00:00:00 → 00:00:03 ก็เคยเจอนะฮะคือหน้าที่ของตัวแทนบางที
00:00:03 → 00:00:07 เนี่ยก็เกินตัวเกินตัวหมายถึงว่าเพื่อที่
00:00:07 → 00:00:10 จะปกป้องตนเองโคตนเองอย่างยกตัวอย่างเลย
00:00:10 → 00:00:13 ก็หลายครั้งเลยครับครับมาหาหมอ
00:00:13 → 00:00:19 ครับคนไข้ชอบบอกว่าเนี่ยไม่สบายครับเนี่ย
00:00:19 → 00:00:24 ยอดฮิตเลยนะอยากแอดมิเพื่อตรวจทุกอย่าง
00:00:24 → 00:00:28 ครับอันนี้คือทลิเลยอยาก admit แล้วก็ให้
00:00:28 → 00:00:31 หมอตรวจทุกอย่างเลยครับตรวจให้ละเอียดเลย
00:00:31 → 00:00:35 นะคะว่าหนูมีอะไรในตัวบ้างครับผมก็จะถาม
00:00:35 → 00:00:39 ว่าความคิดนี้ได้มาจากไหนอ๋อคุยกับประกัน
00:00:39 → 00:00:42 แล้วค่ะประกันจะบอกว่าให้หมอเขียนเลยค่ะ
00:00:42 → 00:00:46 ถ้าหมอเขียนเนี่ยแอดมิได้ก็จะโยนมาพาระมา
00:00:46 → 00:00:49 ที่เราก็กลายเป็นหมอเนี่ยเปิดศึกกับคนไข้
00:00:49 → 00:00:52 ซึ่งหมอเองก็รู้อยู่แล้วว่าคือต้องแยกให้
00:00:52 → 00:00:55 ออกว่าตัวแทนประกันกับผู้อนุมัติประกัน
00:00:55 → 00:00:58 มันคนละคนกันใช่ครับแล้ว 2 คนนี้ก็ไม่ได้
00:00:58 → 00:01:00 สื่อสารกันครับ
00:01:00 → 00:01:03 ตัวแทนก็จะต้องพูดเพื่อเพื่อเพราะว่าเค้า
00:01:03 → 00:01:07 ขายไปแล้วไงเก็ต้องโทคคำพูดตนเองว่าขาย
00:01:07 → 00:01:10 ได้ได้อครับเนี่ยหมอไม่ยอมเขียนนะก็ผลัก
00:01:10 → 00:01:14 ภาระมาที่หมอที่หมอครับคนไข้ก็รู้สึกว่า
00:01:14 → 00:01:17 เอ๊ะหมอไม่ยอมเขียนให้หมอก็กำลังจะบอกว่า
00:01:17 → 00:01:20 คณไข้ครับเวลาเราเขียนเบิกไปอ่ะครับ
00:01:20 → 00:01:24 สมมุติฝ่ายอนุมัติเไม่อนุมัติคุณโดนเต็มๆ
00:01:24 → 00:01:28 นะครับเวลาเราเขียนไปเนี่ยต้องเข้าใจนะ
00:01:28 → 00:01:31 ว่าบริษัทประกันเค้าก็มีหมอนะครับเ้าก็
00:01:31 → 00:01:34 รู้หลักการทางการแพทย์ว่าอันไหนเข้ากเข้า
00:01:34 → 00:01:38 เกณฑ์หรือไม่บางทีเราแอดมิไปเขียนไปเ้า
00:01:38 → 00:01:41 รีเจคเตีกลับครับเคก็จะให้คนไข้สำรองจ่าย
00:01:41 → 00:01:43 แล้วไปอุธรณ์หรือไปส่งเรื่องอีกทีนึงใช่
00:01:43 → 00:01:47 ครับงั้นอันเนี้ยคือหนึ่งในกรณีที่ผมรู้
00:01:47 → 00:01:49 สึกว่าตัวแทนบางคนไม่รู้ว่าปัจจุบันยังมี
00:01:49 → 00:01:51 อยู่แล้วมั้ยครับแต่ว่าที่ผ่านมามีเยอะ
00:01:51 → 00:01:54 มากครับนะครับก็คือให้หมอเขียนครับมี
00:01:54 → 00:01:57 ประสบการณ์มั้ยครับ
00:01:57 → 00:02:02 เอ่ออ่าจริงๆมันเป็นคืออย่างกรณีที่
00:02:02 → 00:02:04 อาจารย์เล่ามาเนี่ยมันเป็นที่ตัวแทนเลย
00:02:04 → 00:02:07 แหละคือถ้าตัวแทนไปเปิดช่องแบบนั้นถ้าตัว
00:02:07 → 00:02:11 แทนไปขายโดยที่ทำให้ให้ลูกค้ารู้สึกว่า
00:02:11 → 00:02:14 มันได้แบบนั้นนะครับพอมันเป็นประโยชน์ที่
00:02:14 → 00:02:17 ที่ที่ถ้าได้มันก็ดีอ่ะมันก็จะนำไปสู่ตรง
00:02:17 → 00:02:20 นั้นแหละแต่ผมอยากให้ย้อนกลับมาตั้งต้น
00:02:20 → 00:02:22 กันใหม่ถึงที่ที่พูดไปตั้งแต่แรกว่าทุก
00:02:22 → 00:02:27 อย่างมันมีเงื่อนไขของมันคือเราเองอ่ะ
00:02:27 → 00:02:31 ครับจะต้องรู้ก่อนว่าอะไรที่มันทำได้แล้ว
00:02:31 → 00:02:35 มันทำไม่ได้บ้างซึ่งเอาง่ายๆครับถ้ายกเคส
00:02:35 → 00:02:37 ยกเคสนี้ก็ได้ครับ
00:02:37 → 00:02:40 อ่า opd กับ
00:02:40 → 00:02:43 IPD บางทีเวลาทำประกันเนี่ย opd คือผู้
00:02:43 → 00:02:45 ป่วยนอกใช่มั้ยครับ IPD คือผู้ป่วยในที่
00:02:45 → 00:02:48 ต้องแบบรักษาแล้วนอนบางทีทำประกันไปอ่ะ
00:02:48 → 00:02:51 ครับตัวแทนก็ไม่ได้อธิบายหรอกว่ามันจะ
00:02:51 → 00:02:53 เบิกได้ก็ต่อเมื่อมันคือ
00:02:53 → 00:02:57 IPD คือถ้าเป็นเจ็บป่วยแบบธรรมดาแล้วไม่
00:02:57 → 00:03:00 ได้ admit อย่างเงี้ยครับมันเบิกไม่ได้
00:03:00 → 00:03:02 แต่มันจะต้องนอนแล้วทุกอย่างถึงจะเบิกได้
00:03:02 → 00:03:05 เขาก็เลยพยายามจะมาให้เขียนบอกว่าให้นอน
00:03:05 → 00:03:08 ใช่ไหมครับแต่ทีนี้ในแง่ของเขียนให้นอน
00:03:08 → 00:03:10 เนี่ยในของฝั่งประกันเนี่ยมันก็จะมีเขา
00:03:10 → 00:03:13 เรียกว่าเป็นเงื่อนไขที่ว่าแบบไหนล่ะมัน
00:03:13 → 00:03:17 ถึงสมเหตุสมผลว่าควรจะนอนอย่างโควิดก็ได้
00:03:17 → 00:03:22 ครับทำประกันไว้แล้วเป็นโควิดมาแล้วคือ
00:03:22 → 00:03:25 มันไม่ได้ถึงขั้นต้องจริงๆมันจะมีแหละ
00:03:25 → 00:03:28 ครับว่าจะต้องแบบไข้สูงถึงกี่องศาแล้วก็
00:03:28 → 00:03:31 หอบมีอาการหอบเหนื่อยมั้ยต้องแบบโอโหดู
00:03:31 → 00:03:33 แบบเหมือนโรงปอดใส่เครื่องช่วยหายใจมั้ย
00:03:33 → 00:03:35 อันเนี้ยถ้าเป็นเข้าข่าเนี่ยนอนได้อือไม่
00:03:36 → 00:03:38 มีปัญหาแล้วก็คือถ้าเขียนมาว่าให้นอนแล้ว
00:03:38 → 00:03:41 อาการเป็นตามนี้ใช่มั้ครับทุกอย่างมันก็
00:03:41 → 00:03:44 เบิกได้เพราะมันทำมาแบบว่านอนแล้วเบิกได้
00:03:44 → 00:03:47 แต่ถ้าแบบเป็นโควิดมากไม่ได้มีอาการอะไร
00:03:47 → 00:03:51 สักเท่าไหร่แต่ก็มาบอกว่าจะให้นอนเพื่อ
00:03:51 → 00:03:55 ที่จะขอเบิกทุกอย่างหมอก็หมอก็เขียนไปได้
00:03:55 → 00:03:58 แต่ทีนี้คือหมอเขียนไปเนี่ยมันเหมือน้า้า
00:03:58 → 00:04:00 มุมผมนะถ้าคุณหมอมีความรู้เนี่ยคุณหมอก็
00:04:00 → 00:04:03 จะพยายามเขียนให้แบบอาการมันหนักอแต่ก็
00:04:03 → 00:04:05 คือด้วยจรรยาบรรณของแพทย์หรืออะไรคือมัน
00:04:05 → 00:04:07 ก็เหมือนบังคับให้หมอโกหกใช่มั้ยครับแต่
00:04:07 → 00:04:09 ถ้าหมอไม่ได้เขียนไปเยพอแล้วเข้าไปเบิก
00:04:09 → 00:04:11 มันก็เบิกไม่ได้เพราะมันไม่ได้เข้าเงื่อน
00:04:11 → 00:04:15 ไขว่าแบบไหนที่ควรนอนได้ทีนี้ถามย้อนกลับ
00:04:15 → 00:04:18 มาถามว่าทำไมทำไมมันจะต้องเป็นแบบนี้
00:04:18 → 00:04:21 เพราะว่ามันจะมีมันจะมีมิตินึงครับที่อ่ะ
00:04:21 → 00:04:23 เมื่อกี้เราพูดถึงแล้วว่าประกันน่ะทำไป
00:04:23 → 00:04:25 แล้วไม่ยอมเบิกใช่มั้ยครับเรามาพูดถึง
00:04:25 → 00:04:30 ฝั่งที่คนทั่วไปทำทำประกันเพื่อหวัง
00:04:30 → 00:04:31 ประโยชน์
00:04:31 → 00:04:35 บ้างทำประกันแบบว่าเ่อทำค่าชดเชยเอาไว้
00:04:35 → 00:04:38 ครับแล้วก็ไม่ได้เป็นไรหรอกแต่ขอให้แอดมิ
00:04:38 → 00:04:40 เพื่อจะนอนนอนแล้วจะได้ค่าชดเชยรายวันอ
00:04:40 → 00:04:42 อ่าอันนี้ก็มีครับใช่มั้ยครับพอนอนแล้ว
00:04:42 → 00:04:44 ได้ชดเชยรายวันก็คือไม่เป็นไรหรอกเปลี่ยน
00:04:44 → 00:04:46 เป็นแค่แบบท้องเสียเฉยๆนิดหน่อยแล้วก็ไป
00:04:46 → 00:04:49 นอนคือมันจะกลายเป็นถ้าทุกถ้าคนค่าคนไข้
00:04:49 → 00:04:51 ทุกคนเป็นแบบนี้หมดเลยผมก็ไม่ได้บอกว่า
00:04:51 → 00:04:53 ใครเป็นแต่มันมีมันมีเคสแบบนี้แล้วก็คือ
00:04:53 → 00:04:55 ไปเบๆบริษัทประกันมันก็เหมือนแบบเหมือนก็
00:04:56 → 00:04:58 โดนโดนช่องว่างแล้วก็โดนใช้ใช่มั้ยครับ
00:04:58 → 00:05:00 จริงๆมันก็เลยมี
00:05:00 → 00:05:02 มันมีเงื่อนไขของมันอยู่ว่าเขาเรียกว่า
00:05:02 → 00:05:05 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยธรรมดาซึ่งไม่ได้
00:05:05 → 00:05:07 เป็นโรคใหญ่เช่นอาจจะแบบเป็นหวัดท้องเสีย
00:05:07 → 00:05:10 แต่ว่าเขคือเหมือนอาการหนักแหละให้นอนได้
00:05:10 → 00:05:13 แต่ในปีนึงอ่ะอควรจะนอนไม่เยอะออันนี้มัน
00:05:14 → 00:05:15 ก็ยังเบิกได้แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คน
00:05:15 → 00:05:18 ไข้เริ่มใช้สิทธิ์บ่อยเคลมบ่อยเคลมหนัก
00:05:18 → 00:05:21 เลยมันก็จะถูกแิแหละว่าแบบเออมันมีอาการ
00:05:22 → 00:05:24 แบบนี้หรือเปล่าอคืออยากให้มองทั้ง 2
00:05:24 → 00:05:30 ฝั่งว่าคนไข้ก็ก็ก็ต้องในในในของการทำ
00:05:30 → 00:05:32 ประกันเจะมีคำนึงเพเป็นเรื่องคำว่าใช้
00:05:32 → 00:05:36 หลักสุจริตครับจารยอืเอ่อตัวคนไข้เองอ่ะ
00:05:36 → 00:05:39 ก็คือต้องแถลงข้อเท็จจริงแล้วก็พูดตาม
00:05:39 → 00:05:42 ความจริงตัวประกันเองก็คือจะทำตามเงื่อน
00:05:42 → 00:05:45 ไขทุกอย่างที่ได้รับมาจริงถ้ามันไม่มี
00:05:45 → 00:05:48 ฝ่ายหนึฝ่ายใดแบบโกหกซึ่งกันและกันเงี้ย
00:05:48 → 00:05:51 ครับแล้วก็ทุกฝ่ายเข้าใจว่าอะไรเบิกได้
00:05:51 → 00:05:54 อะไรเบิกไม่ได้แล้วปล่อยให้มันเป็นไปตาม
00:05:54 → 00:05:56 เงื่อนไขนั้นนะครับก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลย
00:05:56 → 00:06:01 คิดว่าบริบทของตัวแทนประกันอะไรที่เหมาะ
00:06:01 → 00:06:04 สมเพราะว่าผมเองก็มีประสบการณ์กับตัวแทน
00:06:04 → 00:06:07 ประกันที่ดีและที่รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค
00:06:07 → 00:06:11 ครับก็มีบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวแทนประกัน
00:06:11 → 00:06:16 พูดเกินความจำเป็นครับครับนะคือไม่เหมาะ
00:06:16 → 00:06:19 กับบริบทครับอ่าทีนี้ในฐานะเพจเนี่ยคิด
00:06:19 → 00:06:24 ว่าถ้าจะถ้าจะให้ mindset กับผู้ประกันตน
00:06:24 → 00:06:26 หรือผู้ที่ต้องการจะซื้อประกันเนี่ยเควร
00:06:26 → 00:06:30 จะเข้าใจอะไรคือถ้าพูดถึงบทบทบทบาทของของ
00:06:30 → 00:06:32 ตัวแทนก่อนแล้วกันครับถ้าบทบาทของตัวแทน
00:06:32 → 00:06:36 จริงๆผมมองว่าตัวแทนเองอ่ะจะต้องเอา
00:06:36 → 00:06:41 ประโยชน์ของลูกค้าเป็นที่ตั้งคือในมิติ
00:06:41 → 00:06:43 นึงอ่ะหน้าที่สำคัญที่สุดของตัวแทนเลยอ
00:06:43 → 00:06:47 ครับก็คือจะต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด
00:06:47 → 00:06:51 แล้วก็ต้องรู้ด้วยว่าลูกค้าต้องการอะไร
00:06:51 → 00:06:53 เพราะว่าจริงๆคุณค่าของประกันนะครับมัน
00:06:53 → 00:06:56 แบ่งออกได้เป็นหลายแบบมากอย่างถ้ายกตัว
00:06:56 → 00:06:59 อย่างก็คือเขาจะบอกว่าอ่าเพื่อสร้างมรดก
00:06:59 → 00:07:01 แล้วแล้วกันสำหรับคนที่มีครอบครัวเรารู้
00:07:01 → 00:07:04 สึกว่าถ้าวันนี้เป็นแสาหลักของบ้านแล้ว
00:07:04 → 00:07:06 จากไปขึ้นมาเนี่ยคนข้างหลังจะลำบากประกัน
00:07:07 → 00:07:10 จะทำหน้าที่นี้ก็คือทำประกันไว้ถ้าเสา
00:07:10 → 00:07:13 หลักจากไปก็จะมีมรดกให้คนข้างหลังโดยที่
00:07:14 → 00:07:16 เราไม่จำเป็นจะต้องเป็นเศรษฐีเท่านั้นถึง
00:07:16 → 00:07:18 จะมาพูดคำว่ามรดกนะครับเพราะมันสามารถใช้
00:07:18 → 00:07:20 เงินเริ่มต้นแค่แบบวันละหลักร้อยเดือนละ
00:07:20 → 00:07:23 ไม่กี่พันเก็ทำได้เลยก็ต้องแจ้งก็ต้องดู
00:07:23 → 00:07:26 ว่าสมมติไปขายคนโสดแล้วจะไปขายแบบเนี้ย
00:07:26 → 00:07:29 มันก็ไม่ใช่ไหมหรือเราต้องดูว่าเต้องต้อง
00:07:29 → 00:07:32 อะไรหรือเป็นประกันสุขภาพมหรือเขามีความ
00:07:32 → 00:07:35 ต้องการลดหย่อนภาษีมเราก็ต้องดูความเหมาะ
00:07:35 → 00:07:39 สมของอของของของสิ่งที่เขาเป็นนะครับไม่
00:07:39 → 00:07:42 ใช่ว่าโอ๊ยอันเนี้ยดีอยากจะขายนู่นนี่ๆ
00:07:42 → 00:07:46 นั่นเราก็ไปยัดยัดเพราะว่าเราก็ต้องบอก
00:07:46 → 00:07:48 ครับว่าการทำประกันมันคือการต้องควักเงิน
00:07:48 → 00:07:51 ออกมาจ่ายอืแต่มันจ่ายไปเพื่อไปเป็นราย
00:07:51 → 00:07:54 ได้เพื่อไปเป็นเงินก้อนคุ้มครองอะไรสัก
00:07:54 → 00:07:57 อย่างนึงแต่ถ้าเราจ่ายเกินตัวอือมันก็ไม่
00:07:57 → 00:08:00 มีอะไรดีทั้งนั้นตัวแทนประกันเก็จะต้อง
00:08:00 → 00:08:03 ต้องคิดอยู่เสมอว่าเอ้ยเราต้องทำให้พอดี
00:08:03 → 00:08:06 กับเค้านะเราต้องเอาเบสเอาลูกค้าเป็นที่
00:08:06 → 00:08:09 ตั้งเราก็แนะนำแล้วก็ปล่อยให้ลูกค้าตัด
00:08:09 → 00:08:12 สินใจคืออย่างเรื่องของเรื่องเล่าประกัน
00:08:12 → 00:08:14 ชีวิตที่ทำเนี่ยผมว่ามันเป็นตัวอย่างที่
00:08:14 → 00:08:18 ดีคือเราทำหน้าที่อย่างเดียวคือบอกบอกคุณ
00:08:18 → 00:08:21 ค่าบอกประโยชน์เราไม่ได้ฟสว่าเขาจะต้อง
00:08:21 → 00:08:23 ซื้อหรือจะต้องอะไรเาจะไม่ซื้อกับเราก็
00:08:23 → 00:08:25 ได้ครับแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือพอเขา
00:08:25 → 00:08:28 อ่านแล้วครับเขาจะเกิดความรู้สึกของเขา
00:08:28 → 00:08:31 เองว่าโอเคฉันมีเหตุการณ์แบบนี้มยฉันกลัว
00:08:31 → 00:08:33 แบบนี้มฉันเป็นแบบนี้มยสิ่งที่เกิดขึ้น
00:08:33 → 00:08:35 คือเขาจะเข้ามาถามครับในเพจเรื่องเล่า
00:08:35 → 00:08:38 ประกันชีวิตถึงแม้ผมจะบอกว่าตั้งใจทำขึ้น
00:08:38 → 00:08:40 มาเพื่อเป็นสื่อให้ตัวแทนช่วยกระจายต่อ
00:08:40 → 00:08:42 แต่สุดท้ายข้อความที่ผมอยากให้ทุกคน
00:08:42 → 00:08:45 กระจายก็คืออยากให้ไปถึงประชาชนทั่วไปมี
00:08:45 → 00:08:47 ประชาชนทักเข้ามาครับประชาชนทักเข้ามาว่า
00:08:48 → 00:08:50 หนูเคยทำประกันไว้แบบนี้มันไม่ได้หรือ
00:08:50 → 00:08:52 อะไรครับก็คือเป็นการเหมือนร้องทุกข์อ่ะ
00:08:52 → 00:08:53 เหมือนถามว่าเป็นอย่างงี้หนูไม่รู้จัก
00:08:54 → 00:08:56 ประกันเลยแต่คือหนูอ่านแล้วหนูคิดว่าหนู
00:08:56 → 00:08:58 อยากจะทำให้พ่อให้แม่อยากจะทำให้ตัวเอง
00:08:58 → 00:09:00 ค่ะหนูเญจะเริ่มเริ่มต้นจากไหนประกัน
00:09:00 → 00:09:03 ชีวิตมันคืออะไรคะก็เข้ามาถามอสิ่งที่เรา
00:09:03 → 00:09:06 ทำก็คือเราก็บอกครับบอกไปแล้วเราก็ไม่ได้
00:09:06 → 00:09:09 ไม่ได้บอกเพื่อเราจะขายเราก็บอกแล้วก็
00:09:09 → 00:09:12 เนี่ยถ้าอยากรู้นะมีญาติเป็นตัวแทนมั้ย
00:09:12 → 00:09:14 อือลองไปถามเขาดูแต่ถ้าไม่รู้ก็กลับมาถาม
00:09:14 → 00:09:17 เพิ่มเติมแต่เราให้เรียกให้ให้กรอบความ
00:09:18 → 00:09:20 รู้ให้สิ่งที่เขาอยากรู้กับกับคนที่เขา
00:09:20 → 00:09:24 ถามอ่ะคือเมื่อคนเกิดคำถามตัดสินใจที่ตัว
00:09:24 → 00:09:27 เองเขาจะเกิดการแสวงหาอแล้วทุกอย่างที่
00:09:27 → 00:09:30 เขาได้มาผมว่ามันจะตอบโจยกับเ้ามากที่สุด
00:09:30 → 00:09:33 อืๆๆใช่ก็จะเป็นมิตินั้นดังนั้นถ้าจะให้
00:09:33 → 00:09:38 สรุปก็คือสำหรับ mindset ที่ที่ตัวแทน
00:09:38 → 00:09:43 ประกันหรือผู้ประกันตนจะต้องจะต้องเข้าใจ
00:09:43 → 00:09:47 ครับก็คือตัวแทนเนี่ยจะต้องเอาผลประโยชน์
00:09:47 → 00:09:50 ของเราก่อนใช่ครับแสดงว่าเราต้องรู้ผล
00:09:50 → 00:09:53 ประโยชน์ของตนเองก่อน 1 เราจะซื้อไว้
00:09:53 → 00:09:58 เพื่อปกป้องสร้างมรดกหรือ 2 ซื้อไว้เพื่อ
00:09:58 → 00:10:02 เอาไว้ลดหยอดภาษีหรือ 3 ซื้อไว้เพื่อ
00:10:02 → 00:10:05 เพื่อสุขภาพตัวเองในยามฉุกเฉินหรือ 4 ก็
00:10:05 → 00:10:07 คือเพื่อเงินเกษียณหรือ 4 เพื่อเงิน
00:10:07 → 00:10:10 เกษียณเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะซื้อประกัน
00:10:10 → 00:10:14 ไว้เพื่ออะไรครับอันที่ 1 และเราจะได้รู้
00:10:14 → 00:10:17 ว่าบทบาทของตัวแทนเขาตอบโจทย์เราอันนั้น
00:10:17 → 00:10:21 หรือเปล่าใช่นะครับถ้าคือบางทีเราจะไปโทษ
00:10:21 → 00:10:25 ตัวแทนประกันไม่ได้เพราะการที่เราไปโทษเ
00:10:25 → 00:10:28 ว่าเขายอย่างเดียวแสดงว่าเราไม่ได้โฟกัส
00:10:28 → 00:10:31 ว่าเราต้องการอะไรนะฮะแต่ถ้าเราโฟกัสแล้ว
00:10:31 → 00:10:33 เรารู้แล้วเราจะซื้อไว้เพื่ออะไรอ่ะถ้า
00:10:33 → 00:10:37 เค้าอันที่ 2 ถ้าเค้ายังดันจะขายในสิ่ง
00:10:37 → 00:10:40 ของเค้าอ่าเราก็อาจสามารถเดินออกได้รู้
00:10:40 → 00:10:43 เลยว่าคนนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เราคนนี้ทำเกิน
00:10:43 → 00:10:46 หน้าที่ของเราอันเนี้ยผมอยากจะบอกเพราะ
00:10:46 → 00:10:51 ว่าหลายครั้งเนี่ยต้องยอมรับว่าเรามักจะ
00:10:51 → 00:10:54 ซื้อประกันจากญาติพี่น้องที่เป็นตัวแทน
00:10:54 → 00:10:58 กันเองซื้อเพื่อเพราะความเกรงใจอันเนี้ย
00:10:58 → 00:10:59 คือประเด็นคือ
00:10:59 → 00:11:02 พอซื้อเพื่อความเกรงใจปุ๊บเนี่ยพอปีต่อๆ
00:11:02 → 00:11:06 ไปเราจะต้องชำระเนี่ยเราก็จะรู้สึกแบบ
00:11:06 → 00:11:09 เสียดายจ่ายไปทำไมใช่ครับเราซื้อตอนนั้น
00:11:09 → 00:11:12 เพราะความเกรงใจครับเนี่ยครับก็เลยทำให้
00:11:12 → 00:11:15 ค่านิยมของการซื้อประกันเนี่ยมันลืมวัตถุ
00:11:15 → 00:11:19 ประสงค์งั้นสำหรับผมแค่อยากจะเรสประเด็น
00:11:19 → 00:11:21 นี้คือใจจริงอ่ะผมอยากให้เราทุกคนมี
00:11:21 → 00:11:24 ประกันครับนะฮะเพราะการมีประกันอย่างที่
00:11:24 → 00:11:27 พูดเนี่ยมันทำให้เข้าการรักษาได้เร็วนะ
00:11:27 → 00:11:30 ครับเราไม่ต้องไปรอในระบบราชการหรือระบบ
00:11:30 → 00:11:34 หลวงที่แอรอัดสำหรับคนที่กำลังซื้อถึง
00:11:34 → 00:11:38 เพียงแค่เราต้องมีวินัยในการออมในการส่ง
00:11:38 → 00:11:41 มันทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้นได้สำหรับ
00:11:41 → 00:11:45 เรื่องเล็กๆน้อยๆคนไข้ไม่น้อยครับหมอเอง
00:11:45 → 00:11:49 ก็อึดอัดนะครับคนไข้รู้สึกยังหายไม่ดี
00:11:49 → 00:11:52 ครับเนี่ยครับอยากนอนโรงพยาบาล
00:11:52 → 00:11:56 ต่ออยากให้หายขาดจนค่อยออกอันนี้ก็จะเป็น
00:11:56 → 00:11:59 ความอึดอัดของแพทย์เพราะว่าพอเวลามามาลาว
00:11:59 → 00:12:03 ผู้ป่วยเนี่ยประกันก็จะถามละว่าคนไข้กลับ
00:12:03 → 00:12:06 บ้านได้ยังครับรบกวนเขียนเอกสารหน่อยถึง
00:12:06 → 00:12:09 เหตุผลว่าทำไมยังต้องให้นอนต่อครับ 48 72
00:12:10 → 00:12:12 ชมงแล้วอะไรอย่างเงี้ยแต่คนไข้เองมีครับ
00:12:12 → 00:12:16 ในชีวิตจริงผมก็เจอเยอะครับว่าต้องการนอน
00:12:16 → 00:12:18 ต้องการนอนด้วย 1 ในสาเหตุที่พูดอะไรฮะ
00:12:18 → 00:12:21 ต้องการเบิกค่าชดเชยค่าชดเชยแต่ 2 คือ
00:12:21 → 00:12:25 ความคาดหวังคาดหวังว่าจะต้องหายดีเลยครับ
00:12:25 → 00:12:29 จะต้องหายซึ่งบางอย่างอย่างที่บอกก็คืออ
00:12:29 → 00:12:30 นี้เราต้องเข้าใจนะครับการนอนโรงพยาบาล
00:12:30 → 00:12:33 เนี่ยวัตถุประสงค์เนี่ยคือให้เราหายป่วย
00:12:33 → 00:12:36 แต่หายขาดคงไม่ใช่ครับหายป่วยช่วงแรกที่
00:12:36 → 00:12:39 เรากลับไปเดินเหินได้กินได้ดูแลตัวเองได้
00:12:39 → 00:12:42 กลับบ้านไปพักฟื้นต่อที่บ้านเราต้องเข้า
00:12:42 → 00:12:45 ใจนะในฐานะประชาชนคือโรงพยาบาลไม่ใช่เป็น
00:12:45 → 00:12:48 ที่พักฟื้นใช่นะครับโรงพยาบาลเป็นที่
00:12:48 → 00:12:53 รักษาครับเนื่องจากเตียงจำกัดเรารักษาเรา
00:12:53 → 00:12:56 ประเมินแล้วคนไข้ดีกลับบ้านไปพักฟื้นหมอ
00:12:56 → 00:12:59 นัดมาดูอาการ 3 วันบ้าง 1 วัน 2 วัน
00:12:59 → 00:13:02 อาทิตย์นึงแล้วแต่เคสนะครับเพราะอะไรฮะ
00:13:02 → 00:13:04 เพราะว่าเตรียมห้องสำหรับคนต่อไปที่กำลัง
00:13:04 → 00:13:07 นอนรออยู่ป่วยครับแต่ถ้าเราเล่นไม่ขยับก็
00:13:07 → 00:13:11 ลำบากลำบากคือคนต่อไปที่จะมานอนโดยเฉพาะ
00:13:11 → 00:13:13 ช่วงระบาดก็จะลำบากอีกต้องเข้าใจนะครับ
00:13:13 → 00:13:16 ว่าเจตนาหมอเนี่ยจริงๆคนไข้ชอบพูดว่า
00:13:16 → 00:13:20 เนี่ยหมอให้กลับบ้านเร็วอย่างเงี้ยมันไม่
00:13:20 → 00:13:24 พอใจนะฮะให้กลับบ้านเร็วดิฉันจะไม่หายเลย
00:13:24 → 00:13:27 นะครับนะนะอันนี้อยากจะให้เข้าใจบริบทอัน
00:13:27 → 00:13:30 ที่ 2 ก่อนว่าไม่ใช่อย่างงั้นนะครับอัน
00:13:30 → 00:13:33 ที่ 3 คือพอนอนโรงพยาบาลแล้วเนี่ยฮะความ
00:13:33 → 00:13:37 ความความที่นอนโรงพยาบาลแล้วขอตรวจทุก
00:13:37 → 00:13:40 อย่างเลยได้มั้ยคะครับอ่าอันนี้ก็มีครับ
00:13:40 → 00:13:42 นอนโรงพยาบาลอยู่อยากตรวจเบาหวานความดัน
00:13:43 → 00:13:45 ไขมันหมอตรวจเลยได้มั้ยคะเซเรย์อะไรเนี่ย
00:13:45 → 00:13:48 แๆนอนแล้วขอเบิกเลยทีเดียวอันนี้คือความ
00:13:48 → 00:13:52 เข้าใจที่ไม่ถูกครับครับประมาณนั้นเลย
00:13:52 → 00:13:55 ครับอาจารย์คือผมจริงๆถ้าถามว่าเอ่อจุด
00:13:55 → 00:13:59 กึ่งกลางของของทุกคนคือตรงไหนผมว่าเอ่อ
00:13:59 → 00:14:02 ตัวแทนเองคือตัวแทนเองอ่ะก็ต้องทำตามหน้า
00:14:03 → 00:14:06 ที่จริงๆไม่ใช่ว่าเกใช้คำว่าสักแต่ว่าจะ
00:14:06 → 00:14:09 ขายแล้วก็เอาประโยชน์ของตัวเองส่วนตัวลูก
00:14:09 → 00:14:13 ค้าเองอ่ะครับก็คือถ้าเปิดใจในการที่แบบ
00:14:13 → 00:14:16 เออศึกษาข้อมูลซึ่งจริงๆมันมันเข้าถึงได้
00:14:16 → 00:14:19 แหละสักนิดนึงว่าอะไรที่ได้แล้วไม่ได้
00:14:19 → 00:14:23 เงี้ยครับแล้วก็เอ่อยึดตามนั้นตามที่มัน
00:14:23 → 00:14:26 เป็นข้อเท็จจริงของทุกฝ่ายเนี่ยผมว่าทุก
00:14:26 → 00:14:29 อย่างมันจะดีขึ้นในแง่ของการเบิกเมทไป
00:14:29 → 00:14:31 แล้วคือเหมือนเราใช้ของเป็นนะครับคือเรา
00:14:31 → 00:14:33 รู้ว่าโอเคเนี่ยฉันซื้อประกันมาประกันนี้
00:14:34 → 00:14:36 มันใช้อะไรได้บ้างเปรียบๆเหมือนเครื่อง
00:14:36 → 00:14:39 มือทุกอย่างเลยอะไรที่มันใช้ไม่ได้ก็โอเค
00:14:39 → 00:14:41 ไม่เป็นไรเราก็เลือกใช้ในสิ่งที่มันใช้
00:14:41 → 00:14:44 ได้แล้วพอเรารู้แบบนี้แล้วครับมันจะทำให้
00:14:44 → 00:14:47 เราอ่ะเกิดความเข้าใจจริงๆว่าจริงๆแล้ว
00:14:47 → 00:14:49 ฉันควรจะทำมันจริงๆหรือเปล่ามันตอบโจทย์
00:14:50 → 00:14:53 กับชีวิตฉันหรือเปล่าเงี้ยครับก็ผมจะต้อง
00:14:53 → 00:14:56 บอกว่าให้เป็นหน้าที่ของของทั้งตัวแทน
00:14:56 → 00:14:59 แล้วก็ของทั้งลูกค้าเองแล้วกันที่ว่าทาง
00:14:59 → 00:15:01 ฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตัวเองแต่ว่าใน
00:15:01 → 00:15:04 ฐานะผมเองก็เป็นตัวแทนผมเองก็อยาก้าบอก
00:15:04 → 00:15:07 ผ่านทางนี้ก็ได้ครับว่าเพื่อนๆตัวแทนทุก
00:15:07 → 00:15:10 คนหรืออะไรเงี้ยครับก็อยากให้ขายกันแบบ
00:15:11 → 00:15:13 ที่มันโอเคขายกันอย่างถูกต้องเพราะว่าเรา
00:15:13 → 00:15:17 จะไม่มีทางปรับ mindset หรือเปลี่ยน
00:15:17 → 00:15:19 perception มุมมองที่คนมีต่อประกันได้
00:15:19 → 00:15:24 เลยถ้าเรายังเกิดตัวแทนที่เหมือนกับแบบก็
00:15:24 → 00:15:27 ไม่ได้ซื่อสัตย์แล้วก็พยายามที่จะขายซะ
00:15:27 → 00:15:30 เป็นอย่างเดียวอืมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:15:30 → 00:15:33 ครับคือเราจะต้องทำยไงก็ได้ให้มาตรฐานของ
00:15:33 → 00:15:35 ตัวแทนในการให้ข้อมูลคือเป็นไปอย่างถูก
00:15:35 → 00:15:39 ต้องมากที่สุดครับใช่มันก็จะเป็นฝั่งนี้
00:15:39 → 00:15:42 ด้วยใช่ครับครับงั้นถ้าจะให้ผมสรุปในช่วง
00:15:42 → 00:15:47 แรกสำหรับหลายๆคนนะครับเราได้สรุปแล้วว่า
00:15:47 → 00:15:50 คนเราทุกคนมีประกันแต่การมีประกันสุขภาพ
00:15:50 → 00:15:53 ประกันชีวิตก็เป็นอะไรที่เสริมทำให้เรา
00:15:53 → 00:15:56 เพิ่มความสะดวกสบายเราจะมีได้ก็ต่อเมื่อ
00:15:56 → 00:15:59 เรามีเงินเหลือเงินเหลือเราจะมีได้ก็ต่อ
00:15:59 → 00:16:02 เมื่อเราวางแผนการเงินเราวางแผนการเงินก็
00:16:02 → 00:16:06 จะทำให้เรามีวินัยในการออมและลงทุนหรือ
00:16:06 → 00:16:09 ซื้อพวกนี้อันนี้จบเรื่องที่ 1 อันที่ 2
00:16:09 → 00:16:11 เมื่อเรามีประกันแล้วเนี่ยหรือเราอยากมี
00:16:11 → 00:16:14 ประกันเราต้องรู้หน้าที่ก่อนเราต้องรู้บท
00:16:14 → 00:16:16 บาทของประกันที่เราจะซื้อเท่าที่ผมสรุปนะ
00:16:16 → 00:16:19 ครับเราจะซื้อเพื่ออะไรเพื่ออันที่ 1 เอา
00:16:19 → 00:16:23 ไว้ป้องกันสุขภาพตนเองหรือ 2 เอาไว้ออมใน
00:16:23 → 00:16:27 วัยเกษียณ 3 เอาไว้มรดกสำหรับลูกหลาน
00:16:27 → 00:16:29 เผื่อเราเป็นอะไรนะครับหรือ 4 เราเอาไว้
00:16:29 → 00:16:33 หักภาษีหรือ 5 ซื้อเพื่อ 4 ประโยชน์นั้น
00:16:33 → 00:16:36 เลยมีเงินเหลือซื้อทุกมุมเลยนะครับเรา
00:16:36 → 00:16:39 ต้องรู้ก่อนว่าเราต้องซื้อประกันเพราะ
00:16:39 → 00:16:42 อะไรอย่างที่ผมย้ำนะครับถ้าเราเพียงแค่
00:16:42 → 00:16:46 เข้าใจว่าการมีประกันเสียเงินนิดหน่อยแต่
00:16:46 → 00:16:50 ปกป้องเงินที่เหลือของเราได้จะมีประโยชน์
00:16:50 → 00:16:52 มากนะครับเราจะมันจะเป็นอะไรที่ทำให้เรา
00:16:52 → 00:16:55 เริ่มเข้าใจว่าเราควรจะมีประกันคือผมไม่
00:16:55 → 00:16:57 ได้ขายประกันนะครับแต่ว่าผมคิดว่ามันมี
00:16:57 → 00:17:01 ความจำเป็นอ่ะนำไปสู่หัวข้อต่อไปเมื่อเรา
00:17:01 → 00:17:04 รู้ความต้องการของเราแล้วเราจะรู้เลยว่า
00:17:05 → 00:17:09 ตัวแทนประกันเนี่ยบทบาทเขามีอะไรและ 4
00:17:09 → 00:17:12 เมื่อไหร่ที่เขาทำเกินหน้าที่นะครับ
00:17:13 → 00:17:15 ประกันโดยเฉพาะเวลาเรานอนโรงพยาบาลอยาก
00:17:15 → 00:17:19 ให้รู้ว่า 1 เรานอนโรงพยาบาลเพื่อให้หาย
00:17:19 → 00:17:23 แต่ไม่ใช่ฟื้นฟูอันที่ 2 คือ admit แล้ว
00:17:23 → 00:17:26 หวังว่าต้องการตรวจทุกอย่างไม่เป็นไปตาม
00:17:26 → 00:17:29 ขอบเขตของประกันควรจะศึกษานะอย่าคิดว่า
00:17:29 → 00:17:32 หมอไม่เขียนให้หมอไม่ทำให้มันไม่ใช่ครับ
00:17:33 → 00:17:35 เขียนให้ไม่ทำให้เราอาจจะไม่ได้เบิกก็ได้
00:17:35 → 00:17:38 นะครับนะครับแล้วก็อันสุดท้ายคือหน้าที่
00:17:38 → 00:17:41 ของตัวแทนประกันเนี่ยจริงๆก็ควรจะเป็น
00:17:41 → 00:17:46 กลางนะครับยึดตามข้อตกลงไว้แค่นั้นแหละ
00:17:46 → 00:17:49 ครับทุกคนก็จะแฮปปี้พอทุกคนแฮปปี้ค่านิยม
00:17:49 → 00:17:52 การซื้อประกันก็จะมาคนก็จะคิดว่ามันเป็น
00:17:52 → 00:17:53 ความสำคัญนะ
00:17:54 → 00:17:57 [เพลง]
00:17:57 → 00:18:01 ครับ y