00:00:06 → 00:00:09 ผมว่าจริงๆเรื่องหมอดูครับมันเป็นอาชีพ
00:00:09 → 00:00:12 ที่แบบโอ้โหอยู่กับเรามานานเนาะก่อนที่จะ
00:00:12 → 00:00:14 มีวิทยาศาสตร์ให้อีกเพราะฉะนั้นคนจะรู้
00:00:14 → 00:00:17 จักสิ่งแรกมากกว่าสิ่งหลังทุกวันนี้คนก็
00:00:17 → 00:00:19 รู้จักจิตวิทยามากขึ้นรู้จักน้าจิตวิทยา
00:00:19 → 00:00:21 มากขึ้นแต่ความรู้สึกพร้อมในการจะเข้าไป
00:00:21 → 00:00:23 หาเนี่ยครับอาจจะไม่เยอะเท่าหมอดูคนอาจจะ
00:00:23 → 00:00:25 รู้สึกว่าการเข้าหาจิตแพทย์นั้นจิตวิทยา
00:00:25 → 00:00:28 คือป่วยหรือเปล่าเป็นจิตเวชหรือเปล่าแต่
00:00:28 → 00:00:30 สมมติย้อนมาฝั่งหมอดูเนาะผมว่านะครับคำ
00:00:30 → 00:00:33 ว่าหมอดูในตัวคำเองเนี้ยในตัวคำมันเองนะ
00:00:33 → 00:00:36 คำว่าหมอดูเนี่ยในจิตของเราอ่ะครับมีมี
00:00:36 → 00:00:38 การตีความคำว่าหมอดูอยู่
00:00:38 → 00:00:40 [เพลง]
00:00:40 → 00:00:43 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:43 → 00:00:50 การโรงหมอกิตฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:50 → 00:00:52 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:52 → 00:00:55 รายการโรงหมอทางไทยพีบีเอสคลาสค่ะวันนี้
00:00:55 → 00:00:58 เราจะมาพาคุณผู้ฟังติดตามเรื่องราวเกี่ยว
00:00:58 → 00:01:02 กับว่าทำไม่คนถึงชอบดูหมอดูมากกว่าที่จะ
00:01:02 → 00:01:05 ปรึกษานักจิตวิทยายังไงกันนะคะเดี๋ยวคุย
00:01:05 → 00:01:08 กับด็อกเตอร์สุวาวุธวงศ์ธารสวรรค์ณ
00:01:08 → 00:01:12 จิตวิทยาการศึกษาค่ะคุณเอิ้นสวัสดีค่ะ
00:01:12 → 00:01:17 คุณเอิ้นก่อนครับผมชอบดูหมอดูไหมไม่เลย
00:01:17 → 00:01:19 ครับกลัวๆ
00:01:19 → 00:01:24 กลัวกลัวอะไรกลัวใจไม่นิ่ง
00:01:24 → 00:01:26 เออแต่บางทีก็กลัวคำตอบนะยิ่งถ้าเกิดว่า
00:01:26 → 00:01:29 ใครมาบอกว่าหูยคนนี้นะอื้อหืออย่างแม่น
00:01:29 → 00:01:32 เลยอ่ะเอออันนี้เราก็จะแบบเฮ้ยถ้าเกิดเขา
00:01:32 → 00:01:36 ทายมาแล้วไม่โอเคมันก็จะแบบเฟลๆเนาะมันก็
00:01:36 → 00:01:39 จะรู้สึกแบบโอ้ยมันแย่อ่ะแต่ถ้าทายว่าดี
00:01:39 → 00:01:43 มันก็จะแบบเออแต่ว่าในบางอย่างอ่ะคนเรา
00:01:43 → 00:01:45 มันก็เจอปัญหาหลายอย่างเนาะแต่ว่าเราบาง
00:01:45 → 00:01:49 ทีในหลายๆปัญหาเราจะใช้หมอดูในการที่จะ
00:01:49 → 00:01:52 เป็นคนตอบปัญหาของเรามากกว่าที่จะปรึกษา
00:01:52 → 00:01:56 นักจิตวิทยาหรือรื้อใครก็แล้วแต่ที่เรา
00:01:56 → 00:01:57 รู้สึกว่าเออเราปรึกษาได้หรืออะไรเงี้ย
00:01:57 → 00:02:01 ทำไมถึงเชื่อหมอดูมากกว่าผมว่าจริงๆ
00:02:01 → 00:02:04 เรื่องหมอดูครับมันเป็นอาชีพที่แบบโอ้โห
00:02:04 → 00:02:08 อยู่กับเรามานานเนาะเพราะว่าถ้าย้อนกลับ
00:02:08 → 00:02:10 ไปหลายปีแล้วครับไม่รู้หลายไม่รู้หลาย
00:02:10 → 00:02:13 ร้อยปีหรือพันปีก็จะมีโหราศาสตร์
00:02:13 → 00:02:15 โหราศาสตร์อยู่บนเก่าแก่มากเพราะว่าเป็น
00:02:15 → 00:02:19 เรื่องสัตว์ของดวงดาวมันก็จะมีของแบบอาจ
00:02:19 → 00:02:21 จะเป็นตั้งแต่ชนเผ่าอาจจะเป็นชาแมนอาจจะ
00:02:21 → 00:02:23 เป็นคนที่เชื่อเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวแล้ว
00:02:23 → 00:02:26 มันก็พัฒนามาสู่การเก็บสถิติเกี่ยวกับ
00:02:26 → 00:02:30 พื้นดวงชะตาการเกิดเพราะงั้นเรื่องนี้สาร
00:02:30 → 00:02:33 พวกนี้มันมาด้วยความเชื่ออยู่ก่อนที่จะมี
00:02:33 → 00:02:35 วิทยาศาสตร์อะไรอีกจริงๆวิทยาศาสตร์มี
00:02:35 → 00:02:37 อยู่แล้วเนาะแต่ว่าการก่อขึ้นมาของ
00:02:37 → 00:02:39 วิทยาศาสตร์หรือศาสตร์หรือความรู้ที่จับ
00:02:39 → 00:02:42 ต้องได้และสรุปเป็นระบบเนี่ยมันเกิดขึ้น
00:02:42 → 00:02:45 หลังความเชื่อเพราะฉะนั้นยังไงก็ตามเขา
00:02:45 → 00:02:48 เป็นประเทศไทยเนี่ยด้วยสิ่งที่มันเป็น
00:02:48 → 00:02:51 โหราศาสตร์หรือเป็นหมอดูพวกเนี้ยอยู่มา
00:02:51 → 00:02:53 นานกว่าอยู่แล้วในขณะที่สหจิตวิทยาหรือ
00:02:53 → 00:02:55 ศาสตร์ทางจิตเวชอะไรเงี้ยครับทำให้จิต
00:02:55 → 00:02:57 อาสาและก็ตามเนี่ยมันเกิดขึ้นมาทีหลัง
00:02:57 → 00:03:01 เพราะฉะนั้นคนจะรู้จักสิ่งแรกมากกว่าสิ่ง
00:03:01 → 00:03:04 หลังสิ่งหลังเนี่ยถ้าถามว่าทุกคนทุกวัน
00:03:04 → 00:03:07 นี้รู้จักไหมจิตวิทยาคืออะไรผมว่าไม่เยอะ
00:03:07 → 00:03:11 นะสัดส่วนเผลอๆ 100% อาจจะรู้จักสัก 20%
00:03:11 → 00:03:13 แต่อย่างน้อยก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่
00:03:13 → 00:03:14 อาจจะรู้จักแค่ 5%
00:03:14 → 00:03:16 ทุกวันนี้คนก็รู้จักจิตวิทยามากขึ้นรู้
00:03:16 → 00:03:19 จักณจิตวิทยามากขึ้นแต่ความรู้สึกพร้อมใน
00:03:19 → 00:03:21 การจะเข้าไปหาเนี่ยครับอาจจะไม่เยอะเท่า
00:03:21 → 00:03:23 หมอดูมันอาจจะเป็นความรู้สึกที่ยังรู้สึก
00:03:23 → 00:03:26 ว่าการจะไปคุยกันนะจิตวิทยาหรือจิตแพทย์
00:03:26 → 00:03:28 เนี่ยเหมือนๆเราจะมีความรู้สึกว่ามันคือ
00:03:28 → 00:03:31 คนคนเดียวกันแหละแต่บางคนอาจจะใช้เออ
00:03:31 → 00:03:34 จิตวิทยามันเป็นวิชาหรือเปล่าอ่าอันนี้
00:03:34 → 00:03:37 ถ้าหมอก็คือจิตแพทย์แล้วก็การจะเจริญเข้า
00:03:37 → 00:03:41 ไปคุยอ่ะเออเราอาจจะบางทีรวมๆอย่างเงี้ย
00:03:41 → 00:03:43 ครับคนอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ยการเข้าหา
00:03:43 → 00:03:45 จิตแพทย์นั้นจิตวิทยาคือป่วยหรือเปล่าอืม
00:03:45 → 00:03:47 ๆๆเป็นจิตเวชหรือเปล่า
00:03:47 → 00:03:49 หรือแบบต้องมีปัญหาหนักกันหรือเปล่าอย่าง
00:03:49 → 00:03:50 เงี้ยครับเพราะว่าการเข้าไปคุยกับ
00:03:50 → 00:03:52 จิตแพทย์กับนักจิตวิทยาเนี่ยมันจะมี
00:03:52 → 00:03:54 เหมือนคล้ายๆสิ่งที่เรียกว่ามายากลเนอะ
00:03:54 → 00:03:58 บางทีเราจะเห็นตามละครไว้ก่อนที่แบบจะ
00:03:58 → 00:04:00 ต้องใส่บทจิตแพทย์มาตอนจบที่ตัวร้ายเนี่ย
00:04:00 → 00:04:02 บ้าไปเลย
00:04:02 → 00:04:04 เออแล้วก็เข้าหลังคาแดงอะไรเงี้ยที่เค้า
00:04:04 → 00:04:07 ว่ากันถูกมั้ยฮะก็จะมีภาพว่าจิตแพทย์ทำ
00:04:07 → 00:04:10 งานแบบนั้นถ้าถามว่าใช่ไหมก็ใช่แต่ไม่ใช่
00:04:10 → 00:04:12 ทั้งหมดนะฮะเพราะจริงแล้วงานของจิตแพทย์
00:04:12 → 00:04:14 เนี่ยก็จะมีส่วนของคนปกติด้วยที่อาจจะมี
00:04:14 → 00:04:17 ปัญหาการนอนหลับหรือบางทีมีปัญหาความ
00:04:17 → 00:04:19 เครียดอย่างเงี้ยครับแล้วจำเป็นต้องพบ
00:04:19 → 00:04:21 จิตแพทย์อาจจะมียาบางตัวช่วยให้คลาย
00:04:21 → 00:04:23 เครียดได้เหมือนกัน
00:04:23 → 00:04:25 หรือฝั่งแม่จิตวิทยาเองก็ตามก็จะปรากฏใน
00:04:25 → 00:04:28 หนังที่แบบหรือตามข่าวที่ว่าโน้มน้าวจะ
00:04:28 → 00:04:32 โน้มน้าวใจมีพูดให้เราแบบคล้อยตามอาจจะมี
00:04:32 → 00:04:36 เขาเรื่องเดียวกันหลอกลวงบางทีมันก็ทำให้
00:04:36 → 00:04:39 คนรู้สึกไม่แน่ใจว่าการเข้าไปหาจะโอเคไหม
00:04:39 → 00:04:43 แล้วถ้าเปิดเรื่องคุยเนี่ยมันจะแบบทำให้
00:04:43 → 00:04:46 รู้สึกเหมือนมีปัญหาหรือเปล่าผิดปกติไหม
00:04:46 → 00:04:48 จะถูกเปิดมิติที่มันลึกๆแล้วเราไม่พร้อม
00:04:48 → 00:04:51 จะเปิดหรือเปล่าอีกอย่างหนึ่งก็คือว่าน้า
00:04:51 → 00:04:53 จิตวิทยาจิตแพทย์ก็เป็นคนเหมือนเรามันคือ
00:04:54 → 00:04:56 การเปิดไปคุยเรื่องชีวิตที่เป็นกับคนเท่า
00:04:56 → 00:04:59 ๆเราแต่สมมติย้อนมาฝั่งหมอดูเนาะผมว่านะ
00:04:59 → 00:05:02 ครับคำว่าหมอดูในตัวคำเองเนี้ยในตัวคำมัน
00:05:02 → 00:05:05 เองนะเขามาหมอดูเนี่ยในจิตของเราอ่ะครับ
00:05:05 → 00:05:10 มีมีการตีความคำว่าหมอดูอยู่ยังไงอ่าผม
00:05:10 → 00:05:13 ลองถามคุณดีเนาะเราเวลาเราได้ยินคำว่าหมอ
00:05:13 → 00:05:16 ดูเนี่ยครับหมอดูสำหรับเราเนี่ยเรามองว่า
00:05:16 → 00:05:19 มันเป็นยังไงมันเป็นยังไง
00:05:19 → 00:05:20 หมอดู
00:05:20 → 00:05:23 อันนี้ที่ได้ยินบ่อยๆที่หมอดูว่าคู่กับ
00:05:23 → 00:05:26 หมอเดานี่แหละ
00:05:26 → 00:05:30 ก็เดาตรงด้วยนะอะไรอย่างเงี้ยหมอดูก็คือ
00:05:30 → 00:05:34 อื้มนิยามไม่ถูกอ่ะผมลองพยายามฟังผมนะโดย
00:05:34 → 00:05:38 คำอ่ะครับหมอดูคือพูดล่วงรู้บางอย่างที่
00:05:38 → 00:05:42 เราไม่รู้
00:05:42 → 00:05:45 ผู้ล่วงรู้ในบางอย่างที่เราไม่รู้ใช่ซึ่ง
00:05:45 → 00:05:47 อาจจะหมายถึงอนาคต
00:05:47 → 00:05:51 หรืออาจจะหมายถึงพื้นดวงชะตาหรืออาจจะ
00:05:51 → 00:05:53 หมายถึงชีวิตของเราที่ถูกลิขิตไว้แล้ว
00:05:53 → 00:05:56 เป็นบทละครที่ถูกลิขิตไว้แล้ว
00:05:56 → 00:05:59 เพราะงั้นหมอดูครับจะทำหน้าที่ในสิ่งที่
00:05:59 → 00:06:02 เรารับรู้นะเหมือนเป็นคนที่สปอยผมว่าสปอย
00:06:02 → 00:06:05 คือแอบบอกตอนจบล่วงหน้าแอบบอกสิ่งที่จะ
00:06:05 → 00:06:08 เกิดขึ้นล่วงหน้าเป็นการทำนายเป็นการคาด
00:06:08 → 00:06:10 การณ์เป็นการบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใน
00:06:10 → 00:06:13 ลำดับถัดไปหรืออธิบายเหตุผลของสิ่งที่
00:06:13 → 00:06:16 เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ซึ่งอาจจะหมายถึง
00:06:16 → 00:06:19 เป็นเพราะกรรมเก่า
00:06:19 → 00:06:22 เป็นเพราะกรรมเก่าเราเคยผูกชะตากับเขามา
00:06:22 → 00:06:24 ชาตินี้แล้วบางคนอาจจะไม่ใช่หมอดูแล้วคือ
00:06:24 → 00:06:26 บางคนมีไสยศาสตร์โผล่เข้ามาด้วยมีเรื่อง
00:06:26 → 00:06:28 กรรมเก่ามีเรื่องการทำแก้กรรมอะไรก็ไม่
00:06:28 → 00:06:31 รู้เนาะเพราะงั้นน่ะคำว่าหมอดูเนี่ยเรา
00:06:31 → 00:06:34 เลยรู้สึกว่าเราเข้าไปหาเพราะเขาคงรู้บาง
00:06:34 → 00:06:37 อย่างที่เราไม่รู้และเราอยากให้เขาช่วย
00:06:37 → 00:06:40 เปิดให้หน่อยว่าไอ้ที่เราไม่รู้เนี่ยอะไร
00:06:40 → 00:06:43 ขอรู้ล่วงหน้าสักหน่อยเถอะชี้เป้าให้
00:06:43 → 00:06:46 หน่อยมันก็อยากรู้คำตอบอยากรู้คำตอบล่วง
00:06:46 → 00:06:49 หน้าเพราะงั้นจิตเราจะเข้าไปด้วยความ
00:06:49 → 00:06:52 เชื่ออยู่บางอย่างอยู่แล้วครับว่าเขาน่า
00:06:52 → 00:06:56 จะรู้บางสิ่งแหละถูกไหมครับแต่ก็หมอมันก็
00:06:56 → 00:06:59 เป็นคำว่าหมอดูหรือบางคนนะใช่แต่บางคนเขา
00:07:00 → 00:07:03 บอกว่าหมอดูครูหมอเดาดูสนุกๆทีนี้มันขึ้น
00:07:03 → 00:07:06 อยู่กับว่าในจิตใจของคนๆนั้นนะครับไปดู
00:07:06 → 00:07:08 เพราะสนุกจริงๆหรือหรือไปด้วยความซีเรียส
00:07:08 → 00:07:11 ว่าหมอดูจะต้องรู้
00:07:11 → 00:07:14 ทีนี้ผมเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าของหมอดูมี
00:07:15 → 00:07:18 หลายบุคลิกบุคลิกที่ชอบโดยสนุกๆต่อให้พูด
00:07:18 → 00:07:21 ใช่บ้างไม่ใช่บ้างก็ช่างมันสนุกๆไม่เก็บ
00:07:21 → 00:07:23 มาใส่ใจก็มี
00:07:23 → 00:07:26 กับคนที่อาจจะแบบจิตอ่อนไหวง่ายฟังปั๊บ
00:07:26 → 00:07:28 ฉันว่าต้องใช้แน่ๆ
00:07:28 → 00:07:31 แล้วไปยึดติดกับคำตอบที่หมอดูให้ก็มี
00:07:31 → 00:07:34 เพราะงั้นเรื่องนี้ครับต้องบอกทุกคนว่าคน
00:07:34 → 00:07:37 ที่เข้าไปดูหมอดูเนาะผมอยากให้รู้จักตัว
00:07:37 → 00:07:39 เองเยอะๆหน่อย
00:07:39 → 00:07:42 ว่าว่าตัวเราเนี่ยเป็นคนดูเอาสนุกหรือ
00:07:42 → 00:07:45 เปล่าหรือจริงๆพื้นฐานเราอ่ะเป็นคนที่มี
00:07:45 → 00:07:49 ความอ่อนไหวและอาจจะมีแนวโน้มในการถูกชี้
00:07:49 → 00:07:51 นำได้ง่ายทีนี้คำว่าหมอเดามันเลยมีความ
00:07:51 → 00:07:55 น่าเป็นห่วงตรงที่ว่าสมมุติถ้าเกิดทิศทาง
00:07:55 → 00:07:58 ที่หมอเดาเนาะหรือเรียกหมอดูก็ได้คนนั้น
00:07:58 → 00:08:02 บอกแล้วมันเป็นการชี้บางสิ่งบางอย่างที่
00:08:02 → 00:08:04 อาจจะทำให้เราคล้ายๆไม่อยู่กับปัจจุบัน
00:08:04 → 00:08:08 หรืออาจจะไปทำอะไรบางอย่างถ้าผิดทางแล้ว
00:08:09 → 00:08:10 มันทำให้เราแบบคล้ายๆใช้ชีวิตได้ไม่ค่อย
00:08:10 → 00:08:14 ดีพวกนี้ก็จะเป็นภัยกับเรามากกว่า
00:08:14 → 00:08:16 จริงๆแล้วหมอดูครับจะเป็นเหมือนที่ปรึกษา
00:08:16 → 00:08:19 ปัญหาชีวิตแหละในคนแบบสำหรับคนยุคเก่าๆ
00:08:19 → 00:08:22 ที่แบบเวลาไปหาหมอดูนะปกติเวลาคนชีวิตดีๆ
00:08:22 → 00:08:25 อาจจะไม่ค่อยไปดูหมอแต่เรามักจะไปดูหมอดู
00:08:25 → 00:08:28 ตอนที่ชีวิตไม่ค่อยดีใช่เพราะเราอยากรู้
00:08:28 → 00:08:31 ว่าความไม่ดีนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่และมัน
00:08:31 → 00:08:34 จะหมดลงได้ด้วยวิธีอะไร
00:08:34 → 00:08:37 เหมือนกับว่าเราต้องการหาทางออกอ่ะใช่โดย
00:08:37 → 00:08:41 การที่เราไปหาคนคนหนึ่งที่คิดว่าเขาน่าจะ
00:08:41 → 00:08:43 ให้คำตอบเราได้
00:08:43 → 00:08:45 เพราะว่าเวลาคนอยู่ในความมืดมิดนะครับเขา
00:08:45 → 00:08:48 ต้องการหาแสงสว่างเสมอเขาเลยรู้สึกว่าหมอ
00:08:48 → 00:08:50 ดูนี่แหละน่าจะเป็นคนที่สามารถเบิกเนตร
00:08:50 → 00:08:53 ให้เขาได้อ่าอาจจะบอกว่าชะตาเป็นอย่างนี้
00:08:53 → 00:08:55 นะหรืออาจจะบอกว่าอ่ามันจะสิ้นสุดตรงนี้
00:08:55 → 00:08:57 นะหรืออย่างเช่นเราจะได้ยินมาจากดวงความ
00:08:57 → 00:09:00 รักไงเขาจะกลับมาไหมเขามีคนอื่นหรือเปล่า
00:09:00 → 00:09:04 คนไหนดีระหว่าง 2 คนนี้พื้นดวงเป็นยังไง
00:09:04 → 00:09:07 เป็นไงครับจิตจิตของเรามีความกังวลสับสน
00:09:07 → 00:09:10 อยู่แล้วอยากให้ใครสักคนมาช่วยฟันธงให้
00:09:10 → 00:09:14 หน่อยว่าอันนี้นะอือถูกมั้ยฮะแต่สิ่งที่
00:09:15 → 00:09:17 น่าห่วงเป็นอย่างนี้ครับเอ่อผมมองจากฝั่ง
00:09:17 → 00:09:21 นั้นจิตวิทยาเนอะการดูหมอดูครับมันเป็น
00:09:21 → 00:09:23 การเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจ
00:09:23 → 00:09:26 อยู่นอกตัวเรากำหนดเราอยู่
00:09:26 → 00:09:28 เราเชื่อเรื่องอำนาจนอกตัวที่กำหนดเรา
00:09:28 → 00:09:31 อยู่แต่ในฝั่งจิตวิทยาครับเราจะไม่มีการ
00:09:31 → 00:09:32 ทำนายแบบนั้น
00:09:32 → 00:09:35 เราจะดูจากพื้นฐานความเป็นจริงตามเรื่อง
00:09:35 → 00:09:38 ราวของชีวิตเขาตามพื้นฐานบุคลิกเขาแล้ว
00:09:38 → 00:09:41 สิ่งนี้จะสามารถพอจะทำนายได้ว่าคนที่มี
00:09:41 → 00:09:43 บุคลิกอย่างนี้อาจจะมีแนวโน้มไปทางไหน
00:09:43 → 00:09:46 ซึ่งมันเป็นเรื่องวิชาการ
00:09:46 → 00:09:48 เป็นทางสถิติหรือทางอะไรก็ตามที่มันมี
00:09:48 → 00:09:50 สิ่งที่มันจับต้องได้
00:09:50 → 00:09:52 เรื่องนี้เราจะเชื่อเรื่องอำนาจในตัวมาก
00:09:52 → 00:09:56 กว่าว่าชีวิตจะดีหรือไม่ดีบางครั้งมัน
00:09:56 → 00:09:58 ขึ้นอยู่กับว่าเรามีสติและรู้จักตัวเอง
00:09:58 → 00:10:01 และรู้จักชีวิตนี้มากน้อยแค่ไหน
00:10:01 → 00:10:03 ยิ่งรู้จักตัวเองมากการกำหนดทิศทางให้ตัว
00:10:03 → 00:10:07 เองชอบก็ยิ่งได้มากยิ่งรู้จักโลกใบนี้มาก
00:10:07 → 00:10:09 ยิ่งเห็นทางเลือกมากเรายิ่งรู้ว่าเรามี
00:10:09 → 00:10:11 ช่องให้เราหลงหลายช่องเลยและเรามีสิทธิ์
00:10:11 → 00:10:13 จะเลือกได้ว่าช่องไหนเหมาะกับเราและมี
00:10:13 → 00:10:15 ความสุขพวกนี้เป็นเรื่องอำนาจข้างในตัว
00:10:15 → 00:10:18 เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันอาจจะสวนทางกัน
00:10:18 → 00:10:20 ระหว่างหมอดูกับนักจิตวิทยาก็คือว่าหมอดู
00:10:20 → 00:10:23 บางครั้งอ่ะครับจะให้น้ำหนักกับเรื่องการ
00:10:23 → 00:10:26 พูดถึงอำนาจนอกตัวสิ่งที่ถูกลิขิตสิ่งที่
00:10:26 → 00:10:28 เป็นดวงดาวสิ่งที่อาจจะหมายถึงไพ่หรือ
00:10:28 → 00:10:30 อะไรๆก็ตามเนาะซึ่งต้องบอกว่าในการเป็น
00:10:30 → 00:10:33 หมอดูเนี่ยก็จะมีแยกเป็น 2 แบบอีกแบบที่
00:10:33 → 00:10:35 สุดท้ายหมอดูจะย้อนกลับมาว่าสุดท้ายคุณ
00:10:35 → 00:10:37 ต้องเป็นคนเลือกเองว่าชีวิตคุณจะเอายังไง
00:10:37 → 00:10:40 จะให้ดวงชะตานำคนไปอย่างนี้ก็ได้เดี๋ยว
00:10:40 → 00:10:43 คุณช่วยเป็นผู้ขีดดวงชะตาของกฎหมายก็ได้
00:10:43 → 00:10:46 แล้วแต่คุณเลือกแต่หมอดูบางคนก็จะบอกว่า
00:10:46 → 00:10:47 ชีวิตมันเป็นอย่างนี้แหละ
00:10:47 → 00:10:51 ไปทางนี้นะก็ชี้นำไปเลยทีนี้ถ้าเป็นคนจิต
00:10:51 → 00:10:53 ใจอ่อนไหวก็จะถูกชี้นำคล้อยตามไปแล้วก็ลง
00:10:53 → 00:10:57 ไปเลยอย่างนี้ครับคืออันนี้ต้องบอกว่าใน
00:10:57 → 00:11:00 ศาสตร์ของการวิชาชีพนี้เนาะหมอดูหรืออะไร
00:11:00 → 00:11:05 อย่างนี้คือมีมีความเป็นวิชาที่ของเขาคือ
00:11:05 → 00:11:07 เราไม่ได้ไปโจมตีหรือว่าอะไรนะไม่เกี่ยว
00:11:07 → 00:11:10 กันนะอันนี้แค่บอกว่าที่คนเราเลือกที่จะ
00:11:10 → 00:11:13 ไปดูหมอดูมากกว่าเนี่ยมันมันอาจจะเป็น
00:11:13 → 00:11:16 ด้วยเรื่องของความเชื่อเรื่องความรู้สึก
00:11:16 → 00:11:21 ว่าเออไปหาตรงจุดนี้แล้วอ่าก็น่าจะเข้าหา
00:11:21 → 00:11:23 ง่ายกว่าด้วยหรือเปล่าด้วยแหละเพราะว่ามี
00:11:23 → 00:11:26 อยู่ทุกหย่อมหญ้ามีทุกศาสตร์นะคะหลายๆแบบ
00:11:27 → 00:11:29 ก็ไปดูกันนะครับใครๆก็ไปดูกันคนที่ไม่
00:11:29 → 00:11:33 ป่วยก็ไปดูกันขนาดว่าบางคนที่ราคาแพงๆเรา
00:11:33 → 00:11:36 ยังเสียเงินยอมที่จะไปดูเลยบางทีได้คำตอบ
00:11:36 → 00:11:38 หรือเปล่าก็ไม่รู้นะเออหรือว่าแม้กระทั่ง
00:11:38 → 00:11:40 คนที่อาจจะคิดราคาไม่แพงแต่ว่าเรารู้สึก
00:11:40 → 00:11:43 ว่าก็ไม่เห็นไม่เห็นอะไรเลยไม่เห็นได้
00:11:43 → 00:11:46 อะไรเลยก็มันก็จะขึ้นอยู่กับที่เราเวลาไป
00:11:46 → 00:11:50 ดูแล้วเราจะเป็นคนตัดสินตัดสินเชื่อ
00:11:50 → 00:11:55 แต่มันก็จะคนละแบบกันนักจิตวิทยาจะพยายาม
00:11:55 → 00:11:58 ให้เรากลับมารู้จักตัวเองให้มากที่สุดดู
00:11:58 → 00:11:59 เค้าความเป็นจริงอ่ะใช่แล้วเป็นผู้เลือก
00:12:00 → 00:12:02 เองเป็นผู้รับผิดชอบเองอยู่กับสิ่งที่เรา
00:12:02 → 00:12:05 รู้เงี้ยครับก็ไม่ได้อยากให้เราไม่อยาก
00:12:05 → 00:12:08 เลือกเองเราไม่รู้เราก็เลย
00:12:08 → 00:12:13 จริงๆทำ 2 อาชีพนี้ก็ได้นะ
00:12:13 → 00:12:17 มันขัดแย้งทางจรรยาบรรณก็ไม่ได้ๆเดี๋ยวนะ
00:12:17 → 00:12:20 แป๊บนึงเดี๋ยวตอบเดี๋ยวเปิดไพ่ให้
00:12:20 → 00:12:22 แต่ก็ไม่ใช่ผมไม่ดูนะเผื่อผมก็แบบบางทีก็
00:12:22 → 00:12:24 มีดูบ้างสนุกๆอะไรเงี้ยค่ะแต่จะเป็นคนที่
00:12:24 → 00:12:27 รู้ตัวเองว่าจะระวังในการดูเพราะมันทำให้
00:12:27 → 00:12:29 เราคล้ายๆไม่ได้ไม่ได้ตัดสินใจแล้วก็ไม่
00:12:29 → 00:12:32 มีสติกับการเลือกในปัจจุบันผมจะเป็นคนที่
00:12:32 → 00:12:35 มองว่าถ้าคนเรารู้จักตัวเองมากเท่าไหร่
00:12:35 → 00:12:38 ครับการปลงชีวิตการเลือกเส้นทางชีวิตมัน
00:12:38 → 00:12:40 อาจจะให้คล้ายทำให้เราได้ชีวิตที่ชอบมาก
00:12:40 → 00:12:42 ขึ้นเท่านั้นแหละ
00:12:42 → 00:12:44 แต่ทีนี้ผมก็ไม่ได้จะบอกว่าเฮ้ยศาลหมอดู
00:12:44 → 00:12:48 ไม่ดีเนาะเพียงแค่ว่ามันมีคนที่รู้และ
00:12:48 → 00:12:52 เข้าถึงศาสตร์ด้านนี้จริงๆอยู่อาจจะเป็น
00:12:52 → 00:12:55 จำนวนนึงแต่คนที่อาจจะไม่ได้มีความเข้าใจ
00:12:55 → 00:12:58 ในศาสตร์โหราศาสตร์ที่แท้จริงและอาจจะ
00:12:58 → 00:13:00 กลายเป็นหมอเดาไปเนี่ยครับแต่ในอุปโลกน่ะ
00:13:00 → 00:13:04 หมอดูก็มีอยู่มากและบางครั้งก็เป็น
00:13:04 → 00:13:06 มิจฉาชีพก็มีเนาะที่จะดึงเข้าไปเรื่อง
00:13:06 → 00:13:08 เกี่ยวกับศรัทธาดึงเข้าไปเข้าลัทธิบาง
00:13:08 → 00:13:11 อย่างหรือบางทีก็เป็นสายโมที่ต้องแบบจ่าย
00:13:11 → 00:13:14 เงินแสนนะหรือจ่ายเท่าไหร่นะเพื่อบูชา
00:13:14 → 00:13:17 สิ่งนี้เอาสิ่งนี้ไปอย่างเงี้ยครับนั่น
00:13:17 → 00:13:19 หมายความว่าตรงเนี้ยมันเป็นสิ่งที่ประชา
00:13:19 → 00:13:22 ชนต้องรู้เท่าทันว่าศาลเสร็จศาล
00:13:22 → 00:13:24 โหราศาสตร์เนี่ยครับจริงๆก็เป็นศาสตร์นึง
00:13:24 → 00:13:29 ที่มีอยู่จริงและสามารถสร้างคุณค่าทางใจ
00:13:29 → 00:13:31 หรือสร้างความเป็นที่ยึดเหนี่ยวอ่ะที่ยึด
00:13:31 → 00:13:34 เหนี่ยวทางใจให้คนได้จริงๆอยู่ที่ว่าเรา
00:13:34 → 00:13:37 จะใช้มันยังไงและอยู่ในสัดส่วนเท่าไหร่
00:13:37 → 00:13:39 กับชีวิตตัวเองอ่ะครับเพราะงั้นต่อให้มี
00:13:39 → 00:13:44 เรื่องเกี่ยวกับมุมเตรูบูชาหรือดูหมอดู
00:13:44 → 00:13:47 แล้วแต่เนาะเราต้องจัดมันให้อยู่ในสัด
00:13:47 → 00:13:50 ส่วนที่ไม่ให้ทั้งหมดนี้ชี้นำชีวิตเรามาก
00:13:50 → 00:13:51 เกินไป
00:13:51 → 00:13:53 แต่มันควรจะต้องมีสัดส่วนของสิ่งที่เรา
00:13:53 → 00:13:55 รู้จักตัวเองและเลือกที่จะนำชีวิตตัวเอง
00:13:55 → 00:13:58 ด้วยตัวเองด้วย
00:13:58 → 00:14:01 แต่ว่ามันมันบางทีมันก็ไปอยู่ในความรู้
00:14:01 → 00:14:03 สึกที่มันรู้สึกว่าเราเวลามีปัญหาเราก็จะ
00:14:03 → 00:14:06 เดินเข้าหาแล้วก็รู้สึกว่าเออบางทีก็ได้
00:14:06 → 00:14:09 คำตอบแต่บางทีมันก็เป็นคำตอบที่เป็น
00:14:09 → 00:14:10 เรื่องของอนาคตที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะ
00:14:10 → 00:14:13 เกิดขึ้นหรือจะแก้ไขยังไงได้
00:14:13 → 00:14:16 เรื่องเคสที่ผมเจอให้ฟังเนาะ
00:14:16 → 00:14:20 เป็นเคสที่มาปรึกษาบอกว่าก่อนหน้านี้เขา
00:14:20 → 00:14:21 ก็มาดูหมอดูมา
00:14:21 → 00:14:23 เรื่องเกี่ยวกับผู้ชายที่เขากำลังคบอยู่
00:14:23 → 00:14:26 อย่างเงี้ยครับเอ่อก็คือบอกว่าช่วงนี้ผู้
00:14:26 → 00:14:28 ชายเปลี่ยนไปอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็ไปดูหมอ
00:14:28 → 00:14:31 ดูหมอดูบอกว่าคนนี้แหละคู่แท้เดี๋ยวกลับ
00:14:31 → 00:14:32 มาอืม
00:14:32 → 00:14:36 แล้วก็เขาก็แบบจริงๆรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้
00:14:36 → 00:14:38 แปลกๆไปสักพักละ
00:14:38 → 00:14:40 แต่พอหมอดูฟันธงอย่างนี้ปั๊บเขาก็รู้สึก
00:14:40 → 00:14:42 ว่าเออเสียดายหมอรู้อุตส่าห์พูดว่าเป็น
00:14:42 → 00:14:43 คู่แท้
00:14:43 → 00:14:48 งั้นฉันยังแบบประคองไว้ก่อนดีกว่าอ๋อ
00:14:48 → 00:14:50 แต่จริงๆเอาตอนนั้นคือรู้สึกว่าผู้ชายไม่
00:14:50 → 00:14:53 เหมือนเดิมสินมันออกมาแล้วมันชัดเจนอย่าง
00:14:53 → 00:14:55 เงี้ยผู้ชายก็ตีตัวออกห่างหายไปอะไรอย่าง
00:14:55 → 00:14:58 เงี้ยเนาะผมก็ฟังๆแล้วก็ประเมินประเมิน
00:14:58 → 00:15:00 จากวิธีการที่เขาเจอกันเขาเจอในกันใน
00:15:00 → 00:15:02 อินเตอร์เน็ตแอปหาคู่
00:15:02 → 00:15:05 แล้วเป็นเป็นผู้ชายต่างชาติที่เข้ามาอยู่
00:15:05 → 00:15:07 ที่ไทยอะไรอย่างนี้ครับ
00:15:07 → 00:15:10 แล้วมันกลายเป็นว่าผู้ชายคนนี้ก็หน้าตาดี
00:15:10 → 00:15:12 การงานดี
00:15:12 → 00:15:16 แต่ดูเป็นคนที่ไม่ได้เหมือนมามองหาภรรยา
00:15:16 → 00:15:20 ไม่ได้มามองหาการปักหลักที่ไทยแต่เหมือน
00:15:21 → 00:15:22 เขารู้จักผู้หญิงไปเรื่อยๆ
00:15:22 → 00:15:24 อย่างนี้ครับส่วนผู้หญิงสุขภาพดีท่านนี้
00:15:24 → 00:15:27 เป็นคนที่คล้ายๆขาดความรักมานานขาดแฟน
00:15:27 → 00:15:28 ด้วย
00:15:28 → 00:15:30 พอเจอสักคนที่เข้ามาแล้วเหมือนแรร์ไอเทม
00:15:30 → 00:15:33 คำว่าในไอเทมคือเหมือนกับสิ่งที่หาได้ยาก
00:15:33 → 00:15:36 ว่าจะมีคนๆนี้ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตก็เลย
00:15:36 → 00:15:39 พยายามจะไขว่คว้าไว้มันคือพรหมลิขิตใช่
00:15:39 → 00:15:41 ครับผมก็เลยฟังแล้วก็วันนั้นจบด้วยการที่
00:15:41 → 00:15:43 บอกว่าเท่าที่ผมฟังเนี่ยเหมือนคาแรคเตอร์
00:15:43 → 00:15:46 ผู้ชายคนเนี้ยดูทรงแล้วทิศทางของชีวิตเขา
00:15:46 → 00:15:50 อ่ะไม่น่าจะปักหลักกับเรานะเพราะเพราะฟัง
00:15:50 → 00:15:52 จาก Story ของเขาหรือเรื่องราวในชีวิตเขา
00:15:52 → 00:15:54 หรือว่าแม้กระทั่งการที่เขามาไทยกับ
00:15:54 → 00:15:56 พฤติกรรมเขาเนี่ยมันดูไม่ได้ชี้ว่าเขา
00:15:56 → 00:15:59 กำลังจะปักหลักหรือจะสร้างครอบครัวกับใคร
00:15:59 → 00:16:04 อ้าวคุณตอบคนละคำตอบกับหมอดูเลยนะใช่ครับ
00:16:04 → 00:16:07 ว่าเรื่องนี้ผมไม่รู้หรอกเพราะว่าสุดท้าย
00:16:07 → 00:16:10 หลักฐานมันยังไม่ปรากฏแต่แค่เป็นการคาด
00:16:10 → 00:16:13 การณ์จากพฤติกรรมจากพฤติกรรมจากพื้น
00:16:13 → 00:16:16 background ของผู้ชายคนนี้ว่าดูทรงแล้ว
00:16:16 → 00:16:19 มันไม่น่าจะเป็นคนที่กำลังจะปักหลักกับ
00:16:19 → 00:16:20 ชีวิตนะ
00:16:20 → 00:16:23 นะแต่ผมก็บอกว่างั้นเอาเป็นว่าวันนี้ผมคง
00:16:23 → 00:16:25 บอกได้แค่ว่าลองดูไปก่อนแล้วกัน
00:16:25 → 00:16:28 แล้วก็อาจจะแบบมีอะไรที่ถ้าเกิดได้ติดต่อ
00:16:28 → 00:16:31 กับผู้ชายก็ลองค่อยๆคุยเพื่อจะได้เข้าใจ
00:16:31 → 00:16:32 เขามากขึ้น
00:16:32 → 00:16:36 ก็แยกย้ายกันไปสุดท้ายผ่านมาประมาณสัก
00:16:36 → 00:16:38 ครึ่งครึ่งเดือนมั้งประมาณสัปดาห์ 2
00:16:39 → 00:16:41 สัปดาห์ครับลูกค้าผมอันนี้ก็ติดต่อกลับมา
00:16:41 → 00:16:45 บอกว่าเออผู้ชายคนนี้คนนอกใจมีคนอื่นไป
00:16:45 → 00:16:48 นานแล้วแล้วเขาไม่รู้
00:16:48 → 00:16:50 แล้วเราก็เหมือนกับสุดท้ายผู้ชายคนนี้ก็
00:16:51 → 00:16:53 แค่หลอกมามีอะไรกับเขา
00:16:53 → 00:16:56 ทีนี้ประเด็นคือถ้าหมอดูบอกว่าคนนี้คือ
00:16:56 → 00:16:58 คู่แท้ทีนี้คำว่าคู่แท้เนี่ยถ้าพูดแบบใน
00:16:58 → 00:17:01 เชิงแบบเสียดสีนิดนึงเนาะคู่แท้คือคู่เวร
00:17:01 → 00:17:04 คู่กรรมแท้ๆเลยดีกว่า
00:17:04 → 00:17:06 เป็นผู้ที่มาเพื่อแบบทำลายเราแท้ๆเลยหรือ
00:17:06 → 00:17:07 เปล่า
00:17:07 → 00:17:08 ทีนี้
00:17:08 → 00:17:10 สิ่งที่ต้องย้อนกลับไปในวงจิตวิทยาก็คือ
00:17:10 → 00:17:14 ว่าทุกคนในชีวิตตอนนี้ครับมองหาความพอใจ
00:17:14 → 00:17:17 ในชีวิตทั้งนั้นแหละอย่างสมมุติเขามองหา
00:17:17 → 00:17:20 จุดที่เขาจะรู้สึกว่าเฮ้ยฉันรู้สึกถูกรัก
00:17:20 → 00:17:22 และฉันรู้สึกมั่นคงกับความรักนั่นคือสิ่ง
00:17:22 → 00:17:24 ที่กำลังหาเขากำลังหา
00:17:24 → 00:17:26 และถ้าเขาได้สิ่งนั้นเขาจะรู้สึกว่าชีวิต
00:17:26 → 00:17:29 มันน่าอยู่ชีวิตมันน่าพอใจเพราะฉะนั้นถ้า
00:17:29 → 00:17:33 เป็นคู่แท้ที่หมอดูพูดแล้วเข้ามาทำให้เขา
00:17:33 → 00:17:35 ระแวงแล้วเขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จะเชื่อ
00:17:35 → 00:17:38 ใจได้ไหมเนี่ยเขาจะค้นพบความสุขในการมี
00:17:38 → 00:17:39 ชีวิตคู่ได้ยังไง
00:17:39 → 00:17:42 ถูกไหมครับแล้วมันจะเป็นคู่แท้ได้ยังไง
00:17:42 → 00:17:44 ใช่ติดต่อให้เป็นคู่แท้แต่คุณต้องใช้
00:17:44 → 00:17:46 ชีวิตด้วยความหวาดระแวงไปทั้งชีวิตว่าสุด
00:17:46 → 00:17:50 ท้ายคนๆนี้จะไปมีนอกใจอีกไหมคุณจะอยู่กับ
00:17:50 → 00:17:53 ชีวิตยังไงเนี่ยแล้วจะยังไงจะเอาไหมจะยัง
00:17:53 → 00:17:55 อยากได้อยู่ไหมเพราะฉะนั้นไอ้เรื่องที่
00:17:55 → 00:17:58 หมอดูเขาดูให้ว่าเป็นคู่แท้เนี่ยผมคงอาจ
00:17:58 → 00:18:00 จะไม่ก้าวร่วงนะเพราะผมไม่รู้ว่าเขาดูจาก
00:18:00 → 00:18:03 พื้นฐานอะไรดูจากศาสตร์ไหนหรือเป็นเทคนิค
00:18:03 → 00:18:05 อะไรผมไปตอบไม่ได้อาจจะเป็นคู่ในอนาคตที่
00:18:05 → 00:18:08 ผู้ชายกับตัวก็ได้ก็เป็นไปได้อาจจะเป็น
00:18:08 → 00:18:10 ผู้ชายแบบสำนึกแล้วก็กลับมาคบกับคนนี้ก็
00:18:10 → 00:18:12 ได้แต่ทีนี้ประเด็นคือปัจจุบันมันยังไม่
00:18:12 → 00:18:14 เกิดขึ้นไง
00:18:14 → 00:18:17 เราเลยทำให้ทำได้แค่ว่าสุดท้ายเราก็ต้อง
00:18:17 → 00:18:20 อยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันนะครับถ้า
00:18:20 → 00:18:22 วันนี้ผู้ชายคนนี้ไม่ดีพอจะอยู่ในความ
00:18:22 → 00:18:24 สัมพันธ์กับเราเราแค่อยากพาตัวเองไปผูก
00:18:24 → 00:18:27 กับเขาอ่ะไม่งั้นมันก็เหมือนตัวเราผูกกับ
00:18:27 → 00:18:30 อนาคตผูกกับนรกล่วงหน้าโดยที่ไม่จำเป็น
00:18:30 → 00:18:33 เอาไว้ถ้าเกิดเขาปรับตัวเขาเป็นคนที่ดี
00:18:33 → 00:18:37 ขึ้นแล้วค่อยว่ากันแต่ถ้าวันนี้เขาไม่ใช่
00:18:37 → 00:18:38 อย่าเพิ่งเอาตัวเองไปผูกนะครับไม่งั้นมัน
00:18:39 → 00:18:40 จะกลายเป็นความทุกข์ระยะยาว
00:18:40 → 00:18:43 และสมมุติถ้าเกิดหมอดูไม่ตรงเป็นของเสียง
00:18:43 → 00:18:45 เนาะเกิดเกิด Error ขึ้นได้ว่า Error คือ
00:18:45 → 00:18:48 อาจจะไม่ตรงตามจริงก็กลายเป็นว่าตัวเรา
00:18:48 → 00:18:50 เนี่ยเอาใจไปผูกและเฝ้ารอกับสิ่งที่ไม่มี
00:18:50 → 00:18:52 อนาคตอยู่แล้วอ่ะฮะแล้วมันจะได้ประโยชน์
00:18:52 → 00:18:56 อะไรอ่ะเราอาจจะตัดทุกคนทิ้งตัดผู้ชายทุก
00:18:56 → 00:18:59 คนที่เข้ามาจีบเราเพราะเราเชื่อว่าฝรั่ง
00:18:59 → 00:19:02 คนนี้คือคู่แท้เรายอมตัดทุกสิ่งเพราะที่
00:19:02 → 00:19:05 เหลือที่เหลือเราเชื่อก็คือคู่เทียม
00:19:05 → 00:19:08 แล้วรอคอยแล้วรอคนนี้ปรากฏทั้งชีวิตรอไป
00:19:08 → 00:19:10 แล้วไม่เจออะไรเลยนี่คือความเสี่ยงครับ
00:19:10 → 00:19:12 ของการที่เราปล่อยให้
00:19:12 → 00:19:16 เรียกว่าความเชื่อบางอย่างที่เราเชื่อว่า
00:19:16 → 00:19:18 แบบมันถูกลิขิตแล้วมันนำเราไป
00:19:18 → 00:19:20 พอมันนำเราไปปั๊บเราเลยหาความสุขใน
00:19:20 → 00:19:23 ปัจจุบันไม่เจอเพราะเราเอาความสุขเราไป
00:19:23 → 00:19:25 เดิมพันกับอนาคตวันนี้ฉันทุกข์ไปก่อนได้
00:19:25 → 00:19:28 แต่ฉันเชื่อว่าอนาคตฉันเจอความสุขแต่บาง
00:19:28 → 00:19:31 ทีมันอาจจะไม่เจอความสุขก็ได้นะการที่มี
00:19:31 → 00:19:33 ความสุขบางครั้งมันต้องวันนี้มันเลยกลาย
00:19:33 → 00:19:37 เป็นว่าให้ดูในณปัจจุบัน
00:19:37 → 00:19:42 นี้เยอะมากที่แบบดูหมอดูโน่นนี่มาสุดท้าย
00:19:42 → 00:19:44 ก็ต้องกลับมาหานางจิตรนะครับเพราะว่าเขา
00:19:44 → 00:19:47 รู้สึกว่าหมอดูแต่ละคนก็มีความเห็นไม่
00:19:47 → 00:19:48 เหมือนกัน
00:19:48 → 00:19:51 หรือบางทีอาจจะความเห็นเหมือนกันบอกไปทาง
00:19:51 → 00:19:54 ได้แต่จะจัดการใจวันนี้ยังไง
00:19:54 → 00:19:57 เขาหาไม่เจอบางครั้งก็ต้องมาคุยกันนะ
00:19:57 → 00:19:59 จิตวิทยาเหมือนกันว่าแล้ววันนี้จะจัดการ
00:19:59 → 00:20:02 ใจยังไงคือมันคือเราต้องการณเวลาตอนนี้
00:20:02 → 00:20:06 แหละใช่เพราะอย่างๆที่อย่างของที่เคยดู
00:20:06 → 00:20:10 อย่างเงี้ยมันก็ดูมาหลากหลายรูปแบบนะหลาย
00:20:10 → 00:20:16 ศาสตร์มากนะคะทั้งลายมือไพ่ยิปซีไพ่
00:20:16 → 00:20:19 oracle ว่ากันไปอันนั้นก็เป็นศาสตร์ของ
00:20:19 → 00:20:22 เขานะเราไม่ได้บอกว่ามันแต่แค่ว่ามันอาจ
00:20:22 → 00:20:24 จะไม่ได้เป็นจังหวะของเราหรือเปล่าคำ
00:20:24 → 00:20:27 ทำนายที่มันอาจจะแบบเราเดินไปแล้วเจอกับ
00:20:27 → 00:20:30 คำทำนายที่ตรงกับที่เขาพูดหรือไงมันมี
00:20:30 → 00:20:31 อยู่ครั้งหนึ่งเลยอันนี้จำได้แม่นเลยว่า
00:20:31 → 00:20:37 ไปเปิดเปิดไพ่อันนึงแล้วไพ่ขึ้นมามันมี
00:20:37 → 00:20:41 แต่ความทุกข์ระทมทุกอย่างแบบมันเป็นไพ่
00:20:41 → 00:20:43 ที่แบบทุกอย่างไม่มีทางออกอะไรเลยมันมืด
00:20:43 → 00:20:45 สนิทเลย
00:20:45 → 00:20:48 ขมุกขมัวดูแล้วก็แบบเฮ้ยเครียดหนักกว่า
00:20:48 → 00:20:50 เดิมอีกอ่ะคือเราเครียดไปอยู่แล้วเพื่อ
00:20:50 → 00:20:52 ต้องการแบบเอ๊ะจะมีทางออกยังไงหรืออะไร
00:20:52 → 00:20:54 อย่างที่คุณเอิ้นบอกว่าตอนแรกว่าเราก็จะ
00:20:54 → 00:20:57 แบบชีวิตต้องการหาทางออกอ่ะเออแต่ปรากฏ
00:20:57 → 00:21:02 ว่าสิ่งที่ไปดูแล้วปุ๊บไม่มีทางออกเว้ย
00:21:02 → 00:21:05 แล้วก็แบบว่าหนักกว่าเดิมอีกหนักกว่าเดิม
00:21:05 → 00:21:09 อีกแล้วคือแทนที่ดูแล้วหัวจะโล่งไม่เลย
00:21:09 → 00:21:12 ไม่เลยเอากลับมาคิดต่อกลับมาเครียดหนัก
00:21:12 → 00:21:14 กว่าเดิมอีกว่าชีวิตฉันถูกล็อคด้วยโชค
00:21:14 → 00:21:18 ชะตาแล้วทำไมทำไมถึงต้องแบบเอ๊ะแย่กว่า
00:21:18 → 00:21:21 เดิมเพราะเราเคยดูก่อนหน้านี้อุ้ยไพ่ดี
00:21:21 → 00:21:22 ทุกอย่างเลยมันก็จะทำให้เรารู้สึกว่า
00:21:22 → 00:21:25 แฮปปี้เรามีพลังแต่พออันนี้ปุ๊บโอ้โหดาว
00:21:25 → 00:21:29 ดิ่งแล้วรู้สึกว่าไม่ไหวว่ะแสดงว่าเราอาจ
00:21:29 → 00:21:31 จะไม่เหมาะกับการจะดูในลักษณะแบบนี้หรือ
00:21:31 → 00:21:34 เปล่าแต่ว่าท้ายที่สุดพอเวลาเรามาเจอกับ
00:21:34 → 00:21:36 ความจริงอ่ะโอเคมันอาจจะมีบ้างที่ตรง
00:21:36 → 00:21:40 เพราะว่าในทุกๆคำทำนายมักจะมีบอกว่าเออ
00:21:40 → 00:21:43 มันมันต้องเหนื่อยนะมันต้องลำบากนะมันก็
00:21:43 → 00:21:46 เป็นเบสิคพื้นฐานเราอาจจะเผลอเล่าอะไรให้
00:21:46 → 00:21:48 เขาฟังไปก่อนหน้าหรือที่เราไม่รู้ตัวก็
00:21:48 → 00:21:51 ได้นะแล้วเขาก็แค่ตอบสนองมาตรงกับสิ่งที่
00:21:51 → 00:21:54 เราพูดใช่แล้วก็เฮ้ยใช่อ่ะผมไม่เคยถูกทัก
00:21:54 → 00:21:58 เลยว่าในในแฟชั่นที่คุยกันเนาะก็ถามผม
00:21:58 → 00:22:00 เป็นหมอดูหรือเปล่า
00:22:00 → 00:22:02 เพราะว่าเพราะว่าผมเหมือนพูดแล้วรู้จัก
00:22:02 → 00:22:05 เขาไปหมดแล้วก็เหมือนเหมือนพูดที่เขาเล่า
00:22:05 → 00:22:07 เนี่ยแล้วผมแบบพูดทำนายบางอย่างล่วงหน้า
00:22:07 → 00:22:10 แล้วเป็นอย่างนั้นตามจริงเลยก็มีครับก็
00:22:10 → 00:22:12 บอกคุณเป็นหมอดูหรือเปล่าผมบอกไม่ใช่ไม่
00:22:12 → 00:22:14 ใช่หมอดูทุกอย่างอธิบายได้หมดในเชิง
00:22:14 → 00:22:17 จิตวิทยาในสิ่งที่ปรากฏตรงหน้านะอย่าง
00:22:17 → 00:22:20 นั้นนะหรือว่าบางเรื่องที่เราได้ยินมามัน
00:22:20 → 00:22:22 ก็เป็นเรื่องในอนาคตซึ่งมันแบบมันต้องรอ
00:22:22 → 00:22:26 อ่ะว่าคำตอบที่เราไปดูมากับหมอดูคนเนี้ย
00:22:26 → 00:22:28 มันจริงหรือไม่จริงนะฮะใช่ครับหรือบาง
00:22:28 → 00:22:30 อย่างเราอาจจะคล้ายๆเราเคยเปิดไอ้นั่น
00:22:30 → 00:22:33 มั้ยฮะพวกหนังสือดวงแล้วเขาจะเขียนเป็น
00:22:33 → 00:22:36 ย่อหน้าย่อหน้ายาวๆว่าชีวิตจะเป็นอย่าง
00:22:36 → 00:22:38 งี้อย่างงี้เออก็ตรงก็แม่พี่ผมอ่านทุก
00:22:39 → 00:22:41 ราศีเลยนะผมรู้สึกว่าเฮ้ยทุกรังสีที่เรา
00:22:41 → 00:22:43 อ่านน่ะตรงกับเราหมดเลย
00:22:43 → 00:22:46 ไม่เห็นมีความจำเพาะเลยเพราะว่าบางครั้ง
00:22:46 → 00:22:47 อ่ะหาประสบการณ์ชีวิตของเรามันกว้างขวาง
00:22:47 → 00:22:50 มากเราอยู่กันมาหลายสิบปีแล้วเนาะ
00:22:50 → 00:22:52 ประโยชน์พวกนี้มันต้องตรงกับบางอย่างในใจ
00:22:52 → 00:22:54 เราบ้างแหละมันถึงมีความรู้สึกเกิดการ
00:22:54 → 00:22:57 เชื่อมโยงว่าเฮ้ยประโยคนี้ตรงกับฉัน
00:22:57 → 00:22:59 คือที่คุยกันในเรื่องนี้ก็ไม่ได้อยากให้
00:22:59 → 00:23:03 แบบว่าโอ้โหไปไปงมงายจนเราต้องแบบเสีย
00:23:03 → 00:23:07 หน้าที่การงานเสียเงินจนแบบโอ้โหมันคือ
00:23:07 → 00:23:10 ความเป็นตัวตนน่ะชีวิตเราไม่ควรที่จะต้อง
00:23:10 → 00:23:14 ไปผูกกับการกันดูหมอดูอย่างเดียวอ่ะเรามี
00:23:14 → 00:23:16 อย่างอื่นเพราะว่าอันนี้คือเป็นประโยชน์
00:23:16 → 00:23:19 ที่ผู้ใหญ่พูดให้ฟังนะคะเพราะว่าพอดี
00:23:19 → 00:23:22 เพิ่งทำงานใหญ่ๆสำเร็จไป 2 งานนะคะแล้ว
00:23:22 → 00:23:25 รู้สึกเหมือนแบบโอ้โหโล่งแล้วก็คุยกัน
00:23:25 → 00:23:27 เล่นๆนะคะคุณผู้ฟังกับผู้ใหญ่ท่านนี้บอก
00:23:27 → 00:23:30 ว่าโอ้โหเนี่ยพอหลังจาก 2 งานนี้เสร็จนะ
00:23:30 → 00:23:34 ต้องไปทำบุญเติมบุญเพิ่มและรู้สึกว่า
00:23:34 → 00:23:37 โอ้โหเราใช้แต้มบุญไปเยอะมากนะคะแล้วก็
00:23:37 → 00:23:39 อ่ะบวกกับคำทำนายที่บอกว่าเฮ้ยมันกว่าจะ
00:23:39 → 00:23:41 สำเร็จมันเหนื่อยนะหรืออะไรมันก็ใช่แหละ
00:23:41 → 00:23:43 เพราะว่างานทุกงานน่ะมันไม่ได้ราบรื่น
00:23:43 → 00:23:45 อยู่แล้วมันเป็นเรื่องปกติ
00:23:45 → 00:23:49 พอผู้ใหญ่ได้ฟังเขาถึงกับแบบเฮ้ยถึงขนาด
00:23:49 → 00:23:53 ว่าเราต้องแบบไปทำบุญเลยหรอเพิ่มเพิ่มบุญ
00:23:53 → 00:23:55 ให้ตัวเองขนาดนั้นเลยหรอหรือว่าทำงานนี้
00:23:55 → 00:23:58 ต้องใช้แต้มบุญขนาดนั้นเลยหรอนะคะก็เขาก็
00:23:58 → 00:24:00 บอกว่าจริงๆแล้วเนี่ยมันก็เป็นความเชื่อ
00:24:00 → 00:24:03 นะไม่ได้ว่าอะไรแต่ว่าอย่าลืมว่าตัวเรา
00:24:03 → 00:24:08 เนี่ยก็ได้ทำให้มันเกิดชิ้นงานแล้วก็
00:24:08 → 00:24:11 ประสบความสำเร็จได้ผ่านงานนั้นมาได้ไม่
00:24:11 → 00:24:14 ใช่แบบว่าดวงอย่างเดียวเออแต่ต้องบอกว่า
00:24:14 → 00:24:17 ถ้าบางคนเชื่อนะเขาจะบอกว่าตัวเราส่วน
00:24:17 → 00:24:19 หนึ่งการอำนวยความสะดวกจากสิ่ง
00:24:19 → 00:24:21 ศักดิ์สิทธิ์ก็ส่วนหนึ่งแต่ว่าก็มีมีบ้าง
00:24:21 → 00:24:25 ถ้าการทำบุญนั้นเนาะทำให้เรารู้สึกว่ามัน
00:24:25 → 00:24:29 เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำแล้วก็มันอาจจะ
00:24:29 → 00:24:31 ทำให้เรารู้สึกมีขวัญกำลังใจก็ทำไปเถอะ
00:24:31 → 00:24:33 แต่สำคัญบนพื้นฐานที่ว่าการทำบุญนั้นไม่
00:24:33 → 00:24:36 ได้เบียดเบียนตัวเองผมมองว่าการทำบุญนะ
00:24:36 → 00:24:38 ครับไม่ว่าจะทำบุญเพื่ออำนวยความสะดวกให้
00:24:39 → 00:24:41 ตัวเองได้มีโชคลาภหรือทำบุญเขาอยากทำบุญ
00:24:42 → 00:24:44 จริงๆถ้าสิ่งนั้นก่อให้เกิดความเจริญงอก
00:24:44 → 00:24:46 งามจากคนที่ได้รับสิ่งที่เราเอื้อเฟื้อ
00:24:46 → 00:24:48 ครับมันดีทั้งนั้นแหละไม่ว่าจะทำเพื่อตัว
00:24:48 → 00:24:50 เราหรือทำเพื่อใครแต่ถ้าเกิดเราทำเยอะไป
00:24:50 → 00:24:53 ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาทำบุญไว้หวังว่านี่
00:24:53 → 00:24:55 แหละคือการซื้อบัตรผ่านของโชคชะตาผมว่า
00:24:55 → 00:24:58 เนี่ยเริ่มอาจจะไม่ใช่ทางแล้วอืมแล้วก็
00:24:58 → 00:25:00 มันก็จะมีพวกมิจฉาชีพเนี่ยที่มาแอบแฝงใน
00:25:00 → 00:25:03 ในเรื่องของความเชื่อเรื่องของความทุกข์
00:25:03 → 00:25:07 ของคนน่ะที่เขากำลังแบบต้องการหาคำตอบไง
00:25:07 → 00:25:09 ก็ตามที่เราทำแล้วจมกว่าเดิมแสดงว่าไม่
00:25:09 → 00:25:12 ใช่ทางแล้วหานักจิตแล้วจมกว่าเดิมก็อาจจะ
00:25:12 → 00:25:14 ไม่ใช่ทางหามาดูแล้วจงกว่าเดิมก็อาจจะไม่
00:25:14 → 00:25:16 ใช่เหมือนกันบางทีชีวิตเราก็ลิขิตตัวเอง
00:25:16 → 00:25:20 นะมันไม่ได้บอกว่าทุกอย่างจะถูกลิขิตมา
00:25:20 → 00:25:21 แล้วตัวเราไม่ต้องทำอะไรเลยถ้าอย่างนี้
00:25:21 → 00:25:25 นอนสบายๆแล้วมีเงินก็ดีๆใช่ไหมมันไม่งั้น
00:25:25 → 00:25:27 คงไม่ต้องมานั่งทำงานหาเงินลำบากกันแต่
00:25:27 → 00:25:30 ว่าเราก็ไม่ได้อยากให้คุณผู้ฟังไปฝาก
00:25:30 → 00:25:33 ชีวิตไว้กับการดูดวงที่เรารู้สึกว่าใน
00:25:33 → 00:25:38 บางมุมอ่ะมันมาในแนวมิจฉาชีพมาฉกฉวยโอกาส
00:25:38 → 00:25:42 ในความเชื่อในความทุกข์ของคนแล้วสูบเลือด
00:25:42 → 00:25:45 สูบเนื้อเราไปแบบนั้นน่ะเออเราก็ทุกข์
00:25:45 → 00:25:49 อยู่แล้วอ่ะก็ต้องระวังเยอะๆนะคะมันก็มี
00:25:49 → 00:25:51 พวกแบบ
00:25:51 → 00:25:54 นี้เยอะนะครับใช่มัน 50 50 อยู่แล้วแหละ
00:25:54 → 00:25:58 เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะคะอันไหนดีเรา
00:25:58 → 00:26:01 ก็เออให้มันเป็นแรงตารางแต่ถ้าไหนไม่ดีก็
00:26:01 → 00:26:03 เออก็แค่ระวังไว้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
00:26:03 → 00:26:07 จนหูฉันทำอะไรอือหรือการที่บอกว่าคุณจะมี
00:26:07 → 00:26:10 โชคนอนรอเลยทีนี้เผื่อจะถูกรางวัลที่ 1
00:26:10 → 00:26:13 มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วสุดท้ายอยากเชิญ
00:26:13 → 00:26:15 ชวนครับว่า
00:26:15 → 00:26:17 การกระทบด้านจิตและคำปรึกษาเนอะไม่ใช่ว่า
00:26:17 → 00:26:19 เราต้องเจ็บป่วยบางครั้งมันเป็นการคล้ายๆ
00:26:19 → 00:26:22 มาทำความเข้าใจชีวิตมาแลกเปลี่ยนมุมมอง
00:26:22 → 00:26:23 บางอย่างเพื่อให้เราเลือกให้มีวัตถุดิบ
00:26:23 → 00:26:27 สำคัญในการใช้ชีวิตให้มีความสุขบางทีการ
00:26:27 → 00:26:29 คุยมันเป็นทั้งการค้นหาตัวเองให้เจอการ
00:26:29 → 00:26:31 พัฒนาตัวเองหรือแม้กระทั่งการพูดถึงสิ่ง
00:26:31 → 00:26:33 ที่ยังไม่เคยถูกจัดระเบียบในจิตใจเราก็
00:26:33 → 00:26:35 ได้เป็นประโยชน์เท่านั้นแหละครับยังไงก็
00:26:35 → 00:26:37 อยากลองให้มาเปิดประสบการณ์กันไม่ใช่แค่
00:26:37 → 00:26:39 พบหมอโดมนะมาลองพบหน้าที่เป็นคำปรึกษาสัก
00:26:39 → 00:26:40 ท่านนึงอะไรอย่างเงี้ยครับที่เรารู้สึก
00:26:40 → 00:26:42 ว่าเฮ้ยการคุยกับคนนี้ทำให้เรารู้สึก
00:26:42 → 00:26:45 เหมือนได้วัตถุดิบสำคัญในชีวิตและบางสิ่ง
00:26:45 → 00:26:47 พวกนี้เราอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ยบางครั้งเรา
00:26:47 → 00:26:49 อาจจะมาทางนี้อาจจะเหมาะกับเรามากกว่าก็
00:26:49 → 00:26:51 ได้อยากให้ลองเปิดใจครับซึ่งเดี๋ยวนั้น
00:26:51 → 00:26:53 จิตวิทยาเขาก็จะไปจัดการชีวิตของเขาต่อ
00:26:54 → 00:26:55 อีกทีนึง
00:26:55 → 00:26:59 ด้วยการตีกลองดนตรีบำบัดตัวเองมีของที่
00:26:59 → 00:27:01 ออฟฟิศ
00:27:01 → 00:27:05 โอเควันนี้ขอบคุณคุณเอิ้นค่ะสวัสดีค่ะทาง
00:27:05 → 00:27:08 เลือกนะคะแล้วแต่เลยเอาที่สบายใจนะคะวัน
00:27:08 → 00:27:10 นี้หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังคะพบกันใหม่
00:27:10 → 00:27:12 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai PBS
00:27:12 → 00:27:14 port Class ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:27:14 → 00:27:18 สวัสดีค่ะ
00:27:18 → 00:27:21 พฤติกรรมใดที่ทำให้คนมีเสน่ห์ต่อผู้อื่น
00:27:21 → 00:27:23 ตามคำบอกกล่าวของรองศาสตราจารย์สุนีย์
00:27:23 → 00:27:26 สินธุเดชะผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันวิภา
00:27:26 → 00:27:28 ดิลกสัมพันธ์ผู้เชี่ยวชาญด้านความ
00:27:28 → 00:27:30 สัมพันธ์และครอบครัวมาเล่าให้ฟังครับ
00:27:30 → 00:27:34 ทุกคนอยากจะเป็นคนดีอยากจะเป็นคนหน้ารัก
00:27:34 → 00:27:37 ในสายตาของคนอื่นนะคะดึงดูดคนอื่นได้ด้วย
00:27:37 → 00:27:40 เสน่ห์นะคะซึ่งจะวิภาชอบมากเลยท่าน
00:27:40 → 00:27:42 อาจารย์ของอาจารย์วิภาเนี่ยท่านให้ไว้นะ
00:27:42 → 00:27:44 คะท่านอาจารย์สุนีย์สินทูเดย์ช้าของเราคง
00:27:44 → 00:27:46 รู้จักนะคะแม่อาจารย์แม่เนี่ย
00:27:46 → 00:27:50 ท่านบอกไปไหนก็ตามเนี่ยเราต้องมาดต้อง
00:27:50 → 00:27:54 ตาวาจาจับใจภายในยอดเยี่ยมฟังดูง่ายสั้นๆ
00:27:54 → 00:27:58 เนอะแต่ก็ไม่ง่ายนะที่จะทำสามารถต้องตา
00:27:58 → 00:28:01 คนมองมาปั๊บ The First impression ของ
00:28:01 → 00:28:04 การที่มองเห็นนะคะเราจะรู้สึกเป็นคนที่ดู
00:28:04 → 00:28:08 ให้ความสดใสร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใสอ่อน
00:28:08 → 00:28:13 น้อมถ่อมตนให้เกียรติคนอื่นสง่างามวางตัว
00:28:13 → 00:28:18 เหมาะสมแต่งกายถูกกาลเทศะภาษากายดีมารยาท
00:28:18 → 00:28:21 งามผู้ชายก็ได้ค่ะนะคะลักษณะของการอ่อน
00:28:21 → 00:28:25 น้อมถ่อมตนมาดูวาจาจับใจตามองเห็นและเอ่ย
00:28:25 → 00:28:28 ปากพูดบางคนนี่พอพูดปั๊บเอาไปเก็บเลย
00:28:28 → 00:28:31 อย่างนี้นะคะฟังไม่ได้เลยอะไรอย่างเงี้ย
00:28:31 → 00:28:34 นะวาจาจับใจนี่ก็คืออะไรคนมักจะคิดว่า
00:28:34 → 00:28:37 ต้องพูดเพราะใช่ไหมไม่ใช่ค่ะอย่างแรกฝั่ง
00:28:37 → 00:28:40 ตั้งแต่ต้นจนจบก่อนจะพูดอะไรเนี่ยต้องฟัง
00:28:40 → 00:28:43 ก่อนเก็บข้อมูลก่อนฟังตั้งแต่ต้นจนจบก่อน
00:28:43 → 00:28:47 ว่าเขาพูดอะไรเขามีทัศนคติอะไรหรือเขา
00:28:47 → 00:28:48 ต้องการอะไร
00:28:48 → 00:28:50 เสร็จแล้วเราจึงจะบอกว่าพูดในสิ่งที่เขา
00:28:50 → 00:28:53 อยากฟังไม่ใช่สิ่งที่เราอยากพูดนึกออก
00:28:53 → 00:28:57 มั้ยคะต่างๆกันนะไพเราะให้เกียรติไม่สอด
00:28:57 → 00:29:02 แทรกไม่ยกตนข่มท่านไม่ส่อเสียดไม่แดกดัน
00:29:02 → 00:29:05 ไม่ประชดไม่ทำร้ายใครคำพูดที่ออกมานะคะ
00:29:05 → 00:29:09 และยังบวกกับการพูดที่มีอารมณ์ขันและ
00:29:09 → 00:29:12 ศิลปะในการพูดสุดยอดไหมล่ะทีนี้มาดูภายใน
00:29:12 → 00:29:13 ยอดเยี่ยม
00:29:13 → 00:29:17 ต้องเป็นคนมีน้ำใจค่ะเอื้ออาทรเป็นผู้ให้
00:29:17 → 00:29:21 มากกว่าผู้รับเป็นคนกตัญญูยกย่องคนอื่นมี
00:29:21 → 00:29:26 สติควบคุมอารมณ์ได้ดีให้อภัยและไม่อิจฉา
00:29:26 → 00:29:29 ริษยาใครแต่ถามว่าคนที่มีทั้งหมดทั้ง 3
00:29:29 → 00:29:32 อย่างนี้ใช่ไหมคะเราบอกเทวดาแล้วล่ะไม่
00:29:32 → 00:29:35 ใช่คนแต่อาจารย์วิภาเจอคนแบบนี้มาแล้วค่ะ
00:29:35 → 00:29:39 นะคะเพราะฉะนั้นจะบอกได้ว่ามันทำได้แล้ว
00:29:39 → 00:29:48 ก็ฝึกได้ด้วย
00:29:48 → 00:29:50 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:51 → 00:29:53 ของไทยพีแดช็อต
00:29:53 → 00:29:56 spotify Sound Google ผ่อน Class
00:29:56 → 00:29:59 Apple กดคลาสและ YouTube Channel Thai
00:29:59 → 00:30:05 PBS ผ่อนค่ะ
00:30:05 → 00:30:10 [เพลง]