00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีครับผมไปอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตนะ
00:00:04 → 00:00:06 ครับเมื่อหลายเดือนก่อนนะครับก็เจอว่ามี
00:00:06 → 00:00:09 คนรับประทานหมูดิบนะฮะแล้วจริงๆเรื่องนี้
00:00:09 → 00:00:12 มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรนะครับเ่าเพราะว่า
00:00:12 → 00:00:14 มันมีความเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อรุนแรง
00:00:14 → 00:00:16 อยู่ 2 โรคด้วยกันนะครับซึ่งเดี๋ยววันนี้
00:00:16 → 00:00:18 จะพูดให้ฟังว่ามันเป็นโรคอะไรบ้างนะครับ
00:00:19 → 00:00:22 แต่ที่น่าเป็นห่วงเพราะว่าผมเห็นข่าวเนะ
00:00:22 → 00:00:25 ครับมันออกมาครั้งหนึงตอนที่มีเรื่องซูชิ
00:00:25 → 00:00:27 หมูดิบนะฮะแต่ว่าถ้าเราย้อนไปดูเนี่ยนะ
00:00:27 → 00:00:29 ครับเรื่องของหมูดิบเนี่ยไม่ใช่เป็น
00:00:29 → 00:00:31 เรื่องใหม่เลยนะนะครับมีการพูดถึงมาแล้ว
00:00:31 → 00:00:33 ตั้งหลายปีที่แล้วนะครับก็มีการเตือนภัย
00:00:33 → 00:00:36 กันทุกๆครั้งนะครับแล้วก็ออกข่าวกัน
00:00:36 → 00:00:38 เรื่อยๆนะครับแต่พอออกข่าวเสร็จปุ๊บเนี่ย
00:00:38 → 00:00:40 ก็เป็นข่าวดังอยู่แป๊บเดียวแล้วมันก็หาย
00:00:40 → 00:00:43 ไปนะฮะทำให้คนเนี่ยอาจจะหลงลืมเรื่องนี้
00:00:43 → 00:00:45 ไปได้นะครับแล้วที่สำคัญคือถ้าท่านไป
00:00:45 → 00:00:48 เสิร์ชใน YouTube เนี่ยมันก็จะมีเมนูหมู
00:00:48 → 00:00:51 ดิบเยอะแยะไปหมดเลยนะครับสามารถหาได้ง่าย
00:00:51 → 00:00:53 ๆเลยนะครับแต่ว่าปัญหาคือเรื่องนี้มัน
00:00:53 → 00:00:55 อันตรายมากนะครับมันทำให้เกิดปัญหาได้
00:00:55 → 00:00:58 ค่อนข้างจะเยอะเลยนะครับแล้วมันก็ไม่มี
00:00:58 → 00:01:00 การเตือนภัยสำหรับคลิปเหล่านี้นะครับแล้ว
00:01:01 → 00:01:03 ผมเห็นคนดูแต่ละคลิปเนี่ยโอ้โหมีเป็นเป็น
00:01:03 → 00:01:06 หมื่นน่ะหลายหมื่นบางทีเป็นแสนนะครับก็มี
00:01:06 → 00:01:09 นะซึ่งมันน่ากลัวมากว่าทำไมเราจึงปล่อย
00:01:09 → 00:01:11 ให้คลิปเหล่านี้เนี่ยมันยังอยู่ใน YouTube
00:01:11 → 00:01:13 อยู่นะครับแล้วก็ไม่มีการเตือนภัยกันว่า
00:01:13 → 00:01:16 เออมันเป็นยังไงคนที่ดูข่าวก็เห็นครั้ง
00:01:16 → 00:01:19 เดียวแล้วก็เลิกตกใจนะครับปัจจุบันก็หาย
00:01:19 → 00:01:21 ไปเลยนะครับก็เลยอยากจะเอามาเน้นเรื่อง
00:01:21 → 00:01:23 นี้ให้ฟังอีกรอบนึงนะครับพบกับผมนะครับ
00:01:23 → 00:01:25 นายแพทย์ทนีธานียาวันะครับเป็นอาจารย์
00:01:25 → 00:01:27 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะครับ
00:01:27 → 00:01:29 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:01:29 → 00:01:32 บำบัดนะครับก่อนอื่นเลยนะครับผมต้องบอก
00:01:32 → 00:01:35 ว่าตัวการรับประทานเนื้อหมูดิบเนี่ยมันจะ
00:01:35 → 00:01:38 มีความเสี่ยง 2 โรคด้วยกันโรคแรกเป็นการ
00:01:38 → 00:01:40 ติดเชื้อแบคทีเรียนะครับโรคที่ 2 เป็นการ
00:01:40 → 00:01:43 ติดเชื้อพยาธตืดหมูนะครับแล้ว 2 แบบนี้
00:01:43 → 00:01:47 เนี่ยมันมีความแตกต่างกันผมเคยเจอคนไข้มา
00:01:47 → 00:01:50 ทั้ง 2 แบบแล้วนะครับตอนที่ผมทำงานอยู่
00:01:50 → 00:01:53 ประเทศไทยใช้ทุนนะครับจะเล่ากรณีแรกก่อน
00:01:53 → 00:01:57 นะครับคือโรคหูดับนะมันคืออะไรนะครับโรค
00:01:57 → 00:01:58 หูดับเนี่ยจริงๆมันเป็นการติดเชื้อ
00:01:58 → 00:02:01 แบคทีเรียนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า
00:02:01 → 00:02:03 streptococcus suis นะครับ
00:02:03 → 00:02:06 streptococcus suis นะครับอ่าตัวนี้
00:02:06 → 00:02:08 เนี่ยมันเป็นเชื้อแบคทีเรียซึ่งอยู่ในหมู
00:02:08 → 00:02:11 ่ะฮะมันอยู่ในทางเดินหายใจของหมูทางเดิน
00:02:11 → 00:02:14 อาหารนะครับแล้วก็ตามจมูกช่องทางเดิน
00:02:14 → 00:02:16 อากาศของหมูพวกเนะครับแล้วก็หมูบางตัว
00:02:16 → 00:02:19 เนี่ยจะมีอาการป่วยได้นะครับเช่นอาจจะมี
00:02:19 → 00:02:21 อาการคล้ายเป็นหวัดมีอาการปอดบวมปอด
00:02:21 → 00:02:25 อักเสบหรือหมูบางตัวก็จะมีเยืหุ้มสมองออก
00:02:25 → 00:02:27 เสบได้นะครับแล้วมันก็จะมีการแพร่จากหมู
00:02:27 → 00:02:32 สู่หมูได้เช่นกันนะครับแล้วคนที่เอ่อดูแล
00:02:32 → 00:02:35 หมูพวกนี้นะครับถ้าเกิดว่ามีการเ่อทำ
00:02:35 → 00:02:38 เขียงหมูนะครับแล้วก็อ่าดูแลศพหมูอะไร
00:02:38 → 00:02:40 อย่างเงี้ยหรือหั่นหมูโดยที่ไม่มีการป้อง
00:02:40 → 00:02:43 กันให้ดีเช่นไม่ได้ใส่ถุงมืออย่างเงี้ยนะ
00:02:43 → 00:02:45 ครับหรือว่าถ้ามือเนี่ยโดยเฉพาะถ้าเกิด
00:02:45 → 00:02:48 มือมีรอยถลอกรอยบาตรอะไรก็แล้วแต่นะครับ
00:02:48 → 00:02:50 จะสามารถทำให้เชื้อพวกเนี้ยเข้าไปสู่ร่าง
00:02:50 → 00:02:54 กายของคนได้นะครับนอกเหนือจากนี้ถ้าเกิด
00:02:54 → 00:02:57 ว่าคนเราไปทานเนื้อหมูดิบนะครับเราจะเห็น
00:02:57 → 00:03:00 ว่ามีเมนูเนื้อหมูดิบกันเยอะแยะไปหมดหมด
00:03:00 → 00:03:02 นะครับถ้าไปทานเนี่ยก็จะมีโอกาสได้รับ
00:03:02 → 00:03:04 เชื้อ streptococcal suis เข้าสู่ร่าง
00:03:04 → 00:03:07 กายนะครับเวลามันเข้าสู่ร่างกายแล้วเนี่ย
00:03:07 → 00:03:11 จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะครับประการแรกคือมัน
00:03:11 → 00:03:14 สามารถที่จะทำให้คนไข้คนนั้นเนี่ยมีปัญหา
00:03:14 → 00:03:17 ทางด้านหูดับไปเลยได้นะครับรักษาแล้วหู
00:03:17 → 00:03:20 มันก็ไม่หายนะครับดับทั้ง 2 ข้างนะครับ
00:03:20 → 00:03:23 นี่คือดับทั้ง 2 ข้างแล้วมันก็เป็นถาวรไป
00:03:23 → 00:03:25 ตลอดชีวิตนะฮะส่วนใหญ่จะไม่หายหรือบางคน
00:03:25 → 00:03:29 หายก็ไม่ 100% อาจจะได้ยินบ้างไม่ได้ยิน
00:03:29 → 00:03:31 บ้างนะครับนี่คือปัญหานะฮะแล้วบางคนก็คือ
00:03:32 → 00:03:34 มีการทรงตัวที่ผิดปกติไปนะครับยกตัวอย่าง
00:03:34 → 00:03:38 เช่นคนไข้ที่เอ่อผมเคยเจอที่ประเทศไทย
00:03:38 → 00:03:40 เนี่ยก็เป็นคนไข้ชาวอีสานนะครับอายุ
00:03:40 → 00:03:43 ประมาณสัก 37-38 ไม่มีโรคประจำตัวอะไรนะ
00:03:43 → 00:03:46 ครับแต่ว่าชอบทานพวกล่าหมูดิบนะครับทำ
00:03:46 → 00:03:49 อะไรก็กินดิบๆเข้ามาแล้วก็มาด้วยมีอาการ
00:03:49 → 00:03:52 ไข้สูงนะครับมีหูไม่ได้ยินรู้สึกว่าเดิน
00:03:52 → 00:03:55 เซนะครับอ่า 2-3 วันก่อนที่จะมาเจอหมอ
00:03:55 → 00:03:58 เนี่ยแหละครับพอมาถึงเนี่ยนะครับก็ตรวจ
00:03:58 → 00:04:00 ร่างกายเจอว่า
00:04:00 → 00:04:04 คนไข้คนเนี้ยมีอาการที่เอ่อสงสัยว่าตัว
00:04:04 → 00:04:07 เยืหุ้นสมองของเขาคอักเสบนะครับอาการมัน
00:04:07 → 00:04:09 เป็นยังไงก็คือเวลาที่หมอตรวจเนี่ยเขาจะ
00:04:09 → 00:04:12 ทำการตรวจด้วยการงอคอจะให้คนไข้นอนลงนะ
00:04:12 → 00:04:14 ครับนอนลงกับพื้นเอ่อหรือเตียงก็ได้นะ
00:04:14 → 00:04:18 ครับแล้วก็จะทำให้ทำการดึงคออย่างเงี้ลง
00:04:18 → 00:04:20 นะครับถ้าเกิดว่าเราดึงคอแล้วเนี่ยเ้ามี
00:04:21 → 00:04:24 อาการอักเสบของไข่สันหลังหรือยยืหุ้มยื
00:04:24 → 00:04:26 หุ้มสมองเนี่ยนะครับเวลาที่เราดึงอย่าง
00:04:26 → 00:04:28 เงี้ยคนไข้จะเจ็บมากแล้วจะไม่ยอมให้ดึงนะ
00:04:28 → 00:04:31 ครับเช่นว่าผมกดกดคอผมไนะถ้าถ้าเป็นคนที่
00:04:31 → 00:04:33 มีแบบเนี้ยกดยังไงคอก็จะไม่ลงนะครับเพราะ
00:04:34 → 00:04:35 ว่าเขาคจะต่อต้านมากถ้าเวลาเราดึงขึ้นมา
00:04:35 → 00:04:39 แล้วเเจ็บมากนะครับอ่าพวกเนี้ยอย่างนี้ก็
00:04:39 → 00:04:41 เจ็บนะครับงอไปข้างๆทั้ง 2 ข้างก็เจ็บนะ
00:04:41 → 00:04:44 ครับแล้วก็มีไข้นะฮะมีอาการหูเนี่ยไม่
00:04:44 → 00:04:47 ค่อยได้ยินแล้วก็มีที่สำคัญคือเดินเซมา
00:04:47 → 00:04:50 ด้วยนะครับรวมทั้งอาการต่างๆเนี่ยบ่งชี้
00:04:50 → 00:04:52 ว่าเา้ามีเยืขมูสมองอักเสบเราก็ทำการเจาะ
00:04:52 → 00:04:55 น้ำไขสหลังมาตรวจแล้วก็เจอว่าเป็นกรณีของ
00:04:55 → 00:04:59 โรคนี้นะครับทีนี้โรคนี้เนี่ยมันอันตราย
00:04:59 → 00:05:02 มากเพราะว่าถ้าเรารักษาไม่ถูกเนี่ยก็มี
00:05:02 → 00:05:05 โอกาสที่จะมีภาวะแทรกซ้อนเยอะแยะไปหมดนะ
00:05:05 → 00:05:08 ครับวิธีการรักษาเนี่ยถ้ามาถึงมือหมอขั้น
00:05:08 → 00:05:10 แรกเราต้องเจาะน้ำไขสัตหลังไปตรวจก่อนว่า
00:05:10 → 00:05:13 มีเชื้อแบบนี้หรือเปล่านะครับเราจำเป็นจะ
00:05:13 → 00:05:15 ต้องให้สเตียรอยด์นะครับสำหรับแพทย์ที่จบ
00:05:15 → 00:05:18 ใหม่นะครับเวลาเจอโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
00:05:18 → 00:05:20 ที่สงสัยว่าเป็นแบคทีเรียนะครับไม่ว่าจะ
00:05:20 → 00:05:23 อะไรก็แล้วแต่นะครับเราเราจะเรียกว่าโรค
00:05:23 → 00:05:26 แบค teral meningitis นะครับ meninges
00:05:26 → 00:05:28 ก็คือเป็นเยื่อหุ้มสมองนะครับ itis แปล
00:05:28 → 00:05:31 ว่าอักเสบ meningitis ก็คือเป็นเยื่อหุ้ม
00:05:31 → 00:05:33 สมองอักเสบถ้ามีแบคทีเรียต่อข้างหน้าก็จะ
00:05:33 → 00:05:35 เป็น bacterial meningitis หมายความว่า
00:05:35 → 00:05:37 เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อ
00:05:37 → 00:05:40 แบคทีเรียนะครับในกรณีนี้คนไข้มีประวัติ
00:05:40 → 00:05:42 ว่ารับประทานหมูดิบแล้วที่สำคัญคือมี
00:05:42 → 00:05:45 อาการหูดับกับอ่าการทรงตัวที่ผิดปกติไป
00:05:45 → 00:05:48 อันนี้แทบจะชี้ได้เลยว่าน่าจะเป็นจากตัว
00:05:48 → 00:05:50 เชื้อ streptococcus suis นะครับเวลา
00:05:50 → 00:05:53 รักษาเราต้องให้สเตียรอยก่อนเป็นอันดับ
00:05:53 → 00:05:56 แรกอย่าไปให้ยาฆ่าเชื้อก่อนนะครับเพราะ
00:05:56 → 00:05:58 ว่าการให้ยาฆ่าเชื้อก่อนเนี่ยมันจะทำให้
00:05:58 → 00:06:00 เกิดเชื้อพวพวกเนี้ยมันจะตายแล้วมัน
00:06:00 → 00:06:03 อักเสบแล้วเวลาเชื้อพวกเนี้ยอยู่ตามที่
00:06:03 → 00:06:04 เยื่อหุ้มสมองอักเสบพวกเนี้ยเวลามัน
00:06:05 → 00:06:07 อักเสบมากๆเนี่ยมันจะมีการบวมแล้วก็ไปอุด
00:06:07 → 00:06:10 กั้นพวกทางเดินของน้ำไข่สันหลังที่หล่อ
00:06:10 → 00:06:12 เลียนสมองทำให้เกิดอาการสมองบวมฉับพลัน
00:06:12 → 00:06:15 แล้วก็ตายได้นะครับดังนั้นเนี่ยโรคพวก
00:06:15 → 00:06:18 เนี้ยจะต้องให้สเตียรอยด์ก่อนเสมอเลยนะ
00:06:18 → 00:06:20 ครับให้สเตียรอยด์ไปสักประมาณ 20 นาที
00:06:20 → 00:06:22 แล้วเราค่อยให้ยาฆ่าเชื้อหรือจะให้ไป
00:06:22 → 00:06:25 พร้อมกันทั้ง 2 อย่างก็ได้แต่ห้ามให้ยา
00:06:25 → 00:06:28 ฆ่าเชื้อแล้วค่อยไปให้ยาสเตียรอยด์ทีหลัง
00:06:28 → 00:06:30 ไม่ได้นะครับต้องทำอย่างนี้ก่อนอันนี้
00:06:30 → 00:06:33 เป็นอะไรที่แพทย์จบใหม่จะต้องทราบเลยนะ
00:06:33 → 00:06:36 ครับอ่าเราให้ไปอย่างนี้แล้วเนี่ยนะครับ
00:06:36 → 00:06:39 เราก็จะต้องเฝ้ารอดูอาการให้ดีนะครับ
00:06:39 → 00:06:41 เพราะคนไข้เหล่านี้ก็มีโอกาสจะแย่ลงได้นะ
00:06:41 → 00:06:44 ครับแล้วที่สำคัญก็คือเวลาที่เราให้ยาการ
00:06:44 → 00:06:48 รักษาพวกเนี้ยมันไม่ได้มีแค่โรคอ่าเยี่
00:06:48 → 00:06:49 มุมสมองอักเสบที่เรากังวลอย่างเดียวนะ
00:06:49 → 00:06:52 ครับมันมีโรคอื่นเช่นไอ้เชื้อโรคตัวเนี้ย
00:06:52 → 00:06:54 มันอาจจะติดเข้าไปในกระแสเลือดทำให้ติด
00:06:54 → 00:06:57 เชื้อรุนแรงในกระแสเลือดก็ได้นะครับแล้ว
00:06:57 → 00:07:00 ที่สำคัญก็คือมันอาจจะไปติดโดนเอ่อลิ้น
00:07:00 → 00:07:03 หัวใจนะครับทำให้มีลิ้นหัวใจอักเสบจาก
00:07:03 → 00:07:05 เชื้อแบคทีเรียซึ่งพวกเนี้ยรักษากันเป็น
00:07:05 → 00:07:08 เดือนเลยครับส่วนใหญ่ก็จะประมาณสัก 4-6
00:07:08 → 00:07:10 อาทิตย์เนี่ยที่เราต้องรักษานะครับด้วยยา
00:07:10 → 00:07:12 ฆ่าเชื้อนะครับแบบฉีดด้วยแบบกินเใช้ไม่
00:07:12 → 00:07:15 ได้ผลนะฮะนี่ก็อาจจะเป็นอะไรที่ทำให้คน
00:07:15 → 00:07:17 ไข้นลำบากเพราะว่ามันไม่ใช่การรักษาแป๊บ
00:07:17 → 00:07:19 เดียวแล้วก็จบนะครับมันต้องรักษาระยะยาว
00:07:19 → 00:07:22 นะฮะและที่สำคัญคือถ้ามีอาการหูดับพวก
00:07:22 → 00:07:25 เนี้ยซึ่งสเราเราเจอเยอะนะครับเกินครึ่ง
00:07:25 → 00:07:27 หนึ่งของคนไข้ที่เป็นจากเชื้อตัวเนี้ยนะ
00:07:27 → 00:07:30 ฮะมันจะมีอาการหูดับนะครับแล้วต่อให้เรา
00:07:30 → 00:07:32 รักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบทุกอย่างดีแล้ว
00:07:32 → 00:07:35 หูมันก็ไม่หายดับนะครับบางคนก็จะมีอาการ
00:07:35 → 00:07:38 เดินเซแล้วอาการเดินเซก็ไม่หายนะครับอ่า
00:07:38 → 00:07:41 เราต้องมากายภาพอะไรกันเยอะแยะรักษาหาย
00:07:41 → 00:07:43 มันก็จะเป็นอย่างนี้ไปตลอดนะครับนี่คือ
00:07:43 → 00:07:46 โรคที่น่ากลัวมากๆนะครับโรคหูดับที่เกิด
00:07:46 → 00:07:50 จากสปตคัินะฮะที่มาจากหมูดิบนะฮะไม่ว่า
00:07:50 → 00:07:53 ท่านจะทานเนื้อหมูดิบๆด้วยอะไรก็แล้วแต่
00:07:53 → 00:07:55 นะครับไม่ควรเด็ดขาดนะครับแล้วก็พวก
00:07:55 → 00:07:57 วีดีโอใน Youtube ถ้าท่านไปเปิดดูแล้ว
00:07:57 → 00:08:00 เอ๊ะเฮ้ยมันดูน่ากินจังเลยมันดูแซ่บจัง
00:08:00 → 00:08:03 เลยนะครับมีวีีดีโอสอนทำเนื้อหมูดิบทำลาบ
00:08:03 → 00:08:05 หมูดิบหรือทำลู่หมูดิบหรืออะไรก็แล้วแต่
00:08:05 → 00:08:07 นะครับอย่าไปกินนะครับอันนี้ถ้ามันเป็น
00:08:07 → 00:08:10 ปัญหาขึ้นมาแล้วเนี่ยเอ่อมันเป็นแล้วมัน
00:08:10 → 00:08:13 ไม่หายนะครับอ่าโรคที่ 2 ซึ่งอยากจะบอกก็
00:08:13 → 00:08:16 คือเป็นโรคพยาธตืดหมูนะครับตัวตืดหมู
00:08:16 → 00:08:19 เนี่ยเราจะเรียกว่าทีเนียนะครับนามสกุลก็
00:08:19 → 00:08:22 คือทีเนียียมนะครับจริงๆตืดหมูเนี่ยมันมี
00:08:22 → 00:08:26 2 อย่างคือทียโซเดียมกับทียเอชินะครับ
00:08:26 → 00:08:28 อาจจะชื่อแปลกๆนิดนึงท่านไม่ต้องจำก็ได้
00:08:28 → 00:08:31 นะครับแล้วก็มีพยาธิตืดวัวอีกตัวนึงชื่อ
00:08:31 → 00:08:33 ว่าทีย saginata นะครับถ้าเป็นแพทย์ก็
00:08:33 → 00:08:35 ต้องรู้จักเรื่องพวกนี้นะครับแต่ว่าถ้า
00:08:35 → 00:08:37 ไม่ใช่แพทย์ไม่เป็นไรฟังผ่านเอาสนุกสนุก
00:08:37 → 00:08:41 ก็พอนะครับแต่ปัญหาของมันคือในตืดหมู
00:08:41 → 00:08:44 เนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไงนะครับเวลาคนเรา
00:08:44 → 00:08:47 ไปรับประทานเนื้อหมูที่มันดิบอยู่เนี่ย
00:08:47 → 00:08:50 อ่าเคยได้ยินมั้ยครับว่าหมูมีเม็ดสาคูนะ
00:08:50 → 00:08:53 ครับไอ้เม็ดสาคูนี่แหละครับคือพยาธตัวพวก
00:08:53 → 00:08:56 นี้แหละครับพยาธพวกนี้เนี่ยมันเป็นตัวตืด
00:08:56 → 00:08:57 เนี่ยมันเข้าไปอยู่ในหมูนะครับมันก็จะ
00:08:57 → 00:08:59 เข้าไปอยู่ตามกล้ามเนื้อของหมูหรือหรือ
00:08:59 → 00:09:01 เนื้อของหมูนั่นเองแล้วก็จะเป็นเม็ดสาคู
00:09:01 → 00:09:04 กลมๆใสๆนะครับข้างในก็จะมีตัวพยาธอยู่ถ้า
00:09:04 → 00:09:07 เราไปทานเนื้อหมูที่มันดิบี่เงี้ยทานเข้า
00:09:07 → 00:09:11 ไปนะครับอ่าพยาธพวกเนี้ยมันจะเข้าไปในลำ
00:09:11 → 00:09:13 ไส้ของเราแล้วมันก็จะออกมาจากตัวซิสของ
00:09:13 → 00:09:15 มันที่มันเป็นเนื้อสาคูตัวเนี้ยเกาะกับ
00:09:15 → 00:09:17 ล้ำไส้เราแล้วก็จะกลายเป็นพยาธตัวตืดนะ
00:09:17 → 00:09:20 ครับไอ้ตัวตืดพวกเนี้ยนะฮะ
00:09:20 → 00:09:24 อ่ามันไม่ใช่จบแค่นั้นนะครับบางคนเนี่ยนะ
00:09:24 → 00:09:26 ครับไอ้ตัวตืดมันเข้าไปอยู่ในร่างกายเรา
00:09:26 → 00:09:28 เนี่ยมันจะใช้เวลาประมาณสัก 2 เดือนมันก็
00:09:28 → 00:09:30 จะโตเต็มที่ละนะครับโตเต็มที่ของมันยาว
00:09:30 → 00:09:33 แค่ไหนโเต็มที่ของมันเนี่ยส่วนใหญ่ประมาณ
00:09:33 → 00:09:37 5 มตแต่เราเจอมาแล้วนะครับว่ามันยาว 20
00:09:37 → 00:09:40 กว่าเมตรนะฮะ 20 กว่าเมตอยู่ในลำไส้เรา
00:09:40 → 00:09:42 อ่ะเป็นหนอนตัวยาวๆอย่างนั้นน่ะท่านคิดดู
00:09:42 → 00:09:45 สินะครับคนไขอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้
00:09:45 → 00:09:47 นะครับหรือบางคนอาจจะมีอาการคลื่นแส้
00:09:47 → 00:09:50 อาเจียนอาหารไม่ย่อยท้องเสียหรืออะไรพวก
00:09:50 → 00:09:52 นี้ก็ได้นะครับอ่าหรือมีน้ำหนักลดอย่าง
00:09:52 → 00:09:55 นี้ก็ได้หรือว่าเราเจอว่ามีเอ่อขาดธาตุ
00:09:55 → 00:09:57 เหล็กเพราะว่าไอ้ตัวพยาธพวกนี้มันไปดูด
00:09:57 → 00:10:00 เอาของกินเราไปหมดนะครับทำให้เราไม่มีสาร
00:10:00 → 00:10:02 ไม่มีสารอาหารที่เพียงพอนะครับพยานมันก็
00:10:02 → 00:10:06 โตไปเรื่อยๆนะครับแต่นี่ไม่ใช่ปัญหาที่
00:10:06 → 00:10:10 น่ากลัวมันมีน่ากลัวไปกว่านั้นอีกคืออะไร
00:10:10 → 00:10:12 ไอ้ตัวตืดพวกเนะครับโดยเฉพาะตืดหมูเนี่ย
00:10:12 → 00:10:15 มันอยู่ในลำไส้เรานะครับตืดเนี่ยมันจะมี
00:10:15 → 00:10:17 เป็นปล้องๆนะครับภาษาทางการแพทย์ 1 ปล้อง
00:10:17 → 00:10:20 เราจะเรียกว่าโปรกติดนะครับโปรกติดนะใน
00:10:20 → 00:10:24 แต่ละโปรกติดเนี่ยมันจะมีไข่มันอยู่อ่า
00:10:24 → 00:10:27 มันไม่ใช่มีแค่ฟอง 2 ฟองนะครับ 1 ปล้อง
00:10:27 → 00:10:29 ของมันเนี่ยปล้องของมันจะยาวซักประมาณ
00:10:29 → 00:10:32 เท่าเนี้ยนะฮะเล็กๆเนี่ยอย่างเงี้ยนะครับ
00:10:32 → 00:10:35 ปล้องเท่าเนี้ยเล็กๆนะครับ 1 ปล้องเนี่ย
00:10:35 → 00:10:39 มันมีไข่เป็นหมื่ฟองนะฮะฟังไม่ผิดครับ
00:10:39 → 00:10:42 10,000 ฟองนะครับบางตัวมี 50,000 ฟองถ้า
00:10:42 → 00:10:44 เป็นตื่นวัวนี่ 100,000 ฟองต่อปล้องเล็กๆ
00:10:44 → 00:10:46 แล้วท่านคิดดูซิปล้องเล็กเท่านี้แล้วความ
00:10:46 → 00:10:50 ยาว 5 เมตรท่านมีกี่ปล้องครับไข่มีเป็น 10
00:10:50 → 00:10:53 ล้าน 100 ล้านฟองนะครับใน 1 ตัวนะฮะแล้ว
00:10:53 → 00:10:55 ท่านคิดดูถ้าไข่พวกนี้มันออกมาแล้วเกิด
00:10:55 → 00:10:57 อะไรขึ้นไข่พวกเนี้ยเวลามันแตกออกมาในลำ
00:10:57 → 00:10:59 ไส้เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือมันจะเข้า
00:10:59 → 00:11:02 สู่ลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดของคนแล้วไปตาม
00:11:02 → 00:11:05 กล้ามเนื้อนะครับไปสู่พวกอวัยวะภายในแล้ว
00:11:06 → 00:11:08 มันก็อยู่อยู่ตรงนั้นน่ะกลายเป็นซีส
00:11:08 → 00:11:11 เหมือนกับสาครูหมูเลยนะครับอยู่ตามกล้าม
00:11:11 → 00:11:14 เนื้อขากล้ามเนื้อแขนอยู่เข้าไปในสมอง
00:11:14 → 00:11:16 เข้าไปในลูกตาได้หมดเลยทุกที่เลยนะครับ
00:11:16 → 00:11:19 แล้วพวกเนี้ยมันจะมีชีวิตอยู่ได้เป็นปีๆ
00:11:19 → 00:11:22 เลยนะมันไม่ตายนะครับมันไม่ตายนะเข้าไป
00:11:23 → 00:11:24 อยู่ในกล้ามเนื้อบางคนก็จะไม่มีอาการอะไร
00:11:24 → 00:11:26 ทั้งสิ้นบางคนก็จะปวดกล้ามเนื้อแต่นี่ไม่
00:11:26 → 00:11:28 ใช่ประเด็นสำคัญเพราะว่าอยู่ในกล้ามเนื้อ
00:11:28 → 00:11:32 คนไม่ตายไม่มีปัญหาที่น่ากลัวคือมันเข้า
00:11:32 → 00:11:33 ไปใน
00:11:33 → 00:11:36 สมองผมเคยเห็นคนไข้ที่มาด้วยไอซิสพวกนี้
00:11:36 → 00:11:40 อยู่ในสมองอ่ะเป็นรเม็ดน่ะเป็นรเม็ดแล้ว
00:11:40 → 00:11:43 มาด้วยอาการปวดหัวรุนแรงนะครับแล้วมันทำ
00:11:43 → 00:11:44 ให้ตายได้นะครับ
00:11:44 → 00:11:48 อ่าทีนี้อันนี้อยากจะบอกสำหรับแพทย์หน่อย
00:11:48 → 00:11:51 นะครับว่าวิธีรักษาเนี่ยคืออะไรโรคที่น่า
00:11:51 → 00:11:54 กลัวมากๆก็คือไอ้ซีสพวกนี้มันไปอยู่ใน
00:11:54 → 00:11:56 สมองของคนเราจะเรียกว่า
00:11:56 → 00:11:59 neurocysticercosis นะครับนูโรก็คือระบท
00:11:59 → 00:12:03 ประสาท ctic ก็คือ C ccis เนี่ยมันเเอา
00:12:03 → 00:12:05 เป็นว่าเรียกมันเป็นโรคแล้วกัน
00:12:05 → 00:12:07 neurocysticercosis เนี่ยก็คือไอ้ตัวซิส
00:12:07 → 00:12:09 พวกเนี้ยมันจะไปอยู่ในของสมองเต็มไปหมด
00:12:09 → 00:12:12 แล้วมันขึ้นอยู่กับว่ามันไปอยู่ตรงไหนของ
00:12:12 → 00:12:15 สมองนะครับถ้ามันไปอยู่ตรงบริเวณผิวๆสมอง
00:12:15 → 00:12:17 นะครับตรงนั้นเนี่ยจะทำให้คนไข้ชักได้ก็
00:12:17 → 00:12:20 จะเป็นโรคลมชักได้ดังนั้นในโรคลมชักที่
00:12:20 → 00:12:22 ประเทศไทยหรือแถบเอเชียเนี่ยเราตรวจสแกน
00:12:22 → 00:12:26 สมองเสมอเพราะว่ามันมีไอ้พยาธิพวกเยเยอะ
00:12:26 → 00:12:29 นะครับถ้ามันไปอยู่ในทางเดินของน้ำที่
00:12:29 → 00:12:31 หล่อเลี้ยงสมองอาจจะทำให้ทางเดินมันตัน
00:12:31 → 00:12:34 เพราะมันตันเนี่ยความดันในสมองมันจะสูง
00:12:34 → 00:12:37 ดันเอาสมองเลื่อนเวลาสมองเลื่อนคนไข้เสีย
00:12:37 → 00:12:40 ชีวิตได้นะครับอมาด้วยปวดหัวแล้วเสีย
00:12:40 → 00:12:43 ชีวิตได้นะอี่คือน่ากลัวมากนะครับหรือถ้า
00:12:43 → 00:12:46 มันมีเยอะๆนะแล้วมันก่อให้เกิดการอักเสบ
00:12:46 → 00:12:48 พร้อมกันทีเดียวนะคนไข้สมองบวมแล้วก็เสีย
00:12:48 → 00:12:51 ชีวิตได้นะครับวิธีการ
00:12:51 → 00:12:56 รักษาอย่าให้ยาต้านพยาธเด็ดขาดห้ามให้นะ
00:12:56 → 00:13:00 ครับเราจะต้องรักษาอาการที่คนให้เป็นก่อน
00:13:00 → 00:13:05 เลยนะครับเช่นมีอาการของสมองบวมแล้วทำให้
00:13:05 → 00:13:08 ตัวเนื้อของสมองเนี่ยมันบวมบวมๆปุ๊บเนี่ย
00:13:08 → 00:13:10 มันจะเกิดอาการอันนึงซึ่งเป็นบวมน้ำซึ่ง
00:13:10 → 00:13:13 เราเรียกว่าไฮโดรเซฟฟาลัสนะครับไฮโดรแปล
00:13:13 → 00:13:17 ว่าน้ำเฟัคือหัวนะครับหัวน้ำนั่นเองนะฮะ
00:13:17 → 00:13:19 มีน้ำในสมองเนี่ยดันมากๆดันมากๆเนี่ยมัน
00:13:19 → 00:13:21 จะทำให้สมองเลื่อนแล้วก็เราเสียชีวิตได้
00:13:21 → 00:13:24 นะครับพวกเนี้ยอาจจะต้องผ่าตัดก่อนเพื่อ
00:13:24 → 00:13:26 ที่จะเอาน้ำในสมองเนี่ยเอามันไปที่อื่นซะ
00:13:26 → 00:13:29 ก่อนเพื่อลดความดันในสมองอันดับแรกก่อน
00:13:29 → 00:13:32 ถ้าคนไข้มีชักจะต้องกินยากัชักให้ยากัชัก
00:13:32 → 00:13:35 จนกระทั่งคนไข้ไม่ชักก่อนถ้าคนไข้มีสงสัย
00:13:35 → 00:13:38 ว่าปวดหัวท่านจะต้องดูว่าปวดเพราะอะไรนะ
00:13:38 → 00:13:41 ครับประการแรกถ้าปวดเพราะว่ามันมีความดัน
00:13:41 → 00:13:44 ในสมองที่สูงท่านอาจจะต้องผ่าตัดลดความ
00:13:44 → 00:13:47 ดันในสมองก่อนนะครับประการที่ 2 ถ้าไม่มี
00:13:47 → 00:13:50 ภาวะการอุดตันของน้ำไข่สันหลังน้ำที่
00:13:50 → 00:13:52 เลี้ยงสมองไม่มีนะครับแต่เป็นเพราะว่า
00:13:52 → 00:13:55 เนื้อสมองมันบวมมากๆแล้วปวดหัวพวกเนี้ยจะ
00:13:55 → 00:13:59 ต้องให้สตีรอยด์เข้าไปก่อนต้องให้สติรอย
00:13:59 → 00:14:01 เข้าไปก่อนเพื่อลดการอักเสบที่เกิดจากตัว
00:14:01 → 00:14:04 ซิสพวกเนี้ยที่มีพยาธอยู่ข้างในนะครับลด
00:14:04 → 00:14:07 การอักเสบให้หมดก่อนพอคนไข้ไม่มีอาการใดๆ
00:14:07 → 00:14:09 ทั้งสิ้นก็คือไม่เหลือปวดหัวแล้วนะครับ
00:14:09 → 00:14:12 ไม่มีปวดหัวไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นตอนนี้
00:14:13 → 00:14:18 แหละครับท่านถึงจะให้ยาเพื่อที่จะฆ่า
00:14:18 → 00:14:22 พยาธิทิ้งซะนะครับให้เมื่อควบคุมทุกอย่าง
00:14:22 → 00:14:24 ได้จะต้องไม่มีชักจะต้องไม่มีปวดหัวจะ
00:14:24 → 00:14:26 ต้องไม่มีภาวะน้ำเกินหรือว่าความในในสมอง
00:14:26 → 00:14:29 เพิ่มขึ้นนะครับทุกอย่างต้องปกติหมดจึงจะ
00:14:29 → 00:14:33 ให้ยา่าพยาธินะครับยาฆ่าพยาธนี้คือมันให้
00:14:33 → 00:14:35 ไปเพื่อที่จะให้พยาธิมันตายเร็วขึ้นนะ
00:14:35 → 00:14:37 ครับแล้วมันตายก็จะกลายไปเป็นก้อนๆอยู่ใน
00:14:37 → 00:14:39 สมองนะฮะมันไม่หายไปไหนนะครับเราไม่ต้อง
00:14:39 → 00:14:41 ผ่าเอาออกนะครับผ่าเอาออกก็จะมีปัญหามาก
00:14:41 → 00:14:43 กว่าเดิมนะครับเพราะพวกเนี้ยบางครั้งเรา
00:14:43 → 00:14:45 เจอกันเป็น 100 เม็ดเป็นเลยนะครับบางทีก็
00:14:45 → 00:14:48 อาจจะมี 2-3 เม็ดนะฮะถ้ามีอยู่เม็ดเดียว
00:14:48 → 00:14:50 เนี่ยอาจจะต้องมาดูแยกว่าเอ้ยมันเป็นพยาธ
00:14:50 → 00:14:53 หรือมันเป็นจากอะไรนะครับตรงเนี้ยก็
00:14:53 → 00:14:56 จำเป็นจะต้องลดการอักเสบก่อนถ้าหมอรักษา
00:14:57 → 00:14:59 ไม่เป็นเนี่ยแล้วไปให้ยาฆ่าพยาธิก่อน
00:14:59 → 00:15:01 เพราะว่าเห็นคนนไข้มาด้วยปวดหัวให้ยา่า
00:15:01 → 00:15:03 พยาธิเนี่ยร้อยทั้งร้อยเนี่ยแย่หมดทุกคน
00:15:03 → 00:15:05 นะครับอาจจะเสียชีวิตด้วยซ้ำไปนะครับนี่
00:15:05 → 00:15:08 คือเป็นอะไรที่อยากจะเตือนน้องหมอจบใหม่
00:15:08 → 00:15:11 นะครับถ้าไปเจอ neurocysticercosis เนี่ย
00:15:11 → 00:15:13 เวลาสงสัยเราจะเห็นว่าเป็นจุดในสมองนะ
00:15:13 → 00:15:16 ครับอาจจะมีซีสอาจจะเห็นตัวหัวมันนะครับ
00:15:16 → 00:15:18 หัวพยาธตรงเนี้ยเรามีชื่อเรกทางการแพทย
00:15:18 → 00:15:21 เรียกว่าสกกนะครับสกกนะอ่าท่านที่ไม่ใช่
00:15:21 → 00:15:24 หมอไม่ต้องจำไม่เป็นไรนะครับเอาตลกๆแล้ว
00:15:24 → 00:15:25 กันมันเป็นสโกเหล็กมันเป็นหัวมันน่ะเรา
00:15:25 → 00:15:27 เห็นมันเป็นพยาธอยู่เนี่ยไอ้ตัวซีสกลมๆ
00:15:27 → 00:15:29 เนี่ยในเย็นสมองนะครับแล้วมันมักจะมีมาก
00:15:29 → 00:15:32 กว่า 1 อันนะฮะถ้าเราเจอแบบเนี้ยให้รักษา
00:15:32 → 00:15:35 อาการของคนไข้ก่อนอย่าให้ยาต้านพยาธโดย
00:15:35 → 00:15:37 เด็ดขาดไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ครับอย่าไป
00:15:37 → 00:15:41 สนใจมันไม่ให้นะฮะอ่านี่คือประเด็นหลักๆ
00:15:41 → 00:15:44 นะครับในการจัดการกับไอ้ตัวพยาธพวกนี้นะ
00:15:44 → 00:15:49 ครับยาที่เราให้ค่าพยาธถามว่าคือยาอะไรนะ
00:15:49 → 00:15:51 ครับอ่าส่วนใหญ่เราจะต้องให้ร่วมกันทั้ง
00:15:51 → 00:15:53 หมด 2 ตัวคือ 1 เอ bend Sou นะครับตัว
00:15:53 → 00:15:56 ที่ 2 ก็คือตัว Plastic quel นะฮะเราจะ
00:15:56 → 00:15:59 ให้ร่วมกันนะครับยาตัวอื่นๆที่มีอ่านิโซ
00:16:00 → 00:16:02 พวกนี้อาจจะให้ได้บ้างนะครับแต่ว่าไอ้ตัว
00:16:02 → 00:16:04 2 ตัวเนี้ยมันเป็นตัวหลักของประเทศไทยนะ
00:16:04 → 00:16:06 ครับก็อาจจะเป็นตัวนั้นไปก่อนนะครับอ่า
00:16:06 → 00:16:09 นี่คือวิธีการแล้วที่สำคัญคือการจัดเก็บ
00:16:09 → 00:16:11 เนื้อหมูนะครับมันจะต้องจัดเก็บถ้าท่าน
00:16:11 → 00:16:14 เอาไปทำให้มันสุกแล้วนะไอ้ตัวพวกเนี้ยตาย
00:16:14 → 00:16:16 หมดไม่มีปัญหากินเข้าไปท่านก็ไม่เป็นอะไร
00:16:16 → 00:16:18 นะครับพยาธมันตายไปแล้วนะครับหรืออีกแบบ
00:16:18 → 00:16:20 นึงก็คือเอาไปแช่เย็นแต่แช่เย็นไม่ใช่ตู้
00:16:20 → 00:16:23 เย็นธรรมดานะครับตู้เย็นแบบปกติช่องฟรีซ
00:16:23 → 00:16:25 เราเนี่ยไม่ได้ผลนะครับพยาตไม่ตายนะครับ
00:16:25 → 00:16:27 อยากให้มันตายเนี่ยท่านต้องไปแช่ช่องที่
00:16:27 → 00:16:30 มันติด -20 10 องาหรือติด-บ 30 องศานะ
00:16:30 → 00:16:33 ครับแช่ไปเลยอาทิตย์นึงเชื้อพวกเนี้ยพยาธ
00:16:33 → 00:16:37 พวกนี้มันตายนะครับอ่านี่ก็คือวิธีในการ
00:16:37 → 00:16:39 ที่เราจะต้องป้องกันนะครับดังนั้นแล้ว
00:16:39 → 00:16:43 เนี่ยท่านควรจะต้องรู้นะครับทานหมูดิบไม่
00:16:43 → 00:16:46 มีอะไรดีสักอย่างหมูไม่ควรทานดิบโดยเด็ด
00:16:46 → 00:16:49 ขาดไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่นะครับแล้วนี่ผม
00:16:49 → 00:16:51 เห็นข่าวมันออกมาหลายครั้งแล้วตั้งผมตาม
00:16:51 → 00:16:54 ไปอ้า 5 ปีก็มีข่าวนี้แล้วนะครับ 2 ปี
00:16:54 → 00:16:56 ก่อนก็มีข่าวนี้ที่นึงอันนี้ไม่กี่เดือน
00:16:56 → 00:16:58 ก็มีข่าวนี้อีกอ้าทำไมมันไม่หมดสักทีทำไม
00:16:58 → 00:17:00 คนเรามันยังยังไม่เข้าใจเรื่องนี้กันอีก
00:17:00 → 00:17:03 เหรอแล้วทำไมใน YouTube ยังมีเมนูพวกนี้
00:17:04 → 00:17:06 อยู่แล้วคนยังไปดูเป็นหมื่นเป็นแสนคนผม
00:17:06 → 00:17:08 คิดว่าถ้าเกิดคนดูขนาดเนี้ยก็แปลว่าเขาสน
00:17:08 → 00:17:11 ใจอยากจะเอาไปทำกินนะฮะอย่ากินนะครับอย่า
00:17:12 → 00:17:14 ไปหามากินเพราะว่าถ้ามันเกิดปัญหาแบบนี้
00:17:14 → 00:17:16 ขึ้นมาแล้วเนี่ยไม่มีใครช่วยช่วยท่านได้
00:17:16 → 00:17:19 นะฮะอย่างเช่นเ่อเยื่อหุ้มสมองอักเสบจาก
00:17:19 → 00:17:22 เชื้อสตคสวสที่มาจากหมูเนี่ยนะฮะถ้าท่าน
00:17:22 → 00:17:25 หูดับหรือถ้าท่านเสียการทรงตัวไปแล้วท่าน
00:17:25 → 00:17:28 เสียไปเลยนะครับแก้ไม่ได้นะฮะมาถึงมือหมอ
00:17:28 → 00:17:30 ก็ไม่หายนะครับไปกินยาสมุนไพรอะไรก็ไม่มี
00:17:30 → 00:17:33 ประโยชน์ทั้งสิ้นนะครับผ่าตัดก็ไม่ช่วยนะ
00:17:33 → 00:17:36 ครับไม่หายนะแล้วถ้าท่านเป็นตืดหมูท่าน
00:17:36 → 00:17:40 คิดดูไอ้เม็ดตืดหมูพวกเนี้ยปล้องนึงอย่าง
00:17:40 → 00:17:43 ที่ผมบอกมีไข่มันเป็นหมื่นเป็นแสนฟองอ่ะ
00:17:43 → 00:17:44 แล้วมันเข้าไปในตัวท่านเข้าไปอยู่ในสมอง
00:17:44 → 00:17:46 แล้วได้เกิดอะไรขึ้น
00:17:46 → 00:17:49 อ่าแล้วถามว่าคนไข้ชักแล้วกินยาการชักกิน
00:17:49 → 00:17:51 ไปตลอดมั้ยก็อาจจะต้องกินตลอดชีวิตนะฮะ
00:17:51 → 00:17:54 นี่หาเรื่องให้ตัวเองกินยาเพิ่มตลอดชีวิต
00:17:54 → 00:17:57 นะครับอ่าดังนั้นเนี่ยคนนี้ก็อยากจะออกมา
00:17:57 → 00:18:01 เตือนทุกๆคนนะครับอย่าหาทำเด็ดขาดนะครับ
00:18:01 → 00:18:03 ถ้าใครที่มีคนสงใจว่าอยากจะกินไอเนี่ย
00:18:03 → 00:18:06 อย่าไปกินนะครับโดยเฉพาะคนที่อีอยู่อีสาน
00:18:06 → 00:18:09 นะครับคนไข้ผมทั้ง 2 คนที่รักษาเนี่ยเป็น
00:18:09 → 00:18:11 คนอีสานทั้งคู่แล้วก็มีประวัติเรื่องไอ้
00:18:11 → 00:18:13 หมูดับหมูดิบเนี่ยนะฮะทั้งคู่เลยนะครับ
00:18:13 → 00:18:17 เอ่ออย่ากินเด็ดขาดนะครับโอเควันนี้ก็มา
00:18:17 → 00:18:19 เตือนเท่านี้นะครับใครมีข้อสงสัยอะไรก็
00:18:19 → 00:18:21 สอบถามมาได้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
00:18:21 → 00:18:24 ครับ