00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living

00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง

00:00:07 → 00:00:12 แพทย์หญิงธิดากรรุจิพัฒนกุล

00:00:12 → 00:00:15 บางคนเนี่ยหายใจเร็วๆหรือกินลมเข้าไปใน

00:00:15 → 00:00:18 ท้องหรือกินข้าวเร็วๆหรือกินอะไรอย่างเย

00:00:18 → 00:00:20 มันก็มีโอกาสที่จะเรอออกมาได้เช่นเดียว

00:00:20 → 00:00:22 กันตดเนี่ยเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยคนเรา

00:00:22 → 00:00:25 ต้องตดนะคนเราไม่มีคำว่าไม่ตดนะทุกคนต้อง

00:00:25 → 00:00:28 ตดต้องายลมอใครบอกฉันไม่ตดนี่หลอกตัวเอง

00:00:28 → 00:00:30 ใช่มั้ยใช่ถึงว่าบางคนโดยเฉพาะแบบผู้หญิง

00:00:30 → 00:00:33 สาวๆนะก็อาจจะเขินพยายามจะกลั้นอืเช่นโดย

00:00:33 → 00:00:35 เฉพาะเวลาอยู่ในที่สาธารณะพยายามจะกลั้น

00:00:36 → 00:00:38 ไม่ไผลมอะไรอย่างงี้จริงๆแล้วคนเรามัน

00:00:38 → 00:00:40 กลั้นได้มั้ยคะพี่ถ้ามันเป็นตามธรรมชาติ

00:00:40 → 00:00:43 ได้อ่ะมันน่าจะดีกว่าการกลั้นเนี่ยอย่าง

00:00:43 → 00:00:46 น้อยแก๊สมันก็ไม่ออกถูกมั้ยฮะแล้วสิ่งที่

00:00:46 → 00:00:48 ตามมาก็คือว่าบางทีเราทำให้เราอึดอัดแน่น

00:00:48 → 00:00:51 ท้องได้ถ้าเรามัวแต่กลั้นบ่อยๆนะ

00:00:51 → 00:00:55 ครับดีที่อยู่เดียว Presented by ไทย

00:00:55 → 00:00:59 ประกันชีวิตเพื่อให้ชีวิตคุณฟิตได้ครบรอบ

00:00:59 → 00:01:04 ด้าน

00:01:04 → 00:01:06 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่ Single be

00:01:06 → 00:01:09 podcast กับหมอผิงแพทย์หญิงธิดา

00:01:09 → 00:01:12 รุจิพัฒนกุลค่ะวันนี้นะคะเราจะมาพูดกัน

00:01:12 → 00:01:15 ถึงปัญหาเรื่องของท้องค่ะท้องอึท้องเฟ้อ

00:01:15 → 00:01:18 เรอตดนะคะว่าจริงๆแล้วเป็นสัญญาณธรรมดา

00:01:18 → 00:01:21 หรือว่าเป็นเรื่องอันตรายซึ่งหมอเองก็

00:01:21 → 00:01:23 เข้ากับสถานการณ์ค่ะเห็นว่าจะมาอัด

00:01:23 → 00:01:26 podcast EP นี้ก็เลยจัดการค่ะท้องอืด

00:01:26 → 00:01:31 ท้องเสียซะเลยเหตุเกิดจากไปทานหอยแครงลวก

00:01:31 → 00:01:33 ค่ะซึ่งจริงๆอ่ะบอก็รู้อยู่แล้วแหละว่า

00:01:33 → 00:01:35 หอยแครงลวกมันก็ถ้าลวกไม่สุกมันก็อาจจะมี

00:01:35 → 00:01:37 เชื้อพวกวิบริโออะไรอย่างงี้ได้เนาะรู้

00:01:37 → 00:01:40 ทั้งรู้ค่ะแต่ก็ชอบทานค่ะจัดเข้าไปค่ะ

00:01:40 → 00:01:43 หลังจากทานไม่กี่ชั่วโมงก็มาเลยค่ะท้อง

00:01:43 → 00:01:46 อืดแล้วก็แบบโอ้โหท้องเกร็งแล้วก็ท้อง

00:01:46 → 00:01:50 เสียอื้อหือไข้เพลียมากๆเลยค่ะก็เตือนคุณ

00:01:50 → 00:01:53 ผู้ฟังนะคะระวังเรื่องของการทานพวกหอย

00:01:53 → 00:01:56 หรืออาหารอะไรต่างๆอาหารทะเลที่สุกๆดิบๆ

00:01:56 → 00:01:58 นะคะก็ตั้งใจเลซินกับตัวเองแล้วค่ะว่าต่อ

00:01:58 → 00:02:01 ไปนี้ไม่เอาแล้วค่ะหอยแลวกถ้าจะกินก็ต้อง

00:02:01 → 00:02:03 ลวกให้มันสุกๆไปเลยนะคะแต่ว่าคงเข็ดไปอีก

00:02:03 → 00:02:07 นานค่ะวันนี้นะคะก็เลยมาคุยเข้าสถานการณ์

00:02:07 → 00:02:10 ค่ะกับเรื่องของท้องๆนะคะด้วยการเชิญพี่

00:02:10 → 00:02:12 ซึ่งเป็นอายุรแพทย์เกี่ยวกับเรื่องของ

00:02:12 → 00:02:15 ระบบทางเดินอาหารนะคะมาคุยกันในวันนี้ค่ะ

00:02:15 → 00:02:17 ค่ะสำหรับในวันนี้นะคะยินดีต้อนรับ

00:02:17 → 00:02:20 อาจารย์โตโต้นายแพทย์ณัฐวุฒิสิริมนต์พร

00:02:20 → 00:02:23 อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร

00:02:23 → 00:02:26 และตับโรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิทค่ะ

00:02:26 → 00:02:29 สวัสดีค่ะพี่โตโต้สวัสดีครับน้องผิงแล้ว

00:02:29 → 00:02:31 ก็สวัสดีสดีครับท่านผู้ฟังทุกท่านนะครับ

00:02:31 → 00:02:35 ผมอมออโต้ครับผมค่ะก็พี่โต้คะวันนี้อยาก

00:02:35 → 00:02:37 จะชวนพี่มาคุยในเรื่องที่ผิงว่ามันน่าจะ

00:02:37 → 00:02:40 เป็นปัญหาที่เราเจอได้บ่อยมากแล้วก็แบบ

00:02:40 → 00:02:42 เป็นอาการที่คนทั่วไปก็คิดว่ามันทั่วๆไป

00:02:42 → 00:02:44 เนาะแต่ผึงว่าบางครั้งมันก็อาจจะมีความ

00:02:44 → 00:02:47 ไม่ทั่วไปที่ควรจะมาพบแพทย์ได้ผิว่าเรา

00:02:47 → 00:02:50 อาจจะมาเริ่มจากท้องอืดท้องเฟ้อก่อนเลย

00:02:50 → 00:02:52 ค่ะพี่ว่าจริงๆสาเหตุเกิดจากอะไรอ่ะคะ

00:02:52 → 00:02:55 จริงๆต้องบอกว่าท้องอืดท้องเฟ้อนี่มีหลาย

00:02:55 → 00:02:58 สาเหตุมากคนส่วนใหญ่ก็จะมีอาการนี้อยู่

00:02:58 → 00:03:02 เนืองๆเนืองๆอย่างน้อยสักในชีวิตจะต้องมี

00:03:02 → 00:03:04 อาการที่เป็นแบบนี้สักอย่างน้อยผมว่าจะ

00:03:04 → 00:03:05 ต้องมีอย่างน้อย 1 ครั้งแน่ๆอะไรอย่าง

00:03:05 → 00:03:08 เงี้เพราะว่าเราต้องทานอาหารทุกวันเรา

00:03:08 → 00:03:11 ต้องมีการขับถ่ายนะครับดังนั้นเนี่ยบางที

00:03:11 → 00:03:14 ถ้ามันไม่านกันระหว่างการทานอาหารหรือการ

00:03:14 → 00:03:16 ขับถ่ายหรือว่าการทานอาหารหรืออะไรอย่าง

00:03:16 → 00:03:18 เงี้ยมันก็มีโอกาสที่ทำให้เราปลดท้องมี

00:03:19 → 00:03:21 อาการแน่นท้องท้องอืดท้องเฟ้อได้แน่

00:03:21 → 00:03:25 นอนอือซึ่งคนทั่วไปสมมุติเวลาทองอือทอง

00:03:25 → 00:03:27 เฟอรก็จะเข้าร้านขายยาก่อนเนาะไม่ค่อยมา

00:03:27 → 00:03:30 หาหมอหรอกก็ซื้อยารักษาตามอาการไปเรื่อยๆ

00:03:30 → 00:03:33 แต่จริงๆมันมีจุดไหนมยคะว่าเอ๊ะเควรจะไป

00:03:33 → 00:03:35 พบแพทย์แล้วแหละแบบอย่าซื้อยารักษาตาม

00:03:35 → 00:03:37 อาการอย่างเดียวเลยคือส่วนใหญ่ผมว่าง่าย

00:03:38 → 00:03:39 ที่สุดของคนเราที่เวลาเราท้องอืท้องเฟอร

00:03:39 → 00:03:42 ช่าอย่างที่ผิงบอกก็วิ่งเข้าหาร้านยาก่อน

00:03:42 → 00:03:44 นะครับเพราะว่ามันเป็นอะไรที่ส่วนใหญ่

00:03:44 → 00:03:47 จริงๆมันก็ดีขึ้นได้ถูกมั้ยฮะคือสมมุติ

00:03:47 → 00:03:50 ว่าเราเป็นโรคกระเพาะเราปวดท้องเรานิดๆ

00:03:50 → 00:03:52 หน่อยๆเนี่ยเราอาจจะกินข้าวไม่ตรงเวลาเรา

00:03:52 → 00:03:55 ปวดแท้นท้องเราก็วิ่งเข้าร้านยาก็จะได้ยา

00:03:55 → 00:03:58 มาทานซึ่งส่วนหนึงก็จะดีขึ้นนะครับแต่การ

00:03:58 → 00:04:01 ทานยาเนี่ยไม่ได้แปลว่าทุกคนจะดีขึ้นนะ

00:04:01 → 00:04:03 ครับฉะนั้นเนี่ยถ้าการทานยาไปสักระยะนึง

00:04:03 → 00:04:06 เนี่ยจริงๆมันไม่ได้มีหลักตายตัวที่แน่

00:04:06 → 00:04:08 นอนว่าต้องเท่านี้เท่านี้แต่เพียงแต่ว่า

00:04:09 → 00:04:11 ให้เราดูอาการตัวเราเองเช่นสมมุติว่าเรา

00:04:11 → 00:04:14 ปวดท้องแล้วเราไปทานยาแล้วเนี่ยสมมุติสัก

00:04:14 → 00:04:15 2-3 วันหรือว่าอะไรก็แล้วแต่แล้วเรารู้

00:04:16 → 00:04:17 สึกว่าเออมันไม่ดีขึ้นหรือมันเป็นมากๆ

00:04:17 → 00:04:20 ขึ้นอย่างเงี้ยครับก็ควรจะไปพบแพร่ถ้า

00:04:20 → 00:04:22 เรื่องปวดท้องแต่สมมุติว่าถ้าอย่างเรื่อง

00:04:22 → 00:04:24 ท้องอืดธรรมดาแน่นแน่นอืดๆเนี่ยเราอาจจะ

00:04:25 → 00:04:27 ให้เวลาตัวเองยาวนิดนึงอาจจะลองกินยาสัก

00:04:27 → 00:04:29 อาทิตย์ 2 อาทิตย์ถ้าไม่ดีขึ้นอันนี้ก็ก็

00:04:29 → 00:04:33 คงต้องพบแพทย์เช่นเดียวกันครับพิงอืโอเค

00:04:33 → 00:04:35 ค่ะก็ตามนี้นะคะสำหรับใครที่ปวดมาเป็น

00:04:35 → 00:04:37 เดือนแล้วยังไม่เคยพบแพทย์ก็แนะนำว่าไปพบ

00:04:37 → 00:04:40 แพทย์ซะหน่อยจะได้รักษาได้ถูกต้องใช่มั้ย

00:04:40 → 00:04:42 คะใช่เพราะว่าจริงๆแล้วมันมีหลายสาเหตุนะ

00:04:42 → 00:04:45 ครับบางทีเราจะชอบนึกว่าเราต้องเป็นโรค

00:04:45 → 00:04:48 กระเพาะแน่ๆเลยอ่าแล้วก็กินยาโรคกระเพาะ

00:04:48 → 00:04:50 ไปใช่แล้วก็กินยาโรคกระเพาะไปส่วนนึงมัน

00:04:50 → 00:04:53 ก็คงถูกแต่ว่ามันก็จะมีสาเหตุหลายๆอย่าง

00:04:53 → 00:04:56 ที่บางทีเนี่ยมันมาอาการด้วยอาการท้องอืด

00:04:56 → 00:04:59 เช่นเดียวกันเช่นสมมุติเราเป็นโรคนิ้วใน

00:04:59 → 00:05:01 ถุงน้ำดีหรือว่าเราเป็นโรคตับอือฮึซึ่ง

00:05:01 → 00:05:04 มันไม่ใช่โรคของกระเพาะอาหารก็สามารถ pres

00:05:04 → 00:05:06 presentation ด้วยการท้องอืดเช่นเดียว

00:05:06 → 00:05:09 กันดังนั้นเนี่ยถ้ากินยาแล้วไม่ดีขึ้นอัน

00:05:09 → 00:05:12 นี้ก็ควรจะต้องไปตรวจอ่ะครับผมออืแล้วเคย

00:05:12 → 00:05:14 ได้ยินมว่าสำหรับคนที่ท้องอืดง่ายๆเนี่ย

00:05:14 → 00:05:17 มันก็จะมีอาหารบางประเภทที่อาจจะส่งผลให้

00:05:17 → 00:05:19 ท้องอึดด้วยใช่มั้ยคะพี่โต้มีคำแนะนำมั้ย

00:05:19 → 00:05:21 คะว่าควรเลี่ยงอาหารประเภทไหนคะอย่างถ้า

00:05:21 → 00:05:23 อาหารที่ไม่สุกสะอาดเนี่ยมันก็มีโอกาสจะ

00:05:23 → 00:05:26 เกิดท้องอืดและท้องเสียตามมาได้นะครับอัน

00:05:26 → 00:05:28 นี้เกิดได้บ่อยๆที่ว่าเราบโอ๊เราเป็น

00:05:28 → 00:05:30 อาหารเป็นพิษอมีอะไรอย่างเงี้พอเกิดอาหาร

00:05:30 → 00:05:32 เป็นพิษเสร็จปุ๊บก็จะมีท้องเสียมีอาเจียน

00:05:33 → 00:05:35 แล้วก็จะตามด้วยอาการท้องอืดปวดท้องนะ

00:05:35 → 00:05:38 ครับหรือบางทีเนี่ยอาหารบางอย่างเนี่ยที่

00:05:38 → 00:05:42 มันเกิดแก๊สเยอะเช่นบางคนชอบทานชากาแฟ

00:05:42 → 00:05:45 ดื่มน้ำบัดลมหรือทานอาหารดิบๆบางอย่าง

00:05:45 → 00:05:49 เช่นบางทีการทานผักดิบหรือการทานถั่วเยอะ

00:05:49 → 00:05:51 ๆหรือการทานอันมันๆพวกเนี้ยมันก็มีโอกาส

00:05:51 → 00:05:55 ที่ทำให้เกิดแก๊สได้เช่นเดียวกันอืค่ะ

00:05:55 → 00:05:58 ถั่วเยอะๆนะคะผักดิบอาหารที่ทำให้เกิด

00:05:58 → 00:06:00 แก๊สเครื่องดื่นที่ทำให้เกิดเกิดแก๊สนะคะ

00:06:00 → 00:06:03 ดังนั้นคนที่ท้องอืดง่ายๆเนี่ยก็อาจจะ

00:06:03 → 00:06:05 ต้องระมัดระวังในการทานอาหารเหล่านี้นะคะ

00:06:05 → 00:06:08 ใช่ๆอือทีนี้จากท้องอืดค่ะมาที่เรื่องลม

00:06:08 → 00:06:12 เหมือนกันก็คือเรอค่ะเรอจริงๆแล้วมันเกิด

00:06:12 → 00:06:15 จากอะไรคะพี่จริงๆเรอเนี่ยมันก็คือการที่

00:06:15 → 00:06:19 เรามีลมที่มันเกินไปอยู่ในทางเดินอาหาร

00:06:19 → 00:06:22 ถูกมั้ยฮะแล้วเราก็พยายามจะต้องขับเออกมา

00:06:22 → 00:06:25 อืออือฮึจริงๆแล้วเนี่ยส่วนหนึ่งเรอเนี่ย

00:06:25 → 00:06:28 บางทีมันเกิดจากการที่อาหารที่เรากินเข้า

00:06:28 → 00:06:30 ไปที่เมื่อกี้พี่บอกไปว่ามีแก๊สเยอะเราก็

00:06:30 → 00:06:34 พยายามจะเรอออกมาหรือว่าเกิดความผิดปกติ

00:06:34 → 00:06:38 ของระบบการย่อยอาหารเช่นมีการกระเพาะ

00:06:38 → 00:06:41 อาหารอักเสบมีการ movement ของกระเพาะ

00:06:41 → 00:06:43 อาหารกับลำไส้ที่ไม่สัมพันธ์กันทำให้เกิด

00:06:43 → 00:06:45 การขับของแก๊สเนี่ยมันลงไปข้างล่างได้ไม่

00:06:45 → 00:06:49 ดีมันก็ดันขึ้นมาข้างบนก็เกิดอาการเรอ

00:06:49 → 00:06:52 อาการอะไรอย่างงี้ได้หรือบางคนเนี่ยทานลม

00:06:52 → 00:06:55 คือเค้าเรียกหิวลมอ่ะคือหายใจเร็วๆหรือ

00:06:55 → 00:06:58 กินลมเข้าไปในท้องหรือกินข้าวเร็วๆหรือ

00:06:58 → 00:06:59 กินอะไรอย่างเงี้ยมันก็มีโอกาสที่จะเรอ

00:06:59 → 00:07:02 ออกมาได้เช่นเดียวกันอืดังนั้นเนี่ยคือ

00:07:03 → 00:07:04 เรอเนี่ยจริงๆมันก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิด

00:07:04 → 00:07:07 ขึ้นได้กินเร็วกินลมเข้าไปแต่ก็อาจจะเกิด

00:07:07 → 00:07:09 จากโรคของระบบทางเดินอาหารได้อย่างที่พี่

00:07:09 → 00:07:12 ว่าใช่มั้ยคะใช่ครับิงครับอ่าซึ่งโรค

00:07:12 → 00:07:14 เมื่อกี้พี่โต้บัวมันจะมีโรคของกระเพาะ

00:07:14 → 00:07:16 อาหารคือส่วนหนึ่งก็ต้องมาดูเรื่องโรค

00:07:16 → 00:07:18 กระเพาะนะครับซึ่งโรคกระเพาะเนี่ยมันก็มี

00:07:18 → 00:07:21 หลายแบบอาจจะเป็นโรคกระเพาะจริงๆหรือเป็น

00:07:21 → 00:07:24 แผลในกระเพาะอาหารหรือเป็นอย่างอื่นอย่าง

00:07:24 → 00:07:26 ที่บอกว่าอะไรที่เกิดแก๊สในท้องเนี่ยมัน

00:07:26 → 00:07:29 มีได้หลายอย่างผิงมันอาจจะเป็นกดหลยย้อน

00:07:29 → 00:07:31 กันเเดี๋ยวนี้โลกกดหลย้อนฮิตถูกมั้ยเรา

00:07:31 → 00:07:34 เราเรอขึ้นมาเราเอ๊ะเราเรอเปรี้ยวขึ้นมา

00:07:34 → 00:07:36 เรามีเปรี้ยวๆในปากเรารู้สึกแสบๆร้อนหน้า

00:07:36 → 00:07:39 อกอย่างเงี้ยจะเป็นกดไหลย้อนก็ได้หรืออาจ

00:07:39 → 00:07:41 จะเป็นโรคอย่างอื่นที่ทำให้เกิดแก๊สเกิด

00:07:41 → 00:07:44 ลมในท้องเป็นนิ่ถุงน้ำดีท้องอืดมันก็มีลม

00:07:44 → 00:07:46 ขึ้นมาได้ดังนั้นใช่มันก็เรอได้เช่นเดียว

00:07:46 → 00:07:49 กันอดังนั้นคือถ้าเกิดเรอเยอะผิดปกติเรอ

00:07:49 → 00:07:52 เปรี้ยวก็ปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่าใช่ๆครับ

00:07:52 → 00:07:56 อ่าลมออกบนแล้วเนาะลมก็ต้องออกล่างบ้างตด

00:07:56 → 00:07:59 ล่ะคะพี่ตดเนี่ยเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยเรา

00:07:59 → 00:08:02 ต้องตดนะคนเราไม่มีคำว่าไม่ตดนะทุกคนต้อง

00:08:02 → 00:08:05 ตดต้องถายลมอใครบอกฉันไม่ตดนี่หรอกตัวเอง

00:08:05 → 00:08:08 ใช่มั้ยใช่แต่เคยมีคนไข้มาหาพี่ผิงแล้ว

00:08:08 → 00:08:11 บอกว่าหนูเรอไม่เป็นน่ะคืออันนั้นก็แบบ

00:08:11 → 00:08:14 คือถ้าตั้งใจเรอเรอไม่ได้ไม่แปลกแต่พี่

00:08:14 → 00:08:16 เชื่อว่าธรรมชาติมันก็ต้องมีออกมาบ้างอ่า

00:08:16 → 00:08:20 ฮะค่ะแต่ถ้าผายลมเนี่ยยังไงก็ต้องออก

00:08:20 → 00:08:22 เพราะมันเป็นการ movement ตามธรรมชาติของ

00:08:22 → 00:08:26 ร่างกายอเวลาลำไส้เราขยับลงไปแก๊สมันดัน

00:08:26 → 00:08:28 ลงข้างล่างยังไงก็ต้องออกฉะนั้นเนี่ยการ

00:08:28 → 00:08:31 ผายลมเนี่ยคนเรามีผายลมได้ 10 20 ครั้ง

00:08:31 → 00:08:33 ต่อวันหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยเป็นสิ่งที่

00:08:33 → 00:08:37 ปกตินะครับอ่าอ๋อ 10-2 ครั้งต่อวันได้เลย

00:08:37 → 00:08:40 ใช่มั้ยไม่เคยนับด้วยว่าตัวเองมีประมาณ

00:08:40 → 00:08:43 กี่ครั้งใช่บงทีเราก็ไม่ค่อยได้นับต้อง

00:08:43 → 00:08:46 บอกว่าการผายลมไม่ใช่เรื่องผิดปกติโอเไม่

00:08:46 → 00:08:48 ใช่ว่าผายลมฉันจะต้องเป็นโรคอะไรผิดปกติ

00:08:48 → 00:08:51 แน่ๆเลยไม่ใช่นะครับถึงว่าบางคนโดยเฉพาะ

00:08:51 → 00:08:53 แบบผู้หญิงสาวๆนะก็อาจจะเขินพยายามจะ

00:08:53 → 00:08:56 กลั้นอือเช่นโดยเฉพาะเวลาอยู่ในที่

00:08:56 → 00:08:58 สาธารณะพยายามจะกลั้นไม่ไผลมอะไรอย่างงี้

00:08:59 → 00:09:01 ิจริงๆแล้วคนเรามันกลั้นได้มั้ยคะพี่จริง

00:09:01 → 00:09:05 ๆหูรูดเราตรงก้นเราเนี่ยมันก็สามารถจะ

00:09:05 → 00:09:07 กลั้นได้ในระดับหนึ่งอาฮะถ้ามันเป็นตาม

00:09:07 → 00:09:10 ธรรมชาติได้อ่ะมันน่าจะดีกว่าเพราะอย่า

00:09:10 → 00:09:12 ลืมว่าการกลั้นเนี่ยอย่างน้อยแก๊สมันก็

00:09:12 → 00:09:14 ไม่ออกถูกมั้ยฮะแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือว่า

00:09:14 → 00:09:17 บางทีเราทำให้เราอึดอัดแน่นท้องได้ถ้าเรา

00:09:17 → 00:09:20 มัวแต่กลั้นบ่อยๆหรือกลั้นจนเป็นกิจจ

00:09:20 → 00:09:22 นิสัยของเราอย่างเงี้ยเออค่ะดังนั้นเนี่ย

00:09:22 → 00:09:26 ก็อย่าไปกลั้นเลยนะคะแต่อาจจะอย่างอาหาร

00:09:26 → 00:09:28 บางประเภทมันอาจจะทำให้เราแบบมีลมเยอะใช่

00:09:28 → 00:09:31 มั้ยคะใช่อ่าเหมือนกันกับพวกกลุ่มอาหาร

00:09:31 → 00:09:33 ที่ทำให้เกิดเรอมั้ยคะหรือว่ามีความแต

00:09:33 → 00:09:35 ต้องครับคล้ายๆกันครับเพราะว่ามันเกิด

00:09:35 → 00:09:37 แก๊สในลำไส้เหมือนกันแก๊สในท้องเหมือนกัน

00:09:37 → 00:09:39 มันก็ได้ทั้งหมดทั้งขึ้นข้างบนลงข้างล่าง

00:09:39 → 00:09:42 อืนะคะดังนั้นคุณผู้ฟังก็อาจจะต้องสังเกต

00:09:42 → 00:09:43 ด้วยว่าแล้วตัวเองกินอาหารประเภทไหนแล้ว

00:09:44 → 00:09:46 เกิดลมเยอะทั้งบนทางล่างเยอะก็ให้เลี่ยง

00:09:46 → 00:09:50 ประเภทนั้นไปใช่ใช่ครับอ่าแล้วจริงๆแล้ว

00:09:50 → 00:09:53 เนี่ยมันมีอาการผายลมประเภทไหนที่มันอาจ

00:09:53 → 00:09:56 จะไม่ได้ปกติแล้วก็ถ้ามีแบบนี้ควรจะไป

00:09:56 → 00:09:59 ปรึกษาแพทย์บ้างมคะพี่พี่ว่าการไผจริงๆ

00:09:59 → 00:10:02 มันส่วนใหญ่โกถ้าว่าเราผายเยอะจนเกินไป

00:10:02 → 00:10:04 หรือว่าบางทีผายแล้วมีอุจจาระเล็ดออกมา

00:10:04 → 00:10:08 บ่อยๆนอกจากเวลาเราผายลมนะครับส่วนกลิ่น

00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยพี่ว่ามันขึ้นกับอาหารเรากินมากกว่า

00:10:11 → 00:10:13 อือฮึถ้าว่าอาหารเรากินบางอย่างมันก็ทำ

00:10:13 → 00:10:15 ให้กลิ่นที่เปลี่ยนไปในการที่เราทาน

00:10:15 → 00:10:19 สมมุติเรากินเนื้อกินบีฟกินพวกนี้เยอะ

00:10:19 → 00:10:21 อย่างเงี้ยมันก็จะมีกลิ่นที่เป็นกลิ่น

00:10:21 → 00:10:23 เฉพาะของเขาหรือเรากินอะไรบางอย่างมันก็

00:10:23 → 00:10:25 จะมีอย่างงั้นพี่คิดว่าอาจจะไม่เปลี่ยน

00:10:25 → 00:10:27 ตรงนั้นแต่ว่าถ้าเกิดว่าผายลมแล้วความถี่

00:10:27 → 00:10:30 เยอะมากๆหรือว่ามีอเล็ดตามออกมาอย่าง

00:10:30 → 00:10:32 เงี้ยออย่างเงี้ยอาจจะต้องมาให้ดูกันนิด

00:10:32 → 00:10:35 นึงอุอืราคาความถี่เยอะหรืออุจจาระเล็ดก็

00:10:35 → 00:10:38 น่าจะไปตรวจนิดนึงนะคะครับซึ่งทีเนี้ถ้า

00:10:38 → 00:10:40 เราพูดถึงการดูแลสุขภาพระบบทางประเดิน

00:10:40 → 00:10:42 อาหารเนี่ยส่วนใหญ่คนก็จะพูดถึงว่าอ่ะกิน

00:10:42 → 00:10:46 ผักผลไม้เยอะๆไม่ดื่มสุลารักษาน้ำหนักตัว

00:10:46 → 00:10:48 ให้ดีอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยคะทีนี้นอกจาก

00:10:48 → 00:10:51 พวกการกินการอยู่แล้วอ่ะพี่โจโต้อยากแนะ

00:10:51 → 00:10:54 นำอะไรเพิ่มเติมสำหรับการดูแลป้องกันก่อน

00:10:54 → 00:10:56 ที่จะเกิดโรคมยคะจริงๆพี่มองว่าอย่างที่

00:10:56 → 00:10:59 ผิงเล่าไว้การปฏิบัติตัวนะการกินอาหารที่

00:10:59 → 00:11:03 ดีการออกกำลังกายสม่ำเสมอหรือว่าการนอน

00:11:03 → 00:11:05 หลับพักผ่อนให้ดีเนี่ยมันเป็นสิ่งที่ทุก

00:11:05 → 00:11:07 คนควรจะต้องทำอยู่แล้วทีนี้มันมีอีก

00:11:07 → 00:11:11 เรื่องนึงก็คือการดูแลสุขภาพทางเดินอาหาร

00:11:11 → 00:11:13 เพราะฉะนั้นเนี่ยปกติเนี่ยถ้าพี่แนะนำก็

00:11:13 → 00:11:15 คือว่าเวลาเราคนเราแต่ละปีแต่ละปีเราไป

00:11:15 → 00:11:18 ตรวจสุขภาพเนี่ยอย่าตรวจเฉพาะแค่ดูเลือด

00:11:18 → 00:11:20 ดูน้ำตาลดูเบาหวานดูคอเลสเตอรอลอะไร

00:11:20 → 00:11:23 พยายามดูให้มันเกี่ยวกับการทำงานของทาง

00:11:23 → 00:11:26 เดินอาหารด้วยเช่นการดูการทำงานของตับอือ

00:11:26 → 00:11:30 นะครับหรือการตรวจคลื่นความิดสูงอัตซาวนะ

00:11:30 → 00:11:33 ครับพยายามดูด้วยทุกครั้งถ้าเป็นไปได้

00:11:33 → 00:11:35 อย่างน้อยปีละครั้งเช่นดูว่าตับเราเป็น

00:11:36 → 00:11:39 ยังไงถุงน้ำดีเรามีนิ่วมยไตเราเป็นยังไง

00:11:39 → 00:11:41 อย่างอื่นเราเป็นยังไงอะไรอย่างเงี้ยก็

00:11:41 → 00:11:45 เป็นการดูรวมๆนะครับแล้วก็ถ้าเกิดว่าอายุ

00:11:45 → 00:11:48 45 ขึ้นไปแล้วเนี่ยอันนี้พี่แนะนำว่าทุก

00:11:48 → 00:11:51 คนเลยนะครับควรจะได้รับการตรวจลำไส้ใหญ่

00:11:51 → 00:11:55 โดยการส่องกล้องทางเดินอาหารอืผิงเชื่อ

00:11:55 → 00:11:57 ว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้นะคุยกับคนแค่

00:11:57 → 00:11:59 หลายๆคน 50 แล้วก็ยังไม่เคยส่องเพราะว่า

00:12:00 → 00:12:02 เหมือนไม่ได้พูดถึงมากเนาะใช่ครับอครับ

00:12:02 → 00:12:04 จริงๆแต่ก่อนเดี๋ยวนี้เอา 45 นะผิงแต่

00:12:05 → 00:12:08 ก่อนย 50 อยู่เพราะว่าเยวเนี้พบอุบัติ

00:12:08 → 00:12:10 การณ์ของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เนี่ยเพิ่ม

00:12:10 → 00:12:13 ขึ้นนะครับนะไม่ว่าจะเป็นประเทศเราหรือ

00:12:13 → 00:12:15 ว่าต่างประเทศก็แล้วแต่เนี่ยดังนั้นเนี่ย

00:12:15 → 00:12:17 เรา consensus ใหม่เราก็เลยลดอายุลงมา

00:12:17 → 00:12:20 เหลือสัก 45 ขึ้นไปทุกคนนะครับควรจะได้

00:12:20 → 00:12:23 รับการ screening คือผิว่านะ 2 ปัจจัย 1

00:12:23 → 00:12:27 คือไม่รู้ 2 คือบางคนรู้แต่กลัวเจ็บอ๋อ

00:12:27 → 00:12:31 ใช่ๆจริงๆมันไม่ได้เจ็บใช่มมคะไม่เจ็บ

00:12:31 → 00:12:33 ครับเพราะว่าการส่องกล้องเนี่ยโอเคเราจะ

00:12:33 → 00:12:36 มีการให้ยานอนหลับค่ะก่อนโดยการให้ยานอน

00:12:36 → 00:12:39 หลับทางเส้นนะครับเข้าไปแล้วก็หลับนะครับ

00:12:39 → 00:12:41 ฉะนั้นตอนกล้องเล็กๆที่สอดเข้าทางก้นเรา

00:12:41 → 00:12:44 เนี่ยเราจะไม่รู้สึกอะไรเลยนะครับใช้เวลา

00:12:44 → 00:12:47 ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงก็เสร็จ

00:12:47 → 00:12:50 นะครับก็ตื่นมาฟังผลเรียบร้อยดีนะครับอ

00:12:50 → 00:12:53 แต่มันมีความกลัวอยู่หลายอย่างผิงนอกจาก

00:12:53 → 00:12:56 กลัวเจ็บเนี่ยบางคนก็กลัวว่าเอ๊หมอคะถ้า

00:12:56 → 00:12:59 เกิดว่ากินยาเนี่ยไอ้ตอนที่ถ่ายมาเยะเนี่

00:12:59 → 00:13:02 มันจะเป็นลมมั้ยคะออหมันจะท้องเสียจนแบบ

00:13:02 → 00:13:05 หมดเรี่ยวหมดแรงมั้ยคะหรือว่าเวลาให้ยา

00:13:05 → 00:13:07 นอนหลับเนี่ยแล้วถ้ามันไม่ตื่นขึ้นมานี่

00:13:07 → 00:13:09 มันจะเป็นยังไงคือนึกออกมผิงมันจะมีความ

00:13:09 → 00:13:12 กลัวนอกจากเนี่ยพี่ได้ยินมาแบบพี่ก็โไม่

00:13:12 → 00:13:14 มีใครถึงกับเป็นลมอะไรลงไปใช่มั้ยคะพี่ก็

00:13:14 → 00:13:17 ถ่ายปกติเนาะยาระบายสำหรับ 2 กล้องมัน

00:13:17 → 00:13:19 เป็นยาเฉพาะอยู่ะดังนั้นเนี่ยมันจะไม่

00:13:19 → 00:13:22 เสียเกลือแร่อะไรเหมือนทนท้องเสียครับมัน

00:13:22 → 00:13:26 ถ่ายปกติออกไปใช่อึค่ะก็ไปตรวจกันซะนะคะ

00:13:26 → 00:13:29 เพราะจริงๆโรคของระบบทางเดินอาหารเนี่ย

00:13:29 → 00:13:31 ถ้าระยะต้นๆส่วนใหญ่มันไม่ค่อยมีอาการใช่

00:13:31 → 00:13:34 มั้ยพี่ใช่ครับใช่ครับอือนะคะก็ไม่มี

00:13:34 → 00:13:36 อาการเลยแหละก็ต้องไปตรวจก่อนถึงจะรู้ถ้า

00:13:36 → 00:13:38 จะรู้จนแบบมีอาการส่วนใหญ่มันก็เป็นไปซะ

00:13:38 → 00:13:41 เยอะละนะคะอถูกต้องครับผิงครับได้เลยค่ะ

00:13:41 → 00:13:44 ก็ต้องบอกเลยนะคะว่าวันนี้ได้ความรู้ครบ

00:13:44 → 00:13:46 ถ้วนเลยนะคะสำหรับอาการที่เป็นอาการที่

00:13:46 → 00:13:50 เจอได้บ่อยๆสำหรับคนทั่วไปว่าอาการไหนที่

00:13:50 → 00:13:52 ควรจะเลิกซื้อยากินเองแล้วก็ไปพบแพทย์

00:13:53 → 00:13:55 แล้วนะคะวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณนะคะอาจารย์

00:13:55 → 00:13:58 โตโต้นายแพทย์ณฐวุฒิสิริมนต์พรค่ะขอบคุณ

00:13:58 → 00:14:01 ค่ะค่ะพี่โตโตขอบคุณครับิงครับหายเร็วๆนะ

00:14:01 → 00:14:05 ครับิงขอบคุณค่ะขอบคุณครับขอบคุณครับครับ

00:14:06 → 00:14:08 สวัสดีครับสวัสดีครับคหวังว่าเรื่องราวใน

00:14:08 → 00:14:11 พแสวันนี้นะคะจะมีประโยชน์กับทุกคนที่

00:14:11 → 00:14:13 เข้ามาเปิดฟังนะคะใครชอบก็รบกวนนะคะกด

00:14:14 → 00:14:16 ไลค์กดแชร์นะคะหรือว่าจะส่งลิงก์ใน

00:14:16 → 00:14:17 YouTube ไปให้กับคนที่คุณรักคนที่คุณ

00:14:18 → 00:14:21 ห่วงใยก็ได้นะคะให้รักดูแลชีวิตพวกเราทุก

00:14:21 → 00:14:22 คน

00:14:22 → 00:14:26 ค่ะส่วนใครที่มีคำถามหรือว่าอยากจะฟีดแบค

00:14:26 → 00:14:28 อะไรนะคะส่งมาบอกกันได้ในคอมเมนต์ทุกช่อง

00:14:28 → 00:14:31 ทางที่ฟังอยู่เลยค่ะหรือว่าจะทวตมาหาหมอ

00:14:31 → 00:14:34 ที่ Twitter ธิดาร t h i d a k a r

00:14:34 → 00:14:37 n ก็ได้นะคะแล้วพบกันใหม่ EP หน้าค่ะ

00:14:37 → 00:14:41 สวัสดี

00:14:41 → 00:14:45 ค่ะ Single Being podcast about

00:14:45 → 00:14:49 Living your Best Single Life โดย

00:14:49 → 00:14:53 หมอผิงแพทย์หญิงธิดากรรุจิพัฒนกุล

00:14:53 → 00:14:58 ดีที่อยู่เดียว Presented by ให้รักดูแล

00:14:58 → 00:15:03 ชีวิตไทยประกันชีวิต