00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็จะเป็นตอนที่
00:00:02 → 00:00:04 สองนะครับของซีรีส์ที่เราคุยกันอยู่นะ
00:00:04 → 00:00:06 ครับก็คือเรื่องของไตนะครับในพี่เขาที่
00:00:06 → 00:00:08 แล้วนะครับเราคุยกันไว้ว่าไปเนี่ยทำหน้า
00:00:08 → 00:00:10 ที่หลายอย่างด้วยกันนะครับเราพูดถึงหน้า
00:00:10 → 00:00:13 ที่เขาใส่ไว้แปะข้อด้วยกันวันนี้นะครับ
00:00:13 → 00:00:15 เราจะมาโฟกัสไปที่หน้าที่หลักของไตนะครับ
00:00:15 → 00:00:18 ก็คือหน้าที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือในแง่
00:00:18 → 00:00:21 ของการเป็นเครื่องกรองนะครับโดยที่กรอง
00:00:21 → 00:00:23 ของเสียออกจากเลือดแล้วก็ขับทิ้งไปใน
00:00:23 → 00:00:25 ปัสสาวะเราจะมาดูในรายละเอียดนะคะว่าไต
00:00:25 → 00:00:27 เนี่ยทำหน้าที่นี่ได้ยังไงนะครับไปเหมือน
00:00:27 → 00:00:30 กล่องเลือกยังไงเริ่มต้นนะครับปกติเวลา
00:00:30 → 00:00:32 พูดถึงเครื่องกรองนะครับมันเครื่องกรอง
00:00:32 → 00:00:35 น้ำทั่วไปที่ใช้ตามบ้านทั่วไปนะครับแต่
00:00:35 → 00:00:38 กลับก็คือมันก็จะมีตัวท่อน้ำเข้าถูกเลย
00:00:38 → 00:00:40 ครับเสร็จแล้วก็จะต้องไปผ่านตัวไส้กรอง
00:00:40 → 00:00:42 ไส้กรองในก็จะมีลักษณะเหมือนกับเป็นชั้นๆ
00:00:42 → 00:00:45 แล้วนางก็จะวิ่งผ่านไปทีละชั้นทีละชั้น
00:00:45 → 00:00:47 สิ่งที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำต่างๆก็จะเหมือน
00:00:47 → 00:00:50 กับถูกดักเอาไว้นะครับถูกกักไว้ที่ชั้น
00:00:50 → 00:00:54 ต่างๆแล้วน้ำและก็จะสะอาดขึ้นเรื่อยๆก่อน
00:00:54 → 00:00:56 ที่สุดท้ายได้ก็จะวิ่งออกจากไส้กรองไป
00:00:56 → 00:00:59 มีแต่ว่าปกติตัวไส้กรองเนี่ยจะทำงานได้ดี
00:00:59 → 00:01:01 แค่ไหนนะครับหรือว่าทำไมเดิมแค่ไหนมัน
00:01:01 → 00:01:03 ขึ้นกับว่าพื้นที่ผิวของตัวเซ็กส์ลอง
00:01:03 → 00:01:06 เนี่ยมันมีมากน้อยแค่ไหนซึ่งก็คือตัวพื้น
00:01:06 → 00:01:09 ผิวนะครับที่ตัวไส้กรองเนี่ยสัมผัสตนามจะ
00:01:09 → 00:01:11 ได้พักกลับมาธิไตยนะครับก็มันก็คล้ายๆกัน
00:01:11 → 00:01:13 นะครับก็คือเรามองว่าแต่เนี่ยเป็นเครื่อง
00:01:13 → 00:01:16 กรองที่นี่เรามีภาพดูนะคะตายของเราแต่ละ
00:01:16 → 00:01:18 ข้างเนี่ยมันมีขนาดประมาณสัก 1 กำมือนะ
00:01:18 → 00:01:20 ครับ 1 กำมือของเราเนี่ยก็คือซึ่งดูและ
00:01:20 → 00:01:22 น้ำจิ้มก็ไม่ได้ใหญ่มากเลยนะครับที่นี่
00:01:22 → 00:01:25 แต่คนปกติเนี่ยเราก็มีการสร้างของเสีย
00:01:25 → 00:01:27 ตลอดเวลาแต่ว่าถ้าเราต้องการของเสียนั้น
00:01:27 → 00:01:30 ในเลือดของเราเนี่ยอยู่ในระดับปกติเราจะ
00:01:30 → 00:01:32 ต้องให้เลือดหรือวิ่งผ่านไปประมาณ 1
00:01:32 → 00:01:35 ประมาณ 1 ลิตรต่อนาทีนะครับประมาณ 1.2
00:01:35 → 00:01:38 ถึง 1.5 ลิตรต่อนาทีที่นี่การจากกล้อง
00:01:38 → 00:01:41 เลือดปริมาณขณะนี้นะครับประมาณเล็ก 1 ต่อ
00:01:41 → 00:01:43 นาทีเนี่ยด้วยอวัยวะที่มีขนาดแค่ประมาณ 1
00:01:43 → 00:01:46 กำมือเนี่ยมันจะต้องใช้พื้นที่ผิวที่ให้
00:01:46 → 00:01:48 เลือดเนื้อสัมผัสกับตัวที่กรองเนี่ยค่อน
00:01:48 → 00:01:51 ข้างมากคำถามก็คือว่าเอาไว้ว่าที่มีขนาด
00:01:51 → 00:01:56 แค่กำมือเนี่ยมันจะทำหน้าที่ได้ยังไงอ่ะ
00:01:56 → 00:01:58 รอ
00:01:58 → 00:02:01 คำตอบนะครับว่าไตสามารถที่จะทำงานใหญ่
00:02:01 → 00:02:03 ครับทั้งๆที่ตัวมันเองมีขนาดเล็กแค่
00:02:03 → 00:02:06 ประมาณ 1 กำมือเหนือได้ยังไงเนี่ยมันก็
00:02:06 → 00:02:08 อยู่ที่การออกแบบโครงสร้างภายในของไตนะ
00:02:08 → 00:02:11 ครับซึ่งหลักการเนี่ยมันจะคล้ายๆกับต้น
00:02:11 → 00:02:13 ไม้หรือว่าคล้ายๆกับปอดที่เราเคยคุยกันไป
00:02:13 → 00:02:15 ตอนที่เราคุยเรื่องของปอดนะครับผมก็อยาก
00:02:16 → 00:02:18 จะชวนมาดูกันหน่อยนะว่าภายในตายในวันนี้
00:02:18 → 00:02:20 โครงสร้างที่ว่าคล้ายกับต้นไม้หรือว่า
00:02:20 → 00:02:23 คล้ายกับอ่อนยังไงบ้างขึ้นนี้ครับในงาน
00:02:23 → 00:02:25 ของต้นไม้เนี่ยหนึ่งในงานสำคัญนะครับหรือ
00:02:25 → 00:02:27 ว่างานที่จำเป็นของต้นไม้ก็คือการ
00:02:27 → 00:02:29 สังเคราะห์แสงถูกไหมครับเพราะว่าการ
00:02:29 → 00:02:31 สังเคราะห์แสงมันก็คือการผลิตอาหารให้กับ
00:02:31 → 00:02:33 ตัวมันเองที่ในการสังเคราะห์แสงอยู่มัน
00:02:33 → 00:02:35 ต้องพึ่งแสงแดดดังนั้นถ้าต้นไม้เนี่ยมี
00:02:35 → 00:02:38 พื้นที่ผิวที่สามารถสัมผัสกับแสงแดดหรือ
00:02:38 → 00:02:40 สัมผัสกับรังสี UV ได้มากเนี่ยมันก็จะ
00:02:40 → 00:02:43 สามารถสร้างอาหารได้มากวิธีที่ต้นไม้ทำ
00:02:43 → 00:02:45 เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวให้มีพื้นที่
00:02:45 → 00:02:48 สัมภาษณ์กับได้มากเนี่ยก็คือให้มีการแต่ง
00:02:48 → 00:02:50 กิ่งก้านสาขาไปเรื่อยๆนะครับจะกินใหญ่
00:02:50 → 00:02:53 เป็นกิ่งเล็กไปเรื่อยๆแล้วสุดท้ายในกตาย
00:02:53 → 00:02:56 เป็นใบไม้บางๆและด้วยวิธีการนี้นะคะเริ่ม
00:02:56 → 00:02:59 ต้นไม้แบบมีพื้นที่ผิวที่จะสัมผัสกับแบบ
00:02:59 → 00:03:01 เนี่ยเพิ่มขึ้นเยอะมากก็คือเรานึกภาคนะ
00:03:01 → 00:03:03 ครับว่าถ้าเราเด่นไปมาจากต้นไม้ต่างๆแล้ว
00:03:03 → 00:03:06 มาปูไว้ที่พื้นนะครับเราจะเห็นว่ามันกิน
00:03:06 → 00:03:09 พื้นที่นี่กว้างมากและนั่นก็คือพื้นที่
00:03:09 → 00:03:11 ผิวนะครับที่ต้นไม้เนี่ยสามารถใช้สัมผัส
00:03:11 → 00:03:14 กับแสงแดดแล้วก็สร้างอาหารท่าน้ำตาล
00:03:14 → 00:03:17 สำหรับเลี้ยงตนเองได้ที่นี้เช่นเดียวกัน
00:03:17 → 00:03:19 นะครับตอนที่เราคุยเรื่องก่อนเนี่ยระบอบบ
00:03:19 → 00:03:22 เนี่ยก็ใช้หลักการเดียวกันก็คือจากหนึ่ง
00:03:22 → 00:03:24 ทางเดินหายใจในก็แตกเป็นสองข้างนะครับ
00:03:24 → 00:03:26 ซ้ายข้างซ้ายและข้างขวาจากนั้นข้างซ้าย
00:03:26 → 00:03:29 ข้างขวานะก็จะแต่งกิ่งก้านในย่อยเล็กลงไป
00:03:29 → 00:03:31 เรื่อยๆสุดท้ายก็จะกลายเป็นถุงลมนะครับผม
00:03:31 → 00:03:35 ลองบางๆที่มีขนาดเล็กจนข้างตาเปล่าและมอง
00:03:35 → 00:03:38 ไม่เห็นแล้วถ้าเรานำถุงลงทั้งหมดนะครับ
00:03:38 → 00:03:41 มาร์คลีออกนะครับเราก็มาปูที่พื้นเนี้ย
00:03:41 → 00:03:43 มันจะกินพื้นที่ได้ประมาณดอน 1 สนาม
00:03:43 → 00:03:46 เทนนิสนะครับ 1 ข้อ 3 เทนนิสซึ่งพื้นที่
00:03:46 → 00:03:48 ผิวขณะนี้นะครับก็ทำให้ตัวอากาศกับเรื่อง
00:03:48 → 00:03:51 เนี่ยมันมีพื้นที่ที่ได้สัมผัสกันมากขึ้น
00:03:51 → 00:03:53 นะครับทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน
00:03:53 → 00:03:56 เนี่ยก็แรกเป็นธรรมแล้วทรายเนี่ยมันทำได้
00:03:56 → 00:03:59 ดีก็เช่นกันไปเองเนี่ยก็ใช้หลักการเดียว
00:03:59 → 00:04:01 กันนะครับก็คือไตแต่ละข้างของเรานะครับ
00:04:01 → 00:04:03 ทั้งซ้ายทั้งขวาเนี่ยมันจะมีเส้นเลือดแดง
00:04:03 → 00:04:05 วิ่งเข้าไป 1 เส้นฉะนั้นฉันเลือกเดินมัน
00:04:05 → 00:04:08 ก็จะแตกออกนะครับเป็นเส้นย่อยประมาณ 8
00:04:08 → 00:04:10 เส้นด้วยกันจากนั้นนะครับ 8 เส้นนี้นะ
00:04:10 → 00:04:13 ครับก็จะแตกแขนงแต่งย่อยลงไปอีกเรื่อยๆนะ
00:04:13 → 00:04:16 ครับประมาณ 4-5 ครั้งนะครับก็จะไปถึงส่วน
00:04:16 → 00:04:18 ที่เป็นส่วนที่ปลายที่สุดหรือว่าเป็นส่วน
00:04:18 → 00:04:20 ที่เล็กที่สุดซึ่งก็คือตัวเส้นเลือดฝอย
00:04:20 → 00:04:23 ที่มันเล็กมากๆจนตาเปล่าเรามองไม่เห็น
00:04:23 → 00:04:25 แล้วส่วนที่อยู่ที่ปลายส่วนนี้ไม่จบแค่
00:04:25 → 00:04:27 นั้นนะครับคือตัวเส้นเลือดฝอยที่อยู่ตรง
00:04:27 → 00:04:30 ปลายเนี่ยมันจะมันก็กดขยุ้มขยุ้มกันนะ
00:04:30 → 00:04:32 ครับมันก็เป็นได้ที่พันกันยุ่งๆจนเกิด
00:04:32 → 00:04:35 เป็นก้อนกลมขึ้นมาแล้วเส้นเลือดฝอยที่พัน
00:04:35 → 00:04:38 กันจนยุ่งจนกลายเป็นก้อนกลมๆเนี่ยมันก็
00:04:38 → 00:04:41 คือส่วนที่ทำหน้าที่เป็นตัวกรองของไตนะ
00:04:41 → 00:04:44 ครับดังนั้นนะครับเราจะนึกภาพใหญ่ว่าในไต
00:04:44 → 00:04:47 1 อันเนี่ยต่อหนึ่งแต่ละข้างของเราเนี่ย
00:04:47 → 00:04:49 มันเหมือนมีตัวกรองเล็กๆนะครับที่เป็นตัว
00:04:49 → 00:04:52 ก้อนกลมๆที่เล็กจนตามองไม่เห็นอ้ะจำนวน
00:04:52 → 00:04:55 มหาศาลโดยทั่วไปนะครับแต่ละคนหรือว่าไต
00:04:55 → 00:04:57 แต่ละข้างในจะมีให้ตัวตั้งเครื่องกรองอัน
00:04:57 → 00:05:00 นี้นะครับตัวของกองเล็กๆประมาณ 1 1 ล้าน
00:05:00 → 00:05:02 อันนะครับต่อข้างในภาษาไทยการแพทย์นะครับ
00:05:02 → 00:05:04 จะเรียกตัวหน่วยกลองเล็กๆเหล่านี้นะครับ
00:05:04 → 00:05:07 แต่ละอันเดียวอันนี้ font นะครับส่วนภาษา
00:05:07 → 00:05:09 ไทยในจะใช้คำว่าหน่วยไตแล้วทั้งหมดนี้นะ
00:05:09 → 00:05:11 ครับก็คือภาพกว้างกว้างให้เห็นนะครับว่า
00:05:11 → 00:05:15 ภายในไตเนี่ยมันมีลักษณะหน้าตาแบบไหนคราว
00:05:15 → 00:05:17 นี้นะครับผมอยากจะชวนซูมเข้าไปดูนะครับ
00:05:17 → 00:05:19 คือมารับซูมเข้าไปเรื่อยๆนะครับเพื่อไปดู
00:05:19 → 00:05:22 ที่นี่ font 1 อันนะครับแล้ว 1 ตัวหรือ
00:05:22 → 00:05:26 ว่า 1 หน่วยไต 1 อันเนี่ยว่ามันมีหน้าตา
00:05:26 → 00:05:28 เป็นยังไงนะครับแล้วก็มันทำงานยังไงมัน
00:05:28 → 00:05:34 ถึงได้กล่องเลือกมาได้
00:05:34 → 00:05:37 วิธีง่ายๆวิธีนึงนะครับที่จะทำให้นึกภาพ
00:05:37 → 00:05:39 ออกไว้ตัวหน่วยไตหรือตัวนี้ for เนี่ยมัน
00:05:39 → 00:05:42 มีหน้าตายังไงแล้วมันทำงานยังไงนะครับก็
00:05:42 → 00:05:44 คือเราใช้มือของเรานะครับและสุดก็คือใช้
00:05:44 → 00:05:46 มือซ้ายและกรรมขึ้นมานะครับแล้วก็เอามือ
00:05:46 → 00:05:49 ขวานะกำเอาไว้กำกับปั่นซะอีกทีนึงตัวมือ
00:05:49 → 00:05:52 ซ้ายของเราเดี๋ยวมันคืออะไรมันก็คือตัว
00:05:52 → 00:05:54 เส้นเลือกไฟๆนะครับที่เราไปเมื่อกี้ที่
00:05:54 → 00:05:57 เป็นสื่อไฟๆที่มาขยุ้มขยุ้มนะครับและขด
00:05:57 → 00:06:00 รวมกันในตัวกันก่อนกลมขึ้นมาแล้วตัวเส้น
00:06:00 → 00:06:02 เลือดฝอยเหล่านี้นะครับจะรถไฟที่ก็คือมือ
00:06:02 → 00:06:04 ซ้ายของเราเนี่ยมันก็คือเหมือนเส้นฝอย
00:06:04 → 00:06:07 ทั่วไปก็คือตัวผนังของเส้นเลือดเนี่ยมัน
00:06:07 → 00:06:09 จะมีรูรั่วซึ่งรูรั่วเหล่านี้ไม่ใช่ความ
00:06:09 → 00:06:12 ผิดปกตินะครับจะเป็นรั้วที่เกิดขึ้นตาม
00:06:12 → 00:06:14 ธรรมชาติไม่ใช่ว่าเป็นภาวะปกติเพราะโดย
00:06:14 → 00:06:16 หน้าที่ของเส้นเลือดฝอยเนี่ยมันคือช่อง
00:06:16 → 00:06:18 ทางไม่ต้องมีรูรั่วใช่ไหมครับไม่ต้องมี
00:06:18 → 00:06:20 ช่องทางที่จะทำให้สิ่งที่อยู่ในเลือด
00:06:20 → 00:06:23 เนี่ยสามารถที่จะเพื่อนว่าเดินทางจากภาย
00:06:23 → 00:06:25 ในเสื้อเนี่ยออกไปที่เยอะได้ซึ่งสิ่ง
00:06:25 → 00:06:28 เหล่านี้ก็เช่นพวกน้ำนะครับพวกเกลือแรก
00:06:28 → 00:06:30 พวกกลูโคสนะครับหรือว่าพวกมันคุณของเส้น
00:06:30 → 00:06:33 ต่างๆดังนั้นนะครับการที่จะเลิกฝอยจำนวน
00:06:33 → 00:06:35 มากเนี่ยเข้ามาเหมือนกับขดรวมๆนะครับเป็น
00:06:35 → 00:06:38 โครงขยุ้มเป็นก้อนกลมขึ้นมาเนี่ยมันก็
00:06:38 → 00:06:40 เท่ากับเป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวของเส้น
00:06:41 → 00:06:43 เลือดเหล่าเนี้ยให้มีปริมาณที่เพิ่มมาก
00:06:43 → 00:06:45 ขึ้นจะได้พอมีพื้นที่ผิวบริเวณนี้เพิ่ม
00:06:45 → 00:06:48 มากขึ้นนะครับก็ทำให้การเคลื่อนตัวนะครับ
00:06:48 → 00:06:50 ของน้ำของเกลือแร่ต่างๆเนี่ยออกมาใน
00:06:50 → 00:06:53 บริเวณที่เป็นก้อนกลมๆดีมากขึ้นนะครับก็
00:06:53 → 00:06:55 คือหมายถึงว่ามารวมอยู่ที่เดียวกันโอเค
00:06:55 → 00:06:57 แล้วนะครับเป็นปืนมือผมกำลังนะครับคันนี้
00:06:57 → 00:07:00 มาดูว่ามือขวาของเราในคืออะไรเมื่อขวาของ
00:07:00 → 00:07:02 เรานี่จะมองว่าเหมือนเป็นถ้วยก็ได้นะครับ
00:07:02 → 00:07:05 หรือว่าเป็นภาชนะที่มารองรับน้ำที่ซื้อมา
00:07:05 → 00:07:08 จากมือซ้ายของเราถ้าให้ชัดกว่านะคะจะมา
00:07:08 → 00:07:10 ว่ามือข้างขวาเนี่ยเหมือนเป็นตัวกรวยนะ
00:07:10 → 00:07:12 ครับตัวกรวยที่มารองรับน้ำที่เคยเสื่อม
00:07:12 → 00:07:14 ออกมาที่นี่พอมาดองแล้วน้ำที่สุดออกมา
00:07:14 → 00:07:17 เสร็จปุ๊บมันจะส่งไปในต่อมันก็จะส่งเข้า
00:07:17 → 00:07:19 ไปในท่อนะครับท่อเล็กๆซึ่งถ้าเราเทียบ
00:07:19 → 00:07:21 เนี่ยก็จะมองว่าตัวมือขวาของเราได้เป็น
00:07:21 → 00:07:24 ตัวกรวยนะครับส่วนตัวท่อนแขนตั้งแต่ข้อ
00:07:24 → 00:07:27 มือไปท่อนแขนไปเนี่ยมันจะเป็นท่อซึ่งก็จะ
00:07:27 → 00:07:30 เป็นท่อที่จะนำน้ำเหล่านี้เดินทางต่อไป
00:07:30 → 00:07:32 แล้วน้ำที่อยู่ในท่อเล็กๆเหล่านี้นะครับ
00:07:32 → 00:07:34 สุดท้ายมันจะรวมกันละเมิดจะกลายเป็นน้ำ
00:07:34 → 00:07:37 ปัสสาวะออกมาโดยสรุปนะครับจะเห็นว่าสิ่ง
00:07:37 → 00:07:38 ที่เราเรียกว่าเป็นเว็บฟอนต์นะครับหรือ
00:07:38 → 00:07:40 ว่าหน่วยไตเนี่ยน่าจะแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วย
00:07:40 → 00:07:43 กันได้นะครับส่วนแรกก็คือตัวที่เป็นกับ
00:07:43 → 00:07:45 กำปั้นมือซ้ายของเรานะครับก็คือตัวเสื้อ
00:07:45 → 00:07:48 เลือดที่มาขดอยู่รวมกันแล้วก็มีน้ำซึมออก
00:07:48 → 00:07:50 มาส่วนที่ 2 ก็คือส่วนที่เป็นมือขวาของ
00:07:50 → 00:07:52 เรานะครับที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นภาชนะ
00:07:52 → 00:07:56 หรือเป็นตัวกรวยที่มาดะกรองน้ำแล้วส่วน
00:07:56 → 00:07:58 ที่นี้ก็จะเป็นส่วนที่เป็นพ่อนะครับเพราะ
00:07:58 → 00:08:02 ที่ต่อไปซึ่งทอดเนี่ยต้องบอกว่ามันมีความ
00:08:02 → 00:08:04 ยาวที่ยาวมากๆนะครับคราวนี้เรามาดูชื่อ
00:08:04 → 00:08:07 เรียกของ 3 ตัวนี้กันสักนิดนึงนะครับจริง
00:08:07 → 00:08:10 ๆอยากจะให้จำนะครับคืออยากจะพูดชื่อให้
00:08:10 → 00:08:12 ฟังผ่านเร็วนะครับฟังผ่านหูเอาไว้เท่า
00:08:12 → 00:08:13 นั้นเองจะมีแค่ชื่อเดียวนะครับที่อยากจะ
00:08:13 → 00:08:17 ให้สนใจตัวมือซ้ายนะครับตัวกับมือของซ้าย
00:08:17 → 00:08:19 ข้างเราเนี่ยมันจะมีชื่อว่าเป็นตัวมาลุ๊
00:08:19 → 00:08:21 Last นะครับส่วนตัวมือขวาที่มันเป็น
00:08:21 → 00:08:23 ภาชนะเนี่ยมันจะมีชื่อว่าบางแม่นครับสู่
00:08:23 → 00:08:26 นะครับแล้วก็ส่วนที่เป็นท่อเนี่ยตรงเนี้ย
00:08:26 → 00:08:29 ที่ลากยาวต่อไปเนี้ยเรียกรวมกันว่าเป็น
00:08:29 → 00:08:31 wee เน่า True Blue จะได้ใน 3 ชื่อที่
00:08:31 → 00:08:33 อย่างพูดให้ฟังเมื่อกี้เล่นนะครับชื่อที่
00:08:33 → 00:08:35 อยากให้เหมือนกับฟังแล้วคุณหูสัตว์ร้อยก็
00:08:35 → 00:08:38 คือคำว่ากลัวโมลาสทำไมถึงอยากให้จำชื่อ
00:08:38 → 00:08:40 ได้นะครับเพราะว่าปกตินะครับเวลาที่เราไป
00:08:40 → 00:08:43 ตรวจเลือดจะดูการทำงานของไตนะครับที่เรา
00:08:43 → 00:08:46 ว่าฆ่าตายเนี่ยหมอจะมีการคำนวณค่าการทำ
00:08:46 → 00:08:48 งานของไปออกมาฆ่านึงนะครับซึ่งจะเขียนตัว
00:08:48 → 00:08:51 ย่อว่า g-sr นะครับเค้าจิราตัวนี้มันย่อ
00:08:51 → 00:08:53 มาจากชื่อแต่ว่ากลัวโมลาร์ฟิลเทรชั่น
00:08:53 → 00:08:55 เรตส์ซึ่งค่านี้จริงๆก็จะบอกถึงความ
00:08:55 → 00:08:58 สามารถในการอ่าของไตนะครับคือบอกความเร็ว
00:08:58 → 00:09:00 ในการกรองเลือดของไตว่ามีค่าอยู่ประมาณ
00:09:00 → 00:09:04 เท่าไหร่ซึ่งในคนปกตินะครับก็จะมีค่าอยู่
00:09:04 → 00:09:06 ประมาณหนึ่งแต่เมื่ออายุมากขึ้นอยากฆ่า
00:09:06 → 00:09:09 นี้เนี่ยก็จะค่อยๆลดลงนะครับซึ่งก็บ่งให้
00:09:09 → 00:09:12 เห็นว่าไตทำงานน้อยลงที่นี่คำว่ากลัว
00:09:12 → 00:09:14 มารูล่าในคำว่าตัวมึงเล่าฟิวชั่นใหม่
00:09:14 → 00:09:16 เนี่ยมันก็มาจากคำว่ากลมโดยรัฐทำนี้นะ
00:09:16 → 00:09:19 ครับดังนั้นเวลาสมุดเราใบตรวจเลือดมานะคะ
00:09:19 → 00:09:21 เห็นคำนี้เนี่ยจะได้พอนึกออกว่าให้คำว่า
00:09:21 → 00:09:23 Go Lola เนี่ยชื่อแปลกๆตัวเนี่ยมันพูด
00:09:23 → 00:09:26 ถึงตัวโมลาสก็คือตัวอ่อหน่วยใต้และก็นี้
00:09:26 → 00:09:28 นี่เองเข้านี้นะครับเราจะมาดูบ้างว่า
00:09:29 → 00:09:32 หน่วยไตแต่ละอันเนี้ยกลไกในการกรองของวัน
00:09:32 → 00:09:37 นี้ทำงานยังไงบ้าง
00:09:37 → 00:09:40 เพื่อให้เข้าใจง่ายนะครับว่าไอ้ตัวนี้
00:09:40 → 00:09:43 ฟ้อนต์แต่ละตัวมันกล้องยังไงนะครับก็จะขอ
00:09:43 → 00:09:45 เทียบการทำงานเหมือนกับเครื่องกรองน้ำ
00:09:45 → 00:09:48 ทั่วไปก็อย่างที่เราคุยกันไปตอนแรกนะครับ
00:09:48 → 00:09:50 ว่าปกติตัวเครื่องกรองต่างๆมันก็จะไม่จะ
00:09:50 → 00:09:53 เป็นมีการแบ่งเป็นชั้นๆถูกไหมครับเช่นเรา
00:09:53 → 00:09:55 ทำแบบง่ายสุดก็คือชั้นบนสุดจะเป็นเหมือน
00:09:55 → 00:09:58 กับเป็นก้อนและก็ได้ใหญ่นะครับแล้วก็พอ
00:09:58 → 00:10:01 เป็นชั้นถัดมาก็จะเป็นการกดที่มีขนาดเล็ก
00:10:01 → 00:10:03 ลงชั้นล่างสุดจะเป็นทรายนะครับน่าจะมี
00:10:03 → 00:10:06 เป็นชั้นผงถ่านชั้นหนึ่งซึ่งแต่ละชั้นใน
00:10:06 → 00:10:09 ก็จะทำหน้าที่คอยดักจับพวกสิ่งปนเปื้อน
00:10:09 → 00:10:11 ต่างๆที่อยู่ในน้ำที่ราคานอกมาจนสุดท้าย
00:10:11 → 00:10:14 ได้เป็นน้ำสะอาดออกมาการทำงานของในฟ้อนต์
00:10:15 → 00:10:16 แต่ตัวหรือว่าหน่วยไตแต่ละอันเนี่ยมันก็
00:10:16 → 00:10:18 จะใช้หลักการให้คล้ายกันนะครับที่แต่ว่า
00:10:18 → 00:10:21 จะตรงข้ามกับเครื่องกรองน้ำหนึ่งก็คือว่า
00:10:21 → 00:10:23 ถ้าเป็นเครื่องกรองน้ำและเป้าหมายของเรา
00:10:23 → 00:10:26 คือต้องการได้น้ำที่สะอาดออกมาแต่ถ้าเป็น
00:10:26 → 00:10:28 ของไปนะครับสิ่งที่เราต้องการคือไตพยามจะ
00:10:28 → 00:10:32 กรองสิ่งที่ดีเก็บเอาไว้ในเลือดแล้วน้ำ
00:10:32 → 00:10:34 ที่ปล่อยออกไปเดี๋ยวมันก็คือน้ำที่ปนของ
00:10:34 → 00:10:37 สีต่างๆที่ร่างกายต้องการที่จะกำจัดหรือ
00:10:37 → 00:10:40 ว่าเป็นของดีนะครับที่ร่างกายบอกว่ามันมี
00:10:40 → 00:10:42 มากเกินไปแล้วก็ต้องเลยต้องปล่อยออกไป
00:10:42 → 00:10:45 พร้อมกับน้ำปัสสาวะชนิดคำถามต่อไปก็คือ
00:10:45 → 00:10:47 ว่าและตัวกรองนะครับชะตาจะเล่นก็คือตัว
00:10:47 → 00:10:50 ไส้กรองของหน่วยไตที่ว่าในมันอยู่ตรงไหน
00:10:50 → 00:10:53 นะครับคำตอบง่ายก็คือมันจะอยู่ตรงที่ปลง
00:10:53 → 00:10:56 มือซ้ายนะครับมือขวาเราได้สัมผัสกันตอน
00:10:56 → 00:10:58 ค่าน้ำมันเคลื่อนจากมือซ้ายนะครับไปที่
00:10:58 → 00:11:00 มือขวานะครับออกจากเส้นเลือดแล้วไปเข้า
00:11:00 → 00:11:03 ตัวภาชนะที่ว่าบ่แม่นแคปซูลเนี่ยมันจะ
00:11:03 → 00:11:06 ต้องผ่านชั้นต่างๆเราชั้นต่างที่ว่าเนี่ย
00:11:06 → 00:11:08 มันก็จะทำหน้าที่เหมือนกับเป็นไส้กรองที่
00:11:08 → 00:11:11 นี่เราอาจจะเทียบได้นะครับว่าตัวหน่วยไป
00:11:11 → 00:11:13 แล้วเนี่ยกร่อนของเราเนี่ยเหมือนเครื่อง
00:11:13 → 00:11:15 กรองที่มีชั้นกรองอยู่ประมาณสามชั้นด้วย
00:11:15 → 00:11:18 กันโดยชั้นแรกของการกรองจะเป็นเรื่องของ
00:11:18 → 00:11:21 การกรองขนาดนะครับก็คือว่าอะไรก็ตามที่
00:11:21 → 00:11:24 มันเล็กพรมันจะสามารถที่จะผ่านชั้นกรอง
00:11:24 → 00:11:27 นั้นไปได้หรือว่าเลือดออกได้ส่วนของที่
00:11:27 → 00:11:29 ใหญ่เนี่ยมันจะถูกดักเอาไว้ไม่ยอมให้หลุด
00:11:29 → 00:11:32 ออกไปคำว่าเล็กใหญ่ที่ว่ามันคืออะไรนะ
00:11:32 → 00:11:35 ครับคำตอบเป็นตัวเลขเนี่ยก็คือว่าชั้น
00:11:35 → 00:11:37 กรองชั้นเนี่ยมันจะดักของที่มีขนาดใหญ่
00:11:37 → 00:11:40 กว่าประมาณ 100 นาโนเมตรเอาไว้อะไรที่มัน
00:11:40 → 00:11:42 เล็กกว่านั้นนะครับสามารถที่จะหลุดผ่านไป
00:11:42 → 00:11:44 ได้เพื่อให้เห็นภาพนะคะว่าไอ้ 100 ดาโน
00:11:44 → 00:11:47 เมะมันคือใหญ่ขนาดไหนนะครับผมก็จะขอเทียบ
00:11:47 → 00:11:51 นะครับเช่นตัวเม็ดเลือดแดงของเราเนี่ยมัน
00:11:51 → 00:11:53 จะมีขนาดประมาณ 10 ไมโครเมตรนะครับไม่
00:11:53 → 00:11:55 คอมเมนต์เนี่ยมันคือ 10 ยกกำลังลบหกส่วน
00:11:55 → 00:11:59 นาโนเมตรเนี่ยก็คือ 10 ยกกำลังลบ 9 พวก
00:11:59 → 00:12:01 ง่ายก็คือว่าตัวไม่เลือดแดงมันจะใหญ่กว่า
00:12:01 → 00:12:04 ช่องเนี่ยประมาณ 1, เท่าหรือถ้าเป็นไป
00:12:04 → 00:12:06 เลือดขาวนะคะไม่ได้ขาวนี้จะยิ่งใหญ่กว่า
00:12:06 → 00:12:08 มีรถแดงเขาอีกตัวอย่างไม่ได้ประมาณ 10
00:12:08 → 00:12:10 เท่าก็คือไม่ได้ขาวในๆว่าช่องเนี่ยประมาณ
00:12:10 → 00:12:13 หมื่นเท่าดังนั้นนะครับพวกเซลล์ต่างๆนะ
00:12:13 → 00:12:15 ครับอ๋อมันจะเป็นเลือดแดงเมล็ดขาวหรือว่า
00:12:15 → 00:12:18 เซลล์อื่นๆมันจะไม่สามารถที่จะหลุดผ่าน
00:12:18 → 00:12:20 ช่องนี้เข้าไปได้นั้นเวลาที่เราตรวจ
00:12:20 → 00:12:22 ปัสสาวะเราไม่คาดหวังว่าจะเจอพวกมันเลือด
00:12:22 → 00:12:24 แดงเม็ดเลือดขาวหรือว่าพวกเซลล์ต่างๆนะ
00:12:24 → 00:12:27 ครับถ้าเจอก็คือเจอน้อยมากๆแค่ 1-2 เซลล์
00:12:27 → 00:12:30 คำถามว่าคือว่าอะไรบ้างที่สามารถที่จะ
00:12:30 → 00:12:32 ผ่านช่องนี้ออกไปได้นะครับหรือว่าหลุดรอด
00:12:32 → 00:12:34 ออกไปได้แน่นอนนะครับอย่างแรกสุดก็คือพวก
00:12:34 → 00:12:36 โมเลกุลของน้ำนะครับเพราะมะเร็งถุงน้ำ
00:12:36 → 00:12:39 แล้วมันจะมีขนาดเล็กอย่างที่ 2 ก็คือเป็น
00:12:39 → 00:12:41 พวกโมเลกุลของน้ำตาลนะครับก็สามารถที่จะ
00:12:41 → 00:12:44 ผ่านชั้นกล่องนี้ไปได้อย่างที่ 3 เนี่ยก็
00:12:44 → 00:12:46 จะเป็นพวกโปรตีนบางอย่างนะครับโปรตีนวัน
00:12:46 → 00:12:49 มีหลายขนาดนะครับพอดีลงตัวก็มีขนาดใหญ่พอ
00:12:49 → 00:12:50 ใจเมืองตัวเนี่ยมันก็จะมีโมเลกุลที่ขนาด
00:12:50 → 00:12:53 เล็กที่มีขนาดเล็กมาก็พอการชั้นนี้ไปได้
00:12:53 → 00:12:55 ต่อเนื่องจากนี้นะครับเชิญพวกเกลือแร่
00:12:55 → 00:12:57 ต่างๆนะครับที่เราเคยสุดท้ายก็คือพวก
00:12:57 → 00:12:59 โซเดียมโพแทสเซียมแมกนีเซียมเนี่ยก็
00:12:59 → 00:13:02 สามารถที่จะผ่านชั้นเนี่ยไปได้และก็แน่
00:13:02 → 00:13:03 นอนที่สุดนะครับสิ่งที่ผ่านไปได้อย่าง
00:13:03 → 00:13:06 หนึ่งก็คือตัวยูเรียนะครับซึ่งก็คือของ
00:13:06 → 00:13:08 เสียที่ร่างกายเราต้องการและอยากจะกำจัด
00:13:08 → 00:13:11 มันออกไปคราวนี้นะครับมาดูชั้นที่ 2 ของ
00:13:11 → 00:13:14 เครื่องกรองบ้างนะครับการกรองช้าที่ 2
00:13:14 → 00:13:15 เนี่ยจะไม่ใช่เรื่องของขนาดแล้วนะคะจะ
00:13:15 → 00:13:18 เรื่องของประจุไฟฟ้าก็คือชั้นนี่มันจะ
00:13:18 → 00:13:20 อาศัยหลักการเหมือนกับแม่เหล็กปกติแม่
00:13:20 → 00:13:22 เหล็กเนี่ยเรารู้ใช่ไหมครับถ้าประจุ
00:13:22 → 00:13:24 เหมือนกันมันก็จะผลักกันมาทั้งขั้วบวกกับ
00:13:24 → 00:13:27 ขั้วบวกก็ผักกันขั้วลบทุกคนเราก็ตักกัน
00:13:27 → 00:13:30 ฉันกองชั้นนี้เนี่ยตัวชั้นกรองเนี่ยมันจะ
00:13:30 → 00:13:33 มีประจุเป็นลบนะครับเพราะฉะนั้นอะไรก็ตาม
00:13:33 → 00:13:35 ที่มีประจุเป็นลบเนี่ยมันจะไม่สามารถผ่าน
00:13:35 → 00:13:37 ไปได้ก็คือผลเข้ามาใกล้เพื่อจะถูกดันออก
00:13:37 → 00:13:40 ไปคือดันกลับเข้าไปในเส้นเลือดที่คำถามก็
00:13:40 → 00:13:42 คือว่าในร่างกายของเราเนี่ยพวกโมเลกุลที่
00:13:42 → 00:13:45 มีประจุลบในมันคืออะไรนะครับคำตอบก็คือ
00:13:45 → 00:13:48 พวกโปรตีนนะครับเหลือผู้ได้ง่ายหรือว่า
00:13:48 → 00:13:50 ชั้นกรองชั้นเนี่ยเป็นฉันที่ทำหน้าที่คอย
00:13:50 → 00:13:53 ดักโปรตีนหมายถึงว่ามันจะไม่ยอมให้โปรตีน
00:13:53 → 00:13:55 หลุดออกไปได้เลยแม้แต่โปรตีนที่ตัวเล็กนะ
00:13:55 → 00:13:58 ครับที่มันหลุดเมื่อวานฉันได้เข้ามาได้
00:13:58 → 00:13:59 เนี่ยถ้ามาถึงชั้นนี่มันก็จะถูกดันกลับ
00:13:59 → 00:14:03 เข้าไปนั่นก็ทำให้ในภาวะปกติของคนทั่วไป
00:14:03 → 00:14:05 เนี่ยในปัสสาวะของเราจะไม่มีพวกโมเลกุล
00:14:05 → 00:14:07 ของสารโปรตีนอยู่เลยนะคะจะไม่มีพวกอำเภอ
00:14:07 → 00:14:10 โดย Acid ในอยู่ถ้าตรวจเจอโปรตีนใน
00:14:10 → 00:14:12 ปัสสาวะเนี่ยจะบอกให้รู้เลยว่าการกรองของ
00:14:12 → 00:14:14 ไตเดี๋ยวมันมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วโอเคได้
00:14:14 → 00:14:16 เป็นชั้นที่ 2 นะครับคันนี้ไม่รู้ฉันที่ 3
00:14:16 → 00:14:19 บ้านนะครับการกรองชั้นที่ 3 ในก็จะเหมือน
00:14:19 → 00:14:21 กับฉันได้นะครับคือเป็นเรื่องของการกรอง
00:14:21 → 00:14:24 ด้วยขนาดแต่ว่าเป็นขนาดที่เล็กลงไปอีกนะ
00:14:24 → 00:14:26 ครับช่องกรองของชั้นที่ 3 เนี่ยมันจะอยู่
00:14:26 → 00:14:28 ประมาณ 40 นาโนเมตรคืออะไรที่เล็กกว่า 40
00:14:28 → 00:14:31 นาโนเมตรเนี่ยมันจะผ่านไปได้แต่ว่าถ้า
00:14:31 → 00:14:33 ใหญ่กว่านั้นก็จะมาติดอยู่ที่ชั้นนี้แล้ว
00:14:33 → 00:14:36 ก็จะถูกส่งกลับข้อในเลือดแล้วทั้งหมดนี้
00:14:36 → 00:14:38 นะครับก็เป็นภาพย่อให้เห็นนะครับกับข้าวๆ
00:14:38 → 00:14:40 ว่าเห็นว่าไอ้นวยไปของเราเนี่ยเวลาพูดว่า
00:14:40 → 00:14:43 มันกรองน้ำมันกรองยังไงนะครับจะได้ตรงนี้
00:14:43 → 00:14:45 มีประเด็นที่น่าสนใจนี้ครับคำถามก็คือว่า
00:14:45 → 00:14:48 สิ่งที่ถูกกล่องนะครับรถผ่านเครื่องกรอง
00:14:48 → 00:14:50 ออกมาได้นะครับทั้งหมดเนี้ยมันจะกลายเป็น
00:14:50 → 00:14:53 ปัสสาวะหรือเปล่าคำตอบก็คือไม่ใช่นะครับ
00:14:53 → 00:14:55 เพราะเมื่อน้ำที่ออกมาแล้วนะครับผ่าน
00:14:55 → 00:14:57 เครื่องกรองมาแล้วเนี่ยก็จะเข้าส่วนที่
00:14:57 → 00:14:59 เราเป็นพ่อที่เราคุยกันไปนะครับที่เราว่า
00:14:59 → 00:15:01 เป็น wee เน่า to บูนะครับซึ่งที่ผมบอก
00:15:01 → 00:15:04 เป็นท่อที่ยาวมากๆเนี่ยท่อตรงนี้นะคะทำจะ
00:15:04 → 00:15:07 มีกลไกที่ซับซ้อนนะครับแล้วมันจะมีหน้า
00:15:07 → 00:15:10 ที่ถือว่ามีความสามารถดึงสิ่งของต่างๆที่
00:15:10 → 00:15:11 ถูกกรองออกมาแล้วเนี่ยกลับเข้าไปในเลือด
00:15:11 → 00:15:14 อีกครั้งหนึ่งที่นี่คำถามคือว่าแล้วสิ่ง
00:15:14 → 00:15:16 ที่ครองออกมานะครับน้ำที่ถูกลองมาแล้ว
00:15:16 → 00:15:18 เนี่ยมันจะกลายเป็นน้ำปัสสาวะสะกิด
00:15:18 → 00:15:20 เปอร์เซ็นต์นะครับเราจะดุถูกดูดกลับมามาก
00:15:20 → 00:15:24 น้อยแค่ไหนคำตอบก็คือว่าหลังจากที่ผ่าน
00:15:24 → 00:15:25 เครื่องกรองมาแล้วนะครับในน้ำที่ออกมา
00:15:25 → 00:15:29 เนี่ย 99 เปอร์เซ็นต์จะถูกดูดกลับมีเพียง
00:15:29 → 00:15:31 แค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สุดท้ายจะ
00:15:31 → 00:15:34 กลายเป็นน้ำปัสสาวะของเราที่นี่ตัวเลข 99
00:15:34 → 00:15:36 เปอร์เซ็นต์ไม่น่าสนใจนะครับเพราะว่า 99
00:15:36 → 00:15:38 เปอร์เซ็นต์ที่มันสามารถดูดกับข้าวมา
00:15:38 → 00:15:41 เนี่ยมันสะท้อนให้เห็นว่าจริงๆแล้วส่วน
00:15:41 → 00:15:43 ที่ทำงานเด็กหนักจริงๆนะครับของไตเนี่ย
00:15:43 → 00:15:45 อาจจะไม่ใช่อยู่ที่เรื่องของการกรองแต่
00:15:45 → 00:15:48 เป็นเรื่องของการดูดกลับมาความว่าตัวตาย
00:15:48 → 00:15:50 หรือตัวใหญ่ทอดยาวส่วนนี้นะครับมันต้องทำ
00:15:50 → 00:15:52 งานหนักมากในการที่จะค่อยๆเลือกว่ามันจะ
00:15:52 → 00:15:55 ปล่อยอะไรไปกับปัสสาวะบ้างแล้วมันจะดึง
00:15:55 → 00:15:57 อะไรเนี่ยกลับเข้ามาในเส้นเลือดเดี๋ยวเรา
00:15:57 → 00:16:05 จะดึงกลับมาเนี่ยดึงกว่ามากๆน้อยแค่ไหน
00:16:05 → 00:16:08 ทั้งนั้นนะครับผมอยากจะชวนมาโฟกัสส่วนที่
00:16:08 → 00:16:10 เป็นท่อยาวนี้กันบ้างนะครับก็คือเรามาทำ
00:16:10 → 00:16:12 ความรู้จักท่อส่วนนี้กันหน่อยนะครับเพราะ
00:16:12 → 00:16:15 ว่าเป็นส่วนที่ทำงานเยอะมากที่นี่ไอ้ทอด
00:16:15 → 00:16:17 ยาวๆนะครับมันยังแบ่งออกเป็น 4 ส่วนย่อย
00:16:17 → 00:16:20 ด้วยกันแล้วแต่ละส่วนมันก็มีชื่อเรียกที่
00:16:20 → 00:16:23 ต่างกันไปเดี๋ยวผมจะพูดชื่อให้ฟังนะครับ
00:16:23 → 00:16:24 แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นต้องจำก็ได้นะครับ
00:16:24 → 00:16:27 จะพูดชื่อผ่านไปเร็วๆคือให้เหมือนกับฟัง
00:16:27 → 00:16:30 ผ่านหูเอาไว้ทอดส่วนได้ในมีชื่อเรียกว่า
00:16:30 → 00:16:31 ป๊อบซื้อเมาส์คอมพิวเตอร์ to บูนะครับ
00:16:31 → 00:16:34 ส่วนที่ 2 นี่ไม่ใช่ว่าเห็นเลขสรุปส่วน
00:16:34 → 00:16:36 ที่ 3 ไม่ใช่บริษัทเอา Converter to บู
00:16:36 → 00:16:38 นะครับคนที่ 4 ชื่อว่าคอลเลคติ้งดักที่
00:16:38 → 00:16:40 นี่ที่ผมพูดชื่อทั้ง 4 มาเร็วๆเนี่ยนะ
00:16:40 → 00:16:42 ครับคือก็อยากที่ว่าไม่ได้อยากให้จำนะ
00:16:42 → 00:16:45 ครับแต่แค่อยากเห็นเฉยว่าทางการแพทย์และ
00:16:45 → 00:16:47 มองว่ามันสำคัญนะครับแล้วก็ตั้งชื่อให้
00:16:47 → 00:16:50 กับแต่ละส่วนเพราะว่าอะไรเพราะแต่ละส่วน
00:16:50 → 00:16:53 เนี่ยมันทำหน้าที่ต่างกันไปเลยนะครับมัน
00:16:53 → 00:16:56 มีกลไกที่ต่างกันไปแล้วสิ่งของที่มันดุด
00:16:56 → 00:16:59 กลับดึกที่ต่างกันไปด้วยซึ่งเขาคงจะไม่ลง
00:16:59 → 00:17:01 รายละเอียดในส่วนนี้นะครับว่ามันดุดกลับ
00:17:01 → 00:17:03 ยังไงหรือว่ามันดูอะไรกลับมาบ้างเพราะว่า
00:17:03 → 00:17:05 มันมีความซับซ้อนค่อนข้างสูงนะครับแต่ที่
00:17:05 → 00:17:08 อยากจะเน้นให้เห็นนะครับก็คือว่าตรงนี้
00:17:08 → 00:17:11 มันคือกลไกสำคัญที่ทำให้ตายเนี่ยสามารถ
00:17:11 → 00:17:15 ควบคุมปริมาณสิ่งของต่างๆในเลือดได้ถ้าจำ
00:17:15 → 00:17:17 กันได้นะครับที่เราคุยกันไปในที่สดที่
00:17:17 → 00:17:19 แล้วเนี่ยเราบอกว่าไปมันสามารถที่จะควบ
00:17:19 → 00:17:22 คุมความเข้มข้นของสิ่งต่างๆเหลือได้มาก
00:17:22 → 00:17:24 มายเลยนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความ
00:17:24 → 00:17:26 เข้มข้นของตัวเลือกนะครับก็คือปริมาณของ
00:17:26 → 00:17:29 น้ำเลือดว่ามีมากน้อยแค่ไหนควบคุมปริมาณ
00:17:29 → 00:17:31 ของเกลือแร่ต่างๆนะครับที่เป็นเพราะเธอ
00:17:31 → 00:17:34 เสี้ยมโซเดียมแคลเซียมนะครับไบคาร์บอเนต
00:17:34 → 00:17:37 แล้วก็ยังควบคุมความเป็นกรดด่างของเลือด
00:17:37 → 00:17:40 ด้วยที่นี่คิดไรสามารถทำหน้าที่เรานี่ได้
00:17:40 → 00:17:42 เนี่ยเพราะมันเหมือนกับเธอเขาเรียกกันวัด
00:17:42 → 00:17:45 ไปนะคะน่าจะเป็นเกสคลิปเปอร์นะครับคือตัว
00:17:45 → 00:17:47 กั้นสิ่งของต่างๆคือตายในมันทำหน้าที่ควบ
00:17:47 → 00:17:49 คุมว่าจะปล่อยสิ่งของเหล่านี้ออกไปกับ
00:17:49 → 00:17:52 ปัสสาวะมากน้อยแค่ไหนถ้าต้อยนะครับเลือก
00:17:52 → 00:17:55 ที่จะปล่อยกดหรือด่างไปกับปัสสาวะมาก
00:17:55 → 00:17:58 เนี่ยมันก็มีผลกระทบต่อความเป็นกรดด่าง
00:17:58 → 00:18:01 ของเลือดดูมั้ยครับหรือทักไปปล่อยที่ใน
00:18:01 → 00:18:03 การเสียตัวแรกที่ชื่อว่าโพแทสเซียมเนี่ย
00:18:03 → 00:18:05 ไปในปัสสาวะมากเพราะจะเสียในเลือดของเรา
00:18:05 → 00:18:08 เนี่ยก็จะลดลงดังนั้นการควบคุมรถจะปล่อย
00:18:08 → 00:18:11 อะไรหรือไม่ปล่อยอะไรเราไปในปัสสาวะเนี่ย
00:18:11 → 00:18:14 จะเป็นการที่สำคัญมากแต่หน้าที่นี่นะครับ
00:18:14 → 00:18:16 การเลือกตัดสินใจว่าจะทิ้งหรือไม่ทิ้ง
00:18:16 → 00:18:19 อะไรจะเก็บอะไรกับเข้ามาบ้างเนี่ยมันไม่
00:18:19 → 00:18:21 ได้เป็นการตัดสินใจของแค่ไปแต่เพียง
00:18:21 → 00:18:24 อวัยวะเดียวแต่ตายเนี่ยแต่รับคำสั่งมาจาก
00:18:24 → 00:18:27 ข้อที่ว่าอื่นด้วยซึ่งคำสั่งส่วนใหญ่ที่
00:18:27 → 00:18:29 มาที่ไปเนี่ยก็จะมาในรูปของฮอร์โมนนะครับ
00:18:29 → 00:18:33 ตัวอย่างของข้อมูลที่มาธิไตยและควบคุมกัน
00:18:33 → 00:18:35 เลือกการเก็บกลับแล้วกันทิ้งก็ต่างๆเนี่ย
00:18:35 → 00:18:38 ก็เช่นนะครับข้อมูลที่มีชื่อว่า a d s
00:18:38 → 00:18:41 นะครับ ABS เนี่ยมาจากสมองส่วนที่มีชื่อ
00:18:41 → 00:18:42 เรียกว่า pitch หยุด Le Grand นะคะหรือ
00:18:42 → 00:18:45 ว่าต่อมใต้สมองซึ่งตอนที่เราคือเรื่องของ
00:18:45 → 00:18:47 ระบบพอโมนและระบบต่อมไร้ท่อและคงไม่คุย
00:18:47 → 00:18:49 เรื่องนี้กันอีกทีนะครับแต่แค่จะบอกให้
00:18:50 → 00:18:52 ใช้ว่าอันนี้เป็นฮอร์โมนที่สมองเนี่ยส่ง
00:18:52 → 00:18:55 มาธิไตยเพื่อนเป็นไหมเป็นคำสั่งบอกว่าให้
00:18:55 → 00:18:58 มีการเก็บน้ำกับต่อมาในเลือดเนี่ยมากขึ้น
00:18:58 → 00:19:01 หรืออีกตัวคือเอาโดนที่เราคุยกันไปนี้นะ
00:19:01 → 00:19:03 ครับก็เอาโซโลเนี่ยเขาจะมาเหมือนกับสั่ง
00:19:03 → 00:19:06 ไปที่ท่อไตเหมือนกันว่าให้ดึงเกลือกลับมา
00:19:06 → 00:19:08 เพิ่มขึ้นนะครับกับข้อในเรื่องเนี่ยเพิ่ม
00:19:08 → 00:19:11 ขึ้นหรือแม้แต่ข้อโมนเพศนะครับอย่างข้อ
00:19:11 → 00:19:13 มูลเพศหญิงอย่างเอชเช่นเหรอว่าจะโซโล
00:19:13 → 00:19:16 เนี่ยก็จะมีผลต่อการดูดกลับดูดน้ำกลับ
00:19:16 → 00:19:18 เข้าสู่ร่างกายด้วยซึ่งผมเชื่อว่าผู้หญิง
00:19:18 → 00:19:20 ส่วนใหญ่ก็อาจจะคุ้นเคยกับภาวะนี้ดีนะ
00:19:20 → 00:19:23 ครับเพราะว่าช่วงรอบเดือนนะครับที่ว่าจะ
00:19:23 → 00:19:25 มีประจำเดือนเนี่ยหลายคนก็จะสังเกตว่า
00:19:25 → 00:19:28 เมื่อมีข้อมูลเพชรเปลี่ยนไม่ต้องไปส่งมัน
00:19:28 → 00:19:30 มีทางการเดี๋ยวมันบวมหน้ามากขึ้นซึ่งก็จะ
00:19:30 → 00:19:33 เป็นการทำงานในส่วนนี้นะครับที่นี่หลัง
00:19:33 → 00:19:35 จากที่เราได้คุยเรื่องการทำงานของไอ้ตัว
00:19:35 → 00:19:37 ท่อไตยาวที่ว่านะครับที่ว่าเป็นวินัย
00:19:37 → 00:19:40 chubu เนี่ยว่ามันทำงานหนักแค่ไหนนะครับ
00:19:40 → 00:19:42 หรือว่ามันมีบทบาทสำคัญยังไงผมเกลียดจะ
00:19:42 → 00:19:45 ชวนพูดถึงเรื่องของไปหรือว่ากรอบความคิด
00:19:45 → 00:19:48 ใดๆเกี่ยวกับไตซักนิดนึงนะครับก็คือว่า
00:19:48 → 00:19:51 ปกติเรามักจะนิยมเที่ยววัดไปทำหน้าที่
00:19:51 → 00:19:53 เหมือนเป็นเครื่องกรองถูกไหมครับจะจากที่
00:19:53 → 00:19:55 เราคุยกันมาในพิศวาสนี้จะเห็นว่าการกรอง
00:19:55 → 00:19:58 ในมันเป็นแค่หน้าที่อีกตัวนึงเท่านั้นได้
00:19:58 → 00:20:01 จะไม่ใช่งานหลักและงานที่สำคัญที่สุดที่
00:20:01 → 00:20:03 มันทำด้วยแต่งงานที่มันหนักจริงๆมันอยู่
00:20:03 → 00:20:07 ที่เรื่องของการเลือกกลับนะครับว่าจะดึง
00:20:07 → 00:20:09 สารอะไรเดี๋ยวกลับเข้ามาในเลือดบ้างดัง
00:20:09 → 00:20:12 นั้นอาจจะมองได้ว่าตัวตายเนี่ยมาจะไม่ใช่
00:20:12 → 00:20:14 แค่เครื่องกรองจำนวนเป็นโรงงานที่คอยคัด
00:20:14 → 00:20:17 แยกแล้วเป็นโรงงานรีไซเคิลก็ได้นะครับที่
00:20:17 → 00:20:19 จะต้องมานั่งเลือกว่าจะเก็บอะไรเนี่ยกลับ
00:20:19 → 00:20:22 เข้ามาในร่างกายบ้างแล้วการตัดสินใจดึง
00:20:22 → 00:20:24 อะไรเก็บกับเข้ามาบ้างเนี่ยมันสำคัญมาก
00:20:24 → 00:20:26 เพราะมันจะมีผลต่อค่าต่างในเรื่องของเรา
00:20:26 → 00:20:29 เป็นอย่างมากแล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือ
00:20:29 → 00:20:31 เรื่องของการทำงานของไตนะครับที่อยากจะ
00:20:31 → 00:20:34 เล่าให้ฟังคิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วนะครับ
00:20:34 → 00:20:36 สำหรับการเข้าใจการทำงานในภาวะปกติของไต
00:20:36 → 00:20:39 นะครับสำหรับเด็กที่สดถัดไปนะครับผมจะชวน
00:20:39 → 00:20:41 นำความรู้ที่เราคุยกันไปในสองนาทีสดได้นะ
00:20:41 → 00:20:45 ครับไปทำความเข้าใจภาวะผิดปกติของไตกัน
00:20:45 → 00:20:47 บ้างนะครับโดยในที่สนหน้าเนี่ยผมจะชวนไป
00:20:47 → 00:20:49 คุยเรื่องของการบาดเจ็บเฉียบพลันของไต
00:20:49 → 00:20:51 เกาะนะครับหรือว่าที่สมัยก่อนเราเรียกว่า
00:20:51 → 00:20:54 ภาวะไตวายเฉียบพลันก็จากกันไปก็เช่นเคยนะ
00:20:54 → 00:20:56 ครับขอฝากไว้นิดนึงนะครับจะใครชอบเรื่อง
00:20:56 → 00:20:58 จะเอาให้ฟังนะครับชอบสิ่งที่ผมทำอยู่นะ
00:20:58 → 00:21:01 ครับเราอยากเป็นกำลังใจให้นะครับง่ายๆนะ
00:21:01 → 00:21:04 ครับฝากกด Subscribe นะครับว่าเขียน
00:21:04 → 00:21:06 คอมเม้นนะครับกดไลค์กดแชร์ให้หน่อยนะครับ
00:21:06 → 00:21:07 หรือว่าได้นำให้คนอื่นในรู้จัก Channel
00:21:08 → 00:21:11 ต่อนะครับสำหรับวันนี้ผมขอลาไปก่อนนะครับ
00:21:11 → 00:21:13 เราเจอกันใหม่ในที่ส่วนหน้านะครับสวัสดี
00:21:13 → 00:21:16 ครับอ่า