00:00:00 → 00:00:04 ไวรัสตัวนี้น่าจะมีต้นตอจากกลุ่มค้างคาว
00:00:04 → 00:00:09 แล้วก็อาจจะมาเข้าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สักชนิดหนึ่งซึ่งตอนนี้เรายังสรุปไม่ได้
00:00:09 → 00:00:12 ถ้าเราคุมมันไม่ได้ตั้งแต่ต้น ๆ นี่ ก็จะเกิดการระบาดใหญ่
00:00:12 → 00:00:14 เนื่องจากว่าเมื่อไรก็ตามที่มีโรคใหม่
00:00:14 → 00:00:16 แปลว่าทุกคนในโลกนี้มีโอกาสติด
00:00:16 → 00:00:23 [เสียงดนตรี]
00:00:23 → 00:00:27 ได้รับเชื้อมา แต่ยังไม่แสดงอาการ สามารถแพร่เชื้อได้หรือเปล่า
00:00:27 → 00:00:29 อันนี้คือ แพร่ได้จริง ๆ ค่ะ
00:00:29 → 00:00:33 แล้วการที่บอกว่าคนไข้มีอาการหรือไม่ มันก็ขึ้นกับตัวบุคคลด้วย
00:00:33 → 00:00:34 อย่างเช่น เหนื่อยง่าย
00:00:34 → 00:00:38 บางคนแค่ไอ แล้วก็อาจจะมีไวรัสอยู่ในตัวน้ำลาย
00:00:38 → 00:00:40 หรือว่าตามสารคัดหลั่งต่าง ๆ
00:00:40 → 00:00:42 อย่างไปเข้าห้องน้ำสาธารณะนะคะ
00:00:42 → 00:00:46 ถ้าสามารถล้างมือก่อน ล้างด้วยน้ำสบู่อย่างน้อย 20 วินาที
00:00:46 → 00:00:48 หรือว่าล้างด้วยแอลกอฮอล์เจล 20 วินาที
00:00:49 → 00:00:50 ให้มีการทำลายก่อน แล้วค่อยเปิด
00:00:50 → 00:00:54 ถ้ายังไม่ได้ล้างมือ ก็อย่าไปจับตรงบริเวณหน้า จมูก ตา
00:00:57 → 00:01:04 หน้ากากอนามัย เราออกแบบมาสำหรับ คนป่วยเป็นโรคที่มีน้ำมูก ไอ จาม
00:01:04 → 00:01:08 แล้วก็ไม่อยากให้คนที่ป่วยคนนั้น แพร่กระจายเชื้อ
00:01:08 → 00:01:11 โดยหลัก หน้ากากอนามัยก็จะมี 2 ด้าน
00:01:11 → 00:01:17 ข้างในส่วนใหญ่มันก็จะเป็นวัสดุช่วยเราซึมซับ น้ำมูก น้ำลายอะไรพอสมควร
00:01:17 → 00:01:20 ส่วนด้านนอกก็จะเป็นด้านที่กันน้ำ
00:01:20 → 00:01:24 จะช่วยไม่ให้น้ำมูกน้ำลายที่ที่ซึมซับ ออกไปสู่ภายนอก
00:01:24 → 00:01:30 ส่วน N95 เราใช้กันในบุคลากรทางการแพทย์
00:01:30 → 00:01:34 N95 ก็จะต้องชิดแนบเรานะคะ
00:01:34 → 00:01:36 การทำงานของ N95 อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า
00:01:36 → 00:01:38 มันจะมีรูที่เล็ก
00:01:38 → 00:01:43 แล้วก็ไม่ใช่รูอย่างเดียวค่ะ มันจะมี ที่เราเรียกว่าชาร์จความเป็นขั้วบวกขั้วลบ
00:01:43 → 00:01:48 แล้วก็เชื้อมันก็จะมีลักษณะที่ว่า มีขั้วเหมือนกัน
00:01:48 → 00:01:51 เพราะฉะนั้น มันก็จะมาเกาะติดเข้าไปไม่ได้
00:01:51 → 00:01:54 คือจริง ๆ แล้ว ถ้าเราพูดว่า ป้องกันได้มากกว่า N95
00:01:54 → 00:01:56 ป้องกันได้มากกว่าอยู่แล้วถูกไหมคะ
00:01:56 → 00:02:01 แต่ N95 ที่ถูกต้อง ฟิตอย่างนี้ อันนี้ N95 ดีกว่าแน่นอนนะคะ
00:02:03 → 00:02:08 ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก็จะมีไข้สูงด้วยนะคะ คือเกิน 39 นะคะ
00:02:08 → 00:02:13 ถ้าสมมุติว่าไข้ต่ำกว่า 38 นี่ จะมีน้อยกว่า 20% นะคะ
00:02:13 → 00:02:17 จริง ๆ แล้วการที่บอกว่าคนไข้มีอาการหรือไม่
00:02:17 → 00:02:19 มันก็ขึ้นกับตัวบุคคลด้วย อย่างเช่น
00:02:19 → 00:02:21 บางคนอาจจะเหนื่อยอย่างนี้ค่ะ
00:02:21 → 00:02:26 เหนื่อยง่าย ทั้ง ๆ ที่อีกคนเหมือนกัน แต่ว่าอาจจะไม่บ่น หรืออาจจะไม่พูด
00:02:26 → 00:02:29 เพราะฉะนั้น มันก็จะมีความแตกต่างกันในจุดนี้ด้วย
00:02:29 → 00:02:35 ต่อมาก็คือจะเป็นอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว มีอาการไอ เหนื่อย หอบ หรือเจ็บหน้าอก
00:02:36 → 00:02:38 บางคนก็จะมีอาการท้องเสียนะคะ
00:02:38 → 00:02:43 ประมาณ 3-4 วัน แล้วก็อาจจะท้องเสียได้ถึง 8-10 ครั้งต่อวัน
00:02:43 → 00:02:44 อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ
00:02:44 → 00:02:47 กลุ่มที่สัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย
00:02:47 → 00:02:51 หรือคนที่ยังไม่มีอาการ ที่ได้เดินทางไปในประเทศนั้น ๆ
00:02:52 → 00:02:56 ถ้ามีอาการเหล่านี้ประกอบกับประวัติ ที่มีการเดินทางหรือมีการสัมผัสเชื้อ
00:02:56 → 00:02:57 ก็ควรจะมาพบแพทย์ค่ะ
00:03:00 → 00:03:04 ถามว่าทำไมประเทศไทย ยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินใช่ไหมคะ
00:03:04 → 00:03:11 จริง ๆ แล้ว ก็เข้าใจว่าผู้ดูแลก็คงเป็นห่วง ภาวะการตื่นตระหนกนี่แหละอันที่หนึ่ง
00:03:11 → 00:03:14 อันที่สองก็คือว่า ตอนนี้จีนก็บังเอิญปิดประเทศไปแล้ว
00:03:14 → 00:03:17 ไม่มีเที่ยวบินที่มาจากแหล่งรังโรคแล้ว
00:03:17 → 00:03:20 เรารู้จำนวนยอดของเที่ยวบินทุกเที่ยว
00:03:20 → 00:03:23 แล้วทุกเที่ยวที่มาจากแหล่งที่แพร่นี่
00:03:23 → 00:03:27 เขาติดตามนะคะ ประเมินสถานการณ์รายวัน
00:03:27 → 00:03:31 แล้วก็ปรับเปลี่ยนไปเท่าที่ มันจะทำให้ควบคุมได้
00:03:34 → 00:03:39 การคัดกรองของประเทศไทยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน หรือว่าท่าเรือ
00:03:39 → 00:03:44 ก็จะมีการจำกัดการเดินทาง ของคนที่มาจากอู่ฮั่นโดยตรงนะคะ
00:03:44 → 00:03:46 แต่ว่าถ้าคนไข้ที่เข้ามาแล้วนะคะ
00:03:46 → 00:03:51 ทางกรมควบคุมโรคมีการกรอกประวัติ แล้วก็มีการตรวจสอบอุณหภูมินะคะ
00:03:51 → 00:03:53 ไม่ว่าจะใช้ตัวเทอร์โมสแกนเอง
00:03:53 → 00:03:56 ดูว่าอุณหภูมิเป็นประมาณเท่าไรนะคะ
00:03:56 → 00:04:02 ถ้ามีไข้ก็จะมีการกักตัวไว้ หรือว่ามีการให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไร
00:04:05 → 00:04:10 ไวรัสที่รุนแรงอย่าง MERS ติดแล้วมีอัตราตาย 35-40%
00:04:10 → 00:04:15 แต่ไวรัสมันแพร่ระบาดไม่ดีเท่าไร ไม่ได้กระจายไปไกล
00:04:15 → 00:04:17 ป่วย 100 คน ตาย 35 คน
00:04:17 → 00:04:20 เพราะฉะนั้น จำนวนคนตายก็จะไม่ได้เยอะเท่าไร
00:04:20 → 00:04:24 เมื่อเทียบกับ SARS นี่ เราบอกว่าอัตราตาย 10%
00:04:24 → 00:04:25 ป่วย 100 คน ตาย 10 คน
00:04:26 → 00:04:31 แต่บังเอิญมันมีคนป่วย 8 พันกว่าคนใช่ไหม ตายไป 700 เกือบ 800 คน
00:04:31 → 00:04:32 จำนวนคนติดมันเยอะ
00:04:32 → 00:04:35 เพราะฉะนั้น สำหรับกรณีของโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
00:04:36 → 00:04:40 อัตราการแพร่เชื้อนี่ พอ ๆ กับ SARS ในอดีตที่ผ่านมา
00:04:40 → 00:04:43 คือประมาณ 1 คน แพร่เชื้อได้ 3 คน
00:04:43 → 00:04:46 เรามีข้อมูลที่ออกมานี่ 40 กว่าคน
00:04:46 → 00:04:51 ใน 40 คนนี้ ก็บอกว่ามีคนตายอยู่ราว ๆ 3 คน
00:04:51 → 00:04:54 แต่มันยังมีคนที่อยู่โรงพยาบาลอยู่
00:04:54 → 00:04:56 ความรุนแรงในแง่ของอัตราตาย
00:04:56 → 00:05:01 ตอนนี้ตัวเองยังคิดว่ายังบอกไม่ได้ เต็มปากเต็มคำนักว่ามันน้อยกว่า SARS ไหม
00:05:01 → 00:05:03 แต่น้อยกว่า MERS แน่ ๆ
00:05:06 → 00:05:10 จาก SARS มา MERS นี่ เรามีประสบการณ์
00:05:10 → 00:05:14 แล้วในระหว่างนี้เกือบ 17 ปี ที่ผ่านมา
00:05:14 → 00:05:18 แล้วก็ด้วยเทคโนโลยีอะไรต่าง ๆ นี่ เรารู้ว่าถ้าเราจะทำ เราทำอย่างไร
00:05:18 → 00:05:20 ถ้าในแง่เทคนิคแล้วกัน
00:05:20 → 00:05:24 ที่เราจะได้มาซึ่งวัคซีนในห้องทดลอง ทดลองในสัตว์อะไรอย่างนี้
00:05:25 → 00:05:27 3 เดือนนี่ เป็นไปได้นะคะ
00:05:27 → 00:05:31 เพียงแต่ว่าทำอย่างไรให้เรายอมเอาไปใช้ในคน
00:05:31 → 00:05:33 มันก็ต้องมีกรณีอนุญาตเป็นพิเศษอะไรอย่างนี้
00:05:33 → 00:05:37 คิดว่าบุคลากรทางการแพทย์เรา เกือบทั้งหมดก็ตื่นตัว
00:05:38 → 00:05:41 ถ้าเมื่อไรเราสงสัย เราก็จะรีบส่งรีบตรวจ
00:05:41 → 00:05:44 ถ้าเราทำได้ในระดับเล็ก ๆ มันก็จะหยุดเร็วนะคะ
00:05:44 → 00:05:46 แต่ถ้าเราปล่อยมันไปหลายเมืองแล้วนี่
00:05:46 → 00:05:49 โอกาสที่เราจะคุมได้ มันได้น้อยลงนะคะ
00:05:49 → 00:05:54 [เสียงดนตรี]