ย
00:10:00 → 00:10:03 ตรวจสอบได้ว่ากล่องนี้คือยาแท้มีความแตก
00:10:03 → 00:10:06 ต่างจากกล่องยาปลอมแต่ตัวยาปลอมเค้าก็
00:10:06 → 00:10:08 พัฒนาตัวเองพยายามเรียนแบบยาแท้ให้ได้ก็
00:10:08 → 00:10:11 จะมีสติ๊กก้งสติ๊กเกอร์มีแบบอะไรให้เราส
00:10:11 → 00:10:14 สกดให้สแกนรวมถึงอาจจะมีลักษณะเป็นกิมิ
00:10:14 → 00:10:17 ต่างๆนะครับเพื่อให้สแกนเป็นดับเบิลเช็ค
00:10:17 → 00:10:20 ว่าเนี่ยของแท้แน่นอนแกะกล่องต่อหน้า QR
00:10:20 → 00:10:22 coe ตรงระหว่างกล่องกับตัวหลอดฉีดเงี้ย
00:10:22 → 00:10:24 ครับอันนี้ก็จะเป็นการเช็คกันเรื่อยๆ
00:10:24 → 00:10:26 เพื่อที่ว่าผู้ที่ได้รับหรือคนไข้เนี่ย
00:10:26 → 00:10:29 ต้องได้รับยาแท้เออแล้วอย่างเงี้ยเราเรา
00:10:29 → 00:10:31 จะเราจะรู้ได้ยังไงคุณบอกว่าเราได้ยาแท้
00:10:31 → 00:10:34 ก็ต้องเครับ QR coe เลยหรือกรณีแต่ว่า
00:10:34 → 00:10:37 ของปลอมก็มีให้สแกนแล้วนะบางบางอันนบาง
00:10:37 → 00:10:40 ครั้งเขาเรียกว่าการสวมโดยส่วนมากของยา
00:10:40 → 00:10:42 ปลอมเนี่ยเขาจะทำแบบเนี้ยไม่ได้เป๊ะๆแต่
00:10:42 → 00:10:45 เขาทำยังไงบางดีข้างนอกกล่องมี QR coe
00:10:45 → 00:10:49 เนี่ยของแท้ค่ะในกล่องของปลอมอือะไรอย่าง
00:10:49 → 00:10:51 เงี้ยก็มีครับตอนั้นต้องตรวจเช็คตั้งแต่
00:10:51 → 00:10:54 เริ่มต้นด้วยเลือกคลินิกเลยค่ะครับคลินิก
00:10:54 → 00:10:57 ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองทางอยนะครับ
00:10:57 → 00:10:59 ผ่านการรับรองทางสาธารณสุขว่าคลินิคเนี่ย
00:11:00 → 00:11:02 เป็นคลินิกเวชกรรมมาตรฐานครับผมอืมันจะมี
00:11:02 → 00:11:04 อีกเคสนึงอ่ะนะคะคุณหมอที่เป็นข่าวค่อน
00:11:04 → 00:11:07 ข้างดังก็คือว่าฉีดิอในปริมาณที่แบบเยอะ
00:11:07 → 00:11:09 มากๆแล้วก็ทำให้หน้าเนี่ยแบบว่ามันบิด
00:11:09 → 00:11:12 เบี้ยวผิดรูปคือซีซมันเยอะไปรอคะคุณหมอ
00:11:12 → 00:11:15 หรือว่ายังไงคำว่าจำนวนซีซเนี่ยการฉีดต่อ
00:11:15 → 00:11:18 ครั้งนะครับไม่มีถูกไม่มีผิดเลยไม่ได้
00:11:18 → 00:11:21 หมายความว่าการฉีด 1 ครั้ง 30 ซีซคือผิด
00:11:21 → 00:11:25 การฉีด 1 ครั้ง 1 ซีซคือถูกอยู่ที่ว่า
00:11:25 → 00:11:28 ความพึงพอใจของลูกค้าแล้วก็การวางแผนใน
00:11:28 → 00:11:32 การฉีดของหมอด้วยค่ะผมสามารถวางแผนการฉีด
00:11:32 → 00:11:34 ว่าคนเนี้ยสามารถใช้ 30 ซีซได้แต่ว่าเรา
00:11:34 → 00:11:37 ต้องประเมินกับคนไข้ไปด้วยเพราะว่า fer
00:11:37 → 00:11:40 เวลาเราเติมเห็นผลทันทีเราสามารถประเมิน
00:11:40 → 00:11:43 แล้วก็พูดคุยกับคนไข้ได้ว่าแค่นี้พอมั้ย
00:11:43 → 00:11:45 หมอเติมไปแล้วนะประมาณนี้ตอนนี้ 25 ซีซ
00:11:45 → 00:11:48 สมมุติเราตั้งใว่า 30 นะครับฉันเติม 25
00:11:48 → 00:11:51 ซีซแล้วนะโอเคมั้ยอ่าถ้าสมมุติคณใข้บอก
00:11:52 → 00:11:54 ว่าเออมันยังเหลือนิดหน่อยอ่ะงั้นเพิ่ม
00:11:54 → 00:11:56 มั้ยอีกสัก 5 ซีซเนี่ยที่บอกไปจะได้เป็น
00:11:56 → 00:11:58 ไปตามโกลหรือเป้าหมายที่เรากำหนดกันไว้ระ
00:11:58 → 00:12:00 วางแผนกันไว้อย่างเงี้ครับอันนี้ขอถาม
00:12:00 → 00:12:03 หน่อยค่ะคุณหมอเวลาเราเปิดขวดอย่างเงี้ย
00:12:03 → 00:12:07 มันมีมยคะว่าขวดละกี่ซีซีอะไรอย่างเงี้ย
00:12:07 → 00:12:10 ค่ะฟอร์ 1 หลอดเท่ากับ 1 ซีซอ๋อครับผมดัง
00:12:10 → 00:12:13 นั้นถ้าสมมุติฉีด 30 ซีซแปลว่าจะมีตัว
00:12:13 → 00:12:15 หลอดเนี่ยทั้งหมด 30 หลอด 30 หลอดก็แปล
00:12:15 → 00:12:17 ว่าเราก็ไม่ต้องเปิด 30 หลอดก็ได้มันจะ
00:12:17 → 00:12:20 ไม่อ่ามันก็จะไม่ได้แบบว่ามีเหลือมันจะ
00:12:20 → 00:12:22 ไม่มีเคสที่แบบว่าอุ๊ยงกมันเหลือแบบเสีย
00:12:22 → 00:12:24 ดายเติมหใช้ไม่ได้ใช้ไม่ได้เพราะว่าใช้
00:12:24 → 00:12:26 กับคนแล้วเนี่ยเเรียกว่าสิ่งนั้นจะไม่
00:12:27 → 00:12:29 ปราศจากเชื้อแล้วดังนั้นก็จะมีความไม่
00:12:29 → 00:12:31 ปลอดภัยครับหากเราฉีดไม่ปราศจากเชื้อก็จะ
00:12:32 → 00:12:34 เข้าเมื่อกี้ที่บอกว่าการติดเชื้อในกอนทำ
00:12:34 → 00:12:37 อการฟิลเลอร์ก็คือถ้าเหลือในเข็มเหลือใน
00:12:37 → 00:12:40 ขวดคือยังไงก็ต้องทิ้งถูกต้องครับไม่ปลอด
00:12:40 → 00:12:42 ภัยอันนี้แล้วมันมีอีกกรณีนึงคุณหมอก็คือ
00:12:42 → 00:12:45 อุดตันเส้นเลือดครับจนเนื้อตายครับเนื้อ
00:12:45 → 00:12:47 ตายนี่มันจะเป็นมันจะเป็นยังไงมันจะเป็น
00:12:47 → 00:12:50 แบบก้อนๆอย่างเงี้ยรคะคุณหมอเนื้อเนื้อ
00:12:50 → 00:12:52 เยื่อเราเนี่ยมันต้องมีเลือดเข้าไปเลี้ยง
00:12:52 → 00:12:54 ตลอดเวลาใช่มั้ยครับดังนั้นถ้าสมมุติว่า
00:12:54 → 00:12:56 ตัวฟิวเลอร์โมเลกุลเไปอุดตัวเส้นเลือด
00:12:56 → 00:12:58 อุ๊ยอย่างงี้ก็เน่าอ่ะสิคุณหมอถูกต้องมัน
00:12:58 → 00:13:01 เลยออกมาเป็นสีขคำสีดำๆนะครับไม่ว่าจะ
00:13:01 → 00:13:04 เป็นกรณีอุดหรือกรณีที่ไปกดเบียดนะครับทำ
00:13:04 → 00:13:06 ให้ท่อเส้นเลือดเนี่ยเลือดไม่ไหลไปตรง
00:13:06 → 00:13:09 ตำแหน่งนั้นอันนั้นผลลัพธ์ก็คือภายในวัน
00:13:09 → 00:13:11 เนี่ยเราจะรู้เลยว่าอุดตันหรือไม่อุดตัน
00:13:11 → 00:13:13 การแก้ไขแคือมันจะเขียวตั้งแต่วันมันจะ
00:13:13 → 00:13:16 เป็นยังไงคะออาจจะเห็นลักษณะของเส้นเลือด
00:13:16 → 00:13:18 เป็นแผงๆครับอ่าเห็นเลือดเสียเลือดก่อน
00:13:18 → 00:13:20 เพราะว่าตัวเส้นเลือดไม่สามารถเบี่ยงกลับ
00:13:20 → 00:13:23 ได้ไม่สามารถไหลกลับได้เพราะเส้นเลือดมัน
00:13:23 → 00:13:25 ต้องไปแดงไปดำให้มันครบใช่มั้ยครับแล้วก็
00:13:25 → 00:13:27 เวียนกลับไปเรื่อยๆงั้นพอสมมุติเราอุด
00:13:27 → 00:13:30 ปุ๊บวงจรเยโดนขัดะดังนั้นเส้นเลือดตรง
00:13:30 → 00:13:33 นั้นจะคั่งอเลือดตัวเนี้ยมันจะออกมาเป็น
00:13:33 → 00:13:35 เส้นเลือดเล็กๆๆๆตามบริเวณผิวหนังผ่านไป
00:13:35 → 00:13:38 ประมาณ 2-3 วันอาจจะมีตุ่มคล้ายๆเป็นสิว
00:13:38 → 00:13:41 ผดค่ะอ่าบริเวณตรงนั้นได้บ่งบอกได้ถึงว่า
00:13:41 → 00:13:43 บริเวณนั้นน่ะเริ่มมีการอุดตันของเส้น
00:13:43 → 00:13:45 เลือดแล้วนะต้องรีบแก้ไขโดยด่วนที่ถูก
00:13:45 → 00:13:48 ต้องก็คือว่าหลังการฉีดิอไปทุกครั้งเนี่ย
00:13:48 → 00:13:50 คลินิกก็ต้อง Follow up Follow up
00:13:50 → 00:13:52 ครับติดตามผลทุกๆวันหรือแม้กระทั่งบาง
00:13:52 → 00:13:54 ครั้งถ้าสมมุติว่าใน 1 วันดีแล้ว 2
00:13:54 → 00:13:56 สัปดาห์ควรจะเรียกกันมาเจอกันอีกสักครั้ง
00:13:56 → 00:13:58 นึงไปการ Follow up เพื่อความปลอดภัยที่
00:13:58 → 00:14:01 สุดครับแล้วอย่างนี้มันมันแก้ไขยังไงคะ
00:14:01 → 00:14:03 ถ้าสมมุติว่าเราแบบว่ามันมีสัญญาณแล้วว่า
00:14:03 → 00:14:05 ตรงนี้แบบเนื้อมันกำลังจะตายอย่าเงี้ยค่ะ
00:14:05 → 00:14:08 ความโชคดีของไฮยา ronic Acid Filler ก็
00:14:08 → 00:14:10 คือมันมียาต้านหรือเขาเรียกว่ายาสลาย
00:14:11 → 00:14:12 ฟิลเลอร์ครับถอนพิษอย่างเงี้ยละค่ะอ่า
00:14:12 → 00:14:15 คล้ายๆต้านพิษงูเรามีเซรุ่มเรางูกัดเอามี
00:14:15 → 00:14:19 เซรุ่มเราก็มีตัวเซรุ่มรักษาฟิวเลอร์ครับ
00:14:19 → 00:14:21 ตัวพวกเนี้ยก็จะสามารถชิเข้าไปตรงตำแหน่ง
00:14:21 → 00:14:24 นั้นเลยเพื่อทำให้ตัวที่อุดตันเนี่ยมันลด
00:14:24 → 00:14:27 ลงทันทีแต่ก็น่าจะเจ็บเหมือนกันนะคุณม
00:14:27 → 00:14:29 ส่วนมากเจ็บ
00:14:29 → 00:14:31 มันจะเจ็บกว่าใช่มใช่ครับแล้วก็ใช้ระยะ
00:14:31 → 00:14:34 เวลาแต่โดยส่วนมากหากแก้ไขได้ถูกต้องถูก
00:14:35 → 00:14:37 เวลาในระยะเวลาที่เหมาะสมไม่ปล่อยให้ไป
00:14:37 → 00:14:40 นานจนมันดำไปครึ่งซีกใบหน้าส่วนมากหาย
00:14:40 → 00:14:42 ปกติครับแล้วมันเป็นเคสที่เจอบ่อยมั้ยคะ
00:14:42 → 00:14:45 คุณหมอเรียกว่าเจอบ่อยในบ้านเราครับผมอ
00:14:45 → 00:14:47 ไม่ไม่ใช่แค่ในโลกเนี้ยในบ้านเราก็เจอ
00:14:47 → 00:14:49 บ่อยเหมือนกันคือมันเป็นเหตุที่เา้าเรียก
00:14:49 → 00:14:52 ว่ามันสุดวิสัยหรือว่ามันเป็นอะไรที่
00:14:52 → 00:14:54 เกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณหมอทั้งทั้งคู่
00:14:54 → 00:14:56 เลยครับเพราะว่าต่อให้มีประสบการณ์เคส
00:14:56 → 00:14:59 หลุดสุดวิสัยเราก็มีเพราะว่าอย่างที่เรา
00:14:59 → 00:15:01 เป็น Human งั้น Human ต้องมี Error คใช่
00:15:01 → 00:15:04 มั้ยครับบางทีก็ไม่คาดฝันหร่ะเราตั้งใจทำ
00:15:04 → 00:15:06 เราพยายามทำเต็มร้อยเรารู้การวิพากษ์ตรรง
00:15:06 → 00:15:08 นั้นเต็มที่แต่การเปลี่ยนแปลงของการ
00:15:08 → 00:15:10 วิพากษ์ของแต่ละบุคคลเพียงแค่ครึ่งเซนก็
00:15:10 → 00:15:12 สามารถทำให้เกิดเหตุสุดวิสัยได้เพราว่า
00:15:12 → 00:15:13 ข้างล่างมันก็มีแต่เส้นเลือดมีอะไรอย่าง
00:15:13 → 00:15:15 เงี้ยเต็มไปหมดแล้วเราไม่มีทางเราไม่ได้
00:15:16 → 00:15:18 เป็นตาสแกนเ่าครับอ่าเราก็ไม่สามารถมอง
00:15:18 → 00:15:20 เห็นได้หรอกว่าตรงเนี้ยมีเส้นเลือดเต็ม
00:15:20 → 00:15:23 ร้อยบางทีมันเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละคนไม่
00:15:23 → 00:15:25 เหมือนกันพอฉีดไปปุ๊บเกิดเหตุสุวิสัยแต่
00:15:25 → 00:15:28 ว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องตรวจเจอมันให้เร็ว
00:15:28 → 00:15:30 เราจะได้สามารถแก้ไขปัญหาตรงนั้นได้ครับ
00:15:30 → 00:15:33 แล้วพวกงานแก้ล่ะคะคุณหมอเจอเยอะมยคะ
00:15:33 → 00:15:35 เรียกว่าเจอเรื่อยๆครับไม่ได้หมายความว่า
00:15:35 → 00:15:38 ผมเป็นคนที่เก่งที่สุดเาเลยมาแก้กับผมนะ
00:15:38 → 00:15:40 ครับฉีดไปแล้วเนี่ยบริเวณใต้ตานี่พบบ่อย
00:15:40 → 00:15:43 ใต้ตาเป็นก้อนเลยนะครับตำแหน่งที่ 2 ที่
00:15:43 → 00:15:46 พบบ่อยอีกส่วนหนึ่งก็คือริมฝีปากครับใน
00:15:46 → 00:15:49 บรเวณใต้้ตาเนี่ยมันผิดลักษณะได้ 2 แบบ
00:15:49 → 00:15:52 คือ 1 เราเลือกลักษณะของ Filler ที่ไม่
00:15:52 → 00:15:54 เหมาะกับตำแหน่งนั้น Filler มีทั้งหมด
00:15:54 → 00:15:57 เนื้อแน่นๆจนถึงเป็นเนื้อละเอียดค่ะอ่า
00:15:57 → 00:15:59 ถ้าสมมุติเราเลือกเนื้อแน่นๆแล้วไปเติม
00:15:59 → 00:16:02 ใต้ตาซึ่งเป็นส่วนที่บางค่ะลักษณะก้อน
00:16:02 → 00:16:05 โผล่มาแน่นอนค่ะครับผมหรือในทางกลับกัน
00:16:06 → 00:16:08 เราเลือกเนื้ออ่อนๆเนื้อละเอียดเนี่ยไป
00:16:08 → 00:16:10 เติมตำแหน่งที่เราต้องการปั้นเช่นบริเวณ
00:16:10 → 00:16:13 ค้างอืเติมไปเยอะๆมันก็ยังไม่ขึ้นรูปครับ
00:16:13 → 00:16:16 อมันต้องเลือกลักษณะของฟลอร์ให้เหมาะกับ
00:16:16 → 00:16:19 ตำแหน่งนั้นๆอย่างเคสแก้ปากเนี่ยคุณหมอก็
00:16:19 → 00:16:22 มีมีประสบการณ์มาใช่มั้ยคะครับใช่ครับมัน
00:16:22 → 00:16:25 เกิดมาจากอะไรคะคือเขาฉีดเยอะไปปากเป็น
00:16:25 → 00:16:27 ก้อนหรือว่ายังไงคะคุณมีมีหลายสาเหตุเลย
00:16:27 → 00:16:30 เหมือนเมื่อกี้ที่บอกว่าเราเลือกฟิลเลอร์
00:16:30 → 00:16:34 ผิดเนื้อหรืออีกที่ 2 คือการฉีดผิดชั้นอ
00:16:34 → 00:16:35 ครับเลือกฟิลเลอร์ผิดเนื้อหมายความว่า
00:16:35 → 00:16:38 ฟิลเลอรการในการฉีดปากเนี่ยซึ่งปัจจุบัน
00:16:38 → 00:16:41 เนี่ยมีแค่ไม่กี่ตัวที่ออกแบบมาเพื่อฉีด
00:16:41 → 00:16:43 ปากโดยเฉพาะค่ะแต่บางผลิตภัณฑ์เขาไม่มี
00:16:43 → 00:16:46 ออกแบบมาฉีดปากแต่เขาใช้เรียกว่า adap
00:16:46 → 00:16:49 เอาอืเอ้เนื้อความแข็งประมาณนี้นะอ่าความ
00:16:49 → 00:16:51 นิ่มประมาณนี้นะสามารถฉีดปากได้โอ้อย่าง
00:16:51 → 00:16:53 งี้ผู้บริโภคจะรู้ได้ยังไงอ่ะมันมันจะมี
00:16:53 → 00:16:56 บางยี่ห้อที่สามารถใช้ได้ครับดังนั้นก็
00:16:56 → 00:16:58 อาจจะต้องเลือกตรงตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ
00:16:58 → 00:17:01 ยี่ห้อนี้ชัดชเจนอืครับแล้วนั้นถ้าสมมุติ
00:17:01 → 00:17:03 เราเลือกเนื้อที่มันแข็งไปก็จะเป็นที่มา
00:17:03 → 00:17:06 ของว่าทำไมปากเป็นก้อนอืครับไอ้พวกเเราก็
00:17:06 → 00:17:08 ต้องมาใช้ในการฉีดสลายหรือบางครั้งเรา
00:17:08 → 00:17:11 เลือกฟิลเลอร์ถูกตัวละค่ะแต่เราฉีดเยอะ
00:17:11 → 00:17:14 เกินไปหรือฉีดตื้นเกินไปมันก็เป็นลักษณะ
00:17:14 → 00:17:17 ของการเป็นก้อนไม่ชอบก็ฉีดสลายออกคุณหมอ
00:17:17 → 00:17:20 แล้วฟลอร์สลายจริงมั้ยฟิลเลอร์สลายครับผม
00:17:20 → 00:17:24 ประมาณ 99% ได้อืแล้วอีก 1% อยู่ไหนอ่ะคะ
00:17:24 → 00:17:26 อาจจะเป็นลักษณะที่ว่าตัวิอเนี่ยเขาคเป็น
00:17:26 → 00:17:29 ยานิ Acid ใช่มั้ยครับพอเาสลายเสร็จเคจะ
00:17:29 → 00:17:31 มีส่วนที่เขาเข้ากับเนื้อเราได้ตรง
00:17:31 → 00:17:33 ตำแหน่งนั้นก็จะเป็นมิตรกับร่างกายเราไม่
00:17:33 → 00:17:36 ได้ทำให้เกิดการตกค้างใดๆครับแปลว่าหาเจอ
00:17:36 → 00:17:39 มั้ยคะอาจจะถ้าจะหาเจอต้องไปผ่าดูซึ่งไม่
00:17:39 → 00:17:42 มีใครทำอืถ้าผ่าก็จะกลายเป็นแผลครับหรือ
00:17:42 → 00:17:44 อาจต้องไป MRI สแกนดูว่ายังเหลือตกค้าง
00:17:44 → 00:17:46 อยู่บ้างหรือเปล่าทีเนี้ยถ้าในคนที่ใช้
00:17:46 → 00:17:49 Filler น้อยสมมุติครับไอ้ 1% นั้นน่ะก็
00:17:49 → 00:17:53 อาจจะแทบจะดีทคไม่ได้ถูกมั้ยคะแต่ถ้าคน
00:17:53 → 00:17:56 ที่เติมมันทั้งปีเลยเติมตลอดอย่างเงี้ย
00:17:56 → 00:17:58 ค่ะคือ 1% เขาก็ต้องไม่เท่ากันกับ 1%
00:17:58 → 00:18:00 เปอร์ของคนที่ฉีดน้อยมั้ยคุณอาจจะเป็นไป
00:18:00 → 00:18:03 ได้แต่ว่าโดยส่วนมากที่เเติมบ่อยๆเพราะ
00:18:03 → 00:18:05 เขารู้สึกว่าเวลาเเติมแล้วเนี่ยใบหน้าเดู
00:18:05 → 00:18:08 ดีใช่มั้ยครับถ้าสมมุติมันลดลงเขก็อยากจะ
00:18:08 → 00:18:10 เติมให้มันดูดีแบบนั้นแล้วก็อยากให้อยู่
00:18:10 → 00:18:13 แบบนั้นไปนานๆก็เลยเป็นที่มาว่าทำไมคนชอบ
00:18:13 → 00:18:16 ไปเติมจังเลยชอบไปเติมจังเลยคือเขาอาจจะ
00:18:16 → 00:18:18 ไม่ได้เป็นคนที่ติดฟอรหรอกแต่เขารู้สึก
00:18:18 → 00:18:21 ว่าเวลาฉันเติมมาแล้วอ่ะฉันดูดีจังเลยฉัน
00:18:21 → 00:18:24 แฮปปี้ฉันมั่นใจค่ะอ่าแล้วพอมันลดลงผ่าน
00:18:24 → 00:18:26 ไป 6 เดือน 8 เดือน 10 เดือนฉันก็เลยอยาก
00:18:26 → 00:18:29 จะมาเติมอีกอจริงๆเรื่องของความงามบางที
00:18:29 → 00:18:31 มันก็มีเทรนด์มีอะไรอย่างเงี้ยด้วยใช่
00:18:31 → 00:18:33 มั้ยคะคุณหมอบางช่วงก็แบบว่าอุ๊ยยุคนึง
00:18:33 → 00:18:37 เราก็จะฮิตลูกส้มฮิตอะไรส้มจ๊าๆเออก่อน
00:18:37 → 00:18:39 หน้าเนี้แบบสักประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว
00:18:39 → 00:18:42 ก็จะฮิตปลายจมูกมีแบบหยดน้ำอะไรเงี้ยตอน
00:18:42 → 00:18:44 นี้ก็จะฮิตงานปากอะไรอย่างเงี้ยแต่ที
00:18:44 → 00:18:47 เนี้ยถ้ามันแบบมันไม่ฮิตแล้วอ่ะครับแล้ว
00:18:47 → 00:18:49 เราแบบอุ๊ยฉันไม่อยากได้อย่างนี้แล้ว
00:18:49 → 00:18:52 เงี้ยมันไม่สลายอ่ะหรือว่ามันสลายมยคุณ
00:18:52 → 00:18:56 หมออาจจะดูเป็นตลกร้ายถ้าไม่ชอบก็สลายออก
00:18:56 → 00:19:00 ครับผมเนาะแต่แต่ว่าใดๆก็ตามโดสเวา่าระะ
00:19:00 → 00:19:03 เวลาเป็นปีครับมันก็สลายลงไปเยอะแล้วค่ะ
00:19:03 → 00:19:05 ครับแต่หากสมมติว่ารู้สึกว่ายังสลายไม่
00:19:05 → 00:19:08 ถูกใจแล้วก็สามารถใช้ตัวสลายฟอรฉีดใน
00:19:08 → 00:19:11 ตำแหน่งนั้นได้อันนี้มีข้อสงสัยจากจากทาง
00:19:11 → 00:19:15 บ้านแล้วกันครับผมฉีดิอบ่อยๆเนี่ยค่ะถ้า
00:19:15 → 00:19:19 หยุดฉีดเน่าจะแก่ไหมคะเรียกว่าคนที่ฉีดิอ
00:19:19 → 00:19:21 มาต่อเนื่องเนี่ยโดยส่วนมากเขามักจะชอบใบ
00:19:21 → 00:19:23 หน้าลักษณะแบบนั้นแลทำให้เขาฉีดมาต่อ
00:19:23 → 00:19:27 เนื่องเรื่อยๆแต่เกิดมาช่วงนึงแล้วกันอาจ
00:19:27 → 00:19:30 จะเป็นช่วงโควิดคซับลดลงครับผมเขอาจจะ
00:19:30 → 00:19:33 ต้องเลิกหรือว่าอาจจะต้องเว้นระยะห่างไป
00:19:33 → 00:19:35 โดยส่วนมากใครที่ฉีดฟลอร์มาต่อเนื่องครับ
00:19:35 → 00:19:38 ใบหน้าเจะโดนประคองไม่ให้ใบหน้านั้น
00:19:38 → 00:19:40 เสื่อมหรือแกะลงเยอะค่ะนัหมายความว่าถ้า
00:19:40 → 00:19:42 สมมุติว่าใบหน้าเดียวกันแล้วเราฉีดข้าง
00:19:42 → 00:19:44 นึงไม่ฉีดข้างนึงเนี่ยแล้วสมมุติว่าผ่าน
00:19:44 → 00:19:47 ไป 10 ปีแล้วข้างที่ฉีดเราหยุดฉีดผมมั่น
00:19:47 → 00:19:49 ใจว่าข้างที่ฉีดมาต่อเนื่องเนี่ยใบหน้าจะ
00:19:49 → 00:19:52 ดูเด็กกว่าอีกข้างนึงก็คือเหมือนเป็นเนน
00:19:52 → 00:19:54 อ่ะใช่เป็นการประคองใบหน้าไม่ให้ซดลงเกิน
00:19:54 → 00:19:56 ไปเส้นเอ็นอยู่ตรงตำแหน่งนี้ใบหน้าชั้นไข
00:19:56 → 00:19:58 มันตรงนี้ไม่ต้องลดลงเยอะเกินไปอย่าง
00:19:58 → 00:20:00 เงี้ยครับก็ทำให้ใบหน้าดูเด็กหรือดูโง
00:20:00 → 00:20:04 สภาพแบบนั้นได้นานกว่าอ่ะมาที่อีกคนนึง
00:20:04 → 00:20:07 ที่โอ้โหฮอตไม่แพ้กันเลยครับน้องโบว์นะคะ
00:20:07 → 00:20:08 นอกเหนือจากเรื่องของเอสเทติกเรื่องของ
00:20:08 → 00:20:11 ความงามแล้วจริงๆเขาก็ยังมีประโยชน์ด้าน
00:20:11 → 00:20:13 อื่นในเรื่องของการรักษาโรคด้วยใช่มั้ยคะ
00:20:13 → 00:20:16 ครับจริงๆแล้วโบว์เนี่ยถูกค้นพบในด้าน
00:20:16 → 00:20:19 ความงามเป็นความบังเอิญค่ะจริงๆแล้วเขา
00:20:19 → 00:20:21 ใช้โบว์ในการรักษากล้ามเนื้อกระตุกปิด
00:20:21 → 00:20:24 ปกติบนใบหน้าครับในคนไข้ของระบบประสาทค่ะ
00:20:24 → 00:20:27 แต่เผอิญว่าคุณหมอเนี่ยเขาฉีดในบริเวณ
00:20:27 → 00:20:30 ใกล้ดวงตาเาตรวจสอบว่าข้างที่เขาใช้ฉีด
00:20:30 → 00:20:33 เนี่ยอ่าริ้วรอยดูดีกว่าอีกข้างนึงก็เลย
00:20:33 → 00:20:35 เป็นที่มาในการดูว่าโอเคลายกล้ามเนื้อ
00:20:35 → 00:20:38 อยู่ตรงไหนลองใช้ฉีดตรงตำแหน่งนี้ซิมัน
00:20:38 → 00:20:40 สามารถเสริมความงามได้หรือเปล่าครับเป็น
00:20:40 → 00:20:44 ที่มาว่าค้นพบหรือบังเอิญเห็นบอกว่าใช้
00:20:44 → 00:20:47 รักษาอาการเครียดซึมเศร้าอะไรอย่างเงี้ย
00:20:47 → 00:20:50 ได้ด้วยหรอคะส่วนมากจะเป็นลักษณะพวกการ
00:20:50 → 00:20:53 เครียดก็คือเป็นพวกกล้ามเนื้ออบางทีฉีดลด
00:20:53 → 00:20:56 ไมเกรนอ่าเคยได้ยินที่ว่าเหมือนบางคนตรง
00:20:56 → 00:20:59 นี้เตึงมามากๆอะไรเงี้ยครับหรือบริเวณ
00:20:59 → 00:21:00 ขมับอะไรอย่าเงี้ยครับก็สามารถใช้โบว
00:21:00 → 00:21:03 เนี่ยฉีดรถพวกนี้ได้หรือแม้กระทั่งพวก
00:21:03 → 00:21:05 ออฟิ Syndrome ค่ะครับความเครียดพวกนี้ลด
00:21:05 → 00:21:08 ลงใช่มั้ยครับอาการปวดลดลงผมคิดว่าพวกซึม
00:21:08 → 00:21:11 เศร้าพวกนี้อาจจะดีขึ้นด้วยอ่ะมาที่ Side
00:21:11 → 00:21:13 เอฟเฟคของน้อง
00:21:13 → 00:21:16 โบว์ที่เกี่ยวกับเรื่องของด้านของความงาม
00:21:16 → 00:21:19 แล้วกันนะคะที่เราจะได้ยินกันบ่อยๆของสาย
00:21:19 → 00:21:23 นี้ก็คืออาการตึงโบว์ตึงโบวค่ะก็คือขยับ
00:21:23 → 00:21:24 ไม่ได้ากขยับไไม่ได้ไม่ได้แล้วก็แสดง
00:21:25 → 00:21:28 อารมณ์ไม่ค่อยได้ครับผมก็คือเวลาฉีดโบว์
00:21:28 → 00:21:31 ไปเนี่ยเป้าหมายความสำคัญสุดเลยก็คือให้
00:21:31 → 00:21:33 กล้ามเนื้อตรงนั้นเนี่ยเป็นอัมพาตชั่ว
00:21:33 → 00:21:36 คราวแต่ว่าคนเข้าใจว่าการที่ฉันฉีดเข้าไป
00:21:36 → 00:21:38 เนี่ยกล้ามเนื้อมันจะตึงแต่ความตึงน่ะคือ
00:21:38 → 00:21:41 ความรู้สึกครับเพราะว่าปกติเวลาเราขยับ
00:21:41 → 00:21:44 เรายิ้มเราก็จะหยีตาเวลาเราขมวดคิ้วเราก็
00:21:44 → 00:21:46 จะเอาคิ้วชนกันใช่มั้ยครับพอเราฉีดโบว์
00:21:46 → 00:21:49 เข้าไปปึ๊บมันขยับไม่ได้เราก็จะรู้สึกว่า
00:21:49 → 00:21:51 มันตึงจังเลยอ่ามันเป็นความรู้สึกของการ
00:21:51 → 00:21:54 ตึงแต่จริงๆคือเค้าไม่มีแรงใช่ครับเพราะ
00:21:54 → 00:21:55 ตรงนั้นกล้ามเนื้อตรงนั้นมันอัมพาทไปชั่ว
00:21:55 → 00:21:58 คราวเลยครับผมแต่ว่าคำว่าชั่วคราวไม่ได้
00:21:58 → 00:22:00 หยถึงอาทิตย์ 2 อาทิตย์อาจประมาณ 3 เดือน
00:22:00 → 00:22:03 - 6 เดือนได้เนี่ยบางคนแต่มีความรู้สึก
00:22:03 → 00:22:06 คือตึงโบวจังเลยมักจะเป็นในบริเวณตรงรอย
00:22:06 → 00:22:09 ตีนกาครับเพราะว่าจากปกติเคยยิ้มได้ยิ้ม
00:22:09 → 00:22:12 ได้เต็มยิ้มได้สุดเลยอ้าหลังจากนั้นมา
00:22:12 → 00:22:16 เหลือยิ้มแต่ปากแล้วทีเนี้ยตากลมบล็อกเลย
00:22:16 → 00:22:19 ก็เป็นได้ครับอย่าเงี้เออฉีดโบท็อกซ์แล้ว
00:22:19 → 00:22:22 ตาปิดอ่ะค่ะคุณหมอเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นได้
00:22:22 → 00:22:24 แล้วก็เรียกว่าเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยแต่
00:22:24 → 00:22:27 ว่าด้วยความที่มันหายคนก็เลยอาจจะไม่ได้
00:22:27 → 00:22:30 เป็นประเด็นเหมือนน้องฟิิวนะครับน้องโบว์
00:22:30 → 00:22:32 เนี่ยฉีดในบริเวณหน้าผากจะมีการทำให้
00:22:32 → 00:22:35 บริเวณหน้าผากเหยุดการขยับแต่หน้าผาก
00:22:35 → 00:22:38 เนี่ยเมีหน้าที่เคคือเขายกคิ้วได้อืดัง
00:22:38 → 00:22:41 นั้นบางคนที่ฉีดไปแล้วฉีดต่ำเกินไปอาจทำ
00:22:41 → 00:22:44 ให้ลักษณะดวงตาเนี่ยดูหนักอ่าจากเคยมี
00:22:44 → 00:22:47 ชั้นตาตอนนี้ไม่มีชั้นตาแล้วเพราะมันหนัก
00:22:47 → 00:22:49 กดลงมาเยอะมากเลยเงี้ยครับก็เจอได้บ่อย
00:22:49 → 00:22:51 แต่ว่าพวกเนี้ยจะหายไปครับอันนี้ก็คือ
00:22:51 → 00:22:53 เป็นเรื่องของประสบการณ์ของคุณหมอด้วย
00:22:53 → 00:22:55 ด้วยส่วนนึงแต่ว่าถ้าสมมุติแบบเดินเข้ามา
00:22:55 → 00:22:57 เรายังไม่เคยเจอกันเลยออ่าบางครั้งอาจจะ
00:22:57 → 00:22:59 ทำให้ฉีดกันเกิดนี้ได้เพราะว่ากล้ามเนื้อ
00:22:59 → 00:23:02 แต่ละคนเนี่ยแรงยกไม่เท่ากันค่ะบางคนคน
00:23:02 → 00:23:04 เนี้ยมีแรงของกล้ามเนื้อบริเวณคิ้วเนี่ย
00:23:04 → 00:23:06 ต่ำอยู่แล้วแล้วเราไปทำให้กล้ามเนื้อตรง
00:23:06 → 00:23:09 นั้นหยุดการขยับอาก็จะเจอลักษณะของตัว
00:23:09 → 00:23:11 คิ้วเนี่กดลงมาได้ค่อนข้างเยอะมากกว่าคน
00:23:11 → 00:23:13 ที่มีกล้ามเนื้อที่มีกำลังเยอะครับเท่า
00:23:13 → 00:23:15 ที่ชมเข้าใจนะคือมันไม่ใช่แค่ว่าอยากจะ
00:23:15 → 00:23:17 ให้ตายกแล้วก็ไปฉีดตรงตาคือเหมือนแบบมัน
00:23:17 → 00:23:20 ซับซ้อนกว่านั้นถูกมยคะมันต้องรวมกันทั้ง
00:23:20 → 00:23:22 หมดทุกๆส่วนของซึ่งอะไรอย่างเงี้เนี่ยก็
00:23:22 → 00:23:24 คือเสอนในวิชาแพทย์ร่ะคะคุณหมอหรือว่ามัน
00:23:24 → 00:23:29 เป็นอะไรที่คุณหมอต้องศึกษาหาประสบการณ์
00:23:29 → 00:23:32 เองเพิ่มเติม้ก็ต้องเรียนว่าตัวเสริมความ
00:23:32 → 00:23:34 งามนะครับ atic Doctor เนี่ยโดยส่วนมาก
00:23:34 → 00:23:37 จะไม่มีสอนตามหลักสูตรปกติที่เรียนแพทย์ 6
00:23:37 → 00:23:39 ปีกันอะไรเงี้ยครับอาจจะมีในกรณีไปเรียน
00:23:39 → 00:23:42 ต่อเฉพาะทางครับเรียนต่อทางด้านปริญญาโท
00:23:43 → 00:23:44 นะครับแต่ว่าในถ้าสมมุติว่าจะเอาเป็น
00:23:44 → 00:23:48 เรียน 6 ปีของการเรียนหมอเลยมีน้อยมากอ
00:23:48 → 00:23:50 ครับดังนั้นอาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมนะ
00:23:50 → 00:23:53 ครับรวมถึงเป็นประสบการณ์ในการทำมางานมา
00:23:53 → 00:23:55 ด้วยว่าฉีดตำแหน่งนี้นะมันจะดีบ้างที่
00:23:55 → 00:23:57 หนังสืออาจจะเขียนแบบนี้แต่ว่าพอเราไป
00:23:57 → 00:24:00 แคทิสหรือเได้ทำจริงๆมันอาจจะกลับกันหรือ
00:24:00 → 00:24:02 แตกต่างกันเล็กน้อยครับผมตนั้นประสบการณ์
00:24:03 → 00:24:05 ก็สำคัญมากๆใช่ประสบการณ์คุณหมอสำคัญมาก
00:24:05 → 00:24:08 แล้วดื้อโบว์อ่ะคะคุณหมอมันฉีดจนมันแบบ
00:24:08 → 00:24:11 ว่ามันไม่มันไม่ไปอย่างที่อยากให้ไปไม่ต
00:24:11 → 00:24:13 แล้วครับผมดื้อโบวเอาหลักการก่อนแล้วกัน
00:24:14 → 00:24:16 ตัวโบว์เค้าเนี่ยเจะมี 2 องค์ประกอบหลักๆ
00:24:16 → 00:24:19 เลยคือตัวโบวแล้วเขาจะมีโปรตีนเป็นตัว
00:24:19 → 00:24:21 หุ้มนะครับตัวโปรตีนเนี่ยจะเป็นตัวนำพา
00:24:21 → 00:24:23 ตัวโบว์เนี่ยไปออกฤทธิ์ในตำแหน่งที่เรา
00:24:23 → 00:24:26 ต้องการได้นะครับทีเนี้ยการดื้อโบว์อาจจะ
00:24:26 → 00:24:28 ดื้อได้ 2 หลักก็คือดื้อโปรตีนหรือดื้อ
00:24:28 → 00:24:32 ตัวโบวเลยบทใช่ครับดื้อโบว์เกิดได้หลาย
00:24:32 → 00:24:35 สาเหตุนะครับแต่ว่าเจอบ่อยๆก็คือการฉีด
00:24:35 → 00:24:39 บ่อยเกินไปฉีดครั้งนึงอยู่ได้ 3-6 เดือน
00:24:39 → 00:24:42 นะครับบางคน 2 เดือนฉันเปลี่ยนตำแหน่งฉีด
00:24:42 → 00:24:45 อืนะครับแต่อย่าลืมว่าร่างกายเรามีภูมิปม
00:24:45 → 00:24:47 กันแค่อันเดียวภูปมกันเนี่ยเจะจำได้หาก
00:24:47 → 00:24:50 สมมุติเราฉีดบ่อยเกินไปเช่นวันเนี้ยเรา
00:24:50 → 00:24:53 ฉีดตรงหางตาก่อนนะแต่วันนึงเรารู้สึกว่า
00:24:53 → 00:24:56 ฉันอยากฉีดกรามละฉันอยากหน้าเล็กลงอ่า
00:24:56 → 00:24:59 ผ่านไป 1 เดือนฉันมาฉีดกรามซ้ำถ้าอย่าง
00:24:59 → 00:25:02 เงี้ยไม่อยากแนะนำเพราะว่าการทำอย่างนี้
00:25:02 → 00:25:04 แปลว่าเราได้รับโบว์หลายๆรอบซึ่งโบว์
00:25:04 → 00:25:07 เนี่ยมันเป็นยาร่างกายเราจะจำได้ร่างกาย
00:25:07 → 00:25:10 มีแค่ภูมิคุ้มกันเดียวพอมันจำได้เสร็จ
00:25:10 → 00:25:12 ปุ๊บการฉีดโบว์ครั้งหน้าตัวโบว์เข้ามา
00:25:12 → 00:25:15 ปุ๊บร่างกายจะทำลายทิ้งทันทีเลยก็จะเป็น
00:25:15 → 00:25:18 ที่มาของการดื้อโบครับต้องนานๆทีใช่ต้อง
00:25:18 → 00:25:20 มีระยะเวลาที่เหมาะสมต้องฉีดหรือแปลว่า
00:25:20 → 00:25:22 ต้องฉีดตากับฉีดกามพร้อมกันพ้อมพ้อกันใน
00:25:22 → 00:25:24 ครั้งเดียวครับซึ่งครั้งนึงผมว่าน่าจะได้
00:25:24 → 00:25:27 ไม่เกินประมาณ 400 ยูนิตครับผมในการทำ 1
00:25:27 → 00:25:30 ครั้งเช่นฉันอยากฉีดริ้วลอยเลยฉันอยากฉีด
00:25:30 → 00:25:32 รถน่องด้วยอ่าประมาณอย่างงั้นหรือบาง
00:25:32 → 00:25:34 ครั้งอยากฉีดริ้วลอยอยากฉีดรถเหงื่อ
00:25:34 → 00:25:37 รักแร้ก็แนะนำว่าให้ทำ 1 ครั้งให้ทำทุกๆ
00:25:37 → 00:25:40 ส่วนอทีเดียวแล้วก็เว้นระยะไปดีกว่าหาก
00:25:40 → 00:25:43 สมมุติว่าเราดื้อตัวโบวเราจะไม่สามารถใช้
00:25:43 → 00:25:45 โบว์ตัวไหนได้เลยเพราะว่าในประเทศไทย
00:25:45 → 00:25:48 ปัจจุบันโบวของเราจะเป็นโบ tum ทอกซิน
00:25:48 → 00:25:51 type a ซึ่งทุกตัวเนี่ย type a หมดเลย
00:25:51 → 00:25:54 หมายถึงว่าไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรแต่ว่าโบว์
00:25:54 → 00:25:58 ที่ผ่านอยผ่านอยจะเป็นตัวยานี้พูดง่ายๆ
00:25:58 → 00:26:00 ใช่ครับผมดังนั้นถ้าสมมุติเราดื้อ type a
00:26:00 → 00:26:02 แปลว่าทุกยี่ห้อที่อยู่ในประเทศไทยที่
00:26:03 → 00:26:05 ผ่านอยใช้ไม่ได้เลยหรือกรณีอีกอันนึงคือ
00:26:05 → 00:26:09 บางคนเามีการดื้อโปรตีนอ่าก็จะมีโบวบาง
00:26:09 → 00:26:12 ยี่ห้อที่เขาตัดโปรตีนออกเขาจะมีแต่ตัว
00:26:12 → 00:26:15 โบว์เพียวๆเลยอ่าถ้าสมมุติว่าเาดื้อ
00:26:15 → 00:26:18 โปรตีนเราก็ยังมีตัวเลือกในการใช้ตัวนี้
00:26:18 → 00:26:20 ได้ครับผมแล้วถ้ามันไม่มีไอ้ตัวโปรตีน
00:26:20 → 00:26:23 อันเนี้ยมันจะสามารถพาตัวยาไปตรงจุดที่
00:26:23 → 00:26:26 เราอยากจะให้มันทำงานได้มยคะก็สามารถออก
00:26:26 → 00:26:28 ลิฟได้ตามปกติครับแต่ว่าเท่าที่
00:26:28 → 00:26:30 ประสบการณ์ที่พบคือความตึงเนี่ยอาจจะลดลง
00:26:30 → 00:26:33 น้อยหน่อยอ๋อไม่เท่าแบบที่มีโปรตีนใช่
00:26:33 → 00:26:35 ระยะเวลาอาจจะสั้นเล็กน้อยแต่อย่างน้อยก็
00:26:35 → 00:26:38 คือเป็นตัวเลือกที่สามารถทำให้ใช้ได้ดี
00:26:38 → 00:26:41 กว่าใช้ตัวไหนไม่ได้เลยอาการดื้อมันต่าง
00:26:41 → 00:26:44 กันมั้ยคะคุณหมอถ้าเราดื้อไอ้ตัวโปรตีนเย
00:26:44 → 00:26:46 สมมุติมันมีเอฟเฟคที่แตกต่างกันมั้ยคะ
00:26:46 → 00:26:49 ครับก็จะมีการตรวจได้ครับผมเนาะก็ที่โรง
00:26:49 → 00:26:51 พยาบาลศิริราชพยาบาลก็สามารถตรวจสอบได้
00:26:51 → 00:26:53 ว่าเราดื้อโปรตีนหรือเปล่าแต่ว่าอาการ
00:26:54 → 00:26:57 แสดงออกมาในบุคคลเนี่ยจะไม่รู้เลยก็คือ
00:26:57 → 00:26:59 รู้แกว่าฉีดแล้วมันไม่เห็นผลถูกต้องพอฉีด
00:26:59 → 00:27:02 ไปแล้วทำไมริ้วรอยหางตาริ้วรอยขมวดคิว
00:27:02 → 00:27:04 ริ้วรอยหน้าผากของฉันเนี่ยแทบไม่ลดลงเลย
00:27:04 → 00:27:07 ครับดูเหมือนปกติเหมือนก่อนฉีดเลยอันนี้
00:27:07 → 00:27:09 ก็จะเป็นภาวะดื้อโบว์ได้พบบ่อยครับหลัง
00:27:09 → 00:27:12 บ้านน่ะโบว์เถื่อนนะคุณหมอมันจะมี QR coe
00:27:12 → 00:27:16 ในการเช็คใช่มครับในการก่อนฉีดรวมถึงว่า
00:27:16 → 00:27:19 บางทีอาจจะสอดไส้อืก็ต้องเลือกที่คลินิก
00:27:19 → 00:27:21 ที่ไว้ใจได้หรือบางทีเอาจจะบอกว่าอันนี้
00:27:21 → 00:27:24 ก็ไม่ใช่ที่ออยอแนะนำแต่ว่าที่นั่นที่นี่
00:27:24 → 00:27:26 เขาใช้กันอะไรอย่าเงี้ยเป็นอีกตัวยานึง
00:27:26 → 00:27:29 อะไรอย่าเงี้ยน้อยๆครับครับเพราะว่าด้วย
00:27:29 → 00:27:31 ความที่โบวในประเทศไทยเนี่ยมีไม่กี่
00:27:31 → 00:27:34 ยี่ห้อค่ะอ่าดังนั้นตัวที่ผ่านอยก็จะมี
00:27:34 → 00:27:37 แค่นี้แหละังนั้นถ้าสมมุติจะอ้างว่าโอเค
00:27:37 → 00:27:39 ยี่ห้ออื่นๆเนี่ยอันนี้ก็เหมือนจะผ่านอย
00:27:39 → 00:27:42 นะแต่คลินิคอื่นเขไม่ใช้อาจจะเป็นความคิด
00:27:42 → 00:27:44 ที่ผิดครับเพราะโดยส่วนมากยี่ห้อที่ผ่าน
00:27:44 → 00:27:48 อยมักจะต้องชัดเจนแล้วก็จะมีลักษณะของตัว
00:27:48 → 00:27:50 เช็คต่างๆไม่ว่าจะเป็น QR Code หรือเป็น
00:27:51 → 00:27:53 ลักษณะของโปสเตอร์ในการสแกนเพื่อยืนยัน
00:27:53 → 00:27:55 ว่าคลินิกนี้ได้ซื้อยาจากบริษัทที่นำเข้า
00:27:55 → 00:27:57 อย่างแท้จริงเอจริงๆอย่างเงี้ยเราจะ
00:27:57 → 00:27:59 สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนว่าสำหรับคนที่
00:27:59 → 00:28:02 คิดจะฉีดโบว์อย่างเงี้ยว่าตอนเนี้ยที่อย
00:28:02 → 00:28:05 ไทยรับรองนะมียี่ห้อนี้ๆๆๆๆๆๆๆเงี้ยเรา
00:28:05 → 00:28:08 สามารถหาข้อมูลอ่าข้อมูลง่ายมากไย fda
00:28:08 → 00:28:13 ครับอยใช่อยประเทศไทยใส่ตัวชื่อของตัวโบว
00:28:13 → 00:28:15 ที่เราจะใช้เนี่ยเข้าไปข้างในเลยค่ะเขาก็
00:28:15 → 00:28:19 จะขึ้นว่าโบว์เนี่ยมีอนุญาตอยเลขที่เท่า
00:28:19 → 00:28:20 นี้เท่านี้เท่านี้เราก็ไปดูข้างกล่องที่
00:28:20 → 00:28:23 เราจะฉีดว่าตรงกันมยค่ะอันที่ 2 เลยคือ
00:28:23 → 00:28:26 เขาจะมีระยะเวลาของวันที่เขาอนุญาตบาง
00:28:26 → 00:28:29 ยี่ห้อบางอันเนี่ยเถอดใโดยอนุญาตไปแล้วอ
00:28:29 → 00:28:31 อ่าแต่คลินิคก็เอามาใช้ครับหรือือเรียก
00:28:31 → 00:28:34 ว่าเป็นยาหิ้วยาปลอมอันนี้ก็อันตรายครับ
00:28:34 → 00:28:37 ผมก็สามารถเช็คได้ที่เว็บอยอยไทยครับอื
00:28:37 → 00:28:41 อีกหนึ่งถารร้อยไหมค่ะคุณหมอหลักการของ
00:28:41 → 00:28:43 การร้อยไหมคืออะไรอ่ะคะคือเป็นการร้อย
00:28:43 → 00:28:46 เพื่อดึงในตำแหน่งของเนื้อเราใช้คำว่า
00:28:46 → 00:28:48 เนื้อเลยะกันพิวหนังอ่ะครับเพื่อโกยใน
00:28:48 → 00:28:50 ตำแหน่งนั้นไปสู่อีกตำแหน่งนึงก็คือเย็บ
00:28:50 → 00:28:53 อ่ะแหละครับเหมือนรั้งไว้ดึงรั้งไว้ไม่
00:28:53 → 00:28:55 ให้มันห้อยไม่ให้มันคล้อยลงมาเพราะสิ่ง
00:28:55 → 00:28:57 ที่เรากังวลมากที่สุดของใบหน้าคือฉันไม่
00:28:57 → 00:28:59 อยากให้หน้าฉันคล้อยลงอ่าฉันไม่อยากให้
00:28:59 → 00:29:01 หน้าฉันเป็นแก้มยุ้ยๆอ่ะฉันอยากให้หน้า
00:29:01 → 00:29:04 ฉันดูวีดูเรียวตลอดเวลาดังนั้นการร้อย
00:29:04 → 00:29:06 ใหม่ก็จะเป็นที่นิยมครับหัตการนี้เห็นผล
00:29:06 → 00:29:10 เร็วครับเนาะร้อยเลยเห็นผลทันทีเนาะแต่
00:29:10 → 00:29:12 อาจจะมี Side เอฟเฟคได้บ้างทุกๆหการมี
00:29:12 → 00:29:15 ความปลอดภัยแล้วก็มีความเสี่ยงนะครับ
00:29:15 → 00:29:18 อย่างการร้อยไหมอาจจะเป็นลักษณะของการติด
00:29:18 → 00:29:21 เชื้อได้บ้างนะครับที่พบบ่อยเนาะหรือแม้
00:29:21 → 00:29:23 กระทั่งการร้อยไหมไปแล้วเกิดเลือดออกใต้
00:29:23 → 00:29:25 ผิวหนังเกิดอาการชเราเคยเห็นอย่างนี้ด้วย
00:29:25 → 00:29:28 นะคุณหมอเคยเห็นคนร้อยไหมไหมมันแทงขึ้นมา
00:29:28 → 00:29:31 อ่าอันนี้คือเรียกอาจจะเป็นไหมหักตรงกลาง
00:29:31 → 00:29:34 เพราะเส้นไหมมันเป็นของแข็งครับบางทีเส้น
00:29:34 → 00:29:36 ไหมหักตรงกลางแล้วเกิดการดึงรั้งของผิว
00:29:36 → 00:29:39 ด้านในไหมมันก็เลยตันๆออกมาหรือบางทีคลำๆ
00:29:39 → 00:29:42 ะเรารู้สึกเลยว่าเป็นปมแหลมๆตรงบริเวณผิว
00:29:42 → 00:29:45 หนังออันนี้ก็พบด้วยบ่อยครับผมผลข้าง
00:29:45 → 00:29:47 เคียงเยอะมยคะการร้อยไหมเหมือนเมื่อกี้
00:29:47 → 00:29:50 ที่พูดว่าติดเชื้ออ่าพบได้ครับผมอันที่ 2
00:29:50 → 00:29:53 เลยคือบวมช้ำหรือบางคนอาจจะเป็นลักษณะ
00:29:53 → 00:29:56 เหมือนตอนเคสที่กำลังดังอยู่ว่าการร่อไหม
00:29:56 → 00:29:59 มี S เอฟเฟคคือทำให้ตัวปากกระตุกเวลายิ้ม
00:30:00 → 00:30:02 ออๆใช่อุยโหดมากอันนี้ลักษณะนั้นอาจจะ
00:30:02 → 00:30:05 เป็นลักษณะว่าการร้อยใหม่แล้วไปโดนเส้น
00:30:05 → 00:30:08 ประสาทหรือตัดเส้นประสาทให้เกิดการขาดออก
00:30:08 → 00:30:11 ซึ่งพบน้อยๆนะครับพบน้อยออย่างฟิวอย่าง
00:30:11 → 00:30:14 เงี้ยค่ะมันก็จะมีตัวสลายใช่มั้ยคะโบว์
00:30:14 → 00:30:17 เนี่ยเขาก็จะเก็จะรอเวลาเวลาร้อยไหมเงี้ย
00:30:18 → 00:30:21 ค่ะถ้ามันพลาดไปแล้วเนี่ยมันมันเราจะถอย
00:30:21 → 00:30:23 กลับมายังไงอ่ะคะถ้าพลาดในกรณีมันดึงรัง
00:30:23 → 00:30:27 เยอะไปเราสามารถผ่าตัดและดึงออกได้ครับผม
00:30:27 → 00:30:30 แต่กรณีที่เป็นพวกตัดเส้นประสาทพวกเนี้ย
00:30:30 → 00:30:33 ต้องรอเส้นประสาทเฟื้นถ้าสมมุติเรารู้ถึง
00:30:33 → 00:30:35 การวิพากษ์ของเรานะครับเส้นประสาทเรา
00:30:35 → 00:30:39 เนี่ยจะเติบโตได้ประมาณแค่ 0.1 มมค่ะต่อ
00:30:39 → 00:30:42 เดือนถ้าสมมุติว่าเขาโดนตัดไปประมาณ 1 ซม
00:30:42 → 00:30:45 แปลว่าคนๆเนี้ยต้องรอการฟื้นฟูมากกว่า 10
00:30:45 → 00:30:48 เดือนค่ะครับหรือบางครั้งเส้นประสาทต้น
00:30:48 → 00:30:51 กับปลายเนี่ยเฟื้นฟูมามันไม่เชื่อมกันอื
00:30:51 → 00:30:54 ั้นคนนี้อาจจะไม่มีโอกาสกลับมาปกติได้
00:30:54 → 00:30:58 ครับแต่ว่าที่พูดมาพบน้อยครับแต่ก็ถือว่า
00:30:58 → 00:31:01 แต่พบได้ก็คือการทำหัตการทุกชนิดมีความ
00:31:01 → 00:31:03 เสี่ยงหมดใช่ก็ต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้มี
00:31:03 → 00:31:07 ความชำนาญหน่อยนึงว่าโอเคเราสามารถรู้การ
00:31:07 → 00:31:09 วิพากษ์แล้วก็มีประสบการณ์ตรงนั้นครับก็
00:31:09 → 00:31:12 มีอีกกระแสนึงค่ะก็คือการฉีด bi
00:31:12 → 00:31:14 stimulator อ่ากำลังมาแรงอ่า bi
00:31:14 → 00:31:17 Simulator ก็คือสารๆนึงที่สามารถเข้าไป
00:31:17 → 00:31:20 ในผิวหนังเราร่างกายเราแล้วสามารถกระตุ้น
00:31:20 → 00:31:22 การสร้างคอลลาเจนของร่างกายได้คือไม่ได้
00:31:23 → 00:31:26 ทำงานเป็นตัวเติมเต็มโดยตรงใช่ครับแต่ว่า
00:31:26 → 00:31:28 เหมือนไปสะกิดร่างกายว่าให้ร่างส้างขึ้น
00:31:29 → 00:31:32 มาซึ่งปกงกายเนี่ยคอลลาเจนจะลดลงเรื่อยๆ
00:31:32 → 00:31:34 ต่อให้เรากินอะไก็ตามคอลลาเจนอาจจะเพิ่ม
00:31:34 → 00:31:37 ได้เพียงเล็กน้อยหรือแม้กระทั่งเราใช้
00:31:37 → 00:31:39 เครื่องยกกระชับคอลลาเจนก็เพิ่มได้แต่อาจ
00:31:39 → 00:31:42 จะเพิ่มสู้พวก B stimulator ไม่ได้อื
00:31:42 → 00:31:45 แล้วผลข้างเคียงมีมคะอันนี้เรียกว่าผลผล
00:31:45 → 00:31:48 ดีเยอะครับผลข้างเคียงก็ต้องมีบ้างเช่น
00:31:48 → 00:31:51 ลักษณะของการฉีดไิอแล้วเกิดเป็นโดูหรือ
00:31:51 → 00:31:53 เป็นตุ่มนะครับหรือบางครั้งก็เกิด
00:31:53 → 00:31:55 Infection คือการติดเชื้อแต่พวกเนี้ยก็
00:31:55 → 00:31:59 จะเจอน้อยในกลุ่ม bior แต่มีไอเตอร์บาง
00:31:59 → 00:32:03 ตัวที่เขาใส่สารบางอย่างลักษณะคล้ายใกล้
00:32:03 → 00:32:05 เคียงกับิอหมายความว่าฟลอร์เขาเป็นลักษณะ
00:32:05 → 00:32:08 เจลใช่มมครับไอเตอร์บางตัวเขาก็เป็น
00:32:08 → 00:32:11 ลักษณะน้ำที่ต้องมาผสมน้ำเกลือต่อบางตัว
00:32:11 → 00:32:14 เขาเป็นเจลพร้อมฉีดได้เลยค่ะแต่พวกเจล
00:32:14 → 00:32:16 พร้อมฉีดได้เลยเนี่ยก็มีโอกาสที่จะเข้า
00:32:16 → 00:32:18 เส้นเลือดมากกว่าอ๋อเพราะเหมือนโมเลกุล
00:32:18 → 00:32:21 มันไอ้นี่มันเหนียวมันหนืดกว่ามันใหญ่
00:32:21 → 00:32:23 กว่าอะไรเงี้ยครับต่อไปเราจะไม่ใช้เข็ม
00:32:23 → 00:32:26 กันละคุณหมอครับผมเราจะไม่ใช้เข็มกันละก็
00:32:26 → 00:32:29 คือพวกเครื่องยกกระชับเรื่องการทำเลเซอร์
00:32:29 → 00:32:31 อะไรอย่าเงี้ยค่ะเทียบกับแก๊งแรกแล้วดู
00:32:31 → 00:32:33 เหมือนจะปลอดภัยกว่าเพราะว่าฉันไม่ต้อง
00:32:33 → 00:32:36 ฉีดอะไรเข้าร่างกายฉันเลยฉันแค่นอนเฉยฉ
00:32:36 → 00:32:38 เดี๋ยวคุณหมอก็จะปล่อยพลังงานบางอย่าง
00:32:38 → 00:32:41 เข้าใบหน้าฉันนอกจากความเจ็บปวดรวดร้าว
00:32:41 → 00:32:44 แล้วเนี่ยคะมันมีเอ่อ Side เฟคอะไรที่เรา
00:32:44 → 00:32:46 ต้องระวังนะคะก็ข้อดีของพวกการใช้เครื่อง
00:32:47 → 00:32:49 ยกกระชับนะครับไม่ต้องฉีดอะไหลเข้าใบหน้า
00:32:49 → 00:32:52 นะครับดังนั้นคนที่กังวลว่าฉันจะไม่เอา
00:32:52 → 00:32:54 อะไรเข้าใบหน้าเลยดยการใช้เครื่องกระชับ
00:32:54 → 00:32:56 เนี่ยอันนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีแต่ก็จะมี
00:32:56 → 00:32:58 Side เอฟเฟคหรือมีลิมิบางบางอย่างนะครับ
00:32:58 → 00:33:01 งั้นบางตำแหน่งเราก็ไม่สามารถใช้เครื่อง
00:33:01 → 00:33:04 กระตุ้นได้บางตำแหน่งเราก็ไม่สามารถทำได้
00:33:04 → 00:33:06 เลยเพราะว่าบางทีอาจจะมีความเจ็บมากเกิน
00:33:06 → 00:33:08 ไปหรือบางครั้งตำแหน่งนจะมีพวกเส้นประสาท
00:33:08 → 00:33:11 เยอะอยู่การทำไปอาจทำให้เกิดกล้ามเนื้อ
00:33:11 → 00:33:14 เอามาพึกเอามาพลาดได้นะครับหรือบางทีคน
00:33:14 → 00:33:16 ที่ใช้เครื่องเนี่ยเขาจะรู้สึกเลยว่ามัน
00:33:16 → 00:33:19 มีความเจ็บรูปแบบนึงเนี่ยที่เขาทนไม่ไหว
00:33:19 → 00:33:23 อือ่าสู้ชั้นฉีดดีกว่าชั้นทนไหวเจ็บหมด
00:33:23 → 00:33:25 อ่ะเจ็บหมดเจ็บหมดทุกแบบครับเจ็บหมดทุก
00:33:25 → 00:33:27 แบบแต่ว่าผลลัพธ์ทั้ง 2 อันครับไม่ว่าจะ
00:33:27 → 00:33:29 เป็นแบบแบบฉีดหรือแบบการใช้เครื่องเนี่ย
00:33:29 → 00:33:32 เาออกแบบมาสนับสนุนซึ่งกันและกันแล้วการ
00:33:32 → 00:33:35 ที่เราทำพวกเครื่องอะไรอย่างเงี้ยบนหน้า
00:33:35 → 00:33:38 บ่อยๆอ่ะมันมีความร้อนมันมีคลื่นมีอะไร
00:33:38 → 00:33:42 อย่างเงี้ยครับมันจะมีผลต่อโปรไบโอติก
00:33:42 → 00:33:45 หรือว่าแบบพวกแบคทีเรียบนหน้าอะไรอย่า
00:33:45 → 00:33:48 เงี้ยมันมันมีผลต่อสมดุลบนใบหน้าอะไครับ
00:33:48 → 00:33:50 ก็จะมีพวกอีกพวกนึงที่รบกวนสมดุลได้อีก
00:33:50 → 00:33:53 นอกจากพวกเครื่องกระชับก็พวกเลเซอร์ครับ
00:33:53 → 00:33:56 ผมพวกเยก็ทำให้ผิวหน้าแห้งได้พอผิวหน้า
00:33:56 → 00:33:58 แห้งเนี่ยพวกแบคทีเรียประจำถิ่นของเรา
00:33:58 → 00:34:00 เนี่ยเขาก็จะอ่อนแอลงแล้วก็จะมีแบคทีเรีย
00:34:00 → 00:34:03 บางส่วนเนี่ยที่ไม่ใช่แบคทีเรียประจำถิ
00:34:03 → 00:34:06 อ่ามันเติบโตขึ้นมาด้วยเลยทำให้เกิด
00:34:06 → 00:34:08 ปฏิกิริยาบางอย่างครับจนใบหน้าออกมาผิด
00:34:08 → 00:34:12 ปกติที่เราเห็นบ่อยๆก็คือผิวแห้งผิวลอก
00:34:12 → 00:34:14 หรือบางครั้งเป็นผดเป็นผืนโดยไม่รู้
00:34:14 → 00:34:16 สาเหตุเลยอ่าพวกนี้อาจจะเป็นว่าสมดุลพวก
00:34:16 → 00:34:18 นี้มันเสียทำให้แบคทีเรียเจ้าถิ่นเนี่ย
00:34:18 → 00:34:21 เขาหายไปอันนั้นพวกเนี้ยทำยังไงให้ดีขึ้น
00:34:21 → 00:34:23 ได้ทามอยจุไรเซอเยอะๆบำรุงผิวหน้าให้มี
00:34:23 → 00:34:26 ความชุ่มชื้นพอผิวหน้าเากลับมาสมดุลเนี่ย
00:34:26 → 00:34:28 แบคทีเรียประจำท้องถิ่นเขาก็จะเติบโตได้
00:34:28 → 00:34:31 ดีเพกแบคทีเรียส่วนอื่นเนี่ยก็จะน้อยลงไป
00:34:31 → 00:34:33 วงการความงาวนี่มันก้าวหน้าแบบตับใดที่
00:34:33 → 00:34:36 หมอไม่แก่เราก็จะไม่แก่เราจะไม่แกะไปด้วย
00:34:36 → 00:34:39 กันครับตามใดที่หมอไม่ตายเราก็ไม่ตายเรา
00:34:39 → 00:34:42 จะต้องอยู่กันไปอย่างงี้มันยังมีนวัตกรรม
00:34:42 → 00:34:44 อะไรใหม่ๆอีกมั้ยคะที่แบบว่าเราแบบว่า
00:34:44 → 00:34:47 สามารถตั้งหน้าตั้งตารอเป็นความหวังใหม่ๆ
00:34:47 → 00:34:49 ค่ะคุณหมอมีอะไรมาอัปเดตบ้างมั้ยคะก็เป็น
00:34:49 → 00:34:52 การอัปเดตแล้วกันครับปีหน้าเนาะน่าจะ
00:34:52 → 00:34:55 ประมาณ 1-2 ปีเนี้ยจะมีตัวใหม่มาเป็น Bone
00:34:55 → 00:34:58 replacement Filler ซึ่งเป็นฟลอร์ที่
00:34:58 → 00:35:00 ออกมาทดแทนเหมือนการเติมเสริมกระดูกเลย
00:35:00 → 00:35:03 ต้องแจ้งว่าใบหน้าเราเนี่ยมันจะมีความ
00:35:03 → 00:35:05 เสื่อมถอยได้มั้ยครับไม่ว่าจะเป็นชั้นพิว
00:35:05 → 00:35:08 หนังชั้นไขมันแต่ส่วนที่เราไม่ค่อยจำเลย
00:35:08 → 00:35:10 คือกระดูกเราจะมองข้ามไปแต่มันคือส่วนที่
00:35:10 → 00:35:13 สำคัญที่สุดเวลาเรารักษาเนาะอันนั้นฟลอร์
00:35:13 → 00:35:16 ในปัจจุบันยังไม่มีตัวไหนที่สามารถทดแทน
00:35:16 → 00:35:18 ใกล้เคียงความแข็งของกระดูกได้ตัวเนี้ยก็
00:35:18 → 00:35:21 จะมาทดแทนนะครับเป็นการเสริมเสริมเส้น
00:35:21 → 00:35:23 เอ็นเสริมบริเวณขอบกรอบใบหน้าเพื่อทำให้
00:35:23 → 00:35:26 กระดูกเหมือนตรงนั้นกลับมาเหมือนจมันชัดๆ
00:35:26 → 00:35:28 อย่างเงี้ยรอะไรอย่างงั้นครับได้เเริ่ม
00:35:28 → 00:35:30 ใช้กันในบางประเทศหรือยังคะมีแล้วครับ
00:35:30 → 00:35:32 ต่างประเทศมีแล้วแต่ประเทศไทยก็ยังรอ
00:35:32 → 00:35:36 กระบวนการอยู่อ๋อตัวที่ 2 เลยที่อยากจะ
00:35:36 → 00:35:40 แชร์ว่าไหมแน่นอนคือลิคิดทอกซินน้องโบว์
00:35:40 → 00:35:43 เราเนี่ยปกติมันจะมาเป็นลักษณะผงค่ะใช่ม
00:35:43 → 00:35:45 ครับเราก็ต้องมาผสมน้ำเกลือแต่น้องโบว์
00:35:45 → 00:35:47 ตัวใหม่ Liquid toxin ตัวเนี้ยเป็น ready
00:35:47 → 00:35:50 to use หมายความว่าเขเป็นสารละลายโบว์
00:35:50 → 00:35:52 มาเรียบร้อยและดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่อง
00:35:52 → 00:35:55 อะไรเคยได้ยินคำว่าหมอคลินิกเนี้ยใส่น้ำ
00:35:55 → 00:35:58 เกลือเยอะมั้ยครับเออประเด็นทอิกันเลยว่า
00:35:58 → 00:36:02 ิิเฉีโบวไม่เห็นผลเลยเหแกว่าแบบซีซีเยอะ
00:36:02 → 00:36:04 แต่จริงๆคือน้ำเปล่าอะไเงี้น้ำเกลือล้วนๆ
00:36:04 → 00:36:06 อะไรอย่างเงี้ยครับหรือบางครั้งก็เป็นการ
00:36:06 → 00:36:09 ใส่น้ำเกลือที่เยอะเกินไปเล็กน้อยเพื่อ
00:36:09 → 00:36:11 ให้ดูยูนิตได้เยอะขึ้นอ่าตัวนี้ก็ตัด
00:36:12 → 00:36:15 ปัญหาตรงนี้ได้สุดท้ายค่ะอยากให้คุณหมอ
00:36:15 → 00:36:17 ช่วยสรุปหน่อยค่ะว่าอยากสวยแต่ไม่อยาก
00:36:17 → 00:36:21 เสี่ยงนะคะเราควรจะต้องทำยังไงบ้างคะอยาก
00:36:21 → 00:36:23 สวยไม่อยากเสี่ยงเราก็ต้องเช็คครับแล้วก็
00:36:23 → 00:36:26 เช็คได้ 3 อย่างผมขอสรุปเลยคร่าวๆ 1 คือ
00:36:26 → 00:36:32 คลินิกแท้ครับผม 2 หมอแท้ 3 เลยคือยาแท้
00:36:32 → 00:36:35 ครับผมอันนั้นคลินิกแท้เข้าไปที่คลินิก
00:36:35 → 00:36:37 ทุกคลินิคนะครับเจะมีใบสี่เหลี่ยมแปะอยู่
00:36:37 → 00:36:40 นะครับอาจจะมองไม่ทันกันเพราะเน้นเลยว่า
00:36:40 → 00:36:43 ฉันจะมาซื้อของบางทีอาจจะสังเกตด้านตรง
00:36:43 → 00:36:45 ผนังนิดนึงต้องเป็นตำแหน่งที่ติดแล้วมอง
00:36:45 → 00:36:48 เห็นได้ง่ายครับตัวใบเนี้ยเขาจะเรียกว่า
00:36:48 → 00:36:51 ใบเช็คจากสาธารณสุขจังหวัดคลินิกเนี้ยได้
00:36:51 → 00:36:54 รับการตรวจได้รับมาตรฐาแของปลอมอ่ะคุณหมอ
00:36:54 → 00:36:56 มันมีวันที่มีตาปั๊มอาจจะกอปปี้ได้เหมือน
00:36:56 → 00:36:59 ยาเหมือนกันเออปของคนอื่นมาบแล้วก็ใส่
00:36:59 → 00:37:01 ชื่อตัวเองอะไรเงี้ยมันแบบอันนี้มันจะ
00:37:01 → 00:37:03 เช็คไม่ได้ครับจะไม่เหมือนการเช็คหมออื
00:37:03 → 00:37:06 อ่าเมื่อกี้คลินิคแท้ละอาจจะดูตรงนี้กัน
00:37:07 → 00:37:10 อันที่ 2 คือหมอแท้เว็บแพทยสภาสามารถเอา
00:37:10 → 00:37:13 ชื่อหมอเนี่ยเข้าไปใส่แล้วเสิร์ชได้ว่า
00:37:13 → 00:37:16 คุณหมอเนี่ยหมอแท้หรือเปล่าหรือหมอเป่า
00:37:16 → 00:37:18 หรือเปล่าจริมอะไรมยใช่ครับผมสามารถ
00:37:18 → 00:37:21 เสิร์ชได้แต่สำคัญนะครับชื่อนามสกุลต้อง
00:37:21 → 00:37:24 ตรงต้องสะกดถูกทุกตัวอักสดถูกบางทีบอกว่า
00:37:24 → 00:37:26 อ่ะไปสะกดมาแล้วไม่มีหมอคนเนี้ยลืมใส่
00:37:26 → 00:37:30 การันอออะไรเงี้ยลืมใส่การันโอ้โหโมโห
00:37:30 → 00:37:32 ใหญ่เลยหมอเหมอปลอมแน่นอนฉีดให้ฉันลืมใส่
00:37:32 → 00:37:35 กันันครับใส่การันให้ถูกสะกดให้ถูกครับก็
00:37:35 → 00:37:38 จะขึ้นชื่อคุณหมอคนนั้นอันที่ 3 เลยคือยา
00:37:38 → 00:37:41 แท้ค่ะยาแท้เนี่ยเช็คได้หลากหลายวิธียา
00:37:41 → 00:37:44 ปลอมก็พยายามเลียนแบบแต่ว่าโดยส่วนมากยา
00:37:44 → 00:37:46 แท้เาจะพยายามหาวิธีที่เป็นยิหรือว่า
00:37:46 → 00:37:48 ลักษณะที่ว่าเลียนแบบไม่ได้ไม่ว่าจะเป็น
00:37:48 → 00:37:52 ลักษณะของกล่องลักษณะของอยของสติกเกอร์ QR
00:37:52 → 00:37:55 Code รวมถึงอาจจะมีใบยืนยันที่จากบริษัท
00:37:55 → 00:37:58 ออกมาเพื่อลิงก์เข้าสู่เว็บสแกน QR coe
00:37:58 → 00:37:59 นี้ลิงก์เข้าสู่เว็บนี้ครับจะเป็นการ
00:37:59 → 00:38:02 คอนเฟิร์มบิ้ลเช็คอีกครั้งหนึงครับอืแต่
00:38:02 → 00:38:04 ส่วนมากพอพุ่งเข้าคลินิกก็ไม่ค่อยจะเช็ค
00:38:04 → 00:38:07 อะไรกันน่ะนะนคุณหมอดังนั้นต้องมี
00:38:07 → 00:38:11 จริยธรรมอืครับการรักษาใดๆก็ตามแมว่าเค้า
00:38:11 → 00:38:14 มาให้เรารักษาแล้วเราต้องมีจริยธรรมในการ
00:38:14 → 00:38:17 รักษาด้วยครับค่ะชมอยากจะขอขอบคุณนะคะทุก
00:38:17 → 00:38:20 ๆการติดตามนะคะรายการ on the way with
00:38:20 → 00:38:22 ชมแล้วก็ช่อง Live do มากๆเลยค่ะดีใจนะ
00:38:22 → 00:38:25 คะที่ทุกคนเข้ามาชมรายการนะคะแล้วก็กด
00:38:25 → 00:38:28 ไลค์กดแชร์กด Subscribe นะคะพวกเราพร้อม
00:38:28 → 00:38:31 ค่ะที่จะพัฒนาแล้วก็ปรับปรุงรายการของเรา
00:38:31 → 00:38:34 เนี่ยให้คนดูเนี่ยได้ประโยชน์มากที่สุดดู
00:38:34 → 00:38:38 รายการจบแล้วนะคะชอบอะไรไม่ชอบอะไรอยาก
00:38:38 → 00:38:40 ให้ปรับปรุงตรงไหนนะคะหรือว่าอยากให้ใคร
00:38:40 → 00:38:43 มาเป็นแขกรับเชิญเนี่ยก็คอมเมนต์มาบอกกัน
00:38:43 → 00:38:46 ได้ค่ะเพราะว่าทุกๆคำติชมเนะคะมีค่ามากๆ
00:38:46 → 00:38:48 สำหรับพวกเราค่ะเราจะได้นำมาพัฒนารายการ
00:38:48 → 00:38:51 ของเราเนี่ยให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะแล้วก็
00:38:51 → 00:38:53 พวกเราพยายามที่จะอยู่เคียงข้างนะคะแล้ว
00:38:53 → 00:38:55 ก็เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตของพวกคุณทุก
00:38:55 → 00:39:01 คนค่ะคอมเมนต์กันเข้ามาเยอะเยอะๆเลยนะคะ