00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับตอนนี้นะครับหลายคนให้ความสนใจ
00:00:03 → 00:00:05 เกี่ยวข้องกับเรื่องของ plasma fisicis
00:00:05 → 00:00:08 เป็นจำนวนมากเลยนะครับเพราะว่าช่วงหลังมี
00:00:08 → 00:00:11 การเอามันมาใช้เพื่อชะลอไวเพื่อป้องกัน
00:00:11 → 00:00:14 ไม่ให้ร่างกายเสื่อมเพื่อลดการอักเสบของ
00:00:14 → 00:00:17 ร่างกายวันนี้นะครับผมก็เลยอยากจะหยิบยก
00:00:17 → 00:00:19 เรื่องราวของ plasmais มาเล่าให้ฟังว่า
00:00:19 → 00:00:23 มันคืออะไรทำอย่างไรมันมีปัญหาอะไรมยแล้ว
00:00:23 → 00:00:27 มีประโยชน์อะไรหรือเปล่ารวมทั้งเราจะไปทำ
00:00:27 → 00:00:30 มันเนี่ยเราจะต้องรู้อะไรก่อนบ้างนะครับ
00:00:30 → 00:00:32 พบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวัณเป็น
00:00:32 → 00:00:34 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:34 → 00:00:36 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:36 → 00:00:39 บำบัดนะครับต้องขอบอกอย่างนี้ก่อนนะครับ
00:00:39 → 00:00:43 ว่าplasmaฟisเนี่ยมีการใช้มานานมากแล้วใน
00:00:43 → 00:00:46 ทางการแพทย์นะครับแต่เราจะมีข้อบ่งชี้
00:00:46 → 00:00:49 เฉพาะโดยตรงเลยนะครับสำหรับการใช้ plasma
00:00:49 → 00:00:54 fisis เพราะว่ามันทำยากราคาแพงและที่
00:00:54 → 00:00:57 สำคัญครับมีผลข้างเคียงแล้ววันนี้นะครับ
00:00:57 → 00:01:00 ผมจะขอเริ่มต้นด้วยการสรุปสรุปแบบสั้นๆ
00:01:00 → 00:01:04 เลยสำหรับคนทั่วไปนะครับการไปทำ plasmais
00:01:04 → 00:01:08 เนี่ยมันได้ไม่กลุ่มเสียนะครับสิ่งที่คุณ
00:01:08 → 00:01:10 อยากจะบอกว่าเอาตัวเองไปทำพลาสmฟasis
00:01:10 → 00:01:13 เพื่อล้างสารอักเสบล้างพิษต่างๆที่อยู่ใน
00:01:13 → 00:01:16 ร่างกายแล้วก็เพื่อการชะลอวัยป้องกันโรค
00:01:16 → 00:01:19 เนี่ยนะครับมันทำไม่ได้จริงครับนะแล้วที่
00:01:19 → 00:01:22 สำคัญคือถึงแม้ว่าหลักการของมันจะดีแต่
00:01:22 → 00:01:25 หลักฐานทางการแพทย์เพื่อการเนี้ยมันไม่มี
00:01:25 → 00:01:29 ครับแล้วที่มีก็ไม่เพียงพอที่จะสามารถแนะ
00:01:29 → 00:01:32 นำว่าให้ทุกคนไปทำ plasma fysis ได้นะ
00:01:32 → 00:01:35 อันนี้คือสั้นๆง่ายๆเลยนะครับแต่ถ้าเกิด
00:01:35 → 00:01:39 ว่าใครยังอยากจะไปทำไม่มีปัญหาครับเพราะ
00:01:39 → 00:01:41 ว่าทุกคนมีสิทธิในร่างกายของตัวเองแล้ว
00:01:42 → 00:01:44 ถ้าเกิดว่าคุณมีเงินเพียงพอคุณก็สามารถ
00:01:44 → 00:01:47 ที่จะไปทดลองทำได้นะครับแต่ถ้าเป็นตัวผม
00:01:47 → 00:01:50 จะแนะนำว่าหลักฐานมันไม่เพียงพอที่จะทำ
00:01:50 → 00:01:54 ให้ได้อย่างที่เขาโฆษณาอันเนี้ยแปลว่ามัน
00:01:54 → 00:01:57 อาจจะไม่ได้ผลที่คุ้มค่ากับสิ่งที่คุณ
00:01:57 → 00:02:00 หวังไว้นะครับแล้วมันอาจจะตามมาด้วยผล
00:02:00 → 00:02:03 ข้างเคียงต่างๆซึ่งวันนี้เราจะลงราย
00:02:03 → 00:02:06 ละเอียดกันนะครับอ่ะทีนี้ถ้าใครฟังตรงนี้
00:02:06 → 00:02:09 ไปแล้วแล้วอยากรู้เหตุผลลึกๆว่าทำไมผมถึง
00:02:09 → 00:02:12 พูดเช่นนี้นะครับแล้วพลาสmaisเนี่ยมันเอา
00:02:13 → 00:02:15 ไว้ทำอะไรกันแน่ก็เดี๋ยวฟังต่อไปนะครับ
00:02:16 → 00:02:19 แล้วช่วงหลังจะมีบางอย่างที่ลงลึกถึง
00:02:19 → 00:02:23 ระดับที่แพทย์จำเป็นจะต้องทราบด้วยนะครับ
00:02:23 → 00:02:25 เริ่มอย่างนี้ก่อนนะครับว่า plasma
00:02:25 → 00:02:28 physis เนี่ยมันเป็นการรักษาาที่อยู่ใน
00:02:28 → 00:02:32 กลุ่มที่เราเรียกว่า Therapeutic Apis
00:02:32 → 00:02:35 นะครับ Therapeutic Apis คืออะไรมันคือ
00:02:35 → 00:02:38 การที่เราเจาะแล้วนำเลือดออกมานะครับแยก
00:02:38 → 00:02:41 ส่วนประกอบต่างๆและส่วนประกอบส่วนไหนที่
00:02:41 → 00:02:44 เราไม่ต้องการเนี่ยเราก็จะเอามันไปทิ้งนะ
00:02:44 → 00:02:47 ครับและเติมส่วนประกอบที่เราต้องการกลับ
00:02:47 → 00:02:50 เข้าไปแทนนะครับ Therapeutic ais จึงแยก
00:02:50 → 00:02:54 เป็น 2 ขานะครับขาแรกก็คือเอาเซลล์ที่
00:02:54 → 00:02:57 อยู่ในเลือดของเราเนี่ยที่เราไม่ต้องการ
00:02:57 → 00:02:59 เอามันไปทิ้งนะครับเพราะว่าเลือดของเรา
00:02:59 → 00:03:02 ต้องบอกอย่างงี้ครับว่ามันประกอบไปด้วย
00:03:02 → 00:03:04 เม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดขาวเกล็ดเลือดและ
00:03:04 → 00:03:07 ตัวพลาสมาซึ่งเป็นน้ำเลือดถ้าเราเจาะออก
00:03:07 → 00:03:09 มาเลือดแดงๆของเราเนี่ยเอาไปปั่นปุ๊บมัน
00:03:09 → 00:03:12 จะแยกชั้นกันเลยครับชั้นล่างของมันเนี่ย
00:03:12 → 00:03:14 ก็จะเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงนะครับถัดมาก็
00:03:14 → 00:03:16 จะเป็นเม็ดเลือดขาวกับเกล็ดเลือดอยู่ด้วย
00:03:16 → 00:03:19 กันแล้วก็จะมีน้ำใสๆอยู่ข้างบนนะครับสี
00:03:19 → 00:03:23 ออกเหลืองๆใสตรงเนี้ยคือพลาสม่านะครับถ้า
00:03:23 → 00:03:26 เป็นอฟีisชนิดที่เอาเซลล์ไปทิ้งเช่นบางคน
00:03:26 → 00:03:28 เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีเม็ดเลือดขาว
00:03:28 → 00:03:30 เยอะเกินไปก็สามารถเอาเซลล์เม็ดเลือดขาว
00:03:30 → 00:03:34 ไปทิ้งได้ด้วยการทำicis
00:03:34 → 00:03:36 แบบนี้นะครับหรือจะเป็นเกล็ดเลือดหรือจะ
00:03:36 → 00:03:38 เป็นเม็ดเลือดแดงที่มันเยอะเกินไปก็
00:03:38 → 00:03:41 สามารถรักษาได้ด้วยวิธีนี้เช่นกันนะครับ
00:03:41 → 00:03:46 กับอีกแบบนึงคือเรามีปัญหาในตัวพลาสมา
00:03:46 → 00:03:49 หรือน้ำเลือดนะครับไม่ว่าจะเป็นบางคน
00:03:49 → 00:03:51 เนี่ยมีโปรตีนบางชนิดสูงเกินไปมี
00:03:51 → 00:03:54 แอนติบอดี้ผิดปกติในนั้นเยอะเกินไปนะครับ
00:03:54 → 00:03:57 หรือมีไขมันบางชนิดที่มันสูงจนเกินไปเรา
00:03:57 → 00:04:00 ก็สามารถที่จะทำการเอาส่วนที่เป็นน้ำ
00:04:00 → 00:04:03 เลือดนี้ออกไปนะครับส่วนที่เป็นน้ำเลือด
00:04:03 → 00:04:06 เอาออกไปเนี่ยเราจะเรียกว่า plasma furis
00:04:06 → 00:04:09 นะครับถ้าเราเอาออกไปเราก็จะต้องมีสารน้ำ
00:04:09 → 00:04:12 บางอย่างมาทดแทนซึ่งเดี๋ววันเนี้ยจะลงราย
00:04:12 → 00:04:15 ละเอียดตรงนี้นะครับงั้นตรงนี้ทราบคร่าวๆ
00:04:15 → 00:04:18 ก่อนนะครับว่า therapeutic airis มันแยก
00:04:18 → 00:04:21 เป็น 2 ขาขาแรกเนี่ยคือการกำจัดเซลล์ที่
00:04:21 → 00:04:23 เราไม่ต้องการขาที่ 2 ก็คือplasmaฟisที่
00:04:23 → 00:04:26 เราจะพูดกันในวันนี้นั่นเองนะครับขั้นตอน
00:04:26 → 00:04:31 การทำของมันนะครับข้อแรกคือเราจะต้องมี
00:04:31 → 00:04:34 เส้นเลือดที่มันใหญ่เพียงพอนะครับเพราะ
00:04:34 → 00:04:36 ว่าเวลาที่เราจะดึงเอาเลือดออกไปจากร่าง
00:04:36 → 00:04:38 กายแล้วเข้าไปที่เครื่องเนี่ยมันจะต้อง
00:04:39 → 00:04:42 ใช้เลือดที่ไหลได้เร็วนะครับถ้ามันไหลช้า
00:04:42 → 00:04:44 เส้นเลือดเราเปราะบางเนี่ยมันก็จะทำไม่
00:04:44 → 00:04:47 ได้นะครับแล้วเราจะต้องมีเส้นใหญ่ๆทั้ง
00:04:47 → 00:04:50 หมด 2 เส้นนะครับอาจจะเป็นเส้นที่แขนทั้ง
00:04:51 → 00:04:54 2 ข้างนะครับข้างนึงเป็นการดึงเลือดออก
00:04:54 → 00:04:55 มาแล้วเข้าไปที่เครื่องนะครับเครื่องก็จะ
00:04:55 → 00:04:59 จัดการแยกพลาสมานำส่วนที่มันมีปัญหาไป
00:04:59 → 00:05:01 ทิ้งเติมส่วนที่ดีกลับเข้ามาแล้วก็เอา
00:05:01 → 00:05:04 เลือดทั้งหมดที่มันผสมแล้วเนี่ยใส่กลับ
00:05:04 → 00:05:07 เข้ามาที่แขนอีกข้างนึงนะครับในกรณีที่
00:05:07 → 00:05:10 หลอดเลือดที่แขนเนี้ยมันมีปัญหามันตีบมัน
00:05:10 → 00:05:12 ตันมันหาไม่ได้นะครับก็อาจจำเป็นจะต้อง
00:05:12 → 00:05:15 ใช้หลอดเลือดที่คอตรงนั้นก็จะเป็นการใส่
00:05:15 → 00:05:17 สายขนาดใหญ่เข้าไปตรงคอตรงนี้เพื่อที่จะ
00:05:17 → 00:05:19 ทำนะครับดังนั้นคนไหนที่มีหลอดเลือดเปราะ
00:05:19 → 00:05:23 บางเนี่ยทำ plasmais ด้วยเส้นเลือดปกติ
00:05:23 → 00:05:26 มันไม่ได้นะครับก็ต้องทำเส้นเลือดที่ขอนะ
00:05:26 → 00:05:28 ครับในการทำ 1 ครั้งเนี่ยจะใช้เวลาตั้ง
00:05:28 → 00:05:33 แต่ประมาณสัก 1-4 ชมงแล้วแต่ว่าเราทำอะไร
00:05:33 → 00:05:36 ทำมากแค่ไหนนะครับอันเนี้ยก็คือหลักการ
00:05:36 → 00:05:38 ว่ามันทำยังไงเครื่องที่เขาใช้ในการทำ
00:05:38 → 00:05:41 plasmais เนี่ยคล้ายๆกับเครื่องล้างไตนะ
00:05:41 → 00:05:43 ครับมันคนละเครื่องกันแต่ว่าหลักการคล้าย
00:05:43 → 00:05:49 กันนะฮะอ่ะนี่คือคร่าวๆก่อนทีนี้ถามว่า
00:05:49 → 00:05:52 แล้วในทางการแพทย์กับในทางเวชศาสตร์ชะลอ
00:05:53 → 00:05:56 วัยเนี่ยมันต่างกันตรงนะครับไอเดียของการ
00:05:56 → 00:05:59 ทำ plasma fisis เนี่ยคือในplาสasmaถ้า
00:05:59 → 00:06:02 มันมีสารที่มันไม่ดีนะครับเช่นพีทต่างๆนะ
00:06:02 → 00:06:05 ครับหรือโปรตีนผิดปกติไขมันผิดปกติหรือ
00:06:06 → 00:06:08 อะไรก็แล้วแต่นะครับเราเอาตรงเนี้ยไปทิ้ง
00:06:09 → 00:06:12 และเอาของใหม่ใส่เข้าไปน่าจะดีมันก็เลย
00:06:12 → 00:06:16 ถือกำเนิดสิ่งที่หลายๆคนเอาไปทำ plasmais
00:06:17 → 00:06:21 นะครับเพื่อชะลอวัยนะครับใครล่ะครับคนแรก
00:06:21 → 00:06:25 ที่หลายๆคนน่าจะรู้จักแล้วก็เคยเห็นก็คือ
00:06:25 → 00:06:27 คุณ Brian Johson นะครับคุณ Brian
00:06:27 → 00:06:31 Johson เนี่ยถ้าใครจำได้นะครับเขาจะมี
00:06:31 → 00:06:35 สารคดีออกมาอันนึงแล้วเค้าเนี่ยทำการถ่าย
00:06:35 → 00:06:38 พลาสม่าจากตัวลูกชายเค้าไปที่ตัวเค้าลูก
00:06:38 → 00:06:40 ชายของเขาเนี่ยก็แน่นอนครับเด็กกว่าใน
00:06:40 → 00:06:45 พลาสมาย่อมมีสารที่มันส่งเสริมการซ่อมแซม
00:06:45 → 00:06:47 ร่างกายมี GR Factor ต่างๆนะครับส่วนตัว
00:06:47 → 00:06:49 เค้าเนี่ยอายุเยอะกว่าเค้าก็จะเอาพลาสมา
00:06:49 → 00:06:51 ของเขาเนี่ยไปทิ้งแล้วเติมเข้าไปด้วย
00:06:51 → 00:06:54 พลาสมาของลูกเค้านะครับนี่คือการทำ plasma
00:06:54 → 00:06:57 fisicis รูปแบบหนึ่งแต่สารน้ำที่เอามาทด
00:06:57 → 00:07:00 แทนพลาสมาที่ตัวเองโยนทิ้งไปก็คือพลาสมา
00:07:00 → 00:07:03 ของลูกเขานะครับอ่าแต่ว่าต้องบอกอย่างงี้
00:07:03 → 00:07:06 ครับว่าคุณ brant joh johnson เนี่ย
00:07:06 → 00:07:08 เค้าไม่ได้ทำวิธีนี้วิธีเดียวเพื่อการ
00:07:08 → 00:07:11 ชะลอวัยนะครับดังนั้นถ้าใครบอกว่าอุ้ยคุณ
00:07:11 → 00:07:14 แบJohจonทำแสดงว่ามันต้องวิธีนี้แหละเขา
00:07:14 → 00:07:17 ถึงได้ดูเด็กทุกอย่างดีขึ้นมาไม่ใช่ครับ
00:07:17 → 00:07:19 ถ้าคุณไปดูสารคดีเต็มๆเนี่ยคุณ Brian
00:07:19 → 00:07:22 Johson เขาเป็นคนที่มีวินัยมากเมีการออก
00:07:22 → 00:07:24 กำลังกายที่ดีการนอนหลับพักผ่อนที่เพียง
00:07:24 → 00:07:29 พอการทำสมาธิการฝึกจิตใจนะครับการรับ
00:07:29 → 00:07:31 ประทานอาหารที่มันค่อนข้างเข้มงวดมีการ
00:07:31 → 00:07:34 ทานอาหารเสริมต่างๆนานาเป็นร้อยชนิดต่อ
00:07:34 → 00:07:37 วันเลยทีเดียวนะครับดังนั้นเนี่ยมันต้อง
00:07:37 → 00:07:39 ประกอบไปด้วยหลายๆอย่างและที่สำคัญครับ
00:07:39 → 00:07:42 คุณ br johson เขามีการวัดผลตลอดเวลา
00:07:42 → 00:07:46 ก่อนระหว่างและหลังทำซึ่งคนทั่วไปทำไม่
00:07:46 → 00:07:48 ได้อย่างเขาเนื่องจากเราไม่มีอุปกรณ์ใน
00:07:48 → 00:07:51 การวัดทุกๆอย่างแบบเค้านะครับงั้นถ้าเรา
00:07:51 → 00:07:54 จะเชื่อกรณีของแบรนด์ Johnson เนี่ยคงจะ
00:07:54 → 00:07:57 ไม่สามารถเชื่อได้ 100% เต็มและที่สำคัญ
00:07:57 → 00:07:59 ครับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับ
00:07:59 → 00:08:02 plasma fisicis ในกรณีนี้เนี่ยมันไม่มี
00:08:02 → 00:08:06 นะครับและที่มีก็ไม่เพียงพอซะด้วยล่าสุด
00:08:06 → 00:08:08 ครับinfluenซerที่ไทยนะครับคุณท็อป
00:08:08 → 00:08:12 จิรยุทธก็ได้ไปทำการทำplasmaฟisนะครับ
00:08:12 → 00:08:15 แล้วเขาบอกว่าเขาได้ล้างเอาพวกสารพิษต่าง
00:08:15 → 00:08:20 ๆออกจากร่างกายที่มันสะสมมาตลอด 35 ปีออก
00:08:20 → 00:08:22 ไปนะครับแล้วเค้าคิดว่าเออเนี่ยเขาจะมาทำ
00:08:22 → 00:08:25 อ่าปีละหลายๆครั้งเพื่อที่จะป้องกันไม่
00:08:25 → 00:08:28 ให้ร่างกายของเขาเสื่อมซึ่งผมต้องขอบอก
00:08:28 → 00:08:30 ตรงนี้ตรงๆนะครับว่ามันอาจจะไม่ได้อย่าง
00:08:30 → 00:08:33 ที่คิดครับเหตุผลมันเป็นอย่างี้ครับการทำ
00:08:34 → 00:08:36 plasma ฟรีเนี่ยมันเหมือนเป็นการซื้อ
00:08:36 → 00:08:41 เวลาให้ร่างกายแล้วเราต้องทำการรักษานะ
00:08:41 → 00:08:45 ครับเหมือนคุณมีแก้วน้ำที่รั่วเนี่ยคุณ
00:08:45 → 00:08:48 เอานิ้วไปอุดนะครับแต่เมื่อคุณเอานิ้วออก
00:08:48 → 00:08:49 มันก็รั่วอยู่เหมือนเดิมปัญหามันยังไม่
00:08:49 → 00:08:52 ได้ถูกแก้แก้วยังไม่ได้ถูกอุดให้ชัดเจน
00:08:52 → 00:08:55 มันก็เลยเป็นแบบนั้นนะครับในทางการแพทย์
00:08:55 → 00:08:59 คนบางคนเช่นคนที่มีแอนติบอดี้ผิดปกติเยอะ
00:08:59 → 00:09:01 มากๆแล้วเกิดอาการรุนแรงเนี่ยเราจะใช้
00:09:01 → 00:09:03 พลาสmaisดึงเอาแอนตบอดี้พวกนี้ออกไปทิ้ง
00:09:04 → 00:09:07 หมดนะครับทิ้งทั้งหมดแค่นั้นไม่เพียงพอ
00:09:07 → 00:09:09 ครับเพราะถ้าเกิดคุณหยุดทำ plasma freis
00:09:09 → 00:09:12 เนี่ยเดี๋ยวตัวแอนตบอดี้มันจะกลับมาใหม่
00:09:12 → 00:09:15 ดังนั้นคุณจะต้องมีการรักษาที่ชัดเจน
00:09:15 → 00:09:18 เพื่อแก้ไขไม่ให้ปัญหานี้มันเกิดขึ้นอีก
00:09:18 → 00:09:21 นะครับแต่ถ้าเกิดคุณบอกว่าจะไม่ทำพลาสmaฟ
00:09:21 → 00:09:24 จะให้แต่ยาไปจัดการกับแอนตีบอดี้ได้มยคำ
00:09:24 → 00:09:27 ตอบก็คือมันอาจจะไม่ทันนะครับเพราะว่าการ
00:09:27 → 00:09:30 รักษาเนี่ยมันใช้เวลานะฮะงั้นคุณต้องการ
00:09:30 → 00:09:34 เวลาคุณก็ต้องซื้อเวลาด้วย plasma fisis
00:09:34 → 00:09:36 นะครับนี่คือในกรณีการแพทย์แต่ในกรณี
00:09:36 → 00:09:40 เวชศาสตร์ชะลอวัยปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ
00:09:40 → 00:09:43 โดยปกตินะครับถ้าเราใช้ในทางการแพทย์
00:09:43 → 00:09:45 เนี่ยเราไม่ได้ทำพลาสmaฟรีสิแค่ 1 ครั้ง
00:09:45 → 00:09:50 ครับเราทำ 3-5 ครั้งเป็นอย่างน้อยนะครับ
00:09:50 → 00:09:52 เพราะว่ามันจะได้เอาของที่มีปัญหาออกไป
00:09:53 → 00:09:57 ได้เท่าที่เราอยากให้มันเอาออกไปได้ถ้า
00:09:57 → 00:09:59 คุณทำแค่ 1 ครั้งครับเป็นไปไม่ได้ที่มัน
00:09:59 → 00:10:01 จะเอาออกไปได้หมดนะครับยิ่งถ้าเกิดคุณ
00:10:01 → 00:10:04 ท็อปบอกว่าเออนี่สะสมมา 35 ปีแล้วเนี่ย
00:10:04 → 00:10:06 รู้มั้ครับว่าของเสียต่างๆที่เป็นปัญหา
00:10:06 → 00:10:09 แล้วสะสมอยู่ในร่างกาย 35 ปีมันไม่ได้
00:10:09 → 00:10:13 อยู่ในเลือดครับมันอยู่ในอวัยวะต่างๆปอด
00:10:13 → 00:10:19 ตับไตม้าต่อมน้ำเหลืองที่ต่างๆแต่การทำ
00:10:19 → 00:10:21 plาสasma fris นั้นคุณเอาของเสียออกได้
00:10:22 → 00:10:24 แค่ในเลือดครับคุณไม่สามารถเอาของเสียที่
00:10:24 → 00:10:28 มันอยู่ตามอวัยวะต่างๆออกไปได้ครับในทาง
00:10:28 → 00:10:30 การแพทย์เวลาที่เรามีปัญหาเนี่ยเราทำ
00:10:30 → 00:10:32 plasma fresis หลายครั้งเหตุผลก็เพราะ
00:10:32 → 00:10:35 ว่าหลังจากเราเอาของเสียออกไปจากเลือด
00:10:35 → 00:10:38 แล้วของเสียที่มันอยู่ตามอวัยวะต่างๆมัน
00:10:38 → 00:10:40 จะเข้ามาในเลือดอีกรอบนึงเราจึงต้องทำ
00:10:40 → 00:10:43 plาสasmafrีisซ้ำอีกนะครับเพื่อที่จะเอา
00:10:43 → 00:10:46 มันออกไปเรื่อยๆนะครับแต่ในกรณีเวชศาสตร์
00:10:46 → 00:10:49 ชะลอวัยทำครั้งเดียวคุณคิดว่ามันจะเอาออก
00:10:49 → 00:10:50 ได้หมดมั้ย
00:10:50 → 00:10:54 มันเป็นไปไม่ได้เลยครับนะฮะแล้วที่สำคัญ
00:10:54 → 00:10:58 เอาอะไรออกไปครับเออเอาอะไรออกไปตรงนี้
00:10:58 → 00:11:00 สำคัญและนะครับสิ่งที่มันเอาออกไปได้แน่ๆ
00:11:00 → 00:11:05 นะข้อแรก LDL Low Density Proinนหรือไข
00:11:05 → 00:11:07 มันตัวที่มันไม่ดีอันนี้เอาออกไปได้ตัว
00:11:07 → 00:11:10 ที่ 2 ไรปโปรน Little A ซึ่งตัวเนี้ยผม
00:11:10 → 00:11:13 เคยบอกไปแล้วนะครับมันไม่ได้มียาอะไรที่
00:11:13 → 00:11:16 จัดการกับมันได้เฉพาะเจาะจงนะครับแล้วมัน
00:11:16 → 00:11:18 เป็นแบบถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วยตัวที่
00:11:18 → 00:11:21 3 คือไตรไิซอไรด์ไอ้ไขมันพวกเนี้ยเรา
00:11:21 → 00:11:23 สามารถทำ plasma frisis แล้วเอามันออกไป
00:11:23 → 00:11:28 ได้จริงๆนะครับแต่ที่เหลือล่ะอะไรที่บอก
00:11:28 → 00:11:30 ว่าสารพิษในร่างกายสารอะไรที่เป็นพิษนะ
00:11:30 → 00:11:35 ครับพลาสmaฟisเนี่ยจะมีประโยชน์ในการดึง
00:11:35 → 00:11:38 สารที่มีปัญหาออกไปก็ต่อเมื่อสารเหล่า
00:11:38 → 00:11:41 นั้นมันเกาะอยู่กับโปรตีนในเลือดครับ
00:11:41 → 00:11:44 โปรตีนที่ว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นalัูมินดัง
00:11:44 → 00:11:45 นั้นถ้ามันมีสารอะไรที่มันเกาะกับ
00:11:46 → 00:11:48 อัลบูมินได้เนี่ยเราจะสามารถเอาออกทาง
00:11:48 → 00:11:51 พลาสma fris ได้เช่นโลหะหนักบางชนิดเท่า
00:11:51 → 00:11:53 นั้นเช่นปลอดแต่โลหะหนักตัวอื่นมันไม่ได้
00:11:53 → 00:11:55 อยู่ในเลือดครับมันไปที่อื่นหมดแล้วมัน
00:11:55 → 00:11:56 เกาะอยู่ที่อื่นยังไงคุณก็เอามันออกด้วย
00:11:56 → 00:12:01 วิธีพลาสmaisไม่ได้ครับอ่าไม่ได้สารการ
00:12:01 → 00:12:05 อักเสบล่ะอ่ะสารการอักเสบเช่นไซโตไคนนะ
00:12:05 → 00:12:09 ครับต่างๆไซโตไคนพวกนี้เนี่ยมันทำให้ร่าง
00:12:09 → 00:12:12 กายมันอักเสบเยอะนะครับเราเอามันออกได้
00:12:12 → 00:12:15 มั้ยได้ครับใน plasma fisis แล้วจริงๆใน
00:12:15 → 00:12:18 ทางการแพทย์มีที่ใช้เช่นในยุคยุคโควิด-
00:12:18 → 00:12:21 199 ที่ร่างกายคนเราเนี่ยมีการอักเสบมาก
00:12:21 → 00:12:25 ๆในช่วงที่ติดเชื้อนะครับก็มีคนทำ
00:12:25 → 00:12:28 ไซโตไคนฟisเพื่อจะดึงเอาสารอักเสบนี้ออก
00:12:28 → 00:12:31 ทั้งหมดแต่ถามว่ามันทำไปอย่างนั้นน่ะมัน
00:12:31 → 00:12:35 ได้อะไรขึ้นมาข้อแรกนะครับเป็นการซื้อ
00:12:35 → 00:12:37 เวลาครับไม่ใช่การรักษาครับมันไม่ได้ทำ
00:12:37 → 00:12:40 ให้ร่างกายดีขึ้นอย่างเช่นสมมุติเป็น
00:12:40 → 00:12:43 โควิดแล้วมีไซตไซคน Storm การอักเสบ
00:12:43 → 00:12:45 รุนแรงมากในร่างกายคนไข้จะเสียชีวิตอยู่
00:12:45 → 00:12:49 และเราทำไซตฟisเพื่อที่จะจัดการกับสาร
00:12:49 → 00:12:52 อักเสบช่วงนั้นคนไข้ก็จะดีขึ้นมาแต่เรา
00:12:53 → 00:12:55 ต้องฆ่าไวรัสต้องหยุดการอักเสบด้วยวิธี
00:12:55 → 00:12:58 อื่นๆเพราะมิฉะนั้นถ้าเราเลิกทำพmฟisปุ๊บ
00:12:58 → 00:13:00 สารการอักเสบก็จะสูงกลับเข้ามาเหมือนเดิม
00:13:00 → 00:13:03 คนไข้ก็จะแย่ลงเหมือนเดิมนะครับดังนั้น
00:13:03 → 00:13:06 การทำไซโocนฟisคือการซื้อเวลาอ้าแล้วถ้า
00:13:06 → 00:13:10 เกิดเป็นกรณีของการทำ passis เพื่อที่จะ
00:13:10 → 00:13:15 ชะลอไวล่ะก็เป็นการซื้อเวลาเช่นกันครับ
00:13:15 → 00:13:17 ของกรณีคุณท็อปเนี่ยผมเห็นในคลิปวีดีโอเ
00:13:17 → 00:13:20 บอกว่าค่าการอักเสบในเลือดก่อนจะทำเนี่ย
00:13:20 → 00:13:24 มันน้อยอยู่แล้วค่า CRP น้อยค่า ESR น้อย
00:13:24 → 00:13:27 แปลว่าคุณท็อปไม่ได้มีการอักเสบในร่างกาย
00:13:27 → 00:13:29 อยู่แล้วตั้งแต่แรกถ้าทำไปเพื่อที่จะล้าง
00:13:29 → 00:13:32 การอักเสบจากร่างกายก็คงไม่ใช่และเพราะ
00:13:32 → 00:13:34 ว่ามันไม่มีอะไรให้ล้างนะครับไม่ได้
00:13:34 → 00:13:36 อักเสบตั้งแต่แรกอ่าแล้วถ้าเกิดเป็นสาร
00:13:36 → 00:13:41 พิษล่ะสารพิษอื่นๆล่ะนะครับพิษอะไรครับ
00:13:41 → 00:13:44 พิษอะไรถ้าเป็นพิษโลหะหนักมันได้แค่ปลอด
00:13:44 → 00:13:46 นั่นแหละครับตัวอื่นไม่ค่อย
00:13:46 → 00:13:49 พิษจากยามันต้องเป็นยาบางตัวครับที่มัน
00:13:49 → 00:13:52 เกาะอยู่กับโปรตีนอบูมินเช่นยากันชักยา
00:13:52 → 00:13:55 อมโรอมีโอเดอโรนพวกเนี้ยสามารถทำได้แล้ว
00:13:55 → 00:13:57 ถ้าไม่ได้บอกว่ามันพิษตัวไหนกันแน่
00:13:58 → 00:14:00 อย่างี้เราจะมีตัววัดได้ยังไงว่ามันออกไป
00:14:00 → 00:14:04 จริงๆนะครับอ่ะแต่ไม่ว่ายังไงตัวที่ทาง
00:14:05 → 00:14:07 เวชศาสตร์ชะลอวัยเขาใช้ plasma freeis
00:14:07 → 00:14:11 ในการกำจัดเนี่ยมันมีบางตัว 1 คือ Advance
00:14:11 → 00:14:13 Gcation and product นะครับเกิดจากการ
00:14:13 → 00:14:16 ที่มันมีน้ำตาลไปเกาะอยู่กับโมเลกุลบาง
00:14:16 → 00:14:18 อย่างแล้วไอ้โมเลกุลเนี้ยมันก่อให้เกิด
00:14:18 → 00:14:21 การอักเสบกับร่างกายอันเนี้ยการทำ plasma
00:14:21 → 00:14:24 fris เอามันออกไปได้ตัวที่ 2 ก็คือ saps
00:14:24 → 00:14:28 นะครับ syesen associated secretory
00:14:28 → 00:14:30 phenotype ซึ่งมันเป็นสารที่ทำให้แก่ตัว
00:14:30 → 00:14:35 เนี้ย plasma fresis เอาออกไปได้แต่
00:14:35 → 00:14:38 ทำไมครับ 2 ปัญหาครับปัญหาแรกเอาออกได้
00:14:38 → 00:14:41 เฉพาะในเลือดแต่ไอ้ที่มันเกาะอยู่กับ
00:14:41 → 00:14:43 อวัยวะเอาออกไม่ได้ครับแล้วการทำ
00:14:43 → 00:14:46 พลาสฟรีสิครั้งเดียวเอาออกได้ไม่หมดครับ
00:14:46 → 00:14:49 ข้อที่ 2
00:14:49 → 00:14:52 มันเป็นการซื้อเวลาคุณเอามันออกไปวันนี้
00:14:52 → 00:14:55 เดี๋ยวมันก็สร้างใหม่ว่าวันพรุ่งนี้ครับ
00:14:55 → 00:14:58 มันสร้างใหม่มาทันทีถ้ามันจะสร้างนะครับ
00:14:58 → 00:15:01 ดังนั้นแล้วเนี่ยมันเหมือนเป็นการที่เรา
00:15:01 → 00:15:04 จะทำด้วยเหตุผลหลักการที่ดีนะครับแต่มัน
00:15:04 → 00:15:08 ทำไม่ถึงอ่ะทำไม่ไม่หลายรอบพอที่จะเอามัน
00:15:08 → 00:15:10 ออกไปให้หมดได้อ่ะแล้วต่อให้เราเอามันออก
00:15:10 → 00:15:14 ไปให้หมดตอนนี้นะถ้าเราไม่หยุดกระบวนการ
00:15:14 → 00:15:16 มันก็สร้างขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆครับดัง
00:15:16 → 00:15:18 นั้นเนี่ยมันจึงไม่ค่อยคุ้มด้วยประการ
00:15:18 → 00:15:22 เช่นนี้นะครับอ่ะทีนี้พอเรารู้แล้วว่าใน
00:15:22 → 00:15:24 เวชศาสตร์ชะลอวัยมันมีปัญหาตรงไหนแล้วล่ะ
00:15:24 → 00:15:29 ก็ในทางการแพทย์ล่ะเราทำเอ่อทำไปทำไมนะ
00:15:29 → 00:15:31 ครับต้องบอกอย่างนี้ก่อนนะครับตรงนี้อาจ
00:15:31 → 00:15:33 จะเข้าใจยากนิดนึงแต่ผมอยากจะยกให้เห็น
00:15:33 → 00:15:36 ถึงว่า plasma freis เราเอาไว้ทำอะไรกัน
00:15:36 → 00:15:39 แน่เพราะว่าในอาชีพที่ผมเคยทำมาก่อนผม
00:15:39 → 00:15:41 เป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายปอด
00:15:41 → 00:15:43 เราก็จะมีการใช้ plasma freis อยู่
00:15:43 → 00:15:45 เรื่อยๆซึ่งผมจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี
00:15:45 → 00:15:47 เลยทีเดียวนะครับว่ามันมีปัญหาอะไรบ้าง
00:15:47 → 00:15:51 ยังไงบ้างนะครับแต่ในทางปฏิบัติจริงๆสิ่ง
00:15:51 → 00:15:55 ที่เราเอา plasma fris มาใช้เช่น 1
00:15:55 → 00:15:58 myastenia gravies ที่มันมีอาการรุนแรง
00:15:58 → 00:16:00 หรือที่เราเรียกว่า crisis นะครับซึ่ง
00:16:00 → 00:16:02 mystin gravis เนี่ยผมเคยทำคลิปไปแล้ว
00:16:02 → 00:16:04 ถ้าใครจำไม่ได้ก็ลองย้อนไปดูนะครับเราทำ
00:16:04 → 00:16:07 plasma fresis ให้ myas gravis หรือคน
00:16:07 → 00:16:09 ที่เป็น myas gravis แต่ต้องเข้ารับการ
00:16:09 → 00:16:12 ผ่าตัดบางอย่างที่มันคิดว่ามันน่าจะมี
00:16:12 → 00:16:14 ปัญหาทีหลังเราก็ต้องจัดการตั้งแต่ก่อน
00:16:14 → 00:16:18 ผ่าตัดนะครับอันนี้เราทำได้โรคที่ 2 กี
00:16:18 → 00:16:20 Syndrome นะครับซึ่งอันเนี้ยผมก็เคยพูด
00:16:20 → 00:16:23 คร่าวๆไปแล้วนะครับเป็นโรคที่ทำให้มีการ
00:16:23 → 00:16:25 มีแอนติบอดี้ผิดปกติไปจัดการกับเส้น
00:16:25 → 00:16:28 ประสาทของเราทำให้เราเนี่ยมันเป็นอัมพาต
00:16:28 → 00:16:30 ได้แล้วการเอาแอนติบอดี้พวกนี้ออกก็จะทำ
00:16:30 → 00:16:34 ให้คนไข้ดีขึ้นได้นะครับอันที่ 3 เป็นโรค
00:16:34 → 00:16:37 ทางระบบประสาทเช่นกันนะครับชื่อว่า CIDP
00:16:37 → 00:16:40 Chronic inflammatory Demilinating
00:16:40 → 00:16:42 Poly Neuropathy นะครับเป็นเส้นประสาท
00:16:42 → 00:16:45 มันอักเสบหลายเส้นนะครับเป็นแบบเรื้อรัง
00:16:45 → 00:16:48 พวกนี้เราก็สามารถที่จะใช้วิธีนี้ในการ
00:16:48 → 00:16:51 รักษาได้เช่นกันนะครับโรคที่ 4 โรคที่เรา
00:16:51 → 00:16:55 เรียกว่า TTP เป็นโรคเลือดชนิดหนึ่งนะ
00:16:55 → 00:16:59 ครับมันย่อมาจาก tromboyic perpera นะ
00:16:59 → 00:17:02 ครับอันนี้เนี่ยเหตุผลที่มันเกิดขึ้นนะ
00:17:02 → 00:17:05 ครับคือเรามีแอนตีบอดี้ต่อสารที่เป็น
00:17:05 → 00:17:09 โปรตีนตัวนึงชื่อว่า Adams TS13 นะครับ
00:17:09 → 00:17:12 Adam TS13 เนี่ยมันย่อมาจากคำว่า AIS
00:17:12 → 00:17:14 integrin and metalloprotin with
00:17:14 → 00:17:18 trombospondin type 1 motive 13
00:17:18 → 00:17:20 ซึ่งตัวมันเองเนี่ยตรงนี้ถ้าใครฟังไม่
00:17:20 → 00:17:22 เข้าใจไม่เป็นไรนะครับผมเล่าให้นักเรียน
00:17:22 → 00:17:24 แพทย์ฟังเฉยๆนะครับ Adam TS13 เนี่ยมัน
00:17:24 → 00:17:27 เป็นโปรตีนที่สร้างมาจากต่ำนะครับแล้วพอ
00:17:27 → 00:17:29 มันสร้างมาเสร็จปุ๊บเนี่ยหน้าที่ของมัน
00:17:29 → 00:17:33 คือมันเป็น V brand Cleaving Proteas
00:17:33 → 00:17:36 นะครับปกติร่างกายเราจะมี Vybrand Factor
00:17:36 → 00:17:39 เวลามันสร้างใหม่ๆจะเป็นก้อนใหญ่ๆนะครับ
00:17:39 → 00:17:41 เราต้องเอา Adam TS13 เนี่ยไปตัดให้มัน
00:17:41 → 00:17:43 เป็นก้อนเล็กๆนะครับถ้าเกิดว่าเราไม่มี
00:17:43 → 00:17:46 Adamั TS13 เช่นเรามีanอนิบอี้ไปจัดการ
00:17:46 → 00:17:49 Adam TS13 เนี่ยไอ้วอ Vand ที่เราสร้าง
00:17:49 → 00:17:51 มามันก็จะก้อนลูกบเริ่มเทิ่มเลยนะครับ
00:17:51 → 00:17:53 ก้อนใหญ่ๆแบบเนี้ยมันจะทำให้เกล็ดเลือด
00:17:53 → 00:17:56 เนี่ยถูกกระตุ้นแล้วก็มาเกาะรวมกันเป็น
00:17:56 → 00:17:58 กองอย่างี้แล้วมันจะเกิดแบบเนี้ยขึ้นใน
00:17:58 → 00:18:01 หลอดเลือดเราทั้งหมดนะครับทำให้เวลาเม็ด
00:18:01 → 00:18:04 เลือดแดงเราวิ่งมาเจอไอ้กองเกล็ดเลือด
00:18:04 → 00:18:06 เนี่ยมันก็จะถูกเฉือนทำให้เม็ดเลือดแดง
00:18:06 → 00:18:09 เนี่ยฉีกขาดแล้วก็ตายไปนะครับเกิดเป็น
00:18:09 → 00:18:11 เม็ดและแดงชนิดที่เราเรียกว่าชิโตไซตนั
00:18:11 → 00:18:14 หน้าตามันมันเหมือนมันเหมือนแหว่งๆไปนะ
00:18:14 → 00:18:17 ครับในคนเหล่าเนี้ยก็จะมีเกล็ดเลือดต่ำนะ
00:18:17 → 00:18:20 ครับแล้วอาจจะมีลิ่มเลือดไปอุดตันตามหลอด
00:18:20 → 00:18:24 เล็กๆได้นะครับอาการก็จะมีไตวายได้มีไข้
00:18:24 → 00:18:27 ได้มีสับสนได้นะครับพวกเนี้ยก็จะเจอได้นะ
00:18:27 → 00:18:30 ฮะอันเนี้ยเราจำเป็นจะต้องทำ plasma fis
00:18:30 → 00:18:32 ชนิดที่เรียกว่า plasma exchange หมาย
00:18:32 → 00:18:36 ความว่าเอาพลาสmaของคนที่เป็นโรคเนี่ยไป
00:18:36 → 00:18:39 ทิ้งพร้อมกับแอนติบอดี้ผิดปกตินะครับแต่
00:18:39 → 00:18:41 ในพลาสมาของเขาค้าเนี่ยมันก็ไม่มี Adam
00:18:41 → 00:18:43 THS13 เหมือนกันดังนั้นจึงต้องเอาพลาสมา
00:18:43 → 00:18:46 คนอื่นใส่เข้าไปพลาสmaคนอื่นนี้มี Adam
00:18:46 → 00:18:49 TS13 ใส่เข้าไปจึงดีนะครับแล้วเสริมให้
00:18:49 → 00:18:53 อีกอย่างนึงอ่าโรคที่เป็น TTP ตั้งแต่
00:18:53 → 00:18:55 กำเนิดมันมีโรคโรคนึงชื่อว่า Upha Human
00:18:55 → 00:18:58 Syndrome นะครับถ้าใครอยากจะรู้ว่าโรค
00:18:58 → 00:19:01 นี้คืออะไรลองไปหาดูแล้วในเด็กที่แบบเด็ก
00:19:01 → 00:19:04 จิ๋วอ่ะคลอดก่อนกำหนดบางรายที่ตับมันยัง
00:19:04 → 00:19:06 ไม่เจริญเติบโตเต็มที่นะครับมันยังไม่
00:19:06 → 00:19:08 สามารถสร้างAdamั GS1 ได้เหมือนกันนะครับ
00:19:08 → 00:19:13 ถ้าใครสนใจเรื่องเ่อ Neology Y ดูนะครับ
00:19:13 → 00:19:15 อ่าเราพูดมา 4 โรคแล้วนะครับโรคทางสมอง
00:19:15 → 00:19:18 ระบบประสาท 3 โรคนะครับโรคทั้งระบบเลือด
00:19:18 → 00:19:21 โรคนึงอีกโรคนึงที่เราเจอได้แล้วเราใช้นะ
00:19:21 → 00:19:25 ครับก็จะเป็นโรคที่เรามีแอนติบอดี้ไปต่อ
00:19:25 → 00:19:28 ต้านปอดและไตพร้อมกันนะครับเราเรียก
00:19:28 → 00:19:30 antibody ชนิดนี้ว่า anoma basement
00:19:31 → 00:19:33 membrane นะครับซึ่งชื่อโรคของมันคือ
00:19:33 → 00:19:35 good pasure syndrome โรคนี้เนี่ยบาง
00:19:35 → 00:19:38 คนไอออกมาเป็นเลือดนะครับแล้วก็อาจจะมีไต
00:19:38 → 00:19:40 วายพร้อมกันก็ได้โรคนี้เป็นanอนิบอที่ผิด
00:19:40 → 00:19:43 ปกติครับเราสามารถใช้ plasma fisis ใน
00:19:43 → 00:19:47 การรักษานะครับและโรคของระบบที่ผมรักษาก็
00:19:47 → 00:19:49 คือโรคที่เรียกว่า antibody mediate
00:19:49 → 00:19:52 rejection คือมี antibody ผิดปกติมันไป
00:19:52 → 00:19:55 ต่อต้านปอดนะครับทำให้ปอดที่เราปลูกถ่าย
00:19:55 → 00:19:57 เนี่ยมันเสียเราก็จะใช้ตัวนี้ในการรักษา
00:19:57 → 00:19:58 แต่เราจะไม่ใช้ตัวนี้เดี่ยวๆครับเราจะ
00:19:58 → 00:20:01 ต้องใช้ยากดภูมิชนิดอื่นเพื่อแก้ไขต้น
00:20:01 → 00:20:05 เหตุของมันด้วยมิฉะนั้นถ้าเราหยุดทำ
00:20:05 → 00:20:08 พลาสmaisปุ๊บโรคก็จะกลับมาใหม่นะครับนอก
00:20:08 → 00:20:10 เหนือจากนี้นะครับมีการใช้เพื่อกรณีมีคน
00:20:11 → 00:20:14 ที่เค้ามีอ่ามีไขมันในเลือดสูงจนเกินไปมี
00:20:14 → 00:20:16 LDL แบบเยอะแยะอย่างเงี้ยนะครับหรือว่า
00:20:16 → 00:20:19 มีไโปโปรตีนหรือตัว A สูงมีไตซลสูงมากๆ
00:20:19 → 00:20:22 เราก็จะใช้การทำ plasma fresis เช่นกัน
00:20:22 → 00:20:26 นะครับที่สำคัญครับ plasma freis นี้จะ
00:20:26 → 00:20:29 ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งในอเมริกาเนี่ย
00:20:29 → 00:20:32 ผู้เชี่ยวชาญคนที่ทำ plasmais ได้คือหมอ
00:20:32 → 00:20:37 โรคเลือดครับหมอโรคเลือดนะฮะอาจจะมีหมอ
00:20:38 → 00:20:40 โรคไตบ้างที่ทำได้นะครับเพราะว่าเขาจะ
00:20:40 → 00:20:43 คุ้นเคยกับการทำการล้างไอยู่แล้วซึ่ง
00:20:43 → 00:20:45 อุปกรณ์ทุกๆอย่างมันคล้ายกันในประเทศไทย
00:20:46 → 00:20:48 อ่ะคนที่ทำนะครับก็มักจะเป็นหมอโรคไตกับ
00:20:48 → 00:20:50 หมอโรคเลื่อนเหมือนกับอเมริกานี่แหละนะ
00:20:50 → 00:20:52 ครับดังนั้น 2 หมอเนี่ยจะเป็นคนที่เชี่ยว
00:20:52 → 00:20:54 ชาญเรื่องพวกนี้มากที่สุดถ้าถามว่าใครที่
00:20:55 → 00:20:58 เป็นคนทำแล้วแล้วเรามั่นใจจริงๆก็ต้อง
00:20:58 → 00:21:01 เนี่ย 2 หมอเนี่ยที่เป็นคนเชี่ยวชาญจริงๆ
00:21:01 → 00:21:04 นะครับอ่ะนอกเหนือจากนี้ยังมีการทำในกรณี
00:21:04 → 00:21:06 ที่มีโปรตีนบางอย่างผิดปกติมากๆในร่างกาย
00:21:06 → 00:21:09 เช่นโรคที่เราเรียกว่า wenst mroglobulin
00:21:09 → 00:21:11 เมียนะครับพวกเนี้ยเราต้องเอามันออกอย่าง
00:21:11 → 00:21:13 รวดเร็วไม่อย่างงั้นเนี่ยเกิดเลือดหนืด
00:21:13 → 00:21:15 เลือดหนืดแล้วเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอเป็น
00:21:15 → 00:21:17 สโตรกเป็นอะไรตามมาอีกนะครับงั้นเราจะ
00:21:17 → 00:21:20 เห็นว่ามีการใช้ในทางการแพทย์มากมาย
00:21:20 → 00:21:23 มหาศาลนะครับแต่ว่าวิธีในการใช้ในทางการ
00:21:23 → 00:21:26 แพทย์เนี่ยข้อแรกนะเราต้องมีการรักษาต้น
00:21:26 → 00:21:30 เหตุplasmaฟีisเป็นแค่การรักษาเพื่อซื้อ
00:21:30 → 00:21:33 เวลาแล้วการทำplasmaฟีisนั้นไม่ได้ทำ
00:21:33 → 00:21:36 ครั้งเดียวจบเราทำ 3-5 ครั้งขึ้นกับตัว
00:21:36 → 00:21:40 โรคที่เรากำลังรักษานะครับ 3-5 ครั้งเลย
00:21:40 → 00:21:44 นะฮะทีนี้เวลาเราทำไปแล้วเนี่ยสิ่งที่เรา
00:21:44 → 00:21:46 จะต้องคิดอีกอย่างนึงก็คือว่าเราจะเอาสาร
00:21:46 → 00:21:48 น้ำอะไรมาทดแทนเพราะเราเอาพลาสม่าไปโยน
00:21:48 → 00:21:52 ทิ้งถูกมั้ยครับไม่งั้นถ้าเราเอาเลือดเรา
00:21:52 → 00:21:55 ออกไป 100 ซีซเราเอาพลาสมาไปทิ้ง 50 ซีซ
00:21:55 → 00:21:57 แล้วเราไม่เอาอะไรเติมเข้ามาเลือดที่กลับ
00:21:57 → 00:22:00 มาที่เราก็มีแค่ 50 ซีซเองสิเฮ้ยไม่ได้นะ
00:22:00 → 00:22:02 ครับมันก็เกิดเรื่องขึ้นมาดังนั้นจึงต้อง
00:22:02 → 00:22:05 มีการเอาสารน้ำไปทดแทนตรงนี้สารน้ำที่ว่า
00:22:05 → 00:22:08 มีทั้งหมด 3 ประเภทประเภทแรกก็คือน้ำ
00:22:08 → 00:22:11 เกลือเราดีนี่แหละประเภทที่ 2 คือ 5%
00:22:11 → 00:22:14 ประเภทที่ 3 ก็คือพลาสmaที่ได้รับการ
00:22:14 → 00:22:17 บริจาคมานะครับในกรณีเวชศาสตร์ชะลอวัย
00:22:17 → 00:22:20 เนี่ยเราจะไม่ใช้พลาสมาที่เขาบริจาคมา
00:22:20 → 00:22:23 เพราะว่ามันเปลืองโดยใช้เหตุนะครับแล้ว
00:22:23 → 00:22:26 การใช้พลาสม่ามีโอกาสแพ้ได้แต่ข้อดีของ
00:22:26 → 00:22:30 การใช้พลาสมาก็คือในนั้นเนี่ยมันจะมีสิ่ง
00:22:30 → 00:22:33 ที่ดีมากๆก็คือ clothing factor นะครับ
00:22:33 → 00:22:36 หรือโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของ
00:22:36 → 00:22:37 เลือด
00:22:37 → 00:22:41 ในขณะที่ถ้าคุณใช้abูมินหรือ Normaline
00:22:41 → 00:22:43 หรือน้ำเกลือเนี่ย 2 ตัวเนี้ยมันราคาถูก
00:22:43 → 00:22:45 ลงมาหน่อยนะครับแล้วไม่ค่อยมีโอกาสแพ้
00:22:45 → 00:22:47 เท่าไหร่แต่ว่าบางคนก็แพ้อัลบูมินเหมือน
00:22:47 → 00:22:49 กันนะครับอัลบูมินกับน้ำเกลือมันต่างกัน
00:22:49 → 00:22:51 ตรงไหนอัลบูมินเนี่ยเวลาเราให้ไปแล้วมัน
00:22:51 → 00:22:53 มักจะอยู่ในหลอดเลือดมันไม่ค่อยรั่วออกไป
00:22:53 → 00:22:55 ข้างนอกแต่น้ำเกลือเนี่ยมันมักจะรั่วออก
00:22:55 → 00:22:57 ไปข้างนอกได้ถ้าเราให้เยอะเกินไปนะครับ
00:22:57 → 00:23:01 เช่นถ้าเราทำplาสasmaisเนี่ยในคนที่มี
00:23:01 → 00:23:03 ภาวะน้ำเกลินง่ายๆอยู่แล้วเช่นเป็นหัวใจ
00:23:03 → 00:23:05 วายไตมันไม่ดีอยู่แล้วเนี่ยถ้าเราให้น้ำ
00:23:05 → 00:23:07 เกลือเข้าไปเยอะๆมันอาจจะรั่วทำให้เกิด
00:23:08 → 00:23:10 น้ำร่วมปอดได้นะครับแล้วถามว่าอ้าถ้างั้น
00:23:10 → 00:23:13 ทำไมเราไม่ถึงไม่ใช้อบูมินอย่างเดียวเลย
00:23:13 → 00:23:15 อ่ะก็ในเมื่อมันอยู่ในหลอดเลือดดีเนี่ย
00:23:15 → 00:23:19 มันไม่ลุกออกไปข้างนอกมันแพงครับมันแพง
00:23:19 → 00:23:23 แล้วไม่ว่าคุณจะใช้หรือnormalนสิ่งที่
00:23:23 → 00:23:26 เกิดขึ้นปัญหานึงนะคุณจะทำให้ clothing
00:23:26 → 00:23:29 factor เจือจางลงคนเหล่าเนี้ยก็จะเลือด
00:23:30 → 00:23:33 ออกง่ายครับคนเหล่านี้จะเลือดออกง่ายนะ
00:23:33 → 00:23:36 ครับอย่าลืมนะครับในน้ำเลือดพลาสมามี
00:23:36 → 00:23:38 โปรตีนเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวกับเลือด
00:23:38 → 00:23:42 คุณเอามันไปทิ้งแล้วแล้วคุณเติมalbบูมิน
00:23:42 → 00:23:45 กับnormalนซึ่งมันไม่มีโปรตีนที่ทำให้
00:23:45 → 00:23:47 เลือดแข็งตัว
00:23:47 → 00:23:50 กลับเข้าไปมันก็แปลว่าตอนนี้ในเลือดที่
00:23:50 → 00:23:52 คุณได้มาจากเครื่องแล้วใส่เข้าไปในตัวคุณ
00:23:52 → 00:23:55 เนี่ยมันจะไม่มี clotting factor เลือด
00:23:55 → 00:23:57 คุณจะออกง่ายคุณก็ต้องรอจนกระทั่งตับคุณ
00:23:57 → 00:23:58 มันสร้างพวก clotting factor ขึ้นมา
00:23:58 → 00:24:01 เหมือนเดิมนั่นแหละครับมันถึงจะเลิกเลือด
00:24:01 → 00:24:05 ออกง่ายนะครับอ่านี่คือขั้นตอนในการทำ
00:24:05 → 00:24:07 บ่อยแค่ไหนยังไงนะครับแล้วแต่ละครั้งมัน
00:24:07 → 00:24:11 เกิดอะไรขึ้นนะครับอ่าทำ plasma change
00:24:11 → 00:24:13 ครั้งแรกนะครับ plasma fresis ครั้งแรก
00:24:13 → 00:24:16 anอนิบอี้ผิดปกติหายไป 65% ครั้งที่ 2 85
00:24:16 → 00:24:19 ครั้งที่ 3 ประมาณอ่า 95 ครั้งที่ 4
00:24:19 → 00:24:21 เนี่ยครั้งที่ 4 ที่ 5 เนี่ยประมาณซัก 98
00:24:21 → 00:24:24 99% ที่มันจะเอาออกไปจากร่างกายแต่ร่าง
00:24:24 → 00:24:26 กายก็จะสร้างใหม่ได้เรื่อยๆนะฮะทีนี้ถาม
00:24:26 → 00:24:29 ว่าตรงเนี้ยเราทำในคนที่มีโรคใช่มั้ยครับ
00:24:29 → 00:24:32 ถ้าเกิดคุณเอาไปทำในคนปกติล่ะเช่นอยากจะ
00:24:32 → 00:24:34 สุขภาพดีเลยไปทำ plasma freis เกิดอะไร
00:24:34 → 00:24:37 ขึ้น
00:24:37 → 00:24:40 ตัวแอนติบอดี้ของคุณเนี่ยคุณไม่ได้เยอะ
00:24:40 → 00:24:43 เกินไปใช่มั้ยไม่ได้เยอะเกินไปแต่คุณไป
00:24:43 → 00:24:47 เอามันออกอ่ะคุณก็จะมีภาวะภูมิต้านทานตก
00:24:47 → 00:24:50 ชั่วคราวครับอิมนoglobuline M เป็นหนึ่ง
00:24:50 → 00:24:53 ในแอนติบอดี้ที่เจอประมาณสัก 75% เอ่อ
00:24:53 → 00:24:57 65-75 ของมันน่ะจะอยู่ในหลอดเลือดคุณเอา
00:24:57 → 00:25:03 มันออกไปด้วยพลาสmaisนะครับอิมlobบ G มี
00:25:03 → 00:25:05 อยู่ในเลือดประมาณสัก 35% เปอร์เ
00:25:06 → 00:25:08 คุณเอาพลาสmaฟรีสิทธิ์ไปทำคุณเอามันออกไป
00:25:08 → 00:25:11 ด้วยก็แปลว่าตอนนั้นคุณจะแอนติบอดี้ตกลง
00:25:11 → 00:25:14 คุณก็จะอ่อนแอลงครับซึ่งถ้าเป็นในคนไข้
00:25:14 → 00:25:16 ไม่เป็นไรเพราะคนไข้พวกเนี้ยมีแอนติบอดี้
00:25:16 → 00:25:18 ผิดปกติเยอะอยู่แล้วคุณเอาออกไปมันก็เข้า
00:25:18 → 00:25:21 มาเท่าปกติแต่คุณเป็นคนปกติอ่ะคุณเอามัน
00:25:21 → 00:25:24 ออกไปก็จะออกไปเยอะนะครับแต่ไม่เป็นไร
00:25:24 → 00:25:26 ครับยังโชคดีอยู่ที่ว่าร่างกายเราสามารถ
00:25:26 → 00:25:29 สร้างแอนติบอดี้เหล่านี้กลับขึ้นมาใหม่
00:25:29 → 00:25:31 ได้ภายในประมาณสซักอ่า 4-6 ช่โมงเดี๋ยว
00:25:31 → 00:25:36 มันก็กลับมาใหม่นะครับอ่างั้นเวลาเราทำ
00:25:36 → 00:25:40 แล้วผลข้างเคียงคืออะไรนะครับข้อแรกนะคือ
00:25:40 → 00:25:43 เราอาจจะเจือจางตัวโปรตีนที่ช่วยให้เลือด
00:25:43 → 00:25:47 แข็งตัวนะครับทำให้เลือดออกง่ายนะครับข้อ
00:25:47 → 00:25:49 ที่ 2 คุณอาจจะทำให้แอนตีบอดี้ที่คุณมีใน
00:25:49 → 00:25:52 ร่างกายมันลดลงชั่วคราวนะครับข้อที่ 3
00:25:52 → 00:25:54 บางคนทำแล้วเพลียเพราะว่าขาดน้ำเติมเข้า
00:25:54 → 00:25:57 ไปไม่เต็มก็จะมีปัญหาข้อที่ 4 เรื่องราคา
00:25:57 → 00:26:01 แน่ๆอยู่แล้วข้อที่ 5 คือเรื่องของการ
00:26:01 → 00:26:03 เจาะที่หลอดเลือดของคุณถ้าเกิดหลอดเลือด
00:26:03 → 00:26:05 คุณแตกง่ายคุณเจาะตรงนี้ไม่ได้คุณก็ต้อง
00:26:05 → 00:26:07 ไปเจาะที่คอก็การเจาะที่คอก็จะเสี่ยงกว่า
00:26:07 → 00:26:10 การเจาะที่แขนอยู่แล้วนะครับนั่นหมายความ
00:26:10 → 00:26:14 ว่าอะไรครับคนที่อายุเยอะและอยากจะไปทำ
00:26:14 → 00:26:16 เนี่ยระวังไว้นะครับเพราะคนอายุเยอะคือ
00:26:16 → 00:26:19 หลอดเลือดมักจะเปราะบางครับสุดท้ายถ้าทำ
00:26:19 → 00:26:22 ตรงนี้ไม่ได้เนี่ยคุณก็ต้องไปทำที่คอมิ
00:26:22 → 00:26:24 ฉะนั้นก็จะทำได้แป๊บเดียวหลอดเลือดแตกก็
00:26:24 → 00:26:28 ใช้อะไรไม่ได้นะครับต่อมาในเครื่องนี้จะ
00:26:28 → 00:26:31 มีการใช้สารการแข็งตัวเลือดสารการเลือด
00:26:31 → 00:26:34 แข็งตัวนะครับในเครื่องจะมีสารกันการแข่ง
00:26:35 → 00:26:36 ตัวของเลือดนะครับเพื่อไม่ให้มันเกิดเป็น
00:26:36 → 00:26:38 ลิ่มเลือดอยู่ในตัวเครื่องไม่งั้นเครื่อง
00:26:38 → 00:26:41 มันเสียนะครับสารการเลือดแข็งตัวเนี่ยจะ
00:26:41 → 00:26:44 มีทั้งหมด 2 ชนิดที่เขา้าใช้กันนะครับของ
00:26:44 → 00:26:46 คุณท็อปจิรยุทธที่ผมดูเนี่ยเขาใช้เินนะ
00:26:46 → 00:26:49 ครับอ่าเินตัวเนี้ยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี
00:26:49 → 00:26:52 ปัญหานะปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับถ้าคุณทำ
00:26:52 → 00:26:56 การทำ plasma fresis บ่อยๆคุณเจอเินอยู่
00:26:56 → 00:26:58 บ่อยๆบ่อยๆบๆๆเนี่ยมันจะเกิดภาวะนึงขึ้น
00:26:58 → 00:27:03 มาได้เรียกว่า heat นะครับ heerin
00:27:03 → 00:27:05 Induce thrombocyopenia with
00:27:05 → 00:27:08 thrombosis คือครั้งต่อไปที่คุณไปเจอ
00:27:08 → 00:27:10 เพรินแล้วเนี่ยถ้าเกิดคุณโชคร้ายจริงๆ
00:27:10 → 00:27:12 เนี่ยคุณจะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรวดเร็วแล้ว
00:27:12 → 00:27:15 ต่อมาจะเกิดลิ่มเลือดในร่างกายคุณสัก
00:27:15 → 00:27:18 บริเวณนึงแล้วอันเนี้ยรักษายากจะต้อง
00:27:18 → 00:27:21 รักษาในโรงพยาบาลแล้วครั้งต่อไปคุณจะไป
00:27:21 → 00:27:23 เจอเฮปรินอีกไม่ได้เพราะว่าคุณจะเกิดภาวะ
00:27:23 → 00:27:26 นี้ขึ้นมาอีกนะครับ
00:27:26 → 00:27:28 สารการแข่งตัวของเลือดอีกชนิดนึงที่มีการ
00:27:28 → 00:27:32 ใช้กันก็คือตครับตเนี่ยจะมีปัญหาอย่าง
00:27:32 → 00:27:34 หนึ่งคือมันจะไปจับกับแคลเซียมทำให้คุณมี
00:27:34 → 00:27:37 อาการแคลเซียมตกได้ก็คือจะมีการช้ารอบๆ
00:27:37 → 00:27:40 ปากยิบๆที่มือกับเท้าบางคนเป็นมากๆ
00:27:40 → 00:27:42 แคลเซียมตกมากเนี่ยแข็งเกร็งนะครับเกิด
00:27:42 → 00:27:45 การชักขึ้นมาเลยแล้วถ้ามากกว่านั้นอีกหัว
00:27:45 → 00:27:47 ใจคุณก็อาจจะเต้นผิดปกติหรือหยุดเต้นก็
00:27:47 → 00:27:50 ได้นะครับดังนั้นคนที่ทำ plasma fris
00:27:50 → 00:27:52 เนี่ยจะต้องมีการตรวจแคลเซียมอยู่เรื่อยๆ
00:27:52 → 00:27:55 ถ้าใช้ซิรตนะครับแล้วจะต้องระวังในคนไข้
00:27:55 → 00:27:59 ที่เป็นโรคไตเพราะว่าถ้าเกิดคุณได้รตเข้า
00:27:59 → 00:28:02 ไปในร่างกายเนี่ยซิเรตมันจะไปเจอกับตับ
00:28:02 → 00:28:04 เราทำการเปลี่ยนแปลงซิเตรตให้ไปเป็น
00:28:04 → 00:28:07 ไบคาร์บอเนตทำให้เลือดเป็นด่างเลือดเป็น
00:28:07 → 00:28:09 ด่างไม่ใช่ของดีครับเลือดเป็นด่างเมัน
00:28:09 → 00:28:11 อันตรายมากบางคนเลือดเป็นด่างมากมีอาการ
00:28:11 → 00:28:15 ชักมีค่าโปแทสเซียมต่างๆที่ต่ำลงไปก็ได้
00:28:15 → 00:28:17 นะครับเกลือแลกผิดปกติได้ดังนั้นคนพวกนี้
00:28:17 → 00:28:20 เนี่ยก็จะต้องจัดการแก้ไขภาวะเลือดเป็น
00:28:20 → 00:28:23 ด่างนะครับอ่าต้องระวังอย่างนึงเพราะว่า
00:28:23 → 00:28:25 พอเลือดเป็นด่างไอ้แคลเซียมเมื่อกี้ก็
00:28:25 → 00:28:27 ยิ่งต่ำลงไปกว่าเดิมอีกต่างหากนะครับแล้ว
00:28:27 → 00:28:30 มันจะมีปัญหาในคนที่เป็นโรคไตเพราะว่า
00:28:30 → 00:28:32 ปกติไบคาร์บอเนตที่สร้างขึ้นมาโดยตับ
00:28:32 → 00:28:35 เนี่ยจะถูกขับทางไตถ้าเกิดคุณเป็นคนไตวาย
00:28:35 → 00:28:38 อ่ะก็ขับไม่ออกมันก็ข้างในร่างกายเลือดก็
00:28:38 → 00:28:40 เป็นด่างก็จะเกิดปัญหานะครับถึงแม้ว่าบาง
00:28:40 → 00:28:43 คนบางinfluenเซอร์บางท่านจะบอกว่าเลือด
00:28:43 → 00:28:45 เป็นด่างดีมันจะป้องกันมะเร็งป้องกันการ
00:28:45 → 00:28:47 แก่ป้องกันความเสื่อซึ่งมันไม่เป็นจริงนะ
00:28:47 → 00:28:50 ครับอย่าไปหาทำในการทำให้เลือดตัวเองเป็น
00:28:50 → 00:28:53 ด่างเลยครับมันจะเกิดเรื่องขึ้นมานะครับ
00:28:53 → 00:28:55 ดังนั้นตรงนี้เราจะเห็นว่ามันมีผลข้าง
00:28:55 → 00:28:59 เคียงพอสมควรนะครับแต่ต้องบอกว่าผลข้าง
00:28:59 → 00:29:02 เคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคนไม่งั้น
00:29:02 → 00:29:04 ทุกคนบอกว่าเอ้ยไปทำพmaisเนี่ยต้องเกิด
00:29:04 → 00:29:07 แบบนี้แน่ๆเลยไม่ครับมันเกิดขึ้นเป็นส่วน
00:29:07 → 00:29:10 น้อยคนที่เราดูแลจริงๆถ้าดูแลดีๆจริงๆ
00:29:10 → 00:29:14 เนี่ยนะครับแล้วทำตามโปรโตคอลทำตามข้อบ่ง
00:29:14 → 00:29:16 ชี้ทางการแพทย์จริงๆเนี่ยโอกาสการเกิดผล
00:29:16 → 00:29:18 ข้างเคียงเหล่าเนี้ยมันจะอยู่ที่ประมาณ
00:29:18 → 00:29:22 ซัก 6-7% เท่านั้นเอง 6-7% ไม่ค่อยสูง
00:29:22 → 00:29:25 เกินในนี้นะครับแต่เราจะเอาร่างกายเราไป
00:29:25 → 00:29:27 เสี่ยงหรือเปล่าอันนี้ก็แล้วแต่คนนะครับ
00:29:27 → 00:29:31 นอกเหนือจากนี้ถ้าใครที่ใช้พลาสม่าเอามา
00:29:31 → 00:29:34 ทดแทนตัวเองพลาสมาพวกนี้ก็มีซิเรตก็ยิ่ง
00:29:34 → 00:29:36 มีปัญหาเรื่องซิเรตอีกนะครับอาจจะทำให้
00:29:36 → 00:29:38 โพแทสเซียมในร่างกายต่ำอาจจะทำให้เกลือ
00:29:38 → 00:29:41 แร่ตัวอื่นผิดปกติก็ได้นะครับดังนั้นโดย
00:29:41 → 00:29:44 รวมที่เล่ามาทั้งหมดเนี่ยplasmaฟีisมี
00:29:44 → 00:29:47 ประโยชน์ในทางการแพทย์จริงๆแต่ในทาง
00:29:47 → 00:29:50 เวชศาสตร์ชะลอวัยเพื่อลดการอักเสบขับสาร
00:29:50 → 00:29:52 พิษออกไปจากร่างกายขับโลหะหนังออกไปจาก
00:29:52 → 00:29:56 ร่างกายหรือเอาพวกอ่าสิ่งที่มันไม่ดีต่อ
00:29:56 → 00:30:00 ร่างกายออกไปจากร่างกายเนี่ยอันเนี้ยยัง
00:30:00 → 00:30:03 ไม่ตอบตอบโจทย์ขนาดนั้นทฤษฎีการทำ 1
00:30:03 → 00:30:08 ครั้งแล้วจบเลยใน sess เอาของพวกนั้นออก
00:30:08 → 00:30:11 ไปได้อย่างเพียงพอแน่นอนแน่ๆเลยด้วยครั้ง
00:30:11 → 00:30:14 เดียวไม่เพียงพอนะครับแล้วก็ที่สำคัญก็
00:30:14 → 00:30:17 คือคุณเอาออกไปเท่าไหร่ยังไงอันนี้ก็อีก
00:30:17 → 00:30:22 เรื่องนึงมีปัญหามาให้คุณได้เสมอนะครับ
00:30:22 → 00:30:25 อ่ามีปัญหามาได้ให้คุณได้เสมอเลยดังนั้น
00:30:25 → 00:30:27 มันก็จะไม่ค่อยคุ้มค่ากับการที่คุณจะต้อง
00:30:27 → 00:30:30 ไปทำอะไรที่ผลของมันเนี่ยไม่ได้มีหลักฐาน
00:30:30 → 00:30:33 ทางการแพทย์ที่ยืนยันชัดเจนแล้วต่อให้
00:30:33 → 00:30:36 ทฤษฎีมันฟังดูดีจริงๆเนี่ยแต่ว่าเราคิดดี
00:30:36 → 00:30:38 ๆสิครับคุณไม่สามารถเอาของเสียนั้นออกไป
00:30:38 → 00:30:41 ได้อย่างที่คุณต้องการปริมาณที่คุณ
00:30:41 → 00:30:43 ต้องการแถมเอาออกไปแล้วเดี๋มันก็สร้าง
00:30:43 → 00:30:45 ใหม่มาเหมือนเดิมถ้าคุณไม่แก้ไขอย่างอื่น
00:30:45 → 00:30:47 ให้มันเหมือนเดิมคือพูดง่ายๆอาจจะเสีย
00:30:47 → 00:30:49 ทั้งเงินและเวลาแล้วก็อาจจะโชคร้ายมี
00:30:49 → 00:30:51 ปัญหาผลข้างเคียงก็ได้นะครับแต่ถ้าคุณยัง
00:30:51 → 00:30:54 อยากจะไปทำอยู่อันนี้ผมแล้วแต่เลยนะครับ
00:30:54 → 00:30:56 เพราะว่าร่างกายของแต่ละคนนั้นมันก็เป็น
00:30:57 → 00:30:59 ของแต่ละคนนะครับกระเป๋าเงินของแต่ละคนก็
00:30:59 → 00:31:02 เป็นกระเป๋าเงินของแต่ละคนนะครับอันเนี้ย
00:31:02 → 00:31:05 แล้วแต่อ่ะอันนี้เล่ามานานแล้วผมจะขอแถม
00:31:05 → 00:31:09 สุดท้ายสำหรับแพทย์ที่เข้ามาฟังแล้วะกัน
00:31:09 → 00:31:12 เวลาที่เราทำ plasma freeis เนี่ยเราจะ
00:31:12 → 00:31:16 คำนวณปริมาณทำยังไงเออตรงเนี้สำคัญละมัน
00:31:16 → 00:31:18 ข้อแรกมันจะอยู่ที่ข้อบ่งชี้ที่เราจะทำ
00:31:18 → 00:31:21 ก่อนว่าเราจะทำอะไรมีแอนตบอดี้เยอะมาก
00:31:21 → 00:31:24 น้อยแค่ไหนโดยทั่วไปเราจะทำการล้างประมาณ
00:31:24 → 00:31:25 1-1.5
00:31:25 → 00:31:28 PLMA Volume นะครับ plasma volume
00:31:28 → 00:31:33 คำนวณยังไงนะครับแบบนี้ครับไม่ยากเลยนะฮะ
00:31:33 → 00:31:37 เราจะคิดซะว่าในร่างกายเรามีเลือดนะครับ
00:31:37 → 00:31:41 อยู่ที่ 70 ซีซต่อกกรันะครับกิโลกรัมนี้
00:31:41 → 00:31:43 คือต้องเป็น ideal body weight ถ้าเป็น
00:31:43 → 00:31:45 คนอ้วนมากๆจะต้องเป็น adjust body
00:31:45 → 00:31:48 weight นะครับอ่าแล้วเราเอา 70 คูณน้ำ
00:31:48 → 00:31:51 หนักเช่นสมมุติว่าหนัก 70 กก.เอาไปคูณ 70
00:31:51 → 00:31:56 ก็จะได้ 4,000 900 มลตที่เป็นเลือดนะ
00:31:57 → 00:31:58 ครับตรงนี้เลือดเนี่ยมันจะรวมทั้งเลือด
00:31:59 → 00:32:01 แดงไม้เลือดขาวเกล็ดเลือดแล้วก็พลาสมานะ
00:32:01 → 00:32:03 ครับ
00:32:03 → 00:32:05 ต่อจากนั้นที่เราต้องทำก็คือไปเจาะเลือด
00:32:05 → 00:32:08 ดูซิว่าความเข้มข้นของเลือดเรามีเท่าไหร่
00:32:08 → 00:32:10 ฮิมาตกรเรามีกี่เปอร์เซ็นต์นะครับเช่นมี
00:32:10 → 00:32:11 เมลเลือดแดงเมเลือดขาวเก็ดเลือดรวมกัน
00:32:11 → 00:32:14 แล้วเนี่ย 45% ก็แปลว่าไอ้ที่เหลือจะต้อง
00:32:15 → 00:32:19 เป็นน้ำเลือดหรือพลาสมานะครับก็ถ้าเรามี
00:32:19 → 00:32:23 ฮีม 45% พลาสmaเราต้องมี 55% เราก็เอาไอ้
00:32:23 → 00:32:26 นี่เลยครับ 55% ไปคูณ 4,900 มลตเมื่อ
00:32:26 → 00:32:30 ตะกี้นะครับอ่ามันก็จะออกมาได้ประมาณสซัก
00:32:30 → 00:32:33 2 ลิตรกว่าๆอะไรอย่างเงี้ยนะครับนั้นก็
00:32:33 → 00:32:35 จะเป็น 1 plasma volume ถ้าเราจะทำมาก
00:32:35 → 00:32:38 กว่า 1 plasma volุeได้มั้ได้มันขึ้น
00:32:38 → 00:32:40 อยู่กับปริมาณแอนตีบอดี้ที่เรามีตั้งแต่
00:32:40 → 00:32:42 แรกนะครับแต่ยิ่งทำปริมาณเยอะเนี่ยผลข้าง
00:32:42 → 00:32:44 เคียงก็จะเยอะตามบางคนเป็นตะคริวนะครับ
00:32:44 → 00:32:47 ถ้าขาดน้ำอยู่แล้วมีแคลเซียมต่ำมีเกลือ
00:32:47 → 00:32:50 แร่ผิดปกตินะครับอ่าเวียนหัวลังทำเสร็จ
00:32:50 → 00:32:53 เพลียนะครับมีการเกิดเลือดออกง่ายต่างๆ
00:32:53 → 00:32:57 ตามมานะครับอ่ะวันนี้ก็คิดว่าน่าจะพอหอม
00:32:57 → 00:32:59 ปากของพอเรื่องplasmaฟisเพราะว่าเล่าให้
00:33:00 → 00:33:03 ฟังในรายละเอียดลึกเลยทีเดียวทั้งสำหรับ
00:33:03 → 00:33:05 แพทย์แล้วก็สำหรับบุคคลทั่วไปด้วยนะครับ
00:33:05 → 00:33:07 ดังนั้นถ้าถามตัวผมเองผมยังไม่คิดว่าการ
00:33:07 → 00:33:11 ทำplasmaฟีisเพื่อชะลอไวลดการอักเสบล้าง
00:33:11 → 00:33:13 พิษต่างๆออกจากร่างกายมันคุ้มค่าขนาดนั้น
00:33:13 → 00:33:15 นะครับโอเควันนี้ก็เท่านี้นะครับถ้าใครมี
00:33:15 → 00:33:17 อะไรสงสัยก็สอบถามมานะครับขอบคุณมากครับ
00:33:17 → 00:33:21 สวัสดีครับ