00:00:00 → 00:00:04 บนโซเชียลแชร์ข้อความว่า น้ำเกลือสามารถใช้ล้างตาได้
00:00:04 → 00:00:05 หืม! ชัวร์เหรอ ?
00:00:12 → 00:00:15 เรื่องนี้ถ้าจริงก็มีประโยชน์และควรรีบบอกกันครับ
00:00:15 → 00:00:17 แต่ก่อนจะแชร์ต่อต้องเช็กให้ถูกชัวร์
00:00:17 → 00:00:19 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท
00:00:19 → 00:00:21 สอบถามกับจักษุแพทย์ครับ
00:00:21 → 00:00:25 น้ำเกลือสามารถใช้ล้างตาได้แบบที่เขาแชร์กันนี้ จริงไหมครับ
00:00:25 → 00:00:28 จริงครับ น้ำเกลือที่มีการใช้ทางการแพทย์
00:00:28 → 00:00:30 ก็คือเป็นน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นของเกลือ
00:00:30 → 00:00:33 อยู่ในน้ำที่ผ่านการสเตอร์ไรด์แล้ว 0.9 เปอร์เซ็นต์
00:00:33 → 00:00:37 ซึ่งใช้อยู่ในโรงพยาบาลทั่วไปแล้วก็ตามร้านขายยาก็มีขาย
00:00:37 → 00:00:39 อันนี้มีความปลอดภัยกับดวงตา
00:00:39 → 00:00:42 ถ้ามีความสะอาดเพียงพอแล้วก็มีความเข้มข้นที่ถูกต้อง
00:00:43 → 00:00:46 หากใช้น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นสูงจะมีผลกระทบยังไงบ้างครับ
00:00:46 → 00:00:50 น้ำเกลือที่ใช้กันอยู่มีความเข้มข้น 0.9 เปอร์เซ็นต์
00:00:50 → 00:00:53 เนื่องจากว่าความเข้มข้นของเกลือในน้ำที่ 0.9 เปอร์เซ็นต์นี้
00:00:53 → 00:00:57 จะเป็นความเข้มข้นที่ใกล้เคียงกับน้ำที่หล่อเลี้ยงดวงตาเราอยู่
00:00:57 → 00:01:00 เพราะฉะนั้นในกรณีที่เราใช้น้ำเกลือผิดความเข้มข้น
00:01:00 → 00:01:04 หรือผิดประเภทหรือทิ้งไว้เก็บไว้แบบไม่ได้มาตรฐาน
00:01:04 → 00:01:06 ทำให้ความเข้มข้นนั้นเปลี่ยนไปก็อาจจะมีความเสี่ยง
00:01:06 → 00:01:09 ที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองกับดวงตา
00:01:09 → 00:01:11 เพราะว่าความเข้มข้นนั้นจะไม่ใกล้เคียง
00:01:11 → 00:01:13 กับสิ่งแวดล้อมในดวงตาของเรา
00:01:13 → 00:01:16 สิ่งที่สำคัญและจำเป็นกว่านั้นก็คือความสะอาดของน้ำเกลือ
00:01:16 → 00:01:19 เพราะว่าน้ำเกลือที่จะเอาไปล้างตาได้
00:01:19 → 00:01:22 จะต้องเป็นน้ำเกลือที่ผ่านการสเตอร์ไรด์ก็คือไม่มีเชื้อโรคเลย
00:01:22 → 00:01:25 แล้วก็ต้องถูกเก็บอย่างถูกต้องเหมาะสม
00:01:25 → 00:01:29 เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคหลุดเข้าไปเติบโตในน้ำเกลือนั้น
00:01:29 → 00:01:30 เพราะว่าถ้าเป็นน้ำเกลือที่ไม่สะอาด
00:01:30 → 00:01:32 หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่น่ากลัวที่สุด
00:01:32 → 00:01:36 คือบางคนเข้าใจว่าเอาเกลือมาผสมน้ำต้มทำเองได้
00:01:36 → 00:01:39 จะเป็นแหล่งของเชื้อโรคที่สำคัญที่อาจจะทำให้
00:01:39 → 00:01:43 เกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุตาหรือแม้แต่กระจกตาอย่างรุนแรงได้
00:01:43 → 00:01:45 แล้วน้ำเกลือควรใช้ล้างตาในเวลาไหนครับ
00:01:45 → 00:01:48 โดยทั่วไปข้อบ่งชี้ในการใช้น้ำเกลือในการล้างตา
00:01:48 → 00:01:53 จะมีอยู่ 2 กรณี กรณีแรกเลยก็คือกรณีที่มีสารเคมีเข้าตา
00:01:53 → 00:01:55 ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายกับดวงตาได้
00:01:55 → 00:01:57 การใช้น้ำเกลือหรือทางการแพทย์
00:01:57 → 00:01:59 เราเรียกว่า นอร์มอลซาไลน์ โซลูชั่น
00:01:59 → 00:02:00 หรือน้ำเกลือ 0.9 เปอร์เซ็นต์
00:02:00 → 00:02:03 ซึ่งมีความสะอาดแล้วก็สเตอร์ไรด์มาอย่างถูกต้อง
00:02:03 → 00:02:06 ในการล้างทำความสะอาดเอาสารเคมีนั้น
00:02:06 → 00:02:08 ออกจากดวงตาแต่กรณีที่ 2.คือ
00:02:08 → 00:02:12 กรณีที่อาจจะมีฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตาอย่างชัดเจน
00:02:12 → 00:02:16 อันนี้ทางจักษุแพทย์ก็จะใช้น้ำเกลือในการล้างชะล้าง
00:02:16 → 00:02:18 เอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกจากดวงตา
00:02:19 → 00:02:22 หากใครต้องการล้างตา จำเป็นต้องไปซื้อน้ำเกลือมาล้างตาไหมครับ
00:02:22 → 00:02:28 โดยทั่วไปแล้วจักษุแพทย์มักไม่ค่อยนิยมแนะนำให้คนไข้ใช้แม้แต่น้ำยาล้างตา
00:02:28 → 00:02:31 เพราะว่าโดยทั่วไปดวงตามีกลไกทางธรรมชาติอยู่แล้ว
00:02:31 → 00:02:35 ถ้าเรารู้สึกว่าเหมือนวันนี้เราไปเจอสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นเยอะ
00:02:35 → 00:02:38 หรือแม้แต่มีฝุ่นปลิวเข้าตาจริง ข้อแนะนำก็คือ
00:02:38 → 00:02:40 เราอย่าเริ่มด้วยการขยี้ตา เพราะว่าการที่เรา
00:02:40 → 00:02:43 เอามือไปกดขยี้ตามันจะทำให้ตัวสิ่งแปลกปลอม
00:02:43 → 00:02:47 หรือฝุ่นไปฝั่งอยู่บนเนื้อกระจกตาดำซึ่งมีลักษณะคล้ายขนมวุ้น
00:02:47 → 00:02:50 เพราะฉะนั้นถ้ามีของแข็งวางอยู่บนผิวกระจกตาดำ
00:02:50 → 00:02:53 ถ้าเรากระพริบตาแล้วก็น้ำหล่อลื่นในลูกตา
00:02:53 → 00:02:55 จะช่วยล้างออกไปได้มันจะหลุดออกไปเอง
00:02:55 → 00:02:57 แต่ถ้าเราเริ่มด้วยการเอามือไปขยี้หรือไปกด
00:02:57 → 00:03:00 จะทำให้สิ่งแปลกปลอมนั้นฝังเข้าไปในเนื้อของกระจกตาดำ
00:03:00 → 00:03:04 ก็จะทำให้การที่เราจะเอาออกหรือกระพริบตาออกเอง
00:03:04 → 00:03:07 จะเกิดขึ้นได้ยากเพราะฉะนั้นโดยกลไก โดยธรรมชาติ
00:03:07 → 00:03:10 ของดวงตามนุษย์ถ้ารู้สึกว่ามีฝุ่นเข้าตา
00:03:10 → 00:03:14 แนะนำว่าอย่าขยี้ตาและให้หยุดยืนหลับตากระพริบตาบ่อย ๆ
00:03:14 → 00:03:17 น้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาซึ่งจะไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติ
00:03:17 → 00:03:20 จะช่วยล้างฝุ่นนั้นออกไปได้แล้วก็ถ้าเราสังเกตดูดี ๆ
00:03:20 → 00:03:24 จะเห็นว่าถ้าวันไหนเราไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นค่อนข้างเยอะ
00:03:24 → 00:03:27 นอกจากการที่มีการกระพริบตาตลอดเวลา
00:03:27 → 00:03:30 มีน้ำล้างตาตลอดเวลาแล้ว เวลาเรานอน
00:03:30 → 00:03:33 จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะขับฝุ่นแปลกปลอมออกมาให้
00:03:33 → 00:03:36 ตื่นเช้ามาเราก็จะรู้สึกว่าวันนั้นจะมีขี้ตาเป็นขาว ๆ
00:03:37 → 00:03:40 เป็นก้อน ๆ เยอะขึ้นนั้นก็คือฝุ่นที่อยู่ในดวงตาเรา
00:03:40 → 00:03:43 ซึ่งธรรมชาติช่วยกำจัดออกเองโดยไม่จำเป็น
00:03:43 → 00:03:46 ต้องเอาน้ำเกลือมาล้างตาหรือในคนบางคน
00:03:46 → 00:03:49 ที่รู้สึกว่าเหมือนฝืดตาไม่สบายตาเหมือนมีฝุ่นอยู่ในตา
00:03:49 → 00:03:53 ถ้ามีน้ำตาเทียมซึ่งเป็นยาที่พิสูจน์แล้วว่า
00:03:53 → 00:03:55 สามารถใช้กับดวงตาได้อย่างปลอดภัย
00:03:55 → 00:03:57 ก็สามารถหยอดน้ำตาเทียมได้นะครับ
00:03:58 → 00:04:00 โดยทั่วไปคงไม่ได้แนะนำให้ไปหาซื้อ
00:04:00 → 00:04:03 น้ำเกลือมาเพื่อที่จะมาล้างตาเป็นประจำครับ
00:04:03 → 00:04:06 ดังนั้นสรุปแล้ว น้ำเกลือสามารถใช้ล้างตาได้
00:04:06 → 00:04:07 แบบที่เขาแชร์กันนี้ เป็นยังไงครับ
00:04:08 → 00:04:11 จริงครับ แต่ว่าต้องเป็นน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นถูกต้อง
00:04:11 → 00:04:13 ก็คือ 0.9 เปอร์เซ็นต์ นอร์มอลซาไลน์
00:04:13 → 00:04:17 แล้วก็สะอาดสเตอร์ไรด์แล้วก็เก็บไว้อย่างถูกต้องถูกวิธี
00:04:17 → 00:04:19 สามารถแชร์ต่อได้แต่ถ้าจะแชร์ต่อ
00:04:19 → 00:04:22 ก็ควรจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมว่าควรเลือก
00:04:22 → 00:04:27 ที่จะใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นเช่น มีสารเคมีเข้าตาจริง ๆ
00:04:27 → 00:04:30 หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาอย่างชัดเจนนะครับ
00:04:30 → 00:04:32 ก็เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
00:04:33 → 00:04:34 การศึกษาข้อมูลที่ถูกต้อง
00:04:34 → 00:04:36 จะช่วยป้องกันผลกระทบที่ตามมานะครับ
00:04:37 → 00:04:38 พบกับชัวร์ก่อนแชร์ Membership
00:04:38 → 00:04:41 พื้นที่ใหม่ที่ให้คุณเรียนรู้ ตรวจสอบ ถามตอบ
00:04:41 → 00:04:42 สนับสนุนและใกล้ชิดกันมากขึ้น
00:04:42 → 00:04:44 พบกันที่ Youtube ชัวร์ก่อนแชร์นะครับ
00:04:44 → 00:04:47 ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยบนสังคมออนไลน์
00:04:47 → 00:04:49 หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อ
00:04:49 → 00:04:50 ร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับ
00:04:50 → 00:04:51 ชัวร์ก่อนแชร์